📜
๒. อปฺปมาทวคฺโค
๑. สามาวตีวตฺถุ
อปฺปมาโท ¶ ¶ ¶ อมตปทนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา โกสมฺพึ อุปนิสฺสาย โฆสิตาราเม วิหรนฺโต สามาวติปฺปมุขานํ ปฺจนฺนํ อิตฺถิสตานํ, มาคณฺฑิยปฺปมุขานฺจ เอติสฺสา ปฺจนฺนํ าติสตานํ มรณพฺยสนํ อารพฺภ กเถสิ.
ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – อตีเต อลฺลกปฺปรฏฺเ อลฺลกปฺปราชา นาม, เวทีปกรฏฺเ เวทีปกราชา นามาติ อิเม ทฺเว ทหรกาลโต ปฏฺาย สหายกา หุตฺวา เอกาจริยกุเล สิปฺปํ อุคฺคณฺหิตฺวา อตฺตโน อตฺตโน ปิตูนํ อจฺจเยน ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา อายาเมน ทสทสโยชนิเก รฏฺเ ราชาโน อเหสุํ. เต กาเลน กาลํ สมาคนฺตฺวา เอกโต ติฏฺนฺตา นิสีทนฺตา นิปชฺชนฺตา มหาชนํ ชายมานฺจ ชียมานฺจ มียมานฺจ ทิสฺวา ‘‘ปรโลกํ คจฺฉนฺตํ อนุคจฺฉนฺโต นาม นตฺถิ, อนฺตมโส ¶ อตฺตโน สรีรมฺปิ นานุคจฺฉติ, สพฺพํ ปหาย คนฺตพฺพํ, กึ โน ฆราวาเสน, ปพฺพชิสฺสามา’’ติ มนฺเตตฺวา รชฺชานิ ปุตฺตทารานํ นิยฺยาเทตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา หิมวนฺตปฺปเทเส วสนฺตา มนฺตยึสุ – ‘‘มยํ รชฺชํ ปหาย ปพฺพชิตา, น ชีวิตุํ อสกฺโกนฺตา. เต มยํ เอกฏฺาเน วสนฺตา อปพฺพชิตสทิสาเยว โหม, ตสฺมา วิสุํ วสิสฺสาม. ตฺวํ เอตสฺมึ ปพฺพเต วส, อหํ อิมสฺมึ ปพฺพเต วสิสฺสามิ. อนฺวฑฺฒมาสํ ปน อุโปสถทิวเส เอกโต ภวิสฺสามา’’ติ. อถ โข เนสํ เอตทโหสิ – ‘‘เอวมฺปิ โน คณสงฺคณิกาว ภวิสฺสติ, ตฺวํ ปน ตว ปพฺพเต อคฺคึ ชาเลยฺยาสิ, อหํ มม ปพฺพเต อคฺคึ ชาเลสฺสามิ, ตาย สฺาย อตฺถิภาวํ ชานิสฺสามา’’ติ. เต ตถา กรึสุ.
อถ อปรภาเค เวทีปกตาปโส กาลํ กตฺวา มเหสกฺโข เทวราชา หุตฺวา นิพฺพตฺโต. ตโต อฑฺฒมาเส สมฺปตฺเต อคฺคึ อทิสฺวาว อิตโร ‘‘สหายโก เม กาลกโต’’ติ อฺาสิ. อิตโรปิ นิพฺพตฺตกฺขเณเยว อตฺตโน เทวสิรึ โอโลเกตฺวา กมฺมํ อุปธาเรนฺโต นิกฺขมนโต ปฏฺาย อตฺตโน ตปจริยํ ทิสฺวา ‘‘คนฺตฺวา มม สหายกํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ ¶ ตํ อตฺตภาวํ วิชหิตฺวา มคฺคิกปุริโส วิย ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. อถ นํ โส ¶ อาห – ‘‘กุโต อาคโตสี’’ติ? ‘‘มคฺคิกปุริโส ¶ อหํ, ภนฺเต, ทูรโตว อาคโตมฺหิ. กึ ปน, ภนฺเต, อยฺโย อิมสฺมึ าเน เอกโกว วสติ, อฺโปิ โกจิ อตฺถี’’ติ? ‘‘อตฺถิ เม เอโก สหายโก’’ติ. ‘‘กุหึ โส’’ติ? ‘‘เอตสฺมึ ปพฺพเต วสติ, อุโปสถทิวเส ปน อคฺคึ น ชาเลติ, มโต นูน ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ? ‘‘เอวมาวุโส’’ติ. ‘‘อหํ โส, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กุหึ นิพฺพตฺโตสี’’ติ? ‘‘เทวโลเก มเหสกฺโข เทวราชา หุตฺวา นิพฺพตฺโตสฺมิ, ภนฺเต, ‘อยฺยํ ปสฺสิสฺสามี’ติ ปุน อาคโตมฺหิ. อปิ นุ โข อยฺยานํ อิมสฺมึ าเน วสนฺตานํ โกจิ อุปทฺทโว อตฺถี’’ติ? ‘‘อาม, อาวุโส, หตฺถี นิสฺสาย กิลมามี’’ติ. ‘‘กึ โว, ภนฺเต, หตฺถี กโรนฺตี’’ติ? ‘‘สมฺมชฺชนฏฺาเน ลณฺฑํ ปาเตนฺติ, ปาเทหิ ภูมิยํ ปหริตฺวา ปํสุํ อุทฺธรนฺติ, สฺวาหํ ลณฺฑํ ฉฑฺเฑนฺโต ปํสุํ สมํ กโรนฺโต กิลมามี’’ติ. ‘‘กึ ปน เตสํ อนาคมนํ อิจฺฉถา’’ติ? ‘‘อามาวุโส’’ติ. ‘‘เตน หิ เตสํ อนาคมนํ กริสฺสามี’’ติ ตาปสสฺส หตฺถิกนฺตวีณฺเจว หตฺถิกนฺตมนฺตฺจ อทาสิ. ททนฺโต จ ปน วีณาย ติสฺโส ตนฺติโย ทสฺเสตฺวา ตโย มนฺเต อุคฺคณฺหาเปตฺวา ‘‘อิมํ ตนฺตึ ปหริตฺวา อิมสฺมึ มนฺเต วุตฺเต นิวตฺติตฺวา โอโลเกตุมฺปิ อสกฺโกนฺตา หตฺถี ปลายนฺติ, อิมํ ตนฺตึ ปหริตฺวา อิมสฺมึ มนฺเต วุตฺเต นิวตฺติตฺวา ปจฺฉโต โอโลเกนฺตา โอโลเกนฺตา ปลายนฺติ, อิมํ ตนฺตึ ปหริตฺวา อิมสฺมึ มนฺเต วุตฺเต หตฺถิยูถปติ ปิฏฺึ อุปนาเมนฺโต อาคจฺฉตี’’ติ อาจิกฺขิตฺวา, ‘‘ยํ โว รุจฺจติ, ตํ กเรยฺยาถา’’ติ ¶ วตฺวา ตาปสํ วนฺทิตฺวา ปกฺกามิ. ตาปโส ปลายนมนฺตํ วตฺวา ปลายนตนฺตึ ปหริตฺวา หตฺถี ปลาเปตฺวา วสิ.
ตสฺมึ สมเย โกสมฺพิยํ ปูรนฺตปฺโป นาม ราชา โหติ. โส เอกทิวสํ คพฺภินิยา เทวิยา สทฺธึ พาลสูริยตปํ ตปฺปมาโน อพฺโภกาสตเล นิสีทิ. เทวี รฺโ ปารุปนํ สตสหสฺสคฺฆนิกํ รตฺตกมฺพลํ ปารุปิตฺวา นิสินฺนา รฺา สทฺธึ สมุลฺลปมานา รฺโ องฺคุลิโต สตสหสฺสคฺฆนิกํ ราชมุทฺทิกํ นีหริตฺวา อตฺตโน องฺคุลิยํ ปิลนฺธิ. ตสฺมึ สมเย หตฺถิลิงฺคสกุโณ อากาเสน คจฺฉนฺโต ทูรโต รตฺตกมฺพลปารุปนํ เทวึ ทิสฺวา ‘‘มํสเปสี’’ติ สฺาย ปกฺเข วิสฺสชฺเชตฺวา โอตริ. ราชา ¶ ตสฺส โอตรณสทฺเทน ภีโต อุฏฺาย อนฺโตนิเวสนํ ปาวิสิ. เทวี ครุคพฺภตาย เจว ภีรุกชาติกตาย จ เวเคน คนฺตุํ นาสกฺขิ. อถ นํ โส สกุโณ อชฺฌปฺปตฺโต นขปฺชเร นิสีทาเปตฺวา อากาสํ ปกฺขนฺทิ. เต กิร สกุณา ปฺจนฺนํ หตฺถีนํ พลํ ธาเรนฺติ. ตสฺมา อากาเสน เนตฺวา ยถารุจิตฏฺาเน นิสีทิตฺวา มํสํ ขาทนฺติ. สาปิ เตน นียมานา มรณภยภีตา จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ วิรวิสฺสามิ, มนุสฺสสทฺโท นาม ติรจฺฉานคตานํ อุพฺเพชนีโย, ตํ สุตฺวา มํ ฉฑฺเฑสฺสติ. เอวํ สนฺเต ¶ สห คพฺเภน ชีวิตกฺขยํ ปาปุณิสฺสามิ, ยสฺมึ ปน าเน นิสีทิตฺวา มํ ขาทิตุํ อารภิสฺสติ, ตตฺร นํ สทฺทํ กตฺวา ปลาเปสฺสามี’’ติ. สา อตฺตโน ปณฺฑิตตาย อธิวาเสสิ.
ตทา จ หิมวนฺตปเทเส โถกํ วฑฺฒิตฺวา มณฺฑปากาเรน ¶ ิโต เอโก มหานิคฺโรโธ โหติ. โส สกุโณ มิครูปาทีนิ ตตฺถ เนตฺวา ขาทติ, ตสฺมา ตมฺปิ ตตฺเถว เนตฺวา วิฏปพฺภนฺตเร เปตฺวา อาคตมคฺคํ โอโลเกสิ. อาคตมคฺโคโลกนํ กิร เตสํ ธมฺมตา. ตสฺมึ ขเณ เทวี, ‘‘อิทานิ อิมํ ปลาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา อุโภ หตฺเถ อุกฺขิปิตฺวา ปาณิสทฺทฺเจว มุขสทฺทฺจ กตฺวา ตํ ปลาเปสิ. อถสฺสา สูริยตฺถงฺคมนกาเล คพฺเภ กมฺมชวาตา จลึสุ. สพฺพทิสาสุ คชฺชนฺโต มหาเมโฆ อุฏฺหิ. สุเขธิตาย ราชมเหสิยา ‘‘มา ภายิ, อยฺเย’’ติ วจนมตฺตมฺปิ อลภมานาย ทุกฺขปเรตาย สพฺพรตฺตึ นิทฺทา นาม นาโหสิ. วิภาตาย ปน รตฺติยา วลาหกวิคโม จ อรุณุคฺคมนฺจ ตสฺสา คพฺภวุฏฺานฺจ เอกกฺขเณเยว อโหสิ. สา เมฆอุตฺุจ ปพฺพตอุตฺุจ อรุณอุตฺุจ คเหตฺวา ชาตตฺตา ปุตฺตสฺส อุเตโนติ นามํ อกาสิ.
อลฺลกปฺปตาปสสฺสปิ โข ตโต อวิทูเร วสนฏฺานํ โหติ. โส ปกติยาว วสฺสทิวเส สีตภเยน ผลาผลตฺถาย วนํ น ปวิสติ, ตํ รุกฺขมูลํ คนฺตฺวา สกุเณหิ ขาทิตมํสานํ อฏฺึ อาหริตฺวา โกฏฺเฏตฺวา รสํ กตฺวา ปิวติ. ตสฺมา ตํ ทิวสํ ‘‘อฏฺึ อาหริสฺสามี’’ติ ตตฺถ คนฺตฺวา รุกฺขมูเล อฏฺึ ปริเยเสนฺโต ¶ อุปริ ทารกสทฺทํ สุตฺวา อุลฺโลเกนฺโต เทวึ ทิสฺวา ‘‘กาสิ ตฺว’’นฺติ วตฺวา ‘‘มานุสิตฺถิมฺหี’’ติ. ‘‘กถํ อาคตาสี’’ติ? ‘‘หตฺถิลิงฺคสกุเณนานีตามฺหี’’ติ วุตฺเต ‘‘โอตราหี’’ติ อาห ¶ . ‘‘ชาติสมฺเภทโต ภายามิ, อยฺยา’’ติ. ‘‘กาสิ ตฺว’’นฺติ? ‘‘ขตฺติยามฺหี’’ติ. ‘‘อหมฺปิ ขตฺติโยเยวา’’ติ. ‘‘เตน หิ ขตฺติยมายํ กเถหี’’ติ. โส ขตฺติยมายํ กเถสิ. ‘‘เตน หิ อารุยฺห ปุตฺตํ เม โอตาเรหี’’ติ. โส เอเกน ปสฺเสน อภิรุหนมคฺคํ กตฺวา อภิรุหิตฺวา ทารกํ คณฺหิ. ‘‘มา มํ หตฺเถน ฉุปี’’ติ จ วุตฺเต ตํ อฉุปิตฺวาว ทารกํ โอตาเรสิ. เทวีปิ โอตริ. อถ นํ อสฺสมปทํ เนตฺวา สีลเภทํ อกตฺวาว อนุกมฺปาย ปฏิชคฺคิ, นิมฺมกฺขิกมธุํ อาหริตฺวา สยํชาตสาลึ อาหริตฺวา ยาคุํ ปจิตฺวา อทาสิ. เอวํ ตสฺมึ ปฏิชคฺคนฺเต สา อปรภาเค จินฺเตสิ – ‘‘อหํ เนว อาคตมคฺคํ ชานามิ, น คมนมคฺคํ ชานามิ, อิมินาปิ เม สทฺธึ วิสฺสาสมตฺตมฺปิ นตฺถิ. สเจ ปนายํ อมฺเห ปหาย กตฺถจิ คมิสฺสติ, อุโภปิ อิเธว มรณํ ปาปุณิสฺสาม, ยํกิฺจิ กตฺวา อิมสฺส สีลํ ภินฺทิตฺวา ยถา มํ ¶ น มฺุจติ, ตถา ตํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. อถ นํ ทุนฺนิวตฺถทุปฺปารุตทสฺสเนน ปโลเภตฺวา สีลวินาสํ ปาเปสิ. ตโต ปฏฺาย ทฺเวปิ สมคฺควาสํ วสึสุ.
อเถกทิวสํ ตาปโส นกฺขตฺตโยคํ อุลฺโลเกนฺโต ปูรนฺตปฺปสฺส นกฺขตฺตมิลายนํ ทิสฺวา ‘‘ภทฺเท โกสมฺพิยํ ปูรนฺตปฺปราชา ¶ มโต’’ติ อาห. ‘‘กสฺมา, อยฺย, เอวํ วเทสิ? กึ เต เตน สทฺธึ อาฆาโต อตฺถี’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภทฺเท, นกฺขตฺตมิลายนมสฺส ทิสฺวา เอวํ วทามี’’ติ, สา ปโรทิ. อถ นํ ‘‘กสฺมา โรทสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตาย ตสฺส อตฺตโน สามิกภาเว อกฺขาเต อาห – ‘‘มา, ภทฺเท, โรทิ, ชาตสฺส นาม นิยโต มจฺจู’’ติ. ‘‘ชานามิ, อยฺยา’’ติ วุตฺเต ‘‘อถ กสฺมา โรทสี’’ติ? ‘‘ปุตฺโต เม กุลสนฺตกสฺส รชฺชสฺส อนุจฺฉวิโก, ‘สเจ ตตฺร อภวิสฺส, เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาปยิสฺส. อิทานิ มหาชานิโก วต ชาโต’ติ โสเกน โรทามิ, อยฺยา’’ติ. ‘‘โหตุ, ภทฺเท, มา จินฺตยิ, สจสฺส รชฺชํ ปตฺเถสิ, อหมสฺส รชฺชลภนาการํ กริสฺสามี’’ติ. อถสฺส หตฺถิกนฺตวีณฺเจว หตฺถิกนฺตมนฺเต จ อทาสิ. ตทา อเนกานิ หตฺถิสหสฺสานิ อาคนฺตฺวา วฏรุกฺขมูเล นิสีทนฺติ. อถ นํ อาห – ‘‘หตฺถีสุ อนาคเตสุเยว รุกฺขํ อภิรุหิตฺวา เตสุ อาคเตสุ อิมํ มนฺตํ วตฺวา อิมํ ตนฺตึ ปหร, สพฺเพ นิวตฺติตฺวา โอโลเกตุมฺปิ อสกฺโกนฺตา ปลายิสฺสนฺติ, อถ โอตริตฺวา อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ. โส ตถา กตฺวา อาคนฺตฺวา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. อถ นํ ทุติยทิวเส อาห – ‘‘อชฺช อิมํ มนฺตํ วตฺวา อิมํ ตนฺตึ ปหเรยฺยาสิ ¶ , สพฺเพ นิวตฺติตฺวา โอโลเกนฺตา ปลายิสฺสนฺตี’’ติ. ตทาปิ ตถา กตฺวา อาคนฺตฺวา อาโรเจสิ ¶ . อถ นํ ตติยทิวเส อาห – ‘‘อชฺช อิมํ มนฺตํ วตฺวา อิมํ ตนฺตึ ปหเรยฺยาสิ, ยูถปติ ปิฏฺึ อุปนาเมนฺโต อาคมิสฺสตี’’ติ. ตทาปิ ตถา กตฺวา อาโรเจสิ.
อถสฺส มาตรํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘ภทฺเท, ปุตฺตสฺส เต สาสนํ วเทหิ, เอตฺโตว คนฺตฺวา ราชา ภวิสฺสตี’’ติ อาห. สา ปุตฺตํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘ตาต, ตฺวํ โกสมฺพิยํ ปูรนฺตปฺปรฺโ ปุตฺโต, มํ สคพฺภํ หตฺถิลิงฺคสกุโณ อาเนสี’’ติ วตฺวา เสนาปติอาทีนํ นามานิ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘อสทฺทหนฺตานํ อิมํ ปิตุ ปารุปนกมฺพลฺเจว ปิลนฺธนมุทฺทิกฺจ ทสฺเสยฺยาสี’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชสิ. กุมาโร ตาปสํ ‘‘อิทานิ กึ กโรมี’’ติ อาห. ‘‘รุกฺขสฺส เหฏฺิมสาขาย นิสีทิตฺวา อิมํ มนฺตํ วตฺวา อิมํ ตนฺตึ ปหร, เชฏฺกหตฺถี เต ปิฏฺึ อุปนาเปตฺวา อุปสงฺกมิสฺสติ, ตสฺส ปิฏฺิยํ นิสินฺโนว รฏฺํ คนฺตฺวา รชฺชํ คณฺหาหี’’ติ. โส มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา ตถา กตฺวา อาคตสฺส หตฺถิโน ปิฏฺิยํ นิสีทิตฺวา กณฺเณ มนฺตยิ – ‘‘อหํ โกสมฺพิยํ ปูรนฺตปฺปรฺโ ปุตฺโต, เปตฺติกํ เม รชฺชํ คณฺหิตฺวา เทหิ สามี’’ติ. โส ตํ สุตฺวา ‘‘อเนกานิ ¶ หตฺถิสหสฺสานิ สนฺนิปตนฺตู’’ติ หตฺถิรวํ รวิ, อเนกานิ หตฺถิสหสฺสานิ สนฺนิปตึสุ. ปุน ‘‘ชิณฺณา หตฺถี ปฏิกฺกมนฺตู’’ติ หตฺถิรวํ รวิ, ชิณฺณา หตฺถี ปฏิกฺกมึสุ. ปุน ‘‘อติตรุณา หตฺถี นิวตฺตนฺตู’’ติ หตฺถิรวํ รวิ, เตปิ นิวตฺตึสุ. โส อเนเกหิ ยูถหตฺถิสหสฺเสเหว ปริวุโต ปจฺจนฺตคามํ ปตฺวา ‘‘อหํ รฺโ ปุตฺโต, สมฺปตฺตึ ¶ ปตฺถยมานา มยา สทฺธึ อาคจฺฉนฺตู’’ติ อาห. ‘‘ตโต ปฏฺาย มนุสฺสานํ สงฺคหํ กโรนฺโต คนฺตฺวา นครํ ปริวาเรตฺวา ‘ยุทฺธํ วา เม เทตุ, รชฺชํ วา’’’ติ สาสนํ เปเสสิ. นาครา อาหํสุ – ‘‘มยํ ทฺเวปิ น ทสฺสาม. อมฺหากฺหิ เทวี ครุคพฺภา หตฺถิลิงฺคสกุเณน นีตา, ตสฺสา อตฺถิภาวํ วา นตฺถิภาวํ วา มยํ น ชานาม. ยาว ตสฺสา ปวตฺตึ น สุณาม. ตาว เนว ยุทฺธํ ทสฺสาม, น รชฺช’’นฺติ. ตทา กิร ตํ ปเวณิรชฺชํ อโหสิ. ตโต กุมาโร ‘‘อหํ ตสฺสา ปุตฺโต’’ติ วตฺวา เสนาปติอาทีนํ นามานิ กเถตฺวา ตถาปิ อสทฺทหนฺตานํ กมฺพลฺจ มุทฺทิกฺจ ทสฺเสสิ. เต กมฺพลฺจ มุทฺทิกฺจ สฺชานิตฺวา นิกฺกงฺขา หุตฺวา ทฺวารํ วิวริตฺวา ตํ รชฺเช อภิสิฺจึสุ. อยํ ตาว อุเตนสฺส อุปฺปตฺติ.
อลฺลกปฺปรฏฺเ ¶ ปน ทุพฺภิกฺเข ชีวิตุํ อสกฺโกนฺโต เอโก โกตุหลิโก นาม มนุสฺโส กาปึ นาม ตรุณปุตฺตฺจ กาฬึ นาม ภริยฺจ อาทาย ‘‘โกสมฺพึ คนฺตฺวา ชีวิสฺสามี’’ติ ปาเถยฺยํ คเหตฺวา นิกฺขมิ. ‘‘อหิวาตโรเคน มหาชเน มรนฺเต ทิสฺวา นิกฺขมี’’ติปิ วทนฺติเยว. เต คจฺฉนฺตา ปาเถยฺเย ปริกฺขีเณ ขุทาภิภูตา ทารกํ วหิตุํ นาสกฺขึสุ. อถ สามิโก ปชาปตึ อาห – ‘‘ภทฺเท, มยํ ชีวนฺตา ปุน ปุตฺตํ ลภิสฺสาม, ฉฑฺเฑตฺวา นํ คจฺฉามา’’ติ. มาตุ หทยํ นาม มุทุกํ โหติ. ตสฺมา สา อาห – ‘‘นาหํ ชีวนฺตเมว ปุตฺตํ ฉฑฺเฑตุํ สกฺขิสฺสามี’’ติ. ‘‘อถ กึ กโรมา’’ติ? ‘‘วาเรน นํ วหามา’’ติ. มาตา อตฺตโน วาเร ปุปฺผทามํ วิย นํ อุกฺขิปิตฺวา อุเร นิปชฺชาเปตฺวา ¶ องฺเกน วหิตฺวา ปิตุโน เทติ. ตสฺส ตํ คเหตฺวา คมนกาเล ฉาตกโตปิ พลวตรา เวทนา อุปฺปชฺชิ. โส ปุนปฺปุนํ อาห – ‘‘ภทฺเท, มยํ ชีวนฺตา ปุตฺตํ ลภิสฺสาม, ฉฑฺเฑม น’’นฺติ. สาปิ ปุนปฺปุนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปฏิวจนํ นาทาสิ. ทารโก วาเรน ปริวตฺติยมาโน กิลนฺโต ปิตุ หตฺเถ นิทฺทายิ. โส ตสฺส นิทฺทายนภาวํ ตฺวา มาตรํ ปุรโต กตฺวา เอกสฺส คจฺฉสฺส เหฏฺา ปณฺณสนฺถเร ตํ นิปชฺชาเปตฺวา ปายาสิ. มาตา นิวตฺติตฺวา โอโลเกนฺตี ปุตฺตํ อทิสฺวา, ‘‘สามิ, กุหึ เม ปุตฺโต’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘เอกสฺส เม คจฺฉสฺส เหฏฺา นิปชฺชาปิโต’’ติ. ‘‘สามิ, มา มํ นาสยิ, ปุตฺตํ วินา ชีวิตุํ น สกฺขิสฺสามิ, อาเนหิ เม ปุตฺต’’นฺติ อุรํ ปหริตฺวา ปริเทวิ. อถ นํ นิวตฺติตฺวา อาเนสิ. ปุตฺโตปิ อนฺตรามคฺเค มโต โหติ. อิติ โส เอตฺตเก าเน ปุตฺตํ ฉฑฺเฑตฺวา ตสฺส นิสฺสนฺเทน ภวนฺตเร สตฺต วาเร ฉฑฺฑิโต. ‘‘ปาปกมฺมํ นาเมตํ อปฺปก’’นฺติ น อวมฺิตพฺพํ.
เต ¶ คจฺฉนฺตา เอกํ โคปาลกุลํ ปาปุณึสุ. ตํ ทิวสฺจ โคปาลกสฺส เธนุมงฺคลํ โหติ. โคปาลกสฺส เคเห นิพทฺธํ เอโก ปจฺเจกพุทฺโธ ภฺุชติ. โส ตํ โภเชตฺวา มงฺคลมกาสิ. พหุ ปายาโส ปฏิยตฺโต โหติ. โคปาลโก เต อาคเต ทิสฺวา, ‘‘กุโต อาคตตฺถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา สพฺพํ ปวตฺตึ สุตฺวา มุทุชาติโก กุลปุตฺโต เตสุ อนุกมฺปํ กตฺวา พหุเกน สปฺปินา ปายาสํ ทาเปสิ. ภริยา ‘‘สามิ, ตยิ ชีวนฺเต อหมฺปิ ชีวามิ นาม, ทีฆรตฺตํ อูโนทโรสิ, ยาวทตฺถํ ภฺุชาหี’’ติ สปฺปิฺจ ทธิฺจ ตทภิมุขฺเว กตฺวา อตฺตนา มนฺทสปฺปินา ¶ โถกเมว ภฺุชิ. อิตโร พหุํ ภฺุชิตฺวา สตฺตฏฺทิวเส ฉาตตาย อาหารตณฺหํ ฉินฺทิตุํ นาสกฺขิ. โคปาลโก เตสํ ปายาสํ ทาเปตฺวา สยํ ¶ ภฺุชิตุํ อารภิ. โกตุหลิโก ตํ โอโลเกนฺโต นิสีทิตฺวา เหฏฺาปีเ นิปนฺนาย สุนขิยา โคปาลเกน วฑฺเฒตฺวา ทิยฺยมานํ ปายาสปิณฺฑํ ทิสฺวา ‘‘ปฺุา วตายํ สุนขี, นิพทฺธํ เอวรูปํ โภชนํ ลภตี’’ติ จินฺเตสิ. โส รตฺติภาเค ตํ ปายาสํ ชีราเปตุํ อสกฺโกนฺโต กาลํ กตฺวา ตสฺสา สุนขิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ.
อถสฺส ภริยา สรีรกิจฺจํ กตฺวา ตสฺมึเยว เคเห ภตึ กตฺวา ตณฺฑุลนาฬึ ลภิตฺวา ปจิตฺวา ปจฺเจกพุทฺธสฺส ปตฺเต ปติฏฺาเปตฺวา, ‘‘ทาสสฺส โว ปาปุณาตู’’ติ วตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘มยา อิเธว วสิตุํ วฏฺฏติ, นิพทฺธํ, อยฺโย, อิธาคจฺฉติ, เทยฺยธมฺโม โหตุ วา, มา วา, เทวสิกํ วนฺทนฺตี เวยฺยาวจฺจํ กโรนฺตี จิตฺตํ ปสาเทนฺตี พหุํ ปฺุํ ปสวิสฺสามี’’ติ. สา ตตฺเถว ภตึ กโรนฺตี วสิ. สาปิ สุนขี ฉฏฺเ วา สตฺตเม วา มาเส เอกเมว กุกฺกุรํ วิชายิ. โคปาลโก ตสฺส เอกเธนุยา ขีรํ ทาเปสิ. โส น จิรสฺเสว วฑฺฒิ. อถสฺส ปจฺเจกพุทฺโธ ภฺุชนฺโต นิพทฺธํ เอกํ ภตฺตปิณฺฑํ เทติ. โส ภตฺตปิณฺฑํ นิสฺสาย ปจฺเจกพุทฺเธ สิเนหมกาสิ. โคปาลโกปิ นิพทฺธํ ทฺเว วาเร ปจฺเจกพุทฺธสฺสุปฏฺานํ ยาติ. คจฺฉนฺโตปิ อนฺตรามคฺเค วาฬมิคฏฺาเน ทณฺเฑน คจฺเฉ จ ภูมิฺจ ปหริตฺวา ‘‘สุสู’’ติ ติกฺขตฺตุํ สทฺทํ กตฺวา วาฬมิเค ปลาเปติ. สุนโขปิ เตน สทฺธึ คจฺฉติ.
โส เอกทิวสํ ปจฺเจกพุทฺธํ อาห – ‘‘ภนฺเต, ยทา เม โอกาโส น ภวิสฺสติ, ตทา อิมํ สุนขํ เปเสสฺสามิ, เตน สฺาเณน อาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ. ตโต ปฏฺาย อโนกาสทิวเส, ‘‘คจฺฉ, ตาต, อยฺยํ อาเนหี’’ติ สุนขํ เปเสสิ. โส เอกวจเนเนว ปกฺขนฺทิตฺวา สามิกสฺส คจฺฉโปถนภูมิโปถนฏฺาเน ติกฺขตฺตุํ ภุสฺสิตฺวา เตน สทฺเทน วาฬมิคานํ ปลาตภาวํ ตฺวา ¶ ปาโตว สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา นิสินฺนสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ปณฺณสาลทฺวาเร ติกฺขตฺตุํ ภุสฺสิตฺวา อตฺตโน อาคตภาวํ ชานาเปตฺวา เอกมนฺเต นิปชฺชติ, ปจฺเจกพุทฺเธ เวลํ สลฺลกฺเขตฺวา นิกฺขนฺเต ภุสฺสนฺโต ปุรโต คจฺฉติ. อนฺตรนฺตรา ปจฺเจกพุทฺโธ ¶ ตํ วีมํสนฺโต อฺํ มคฺคํ ปฏิปชฺชติ. อถสฺส ปุรโต ¶ ติริยํ ตฺวา ภุสฺสิตฺวา อิตรมคฺคเมว นํ อาโรเปติ. อเถกทิวสํ อฺํ มคฺคํ ปฏิปชฺชิตฺวา เตน ปุรโต ติริยํ ตฺวา วาริยมาโนปิ อนิวตฺติตฺวา สุนขํ ปาเทน ปหริตฺวา ปายาสิ. สุนโข ตสฺส อนิวตฺตนภาวํ ตฺวา นิวาสนกณฺเณ ฑํสิตฺวา อากฑฺฒนฺโต อิตรมคฺคเมว นํ อาโรเปสิ. เอวํ โส ตสฺมึ พลวสิเนหํ อุปฺปาเทสิ.
ตโต อปรภาเค ปจฺเจกพุทฺธสฺส จีวรํ ชีริ. อถสฺส โคปาลโก จีวรวตฺถานิ อทาสิ. ตเมนํ ปจฺเจกพุทฺโธ อาห – ‘‘อาวุโส, จีวรํ นาม เอกเกน กาตุํ ทุกฺกรํ, ผาสุกฏฺานํ คนฺตฺวา กาเรสฺสามี’’ติ. ‘‘อิเธว, ภนฺเต, กโรถา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, อาวุโส’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต, มา จิรํ พหิ วสิตฺถา’’ติ. สุนโข เตสํ กถํ สุณนฺโตว อฏฺาสิ, ปจฺเจกพุทฺโธปิ ‘‘ติฏฺ, อุปาสกา’’ติ โคปาลกํ นิวตฺตาเปตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา คนฺธมาทนาภิมุโข ปายาสิ. สุนขสฺส ตํ อากาเสน คจฺฉนฺตํ ¶ ทิสฺวา ภุกฺกริตฺวา ิตสฺส ตสฺมึ จกฺขุปถํ วิชหนฺเต หทยํ ผลิตฺวา มโต. ติรจฺฉานา กิร นาเมเต อุชุชาติกา โหนฺติ อกุฏิลา. มนุสฺสา ปน อฺํ หทเยน จินฺเตนฺติ, อฺํ มุเขน กเถนฺติ. เตเนวาห – ‘‘คหนฺเหตํ, ภนฺเต, ยทิทํ มนุสฺสา, อุตฺตานกฺเหตํ, ภนฺเต, ยทิทํ ปสโว’’ติ (ม. นิ. ๒.๓).
อิติ โส ตาย อุชุจิตฺตตาย อกุฏิลตาย กาลํ กตฺวา ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺโต อจฺฉราสหสฺสปริวุโต มหาสมฺปตฺตึ อนุโภสิ. ตสฺส กณฺณมูเล มนฺตยนฺตสฺส สทฺโท โสฬสโยชนฏฺานํ ผรติ, ปกติกถาสทฺโท ปน สกลํ ทสโยชนสหสฺสํ เทวนครํ ฉาเทติ. เตเนวสฺส ‘‘โฆสกเทวปุตฺโต’’ติ นามํ อโหสิ. ‘‘กิสฺส ปเนส นิสฺสนฺโท’’ติ. ปจฺเจกพุทฺเธ เปเมน ภุกฺกรณสฺส นิสฺสนฺโท. โส ตตฺถ น จิรํ ตฺวา จวิ. เทวโลกโต หิ เทวปุตฺตา อายุกฺขเยน ปฺุกฺขเยน อาหารกฺขเยน โกเปนาติ จตูหิ การเณหิ จวนฺติ.
ตตฺถ เยน พหุํ ปฺุกมฺมํ กตํ โหติ, โส เทวโลเก อุปฺปชฺชิตฺวา ยาวตายุกํ ตฺวา อุปรูปริ นิพฺพตฺตติ. เอวํ อายุกฺขเยน จวติ นาม. เยน ปริตฺตํ ปฺุํ กตํ โหติ, ตสฺส ราชโกฏฺาคาเร ปกฺขิตฺตํ ติจตุนาฬิมตฺตํ ธฺํ วิย อนฺตราว ตํ ปฺุํขียติ, อนฺตราว กาลํ กโรติ ¶ . เอวํ ปฺุกฺขเยน จวติ นาม. อปโรปิ กามคุเณ ปริภฺุชมาโน สติสมฺโมเสน อาหารํ อปริภฺุชิตฺวา กิลนฺตกาโย กาลํ กโรติ. เอวํ อาหารกฺขเยน จวติ นาม. อปโรปิ ปรสฺส สมฺปตฺตึ อสหนฺโต ¶ กุชฺฌิตฺวา กาลํ กโรติ. เอวํ โกเปน จวติ นาม.
อยํ ¶ ปน กามคุเณ ปริภฺุชนฺโต มุฏฺสฺสติ หุตฺวา อาหารกฺขเยน จวิ, จวิตฺวา จ ปน โกสมฺพิยํ นครโสภินิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. สาปิ ชาตทิวเส ‘‘กึ เอต’’นฺติ ทาสึ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘ปุตฺโต, อยฺเย’’ติ วุตฺเต – ‘‘หนฺท, เช, อิมํ ทารกํ กตฺตรสุปฺเป อาโรเปตฺวา สงฺการกูเฏ ฉฑฺเฑหี’’ติ ฉฑฺฑาเปสิ. นครโสภินิโย หิ ธีตรํ ปฏิชคฺคนฺติ, น ปุตฺตํ. ธีตรา หิ ตาสํ ปเวณี ฆฏียติ. ทารกํ กากาปิ สุนขาปิ ปริวาเรตฺวา นิสีทึสุ. ปจฺเจกพุทฺเธ สิเนหปฺปภวสฺส ภุกฺกรณสฺส นิสฺสนฺเทน เอโกปิ อุปคนฺตุํ น วิสหิ. ตสฺมึ ขเณ เอโก มนุสฺโส พหิ นิกฺขนฺโต ตํ กากสุนขสนฺนิปาตํ ทิสฺวา, ‘‘กึ นุ โข เอต’’นฺติ คนฺตฺวา ทารกํ ทิสฺวา ปุตฺตสิเนหํ ปฏิลภิตฺวา ‘‘ปุตฺโต เม ลทฺโธ’’ติ เคหํ เนสิ. ตทา โกสมฺพกเสฏฺิ ราชกุลํ คจฺฉนฺโต ราชนิเวสนโต อาคจฺฉนฺตํ ปุโรหิตํ ทิสฺวา, ‘‘กึ, อาจริย, อชฺช เต ติถิกรณนกฺขตฺตโยโค โอโลกิโต’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อาม, มหาเสฏฺิ, อมฺหากํ กึ อฺํ กิจฺจนฺติ? ชนปทสฺส กึ ภวิสฺสตี’’ติ? ‘‘อฺํ นตฺถิ, อิมสฺมึ ปน นคเร อชฺช ชาตทารโก เชฏฺกเสฏฺิ ภวิสฺสตี’’ติ. ตทา เสฏฺิโน ภริยา ครุคพฺภา โหติ. ตสฺมา โส สีฆํ เคหํ ปุริสํ เปเสสิ – ‘‘คจฺฉ ภเณ, ชานาหิ นํ วิชาตา วา, โน วา’’ติ. ‘‘น วิชายตี’’ติ สุตฺวา ราชานํ ทิสฺวาว เวเคน เคหํ คนฺตฺวา กาฬึ นาม ทาสึ ปกฺโกสิตฺวา สหสฺสํ ทตฺวา, ‘‘คจฺฉ ¶ เช, อิมสฺมึ นคเร อุปธาเรตฺวา สหสฺสํ ทตฺวา อชฺช ชาตทารกํ คณฺหิตฺวา เอหี’’ติ. สา อุปธาเรนฺตี ตํ เคหํ คนฺตฺวา ทารกํ ทิสฺวา, ‘‘อยํ ทารโก กทา ชาโต’’ติ คหปตานึ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อชฺช ชาโต’’ติ วุตฺเต, ‘‘อิมํ มยฺหํ เทหี’’ติ เอกกหาปณํ อาทึ กตฺวา มูลํ วฑฺเฒนฺตี สหสฺสํ ทตฺวา ตํ อาเนตฺวา เสฏฺิโน ทสฺเสสิ. เสฏฺิ ‘‘สเจ เม ธีตา วิชายิสฺสติ, ตาย นํ สทฺธึ นิเวเสตฺวา เสฏฺิฏฺานสฺส สามิกํ กริสฺสามิ. สเจ เม ปุตฺโต วิชายิสฺสติ, มาเรสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ตํ เคเห กาเรสิ.
