📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ขุทฺทกนิกาเย
อิติวุตฺตกปาฬิ
๑. เอกกนิปาโต
๑. ปมวคฺโค
๑. โลภสุตฺตํ
๑. วุตฺตฺเหตํ ¶ ¶ ¶ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอกธมฺมํ, ภิกฺขเว, ปชหถ; อหํ โว ปาฏิโภโค อนาคามิตาย. กตมํ เอกธมฺมํ? โลภํ, ภิกฺขเว, เอกธมฺมํ ปชหถ; อหํ โว ปาฏิโภโค อนาคามิตายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยน ¶ โลเภน ลุทฺธาเส, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ;
ตํ โลภํ สมฺมทฺาย, ปชหนฺติ วิปสฺสิโน;
ปหาย น ปุนายนฺติ, อิมํ โลกํ กุทาจน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปมํ.
๒. โทสสุตฺตํ
๒. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอกธมฺมํ, ภิกฺขเว, ปชหถ; อหํ โว ปาฏิโภโค ¶ อนาคามิตาย. กตมํ เอกธมฺมํ? โทสํ, ภิกฺขเว, เอกธมฺมํ ปชหถ; อหํ โว ¶ ปาฏิโภโค อนาคามิตายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยน ¶ โทเสน ทุฏฺาเส, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ;
ตํ โทสํ สมฺมทฺาย, ปชหนฺติ วิปสฺสิโน;
ปหาย น ปุนายนฺติ, อิมํ โลกํ กุทาจน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทุติยํ.
๓. โมหสุตฺตํ
๓. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอกธมฺมํ, ภิกฺขเว, ปชหถ; อหํ โว ปาฏิโภโค อนาคามิตาย. กตมํ เอกธมฺมํ? โมหํ, ภิกฺขเว, เอกธมฺมํ ปชหถ; อหํ โว ปาฏิโภโค อนาคามิตายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยน โมเหน มูฬฺหาเส, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ;
ตํ โมหํ สมฺมทฺาย, ปชหนฺติ วิปสฺสิโน;
ปหาย น ปุนายนฺติ, อิมํ โลกํ กุทาจน’’นฺติ.
อยมฺปิ ¶ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ตติยํ.
๔. โกธสุตฺตํ
๔. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอกธมฺมํ, ภิกฺขเว, ปชหถ; อหํ โว ปาฏิโภโค อนาคามิตาย. กตมํ เอกธมฺมํ? โกธํ, ภิกฺขเว, เอกธมฺมํ ปชหถ; อหํ โว ปาฏิโภโค อนาคามิตายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยน ¶ โกเธน กุทฺธาเส, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ;
ตํ โกธํ สมฺมทฺาย, ปชหนฺติ วิปสฺสิโน;
ปหาย น ปุนายนฺติ, อิมํ โลกํ กุทาจน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. จตุตฺถํ.
๕. มกฺขสุตฺตํ
๕. วุตฺตฺเหตํ ¶ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอกธมฺมํ, ภิกฺขเว, ปชหถ; อหํ โว ปาฏิโภโค อนาคามิตาย. กตมํ เอกธมฺมํ? มกฺขํ, ภิกฺขเว, เอกธมฺมํ ปชหถ; อหํ โว ปาฏิโภโค อนาคามิตายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยน มกฺเขน มกฺขาเส [มกฺขิตาเส (สฺยา.)], สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ;
ตํ มกฺขํ สมฺมทฺาย, ปชหนฺติ วิปสฺสิโน;
ปหาย น ปุนายนฺติ, อิมํ โลกํ กุทาจน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปฺจมํ.
๖. มานสุตฺตํ
๖. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอกธมฺมํ, ภิกฺขเว, ปชหถ; อหํ โว ปาฏิโภโค อนาคามิตาย. กตมํ เอกธมฺมํ? มานํ, ภิกฺขเว, เอกธมฺมํ ปชหถ; อหํ โว ปาฏิโภโค อนาคามิตายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยน มาเนน มตฺตาเส, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ;
ตํ มานํ สมฺมทฺาย, ปชหนฺติ วิปสฺสิโน;
ปหาย น ปุนายนฺติ, อิมํ โลกํ กุทาจน’’นฺติ.
