📜

๓. ติกนิปาโต

๑. ปมวคฺโค

๑. มูลสุตฺตํ

๕๐. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อกุสลมูลานิ. กตมานิ ตีณิ? โลโภ อกุสลมูลํ, โทโส อกุสลมูลํ, โมโห อกุสลมูลํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ อกุสลมูลานี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘โลโภ โทโส จ โมโห จ, ปุริสํ ปาปเจตสํ;

หึสนฺติ อตฺตสมฺภูตา, ตจสารํว สมฺผล’’นฺติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปมํ.

๒. ธาตุสุตฺตํ

๕๑. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, ธาตุโย. กตมา ติสฺโส? รูปธาตุ, อรูปธาตุ, นิโรธธาตุ – อิมา โข, ภิกฺขเว, ติสฺโส ธาตุโย’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘รูปธาตุํ [รูปธาตุ (สพฺพตฺถ)] ปริฺาย, อรูเปสุ อสณฺิตา;

นิโรเธ เย วิมุจฺจนฺติ, เต ชนา มจฺจุหายิโน.

‘‘กาเยน อมตํ ธาตุํ, ผุสยิตฺวา [ผุสฺสยิตฺวา (สฺยา.), ผสฺสยิตฺวา (ปี.)] นิรูปธึ;

อุปธิปฺปฏินิสฺสคฺคํ, สจฺฉิกตฺวา อนาสโว;

เทเสติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, อโสกํ วิรชํ ปท’’นฺติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทุติยํ.

๓. ปมเวทนาสุตฺตํ

๕๒. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, เวทนา. กตมา ติสฺโส? สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนา –

อิมา โข, ภิกฺขเว, ติสฺโส เวทนา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘สมาหิโต สมฺปชาโน, สโต พุทฺธสฺส สาวโก;

เวทนา จ ปชานาติ, เวทนานฺจ สมฺภวํ.

‘‘ยตฺถ เจตา นิรุชฺฌนฺติ, มคฺคฺจ ขยคามินํ;

เวทนานํ ขยา ภิกฺขุ, นิจฺฉาโต ปรินิพฺพุโต’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ตติยํ.

๔. ทุติยเวทนาสุตฺตํ

๕๓. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ติสฺโส อิมา , ภิกฺขเว, เวทนา. กตมา ติสฺโส? สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนา. สุขา, ภิกฺขเว, เวทนา ทุกฺขโต ทฏฺพฺพา; ทุกฺขา เวทนา สลฺลโต ทฏฺพฺพา; อทุกฺขมสุขา เวทนา อนิจฺจโต ทฏฺพฺพา. ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน สุขา เวทนา ทุกฺขโต ทิฏฺา โหติ, ทุกฺขา เวทนา สลฺลโต ทิฏฺา โหติ, อทุกฺขมสุขา เวทนา อนิจฺจโต ทิฏฺา โหติ; อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ‘ภิกฺขุ อริโย สมฺมทฺทโส อจฺเฉจฺฉิ [อจฺเฉชฺชิ (สี. ปี.), อจฺฉิชฺชิ (ก.)], ตณฺหํ, วิวตฺตยิ [วาวตฺตยิ (สี. อฏฺ.)] สํโยชนํ, สมฺมา มานาภิสมยา อนฺตมกาสิ ทุกฺขสฺสา’’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘โย สุขํ ทุกฺขโต อทฺท [ทกฺขิ (สี. ปี. ก.), อทกฺขิ (สฺยา.)], ทุกฺขมทฺทกฺขิ สลฺลโต;

อทุกฺขมสุขํ สนฺตํ, อทกฺขิ นํ อนิจฺจโต.

‘‘ส เว สมฺมทฺทโส ภิกฺขุ, ยโต ตตฺถ วิมุจฺจติ;

อภิฺาโวสิโต สนฺโต, ส เว โยคาติโค มุนี’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. จตุตฺถํ.

๕. ปมเอสนาสุตฺตํ

๕๔. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, เอสนา. กตมา ติสฺโส? กาเมสนา, ภเวสนา, พฺรหฺมจริเยสนา – อิมา โข, ภิกฺขเว, ติสฺโส เอสนา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘สมาหิโต สมฺปชาโน, สโต พุทฺธสฺส สาวโก;

เอสนา จ ปชานาติ, เอสนานฺจ สมฺภวํ.

‘‘ยตฺถ เจตา นิรุชฺฌนฺติ, มคฺคฺจ ขยคามินํ;

เอสนานํ ขยา ภิกฺขุ, นิจฺฉาโต ปรินิพฺพุโต’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปฺจมํ.

๖. ทุติยเอสนาสุตฺตํ

๕๕. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, เอสนา. กตมา ติสฺโส? กาเมสนา, ภเวสนา, พฺรหฺมจริเยสนา – อิมา โข, ภิกฺขเว, ติสฺโส เอสนา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘กาเมสนา ภเวสนา, พฺรหฺมจริเยสนา สห;

อิติ สจฺจปรามาโส, ทิฏฺิฏฺานา สมุสฺสยา.

‘‘สพฺพราควิรตฺตสฺส, ตณฺหกฺขยวิมุตฺติโน;

เอสนา ปฏินิสฺสฏฺา, ทิฏฺิฏฺานา สมูหตา;

เอสนานํ ขยา ภิกฺขุ, นิราโส อกถํกถี’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ฉฏฺํ.

๗. ปมอาสวสุตฺตํ

๕๖. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อาสวา. กตเม ตโย? กามาสโว, ภวาสโว, อวิชฺชาสโว – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย อาสวา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘สมาหิโต สมฺปชาโน, สโต พุทฺธสฺส สาวโก;

อาสเว จ ปชานาติ, อาสวานฺจ สมฺภวํ.

‘‘ยตฺถ เจตา นิรุชฺฌนฺติ, มคฺคฺจ ขยคามินํ;

อาสวานํ ขยา ภิกฺขุ, นิจฺฉาโต ปรินิพฺพุโต’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. สตฺตมํ.

๘. ทุติยอาสวสุตฺตํ

๕๗. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อาสวา. กตเม ตโย? กามาสโว, ภวาสโว, อวิชฺชาสโว – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย อาสวา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ยสฺส กามาสโว ขีโณ, อวิชฺชา จ วิราชิตา;

ภวาสโว ปริกฺขีโณ, วิปฺปมุตฺโต นิรูปธิ;

ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหินิ’’นฺติ [สวาหนนฺติ (พหูสุ)].

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. อฏฺมํ.

๙. ตณฺหาสุตฺตํ

๕๘. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, ตณฺหา. กตมา ติสฺโส? กามตณฺหา, ภวตณฺหา, วิภวตณฺหา – อิมา โข, ภิกฺขเว, ติสฺโส ตณฺหา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ตณฺหาโยเคน สํยุตฺตา, รตฺตจิตฺตา ภวาภเว;

เต โยคยุตฺตา มารสฺส, อโยคกฺเขมิโน ชนา;

สตฺตา คจฺฉนฺติ สํสารํ, ชาตีมรณคามิโน.

‘‘เย จ ตณฺหํ ปหนฺตฺวาน, วีตตณฺหา [นิกฺกณฺหา จ (สี. ก.)] ภวาภเว;

เต เว [เต จ (สี. ปี. ก.)] ปารงฺคตา [ปารคตา (ก. สี. สฺยา.)] โลเก, เย ปตฺตา อาสวกฺขย’’นฺติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. นวมํ.

๑๐. มารเธยฺยสุตฺตํ

๕๙. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อติกฺกมฺม มารเธยฺยํ อาทิจฺโจว วิโรจติ. กตเมหิ ตีหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อเสเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน สมาธิกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสเขน ปฺากฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อติกฺกมฺม มารเธยฺยํ อาทิจฺโจว วิโรจตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘สีลํ สมาธิ ปฺา จ, ยสฺส เอเต สุภาวิตา;

อติกฺกมฺม มารเธยฺยํ, อาทิจฺโจว วิโรจตี’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทสมํ.

ปโม วคฺโค นิฏฺิโต.

ตสฺสุทฺทานํ –

มูลธาตุ อถ เวทนา ทุเว, เอสนา จ ทุเว อาสวา ทุเว;

ตณฺหาโต จ อถ [ตณฺหาโต อถ (สฺยา.)] มารเธยฺยโต, วคฺคมาหุ ปมนฺติ มุตฺตมนฺติ.

๒. ทุติยวคฺโค

๑. ปุฺกิริยวตฺถุสุตฺตํ

๖๐. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ปุฺกิริยวตฺถูนิ. กตมานิ ตีณิ? ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ, สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ, ภาวนามยํ ปุฺกิริยวตฺถุ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ ปุฺกิริยวตฺถูนี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ปุฺเมว โส สิกฺเขยฺย, อายตคฺคํ สุขุทฺรยํ;

ทานฺจ สมจริยฺจ, เมตฺตจิตฺตฺจ ภาวเย.

‘‘เอเต ธมฺเม ภาวยิตฺวา, ตโย สุขสมุทฺทเย;

อพฺยาปชฺฌํ สุขํ โลกํ, ปณฺฑิโต อุปปชฺชตี’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปมํ.

๒. จกฺขุสุตฺตํ

๖๑. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, จกฺขูนิ. กตมานิ ตีณิ? มํสจกฺขุ, ทิพฺพจกฺขุ, ปฺาจกฺขุ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ จกฺขูนี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘มํสจกฺขุ ทิพฺพจกฺขุ, ปฺาจกฺขุ อนุตฺตรํ;

เอตานิ ตีณิ จกฺขูนิ, อกฺขาสิ ปุริสุตฺตโม.

