📜

๘. ปาฏลิคามิยวคฺโค

๑. ปมนิพฺพานปฏิสํยุตฺตสุตฺตํ

๗๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ภควา ภิกฺขู นิพฺพานปฏิสํยุตฺตาย ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ. เตธ ภิกฺขู [เต จ ภิกฺขู (สี. สฺยา. ปี. ตทฏฺกถาปิ โอโลเกตพฺพา] อฏฺึ กตฺวา [อฏฺีกตฺวา (สี. สฺยา.), อฏฺิกตฺวา (ปี.)] มนสิ กตฺวา สพฺพํ เจตโส [สพฺพํ เจตสา (อิติปิ อฺสุตฺเตสุ)] สมนฺนาหริตฺวา โอหิตโสตา ธมฺมํ สุณนฺติ.

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, ตทายตนํ, ยตฺถ เนว ปถวี, น อาโป, น เตโช, น วาโย, น อากาสานฺจายตนํ, น วิฺาณฺจายตนํ, น อากิฺจฺายตนํ, น เนวสฺานาสฺายตนํ, นายํ โลโก, น ปรโลโก, น อุโภ จนฺทิมสูริยา. ตตฺราปาหํ, ภิกฺขเว, เนว อาคตึ วทามิ , น คตึ, น ิตึ, น จุตึ, น อุปปตฺตึ; อปฺปติฏฺํ, อปฺปวตฺตํ, อนารมฺมณเมเวตํ. เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสา’’ติ. ปมํ.

๒. ทุติยนิพฺพานปฏิสํยุตฺตสุตฺตํ

๗๒. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ภควา ภิกฺขู นิพฺพานปฏิสํยุตฺตาย ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ. เตธ ภิกฺขู อฏฺึ กตฺวา มนสิ กตฺวา สพฺพํ เจตโส สมนฺนาหริตฺวา โอหิตโสตา ธมฺมํ สุณนฺติ.

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ทุทฺทสํ อนตํ นาม, น หิ สจฺจํ สุทสฺสนํ;

ปฏิวิทฺธา ตณฺหา ชานโต, ปสฺสโต นตฺถิ กิฺจน’’นฺติ. ทุติยํ;

๓. ตติยนิพฺพานปฏิสํยุตฺตสุตฺตํ

๗๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ภควา ภิกฺขู นิพฺพานปฏิสํยุตฺตาย ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ. เตธ ภิกฺขู อฏฺึ กตฺวา, มนสิ กตฺวา, สพฺพํ เจตโส สมนฺนาหริตฺวา, โอหิตโสตา ธมฺมํ สุณนฺติ.

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขตํ. โน เจตํ, ภิกฺขเว, อภวิสฺส อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขตํ, นยิธ ชาตสฺส ภูตสฺส กตสฺส สงฺขตสฺส นิสฺสรณํ ปฺาเยถ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, อตฺถิ อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขตํ, ตสฺมา ชาตสฺส ภูตสฺส กตสฺส สงฺขตสฺส นิสฺสรณํ ปฺายตี’’ติ. ตติยํ.

๔. จตุตฺถนิพฺพานปฏิสํยุตฺตสุตฺตํ

๗๔. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ภควา ภิกฺขู นิพฺพานปฏิสํยุตฺตาย ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ. เตธ ภิกฺขู อฏฺึ กตฺวา มนสิ กตฺวา สพฺพํ เจตโส สมนฺนาหริตฺวา โอหิตโสตา ธมฺมํ สุณนฺติ.

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘นิสฺสิตสฺส จลิตํ, อนิสฺสิตสฺส จลิตํ นตฺถิ. จลิเต อสติ ปสฺสทฺธิ, ปสฺสทฺธิยา สติ นติ น โหติ. นติยา อสติ อาคติคติ น โหติ. อาคติคติยา อสติ จุตูปปาโต น โหติ. จุตูปปาเต อสติ เนวิธ น หุรํ น อุภยมนฺตเรน [น อุภยมนฺตเร (สพฺพตฺถ) ม. นิ. ๓.๓๙๓; สํ. นิ. ๔.๘๗ ปสฺสิตพฺพํ]. เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสา’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. จุนฺทสุตฺตํ

๗๕. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา มลฺเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน ปาวา ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา ปาวายํ วิหรติ จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส อมฺพวเน.

อสฺโสสิ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต – ‘‘ภควา กิร มลฺเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปาวํ อนุปฺปตฺโต ปาวายํ วิหรติ มยฺหํ อมฺพวเน’’ติ. อถ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข จุนฺทํ กมฺมารปุตฺตํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน.