อยมฺปิ ¶ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ฉฏฺํ.
๗. สพฺพปริฺาสุตฺตํ
๗. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อนภิชานํ อปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ อวิราชยํ อปฺปชหํ อภพฺโพ ทุกฺขกฺขยาย. สพฺพฺจ โข, ภิกฺขเว, อภิชานํ ปริชานํ ¶ ตตฺถ จิตฺตํ วิราชยํ ปชหํ ภพฺโพ ทุกฺขกฺขยายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘โย ¶ สพฺพํ สพฺพโต ตฺวา, สพฺพตฺเถสุ น รชฺชติ;
ส เว สพฺพปริฺา [สพฺพํ ปริฺา (สฺยา. ปี.)] โส, สพฺพทุกฺขมุปจฺจคา’’ติ [สพฺพํ ทุกฺขํ อุปจฺจคาติ (สฺยา.), สพฺพทุกฺขํ อุปจฺจคาติ (ปี. อฏฺ.)].
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. สตฺตมํ.
๘. มานปริฺาสุตฺตํ
๘. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘มานํ, ภิกฺขเว, อนภิชานํ อปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ อวิราชยํ อปฺปชหํ อภพฺโพ ทุกฺขกฺขยาย ¶ . มานฺจ โข, ภิกฺขเว, อภิชานํ ปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ วิราชยํ ปชหํ ภพฺโพ ทุกฺขกฺขยายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘มานุเปตา อยํ ปชา, มานคนฺถา ภเว รตา;
มานํ อปริชานนฺตา, อาคนฺตาโร ปุนพฺภวํ.
‘‘เย ¶ จ มานํ ปหนฺตฺวาน, วิมุตฺตา มานสงฺขเย;
เต มานคนฺถาภิภุโน, สพฺพทุกฺขมุปจฺจคุ’’นฺติ [สพฺพทุกฺขํ อุปจฺจคุนฺติ (ปี.), สพฺพํ ทุกฺขํ อุปจฺจคุนฺติ (อฏฺกถา)].
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. อฏฺมํ.
๙. โลภปริฺาสุตฺตํ
๙. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘โลภํ, ภิกฺขเว ¶ , อนภิชานํ อปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ อวิราชยํ อปฺปชหํ อภพฺโพ ทุกฺขกฺขยาย. โลภฺจ โข, ภิกฺขเว, อภิชานํ ปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ วิราชยํ ปชหํ ภพฺโพ ทุกฺขกฺขยายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยน โลเภน ลุทฺธาเส, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ;
ตํ โลภํ สมฺมทฺาย, ปชหนฺติ วิปสฺสิโน;
ปหาย น ปุนายนฺติ, อิมํ โลกํ กุทาจน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. นวมํ.
๑๐. โทสปริฺาสุตฺตํ
๑๐. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘โทสํ, ภิกฺขเว, อนภิชานํ อปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ อวิราชยํ อปฺปชหํ อภพฺโพ ทุกฺขกฺขยาย. โทสฺจ โข, ภิกฺขเว, อภิชานํ ปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ วิราชยํ ปชหํ ภพฺโพ ทุกฺขกฺขยายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยน ¶ ¶ โทเสน ทุฏฺาเส, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ;
ตํ โทสํ สมฺมทฺาย, ปชหนฺติ วิปสฺสิโน;
ปหาย น ปุนายนฺติ, อิมํ โลกํ กุทาจน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทสมํ.
ปโม วคฺโค นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
ราคโทสา อถ โมโห, โกธมกฺขา ¶ มานํ สพฺพํ;
มานโต ราคโทสา ปุน ทฺเว, ปกาสิตา วคฺคมาหุ ปมนฺติ.
