📜
๕. โสณวคฺโค [มหาวคฺค (อฏฺกถาย สเมติ)]
๑. ปิยตรสุตฺตํ
๔๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ราชา ปเสนทิ โกสโล มลฺลิกาย เทวิยา สทฺธึ อุปริปาสาทวรคโต โหติ. อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล มลฺลิกํ เทวึ เอตทโวจ – ‘‘อตฺถิ นุ โข เต, มลฺลิเก, โกจฺโ อตฺตนา ปิยตโร’’ติ?
‘‘นตฺถิ โข เม, มหาราช, โกจฺโ อตฺตนา ปิยตโร. ตุยฺหํ ปน, มหาราช, อตฺถฺโ โกจิ อตฺตนา ปิยตโร’’ติ? ‘‘มยฺหมฺปิ โข, มลฺลิเก, นตฺถฺโ โกจิ อตฺตนา ปิยตโร’’ติ.
อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ปาสาทา โอโรหิตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, มลฺลิกาย เทวิยา สทฺธึ อุปริปาสาทวรคโต มลฺลิกํ เทวึ เอตทโวจํ – ‘อตฺถิ นุ โข เต, มลฺลิเก, โกจฺโ อตฺตนา ปิยตโร’ติ? เอวํ วุตฺเต, มลฺลิกา เทวี มํ เอตทโวจ – ‘นตฺถิ โข เม, มหาราช, โกจฺโ อตฺตนา ปิยตโร. ตุยฺหํ ปน, มหาราช, อตฺถฺโ โกจิ อตฺตนา ปิยตโร’ติ? เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภนฺเต, มลฺลิกํ เทวึ เอตทโวจํ – ‘มยฺหมฺปิ โข, มลฺลิเก, นตฺถฺโ โกจิ อตฺตนา ปิยตโร’’’ติ.
อถ ¶ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สพฺพา ¶ ทิสา อนุปริคมฺม เจตสา,
เนวชฺฌคา ปิยตรมตฺตนา กฺวจิ;
เอวํ ปิโย ปุถุ อตฺตา ปเรสํ,
ตสฺมา น หึเส ปรมตฺตกาโม’’ติ. ปมํ;
๒. อปฺปายุกสุตฺตํ
๔๒. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ¶ สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา [ปฏิสลฺลาณา (สี.)] วุฏฺิโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! ยาว อปฺปายุกา หิ, ภนฺเต, ภควโต มาตา อโหสิ, สตฺตาหชาเต ภควติ ภควโต มาตา กาลมกาสิ, ตุสิตํ กายํ อุปปชฺชี’’ติ.
‘‘เอวเมตํ, อานนฺท [เอวเมตํ อานนฺท เอวเมตํ อานนฺท (สฺยา.)], อปฺปายุกา หิ, อานนฺท, โพธิสตฺตมาตโร โหนฺติ. สตฺตาหชาเตสุ โพธิสตฺเตสุ โพธิสตฺตมาตโร กาลํ กโรนฺติ, ตุสิตํ กายํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘เย เกจิ ภูตา ภวิสฺสนฺติ เย วาปิ,
สพฺเพ คมิสฺสนฺติ ปหาย เทหํ;
ตํ สพฺพชานึ กุสโล วิทิตฺวา,
อาตาปิโย พฺรหฺมจริยํ จเรยฺยา’’ติ. ทุติยํ;
๓. สุปฺปพุทฺธกุฏฺิสุตฺตํ
๔๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน ¶ กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน ราชคเห สุปฺปพุทฺโธ นาม กุฏฺี อโหสิ – มนุสฺสทลิทฺโท, มนุสฺสกปโณ ¶ , มนุสฺสวราโก. เตน โข ปน สมเยน ภควา มหติยา ปริสาย ปริวุโต ธมฺมํ เทเสนฺโต นิสินฺโน โหติ.
อทฺทสา โข สุปฺปพุทฺโธ กุฏฺี ตํ มหาชนกายํ ทูรโตว สนฺนิปติตํ. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข เอตฺถ กิฺจิ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ภาชียติ [ภาชียิสฺสติ (สี.)]. ยํนูนาหํ เยน โส มหาชนกาโย เตนุปสงฺกเมยฺยํ. อปฺเปว นาเมตฺถ กิฺจิ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ลเภยฺย’’นฺติ.
อถ ¶ โข สุปฺปพุทฺโธ กุฏฺี เยน โส มหาชนกาโย เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข สุปฺปพุทฺโธ กุฏฺี ภควนฺตํ มหติยา ปริสาย ปริวุตํ ธมฺมํ เทเสนฺตํ นิสินฺนํ. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘น โข เอตฺถ กิฺจิ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ภาชียติ. สมโณ อยํ โคตโม ปริสติ ธมฺมํ เทเสติ. ยํนูนาหมฺปิ ธมฺมํ สุเณยฺย’’นฺติ. ตตฺเถว เอกมนฺตํ นิสีทิ – ‘‘อหมฺปิ ธมฺมํ โสสฺสามี’’ติ.