อถ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก นิเวสเน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ปหูตฺจ สูกรมทฺทวํ ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, ภนฺเต, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ.

อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา จุนฺทํ กมฺมารปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘ยํ เต, จุนฺท, สูกรมทฺทวํ ปฏิยตฺตํ เตน มํ ปริวิส, ยํ ปนฺํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยตฺตํ เตน ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา ยํ อโหสิ สูกรมทฺทวํ ปฏิยตฺตํ เตน ภควนฺตํ ปริวิสิ; ยํ ปนฺํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยตฺตํ เตน ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสิ.

อถ โข ภควา จุนฺทํ กมฺมารปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘ยํ เต, จุนฺท, สูกรมทฺทวํ อวสิฏฺํ ตํ โสพฺเภ นิขณาหิ. นาหํ ตํ, จุนฺท, ปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ยสฺส ตํ ปริภุตฺตํ สมฺมา ปริณามํ คจฺเฉยฺย อฺตฺร ตถาคตสฺสา’’ติ [อฺตฺร ตถาคเตนาติ (ก. สี.)]. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา ยํ อโหสิ สูกรมทฺทวํ อวสิฏฺํ ตํ โสพฺเภ นิขณิตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข จุนฺทํ กมฺมารปุตฺตํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.

อถ โข ภควโต จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส ภตฺตํ ภุตฺตาวิสฺส ขโร อาพาโธ อุปฺปชฺชิ. โลหิตปกฺขนฺทิกา ปพาฬฺหา [พาฬฺหา (สี. สฺยา. ปี.)] เวทนา วตฺตนฺติ มารณนฺติกา. ตตฺร สุทํ ภควา สโต สมฺปชาโน อธิวาเสสิ อวิหฺมาโน. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน กุสินารา เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ.

‘‘จุนฺทสฺส ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา, กมฺมารสฺสาติ เม สุตํ;

อาพาธํ สมฺผุสี ธีโร, ปพาฬฺหํ มารณนฺติกํ.

‘‘ภุตฺตสฺส จ สูกรมทฺทเวน, พฺยาธิปฺปพาฬฺโห อุทปาทิ สตฺถุโน;

วิริจฺจมาโน [วิริฺจมาโน (?) วิเรจมาโน (ที. นิ. ๒.๑๙๐)] ภควา อโวจ, ‘คจฺฉามหํ กุสินารํ นคร’’’นฺติ.

อถ โข ภควา มคฺคา โอกฺกมฺม เยน อฺตรํ รุกฺขมูลํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, อานนฺท, จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺาเปหิ; กิลนฺโตสฺมิ, อานนฺท, นิสีทิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺาเปสิ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. นิสชฺช โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, อานนฺท, ปานียํ อาหร; ปิปาสิโตสฺมิ, อานนฺท, ปิวิสฺสามี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิทานิ, ภนฺเต, ปฺจมตฺตานิ สกฏสตานิ อติกฺกนฺตานิ. ตํ จกฺกจฺฉินฺนํ อุทกํ ปริตฺตํ ลุฬิตํ อาวิลํ สนฺทติ. อยํ, ภนฺเต, กุกุฏฺา [กกุตฺถา (สี.), กุกุฏา (สฺยา.), กกุธา (ที. นิ. ๒.๑๙๑)] นที อวิทูเร อจฺโฉทกา สาโตทกา สีโตทกา เสโตทกา สุปติตฺถา รมณียา. เอตฺถ ภควา ปานียฺจ ปิวิสฺสติ คตฺตานิ จ สีตีกริสฺสตี’’ติ [สีตึ กริสฺสตีติ (สี.), สีตํ กริสฺสตีติ (สฺยา. ปี. ก.)].

ทุติยมฺปิ โข…เป… ตติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, อานนฺท, ปานียํ อาหร; ปิปาสิโตสฺมิ, อานนฺท, ปิวิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา เยน สา นที เตนุปสงฺกมิ. อถ โข สา นที จกฺกจฺฉินฺนา ปริตฺตา ลุฬิตา อาวิลา สนฺทมานา อายสฺมนฺเต อานนฺเท อุปสงฺกมนฺเต อจฺฉา วิปฺปสนฺนา อนาวิลา สนฺทติ.

อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ, ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา! อยฺหิ สา นที จกฺกจฺฉินฺนา ปริตฺตา ลุฬิตา อาวิลา สนฺทมานา มยิ อุปสงฺกมนฺเต อจฺฉา วิปฺปสนฺนา อนาวิลา สนฺทตี’’ติ!! ปตฺเตน ปานียํ อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต, ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา! อยฺหิ สา, ภนฺเต, นที จกฺกจฺฉินฺนา ปริตฺตา ลุฬิตา อาวิลา สนฺทมานา มยิ อุปสงฺกมนฺเต อจฺฉา วิปฺปสนฺนา อนาวิลา สนฺทติ!! ปิวตุ ภควา ปานียํ , ปิวตุ สุคโต ปานีย’’นฺติ.

