📜

๒. ทุกนิปาโต

๑. ปมวคฺโค

๑. ทุกฺขวิหารสุตฺตํ

๒๘. (ทฺเว ธมฺเม อนุกฺกฏิ) [( ) สฺยามโปตฺถเก นตฺถิ] วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขํ วิหรติ สวิฆาตํ สอุปายาสํ สปริฬาหํ; กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา. กตเมหิ ทฺวีหิ? อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตาย [อคุตฺตทฺวาโร (อฏฺ.)] จ, โภชเน อมตฺตฺุตาย [อมตฺตฺู (อฏฺ.)] จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขํ วิหรติ สวิธาตํ สอุปายาสํ สปริฬาหํ; กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘จกฺขุ โสตฺจ ฆานฺจ, ชิวฺหา กาโย ตถา มโน;

เอตานิ ยสฺส ทฺวารานิ, อคุตฺตานิธ [อคุตฺตานิ จ (สฺยา.)] ภิกฺขุโน.

‘‘โภชนมฺหิ อมตฺตฺู, อินฺทฺริเยสุ อสํวุโต;

กายทุกฺขํ เจโตทุกฺขํ, ทุกฺขํ โส อธิคจฺฉติ.

‘‘ฑยฺหมาเนน กาเยน, ฑยฺหมาเนน เจตสา;

ทิวา วา ยทิ วา รตฺตึ, ทุกฺขํ วิหรติ ตาทิโส’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปมํ.

๒. สุขวิหารสุตฺตํ

๒๙. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทิฏฺเว ธมฺเม สุขํ วิหรติ อวิฆาตํ อนุปายาสํ อปริฬาหํ; กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติ ปาฏิกงฺขา . กตเมหิ ทฺวีหิ? อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตาย จ, โภชเน มตฺตฺุตาย จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทิฏฺเว ธมฺเม สุขํ วิหรติ อวิฆาตํ อนุปายาสํ อปริฬาหํ; กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติ ปาฏิกงฺขา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘จกฺขุ โสตฺจ ฆานฺจ, ชิวฺหา กาโย ตถา [อโถ (สี. สฺยา. ก.)] มโน;

เอตานิ ยสฺส ทฺวารานิ, สุคุตฺตานิธ ภิกฺขุโน.

‘‘โภชนมฺหิ จ มตฺตฺู, อินฺทฺริเยสุ จ สํวุโต;

กายสุขํ เจโตสุขํ, สุขํ โส อธิคจฺฉติ.

‘‘อฑยฺหมาเนน กาเยน, อฑยฺหมาเนน เจตสา;

ทิวา วา ยทิ วา รตฺตึ, สุขํ วิหรติ ตาทิโส’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทุติยํ.

๓. ตปนียสุตฺตํ

๓๐. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา ตปนียา. กตเม ทฺเว? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อกตกลฺยาโณ โหติ, อกตกุสโล, อกตภีรุตฺตาโณ, กตปาโป, กตลุทฺโท, กตกิพฺพิโส. โส ‘อกตํ เม กลฺยาณ’นฺติปิ ตปฺปติ, ‘กตํ เม ปาป’นฺติปิ ตปฺปติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา ตปนียา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘กายทุจฺจริตํ กตฺวา, วจีทุจฺจริตานิ จ;

มโนทุจฺจริตํ กตฺวา, ยฺจฺํ โทสสฺหิตํ.

‘‘อกตฺวา กุสลํ กมฺมํ, กตฺวานากุสลํ พหุํ;

กายสฺส เภทา ทุปฺปฺโ, นิรยํ โสปปชฺชตี’’ติ [นิรยํ โส อุปปชฺชตีติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)].

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ตติยํ.

๔. อตปนียสุตฺตํ

๓๑. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา อตปนียา. กตเม ทฺเว? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ กตกลฺยาโณ โหติ, กตกุสโล, กตภีรุตฺตาโณ, อกตปาโป, อกตลุทฺโท, อกตกิพฺพิโส. โส ‘กตํ เม กลฺยาณ’นฺติปิ น ตปฺปติ, ‘อกตํ เม ปาป’นฺติปิ น ตปฺปติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา อตปนียา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘กายทุจฺจริตํ หิตฺวา, วจีทุจฺจริตานิ จ;

มโนทุจฺจริตํ หิตฺวา, ยฺจฺํ โทสสฺหิตํ.

