📜

๒๐. มคฺควคฺโค

๑. ปฺจสตภิกฺขุวตฺถุ

มคฺคานฏฺงฺคิโกติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปฺจสเต ภิกฺขู อารพฺภ กเถสิ.

เต กิร สตฺถริ ชนปทจาริกํ จริตฺวา ปุน สาวตฺถึ อาคเต อุปฏฺานสาลาย นิสีทิตฺวา ‘‘อสุกคามโต อสุกคามสฺส มคฺโค สโม, อสุกคามสฺส มคฺโค วิสโม, สสกฺขโร, อสกฺขโร’’ติอาทินา นเยน อตฺตโน วิจริตมคฺคํ อารพฺภ มคฺคกถํ กเถสุํ. สตฺถา เตสํ อรหตฺตสฺสูปนิสฺสยํ ทิสฺวา ตํ านํ อาคนฺตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสินฺโน ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต, ‘‘ภิกฺขเว, อยํ พาหิรกมคฺโค, ภิกฺขุนา นาม อริยมคฺเค กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ, เอวฺหิ กโรนฺโต ภิกฺขุ สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจตี’’ติ วตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –

๒๗๓.

‘‘มคฺคานฏฺงฺคิโก เสฏฺโ, สจฺจานํ จตุโร ปทา;

วิราโค เสฏฺโ ธมฺมานํ, ทฺวิปทานฺจ จกฺขุมา.

๒๗๔.

‘‘เอเสว มคฺโค นตฺถฺโ, ทสฺสนสฺส วิสุทฺธิยา;

เอตฺหิ ตุมฺเห ปฏิปชฺชถ, มารสฺเสตํ ปโมหนํ.

๒๗๕.

‘‘เอตฺหิ ตุมฺเห ปฏิปนฺนา, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสถ;

อกฺขาโต โว มยา มคฺโค, อฺาย สลฺลกนฺตนํ.

๒๗๖.

‘‘ตุมฺเหหิ กิจฺจมาตปฺปํ, อกฺขาตาโร ตถาคตา;

ปฏิปนฺนา ปโมกฺขนฺติ, ฌายิโน มารพนฺธนา’’ติ.

ตตฺถ มคฺคานฏฺงฺคิโกติ ชงฺฆมคฺคาทโย วา โหนฺตุ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตมคฺคา วา, เตสํ สพฺเพสมฺปิ มคฺคานํ สมฺมาทิฏฺิอาทีหิ อฏฺหิ องฺเคหิ มิจฺฉาทิฏฺิอาทีนํ อฏฺนฺนํ ปหานํ กโรนฺโต นิโรธํ อารมฺมณํ กตฺวา จตูสุปิ สจฺเจสุ ทุกฺขปริชานนาทิกิจฺจํ สาธยมาโน อฏฺงฺคิโก มคฺโค เสฏฺโ อุตฺตโม. สจฺจานํ จตุโร ปทาติ ‘‘สจฺจํ ภเณ น กุชฺเฌยฺยา’’ติ (ธ. ป. ๒๒๔) อาคตํ วจีสจฺจํ วา โหตุ, ‘‘สจฺโจ พฺราหฺมโณ สจฺโจ ขตฺติโย’’ติอาทิเภทํ สมฺมุติสจฺจํ วา ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ (ธ. ส. ๑๑๔๔; ม. นิ. ๒.๑๘๗-๑๘๘) ทิฏฺิสจฺจํ วา ‘‘ทุกฺขํ อริยสจฺจ’’นฺติอาทิเภทํ ปรมตฺถสจฺจํ วา โหตุ, สพฺเพสมฺปิ อิเมสํ สจฺจานํ ปริชานิตพฺพฏฺเน สจฺฉิกาตพฺพฏฺเน ปหาตพฺพฏฺเน ภาเวตพฺพฏฺเน เอกปฏิเวธฏฺเน จ ตถปฏิเวธฏฺเน จ ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติอาทโย จตุโร ปทา เสฏฺา นาม. วิราโค เสฏฺโ ธมฺมานนฺติ ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อิติวุ. ๙๐; อ. นิ. ๔.๓๔) วจนโต สพฺพธมฺมานํ นิพฺพานสงฺขาโต วิราโค เสฏฺโ. ทฺวิปทานฺจ จกฺขุมาติ สพฺเพสํ เทวมนุสฺสาทิเภทานํ ทฺวิปทานํ ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมา ตถาคโตว เสฏฺโ. จ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ, อรูปธมฺเม สมฺปิณฺเฑติ. ตสฺมา อรูปธมฺมานมฺปิ ตถาคโต เสฏฺโ อุตฺตโม.

ทสฺสนสฺส วิสุทฺธิยาติ มคฺคผลทสฺสนสฺส วิสุทฺธตฺถํ โย มยา ‘‘เสฏฺโ’’ติ วุตฺโต, เอโสว มคฺโค, นตฺถฺโ. เอตฺหิ ตุมฺเหติ ตสฺมา ตุมฺเห เอตเมว ปฏิปชฺชถ. มารสฺเสตํ ปโมหนนฺติ เอตํ มารโมหนํ มารมนฺถนนฺติ วุจฺจติ. ทุกฺขสฺสนฺตนฺติ สกลสฺสปิ วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตํ ปริจฺเฉทํ กริสฺสถาติ อตฺโถ. อฺาย สลฺลกนฺตนนฺติ ราคสลฺลาทีนํ กนฺตนํ นิมฺมถนํ อพฺพูหณํ เอตํ มคฺคํ, มยา วินา อนุสฺสวาทีหิ อตฺตปจฺจกฺขโต ตฺวาว อยํ มคฺโค อกฺขาโต, อิทานิ ตุมฺเหหิ กิเลสานํ อาตาปเนน ‘‘อาตปฺป’’นฺติ สงฺขํ คตํ ตสฺส อธิคมตฺถาย สมฺมปฺปธานวีริยํ กิจฺจํ กรณียํ. เกวลฺหิ อกฺขาตาโรว ตถาคตา. ตสฺมา เตหิ อกฺขาตวเสน เย ปฏิปนฺนา ทฺวีหิ ฌาเนหิ ฌายิโน, เต เตภูมกวฏฺฏสงฺขาตา มารพนฺธนา ปโมกฺขนฺตีติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน เต ภิกฺขู อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ, สมฺปตฺตานมฺปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติ.

ปฺจสตภิกฺขุวตฺถุ ปมํ.

๒. อนิจฺจลกฺขณวตฺถุ

สพฺเพสงฺขารา อนิจฺจาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปฺจสเต ภิกฺขู อารพฺภ กเถสิ.

เต กิร สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา คนฺตฺวา อรฺเ วายมนฺตาปิ อรหตฺตํ อปฺปตฺวา ‘‘วิเสเสตฺวา กมฺมฏฺานํ อุคฺคณฺหิสฺสามา’’ติ สตฺถุ สนฺติกํ อาคมึสุ. สตฺถา ‘‘กึ นุ โข อิเมสํ สปฺปาย’’นฺติ วีมํสนฺโต ‘‘อิเม กสฺสปพุทฺธกาเล วีสติ วสฺสสหสฺสานิ อนิจฺจลกฺขเณ อนุยุฺชึสุ, ตสฺมา อนิจฺจลกฺขเณเนว เตสํ เอกํ คาถํ เทเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา, ‘‘ภิกฺขเว, กามภวาทีสุ สพฺเพปิ สงฺขารา หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจา เอวา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

๒๗๗.

‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจาติ, ยทา ปฺาย ปสฺสติ;

อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข, เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา’’ติ.

ตตฺถ สพฺเพ สงฺขาราติ กามภวาทีสุ อุปฺปนฺนา ขนฺธา ตตฺถ ตตฺเถว นิรุชฺฌนโต อนิจฺจาติ ยทา วิปสฺสนาปฺาย ปสฺสติ, อถ อิมสฺมึ ขนฺธปริหรณทุกฺเข นิพฺพินฺทติ, นิพฺพินฺทนฺโต ทุกฺขปริชานนาทิวเสน สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ. เอส มคฺโค วิสุทฺธิยาติ วิสุทฺธตฺถาย โวทานตฺถาย เอส มคฺโคติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน เต ภิกฺขู อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ, สมฺปตฺตปริสานมฺปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติ.