อถสฺส ¶ ภริยา กติปาหจฺจเยน ปุตฺตํ วิชายิ. เสฏฺิ ‘‘อิมสฺมึ อสติ มม ปุตฺโตว เสฏฺิฏฺานํ ลภิสฺสติ, อิทาเนว ตํ มาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา กาฬึ อามนฺเตตฺวา, ‘‘คจฺฉ, เช, วชโต คุนฺนํ นิกฺขมนเวลาย วชทฺวารมชฺเฌ อิมํ ติริยํ นิปชฺชาเปหิ, คาวิโย นํ มทฺทิตฺวา มาเรสฺสนฺติ, มทฺทิตามทฺทิตภาวํ ปนสฺส ตฺวา เอหี’’ติ อาห. สา คนฺตฺวา โคปาลเกน วชทฺวาเร วิวฏมตฺเตเยว ตํ ตถา นิปชฺชาเปสิ. โคคณเชฏฺโก อุสโภ อฺสฺมึ กาเล สพฺพปจฺฉา นิกฺขมนฺโตปิ ตํ ทิวสํ สพฺพปมํ นิกฺขมิตฺวา ทารกํ จตุนฺนํ ปาทานํ อนฺตเร กตฺวา อฏฺาสิ. อเนกสตคาวิโย อุสภสฺส ทฺเว ปสฺสานิ ฆํสนฺติโย นิกฺขมึสุ. โคปาลโกปิ ‘‘อยํ อุสโภ ปุพฺเพ สพฺพปจฺฉา นิกฺขมติ, อชฺช ปน สพฺพปมํ นิกฺขมิตฺวา ¶ วชทฺวารมชฺเฌ นิจฺจโลว ิโต, กึ นุ โข เอต’’นฺติ จินฺเตตฺวา คนฺตฺวา ตสฺส เหฏฺา นิปนฺนํ ทารกํ ทิสฺวา ปุตฺตสิเนหํ ปฏิลภิตฺวา, ‘‘ปุตฺโต เม ลทฺโธ’’ติ เคหํ เนสิ.
กาฬี คนฺตฺวา เสฏฺินา ปุจฺฉิตา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา, ‘‘คจฺฉ, นํ ปุน สหสฺสํ ทตฺวา อาเนหี’’ติ วุตฺตา สหสฺสํ ทตฺวา ปุน อาเนตฺวา อทาสิ. อถ ¶ นํ อาห – ‘‘อมฺม, กาฬิ อิมสฺมึ นคเร ปฺจ สกฏสตานิ ปจฺจูสกาเล อุฏฺาย วาณิชฺชาย คจฺฉนฺติ, ตฺวํ อิมํ เนตฺวา จกฺกมคฺเค นิปชฺชาเปหิ, โคณา วา นํ มทฺทิสฺสนฺติ, จกฺกา วา ฉินฺทิสฺสนฺติ, ปวตฺตึ จสฺส ตฺวาว อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ. สา ตํ เนตฺวา จกฺกมคฺเค นิปชฺชาเปสิ. ตทา สากฏิกเชฏฺโก ปุรโต อโหสิ. อถสฺส โคณา ตํ านํ ปตฺวา ธุรํ ฉฑฺเฑสุํ, ปุนปฺปุนํ อาโรเปตฺวา ปาชิยมานาปิ ปุรโต น คจฺฉึสุ. เอวํ ตสฺส เตหิ สทฺธึ วายมนฺตสฺเสว อรุณํ อุฏฺหิ. โส ‘‘กึ นาเมตํ โคณา กรึสู’’ติ มคฺคํ โอโลเกนฺโต ทารกํ ทิสฺวา, ‘‘ภาริยํ วต เม กมฺม’’นฺติ จินฺเตตฺวา, ‘‘ปุตฺโต เม ลทฺโธ’’ติ ตุฏฺมานโส ตํ เคหํ เนสิ.
กาฬี คนฺตฺวา เสฏฺินา ปุจฺฉิตา ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิตฺวา, ‘‘คจฺฉ, นํ ปุน สหสฺสํ ทตฺวา อาเนหี’’ติ วุตฺตา ตถา อกาสิ. อถ นํ โส อาห – ‘‘อิทานิ นํ อามกสุสานํ เนตฺวา คจฺฉนฺตเร นิปชฺชาเปหิ, ตตฺถ สุนขาทีหิ วา ขาทิโต, อมนุสฺเสหิ วา ปหโฏ มริสฺสติ, มาตามตภาวฺจสฺส ชานิตฺวาว อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ. สา ตํ เนตฺวา ตตฺถ นิปชฺชาเปตฺวา เอกมนฺเต อฏฺาสิ. ตํ สุนโข วา กาโก วา อมนุสฺโส วา อุปสงฺกมิตุํ ¶ นาสกฺขิ. ‘‘นนุ จสฺส เนว มาตา น ปิตา น ภาติกาทีสุ โกจิ รกฺขิตา นาม อตฺถิ, โก ตํ รกฺขตี’’ติ? สุนขกาเล ปจฺเจกพุทฺเธ สิเนเหน ปวตฺติตภุกฺกรณมตฺตเมว ตํ รกฺขติ. อเถโก อชปาลโก อเนกสหสฺสา อชา โคจรํ เนนฺโต สุสานปสฺเสน คจฺฉติ. เอกา อชา ปณฺณานิ ขาทมานา คจฺฉนฺตรํ ปวิฏฺา ทารกํ ทิสฺวา ชณฺณุเกหิ ตฺวา ทารกสฺส ถนํ อทาสิ, อชปาลเกน ‘‘เห เห’’ติ สทฺเท กเตปิ น นิกฺขมิ. โส ‘‘ยฏฺิยา นํ ปหริตฺวา นีหริสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺตรํ ปวิฏฺโ ชณฺณุเกหิ ¶ ตฺวา ทารกํ ขีรํ ปายนฺตึ อชึ ทิสฺวา ทารเก ปุตฺตสิเนหํ ปฏิลภิตฺวา, ‘‘ปุตฺโต เม ลทฺโธ’’ติ อาทาย ปกฺกามิ.
กาฬี คนฺตฺวา เสฏฺินา ปุจฺฉิตา ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิตฺวา, ‘‘คจฺฉ, ตํ ปุน สหสฺสํ ทตฺวา อาเนหี’’ติ วุตฺตา ตถา อกาสิ. อถ นํ อาห – ‘‘อมฺม กาฬิ, อิมํ อาทาย โจรปปาตปพฺพตํ อภิรุหิตฺวา ปปาเต ขิป, ปพฺพตกุจฺฉิยํ ปฏิหฺมาโน ขณฺฑาขณฺฑิโก หุตฺวา ภูมิยํ ปติสฺสติ, มตามตภาวฺจสฺส ตฺวาว อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ. สา ตํ ตตฺถ เนตฺวา ปพฺพตมตฺถเก ¶ ตฺวา ขิปิ. ตํ โข ปน ปพฺพตกุจฺฉึ นิสฺสาย มหาเวฬุคุมฺโพ ปพฺพตานุสาเรเนว วฑฺฒิ, ตสฺส มตฺถกํ ฆนชาโต ชิฺชุกคุมฺโพ อวตฺถริ. ทารโก ปตนฺโต โกชวเก วิย ตสฺมึ ปติ. ตํ ทิวสฺจ นฬการเชฏฺกสฺส เวฬุพลิ ปตฺโต โหติ. โส ปุตฺเตน สทฺธึ คนฺตฺวา ตํ เวฬุคุมฺพํ ฉินฺทิตุํ อารภิ. ตสฺมึ จลนฺเต ทารโก สทฺทมกาสิ. โส ‘‘ทารกสทฺโท วิยา’’ติ เอเกน ปสฺเสน อภิรุหิตฺวา ตํ ทิสฺวา, ‘‘ปุตฺโต เม ลทฺโธ’’ติ ตุฏฺจิตฺโต อาทาย คโต.
กาฬี เสฏฺิสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา เตน ปุจฺฉิตา ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิตฺวา, ‘‘คจฺฉ, นํ ปุน สหสฺสํ ทตฺวา อาเนหี’’ติ วุตฺตา ตถา อกาสิ. เสฏฺิโน อิทฺจิทฺจ กโรนฺตสฺเสว ทารโก วฑฺฒิโต ‘‘โฆสโก’’ตฺเววสฺส นามํ อโหสิ. โส เสฏฺิโน อกฺขิมฺหิ กณฺฏโก วิย ขายิ, อุชุกํ ตํ โอโลเกตุมฺปิ น วิสติ. อถสฺส มารณูปายํ จินฺเตนฺโต อตฺตโน สหายกสฺส กุมฺภการสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘กทา ตฺวํ อาวาปํ อาลิมฺเปสฺสสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา – ‘‘สฺเว’’ติ วุตฺเต, ‘‘เตน ¶ หิ อิทํ สหสฺสํ คเหตฺวา มม เอกํ ¶ กมฺมํ กโรหี’’ติ อาห. ‘‘กึ, สามี’’ติ? ‘‘เอโก เม อวชาตปุตฺโต อตฺถิ, ตํ ตว สนฺติกํ เปเสสฺสามิ, อถ นํ คเหตฺวา คพฺภํ ปเวเสตฺวา ติขิณาย วาสิยา ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺทิตฺวา จาฏิยํ ปกฺขิปิตฺวา อาวาเป ปเจยฺยาสิ, อิทํ เต สหสฺสํ สจฺจการสทิสํ. อุตฺตรึ ปน เต กตฺตพฺพยุตฺตกํ ปจฺฉา กริสฺสามี’’ติ. กุมฺภกาโร ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. เสฏฺิ ปุนทิวเส โฆสกํ ปกฺโกสิตฺวา, ‘‘หิยฺโย มยา กุมฺภกาโร เอกํ กมฺมํ อาณตฺโต, เอหิ, ตฺวํ ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา เอวํ วเทหิ – ‘หิยฺโย กิร เม ปิตรา อาณตฺตํ กมฺมํ นิปฺผาเทหี’’’ติ ปหิณิ. โส ‘‘สาธู’’ติ อคมาสิ. ตํ ตตฺถ คจฺฉนฺตํ อิตโร เสฏฺิโน ปุตฺโต ทารเกหิ สทฺธึ คุฬํ กีฬนฺโต ทิสฺวา ตํ ปกฺโกสิตฺวา, ‘‘กุหึ คจฺฉสิ ภาติกา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ปิตุ สาสนํ คเหตฺวา กุมฺภการสฺส สนฺติก’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อหํ ตตฺถ คมิสฺสามิ. อิเม มํ ทารกา พหุํ ลกฺขํ ชินึสุ, ตํ เม ปฏิชินิตฺวา เทหี’’ติ อาห. ‘‘อหํ ปิตุ ภายามี’’ติ. ‘‘มา ภายิ, ภาติก, อหํ ตํ สาสนํ หริสฺสามิ. พหูหิ ชิโต, ยาวาหํ อาคจฺฉามิ, ตาว เม ลกฺขํ ปฏิชินา’’ติ.
โฆสโก กิร คุฬกีฬาย เฉโก, เตน นํ เอวํ นิพนฺธิ. โสปิ ตํ ‘‘เตน หิ คนฺตฺวา กุมฺภการํ วเทหิ – ‘ปิตรา กิร เม หิยฺโย เอกํ กมฺมํ อาณตฺตํ, ตํ นิปฺผาเทหี’’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชสิ. โส ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตถา อวจ. อถ นํ กุมฺภกาโร เสฏฺินา วุตฺตนิยาเมเนว มาเรตฺวา อาวาเป ขิปิ. โฆสโกปิ ทิวสภาคํ กีฬิตฺวา สายนฺหสมเย เคหํ คนฺตฺวา ¶ ¶ ‘‘กึ, ตาต, น คโตสี’’ติ วุตฺเต อตฺตโน อคตการณฺจ กนิฏฺสฺส คตการณฺจ อาโรเจสิ. ตํ สุตฺวา เสฏฺิ ‘‘อหํ ธี’’ติ มหาวิรวํ วิรวิตฺวา สกลสรีเร ปกฺกุถิตโลหิโต วิย หุตฺวา, ‘‘อมฺโภ, กุมฺภการ, มา มํ นาสยิ, มา มํ นาสยี’’ติ พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺโต ตสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. กุมฺภกาโร ตํ ตถา อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา, ‘‘สามิ, มา สทฺทํ กริ, กมฺมํ เต นิปฺผนฺน’’นฺติ อาห. โส ปพฺพเตน วิย มหนฺเตน โสเกน อวตฺถโฏ หุตฺวา อนปฺปกํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทสิ. ยถา ตํ อปฺปทุฏฺสฺส ปทุสฺสมาโน. เตนาห ภควา –
‘‘โย ¶ ทณฺเฑน อทณฺเฑสุ, อปฺปทุฏฺเสุ ทุสฺสติ;
ทสนฺนมฺตรํ านํ, ขิปฺปเมว นิคจฺฉติ.
‘‘เวทนํ ผรุสํ ชานึ, สรีรสฺส จ เภทนํ;
ครุกํ วาปิ อาพาธํ, จิตฺตกฺเขปฺจ ปาปุเณ.
‘‘ราชโต วา อุปสคฺคํ, อพฺภกฺขานฺจ ทารุณํ;
ปริกฺขยฺจ าตีนํ, โภคานฺจ ปภงฺคุรํ.
‘‘อถ วาสฺส อคารานิ, อคฺคิ ฑหติ ปาวโก;
กายสฺส เภทา ทุปฺปฺโ, นิรยํ โสปปชฺชตี’’ติ. (ธ. ป. ๑๓๗-๑๔๐);
เอวํ ¶ สนฺเตปิ ปุน นํ เสฏฺิ อุชุกํ โอโลเกตุํ น สกฺโกติ. ‘‘กินฺติ นํ มาเรยฺย’’นฺติ จินฺเตนฺโต, ‘‘มม คามสเต อายุตฺตกสฺส สนฺติกํ เปเสตฺวา มาเรสฺสามี’’ติ อุปายํ ทิสฺวา, ‘‘อยํ เม อวชาตปุตฺโต, อิมํ มาเรตฺวา วจฺจกูเป ขิปตุ, เอวํ กเต อหํ มาตุลสฺส กตฺตพฺพยุตฺตกํ ปจฺฉา ชานิสฺสามี’’ติ ตสฺส ปณฺณํ ลิขิตฺวา, ‘‘ตาต โฆสก, อมฺหากํ คามสเต อายุตฺตโก อตฺถิ, อิมํ ปณฺณํ หริตฺวา ตสฺส เทหี’’ติ วตฺวา ปณฺณํ ตสฺส ทุสฺสนฺเต พนฺธิ. โส ปน อกฺขรสมยํ น ชานาติ. ทหรกาลโต ปฏฺาย หิ นํ มาราเปนฺโตว เสฏฺิ มาเรตุํ นาสกฺขิ, กึ อกฺขรสมยํ สิกฺขาเปสฺสติ? อิติ โส อตฺตโน มาราปนปณฺณเมว ทุสฺสนฺเต พนฺธิตฺวา นิกฺขมนฺโต อาห – ‘‘ปาเถยฺยํ เม, ตาต, นตฺถี’’ติ. ‘‘ปาเถยฺเยน เต กมฺมํ นตฺถิ, อนฺตรามคฺเค ‘อสุกคาเม นาม มมสหายโก เสฏฺิ อตฺถิ, ตสฺส ฆเร ปาตราสํ กตฺวา ปุรโต คจฺฉาหี’’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ ปิตรํ วนฺทิตฺวา นิกฺขนฺโต ตํ คามํ ปตฺวา เสฏฺิสฺส ฆรํ ¶ ปุจฺฉิตฺวา คนฺตฺวา เสฏฺิชายํ ปสฺสิ. ‘‘ตฺวํ กุโต อาคโตสี’’ติ จ วุตฺเต, ‘‘อนฺโตนครโต’’ติ อาห. ‘‘กสฺส ปุตฺโตสี’’ติ? ‘‘ตุมฺหากํ สหายกเสฏฺิโน, อมฺมา’’ติ. ‘‘ตฺวํสิ โฆสโก นามา’’ติ? ‘‘อาม, อมฺมา’’ติ. ตสฺสา สห ทสฺสเนเนว ตสฺมึ ปุตฺตสิเนโห อุปฺปชฺชิ. เสฏฺิโน ปเนกา ธีตา อตฺถิ ปนฺนรสโสฬสวสฺสุทฺเทสิกา อภิรูปา ปาสาทิกา, ตํ รกฺขิตุํ เอกเมว เปสนการิกํ ทาสึ ทตฺวา สตฺตภูมิกสฺส ปาสาทสฺส อุปริมตเล สิริคพฺเภ วสาเปนฺติ. เสฏฺิธีตา ตสฺมึ ¶ ขเณ ตํ ทาสึ อนฺตราปณํ เปเสสิ. อถ นํ เสฏฺิชายา ทิสฺวา, ‘‘กุหึ คจฺฉสี’’ติ ¶ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘อยฺยธีตาย เปสเนนา’’ติ วุตฺเต ‘‘อิโต ตาว เอหิ, ติฏฺตุ เปสนํ, ปุตฺตสฺส เม ปีกํ อตฺถริตฺวา ปาเท โธวิตฺวา เตลํ มกฺขิตฺวา สยนํ อตฺถริตฺวา เทหิ, ปจฺฉา เปสนํ กริสฺสสี’’ติ อาห. สา ตถา อกาสิ.
อถ นํ จิเรนาคตํ เสฏฺิธีตา สนฺตชฺเชสิ. อถ นํ สา อาห – ‘‘มา เม กุชฺฌิ, เสฏฺิปุตฺโต โฆสโก อาคโต, ตสฺส อิทฺจิทฺจ กตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา อาคตามฺหี’’ติ. เสฏฺิธีตาย ‘‘เสฏฺิปุตฺโต โฆสโก’’ติ นามํ สุตฺวาว เปมํ ฉวิยาทีนิ ฉินฺทิตฺวา อฏฺิมิฺชํ อาหจฺจ ิตํ. โกตุหลกาลสฺมิฺหิ สา ตสฺส ปชาปตี หุตฺวา นาฬิโกทนํ ปจฺเจกพุทฺธสฺส อทาสิ, ตสฺสานุภาเวนาคนฺตฺวา อิมสฺมึ เสฏฺิกุเล นิพฺพตฺตา. อิติ ตํ โส ปุพฺพสิเนโห อวตฺถริตฺวา คณฺหิ. เตนาห ภควา –
‘‘ปุพฺเพว สนฺนิวาเสน, ปจฺจุปฺปนฺนหิเตน วา;
เอวํ ตํ ชายเต เปมํ, อุปฺปลํว ยโถทเก’’ติ. (ชา. ๑.๒.๑๗๔);
อถ นํ ปุจฺฉิ – ‘‘กุหึ โส, อมฺมา’’ติ? ‘‘สยเน นิปนฺโน นิทฺทายตี’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปนสฺส หตฺเถ กิฺจี’’ติ? ‘‘ทุสฺสนฺเต ปณฺณํ อตฺถี’’ติ. สา ‘‘กึ ปณฺณํ นุ โข เอต’’นฺติ ตสฺมึ นิทฺทายนฺเต มาตาปิตูนํ อฺวิหิตตาย อปสฺสนฺตานํ โอตริตฺวา สมีปํ คนฺตฺวา ตํ ปณฺณํ โมเจตฺวา อาทาย อตฺตโน คพฺภํ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ปิธาย วาตปานํ วิวริตฺวา อกฺขรสมเย กุสลตาย ปณฺณํ วาเจตฺวา, ‘‘อโห วต พาโล, อตฺตโน มรณปณฺณํ ทุสฺสนฺเต พนฺธิตฺวา ¶ วิจรติ, สเจ มยา น ทิฏฺํ อสฺส, นตฺถิสฺส ชีวิต’’นฺติ ตํ ปณฺณํ ผาเลตฺวา เสฏฺิสฺส วจเนน อปรํ ปณฺณํ ลิขิ – ‘‘อยํ มม ปุตฺโต โฆสโก นาม, คามสตโต ปณฺณาการํ อาหราเปตฺวา อิมสฺส ชนปทเสฏฺิโน ธีตรา สทฺธึ มงฺคลํ กตฺวา อตฺตโน วสนคามสฺส มชฺเฌ ทฺวิภูมกํ เคหํ กาเรตฺวา ปาการปริกฺเขเปน เจว ปุริสคุตฺติยา จ สุสํวิหิตารกฺขํ กโรตุ, มยฺหฺจ ‘อิทฺจิทฺจ มยา กต’นฺติ สาสนํ เปเสตุ, เอวํ กเต อหํ ¶ มาตุลสฺส กตฺตพฺพยุตฺตกํ ปจฺฉา ชานิสฺสามี’’ติ, ลิขิตฺวา จ ปน สงฺฆริตฺวา โอตริตฺวา ทุสฺสนฺเตเยวสฺส พนฺธิ.
โส ¶ ทิวสภาคํ นิทฺทายิตฺวา อุฏฺาย ภฺุชิตฺวา ปกฺกามิ. ปุนทิวเส ปาโตว ตํ คามํ คนฺตฺวา อายุตฺตกํ คามกิจฺจํ กโรนฺตํเยว ปสฺสิ. โส ตํ ทิสฺวา, ‘‘กึ, ตาตา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ปิตรา เม ตุมฺหากํ ปณฺณํ เปสิต’’นฺติ. ‘‘กึ ปณฺณํ, ตาต, อาหรา’’ติ ปณฺณํ คเหตฺวา วาเจตฺวา ตุฏฺมานโส ‘‘ปสฺสถ, โภ, มม สามิโน มยิ สิเนหํ กตฺวา เชฏฺปุตฺตสฺส เม มงฺคลํ กโรตู’’ติ มม สนฺติกํ ปหิณิ. ‘‘สีฆํ ทารุอาทีนิ อาหรถา’’ติ คหปติเก วตฺวา คามมชฺเฌ วุตฺตปการํ เคหํ การาเปตฺวา คามสตโต ปณฺณาการํ อาหราเปตฺวา ชนปทเสฏฺิโน สนฺติกา ธีตรํ อาเนตฺวา มงฺคลํ กตฺวา เสฏฺิสฺส สาสนํ ปหิณิ ‘‘อิทฺจิทฺจ มยา กต’’นฺติ.
ตํ สุตฺวา เสฏฺิโน ‘‘ยํ กาเรมิ, ตํ น โหติ; ยํ น กาเรมิ, ตเทว โหตี’’ติ มหนฺตํ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชิ. ปุตฺตโสเกน สทฺธึ โส โสโก เอกโต หุตฺวา กุจฺฉิฑาหํ อุปฺปาเทตฺวา อติสารํ ชเนสิ. เสฏฺิธีตาปิ ‘‘สเจ โกจิ เสฏฺิโน สนฺติกา อาคจฺฉติ, มม อกเถตฺวา เสฏฺิปุตฺตสฺส ปมตรํ มา กถยิตฺถา’’ติ ¶ ชเน อาณาเปสิ. เสฏฺิปิ โข ‘‘ทานิ ตํ ทุฏฺปุตฺตํ มม สาปเตยฺยสฺส สามิกํ น กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เอกํ อายุตฺตกํ อาห – ‘‘มาตุล, ปุตฺตํ เม ทฏฺุกาโมมฺหิ, เอกํ ปาทมูลิกํ เปเสตฺวา มม ปุตฺตํ ปกฺโกสาเปหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา ปณฺณํ ทตฺวา เอกํ ปุริสํ เปเสสิ. เสฏฺิธีตาปิ ตสฺส อาคนฺตฺวา ทฺวาเร ิตภาวํ สุตฺวา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘กึ, ตาตา’’ติ ปุจฺฉิ. โส อาห – ‘‘เสฏฺิ คิลาโน, ปุตฺตํ ปสฺสิตุํ ปกฺโกสาเปสิ, อยฺเย’’ติ. ‘‘กึ, ตาต, พลวา, ทุพฺพโล’’ติ? ‘‘พลวา ตาว, อาหารํ ภฺุชติเยว, อยฺเย’’ติ. สา เสฏฺิปุตฺตํ อชานาเปตฺวาว ตสฺส นิเวสนฺจ ปริพฺพยฺจ ทาเปตฺวา ‘‘มยา เปสิตกาเล คมิสฺสสิ, อจฺฉสฺสุ ตาวา’’ติ อาห. เสฏฺิ ปุน อายุตฺตกํ อวจ, ‘‘กึ, มาตุล, น เต มม ปุตฺตสฺส สนฺติกํ ปหิต’’นฺติ? ‘‘ปหิตํ, สามิ, คตปุริโส น ตาว เอตี’’ติ. ‘‘เตน หิ ปุน อปรํ เปเสหี’’ติ. โส เปเสสิ. เสฏฺิธีตา ตสฺมิมฺปิ ตเถว ปฏิปชฺชิ. อถ เสฏฺิโน โรโค พลวา ชาโต, เอกํ ภาชนํ ปวิสติ, เอกํ นิกฺขมติ. ปุน เสฏฺิ อายุตฺตกํ ปุจฺฉิ – ‘‘กึ, มาตุล, น เต มม ปุตฺตสฺส สนฺติกํ ปหิต’’นฺติ? ‘‘ปหิตํ, สามิ, คตปุริโส น ตาว ¶ เอตี’’ติ. ‘‘เตน หิ ปุน อปรํ เปเสหี’’ติ. โส เปเสสิ. เสฏฺิธีตา ตติยวาเร อาคตมฺปิ ตํ ปวตฺตึ ปุจฺฉิ. โส ‘‘พาฬฺหคิลาโน, อยฺเย, เสฏฺิ อาหารํ ปจฺฉินฺทิตฺวา มจฺจุปรายโณ ชาโต, เอกํ ภาชนํ นิกฺขมติ ¶ , เอกํ ปวิสตี’’ติ อาห. เสฏฺิธีตา ‘‘อิทานิ คนฺตุํ กาโล’’ติ เสฏฺิปุตฺตสฺส ‘‘ปิตา เต กิร คิลาโน’’ติ อาโรเจตฺวา ‘‘กึ วเทสิ ภทฺเท’’ติ วุตฺเต ‘‘อผาสุกมสฺส, สามี’’ติ อาห. ‘‘อิทานิ กึ กาตพฺพ’’นฺติ. สามิ? ‘‘คามสตโต วุฏฺานกปณฺณาการํ ¶ อาทาย คนฺตฺวา ปสฺสิสฺสาม น’’นฺติ. โส ‘‘สาธู’’ติ ปณฺณาการํ อาหราเปตฺวา สกเฏหิ อาทาย ปกฺกามิ.
อถ นํ สา ‘‘ปิตา เต ทุพฺพโล, เอตฺตกํ ปณฺณาการํ คเหตฺวา คจฺฉนฺตานํ ปปฺโจ ภวิสฺสติ, เอตํ นิวตฺตาเปหี’’ติ วตฺวา ตํ สพฺพํ อตฺตโน กุลเคหํ เปเสตฺวา ปุน ตํ อาห – ‘‘สามิ, ตฺวํ อตฺตโน ปิตุ ปาทปสฺเส ติฏฺเยฺยาสิ, อหํ อุสฺสีสกปสฺเส สฺสามี’’ติ. เคหํ ปวิสมานาเยว จ ‘‘เคหสฺส ปุรโต จ ปจฺฉโต จ อารกฺขํ คณฺหถา’’ติ อตฺตโน ปุริเส อาณาเปสิ. ปวิฏฺกาเล ปน เสฏฺิปุตฺโต ปิตุ ปาทปสฺเส อฏฺาสิ, อิตรา อุสฺสีสกปสฺเส.
ตสฺมึ ขเณ เสฏฺิ อุตฺตานโก นิปนฺโน โหติ. อายุตฺตโก ปน ตสฺส ปาเท ปริมชฺชนฺโต ‘‘ปุตฺโต เต, สามิ, อาคโต’’ติ อาห. ‘‘กุหึ โส’’ติ? ‘‘เอส ปาทมูเล ิโต’’ติ. อถ นํ ทิสฺวา อายกมฺมิกํ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘มม เคเห กิตฺตกํ ธน’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘สามิ, ธนสฺเสว จตฺตาลีสโกฏิโย, อุปโภคปริโภคภณฺฑานํ ปน วนคามกฺเขตฺตทฺวิปทจตุปฺปทยานวาหนานฺจ อยฺจ อยฺจ ปริจฺเฉโท’’ติ วุตฺเต, ‘‘อหํ เอตฺตกํ ธนํ มม ปุตฺตสฺส โฆสกสฺส น เทมี’’ติ วตฺตุกาโม ‘‘เทมี’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา เสฏฺิธีตา ‘‘อยํ ปุน กเถนฺโต อฺํ กิฺจิ กเถยฺยา’’ติ จินฺเตตฺวา โสกาตุรา วิย เกเส วิกิริตฺวา โรทมานา ‘‘กึ นาเมตํ, ตาต, วเทถ, อิทมฺปิ นาม โว วจนํ สุโณม, อลกฺขิกา วตมฺหา’’ติ วตฺวา มตฺถเกน นํ อุรมชฺเฌ ปหรนฺตี ปติตฺวา ยถา ปุน วตฺตุํ น สกฺโกติ, ตถาสฺส อุรมชฺเฌ มตฺถเกน ฆํเสนฺตี อาโรทนํ ทสฺเสสิ. เสฏฺิ ตํขณฺเว กาลมกาสิ. ‘‘เสฏฺิ มโต’’ติ คนฺตฺวา ¶ ¶ อุเตนสฺส รฺโ อาโรจยึสุ. ราชา ตสฺส สรีรกิจฺจํ การาเปตฺวา, ‘‘อตฺถิ ปนสฺส ปุตฺโต วา ธีตา วา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อตฺถิ, เทว, โฆสโก นาม ตสฺส ปุตฺโต, สพฺพํ สาปเตยฺยํ ตสฺส นิยฺยาเทตฺวาว มโต, เทวา’’ติ.
ราชา อปรภาเค เสฏฺิปุตฺตํ ปกฺโกสาเปสิ. ตสฺมิฺจ ทิวเส เทโว วสฺสิ. ราชงฺคเณ ตตฺถ ตตฺถ อุทกํ สณฺาติ. เสฏฺิปุตฺโต ‘‘ราชานํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ ปายาสิ. ราชา วาตปานํ วิวริตฺวา ตํ อาคจฺฉนฺตํ โอโลเกนฺโต ราชงฺคเณ อุทกํ ลงฺฆิตฺวา อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ิตํ ‘‘ตฺวํ โฆสโก นาม, ตาตา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, เทวา’’ติ วุตฺเต ‘‘ปิตา เม ¶ มโตติ มา โสจิ, ตว เปตฺติกํ เสฏฺิฏฺานํ ตุยฺหเมว ทสฺสามี’’ติ ตํ สมสฺสาเสตฺวา ‘‘คจฺฉ, ตาตา’’ติ อุยฺโยเชสิ. ราชา คจฺฉนฺตฺจ นํ โอโลเกนฺโตว อฏฺาสิ. โส อาคมนกาเล ลงฺฆิตํ อุทกํ คมนกาเล โอตริตฺวา สณิกํ อคมาสิ. อถ นํ ราชา ตโตว ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘กึ นุ โข, ตาต, ตฺวํ มม สนฺติกํ อาคจฺฉนฺโต อุทกํ ลงฺฆิตฺวา อาคมฺม คจฺฉนฺโต โอตริตฺวา สณิกํ คจฺฉสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อาม, เทว, อหํ ตสฺมึ ขเณ กุมารโก, กีฬนกาโล นาม, โส อิทานิ ปน เม เทเวน านนฺตรํ ปฏิสฺสุตํ. ตสฺมา ยถา ปุเร อจริตฺวา อิทานิ สนฺนิสินฺเนน หุตฺวา จริตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘ธิติมายํ ปุริโส, อิทาเนวสฺส านนฺตรํ ทสฺสามี’’ติ ปิตรา ภุตฺตํ โภคํ ทตฺวา สพฺพสเตน เสฏฺิฏฺานํ อทาสิ.
โส รเถ ตฺวา นครํ ปทกฺขิณํ อกาสิ. โอโลกิโตโลกิตฏฺานํ กมฺปติ. เสฏฺิธีตา กาฬิทาสิยา สทฺธึ มนฺตยมานา นิสินฺนา ¶ ‘‘อมฺม กาฬิ, ปุตฺตสฺส เต เอตฺติกา สมฺปตฺติ มํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนา’’ติ อาห. ‘‘กึ การณา, อมฺมา’’ติ? ‘‘อยฺหิ อตฺตโน มรณปณฺณํ ทุสฺสนฺเต พนฺธิตฺวา อมฺหากํ ฆรํ อาคโต, อถสฺส มยา ตํ ปณฺณํ ผาเลตฺวา มยา สทฺธึ มงฺคลกรณตฺถาย อฺํ ปณฺณํ ลิขิตฺวา เอตฺตกํ กาลํ ตตฺถ อารกฺโข กโต’’ติ. ‘‘อมฺม, ตฺวํ เอตฺตกํ ปสฺสสิ, อิมํ ปน เสฏฺิ ทหรกาลโต ปฏฺาย มาเรตุกาโม มาเรตุํ นาสกฺขิ, เกวลํ อิมํ นิสฺสาย พหุํ ธนํ ขียี’’ติ. ‘‘อมฺม, อติภาริยํ วต เสฏฺินา กต’’นฺติ. นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา เคหํ ปวิสนฺตํ ปน นํ ทิสฺวา, ‘‘อยํ เอตฺติกา สมฺปตฺติ มํ นิสฺสาย ¶ อุปฺปนฺนา’’ติ หสิตํ อกาสิ. อถ นํ เสฏฺิปุตฺโต ทิสฺวา, ‘‘กึ การณา หสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘เอกํ การณํ นิสฺสายา’’ติ. ‘‘กเถหิ น’’นฺติ? ‘‘สา น กเถสิ’’. โส ‘‘สเจ น กเถสฺสสิ, ทฺวิธา ตํ ฉินฺทิสฺสามี’’ติ ตชฺเชตฺวา อสึ นิกฺกฑฺฒิ. สา ‘‘อยํ เอตฺติกา สมฺปตฺติ ตยา มํ นิสฺสาย ลทฺธาติ จินฺเตตฺวา หสิต’’นฺติ อาห. ‘‘ยทิ มม ปิตรา อตฺตโน สนฺตกํ มยฺหํ นิยฺยาทิตํ, ตฺวํ เอตฺถ กึ โหสี’’ติ? โส กิร เอตฺตกํ กาลํ กิฺจิ น ชานาติ, เตนสฺสา วจนํ น สทฺทหิ. อถสฺส สา ‘‘ตุมฺหากํ ปิตรา มรณปณฺณํ ทตฺวา เปสิตา, ตุมฺเห มยา อิทฺจิทฺจ กตฺวา รกฺขิตา’’ติ สพฺพํ กเถสิ. ‘‘ตฺวํ อภูตํ กเถสี’’ติ อสทฺทหนฺโต ‘‘มาตรํ กาฬึ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘เอวํ กิร, อมฺมา’’ติ. ‘‘อาม, ตาต, ทหรกาลโต ปฏฺาย ตํ มาเรตุกาโม มาเรตุํ อสกฺโกนฺโต ตํ นิสฺสาย พหุํ ธนํ ขียิ, สตฺตสุ าเนสุ ตฺวํ มรณโต มุตฺโต, อิทานิ โภคคามโต อาคมฺม ¶ สพฺพสเตน สทฺธึ เสฏฺิฏฺานํ ปตฺโต’’ติ. โส ตํ สุตฺวา ‘‘ภาริยํ วต กมฺมํ, เอวรูปา โข ปน มรณา มุตฺตสฺส มม ปมาทชีวิตํ ชีวิตุํ อยุตฺตํ, อปฺปมตฺโต ภวิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เทวสิกํ สหสฺสํ ¶ วิสฺสชฺเชตฺวา อทฺธิกกปณาทีนํ ทานํ ปฏฺเปสิ. มิตฺโต นามสฺส กุฏุมฺพิโก ทานพฺยาวโฏ อโหสิ. อยํ โฆสกเสฏฺิโน อุปฺปตฺติ.
ตสฺมึ ปน กาเล ภทฺทวตีนคเร ภทฺทวติยเสฏฺิ นาม โฆสกเสฏฺิโน อทิฏฺปุพฺพสหายโก อโหสิ. ภทฺทวตีนครโต อาคตานํ วาณิชานํ สนฺติเก โฆสกเสฏฺิ ภทฺทวติยเสฏฺิโน สมฺปตฺติฺจ วยปฺปเทสฺจ สุตฺวา เตน สทฺธึ สหายกภาวํ อิจฺฉนฺโต ปณฺณาการํ เปเสสิ. ภทฺทวติยเสฏฺิปิ โกสมฺพิโต อาคตานํ วาณิชานํ สนฺติเก โฆสกเสฏฺิโน สมฺปตฺติฺจ วยปฺปเทสฺจ สุตฺวา เตน สทฺธึ สหายกภาวํ อิจฺฉนฺโต ปณฺณาการํ เปเสสิ. เอวํ เต อฺมฺํ อทิฏฺปุพฺพสหายกา หุตฺวา วสึสุ. อปรภาเค ภทฺทวติยเสฏฺิโน เคเห อหิวาตโรโค ปติโต. ตสฺมึ ปติเต ปมํ มกฺขิกา มรนฺติ, ตโต อนุกฺกเมเนว กีฏา มูสิกา กุกฺกุฏา สูกรา คาโว ทาสี ทาสา สพฺพปจฺฉา ฆรมานุสกาปิ มรนฺติ. เตสุ เย ภิตฺตึ ภินฺทิตฺวา ปลายนฺติ, เต ชีวิตํ ลภนฺติ, ตทา ปน เสฏฺิ จ ภริยา จ ธีตา จสฺส ตถา ปลายิตฺวา ¶ โฆสกเสฏฺึ ปสฺสิตุํ ปตฺเถนฺตา โกสมฺพิมคฺคํ ¶ ปฏิปชฺชึสุ. เต อนฺตรามคฺเคเยว ขีณปาเถยฺยา วาตาตเปน เจว ขุปฺปิปาสาหิ จ กิลนฺตสรีรา กิจฺเฉน โกสมฺพึ ปตฺวา อุทกผาสุกฏฺาเน ตฺวา นฺหตฺวา นครทฺวาเร เอกํ สาลํ ปวิสึสุ.
ตโต เสฏฺิ ภริยํ อาห – ‘‘ภทฺเท, อิมินา นีหาเรน คจฺฉนฺตา วิชาตมาตุยาปิ อมนาปา โหนฺติ, สหายโก กิร เม อทฺธิกกปณาทีนํ เทวสิกํ สหสฺสํ วิสฺสชฺเชตฺวา ทานํ ทาเปสิ. ตตฺถ ธีตรํ เปเสตฺวา อาหารํ อาหราเปตฺวา เอกาหํ ทฺวีหํ อิเธว สรีรํ สนฺตปฺเปตฺวา สหายกํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ. สา ‘‘สาธุ, สามี’’ติ. เต สาลายเมว วสึสุ. ปุนทิวเส กาเล อาโรจิเต กปณทฺธิกาทีสุ อาหารตฺถาย คจฺฉนฺเตสุ มาตาปิตโร, ‘‘อมฺม, คนฺตฺวา อมฺหากํ อาหารํ อาหรา’’ติ ธีตรํ เปสยึสุ. มหาโภคกุลสฺส ธีตา วิปตฺติยา อจฺฉินฺนลชฺชิตาย อลชฺชมานา ปาตึ คเหตฺวา กปณชเนน สทฺธึ อาหารตฺถาย คนฺตฺวา ‘‘กติ ปฏิวีเส คณฺหิสฺสสิ, อมฺมา’’ติ ปุฏฺา จ ปน ‘‘ตโย’’ติ อาห. อถสฺสา ตโย ปฏิวีเส อทาสิ. ตาย ภตฺเต อาหเฏ ตโยปิ เอกโต ภฺุชิตุํ นิสีทึสุ.
