📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ขุทฺทกนิกาเย
อิติวุตฺตก-อฏฺกถา
คนฺถารมฺภกถา
มหาการุณิกํ ¶ ¶ ¶ นาถํ, เยฺยสาครปารคุํ;
วนฺเท นิปุณคมฺภีร-วิจิตฺรนยเทสนํ.
วิชฺชาจรณสมฺปนฺนา, เยน นิยฺยนฺติ โลกโต;
วนฺเท ตมุตฺตมํ ธมฺมํ, สมฺมาสมฺพุทฺธปูชิตํ.
สีลาทิคุณสมฺปนฺโน, ิโต มคฺคผเลสุ โย;
วนฺเท อริยสงฺฆํ ตํ, ปฺุกฺเขตฺตํ อนุตฺตรํ.
วนฺทนาชนิตํ ปฺุํ, อิติ ยํ รตนตฺตเย;
หตนฺตราโย สพฺพตฺถ, หุตฺวาหํ ตสฺส เตชสา.
เอกกาทิปฺปเภเทน ¶ , เทสิตานิ มเหสินา;
โลภาทีนํ ปหานานิ, ทีปนานิ วิเสสโต.
สุตฺตานิ เอกโต กตฺวา, อิติวุตฺตปทกฺขรํ;
ธมฺมสงฺคาหกา เถรา, สงฺคายึสุ มเหสโย.
อิติวุตฺตกมิจฺเจว, นาเมน วสิโน ปุเร;
ยํ ขุทฺทกนิกายสฺมึ, คมฺภีรตฺถปทกฺกมํ.
ตสฺส คมฺภีราเณหิ, โอคาเหตพฺพภาวโต;
กิฺจาปิ ทุกฺกรา กาตุํ, อตฺถสํวณฺณนา มยา.
สหสํวณฺณนํ ¶ ¶ ยสฺมา, ธรเต สตฺถุ สาสนํ;
ปุพฺพาจริยสีหานํ, ติฏฺเตว วินิจฺฉโย.
ตสฺมา ตํ อวลมฺพิตฺวา, โอคาเหตฺวาน ปฺจปิ;
นิกาเย อุปนิสฺสาย, โปราณฏฺกถานยํ.
นิสฺสิตํ วาจนามคฺคํ, สุวิสุทฺธํ อนากุลํ;
มหาวิหารวาสีนํ, นิปุณตฺถวินิจฺฉยํ.
ปุนปฺปุนาคตํ อตฺถํ, วชฺชยิตฺวาน สาธุกํ;
ยถาพลํ กริสฺสามิ, อิติวุตฺตกวณฺณนํ.
อิติ อากงฺขมานสฺส, สทฺธมฺมสฺส จิรฏฺิตึ;
วิภชนฺตสฺส ตสฺสตฺถํ, นิสามยถ สาธโวติ.
ตตฺถ อิติวุตฺตกํ นาม เอกกนิปาโต, ทุกนิปาโต, ติกนิปาโต, จตุกฺกนิปาโตติ จตุนิปาตสงฺคหํ. ตมฺปิ วินยปิฏกํ, สุตฺตนฺตปิฏกํ, อภิธมฺมปิฏกนฺติ ตีสุ ปิฏเกสุ สุตฺตนฺตปิฏกปริยาปนฺนํ; ทีฆนิกาโย มชฺฌิมนิกาโย, สํยุตฺตนิกาโย, องฺคุตฺตรนิกาโย, ขุทฺทกนิกาโยติ ¶ ปฺจสุ นิกาเยสุ ขุทฺทกนิกายปริยาปนฺนํ; สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถา, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลนฺติ นวสุ สาสนงฺเคสุ อิติวุตฺตกงฺคภูตํ.
‘‘ทฺวาสีติ พุทฺธโต คณฺหึ, ทฺเวสหสฺสานิ ภิกฺขุโต;
จตุราสีติ สหสฺสานิ, เย เม ธมฺมา ปวตฺติโน’’ติ. (เถรคา. ๑๐๒๗) –
เอวํ ธมฺมภณฺฑาคาริเกน ปฏิฺาเตสุ จตุราสีติยา ธมฺมกฺขนฺธสหสฺเสสุ กติปยธมฺมกฺขนฺธสงฺคหํ. สุตฺตโต เอกกนิปาเต ตาว สตฺตวีสติ สุตฺตานิ, ทุกนิปาเต ทฺวาวีสติ, ติกนิปาเต ปฺาส, จตุกฺกนิปาเต เตรสาติ ทฺวาทสาธิกสุตฺตสตสงฺคหํ. ตสฺส นิปาเตสุ เอกกนิปาโต อาทิ, วคฺเคสุ ปาฏิโภควคฺโค, สุตฺเตสุ โลภสุตฺตํ. ตสฺสาปิ ‘‘วุตฺตฺเหตํ ภควตา’’ติอาทิกํ อายสฺมตา อานนฺเทน ปมมหาสงฺคีติกาเล วุตฺตํ นิทานมาทิ. สา ¶ ปนายํ ปมมหาสงฺคีติ วินยปิฏเก ตนฺติมารุฬฺหา เอว. โย ปเนตฺถ นิทานโกสลฺลตฺถํ วตฺตพฺโพ กถามคฺโค ¶ , โสปิ สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกาย-อฏฺกถาย วิตฺถารโต วุตฺโตเยวาติ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
นิทานวณฺณนา
ยํ ¶ ¶ ปเนตํ วุตฺตฺเหตํ ภควตาติอาทิกํ นิทานํ. เอกธมฺมํ, ภิกฺขเว, ปชหถาติอาทิกํ สุตฺตํ. ตตฺถ วุตฺตํ ภควตาติอาทีนิ นามปทานิ. อิตีติ นิปาตปทํ. ปชหถาติ เอตฺถ ป-อิติ อุปสคฺคปทํ, ชหถา-ติ อาขฺยาตปทํ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ ปทวิภาโค เวทิตพฺโพ.
อตฺถโต ปน วุตฺตสทฺโท ตาว สอุปสคฺโค อนุปสคฺโค จ วปเน วาปสมกรเณ เกโสหารเณ ชีวิตวุตฺติยํ ปวุตฺตภาเว ปาวจนภาเวน ปวตฺติเต อชฺเฌสเน กถเนติ เอวมาทีสุ ทิสฺสติ. ตถา เหส –
‘‘คาโว ตสฺส ปชายนฺติ, เขตฺเต วุตฺตํ วิรูหติ;
วุตฺตานํ ผลมสฺนาติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภตี’’ติ. –
อาทีสุ (ชา. ๒.๒๒.๑๙) วปเน อาคโต. ‘‘โน จ โข ปฏิวุตฺต’’นฺติอาทีสุ (ปารา. ๒๘๙) อฏฺทนฺตกาทีหิ วาปสมกรเณ. ‘‘กาปฏิโก มาณโว ทหโร วุตฺตสิโร’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๔๒๖) เกโสหารเณ. ‘‘ปนฺนโลโม ปรทตฺตวุตฺโต มิคภูเตน เจตสา วิหรตี’’ติอาทีสุ (จูฬว. ๓๓๒) ชีวิตวุตฺติยํ. ‘‘เสยฺยถาปิ นาม ปณฺฑุปลาโส พนฺธนา ปวุตฺโต อภพฺโพ หริตตฺถายา’’ติอาทีสุ (ปารา. ๙๒; ปาจิ. ๖๖๖; มหาว. ๑๒๙) พนฺธนโต ปวุตฺตภาเว. ‘‘เยสมิทํ เอตรหิ, พฺราหฺมณา, โปราณํ มนฺตปทํ คีตํ ปวุตฺตํ สมิหิต’’นฺติอาทีสุ ปาวจนภาเวน ปวตฺติเต. โลเก ปน – ‘‘วุตฺโต คโณ วุตฺโต ปารายโน’’ติอาทีสุ อชฺเฌเน. ‘‘วุตฺตํ โข ปเนตํ ภควตา ธมฺมทายาทา เม, ภิกฺขเว, ภวถ, มา อามิสทายาทา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๐) กถเน. อิธาปิ กถเน ทฏฺพฺโพ. ตสฺมา วุตฺตํ กถิตํ ภาสิตนฺติ อตฺโถ.
ทุติโย ¶ ปน วุตฺตสทฺโท วจเน จิณฺณภาเว จ เวทิตพฺโพ. หิ-อิติ ชาตุ วิพฺยตฺตนฺติ เอตสฺมึ ¶ อตฺเถ นิปาโต. โส อิทานิ วุจฺจมานสุตฺตสฺส ¶ ภควโต วิพฺยตฺตํ ภาสิตภาวํ โชเตติ. วาจกสทฺทสนฺนิธาเน หิ ปยุตฺตา นิปาตา. เตหิ วตฺตพฺพมตฺถํ โชเตนฺติ. เอตนฺติ อยํ เอตสทฺโท –
‘‘โย จ พุทฺธฺจ ธมฺมฺจ, สงฺฆฺจ สรณํ คโต;
จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ.
‘‘ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;
อริยฺจฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํ.
‘‘เอตํ โข สรณํ เขมํ, เอตํ สรณมุตฺตมํ;
เอตํ สรณมาคมฺม, สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจตี’’ติ. (ธ. ป. ๑๙๐-๑๙๒) –
อาทีสุ ยถาวุตฺเต อาสนฺนปจฺจกฺเข อาคโต. ‘‘อปฺปมตฺตกํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, โอรมตฺตกํ สีลมตฺตกํ, เยน ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺยา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๗) ปน วกฺขมาเน อาสนฺนปจฺจกฺเข. อิธาปิ วกฺขมาเนเยว ทฏฺพฺโพ. สงฺคายนวเสน วกฺขมานฺหิ สุตฺตํ ธมฺมภณฺฑาคาริเกน พุทฺธิยํ เปตฺวา ตทา ‘‘เอต’’นฺติ วุตฺตํ.
ภควตาติ เอตฺถ ภควาติ ครุวจนํ. ครุํ หิ โลเก ภควาติ วทนฺติ. ตถาคโต จ สพฺพคุณวิสิฏฺตาย สตฺตานํ ครุ, ตสฺมา ภควาติ เวทิตพฺโพ. โปราเณหิปิ วุตฺตํ –
‘‘ภควาติ วจนํ เสฏฺํ, ภควาติ วจนมุตฺตมํ;
ครุ คารวยุตฺโต โส, ภควา เตน วุจฺจตี’’ติ.
เสฏฺวาจกฺหิ วจนํ เสฏฺคุณสหจรณโต เสฏฺนฺติ วุตฺตํ. อถ วา วุจฺจตีติ วจนํ, อตฺโถ. ตสฺมา ภควาติวจนํ เสฏฺนฺติ ภควาติ อิมินา วจเนน วจนีโย ¶ โย อตฺโถ, โส เสฏฺโติ อตฺโถ. ภควาติ วจนมุตฺตมนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. คารวยุตฺโตติ ครุภาวยุตฺโต ครุคุณโยคโต, ครุกรณํ วา สาติสยํ อรหตีติ คารวยุตฺโต, คารวารโหติ อตฺโถ. เอวํ คุณวิสิฏฺสตฺตุตฺตมครุคารวาธิวจนเมตํ ยทิทํ ภควาติ. อปิจ –
‘‘ภคี ¶ ¶ ภชี ภาคี วิภตฺตวา อิติ,
อกาสิ ภคฺคนฺติ ครูติ ภาคฺยวา;
พหูหิ าเยหิ สุภาวิตตฺตโน,
ภวนฺตโค โส ภควาติ วุจฺจตี’’ติ. –
นิทฺเทเส อาคตนเยน –
‘‘ภาคฺยวา ภคฺควา ยุตฺโต, ภเคหิ จ วิภตฺตวา;
ภตฺตวา วนฺตคมโน, ภเวสุ ภควา ตโต’’ติ.
อิมิสฺสา คาถาย จ วเสน ภควาติ ปทสฺส อตฺโถ วตฺตพฺโพ. โส ปนายํ อตฺโถ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค พุทฺธานุสฺสตินิทฺเทเส วุตฺโตติ. ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
อปโร นโย – ภาควาติ ภควา, ภตวาติ ภควา, ภาเค วนีติ ภควา, ภเค วนีติ ภควา, ภตฺตวาติ ภควา, ภเค วมีติ ภควา, ภาเค วมีติ ภควา.
‘‘ภาควา ภตวา ภาเค, ภเค จ วนิ ภตฺตวา;
ภเค วมิ ตถา ภาเค, วมีติ ภควา ชิโน’’.