‘‘มํสจกฺขุสฺส อุปฺปาโท, มคฺโค ทิพฺพสฺส จกฺขุโน;

ยโต าณํ อุทปาทิ, ปฺาจกฺขุ อนุตฺตรํ;

ยสฺส จกฺขุสฺส ปฏิลาภา, สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจตี’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทุติยํ.

๓. อินฺทฺริยสุตฺตํ

๖๒. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานิ. กตมานิ ตีณิ? อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ, อฺินฺทฺริยํ, อฺาตาวินฺทฺริยํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ อินฺทฺริยานี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘เสขสฺส สิกฺขมานสฺส, อุชุมคฺคานุสาริโน;

ขยสฺมึ ปมํ าณํ, ตโต อฺา อนนฺตรา.

‘‘ตโต อฺา วิมุตฺตสฺส, าณํ เว โหติ ตาทิโน;

อกุปฺปา เม วิมุตฺตีติ, ภวสํโยชนกฺขยา.

‘‘ส เว [สเจ (สี. สฺยา.)] อินฺทฺริยสมฺปนฺโน, สนฺโต สนฺติปเท รโต;

ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหินิ’’นฺติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ตติยํ.

๔. อทฺธาสุตฺตํ

๖๓. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อทฺธา. กตเม ตโย? อตีโต อทฺธา, อนาคโต อทฺธา, ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย อทฺธา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘อกฺเขยฺยสฺิโน สตฺตา, อกฺเขยฺยสฺมึ ปติฏฺิตา;

อกฺเขยฺยํ อปริฺาย, โยคมายนฺติ มจฺจุโน.

‘‘อกฺเขยฺยฺจ ปริฺาย, อกฺขาตารํ น มฺติ;

ผุฏฺโ วิโมกฺโข มนสา, สนฺติปทมนุตฺตรํ.

‘‘ส เว [สเจ (ก.)] อกฺเขยฺยสมฺปนฺโน, สนฺโต สนฺติปเท รโต;

สงฺขายเสวี ธมฺมฏฺโ, สงฺขฺยํ โนเปติ เวทคู’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. จตุตฺถํ.

๕. ทุจฺจริตสุตฺตํ

๖๔. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ทุจฺจริตานิ. กตมานิ ตีณิ? กายทุจฺจริตํ, วจีทุจฺจริตํ, มโนทุจฺจริตํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ ทุจฺจริตานี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘กายทุจฺจริตํ กตฺวา, วจีทุจฺจริตานิ จ;

มโนทุจฺจริตํ กตฺวา, ยฺจฺํ โทสสํหิตํ.

‘‘อกตฺวา กุสลํ กมฺมํ, กตฺวานากุสลํ พหุํ;

กายสฺส เภทา ทุปฺปฺโ, นิรยํ โสปปชฺชตี’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปฺจมํ.

๖. สุจริตสุตฺตํ

๖๕. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, สุจริตานิ. กตมานิ ตีณิ? กายสุจริตํ, วจีสุจริตํ, มโนสุจริตํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ สุจริตานี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘กายทุจฺจริตํ หิตฺวา, วจีทุจฺจริตานิ จ;

มโนทุจฺจริตํ หิตฺวา, ยฺจฺํ โทสสํหิตํ.

‘‘อกตฺวากุสลํ กมฺมํ, กตฺวาน กุสลํ พหุํ;

กายสฺส เภทา สปฺปฺโ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตี’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ฉฏฺํ.

๗. โสเจยฺยสุตฺตํ

๖๖. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, โสเจยฺยานิ. กตมานิ ตีณิ? กายโสเจยฺยํ, วจีโสเจยฺยํ, มโนโสเจยฺยํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ โสเจยฺยานี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘กายสุจึ วจีสุจึ [วาจาสุจึ (ก.)], เจโตสุจิมนาสวํ;

สุจึ โสเจยฺยสมฺปนฺนํ, อาหุ สพฺพปฺปหายิน’’นฺติ [อาหุ นินฺหาตปาปกนฺติ (อ. นิ. ๓.๑๒๒) ยุตฺตตรํ].

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. สตฺตมํ.

๘. โมเนยฺยสุตฺตํ

๖๗. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, โมเนยฺยานิ. กตมานิ ตีณิ? กายโมเนยฺยํ, วจีโมเนยฺยํ, มโนโมเนยฺยํ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ โมเนยฺยานี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘กายมุนึ วจีมุนึ, มโนมุนิมนาสวํ;

มุนึ โมเนยฺยสมฺปนฺนํ, อาหุ นินฺหาตปาปก’’นฺติ [อาหุ สพฺพปฺปหายินนฺติ (อ. นิ. ๓.๑๒๓)].

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. อฏฺมํ.

๙. ปมราคสุตฺตํ

๖๘. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ยสฺส กสฺสจิ, ภิกฺขเว, ราโค อปฺปหีโน, โทโส อปฺปหีโน, โมโห อปฺปหีโน – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ‘พทฺโธ [พนฺโท (พหูสุ)] มารสฺส ปฏิมุกฺกสฺส มารปาโส ยถากามกรณีโย [ยถา กามกรณีโย จ (สี. สฺยา. ปี. ก.)] ปาปิมโต’. ยสฺส กสฺสจิ, ภิกฺขเว, ราโค ปหีโน, โทโส ปหีโน, โมโห ปหีโน – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ‘อพทฺโธ มารสฺส โอมุกฺกสฺส มารปาโส น ยถา กามกรณีโย [น ยถากามกรณีโย จ (สฺยา.)] ปาปิมโต’’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ยสฺส ราโค จ โทโส จ, อวิชฺชา จ วิราชิตา;

ตํ ภาวิตตฺตฺตรํ, พฺรหฺมภูตํ ตถาคตํ;

พุทฺธํ เวรภยาตีตํ, อาหุ สพฺพปฺปหายิน’’นฺติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. นวมํ.

๑๐. ทุติยราคสุตฺตํ

๖๙. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ยสฺส กสฺสจิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา ราโค อปฺปหีโน, โทโส อปฺปหีโน, โมโห อปฺปหีโน – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, น ‘อตริ [อติณฺโณ (ก. สี. ก.)] สมุทฺทํ สอูมึ สวีจึ สาวฏฺฏํ สคหํ สรกฺขสํ’. ยสฺส กสฺสจิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา ราโค ปหีโน, โทโส ปหีโน, โมโห ปหีโน – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ‘อตริ สมุทฺทํ สอูมึ สวีจึ สาวฏฺฏํ สคหํ สรกฺขสํ, ติณฺโณ ปารงฺคโต [ปารคโต (สี. อฏฺ. สฺยา.)] ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ’’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ยสฺส ราโค จ โทโส จ, อวิชฺชา จ วิราชิตา;

โสมํ สมุทฺทํ สคหํ สรกฺขสํ, สอูมิภยํ ทุตฺตรํ อจฺจตาริ.

‘‘สงฺคาติโค มจฺจุชโห นิรูปธิ, ปหาสิ ทุกฺขํ อปุนพฺภวาย;

อตฺถงฺคโต โส น ปมาณเมติ, อโมหยิ มจฺจุราชนฺติ พฺรูมี’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทสมํ.

ทุติโย วคฺโค นิฏฺิโต.

ตสฺสุทฺทานํ –

ปุฺํ จกฺขุ อถ อินฺทฺริยานิ [อตฺถินฺทฺริยา (สฺยา.)], อทฺธา จ จริตํ ทุเว โสจิ [สุจิ (สฺยา.)];

มุโน [มุเน (สฺยา.)] อถ ราคทุเว, ปุน วคฺคมาหุ ทุติยมุตฺตมนฺติ.

๓. ตติยวคฺโค

๑. มิจฺฉาทิฏฺิกสุตฺตํ

๗๐. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา.

‘‘ตํ โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, นาฺสฺส สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา สุตฺวา วทามิ. ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา. อปิ จ, ภิกฺขเว, ยเทว สามํ าตํ สามํ ทิฏฺํ สามํ วิทิตํ ตเทวาหํ วทามิ.

‘‘ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘มิจฺฉา มนํ ปณิธาย, มิจฺฉา วาจฺจ ภาสิย [มิจา วาจํ อภาสิย (สพฺพตฺถ)];

มิจฺฉา กมฺมานิ กตฺวาน, กาเยน อิธ ปุคฺคโล.

‘‘อปฺปสฺสุตาปุฺกโร [อปฺปสฺสุโตปุฺกโร (สี.), อปฺปสฺสุโต อปุฺกโร (สฺยา. ปี.)], อปฺปสฺมึ อิธ ชีวิเต;

กายสฺส เภทา ทุปฺปฺโ, นิรยํ โสปปชฺชตี’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปมํ.

๒. สมฺมาทิฏฺิกสุตฺตํ

๗๑. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา.

‘‘ตํ โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, นาฺสฺส สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา สุตฺวา วทามิ. ทิฏฺา มยา , ภิกฺขเว, สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา. อปิ จ, ภิกฺขเว, ยเทว สามํ าตํ สามํ ทิฏฺํ สามํ วิทิตํ ตเทวาหํ วทามิ.

