📜
๘. ปาฏลิคามิยวคฺโค
๑. ปมนิพฺพานปฏิสํยุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๗๑. ปาฏลิคามิยวคฺคสฺส ¶ ¶ ¶ ปเม นิพฺพานปฏิสํยุตฺตายาติ อมตธาตุสนฺนิสฺสิตาย อสงฺขตธาตุยา ปเวทนวเสน ปวตฺตาย. ธมฺมิยา กถายาติ ธมฺมเทสนาย. สนฺทสฺเสตีติ สภาวสรสลกฺขณโต นิพฺพานํ ทสฺเสติ. สมาทเปตีติ ตเมว อตฺถํ เต ภิกฺขู คณฺหาเปติ. สมุตฺเตเชตีติ ตทตฺถคหเณ อุสฺสาหํ ชเนนฺโต เตเชติ โชเตติ. สมฺปหํเสตีติ นิพฺพานคุเณหิ สมฺมเทว สพฺพปฺปกาเรหิ โตเสติ.
อถ วา สนฺทสฺเสตีติ ‘‘โส สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺคา ตณฺหกฺขโย วิราโค นิโรโธ’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๘๑; ๒.๓๓๗; มหาว. ๘) นเยเนว สพฺพถา เตน เตน ปริยาเยน เตสํ เตสํ อชฺฌาสยานุรูปํ สมฺมา ทสฺเสติ. สมาทเปตีติ ‘‘อิมินา อริยมคฺเคน ตํ อธิคนฺตพฺพ’’นฺติ อธิคมปฏิปทาย สทฺธึ ตตฺถ ภิกฺขู นินฺนโปณปพฺภาเร กโรนฺโต สมฺมา อาทเปติ คณฺหาเปติ. สมุตฺเตเชตีติ เอตํ ทุกฺกรํ ทุรภิสมฺภวนฺติ ‘‘มา สมฺมาปฏิปตฺติยํ ปมาทํ อนฺตราโวสานํ อาปชฺชถ, อุปนิสฺสยสมฺปนฺนสฺส วีริยวโต นยิทํ ทุกฺกรํ, ตสฺมา สีลวิสุทฺธิอาทิวิสุทฺธิปฏิปทาย อุฏฺหถ ฆฏยถ วายเมยฺยาถา’’ติ นิพฺพานาธิคมาย อุสฺสาเหติ, ตตฺถ วา จิตฺตํ โวทเปติ. สมฺปหํเสตีติ ‘‘มทนิมฺมทโน ปิปาสวินโย อาลยสมุคฺฆาโต’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐), ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติ (สํ. นิ. ๔.๓๖๗; อิติวุ. ๔๔), อสงฺขตนฺติ (สํ. นิ. ๔.๓๖๗), อมตฺจ สนฺตนฺติอาทินา จ อเนกปริยาเยน (สํ. นิ. ๔.๔๐๙) นิพฺพานานิสํสปฺปกาสเนน เตสํ ภิกฺขูนํ จิตฺตํ โตเสนฺโต หาเสนฺโต สมฺปหํเสติ สมสฺสาเสติ.
เตธาติ ¶ เต อิธ. อฏฺึ กตฺวาติ ‘‘อตฺถิ กิฺจิ อยํ โน อตฺโถ อธิคนฺตพฺโพ’’ติ เอวํ สลฺลกฺเขตฺวา ตาย เทสนาย อตฺถิกา หุตฺวา. มนสิ กตฺวาติ จิตฺเต เปตฺวา อนฺวิหิตา ตํ เทสนํ อตฺตโน จิตฺตคตเมว ¶ กตฺวา. สพฺพํ เจตโส สมนฺนาหริตฺวาติ สพฺเพน การกจิตฺเตน ¶ อาทิโต ปฏฺาย ยาว ปริโยสานา เทสนํ อาวชฺเชตฺวา, ตคฺคตเมว อาโภคํ กตฺวาติ อตฺโถ. อถ วา สพฺพํ เจตโส สมนฺนาหริตฺวาติ สพฺพสฺมา จิตฺตโต เทสนํ สมฺมา อนุ อนุ อาหริตฺวา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เทเสนฺตสฺส เยหิ จิตฺเตหิ เทสนา กตา, สพฺพสฺมา จิตฺตโต ปวตฺตํ เทสนํ พหิ คนฺตุํ อเทนฺโต สมฺมา อวิปรีตํ อนุ อนุ อาหริตฺวา อตฺตโน จิตฺตสนฺตานํ อาหริตฺวา ยถาเทสิตเทสิตํ เทสนํ สุฏฺุ อุปธาเรตฺวา. โอหิตโสตาติ อวหิตโสตา, สุฏฺุ อุปิตโสตา. โอหิตโสตาติ วา อวิกฺขิตฺตโสตา. ตเมว อุปลพฺภมาโนปิ หิ สวเน อวิกฺเขโป สติสํวโร วิย จกฺขุนฺทฺริยาทีสุ โสตินฺทฺริเยปิ วตฺตุมรหตีติ. เอตฺถ จ ‘‘อฏฺึ กตฺวา’’ติอาทีหิ จตูหิปิ ปเทหิ เตสํ ภิกฺขูนํ ตปฺปรภาวโต สวเน อาทรทีปเนน สกฺกจฺจสวนํ ทสฺเสติ.
เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ เอตํ เตสํ ภิกฺขูนํ ตสฺสา นิพฺพานปฏิสํยุตฺตาย ธมฺมกถาย สวเน อาทรการิตํ สพฺพาการโต วิทิตฺวา. อิมํ อุทานนฺติ อิมํ นิพฺพานสฺส ตพฺพิธุรธมฺมเทสนามุเขน ปรมตฺถโต วิชฺชมานภาววิภาวนํ อุทานํ อุทาเนสิ.
ตตฺถ อตฺถีติ วิชฺชติ, ปรมตฺถโต อุปลพฺภตีติ อตฺโถ. ภิกฺขเวติ เตสํ ภิกฺขูนํ อาลปนํ. นนุ จ อุทานํ นาม ปีติโสมนสฺสสมุฏฺาปิโต วา ธมฺมสํเวคสมุฏฺาปิโต วา ธมฺมปฏิคฺคาหกนิรเปกฺโข อุทาหาโร, ตถา เจว เอตฺตเกสุ สุตฺเตสุ อาคตํ, อิธ กสฺมา ภควา อุทาเนนฺโต เต ภิกฺขู อามนฺเตสีติ? เตสํ ภิกฺขูนํ สฺาปนตฺถํ. นิพฺพานปฏิสํยุตฺตฺหิ ภควา เตสํ ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสตฺวา นิพฺพานคุณานุสฺสรเณน อุปฺปนฺนปีติโสมนสฺสา อุทานํ อุทาเนสิ. อิธ ¶ นิพฺพานวชฺโช สพฺโพ สภาวธมฺโม ปจฺจยายตฺตวุตฺติโกว อุปลพฺภติ, น ปจฺจยนิรเปกฺโข. อยํ ปน นิพฺพานธมฺโม กตมปจฺจเย อุปลพฺภตีติ เตสํ ภิกฺขูนํ เจโตปริวิตกฺกมฺาย เต จ สฺาเปตุกาโม ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, ตทายตน’’นฺติอาทิมาห, น เอกนฺตโตว เต ปฏิคฺคาหเก กตฺวาติ เวทิตพฺพํ. ตทายตนนฺติ ตํ การณํ. ทกาโร ปทสนฺธิกโร. นิพฺพานฺหิ ¶ มคฺคผลาณาทีนํ อารมฺมณปจฺจยภาวโต รูปาทีนิ วิย จกฺขุวิฺาณาทีนํ อารมฺมณปจฺจยภูตานีติ การณฏฺเน ‘‘อายตน’’นฺติ วุจฺจติ. เอตฺตาวตา จ ภควา เตสํ ภิกฺขูนํ อสงฺขตาย ธาตุยา ปรมตฺถโต อตฺถิภาวํ ปเวเทสิ.
ตตฺรายํ ธมฺมนฺวโย – อิธ สงฺขตธมฺมานํ วิชฺชมานตฺตา อสงฺขตายปิ ธาตุยา ภวิตพฺพํ ตปฺปฏิปกฺขตฺตา สภาวธมฺมานํ. ยถา หิ ทุกฺเข วิชฺชมาเน ตปฺปฏิปกฺขภูตํ สุขมฺปิ วิชฺชติเยว ¶ , ตถา อุณฺเห วิชฺชมาเน สีตมฺปิ วิชฺชติ, ปาปธมฺเมสุ วิชฺชมาเนสุ กลฺยาณธมฺมาปิ วิชฺชนฺติ เอว. วุตฺตฺเจตํ –
‘‘ยถาปิ ทุกฺเข วิชฺชนฺเต, สุขํ นามปิ วิชฺชติ;
เอวํ ภเว วิชฺชมาเน, วิภโวปิ อิจฺฉิตพฺพโก.
‘‘ยถาปิ อุณฺเห วิชฺชนฺเต, อปรํ วิชฺชติ สีตลํ;
เอวํ ติวิธคฺคิ วิชฺชนฺเต, นิพฺพานํ อิจฺฉิตพฺพกํ.
‘‘ยถาปิ ปาเป วิชฺชนฺเต, กลฺยาณมปิ วิชฺชติ;
เอวเมว ชาติ วิชฺชนฺเต, อชาติมปิ อิจฺฉิตพฺพก’’นฺติอาทิ. (พุ. วํ. ๒.๑๐-๑๒) –
อปิจ นิพฺพานสฺส ปรมตฺถโต อตฺถิภาววิจารณํ ปรโต อาวิภวิสฺสติ.
เอวํ ภควา อสงฺขตาย ธาตุยา ปรมตฺถโต อตฺถิภาวํ สมฺมุเขน ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตพฺพิธุรธมฺมาโปหนมุเขนสฺส สภาวํ ทสฺเสตุํ, ‘‘ยตฺถ เนว ปถวี น อาโป’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา นิพฺพานํ สพฺพสงฺขารวิธุรสภาวํ ยถา สงฺขตธมฺเมสุ กตฺถจิ นตฺถิ, ตถา ตตฺถปิ สพฺเพ สงฺขตธมฺมา. น หิ สงฺขตาสงฺขตธมฺมานํ สโมธานํ สมฺภวติ. ตตฺรายํ อตฺถวิภาวนา ¶ – ยตฺถ ยสฺมึ นิพฺพาเน ยสฺสํ อสงฺขตธาตุยํ เนว กกฺขฬลกฺขณา ปถวีธาตุ อตฺถิ, น ปคฺฆรณลกฺขณา อาโปธาตุ, น อุณฺหลกฺขณา เตโชธาตุ, น วิตฺถมฺภนลกฺขณา วาโยธาตุ อตฺถิ. อิติ จตุมหาภูตาภาววจเนน ยถา สพฺพสฺสปิ อุปาทารูปสฺส อภาโว วุตฺโต โหติ ตนฺนิสฺสิตตฺตา. เอวํ อนวเสสโต กามรูปภวสฺส ¶ ตตฺถ อภาโว วุตฺโต โหติ ตทายตฺตวุตฺติภาวโต. น หิ มหาภูตนิสฺสเยน วินา ปฺจโวการภโว เอกโวการภโว วา สมฺภวตีติ.
อิทานิ อรูปสภาวตฺเตปิ นิพฺพานสฺส อรูปภวปริยาปนฺนานํ ธมฺมานํ ตตฺถ อภาวํ ทสฺเสตุํ, ‘‘น อากาสานฺจายตนํ…เป… น เนวสฺานาสฺายตน’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ น อากาสานฺจายตนนฺติ สทฺธึ อารมฺมเณน กุสลวิปากกิริยเภโท ติวิโธปิ อากาสานฺจายตนจิตฺตุปฺปาโท นตฺถีติ อตฺโถ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ยทคฺเคน จ นิพฺพาเน กามโลกาทีนํ ¶ อภาโว โหติ, ตทคฺเคน ตตฺถ อิธโลกปรโลกานมฺปิ อภาโวติ อาห – ‘‘นายํ โลโก น ปรโลโก’’ติ. ตสฺสตฺโถ – ยฺวายํ ‘‘อิตฺถตฺตํ ทิฏฺธมฺโม อิธโลโก’’ติ จ ลทฺธโวหาโร ขนฺธาทิโลโก, โย จ ‘‘ตโต อฺถา ปโร อภิสมฺปราโย’’ติ จ ลทฺธโวหาโร ขนฺธาทิโลโก, ตทุภยมฺปิ ตตฺถ นตฺถีติ. น อุโภ จนฺทิมสูริยาติ ยสฺมา รูปคเต สติ ตโม นาม สิยา, ตมสฺส จ วิธมนตฺถํ จนฺทิมสูริเยหิ วตฺติตพฺพํ. สพฺเพน สพฺพํ ปน ยตฺถ รูปคตเมว นตฺถิ, กุโต ตตฺถ ตโม. ตมสฺส วา วิธมนา จนฺทิมสูริยา, ตสฺมา จนฺทิมา สูริโย จาติ อุโภปิ ตตฺถ นิพฺพาเน นตฺถีติ อตฺโถ. อิมินา อาโลกสภาวตํเยว นิพฺพานสฺส ทสฺเสติ.
เอตฺตาวตา จ อนภิสเมตาวีนํ ภิกฺขูนํ อนาทิมติสํสาเร สุปินนฺเตปิ อนนุภูตปุพฺพํ ปรมคมฺภีรํ อติทุทฺทสํ สณฺหสุขุมํ อตกฺกาวจรํ อจฺจนฺตสนฺตํ ปณฺฑิตเวทนียํ อติปณีตํ อมตํ นิพฺพานํ วิภาเวนฺโต ปมํ ตาว ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, ตทายตน’’นฺติ ตสฺส อตฺถิภาวา เตสํ อฺาณาทีนิ อปเนตฺวา ‘‘ยตฺถ เนว ปถวี ¶ …เป… น อุโภ จนฺทิมสูริยา’’ติ ตทฺธมฺมาโปหนมุเขน ตํ วิภาเวติ ธมฺมราชา. เตน ปถวีอาทิสพฺพสงฺขตธมฺมวิธุรสภาวา ยา อสงฺขตา ธาตุ, ตํ นิพฺพานนฺติ ทีปิตํ โหติ. เตเนวาห, ‘‘ตตฺราปาหํ, ภิกฺขเว, เนว อาคตึ วทามี’’ติ.
ตตฺถ ตตฺราติ ตสฺมึ. อปิสทฺโท สมุจฺจเย. อหํ, ภิกฺขเว, ยตฺถ สงฺขารปวตฺเต กุโตจิ กสฺสจิ อาคตึ น วทามิ ยถาปจฺจยํ ตตฺถ ธมฺมมตฺตสฺส ¶ อุปฺปชฺชนโต. เอวํ ตสฺมิมฺปิ อายตเน นิพฺพาเน กุโตจิ อาคตึ อาคมนํ เนว วทามิ อาคนฺตพฺพฏฺานตาย อภาวโต. น คตินฺติ กตฺถจิ คมนํ น วทามิ คนฺตพฺพฏฺานตาย อภาวโต. น หิ ตตฺถ สตฺตานํ เปตฺวา าเณน อารมฺมณกรณํ อาคติคติโย สมฺภวนฺติ, นาปิ ิติจุตูปปตฺติโย วทามิ. ‘‘ตทาปห’’นฺติปิ ปาฬิ. ตสฺสตฺโถ – ตมฺปิ อายตนํ คามนฺตรโต คามนฺตรํ วิย น อาคนฺตพฺพตาย น อาคติ, น คนฺตพฺพตาย น คติ, ปถวีปพฺพตาทิ วิย อปติฏฺานตาย น ิติ, อปจฺจยตฺตา วา อุปฺปาทาภาโว, ตโต อมตสภาวตฺตา จวนาภาโว, อุปฺปาทนิโรธาภาวโต เจว ตทุภยปริจฺฉินฺนาย ิติยา จ อภาวโต น ิตึ น จุตึ น อุปปตฺตึ วทามิ. เกวลํ ปน ตํ อรูปสภาวตฺตา อปจฺจยตฺตา จ น กตฺถจิ ปติฏฺิตนฺติ อปฺปติฏฺํ. ตตฺถ ปวตฺตาภาวโต ปวตฺตปฺปฏิปกฺขโต จ อปฺปวตฺตํ. อรูปสภาวตฺเตปิ เวทนาทโย วิย กสฺสจิปิ อารมฺมณสฺส อนาลมฺพนโต อุปตฺถมฺภนิรเปกฺขโต จ อนารมฺมณเมว ตํ ‘‘อายตน’’นฺติ วุตฺตํ นิพฺพานํ. อยฺจ เอวสทฺโท อปฺปติฏฺเมว อปฺปวตฺตเมวาติ ปททฺวเยนปิ โยเชตพฺโพ ¶ . เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสาติ ยทิทํ ‘‘อปฺปติฏฺ’’นฺติอาทีหิ วจเนหิ วณฺณิตํ โถมิตํ ยถาวุตฺตลกฺขณํ นิพฺพานํ, เอโส เอว สกลสฺส วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺโต ปริโยสานํ ตทธิคเม สติ สพฺพทุกฺขาภาวโต. ตสฺมา ‘‘ทุกฺขสฺส อนฺโต’’ติ อยเมว ตสฺส สภาโวติ ทสฺเสติ.
ปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุติยนิพฺพานปฏิสํยุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๗๒. ทุติเย ¶ อิมํ อุทานนฺติ อิมํ นิพฺพานสฺส ปกติยา คมฺภีรภาวโต ทุทฺทสภาวทีปนํ อุทานํ อุทาเนสิ. ตตฺถ ทุทฺทสนฺติ สภาวคมฺภีรตฺตา อติสุขุมสณฺหสภาวตฺตา จ อนุปจิตาณสมฺภาเรหิ ปสฺสิตุํ น สกฺกาติ ทุทฺทสํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ตฺหิ เต, มาคณฺฑิย, อริยํ ปฺาจกฺขุ นตฺถิ, เยน ตฺวํ อาโรคฺยํ ชาเนยฺยาสิ, นิพฺพานมฺปิ ปสฺเสยฺยาสี’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๑๘). อปรมฺปิ วุตฺตํ – ‘‘อิทมฺปิ โข านํ ทุทฺทสํ, ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ’’ติอาทิ (มหาว. ๘; ม. นิ. ๑.๒๘๑; ๒.๓๓๗). อนตนฺติ ¶ รูปาทิอารมฺมเณสุ, กามาทีสุ จ ภเวสุ นมนโต ตนฺนินฺนภาเวน ปวตฺติโต สตฺตานฺจ ตตฺถ นมนโต ตณฺหา นตา นาม, นตฺถิ เอตฺถ นตาติ อนตํ, นิพฺพานนฺติ อตฺโถ. ‘‘อนนฺต’’นฺติปิ ปนฺติ, นิจฺจสภาวตฺตา อนฺตวิรหิตํ, อจวนธมฺมํ นิโรธํ อมตนฺติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘อนนฺต’’นฺติ ปทสฺส ‘‘อปฺปมาณ’’นฺติ อตฺถํ วทนฺติ. เอตฺถ จ ‘‘ทุทฺทส’’นฺติ อิมินา ปฺาย ทุพฺพลีกรเณหิ ราคาทิกิเลเสหิ จิรกาลภาวิตตฺตา สตฺตานํ อปจฺจยภาวนา น สุกราติ นิพฺพานสฺส กิจฺเฉน อธิคมนียตํ ทสฺเสติ. น หิ สจฺจํ สุทสฺสนนฺติ อิมินาปิ ตเมวตฺถํ ปากฏํ กโรติ. ตตฺถ สจฺจนฺติ นิพฺพานํ. ตฺหิ เกนจิ ปริยาเยน อสนฺตสภาวาภาวโต เอกนฺเตเนว สนฺตตฺตา อวิปรีตฏฺเน สจฺจํ. น หิ ตํ สุทสฺสนํ น สุเขน ปสฺสิตพฺพํ, สุจิรมฺปิ กาลํ ปฺุาณสมฺภาเร สมาเนนฺเตหิปิ กสิเรเนว สมธิคนฺตพฺพโต. ตถา หิ วุตฺตํ ภควตา – ‘‘กิจฺเฉน เม อธิคต’’นฺติ (มหาว. ๘; ม. นิ. ๑.๒๘๑; ๒.๓๓๗).
