📜
๘. สหสฺสวคฺโค
๑. ตมฺพทาิกโจรฆาตกวตฺถุ
สหสฺสมปิ ¶ ¶ ¶ เจ วาจาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต ตมฺพทาิกโจรฆาตกํ อารพฺภ กเถสิ.
เอกูนปฺจสตา กิร โจรา คามฆาตกาทีนิ กโรนฺตา ชีวิกํ กปฺเปสุํ. อเถโก ปุริโส นิพฺพิทฺธปิงฺคโล ตมฺพทาิโก เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘อหมฺปิ ตุมฺเหหิ สทฺธึ ชีวิสฺสามี’’ติ อาห. อถ นํ โจรเชฏฺกสฺส ทสฺเสตฺวา ‘‘อยมฺปิ อมฺหากํ สนฺติเก วสิตุํ อิจฺฉตี’’ติ อาหํสุ. อถ นํ โจรเชฏฺโก โอโลเกตฺวา ‘‘อยํ มาตุ ถนํ ฉินฺทิตฺวา ปิตุ วา คลโลหิตํ นีหริตฺวา ขาทนสมตฺโถ อติกกฺขโฬ’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘นตฺเถตสฺส อมฺหากํ สนฺติเก วสนกิจฺจ’’นฺติ ปฏิกฺขิปิ. โส เอวํ ปฏิกฺขิตฺโตปิ อาคนฺตฺวา เอกํ ตสฺเสว อนฺเตวาสิกํ อุปฏฺหนฺโต อาราเธสิ. โส ตํ อาทาย โจรเชฏฺกํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘สามิ, ภทฺทโก เอส, อมฺหากํ อุปการโก, สงฺคณฺหถ น’’นฺติ ยาจิตฺวา โจรเชฏฺกํ ปฏิจฺฉาเปสิ. อเถกทิวสํ ¶ นาครา ราชปุริเสหิ สทฺธึ เอกโต หุตฺวา เต โจเร คเหตฺวา วินิจฺฉยมหามจฺจานํ สนฺติกํ นยึสุ. อมจฺจา เตสํ ผรสุนา สีสจฺเฉทํ อาณาเปสุํ. ตโต ‘‘โก นุ โข อิเม มาเรสฺสตี’’ติ ปริเยสนฺตา เต มาเรตุํ อิจฺฉนฺตํ กฺจิ อทิสฺวา โจรเชฏฺกํ อาหํสุ – ‘‘ตฺวํ อิเม มาเรตฺวา ชีวิตฺเจว ลภิสฺสสิ สมฺมานฺจ, มาเรหิ เน’’ติ. โสปิ อตฺตานํ นิสฺสาย วสิตตฺตา เต มาเรตุํ น อิจฺฉิ. เอเตนูปาเยน เอกูนปฺจสเต ปุจฺฉึสุ, สพฺเพปิ น อิจฺฉึสุ. สพฺพปจฺฉา ตํ นิพฺพิทฺธปิงฺคลํ ตมฺพทาิกํ ปุจฺฉึสุ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เต สพฺเพปิ มาเรตฺวา ชีวิตฺเจว สมฺมานฺจ ลภิ. เอเตนูปาเยน นครสฺส ทกฺขิณโตปิ ปฺจ โจรสตานิ อาเนตฺวา อมจฺจานํ ทสฺเสตฺวา เตหิ เตสมฺปิ สีสจฺเฉเท อาณตฺเต โจรเชฏฺกํ อาทึ กตฺวา ปุจฺฉนฺตา กฺจิ มาเรตุํ อิจฺฉนฺตํ อทิสฺวา ‘‘ปุริมทิวเส เอโก ปุริโส ปฺจสเต โจเร มาเรสิ, กหํ นุ โข โส’’ติ. ‘‘อสุกฏฺาเน อมฺเหติ ทิฏฺโ’’ติ วุตฺเต ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อิเม มาเรหิ, สมฺมานํ ลจฺฉสี’’ติ อาณาเปสุํ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เต สพฺเพปิ มาเรตฺวา สมฺมานํ ลภิ. อถ นํ ‘‘ภทฺทโก อยํ ¶ ปุริโส, นิพทฺธํ โจรฆาตกเมว เอตํ กริสฺสามา’’ติ ¶ มนฺเตตฺวา ตสฺส ตํ านนฺตรํ ทตฺวาว ¶ สมฺมานํ กรึสุ. โส ปจฺฉิมทิสโตปิ อุตฺตรทิสโตปิ อานีเต ปฺจสเต ปฺจสเต โจเร ฆาเตสิเยว. เอวํ จตูหิ ทิสาหิ อานีตานิ ทฺเว สหสฺสานิ มาเรตฺวา ตโต ปฏฺาย เทวสิกํ เอกํ ทฺเวติ อานีเต เต มนุสฺเส มาเรตฺวา ปฺจปณฺณาส สํวจฺฉรานิ โจรฆาตกกมฺมํ อกาสิ.
โส มหลฺลกกาเล เอกปฺปหาเรเนว สีสํ ฉินฺทิตุํ น สกฺโกติ, ทฺเว ตโย วาเร ปหรนฺโต มนุสฺเส กิลเมติ. นาครา จินฺตยึสุ – ‘‘อฺโปิ โจรฆาตโก อุปฺปชฺชิสฺสติ, อยํ อติวิย มนุสฺเส กิลเมติ, กึ อิมินา’’ติ ตสฺส ตํ านนฺตรํ หรึสุ. โส ปุพฺเพ โจรฆาตกกมฺมํ กโรนฺโต ‘‘อหตสาฏเก นิวาเสตุํ, นวสปฺปินา สงฺขตํ ขีรยาคุํ ปิวิตุํ, สุมนปุปฺผานิ ปิลนฺธิตุํ, คนฺเธ วิลิมฺปิตุ’’นฺติ อิมานิ จตฺตาริ น ลภิ. โส านา จาวิตทิวเส ‘‘ขีรยาคุํ เม ปจถา’’ติ วตฺวา อหตวตฺถสุมนมาลาวิเลปนานิ คาหาเปตฺวา นทึ คนฺตฺวา นฺหตฺวา อหตวตฺถานิ นิวาเสตฺวา มาลา ปิลนฺธิตฺวา คนฺเธหิ อนุลิตฺตคตฺโต เคหํ อาคนฺตฺวา นิสีทิ. อถสฺส นวสปฺปินา สงฺขตํ ¶ ขีรยาคุํ ปุรโต เปตฺวา หตฺถโธวโนทกํ อาหรึสุ. ตสฺมึ ขเณ สาริปุตฺตตฺเถโร สมาปตฺติโต วุฏฺาย ‘‘กตฺถ นุ โข อชฺช มยา คนฺตพฺพ’’นฺติ อตฺตโน ภิกฺขาจารํ โอโลเกนฺโต ตสฺส เคเห ขีรยาคุํ ทิสฺวา ‘‘กริสฺสติ นุ โข เม ปุริโส สงฺคห’’นฺติ อุปธาเรนฺโต ‘‘มํ ทิสฺวา มม สงฺคหํ กริสฺสติ, กริตฺวา จ ปน มหาสมฺปตฺตึ ลภิสฺสติ อยํ กุลปุตฺโต’’ติ ตฺวา จีวรํ ปารุปิตฺวา ปตฺตํ อาทาย ตสฺส เคหทฺวาเร ิตเมว อตฺตานํ ทสฺเสสิ.
โส เถรํ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘มยา จิรํ โจรฆาตกกมฺมํ กตํ, พหู มนุสฺสา มาริตา, อิทานิ เม เคเห ขีรยาคุ ปฏิยตฺตา, เถโร อาคนฺตฺวา มม เคหทฺวาเร ิโต, อิทานิ มยา อยฺยสฺส เทยฺยธมฺมํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ ปุรโต ปิตยาคุํ อปเนตฺวา เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา อนฺโตเคเห นิสีทาเปตฺวา ปตฺเต ขีรยาคุํ อากิริตฺวา นวสปฺปึ อาสิฺจิตฺวา เถรํ พีชมาโน อฏฺาสิ. อถสฺส จ ทีฆรตฺตํ อลทฺธปุพฺพตาย ขีรยาคุํ ปาตุํ พลวอชฺฌาสโย อโหสิ. เถโร ตสฺส อชฺฌาสยํ ตฺวา ‘‘ตฺวํ, อุปาสก, อตฺตโน ยาคุํ ปิวา’’ติ ¶ อาห. โส อฺสฺส หตฺเถ พีชนึ ทตฺวา ยาคุํ ปิวิ. เถโร พีชมานํ ปุริสํ ‘‘คจฺฉ, อุปาสกเมว พีชาหี’’ติ อาห. โส พีชิยมาโน กุจฺฉิปูรํ ยาคุํ ปิวิตฺวา อาคนฺตฺวา เถรํ พีชมาโน ตฺวา กตาหารกิจฺจสฺส เถรสฺส ¶ ปตฺตํ อคฺคเหสิ. เถโร ตสฺส อนุโมทนํ อารภิ. โส อตฺตโน จิตฺตํ เถรสฺส ธมฺมเทสนานุคํ กาตุํ นาสกฺขิ. เถโร สลฺลกฺเขตฺวา, ‘‘อุปาสก, กสฺมา จิตฺตํ เทสนานุคํ กาตุํ น สกฺโกสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ภนฺเต, มยา ทีฆรตฺตํ กกฺขฬกมฺมํ กตํ, พหู มนุสฺสา มาริตา, ตมหํ อตฺตโน กมฺมํ อนุสฺสรนฺโต จิตฺตํ ¶ อยฺยสฺส เทสนานุคํ กาตุํ นาสกฺขิ’’นฺติ. เถโร ‘‘วฺเจสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘กึ ปน ตฺวํ อตฺตโน รุจิยา อกาสิ, อฺเหิ การิโตสี’’ติ? ‘‘ราชา มํ กาเรสิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ นุ โข เต, อุปาสก, เอวํ สนฺเต อกุสลํ โหตี’’ติ? มนฺทธาตุโก อุปาสโก เถเรเนวํ วุตฺเต ‘‘นตฺถิ มยฺหํ อกุสล’’นฺติ สฺี หุตฺวา เตน หิ, ‘‘ภนฺเต, ธมฺมํ กเถถา’’ติ. โส เถเร อนุโมทนํ กโรนฺเต เอกคฺคจิตฺโต หุตฺวา ธมฺมํ สุณนฺโต โสตาปตฺติมคฺคสฺส โอรโต อนุโลมิกํ ขนฺตึ นิพฺพตฺเตสิ. เถโรปิ อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ.
อุปาสกํ เถรํ อนุคนฺตฺวา นิวตฺตมานํ เอกา ยกฺขินี เธนุเวเสน อาคนฺตฺวา อุเร ปหริตฺวา มาเรสิ. โส กาลํ กตฺวา ตุสิตปุเร นิพฺพตฺติ. ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘โจรฆาตโก ปฺจปณฺณาส วสฺสานิ กกฺขฬกมฺมํ กตฺวา อชฺเชว ตโต มุตฺโต, อชฺเชว เถรสฺส ภิกฺขํ ทตฺวา อชฺเชว กาลํ กโต, กหํ นุ โข นิพฺพตฺโต’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ¶ , ‘‘ภิกฺขเว, ตุสิตปุเร นิพฺพตฺโต’’ติ อาห. ‘‘กึ, ภนฺเต, วเทถ, เอตฺตกํ กาลํ เอตฺตเก มนุสฺเส ฆาเตตฺวา ตุสิตวิมาเน นิพฺพตฺโต’’ติ. ‘‘อาม, ภิกฺขเว, มหนฺโต เตน กลฺยาณมิตฺโต ลทฺโธ, โส สาริปุตฺตสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา อนุโลมาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา อิโต จุโต ตุสิตวิมาเน นิพฺพตฺโต’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘สุภาสิตํ สุณิตฺวาน, นคเร โจรฆาตโก;
อนุโลมขนฺตึ ลทฺธาน, โมทตี ติทิวํ คโต’’ติ.
‘‘ภนฺเต ¶ , อนุโมทนกถา นาม น พลวา, เตน กตํ อกุสลกมฺมํ มหนฺตํ, กถํ เอตฺตเกน วิเสสํ นิพฺพตฺเตสี’’ติ. สตฺถา ‘‘กึ, ภิกฺขเว, ‘มยา เทสิตธมฺมสฺส อปฺปํ วา พหุํ วา’ติ มา ปมาณํ คณฺหถ. เอกวาจาปิ หิ อตฺถนิสฺสิตา เสยฺยาวา’’ติ วตฺวา อนุสนฺธึ ฆเฏตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘สหสฺสมปิ เจ วาจา, อนตฺถปทสํหิตา;
เอกํ อตฺถปทํ เสยฺโย, ยํ สุตฺวา อุปสมฺมตี’’ติ.
ตตฺถ สหสฺสมปีติ ปริจฺเฉทวจนํ, เอกํ สหสฺสํ ทฺเว สหสฺสานีติ เอวํ สหสฺเสน เจปิ ปริจฺฉินฺนวาจา โหนฺติ, ตา จ ปน อนตฺถปทสํหิตา อากาสวณฺณนาปพฺพตวณฺณนาวนวณฺณนาทีนิ ¶ ¶ ปกาสเกหิ อนิยฺยานทีปเกหิ อนตฺถเกหิ ปเทหิ สํหิตา ยาว พหุกา โหติ, ตาว ปาปิกา เอวาติ อตฺโถ. เอกํ อตฺถปทนฺติ ยํ ปน ‘‘อยํ กาโย, อยํ กายคตาสติ, ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺโต, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ เอวรูปํ เอกํ อตฺถปทํ สุตฺวา ราคาทิวูปสเมน อุปสมฺมติ, ตํ อตฺถสาธกํ นิพฺพานปฺปฏิสํยุตฺตํ ขนฺธธาตุอายตนอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคสติปฏฺานปริทีปกํ เอกมฺปิ ปทํ เสยฺโยเยวาติ อตฺโถ.
เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.
ตมฺพทาิกโจรฆาตกวตฺถุ ปมํ.
๒. พาหิยทารุจีริยตฺเถรวตฺถุ
สหสฺสมปิ เจ คาถาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ทารุจีริยตฺเถรํ อารพฺภ กเถสิ.
เอกสฺมิฺหิ กาเล พหู มนุสฺสา นาวาย มหาสมุทฺทํ ปกฺขนฺทิตฺวา อนฺโตมหาสมุทฺเท ภินฺนาย นาวาย มจฺฉกจฺฉปภกฺขา ¶ อเหสุํ. เอโกเวตฺถ เอกํ ผลกํ คเหตฺวา วายมนฺโต สุปฺปารกปฏฺฏนตีรํ โอกฺกมิ, ตสฺส นิวาสนปารุปนํ นตฺถิ. โส อฺํ กิฺจิ อปสฺสนฺโต สุกฺขกฏฺทณฺฑเก วาเกหิ ปลิเวเตฺวา นิวาสนปารุปนํ กตฺวา เทวกุลโต กปาลํ ¶ คเหตฺวา สุปฺปารกปฏฺฏนํ อคมาสิ, มนุสฺสา ตํ ทิสฺวา ยาคุภตฺตาทีนิ ทตฺวา ‘‘อยํ เอโก อรหา’’ติ สมฺภาเวสุํ. โส วตฺเถสุ อุปนีเตสุ ‘‘สจาหํ นิวาเสสฺสามิ วา ปารุปิสฺสามิ วา, ลาภสกฺกาโร เม ปริหายิสฺสตี’’ติ ตานิ วตฺถานิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ทารุจีราเนว ปริทหิ. อถสฺส พหูหิ ‘‘อรหา อรหา’’ติ วุจฺจมานสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ ‘‘เย โข เกจิ โลเก อรหนฺโต วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺนา, อหํ เตสํ อฺตโร’’ติ. อถสฺส ปุราณสาโลหิตา เทวตา เอวํ จินฺเตสิ.
ปุราณสาโลหิตาติ ปุพฺเพ เอกโต กตสมณธมฺมา. ปุพฺเพ กิร กสฺสปทสพลสฺส สาสเน โอสกฺกมาเน สามเณราทีนํ วิปฺปการํ ทิสฺวา สตฺต ภิกฺขู สํเวคปฺปตฺตา ‘‘ยาว สาสนสฺส อนฺตรธานํ น โหติ, ตาว อตฺตโน ปติฏฺํ กริสฺสามา’’ติ สุวณฺณเจติยํ วนฺทิตฺวา อรฺํ ปวิฏฺา เอกํ ปพฺพตํ ทิสฺวา ‘‘ชีวิเต สาลยา ¶ นิวตฺตนฺตุ. นิราลยา อิมํ ปพฺพตํ อภิรุหนฺตู’’ติ ¶ วตฺวา นิสฺเสณึ พนฺธิตฺวา สพฺเพปิ ตํ อภิรุยฺห นิสฺเสณึ ปาเตตฺวา สมณธมฺมํ กรึสุ. เตสุ สงฺฆตฺเถโร เอกรตฺตาติกฺกเมเนว อรหตฺตํ ปาปุณิ. โส อโนตตฺตทเห นาคลตาทนฺตกฏฺํ ขาทิตฺวา อุตฺตรกุรุโต ปิณฺฑปาตํ อาหริตฺวา เต ภิกฺขู อาห – ‘‘อาวุโส, อิมํ ทนฺตกฏฺํ ขาทิตฺวา มุขํ โธวิตฺวา อิมํ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชถา’’ติ. กึ ปน, ภนฺเต, อมฺเหหิ เอวํ กติกา กตา ‘‘โย ปมํ อรหตฺตํ ปาปุณาติ, เตนาภตํ ปิณฺฑปาตํ อวเสสา ปริภฺุชิสฺสนฺตี’’ติ? ‘‘โน เหตํ, อาวุโส’’ติ. ‘‘เตน หิ สเจ มยมฺปิ ตุมฺเห วิย วิเสสํ นิพฺพตฺเตสฺสาม, สยํ อาหริตฺวา ปริภฺุชิสฺสามา’’ติ น อิจฺฉึสุ. ทุติยทิวเส ทุติยตฺเถโร อนาคามิผลํ ปาปุณิ. โสปิ ตเถว ปิณฺฑปาตํ อาหริตฺวา อิตเร นิมนฺเตสิ. เต เอวมาหํสุ – ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, อมฺเหหิ เอวํ กติกา กตา ‘มหาเถเรน อาภตํ ปิณฺฑปาตํ อภฺุชิตฺวา อนุเถเรน อาภตํ ภฺุชิสฺสามา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, อาวุโส’’ติ. ‘‘เอวํ สนฺเต ตุมฺเห วิย มยมฺปิ วิเสสํ นิพฺพตฺเตตฺวา อตฺตโน ปุริสกาเรน ภฺุชิตุํ สกฺโกนฺตา ภฺุชิสฺสามา’’ติ น อิจฺฉึสุ. เตสุ อรหตฺตํ ปตฺโต ภิกฺขุ ปรินิพฺพายิ, อนาคามี พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ. อิตเร ¶ ปฺจ เถรา วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺโกนฺตา สุสฺสิตฺวา สตฺตเม ทิวเส กาลํ กตฺวา ¶ เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ตโต จวิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ กุลฆเรสุ นิพฺพตฺตึสุ. เตสุ เอโก ปุกฺกุสาติ ราชา (ม. นิ. ๓.๓๔๒) อโหสิ, เอโก กุมารกสฺสโป (ม. นิ. ๑.๒๔๙), เอโก ทารุจีริโย (อุทา. ๑๐), เอโก ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต (ปารา. ๓๘๐; อุทา. ๗๙) เอโก สภิโย ปริพฺพาชโกติ (สุ. นิ. สภิยสุตฺตํ). ตตฺถ โย พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺโต ภิกฺขุ ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ ‘‘ปุราณสาโลหิตา เทวตา’’ติ.