‘‘ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘สมฺมา มนํ ปณิธาย, สมฺมา วาจฺจ ภาสิย [สมฺมา วาจํ อภาสิย (สพฺพตฺถ)];

สมฺมา กมฺมานิ กตฺวาน, กาเยน อิธ ปุคฺคโล.

‘‘พหุสฺสุโต ปุฺกโร, อปฺปสฺมึ อิธ ชีวิเต;

กายสฺส เภทา สปฺปฺโ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตี’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทุติยํ.

๓. นิสฺสรณิยสุตฺตํ

๗๒. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, นิสฺสรณิยา [นิสฺสารณียา (อ. นิ. ๕.๒๐๐)] ธาตุโย. กตมา ติสฺโส? กามานเมตํ นิสฺสรณํ ยทิทํ เนกฺขมฺมํ, รูปานเมตํ นิสฺสรณํ ยทิทํ อารุปฺปํ, ยํ โข ปน กิฺจิ ภูตํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ นิโรโธ ตสฺส นิสฺสรณํ – อิมา โข, ภิกฺขเว, ติสฺโส นิสฺสรณิยา ธาตุโย’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘กามนิสฺสรณํ ตฺวา, รูปานฺจ อติกฺกมํ;

สพฺพสงฺขารสมถํ, ผุสํ อาตาปิ สพฺพทา.

‘‘ส เว สมฺมทฺทโส ภิกฺขุ, ยโต ตตฺถ วิมุจฺจติ;

อภิฺาโวสิโต สนฺโต, ส เว โยคาติโค มุนี’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ตติยํ.

๔. สนฺตตรสุตฺตํ

๗๓. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘รูเปหิ, ภิกฺขเว, อรูปา [อารุปฺปา (สี.)] สนฺตตรา, อรูเปหิ นิโรโธ สนฺตตโร’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘เย จ รูปูปคา สตฺตา, เย จ อรูปฏฺายิโน [อารุปฺปฏฺายิโน (สี.)];

นิโรธํ อปฺปชานนฺตา, อาคนฺตาโร ปุนพฺภวํ.

‘‘เย จ รูเป ปริฺาย, อรูเปสุ อสณฺิตา;

นิโรเธ เย วิมุจฺจนฺติ, เต ชนา มจฺจุหายิโน.

‘‘กาเยน อมตํ ธาตุํ, ผุสยิตฺวา นิรูปธึ;

อุปธิปฺปฏินิสฺสคฺคํ, สจฺฉิกตฺวา อนาสโว;

เทเสติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, อโสกํ วิรชํ ปท’’นฺติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. จตุตฺถํ.

๕. ปุตฺตสุตฺตํ

๗๔. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ปุตฺตา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ตโย? อติชาโต, อนุชาโต, อวชาโตติ.

‘‘กถฺจ , ภิกฺขเว, ปุตฺโต อติชาโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ปุตฺตสฺส มาตาปิตโร โหนฺติ น พุทฺธํ สรณํ คตา, น ธมฺมํ สรณํ คตา, น สงฺฆํ สรณํ คตา; ปาณาติปาตา อปฺปฏิวิรตา, อทินฺนาทานา อปฺปฏิวิรตา, กาเมสุมิจฺฉาจารา อปฺปฏิวิรตา, มุสาวาทา อปฺปฏิวิรตา, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา อปฺปฏิวิรตา, ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา. ปุตฺโต จ เนสํ โหติ พุทฺธํ สรณํ คโต, ธมฺมํ สรณํ คโต, สงฺฆํ สรณํ คโต; ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต, มุสาวาทา ปฏิวิรโต, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต, สีลวา กลฺยาณธมฺโม. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุตฺโต อติชาโต โหติ.

‘‘กถฺจ , ภิกฺขเว, ปุตฺโต อนุชาโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ปุตฺตสฺส มาตาปิตโร โหนฺติ พุทฺธํ สรณํ คตา, ธมฺมํ สรณํ คตา, สงฺฆํ สรณํ คตา; ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา, อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา, มุสาวาทา ปฏิวิรตา, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตา, สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา. ปุตฺโตปิ เนสํ โหติ พุทฺธํ สรณํ คโต, ธมฺมํ สรณํ คโต, สงฺฆํ สรณํ คโต; ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต, มุสาวาทา ปฏิวิรโต, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต, สีลวา กลฺยาณธมฺโม. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุตฺโต อนุชาโต โหติ.

‘‘กถฺจ , ภิกฺขเว, ปุตฺโต อวชาโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ปุตฺตสฺส มาตาปิตโร โหนฺติ พุทฺธํ สรณํ คตา, ธมฺมํ สรณํ คตา, สงฺฆํ สรณํ คตา; ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา, อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา, มุสาวาทา ปฏิวิรตา, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตา, สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา. ปุตฺโต จ เนสํ โหติ น พุทฺธํ สรณํ คโต, น ธมฺมํ สรณํ คโต, น สงฺฆํ สรณํ คโต; ปาณาติปาตา อปฺปฏิวิรโต, อทินฺนาทานา อปฺปฏิวิรโต, กาเมสุมิจฺฉาจารา อปฺปฏิวิรโต, มุสาวาทา อปฺปฏิวิรโต, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา อปฺปฏิวิรโต, ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุตฺโต อวชาโต โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ปุตฺตา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘อติชาตํ อนุชาตํ, ปุตฺตมิจฺฉนฺติ ปณฺฑิตา;

อวชาตํ น อิจฺฉนฺติ, โย โหติ กุลคนฺธโน.

‘‘เอเต โข ปุตฺตา โลกสฺมึ, เย ภวนฺติ อุปาสกา;

สทฺธา สีเลน สมฺปนฺนา, วทฺู วีตมจฺฉรา;

จนฺโท อพฺภฆนา มุตฺโต, ปริสาสุ วิโรจเร’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปฺจมํ.

๖. อวุฏฺิกสุตฺตํ

๗๕. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ตโย? อวุฏฺิกสโม , ปเทสวสฺสี, สพฺพตฺถาภิวสฺสี.

‘‘กถฺจ , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อวุฏฺิกสโม โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สพฺเพสฺเว น ทาตา โหติ, สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกวนิพฺพกยาจกานํ [… วณิพฺพกยาจกานํ (สี.)] อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อวุฏฺิกสโม โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปเทสวสฺสี โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เอกจฺจานํ ทาตา (โหติ) [( ) นตฺถิ สฺยามโปตฺถเก], เอกจฺจานํ น ทาตา โหติ สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกวนิพฺพกยาจกานํ อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปเทสวสฺสี โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สพฺพตฺถาภิวสฺสี โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล สพฺเพสํว เทติ, สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกวนิพฺพกยาจกานํ อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล สพฺพตฺถาภิวสฺสี โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘น สมเณ น พฺราหฺมเณ, น กปณทฺธิกวนิพฺพเก;

ลทฺธาน สํวิภาเชติ, อนฺนํ ปานฺจ โภชนํ;

ตํ เว อวุฏฺิกสโมติ, อาหุ นํ ปุริสาธมํ.

‘‘เอกจฺจานํ น ททาติ, เอกจฺจานํ ปเวจฺฉติ;

ตํ เว ปเทสวสฺสีติ, อาหุ เมธาวิโน ชนา.

‘‘สุภิกฺขวาโจ ปุริโส, สพฺพภูตานุกมฺปโก;

อาโมทมาโน ปกิเรติ, เทถ เทถาติ ภาสติ.

‘‘ยถาปิ เมโฆ ถนยิตฺวา, คชฺชยิตฺวา ปวสฺสติ;

ถลํ นินฺนฺจ ปูเรติ, อภิสนฺทนฺโตว [อภิสนฺเทนฺโตว (?)] วารินา.

‘‘เอวเมว อิเธกจฺโจ, ปุคฺคโล โหติ ตาทิโส;

ธมฺเมน สํหริตฺวาน, อุฏฺานาธิคตํ ธนํ;

ตปฺเปติ อนฺนปาเนน, สมฺมา ปตฺเต วนิพฺพเก’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ฉฏฺํ.

๗. สุขปตฺถนาสุตฺตํ

๗๖. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, สุขานิ ปตฺถยมาโน สีลํ รกฺเขยฺย ปณฺฑิโต. กตมานิ ตีณิ? ปสํสา เม อาคจฺฉตูติ [อาคจฺฉนฺตูติ (สฺยา.)] สีลํ รกฺเขยฺย ปณฺฑิโต, โภคา เม อุปฺปชฺชนฺตูติ สีลํ รกฺเขยฺย ปณฺฑิโต, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสามีติ สีลํ รกฺเขยฺย ปณฺฑิโต. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ สุขานิ ปตฺถยมาโน สีลํ รกฺเขยฺย ปณฺฑิโต’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘สีลํ รกฺเขยฺย เมธาวี, ปตฺถยาโน ตโย สุเข;

ปสํสํ วิตฺตลาภฺจ, เปจฺจ สคฺเค ปโมทนํ.

‘‘อกโรนฺโตปิ เจ ปาปํ, กโรนฺตมุปเสวติ;

สงฺกิโย โหติ ปาปสฺมึ, อวณฺโณ จสฺส รูหติ.

‘‘ยาทิสํ กุรุเต มิตฺตํ, ยาทิสํ จูปเสวติ;

เว ตาทิสโก โหติ, สหวาโส หิ [สหวาโสปิ (สี. ก.)] ตาทิโส.