‘‘อกตฺวากุสลํ กมฺมํ, กตฺวาน กุสลํ พหุํ;

กายสฺส เภทา สปฺปฺโ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตี’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. จตุตฺถํ.

๕. ปมสีลสุตฺตํ

๓๒. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ ทฺวีหิ? ปาปเกน จ สีเลน, ปาปิกาย จ ทิฏฺิยา. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ปาปเกน จ สีเลน, ปาปิกาย จ ทิฏฺิยา;

เอเตหิ ทฺวีหิ ธมฺเมหิ, โย สมนฺนาคโต นโร;

กายสฺส เภทา ทุปฺปฺโ, นิรยํ โสปปชฺชตี’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปฺจมํ.

๖. ทุติยสีลสุตฺตํ

๓๓. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ทฺวีหิ ? ภทฺทเกน จ สีเลน, ภทฺทิกาย จ ทิฏฺิยา. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ภทฺทเกน จ สีเลน, ภทฺทิกาย จ ทิฏฺิยา;

เอเตหิ ทฺวีหิ ธมฺเมหิ, โย สมนฺนาคโต นโร;

กายสฺส เภทา สปฺปฺโ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตี’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ฉฏฺํ.

๗. อาตาปีสุตฺตํ

๓๔. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘อนาตาปี, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อโนตฺตาปี [อโนตฺตปฺปี (พหูสุ) อฏฺกถา ปสฺสิตพฺพา] อภพฺโพ สมฺโพธาย, อภพฺโพ นิพฺพานาย, อภพฺโพ อนุตฺตรสฺส โยคกฺเขมสฺส อธิคมาย. อาตาปี จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โอตฺตาปี [โอตฺตปฺปี (พหูสุ)] ภพฺโพ สมฺโพธาย, ภพฺโพ นิพฺพานาย, ภพฺโพ อนุตฺตรสฺส โยคกฺเขมสฺส อธิคมายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ . ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘อนาตาปี อโนตฺตาปี, กุสีโต หีนวีริโย;

โย ถีนมิทฺธพหุโล, อหิรีโก อนาทโร;

อภพฺโพ ตาทิโส ภิกฺขุ, ผุฏฺุํ สมฺโพธิมุตฺตมํ.

‘‘โย จ สติมา นิปโก ฌายี, อาตาปี โอตฺตาปี จ อปฺปมตฺโต;

สํโยชนํ ชาติชราย เฉตฺวา, อิเธว สมฺโพธิมนุตฺตรํ ผุเส’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. สตฺตมํ.

๘. ปมนกุหนสุตฺตํ

๓๕. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘นยิทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ชนกุหนตฺถํ, น ชนลปนตฺถํ, น ลาภสกฺการสิโลกานิสํสตฺถํ, น ‘อิติ มํ ชโน ชานาตู’ติ. อถ โข อิทํ, ภิกฺขเว , พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ สํวรตฺถฺเจว ปหานตฺถฺจา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘สํวรตฺถํ ปหานตฺถํ, พฺรหฺมจริยํ อนีติหํ;

อเทสยิ โส ภควา, นิพฺพาโนคธคามินํ.

‘‘เอส มคฺโค มหตฺเตหิ [มหนฺเตหิ (สี. ก.), มหตฺเถหิ (สฺยา.)], อนุยาโต มเหสิภิ [มเหสิโน (สี. ก.)];

เย เย ตํ ปฏิปชฺชนฺติ, ยถา พุทฺเธน เทสิตํ;

ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ, สตฺถุสาสนการิโน’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. อฏฺมํ.

๙. ทุติยนกุหนสุตฺตํ

๓๖. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘นยิทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ชนกุหนตฺถํ, น ชนลปนตฺถํ, น ลาภสกฺการสิโลกานิสํสตฺถํ, น ‘อิติ มํ ชโน ชานาตู’ติ. อถ โข อิทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ อภิฺตฺถฺเจว ปริฺตฺถฺจา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘อภิฺตฺถํ ปริฺตฺถํ, พฺรหฺมจริยํ อนีติหํ;

อเทสยิ โส ภควา, นิพฺพาโนคธคามินํ.