อถ โข ภควา ปานียํ อปายิ [อปาสิ (สี.)]. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน กุกุฏฺา นที เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา กุกุฏฺํ นทึ อชฺโฌคาเหตฺวา นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปจฺจุตฺตริตฺวา เยน อมฺพวนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ จุนฺทกํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, จุนฺทก, จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺาเปหิ; กิลนฺโตสฺมิ, จุนฺทก, นิปชฺชิสฺสามี’’ติ . ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา จุนฺทโก ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺาเปสิ. อถ โข ภควา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย สโต สมฺปชาโน อุฏฺานสฺํ มนสิ กริตฺวา. อายสฺมา ปน จุนฺทโก ตตฺเถว ภควโต ปุรโต นิสีทิ.

‘‘คนฺตฺวาน พุทฺโธ นทิกํ กุกุฏฺํ,

อจฺโฉทกํ สาตุทกํ [สาโตทกํ (สพฺพตฺถ)] วิปฺปสนฺนํ;

โอคาหิ สตฺถา สุกิลนฺตรูโป,

ตถาคโต อปฺปฏิโมธ โลเก.

‘‘นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จุทตาริ [นฺหตฺวา จ อุตฺตริ (ก.)] สตฺถา,

ปุรกฺขโต ภิกฺขุคณสฺส มชฺเฌ;

สตฺถา ปวตฺตา ภควา อิธ ธมฺเม,

อุปาคมิ อมฺพวนํ มเหสิ;

อามนฺตยิ จุนฺทกํ นาม ภิกฺขุํ,

จตุคฺคุณํ สนฺถร [ปตฺถร (สี. ปี.)] เม นิปชฺชํ.

‘‘โส โจทิโต ภาวิตตฺเตน จุนฺโท,

จตุคฺคุณํ สนฺถริ [ปตฺถริ (สี. ปี.)] ขิปฺปเมว;

นิปชฺชิ สตฺถา สุกิลนฺตรูโป,

จุนฺโทปิ ตตฺถ ปมุเข นิสีที’’ติ.

อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘สิยา โข , ปนานนฺท, จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส โกจิ วิปฺปฏิสารํ อุปทเหยฺย – ‘ตสฺส เต, อาวุโส จุนฺท, อลาภา, ตสฺส เต ทุลฺลทฺธํ ยสฺส เต ตถาคโต ปจฺฉิมํ ปิณฺฑปาตํ ภุฺชิตฺวา ปรินิพฺพุโต’ติ. จุนฺทสฺสานนฺท, กมฺมารปุตฺตสฺส เอวํ วิปฺปฏิสาโร ปฏิวิโนเทตพฺโพ –

‘‘‘ตสฺส เต, อาวุโส จุนฺท, ลาภา, ตสฺส เต สุลทฺธํ ยสฺส เต ตถาคโต ปจฺฉิมํ ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิตฺวา ปรินิพฺพุโต. สมฺมุขา เมตํ, อาวุโส จุนฺท, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ทฺเวเม ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมสมวิปากา อติวิย อฺเหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จ. กตเม ทฺเว? ยฺจ ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิตฺวา ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌติ, ยฺจ ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิตฺวา อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ. อิเม ทฺเว ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมสมวิปากา อติวิย อฺเหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จ.

‘‘‘อายุสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, วณฺณสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, สุขสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, สคฺคสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, ยสสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, อาธิปเตยฺยสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิต’นฺติ. จุนฺทสฺสานนฺท, กมฺมารปุตฺตสฺส เอวํ วิปฺปฏิสาโร ปฏิวิโนเทตพฺโพ’’ติ.

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ททโต ปุฺํ ปวฑฺฒติ,

สํยมโต เวรํ น จียติ;

กุสโล จ ชหาติ ปาปกํ,

ราคโทสโมหกฺขยา สนิพฺพุโต’’ติ [ปรินิพฺพุโตติ (สี. สฺยา. ปี.)]. ปฺจมํ;

๖. ปาฏลิคามิยสุตฺตํ

๗๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา มคเธสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน ปาฏลิคาโม ตทวสริ. อสฺโสสุํ โข ปาฏลิคามิยา [ปาฏลิคามิกา (ที. นิ. ๒.๑๔๘)] อุปาสกา – ‘‘ภควา กิร มคเธสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปาฏลิคามํ อนุปฺปตฺโต’’ติ. อถ โข ปาฏลิคามิยา อุปาสกา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข ปาฏลิคามิยา อุปาสกา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อธิวาเสตุ โน, ภนฺเต, ภควา อาวสถาคาร’’นฺติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน.