ตตฺถ กถํ ภาควาติ ภควา? เย เต สีลาทโย ธมฺมกฺขนฺธา คุณโกฏฺาสา, เต อนฺสาธารณา นิรติสยา ตถาคตสฺส อตฺถิ อุปลพฺภนฺติ. ตถา หิสฺส สีลํ, สมาธิ, ปฺา, วิมุตฺติ, วิมุตฺติาณทสฺสนํ, หิรี, โอตฺตปฺปํ, สทฺธา, วีริยํ, สติ, สมฺปชฺํ, สีลวิสุทฺธิ, จิตฺตวิสุทฺธิ, ทิฏฺิวิสุทฺธิ, สมโถ, วิปสฺสนา, ตีณิ กุสลมูลานิ, ตีณิ สุจริตานิ, ตโย สมฺมาวิตกฺกา, ติสฺโส อนวชฺชสฺา, ติสฺโส ธาตุโย, จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, จตฺตาโร อริยมคฺคา, จตฺตาริ อริยผลานิ ¶ , จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา, จตุโยนิปริจฺเฉทกาณานิ, จตฺตาโร อริยวํสา, จตฺตาริ เวสารชฺชาณานิ, ปฺจ ปธานิยงฺคานิ, ปฺจงฺคิโก สมฺมาสมาธิ, ปฺจาณิโก สมฺมาสมาธิ, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, ปฺจ นิสฺสารณียา ธาตุโย, ปฺจ วิมุตฺตายตนาณานิ, ปฺจ วิมุตฺติปริปาจนียา สฺา, ฉ อนุสฺสติฏฺานานิ, ฉ คารวา, ฉ นิสฺสารณียา ธาตุโย, ฉ สตตวิหารา, ฉ อนุตฺตริยานิ, ฉ นิพฺเพธภาคิยา ¶ สฺา, ฉ ¶ อภิฺา, ฉ อสาธารณาณานิ, สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา, สตฺต อริยธนานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, สตฺต สปฺปุริสธมฺมา, สตฺต นิชฺชรวตฺถูนิ, สตฺต สฺา, สตฺต ทกฺขิเณยฺยปุคฺคลเทสนา, สตฺต ขีณาสวพลเทสนา, อฏฺ ปฺาปฏิลาภเหตุเทสนา, อฏฺสมฺมตฺตานิ, อฏฺ โลกธมฺมาติกฺกโม, อฏฺ อารมฺภวตฺถูนิ, อฏฺ อกฺขณเทสนา, อฏฺ มหาปุริสวิตกฺกา, อฏฺ อภิภายตนเทสนา, อฏฺ วิโมกฺขา, นว โยนิโสมนสิการมูลกา ธมฺมา, นว ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคานิ, นว สตฺตาวาสเทสนา, นว อาฆาตปฺปฏิวินยา, นว สฺา, นว นานตฺตา, นว อนุปุพฺพวิหารา, ทส นาถกรณา ธมฺมา, ทส กสิณายตนานิ, ทส กุสลกมฺมปถา, ทส สมฺมตฺตานิ, ทส อริยวาสา, ทส อเสกฺขา ธมฺมา, ทส ตถาคตพลานิ, เอกาทส เมตฺตานิสํสา, ทฺวาทส ธมฺมจกฺกาการา, เตรส ธุตคุณา, จุทฺทส พุทฺธาณานิ, ปฺจทส วิมุตฺติปริปาจนียา ธมฺมา, โสฬสวิธา อานาปานสฺสติ, โสฬส อปรนฺตปนียา ธมฺมา, อฏฺารส พุทฺธธมฺมา, เอกูนวีสติ ปจฺจเวกฺขณาณานิ, จตุจตฺตาลีส าณวตฺถูนิ, ปฺาส อุทยพฺพยาณานิ, ปโรปณฺณาส กุสลธมฺมา, สตฺตสตฺตติ าณวตฺถูนิ, จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสมาปตฺติสฺจาริมหาวชิราณํ, อนนฺตนยสมนฺตปฏฺานปวิจยปจฺจเวกฺขณเทสนาาณานิ, ตถา อนนฺตาสุ โลกธาตูสุ อนนฺตานํ สตฺตานํ อาสยาทิวิภาวนาณานิ จาติ, เอวมาทโย อนนฺตา อปริมาณเภทา อนฺสาธารณา นิรติสยา คุณภาคา คุณโกฏฺาสา วิชฺชนฺติ อุปลพฺภนฺติ. ตสฺมา ยถาวุตฺตวิภาคา คุณภาคา อสฺส อตฺถีติ ¶ ภาควาติ วตฺตพฺเพ. อาการสฺส รสฺสตฺตํ กตฺวา ‘‘ภควา’’ติ วุตฺโต. เอวํ ตาว ภาควาติ ภควา.
‘‘ยสฺมา สีลาทโย สพฺเพ, คุณภาคา อเสสโต;
วิชฺชนฺติ สุคเต ตสฺมา, ภควาติ ปวุจฺจติ’’.
กถํ ภตวาติ ภควา? เย เต สพฺพโลกหิตาย อุสฺสุกฺกมาปนฺเนหิ มนุสฺสตฺตาทิเก อฏฺ ธมฺเม สโมธาเนตฺวา สมฺมาสมฺโพธิยา กตมหาภินีหาเรหิ มหาโพธิสตฺเตหิ ปริปูเรตพฺพา ทานปารมี, สีลเนกฺขมฺมปฺาวีริยขนฺติสจฺจอธิฏฺานเมตฺตาอุเปกฺขาปารมีติ ทส ปารมิโย, ทส อุปปารมิโย, ทส ปรมตฺถปารมิโยติ สมตึส ¶ ปารมิโย, ทานาทีนิ จตฺตาริ สงฺคหวตฺถูนิ, จตฺตาริ อธิฏฺานานิ, อตฺตปริจฺจาโค, นยนธนรชฺชปุตฺตทารปริจฺจาโคติ ปฺจ มหาปริจฺจาคา, ปุพฺพโยโค, ปุพฺพจริยา, ธมฺมกฺขานํ, โลกตฺถจริยา, าตตฺถจริยา, พุทฺธตฺถจริยาติ เอวมาทโย สงฺเขปโต วา ปฺุสมฺภาราณสมฺภารา พุทฺธกรธมฺมา, เต มหาภินีหารโต ปฏฺาย กปฺปานํ สตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ ยถา หานภาคิยา, สํกิเลสภาคิยา ¶ , ิติภาคิยา, วา น โหนฺติ; อถ โข อุตฺตรุตฺตริ วิเสสภาคิยาว โหนฺติ; เอวํ สกฺกจฺจํ นิรนฺตรํ อนวเสสโต ภตา สมฺภตา อสฺส อตฺถีติ ภตวาติ ภควา; นิรุตฺตินเยน ตการสฺส คการํ กตฺวา. อถ วา ภตวาติ เตเยว ยถาวุตฺเต พุทฺธกรธมฺเม วุตฺตนเยน ภริ สมฺภริ ปริปูเรสีติ อตฺโถ. เอวมฺปิ ภตวาติ ภควา.
‘‘ยสฺมา สมฺโพธิยา สพฺเพ, ทานปารมิอาทิเก;
สมฺภาเร ภตวา นาโถ, ตสฺมาปิ ภควา มโต’’.
กถํ ภาเค วนีติ ภควา? เย เต จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสงฺขา เทวสิกํ วฬฺชนกสมาปตฺติภาคา, เต อนวเสสโต โลกหิตตฺถํ อตฺตโน ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถฺจ นิจฺจกปฺปํ วนิ ภชิ เสวิ พหุลมกาสีติ ภาเค วนีติ ภควา. อถ วา อภิฺเยฺเยสุ ธมฺเมสุ กุสลาทีสุ ขนฺธาทีสุ จ เย เต ปริฺเยฺยาทิวเสน สงฺเขปโต วา จตุพฺพิธา อภิสมยภาคา, วิตฺถารโต ปน ‘‘จกฺขุ ปริฺเยฺยํ ¶ …เป… ชรามรณํ ปริฺเยฺย’’นฺติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๒๑) อเนเก ปริฺเยฺยภาคา, ‘‘จกฺขุสฺส สมุทโย ปหาตพฺโพ…เป… ชรามรณสฺส สมุทโย ปหาตพฺโพ’’ติอาทินา ปหาตพฺพภาคา, ‘‘จกฺขุสฺส นิโรโธ สจฺฉิกาตพฺโพ…เป… ชรามรณสฺส นิโรโธ สจฺฉิกาตพฺโพ’’ติอาทินา สจฺฉิกาตพฺพภาคา, ‘‘จกฺขุนิโรธคามินีปฏิปทา ภาเวตพฺพา…เป… จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาเวตพฺพา’’ติอาทินา จ อเนกเภทา ภาเวตพฺพภาคา จ ธมฺมา, เต สพฺเพ วนิ ภชิ ยถารหํ โคจรภาวนาเสวนานํ วเสน เสวิ. เอวมฺปิ ภาเค วนีติ ภควา. อถ วา เย อิเม สีลาทโย ธมฺมกฺขนฺธา สาวเกหิ สาธารณา คุณโกฏฺาสา คุณภาคา, กินฺติ นุ โข เต เวเนยฺยสนฺตาเนสุ ปติฏฺเปยฺยนฺติ มหากรุณาย วนิ อภิปตฺถยิ. สา ¶ จสฺส อภิปตฺถนา ยถาธิปฺเปตผลาวหา อโหสิ. เอวมฺปิ ภาเค วนีติ ภควา.
‘‘ยสฺมา เยฺยสมาปตฺติ-คุณภาเค ตถาคโต;
ภชิ ปตฺถยิ สตฺตานํ, หิตาย ภควา ตโต’’.
กถํ ภเค วนีติ ภควา? สมาสโต ตาว กตปฺุเหิ ปโยคสมฺปนฺเนหิ ยถาวิภวํ ภชียนฺตีติ ภคา, โลกิยโลกุตฺตรา สมฺปตฺติโย. ตตฺถ โลกิเย ตาว ตถาคโต สมฺโพธิโต ปุพฺเพ โพธิสตฺตภูโต ปรมุกฺกํสคเต วนิ ภชิ เสวิ, ยตฺถ ปติฏฺาย นิรวเสสโต พุทฺธกรธมฺเม สมนฺนาเนนฺโต พุทฺธธมฺเม ปริปาเจสิ. พุทฺธภูโต ปน เต นิรวชฺชสุขูปสํหิเต อนฺสาธารเณ โลกุตฺตเรปิ ¶ วนิ ภชิ เสวิ. วิตฺถารโต ปน ปเทสรชฺชอิสฺสริยจกฺกวตฺติสมฺปตฺติเทวรชฺชสมฺปตฺติอาทิวเสน ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺติาณทสฺสนมคฺคภาวนาผล- สจฺฉิกิริยาทิอุตฺตริมนุสฺสธมฺมวเสน จ อเนกวิหิเต อนฺสาธารเณ ภเค วนิ ภชิ เสวิ. เอวํ ภเค วนีติ ภควา.
‘‘ยา ตา สมฺปตฺติโย โลเก, ยา จ โลกุตฺตรา ปุถู;
สพฺพา ตา ภชิ สมฺพุทฺโธ, ตสฺมาปิ ภควา มโต’’.
กถํ ¶ ภตฺตวาติ ภควา? ภตฺตา ทฬฺหภตฺติกา อสฺส พหู อตฺถีติ ภควา. ตถาคโต หิ มหากรุณาสพฺพฺุตฺาณาทิอปริมิตนิรุปมปฺปภาวคุณวิเสสสมงฺคิภาวโต สพฺพสตฺตุตฺตโม, สพฺพานตฺถปริหารปุพฺพงฺคมาย นิรวเสสหิตสุขวิธานตปฺปราย นิรติสยาย ปโยคสมฺปตฺติยา สเทวมนุสฺสาย ปชาย อจฺจนฺตูปการิตาย ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณอสีติอนุพฺยฺชนพฺยามปฺปภาทิ- อนฺสาธารณคุณวิเสสปฏิมณฺฑิตรูปกายตาย, ยถาภุจฺจคุณาธิคเตน ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินยปฺปวตฺเตน โลกตฺตยพฺยาปินา สุวิปุเลน สุวิสุทฺเธน จ ถุติโฆเสน สมนฺนาคตตฺตา อุกฺกํสปารมิปฺปตฺตาสุ อปฺปิจฺฉตาสนฺตุฏฺิตาทีสุ สุปฺปติฏฺิตภาวโต ทสพลจตุเวสารชฺชาทินิรติสยคุณวิเสสสมงฺคิภาวโต จ รูปปฺปมาโณ รูปปฺปสนฺโน, โฆสปฺปมาโณ โฆสปฺปสนฺโน, ลูขปฺปมาโณ ลูขปฺปสนฺโน, ธมฺมปฺปมาโณ ธมฺมปฺปสนฺโนติ ¶ เอวํ จตุปฺปมาณิเก โลกสนฺนิวาเส สพฺพถาปิ ปสาทาวหภาเวน สมนฺตปาสาทิกตฺตา อปริมาณานํ สตฺตานํ สเทวมนุสฺสานํ อาทรพหุมานคารวายตนตาย ปรมเปมสมฺภตฺติฏฺานํ. เย จ ตสฺส โอวาเท ปติฏฺิตา อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา โหนฺติ, เกนจิ อสํหาริยา เตสํ สมฺภตฺติ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา. ตถา หิ เต อตฺตโน ชีวิตปริจฺจาเคปิ ตตฺถ ปสาทํ น ปริจฺจชนฺติ, ตสฺส วา อาณํ ทฬฺหภตฺติภาวโต. เตเนวาห –
‘‘โย เว กตฺู กตเวทิ ธีโร;
กลฺยาณมิตฺโต ทฬฺหภตฺติ จ โหตี’’ติ. (ชา. ๒.๑๗.๗๘);
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยํ มยา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ตํ มม สาวกา ชีวิตเหตุปิ นาติกฺกมนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๘.๒๐; อุทา. ๔๕; จูฬว. ๓๘๕) จ.
เอวํ ¶ ภตฺตวาติ ภควา นิรุตฺตินเยน เอกสฺส ตการสฺส โลปํ กตฺวา อิตรสฺส คการํ กตฺวา.
‘‘คุณาติสยยุตฺตสฺส, ยสฺมา โลกหิเตสิโน;
สมฺภตฺตา พหโว สตฺถุ, ภควา เตน วุจฺจตี’’ติ.
กถํ ¶ ภเค วมีติ ภควา? ยสฺมา ตถาคโต โพธิสตฺตภูโตปิ ปุริมาสุ ชาตีสุ ปารมิโย ปูเรนฺโต ภคสงฺขาตํ สิรึ อิสฺสริยํ ยสฺจ วมิ อุคฺคิริ เขฬปิณฺฑํ วิย อนเปกฺโข ฉฑฺฑยิ. ตถา หิสฺส โสมนสฺสกุมารกาเล, หตฺถิปาลกุมารกาเล, อโยฆรปณฺฑิตกาเล, มูคปกฺขปณฺฑิตกาเล, จูฬสุตโสมกาเลติ เอวมาทีสุ เนกฺขมฺมปารมิปูรณวเสน เทวรชฺชสทิสาย รชฺชสิริยา ปริจฺจตฺตตฺตภาวานํ ปริมาณํ นตฺถิ. จริมตฺตภาเวปิ หตฺถคตํ จกฺกวตฺติสิรึ เทวโลกาธิปจฺจสทิสํ จตุทฺทีปิสฺสริยํ จกฺกวตฺติสมฺปตฺติสนฺนิสฺสยํ สตฺตรตนสมุชฺชลํ ยสฺจ ติณายปิ อมฺมาโน นิรเปกฺโข ปหาย อภินิกฺขมิตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ. ตสฺมา อิเม สิริอาทิเก ภเค วมีติ ภควา. อถ วา ภานิ นาม นกฺขตฺตานิ, เตหิ สมํ คจฺฉนฺติ ปวตฺตนฺตีติ ภคา ¶ , สิเนรุยุคนฺธรอุตฺตรกุรุหิมวนฺตาทิภาชนโลกวิเสสสนฺนิสฺสยา โสภา กปฺปฏฺิติยภาวโต. เตปิ ภควา วมิ ตํนิวาสิสตฺตาวาสสมติกฺกมนโตตปฺปฏิพทฺธฉนฺทราคปฺปหาเนน ปชหีติ. เอวมฺปิ ภเค วมีติ ภควา.