‘‘เสวมาโน เสวมานํ, สมฺผุฏฺโ สมฺผุสํ ปรํ;

สโร ทิทฺโธ กลาปํว, อลิตฺตมุปลิมฺปติ;

อุปเลปภยา [อุปลิมฺปภยา (ก.)] ธีโร, เนว ปาปสขา สิยา.

‘‘ปูติมจฺฉํ กุสคฺเคน, โย นโร อุปนยฺหติ;

กุสาปิ ปูติ วายนฺติ, เอวํ พาลูปเสวนา.

‘‘ตครฺจ ปลาเสน, โย นโร อุปนยฺหติ;

ปตฺตาปิ สุรภิ วายนฺติ, เอวํ ธีรูปเสวนา.

‘‘ตสฺมา ปตฺตปุฏสฺเสว [ปลาสปุฏสฺเสว (ปี. ก.)], ตฺวา สมฺปากมตฺตโน;

อสนฺเต นุปเสเวยฺย, สนฺเต เสเวยฺย ปณฺฑิโต;

อสนฺโต นิรยํ เนนฺติ, สนฺโต ปาเปนฺติ สุคฺคติ’’นฺติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. สตฺตมํ.

๘. ภิทุรสุตฺตํ

๗๗. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ภิทุรายํ [ภินฺทนฺตายํ (สฺยา. ปี. ก.)], ภิกฺขเว, กาโย, วิฺาณํ วิราคธมฺมํ, สพฺเพ อุปธี อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘กายฺจ ภิทุรํ [ภินฺทนฺตํ (สฺยา. ปี. ก.)] ตฺวา, วิฺาณฺจ วิราคุนํ [วิราคิกํ (ก. สี.), ปภงฺคุณํ (สฺยา.)];

อุปธีสุ ภยํ ทิสฺวา, ชาติมรณมจฺจคา;

สมฺปตฺวา ปรมํ สนฺตึ, กาลํ กงฺขติ ภาวิตตฺโต’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. อฏฺมํ.

๙. ธาตุโสสํสนฺทนสุตฺตํ

๗๘. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ธาตุโส, ภิกฺขเว, สตฺตา สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทนฺติ สเมนฺติ. หีนาธิมุตฺติกา สตฺตา หีนาธิมุตฺติเกหิ สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทนฺติ สเมนฺติ, กลฺยาณาธิมุตฺติกา สตฺตา กลฺยาณาธิมุตฺติเกหิ สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทนฺติ สเมนฺติ.

‘‘อตีตมฺปิ, ภิกฺขเว, อทฺธานํ ธาตุโสว สตฺตา สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทึสุ สมึสุ. หีนาธิมุตฺติกา สตฺตา หีนาธิมุตฺติเกหิ สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทึสุ สมึสุ, กลฺยาณาธิมุตฺติกา สตฺตา กลฺยาณาธิมุตฺติเกหิ สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทึสุ สมึสุ.

‘‘อนาคตมฺปิ , ภิกฺขเว, อทฺธานํ ธาตุโสว สตฺตา สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทิสฺสนฺติ สเมสฺสนฺติ. หีนาธิมุตฺติกา สตฺตา หีนาธิมุตฺติเกหิ สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทิสฺสนฺติ สเมสฺสนฺติ, กลฺยาณาธิมุตฺติกา สตฺตา กลฺยาณาธิมุตฺติเกหิ สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทิสฺสนฺติ สเมสฺสนฺติ.

‘‘เอตรหิปิ, ภิกฺขเว, ปจฺจุปฺปนํ อทฺธานํ ธาตุโสว สตฺตา สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทนฺติ สเมนฺติ. หีนาธิมุตฺติกา สตฺตา หีนาธิมุตฺติเกหิ สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทนฺติ สเมนฺติ, กลฺยาณาธิมุตฺติกา สตฺตา กลฺยาณาธิมุตฺติเกหิ สตฺเตหิ สทฺธึ สํสนฺทนฺติ สเมนฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘สํสคฺคา วนโถ ชาโต, อสํสคฺเคน ฉิชฺชติ;

ปริตฺตํ ทารุมารุยฺห, ยถา สีเท มหณฺณเว.

‘‘เอวํ กุสีตมาคมฺม, สาธุชีวีปิ สีทติ;

ตสฺมา ตํ ปริวชฺเชยฺย, กุสีตํ หีนวีริยํ.

‘‘ปวิวิตฺเตหิ อริเยหิ, ปหิตตฺเตหิ ฌายิภิ;

นิจฺจํ อารทฺธวีริเยหิ, ปณฺฑิเตหิ สหาวเส’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. นวมํ.

๑๐. ปริหานสุตฺตํ

๗๙. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ตโย? อิธ, ภิกฺขเว, เสโข ภิกฺขุ กมฺมาราโม โหติ, กมฺมรโต, กมฺมารามตมนุยุตฺโต; ภสฺสาราโม โหติ, ภสฺสรโต, ภสฺสารามตมนุยุตฺโต; นิทฺทาราโม โหติ, นิทฺทารโต, นิทฺทารามตมนุยุตฺโต. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ.

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ตโย? อิธ, ภิกฺขเว, เสโข ภิกฺขุ น กมฺมาราโม โหติ, น กมฺมรโต, น กมฺมารามตมนุยุตฺโต; น ภสฺสาราโม โหติ, น ภสฺสรโต, น ภสฺสารามตมนุยุตฺโต; น นิทฺทาราโม โหติ, น นิทฺทารโต , น นิทฺทารามตมนุยุตฺโต. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺมา เสขสฺส ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘กมฺมาราโม ภสฺสาราโม [ภสฺสรโต (สพฺพถ)], นิทฺทาราโม จ อุทฺธโต;

อภพฺโพ ตาทิโส ภิกฺขุ, ผุฏฺุํ สมฺโพธิมุตฺตมํ.

‘‘ตสฺมา หิ อปฺปกิจฺจสฺส, อปฺปมิทฺโธ อนุทฺธโต;

ภพฺโพ โส ตาทิโส ภิกฺขุ, ผุฏฺุํ สมฺโพธิมุตฺตม’’นฺติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทสมํ.

ตติโย วคฺโค นิฏฺิโต.

ตสฺสุทฺทานํ –

ทฺเว ทิฏฺี นิสฺสรณํ รูปํ, ปุตฺโต อวุฏฺิเกน จ;

สุขา จ ภิทุโร [ภินฺทนา (สพฺพตฺถ)] ธาตุ, ปริหาเนน เต ทสาติ.

๔. จตุตฺถวคฺโค

๑. วิตกฺกสุตฺตํ

๘๐. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อกุสลวิตกฺกา. กตเม ตโย? อนวฺตฺติปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก, ลาภสกฺการสิโลกปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก, ปรานุทฺทยตาปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย อกุสลวิตกฺกา’’ติ . เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘อนวฺตฺติสํยุตฺโต, ลาภสกฺการคารโว;

สหนนฺที อมจฺเจหิ, อารา สํโยชนกฺขยา.

‘‘โย จ ปุตฺตปสุํ หิตฺวา, วิวาเห สํหรานิ [สงฺคหานิ (ก. สี. สฺยา. ปี.)] จ;

ภพฺโพ โส ตาทิโส ภิกฺขุ, ผุฏฺุํ สมฺโพธิมุตฺตม’’นฺติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปมํ.

๒. สกฺการสุตฺตํ

๘๑. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, สตฺตา สกฺกาเรน อภิภูตา, ปริยาทินฺนจิตฺตา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา.

‘‘ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, สตฺตา อสกฺกาเรน อภิภูตา, ปริยาทินฺนจิตฺตา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา.

‘‘ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, สตฺตา สกฺกาเรน จ อสกฺกาเรน จ ตทุภเยน อภิภูตา, ปริยาทินฺนจิตฺตา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา.

‘‘ตํ โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, นาฺสฺส สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา สุตฺวา วทามิ; ( ) [(ทิฏฺา มยา ภิกฺขเว สตฺตา สกฺกาเรน อภิภูตา. …เป… อสกฺกาเรน อภิภูตา …เป… สกฺกาเรน จ อสกฺกาเรน จ ตทุภเยน อภิภูตา ปริยาทินฺนจิตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา.) (สฺยา.) ปุริมวคฺเค มิจฺฉาทิฏฺิกสมฺมาทิฏฺิกสุตฺเตหิ ปน สเมติ, อนฺวยพฺยติเรกวากฺยานํ ปน อนนฺตริตตฺตา ปาสํสตรา.)] อปิ จ, ภิกฺขเว, ยเทว เม สามํ าตํ สามํ ทิฏฺํ สามํ วิทิตํ ตเมวาหํ วทามิ.

‘‘ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, สตฺตา สกฺกาเรน อภิภูตา, ปริยาทินฺนจิตฺตา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา.

‘‘ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, สตฺตา อสกฺกาเรน อภิภูตา, ปริยาทินฺนจิตฺตา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา.

‘‘ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, สตฺตา สกฺกาเรน จ อสกฺกาเรน จ ตทุภเยน อภิภูตา, ปริยาทินฺนจิตฺตา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ยสฺส สกฺกริยมานสฺส, อสกฺกาเรน จูภยํ;

สมาธิ น วิกมฺปติ, อปฺปมาทวิหาริโน [อปฺปมาณวิหาริโน (สี. อฏฺ.)].

‘‘ตํ ฌายินํ สาตติกํ, สุขุมํ ทิฏฺิวิปสฺสกํ ;

อุปาทานกฺขยารามํ, อาหุ สปฺปุริโส อิตี’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทุติยํ.