ตสฺส หิ พฺรหฺมุโน เอตทโหสิ – ‘‘อยํ มยา สทฺธึ นิสฺเสณึ พนฺธิตฺวา ปพฺพตํ อภิรุหิตฺวา สมณธมฺมํ อกาสิ, อิทานิ อิมํ ลทฺธึ คเหตฺวา วิจรนฺโต วินสฺเสยฺย, สํเวเชสฺสามิ น’’นฺติ. อถ นํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาห – ‘‘เนว โข ตฺวํ, พาหิย, อรหา, นปิ อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺโน, สาปิ เต ปฏิปทา นตฺถิ, ยาย ตฺวํ อรหา วา อสฺส อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺโน’’ติ. พาหิโย อากาเส ตฺวา กเถนฺตํ มหาพฺรหฺมานํ โอโลเกตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อโห ภาริยํ กมฺมํ กตํ, อหํ ‘อรหนฺโตมฺหี’ติ จินฺเตสึ, อยฺจ มํ ‘น ตฺวํ อรหา, นปิ อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺโนสี’ติ วทติ, อตฺถิ นุ โข ¶ โลเก อฺโ อรหา’’ติ. อถ นํ ปุจฺฉิ – ‘‘อตฺถิ นุ โข เอตรหิ เทวเต โลเก อรหา วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺโน’’ติ. อถสฺส เทวตา อาจิกฺขิ – ‘‘อตฺถิ, พาหิย, อุตฺตเรสุ ชนปเทสุ สาวตฺถิ นาม นครํ, ตตฺถ โส ภควา เอตรหิ วิหรติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. โส หิ, พาหิย, ภควา อรหา เจว อรหตฺตตฺถาย จ ธมฺมํ เทเสตี’’ติ.
พาหิโย ¶ รตฺติภาเค เทวตาย กถํ สุตฺวา สํวิคฺคมานโส ตํ ขณํเยว สุปฺปารกา นิกฺขมิตฺวา เอกรตฺติวาเสน สาวตฺถึ อคมาสิ, สพฺพํ วีสโยชนสติกํ มคฺคํ เอกรตฺติวาเสเนว อคมาสิ. คจฺฉนฺโต จ ปน เทวตานุภาเวน คโต. ‘‘พุทฺธานุภาเวนา’’ติปิ วทนฺติเยว. ตสฺมึ ปน ขเณ สตฺถา สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิฏฺโ โหติ. โส ภุตฺตปาตราเส กายอาลสิยวิโมจนตฺถํ อพฺโภกาเส จงฺกมนฺเต สมฺพหุเล ภิกฺขู ‘‘กหํ เอตรหิ สตฺถา’’ติ ปุจฺฉิ. ภิกฺขู ‘‘ภควา สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิฏฺโ’’ติ วตฺวา ตํ ปุจฺฉึสุ – ‘‘ตฺวํ ปน กุโต อาคโตสี’’ติ? ‘‘สุปฺปารกา อาคโตมฺหี’’ติ. ‘‘กทา ¶ นิกฺขนฺโตสี’’ติ? ‘‘หิยฺโย สายํ ¶ นิกฺขนฺโตมฺหี’’ติ. ‘‘ทูรโตสิ อาคโต, นิสีท, ตว ปาเท โธวิตฺวา เตเลน มกฺเขตฺวา โถกํ วิสฺสมาหิ, อาคตกาเล สตฺถารํ ทกฺขิสฺสสี’’ติ. ‘‘อหํ, ภนฺเต, สตฺถุ วา อตฺตโน วา ชีวิตนฺตรายํ น ชานามิ, เอกรตฺเตเนวมฺหิ กตฺถจิ อฏฺตฺวา อนิสีทิตฺวา วีสโยชนสติกํ มคฺคํ อาคโต, สตฺถารํ ปสฺสิตฺวาว วิสฺสมิสฺสามี’’ติ. โส เอวํ วตฺวา ตรมานรูโป สาวตฺถึ ปวิสิตฺวา ภควนฺตํ อโนปมาย พุทฺธสิริยา ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา ‘‘จิรสฺสํ วต เม โคตโม สมฺมาสมฺพุทฺโธ ทิฏฺโ’’ติ ทิฏฺฏฺานโต ปฏฺาย โอนตสรีโร คนฺตฺวา อนฺตรวีถิยเมว ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา โคปฺผเกสุ ทฬฺหํ คเหตฺวา เอวมาห – ‘‘เทเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา ธมฺมํ, เทเสตุ สุคโต ธมฺมํ, ยํ มมสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ. อถ นํ สตฺถา ‘‘อกาโล โข ตาว, พาหิย, อนฺตรฆรํ ปวิฏฺมฺหา ปิณฺฑายา’’ติ ปฏิกฺขิปิ.
ตํ สุตฺวา พาหิโย, ภนฺเต, สํสาเร สํสรนฺเตน กพฬีการาหาโร น อลทฺธปุพฺโพ, ตุมฺหากํ วา มยฺหํ วา ชีวิตนฺตรายํ น ชานามิ, เทเสตุ เม ธมฺมนฺติ. สตฺถา ทุติยมฺปิ ปฏิกฺขิปิเยว. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อิมสฺส มํ ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย สกลสรีรํ ปีติยา นิรนฺตรํ อชฺโฌตฺถฏํ โหติ, พลวปีติเวโค ธมฺมํ สุตฺวาปิ น สกฺขิสฺสติ ปฏิวิชฺฌิตุํ, มชฺฌตฺตุเปกฺขาย ตาว ¶ ติฏฺตุ, เอกรตฺเตเนว วีสโยชนสติกํ มคฺคํ อาคตตฺตา ทรโถปิสฺส พลวา, โสปิ ตาว ปฏิปฺปสฺสมฺภตู’’ติ. ตสฺมา ทฺวิกฺขตฺตุํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ตติยํ ยาจิโต อนฺตรวีถิยํ ิโตว ‘‘ตสฺมาติห เต, พาหิย, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ ‘ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตํ ภวิสฺสตี’’’ติอาทินา (อุทา. ๑๐) นเยน ธมฺมํ เทเสสิ. โส สตฺถุ ธมฺมํ สุณนฺโตเยว สพฺพาสเว เขเปตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. ตาวเทว จ ปน ภควนฺตํ ปพฺพชฺชํ ยาจิ, ‘‘ปริปุณฺณํ เต ปตฺตจีวร’’นฺติ ปุฏฺโ ‘‘น ปริปุณฺณ’’นฺติ อาห. อถ นํ สตฺถา ‘‘เตน หิ ปตฺตจีวรํ ปริเยสาหี’’ติ วตฺวา ปกฺกามิ.
‘‘โส กิร วีสติ วสฺสสหสฺสานิ สมณธมฺมํ กโรนฺโต ‘ภิกฺขุนา นาม อตฺตนา ปจฺจเย ¶ ลภิตฺวา อฺํ อโนโลเกตฺวา สยเมว ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตี’ติ เอกภิกฺขุสฺสาปิ ปตฺเตน วา จีวเรน วา สงฺคหํ น อกาสิ ¶ , เตนสฺส อิทฺธิมยปตฺตจีวรํ น อุปชฺชิสฺสตี’’ติ ตฺวา เอหิภิกฺขุภาเวน ปพฺพชฺชํ น อทาสิ. ตมฺปิ ปตฺตจีวรํ ปริเยสมานเมว เอกา ยกฺขินี เธนุรูเปน อาคนฺตฺวา อุรมฺหิ ปหริตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปสิ. สตฺถา ปิณฺฑาย จริตฺวา กตภตฺตกิจฺโจ สมฺพหุเลหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ นิกฺขนฺโต พาหิยสฺส ¶ สรีรํ สงฺการฏฺาเน ปติตํ ทิสฺวา ภิกฺขู อาณาเปสิ, ‘‘ภิกฺขเว, เอกสฺมึ เคหทฺวาเร ตฺวา มฺจกํ อาหราเปตฺวา อิมํ สรีรํ นครโต นีหริตฺวา ฌาเปตฺวา ถูปํ กโรถา’’ติ. ภิกฺขู ตถา กรึสุ, กตฺวา จ ปน วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา อตฺตนา กตกิจฺจํ อาโรเจตฺวา ตสฺส อภิสมฺปรายํ ปุจฺฉึสุ. อถ เนสํ ภควา ตสฺส ปรินิพฺพุตภาวํ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ขิปฺปาภิฺานํ ยทิทํ พาหิโย ทารุจีริโย’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๑๖) เอตทคฺเค เปสิ. อถ นํ ภิกฺขู ปุจฺฉึสุ – ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห ‘พาหิโย อรหตฺตํ ปตฺโต’ติ วเทถ, กทา โส อรหตฺตํ ปตฺโต’’ติ? ‘‘มม ธมฺมํ สุตกาเล, ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘กทา ปนสฺส, ภนฺเต, ตุมฺเหหิ ธมฺโม กถิโต’’ติ? ‘‘ปิณฺฑาย จรนฺเตน อนฺตรวีถิยํ ตฺวา’’ติ. ‘‘อปฺปมตฺตโก หิ, ภนฺเต, ตุมฺเหหิ อนฺตรวีถิยํ ตฺวา กถิตธมฺโม กถํ โส ตาวตฺตเกน วิเสสํ นิพฺพตฺเตสี’’ติ, อถ เน สตฺถา ‘‘กึ, ภิกฺขเว, มม ธมฺมํ ‘อปฺปํ วา พหุํ วา’ติ มา ปมาณํ คณฺหถ. อเนกานิปิ หิ คาถาสหสฺสานิ อนตฺถนิสฺสิตานิ น เสยฺโย, อตฺถนิสฺสิตํ ปน เอกมฺปิ คาถาปทํ เสยฺโย’’ติ วตฺวา อนุสนฺธึ ฆเฏตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘สหสฺสมปิ เจ คาถา, อนตฺถปทสํหิตา;
เอกํ คาถาปทํ เสยฺโย, ยํ สุตฺวา อุปสมฺมตี’’ติ.
ตตฺถ ¶ เอกํ คาถาปทํ เสยฺโยติ ‘‘อปฺปมาโท อมตปทํ…เป… ยถา มยา’’ติ (ธ. ป. ๒๑) เอวรูปา เอกา คาถาปิ เสยฺโยติ อตฺโถ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.
เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.
พาหิยทารุจีริยตฺเถรวตฺถุ ทุติยํ.
๓. กุณฺฑลเกสิตฺเถรีวตฺถุ
โย ¶ ¶ จ คาถาสตํ ภาเสติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต กุณฺฑลเกสึ อารพฺภ กเถสิ.
ราชคเห กิร เอกา เสฏฺิธีตา โสฬสวสฺสุทฺเทสิกา อภิรูปา อโหสิ ทสฺสนียา ปาสาทิกา. ตสฺมิฺจ วเย ิตา นาริโย ปุริสชฺฌาสยา โหนฺติ ปุริสโลลา. อถ นํ มาตาปิตโร สตฺตภูมิกสฺส ปาสาทสฺส อุปริมตเล สิริคพฺเภ นิวาสาเปสุํ. เอกเมวสฺสา ทาสึ ปริจาริกํ อทํสุ. อเถกํ กุลปุตฺตํ โจรกมฺมํ กโรนฺตํ คเหตฺวา ปจฺฉาพาหํ พนฺธิตฺวา จตุกฺเก จตุกฺเก กสาหิ ปหริตฺวา อาฆาตนํ นยึสุ. เสฏฺิธีตา มหาชนสฺส สทฺทํ สุตฺวา ‘‘กึ นุ โข เอต’’นฺติ ปาสาทตเล ตฺวา โอโลเกนฺตี ตํ ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺตา ¶ หุตฺวา ตํ ปตฺถยมานา อาหารํ ปฏิกฺขิปิตฺวา มฺจเก นิปชฺชิ. อถ นํ มาตา ปุจฺฉิ – ‘‘กึ อิทํ, อมฺมา’’ติ? ‘‘สเจ เอตํ ‘โจโร’ติ คเหตฺวา นิยฺยมานํ ปุริสํ ลภิสฺสามิ, ชีวิสฺสามิ. โน เจ ลภิสฺสามิ, ชีวิตํ เม นตฺถิ, อิเธว มริสฺสามี’’ติ. ‘‘อมฺม, มา เอวํ กริ, อมฺหากํ ชาติยา จ โคตฺเตน จ โภเคน จ สทิสํ อฺํ สามิกํ ลภิสฺสสี’’ติ. ‘‘มยฺหํ อฺเน กิจฺจํ นตฺถิ, อิมํ อลภมานา มริสฺสามี’’ติ. มาตา ธีตรํ สฺาเปตุํ อสกฺโกนฺตี ปิตุโน อาโรเจสิ. โสปิ นํ สฺาเปตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘กึ สกฺกา กาตุ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ตํ โจรํ คเหตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ราชปุริสสฺส สหสฺสภณฺฑิกํ เปเสสิ – ‘‘อิมํ คเหตฺวา เอตํ ปุริสํ มยฺหํ เทหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ กหาปเณ คเหตฺวา ตํ มฺุจิตฺวา อฺํ มาเรตฺวา ‘‘มาริโต, เทว, โจโร’’ติ รฺโ อาโรเจสิ. เสฏฺิปิ ตสฺส ธีตรํ อทาสิ.
สา ตโต ปฏฺาย ‘‘สามิกํ อาราเธสฺสามี’’ติ สพฺพาภรณปฏิมณฺฑิตา สยเมว ตสฺส ยาคุอาทีนิ สํวิทหติ, โจโร กติปาหจฺจเยน จินฺเตสิ – ‘‘กทา นุ โข อิมํ มาเรตฺวา เอติสฺสา อาภรณานิ คเหตฺวา เอกสฺมึ สุราเคเห วิกฺกิณิตฺวา ขาทิตุํ ลภิสฺสามี’’ติ? โส ‘‘อตฺเถโก อุปาโย’’ติ จินฺเตตฺวา อาหารํ ปฏิกฺขิปิตฺวา มฺจเก นิปชฺชิ, อถ นํ สา อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘กึ เต, สามิ, รุชฺชตี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘น กิฺจิ เม, ภทฺเทติ, กจฺจิ ปน เม มาตาปิตโร ตุยฺหํ กุทฺธา’’ติ? ‘‘น กุชฺฌนฺติ, ภทฺเท’’ติ ¶ . อถ ‘‘กึ นาเมต’’นฺติ? ‘‘ภทฺเท, อหํ ตํ ทิวสํ พนฺธิตฺวา นิยฺยมาโน ¶ โจรปปาเต อธิวตฺถาย เทวตาย พลิกมฺมํ ปฏิสฺสุณิตฺวา ชีวิตํ ลภึ, ตฺวมฺปิ มยา ตสฺสา เอว อานุภาเวน ลทฺธา, ‘ตํ เม เทวตาย พลิกมฺมํ ปิต’นฺติ จินฺเตมิ, ภทฺเท’’ติ. ‘‘สามิ, มา จินฺตยิ, กริสฺสามิ พลิกมฺมํ, วเทหิ ¶ , เกนตฺโถ’’ติ? ‘‘อปฺโปทกมธุปายเสน จ ลาชปฺจมกปุปฺเผหิ จา’’ติ. ‘‘สาธุ, สามิ, อหํ ปฏิยาเทสฺสามี’’ติ สา สพฺพํ พลิกมฺมํ ปฏิยาเทตฺวา ‘‘เอหิ, สามิ, คจฺฉามา’’ติ อาห. ‘‘เตน หิ, ภทฺเท, ตว าตเก นิวตฺเตตฺวา มหคฺฆานิ วตฺถาภรณานิ คเหตฺวา อตฺตานํ อลงฺกโรหิ, หสนฺตา กีฬนฺตา สุขํ คมิสฺสามา’’ติ. สา ตถา อกาสิ.
อถ นํ โส ปพฺพตปาทํ คตกาเล อาห – ‘‘ภทฺเท, อิโต ปรํ อุโภว ชนา คมิสฺสาม, เสสชนํ ยานเกน สทฺธึ นิวตฺตาเปตฺวา พลิกมฺมภาชนํ สยํ อุกฺขิปิตฺวา คณฺหาหี’’ติ. สา ตถา อกาสิ. โจโร ตํ คเหตฺวา โจรปปาตปพฺพตํ อภิรุหิ. ตสฺส หิ เอเกน ปสฺเสน มนุสฺสา อภิรุหนฺติ, เอกํ ปสฺสํ ฉินฺนปปาตํ. ปพฺพตมตฺถเก ิตา เตน ปสฺเสน โจเร ปาเตนฺติ. เต ขณฺฑาขณฺฑํ หุตฺวา ภูมิยํ ปตนฺติ. ตสฺมา ‘‘โจรปปาโต’’ติ วุจฺจติ. สา ตสฺส ปพฺพตสฺส มตฺถเก ตฺวา ‘‘พลิกมฺมํ เต, สามิ, กโรหี’’ติ อาห. โส ตุณฺหี อโหสิ. ปุน ตาย ¶ ‘‘กสฺมา, สามิ, ตุณฺหีภูโตสี’’ติ วุตฺเต ตํ อาห – ‘‘น มยฺหํ พลิกมฺเมนตฺโถ, วฺเจตฺวา ปน ตํ อาทาย อาคโตมฺหี’’ติ. ‘‘กึ การณา, สามี’’ติ? ‘‘ตํ มาเรตฺวา ตว อาภรณานิ คเหตฺวา ปลายนตฺถายา’’ติ. สา มรณภยตชฺชิตา อาห – ‘‘สามิ, อหฺจ อาภรณานิ จ ตว สนฺตกาเนว, กสฺมา เอวํ วเทสี’’ติ? โส, ‘‘มา เอวํ กโรหี’’ติ, ปุนปฺปุนํ ยาจิยมาโนปิ ‘‘มาเรมิ เอวา’’ติ อาห. ‘‘เอวํ สนฺเต กึ เต มม มรเณน? อิมานิ อาภรณานิ คเหตฺวา มยฺหํ ชีวิตํ เทหิ, อิโต ปฏฺาย มํ ‘มตา’ติ ธาเรหิ, ทาสี วา เต หุตฺวา กมฺมํ กริสฺสามี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘อิทํ สุวณฺณเกยูรํ, มุตฺตา เวฬุริยา พหู;
สพฺพํ หรสฺสุ ภทฺทนฺเต, มํ จ ทาสีติ สาวยา’’ติ. (อป. เถรี ๒.๓.๒๗);
ตํ ¶ สุตฺวา โจโร ‘‘เอวํ กเต ตฺวํ คนฺตฺวา มาตาปิตูนํ อาจิกฺขิสฺสสิ, มาเรสฺสามิเยว, มา ตฺวํ พาฬฺหํ ปริเทวสี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘มา พาฬฺหํ ปริเทเวสิ, ขิปฺปํ พนฺธาหิ ภณฺฑิกํ;
น ตุยฺหํ ชีวิตํ อตฺถิ, สพฺพํ คณฺหามิ ภณฺฑก’’นฺติ. –
สา ¶ จินฺเตสิ – ‘‘อโห อิทํ กมฺมํ ภาริยํ. ปฺา นาม น ปจิตฺวา ขาทนตฺถาย กตา, อถ โข วิจารณตฺถาย กตา, ชานิสฺสามิสฺส กตฺตพฺพ’’นฺติ, อถ นํ อาห – ‘‘สามิ, ยทา ตฺวํ ¶ ‘โจโร’ติ คเหตฺวา นียสิ, ตทาหํ มาตาปิตูนํ อาจิกฺขึ, เต สหสฺสํ วิสฺสชฺเชตฺวา ตํ อาหราเปตฺวา เคเห กรึสุ. ตโต ปฏฺาย อหํ ตุยฺหํ อุปการิกา, อชฺช เม สุทิฏฺํ กตฺวา อตฺตานํ วนฺทิตุํ เทหี’’ติ. โส ‘‘สาธุ, ภทฺเท, สุทิฏฺํ กตฺวา วนฺทาหี’’ติ วตฺวา ปพฺพตนฺเต อฏฺาสิ. อถ นํ สา ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา จตูสุ าเนสุ วนฺทิตฺวา, ‘‘สามิ, อิทํ เต ปจฺฉิมทสฺสนํ, อิทานิ ตุยฺหํ วา มม ทสฺสนํ, มยฺหํ วา ตว ทสฺสนํ นตฺถี’’ติ ปุรโต จ ปจฺฉโต จ อาลิงฺคิตฺวา ปมตฺตํ หุตฺวา ปพฺพตนฺเต ิตํ ปิฏฺิปสฺเส ตฺวา เอเกน หตฺเถน ขนฺเธ คเหตฺวา เอเกน ปิฏฺิกจฺฉาย คเหตฺวา ปพฺพตปปาเต ขิปิ. โส ปพฺพตกุจฺฉิยํ ปฏิหโต ขณฺฑาขณฺฑิกํ หุตฺวา ภูมิยํ ปติ. โจรปปาตมตฺถเก อธิวตฺถา เทวตา เตสํ ทฺวินฺนมฺปิ กิริยํ ทิสฺวา ตสฺสา อิตฺถิยา สาธุการํ ทตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘น หิ สพฺเพสุ าเนสุ, ปุริโส โหติ ปณฺฑิโต;
อิตฺถีปิ ปณฺฑิตา โหติ, ตตฺถ ตตฺถ วิจกฺขณา’’ติ. (อป. เถรี ๒.๓.๓๑);
สาปิ ¶ โจรํ ปปาเต ขิปิตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ เคหํ คมิสฺสามิ, ‘สามิโก เต กุหิ’นฺติ ปุจฺฉิสฺสนฺติ, สจาหํ เอวํ ปุฏฺา ‘มาริโต เม’ติ วกฺขามิ, ‘ทุพฺพินีเต สหสฺสํ ทตฺวา ตํ อาหราเปตฺวา อิทานิ นํ มาเรสี’ติ มํ มุขสตฺตีหิ วิชฺฌิสฺสนฺติ, ‘อาภรณตฺถาย โส มํ มาเรตุกาโม อโหสี’ติ วุตฺเตปิ น สทฺทหิสฺสนฺติ, อลํ เม เคเหนา’’ติ ตตฺเถวาภรณานิ ฉฑฺเฑตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา อนุปุพฺเพน วิจรนฺตี เอกํ ปริพฺพาชกานํ อสฺสมํ ปตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘มยฺหํ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ สนฺติเก ปพฺพชฺชํ เทถา’’ติ อาห. อถ นํ ปพฺพาเชสุํ. สา ปพฺพชิตฺวาว ปุจฺฉิ – ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชาย กึ อุตฺตม’’นฺติ? ‘‘ภทฺเท, ทสสุ วา กสิเณสุ ปริกมฺมํ กตฺวา ฌานํ นิพฺพตฺเตตพฺพํ ¶ , วาทสหสฺสํ วา อุคฺคณฺหิตพฺพํ, อยํ อมฺหากํ ปพฺพชฺชาย อุตฺตมตฺโถ’’ติ. ‘‘ฌานํ ตาว นิพฺพตฺเตตุํ อหํ น สกฺขิสฺสามิ, วาทสหสฺสํ ปน อุคฺคณฺหิสฺสามิ, อยฺยา’’ติ. อถ นํ เต วาทสหสฺสํ อุคฺคณฺหาเปตฺวา ‘‘อุคฺคหิตํ เต สิปฺปํ, อิทานิ ตฺวํ ชมฺพุทีปตเล วิจริตฺวา อตฺตนา สทฺธึ ปฺหํ กเถตุํ สมตฺถํ โอโลเกหี’’ติ ตสฺส หตฺเถ ชมฺพุสาขํ ¶ ทตฺวา อุยฺโยเชสุํ – ‘‘คจฺฉ, ภทฺเท, สเจ โกจิ คิหิภูโต ตยา สทฺธึ ปฺหํ กเถตุํ สกฺโกติ, ตสฺเสว ปาทปริจาริกา ภวาหิ, สเจ ปพฺพชิโต สกฺโกติ, ตสฺส สนฺติเก ปพฺพชาหี’’ติ.