อถ มาตาธีตโร เสฏฺึ อาหํสุ – ‘‘สามิ, วิปตฺติ นาม มหากุลานมฺปิ อุปฺปชฺชติ, มา อมฺเห โอโลเกตฺวา ภฺุช, มา จินฺตยี’’ติ. อิติ นํ นานปฺปกาเรหิ ยาจิตฺวา โภเชสุํ. โส ภฺุชิตฺวา อาหารํ ชีราเปตุํ อสกฺโกนฺโต อรุเณ อุคฺคจฺฉนฺเต กาลมกาสิ. มาตาธีตโร นานปฺปกาเรหิ ปริเทวิตฺวา โรทึสุ. กุมาริกา ปุนทิวเส โรทมานา อาหารตฺถาย คนฺตฺวา, ‘‘กติ ¶ ปฏิวีเส คณฺหิสฺสสี’’ติ ¶ วุตฺตา, ‘‘ทฺเว’’ติ วตฺวา อาหารํ อาหริตฺวา มาตรํ ยาจิตฺวา โภเชสิ. สาปิ ตาย ยาจิยมานา ภฺุชิตฺวา อาหารํ ชีราเปตุํ อสกฺโกนฺตี ตํ ทิวสเมว กาลมกาสิ. กุมาริกา เอกิกาว โรทิตฺวา ปริเทวิตฺวา ตาย ทุกฺขุปฺปตฺติยา อติวิย สฺชาตฉาตกทุกฺขา ปุนทิวเส ยาจเกหิ สทฺธึ โรทนฺตี อาหารตฺถาย คนฺตฺวา, ‘‘กติ ปฏิวีเส คณฺหิสฺสสิ, อมฺมา’’ติ วุตฺตา ‘‘เอก’’นฺติ อาห. มิตฺตกุฏุมฺพิโก ตํ ตโย ทิวเส ภตฺตํ คณฺหนฺตึ สฺชานาติ, เตน ตํ ‘‘อเปหิ นสฺส, วสลิ, อชฺช ตว กุจฺฉิปฺปมาณํ อฺาสี’’ติ อาห. หิโรตฺตปฺปสมฺปนฺนา กุลธีตา ¶ ปจฺโจรสฺมึ สตฺติปหารํ วิย วเณ ขาโรทกเสจนกํ วิย จ ปตฺวา ‘‘กึ, สามี’’ติ อาห. ‘‘ตยา ปุเร ตโย โกฏฺาสา คหิตา, หิยฺโย ทฺเว, อชฺช เอกํ คณฺหาสิ. อชฺช เต อตฺตโน กุจฺฉิปฺปมาณํ าต’’นฺติ. ‘‘มา มํ, สามิ, ‘อตฺตโนว อตฺถาย คณฺหี’ติ มฺิตฺถา’’ติ. ‘‘อถ กสฺมา เอวํ คณฺหี’’ติ? ‘‘ปุเร ตโย ชนา อหุมฺห, สามิ, หิยฺโย ทฺเว, อชฺช เอกิกาว ชาตามฺหี’’ติ. โส ‘‘เกน การเณนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา อาทิโต ปฏฺาย ตาย กถิตํ สพฺพํ ปวตฺตึ สุตฺวา อสฺสูนิ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต สฺชาตพลวโทมนสฺโส หุตฺวา, ‘‘อมฺม, เอวํ สนฺเต มา จินฺตยิ, ตฺวํ ภทฺทวติยเสฏฺิโน ธีตา อชฺชกาลโต ปฏฺาย มม ธีตาเยว นามา’’ติ วตฺวา สีเส จุมฺพิตฺวา ฆรํ เนตฺวา อตฺตโน เชฏฺธีตุฏฺาเน เปสิ.
สา ทานคฺเค อุจฺจาสทฺทํ มหาสทฺทํ สุตฺวา, ‘‘ตาต, กสฺมา เอตํ ชนํ นิสฺสทฺทํ กตฺวา ทานํ น เทถา’’ติ อาห. ‘‘น สกฺกา กาตุํ, อมฺมา’’ติ. ‘‘สกฺกา, ตาตา’’ติ. ‘‘กถํ สกฺกา, อมฺมา’’ติ? ‘‘ตาต ทานคฺคํ ปริกฺขิปิตฺวา ¶ เอเกกสฺเสว ปเวสนปฺปมาเณน ทฺเว ทฺวารานิ โยเชตฺวา, ‘เอเกน ทฺวาเรน ปวิสิตฺวา เอเกน นิกฺขมถา’ติ วเทถ, เอวํ นิสฺสทฺทา หุตฺวาว คณฺหิสฺสนฺตี’’ติ. โส ตํ สุตฺวา, ‘‘ภทฺทโกว, อมฺม, อุปาโย’’ติ ตถา กาเรสิ. สาปิ ปุพฺเพ สามา นาม. วติยา ปน การิตตฺตา สามาวตี นาม ชาตา. ตโต ปฏฺาย ทานคฺเค โกลาหลํ ปจฺฉินฺที. โฆสกเสฏฺิ ปุพฺเพ ตํ สทฺทํ สุณนฺโต ‘‘มยฺหํ ทานคฺเค สทฺโท’’ติ ตุสฺสติ. ทฺวีหตีหํ ปน สทฺทํ อสุณนฺโต มิตฺตกุฏุมฺพิกํ อตฺตโน อุปฏฺานํ อาคตํ ปุจฺฉิ – ‘‘ทิยฺยติ กปณทฺธิกาทีนํ ทาน’’นฺติ? ‘‘อาม, สามี’’ติ. ‘‘อถ กึ ทฺวีหตีหํ สทฺโท น สุยฺยตี’’ติ? ‘‘ยถา นิสฺสทฺทา หุตฺวา คณฺหนฺติ, ตถา เม อุปาโย กโต’’ติ. ‘‘อถ ปุพฺเพว กสฺมา นากาสี’’ติ? ‘‘อชานนตาย, สามี’’ติ. ‘‘อิทานิ กถํ เต าโต’’ติ? ‘‘ธีตรา เม อกฺขาโต, สามี’’ติ. มยฺหํ อวิทิตา ‘‘ตว ธีตา นาม อตฺถี’’ติ. โส อหิวาตโรคุปฺปตฺติโต ปฏฺาย สพฺพํ ภทฺทวติยเสฏฺิโน ปวตฺตึ อาจิกฺขิตฺวา ตสฺสา อตฺตโน เชฏฺธีตุฏฺาเน ปิตภาวํ อาโรเจสิ. อถ นํ เสฏฺิ ‘‘เอวํ สนฺเต มม กสฺมา น กเถสิ, มม สหายกสฺส ¶ ธีตา มม ธีตา นามา’’ติ ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘อมฺม, เสฏฺิโน ธีตาสี’’ติ? ‘‘อาม, ตาตา’’ติ. ‘‘เตน หิ มา จินฺตยิ, ตฺวํ มม ¶ ธีตาสี’’ติ ตํ สีเส จุมฺพิตฺวา ปริวารตฺถาย ตสฺสา ปฺจ อิตฺถิสตานิ ทตฺวา ตํ อตฺตโน เชฏฺธีตุฏฺาเน เปสิ.
อเถกทิวสํ ตสฺมึ นคเร นกฺขตฺตํ สงฺฆุฏฺํ โหติ. ตสฺมึ ปน นกฺขตฺเต พหิ อนิกฺขมนกา กุลธีตโรปิ อตฺตโน ปริวาเรน สทฺธึ ปทสาว ¶ นทึ คนฺตฺวา นฺหายนฺติ. ตสฺมา ตํ ทิวสํ สามาวตีปิ ปฺจหิ อิตฺถิสเตหิ ปริวาริตา ราชงฺคเณเนว นฺหายิตุํ อคมาสิ. อุเตโน สีหปฺชเร ิโต ตํ ทิสฺวา ‘‘กสฺสิมา นาฏกิตฺถิโย’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘น กสฺสจิ นาฏกิตฺถิโย, เทวา’’ติ. ‘‘อถ กสฺส ธีตโร’’ติ? ‘‘โฆสกเสฏฺิโน ธีตา เทว, สามาวตี นาเมสา’’ติ. โส ทิสฺวาว อุปฺปนฺนสิเนโห เสฏฺิโน สาสนํ ปาเหสิ – ‘‘ธีตรํ กิร เม เปเสตู’’ติ. ‘‘น เปเสมิ, เทวา’’ติ. ‘‘มา กิร เอวํ กโรตุ, เปเสตุเยวา’’ติ. ‘‘มยํ คหปติกา นาม กุมาริกานํ โปเถตฺวา วิเหเตฺวา กฑฺฒนภเยน น เทม, เทวา’’ติ. ราชา กุชฺฌิตฺวา เคหํ ลฺฉาเปตฺวา เสฏฺิฺจ ภริยฺจ หตฺเถ คเหตฺวา พหิ การาเปสิ. สามาวตี, นฺหายิตฺวา อาคนฺตฺวา เคหํ ปวิสิตุํ โอกาสํ อลภนฺตี, ‘‘กึ เอตํ, ตาตา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อมฺม, ราชา ตว การณา ปหิณิ. อถ ‘น มยํ ทสฺสามา’ติ วุตฺเต ฆรํ ลฺฉาเปตฺวา อมฺเห พหิ การาเปสี’’ติ. ‘‘ตาต, ภาริยํ โว กมฺมํ กตํ, รฺา นาม ปหิเต ‘น, เทมา’ติ อวตฺวา ‘สเจ เม ธีตรํ สปริวารํ คณฺหถ, เทมา’ติ วตฺตพฺพํ ภเวยฺย, ตาตา’’ติ. ‘‘สาธุ, อมฺม, ตว รุจิยา สติ เอวํ กริสฺสามี’’ติ รฺโ ตถา สาสนํ ปาเหสิ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตํ สปริวารํ อาเนตฺวา อภิสิฺจิตฺวา อคฺคมเหสิฏฺาเน เปสิ. เสสา ตสฺสาเยว ปริวาริตฺถิโย อเหสุํ. อยํ สามาวติยา อุปฺปตฺติ.
อุเตนสฺส ปน อปราปิ วาสุลทตฺตา นาม เทวี อโหสิ ¶ จณฺฑปชฺโชตสฺส ธีตา. อุชฺเชนิยฺหิ จณฺฑปชฺโชโต นาม ราชา อโหสิ. โส เอกทิวสํ อุยฺยานโต อาคจฺฉนฺโต อตฺตโน สมฺปตฺตึ โอโลเกตฺวา, ‘‘อตฺถิ นุ โข อฺสฺสปิ กสฺสจิ เอวรูปา สมฺปตฺตี’’ติ วตฺวา ตํ สุตฺวา มนุสฺเสหิ ‘‘กึ สมฺปตฺติ นาเมสา, โกสมฺพิยํ อุเตนสฺส รฺโ อติมหตี สมฺปตี’’ติ วุตฺเต ราชา อาห – ‘‘เตน หิ คณฺหิสฺสาม น’’นฺติ? ‘‘น สกฺกา โส คเหตุ’’นฺติ. ‘‘กิฺจิ กตฺวา คณฺหิสฺสามเยวา’’ติ? ‘‘น สกฺกา เทวา’’ติ. ‘‘กึ การณา’’ติ? ‘‘โส หตฺถิกนฺตํ นาม สิปฺปํ ชานาติ, มนฺตํ ¶ ปริวตฺเตตฺวา หตฺถิกนฺตวีณํ วาเทนฺโต นาเค ปลาเปติปิ คณฺหาติปิ. หตฺถิวาหนสมฺปนฺโน เตน สทิโส นาม นตฺถี’’ติ. ‘‘น สกฺกา มยา โส คเหตุ’’นฺติ. ‘‘สเจ เต, เทว, เอกนฺเตน อยํ นิจฺฉโย, เตน หิ ทารุหตฺถึ กาเรตฺวา ¶ ตสฺสาสนฺนฏฺานํ เปเสหิ. โส หตฺถิวาหนํ วา อสฺสวาหนํ วา สุตฺวา ทูรมฺปิ คจฺฉติ. ตตฺถ นํ อาคตํ คเหตุํ สกฺกา ภวิสฺสตี’’ติ.
ราชา ‘‘อตฺเถโส อุปาโย’’ติ ทารุมยํ ยนฺตหตฺถึ การาเปตฺวา พหิ ปิโลติกาหิ เวเตฺวา กตจิตฺตกมฺมํ กตฺวา ตสฺส วิชิเต อาสนฺนฏฺาเน เอกสฺมึ สรตีเร วิสฺสชฺชาเปสิ. หตฺถิโน อนฺโตกุจฺฉิยํ สฏฺิ ปุริสา อปราปรํ จงฺกมนฺติ, หตฺถิลณฺฑํ อาหริตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ฉฑฺเฑสุํ. เอโก วนจรโก หตฺถึ ทิสฺวา, ‘‘อมฺหากํ รฺโ อนุจฺฉวิโก’’ติ จินฺเตตฺวา, คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ – ‘‘เทว, มยา สพฺพเสโต เกลาสกูฏปฏิภาโค ตุมฺหากฺเว อนุจฺฉวิโก วรวารโณ ทิฏฺโ’’ติ. อุเตโน ตเมว มคฺคเทสกํ กตฺวา หตฺถึ อภิรุยฺห สปริวาโร นิกฺขมิ. ตสฺส อาคมนํ ตฺวา ¶ จรปุริสา คนฺตฺวา จณฺฑปชฺโชตสฺส อาโรเจสุํ. โส อาคนฺตฺวา มชฺเฌ ตุจฺฉํ กตฺวา อุโภสุ ปสฺเสสุ พลกายํ ปโยเชสิ. อุเตโน ตสฺสาคมนํ อชานนฺโต หตฺถึ อนุพนฺธิ. อนฺโต ิตมนุสฺสา เวเคน ปลาเปสุํ. กฏฺหตฺถี รฺโ มนฺตํ ปริวตฺเตตฺวา วีณํ วาเทนฺตสฺส ตนฺติสทฺทํ อสุณนฺโต วิย ปลายติเยว. ราชา หตฺถินาคํ ปาปุณิตุํ อสกฺโกนฺโต อสฺสํ อารุยฺห อนุพนฺธิ. ตสฺมึ เวเคน อนุพนฺธนฺเต พลกาโย โอหียิ. ราชา เอกโกว อโหสิ. อถ นํ อุโภสุ ปสฺเสสุ ปยุตฺตา จณฺฑปชฺโชตสฺส ปุริสา คณฺหิตฺวา อตฺตโน รฺโ อทํสุ. อถสฺส พลกาโย อมิตฺตวสํ คตภาวํ ตฺวา พหินคเรว ขนฺธาวารํ นิเวเสตฺวา อจฺฉิ.
จณฺฑปชฺโชโตปิ อุเตนํ ชีวคฺคาหเมว คาหาเปตฺวา เอกสฺมึ โจรเคเห ปกฺขิปิตฺวา ทฺวารํ ปิทหาเปตฺวา ตโย ทิวเส ชยปานํ ปิวิ. อุเตโน ตติยทิวเส อารกฺขเก ปุจฺฉิ – ‘‘กหํ โว, ตาต, ราชา’’ติ? ‘‘‘ปจฺจามิตฺโต เม คหิโต’ติ ชยปานํ ปิวตี’’ติ. ‘‘กา นาเมสา มาตุคามสฺส วิย ตุมฺหากํ รฺโ กิริยา, นนุ ปฏิราชูนํ คเหตฺวา ¶ วิสฺสชฺเชตุํ วา มาเรตุํ วา วฏฺฏติ, อมฺเห ทุกฺขํ นิสีทาเปตฺวา ชยปานํ กิร ปิวตี’’ติ. เต คนฺตฺวา ตมตฺถํ รฺโ อาโรเจสุํ. โส อาคนฺตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ เอวํ วทสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อาม, มหาราชา’’ติ. ‘‘สาธุ ตํ วิสฺสชฺเชสฺสามิ, เอวรูโป กิร เต มนฺโต อตฺถิ, ตํ มยฺหํ ทสฺสสี’’ติ. ‘‘สาธุ ทสฺสามิ, คหณสมเย มํ วนฺทิตฺวา ตํ คณฺหาหิ. กึ ปน ตฺวํ วนฺทิสฺสสี’’ติ? ‘‘กฺยาหํ ตํ วนฺทิสฺสามิ, น วนฺทิสฺสามี’’ติ? ‘‘อหมฺปิ เต น ทสฺสามี’’ติ ¶ . ‘‘เอวํ สนฺเต ราชาณํ เต กริสฺสามี’’ติ. ‘‘กโรหิ, สรีรสฺส เม อิสฺสโร, น ปน จิตฺตสฺสา’’ติ. ราชา ตสฺส สูรคชฺชิตํ สุตฺวา, ‘‘กถํ นุ โข อิมํ มนฺตํ คณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา, ‘‘อิมํ มนฺตํ อฺํ ชานาเปตุํ น สกฺกา, มม ธีตรํ เอตสฺส สนฺติเก ¶ อุคฺคณฺหาเปตฺวา อหํ ตสฺสา สนฺติเก คณฺหิสฺสามี’’ติ. อถ นํ อาห – ‘‘อฺสฺส วนฺทิตฺวา คณฺหนฺตสฺส ทสฺสสี’’ติ. ‘‘อาม, มหาราชา’’ติ. ‘‘เตน หิ อมฺหากํ ฆเร เอกา ขุชฺชา อตฺถิ ตสฺสา อนฺโตสาณิยํ วนฺทิตฺวา นิสินฺนาย ตฺวํ พหิสาณิยํ ิโตว มนฺตํ วาเจหี’’ติ. ‘‘สาธุ, มหาราช, ขุชฺชา วา โหตุ ปีสปฺปิ วา, วนฺทนฺติยา ทสฺสามี’’ติ. ตโต ราชา คนฺตฺวา ธีตรํ วาสุลทตฺตํ อาห – ‘‘อมฺม, เอโก สงฺขกุฏฺี อนคฺฆมนฺตํ ชานาติ, ตํ อฺํ ชานาเปตุํ น สกฺกา. ตฺวํ อนฺโตสาณิยํ นิสีทิตฺวา ตํ วนฺทิตฺวา มนฺตํ คณฺห, โส พหิสาณิยํ ตฺวา ตุยฺหํ วาเจสฺสติ. ตว สนฺติกา อหํ ตํ คณฺหิสฺสามี’’ติ.
เอวํ โส เตสํ อฺมฺํ สนฺถวกรณภเยน ธีตรํ ขุชฺชํ, อิตรํ สงฺขกุฏฺึ กตฺวา กเถสิ. โส ตสฺสา อนฺโตสาณิยํ วนฺทิตฺวา นิสินฺนาย พหิ ิโต มนฺตํ วาเจสิ. อถ นํ เอกทิวสํ ปุนปฺปุนํ วุจฺจมานมฺปิ มนฺตปทํ วตฺตุํ อสกฺโกนฺตึ ‘‘อเร ขุชฺเช อติพหโลฏฺกโปลํ เต มุขํ, เอวํ นาม วเทหี’’ติ อาห. ‘‘สา กุชฺฌิตฺวา อเร ทุฏฺสงฺขกุฏฺิ ¶ กึ วเทสิ, กึ มาทิสา ขุชฺชา นาม โหตี’’ติ? สาณิกณฺณํ อุกฺขิปิตฺวา ‘‘กาสิ ตฺว’’นฺติ วุตฺเต, ‘‘รฺโ ธีตา วาสุลทตฺตา นามาห’’นฺติ อาห. ‘‘ปิตา เต ตํ มยฺหํ กเถนฺโต ‘ขุชฺชา’ติ กเถสี’’ติ. ‘‘มยฺหมฺปิ กเถนฺโต ตํ สงฺขกุฏฺึ กตฺวา กเถสี’’ติ. เต อุโภปิ ‘‘เตน หิ อมฺหากํ สนฺถวกรณภเยน กถิตํ ภวิสฺสตี’’ติ อนฺโตสาณิยฺเว สนฺถวํ กรึสุ.
ตโต ปฏฺาย มนฺตคฺคหณํ วา สิปฺปคฺคหณํ วา นตฺถิ. ราชาปิ ธีตรํ นิจฺจํ ปุจฺฉติ – ‘‘สิปฺปํ คณฺหสิ, อมฺมา’’ติ? ‘‘คณฺหามิ, ตาตา’’ติ. อถ นํ เอกทิวสํ อุเตโน ¶ อาห – ‘‘ภทฺเท, สามิเกน กตฺตพฺพํ นาม เนว มาตาปิตโร น ภาตุภคินิโย กาตุํ สกฺโกนฺติ, สเจ มยฺหํ ชีวิตํ ทสฺสสิ, ปฺจ เต อิตฺถิสตานิ ปริวารํ ทตฺวา อคฺคมเหสิฏฺานํ ทสฺสามี’’ติ. ‘‘สเจ อิมสฺมึ วจเน ปติฏฺาตุํ สกฺขิสฺสถ, ทสฺสามิ โว ชีวิต’’นฺติ. ‘‘สกฺขิสฺสามิ, ภทฺเท’’ติ. สา ‘‘สาธุ, สามี’’ติ ปิตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. อถ นํ โส ปุจฺฉิ – ‘‘อมฺม, นิฏฺิตํ สิปฺป’’นฺติ? ‘‘น ตาว นิฏฺิตํ, ตาต, สิปฺป’’นฺติ. อถ นํ โส ปุจฺฉิ – ‘‘กึ, อมฺมา’’ติ? ‘‘อมฺหากํ เอกํ ทฺวารฺจ เอกํ วาหนฺจ ลทฺธุํ วฏฺฏติ, ตาตา’’ติ. ‘‘อิทํ กึ, อมฺมา’’ติ? ‘‘ตาต, รตฺตึ กิร ตารกสฺาย มนฺตสฺส อุปจารตฺถาย เอกํ โอสธํ คเหตพฺพํ อตฺถิ. ตสฺมา อมฺหากํ เวลาย ¶ วา อเวลาย วา นิกฺขมนกาเล เอกํ ทฺวารฺเจว เอกํ วาหนฺจ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. เต อตฺตโน อภิรุจิตํ เอกํ ทฺวารํ หตฺถคตํ กรึสุ. รฺโ ปน ปฺจ วาหนานิ อเหสุํ. ภทฺทวตี นาม กเรณุกา ¶ เอกทิวสํ ปฺาส โยชนานิ คจฺฉติ, กาโก นาม ทาโส สฏฺิ โยชนานิ คจฺฉติ, เจลกฏฺิ จ มฺุจเกสี จาติ ทฺเว อสฺสา โยชนสตํ คจฺฉนฺติ, นาฬาคิริ หตฺถี วีสติ โยชนสตนฺติ.
โส กิร ราชา อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ เอกสฺส อิสฺสรสฺส อุปฏฺาโก อโหสิ. อเถกทิวสํ อิสฺสเร พหินครํ คนฺตฺวา นฺหตฺวา อาคจฺฉนฺเต เอโก ปจฺเจกพุทฺโธ นครํ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา สกลนครวาสีนํ มาเรน อาวฏฺฏิตตฺตา เอกํ ภิกฺขามฺปิ อลภิตฺวา ยถาโธเตน ปตฺเตน นิกฺขมิ. อถ นํ นครทฺวารํ ปตฺตกาเล มาโร อฺาตกเวเสน อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘อปิ, ภนฺเต, โว กิฺจิ ลทฺธ’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘กึ ปน เม ตฺวํ อลภนาการํ กรี’’ติ? ‘‘เตน หิ นิวตฺติตฺวา ปุน ปวิสถ, อิทานิ น กริสฺสามี’’ติ. ‘‘นาหํ ปุน นิวตฺติสฺสามี’’ติ. สเจ หิ นิวตฺเตยฺย, ปุน โส สกลนครวาสีนํ สรีเร อธิมฺุจิตฺวา ปาณึ ปหริตฺวา หสนเกฬึ กเรยฺย. ปจฺเจกพุทฺเธ อนิวตฺติตฺวา คเต มาโร ตตฺเถว อนฺตรธายิ. อถ โส อิสฺสโร ยถาโธเตเนว ปตฺเตน ¶ อาคจฺฉนฺตํ ปจฺเจกพุทฺธํ ทิสฺวา วนฺทิตฺวา, ‘‘อปิ, ภนฺเต, กิฺจิ ลทฺธ’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘จริตฺวา นิกฺขนฺตมฺหาวุโส’’ติ. โส จินฺเตสิ – ‘‘อยฺโย, มยา ปุจฺฉิตํ อกเถตฺวา อฺํ วทติ, น กิฺจิ ลทฺธํ ภวิสฺสตี’’ติ. อถสฺส ปตฺตํ โอโลเกนฺโต ตุจฺฉํ ทิสฺวา เคเห ภตฺตสฺส ¶ นิฏฺิตานิฏฺิตภาวํ อชานนตาย สูโร หุตฺวา ปตฺตํ คเหตุํ อวิสหนฺโต ‘‘โถกํ, ภนฺเต, อธิวาเสถา’’ติ วตฺวา เวเคน ฆรํ คนฺตฺวา ‘‘อมฺหากํ ภตฺตํ นิฏฺิต’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘นิฏฺิต’’นฺติ วุตฺเต ตํ อุปฏฺากํ อาห – ‘‘ตาต, อฺโ ตยา สมฺปนฺนเวคตโร นาม นตฺถิ, สีเฆน ชเวน ภทนฺตํ ปตฺวา ‘ปตฺตํ เม, ภนฺเต, เทถา’ติ วตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา เวเคน เอหี’’ติ. โส เอกวจเนเนว ปกฺขนฺทิตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา อาหริ. อิสฺสโรปิ อตฺตโน โภชนสฺส ปตฺตํ ปูเรตฺวา ‘‘อิมํ สีฆํ คนฺตฺวา อยฺยสฺส สมฺปาเทหิ, อหํ เต อิโต ปตฺตึ ทมฺมี’’ติ อาห.
โสปิ ตํ คเหตฺวา ชเวน คนฺตฺวา ปจฺเจกพุทฺธสฺส ปตฺตํ ทตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ‘เวลา อุปกฏฺา’ติ อหํ อติสีเฆน ชเวน อาคโต จ คโต จ, เอตสฺส เม ชวสฺส ผเลน โยชนานํ ปณฺณาสสฏฺิสตวีสสตคมนสมตฺถานิ ปฺจ วาหนานิ นิพฺพตฺตนฺตุ, อาคจฺฉนฺตสฺส จ เม คจฺฉนฺตสฺส จ สรีรํ สูริยเตเชน ตตฺถํ, ตสฺส เม ผเลน นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน อาณา สูริยเตชสทิสา โหตุ, อิมสฺมึ เม ปิณฺฑปาเต สามินา ปตฺติ ทินฺนา, ตสฺสา เม นิสฺสนฺเทน ตุมฺเหหิ ทิฏฺธมฺมสฺส ¶ ภาคี โหมี’’ติ อาห. ปจฺเจกพุทฺโธ ‘‘เอวํ โหตู’’ติ วตฺวา –
‘‘อิจฺฉิตํ ¶ ปตฺถิตํ ตุยฺหํ, สพฺพเมว สมิชฺฌตุ;
สพฺเพ ปูเรนฺตุ สงฺกปฺปา, จนฺโท ปนฺนรโส ยถา. (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๙๕ ปุพฺพูปนิสฺสยสมฺปตฺติกถา; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑. ๑๙๒);
‘‘อิจฺฉิตํ ปตฺถิตํ ตุยฺหํ, ขิปฺปเมว สมิชฺฌตุ;
สพฺเพ ปูเรนฺตุ สงฺกปฺปา, มณิโชติรโส ยถา’’ติ. –
อนุโมทนํ อกาสิ. ปจฺเจกพุทฺธานํ กิร อิธาว ทฺเว คาถา อนุโมทนคาถา นาม โหนฺติ. ตตฺถ โชติรโสติ สพฺพกามททํ มณิรตนํ วุจฺจติ. อิทํ ตสฺส ปุพฺพจริตํ. โส เอตรหิ จณฺฑปชฺโชโต อโหสิ. ตสฺส จ กมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน อิมานิ ปฺจ วาหนานิ นิพฺพตฺตึสุ. อเถกทิวสํ ราชา อุยฺยานกีฬาย นิกฺขมิ. อุเตโน ‘‘อชฺช ปลายิตพฺพ’’นฺติ มหนฺตามหนฺเต จมฺมปสิพฺพเก หิรฺสุวณฺณสฺส ปูเรตฺวา กเรณุกาปิฏฺเ เปตฺวา วาสุลทตฺตํ อาทาย ปลายิ. อนฺเตปุรปาลกา ปลายนฺตํ ตํ ทิสฺวา คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา ‘‘สีฆํ คจฺฉถา’’ติ พลํ ปหิณิ. อุเตโน ¶ พลสฺส ปกฺขนฺทภาวํ ตฺวา กหาปณปสิพฺพกํ โมเจตฺวา ปาเตสิ, มนุสฺสา กหาปเณ อุจฺจินิตฺวา ปุน ปกฺขนฺทึสุ. อิตโร สุวณฺณปสิพฺพกํ โมเจตฺวา ปาเตตฺวา เนสํ สุวณฺณโลเภน ปปฺเจนฺตานฺเว ¶ พหิ นิวุฏฺํ อตฺตโน ขนฺธาวารํ ปาปุณิ. อถ นํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวาว อตฺตโน พลกาโย ปริวาเรตฺวา นครํ ปเวเสสิ. โส ปตฺวาว วาสุลทตฺตํ อภิสิฺจิตฺวา อคฺคมเหสิฏฺาเน เปสีติ. อยํ วาสุลทตฺตาย อุปฺปตฺติ.
อปรา ปน มาคณฺฑิยา นาม รฺโ สนฺติกา อคฺคมเหสิฏฺานํ ลภิ. สา กิร กุรุรฏฺเ มาคณฺฑิยพฺราหฺมณสฺส ธีตา. มาตาปิสฺสา มาคณฺฑิยาเยว นามํ. จูฬปิตาปิสฺสา มาคณฺฑิโยว, สา อภิรูปา อโหสิ เทวจฺฉรปฏิภาคา. ปิตา ปนสฺสา อนุจฺฉวิกํ สามิกํ อลภนฺโต มหนฺเตหิ มหนฺเตหิ กุเลหิ ยาจิโตปิ ‘‘น มยฺหํ ธีตุ ตุมฺเห อนุจฺฉวิกา’’ติ ตชฺเชตฺวา อุยฺโยเชสิ. อเถกทิวสํ สตฺถา ปจฺจูสสมเย โลกํ โวโลเกนฺโต มาคณฺฑิยพฺราหฺมณสฺส สปชาปติกสฺส อนาคามิผลูปนิสฺสยํ ทิสฺวา อตฺตโน ปตฺตจีวรมาทาย ตสฺส พหินิคเม อคฺคิปริจรณฏฺานํ อคมาสิ. โส ตถาคตสฺส รูปโสภคฺคปฺปตฺตํ อตฺตภาวํ โอโลเกตฺวา, ‘‘อิมสฺมึ โลเก อิมินา ปุริเสน สทิโส อฺโ ปุริโส นาม นตฺถิ, อยํ มยฺหํ ธีตุ อนุจฺฉวิโก, อิมสฺส โปสาปนตฺถาย ธีตรํ ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา, ‘‘สมณ, เอกา เม ธีตา อตฺถิ, อหํ เอตฺตกํ กาลํ ตสฺสา อนุจฺฉวิกํ ปุริสํ น ปสฺสามิ, ตุมฺเห ตสฺสา อนุจฺฉวิกา, สา จ ตุมฺหากฺเว อนุจฺฉวิกา. ตุมฺหากฺหิ ¶ ปาทปริจาริกา, ตสฺสา จ ภตฺตา ¶ ลทฺธุํ วฏฺฏติ, ตํ โว อหํ ทสฺสามิ, ยาว มมาคมนา อิเธว ติฏฺถา’’ติ อาห. สตฺถา กิฺจิ อวตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. พฺราหฺมโณ เวเคน ฆรํ คนฺตฺวา, ‘‘โภติ, โภติ ธีตุ เม อนุจฺฉวิโก ปุริโส ทิฏฺโ, สีฆํ สีฆํ นํ อลงฺกโรหี’’ติ ตํ อลงฺการาเปตฺวา สทฺธึ พฺราหฺมณิยา อาทาย สตฺถุ สนฺติกํ ปายาสิ. สกลนครํ สงฺขุภิ. อยํ ‘‘เอตฺตกํ กาลํ มยฺหํ ธีตุ อนุจฺฉวิโก นตฺถี’’ติ กสฺสจิ อทตฺวา ‘‘อชฺช เม ธีตุ อนุจฺฉวิโก ทิฏฺโ’’ติ กิร วเทติ, ‘‘กีทิโส นุ โข โส ปุริโส, ปสฺสิสฺสาม น’’นฺติ มหาชโน เตเนว สทฺธึ นิกฺขมิ.
ตสฺมึ ¶ ธีตรํ คเหตฺวา อาคจฺฉนฺเต สตฺถา เตน วุตฺตฏฺาเน อฏฺตฺวา ตตฺถ ปทเจติยํ ทสฺเสตฺวา คนฺตฺวา อฺสฺมึ าเน อฏฺาสิ. พุทฺธานฺหิ ปทเจติยํ อธิฏฺหิตฺวา อกฺกนฺตฏฺาเนเยว ปฺายติ, น อฺตฺถ. เยสฺจตฺถาย อธิฏฺิตํ โหติ, เตเยว นํ ปสฺสนฺติ. เตสํ ปน อทสฺสนกรณตฺถํ หตฺถิอาทโย วา อกฺกมนฺตุ, มหาเมโฆ วา ปวสฺสตุ, เวรมฺภวาตา วา ปหรนฺตุ, น ตํ โกจิ มกฺเขตุํ สกฺโกติ. อถ พฺราหฺมณี พฺราหฺมณํ อาห – ‘‘กุหึ โส ปุริโส’’ติ. ‘‘‘อิมสฺมึ าเน ติฏฺาหี’ติ นํ อวจํ, กุหึ นุ โข โส คโต’’ติ อิโต จิโต โอโลเกนฺโต ปทเจติยํ ทิสฺวา ‘‘อยมสฺส ปทวลฺโช’’ติ ¶ อาห. พฺราหฺมณี สลกฺขณมนฺตานํ ติณฺณํ เวทานํ ปคุณตาย ลกฺขณมนฺเต ปริวตฺเตตฺวา ปทลกฺขณํ อุปธาเรตฺวา, ‘‘นยิทํ, พฺราหฺมณ, ปฺจกามคุณเสวิโน ปท’’นฺติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘รตฺตสฺส หิ อุกฺกุฏิกํ ปทํ ภเว,
ทุฏฺสฺส โหติ สหสานุปีฬิตํ;
มูฬฺหสฺส โหติ อวกฑฺฒิตํ ปทํ,
วิวฏฺฏจฺฉทสฺส อิทมีทิสํ ปท’’นฺติ. (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๖๐-๒๖๑; วิสุทฺธิ. ๑.๔๕);
อถ นํ พฺราหฺมโณ เอวมาห – ‘‘โภติ ตฺวํ อุทกปาติยํ กุมฺภีลํ, เคหมชฺเฌ จ ปน โจรํ วิย มนฺเต ปสฺสนสีลา, ตุณฺหี โหหี’’ติ. พฺราหฺมณ, ยํ อิจฺฉสิ, ตํ วเทหิ, นยิทํ ปฺจกามคุณเสวิโน ปทนฺติ. ตโต อิโต จิโต จ โอโลเกนฺโต สตฺถารํ ทิสฺวา, ‘‘อยํ โส ปุริโส’’ติ วตฺวา พฺราหฺมโณ คนฺตฺวา, ‘‘สมณ, ธีตรํ เม ตว โปสาปนตฺถาย เทมี’’ติ อาห. สตฺถา ‘‘ธีตรา เต มยฺหํ อตฺโถ อตฺถิ วา นตฺถิ วา’’ติ อวตฺวาว, ‘‘พฺราหฺมณ, เอกํ เต การณํ กเถมี’’ติ วตฺวา, ‘‘กเถหิ สมณา’’ติ วุตฺเต มหาภินิกฺขมนโต ปฏฺาย ยาว อชปาลนิคฺโรธมูลา ¶ มาเรน อนุพทฺธภาวํ อชปาลนิคฺโรธมูเล จ ปน ‘‘อตีโต ทานิ เม เอส วิสย’’นฺติ ตสฺส โสกาตุรสฺส โสกวูปสมนตฺถํ อาคตาหิ มารธีตาหิ กุมาริกวณฺณาทิวเสน ¶ ปโยชิตํ ปโลภนํ อาจิกฺขิตฺวา, ‘‘ตทาปิ มยฺหํ ฉนฺโท นาโหสี’’ติ วตฺวา –
‘‘ทิสฺวาน ¶ ตณฺหํ อรตึ รคฺจ,
นาโหสิ ฉนฺโท อปิ เมถุนสฺมึ;
กิเมวิทํ มุตฺตกรีสปุณฺณํ,
ปาทาปิ นํ สมฺผุสิตุํ น อิจฺเฉ’’ติ. (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๖๐-๒๖๑; สุ. นิ. ๘๔๑) –
อิมํ คาถมาห. คาถาปริโยสาเน พฺราหฺมโณ จ พฺราหฺมณี จ อนาคามิผเล ปติฏฺหึสุ. มาคณฺฑิยาปิ โข ‘‘สจสฺส มยา อตฺโถ นตฺถิ, อนตฺถิกภาโวว วตฺตพฺโพ, อยํ ปน มํ มุตฺตกรีสปุณฺณํ กโรติ, ปาทาปิ นํ สมฺผุสิตุํ น อิจฺเฉติ, โหตุ, อตฺตโน ชาติกุลปเทสโภคยสวยสมฺปตฺตึ อาคมฺม ตถารูปํ ภตฺตารํ ลภิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส กตฺตพฺพยุตฺตกํ ชานิสฺสามี’’ติ สตฺถริ อาฆาตํ พนฺธิ. ‘‘กึ ปน สตฺถา ตาย อตฺตนิ อาฆาตุปฺปตฺตึ ชานาติ, โน’’ติ? ‘‘ชานาติเยว. ชานนฺโต กสฺมา คาถมาหา’’ติ? อิตเรสํ ทฺวินฺนํ วเสน. พุทฺธา หิ อาฆาตํ อคเณตฺวา มคฺคผลาธิคมารหานํ วเสน ธมฺมํ เทเสนฺติเยว. มาตาปิตโร ตํ เนตฺวา จูฬมาคณฺฑิยํ กนิฏฺํ ปฏิจฺฉาเปตฺวา ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. จูฬมาคณฺฑิโยปิ ¶ จินฺเตสิ – ‘‘มม ธีตา โอมกสตฺตสฺส น อนุจฺฉวิกา, เอกสฺส รฺโว อนุจฺฉวิกา’’ติ. ตํ อาทาย โกสมฺพึ คนฺตฺวา สพฺพาลงฺกาเรหิ อลงฺกริตฺวา, ‘‘อิมํ อิตฺถิรตนํ เทวสฺส อนุจฺฉวิก’’นฺติ อุเตนสฺส รฺโ อทาสิ. โส ตํ ทิสฺวาว อุปฺปนฺนพลวสิเนโห อภิเสกํ กตฺวา ปฺจสตมาตุคามปริวารํ ทตฺวา อคฺคมเหสิฏฺาเน เปสิ. อยํ มาคณฺฑิยาย อุปฺปตฺติ.
