📜

๓. มหาวคฺโค

๑. ปพฺพชฺชาสุตฺตวณฺณนา

๔๐๘. ปพฺพชฺชํกิตฺตยิสฺสามีติ ปพฺพชฺชาสุตฺตํ. กา อุปฺปตฺติ? ภควติ กิร สาวตฺถิยํ วิหรนฺเต อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘สาริปุตฺตาทีนํ มหาสาวกานํ ปพฺพชฺชา กิตฺติตา, ตํ ภิกฺขู จ อุปาสกา จ ชานนฺติ. ภควโต ปน อกิตฺติตา, ยํนูนาหํ กิตฺเตยฺย’’นฺติ. โส เชตวนวิหาเร อาสเน นิสีทิตฺวา จิตฺตพีชนึ คเหตฺวา ภิกฺขูนํ ภควโต ปพฺพชฺชํ กิตฺเตนฺโต อิมํ สุตฺตมภาสิ.

ตตฺถ ยสฺมา ปพฺพชฺชํ กิตฺเตนฺเตน ยถา ปพฺพชิ, ตํ กิตฺเตตพฺพํ. ยถา จ ปพฺพชิ, ตํ กิตฺเตนฺเตน ยถา วีมํสมาโน ปพฺพชฺชํ โรเจสิ, ตํ กิตฺเตตพฺพํ. ตสฺมา ‘‘ปพฺพชฺชํ กิตฺตยิสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘ยถา ปพฺพชี’’ติอาทิมาห. จกฺขุมาติ ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมา จกฺขุสมฺปนฺโนติ อตฺโถ. เสสมาทิคาถาย อุตฺตานเมว.

๔๐๙. อิทานิ ‘‘ยถา วีมํสมาโน’’ติ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต อาห ‘‘สมฺพาโธย’’นฺติ. ตตฺถ สมฺพาโธติ ปุตฺตทาราทิสมฺปีฬเนน กิเลสสมฺปีฬเนน จ กุสลกิริยาย โอกาสรหิโต. รชสฺสายตนนฺติ กมฺโพชาทโย วิย อสฺสาทีนํ, ราคาทิรชสฺส อุปฺปตฺติเทโส. อพฺโภกาโสติ วุตฺตสมฺพาธปฏิปกฺขภาเวน อากาโส วิย วิวฏา. อิติ ทิสฺวาน ปพฺพชีติ อิติ ฆราวาสปพฺพชฺชาสุ พฺยาธิชรามรเณหิ สุฏฺุตรํ โจทิยมานหทโย อาทีนวมานิสํสฺจ วีมํสิตฺวา, มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา , อโนมานทีตีเร ขคฺเคน เกเส ฉินฺทิตฺวา, ตาวเทว จ ทฺวงฺคุลมตฺตสณฺิตสมณสารุปฺปเกสมสฺสุ หุตฺวา ฆฏิกาเรน พฺรหฺมุนา อุปนีเต อฏฺ ปริกฺขาเร คเหตฺวา ‘‘เอวํ นิวาเสตพฺพํ ปารุปิตพฺพ’’นฺติ เกนจิ อนนุสิฏฺโ อเนกชาติสหสฺสปวตฺติเตน อตฺตโน ปพฺพชฺชาจิณฺเณเนว สิกฺขาปิยมาโน ปพฺพชิ. เอกํ กาสาวํ นิวาเสตฺวา เอกํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เอกํ จีวรํ ขนฺเธ กริตฺวา มตฺติกาปตฺตํ อํเส อาลคฺเคตฺวา ปพฺพชิตเวสํ อธิฏฺาสีติ วุตฺตํ โหติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

๔๑๐. เอวํ ภควโต ปพฺพชฺชํ กิตฺเตตฺวา ตโต ปรํ ปพฺพชิตปฏิปตฺตึ อโนมานทีตีรํ หิตฺวา ปธานาย คมนฺจ ปกาเสตุํ ‘‘ปพฺพชิตฺวาน กาเยนา’’ติอาทึ สพฺพมภาสิ. ตตฺถ กาเยน ปาปกมฺมํ วิวชฺชยีติ ติวิธํ กายทุจฺจริตํ วชฺเชสิ. วจีทุจฺจริตนฺติ จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ. อาชีวํ ปริโสธยีติ มิจฺฉาชีวํ หิตฺวา สมฺมาชีวเมว ปวตฺตยิ.

๔๑๑. เอวํ อาชีวฏฺมกสีลํ โสเธตฺวา อโนมานทีตีรโต ตึสโยชนปฺปมาณํ สตฺตาเหน อคมา ราชคหํ พุทฺโธ. ตตฺถ กิฺจาปิ ยทา ราชคหํ อคมาสิ, ตทา พุทฺโธ น โหติ, ตถาปิ พุทฺธสฺส ปุพฺพจริยาติ กตฺวา เอวํ วตฺตุํ ลพฺภติ – ‘‘อิธ ราชา ชาโต, อิธ รชฺชํ อคฺคเหสี’’ติอาทิ โลกิยโวหารวจนํ วิย. มคธานนฺติ มคธานํ ชนปทสฺส นครนฺติ วุตฺตํ โหติ. คิริพฺพชนฺติ อิทมฺปิ ตสฺส นามํ. ตฺหิ ปณฺฑวคิชฺฌกูฏเวภารอิสิคิลิเวปุลฺลนามกานํ ปฺจนฺนํ คิรีนํ มชฺเฌ วโช วิย ิตํ, ตสฺมา ‘‘คิริพฺพช’’นฺติ วุจฺจติ. ปิณฺฑาย อภิหาเรสีติ ภิกฺขตฺถาย ตสฺมึ นคเร จริ. โส กิร นครทฺวาเร ตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ รฺโ พิมฺพิสารสฺส อตฺตโน อาคมนํ นิเวเทยฺยํ, ‘สุทฺโธทนสฺส ปุตฺโต สิทฺธตฺโถ นาม กุมาโร อาคโต’ติ พหุมฺปิ เม ปจฺจยํ อภิหเรยฺย. น โข ปน เม ตํ ปติรูปํ ปพฺพชิตสฺส อาโรเจตฺวา ปจฺจยคหณํ, หนฺทาหํ ปิณฺฑาย จรามี’’ติ เทวทตฺติยํ ปํสุกูลจีวรํ ปารุปิตฺวา มตฺติกาปตฺตํ คเหตฺวา ปาจีนทฺวาเรน นครํ ปวิสิตฺวา อนุฆรํ ปิณฺฑาย อจริ. เตนาห อายสฺมา อานนฺโท – ‘‘ปิณฺฑาย อภิหาเรสี’’ติ. อากิณฺณวรลกฺขโณติ สรีเร อากิริตฺวา วิย ปิตวรลกฺขโณ วิปุลวรลกฺขโณ วา. วิปุลมฺปิ หิ ‘‘อากิณฺณ’’นฺติ วุจฺจติ. ยถาห – ‘‘อากิณฺณลุทฺโท ปุริโส, ธาติเจลํว มกฺขิโต’’ติ (ชา. ๑.๖.๑๑๘; ๑.๙.๑๐๖). วิปุลลุทฺโทติ อตฺโถ.

๔๑๒. ตมทฺทสาติ ตโต กิร ปุริมานิ สตฺต ทิวสานิ นคเร นกฺขตฺตํ โฆสิตํ อโหสิ. ตํ ทิวสํ ปน ‘‘นกฺขตฺตํ วีติวตฺตํ, กมฺมนฺตา ปโยเชตพฺพา’’ติ เภริ จริ. อถ มหาชโน ราชงฺคเณ สนฺนิปติ. ราชาปิ ‘‘กมฺมนฺตํ สํวิทหิสฺสามี’’ติ สีหปฺชรํ วิวริตฺวา พลกายํ ปสฺสนฺโต ตํ ปิณฺฑาย อภิหาเรนฺตํ มหาสตฺตํ อทฺทส. เตนาห อายสฺมา อานนฺโท – ‘‘ตมทฺทสา พิมฺพิสาโร, ปาสาทสฺมึ ปติฏฺิโต’’ติ. อิมมตฺถํ อภาสถาติ อิมํ อตฺถํ อมจฺจานํ อภาสิ.

๔๑๓. อิทานิ ตํ เตสํ อมจฺจานํ ภาสิตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘อิมํ โภนฺโต’’ติ. ตตฺถ อิมนฺติ โส ราชา โพธิสตฺตํ ทสฺเสติ, โภนฺโตติ อมจฺเจ อาลปติ. นิสาเมถาติ ปสฺสถ. อภิรูโปติ ทสฺสนียงฺคปจฺจงฺโค. พฺรหฺมาติ อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน. สุจีติ ปริสุทฺธฉวิวณฺโณ. จรเณนาติ คมเนน.

๔๑๔-๕. นีจกุลามิวาติ นีจกุลา อิว ปพฺพชิโต น โหตีติ อตฺโถ. มกาโร ปทสนฺธิกโร. กุหึ ภิกฺขุ คมิสฺสตีติ อยํ ภิกฺขุ กุหึ คมิสฺสติ, อชฺช กตฺถ วสิสฺสตีติ ชานิตุํ ราชทูตา สีฆํ คจฺฉนฺตุ. ทสฺสนกามา หิ มยํ อสฺสาติ อิมินา อธิปฺปาเยน อาห. คุตฺตทฺวาโร โอกฺขิตฺตจกฺขุตาย, สุสํวุโต สติยา. คุตฺตทฺวาโร วา สติยา, สุสํวุโต ปาสาทิเกน สงฺฆาฏิจีวรธารเณน.

๔๑๖. ขิปฺปํ ปตฺตํ อปูเรสีติ สมฺปชานตฺตา ปติสฺสตตฺตา จ อธิกํ อคณฺหนฺโต ‘‘อลํ เอตฺตาวตา’’ติ อชฺฌาสยปูรเณน ขิปฺปํ ปตฺตํ อปูเรสิ. มุนีติ โมนตฺถาย ปฏิปนฺนตฺตา อปฺปตฺตมุนิภาโวปิ มุนิอิจฺเจว วุตฺโต, โลกโวหาเรน วา. โลกิยา หิ อโมนสมฺปตฺตมฺปิ ปพฺพชิตํ ‘‘มุนี’’ติ ภณนฺติ. ปณฺฑวํ อภิหาเรสีติ ตํ ปพฺพตํ อภิรุหิ. โส กิร มนุสฺเส ปุจฺฉิ ‘‘อิมสฺมึ นคเร ปพฺพชิตา กตฺถ วสนฺตี’’ติ. อถสฺส เต ‘‘ปณฺฑวสฺส อุปริ ปุรตฺถาภิมุขปพฺภาเร’’ติ อาโรเจสุํ. ตสฺมา ตเมว ปณฺฑวํ อภิหาเรสิ ‘‘เอตฺถ วาโส ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ จินฺเตตฺวา.

๔๑๙-๒๓. พฺยคฺฆุสโภว สีโหว คิริคพฺภเรติ คิริคุหายํ พฺยคฺโฆ วิย อุสโภ วิย สีโห วิย จ นิสินฺโนติ อตฺโถ. เอเต หิ ตโย เสฏฺา วิคตภยเภรวา คิริคพฺภเร นิสีทนฺติ, ตสฺมา เอวํ อุปมํ อกาสิ. ภทฺทยาเนนาติ หตฺถิอสฺสรถสิวิกาทินา อุตฺตมยาเนน. สยานภูมึ ยายิตฺวาติ ยาวติกา ภูมิ หตฺถิอสฺสาทินา ยาเนน สกฺกา คนฺตุํ, ตํ คนฺตฺวา. อาสชฺชาติ ปตฺวา, สมีปมสฺส คนฺตฺวาติ อตฺโถ. อุปาวิสีติ นิสีทิ. ยุวาติ โยพฺพนสมฺปนฺโน. ทหโรติ ชาติยา ตรุโณ. ปมุปฺปตฺติโก สุสูติ ตทุภยวิเสสนเมว. ยุวา สุสูติ อติโยพฺพโน. ปมุปฺปตฺติโกติ ปเมเนว โยพฺพนเวเสน อุฏฺิโต. ทหโร จาสีติ สติ จ ทหรตฺเต สุสุ พาลโก วิย ขายสีติ.

๔๒๔-๕. อนีกคฺคนฺติ พลกายํ เสนามุขํ. ททามิ โภเค ภุฺชสฺสูติ เอตฺถ ‘‘อหํ เต องฺคมคเธสุ ยาวิจฺฉสิ, ตาว ททามิ โภเค. ตํ ตฺวํ โสภยนฺโต อนีกคฺคํ นาคสงฺฆปุรกฺขโต ภุฺชสฺสู’’ติ เอวํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อุชุํ ชนปโท ราชาติ ‘‘ททามิ โภเค ภุฺชสฺสุ, ชาตึ อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ เอวํ กิร วุตฺโต มหาปุริโส จินฺเตสิ – ‘‘สเจ อหํ รชฺเชน อตฺถิโก อสฺสํ, จาตุมหาราชิกาทโยปิ มํ อตฺตโน อตฺตโน รชฺเชน นิมนฺเตยฺยุํ, เคเห ิโต เอว วา จกฺกวตฺติรชฺชํ กาเรยฺยํ. อยํ ปน ราชา อชานนฺโต เอวมาห – ‘หนฺทาหํ, ตํ ชานาเปมี’’’ติ พาหํ อุจฺจาเรตฺวา อตฺตโน อาคตทิสาภาคํ นิทฺทิสนฺโต ‘‘อุชุํ ชนปโท ราชา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ หิมวนฺตสฺสปสฺสโตติ ภณนฺโต สสฺสสมฺปตฺติเวกลฺลาภาวํ ทสฺเสติ. หิมวนฺตฺหิ นิสฺสาย ปาสาณวิวรสมฺภวา มหาสาลาปิ ปฺจหิ วุทฺธีหิ วฑฺฒนฺติ, กิมงฺคํ ปน เขตฺเต วุตฺตานิ สสฺสานิ. ธนวีริเยน สมฺปนฺโนติ ภณนฺโต สตฺตหิ รตเนหิ อเวกลฺลตฺตํ, ปรราชูหิ อตกฺกนียํ วีรปุริสาธิฏฺิตภาวฺจสฺส ทสฺเสติ. โกสเลสุ นิเกติโนติ ภณนฺโต นวกราชภาวํ ปฏิกฺขิปติ. นวกราชา หิ นิเกตีติ น วุจฺจติ. ยสฺส ปน อาทิกาลโต ปภุติ อนฺวยวเสน โส เอว ชนปโท นิวาโส, โส นิเกตีติ วุจฺจติ. ตถารูโป จ ราชา สุทฺโธทโน, ยํ สนฺธายาห ‘‘โกสเลสุ นิเกติโน’’ติ. เตน อนฺวยาคตมฺปิ โภคสมฺปตฺตึ ทีเปติ.

๔๒๖. เอตฺตาวตา อตฺตโน โภคสมฺปตฺตึ ทีเปตฺวา ‘‘อาทิจฺจา นาม โคตฺเตน, สากิยา นาม ชาติยา’’ติ อิมินา ชาติสมฺปตฺติฺจ อาจิกฺขิตฺวา ยํ วุตฺตํ รฺา ‘‘ททามิ โภเค ภุฺชสฺสู’’ติ, ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต อาห – ‘‘ตมฺหา กุลา ปพฺพชิโตมฺหิ, น กาเม อภิปตฺถย’’นฺติ. ยทิ หิ อหํ กาเม อภิปตฺถเยยฺยํ, น อีทิสํ ธนวีริยสมฺปนฺนํ ทฺวาสีติสหสฺสวีรปุริสสมากุลํ กุลํ ฉฑฺเฑตฺวา ปพฺพเชยฺยนฺติ อยํ กิเรตฺถ อธิปฺปาโย.

๔๒๗. เอวํ รฺโ วจนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ตโต ปรํ อตฺตโน ปพฺพชฺชาเหตุํ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘กาเมสฺวาทีนวํ ทิสฺวา, เนกฺขมฺมํ ทฏฺุ เขมโต’’ติ. เอตํ ‘‘ปพฺพชิโตมฺหี’’ติ อิมินา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตตฺถ ทฏฺูติ ทิสฺวา . เสสเมตฺถ อิโต ปุริมคาถาสุ จ ยํ ยํ น วิจาริตํ, ตํ ตํ สพฺพํ อุตฺตานตฺถตฺตา เอว น วิจาริตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ อตฺตโน ปพฺพชฺชาเหตุํ วตฺวา ปธานตฺถาย คนฺตุกาโม ราชานํ อามนฺเตนฺโต อาห – ‘‘ปธานาย คมิสฺสามิ, เอตฺถ เม รฺชตี มโน’’ติ. ตสฺสตฺโถ – ยสฺมาหํ, มหาราช, เนกฺขมฺมํ ทฏฺุ เขมโต ปพฺพชิโต, ตสฺมา ตํ ปรมตฺถเนกฺขมฺมํ นิพฺพานามตํ สพฺพธมฺมานํ อคฺคฏฺเน ปธานํ ปตฺเถนฺโต ปธานตฺถาย คมิสฺสามิ, เอตฺถ เม ปธาเน รฺชติ มโน, น กาเมสูติ. เอวํ วุตฺเต กิร ราชา โพธิสตฺตํ อาห – ‘‘ปุพฺเพว เมตํ, ภนฺเต, สุตํ ‘สุทฺโธทนรฺโ กิร ปุตฺโต สิทฺธตฺถกุมาโร จตฺตาริ ปุพฺพนิมิตฺตานิ ทิสฺวา ปพฺพชิตฺวา พุทฺโธ ภวิสฺสตี’ติ, โสหํ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ อธิมุตฺตึ ทิสฺวา เอวํปสนฺโน ‘อทฺธา พุทฺธตฺตํ ปาปุณิสฺสถา’ติ. สาธุ, ภนฺเต, พุทฺธตฺตํ ปตฺวา ปมํ มม วิชิตํ โอกฺกเมยฺยาถา’’ติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย ปพฺพชฺชาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปธานสุตฺตวณฺณนา

๔๒๘. ตํมํ ปธานปหิตตฺตนฺติ ปธานสุตฺตํ. กา อุปฺปตฺติ? ‘‘ปธานาย คมิสฺสามิ, เอตฺถ เม รฺชตี มโน’’ติ อายสฺมา อานนฺโท ปพฺพชฺชาสุตฺตํ นิฏฺาเปสิ. ภควา คนฺธกุฏิยํ นิสินฺโน จินฺเตสิ – ‘‘มยา ฉพฺพสฺสานิ ปธานํ ปตฺถยมาเนน ทุกฺกรการิกา กตา, ตํ อชฺช ภิกฺขูนํ กเถสฺสามี’’ติ. อถ คนฺธกุฏิโต นิกฺขมิตฺวา พุทฺธาสเน นิสินฺโน ‘‘ตํ มํ ปธานปหิตตฺต’’นฺติ อารภิตฺวา อิมํ สุตฺตมภาสิ.