สา นาเมน ชมฺพุปริพฺพาชิกา นาม หุตฺวา ตโต นิกฺขมิตฺวา ทิฏฺเ ทิฏฺเ ปฺหํ ปุจฺฉนฺตี วิจรติ. ตาย สทฺธึ กเถตุํ สมตฺโถ นาม นาโหสิ. ‘‘อิโต ชมฺพุปริพฺพาชิกา อาคจฺฉตี’’ติ ¶ สุตฺวาว มนุสฺสา ปลายนฺติ. สา คามํ วา นิคมํ วา ภิกฺขาย ปวิสนฺตี คามทฺวาเร วาลุกราสึ กตฺวา ตตฺถ ชมฺพุสาขํ เปตฺวา ‘‘มยา สทฺธึ กเถตุํ สมตฺโถ ชมฺพุสาขํ มทฺทตู’’ติ วตฺวา คามํ ปาวิสิ. ตํ านํ อุปสงฺกมิตุํ สมตฺโถ นาม นาโหสิ. สาปิ มิลาตาย ชมฺพุสาขาย อฺํ ชมฺพุสาขํ คณฺหาติ, อิมินา นีหาเรน วิจรนฺตี สาวตฺถึ ปตฺวา คามทฺวาเร วาลุกราสึ กตฺวา ชมฺพุสาขํ เปตฺวา วุตฺตนเยเนว วตฺวา ภิกฺขาย ปาวิสิ. สมฺพหุลา คามทารกา ชมฺพุสาขํ ปริวาเรตฺวา อฏฺํสุ. ตทา สาริปุตฺตตฺเถโร ปิณฺฑาย จริตฺวา กตภตฺตกิจฺโจ นครา นิกฺขนฺโต เต ทารเก ชมฺพุสาขํ ปริวาเรตฺวา ิเต ทิสฺวา ‘‘กึ อิท’’นฺติ ปุจฺฉิ. ทารกา เถรสฺส ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขึสุ. ‘‘เตน หิ ทารกา อิมํ สาขํ มทฺทถา’’ติ. ‘‘ภายาม, ภนฺเต’’ติ ¶ . ‘‘อหํ ปฺหํ กเถสฺสามิ, มทฺทถ ตุมฺเห’’ติ. เต เถรสฺส วจเนน สฺชาตุสฺสาหา ตถา กตฺวา มทฺทนฺตา ชมฺพุสาขํ อุกฺขิปึสุ. ปริพฺพาชิกา อาคนฺตฺวา เต ปริภาสิตฺวา ‘‘ตุมฺเหหิ สทฺธึ มม ปฺเหน กิจฺจํ นตฺถิ, กสฺมา เม สาขํ มทฺทถา’’ติ อาห. ‘‘อยฺเยนมฺหา มทฺทาปิตา’’ติ อาหํสุ. ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเหหิ เม สาขา มทฺทาปิตา’’ติ? ‘‘อาม, ภคินี’’ติ. ‘‘เตน หิ มยา สทฺธึ ปฺหํ กเถถา’’ติ. ‘‘สาธุ กเถสฺสามี’’ติ.
สา วฑฺฒมานกจฺฉายาย ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ เถรสฺส สนฺติกํ อคมาสิ, สกลนครํ สงฺขุภิ. ‘‘ทฺวินฺนํ ปณฺฑิตานํ กถํ สุณิสฺสามา’’ติ นาครา ตาย สทฺธึเยว คนฺตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. ปริพฺพาชิกา เถรํ ¶ อาห – ‘‘ภนฺเต, ปุจฺฉามิ เต ปฺห’’นฺติ. ‘‘ปุจฺฉ, ภคินี’’ติ. สา วาทสหสฺสํ ปุจฺฉิ, ปุจฺฉิตํ ปุจฺฉิตํ เถโร วิสฺสชฺเชสิ. อถ นํ เถโร อาห – ‘‘เอตฺตกา เอว เต ปฺหา, อฺเปิ อตฺถี’’ติ? ‘‘เอตฺตกา เอว, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ตยา พหู ปฺหา ปุฏฺา, มยมฺปิ เอกํ ปุจฺฉาม, วิสฺสชฺชิสฺสสิ โน’’ติ? ‘‘ชานมานา วิสฺสชฺชิสฺสามิ ปุจฺฉถ, ภนฺเต’’ติ. เถโร ‘‘เอกํ นาม ¶ กิ’’นฺติ (ขุ. ปา. ๔.๑) ปฺหํ ปุจฺฉิ. สา ‘‘เอวํ นาเมส วิสฺสชฺเชตพฺโพ’’ติ อชานนฺตี ‘‘กึ นาเมตํ, ภนฺเต’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘พุทฺธปฺโห นาม, ภคินี’’ติ. ‘‘มยฺหมฺปิ ตํ เทถ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘สเจ มาทิสา ภวิสฺสสิ, ทสฺสามี’’ติ. ‘‘เตน หิ มํ ปพฺพาเชถา’’ติ. เถโร ภิกฺขุนีนํ อาจิกฺขิตฺวา ปพฺพาเชสิ. สา ปพฺพชิตฺวา ลทฺธูปสมฺปทา กุณฺฑลเกสิตฺเถรี นาม หุตฺวา กติปาหจฺจเยเนว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ.
ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ – ‘‘กุณฺฑลเกสิตฺเถริยา ธมฺมสฺสวนฺจ พหุํ นตฺถิ, ปพฺพชิตกิจฺจฺจสฺสา มตฺถกํ ปตฺตํ, เอเกน กิร โจเรน สทฺธึ มหาสงฺคามํ กตฺวา ชินิตฺวา อาคตา’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ¶ ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต, ‘‘ภิกฺขเว, มยา เทสิตธมฺมํ ‘อปฺปํ วา พหุํ วา’ติ ปมาณํ มา คณฺหถ, อนตฺถกํ ปทสตมฺปิ เสยฺโย น โหติ, ธมฺมปทํ ปน เอกมฺปิ เสยฺโยว. อวเสสโจเร ชินนฺตสฺส จ ชโย นาม น โหติ, อชฺฌตฺติกกิเลสโจเร ชินนฺตสฺเสว ปน ชโย นาม โหตี’’ติ วตฺวา อนุสนฺธึ ฆเฏตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘โย จ คาถาสตํ ภาเส, อนตฺถปทสํหิตา;
เอกํ ธมฺมปทํ เสยฺโย, ยํ สุตฺวา อุปสมฺมติ.
‘‘โย ¶ สหสฺสํ สหสฺเสน, สงฺคาเม มานุเส ชิเน;
เอกฺจ เชยฺยมตฺตานํ, ส เว สงฺคามชุตฺตโม’’ติ.
ตตฺถ คาถาสตนฺติ โย จ ปุคฺคโล สตปริจฺเฉทา พหูปิ คาถา ภาเสยฺยาติ อตฺโถ. อนตฺถปทสํหิตาติ อากาสวณฺณนาทิวเสน อนตฺถเกหิ ปเทหิ สํหิตา. ธมฺมปทนฺติ อตฺถสาธกํ ขนฺธาทิปฏิสํยุตฺตํ, ‘‘จตฺตาริมานิ ปริพฺพาชกา ธมฺมปทานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อนภิชฺฌา ปริพฺพาชกา ธมฺมปทํ, อพฺยาปาโท ปริพฺพาชกา ธมฺมปทํ, สมฺมาสติ ปริพฺพาชกา ธมฺมปทํ ¶ , สมฺมาสมาธิ ปริพฺพาชกา ธมฺมปท’’นฺติ (อ. นิ. ๔.๓๐) เอวํ วุตฺเตสุ จตูสุ ธมฺมปเทสุ เอกมฺปิ ธมฺมปทํ เสยฺโย. โย สหสฺสํ สหสฺเสนาติ โย เอโก สงฺคามโยโธ สหสฺเสน คุณิตํ สหสฺสํ มานุเส เอกสฺมึ สงฺคาเม ชิเนยฺย, ทสมนุสฺสสตสหสฺสํ ชินิตฺวา ชยํ อาหเรยฺย, อยมฺปิ สงฺคามชินตํ อุตฺตโม ปวโร นาม น โหติ. เอกฺจ เชยฺยมตฺตานนฺติ โย รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเนสุ อชฺฌตฺติกกมฺมฏฺานํ สมฺมสนฺโต อตฺตโน โลภาทิกิเลสชเยน อตฺตานํ ชิเนยฺย ¶ . ส เว สงฺคามชุตฺตโมติ โส สงฺคามชินานํ อุตฺตโม ปวโร สงฺคามสีสโยโธติ.
เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.
กุณฺฑลเกสิตฺเถรีวตฺถุ ตติยํ.
๔. อนตฺถปุจฺฉกพฺราหฺมณวตฺถุ
อตฺตา หเวติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อนตฺถปุจฺฉกํ พฺราหฺมณํ อารพฺภ กเถสิ.
โส ¶ กิร พฺราหฺมโณ ‘‘กึ นุ โข สมฺมาสมฺพุทฺโธ อตฺถเมว ชานาติ, อุทาหุ อนตฺถมฺปิ, ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห อตฺถเมว ชานาถ มฺเ, โน อนตฺถ’’นฺติ? ‘‘อตฺถฺจาหํ, พฺราหฺมณ, ชานามิ อนตฺถฺจา’’ติ. ‘‘เตน หิ เม อนตฺถํ กเถถา’’ติ. อถสฺส สตฺถา อิมํ คาถมาห –
‘‘อุสฺสูรเสยฺยํ อาลสฺยํ, จณฺฑิกฺกํ ทีฆโสณฺฑิยํ;
เอกสฺสทฺธานคมนํ ปรทารูปเสวนํ;
เอตํ พฺราหฺมณ เสวสฺสุ, อนตฺถํ เต ภวิสฺสตี’’ติ.
ตํ สุตฺวา พฺราหฺมโณ สาธุการมทาสิ ‘‘สาธุ สาธุ, คณาจริย, คณเชฏฺก, ตุมฺเห อตฺถฺจ ชานาถ อนตฺถฺจา’’ติ ¶ . ‘‘เอวํ โข, พฺราหฺมณ, อตฺถานตฺถชานนโก นาม มยา สทิโส นตฺถี’’ติ. อถสฺส สตฺถา อชฺฌาสยํ อุปธาเรตฺวา, ‘‘พฺราหฺมณ, เกน กมฺเมน ชีวสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ชูตกมฺเมน, โภ โคตมา’’ติ. ‘‘กึ ปน เต ชโย โหติ ปราชโย’’ติ ¶ . ‘‘ชโยปิ โหติ ปราชโยปี’’ติ วุตฺเต, ‘‘พฺราหฺมณ, อปฺปมตฺตโก เอส, ปรํ ชินนฺตสฺส ชโย นาม น เสยฺโย. โย ปน กิเลสชเยน อตฺตานํ ชินาติ, ตสฺส ชโย เสยฺโย. น หิ ตํ ชยํ โกจิ อปชยํ กาตุํ สกฺโกตี’’ติ วตฺวา อนุสนฺธึ ฆเฏตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘อตฺตา หเว ชิตํ เสยฺโย, ยา จายํ อิตรา ปชา;
อตฺตทนฺตสฺส โปสสฺส, นิจฺจํ สฺตจาริโน.
‘‘เนว เทโว น คนฺธพฺโพ, น มาโร สห พฺรหฺมุนา;
ชิตํ อปชิตํ กยิรา, ตถารูปสฺส ชนฺตุโน’’ติ.
ตตฺถ หเวติ นิปาโต. ชิตนฺติ ลิงฺควิปลฺลาโส, อตฺตโน กิเลสชเยน อตฺตา ชิโต เสยฺโยติ อตฺโถ. ยา จายํ อิตรา ปชาติ ยา ปนายํ อวเสสา ปชา ชูเตน วา ¶ ธนหรเณน วา สงฺคาเมน วา พลาภิภเวน วา ชิตา ภเวยฺย, ตํ ชินนฺเตน ยํ ชิตํ, น ตํ เสยฺโยติ อตฺโถ. กสฺมา ปน ตเทว ชิตํ เสยฺโย, อิทํ น เสยฺโยติ? ยสฺมา อตฺตทนฺตสฺส…เป… ตถารูปสฺส ชนฺตุโนติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยสฺมา หิ ยฺวายํ นิกฺกิเลสตาย อตฺตทนฺโต โปโส, ตสฺส อตฺตทนฺตสฺส กายาทีหิ นิจฺจํ สฺตจาริโน เอวรูปสฺส อิเมหิ กายสฺมาทีหิ สฺตสฺส ชนฺตุโน เทโว วา คนฺธพฺโพ วา มาโร วา พฺรหฺมุนา สห อุฏฺหิตฺวา ‘‘อหมสฺส ชิตํ อปชิตํ ¶ กริสฺสามิ, มคฺคภาวนาย ปหีเน กิเลเส ปุน อุปฺปาเทสฺสามี’’ติ ฆเฏนฺโตปิ วายมนฺโตปิ ยถา ธนาทีหิ ปราชิโต ปกฺขนฺตโร หุตฺวา อิตเรน ชิตํ ปุน ชินนฺโต อปชิตํ กเรยฺย, ‘‘เอวํ อปชิตํ กาตุํ เนว สกฺกุเณยฺยา’’ติ.
เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.
อนตฺถปุจฺฉกพฺราหฺมณวตฺถุ จตุตฺถํ.
๕. สาริปุตฺตตฺเถรสฺส มาตุลพฺราหฺมณวตฺถุ
มาเส ¶ ¶ มาเสติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต สาริปุตฺตตฺเถรสฺส มาตุลพฺราหฺมณํ อารพฺภ กเถสิ.
เถโร กิร ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อาห – ‘‘กึ นุ โข, พฺราหฺมณ, กิฺจิเทว กุสลํ กโรสี’’ติ? ‘‘กโรมิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ กโรสี’’ติ? ‘‘มาเส มาเส สหสฺสปริจฺจาเคน ทานํ ทมฺมี’’ติ. ‘‘กสฺส เทสี’’ติ? ‘‘นิคณฺานํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ปตฺถยนฺโต’’ติ? ‘‘พฺรหฺมโลกํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ปน พฺรหฺมโลกสฺส อยํ มคฺโค’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘โก เอวมาหา’’ติ? ‘‘อาจริเยหิ เม กถิตํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘โน ตฺวํ พฺรหฺมโลกสฺส มคฺคํ ชานาสิ, นาปิ เต อาจริยา, สตฺถาว เอโก ชานาติ, เอหิ, พฺราหฺมณ, พฺรหฺมโลกสฺส เต มคฺคํ กถาเปสฺสามี’’ติ ตํ อาทาย สตฺถุ สนฺติกํ เนตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อยํ พฺราหฺมโณ เอวมาหา’’ติ, ‘‘ตํ ปวตฺตึ อาโรเจตฺวา สาธุ วตสฺส พฺรหฺมโลกสฺส มคฺคํ กเถถา’’ติ. สตฺถา ‘‘เอวํ กิร, พฺราหฺมณา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, โภ โคตมา’’ติ วุตฺเต, ‘‘พฺราหฺมณ, ตยา เอวํ ททมาเนน วสฺสสตํ ทินฺนทานโตปิ มุหุตฺตมตฺตํ ปสนฺนจิตฺเตน มม สาวกสฺส ¶ โอโลกนํ วา กฏจฺฉุภิกฺขามตฺตทานํ วา มหปฺผลตร’’นฺติ วตฺวา อนุสนฺธึ ฆเฏตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘มาเส มาเส สหสฺเสน, โย ยเชถ สตํ สมํ;
เอกฺจ ภาวิตตฺตานํ, มุหุตฺตมปิ ปูชเย;
สาเยว ปูชนา เสยฺโย, ยฺเจ วสฺสสตํ หุต’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ สหสฺเสนาหิ สหสฺสปริจฺจาเคน. โย ยเชถ สตํ สมนฺติ โย วสฺสสตํ มาเส มาเส สหสฺสํ ปริจฺจชนฺโต โลกิยมหาชนสฺส ทานํ ทเทยฺย, เอกฺจ ภาวิตตฺตานนฺติ โย ปน เอกํ สีลาทิคุณวิเสเสน วฑฺฒิตอตฺตานํ เหฏฺิมโกฏิยา โสตาปนฺนํ, อุปริมโกฏิยา ขีณาสวํ ฆรทฺวารํ สมฺปตฺตํ กฏจฺฉุภิกฺขาทานวเสน วา ยาปนมตฺตอาหารทานวเสน วา ถูลสาฏกทานมตฺเตน วา ปูเชยฺย. ยํ อิตเรน วสฺสสตํ หุตํ. ตโต สาเยว ปูชนา เสยฺโย. เสฏฺโ อุตฺตโมติ อตฺโถติ.
เทสนาวสาเน ¶ โส พฺราหฺมโณ โสตาปตฺติผลํ ปตฺโต, อฺเปิ พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.
สาริปุตฺตตฺเถรสฺส มาตุลพฺราหฺมณวตฺถุ ปฺจมํ.
