📜
๑๙. ธมฺมฏฺวคฺโค
น ¶ เตน โหติ ธมฺมฏฺโ, เยนตฺถํ สาหสา [สหสา (สี. สฺยา. ก.)] นเย;
โย จ อตฺถํ อนตฺถฺจ, อุโภ นิจฺเฉยฺย ปณฺฑิโต.
อสาหเสน ¶ ธมฺเมน, สเมน นยตี ปเร;
ธมฺมสฺส คุตฺโต เมธาวี, ‘‘ธมฺมฏฺโ’’ติ ปวุจฺจติ.
น เตน ปณฺฑิโต โหติ, ยาวตา พหุ ภาสติ;
เขมี อเวรี อภโย, ‘‘ปณฺฑิโต’’ติ ปวุจฺจติ.
น ตาวตา ธมฺมธโร, ยาวตา พหุ ภาสติ;
โย จ อปฺปมฺปิ สุตฺวาน, ธมฺมํ กาเยน ปสฺสติ;
ส เว ธมฺมธโร โหติ, โย ธมฺมํ นปฺปมชฺชติ.
น ¶ เตน เถโร โส โหติ [เถโร โหติ (สี. สฺยา.)], เยนสฺส ปลิตํ สิโร;
ปริปกฺโก ¶ วโย ตสฺส, ‘‘โมฆชิณฺโณ’’ติ วุจฺจติ.
ยมฺหิ สจฺจฺจ ธมฺโม จ, อหึสา สํยโม ทโม;
ส เว วนฺตมโล ธีโร, ‘‘เถโร’’ อิติ [โส เถโรติ (สฺยา. ก.)] ปวุจฺจติ.
น วากฺกรณมตฺเตน, วณฺณโปกฺขรตาย วา;
สาธุรูโป นโร โหติ, อิสฺสุกี มจฺฉรี สโ.
ยสฺส เจตํ สมุจฺฉินฺนํ, มูลฆจฺจํ สมูหตํ;
ส วนฺตโทโส เมธาวี, ‘‘สาธุรูโป’’ติ วุจฺจติ.
น มุณฺฑเกน สมโณ, อพฺพโต อลิกํ ภณํ;
อิจฺฉาโลภสมาปนฺโน, สมโณ กึ ภวิสฺสติ.
โย ¶ จ สเมติ ปาปานิ, อณุํ ถูลานิ สพฺพโส;
สมิตตฺตา หิ ปาปานํ, ‘‘สมโณ’’ติ ปวุจฺจติ.
น ¶ เตน ภิกฺขุ โส โหติ, ยาวตา ภิกฺขเต ปเร;
วิสฺสํ ธมฺมํ สมาทาย, ภิกฺขุ โหติ น ตาวตา.
โยธ ปฺฺุจ ปาปฺจ, พาเหตฺวา พฺรหฺมจริยวา [พฺรหฺมจริยํ (ก.)];
สงฺขาย โลเก จรติ, ส เว ‘‘ภิกฺขู’’ติ วุจฺจติ.
น โมเนน มุนี โหติ, มูฬฺหรูโป อวิทฺทสุ;
โย จ ตุลํว ปคฺคยฺห, วรมาทาย ปณฺฑิโต.
ปาปานิ ¶ ปริวชฺเชติ, ส มุนี เตน โส มุนิ;
โย มุนาติ อุโภ โลเก, ‘‘มุนิ’’ เตน ปวุจฺจติ.
น เตน อริโย โหติ, เยน ปาณานิ หึสติ;
อหึสา ¶ สพฺพปาณานํ, ‘‘อริโย’’ติ ปวุจฺจติ.
น สีลพฺพตมตฺเตน, พาหุสจฺเจน วา ปน;
อถ วา สมาธิลาเภน, วิวิตฺตสยเนน วา.
ผุสามิ เนกฺขมฺมสุขํ, อปุถุชฺชนเสวิตํ;
ภิกฺขุ วิสฺสาสมาปาทิ, อปฺปตฺโต อาสวกฺขยํ.
ธมฺมฏฺวคฺโค เอกูนวีสติโม นิฏฺิโต.