ปฏิวิทฺธา ตณฺหา ชานโต ปสฺสโต นตฺถิ กิฺจนนฺติ ตฺจ นิโรธสจฺจํ สจฺฉิกิริยาภิสมยวเสน อภิสเมนฺเตน วิสยโต กิจฺจโต จ อารมฺมณโต จ อารมฺมณปฺปฏิเวเธน อสมฺโมหปฺปฏิเวเธน จ ปฏิวิทฺธํ, ยถาปริฺาภิสมยวเสน ทุกฺขสจฺจํ, ภาวนาภิสมยวเสน ¶ มคฺคสจฺจฺจ ¶ อสมฺโมหโต ปฏิวิทฺธํ โหติ, เอวํ ปหานาภิสมยวเสน อสมฺโมหโต จ ปฏิวิทฺธา ตณฺหา โหติ. เอวฺจ จตฺตาริ สจฺจานิ ยถาภูตํ อริยมคฺคปฺาย ชานโต ปสฺสโต ภวาทีสุ นตภูตา ตณฺหา นตฺถิ, ตทภาเว สพฺพสฺสปิ กิเลสวฏฺฏสฺส อภาโว, ตโตว กมฺมวิปากวฏฺฏานํ อสมฺภโวเยวาติ เอวํ ภควา เตสํ ภิกฺขูนํ อนวเสสวฏฺฏทุกฺขวูปสมเหตุภูตํ อมตมหานิพฺพานสฺส อานุภาวํ ปกาเสสิ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
ทุติยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ตติยนิพฺพานปฏิสํยุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๗๓. ตติเย อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ ตทา กิร ภควตา อเนกปริยาเยน สํสารสฺส อาทีนวํ ปกาเสตฺวา สนฺทสฺสนาทิวเสน ¶ นิพฺพานปฏิสํยุตฺตาย ธมฺมเทสนาย กตาย เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ สํสาโร ภควตา อวิชฺชาทีหิ การเณหิ สเหตุโก ปกาสิโต, นิพฺพานสฺส ปน ตทุปสมสฺส น กิฺจิ การณํ วุตฺตํ, ตยิทํ อเหตุกํ, กถํ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถน อุปลพฺภตี’’ติ. อถ ภควา เตสํ ภิกฺขูนํ เอตํ ยถาวุตฺตํ ปริวิตกฺกสงฺขาตํ อตฺถํ วิทิตฺวา. อิมํ อุทานนฺติ เตสํ ภิกฺขูนํ วิมติวิธมนตฺถฺเจว อิธ สมณพฺราหฺมณานํ ‘‘นิพฺพานํ นิพฺพานนฺติ วาจาวตฺถุมตฺตเมว, นตฺถิ หิ ปรมตฺถโต นิพฺพานํ นาม อนุปลพฺภมานสภาวตฺตา’’ติ โลกายติกาทโย วิย วิปฺปฏิปนฺนานํ พหิทฺธา จ ปุถุทิฏฺิคติกานํ มิจฺฉาวาทภฺชนตฺถฺจ อิมํ อมตมหานิพฺพานสฺส ปรมตฺถโต อตฺถิภาวทีปนํ อุทานํ อุทาเนสิ.
ตตฺถ อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขตนฺติ สพฺพานิปิ ปทานิ ¶ อฺมฺเววจนานิ. อถ วา เวทนาทโย วิย เหตุปจฺจยสมวายสงฺขาตาย การณสามคฺคิยา น ชาตํ น นิพฺพตฺตนฺติ อชาตํ, การเณน วินา, สยเมว วา น ภูตํ น ปาตุภูตํ น อุปฺปนฺนนฺติ อภูตํ, เอวํ อชาตตฺตา อภูตตฺตา จ เยน เกนจิ การเณน น กตนฺติ อกตํ, ชาตภูตกตสภาโว จ นามรูปานํ สงฺขตธมฺมานํ โหติ, น อสงฺขตสภาวสฺส นิพฺพานสฺสาติ ทสฺสนตฺถํ อสงฺขตนฺติ วุตฺตํ. ปฏิโลมโต วา สเมจฺจ สมฺภูย ปจฺจเยหิ กตนฺติ สงฺขตํ, ตถา น สงฺขตํ สงฺขตลกฺขณรหิตนฺติ อสงฺขตนฺติ. เอวํ อเนเกหิ การเณหิ นิพฺพตฺติตภาเว ปฏิสิทฺเธ ‘‘สิยา ¶ นุ โข เอเกเนว การเณน กต’’นฺติ อาสงฺกาย ‘‘น เยน เกนจิ กต’’นฺติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อกต’’นฺติ วุตฺตํ. เอวํ อปจฺจยมฺปิ สมานํ ‘‘สยเมว นุ โข อิทํ ภูตํ ปาตุภูต’’นฺติ อาสงฺกาย ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘อภูต’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อยฺเจตสฺส อสงฺขตากตาภูตภาโว สพฺเพน สพฺพํ อชาติธมฺมตฺตา’’ติ ทสฺเสตุํ ‘‘อชาต’’นฺติ วุตฺตํ. เอวเมเตสํ จตุนฺนมฺปิ ปทานํ สาตฺถกภาวํ วิทิตฺวา ‘‘ตยิทํ นิพฺพานํ อตฺถิ, ภิกฺขเว’’ติ ปรมตฺถโต นิพฺพานสฺส อตฺถิภาโว ปกาสิโตติ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ อุทาเนนฺเตน ภควตา, ‘‘ภิกฺขเว’’ติ อาลปเน การณํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อิติ สตฺถา ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขต’’นฺติ วตฺวา ตตฺถ เหตุํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โน เจตํ, ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. ตสฺสายํ ¶ สงฺเขปตฺโถ – ภิกฺขเว, ยทิ อชาตาทิสภาวา อสงฺขตา ธาตุ น อภวิสฺส น สิยา, อิธ โลเก ชาตาทิสภาวสฺส รูปาทิกฺขนฺธปฺจกสงฺขาตสฺส สงฺขตสฺส นิสฺสรณํ อนวเสสวูปสโม น ปฺาเยยฺย น อุปลพฺเภยฺย น สมฺภเวยฺย. นิพฺพานฺหิ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตมานา สมฺมาทิฏฺิอาทโย อริยมคฺคธมฺมา อนวเสสกิเลเส สมุจฺฉินฺทนฺติ. เตเนตฺถ สพฺพสฺสปิ วฏฺฏทุกฺขสฺส อปฺปวตฺติ อปคโม นิสฺสรณํ ปฺายติ.
เอวํ พฺยติเรกวเสน นิพฺพานสฺส อตฺถิภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนฺวยวเสนปิ ตํ ทสฺเสตุํ, ‘‘ยสฺมา จ โข’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตํ วุตฺตตฺถเมว. เอตฺถ ¶ จ ยสฺมา ‘‘อปจฺจยา ธมฺมา, อสงฺขตา ธมฺมา (ธ. ส. ทุกมาติกา ๗, ๘), อตฺถิ, ภิกฺขเว, ตทายตนํ, ยตฺถ เนว ปถวี (อุทา. ๗๑), อิทมฺปิ โข านํ ทุทฺทสํ, ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค (มหาว. ๘; ม. นิ. ๑.๒๘๑; ๒.๓๓๗), อสงฺขตฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ อสงฺขตคามินิฺจ ปฏิปท’’นฺติอาทีหิ (สํ. นิ. ๔.๓๖๖-๓๖๗) อเนเกหิ สุตฺตปเทหิ, ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อชาต’’นฺติ อิมินาปิ จ สุตฺเตน นิพฺพานธาตุยา ปรมตฺถโต สมฺภโว สพฺพโลกํ อนุกมฺปมาเนน สมฺมาสมฺพุทฺเธน เทสิโต, ตสฺมา ยทิปิ ตตฺถ อปจฺจกฺขการีนมฺปิ วิฺูนํ กงฺขา วา วิมติ วา นตฺถิเยว. เย ปน ปรเนยฺยพุทฺธิโน ปุคฺคลา, เตสํ วิมติวิโนทนตฺถํ อยเมตฺถ อธิปฺปายนิทฺธารณมุเขน ยุตฺติวิจารณา – ยถา ปริฺเยฺยตาย สอุตฺตรานํ กามานํ รูปาทีนฺจ ปฏิปกฺขภูตํ ตพฺพิธุรสภาวํ นิสฺสรณํ ปฺายติ, เอวํ ตํสภาวานํ สพฺเพสมฺปิ สงฺขตธมฺมานํ ปฏิปกฺขภูเตน ตพฺพิธุรสภาเวน นิสฺสรเณน ภวิตพฺพํ. ยฺเจตํ นิสฺสรณํ, สา อสงฺขตา ธาตุ. กิฺจ ภิยฺโย สงฺขตธมฺมารมฺมณํ วิปสฺสนาาณํ อปิ อนุโลมาณํ กิเลเส สมุจฺเฉทวเสน ปชหิตุํ น ¶ สกฺโกติ. ตถา สมฺมุติสจฺจารมฺมณํ ปมชฺฌานาทีสุ าณํ วิกฺขมฺภนวเสเนว กิเลเส ปชหติ, น สมุจฺเฉทวเสน. อิติ สงฺขตธมฺมารมฺมณสฺส สมฺมุติสจฺจารมฺมณสฺส จ าณสฺส กิเลสานํ สมุจฺเฉทปฺปหาเน อสมตฺถภาวโต เตสํ สมุจฺเฉทปฺปหานกรสฺส อริยมคฺคาณสฺส ตทุภยวิปรีตสภาเวน อารมฺมเณน ภวิตพฺพํ ¶ , สา อสงฺขตา ธาตุ. ตถา ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขต’’นฺติ อิทํ นิพฺพานปทสฺส ปรมตฺถโต อตฺถิภาวโชตกํ วจนํ อวิปรีตตฺถํ ภควตา ภาสิตตฺตา. ยฺหิ ภควตา ภาสิตํ, ตํ อวิปรีตตฺถํ ปรมตฺถํ ยถา ตํ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา, สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา, สพฺเพ ธมฺมา ¶ อนตฺตา’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๓๗; มหานิ. ๒๗), ตถา นิพฺพานสทฺโท กตฺถจิ วิสเย ยถาภูตปรมตฺถวิสโย อุปจารมตฺตวุตฺติสพฺภาวโต เสยฺยถาปิ สีหสทฺโท. อถ วา อตฺเถว ปรมตฺถโต อสงฺขตา ธาตุ, อิตรตพฺพิปรีตวินิมุตฺตสภาวตฺตา เสยฺยถาปิ ปถวีธาตุ เวทนาติ. เอวมาทีหิ นเยหิ ยุตฺติโตปิ อสงฺขตาย ธาตุยา ปรมตฺถโต อตฺถิภาโว เวทิตพฺโพ.
ตติยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. จตุตฺถนิพฺพานปฏิสํยุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๗๔. จตุตฺเถ อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ ตทา กิร ภควตา อเนกปริยาเยน สนฺทสฺสนาทิวเสน นิพฺพานปฏิสํยุตฺตาย ธมฺมเทสนาย กตาย เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ ตาว ภควตา อมตมหานิพฺพานธาตุยา อเนกาการโวการํ อานิสํสํ ทสฺเสนฺเตน อนฺสาธารโณ อานุภาโว ปกาสิโต, อธิคมูปาโย ปนสฺสา น ภาสิโต, กถํ นุ โข ปฏิปชฺชนฺเตหิ อมฺเหหิ อยํ อธิคนฺตพฺพา’’ติ. อถ ภควา เตสํ ภิกฺขูนํ เอตํ ยถาวุตฺตปริวิตกฺกสงฺขาตํ อตฺถํ สพฺพาการโต วิทิตฺวา. อิมํ อุทานนฺติ ตณฺหาวเสน กตฺถจิ อนิสฺสิตสฺส ปสฺสทฺธกายจิตฺตสฺส วีถิปฏิปนฺนวิปสฺสนสฺส อริยมคฺเคน อนวเสสโต ตณฺหาปหาเนน นิพฺพานาธิคมวิภาวนํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ.
ตตฺถ นิสฺสิตสฺส จลิตนฺติ รูปาทิสงฺขาเร ตณฺหาทิฏฺีหิ นิสฺสิตสฺส จลิตํ ‘‘เอตํ มม, เอโส เม อตฺตา’’ติ ตณฺหาทิฏฺิวิปฺผนฺทิตํ โหติ. อปฺปหีนตณฺหาทิฏฺิกสฺส หิ ปุคฺคลสฺส สุขาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ตานิ อภิภุยฺย วิหริตุํ อสกฺโกนฺตสฺส ¶ ‘‘มม เวทนา, อหํ เวทิยามี’’ติอาทินา ¶ ตณฺหาทิฏฺิคาหวเสน กุสลปฺปวตฺติโต จิตฺตสนฺตานสฺส จลนํ กมฺปนํ, อวกฺขลิตํ วา ¶ โหตีติ อตฺโถ. อนิสฺสิตสฺส จลิตํ นตฺถีติ โย ปน วิสุทฺธิปฏิปทํ ปฏิปชฺชนฺโต สมถวิปสฺสนาหิ ตณฺหาทิฏฺิโย วิกฺขมฺเภตฺวา อนิจฺจาทิวเสน สงฺขาเร สมฺมสนฺโต วิหรติ, ตสฺส ตํ อนิสฺสิตสฺส ยถาวุตฺตํ จลิตํ อวกฺขลิตํ, วิปฺผนฺทิตํ วา นตฺถิ การณสฺส สุวิกฺขมฺภิตตฺตา.
จลิเต อสตีติ ยถาวุตฺเต จลิเต อสติ ยถา ตณฺหาทิฏฺิคาหา นปฺปวตฺตนฺติ, ตถา วีถิปฏิปนฺนาย วิปสฺสนาย ตํ อุสฺสุกฺกนฺตสฺส. ปสฺสทฺธีติ วิปสฺสนาจิตฺตสหชาตานํ กายจิตฺตานํ สารมฺภกรกิเลสวูปสมินี ทุวิธาปิ ปสฺสทฺธิ โหติ. ปสฺสทฺธิยา สติ นติ น โหตีติ ปุพฺเพนาปรํ วิเสสยุตฺตาย ปสฺสทฺธิยา สติ อนวชฺชสุขาธิฏฺานํ สมาธึ วฑฺเฒตฺวา ตํ ปฺาย สมวายกรเณน สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ โยเชตฺวา มคฺคปรมฺปราย กิเลเส เขเปนฺตสฺส กามภวาทีสุ นมนโต ‘‘นตี’’ติ ลทฺธนามา ตณฺหา อรหตฺตมคฺคกฺขเณ อนวเสสโต น โหติ, อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาทิตตฺตา น อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ.
นติยา อสตีติ อรหตฺตมคฺเคน ตณฺหาย สุปฺปหีนตฺตา ภวาทิอตฺถาย อาลยนิกนฺติ ปริยุฏฺาเน อสติ. อาคติคติ น โหตีติ ปฏิสนฺธิวเสน อิธ อาคติ อาคมนํ จุติวเสน คติ อิโต ปรโลกคมนํ เปจฺจภาโว น โหติ น ปวตฺตติ. อาคติคติยา อสตีติ วุตฺตนเยน อาคติยา จ คติยา จ อสติ. จุตูปปาโต น โหตีติ อปราปรํ จวนุปปชฺชนํ น โหติ น ปวตฺตติ. อสติ หิ กิเลสวฏฺเฏ กมฺมวฏฺฏํ ปจฺฉินฺนเมว, ปจฺฉินฺเน จ ตสฺมึ กุโต วิปากวฏฺฏสฺส สมฺภโว. เตนาห – ‘‘จุตูปปาเต อสติ เนวิธ น หุร’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา พาหิยสุตฺเต วิตฺถารโต วุตฺตเมว. ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อิติ ¶ ภควา อิธาปิ เตสํ ภิกฺขูนํ อนวเสสโต วฏฺฏทุกฺขวูปสมเหตุภูตํ อมตมหานิพฺพานสฺส อานุภาวํ สมฺมาปฏิปตฺติยา ปกาเสติ.
จตุตฺถสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จุนฺทสุตฺตวณฺณนา
๗๕. ปฺจเม ¶ ¶ มลฺเลสูติ เอวํนามเก ชนปเท. มหตา ภิกฺขุสงฺเฆนาติ คุณมหตฺตสงฺขฺยามหตฺเตหิ มหตา. โส หิ ภิกฺขุสงฺโฆ สีลาทิคุณวิเสสโยเคนปิ มหา ตตฺถ สพฺพปจฺฉิมกสฺส โสตาปนฺนภาวโต, สงฺขฺยามหตฺเตนปิ มหา อปริจฺฉินฺนคณนตฺตา. อายุสงฺขาโรสฺสชฺชนโต ปฏฺาย หิ อาคตาคตา ภิกฺขู น ปกฺกมึสุ. จุนฺทสฺสาติ เอวํนามกสฺส. กมฺมารปุตฺตสฺสาติ สุวณฺณการปุตฺตสฺส. โส กิร อฑฺโฒ มหากุฏุมฺพิโก ภควโต ปมทสฺสเนเนว โสตาปนฺโน หุตฺวา อตฺตโน อมฺพวเน สตฺถุวสนานุจฺฉวิกํ คนฺธกุฏึ, ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ รตฺติฏฺานทิวาฏฺานอุปฏฺานสาลากุฏิมณฺฑปจงฺกมนาทิเก จ สมฺปาเทตฺวา ปาการปริกฺขิตฺตํ ทฺวารโกฏฺกยุตฺตํ วิหารํ กตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส นิยฺยาเทสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ตตฺร สุทํ ภควา ปาวายํ วิหรติ จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส อมฺพวเน’’ติ.
ปฏิยาทาเปตฺวาติ สมฺปาเทตฺวา. ‘‘สูกรมทฺทวนฺติ สูกรสฺส มุทุสินิทฺธํ ปวตฺตมํส’’นฺติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘สูกรมทฺทวนฺติ น สูกรมํสํ, สูกเรหิ มทฺทิตวํสกฬีโร’’ติ วทนฺติ. อฺเ ‘‘สูกเรหิ มทฺทิตปฺปเทเส ชาตํ อหิฉตฺตก’’นฺติ. อปเร ปน ‘‘สูกรมทฺทวํ นาม เอกํ รสายน’’นฺติ ภณึสุ ¶ . ตฺหิ จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ‘‘อชฺช ภควา ปรินิพฺพายิสฺสตี’’ติ สุตฺวา ‘‘อปฺเปว นาม นํ ปริภฺุชิตฺวา จิรตรํ ติฏฺเยฺยา’’ติ สตฺถุ จิรชีวิตุกมฺยตาย อทาสีติ วทนฺติ.
