📜

๗. จูฬวคฺโค

๑. ปมลกุณฺฑกภทฺทิยสุตฺตํ

๖๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมนฺตํ ลกุณฺฑกภทฺทิยํ อเนกปริยาเยน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ [สมาทาเปติ (?)] สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ.

อถ โข อายสฺมโต ลกุณฺฑกภทฺทิยสฺส อายสฺมตา สาริปุตฺเตน อเนกปริยาเยน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิยมานสฺส สมาทปิยมานสฺส สมุตฺเตชิยมานสฺส สมฺปหํสิยมานสฺส อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจิ.

อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ ลกุณฺฑกภทฺทิยํ อายสฺมตา สาริปุตฺเตน อเนกปริยาเยน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิยมานํ สมาทปิยมานํ สมุตฺเตชิยมานํ สมฺปหํสิยมานํ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺตํ [วิมุตฺตจิตฺตํ (?)].

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘อุทฺธํ อโธ สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโต, อยํหมสฺมีติ [อยมหมสฺมีติ (สี. สฺยา. ปี.)] อนานุปสฺสี;

เอวํ วิมุตฺโต อุทตาริ โอฆํ, อติณฺณปุพฺพํ อปุนพฺภวายา’’ติ. ปมํ;

๒. ทุติยลกุณฺฑกภทฺทิยสุตฺตํ

๖๒. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมนฺตํ ลกุณฺฑกภทฺทิยํ เสขํ [เสกฺโขติ (สฺยา.), เสโขติ (ปี.)] มฺมาโน ภิยฺโยโสมตฺตาย อเนกปริยาเยน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ.

อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อายสฺมนฺตํ ลกุณฺฑกภทฺทิยํ เสขํ มฺมานํ ภิยฺโยโสมตฺตาย อเนกปริยาเยน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสนฺตํ สมาทเปนฺตํ สมุตฺเตเชนฺตํ สมฺปหํเสนฺตํ.

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘อจฺเฉจฺฉิ [อจฺเฉชฺชิ (ก. สี.), อจฺฉิชฺชิ (ก. สี. สฺยา.), อฉิชฺชิ (ก.)] วฏฺฏํ พฺยคา นิราสํ, วิสุกฺขา สริตา น สนฺทติ;

ฉินฺนํ วฏฺฏํ น วตฺตติ, เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสา’’ติ. ทุติยํ;

๓. ปมสตฺตสุตฺตํ

๖๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สาวตฺถิยา มนุสฺสา เยภุยฺเยน กาเมสุ อติเวลํ สตฺตา ( ) [(โหนฺติ) (พหูสุ) อฏฺกถาย สํสนฺเทตพฺพํ] รตฺตา คิทฺธา คธิตา [คถิตา (สี.)] มุจฺฉิตา อชฺโฌปนฺนา สมฺมตฺตกชาตา กาเมสุ วิหรนฺติ.

อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย ปาวิสึสุ. สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, สาวตฺถิยา มนุสฺสา เยภุยฺเยน กาเมสุ อติเวลํ สตฺตา รตฺตา คิทฺธา คธิตา มุจฺฉิตา อชฺโฌปนฺนา สมฺมตฺตกชาตา กาเมสุ วิหรนฺตี’’ติ.

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘กาเมสุ สตฺตา กามสงฺคสตฺตา,

สํโยชเน วชฺชมปสฺสมานา;

หิ ชาตุ สํโยชนสงฺคสตฺตา,

โอฆํ ตเรยฺยุํ วิปุลํ มหนฺต’’นฺติ. ตติยํ;

๔. ทุติยสตฺตสุตฺตํ

๖๔. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สาวตฺถิยา มนุสฺสา เยภุยฺเยน กาเมสุ สตฺตา ( ) [(โหนฺติ) (พหูสุ) อฏฺกถาย สํสนฺเทตพฺพํ] รตฺตา คิทฺธา คธิตา มุจฺฉิตา อชฺโฌปนฺนา อนฺธีกตา สมฺมตฺตกชาตา กาเมสุ วิหรนฺติ.

อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อทฺทสา โข ภควา สาวตฺถิยา เต มนุสฺเส เยภุยฺเยน กาเมสุ สตฺเต รตฺเต คิทฺเธ คธิเต มุจฺฉิเต อชฺโฌปนฺเน อนฺธีกเต สมฺมตฺตกชาเต กาเมสุ วิหรนฺเต.