๓. เทวสทฺทสุตฺตํ

๘๒. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, เทเวสุ เทวสทฺทา นิจฺฉรนฺติ สมยา สมยํ อุปาทาย. กตเม ตโย? ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย อริยสาวโก เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย เจเตติ, ตสฺมึ สมเย [ตสฺมึ ภิกฺขเว สมเย (ปี. ก.)] เทเวสุ เทวสทฺโท นิจฺฉรติ – ‘เอโส อริยสาวโก มาเรน สทฺธึ สงฺคามาย เจเตตี’ติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม เทเวสุ เทวสทฺโท นิจฺฉรติ สมยา สมยํ อุปาทาย.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ยสฺมึ สมเย อริยสาวโก สตฺตนฺนํ โพธิปกฺขิยานํ ธมฺมานํ ภาวนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ, ตสฺมึ สมเย เทเวสุ เทวสทฺโท นิจฺฉรติ – ‘เอโส อริยสาวโก มาเรน สทฺธึ สงฺคาเมตี’ติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย เทเวสุ เทวสทฺโท นิจฺฉรติ สมยา สมยํ อุปาทาย.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ยสฺมึ สมเย อริยสาวโก อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ตสฺมึ สมเย เทเวสุ เทวสทฺโท นิจฺฉรติ – ‘เอโส อริยสาวโก วิชิตสงฺคาโม ตเมว สงฺคามสีสํ อภิวิชิย อชฺฌาวสตี’ติ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย เทเวสุ เทวสทฺโท นิจฺฉรติ สมยา สมยํ อุปาทาย. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย เทเวสุ เทวสทฺทา นิจฺฉรนฺติ สมยา สมยํ อุปาทายา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ทิสฺวา วิชิตสงฺคามํ, สมฺมาสมฺพุทฺธสาวกํ;

เทวตาปิ นมสฺสนฺติ, มหนฺตํ วีตสารทํ.

‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, โย ตฺวํ ทุชฺชยมชฺฌภู;

เชตฺวาน มจฺจุโน เสนํ, วิโมกฺเขน อนาวรํ.

‘‘อิติ เหตํ นมสฺสนฺติ, เทวตา ปตฺตมานสํ;

ตฺหิ ตสฺส น ปสฺสนฺติ, เยน มจฺจุวสํ วเช’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ตติยํ.

๔. ปฺจปุพฺพนิมิตฺตสุตฺตํ

๘๓. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ยทา, ภิกฺขเว, เทโว เทวกายา จวนธมฺโม โหติ, ปฺจสฺส ปุพฺพนิมิตฺตานิ ปาตุภวนฺติ – มาลา มิลายนฺติ, วตฺถานิ กิลิสฺสนฺติ, กจฺเฉหิ เสทา มุจฺจนฺติ, กาเย ทุพฺพณฺณิยํ โอกฺกมติ, สเก เทโว เทวาสเน นาภิรมตีติ. ตเมนํ, ภิกฺขเว, เทวา ‘จวนธมฺโม อยํ เทวปุตฺโต’ติ อิติ วิทิตฺวา ตีหิ วาจาหิ อนุโมเทนฺติ [อนุโมทนฺติ (สี. สฺยา. ปี.)] – ‘อิโต, โภ, สุคตึ คจฺฉ, สุคตึ คนฺตฺวา สุลทฺธลาภํ ลภ, สุลทฺธลาภํ ลภิตฺวา สุปฺปติฏฺิโต ภวาหี’’’ติ.

เอวํ วุตฺเต, อฺตโร ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กินฺนุ โข, ภนฺเต, เทวานํ สุคติคมนสงฺขาตํ; กิฺจ, ภนฺเต, เทวานํ สุลทฺธลาภสงฺขาตํ ; กึ ปน, ภนฺเต, เทวานํ สุปฺปติฏฺิตสงฺขาต’’นฺติ?

‘‘มนุสฺสตฺตํ โข, ภิกฺขุ [ภิกฺขเว (สฺยา. ปี.)], เทวานํ สุคติคมนสงฺขาตํ; ยํ มนุสฺสภูโต สมาโน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย สทฺธํ ปฏิลภติ. อิทํ โข, ภิกฺขุ [ภิกฺขเว (สฺยา. ปี.)], เทวานํ สุลทฺธลาภสงฺขาตํ; สา โข ปนสฺส สทฺธา นิวิฏฺา โหติ มูลชาตา ปติฏฺิตา ทฬฺหา อสํหาริยา สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ. อิทํ โข, ภิกฺขุ [ภิกฺขเว (สฺยา. ปี.)], เทวานํ สุปฺปติฏฺิตสงฺขาต’’นฺติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ยทา เทโว เทวกายา, จวติ อายุสงฺขยา;

ตโย สทฺทา นิจฺฉรนฺติ, เทวานํ อนุโมทตํ.

‘‘‘อิโต โภ สุคตึ คจฺฉ, มนุสฺสานํ สหพฺยตํ;

มนุสฺสภูโต สทฺธมฺเม, ลภ สทฺธํ อนุตฺตรํ.

‘‘‘สา เต สทฺธา นิวิฏฺสฺส, มูลชาตา ปติฏฺิตา;

ยาวชีวํ อสํหีรา, สทฺธมฺเม สุปฺปเวทิเต.

‘‘‘กายทุจฺจริตํ หิตฺวา, วจีทุจฺจริตานิ จ;

มโนทุจฺจริตํ หิตฺวา, ยฺจฺํ โทสสฺหิตํ.

‘‘‘กาเยน กุสลํ กตฺวา, วาจาย กุสลํ พหุํ;

มนสา กุสลํ กตฺวา, อปฺปมาณํ นิรูปธึ.

‘‘‘ตโต โอปธิกํ ปุฺํ, กตฺวา ทาเนน ตํ พหุํ;

อฺเปิ มจฺเจ สทฺธมฺเม, พฺรหฺมจริเย นิเวสย’ [นิเวสเย (สี. สฺยา.)].

‘‘อิมาย อนุกมฺปาย, เทวา เทวํ ยทา วิทู;

จวนฺตํ อนุโมเทนฺติ, เอหิ เทว ปุนปฺปุน’’นฺติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. จตุตฺถํ.

๕. พหุชนหิตสุตฺตํ

๘๔. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตโยเม ปุคฺคลา โลเก อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตเม ตโย? อิธ, ภิกฺขเว, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม ปุคฺคโล โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตสฺเสว สตฺถุ [สตฺถุโน (สฺยา.)] สาวโก อรหํ โหติ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺา วิมุตฺโต. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย ปุคฺคโล โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตสฺเสว สตฺถุ สาวโก เสโข โหติ ปาฏิปโท พหุสฺสุโต สีลวตูปปนฺโน. โสปิ [โส (?)] ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย ปุคฺคโล โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ปุคฺคลา โลเก อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘สตฺถา หิ โลเก ปโม มเหสิ, ตสฺสนฺวโย สาวโก ภาวิตตฺโต;

อถาปโร ปาฏิปโทปิ เสโข, พหุสฺสุโต สีลวตูปปนฺโน.

‘‘เอเต ตโย เทวมนุสฺสเสฏฺา, ปภงฺกรา ธมฺมมุทีรยนฺตา;

อปาปุรนฺติ [อปาปุเรนฺติ (ก.)] อมตสฺส ทฺวารํ, โยคา ปโมเจนฺติ [ยาคา ปมุจฺจนฺติ (สี.), โยคา โมจนฺติ (สฺยา.)] หุชฺชนํ เต.

‘‘เย สตฺถวาเหน อนุตฺตเรน, สุเทสิตํ มคฺคมนุกฺกมนฺติ [มคฺคมนุคฺคมนฺติ (สี. ก.)];

อิเธว ทุกฺขสฺส กโรนฺติ อนฺตํ, เย อปฺปมตฺตา สุคตสฺส สาสเน’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปฺจมํ.

๖. อสุภานุปสฺสีสุตฺตํ

๘๕. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘อสุภานุปสฺสี, ภิกฺขเว, กายสฺมึ วิหรถ; อานาปานสฺสติ จ โว อชฺฌตฺตํ ปริมุขํ สูปฏฺิตา โหตุ; สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจานุปสฺสิโน วิหรถ. อสุภานุปสฺสีนํ, ภิกฺขเว, กายสฺมึ วิหรตํ โย สุภาย ธาตุยา ราคานุสโย โส ปหียติ [ปหิยฺยติ (ก.)]. อานาปานสฺสติยา อชฺฌตฺตํ ปริมุขํ สูปฏฺิติตาย เย พาหิรา วิตกฺกาสยา วิฆาตปกฺขิกา, เต น โหนฺติ. สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจานุปสฺสีนํ วิหรตํ ยา อวิชฺชา สา ปหียติ, ยา วิชฺชา สา อุปฺปชฺชตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘อสุภานุปสฺสี กายสฺมึ, อานาปาเน ปฏิสฺสโต;

สพฺพสงฺขารสมถํ, ปสฺสํ อาตาปิ สพฺพทา.

‘‘ส เว สมฺมทฺทโส ภิกฺขุ, ยโต ตตฺถ วิมุจฺจติ;

อภิฺาโวสิโต สนฺโต, ส เว โยคาติโค มุนี’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ฉฏฺํ.