๖. สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ภาคิเนยฺยวตฺถุ
โย ¶ จ วสฺสสตํ ชนฺตูติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ภาคิเนยฺยํ อารพฺภ กเถสิ.
ตมฺปิ หิ เถโร อุปสงฺกมิตฺวา อาห – ‘‘กึ, พฺราหฺมณ, กุสลํ กโรสี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ กโรสี’’ติ? ‘‘มาเส มาเส เอกํ เอกํ ปสุํ ฆาเตตฺวา อคฺคึ ปริจรามี’’ติ. ‘‘กิมตฺถํ เอวํ กโรสี’’ติ? ‘‘พฺรหฺมโลกมคฺโค กิเรโส’’ติ. ‘‘เกเนวํ กถิต’’นฺติ? ‘‘อาจริเยหิ เม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เนว ตฺวํ พฺรหฺมโลกสฺส มคฺคํ ชานาสิ, นาปิ เต อาจริยา, เอหิ, สตฺถุ สนฺติกํ คมิสฺสามา’’ติ ตํ สตฺถุ สนฺติกํ เนตฺวา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจตฺวา ‘‘อิมสฺส, ภนฺเต, พฺรหฺมโลกสฺส มคฺคํ กเถถา’’ติ อาห. สตฺถา ‘‘เอวํ กิรา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เอวํ, โภ โคตมา’’ติ วุตฺเต, ‘‘พฺราหฺมณ, วสฺสสตมฺปิ เอวํ อคฺคึ ปริจรนฺตสฺส ตว อคฺคิปาริจริยา มม สาวกสฺส ตงฺขณมตฺตํ ปูชมฺปิ น ปาปุณาตี’’ติ วตฺวา อนุสนฺธึ ฆเฏตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘โย จ วสฺสสตํ ชนฺตุ, อคฺคึ ปริจเร วเน;
เอกฺจ ภาวิตตฺตานํ, มุหุตฺตมปิ ปูชเย;
สาเยว ปูชนา เสยฺโย, ยฺเจ วสฺสสตํ หุต’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ ¶ ชนฺตูติ สตฺตาธิวจนเมตํ. อคฺคึ ปริจเร วเนติ นิปฺปปฺจภาวปตฺถนาย วนํ ปวิสิตฺวาปิ ตตฺถ อคฺคึ ปริจเรยฺย. เสสํ ปุริมสทิสเมวาติ.
เทสนาวสาเน โส พฺราหฺมโณ โสตาปตฺติผลํ ปาปุณิ, อฺเปิ พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.
สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ภาคิเนยฺยวตฺถุ ฉฏฺํ.
๗. สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สหายกพฺราหฺมณวตฺถุ
ยํ ¶ กิฺจิ ยิฏฺํ วาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สหายกพฺราหฺมณํ อารพฺภ กเถสิ.
ตมฺปิ หิ เถโร อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘กึ, พฺราหฺมณ, กิฺจิ กุสลํ กโรสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ กโรสี’’ติ? ‘‘ยิฏฺยาคํ ยชามี’’ติ. ‘‘ตทา กิร ตํ ยาคํ มหาปริจฺจาเคน ยช’’นฺติ. อิโต ปรํ เถโร ปุริมนเยเนว ปุจฺฉิตฺวา ตํ สตฺถุ สนฺติกํ เนตฺวา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจตฺวา ‘‘อิมสฺส, ภนฺเต, พฺรหฺมโลกสฺส มคฺคํ กเถถา’’ติ อาห. สตฺถา, ‘‘พฺราหฺมณ, เอวํ กิรา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เอวํ, โภ โคตมา’’ติ วุตฺเต, ‘‘พฺราหฺมณ, ตยา สํวจฺฉรํ ยิฏฺยาคํ ยชนฺเตน โลกิยมหาชนสฺส ทินฺนทานํ ปสนฺนจิตฺเตน ¶ มม สาวกานํ วนฺทนฺตานํ อุปฺปนฺนกุสลเจตนาย จตุภาคมตฺตมฺปิ น อคฺฆตี’’ติ วตฺวา อนุสนฺธึ ฆเฏตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘ยํ กิฺจิ ยิฏฺํ ว หุตํ ว โลเก,
สํวจฺฉรํ ยเชถ ปฺุเปกฺโข;
สพฺพมฺปิ ตํ น จตุภาคเมติ,
อภิวาทนา อุชฺชุคเตสุ เสยฺโย’’ติ.
ตตฺถ ยํ กิฺจีติ อนวเสสปริยาทานวจนเมตํ. ยิฏฺนฺติ เยภุยฺเยน มงฺคลกิริยาทิวเสสุ ทินฺนทานํ. หุตนฺติ อภิสงฺขริตฺวา กตํ ปาหุนทานฺเจว, กมฺมฺจ ผลฺจ สทฺทหิตฺวา กตทานฺจ. สํวจฺฉรํ ยเชถาติ เอกสํวจฺฉรํ นิรนฺตรเมว วุตฺตปฺปการํ ทานํ สกลจกฺกวาเฬปิ ¶ โลกิยมหาชนสฺส ทเทยฺย. ปฺุเปกฺโขติ ปฺุํ อิจฺฉนฺโต. อุชฺชุคเตสูติ เหฏฺิมโกฏิยา โสตาปนฺเนสุ อุปริมโกฏิยา ขีณาสเวสุ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘เอวรูเปสุ ปสนฺนจิตฺเตน สรีรํ โอนมิตฺวา วนฺทนฺตสฺส กุสลเจตนาย ยํ ผลํ, ตโต จตุภาคมฺปิ สพฺพํ ตํ ทานํ น อคฺฆติ, ตสฺมา อุชุคเตสุ อภิวาทนเมว เสยฺโย’’ติ.
เทสนาวสาเน ¶ โส พฺราหฺมโณ โสตาปตฺติผลํ ปตฺโต, อฺเปิ พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.
สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สหายกพฺราหฺมณวตฺถุ สตฺตมํ.
๘. อายุวฑฺฒนกุมารวตฺถุ
อภิวาทนสีลิสฺสาติ ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา ทีฆลงฺฆิกํ นิสฺสาย อรฺกุฏิยํ วิหรนฺโต ทีฆายุกุมารํ อารพฺภ กเถสิ.
ทีฆลงฺฆิกนครวาสิโน กิร ทฺเว พฺราหฺมณา พาหิรกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อฏฺจตฺตาลีส วสฺสานิ ตปจรณํ กรึสุ. เตสุ เอโก ‘‘ปเวณิ เม นสฺสิสฺสติ, วิพฺภมิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อตฺตนา กตํ ตปํ ปเรสํ วิกฺกิณิตฺวา โคสเตน เจว กหาปณสเตน จ สทฺธึ ภริยํ ลภิตฺวา กุฏุมฺพํ สณฺเปสิ. อถสฺส ภริยา ปุตฺตํ วิชายิ. อิตโร ปนสฺส สหายโก ปวาสํ คนฺตฺวา ปุนเทว ตํ นครํ ปจฺจาคมิ. โส ตสฺส อาคตภาวํ สุตฺวา ปุตฺตทารํ อาทาย สหายกสฺส ทสฺสนตฺถาย อคมาสิ. คนฺตฺวา ปุตฺตํ มาตุ หตฺเถ ทตฺวา สยํ ตาว วนฺทิ, มาตาปิ ปุตฺตํ ปิตุ หตฺเถ ทตฺวา วนฺทิ. โส ‘‘ทีฆายุกา โหถา’’ติ ¶ อาห, ปุตฺเต ปน วนฺทาปิเต ตุณฺหี อโหสิ. อถ นํ ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, อมฺเหหิ วนฺทิเต ‘ทีฆายุกา โหถา’ติ วตฺวา อิมสฺส วนฺทนกาเล กิฺจิ น วเทถา’’ติ อาห. ‘‘อิมสฺเสโก อนฺตราโย อตฺถิ, พฺราหฺมณา’’ติ. ‘‘กิตฺตกํ ชีวิสฺสติ, ภนฺเต’’ติ? ‘‘สตฺตาหํ, พฺราหฺมณา’’ติ. ‘‘ปฏิพาหนการณํ อตฺถิ, ภนฺเต’’ติ? ‘‘นาหํ ปฏิพาหนการณํ ชานามี’’ติ. ‘‘โก ปน ชาเนยฺย, ภนฺเต’’ติ? ‘‘สมโณ โคตโม ชาเนยฺย, ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุจฺฉาหี’’ติ. ‘‘ตตฺถ คจฺฉนฺโต ตปปริหานิโต ภายามี’’ติ. ‘‘สเจ เต ปุตฺตสิเนโห อตฺถิ, ตปปริหานึ อจินฺเตตฺวา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุจฺฉาหี’’ติ.
โส ¶ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา สยํ ตาว วนฺทิ. สตฺถา ‘‘ทีฆายุโก โหหี’’ติ อาห, ปชาปติยา วนฺทนกาเลปิ ตสฺสา ตเถว วตฺวา ปุตฺตสฺส วนฺทาปนกาเล ตุณฺหี อโหสิ. โส ปุริมนเยเนว สตฺถารํ ปุจฺฉิ, สตฺถาปิ ตเถว พฺยากาสิ. โส กิร พฺราหฺมโณ สพฺพฺุตฺาณํ อปฏิวิชฺฌิตฺวาว อตฺตโน มนฺตํ สพฺพฺุตฺาเณน สํสนฺเทสิ, ปฏิพาหนูปายํ ปน น ชานาติ. พฺราหฺมโณ สตฺถารํ ปุจฺฉิ – ‘‘อตฺถิ ปน, ภนฺเต, ปฏิพาหนูปาโย’’ติ? ‘‘ภเวยฺย, พฺราหฺมณา’’ติ. ‘‘กึ ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘สเจ ตฺวํ อตฺตโน เคหทฺวาเร มณฺฑปํ กาเรตฺวา ตสฺส มชฺเฌ ¶ ปีิกํ กาเรตฺวา ตํ ปริกฺขิปนฺโต อฏฺ วา โสฬส วา อาสนานิ ¶ ปฺาเปตฺวา เตสุ มม สาวเก นิสีทาเปตฺวา สตฺตาหํ นิรนฺตรํ ปริตฺตํ กาตุํ สกฺกุเณยฺยาสิ, เอวมสฺส อนฺตราโย นสฺเสยฺยา’’ติ. ‘‘โภ โคตม, มยา มณฺฑปาทีนิ สกฺกา กาตุํ, ตุมฺหากํ ปน สาวเก กถํ ลจฺฉามี’’ติ? ‘‘ตยา เอตฺตเก กเต อหํ มม สาวเก ปหิณิสฺสามี’’ติ. ‘‘สาธุ, โภ โคตมา’’ติ โส อตฺตโน เคหทฺวาเร สพฺพํ กิจฺจํ นิฏฺาเปตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ อคมาสิ. สตฺถา ภิกฺขู ปหิณิ, เต คนฺตฺวา ตตฺถ นิสีทึสุ, ทารกมฺปิ ปีิกายํ นิปชฺชาเปสุํ, ภิกฺขู สตฺตรตฺตินฺทิวํ นิรนฺตรํ ปริตฺตํ ภณึสุ, สตฺตเม ทิวเส สายํ สตฺถา อาคจฺฉิ. ตสฺมึ อาคเต สพฺพจกฺกวาฬเทวตา สนฺนิปตึสุ. เอโก ปน อวรุทฺธโก นาม ยกฺโข ทฺวาทส สํวจฺฉรานิ เวสฺสวณํ อุปฏฺหิตฺวา ตสฺส สนฺติกา วรํ ลภนฺโต ‘‘อิโต สตฺตเม ทิวเส อิมํ ทารกํ คณฺเหยฺยาสี’’ติ ลภิ. ตสฺมา โสปิ อาคนฺตฺวา อฏฺาสิ.
สตฺถริ ปน ตตฺถ คเต มเหสกฺขาสุ เทวตาสุ สนฺนิปติตาสุ อปฺเปสกฺขา เทวตา โอสกฺกิตฺวา โอสกฺกิตฺวา โอกาสํ อลภมานา ทฺวาทส ¶ โยชนานิ ปฏิกฺกมึสุ. อวรุทฺธโกปิ ตเถว ปฏิกฺกมิ, สตฺถาปิ สพฺพรตฺตึ ปริตฺตมกาสิ. สตฺตาเห วีติวตฺเต อวรุทฺธโก ทารกํ น ลภิ. อฏฺเม ปน ทิวเส อรุเณ อุคฺคตมตฺเต ทารกํ อาเนตฺวา สตฺถารํ วนฺทาเปสุํ. สตฺถา ‘‘ทีฆายุโก โหหี’’ติ อาห. ‘‘กีวจิรํ ปน, โภ โคตม, ทารโก สฺสตี’’ติ? ‘‘วีสวสฺสสตํ, พฺราหฺมณา’’ติ. อถสฺส ‘‘อายุวฑฺฒนกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. โส วุทฺธิมนฺวาย ปฺจหิ อุปาสกสเตหิ ปริวุโต วิจริ. อเถกทิวสํ ธมฺมสภายํ ภิกฺขู กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘ปสฺสถาวุโส, อายุวฑฺฒนกุมาเรน กิร สตฺตเม ทิวเส มริตพฺพํ อภวิสฺส, โส อิทานิ วีสวสฺสสตฏฺายี หุตฺวา ปฺจหิ อุปาสกสเตหิ ปริวุโต วิจรติ, อตฺถิ มฺเ อิเมสํ สตฺตานํ อายุวฑฺฒนการณ’’นฺติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต, ‘‘ภิกฺขเว, น เกวลํ อายุวฑฺฒนเมว, อิเม ปน สตฺตา คุณวนฺเต วนฺทนฺตา อภิวาเทนฺตา จตูหิ การเณหิ วฑฺฒนฺติ, ปริสฺสยโต ¶ มุจฺจนฺติ, ยาวตายุกเมว ติฏฺนฺตี’’ติ วตฺวา อนุสนฺธึ ฆเฏตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘อภิวาทนสีลิสฺส ¶ ¶ , นิจฺจํ วุฑฺฒาปจายิโน;
จตฺตาโร ธมฺมา วฑฺฒนฺติ, อายุ วณฺโณ สุขํ พล’’นฺติ.
ตตฺถ อภิวาทนสีลิสฺสาติ วนฺทนสีลิสฺส, อภิณฺหํ วนฺทนกิจฺจปสุตสฺสาติ อตฺโถ. วุฑฺฒาปจายิโนติ คิหิสฺส วา ตทหุปพฺพชิเต ทหรสามเณเรปิ, ปพฺพชิตสฺส วา ปน ปพฺพชฺชาย วา อุปสมฺปทาย วา วุฑฺฒตเร คุณวุฑฺเฒ อปจายมานสฺส, อภิวาทเนน วา นิจฺจํ ปูเชนฺตสฺสาติ อตฺโถ. จตฺตาโร ธมฺมา วฑฺฒนฺตีติ อายุมฺหิ วฑฺฒมาเน ยตฺตกํ กาลํ ตํ วฑฺฒติ, ตตฺตกํ อิตเรปิ วฑฺฒนฺติเยว. เยน หิ ปฺาสวสฺสอายุสํวตฺตนิกํ กุสลํ กตํ, ปฺจวีสติวสฺสกาเล จสฺส ชีวิตนฺตราโย อุปฺปชฺเชยฺย, โส อภิวาทนสีลตาย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, โส ยาวตายุกเมว ติฏฺติ, วณฺณาทโยปิสฺส อายุนาว สทฺธึ วฑฺฒนฺติ. อิโต อุตฺตริปิ เอเสว นโย. อนนฺตราเยน ปวตฺตสฺสายุโน วฑฺฒนํ นาม นตฺถิ.
เทสนาวสาเน อายุวฑฺฒนกุมาโร ปฺจหิ อุปาสกสเตหิ สทฺธึ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ, อฺเปิ พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.
อายุวฑฺฒนกุมารวตฺถุ อฏฺมํ.
๙. สํกิจฺจสามเณรวตฺถุ
โย ¶ จ วสฺสสตํ ชีเวติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต สํกิจฺจสามเณรํ อารพฺภ กเถสิ.
สาวตฺถิยํ กิร ตึสมตฺตา กุลปุตฺตา สตฺถุ ธมฺมกถํ สุตฺวา สาสเน อุรํ ทตฺวา ปพฺพชึสุ. เต อุปสมฺปทาย ปฺจวสฺสา หุตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา คนฺถธุรํ วิปสฺสนาธุรนฺติ ทฺเว ธุรานีติ สุตฺวา ‘‘มยํ มหลฺลกกาเล ปพฺพชิตา’’ติ คนฺถธุเร อุสฺสาหํ อกตฺวา วิปสฺสนาธุรํ ปูเรตุกามา ยาว อรหตฺตา กมฺมฏฺานํ กถาเปตฺวา, ‘‘ภนฺเต, เอกํ อรฺายตนํ คมิสฺสามา’’ติ สตฺถารํ อาปุจฺฉึสุ. สตฺถา ‘‘กตรํ านํ คมิสฺสถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อสุกํ นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘ตตฺถ เตสํ ¶ เอกํ วิฆาสาทํ นิสฺสาย ภยํ อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตฺจ ปน สํกิจฺจสามเณเร คเต วูปสมิสฺสติ, อถ เนสํ ปพฺพชิตกิจฺจํ ปาริปูรึ คมิสฺสตี’’ติ อฺาสิ.
สํกิจฺจสามเณโร ¶ นาม สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สามเณโร สตฺตวสฺสิโก ชาติยา. ตสฺส กิร มาตา สาวตฺถิยํ อฑฺฒกุลสฺส ธีตา. สา ตสฺมึ กุจฺฉิคเต เอเกน พฺยาธินา ตงฺขณฺเว กาลมกาสิ. ตสฺสา ฌาปิยมานาย เปตฺวา คพฺภมํสํ เสสํ ฌายิ. อถสฺสา คพฺภมํสํ จิตกโต โอตาเรตฺวา ทฺวีสุ ตีสุ าเนสุ สูเลหิ วิชฺฌึสุ. สูลโกฏิ ทารกสฺส อกฺขิโกฏึ ปหริ. เอวํ คพฺภมํสํ ¶ วิชฺฌิตฺวา องฺคารราสิมฺหิ ขิปิตฺวา องฺคาเรเหว ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปกฺกมึสุ. คพฺภมํสํ ฌายิ, องฺคารมตฺถเก ปน สุวณฺณพิมฺพสทิโส ทารโก ปทุมคพฺเภ นิปนฺโน วิย อโหสิ. ปจฺฉิมภวิกสฺส สตฺตสฺส หิ สิเนรุนา โอตฺถริยมานสฺสปิ อรหตฺตํ อปฺปตฺวา ชีวิตกฺขโย นาม นตฺถิ. ปุนทิวเส ‘‘จิตกํ นิพฺพาเปสฺสามา’’ติ อาคตา ตถานิปนฺนํ ทารกํ ทิสฺวา อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาตา ‘‘กถฺหิ นาม เอตฺตเกสุ ทารูสุ ขียมาเนสุ สกลสรีเร ฌาปิยมาเน ทารโก น ฌายิ, กึ นุ โข ภวิสฺสตี’’ติ ทารกํ อาทาย อนฺโตคามํ คนฺตฺวา เนมิตฺตเก ปุจฺฉึสุ. เนมิตฺตกา ‘‘สเจ อยํ ทารโก อคารํ อชฺฌาวสฺสิสฺสติ, ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา าตกา ทุคฺคตา ภวิสฺสนฺติ? สเจ ปพฺพชิสฺสติ, ปฺจหิ สมณสเตหิ ปริวุโต วิจริสฺสตี’’ติ อาหํสุ. ตสฺส สงฺกุนา อกฺขิโกฏิยา ภินฺนตฺตา สํกิจฺจนฺติ นามํ กรึสุ. โส อปเรน สมเยน สํกิจฺโจติ ปฺายิ. อถ นํ าตกา ‘‘โหตุ, วฑฺฒิตกาเล อมฺหากํ อยฺยสฺส สาริปุตฺตสฺส สนฺติเก ปพฺพาเชสฺสามา’’ติ โปสึสุ. โส สตฺตวสฺสิกกาเล ‘‘ตว มาตุกุจฺฉิยํ ¶ วสนกาเล มาตา เต กาลมกาสิ, ตสฺสา สรีเร ฌาปิยมาเนปิ ตฺวํ น ฌายี’’ติ กุมารกานํ กถํ สุตฺวา ‘‘อหํ กิร เอวรูปา ภยา มุตฺโต, กึ เม ฆราวาเสน, ปพฺพชิสฺสามี’’ติ าตกานํ อาโรเจสิ. เต ‘‘สาธุ, ตาตา’’ติ สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สนฺติกํ เนตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อิมํ ปพฺพาเชถา’’ติ อทํสุ. เถโร ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ ทตฺวา ปพฺพาเชสิ. โส ขุรคฺเคเยว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. อยํ สํกิจฺจสามเณโร นาม.