อถ โข ภควา สพฺพาวนฺตํ ¶ ปริสํ เจตสา เจโต ปริจฺจ มนสากาสิ ‘‘โก นุ โข อิธ ภพฺโพ ธมฺมํ วิฺาตุ’’นฺติ? อทฺทสา โข ภควา สุปฺปพุทฺธํ กุฏฺึ ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺนํ. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อิธ ภพฺโพ ธมฺมํ วิฺาตุ’’นฺติ. สุปฺปพุทฺธํ กุฏฺึ อารพฺภ อานุปุพฺพึ กถํ [อานุปุพฺพิกถํ (สี.), อนุปุพฺพิกถํ (สฺยา. ปี. ก.)] กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ; กามานํ อาทีนวํ โอการํ สงฺกิเลสํ; เนกฺขมฺเม [เนกฺขมฺเม จ (สี. สฺยา. ปี.)] อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา ภควา อฺาสิ สุปฺปพุทฺธํ กุฏฺึ ¶ กลฺลจิตฺตํ มุทุจิตฺตํ วินีวรณจิตฺตํ อุทคฺคจิตฺตํ ปสนฺนจิตฺตํ, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ, สมุทยํ, นิโรธํ, มคฺคํ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, เอวเมว สุปฺปพุทฺธสฺส กุฏฺิสฺส ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ.
อถ โข สุปฺปพุทฺโธ กุฏฺี ทิฏฺธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม ปริโยคาฬฺหธมฺโม ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิคตกถํกโถ เวสารชฺชปฺปตฺโต อปรปฺปจฺจโย สตฺถุ สาสเน อุฏฺายาสนา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สุปฺปพุทฺโธ กุฏฺี ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘อภิกฺกนฺตํ ¶ , ภนฺเต, อภิกฺกตํ, ภนฺเต! เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ; เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.
อถ ¶ โข สุปฺปพุทฺโธ กุฏฺี ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ ¶ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข อจิรปกฺกนฺตํ สุปฺปพุทฺธํ กุฏฺึ คาวี ตรุณวจฺฉา อธิปติตฺวา ชีวิตา โวโรเปสิ.
อถ โข สมฺพหุลา ¶ ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘โย โส, ภนฺเต, สุปฺปพุทฺโธ นาม กุฏฺี ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต, โส กาลงฺกโต. ตสฺส กา คติ, โก อภิสมฺปราโย’’ติ?
‘‘ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, สุปฺปพุทฺโธ กุฏฺี; ปจฺจปาทิ ธมฺมสฺสานุธมฺมํ; น จ มํ ธมฺมาธิกรณํ วิเหเสสิ. สุปฺปพุทฺโธ, ภิกฺขเว, กุฏฺี ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’ติ.
เอวํ วุตฺเต, อฺตโร ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย เยน สุปฺปพุทฺโธ กุฏฺี อโหสิ – มนุสฺสทลิทฺโท, มนุสฺสกปโณ, มนุสฺสวราโก’’ติ?
‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, สุปฺปพุทฺโธ กุฏฺี อิมสฺมึเยว ราชคเห เสฏฺิปุตฺโต อโหสิ. โส อุยฺยานภูมึ นิยฺยนฺโต อทฺทส ตครสิขึ [ตคฺครสิขึ (ก.)] ปจฺเจกพุทฺธํ นครํ ปิณฺฑาย ปวิสนฺตํ. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘กฺวายํ กุฏฺี กุฏฺิจีวเรน วิจรตี’ติ? นิฏฺุภิตฺวา อปสพฺยโต [อปพฺยามโต (สฺยา. สํ. นิ. ๑.๒๕๕)] กริตฺวา ปกฺกามิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน พหูนิ วสฺสสตานิ พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ นิรเย ปจฺจิตฺถ. ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสน ¶ อิมสฺมึเยว ราชคเห กุฏฺี อโหสิ มนุสฺสทลิทฺโท, มนุสฺสกปโณ, มนุสฺสวราโก. โส ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ อาคมฺม สทฺธํ สมาทิยิ สีลํ สมาทิยิ สุตํ สมาทิยิ จาคํ สมาทิยิ ปฺํ สมาทิยิ. โส ¶ ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ อาคมฺม สทฺธํ สมาทิยิตฺวา สีลํ สมาทิยิตฺวา สุตํ สมาทิยิตฺวา จาคํ สมาทิยิตฺวา ปฺํ สมาทิยิตฺวา กายสฺส ¶ เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺโน เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยตํ. โส ตตฺถ อฺเ เทเว อติโรจติ วณฺเณน เจว ยสสา จา’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘จกฺขุมา วิสมานีว, วิชฺชมาเน ปรกฺกเม;
ปณฺฑิโต ชีวโลกสฺมึ, ปาปานิ ปริวชฺชเย’’ติ. ตติยํ;
๔. กุมารกสุตฺตํ
๔๔. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา กุมารกา อนฺตรา จ สาวตฺถึ อนฺตรา จ เชตวนํ มจฺฉเก พาเธนฺติ.
อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อทฺทสา โข ภควา เต สมฺพหุเล กุมารเก อนฺตรา จ สาวตฺถึ อนฺตรา จ เชตวนํ มจฺฉเก พาเธนฺเต. ทิสฺวาน เยน เต กุมารกา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต กุมารเก เอตทโวจ – ‘‘ภายถ โว, ตุมฺเห กุมารกา, ทุกฺขสฺส, อปฺปิยํ โว ทุกฺข’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต, ภายาม มยํ, ภนฺเต, ทุกฺขสฺส ¶ , อปฺปิยํ โน ทุกฺข’’นฺติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สเจ ภายถ ทุกฺขสฺส, สเจ โว ทุกฺขมปฺปิยํ;
มากตฺถ ปาปกํ กมฺมํ, อาวิ วา ยทิ วา รโห.
‘‘สเจ จ ปาปกํ กมฺมํ, กริสฺสถ กโรถ วา;
น โว ทุกฺขา ปมุตฺยตฺถิ, อุเปจฺจปิ [อุปจฺจปิ (ก.), อุปฺปจฺจปิ (?), อุปฺปติตฺวาปิ อิติ อตฺโถ] ปลายต’’นฺติ. จตุตฺถํ;
๕. อุโปสถสุตฺตํ
๔๕. เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. เตน โข ปน สมเยน ภควา ตทหุโปสเถ ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต นิสินฺโน โหติ.
อถ โข อายสฺมา อานนฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, นิกฺขนฺเต ปเม ยาเม, อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ [จีวรํ (สพฺพตฺถ)] กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ; นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม; จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ; อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ. เอวํ วุตฺเต, ภควา ตุณฺหี อโหสิ.
ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, นิกฺขนฺเต มชฺฌิเม ยาเม, อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ; นิกฺขนฺโต มชฺฌิโม ยาโม; จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ; อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ. ทุติยมฺปิ โข ภควา ตุณฺหี ¶ อโหสิ.
ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, นิกฺขนฺเต ¶ ปจฺฉิเม ยาเม, อุทฺธสฺเต อรุเณ, นนฺทิมุขิยา รตฺติยา อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ; นิกฺขนฺโต ปจฺฉิโม ยาโม; อุทฺธสฺโต อรุโณ; นนฺทิมุขี รตฺติ; จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ; อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ. ‘‘อปริสุทฺธา, อานนฺท, ปริสา’’ติ.
อถ โข อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กํ นุ โข ภควา ปุคฺคลํ สนฺธาย เอวมาห – ‘อปริสุทฺธา, อานนฺท, ปริสา’ติ? อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน สพฺพาวนฺตํ ภิกฺขุสงฺฆํ เจตสา เจโต ปริจฺจ มนสากาสิ. อทฺทสา โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ ปุคฺคลํ ทุสฺสีลํ ปาปธมฺมํ อสุจึ สงฺกสฺสรสมาจารํ ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺตํ อสมณํ สมณปฏิฺํ อพฺรหฺมจารึ พฺรหฺมจาริปฏิฺํ อนฺโตปูตึ อวสฺสุตํ กสมฺพุชาตํ มชฺเฌ ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิสินฺนํ. ทิสฺวาน อุฏฺายาสนา เยน โส ปุคฺคโล เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ¶ ปุคฺคลํ เอตทโวจ ¶ – ‘‘อุฏฺเหิ, อาวุโส, ทิฏฺโสิ ภควตา; นตฺถิ เต ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาโส’’ติ. เอวํ วุตฺเต [อถ โข (สพฺพตฺถ), จูฬว. ๓๘๓; อ. นิ. ๘.๒๐ ปสฺสิตพฺพํ], โส ปุคฺคโล ตุณฺหี อโหสิ.
ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ ปุคฺคลํ เอตทโวจ – ‘‘อุฏฺเหิ, อาวุโส, ทิฏฺโสิ ภควตา; นตฺถิ เต ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาโส’’ติ. ทุติยมฺปิ โข…เป… ¶ ตติยมฺปิ โข โส ปุคฺคโล ตุณฺหี อโหสิ.
อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ ปุคฺคลํ พาหายํ คเหตฺวา พหิทฺวารโกฏฺกา นิกฺขาเมตฺวา สูจิฆฏิกํ ทตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘นิกฺขามิโต, ภนฺเต, โส ปุคฺคโล มยา. ปริสุทฺธา ปริสา. อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ. ‘‘อจฺฉริยํ, โมคฺคลฺลาน, อพฺภุตํ, โมคฺคลฺลาน! ยาว พาหาคหณาปิ นาม โส โมฆปุริโส อาคเมสฺสตี’’ติ!
อถ โข ¶ ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น ทานาหํ, ภิกฺขเว, อิโต ปรํ [น ทานาหํ ภิกฺขเว อชฺชตคฺเค (อ. นิ. ๘.๒๐)] อุโปสถํ กริสฺสามิ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิสฺสามิ. ตุมฺเหว ทานิ, ภิกฺขเว, อิโต ปรํ อุโปสถํ กเรยฺยาถ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยาถ. อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส ยํ ตถาคโต อปริสุทฺธาย ปริสาย อุโปสถํ กเรยฺย, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺย.
‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ. กตเม อฏฺ?
‘‘มหาสมุทฺโท, ภิกฺขเว, อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร, น อายตเกเนว ปปาโต. ยมฺปิ [ยํ (สี. สฺยา. ก.)], ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร น อายตเกเนว ปปาโต; อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน ¶ ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตติ; อยํ, ภิกฺขเว [อยมฺปิ (สพฺพตฺถ)], มหาสมุทฺเท ทุติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท น มเตน กุณเปน สํวสติ. ยํ โหติ มหาสมุทฺเท มตํ กุณปํ ตํ ขิปฺปเมว [ขิปฺปฺเว (สี.), ขิปฺปํเยว (ก.)] ตีรํ วาเหติ, ถลํ อุสฺสาเรติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท น มเตน กุณเปน สํวสติ, ยํ โหติ มหาสมุทฺเท มตํ กุณปํ ตํ ขิปฺปเมว ตีรํ วาเหติ ถลํ อุสฺสาเรติ; อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท ตติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ยา กาจิ มหานทิโย, เสยฺยถิทํ – คงฺคา ยมุนา อจิรวตี สรภู มหี, ตา มหาสมุทฺทํ ปตฺวา [ปตฺตา (สฺยา. ปี. ก.)] ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ; ‘มหาสมุทฺโท’ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ยา กาจิ มหานทิโย, เสยฺยถิทํ – คงฺคา ยมุนา อจิรวตี สรภู มหี ตา มหาสมุทฺทํ ปตฺวา ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ, ‘มหาสมุทฺโท’ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ; อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท จตุตฺโถ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ยา จ โลเก สวนฺติโย มหาสมุทฺทํ อปฺเปนฺติ, ยา จ อนฺตลิกฺขา ธารา ปปตนฺติ, น เตน มหาสมุทฺทสฺส ¶ อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว ¶ , ยา จ โลเก สวนฺติโย มหาสมุทฺทํ อปฺเปนฺติ, ยา จ อนฺตลิกฺขา ธารา ปปตนฺติ, น เตน มหาสมฺมุทฺทสฺส อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ; อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท ปฺจโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท เอกรโส โลณรโส. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท เอกรโส โลณรโส; อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท ฉฏฺโ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท พหุรตโน อเนกรตโน. ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ ¶ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตงฺโค มสารคลฺลํ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท พหุรตโน อเนกรตโน, ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตงฺโค [โลหิตงฺโก (สี. ปี.), โลหิตโก (?)] มสารคลฺลํ; อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท สตฺตโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท มหตํ ภูตานํ อาวาโส. ตตฺริเม ภูตา – ติมิ ติมิงฺคโล ติมิติมิงฺคโล [ติมิ ติมิงฺคโล ติมิรปิงฺคโล (สี. ปี., อ. นิ. ๘.๑๙)] อสุรา นาคา คนฺธพฺพา. สนฺติ มหาสมุทฺเท โยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, ทฺวิโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, ติโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, จตุโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, ปฺจโยชนสติกาปิ ¶ อตฺตภาวา. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท มหตํ ภูตานํ อาวาโส, ตตฺริเม ภูตา – ติมิ ติมิงฺคโล ติมิติมิงฺคโล อสุรา นาคา คนฺธพฺพา, สนฺติ มหาสมุทฺเท โยชนสติกาปิ อตฺตภาวา ทฺวิโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา…เป… ปฺจโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา; อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท อฏฺโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ มหาสมุทฺเท อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา เย ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ. กตเม อฏฺ?