อนิจฺจลกฺขณวตฺถุ ทุติยํ.

๓. ทุกฺขลกฺขณวตฺถุ

ทุติยคาถายปิ เอวรูปเมว วตฺถุ. ตทา หิ ภควา เตสํ ภิกฺขูนํ ทุกฺขลกฺขเณ กตาภิโยคภาวํ ตฺวา, ‘‘ภิกฺขเว, สพฺเพปิ ขนฺธา ปฏิปีฬนฏฺเน ทุกฺขา เอวา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

๒๗๘.

‘‘สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขาติ, ยทา ปฺาย ปสฺสติ;

อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข, เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา’’ติ.

ตตฺถ ทุกฺขาติ ปฏิปีฬนฏฺเน ทุกฺขา. เสสํ ปุริมสทิสเมว.

ทุกฺขลกฺขณวตฺถุ ตติยํ.

๔. อนตฺตลกฺขณวตฺถุ

ตติยคาถายปิ เอเสว นโย. เกวลฺหิ เอตฺถ ภควา เตสํ ภิกฺขูนํ ปุพฺเพ อนตฺตลกฺขเณ อนุยุตฺตภาวํ ตฺวา, ‘‘ภิกฺขเว, สพฺเพปิ ขนฺธา อวสวตฺตนฏฺเน อนตฺตา เอวา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

๒๗๙.

‘‘สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตาติ, ยทา ปฺาย ปสฺสติ;

อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข, เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา’’ติ.

ตตฺถ สพฺเพ ธมฺมาติ ปฺจกฺขนฺธา เอว อธิปฺเปตา. อนตฺตาติ ‘‘มา ชียนฺตุ มา มียนฺตู’’ติ วเส วตฺเตตุํ น สกฺกาติ อวสวตฺตนฏฺเน อนตฺตา อตฺตสุฺา อสฺสามิกา อนิสฺสราติ อตฺโถ. เสสํ ปุริมสทิสเมวาติ.

อนตฺตลกฺขณวตฺถุ จตุตฺถํ.

๕. ปธานกมฺมิกติสฺสตฺเถรวตฺถุ

อุฏฺานกาลมฺหีติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปธานกมฺมิกติสฺสตฺเถรํ อารพฺภ กเถสิ.

สาวตฺถิวาสิโน กิร ปฺจสตา กุลปุตฺตา สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา อรฺํ อคมํสุ. เตสุ เอโก ตตฺเถว โอหียิ. อวเสสา อรฺเ สมณธมฺมํ กโรนฺตา อรหตฺตํ ปตฺวา ‘‘ปฏิลทฺธคุณํ สตฺถุ อาโรเจสฺสามา’’ติ ปุน สาวตฺถึ อคมํสุ. เต สาวตฺถิโต โยชนมตฺเต เอกสฺมึ คามเก ปิณฺฑาย จรนฺเต ทิสฺวา เอโก อุปาสโก ยาคุภตฺตาทีหิ ปติมาเนตฺวา อนุโมทนํ สุตฺวา ปุนทิวสตฺถายปิ นิมนฺเตสิ. เต ตทเหว สาวตฺถึ คนฺตฺวา ปตฺตจีวรํ ปฏิสาเมตฺวา สายนฺหสมเย สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. สตฺถา เตหิ สทฺธึ อติวิย ตุฏฺึ ปเวทยมาโน ปฏิสนฺถารํ อกาสิ.

อถ เนสํ ตตฺถ โอหีโน สหายกภิกฺขุ จินฺเตสิ – ‘‘สตฺถุ อิเมหิ สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กโรนฺตสฺส มุขํ นปฺปโหติ, มยฺหํ ปน มคฺคผลาภาเวน มยา สทฺธึ น กเถติ, อชฺเชว อรหตฺตํ ปตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา มยา สทฺธึ กถาเปสฺสามี’’ติ. เตปิ ภิกฺขู, ‘‘ภนฺเต, มยํ อาคมนมคฺเค เอเกน อุปาสเกน สฺวาตนาย นิมนฺติตา, ตตฺถ ปาโตว คมิสฺสามา’’ติ สตฺถารํ อปโลเกสุํ. อถ เนสํ สหายโก ภิกฺขุ สพฺพรตฺตึ จงฺกมนฺโต นิทฺทาวเสน จงฺกมโกฏิยํ เอกสฺมึ ปาสาณผลเก ปติ, อูรุฏฺิ ภิชฺชิ. โส มหาสทฺเทน วิรวิ. ตสฺส เต สหายกา ภิกฺขู สทฺทํ สฺชานิตฺวา อิโต จิโต จ อุปธาวึสุ. เตสํ ทีปํ ชาเลตฺวา ตสฺส กตฺตพฺพกิจฺจํ กโรนฺตานํเยว อรุโณ อุฏฺหิ, เต ตํ คามํ คนฺตุํ โอกาสํ น ลภึสุ. อถ เน สตฺถา อาห – ‘‘กึ, ภิกฺขเว, ภิกฺขาจารคามํ น คมิตฺถา’’ติ. เต ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสุํ. สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, เอส อิทาเนว ตุมฺหากํ ลาภนฺตรายํ กโรติ, ปุพฺเพปิ อกาสิเยวา’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริตฺวา –

‘‘โย ปุพฺเพ กรณียานิ, ปจฺฉา โส กาตุมิจฺฉติ;

วรุณกฏฺภฺโชว, ส ปจฺฉา มนุตปฺปตี’’ติ. (ชา. ๑.๑.๗๑) –

ชาตกํ วิตฺถาเรสิ. ตทา กิร เต ภิกฺขู ปฺจสตา มาณวกา อเหสุํ, กุสีตมาณวโก อยํ ภิกฺขุ อโหสิ, อาจริโย ปน ตถาคโตว อโหสีติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา, ‘‘ภิกฺขเว, โย หิ อุฏฺานกาเล อุฏฺานํ น กโรติ, สํสนฺนสงฺกปฺโป โหติ, กุสีโต โส ฌานาทิเภทํ วิเสสํ นาธิคจฺฉตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

๒๘๐.

‘‘อุฏฺานกาลมฺหิ อนุฏฺหาโน,

ยุวา พลี อาลสิยํ อุเปโต;

สํสนฺนสงฺกปฺปมโน กุสีโต,

ปฺาย มคฺคํ อลโส น วินฺทตี’’ติ.

ตตฺถ อนุฏฺหาโนติ อนุฏฺหนฺโต อวายมนฺโต. ยุวา พลีติ ปมโยพฺพเน ิโต พลสมฺปนฺโนปิ หุตฺวา อลสภาเวน อุเปโต โหติ, ภุตฺวา สยติ. สํสนฺนสงฺกปฺปมโนติ ตีหิ มิจฺฉาวิตกฺเกหิ สุฏฺุ อวสนฺนสมฺมาสงฺกปฺปจิตฺโต. กุสีโตติ นิพฺพีริโย. อลโสติ มหาอลโส ปฺาย ทฏฺพฺพํ อริยมคฺคํ อปสฺสนฺโต น วินฺทติ, น ปฏิลภตีติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.

ปธานกมฺมิกติสฺสตฺเถรวตฺถุ ปฺจมํ.

๖. สูกรเปตวตฺถุ

วาจานุรกฺขีติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต สูกรเปตํ อารพฺภ กเถสิ.