‘‘เอส มคฺโค มหตฺเตหิ, อนุยาโต มเหสิภิ;

เย เย ตํ ปฏิปชฺชนฺติ, ยถา พุทฺเธน เทสิตํ;

ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ, สตฺถุสาสนการิโน’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. นวมํ.

๑๐. โสมนสฺสสุตฺตํ

๓๗. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทิฏฺเว ธมฺเม สุขโสมนสฺสพหุโล วิหรติ, โยนิ จสฺส [โยนิโส (สี. สฺยา. ปี.), โยนิสฺส (ก.)] อารทฺธา โหติ อาสวานํ ขยาย. กตเมหิ ทฺวีหิ? สํเวชนีเยสุ าเนสุ สํเวชเนน, สํวิคฺคสฺส จ โยนิโส ปธาเนน. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทิฏฺเว ธมฺเม สุขโสมนสฺสพหุโล วิหรติ, โยนิ จสฺส อารทฺธา โหติ อาสวานํ ขยายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘สํเวชนียฏฺาเนสุ [สํเวชนีเยสุ าเนสุ (สฺยา. ปี.)], สํวิชฺเชเถว ปณฺฑิโต;

อาตาปี นิปโก ภิกฺขุ, ปฺาย สมเวกฺขิย.

‘‘เอวํ วิหารี อาตาปี, สนฺตวุตฺติ อนุทฺธโต;

เจโตสมถมนุยุตฺโต, ขยํ ทุกฺขสฺส ปาปุเณ’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทสมํ.

ปโม วคฺโค นิฏฺิโต.

ตสฺสุทฺทานํ

ทฺเว จ ภิกฺขู ตปนียา, ตปนียา ปรตฺเถหิ;

อาตาปี [ทฺเว ปาทา (ก.), ทฺเว อาตาปี (สี.)] นกุหนา ทฺเว [น กุหนา จ (สพฺพตฺถ)], โสมนสฺเสน เต ทสาติ.

๒. ทุติยวคฺโค

๑. วิตกฺกสุตฺตํ

๓๘. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตถาคตํ, ภิกฺขเว, อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทฺเว วิตกฺกา พหุลํ สมุทาจรนฺติ – เขโม จ วิตกฺโก, ปวิเวโก จ [วิเวโก จ (สฺยา.)]. อพฺยาปชฺฌาราโม [อพฺยาปชฺชาราโม (ก.), อพฺยาพชฺฌาราโม (?)], ภิกฺขเว, ตถาคโต อพฺยาปชฺฌรโต. ตเมนํ, ภิกฺขเว, ตถาคตํ อพฺยาปชฺฌารามํ อพฺยาปชฺฌรตํ เอเสว วิตกฺโก พหุลํ สมุทาจรติ – ‘อิมายาหํ อิริยาย น กิฺจิ พฺยาพาเธมิ ตสํ วา ถาวรํ วา’ติ.

‘‘ปวิเวการาโม , ภิกฺขเว, ตถาคโต ปวิเวกรโต. ตเมนํ, ภิกฺขเว, ตถาคตํ ปวิเวการามํ ปวิเวกรตํ เอเสว วิตกฺโก พหุลํ สมุทาจรติ – ‘ยํ อกุสลํ ตํ ปหีน’นฺติ.

‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ตุมฺเหปิ อพฺยาปชฺฌารามา วิหรถ อพฺยาปชฺฌรตา. เตสํ โว, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ อพฺยาปชฺฌารามานํ วิหรตํ อพฺยาปชฺฌรตานํ เอเสว วิตกฺโก พหุลํ สมุทาจริสฺสติ – ‘อิมาย มยํ อิริยาย น กิฺจิ พฺยาพาเธม ตสํ วา ถาวรํ วา’ติ.

‘‘ปวิเวการามา, ภิกฺขเว, วิหรถ ปวิเวกรตา. เตสํ โว, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ ปวิเวการามานํ วิหรตํ ปวิเวกรตานํ เอเสว วิตกฺโก พหุลํ สมุทาจริสฺสติ – ‘กึ อกุสลํ, กึ อปฺปหีนํ, กึ ปชหามา’’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ตถาคตํ พุทฺธมสยฺหสาหินํ, ทุเว วิตกฺกา สมุทาจรนฺติ นํ;

เขโม วิตกฺโก ปโม อุทีริโต, ตโต วิเวโก ทุติโย ปกาสิโต.