สตฺถา ‘‘เอตสฺมึ คเต ตํ ภยํ วูปสมิสฺสติ, อถ เนสํ ปพฺพชิตกิจฺจํ ปาริปูรึ คมิสฺสตี’’ติ ตฺวา, ‘‘ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ เชฏฺภาติกํ สาริปุตฺตตฺเถรํ โอโลเกตฺวา คจฺฉถา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา เถรสฺส ¶ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘กึ, อาวุโส’’ติ วุตฺเต มยํ สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา อรฺํ ปวิสิตุกามา หุตฺวา อาปุจฺฉิมฺหา, อถ โน สตฺถา เอวมาห – ‘‘ตุมฺหากํ เชฏฺภาติกํ โอโลเกตฺวา คจฺฉถา’’ติ? ‘‘เตนมฺหา อิธาคตา’’ติ. เถโร ‘‘สตฺถารา ¶ อิเม เอกํ การณํ ทิสฺวา อิธ ปหิตา ภวิสฺสนฺติ, กึ นุ โข เอต’’นฺติ อาวชฺเชนฺโต ตมตฺถํ ตฺวา อาห – ‘‘อตฺถิ ปน โว, อาวุโส, สามเณโร’’ติ? ‘‘นตฺถิ, อาวุโส’’ติ. ‘‘สเจ นตฺถิ, อิมํ สํกิจฺจสามเณรํ คเหตฺวา คจฺฉถา’’ติ. ‘‘อลํ, อาวุโส, สามเณรํ นิสฺสาย โน ปลิโพโธ ภวิสฺสติ, กึ อรฺเ วสนฺตานํ สามเณเรนา’’ติ? ‘‘นาวุโส ¶ , อิมํ นิสฺสาย ตุมฺหากํ ปลิโพโธ, อปิจ โข ปน ตุมฺเห นิสฺสาย อิมสฺส ปลิโพโธ ภวิสฺสติ. สตฺถาปิ ตุมฺเห มม สนฺติกํ ปหิณนฺโต ตุมฺเหหิ สทฺธึ สามเณรสฺส ปหิณนํ ปจฺจาสีสนฺโต ปหิณิ, อิมํ คเหตฺวา คจฺฉถา’’ติ. เต ‘‘สาธู’’ติ อธิวาเสตฺวา สามเณเรน สทฺธึ เอกตึส ชนา เถรํ อปโลเกตฺวา วิหารา นิกฺขมฺม จาริกํ จรนฺตา วีสโยชนสตมตฺถเก เอกํ สหสฺสกุลํ คามํ ปาปุณึสุ.
มนุสฺสา เต ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺตา สกฺกจฺจํ ปริวิสิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, กตฺถ คมิสฺสถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ยถาผาสุกฏฺานํ, อาวุโส’’ติ วุตฺเต ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา ‘‘มยํ, ภนฺเต, อยฺเยสุ อิมํ านํ นิสฺสาย อนฺโตวสฺสํ วสนฺเตสุ ปฺจสีลํ สมาทาย อุโปสถกมฺมํ กริสฺสามา’’ติ ยาจึสุ. เถรา อธิวาเสสุํ. อถ เนสํ มนุสฺสา รตฺติฏฺานทิวาฏฺานจงฺกมนปณฺณสาลาโย สํวิทหิตฺวา ‘‘อชฺช มยํ, สฺเว มย’’นฺติ อุสฺสาหปฺปตฺตา อุปฏฺานมกํสุ. เถรา วสฺสูปนายิกทิวเส กติกวตฺตํ กรึสุ, ‘‘อาวุโส, อมฺเหหิ ธรมานกพุทฺธสฺส สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คหิตํ, น โข ปน สกฺกา อฺตฺร ปฏิปตฺติสมฺปทาย พุทฺเธ อาราเธตุํ, อมฺหากฺจ อปายทฺวารานิ วิวฏาเนว, ตสฺมา อฺตฺร ปาโต ภิกฺขาจารเวลํ, สายํ เถรูปฏฺานเวลฺจ ¶ เสสกาเล ทฺเว เอกฏฺาเน น ภวิสฺสาม, ยสฺส อผาสุกํ ภวิสฺสติ, เตน ฆณฺฑิยา ปหฏาย ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา เภสชฺชํ กริสฺสาม, อิโต อฺสฺมึ รตฺติภาเค วา ทิวสภาเค วา อปฺปมตฺตา กมฺมฏฺานมนุยฺุชิสฺสามา’’ติ.
เตสุ ¶ เอวํ กติกํ กตฺวา วิหรนฺเตสุ เอโก ทุคฺคตปุริโส ธีตรํ อุปนิสฺสาย ชีวนฺโต ตสฺมึ าเน ทุพฺภิกฺเข อุปฺปนฺเน อปรํ ธีตรํ อุปนิสฺสาย ชีวิตุกาโม มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. เถราปิ คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา วสนฏฺานํ อาคจฺฉนฺตา อนฺตรามคฺเค เอกิสฺสา นทิยา นฺหตฺวา วาลุกปุลิเน นิสีทิตฺวา ภตฺตกิจฺจํ กรึสุ. ตสฺมึ ขเณ โส ปุริโส ตํ านํ ปตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. อถ นํ เถรา ‘‘กหํ คจฺฉสี’’ติ ปุจฺฉึสุ. โส ตมตฺถํ อาโรเจสิ. เถรา ตสฺมึ การฺุํ อุปฺปาเทตฺวา, ‘‘อุปาสก, อติวิย ฉาโตสิ, คจฺฉ, ปณฺณํ อาหร, เอกเมกํ เต ภตฺตปิณฺฑํ ทสฺสามา’’ติ วตฺวา เตน ปณฺเณ อาหเฏ อตฺตนา อตฺตนา ภฺุชนนิยาเมเนว สูปพฺยฺชเนหิ สนฺนหิตฺวา เอกเมกํ ปิณฺฑํ อทํสุ. เอตเทว กิร วตฺตํ, ยํ โภชนกาเล อาคตสฺส ¶ ภตฺตํ ททมาเนน ¶ ภิกฺขุนา อคฺคภตฺตํ อทตฺวา อตฺตนา ภฺุชนนิยาเมเนว โถกํ วา พหุํ วา ทาตพฺพํ. ตสฺมา เตปิ ตถา อทํสุ. โส กตภตฺตกิจฺโจ เถเร วนฺทิตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘กึ, ภนฺเต, อยฺยา, เกนจิ นิมนฺติตา’’ติ? ‘‘นตฺถิ, อุปาสก, นิมนฺตนํ, มนุสฺสา เทวสิกํ เอวรูปเมว อาหารํ เทนฺตี’’ติ. โส จินฺเตสิ – ‘‘มยํ นิจฺจกาลํ อุฏฺาย สมุฏฺาย กมฺมํ กโรนฺตาปิ เอวรูปํ อาหารํ ลทฺธุํ น สกฺโกม, กึ เม อฺตฺถ คเตน, อิเมสํ สนฺติเกเยว ชีวิสฺสามี’’ติ. อถ เน อาห – ‘‘อหํ วตฺตปฏิวตฺตํ กตฺวา อยฺยานํ สนฺติเก วสิตุํ อิจฺฉามี’’ติ. ‘‘สาธุ, อุปาสกา’’ติ. โส เตหิ สทฺธึ เตสํ วสนฏฺานํ คนฺตฺวา สาธุกํ วตฺตปฏิวตฺตํ กโรนฺโต ภิกฺขู อติวิย อาราเธตฺวา ทฺเวมาสจฺจเยน ธีตรํ ทฏฺุกาโม หุตฺวา ‘‘สเจ, อยฺเย, อาปุจฺฉิสฺสามิ, น มํ วิสฺสชฺชิสฺสนฺติ, อนาปุจฺฉา คมิสฺสามี’’ติ เตสํ อนาจิกฺขิตฺวาว นิกฺขมิ. เอตฺตกเมว กิรสฺส โอฬาริกํ ขลิตํ อโหสิ, ยํ ภิกฺขูนํ อนาโรเจตฺวา ปกฺกามิ.
ตสฺส ปน คมนมคฺเค เอกา อฏวี อตฺถิ. ตตฺถ ปฺจสตานํ โจรานํ ‘‘โย อิมํ อฏวึ ปวิสติ, ตํ มาเรตฺวา ตสฺส มํสโลหิเตน ตุยฺหํ พลิกมฺมํ กริสฺสามา’’ติ เทวตาย อายาจนํ กตฺวา วสนฺตานํ สตฺตโม ทิวโส โหติ. ตสฺมา สตฺตเม ทิวเส โจรเชฏฺโก รุกฺขํ อารุยฺห ¶ โอโลเกนฺโต ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา โจรานํ สฺมทาสิ. เต ตสฺส อฏวิมชฺฌํ ปวิฏฺภาวํ ตฺวา ปริกฺขิปิตฺวา ตํ คณฺหิตฺวา คาฬฺหพนฺธนํ กตฺวา ¶ อรณิสหิเตน อคฺคึ นิพฺพตฺเตตฺวา ทารูนิ สงฺกฑฺฒิตฺวา มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ กตฺวา สูลานิ ตจฺฉึสุ. โส เตสํ ตํ กิริยํ ทิสฺวา, ‘‘สามิ, อิมสฺมึ าเน เนว สูกรา, น มิคาทโย ทิสฺสนฺติ, กึ การณา อิทํ กโรถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ตํ มาเรตฺวา ตว มํสโลหิเตน เทวตาย พลิกมฺมํ กริสฺสามา’’ติ. โส มรณภยตชฺชิโต ภิกฺขูนํ ตํ อุปการํ อจินฺเตตฺวา เกวลํ อตฺตโน ชีวิตเมว รกฺขมาโน เอวมาห – ‘‘สามิ, อหํ วิฆาสาโท, อุจฺฉิฏฺภตฺตํ ภฺุชิตฺวา วฑฺฒิโต, วิฆาสาโท นาม กาฬกณฺณิโก, อยฺยา ปน ยโต ตโต นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตาปิ ขตฺติยาว, อสุกสฺมึ าเน เอกตึส ภิกฺขู วสนฺติ, เต มาเรตฺวา พลิกมฺมํ กโรถ, อติวิย โว เทวตา ตุสฺสิสฺสตี’’ติ. ตํ สุตฺวา โจรา ‘‘ภทฺทกํ เอส วเทติ, กึ อิมินา กาฬกณฺณินา, ขตฺติเย มาเรตฺวา พลิกมฺมํ กริสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘เอหิ, เนสํ วสนฏฺานํ ทสฺเสหี’’ติ ตเมว มคฺคเทสกํ กตฺวา ตํ านํ ปตฺวา วิหารมชฺเฌ ภิกฺขู อทิสฺวา ‘‘กหํ ภิกฺขู’’ติ นํ ปุจฺฉึสุ. โส ทฺเว มาเส วสิตตฺตา เตสํ กติกวตฺตํ ชานนฺโต เอวมาห ¶ – ‘‘อตฺตโน ทิวาฏฺานรตฺติฏฺาเนสุ นิสินฺนา, เอตํ ฆณฺฑึ ปหรถ, ฆณฺฑิสทฺเทน สนฺนิปติสฺสนฺตี’’ติ. โจรเชฏฺโก ฆณฺฑึ ปหริ.
ภิกฺขู ¶ ฆณฺฑิสทฺทํ สุตฺวา ‘‘อกาเล ฆณฺฑิ ปหฏา, กสฺสจิ อผาสุกํ ภวิสฺสตี’’ติ อาคนฺตฺวา วิหารมชฺเฌ ปฏิปาฏิยา ปฺตฺเตสุ ปาสาณผลเกสุ นิสีทึสุ. สงฺฆตฺเถโร โจเร โอโลเกตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘อุปาสกา เกนายํ ฆณฺฑิ ปหฏา’’ติ? โจรเชฏฺโก อาห – ‘‘มยา, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ การณา’’ติ? ‘‘อมฺเหหิ อฏวิเทวตาย อายาจิตํ อตฺถิ, ตสฺสา พลิกมฺมกรณตฺถาย เอกํ ภิกฺขุํ คเหตฺวา คมิสฺสามา’’ติ. ตํ สุตฺวา มหาเถโร ภิกฺขู อาห – ‘‘อาวุโส, ภาติกานํ อุปฺปนฺนกิจฺจํ นาม เชฏฺภาติเกน นิตฺถริตพฺพํ, อหํ อตฺตโน ชีวิตํ ตุมฺหากํ ปริจฺจชิตฺวา อิเมหิ สทฺธึ คมิสฺสามิ, มา สพฺเพสํ อนฺตราโย โหตุ, อปฺปมตฺตา สมณธมฺมํ กโรถา’’ติ. อนุเถโร อาห – ‘‘ภนฺเต, เชฏฺภาตุ กิจฺจํ นาม กนิฏฺสฺส ภาโร, อหํ คมิสฺสามิ, ตุมฺเห อปฺปมตฺตา โหถา’’ติ. อิมินา อุปาเยน ‘‘อหเมว อหเมวา’’ติ วตฺวา ปฏิปาฏิยา ตึสปิ ชนา อุฏฺหึสุ, เอวํ เต เนว เอกิสฺสา มาตุยา ปุตฺตา, น ¶ เอกสฺส ปิตุโน, นาปิ วีตราคา, อถ จ ปน อวเสสานํ อตฺถาย ปฏิปาฏิยา ชีวิตํ ปริจฺจชึสุ. เตสุ เอโกปิ ‘‘ตฺวํ ยาหี’’ติ วตฺตุํ สมตฺโถ นาม นาโหสิ.
สํกิจฺจสามเณโร เตสํ กถํ สุตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห ติฏฺถ ¶ , อหํ ตุมฺหากํ ชีวิตํ ปริจฺจชิตฺวา คมิสฺสามี’’ติ อาห. เต อาหํสุ – ‘‘อาวุโส, มยํ สพฺเพ เอกโต มาริยมานาปิ ตํ เอกกํ น วิสฺสชฺเชสฺสามา’’ติ. ‘‘กึ การณา, ภนฺเต’’ติ? ‘‘‘อาวุโส, ตฺวํ ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถรสฺส สามเณโร, สเจ ตํ วิสฺสชฺเชสฺสาม, สามเณรํ เม อาทาย คนฺตฺวา โจรานํ นิยฺยาทึสู’ติ เถโร โน ครหิสฺสติ, ตํ นินฺทํ นิตฺถริตุํ น สกฺขิสฺสาม, เตน ตํ น วิสฺสชฺเชสฺสามา’’ติ. ‘‘ภนฺเต, สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตุมฺเห มม อุปชฺฌายสฺส สนฺติกํ ปหิณนฺโตปิ, มม อุปชฺฌาโย มํ ตุมฺเหหิ สทฺธึ ปหิณนฺโตปิ อิทเมว การณํ ทิสฺวา ปหิณิ, ติฏฺถ ตุมฺเห, อหเมว คมิสฺสามี’’ติ โส ตึส ภิกฺขู วนฺทิตฺวา ‘‘สเจ, ภนฺเต, เม โทโส อตฺถิ, ขมถา’’ติ วตฺวา นิกฺขมิ. ตทา ภิกฺขูนํ มหาสํเวโค อุปฺปชฺชิ, อกฺขีนิ อสฺสุปุณฺณานิ หทยมํสํ ปเวธิ. มหาเถโร โจเร อาห – ‘‘อุปาสกา อยํ ทหรโก ตุมฺเห อคฺคึ กโรนฺเต, สูลานิ ตจฺฉนฺเต, ปณฺณานิ อตฺถรนฺเต ทิสฺวา ภายิสฺสติ, อิมํ เอกมนฺเต เปตฺวา ตานิ กิจฺจานิ กเรยฺยาถา’’ติ. โจรา สามเณรํ อาทาย คนฺตฺวา เอกมนฺเต เปตฺวา สพฺพกิจฺจานิ กรึสุ.
กิจฺจปริโยสาเน โจรเชฏฺโก ¶ อสึ อพฺพาหิตฺวา สามเณรํ อุปสงฺกมิ. สามเณโร นิสีทมาโน ฌานํ สมาปชฺชิตฺวาว นิสีทิ. โจรเชฏฺโก อสึ ปริวตฺเตตฺวา สามเณรสฺส ขนฺเธ ปาเตสิ, อสิ นมิตฺวา ธาราย ธารํ ปหริ, โส ‘‘น สมฺมา ปหริ’’นฺติ มฺมาโน ปุน ตํ อุชุกํ ¶ กตฺวา ปหริ. อสิ ตาลปณฺณํ วิย เวยมาโน ถรุมูลํ อคมาสิ. สามเณรฺหิ ตสฺมึ กาเล สิเนรุนา อวตฺถรนฺโตปิ มาเรตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, ปเคว อสินา. ตํ ปาฏิหาริยํ ทิสฺวา โจรเชฏฺโก จินฺเตสิ – ‘‘ปุพฺเพ เม อสิ สิลาถมฺภํ วา ขทิรขาณุํ วา กฬีรํ วิย ฉินฺทติ, อิทานิ เอกวารํ นมิ, เอกวารํ ตาลปตฺตเวโก วิย ชาโต. อยํ นาม อสิ อเจตนา หุตฺวาปิ อิมสฺส คุณํ ชานาติ, อหํ สเจตโนปิ น ชานามี’’ติ. โส อสึ ภูมิยํ ¶ ขิปิตฺวา ตสฺส ปาทมูเล อุเรน นิปชฺชิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, มยํ ธนการณา อฏวึ ปวิฏฺามฺหา, อมฺเห ทูรโตว ทิสฺวา สหสฺสมตฺตาปิ มนุสฺสา ปเวธนฺติ, ทฺเว ¶ ติสฺโส กถา กเถตุํ น สกฺโกนฺติ. ตว ปน สนฺตาสมตฺตมฺปิ นตฺถิ, อุกฺกามุเข สุวณฺณํ วิย สุปุปฺผิตกณิการํ วิย จ เต มุขํ วิโรจติ, กึ นุ โข การณ’’นฺติ ปุจฺฉนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘ตสฺส เต นตฺถิ ภีตตฺตํ, ภิยฺโย วณฺโณ ปสีทติ;
กสฺมา น ปริเทเวสิ, เอวรูเป มหพฺภเย’’ติ. (เถรคา. ๗๐๖);
สามเณโร ฌานา วุฏฺาย ตสฺส ธมฺมํ เทเสนฺโต, ‘‘อาวุโส คามณิ, ขีณาสวสฺส อตฺตภาโว นาม สีเส ปิตภาโร วิย โหติ, โส ตสฺมึ ภิชฺชนฺเต วา นสฺสนฺเต วา ตุสฺสเตว, น ภายตี’’ติ วตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘นตฺถิ เจตสิกํ ทุกฺขํ, อนเปกฺขสฺส คามณิ;
อติกฺกนฺตา ภยา สพฺเพ, ขีณสํโยชนสฺส เว.