‘‘จกฺกวตฺติสิรึ ยสฺมา, ยสํ อิสฺสริยํ สุขํ;
ปหาสิ โลกจิตฺตฺจ, สุคโต ภควา ตโต’’.
กถํ ภาเค วมีติ ภควา? ภาคา นาม โกฏฺาสา. เต ขนฺธายตนธาตาทิวเสน, ตตฺถาปิ รูปเวทนาทิวเสน, อตีตาทิวเสน จ อเนกวิธา. เต จ ภควา สพฺพํ ปปฺจํ, สพฺพํ โยคํ, สพฺพํ คนฺถํ, สพฺพํ สํโยชนํ, สมุจฺฉินฺทิตฺวา อมตธาตุํ สมธิคจฺฉนฺโต วมิ อุคฺคิริ อนเปกฺโข ฉฑฺฑยิ, น ปจฺจาคมิ. ตถา เหส สพฺพตฺถกเมว ปถวึ, อาปํ, เตชํ, วายํ, จกฺขุํ, โสตํ, ฆานํ, ชีวฺหํ, กายํ, มนํ, รูเป, สทฺเท, คนฺเธ, รเส, โผฏฺพฺเพ, ธมฺเม, จกฺขุวิฺาณํ…เป… มโนวิฺาณํ, จกฺขุสมฺผสฺสํ ¶ …เป… มโนสมฺผสฺสํ, จกฺขุสมฺผสฺสชํ เวทนํ…เป… มโนสมฺผสฺสชํ เวทนํ, จกฺขุสมฺผสฺสชํ สฺํ…เป… มโนสมฺผสฺสชํ สฺํ; จกฺขุสมฺผสฺสชํ เจตนํ…เป… มโนสมฺผสฺสชํ เจตนํ; รูปตณฺหํ ¶ …เป… ธมฺมตณฺหํ; รูปวิตกฺกํ…เป… ธมฺมวิตกฺกํ; รูปวิจารํ…เป… ธมฺมวิจารนฺติอาทินา อนุปทธมฺมวิภาควเสนปิ สพฺเพว ธมฺมโกฏฺาเส อนวเสสโต วมิ อุคฺคิริ อนเปกฺขปริจฺจาเคน ฉฑฺฑยิ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘ยํ ตํ, อานนฺท, จตฺตํ วนฺตํ มุตฺตํ ปหีนํ ปฏินิสฺสฏฺํ, ตํ ตถาคโต ปุน ปจฺจาคมิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ. (ที. นิ. ๒.๑๘๓) –
เอวมฺปิ ภาเค วมีติ ภควา. อถ วา ภาเค วมีติ สพฺเพปิ กุสลากุสเล สาวชฺชานวชฺเช หีนปฺปณีเต กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาเค ธมฺเม อริยมคฺคาณมุเขน วมิ อุคฺคิริ อนเปกฺโข ปริจฺจชิ ปชหิ, ปเรสฺจ ตถตฺตาย ธมฺมํ เทเสสิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ธมฺมาปิ โว, ภิกฺขเว, ปหาตพฺพา ปเคว อธมฺมา, กุลฺลูปมํ, โว ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ, นิตฺถรณตฺถาย โน คหณตฺถายา’’ติอาทิ. (ม. นิ. ๑.๒๔๐) –
เอวมฺปิ ¶ ภาเค วมีติ ภควา.
‘‘ขนฺธายตนธาตาทิ-ธมฺมเภทา มเหสินา;
กณฺหสุกฺกา ยโต วนฺตา, ตโตปิ ภควา มโต’’.
เตน วุตฺตํ –
‘‘ภาควา ภตวา ภาเค, ภเค จ วนิ ภตฺตวา;
ภเค วมิ ตถา ภาเค, วมีติ ภควา ชิโน’’ติ.
เตน ภควตา. อรหตาติ กิเลเสหิ อารกตฺตา, อนวเสสานํ วา กิเลสารีนํ หตตฺตา, สํสารจกฺกสฺส วา อรานํ หตตฺตา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวาติ อิเมหิ การเณหิ อรหตา. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.
เอตฺถ ¶ จ ภควตาติ อิมินาสฺส ภาคฺยวนฺตตาทีปเนน กปฺปานํ อเนเกสุ อสงฺขฺเยยฺเยสุ อุปจิตปฺุสมฺภารภาวโต สตปฺุลกฺขณธรสฺส ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณอสีติอนุพฺยฺชน- พฺยามปฺปภาเกตุมาลาทิปฏิมณฺฑิตา ¶ อนฺสาธารณา รูปกายสมฺปตฺติทีปิตา โหติ. อรหตาติ อิมินาสฺส อนวเสสกิเลสปฺปหานทีปเนน อาสวกฺขยปทฏฺานสพฺพฺุตฺาณาธิคมปริทีปนโต ทสพลจตุเวสารชฺชฉอสาธารณาณอฏฺารสาเวณิกพุทฺธธมฺมาทิ- อจินฺเตยฺยาปริเมยฺยธมฺมกายสมฺปตฺติ ทีปิตา โหติ. ตทุภเยนปิ โลกิยสริกฺขกานํ พหุมตภาโว, คหฏฺปพฺพชิเตหิ อภิคมนียตา, ตถา อภิคตานฺจ เตสํ กายิกเจตสิกทุกฺขาปนยเน ปฏิพลภาโว, อามิสทานธมฺมทาเนหิ อุปการิตา, โลกิยโลกุตฺตเรหิ คุเณหิ สํโยชนสมตฺถตา จ ปกาสิตา โหติ.
ตถา ภควตาติ อิมินา จรณธมฺเมสุ มุทฺธภูตทิพฺพวิหาราทิวิหารวิเสสสมาโยคปริทีปเนน จรณสมฺปทา ทีปิตา โหติ. อรหตาติ อิมินา สพฺพวิชฺชาสุ สิขาปฺปตฺตอาสวกฺขยาณาธิคมปริทีปเนน วิชฺชาสมฺปทา ทีปิตา โหติ. ปุริเมน วา อนฺตรายิกนิยฺยานิกธมฺมานํ อวิปรีตวิภตฺตภาวทีปเนน ปจฺฉิมเวสารชฺชทฺวยสมาโยโค, ปจฺฉิเมน สวาสนนิรวเสสกิเลสปฺปหานทีปเนน ¶ ปุริมเวสารชฺชทฺวยสมาโยโค วิภาวิโต โหติ.
ตถา ปุริเมน ตถาคตสฺส ปฏิฺาสจฺจวจีสจฺจาณสจฺจปริทีปเนน, กามคุณโลกิยาธิปจฺจยสลาภสกฺการาทิปริจฺจาคปริทีปเนน, อนวเสสกิเลสาภิสงฺขารปริจฺจาคปริทีปเนน, จ สจฺจาธิฏฺานจาคาธิฏฺานปาริปูริ ปกาสิตา โหติ; ทุติเยน สพฺพสงฺขารูปสมสมธิคมปริทีปเนน, สมฺมาสมฺโพธิปริทีปเนน จ, อุปสมาธิฏฺานปฺาธิฏฺานปาริปูริ ปกาสิตา โหติ. ตถา หิ ภควโต โพธิสตฺตภูตสฺส โลกุตฺตรคุเณ กตาภินีหารสฺส มหากรุณาโยเคน ยถาปฏิฺํ สพฺพปารมิตานุฏฺาเนน สจฺจาธิฏฺานํ, ปารมิตาปฏิปกฺขปริจฺจาเคน จาคาธิฏฺานํ, ปารมิตาคุเณหิ จิตฺตวูปสเมน อุปสมาธิฏฺานํ, ปารมิตาหิ เอว ปรหิตูปายโกสลฺลโต ปฺาธิฏฺานํ ปาริปูริคตํ.
ตถา ‘ยาจกชนํ อวิสํวาเทตฺวา ¶ ทสฺสามี’ติ ปฏิชานเนน ปฏิฺํ อวิสํวาเทตฺวา ทาเนน จ สจฺจาธิฏฺานํ, เทยฺยปริจฺจาคโต จาคาธิฏฺานํ, เทยฺยปฏิคฺคาหกทานเทยฺยปริกฺขเยสุ โลภโทสโมหภยวูปสเมน อุปสมาธิฏฺานํ, ยถารหํ ยถากาลํ ยถาวิธิ จ ทาเนน ปฺุตฺตรตาย จ ปฺาธิฏฺานํ ปาริปูริคตํ. อิมินา นเยน เสสปารมีสุปิ จตุราธิฏฺานปาริปูริ เวทิตพฺพา. สพฺพา หิ ปารมิโย สจฺจปฺปภาวิตา จาคาภิพฺยฺชิตา อุปสมานุพฺรูหิตา ปฺาปริสุทฺธาติ เอวํ จตุราธิฏฺานสมุทาคตสฺส ตถาคตสฺส สจฺจาธิฏฺานํ สจฺจาธิฏฺานสมุทาคเมน สีลวิสุทฺธิ, จาคาธิฏฺานสมุทาคเมน ¶ อาชีววิสุทฺธิ, อุปสมาธิฏฺานสมุทาคเมน จิตฺตวิสุทฺธิ, ปฺาธิฏฺานสมุทาคเมน ทิฏฺิวิสุทฺธิ. ตถา สจฺจาธิฏฺานสมุทาคเมนสฺส สํวาเสน สีลํ เวทิตพฺพํ, จาคาธิฏฺานสมุทาคเมน สํโวหาเรน โสเจยฺยํ เวทิตพฺพํ, อุปสมาธิฏฺานสมุทาคเมน อาปทาสุ ถาโม เวทิตพฺโพ, ปฺาธิฏฺานสมุทาคเมน สากจฺฉาย ปฺา เวทิตพฺพา.
ตถา สจฺจาธิฏฺานสมุทาคเมน อทุฏฺโ อธิวาเสติ, จาคาธิฏฺานสมุทาคเมน อลุทฺโธ ปฏิเสวติ, อุปสมาธิฏฺานสมุทาคเมน อภีโต ปริวชฺเชติ, ปฺาธิฏฺานสมุทาคเมน อมูฬฺโห วิโนเทติ. ตถา ¶ สจฺจาธิฏฺานสมุทาคเมน จสฺส เนกฺขมฺมสุขปฺปตฺติ, จาคาธิฏฺานสมุทาคเมน ปวิเวกสุขปฺปตฺติ, อุปสมาธิฏฺานสมุทาคเมน อุปสมสุขปฺปตฺติ, ปฺาธิฏฺานสมุทาคเมน สมฺโพธิสุขปฺปตฺติ ทีปิตา โหติ. สจฺจาธิฏฺานสมุทาคเมน วา วิเวกชปีติสุขปฺปตฺติ, จาคาธิฏฺานสมุทาคเมน สมาธิชปีติสุขปฺปตฺติ, อุปสมาธิฏฺานสมุทาคเมน อปีติชกายสุขปฺปตฺติ, ปฺาธิฏฺานสมุทาคเมน สติปาริสุทฺธิชอุเปกฺขาสุขปฺปตฺติ. ตถา สจฺจาธิฏฺานสมุทาคเมน ปริวารสมฺปตฺติลกฺขณปจฺจยสุขสมาโยโค ปริทีปิโต โหติ อวิสํวาทนโต, จาคาธิฏฺานสมุทาคเมน สนฺตุฏฺิลกฺขณสภาวสุขสมาโยโค อโลภภาวโต, อุปสมาธิฏฺานสมุทาคเมน ¶ กตปฺุตาลกฺขณเหตุสุขสมาโยโค กิเลเสหิ อนภิภูตภาวโต, ปฺาธิฏฺานสมุทาคเมน วิมุตฺติสมฺปตฺติลกฺขณทุกฺขูปสมสุขสมาโยโค ปริทีปิโต โหติ, าณสมฺปตฺติยา นิพฺพานาธิคมนโต.
ตถา สจฺจาธิฏฺานสมุทาคเมน อริยสฺส สีลกฺขนฺธสฺส อนุโพธปฺปฏิเวธสิทฺธิ, จาคาธิฏฺานสมุทาคเมน อริยสฺส สมาธิกฺขนฺธสฺส, ปฺาธิฏฺานสมุทาคเมน อริยสฺส ปฺากฺขนฺธสฺส, อุปสมาธิฏฺานสมุทาคเมน อริยสฺส วิมุตฺติกฺขนฺธสฺส อนุโพธปฺปฏิเวธสิทฺธิ ทีปิตา โหติ. สจฺจาธิฏฺานปริปูรเณน จ ตปสิทฺธิ, จาคาธิฏฺานปริปูรเณน สพฺพนิสฺสคฺคสิทฺธิ, อุปสมาธิฏฺานปริปูรเณน อินฺทฺริยสํวรสิทฺธิ, ปฺาธิฏฺานปริปูรเณน พุทฺธิสิทฺธิ, เตน จ นิพฺพานสิทฺธิ. ตถา สจฺจาธิฏฺานปริปูรเณน จตุอริยสจฺจาภิสมยปฺปฏิลาโภ, จาคาธิฏฺานปริปูรเณน จตุอริยวํสปฺปฏิลาโภ, ๐.อุปสมาธิฏฺานปริปูรเณน จตุอริยวิหารปฺปฏิลาโภ, ปฺาธิฏฺานปริปูรเณน จตุอริยโวหารปฺปฏิลาโภ ทีปิโต โหติ.