เอวมสฺส ทิยฑฺฒสหสฺสนาฏกิตฺถิปริวารา ติสฺโส อคฺคมเหสิโย อเหสุํ. ตสฺมึ โข ปน สมเย โฆสกเสฏฺิ กุกฺกุฏเสฏฺิ ปาวาริกเสฏฺีติ โกสมฺพิยํ ตโย เสฏฺิโน โหนฺติ. เต อุปกฏฺาย วสฺสูปนายิกาย ปฺจสตตาปเส หิมวนฺตโต อาคนฺตฺวา นคเร ภิกฺขาย จรนฺเต ทิสฺวา ปสีทิตฺวา นิสีทาเปตฺวา โภเชตฺวา ปฏิฺํ คเหตฺวา จตฺตาโร มาเส อตฺตโน สนฺติเก วสาเปตฺวา ปุน วสฺสารตฺเต อาคมนตฺถาย ปฏิชานาเปตฺวา อุยฺโยเชสุํ. ตาปสาปิ ตโต ปฏฺาย อฏฺ มาเส หิมวนฺเต วสิตฺวา จตฺตาโร มาเส เตสํ สนฺติเก ¶ วสึสุ. เต อปรภาเค หิมวนฺตโต อาคจฺฉนฺตา ¶ อรฺายตเน เอกํ มหานิคฺโรธํ ทิสฺวา ตสฺส มูเล นิสีทึสุ. เตสุ เชฏฺกตาปโส จินฺเตสิ – ‘‘อิมสฺมึ รุกฺเข อธิวตฺถา เทวตา โอรมตฺติกา น ภวิสฺสติ, มเหสกฺเขเนเวตฺถ เทวราเชน ภวิตพฺพํ ¶ , สาธุ วต สจายํ อิสิคณสฺส ปานียํ ทเทยฺยา’’ติ. โสปิ ปานียํ อทาสิ. ตาปโส นฺหาโนทกํ จินฺเตสิ, ตมฺปิ อทาสิ. ตโต โภชนํ จินฺเตสิ, ตมฺปิ อทาสิ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยํ เทวราชา อมฺเหหิ จินฺติตํ จินฺติตํ สพฺพํ เทติ, อโห วต นํ ปสฺเสยฺยามา’’ติ. โส รุกฺขกฺขนฺธํ ปทาเลตฺวา อตฺตานํ ทสฺเสสิ. อถ นํ ตาปสา, ‘‘เทวราช, มหตี เต สมฺปตฺติ, กึ นุ โข กตฺวา อยํ เต ลทฺธา’’ติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘มา ปุจฺฉถ, อยฺยา’’ติ. ‘‘อาจิกฺข, เทวราชา’’ติ. โส อตฺตนา กตกมฺมสฺส ปริตฺตกตฺตา ลชฺชมาโน กเถตุํ น วิสหิ. เตหิ ปุนปฺปุนํ นิปฺปีฬิยมาโน ปน ‘‘เตน หิ สุณาถา’’ติ วตฺวา กเถสิ.
โส กิเรโก ทุคฺคตมนุสฺโส หุตฺวา ภตึ ปริเยสนฺโต อนาถปิณฺฑิกสฺส สนฺติเก ภติกมฺมํ ลภิตฺวา ตํ นิสฺสาย ชีวิกํ กปฺเปสิ. อเถกสฺมึ อุโปสถทิวเส สมฺปตฺเต อนาถปิณฺฑิโก วิหารโต อาคนฺตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘ตสฺส ภติกสฺส อชฺชุโปสถทิวสภาโว เกนจิ กถิโต’’ติ? ‘‘น กถิโต, สามี’’ติ. ‘‘เตน หิสฺส สายมาสํ ปจถา’’ติ. อถสฺส ปตฺโถทนํ ปจึสุ. โส ทิวสํ อรฺเ กมฺมํ กตฺวา สายํ อาคนฺตฺวา ภตฺเต วฑฺเฒตฺวา ทินฺเน ‘‘ฉาโตมฺหี’’ติ สหสา อภฺุชิตฺวาว ‘‘อฺเสุ ทิวเสสุ อิมสฺมึ เคเห ‘ภตฺตํ เทถ, สูปํ เทถ, พฺยฺชนํ เทถา’ติ มหาโกลาหลํ อโหสิ, อชฺช เต สพฺเพ นิสฺสทฺทา นิปชฺชึสุ, มยฺหเมว เอกสฺสาหารํ วฑฺฒยึสุ, กึ นุ โข เอต’’นฺติ จินฺเตตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘อวเสสา ภฺุชึสุ, น ภฺุชึสู’’ติ? ‘‘น ภฺุชึสุ, ตาตา’’ติ. ‘‘กึ การณา’’ติ? อิมสฺมึ เคเห อุโปสถทิวเสสุ สายมาสํ ¶ น ภฺุชนฺติ, สพฺเพว อุโปสถิกา โหนฺติ. อนฺตมโส ถนปายิโนปิ ทารเก มุขํ วิกฺขาลาเปตฺวา จตุมธุรํ มุเข ปกฺขิปาเปตฺวา มหาเสฏฺิ อุโปสถิเก กาเรติ. คนฺธเตลปฺปทีเป ชาลนฺเต ขุทฺทกมหลฺลกทารกา สยนคตา ทฺวตฺตึสาการํ สชฺฌายนฺติ. ตุยฺหํ ปน อุโปสถทิวสภาวํ กเถตุํ สตึ น กริมฺหา. ตสฺมา ตเวว ภตฺตํ ปกฺกํ, นํ ภฺุชสฺสูติ. สเจ อิทานิ อุโปสถิเกน ¶ ภวิตุํ วฏฺฏติ, อหมฺปิ ภเวยฺยนฺติ. ‘‘อิทํ เสฏฺิ ชานาตี’’ติ. ‘‘เตน หิ นํ ปุจฺฉถา’’ติ. เต คนฺตฺวา เสฏฺึ ปุจฺฉึสุ. โส เอวมาห – ‘‘อิทานิ ปน อภฺุชิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺหนฺโต อุปฑฺฒํ อุโปสถกมฺมํ ลภิสฺสตี’’ติ. อิตโร ตํ สุตฺวา ตถา อกาสิ.
ตสฺส สกลทิวสํ กมฺมํ กตฺวา ฉาตสฺส สรีเร วาตา กุปฺปึสุ. โส โยตฺเตน อุรํ พนฺธิตฺวา โยตฺตโกฏิยํ คเหตฺวา ปริวตฺตติ. เสฏฺิ ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา อุกฺกาหิ ธาริยมานาหิ จตุมธุรํ คาหาเปตฺวา ¶ ตสฺส สนฺติกํ อาคนฺตฺวา, ‘‘กึ, ตาตา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘สามิ, วาตา เม กุปฺปิตา’’ติ. ‘‘เตน หิ อุฏฺาย อิทํ เภสชฺชํ ขาทาหี’’ติ. ‘‘ตุมฺเหปิ ขาทถ, สามี’’ติ. ‘‘อมฺหากํ อผาสุกํ นตฺถิ, ตฺวํ ขาทาหี’’ติ. ‘‘สามิ, อหํ อุโปสถกมฺมํ กโรนฺโต ¶ สกลํ กาตุํ นาสกฺขึ, อุปฑฺฒกมฺมมฺปิ เม วิกลํ มา อโหสี’’ติ น อิจฺฉิ. ‘‘มา เอวํ กริ, ตาตา’’ติ วุจฺจมาโนปิ อนิจฺฉิตฺวา อรุเณ อุฏฺหนฺเต มิลาตมาลา วิย กาลํ กตฺวา ตสฺมึ นิคฺโรธรุกฺเข เทวตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺมา อิมมตฺถํ กเถตฺวา ‘‘โส เสฏฺิ พุทฺธมามโก, ธมฺมมามโก, สงฺฆมามโก, ตํ นิสฺสาย กตสฺส อุปฑฺฒุโปสถกมฺมสฺส นิสฺสนฺเทเนสา สมฺปตฺติ มยา ลทฺธา’’ติ อาห.
‘‘พุทฺโธ’’ติ วจนํ สุตฺวาว ปฺจสตา ตาปสา อุฏฺาย เทวตาย อฺชลึ ปคฺคยฺห ‘‘พุทฺโธติ วเทสิ, พุทฺโธติ วเทสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘พุทฺโธติ วทามิ, พุทฺโธติ วทามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ ปฏิชานาเปตฺวา ‘‘โฆโสปิ โข เอโส ทุลฺลโภ โลกสฺมิ’’นฺติ อุทานํ อุทาเนตฺวา ‘‘เทวเต อเนเกสุ กปฺปสตสหสฺเสสุ อสุตปุพฺพํ สทฺทํ ตยา สุณาปิตมฺหา’’ติ อาหํสุ. อถ อนฺเตวาสิโน อาจริยํ เอตทโวจุํ – ‘‘เตน หิ สตฺถุ สนฺติกํ คจฺฉามา’’ติ. ‘‘ตาตา, ตโย เสฏฺิโน อมฺหากํ พหูปการา, สฺเว เตสํ นิเวสเน ภิกฺขํ คณฺหิตฺวา เตสมฺปิ อาจิกฺขิตฺวา คมิสฺสาม, อธิวาเสถ, ตาตา’’ติ. เต อธิวาสยึสุ. ปุนทิวเส เสฏฺิโน ยาคุภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา อาสนานิ ปฺาเปตฺวา ‘‘อชฺช โน อยฺยานํ อาคมนทิวโส’’ติ ตฺวา ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา เต อาทาย นิเวสนํ คนฺตฺวา นิสีทาเปตฺวา ภิกฺขํ อทํสุ. เต กตภตฺตกิจฺจา มหาเสฏฺิโน ‘‘มยํ คมิสฺสามา’’ติ วทึสุ. ‘‘นนุ, ภนฺเต, ตุมฺเหหิ จตฺตาโร ¶ วสฺสิเก มาเส อมฺหากํ คหิตาว ปฏิฺา, อิทานิ กุหึ คจฺฉถา’’ติ? ‘‘โลเก ¶ กิร พุทฺโธ อุปฺปนฺโน, ธมฺโม อุปฺปนฺโน, สงฺโฆ อุปฺปนฺโน, ตสฺมา สตฺถุ สนฺติกํ คมิสฺสามา’’ติ. ‘‘กึ ปน ตสฺส สตฺถุโน สนฺติกํ ตุมฺหากฺเว คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘อฺเสมฺปิ อวาริตํ, อาวุโส’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต, อาคเมถ, มยมฺปิ คมนปริวจฺฉํ กตฺวา คจฺฉามา’’ติ. ‘‘ตุมฺเหสุ ปริวจฺฉํ กโรนฺเตสุ อมฺหากํ ปปฺโจ โหติ, มยํ ปุรโต คจฺฉาม, ตุมฺเห ปจฺฉา อาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ วตฺวา เต ปุเรตรํ คนฺตฺวา สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทิสฺวา อภิตฺถวิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อถ เนสํ สตฺถา อนุปุพฺพึ กถํ กเถตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน สพฺเพปิ สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิตฺวา ‘‘เอถ, ภิกฺขโว’’ติ วจนสมนนฺตรํเยว อิทฺธิมยปตฺตจีวรธรา เอหิภิกฺขู อเหสุํ.
เตปิ โข ตโย เสฏฺิโน ปฺจหิ ปฺจหิ สกฏสเตหิ ภตฺตจฺฉาทนสปฺปิมธุผาณิตาทีนิ ทานูปกรณานิ อาทาย สาวตฺถึ ปตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ธมฺมกถํ สุตฺวา กถาปริโยสาเน โสตาปตฺติผเล ¶ ปติฏฺาย อทฺธมาสมตฺตมฺปิ ทานํ ททมานา สตฺถุ สนฺติเก วสิตฺวา โกสมฺพึ อาคมนตฺถาย สตฺถารํ ยาจิตฺวา สตฺถารา ปฏิฺํ ททนฺเตน ¶ ‘‘สฺุาคาเร โข คหปตโย ตถาคตา อภิรมนฺตี’’ติ วุตฺเต, ‘‘อฺาตํ, ภนฺเต, อมฺเหหิ ปหิตสาสเนน อาคนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา โกสมฺพึ คนฺตฺวา โฆสกเสฏฺิ โฆสิตารามํ, กุกฺกุฏเสฏฺิ กุกฺกุฏารามํ, ปาวาริกเสฏฺิ ปาวาริการามนฺติ ตโย มหาวิหาเร กาเรตฺวา สตฺถุ อาคมนตฺถาย สาสนํ ปหิณึสุ. สตฺถา เตสํ สาสนํ สุตฺวา ตตฺถ อคมาสิ. เต ปจฺจุคฺคนฺตฺวา สตฺถารํ วิหารํ ปเวเสตฺวา วาเรน วาเรน ปฏิชคฺคนฺติ. สตฺถา เทวสิกํ เอเกกสฺมึ วิหาเร วสติ. ยสฺส วิหาเร วุฏฺโ โหติ, ตสฺเสว ฆรทฺวาเร ปิณฺฑาย จรติ. เตสํ ปน ติณฺณํ เสฏฺีนํ อุปฏฺาโก สุมโน นาม มาลากาโร อโหสิ. โส เต เสฏฺิโน เอวมาห – ‘‘อหํ ตุมฺหากํ ทีฆรตฺตํ อุปการโก, สตฺถารํ โภเชตุกาโมมฺหิ, มยฺหมฺปิ เอกทิวสํ สตฺถารํ เทถา’’ติ. ‘‘เตน หิ ภเณ สฺเว โภเชหี’’ติ. ‘‘สาธุ, สามี’’ติ โส สตฺถารํ นิมนฺเตตฺวา สกฺการํ ปฏิยาเทสิ.
ตทา ¶ ราชา สามาวติยา เทวสิกํ ปุปฺผมูเล อฏฺ กหาปเณ เทติ. ตสฺสา ขุชฺชุตฺตรา นาม ทาสี สุมนมาลาการสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา นิพทฺธํ ปุปฺผานิ คณฺหาติ. อถ นํ ตสฺมึ ทิวเส อาคตํ มาลากาโร อาห – ‘‘มยา สตฺถา นิมนฺติโต, อชฺช ปุปฺเผหิ สตฺถารํ ปูเชสฺสามิ, ติฏฺ ตาว, ตฺวํ ปริเวสนาย สหายิกา หุตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา อวเสสานิ ปุปฺผานิ คเหตฺวา คมิสฺสสี’’ติ ¶ . สา ‘‘สาธู’’ติ อธิวาเสสิ. สุมโน พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสิตฺวา อนุโมทนกรณตฺถาย ปตฺตํ อคฺคเหสิ. สตฺถา อนุโมทนธมฺมเทสนํ อารภิ. ขุชฺชุตฺตราปิ สตฺถุ ธมฺมกถํ สุณนฺตีเยว โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. สา อฺเสุ ทิวเสสุ จตฺตาโร กหาปเณ อตฺตโน คเหตฺวา จตูหิ ปุปฺผานิ คเหตฺวา คจฺฉติ, ตํ ทิวสํ อฏฺหิปิ ปุปฺผานิ คเหตฺวา คตา. อถ นํ สามาวตี อาห – ‘‘กึ นุ โข, อมฺม, อชฺช อมฺหากํ รฺา ทฺวิคุณํ ปุปฺผมูลํ ทินฺน’’นฺติ? ‘‘โน, อยฺเย’’ติ. ‘‘อถ กสฺมา พหูนิ ปุปฺผานี’’ติ? ‘‘อฺเสุ ทิวเสสุ อหํ จตฺตาโร กหาปเณ อตฺตโน คเหตฺวา จตูหิ ปุปฺผานิ อาหรามี’’ติ. ‘‘อชฺช กสฺมา น คณฺหี’’ติ? ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ธมฺมสฺส อธิคตตฺตา’’ติ. อถ นํ ‘‘อเร, ทุฏฺทาสิ เอตฺตกํ กาลํ ตยา คหิตกหาปเณ เม เทหี’’ติ อตชฺเชตฺวา, ‘‘อมฺม, ตยา ปิวิตํ อมตํ อมฺเหปิ ปาเยหี’’ติ วตฺวา ‘‘เตน หิ มํ นฺหาเปหี’’ติ วุตฺเต โสฬสหิ คนฺโธทกฆเฏหิ นฺหาเปตฺวา ทฺเว มฏฺสาฏเก ทาเปสิ. สา เอกํ นิวาเสตฺวา เอกํ เอกํสํ ปารุปิตฺวา อาสนํ ปฺาเปตฺวา เอกํ พีชนึ อาหราเปตฺวา อาสเน นิสีทิตฺวา จิตฺรพีชนึ อาทาย ปฺจ มาตุคามสตานิ อามนฺเตตฺวา ตาสํ สตฺถารา เทสิตนิยาเมเนว ธมฺมํ เทเสสิ. ตสฺสา ธมฺมกถํ สุตฺวา ตา สพฺพาปิ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหึสุ.
ตา ¶ สพฺพาปิ ขุชฺชุตฺตรํ วนฺทิตฺวา, ‘‘อมฺม ¶ , อชฺชโต ปฏฺาย ตฺวํ กิลิฏฺกมฺมํ มา กริ, อมฺหากํ มาตุฏฺาเน จ อาจริยฏฺาเน จ ตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา สตฺถารา เทสิตํ ธมฺมํ สุตฺวา อมฺหากํ กเถหี’’ติ วทึสุ. สา ตถา กโรนฺตี อปรภาเค ติปิฏกธรา ชาตา. อถ นํ สตฺถา ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวิกานํ อุปาสิกานํ พหุสฺสุตานํ ธมฺมกถิกานํ ยทิทํ ขุชฺชุตฺตรา’’ติ เอตทคฺเค เปสิ. ตาปิ โข ปฺจสตา อิตฺถิโย ตํ เอวมาหํสุ – ‘‘อมฺม, สตฺถารํ ทฏฺุกามามฺหา, ตํ โน ทสฺเสหิ, คนฺธมาลาทีหิ ¶ ตํ ปูเชสฺสามา’’ติ. ‘‘อยฺเย, ราชกุลํ นาม ภาริยํ, ตุมฺเห คเหตฺวา พหิ คนฺตุํ น สกฺกา’’ติ. ‘‘อมฺม, โน มา นาเสหิ, ทสฺเสเหว อมฺหากํ สตฺถาร’’นฺติ. ‘‘เตน หิ ตุมฺหากํ วสนคพฺภานํ ภิตฺตีสุ ยตฺตเกน โอโลเกตุํ สกฺกา โหติ, ตตฺตกํ ฉิทฺทํ กตฺวา คนฺธมาลาทีนิ อาหราเปตฺวา สตฺถารํ ติณฺณํ เสฏฺีนํ ฆรทฺวารํ คจฺฉนฺตํ ตุมฺเห เตสุ เตสุ าเนสุ ตฺวา โอโลเกถ เจว, หตฺเถ จ ปสาเรตฺวา วนฺทถ, ปูเชถ จา’’ติ. ตา ตถา กตฺวา สตฺถารํ คจฺฉนฺตฺจ อาคจฺฉนฺตฺจ โอโลเกตฺวา วนฺทึสุ เจว ปูเชสฺุจ.
อเถกทิวสํ มาคณฺฑิยา อตฺตโน ปาสาทตลโต นิกฺขมิตฺวา จงฺกมมานา ตาสํ วสนฏฺานํ คนฺตฺวา คพฺเภสุ ฉิทฺทํ ทิสฺวา, ‘‘อิทํ กิ’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา, ตาหิ ตสฺสา สตฺถริ อาฆาตพทฺธภาวํ อชานนฺตีหิ ‘‘สตฺถา ¶ อิมํ นครํ อาคโต, มยํ เอตฺถ ตฺวา สตฺถารํ วนฺทาม เจว ปูเชม จา’’ติ วุตฺเต, ‘‘อาคโต นาม อิมํ นครํ สมโณ โคตโม, อิทานิสฺส กตฺตพฺพํ ชานิสฺสามิ, อิมาปิ ตสฺส อุปฏฺายิกา, อิมาสมฺปิ กตฺตพฺพํ ชานิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ – ‘‘มหาราช, สามาวติมิสฺสิกานํ พหิทฺธา ปตฺถนา อตฺถิ, กติปาเหเนว เต ชีวิตํ มาเรสฺสนฺตี’’ติ. ราชา ‘‘น ตา เอวรูปํ กริสฺสนฺตี’’ติ น สทฺทหิ. ปุนปฺปุนํ วุตฺเตปิ น สทฺทหิ เอว. อถ นํ เอวํ ติกฺขตฺตุํ วุตฺเตปิ อสทฺทหนฺตํ ‘‘สเจ เม น สทฺทหสิ, ตาสํ วสนฏฺานํ คนฺตฺวา อุปจาเรหิ, มหาราชา’’ติ อาห. ราชา คนฺตฺวา คพฺเภสุ ฉิทฺทํ ทิสฺวา, ‘‘อิทํ กิ’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา, ตสฺมึ อตฺเถ อาโรจิเต ตาสํ อกุชฺฌิตฺวา, กิฺจิ อวตฺวาว ฉิทฺทานิ ปิทหาเปตฺวา สพฺพคพฺเภสุ อุทฺธจฺฉิทฺทกวาตปานานิ กาเรสิ. อุทฺธจฺฉิทฺทกวาตปานานิ กิร ตสฺมึ กาเล อุปฺปนฺนานิ. มาคณฺฑิยา ตาสํ กิฺจิ กาตุํ อสกฺกุณิตฺวา, ‘‘สมณสฺส โคตมสฺเสว กตฺตพฺพํ กริสฺสามี’’ติ นาครานํ ลฺชํ ทตฺวา, ‘‘สมณํ โคตมํ อนฺโตนครํ ปวิสิตฺวา วิจรนฺตํ ทาสกมฺมกรโปริเสหิ อกฺโกเสตฺวา ปริภาเสตฺวา ปลาเปถา’’ติ อาณาเปสิ. มิจฺฉาทิฏฺิกา ตีสุ รตเนสุ อปฺปสนฺนา อนฺโตนครํ ปวิฏฺํ สตฺถารํ อนุพนฺธิตฺวา ¶ , ‘‘โจโรสิ ¶ , พาโลสิ, มูฬฺโหสิ, โอฏฺโสิ, โคโณสิ, คทฺรโภสิ, เนรยิโกสิ, ติรจฺฉานคโตสิ, นตฺถิ ตุยฺหํ สุคติ, ทุคฺคติเยว ตุยฺหํ ปาฏิกงฺขา’’ติ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ.
ตํ ¶ สุตฺวา อายสฺมา อานนฺโท สตฺถารํ เอตทโวจ – ‘‘ภนฺเต, อิเม นาครา อมฺเห อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ, อิโต อฺตฺถ คจฺฉามา’’ติ. ‘‘กุหึ, อานนฺโทติ’’? ‘‘อฺํ นครํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ตตฺถ มนุสฺเสสุ อกฺโกสนฺเตสุ ปุน กตฺถ คมิสฺสาม, อานนฺโท’’ติ? ‘‘ตโตปิ อฺํ นครํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ตตฺถาปิ มนุสฺเสสุ อกฺโกสนฺเตสุ กุหึ คมิสฺสามา’’ติ? ‘‘ตโตปิ อฺํ นครํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อานนฺท, เอวํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ยตฺถ อธิกรณํ อุปฺปนฺนํ, ตตฺเถว ตสฺมึ วูปสนฺเต อฺตฺถ คนฺตุํ วฏฺฏติ. เก ปน เต, อานนฺท, อกฺโกสนฺตี’’ติ? ‘‘ภนฺเต, ทาสกมฺมกเร อุปาทาย สพฺเพ อกฺโกสนฺตี’’ติ. ‘‘อหํ, อานนฺท, สงฺคามํ โอติณฺณหตฺถิสทิโส, สงฺคามํ โอติณฺณหตฺถิโน หิ จตูหิ ทิสาหิ อาคเต สเร สหิตุํ ภาโร, ตเถว พหูหิ ทุสฺสีเลหิ กถิตกถานํ สหนํ นาม มยฺหํ ภาโร’’ติ วตฺวา อตฺตานํ อารพฺภ ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมา นาควคฺเค ติสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘อหํ นาโคว สงฺคาเม, จาปโต ปติตํ สรํ;
อติวากฺยํ ติติกฺขิสฺสํ, ทุสฺสีโล หิ พหุชฺชโน.
‘‘ทนฺตํ ¶ นยนฺติ สมิตึ, ทนฺตํ ราชาภิรูหติ;
ทนฺโต เสฏฺโ มนุสฺเสสุ, โยติวากฺยํ ติติกฺขติ.
‘‘วรมสฺสตรา ทนฺตา, อาชานียา จ สินฺธวา;
กฺุชรา จ มหานาคา, อตฺตทนฺโต ตโต วร’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๒๐-๓๒๒);
ธมฺมกถา สมฺปตฺตมหาชนสฺส สาตฺถิกา อโหสิ. เอวํ ธมฺมํ เทเสตฺวา มา จินฺตยิ, อานนฺท, เอเต สตฺตาหมตฺตเมว อกฺโกสิสฺสนฺติ, อฏฺเม ทิวเส ตุณฺหี ภวิสฺสนฺติ, พุทฺธานฺหิ อุปฺปนฺนํ อธิกรณํ สตฺตาหโต อุตฺตริ น คจฺฉติ. มาคณฺฑิยา สตฺถารํ อกฺโกสาเปตฺวา ปลาเปตุํ อสกฺโกนฺตี, ‘‘กึ นุ โข กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา, ‘‘อิมา เอตสฺส อุปตฺถมฺภภูตา, เอตาสมฺปิ พฺยสนํ กริสฺสามี’’ติ เอกทิวสํ รฺโ สุราปานฏฺาเน อุปฏฺานํ กโรนฺตี จูฬปิตุ สาสนํ ปหิณิ ‘‘อตฺโถ เม กิร กุกฺกุเฏหิ ¶ , อฏฺ มตกุกฺกุเฏ, อฏฺ สชีวกุกฺกุเฏ จ คเหตฺวา อาคจฺฉตุ, อาคนฺตฺวา จ โสปานมตฺถเก ตฺวา อาคตภาวํ นิเวเทตฺวา ‘ปวิสตู’ติ วุตฺเตปิ อปวิสิตฺวา ปมํ อฏฺ สชีวกุกฺกุเฏ ปหิณตุ, ‘ปจฺฉา อิตเร’’’ติ. จูฬาปฏฺากสฺส จ ‘‘มม วจนํ กเรยฺยาสี’’ติ ลฺชํ อทาสิ. มาคณฺฑิโย อาคนฺตฺวา, รฺโ นิเวทาเปตฺวา, ‘‘ปวิสตู’’ติ วุตฺเต, ‘‘รฺโ อาปานภูมึ น ปวิสิสฺสามี’’ติ อาห. อิตรา จูฬุปฏฺากํ ¶ ปหิณิ ¶ – ‘‘คจฺฉ, ตาต, มม จูฬปิตุ สนฺติก’’นฺติ. โส คนฺตฺวา เตน ทินฺเน อฏฺ สชีวกุกฺกุเฏ อาเนตฺวา, ‘‘เทว, ปุโรหิเตน ปณฺณากาโร ปหิโต’’ติ อาห. ราชา ‘‘ภทฺทโก วต โน อุตฺตริภงฺโค อุปฺปนฺโน, โก นุ โข ปเจยฺยา’’ติ อาห. มาคณฺฑิยา, ‘‘มหาราช, สามาวติปฺปมุขา ปฺจสตา อิตฺถิโย นิกฺกมฺมิกา วิจรนฺติ, ตาสํ เปเสหิ, ตา ปจิตฺวา อาหริสฺสนฺตี’’ติ อาห. ราชา ‘‘คจฺฉ, ตาสํ ทตฺวา อฺสฺส กิร หตฺเถ อทตฺวา สยเมว มาเรตฺวา ปจนฺตู’’ติ เปเสสิ. จูฬุปฏฺาโก ‘‘สาธุ เทวา’’ติ คนฺตฺวา ตถา วตฺวา ตาหิ ‘‘มยํ ปาณาติปาตํ น กโรมา’’ติ ปฏิกฺขิตฺโต อาคนฺตฺวา ตมตฺถํ รฺโ อาโรเจสิ. มาคณฺฑิยา ‘‘ทิฏฺํ เต, มหาราช, อิทานิ ตาสํ ปาณาติปาตสฺส กรณํ วา อกรณํ วา ชานิสฺสสิ, ‘สมณสฺส โคตมสฺส ปจิตฺวา เปเสนฺตู’ติ วเทหิ เทวา’’ติ อาห. ราชา ตถา วตฺวา เปเสสิ. อิตโร เต คเหตฺวา คจฺฉนฺโต วิย หุตฺวา คนฺตฺวา เต กุกฺกุเฏ ปุโรหิตสฺส ทตฺวา มตกุกฺกุเฏ ตาสํ สนฺติกํ เนตฺวา, ‘‘อิเม กิร กุกฺกุเฏ ปจิตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ ปหิณถา’’ติ อาห. ตา, ‘‘สามิ, อาหร, อิทํ นาม อมฺหากํ กิจฺจ’’นฺติ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา คณฺหึสุ. โส รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘กึ, ตาตา’’ติ ปุฏฺโ, ‘‘สมณสฺส โคตมสฺส ปจิตฺวา เปเสถาติ วุตฺตมตฺเตเยว ปฏิมคฺคํ อาคนฺตฺวา คณฺหึสู’’ติ อาจิกฺขิ. มาคณฺฑิยา ‘‘ปสฺส, มหาราช, น ตา ตุมฺหาทิสานํ กโรนฺติ, พหิทฺธา ปตฺถนา ตาสํ อตฺถีติ วุตฺเต น สทฺทหสี’’ติ อาห. ราชา ตํ สุตฺวาปิ อธิวาเสตฺวา ¶ ตุณฺหีเยว อโหสิ. มาคณฺฑิยา ‘‘กึ นุ โข กริสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ.
ตทา ปน ราชา ‘‘สามาวติยา วาสุลทตฺตาย มาคณฺฑิยาย จา’’ติ ติสฺสนฺนมฺปิ เอตาสํ ปาสาทตเล วาเรน วาเรน สตฺตาหํ สตฺตาหํ วีตินาเมติ ¶ . อถ นํ ‘‘สฺเว วา ปรสุเว วา สามาวติยา ปาสาทตลํ คมิสฺสตี’’ติ ตฺวา มาคณฺฑิยา จูฬปิตุ สาสนํ ปหิณิ – ‘‘อคเทน กิร ทาา โธวิตฺวา เอกํ สปฺปํ เปเสตู’’ติ. โส ตถา กตฺวา เปเสสิ. ราชา อตฺตโน คมนฏฺานํ หตฺถิกนฺตวีณํ อาทายเยว คจฺฉติ, ตสฺสา โปกฺขเร เอกํ ฉิทฺทํ อตฺถิ. มาคณฺฑิยา เตน ฉิทฺเทน สปฺปํ ปเวเสตฺวา ฉิทฺทํ มาลาคุเฬน ถเกสิ. สปฺโป ทฺวีหตีหํ อนฺโตวีณายเมว อโหสิ. มาคณฺฑิยา รฺโ คมนทิวเส ‘‘อชฺช กตริสฺสิตฺถิยา ปาสาทํ คมิสฺสสิ เทวา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สามาวติยา’’ติ วุตฺเต, ‘‘อชฺช มยา, มหาราช, อมนาโป สุปิโน ทิฏฺโ. น สกฺกา ตตฺถ คนฺตุํ, เทวา’’ติ? ‘‘คจฺฉาเมวา’’ติ. สา ยาว ตติยํ วาเรตฺวา, ‘‘เอวํ สนฺเต อหมฺปิ ตุมฺเหหิ สทฺธึ คมิสฺสามิ, เทวา’’ติ วตฺวา นิวตฺติยมานาปิ อนิวตฺติตฺวา, ‘‘น ชานามิ, กึ ภวิสฺสติ เทวา’’ติ รฺา สทฺธึเยว อคมาสิ.
ราชา สามาวติมิสฺสิกาหิ ทินฺนานิ วตฺถปุปฺผคนฺธาภรณานิ ธาเรตฺวา สุโภชนํ ภฺุชิตฺวา วีณํ ¶ อุสฺสีสเก เปตฺวา สยเน นิปชฺชิ. มาคณฺฑิยา อปราปรํ วิจรนฺตี วิย หุตฺวา วีณาฉิทฺทโต ปุปฺผคุฬํ อปเนสิ. สปฺโป ทฺวีหตีหํ นิราหาโร เตน ฉิทฺเทน นิกฺขมิตฺวา ปสฺสสนฺโต ผณํ กตฺวา สยนปิฏฺเ นิปชฺชิ ¶ . มาคณฺฑิยา ตํ ทิสฺวา, ‘‘ธี ธี, เทว, สปฺโป’’ติ มหาสทฺทํ กตฺวา ราชานฺจ ตา จ อกฺโกสนฺตี, ‘‘อยํ อนฺธพาลราชา อลกฺขิโก มยฺหํ วจนํ น สุณาติ, อิมาปิ นิสฺสิรีกา ทุพฺพินีตา, กึ นาม รฺโ สนฺติกา น ลภนฺติ, กึ นุ ตุมฺเห อิมสฺมึ มเตเยว สุขํ ชีวิสฺสถ, ชีวนฺเต ทุกฺขํ ชีวถ, ‘อชฺช มยา ปาปสุปิโน ทิฏฺโ, สามาวติยา ปาสาทํ คนฺตุํ น วฏฺฏตี’ติ วาเรนฺติยาปิ เม วจนํ น สุณสิ, เทวา’’ติ อาห. ราชา สปฺปํ ทิสฺวา มรณภยตชฺชิโต ‘‘เอวรูปมฺปิ นาม อิมา กริสฺสนฺติ, อโห ปาปา, อหํ อิมาสํ ปาปภาวํ อาจิกฺขนฺติยาปิ อิมิสฺสา วจนํ น สทฺทหึ, ปมํ อตฺตโน คพฺเภสุ ฉิทฺทานิ กตฺวา นิสินฺนา, ปุน มยา เปสิเต กุกฺกุเฏ ปฏิปหิณึสุ, อชฺช สยเน สปฺปํ วิสฺสชฺชึสู’’ติ โกเธน สมฺปชฺชลิโต วิย อโหสิ.
สามาวตีปิ ¶ ปฺจนฺนํ อิตฺถิสตานํ โอวาทํ อทาสิ – ‘‘อมฺมา, อมฺหากํ อฺํ ปฏิสรณํ นตฺถิ, นรินฺเท จ เทวิยา จ อตฺตนิ จ สมเมว เมตฺตจิตฺตํ ปวตฺเตถ, มา กสฺสจิ โกปํ กริตฺถา’’ติ. ราชา สหสฺสถามํ สิงฺคธนุํ อาทาย ชิยํ โปเถตฺวา วิสปีตํ สรํ สนฺนยฺหิตฺวา สามาวตึ ธุเร กตฺวา สพฺพา ¶ ตา ปฏิปาฏิยา ปาเปตฺวา สามาวติยา อุเร สรํ วิสฺสชฺเชสิ. โส ตสฺสา เมตฺตานุภาเวน ปฏินิวตฺติตฺวา อาคตมคฺคาภิมุโขว หุตฺวา รฺโ หทยํ ปวิสนฺโต วิย อฏฺาสิ. ราชา จินฺเตสิ – ‘‘มยา ขิตฺโต สโร สิลมฺปิ วินิวิชฺฌิตฺวา คจฺฉติ, อากาเส ปฏิหนนกฏฺานํ นตฺถิ, อถ จ ปเนส นิวตฺติตฺวา มม หทยาภิมุโข ชาโต, อยฺหิ นาม นิสฺสตฺโต นิชฺชีโว สโรปิ เอติสฺสา คุณํ ชานาติ, อหํ มนุสฺสภูโตปิ น ชานามี’’ติ, โส ธนุํ ฉฑฺเฑตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห สามาวติยา ปาทมูเล อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘สมฺมุยฺหามิ ปมุยฺหามิ, สพฺพา มุยฺหนฺติ เม ทิสา;
สามาวติ มํ ตายสฺสุ, ตฺวฺจ เม สรณํ ภวา’’ติ.
สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา, ‘‘สาธุ, เทว, มํ สรณํ คจฺฉา’’ติ อวตฺวา, ‘‘ยมหํ, มหาราช, สรณํ คตา, ตเมว ตฺวมฺปิ สรณํ คจฺฉาหี’’ติ อิทํ วตฺวา สามาวตี สมฺมาสมฺพุทฺธสาวิกา –
‘‘มา ¶ มํ ตฺวํ สรณํ คจฺฉ, ยมหํ สรณํ คตา;
เอส พุทฺโธ มหาราช, เอส พุทฺโธ อนุตฺตโร;
สรณํ คจฺฉ ตํ พุทฺธํ, ตฺวฺจ เม สรณํ ภวา’’ติ. –
อาห ¶ . ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา, ‘‘อิทานาหํ อติเรกตรํ ภายามี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘เอส ภิยฺโย ปมุยฺหามิ, สพฺพา มุยฺหนฺติ เม ทิสา;
สามาวติ มํ ตายสฺสุ, ตฺวฺจ เม สรณํ ภวา’’ติ.
อถ นํ สา ปุริมนเยเนว ปุน ปฏิกฺขิปิตฺวา, ‘‘เตน หิ ตฺวฺจ สรณํ คจฺฉามิ, สตฺถารฺจ สรณํ คจฺฉามิ, วรฺจ เต ทมฺมี’’ติ วุตฺเต, ‘‘วโร คหิโต โหตุ, มหาราชา’’ติ อาห. โส สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา สรณํ คนฺตฺวา นิมนฺเตตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สตฺตาหํ มหาทานํ ทตฺวา ¶ สามาวตึ อามนฺเตตฺวา, ‘‘อุฏฺเหิ, วรํ คณฺหา’’ติ อาห. ‘‘มหาราช, มยฺหํ หิรฺาทีหิ อตฺโถ นตฺถิ, อิมํ ปน เม วรํ เทหิ, ตถา กโรหิ, ยถา สตฺถา นิพทฺธํ ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ อิธาคจฺฉติ, ธมฺมํ สุณิสฺสามี’’ติ. ราชา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ นิพทฺธํ อิธาคจฺฉถ, สามาวติมิสฺสิกา ‘ธมฺมํ สุณิสฺสามา’ติ วทนฺตี’’ติ อาห. ‘‘มหาราช, พุทฺธานํ นาม เอกสฺมึ าเน นิพทฺธํ คนฺตุํ น วฏฺฏติ, มหาชโน สตฺถารํ อาคมนตฺถาย ปจฺจาสีสตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต, เอกํ ภิกฺขุํ อาณาเปถา’’ติ. สตฺถา อานนฺทตฺเถรํ อาณาเปสิ. โส ตโต ปฏฺาย ปฺจ ภิกฺขุสตานิ อาทาย นิพทฺธํ ราชกุลํ คจฺฉติ. ตาปิ เทวิโย นิพทฺธํ เถรํ สปริวารํ โภเชนฺติ, ธมฺมํ สุณนฺติ. ตา เอกทิวสํ เถรสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ปสีทิตฺวา, ปฺจหิ อุตฺตราสงฺคสเตหิ ธมฺมปูชํ อกํสุ ¶ . เอเกโก อุตฺตราสงฺโค ปฺจ สตานิ ปฺจ สตานิ อคฺฆติ.