๗. ธมฺมานุธมฺมปฏิปนฺนสุตฺตํ

๘๖. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ธมฺมานุธมฺมปฏิปนฺนสฺส ภิกฺขุโน อยมนุธมฺโม โหติ เวยฺยากรณาย – ธมฺมานุธมฺมปฏิปนฺโนยนฺติ ภาสมาโน ธมฺมฺเว ภาสติ โน อธมฺมํ, วิตกฺกยมาโน วา ธมฺมวิตกฺกฺเว วิตกฺเกติ โน อธมฺมวิตกฺกํ, ตทุภยํ วา ปน อภินิเวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ธมฺมาราโม ธมฺมรโต, ธมฺมํ อนุวิจินฺตยํ;

ธมฺมํ อนุสฺสรํ ภิกฺขุ, สทฺธมฺมา น ปริหายติ.

‘‘จรํ วา ยทิ วา ติฏฺํ, นิสินฺโน อุท วา สยํ;

อชฺฌตฺตํ สมยํ จิตฺตํ, สนฺติเมวาธิคจฺฉตี’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. สตฺตมํ.

๘. อนฺธกรณสุตฺตํ

๘๗. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตโยเม , ภิกฺขเว, อกุสลวิตกฺกา อนฺธกรณา อจกฺขุกรณา อฺาณกรณา ปฺานิโรธิกา วิฆาตปกฺขิกา อนิพฺพานสํวตฺตนิกา . กตเม ตโย? กามวิตกฺโก, ภิกฺขเว, อนฺธกรโณ อจกฺขุกรโณ อฺาณกรโณ ปฺานิโรธิโก วิฆาตปกฺขิโก อนิพฺพานสํวตฺตนิโก. พฺยาปาทวิตกฺโก, ภิกฺขเว, อนฺธกรโณ อจกฺขุกรโณ อฺาณกรโณ ปฺานิโรธิโก วิฆาตปกฺขิโก อนิพฺพานสํวตฺตนิโก. วิหึสาวิตกฺโก, ภิกฺขเว, อนฺธกรโณ อจกฺขุกรโณ อฺาณกรโณ ปฺานิโรธิโก วิฆาตปกฺขิโก อนิพฺพานสํวตฺตนิโก. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย อกุสลวิตกฺกา อนฺธกรณา อจกฺขุกรณา อฺาณกรณา ปฺานิโรธิกา วิฆาตปกฺขิกา อนิพฺพานสํวตฺตนิกา.

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, กุสลวิตกฺกา อนนฺธกรณา จกฺขุกรณา าณกรณา ปฺาวุทฺธิกา อวิฆาตปกฺขิกา นิพฺพานสํวตฺตนิกา. กตเม ตโย? เนกฺขมฺมวิตกฺโก, ภิกฺขเว, อนนฺธกรโณ จกฺขุกรโณ าณกรโณ ปฺาวุทฺธิโก อวิฆาตปกฺขิโก นิพฺพานสํวตฺตนิโก. อพฺยาปาทวิตกฺโก, ภิกฺขเว, อนนฺธกรโณ จกฺขุกรโณ าณกรโณ ปฺาวุทฺธิโก อวิฆาตปกฺขิโก นิพฺพานสํวตฺตนิโก. อวิหึสาวิตกฺโก, ภิกฺขเว, อนนฺธกรโณ จกฺขุกรโณ าณกรโณ ปฺาวุทฺธิโก อวิฆาตปกฺขิโก นิพฺพานสํวตฺตนิโก. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย กุสลวิตกฺกา อนนฺธกรณา จกฺขุกรณา าณกรณา ปฺาวุทฺธิกา อวิฆาตปกฺขิกา นิพฺพานสํวตฺตนิกา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ตโย วิตกฺเก กุสเล วิตกฺกเย, ตโย ปน อกุสเล นิรากเร;

ส เว วิตกฺกานิ วิจาริตานิ, สเมติ วุฏฺีว รชํ สมูหตํ;

ส เว วิตกฺกูปสเมน เจตสา, อิเธว โส สนฺติปทํ สมชฺฌคา’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. อฏฺมํ.

๙. อนฺตรามลสุตฺตํ

๘๘. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อนฺตรามลา อนฺตราอมิตฺตา อนฺตราสปตฺตา อนฺตราวธกา อนฺตราปจฺจตฺถิกา. กตเม ตโย? โลโภ, ภิกฺขเว, อนฺตรามโล อนฺตราอมิตฺโต อนฺตราสปตฺโต อนฺตราวธโก อนฺตราปจฺจตฺถิโก. โทโส, ภิกฺขเว, อนฺตรามโล อนฺตราอมิตฺโต อนฺตราสปตฺโต อนฺตราวธโก อนฺตราปจฺจตฺถิโก. โมโห, ภิกฺขเว, อนฺตรามโล อนฺตราอมิตฺโต อนฺตราสปตฺโต อนฺตราวธโก อนฺตราปจฺจตฺถิโก. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย อนฺตรามลา อนฺตราอมิตฺตา อนฺตราสปตฺตา อนฺตราวธกา อนฺตราปจฺจตฺถิกา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘อนตฺถชนโน โลโภ, โลโภ จิตฺตปฺปโกปโน;

ภยมนฺตรโต ชาตํ, ตํ ชโน นาวพุชฺฌติ.

‘‘ลุทฺโธ อตฺถํ น ชานาติ, ลุทฺโธ ธมฺมํ น ปสฺสติ;

อนฺธตมํ [อนฺธํ ตมํ (สี.)] ตทา โหติ, ยํ โลโภ สหเต นรํ.

‘‘โย จ โลภํ ปหนฺตฺวาน, โลภเนยฺเย น ลุพฺภติ;

โลโภ ปหียเต ตมฺหา, อุทพินฺทูว โปกฺขรา.

‘‘อนตฺถชนโน โทโส, โทโส จิตฺตปฺปโกปโน;

ภยมนฺตรโต ชาตํ, ตํ ชโน นาวพุชฺฌติ.

‘‘ทุฏฺโ อตฺถํ น ชานาติ, ทุฏฺโ ธมฺมํ น ปสฺสติ;

อนฺธตมํ ตทา โหติ, ยํ โทโส สหเต นรํ.

‘‘โย จ โทสํ ปหนฺตฺวาน, โทสเนยฺเย น ทุสฺสติ;

โทโส ปหียเต ตมฺหา, ตาลปกฺกํว พนฺธนา.

‘‘อนตฺถชนโน โมโห, โมโห จิตฺตปฺปโกปโน;

ภยมนฺตรโต ชาตํ, ตํ ชโน นาวพุชฺฌติ.

‘‘มูฬฺโห อตฺถํ น ชานาติ, มูฬฺโห ธมฺมํ น ปสฺสติ;

อนฺธตมํ ตทา โหติ, ยํ โมโห สหเต นรํ.

‘‘โย จ โมหํ ปหนฺตฺวาน, โมหเนยฺเย น มุยฺหติ;

โมหํ วิหนฺติ โส สพฺพํ, อาทิจฺโจวุทยํ ตม’’นฺติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. นวมํ.

๑๐. เทวทตฺตสุตฺตํ

๘๙. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, อสทฺธมฺเมหิ อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต เทวทตฺโต อาปายิโก เนรยิโก กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉ. กตเมหิ ตีหิ? ปาปิจฺฉตาย, ภิกฺขเว, อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต เทวทตฺโต อาปายิโก เนรยิโก กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉ. ปาปมิตฺตตาย, ภิกฺขเว, อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต เทวทตฺโต อาปายิโก เนรยิโก กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉ. สติ โข ปน อุตฺตริกรณีเย [อุตฺตรึ กรณีเย (สฺยา.)] โอรมตฺตเกน วิเสสาธิคเมน [วิเสสาธิคเมน จ (สฺยา. ปี.)] อนฺตรา โวสานํ อาปาทิ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ อสทฺธมฺเมหิ อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต เทวทตฺโต อาปายิโก เนรยิโก กปฺปฏฺโ อเตกิจฺโฉ’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘มา ชาตุ โกจิ โลกสฺมึ, ปาปิจฺโฉ อุทปชฺชถ;

ตทมินาปิ ชานาถ, ปาปิจฺฉานํ ยถา คติ.

‘‘ปณฺฑิโตติ สมฺาโต, ภาวิตตฺโตติ สมฺมโต;

ชลํว ยสสา อฏฺา, เทวทตฺโตติ วิสฺสุโต [เม สุตํ (ปาฬิยํ)].

‘‘โส ปมาณมนุจิณฺโณ [ปมาทมนุจิณฺโณ (ก. สี. สฺยา. ปี.), สมานมนุจิณฺโณ (อฏฺ.)], อาสชฺช นํ ตถาคตํ;

อวีจินิรยํ ปตฺโต, จตุทฺวารํ ภยานกํ.

‘‘อทุฏฺสฺส หิ โย ทุพฺเภ, ปาปกมฺมํ อกุพฺพโต;

ตเมว ปาปํ ผุสติ [ผุสฺเสติ (สฺยา.)], ทุฏฺจิตฺตํ อนาทรํ.

‘‘สมุทฺทํ วิสกุมฺเภน, โย มฺเยฺย ปทูสิตุํ;

น โส เตน ปทูเสยฺย, เภสฺมา หิ อุทธิ มหา.

‘‘เอวเมว [เอวเมตํ (สฺยา.)] ตถาคตํ, โย วาเทน วิหึสติ;

สมฺมคฺคตํ [สมคฺคตํ (สี. ก.)] สนฺตจิตฺตํ, วาโท ตมฺหิ น รูหติ.