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘กามนฺธา ชาลสฺฉนฺนา, ตณฺหาฉทนฉาทิตา;

ปมตฺตพนฺธุนา พทฺธา, มจฺฉาว กุมินามุเข;

ชรามรณมนฺเวนฺติ [ชรามรณํ คจฺฉนฺติ (สี. สฺยา.)], วจฺโฉ ขีรปโกว มาตร’’นฺติ. จตุตฺถํ;

๕. อปรลกุณฺฑกภทฺทิยสุตฺตํ

๖๕. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ลกุณฺฑกภทฺทิโย สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ.

อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ ลกุณฺฑกภทฺทิยํ ทูรโตว สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อาคจฺฉนฺตํ ทุพฺพณฺณํ ทุทฺทสิกํ โอโกฏิมกํ เยภุยฺเยน ภิกฺขูนํ ปริภูตรูปํ . ทิสฺวาน ภิกฺขู อามนฺเตสิ –

‘‘ปสฺสถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เอตํ ภิกฺขุํ ทูรโตว สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อาคจฺฉนฺตํ ทุพฺพณฺณํ ทุทฺทสิกํ โอโกฏิมกํ เยภุยฺเยน ภิกฺขูนํ ปริภูตรูป’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ.

‘‘เอโส , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มหิทฺธิโก มหานุภาโว. น จ สา สมาปตฺติ สุลภรูปา ยา เตน ภิกฺขุนา อสมาปนฺนปุพฺพา. ยสฺส จตฺถาย [ยสฺสตฺถาย (สี. ก.)] กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ.

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘เนลงฺโค เสตปจฺฉาโท, เอกาโร วตฺตตี รโถ;

อนีฆํ ปสฺส อายนฺตํ, ฉินฺนโสตํ อพนฺธน’’นฺติ. ปฺจมํ;

๖. ตณฺหาสงฺขยสุตฺตํ

๖๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อฺาสิโกณฺฑฺโ [อฺาตโกณฺฑฺโ (สพฺพตฺถ)] ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺตึ ปจฺจเวกฺขมาโน.

อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ อฺาสิโกณฺฑฺํ อวิทูเร นิสินฺนํ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺตึ ปจฺจเวกฺขมานํ.

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ยสฺส มูลํ ฉมา นตฺถิ, ปณฺณา นตฺถิ กุโต ลตา;

ตํ ธีรํ พนฺธนา มุตฺตํ, โก ตํ นินฺทิตุมรหติ;

เทวาปิ นํ ปสํสนฺติ, พฺรหฺมุนาปิ ปสํสิโต’’ติ. ฉฏฺํ;

๗. ปปฺจขยสุตฺตํ

๖๗. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ภควา อตฺตโน ปปฺจสฺาสงฺขาปหานํ ปจฺจเวกฺขมาโน นิสินฺโน โหติ.

อถ โข ภควา อตฺตโน ปปฺจสฺาสงฺขาปหานํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ยสฺส ปปฺจา ิติ จ นตฺถิ,

สนฺทานํ ปลิฆฺจ วีติวตฺโต;

ตํ นิตฺตณฺหํ มุนึ จรนฺตํ,

นาวชานาติ สเทวโกปิ โลโก’’ติ. สตฺตมํ;

๘. กจฺจานสุตฺตํ

๖๘. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา มหากจฺจาโน ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย กายคตาย สติยา อชฺฌตฺตํ ปริมุขํ สูปฏฺิตาย.

อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ อวิทูเร นิสินฺนํ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย กายคตาย สติยา อชฺฌตฺตํ ปริมุขํ สูปฏฺิตาย.

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ยสฺส สิยา สพฺพทา สติ,

สตตํ กายคตา อุปฏฺิตา;

โน จสฺส โน จ เม สิยา,

น ภวิสฺสติ น จ เม ภวิสฺสติ;

อนุปุพฺพวิหาริ ตตฺถ โส,

กาเลเนว ตเร วิสตฺติก’’นฺติ. อฏฺมํ;

๙. อุทปานสุตฺตํ

๖๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา มลฺเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน ถูณํ [ถูนํ (สี. สฺยา. ปี.)] นาม มลฺลานํ พฺราหฺมณคาโม ตทวสริ. อสฺโสสุํ โข ถูเณยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต มลฺเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ถูณํ อนุปฺปตฺโต’’ติ.( ) [(อถ โข เต ถูเณยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา) (?)] อุทปานํ ติณสฺส จ ภุสสฺส จ ยาว มุขโต ปูเรสุํ – ‘‘มา เต มุณฺฑกา สมณกา ปานียํ อปํสู’’ติ.

อถ โข ภควา มคฺคา โอกฺกมฺม เยน รุกฺขมูลํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, อานนฺท, เอตมฺหา อุทปานา ปานียํ อาหรา’’ติ.

เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิทานิ โส, ภนฺเต, อุทปาโน ถูเณยฺยเกหิ พฺราหฺมณคหปติเกหิ ติณสฺส จ ภุสสฺส จ ยาว มุขโต ปูริโต – ‘มา เต มุณฺฑกา สมณกา ปานียํ อปํสู’’’ติ.

ทุติยมฺปิ โข…เป… ตติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, อานนฺท, เอตมฺหา อุทปานา ปานียํ อาหรา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา เยน โส อุทปาโน เตนุปสงฺกมิ. อถ โข โส อุทปาโน อายสฺมนฺเต อานนฺเท อุปสงฺกมนฺเต สพฺพํ ตํ ติณฺจ ภุสฺจ มุขโต โอวมิตฺวา อจฺฉสฺส อุทกสฺส อนาวิลสฺส วิปฺปสนฺนสฺส ยาว มุขโต ปูริโต วิสฺสนฺทนฺโต [วิสฺสนฺโท (ก.)] มฺเ อฏฺาสิ.

อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ, ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา! อยฺหิ โส อุทปาโน มยิ อุปสงฺกมนฺเต สพฺพํ ตํ ติณฺจ ภุสฺจ มุขโต โอวมิตฺวา อจฺฉสฺส อุทกสฺส อนาวิลสฺส วิปฺปสนฺนสฺส ยาว มุขโต ปูริโต วิสฺสนฺทนฺโต มฺเ ิโต’’ติ!! ปตฺเตน ปานียํ อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต, ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา! อยฺหิ โส, ภนฺเต, อุทปาโน มยิ อุปสงฺกมนฺเต สพฺพํ ตํ ติณฺจ ภุสฺจ มุขโต โอวมิตฺวา อจฺฉสฺส อุทกสฺส อนาวิลสฺส วิปฺปสนฺนสฺส ยาว มุขโต ปูริโต วิสฺสนฺทนฺโต มฺเ อฏฺาสิ!! ปิวตุ ภควา ปานียํ, ปิวตุ สุคโต ปานีย’’นฺติ.

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘กึ กยิรา อุทปาเนน,

อาปา เจ สพฺพทา สิยุํ;

ตณฺหาย มูลโต เฉตฺวา,

กิสฺส ปริเยสนํ จเร’’ติ. นวมํ;

๑๐. อุเตนสุตฺตํ

๗๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเม. เตน โข ปน สมเยน รฺโ อุเตนสฺส [อุเทนสฺส (สี. สฺยา. ปี.)] อุยฺยานคตสฺส อนฺเตปุรํ ทฑฺฒํ โหติ, ปฺจ จ อิตฺถิสตานิ [ปฺจ อิตฺถิสตานิ (สี. สฺยา. ปี.)] กาลงฺกตานิ โหนฺติ สามาวตีปมุขานิ.

อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย โกสมฺพึ ปิณฺฑาย ปาวิสึสุ. โกสมฺพิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, รฺโ อุเตนสฺส อุยฺยานคตสฺส อนฺเตปุรํ ทฑฺฒํ, ปฺจ จ อิตฺถิสตานิ กาลงฺกตานิ สามาวตีปมุขานิ. ตาสํ, ภนฺเต, อุปาสิกานํ กา คติ โก อภิสมฺปราโย’’ติ?

‘‘สนฺเตตฺถ, ภิกฺขเว, อุปาสิกาโย โสตาปนฺนา, สนฺติ สกทาคามินิโย, สนฺติ อนาคามินิโย. สพฺพา ตา, ภิกฺขเว, อุปาสิกาโย อนิปฺผลา กาลงฺกตา’’ติ.

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘โมหสมฺพนฺธโน โลโก, ภพฺพรูโปว ทิสฺสติ;

อุปธิพนฺธโน [อุปธิสมฺพนฺธโน (ก. สี.)] พาโล, ตมสา ปริวาริโต;

สสฺสโตริว [สสฺสติ วิย (ก. สี.)] ขายติ, ปสฺสโต นตฺถิ กิฺจน’’นฺติ. ทสมํ;

ตสฺสุทฺทานํ –

ทฺเว ภทฺทิยา ทฺเว จ สตฺตา, ลกุณฺฑโก ตณฺหาขโย;

ปปฺจขโย จ กจฺจาโน, อุทปานฺจ อุเตโนติ.

จูฬวคฺโค [จุลฺลวคฺโค (สี.), จูลวคฺโค (ปี.)] สตฺตโม นิฏฺิโต.