ตา เอกวตฺถา ทิสฺวา ราชา ปุจฺฉิ – ‘‘กุหึ โว อุตฺตราสงฺโค’’ติ. ‘‘อยฺยสฺส โน ทินฺนา’’ติ. ‘‘เตน สพฺเพ คหิตา’’ติ? ‘‘อาม, คหิตา’’ติ. ราชา เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ตาหิ อุตฺตราสงฺคานํ ทินฺนภาวํ ปุจฺฉิตฺวา ตาหิ ทินฺนภาวฺจ เถเรน คหิตภาวฺจ สุตฺวา, ‘‘นนุ, ภนฺเต, อติพหูนิ วตฺถานิ, เอตฺตเกหิ กึ กริสฺสถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อมฺหากํ ปโหนกานิ วตฺถานิ คณฺหิตฺวา เสสานิ ชิณฺณจีวริกานํ ภิกฺขูนํ ทสฺสามิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘เต อตฺตโน ชิณฺณจีวรานิ กึ กริสฺสนฺตี’’ติ? ‘‘ชิณฺณตรจีวริกานํ ทสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘เต ¶ อตฺตโน ชิณฺณตรจีวรานิ กึ กริสฺสนฺตี’’ติ? ‘‘ปจฺจตฺถรณานิ กริสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘ปุราณปจฺจตฺถรณานิ กึ กริสฺสนฺตี’’ติ? ‘‘ภูมตฺถรณานิ กริสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘ปุราณภูมตฺถรณานิ กึ กริสฺสนฺตี’’ติ? ‘‘ปาทปฺุฉนานิ กริสฺสนฺติ, มหาราชา’’ติ. ‘‘ปุราณปาทปฺุฉนานิ กึ กริสฺสนฺตี’’ติ? ‘‘ขณฺฑาขณฺฑิกํ โกฏฺเฏตฺวา มตฺติกาย มทฺทิตฺวา ภิตฺตึ ลิมฺปิสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘ภนฺเต, เอตฺตกานิ กตฺวาปิ อยฺยานํ ทินฺนานิ น นสฺสนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราชา’’ติ. ราชา ปสนฺโน อปรานิปิ ปฺจ วตฺถสตานิ อาหราเปตฺวา เถรสฺส ปาทมูเล ปาเปสิ. เถโร กิร ปฺจสตคฺฆนกาเนว วตฺถานิ ปฺจสตภาเคน ¶ ปาทมูเล เปตฺวา ทินฺนานิ ปฺจสตกฺขตฺตุํ ลภิ, สหสฺสคฺฆนกานิ สหสฺสภาเคน ปาทมูเล เปตฺวา ทินฺนานิ ¶ สหสฺสกฺขตฺตุํ ลภิ, สตสหสฺสคฺฆนกานิ สตสหสฺสภาเคน ปาทมูเล เปตฺวา ทินฺนานิ สตสหสฺสกฺขตฺตุํ ลภิ. เอกํ ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ ทสาติอาทินา นเยน ลทฺธานํ ปน คณนา นาม นตฺถิ. ตถาคเต กิร ปรินิพฺพุเต เถโร สกลชมฺพุทีปํ วิจริตฺวา สพฺพวิหาเรสุ ภิกฺขูนํ อตฺตโน สนฺตกาเนว ปตฺตจีวรานิ อทาสิ.
ตทา มาคณฺฑิยาปิ ‘‘ยมหํ กโรมิ. ตํ ตถา อหุตฺวา อฺถาว โหติ, อิทานิ กึ นุ โข กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา, ‘‘อตฺเถโส อุปาโย’’ติ รฺเ อุยฺยานกีฬํ คจฺฉนฺเต จูฬปิตุ สาสนํ ปหิณิ – ‘‘สามาวติยา ปาสาทํ คนฺตฺวา, ทุสฺสโกฏฺาคารานิ จ เตลโกฏฺาคารานิ จ วิวราเปตฺวา, ทุสฺสานิ เตลจาฏีสุ เตเมตฺวา เตเมตฺวา ถมฺเภ เวเตฺวา ตา สพฺพาปิ เอกโต กตฺวา ทฺวารํ ปิทหิตฺวา พหิ ยนฺตกํ ทตฺวา ทณฺฑทีปิกาหิ เคเห อคฺคึ ททมาโน โอตริตฺวา คจฺฉตู’’ติ. โส ปาสาทํ อภิรุยฺห โกฏฺาคารานิ ¶ วิวริตฺวา วตฺถานิ เตลจาฏีสุ เตเมตฺวา เตเมตฺวา ถมฺเภ เวเตุํ อารภิ. อถ นํ สามาวติปฺปมุขา อิตฺถิโย ‘‘กึ เอตํ จูฬปิตา’’ติ วทนฺติโย อุปสงฺกมึสุ. ‘‘อมฺมา, ราชา ทฬฺหิกมฺมตฺถาย อิเม ถมฺเภ เตลปิโลติกาหิ เวาเปติ, ราชเคเห นาม สุยุตฺตํ ทุยุตฺตํ ทุชฺชานํ, มา เม สนฺติเก โหถ, อมฺมา’’ติ เอวํ วตฺวา ตา อาคตา คพฺเภ ปเวเสตฺวา ทฺวารานิ ปิทหิตฺวา พหิ ยนฺตกํ ทตฺวา อาทิโต ปฏฺาย อคฺคึ เทนฺโต โอตริ. สามาวตี ตาสํ โอวาทํ อทาสิ – ‘‘อมฺหากํ อนมตคฺเค สํสาเร วิจรนฺตีนํ เอวเมว อคฺคินา ฌายมานานํ อตฺตภาวานํ ปริจฺเฉโท พุทฺธาเณนปิ น สุกโร, อปฺปมตฺตา โหถา’’ติ. ตา เคเห ฌายนฺเต เวทนาปริคฺคหกมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺติโย กาจิ ทุติยผลํ, กาจิ ตติยผลํ ปาปุณึสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ, เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘อิธ, ภนฺเต, รฺโ อุเตนสฺส อุยฺยานคตสฺส อนฺเตปุรํ ทฑฺฒํ, ปฺจ จ อิตฺถิสตานิ กาลกตานิ ¶ สามาวติปฺปมุขานิ. ตาสํ, ภนฺเต, อุปาสิกานํ กา คติ, โก อภิสมฺปราโย’ติ? สนฺเตตฺถ, ภิกฺขเว, อุปาสิกาโย โสตาปนฺนา ¶ , สนฺติ สกทาคามิโย, สนฺติ อนาคามิโย, สพฺพา ตา, ภิกฺขเว ¶ , อุปาสิกาโย อนิปฺผลา กาลกตา’’ติ. อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘โมหสมฺพนฺธโน โลโก, ภพฺพรูโปว ทิสฺสติ;
อุปธีพนฺธโน พาโล, ตมสา ปริวาริโต;
สสฺสโตริว ขายติ, ปสฺสโต นตฺถิ กิฺจน’’นฺติ. (อุทา. ๗๐);
เอวฺจ ปน วตฺวา, ‘‘ภิกฺขเว, สตฺตา นาม วฏฺเฏ วิจรนฺตา นิจฺจกาลํ อปฺปมตฺตา หุตฺวา ปฺุกมฺมเมว น กโรนฺติ, ปมาทิโน หุตฺวา ปาปกมฺมมฺปิ กโรนฺติ. ตสฺมา วฏฺเฏ วิจรนฺตา สุขมฺปิ ทุกฺขมฺปิ อนุภวนฺตี’’ติ ธมฺมํ เทเสสิ.
ราชา ‘‘สามาวติยา เคหํ กิร ฌายตี’’ติ สุตฺวา เวเคนาคจฺฉนฺโตปิ อทฑฺเฒ สมฺปาปุณิตุํ นาสกฺขิ. อาคนฺตฺวา ปน เคหํ นิพฺพาเปนฺโต อุปฺปนฺนพลวโทมนสฺโส อมจฺจคณปริวุโต นิสีทิตฺวา สามาวติยา คุเณ อนุสฺสรนฺโต, ‘‘กสฺส นุ โข อิทํ กมฺม’’นฺติ จินฺเตตฺวา – ‘‘มาคณฺฑิยาย การิตํ ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา, ‘‘ตาเสตฺวา ปุจฺฉิยมานา น กเถสฺสติ, สณิกํ อุปาเยน ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อมจฺเจ ¶ อาห – ‘‘อมฺโภ, อหํ อิโต ปุพฺเพ อุฏฺาย สมุฏฺาย อาสงฺกิตปริสงฺกิโตว โหมิ, สามาวตี เม นิจฺจํ โอตารเมว คเวสติ, อิทานิ ปน เม จิตฺตํ นิพฺพุตํ ภวิสฺสติ, สุเขน จ วสิตุํ ลภิสฺสามี’’ติ, เต ‘‘เกน นุ โข, เทว, อิทํ กต’’นฺติ อาหํสุ. ‘‘มยิ สิเนเหน เกนจิ กตํ ภวิสฺสตี’’ติ. มาคณฺฑิยาปิ สมีเป ิตา ตํ สุตฺวา, ‘‘นาฺโ โกจิ กาตุํ สกฺขิสฺสติ, มยา กตํ, เทว, อหํ จูฬปิตรํ อาณาเปตฺวา กาเรสิ’’นฺติ อาห. ‘‘ตํ เปตฺวา อฺโ มยิ สิเนโห สตฺโต นาม นตฺถิ, ปสนฺโนสฺมิ, วรํ เต ทมฺมิ, อตฺตโน าติคณํ ปกฺโกสาเปหี’’ติ. สา าตกานํ สาสนํ ปหิณิ – ‘‘ราชา เม ปสนฺโน วรํ เทติ, สีฆํ อาคจฺฉนฺตู’’ติ. ราชา อาคตาคตานํ มหนฺตํ สกฺการํ กาเรสิ. ตํ ทิสฺวา ตสฺสา อฺาตกาปิ ลฺชํ ทตฺวา ‘‘มยํ มาคณฺฑิยาย าตกา’’ติ อาคจฺฉึสุ. ราชา เต สพฺเพ คาหาเปตฺวา ราชงฺคเณ นาภิปฺปมาเณ อาวาเฏ ขณาเปตฺวา เต ตตฺถ นิสีทาเปตฺวา ปํสูหิ ปูเรตฺวา อุปริ ปลาเล วิกิราเปตฺวา อคฺคึ ทาเปสิ. จมฺมสฺส ทฑฺฒกาเล อยนงฺคเลน ¶ กสาเปตฺวา ขณฺฑาขณฺฑํ หีราหีรํ กาเรสิ. มาคณฺฑิยาย ¶ สรีรโตปิ ติขิเณน ¶ สตฺเถน ฆนฆนฏฺาเนสุ มํสํ อุปฺปาเฏตฺวา เตลกปาลํ อุทฺธนํ อาโรเปตฺวา ปูเว วิย ปจาเปตฺวา ตเมว ขาทาเปสิ.
ธมฺมสภายมฺปิ ภิกฺขู กถํ สมุฏฺาเปสุํ, ‘‘อนนุจฺฉวิกํ วต, อาวุโส, เอวรูปาย สทฺธาย ปสนฺนาย อุปาสิกาย เอวรูปํ มรณ’’นฺติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา, ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขเว, อิมสฺมึ อตฺตภาเว สามาวติปฺปมุขานํ อิตฺถีนํ เอตํ อยุตฺตํ สมฺปตฺตํ. ปุพฺเพ กตกมฺมสฺส ปน ยุตฺตเมว เอตาหิ ลทฺธ’’นฺติ วตฺวา, ‘‘กึ, ภนฺเต, เอตาหิ ปุพฺเพ กตํ, ตํ อาจิกฺขถา’’ติ เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ –
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต ราชเคเห นิพทฺธํ อฏฺ ปจฺเจกพุทฺธา ภฺุชนฺติ. ปฺจสตา อิตฺถิโย เต อุปฏฺหนฺติ. เตสุ สตฺต ปจฺเจกพุทฺธา หิมวนฺตํ คจฺฉนฺติ, เอโก นทีตีเร เอกํ ติณคหนํ อตฺถิ, ตตฺถ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา นิสีทิ. อเถกทิวสํ ราชา ปจฺเจกพุทฺเธสุ คเตสุ ตา อิตฺถิโย อาทาย นทิยํ อุทกกีฬํ ¶ กีฬิตุํ คโต. ตตฺถ ตา อิตฺถิโย ทิวสภาคํ อุทเก กีฬิตฺวา อุตฺตริตฺวา สีตปีฬิตา อคฺคึ วิสิพฺเพตุกามา ‘‘อมฺหากํ อคฺคิกรณฏฺานํ โอโลเกถา’’ติ อปราปรํ วิจรนฺติโย ตํ ติณคหนํ ทิสฺวา, ‘‘ติณราสี’’ติ สฺาย ตํ ปริวาเรตฺวา ิตา อคฺคึ อทํสุ. ติเณสุ ฌายิตฺวา ปตนฺเตสุ ปจฺเจกพุทฺธํ ทิสฺวา, ‘‘นฏฺามฺหา, อมฺหากํ รฺโ ปจฺเจกพุทฺโธ ฌายติ, ราชา ตฺวา อมฺเห นาเสสฺสติ, สุทฑฺฒํ นํ กริสฺสามา’’ติ สพฺพา ตา อิตฺถิโย อิโต จิโต จ ทารูนิ อาหริตฺวา ตสฺส อุปริ ทารุราสึ กรึสุ. มหาทารุราสิ อโหสิ. อถ นํ อาลิมฺเปตฺวา, ‘‘อิทานิ ฌายิสฺสตี’’ติ ปกฺกมึสุ. ตา ปมํ อสฺเจตนิกา หุตฺวา กมฺมุนา น พชฺฌึสุ, อิทานิ ปจฺฉา สฺเจตนาย กมฺมุนา พชฺฌึสุ. ปจฺเจกพุทฺธํ ปน อนฺโตสมาปตฺติยํ สกฏสหสฺเสหิ ทารูนิ อาหริตฺวา อาลิมฺเปนฺตาปิ อุสฺมาการมตฺตมฺปิ คเหตุํ น สกฺโกนฺติ. ตสฺมา โส สตฺตเม ทิวเส อุฏฺาย ยถาสุขํ อคมาสิ. ตา ตสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ นิรเย ปจฺจิตฺวา ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสน อตฺตภาวสเต อิมินาว นิยาเมน เคเห ฌายมาเน ฌายึสุ. อิทํ เอตาสํ ปุพฺพกมฺมนฺติ.
เอวํ ¶ วุตฺเต ภิกฺขู สตฺถารํ ปฏิปุจฺฉึสุ – ‘‘ขุชฺชุตฺตรา ปน, ภนฺเต, เกน กมฺเมน ขุชฺชา ชาตา, เกน กมฺเมน มหาปฺา, เกน กมฺเมน โสตาปตฺติผลํ อธิคตา, เกน กมฺเมน ปเรสํ เปสนการิตา ¶ ชาตา’’ติ? ภิกฺขเว, ตสฺเสว รฺโ พาราณสิยํ รชฺชํ กรณกาเล สฺเวว ¶ ปจฺเจกพุทฺโธ โถกํ ขุชฺชธาตุโก อโหสิ. อเถกา อุปฏฺายิกา อิตฺถี กมฺพลํ ปารุปิตฺวา สุวณฺณสรณํ คเหตฺวา, ‘‘อมฺหากํ ปจฺเจกพุทฺโธ เอวฺจ เอวฺจ วิจรตี’’ติ ขุชฺชา หุตฺวา ตสฺส วิจรณาการํ ทสฺเสสิ. ตสฺส นิสฺสนฺเทน ขุชฺชา ชาตา. เต ปน ปจฺเจกพุทฺเธ ปมทิวเส ราชเคเห นิสีทาเปตฺวา ปตฺเต คาหาเปตฺวา ปายาสสฺส ปูเรตฺวา ทาเปสิ. อุณฺหปายาสสฺส ปูเร ปตฺเต ปจฺเจกพุทฺธา ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา คณฺหนฺติ. สา อิตฺถี เต ตถา กโรนฺเต ทิสฺวา อตฺตโน สนฺตกานิ อฏฺ ทนฺตวลยานิ ทตฺวา, ‘‘อิธ เปตฺวา คณฺหถา’’ติ อาห. เตสุ ตถา กตฺวา ตํ โอโลเกตฺวา ิเตสุ เตสํ อธิปฺปายํ ตฺวา, ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต, อมฺหากํ เอเตหิ อตฺโถ. ตุมฺหากฺเว เอตานิ ปริจฺจตฺตานิ, คเหตฺวา คจฺฉถา’’ติ อาห. เต คเหตฺวา นนฺทมูลกปพฺภารํ อคมํสุ. อชฺชตนาปิ ตานิ วลยานิ อโรคาเนว. สา ตสฺส กมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน อิทานิ ติปิฏกธรา มหาปฺา ชาตา. ปจฺเจกพุทฺธานํ กตอุปฏฺานสฺส นิสฺสนฺเทน ปน โสตาปตฺติผลํ ปตฺตา. อิทมสฺสา พุทฺธนฺตเร ปุพฺพกมฺมํ.
กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล ปน เอกา พาราณสิเสฏฺิโน ธีตา วฑฺฒมานกจฺฉายาย อาทาสํ คเหตฺวา อตฺตานํ อลงฺกโรนฺตี นิสีทิ. อถสฺสา วิสฺสาสิกา เอกา ขีณาสวา ¶ ภิกฺขุนี ตํ ทฏฺุํ อคมาสิ. ภิกฺขุนิโย หิ ขีณาสวาปิ สายนฺหสมเย อุปฏฺากกุลานิ ทฏฺุกามา โหนฺติ. ตสฺมึ ปน ขเณ เสฏฺิธีตาย สนฺติเก กาจิ เปสนการิกา นตฺถิ, สา ‘‘วนฺทามิ, อยฺเย, เอตํ ตาว เม ปสาธนเปฬกํ คเหตฺวา เทถา’’ติ อาห. เถรี จินฺเตสิ – ‘‘สจสฺสา อิมํ คณฺหิตฺวา น ทสฺสามิ, มยิ อาฆาตํ กตฺวา นิรเย นิพฺพตฺติสฺสติ. สเจ ปน ทสฺสามิ, ปรสฺส เปสนการิกา หุตฺวา นิพฺพตฺติสฺสติ. นิรยสนฺตาปโต โข ปน ปรสฺส เปสนภาโวว เสยฺโย’’ติ. ‘‘สา อนุทยํ ปฏิจฺจ ตํ คเหตฺวา ตสฺสา อทาสิ. ตสฺส กมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน ปเรสํ เปสนการิกา ชาตา’’ติ.
อถ ¶ ปุเนกทิวสํ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘สามาวติปฺปมุขา ปฺจสตา อิตฺถิโย เคเห อคฺคินา ฌายึสุ, มาคณฺฑิยาย าตกา อุปริ ปลาลคฺคึ ทตฺวา อยนงฺคเลหิ ภินฺนา, มาคณฺฑิยา ปกฺกุถิตเตเล ปกฺกา, เก นุ โข เอตฺถ ชีวนฺติ นาม, เก มตา นามา’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา, ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต, ‘‘ภิกฺขเว, เย เกจิ ปมตฺตา, เต วสฺสสตํ ชีวนฺตาปิ มตาเยว นาม. เย อปฺปมตฺตา, เต มตาปิ ชีวนฺติเยว. ตสฺมา มาคณฺฑิยา ชีวนฺตีปิ มตาเยว นาม, สามาวติปฺปมุขา ปฺจสตา อิตฺถิโย มตาปิ ชีวนฺติเยว นาม. น หิ, ภิกฺขเว, อปฺปมตฺตา มรนฺติ นามา’’ติ วตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘อปฺปมาโท ¶ ¶ อมตปทํ, ปมาโท มจฺจุโน ปทํ;
อปฺปมตฺตา น มียนฺติ, เย ปมตฺตา ยถา มตา.
‘‘เอวํ วิเสสโต ตฺวา, อปฺปมาทมฺหิ ปณฺฑิตา;
อปฺปมาเท ปโมทนฺติ, อริยานํ โคจเร รตา.
‘‘เต ฌายิโน สาตติกา, นิจฺจํ ทฬฺหปรกฺกมา;
ผุสนฺติ ธีรา นิพฺพานํ, โยคกฺเขมํ อนุตฺตร’’นฺติ.
ตตฺถ อปฺปมาโทติ ปทํ มหนฺตํ อตฺถํ ทีเปติ, มหนฺตํ อตฺถํ คเหตฺวา ติฏฺติ. สกลมฺปิ หิ เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ อาหริตฺวา กถิยมานํ อปฺปมาทปทเมว โอตรติ. เตน วุตฺตํ –
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยานิ กานิจิ ชงฺคลานํ ปาณานํ ปทชาตานิ, สพฺพานิ ตานิ หตฺถิปเท สโมธานํ คจฺฉนฺติ, หตฺถิปทํ เตสํ อคฺคมกฺขายติ ยทิทํ มหนฺตตฺเตน. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สพฺเพเต อปฺปมาทมูลกา อปฺปมาทสโมสรณา, อปฺปมาโท เตสํ ธมฺมานํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๔๐).
โส ปเนส อตฺถโต สติยา อวิปฺปวาโส นาม. นิจฺจํ อุปฏฺิตาย สติยา เจตํ นามํ. อมตปทนฺติ อมตํ วุจฺจติ นิพฺพานํ. ตฺหิ อชาตตฺตา นุ ชียติ น มียติ, ตสฺมา อมตนฺติ วุจฺจติ. ปชฺชนฺติ อิมินาติ ปทํ, อมตํ ¶ ปาปุณนฺตีติ อตฺโถ. อมตสฺส ปทํ อมตปทํ, อมตสฺส อธิคมูปาโยติ วุตฺตํ โหติ, ปมาโทติ ปมชฺชนภาโว, มุฏฺสฺสติสงฺขาตสฺส สติยา โวสคฺคสฺเสตํ นามํ. มจฺจุโนติ ¶ มรณสฺส. ปทนฺติ อุปาโย มคฺโค. ปมตฺโต หิ ชาตึ นาติวตฺตติ, ชาโต ชียติ เจว มียติ จาติ ปมาโท มจฺจุโน ปทํ นาม โหติ, มรณํ อุเปติ. อปฺปมตฺตา น มียนฺตีติ สติยา สมนฺนาคตา หิ อปฺปมตฺตา น มรนฺติ. อชรา อมรา โหนฺตีติ น สลฺลกฺเขตพฺพํ. น หิ โกจิ สตฺโต อชโร อมโร นาม อตฺถิ, ปมตฺตสฺส ปน วฏฺฏํ นาม อปริจฺฉินฺนํ, อปฺปมตฺตสฺส ปริจฺฉินฺนํ. ตสฺมา ปมตฺตา ชาติอาทีหิ อปริมุตฺตตฺตา ชีวนฺตาปิ มตาเยว นาม. อปฺปมตฺตา ปน อปฺปมาทลกฺขณํ วฑฺเฒตฺวา ขิปฺปํ มคฺคผลานิ สจฺฉิกตฺวา ทุติยตติยอตฺตภาเวสุ น นิพฺพตฺตนฺติ. ตสฺมา เต ชีวนฺตาปิ มตาปิ น มียนฺติเยว นาม. เย ปมตฺตา ยถา มตาติ เย ปน สตฺตา ปมตฺตา, เต ปมาทมรเณน มตตฺตา, ยถา หิ ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉเทน มตา ทารุกฺขนฺธสทิสา อปคตวิฺาณา ¶ , ตเถว โหนฺติ. เตสมฺปิ หิ มตานํ วิย คหฏฺานํ ตาว ‘‘ทานํ ทสฺสาม, สีลํ รกฺขิสฺสาม, อุโปสถกมฺมํ กริสฺสามา’’ติ เอกจิตฺตมฺปิ น อุปฺปชฺชติ, ปพฺพชิตานมฺปิ ‘‘อาจริยุปชฺฌายวตฺตาทีนิ ปูเรสฺสาม, ธุตงฺคานิ สมาทิยิสฺสาม, ภาวนํ วฑฺเฒสฺสามา’’ติ น อุปฺปชฺชตีติ มเตน เต กึ นานากรณาว โหนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เย ปมตฺตา ยถา มตา’’ติ.
เอวํ วิเสสโต ตฺวาติ ปมตฺตสฺส วฏฺฏโต นิสฺสรณํ นตฺถิ, อปฺปมตฺตสฺส อตฺถีติ เอวํ ¶ วิเสสโตว ชานิตฺวา. เก ปเนตํ วิเสสํ ชานนฺตีติ? อปฺปมาทมฺหิ ปณฺฑิตาติ เย ปณฺฑิตา เมธาวิโน สปฺปฺา อตฺตโน อปฺปมาเท ตฺวา อปฺปมาทํ วฑฺเฒนฺติ, เต เอวํ วิเสสการณํ ชานนฺติ. อปฺปมาเท ปโมทนฺตีติ เต เอวํ ตฺวา ตสฺมึ อตฺตโน อปฺปมาเท ปโมทนฺติ, ปหํสิตมุขา ตุฏฺปหฏฺา โหนฺติ. อริยานํ โคจเร รตาติ เต เอวํ อปฺปมาเท ปโมทนฺตา ตํ อปฺปมาทํ วฑฺเฒตฺวา อริยานํ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกานํ โคจรสงฺขาเต จตุสติปฏฺานาทิเภเท สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺเม นววิธโลกุตฺตรธมฺเม จ รตา นิรตา, อภิรตา โหนฺตีติ อตฺโถ.
เต ¶ ฌายิโนติ เต อปฺปมตฺตา ปณฺฑิตา อฏฺสมาปตฺติสงฺขาเตน อารมฺมณูปนิชฺฌาเนน วิปสฺสนามคฺคผลสงฺขาเตน ลกฺขณูปนิชฺฌาเนน จาติ ทุวิเธนปิ ฌาเนน ฌายิโน. สาตติกาติ อภินิกฺขมนกาลโต ปฏฺาย ยาว อรหตฺตมคฺคา สตตํ ปวตฺตกายิกเจตสิกวีริยา. นิจฺจํ ทฬฺหปรกฺกมาติ ยํ ตํ ปุริสถาเมน ปุริสวีริเยน ปุริสปรกฺกเมน ปตฺตพฺพํ, น ตํ อปาปุณิตฺวา วีริยสฺส สณฺานํ ภวิสฺสตีติ เอวรูเปน วีริเยน อนฺตรา อโนสกฺกิตฺวา นิจฺจปฺปวตฺเตน ทฬฺหปรกฺกเมน สมนฺนาคตา. ผุสนฺตีติ เอตฺถ ทฺเว ผุสนา าณผุสนา จ, วิปากผุสนา จ. ตตฺถ จตฺตาโร มคฺคา าณผุสนา นาม, จตฺตาริ ผลานิ วิปากผุสนา นาม. เตสุ อิธ วิปากผุสนา อธิปฺเปตา. อริยผเลน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรนฺโต ¶ ธีรา ปณฺฑิตา ตาย วิปากผุสนาย ผุสนฺติ, นิพฺพานํ สจฺฉิกโรนฺติ. โยคกฺเขมํ อนุตฺตรนฺติ เย จตฺตาโร โยคา มหาชนํ วฏฺเฏ โอสีทาเปนฺติ, เตหิ เขมํ นิพฺภยํ สพฺเพหิ โลกิยโลกุตฺตรธมฺเมหิ เสฏฺตฺตา อนุตฺตรนฺติ.
เทสนาปริโยสาเน พหู โสตาปนฺนาทโย อเหสุํ. เทสนา มหาชนสฺส สาตฺถิกา ชาตาติ.
สามาวตีวตฺถุ ปมํ.
๒. กุมฺภโฆสกเสฏฺิวตฺถุ
อุฏฺานวโตติ ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต กุมฺภโฆสกํ อารพฺภ กเถสิ. ราชคหนครสฺมิฺหิ ราชคหเสฏฺิโน เคเห อหิวาตโรโค อุปฺปชฺชิ, ตสฺมึ อุปฺปนฺเน มกฺขิกา อาทึ กตฺวา ยาว คาวา ปมํ ติรจฺฉานคตา มรนฺติ, ตโต ทาสกมฺมกโร, สพฺพปจฺฉา เคหสามิกา, ตสฺมา โส โรโค สพฺพปจฺฉา เสฏฺิฺจ ชายฺจ คณฺหิ. เต โรเคน ผุฏฺา ปุตฺตํ สนฺติเก ิตํ โอโลเกตฺวา อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ ตํ อาหํสุ – ‘‘ตาต, อิมสฺมึ กิร โรเค อุปฺปนฺเน ภิตฺตึ ภินฺทิตฺวา ปลายนฺตาว ชีวิตํ ลภนฺติ, ตฺวํ อมฺเห อโนโลเกตฺวา ปลายิตฺวา ชีวนฺโต ปุนาคนฺตฺวา อมฺหากํ อสุกฏฺาเน นาม จตฺตาลีส ธนโกฏิโย ¶ นิทหิตฺวา ปิตา, ตา อุทฺธริตฺวา ชีวิกํ กปฺเปยฺยาสี’’ติ. โส ¶ เตสํ วจนํ สุตฺวา รุทมาโน มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา มรณภยภีโต ภิตฺตึ ภินฺทิตฺวา ปลายิตฺวา ปพฺพตคหนํ คนฺตฺวา ทฺวาทส วสฺสานิ ตตฺถ วสิตฺวา มาตาปิตุวสนฏฺานํ ปจฺจาคฺฉิ.
อถ นํ ทหรกาเล คนฺตฺวา ปรูฬฺหเกสมสฺสุกาเล อาคตตฺตา น โกจิ สฺชานิ. โส มาตาปิตูหิ ทินฺนสฺาวเสน ธนฏฺานํ คนฺตฺวา ธนสฺส อโรคภาวํ ตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘มํ น โกจิ สฺชานาติ, สจาหํ ธนํ อุทฺธริตฺวา วลฺชิสฺสามิ, ‘เอเกน ทุคฺคเตน นิธิ อุทฺธโฏ’ติ มํ คเหตฺวา วิเหเยฺยุํ, ยํนูนาหํ ภตึ กตฺวา ชีเวยฺย’’นฺติ. อเถกํ ปิโลติกํ นิวาเสตฺวา, ‘‘อตฺถิ โกจิ ภตเกน อตฺถิโก’’ติ ปุจฺฉนฺโต ภตกวีถึ ปาปุณิ. อถ นํ ภตกา ทิสฺวา, ‘‘สเจ อมฺหากํ เอกํ กมฺมํ กริสฺสสิ, ภตฺตเวตนํ เต ทสฺสามา’’ติ อาหํสุ. ‘‘กึ กมฺมํ นามา’’ติ? ‘‘ปโพธนโจทนกมฺมํ. สเจ อุสฺสหสิ, ปาโตว อุฏฺาย ‘ตาตา, อุฏฺหถ, สกฏานิ สนฺนยฺหถ, โคเณ โยเชถ, หตฺถิอสฺสานํ ติณตฺถาย คมนเวลา; อมฺมา, ตุมฺเหปิ อุฏฺหถ, ยาคุํ ปจถ, ภตฺตํ ปจถา’ติ วิจริตฺวา อาโรเจหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. อถสฺส วสนตฺถาย เอกํ ฆรํ อทํสุ. โส เทวสิกํ ตํ กมฺมํ อกาสิ.
อถสฺส เอกทิวสํ ราชา พิมฺพิสาโร สทฺทมสฺโสสิ. โส ปน สพฺพรวฺู อโหสิ. ตสฺมา ‘‘มหาธนสฺส ปุริสสฺเสส สทฺโท’’ติ อาห. อถสฺส สนฺติเก ิตา เอกา ปริจาริกา ‘‘ราชา ยํ วา ¶ ตํ วา น กเถสฺสติ, อิทํ มยา าตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา – ‘‘คจฺฉ, ตาต, เอตํ ชานาหี’’ติ เอกํ ปุริสํ ปหิณิ. โส เวเคน คนฺตฺวา ตํ ทิสฺวา อาคนฺตฺวา, ‘‘เอโก ภตกานํ ภติการโก กปณมนุสฺโส เอโส’’ติ อาโรเจสิ. ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ตุณฺหี หุตฺวา ทุติยทิวเสปิ ตติยทิวเสปิ ตํ ตสฺส สทฺทํ สุตฺวา ตเถว อาห. สาปิ ปริจาริกา ¶ ตเถว จินฺเตตฺวา ปุนปฺปุนํ เปเสตฺวา, ‘‘กปณมนุสฺโส เอโส’’ติ วุตฺเต จินฺเตสิ – ‘‘ราชา ‘กปณมนุสฺโส เอโส’ติ วจนํ สุตฺวาปิ น สทฺทหติ, ปุนปฺปุนํ ‘มหาธนสฺส ปุริสสฺเสส สทฺโท’ติ วทติ, ภวิตพฺพเมตฺถ การเณน, ยถาสภาวโต เอตํ าตุํ วฏฺฏตี’’ติ. สา ราชานํ อาห, ‘‘เทว ¶ , อหํ สหสฺสํ ลภมานา ธีตรํ อาทาย คนฺตฺวา เอตํ ธนํ ราชกุลํ ปเวเสสฺสามี’’ติ. ราชา ตสฺสา สหสฺสํ ทาเปสิ.
สา ตํ คเหตฺวา ธีตรํ เอกํ มลินธาตุกํ วตฺถํ นิวาสาเปตฺวา ตาย สทฺธึ ราชเคหโต นิกฺขมิตฺวา มคฺคปฏิปนฺนา วิย ภตกวีถึ คนฺตฺวา เอกํ ฆรํ ปวิสิตฺวา, ‘‘อมฺม, มยํ มคฺคปฏิปนฺนา, เอกาหทฺวีหํ อิธ วิสฺสมิตฺวา คมิสฺสามา’’ติ อาห. ‘‘อมฺม, พหูนิ ฆรมานุสกานิ, น สกฺกา อิธ วสิตุํ, เอตํ กุมฺภโฆสกสฺส เคหํ ตุจฺฉํ, ตตฺถ คจฺฉถา’’ติ. สา ตตฺถ คนฺตฺวา, ‘‘สามิ, มยํ มคฺคปฏิปนฺนกา, เอกาหทฺวีหํ อิธ วสิสฺสามา’’ติ วตฺวา เตน ปุนปฺปุนํ ปฏิกฺขิตฺตาปิ, ‘‘สามิ, อชฺเชกทิวสมตฺตํ วสิตฺวา ปาโตว คมิสฺสามา’’ติ นิกฺขมิตุํ น อิจฺฉิ. สา ตตฺเถว วสิตฺวา ปุนทิวเส ตสฺส อรฺคมนเวลาย, ‘‘สามิ, ตว นิวาปํ ทตฺวา ยาหิ ¶ , อาหารํ เต ปจิสฺสามี’’ติ วตฺวา, ‘‘อลํ, อมฺม, อหเมว ปจิตฺวา ภฺุชิสฺสามี’’ติ วุตฺเต ปุนปฺปุนํ นิพนฺธิตฺวา เตน ทินฺเน คหิตมตฺตเกเยว กตฺวา อนฺตราปณโต ภาชนานิ เจว ปริสุทฺธตณฺฑุลาทีนิ จ อาหราเปตฺวา ราชกุเล ปจนนิยาเมน สุปริสุทฺธํ โอทนํ, สาธุรสานิ จ ทฺเว ตีณิ สูปพฺยฺชนานิ ปจิตฺวา ตสฺส อรฺโต อาคตสฺส อทาสิ. อถ นํ ภฺุชิตฺวา มุทุจิตฺตตํ อาปนฺนํ ตฺวา, ‘‘สามิ, กิลนฺตมฺห, เอกาหทฺวีหํ อิเธว โหมา’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ.
อถสฺส สายมฺปิ ปุนทิวเสปิ มธุรภตฺตํ ปจิตฺวา อทาสิ. อถ มุทุจิตฺตตํ ตสฺส ตฺวา ‘‘สามิ, กติปาหํ อิเธว วสิสฺสามา’’ติ. ตตฺถ วสมานา ติขิเณน สตฺเถน ตสฺส มฺจวาณํ เหฏฺาอฏนิยํ ตหํ ตหํ ฉินฺทิ. มฺโจ ตสฺมึ อาคนฺตฺวา นิสินฺนมตฺเตเยว เหฏฺา โอลมฺพิ. โส ‘‘กสฺมา อยํ มฺโจ เอวํ ฉิชฺชิตฺวา คโต’’ติ อาห. ‘‘สามิ, ทหรทารเก วาเรตุํ น สกฺโกมิ, เอตฺเถว สนฺนิปตนฺตี’’ติ. ‘‘อมฺม, อิทํ เม ทุกฺขํ ตุมฺเห นิสฺสาย ชาตํ. อหฺหิ ปุพฺเพ กตฺถจิ คจฺฉนฺโต ทฺวารํ ปิทหิตฺวา คจฺฉามี’’ติ. ‘‘กึ กโรมิ, ตาต, วาเรตุํ น สกฺโกมี’’ติ. สา อิมินาว นิยาเมน ทฺเว ตโย ทิวเส ฉินฺทิตฺวา เตน อุชฺฌายิตฺวา ขียิตฺวา วุจฺจมานาปิ ตเถว วตฺวา ปุน เอกํ ทฺเว รชฺชุเก เปตฺวา เสเส ฉินฺทิ. ตํ ทิวสํ ¶ ตสฺมึ นิสินฺนมตฺเตเยว สพฺพํ วาณํ ภูมิยํ ปติ, สีสํ ชณฺณุเกหิ สทฺธึ เอกโต อโหสิ, โส อุฏฺาย, ‘‘กึ กโรมิ, อิทานิ กุหึ คมิสฺสามิ ¶ , นิปชฺชนมฺจสฺสปิ ตุมฺเหหิ อสามิโก ¶ วิย กโตมฺหี’’ติ อาห. ‘‘ตาต, กึ กโรมิ, ปฏิวิสฺสกทารเก วาเรตุํ น สกฺโกมิ, โหตุ, มา จินฺตยิ, อิมาย นาม เวลาย กุหึ คมิสฺสสี’’ติ ธีตรํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘อมฺม, ตว ภาติกสฺส นิปชฺชโนกาสํ กโรหี’’ติ อาห. สา เอกปสฺเส สยิตฺวา ‘‘อิธาคจฺฉ, สามี’’ติ อาห. อิตโรปิ นํ ‘‘คจฺฉ, ตาต, ภคินิยา สทฺธึ นิปชฺชา’’ติ วเทสิ. โส ตาย สทฺธึ เอกมฺเจ นิปชฺชิตฺวา ตํ ทิวสฺเว สนฺถวํ อกาสิ, กุมาริกา ปโรทิ. อถ นํ มาตา ปุจฺฉิ – ‘‘กึ, อมฺม, โรทสี’’ติ? ‘‘อมฺม, อิทํ นาม ชาต’’นฺติ. ‘‘โหตุ, อมฺม, กึ สกฺกา กาตุํ, ตยาปิ เอกํ ภตฺตารํ อิมินาเปกํ ปาทปริจาริกํ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ ตํ ชามาตรํ อกาสิ. เต สมคฺควาสํ วสึสุ.
สา กติปาหจฺจเยน รฺโ สาสนํ เปเสสิ – ‘‘ภตกวีถิยํ ฉณํ กโรนฺตุ. ยสฺส ปน ฆเร ฉโณ น กรียติ, ตสฺส เอตฺตโก นาม ทณฺโฑติ โฆสนํ กาเรตู’’ติ. ราชา ตถา กาเรสิ. อถ นํ สสฺสุ อาห – ‘‘ตาต, ภตกวีถิยํ ราชาณาย ฉโณ กตฺตพฺโพ ชาโต, กึ กโรมา’’ติ? ‘‘อมฺม, อหํ ภตึ กโรนฺโตปิ ชีวิตุํ น สกฺโกมิ, กึ กริสฺสามี’’ติ? ‘‘ตาต, ฆราวาสํ วสนฺตา นาม อิณมฺปิ คณฺหนฺติ, รฺโ ¶ อาณา อกาตุํ น ลพฺภา. อิณโต นาม เยน เกนจิ อุปาเยน มุจฺจิตุํ สกฺกา, คจฺฉ, กุโตจิ เอกํ วา ทฺเว วา กหาปเณ อาหรา’’ติ อาห. โส อุชฺฌายนฺโต ขียนฺโต คนฺตฺวา จตฺตาลีสโกฏิธนฏฺานโต เอกเมว กหาปณํ อาหริ. สา ตํ กหาปณํ รฺโ เปเสตฺวา อตฺตโน กหาปเณน ฉณํ กตฺวา ปุน กติปาหจฺจเยน ตเถว สาสนํ ปหิณิ. ปุน ราชา ตเถว ‘‘ฉณํ กโรนฺตุ, อกโรนฺตานํ เอตฺตโก ทณฺโฑ’’ติ อาณาเปสิ. ปุนปิ โส ตาย ตเถว วตฺวา นิปฺปีฬิยมาโน คนฺตฺวา ตโย กหาปเณ อาหริ. สา เตปิ กหาปเณ รฺโ เปเสตฺวา ปุน กติปาหจฺจเยน ตเถว สาสนํ ปหิณิ – ‘‘อิทานิ ปุริเส เปเสตฺวา อิมํ ปกฺโกสาเปตู’’ติ. ราชา เปเสสิ. ปุริสา คนฺตฺวา, ‘‘กุมฺภโฆสโก นาม กตโร’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ปริเยสนฺตา ตํ ทิสฺวา ‘‘เอหิ, โภ ราชา, ตํ ปกฺโกสตี’’ติ อาหํสุ. โส ภีโต ‘‘น มํ ราชา ชานาตี’’ติอาทีนิ วตฺวา คนฺตุํ น อิจฺฉิ. อถ นํ พลกฺกาเรน หตฺถาทีสุ คเหตฺวา ¶ อากฑฺฒึสุ. สา อิตฺถี เต ทิสฺวา, ‘‘อเร, ทุพฺพินีตา, ตุมฺเห มม ชามาตรํ หตฺถาทีสุ คเหตุํ อนนุจฺฉวิกา’’ติ ตชฺเชตฺวา, ‘‘เอหิ, ตาต, มา ภายิ, ราชานํ ทิสฺวา ตว หตฺถาทิคาหกานํ หตฺเถเยว ฉินฺทาเปสฺสามี’’ติ ธีตรํ อาทาย ปุรโต หุตฺวา ราชเคหํ ปตฺวา เวสํ ปริวตฺเตตฺวา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. อิตรมฺปิ ปริกฑฺฒิตฺวา อานยึสุเยว.