อถ โข ปาฏลิคามิยา อุปาสกา ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยนาวสถาคารํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา สพฺพสนฺถรึ อาวสถาคารํ สนฺถริตฺวา อาสนานิ ปฺาเปตฺวา อุทกมณิกํ ปติฏฺาเปตฺวา เตลปฺปทีปํ อาโรเปตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข ปาฏลิคามิยา อุปาสกา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘สพฺพสนฺถริสนฺถตํ [สพฺพสนฺถรึ สนฺถตํ (สี. สฺยา. ปี.)], ภนฺเต, อาวสถาคารํ; อาสนานิ ปฺตฺตานิ; อุทกมณิโก ปติฏฺาปิโต [อุทกมณิกํ ปติฏฺาปิตํ (สฺยา.)] เตลปฺปทีโป อาโรปิโต. ยสฺสทานิ, ภนฺเต, ภควา กาลํ มฺตี’’ติ.

อถ โข ภควา นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน อาวสถาคารํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา อาวสถาคารํ ปวิสิตฺวา มชฺฌิมํ ถมฺภํ นิสฺสาย ปุรตฺถาภิมุโข นิสีทิ. ภิกฺขุสงฺโฆปิ โข ปาเท ปกฺขาเลตฺวา อาวสถาคารํ ปวิสิตฺวา ปจฺฉิมํ ภิตฺตึ นิสฺสาย ปุรตฺถาภิมุโข นิสีทิ ภควนฺตํเยว ปุรกฺขตฺวา. ปาฏลิคามิยาปิ โข อุปาสกา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา อาวสถาคารํ ปวิสิตฺวา ปุรตฺถิมํ ภิตฺตึ นิสฺสาย ปจฺฉิมาภิมุขา นิสีทึสุ ภควนฺตํเยว ปุรกฺขตฺวา. อถ โข ภควา ปาฏลิคามิเย อุปาสเก อามนฺเตสิ –

‘‘ปฺจิเม, คหปตโย, อาทีนวา ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา. กตเม ปฺจ? อิธ, คหปตโย, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน ปมาทาธิกรณํ มหตึ โภคชานึ นิคจฺฉติ. อยํ ปโม อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, ทุสฺสีลสฺส สีลวิปนฺนสฺส ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ. อยํ ทุติโย อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน ยฺเทว ปริสํ อุปสงฺกมติ – ยทิ ขตฺติยปริสํ, ยทิ พฺราหฺมณปริสํ, ยทิ คหปติปริสํ, ยทิ สมณปริสํ – อวิสารโท อุปสงฺกมติ มงฺกุภูโต. อยํ ตติโย อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน สมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ. อยํ จตุตฺโถ อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. อยํ ปฺจโม อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา. อิเม โข, คหปตโย, ปฺจ อาทีนวา ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา.

‘‘ปฺจิเม, คหปตโย, อานิสํสา สีลวโต สีลสมฺปทาย. กตเม ปฺจ? อิธ, คหปตโย, สีลวา สีลสมฺปนฺโน อปฺปมาทาธิกรณํ มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ อธิคจฺฉติ. อยํ ปโม อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ. อยํ ทุติโย อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, สีลวา สีลสมฺปนฺโน ยฺเทว ปริสํ อุปสงฺกมติ – ยทิ ขตฺติยปริสํ , ยทิ พฺราหฺมณปริสํ, ยทิ คหปติปริสํ, ยทิ สมณปริสํ – วิสารโท อุปสงฺกมติ อมงฺกุภูโต. อยํ ตติโย อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, สีลวา สีลสมฺปนฺโน อสมฺมูฬฺโห กาลงฺกโรติ. อยํ จตุตฺโถ อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, สีลวา สีลสมฺปนฺโน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. อยํ ปฺจโม อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย. อิเม โข, คหปตโย, ปฺจ อานิสํสา สีลวโต สีลสมฺปทายา’’ติ.

