📜
๓. นนฺทวคฺโค
๑. กมฺมวิปากชสุตฺตํ
๒๑. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปุราณกมฺมวิปากชํ ทุกฺขํ ติพฺพํ ขรํ กฏุกํ เวทนํ อธิวาเสนฺโต สโต สมฺปชาโน อวิหฺมาโน.
อทฺทสา โข ภควา ตํ ภิกฺขุํ อวิทูเร นิสินฺนํ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปุราณกมฺมวิปากชํ ทุกฺขํ ติพฺพํ ขรํ กฏุกํ เวทนํ อธิวาเสนฺตํ สตํ สมฺปชานํ อวิหฺมานํ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สพฺพกมฺมชหสฺส ภิกฺขุโน,
ธุนมานสฺส ปุเร กตํ รชํ;
อมมสฺส ¶ ิตสฺส ตาทิโน,
อตฺโถ นตฺถิ ชนํ ลเปตเว’’ติ. ปมํ;
๒. นนฺทสุตฺตํ
๒๒. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา นนฺโท ภควโต ภาตา มาตุจฺฉาปุตฺโต สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ เอวมาโรเจติ – ‘‘อนภิรโต อหํ, อาวุโส, พฺรหฺมจริยํ จรามิ; น สกฺโกมิ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสามี’’ติ.
อถ โข อฺตโร ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อายสฺมา, ภนฺเต, นนฺโท ภควโต ภาตา มาตุจฺฉาปุตฺโต สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ เอวมาโรเจติ – ‘อนภิรโต อหํ, อาวุโส, พฺรหฺมจริยํ จรามิ, น สกฺโกมิ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย ¶ หีนายาวตฺติสฺสามี’’’ติ.
อถ โข ภควา อฺตรํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, มม วจเนน นนฺทํ ภิกฺขุํ อามนฺเตหิ – ‘สตฺถา ตํ, อาวุโส นนฺท, อามนฺเตตี’’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา นนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ นนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา ตํ, อาวุโส นนฺท, อามนฺเตตี’’ติ.
‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา นนฺโท ตสฺส ภิกฺขุโน ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ นนฺทํ ภควา เอตทโวจ –
‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, นนฺท, สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ เอวมาโรเจสิ – ‘อนภิรโต อหํ, อาวุโส, พฺรหฺมจริยํ จรามิ, น สกฺโกมิ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสามี’’’ติ ¶ ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ.
‘‘กิสฺส ปน ตฺวํ, นนฺท, อนภิรโต พฺรหฺมจริยํ จรสิ, น สกฺโกสิ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ ¶ , สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสสี’’ติ? ‘‘สากิยานี มํ [มม (สฺยา., อฏฺกถา โอโลเกตพฺพา)], ภนฺเต, ชนปทกลฺยาณี ฆรา นิกฺขมนฺตสฺส [นิกฺขมนฺตํ (อฏฺกถายํ ปานฺตรํ)] อุปฑฺฒุลฺลิขิเตหิ เกเสหิ อปโลเกตฺวา มํ เอตทโวจ – ‘ตุวฏํ โข, อยฺยปุตฺต, อาคจฺเฉยฺยาสี’ติ. โส ¶ โข อหํ, ภนฺเต, ตมนุสฺสรมาโน อนภิรโต พฺรหฺมจริยํ จรามิ, น สกฺโกมิ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสามี’’ติ.
อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ นนฺทํ พาหายํ คเหตฺวา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ [สมฺมิฺชิตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย [สมฺมิฺเชยฺย (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], เอวเมว – เชตวเน อนฺตรหิโต เทเวสุ ตาวตึเสสุ ปาตุรโหสิ.