อถ นํ วนฺทิตฺวา ิตํ ราชา อาห – ‘‘ตฺวํ กุมฺภโฆสโก นามา’’ติ? ‘‘อาม, เทวา’’ติ ¶ . ‘‘กึ การณา มหาธนํ วฺเจตฺวา ขาทสี’’ติ ¶ ? ‘‘กุโต เม, เทว, ธนํ ภตึ กตฺวา ชีวนฺตสฺสา’’ติ? ‘‘มา เอวํ กริ, กึ อมฺเห วฺเจสี’’ติ? ‘‘น วฺเจมิ, เทว, นตฺถิ เม ธน’’นฺติ. อถสฺส ราชา เต กหาปเณ ทสฺเสตฺวา, ‘‘อิเม กสฺส กหาปณา’’ติ อาห. โส สฺชานิตฺวา, ‘‘อโห พาโลมฺหิ, กถํ นุ โข อิเม รฺโ หตฺถํ ปตฺตา’’ติ อิโต จิโต จ โอโลเกนฺโต ตา ทฺเวปิ ปฏิมณฺฑิตปสาธนา คพฺภทฺวารมูเล ิตา ทิสฺวา, ‘‘ภาริยํ วติทํ กมฺมํ, อิมาหิ รฺา ปโยชิตาหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ จินฺเตสิ. อถ นํ ราชา ‘‘วเทหิ, โภ, กสฺมา เอวํ กโรสี’’ติ อาห. ‘‘นิสฺสโย เม นตฺถิ, เทวา’’ติ. ‘‘มาทิโส นิสฺสโย ภวิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘กลฺยาณํ, เทว, สเจ เม เทโว อวสฺสโย โหตี’’ติ. ‘‘โหมิ, โภ, กิตฺตกํ เต ธน’’นฺติ? ‘‘จตฺตาลีสโกฏิโย, เทวา’’ติ. ‘‘กึ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘สกฏานิ เทวา’’ติ? ราชา อเนกสตานิ สกฏานิ โยชาเปตฺวา ปหิณิตฺวา ตํ ธนํ อาหราเปตฺวา ราชงฺคเณ ราสึ การาเปตฺวา ราชคหวาสิโน สนฺนิปาตาเปตฺวา, ‘‘อตฺถิ กสฺสจิ อิมสฺมึ นคเร ‘‘เอตฺตกํ ธน’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘นตฺถิ, เทวา’’ติ. ‘‘กึ ปนสฺส กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘สกฺการํ, เทวา’’ติ วุตฺเต มหนฺเตน สกฺกาเรน ตํ เสฏฺิฏฺาเน เปตฺวา ธีตรํ ตสฺเสว ทตฺวา เตน สทฺธึ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ปสฺสถิมํ ปุริสํ, เอวรูโป ธิติมา นาม นตฺถิ, จตฺตาลีสโกฏิวิภโว โหนฺโตปิ อุปฺปิลาวิตาการํ วา อสฺมิมานมตฺตํ วา น กโรติ, กปโณ วิย ปิโลติกํ ¶ นิวาเสตฺวา ภตกวีถิยํ ภตึ กตฺวา ชีวนฺโต มยา อิมินา นาม อุปาเยน าโต. ชานิตฺวา จ ปน ปกฺโกสาเปตฺวา สธนภาวํ สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา ตํ ธนํ อาหราเปตฺวา ¶ เสฏฺิฏฺาเน ปิโต, ธีตา จสฺส มยา ทินฺนา. ภนฺเต, มยา จ เอวรูโป ธิติมา น ทิฏฺปุพฺโพ’’ติ อาห.
ตํ สุตฺวา สตฺถา ‘‘เอวํ ชีวนฺตสฺส ชีวิกํ ธมฺมิกชีวิกํ นาม, มหาราช, โจริกาทิกมฺมํ ปน อิธโลเก เจว ปีเฬติ หึเสติ, ปรโลเก จ, ตโตนิทานํ สุขํ นาม นตฺถิ. ปุริสสฺส หิ ธนปาริชฺุกาเล กสึ วา ภตึ วา กตฺวา ชีวิกเมว ธมฺมิกชีวิกํ นาม. เอวรูปสฺส หิ วีริยสมฺปนฺนสฺส สติสมฺปนฺนสฺส กายวาจาหิ ปริสุทฺธกมฺมสฺส ปฺาย นิสมฺมการิโน กายาทีหิ สฺตสฺส ธมฺมชีวิกํ ชีวนฺตสฺส สติอวิปฺปวาเส ิตสฺส อิสฺสริยํ วฑฺฒติเยวา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘อุฏฺานวโต สตีมโต,
สุจิกมฺมสฺส นิสมฺมการิโน;
สฺตสฺส ¶ ธมฺมชีวิโน,
อปฺปมตฺตสฺส ยโสภิวฑฺฒตี’’ติ.
ตตฺถ อุฏฺานวโตติ อุฏฺานวีริยวนฺตสฺส. สติมโตติ สติสมฺปนฺนสฺส. สุจิกมฺมสฺสาติ นิทฺโทเสหิ นิรปราเธหิ กายกมฺมาทีหิ สมนฺนาคตสฺส. นิสมฺมการิโนติ เอวฺเจ ภวิสฺสติ, เอวํ กริสฺสามีติ วา, อิมสฺมึ กมฺเม เอวํ กเต อิทํ นาม ภวิสฺสตีติ วา เอวํ นิทานํ สลฺลกฺเขตฺวา โรคติกิจฺฉนํ ¶ วิย สพฺพกมฺมานิ นิสาเมตฺวา อุปธาเรตฺวา กโรนฺตสฺส. สฺตสฺสาติ กายาทีหิ สฺตสฺส นิจฺฉิทฺทสฺส. ธมฺมชีวิโนติ อคาริกสฺส ตุลากูฏาทีนิ วชฺเชตฺวา กสิโครกฺขาทีหิ, อนคาริกสฺส เวชฺชกมฺมทูตกมฺมาทีนิ วชฺเชตฺวา ธมฺเมน สเมน ภิกฺขาจริยาย ชีวิกํ กปฺเปนฺตสฺส. อปฺปมตฺตสฺสาติ อวิปฺปวุตฺถสติโน. ยโสภิวฑฺฒตีติ อิสฺสริยโภคสมฺปนฺนสงฺขาโต เจว กิตฺติวณฺณภณนสงฺขาโต จ ยโส อภิวฑฺฒตีติ.
คาถาปริโยสาเน กุมฺภโฆสโก โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. อฺเปิ พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสุ. เอวํ มหาชนสฺส สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา ชาตาติ.
กุมฺภโฆสกเสฏฺิวตฺถุ ทุติยํ.
๓. จูฬปนฺถกตฺเถรวตฺถุ
อุฏฺาเนนปฺปมาเทนาติ ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต จูฬปนฺถกตฺเถรํ อารพฺภ กเถสิ.
ราชคเห กิร ธนเสฏฺิกุลสฺส ธีตา วยปฺปตฺตกาเล มาตาปิตูหิ สตฺตภูมิกสฺส ปาสาทสฺส อุปริมตเล อติวิย รกฺขิยมานา โยพฺพนมทมตฺตตาย ปุริสโลลา หุตฺวา อตฺตโน ¶ ทาเสเนว สทฺธึ สนฺถวํ กตฺวา, ‘‘อฺเปิ เม อิทํ กมฺมํ ชาเนยฺยุ’’นฺติ ภีตา เอวมาห – ‘‘อมฺเหหิ อิมสฺมึ าเน น สกฺกา วสิตุํ. สเจ เม มาตาปิตโร อิมํ โทสํ ชานิสฺสนฺติ, ขณฺฑาขณฺฑิกํ มํ กริสฺสนฺติ. วิเทสํ คนฺตฺวา วสิสฺสามา’’ติ. เต หตฺถสารํ คเหตฺวา อคฺคทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา, ‘‘ยตฺถ วา ตตฺถ วา อฺเหิ อชานนฏฺานํ คนฺตฺวา วสิสฺสามา’’ติ อุโภปิ อคมํสุ. เตสํ เอกสฺมึ าเน วสนฺตานํ สํวาสมนฺวาย ตสฺสา กุจฺฉิสฺมึ คพฺโภ ปติฏฺาสิ. สา คพฺภปริปากํ อาคมฺม เตน สทฺธึ มนฺเตสิ, ‘‘คพฺโภ เม ปริปากํ คโต, าติพนฺธุวิรหิเต ¶ าเน คพฺภวุฏฺานํ นาม อุภินฺนมฺปิ อมฺหากํ ทุกฺขาวหํ, กุลเคหเมว คจฺฉามา’’ติ. โส ‘‘สจาหํ ตตฺถ คมิสฺสามิ, ชีวิตํ เม นตฺถี’’ติ ภเยน ‘‘อชฺช คจฺฉาม, สฺเว คจฺฉามา’’ติ ทิวเส อติกฺกาเมสิ. สา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ พาโล อตฺตโน โทสมหนฺตตาย คนฺตุํ น อุสฺสหติ, มาตาปิตโร นาม เอกนฺตหิตาว, อยํ คจฺฉตุ วา, มา วา, อหํ คมิสฺสามี’’ติ. สา ตสฺมึ เคหา นิกฺขนฺเต เคหปริกฺขารํ ปฏิสาเมตฺวา อตฺตโน กุลฆรํ คตภาวํ อนนฺตรเคหวาสีนํ อาโรเจตฺวา มคฺคํ ปฏิปชฺชิ.
โสปิ ฆรํ อาคนฺตฺวา ตํ อทิสฺวา ปฏิวิสฺสเก ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘สา กุลฆรํ คตา’’ติ สุตฺวา เวเคน อนุพนฺธิตฺวา อนฺตรามคฺเค สมฺปาปุณิ. ตสฺสาปิ ตตฺเถว คพฺภวุฏฺานํ อโหสิ. โส ‘‘กึ อิทํ, ภทฺเท’’ติ ¶ ปุจฺฉิ. ‘‘สามิ, เม เอโก ปุตฺโต ชาโต’’ติ. ‘‘อิทานิ กึ กริสฺสามา’’ติ? ‘‘ยสฺสตฺถาย มยํ กุลฆรํ คจฺเฉยฺยาม, ตํ กมฺมํ อนฺตรามคฺเคว นิปฺผนฺนํ, ตตฺถ คนฺตฺวา กึ กริสฺสาม, นิวตฺติสฺสามา’’ติ ทฺเวปิ เอกจิตฺตา หุตฺวา นิวตฺตึสุ. ตสฺส จ ทารกสฺส ปนฺเถ ชาตตฺตา ปนฺถโกติ นามํ กรึสุ. ตสฺสา นจิรสฺเสว อปโรปิ คพฺโภ ปติฏฺหิ. สพฺพํ ¶ ปุริมนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ. ตสฺสปิ ทารกสฺส ปนฺเถ ชาตตฺตา ปมชาตสฺส มหาปนฺถโกติ นามํ กตฺวา อิตรสฺส จูฬปนฺถโกติ นามํ กรึสุ. เต ทฺเวปิ ทารเก คเหตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานเมว คตา. เตสํ ตตฺถ วสนฺตานํ มหาปนฺถกทารโก อฺเ ทารเก ‘‘จูฬปิตา มหาปิตาติ, อยฺยโก อยฺยิกา’’ติ จ วทนฺเต สุตฺวา มาตรํ ปุจฺฉิ – ‘‘อมฺม, อฺเ ทารกา ‘อยฺยโก อยฺยิกา’ติปิ, ‘มหาปิตา จูฬปิตา’ติปิ วทนฺติ, กจฺจิ อมฺหากฺเว าตกา นตฺถี’’ติ? ‘‘อาม, ตาต, อมฺหากํ เอตฺถ าตกา นตฺถิ. ราชคหนคเร ปน โว ธนเสฏฺิ นาม อยฺยโก, ตตฺถ อมฺหากํ พหู าตกา’’ติ. ‘‘กสฺมา ตตฺถ น คจฺฉถ, อมฺมา’’ติ? สา อตฺตโน อคมนการณํ ปุตฺตสฺส อกเถตฺวา ปุตฺเตสุ ปุนปฺปุนํ กเถนฺเตสุ สามิกํ อาห – ‘‘อิเม ทารกา ¶ มํ อติวิย กิลเมนฺติ, กึ โน มาตาปิตโร ทิสฺวา มํสํ ขาทิสฺสนฺติ, เอหิ, ทารกานํ อยฺยกกุลํ ทสฺเสสฺสามา’’ติ? ‘‘อหํ สมฺมุขา ภวิตุํ น สกฺขิสฺสามิ, เต ปน นยิสฺสามี’’ติ. ‘‘สาธุ เยน เกนจิ อุปาเยน ทารกานํ อยฺยกกุลเมว ทฏฺุํ วฏฺฏตี’’ติ. ทฺเวปิ ชนา ทารเก อาทาย อนุปุพฺเพน ราชคหํ ปตฺวา นครทฺวาเร เอกิสฺสา สาลาย ปวิสิตฺวา ทารกมาตา ทฺเว ทารเก คเหตฺวา อตฺตโน อาคตภาวํ มาตาปิตูนํ อาโรจาเปสิ. เต ตํ สาสนํ สุตฺวา, ‘‘สํสาเร วิจรนฺตานํ น ปุตฺโต น ธีตา ภูตปุพฺพา นาม นตฺถิ, เต อมฺหากํ มหาปราธิกา, น สกฺกา เตหิ อมฺหากํ จกฺขุปเถ าตุํ, เอตฺตกํ นาม ธนํ คเหตฺวา ทฺเวปิ ชนา ผาสุกฏฺานํ คนฺตฺวา ชีวนฺตุ, ทารเก ปน อิธ เปเสนฺตู’’ติ ธนํ ทตฺวา ทูตํ ปาเหสุํ.
เตหิ ¶ เปสิตํ ธนํ คเหตฺวา ทารเก อาคตทูตานฺเว หตฺเถ ทตฺวา ปหิณึสุ. ทารกา อยฺยกกุเล วฑฺฒนฺติ. เตสุ จูฬปนฺถโก อติทหโร, มหาปนฺถโก ปน อยฺยเกน สทฺธึ ทสพลสฺส ธมฺมกถํ โสตุํ คจฺฉติ. ตสฺส นิจฺจํ สตฺถุ สนฺติกํ คจฺฉนฺตสฺส ปพฺพชฺชาย จิตฺตํ นมิ. โส อยฺยกํ อาห – ‘‘สเจ มํ อนุชาเนยฺยาถ, อหํ ปพฺพเชยฺย’’นฺติ ¶ . ‘‘กึ วเทสิ, ตาต, สกลสฺส โลกสฺสปิ เม ปพฺพชฺชาโต ตว ปพฺพชฺชา ภทฺทิกา. สเจ สกฺโกสิ ปพฺพชาหี’’ติ. ตํ ¶ สตฺถุ สนฺติกํ เนตฺวา, ‘‘กึ, คหปติ, ทารโก เต ลทฺโธ’’ติ วุตฺเต, ‘‘อาม, ภนฺเต, อยํ เม นตฺตา ตุมฺหากํ สนฺติเก ปพฺพชิตุกาโม’’ติ อาห. สตฺถา อฺตรํ ปิณฺฑปาตจาริกํ ภิกฺขุํ ‘‘อิมํ ทารกํ ปพฺพาเชหี’’ติ อาณาเปสิ. เถโร ตสฺส ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ อาจิกฺขิตฺวา ปพฺพาเชสิ. โส พหุํ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิตฺวา ปริปุณฺณวสฺโส อุปสมฺปทํ ลภิตฺวา โยนิโสมนสิกาเรน กมฺมฏฺานํ กโรนฺโต อรหตฺตํ ปาปุณิ. โส ฌานสุเขน ผลสุเขน วีตินาเมนฺโต จินฺเตสิ – ‘‘สกฺกา นุ โข อิทํ สุขํ จูฬปนฺถกสฺส ทาตุ’’นฺติ! ตโต อยฺยกเสฏฺิสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา เอวมาห – ‘‘มหาเสฏฺิ, สเจ อนุชาเนยฺยาถ, อหํ จูฬปนฺถกํ ปพฺพาเชยฺย’’นฺติ. ‘‘ปพฺพาเชถ, ภนฺเต’’ติ. เสฏฺิ กิร สาสเน จ สุปฺปสนฺโน, ‘‘กตรธีตาย โว เอเต ปุตฺตา’’ติ ปุจฺฉิยมาโน จ ‘‘ปลาตธีตายา’’ติ วตฺตุํ ลชฺชติ, ตสฺมา สุเขเนว เตสํ ปพฺพชฺชํ อนุชานิ. เถโร จูฬปนฺถกํ ปพฺพาเชตฺวา ¶ สีเลสุ ปติฏฺาเปสิ. โส ปพฺพชิตฺวาว ทนฺโธ อโหสิ.
‘‘ปทฺมํ ยถา โกกนทํ สุคนฺธํ,
ปาโต สิยา ผุลฺลมวีตคนฺธํ;
องฺคีรสํ ปสฺส วิโรจมานํ,
ตปนฺตมาทิจฺจมิวนฺตลิกฺเข’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๒๓; อ. นิ. ๕.๑๙๕) –
อิมํ เอกํ คาถํ จตูหิ มาเสหิ อุคฺคณฺหิตุํ นาสกฺขิ. โส กิร กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล ปพฺพชิตฺวา ปฺวา หุตฺวา อฺตรสฺส ทนฺธภิกฺขุโน อุทฺเทสคฺคหณกาเล ปริหาสเกฬึ อกาสิ. โส ภิกฺขุ เตน ปริหาเสน ลชฺชิโต เนว อุทฺเทสํ คณฺหิ, น สชฺฌายมกาสิ. เตน กมฺเมน อยํ ปพฺพชิตฺวาว ทนฺโธ ชาโต, คหิตคหิตํ ปทํ อุปรูปริปทํ คณฺหนฺตสฺส นสฺสติ. ตสฺส อิมเมว คาถํ อุคฺคเหตุํ วายมนฺตสฺส จตฺตาโร มาสา อติกฺกนฺตา. อถ นํ มหาปนฺถโก, ‘‘จูฬปนฺถก, ตฺวํ อิมสฺมึ สาสเน อภพฺโพ, จตูหิ มาเสหิ เอกํ คาถมฺปิ คณฺหิตุํ ¶ น สกฺโกสิ, ปพฺพชิตกิจฺจํ ปน กถํ มตฺถกํ ปาเปสฺสสิ, นิกฺขม อิโต’’ติ วิหารา นิกฺกฑฺฒิ. จูฬปนฺถโก พุทฺธสาสเน สิเนเหน คิหิภาวํ น ปตฺเถติ.
ตสฺมิฺจ กาเล มหาปนฺถโก ภตฺตุทฺเทสโก อโหสิ. ชีวโก โกมารภจฺโจ พหุํ มาลาคนฺธวิเลปนํ อาทาย อตฺตโน อมฺพวนํ ¶ คนฺตฺวา สตฺถารํ ปูเชตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา อุฏฺายาสนา ทสพลํ วนฺทิตฺวา มหาปนฺถกํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘กิตฺตกา ¶ , ภนฺเต, สตฺถุ สนฺติเก ภิกฺขู’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ปฺจมตฺตานิ ภิกฺขุสตานี’’ติ. ‘‘สฺเว, ภนฺเต, พุทฺธปฺปมุขานิ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ อาทาย อมฺหากํ นิเวสเน ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ. ‘‘อุปาสก, จูฬปนฺถโก นาม ภิกฺขุ ทนฺโธ อวิรุฬฺหิธมฺโม, ตํ เปตฺวา เสสานํ นิมนฺตนํ สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ เถโร อาห. ตํ สุตฺวา จูฬปนฺถโก จินฺเตสิ – ‘‘เถโร เอตฺตกานํ ภิกฺขูนํ นิมนฺตนํ สมฺปฏิจฺฉนฺโต มํ พาหิรํ กตฺวา สมฺปฏิจฺฉติ, นิสฺสํสยํ มยฺหํ ภาติกสฺส มยิ จิตฺตํ ภินฺนํ ภวิสฺสติ, กึ ทานิ มยฺหํ อิมินา สาสเนน, คิหี หุตฺวา ทานาทีนิ ปฺุานิ กโรนฺโต ชีวิสฺสามี’’ติ? โส ปุนทิวเส ปาโตว วิพฺภมิตุํ ปายาสิ.
สตฺถา ปจฺจูสกาเลเยว โลกํ โวโลเกนฺโต อิมํ การณํ ทิสฺวา ปมตรํ คนฺตฺวา จูฬปนฺถกสฺส คมนมคฺเค ทฺวารโกฏฺเก จงฺกมนฺโต อฏฺาสิ. จูฬปนฺถโก คจฺฉนฺโต สตฺถารํ ทิสฺวา อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. อถ นํ สตฺถา ‘‘กุหึ ปน ตฺวํ, จูฬปนฺถก, อิมาย เวลาย คจฺฉสี’’ติ อาห. ‘‘ภาตา มํ, ภนฺเต, นิกฺกฑฺฒติ, เตนาหํ วิพฺภมิตุํ คจฺฉามี’’ติ. ‘‘จูฬปนฺถก, ตว ปพฺพชฺชา นาม มม สนฺตกา, ภาตรา นิกฺกฑฺฒิโต กสฺมา มม สนฺติกํ นาคฺฉิ, เอหิ, กึ เต คิหิภาเวน, มม สนฺติเก ภวิสฺสสี’’ติ จกฺกงฺกิตตเลน ปาณินา ตํ สิรสิ ปรามสิตฺวา อาทาย คนฺตฺวา คนฺธกุฏิปฺปมุเข นิสีทาเปตฺวา, ‘‘จูฬปนฺถก, ปุรตฺถาภิมุโข หุตฺวา อิมํ ปิโลติกํ ‘รโชหรณํ รโชหรณ’นฺติ ปริมชฺชนฺโต อิเธว โหหี’’ติ อิทฺธิยา อภิสงฺขตํ ปริสุทฺธํ ¶ ปิโลติกํ ทตฺวา กาเล อาโรจิเต ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ชีวกสฺส เคหํ คนฺตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทิ. จูฬปนฺถโกปิ สูริยํ โอโลเกนฺโต ตํ ปิโลติกํ ‘‘รโชหรณํ รโชหรณ’’นฺติ ปริมชฺชนฺโต นิสีทิ. ตสฺส ตํ ปิโลติกขณฺฑํ ปริมชฺชนฺตสฺส กิลิฏฺํ อโหสิ. ตโต จินฺเตสิ – ‘‘อิทํ ปิโลติกขณฺฑํ อติวิย ปริสุทฺธํ, อิมํ ปน อตฺตภาวํ นิสฺสาย ปุริมปกตึ วิชหิตฺวา เอวํ กิลิฏฺํ ชาตํ, อนิจฺจา วต สงฺขารา’’ติ ขยวยํ ปฏฺเปนฺโต วิปสฺสนํ วฑฺเฒสิ. สตฺถา ‘‘จูฬปนฺถกสฺส จิตฺตํ วิปสฺสนํ อารุฬฺห’’นฺติ ตฺวา, ‘‘จูฬปนฺถก, ตฺวํ ปิโลติกขณฺฑเมว สํกิลิฏฺํ ‘รชํ รช’นฺติ ¶ มา สฺํ กริ, อพฺภนฺตเร ปน เต ราครชาทโย อตฺถิ, เต หราหี’’ติ ¶ วตฺวา โอภาสํ วิสฺสชฺเชตฺวา ปุรโต นิสินฺโน วิย ปฺายมานรูโป หุตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘ราโค รโช น จ ปน เรณุ วุจฺจติ,
ราคสฺเสตํ อธิวจนํ รโชติ;
เอตํ รชฺชํ วิปฺปชหิตฺว ภิกฺขโว,
วิหรนฺติ เต วิคตรชสฺส สาสเน.
‘‘โทโส รโช น จ ปน เรณุ วุจฺจติ,
โทสสฺเสตํ อธิวจนํ รโชติ;
เอตํ รชํ วิปฺปชหิตฺว ภิกฺขโว,
วิหรนฺติ เต วิคตรชสฺส สาสเน.
‘‘โมโห รโช น จ ปน เรณุ วุจฺจติ,
โมหสฺเสตํ อธิวจนํ รโชติ;
เอตํ รชํ วิปฺปชหิตฺว ภิกฺขโว,
วิหรนฺติ เต วิคตรชสฺส สาสเน’’ติ. (มหานิ. ๒๐๙);
คาถาปริโยสาเน ¶ จูฬปนฺถโก สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. สห ปฏิสมฺภิทาหิเยวสฺส ตีณิ ปิฏกานิ อาคมึสุ.
โส กิร ปุพฺเพ ราชา หุตฺวา นครํ ปทกฺขิณํ กโรนฺโต นลาฏโต เสเท มุจฺจนฺเต ปริสุทฺเธน สาฏเกน นลาฏนฺตํ ปฺุฉิ, สาฏโก กิลิฏฺโ อโหสิ. โส ‘‘อิมํ สรีรํ นิสฺสาย เอวรูโป ปริสุทฺโธ สาฏโก ปกตึ ชหิตฺวา กิลิฏฺโ ชาโต, อนิจฺจา วต สงฺขารา’’ติ อนิจฺจสฺํ ปฏิลภิ. เต การเณนสฺส รโชหรณเมว ปจฺจโย ชาโต.
ชีวโกปิ โข โกมารภจฺโจ ทสพลสฺส ทกฺขิโณทกํ อุปนาเมสิ. สตฺถา ‘‘นนุ, ชีวก, วิหาเร ภิกฺขู อตฺถี’’ติ หตฺเถน ปตฺตํ ปิทหิ. มหาปนฺถโก ‘‘นนุ, ภนฺเต, วิหาเร ภิกฺขู นตฺถี’’ติ อาห. สตฺถา ‘‘อตฺถิ, ชีวกา’’ติ อาห. ชีวโก ‘‘เตน หิ ภเณ คจฺฉ, วิหาเร ภิกฺขูนํ อตฺถิภาวํ วา นตฺถิภาวํ วา ตฺวฺเว ชานาหี’’ติ ปุริสํ เปเสสิ. ตสฺมึ ¶ ขเณ จูฬปนฺถโก ‘‘มยฺหํ ภาติโก ‘วิหาเร ภิกฺขู นตฺถี’ติ ภณติ ¶ , วิหาเร ภิกฺขูนํ อตฺถิภาวมสฺส ปกาเสสฺสามี’’ติ สกลํ อมฺพวนํ ภิกฺขูนฺเว ปูเรสิ. เอกจฺเจ ภิกฺขู จีวรกมฺมํ กโรนฺติ, เอกจฺเจ รชนกมฺมํ กโรนฺติ, เอกจฺเจ สชฺฌายํ กโรนฺติ. เอวํ อฺมฺอสทิสํ ภิกฺขุสหสฺสํ มาเปสิ. โส ปุริโส วิหาเร พหู ภิกฺขู ทิสฺวา นิวตฺติตฺวา, ‘‘อยฺย, สกลํ อมฺพวนํ ภิกฺขูหิ ปริปุณฺณ’’นฺติ ชีวกสฺส อาโรเจสิ. เถโรปิ โข ตตฺเถว –
‘‘สหสฺสกฺขตฺตุมตฺตานํ ¶ , นิมฺมินิตฺวาน ปนฺถโก;
นิสีทมฺพวเน รมฺเม, ยาว กาลปฺปเวทนา’’ติ.
อถ สตฺถา ตํ ปุริสํ อาห – ‘‘วิหารํ คนฺตฺวา ‘สตฺถา จูฬปนฺถกํ นาม ปกฺโกสตี’ติ วเทหี’’ติ. เตน คนฺตฺวา ตถา วุตฺเต, ‘‘อหํ จูฬปนฺถโก, อหํ จูฬปนฺถโก’’ติ มุขสหสฺสํ อุฏฺหิ. โส ปุริโส ปุน คนฺตฺวา, ‘‘สพฺเพปิ กิร, ภนฺเต, จูฬปนฺถกาเยว นามา’’ติ อาห. ‘‘เตน หิ คนฺตฺวา โย ‘อหํ จูฬปนฺถโก’ติ ปมํ วทติ, ตํ หตฺเถ คณฺห, อวเสสา อนฺตรธายิสฺสนฺตี’’ติ. โส ตถา อกาสิ. ตาวเทว สหสฺสมตฺตา ภิกฺขู อนฺตรธายึสุ. เถโรปิ เตน ปุริเสน สทฺธึ อคมาสิ. สตฺถา ภตฺตกิจฺจปริโยสาเน ชีวกํ อามนฺเตสิ – ‘‘ชีวก, จูฬปนฺถกสฺส ปตฺตํ คณฺหาหิ, อยํ เต อนุโมทนํ กริสฺสตี’’ติ. ชีวโก ตถา อกาสิ. เถโร สีหนาทํ นทนฺโต ตรุณสีโห วิย ตีหิ ปิฏเกหิ สงฺโขเภตฺวา อนุโมทนมกาสิ. สตฺถา อุฏฺายาสนา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต วิหารํ คนฺตฺวา ภิกฺขูหิ วตฺเต ทสฺสิเต คนฺธกุฏิปฺปมุเข ตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส สุคโตวาทํ ทตฺวา กมฺมฏฺานํ กเถตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ อุยฺโยเชตฺวา สุรภิคนฺธวาสิตํ คนฺธกุฏึ ปวิสิตฺวา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ อุปคโต. อถ สายนฺหสมเย ภิกฺขู อิโต จิโต จ สโมสริตฺวา รตฺตกมฺพลสาณิยา ปริกฺขิตฺตา วิย ¶ นิสีทิตฺวา สตฺถุ คุณกถํ อารภึสุ, ‘‘อาวุโส, มหาปนฺถโก จูฬปนฺถกสฺส อชฺฌาสยํ อชานนฺโต จตูหิ มาเสหิ เอกํ คาถํ อุคฺคณฺหาเปตุํ น สกฺโกติ, ‘ทนฺโธ อย’นฺติ วิหารา นิกฺกฑฺฒิ, สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปน อตฺตโน อนุตฺตรธมฺมราชตาย เอกสฺมึเยวสฺส อนฺตรภตฺเต สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ อทาสิ, ตีณิ ปิฏกานิ สห ปฏิสมฺภิทาหิเยว อาคตานิ, อโห พุทฺธานํ พลํ นาม มหนฺต’’นฺติ.
อถ ¶ ภควา ธมฺมสภายํ อิมํ กถาปวตฺตึ ตฺวา, ‘‘อชฺช มยา คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ พุทฺธเสยฺยาย อุฏฺาย สุรตฺตทุปฏฺฏํ นิวาเสตฺวา วิชฺชุลตํ วิย กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา รตฺตกมฺพลสทิสํ สุคตมหาจีวรํ ปารุปิตฺวา สุรภิคนฺธกุฏิโต นิกฺขมฺม มตฺตวรวารณสีหวิชมฺภิตวิลาเสน ¶ อนนฺตาย พุทฺธลีฬาย ธมฺมสภํ คนฺตฺวา อลงฺกตมณฺฑลมาฬมชฺเฌ สุปฺตฺตวรพุทฺธาสนํ อภิรุยฺห ฉพฺพณฺณพุทฺธรํสิโย วิสฺสชฺเชนฺโต อณฺณวกุจฺฉึ โขภยมาโน ยุคนฺธรมตฺถเก พาลสูริโย วิย อาสนมชฺเฌ นิสีทิ. สมฺมาสมฺพุทฺเธ ปน อาคตมตฺเต ภิกฺขุสงฺโฆ กถํ ปจฺฉินฺทิตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. สตฺถา มุทุเกน เมตฺตจิตฺเตน ¶ ปริสํ โอโลเกตฺวา, ‘‘อยํ ปริสา อติวิย โสภติ, เอกสฺสปิ หตฺถกุกฺกุจฺจํ วา ปาทกุกฺกุจฺจํ วา อุกฺกาสิตสทฺโท วา ขิปิตสทฺโท วา นตฺถิ, สพฺเพปิ อิเม พุทฺธคารเวน สคารวา, พุทฺธเตเชน ตชฺชิตา. มยิ อายุกปฺปมฺปิ อกเถตฺวา นิสินฺเน ปมํ กถํ สมุฏฺาเปตฺวา น กเถสฺสนฺติ. กถาสมุฏฺาปนวตฺตํ นาม มยาว ชานิตพฺพํ, อหเมว ปมํ กเถสฺสามี’’ติ มธุเรน พฺรหฺมสฺสเรน ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา, ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต, ‘‘น, ภิกฺขเว, จูฬปนฺถโก อิทาเนว ทนฺโธ, ปุพฺเพปิ ทนฺโธเยว. น เกวลฺจสฺสาหํ อิทาเนว อวสฺสโย ชาโต, ปุพฺเพปิ อวสฺสโย อโหสิเมว. ปุพฺเพ ปนาหํ อิมํ โลกิยกุฏุมฺพสฺส สามิกํ อกาสึ, อิทานิ โลกุตฺตรกุฏุมฺพสฺสา’’ติ วตฺวา ตมตฺถํ วิตฺถารโต โสตุกาเมหิ ภิกฺขูหิ อายาจิโต อตีตํ อาหริ –
‘‘อตีเต, ภิกฺขเว, พาราณสินครวาสี เอโก มาณโว ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา สิปฺปุคฺคหณตฺถาย ทิสาปาโมกฺขสฺส อาจริยสฺส ธมฺมนฺเตวาสิโก หุตฺวา ปฺจนฺนํ มาณวกสตานํ อนฺตเร อติวิย อาจริยสฺส อุปการโก อโหสิ, ปาทปริกมฺมาทีนิ สพฺพกิจฺจานิ กโรติ. ทนฺธตาย ปน กิฺจิ อุคฺคณฺหิตุํ น สกฺโก’’ติ. อาจริโย ‘‘อยํ มม พหูปกาโร, สิกฺขาเปสฺสามิ น’’นฺติ วายมนฺโตปิ กิฺจิ สิกฺขาเปตุํ ¶ น สกฺโกติ. โส จิรํ วสิตฺวา เอกคาถมฺปิ อุคฺคณฺหิตุํ อสกฺโกนฺโต อุกฺกณฺิตฺวา ‘‘คมิสฺสามี’’ติ อาจริยํ อาปุจฺฉิ. อาจริโย จินฺเตสิ – ‘‘อยํ มยฺหํ อุปการโก, ปณฺฑิตภาวมสฺส ปจฺจาสีสามิ, น นํ กาตุํ สกฺโกมิ ¶ , อวสฺสํ มยา อิมสฺส ปจฺจุปกาโร กาตพฺโพ, เอกมสฺส มนฺตํ พนฺธิตฺวา ทสฺสามี’’ติ โส ตํ อรฺํ เนตฺวา ‘‘ฆฏฺเฏสิ ฆฏฺเฏสิ, กึ การณา ฆฏฺเฏสิ? อหมฺปิ ตํ ชานามิ ชานามี’’ติ อิมํ มนฺตํ พนฺธิตฺวา อุคฺคณฺหาเปนฺโต อเนกสตกฺขตฺตุํ ปริวตฺตาเปตฺวา, ‘‘ปฺายติ เต’’ติ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘อาม, ปฺายตี’’ติ วุตฺเต ‘‘ทนฺเธน นาม วายามํ กตฺวา ปคุณํ กตํ สิปฺปํ น ปลายตี’’ติ จินฺเตตฺวา มคฺคปริพฺพยํ ทตฺวา, ‘‘คจฺฉ, อิมํ มนฺตํ นิสฺสาย ชีวิสฺสสิ, อปลายนตฺถาย ปนสฺส นิจฺจํ สชฺฌายํ กเรยฺยาสี’’ติ วตฺวา ตํ อุยฺโยเชสิ. อถสฺส มาตา พาราณสิยํ สมฺปตฺตกาเล ‘‘ปุตฺโต เม สิปฺปํ สิกฺขิตฺวา อาคโต’’ติ มหาสกฺการสมฺมานํ อกาสิ.
ตทา ¶ พาราณสิราชา ‘‘อตฺถิ นุ โข เม กายกมฺมาทีสุ โกจิ โทโส’’ติ ปจฺจเวกฺขนฺโต อตฺตโน อรุจฺจนกํ กิฺจิ กมฺมํ อทิสฺวา ‘‘อตฺตโน วชฺชํ นาม อตฺตโน น ปฺายติ, ปเรสํ ปฺายติ, นาครานํ ปริคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา สายํ อฺาตกเวเสน นิกฺขมิตฺวา, ‘‘สายมาสํ ภฺุชิตฺวา นิสินฺนมนุสฺสานํ กถาสลฺลาโป นาม นานปฺปการโก โหติ, ‘สจาหํ อธมฺเมน รชฺชํ กาเรมิ, ปาเปน อธมฺมิเกน รฺา ทณฺฑพลิอาทีหิ หตมฺหา’ติ วกฺขนฺติ. ‘สเจ ธมฺเมน รชฺชํ กาเรมิ, ทีฆายุโก โหตุ โน ราชา’ติอาทีนิ ¶ วตฺวา มม คุณํ กเถสฺสนฺตี’’ติ เตสํ เตสํ เคหานํ ภิตฺติอนุสาเรเนว วิจรติ.