อปโร นโย – ภควตาติ เอเตน สตฺตานํ โลกิยโลกุตฺตรสมฺปตฺติอภิกงฺขาทีปเนน ตถาคตสฺส มหากรุณา ปกาสิตา โหติ. อรหตาติ เอเตน ปหานสมฺปตฺติทีปเนน ปหานปฺา ปกาสิตา ¶ โหติ. ตตฺถ ปฺายสฺส ธมฺมรชฺชปตฺติ, กรุณาย ธมฺมสํวิภาโค; ปฺาย สํสารทุกฺขนิพฺพิทา, กรุณาย สํสารทุกฺขสหนํ; ปฺาย ปรทุกฺขปริชานนํ, กรุณาย ปรทุกฺขปฺปฏิการารมฺโภ. ปฺาย ปรินิพฺพานาภิมุขภาโว ¶ , กรุณาย ตทธิคโม; ปฺาย สยํ ตรณํ, กรุณาย ปเรสํ ตารณํ; ปฺาย พุทฺธภาวสิทฺธิ, กรุณาย พุทฺธกิจฺจสิทฺธิ. กรุณาย วา โพธิสตฺตภูมิยํ สํสาราภิมุขภาโว, ปฺาย ตตฺถ อนภิรติ. ตถา กรุณาย ปเรสํ อวิหึสนํ, ปฺาย สยํ ปเรหิ อภายนํ; กรุณาย ปรํ รกฺขนฺโต อตฺตานํ รกฺขติ, ปฺาย อตฺตานํ รกฺขนฺโต ปรํ รกฺขติ. ตถา กรุณาย อปรนฺตโป, ปฺาย อนตฺตนฺตโป. เตน อตฺตหิตาย ปฏิปนฺนาทีสุ จตุตฺถปุคฺคลภาโว สิทฺโธ โหติ ¶ .
ตถา กรุณาย โลกนาถตา, ปฺาย อตฺตนาถตา; กรุณาย จสฺส นินฺนตาภาโว, ปฺาย อุนฺนตาภาโว. ตถา กรุณาย สพฺพสตฺเตสุ ชนิตานุคฺคโห, ปฺานุคตตฺตา น จ น สพฺพตฺถ วิรตฺตจิตฺโต; ปฺาย สพฺพธมฺเมสุ วิรตฺตจิตฺโต, กรุณานุคตตฺตา น จ น สพฺพสตฺตานุคฺคหาย ปวตฺโต. ยถา หิ กรุณา ตถาคตสฺส สิเนหโสกวิรหิตา, เอวํ ปฺา อหํการมมํการวินิมุตฺตาติ อฺมฺํ วิโสธิตา ปรมวิสุทฺธาติ ทฏฺพฺพา. ตตฺถ ปฺาเขตฺตํ พลานิ, กรุณาเขตฺตํ เวสารชฺชานิ. เตสุ พลสมาโยเคน ปเรหิ น อภิภุยฺยติ, เวสารชฺชสมาโยเคน ปเร อภิภวติ. พเลหิ สตฺถุสมฺปทาสิทฺธิ, เวสารชฺเชหิ สาสนสมฺปทาสิทฺธิ. ตถา พเลหิ พุทฺธรตนสิทฺธิ, เวสารชฺเชหิ ธมฺมรตนสิทฺธีติ อยเมตฺถ ‘‘ภควตา อรหตา’’ติ ปททฺวยสฺส อตฺถโยชนาย มุขมตฺตทสฺสนํ.
กสฺมา ปเนตฺถ ‘‘วุตฺตฺเหตํ ภควตา’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ? อนุสฺสวปฏิกฺเขเปน นิยมทสฺสนตฺถํ. ยถา หิ เกนจิ ปรโต สุตฺวา วุตฺตํ ยทิปิ จ ชานนฺเตน วุตฺตํ, น เตเนว วุตฺตํ ปเรนปิ วุตฺตตฺตา. น จ ตํ เตน วุตฺตเมว, อปิจ โข สุตมฺปิ, น เอวมิธ. ภควตา หิ ปรโต อสุตฺวา สยมฺภุาเณน อตฺตนา อธิคตเมว วุตฺตนฺติ อิมสฺส วิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ ทฺวิกฺขตฺตุํ ‘‘วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘วุตฺตฺเหตํ ภควตา’’ ตฺจ โข ภควตาว วุตฺตํ, น อฺเน, วุตฺตเมว จ, น สุตนฺติ. อธิกวจนฺหิ อฺมตฺถํ โพเธตีติ น ปุนรุตฺติโทโส. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ.
ตถา ¶ ปุพฺพรจนาภาวทสฺสนตฺถํ ทฺวิกฺขตฺตุํ ‘‘วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ภควา หิ สมฺมาสมฺพุทฺธตาย านุปฺปตฺติกปฺปฏิภาเนน สมฺปตฺตปริสาย อชฺฌาสยานุรูปํ ธมฺมํ เทเสติ, น ตสฺส การณา ทานาทีนํ วิย ปุพฺพรจนากิจฺจํ อตฺถิ. เตเนตํ ทสฺเสติ – ‘‘วุตฺตฺเหตํ ภควตา, ตฺจ โข น ¶ ปุพฺพรจนาวเสน ตกฺกปริยาหตํ วีมํสานุจริตํ, อปิจ โข เวเนยฺยชฺฌาสยานุรูปํ านโส วุตฺตเมวา’’ติ.
อปฺปฏิวตฺติยวจนภาวทสฺสนตฺถํ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ ‘‘วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ยฺหิ ภควตา วุตฺตํ, วุตฺตเมว ¶ ตํ, น เกนจิ ปฏิกฺขิปิตุํ สกฺกา อกฺขรสมฺปตฺติยา อตฺถสมฺปตฺติยา จ. วุตฺตํ เหตํ –
‘‘เอตํ ภควตา พาราณสิยํ อิสิปตเน มิคทาเย อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ อปฺปฏิวตฺติยํ เกนจิ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๗).
อปรมฺปิ วุตฺตํ –
‘‘อิธ, ภิกฺขเว, อาคจฺเฉยฺย สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ‘น ยิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ, ยํ สมเณน โคตเมน ปฺตฺตํ, อหมิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ เปตฺวา อฺํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ปฺาเปสฺสามี’ติ, เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติอาทิ. –
ตสฺมา อปฺปฏิวตฺติยวจนภาวทสฺสนตฺถมฺปิ ทฺวิกฺขตฺตุํ ‘‘วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ.
อถ วา โสตูนํ อตฺถนิปฺผาทกภาวทสฺสนตฺถํ ทฺวิกฺขตฺตุํ ‘‘วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ยฺหิ ปเรสํ อาสยาทึ อชานนฺเตน อสพฺพฺุนา อเทเส อกาเล วา วุตฺตํ, ตํ สจฺจมฺปิ สมานํ โสตูนํ อตฺถนิปฺผาทเน อสมตฺถตาย อวุตฺตํ นาม สิยา, ปเคว อสจฺจํ. ภควตา ปน สมฺมาสมฺพุทฺธภาวโต สมฺมเทว ปเรสํ อาสยาทึ เทสกาลํ อตฺถสิทฺธิฺจ ชานนฺเตน วุตฺตํ เอกนฺเตน โสตูนํ ยถาธิปฺเปตตฺถนิปฺผาทนโต วุตฺตเมว, นตฺถิ ตสฺส อวุตฺตตาปริยาโย. ตสฺมา โสตูนํ อตฺถนิปฺผาทกภาวทสฺสนตฺถมฺปิ ทฺวิกฺขตฺตุํ ‘‘วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. อปิจ ยถา น ตํ สุตํ นาม, ยํ น วิฺาตตฺถํ ยฺจ น ตถตฺตาย ปฏิปนฺนํ, เอวํ น ตํ วุตฺตํ นาม, ยํ น สมฺมา ปฏิคฺคหิตํ. ภควโต ปน วจนํ จตสฺโสปิ ปริสา สมฺมเทว ปฏิคฺคเหตฺวา ¶ ตถตฺตาย ปฏิปชฺชนฺติ. ตสฺมา สมฺมเทว ปฏิคฺคหิตภาวทสฺสนตฺถมฺปิ ทฺวิกฺขตฺตุํ ‘‘วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ.
อถ วา อริเยหิ อวิรุทฺธวจนภาวทสฺสนตฺถํ ทฺวิกฺขตฺตุํ ‘‘วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ยถา หิ ภควา ¶ กุสลากุสลสาวชฺชานวชฺชเภเท ธมฺเม ปวตฺตินิวตฺติโย สมฺมุติปรมตฺเถ จ อวิสํวาเทนฺโต วทติ, เอวํ ธมฺมเสนาปติปฺปภุตโย อริยาปิ ภควติ ธรมาเน ปรินิพฺพุเต จ ตสฺเสว เทสนํ อนุคนฺตฺวา วทนฺติ, น ตตฺถ นานาวาทตา. ตสฺมา วุตฺตมรหตา ตโต ปรภาเค ¶ อรหตา อริยสงฺเฆนาปีติ เอวํ อริเยหิ อวิรุทฺธวจนภาวทสฺสนตฺถมฺปิ เอวํ วุตฺตํ.
อถ วา ปุริเมหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ วุตฺตนยภาวทสฺสนตฺถํ ทฺวิกฺขตฺตุํ ‘‘วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. สติปิ หิ ชาติโคตฺตายุปฺปมาณาทิวิเสเส ทสพลาทิคุเณหิ วิย ธมฺมเทสนาย พุทฺธานํ วิเสโส นตฺถิ, อฺมฺํ อตฺตนา จ เต ปุพฺเพนาปรํ อวิรุทฺธเมว วทนฺติ. ตสฺมา วุตฺตฺเหตํ ยถา พุทฺเธหิ อตฺตนา จ ปุพฺเพ, อิทานิปิ อมฺหากํ ภควตา ตเถว วุตฺตํ อรหตาติ เอวํ ปุริมพุทฺเธหิ อตฺตนา จ สุตฺตนฺตเรสุ วุตฺตนยภาวทสฺสนตฺถมฺปิ ทฺวิกฺขตฺตุํ ‘‘วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. เตน พุทฺธานํ เทสนาย สพฺพตฺถ อวิโรโธ ทีปิโต โหติ.
อถ วา ‘‘วุตฺต’’นฺติ ยเทตํ ทุติยํ ปทํ, ตํ อรหนฺตวุตฺตภาววจนํ ทฏฺพฺพํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – วุตฺตฺเหตํ ภควตา อรหตาปิ วุตฺตํ – ‘‘เอกธมฺมํ, ภิกฺขเว’’ติอาทิกํ อิทานิ วุจฺจมานํ วจนนฺติ. อถ วา ‘‘วุตฺต’’นฺติ ยเทตํ ทุติยํ ปทํ, ตํ น วจนตฺถํ, อถ โข วปนตฺถํ ทฏฺพฺพํ. เตเนตํ ทสฺเสติ – ‘‘วุตฺตฺเหตํ ภควตา, ตฺจ โข น วุตฺตมตฺตํ, น กถิตมตฺตํ; อถ โข เวเนยฺยานํ กุสลมูลํ วปิต’’นฺติ อตฺโถ. อถ วา ยเทตํ วุตฺตนฺติ ทุติยํ ปทํ, ตํ วตฺตนตฺถํ. อยํ หิสฺส อตฺโถ – วุตฺตฺเหตํ ภควตา อรหตา, ตฺจ โข น วุตฺตมตฺตํ, อปิจ ตทตฺถชาตํ วุตฺตํ จริตนฺติ. เตน ‘‘ยถา วาที ภควา ตถา การี’’ติ ทสฺเสติ. อถ วา วุตฺตํ ภควตา, วุตฺตวจนํ อรหตา วตฺตุํ ยุตฺเตนาติ อตฺโถ.
อถ ¶ วา ‘‘วุตฺต’’นฺติ สงฺเขปกถาอุทฺทิสนํ สนฺธายาห, ปุน ‘‘วุตฺต’’นฺติ วิตฺถารกถานิทสฺสนํ. ภควา หิ สงฺเขปโต วิตฺถารโต จ ธมฺมํ เทเสติ. อถ วา ภควโต ทุรุตฺตวจนาภาวทสฺสนตฺถํ ‘‘วุตฺตฺเหตํ ภควตา’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. สพฺพทา าณานุคตวจีกมฺมตาย หิ ภควโต สวาสนปหีนสพฺพโทสสฺส อกฺขลิตพฺยปฺปถสฺส กทาจิปิ ทุรุตฺตํ นาม นตฺถิ. ยถา เกจิ โลเก สติสมฺโมเสน วา ทวา วา รวา วา กิฺจิ วตฺวา อถ ปฏิลทฺธสฺา ปุพฺเพ วุตฺตํ ¶ อวุตฺตํ วา กโรนฺติ ปฏิสงฺขโรนฺติ วา, น เอวํ ภควา. ภควา ปน นิจฺจกาลํ สมาหิโต. อสมฺโมสธมฺโม อสมฺโมหธมฺโม จ สพฺพฺุตฺาณสมุปพฺยูฬฺหาย ปฏิภานปฏิสมฺภิทาย อุปนีตมตฺถํ อปริมิตกาลํ สมฺภตปฺุสมฺภารสมุทาคเตหิ อนฺสาธารเณหิ วิสทวิสุทฺเธหิ กรณวิเสเสหิ โสตายตนรสายนภูตํ ¶ สุณนฺตานํ อมตวสฺสํ วสฺสนฺโต วิย โสตพฺพสารํ สวนานุตฺตริยํ จตุสจฺจํ ปกาเสนฺโต กรวีกรุตมฺชุนา สเรน สภาวนิรุตฺติยา เวเนยฺยชฺฌาสยานุรูปํ วจนํ วทติ, นตฺถิ ตตฺถ วาลคฺคมตฺตมฺปิ อวกฺขลิตํ, กุโต ปน ทุรุตฺตาวกาโส. ตสฺมา ‘‘ยํ ภควตา วุตฺตํ, ตํ วุตฺตเมว, น อวุตฺตํ ทุรุตฺตํ วา กทาจิ โหตี’’ติ ทสฺสนตฺถํ – ‘‘วุตฺตฺเหตํ ภควตา’’ติ วตฺวา ปุน – ‘‘วุตฺตมรหตา’’ติ วุตฺตนฺติ น เอตฺถ ปุนรุตฺติโทโสติ. เอวเมตฺถ ปุนรุตฺตสทฺทสฺส สาตฺถกตา เวทิตพฺพา.