อถ โข ภควา ปาฏลิคามิเย อุปาสเก พหุเทว รตฺตึ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุยฺโยเชสิ – ‘‘อภิกฺกนฺตา โข, คหปตโย, รตฺติ; ยสฺสทานิ ตุมฺเห กาลํ มฺถา’’ติ. [‘‘เอวํ ภนฺเต‘‘ติ โขปาฏลิคามิยา อุปาสกา ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา (มหาว. ๒๘๕; ที. นิ. ๒.๑๕๑)] อถ โข ปาฏลิคามิยา อุปาสกา ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา [‘‘เอวํ ภนฺเต‘‘ติ โขปาฏลิคามิยา อุปาสกา ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา (มหาว. ๒๘๕; ที. นิ. ๒.๑๕๑)] อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมึสุ. อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺเตสุ ปาฏลิคามิเยสุ อุปาสเกสุ สุฺาคารํ ปาวิสิ.

เตน โข ปน สมเยน สุนิธวสฺสการา [สุนีธวสฺสการา (สี. สฺยา. ปี.)] มคธมหามตฺตา ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺติ วชฺชีนํ ปฏิพาหาย. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา เทวตาโย สหสฺสสหสฺเสว [สหสฺเสว (สฺยา. ก.), สหสฺสสฺเสว (ปี.)] ปาฏลิคาเม วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ. ยสฺมึ ปเทเส มเหสกฺขา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ มเหสกฺขานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ปเทเส มชฺฌิมา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ มชฺฌิมานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ปเทเส นีจา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ นีจานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ.

อทฺทสา โข ภควา ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน ตา เทวตาโย สหสฺสสหสฺเสว ปาฏลิคาเม วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติโย. ยสฺมึ ปเทเส มเหสกฺขา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, มเหสกฺขานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ปเทเส มชฺฌิมา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, มชฺฌิมานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ปเทเส นีจา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, นีจานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา ปจฺจูสสมเย ปจฺจุฏฺาย อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ –

‘‘เก นุ โข [โก นุ โข (สพฺพตฺถ)] อานนฺท ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺตี’’ติ [มาเปตีติ (สพฺพตฺถ)]. ‘‘สุนิธวสฺสการา, ภนฺเต, มคธมหามตฺตา ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺติ วชฺชีนํ ปฏิพาหายา’’ติ. ‘‘เสยฺยถาปิ, อานนฺท, เทเวหิ ตาวตึเสหิ สทฺธึ มนฺเตตฺวา; เอวเมว โข, อานนฺท, สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺติ วชฺชีนํ ปฏิพาหาย. อิธาหํ, อานนฺท, อทฺทสํ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สมฺพหุลา เทวตาโย สหสฺสสหสฺเสว ปาฏลิคาเม วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติโย. ยสฺมึ ปเทเส มเหสกฺขา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ มเหสกฺขานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ปเทเส มชฺฌิมา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ มชฺฌิมานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ปเทเส นีจา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ นีจานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยาวตา, อานนฺท, อริยํ อายตนํ ยาวตา วณิปฺปโถ อิทํ อคฺคนครํ ภวิสฺสติ ปาฏลิปุตฺตํ ปุฏเภทนํ. ปาฏลิปุตฺตสฺส โข, อานนฺท, ตโย อนฺตรายา ภวิสฺสนฺติ – อคฺคิโต วา อุทกโต วา มิถุเภทโต วา’’ติ.

อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ สาราณิยํ [สาราณียํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อธิวาเสตุ โน ภวํ โคตโม อชฺชตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน.

อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา เยน สโก อาวสโถ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา สเก อาวสเถ ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรเจสุํ – ‘‘กาโล, โภ โคตม, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ.

อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน สุนิธวสฺสการานํ มคธมหามตฺตานํ อาวสโถ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสุํ สมฺปวาเรสุํ.

อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข สุนิธวสฺสกาเร มคธมหามตฺเต ภควา อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิ –

‘‘ยสฺมึ ปเทเส กปฺเปติ, วาสํ ปณฺฑิตชาติโย;

สีลวนฺเตตฺถ โภเชตฺวา, สฺเต พฺรหฺมจารโย [พฺรหฺมจาริโน (สฺยา.), พฺรหฺมจริเย (ปี. ก.)].

‘‘ยา ตตฺถ เทวตา อาสุํ, ตาสํ ทกฺขิณมาทิเส;

ตา ปูชิตา ปูชยนฺติ, มานิตา มานยนฺติ นํ.

‘‘ตโต นํ อนุกมฺปนฺติ, มาตา ปุตฺตํว โอรสํ;

เทวตานุกมฺปิโต โปโส, สทา ภทฺรานิ ปสฺสตี’’ติ.

อถ โข ภควา สุนิธวสฺสการานํ มคธมหามตฺตานํ อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.