ตตฺถ ตํ มนฺติ ทฺวีหิปิ วจเนหิ อตฺตานเมว นิทฺทิสติ. ปธานปหิตตฺตนฺติ นิพฺพานตฺถาย เปสิตจิตฺตํ ปริจฺจตฺตอตฺตภาวํ วา. นทึ เนรฺชรํ ปตีติ ลกฺขณํ นิทฺทิสติ. ลกฺขณฺหิ ปธานปหิตตฺตาย เนรฺชรา นที. เตเนว เจตฺถ อุปโยควจนํ. อยํ ปนตฺโถ ‘‘นทิยา เนรฺชรายา’’ติ, เนรฺชราย ตีเรติ วุตฺตํ โหติ. วิปรกฺกมฺมาติ อตีว ปรกฺกมิตฺวา. ฌายนฺตนฺติ อปฺปาณกชฺฌานมนุยุฺชนฺตํ . โยคกฺเขมสฺส ปตฺติยาติ จตูหิ โยเคหิ เขมสฺส นิพฺพานสฺส อธิคมตฺถํ.

๔๒๙. นมุจีติ มาโร. โส หิ อตฺตโน วิสยา นิกฺขมิตุกาเม เทวมนุสฺเส น มุฺจติ, อนฺตรายํ เนสํ กโรติ, ตสฺมา ‘‘นมุจี’’ติ วุจฺจติ. กรุณํ วาจนฺติ อนุทฺทยายุตฺตํ วาจํ. ภาสมาโน อุปาคมีติ อิทํ อุตฺตานเมว. กสฺมา ปน อุปาคโต? มหาปุริโส กิร เอกทิวสํ จินฺเตสิ – ‘‘สพฺพทา อาหารํ ปริเยสมาโน ชีวิเต สาเปกฺโข โหติ, น จ สกฺกา ชีวิเต สาเปกฺเขน อมตํ อธิคนฺตุ’’นฺติ . ตโต อาหารุปจฺเฉทาย ปฏิปชฺชิ, เตน กิโส ทุพฺพณฺโณ จ อโหสิ. อถ มาโร ‘‘อยํ สมฺโพธาย มคฺโค โหติ, น โหตีติ อชานนฺโต อติโฆรํ ตปํ กโรติ, กทาจิ มม วิสยํ อติกฺกเมยฺยา’’ติ ภีโต ‘‘อิทฺจิทฺจ วตฺวา วาเรสฺสามี’’ติ อาคโต. เตเนวาห – ‘‘กิโส ตฺวมสิ ทุพฺพณฺโณ, สนฺติเก มรณํ ตวา’’ติ.

๔๓๐. เอวฺจ ปน วตฺวา อถสฺส มรณสนฺติกภาวํ สาเวนฺโต อาห – ‘‘สหสฺสภาโค มรณสฺส, เอกํโส ตว ชีวิต’’นฺติ. ตสฺสตฺโถ – สหสฺสํ ภาคานํ อสฺสาติ สหสฺสภาโค. โก โส ? มรณสฺส ปจฺจโยติ ปาเสโส. เอโก อํโสติ เอกํโส. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อยํ อปฺปาณกชฺฌานาทิสหสฺสภาโค ตว มรณสฺส ปจฺจโย, ตโต ปน เต เอโก เอว ภาโค ชีวิตํ, เอวํ สนฺติเก มรณํ ตวาติ. เอวํ มรณสฺส สนฺติกภาวํ สาเวตฺวา อถ นํ ชีวิเต สมุสฺสาเหนฺโต อาห ‘‘ชีว โภ ชีวิตํ เสยฺโย’’ติ. กถํ เสยฺโยติ เจ. ชีวํ ปุฺานิ กาหสีติ.

๔๓๑. อถ อตฺตนา สมฺมตานิ ปุฺานิ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘จรโต จ เต พฺรหฺมจริย’’นฺติ. ตตฺถ พฺรหฺมจริยนฺติ กาเลน กาลํ เมถุนวิรตึ สนฺธายาห, ยํ ตาปสา กโรนฺติ. ชูหโตติ ชุหนฺตสฺส. เสสเมตฺถ ปากฏเมว.

๔๓๒. ทุคฺโค มคฺโคติ อิมํ ปน อฑฺฒคาถํ ปธานวิจฺฉนฺทํ ชเนนฺโต อาห. ตตฺถ อปฺปาณกชฺฌานาทิคหนตฺตา ทุกฺเขน คนฺตพฺโพติ ทุคฺโค, ทุกฺขิตกายจิตฺเตน กตฺตพฺพตฺตา ทุกฺกโร, สนฺติกมรเณน ตาทิเสนาปิ ปาปุณิตุํ อสกฺกุเณยฺยโต ทุรภิสมฺภโวติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิโต ปรํ อิมา คาถา ภณํ มาโร, อฏฺา พุทฺธสฺส สนฺติเกติ อยมุปฑฺฒคาถา สงฺคีติกาเรหิ วุตฺตา. สกลคาถาปีติ เอเก. ภควตา เอว ปน ปรํ วิย อตฺตานํ นิทฺทิสนฺเตน สพฺพเมตฺถ เอวํชาติกํ วุตฺตนฺติ อยมมฺหากํ ขนฺติ. ตตฺถ อฏฺาติ อฏฺาสิ. เสสํ อุตฺตานเมว.

๔๓๓. ฉฏฺคาถาย เยนตฺเถนาติ เอตฺถ ปเรสํ อนฺตรายกรเณน อตฺตโน อตฺเถน ตฺวํ, ปาปิม, อาคโตสีติ อยมธิปฺปาโย . เสสํ อุตฺตานเมว.

๔๓๔. ‘‘ชีวํ ปุฺานิ กาหสี’’ติ อิทํ ปน วจนํ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘อณุมตฺโตปี’’ติ อิมํ คาถมาห. ตตฺถ ปุฺเนาติ วฏฺฏคามึ มาเรน วุตฺตํ ปุฺํ สนฺธาย ภณติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

๔๓๕. อิทานิ ‘‘เอกํโส ตว ชีวิต’’นฺติ อิทํ วจนํ อารพฺภ มารํ สนฺตชฺเชนฺโต ‘‘อตฺถิ สทฺธา’’ติ อิมํ คาถมาห. ตตฺรายมธิปฺปาโย – อเร, มาร, โย อนุตฺตเร สนฺติวรปเท อสฺสทฺโธ ภเวยฺย, สทฺโธปิ วา กุสีโต, สทฺโธ อารทฺธวีริโย สมาโนปิ วา ทุปฺปฺโ, ตํ ตฺวํ ชีวิตมนุปุจฺฉมาโน โสเภยฺยาสิ, มยฺหํ ปน อนุตฺตเร สนฺติวรปเท โอกปฺปนสทฺธา อตฺถิ, ตถา กายิกเจตสิกมสิถิลปรกฺกมตาสงฺขาตํ วีริยํ, วชิรูปมา ปฺา จ มม วิชฺชติ, โส ตฺวํ เอวํ มํ ปหิตตฺตํ อุตฺตมชฺฌาสยํ กึ ชีวมนุปุจฺฉสิ, กสฺมา ชีวิตํ ปุจฺฉสิ. ปฺาจ มมาติ เอตฺถ จ สทฺเทน สติ สมาธิ จ. เอวํ สนฺเต เยหิ ปฺจหิ อินฺทฺริเยหิ สมนฺนาคตา นิพฺพานํ ปาปุณนฺติ, เตสุ เอเกนาปิ อวิรหิตํ เอวํ มํ ปหิตตฺตํ กึ ชีวมนุปุจฺฉสิ? นนุ – เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย, วีริยมารภโต ทฬฺหํ (ธ. ป. ๑๑๒). ปฺวนฺตสฺส ฌายิโน, ปสฺสโต อุทยพฺพยนฺติ (ธ. ป. ๑๑๑, ๑๑๓).

๔๓๖-๘. เอวํ มารํ สนฺตชฺเชตฺวา อตฺตโน เทหจิตฺตปฺปวตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘นทีนมปี’’ปิ คาถาตฺตยมาห. ตมตฺถโต ปากฏเมว. อยํ ปน อธิปฺปายวณฺณนา – ยฺวายํ มม สรีเร อปฺปาณกชฺฌานวีริยเวคสมุฏฺิโต วาโต วตฺตติ, โลเก คงฺคายมุนาทีนํ นทีนมฺปิ โสตานิ อยํ วิโสสเย, กิฺจ เม เอวํ ปหิตตฺตสฺส จตุนาฬิมตฺตํ โลหิตํ น อุปโสเสยฺย. น เกวลฺจ เม โลหิตเมว สุสฺสติ, อปิจ โข ปน ตมฺหิ โลหิเต สุสฺสมานมฺหิ พทฺธาพทฺธเภทํ สรีรานุคตํ ปิตฺตํ, อสิตปีตาทิปฏิจฺฉาทกํ จตุนาฬิมตฺตเมว เสมฺหฺจ, กิฺจาปรํ ตตฺตกเมว มุตฺตฺจ โอชฺจ สุสฺสติ, เตสุ จ สุสฺสมาเนสุ มํสานิปิ ขียนฺติ, ตสฺส เม เอวํ อนุปุพฺเพน มํเสสุ ขียมาเนสุ ภิยฺโย จิตฺตํ ปสีทติ, น ตฺเวว ตปฺปจฺจยา สํสีทติ. โส ตฺวํ อีทิสํ จิตฺตมชานนฺโต สรีรมตฺตเมว ทิสฺวา ภณสิ ‘‘กิโส ตฺวมสิ ทุพฺพณฺโณ, สนฺติเก มรณํ ตวา’’ติ. น เกวลฺจ เม จิตฺตเมว ปสีทติ, อปิจ โข ปน ภิยฺโย สติ จ ปฺา จ สมาธิ มม ติฏฺติ, อณุมตฺโตปิ ปมาโท วา สมฺโมโห วา จิตฺตวิกฺเขโป วา นตฺถิ, ตสฺส มยฺหํ เอวํ วิหรโต เย เกจิ สมณพฺราหฺมณา อตีตํ วา อทฺธานํ อนาคตํ วา เอตรหิ วา โอปกฺกมิกา เวทนา เวทยนฺติ, ตาสํ นิทสฺสนภูตํ ปตฺตสฺส อุตฺตมเวทนํ. ยถา อฺเสํ ทุกฺเขน ผุฏฺานํ สุขํ, สีเตน อุณฺหํ, อุณฺเหน สีตํ, ขุทาย โภชนํ, ปิปาสาย ผุฏฺานํ อุทกํ อเปกฺขเต จิตฺตํ, เอวํ ปฺจสุ กามคุเณสุ เอกกามมฺปิ นาเปกฺขเก จิตฺตํ. ‘‘อโห วตาหํ สุโภชนํ ภุฺชิตฺวา สุขเสยฺยํ สเยยฺย’’นฺติ อีทิเสนากาเรน มม จิตฺตํ น อุปฺปนฺนํ, ปสฺส, ตฺวํ มาร, สตฺตสฺส สุทฺธตนฺติ.

๔๓๙-๔๑. เอวํ อตฺตโน สุทฺธตํ ทสฺเสตฺวา ‘‘นิวาเรสฺสามิ ต’’นฺติ อาคตสฺส มารสฺส มโนรถภฺชนตฺถํ มารเสนํ กิตฺเตตฺวา ตาย อปราชิตภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กามา เต ปมา เสนา’’ติอาทิกา ฉ คาถาโย อาห.

ตตฺถ ยสฺมา อาทิโตว อคาริยภูเต สตฺเต วตฺถุกาเมสุ กิเลสกามา โมหยนฺติ, เต อภิภุยฺย อนคาริยภาวํ อุปคตานํ ปนฺเตสุ วา เสนาสเนสุ อฺตรฺตเรสุ วา อธิกุสเลสุ ธมฺเมสุ อรติ อุปฺปชฺชติ. วุตฺตฺเจตํ ‘‘ปพฺพชิเตน โข, อาวุโส, อภิรติ ทุกฺกรา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๓๑). ตโต เต ปรปฏิพทฺธชีวิกตฺตา ขุปฺปิปาสา พาเธติ, ตาย พาธิตานํ ปริเยสนตณฺหา จิตฺตํ กิลมยติ, อถ เนสํ กิลนฺตจิตฺตานํ ถินมิทฺธํ โอกฺกมติ. ตโต วิเสสมนธิคจฺฉนฺตานํ ทุรภิสมฺภเวสุ อรฺวนปตฺเถสุ เสนาสเนสุ วิหรตํ อุตฺราสสฺิตา ภีรุ ชายติ, เตสํ อุสฺสงฺกิตปริสงฺกิตานํ ทีฆรตฺตํ วิเวกรสมนสฺสาทยมานานํ วิหรตํ ‘‘น สิยา นุ โข เอส มคฺโค’’ติ ปฏิปตฺติยํ วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชติ, ตํ วิโนเทตฺวา วิหรตํ อปฺปมตฺตเกน วิเสสาธิคเมน มานมกฺขถมฺภา ชายนฺติ, เตปิ วิโนเทตฺวา วิหรตํ ตโต อธิกตรํ วิเสสาธิคมํ นิสฺสาย ลาภสกฺการสิโลกา อุปฺปชฺชนฺติ, ลาภาทิมุจฺฉิตา ธมฺมปติรูปกานิ ปกาเสนฺตา มิจฺฉายสํ อธิคนฺตฺวา ตตฺถ ิตา ชาติอาทีหิ อตฺตานํ อุกฺกํเสนฺติ, ปรํ วมฺเภนฺติ, ตสฺมา กามาทีนํ ปมเสนาทิภาโว เวทิตพฺโพ.

๔๔๒-๓. เอวเมตํ ทสวิธํ เสนํ อุทฺทิสิตฺวา ยสฺมา สา กณฺหธมฺมสมนฺนาคตตฺตา กณฺหสฺส นมุจิโน อุปการาย สํวตฺตติ, ตสฺมา นํ ตว เสนาติ นิทฺทิสนฺโต อาห – ‘‘เอสา นมุจิ เต เสนา, กณฺหสฺสาภิปฺปหารินี’’ติ. ตตฺถ อภิปฺปหารินีติ สมณพฺราหฺมณานํ ฆาตนี นิปฺโปถนี, อนฺตรายกรีติ อตฺโถ. น นํ อสูโร ชินาติ, เชตฺวา จ ลภเต สุขนฺติ เอวํ ตว เสนํ อสูโร กาเย จ ชีวิเต จ สาเปกฺโข ปุริโส น ชินาติ, สูโร ปน ชินาติ, เชตฺวา จ มคฺคสุขํ ผลสุขฺจ อธิคจฺฉติ. ยสฺมา จ ลภเต สุขํ, ตสฺมา สุขํ ปตฺถยมาโน อหมฺปิ เอส มุฺชํ ปริหเรติ. สงฺคามาวจรา อนิวตฺติโน ปุริสา อตฺตโน อนิวตฺตนกภาววิฺาปนตฺถํ สีเส วา ธเช วา อาวุเธ วา มุฺชติณํ พนฺธนฺติ, ตํ อยมฺปิ ปริหรติจฺเจว มํ ธาเรหิ. ตว เสนาย ปราชิตสฺส ธิรตฺถุ มม ชีวิตํ, ตสฺมา เอวํ ธาเรหิ – สงฺคาเม เม มตํ เสยฺโย, ยฺเจ ชีเว ปราชิโต, เยน ชีวิเตน ปราชิโต ชีเว, ตสฺมา ชีวิตา ตยา สมฺมาปฏิปนฺนานํ อนฺตรายกเรน สทฺธึ สงฺคาเม มตํ มม เสยฺโยติ อตฺโถ.

๔๔๔. กสฺมา มตํ เสยฺโยติ เจ? ยสฺมา ปคาฬฺเหตฺถ…เป… สุพฺพตา, เอตฺถ กามาทิกาย อตฺตุกฺกํสนปรวมฺภนปริโยสานาย ตว เสนาย ปคาฬฺหา นิมุคฺคา อนุปวิฏฺา เอเก สมณพฺราหฺมณา น ทิสฺสนฺติ, สีลาทีหิ คุเณหิ นปฺปกาสนฺติ, อนฺธการํ ปวิฏฺา วิย โหนฺติ. เอเต เอวํ ปคาฬฺหา สมานา สเจปิ กทาจิ อุมฺมุชฺชิตฺวา นิมุชฺชนปุริโส วิย ‘‘สาหุ สทฺธา’’ติอาทินา นเยน อุมฺมุชฺชนฺติ, ตถาปิ ตาย เสนาย อชฺโฌตฺถฏตฺตา ตฺจ มคฺคํ น ชานนฺติ เขมํ นิพฺพานคามีนํ, สพฺเพปิ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธาทโย เยน คจฺฉนฺติ สุพฺพตาติ. อิมํ ปน คาถํ สุตฺวา มาโร ปุน กิฺจิ อวตฺวา เอว ปกฺกามิ.

๔๔๕-๖. ปกฺกนฺเต ปน ตสฺมึ มหาสตฺโต ตาย ทุกฺกรการิกาย กิฺจิปิ วิเสสํ อนธิคจฺฉนฺโต อนุกฺกเมน ‘‘สิยา นุ โข อฺโ มคฺโค โพธายา’’ติอาทีนิ จินฺเตตฺวา โอฬาริกาหารํ อาหาเรตฺวา, พลํ คเหตฺวา, วิสาขปุณฺณมทิวเส ปเคว สุชาตาย ปายาสํ ปริภุฺชิตฺวา, ภทฺรวนสณฺเฑ ทิวาวิหารํ นิสีทิตฺวา, ตตฺถ อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตนฺโต ทิวสํ วีตินาเมตฺวา สายนฺหสมเย มหาโพธิมณฺฑาภิมุโข คนฺตฺวา โสตฺถิเยน ทินฺนา อฏฺ ติณมุฏฺิโย โพธิมูเล วิกิริตฺวา ทสสหสฺสโลกธาตุเทวตาหิ กตสกฺการพหุมาโน –

‘‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ จ, อฏฺิ จ อวสิสฺสตุ;

อุปสุสฺสตุ นิสฺเสสํ, สรีเร มํสโลหิต’’นฺติ. –

จตุรงฺควีริยํ อธิฏฺหิตฺวา ‘‘น ทานิ พุทฺธตฺตํ อปาปุณิตฺวา ปลฺลงฺกํ ภินฺทิสฺสามี’’ติ ปฏิฺํ กตฺวา อปราชิตปลฺลงฺเก นิสีทิ. ตํ ตฺวา มาโร ปาปิมา ‘‘อชฺช สิทฺธตฺโถ ปฏิฺํ กตฺวา นิสินฺโน, อชฺเชว ทานิสฺส สา ปฏิฺา ปฏิพาหิตพฺพา’’ติ โพธิมณฺฑโต ยาว จกฺกวาฬมายตํ ทฺวาทสโยชนวิตฺถารํ อุทฺธํ นวโยชนมุคฺคตํ มารเสนํ สมุฏฺาเปตฺวา ทิยฑฺฒโยชนสตปฺปมาณํ คิริเมขลํ หตฺถิราชานํ อารุยฺห พาหุสหสฺสํ มาเปตฺวา นานาวุธานิ คเหตฺวา ‘‘คณฺหถ, หนถ, ปหรถา’’ติ ภณนฺโต อาฬวกสุตฺเต วุตฺตปฺปการา วุฏฺิโย มาเปสิ, ตา มหาปุริสํ ปตฺวา ตตฺถ วุตฺตปฺปการา เอว สมฺปชฺชึสุ. ตโต วชิรงฺกุเสน หตฺถึ กุมฺเภ ปหริตฺวา มหาปุริสสฺส สมีปํ เนตฺวา ‘‘อุฏฺเหิ, โภ สิทฺธตฺถ, ปลฺลงฺกา’’ติ อาห. มหาปุริโส ‘‘น อุฏฺหามิ มารา’’ติ วตฺวา ตํ ธชินึ สมนฺตา วิโลเกนฺโต อิมา คาถาโย อภาสิ ‘‘สมนฺตา ธชินิ’’นฺติ.