อิติ เม สุตนฺติ เอตฺถ อิตีติ อยํ อิติสทฺโท เหตุปริสมาปนาทิปทตฺถวิปริยายปการนิทสฺสนาวธารณาทิอเนกตฺถปฺปเภโท. ตถา เหส – ‘‘รุปฺปตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา รูปนฺติ วุจฺจตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๗๙) เหตุอตฺเถ ทิสฺสติ. ‘‘ตสฺมาติห เม, ภิกฺขเว, ธมฺมทายาทา ภวถ, มา อามิสทายาทา. อตฺถิ เม ตุมฺเหสุ อนุกมฺปา – กินฺติ เม สาวกา ธมฺมทายาทา ภเวยฺยุํ, โน อามิสทายาทา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๐) ปริสมาปเน. ‘‘อิติ วา อิติ เอวรูปา วิสูกทสฺสนา ปฏิวิรโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๑๐) อาทิอตฺเถ. ‘‘มาคณฺฑิโยติ วา ตสฺส พฺราหฺมณสฺส สงฺขา สมฺา ปฺตฺติ โวหาโร นามํ นามกมฺมํ นามเธยฺยํ นิรุตฺติ พฺยฺชนํ อภิลาโป’’ติอาทีสุ (มหานิ. ๗๕) ปทตฺถวิปริยาเย. ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, สปฺปฏิภโย พาโล, อปฺปฏิภโย ปณฺฑิโต; สอุปทฺทโว พาโล, อนุปทฺทโว ปณฺฑิโต; สอุปสคฺโค พาโล ¶ , อนุปสคฺโค ปณฺฑิโต’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๑) ปกาเร. ‘‘สพฺพมตฺถีติ โข, กจฺจาน, อยเมโก อนฺโต, สพฺพํ นตฺถีติ โข, กจฺจาน, อยํ ทุติโย อนฺโต’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๑๕) นิทสฺสเน ¶ . ‘‘อตฺถิ อิทปฺปจฺจยา ชรามรณนฺติ อิติ ปุฏฺเน สตา, อานนฺท, อตฺถีติสฺส วจนียํ. กึปจฺจยา ชรามรณนฺติ อิติ เจ วเทยฺย, ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ อิจฺจสฺส วจนีย’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๙๖) อวธารเณ, สนฺนิฏฺาเนติ อตฺโถ. สฺวายมิธ ปการนิทสฺสนาวธารเณสุ ทฏฺพฺโพ.
ตตฺถ ปการตฺเถน อิติสทฺเทน เอตมตฺถํ ทีเปติ – นานานยนิปุณมเนกชฺฌาสยสมุฏฺานํ อตฺถพฺยฺชนสมฺปนฺนํ วิวิธปาฏิหาริยํ ธมฺมตฺถเทสนาปฏิเวธคมฺภีรํ สพฺพสตฺตานํ สกสกภาสานุรูปโต โสตปถมาคจฺฉนฺตํ ตสฺส ภควโต วจนํ สพฺพปฺปกาเรน โก สมตฺโถ วิฺาตุํ, สพฺพถาเมน ปน โสตุกามตํ ชเนตฺวาปิ อิติ เม สุตํ, มยาปิ เอเกน ปกาเรน สุตนฺติ.
เอตฺถ ¶ จ เอกตฺตนานตฺตอพฺยาปารเอวํธมฺมตาสงฺขาตา นนฺทิยาวตฺตติปุกฺขลสีหวิกฺกีฬิตทิสาโลจนองฺกุสสงฺขาตา จ วิสยาทิเภเทน นานาวิธา นยา นานานยา. นยา วา ปาฬิคติโย, ตา จ ปฺตฺติอนุปฺตฺติอาทิวเสน สํกิเลสภาคิยาทิโลกิยาทิตทุภยโวมิสฺสตาทิวเสน, กุสลาทิวเสน, ขนฺธาทิวเสน, สงฺคหาทิวเสน, สมยวิมุตฺตาทิวเสน, ปนาทิวเสน, กุสลมูลาทิวเสน, ติกปฏฺานาทิวเสน จ นานปฺปการาติ นานานยา. เตหิ นิปุณํ สณฺหํ สุขุมนฺติ นานานยนิปุณํ.
อาสโยว อชฺฌาสโย, โส จ สสฺสตาทิเภเทน อปฺปรชกฺขตาทิเภเทน จ อเนกวิโธ. อตฺตชฺฌาสยาทิโก เอว วา อเนโก อชฺฌาสโย อเนกชฺฌาสโย. โส สมุฏฺานํ อุปฺปตฺติเหตุ เอตสฺสาติ อเนกชฺฌาสยสมุฏฺานํ.
กุสลาทิอตฺถสมฺปตฺติยา ตพฺพิภาวนพฺยฺชนสมฺปตฺติยา สงฺกาสนปกาสนวิวรณวิภชนอุตฺตานีกรณปฺตฺติวเสน ฉหิ อตฺถปเทหิ อกฺขรปทพฺยฺชนาการนิรุตฺตินิทฺเทสวเสน ฉหิ พฺยฺชนปเทหิ จ สมนฺนาคตตฺตา อตฺถพฺยฺชนสมฺปนฺนํ.
อิทฺธิอาเทสนานุสาสนีเภเทน ¶ เตสุ จ เอเกกสฺส วิสยาทิเภเทน วิวิธํ พหุวิธํ วา ปาฏิหาริยํ ¶ เอตสฺสาติ วิวิธปาฏิหาริยํ. ตตฺถ ปฏิปกฺขหรณโต ราคาทิกิเลสาปนยนโต ปฏิหาริยนฺติ อตฺเถ สติ ภควโต ปฏิปกฺขา ราคาทโย น สนฺติ เย หริตพฺพา, ปุถุชฺชนานมฺปิ วิคตูปกฺกิเลเส อฏฺคุณสมนฺนาคเต จิตฺเต หตปฏิปกฺเข อิทฺธิวิธํ ปวตฺตติ. ตสฺมา ตตฺถ ปวตฺตโวหาเรน จ น สกฺกา อิธ ปาฏิหาริยนฺติ วตฺตุํ. ยสฺมา ปน มหาการุณิกสฺส ภควโต เวเนยฺยคตา จ กิเลสา ปฏิปกฺขา, ตสฺมา เตสํ หรณโต ปาฏิหาริยํ. อถ วา ภควโต สาสนสฺส จ ปฏิปกฺขา ติตฺถิยา, เตสํ หรณโต ปาฏิหาริยํ. เต หิ ทิฏฺิหรณวเสน ทิฏฺิปฺปกาสเน อสมตฺถภาเวน จ อิทฺธิอาเทสนานุสาสนีหิ หริตา อปนีตา โหนฺติ. ปฏีติ วา ปจฺฉาติ อตฺโถ. ตสฺมา สมาหิเต จิตฺเต วิคตูปกฺกิเลเส กตกิจฺเจน ปจฺฉา หริตพฺพํ ปวตฺเตตพฺพนฺติ ปฏิหาริยํ. อตฺตโน วา อุปกฺกิเลเสสุ จตุตฺถชฺฌานมคฺเคหิ หริเตสุ ปจฺฉา หรณํ ปฏิหาริยํ. อิทฺธิอาเทสนานุสาสนิโย จ วิคตูปกฺกิเลเสน กตกิจฺเจน สตฺตหิตตฺถํ ปุน ปวตฺเตตพฺพา, หริเตสุ จ อตฺตโน อุปกฺกิเลเสสุ ปรสนฺตาเน อุปกฺกิเลสหรณานิ โหนฺตีติ ปฏิหาริยานิ ภวนฺติ. ปฏิหาริยเมว ปาฏิหาริยํ, ปฏิหาริเย วา อิทฺธิอาเทสนานุสาสนิสมุทาเย ภวํ เอเกกํ ¶ ปาฏิหาริยนฺติ วุจฺจติ. ปฏิหาริยํ วา จตุตฺถชฺฌานํ มคฺโค จ ปฏิปกฺขหรณโต, ตตฺถ ชาตํ, ตสฺมึ วา นิมิตฺตภูเต, ตโต วา อาคตนฺติ ปาฏิหาริยํ.
ยสฺมา ปน ตนฺติอตฺถเทสนาตพฺโพหาราภิสมยสงฺขาตา เหตุเหตุผลตทุภยปฺตฺติปฏิเวธสงฺขาตา วา ธมฺมตฺถเทสนาปฏิเวธา คมฺภีรา, อนุปจิตสมฺภาเรหิ สสาทีหิ วิย มหาสมุทฺโท ทุกฺโขคาฬฺหา อลพฺภเนยฺยปฺปติฏฺา จ. ตสฺมา เตหิ จตูหิ คมฺภีรภาเวหิ ยุตฺตนฺติ ธมฺมตฺถเทสนาปฏิเวธคมฺภีรํ.
เอโก เอว ภควโต ธมฺมเทสนาโฆโส เอกสฺมึ ขเณ ปวตฺตมาโน นานาภาสานํ สตฺตานํ อตฺตโน อตฺตโน ภาสาวเสน อปุพฺพํ อจริมํ คหณูปโค หุตฺวา อตฺถาธิคมาย โหติ. อจินฺเตยฺโย หิ ¶ พุทฺธานํ พุทฺธานุภาโวติ สพฺพสตฺตานํ ¶ สกสกภาสานุรูปโต โสตปถมาคจฺฉตีติ เวทิตพฺพํ.
นิทสฺสนตฺเถน – ‘‘นาหํ สยมฺภู, น มยา อิทํ สจฺฉิกต’’นฺติ อตฺตานํ ปริโมเจนฺโต – ‘‘อิติ เม สุตํ, มยาปิ เอวํ สุต’’นฺติ อิทานิ วตฺตพฺพํ สกลํ สุตฺตํ นิทสฺเสติ.
อวธารณตฺเถน – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ พหุสฺสุตานํ ยทิทํ อานนฺโท, คติมนฺตานํ, สติมนฺตานํ, ธิติมนฺตานํ, อุปฏฺากานํ ยทิทํ อานนฺโท’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๑๙-๒๒๓) เอวํ ภควตา, ‘‘อายสฺมา อานนฺโท อตฺถกุสโล ธมฺมกุสโล พฺยฺชนกุสโล นิรุตฺติกุสโล ปุพฺพาปรกุสโล’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๖๙) เอวํ ธมฺมเสนาปตินา จ ปสตฺถภาวานุรูปํ อตฺตโน ธารณพลํ ทสฺเสนฺโต สตฺตานํ โสตุกมฺยตํ ชเนติ – ‘‘อิติ เม สุตํ, ตฺจ โข อตฺถโต วา พฺยฺชนโต วา อนูนมนธิกํ, เอวเมว, น อฺถา, ทฏฺพฺพ’’นฺติ. อฺถาติ ภควโต สมฺมุขา สุตาการโต อฺถา, น ปน ภควตา เทสิตาการโต. อจินฺเตยฺยานุภาวา หิ ภควโต เทสนา, สา น สพฺพากาเรน สกฺกา วิฺาตุนฺติ วุตฺโตวายมตฺโถ. สุตาการาวิรุชฺฌนเมว หิ ธารณพลํ. น เหตฺถ อตฺถนฺตรตาปริหาโร ทฺวินฺนมฺปิ อตฺถานํ เอกวิสยตฺตา. อิตรถา หิ เถโร ภควโต เทสนาย สพฺพถา ปฏิคฺคหเณ สมตฺโถ อสมตฺโถติ วา อาปชฺเชยฺยาติ.
เม-สทฺโท ตีสุ อตฺเถสุ ทิสฺสติ. ตถา หิสฺส – ‘‘คาถาภิคีตํ เม อโภชเนยฺย’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๙๔; สุ. นิ. ๘๑) มยาติ อตฺโถ. ‘‘สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา ¶ สํขิตฺเตน ธมฺมํ เทเสตู’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๘๘; ๕.๓๘๑; อ. นิ. ๔.๒๕๗) มยฺหนฺติ อตฺโถ. ‘‘ธมฺมทายาทา เม, ภิกฺขเว, ภวถา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๙) มมาติ อตฺโถ. อิธ ปน ‘‘มยา สุต’’นฺติ จ ‘‘มม สุต’’นฺติ จ อตฺถทฺวเย ยุชฺชติ.
เอตฺถ จ โย ปโร น โหติ, โส อตฺตาติ เอวํ วตฺตพฺเพ นิยกชฺฌตฺตสงฺขาเต สกสนฺตาเน วตฺตนโต ติวิโธปิ เม-สทฺโท ยทิปิ เอกสฺมึเยว อตฺเถ ทิสฺสติ, กรณสมฺปทานาทิวิเสสสงฺขาโต ปนสฺส วิชฺชเตวายํ อตฺถเภโทติ อาห – ‘‘เม-สทฺโท ตีสุ อตฺเถสุ ทิสฺสตี’’ติ.
สุตนฺติ ¶ ¶ อยํ สุต-สทฺโท สอุปสคฺโค อนุปสคฺโค จ คมนวิสฺสุตกิลินฺนูปจิตานุโยคโสตวิฺเยฺยโสตทฺวารานุสารวิฺาตาทิอเนกตฺถปฺปเภโท. กิฺจาปิ หิ กิริยาวิเสสโก อุปสคฺโค, โชตกภาวโต ปน สติปิ ตสฺมึ สุต-สทฺโท เอว ตํ ตํ อตฺถํ วทตีติ อนุปสคฺคสฺส สุตสทฺทสฺส อตฺถุทฺธาเร สอุปสคฺโคปิ อุทาหรียติ.