ตสฺมึ ขเณ อุมงฺคโจรา ทฺวินฺนํ เคหานํ อนฺตเร อุมงฺคํ ภินฺทนฺติ เอกอุมงฺเคเนว ทฺเว เคหานิ ปวิสนตฺถาย. ราชา เต ทิสฺวา เคหจฺฉายาย อฏฺาสิ. เตสํ อุมงฺคํ ภินฺทิตฺวา เคหํ ปวิสิตฺวา ภณฺฑกํ โอโลกิตกาเล มาณโว ปพุชฺฌิตฺวา ตํ มนฺตํ สชฺฌายนฺโต ‘‘ฆฏฺเฏสิ ฆฏฺเฏสิ, กึ การณา ฆฏฺเฏสิ? อหมฺปิ ตํ ชานามิ ชานามี’’ติ อาห. เต ตํ สุตฺวา, ‘‘อิมินา กิรมฺหา าตา, อิทานิ โน นาเสสฺสตี’’ติ นิวตฺถวตฺถานิปิ ฉฑฺเฑตฺวา ภีตา สมฺมุขสมฺมุขฏฺาเนเนว ปลายึสุ. ราชา เต ปลายนฺเต ทิสฺวา อิตรสฺส จ มนฺตสชฺฌายนสทฺทํ สุตฺวา เคหฺเว ววตฺถเปตฺวา นาครานํ ปริคฺคณฺหิตฺวา นิเวสนํ ปาวิสิ. โส วิภาตาย ปน รตฺติยา ปาโตเวกํ ปุริสํ ปกฺโกสิตฺวา อาห – ‘‘คจฺฉ ภเณ, อสุกวีถิยํ นาม ยสฺมึ เคเห อุมงฺโค ภินฺโน, ตตฺถ ตกฺกสิลโต สิปฺปํ อุคฺคณฺหิตฺวา อาคตมาณโว อตฺถิ, ตํ อาเนหี’’ติ. โส ¶ คนฺตฺวา ‘‘ราชา ตํ ปกฺโกสตี’’ติ วตฺวา มาณวํ อาเนสิ. อถ นํ ราชา อาห – ‘‘ตฺวํ, ตาต, ตกฺกสิลโต สิปฺปํ อุคฺคณฺหิตฺวา อาคตมาณโว’’ติ? ‘‘อาม, เทวา’’ติ. ‘‘อมฺหากมฺปิ ตํ สิปฺปํ เทหี’’ติ. ‘‘สาธุ, เทว, สมานาสเน นิสีทิตฺวา คณฺหาหี’’ติ. ราชาปิ ตถา กตฺวา มนฺตํ คเหตฺวา ‘‘อยํ เต ¶ อาจริยภาโค’’ติ สหสฺสํ อทาสิ.
ตทา เสนาปติ รฺโ กปฺปกํ อาห – ‘‘กทา รฺโ มสฺสุํ กริสฺสสี’’ติ? ‘‘สฺเว วา ปรสุเว วา’’ติ. โส ตสฺส สหสฺสํ ทตฺวา ‘‘กิจฺจํ เม อตฺถี’’ติ วตฺวา, ‘‘กึ, สามี’’ติ วุตฺเต ‘‘รฺโ มสฺสุกมฺมํ กโรนฺโต วิย หุตฺวา ขุรํ อติวิย ปหํสิตฺวา คลนาฬึ ฉินฺท, ตฺวํ เสนาปติ ภวิสฺสสิ, อหํ ราชา’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา รฺโ มสฺสุกมฺมกรณทิวเส คนฺโธทเกน มสฺสุํ เตเมตฺวา ขุรํ ปหํสิตฺวา นลาฏนฺเต คเหตฺวา, ‘‘ขุโร โถกํ กุณฺธาโร, เอกปฺปหาเรเนว คลนาฬึ ฉินฺทิตุํ วฏฺฏตี’’ติ ปุน เอกมนฺตํ ตฺวา ขุรํ ปหํสิ. ตสฺมึ ขเณ ราชา อตฺตโน มนฺตํ สริตฺวา สชฺฌายํ กโรนฺโต ‘‘ฆฏฺเฏสิ ฆฏฺเฏสิ, กึ การณา ¶ ฆฏฺเฏสิ? อหมฺปิ ตํ ชานามิ ชานามี’’ติ อาห. นฺหาปิตสฺส นลาฏโต เสทา มุจฺจึสุ. โส ‘‘ชานาติ มม การณํ ราชา’’ติ ภีโต ขุรํ ภูมิยํ ขิปิตฺวา ปาทมูเล อุเรน นิปชฺชิ. ราชาโน นาม เฉกา โหนฺติ, เตน ตํ เอวมาห – ‘‘อเร, ทุฏฺ, นฺหาปิต, ‘น มํ ราชา ชานาตี’ติ สฺํ กโรสี’’ติ. ‘‘อภยํ เม เทหิ, เทวา’’ติ. ‘‘โหตุ, มา ภายิ, กเถหี’’ติ. เสนาปติ เม, เทว, สหสฺสํ ทตฺวา, ‘‘รฺโ มสฺสุํ กโรนฺโต วิย คลนาฬึ ฉินฺท, อหํ ราชา หุตฺวา ตํ เสนาปตึ กริสฺสามี’’ติ อาหาติ. ราชา ตํ สุตฺวา ‘‘อาจริยํ เม นิสฺสาย ชีวิตํ ลทฺธ’’นฺติ จินฺเตตฺวา เสนาปตึ ¶ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘อมฺโภ, เสนาปติ, กึ นาม ตยา มม สนฺติกา น ลทฺธํ, อิทานิ ตํ ทฏฺุํ น สกฺโกมิ, มม รฏฺา นิกฺขมาหี’’ติ ตํ รฏฺา ปพฺพาเชตฺวา อาจริยํ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘อาจริย, ตํ นิสฺสาย มยา ชีวิตํ ลทฺธ’’นฺติ วตฺวา มหนฺตํ สกฺการํ กริตฺวา ตสฺส เสนาปติฏฺานํ อทาสิ. ‘‘โส ตทา จูฬปนฺถโก อโหสิ, สตฺถา ทิสาปาโมกฺโข อาจริโย’’ติ.
สตฺถา อิมํ อตีตํ อาหริตฺวา, ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพปิ จูฬปนฺถโก ทนฺโธเยว อโหสิ, ตทาปิสฺสาหํ อวสฺสโย หุตฺวา ตํ โลกิยกุฏุมฺเพ ¶ ปติฏฺาเปสิ’’นฺติ วตฺวา ปุน เอกทิวสํ ‘‘อโห สตฺถา จูฬปนฺถกสฺส อวสฺสโย ชาโต’’ติ กถาย สมุฏฺิตาย จูฬเสฏฺิชาตเก อตีตวตฺถุํ กเถตฺวา –
‘‘อปฺปเกนาปิ เมธาวี, ปาภเตน วิจกฺขโณ;
สมุฏฺาเปติ อตฺตานํ, อณุํ อคฺคึว สนฺธม’’นฺติ. (ชา. ๑.๑.๔) –
คาถํ วตฺวา, ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนวาหํ อิมสฺส อวสฺสโย ชาโต, ปุพฺเพปิ อวสฺสโย อโหสิเมว. ปุพฺเพ ปนาหํ อิมํ โลกิยกุฏุมฺพสฺส สามิกํ อกาสึ, อิทานิ โลกุตฺตรกุฏุมฺพสฺส. ตทา หิ จูฬนฺเตวาสิโก จูฬปนฺถโก อโหสิ, จูฬเสฏฺิ ปน ปณฺฑิโต พฺยตฺโต นกฺขตฺตโกวิโท อหเมวา’’ติ ชาตกํ สโมธาเนสิ.
ปุเนกทิวสํ ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ, ‘‘อาวุโส, จูฬปนฺถโก จตูหิ มาเสหิ จตุปฺปทํ คาถํ คเหตุํ อสกฺโกนฺโตปิ วีริยํ อโนสฺสชฺชิตฺวาว อรหตฺเต ปติฏฺิโต ¶ , อิทานิ โลกุตฺตรธมฺมกุฏุมฺพสฺส สามิโก ชาโต’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา, ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต, ‘‘ภิกฺขเว, มม สาสเน อารทฺธวีริโย ภิกฺขุ โลกุตฺตรธมฺมสฺส สามิโก โหติเยวา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘อุฏฺาเนนปฺปมาเทน ¶ , สํยเมน ทเมน จ;
ทีปํ กยิราถ เมธาวี, ยํ โอโฆ นาภิกีรตี’’ติ.
ตตฺถ ทีปํ กยิราถาติ วีริยสงฺขาเตน อุฏฺาเนน, สติยา อวิปฺปวาสาการสงฺขาเตน อปฺปมาเทน, จตุปาริสุทฺธิสีลสงฺขาเตน สํยเมน, อินฺทฺริยทเมน จาติ อิเมหิ การณภูเตหิ จตูหิ ธมฺเมหิ ธมฺโมชปฺาย สมนฺนาคโต เมธาวี อิมสฺมึ อติวิย ทุลฺลภปติฏฺตาย อติคมฺภีเร สํสารสาคเร อตฺตโน ปติฏฺานภูตํ อรหตฺตผลํ ทีปํ กยิราถ กเรยฺย, กาตุํ สกฺกุเณยฺยาติ อตฺโถ. กีทิสํ? ยํ โอโฆ นาภิกีรตีติ ยํ จตุพฺพิโธปิ กิเลโสโฆ อภิกิริตุํ วิทฺธํเสตุํ น สกฺโกติ. น หิ สกฺกา อรหตฺตํ โอเฆน อภิกิริตุนฺติ.
คาถาปริโยสาเน ¶ พหู โสตาปนฺนาทโย อเหสุํ. เอวํ เทสนา สมฺปตฺตปริสาย สาตฺถิกา ชาตาติ.
จูฬปนฺถกตฺเถรวตฺถุ ตติยํ.
๔. พาลนกฺขตฺตสงฺฆุฏฺวตฺถุ
ปมาทมนุยฺุชนฺตีติ ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต พาลนกฺขตฺตํ อารพฺภ กเถสิ.
เอกสฺมิฺหิ สมเย สาวตฺถิยํ พาลนกฺขตฺตํ นาม สงฺฆุฏฺํ. ตสฺมึ นกฺขตฺเต พาลา ทุมฺเมธิโน ชนา ฉาริกาย เจว โคมเยน จ สรีรํ มกฺเขตฺวา สตฺตาหํ อสพฺภํ ภณนฺตา วิจรนฺติ. กิฺจิ าติ สุหชฺชํ วา ปพฺพชิตํ วา ทิสฺวา ลชฺชนฺตา นาม นตฺถิ. ทฺวาเร ทฺวาเร ตฺวา อสพฺภํ ภณนฺติ. มนุสฺสา เตสํ อสพฺภํ โสตุํ อสกฺโกนฺตา ยถาพลํ อฑฺฒํ วา ปาทํ วา กหาปณํ วา เปเสนฺติ. เต เตสํ ทฺวาเร ลทฺธํ ลทฺธํ คเหตฺวา ปกฺกมนฺติ. ตทา ปน สาวตฺถิยํ ปฺจ โกฏิมตฺตา อริยสาวกา วสนฺติ, เต สตฺถุ สนฺติกํ สาสนํ เปสยึสุ – ‘‘ภควา, ภนฺเต, สตฺตาหํ ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ นครํ อปฺปวิสิตฺวา วิหาเรเยว โหตู’’ติ. ตฺจ ปน สตฺตาหํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส วิหาเรเยว ยาคุภตฺตาทีนิ สมฺปาเทตฺวา ปหิณึสุ, สยมฺปิ เคหา น นิกฺขมึสุ. เต นกฺขตฺเต ปน ปริโยสิเต อฏฺเม ทิวเส พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิมนฺเตตฺวา นครํ ปเวเสตฺวา มหาทานํ ทตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺนา, ‘‘ภนฺเต, อติทุกฺเขน โน สตฺต ทิวสานิ อติกฺกนฺตานิ, พาลานํ อสพฺภานิ สุณนฺตานํ ¶ กณฺณา ภิชฺชนาการปฺปตฺตา โหนฺติ, โกจิ กสฺสจิ ¶ น ลชฺชติ, เตน มยํ ตุมฺหากํ อนฺโตนครํ ปวิสิตุํ นาทมฺห, มยมฺปิ เคหโต น นิกฺขมิมฺหา’’ติ อาหํสุ. สตฺถา เตสํ กถํ สุตฺวา, ‘‘พาลานํ ทุมฺเมธานํ กิริยา นาม เอวรูปา โหติ, เมธาวิโน ปน ธนสารํ วิย อปฺปมาทํ รกฺขิตฺวา อมตมหานิพฺพานสมฺปตฺตึ ปาปุณนฺตี’’ติ วตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘ปมาทมนุยฺุชนฺติ, พาลา ทุมฺเมธิโน ชนา;
อปฺปมาทฺจ เมธาวี, ธนํ เสฏฺํว รกฺขติ.
‘‘มา ¶ ปมาทมนุยฺุเชถ, มา กามรติสนฺถวํ;
อปฺปมตฺโต หิ ฌายนฺโต, ปปฺโปติ วิปุลํ สุข’’นฺติ.
ตตฺถ พาลาติ พาลฺเยน สมนฺนาคตา อิธโลกปรโลกตฺถํ อชานนฺตา. ทุมฺเมธิโนติ นิปฺปฺา. เต ปมาเท อาทีนวํ อปสฺสนฺตา ปมาทํ อนุยฺุชนฺติ ปวตฺเตนฺติ, ปมาเทน กาลํ วีตินาเมนฺติ. เมธาวีติ ธมฺโมชปฺาย สมนฺนาคโต ปน ปณฺฑิโต กุลวํสาคตํ เสฏฺํ อุตฺตมํ สตฺตรตนธนํ วิย อปฺปมาทํ รกฺขติ. ยถา หิ อุตฺตมํ ธนํ นิสฺสาย ‘‘กามคุณสมฺปตฺตึ ปาปุณิสฺสาม, ปุตฺตทารํ โปเสสฺสาม, ปรโลกคมนมคฺคํ โสเธสฺสามา’’ติ ธเน อานิสํสํ ปสฺสนฺตา ตํ รกฺขนฺติ, เอวํ ปณฺฑิโตปิ อปฺปมตฺโต ‘‘ปมชฺฌานาทีนิ ¶ ปฏิลภิสฺสามิ, มคฺคผลาทีนิ ปาปุณิสฺสามิ, ติสฺโส วิชฺชา, ฉ อภิฺา สมฺปาเทสฺสามี’’ติ อปฺปมาเท อานิสํสํ ปสฺสนฺโต ธนํ เสฏฺํว อปฺปมาทํ รกฺขตีติ อตฺโถ. มา ปมาทนฺติ ตสฺมา ตุมฺเห มา ปมาทมนุยฺุเชถ มา ปมาเทน กาลํ วีตินามยิตฺถ. มา กามรติสนฺถวนฺติ วตฺถุกามกิเลสกาเมสุ รติสงฺขาตํ ตณฺหาสนฺถวมฺปิ มา อนุยฺุเชถ มา จินฺตยิตฺถ มา ปฏิลภิตฺถ. อปฺปมตฺโต หีติ อุปฏฺิตสฺสติตาย หิ อปฺปมตฺโต ฌายนฺโต ปุคฺคโล วิปุลํ อุฬารํ นิพฺพานสุขํ ปาปุณาตีติ.
คาถาปริโยสาเน พหู โสตาปนฺนาทโย อเหสุํ. มหาชนสฺส สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา ชาตาติ.
พาลนกฺขตฺตสงฺฆุฏฺวตฺถุ จตุตฺถํ.
๕. มหากสฺสปตฺเถรวตฺถุ
ปมาทํ ¶ อปฺปมาเทนาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มหากสฺสปตฺเถรํ อารพฺภ กเถสิ.
เอกสฺมิฺหิ ทิวเส เถโร ปิปฺผลิคุหายํ วิหรนฺโต ราชคเห ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา ปมตฺเต จ อปฺปมตฺเต จ อุทกปถวีปพฺพตาทีสุ จวนเก อุปปชฺชนเก จ สตฺเต ¶ ทิพฺเพน จกฺขุนา โอโลเกนฺโต นิสีทิ. สตฺถา เชตวเน นิสินฺนโกว ¶ ‘‘เกน นุ โข วิหาเรน อชฺช มม ปุตฺโต กสฺสโป วิหรตี’’ติ ทิพฺเพน จกฺขุนา อุปธาเรนฺโต ‘‘สตฺตานํ จุตูปปาตํ โอโลเกนฺโต วิหรตี’’ติ ตฺวา ‘‘สตฺตานํ จุตูปปาโต นาม พุทฺธาเณนปิ อปริจฺฉินฺโน, มาตุกุจฺฉิยํ ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา มาตาปิตโร อชานาเปตฺวา จวนสตฺตานํ ปริจฺเฉโท กาตุํ น สกฺกา, เต ชานิตุํ ตว อวิสโย, กสฺสป, อปฺปมตฺตโก ตว วิสโย, สพฺพโส ปน จวนฺเต จ อุปปชฺชนฺเต จ ชานิตุํ ปสฺสิตุํ พุทฺธานเมว วิสโย’’ติ วตฺวา โอภาสํ ผริตฺวา สมฺมุเข นิสินฺโน วิย หุตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘ปมาทํ อปฺปมาเทน, ยทา นุทติ ปณฺฑิโต;
ปฺาปาสาทมารุยฺห, อโสโก โสกินึ ปชํ;
ปพฺพตฏฺโว ภูมฏฺเ, ธีโร พาเล อเวกฺขตี’’ติ.
ตตฺถ นุทตีติ ยถา นาม โปกฺขรณึ ปวิสนฺตํ นโวทกํ ปุราโณทกํ โขเภตฺวา ตสฺโสกาสํ อทตฺวา ตํ อตฺตโน มตฺถกมตฺถเกน ปลายนฺตํ นุทติ นีหรติ, เอวเมว ปณฺฑิโต อปฺปมาทลกฺขณํ พฺรูเหนฺโต ปมาทสฺโสกาสํ อทตฺวา ยทา อปฺปมาทเวเคน ตํ นุทติ นีหรติ, อถ โส ปนุนฺนปมาโท อจฺจุคฺคตตฺเถน ปริสุทฺธํ ทิพฺพจกฺขุสงฺขาตํ ปฺาปาสาทํ ตสฺส อนุจฺฉวิกํ ปฏิปทํ ปูเรนฺโต ตาย ปฏิปทาย นิสฺเสณิยา ปาสาทํ วิย อารุยฺห ปหีนโสกสลฺลตาย อโสโก, อปฺปหีนโสกสลฺลตาย โสกินึ ปชํ สตฺตนิกายํ จวมานฺเจว อุปปชฺชมานฺจ ทิพฺพจกฺขุนา อเวกฺขติ ปสฺสติ. ยถา กึ? ปพฺพตฏฺโว ¶ ภูมฏฺเติ ปพฺพตมุทฺธนิ ิโต ภูมิยํ ิเต, อุปริปาสาเท วา ปน ิโต ปาสาทปริเวเณ ิเต อกิจฺเฉน อเวกฺขติ, ตถา โสปิ ธีโร ปณฺฑิโต มหาขีณาสโว อสมุจฺฉินฺนวฏฺฏพีเช พาเล จวนฺเต จ อุปปชฺชนฺเต จ อกิจฺเฉน อเวกฺขตีติ.
คาถาปริโยสาเน ¶ พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ สจฺฉิกรึสูติ.
มหากสฺสปตฺเถรวตฺถุ ปฺจมํ.
๖. ปมตฺตาปมตฺตทฺเวสหายกวตฺถุ
อปฺปมตฺโต ¶ ปมตฺเตสูติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ทฺเว สหายเก ภิกฺขู อารพฺภ กเถสิ.
เต กิร สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา อารฺกวิหารํ ปวิสึสุ. เตสุ เอโก กิร กาลสฺเสว ทารูนิ อาหริตฺวา องฺคารกปลฺลํ สชฺเชตฺวา ทหรสามเณเรหิ สทฺธึ สลฺลปนฺโต ปมยามํ วิสิพฺพมาโน นิสีทติ. เอโก อปฺปมตฺโต สมณธมฺมํ กโรนฺโต อิตรํ โอวทติ, ‘‘อาวุโส, มา เอวํ กริ, ปมตฺตสฺส หิ จตฺตาโร อปายา สกฆรสทิสา. พุทฺธา นาม สาเยฺเยน อาราเธตุํ น สกฺกา’’ติ โส ตสฺโสวาทํ น สุณาติ. อิตโร ‘‘นายํ วจนกฺขโม’’ติ ตํ อวตฺวา อปฺปมตฺโตว สมณธมฺมมกาสิ. อลสตฺเถโรปิ ¶ ปมยาเม วิสิพฺเพตฺวา อิตรสฺส จงฺกมิตฺวา คพฺภํ ปวิฏฺกาเล ปวิสิตฺวา, ‘‘มหากุสีต, ตฺวํ นิปชฺชิตฺวา สยนตฺถาย อรฺํ ปวิฏฺโสิ, กึ พุทฺธานํ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา อุฏฺาย สมณธมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานํ ปวิสิตฺวา นิปชฺชิตฺวา สุปติ. อิตโรปิ มชฺฌิมยาเม วิสฺสมิตฺวา ปจฺฉิมยาเม ปจฺจุฏฺาย สมณธมฺมํ กโรติ. โส เอวํ อปฺปมตฺโต วิหรนฺโต น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. อิตโร ปมาเทเนว กาลํ วีตินาเมสิ. เต วุฏฺวสฺสา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. สตฺถา เตหิ สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา, ‘‘กจฺจิ, ภิกฺขเว, อปฺปมตฺตา สมณธมฺมํ กริตฺถ, กจฺจิ โว ปพฺพชิตกิจฺจํ มตฺถกํ ปตฺต’’นฺติ ปุจฺฉิ. ปมํ ปมตฺโต ภิกฺขุ อาห – ‘‘กุโต, ภนฺเต, เอตสฺส อปฺปมาโท, คตกาลโต ปฏฺาย นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺโต กาลํ วีตินาเมสี’’ติ. ‘‘ตฺวํ ปน ภิกฺขู’’ติ. ‘‘อหํ, ภนฺเต, กาลสฺเสว ทารูนิ อาหริตฺวา องฺคารกปลฺลํ สชฺเชตฺวา ปมยาเม วิสิพฺเพนฺโต นิสีทิตฺวา อนิทฺทายนฺโตว กาลํ วีตินาเมสิ’’นฺติ. อถ นํ สตฺถา ‘‘ตฺวํ ปมตฺโต กาลํ วีตินาเมตฺวา ‘อปฺปมตฺโตมฺหี’ติ วทสิ, อปฺปมตฺตํ ปน ปมตฺตํ กโรสี’’ติ อาห. ปุน ปมาเท โทเส, อปฺปมาเท อานิสํเส ปกาเสตุํ, ‘‘ตฺวํ มม ปุตฺตสฺส ¶ สนฺติเก ชวจฺฉินฺโน ทุพฺพลสฺโส วิย, เอส ปน ตว สนฺติเก สีฆชวสฺโส วิยา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘อปฺปมตฺโต ¶ ¶ ปมตฺเตสุ, สุตฺเตสุ พหุชาคโร;
อพลสฺสํว สีฆสฺโส, หิตฺวา ยาติ สุเมธโส’’ติ.
ตตฺถ อปฺปมตฺโตติ สติเวปุลฺลปฺปตฺตตาย อปฺปมาทสมฺปนฺเน ขีณาสโว. ปมตฺเตสูติ สติโวสคฺเค ิเตสุ สตฺเตสุ. สุตฺเตสูติ สติชาคริยาภาเวน สพฺพิริยาปเถสุ นิทฺทายนฺเตสุ. พหุชาคโรติ มหนฺเต สติเวปุลฺเล ชาคริเย ิโต. อพลสฺสํวาติ กุณฺปาทํ ฉินฺนชวํ ทุพฺพลสฺสํ สีฆชโว สินฺธวาชานีโย วิย. สุเมธโสติ อุตฺตมปฺโ. ตถารูปํ ปุคฺคลํ อาคเมนปิ อธิคเมนปิ หิตฺวา ยาติ. มนฺทปฺสฺมิฺหิ เอกํ สุตฺตํ คเหตุํ วายมนฺเตเยว สุเมธโส เอกํ วคฺคํ คณฺหาติ, เอวํ ตาว อาคเมน หิตฺวา ยาติ. มนฺทปฺเ ปน รตฺติฏฺานทิวาฏฺานานิ กาตุํ วายมนฺเตเยว กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตฺวา สชฺฌายนฺเตเยว จ สุเมธโส ปุพฺพภาเคปิ ปเรน กตํ รตฺติฏฺานํ วา ทิวาฏฺานํ วา ปวิสิตฺวา กมฺมฏฺานํ สมฺมสนฺโต สพฺพกิเลเส เขเปตฺวา เนว โลกุตฺตรธมฺเม หตฺถคเต ¶ กโรติ, เอวํ อธิคเมนปิ หิตฺวา ยาติ. วฏฺเฏ ปน นํ หิตฺวา ฉฑฺเฑตฺวา วฏฺฏโต นิสฺสรนฺโต ยาติเยวาติ.
คาถาปริโยสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.
ปมตฺตาปมตฺตทฺเวสหายกวตฺถุ ฉฏฺํ.
๗. มฆวตฺถุ
อปฺปมาเทน มฆวาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวสาลิยํ อุปนิสฺสาย กูฏาคารสาลายํ วิหรนฺโต สกฺกํ เทวราชานํ อารพฺภ กเถสิ.
เวสาลิยฺหิ มหาลิ นาม ลิจฺฉวี วสติ, โส ตถาคตสฺส สกฺกปฺหสุตฺตนฺตเทสนํ (ที. นิ. ๒.๓๔๔ อาทโย) สุตฺวา ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ สกฺกสมฺปตฺตึ มหตึ กตฺวา กเถสิ, ‘ทิสฺวา นุ โข กเถสิ, อุทาหุ อทิสฺวา. ชานาติ นุ โข สกฺกํ, อุทาหุ โน’ติ ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตสิ. อถ โข, มหาลิ, ลิจฺฉวี เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข, มหาลิ, ลิจฺฉวี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ทิฏฺโ ¶ โข, ภนฺเต, ภควตา สกฺโก เทวานมินฺโท’’ติ? ‘‘ทิฏฺโ โข เม ¶ , มหาลิ, สกฺโก เทวานมินฺโท’’ติ. ‘‘โส หิ นุน, ภนฺเต, สกฺกปติรูปโก ภวิสฺสติ ¶ . ทุทฺทโส หิ, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท’’ติ. ‘‘สกฺกฺจ ขฺวาหํ, มหาลิ, ปชานามิ สกฺกกรเณ จ ธมฺเม, เยสํ ธมฺมานํ สมาทินฺนตฺตา สกฺโก สกฺกตฺตํ อชฺฌคา, ตฺจ ปชานามิ’’.
สกฺโก, มหาลิ, เทวานมินฺโท ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน มโฆ นาม มาณโว อโหสิ, ตสฺมา ‘‘มฆวา’’ติ วุจฺจติ.
สกฺโก, มหาลิ, เทวานมินฺโท ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน ปุเร ทานํ อทาสิ, ตสฺมา ‘‘ปุรินฺทโท’’ติ วุจฺจติ.
สกฺโก, มหาลิ, เทวานมินฺโท ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน สกฺกจฺจํ ทานํ อทาสิ, ตสฺมา ‘‘สกฺโก’’ติ วุจฺจติ.
สกฺโก, มหาลิ, เทวานมินฺโท ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน อาวสถํ อทาสิ, ตสฺมา ‘‘วาสโว’’ติ วุจฺจติ.
สกฺโก, มหาลิ, เทวานมินฺโท สหสฺสมฺปิ อตฺถํ มุหุตฺเตน จินฺเตติ, ตสฺมา ‘‘สหสฺสกฺโข’’ติ วุจฺจติ.
สกฺกสฺส, มหาลิ, เทวานมินฺทสฺส สุชา นาม อสุรกฺา, ปชาปติ, ตสฺมา ‘‘สุชมฺปตี’’ติ วุจฺจติ.
สกฺโก, มหาลิ, เทวานมินฺโท เทวานํ ตาวตึสานํ อิสฺสริยาธิปจฺจํ รชฺชํ กาเรติ, ตสฺมา ‘‘เทวานมินฺโท’’ติ วุจฺจติ.
สกฺกสฺส, มหาลิ, เทวานมินฺทสฺส ปุพฺเพ มนุสฺสภูตสฺส สตฺต วตปทานิ สมตฺตานิ สมาทินฺนานิ อเหสุํ, เยสํ สมาทินฺนตฺตา สกฺโก สกฺกตฺตํ ¶ อชฺฌคา. กตมานิ สตฺต วตปทานิ? ยาวชีวํ มาตาเปตฺติภโร อสฺสํ, ยาวชีวํ กุเล เชฏฺาปจายี อสฺสํ, ยาวชีวํ สณฺหวาโจ อสฺสํ, ยาวชีวํ อปิสุณวาโจ อสฺสํ, ยาวชีวํ วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวเสยฺยํ, มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต อสฺสํ. ยาวชีวํ ¶ สจฺจวาโจ อสฺสํ, ยาวชีวํ อกฺโกธโน อสฺสํ, ‘‘สเจปิ เม โกโธ อุปฺปชฺเชยฺย, ขิปฺปเมว น ปฏิวิเนยฺย’’นฺติ. สกฺกสฺส, มหาลิ, เทวานมินฺทสฺส ปุพฺเพ มนุสฺสภูตสฺส อิมานิ ¶ สตฺต วตปทานิ สมตฺตานิ สมาทินฺนานิ อเหสุํ, เยสํ สมาทินฺนตฺตา สกฺโก สกฺกตฺตํ อชฺฌคาติ.
‘‘มาตาเปตฺติภรํ ชนฺตุํ, กุเล เชฏฺาปจายินํ;
สณฺหํ สขิลสมฺภาสํ, เปสุเณยฺยปฺปหายินํ.
‘‘มจฺเฉรวินเย ยุตฺตํ, สจฺจํ โกธาภิภุํ นรํ;
ตํ เว เทวา ตาวตึสา, อาหุ สปฺปุริโส อิตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๕๗) –
อิทํ, มหาลิ, สกฺเกน มฆมาณวกาเล กตกมฺมนฺติ วตฺวา ปุน เตน ‘‘กถํ, ภนฺเต, มฆมาณโว ปฏิปชฺชี’’ติ? ตสฺส ปฏิปตฺตึ วิตฺถารโต โสตุกาเมน ปุฏฺโ ‘‘เตน หิ, มหาลิ, สุณาหี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ –
อตีเต มคธรฏฺเ มจลคาเม มโฆ นาม มาณโว ¶ คามกมฺมกรณฏฺานํ คนฺตฺวา อตฺตโน ิตฏฺานํ ปาทนฺเตน ปํสุํ วิยูหิตฺวา รมณียํ กตฺวา อฏฺาสิ. อปโร ตํ พาหุนา ปหริตฺวา ตโต อปเนตฺวา สยํ ตตฺถ อฏฺาสิ. โส ตสฺส อกุชฺฌิตฺวาว อฺํ านํ รมณียํ กตฺวา ิโต. ตโตปิ นํ อฺโ อาคนฺตฺวา พาหุนา ปหริตฺวา อปเนตฺวา สยํ อฏฺาสิ. โส ตสฺสปิ อกุชฺฌิตฺวาว อฺํ านํ รมณียํ กตฺวา ิโต, อิติ ตํ เคหโต นิกฺขนฺตา นิกฺขนฺตา ปุริสา พาหุนา ปหริตฺวา ิติตฏฺานโต อปเนสุํ. โส ‘‘สพฺเพเปเต มํ นิสฺสาย สุขิตา ชาตา, อิมินา กมฺเมน มยฺหํ สุขทายเกน ปฺุกมฺเมน ภวิตพฺพ’’นฺติ จินฺเตตฺวา, ปุนทิวเส กุทาลํ อาทาย ขลมณฺฑลมตฺตํ านํ รมณียํ อกาสิ. สพฺเพ คนฺตฺวา ตตฺเถว อฏฺํสุ. อถ เนสํ สีตสมเย อคฺคึ กตฺวา อทาสิ, คิมฺหกาเล อุทกํ. ตโต ‘‘รมณียํ านํ นาม สพฺเพสํ ปิยํ, กสฺสจิ อปฺปิยํ นาม นตฺถิ, อิโต ปฏฺาย มยา มคฺคํ สมํ กโรนฺเตน วิจริตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา, ปาโตว นิกฺขมิตฺวา, มคฺคํ สมํ กโรนฺโต ฉินฺทิตฺวา, หริตพฺพยุตฺตกา รุกฺขสาขา หรนฺโต วิจรติ. อถ นํ อปโร ทิสฺวา อาห – ‘‘สมฺม, กึ กโรสี’’ติ? ‘‘มยฺหํ สคฺคคามินํ มคฺคํ กโรมิ, สมฺมา’’ติ. ‘‘เตน หิ อหมฺปิ เต สหาโย โหมี’’ติ. ‘‘โหหิ, สมฺม, สคฺโค นาม พหูนมฺปิ มนาโป สุขพหุโล’’ติ. ตโต ปฏฺาย ทฺเว ชนา ¶ อเหสุํ. เต ทิสฺวา ¶ ตเถว ปุจฺฉิตฺวา จ สุตฺวา จ อปโรปิ ¶ เตสํ สหาโย ชาโต, เอวํ อปโรปิ อปโรปีติ สพฺเพปิ เตตฺตึส ชนา ชาตา. เต สพฺเพปิ กุทาลาทิหตฺถา มคฺคํ สมํ กโรนฺตา เอกโยชนทฺวิโยชนมตฺตฏฺานํ คจฺฉนฺติ.
เต ทิสฺวา คามโภชโก จินฺเตสิ – ‘‘อิเม มนุสฺสา อโยเค ยุตฺตา, สเจ อิเม อรฺโต มจฺฉมํสาทีนิ วา อาหเรยฺยุํ. สุรํ วา กตฺวา ปิเวยฺยุํ, อฺํ วา ตาทิสํ กมฺมํ กเรยฺยุํ, อหมฺปิ กิฺจิ กิฺจิ ลเภยฺย’’นฺติ. อถ เน ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘กึ กโรนฺตา วิจรถา’’ติ? ‘‘สคฺคมคฺคํ, สามี’’ติ. ‘‘ฆราวาสํ วสนฺเตหิ นาม เอวํ กาตุํ น วฏฺฏติ, อรฺโต มจฺฉมํสาทีนิ อาหริตุํ, สุรํ กตฺวา ปาตุํ, นานปฺปกาเร จ กมฺมนฺเต กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. เต ตสฺส วจนํ ปฏิกฺขิปึสุ, เอวํ ปุนปฺปุนํ วุจฺจมานาปิ ปฏิกฺขิปึสุเยว. โส กุชฺฌิตฺวา ‘‘นาเสสฺสามิ เน’’ติ รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘โจเร เต, เทว, วคฺคพนฺธเนน วิจรนฺเต ปสฺสามี’’ติ วตฺวา, ‘‘คจฺฉ, เต คเหตฺวา อาเนหี’’ติ วุตฺเต ตถา กตฺวา สพฺเพ เต พนฺธิตฺวา อาเนตฺวา รฺโ ทสฺเสสิ. ราชา อวีมํสิตฺวาว ‘‘หตฺถินา มทฺทาเปถา’’ติ อาณาเปสิ. มโฆ เสสานํ โอวาทมทาสิ – ‘‘สมฺมา, เปตฺวา เมตฺตํ อฺโ อมฺหากํ อวสฺสโย นตฺถิ, ตุมฺเห กตฺถจิ โกปํ อกตฺวา รฺเ จ คามโภชเก จ มทฺทนหตฺถิมฺหิ จ อตฺตนิ จ เมตฺตจิตฺเตน สมจิตฺตาว โหถา’’ติ. เต ตถา กรึสุ. อถ เนสํ เมตฺตานุภาเวน หตฺถี อุปฺปสงฺกมิตุมฺปิ น วิสหิ. ราชา ตมตฺถํ สุตฺวา พหู ¶ มนุสฺเส ทิสฺวา มทฺทิตุํ น วิสหิสฺสติ? ‘‘คจฺฉถ, เน กิลฺเชน ปฏิจฺฉาเทตฺวา มทฺทาเปถา’’ติ อาห. เต กิลฺเชน ปฏิจฺฉาเทตฺวา มทฺทิตุํ เปสิยมาโนปิ หตฺถี ทูรโตว ปฏิกฺกมิ.
ราชา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘การเณเนตฺถ ภวิตพฺพ’’นฺติ เต ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘ตาตา, มํ นิสฺสาย ตุมฺเห กึ น ลภถา’’ติ? ‘‘กึ นาเมตํ, เทวา’’ติ? ‘‘ตุมฺเห กิร วคฺคพนฺธเนน โจรา หุตฺวา อรฺเ วิจรถา’’ติ? ‘‘โก เอวมาห, เทวา’’ติ? ‘‘คามโภชโก, ตาตา’’ติ. ‘‘น มยํ, เทว, โจรา, มยํ ปน อตฺตโน สคฺคมคฺคํ โสเธนฺตา อิทฺจิทฺจ กโรม, คามโภชโก อมฺเห อกุสลกิริยาย นิโยเชตฺวา อตฺตโน วจนํ อกโรนฺเต นาเสตุกาโม กุชฺฌิตฺวา เอวมาหา’’ติ. อถ ราชา เตสํ กถํ สุตฺวา โสมนสฺสปฺปตฺโต หุตฺวา, ‘‘ตาตา, อยํ ติรจฺฉาโน ตุมฺหากํ ¶ คุเณ ชานาติ, อหํ มนุสฺสภูโต ชานิตุํ นาสกฺขึ, ขมถ เม’’ติ. เอวฺจ ปน วตฺวา สปุตฺตทารํ คามโภชกํ เตสํ ทาสํ, หตฺถึ อาโรหนิยํ, ตฺจ คามํ ยถาสุขํ ปริโภคํ กตฺวา อทาสิ. เต ‘‘อิเธว โน กตปฺุสฺสานิสํโส ทิฏฺโ’’ติ ภิยฺโยโสมตฺตาย ปสนฺนมานสา หุตฺวา ตํ หตฺถึ วาเรน วาเรน อภิรุยฺห คจฺฉนฺตา มนฺตยึสุ ¶ ‘‘อิทานิ อมฺเหหิ ¶ อติเรกตรํ ปฺุํ กาตพฺพํ, กึ กโรม? จตุมหาปเถ ถาวรํ กตฺวา มหาชนสฺส วิสฺสมนสาลํ กริสฺสามา’’ติ. เต วฑฺฒกึ ปกฺโกสาเปตฺวา สาลํ ปฏฺเปสุํ. มาตุคาเมสุ ปน วิคตจฺฉนฺทตาย ตสฺสา สาลาย มาตุคามานํ ปตฺตึ นาทํสุ.
มฆสฺส ปน เคเห นนฺทา, จิตฺตา, สุธมฺมา, สุชาติ จตสฺโส อิตฺถิโย โหนฺติ. ตาสุ สุธมฺมา วฑฺฒกินา สทฺธึ เอกโต หุตฺวา, ‘‘ภาติก, อิมิสฺสา สาลาย มํ เชฏฺิกํ กโรหี’’ติ วตฺวา ลฺชํ อทาสิ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปมเมว กณฺณิกตฺถาย รุกฺขํ สุกฺขาเปตฺวา ตจฺเฉตฺวา วิชฺฌิตฺวา กณฺณิกํ นิฏฺาเปตฺวา, ‘‘สุธมฺมา นาม อยํ สาลา’’ติ อกฺขรานิ ฉินฺทิตฺวา วตฺเถน ปลิเวเตฺวา เปสิ. อถ เน วฑฺฒกี สาลํ นิฏฺาเปตฺวา กณฺณิกาโรปนทิวเส ‘‘อโห, อยฺยา, เอกํ กรณียํ น สริมฺหา’’ติ อาห. ‘‘กึ นาม, โภ’’ติ? ‘‘กณฺณิก’’นฺติ. ‘‘โหตุ ตํ อาหริสฺสามา’’ติ. ‘‘อิทานิ ฉินฺนรุกฺเขน กาตุํ น สกฺกา, ปุพฺเพเยว ตํ ฉินฺทิตฺวา ตจฺเฉตฺวา วิชฺฌิตฺวา ปิตกณฺณิกา ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘อิทานิ กึ กาตพฺพ’’นฺติ? ‘‘สเจ กสฺสจิ เคเห นิฏฺาเปตฺวา ปิตา วิกฺกายิกกณฺณิกา ¶ อตฺถิ, สา ปริเยสิตพฺพา’’ติ. เต ปริเยสนฺตา สุธมฺมาย เคเห ทิสฺวา สหสฺสํ ทตฺวาปิ มูเลน น ลภึสุ. ‘‘สเจ มํ สาลาย ปตฺตึ กโรถ, ทสฺสามี’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘มยํ มาตุคามานํ ปตฺตึ น ทมฺมา’’ติ อาหํสุ.