เตน โข ปน สมเยน ปฺจมตฺตานิ อจฺฉราสตานิ สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส อุปฏฺานํ อาคตานิ โหนฺติ กกุฏปาทานิ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ นนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘ปสฺสสิ โน ตฺวํ, นนฺท, อิมานิ ปฺจ อจฺฉราสตานิ กกุฏปาทานี’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, นนฺท, กตมา นุ โข อภิรูปตรา วา ทสฺสนียตรา วา ปาสาทิกตรา วา, สากิยานี วา ชนปทกลฺยาณี, อิมานิ วา ปฺจ อจฺฉราสตานิ กกุฏปาทานี’’ติ? ‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, ปลุฏฺมกฺกฏี กณฺณนาสจฺฉินฺนา, เอวเมว โข, ภนฺเต, สากิยานี ชนปทกลฺยาณี ¶ อิเมสํ ปฺจนฺนํ อจฺฉราสตานํ ¶ อุปนิธาย สงฺขฺยมฺปิ [สงฺขมฺปิ (สี.)] โนเปติ กลภาคมฺปิ โนเปติ อุปนิธิมฺปิ โนเปติ. อถ โข อิมานิ ปฺจ อจฺฉราสตานิ อภิรูปตรานิ เจว ทสฺสนียตรานิ จ ปาสาทิกตรานิ จา’’ติ.
‘‘อภิรม, นนฺท, อภิรม, นนฺท! อหํ เต ปาฏิโภโค ปฺจนฺนํ อจฺฉราสตานํ ปฏิลาภาย กกุฏปาทาน’’นฺติ. ‘‘สเจ เม, ภนฺเต, ภควา ปาฏิโภโค ปฺจนฺนํ อจฺฉราสตานํ ปฏิลาภาย กกุฏปาทานํ, อภิรมิสฺสามหํ, ภนฺเต, ภควติ พฺรหฺมจริเย’’ติ [ภควา พฺรหฺมจริเยติ (สฺยา. ปี.), ภควา พฺรหฺมจริยนฺติ (ก.)].
อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ นนฺทํ พาหายํ คเหตฺวา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว – เทเวสุ ตาวตึเสสุ อนฺตรหิโต เชตวเน ปาตุรโหสิ.
อสฺโสสุํ ¶ โข ภิกฺขู – ‘‘อายสฺมา กิร นนฺโท ภควโต ภาตา มาตุจฺฉาปุตฺโต อจฺฉรานํ ¶ เหตุ พฺรหฺมจริยํ จรติ; ภควา กิรสฺส ปาฏิโภโค ปฺจนฺนํ อจฺฉราสตานํ ปฏิลาภาย กกุฏปาทาน’’นฺติ.
อถ โข อายสฺมโต นนฺทสฺส สหายกา ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ นนฺทํ ภตกวาเทน จ อุปกฺกิตกวาเทน จ สมุทาจรนฺติ – ‘‘ภตโก กิรายสฺมา นนฺโท อุปกฺกิตโก กิรายสฺมา นนฺโท อจฺฉรานํ เหตุ พฺรหฺมจริยํ จรติ; ภควา กิรสฺส ปาฏิโภโค ปฺจนฺนํ อจฺฉราสตานํ ปฏิลาภาย กกุฏปาทาน’’นฺติ.
อถ โข อายสฺมา นนฺโท ¶ สหายกานํ ภิกฺขูนํ ภตกวาเทน จ อุปกฺกิตกวาเทน จ อฏฺฏียมาโน หรายมาโน ชิคุจฺฉมาโน เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรสฺเสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. ‘‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’’ติ อพฺภฺาสิ. อฺตโร โข ปนายสฺมา นนฺโท อรหตํ อโหสิ.
อถ โข อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข สา เทวตา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อายสฺมา, ภนฺเต, นนฺโท ภควโต ภาตา มาตุจฺฉาปุตฺโต อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา ¶ สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ. ภควโตปิ โข าณํ อุทปาทิ – ‘‘นนฺโท อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ.