‘‘ตโมนุทํ ปารคตํ มเหสึ, ตํ ปตฺติปตฺตํ วสิมํ อนาสวํ;

วิสนฺตรํ [เวสนฺตรํ (สี. ก.), วิสฺสนฺตรํ (ปี.)] ตณฺหกฺขเย วิมุตฺตํ, ตํ เว มุนึ อนฺติมเทหธารึ;

มารฺชหํ [มารชหํ (สฺยา.), มานชหํ (สี. ก.), มานํ ชหํ (ปี.)] พฺรูมิ ชราย ปารคุํ.

‘‘เสเล ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺิโต, ยถาปิ ปสฺเส ชนตํ สมนฺตโต;

ตถูปมํ ธมฺมมยํ สุเมโธ, ปาสาทมารุยฺห สมนฺตจกฺขุ;

โสกาวติณฺณํ ชนตมเปตโสโก, อเวกฺขติ ชาติชราภิภูต’’นฺติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปมํ.

๒. เทสนาสุตฺตํ

๓๙. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตถาคตสฺส, ภิกฺขเว, อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ทฺเว ธมฺมเทสนา ปริยาเยน ภวนฺติ. กตมา ทฺเว? ‘ปาปํ ปาปกโต ปสฺสถา’ติ – อยํ ปมา ธมฺมเทสนา; ‘ปาปํ ปาปกโต ทิสฺวา ตตฺถ นิพฺพินฺทถ วิรชฺชถ วิมุจฺจถา’ติ – อยํ ทุติยา ธมฺมเทสนา. ตถาคตสฺส, ภิกฺขเว, อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อิมา ทฺเว ธมฺมเทสนา ปริยาเยน ภวนฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ตถาคตสฺส พุทฺธสฺส, สพฺพภูตานุกมฺปิโน;

ปริยายวจนํ ปสฺส, ทฺเว จ ธมฺมา ปกาสิตา.

‘‘ปาปกํ ปสฺสถ เจตํ [เจกํ (สี. ปี.), เฉกา (สฺยา.)], ตตฺถ จาปิ วิรชฺชถ;

ตโต วิรตฺตจิตฺตาเส, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสถา’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทุติยํ.

๓. วิชฺชาสุตฺตํ

๔๐. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘อวิชฺชา , ภิกฺขเว, ปุพฺพงฺคมา อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา อนฺวเทว อหิริกํ อโนตฺตปฺปํ; วิชฺชา จ โข, ภิกฺขเว, ปุพฺพงฺคมา กุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา อนฺวเทว หิโรตฺตปฺป’’นฺติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ยา กาจิมา ทุคฺคติโย, อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จ;

อวิชฺชามูลิกา สพฺพา, อิจฺฉาโลภสมุสฺสยา.

‘‘ยโต จ โหติ ปาปิจฺโฉ, อหิรีโก อนาทโร;

ตโต ปาปํ ปสวติ, อปายํ เตน คจฺฉติ.

‘‘ตสฺมา ฉนฺทฺจ โลภฺจ, อวิชฺชฺจ วิราชยํ;

วิชฺชํ อุปฺปาทยํ ภิกฺขุ, สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ตติยํ.

๔. ปฺาปริหีนสุตฺตํ

๔๑. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘เต, ภิกฺขเว, สตฺตา สุปริหีนา เย อริยาย ปฺาย ปริหีนา. เต ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขํ วิหรนฺติ สวิฆาตํ สอุปายาสํ สปริฬาหํ; กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา. เต [เต จ โข (?)], ภิกฺขเว, สตฺตา อปริหีนา เย อริยาย ปฺาย อปริหีนา. เต ทิฏฺเว ธมฺเม สุขํ วิหรนฺติ อวิฆาตํ อนุปายาสํ อปริฬาหํ; กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติ ปาฏิกงฺขา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ปฺาย ปริหาเนน, ปสฺส โลกํ สเทวกํ;

นิวิฏฺํ นามรูปสฺมึ, อิทํ สจฺจนฺติ มฺติ.

‘‘ปฺา หิ เสฏฺา โลกสฺมึ, ยายํ นิพฺเพธคามินี;

ยาย สมฺมา ปชานาติ, ชาติภวปริกฺขยํ.