อถ เน วฑฺฒกี อาห – ‘‘อยฺยา, ตุมฺเห กึ กเถถ, เปตฺวา พฺรหฺมโลกํ อฺํ มาตุคามรหิตฏฺานํ นาม นตฺถิ, คณฺหถ กณฺณิกํ. เอวํ สนฺเต อมฺหากํ กมฺมํ นิฏฺํ คมิสฺสตี’’ติ. เต ‘‘สาธู’’ติ กณฺณิกํ คเหตฺวา สาลํ นิฏฺาเปตฺวา ติธา วิภชึสุ. เอกสฺมึ โกฏฺาเส อิสฺสรานํ วสนฏฺานํ กรึสุ, เอกสฺมึ ทุคฺคตานํ, เอกสฺมึ คิลานานํ. เตตฺตึส ชนา เตตฺตึส ผลกานิ ปฺเปตฺวา หตฺถิสฺส สฺํ อทํสุ – ‘‘อาคนฺตุโก อาคนฺตฺวา ยสฺส อตฺถตผลเก นิสีทติ, ตํ คเหตฺวา ผลกสามิกสฺเสว ¶ เคเห ปติฏฺเปหิ, ตสฺส ปาทปริกมฺมปิฏฺิปริกมฺมปานียขาทนียโภชนียสยนานิ สพฺพานิ ผลกสามิกสฺเสว ภาโร ภวิสฺสตี’’ติ. หตฺถี อาคตาคตํ คเหตฺวา ผลกสามิกสฺเสว ฆรํ เนติ. โส ตสฺส ตํ ทิวสํ กตฺตพฺพํ กโรติ. มโฆ สาลาย อวิทูเร โกวิฬารรุกฺขํ โรเปตฺวา ตสฺส มูเล ปาสาณผลกํ อตฺถริ. สาลํ ปวิฏฺปวิฏฺา ชนา กณฺณิกํ โอโลเกตฺวา อกฺขรานิ วาเจตฺวา, ‘‘สุธมฺมา นาเมสา สาลา’’ติ วทนฺติ. เตตฺตึสชนานํ นามํ น ปฺายติ. นนฺทา จินฺเตสิ – ‘‘อิเม สาลํ กโรนฺตา อมฺเห อปตฺติกา กรึสุ, สุธมฺมา ¶ ปน อตฺตโน พฺยตฺตตาย กณฺณิกํ กตฺวา ปตฺติกา ชาตา, มยาปิ กิฺจิ กาตุํ วฏฺฏติ, กึ นุ โข กริสฺสามี’’ติ? อถสฺสา เอตทโหสิ ¶ – ‘‘สาลํ อาคตาคตานํ ปานียฺเจว นฺหาโนทกฺจ ลทฺธุํ วฏฺฏติ, โปกฺขรณึ ขณาเปสฺสามี’’ติ. สา โปกฺขรณึ กาเรสิ. จิตฺตา จินฺเตสิ – ‘‘สุธมฺมาย กณฺณิกา ทินฺนา, นนฺทาย โปกฺขรณี การิตา, มยาปิ กิฺจิ กาตุํ วฏฺฏติ, กึ นุ โข กริสฺสามี’’ติ? อถสฺสา เอตทโหสิ – ‘‘สาลํ อาคตาคเตหิ ปานียํ ปิวิตฺวา นฺหตฺวา คมนกาเลปิ มาลํ ปิลนฺธิตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ, ปุปฺผารามํ การาเปสฺสามี’’ติ. สา รมณียํ ปุปฺผารามํ กาเรสิ. เยภุยฺเยน ตสฺมึ อาราเม ‘‘อสุโก นาม ปุปฺผูปคผลูปครุกฺโข นตฺถี’’ติ นาโหสิ.
สุชา ปน ‘‘อหํ มฆสฺส มาตุลธีตา เจว ปาทปริจาริกา จ, เอเตน กตํ กมฺมํ มยฺหเมว, มยา กตํ เอตสฺเสวา’’ติ จินฺเตตฺวา, กิฺจิ อกตฺวา อตฺตภาวเมว มณฺฑยมานา กาลํ วีตินาเมสิ. มโฆปิ มาตาปิตุอุปฏฺานํ กุเล เชฏฺาปจายนกมฺมํ สจฺจวาจํ อผรุสวาจํ อปิ, สุณวาจํ มจฺเฉรวินยํ อกฺโกธนนฺติ อิมานิ สตฺต วตปทานิ ปูเรตฺวา –
‘‘มาตาเปตฺติภรํ ¶ ชนฺตุํ, กุเล เชฏฺาปจายินํ;
สณฺหํ สขิลสมฺภาสํ, เปสุเณยฺยปฺปหายินํ.
‘‘มจฺเฉรวินเย ยุตฺตํ, สจฺจํ โกธาภิภุํ นรํ;
ตํ เว เทวา ตาวตึสา, อาหุ ‘สปฺปุริโส’อิตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๕๗) –
เอวํ ปสํสิยภาวํ อาปชฺชิตฺวา ชีวิตปริโยสาเน ตาวตึสภวเน สกฺโก เทวราชา หุตฺวา นิพฺพตฺติ, เตปิสฺส สหายกา ตตฺเถว ¶ นิพฺพตฺตึสุ, วฑฺฒกี วิสฺสกมฺมเทวปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตทา ตาวตึสภวเน อสุรา วสนฺติ. เต ‘‘อภินวา เทวปุตฺตา นิพฺพตฺตา’’ติ ทิพฺพปานํ สชฺชยึสุ. สกฺโก อตฺตโน ปริสาย กสฺสจิ อปิวนตฺถาย สฺมทาสิ. อสุรา ทิพฺพปานํ ปิวิตฺวา มชฺชึสุ. สกฺโก ‘‘กึ เม อิเมหิ สาธารเณน รชฺเชนา’’ติ อตฺตโน ปริสาย สฺํ ทตฺวา เต ปาเทสุ คาหาเปตฺวา มหาสมุทฺเท ขิปาเปสิ. เต อวํสิรา สมุทฺเท ปตึสุ. อถ เนสํ ปฺุานุภาเวน สิเนรุโน เหฏฺิมตเล อสุรวิมานํ นาม นิพฺพตฺติ, จิตฺตปาฏลิ นาม นิพฺพตฺติ.
เทวาสุรสงฺคาเม ปน อสุเรสุ ปราชิเตสุ ทสโยชนสหสฺสํ ตาวตึสเทวนครํ นาม นิพฺพตฺติ. ตสฺส ปน นครสฺส ปาจีนปจฺฉิมทฺวารานํ อนฺตรา ทสโยชนสหสฺสํ โหติ, ตถา ทกฺขิณุตฺตรทฺวารานํ. ตํ โข ปน นครํ ทฺวารสหสฺสยุตฺตํ อโหสิ อารามโปกฺขรณิปฏิมณฺฑิตํ. ตสฺส ¶ มชฺเฌ สาลาย ¶ นิสฺสนฺเทน ติโยชนสตุพฺเพเธหิ ธเชหิ ปฏิมณฺฑิโต สตฺตรตนมโย สตฺตโยชนสตุพฺเพโธ เวชยนฺโต นาม ปาสาโท อุคฺคฺฉิ. สุวณฺณยฏฺีสุ มณิธชา อเหสุํ, มณิยฏฺีสุ สุวณฺณธชา; ปวาฬยฏฺีสุ มุตฺตธชา, มุตฺตยฏฺีสุ ปวาฬธชา; สตฺตรตนมยาสุ ยฏฺีสุ สตฺตรตนธชา, มชฺเฌ ิโต ธโช ติโยชนสตุพฺเพโธ อโหสิ. อิติ สาลาย นิสฺสนฺเทน โยชนสหสฺสุพฺเพโธ ปาสาโท สตฺตรตนมโยว หุตฺวา นิพฺพตฺติ, โกวิฬารรุกฺขสฺส นิสฺสนฺเทน สมนฺตา ติโยชนสตปริมณฺฑโล ปาริจฺฉตฺตโก นิพฺพตฺติ, ปาสาณผลกสฺส นิสฺสนฺเทน ปาริจฺฉตฺตกมูเล ทีฆโต สฏฺิโยชนา ปุถุลโต ปณฺณาสโยชนา พหลโต ปฺจทสโยชนา ชยสุมนรตฺตกมฺพลวณฺณา ปณฺฑุกมฺพลสิลา นิพฺพตฺติ. ตตฺถ นิสินฺนกาเล อุปฑฺฒกาโย ปวิสติ, อุฏฺิตกาเล อูนํ ปริปูรติ.
หตฺถี ปน เอราวโณ นาม เทวปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. เทวโลกสฺมิฺหิ ติรจฺฉานคตา น โหนฺติ. ตสฺมา โส อุยฺยานกีฬาย นิกฺขมนกาเล อตฺตภาวํ วิชหิตฺวา ทิยฑฺฒโยชนสติโก เอราวโณ นาม หตฺถี อโหสิ. โส เตตฺตึสชนานํ อตฺถาย เตตฺตึส กุมฺเภ มาเปสิ ¶ อาวฏฺเฏน ติคาวุตอฑฺฒโยชนปฺปมาเณ, สพฺเพสํ มชฺเฌ สกฺกสฺส อตฺถาย สุทสฺสนํ นาม ตึสโยชนิกํ กุมฺภํ มาเปสิ. ตสฺส อุปริ ทฺวาทสโยชนิโก รตนมณฺฑโป ¶ โหติ. ตตฺถ อนฺตรนฺตรา สตฺตรตนมยา โยชนุพฺเพธา ธชา อุฏฺหนฺติ. ปริยนฺเต กิงฺกิณิกชาลํ โอลมฺพติ. ยสฺส มนฺทวาเตริตสฺส ปฺจงฺคิกตูริยสทฺทสํมิสฺโส ทิพฺพคีตสทฺโท วิย รโว นิจฺฉรติ. มณฺฑปมชฺเฌ สกฺกสฺสตฺถาย โยชนิโก มณิปลฺลงฺโก ปฺตฺโต โหติ, ตตฺถ สกฺโก นิสีทิ. เตตฺตึส เทวปุตฺตา อตฺตโน กุมฺเภ รตนปลฺลงฺเก นิสีทึสุ. เตตฺตึสาย กุมฺภานํ เอเกกสฺมึ กุมฺเภ สตฺต สตฺต ทนฺเต มาเปสิ. เตสุ เอเกโก ปณฺณาสโยชนายาโม, เอเกกสฺมิฺเจตฺถ ทนฺเต สตฺต สตฺต โปกฺขรณิโย โหนฺติ, เอเกกาย โปกฺขรณิยา สตฺต สตฺต ปทุมินีคจฺฉานิ, เอเกกสฺมึ คจฺเฉ สตฺต สตฺต ปุปฺผานิ โหนฺติ, เอเกกสฺมึ ปุปฺเผ สตฺต สตฺต ปตฺตานิ, เอเกกสฺมึ ปตฺเต สตฺต สตฺต เทวธีตโร นจฺจนฺติ. เอวํ สมนฺตา ปณฺณาสโยชนาเนสุ หตฺถิทนฺเตสุเยว นฏสมชฺชา โหนฺติ. เอวํ มหนฺตํ ยสํ อนุภวนฺโต สกฺโก เทวราชา วิจรติ.
สุธมฺมาปิ กาลํ กตฺวา คนฺตฺวา ตตฺเถว นิพฺพตฺติ. ตสฺสา สุธมฺมา นาม นว โยชนสติกา เทวสภา นิพฺพตฺติ. ตโต รมณียตรํ กิร อฺํ านํ นาม นตฺถิ ¶ , มาสสฺส อฏฺ ทิวเส ธมฺมสฺสวนํ ตตฺเถว โหติ. ยาวชฺชตนา อฺตรํ รมณียํ านํ ทิสฺวา, ‘‘สุธมฺมา เทวสภา วิยา’’ติ วทนฺติ. นนฺทาปิ กาลํ กตฺวา คนฺตฺวา ตตฺเถว นิพฺพตฺติ, ตสฺสา ปฺจโยชนสติกา นนฺทา นาม โปกฺขรณี นิพฺพตฺติ. จิตฺตาปิ กาลํ กตฺวา คนฺตฺวา ตตฺเถว นิพฺพตฺติ ¶ , ตสฺสาปิ ปฺจโยชนสติกํ จิตฺตลตาวนํ นาม นิพฺพตฺติ, ตตฺถ อุปฺปนฺนปุพฺพนิมิตฺเต เทวปุตฺเต เนตฺวา โมหยมานา วิจรนฺติ. สุชา ปน กาลํ กตฺวา เอกิสฺสา คิริกนฺทราย เอกา พกสกุณิกา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. สกฺโก อตฺตโน ปริจาริกา โอโลเกนฺโต ‘‘สุธมฺมา อิเธว นิพฺพตฺตา, ตถา นนฺทา จ จิตฺตา จ, สุชา นุ โข กุหึ นิพฺพตฺตา’’ติ จินฺเตนฺโต ตํ ตตฺถ นิพฺพตฺตํ ทิสฺวา, ‘‘พาลา กิฺจิ ปฺุํ อกตฺวา อิทานิ ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺตา, อิทานิ ปน ตํ ปฺุํ กาเรตฺวา อิธาเนตุํ วฏฺฏตี’’ติ อตฺตภาวํ วิชหิตฺวา อฺาตกเวเสน ตสฺสา ¶ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘กึ กโรนฺตี อิธ วิจรสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘โก ปน ตฺวํ, สามี’’ติ? ‘‘อหํ เต สามิโก มโฆ’’ติ. ‘‘กุหึ นิพฺพตฺโตสิ, สามี’’ติ? ‘‘อหํ ตาวตึสเทวโลเก นิพฺพตฺโต’’. ‘‘ตว สหายิกานํ ปน นิพฺพตฺตฏฺานํ ชานาสี’’ติ? ‘‘น ชานามิ, สามี’’ติ. ‘‘ตาปิ มเมว สนฺติเก นิพฺพตฺตา, ปสฺสิสฺสสิ ตา สหายิกา’’ติ. ‘‘กถาหํ ตตฺถ คมิสฺสามี’’ติ? สกฺโก ‘‘อหํ ตํ ตตฺถ เนสฺสามี’’ติ วตฺวา หตฺถตเล เปตฺวา เทวโลกํ เนตฺวา นนฺทาย โปกฺขรณิยา ตีเร วิสฺสชฺเชตฺวา อิตราสํ ติสฺสนฺนํ อาโรเจสิ – ‘‘ตุมฺหากํ สหายิกํ สุชํ ปสฺสิสฺสถา’’ติ. ‘‘กุหึ สา, เทวา’’ติ ¶ ? ‘‘นนฺทาย โปกฺขรณิยา ตีเร ิตา’’ติ อาห. ตา ติสฺโสปิ คนฺตฺวา, ‘‘อโห อยฺยาย เอวรูปํ อตฺตภาวมณฺฑนสฺส ผลํ, อิทานิสฺสา ตุณฺฑํ ปสฺสถ, ปาเท ปสฺสถ, ชงฺฆา ปสฺสถ, โสภติ วตสฺสา อตฺตภาโว’’ติ เกฬึ กตฺวา ปกฺกมึสุ.
ปุน สกฺโก ตสฺสา สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘ทิฏฺา เต สหายิกา’’ติ วตฺวา ‘‘ทิฏฺา มํ อุปฺปณฺเฑตฺวา คตา, ตตฺเถว มํ เนหี’’ติ วุตฺเต ตํ ตตฺเถว เนตฺวา อุทเก วิสฺสชฺเชตฺวา, ‘‘ทิฏฺา เต ตาสํ สมฺปตฺตี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ทิฏฺา, เทวา’’ติ? ‘‘ตยาปิ ตตฺถ นิพฺพตฺตนูปายํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘กึ กโรมิ, เทวา’’ติ? ‘‘มยา ทินฺนํ โอวาทํ รกฺขิสฺสสี’’ติ. ‘‘รกฺขิสฺสามิ, เทวา’’ติ. อถสฺสา ปฺจ สีลานิ ทตฺวา, ‘‘อปฺปมตฺตา รกฺขาหี’’ติ วตฺวา ปกฺกามิ. สา ตโต ปฏฺาย สยํมตมจฺฉเกเยว ปริเยสิตฺวา ขาทติ. สกฺโก กติปาหจฺจเยน ตสฺสา วีมํสนตฺถาย คนฺตฺวา, วาลุกาปิฏฺเ มตมจฺฉโก วิย หุตฺวา อุตฺตาโน นิปชฺชิ. สา ตํ ทิสฺวา ‘‘มตมจฺฉโก’’ติ สฺาย อคฺคเหสิ. มจฺโฉ คิลนกาเล นงฺคุฏฺํ จาเลสิ. สา ‘‘สชีวมจฺฉโก’’ติ อุทเก วิสฺสชฺเชสิ. โส โถกํ วีตินาเมตฺวา ปุน ตสฺสา ปุรโต อุตฺตาโน หุตฺวา นิปชฺชิ. ปุน สา ‘‘มตมจฺฉโก’’ติ สฺาย คเหตฺวา คิลนกาเล อคฺคนงฺคุฏฺํ จาเลสิ. ตํ ทิสฺวา ‘‘สชีวมจฺโฉ’’ติ วิสฺสชฺเชสิ. เอวํ ติกฺขตฺตุํ วีมํสิตฺวา ‘‘สาธุกํ สีลํ รกฺขตี’’ติ อตฺตานํ ชานาเปตฺวา ‘‘อหํ ตว วีมํสนตฺถาย อาคโต, สาธุกํ สีลํ รกฺขสิ, เอวํ รกฺขมานา ¶ น จิรสฺเสว มม สนฺติเก นิพฺพตฺติสฺสสิ, อปฺปมตฺตา โหหี’’ติ วตฺวา ปกฺกามิ.
สา ¶ ¶ ตโต ปฏฺาย ปน สยํมตมจฺฉํ ลภติ วา, น วา. อลภมานา กติปาหจฺจเยเนว สุสฺสิตฺวา กาลํ กตฺวา ตสฺส สีลสฺส ผเลน พาราณสิยํ กุมฺภการสฺส ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. อถสฺสา ปนฺนรสโสฬสวสฺสุทฺเทสิกกาเล สกฺโก ‘‘กุหึ นุ โข สา นิพฺพตฺตา’’ติ อาวชฺเชนฺโต ทิสฺวา, ‘‘อิทานิ มยา ตตฺถ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ เอฬาลุกวณฺเณน ปฺายมาเนหิ สตฺตหิ รตเนหิ ยานกํ ปูเรตฺวา ตํ ปาเชนฺโต พาราณสึ ปวิสิตฺวา, ‘‘อมฺมตาตา, เอฬาลุกานิ คณฺหถ คณฺหถา’’ติ อุคฺโฆเสนฺโต วีถึ ปฏิปชฺชิ. มุคฺคมาสาทีนิ คเหตฺวา อาคเต ปน ‘‘มูเลน น เทมี’’ติ วตฺวา, ‘‘กถํ เทสี’’ติ วุตฺเต, ‘‘สีลรกฺขิกาย อิตฺถิยา ทมฺมี’’ติ อาห. ‘‘สีลํ นาม, สามิ, กีทิสํ, กึ กาฬํ, อุทาหุ นีลาทิวณฺณ’’นฺติ? ‘‘ตุมฺเห ‘สีลํ กีทิส’นฺติปิ น ชานาถ, กิเมว นํ รกฺขิสฺสถ, สีลรกฺขิกาย ปน ทสฺสามี’’ติ. ‘‘สามิ, เอสา กุมฺภการสฺส ธีตา ‘สีลํ รกฺขามี’ติ วิจรติ, เอติสฺสา เทหี’’ติ. สาปิ นํ ‘‘เตน หิ มยฺหํ เทหิ, สามี’’ติ อาห. ‘‘กาสิ ตฺว’’นฺติ? ‘‘อหํ อวิชหิตปฺจสีลา’’ติ. ‘‘ตุยฺหเมเวตานิ ¶ มยา อานีตานี’’ติ ยานกํ ปาเชนฺโต ตสฺสา ฆรํ คนฺตฺวา อฺเหิ อนาหริยํ กตฺวา เอฬาลุกวณฺเณน เทวทตฺติยํ ธนํ ทตฺวา อตฺตานํ ชานาเปตฺวา, ‘‘อิทํ เต ชีวิตวุตฺติยา ธนํ, ปฺจสีลานิ อขณฺฑาทีนิ กตฺวา รกฺขาหี’’ติ วตฺวา ปกฺกามิ.
สาปิ ตโต จวิตฺวา อสุรภวเน อสุรเชฏฺกสฺส ธีตา หุตฺวา สกฺกสฺส เวริฆเร นิพฺพตฺติ. ทฺวีสุ ปน อตฺตภาเวสุ สีลสฺส สุรกฺขิตตฺตา อภิรูปา อโหสิ สุวณฺณวณฺณา อสาธารณาย รูปสิริยา สมนฺนาคตา. เวปจิตฺติอสุรินฺโท อาคตาคตานํ อสุรานํ ‘‘ตุมฺเห มม ธีตุ อนุจฺฉวิกา น โหถา’’ติ ตํ กสฺสจิ อทตฺวา, ‘‘มม ธีตา อตฺตนาว อตฺตโน อนุจฺฉวิกํ สามิกํ คเหสฺสตี’’ติ อสุรพลํ สนฺนิปาตาเปตฺวา, ‘‘ตุยฺหํ อนุจฺฉวิกํ สามิกํ คณฺหา’’ติ ตสฺสา, หตฺเถ ปุปฺผทามํ อทาสิ. ตสฺมึ ขเณ สกฺโก ตสฺสา นิพฺพตฺตฏฺานํ โอโลเกนฺโต ตํ ปวตฺตึ ตฺวา, ‘‘อิทานิ มยา คนฺตฺวา ตํ อาเนตุํ วฏฺฏตี’’ติ มหลฺลกอสุรวณฺณํ นิมฺมินิตฺวา คนฺตฺวา ปริสปริยนฺเต อฏฺาสิ. สาปิ อิโต จิโต จ โอโลเกนฺตี ตํ ทิฏฺมตฺตาว ปุพฺพสนฺนิวาสวเสน อุปฺปนฺเนน เปเมน มโหเฆเนว อชฺโฌตฺถฏหทยา หุตฺวา, ‘‘เอโส เม สามิโก’’ติ ตสฺส อุปริ ปุปฺผทามํ ขิปิ ¶ . อสุรา ‘‘อมฺหากํ ราชา เอตฺตกํ กาลํ ธีตุ อนุจฺฉวิกํ อลภิตฺวา อิทานิ ลภิ, อยเมวสฺส ธีตุ ปิตามหโต มหลฺลโก อนุจฺฉวิโก’’ติ ลชฺชมานา ¶ อปกฺกมึสุ. สกฺโกปิ ตํ หตฺเถ คเหตฺวา ‘‘สกฺโกหมสฺมี’’ติ นทิตฺวา อากาเส ปกฺขนฺทิ. อสุรา ‘‘วฺจิตมฺหา ชรสกฺเกนา’’ติ ตํ อนุพนฺธึสุ. มาตลิ, สงฺคาหโก เวชยนฺตรถํ อาหริตฺวา อนฺตรามคฺเค อฏฺาสิ. สกฺโก ตํ ตตฺถ อาโรเปตฺวา เทวนคราภิมุโข ปายาสิ. อถสฺส สิปฺปลิวนํ สมฺปตฺตกาเล รถสทฺทํ สุตฺวา ภีตา ครุฬโปตกา ¶ วิรวึสุ. เตสํ สทฺทํ สุตฺวา สกฺโก มาตลึ ปุจฺฉิ – ‘‘เก เอเต วิรวนฺตี’’ติ? ‘‘ครุฬโปตกา, เทวา’’ติ. ‘‘กึ การณา’’ติ? ‘‘รถสทฺทํ สุตฺวา มรณภเยนา’’ติ. ‘‘มํ เอกํ นิสฺสาย เอตฺตโก ทิโช รถเวเคน วิจุณฺณิโต มา นสฺสิ, นิวตฺเตหิ รถ’’นฺติ. โสปิ สินฺธวสหสฺสสฺส ทณฺฑกสฺํ ทตฺวา รถํ นิวตฺเตสิ. ตํ ทิสฺวา อสุรา ‘‘ชรสกฺโก อสุรปุรโต ปฏฺาย ปลายนฺโต อิทานิ รถํ นิวตฺเตสิ, อทฺธา เตน อุปตฺถมฺโภ ลทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ นิวตฺเตตฺวา อาคมนมคฺเคเนว อสุรปุรํ ปวิสิตฺวา ปุน สีสํ น อุกฺขิปึสุ.
สกฺโกปิ สุชํ อสุรกฺํ เทวนครํ เนตฺวา อฑฺฒเตยฺยานํ อจฺฉราโกฏีนํ เชฏฺิกฏฺาเน เปสิ. สา สกฺกํ วรํ ยาจิ – ‘‘มหาราช, มม อิมสฺมึ เทวโลเก มาตาปิตโร วา ภาติกภคินิโย วา นตฺถิ, ยตฺถ ยตฺถ คจฺฉสิ, ตตฺถ ตตฺถ มํ คเหตฺวาว ¶ คจฺเฉยฺยาสี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ ตสฺสา ปฏิฺํ อทาสิ. ตโต ปฏฺาย จิตฺตปาฏลิยา ปุปฺผิตาย อสุรา ‘‘อมฺหากํ นิพฺพตฺตฏฺาเน ทิพฺพปาริจฺฉตฺตกสฺส ปุปฺผนกาโล’’ติ ยุทฺธตฺถาย สคฺคํ อภิรุหนฺติ. สกฺโก เหฏฺาสมุทฺเท นาคานํ อารกฺขํ อทาสิ, ตโต สุปณฺณานํ, ตโต กุมฺภณฺฑานํ, ตโต ยกฺขานํ. ตโต จตุนฺนํ มหาราชานํ. สพฺพูปริ ปน อุปทฺทวนิวตฺตนตฺถาย เทวนครทฺวาเรสุ วชิรหตฺถา อินฺทปฏิมา เปสิ. อสุรา นาคาทโย ชินิตฺวา อาคตาปิ อินฺทปฏิมา ทูรโต ทิสฺวา ‘‘สกฺโก นิกฺขนฺโต’’ติ ปลายนฺติ. เอวํ, มหาลิ, มโฆ มาณโว อปฺปมาทปฏิปทํ ปฏิปชฺชิ. เอวํ อปฺปมตฺโต ปเนส เอวรูปํ อิสฺสริยํ ปตฺวา ทฺวีสุ เทวโลเกสุ รชฺชํ กาเรสิ. อปฺปมาโท นาเมส พุทฺธาทีหิ ปสตฺโถ. อปฺปมาทฺหิ นิสฺสาย สพฺเพสมฺปิ โลกิยโลกุตฺตรานํ วิเสสานํ อธิคโม โหตีติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘อปฺปมาเทน ¶ มฆวา, เทวานํ เสฏฺตํ คโต;
อปฺปมาทํ ปสํสนฺติ, ปมาโท ครหิโต สทา’’ติ.
ตตฺถ อปฺปมาเทนาติ มจลคาเม ภูมิปฺปเทสโสธนํ อาทึ กตฺวา กเตน อปฺปมาเทน. มฆวาติ อิทานิ ‘‘มฆวา’’ติปฺาโต มโฆ มาณโว ทฺวินฺนํ เทวโลกานํ ราชภาเวน เทวานํ เสฏฺตํ คโต. ปสํสนฺตีติ พุทฺธาทโย ปณฺฑิตา อปฺปมาทเมว โถเมนฺติ ¶ วณฺณยนฺติ. กึ การณา? สพฺเพสํ โลกิยโลกุตฺตรานํ วิเสสานํ ปฏิลาภการณตฺตา. ปมาโท ครหิโต สทาติ ปมาโท ปน เตหิ อริเยหิ นิจฺจํ ครหิโต นินฺทิโต. กึ การณา? สพฺพวิปตฺตีนํ มูลภาวโต. มนุสฺสโทภคฺคํ วา หิ อปายุปฺปตฺติ วา สพฺพา ปมาทมูลิกาเยวาติ.
คาถาปริโยสาเน ¶ มหาลิ ลิจฺฉวี โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ, สมฺปตฺตปริสายปิ พหู โสตาปนฺนาทโย ชาตาติ.
มฆวตฺถุ สตฺตมํ.
๘. อฺตรภิกฺขุวตฺถุ
อปฺปมาทรโต ภิกฺขูติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อฺตรํ ภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ.
โส กิร สตฺถุ สนฺติเก ยาว อรหตฺตา กมฺมฏฺานํ กถาเปตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา ฆเฏนฺโต วายมนฺโต อรหตฺตํ ปตฺตุํ นาสกฺขิ. โส ‘‘วิเสเสตฺวา กมฺมฏฺานํ กถาเปสฺสามี’’ติ ตโต นิกฺขมิตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ อาคจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค มหนฺตํ ทาวคฺคึ อุฏฺิตํ ทิสฺวา เวเคน เอกํ มุณฺฑปพฺพตมตฺถกํ อภิรุยฺห นิสินฺโน อรฺํ ¶ ฑยฺหมานํ อคฺคึ ทิสฺวา อารมฺมณํ คณฺหิ – ‘‘ยถา อยํ อคฺคิ มหนฺตานิ จ ขุทฺทกานิ จ อุปาทานานิ ฑหนฺโต คจฺฉติ, เอวํ อริยมคฺคาณคฺคินาปิ มหนฺตานิ จ ขุทฺทกานิ จ สํโยชนานิ ฑหนฺเตน คนฺตพฺพํ ภวิสฺสตี’’ติ. สตฺถา คนฺธกุฏิยํ นิสินฺโนว ตสฺส จิตฺตาจารํ ตฺวา, ‘‘เอวเมว, ภิกฺขุ, มหนฺตานิปิ ขุทฺทกานิปิ อุปาทานานิ วิย อิเมสํ สตฺตานํ อพฺภนฺตเร อุปฺปชฺชมานานิ อณุํถูลานิ สํโยชนานิ, ตานิ ¶ าณคฺคินา ฌาเปตฺวา อภพฺพุปฺปตฺติกานิ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา โอภาสํ วิสฺสชฺเชตฺวา ตสฺส ภิกฺขุโน อภิมุเข นิสินฺโน วิย ปฺายมาโน อิมํ โอภาสคาถมาห –
‘‘อปฺปมาทรโต ภิกฺขุ, ปมาเท ภยทสฺสิ วา;
สํโยชนํ อณุํ ถูลํ, ฑหํ อคฺคีว คจฺฉตี’’ติ.
ตตฺถ อปฺปมาทรโตติ อปฺปมาเท รโต อภิรโต, อปฺปมาเทน วีตินาเมนฺโตติ อตฺโถ. ปมาเท ภยทสฺสิ วาติ นิรยุปฺปตฺติอาทิกํ ปมาเท ภยํ ภยโต ปสฺสนฺโต, ตาสํ วา อุปฺปตฺตีนํ มูลตฺตา ปมาทํ ภยโต ปสฺสนฺโต. สํโยชนนฺติ วฏฺฏทุกฺเขน สทฺธึ โยชนํ พนฺธนํ ปชานํ วฏฺเฏ โอสีทาปนสมตฺถํ ทสวิธํ สํโยชนํ. อณุํ ถูลนฺติ มหนฺตฺจ ขุทฺทกฺจ. ฑหํ อคฺคีว คจฺฉตีติ ยถา อยํ อคฺคี เอตํ มหนฺตฺจ ¶ ขุทฺทกฺจ อุปาทานํ ฑหนฺโตว คจฺฉติ. เอวเมโส ¶ อปฺปมาทรโต ภิกฺขุ อปฺปมาทาธิคเตน าณคฺคินา เอตํ สํโยชนํ ฑหนฺโต อภพฺพุปฺปตฺติกํ กโรนฺโต คจฺฉตีติ อตฺโถ.
คาถาปริโยสาเน โส ภิกฺขุ ยถานิสินฺโนว สพฺพสํโยชนานิ ฌาเปตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา อากาเสนาคนฺตฺวา ตถาคตสฺส สุวณฺณวณฺณํ สรีรํ โถเมตฺวา วณฺเณตฺวา วนฺทมาโนว ปกฺกามีติ.
อฺตรภิกฺขุวตฺถุ อฏฺมํ.
๙. นิคมวาสิติสฺสตฺเถรวตฺถุ
อปฺปมาทรโตติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต นิคมวาสิติสฺสตฺเถรํ นาม อารพฺภ กเถสิ.
เอกสฺมิฺหิ สาวตฺถิโต อวิทูเร นิคมคาเม ชาตสํวฑฺโฒ เอโก กุลปุตฺโต สตฺถุ สาสเน ปพฺพชิตฺวา ลทฺธูปสมฺปโท ‘‘นิคมวาสิติสฺสตฺเถโร นาม อปฺปิจฺโฉ สนฺตุฏฺโ ปวิวิตฺโต อารทฺธวีริโย’’ติ ปฺายิ. โส นิพทฺธํ าติคาเมเยว ปิณฺฑาย วิจรติ. อนาถปิณฺฑิกาทีสุ มหาทานานิ กโรนฺเตสุ, ปเสนทิโกสเล อสทิสทานํ กโรนฺเตปิ ¶ สาวตฺถึ นาคจฺฉติ. ภิกฺขู ‘‘อยํ นิคมวาสิติสฺสตฺเถโร อุฏฺาย สมุฏฺาย าติสํสฏฺโ วิหรติ, อนาถปิณฺฑิกาทีสุ มหาทานาทีนิ กโรนฺเตสุ, ปเสนทิโกสเล อสทิสทานํ กโรนฺเตปิ เนว อาคจฺฉตี’’ติ กถํ สมุฏฺาเปตฺวา ¶ สตฺถุ อาโรจยึสุ. สตฺถา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภิกฺขุ, เอวํ กโรสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต, มยฺหํ าติสํสคฺโค, อหํ เอเต มนุสฺเส นิสฺสาย อชฺโฌหรณียมตฺตํ อาหารํ ลภามิ ลูเข วา ปณีเต วา. ยาปนมตฺเต ลทฺเธ ปุน กึ อาหารปริเยสเนนาติ น คจฺฉามิ, าตีหิ ปน เม สํสคฺโค นาม นตฺถิ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต สตฺถา ปกติยาปิ ตสฺส อชฺฌาสยํ วิชานนฺโต – ‘‘สาธุ สาธุ, ภิกฺขู’’ติ ตสฺส สาธุการํ ทตฺวา, ‘‘อนจฺฉริยํ โข ปเนตํ ภิกฺขุ, ยํ ตฺวํ มาทิสํ อาจริยํ ลภิตฺวา อปฺปิจฺโฉ อโหสิ. อยฺหิ อปฺปิจฺฉตา นาม มม ตนฺติ, มม ปเวณี’’ติ วตฺวา ภิกฺขูหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ –
อตีเต หิมวนฺเต คงฺคาตีเร เอกสฺมึ อุทุมฺพรวเน อเนกสหสฺสา สุวา วสึสุ. ตตฺเรโก สุวราชา ¶ อตฺตโน นิวาสรุกฺขสฺส ผเลสุ ขีเณสุ ยํ ยเทว อวสิฏฺํ โหติ องฺกุโร วา ปตฺตํ วา ตโจ วา, ตํ ตํ ขาทิตฺวา คงฺคายํ ปานียํ ปิวิตฺวา ปรมปฺปิจฺโฉ สนฺตุฏฺโ หุตฺวา อฺตฺถ น คจฺฉติ. ตสฺส อปฺปิจฺฉสนฺตุฏฺภาวคุเณน สกฺกสฺส ภวนํ กมฺปิ. สกฺโก อาวชฺชมาโน ตํ ทิสฺวา ตสฺส วีมํสนตฺถํ อตฺตโน อานุภาเวน ตํ รุกฺขํ สุกฺขาเปสิ. รุกฺโข โอภคฺโค ขาณุมตฺโต ฉิทฺทาวฉิทฺโทว หุตฺวา วาเต ปหรนฺเต อาโกฏิโต วิย สทฺทํ นิจฺฉาเรนฺโต อฏฺาสิ. ตสฺส ฉิทฺเทหิ จุณฺณานิ นิกฺขมนฺติ. สุวราชา ¶ ตานิ ขาทิตฺวา คงฺคายํ ปานียํ ปิวิตฺวา อฺตฺถ อคนฺตฺวา วาตาตปํ อคเณตฺวา อุทุมฺพรขาณุมตฺถเก นิสีทติ. สกฺโก ตสฺส ปรมปฺปิจฺฉภาวํ ตฺวา, ‘‘มิตฺตธมฺมคุณํ กถาเปตฺวา วรมสฺส ทตฺวา อุทุมฺพรํ อมตผลํ กตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ เอโก หํสราชา หุตฺวา สุชํ อสุรกฺํ ปุรโต กตฺวา อุทุมฺพรวนํ คนฺตฺวา อวิทูเร เอกสฺส รุกฺขสฺส สาขาย นิสีทิตฺวา เตน สทฺธึ กเถนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘สนฺติ รุกฺขา หริปตฺตา, ทุมาเนกผลา พหู;
กสฺมา นุ สุกฺเข โกฬาเป, สุวสฺส นิรโต มโน’’ติ. (ชา. ๑.๙.๓๐);
สพฺพํ ¶ สุวชาตกํ นวกนิปาเต อาคตนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ. อฏฺุปฺปตฺติเยว หิ ตตฺถ จ อิธ จ นานา, เสสํ ตาทิสเมว. สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา, ‘‘ตทา สกฺโก อานนฺโท อโหสิ, สุวราชา อหเมวา’’ติ วตฺวา, ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, อปฺปิจฺฉตา นาเมสา มม ตนฺติ, มม ปเวณี, อนจฺฉริยา มม ปุตฺตสฺส นิคมวาสิติสฺสสฺส มาทิสํ อาจริยํ ลภิตฺวา อปฺปิจฺฉตา, ภิกฺขุนา นาม นิคมวาสิติสฺเสน วิย อปฺปิจฺเฉเนว ภวิตพฺพํ. เอวรูโป หิ ภิกฺขุ อภพฺโพ สมถวิปสฺสนาธมฺเมหิ วา มคฺคผเลหิ วา ปริหานาย, อฺทตฺถุ นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก โหตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘อปฺปมาทรโต ภิกฺขุ, ปมาเท ภยทสฺสิ วา;
อภพฺโพ ปริหานาย, นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก’’ติ.
ตตฺถ อภพฺโพ ปริหานายาติ โส เอวรูโป ภิกฺขุ สมถวิปสฺสนาธมฺเมหิ วา มคฺคผเลหิ วา ปริหานาย ¶ อภพฺโพ, นาปิ ปตฺเตหิ ปริหายติ, น อปฺปตฺตานิ น ปาปุณาติ. นิพฺพานสฺเสว สนฺติเกติ กิเลสปรินิพฺพานสฺสปิ อนุปาทาปรินิพฺพานสฺสาปิ สนฺติเกเยวาติ.
คาถาปริโยสาเน ¶ นิคมวาสิติสฺสตฺเถโร สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. อฺเปิ พหู โสตาปนฺนาทโย อเหสุํ. มหาชนสฺส สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา ชาตาติ.
นิคมวาสิติสฺสตฺเถรวตฺถุ นวมํ.
อปฺปมาทวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา. ทุติโย วคฺโค.