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร, น อายตเกเนว ปปาโต; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา, น อายตเกเนว อฺาปฏิเวโธ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา, น อายตเกเนว อฺาปฏิเวโธ; อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตติ; เอวเมว ¶ โข, ภิกฺขเว, ยํ มยา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ ตํ มม สาวกา ชีวิตเหตุปิ นาติกฺกมนฺติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มยา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ ตํ มม สาวกา ชีวิตเหตุปิ นาติกฺกมนฺติ; อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ทุติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท น มเตน กุณเปน สํวสติ; ยํ โหติ มหาสมุทฺเท มตํ กุณปํ ตํ ขิปฺปเมว ตีรํ วาเหติ, ถลํ อุสฺสาเรติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, โย โส ปุคฺคโล ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม อสุจิ สงฺกสฺสรสมาจาโร ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโต อสฺสมโณ สมณปฏิฺโ ¶ อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ อนฺโตปูติ อวสฺสุโต กสมฺพุชาโต, น เตน สงฺโฆ สํวสติ; อถ โข นํ ขิปฺปเมว สนฺนิปติตฺวา อุกฺขิปติ. กิฺจาปิ โส โหติ มชฺเฌ ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิสินฺโน, อถ โข โส อารกาว สงฺฆมฺหา, สงฺโฆ จ เตน. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, โย โส ปุคฺคโล ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม อสุจิ สงฺกสฺสรสมาจาโร ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโต อสฺสมโณ สมณปฏิฺโ อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ อนฺโตปูติ อวสฺสุโต กสมฺพุชาโต, น เตน สงฺโฆ สํวสติ; ขิปฺปเมว นํ สนฺนิปติตฺวา อุกฺขิปติ. กิฺจาปิ โส โหติ มชฺเฌ ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิสินฺโน, อถ โข โส อารกาว สงฺฆมฺหา, สงฺโฆ จ เตน; อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ¶ ตติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยา กาจิ มหานทิโย, เสยฺยถิทํ – คงฺคา ยมุนา อจิรวตี สรภู มหี ตา มหาสมุทฺทํ ปตฺวา ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ, ‘มหาสมุทฺโท’ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร วณฺณา – ขตฺติยา, พฺราหฺมณา, เวสฺสา, สุทฺทา เต ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตฺวา [ปพฺพชิตา (ก. สี.)] ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ, ‘สมณา สกฺยปุตฺติยา’ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, จตฺตาโร วณฺณา – ขตฺติยา, พฺราหฺมณา, เวสฺสา, สุทฺทา เต ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตฺวา ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ ¶ , ‘สมณา สกฺยปุตฺติยา’ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ; อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย จตุตฺโถ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยา จ โลเก สวนฺติโย มหาสมุทฺทํ อปฺเปนฺติ, ยา จ อนฺตลิกฺขา ธารา ปปตนฺติ, น เตน มหาสมุทฺทสฺส อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, พหู เจปิ ภิกฺขู อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายนฺติ, น เตน นิพฺพานธาตุยา ¶ อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, พหู เจปิ ภิกฺขู อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายนฺติ, น เตน นิพฺพานธาตุยา อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ; อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ปฺจโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท เอกรโส โลณรโส; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อยํ ธมฺมวินโย เอกรโส วิมุตฺติรโส. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, อยํ ธมฺมวินโย เอกรโส วิมุตฺติรโส; อยํ ¶ , ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ฉฏฺโ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท พหุรตโน อเนกรตโน, ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตงฺโค มสารคลฺลํ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อยํ ธมฺมวินโย พหุรตโน อเนกรตโน; ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, อยํ ธมฺมวินโย พหุรตโน อเนกรตโน, ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค; อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย สตฺตโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท มหตํ ภูตานํ อาวาโส, ตตฺริเม ภูตา – ติมิ ติมิงฺคโล ติมิติมิงฺคโล อสุรา นาคา คนฺธพฺพา, สนฺติ ¶ มหาสมุทฺเท โยชนสติกาปิ อตฺตภาวา ทฺวิโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา ติโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา จตุโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา ปฺจโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อยํ ธมฺมวินโย มหตํ ภูตานํ อาวาโส; ตตฺริเม ภูตา – โสตาปนฺโน, โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, สกทาคามิ, สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, อนาคามี, อนาคามีผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, อรหา, อรหตฺตาย ปฏิปนฺโน [อรหตฺตผลสจฺฉิกิริยาย (สี.)]. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, อยํ ธมฺมวินโย มหตํ ภูตานํ อาวาโส, ตตฺริเม ภูตา – โสตาปนฺโน, โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, สกทาคามี, สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, อนาคามี, อนาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, อรหา, อรหตฺตาย ปฏิปนฺโน; อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อฏฺโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺตี’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ฉนฺนมติวสฺสติ, วิวฏํ นาติวสฺสติ;
ตสฺมา ฉนฺนํ วิวเรถ, เอวํ ตํ นาติวสฺสตี’’ติ. ปฺจมํ;
๖. โสณสุตฺตํ
๔๖. เอวํ ¶ ¶ เม ¶ สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา มหากจฺจาโน อวนฺตีสุ วิหรติ กุรรฆเร [กุรุรฆเร (สฺยา. มหาว. ๒๕๗), กุลฆเร (ก.)] ปวตฺเต ปพฺพเต. เตน โข ปน สมเยน โสโณ อุปาสโก กุฏิกณฺโณ อายสฺมโต มหากจฺจานสฺส อุปฏฺาโก โหติ.