ตตฺถ ธชินินฺติ เสนํ. ยุตฺตนฺติ อุยฺยุตฺตํ. สวาหนนฺติ คิริเมขลนาคราชสหิตํ. ปจฺจุคฺคจฺฉามีติ อภิมุโข อุปริ คมิสฺสามิ, โส จ โข เตเชเนว, น กาเยน. กสฺมา? มา มํ านา อจาวยิ, มํ เอตสฺมา านา อปราชิตปลฺลงฺกา มาโร มา จาเลสีติ วุตฺตํ โหติ. นปฺปสหตีติ สหิตุํ น สกฺโกติ, นาภิภวติ วา. อามํ ปตฺตนฺติ กาจชาตํ มตฺติกาภาชนํ. อสฺมนาติ ปาสาเณน. เสสเมตฺถ ปากฏเมว.

๔๔๗-๘. อิทานิ ‘‘เอตํ เต มารเสนํ ภินฺทิตฺวา ตโต ปรํ วิชิตสงฺคาโม สมฺปตฺตธมฺมราชาภิเสโก อิทํ กริสฺสามี’’ติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วสีกริตฺวา’’ติ. ตตฺถ วสีกริตฺวา สงฺกปฺปนฺติ มคฺคภาวนาย สพฺพํ มิจฺฉาสงฺกปฺปํ ปหาย สมฺมาสงฺกปฺปสฺเสว ปวตฺตเนน วสีกริตฺวา สงฺกปฺปํ. สติฺจ สูปติฏฺิตนฺติ กายาทีสุ จตูสุ าเนสุ อตฺตโน สติฺจ สุฏฺุ อุปฏฺิตํ กริตฺวา เอวํ วสีกตสงฺกปฺโป สุปฺปติฏฺิตสฺสติ รฏฺา รฏฺํ วิจริสฺสามิ เทวมนุสฺสเภเท ปุถู สาวเก วินยนฺโต. อถ มยา วินียมานา เต อปฺปมตฺตา…เป… น โสจเร, ตํ นิพฺพานามตเมวาติ อธิปฺปาโย.

๔๔๙-๕๑. อถ มาโร อิมา คาถาโย สุตฺวา อาห – ‘‘เอวรูปํ ปกฺขํ ทิสฺวา น ภายสิ ภิกฺขู’’ติ? ‘‘อาม, มาร, น ภายามี’’ติ. ‘‘กสฺมา น ภายสี’’ติ? ‘‘ทานาทีนํ ปารมิปุฺานํ กตตฺตา’’ติ. ‘‘โก เอตํ ชานาติ ทานาทีนิ ตฺวมกาสี’’ติ? ‘‘กึ เอตฺถ ปาปิม สกฺขิกิจฺเจน, อปิจ เอกสฺมึเยว ภเว เวสฺสนฺตโร หุตฺวา ยํ ทานมทาสึ, ตสฺสานุภาเวน สตฺตกฺขตฺตุํ ฉหิ ปกาเรหิ สฺชาตกมฺปา อยํ มหาปถวีเยว สกฺขี’’ติ. เอวํ วุตฺเต อุทกปริยนฺตํ กตฺวา มหาปถวี กมฺปิ เภรวสทฺทํ มุฺจมานา, ยํ สุตฺวา มาโร อสนิหโต วิย ภีโต ธชํ ปณาเมตฺวา ปลายิ สทฺธึ ปริสาย. อถ มหาปุริโส ตีหิ ยาเมหิ ติสฺโส วิชฺชา สจฺฉิกตฺวา อรุณุคฺคมเน ‘‘อเนกชาติสํสารํ…เป… ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา’’ติ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ. มาโร อุทานสทฺเทน อาคนฺตฺวา ‘‘อยํ‘พุทฺโธ อห’นฺติ ปฏิชานาติ, หนฺท นํ อนุพนฺธามิ อาภิสมาจาริกํ ปสฺสิตุํ. สจสฺส กิฺจิ กาเยน วา วาจาย วา ขลิตํ ภวิสฺสติ, วิเหเสฺสามิ น’’นฺติ ปุพฺเพ โพธิสตฺตภูมิยํ ฉพฺพสฺสานิ อนุพนฺธิตฺวา พุทฺธตฺตํ ปตฺตํ เอกํ วสฺสํ อนุพนฺธิ. ตโต ภควโต กิฺจิ ขลิตํ อปสฺสนฺโต ‘‘สตฺต วสฺสานี’’ติ อิมา นิพฺเพชนียคาถาโย อภาสิ.

ตตฺถ โอตารนฺติ รนฺธํ วิวรํ. นาธิคจฺฉิสฺสนฺติ นาธิคมึ. เมทวณฺณนฺติ เมทปิณฺฑสทิสํ. อนุปริยคาติ ปริโต ปริโต อคมาสิ. มุทุนฺติ มุทุกํ. วินฺเทมาติ อธิคจฺเฉยฺยาม. อสฺสาทนาติ สาทุภาโว. วายเสตฺโตติ วายโส เอตฺโต. เสสเมตฺถ ปากฏเมว.

อยํ ปน โยชนา – สตฺต วสฺสานิ ภควนฺตํ โอตาราเปกฺโข อนุพนฺธึ กตฺถจิ อวิชหนฺโต ปทาปทํ, เอวํ อนุพนฺธิตฺวาปิ จ โอตารํ นาธิคมึ. โสหํ ยถา นาม เมทวณฺณํ ปาสาณํ เมทสฺี วายโส เอกสฺมึ ปสฺเส มุขตุณฺฑเกน วิชฺฌิตฺวา อสฺสาทํ อวินฺทมาโน ‘‘อปฺเปว นาม เอตฺถ มุทุ วินฺเทม, อปิ อิโต อสฺสาทนา สิยา’’ติ สมนฺตา ตเถว วิชฺฌนฺโต อนุปริยายิตฺวา กตฺถจิ อสฺสาทํ อลทฺธา ‘‘ปาสาโณวาย’’นฺติ นิพฺพิชฺช ปกฺกเมยฺย, เอวเมวาหํ ภควนฺตํ กายกมฺมาทีสุ อตฺตโน ปริตฺตปฺามุขตุณฺฑเกน วิชฺฌนฺโต สมนฺตา อนุปริยคา ‘‘อปฺเปว นาม กตฺถจิ อปริสุทฺธกายสมาจาราทิมุทุภาวํ วินฺเทม, กุโตจิ อสฺสาทนา สิยา’’ติ, เต ทานิ มยํ อสฺสาทํ อลภมานา กาโกว เสลมาสชฺช นิพฺพิชฺชาเปม โคตมํ อาสชฺช ตโต โคตมา นิพฺพิชฺช อเปมาติ. เอวํ วทโต กิร มารสฺส สตฺต วสฺสานิ นิปฺผลปริสฺสมํ นิสฺสาย พลวโสโก อุทปาทิ. เตนสฺส วิสีทมานงฺคปจฺจงฺคสฺส เพลุวปณฺฑุ นาม วีณา กจฺฉโต ปติตา. ยา สกึ กุสเลหิ วาทิตา จตฺตาโร มาเส มธุรสฺสรํ มุฺจติ, ยํ คเหตฺวา สกฺโก ปฺจสิขสฺส อทาสิ. ตํ โส ปตมานมฺปิ น พุชฺฌิ. เตนาห ภควา –

๔๕๒.

‘‘ตสฺส โสกปเรตสฺส, วีณา กจฺฉา อภสฺสถ;

ตโต โส ทุมฺมโน ยกฺโข, ตตฺเถวนฺตรธายถา’’ติ.

สงฺคีติการกา อาหํสูติ เอเก, อมฺหากํ ปเนตํ นกฺขมตีติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย ปธานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สุภาสิตสุตฺตวณฺณนา

เอวํเม สุตนฺติ สุภาสิตสุตฺตํ. อตฺตชฺฌาสยโต จสฺส อุปฺปตฺติ. ภควา หิ สุภาสิตปฺปิโย, โส อตฺตโน สุภาสิตสมุทาจารปฺปกาสเนน สตฺตานํ ทุพฺภาสิตสมุทาจารํ ปฏิเสเธนฺโต อิมํ สุตฺตมภาสิ. ตตฺถ เอวํ เม สุตนฺติอาทิ สงฺคีติการวจนํ. ตตฺถ ตตฺร โข ภควา…เป… ภทนฺเตติ เต ภิกฺขูติ เอตํ อปุพฺพํ, เสสํ วุตฺตนยเมว. ตสฺมา อปุพฺพปทวณฺณนตฺถมิทํ วุจฺจติ – ตตฺราติ เทสกาลปริทีปนํ. ตฺหิ ยํ สมยํ วิหรติ, ตตฺร สมเย, ยสฺมิฺจ อาราเม วิหรติ, ตตฺร อาราเมติ ทีเปติ. ภาสิตพฺพยุตฺเต วา เทสกาเล ทีเปติ. น หิ ภควา อยุตฺเต เทเส กาเล วา ธมฺมํ ภาสติ. ‘‘อกาโล โข, ตาว, พาหิยา’’ติอาทิ (อุทา. ๑๐) เจตฺถ สาธกํ. โขติ ปทปูรณมตฺเต อวธารณาทิกาลตฺเถ วา นิปาโต. ภควาติ โลกครุปริทีปนํ. ภิกฺขูติ กถาสวนยุตฺตปุคฺคลปริทีปนํ. อามนฺเตสีติ อาลปิ อภาสิ สมฺโพเธสิ.

ภิกฺขโวติ อามนฺตนาการปริทีปนํ. ตฺจ ภิกฺขนสีลตาทิคุณโยคสิทฺธตฺตา วุตฺตํ. เตน เนสํ หีนาธิกชนเสวิตํ วุตฺตึ ปกาเสนฺโต อุทฺธตทีนภาวนิคฺคหํ กโรติ. ‘‘ภิกฺขโว’’ติ อิมินา จ กรุณาวิปฺผารโสมฺมหทยนยนนิปาตปุพฺพงฺคเมน วจเนน เต อตฺตโน มุขาภิมุเข กริตฺวา เตเนว กเถตุกมฺยตาทีปเกน วจเนน เตสํ โสตุกมฺยตํ ชเนติ, เตเนว จ สมฺโพธนตฺเถน วจเนน สาธุกสวนมนสิกาเรปิ เต นิโยเชติ. สาธุกสวนมนสิการายตฺตา หิ สาสนสมฺปตฺติ. อปเรสุปิ เทวมนุสฺเสสุ วิชฺชมาเนสุ กสฺมา ภิกฺขู เอว อามนฺเตสีติ เจ? เชฏฺเสฏฺาสนฺนสทาสนฺนิหิตภาวโต. สพฺพปริสสาธารณา หิ อยํ ธมฺมเทสนา, น ปาฏิปุคฺคลิกา. ปริสาย จ เชฏฺา ภิกฺขู ปมุปฺปนฺนตฺตา, เสฏฺา อนคาริยภาวํ อาทึ กตฺวา สตฺถุ จริยานุวิธายกตฺตา สกลสาสนปฏิคฺคาหกตฺตา จ. อาสนฺนา ตตฺถ นิสินฺเนสุ สตฺถุ สนฺติกตฺตา, สทา สนฺนิหิตา สตฺถุ สนฺติกาวจรตฺตา. เตน ภควา สพฺพปริสสาธารณํ ธมฺมํ เทเสนฺโต ภิกฺขู เอว อามนฺเตสิ. อปิจ ภาชนํ เต อิมาย กถาย ยถานุสิฏฺํ ปฏิปตฺติสพฺภาวโตติปิ เต เอว อามนฺเตสิ. ภทนฺเตติ คารวาธิวจนเมตํ. เต ภิกฺขูติ เย ภควา อามนฺเตสิ, เต เอวํ ภควนฺตํ อาลปนฺตา ภควโต ปจฺจสฺโสสุนฺติ.

จตูหิองฺเคหีติ จตูหิ การเณหิ อวยเวหิ วา. มุสาวาทาเวรมณิอาทีนิ หิ จตฺตาริ สุภาสิตวาจาย การณานิ. สจฺจวจนาทโย จตฺตาโร อวยวา, การณตฺเถ จ องฺคสทฺโท. จตูหีติ นิสฺสกฺกวจนํ โหติ, อวยวตฺเถ กรณวจนํ. สมนฺนาคตาติ สมนุอาคตา ปวตฺตา ยุตฺตา จ. วาจาติ สมุลฺลปนวาจา. ยา สา ‘‘วาจา คิรา พฺยปฺปโถ’’ติ (ธ. ส. ๖๓๖) จ, ‘‘เนลา กณฺณสุขา’’ติ (ที. นิ. ๑.๙; ม. นิ. ๓.๑๔) จ เอวมาทีสุ อาคจฺฉติ. ยา ปน ‘‘วาจาย เจ กตํ กมฺม’’นฺติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑ กายกมฺมทฺวาร) เอวํ วิฺตฺติ จ, ‘‘ยา จตูหิ วจีทุจฺจริเตหิ อารติ วิรติ…เป… อยํ วุจฺจติ สมฺมาวาจา’’ติ (ธ. ส. ๒๙๙; วิภ. ๒๐๖) เอวํ วิรติ จ, ‘‘ผรุสวาจา, ภิกฺขเว, อาเสวิตา ภาวิตา พหุลีกตา นิรยสํวตฺตนิกา โหตี’’ติ (อ. นิ. ๘.๔๐) เอวํ เจตนา จ วาจาติ อาคจฺฉติ, สา อิธ น อธิปฺเปตา. กสฺมา? อภาสิตพฺพโต. สุภาสิตา โหตีติ สุฏฺุ ภาสิตา โหติ. เตนสฺสา อตฺถาวหนตํ ทีเปติ. น ทุพฺภาสิตาติ น ทุฏฺุ ภาสิตา. เตนสฺสา อนตฺถานาวหนตํ ทีเปติ. อนวชฺชาติ วชฺชสงฺขาตราคาทิโทสวิรหิตา. เตนสฺสา การณสุทฺธึ วุตฺตโทสาภาวฺจ ทีเปติ. อนนุวชฺชา จาติ อนุวาทวิมุตฺตา. เตนสฺสา สพฺพาการสมฺปตฺตึ ทีเปติ. วิฺูนนฺติ ปณฺฑิตานํ. เตน นินฺทาปสํสาสุ พาลา อปฺปมาณาติ ทีเปติ.

กตเมหิ จตูหีติ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. ภิกฺขเวติ เยสํ กเถตุกาโม, ตทาลปนํ. ภิกฺขูติ วุตฺตปฺปการวาจาภาสนกปุคฺคลนิทสฺสนํ. สุภาสิตํเยว ภาสตีติ ปุคฺคลาธิฏฺานาย เทสนาย จตูสุ วาจงฺเคสุ อฺตรงฺคนิทฺเทสวจนํ. โน ทุพฺภาสิตนฺติ ตสฺเสว วาจงฺคสฺส ปฏิปกฺขภาสนนิวารณํ. เตน ‘‘มุสาวาทาทโยปิ กทาจิ วตฺตพฺพา’’ติ ทิฏฺึ นิเสเธติ. ‘‘โน ทุพฺภาสิต’’นฺติ อิมินา วา มิจฺฉาวาจปฺปหานํ ทีเปติ, ‘‘สุภาสิต’’นฺติ อิมินา ปหีนมิจฺฉาวาเจน สตา ภาสิตพฺพวจนลกฺขณํ. ตถา ปาปสฺส อกรณํ, กุสลสฺส อุปสมฺปทํ . องฺคปริทีปนตฺถํ ปน อภาสิตพฺพํ ปุพฺเพ อวตฺวา ภาสิตพฺพเมวาห. เอส นโย ธมฺมํเยวาติอาทีสุปิ.

เอตฺถ จ ‘‘สุภาสิตํเยว ภาสติ โน ทุพฺภาสิต’’นฺติ อิมินา ปิสุณโทสรหิตํ สมคฺคกรณวจนํ วุตฺตํ, ‘‘ธมฺมํเยว ภาสติ โน อธมฺม’’นฺติ อิมินา สมฺผโทสรหิตํ ธมฺมโต อนเปตํ มนฺตาวจนํ วุตฺตํ, อิตเรหิ ทฺวีหิ ผรุสาลิกรหิตานิ ปิยสจฺจวจนานิ วุตฺตานิ. อิเมหิ โขติอาทินา ปน ตานิ องฺคานิ ปจฺจกฺขโต ทสฺเสนฺโต ตํ วาจํ นิคเมติ. วิเสสโต เจตฺถ ‘‘อิเมหิ โข, ภิกฺขเว , จตูหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตา วาจา สุภาสิตา โหตี’’ติ ภณนฺโต ยทฺเ ปฏิฺาทีหิ อวยเวหิ นามาทีหิ ปเทหิ ลิงฺควจนวิภตฺติกาลการกาทีหิ สมฺปตฺตีหิ จ สมนฺนาคตํ วาจํ ‘‘สุภาสิต’’นฺติ มฺนฺติ, ตํ ธมฺมโต ปฏิเสเธติ. อวยวาทิสมฺปนฺนาปิ หิ เปสุฺาทิสมนฺนาคตา วาจา ทุพฺภาสิตาว โหติ อตฺตโน ปเรสฺจ อนตฺถาวหตฺตา. อิเมหิ ปน จตูหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตา สเจปิ มิลกฺขุภาสาปริยาปนฺนา ฆฏเจฏิกาคีติกปริยาปนฺนา วา โหติ, ตถาปิ สุภาสิตา เอว โลกิยโลกุตฺตรหิตสุขาวหตฺตา. สีหฬทีเป มคฺคปสฺเส สสฺสํ รกฺขนฺติยา สีหฬเจฏิกาย สีหฬเกเนว ชาติชรามรณปฏิสํยุตฺตํ คีตํ คายนฺติยา สุตฺวา มคฺคํ คจฺฉนฺตา สฏฺิมตฺตา วิปสฺสกภิกฺขู เจตฺถ อรหตฺตํ ปตฺตา นิทสฺสนํ. ตถา ติสฺโส นาม อารทฺธวิปสฺสโก ภิกฺขุ ปทุมสรสมีเปน คจฺฉนฺโต ปทุมสเร ปทุมานิ ภฺชิตฺวา ภฺชิตฺวา –

‘‘ปาโต ผุลฺลํ โกกนทํ, สูริยาโลเกน ภชฺชิยเต;

เอวํ มนุสฺสตฺตคตา สตฺตา, ชราภิเวเคน มทฺทียนฺตี’’ติ. –

อิมํ คีตํ คายนฺติยา เจฏิกาย สุตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต, พุทฺธนฺตเร จ อฺตโร ปุริโส สตฺตหิ ปุตฺเตหิ สทฺธึ วนา อาคมฺม อฺตราย อิตฺถิยา มุสเลน ตณฺฑุเล โกฏฺเฏนฺติยา –

‘‘ชราย ปริมทฺทิตํ เอตํ, มิลาตฉวิจมฺมนิสฺสิตํ;

มรเณน ภิชฺชติ เอตํ, มจฺจุสฺส ฆสมามิสํ.