เอกสฺมิฺหิ ทิวเส มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร ลกฺขณตฺเถเรน สทฺธึ คิชฺฌกูฏา โอโรหนฺโต เอกสฺมึ ปเทเส สิตํ ปาตฺวากาสิ. ‘‘โก นุ โข, อาวุโส, เหตุ สิตสฺส ปาตุกมฺมายา’’ติ ลกฺขณตฺเถเรน ปุฏฺโ ‘‘อกาโล, อาวุโส, อิมสฺส ปฺหสฺส, สตฺถุ สนฺติเก มํ ปุจฺเฉยฺยาถา’’ติ วตฺวา ลกฺขณตฺเถเรน สทฺธึเยว ราชคเห ปิณฺฑาย จริตฺวา ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เวฬุวนํ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา นิสีทิ. อถ นํ ลกฺขณตฺเถโร ตมตฺถํ ปุจฺฉิ. โส อาห – ‘‘อาวุโส, อหํ เอกํ เปตํ อทฺทสํ, ตสฺส ติคาวุตปฺปมาณํ สรีรํ, ตํ มนุสฺสสรีรสทิสํ. สีสํ ปน สูกรสฺส วิย, ตสฺส มุเข นงฺคุฏฺํ ชาตํ, ตโต ปุฬวา ปคฺฆรนฺติ. สฺวาหํ ‘น เม เอวรูโป สตฺโต ทิฏฺปุพฺโพ’ติ ตํ ทิสฺวา สิตํ ปาตฺวากาสิ’’นฺติ. สตฺถา ‘‘จกฺขุภูตา วต, ภิกฺขเว, มม สาวกา วิหรนฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘อหมฺเปตํ สตฺตํ โพธิมณฺเฑเยว อทฺทสํ. ‘เย ปน เม น สทฺทเหยฺยุํ, เตสํ อหิตาย อสฺสา’ติ ปเรสํ อนุกมฺปาย น กเถสึ. อิทานิ โมคฺคลฺลานํ สกฺขึ กตฺวา กเถมิ. สจฺจํ, ภิกฺขเว, โมคฺคลฺลาโน อาหา’’ติ กเถสิ. ตํ สุตฺวา ภิกฺขู สตฺถารํ ปุจฺฉึสุ – ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, ตสฺส ปุพฺพกมฺม’’นฺติ. สตฺถา ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สุณาถา’’ติ อตีตํ อาหริตฺวา ตสฺส ปุพฺพกมฺมํ กเถสิ.

กสฺสปพุทฺธกาเล กิร เอกสฺมึ คามกาวาเส ทฺเว เถรา สมคฺควาสํ วสึสุ. เตสุ เอโก สฏฺิวสฺโส, เอโก เอกูนสฏฺิวสฺโส . เอกูนสฏฺิวสฺโส อิตรสฺส ปตฺตจีวรํ อาทาย วิจริ, สามเณโร วิย สพฺพํ วตฺตปฏิวตฺตํ อกาสิ. เตสํ เอกมาตุกุจฺฉิยํ วุตฺถภาตูนํ วิย สมคฺควาสํ วสนฺตานํ วสนฏฺานํ เอโก ธมฺมกถิโก อาคมิ. ตทา จ ธมฺมสฺสวนทิวโส โหติ. เถรา นํ สงฺคณฺหิตฺวา ‘‘ธมฺมกถํ โน กเถหิ สปฺปุริสา’’ติ อาหํสุ. โส ธมฺมกถํ กเถสิ. เถรา ‘‘ธมฺมกถิโก โน ลทฺโธ’’ติ ตุฏฺจิตฺตา ปุนทิวเส ตํ อาทาย ธุรคามํ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา ตตฺถ กตภตฺตกิจฺจา, ‘‘อาวุโส, หิยฺโย กถิตฏฺานโตว โถกํ ธมฺมํ กเถหี’’ติ มนุสฺสานํ ธมฺมํ กถาเปสุํ. มนุสฺสา ธมฺมกถํ สุตฺวา ปุนทิวสตฺถายปิ นิมนฺตยึสุ. เอวํ สมนฺตา ภิกฺขาจารคาเมสุ ทฺเว ทฺเว ทิวเส ตํ อาทาย ปิณฺฑาย จรึสุ.

ธมฺมกถิโก จินฺเตสิ – ‘‘อิเม ทฺเวปิ อติมุทุกา, มยา อุโภเปเต ปลาเปตฺวา อิมสฺมึ วิหาเร วสิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส สายํ เถรูปฏฺานํ คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ อุฏฺาย คตกาเล นิวตฺติตฺวา มหาเถรํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, กิฺจิ วตฺตพฺพํ อตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘กเถหิ, อาวุโส’’ติ วุตฺเต โถกํ จินฺเตตฺวา, ‘‘ภนฺเต, กถา นาเมสา มหาสาวชฺชา’’ติ วตฺวา อกเถตฺวาว ปกฺกามิ. อนุเถรสฺสาปิ สนฺติกํ คนฺตฺวา ตเถว อกาสิ. โส ทุติยทิวเส ตเถว กตฺวา ตติยทิวเส เตสํ อติวิย โกตุหเล อุปฺปนฺเน มหาเถรํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, กิฺจิ วตฺตพฺพํ อตฺถิ, ตุมฺหากํ ปน สนฺติเก วตฺตุํ น วิสหามี’’ติ วตฺวา เถเรน ‘‘โหตุ, อาวุโส, กเถหี’’ติ นิปฺปีฬิโต อาห – ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, อนุเถโร ตุมฺเหหิ สทฺธึ สํโภโค’’ติ. สปฺปุริส, กึ นาเมตํ กเถสิ, มยํ เอกมาตุกุจฺฉิยํ วุตฺถปุตฺตา วิย, อมฺเหสุ เอเกน ยํ ลทฺธํ, อิตเรนาปิ ลทฺธเมว โหติ. มยา เอตสฺส เอตฺตกํ กาลํ อคุโณ นาม น ทิฏฺปุพฺโพติ? เอวํ, ภนฺเตติ. อามาวุโสติ. ภนฺเต มํ อนุเถโร เอวมาห – ‘‘สปฺปุริส, ตฺวํ กุลปุตฺโต, อยํ มหาเถโร ลชฺชี เปสโลติ เอเตน สทฺธึ สํโภคํ กโรนฺโต อุปปริกฺขิตฺวา กเรยฺยาสี’’ติ เอวเมส มํ อาคตทิวสโต ปฏฺาย วทตีติ.

มหาเถโร ตํ สุตฺวาว กุทฺธมานโส ทณฺฑาภิหตํ กุลาลภาชนํ วิย ภิชฺชิ. อิตโรปิ อุฏฺาย อนุเถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตเถว อโวจ, โสปิ ตเถว ภิชฺชิ. เตสุ กิฺจาปิ เอตฺตกํ กาลํ เอโกปิ วิสุํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺปุพฺโพ นาม นตฺถิ, ปุนทิวเส ปน วิสุํ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา อนุเถโร ปุเรตรํ อาคนฺตฺวา อุปฏฺานสาลาย อฏฺาสิ, มหาเถโร ปจฺฉา อคมาสิ. ตํ ทิสฺวา อนุเถโร จินฺเตสิ – ‘‘กึ นุ โข อิมสฺส ปตฺตจีวรํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, อุทาหุ โน’’ติ. โส ‘‘น อิทานิ ปฏิคฺคเหสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวาปิ ‘‘โหตุ, น มยา เอวํ กตปุพฺพํ, มยา อตฺตโน วตฺตํ หาเปตุํ น วฏฺฏตี’’ติ จิตฺตํ มุทุกํ กตฺวา เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ปตฺตจีวรํ เทถา’’ติ อาห. อิตโร ‘‘คจฺฉ, ทุพฺพินีต, น ตฺวํ มม ปตฺตจีวรํ ปฏิคฺคเหตุํ ยุตฺตรูโป’’ติ อจฺฉรํ ปหริตฺวา เตนปิ ‘‘อาม, ภนฺเต, อหมฺปิ ตุมฺหากํ ปตฺตจีวรํ น ปฏิคฺคณฺหามีติ จินฺเตสิ’’นฺติ วุตฺเต, ‘‘อาวุโส นวก, กึ ตฺวํ จินฺเตสิ, มม อิมสฺมึ วิหาเร โกจิ สงฺโค อตฺถี’’ติ อาห. อิตโรปิ ‘‘ตุมฺเห ปน, ภนฺเต, กึ เอวํ มฺถ ‘มม อิมสฺมึ วิหาเร โกจิ สงฺโค อตฺถี’ติ, เอโส เต วิหาโร’’ติ วตฺวา ปตฺตจีวรํ อาทาย นิกฺขมิ. อิตโรปิ นิกฺขมิ. เต อุโภปิ เอกมคฺเคนาปิ อคนฺตฺวา เอโก ปจฺฉิมทฺวาเรน มคฺคํ คณฺหิ, เอโก ปุรตฺถิมทฺวาเรน. ธมฺมกถิโก, ‘‘ภนฺเต, มา เอวํ กโรถ, มา เอวํ กโรถา’’ติ วตฺวา ‘‘ติฏฺาวุโส’’ติ วุตฺเต นิวตฺติ. โส ปุนทิวเส ธุรคามํ ปวิฏฺโ มนุสฺเสหิ, ‘‘ภนฺเต, ภทฺทนฺตา กุหิ’’นฺติ วุตฺเต, ‘‘อาวุโส, มา ปุจฺฉถ, ตุมฺหากํ กุลุปกา หิยฺโย กลหํ กตฺวา นิกฺขมึสุ, อหํ ยาจนฺโตปิ นิวตฺเตตุํ นาสกฺขิ’’นฺติ อาห. เตสุ พาลา ตุณฺหี อเหสุํ. ปณฺฑิตา ปน ‘‘อมฺเหหิ เอตฺตกํ กาลํ ภทฺทนฺตานํ กิฺจิ ขลิตํ นาม น ทิฏฺปุพฺพํ, เตสํ ภยํ อิมํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ ภวิสฺสตี’’ติ โทมนสฺสปฺปตฺตา อเหสุํ.