อถ โข โสณสฺส อุปาสกสฺส กุฏิกณฺณสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘ยถา ยถา โข อยฺโย มหากจฺจาโน ธมฺมํ เทเสติ นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. ยํนูนาหํ ¶ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’’นฺติ.
อถ โข โสโณ อุปาสโก กุฏิกณฺโณ เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โสโณ อุปาสโก กุฏิกณฺโณ อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตทโวจ –
‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘ยถา ยถา โข อยฺโย มหากจฺจาโน ธมฺมํ เทเสติ นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’นฺติ. ปพฺพาเชตุ มํ, ภนฺเต ¶ , อยฺโย มหากจฺจาโน’’ติ.
เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา มหากจฺจาโน โสณํ อุปาสกํ กุฏิกณฺณํ เอตทโวจ – ‘‘ทุกฺกรํ โข, โสณ, ยาวชีวํ เอกภตฺตํ เอกเสยฺยํ พฺรหฺมจริยํ. อิงฺฆ ตฺวํ, โสณ, ตตฺเถว อาคาริกภูโต สมาโน พุทฺธานํ สาสนํ อนุยฺุช กาลยุตฺตํ เอกภตฺตํ เอกเสยฺยํ พฺรหฺมจริย’’นฺติ. อถ โข โสณสฺส อุปาสกสฺส กุฏิกณฺณสฺส โย อโหสิ ปพฺพชฺชาภิสงฺขาโร โส ปฏิปสฺสมฺภิ.
ทุติยมฺปิ โข…เป… ¶ ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน โสณํ อุปาสกํ กุฏิกณฺณํ เอตทโวจ – ‘‘ทุกฺกรํ โข, โสณ, ยาวชีวํ เอกภตฺตํ เอกเสยฺยํ พฺรหฺมจริยํ. อิงฺฆ ตฺวํ, โสณ, ตตฺเถว อาคาริกภูโต สมาโน พุทฺธานํ สาสนํ อนุยฺุช กาลยุตฺตํ เอกภตฺตํ เอกเสยฺยํ ¶ พฺรหฺมจริย’’นฺติ. ทุติยมฺปิ โข โสณสฺส อุปาสกสฺส กุฏิกณฺณสฺส โย อโหสิ ปพฺพชฺชาภิสงฺขาโร โส ปฏิปสฺสมฺภิ.
ตติยมฺปิ โข โสณสฺส อุปาสกสฺส กุฏิกณฺณสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘ยถา ยถา โข อยฺโย มหากจฺจาโน ธมฺมํ เทเสติ นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’’นฺติ. ตติยมฺปิ โข โสโณ อุปาสโก กุฏิกณฺโณ ¶ เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โสโณ อุปาสโก กุฏิกณฺโณ อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตทโวจ ¶ –
‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘ยถา ยถา โข อยฺโย มหากจฺจาโน ธมฺมํ เทเสติ นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ ¶ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’นฺติ. ปพฺพาเชตุ มํ, ภนฺเต, อยฺโย มหากจฺจาโน’’ติ.
อถ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน โสณํ อุปาสกํ กุฏิกณฺณํ ปพฺพาเชสิ. เตน โข ปน สมเยน อวนฺติทกฺขิณาปโถ [อวนฺติ ทกฺขิณปโถ (สี.)] อปฺปภิกฺขุโก โหติ. อถ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน ติณฺณํ วสฺสานํ อจฺจเยน กิจฺเฉน กสิเรน ตโต ตโต ทสวคฺคํ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา อายสฺมนฺตํ โสณํ อุปสมฺปาเทสิ.
อถ โข อายสฺมโต โสณสฺส วสฺสํวุฏฺสฺส [วสฺสํวุตฺถสฺส (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘น โข เม โส ภควา สมฺมุขา ทิฏฺโ, อปิ จ สุโตเยว เม โส ภควา – ‘อีทิโส จ อีทิโส จา’ติ. สเจ มํ อุปชฺฌาโย อนุชาเนยฺย, คจฺเฉยฺยาหํ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ.