‘‘กิมีนํ อาลยํ เอตํ, นานากุณเปน ปูริตํ;

อสุจิสฺส ภาชนํ เอตํ, กทลิกฺขนฺธสมํ อิท’’นฺติ. –

อิมํ คีติกํ สุตฺวา สห ปุตฺเตหิ ปจฺเจกโพธึ ปตฺโต, อฺเ จ อีทิเสหิ อุปาเยหิ อริยภูมึ ปตฺตา นิทสฺสนํ. อนจฺฉริยํ ปเนตํ, ยํ ภควตา อาสยานุสยกุสเลน ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติอาทินา นเยน วุตฺตา คาถาโย สุตฺวา ปฺจสตา ภิกฺขู อรหตฺตํ ปาปุณึสุ, อฺเ จ ขนฺธายตนาทิปฏิสํยุตฺตา กถา สุตฺวา อเนเก เทวมนุสฺสาติ. เอวํ อิเมหิ จตูหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตา วาจา สเจปิ มิลกฺขุภาสาปริยาปนฺนา, ฆฏเจฏิกาคีติกปริยาปนฺนา วา โหติ, ตถาปิ ‘‘สุภาสิตา’’ติ เวทิตพฺพา. สุภาสิตตฺตา เอว จ อนวชฺชา จ อนนุวชฺชา จ วิฺูนํ อตฺถตฺถิกานํ กุลปุตฺตานํ อตฺถปฏิสรณานํ, โน พฺยฺชนปฏิสรณานนฺติ.

อิทมโวจภควาติ อิทํ สุภาสิตลกฺขณํ ภควา อโวจ. อิทํ วตฺวาน สุคโต, อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถาติ อิทฺจ ลกฺขณํ วตฺวา อถ อฺมฺปิ เอตํ อโวจ สตฺถา. อิทานิ วตฺตพฺพคาถํ ทสฺเสตฺวา สพฺพเมตํ สงฺคีติการกา อาหํสุ. ตตฺถ อปรนฺติ คาถาพนฺธวจนํ สนฺธาย วุจฺจติ. ตํ ทุวิธํ โหติ – ปจฺฉา อาคตปริสํ อสฺสวนสุสฺสวนอาธารณทฬฺหีกรณาทีนิ วา สนฺธาย ตทตฺถทีปกเมว จ. ปุพฺเพ เกนจิ การเณน ปริหาปิตสฺส อตฺถสฺส ทีปเนน อตฺถวิเสสทีปกฺจ ‘‘ปุริสสฺส หิ ชาตสฺส, กุารี ชายเต มุเข’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๖๖๒) วิย. อิธ ปน ตทตฺถทีปกเมว.

๔๕๓. ตตฺถ สนฺโตติ พุทฺธาทโย. เต หิ สุภาสิตํ ‘‘อุตฺตมํ เสฏฺ’’นฺติ วณฺณยนฺติ. ทุติยํ ตติยํ จตุตฺถนฺติ อิทํ ปน ปุพฺเพ นิทฺทิฏฺกฺกมํ อุปาทาย วุตฺตํ. คาถาปริโยสาเน ปน วงฺคีสตฺเถโร ภควโต สุภาสิเต ปสีทิ.

โส ยํ ปสนฺนาการํ อกาสิ, ยฺจ วจนํ ภควา อภาสิ, ตํ ทสฺเสนฺตา สงฺคีติการกา ‘‘อถ โข อายสฺมา’’ติอาทิมาหํสุ. ตตฺถ ปฏิภาติ มนฺติ มม ภาโค ปกาสติ . ปฏิภาตุ ตนฺติ ตว ภาโค ปกาสตุ. สารุปฺปาหีติ อนุจฺฉวิกาหิ. อภิตฺถวีติ ปสํสิ.

๔๕๔. น ตาปเยติ วิปฺปฏิสาเรน น ตาเปยฺย. น วิหึเสยฺยาติ อฺมฺํ ภินฺทนฺโต น พาเธยฺย. สา เว วาจาติ สา วาจา เอกํเสเนว สุภาสิตา. เอตฺตาวตา อปิสุณวาจาย ภควนฺตํ โถเมติ.

๔๕๕. ปฏินนฺทิตาติ หฏฺเน หทเยน ปฏิมุขํ คนฺตฺวา นนฺทิตา สมฺปิยายิตา. ยํ อนาทาย ปาปานิ, ปเรสํ ภาสเต ปิยนฺติ ยํ วาจํ ภาสนฺโต ปเรสํ ปาปานิ อปฺปิยานิ ปฏิกฺกูลานิ ผรุสวจนานิ อนาทาย อตฺถพฺยฺชนมธุรํ ปิยเมว วจนํ ภาสติ, ตํ ปิยวาจเมว ภาเสยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. อิมาย คาถาย ปิยวจเนน ภควนฺตํ อภิตฺถวิ.

๔๕๖. อมตาติ อมตสทิสา สาทุภาเวน. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘สจฺจํ หเว สาทุตรํ รสาน’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๗๓; สุ. นิ. ๑๘๔). นิพฺพานามตปจฺจยตฺตา วา อมตา. เอส ธมฺโม สนนฺตโนติ ยายํ สจฺจวาจา นาม, เอส โปราโณ ธมฺโม จริยา ปเวณี, อิทเมว หิ โปราณานํ อาจิณฺณํ, น เต อลิกํ ภาสึสุ. เตเนวาห – ‘‘สจฺเจ อตฺเถ จ ธมฺเม จ, อหุ สนฺโต ปติฏฺิตา’’ติ. ตตฺถ สจฺเจ ปติฏฺิตตฺตา เอว อตฺตโน จ ปเรสฺจ อตฺเถ ปติฏฺิตา. อตฺเถ ปติฏฺิตตฺตา เอว จ ธมฺเม ปติฏฺิตา โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. ปรํ วา ทฺวยํ สจฺจวิเสสนมิจฺเจว เวทิตพฺพํ. สจฺเจ ปติฏฺิตา. กีทิเส? อตฺเถ จ ธมฺเม จ, ยํ ปเรสํ อตฺถโต อนเปตตฺตา อตฺถํ อนุปโรธํ กโรตีติ วุตฺตํ โหติ. สติปิ จ อนุปโรธกรตฺเต ธมฺมโต อนเปตตฺตา ธมฺมํ, ยํ ธมฺมิกเมว อตฺถํ สาเธตีติ วุตฺตํ โหติ. อิมาย คาถาย สจฺจวจเนน ภควนฺตํ อภิตฺถวิ.

๔๕๗. เขมนฺติ อภยํ นิรุปทฺทวํ. เกน การเณนาติ เจ? นิพฺพานปฺปตฺติยา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยาย, ยสฺมา กิเลสนิพฺพานํ ปาเปติ, วฏฺฏทุกฺขสฺส จ อนฺตกิริยาย สํวตฺตตีติ อตฺโถ. อถ วา ยํ พุทฺโธ นิพฺพานปฺปตฺติยา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยายาติ ทฺวินฺนํ นิพฺพานธาตูนมตฺถาย เขมมคฺคปฺปกาสนโต เขมํ วาจํ ภาสติ, สา เว วาจานมุตฺตมาติ สา วาจา สพฺพวาจานํ เสฏฺาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมาย คาถาย มนฺตาวจเนน ภควนฺตํ อภิตฺถวนฺโต อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสีติ อยเมตฺถ อปุพฺพปทวณฺณนา. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย สุภาสิตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปูรฬาสสุตฺต-(สุนฺทริกภารทฺวาชสุตฺต)-วณฺณนา

เอวํเม สุตนฺติ ปูรฬาสสุตฺตํ. กา อุปฺปตฺติ? ภควา ปจฺฉาภตฺตกิจฺจาวสาเน พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต สุนฺทริกภารทฺวาชพฺราหฺมณํ อรหตฺตสฺส อุปนิสฺสยสมฺปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘ตตฺถ มยิ คเต กถา ปวตฺติสฺสติ, ตโต กถาวสาเน ธมฺมเทสนํ สุตฺวา เอส พฺราหฺมโณ ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสตี’’ติ จ ตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา กถํ สมุฏฺาเปตฺวา อิมํ สุตฺตมภาสิ.

ตตฺถ เอวํ เม สุตนฺติอาทิ สงฺคีติการกานํ วจนํ. กึชจฺโจ ภวนฺติอาทิ ตสฺส พฺราหฺมณสฺส, น พฺราหฺมโณ โนมฺหีติอาทิ ภควโต. ตํ สพฺพมฺปิ สโมธาเนตฺวา ‘‘ปูรฬาสสุตฺต’’นฺติ วุจฺจติ. ตตฺถ วุตฺตสทิสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ, อวุตฺตํ วณฺณยิสฺสาม, ตฺจ โข อุตฺตานตฺถานิ ปทานิ อนามสนฺตา. โกสเลสูติ โกสลา นาม ชานปทิโน ราชกุมารา. เตสํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รุฬฺหิสทฺเทน ‘‘โกสลา’’ติ วุจฺจติ. ตสฺมึ โกสเลสุ ชนปเท. เกจิ ปน ‘‘ยสฺมา ปุพฺเพ มหาปนาทํ ราชกุมารํ นานานาฏกาทีนิ ทิสฺวา สิตมตฺตมฺปิ อกโรนฺตํ สุตฺวา ราชา อาณาเปสิ ‘โย มม ปุตฺตํ หสาเปติ, สพฺพาภรเณหิ นํ อลงฺกโรมี’ติ. ตโต นงฺคลานิ ฉฑฺเฑตฺวา มหาชนกาโย สนฺนิปติ. เต จ มนุสฺสา อติเรกสตฺตวสฺสานิ นานากีฬิกาทโย ทสฺเสนฺตาปิ ตํ นาสกฺขึสุ หสาเปตุํ. ตโต สกฺโก เทวนฏํ เปเสสิ, โส ทิพฺพนาฏกํ ทสฺเสตฺวา หสาเปสิ. อถ เต มนุสฺสา อตฺตโน อตฺตโน วสโนกาสาภิมุขา ปกฺกมึสุ. เต ปฏิปเถ มิตฺตสุหชฺชาทโย ทิสฺวา ปฏิสนฺถารมกํสุ ‘กจฺจิ โภ กุสลํ, กจฺจิ โภ กุสล’นฺติ . ตสฺมา ตํ ‘กุสล’นฺติ สทฺทํ อุปาทาย โส ปเทโส ‘โกสโล’ติ วุจฺจตี’’ติ วณฺณยนฺติ. สุนฺทริกาย นทิยา ตีเรติ สุนฺทริกาติ เอวํนามิกาย นทิยา ตีเร.

เตน โข ปนาติ เยน สมเยน ภควา ตํ พฺราหฺมณํ วิเนตุกาโม คนฺตฺวา ตสฺสา นทิยา ตีเร สสีสํ ปารุปิตฺวา รุกฺขมูเล นิสชฺชาสงฺขาเตน อิริยาปถวิหาเรน วิหรติ. สุนฺทริกภารทฺวาโชติ โส พฺราหฺมโณ ตสฺสา นทิยา ตีเร วสติ อคฺคิฺจ ชุหติ, ภารทฺวาโชติ จสฺส โคตฺตํ, ตสฺมา เอวํ วุจฺจติ. อคฺคึ ชุหตีติ อาหุติปกฺขิปเนน ชาเลติ. อคฺคิหุตฺตํ ปริจรตีติ อคฺยายตนํ สมฺมชฺชนูปเลปนพลิกมฺมาทินา ปยิรุปาสติ. โก นุ โข อิมํ หพฺยเสสํ ภุฺเชยฺยาติ โส กิร พฺราหฺมโณ อคฺคิมฺหิ ชุหิตฺวา อวเสสํ ปายาสํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อคฺคิมฺหิ ตาว ปกฺขิตฺตปายาโส มหาพฺรหฺมุนา ภุตฺโต, อยํ ปน อวเสโส อตฺถิ. ตํ ยทิ พฺรหฺมุโน มุขโต ชาตสฺส พฺราหฺมณสฺเสว ทเทยฺยํ, เอวํ เม ปิตรา สห ปุตฺโตปิ สนฺตปฺปิโต ภเวยฺย, สุวิโสธิโต จ พฺรหฺมโลกคามิมคฺโค อสฺส, หนฺทาหํ พฺราหฺมณํ คเวสามี’’ติ. ตโต พฺราหฺมณทสฺสนตฺถํ อุฏฺายาสนา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกสิ – ‘‘โก นุ โข อิมํ หพฺยเสสํ ภุฺเชยฺยา’’ติ.

อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเลติ ตสฺมึ วนสณฺเฑ เสฏฺรุกฺขมูเล. สสีสํ ปารุตนฺติ สห สีเสน ปารุตกายํ. กสฺมา ปน ภควา เอวมกาสิ, กึ นารายนสงฺขาตพโลปิ หุตฺวา นาสกฺขิ หิมปาตํ สีตวาตฺจ ปฏิพาหิตุนฺติ? อตฺเถตํ การณํ. น หิ พุทฺธา สพฺพโส กายปฏิชคฺคนํ กโรนฺติ เอว, อปิจ ภควา ‘‘อาคเต พฺราหฺมเณ สีสํ วิวริสฺสามิ, มํ ทิสฺวา พฺราหฺมโณ กถํ ปวตฺเตสฺสติ, อถสฺส กถานุสาเรน ธมฺมํ เทเสสฺสามี’’ติ กถาปวตฺตนตฺถํ เอวมกาสิ. ทิสฺวาน วาเมน…เป… เตนุปสงฺกมีติ โส กิร ภควนฺตํ ทิสฺวา พฺราหฺมโณ ‘‘อยํ สสีสํ ปารุปิตฺวา สพฺพรตฺตึ ปธานมนุยุตฺโต, อิมสฺส ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา อิมํ หพฺยเสสํ ทสฺสามี’’ติ พฺราหฺมณสฺี หุตฺวา เอว อุปสงฺกมิ. มุณฺโฑ อยํ ภวํ, มุณฺฑโก อยํ ภวนฺติ สีเส วิวริตมตฺเตว เกสนฺตํ ทิสฺวา ‘‘มุณฺโฑ’’ติ อาห. ตโต สุฏฺุตรํ โอโลเกนฺโต ปริตฺตมฺปิ สิขํ อทิสฺวา หีเฬนฺโต ‘‘มุณฺฑโก’’ติ อาห. เอวรูปา หิ เนสํ พฺราหฺมณานํ ทิฏฺิ. ตโต วาติ ยตฺถ ิโต อทฺทส, ตมฺหา ปเทสา มุณฺฑาปีติ เกนจิ การเณน มุณฺฑิตสีสาปิ โหนฺติ.

๔๕๘. น พฺราหฺมโณ โนมฺหีติ เอตฺถ กาโร ปฏิเสเธ, โนกาโร อวธารเณ ‘‘น โน สม’’นฺติอาทีสุ (ขุ. ปา. ๖.๓; สุ. นิ. ๒๒๖) วิย. เตน เนวมฺหิ พฺราหฺมโณติ ทสฺเสติ. น ราชปุตฺโตติ ขตฺติโย นมฺหิ. น เวสฺสายโนติ เวสฺโสปิ นมฺหิ. อุทโกจิ โนมฺหีติ อฺโปิ สุทฺโท วา จณฺฑาโล วา โกจิ น โหมีติ เอวํ เอกํเสเนว ชาติวาทสมุทาจารํ ปฏิกฺขิปติ. กสฺมา? มหาสมุทฺทํ ปตฺตา วิย หิ นทิโย ปพฺพชฺชูปคตา กุลปุตฺตา ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ. ปหาราทสุตฺตฺเจตฺถ (อ. นิ. ๘.๑๙) สาธกํ. เอวํ ชาติวาทํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ยถาภูตมตฺตานํ อาวิกโรนฺโต อาห – ‘‘โคตฺตํ ปริฺาย ปุถุชฺชนานํ, อกิฺจโน มนฺต จรามิ โลเก’’ติ. กถํ โคตฺตํ ปริฺาสีติ เจ? ภควา หิ ตีหิ ปริฺาหิ ปฺจกฺขนฺเธ ปริฺาสิ, เตสุ จ ปริฺาเตสุ โคตฺตํ ปริฺาตเมว โหติ. ราคาทิกิฺจนานํ ปน อภาเวน โส อกิฺจโน มนฺตา ชานิตฺวา าณานุปริวตฺตีหิ กายกมฺมาทีหิ จรติ. เตนาห – ‘‘โคตฺตํ…เป… โลเก’’ติ. มนฺตา วุจฺจติ ปฺา, ตาย เจส จรติ. เตเนวาห – ‘‘มนฺตํ จรามิ โลเก’’ติ ฉนฺทวเสน รสฺสํ กตฺวา.

๔๕๙-๖๐. เอวํ อตฺตานํ อาวิกตฺวา อิทานิ ‘‘เอวํ โอฬาริกํ ลิงฺคมฺปิ ทิสฺวา ปุจฺฉิตพฺพาปุจฺฉิตพฺพํ น ชานาสี’’ติ พฺราหฺมณสฺส อุปารมฺภํ อาโรเปนฺโต อาห – ‘‘สงฺฆาฏิวาสี…เป… โคตฺตปฺห’’นฺติ. เอตฺถ จ ฉินฺนสงฺฆฏิตฏฺเน ตีณิปิ จีวรานิ ‘‘สงฺฆาฏี’’ติ อธิปฺเปตานิ, ตานิ นิวาเสติ ปริทหตีติ สงฺฆาฏิวาสี. อคโหติ อเคโห, นิตฺตณฺโหติ อธิปฺปาโย. นิวาสาคารํ ปน ภควโต เชตวเน มหาคนฺธกุฏิกเรริมณฺฑลมาฬโกสมฺพกุฏิจนฺทนมาลาทิอเนกปฺปการํ, ตํ สนฺธาย น ยุชฺชติ. นิวุตฺตเกโสติ อปนีตเกโส, โอหาริตเกสมสฺสูติ วุตฺตํ โหติ. อภินิพฺพุตตฺโตติ อตีว วูปสนฺตปริฬาหจิตฺโต, คุตฺตจิตฺโต วา. อลิปฺปมาโน อิธ มาณเวหีติ อุปกรณสิเนหสฺส ปหีนตฺตา มนุสฺเสหิ อลิตฺโต อสํสฏฺโ เอกนฺตวิวิตฺโต. อกลฺลํ มํ พฺราหฺมณาติ ยฺวาหํ เอวํ สงฺฆาฏิวาสี…เป… อลิปฺปมาโน อิธ มาณเวหิ, ตํ มํ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, ปากติกานิ นามโคตฺตานิ อตีตํ ปพฺพชิตํ สมานํ อปฺปติรูปํ โคตฺตปฺหํ ปุจฺฉสีติ.