ตตฺถ ‘‘เสนาย ปสุโต’’ติอาทีสุ คจฺฉนฺโตติ อตฺโถ. ‘‘สุตธมฺมสฺส ปสฺสโต’’ติอาทีสุ (อุทา. ๑๑) วิสฺสุตธมฺมสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘อวสฺสุตา อวสฺสุตสฺสา’’ติอาทีสุ (ปาจิ. ๖๕๗) กิลินฺนา กิลินฺนสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘ตุมฺเหหิ ปฺุํ ปสุตํ อนปฺปก’’นฺติอาทีสุ (ขุ. ปา. ๗.๑๒) อุปจิตนฺติ อตฺโถ. ‘‘เย ฌานปฺปสุตา ธีรา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๘๑) ฌานานุยุตฺตาติ อตฺโถ. ‘‘ทิฏฺํ สุตํ มุต’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๔๑) โสตวิฺเยฺยนฺติ อตฺโถ. ‘‘สุตธโร สุตสนฺนิจโย’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๓๙) โสตทฺวารานุสารวิฺาตธโรติ อตฺโถ. อิธ ปนสฺส ‘‘โสตทฺวารานุสาเรน อุปธาริต’’นฺติ วา ‘‘อุปธารณ’’นฺติ วา อตฺโถ. เม-สทฺทสฺส หิ มยาติ อตฺเถ สติ ‘‘อิติ เม สุตํ, มยา โสตทฺวารานุสาเรน อุปธาริต’’นฺติ อตฺโถ. มมาติ อตฺเถ สติ ‘‘อิติ มม สุตํ โสตทฺวารานุสาเรน อุปธารณ’’นฺติ อตฺโถ.
เอวเมเตสุ ตีสุ ปเทสุ ยสฺมา สุตสทฺทสนฺนิธาเน ปยุตฺเตน อิติสทฺเทน สวนกิริยาโชตเกน ภวิตพฺพํ. ตสฺมา อิตีติ โสตวิฺาณาทิวิฺาณกิจฺจนิทสฺสนํ. เมติ วุตฺตวิฺาณสมงฺคิปุคฺคลนิทสฺสนํ. สพฺพานิปิ วากฺยานิ เอวการตฺถสหิตานิเยว อวธารณผลตฺตา. เตน สุตนฺติ อสฺสวนภาวปฺปฏิกฺเขปโต อนูนาวิปรีตคฺคหณนิทสฺสนํ. ยถา หิ สุตํ สุตเมวาติ วตฺตพฺพตํ ¶ อรหติ, ตํ สมฺมา สุตํ อนูนคฺคหณํ อวิปรีตคฺคหณฺจ โหตีติ. อถ วา สทฺทนฺตรตฺถาโปหนวเสน สทฺโท อตฺถํ วทตีติ, ยสฺมา สุตนฺติ เอตสฺส อสุตํ น โหตีติ อยมตฺโถ, ตสฺมา สุตนฺติ อสฺสวนภาวปฺปฏิกฺเขปโต อนูนาวิปรีตคฺคหณนิทสฺสนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิติ เม สุตํ, น ทิฏฺํ, น สยมฺภุาเณน สจฺฉิกตํ, น อฺถา วา อุปลทฺธํ, อปิจ สุตํว, ตฺจ โข สมฺมเทวาติ. อวธารณตฺเถ ¶ วา อิติสทฺเท อยมตฺถโยชนาติ ตทเปกฺขสฺส สุต-สทฺทสฺส นิยมตฺโถ ¶ สมฺภวตีติ อสฺสวนภาวปฺปฏิกฺเขโป, อนูนาวิปรีตคฺคหณนิทสฺสนตา จ เวทิตพฺพา. เอวํ สวนเหตุสวนวิเสสวเสน ปทตฺตยสฺส อตฺถโยชนา กตาติ ทฏฺพฺพํ.
ตถา อิตีติ โสตทฺวารานุสาเรน ปวตฺตาย วิฺาณวีถิยา นานตฺถพฺยฺชนคฺคหณโต นานปฺปกาเรน อารมฺมเณ ปวตฺติภาวปฺปกาสนํ อาการตฺโถ อิติสทฺโทติ กตฺวา. เมติ อตฺตปฺปกาสนํ. สุตนฺติ ธมฺมปฺปกาสนํ ยถาวุตฺตาย วิฺาณวีถิยา ปริยตฺติธมฺมารมฺมณตฺตา. อยฺเหตฺถ สงฺเขโป – นานปฺปกาเรน อารมฺมเณ ปวตฺตาย วิฺาณวีถิยา การณภูตาย มยา น อฺํ กตํ, อิทํ ปน กตํ, อยํ ธมฺโม สุโตติ.
ตถา อิตีติ นิทสฺสิตพฺพปฺปกาสนํ นิทสฺสนตฺโถ อิติ-สทฺโทติ กตฺวา นิทสฺเสตพฺพสฺส นิทสฺสิตพฺพตฺตาภาวาภาวโต. ตสฺมา อิติสทฺเทน สกลมฺปิ สุตํ ปจฺจามฏฺนฺติ เวทิตพฺพํ. เมติ ปุคฺคลปฺปกาสนํ. สุตนฺติ ปุคฺคลกิจฺจปฺปกาสนํ. สุต-สทฺเทน หิ ลพฺภมานา สวนกิริยา สวนวิฺาณปฺปพนฺธปฺปฏิพทฺธา, ตตฺถ จ ปุคฺคลโวหาโร. น หิ ปุคฺคลโวหารรหิเต ธมฺมปฺปพนฺเธ สวนกิริยา ลพฺภติ. ตสฺสายํ สงฺเขปตฺโถ – ยํ สุตฺตํ นิทฺทิสิสฺสามิ, ตํ มยา อิติ สุตนฺติ.
ตถา อิตีติ ยสฺส จิตฺตสนฺตานสฺส นานารมฺมณปฺปวตฺติยา นานตฺถพฺยฺชนคฺคหณํ โหติ, ตสฺส นานาการนิทฺเทโส อาการตฺโถ อิติสทฺโทติ กตฺวา. อิตีติ หิ อยํ อาการปฺตฺติ ธมฺมานํ ตํ ตํ ปวตฺติอาการํ อุปาทาย ปฺาเปตพฺพสภาวตฺตา. เมติ กตฺตุนิทฺเทโส. สุตนฺติ วิสยนิทฺเทโส. โสตพฺโพ หิ ธมฺโม สวนกิริยากตฺตุปุคฺคลสฺส สวนกิริยาวเสน ปวตฺติฏฺานํ โหติ. เอตฺตาวตา นานปฺปการปฺปวตฺเตน จิตฺตสนฺตาเนน ตํสมงฺคิโน กตฺตุ วิสเย คหณสนฺนิฏฺานํ ทสฺสิตํ โหติ.
อถ วา อิตีติ ปุคฺคลกิจฺจนิทฺเทโส. สุตานฺหิ ธมฺมานํ คหิตาการสฺส นิทสฺสนสฺส อวธารณสฺส วา ปกาสนภาเวน อิติสทฺเทน ตทาการาทิธารณสฺส ปุคฺคลโวหารูปาทานธมฺมพฺยาปารภาวโต ¶ ปุคฺคลกิจฺจํ ¶ นาม นิทฺทิฏฺํ โหตีติ. สุตนฺติ วิฺาณกิจฺจนิทฺเทโส. ปุคฺคลวาทิโนปิ หิ สวนกิริยา วิฺาณนิรเปกฺขา น โหตีติ. เมติ อุภยกิจฺจยุตฺตปุคฺคลนิทฺเทโส ¶ . เมติ หิ สทฺทปฺปวตฺติ เอกนฺเตเนว สตฺตวิเสสวิสยา, วิฺาณกิจฺจฺจ ตตฺเถว สโมทหิตพฺพนฺติ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขโป – มยา สวนกิจฺจวิฺาณสมงฺคินา ปุคฺคเลน วิฺาณวเสน ลทฺธสฺสวนกิจฺจโวหาเรน สุตนฺติ.
ตถา อิตีติ จ เมติ จ สจฺจิกฏฺปรมตฺถวเสน อวิชฺชมานปฺตฺติ. สพฺพสฺส หิ สทฺทาธิคมนียสฺส อตฺถสฺส ปฺตฺติมุเขเนว ปฏิปชฺชิตพฺพตฺตา สพฺพปฺตฺตีนฺจ วิชฺชมานาทีสุ ฉสฺเวว ปฺตฺตีสุ อวโรโธ, ตสฺมา โย มายามรีจิอาทโย วิย อภูตตฺโถ, อนุสฺสวาทีหิ คเหตพฺโพ วิย อนุตฺตมตฺโถ จ น โหติ. โส รูปสทฺทาทิโก รุปฺปนานุภวนาทิโก จ ปรมตฺถสภาโว สจฺจิกฏฺปรมตฺถวเสน วิชฺชติ. โย ปน อิตีติ จ เมติ จ วุจฺจมาโน อาการาทิอปรมตฺถสภาโว สจฺจิกฏฺปรมตฺถวเสน อนุปลพฺภมาโน อวิชฺชมานปฺตฺติ นาม, กิเมตฺถ ตํ ปรมตฺถโต อตฺถิ, ยํ อิตีติ วา เมติ วา นิทฺเทสํ ลเภถ. สุตนฺติ วิชฺชมานปฺตฺติ. ยฺหิ ตํ โสเตน อุปลทฺธํ, ตํ ปรมตฺถโต วิชฺชมานนฺติ.
ตถา อิตีติ โสตปถมาคเต ธมฺเม อุปาทาย เตสํ อุปธาริตาการาทีนํ ปจฺจามสนวเสน. เมติ สสนฺตติปริยาปนฺเน ขนฺเธ กรณาทิวิเสสวิสิฏฺเ อุปาทาย วตฺตพฺพโต อุปาทาปฺตฺติ. สุตนฺติ ทิฏฺาทีนิ อุปนิธาย วตฺตพฺพโต อุปนิธาปฺตฺติ. ทิฏฺาทิสภาวรหิเต สทฺทายตเน ปวตฺตมาโนปิ สุตโวหาโร ทุติยํ, ตติยนฺติ อาทิโก วิย ปมาทึ นิสฺสาย ‘‘ยํ น ทิฏฺมุตวิฺาตนิรเปกฺขํ, ตํ สุต’’นฺติ วิฺเยฺยตฺตา ทิฏฺาทีนิ อุปนิธาย วตฺตพฺโพ โหติ. อสุตํ น โหตีติ หิ สุตนฺติ ปกาสิโตยมตฺโถติ.
เอตฺถ ¶ จ อิตีติ วจเนน อสมฺโมหํ ทีเปติ. ปฏิวิทฺธา หิ อตฺถสฺส ปการวิเสสา อิตีติ อิธ อายสฺมตา อานนฺเทน ปจฺจามฏฺา, เตนสฺส อสมฺโมโห ทีปิโต. น หิ สมฺมูฬฺโห นานปฺปการปฺปฏิเวธสมตฺโถ โหติ, โลภปฺปหานาทิวเสน นานปฺปการา ทุปฺปฏิวิทฺธา จ สุตฺตตฺถา นิทฺทิสียนฺติ ¶ . สุตนฺติ วจเนน อสมฺโมสํ ทีเปติ สุตาการสฺส ยาถาวโต ทสฺสิยมานตฺตา ยสฺส หิ สุตํ สมฺมุฏฺํ โหติ, น โส กาลนฺตเร มยา สุตนฺติ ปฏิชานาติ. อิจฺจสฺส อสมฺโมเหน สมฺโมหาภาเวน ปฺาย เอว วา สวนกาลสมฺภูตาย ตทุตฺตริกาลปฺาสิทฺธิ, ตถา อสมฺโมเสน สติสิทฺธิ. ตตฺถ ปฺาปุพฺพงฺคมาย สติยา พฺยฺชนาวธารณสมตฺถตา. พฺยฺชนานฺหิ ปฏิวิชฺฌิตพฺโพ อากาโร นาติคมฺภีโร, ยถาสุตธารณเมว ตตฺถ กรณียนฺติ สติยา ¶ พฺยาปาโร อธิโก, ปฺา ตตฺถ คุณีภูตา โหติ ปฺาย ปุพฺพงฺคมาติ กตฺวา. สติปุพฺพงฺคมาย ปฺาย อตฺถปฺปฏิเวธสมตฺถตา. อตฺถสฺส หิ ปฏิวิชฺฌิตพฺโพ อากาโร คมฺภีโรติ ปฺาย พฺยาปาโร อธิโก, สติ ตตฺถ คุณีภูตา โหติ สติยา ปุพฺพงฺคมาติ กตฺวา. ตทุภยสมตฺถตาโยเคน อตฺถพฺยฺชนสมฺปนฺนสฺส ธมฺมโกสสฺส อนุปาลนสมตฺถตาย ธมฺมภณฺฑาคาริกตฺตสิทฺธิ.
อปโร นโย – อิตีติ วจเนน โยนิโสมนสิการํ ทีเปติ. เตน วุจฺจมานานํ อาการนิทสฺสนาวธารณตฺถานํ อุปริ วกฺขมานานํ นานปฺปการปฺปฏิเวธโชตกานํ อวิปรีตสทฺธมฺมวิสยตฺตา. น หิ อโยนิโส มนสิกโรโต นานปฺปการปฺปฏิเวโธ สมฺภวติ. สุตนฺติ วจเนน อวิกฺเขปํ ทีเปติ, นิทานปุจฺฉาวเสน ปกรณปฺปตฺตสฺส วกฺขมานสฺส สุตฺตสฺส สวนํ น สมาธานมนฺตเรน สมฺภวติ วิกฺขิตฺตจิตฺตสฺส สวนาภาวโต. ตถา หิ วิกฺขิตฺตจิตฺโต ปุคฺคโล สพฺพสมฺปตฺติยา วุจฺจมาโนปิ ‘‘น มยา สุตํ, ปุน ภณถา’’ติ วทติ. โยนิโสมนสิกาเรน เจตฺถ อตฺตสมฺมาปณิธึ ปุพฺเพกตปฺุตฺจ สาเธติ, สมฺมา อปฺปณิหิตตฺตสฺส ปุพฺเพ อกตปฺุสฺส วา ตทภาวโต. อวิกฺเขเปน สทฺธมฺมสฺสวนํ สปฺปุริสูปนิสฺสยฺจ สาเธติ, อสฺสุตวโต สปฺปุริสูปนิสฺสยรหิตสฺส ¶ จ ตทภาวโต. น หิ วิกฺขิตฺตจิตฺโต สทฺธมฺมํ โสตุํ สกฺโกติ, น จ สปฺปุริเส อนุปสฺสยมานสฺส สวนํ อตฺถิ.