เตปิ เถรา คตฏฺาเน จิตฺตสุขํ นาม น ลภึสุ. มหาเถโร จินฺเตสิ – ‘‘อโห นวกสฺส ภิกฺขุโน ภาริยํ กมฺมํ กตํ, มุหุตฺตํ ทิฏฺํ นาม อาคนฺตุกภิกฺขุํ อาห – ‘มหาเถเรน สทฺธึ สํโภคํ มา อกาสี’’’ติ. อิตโรปิ จินฺเตสิ – ‘‘อโห มหาเถรสฺส ภาริยํ กมฺมํ กตํ, มุหุตฺตํ ทิฏฺํ นาม อาคนฺตุกภิกฺขุํ อาห – ‘อิมินา สทฺธึ สํโภคํ มา อกาสี’’’ติ. เตสํ เนว สชฺฌาโย น มนสิกาโร อโหสิ. เต วสฺสสตจฺจเยน ปจฺฉิมทิสาย เอกํ วิหารํ อคมํสุ. เตสํ เอกเมว เสนาสนํ ปาปุณิ. มหาเถเร ปวิสิตฺวา มฺจเก นิสินฺเน อิตโรปิ ปาวิสิ. มหาเถโร ตํ ทิสฺวาว สฺชานิตฺวา อสฺสูนิ สนฺธาเรตุํ นาสกฺขิ. อิตโรปิ มหาเถรํ สฺชานิตฺวา อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ ‘‘กเถมิ นุ โข มา กเถมี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘น ตํ สทฺเธยฺยรูป’’นฺติ เถรํ วนฺทิตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, เอตฺตกํ กาลํ ตุมฺหากํ ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา วิจรึ, อปิ นุ โข เม กายทฺวาราทีสุ ตุมฺเหหิ กิฺจิ อสารุปฺปํ ทิฏฺปุพฺพ’’นฺติ. ‘‘น ทิฏฺปุพฺพํ, อาวุโส’’ติ. อถ กสฺมา ธมฺมกถิกํ อวจุตฺถ ‘‘มา เอเตน สทฺธึ สํโภคมกาสี’’ติ? ‘‘นาหํ, อาวุโส, เอวํ กเถมิ, ตยา กิร มม อนฺตเร เอวํ วุตฺต’’นฺติ. ‘‘อหมฺปิ, ภนฺเต, น วทามี’’ติ. เต ตสฺมึ ขเณ ‘‘เตน อมฺเห ภินฺทิตุกาเมน เอวํ วุตฺตํ ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา อฺมฺํ อจฺจยํ เทสยึสุ. เต วสฺสสตํ จิตฺตสฺสาทํ อลภนฺตา ตํ ทิวสํ สมคฺคา หุตฺวา ‘‘อายาม, นํ ตโต วิหารา นิกฺกฑฺฒิสฺสามา’’ติ ปกฺกมิตฺวา อนุปุพฺเพน ตํ วิหารํ อคมํสุ.

ธมฺมกถิโกปิ เถเร ทิสฺวา ปตฺตจีวรํ ปฏิคฺคเหตุํ อุปคจฺฉิ. เถรา ‘‘น ตฺวํ อิมสฺมึ วิหาเร วสิตุํ ยุตฺตรูโป’’ติ อจฺฉรํ ปหรึสุ. โส สณฺาตุํ อสกฺโกนฺโต ตาวเทว นิกฺขมิตฺวา ปลายิ. อถ นํ วีสติ วสฺสสหสฺสานิ กโต สมณธมฺโม สนฺธาเรตุํ นาสกฺขิ, ตโต จวิตฺวา อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺโต เอกํ พุทฺธนฺตรํ ปจฺจิตฺวา อิทานิ คิชฺฌกูเฏ วุตฺตปฺปกาเรน อตฺตภาเวน ทุกฺขํ อนุโภตีติ.

สตฺถา อิทํ ตสฺส ปุพฺพกมฺมํ อาหริตฺวา, ‘‘ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา นาม กายาทีหิ อุปสนฺตรูเปน ภวิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

๒๘๑.

‘‘วาจานุรกฺขี มนสา สุสํวุโต,

กาเยน จ นากุสลํ กยิรา;

เอเต ตโย กมฺมปเถ วิโสธเย,

อาราธเย มคฺคมิสิปฺปเวทิต’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – จตุนฺนํ วจีทุจฺจริตานํ วชฺชเนน วาจานุรกฺขี อภิชฺฌาทีนํ อนุปฺปาทเนน มนสา จ สุฏฺุ สํวุโต ปาณาติปาตาทโย ปชหนฺโต กาเยน จ อกุสลํ น กยิรา. เอวํ เอเต ตโย กมฺมปเถ วิโสธเย. เอวํ วิโสเธนฺโต หิ สีลกฺขนฺธาทีนํ เอสเกหิ พุทฺธาทีหิ อิสีหิ ปเวทิตํ อฏฺงฺคิกมคฺคํ อาราเธยฺยาติ.

เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.

สูกรเปตวตฺถุ ฉฏฺํ.

๗. โปฏฺิลตฺเถรวตฺถุ

โยคา เวติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต โปฏฺิลํ นาม เถรํ อารพฺภ กเถสิ.

โส กิร สตฺตนฺนมฺปิ พุทฺธานํ สาสเน เตปิฏโก ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ ธมฺมํ วาเจสิ. สตฺถา จินฺเตสิ – ‘‘อิมสฺส ภิกฺขุโน ‘อตฺตโน ทุกฺขนิสฺสรณํ กริสฺสามี’ติ จิตฺตมฺปิ นตฺถิ สํเวเชสฺสามิ น’’นฺติ. ตโต ปฏฺาย ตํ เถรํ อตฺตโน อุปฏฺานํ อาคตกาเล ‘‘เอหิ, ตุจฺฉโปฏฺิล, วนฺท, ตุจฺฉโปฏฺิล, นิสีท, ตุจฺฉโปฏฺิล, ยาหิ, ตุจฺฉโปฏฺิลา’’ติ วทติ. อุฏฺาย คตกาเลปิ ‘‘ตุจฺฉโปฏฺิโล คโต’’ติ วทติ. โส จินฺเตสิ – ‘‘อหํ สาฏฺกถานิ ตีณิ ปิฏกานิ ธาเรมิ, ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ อฏฺารส มหาคเณ ธมฺมํ วาเจมิ, อถ ปน มํ สตฺถา อภิกฺขณํ, ‘ตุจฺฉโปฏฺิลา’ติ วเทติ, อทฺธา มํ สตฺถา ฌานาทีนํ อภาเวน เอวํ วเทตี’’ติ. โส อุปฺปนฺนสํเวโค ‘‘ทานิ อรฺํ ปวิสิตฺวา สมณธมฺมํ กริสฺสามี’’ติ สยเมว ปตฺตจีวรํ สํวิทหิตฺวา ปจฺจูสกาเล สพฺพปจฺฉา ธมฺมํ อุคฺคณฺหิตฺวา นิกฺขมนฺเตน ภิกฺขุนา สทฺธึ นิกฺขมิ. ปริเวเณ นิสีทิตฺวา สชฺฌายนฺตา นํ ‘‘อาจริโย’’ติ น สลฺลกฺเขสุํ. โส วีสโยชนสตมคฺคํ คนฺตฺวา เอกสฺมึ อรฺาวาเส ตึส ภิกฺขู วสนฺติ, เต อุปสงฺกมิตฺวา สงฺฆตฺเถรํ วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อวสฺสโย เม โหถา’’ติ อาห. อาวุโส, ตฺวํ ธมฺมกถิโก, อมฺเหหิ นาม ตํ นิสฺสาย กิฺจิ ชานิตพฺพํ ภเวยฺย, กสฺมา เอวํ วเทสีติ? มา, ภนฺเต, เอวํ กโรถ, อวสฺสโย เม โหถาติ. เต ปน สพฺเพ ขีณาสวาว. อถ นํ มหาเถโร ‘‘อิมสฺส อุคฺคหํ นิสฺสาย มาโน อตฺถิเยวา’’ติ อนุเถรสฺส สนฺติกํ ปหิณิ. โสปิ นํ ตเถวาห. อิมินา นีหาเรน สพฺเพปิ ตํ เปเสนฺตา ทิวาฏฺาเน นิสีทิตฺวา สูจิกมฺมํ กโรนฺตสฺส สพฺพนวกสฺส สตฺตวสฺสิกสามเณรสฺส สนฺติกํ ปหิณึสุ. เอวมสฺส มานํ นีหรึสุ.