อถ โข อายสฺมา นนฺโท ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา นนฺโท ¶ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ยํ เม, ภนฺเต, ภควา ปาฏิโภโค ปฺจนฺนํ อจฺฉราสตานํ ปฏิลาภาย กกุฏปาทานํ, มฺุจามหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ เอตสฺมา ปฏิสฺสวา’’ติ. ‘‘มยาปิ โข ¶ ตฺวํ, นนฺท [โข เต นนฺท (สี. สฺยา. ปี.), โข นนฺท (ก.)], เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต – ‘นนฺโท อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’ติ. เทวตาปิ เม เอตมตฺถํ อาโรเจสิ – ‘อายสฺมา, ภนฺเต, นนฺโท ภควโต ภาตา มาตุจฺฉาปุตฺโต อาสวานํ ขยา ¶ อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’ติ. ยเทว โข เต, นนฺท, อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺตํ, อถาหํ มุตฺโต เอตสฺมา ปฏิสฺสวา’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยสฺส นิตฺติณฺโณ ปงฺโก,
มทฺทิโต กามกณฺฏโก;
โมหกฺขยํ อนุปฺปตฺโต,
สุขทุกฺเขสุ น เวธตี ส ภิกฺขู’’ติ. ทุติยํ;
๓. ยโสชสุตฺตํ
๒๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ยโสชปฺปมุขานิ ปฺจมตฺตานิ ภิกฺขุสตานิ สาวตฺถึ อนุปฺปตฺตานิ โหนฺติ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. เตธ โข อาคนฺตุกา ภิกฺขู เนวาสิเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปฏิสมฺโมทมานา เสนาสนานิ ปฺาปยมานา ปตฺตจีวรานิ ปฏิสามยมานา อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา [อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา (ก.)] อเหสุํ ¶ .
อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘เก ปเนเต, อานนฺท, อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา เกวฏฺฏา มฺเ มจฺฉวิโลเป’’ติ? ‘‘เอตานิ, ภนฺเต, ยโสชปฺปมุขานิ ปฺจมตฺตานิ ภิกฺขุสตานิ สาวตฺถึ อนุปฺปตฺตานิ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. เตเต อาคนฺตุกา ภิกฺขู เนวาสิเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปฏิสมฺโมทมานา เสนาสนานิ ปฺาปยมานา ปตฺตจีวรานิ ปฏิสามยมานา อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา’’ติ. ‘‘เตนหานนฺท, มม วจเนน เต ภิกฺขู อามนฺเตหิ – ‘สตฺถา อายสฺมนฺเต อามนฺเตตี’’’ติ.
‘‘เอวํ ¶ , ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ ¶ ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา อายสฺมนฺเต อามนฺเตตี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ ¶ ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข เต ภิกฺขู ภควา เอตทโวจ –
‘‘กึ นุ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา, เกวฏฺฏา มฺเ มจฺฉวิโลเป’’ติ? เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา ยโสโช ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิมานิ, ภนฺเต, ปฺจมตฺตานิ ภิกฺขุสตานิ สาวตฺถึ อนุปฺปตฺตานิ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. เตเม อาคนฺตุกา ภิกฺขู เนวาสิเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปฏิสมฺโมทมานา เสนาสนานิ ปฺาปยมานา ปตฺตจีวรานิ ปฏิสามยมานา อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา’’ติ. ‘‘คจฺฉถ, ภิกฺขเว, ปณาเมมิ ¶ โว [โว ปณาเมมิ (สพฺพตฺถ) ม. นิ. ๒.๑๕๗ ปสฺสิตพฺพํ]; น โว มม สนฺติเก วตฺถพฺพ’’นฺติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เสนาสนํ สํสาเมตฺวา [ปฏิสํสาเมตฺวา (สฺยา.)] ปตฺตจีวรมาทาย เยน วชฺชี เตน จาริกํ ปกฺกมึสุ. วชฺชีสุ อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมานา เยน วคฺคุมุทา นที เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา วคฺคุมุทาย นทิยา ตีเร ปณฺณกุฏิโย กริตฺวา วสฺสํ อุปคจฺฉึสุ.
อถ โข อายสฺมา ยโสโช วสฺสูปคโต [วสฺสูปคเต (ก.)] ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภควตา มยํ, อาวุโส, ปณามิตา อตฺถกาเมน หิเตสินา, อนุกมฺปเกน อนุกมฺปํ อุปาทาย. หนฺท มยํ, อาวุโส, ตถา วิหารํ กปฺเปม ยถา โน วิหรตํ ภควา อตฺตมโน อสฺสา’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต ยโสชสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อถ โข เต ภิกฺขู วูปกฏฺา อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรนฺตา เตเนวนฺตรวสฺเสน สพฺเพว ติสฺโส วิชฺชา สจฺฉากํสุ.
อถ โข ภควา สาวตฺถิยํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน เวสาลี เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน เวสาลี ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ.