เอวํ วุตฺเต อุปารมฺภํ โมเจนฺโต พฺราหฺมโณ อาห – ปุจฺฉนฺติ เว, โภ พฺราหฺมณา, พฺราหฺมเณภิ สห ‘‘พฺราหฺมโณ โน ภว’’นฺติ. ตตฺถ พฺราหฺมโณ โนติ พฺราหฺมโณ นูติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – นาหํ โภ อกลฺลํ ปุจฺฉามิ. อมฺหากฺหิ พฺราหฺมณสมเย พฺราหฺมณา พฺราหฺมเณหิ สห สมาคนฺตฺวา ‘‘พฺราหฺมโณ นุ ภวํ, ภารทฺวาโช นุ ภว’’นฺติ เอวํ ชาติมฺปิ โคตฺตมฺปิ ปุจฺฉนฺติ เอวาติ.

๔๖๑-๒. เอวํ วุตฺเต ภควา พฺราหฺมณสฺส จิตฺตมุทุภาวกรณตฺถํ มนฺเตสุ อตฺตโน ปกตฺุตํ ปกาเสนฺโต อาห – ‘‘พฺราหฺมโณ หิ เจ ตฺวํ พฺรูสิ…เป… จตุวีสตกฺขร’’นฺติ. ตสฺสตฺโถ – สเจ ตฺวํ ‘‘พฺราหฺมโณ อหํ’’ติ พฺรูสิ, มฺจ อพฺราหฺมณํ พฺรูสิ, ตสฺมา ภวนฺตํ สาวิตฺตึ ปุจฺฉามิ ติปทํ จตุวีสตกฺขรํ, ตํ เม พฺรูหีติ. เอตฺถ จ ภควา ปรมตฺถเวทานํ ติณฺณํ ปิฏกานํ อาทิภูตํ ปรมตฺถพฺราหฺมเณหิ สพฺพพุทฺเธหิ ปกาสิตํ อตฺถสมฺปนฺนํ พฺยฺชนสมฺปนฺนฺจ ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ, ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ, สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ อิมํ อริยสาวิตฺตึ สนฺธาย ปุจฺฉติ. ยทิปิ หิ พฺราหฺมโณ อฺํ วเทยฺย, อทฺธา นํ ภควา ‘‘นายํ, พฺราหฺมณ, อริยสฺส วินเย สาวิตฺตีติ วุจฺจตี’’ติ ตสฺส อสารกตฺตํ ทสฺเสตฺวา อิเธว ปติฏฺาเปยฺย. พฺราหฺมโณ ปน ‘‘สาวิตฺตึ ปุจฺฉามิ ติปทํ จตุวีสตกฺขร’’นฺติ อิทํ อตฺตโน สมยสิทฺธํ สาวิตฺติลกฺขณพฺยฺชนกํ พฺรหฺมสฺสเรน นิจฺฉาริตวจนํ สุตฺวาว ‘‘อทฺธายํ สมโณ พฺราหฺมณสมเย นิฏฺํ คโต, อหํ ปน อฺาเณน ‘อพฺราหฺมโณ อย’นฺติ ปริภวึ, สาธุรูโป มนฺตปารคู พฺราหฺมโณว เอโส’’ติ นิฏฺํ คนฺตฺวา ‘‘หนฺท นํ ยฺวิธึ ทกฺขิเณยฺยวิธิฺจ ปุจฺฉามี’’ติ ตมตฺถํ ปุจฺฉนฺโต ‘‘กึนิสฺสิตา…เป… โลเก’’ติ อิมํ วิสมคาถาปทตฺตยมาห. ตสฺสตฺโถ – กึนิสฺสิตา กิมธิปฺปายา กึ ปตฺเถนฺตา อิสโย จ ขตฺติยา จ พฺราหฺมณา จ อฺเ จ มนุชา เทวตานํ อตฺถาย ยฺํ อกปฺปยึสุ. ยฺมกปฺปยึสูติ มกาโร ปทสนฺธิกโร. อกปฺปยึสูติ สํวิทหึสุ อกํสุ. ปุถูติ พหู อนฺนปานทานาทินา เภเทน อเนกปฺปกาเร ปุถู วา อิสโย มนุชา ขตฺติยา พฺราหฺมณา จ กึนิสฺสิตา ยฺมกปฺปยึสุ. กถํ เนสํ ตํ กมฺมํ สมิชฺฌตีติ อิมินาธิปฺปาเยน ปุจฺฉติ.

๔๖๓. อถสฺส ภควา ตมตฺถํ พฺยากโรนฺโต ‘‘ยทนฺตคู เวทคู ยฺกาเล. ยสฺสาหุตึ ลเภ ตสฺสิชฺเฌติ พฺรูมี’’ติ อิทํ เสสปททฺวยมาห. ตตฺถ ยทนฺตคูติ โย อนฺตคู, โอการสฺส อกาโร, ทกาโร จ ปทสนฺธิกโร ‘‘อสาธารณมฺเส’’นฺติอาทีสุ (ขุ. ปา. ๘.๙) มกาโร วิย. อยํ ปน อตฺโถ – โย วฏฺฏทุกฺขสฺส ตีหิ ปริฺาหิ อนฺตคตตฺตา อนฺตคู, จตูหิ จ มคฺคาณเวเทหิ กิเลเส วิชฺฌิตฺวา คตตฺตา เวทคู, โส ยสฺส อิสิมนุชขตฺติยพฺราหฺมณานํ อฺตรสฺส ยฺกาเล ยสฺมึ กิสฺมิฺจิ อาหาเร ปจฺจุปฏฺิเต อนฺตมโส วนปณฺณมูลผลาทิมฺหิปิ อาหุตึ ลเภ, ตโต กิฺจิ เทยฺยธมฺมํ ลเภยฺย, ตสฺส ตํ ยฺกมฺมํ อิชฺเฌ สมิชฺเฌยฺย, มหปฺผลํ ภเวยฺยาติ พฺรูมีติ.

๔๖๔. อถ พฺราหฺมโณ ตํ ภควโต ปรมตฺถโยคคมฺภีรํ อติมธุรคิรนิพฺพิการสรสมฺปนฺนํ เทสนํ สุตฺวา สรีรสมฺปตฺติสูจิตฺจสฺส สพฺพคุณสมฺปตฺตึ สมฺภาวยมาโน ปีติโสมนสฺสชาโต ‘‘อทฺธา หิ ตสฺสา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อิติ พฺราหฺมโณติ สงฺคีติการานํ วจนํ, เสสํ พฺราหฺมณสฺส. ตสฺสตฺโถ – อทฺธา หิ ตสฺส มยฺหํ หุตมิชฺเฌ, อยํ อชฺช เทยฺยธมฺโม อิชฺฌิสฺสติ สมิชฺฌิสฺสติ มหปฺผโล ภวิสฺสติ ยํ ตาทิสํ เวทคุมทฺทสาม, ยสฺมา ตาทิสํ ภวนฺตรูปํ เวทคุํ อทฺทสาม. ตฺวฺเว หิ โส เวทคู, น อฺโ. อิโต ปุพฺเพ ปน ตุมฺหาทิสานํ เวทคูนํ อนฺตคูนฺจ อทสฺสเนน อมฺหาทิสานํ ยฺเ ปฏิยตฺตํ อฺโ ชโน ภุฺชติ ปูรฬาสํ จรุกฺจ ปูวฺจาติ.

๔๖๕. ตโต ภควา อตฺตนิ ปสนฺนํ วจนปฏิคฺคหณสชฺชํ พฺราหฺมณํ วิทิตฺวา ยถาสฺส สุฏฺุ ปากฏา โหนฺติ, เอวํ นานปฺปกาเรหิ ทกฺขิเณยฺเย ปกาเสตุกาโม ‘‘ตสฺมาติห ตฺว’’นฺติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ยสฺมา มยิ ปสนฺโนสิ, ตสฺมา ปน อิห ตฺวํ, พฺราหฺมณ, อุปสงฺกมฺม ปุจฺฉาติ อตฺตานํ ทสฺเสนฺโต อาห. อิทานิ อิโต ปุพฺพํ อตฺเถนอตฺถิกปทํ ปรปเทน สมฺพนฺธิตพฺพํ – อตฺเถน อตฺถิโก ตสฺส อตฺถตฺถิกภาวสฺส อนุรูปํ กิเลสคฺคิวูปสเมน สนฺตํ, โกธธูมวิคเมน วิธูมํ, ทุกฺขาภาเวน อนีฆํ, อเนกวิธอาสาภาเวน นิราสํ อปฺเปวิธ เอกํเสน อิธ ิโตว อิธ วา สาสเน อภิวินฺเท ลจฺฉสิ อธิคจฺฉิสฺสสิ สุเมธํ วรปฺํ ขีณาสวทกฺขิเณยฺยนฺติ. อถ วา ยสฺมา มยิ ปสนฺโนสิ, ตสฺมาติห, ตฺวํ พฺราหฺมณ, อตฺเถน อตฺถิโก สมาโน อุปสงฺกมฺม ปุจฺฉ สนฺตํ วิธูมํ อนีฆํ นิราสนฺติ อตฺตานํ ทสฺเสนฺโต อาห. เอวํ ปุจฺฉนฺโต อปฺเปวิธ อภิวินฺเท สุเมธํ ขีณาสวทกฺขิเณยฺยนฺติ เอวมฺเปตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา.

๔๖๖. อถ พฺราหฺมโณ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาโน ภควนฺตํ อาห – ‘‘ยฺเ รโตหํ…เป… พฺรูหิ เมต’’นฺติ. ตตฺถ ยฺโ ยาโค ทานนฺติ อตฺถโต เอกํ. ตสฺมา ทานรโต อหํ, ตาย เอว ทานารามตาย ทานํ ทาตุกาโม, น ปน ชานามิ, เอวํ อชานนฺตํ อนุสาสตุ มํ ภวํ. อนุสาสนฺโต จ อุตฺตาเนเนว นเยน ยตฺถ หุตํ อิชฺฌเต พฺรูหิ เมตนฺติ เอวเมตฺถ อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา. ‘‘ยถาหุต’’นฺติปิ ปาโ.

๔๖๗. อถสฺส ภควา วตฺตุกาโม อาห – ‘‘เตน หิ…เป… เทเสสฺสามี’’ติ. โอหิตโสตสฺส จสฺส อนุสาสนตฺถํ ตาว ‘‘มา ชาตึ ปุจฺฉี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ มา ชาตึ ปุจฺฉีติ ยทิ หุตสมิทฺธึ ทานมหปฺผลตํ ปจฺจาสีสสิ, ชาตึ มา ปุจฺฉ. อการณฺหิ ทกฺขิเณยฺยวิจารณาย ชาติ. จรณฺจ ปุจฺฉาติ อปิจ โข สีลาทิคุณเภทํ จรณํ ปุจฺฉ. เอตฺหิ ทกฺขิเณยฺยวิจารณาย การณํ.

อิทานิสฺส ตมตฺถํ วิภาเวนฺโต นิทสฺสนมาห – ‘‘กฏฺา หเว ชายติ ชาตเวโท’’ติอาทิ. ตตฺรายมธิปฺปาโย – อิธ กฏฺา อคฺคิ ชายติ, น จ โส สาลาทิกฏฺา ชาโต เอว อคฺคิกิจฺจํ กโรติ, สาปานโทณิอาทิกฏฺา ชาโต น กโรติ, อปิจ โข อตฺตโน อจฺจิอาทิคุณสมฺปนฺนตฺตา เอว กโรติ. เอวํ น พฺราหฺมณกุลาทีสุ ชาโต เอว ทกฺขิเณยฺโย โหติ, จณฺฑาลกุลาทีสุ ชาโต น โหติ, อปิจ โข นีจากุลีโนปิ อุจฺจากุลีโนปิ ขีณาสวมุนิ ธิติมา หิรีนิเสโธ อาชานิโย โหติ, อิมาย ธิติหิริปมุขาย คุณสมฺปตฺติยา ชาติมา อุตฺตมทกฺขิเณยฺโย โหติ. โส หิ ธิติยา คุเณ ธารยติ, หิริยา โทเส นิเสเธติ. วุตฺตฺเจตํ ‘‘หิริยา หิ สนฺโต น กโรนฺติ ปาป’’นฺติ. เตน เต พฺรูมิ –

‘‘มา ชาตึ ปุจฺฉี จรณฺจ ปุจฺฉ,

กฏฺา หเว ชายติ ชาตเวโท;

นีจากุลีโนปิ มุนี ธิตีมา,

อาชานิโย โหติ หิรีนิเสโธ’’ติ. –

เอส สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน อสฺสลายนสุตฺตานุสาเรน (ม. นิ. ๒.๔๐๑ อาทโย) เวทิตพฺโพ.

๔๖๘. เอวเมตํ ภควา จาตุวณฺณิสุทฺธิยา อนุสาสิตฺวา อิทานิ ยตฺถ หุตํ อิชฺฌเต, ยถา จ หุตํ อิชฺฌเต, ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘สจฺเจน ทนฺโต’’ติอาทิคาถมาห. ตตฺถ สจฺเจนาติ ปรมตฺถสจฺเจน. ตฺหิ ปตฺโต ทนฺโต โหติ. เตนาห – ‘‘สจฺเจน ทนฺโต’’ติ. ทมสา อุเปโตติ อินฺทฺริยทเมน สมนฺนาคโต. เวทนฺตคูติ เวเทหิ วา กิเลสานํ อนฺตํ คโต, เวทานํ วา อนฺตํ จตุตฺถมคฺคาณํ คโต. วูสิตพฺรหฺมจริโยติ ปุน วสิตพฺพาภาวโต วุตฺถมคฺคพฺรหฺมจริโย. กาเลน ตมฺหิ หพฺยํ ปเวจฺเฉติ อตฺตโน เทยฺยธมฺมฏฺิตกาลํ ตสฺส สมฺมุขีภาวกาลฺจ อุปลกฺเขตฺวา เตน กาเลน ตาทิเส ทกฺขิเณยฺเย เทยฺยธมฺมํ ปเวจฺเฉยฺย, ปเวเสยฺย ปฏิปาเทยฺย.

๔๖๙-๗๑. กาเมติ วตฺถุกาเม จ กิเลสกาเม จ. สุสมาหิตินฺทฺริยาติ สุฏฺุ สมาหิตอินฺทฺริยา, อวิกฺขิตฺตอินฺทฺริยาติ วุตฺตํ โหติ. จนฺโทว ราหุคฺคหณา ปมุตฺตาติ ยถา จนฺโท ราหุคฺคหณา, เอวํ กิเลสคฺคหณา ปมุตฺตา เย อตีว ภาสนฺติ เจว ตปนฺติ จ. สตาติ สติสมฺปนฺนา. มมายิตานีติ ตณฺหาทิฏฺิมมายิตานิ.

๔๗๒. โย กาเม หิตฺวาติ อิโต ปภุติ อตฺตานํ สนฺธาย วทติ. ตตฺถ กาเม หิตฺวาติ กิเลสกาเม ปหาย. อภิภุยฺยจารีติ เตสํ ปหีนตฺตา วตฺถุกาเม อภิภุยฺยจารี. ชาติมรณสฺส อนฺตํ นาม นิพฺพานํ วุจฺจติ, ตฺจ โย เวทิ อตฺตโน ปฺาพเลน อฺาสิ. อุทกรหโท วาติ เย อิเม อโนตตฺตทโห กณฺณมุณฺฑทโห รถการทโห ฉทฺทนฺตทโห กุณาลทโห มนฺทากินิทโห สีหปฺปปาตทโหติ หิมวติ สตฺต มหารหทา อคฺคิสูริยสนฺตาเปหิ อสมฺผุฏฺตฺตา นิจฺจํ สีตลา, เตสํ อฺตโร อุทกรหโทว สีโต ปรินิพฺพุตกิเลสปริฬาหตฺตา.

๔๗๓. สโมติ ตุลฺโย. สเมหีติ วิปสฺสิอาทีหิ พุทฺเธหิ. เต หิ ปฏิเวธสมตฺตา ‘‘สมา’’ติ วุจฺจนฺติ. นตฺถิ เตสํ ปฏิเวเธนาธิคนฺตพฺเพสุ คุเณสุ, ปหาตพฺเพสุ วา โทเสสุ เวมตฺตตา , อทฺธานอายุกุลปฺปมาณาภินิกฺขมนปธานโพธิรสฺมีหิ ปน เนสํ เวมตฺตตา โหติ. ตถา หิ เต เหฏฺิมปริจฺเฉเทน จตูหิ อสงฺขฺเยยฺเยหิ กปฺปสตสหสฺเสน จ ปารมิโย ปูเรนฺติ, อุปริมปริจฺเฉเทน โสฬสหิ อสงฺขฺเยยฺเยหิ กปฺปสตสหสฺเสน จ. อยํ เนสํ อทฺธานเวมตฺตตา. เหฏฺิมปริจฺเฉเทน จ วสฺสสตายุกกาเล อุปฺปชฺชนฺติ, อุปริมปริจฺเฉเทน วสฺสสตสหสฺสายุกกาเล. อยํ เนสํ อายุเวมตฺตตา. ขตฺติยกุเล วา พฺราหฺมณกุเล วา อุปฺปชฺชนฺติ. อยํ กุลเวมตฺตตา. อุจฺจา วา โหนฺติ อฏฺาสีติหตฺถปฺปมาณา, นีจา วา ปนฺนรสอฏฺารสหตฺถปฺปมาณา. อยํ ปมาณเวมตฺตตา. หตฺถิอสฺสรถสิวิกาทีหิ นิกฺขมนฺติ เวหาเสน วา. ตถา หิ วิปสฺสิกกุสนฺธา อสฺสรเถน นิกฺขมึสุ, สิขีโกณาคมนา หตฺถิกฺขนฺเธน, เวสฺสภู สิวิกาย, กสฺสโป เวหาเสน, สกฺยมุนิ อสฺสปิฏฺิยา. อยํ เนกฺขมฺมเวมตฺตตา. สตฺตาหํ วา ปธานมนุยุฺชนฺติ, อฑฺฒมาสํ, มาสํ, ทฺเวมาสํ, เตมาสํ, จตุมาสํ, ปฺจมาสํ, ฉมาสํ, เอกวสฺสํ ทฺวิติจตุปฺจฉวสฺสานิ วา. อยํ ปธานเวมตฺตตา. อสฺสตฺโถ วา โพธิรุกฺโข โหติ นิคฺโรธาทีนํ วา อฺตโร. อยํ โพธิเวมตฺตตา. พฺยามาสีติอนนฺตปภายุตฺตา โหนฺติ. ตตฺถ พฺยามปฺปภา วา อสีติปฺปภา วา สพฺเพสํ สมานา, อนนฺตปฺปภา ปน ทูรมฺปิ คจฺฉติ อาสนฺนมฺปิ, เอกคาวุตํ ทฺวิคาวุตํ โยชนํ อเนกโยชนํ จกฺกวาฬปริยนฺตมฺปิ, มงฺคลสฺส พุทฺธสฺส สรีรปฺปภา ทสสหสฺสจกฺกวาฬํ อคมาสิ. เอวํ สนฺเตปิ มนสา จินฺตายตฺตาว สพฺพพุทฺธานํ, โย ยตฺตกมิจฺฉติ, ตสฺส ตตฺตกํ คจฺฉติ. อยํ รสฺมิเวมตฺตตา. อิมา อฏฺ เวมตฺตตา เปตฺวา อวเสเสสุ ปฏิเวเธนาธิคนฺตพฺเพสุ คุเณสุ, ปหาตพฺเพสุ วา โทเสสุ นตฺถิ เนสํ วิเสโส, ตสฺมา ‘‘สมา’’ติ วุจฺจนฺติ. เอวเมเตหิ สโม สเมหิ.