เตน มํ ปริวิสาติ เตน มมํ โภเชหิ. กสฺมา ภควา เอวมาห? ปรานุทฺทยตาย. ตฺจ การณํ ปาฬิยํ วุตฺตเมว. เตน อภิหฏภิกฺขาย ปเรสํ อปริโภคารหโต จ ตถา วตฺตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺสิตํ โหติ. ตสฺมึ กิร สูกรมทฺทเว ทฺวิสหสฺสทีปปริวาเรสุ จตูสุ มหาทีเปสุ เทวตา โอชํ ปกฺขิปึสุ. ตสฺมา ตํ อฺโ โกจิ สมฺมา ชีราเปตุํ น สกฺโกติ, ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ปรูปวาทโมจนตฺถํ ‘‘นาหํ ตํ, จุนฺท, ปสฺสามี’’ติอาทินา สีหนาทํ นทิ. เย หิ ปเร อุปวเทยฺยุํ ‘‘อตฺตนา ปริภุตฺตาวเสสํ เนว ภิกฺขูนํ, น อฺเสํ มนุสฺสานํ อทาสิ, อาวาเฏ นิขณาเปตฺวา วินาเสสี’’ติ, ‘‘เตสํ วจโนกาโส มา โหตู’’ติ ปรูปวาทโมจนตฺถํ สีหนาทํ นทิ.
ตตฺถ ¶ สเทวเกติอาทีสุ สห เทเวหีติ สเทวโก, สห มาเรนาติ สมารโก, สห พฺรหฺมุนาติ สพฺรหฺมโก, สห สมณพฺราหฺมเณหีติ สสฺสมณพฺราหฺมณี, ปชาตตฺตา ปชา, สห เทวมนุสฺเสหีติ ¶ สเทวมนุสฺสา. ตสฺมึ สเทวเก โลเก…เป… สเทวมนุสฺสาย. ตตฺถ สเทวกวจเนน ปฺจกามาวจรเทวคฺคหณํ, สมารกวจเนน ฉฏฺกามาวจรเทวคฺคหณํ, สพฺรหฺมกวจเนน พฺรหฺมกายิกาทิพฺรหฺมคฺคหณํ, สสฺสมณพฺราหฺมณีวจเนน สาสนสฺส ปจฺจตฺถิกปจฺจามิตฺตสมณพฺราหฺมณคฺคหณํ สมิตปาปพาหิตปาปสมณพฺราหฺมณคฺคหณฺจ, ปชาวจเนน สตฺตโลกคฺคหณํ, สเทวมนุสฺสวจเนน สมฺมุติเทวอวเสสมนุสฺสคฺคหณํ. เอวเมตฺถ ตีหิ ปเทหิ โอกาสโลกวเสน, ทฺวีหิ ปชาวเสน สตฺตโลโก คหิโตติ เวทิตพฺโพ. อปโร ¶ นโย – สเทวกวจเนน อรูปาวจรโลโก คหิโต, สมารกวจเนน ฉกามาวจรเทวโลโก, สพฺรหฺมกวจเนน รูปี พฺรหฺมโลโก, สสฺสมณพฺราหฺมณวจเนน จตุปริสวเสน สมฺมุติเทเวหิ สห มนุสฺสโลโก, อวเสสสตฺตโลโก วา คหิโตติ เวทิตพฺโพ.
ภุตฺตาวิสฺสาติ ภุตฺตวโต. ขโรติ ผรุโส. อาพาโธติ วิสภาคโรโค. ปพาฬฺหาติ พลวติโย. มารณนฺติกาติ มรณนฺตา มรณสมีปปาปนสมตฺถา. สโต สมฺปชาโน อธิวาเสสีติ สตึ อุปฏฺิตํ กตฺวา าเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา อธิวาเสสิ. อวิหฺมาโนติ เวทนานุวตฺตนวเสน อสลฺลกฺขิตธมฺโม วิย อปราปรํ ปริวตฺตนํ อกโรนฺโต อปีฬิยมาโน อทุกฺขิยมาโน วิย อธิวาเสสิ. ภควโต หิ เวฬุวคามเกเยว ตา เวทนา อุปฺปนฺนา, สมาปตฺติพเลน ปน วิกฺขมฺภิตา ยาว ปรินิพฺพานทิวสา น อุปฺปชฺชึสุ ทิวเส ทิวเส สมาปตฺตีหิ ปฏิปณามนโต. ตํ ทิวสํ ปน ปรินิพฺพายิตุกาโม ‘‘โกฏิสหสฺสหตฺถีนํ พลํ ธาเรนฺตานํ วชิรสงฺฆาตสมานกายานํ อปริมิตกาลํ อุปจิตปฺุสมฺภารานมฺปิ ภเว สติ เอวรูปา เวทนา ปวตฺตนฺติ, กิมงฺคํ ปน อฺเส’’นฺติ สตฺตานํ สํเวคชนนตฺถํ สมาปตฺตึ น สมาปชฺชิ, เตน เวทนา ขรา วตฺตึสุ. อายามาติ เอหิ ยาม.
จุนฺทสฺส ภตฺตํ ภฺุชิตฺวาติอาทิกา อปรภาเค ธมฺมสงฺคาหเกหิ ปิตา คาถา. ตตฺถ ภุตฺตสฺส จ สูกรมทฺทเวนาติ ภุตฺตสฺส อุทปาทิ, น ปน ภุตฺตปจฺจยา. ยทิ หิ อภุตฺตสฺส อุปฺปชฺชิสฺสา, อติขโร อภวิสฺสา, สินิทฺธโภชนํ ¶ ปน ภุตฺตตฺตา ตนุกา เวทนา อโหสิ, เตเนว ปทสา คนฺตุํ อสกฺขิ. เอเตน ยฺวายํ ‘‘ยสฺส ตํ ปริภุตฺตํ สมฺมา ปริณามํ คจฺเฉยฺย อฺตฺร ตถาคตสฺสา’’ติ สีหนาโท นทิโต, ตสฺส สาตฺถกตา ทสฺสิตา. พุทฺธานฺหิ อฏฺาเน คชฺชิตํ นาม นตฺถิ. ยสฺมา ตํ ปริภุตฺตํ ภควโต น กิฺจิ วิการํ อุปฺปาเทสิ, กมฺเมน ปน ลทฺโธกาเสน อุปฺปาทิยมานํ วิการํ อปฺปมตฺตตาย อุปสเมนฺโต ¶ สรีเร พลํ อุปฺปาเทสิ, เยน ยถา วกฺขมานํ ติวิธํ ปโยชนํ สมฺปาเทสิ, ตสฺมา สมฺมเทว ตํ ปริณามํ คตํ, มารณนฺติกตฺตา ¶ ปน เวทนานํ อวิฺาตํ อปากฏํ อโหสีติ. วิริจฺจมาโนติ อภิณฺหํ ปวตฺตโลหิตวิเรจโนว สมาโน. อโวจาติ อตฺตนา อิจฺฉิตฏฺาเน ปรินิพฺพานตฺถาย เอวมาห.
กสฺมา ปน ภควา เอวํ โรเค อุปฺปนฺเน กุสินารํ อคมาสิ, กึ อฺตฺถ น สกฺกา ปรินิพฺพายิตุนฺติ? ปรินิพฺพายิตุํ นาม น กตฺถจิ น สกฺกา, เอวํ ปน จินฺเตสิ – มยิ กุสินารํ คเต มหาสุทสฺสนสุตฺตเทสนาย (ที. นิ. ๒.๒๔๑) อฏฺุปฺปตฺติ ภวิสฺสติ, ตาย ยา เทวโลเก อนุภวิตพฺพสทิสา สมฺปตฺติ มนุสฺสโลเก มยา อนุภูตา, ตํ ทฺวีหิ ภาณวาเรหิ ปฏิมณฺเฑตฺวา เทเสสฺสามิ, ตํ สุตฺวา พหู ชนา กุสลํ กตฺตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ. สุภทฺโทปิ กตฺถ มํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนปริโยสาเน สรเณสุ ปติฏฺาย ปพฺพชิตฺวา ลทฺธูปสมฺปโท กมฺมฏฺานํ ภาเวตฺวา มยิ ธรนฺเตเยว อรหตฺตํ ปตฺวา ปจฺฉิมสาวโก นาม ภวิสฺสติ. อฺตฺถ มยิ ปรินิพฺพุเต ธาตุนิมิตฺตํ มหากลโห ภวิสฺสติ, โลหิตํ นที วิย สนฺทิสฺสติ. กุสินารายํ ปน ปรินิพฺพุเต โทณพฺราหฺมโณ ตํ วิวาทํ วูปสเมตฺวา ธาตุโย วิภชิตฺวา ทสฺสตีติ อิมานิ ตีณิ การณานิ ปสฺสนฺโต ภควา มหตา อุสฺสาเหน กุสินารํ อคมาสิ.
อิงฺฆาติ โจทนตฺเถ นิปาโต. กิลนฺโตสฺมีติ ปริสฺสนฺโต อสฺมิ. เตน ยถาวุตฺตเวทนานํ พลวภาวํ เอว ทสฺเสติ. ภควา หิ อตฺตโน อานุภาเวน ตทา ปทสา อคมาสิ, อฺเสํ ปน ยถา ปทุทฺธารมฺปิ กาตุํ น สกฺกา, ตถา เวทนา ติขิณา ขรา กฏุกา วตฺตึสุ. เตเนวาห ‘‘นิสีทิสฺสามี’’ติ.
อิทานีติ อธุนา. ลุฬิตนฺติ มทฺทิตํ วิย อากุลํ. อาวิลนฺติ อาลุลํ. อจฺโฉทกาติ ตนุปสนฺนสลิลา. สาโตทกาติ มธุรโตยา. สีโตทกาติ ¶ สีตลชลา. เสโตทกาติ นิกฺกทฺทมา ¶ . อุทกฺหิ สภาวโต เสตวณฺณํ, ภูมิวเสน กทฺทมาวิลตาย จ อฺาทิสํ โหติ, กกุธาปิ นที วิมลวาลิกา สโมกิณฺณา เสตวณฺณา สนฺทติ. เตน วุตฺตํ ‘‘เสโตทกา’’ติ. สุปติตฺถาติ สุนฺทรติตฺถา. รมณียาติ มโนหรภูมิภาคตาย รมิตพฺพา ยถาวุตฺตอุทกสมฺปตฺติยา จ มโนรมา.
กิลนฺโตสฺมิ จุนฺทก, นิปชฺชิสฺสามีติ ตถาคตสฺส หิ –
‘‘กาฬาวกฺจ ¶ คงฺเคยฺยํ, ปณฺฑรํ ตมฺพปิงฺคลํ;
คนฺธมงฺคลเหมฺจ, อุโปสถฉทฺทนฺติเม ทสา’’ติ. –
เอวํ วุตฺเตสุ ทสสุ หตฺถิกุเลสุ กาฬาวกสงฺขาตานํ ยํ ทสนฺนํ ปกติหตฺถีนํ พลํ, ตํ เอกสฺส คงฺเคยฺยสฺสาติ เอวํ ทสคุณิตาย คณนาย ปกติหตฺถีนํ โกฏิสหสฺสพลปฺปมาณํ สรีรพลํ. ตํ สพฺพมฺปิ ตสฺมึ ทิวเส ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย จงฺควาเร ปกฺขิตฺตอุทกํ วิย ปริกฺขยํ คตํ. ปาวาย ติคาวุเต กุสินารา. เอตสฺมึ อนฺตเร ปฺจวีสติยา าเนสุ นิสีทิตฺวา มหนฺตํ อุสฺสาหํ กตฺวา อาคจฺฉนฺโต สูริยตฺถงฺคมนเวลาย ภควา กุสินารํ ปาปุณีติ เอวํ ‘‘โรโค นาม สพฺพํ อาโรคฺยํ มทฺทนฺโต อาคจฺฉตี’’ติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต สเทวกสฺส โลกสฺส สํเวคกรํ วาจํ ภาสนฺโต ‘‘กิลนฺโตสฺมิ, จุนฺทก, นิปชฺชิสฺสามี’’ติ อาห.
สีหเสยฺยนฺติ เอตฺถ กามโภคีเสยฺยา เปตเสยฺยา ตถาคตเสยฺยา สีหเสยฺยาติ จตสฺโส เสยฺยา. ตตฺถ ‘‘เยภุยฺเยน, ภิกฺขเว, กามโภคี วาเมน ปสฺเสน เสยฺยํ กปฺเปนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๖) อยํ กามโภคีเสยฺยา. ‘‘เยภุยฺเยน ¶ , ภิกฺขเว, เปตา อุตฺตานา เสนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๖) อยํ เปตเสยฺยา. จตุตฺถชฺฌานํ ตถาคตเสยฺยา. ‘‘สีโห, ภิกฺขเว, มิคราชา ทกฺขิเณน ปสฺเสน เสยฺยํ กปฺเปตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๖) อยํ สีหเสยฺยา. อยฺหิ เตชุสฺสทอิริยาปถตฺตา อุตฺตมเสยฺยา นาม. เตน วุตฺตํ – ‘‘ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปสี’’ติ. ปาเท ปาทนฺติ ทกฺขิณปาเท วามปาทํ. อจฺจาธายาติ อติอาธาย, โคปฺผกํ อติกฺกมฺม เปตฺวา. โคปฺผเกน หิ โคปฺผเก, ชาณุนา ชาณุมฺหิ สงฺฆฏฺฏิยมาเน อภิณฺหํ เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ ¶ , เสยฺยา ผาสุกา น โหติ. ยถา ปน น สงฺฆฏฺเฏติ, เอวํ อติกฺกมฺม ปิเต เวทนา นุปฺปชฺชนฺติ, เสยฺยา ผาสุกา โหติ. ตสฺมา เอวํ นิปชฺชิ.
คนฺตฺวาน พุทฺโธติ อิมา คาถา อปรภาเค ธมฺมสงฺคาหเกหิ ปิตา. ตตฺถ นทิกนฺติ นทึ. อปฺปฏิโมธ โลเกติ อปฺปฏิโม อิธ อิมสฺมึ สเทวเก โลเก. นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จุทตารีติ คตฺตานํ สีติกรณวเสน นฺหตฺวา จ ปานียํ ปิวิตฺวา จ นทิโต อุตฺตริ. ตทา กิร ภควติ นฺหายนฺเต อนฺโตนทิยํ มจฺฉกจฺฉปา, อุทกํ, อุโภสุ ตีเรสุ วนสณฺโฑ, สพฺโพ จ โส ภูมิภาโคติ สพฺพํ สุวณฺณวณฺณเมว อโหสิ. ปุรกฺขโตติ คุณวิสิฏฺสตฺตุตฺตมครุภาวโต สเทวเกน โลเกน ปูชาสมฺมานวเสน ปุรกฺขโต. ภิกฺขุคณสฺส มชฺเฌติ ภิกฺขุสงฺฆสฺส มชฺเฌ. ตทา ภิกฺขู ภควโต เวทนานํ อธิมตฺตภาวํ วิทิตฺวา อาสนฺนา หุตฺวา สมนฺตโต ปริวาเรตฺวาว คจฺฉนฺติ. สตฺถาติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ สตฺตานํ อนุสาสนโต สตฺถา. ปวตฺตา ภควา อิธ ¶ ธมฺเมติ ภาคฺยวนฺตตาทีหิ ภควา อิธ สีลาทิสาสนธมฺเม ปวตฺตา, ธมฺเม วา จตุราสีติธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานิ ปวตฺตา ปวตฺเตตา. อมฺพวนนฺติ ตสฺสา เอว นทิยา ตีเร อมฺพวนํ. อามนฺตยิ จุนฺทกนฺติ ตสฺมึ กิร ขเณ อายสฺมา อานนฺโท อุทกสาฏิกํ ปีเฬนฺโต โอหียิ, จุนฺทกตฺเถโร สมีเป อโหสิ. ตสฺมา ¶ ตํ ภควา อามนฺตยิ. ปมุเข นิสีทีติ วตฺตสีเสน สตฺถุ ปุรโต นิสีทิ ‘‘กึ นุ โข สตฺถา อาณาเปตี’’ติ. เอตฺตาวตา ธมฺมภณฺฑาคาริโก อนุปฺปตฺโต. เอวํ อนุปฺปตฺตํ อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ.
อุปทเหยฺยาติ อุปฺปาเทยฺย, วิปฺปฏิสารสฺส อุปฺปาทโก โกจิ ปุริโส สิยา อปิ ภเวยฺย. อลาภาติ เย อฺเสํ ทานํ ททนฺตานํ ทานานิสํสสงฺขาตา ลาภา โหนฺติ, เต อลาภา. ทุลฺลทฺธนฺติ ปฺุวิเสเสน ลทฺธมฺปิ มนุสฺสตฺตํ ทุลฺลทฺธํ. ยสฺส เตติ ยสฺส ตว. อุตฺตณฺฑุลํ วา อติกิลินฺนํ วา โก ตํ ชานาติ, กีทิสมฺปิ ปจฺฉิมํ ปิณฺฑปาตํ ภฺุชิตฺวา ตถาคโต ปรินิพฺพุโต, อทฺธา เตน ยํ วา ตํ วา ทินฺนํ ภวิสฺสตีติ. ลาภาติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกา ทานานิสํสสงฺขาตา ลาภา. สุลทฺธนฺติ ตุยฺหํ มนุสฺสตฺตํ สุลทฺธํ. สมฺมุขาติ สมฺมุขโต, น อนุสฺสเวน น ปรมฺปรายาติ อตฺโถ. เมตนฺติ เม เอตํ มยา เอตํ. ทฺเวเมติ ทฺเว อิเม. สมสมผลาติ สพฺพากาเรน สมานผลา.
นนุ ¶ จ ยํ สุชาตาย ทินฺนํ ปิณฺฑปาตํ ภฺุชิตฺวา ตถาคโต อภิสมฺพุทฺโธ, ตํ กิเลสานํ อปฺปหีนกาเล ทานํ, อิทํ ปน จุนฺทสฺส ทานํ ขีณาสวกาเล, กสฺมา เอตานิ สมผลานีติ? ปรินิพฺพานสมตาย สมาปตฺติสมตาย อนุสฺสรณสมตาย จ. ภควา หิ สุชาตาย ทินฺนํ ปิณฺฑปาตํ ภฺุชิตฺวา สอุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุโต, จุนฺเทน ทินฺนํ ภฺุชิตฺวา อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุโตติ เอวํ ปรินิพฺพานสมตายปิ สมผลานิ. อภิสมฺพุชฺฌนทิวเส จ อคฺคมคฺคสฺส เหตุภูตา จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสงฺขา สมาปตฺติโย สมาปชฺชิ, ปรินิพฺพานทิวเสปิ สพฺพา ตา สมาปชฺชิ. เอวํ สมาปตฺติสมตายปิ สมผลานิ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –
‘‘ยสฺส เจตํ ปิณฺฑปาตํ ¶ ปริภฺุชิตฺวา อนุตฺตรํ อปฺปมาณํ เจโตสมาธึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อปฺปมาโณ ตสฺส ปฺุาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท’’ติอาทิ. –
สุชาตา จ อปรภาเค อสฺโสสิ ‘‘น กิร สา รุกฺขเทวตา, โพธิสตฺโต กิเรส, ตํ กิร ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ, สตฺตสตฺตาหํ กิรสฺส เตน ยาปนา ¶ อโหสี’’ติ. ตสฺสา อิทํ สุตฺวา ‘‘ลาภา วต เม’’ติ อนุสฺสรนฺติยา พลวปีติโสมนสฺสํ อุทปาทิ. จุนฺทสฺสปิ อปรภาเค ‘‘อวสานปิณฺฑปาโต กิร มยา ทินฺโน, ธมฺมสีสํ กิร มยา คหิตํ, มยฺหํ กิร ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิตฺวา สตฺถา อตฺตนา จิรกาลาภิปตฺถิตาย อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุโต’’ติ สุตฺวา ‘‘ลาภา วต เม’’ติ อนุสฺสรโต พลวปีติโสมนสฺสํ อุทปาทิ. เอวํ อนุสฺสรณสมตายปิ สมผลานิ ทฺเวปิ ปิณฺฑปาตทานานีติ เวทิตพฺพานิ.
อายุสํวตฺตนิกนฺติ ทีฆายุกสํวตฺตนิกํ. อุปจิตนฺติ ปสุตํ อุปฺปาทิตํ. ยสสํวตฺตนิกนฺติ ปริวารสํวตฺตนิกํ. อาธิปเตยฺยสํวตฺตนิกนฺติ เสฏฺภาวสํวตฺตนิกํ.
เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ เอตํ ทานสฺส มหปฺผลตฺเจว สีลาทิคุเณหิ อตฺตโน จ อนุตฺตรทกฺขิเณยฺยภาวํ อนุปาทาปรินิพฺพานฺจาติ ติวิธมฺปิ อตฺถํ สพฺพาการโต วิทิตฺวา ตทตฺถทีปนํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ.
ตตฺถ ¶ ททโต ปฺุํ ปวฑฺฒตีติ ทานํ เทนฺตสฺส จิตฺตสมฺปตฺติยา จ ทกฺขิเณยฺยสมฺปตฺติยา จ ทานมยํ ปฺุํ อุปจียติ, มหปฺผลตรฺจ มหานิสํสตรฺจ โหตีติ อตฺโถ. อถ วา ททโต ปฺุํ ปวฑฺฒตีติ เทยฺยธมฺมํ ปริจฺจชนฺโต ปริจฺจาคเจตนาย พหุลีกตาย อนุกฺกเมน สพฺพตฺถ อนาปตฺติพหุโล สุวิสุทฺธสีลํ รกฺขิตฺวา สมถวิปสฺสนฺจ ภาเวตุํ สกฺโกตีติ ตสฺส ทานาทิวเสน ติวิธมฺปิ ปฺุํ อภิวฑฺฒตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สํยมโตติ ¶ สีลสํยเมน สํยมนฺตสฺส, สํวเร ิตสฺสาติ อตฺโถ. เวรํ น จียตีติ ปฺจวิธเวรํ น ปวฑฺฒติ, อโทสปธานตฺตา วา อธิสีลสฺส กายวาจาจิตฺเตหิ สยํมนฺโต สุวิสุทฺธสีโล ขนฺติพหุลตาย เกนจิ เวรํ น กโรติ, กุโต ตสฺส อุปจโย. ตสฺมา ตสฺส สํยมโต สํยมนฺตสฺส, สํยมเหตุ วา เวรํ น จียติ. กุสโล จ ชหาติ ปาปกนฺติ กุสโล ปน าณสมฺปนฺโน สุวิสุทฺธสีเล ปติฏฺิโต อฏฺตึสาย อารมฺมเณสุ อตฺตโน อนุรูปํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา อุปจารปฺปนาเภทํ ฌานํ สมฺปาเทนฺโต ปาปกํ ลามกํ กามจฺฉนฺทาทิอกุสลํ วิกฺขมฺภนวเสน ชหาติ ปริจฺจชติ. โส ตเมว ฌานํ ปาทกํ กตฺวา สงฺขาเรสุ ขยวยํ ปฏฺเปตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อริยมคฺเคน อนวเสสํ ปาปกํ ลามกํ อกุสลํ สมุจฺเฉทวเสน ชหาติ. ราคโทสโมหกฺขยา ส นิพฺพุโตติ โส เอวํ ปาปกํ ปชหิตฺวา ราคาทีนํ ขยา อนวเสสกิเลสนิพฺพาเนน, ตโต ปรํ ขนฺธนิพฺพาเนน จ นิพฺพุโต ¶ โหตีติ เอวํ ภควา จุนฺทสฺส จ ทกฺขิณสมฺปตฺตึ, อตฺตโน จ ทกฺขิเณยฺยสมฺปตฺตึ นิสฺสาย ปีติเวควิสฺสฏฺํ อุทานํ อุทาเนสิ.
ปฺจมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ปาฏลิคามิยสุตฺตวณฺณนา
๗๖. ฉฏฺเ มคเธสูติ มคธรฏฺเ. มหตาติ อิธาปิ คุณมหตฺเตนปิ อปริจฺฉินฺนสงฺขฺยตฺตา คณนมหตฺเตนปิ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน. ปาฏลิคาโมติ เอวํนามโก มคธรฏฺเ เอโก คาโม. ตสฺส กิร คามสฺส มาปนทิวเส ¶ คามคฺคหณฏฺาเน ทฺเว ตโย ปาฏลงฺกุรา ปถวิโต อุพฺภิชฺชิตฺวา ¶ นิกฺขมึสุ. เตน ตํ ‘‘ปาฏลิคาโม’’ตฺเวว โวหรึสุ. ตทวสรีติ ตํ ปาฏลิคามํ อวสริ อนุปาปุณิ. กทา ปน ภควา ปาฏลิคามํ อนุปาปุณิ? เหฏฺา วุตฺตนเยน สาวตฺถิยํ ธมฺมเสนาปติโน เจติยํ การาเปตฺวา ตโต นิกฺขมิตฺวา ราชคเห วสนฺโต ตตฺถ อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส จ เจติยํ การาเปตฺวา ตโต นิกฺขมิตฺวา อมฺพลฏฺิกายํ วสิตฺวา อตุริตจาริกาวเสน ชนปทจาริกํ จรนฺโต ตตฺถ ตตฺถ เอกรตฺติวาเสน วสิตฺวา โลกํ อนุคฺคณฺหนฺโต อนุกฺกเมน ปาฏลิคามํ อนุปาปุณิ.
ปาฏลิคามิยาติ ปาฏลิคามวาสิโน อุปาสกา. เต กิร ภควโต ปมทสฺสเนน เกจิ สรเณสุ, เกจิ สีเลสุ, เกจิ สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺิตา. เตน วุตฺตํ ‘‘อุปาสกา’’ติ. เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ ปาฏลิคาเม กิร อชาตสตฺตุโน ลิจฺฉวิราชูนฺจ มนุสฺสา กาเลน กาลํ คนฺตฺวา เคหสามิเก เคหโต นีหริตฺวา มาสมฺปิ อฑฺฒมาสมฺปิ วสนฺติ. เตน ปาฏลิคามวาสิโน มนุสฺสา นิจฺจุปทฺทุตา ‘‘เอเตสฺเจว อาคตกาเล วสนฏฺานํ ภวิสฺสตี’’ติ เอกปสฺเส อิสฺสรานํ ภณฺฑปฺปฏิสามนฏฺานํ, เอกปสฺเส วสนฏฺานํ, เอกปสฺเส อาคนฺตุกานํ อทฺธิกมนุสฺสานํ, เอกปสฺเส ทลิทฺทานํ กปณมนุสฺสานํ, เอกปสฺเส คิลานานํ วสนฏฺานํ ภวิสฺสตีติ สพฺเพสํ อฺมฺํ อฆฏฺเฏตฺวา วสนปฺปโหนกํ นครมชฺเฌ มหาสาลํ กาเรสุํ, ตสฺสา นามํ อาวสถาคารนฺติ. ตํ ทิวสฺจ นิฏฺานํ อคมาสิ. เต ตตฺถ คนฺตฺวา หตฺถกมฺมสุธากมฺมจิตฺตกมฺมาทิวเสน สุปรินิฏฺิตํ สุสชฺชิตํ เทววิมานสทิสํ ตํ ทฺวารโกฏฺกโต ปฏฺาย โอโลเกตฺวา ‘‘อิทํ อาวสถาคารํ อติวิย มโนรมํ สสฺสิริกํ, เกน นุ ¶ โข ปมํ ปริภุตฺตํ อมฺหากํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย อสฺสา’’ติ จินฺเตสุํ, ตสฺมึเยว จ ขเณ ‘‘ภควา ตํ คามํ อนุปฺปตฺโต’’ติ อสฺโสสุํ. เตน เต อุปฺปนฺนปีติโสมนสฺสา ‘‘อมฺเหหิ ภควา คนฺตฺวาปิ ¶ อาเนตพฺโพ สิยา, โส ปน สยเมว อมฺหากํ วสนฏฺานํ สมฺปตฺโต, อชฺช มยํ ภควนฺตํ อิธ วสาเปตฺวา ปมํ ปริภฺุชาเปสฺสาม ตถา ภิกฺขุสงฺฆํ, ภิกฺขุสงฺเฆ อาคเต เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ อาคตเมว ภวิสฺสติ, สตฺถารํ มงฺคลํ วทาเปสฺสาม, ธมฺมํ กถาเปสฺสาม. อิติ ตีหิ รตเนหิ ปริภุตฺเต ปจฺฉา อมฺหากฺจ ปเรสฺจ ปริโภโค ภวิสฺสติ, เอวํ โน ทีฆรตฺตํ ¶ หิตาย สุขาย ภวิสฺสตี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา เอตทตฺถเมว ภควนฺตํ อุปสงฺกมึสุ. ตสฺมา เอวมาหํสุ – ‘‘อธิวาเสตุ โน, ภนฺเต ภควา, อาวสถาคาร’’นฺติ.
เยน อาวสถาคารํ เตนุปสงฺกมึสูติ กิฺจาปิ ตํ ตํ ทิวสเมว ปรินิฏฺิตตฺตา เทววิมานํ วิย สุสชฺชิตํ สุปฏิชคฺคิตํ, พุทฺธารหํ ปน กตฺวา น ปฺตฺตํ, ‘‘พุทฺธา นาม อรฺชฺฌาสยา อรฺารามา, อนฺโตคาเม วเสยฺยุํ วา โน วา, ตสฺมา ภควโต รุจึ ชานิตฺวาว ปฺาเปสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา เต ภควนฺตํ อุปสงฺกมึสุ, อิทานิ ภควโต รุจึ ชานิตฺวา ตถา ปฺาเปตุกามา เยน อาวสถาคารํ เตนุปสงฺกมึสุ. สพฺพสนฺถรึ อาวสถาคารํ สนฺถริตฺวาติ ยถา สพฺพเมว สนฺถตํ โหติ, เอวํ ตํ สนฺถริตฺวา สพฺพปมํ ตาว ‘‘โคมยํ นาม สพฺพมงฺคเลสุ วตฺตตี’’ติ สุธาปริกมฺมกตมฺปิ ภูมึ อลฺลโคมเยน โอปฺุชาเปตฺวา ปริสุกฺขภาวํ ตฺวา ยถา อกฺกนฺตฏฺาเน ปทํ น ปฺายติ, เอวํ จตุชฺชาติยคนฺเธหิ ลิมฺเปตฺวา อุปริ นานาวณฺณกฏสารเก สนฺถริตฺวา เตสํ อุปริ มหาปิฏฺิกโกชวาทึ กตฺวา หตฺถตฺถรณาทีหิ นานาวณฺเณหิ อตฺถรเณหิ สนฺถริตพฺพยุตฺตกํ สพฺโพกาสํ สนฺถราเปสุํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สพฺพสนฺถรึ อาวสถาคารํ สนฺถริตฺวา’’ติ.
อาสนานฺหิ มชฺฌฏฺาเน ตาว มงฺคลถมฺภํ นิสฺสาย มหารหํ พุทฺธาสนํ ปฺาเปตฺวา ตตฺถ ยํ ยํ มุทุกฺจ มโนรมฺจ ปจฺจตฺถรณํ, ตํ ตํ ปจฺจตฺถริตฺวา อุภโตโลหิตกํ มนฺุทสฺสนํ อุปธานํ ¶ อุปทหิตฺวา อุปริ สุวณฺณรชตตารกาวิจิตฺตํ วิตานํ พนฺธิตฺวา คนฺธทามปุปฺผทามาทีหิ อลงฺกริตฺวา สมนฺตา ทฺวาทสหตฺเถ าเน ปุปฺผชาลํ กาเรตฺวา ตึสหตฺถมตฺตฏฺานํ ปฏสาณิยา ปริกฺขิปาเปตฺวา ปจฺฉิมภิตฺตึ นิสฺสาย ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปลฺลงฺกอปสฺสยมฺจปีาทีนิ ปฺาเปตฺวา อุปริ เสตปจฺจตฺถรเณหิ ปจฺจตฺถราเปตฺวา สาลาย ปาจีนปสฺสํ อตฺตโน นิสชฺชาโยคฺคํ กาเรสุํ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อาสนานิ ปฺาเปตฺวา’’ติ.
อุทกมณิกนฺติ มหากุจฺฉิกํ อุทกจาฏึ. เอวํ ภควา ภิกฺขุสงฺโฆ จ ยถารุจิยา หตฺถปาเท ¶ โธวิสฺสนฺติ, มุขํ วิกฺขาเลสฺสนฺตีติ เตสุ เตสุ าเนสุ มณิวณฺณสฺส อุทกสฺส ปูเรตฺวา วาสตฺถาย นานาปุปฺผานิ เจว อุทกวาสจุณฺณานิ จ ปกฺขิปิตฺวา กทลิปณฺเณหิ ปิทหิตฺวา ปติฏฺเปสุํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อุทกมณิกํ ปติฏฺาเปตฺวา’’ติ.
เตลปฺปทีปํ ¶ อาโรเปตฺวาติ รชตสุวณฺณาทิมยทณฺฑทีปิกาสุ โยธกรูปวิลาสขจิตรูปกาทีนํ หตฺเถ ปิตสุวณฺณรชตาทิมยกปลฺลิกาสุ เตลปฺปทีปํ ชาลยิตฺวา. เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ เอตฺถ ปน เต ปาฏลิคามิยา อุปาสกา น เกวลํ อาวสถาคารเมว, อถ โข สกลสฺมิมฺปิ คาเม วีถิโย สชฺชาเปตฺวา ธเช อุสฺสาเปตฺวา เคหทฺวาเรสุ ปุณฺณฆเฏ กทลิโย จ ปาเปตฺวา สกลคามํ ทีปมาลาหิ วิปฺปกิณฺณตารกํ วิย กตฺวา ‘‘ขีรปเก ทารเก ขีรํ ปาเยถ, ทหรกุมาเร ลหุํ ลหุํ โภเชตฺวา สยาเปถ, อุจฺจาสทฺทํ มา กริตฺถ, อชฺช เอกรตฺตึ สตฺถา อนฺโตคาเม วสิสฺสติ, พุทฺธา นาม อปฺปสทฺทกามา โหนฺตี’’ติ เภรึ จราเปตฺวา สยํ ¶ ทณฺฑทีปิกา อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ.
อถ โข ภควา นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน อาวสถาคารํ เตนุปสงฺกมีติ ‘‘ยสฺส ทานิ, ภนฺเต, ภควา กาลํ มฺตี’’ติ เอวํ กิร เตหิ กาเล อาโรจิเต ภควา ลาขารเสน ตินฺตรตฺตโกวิฬารปุปฺผวณฺณํ รตฺตทุปฏฺฏํ กตฺตริยา ปทุมํ กนฺเตนฺโต วิย, สํวิธาย ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺโต นิวาเสตฺวา สุวณฺณปามงฺเคน ปทุมกลาปํ ปริกฺขิปนฺโต วิย, วิชฺชุลตาสสฺสิริกํ กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา รตฺตกมฺพเลน คชกุมฺภํ ปริโยนนฺธนฺโต วิย, รตนสตุพฺเพเธ สุวณฺณคฺฆิเก ปวาฬชาลํ ขิปมาโน วิย, มหติ สุวณฺณเจติเย รตฺตกมฺพลกฺจุกํ ปฏิมฺุจนฺโต วิย, คจฺฉนฺตํ ปุณฺณจนฺทํ รตฺตวลาหเกน ปฏิจฺฉาเทนฺโต วิย, กฺจนคิริมตฺถเก สุปกฺกลาขารสํ ปริสิฺจนฺโต วิย, จิตฺตกูฏปพฺพตมตฺถกํ วิชฺชุลตาชาเลน ปริกฺขิปนฺโต วิย, สกลจกฺกวาฬสิเนรุยุคนฺธรมหาปถวึ จาเลตฺวา คหิตนิคฺโรธปลฺลวสมานวณฺณํ สุรตฺตวรปํสุกูลํ ปารุปิตฺวา วนคหนโต นิกฺขนฺตเกสรสีโห วิย, สมนฺตโต อุทยปพฺพตกูฏโต ปุณฺณจนฺโท วิย, พาลสูริโย วิย จ อตฺตนา นิสินฺนจารุมณฺฑปโต นิกฺขมิ.
อถสฺส กายโต เมฆมุขโต วิชฺชุกลาปา วิย รสฺมิโย นิกฺขมิตฺวา สุวณฺณรสธาราปริเสกปิฺชรปตฺตปุปฺผผลสาขาวิฏเป วิย สมนฺตโต รุกฺเข กรึสุ. ตาวเทว อตฺตโน อตฺตโน ปตฺตจีวรมาทาย มหาภิกฺขุสงฺโฆ ภควนฺตํ ปริวาเรสิ. เต จ นํ ปริวาเรตฺวา ิตา ภิกฺขู ¶ เอวรูปา อเหสุํ อปฺปิจฺฉา สนฺตุฏฺา ปวิวิตฺตา อสํสฏฺา อารทฺธวีริยา วตฺตาโร วจนกฺขมา ¶ โจทกา ปาปครหิโน สีลสมฺปนฺนา สมาธิสมฺปนฺนา ปฺาสมฺปนฺนา วิมุตฺติสมฺปนฺนา วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺนา. เตหิ ปริวุโต ภควา รตฺตกมฺพลปริกฺขิตฺโต วิย สุวณฺณกฺขนฺโธ, นกฺขตฺตปริวาริโต วิย ปุณฺณจนฺโท, รตฺตปทุมวนสณฺฑมชฺฌคตา ¶ วิย สุวณฺณนาวา, ปวาฬเวทิกปริกฺขิตฺโต วิย สุวณฺณปาสาโท วิโรจิตฺถ. มหากสฺสปปฺปมุขา ปน มหาเถรา เมฆวณฺณํ ปํสุกูลจีวรํ ปารุปิตฺวา มณิวมฺมวมฺมิตา วิย มหานาคา ปริวารยึสุ วนฺตราคา ภินฺนกิเลสา วิชฏิตชฏา ฉินฺนพนฺธนา กุเล วา คเณ วา อลคฺคา.
อิติ ภควา สยํ วีตราโค วีตราเคหิ, วีตโทโส วีตโทเสหิ, วีตโมโห วีตโมเหหิ, นิตฺตณฺโห นิตฺตณฺเหหิ, นิกฺกิเลโส นิกฺกิเลเสหิ, สยํ พุทฺโธ อนุพุทฺเธหิ ปริวาริโต ปตฺตปริวาริตํ วิย เกสรํ, เกสรปริวาริตา วิย กณฺณิกา, อฏฺนาคสหสฺสปริวาริโต วิย ฉทฺทนฺโต นาคราชา, นวุติหํสสหสฺสปริวาริโต วิย ธตรฏฺโ หํสราชา, เสนงฺคปริวาริโต วิย จกฺกวตฺติราชา, มรุคณปริวาริโต วิย สกฺโก เทวราชา, พฺรหฺมคณปริวาริโต วิย หาริตมหาพฺรหฺมา, ตาราคณปริวาริโต วิย ปุณฺณจนฺโท, อนุปเมน พุทฺธเวเสน อปริมาเณน พุทฺธวิลาเสน ปาฏลิคามินํ มคฺคํ ปฏิปชฺชิ.