โส นิหตมาโน สามเณรสฺส สนฺติเก อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อวสฺสโย เม โหหิ สปฺปุริสา’’ติ อาห. อโห, อาจริย, กึ นาเมตํ กเถถ, ตุมฺเห มหลฺลกา พหุสฺสุตา, ตุมฺหากํ สนฺติเก มยา กิฺจิ การณํ ชานิตพฺพํ ภเวยฺยาติ. มา เอวํ กริ, สปฺปุริส, โหหิเยว เม อวสฺสโยติ. ภนฺเต, สเจปิ โอวาทกฺขมา ภวิสฺสถ, ภวิสฺสามิ โว อวสฺสโยติ. โหมิ, สปฺปุริส, อหํ ‘‘อคฺคึ ปวิสา’’ติ วุตฺเต อคฺคึ ปวิสามิเยวาติ. อถ นํ โส อวิทูเร เอกํ สรํ ทสฺเสตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ยถานิวตฺถปารุโตว อิมํ สรํ ปวิสถา’’ติ อาห. โส หิสฺส มหคฺฆานํ ทุปฏฺฏจีวรานํ นิวตฺถปารุตภาวํ ตฺวาปิ ‘‘โอวาทกฺขโม นุ โข’’ติ วีมํสนฺโต เอวมาห. เถโรปิ เอกวจเนเนว อุทกํ โอตริ. อถ นํ จีวรกณฺณานํ เตมิตกาเล ‘‘เอถ, ภนฺเต’’ติ วตฺวา เอกวจเนเนว อาคนฺตฺวา ิตํ อาห – ‘‘ภนฺเต, เอกสฺมึ วมฺมิเก ฉ ฉิทฺทานิ, ตตฺถ เอเกน ฉิทฺเทน โคธา อนฺโต ปวิฏฺา, ตํ คณฺหิตุกาโม อิตรานิ ปฺจ ฉิทฺทานิ ถเกตฺวา ฉฏฺํ ภินฺทิตฺวา ปวิฏฺฉิทฺเทเนว คณฺหาติ, เอวํ ตุมฺเหปิ ฉทฺวาริเกสุ อารมฺมเณสุ เสสานิ ปฺจทฺวารานิ ปิธาย มโนทฺวาเร กมฺมํ ปฏฺเปถา’’ติ. พหุสฺสุตสฺส ภิกฺขุโน เอตฺตเกเนว ปทีปุชฺชลนํ วิย อโหสิ. โส ‘‘เอตฺตกเมว โหตุ สปฺปุริสา’’ติ กรชกาเย าณํ โอตาเรตฺวา สมณธมฺมํ อารภิ.

สตฺถา วีสโยชนสตมตฺถเก นิสินฺโนว ตํ ภิกฺขุํ โอโลเกตฺวา ‘‘ยเถวายํ ภิกฺขุ ภูริปฺโ , เอวเมวํ อเนน อตฺตานํ ปติฏฺาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา เตน สทฺธึ กเถนฺโต วิย โอภาสํ ผริตฺวา อิมํ คาถมาห –

๒๘๒.

‘‘โยคา เว ชายตี ภูริ, อโยคา ภูริสงฺขโย;

เอตํ ทฺเวธาปถํ ตฺวา, ภวาย วิภวาย จ;

ตถาตฺตานํ นิเวเสยฺย, ยถา ภูริ ปวฑฺฒตี’’ติ.

ตตฺถ โยคาติ อฏฺตึสาย อารมฺมเณสุ โยนิโส มนสิการา. ภูรีติ ปถวีสมาย วิตฺถตาย ปฺาเยตํ นามํ. สงฺขโยติ วินาโส. เอตํ ทฺเวธาปถนฺติ เอตํ โยคฺจ อโยคฺจ. ภวาย วิภวาย จาติ วุทฺธิยา จ อวุทฺธิยา จ. ตถาติ ยถา อยํ ภูริสงฺขาตา ปฺา ปวฑฺฒติ, เอวํ อตฺตานํ นิเวเสยฺยาติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน โปฏฺิลตฺเถโร อรหตฺเต ปติฏฺหีติ.

โปฏฺิลตฺเถรวตฺถุ สตฺตมํ.

๘. ปฺจมหลฺลกตฺเถรวตฺถุ

วนํ ฉินฺทถาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต สมฺพหุเล มหลฺลเก ภิกฺขู อารพฺภ กเถสิ.

เต กิร คิหิกาเล สาวตฺถิยํ กุฏุมฺพิกา มหทฺธนา อฺมฺสหายกา เอกโต ปุฺานิ กโรนฺตา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ‘‘มยํ มหลฺลกา, กึ โน ฆราวาเสนา’’ติ สตฺถารํ ปพฺพชฺชํ ยาจิตฺวา ปพฺพชึสุ, มหลฺลกภาเวน ปน ธมฺมํ ปริยาปุณิตุํ อสกฺโกนฺตา วิหารปริยนฺเต ปณฺณสาลํ กาเรตฺวา เอกโตว วสึสุ. ปิณฺฑาย จรนฺตาปิ เยภุยฺเยน ปุตฺตทารสฺเสว เคหํ คนฺตฺวา ภุฺชึสุ. เตสุ เอกสฺส ปุราณทุติยิกา มธุรปาจิกา นาม, สา เตสํ สพฺเพสมฺปิ อุปการิกา อโหสิ. กสฺมา สพฺเพปิ อตฺตนา ลทฺธาหารํ คเหตฺวา ตสฺสา เอว เคเห นิสีทิตฺวา ภุฺชนฺติ? สาปิ เนสํ ยถาสนฺนิหิตํ สูปพฺยฺชนํ เทติ. สา อฺตราพาเธน ผุฏฺา กาลมกาสิ. อถ เต มหลฺลกตฺเถรา สหายกสฺส เถรสฺส ปณฺณสาลาย สนฺนิปติตฺวา อฺมฺํ คีวาสุ คเหตฺวา ‘‘มธุรปาจิกา อุปาสิกา กาลกตา’’ติ วิลปนฺตา โรทึสุ . ภิกฺขูหิ จ สมนฺตโต อุปธาวิตฺวา ‘‘กึ อิทํ, อาวุโส’’ติ ปุฏฺา, ‘‘ภนฺเต, สหายกสฺส โน ปุราณทุติยิกา กาลกตา, สา อมฺหากํ อติวิย อุปการิกา. อิทานิ กุโต ตถารูปึ ลภิสฺสามาติ อิมินา การเณน โรทามา’’ติ อาหํสุ.

ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เต กากโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา สมุทฺทตีเร จรมานา สมุทฺทอูมิยา สมุทฺทํ ปเวเสตฺวา มาริตาย กากิยา โรทิตฺวา ปริเทวิตฺวา ตํ นีหริสฺสามาติ มุขตุณฺฑเกหิ มหาสมุทฺทํ อุสฺสิฺจนฺตา กิลมึสู’’ติ อตีตํ อาหริตฺวา –

‘‘อปิ นุ หนุกา สนฺตา, มุขฺจ ปริสุสฺสติ;

โอรมาม น ปาเรม, ปูรเตว มโหทธี’’ติ. (ชา. ๑.๑.๑๔๖);

อิมํ กากชาตกํ วิตฺถาเรตฺวา เต ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา, ‘‘ภิกฺขเว, ราคโทสโมหวนํ นิสฺสาย ตุมฺเหหิ อิทํ ทุกฺขํ ปตฺตํ, ตํ วนํ ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติ, เอวํ นิทฺทุกฺขา ภวิสฺสถา’’ติ วตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –

๒๘๓.