อถ ¶ โข ภควา วคฺคุมุทาตีริยานํ ภิกฺขูนํ เจตสา เจโต ปริจฺจ มนสิ กริตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อาโลกชาตา วิย เม, อานนฺท, เอสา ทิสา, โอภาสชาตา วิย เม, อานนฺท, เอสา ทิสา; ยสฺสํ ทิสายํ [ยายํ (ก.)] วคฺคุมุทาตีริยา ภิกฺขู ¶ วิหรนฺติ. คนฺตุํ อปฺปฏิกูลาสิ ¶ เม มนสิ กาตุํ. ปหิเณยฺยาสิ ตฺวํ, อานนฺท, วคฺคุมุทาตีริยานํ ¶ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ทูตํ – ‘สตฺถา อายสฺมนฺเต อามนฺเตติ, สตฺถา อายสฺมนฺตานํ ทสฺสนกาโม’’’ติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เยน อฺตโร ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, อาวุโส, เยน วคฺคุมุทาตีริยา ภิกฺขู เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา วคฺคุมุทาตีริเย ภิกฺขู เอวํ วเทหิ – ‘สตฺถา อายสฺมนฺเต อามนฺเตติ, สตฺถา อายสฺมนฺตานํ ทสฺสนกาโม’’’ติ.
‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข โส ภิกฺขุ อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว – มหาวเน กูฏาคารสาลายํ อนฺตรหิโต วคฺคุมุทาย นทิยา ตีเร เตสํ ภิกฺขูนํ ปุรโต ปาตุรโหสิ. อถ โข โส ภิกฺขุ วคฺคุมุทาตีริเย ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา อายสฺมนฺเต อามนฺเตติ, สตฺถา อายสฺมนฺตานํ ทสฺสนกาโม’’ติ.
‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู ตสฺส ภิกฺขุโน ปฏิสฺสุตฺวา เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว – วคฺคุมุทาย นทิยา ตีเร อนฺตรหิตา มหาวเน กูฏาคารสาลายํ ภควโต สมฺมุเข ปาตุรเหสุํ. เตน โข ปน สมเยน ภควา อาเนฺเชน สมาธินา นิสินฺโน ¶ โหติ. อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กตเมน นุ โข ภควา วิหาเรน เอตรหิ วิหรตี’’ติ? อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘อาเนฺเชน โข ภควา วิหาเรน เอตรหิ วิหรตี’’ติ. สพฺเพว อาเนฺชสมาธินา นิสีทึสุ.
อถ ¶ โข อายสฺมา อานนฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, นิกฺขนฺเต ปเม ยาเม, อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ [จีวรํ (สพฺพตฺถ)] กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ; นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม; จิรนิสินฺนา อาคนฺตุกา ภิกฺขู; ปฏิสมฺโมทตุ, ภนฺเต, ภควา อาคนฺตุเกหิ ภิกฺขูหี’’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภควา ตุณฺหี อโหสิ.
ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, นิกฺขนฺเต มชฺฌิเม ยาเม, อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ¶ ภควนฺตํ เอตทโวจ ¶ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ; นิกฺขนฺโต มชฺฌิโม ยาโม; จิรนิสินฺนา อาคนฺตุกา ภิกฺขู; ปฏิสมฺโมทตุ, ภนฺเต, ภควา อาคนฺตุเกหิ ภิกฺขูหี’’ติ. ทุติยมฺปิ โข ภควา ตุณฺหี อโหสิ.
ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, นิกฺขนฺเต ปจฺฉิเม ยาเม, อุทฺธสฺเต อรุเณ, นนฺทิมุขิยา รตฺติยา อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ; นิกฺขนฺโต ปจฺฉิโม ยาโม; อุทฺธสฺโต อรุโณ; นนฺทิมุขี รตฺติ; จิรนิสินฺนา อาคนฺตุกา ภิกฺขู; ปฏิสมฺโมทตุ, ภนฺเต, ภควา, อาคนฺตุเกหิ ¶ ภิกฺขูหี’’ติ.