อถ โข อายสฺมา โสโณ สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา โสโณ อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตทโวจ –
‘‘อิธ ¶ มยฺหํ, ภนฺเต, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘น โข เม โส ภควา สมฺมุขา ทิฏฺโ, อปิ จ สุโตเยว เม โส ภควา – อีทิโส จ อีทิโส จา’ติ. สเจ มํ อุปชฺฌาโย ¶ อนุชาเนยฺย, คจฺเฉยฺยาหํ ¶ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ ( ) [(คจฺเฉยฺยาหํ ภนฺเต ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ, สเจ มํ อุปชฺฌาโย อนุชานาตีติ (มหาว. ๒๕๗)].
‘‘สาธุ สาธุ, โสณ; คจฺฉ ตฺวํ, โสณ, ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ [สมาสมฺพุทฺธนฺติ (สพฺพตฺถ)]. ทกฺขิสฺสสิ ตฺวํ, โสณ, ตํ ภควนฺตํ ปาสาทิกํ ปสาทนียํ สนฺตินฺทฺริยํ สนฺตมานสํ อุตฺตมทมถสมถมนุปฺปตฺตํ ทนฺตํ คุตฺตํ ยตินฺทฺริยํ นาคํ. ทิสฺวาน มม วจเนน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทาหิ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ [ผาสุวิหารฺจ (สี.)] ปุจฺฉ – ‘อุปชฺฌาโย เม, ภนฺเต, อายสฺมา มหากจฺจาโน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทติ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ [ผาสุวิหารฺจ (สี.)] ปุจฺฉตี’’’ติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา โสโณ อายสฺมโต มหากจฺจานสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน สาวตฺถิ เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน สาวตฺถิ เชตวนํ อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราโม, เยน ¶ ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา โสโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อุปชฺฌาโย เม, ภนฺเต, อายสฺมา มหากจฺจาโน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทติ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ [ผาสุวิหารฺจ (สี.)] ปุจฺฉตี’’ติ.
‘‘กจฺจิ, ภิกฺขุ, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิสิ อปฺปกิลมเถน อทฺธานํ อาคโต, น จ ปิณฺฑเกน กิลนฺโตสี’’ติ? ‘‘ขมนียํ ภควา, ยาปนียํ ภควา, อปฺปกิลมเถน จาหํ, ภนฺเต, อทฺธานํ อาคโต, น ปิณฺฑเกน กิลนฺโตมฺหี’’ติ.
อถ ¶ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิมสฺสานนฺท, อาคนฺตุกสฺส ภิกฺขุโน เสนาสนํ ปฺาเปหี’’ติ. อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยสฺส โข มํ ภควา อาณาเปติ ¶ – ‘อิมสฺสานนฺท, อาคนฺตุกสฺส ภิกฺขุโน เสนาสนํ ปฺาเปหี’ติ, อิจฺฉติ ภควา เตน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกวิหาเร วตฺถุํ, อิจฺฉติ ภควา อายสฺมตา โสเณน สทฺธึ เอกวิหาเร วตฺถุ’’นฺติ. ยสฺมึ วิหาเร ภควา วิหรติ, ตสฺมึ วิหาเร อายสฺมโต โสณสฺส เสนาสนํ ปฺาเปสิ.
อถ ¶ โข ภควา พหุเทว รตฺตึ อพฺโภกาเส นิสชฺชาย วีตินาเมตฺวา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา วิหารํ ปาวิสิ. อายสฺมาปิ โข โสโณ พหุเทว รตฺตึ อพฺโภกาเส นิสชฺชาย วีตินาเมตฺวา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา วิหารํ ปาวิสิ. อถ โข ภควา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย อายสฺมนฺตํ โสณํ อชฺเฌสิ – ‘‘ปฏิภาตุ ตํ ภิกฺขุ ธมฺโม ภาสิตุ’’นฺติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา โสโณ ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา โสฬส อฏฺกวคฺคิกานิ สพฺพาเนว สเรน อภณิ. อถ โข ภควา อายสฺมโต โสณสฺส สรภฺปริโยสาเน อพฺภนุโมทิ – ‘‘สาธุ สาธุ, ภิกฺขุ, สุคฺคหิตานิ เต, ภิกฺขุ, โสฬส อฏฺกวคฺคิกานิ สุมนสิกตานิ สูปธาริตานิ, กลฺยาณิยาสิ [กลฺยาณิยา จ (ก.), กลฺยาณิยา จาสิ (?)] วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคฬาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา. กติ วสฺโสสิ ตฺวํ, ภิกฺขู’’ติ? ‘‘เอกวสฺโส อหํ ภควา’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน ตฺวํ ¶ , ภิกฺขุ, เอวํ จิรํ อกาสี’’ติ? ‘‘จิรํ ทิฏฺโ [จิรทิฏฺโ (สี.)] เม, ภนฺเต, กาเมสุ อาทีนโว; อปิ จ สมฺพาโธ ฆราวาโส พหุกิจฺโจ พหุกรณีโย’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ทิสฺวา อาทีนวํ โลเก, ตฺวา ธมฺมํ นิรูปธึ;
อริโย น รมตี ปาเป, ปาเป น รมตี สุจี’’ติ. ฉฏฺํ;
๗. กงฺขาเรวตสุตฺตํ
๔๗. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา กงฺขาเรวโต ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย อตฺตโน กงฺขาวิตรณวิสุทฺธึ ปจฺจเวกฺขมาโน.