‘‘เตสํ เทวา มนุสฺสา จ, สมฺพุทฺธานํ สตีมตํ;

ปิหยนฺติ หาสปฺานํ [หาสุปฺานํ (สี. อฏฺ.)], สรีรนฺติมธาริน’’นฺติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. จตุตฺถํ.

๕. สุกฺกธมฺมสุตฺตํ

๔๒. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, สุกฺกา ธมฺมา โลกํ ปาเลนฺติ. กตเม ทฺเว? หิรี [หิริ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] จ, โอตฺตปฺปฺจ. อิเม เจ, ภิกฺขเว, ทฺเว สุกฺกา ธมฺมา โลกํ น ปาเลยฺยุํ, นยิธ ปฺาเยถ มาตาติ วา มาตุจฺฉาติ วา มาตุลานีติ วา อาจริยภริยาติ วา ครูนํ ทาราติ วา. สมฺเภทํ โลโก อคมิสฺส ยถา อเชฬกา กุกฺกุฏสูกรา โสณสิงฺคาลา [โสณสิคาลา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, อิเม ทฺเว สุกฺกา ธมฺมา โลกํ ปาเลนฺติ ตสฺมา ปฺายติ มาตาติ วา มาตุจฺฉาติ วา มาตุลานีติ วา อาจริยภริยาติ วา ครูนํ ทาราติ วา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘เยสํ เจ หิริโอตฺตปฺปํ, สพฺพทา จ น วิชฺชติ;

โวกฺกนฺตา สุกฺกมูลา เต, ชาติมรณคามิโน.

‘‘เยสฺจ หิริโอตฺตปฺปํ, สทา สมฺมา อุปฏฺิตา;

วิรูฬฺหพฺรหฺมจริยา เต, สนฺโต ขีณปุนพฺภวา’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปฺจมํ.

๖. อชาตสุตฺตํ

๔๓. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว , อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขตํ. โน เจตํ, ภิกฺขเว, อภวิสฺส อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขตํ, นยิธ ชาตสฺส ภูตสฺส กตสฺส สงฺขตสฺส นิสฺสรณํ ปฺาเยถ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, อตฺถิ อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขตํ, ตสฺมา ชาตสฺส ภูตสฺส กตสฺส สงฺขตสฺส นิสฺสรณํ ปฺายตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ชาตํ ภูตํ สมุปฺปนฺนํ, กตํ สงฺขตมทฺธุวํ;

ชรามรณสงฺฆาฏํ, โรคนีฬํ [โรคนิฑฺฒํ (สี.)] ปภงฺคุรํ [ปภงฺคุนํ (ก. สี. ก.), ปภงฺคุณํ (สฺยา.)].

‘‘อาหารเนตฺติปฺปภวํ, นาลํ ตทภินนฺทิตุํ;

ตสฺส นิสฺสรณํ สนฺตํ, อตกฺกาวจรํ ธุวํ.

‘‘อชาตํ อสมุปฺปนฺนํ, อโสกํ วิรชํ ปทํ;

นิโรโธ ทุกฺขธมฺมานํ, สงฺขารูปสโม สุโข’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ฉฏฺํ.

๗. นิพฺพานธาตุสุตฺตํ

๔๔. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, นิพฺพานธาตุโย. กตเม ทฺเว? สอุปาทิเสสา จ นิพฺพานธาตุ, อนุปาทิเสสา จ นิพฺพานธาตุ.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สอุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรหํ โหติ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺา วิมุตฺโต. ตสฺส ติฏฺนฺเตว ปฺจินฺทฺริยานิ เยสํ อวิฆาตตฺตา [อวิคตตฺตา (สี. อฏฺ.)] มนาปามนาปํ ปจฺจนุโภติ, สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทติ . ตสฺส โย ราคกฺขโย, โทสกฺขโย, โมหกฺขโย – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สอุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, อนุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรหํ โหติ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺา วิมุตฺโต. ตสฺส อิเธว, ภิกฺขเว, สพฺพเวทยิตานิ อนภินนฺทิตานิ สีติ ภวิสฺสนฺติ [สีตีภวิสฺสนฺติ (?)]. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ. อิมา โข, ภิกฺขเว, ทฺเว นิพฺพานธาตุโย’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ทุเว อิมา จกฺขุมตา ปกาสิตา, นิพฺพานธาตู อนิสฺสิเตน ตาทินา;

เอกา หิ ธาตุ อิธ ทิฏฺธมฺมิกา, สอุปาทิเสสา ภวเนตฺติสงฺขยา;

อนุปาทิเสสา ปน สมฺปรายิกา, ยมฺหิ นิรุชฺฌนฺติ ภวานิ สพฺพโส.