อถสฺส ปุรตฺถิมกายโต สุวณฺณวณฺณา ฆนพุทฺธรสฺมิโย อุฏฺหิตฺวา อสีติหตฺถฏฺานํ อคฺคเหสุํ, ตถา ปจฺฉิมกายโต ทกฺขิณปสฺสโต วามปสฺสโต สุวณฺณวณฺณา ฆนพุทฺธรสฺมิโย อุฏฺหิตฺวา อสีติหตฺถฏฺานํ อคฺคเหสุํ, อุปริเกสนฺตโต ปฏฺาย สพฺพเกสาวฏฺเฏหิ โมรคีวราชวณฺณา อสิตา ฆนพุทฺธรสฺมิโย อุฏฺหิตฺวา คคนตเล อสีติหตฺถฏฺานํ อคฺคเหสุํ, เหฏฺาปาทตเลหิ ปวาฬวณฺณา รสฺมิโย อุฏฺหิตฺวา ฆนปถวิยํ อสีติหตฺถฏฺานํ อคฺคเหสุํ, ทนฺตโต อกฺขีนํ เสตฏฺานโต, นขานํ มํสวิมุตฺตฏฺานโต โอทาตา ฆนพุทฺธรสฺมิโย อุฏฺหิตฺวา อสีติหตฺถฏฺานํ อคฺคเหสุํ, รตฺตปีตวณฺณานํ สมฺภินฺนฏฺานโต มฺเชฏฺวณฺณา รสฺมิโย อุฏฺหิตฺวา อสีติหตฺถฏฺานํ อคฺคเหสุํ, สพฺพตฺถกเมว ปภสฺสรา รสฺมิโย อุฏฺหึสุ. เอวํ สมนฺตา อสีติหตฺถฏฺานํ ฉพฺพณฺณา พุทฺธรสฺมิโย วิชฺโชตมานา วิปฺผนฺทมานา วิธาวมานา กฺจนทณฺฑทีปิกาทีหิ ¶ นิจฺฉริตฺวา อากาสํ ปกฺขนฺทมานา มหาปทีปชาลา วิย, จาตุทฺทีปิกมหาเมฆโต นิกฺขนฺตวิชฺชุลตา ¶ วิย จ ทิโสทิสํ ปกฺขนฺทึสุ. ยาหิ สพฺเพ ทิสาภาคา สุวณฺณจมฺปกปุปฺเผหิ วิกิริยมานา วิย, สุวณฺณฆฏโต สุวณฺณรสธาราหิ อาสิฺจิยมานา วิย, ปสาริตสุวณฺณปฏปริกฺขิตฺตา วิย, เวรมฺภวาเตน สมุทฺธตกึสุกกณิการโกวิฬารปุปฺผจุณฺณสโมกิณฺณา วิย, จีนปิฏฺจุณฺณสมฺปริรฺชิตา วิย จ วิโรจึสุ.
ภควโตปิ ¶ อสีติอนุพฺยฺชนพฺยามปฺปภาปริกฺเขปสมุชฺชลํ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณปฺปฏิมณฺฑิตํ สรีรํ อพฺภมหิกาทิอุปกฺกิเลสวิมุตฺตํ สมุชฺชลนฺตตารกาวภาสิตํ วิย, คคนตลํ วิกสิตํ วิย ปทุมวนํ, สพฺพปาลิผุลฺโล วิย โยชนสติโก ปาริจฺฉตฺตโก, ปฏิปาฏิยา ปิตานํ ทฺวตฺตึสสูริยานํ ทฺวตฺตึสจนฺทิมานํ ทฺวตฺตึสจกฺกวตฺตีนํ ทฺวตฺตึสเทวราชานํ ทฺวตฺตึสมหาพฺรหฺมานํ สิริยา สิรึ อภิภวมานํ วิย วิโรจิตฺถ, ยถา ตํ ทสหิ ปารมีหิ ทสหิ อุปปารมีหิ ทสหิ ปรมตฺถปารมีหีติ สมฺมเทว ปริปูริตาหิ สมตึสปารมิตาหิ อลงฺกตํ กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ ทินฺเนน ทาเนน รกฺขิเตน สีเลน กเตน กลฺยาณกมฺเมน เอกสฺมึ อตฺตภาเว สโมสริตฺวา วิปากํ ทาตุํ โอกาสํ อลภมาเนน สมฺพาธปฺปตฺตํ วิย นิพฺพตฺติตํ นาวาสหสฺสภณฺฑํ เอกํ นาวํ อาโรปนกาโล วิย, สกฏสหสฺสภณฺฑํ เอกํ สกฏํ อาโรปนกาโล วิย, ปฺจวีสติยา คงฺคานํ สมฺภินฺนมุขทฺวาเร เอกโต ราสิภูตกาโล วิย อโหสิ.
อิมาย พุทฺธสิริยา โอภาสมานสฺสปิ ภควโต ปุรโต อเนกานิ ทณฺฑทีปิกาสหสฺสานิ อุกฺขิปึสุ. ตถา ปจฺฉโต วามปสฺเส ทกฺขิณปสฺเส ชาติกุสุมจมฺปกวนมาลิการตฺตุปฺปลนีลุปฺปลพกุลสินฺทุวาราทิปุปฺผานิ เจว นีลปีตาทิวณฺณสุคนฺธจุณฺณานิ จ จาตุทฺทีปิกมหาเมฆวิสฺสฏฺา สลิลวุฏฺิโย วิย วิปฺปกิรึสุ ¶ . ปฺจงฺคิกตูริยนิคฺโฆสา จ พุทฺธธมฺมสงฺฆคุณาสํยุตฺตา ถุติโฆสา จ สพฺพา ทิสา ปูรยมานา มุขสมฺภาสา วิย อเหสุํ. เทวสุปณฺณนาคยกฺขคนฺธพฺพมนุสฺสานํ อกฺขีนิ อมตปานํ วิย ลภึสุ. อิมสฺมึ ปน าเน ตฺวา ปทสหสฺเสหิ คมนวณฺณนํ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ตตฺริยํ มุขมตฺตํ –
‘‘เอวํ ¶ สพฺพงฺคสมฺปนฺโน, กมฺปยนฺโต วสุนฺธรํ;
อเหยนฺโต ปาณานิ, ยาติ โลกวินายโก.
‘‘ทกฺขิณํ ปมํ ปาทํ, อุทฺธรนฺโต นราสโภ;
คจฺฉนฺโต สิริสมฺปนฺโน, โสภเต ทฺวิปทุตฺตโม.
‘‘คจฺฉโต พุทฺธเสฏฺสฺส, เหฏฺา ปาทตลํ มุทุ;
สมํ สมฺผุสเต ภูมึ, รชสานุปลิมฺปติ.
‘‘นินฺนํ ¶ านํ อุนฺนมติ, คจฺฉนฺเต โลกนายเก;
อุนฺนตฺจ สมํ โหติ, ปถวี จ อเจตนา.
‘‘ปาสาณา สกฺขรา เจว, กถลา ขาณุกณฺฏกา;
สพฺเพ มคฺคา วิวชฺชนฺติ, คจฺฉนฺเต โลกนายเก.
‘‘นาติทูเร อุทฺธรติ, นจฺจาสนฺเน จ นิกฺขิปํ;
อฆฏฺฏยนฺโต นิยฺยาติ, อุโภ ชาณู จ โคปฺผเก.
‘‘นาติสีฆํ ปกฺกมติ, สมฺปนฺนจรโณ มุนิ;
น จาปิ สณิกํ ยาติ, คจฺฉมาโน สมาหิโต.
‘‘อุทฺธํ อโธ จ ติริยํ, ทิสฺจ วิทิสํ ตถา;
น เปกฺขมาโน โส ยาติ, ยุคมตฺตํวเปกฺขติ.
‘‘นาควิกฺกนฺตจาโร โส, คมเน โสภเต ชิโน;
จารุํ คจฺฉติ โลกคฺโค, หาสยนฺโต สเทวเก.
‘‘อุสภราชาว โสภนฺโต, จารุจารีว เกสรี;
โตสยนฺโต พหู สตฺเต, คามํ เสฏฺโ อุปาคมี’’ติ. –
วณฺณกาโล ¶ นาม กิเรส. เอวํวิเธสุ กาเลสุ ภควโต สรีรวณฺเณ วา คุณวณฺเณ วา ธมฺมกถิกสฺส ถาโมเยว ปมาณํ, จุณฺณิยปเทหิ คาถาพนฺเธหิ ยตฺตกํ สกฺโกติ, ตตฺตกํ วตฺตพฺพํ. ‘‘ทุกฺกถิต’’นฺติ วา ‘‘อติตฺเถน ปกฺขนฺโท’’ติ วา น วตฺตพฺโพ. อปริมาณวณฺณา หิ พุทฺธา ภควนฺโต, เตสํ พุทฺธาปิ อนวเสสโต วณฺณํ วตฺตุํ อสมตฺถา. สกลมฺปิ หิ กปฺปํ วณฺเณนฺตา ปริโยสาเปตุํ น สกฺโกนฺติ, ปเคว อิตรา ปชาติ. อิมินา สิริวิลาเสน อลงฺกตปฺปฏิยตฺตํ ปาฏลิคามํ ปาวิสิ ¶ , ปวิสิตฺวา ภควา ปสนฺนจิตฺเตน ชเนน ปุปฺผคนฺธธูมวาสจุณฺณาทีหิ ปูชิยมาโน อาวสถาคารํ ปาวิสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข ภควา นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน อาวสถาคารํ เตนุปสงฺกมี’’ติ.
ปาเท ¶ ปกฺขาเลตฺวาติ ยทิปิ ภควโต ปาเท รโชชลฺลํ น อุปลิมฺปติ, เตสํ ปน อุปาสกานํ กุสลาภิวุทฺธึ อากงฺขนฺโต ปเรสํ ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนตฺถฺจ ภควา ปาเท ปกฺขาเลติ. อปิจ อุปาทินฺนกสรีรํ นาม สีตํ กาตพฺพมฺปิ โหตีติ เอตทตฺถมฺปิ ภควา นฺหานปาทโธวนาทีนิ กโรติเยว. ภควนฺตํเยว ปุรกฺขตฺวาติ ภควนฺตํ ปุรโต กตฺวา. ตตฺถ ภควา ภิกฺขูนฺเจว อุปาสกานฺจ มชฺเฌ นิสินฺโน คนฺโธทเกน นฺหาเปตฺวา ทุกูลจุมฺพฏเกน โวทกํ กตฺวา ชาติหิงฺคุลเกน มชฺชิตฺวา รตฺตกมฺพเลน ปลิเวเตฺวา ปีเ ปิตา รตฺตสุวณฺณฆนปฏิมา วิย อติวิโรจิตฺถ.
อยํ ปเนตฺถ โปราณานํ วณฺณภณนมคฺโค –
‘‘คนฺตฺวาน มณฺฑลมาฬํ, นาควิกฺกนฺตจารโณ;
โอภาสยนฺโต โลกคฺโค, นิสีทิ วรมาสเน.
‘‘ตหึ ¶ นิสินฺโน นรทมฺมสารถิ,
เทวาติเทโว สตปฺุลกฺขโณ;
พุทฺธาสเน มชฺฌคโต วิโรจติ,
สุวณฺณนิกฺขํ วิย ปณฺฑุกมฺพเล.
‘‘เนกฺขํ ชมฺโพนทสฺเสว, นิกฺขิตฺตํ ปณฺฑุกมฺพเล;
วิโรจติ วีตมโล, มณิเวโรจโน ยถา.
‘‘มหาสาโลว สมฺผุลฺโล, เมรุราชาวลงฺกโต;
สุวณฺณยูปสงฺกาโส, ปทุโม โกกนโท ยถา.
‘‘ชลนฺโต ทีปรุกฺโขว, ปพฺพตคฺเค ยถา สิขี;
เทวานํ ปาริฉตฺโตว, สพฺพผุลฺโล วิโรจตี’’ติ.
ปาฏลิคามิเย ¶ อุปาสเก อามนฺเตสีติ ยสฺมา เตสุ อุปาสเกสุ พหู ชนา สีเลสุ ปติฏฺิตา, ตสฺมา ปมํ ตาว สีลวิปตฺติยา อาทีนวํ ปกาเสตฺวา ปจฺฉา สีลสมฺปทาย อานิสํสํ ทสฺเสตุํ, ‘‘ปฺจิเม คหปตโย’’ติอาทินา ธมฺมเทสนตฺถํ อามนฺเตสิ.
ตตฺถ ¶ ทุสฺสีโลติ นิสฺสีโล. สีลวิปนฺโนติ วิปนฺนสีโล ภินฺนสํวโร. เอตฺถ จ ‘‘ทุสฺสีโล’’ติ ปเทน ปุคฺคลสฺส สีลาภาโว วุตฺโต. โส ปนสฺส สีลาภาโว ทุวิโธ อสมาทาเนน วา สมาทินฺนสฺส เภเทน วาติ. เตสุ ปุริโม น ตถา สาวชฺโช, ยถา ทุติโย สาวชฺชตโร. ยถาธิปฺเปตาทีนวนิมิตฺตํ สีลาภาวํ ปุคฺคลาธิฏฺานาย เทสนาย ทสฺเสตุํ, ‘‘สีลวิปนฺโน’’ติ วุตฺตํ. เตน ‘‘ทุสฺสีโล’’ติ ปทสฺส อตฺถํ ทสฺเสติ. ปมาทาธิกรณนฺติ ปมาทการณา. อิทฺจ สุตฺตํ คหฏฺานํ วเสน อาคตํ, ปพฺพชิตานมฺปิ ปน ลพฺภเตว. คหฏฺโ หิ เยน สิปฺปฏฺาเนน ชีวิกํ กปฺเปติ ยทิ กสิยา ยทิ วาณิชฺชาย ยทิ โครกฺเขน, ปาณาติปาตาทิวเสน ปมตฺโต ตํ ตํ ยถากาลํ สมฺปาเทตุํ น สกฺโกติ, อถสฺส กมฺมํ วินสฺสติ. มาฆาตกาเล ¶ ปน ปาณาติปาตาทีนิ กโรนฺโต ทณฺฑวเสน มหตึ โภคชานึ นิคจฺฉติ. ปพฺพชิโต ทุสฺสีโล ปมาทการณา สีลโต พุทฺธวจนโต ฌานโต สตฺตอริยธนโต จ ชานึ นิคจฺฉติ.
ปาปโก กิตฺติสทฺโทติ คหฏฺสฺส ‘‘อสุโก อมุกกุเล ชาโต ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม ปริจฺจตฺตอิธโลกปรโลโก สลากภตฺตมตฺตมฺปิ น เทตี’’ติ ปริสมชฺเฌ ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ. ปพฺพชิตสฺส ‘‘อสุโก นาม เถโร สตฺถุ สาสเน ปพฺพชิตฺวา นาสกฺขิ สีลานิ รกฺขิตุํ, น พุทฺธวจนํ คเหตุํ, เวชฺชกมฺมาทีหิ ชีวติ, ฉหิ อคารเวหิ สมนฺนาคโต’’ติ เอวํ ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ.
อวิสารโทติ คหฏฺโ ตาว อวสฺสํ พหูนํ สนฺนิปาตฏฺาเน ‘‘โกจิ มม กมฺมํ ชานิสฺสติ, อถ มํ นินฺทิสฺสติ, ราชกุลสฺส วา ทสฺเสสฺสตี’’ติ สภโย อุปสงฺกมติ, มงฺกุภูโต ปตฺตกฺขนฺโธ อโธมุโข นิสีทติ, วิสารโท หุตฺวา กเถตุํ น สกฺโกติ. ปพฺพชิโตปิ พหุภิกฺขุสงฺเฆ สนฺนิปติเต ‘‘อวสฺสํ โกจิ มม กมฺมํ ชานิสฺสติ, อถ เม อุโปสถมฺปิ ปวารณมฺปิ เปตฺวา สามฺโต จาเวตฺวา นิกฺกฑฺฒิสฺสตี’’ติ สภโย อุปสงฺกมติ, วิสารโท หุตฺวา กเถตุํ ¶ น สกฺโกติ. เอกจฺโจ ปน ทุสฺสีโลปิ สมาโน สุสีโล วิย จรติ, โสปิ อชฺฌาสเยน มงฺกุ โหติเยว.
สมฺมูฬฺโห กาลํ กโรตีติ ทุสฺสีลสฺส หิ มรณมฺเจ นิปนฺนสฺส ทุสฺสีลกมฺมานิ สมาทาย ปวตฺติตฏฺานานิ อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ. โส อุมฺมีเลตฺวา อิธโลกํ, นิมีเลตฺวา ปรโลกํ ปสฺสติ. ตสฺส จตฺตาโร อปายา กมฺมานุรูปํ อุปฏฺหนฺติ, สตฺติสเตน ปหริยมาโน วิย อคฺคิชาลาภิฆาเตน ¶ ฌายมาโน วิย จ โหติ. โส ‘‘วาเรถ, วาเรถา’’ติ วิรวนฺโตว มรติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สมฺมูฬฺโห กาลํ กโรตี’’ติ.
กายสฺส ¶ เภทาติ อุปาทินฺนกฺขนฺธปริจฺจาคา. ปรํ มรณาติ ตทนนฺตรํ อภินิพฺพตฺตกฺขนฺธคฺคหณา. อถ วา กายสฺส เภทาติ ชีวิตินฺทฺริยสฺส อุปจฺเฉทา. ปรํ มรณาติ จุติโต อุทฺธํ. อปายนฺติอาทิ สพฺพํ นิรยเววจนํ. นิรโย หิ สคฺคโมกฺขเหตุภูตา ปฺุสงฺขาตา อยา อเปตตฺตา, สุขานํ วา อยสฺส, อาคมนสฺส วา อภาวา อปาโย. ทุกฺขสฺส คติ ปฏิสรณนฺติ ทุคฺคติ, โทสพหุลตาย วา ทุฏฺเน กมฺมุนา นิพฺพตฺตา คตีติ ทุคฺคติ. วิวสา นิปตนฺติ เอตฺถ ทุกฺกตการิโนติ วินิปาโต, วินสฺสนฺตา วา เอตฺถ นิปตนฺติ สมฺภิชฺชมานงฺคปจฺจงฺคาติ วินิปาโต. นตฺถิ เอตฺถ อสฺสาทสฺิโต อโยติ นิรโย.
อถ วา อปายคฺคหเณน ติรจฺฉานโยนึ ทีเปติ. ติรจฺฉานโยนิ หิ อปาโย สุคติโต อเปตตฺตา, น ทุคฺคติ มเหสกฺขานํ นาคราชาทีนํ สมฺภวโต. ทุคฺคติคฺคหเณน เปตฺติวิสยํ ทีเปติ. โส หิ อปาโย เจว ทุคฺคติ จ สุคติโต อเปตตฺตา, ทุกฺขสฺส จ คติภูตตฺตา, น ตุ วินิปาโต อสุรสทิสํ อวินิปติตตฺตา เปตมหิทฺธิกานมฺปิ วิชฺชมานตฺตา. วินิปาตคฺคหเณน อสุรกายํ ทีเปติ. โส หิ ยถาวุตฺเตนฏฺเน ‘‘อปาโย’’ เจว ‘‘ทุคฺคติ’’ จ สพฺพสมฺปตฺติสมุสฺสเยหิ วินิปติตตฺตา ‘‘วินิปาโต’’ติ จ วุจฺจติ. นิรยคฺคหเณน อวีจิอาทิกํ อเนกปฺปการํ นิรยเมว ทีเปติ. อุปปชฺชตีติ นิพฺพตฺตติ.
อานิสํสกถา วุตฺตวิปริยาเยน เวทิตพฺพา. อยํ ปน วิเสโส – สีลวาติ สมาทานวเสน สีลวา. สีลสมฺปนฺโนติ ปริสุทฺธํ ปริปุณฺณฺจ กตฺวา ¶ สีลสฺส สมาทาเนน สีลสมฺปนฺโน. โภคกฺขนฺธนฺติ โภคราสึ. สุคตึ สคฺคํ โลกนฺติ เอตฺถ สุคติคฺคหเณน มนุสฺสคติปิ สงฺคยฺหติ, สคฺคคฺคหเณน เทวคติ เอว. ตตฺถ สุนฺทรา คติ สุคติ, รูปาทีหิ วิสเยหิ สุฏฺุ อคฺโคติ สคฺโค, โส สพฺโพปิ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโกติ.