อถ โข ภควา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘สเจ โข ตฺวํ, อานนฺท, ชาเนยฺยาสิ เอตฺตกมฺปิ เต นปฺปฏิภาเสยฺย [นปฺปฏิเภยฺย (?)]. อหฺจ, อานนฺท, อิมานิ จ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ สพฺเพว อาเนฺชสมาธินา นิสีทิมฺหา’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยสฺส ชิโต กามกณฺฏโก,
อกฺโกโส จ วโธ จ พนฺธนฺจ;
ปพฺพโตว [ปพฺพโต วิย (สี. สฺยา. ปี.)] โส ิโต อเนโช,
สุขทุกฺเขสุ น เวธตี ส ภิกฺขู’’ติ. ตติยํ;
๔. สาริปุตฺตสุตฺตํ
๒๔. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อวิทูเร นิสินฺนํ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยถาปิ ¶ ปพฺพโต เสโล, อจโล สุปฺปติฏฺิโต;
เอวํ โมหกฺขยา ภิกฺขุ, ปพฺพโตว น เวธตี’’ติ. จตุตฺถํ;
๕. มหาโมคฺคลฺลานสุตฺตํ
๒๕. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ¶ อายสฺมา ¶ มหาโมคฺคลฺลาโน ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย กายคตาย สติยา อชฺฌตฺตํ สูปฏฺิตาย. อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ อวิทูเร นิสินฺนํ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย กายคตาย สติยา อชฺฌตฺตํ สูปฏฺิตาย.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สติ กายคตา อุปฏฺิตา,
ฉสุ ผสฺสายตเนสุ สํวุโต;
สตตํ ภิกฺขุ สมาหิโต,
ชฺา นิพฺพานมตฺตโน’’ติ. ปฺจมํ;
๖. ปิลินฺทวจฺฉสุตฺตํ
๒๖. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ [ปิลินฺทิวจฺโฉ (สี.)] ภิกฺขู วสลวาเทน สมุทาจรติ. อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อายสฺมา, ภนฺเต, ปิลินฺทวจฺโฉ ภิกฺขู วสลวาเทน สมุทาจรตี’’ติ.
อถ โข ภควา อฺตรํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, มม วจเนน ปิลินฺทวจฺฉํ ภิกฺขุํ อามนฺเตหิ – ‘สตฺถา ตํ, อาวุโส ปิลินฺทวจฺฉ [วจฺฉ (สฺยา.)], อามนฺเตตี’’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ¶ อายสฺมนฺตํ ¶ ปิลินฺทวจฺฉํ เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา ตํ, อาวุโส ปิลินฺทวจฺฉ, อามนฺเตตี’’ติ.
‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ ตสฺส ภิกฺขุโน ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ ปิลินฺทวจฺฉํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, วจฺฉ, ภิกฺขู วสลวาเทน สมุทาจรสี’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ.
อถ โข ภควา อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส ปุพฺเพนิวาสํ มนสิ กริตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘มา โข ตุมฺเห, ภิกฺขเว, วจฺฉสฺส ภิกฺขุโน อุชฺฌายิตฺถ. น, ภิกฺขเว, วจฺโฉ โทสนฺตโร ภิกฺขู วสลวาเทน สมุทาจรติ. วจฺฉสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปฺจ ชาติสตานิ อพฺโพกิณฺณานิ พฺราหฺมณกุเล ปจฺจาชาตานิ. โส ตสฺส วสลวาโท ทีฆรตฺตํ ¶ สมุทาจิณฺโณ [อชฺฌาจิณฺโณ (สฺยา. ปี. ก. อฏฺกถายํ ปานฺตรํ)]. เตนายํ วจฺโฉ ภิกฺขู วสลวาเทน สมุทาจรตี’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยมฺหี ¶ น มายา วสตี น มาโน,
โย วีตโลโภ อมโม นิราโส;
ปนุณฺณโกโธ [ปณุนฺนโกโธ (ปี.)] อภินิพฺพุตตฺโต,
โส พฺราหฺมโณ โส สมโณ ส ภิกฺขู’’ติ. ฉฏฺํ;
๗. สกฺกุทานสุตฺตํ
๒๗. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา มหากสฺสโป ปิปฺปลิคุหายํ วิหรติ, สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺโน โหติ อฺตรํ ¶ [นิสินฺโน อฺตรํ (สฺยา. ก.)] สมาธึ สมาปชฺชิตฺวา. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป ตสฺส สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺาสิ. อถ โข อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺิตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ ราชคหํ ปิณฺฑาย ปวิเสยฺย’’นฺติ.