๒. ทุติยวคฺโค
๑. โมหปริฺาสุตฺตํ
๑๑. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘โมหํ, ภิกฺขเว, อนภิชานํ อปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ อวิราชยํ อปฺปชหํ อภพฺโพ ทุกฺขกฺขยาย. โมหฺจ โข, ภิกฺขเว, อภิชานํ ปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ วิราชยํ ปชหํ ภพฺโพ ทุกฺขกฺขยายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยน โมเหน มูฬฺหาเส, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ;
ตํ โมหํ สมฺมทฺาย, ปชหนฺติ วิปสฺสิโน;
ปหาย ¶ น ปุนายนฺติ, อิมํ โลกํ กุทาจน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปมํ.
๒. โกธปริฺาสุตฺตํ
๑๒. วุตฺตฺเหตํ ¶ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘โกธํ, ภิกฺขเว, อนภิชานํ อปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ อวิราชยํ อปฺปชหํ อภพฺโพ ทุกฺขกฺขยาย. โกธฺจ โข, ภิกฺขเว, อภิชานํ ปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ วิราชยํ ปชหํ ภพฺโพ ทุกฺขกฺขยายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยน ¶ โกเธน กุทฺธาเส, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ;
ตํ โกธํ สมฺมทฺาย, ปชหนฺติ วิปสฺสิโน;
ปหาย น ปุนายนฺติ, อิมํ โลกํ กุทาจน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทุติยํ.
๓.มกฺขปริฺาสุตฺตํ
๑๓. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘มกฺขํ, ภิกฺขเว, อนภิชานํ อปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ อวิราชยํ อปฺปชหํ อภพฺโพ ทุกฺขกฺขยาย. มกฺขฺจ โข, ภิกฺขเว, อภิชานํ ปริชานํ ตตฺถ จิตฺตํ วิราชยํ ปชหํ ภพฺโพ ทุกฺขกฺขยายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เยน มกฺเขน มกฺขาเส, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ;
ตํ มกฺขํ สมฺมทฺาย, ปชหนฺติ วิปสฺสิโน;
ปหาย น ปุนายนฺติ, อิมํ โลกํ กุทาจน’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ตติยํ.
๔. อวิชฺชานีวรณสุตฺตํ
๑๔. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ ¶ เม สุตํ –
‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกนีวรณมฺปิ สมนุปสฺสามิ เยน [เยเนวํ (?)] นีวรเณน นิวุตา ปชา ทีฆรตฺตํ ¶ สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ ยถยิทํ, ภิกฺขเว, อวิชฺชานีวรณํ [อวิชฺชานีวรเณน (?)]. อวิชฺชานีวรเณน หิ, ภิกฺขเว, นิวุตา ปชา ทีฆรตฺตํ สนฺธาวนฺติ สํสรนฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘นตฺถฺโ ¶ เอกธมฺโมปิ, เยเนวํ [เยเนว (สี. ปี. ก.)] นิวุตา ปชา;
สํสรนฺติ ¶ อโหรตฺตํ, ยถา โมเหน อาวุตา.
‘‘เย จ โมหํ ปหนฺตฺวาน, ตโมขนฺธํ [ตโมกฺขนฺธํ (สี. สฺยา. ปี.)] ปทาลยุํ;
น เต ปุน สํสรนฺติ, เหตุ เตสํ น วิชฺชตี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. จตุตฺถํ.
๕. ตณฺหาสํโยชนสุตฺตํ
๑๕. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกสํโยชนมฺปิ สมนุปสฺสามิ เยน [เยเนวํ (สฺยา.)] สํโยชเนน สํยุตฺตา สตฺตา ทีฆรตฺตํ สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ ยถยิทํ, ภิกฺขเว, ตณฺหาสํโยชนํ [ตณฺหาสํโยชเนน (?)]. ตณฺหาสํโยชเนน หิ, ภิกฺขเว, สํยุตฺตา สตฺตา ทีฆรตฺตํ สนฺธาวนฺติ สํสรนฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ตณฺหาทุติโย ¶ ปุริโส, ทีฆมทฺธาน สํสรํ;
อิตฺถภาวฺถาภาวํ [อิตฺถมฺภาวฺถาภาวํ (สฺยา.)], สํสารํ นาติวตฺตติ.