‘‘ขีณาย ภวเนตฺติยา, ทิฏฺเ ธมฺเม ยถาตเถ;
น ภยํ มรเณ โหติ, ภารนิกฺเขปเน ยถา’’ติ. (เถรคา. ๗๐๗-๗๐๘);
โส ตสฺส กถํ สุตฺวา ปฺจ โจรสตานิ โอโลเกตฺวา อาห – ‘‘ตุมฺเห กึ กริสฺสถา’’ติ? ‘‘ตุมฺเห ปน, สามี’’ติ. ‘‘มม ตาว, โภ, ‘เอวรูปํ ปาฏิหาริยํ ทิสฺวา อคารมชฺเฌ กมฺมํ นตฺถิ, อยฺยสฺส สนฺติเก ปพฺพชิสฺสามี’ติ. มยมฺปิ ตเถว กริสฺสามา’’ติ. ‘‘สาธุ, ตาตา’’ติ ตโต ปฺจสตาปิ โจรา สามเณรํ วนฺทิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจึสุ ¶ . โส เตสํ อสิธาราหิ เอว เกเส เจว วตฺถทสา จ ฉินฺทิตฺวา ตมฺพมตฺติกาย รชิตฺวา ตานิ กาสายานิ อจฺฉาทาเปตฺวา ทสสุ สีเลสุ ปติฏฺาเปตฺวา เต อาทาย คจฺฉนฺโต จินฺเตสิ ¶ – ‘‘สจาหํ เถเร อทิสฺวาว คมิสฺสามิ, เต ¶ สมณธมฺมํ กาตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. โจรานฺหิ มํ คเหตฺวา นิกฺขนฺตกาลโต ปฏฺาย เตสุ เอโกปิ อสฺสูนิ สนฺธาเรตุํ นาสกฺขิ, ‘มาริโต นุ โข สามเณโร, โน’ติ จินฺเตนฺตานํ กมฺมฏฺานํ อภิมุขํ น ภวิสฺสติ, ตสฺมา ทิสฺวาว เน คมิสฺสามี’’ติ. โส ปฺจสตภิกฺขุปริวาโร ตตฺถ คนฺตฺวา อตฺตโน ทสฺสเนน ปฏิลทฺธอสฺสาเสหิ เตหิ ‘‘กึ, สปฺปุริส, สํกิจฺจ, ลทฺธํ เต ชีวิต’’นฺติ วุตฺเต, ‘‘อาม, ภนฺเต, อิเม มํ มาเรตุกามา หุตฺวา มาเรตุํ อสกฺโกนฺตา มม คุเณ ปสีทิตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ปพฺพชิตา, อหํ ‘ตุมฺเห ทิสฺวาว คมิสฺสามี’ติ อาคโต, อปฺปมตฺตา สมณธมฺมํ กโรถ, อหํ สตฺถุ สนฺติกํ คมิสฺสามี’’ติ เต ภิกฺขู วนฺทิตฺวา อิตเร อาทาย อุปชฺฌายสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘กึ สํกิจฺจ, อนฺเตวาสิกา เต ลทฺธา’’ติ วุตฺเต, ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. เถเรน ‘‘คจฺฉ สํกิจฺจ, สตฺถารํ ปสฺสาหี’’ติ วุตฺเต, ‘‘สาธู’’ติ เถรํ วนฺทิตฺวา เต อาทาย สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา สตฺถาราปิ ¶ ‘‘กึ สํกิจฺจ, อนฺเตวาสิกา เต ลทฺธา’’ติ วุตฺเต, ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. สตฺถา ‘‘เอวํ กิร, ภิกฺขเว’’ติ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต, ‘‘ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ โจรกมฺมํ กตฺวา ทุสฺสีเล ปติฏฺาย วสฺสสตํ ชีวนโต อิทานิ สีเล ปติฏฺาย เอกทิวสมฺปิ ชีวิตํ เสยฺโย’’ติ วตฺวา อนุสนฺธึ ฆเฏตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘โย จ วสฺสสตํ ชีเว, ทุสฺสีโล อสมาหิโต;
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย, สีลวนฺตสฺส ฌายิโน’’ติ.
ตตฺถ ทุสฺสีโลติ นิสฺสีโล. สีลวนฺตสฺสาติ ทุสฺสีลสฺส วสฺสสตํ ชีวนโต สีลวนฺตสฺส ทฺวีหิ ฌาเนหิ ฌายิโน เอกทิวสมฺปิ เอกมุหุตฺตมฺปิ ชีวิตํ เสยฺโย, อุตฺตมนฺติ อตฺโถ.
เทสนาวสาเน เต ปฺจสตาปิ ภิกฺขู สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณึสุ, สมฺปตฺตมหาชนสฺสาปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติ.
อปเรน สมเยน สํกิจฺโจ อุปสมฺปทํ ลภิตฺวา ทสวสฺโส หุตฺวา สามเณรํ คณฺหิ. โส ปน ตสฺเสว ภาคิเนยฺโย อธิมุตฺตสามเณโร นาม. อถ นํ เถโร ปริปุณฺณวสฺสกาเล อามนฺเตตฺวา ‘‘อุปสมฺปทํ เต กริสฺสามิ, คจฺฉ, าตกานํ สนฺติเก วสฺสปริมาณํ ปุจฺฉิตฺวา ¶ เอหี’’ติ อุยฺโยเชสิ. โส มาตาปิตูนํ สนฺติกํ ¶ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค ปฺจสเตหิ โจเรหิ พลิกมฺมตฺถาย มาริยมาโน เตสํ ธมฺมํ เทเสตฺวา ปสนฺนจิตฺเตหิ เตหิ ‘‘น เต อิมสฺมึ าเน อมฺหากํ ¶ อตฺถิภาโว กสฺสจิ อาโรเจตพฺโพ’’ติ วิสฺสฏฺโ ปฏิปเถ มาตาปิตโร อาคจฺฉนฺเต ทิสฺวา ตเมว มคฺคํ ปฏิปชฺชนฺตานมฺปิ เตสํ สจฺจมนุรกฺขนฺโต นาโรเจสิ. เตสํ โจเรหิ วิเหิยมานานํ ‘‘ตฺวมฺปิ โจเรหิ สทฺธึ เอกโต หุตฺวา มฺเ, อมฺหากํ นาโรเจสี’’ติ ปริเทวนฺตานํ สทฺทํ สุตฺวา เต มาตาปิตูนมฺปิ อนาโรจิตภาวํ ตฺวา ปสนฺนจิตฺตา ปพฺพชฺชํ ยาจึสุ. โสปิ สํกิจฺจสามเณโร วิย เต สพฺเพ ปพฺพาเชตฺวา อุปชฺฌายสฺส สนฺติกํ อาเนตฺวา เตน สตฺถุ สนฺติกํ เปสิโต คนฺตฺวา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. สตฺถา ‘‘เอวํ กิร, ภิกฺขเว’’ติ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ปุริมนเยเนว อนุสนฺธึ ฆเฏตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมเมว คาถมาห –
‘‘โย จ วสฺสสตํ ชีเว, ทุสฺสีโล อสมาหิโต;
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย, สีลวนฺตสฺส ฌายิโน’’ติ.
อิทมฺปิ อธิมุตฺตสามเณรวตฺถุ วุตฺตนยเมวาติ.
สํกิจฺจสามเณรวตฺถุ นวมํ.
๑๐. ขาณุโกณฺฑฺตฺเถรวตฺถุ
โย ¶ จ วสฺสสตํ ชีเวติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ขาณุโกณฺฑฺตฺเถรํ อารพฺภ กเถสิ.
โส กิร เถโร สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา อรฺเ วิหรนฺโต อรหตฺตํ ปตฺวา ‘‘สตฺถุ อาโรเจสฺสามี’’ติ ตโต อาคจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค กิลนฺโต มคฺคา โอกฺกมฺม เอกสฺมึ ปิฏฺิปาสาเณ นิสินฺโน ฌานํ สมาปชฺชิ. อเถกํ คามํ วิลุมฺปิตฺวา ปฺจสตา โจรา อตฺตโน พลานุรูเปน ภณฺฑิกํ พนฺธิตฺวา สีเสนาทาย คจฺฉนฺตา ทูรํ คนฺตฺวา กิลนฺตรูปา ‘‘ทูรํ อาคตามฺห, อิมสฺมึ ปิฏฺิปาสาเณ วิสฺสมิสฺสามา’’ติ มคฺคา โอกฺกมฺม ¶ ปิฏฺิปาสาณสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา เถรํ ทิสฺวาปิ ‘‘ขาณุโก อย’’นฺติ สฺิโน อเหสุํ. อเถโก โจโร เถรสฺส สีเส ภณฺฑิกํ เปสิ, อปโรปิ ตํ นิสฺสาย ภณฺฑิกํ เปสิ. เอวํ ปฺจสตาปิ โจรา ปฺจหิ ภณฺฑิกสเตหิ เถรํ ปริกฺขิปิตฺวา สยมฺปิ นิสินฺนา นิทฺทายิตฺวา อรุณุคฺคมนกาเล ปพุชฺฌิตฺวา อตฺตโน อตฺตโน ภณฺฑิกํ คณฺหนฺตา เถรํ ทิสฺวา ‘‘อมนุสฺโส’’ติ สฺาย ปลายิตุํ ¶ อารภึสุ. อถ เน เถโร อาห – ‘‘มา ภายิตฺถ อุปาสกา, ปพฺพชิโต อห’’นฺติ. เต เถรสฺส ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา ‘‘ขมถ, ภนฺเต, มยํ ขาณุกสฺิโน อหุมฺหา’’ติ เถรํ ขมาเปตฺวา โจรเชฏฺเกน ‘‘อหํ อยฺยสฺส สนฺติเก ปพฺพชิสฺสามี’’ติ วุตฺเต เสสา ‘‘มยมฺปิ ปพฺพชิสฺสามา’’ติ ¶ วตฺวา สพฺเพปิ เอกจฺฉนฺทา หุตฺวา เถรํ ปพฺพชฺชํ ยาจึสุ. เถโร สํกิจฺจสามเณโร วิย สพฺเพปิ เต ปพฺพาเชสิ. ตโต ปฏฺาย ขาณุโกณฺฑฺโติ ปฺายิ. โส เตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา สตฺถารา ‘‘กึ, โกณฺฑฺ, อนฺเตวาสิกา เต ลทฺธา’’ติ วุตฺเต ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. สตฺถา ‘‘เอวํ กิร, ภิกฺขเว’’ติ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘อาม, ภนฺเต, น โน อฺสฺส เอวรูโป อานุภาโว ทิฏฺปุพฺโพ, เตนมฺหา ปพฺพชิตา’’ติ วุตฺเต, ‘‘ภิกฺขเว, เอวรูเป ทุปฺปฺกมฺเม ปติฏฺาย วสฺสสตํ ชีวนโต อิทานิ โว ปฺาสมฺปทาย วตฺตมานานํ เอกาหมฺปิ ชีวิตํ เสยฺโย’’ติ วตฺวา อนุสนฺธึ ฆเฏตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘โย จ วสฺสสตํ ชีเว, ทุปฺปฺโ อสมาหิโต;
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย, ปฺวนฺตสฺส ฌายิโน’’ติ.
ตตฺถ ทุปฺปฺโ นิปฺปฺโ. ปฺวนฺตสฺสาติ สปฺปฺสฺส. เสสํ ปุริมสทิสเมวาติ.
เทสนาวสาเน ปฺจสตาปิ เต ภิกฺขู สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. สมฺปตฺตมหาชนสฺสาปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติ.
ขาณุโกณฺฑฺตฺเถรวตฺถุ ทสมํ.
๑๑. สปฺปทาสตฺเถรวตฺถุ
โย ¶ จ วสฺสสตํ ชีเวติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต สปฺปทาสตฺเถรํ อารพฺภ กเถสิ.
สาวตฺถิยํ ¶ กิเรโก กุลปุตฺโต สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปพฺพชิตฺวา ลทฺธูปสมฺปโท อปเรน สมเยน อุกฺกณฺิตฺวา ‘‘มาทิสสฺส กุลปุตฺตสฺส คิหิภาโว นาม อยุตฺโต, ปพฺพชฺชาย ตฺวา มรณมฺหิ เม เสยฺโย’’ติ จินฺเตตฺวา อตฺตโน มรณูปายํ จินฺเตนฺโต วิจรติ. อเถกทิวสํ ปาโตว ¶ กตภตฺตกิจฺจา ภิกฺขู วิหารํ คนฺตฺวา อคฺคิสาลาย สปฺปํ ทิสฺวา ตํ เอกสฺมึ กุเฏ ปกฺขิปิตฺวา กุฏํ ปิทหิตฺวา อาทาย วิหารา นิกฺขมึสุ. อุกฺกณฺิตภิกฺขุปิ ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา อาคจฺฉนฺโต เต ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘กึ อิทํ, อาวุโส’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สปฺโป, อาวุโส’’ติ วุตฺเต อิมินา ‘‘กึ กริสฺสถา’’ติ? ‘‘ฉฑฺเฑสฺสาม น’’นฺติ. เตสํ วจนํ สุตฺวา ‘‘อิมินา อตฺตานํ ฑํสาเปตฺวา มริสฺสามี’’ติ ‘‘อาหรถ, อหํ ตํ ฉฑฺเฑสฺสามี’’ติ เตสํ หตฺถโต กุฏํ คเหตฺวา เอกสฺมึ าเน นิสินฺโน เตน สปฺเปน อตฺตานํ ฑํสาเปติ, สปฺโป ฑํสิตุํ น อิจฺฉติ. โส กุเฏ หตฺถํ โอตาเรตฺวา อิโต จิโต จ อาโลเลติ, โฆรสปฺปสฺส มุขํ วิวริตฺวา องฺคุลึ ปกฺขิปติ, เนว นํ สปฺโป ฑํสิ. โส ‘‘นายํ อาสีวิโส, ฆรสปฺโป เอโส’’ติ ตํ ปหาย วิหารํ อคมาสิ. อถ นํ ภิกฺขู ‘‘ฉฑฺฑิโต เต, อาวุโส, สปฺโป’’ติ อาหํสุ. ‘‘น โส, อาวุโส, โฆรสปฺโป, ฆรสปฺโป เอโส’’ติ. ‘‘โฆรสปฺโปเยวาวุโส, มหนฺตํ ¶ ผณํ กตฺวา สุสุยนฺโต ทุกฺเขน อมฺเหหิ คหิโต, กึ การณา เอวํ ตฺวํ วเทสี’’ติ อาหํสุ. ‘‘อหํ, อาวุโส, เตน อตฺตานํ ฑํสาเปนฺโตปิ มุเข องฺคุลึ ปกฺขิเปนฺโตปิ ตํ ฑํสาเปตุํ นาสกฺขิ’’นฺติ. ตํ สุตฺวา ภิกฺขู ตุณฺหี อเหสุํ.
อเถกทิวสํ นฺหาปิโต ทฺเว ตโย ขุเร อาทาย วิหารํ คนฺตฺวา เอกํ ภูมิยํ เปตฺวา เอเกน ภิกฺขูนํ เกเส โอหาเรติ. โส ภูมิยํ ปิตํ ขุรํ คเหตฺวา ‘‘อิมินา คีวํ ฉินฺทิตฺวา มริสฺสามี’’ติ เอกสฺมึ รุกฺเข คีวํ อุปนิธาย ขุรธารํ คลนาฬิยํ กตฺวา ิโต อุปสมฺปทามาฬโต ปฏฺาย อตฺตโน สีลํ อาวชฺเชนฺโต วิมลจนฺทมณฺฑลํ วิย สุโธตมณิขนฺธมิว จ นิมฺมลํ สีลํ อทฺทส. ตสฺส ตํ โอโลเกนฺตสฺส สกลสรีรํ ผรนฺตี ปีติ อุปฺปชฺชิ. โส ปีตึ วิกฺขมฺเภตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒนฺโต สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา ขุรํ อาทาย วิหารมชฺฌํ ปาวิสิ. อถ นํ ภิกฺขู ‘‘กหํ คโตสิ, อาวุโส’’ติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘‘อิมินา ขุเรน คลนาฬึ ฉินฺทิตฺวา ¶ มริสฺสามี’ติ คโตมฺหิ ¶ , อาวุโส’’ติ. อถ ‘‘กสฺมา น มโตสี’’ติ? อิทานิมฺหิ สตฺถํ อาหริตุํ อภพฺโพ ชาโต. อหฺหิ ‘‘อิมินา ขุเรน คลนาฬึ ฉินฺทิสฺสามี’’ติ าณขุเรน สพฺพกิเลเส ฉินฺทินฺติ. ภิกฺขู ‘‘อยํ อภูเตน อฺํ พฺยากโรตี’’ติ ภควโต อาโรเจสุํ. ภควา เตสํ กถํ สุตฺวา อาห – ‘‘น, ภิกฺขเว, ขีณาสวา นาม สหตฺถา อตฺตานํ ชีวิตา โวโรเปนฺตี’’ติ. ภนฺเต, ตุมฺเห อิมํ ‘‘ขีณาสโว’’ติ วทถ, เอวํ อรหตฺตูปนิสฺสยสมฺปนฺโน ปนายํ กสฺมา อุกฺกณฺติ, กิมสฺส อรหตฺตูปนิสฺสยการณํ ‘‘กสฺมา โส สปฺโป เอตํ น ฑํสตี’’ติ? ‘‘ภิกฺขเว, โส ตาว สปฺโป อิมสฺส อิโต ตติเย อตฺตภาเว ทาโส อโหสิ, โส อตฺตโน สามิกสฺส สรีรํ ฑํสิตุํ น วิสหตี’’ติ. เอวํ ¶ ตาว เนสํ สตฺถา เอกํ การณํ อาจิกฺขิ. ตโต ปฏฺาย จ โส ภิกฺขุ สปฺปทาโส นาม ชาโต.
กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล กิเรโก กุลปุตฺโต สตฺถุ ธมฺมกถํ สุตฺวา อุปฺปนฺนสํเวโค ปพฺพชิตฺวา ลทฺธูปสมฺปโท อปเรน สมเยน อนภิรติยา อุปฺปนฺนาย เอกสฺส สหายกสฺส ภิกฺขุโน อาโรเจสิ. โส ตสฺส อภิณฺหํ คิหิภาเว อาทีนวํ กเถสิ. ตํ สุตฺวา อิตโร สาสเน อภิรมิตฺวา ปุพฺเพ อนภิรตกาเล มลคฺคหิเต สมณปริกฺขาเร เอกสฺมึ โสณฺฑิตีเร นิมฺมเล กโรนฺโต นิสีทิ. สหายโกปิสฺส สนฺติเกเยว นิสินฺโน. อถ นํ โส เอวมาห – ‘‘อหํ, อาวุโส, อุปฺปพฺพชนฺโต อิเม ปริกฺขาเร ตุยฺหํ ทาตุกาโม ¶ อโหสิ’’นฺติ. โส โลภํ อุปฺปาเทตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อิมินา มยฺหํ ปพฺพชิเตน วา อุปฺปพฺพชิเตน วา โก อตฺโถ, อิทานิ ปริกฺขาเร คณฺหิสฺสามี’’ติ. โส ตโต ปฏฺาย ‘‘กึ ทานาวุโส, อมฺหากํ ชีวิเตน, เย มยํ กปาลหตฺถา ปรกุเลสุ ภิกฺขาย จราม, ปุตฺตทาเรหิ สทฺธึ อาลาปสลฺลาปํ น กโรมา’’ติอาทีนิ วทนฺโต คิหิภาวสฺส คุณํ กเถสิ. โส ตสฺส กถํ สุตฺวา ปุน อุกฺกณฺิโต หุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ มยา ‘อุกฺกณฺิโตมฺหี’ติ วุตฺเต ปมํ คิหิภาเว อาทีนวํ กเถตฺวา อิทานิ อภิณฺหํ คุณํ กเถติ, ‘กึ นุ โข การณ’’’นฺติ จินฺเตนฺโต ‘‘อิเมสุ สมณปริกฺขาเรสุ โลเภนา’’ติ ตฺวา สยเมว อตฺตโน จิตฺตํ นิวตฺเตสิ. เอวมสฺส กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล เอกสฺส ภิกฺขุโน อุกฺกณฺาปิตตฺตา อิทานิ อนภิรติ ¶ อุปฺปนฺนา. โย ปน เตเนว ตทา วีสติ วสฺสสหสฺสานิ สมณธมฺโม กโต, สฺวสฺส เอตรหิ อรหตฺตูปนิสฺสโย ชาโตติ.