เตน โข ปน สมเยน ปฺจมตฺตานิ เทวตาสตานิ อุสฺสุกฺกํ อาปนฺนานิ โหนฺติ อายสฺมโต ¶ มหากสฺสปสฺส ปิณฺฑปาตปฏิลาภาย. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป ตานิ ปฺจมตฺตานิ เทวตาสตานิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ.
เตน โข ปน สมเยน สกฺโก เทวานมินฺโท อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส ปิณฺฑปาตํ ทาตุกาโม โหติ. เปสการวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา ตนฺตํ วินาติ. สุชา [สุชาตา (สฺยา. ปี. ก.)] อสุรกฺา ตสรํ ปูเรติ. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป ราชคเห สปทานํ ปิณฺฑาย จรมาโน เยน สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข สกฺโก เทวานมินฺโท อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน ฆรา นิกฺขมิตฺวา ปจฺจุคนฺตฺวา หตฺถโต ปตฺตํ คเหตฺวา ฆรํ ปวิสิตฺวา [ปวิเสตฺวา (ก.)] ฆฏิยา โอทนํ อุทฺธริตฺวา ปตฺตํ ปูเรตฺวา อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส อทาสิ. โส อโหสิ ปิณฺฑปาโต อเนกสูโป อเนกพฺยฺชโน อเนกรสพฺยฺชโน [อเนกสูปรสพฺยฺชโน (สี. ปี.)]. อถ โข อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส เอตทโหสิ – ‘‘โก นุ โข อยํ สตฺโต ยสฺสายํ ¶ เอวรูโป อิทฺธานุภาโว’’ติ ¶ ? อถ โข อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สกฺโก โข ¶ อยํ เทวานมินฺโท’’ติ. อิติ วิทิตฺวา สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ – ‘‘กตํ โข เต อิทํ, โกสิย; มา [มาสฺสุ (สี. สฺยา.)] ปุนปิ เอวรูปมกาสี’’ติ. ‘‘อมฺหากมฺปิ, ภนฺเต กสฺสป, ปฺุเน อตฺโถ; อมฺหากมฺปิ ปฺุเน กรณีย’’นฺติ.
อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ติกฺขตฺตุํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘‘อโห ทานํ ปรมทานํ [ปรมํ ทานํ (ปี. ก.)] กสฺสเป สุปฺปติฏฺิตํ! อโห ทานํ ปรมทานํ กสฺสเป สุปฺปติฏฺิตํ!! อโห ทานํ ปรมทานํ กสฺสเป สุปฺปติฏฺิต’’นฺติ!!! อสฺโสสิ โข ภควา ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ติกฺขตฺตุํ อุทานํ อุทาเนนฺตสฺส – ‘‘อโห ทานํ ปรมทานํ กสฺสเป สุปฺปติฏฺิตํ! อโห ทานํ ปรมทานํ กสฺสเป สุปฺปติฏฺิตํ!! อโห ทานํ ปรมทานํ กสฺสเป สุปฺปติฏฺิต’’นฺติ!!!
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ปิณฺฑปาติกสฺส ภิกฺขุโน,
อตฺตภรสฺส อนฺโปสิโน;
เทวา ¶ ปิหยนฺติ ตาทิโน,
อุปสนฺตสฺส สทา สตีมโต’’ติ. สตฺตมํ;
๘. ปิณฺฑปาติกสุตฺตํ
๒๘. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ กเรริมณฺฑลมาเฬ ¶ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ –
‘‘ปิณฺฑปาติโก, อาวุโส, ภิกฺขุ ปิณฺฑาย จรนฺโต ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก จกฺขุนา รูเป ปสฺสิตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก โสเตน สทฺเท โสตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก ฆาเนน ¶ คนฺเธ ฆายิตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก ชิวฺหาย รเส สายิตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก กาเยน โผฏฺพฺเพ ผุสิตุํ. ปิณฺฑปาติโก, อาวุโส, ภิกฺขุ สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต ปิณฺฑาย จรติ. หนฺทาวุโส, มยมฺปิ ปิณฺฑปาติกา โหม. มยมฺปิ ลจฺฉาม กาเลน กาลํ มนาปิเก จกฺขุนา รูเป ปสฺสิตุํ, มยมฺปิ ลจฺฉาม กาเลน กาลํ มนาปิเก โสเตน สทฺเท โสตุํ, มยมฺปิ ลจฺฉาม กาเลน กาลํ มนาปิเก ฆาเนน คนฺเธ ฆายิตุํ, มยมฺปิ ลจฺฉาม กาเลน กาลํ มนาปิเก ชิวฺหาย รเส สายิตุํ, มยมฺปิ ลจฺฉาม กาเลน กาลํ มนาปิเก กาเยน โผฏฺพฺเพ ¶ ผุสิตุํ; มยมฺปิ สกฺกตา ครุกตา มานิตา ปูชิตา อปจิตา ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติ. อยฺจรหิ เตสํ ภิกฺขูนํ อนฺตรากถา โหติ วิปฺปกตา.
อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน กเรริมณฺฑลมาโฬ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ?
‘‘อิธ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ กเรริมณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ ¶ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ –
‘ปิณฺฑปาติโก, อาวุโส, ภิกฺขุ ปิณฺฑาย จรนฺโต ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก จกฺขุนา ¶ รูเป ปสฺสิตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก โสเตน สทฺเท โสตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก ฆาเนน คนฺเธ ฆายิตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก ชิวฺหาย รเส สายิตุํ, ลภติ กาเลน กาลํ มนาปิเก กาเยน โผฏฺพฺเพ ผุสิตุํ. ปิณฺฑปาติโก, อาวุโส, ภิกฺขุ สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต ปิณฺฑาย จรติ. หนฺทาวุโส, มยมฺปิ ปิณฺฑปาติกา โหม. มยมฺปิ ลจฺฉาม กาเลน กาลํ มนาปิเก จกฺขุนา รูเป ปสฺสิตุํ…เป… กาเยน โผฏฺพฺเพ ผุสิตุํ. มยมฺปิ สกฺกตา ครุกตา มานิตา ปูชิตา อปจิตา ปิณฺฑาย จริสฺสามา’ติ. อยํ โข โน, ภนฺเต, อนฺตรากถา วิปฺปกตา, อถ ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติ.
‘‘น ¶ ขฺเวตํ, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ ปติรูปํ กุลปุตฺตานํ สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตานํ ยํ ตุมฺเห เอวรูปึ กถํ กเถยฺยาถ. สนฺนิปติตานํ โว, ภิกฺขเว, ทฺวยํ กรณียํ – ธมฺมี วา กถา อริโย วา ตุณฺหีภาโว’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ ¶ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ปิณฺฑปาติกสฺส ภิกฺขุโน,
อตฺตภรสฺส อนฺโปสิโน;
เทวา ปิหยนฺติ ตาทิโน,
โน เจ สทฺทสิโลกนิสฺสิโต’’ติ. อฏฺมํ;
๙. สิปฺปสุตฺตํ
๒๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ มณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘โก นุ โข, อาวุโส, สิปฺปํ ชานาติ? โก กึ สิปฺปํ สิกฺขิ? กตรํ สิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ?
ตตฺเถกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘หตฺถิสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘อสฺสสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘รถสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘ธนุสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘ถรุสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘มุทฺทาสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ ¶ – ‘‘คณนาสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ ¶ – ‘‘สงฺขานสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘เลขาสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘กาเวยฺยสิปฺปํ [กาพฺยสิปฺปํ (สฺยา.)] สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘โลกายตสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘ขตฺตวิชฺชาสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’’นฺติ. อยฺจรหิ เตสํ ภิกฺขูนํ อนฺตรากถา โหติ วิปฺปกตา.
อถ โข ภควา ¶ สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน มณฺฑลมาโฬ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช ¶ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ?
‘‘อิธ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ มณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘โก นุ โข, อาวุโส, สิปฺปํ ชานาติ? โก กึ สิปฺปํ สิกฺขิ? กตรํ สิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ?