วิสเมหิทูเรติ น สมา วิสมา, ปจฺเจกพุทฺธาทโย อวเสสสพฺพสตฺตา. เตหิ วิสเมหิ อสทิสตาย ทูเร. สกลชมฺพุทีปํ ปูเรตฺวา ปลฺลงฺเกน ปลฺลงฺกํ สงฺฆฏฺเฏตฺวา นิสินฺนา ปจฺเจกพุทฺธาปิ หิ คุเณหิ เอกสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสึ , โก ปน วาโท สาวกาทีสุ. เตนาห – ‘‘วิสเมหิ ทูเร’’ติ. ตถาคโต โหตีติ อุภยปเทหิ ทูเรติ โยเชตพฺพํ. อนนฺตปฺโติ อปริมิตปฺโ. โลกิยมนุสฺสานฺหิ ปฺํ อุปนิธาย อฏฺมกสฺส ปฺา อธิกา, ตสฺส ปฺํ อุปนิธาย โสตาปนฺนสฺส. เอวํ ยาว อรหโต ปฺํ อุปนิธาย ปจฺเจกพุทฺธสฺส ปฺา อธิกา, ปจฺเจกพุทฺธสฺส ปฺํ ปน อุปนิธาย ตถาคตสฺส ปฺา อธิกาติ น วตฺตพฺพา, อนนฺตา อิจฺเจว ปน วตฺตพฺพา. เตนาห – ‘‘อนนฺตปฺโ’’ติ. อนูปลิตฺโตติ ตณฺหาทิฏฺิเลเปหิ อลิตฺโต. อิธ วา หุรํ วาติ อิธโลเก วา ปรโลเก วา. โยชนา ปเนตฺถ – สโม สเมหิ วิสเมหิ ทูเร ตถาคโต โหติ. กสฺมา? ยสฺมา อนนฺตปฺโ อนุปลิตฺโต อิธ วา หุรํ วา, เตน ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสนฺติ.

๔๗๔. ยมฺหิน มายาติ อยํ ปน คาถา อฺา จ อีทิสา มายาทิโทสยุตฺเตสุ พฺราหฺมเณสุ ทกฺขิเณยฺยสฺาปหานตฺถํ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ อมโมติ สตฺตสงฺขาเรสุ ‘‘อิทํ มมา’’ติ ปหีนมมายิตภาโว.

๔๗๕. นิเวสนนฺติ ตณฺหาทิฏฺินิเวสนํ. เตน หิ มโน ตีสุ ภเวสุ นิวิสติ, เตน ตํ ‘‘นิเวสนํ มนโส’’ติ วุจฺจติ. ตตฺเถว วา นิวิสติ ตํ หิตฺวา คนฺตุํ อสมตฺถตาย. เตนปิ ‘‘นิเวสน’’นฺติ วุจฺจติ. ปริคฺคหาติ ตณฺหาทิฏฺิโย เอว, ตาหิ ปริคฺคหิตธมฺมา วา. เกจีติ อปฺปมตฺตกาปิ. อนุปาทิยาโนติ เตสํ นิเวสนปริคฺคหานํ อภาวา กฺจิ ธมฺมํ อนุปาทิยมาโน.

๔๗๖. สมาหิโต มคฺคสมาธินา. อุทตารีติ อุตฺติณฺโณ. ธมฺมํ จฺาสีติ สพฺพฺจ เยฺยธมฺมํ อฺาสิ. ปรมาย ทิฏฺิยาติ สพฺพฺุตฺาเณน.

๔๗๗. ภวาสวาติ ภวตณฺหาฌานนิกนฺติสสฺสตทิฏฺิสหคตา ราคา. วจีติ วาจา. ขราติ กกฺขฬา ผรุสา. วิธูปิตาติ ทฑฺฒา. อตฺถคตาติ อตฺถงฺคตา. น สนฺตีติ วิธูปิตตฺตา อตฺถงฺคตตฺตา จ. อุภเยหิ ปน อุภยํ โยเชตพฺพํ สพฺพธีติ สพฺเพสุ ขนฺธายตนาทีสุ.

๔๗๘. มานสตฺเตสูติ มาเนน ลคฺเคสุ. ทุกฺขํ ปริฺายาติ วฏฺฏทุกฺขํ ตีหิ ปริฺาหิ ปริชานิตฺวา. สเขตฺตวตฺถุนฺติ สเหตุปจฺจยํ, สทฺธึ กมฺมกิเลเสหีติ วุตฺตํ โหติ.

๔๗๙. อาสํ อนิสฺสายาติ ตณฺหํ อนลฺลียิตฺวา. วิเวกทสฺสีติ นิพฺพานทสฺสี. ปรเวทิยนฺติ ปเรหิ าเปตพฺพํ. ทิฏฺิมุปาติวตฺโตติ ทฺวาสฏฺิเภทมฺปิ มิจฺฉาทิฏฺึ อติกฺกนฺโต. อารมฺมณาติ ปจฺจยา, ปุนพฺภวการณานีติ วุตฺตํ โหติ.

๔๘๐. ปโรปราติ วราวรา สุนฺทราสุนฺทรา. ปรา วา พาหิรา, อปรา อชฺฌตฺติกา. สเมจฺจาติ าเณน ปฏิวิชฺฌิตฺวา. ธมฺมาติ ขนฺธายตนาทโย ธมฺมา. อุปาทานขเย วิมุตฺโตติ นิพฺพาเน นิพฺพานารมฺมณโต วิมุตฺโต, นิพฺพานารมฺมณวิมุตฺติลาภีติ อตฺโถ.

๔๘๑. สํโยชนํชาติขยนฺตทสฺสีติ สํโยชนกฺขยนฺตทสฺสี ชาติกฺขยนฺตทสฺสี จ. สํโยชนกฺขยนฺเตน เจตฺถ สอุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ, ชาติกฺขยนฺเตน อนุปาทิเสสา วุตฺตา. ขยนฺโตติ หิ อจฺจนฺตขยสฺส สมุจฺเฉทปฺปหานสฺเสตํ อธิวจนํ. อนุนาสิกโลโป เจตฺถ ‘‘วิเวกชํ ปีติสุข’’นฺติอาทีสุ วิย น กโต. โยปานุทีติ โย อปนุทิ. ราคปถนฺติ ราคารมฺมณํ, ราคเมว วา. ราโคปิ หิ ทุคฺคตีนํ ปถตฺตา ‘‘ราคปโถ’’ติ วุจฺจติ กมฺมปโถ วิย. สุทฺโธ นิโทโส วิมโล อกาโจติ ปริสุทฺธกายสมาจาราทิตาย สุทฺโธ. เยหิ ‘‘ราคโทสา อยํ ปชา, โทสโทสา, โมหโทสา’’ติ วุจฺจติ. เตสํ อภาวา นิโทโส. อฏฺปุริสมลวิคมา วิมโล, อุปกฺกิเลสาภาวโต อกาโจ. อุปกฺกิลิฏฺโ หิ อุปกฺกิเลเสน ‘‘สกาโจ’’ติ วุจฺจติ. สุทฺโธ วา ยสฺมา นิทฺโทโส, นิทฺโทสตาย วิมโล, พาหิรมลาภาเวน วิมลตฺตา อกาโจ. สมโล หิ ‘‘สกาโจ’’ติ วุจฺจติ. วิมลตฺตา วา อาคุํ น กโรติ, เตน อกาโจ. อาคุกิริยา หิ อุปฆาตกรณโต ‘‘กาโจ’’ติ วุจฺจติ.

๔๘๒. อตฺตโน อตฺตานํ นานุปสฺสตีติ าณสมฺปยุตฺเตน จิตฺเตน วิปสฺสนฺโต อตฺตโน ขนฺเธสุ อฺํ อตฺตานํ นาม น ปสฺสติ, ขนฺธมตฺตเมว ปสฺสติ. ยา จายํ ‘‘อตฺตนาว อตฺตานํ สฺชานามี’’ติ ตสฺส สจฺจโต เถตโต ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ, ตสฺสา อภาวา อตฺตโน อตฺตานํ นานุปสฺสติ, อฺทตฺถุ ปฺาย ขนฺเธ ปสฺสติ. มคฺคสมาธินา สมาหิโต, กายวงฺกาทีนํ อภาวา อุชฺชุคโต, โลกธมฺเมหิ อกมฺปนียโต ิตตฺโต, ตณฺหาสงฺขาตาย เอชาย ปฺจนฺนํ เจโตขิลานฺจ อฏฺฏฺานาย กงฺขาย จ อภาวา อเนโช อขิโล อกงฺโข.

๔๘๓. โมหนฺตราติ โมหการณา โมหปจฺจยา, สพฺพกิเลสานเมตํ อธิวจนํ. สพฺเพสุ ธมฺเมสุ จ าณทสฺสีติ สจฺฉิกตสพฺพฺุตฺาโณ. ตฺหิ สพฺเพสุ ธมฺเมสุ าณํ, ตฺจ ภควา ปสฺสิ, ‘‘อธิคตํ เม’’ติ สจฺฉิกตฺวา วิหาสิ. เตน วุจฺจติ ‘‘สพฺเพสุ ธมฺเมสุ จ าณทสฺสี’’ติ. สมฺโพธินฺติ อรหตฺตํ. อนุตฺตรนฺติ ปจฺเจกพุทฺธสาวเกหิ อสาธารณํ. สิวนฺติ เขมํ นิรุปทฺทวํ สสฺสิริกํ วา. ยกฺขสฺสาติ ปุริสสฺส. สุทฺธีติ โวทานตา. เอตฺถ หิ โมหนฺตราภาเวน สพฺพโทสาภาโว, เตน สํสารการณสมุจฺเฉโท อนฺติมสรีรธาริตา, าณทสฺสิตาย สพฺพคุณสมฺภโว. เตน อนุตฺตรา สมฺโพธิปตฺติ, อิโต ปรฺจ ปหาตพฺพมธิคนฺตพฺพํ วา นตฺถิ. เตนาห – ‘‘เอตฺตาวตา ยกฺขสฺส สุทฺธี’’ติ.

๔๘๔. เอวํ วุตฺเต พฺราหฺมโณ ภิยฺโยโสมตฺตาย ภควติ ปสนฺโน ปสนฺนาการํ กโรนฺโต อาห ‘‘หุตฺจ มยฺห’’นฺติ. ตสฺสตฺโถ – ยมหํ อิโต ปุพฺเพ พฺรหฺมานํ อารพฺภ อคฺคิมฺหิ อชุหํ, ตํ เม หุตํ สจฺจํ วา โหติ, อลิกํ วาติ น ชานามิ. อชฺช ปน อิทํ หุตฺจ มยฺหํ หุตมตฺถุ สจฺจํ, สจฺจหุตเมว อตฺถูติ ยาจนฺโต ภณติ. ยํ ตาทิสํ เวทคุนํ อลตฺถํ, ยสฺมา อิเธว ิโต ภวนฺตรูปํ เวทคุํ อลตฺถํ. พฺรหฺมา หิ สกฺขิ, ปจฺจกฺขเมว หิ ตฺวํ พฺรหฺมา, ยโต ปฏิคฺคณฺหาตุ เม ภควา, ปฏิคฺคเหตฺวา ภุฺชตุ เม ภควา ปูรฬาสนฺติ ตํ หพฺยเสสํ อุปนาเมนฺโต อาห.

๔๘๗. อถ ภควา กสิภารทฺวาชสุตฺเต วุตฺตนเยน คาถาทฺวยมภาสิ. ตโต พฺราหฺมโณ ‘‘อยํ อตฺตนา น อิจฺฉติ, กมฺปิ จฺํ สนฺธาย ‘เกวลินํ มเหสึ ขีณาสวํ กุกฺกุจฺจวูปสนฺตํ อนฺเนน ปาเนน อุปฏฺหสฺสู’ติ ภณตี’’ติ เอวํ คาถาย อตฺถํ อสลฺลกฺเขตฺวา ตํ าตุกาโม อาห ‘‘สาธาหํ ภควา’’ติ. ตตฺถ สาธูติ อายาจนตฺเถ นิปาโต. ตถาติ เยน ตฺวมาห, เตน ปกาเรน. วิชฺนฺติ ชาเนยฺยํ. นฺติ ยํ ทกฺขิเณยฺยํ ยฺกาเล ปริเยสมาโน อุปฏฺเหยฺยนฺติ ปาเสโส. ปปฺปุยฺยาติ ปตฺวา. ตว สาสนนฺติ ตว โอวาทํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ. สาธาหํ ภควา ตว โอวาทํ อาคมฺม ตถา วิชฺํ อาโรเจหิ เม ตํ เกวลินนฺติ อธิปฺปาโย. โย ทกฺขิณํ ภุฺเชยฺย มาทิสสฺส, ยํ จาหํ ยฺกาเล ปริเยสมาโน อุปฏฺเหยฺยํ, ตถารูปํ เม ทกฺขิเณยฺยํ ทสฺเสหิ, สเจ ตฺวํ น ภุฺชสีติ.

๔๘๘-๙๐. อถสฺส ภควา ปากเฏน นเยน ตถารูปํ ทกฺขิเณยฺยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สารมฺภา ยสฺสา’’ติ คาถาตฺตยมาห. ตตฺถ สีมนฺตานํ วิเนตารนฺติ สีมาติ มริยาทา สาธุชนวุตฺติ, ตสฺสา อนฺตา ปริโยสานา อปรภาคาติ กตฺวา สีมนฺตา วุจฺจนฺติ กิเลสา, เตสํ วิเนตารนฺติ อตฺโถ. สีมนฺตาติ พุทฺธเวเนยฺยา เสกฺขา จ ปุถุชฺชนา จ, เตสํ วิเนตารนฺติปิ เอเก. ชาติมรณโกวิทนฺติ ‘‘เอวํ ชาติ เอวํ มรณ’’นฺติ เอตฺถ กุสลํ. โมเนยฺยสมฺปนฺนนฺติ ปฺาสมฺปนฺนํ, กายโมเนยฺยาทิสมฺปนฺนํ วา. ภกุฏึ วินยิตฺวานาติ ยํ เอกจฺเจ ทุพฺพุทฺธิโน ยาจกํ ทิสฺวา ภกุฏึ กโรนฺติ, ตํ วินยิตฺวา, ปสนฺนมุขา หุตฺวาติ อตฺโถ. ปฺชลิกาติ ปคฺคหิตอฺชลิโน หุตฺวา.

๔๙๑. อถ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ โถมยมาโน ‘‘พุทฺโธ ภว’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ อายาโคติ อายชิตพฺโพ, ตโต ตโต อาคมฺม วา ยชิตพฺพเมตฺถาติปิ อายาโค, เทยฺยธมฺมานํ อธิฏฺานภูโตติ วุตฺตํ โหติ . เสสเมตฺถ อิโต ปุริมคาถาสุ จ ยํ น วณฺณิตํ, ตํ สกฺกา อวณฺณิตมฺปิ ชานิตุนฺติ อุตฺตานตฺถตฺตาเยว น วณฺณิตํ. อิโต ปรํ ปน กสิภารทฺวาชสุตฺเต วุตฺตนยเมวาติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย ปูรฬาสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. มาฆสุตฺตวณฺณนา

เอวํเม สุตนฺติ มาฆสุตฺตํ. กา อุปฺปตฺติ? อยเมว ยาสฺส นิทาเน วุตฺตา. อยฺหิ มาโฆ มาณโว ทายโก อโหสิ ทานปติ. ตสฺเสตทโหสิ – ‘‘สมฺปตฺตกปณทฺธิกาทีนํ ทานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ โหติ, อุทาหุ โนติ สมณํ โคตมํ เอตมตฺถํ ปุจฺฉิสฺสามิ, สมโณ กิร โคตโม อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ ชานาตี’’ติ. โส ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิ. ภควา จสฺส ปุจฺฉานุรูปํ พฺยากาสิ. ตยิทํ สงฺคีติการานํ พฺราหฺมณสฺส ภควโตติ ติณฺณมฺปิ วจนํ สโมธาเนตฺวา ‘‘มาฆสุตฺต’’นฺติ วุจฺจติ.

ตตฺถ ราชคเหติ เอวํนามเก นคเร. ตฺหิ มนฺธาตุมหาโควินฺทาทีหิ ปริคฺคหิตตฺตา ‘‘ราชคห’’นฺติ วุจฺจติ. อฺเเปตฺถ ปกาเร วณฺณยนฺติ. กึ เตหิ, นามเมตํ ตสฺส นครสฺส? ตํ ปเนตํ พุทฺธกาเล จ จกฺกวตฺติกาเล จ นครํ โหติ, เสสกาเล สุฺํ โหติ ยกฺขปริคฺคหิตํ, เตสํ วสนฺตวนํ หุตฺวา ติฏฺติ. เอวํ โคจรคามํ ทสฺเสตฺวา นิวาสฏฺานมาห – ‘‘คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต’’ติ. โส จ คิชฺฌา ตสฺส กูเฏสุ วสึสุ, คิชฺฌสทิสานิ วาสฺส กูฏานิ, ตสฺมา ‘‘คิชฺฌกูโฏ’’ติ วุจฺจตีติ เวทิตพฺโพ.