‘‘เย เอตทฺาย ปทํ อสงฺขตํ, วิมุตฺตจิตฺตา ภวเนตฺติสงฺขยา;

เต ธมฺมสาราธิคมา ขเย รตา, ปหํสุ เต สพฺพภวานิ ตาทิโน’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. สตฺตมํ.

๘. ปฏิสลฺลานสุตฺตํ

๔๕. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ปฏิสลฺลานารามา [ปฏิสลฺลานารามา (ก.)], ภิกฺขเว, วิหรถ ปฏิสลฺลานรตา, อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺตา, อนิรากตชฺฌานา, วิปสฺสนาย สมนฺนาคตา, พฺรูเหตา สุฺาคารานํ . ปฏิสลฺลานารามานํ, ภิกฺขเว, วิหรตํ ปฏิสลฺลานรตานํ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺตานํ อนิรากตมชฺฌานานํ วิปสฺสนาย สมนฺนาคตานํ พฺรูเหตานํ สุฺาคารานํ ทฺวินฺนํ ผลานํ อฺตรํ ผลํ ปาฏิกงฺขํ – ทิฏฺเว ธมฺเม อฺา, สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘เย สนฺตจิตฺตา นิปกา, สติมนฺโต จ [สติมนฺโตว (สี. ก.)] ฌายิโน;

สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสนฺติ, กาเมสุ อนเปกฺขิโน.

‘‘อปฺปมาทรตา สนฺตา, ปมาเท ภยทสฺสิโน;

อภพฺพา ปริหานาย, นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. อฏฺมํ.

๙. สิกฺขานิสํสสุตฺตํ

๔๖. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘สิกฺขานิสํสา , ภิกฺขเว, วิหรถ ปฺุตฺตรา วิมุตฺติสารา สตาธิปเตยฺยา. สิกฺขานิสํสานํ, ภิกฺขเว, วิหรตํ ปฺุตฺตรานํ วิมุตฺติสารานํ สตาธิปเตยฺยานํ ทฺวินฺนํ ผลานํ อฺตรํ ผลํ ปาฏิกงฺขํ – ทิฏฺเว ธมฺเม อฺา, สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ปริปุณฺณสิกฺขํ [ปริปุณฺณเสขํ (สี.), ปริปุณฺณเสกฺขํ (สฺยา.)] อปหานธมฺมํ, ปฺุตฺตรํ ชาติขยนฺตทสฺสึ;

ตํ เว มุนึ อนฺติมเทหธารึ, มารฺชหํ พฺรูมิ ชราย ปารคุํ.

‘‘ตสฺมา สทา ฌานรตา สมาหิตา, อาตาปิโน ชาติขยนฺตทสฺสิโน;

มารํ สเสนํ อภิภุยฺย ภิกฺขโว, ภวถ ชาติมรณสฺส ปารคา’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. นวมํ.

๑๐. ชาคริยสุตฺตํ

๔๗. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ชาคโร จสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิหเรยฺย สโต สมฺปชาโน สมาหิโต ปมุทิโต วิปฺปสนฺโน จ ตตฺถ กาลวิปสฺสี จ กุสเลสุ ธมฺเมสุ. ชาครสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน วิหรโต สตสฺส สมฺปชานสฺส สมาหิตสฺส ปมุทิตสฺส วิปฺปสนฺนสฺส ตตฺถ กาลวิปสฺสิโน กุสเลสุ ธมฺเมสุ ทฺวินฺนํ ผลานํ อฺตรํ ผลํ ปาฏิกงฺขํ – ทิฏฺเว ธมฺเม อฺา, สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ชาครนฺตา สุณาเถตํ, เย สุตฺตา เต ปพุชฺฌถ;

สุตฺตา ชาคริตํ เสยฺโย, นตฺถิ ชาครโต ภยํ.