‘‘เอตมาทีนวํ [เอวมาทีนวํ (สี. ปี. ก.)] ตฺวา, ตณฺหํ [ตณฺหา (สี. ก.)] ทุกฺขสฺส สมฺภวํ;
วีตตณฺโห อนาทาโน, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปฺจมํ.
๖. ปมเสขสุตฺตํ
๑๖. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เสขสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อปฺปตฺตมานสสฺส อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ ปตฺถยมานสฺส วิหรโต อชฺฌตฺติกํ องฺคนฺติ กริตฺวา นาฺํ เอกงฺคมฺปิ สมนุปสฺสามิ ยํ เอวํ พหูปการํ ยถยิทํ, ภิกฺขเว, โยนิโส มนสิกาโร. โยนิโส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มนสิ กโรนฺโต อกุสลํ ปชหติ ¶ , กุสลํ ภาเวตี’’ติ ¶ . เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘โยนิโส ¶ มนสิกาโร, ธมฺโม เสขสฺส ภิกฺขุโน;
นตฺถฺโ เอวํ พหุกาโร, อุตฺตมตฺถสฺส ปตฺติยา;
โยนิโส ปทหํ ภิกฺขุ, ขยํ ทุกฺขสฺส ปาปุเณ’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ฉฏฺํ.
๗. ทุติยเสขสุตฺตํ
๑๗. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เสขสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อปฺปตฺตมานสสฺส อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ ปตฺถยมานสฺส วิหรโต พาหิรํ องฺคนฺติ กริตฺวา นาฺํ เอกงฺคมฺปิ สมนุปสฺสามิ ยํ เอวํ พหูปการํ ยถยิทํ, ภิกฺขเว, กลฺยาณมิตฺตตา. กลฺยาณมิตฺโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘กลฺยาณมิตฺโต โย ภิกฺขุ, สปฺปติสฺโส สคารโว;
กรํ มิตฺตานํ วจนํ, สมฺปชาโน ปติสฺสโต;
ปาปุเณ อนุปุพฺเพน, สพฺพสํโยชนกฺขย’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. สตฺตมํ.
๘. สงฺฆเภทสุตฺตํ
๑๘. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอกธมฺโม, ภิกฺขเว, โลเก อุปฺปชฺชมาโน ¶ อุปฺปชฺชติ พหุชนาหิตาย พหุชนาสุขาย พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํ. กตโม เอกธมฺโม? สงฺฆเภโท. สงฺเฆ โข ปน, ภิกฺขเว, ภินฺเน อฺมฺํ ภณฺฑนานิ เจว โหนฺติ, อฺมฺํ ปริภาสา จ โหนฺติ ¶ , อฺมฺํ ปริกฺเขปา จ โหนฺติ, อฺมฺํ ปริจฺจชนา จ โหนฺติ. ตตฺถ อปฺปสนฺนา เจว นปฺปสีทนฺติ, ปสนฺนานฺจ เอกจฺจานํ อฺถตฺตํ โหตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘อาปายิโก ¶ เนรยิโก, กปฺปฏฺโ สงฺฆเภทโก;
วคฺคาราโม อธมฺมฏฺโ, โยคกฺเขมา ปธํสติ [โยคกฺเขมโต ธํสติ (สฺยา. ปี.), โยคกฺเขมา วิมํสติ (สี. ก.)];
สงฺฆํ สมคฺคํ เภตฺวาน [ภิตฺวาน (สี. ก.), ภินฺทิตฺวา (จูฬว. ๓๕๔; อ. นิ. ๑๐.๓๙)], กปฺปํ นิรยมฺหิ ปจฺจตี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. อฏฺมํ.