อถ โข…เป… อโวจาติ เอตฺถ มาโฆติ ตสฺส พฺราหฺมณสฺส นามํ. มาณโวติ อนฺเตวาสิวาสํ อนตีตภาเวน วุจฺจติ, ชาติยา ปน มหลฺลโก. ‘‘ปุพฺพาจิณฺณวเสนา’’ติ เอเก ปิงฺคิโย มาณโว วิย. โส หิ วีสวสฺสสติโกปิ ปุพฺพาจิณฺณวเสน ‘‘ปิงฺคิโย มาณโว’’ ตฺเวว สงฺขํ อคมาสิ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

อหฺหิ, โภ โคตม…เป… ปสวามีติ เอตฺถ ทายโก ทานปตีติ ทายโก เจว ทานปติ จ. โย หิ อฺสฺส สนฺตกํ เตนาณตฺโต เทติ, โสปิ ทายโก โหติ, ตสฺมึ ปน ทาเน อิสฺสริยาภาวโต น ทานปติ. อยํ ปน อตฺตโน สนฺตกํเยว เทติ. เตนาห – ‘‘อหฺหิ, โภ โคตม , ทายโก ทานปตี’’ติ. อยเมว หิ เอตฺถ อตฺโถ, อฺตฺร ปน อนฺตรนฺตรา มจฺเฉเรน อภิภุยฺยมาโน ทายโก อนภิภูโต ทานปตีติอาทินาปิ นเยน วตฺตุํ วฏฺฏติ. วทฺูติ ยาจกานํ วจนํ ชานามิ วุตฺตมตฺเตเยว ‘‘อยมิทมรหติ อยมิท’’นฺติ ปุริสวิเสสาวธารเณน พหูปการภาวคหเณน วา. ยาจโยโคติ ยาจิตุํ ยุตฺโต. โย หิ ยาจเก ทิสฺวาว ภกุฏึ กตฺวา ผรุสวจนาทีนิ ภณติ, โส น ยาจโยโค โหติ. อหํ ปน น ตาทิโสติ ทีเปติ. ธมฺเมนาติ อทินฺนาทานนิกติวฺจนาทีนิ วชฺเชตฺวา ภิกฺขาจริยาย, ยาจนายาติ อตฺโถ. ยาจนา หิ พฺราหฺมณานํ โภคปริเยสเน ธมฺโม, ยาจมานานฺจ เนสํ ปเรหิ อนุคฺคหกาเมหิ ทินฺนา โภคา ธมฺมลทฺธา นาม ธมฺมาธิคตา จ โหนฺติ, โส จ ตถา ปริเยสิตฺวา ลภิ. เตนาห – ‘‘ธมฺเมน โภเค ปริเยสามิ…เป… ธมฺมาธิคเตหี’’ติ. ภิยฺโยปิ ททามีติ ตโต อุตฺตริปิ ททามิ, ปมาณํ นตฺถิ, เอตฺถ ลทฺธโภคปฺปมาเณน ททามีติ ทสฺเสติ.

ตคฺฆาติ เอกํสวจเน นิปาโต. เอกํเสเนว หิ สพฺพพุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวเกหิ ปสตฺถํ ทานํ อนฺตมโส ติรจฺฉานคตานมฺปิ ทียมานํ. วุตฺตฺเจตํ ‘‘สพฺพตฺถ วณฺณิตํ ทานํ, น ทานํ ครหิตํ กฺวจี’’ติ. ตสฺมา ภควาปิ เอกํเสเนว ตํ ปสํสนฺโต อาห – ‘‘ตคฺฆ ตฺวํ มาณว…เป… ปสวสี’’ติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว. เอวํ ภควตา ‘‘พหุํ โส ปุฺํ ปสวตี’’ติ วุตฺเตปิ ทกฺขิเณยฺยโต ทกฺขิณาวิสุทฺธึ โสตุกาโม พฺราหฺมโณ อุตฺตริ ภควนฺตํ ปุจฺฉิ. เตนาหุ สงฺคีติการา – ‘‘อถ โข มาโฆ มาณโว ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสี’’ติ. ตํ อตฺถโต วุตฺตนยเมว.

๔๙๒. ปุจฺฉามหนฺติอาทิคาถาสุ ปน วทฺุนฺติ วจนวิทุํ, สพฺพากาเรน สตฺตานํ วุตฺตวจนาธิปฺปายฺุนฺติ วุตฺตํ โหติ. สุชฺเฌติ ทกฺขิเณยฺยวเสน สุทฺธํ มหปฺผลํ ภเวยฺย. โยชนา ปเนตฺถ – โย ยาจโยโค ทานปติ คหฏฺโ ปุฺตฺถิโก หุตฺวา ปเรสํ อนฺนปานํ ททํ ยชติ, น อคฺคิมฺหิ อาหุติมตฺตํ ปกฺขิปนฺโต, ตฺจ โข ปุฺเปกฺโขว น ปจฺจุปการกลฺยาณกิตฺติสทฺทาทิอเปกฺโข, ตสฺส เอวรูปสฺส ยชมานสฺส หุตํ กถํ สุชฺเฌยฺยาติ?

๔๙๓. อาราธเย ทกฺขิเณยฺเยภิ ตาทีติ ตาทิโส ยาจโยโค ทกฺขิเณยฺเยหิ อาราธเย สมฺปาทเย โสธเย, มหปฺผลํ ตํ หุตํ กเรยฺย, น อฺถาติ อตฺโถ. อิมินาสฺส ‘‘กถํ หุตํ ยชมานสฺส สุชฺเฌ’’ อิจฺเจตํ พฺยากตํ โหติ.

๔๙๔. อกฺขาหิ เม ภควา ทกฺขิเณยฺเยติ เอตฺถ โย ยาจโยโค ททํ ปเรสํ ยชติ, ตสฺส เม ภควา ทกฺขิเณยฺเย อกฺขาหีติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา.

๔๙๕. อถสฺส ภควา นานปฺปกาเรหิ นเยหิ ทกฺขิเณยฺเย ปกาเสนฺโต ‘‘เย เว อสตฺตา’’ติอาทิกา คาถาโย อภาสิ. ตตฺถ อสตฺตาติ ราคาทิสงฺควเสน อลคฺคา. เกวลิโนติ ปรินิฏฺิตกิจฺจา. ยตตฺตาติ คุตฺตจิตฺตา.

๔๙๖-๗. ทนฺตา อนุตฺตเรน ทมเถน, วิมุตฺตา ปฺาเจโตวิมุตฺตีหิ, อนีฆา อายตึ วฏฺฏทุกฺขาภาเวน, นิราสา สมฺปติ กิเลสาภาเวน. อิมิสฺสา ปน คาถาย ทุติยคาถา ภาวนานุภาวปฺปกาสนนเยน วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. ‘‘ภาวนานุโยคมนุยุตฺตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน วิหรโต กิฺจาปิ น เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย ‘อโห วต เม อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺเจยฺยา’ติ (อ. นิ. ๗.๗๑), อถ ขฺวาสฺส อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจตี’’ติ อิทํ เจตฺถ สุตฺตํ สาธกํ.

๔๙๘-๕๐๒. ราคฺจ…เป… เยสุ น มายา…เป… น ตณฺหาสุ อุปาติปนฺนาติ กามตณฺหาทีสุ นาธิมุตฺตา. วิตเรยฺยาติ วิตริตฺวา. ตณฺหาติ รูปตณฺหาทิฉพฺพิธา . ภวาภวายาติ สสฺสตาย วา อุจฺเฉทาย วา. อถ วา ภวสฺส อภวาย ภวาภวาย, ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติยาติ วุตฺตํ โหติ. อิธ วา หุรํ วาติ อิทํ ปน ‘‘กุหิฺจิ โลเก’’ติ อิมสฺส วิตฺถารวจนํ.

๕๐๔. เยวีตราคา…เป… สมิตาวิโนติ สมิตวนฺโต, กิเลสวูปสมการิโนติ อตฺโถ. สมิตาวิตตฺตา จ วีตราคา อโกปา. อิธ วิปฺปหายาติ อิธโลเก วตฺตมาเน ขนฺเธ วิหาย, ตโต ปรํ เยสํ คมนํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. อิโต ปรํ ‘‘เย กาเม หิตฺวา อคหา จรนฺติ, สุสฺตตฺตา ตสรํว อุชฺชุ’’นฺติ อิมมฺปิ คาถํ เกจิ ปนฺติ.

๕๐๖-๘. ชหิตฺวาติ หิตฺวา. ‘‘ชหิตฺวานา’’ติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ. อตฺตทีปาติ อตฺตโน คุเณ เอว อตฺตโน ทีปํ กตฺวา วิจรนฺตา ขีณาสวา วุจฺจนฺติ. เย เหตฺถาติ หกาโร นิปาโต ปทปูรณมตฺเต. อยํ ปนตฺโถ – เย เอตฺถ ขนฺธายตนาทิสนฺตาเน ยถา อิทํ ขนฺธายตนาทิ ตถา ชานนฺติ, ยํสภาวํ ตํสภาวํเยว สฺชานนฺติ อนิจฺจาทิวเสน ชานนฺตา. อยมนฺติมา นตฺถิ ปุนพฺภโวติ อยํ โน อนฺติมา ชาติ, อิทานิ นตฺถิ ปุนพฺภโวติ เอวฺจ เย ชานนฺตีติ.

๕๐๙. โย เวทคูติ อิทานิ อตฺตานํ สนฺธาย ภควา อิมํ คาถมาห. ตตฺถ สติมาติ ฉสตตวิหารสติยา สมนฺนาคโต. สมฺโพธิปตฺโตติ สพฺพฺุตํ ปตฺโต. สรณํ พหูนนฺติ พหูนํ เทวมนุสฺสานํ ภยวิหึสเนน สรณภูโต.

๕๑๐. เอวํ ทกฺขิเณยฺเย สุตฺวา อตฺตมโน พฺราหฺมโณ อาห – ‘‘อทฺธา อโมฆา’’ติ. ตตฺถ ตฺวฺเหตฺถ ชานาสิ ยถา ตถา อิทนฺติ ตฺวฺหิ เอตฺถ โลเก อิทํ สพฺพมฺปิ เยฺยํ ยถา ตถา ชานาสิ ยาถาวโต ชานาสิ, ยาทิสํ ตํ ตาทิสเมว ชานาสีติ วุตฺตํ โหติ. ตถา หิ เต วิทิโต เอส ธมฺโมติ ตถา หิ เต เอสา ธมฺมธาตุ สุปฺปฏิวิทฺธา, ยสฺสา สุปฺปฏิวิทฺธตา ยํ ยํ อิจฺฉสิ, ตํ ตํ ชานาสีติ อธิปฺปาโย.

๕๑๑. เอวํ โส พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ ปสํสิตฺวา ทกฺขิเณยฺยสมฺปทาย ยฺสมฺปทํ ตฺวา ทายกสมฺปทายปิ ตํ ฉฬงฺคปริปูรํ ยฺสมฺปทํ โสตุกาโม ‘‘โย ยาจโยโค’’ติ อุตฺตริปฺหํ ปุจฺฉิ. ตตฺรายํ โยชนา – โย ยาจโยโค ททํ ปเรสํ ยชติ, ตสฺส อกฺขาหิ เม ภควา ยฺสมฺปทนฺติ.

๕๑๒. อถสฺส ภควา ทฺวีหิ คาถาหิ อกฺขาสิ. ตตฺถายํ อตฺถโยชนา – ยชสฺสุ มาฆ, ยชมาโน จ สพฺพตฺถ วิปฺปสาเทหิ จิตฺตํ, ตีสุปิ กาเลสุ จิตฺตํ ปสาเทหิ. เอวํ เต ยายํ –

‘‘ปุพฺเพว ทานา สุมโน, ททํ จิตฺตํ ปสาทเย;

ทตฺวา อตฺตมโน โหติ, เอสา ยฺสฺส สมฺปทา’’ติ. (อ. นิ. ๖.๓๗; เป. ว. ๓๐๕) –

ยฺสมฺปทา วุตฺตา, ตาย สมฺปนฺโน ยฺโ ภวิสฺสติ. ตตฺถ สิยา ‘‘กถํ จิตฺตํ ปสาเทตพฺพ’’นฺติ? โทสปฺปหาเนน. กถํ โทสปฺปหานํ โหติ? ยฺารมฺมณตาย. อยฺหิ อารมฺมณํ ยชมานสฺส ยฺโ เอตฺถ ปติฏฺาย ชหาติ โทสํ, อยฺหิ สตฺเตสุ เมตฺตาปุพฺพงฺคเมน สมฺมาทิฏฺิปทีปวิหตโมหนฺธกาเรน จิตฺเตน ยชมานสฺส เทยฺยธมฺมสงฺขาโต ยฺโ อารมฺมณํ โหติ, โส เอตฺถ ยฺเ อารมฺมณวเสน ปวตฺติยา ปติฏฺาย เทยฺยธมฺมปจฺจยํ โลภํ, ปฏิคฺคาหกปจฺจยํ โกธํ, ตทุภยนิทานํ โมหนฺติ เอวํ ติวิธมฺปิ ชหาติ โทสํ. โส เอวํ โภเคสุ วีตราโค, สตฺเตสุ จ ปวิเนยฺย โทสํ ตปฺปหาเนเนว ปหีนปฺจนีวรโณ อนุกฺกเมน อุปจารปฺปนาเภทํ อปริมาณสตฺตผรเณน เอกสตฺเต วา อนวเสสผรเณน อปฺปมาณํ เมตฺตํ จิตฺตํ ภาเวนฺโต ปุน ภาวนาเวปุลฺลตฺถํ, รตฺตินฺทิวํ สตตํ สพฺพอิริยาปเถสุ อปฺปมตฺโต หุตฺวา ตเมว เมตฺตชฺฌานสงฺขาตํ สพฺพา ทิสา ผรเต อปฺปมฺนฺติ.

๕๑๔. อถ พฺราหฺมโณ ตํ เมตฺตํ ‘‘พฺรหฺมโลกมคฺโค อย’’นฺติ อชานนฺโต เกวลํ อตฺตโน วิสยาตีตํ เมตฺตาภาวนํ สุตฺวา สุฏฺุตรํ สฺชาตสพฺพฺุสมฺภาวโน ภควติ อตฺตนา พฺรหฺมโลกาธิมุตฺตตฺตา พฺรหฺมโลกูปปตฺติเมว จ สุทฺธึ มุตฺติฺจ มฺมาโน พฺรหฺมโลกมคฺคํ ปุจฺฉนฺโต ‘‘โก สุชฺฌตี’’ติ คาถมาห. ตตฺร จ พฺรหฺมโลกคามึ ปุฺํ กโรนฺตํ สนฺธายาห – ‘‘โก สุชฺฌติ มุจฺจตี’’ติ, อกโรนฺตํ สนฺธาย ‘‘พชฺฌตี จา’’ติ. เกนตฺตนาติ เกน การเณน. สกฺขิ พฺรหฺมชฺชทิฏฺโติ พฺรหฺมา อชฺช สกฺขิ ทิฏฺโ. สจฺจนฺติ ภควโต พฺรหฺมสมตฺตํ อารพฺภ อจฺจาทเรน สปถํ กโรติ. กถํ อุปปชฺชตีติ อจฺจาทเรเนว ปุนปิ ปุจฺฉติ. ชุติมาติ ภควนฺตํ อาลปติ.

ตตฺถ ยสฺมา โย ภิกฺขุ เมตฺตาย ติกจตุกฺกชฺฌานํ อุปฺปาเทตฺวา ตเมว ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนฺโต อรหตฺตํ ปาปุณาติ, โส สุชฺฌติ มุจฺจติ จ, ตถารูโป จ พฺรหฺมโลกํ น คจฺฉติ. โย ปน เมตฺตาย ติกจตุกฺกชฺฌานํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘สนฺตา เอสา สมาปตฺตี’’ติอาทินา นเยน ตํ อสฺสาเทติ, โส พชฺฌติ. อปริหีนชฺฌาโน จ เตเนว ฌาเนน พฺรหฺมโลกํ คจฺฉติ, ตสฺมา ภควา โย สุชฺฌติ มุจฺจติ จ, ตสฺส พฺรหฺมโลกคมนํ อนนุชานนฺโต อนามสิตฺวาว ตํ ปุคฺคลํ โย พชฺฌติ. ตสฺส เตน ฌาเนน พฺรหฺมโลกคมนํ ทสฺเสนฺโต พฺราหฺมณสฺส สปฺปาเยน นเยน ‘‘โย ยชตี’’ติ อิมํ คาถมาห.

๕๑๕. ตตฺถ ติวิธนฺติ ติกาลปฺปสาทํ สนฺธายาห. เตน ทายกโต องฺคตฺตยํ ทสฺเสติ. อาราธเย ทกฺขิเณยฺเยภิ ตาทีติ ตฺจ โส ตาทิโส ติวิธสมฺปตฺติสาธโก ปุคฺคโล ติวิธํ ยฺสมฺปทํ ทกฺขิเณยฺเยหิ ขีณาสเวหิ สาเธยฺย สมฺปาเทยฺย. อิมินา ปฏิคฺคาหกโต องฺคตฺตยํ ทสฺเสติ. เอวํ ยชิตฺวา สมฺมา ยาจโยโคติ เอวํ เมตฺตชฺฌานปทฏฺานภาเวน ฉฬงฺคสมนฺนาคตํ ยฺํ สมฺมา ยชิตฺวา โส ยาจโยโค เตน ฉฬงฺคยฺูปนิสฺสเยน เมตฺตชฺฌาเนน อุปปชฺชติ พฺรหฺมโลกนฺติพฺรูมีติ พฺราหฺมณํ สมุสฺสาเหนฺโต เทสนํ สมาเปสิ. เสสํ สพฺพคาถาสุ อุตฺตานตฺถเมว. อิโต ปรฺจ ปุพฺเพ วุตฺตนยเมวาติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย มาฆสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สภิยสุตฺตวณฺณนา

เอวํเม สุตนฺติ สภิยสุตฺตํ. กา อุปฺปตฺติ? อยเมว ยาสฺส นิทาเน วุตฺตา. อตฺถวณฺณนากฺกเมปิ จสฺส ปุพฺพสทิสํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ยํ ปน อปุพฺพํ, ตํ อุตฺตานตฺถานิ ปทานิ ปริหรนฺตา วณฺณยิสฺสาม. เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปติ เวฬุวนนฺติ ตสฺส อุยฺยานสฺส นามํ. ตํ กิร เวฬูหิ จ ปริกฺขิตฺตํ อโหสิ อฏฺารสหตฺเถน จ ปากาเรน, โคปุรทฺวารฏฺฏาลกยุตฺตํ นีโลภาสํ มโนรมํ, เตน ‘‘เวฬุวน’’นฺติ วุจฺจติ. กลนฺทกานฺเจตฺถ นิวาปํ อทํสุ, เตน ‘‘กลนฺทกนิวาโป’’ติ วุจฺจติ. กลนฺทกา นาม กาฬกา วุจฺจนฺติ. ปุพฺเพ กิร อฺตโร ราชา ตตฺถ อุยฺยานกีฬนตฺถํ อาคโต สุรามเทน มตฺโต ทิวาเสยฺยํ สุปิ. ปริชโนปิสฺส ‘‘สุตฺโต ราชา’’ติ ปุปฺผผลาทีหิ ปโลภิยมาโน อิโต จิโต จ ปกฺกามิ. อถ สุราคนฺเธน อฺตรสฺมา สุสิรรุกฺขา กณฺหสปฺโป นิกฺขมิตฺวา รฺโ อภิมุโข อาคจฺฉติ. ตํ ทิสฺวา รุกฺขเทวตา ‘‘รฺโ ชีวิตํ ทสฺสามี’’ติ กาฬกเวเสน อาคนฺตฺวา กณฺณมูเล สทฺทมกาสิ. ราชา ปฏิพุชฺฌิ, กณฺหสปฺโป นิวตฺโต. โส ตํ ทิสฺวา ‘‘อิมาย มม กาฬกาย ชีวิตํ ทินฺน’’นฺติ กาฬกานํ ตตฺถ นิวาปํ ปฏฺเปสิ, อภยโฆสนฺจ โฆสาเปสิ. ตสฺมา ตํ ตโต ปภุติ ‘‘กลนฺทกนิวาโป’’ติ สงฺขํ คตํ.