เตน โข ปน สมเยน สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธา โหนฺติ – ‘‘เยนชฺช สมโณ โคตโม ทฺวาเรน นิกฺขมิสฺสติ ตํ ‘โคตมทฺวารํ’ นาม ภวิสฺสติ. เยน ติตฺเถน คงฺคํ นทึ ตริสฺสติ ตํ ‘โคตมติตฺถํ’ นาม ภวิสฺสตี’’ติ.

อถ โข ภควา เยน ทฺวาเรน นิกฺขมิ ตํ ‘โคตมทฺวารํ’ นาม อโหสิ. อถ โข ภควา เยน คงฺคา นที เตนุปสงฺกมิ. เตน โข ปน สมเยน คงฺคา นที ปูรา โหติ สมติตฺติกา กากเปยฺยา. อปฺเปกจฺเจ มนุสฺสา นาวํ ปริเยสนฺติ, อปฺเปกจฺเจ อุฬุมฺปํ ปริเยสนฺติ, อปฺเปกจฺเจ กุลฺลํ พนฺธนฺติ อปารา ปารํ คนฺตุกามา. อถ โข ภควา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว – คงฺคาย นทิยา โอริมตีเร [โอริมตีรา (พหูสุ) มหาว. ๒๘๖; ที. นิ. ๒.๑๕๔ ปสฺสิตพฺพํ)] อนฺตรหิโต ปาริมตีเร ปจฺจุฏฺาสิ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน .

อทฺทสา โข ภควา เต มนุสฺเส อปฺเปกจฺเจ นาวํ ปริเยสนฺเต, อปฺเปกจฺเจ อุฬุมฺปํ ปริเยสนฺเต, อปฺเปกจฺเจ กุลฺลํ พนฺธนฺเต อปารา ปารํ คนฺตุกาเม.

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘เย ตรนฺติ อณฺณวํ สรํ,

เสตุํ กตฺวาน วิสชฺช ปลฺลลานิ;

กุลฺลฺหิ ชโน ปพนฺธติ [พนฺธติ (สฺยา. ปี.)],

ติณฺณา [นิติณฺณา (ก.)] เมธาวิโน ชนา’’ติ. ฉฏฺํ;

๗. ทฺวิธาปถสุตฺตํ

๗๗. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ อทฺธานมคฺคปฏิปนฺโน โหติ อายสฺมตา นาคสมาเลน ปจฺฉาสมเณน. อทฺทสา โข อายสฺมา นาคสมาโล อนฺตรามคฺเค ทฺวิธาปถํ [ทฺเวธาปถํ (สี.)]. ทิสฺวาน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ, ภนฺเต, ภควา ปนฺโถ; อิมินา คจฺฉามา’’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภควา อายสฺมนฺตํ นาคสมาลํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ, นาคสมาล, ปนฺโถ; อิมินา คจฺฉามา’’ติ.

ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ โข อายสฺมา นาคสมาโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ, ภนฺเต, ภควา ปนฺโถ; อิมินา คจฺฉามา’’ติ . ตติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ นาคสมาลํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ, นาคสมาล, ปนฺโถ; อิมินา คจฺฉามา’’ติ. อถ โข อายสฺมา นาคสมาโล ภควโต ปตฺตจีวรํ ตตฺเถว ฉมายํ นิกฺขิปิตฺวา ปกฺกามิ – ‘‘อิทํ, ภนฺเต, ภควโต ปตฺตจีวร’’นฺติ.

อถ โข อายสฺมโต นาคสมาลสฺส เตน ปนฺเถน คจฺฉนฺตสฺส อนฺตรามคฺเค โจรา นิกฺขมิตฺวา หตฺเถหิ จ ปาเทหิ จ อาโกเฏสุํ ปตฺตฺจ ภินฺทึสุ สงฺฆาฏิฺจ วิปฺผาเลสุํ. อถ โข อายสฺมา นาคสมาโล ภินฺเนน ปตฺเตน วิปฺผาลิตาย สงฺฆาฏิยา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา นาคสมาโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, เตน ปนฺเถน คจฺฉนฺตสฺส อนฺตรามคฺเค โจรา นิกฺขมิตฺวา หตฺเถหิ จ ปาเทหิ จ อาโกเฏสุํ, ปตฺตฺจ ภินฺทึสุ, สงฺฆาฏิฺจ วิปฺผาเลสุ’’นฺติ.