อปโร นโย – ‘‘ยสฺส จิตฺตสนฺตานสฺส นานาการปฺปวตฺติยา นานตฺถพฺยฺชนคฺคหณํ โหติ, ตสฺส นานาการนิทฺเทโส’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา จ โส ภควโต วจนสฺส อตฺถพฺยฺชนปฺปเภทปริจฺเฉทวเสน สกลสาสนสมฺปติโอคาหเนน นิรวเสสปรหิตปาริปูริการณภูโต เอวํภทฺทโก ¶ อากาโร น สมฺมา อปฺปณิหิตตฺตโน ปุพฺเพ อกตปฺุสฺส วา โหติ, ตสฺมา อิตีติ อิมินา ภทฺทเกน อากาเรน ปจฺฉิมจกฺกทฺวยสมฺปตฺติมตฺตโน ทีเปติ, สุตนฺติ สวนโยเคน ปุริมจกฺกทฺวยสมฺปตฺตึ. น หิ อปฺปติรูเป เทเส วสโต สปฺปุริสูปนิสฺสยรหิตสฺส วา สวนํ อตฺถิ. อิจฺจสฺส ปจฺฉิมจกฺกทฺวยสิทฺธิยา อาสยสุทฺธิ สิทฺธา โหติ, สมฺมา ปณิหิตตฺโต ปุพฺเพ จ กตปฺุโ วิสุทฺธาสโย โหติ, ตทวิสุทฺธิเหตูนํ กิเลสานํ ทูรีภาวโต. ตถา หิ วุตฺตํ – ‘‘สมฺมา ปณิหิตํ จิตฺตํ, เสยฺยโส นํ ตโต กเร’’ติ (ธ. ป. ๔๓) ‘‘กตปฺุโสิ ตฺวํ, อานนฺท, ปธานมนุยฺุช, ขิปฺปํ โหหิสิ อนาสโว’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๐๗) จ. ปุริมจกฺกทฺวยสิทฺธิยา ปโยคสุทฺธิ. ปติรูปเทสวาเสน หิ สปฺปุริสูปนิสฺสเยน จ สาธูนํ ทิฏฺานุคติอาปชฺชเนนปิ วิสุทฺธปฺปโยโค โหติ. ตาย จ อาสยสุทฺธิยา อธิคมพฺยตฺติสิทฺธิ, ปุพฺเพ เอว ตณฺหาทิฏฺิสํกิเลสานํ วิโสธิตตฺตา ปโยคสุทฺธิยา ¶ อาคมพฺยตฺติสิทฺธิ. สุปริสุทฺธกายวจีปโยโค หิ วิปฺปฏิสาราภาวโต อวิกฺขิตฺตจิตฺโต ปริยตฺติยํ วิสารโท โหติ. อิติ ปโยคาสยสุทฺธสฺส อาคมาธิคมสมฺปนฺนสฺส วจนํ อรุณุคฺคมนํ วิย สูริยสฺส อุทยโต, โยนิโสมนสิกาโร วิย จ กุสลธมฺมสฺส, อรหติ ภควโต วจนสฺส ปุพฺพงฺคมํ ภวิตุนฺติ าเน นิทานํ เปนฺโต อิติ เม สุตนฺติอาทิมาห.
อปโร นโย – อิตีติ อิมินา ปุพฺเพ วุตฺตนเยน นานปฺปการปฺปฏิเวธทีปเกน อตฺตโน อตฺถปฏิภานปฏิสมฺภิทาสมฺปตฺติสพฺภาวํ ¶ ทีเปติ. สุตนฺติ อิมินา อิติสทฺทสนฺนิธานโต วกฺขมานาเปกฺขาย วา โสตพฺพเภทปฺปฏิเวธทีปเกน ธมฺมนิรุตฺติปฏิสมฺภิทาสมฺปตฺติสพฺภาวํ ทีเปติ. อิตีติ จ อิทํ วุตฺตนเยเนว โยนิโสมนสิการทีปกํ วจนํ ภาสมาโน ‘‘เอเต มยา ธมฺมา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา’’ติ ทีเปติ. ปริยตฺติธมฺมา หิ ‘‘อิธ สีลํ กถิตํ, อิธ สมาธิ, อิธ ปฺา, เอตฺตกา เอตฺถ อนุสนฺธิโย’’ติอาทินา นเยน มนสา อนุเปกฺขิตา อนุสฺสวาการปริวิตกฺกสหิตาย ธมฺมนิชฺฌานกฺขนฺติภูตาย าตปริฺาสงฺขาตาย วา ทิฏฺิยา ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตรูปารูปธมฺเม ‘‘อิติ รูปํ, เอตฺตกํ รูป’’นฺติอาทินา นเยน สุฏฺุ ววตฺถเปตฺวา ปฏิวิทฺธา อตฺตโน ปเรสฺจ หิตสุขาวหา โหนฺตีติ. สุตฺตนฺติ อิทํ สวนโยคปริทีปกวจนํ ภาสมาโน ‘‘พหู ¶ มยา ธมฺมา สุตา ธาตา วจสา ปริจิตา’’ติ ทีเปติ. โสตาวธานปฺปฏิพทฺธา หิ ปริยตฺติธมฺมสฺส สวนธารณปริจยา. ตทุภเยนปิ ธมฺมสฺส สฺวากฺขาตภาเวน อตฺถพฺยฺชนปาริปูรึ ทีเปนฺโต สวเน อาทรํ ชเนติ. อตฺถพฺยฺชนปริปุณฺณฺหิ ธมฺมํ อาทเรน อสฺสุณนฺโต มหตา หิตา ปริพาหิโร โหตีติ อาทรํ ชเนตฺวา สกฺกจฺจํ ธมฺโม โสตพฺโพ.
อิติ เม สุตนฺติ อิมินา ปน สกเลน วจเนน อายสฺมา อานนฺโท ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ อตฺตโน อทหนฺโต อสปฺปุริสภูมึ อติกฺกมติ, สาวกตฺตํ ปฏิชานนฺโต สปฺปุริสภูมึ โอกฺกมติ. ตถา อสทฺธมฺมา จิตฺตํ วุฏฺาเปติ, สทฺธมฺเม จิตฺตํ ปติฏฺาเปติ. ‘‘เกวลํ สุตเมเวตํ มยา, ตสฺเสว ปน ภควโต วจน’’นฺติ ทีเปนฺโต อตฺตานํ ปริโมเจติ, สตฺถารํ อปทิสติ, ชินวจนํ อปฺเปติ, ธมฺมเนตฺตึ ปติฏฺาเปติ.
อปิจ อิติ เม สุตนฺติ อตฺตนา อุปฺปาทิตภาวํ อปฺปฏิชานนฺโต ปุริมสฺสวนํ วิวรนฺโต สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตมิทํ มยา ตสฺส ภควโต จตุเวสารชฺชวิสารทสฺส ทสพลธรสฺส อาสภฏฺานฏฺายิโน สีหนาทนาทิโน สพฺพสตฺตุตฺตมสฺส ธมฺมิสฺสรสฺส ธมฺมราชสฺส ธมฺมาธิปติโน ธมฺมทีปสฺส ¶ ธมฺมสรณสฺส สทฺธมฺมวรจกฺกวตฺติโน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. น เอตฺถ อตฺเถ วา ธมฺเม วา ปเท วา ¶ พฺยฺชเน วา กงฺขา วา วิมติ วา กาตพฺพาติ สพฺพเทวมนุสฺสานํ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อสฺสทฺธิยํ วินาเสติ, สทฺธาสมฺปทํ อุปฺปาเทติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘วินาสยติ อสฺสทฺธํ, สทฺธํ วฑฺเฒติ สาสเน;
อิติ เม สุตมิจฺเจวํ, วทํ โคตมสาวโก’’ติ.
เอตฺถาห – ‘‘กสฺมา ปเนตฺถ ยถา อฺเสุ สุตฺเตสุ ‘เอวํ เม สุตํ, เอกํ สมยํ ภควา’ติอาทินา กาลเทเส อปทิสิตฺวาว นิทานํ ภาสิตํ, เอวํ น ภาสิต’’นฺติ? อปเร ตาว อาหุ – น ปน เถเรน ภาสิตตฺตา. อิทฺหิ นิทานํ น อายสฺมตา อานนฺเทน ปมํ ภาสิตํ ขุชฺชุตฺตราย ปน ภควตา อุปาสิกาสุ พหุสฺสุตภาเวน เอตทคฺเค ปิตาย เสกฺขปฺปฏิสมฺภิทาปฺปตฺตาย อริยสาวิกาย สามาวติปฺปมุขานํ ปฺจนฺนํ อิตฺถิสตานํ ปมํ ภาสิตํ.
ตตฺรายํ ¶ อนุปุพฺพีกถา – อิโต กิร กปฺปสตสหสฺสมตฺถเก ปทุมุตฺตโร นาม สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก หํสวติยํ วิหรติ. อเถกทิวสํ หํสวติยํ เอกา กุลธีตา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ โสตุํ คจฺฉนฺตีหิ อุปาสิกาหิ สทฺธึ อารามํ คตา. สตฺถารํ เอกํ อุปาสิกํ พหุสฺสุตานํ เอตทคฺเค เปนฺตํ ทิสฺวา อธิการํ กตฺวา ตํ านนฺตรํ ปตฺเถสิ. สตฺถาปิ นํ พฺยากาสิ ‘‘อนาคเต โคตมสฺส นาม สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาวิกานํ อุปาสิกานํ พหุสฺสุตานํ อคฺคา ภวิสฺสตี’’ติ. ตสฺสา ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา ปุน มนุสฺเสสูติ เอวํ เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺติยา กปฺปสตสหสฺสํ อติกฺกนฺตํ. อถ อิมสฺมึ ภทฺทกปฺเป อมฺหากํ ภควโต กาเล สา เทวโลกโต จวิตฺวา โฆสกเสฏฺิสฺส เคเห ทาสิยา กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ, อุตฺตราติสฺสา นามํ อกํสุ. สา ชาตกาเล ขุชฺชา อโหสีติ ขุชฺชุตฺตราตฺเวว ปฺายิตฺถ. สา อปรภาเค โฆสกเสฏฺินา รฺโ อุเตนสฺส สามาวติยา ทินฺนกาเล ตสฺสา ปริจาริกภาเวน ทินฺนา รฺโ อุเตนสฺส อนฺเตปุเร วสติ.
เตน จ สมเยน โกสมฺพิยํ โฆสกเสฏฺิกุกฺกุฏเสฏฺิปาวาริกเสฏฺิโน ¶ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส ตโย วิหาเร กาเรตฺวา ชนปทจาริกํ จรนฺเต ตถาคเต โกสมฺพินครํ สมฺปตฺเต พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส วิหาเร นิยฺยาเทตฺวา มหาทานานิ ปวตฺเตสุํ, มาสมตฺตํ อติกฺกมิ. อถ เนสํ เอตทโหสิ – ‘‘พุทฺธา นาม สพฺพโลกานุกมฺปกา, อฺเสมฺปิ โอกาสํ ทสฺสามา’’ติ โกสมฺพินครวาสิโนปิ ¶ ชนสฺส โอกาสํ อกํสุ. ตโต ปฏฺาย นาครา วีถิสภาเคน คณสภาเคน มหาทานํ เทนฺติ. อเถกทิวสํ สตฺถา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต มาลาการเชฏฺกสฺส เคเห นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ ขุชฺชุตฺตรา สามาวติยา ปุปฺผานิ คเหตุํ อฏฺ กหาปเณ อาทาย ตํ เคหํ อคมาสิ. มาลาการเชฏฺโก ตํ ทิสฺวา ‘‘อมฺม อุตฺตเร, อชฺช ตุยฺหํ ปุปฺผานิ ทาตุํ ขโณ นตฺถิ, อหํ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสามิ, ตฺวมฺปิ ปริเวสนาย สหายิกา โหหิ, เอวํ อิโต ปเรสํ เวยฺยาวจฺจกรณโต มุจฺจิสฺสสี’’ติ อาห. ตโต ขุชฺชุตฺตรา พุทฺธานํ ภตฺตคฺเค เวยฺยาวจฺจํ อกาสิ. สา สตฺถารา อุปนิสินฺนกถาวเสน กถิตํ สพฺพเมว ธมฺมํ อุคฺคณฺหิ, อนุโมทนํ ปน สุตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาสิ.