ปาฏลิคามิเย ¶ อุปาสเก พหุเทว รตฺตึ ธมฺมิยา กถายาติ อฺายปิ ปาฬิมุตฺตาย ธมฺมกถาย เจว อาวสถานุโมทนกถาย จ. ตทา หิ ภควา ยสฺมา อชาตสตฺตุนา ตตฺถ ปาฏลิปุตฺตนครํ มาเปนฺเตน อฺเสุ คามนิคมชนปทราชธานีสุ เย สีลาจารสมฺปนฺนา กุฏุมฺพิกา, เต อาเนตฺวา ธนธฺฆรวตฺถุเขตฺตวตฺถาทีนิ เจว ปริหารฺจ ทาเปตฺวา นิเวสิยนฺติ. ตสฺมา ปาฏลิคามิยา อุปาสกา อานิสํสทสฺสาวิตาย วิเสสโต สีลครุกา สพฺพคุณานฺจ สีลสฺส ¶ อธิฏฺานภาวโต เตสํ ปมํ สีลานิสํเส ปกาเสตฺวา ตโต ปรํ อากาสคงฺคํ โอตาเรนฺโต วิย, ปถโวชํ อากฑฺฒนฺโต วิย, มหาชมฺพุํ มตฺถเก คเหตฺวา จาเลนฺโต วิย, โยชนิกมธุกณฺฑํ จกฺกยนฺเตน ปีเฬตฺวา มธุรสํ ปายมาโน วิย ปาฏลิคามิกานํ อุปาสกานํ หิตสุขาวหํ ปกิณฺณกกถํ กเถนฺโต ‘‘อาวาสทานํ นาเมตํ คหปตโย มหนฺตํ ปฺุํ, ตุมฺหากํ อาวาโส มยา ปริภุตฺโต, ภิกฺขุสงฺเฆน จ ปริภุตฺโต, มยา จ ภิกฺขุสงฺเฆน จ ปริภุตฺเต ปน ธมฺมรตเนนปิ ปริภุตฺโตเยว โหติ. เอวํ ตีหิ รตเนหิ ปริภุตฺเต อปริเมยฺโย จ วิปาโก, อปิจ อาวาสทานสฺมึ ทินฺเน สพฺพทานํ ทินฺนเมว โหติ, ภูมฏฺกปณฺณสาลาย วา สาขามณฺฑปสฺส วา สงฺฆํ อุทฺทิสฺส กตสฺส อานิสํโส ปริจฺฉินฺทิตุํ น สกฺกา. อาวาสทานานุภาเวน หิ ภเว นิพฺพตฺตมานสฺสปิ สมฺปีฬิตคพฺภวาโส นาม น โหติ, ทฺวาทสหตฺโถ โอวรโก วิยสฺส มาตุกุจฺฉิ อสมฺพาโธว โหตี’’ติ เอวํ นานานเยหิ วิจิตฺตํ พหุํ ธมฺมกถํ กเถตฺวา –
‘‘สีตํ อุณฺหํ ปฏิหนฺติ, ตโต วาฬมิคานิ จ;
สรีสเป จ มกเส, สิสิเร จาปิ วุฏฺิโย.
‘‘ตโต วาตาตโป โฆโร, สฺชาโต ปฏิหฺติ;
เลณตฺถฺจ สุขตฺถฺจ, ฌายิตฺุจ วิปสฺสิตุํ.
‘‘วิหารทานํ ¶ สงฺฆสฺส, อคฺคํ พุทฺเธน วณฺณิตํ;
ตสฺมา ¶ หิ ปณฺฑิโต โปโส, สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน.
‘‘วิหาเร การเย รมฺเม, วาสเยตฺถ พหุสฺสุเต;
เตสํ อนฺนฺจ ปานฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ.
‘‘ทเทยฺย อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา;
เต ตสฺส ธมฺมํ เทเสนฺติ, สพฺพทุกฺขาปนูทนํ;
ยํ โส ธมฺมํ อิธฺาย, ปรินิพฺพาติ อนาสโว’’ติ. (จูฬว. ๒๙๕) –
เอวํ อยมฺปิ อาวาสทาเน อานิสํโสติ พหุเทว รตฺตึ อติเรกตรํ ทิยฑฺฒยามํ อาวาสทานานิสํสกถํ ¶ กเถสิ. ตตฺถ อิมา คาถา ตาว สงฺคหํ อารุฬฺหา, ปกิณฺณกธมฺมเทสนา ปน สงฺคหํ นาโรหติ. สนฺทสฺเสตฺวาติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว.
อภิกฺกนฺตาติ อติกฺกนฺตา ทฺเว ยามา คตา. ยสฺส ทานิ กาลํ มฺถาติ ยสฺส คมนสฺส ตุมฺเห กาลํ มฺถ, คมนกาโล ตุมฺหากํ, คจฺฉถาติ วุตฺตํ โหติ. กสฺมา ปน ภควา เต อุยฺโยเชสีติ? อนุกมฺปาย. ติยามรตฺติฺหิ ตตฺถ นิสีทิตฺวา วีตินาเมนฺตานํ เตสํ สรีเร อาพาโธ อุปฺปชฺเชยฺยาติ, ภิกฺขุสงฺเฆปิ จ วิปฺปภาตสยนนิสชฺชาย โอกาโส ลทฺธุํ วฏฺฏติ, อิติ อุภยานุกมฺปาย อุยฺโยเชสีติ. สฺุาคารนฺติ ปาฏิเยกฺกํ สฺุาคารํ นาม ตตฺถ นตฺถิ. เตน กิร คหปตโย ตสฺเสว อาวสถาคารสฺส เอกปสฺเส ปฏสาณิยา ปริกฺขิปาเปตฺวา กปฺปิยมฺจํ ปฺาเปตฺวา ตตฺถ กปฺปิยปจฺจตฺถรณํ อตฺถริตฺวา อุปริ สุวณฺณรชตตารกาคนฺธมาลาทิปฏิมณฺฑิตํ วิตานํ พนฺธิตฺวา เตลปฺปทีปํ อาโรเปสุํ ‘‘อปฺเปว นาม สตฺถา ธมฺมาสนโต วุฏฺาย โถกํ วิสฺสมิตุกาโม อิธ นิปชฺเชยฺย, เอวํ โน อิทํ อาวสถาคารํ ภควตา จตูหิ อิริยาปเถหิ ปริภุตฺตํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย ภวิสฺสตี’’ติ. สตฺถาปิ ตเทว สนฺธาย ตตฺถ สงฺฆาฏึ ปฺาเปตฺวา สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สฺุาคารํ ปาวิสี’’ติ. ตตฺถ ปาทโธวนฏฺานโต ปฏฺาย ยาว ธมฺมาสนา อคมาสิ, เอตฺตเก าเน คมนํ นิปฺผนฺนํ. ธมฺมาสนํ ปตฺวา ¶ โถกํ อฏฺาสิ, อิทํ ตตฺถ านํ. ภควา ทฺเว ยาเม ธมฺมาสเน นิสีทิ, เอตฺตเก าเน นิสชฺชา นิปฺผนฺนา. อุปาสเก อุยฺโยเชตฺวา ธมฺมาสนโต ¶ โอรุยฺห ยถาวุตฺเต าเน สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ. เอวํ ตํ านํ ภควตา จตูหิ อิริยาปเถหิ ปริภุตฺตํ อโหสีติ.
สุนิธวสฺสการาติ สุนิโธ จ วสฺสกาโร จ ทฺเว พฺราหฺมณา. มคธมหามตฺตาติ มคธรฺโ มหาอมจฺจา, มคธรฏฺเ วา มหามตฺตา มหติยา อิสฺสริยมตฺตาย สมนฺนาคตาติ มหามตฺตา. ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺตีติ ปาฏลิคามสงฺขาเต ภูมิปเทเส นครํ มาเปนฺติ. วชฺชีนํ ปฏิพาหายาติ ลิจฺฉวิราชูนํ อายมุขปฺปจฺฉินฺทนตฺถํ. สหสฺสสหสฺเสวาติ เอเกกวคฺควเสน สหสฺสํ สหสฺสํ หุตฺวา. วตฺถูนีติ ฆรวตฺถูนิ. จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุนฺติ รฺโ ราชมหามตฺตานฺจ นิเวสนานิ มาเปตุํ วตฺถุวิชฺชาปากานํ จิตฺตานิ นมนฺติ. เต กิร อตฺตโน สิปฺปานุภาเวน เหฏฺาปถวิยํ ตึสหตฺถมตฺเต าเน ‘‘อิธ นาคคฺคาโห, อิธ ยกฺขคฺคาโห, อิธ ภูตคฺคาโห, อิธ ปาสาโณ วา ขาณุโก วา อตฺถี’’ติ ชานนฺติ. เต ตทา สิปฺปํ ชปฺเปตฺวา เทวตาหิ สทฺธึ สมฺมนฺตยมานา วิย มาเปนฺติ.
อถ ¶ วา เนสํ สรีเร เทวตา อธิมุจฺจิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ นิเวสนานิ มาเปตุํ จิตฺตํ นาเมนฺติ. ตา จตูสุ โกเณสุ ขาณุเก โกฏฺเฏตฺวา วตฺถุมฺหิ คหิตมตฺเต ปฏิวิคจฺฉนฺติ. สทฺธกุลานํ สทฺธา เทวตา ตถา กโรนฺติ, อสฺสทฺธกุลานํ อสฺสทฺธา เทวตา. กึการณา? สทฺธานฺหิ เอวํ โหติ ‘‘อิธ มนุสฺสา นิเวสนํ มาเปนฺตา ปมํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิสีทาเปตฺวา มงฺคลํ วทาเปสฺสนฺติ, อถ มยํ สีลวนฺตานํ ทสฺสนํ ธมฺมกถํ ปฺหวิสฺสชฺชนํ อนุโมทนํ โสตุํ ลภิสฺสาม, มนุสฺสา จ ทานํ ทตฺวา อมฺหากํ ปตฺตึ ทสฺสนฺตี’’ติ. อสฺสทฺธา เทวตาปิ ‘‘อตฺตโน อิจฺฉานุรูปํ เตสํ ปฏิปตฺตึ ปสฺสิตุํ, กถฺจ โสตุํ ลภิสฺสามา’’ติ ตถา กโรนฺติ.
ตาวตึเสหีติ ¶ ยถา หิ เอกสฺมึ กุเล เอกํ ปณฺฑิตมนุสฺสํ, เอกสฺมิฺจ วิหาเร เอกํ พหุสฺสุตํ ภิกฺขุํ อุปาทาย ‘‘อสุกกุเล มนุสฺสา ปณฺฑิตา, อสุกวิหาเร ภิกฺขู พหุสฺสุตา’’ติ สทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ, เอวเมว สกฺกํ เทวราชานํ, วิสฺสกมฺมฺจ เทวปุตฺตํ อุปาทาย ‘‘ตาวตึสา ปณฺฑิตา’’ติ สทฺโท อพฺภุคฺคโต. เตนาห ‘‘ตาวตึเสหี’’ติ. เสยฺยถาปีติอาทินา ¶ เทเวหิ ตาวตึเสหิ สทฺธึ มนฺเตตฺวา วิย สุนิธวสฺสการา นครํ มาเปนฺตีติ ทสฺเสติ.
ยาวตา, อานนฺท, อริยํ อายตนนฺติ ยตฺตกํ อริยมนุสฺสานํ โอสรณฏฺานํ นาม อตฺถิ. ยาวตา วณิปฺปโถติ ยตฺตกํ วาณิชานํ อาหฏภณฺฑสฺส ราสิวเสน กยวิกฺกยฏฺานํ นาม, วาณิชานํ วสนฏฺานํ วา อตฺถิ. อิทํ อคฺคนครนฺติ เตสํ อริยายตนวณิปฺปถานํ อิทํ นครํ อคฺคํ ภวิสฺสติ เชฏฺกํ ปาโมกฺขํ. ปุฏเภทนนฺติ ภณฺฑปุฏเภทนฏฺานํ, ภณฺฑภณฺฑิกานํ โมจนฏฺานนฺติ วุตฺตํ โหติ. สกลชมฺพุทีเป อลทฺธภณฺฑมฺปิ หิ อิเธว ลภิสฺสนฺติ, อฺตฺถ วิกฺกยํ อคจฺฉนฺตาปิ อิเธว วิกฺกยํ คจฺฉิสฺสนฺติ, ตสฺมา อิเธว ปุฏํ ภินฺทิสฺสนฺตีติ อตฺโถ. อายานมฺปิ หิ จตูสุ ทฺวาเรสุ จตฺตาริ, สภายํ เอกนฺติ เอวํ ทิวเส ทิวเส ปฺจสตสหสฺสานิ ตตฺถ อุฏฺหิสฺสนฺติ. ตานิ สภาวานิ อายานีติ ทสฺเสติ.
อคฺคิโต วาติอาทีสุ สมุจฺจยตฺโถ วาสทฺโท, อคฺคินา จ อุทเกน จ มิถุเภเทน จ นสฺสิสฺสตีติ อตฺโถ. ตสฺส หิ เอโก โกฏฺาโส อคฺคินา นสฺสิสฺสติ, นิพฺพาเปตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ, เอกํ โกฏฺาสํ คงฺคา คเหตฺวา คมิสฺสติ, เอโก อิมินา อกถิตํ อมุสฺส, อมุนา อกถิตํ อิมสฺส วทนฺตานํ ปิสุณวาจานํ วเสน ภินฺนานํ มนุสฺสานํ อฺมฺเภเทน วินสฺสิสฺสติ. เอวํ วตฺวา ภควา ปจฺจูสกาเล คงฺคาตีรํ คนฺตฺวา กตมุขโธวโน ภิกฺขาจารเวลํ อาคมยมาโน นิสีทิ.
สุนิธวสฺสการาปิ ¶ ‘‘อมฺหากํ ราชา สมณสฺส โคตมสฺส อุปฏฺาโก ¶ , โส อมฺเห อุปคเต ปุจฺฉิสฺสติ ‘สตฺถา กิร ปาฏลิคามํ อคมาสิ, กึ ตสฺส สนฺติกํ อุปสงฺกมิตฺถ, น อุปสงฺกมิตฺถา’ติ. ‘อุปสงฺกมิมฺหา’ติ จ วุตฺเต ‘นิมนฺตยิตฺถ, น นิมนฺตยิตฺถา’ติ ปุจฺฉิสฺสติ. ‘น นิมนฺตยิมฺหา’ติ จ วุตฺเต อมฺหากํ โทสํ อาโรเปตฺวา นิคฺคณฺหิสฺสติ, อิทฺจาปิ มยํ อกตฏฺาเน นครํ มาเปม, สมณสฺส โข ปน โคตมสฺส คตคตฏฺาเน กาฬกณฺณิสตฺตา ปฏิกฺกมนฺติ, ตํ มยํ นครมงฺคลํ วาจาเปสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา นิมนฺตยึสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข สุนิธวสฺสการา’’ติอาทิ.
ปุพฺพณฺหสมยนฺติ ¶ ปุพฺพณฺเห กาเล. นิวาเสตฺวาติ คามปเวสนนีหาเรน นิวาสนํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา. ปตฺตจีวรมาทายาติ จีวรํ ปารุปิตฺวา ปตฺตํ หตฺเถน คเหตฺวา.
สีลวนฺเตตฺถาติ สีลวนฺโต เอตฺถ อตฺตโน วสนฏฺาเน. สฺเตติ กายวาจาจิตฺเตหิ สฺเต. ตาสํ ทกฺขิณมาทิเสติ สงฺฆสฺส ทินฺเน จตฺตาโร ปจฺจเย ตาสํ ฆรเทวตานํ อาทิเสยฺย ปตฺตึ ทเทยฺย. ปูชิตา ปูชยนฺตีติ ‘‘อิเม มนุสฺสา อมฺหากํ าตกาปิ น โหนฺติ, เอวมฺปิ โน ปตฺตึ เทนฺตี’’ติ อารกฺขํ สุสํวิหิตํ กโรนฺติ สุฏฺุ อารกฺขํ กโรนฺติ. มานิตา มานยนฺตีติ กาลานุกาลํ พลิกมฺมกรเณน มานิตา ‘‘เอเต มนุสฺสา อมฺหากํ าตกาปิ น โหนฺติ, ตถาปิ จตุปฺจฉมาสนฺตรํ โน พลิกมฺมํ กโรนฺตี’’ติ มาเนนฺติ อุปฺปนฺนปริสฺสยํ หรนฺติ. ตโต นนฺติ ตโต ตํ ปณฺฑิตชาติกํ ปุริสํ. โอรสนฺติ อุเร เปตฺวา วฑฺฒิตํ, ยถา มาตา โอรสํ ปุตฺตํ อนุกมฺปติ, อุปฺปนฺนปริสฺสยหรณตฺถเมวสฺส ยถา วายมติ, เอวํ อนุกมฺปนฺตีติ อตฺโถ. ภทฺรานิ ปสฺสตีติ สุนฺทรานิ ปสฺสติ.
อนุโมทิตฺวาติ เตหิ ตทา ปสุตปฺุสฺส อนุโมทนวเสน ¶ เตสํ ธมฺมกถํ กตฺวา. สุนิธวสฺสการาปิ ‘‘ยา ตตฺถ เทวตา อาสุํ, ตาสํ ทกฺขิณมาทิเส’’ติ ภควโต วจนํ สุตฺวา เทวตานํ ปตฺตึ อทํสุ. ตํ โคตมทฺวารํ นาม อโหสีติ ตสฺส นครสฺส เยน ทฺวาเรน ภควา นิกฺขมิ, ตํ โคตมทฺวารํ นาม อโหสิ. คงฺคาย ปน อุตฺตรณตฺถํ อโนติณฺณตฺตา โคตมติตฺถํ นาม นาโหสิ. ปูราติ ปุณฺณา. สมติตฺติกาติ ตฏสมํ อุทกสฺส ติตฺตา ภริตา. กากเปยฺยาติ ตีเร ิตกาเกหิ ปาตุํ สกฺกุเณยฺยอุทกา. ทฺวีหิปิ ปเทหิ อุภโตกูลสมํ ปริปุณฺณภาวเมว ทสฺเสติ. อุฬุมฺปนฺติ ปารคมนตฺถาย ทารูนิ สงฺฆาเฏตฺวา อาณิโย โกฏฺเฏตฺวา กตํ. กุลฺลนฺติ เวฬุทณฺฑาทิเก วลฺลิอาทีหิ พนฺธิตฺวา กตํ.
เอตมตฺถํ ¶ วิทิตฺวาติ เอตํ มหาชนสฺส คงฺโคทกมตฺตสฺสปิ เกวลํ ตริตุํ อสมตฺถตํ, อตฺตโน ปน ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ อติคมฺภีรวิตฺถตํ สํสารมหณฺณวํ ¶ ตริตฺวา ิตภาวฺจ สพฺพาการโต วิทิตฺวา ตทตฺถปริทีปนํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ.
ตตฺถ อณฺณวนฺติ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน โยชนมตฺตํ คมฺภีรสฺส จ วิตฺถตสฺส จ อุทกฏฺานสฺเสตํ อธิวจนํ. สรนฺติ สริตฺวา คมนโต อิธ นที อธิปฺเปตา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เย คมฺภีรวิตฺถตํ สํสารณฺณวํ ตณฺหาสริตฺจ ตรนฺติ, เต อริยมคฺคสงฺขาตํ เสตุํ กตฺวาน วิสชฺช ปลฺลลานิ อนามสิตฺวาว อุทกภริตานิ นินฺนฏฺานานิ, อยํ ปน อิทํ อปฺปมตฺตกํ อุทกํ ตริตุกาโม กุลฺลฺหิ ชโน ปพนฺธติ กุลฺลํ พนฺธิตุํ อายาสํ อาปชฺชติ. ติณฺณา เมธาวิโน ชนาติ อริยมคฺคาณสงฺขาตาย เมธาย สมนฺนาคตตฺตา เมธาวิโน พุทฺธา จ พุทฺธสาวกา จ วินา เอว กุลฺเลน ติณฺณา ปรตีเร ปติฏฺิตาติ.
ฉฏฺสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ทฺวิธาปถสุตฺตวณฺณนา
๗๗. สตฺตเม ¶ อทฺธานมคฺคปฏิปนฺโนติ อทฺธานสงฺขาตํ ทีฆมคฺคํ ปฏิปนฺโน คจฺฉนฺโต โหติ. นาคสมาเลนาติ เอวํนามเกน เถเรน. ปจฺฉาสมเณนาติ อยํ ตทา ภควโต อุปฏฺาโก อโหสิ. เตน นํ ปจฺฉาสมณํ กตฺวา มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. ภควโต หิ ปมโพธิยํ วีสติวสฺสานิ อนิพทฺธา อุปฏฺากา อเหสุํ, ตโต ปรํ ยาว ปรินิพฺพานา ปฺจวีสติวสฺสานิ อายสฺมา อานนฺโท ฉายาว อุปฏฺาสิ. อยํ ปน อนิพทฺธุปฏฺากกาโล. เตน วุตฺตํ – ‘‘อายสฺมตา นาคสมาเลน ปจฺฉาสมเณนา’’ติ. ทฺวิธาปถนฺติ ทฺวิธาภูตํ มคฺคํ. ‘‘ทฺเวธาปถ’’นฺติปิ ปนฺติ อายสฺมา นาคสมาโล อตฺตนา ปุพฺเพ ตตฺถ กตปริจยตฺตา อุชุภาวฺจสฺส สนฺธาย วทติ ‘‘อยํ, ภนฺเต ภควา, ปนฺโถ’’ติ.
ภควา ปน ตทา ตสฺส สปริสฺสยภาวํ ตฺวา ตโต อฺํ มคฺคํ คนฺตุกาโม ‘‘อยํ, นาคสมาล, ปนฺโถ’’ติ อาห. ‘‘สปริสฺสโย’’ติ จ วุตฺเต อสทฺทหิตฺวา ‘‘ภควา น ตตฺถ ปริสฺสโย’’ติ วเทยฺย, ตทสฺส ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายาติ ‘‘สปริสฺสโย’’ติ น กเถสิ. ติกฺขตฺตุํ ¶ ‘‘อยํ ¶ ปนฺโถ, อิมินา คจฺฉามา’’ติ วตฺวา จตุตฺถวาเร ‘‘น ภควา อิมินา มคฺเคน คนฺตุํ อิจฺฉติ, อยเมว จ อุชุมคฺโค, หนฺทาหํ ภควโต ปตฺตจีวรํ ทตฺวา อิมินา มคฺเคน คมิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา สตฺถุ ปตฺตจีวรํ ทาตุํ อสกฺโกนฺโต ภูมิยํ เปตฺวา ปจฺจุปฏฺิเตน ทุกฺขสํวตฺตนิเกน กมฺมุนา โจทิยมาโน ภควโต วจนํ อนาทิยิตฺวาว ปกฺกามิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อายสฺมา นาคสมาโล ภควโต ปตฺตจีวรํ ตตฺเถว ฉมายํ นิกฺขิปิตฺวา ปกฺกามี’’ติ. ตตฺถ ภควโต ปตฺตจีวรนฺติ อตฺตโน หตฺถคตํ ภควโต ปตฺตจีวรํ. ตตฺเถวาติ ตสฺมึเยว มคฺเค ฉมายํ ปถวิยํ นิกฺขิปิตฺวา ปกฺกามิ. อิทํ โว ภควา ปตฺตจีวรํ, สเจ อิจฺฉถ, คณฺหถ, ยทิ อตฺตนา อิจฺฉิตมคฺคํเยว คนฺตุกามตฺถาติ อธิปฺปาโย. ภควาปิ อตฺตโน ปตฺตจีวรํ สยเมว คเหตฺวา ยถาธิปฺเปตํ มคฺคํ ปฏิปชฺชิ.
อนฺตรามคฺเค โจรา นิกฺขมิตฺวาติ ตทา กิร ปฺจสตา ปุริสา ¶ ลุทฺทา โลหิตปาณิโน ราชาปราธิโน หุตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา โจริกาย ชีวิกํ กปฺเปนฺตา ‘‘ปาริปนฺถิกภาเวน รฺโ อายปถํ ปจฺฉินฺทิสฺสามา’’ติ มคฺคสมีเป อรฺเ ติฏฺนฺติ. เต เถรํ เตน มคฺเคน คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ สมโณ อิมินา มคฺเคน อาคจฺฉติ, อวฬฺชิตพฺพํ มคฺคํ วฬฺเชติ, อมฺหากํ อตฺถิภาวํ น ชานาติ, หนฺท นํ ชานาเปสฺสามา’’ติ กุชฺฌิตฺวา คหนฏฺานโต เวเคน นิกฺขมิตฺวา สหสา เถรํ ภูมิยํ ปาเตตฺวา หตฺถปาเทหิ โกฏฺเฏตฺวา มตฺติกาปตฺตฺจสฺส ภินฺทิตฺวา จีวรํ ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺทิตฺวา ปพฺพชิตตฺตา ‘‘ตํ น หนาม, อิโต ปฏฺาย อิมสฺส มคฺคสฺส ปริสฺสยภาวํ ชานาหี’’ติ วิสฺสชฺเชสุํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อายสฺมโต…เป… วิปฺผาเลสุ’’นฺติ.
ภควาปิ ‘‘อยํ เตน มคฺเคน คโต โจเรหิ พาธิโต มํ ปริเยสิตฺวา อิทาเนว อาคมิสฺสตี’’ติ ตฺวา โถกํ คนฺตฺวา มคฺคา โอกฺกมฺม อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ. อายสฺมาปิ โข นาคสมาโล ปจฺจาคนฺตฺวา สตฺถารา คตมคฺคเมว คเหตฺวา คจฺฉนฺโต ตสฺมึ รุกฺขมูเล ภควนฺตํ ปสฺสิตฺวา อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ตํ ปวตฺตึ สพฺพํ อาโรเจสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อายสฺมา นาคสมาโล…เป… สงฺฆาฏิฺจ วิปฺผาเลสุ’’นฺติ.
เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ เอตํ อายสฺมโต นาคสมาลสฺส อตฺตโน วจนํ อนาทิยิตฺวา อเขมนฺตมคฺคคมนํ, อตฺตโน จ เขมนฺตมคฺคคมนํ วิทิตฺวา ตทตฺถทีปนํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ.
ตตฺถ ¶ สทฺธึ จรนฺติ สห จรนฺโต. เอกโต วสนฺติ อิทํ ตสฺเสว เววจนํ, สห วสนฺโตติ อตฺโถ ¶ . มิสฺโส อฺชเนน เวทคูติ เวทิตพฺพฏฺเน เวทสงฺขาเตน จตุสจฺจอริยมคฺคาเณน คตตฺตา อธิคตตฺตา, เวทสฺส วา สกลสฺส เยฺยสฺส ปารํ คตตฺตา เวทคู. อตฺตโน หิตาหิตํ น ชานาตีติ อฺโ, อวิทฺวา พาโลติ อตฺโถ. เตน อฺเน ชเนน มิสฺโส สหจรณมตฺเตน มิสฺโส. วิทฺวา ปชหาติ ปาปกนฺติ เตน เวทคูภาเวน วิทฺวา ชานนฺโต ปาปกํ อภทฺทกํ อตฺตโน ทุกฺขาวหํ ปชหาติ, ปาปกํ วา อกลฺยาณปุคฺคลํ ปชหาติ. ยถา กึ? โกฺโจ ขีรปโกว นินฺนคนฺติ ¶ ยถา โกฺจสกุโณ อุทกมิสฺสิเต ขีเร อุปนีเต วินา โตยํ ขีรมตฺตสฺเสว ปิวนโต ขีรปโก นินฺนฏฺานคมเนน นินฺนคสงฺขาตํ อุทกํ ปชหาติ วชฺเชติ, เอวํ ปณฺฑิโต กิร ทุปฺปฺปุคฺคเลหิ านนิสชฺชาทีสุ สหภูโตปิ อาจาเรน เต ปชหาติ, น กทาจิปิ สมฺมิสฺโส โหติ.
สตฺตมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. วิสาขาสุตฺตวณฺณนา
๗๘. อฏฺเม วิสาขาย มิคารมาตุยา นตฺตา กาลงฺกตา โหตีติ วิสาขาย มหาอุปาสิกาย ปุตฺตสฺส ธีตา กุมาริกา กาลงฺกตา โหติ. สา กิร วตฺตสมฺปนฺนา สาสเน อภิปฺปสนฺนา มหาอุปาสิกาย เคหํ ปวิฏฺานํ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนฺจ อตฺตนา กาตพฺพเวยฺยาวจฺจํ ปุเรภตฺตํ ปจฺฉาภตฺตฺจ อปฺปมตฺตา อกาสิ, อตฺตโน ปิตามหิยา จิตฺตานุกูลํ ปฏิปชฺชิ. เตน วิสาขา เคหโต พหิ คจฺฉนฺตี สพฺพํ ตสฺสาเยว ภารํ กตฺวา คจฺฉติ, รูเปน จ ทสฺสนียา ปาสาทิกา, อิติ สา ตสฺสา วิเสสโต ปิยา มนาปา อโหสิ. สา โรคาภิภูตา กาลมกาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เตน โข ปน สมเยน วิสาขาย มิคารมาตุยา นตฺตา กาลงฺกตา โหติ ปิยา มนาปา’’ติ. อถ มหาอุปาสิกา ตสฺสา มรเณน โสกํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี ทุกฺขี ทุมฺมนา สรีรนิกฺเขปํ กาเรตฺวา ‘‘อปิ นาม สตฺถุ สนฺติกํ คตกาเล จิตฺตสฺสาทํ ลเภยฺย’’นฺติ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข วิสาขา มิคารมาตา’’ติอาทิ. ตตฺถ ทิวา ทิวสฺสาติ ทิวสสฺสาปิ ทิวา, มชฺฌนฺหิเก กาเลติ อตฺโถ.
ภควา ¶ วิสาขาย วฏฺฏาภิรตึ ชานนฺโต อุปาเยน โสกตนุกรณตฺถํ ‘‘อิจฺเฉยฺยาสิ ตฺวํ วิสาเข’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยาวติกาติ ยตฺตกา. ตทา กิร สตฺต ชนโกฏิโย สาวตฺถิยํ ปฏิวสนฺติ ¶ . ตํ สนฺธาย ภควา ‘‘กีวพหุกา ปน วิสาเข สาวตฺถิยา มนุสฺสา เทวสิกํ กาลํ กโรนฺตี’’ติ ปุจฺฉิ. วิสาขา ‘‘ทสปิ, ภนฺเต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตีณีติ ตโย. อยเมว วา ปาโ. อวิวิตฺตาติ อสฺุา.
อถ ¶ ภควา อตฺตโน อธิปฺปายํ ปกาเสนฺโต ‘‘อปิ นุ ตฺวํ กทาจิ กรหจิ อนลฺลวตฺถา วา ภเวยฺยาสิ อนลฺลเกสา วา’’ติ อาห. นนุ เอวํ สนฺเต ตยา สพฺพกาลํ โสกาภิภูตาย มตานํ ปุตฺตาทีนํ อมงฺคลูปจารวเสน อุทโกโรหเณน อลฺลวตฺถาย อลฺลเกสาย เอว ภวิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. ตํ สุตฺวา อุปาสิกา สํเวคชาตา ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปิยวตฺถุํ วิปฺปฏิสารโต อตฺตโน จิตฺตสฺส นิวตฺตภาวํ สตฺถุ อาโรเจนฺตี ‘‘อลํ เม, ภนฺเต, ตาวพหุเกหิ ปุตฺเตหิ จ นตฺตาเรหิ จา’’ติ อาห.
อถสฺสา ภควา ‘‘ทุกฺขํ นาเมตํ ปิยวตฺถุนิมิตฺตํ, ยตฺตกานิ ปิยวตฺถูนิ, ตตฺตกานิ ทุกฺขานิ. ตสฺมา สุขกาเมน ทุกฺขปฺปฏิกูเลน สพฺพโส ปิยวตฺถุโต จิตฺตํ วิเวเจตพฺพ’’นฺติ ธมฺมํ เทเสนฺโต ‘‘เยสํ โข วิสาเข สตํ ปิยานิ, สตํ เตสํ ทุกฺขานี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สตํ ปิยานีติ สตํ ปิยายิตพฺพวตฺถูนิ. ‘‘สตํ ปิย’’นฺติปิ เกจิ ปนฺติ. เอตฺถ จ ยสฺมา เอกโต ปฏฺาย ยาว ทส, ตาว สงฺขฺยา สงฺขฺเยยฺยปฺปธานา, ตสฺมา ‘‘เยสํ ทส ปิยานิ, ทส เตสํ ทุกฺขานี’’ติอาทินา ปาฬิ อาคตา. เกจิ ปน ‘‘เยสํ ทส ปิยานํ, ทส เนสํ ทุกฺขาน’’นฺติอาทินา ปนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. ยสฺมา ปน วีสติโต ปฏฺาย ยาว สตํ, ตาว สงฺขฺยา สงฺขฺเยยฺยปฺปธานาว, ตสฺมา ตตฺถาปิ สงฺขฺเยยฺยปฺปธานตํเยว คเหตฺวา ‘‘เยสํ โข วิสาเข สตํ ปิยานิ, สตํ เตสํ ทุกฺขานี’’ติอาทินา ปาฬิ อาคตา. สพฺเพสมฺปิ จ ‘‘เยสํ เอกํ ปิยํ, เอกํ เตสํ ทุกฺข’’นฺติ ปาโ, น ปน ทุกฺขสฺสาติ. เอตสฺมิฺหิ ปกฺเข เอกรสา เอกชฺฌาสยา จ ภควโต เทสนา โหติ. ตสฺมา ยถาวุตฺตนยาว ปาฬิ เวทิตพฺพา.
เอตมตฺถํ ¶ วิทิตฺวา โสกปริเทวาทิกํ เจตสิกํ กายิกฺจ ทุกฺขํ ปิยวตฺถุนิมิตฺตํ ปิยวตฺถุมฺหิ สติ โหติ, อสติ น โหตีติ เอตมตฺถํ สพฺพาการโต ชานิตฺวา ตทตฺถปริทีปนํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ.
ตสฺสตฺโถ – าติโภคโรคสีลทิฏฺิพฺยสเนหิ ผุฏฺสฺส อนฺโต นิชฺฌายนฺตสฺส พาลสฺส จิตฺตสนฺตาปลกฺขณา เย เกจิ มุทุมชฺฌาทิเภเทน ยาทิสา ตาทิสา โสกา วา เตหิเยว ผุฏฺสฺส ¶ โสกุทฺเทหกสมุฏฺาปิตวจีวิปฺปลาปลกฺขณา ปริเทวิตา วา อนิฏฺโผฏฺพฺพปฏิหตกายสฺส ¶ กายปีฬนลกฺขณา ทุกฺขา วา ตถา อวุตฺตตฺถสฺส วิกปฺปนตฺเถน วาสทฺเทน คหิตา โทมนสฺสูปายาสาทโย วา นิสฺสยเภเทน จ อเนกรูปา นานาวิธา อิมสฺมึ สตฺตโลเก ทิสฺสนฺติ อุปลพฺภนฺติ, สพฺเพปิ เอเต ปิยํ ปิยชาติกํ สตฺตํ สงฺขารฺจ ปฏิจฺจ นิสฺสาย อาคมฺม ปจฺจยํ กตฺวา ปภวนฺติ นิพฺพตฺตนฺติ. ตสฺมึ ปน ยถาวุตฺเต ปิยวตฺถุมฺหิ ปิเย อสนฺเต ปิยภาวกเร ฉนฺทราเค ปหีเน น กทาจิปิ เอเต ภวนฺติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ปิยโต ชายตี โสโก…เป… เปมโต ชายตี โสโก’’ติ จ อาทิ (ธ. ป. ๒๑๒-๒๑๓). ตถา ‘‘ปิยปฺปภูตา กลหา วิวาทา, ปริเทวโสกา สหมจฺฉเรหี’’ติ จ อาทิ (สุ. นิ. ๘๖๙). เอตฺถ จ ‘‘ปริเทวิตา วา ทุกฺขา วา’’ติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ, ‘‘ปริเทวิตานิ วา ทุกฺขานิ วา’’ติ วตฺตพฺเพ วิภตฺติโลโป วา กโตติ เวทิตพฺโพ.
ตสฺมา หิ เต สุขิโน วีตโสกาติ ยสฺมา ปิยปฺปภูตา โสกาทโย เยสํ นตฺถิ, ตสฺมา เต เอว สุขิโน วีตโสกา นาม. เก ปน เต? เยสํ ปิยํ นตฺถิ กุหิฺจิ โลเก เยสํ อริยานํ สพฺพโส วีตราคตฺตา กตฺถจิปิ สตฺตโลเก สงฺขารโลเก จ ปิยํ ปิยภาโว ‘‘ปุตฺโต’’ติ วา ‘‘ภาตา’’ติ วา ‘‘ภคินี’’ติ วา ‘‘ภริยา’’ติ วา ปิยํ ปิยายนํ ปิยภาโว นตฺถิ, สงฺขารโลเกปิ ‘‘เอตํ มม สนฺตกํ, อิมินาหํ อิมํ นาม สุขํ ลภามิ ลภิสฺสามี’’ติ ปิยํ ปิยายนํ ปิยภาโว นตฺถิ. ตสฺมา อโสกํ วิรชํ ปตฺถยาโน, ปิยํ น กยิราถ กุหิฺจิ โลเกติ ยสฺมา จ สุขิโน นาม วีตโสกา, วีตโสกตฺตาว กตฺถจิปิ วิสเย ปิยภาโว นตฺถิ, ตสฺมา อตฺตโน ยถาวุตฺตโสกาภาเวน จ อโสกํ อโสกภาวํ ราครชาทิวิคมเนน วิรชํ ¶ วิรชภาวํ อรหตฺตํ, โสกสฺส ราครชาทีนฺจ อภาวเหตุภาวโต วา ‘‘อโสกํ วิรช’’นฺติ ลทฺธนามํ นิพฺพานํ ปตฺถยาโน กตฺตุกมฺยตากุสลจฺฉนฺทสฺส วเสน ฉนฺทชาโต กตฺถจิ โลเก รูปาทิธมฺเม ¶ อนฺตมโส สมถวิปสฺสนาธมฺเมปิ ปิยํ ปิยภาวํ วิยายนํ น กยิราถ น อุปฺปาเทยฺย. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ธมฺมาปิ โว, ภิกฺขเว, ปหาตพฺพา, ปเคว อธมฺมา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔๐).
อฏฺมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปมทพฺพสุตฺตวณฺณนา
๗๙. นวเม ¶ อายสฺมาติ ปิยวจนํ. ทพฺโพติ ตสฺส เถรสฺส นามํ. มลฺลปุตฺโตติ มลฺลราชสฺส ปุตฺโต. โส หิ อายสฺมา ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต ปาทมูเล กตาภินีหาโร กปฺปสตสหสฺสํ อุปจิตปฺุสฺจโย อมฺหากํ ภควโต กาเล มลฺลราชสฺส เทวิกา กุจฺฉิยํ นิพฺพตฺโต กตาธิการตฺตา ชาติยา สตฺตวสฺสิกกาเลเยว มาตาปิตโร อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิ. เต จ ‘‘ปพฺพชิตฺวาปิ อาจารํ ตาว สิกฺขตุ, สเจ ตํ นาภิรมิสฺสติ, อิเธว อาคมิสฺสตี’’ติ อนุชานึสุ. โส สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิ. สตฺถาปิสฺส อุปนิสฺสยสมฺปตฺตึ โอโลเกตฺวา ปพฺพชฺชํ อนุชานิ. ตสฺส ปพฺพชฺชาสมเย ทินฺนโอวาเทน ภวตฺตยํ อาทิตฺตํ วิย อุปฏฺาสิ. โส วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ขุรคฺเคเยว อรหตฺตํ ปาปุณิ. ยํกิฺจิ สาวเกน ปตฺตพฺพํ, ‘‘ติสฺโส วิชฺชา จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา ฉฬภิฺา นว โลกุตฺตรธมฺมา’’ติ เอวมาทิกํ สพฺพํ อธิคนฺตฺวา อสีติยา มหาสาวเกสุ อพฺภนฺตโร อโหสิ. วุตฺตฺเหตํ เตน อายสฺมตา –
‘‘มยา โข ชาติยา สตฺตวสฺเสน อรหตฺตํ สจฺฉิกตํ, ยํกิฺจิ สาวเกน ปตฺตพฺพํ, สพฺพํ ตํ อนุปฺปตฺตํ มยา’’ติอาทิ (ปารา. ๓๘๐).
เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ โส กิรายสฺมา เอกทิวสํ ราชคเห ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต ภควโต วตฺตํ ทสฺเสตฺวา ทิวาฏฺานํ คนฺตฺวา ¶ อุทกกุมฺภโต อุทกํ คเหตฺวา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา คตฺตานิ ¶ สีตึ กตฺวา จมฺมกฺขณฺฑํ ปฺาเปตฺวา นิสินฺโน กาลปริจฺเฉทํ กตฺวา สมาปตฺตึ สมาปชฺชิ. อถายสฺมา ยถากาลปริจฺเฉทํ สมาปตฺติโต วุฏฺหิตฺวา อตฺตโน อายุสงฺขาเร โอโลเกสิ. ตสฺส เต ปริกฺขีณา กติปยมุหุตฺติกา อุปฏฺหึสุ. โส จินฺเตสิ – ‘‘น โข เมตํ ปติรูปํ, ยมหํ สตฺถุ อนาโรเจตฺวา สพฺรหฺมจารีหิ จ อวิทิโต อิธ ยถานิสินฺโนว ปรินิพฺพายิสฺสามิ. ยํนูนาหํ สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ปรินิพฺพานํ อนุชานาเปตฺวา สตฺถุ วตฺตํ ทสฺเสตฺวา สาสนสฺส นิยฺยานิกภาวทสฺสนตฺถํ มยฺหํ อิทฺธานุภาวํ วิภาเวนฺโต อากาเส นิสีทิตฺวา เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพาเยยฺยํ. เอวํ สนฺเต เย มยิ อสฺสทฺธา อปฺปสนฺนา, เตสมฺปิ ปสาโท อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตทสฺส เตสํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ. เอวฺจ โส อายสฺมา จินฺเตตฺวา ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา สพฺพํ ตํ ตเถว อกาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อายสฺมา ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมี’’ติอาทิ.
ตตฺถ ¶ ปรินิพฺพานกาโล เมติ ‘‘ภควา มยฺหํ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพานกาโล อุปฏฺิโต, ตมหํ ภควโต อาโรเจตฺวา ปรินิพฺพายิตุกาโมมฺหี’’ติ ทสฺเสติ. เกจิ ปนาหุ ‘‘น ตาว เถโร ชิณฺโณ, น จ คิลาโน, ปรินิพฺพานาย จ สตฺถารํ อาปุจฺฉติ, กึ ตตฺถ การณํ? ‘เมตฺติยภูมชกา ภิกฺขู ปุพฺเพ มํ อมูลเกน ปาราชิเกน อนุทฺธํเสสุํ, ตสฺมึ อธิกรเณ วูปสนฺเตปิ อกฺโกสนฺติเยว. เตสํ สทฺทหิตฺวา อฺเปิ ปุถุชฺชนา มยิ อคารวํ ปริภวฺจ กโรนฺติ. อิมฺจ ทุกฺขภารํ นิรตฺถกํ วหิตฺวา กึ ปโยชนํ, ตสฺมาหํ อิทาเนว ปรินิพฺพายิสฺสามี’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา สตฺถารํ อาปุจฺฉี’’ติ. ตํ อการณํ. น หิ ขีณาสวา อปริกฺขีเณ อายุสงฺขาเร ปเรสํ อุปวาทาทิภเยน ปรินิพฺพานาย เจเตนฺติ ฆฏยนฺติ วายมนฺติ, น จ ปเรสํ ¶ ปสํสาทิเหตุ จิรํ ติฏฺนฺติ, อถ โข สรเสเนว อตฺตโน อายุสงฺขารสฺส ปริกฺขยํ อาคเมนฺติ. ยถาห –
‘‘นาภิกงฺขามิ มรณํ, นาภิกงฺขามิ ชีวิตํ;
กาลฺจ ปฏิกงฺขามิ, นิพฺพิสํ ภตโก ยถา’’ติ. (เถรคา. ๑๙๖, ๖๐๖; มิ. ป. ๒.๒.๔) –
ภควาปิสฺส อายุสงฺขารํ โอโลเกตฺวา ปริกฺขีณภาวํ ตฺวา ‘‘ยสฺสทานิ ตฺวํ, ทพฺพ, กาลํ มฺสี’’ติ อาห.
เวหาสํ ¶ อพฺภุคฺคนฺตฺวาติ อากาสํ อภิอุคฺคนฺตฺวา, เวหาสํ คนฺตฺวาติ อตฺโถ. อภิสทฺทโยเคน หิ อิทํ อุปโยควจนํ, อตฺโถ ปน ภุมฺมวเสน เวทิตพฺโพ. เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา กึ อกาสีติ อาห – ‘‘อากาเส อนฺตลิกฺเข ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา’’ติอาทิ. ตตฺถ เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวาติ เตโชกสิณจตุตฺถชฺฌานสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา. เถโร หิ ตทา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา เอกมนฺตํ ิโต ‘‘ภควา กปฺปสตสหสฺสํ ตุมฺเหหิ สทฺธึ ตตฺถ ตตฺถ วสนฺโต ปฺุานิ กโรนฺโต อิมเมวตฺถํ สนฺธาย อกาสึ, สฺวายมตฺโถ อชฺช มตฺถกํ ปตฺโต, อิทํ ปจฺฉิมทสฺสน’’นฺติ อาห. เย ตตฺถ ปุถุชฺชนภิกฺขู โสตาปนฺนสกทาคามิโน จ, เตสุ เอกจฺจานํ มหนฺตํ การฺุํ อโหสิ, เอกจฺเจ อาโรทนปฺปตฺตา อเหสุํ. อถสฺส ภควา จิตฺตาจารํ ตฺวา ‘‘เตน หิ, ทพฺพ, มยฺหํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทสฺเสหี’’ติ อาห. ตาวเทว สพฺโพ ภิกฺขุสงฺโฆ สนฺนิปติ. อถายสฺมา ทพฺโพ ‘‘เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหตี’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๑๐๒; ที. นิ. ๑.๔๘๔) นเยน อาคตานิ สาวกสาธารณานิ สพฺพานิ ปาฏิหาริยานิ ทสฺเสตฺวา ปุน จ ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา อากาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ¶ อากาเส ปถวึ นิมฺมินิตฺวา ตตฺถ ปลฺลงฺเกน นิสินฺโน เตโชกสิณสมาปตฺติยา ปริกมฺมํ กตฺวา สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย สรีรํ อาวชฺชิตฺวา ปุน สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา สรีรฌาปนเตโชธาตุํ อธิฏฺหิตฺวา ปรินิพฺพายิ. สห อธิฏฺาเนน สพฺโพ กาโย อคฺคินา อาทิตฺโต อโหสิ. ขเณเนว จ โส อคฺคิ กปฺปวุฏฺานคฺคิ วิย อณุมตฺตมฺปิ สงฺขารคตํ มสิมตฺตมฺปิ ตตฺถ กิฺจิ อนวเสเสนฺโต อธิฏฺานพเลน ฌาเปตฺวา นิพฺพายิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อายสฺมา ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต’’ติอาทิ. ตตฺถ วุฏฺหิตฺวา ปรินิพฺพายีติ อิทฺธิจิตฺตโต วุฏฺหิตฺวา ภวงฺคจิตฺเตน ¶ ปรินิพฺพายิ.
ฌายมานสฺสาติ ชาลิยมานสฺส. ฑยฺหมานสฺสาติ ตสฺเสว เววจนํ. อถ วา ฌายมานสฺสาติ ชาลาปวตฺติกฺขณํ สนฺธาย วุตฺตํ, ฑยฺหมานสฺสาติ วีตจฺจิตงฺคารกฺขณํ. ฉาริกาติ ภสฺมํ. มสีติ กชฺชลํ. น ปฺายิตฺถาติ น ปสฺสิตฺถ, อธิฏฺานพเลน สพฺพํ ขเณเนว อนฺตรธายิตฺถาติ อตฺโถ. กสฺมา ปน เถโร อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทสฺเสสิ, นนุ ภควตา อิทฺธิปาฏิหาริยกรณํ ปฏิกฺขิตฺตนฺติ ¶ ? น โจเทตพฺพเมตํ คิหีนํ สมฺมุขา ปาฏิหาริยกรณสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา. ตฺจ โข วิกุพฺพนวเสน, น ปเนวํ อธิฏฺานวเสน. อยํ ปนายสฺมา ธมฺมสามินา อาณตฺโตว ปาฏิหาริยํ ทสฺเสสิ.
เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ เอตํ อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส อนุปาทาปรินิพฺพานํ สพฺพาการโต วิทิตฺวา ตทตฺถปริทีปนํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ.
ตตฺถ อเภทิ กาโยติ สพฺโพ ภูตุปาทายปเภโท จตุสนฺตติรูปกาโย ภิชฺชิ, อนวเสสโต ฑยฺหิ, อนฺตรธายิ, อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปชฺชิ. นิโรธิ สฺาติ รูปายตนาทิโคจรตาย รูปสฺาทิเภทา สพฺพาปิ สฺา อปฺปฏิสนฺธิเกน นิโรเธน นิรุชฺฌิ. เวทนา สีติภวึสุ สพฺพาติ วิปากเวทนา กิริยเวทนาติ สพฺพาปิ เวทนา อปฺปฏิสนฺธิกนิโรเธน นิรุทฺธตฺตา อณุมตฺตมฺปิ เวทนาทรถสฺส อภาวโต สีติภูตา อเหสุํ, กุสลากุสลเวทนา ปน อรหตฺตผลกฺขเณเยว นิโรธํ คตา. ‘‘สีติรหึสู’’ติปิ ปนฺติ, สนฺตา นิรุทฺธา อเหสุนฺติ อตฺโถ. วูปสมึสุ สงฺขาราติ วิปากกิริยปฺปเภทา สพฺเพปิ ผสฺสาทโย สงฺขารกฺขนฺธธมฺมา อปฺปฏิสนฺธิกนิโรเธเนว นิรุทฺธตฺตา วิเสเสน อุปสมึสุ. วิฺาณํ อตฺถมาคมาติ วิฺาณมฺปิ วิปากกิริยปฺปเภทํ สพฺพํ อปฺปฏิสนฺธิกนิโรเธเนว อตฺถํ วินาสํ อุปจฺเฉทํ อคมา อคจฺฉิ.
อิติ ¶ ภควา อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส ปฺจนฺนมฺปิ ขนฺธานํ ปุพฺเพเยว กิเลสาภิสงฺขารุปาทานสฺส อนวเสสโต นิรุทฺธตฺตา อนุปาทาโน ¶ วิย ชาตเวโท อปฺปฏิสนฺธิกนิโรเธน นิรุทฺธภาวํ นิสฺสาย ปีติเวควิสฺสฏฺํ อุทานํ อุทาเนสีติ.
นวมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ทุติยทพฺพสุตฺตวณฺณนา
๘๐. ทสเม ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสีติ ภควา ราชคเห ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา ชนปทจาริกํ จรนฺโต อนุกฺกเมน สาวตฺถึ ปตฺวา เชตวเน วิหรนฺโตเยว เยสํ ภิกฺขูนํ อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส ปรินิพฺพานํ อปจฺจกฺขํ, เตสํ ตํ ปจฺจกฺขํ กตฺวา ทสฺเสตุํ, เยปิ ¶ จ เมตฺติยภูมชเกหิ กเตน อภูเตน อพฺภาจิกฺขเณน เถเร คารวรหิตา ปุถุชฺชนา, เตสํ เถเร พหุมานุปฺปาทนตฺถฺจ อามนฺเตสิ. ตตฺถ ตตฺราติ วจนสฺาปเน นิปาตมตฺตํ. โขติ อวธารเณ. เตสุ ‘‘ตตฺรา’’ติ อิมินา ‘‘ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสี’’ติ เอเตสํ ปทานํ วุจฺจมานตํเยว โชเตติ. ‘‘โข’’ติ ปน อิมินา อามนฺเตสิเยว, นาสฺส อามนฺตเน โกจิ อนฺตราโย อโหสีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ. อถ วา ตตฺราติ ตสฺมึ อาราเม. โขติ วจนาลงฺกาเร นิปาโต. อามนฺเตสีติ อภาสิ. กสฺมา ปน ภควา ภิกฺขูเยว อามนฺเตสีติ? เชฏฺตฺตา เสฏฺตฺตา อาสนฺนตฺตา สพฺพกาลํ สนฺนิหิตตฺตา ธมฺมเทสนาย วิเสสโต ภาชนภูตตฺตา จ.
ภิกฺขโวติ เตสํ อามนฺตนาการทสฺสนํ. ภทนฺเตติ อามนฺติตานํ ภิกฺขูนํ คารเวน สตฺถุ ปฏิวจนทานํ. ตตฺถ ‘‘ภิกฺขโว’’ติ วทนฺโต ภควา เต ภิกฺขู อาลปติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ วทนฺตา เต ปจฺจาลปนฺติ. อปิจ ‘‘ภิกฺขโว’’ติ อิมินา กรุณาวิปฺผารโสมฺมหทยนิสฺสิตปุพฺพงฺคเมน วจเนน เต ภิกฺขู กมฺมฏฺานมนสิการธมฺมปจฺจเวกฺขณาทิโต นิวตฺเตตฺวา อตฺตโน มุขาภิมุเข กโรติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ อิมินา สตฺถริ อาทรพหุมานคารวทีปนวจเนน เต ภิกฺขู อตฺตโน สุสฺสูสตํ โอวาทปฺปฏิคฺคหคารวภาวฺจ ปฏิเวเทนฺติ. ภควโต ปจฺจสฺโสสุนฺติ เต ภิกฺขู ภควโต วจนํ ปติอสฺโสสุํ โสตุกามตํ ชเนสุํ ¶ . เอตทโวจาติ ภควา เอตํ อิทานิ วกฺขมานํ สกลํ สุตฺตํ อภาสิ. ทพฺพสฺส, ภิกฺขเว, มลฺลปุตฺตสฺสาติอาทิ ¶ อนนฺตรสุตฺเต วุตฺตตฺถเมว. เอตมตฺถนฺติอาทีสุปิ อปุพฺพํ นตฺถิ, อนนฺตรสุตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
คาถาสุ ปน อโยฆนหตสฺสาติ อโย หฺติ เอเตนาติ อโยฆนํ, กมฺมารานํ อโยกูฏํ อโยมุฏฺิ จ. เตน อโยฆเนน หตสฺส ปหตสฺส. เกจิ ปน ‘‘อโยฆนหตสฺสาติ ฆนอโยปิณฺฑํ หตสฺสา’’ติ อตฺถํ วทนฺติ. เอว-สทฺโท เจตฺถ นิปาตมตฺตํ. ชลโต ชาตเวทโสติ ฌายมานสฺส อคฺคิสฺส. อนาทเร เอตํ สามิวจนํ. อนุปุพฺพูปสนฺตสฺสาติ อนุกฺกเมน อุปสนฺตสฺส วิชฺฌาตสฺส นิรุทฺธสฺส. ยถา น ายเต คตีติ ยถา ตสฺส คติ น ายติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อโยมุฏฺิกูฏาทินา มหตา อโยฆเนน หตสฺส สํหตสฺส, กํสภาชนาทิคตสฺส วา ชลมานสฺส อคฺคิสฺส, ตถา อุปฺปนฺนสฺส ¶ วา สทฺทสฺส อนุกฺกเมน อุปสนฺตสฺส สุวูปสนฺตสฺส ทสสุ ทิสาสุ น กตฺถจิ คติ ปฺายติ ปจฺจยนิโรเธน อปฺปฏิสนฺธิกนิรุทฺธตฺตา.
เอวํ สมฺมาวิมุตฺตานนฺติ เอวํ สมฺมา เหตุนา าเยน ตทงฺควิกฺขมฺภนวิมุตฺติปุพฺพงฺคเมน อริยมคฺเคน จตูหิปิ อุปาทาเนหิ อาสเวหิ จ วิมุตฺตตฺตา สมฺมา วิมุตฺตานํ, ตโต เอว กามปพนฺธสงฺขาตํ กาโมฆํ ภโวฆาทิเภทํ อวสิฏฺํ โอฆฺจ ตริตฺวา ิตตฺตา กามพนฺโธฆตารินํ สุฏฺุ ปฏิปสฺสมฺภิตสพฺพกิเลสวิปฺผนฺทิตตฺตา กิเลสาภิสงฺขารวาเตหิ จ อกมฺปนียตาย อจลํ อนุปาทิเสสนิพฺพานสงฺขาตํ สพฺพสงฺขารูปสมํ สุขํ ปตฺตานํ อธิคตานํ ขีณาสวานํ คติ เทวมนุสฺสาทิเภทาสุ คตีสุ อยํ นามาติ ปฺเปตพฺพตาย อภาวตฺตา ปฺาเปตุํ นตฺถิ น อุปลพฺภติ, ยถาวุตฺตชาตเวโท วิย อปฺตฺติกภาวเมว หิ โส คโตติ อตฺโถ.
ทสมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิตา จ ปาฏลิคามิยวคฺควณฺณนา.
นิคมนกถา
สุวิมุตฺตภวาทาโน, เทวทานวมานิโต;
ปจฺฉินฺนตณฺหาสนฺตาโน, ปีติสํเวคทีปโน.
สทฺธมฺมทานนิรโต, อุปาทานกฺขยาวโห;
ตตฺถ ตตฺถ อุทาเน เย, อุทาเนสิ วินายโก.
เต สพฺเพ เอกโต กตฺวา, อาโรเปนฺเตหิ สงฺคหํ;
อุทานมิติ สงฺคีตํ, ธมฺมสงฺคาหเกหิ ยํ.
ตสฺส อตฺถํ ปกาเสตุํ, โปราณฏฺกถานยํ;
นิสฺสาย ยา สมารทฺธา, อตฺถสํวณฺณนา มยา.
สา ตตฺถ ปรมตฺถานํ, สุตฺตนฺเตสุ ยถารหํ;
ปกาสนา ปรมตฺถทีปนี นาม นามโต.
สมฺปตฺตา ปรินิฏฺานํ, อนากุลวินิจฺฉยา;
จตุตฺตึสปฺปมาณาย, ปาฬิยา ภาณวารโต.
อิติ ตํ สงฺขโรนฺเตน, ยํ ตํ อธิคตํ มยา;
ปฺุํ ตสฺสานุภาเวน, โลกนาถสฺส สาสนํ.
โอคาหิตฺวา วิสุทฺธาย, สีลาทิปฏิปตฺติยา;
สพฺเพปิ เทหิโน โหนฺตุ, วิมุตฺติรสภาคิโน.
จิรํ ติฏฺตุ โลกสฺมึ, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสนํ;
ตสฺมึ สคารวา นิจฺจํ, โหนฺตุ สพฺเพปิ ปาณิโน.
สมฺมา ¶ วสฺสตุ กาเลน, เทโวปิ ชคตีปติ;
สทฺธมฺมนิรโต โลกํ, ธมฺเมเนว ปสาสตูติ.
พทรติตฺถวิหารวาสินา อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน
กตาอุทานสฺส อฏฺกถา สมตฺตา.