๙. สงฺฆสามคฺคีสุตฺตํ
๑๙. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอกธมฺโม, ภิกฺขเว, โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตโม เอกธมฺโม ¶ ? สงฺฆสามคฺคี. สงฺเฆ โข ปน, ภิกฺขเว, สมคฺเค น เจว อฺมฺํ ภณฺฑนานิ โหนฺติ, น จ อฺมฺํ ปริภาสา โหนฺติ, น จ อฺมฺํ ปริกฺเขปา โหนฺติ, น จ อฺมฺํ ปริจฺจชนา โหนฺติ. ตตฺถ อปฺปสนฺนา เจว ปสีทนฺติ, ปสนฺนานฺจ ภิยฺโยภาโว โหตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี, สมคฺคานฺจนุคฺคโห;
สมคฺครโต ธมฺมฏฺโ, โยคกฺเขมา น ธํสติ;
สงฺฆํ สมคฺคํ กตฺวาน, กปฺปํ สคฺคมฺหิ โมทตี’’ติ.
อยมฺปิ ¶ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. นวมํ.
๑๐. ปทุฏฺจิตฺตสุตฺตํ
๒๐. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘อิธาหํ, ภิกฺขเว, เอกจฺจํ ปุคฺคลํ ปทุฏฺจิตฺตํ เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ – ‘อิมมฺหิ จายํ สมเย ปุคฺคโล กาลงฺกเรยฺย ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย’. ตํ กิสฺส เหตุ? จิตฺตํ หิสฺส, ภิกฺขเว, ปทุฏฺํ. เจโตปโทสเหตุ โข ปน, ภิกฺขเว, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ปทุฏฺจิตฺตํ ¶ ¶ ตฺวาน, เอกจฺจํ อิธ ปุคฺคลํ;
เอตมตฺถฺจ พฺยากาสิ, พุทฺโธ ภิกฺขูน สนฺติเก.
‘‘อิมมฺหิ จายํ สมเย, กาลํ กยิราถ ปุคฺคโล;
นิรยํ อุปปชฺเชยฺย, จิตฺตํ หิสฺส ปทูสิตํ.
‘‘ยถา หริตฺวา นิกฺขิเปยฺย, เอวเมว ตถาวิโธ;
เจโตปโทสเหตุ หิ, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคติ’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทสมํ.
ทุติโย วคฺโค นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
โมโห โกโธ อถ มกฺโข, วิชฺชา ตณฺหา เสขทุเว จ;
เภโท สามคฺคิปุคฺคโล [โมหโกธ อถ มกฺขาคโต, มูหา กามเสกฺขทุเว; เภทสามคฺคปุคฺคโล จ (สี. ก.) โมหโกธา อถ มกฺโข โมหกามา เสกฺขา ทุเว; เภทโมทา ปุคฺคโล จ (สฺยา. ปี.)], วคฺคมาหุ ทุติยนฺติ วุจฺจตีติ.
๓. ตติยวคฺโค
๑. ปสนฺนจิตฺตสุตฺตํ
๒๑. วุตฺตฺเหตํ ¶ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘อิธาหํ, ภิกฺขเว, เอกจฺจํ ปุคฺคลํ ปสนฺนจิตฺตํ เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ ¶ – ‘อิมมฺหิ จายํ สมเย ปุคฺคโล กาลํ กเรยฺย ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’. ตํ กิสฺส เหตุ? จิตฺตํ หิสฺส, ภิกฺขเว, ปสนฺนํ. เจโตปสาทเหตุ โข ปน, ภิกฺขเว, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ปสนฺนจิตฺตํ ตฺวาน, เอกจฺจํ อิธ ปุคฺคลํ;
เอตมตฺถฺจ พฺยากาสิ, พุทฺโธ ภิกฺขูน สนฺติเก.
‘‘อิมมฺหิ ¶ จายํ สมเย, กาลํ กยิราถ ปุคฺคโล;
สุคตึ อุปปชฺเชยฺย, จิตฺตํ หิสฺส ปสาทิตํ.