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘สทฺธึ จรเมกโต วสํ,

มิสฺโส อฺชเนน เวทคู;

วิทฺวา ปชหาติ ปาปกํ,

โกฺโจ ขีรปโกว นินฺนค’’นฺติ. สตฺตมํ;

๘. วิสาขาสุตฺตํ

๗๘. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. เตน โข ปน สมเยน วิสาขาย มิคารมาตุยา นตฺตา กาลงฺกตา โหติ ปิยา มนาปา. อถ โข วิสาขา มิคารมาตา อลฺลวตฺถา อลฺลเกสา ทิวา ทิวสฺส เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข วิสาขํ มิคารมาตรํ ภควา เอตทโวจ

‘‘หนฺท กุโต นุ ตฺวํ, วิสาเข, อาคจฺฉสิ อลฺลวตฺถา อลฺลเกสา อิธูปสงฺกนฺตา ทิวา ทิวสฺสา’’ติ? ‘‘นตฺตา เม, ภนฺเต, ปิยา มนาปา กาลงฺกตา. เตนาหํ อลฺลวตฺถา อลฺลเกสา อิธูปสงฺกนฺตา ทิวา ทิวสฺสา’’ติ. ‘‘อิจฺเฉยฺยาสิ ตฺวํ, วิสาเข, ยาวติกา [ยาวตกา (?)] สาวตฺถิยา มนุสฺสา ตาวติเก [ตาวตเก (?)] ปุตฺเต จ นตฺตาโร จา’’ติ? ‘‘อิจฺเฉยฺยาหํ, ภควา [อิจฺเฉยฺยาหํ ภนฺเต ภควา (สฺยา.)] ยาวติกา สาวตฺถิยา มนุสฺสา ตาวติเก ปุตฺเต จ นตฺตาโร จา’’ติ.

‘‘กีวพหุกา ปน, วิสาเข, สาวตฺถิยา มนุสฺสา เทวสิกํ กาลํ กโรนฺตี’’ติ? ‘‘ทสปิ, ภนฺเต, สาวตฺถิยา มนุสฺสา เทวสิกํ กาลํ กโรนฺติ; นวปิ, ภนฺเต… อฏฺปิ, ภนฺเต… สตฺตปิ, ภนฺเต… ฉปิ, ภนฺเต… ปฺจปิ, ภนฺเต… จตฺตาโรปิ, ภนฺเต… ตีณิปิ, ภนฺเต… ทฺเวปิ, ภนฺเต, สาวตฺถิยา มนุสฺสา เทวสิกํ กาลํ กโรนฺติ. เอโกปิ, ภนฺเต, สาวตฺถิยา มนุสฺโส เทวสิกํ กาลํ กโรติ. อวิวิตฺตา, ภนฺเต, สาวตฺถิ มนุสฺเสหิ กาลํ กโรนฺเตหี’’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, วิสาเข, อปิ นุ ตฺวํ กทาจิ กรหจิ อนลฺลวตฺถา วา ภเวยฺยาสิ อนลฺลเกสา วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต . อลํ เม, ภนฺเต, ตาว พหุเกหิ ปุตฺเตหิ จ นตฺตาเรหิ จา’’ติ.

‘‘เยสํ โข, วิสาเข, สตํ ปิยานิ, สตํ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ นวุติ ปิยานิ, นวุติ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ อสีติ ปิยานิ, อสีติ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ สตฺตติ ปิยานิ, สตฺตติ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ สฏฺิ ปิยานิ, สฏฺิ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ ปฺาสํ ปิยานิ, ปฺาสํ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ จตฺตารีสํ ปิยานิ, จตฺตารีสํ เตสํ ทุกฺขานิ, เยสํ ตึสํ ปิยานิ, ตึสํ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ วีสติ ปิยานิ, วีสติ เตสํ ทุกฺขานิ, เยสํ ทส ปิยานิ, ทส เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ นว ปิยานิ, นว เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ อฏฺ ปิยานิ, อฏฺ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ สตฺต ปิยานิ, สตฺต เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ ฉ ปิยานิ, ฉ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ ปฺจ ปิยานิ, ปฺจ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ จตฺตาริ ปิยานิ, จตฺตาริ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ ตีณิ ปิยานิ, ตีณิ เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ ทฺเว ปิยานิ, ทฺเว เตสํ ทุกฺขานิ; เยสํ เอกํ ปิยํ, เอกํ เตสํ ทุกฺขํ; เยสํ นตฺถิ ปิยํ, นตฺถิ เตสํ ทุกฺขํ, อโสกา เต วิรชา อนุปายาสาติ วทามี’’ติ.

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘เย เกจิ โสกา ปริเทวิตา วา,

ทุกฺขา จ [ทุกฺขา ว (อฏฺ.)] โลกสฺมิมเนกรูปา;

ปิยํ ปฏิจฺจปฺปภวนฺติ เอเต,

ปิเย อสนฺเต น ภวนฺติ เอเต.