อิมมตฺถํ เต ภิกฺขู ภควโต สนฺติกา สุตฺวา อุตฺตรึ ปุจฺฉึสุ – ‘‘ภนฺเต, อยํ กิร ภิกฺขุ ขุรธารํ คลนาฬิยํ กตฺวา ิโตว อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อุปฺปชฺชิสฺสติ นุ โข เอตฺตเกน ขเณน อรหตฺตมคฺโค’’ติ. ‘‘อาม, ภิกฺขเว, อารทฺธวีริยสฺส ภิกฺขุโน ปาทํ อุกฺขิปิตฺวา ภูมิยํ เปนฺตสฺส ปาเท ภูมิยํ อสมฺปตฺเตเยว อรหตฺตมคฺโค อุปฺปชฺชติ. กุสีตสฺส ¶ ปุคฺคลสฺส หิ วสฺสสตํ ชีวนโต อารทฺธวีริยสฺส ขณมตฺตมฺปิ ชีวิตํ เสยฺโย’’ติ วตฺวา อนุสนฺธึ ฆเฏตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘โย จ วสฺสสตํ ชีเว, กุสีโต หีนวีริโย;
เอกาหํ ชีวิกํ เสยฺโย, วีริยมารภโต ทฬฺห’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ กุสีโตติ กามวิตกฺกาทีหิ ตีหิ วิตกฺเกหิ วีตินาเมนฺโต ปุคฺคโล. หีนวีริโยติ นิพฺพีริโย. วีริยมารภโต ทฬฺหนฺติ ทุวิธชฺฌานนิพฺพตฺตนสมตฺถํ ถิรํ วีริยํ อารภนฺตสฺส. เสสํ ปุริมสทิสเมว.
เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.
สปฺปทาสตฺเถรวตฺถุ เอกาทสมํ.
๑๒. ปฏาจาราเถรีวตฺถุ
โย จ วสฺสสตํ ชีเวติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปฏาจารํ เถรึ อารพฺภ กเถสิ.
สา กิร สาวตฺถิยํ จตฺตาลีสโกฏิวิภวสฺส เสฏฺิโน ธีตา อโหสิ อภิรูปา. ตํ โสฬสวสฺสุทฺเทสิกกาเล สตฺตภูมิกสฺส ปาสาทสฺส อุปริมตเล รกฺขนฺตา วสาเปสุํ. เอวํ สนฺเตปิ สา เอเกน อตฺตโน จูฬูปฏฺาเกน สทฺธึ วิปฺปฏิปชฺชิ ¶ . อถสฺสา มาตาปิตโร สมชาติกกุเล เอกสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุณิตฺวา วิวาหทิวสํ เปสุํ. ตสฺมึ อุปกฏฺเ สา ตํ จูฬูปฏฺากํ อาห – ‘‘มํ กิร อสุกกุลสฺส นาม ทสฺสนฺติ, มยิ ปติกุลํ คเต มม ปณฺณาการํ คเหตฺวา อาคโตปิ ตตฺถ ปเวสนํ น ลภิสฺสสิ, สเจ เต มยิ สิเนโห อตฺถิ, อิทาเนว ¶ มํ คเหตฺวา เยน วา เตน วา ปลายสฺสู’’ติ. ‘‘โส สาธุ, ภทฺเท’’ติ. ‘‘เตน หิ อหํ สฺเว ปาโตว นครทฺวารสฺส อสุกฏฺาเน นาม สฺสามิ, ตฺวํ เอเกน อุปาเยน นิกฺขมิตฺวา ตตฺถ อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ วตฺวา ทุติยทิวเส สงฺเกตฏฺาเน อฏฺาสิ. สาปิ ปาโตว กิลิฏฺํ วตฺถํ นิวาเสตฺวา เกเส วิกฺกิริตฺวา กุณฺฑเกน สรีรํ มกฺขิตฺวา กุฏํ อาทาย ทาสีหิ สทฺธึ คจฺฉนฺตี วิย ฆรา นิกฺขมิตฺวา ตํ านํ อคมาสิ. โส ตํ อาทาย ทูรํ คนฺตฺวา เอกสฺมึ คาเม นิวาสํ กปฺเปตฺวา อรฺเ เขตฺตํ กสิตฺวา ทารุปณฺณาทีนิ อาหรติ. อิตรา กุเฏน อุทกํ อาหริตฺวา สหตฺถา โกฏฺฏนปจนาทีนิ กโรนฺตี อตฺตโน ปาปสฺส ผลํ อนุโภติ. อถสฺสา กุจฺฉิยํ คพฺโภ ปติฏฺาสิ. สา ปริปุณฺณคพฺภา ‘‘อิธ เม โกจิ อุปการโก นตฺถิ, มาตาปิตโร นาม ปุตฺเตสุ มุทุหทยา โหนฺติ, เตสํ สนฺติกํ มํ เนหิ, ตตฺถ เม คพฺภวุฏฺานํ ภวิสฺสตี’’ติ สามิกํ ¶ ยาจิ. โส ‘‘กึ, ภทฺเท, กเถสิ, มํ ทิสฺวา ตว มาตาปิตโร วิวิธา กมฺมการณา กเรยฺยุํ, น สกฺกา มยา ตตฺถ คนฺตุ’’นฺติ ปฏิกฺขิปิ. สา ปุนปฺปุนํ ยาจิตฺวาปิ ¶ คมนํ อลภมานา ตสฺส อรฺํ คตกาเล ปฏิวิสฺสเก อามนฺเตตฺวา ‘‘สเจ โส อาคนฺตฺวา มํ อปสฺสนฺโต ‘กหํ คตา’ติ ปุจฺฉิสฺสติ, มม อตฺตโน กุลฆรํ คตภาวํ อาจิกฺเขยฺยาถา’’ติ วตฺวา เคหทฺวารํ ปิทหิตฺวา ปกฺกามิ. โสปิ อาคนฺตฺวา ตํ อปสฺสนฺโต ปฏิวิสฺสเก ปุจฺฉิตฺวา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘นิวตฺเตสฺสามิ น’’นฺติ อนุพนฺธิตฺวา ตํ ทิสฺวา นานปฺปการํ ยาจิยมาโนปิ นิวตฺเตตุํ นาสกฺขิ. อถสฺสา เอกสฺมึ าเน กมฺมชวาตา จลึสุ. สา เอกํ คจฺฉนฺตรํ ปวิสิตฺวา, ‘‘สามิ, กมฺมชวาตา เม จลิตา’’ติ วตฺวา ภูมิยํ นิปชฺชิตฺวา สมฺปริวตฺตมานา กิจฺเฉน ทารกํ วิชายิตฺวา ‘‘ยสฺสตฺถายาหํ กุลฆรํ คจฺเฉยฺยํ, โส อตฺโถ นิปฺผนฺโน’’ติ ปุนเทว เตน สทฺธึ เคหํ อาคนฺตฺวา วาสํ กปฺเปสิ.
ตสฺสา อปเรน สมเยน ปุน คพฺโภ ปติฏฺหิ. สา ปริปุณฺณคพฺภา หุตฺวา ปุริมนเยเนว สามิกํ ยาจิตฺวา คมนํ อลภมานา ปุตฺตํ องฺเกนาทาย ตเถว ปกฺกมิตฺวา เตน อนุพนฺธิตฺวา ‘‘ติฏฺาหี’’ติ วุตฺเต นิวตฺติตุํ น อิจฺฉิ. อถ เนสํ คจฺฉนฺตานํ มหา อกาลเมโฆ อุทปาทิ สมนฺตา วิชฺชุลตาหิ ¶ อาทิตฺตํ วิย เมฆตฺถนิเตหิ, ภิชฺชมานํ วิย ¶ อุทกธารานิปาตนิรนฺตรํ นภํ อโหสิ. ตสฺมึ ขเณ ตสฺสา กมฺมชวาตา จลึสุ. สา สามิกํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘สามิ, กมฺมชวาตา เม จลิตา, น สกฺโกมิ สนฺธาเรตุํ, อโนวสฺสกฏฺานํ เม ชานาหี’’ติ อาห. โส หตฺถคตาย วาสิยา อิโต จิโต จ อุปธาเรนฺโต เอกสฺมึ วมฺมิกมตฺถเก ชาตํ คุมฺพํ ทิสฺวา ฉินฺทิตุํ อารภิ. อถ นํ วมฺมิกโต นิกฺขมิตฺวา โฆรวิโส อาสีวิโส ฑํสิ. ตงฺขณฺเวสฺส สรีรํ อนฺโตสมุฏฺิตาหิ อคฺคิชาลาหิ ฑยฺหมานํ วิย นีลวณฺณํ หุตฺวา ตตฺเถว ปติ. อิตราปิ มหาทุกฺขํ อนุภวมานา ตสฺส อาคมนํ โอโลเกนฺตีปิ ตํ อทิสฺวาว อปรมฺปิ ปุตฺตํ วิชายิ. ทฺเว ทารกา วาตวุฏฺิเวคํ อสหมานา มหาวิรวํ วิรวนฺติ. สา อุโภปิ เต อุรนฺตเร กตฺวา ทฺวีหิ ชณฺณุเกหิ เจว หตฺเถหิ จ ภูมิยํ อุปฺปีเฬตฺวา ตถา ิตาว รตฺตึ วีตินาเมสิ. สกลสรีรํ นิลฺโลหิตํ วิย ปณฺฑุปลาสวณฺณํ อโหสิ. สา อุฏฺิเต อรุเณ มํสเปสิวณฺณํ เอกํ ปุตฺตํ องฺเกนาทาย อิตรํ องฺคุลิยา คเหตฺวา ‘‘เอหิ, ตาต, ปิตา เต อิโต คโต’’ติ วตฺวา สามิกสฺส คตมคฺเคน คจฺฉนฺตี ¶ ตํ วมฺมิกมตฺถเก กาลํ กตฺวา ปติตํ นีลวณฺณํ ถทฺธสรีรํ ทิสฺวา ‘‘มํ นิสฺสาย มม สามิโก ปนฺเถ มโต’’ติ โรทนฺตี ปริเทวนฺตี ปายาสิ.
สา สกลรตฺตึ เทเวน วุฏฺตฺตา อจิรวตึ นทึ ชณฺณุปฺปมาเณน กฏิปฺปมาเณน ถนปฺปมาเณน อุทเกน ปริปุณฺณํ ทิสฺวา อตฺตโน มนฺทพุทฺธิตาย ทฺวีหิ ทารเกหิ สทฺธึ อุทกํ โอตริตุํ อวิสหนฺตี เชฏฺปุตฺตํ โอริมตีเร เปตฺวา อิตรํ อาทาย ปรตีรํ คนฺตฺวา สาขาภงฺคํ อตฺถริตฺวา ¶ นิปชฺชาเปตฺวา ‘‘อิตรสฺส สนฺติกํ คมิสฺสามี’’ติ พาลปุตฺตกํ ปหาย ตริตุํ อสกฺโกนฺตี ปุนปฺปุนํ นิวตฺติตฺวา โอโลกยมานา ปายาสิ. อถสฺสา นทีมชฺฌํ คตกาเล เอโก เสโน ตํ กุมารํ ทิสฺวา ‘‘มํสเปสี’’ติ สฺาย อากาสโต ภสฺสิ. สา ตํ ปุตฺตสฺสตฺถาย ภสฺสนฺตํ ทิสฺวา อุโภ หตฺเถ อุกฺขิปิตฺวา ‘‘สูสู’’ติ ติกฺขตฺตุํ มหาสทฺทํ นิจฺฉาเรสิ. เสโน ทูรภาเวน ตํ อสุตฺวาว กุมารกํ คเหตฺวา เวหาสํ อุปฺปติตฺวา คโต. โอริมตีเร ิตปุตฺโต มาตรํ นทีมชฺเฌ อุโภ หตฺเถ อุกฺขิปิตฺวา มหาสทฺทํ นิจฺฉารยมานํ ทิสฺวา ¶ ‘‘มํ ปกฺโกสตี’’ติ สฺาย เวเคน อุทเก ปติ. อิติสฺสา พาลปุตฺตํ เสโน หริ, เชฏฺปุตฺโต อุทเกน วูฬฺโห.
สา ‘‘เอโก เม ปุตฺโต เสเนน คหิโต, เอโก อุทเกน ¶ วูฬฺโห, ปนฺเถ เม ปติ มโต’’ติ โรทนฺตี ปริเทวนฺตี คจฺฉมานา สาวตฺถิโต อาคจฺฉนฺตํ เอกํ ปุริสํ ทิสฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘กตฺถ วาสิโกสิ, ตาตา’’ติ? ‘‘สาวตฺถิวาสิโกมฺหิ, อมฺมา’’ติ. ‘‘สาวตฺถินคเร อสุกวีถิยํ เอวรูปํ อสุกกุลํ นาม อตฺถิ, ชานาสิ, ตาตา’’ติ? ‘‘ชานามิ, อมฺม, ตํ ปน มา ปุจฺฉิ, สเจ อฺํ ชานาสิ ปุจฺฉา’’ติ. ‘‘อฺเน เม กมฺมํ นตฺถิ, ตเทว ปุจฺฉามิ, ตาตา’’ติ. ‘‘อมฺม, ตฺวํ อตฺตโน อนาจิกฺขิตุํ น เทสิ, อชฺช เต สพฺพรตฺตึ เทโว วสฺสนฺโต ทิฏฺโ’’ติ. ‘‘ทิฏฺโ เม, ตาต, มยฺหเมเวโส สพฺพรตฺตึ วุฏฺโ, น อฺสฺส. มยฺหํ ปน วุฏฺการณํ ปจฺฉา เต กเถสฺสามิ, เอตสฺมึ ตาว เม เสฏฺิเคเห ปวตฺตึ กเถหี’’ติ. ‘‘อมฺม, อชฺช รตฺตึ เสฏฺิฺจ เสฏฺิภริยฺจ เสฏฺิปุตฺตฺจาติ ตโยปิ ชเน อวตฺถรมานํ เคหํ ปติ, เต เอกจิตกสฺมึ ฌายนฺติ. เอส ธูโม ปฺายติ, อมฺมา’’ติ. สา ตสฺมึ ขเณ นิวตฺถวตฺถํ ปตมานํ น สฺชานิ, อุมฺมตฺติกภาวํ ¶ ปตฺวา ยถาชาตาว โรทนฺตี ปริเทวนฺตี –
‘‘อุโภ ปุตฺตา กาลกตา, ปนฺเถ มยฺหํ ปตี มโต;
มาตา ปิตา จ ภาตา จ, เอกจิตมฺหิ ฑยฺหเร’’ติ. (อป. เถรี ๒.๒.๔๙๘) –
วิลปนฺตี ปริพฺภมิ. มนุสฺสา ตํ ทิสฺวา ‘‘อุมฺมตฺติกา อุมฺมตฺติกา’’ติ กจวรํ คเหตฺวา ปํสุํ คเหตฺวา มตฺถเก โอกิรนฺตา เลฑฺฑูหิ ปหรนฺติ. สตฺถา เชตวนมหาวิหาเร อฏฺปริสมชฺเฌ นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต ตํ อาคจฺฉมานํ อทฺทส กปฺปสตสหสฺสํ ปูริตปารมึ อภินีหารสมฺปนฺนํ.
สา ¶ กิร ปทุมุตฺตรพุทฺธกาเล ปทุมุตฺตรสตฺถารา เอกํ วินยธรตฺเถรึ พาหาย คเหตฺวา นนฺทนวเน เปนฺตํ วิย เอตทคฺคฏฺาเน ปิยมานํ ทิสฺวา ‘‘อหมฺปิ ตุมฺหาทิสสฺส พุทฺธสฺส สนฺติเก วินยธรตฺเถรีนํ อคฺคฏฺานํ ลเภยฺย’’นฺติ อธิการํ กตฺวา ปตฺถนํ เปสิ. ปทุมุตฺตรพุทฺโธ อนาคตํสาณํ ปตฺถริตฺวา ปตฺถนาย สมิชฺฌนภาวํ ตฺวา ‘‘อนาคเต โคตมพุทฺธสฺส นาม สาสเน อยํ ปฏาจารา นาเมน วินยธรตฺเถรีนํ อคฺคา ¶ ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากาสิ. ตํ ¶ เอวํ ปตฺถิตปตฺถนํ อภินีหารสมฺปนฺนํ สตฺถา ทูรโตว อาคจฺฉนฺตึ ทิสฺวา ‘‘อิมิสฺสา เปตฺวา มํ อฺโ อวสฺสโย ภวิตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถี’’ติ จินฺเตตฺวา ตํ ยถา วิหาราภิมุขํ อาคจฺฉติ, เอวํ อกาสิ. ปริสา ตํ ทิสฺวาว ‘‘อิมิสฺสา อุมฺมตฺติกาย อิโต อาคนฺตุํ มา ททิตฺถา’’ติ อาห. สตฺถา ‘‘อเปถ, มา นํ วารยิตฺถา’’ติ วตฺวา อวิทูรฏฺานํ อาคตกาเล ‘‘สตึ ปฏิลภ ภคินี’’ติ อาห. สา ตํ ขณํเยว พุทฺธานุภาเวน สตึ ปฏิลภิ. ตสฺมึกาเล นิวตฺถวตฺถสฺส ปติตภาวํ สลฺลกฺเขตฺวา หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิ. อถสฺสา เอโก ปุริโส อุตฺตรสาฏกํ ขิปิ. สา ตํ นิวาเสตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา สุวณฺณวณฺเณสุ ปาเทสุ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อวสฺสโย เม โหถ, ปติฏฺา เม โหถ. เอกฺหิ เม ปุตฺตํ เสโน คณฺหิ, เอโก อุทเกน วูฬฺโห, ปนฺเถ เม ปติ มโต, มาตาปิตโร เจว เม ภาตา จ เคเหน อวตฺถฏา เอกจิตกสฺมึ ฌายนฺตี’’ติ.
สตฺถา ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘ปฏาจาเร, มา จินฺตยิ, ตว ตาณํ สรณํ อวสฺสโย ภวิตุํ สมตฺถสฺเสว สนฺติกํ อาคตาสิ. ยถา หิ ตว อิทานิ เอโก ปุตฺตโก เสเนน คหิโต, เอโก อุทเกน วูฬฺโห, ปนฺเถ ¶ ปติ มโต, มาตาปิตโร เจว ภาตา จ เคเหน อวตฺถฏา; เอวเมว อิมสฺมึ สํสาเร ปุตฺตาทีนํ มตกาเล ตว โรทนฺติยา ปคฺฆริตอสฺสุ จตุนฺนํ มหาสมุทฺทานํ อุทกโต พหุตร’’นฺติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘จตูสุ สมุทฺเทสุ ชลํ ปริตฺตกํ,
ตโต พหุํ อสฺสุชลํ อนปฺปกํ;
ทุกฺเขน ผุฏฺสฺส นรสฺส โสจนา,
กึ การณา อมฺม ตุวํ ปมชฺชสี’’ติ.