‘‘ยถา หริตฺวา นิกฺขิเปยฺย, เอวเมว ตถาวิโธ;
เจโตปสาทเหตุ หิ, สตฺตา คจฺฉนฺติ สุคฺคติ’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปมํ.
๒. เมตฺตสุตฺตํ
๒๒. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘มา, ภิกฺขเว, ปฺุานํ ภายิตฺถ ¶ . สุขสฺเสตํ, ภิกฺขเว, อธิวจนํ อิฏฺสฺส กนฺตสฺส ปิยสฺส มนาปสฺส ยทิทํ ปฺุานิ [ปฺุานนฺติ, (อ. นิ. ๗.๖๒)]. อภิชานามิ โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, ทีฆรตฺตํ กตานํ ปฺุานํ อิฏฺํ กนฺตํ ปิยํ มนาปํ วิปากํ ปจฺจนุภูตํ. สตฺต วสฺสานิ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวตฺวา สตฺต ¶ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป ¶ นยิมํ โลกํ ปุนราคมาสึ. สํวฏฺฏมาเน สุทํ, ภิกฺขเว, กปฺเป อาภสฺสรูปโค โหมิ; วิวฏฺฏมาเน กปฺเป สฺุํ พฺรหฺมวิมานํ อุปปชฺชามิ.
‘‘ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา โหมิ มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี. ฉตฺตึสกฺขตฺตุํ โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, สกฺโก อโหสึ เทวานมินฺโท; อเนกสตกฺขตฺตุํ ราชา อโหสึ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. โก ปน วาโท ปเทสรชฺชสฺส!
‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘กิสฺส นุ โข เม อิทํ กมฺมสฺส ผลํ, กิสฺส กมฺมสฺส วิปาโก, เยนาหํ เอตรหิ เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว’ติ? ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘ติณฺณํ โข เม อิทํ กมฺมานํ ผลํ, ติณฺณํ กมฺมานํ วิปาโก, เยนาหํ เอตรหิ เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโวติ, เสยฺยถิทํ [เสยฺยถีทํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] – ทานสฺส, ทมสฺส, สฺมสฺสา’’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ปฺุเมว โส สิกฺเขยฺย, อายตคฺคํ สุขุทฺรยํ;
ทานฺจ ¶ สมจริยฺจ, เมตฺตจิตฺตฺจ ภาวเย.
‘‘เอเต ¶ ธมฺเม ภาวยิตฺวา, ตโย สุขสมุทฺทเย [สุขสมุทฺรเย (สี. อฏฺ.)];
อพฺยาปชฺฌํ [อพฺยาปชฺชํ (สฺยา. ก.), อพฺยาพชฺฌํ (?)] สุขํ โลกํ, ปณฺฑิโต อุปปชฺชตี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทุติยํ.
๓. อุภยตฺถสุตฺตํ
๒๓. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอกธมฺโม ¶ , ภิกฺขเว, ภาวิโต พหุลีกโต อุโภ อตฺเถ สมธิคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ สมฺปรายิกฺจ. กตโม เอกธมฺโม? อปฺปมาโท กุสเลสุ ธมฺเมสุ. อยํ โข, ภิกฺขเว, เอกธมฺโม ภาวิโต พหุลีกโต อุโภ อตฺเถ สมธิคยฺห ติฏฺติ – ทิฏฺธมฺมิกฺเจว อตฺถํ สมฺปรายิกฺจา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘อปฺปมาทํ ¶ ปสํสนฺติ, ปฺุกิริยาสุ ปณฺฑิตา;
อปฺปมตฺโต อุโภ อตฺเถ, อธิคณฺหาติ ปณฺฑิโต.
‘‘ทิฏฺเ ¶ ธมฺเม จ โย อตฺโถ, โย จตฺโถ สมฺปรายิโก;
อตฺถาภิสมยา ธีโร, ปณฺฑิโตติ ปวุจฺจตี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ตติยํ.