‘‘ตาทิสํ มิตฺตํ กุพฺเพถ, ตฺจ เสเวยฺย ปณฺฑิโต;

ยสฺส มคฺคานุโค ภิกฺขุ, ขยํ ทุกฺขสฺส ปาปุเณ’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทสมํ.

จตุตฺโถ วคฺโค นิฏฺิโต.

ตสฺสุทฺทานํ –

วิตกฺกาสกฺการสทฺท, จวนโลเก อสุภํ;

ธมฺมอนฺธการมลํ, เทวทตฺเตน เต ทสาติ.

๕. ปฺจมวคฺโค

๑. อคฺคปฺปสาทสุตฺตํ

๙๐. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อคฺคปฺปสาทา. กตเม ตโย? ยาวตา, ภิกฺขเว, สตฺตา อปทา วา ทฺวิปทา วา จตุปฺปทา วา พหุปฺปทา [พหุปทา (ก.)] วา รูปิโน วา อรูปิโน วา สฺิโน วา อสฺิโน วา เนวสฺินาสฺิโน วา, ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ . เย, ภิกฺขเว, พุทฺเธ ปสนฺนา, อคฺเค เต ปสนฺนา. อคฺเค โข ปน ปสนฺนานํ อคฺโค วิปาโก โหติ.

‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ อคฺคมกฺขายติ, ยทิทํ มทนิมฺมทโน ปิปาสวินโย อาลยสมุคฺฆาโต วฏฺฏุปจฺเฉโท ตณฺหกฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานํ. เย, ภิกฺขเว, วิราเค ธมฺเม ปสนฺนา, อคฺเค เต ปสนฺนา. อคฺเค โข ปน ปสนฺนานํ อคฺโค วิปาโก โหติ.

‘‘ยาวตา , ภิกฺขเว, สงฺฆา วา คณา วา, ตถาคตสาวกสงฺโฆ เตสํ อคฺคมกฺขายติ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. เย, ภิกฺขเว, สงฺเฆ ปสนฺนา, อคฺเค เต ปสนฺนา. อคฺเค โข ปน ปสนฺนานํ อคฺโค วิปาโก โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย อคฺคปฺปสาทา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘อคฺคโต เว ปสนฺนานํ, อคฺคํ ธมฺมํ วิชานตํ;

อคฺเค พุทฺเธ ปสนฺนานํ, ทกฺขิเณยฺเย อนุตฺตเร.

‘‘อคฺเค ธมฺเม ปสนฺนานํ, วิราคูปสเม สุเข;

อคฺเค สงฺเฆ ปสนฺนานํ, ปุฺกฺเขตฺเต อนุตฺตเร.

‘‘อคฺคสฺมึ ทานํ ททตํ, อคฺคํ ปุฺํ ปวฑฺฒติ;

อคฺคํ อายุ จ วณฺโณ จ, ยโส กิตฺติ สุขํ พลํ.

‘‘อคฺคสฺส ทาตา เมธาวี, อคฺคธมฺมสมาหิโต;

เทวภูโต มนุสฺโส วา, อคฺคปฺปตฺโต ปโมทตี’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปมํ.

๒. ชีวิกสุตฺตํ

๙๑. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘อนฺตมิทํ, ภิกฺขเว, ชีวิกานํ ยทิทํ ปิณฺโฑลฺยํ. อภิสาโปยํ [อภิสาปายํ (สี.), อภิลาปายํ (สฺยา. ปี.), อภิสปายํ (ก.)], ภิกฺขเว, โลกสฺมึ – ‘ปิณฺโฑโล วิจรสิ ปตฺตปาณี’ติ. ตฺจ โข เอตํ, ภิกฺขเว, กุลปุตฺตา อุเปนฺติ อตฺถวสิกา, อตฺถวสํ ปฏิจฺจ; เนว ราชาภินีตา, น โจราภินีตา, น อิณฏฺฏา, น ภยฏฺฏา, น อาชีวิกาปกตา. อปิ จ โข ‘โอติณฺณมฺหา ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ ทุกฺโขติณฺณา ทุกฺขปเรตา , อปฺเปว นาม อิมสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส อนฺตกิริยา ปฺาเยถา’ติ. เอวํ ปพฺพชิโต จายํ, ภิกฺขเว, กุลปุตฺโต โส จ โหติ อภิชฺฌาลุ กาเมสุ ติพฺพสาราโค, พฺยาปนฺนจิตฺโต ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป, มุฏฺสฺสติ อสมฺปชาโน อสมาหิโต วิพฺภนฺตจิตฺโต ปากตินฺทฺริโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ฉวาลาตํ อุภโตปทิตฺตํ มชฺเฌ คูถคตํ เนว คาเม กฏฺตฺถํ ผรติ น อรฺเः ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ คิหิโภคา ปริหีโน สามฺตฺถฺจ น ปริปูเรตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘คิหิโภคา ปริหีโน, สามฺตฺถฺจ ทุพฺภโค;

ปริธํสมาโน ปกิเรติ, ฉวาลาตํว นสฺสติ.

‘‘กาสาวกณฺา พหโว, ปาปธมฺมา อสฺตา;

ปาปา ปาเปหิ กมฺเมหิ, นิรยํ เต อุปปชฺชเร.

‘‘เสยฺโย อโยคุโฬ ภุตฺโต, ตตฺโต อคฺคิสิขูปโม;

ยฺเจ ภุฺเชยฺย ทุสฺสีโล, รฏฺปิณฺฑมสฺโต’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทุติยํ.

๓. สงฺฆาฏิกณฺณสุตฺตํ

๙๒. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘สงฺฆาฏิกณฺเณ เจปิ, ภิกฺขเว , ภิกฺขุ คเหตฺวา ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺโธ อสฺส ปาเท ปาทํ นิกฺขิปนฺโต, โส จ โหติ อภิชฺฌาลุ กาเมสุ ติพฺพสาราโค พฺยาปนฺนจิตฺโต ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป มุฏฺสฺสติ อสมฺปชาโน อสมาหิโต วิพฺภนฺตจิตฺโต ปากตินฺทฺริโย; อถ โข โส อารกาว มยฺหํ, อหฺจ ตสฺส. ตํ กิสฺส เหตุ? ธมฺมฺหิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ปสฺสติ. ธมฺมํ อปสฺสนฺโต น มํ ปสฺสติ [มํ น ปสฺสติ (สฺยา.)].

‘‘โยชนสเต เจปิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิหเรยฺย. โส จ โหติ อนภิชฺฌาลุ กาเมสุ น ติพฺพสาราโค อพฺยาปนฺนจิตฺโต อปทุฏฺมนสงฺกปฺโป อุปฏฺิตสฺสติ สมฺปชาโน สมาหิโต เอกคฺคจิตฺโต สํวุตินฺทฺริโย; อถ โข โส สนฺติเกว มยฺหํ, อหฺจ ตสฺส. ตํ กิสฺส เหตุ? ธมฺมํ หิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปสฺสติ; ธมฺมํ ปสฺสนฺโต มํ ปสฺสตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘อนุพนฺโธปิ เจ อสฺส, มหิจฺโฉ จ วิฆาตวา;

เอชานุโค อเนชสฺส, นิพฺพุตสฺส อนิพฺพุโต;

คิทฺโธ โส วีตเคธสฺส, ปสฺส ยาวฺจ อารกา.

‘‘โย จ ธมฺมมภิฺาย, ธมฺมมฺาย ปณฺฑิโต;

รหโทว นิวาเต จ, อเนโช วูปสมฺมติ.

‘‘อเนโช โส อเนชสฺส, นิพฺพุตสฺส จ นิพฺพุโต;

อคิทฺโธ วีตเคธสฺส, ปสฺส ยาวฺจ สนฺติเก’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ตติยํ.

๔. อคฺคิสุตฺตํ

๙๓. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อคฺคี. กตเม ตโย? ราคคฺคิ, โทสคฺคิ, โมหคฺคิ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย อคฺคี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ราคคฺคิ ทหติ มจฺเจ, รตฺเต กาเมสุ มุจฺฉิเต;

โทสคฺคิ ปน พฺยาปนฺเน, นเร ปาณาติปาติโน.

‘‘โมหคฺคิ ปน สมฺมูฬฺเห, อริยธมฺเม อโกวิเท;

เอเต อคฺคี อชานนฺตา, สกฺกายาภิรตา ปชา.

‘‘เต วฑฺฒยนฺติ นิรยํ, ติรจฺฉานฺจ โยนิโย;

อสุรํ เปตฺติวิสยํ, อมุตฺตา มารพนฺธนา.

‘‘เย จ รตฺตินฺทิวา ยุตฺตา, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสเน;

เต นิพฺพาเปนฺติ ราคคฺคึ, นิจฺจํ อสุภสฺิโน.

‘‘โทสคฺคึ ปน เมตฺตาย, นิพฺพาเปนฺติ นรุตฺตมา;

โมหคฺคึ ปน ปฺาย, ยายํ นิพฺเพธคามินี.

‘‘เต นิพฺพาเปตฺวา นิปกา, รตฺตินฺทิวมตนฺทิตา;

อเสสํ ปรินิพฺพนฺติ, อเสสํ ทุกฺขมจฺจคุํ.

‘‘อริยทฺทสา เวทคุโน, สมฺมทฺาย ปณฺฑิตา;

ชาติกฺขยมภิฺาย, นาคจฺฉนฺติ ปุนพฺภว’’นฺติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. จตุตฺถํ.