อทฺทสา ¶ โข ภควา อายสฺมนฺตํ กงฺขาเรวตํ อวิทูเร นิสินฺนํ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย อตฺตโน กงฺขาวิตรณวิสุทฺธึ ปจฺจเวกฺขมานํ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยา ¶ กาจิ กงฺขา อิธ วา หุรํ วา,
สกเวทิยา วา ปรเวทิยา วา;
เย ฌายิโน ตา ปชหนฺติ สพฺพา,
อาตาปิโน พฺรหฺมจริยํ จรนฺตา’’ติ. สตฺตมํ;
๘. สงฺฆเภทสุตฺตํ
๔๘. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ ¶ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อานนฺโท ตทหุโปสเถ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ.
อทฺทสา โข เทวทตฺโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ราชคเห ปิณฺฑาย จรนฺตํ. ทิสฺวาน เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘อชฺชตคฺเค ทานาหํ, อาวุโส อานนฺท, อฺตฺเรว ภควตา อฺตฺร ภิกฺขุสงฺฆา อุโปสถํ กริสฺสามิ สงฺฆกมฺมานิ จา’’ติ.
อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ราชคเห ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อทฺทสา โข มํ, ภนฺเต, เทวทตฺโต ราชคเห ปิณฺฑาย จรนฺตํ. ทิสฺวาน เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ เอตทโวจ – ‘อชฺชตคฺเค ทานาหํ, อาวุโส อานนฺท, อฺตฺเรว ภควตา อฺตฺร ภิกฺขุสงฺฆา อุโปสถํ กริสฺสามิ สงฺฆกมฺมานิ จา’ติ. อชฺช, ภนฺเต, เทวทตฺโต สงฺฆํ ภินฺทิสฺสติ, อุโปสถฺจ กริสฺสติ สงฺฆกมฺมานิ จา’’ติ.
อถ ¶ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สุกรํ ¶ สาธุนา สาธุ, สาธุ ปาเปน ทุกฺกรํ [สุกรํ สาธุนา สาธุํ, สาธุํ ปาเปน ทุกฺกรํ (ก.)];
ปาปํ ¶ ปาเปน สุกรํ, ปาปมริเยหิ ทุกฺกร’’นฺติ. อฏฺมํ;
๙. สธายมานสุตฺตํ
๔๙. เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา มาณวกา ภควโต อวิทูเร สธายมานรูปา [สทฺทายมานรูปา (สฺยา. ปี. อฏฺกถายํ ปานฺตรํ), ปถายมานรูปา (ก.), วธายมานรูปา (ก. สี., ก. อฏฺ.), สทฺธายมานรูปา (?), สทฺธุธาตุยา สธุธาตุยา วา สิทฺธมิทนฺติ เวทิตพฺพํ] อติกฺกมนฺติ. อทฺทสา โข ภควา สมฺพหุเล มาณวเก อวิทูเร สธายมานรูเป อติกฺกนฺเต.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ปริมุฏฺา ปณฺฑิตาภาสา, วาจาโคจรภาณิโน;
ยาวิจฺฉนฺติ มุขายามํ, เยน นีตา น ตํ วิทู’’ติ. นวมํ;
๑๐. จูฬปนฺถกสุตฺตํ
๕๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา จูฬปนฺถโก [จุลฺลปนฺถโก (สี.), จูลปนฺถโก (ปี.)] ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา.
อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ จูฬปนฺถกํ อวิทูเร นิสินฺนํ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ิเตน ¶ กาเยน ิเตน เจตสา,
ติฏฺํ นิสินฺโน อุท วา สยาโน;
เอตํ [เอวํ (ก.)] สตึ ภิกฺขุ อธิฏฺหาโน,
ลเภถ ¶ ปุพฺพาปริยํ วิเสสํ;
ลทฺธาน ปุพฺพาปริยํ วิเสสํ,
อทสฺสนํ มจฺจุราชสฺส คจฺเฉ’’ติ. ทสมํ;
โสณวคฺโค [โสณเถรวคฺโค (สฺยา. กํ. ก.) มหาวคฺโค (อฏฺกถาย สเมติ)] ปฺจโม นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
ปิโย อปฺปายุกา กุฏฺี, กุมารกา อุโปสโถ;
โสโณ จ เรวโต เภโท, สธาย ปนฺถเกน จาติ.