‘‘วนํ ฉินฺทถ มา รุกฺขํ, วนโต ชายเต ภยํ;

เฉตฺวา วนฺจ วนถฺจ, นิพฺพนา โหถ ภิกฺขโว.

๒๘๔.

‘‘ยาว หิ วนโถ น ฉิชฺชติ,

อณุมตฺโตปิ นรสฺส นาริสุ;

ปฏิพทฺธมโนว ตาว โส,

วจฺโฉ ขีรปโกว มาตรี’’ติ.

ตตฺถ มา รุกฺขนฺติ สตฺถารา หิ ‘‘วนํ ฉินฺทถา’’ติ วุตฺเต เตสํ อจิรปพฺพชิตานํ ‘‘สตฺถา อมฺเห วาสิอาทีนิ คเหตฺวา วนํ ฉินฺทาเปตี’’ติ รุกฺขํ ฉินฺทิตุกามตา อุปฺปชฺชิ. อถ เน ‘‘มยา ราคาทิกิเลสวนํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ, น รุกฺเข’’ติ ปฏิเสเธนฺโต ‘‘มา รุกฺข’’นฺติ อาห. วนโตติ ยถา ปากติกวนโต สีหาทิภยํ ชายติ, เอวํ ชาติอาทิภยมฺปิ กิเลสวนโต ชายตีติ อตฺโถ. วนฺจ วนถฺจาติ เอตฺถ มหนฺตา รุกฺขา วนํ นาม, ขุทฺทกา ตสฺมึ วเน ิตตฺตา วนถา นาม. ปุพฺพุปฺปตฺติกรุกฺขา วา วนํ นาม, อปราปรุปฺปตฺติกา วนถา นาม. เอวเมว มหนฺตมหนฺตา ภวากฑฺฒนกา กิเลสา วนํ นาม, ปวตฺติยํ วิปากทายกา วนถา นาม. ปุพฺพปฺปตฺติกา วนํ นาม, อปราปรุปฺปตฺติกา วนถา นาม. ตํ อุภยํ จตุตฺถมคฺคาเณน ฉินฺทิตพฺพํ. เตนาห – ‘‘เฉตฺวา วนฺจ วนถฺจ, นิพฺพนา โหถ ภิกฺขโว’’ติ. นิพฺพนา โหถาติ นิกฺกิเลสา โหถ. ยาว หิ วนโถติ ยาว เอส อณุมตฺโตปิ กิเลสวนโถ นรสฺส นารีสุ น ฉิชฺชติ , ตาว โส ขีรปโก วจฺโฉ มาตริ วิย ปฏิพทฺธมโน ลคฺคจิตฺโตว โหตีติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน ปฺจปิ เต มหลฺลกตฺเถรา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหึสุ, สมฺปตฺตานมฺปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติ.

ปฺจมหลฺลกตฺเถรวตฺถุ อฏฺมํ.

๙. สุวณฺณการตฺเถรวตฺถุ

อุจฺฉินฺทาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ อารพฺภ กเถสิ.

เอโก กิร สุวณฺณการปุตฺโต อภิรูโป สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สนฺติเก ปพฺพชิ. เถโร ‘‘ตรุณานํ ราโค อุสฺสนฺโน โหตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตสฺส ราคปฏิฆาตาย อสุภกมฺมฏฺานํ อทาสิ. ตสฺส ปน ตํ อสปฺปายํ. ตสฺมา อรฺํ ปวิสิตฺวา เตมาสํ วายมนฺโต จิตฺเตกคฺคมตฺตมฺปิ อลภิตฺวา ปุน เถรสฺส สนฺติกํ อาคนฺตฺวา เถเรน ‘‘อุปฏฺิตํ เต, อาวุโส, กมฺมฏฺาน’’นฺติ วุตฺเต ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. อถสฺส เถโร ‘‘กมฺมฏฺานํ น สมฺปชฺชตีติ โวสานํ อาปชฺชิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา ปุน ตเทว กมฺมฏฺานํ สาธุกํ กเถตฺวา อทาสิ. โส ทุติยวาเรปิ กิฺจิ วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโต อาคนฺตฺวา เถรสฺส อาโรเจสิ. อถสฺส เถโรปิ สการณํ สอุปมํ กตฺวา ตเทว กมฺมฏฺานํ อาจิกฺขิ. โส ปุนปิ อาคนฺตฺวา กมฺมฏฺานสฺส อสมฺปชฺชนภาวํ กเถสิ. เถโร จินฺเตสิ – ‘‘การโก ภิกฺขุ อตฺตนิ วิชฺชมาเน กามจฺฉนฺทาทโย วิชฺชมานาติ อวิชฺชมาเน อวิชฺชมานาติ ปชานาติ. อยํ ภิกฺขุ การโก, โน อการโก, ปฏิปนฺโน, โน อปฺปฏิปนฺโน, อหํ ปเนตสฺส อชฺฌาสยํ น ชานามิ, พุทฺธเวเนยฺโย เอโส ภวิสฺสตี’’ติ ตํ อาทาย สายนฺหสมเย สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อยํ, ภนฺเต , มม สทฺธิวิหาริโก, อิมสฺส มยา อิมินา การเณน อิทํ นาม กมฺมฏฺานํ ทินฺน’’นฺติ สพฺพํ ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ.

อถ นํ สตฺถา ‘‘อาสยานุสยาณํ นาเมตํ ปารมิโย ปูเรตฺวา ทสสหสฺสิโลกธาตุํ อุนฺนาเทตฺวา สพฺพฺุตํ ปตฺตานํ พุทฺธานํเยว วิสโย’’ติ วตฺวา ‘‘กตรกุลา นุ โข เอส ปพฺพชิโต’’ติ อาวชฺเชนฺโต ‘‘สุวณฺณการกุลา’’ติ ตฺวา อตีเต อตฺตภาเว โอโลเกนฺโต ตสฺส สุวณฺณการกุเลเยว ปฏิปาฏิยา นิพฺพตฺตานิ ปฺจ อตฺตภาวสตานิ ทิสฺวา ‘‘อิมินา ทหเรน ทีฆรตฺตํ สุวณฺณการกมฺมํ กโรนฺเตน กณิการปุปฺผปทุมปุปฺผาทีนิ กริสฺสามีติ รตฺตสุวณฺณเมว สมฺปริวตฺติตํ, ตสฺมา อิมสฺส อสุภปฏิกูลกมฺมฏฺานํ น วฏฺฏติ, มนาปเมวสฺส กมฺมฏฺานํ สปฺปาย’’นฺติ จินฺเตตฺวา, ‘‘สาริปุตฺต, ตยา กมฺมฏฺานํ ทตฺวา จตฺตาโร มาเส กิลมิตํ ภิกฺขุํ อชฺช ปจฺฉาภตฺเตเยว อรหตฺตํ ปตฺตํ ปสฺสิสฺสสิ, คจฺฉ ตฺว’’นฺติ เถรํ อุยฺโยเชตฺวา อิทฺธิยา จกฺกมตฺตํ สุวณฺณปทุมํ มาเปตฺวา ปตฺเตหิ เจว นาเลหิ จ อุทกพินฺทูนิ มุฺจนฺตํ วิย กตฺวา ‘‘ภิกฺขุ อิมํ ปทุมํ อาทาย วิหารปจฺจนฺเต วาลุกราสิมฺหิ เปตฺวา สมฺมุขฏฺาเน ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา ‘โลหิตกํ โลหิตก’นฺติ ปริกมฺมํ กโรหี’’ติ อทาสิ. ตสฺส สตฺถุหตฺถโต ปทุมํ คณฺหนฺตสฺเสว จิตฺตํ ปสีทิ. โส วิหารปจฺจนฺตํ คนฺตฺวา วาลุกํ อุสฺสาเปตฺวา ตตฺถ ปทุมนาลํ ปเวเสตฺวา สมฺมุเข ปลฺลงฺเกน นิสินฺโน ‘‘โลหิตกํ โลหิตก’’นฺติ ปริกมฺมํ อารภิ. อถสฺส ตงฺขณฺเว นีวรณานิ วิกฺขมฺภึสุ, อุปจารชฺฌานํ อุปฺปชฺชิ. ตทนนฺตรํ ปมชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ปฺจหากาเรหิ วสีภาวํ ปาเปตฺวา ยถานิสินฺโนว ทุติยชฺฌานาทีนิปิ ปตฺวา วสีภูโต จตุตฺถชฺฌาเนน ฌานกีฬํ กีฬนฺโต นิสีทิ.