เอวํ สตฺถริ อนมตคฺคปริยายํ กเถนฺเต ตสฺส สรีเร โสโก ตนุตฺตํ อคมาสิ. อถ นํ ตนุภูตโสกํ ตฺวา ปุน สตฺถา อามนฺเตตฺวา ‘‘ปฏาจาเร ปุตฺตาทโย นาม ปรโลกํ คจฺฉนฺตสฺส ตาณํ วา เลณํ วา สรณํ วา ภวิตุํ น สกฺโกนฺติ, ตสฺมา วิชฺชมานาปิ เต น สนฺติเยว, ปณฺฑิเตน ¶ ปน สีลํ วิโสเธตฺวา อตฺตโน นิพฺพานคามิมคฺคํ ขิปฺปเมว โสเธตุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘น ¶ สนฺติ ปุตฺตา ตาณาย, น ปิตา นาปิ พนฺธวา;
อนฺตเกนาธิปนฺนสฺส, นตฺถิ าตีสุ ตาณตา. (ธ. ป. ๒๘๘; อป. เถรี ๒.๒.๕๐๑);
‘‘เอตมตฺถวสฺสํ ตฺวา, ปณฺฑิโต สีลสํวุโต;
นิพฺพานคมนํ มคฺคํ, ขิปฺปเมว วิโสธเย’’ติ. (ธ. ป. ๒๘๙);
เทสนาวสาเน ¶ ปฏาจารา มหาปถวิยํ ปํสุปริมาเณ กิเลเส ฌาเปตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ, อฺเปิ พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ. สา ปน โสตาปนฺนา หุตฺวา สตฺถารํ ปพฺพชฺชํ ยาจิ. สตฺถา ตํ ภิกฺขุนีนํ สนฺติกํ ปหิณิตฺวา ปพฺพาเชสิ. สา ลทฺธูปสมฺปทา ปฏิตาจารตฺตา ปฏาจาราตฺเวว ปฺายิ. สา เอกทิวสํ กุเฏน อุทกํ อาทาย ปาเท โธวนฺตี อุทกํ อาสิฺจิ, ตํ โถกํ คนฺตฺวา ปจฺฉิชฺชิ. ทุติยวาเร อาสิตฺตํ ตโต ทูรตรํ อคมาสิ. ตติยวาเร อาสิตฺตํ ตโตปิ ทูรตรนฺติ. สา ตเทว อารมฺมณํ คเหตฺวา ตโย วเย ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘มยา ปมํ อาสิตฺตํ อุทกํ วิย อิเม สตฺตา ปมวเยปิ มรนฺติ, ตโต ทูรตรํ คตํ ทุติยวาเร อาสิตฺตํ อุทกํ วิย มชฺฌิมวเยปิ มรนฺติ, ตโตปิ ทูรตรํ คตํ ตติยวาเร อาสิตฺตํ อุทกํ วิย ปจฺฉิมวเยปิ มรนฺติเยวา’’ติ จินฺเตสิ. สตฺถา คนฺธกุฏิยํ นิสินฺโนว โอภาสํ ผริตฺวา ตสฺสา สมฺมุเข ตฺวา กเถนฺโต วิย ‘‘เอวเมตํ ปฏาจาเร, ปฺจนฺนมฺปิ ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ อปสฺสนฺตสฺส วสฺสสตํ ชีวนโต เตสํ อุทยพฺพยํ ปสฺสนฺตสฺส เอกาหมฺปิ เอกกฺขณมฺปิ ชีวิตํ เสยฺโย’’ติ ¶ วตฺวา อนุสนฺธึ ฆเฏตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต คาถมาห –
‘‘โย จ วสฺสสตํ ชีเว, อปสฺสํ อุทยพฺพยํ;
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย, ปสฺสโต อุทยพฺพย’’นฺติ.
ตตฺถ อปสฺสํ อุทยพฺพยนฺติ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ ปฺจวีสติยา ลกฺขเณหิ อุทยฺจ วยฺจ อปสฺสนฺโต. ปสฺสโต อุทยพฺพยนฺติ เตสํ อุทยฺจ วยฺจ ปสฺสนฺตสฺส. อิตรสฺส ชีวนโต เอกาหมฺปิ ชีวิตํ เสยฺโยติ.
เทสนาวสาเน ¶ ปฏาจารา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ.
ปฏาจาราเถรีวตฺถุ ทฺวาทสมํ.
๑๓. กิสาโคตมีวตฺถุ
โย ¶ จ วสฺสสตํ ชีเวติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต กิสาโคตมึ อารพฺภ กเถสิ.
สาวตฺถิยํ กิเรกสฺส เสฏฺิสฺส เคเห จตฺตาลีสโกฏิธนํ องฺคารา เอว หุตฺวา อฏฺาสิ. เสฏฺิ ตํ ทิสฺวา อุปฺปนฺนโสโก อาหารํ ปฏิกฺขิปิตฺวา มฺจเก นิปชฺชิ. ตสฺเสโก สหายโก เคหํ คนฺตฺวา, ‘‘สมฺม, กสฺมา โสจสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา, ‘‘สมฺม, มา โสจิ, อหํ เอกํ อุปายํ ¶ ชานามิ, ตํ กโรหี’’ติ. ‘‘กึ กโรมิ, สมฺมา’’ติ? อตฺตโน อาปเณ กิลฺชํ ปสาเรตฺวา ตตฺถ เต องฺคาเร ราสึ กตฺวา วิกฺกิณนฺโต วิย นิสีท, อาคตาคเตสุ มนุสฺเสสุ เย เอวํ วทนฺติ – ‘‘เสสชนา วตฺถเตลมธุผาณิตาทีนิ วิกฺกิณนฺติ, ตฺวํ ปน องฺคาเร วิกฺกิณนฺโต นิสินฺโน’’ติ. เต วเทยฺยาสิ – ‘‘อตฺตโน สนฺตกํ อวิกฺกิณนฺโต กึ กโรมี’’ติ? โย ปน ตํ เอวํ วทติ ‘‘เสสชนา วตฺถเตลมธุผาณิตาทีนิ วิกฺกิณนฺติ, ตฺวํ ปน หิรฺสุวณฺณํ วิกฺกิณนฺโต นิสินฺโน’’ติ. ตํ วเทยฺยาสิ ‘‘กหํ หิรฺสุวณฺณ’’นฺติ. ‘‘อิท’’นฺติ จ วุตฺเต ‘‘อาหร, ตาว น’’นฺติ หตฺเถหิ ปฏิจฺเฉยฺยาสิ. เอวํ ทินฺนํ ตว หตฺเถ หิรฺสุวณฺณํ ภวิสฺสติ. สา ปน สเจ กุมาริกา โหติ, ตว เคเห ปุตฺตสฺส นํ อาหริตฺวา จตฺตาลีสโกฏิธนํ ตสฺสา นิยฺยาเทตฺวา ตาย ทินฺนํ วลฺเชยฺยาสิ. สเจ กุมารโก โหติ, ตว เคเห วยปฺปตฺตํ ธีตรํ ตสฺส ทตฺวา จตฺตาลีสโกฏิธนํ นิยฺยาเทตฺวา เตน ทินฺนํ วลฺเชยฺยาสีติ. โส ‘‘ภทฺทโก อุปาโย’’ติ อตฺตโน ¶ อาปเณ องฺคาเร ราสึ กตฺวา วิกฺกิณนฺโต วิย นิสีทิ. เย ปน นํ เอวมาหํสุ – ‘‘เสสชนา วตฺถเตลมธุผาณิตาทีนิ วิกฺกิณนฺติ, กึ ปน ตฺวํ องฺคาเร วิกฺกิณนฺโต นิสินฺโน’’ติ? เตสํ ‘‘อตฺตโน สนฺตกํ อวิกฺกิณนฺโต กึ กโรมี’’ติ ปฏิวจนํ อทาสิ. อเถกา โคตมี นาม กุมาริกา กิสสรีรตาย กิสาโคตมีติ ปฺายมานา ปริชิณฺณกุลสฺส ธีตา อตฺตโน เอเกน กิจฺเจน อาปณทฺวารํ คนฺตฺวา ตํ เสฏฺึ ทิสฺวา เอวมาห – ‘‘กึ, ตาต, เสสชนา วตฺถเตลมธุผาณิตาทีนิ วิกฺกิณนฺติ, ตฺวํ หิรฺสุวณฺณํ วิกฺกิณนฺโต นิสินฺโน’’ติ? ‘‘กหํ, อมฺม, หิรฺสุวณฺณ’’นฺติ ¶ ? ‘‘นนุ ‘ตฺวํ ตเทว คเหตฺวา นิสินฺโนสี’ติ, อาหร, ตาว นํ, อมฺมา’’ติ. สา หตฺถปูรํ คเหตฺวา ตสฺส หตฺเถสุ เปสิ, ตํ หิรฺสุวณฺณเมว อโหสิ.
อถ ¶ นํ เสฏฺิ ‘‘กตรํ เต, อมฺม, เคห’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อสุกํ นามา’’ติ วุตฺเต ตสฺสา อสฺสามิกภาวํ ตฺวา ธนํ ปฏิสาเมตฺวา ตํ อตฺตโน ปุตฺตสฺส อาเนตฺวา จตฺตาลีสโกฏิธนํ ปฏิจฺฉาเปสิ. สพฺพํ หิรฺสุวณฺณเมว อโหสิ. ตสฺสา อปเรน สมเยน คพฺโภ ปติฏฺหิ. สา ทสมาสจฺจเยน ปุตฺตํ วิชายิ. โส ปทสา คมนกาเล กาลมกาสิ. สา อทิฏฺปุพฺพมรณตาย ตํ ฌาเปตุํ นีหรนฺเต วาเรตฺวา ‘‘ปุตฺตสฺส เม เภสชฺชํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ มตกเฬวรํ องฺเกนาทาย ‘‘อปิ นุ เม ปุตฺตสฺส เภสชฺชํ ¶ ชานาถา’’ติ ปุจฺฉนฺตี ฆรปฏิปาฏิยา วิจรติ. อถ นํ มนุสฺสา, ‘‘อมฺม, ตฺวํ อุมฺมตฺติกา ชาตา, มตกปุตฺตสฺส เภสชฺชํ ปุจฺฉนฺตี วิจรสี’’ติ วทนฺติ. สา ‘‘อวสฺสํ มม ปุตฺตสฺส เภสชฺชํ ชานนกํ ลภิสฺสามี’’ติ มฺมานา วิจรติ. อถ นํ เอโก ปณฺฑิตปุริโส ทิสฺวา, ‘‘อยํ มม ธีตา ปมํ ปุตฺตกํ วิชาตา ภวิสฺสติ อทิฏฺปุพฺพมรณา, มยา อิมิสฺสา อวสฺสเยน ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห – ‘‘อมฺม, อหํ เภสชฺชํ น ชานามิ, เภสชฺชชานนกํ ปน ชานามี’’ติ. ‘‘โก ชานาติ, ตาตา’’ติ? ‘‘สตฺถา, อมฺม, ชานาติ, คจฺฉ, ตํ ปุจฺฉาหี’’ติ. สา ‘‘คมิสฺสามิ, ตาต, ปุจฺฉิสฺสามิ, ตาตา’’ติ วตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิตา ปุจฺฉิ – ‘‘ตุมฺเห กิร เม ปุตฺตสฺส เภสชฺชํ ชานาถ, ภนฺเต’’ติ? ‘‘อาม, ชานามี’’ติ. ‘‘กึ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘อจฺฉรคฺคหณมตฺเต สิทฺธตฺถเก ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘ลภิสฺสามิ, ภนฺเต’’. ‘‘กสฺส ปน เคเห ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘ยสฺส เคเห ปุตฺโต วา ธีตา วา น โกจิ มตปุพฺโพ’’ติ. สา ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ สตฺถารํ วนฺทิตฺวา มตปุตฺตกํ องฺเกนาทาย อนฺโตคามํ ปวิสิตฺวา ปมเคหสฺส ทฺวาเร ตฺวา ‘‘อตฺถิ นุ โข อิมสฺมึ เคเห สิทฺธตฺถโก, ปุตฺตสฺส กิร ¶ เม เภสชฺชํ เอต’’นฺติ วตฺวา ‘‘อตฺถี’’ติ วุตฺเต เตน หิ เทถาติ. เตหิ อาหริตฺวา สิทฺธตฺถเกสุ ทิยฺยมาเนสุ ‘‘อิมสฺมึ เคเห ปุตฺโต วา ธีตา วา มตปุพฺโพ โกจิ นตฺถิ, อมฺมา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘กึ วเทสิ, อมฺม? ชีวมานา หิ กติปยา, มตกา เอว พหุกา’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ คณฺหถ โว สิทฺธตฺถเก, เนตํ มม ปุตฺตสฺส เภสชฺช’’นฺติ ปฏิอทาสิ.
สา อิมินา นียาเมน อาทิโต ปฏฺาย นํ ปุจฺฉนฺตี วิจริ. สา เอกเคเหปิ สิทฺธตฺถเก อคเหตฺวา สายนฺหสมเย จินฺเตสิ – ‘‘อโห ภาริยํ ¶ กมฺมํ, อหํ ‘มเมว ปุตฺโต มโต’ติ สฺมกาสึ, สกลคาเมปิ ปน ชีวนฺเตหิ มตกาว พหุตรา’’ติ. ตสฺสา เอวํ จินฺตยมานาย ปุตฺตสิเนหํ มุทุกหทยํ ถทฺธภาวํ อคมาสิ. สา ปุตฺตํ อรฺเ ฉฑฺเฑตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ ¶ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. อถ นํ สตฺถา ‘‘ลทฺธา เต เอกจฺฉรมตฺตา สิทฺธตฺถกา’’ติ อาห. ‘‘น ลทฺธา, ภนฺเต, สกลคาเม ชีวนฺเตหิ มตกาว พหุตรา’’ติ. อถ นํ สตฺถา ‘‘ตฺวํ ‘มเมว ปุตฺโต มโต’ติ สลฺลกฺเขสิ, ธุวธมฺโม เอส สตฺตานํ. มจฺจุราชา หิ สพฺพสตฺเต อปริปุณฺณชฺฌาสเย เอว มโหโฆ วิย ¶ ปริกฑฺฒมาโนเยว อปายสมุทฺเท ปกฺขิปตี’’ติ วตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘ตํ ปุตฺตปสุสมฺมตฺตํ, พฺยาสตฺตมนสํ นรํ;
สุตฺตํ คามํ มโหโฆว, มจฺจุ อาทาย คจฺฉตี’’ติ. (ธ. ป. ๒๘๗);
คาถาปริโยสาเน กิสาโคตมี โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ, อฺเปิ พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.
สา ปน สตฺถารํ ปพฺพชฺชํ ยาจิ, สตฺถา ตํ ภิกฺขุนีนํ สนฺติกํ เปเสตฺวา ปพฺพาเชสิ. สา ลทฺธูปสมฺปทา กิสาโคตมี เถรีติ ปฺายิ. สา เอกทิวสํ อุโปสถาคาเร วารํ ปตฺวา ทีปํ ชาเลตฺวา นิสินฺนา ทีปชาลา อุปฺปชฺชนฺติโย จ ภิชฺชนฺติโย จ ทิสฺวา ‘‘เอวเมว อิเม สตฺตา อุปฺปชฺชนฺติ เจว นิรุชฺฌนฺติ จ, นิพฺพานปฺปตฺตา เอว น ปฺายนฺตี’’ติ อารมฺมณํ อคฺคเหสิ. สตฺถา คนฺธกุฏิยํ นิสินฺโนว โอภาสํ ผริตฺวา ตสฺสา สมฺมุเข นิสีทิตฺวา กเถนฺโต วิย ‘‘เอวเมว, โคตมิ, อิเม สตฺตา ทีปชาลา วิย อุปฺปชฺชนฺติ เจว นิรุชฺฌนฺติ จ, นิพฺพานปฺปตฺตา เอว น ปฺายนฺติ, เอวํ นิพฺพานํ อปสฺสนฺตานํ วสฺสสตํ ชีวนโต นิพฺพานํ ปสฺสนฺตสฺส ขณมตฺตมฺปิ ชีวิตํ เสยฺโย’’ติ วตฺวา อนุสนฺธึ ฆเฏตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘โย จ วสฺสสตํ ชีเว, อปสฺสํ อมตํ ปทํ;
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย, ปสฺสโต อมตํ ปท’’นฺติ.
ตตฺถ อมตํ ปทนฺติ มรณวิรหิตโกฏฺาสํ, อมตมหานิพฺพานนฺติ อตฺโถ. เสสํ ปุริมสทิสเมว.
เทสนาวสาเน ¶ กิสาโคตมี ยถานิสินฺนาว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺเต ปติฏฺหีติ.
กิสาโคตมีวตฺถุ เตรสมํ.
๑๔. พหุปุตฺติกตฺเถรีวตฺถุ
โย ¶ ¶ จ วสฺสสตํ ชีเวติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต พหุปุตฺติกํ เถรึ อารพฺภ กเถสิ.
สาวตฺถิยํ กิเรกสฺมึ กุเล สตฺต ปุตฺตา สตฺต จ ธีตโร อเหสุํ. เต สพฺเพปิ วยปฺปตฺตา เคเห ปติฏฺหิตฺวา อตฺตโน ธมฺมตาย สุขปฺปตฺตา อเหสุํ. เตสํ อปเรน สมเยน ปิตา กาลมกาสิ. มหาอุปาสิกา สามิเก นฏฺเปิ น ตาว กุฏุมฺพํ วิภชติ. อถ นํ ปุตฺตา อาหํสุ – ‘‘อมฺม, อมฺหากํ ปิตริ นฏฺเ ตุยฺหํ โก อตฺโถ กุฏุมฺเพน, กึ มยํ ตํ อุปฏฺาตุํ น สกฺโกมา’’ติ. สา เตสํ กถํ สุตฺวา ตุณฺหี หุตฺวา ปุนปฺปุนํ เตหิ วุจฺจมานา ‘‘ปุตฺตา มํ ปฏิชคฺคิสฺสนฺติ, กึ เม วิสุํ กุฏุมฺเพนา’’ติ สพฺพํ สาปเตยฺยํ มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา อทาสิ. อถ นํ กติปาหจฺจเยน เชฏฺปุตฺตสฺส ภริยา ‘‘อโห อมฺหากํ, อยฺยา, ‘เชฏฺปุตฺโต เม’ติ ทฺเว โกฏฺาเส ทตฺวา วิย อิมเมว เคหํ อาคจฺฉตี’’ติ อาห. เสสปุตฺตานํ ภริยาปิ เอวเมว วทึสุ. เชฏฺธีตรํ อาทึ กตฺวา ตาสํ เคหํ คตกาเลปิ นํ เอวเมว วทึสุ. สา อวมานปฺปตฺตา หุตฺวา ‘‘กึ อิเมสํ สนฺติเก วุฏฺเน, ภิกฺขุนี หุตฺวา ชีวิสฺสามี’’ติ ภิกฺขุนีอุปสฺสยํ คนฺตฺวา ¶ ปพฺพชฺชํ ยาจิ. ตา นํ ปพฺพาเชสุํ. สา ลทฺธูปสมฺปทา หุตฺวา พหุปุตฺติกตฺเถรีติ ปฺายิ. สา ‘‘อหํ มหลฺลกกาเล ปพฺพชิตา, อปฺปมตฺตาย เม ภวิตพฺพ’’นฺติ ภิกฺขุนีนํ วตฺตปฏิวตฺตํ กโรนฺตี ‘‘สพฺพรตฺตึ สมณธมฺมํ กริสฺสามี’’ติ เหฏฺาปาสาเท เอกํ ถมฺภํ หตฺเถน คเหตฺวา ตํ อาวิฺฉมานาว สมณธมฺมํ กโรติ, จงฺกมมานาปิ ‘‘อนฺธการฏฺาเน เม รุกฺเข วา กตฺถจิ วา สีสํ ปฏิหฺเยฺยา’’ติ ตํ รุกฺขํ หตฺเถน คเหตฺวา ตํ อาวิฺฉมานาว สมณธมฺมํ กโรติ, ‘‘สตฺถารา เทสิตธมฺมเมว กริสฺสามี’’ติ ธมฺมํ อาวชฺเชตฺวา ธมฺมํ อนุสฺสรมานาว สมณธมฺมํ กโรติ. อถ ¶ สตฺถา คนฺธกุฏิยํ นิสินฺโนว โอภาสํ ผริตฺวา สมฺมุเข นิสินฺโน วิย ตาย สทฺธึ กเถนฺโต ‘‘พหุปุตฺติเก มยา เทสิตํ ธมฺมํ อนาวชฺเชนฺตสฺส อปสฺสนฺตสฺส วสฺสสตํ ชีวนโต มยา เทสิตํ ธมฺมํ ปสฺสนฺตสฺส มุหุตฺตมฺปิ ชีวิตํ เสยฺโย’’ติ วตฺวา อนุสนฺธึ ฆเฏตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘โย จ วสฺสสตํ ชีเว, อปสฺสํ ธมฺมมุตฺตมํ;
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย, ปสฺสโต ธมฺมมุตฺตม’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ ¶ ธมฺมมุตฺตมนฺติ นววิธํ โลกุตฺตรธมฺมํ. โส หิ อุตฺตโม ธมฺโม นาม. โย หิ ตํ น ปสฺสติ, ตสฺส วสฺสสตมฺปิ ชีวนโต ตํ ธมฺมํ ปสฺสนฺตสฺส ปฏิวิชฺฌนฺตสฺส เอกาหมฺปิ เอกกฺขณมฺปิ ชีวิตํ เสยฺโยติ.
คาถาปริโยสาเน พหุปุตฺติกตฺเถรี สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺเต ปติฏฺหีติ.
พหุปุตฺติกตฺเถรีวตฺถุ จุทฺทสมํ.
สหสฺสวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
อฏฺโม วคฺโค.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ขุทฺทกนิกาเย
ธมฺมปท-อฏฺกถา
(ทุติโย ภาโค)