๕. อุปปริกฺขสุตฺตํ

๙๔. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ตถา ตถา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปปริกฺเขยฺย ยถา ยถาสฺส [ยถา ยถา (พหูสุ)] อุปปริกฺขโต พหิทฺธา จสฺส วิฺาณํ อวิกฺขิตฺตํ อวิสฏํ อชฺฌตฺตํ อสณฺิตํ อนุปาทาย น ปริตสฺเสยฺย. พหิทฺธา, ภิกฺขเว, วิฺาเณ อวิกฺขิตฺเต อวิสเฏ สติ อชฺฌตฺตํ อสณฺิเต อนุปาทาย อปริตสฺสโต อายตึ ชาติชรามรณทุกฺขสมุทยสมฺภโว น โหตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘สตฺตสงฺคปฺปหีนสฺส, เนตฺติจฺฉินฺนสฺส ภิกฺขุโน;

วิกฺขีโณ ชาติสํสาโร, นตฺถิ ตสฺส ปุนพฺภโว’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ปฺจมํ.

๖. กามูปปตฺติสุตฺตํ

๙๕. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, กามูปปตฺติโย [กามุปฺปตฺติโย (สี.)]. กตมา ติสฺโส? ปจฺจุปฏฺิตกามา, นิมฺมานรติโน , ปรนิมฺมิตวสวตฺติโน – อิมา โข, ภิกฺขเว, ติสฺโส กามูปปตฺติโย’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ปจฺจุปฏฺิตกามา จ, เย เทวา วสวตฺติโน;

นิมฺมานรติโน เทวา, เย จฺเ กามโภคิโน;

อิตฺถภาวฺถาภาวํ , สํสารํ นาติวตฺตเร.

‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, กามโภเคสุ ปณฺฑิโต;

สพฺเพ ปริจฺจเช กาเม, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา.

‘‘ปิยรูปสาตคธิตํ , เฉตฺวา โสตํ ทุรจฺจยํ;

อเสสํ ปรินิพฺพนฺติ, อเสสํ ทุกฺขมจฺจคุํ.

‘‘อริยทฺทสา เวทคุโน, สมฺมทฺาย ปณฺฑิตา;

ชาติกฺขยมภิฺาย, นาคจฺฉนฺติ ปุนพฺภว’’นฺติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ฉฏฺํ.

๗. กามโยคสุตฺตํ

๙๖. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘กามโยคยุตฺโต, ภิกฺขเว, ภวโยคยุตฺโต อาคามี โหติ อาคนฺตา [อาคนฺตฺวา (สฺยา. ก.)] อิตฺถตฺตํ. กามโยควิสํยุตฺโต, ภิกฺขเว, ภวโยคยุตฺโต อนาคามี โหติ อนาคนฺตา อิตฺถตฺตํ. กามโยควิสํยุตฺโต, ภิกฺขเว, ภวโยควิสํยุตฺโต อรหา โหติ, ขีณาสโว’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘กามโยเคน สํยุตฺตา, ภวโยเคน จูภยํ;

สตฺตา คจฺฉนฺติ สํสารํ, ชาติมรณคามิโน.

‘‘เย จ กาเม ปหนฺตฺวาน, อปฺปตฺตา อาสวกฺขยํ;

ภวโยเคน สํยุตฺตา, อนาคามีติ วุจฺจเร.

‘‘เย จ โข ฉินฺนสํสยา, ขีณมานปุนพฺภวา;

เต เว ปารงฺคตา โลเก, เย ปตฺตา อาสวกฺขย’’นฺติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. สตฺตมํ.

กลฺยาณสีลสุตฺตํ

๙๗. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘กลฺยาณสีโล, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณธมฺโม กลฺยาณปฺโ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ‘เกวลี วุสิตวา อุตฺตมปุริโส’ติ วุจฺจติ –

‘‘กถฺจ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณสีโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ, อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณสีโล โหติ. อิติ กลฺยาณสีโล.

‘‘กลฺยาณธมฺโม จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สตฺตนฺนํ โพธิปกฺขิยานํ ธมฺมานํ ภาวนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณธมฺโม โหติ. อิติ กลฺยาณสีโล, กลฺยาณธมฺโม.

‘‘กลฺยาณปฺโ จ กถํ โหติ ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณปฺโ โหติ.

‘‘อิติ กลฺยาณสีโล กลฺยาณธมฺโม กลฺยาณปฺโ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ‘เกวลี วุสิตวา อุตฺตมปุริโส’ติ วุจฺจตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ยสฺส กาเยน วาจาย, มนสา นตฺถิ ทุกฺกฏํ;

ตํ เว กลฺยาณสีโลติ, อาหุ ภิกฺขุํ หิรีมนํ [หิรีมตํ (สฺยา. ก.)].

‘‘ยสฺส ธมฺมา สุภาวิตา, สตฺต [ปตฺต (สพฺพตฺถ)] สมฺโพธิคามิโน;

ตํ เว กลฺยาณธมฺโมติ, อาหุ ภิกฺขุํ อนุสฺสทํ.

‘‘โย ทุกฺขสฺส ปชานาติ, อิเธว ขยมตฺตโน;

ตํ เว กลฺยาณปฺโติ, อาหุ ภิกฺขุํ อนาสวํ.

‘‘เตหิ ธมฺเมหิ สมฺปนฺนํ, อนีฆํ ฉินฺนสํสยํ;

อสิตํ สพฺพโลกสฺส, อาหุ สพฺพปหายิน’’นฺติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. อฏฺมํ.

๙. ทานสุตฺตํ

๙๘. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ทฺเวมานิ , ภิกฺขเว, ทานานิ – อามิสทานฺจ ธมฺมทานฺจ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ ทานานํ ยทิทํ – ธมฺมทานํ.

‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, สํวิภาคา – อามิสสํวิภาโค จ ธมฺมสํวิภาโค จ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ สํวิภาคานํ ยทิทํ – ธมฺมสํวิภาโค.

‘‘ทฺเวเม , ภิกฺขเว, อนุคฺคหา – อามิสานุคฺคโห จ ธมฺมานุคฺคโห จ. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ทฺวินฺนํ อนุคฺคหานํ ยทิทํ – ธมฺมานุคฺคโห’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ยมาหุ ทานํ ปรมํ อนุตฺตรํ, ยํ สํวิภาคํ ภควา อวณฺณยิ [อวณฺณยี (สี.)];

อคฺคมฺหิ เขตฺตมฺหิ ปสนฺนจิตฺโต, วิฺู ปชานํ โก น ยเชถ กาเล.

‘‘เย เจว ภาสนฺติ สุณนฺติ จูภยํ, ปสนฺนจิตฺตา สุคตสฺส สาสเน;

เตสํ โส อตฺโถ ปรโม วิสุชฺฌติ, เย อปฺปมตฺตา สุคตสฺส สาสเน’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. นวมํ.

๑๐. เตวิชฺชสุตฺตํ

๙๙. วุตฺตฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –

‘‘ธมฺเมนาหํ, ภิกฺขเว, เตวิชฺชํ พฺราหฺมณํ ปฺาเปมิ, นาฺํ ลปิตลาปนมตฺเตน.

‘‘กถฺจาหํ, ภิกฺขเว, ธมฺเมน เตวิชฺชํ พฺราหฺมณํ ปฺาเปมิ, นาฺํ ลปิตลาปนมตฺเตน? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต. โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ. ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต. โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ . อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. อยมสฺส ปมา วิชฺชา อธิคตา โหติ, อวิชฺชา วิหตา, วิชฺชา อุปฺปนฺนา, ตโม วิหโต, อาโลโก อุปฺปนฺโน, ยถา ตํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา. อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ. อยมสฺส ทุติยา วิชฺชา อธิคตา โหติ, อวิชฺชา วิหตา, วิชฺชา อุปฺปนฺนา, ตโม วิหโต, อาโลโก อุปฺปนฺโน, ยถา ตํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยมสฺส ตติยา วิชฺชา อธิคตา โหติ, อวิชฺชา วิหตา, วิชฺชา อุปฺปนฺนา, ตโม วิหโต, อาโลโก อุปฺปนฺโน, ยถา ตํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต. เอวํ โข อหํ, ภิกฺขเว, ธมฺเมน เตวิชฺชํ พฺราหฺมณํ ปฺาเปมิ, นาฺํ ลปิตลาปนมตฺเตนา’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ปุพฺเพนิวาสํ โยเวทิ [โยเวทิ (สพฺพตฺถ)], สคฺคาปายฺจ ปสฺสติ;

อโถ [อถ (สฺยา. ก.)] ชาติกฺขยํ ปตฺโต, อภิฺาโวสิโต มุนิ.

‘‘เอตาหิ ตีหิ วิชฺชาหิ, เตวิชฺโช โหติ พฺราหฺมโณ;

ตมหํ วทามิ เตวิชฺชํ, นาฺํ ลปิตลาปน’’นฺติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติ. ทสมํ.

ปฺจโม วคฺโค นิฏฺิโต.

ตสฺสุทฺทานํ –

ปสาท ชีวิต สงฺฆาฏิ , อคฺคิ อุปปริกฺขยา;

อุปปตฺติ [อุปฺปตฺติ (สี.)] กาม กลฺยาณํ, ทานํ ธมฺเมน เต ทสาติ.

ติกนิปาโต นิฏฺิโต.