๔. อฏฺิปฺุชสุตฺตํ
๒๔. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอกปุคฺคลสฺส, ภิกฺขเว, กปฺปํ สนฺธาวโต สํสรโต สิยา เอวํ มหา อฏฺิกงฺกโล อฏฺิปฺุโช อฏฺิราสิ ยถายํ เวปุลฺโล ปพฺพโตः สเจ สํหารโก อสฺส, สมฺภตฺจ น วินสฺเสยฺยา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เอกสฺเสเกน กปฺเปน, ปุคฺคลสฺสฏฺิสฺจโย;
สิยา ปพฺพตสโม ราสิ, อิติ วุตฺตํ มเหสินา.
‘‘โส โข ปนายํ อกฺขาโต, เวปุลฺโล ปพฺพโต มหา;
อุตฺตโร คิชฺฌกูฏสฺส, มคธานํ คิริพฺพเช.
‘‘ยโต ¶ จ อริยสจฺจานิ, สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ;
ทุกฺขํ ¶ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;
อริยฺจฏฺงฺคิกํ ¶ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํ.
‘‘ส สตฺตกฺขตฺตุํ ปรมํ, สนฺธาวิตฺวาน ปุคฺคโล;
ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ, สพฺพสํโยชนกฺขยา’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. จตุตฺถํ.
๕. มุสาวาทสุตฺตํ
๒๕. วุตฺตฺเหตํ ¶ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอกธมฺมํ อตีตสฺส, ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคลสฺส นาหํ ตสฺส กิฺจิ ปาปกมฺมํ อกรณียนฺติ วทามิ. กตมํ เอกธมฺมํ? ยทิทํ [ยถยิทํ (สี. สฺยา. ก.), ยถายิทํ (ปี.)] ภิกฺขเว, สมฺปชานมุสาวาโท’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เอกธมฺมํ อตีตสฺส, มุสาวาทิสฺส ชนฺตุโน;
วิติณฺณปรโลกสฺส, นตฺถิ ปาปํ อการิย’’นฺติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปฺจมํ.
๖. ทานสุตฺตํ
๒๖. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘เอวฺเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา ชาเนยฺยุํ ทานสํวิภาคสฺส วิปากํ ยถาหํ ชานามิ, น อทตฺวา ภฺุเชยฺยุํ, น จ เนสํ มจฺเฉรมลํ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺเยฺย. โยปิ เนสํ อสฺส จริโม อาโลโป จริมํ กพฬํ, ตโตปิ น อสํวิภชิตฺวา ภฺุเชยฺยุํ, สเจ เนสํ ปฏิคฺคาหกา อสฺสุ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, สตฺตา ¶ น เอวํ ชานนฺติ ทานสํวิภาคสฺส วิปากํ ยถาหํ ชานามิ, ตสฺมา อทตฺวา ภฺุชนฺติ, มจฺเฉรมลฺจ เนสํ จิตฺตํ ¶ ปริยาทาย ติฏฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘เอวํ เจ สตฺตา ชาเนยฺยุํ, ยถาวุตฺตํ มเหสินา;
วิปากํ สํวิภาคสฺส, ยถา โหติ มหปฺผลํ.
‘‘วิเนยฺย ¶ มจฺเฉรมลํ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา;
ทชฺชุํ กาเลน อริเยสุ, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.
‘‘อนฺนฺจ ทตฺวา [ทตฺวาน (สฺยา.)] พหุโน, ทกฺขิเณยฺเยสุ ทกฺขิณํ;
อิโต จุตา มนุสฺสตฺตา, สคฺคํ คจฺฉนฺติ ทายกา.
‘‘เต ¶ จ สคฺคคตา [สคฺคํ คตา (สี. ปี. ก.)] ตตฺถ, โมทนฺติ กามกามิโน;
วิปากํ สํวิภาคสฺส, อนุโภนฺติ อมจฺฉรา’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ฉฏฺํ.