สตฺถา ตสฺส ฌานานํ อุปฺปนฺนภาวํ ตฺวา ‘‘สกฺขิสฺสติ นุ โข เอส อตฺตโน ธมฺมตาย อุตฺตริ วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุ’’นฺติ โอโลเกนฺโต ‘‘น สกฺขิสฺสตี’’ติ ตฺวา ‘‘ตํ ปทุมํ มิลายตู’’ติ อธิฏฺหิ. ตํ หตฺเถหิ มทฺทิตปทุมํ มิลายนฺตํ วิย กาฬวณฺณํ อโหสิ. โส ฌานา วุฏฺาย ตํ โอโลเกตฺวา ‘‘กึ นุ โข อิมํ ปทุมํ ชราย ปหฏํ ปฺายติ, อนุปาทิณฺณเกปิ เอวํ ชราย อภิภุยฺยมาเน อุปาทิณฺณเก กถาว นตฺถิ. อิทมฺปิ หิ ชรา อภิภวิสฺสตี’’ติ อนิจฺจลกฺขณํ ปสฺสิ . ตสฺมึ ปน ทิฏฺเ ทุกฺขลกฺขณฺจ อนตฺตลกฺขณฺจ ทิฏฺเมว โหติ. ตสฺส ตโย ภวา อาทิตฺตา วิย กณฺเฑ พทฺธกุณปา วิย จ ขายึสุ. ตสฺมึ ขเณ ตสฺส อวิทูเร กุมารกา เอกํ สรํ โอตริตฺวา กุมุทานิ ภฺชิตฺวา ถเล ราสึ กโรนฺติ. โส ชเล จ ถเล จ กุมุทานิ โอโลเกสิ. อถสฺส ชเล กุมุทานิ อภิรูปานิ อุทกปคฺฆรนฺตานิ วิย อุปฏฺหึสุ, อิตรานิ อคฺคคฺเคสุ ปริมิลาตานิ . โส ‘‘อนุปาทิณฺณกํ ชรา เอวํ ปหรติ, อุปาทิณฺณกํ กึ ปน น ปหริสฺสตี’’ติ สุฏฺุตรํ อนิจฺจลกฺขณาทีนิ อทฺทส. สตฺถา ‘‘ปากฏีภูตํ อิทานิ อิมสฺส ภิกฺขุโน กมฺมฏฺาน’’นฺติ ตฺวา คนฺธกุฏิยํ นิสินฺนโกว โอภาสํ มุฺจิ, โส ตสฺส มุขํ ปหริ. อถสฺส ‘‘กึ นุ โข เอต’’นฺติ โอโลเกนฺตสฺส สตฺถา อาคนฺตฺวา สมฺมุเข ิโต วิย อโหสิ. โส อุฏฺาย อฺชลึ ปคฺคณฺหิ. อถสฺส สตฺถา สปฺปายํ สลฺลกฺเขตฺวา อิมํ คาถมาห –

๒๘๕.

‘‘อุจฺฉินฺท สิเนหมตฺตโน, กุมุทํ สารทิกํว ปาณินา;

สนฺติมคฺคเมว พฺรูหย, นิพฺพานํ สุคเตน เทสิต’’นฺติ.

ตตฺถ อุจฺฉินฺทาติ อรหตฺตมคฺเคน อุจฺฉินฺท. สารทิกนฺติ สรทกาเล นิพฺพตฺตํ. สนฺติมคฺคนฺติ นิพฺพานคามึ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ. พฺรูหยาติ วฑฺฒย. นิพฺพานฺหิ สุคเตน เทสิตํ, ตสฺมา ตสฺส มคฺคํ ภาเวหีติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน โส ภิกฺขุ อรหตฺเต ปติฏฺหิ.

สุวณฺณการตฺเถรวตฺถุ นวมํ.

๑๐. มหาธนวาณิชวตฺถุ

อิธ วสฺสนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มหาธนวาณิชํ นาม อารพฺภ กเถสิ.

โส กิร พาราณสิโต กุสุมฺภรตฺตานํ วตฺถานํ ปฺจ สกฏสตานิ ปูเรตฺวา วณิชฺชาย สาวตฺถึ อาคโต นทีตีรํ ปตฺวา ‘‘สฺเว นทึ อุตฺตริสฺสามี’’ติ ตตฺเถว สกฏานิ โมเจตฺวา วสิ. รตฺตึ มหาเมโฆ อุฏฺหิตฺวา วสฺสิ. นที สตฺตาหํ อุทกสฺส ปูรา อฏฺาสิ. นาคราปิ สตฺตาหํ นกฺขตฺตํ กีฬึสุ. กุสุมฺภรตฺเตหิ วตฺเถหิ กิจฺจํ น นิฏฺิตํ. วาณิโช จินฺเตสิ – ‘‘อหํ ทูรํ อาคโต. สเจ ปุน คมิสฺสามิ, ปปฺโจ ภวิสฺสติ. อิเธว วสฺสฺจ เหมนฺตฺจ คิมฺหฺจ มม กมฺมํ กโรนฺโต วสิตฺวา อิมานิ วิกฺกิณิสฺสามี’’ติ. สตฺถา นคเร ปิณฺฑาย จรนฺโต ตสฺส จิตฺตํ ตฺวา สิตํ ปาตุกริตฺวา อานนฺทตฺเถเรน สิตการณํ ปุฏฺโ อาห – ‘‘ทิฏฺโ เต, อานนฺท, มหาธนวาณิโช’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. โส อตฺตโน ชีวิตนฺตรายํ อชานิตฺวา อิมํ สํวจฺฉรํ อิเธว วสิตฺวา ภณฺฑํ วิกฺกิณิตุํ จิตฺตมกาสีติ. ‘‘กึ ปน ตสฺส, ภนฺเต, อนฺตราโย ภวิสฺสตี’’ติ? สตฺถา ‘‘อามานนฺท, สตฺตาหเมว ชีวิตฺวา โส มจฺจุมุเข ปติสฺสตี’’ติ วตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –

‘‘อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ, โก ชฺา มรณํ สุเว;

น หิ โน สงฺครํ เตน, มหาเสเนน มจฺจุนา.

‘‘เอวํ วิหารึ อาตาปึ, อโหรตฺตมตนฺทิตํ;

ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ, สนฺโต อาจิกฺขเต มุนี’’ติ. (ม. นิ. ๓.๒๗๒);

คจฺฉามิสฺส, ภนฺเต, อาโรเจสฺสามีติ. วิสฺสตฺโถ คจฺฉานนฺทาติ. เถโร สกฏฏฺานํ คนฺตฺวา ภิกฺขาย จริ. วาณิโช เถรํ อาหาเรน ปติมาเนสิ. อถ นํ เถโร อาห – ‘‘กิตฺตกํ กาลํ อิธ วสิสฺสสี’’ติ? ‘‘ภนฺเต, อหํ ทูรโต อาคโต’’. สเจ ปุน คมิสฺสามิ, ปปฺโจ ภวิสฺสติ, อิมํ สํวจฺฉรํ อิธ วสิตฺวา ภณฺฑํ วิกฺกิณิตฺวา คมิสฺสามีติ. อุปาสก, ทุชฺชาโน ชีวิตนฺตราโย, อปฺปมาทํ กาตุํ วฏฺฏตีติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, อนฺตราโย ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘อาม, อุปาสก, สตฺตาหเมว เต ชีวิตํ ปวตฺติสฺสตีติ’’ . โส สํวิคฺคมานโส หุตฺวา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิมนฺเตตฺวา สตฺตาหํ มหาทานํ ทตฺวา อนุโมทนตฺถาย ปตฺตํ คณฺหิ. อถสฺส สตฺถา อนุโมทนํ กโรนฺโต, ‘‘อุปาสก, ปณฺฑิเตน นาม ‘อิเธว วสฺสาทีนิ วสิสฺสามิ, อิทฺจิทฺจ กมฺมํ ปโยเชสฺสามี’ติ จินฺเตตุํ น วฏฺฏติ, อตฺตโน ปน ชีวิตนฺตรายเมว จินฺเตตุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

๒๘๖.