สา ¶ อฺเสุ ทิวเสสุ จตฺตาโรว กหาปเณ ทตฺวา ปุปฺผานิ คเหตฺวา คจฺฉติ, ตสฺมึ ปน ทิวเส ทิฏฺสจฺจภาเวน ปรสนฺตเก จิตฺตํ อนุปฺปาเทตฺวา อฏฺปิ กหาปเณ ทตฺวา ปจฺฉึ ปูเรตฺวา ปุปฺผานิ คเหตฺวา สามาวติยา สนฺติกํ อคมาสิ. อถ นํ สา ปุจฺฉิ ‘‘อมฺม อุตฺตเร, ตฺวํ อฺเสุ ทิวเสสุ น พหูนิ ปุปฺผานิ อาหรสิ, อชฺช ปน พหุกานิ, กึ โน ราชา อุตฺตริตรํ ปสนฺโน’’ติ? สา มุสา วตฺตุํ อภพฺพตาย อตีเต อตฺตนา กตํ อนิคูหิตฺวา สพฺพํ กเถสิ. อถ ‘‘กสฺมา อชฺช พหูนิ อาหรสี’’ติ จ วุตฺตา ‘‘อชฺชาหํ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ธมฺมํ สุตฺวา อมตํ สจฺฉากาสึ, ตสฺมา ตุมฺเห น วฺเจมี’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา ‘‘อเร ทุฏฺทาสิ, เอตฺตกํ กาลํ ตยา คหิเต กหาปเณ เทหี’’ติ อตชฺเชตฺวา ปุพฺพเหตุนา โจทิยมานา ‘‘อมฺม, ตยา ปีตํ อมตํ, อมฺเหปิ ปาเยหี’’ติ วตฺวา ‘‘เตน หิ มํ นฺหาเปหี’’ติ ¶ วุตฺเต โสฬสหิ คนฺโธทกฆเฏหิ นฺหาเปตฺวา ทฺเว มฏฺสาฏเก ทาเปสิ. สา เอกํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา อาสนํ ปฺาเปตฺวา อาสเน นิสีทิตฺวา วิจิตฺรพีชนึ อาทาย นีจาสเนสุ นิสินฺนานิ ปฺจ มาตุคามสตานิ อามนฺเตตฺวา เสขปฺปฏิสมฺภิทาสุ ตฺวา สตฺถารา เทสิตนิยาเมเนว ตาสํ ธมฺมํ เทเสสิ. เทสนาวสาเน ตา สพฺพา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหึสุ. ตา สพฺพาปิ ขุชฺชุตฺตรํ วนฺทิตฺวา ‘‘อมฺม, อชฺช ปฏฺาย ตฺวํ กิลิฏฺกมฺมํ มา กริ, อมฺหากํ มาตุฏฺาเน อาจริยฏฺาเน จ ปติฏฺาหี’’ติ ครุฏฺาเน ปยึสุ.
กสฺมา ปเนสา ทาสี หุตฺวา นิพฺพตฺตาติ? สา กิร กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล พาราณสิยํ เสฏฺิธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺตา. เอกาย ขีณาสวตฺเถริยา อุปฏฺากกุลํ คตาย ‘‘เอตํ เม อยฺเย, ปสาธนเปฬิกํ เทถา’’ติ เวยฺยาวจฺจํ กาเรสิ. เถรีปิ ‘‘อเทนฺติยา มยิ อาฆาตํ อุปฺปาเทตฺวา นิรเย นิพฺพตฺติสฺสติ, เทนฺติยา ปเรสํ ทาสี หุตฺวา นิพฺพตฺติสฺสติ, นิรยสนฺตาปโต ทาสิภาโว ¶ เสยฺโย’’ติ อนุทฺทยํ ปฏิจฺจ ตสฺสา วจนํ อกาสิ. สา เตน กมฺเมน ปฺจ ชาติสตานิ ปเรสํ ทาสีเยว หุตฺวา นิพฺพตฺติ.
กสฺมา ปน ขุชฺชา อโหสิ? อนุปฺปนฺเน กิร พุทฺเธ อยํ พาราณสิรฺโ เคเห วสนฺตี เอกํ ราชกุลูปกํ ปจฺเจกพุทฺธํ โถกํ ขุชฺชธาตุกํ ทิสฺวา อตฺตนา ¶ สหวาสีนํ มาตุคามานํ ปุรโต ปริหาสํ กโรนฺตี ยถาวชฺชํ เกฬิวเสน ขุชฺชาการํ ทสฺเสสิ, ตสฺมา ขุชฺชา หุตฺวา นิพฺพตฺติ.
กึ ปน กตฺวา ปฺวนฺตี ชาตาติ? อนุปฺปนฺเน กิร พุทฺเธ อยํ พาราณสิรฺโ เคเห วสนฺตี อฏฺ ปจฺเจกพุทฺเธ ราชเคหโต อุณฺหปายาสสฺส ปูริเต ปตฺเต ปริวตฺติตฺวา ปริวตฺติตฺวา คณฺหนฺเต ทิสฺวา อตฺตโน สนฺตกานิ อฏฺ ทนฺตวลยานิ ‘‘อิธ เปตฺวา คณฺหถา’’ติ อทาสิ. เต ตถา กตฺวา โอโลเกสุํ. ‘‘ตุมฺหากฺเว ตานิ ปริจฺจตฺตานิ, คเหตฺวา คจฺฉถา’’ติ อาห. เต นนฺทมูลกปพฺภารํ อคมํสุ. อชฺชาปิ ตานิ วลยานิ อโรคาเนว. สา ตสฺส นิสฺสนฺเทน ปฺวนฺตี ชาตา.
อถ นํ สามาวติปฺปมุขานิ ปฺจ อิตฺถิสตานิ ‘‘อมฺม, ตฺวํ ทิวเส ทิวเส สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ภควตา เทสิตํ ธมฺมํ สุตฺวา อมฺหากํ เทเสหี’’ติ วทึสุ. สา ตถา กโรนฺตี อปรภาเค ติปิฏกธรา ชาตา. ตสฺมา นํ ¶ สตฺถา – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวิกานํ พหุสฺสุตานํ อุปาสิกานํ ยทิทํ ขุชฺชุตฺตรา’’ติ เอตทคฺเค เปสิ. อิติ อุปาสิกาสุ พหุสฺสุตภาเวน สตฺถารา เอตทคฺเค ปิตา ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺตา ขุชฺชุตฺตรา อริยสาวิกา สตฺถริ โกสมฺพิยํ วิหรนฺเต กาเลน กาลํ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา อนฺเตปุรํ คนฺตฺวา สามาวติปฺปมุขานํ ปฺจนฺนํ อิตฺถิสตานํ อริยสาวิกานํ สตฺถารา เทสิตนิยาเมน ยถาสุตํ ธมฺมํ กเถนฺตี อตฺตานํ ปริโมเจตฺวา สตฺถุ สนฺติเก สุตภาวํ ปกาเสนฺตี ‘‘วุตฺตฺเหตํ ภควตา วุตฺตมรหตาติ เม สุต’’นฺติ นิทานํ อาโรเปสิ.
ยสฺมา ปน ตสฺมึเยว นคเร ภควโต สมฺมุขา สุตฺวา ตทเหว ตาย ตาสํ ภาสิตํ, ตสฺมา ‘‘เอกํ สมยํ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรตี’’ติ กาลเทสํ อปทิสิตุํ ปโยชนสมฺภโวว นตฺถิ สุปากฏภาวโต. ภิกฺขุนิโย จสฺสา สนฺติเก อิมานิ สุตฺตานิ คณฺหึสุ. เอวํ ปรมฺปราย ภิกฺขูสุปิ ตาย อาโรปิตํ นิทานํ ปากฏํ อโหสิ. อถ อายสฺมา อานนฺโท ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานโต อปรภาเค สตฺตปณฺณิคุหายํ อชาตสตฺตุนา การาปิเต สทฺธมฺมมณฺฑเป มหากสฺสปปฺปมุขสฺส ¶ วสีคณสฺส มชฺเฌ นิสีทิตฺวา ธมฺมํ สงฺคายนฺโต อิเมสํ สุตฺตานํ นิทานสฺส ¶ ทฺเวฬฺหกํ ปริหรนฺโต ตาย อาโรปิตนิยาเมเนว นิทานํ อาโรเปสีติ.
เกจิ ปเนตฺถ พหุปฺปกาเร ปปฺเจนฺติ. กึ เตหิ? อปิจ นานานเยหิ สงฺคีติการา ธมฺมวินยํ สงฺคายึสุ. อนุพุทฺธา หิ ธมฺมสงฺคาหกมหาเถรา, เต สมฺมเทว ธมฺมวินยสฺส สงฺคายนาการํ ชานนฺตา กตฺถจิ ‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติอาทินา, กตฺถจิ ‘‘เตน สมเยนา’’ติอาทินา, กตฺถจิ คาถาพนฺธวเสน นิทานํ เปนฺตา, กตฺถจิ สพฺเพน สพฺพํ นิทานํ อฏฺเปนฺตา วคฺคสงฺคหาทิวเสน ธมฺมวินยํ สงฺคายึสุ. ตตฺถ อิธ วุตฺตฺเหตนฺติอาทินา นิทานํ เปตฺวา สงฺคายึสุ, กิฺจิ สุตฺตเคยฺยาทิวเสน นวงฺคมิทํ พุทฺธวจนํ. ยถา เจตํ, เอวํ สพฺเพสมฺปิ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อปฺปกฺจ เนสํ อโหสิ สุตฺตํ เคยฺย’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อิติวุตฺตกงฺคสฺส ¶ อฺํ กิฺจิ น ปฺายติ ตพฺภาวนิมิตฺตํ เปตฺวา ‘‘วุตฺตฺเหตํ…เป… เม สุต’’นฺติ อิทํ วจนํ. เตนาหุ อฏฺกถาจริยา ‘‘วุตฺตฺเหตํ ภควตาติ อาทินยปฺปวตฺตา ทฺวาทสุตฺตรสตสุตฺตนฺตา อิติวุตฺตก’’นฺติ. ตสฺมา สตฺถุ อธิปฺปายํ ชานนฺเตหิ ธมฺมสงฺคาหเกหิ อริยสาวิกาย วา อิเมสํ สุตฺตานํ อิติวุตฺตกงฺคภาวาปนตฺถํ อิมินาว นเยน นิทานํ ปิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
กิมตฺถํ ปน ธมฺมวินยสงฺคเห กยิรมาเน นิทานวจนํ? นนุ ภควตา ภาสิตวจนสฺเสว สงฺคโห กาตพฺโพติ? วุจฺจเต – เทสนาย ิติอสมฺโมสสทฺเธยฺยภาวสมฺปาทนตฺถํ. กาลเทสเทสกปริสาปเทเสหิ อุปนิพนฺธิตฺวา ปิตา หิ เทสนา จิรฏฺิติกา โหติ อสมฺโมสธมฺมา สทฺเธยฺยา จ เทสกาลกตฺตุเหตุนิมิตฺเตหิ อุปนิพทฺโธ วิย โวหารวินิจฺฉโย. เตเนว จ อายสฺมตา มหากสฺสเปน พฺรหฺมชาลมูลปริยายสุตฺตาทีนํ เทสาทิปุจฺฉาสุ กตาสุ ตาสํ วิสฺสชฺชนํ กโรนฺเตน ธมฺมภณฺฑาคาริเกน ‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติอาทินา นิทานํ ภาสิตํ. อิธ ปน เทสกาลสฺส อคฺคหเณ การณํ วุตฺตเมว.
อปิจ สตฺถุ สมฺปตฺติปฺปกาสนตฺถํ นิทานวจนํ. ตถาคตสฺส หิ ภควโต ปุพฺพรจนานุมานาคมตกฺกาภาวโต สมฺมาสมฺพุทฺธภาวสิทฺธิ. น หิ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ¶ ปุพฺพรจนาทีหิ อตฺโถ อตฺถิ สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตาณาจารตาย เอกปฺปมาณตฺตา จ เยฺยธมฺเมสุ. ตถา อาจริยมุฏฺิธมฺมมจฺฉริยสาสนสาวกานุราคาภาวโต ขีณาสวภาวสิทฺธิ. น หิ สพฺพโส ขีณาสวสฺส เต สมฺภวนฺตีติ สุวิสุทฺธสฺส ปรานุคฺคหปวตฺติ. เอวํ เทสกสํกิเลสภูตานํ ทิฏฺิสีลสมฺปทาทูสกานํ อวิชฺชาตณฺหานํ อจฺจนฺตาภาวสํสูจเกหิ าณสมฺปทาปหานสมฺปทาภิพฺยฺชเกหิ ¶ จ สมฺพุทฺธวิสุทฺธภาเวหิ ปุริมเวสารชฺชทฺวยสิทฺธิ, ตโต จ อนฺตรายิกนิยฺยานิกธมฺเมสุ อสมฺโมหภาวสิทฺธิโต ปจฺฉิมเวสารชฺชทฺวยสิทฺธีติ ภควโต จตุเวสารชฺชสมนฺนาคโม อตฺตหิตปรหิตปฏิปตฺติ จ นิทานวจเนน ¶ ปกาสิตา โหติ, ตตฺถ ตตฺถ สมฺปตฺตปริสาย อชฺฌาสยานุรูปํ านุปฺปตฺติกปฺปฏิภาเนน ธมฺมเทสนาทีปนโต. อิธ ปน อนวเสสโต กามโทสปฺปหานํ วิธาย เทสนาทีปนโต จาติ โยเชตพฺพํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สตฺถุ สมฺปตฺติปฺปกาสนตฺถํ นิทานวจน’’นฺติ. เอตฺถ จ ‘‘ภควตา อรหตา’’ติ อิเมหิ ปเทหิ ยถาวุตฺตอตฺถวิภาวนตา เหฏฺา ทสฺสิตา เอว.
ตถา สาสนสมฺปตฺติปฺปกาสนตฺถํ นิทานวจนํ. าณกรุณาปริคฺคหิตสพฺพกิริยสฺส หิ ภควโต นตฺถิ นิรตฺถกา ปฏิปตฺติ อตฺตหิตา วา. ตสฺมา ปเรสํเยวตฺถาย ปวตฺตสพฺพกิริยสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สกลมฺปิ กายวจีมโนกมฺมํ ยถาปวตฺตํ วุจฺจมานํ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ ยถารหํ สตฺตานํ อนุสาสนตฺเถน สาสนํ, น กพฺพรจนา. ตยิทํ สตฺถุ จริตํ กาลเทสเทสกปริสาปเทเสหิ ตตฺถ ตตฺถ นิทานวจเนหิ ยถารหํ ปกาสิยติ. อิธ ปน เทสกปริสาปเทเสหีติ โยเชตพฺพํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สาสนสมฺปตฺติปฺปกาสนตฺถํ นิทานวจน’’นฺติ.
อปิจ สตฺถุโน ปมาณภาวปฺปกาสเนน สาสนสฺส ปมาณภาวทสฺสนตฺถํ นิทานวจนํ. ตฺจสฺส ปมาณภาวทสฺสนํ เหฏฺา วุตฺตนยานุสาเรน ‘‘ภควตา อรหตา’’ติ อิเมหิ ปเทหิ วิภาวิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิทเมตฺถ นิทานวจนปฺปโยชนสฺส มุขมตฺตนิทสฺสนนฺติ.
นิทานวณฺณนา นิฏฺิตา.