‘‘โย ชาคโร จ สติมา สมฺปชาโน, สมาหิโต มุทิโต วิปฺปสนฺโน จ;

กาเลน โส สมฺมา ธมฺมํ ปริวีมํสมาโน, เอโกทิภูโต วิหเน ตมํ โส.

‘‘ตสฺมา หเว ชาคริยํ ภเชถ, อาตาปี ภิกฺขุ นิปโก ฌานลาภี;

สํโยชนํ ชาติชราย เฉตฺวา, อิเธว สมฺโพธิมนุตฺตรํ ผุเส’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทสมํ.

๑๑. อาปายิกสุตฺตํ

๔๘. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อาปายิกา เนรยิกา อิทมปฺปหาย. กตเม ทฺเว? โย จ อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ, โย จ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตํ อมูลเกน อพฺรหฺมจริเยน อนุทฺธํเสติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว อาปายิกา เนรยิกา อิทมปฺปหายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘อภูตวาที นิรยํ อุเปติ, โย วาปิ กตฺวา น กโรมิ จาห;

อุโภปิ เต เปจฺจ สมา ภวนฺติ, นิหีนกมฺมา มนุชา ปรตฺถ.

‘‘กาสาวกณฺา พหโว, ปาปธมฺมา อสฺตา;

ปาปา ปาเปหิ กมฺเมหิ, นิรยํ เต อุปปชฺชเร.

‘‘เสยฺโย อโยคุโฬ ภุตฺโต, ตตฺโต อคฺคิสิขูปโม;

ยฺเจ ภุฺเชยฺย ทุสฺสีโล, รฏฺปิณฺฑมสฺโต’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. เอกาทสมํ.

๑๒. ทิฏฺิคตสุตฺตํ

๔๙. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ทิฏฺิคเตหิ ปริยุฏฺิตา เทวมนุสฺสา โอลียนฺติ เอเก, อติธาวนฺติ เอเก; จกฺขุมนฺโต จ ปสฺสนฺติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, โอลียนฺติ เอเก? ภวารามา, ภิกฺขเว, เทวมนุสฺสา ภวรตา ภวสมฺมุทิตา เตสํ ภวนิโรธาย ธมฺเม เทสิยมาเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ น ปสีทติ น สนฺติฏฺติ นาธิมุจฺจติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, โอลียนฺติ เอเก.

‘‘กถฺจ , ภิกฺขเว, อติธาวนฺติ เอเก? ภเวเนว โข ปเนเก อฏฺฏียมานา หรายมานา ชิคุจฺฉมานา วิภวํ อภินนฺทนฺติ – ยโต กิร, โภ, อยํ อตฺตา [สตฺโต (สี. ก.)] กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ น โหติ ปรํ มรณา; เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ เอตํ ยาถาวนฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อติธาวนฺติ เอเก.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, จกฺขุมนฺโต ปสฺสนฺติ? อิธ ภิกฺขุ ภูตํ ภูตโต ปสฺสติ; ภูตํ ภูตโต ทิสฺวา ภูตสฺส นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, จกฺขุมนฺโต ปสฺสนฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘เย [โย (สฺยา. ก.)] ภูตํ ภูตโต ทิสฺวา, ภูตสฺส จ อติกฺกมํ;

ยถาภูเต วิมุจฺจนฺติ, ภวตณฺหา ปริกฺขยา.

‘‘ส เว [สเจ (ก. สี. สฺยา. ปี.)] ภูตปริฺโ, โส วีตตณฺโห ภวาภเว;

ภูตสฺส วิภวา ภิกฺขุ, นาคจฺฉติ ปุนพฺภว’’นฺติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทฺวาทสมํ.

ทุติโย วคฺโค นิฏฺิโต.

ตสฺสุทฺทานํ –

ทฺเว อินฺทฺริยา ทฺเว ตปนียา, สีเลน อปเร ทุเว;

อโนตฺตาปี กุหนา ทฺเว จ, สํเวชนีเยน เต ทส.

วิตกฺกา เทสนา วิชฺชา, ปฺา ธมฺเมน ปฺจมํ;

อชาตํ ธาตุสลฺลานํ, สิกฺขา ชาคริเยน จ;

อปายทิฏฺิยา เจว [เยว (สี. สฺยา.)], พาวีสติ ปกาสิตาติ.

ทุกนิปาโต นิฏฺิโต.