‘‘อิธ วสฺสํ วสิสฺสามิ, อิธ เหมนฺตคิมฺหิสุ;

อิติ พาโล วิจินฺเตติ, อนฺตรายํ น พุชฺฌตี’’ติ.

ตตฺถ อิธ วสฺสนฺติ อิมสฺมึ าเน อิทฺจิทฺจ กโรนฺโต จตุมาสํ วสฺสํ วสิสฺสามิ. เหมนฺตคิมฺหิสูติ เหมนฺตคิมฺเหสุปิ ‘‘จตฺตาโร มาเส อิทฺจิทฺจ กโรนฺโต อิเธว วสิสฺสามี’’ติ เอวํ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกํ อตฺถํ อชานนฺโต พาโล วิจินฺเตติ. อนฺตรายนฺติ ‘‘อสุกสฺมึ นาม กาเล วา เทเส วา วเย วา มริสฺสามี’’ติ อตฺตโน ชีวิตนฺตรายํ น พุชฺฌตีติ.

เทสนาวสาเน โส วาณิโช โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ, สมฺปตฺตานมฺปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสิ . วาณิโชปิ สตฺถารํ อนุคนฺตฺวา นิวตฺติตฺวา ‘‘สีสโรโค วิย เม อุปฺปนฺโน’’ติ สยเน นิปชฺชิ, ตถานิปนฺโนว กาลํ กตฺวา ตุสิตวิมาเน นิพฺพตฺติ.

มหาธนวาณิชวตฺถุ ทสมํ.

๑๑. กิสาโคตมีวตฺถุ

ตํปุตฺตปสุสมฺมตฺตนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต กิสาโคตมึ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ สหสฺสวคฺเค –

‘‘โย จ วสฺสสตํ ชีเว, อปสฺสํ อมตํ ปทํ;

เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย, ปสฺสโต อมตํ ปท’’นฺติ. (ธ. ป. ๑๑๔) –

คาถาวณฺณนาย วิตฺถาเรตฺวา กถิตํ. ตทา หิ สตฺถา ‘‘กิสาโคตมิ ลทฺธา เต เอกจฺฉรมตฺตา สิทฺธตฺถกา’’ติ อาห. ‘‘น ลทฺธา, ภนฺเต, สกลคาเม ชีวนฺเตหิ กิร มตกา เอว พหุตรา’’ติ. อถ นํ สตฺถา ‘‘ตฺวํ ‘มเมว ปุตฺโต มโต’ติ สลฺลกฺเขสิ, ธุวธมฺโม เอส สพฺพสตฺตานํ. มจฺจุราชา หิ สพฺพสตฺเต อปริปุณฺณชฺฌาสเย เอว มโหโฆ วิย ปริกฑฺฒมาโน อปายสมุทฺเท ปกฺขิปตี’’ติ วตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห –

๒๘๗.

‘‘ตํ ปุตฺตปสุสมฺมตฺตํ, พฺยาสตฺตมนสํ นรํ;

สุตฺตํ คามํ มโหโฆว, มจฺจุ อาทาย คจฺฉตี’’ติ.

ตตฺถ ตํ ปุตฺตปสุสมฺมตฺตนฺติ ตํ รูปพลาทิสมฺปนฺเน ปุตฺเต จ ปสู จ ลภิตฺวา ‘‘มม ปุตฺตา อภิรูปา พลสมฺปนฺนา ปณฺฑิตา สพฺพกิจฺจสมตฺถา, มม โคณา อภิรูปา อโรคา มหาภารวหา, มม คาวี พหุขีรา’’ติ เอวํ ปุตฺเตหิ จ ปสูหิ จ สมฺมตฺตํ นรํ. พฺยาสตฺตมนสนฺติ หิรฺสุวณฺณาทีสุ วา ปตฺตจีวราทีสุ วา กิฺจิเทว ลภิตฺวา ตโต อุตฺตริตรํ ปตฺถนตาย อาสตฺตมานสํ วา, จกฺขุวิฺเยฺยาทีสุ อารมฺมเณสุ วุตฺตปฺปกาเรสุ วา ปริกฺขาเรสุ ยํ ยํ ลทฺธํ โหติ, ตตฺถ ตตฺเถว ลคฺคนตาย พฺยาสตฺตมานสํ วา. สุตฺตํ คามนฺติ นิทฺทํ อุปคตํ สตฺตนิกายํ. มโหโฆวาติ ยถา เอวรูปํ คามํ คมฺภีรวิตฺถโต มหนฺโต มหานทีนํ โอโฆ อนฺตมโส สุนขมฺปิ อเสเสตฺวา สพฺพํ อาทาย คจฺฉติ, เอวํ วุตฺตปฺปการํ นรํ มจฺจุ อาทาย คจฺฉตีติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน กิสาโคตมี โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ, สมฺปตฺตานมฺปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติ.

กิสาโคตมีวตฺถุ เอกาทสมํ.

๑๒. ปฏาจาราวตฺถุ

สนฺติ ปุตฺตาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปฏาจารํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ สหสฺสวคฺเค –

‘‘โย จ วสฺสสตํ ชีเว, อปสฺสํ อุทยพฺพยํ;

เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย, ปสฺสโต อุทยพฺพย’’นฺติ. (ธ. ป. ๑๑๓) –

คาถาวณฺณนาย วิตฺถาเรตฺวา กถิตํ. ตทา ปน สตฺถา ปฏาจารํ ตนุภูตโสกํ ตฺวา ‘‘ปฏาจาเร ปุตฺตาทโย นาม ปรโลกํ คจฺฉนฺตสฺส ตาณํ วา เลณํ วา สรณํ วา ภวิตุํ น สกฺโกนฺติ, ตสฺมา วิชฺชมานาปิ เต น สนฺติเยว. ปณฺฑิเตน ปน สีลํ วิโสเธตฺวา อตฺตโน นิพฺพานคามิมคฺคเมว โสเธตุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมา คาถา อภาสิ –

๒๘๘.

‘‘น สนฺติ ปุตฺตา ตาณาย, น ปิตา นาปิ พนฺธวา;

อนฺตเกนาธิปนฺนสฺส, นตฺถิ าตีสุ ตาณตา.

๒๘๙.

‘‘เอตมตฺถวสํ ตฺวา, ปณฺฑิโต สีลสํวุโต;

นิพฺพานคมนํ มคฺคํ, ขิปฺปเมว วิโสธเย’’ติ.

ตตฺถ ตาณายาติ ตาณภาวาย ปติฏฺานตฺถาย. พนฺธวาติ ปุตฺเต จ มาตาปิตโร จ เปตฺวา อวเสสา าติสุหชฺชา. อนฺตเกนาธิปนฺนสฺสาติ มรเณน อภิภูตสฺส. ปวตฺติยฺหิ ปุตฺตาทโย อนฺนปานาทิทาเนน เจว อุปฺปนฺนกิจฺจนิตฺถรเณน จ ตาณา หุตฺวาปิ มรณกาเล เกนจิ อุปาเยน มรณํ ปฏิพาหิตุํ อสมตฺถตาย ตาณตฺถาย เลณตฺถาย น สนฺติ นาม. เตเนว วุตฺตํ – ‘‘นตฺถิ าตีสุ ตาณตา’’ติ. เอตมตฺถวสนฺติ เอวํ เตสํ อฺมฺสฺส ตาณํ ภวิตุํ อสมตฺถภาวสงฺขาตํ การณํ ชานิตฺวา ปณฺฑิโต จตุปาริสุทฺธิสีเลน สํวุโต รกฺขิตโคปิโต หุตฺวา นิพฺพานคมนํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ สีฆํ สีฆํ วิโสเธยฺยาติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน ปฏาจารา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ, อฺเ จ พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.

ปฏาจาราวตฺถุ ทฺวาทสมํ.

มคฺควคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

วีสติโม วคฺโค.