๗. เมตฺตาภาวนาสุตฺตํ
๒๗. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ยานิ กานิจิ, ภิกฺขเว, โอปธิกานิ ปฺุกิริยวตฺถูนิ สพฺพานิ ตานิ เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสึ. เมตฺตาเยว ตานิ เจโตวิมุตฺติ อธิคฺคเหตฺวา ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยา กาจิ ตารกรูปานํ ปภา สพฺพา ตา ¶ จนฺทิยา ปภาย กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสึ, จนฺทปภาเยว ตา อธิคฺคเหตฺวา ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยานิ กานิจิ โอปธิกานิ ปฺุกิริยวตฺถูนิ สพฺพานิ ตานิ เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสึ, เมตฺตาเยว ตานิ เจโตวิมุตฺติ ¶ อธิคฺคเหตฺวา ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, วสฺสานํ ปจฺฉิเม มาเส สรทสมเย วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว [นเภ (สี.)] อาทิจฺโจ นภํ อพฺภุสฺสกฺกมาโน [อพฺภุคฺคมมาโน (ก. อฏฺ.)] สพฺพํ อากาสคตํ [อากาสํ (สฺยา.)] ตมคตํ อภิวิหจฺจ [อภิหจฺจ (สฺยา.)] ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยานิ กานิจิ โอปธิกานิ ปฺุกิริยวตฺถูนิ สพฺพานิ ตานิ เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสึ, เมตฺตาเยว ตานิ เจโตวิมุตฺติ อธิคฺคเหตฺวา ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ภิกฺขเว, รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ โอสธิตารกา ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยานิ กานิจิ โอปธิกานิ ปฺุกิริยวตฺถูนิ สพฺพานิ ตานิ เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสึ ¶ , เมตฺตาเยว ตานิ เจโตวิมุตฺติ อธิคฺคเหตฺวา ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘โย ¶ จ เมตฺตํ ภาวยติ, อปฺปมาณํ ปฏิสฺสโต;
ตนู [ตนุ (สี.)] สํโยชนา โหนฺติ, ปสฺสโต อุปธิกฺขยํ.
‘‘เอกมฺปิ เจ ปาณมทุฏฺจิตฺโต, เมตฺตายติ กุสโล เตน โหติ;
สพฺเพ จ ปาเณ มนสานุกมฺปํ, ปหูตมริโย ปกโรติ ปฺุํ.
‘‘เย [โย (สี.)] สตฺตสณฺฑํ ปถวึ วิชิตฺวา, ราชิสโย ¶ [ราชีสโย (สี.)] ยชมานานุปริยคา;
อสฺสเมธํ ปุริสเมธํ, สมฺมาปาสํ วาชเปยฺยํ นิรคฺคฬํ.
‘‘เมตฺตสฺส จิตฺตสฺส สุภาวิตสฺส, กลมฺปิ เต นานุภวนฺติ โสฬสึ;
จนฺทปฺปภา ¶ ตารคณาว สพฺเพ.
‘‘โย น หนฺติ น ฆาเตติ, น ชินาติ น ชาปเย;
เมตฺตํโส สพฺพภูเตสุ, เวรํ ตสฺส น เกนจี’’ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. สตฺตมํ.
ตติโย วคฺโค นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
จิตฺตํ ¶ เมตฺตํ [ฌายี (สี. สฺยา.), ฌายิ (ปี. ก.)] อุโภ อตฺเถ, ปฺุชํ เวปุลฺลปพฺพตํ;
สมฺปชานมุสาวาโท, ทานฺจ เมตฺตภาวนา [เมตฺตภาวฺจ (สี. สฺยา. ปี.), เมตฺตวาจฺจ (ก.)].
สตฺติมานิ จ [สตฺติมานิธ (สี. ก.)] สุตฺตานิ, ปุริมานิ จ วีสติ;
เอกธมฺเมสุ สุตฺตนฺตา, สตฺตวีสติสงฺคหาติ.
เอกกนิปาโต นิฏฺิโต.