‘‘ตสฺมา หิ เต สุขิโน วีตโสกา,

เยสํ ปิยํ นตฺถิ กุหิฺจิ โลเก;

ตสฺมา อโสกํ วิรชํ ปตฺถยาโน,

ปิยํ น กยิราถ กุหิฺจิ โลเก’’ติ. อฏฺมํ;

๙. ปมทพฺพสุตฺตํ

๗๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. อถ โข อายสฺมา ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปรินิพฺพานกาโล เม ทานิ, สุคตา’’ติ. ‘‘ยสฺสทานิ ตฺวํ, ทพฺพ, กาลํ มฺสี’’ติ.

อถ โข อายสฺมา ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺหิตฺวา ปรินิพฺพายิ.

อถ โข อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺหิตฺวา ปรินิพฺพุตสฺส สรีรสฺส ฌายมานสฺส ฑยฺหมานสฺส เนว ฉาริกา ปฺายิตฺถ น มสิ. เสยฺยถาปิ นาม สปฺปิสฺส วา เตลสฺส วา ฌายมานสฺส ฑยฺหมานสฺส เนว ฉาริกา ปฺายติ น มสิ; เอวเมว อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺหิตฺวา ปรินิพฺพุตสฺส สรีรสฺส ฌายมานสฺส ฑยฺหมานสฺส เนว ฉาริกา ปฺายิตฺถ น มสีติ.

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘อเภทิ กาโย นิโรธิ สฺา,

เวทนา สีติภวึสุ [ปีติทหํสุ (สี. ปี.), สีติทหึสุ (ก.)] สพฺพา;

วูปสมึสุ สงฺขารา,

วิฺาณํ อตฺถมาคมา’’ติ. นวมํ;

๑๐. ทุติยทพฺพสุตฺตํ

๘๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ทพฺพสฺส, ภิกฺขเว, มลฺลปุตฺตสฺส เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺหิตฺวา ปรินิพฺพุตสฺส สรีรสฺส ฌายมานสฺส ฑยฺหมานสฺส เนว ฉาริกา ปฺายิตฺถ น มสิ. เสยฺยถาปิ นาม สปฺปิสฺส วา เตลสฺส วา ฌายมานสฺส ฑยฺหมานสฺส เนว ฉาริกา ปฺายติ น มสิ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺหิตฺวา ปรินิพฺพุตสฺส สรีรสฺส ฌายมานสฺส ฑยฺหมานสฺส เนว ฉาริกา ปฺายิตฺถ น มสี’’ติ.

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘อโยฆนหตสฺเสว, ชลโต ชาตเวทโส [ชาตเวทสฺส (สฺยา.)];

อนุปุพฺพูปสนฺตสฺส, ยถา น ายเต คติ.

เอวํ สมฺมาวิมุตฺตานํ, กามพนฺโธฆตารินํ;

ปฺาเปตุํ คติ นตฺถิ, ปตฺตานํ อจลํ สุข’’นฺติ. ทสมํ;

ปาฏลิคามิยวคฺโค [ปาฏลิคามวคฺโค (ก.)] อฏฺโม.

ตสฺสุทฺทานํ

นิพฺพานา จตุโร วุตฺตา, จุนฺโท ปาฏลิคามิยา;

ทฺวิธาปโถ วิสาขา จ, ทพฺเพน สห เต ทสาติ.

อุทาเน วคฺคานมุทฺทานํ –

วคฺคมิทํ ปมํ วรโพธิ, วคฺคมิทํ ทุติยํ มุจลินฺโท;

นนฺทกวคฺควโร ตติโย ตุ, เมฆิยวคฺควโร จ จตุตฺโถ.

ปฺจมวคฺควรนฺติธ โสโณ, ฉฏฺมวคฺควรนฺติ ชจฺจนฺโธ [ฉฏฺมวคฺควรํ ตุ ตมนฺโธ (สี. ก.)];

สตฺตมวคฺควรนฺติ จ จูโฬ, ปาฏลิคามิยมฏฺมวคฺโค [ปาฏลิคามิยวรฏฺมวคฺโค (สฺยา. กํ. ปี.), ปาฏลิคามวรฏฺมวคฺโค (สี. ก.)].

อสีติมนูนกสุตฺตวรํ, วคฺคมิทฏฺกํ สุวิภตฺตํ;

ทสฺสิตํ จกฺขุมตา วิมเลน, อทฺธา หิ ตํ อุทานมิตีทมาหุ [อตฺถาเยตํ อุทานมิติมาหุ (ก.), สทฺธา หิ ตํ อุทานนฺติทมาหุ (สฺยา. กํ ปี.)].

อุทานปาฬิ นิฏฺิตา.