‘‘ตตฺเถกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘หตฺถิสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘อสฺสสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ; เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘รถสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ; เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘ธนุสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ; เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘ถรุสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ, เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘มุทฺทาสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘คณนาสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ; เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘สงฺขานสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ; เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘เลขาสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ; เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘กาเวยฺยสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ; เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘โลกายตสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ; เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘ขตฺตวิชฺชาสิปฺปํ สิปฺปานํ อคฺค’นฺติ. อยํ โข โน, ภนฺเต, อนฺตรากถา โหติ วิปฺปกตา, อถ ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติ.
‘‘น ขฺเวตํ, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ ปติรูปํ กุลปุตฺตานํ สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตานํ ยํ ตุมฺเห เอวรูปึ กถํ กเถยฺยาถ. สนฺนิปติตานํ ¶ โว, ภิกฺขเว, ทฺวยํ กรณียํ – ธมฺมี วา กถา อริโย วา ตุณฺหีภาโว’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘อสิปฺปชีวี ¶ ลหุ อตฺถกาโม,
ยตินฺทฺริโย สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโต;
อโนกสารี อมโม นิราโส,
หิตฺวา มานํ เอกจโร ส ภิกฺขู’’ติ. นวมํ;
๑๐. โลกสุตฺตํ
๓๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อุรุเวลายํ วิหรติ นชฺชา เนรฺชราย ตีเร โพธิรุกฺขมูเล ปมาภิสมฺพุทฺโธ. เตน โข ปน สมเยน ¶ ภควา สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺโน โหติ วิมุตฺติสุขปฏิสํเวที.
อถ โข ภควา ตสฺส สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวา พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกสิ. อทฺทสา โข ภควา พุทฺธจกฺขุนา โวโลเกนฺโต สตฺเต อเนเกหิ สนฺตาเปหิ สนฺตปฺปมาเน, อเนเกหิ จ ปริฬาเหหิ ปริฑยฺหมาเน – ราคเชหิปิ, โทสเชหิปิ, โมหเชหิปิ [โมหเชหิปีติ (สพฺพตฺถ)].
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘อยํ โลโก สนฺตาปชาโต,
ผสฺสปเรโต โรคํ วทติ อตฺตโต;
เยน เยน หิ มฺติ [เยน หิ มฺติ (สฺยา. ปี.)],
ตโต ตํ โหติ อฺถา.
‘‘อฺถาภาวี ภวสตฺโต โลโก,
ภวปเรโต ภวเมวาภินนฺทติ;
ยสฺส ภายติ ตํ ทุกฺขํ;
ภววิปฺปหานาย โข ปนิทํ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ’’.
‘‘‘เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ภเวน ภวสฺส วิปฺปโมกฺขมาหํสุ, สพฺเพ เต อวิปฺปมุตฺตา ¶ ภวสฺมา’ติ วทามิ. ‘เย วา ปน เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา วิภเวน ภวสฺส นิสฺสรณมาหํสุ, สพฺเพ เต อนิสฺสฏา ภวสฺมา’ติ วทามิ.
‘‘อุปธิฺหิ ปฏิจฺจ ทุกฺขมิทํ สมฺโภติ, สพฺพุปาทานกฺขยา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโว. โลกมิมํ ปสฺส; ปุถู อวิชฺชาย ปเรตา ภูตา ภูตรตา อปริมุตฺตา; เย หิ เกจิ ภวา สพฺพธิ สพฺพตฺถตาย สพฺเพ เต ภวา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา’’ติ.
‘‘เอวเมตํ ¶ ยถาภูตํ, สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต;
ภวตณฺหา ปหียติ, วิภวํ นาภินนฺทติ.
‘‘สพฺพโส ตณฺหานํ ขยา,
อเสสวิราคนิโรโธ นิพฺพานํ;
ตสฺส นิพฺพุตสฺส ภิกฺขุโน,
อนุปาทา [อนุปาทานา (สี.)] ปุนพฺภโว น โหติ;
อภิภูโต มาโร วิชิตสงฺคาโม,
อุปจฺจคา สพฺพภวานิ ตาที’’ติ. ทสมํ;
นนฺทวคฺโค ตติโย นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
กมฺมํ ¶ นนฺโท ยโสโช จ, สาริปุตฺโต จ โกลิโต;
ปิลินฺโท [ปิลินฺทิ (สี.)] กสฺสโป ปิณฺโฑ, สิปฺปํ โลเกน เต ทสาติ.