สภิยสฺส ปริพฺพาชกสฺสาติ สภิโยติ ตสฺส นามํ, ปริพฺพาชโกติ พาหิร ปพฺพชฺชํ อุปาทาย วุจฺจติ. ปุราณสาโลหิตาย เทวตายาติ น มาตา น ปิตา, อปิจ โข ปนสฺส มาตา วิย ปิตา วิย จ หิตชฺฌาสยตฺตา โส เทวปุตฺโต ‘‘ปุราณสาโลหิตา เทวตา’’ติ วุตฺโต. ปรินิพฺพุเต กิร กสฺสเป ภควติ ปติฏฺิเต สุวณฺณเจติเย ตโย กุลปุตฺตา สมฺมุขสาวกานํ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา จริยานุรูปานิ กมฺมฏฺานานิ คเหตฺวา ปจฺจนฺตชนปทํ คนฺตฺวา อรฺายตเน สมณธมฺมํ กโรนฺติ, อนฺตรนฺตรา จ เจติยวนฺทนตฺถาย ธมฺมสฺสวนตฺถาย จ นครํ คจฺฉนฺติ. อปเรน จ สมเยน ตาวตกมฺปิ อรฺเ วิปฺปวาสํ อโรจยมานา ตตฺเถว อปฺปมตฺตา วิหรึสุ, เอวํ วิหรนฺตาปิ น จ กิฺจิ วิเสสํ อธิคมึสุ. ตโต เนสํ อโหสิ – ‘‘มยํ ปิณฺฑาย คจฺฉนฺตา ชีวิเต สาเปกฺขา โหม, ชีวิเต สาเปกฺเขน จ น สกฺกา โลกุตฺตรธมฺโม อธิคนฺตุํ, ปุถุชฺชนกาลกิริยาปิ ทุกฺขา, หนฺท มยํ นิสฺเสณึ พนฺธิตฺวา ปพฺพตํ อภิรุยฺห กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺขา สมณธมฺมํ กโรมา’’ติ. เต ตถา อกํสุ.

อถ เนสํ มหาเถโร อุปนิสฺสยสมฺปนฺนตฺตา ตทเหว ฉฬภิฺาปริวารํ อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ. โส อิทฺธิยา หิมวนฺตํ คนฺตฺวา อโนตตฺเต มุขํ โธวิตฺวา อุตฺตรกุรูสุ ปิณฺฑาย จริตฺวา กตภตฺตกิจฺโจ ปุน อฺมฺปิ ปเทสํ คนฺตฺวา ปตฺตํ ปูเรตฺวา อโนตตฺตอุทกฺจ นาคลตาทนฺตโปณฺจ คเหตฺวา เตสํ สนฺติกํ อาคนฺตฺวา อาห – ‘‘ปสฺสถาวุโส มมานุภาวํ, อยํ อุตฺตรกุรุโต ปิณฺฑปาโต, อิทํ หิมวนฺตโต อุทกทนฺตโปณํ อาภตํ, อิมํ ภุฺชิตฺวา สมณธมฺมํ กโรถ, เอวาหํ ตุมฺเห สทา อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ. เต ตํ สุตฺวา อาหํสุ – ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, กตกิจฺจา, ตุมฺเหหิ สห สลฺลาปมตฺตมฺปิ อมฺหากํ ปปฺโจ, มา ทานิ ตุมฺเห ปุน อมฺหากํ สนฺติกํ อาคมิตฺถา’’ติ. โส เกนจิ ปริยาเยน เต สมฺปฏิจฺฉาเปตุํ อสกฺโกนฺโต ปกฺกามิ.

ตโต เตสํ เอโก ทฺวีหตีหจฺจเยน ปฺจาภิฺโ อนาคามี อโหสิ. โสปิ ตเถว อกาสิ, อิตเรน จ ปฏิกฺขิตฺโต ตเถว อคมาสิ. โส ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา วายมนฺโต ปพฺพตํ อารุหนทิวสโต สตฺตเม ทิวเส กิฺจิ วิเสสํ อนธิคนฺตฺวาว กาลกโต เทวโลเก นิพฺพตฺติ. ขีณาสวตฺเถโรปิ ตํ ทิวสเมว ปรินิพฺพายิ, อนาคามี สุทฺธาวาเสสุ อุปฺปชฺชิ. เทวปุตฺโต ฉสุ กามาวจรเทวโลเกสุ อนุโลมปฏิโลเมน ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา อมฺหากํ ภควโต กาเล เทวโลกา จวิตฺวา อฺตริสฺสา ปริพฺพาชิกาย กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ อคฺคเหสิ. สา กิร อฺตรสฺส ขตฺติยสฺส ธีตา, ตํ มาตาปิตโร ‘‘อมฺหากํ ธีตา สมยนฺตรํ ชานาตู’’ติ เอกสฺส ปริพฺพาชกสฺส นิยฺยาเตสุํ. ตสฺเสโก อนฺเตวาสิโก ปริพฺพาชโก ตาย สทฺธึ วิปฺปฏิปชฺชิ. สา เตน คพฺภํ คณฺหิ. ตํ คพฺภินึ ทิสฺวา ปริพฺพาชิกา นิกฺกฑฺฒึสุ. สา อฺตฺถ คจฺฉนฺตี อนฺตรามคฺเค สภายํ วิชายิ, เตนสฺส ‘‘สภิโย’’ตฺเวว นามํ อกาสิ. โสปิ สภิโย วฑฺฒิตฺวา ปริพฺพาชกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา นานาสตฺถานิ อุคฺคเหตฺวา มหาวาที หุตฺวา วาทกฺขิตฺตตาย สกลชมฺพุทีเป วิจรนฺโต อตฺตโน สทิสํ วาทึ อทิสฺวา นครทฺวาเร อสฺสมํ การาเปตฺวา ขตฺติยกุมาราทโย สิปฺปํ สิกฺขาเปนฺโต ตตฺถ วสติ.

อถ ภควา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก อนุปุพฺเพน ราชคหํ อาคนฺตฺวา เวฬุวเน วิหรติ กลนฺทกนิวาเป. สภิโย ปน พุทฺธุปฺปาทํ น ชานาติ. อถ โส สุทฺธาวาสพฺรหฺมา สมาปตฺติโต วุฏฺาย ‘‘อิมาหํ วิเสสํ กสฺสานุภาเวน ปตฺโต’’ติ อาวชฺเชนฺโต กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน สมณธมฺมกิริยํ เต จ สหาเย อนุสฺสริตฺวา ‘‘เตสุ เอโก ปรินิพฺพุโต, เอโก อิทานิ กตฺถา’’ติ อาวชฺเชนฺโต ‘‘เทวโลกา จวิตฺวา ชมฺพุทีเป อุปฺปนฺโน พุทฺธุปฺปาทมฺปิ น ชานาตี’’ติ ตฺวา ‘‘หนฺท นํ พุทฺธุปเสวนาย นิโยเชมี’’ติ วีสติ ปฺเห อภิสงฺขริตฺวา รตฺติภาเค ตสฺส อสฺสมมาคมฺม อากาเส ตฺวา ‘‘สภิย, สภิยา’’ติ ปกฺโกสิ. โส นิทฺทายมาโน ติกฺขตฺตุํ ตํ สทฺทํ สุตฺวา นิกฺขมฺม โอภาสํ ทิสฺวา ปฺชลิโก อฏฺาสิ. ตโต ตํ พฺรหฺมา อาห – ‘‘อหํ สภิย ตวตฺถาย วีสติ ปฺเห อาหรึ, เต ตฺวํ อุคฺคณฺห. โย จ เต สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิเม ปฺเห ปุฏฺโ พฺยากโรติ, ตสฺส สนฺติเก พฺรหฺมจริยํ จเรยฺยาสี’’ติ. อิมํ เทวปุตฺตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ ‘‘ปุราณสาโลหิตาย เทวตาย ปฺหา อุทฺทิฏฺา โหนฺตี’’ติ. อุทฺทิฏฺาติ อุทฺเทสมตฺเตเนว วุตฺตา, น วิภงฺเคน.

เอวํ วุตฺเต จ เน สภิโย เอกวจเนเนว ปทปฏิปาฏิยา อุคฺคเหสิ. อถ โส พฺรหฺมา ชานนฺโตปิ ตสฺส พุทฺธุปฺปาทํ นาจิกฺขิ. ‘‘อตฺถํ คเวสมาโน ปริพฺพาชโก สยเมว สตฺถารํ สฺสติ. อิโต พหิทฺธา จ สมณพฺราหฺมณานํ ตุจฺฉภาว’’นฺติ อิมินา ปนาธิปฺปาเยน เอวมาห – ‘‘โย เต สภิย…เป… จเรยฺยาสี’’ติ. เถรคาถาสุ ปน จตุกฺกนิปาเต สภิยตฺเถราปทานํ วณฺเณนฺตา ภณนฺติ ‘‘สา จสฺส มาตา อตฺตโน วิปฺปฏิปตฺตึ จินฺเตตฺวา ตํ ชิคุจฺฉมานา ฌานํ อุปฺปาเทตฺวา พฺรหฺมโลเก อุปฺปนฺนา, ตาย พฺรหฺมเทวตาย เต ปฺหา อุทฺทิฏฺา’’ติ.

เย เตติ อิทานิ วตฺตพฺพานํ อุทฺเทสปจฺจุทฺเทโส. สมณพฺราหฺมณาติ ปพฺพชฺชูปคมเนน โลกสมฺมุติยา จ สมณา เจว พฺราหฺมณา จ. สงฺฆิโนติ คณวนฺโต. คณิโนติ สตฺถาโร, ‘‘สพฺพฺุโน มย’’นฺติ เอวํ ปฏิฺาตาโร. คณาจริยาติ อุทฺเทสปริปุจฺฉาทิวเสน ปพฺพชิตคหฏฺคณสฺส อาจริยา. าตาติ อภิฺาตา, วิสฺสุตา ปากฏาติ วุตฺตํ โหติ. ยสสฺสิโนติ ลาภปริวารสมฺปนฺนา. ติตฺถกราติ เตสํ ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺเตหิ โอตริตพฺพานํ โอคาหิตพฺพานํ ทิฏฺิติตฺถานํ กตฺตาโร. สาธุสมฺมตา พหุชนสฺสาติ ‘‘สาธโว เอเต สนฺโต สปฺปุริสา’’ติ เอวํ พหุชนสฺส สมฺมตา.

เสยฺยถิทนฺติ กตเม เตติ เจ-อิจฺเจตสฺมึ อตฺเถ นิปาโต. ปูรโณติ นามํ, กสฺสโปติ โคตฺตํ. โส กิร ชาติยา ทาโส, ทาสสตํ ปูเรนฺโต ชาโต. เตนสฺส ‘‘ปูรโณ’’ติ นามมกํสุ. ปลายิตฺวา ปน นคฺเคสุ ปพฺพชิตฺวา ‘‘กสฺสโป อห’’นฺติ โคตฺตํ อุทฺทิสิ, สพฺพฺุตฺจ ปจฺจฺาสิ. มกฺขลีติ นามํ, โคสาลาย ชาตตฺตา โคสาโลติปิ วุจฺจติ. โสปิ กิร ชาติยา ทาโส เอว, ปลายิตฺวา ปพฺพชิ, สพฺพฺุตฺจ ปจฺจฺาสิ. อชิโตติ นามํ, อปฺปิจฺฉตาย เกสกมฺพลํ ธาเรติ, เตน เกสกมฺพโลติปิ วุจฺจติ, โสปิ สพฺพฺุตํ ปจฺจฺาสิ . ปกุโธติ นามํ, กจฺจายโนติ โคตฺตํ. อปฺปิจฺฉวเสน อุทเก ชีวสฺาย จ นฺหานมุขโธวนาทิ ปฏิกฺขิตฺโต, โสปิ สพฺพฺุตํ ปจฺจฺาสิ. สฺจโยติ นามํ, เพลฏฺโ ปนสฺส ปิตา, ตสฺมา เพลฏฺปุตฺโตติ วุจฺจติ, โสปิ สพฺพฺุตํ ปจฺจฺาสิ. นิคณฺโติ ปพฺพชฺชานาเมน, นาฏปุตฺโตติ ปิตุนาเมน วุจฺจติ. นาโฏติ กิร นามสฺส ปิตา, ตสฺส ปุตฺโตติ นาฏปุตฺโต, โสปิ สพฺพฺุตํ ปจฺจฺาสิ. สพฺเพปิ ปฺจสตปฺจสตสิสฺสปริวารา อเหสุํ. เตติ เต ฉ สตฺถาโร. เต ปฺเหติ เต วีสติ ปฺเห. เตติ เต ฉ สตฺถาโร. น สมฺปายนฺตีติ น สมฺปาเทนฺติ. โกปนฺติ จิตฺตเจตสิกานํ อาวิลภาวํ. โทสนฺติ ปทุฏฺจิตฺตตํ, ตทุภยมฺเปตํ มนฺทติกฺขเภทสฺส โกธสฺเสวาธิวจนํ. อปฺปจฺจยนฺติ อปฺปตีตตา, โทมนสฺสนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปาตุกโรนฺตีติ กายวจีวิกาเรน ปกาเสนฺติ, ปากฏํ กโรนฺติ.

หีนายาติ คหฏฺภาวาย. คหฏฺภาโว หิ ปพฺพชฺชํ อุปนิธาย สีลาทิคุณหีนโต หีนกามสุขปฏิเสวนโต วา ‘‘หีโน’’ติ วุจฺจติ. อุจฺจา ปพฺพชฺชา. อาวตฺติตฺวาติ โอสกฺกิตฺวา. กาเม ปริภุฺเชยฺยนฺติ กาเม ปฏิเสเวยฺยํ. อิติ กิรสฺส สพฺพฺุปฏิฺานมฺปิ ปพฺพชิตานํ ตุจฺฉกตฺตํ ทิสฺวา อโหสิ. อุปฺปนฺนปริวิตกฺกวเสเนว จ อาคนฺตฺวา ปุนปฺปุนํ วีมํสมานสฺส อถ โข สภิยสฺส ปริพฺพาชกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยมฺปิ โข สมโณ’’ติ จ ‘‘เยปิ โข เต โภนฺโต’’ติ จ ‘‘สมโณ โข ทหโรติ น อุฺาตพฺโพ’’ติ จาติ เอวมาทิ. ตตฺถ ชิณฺณาติอาทีนิ ปทานิ วุตฺตนยาเนว. เถราติ อตฺตโน สมณธมฺเม ถิรภาวปฺปตฺตา. รตฺตฺูติ รตนฺู, ‘‘นิพฺพานรตนํ ชานาม มย’’นฺติ เอวํ สกาย ปฏิฺาย โลเกนาปิ สมฺมตา, พหุรตฺติวิทู วา. จิรํ ปพฺพชิตานํ เอเตสนฺติ จิรปพฺพชิตา. น อุฺาตพฺโพติ น อวชานิตพฺโพ, น นีจํ กตฺวา ชานิตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ. น ปริโภตพฺโพติ น ปริภวิตพฺโพ, ‘‘กิเมส สฺสตี’’ติ เอวํ น คเหตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ.

๕๑๖. กงฺขี เวจิกิจฺฉีติ สภิโย ภควตา สทฺธึ สมฺโมทมาโน เอวํ ภควโต รูปสมฺปตฺติทมูปสมสูจิตํ สพฺพฺุตํ สมฺภาวยมาโน วิคตุทฺธจฺโจ หุตฺวา อาห – ‘‘กงฺขี เวจิกิจฺฉี’’ติ. ตตฺถ ‘‘ลเภยฺยํ นุ โข อิเมสํ พฺยากรณ’’นฺติ เอวํ ปฺหานํ พฺยากรณกงฺขาย กงฺขี. ‘‘โก นุ โข อิมสฺสิมสฺส จ ปฺหสฺส อตฺโถ’’ติ เอวํ วิจิกิจฺฉาย เวจิกิจฺฉี. ทุพฺพลวิจิกิจฺฉาย วา เตสํ ปฺหานํ อตฺเถ กงฺขนโต กงฺขี, พลวติยา วิจินนฺโต กิจฺฉติเยว, น สกฺโกติ สนฺนิฏฺาตุนฺติ เวจิกิจฺฉี. อภิกงฺขมาโนติ อติวิย ปตฺถยมาโน. เตสนฺตกโรติ เตสํ ปฺหานํ อนฺตกโร. ภวนฺโตว เอวํ ภวาหีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ปฺเห เม ปุฏฺโ…เป… พฺยากโรหิ เม’’ติ. ตตฺถ ปฺเห เมติ ปฺเห มยา. ปุฏฺโติ ปุจฺฉิโต. อนุปุพฺพนฺติ ปฺหปฏิปาฏิยา อนุธมฺมนฺติ อตฺถานุรูปํ ปาฬึ อาโรเปนฺโต. พฺยากโรหิ เมติ มยฺหํ พฺยากโรหิ.

๕๑๗. ทูรโตติ โส กิร อิโต จิโต จาหิณฺฑนฺโต สตฺตโยชนสตมคฺคโต อาคโต. เตนาห – ภควา ‘‘ทูรโต อาคโตสี’’ติ, กสฺสปสฺส ภควโต วา สาสนโต อาคตตฺตา ‘‘ทูรโต อาคโตสี’’ติ นํ อาห.

๕๑๘. ปุจฺฉ มนฺติ อิมาย ปนสฺส คาถาย สพฺพฺุปวารณํ ปวาเรติ. ตตฺถ มนสิจฺฉสีติ มนสา อิจฺฉสิ.

ยํ วตาหนฺติ ยํ วต อหํ. อตฺตมโนติ ปีติปาโมชฺชโสมนสฺเสหิ ผุฏจิตฺโต. อุทคฺโคติ กาเยน จิตฺเตน จ อพฺภุนฺนโต . อิทํ ปน ปทํ น สพฺพปาเสุ อตฺถิ. อิทานิ เยหิ ธมฺเมหิ อตฺตมโน, เต ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘ปมุทิโต ปีติโสมนสฺสชาโต’’ติ.

๕๑๙. กึ ปตฺตินนฺติ กึ ปตฺตํ กิมธิคตํ. โสรตนฺติ สุวูปสนฺตํ. ‘‘สุรต’’นฺติปิ ปาโ, สุฏฺุ อุปรตนฺติ อตฺโถ. ทนฺตนฺติ ทมิตํ. พุทฺโธติ วิพุทฺโธ, พุทฺธโพทฺธพฺโพ วา. เอวํ สภิโย เอเกกาย คาถาย จตฺตาโร จตฺตาโร กตฺวา ปฺจหิ คาถาหิ วีสติ ปฺเห ปุจฺฉิ. ภควา ปนสฺส เอกเมกํ ปฺหํ เอกเมกาย คาถาย กตฺวา อรหตฺตนิกูเฏเนว วีสติยา คาถาหิ พฺยากาสิ.

๕๒๐. ตตฺถ ยสฺมา ภินฺนกิเลโส ปรมตฺถภิกฺขุ, โส จ นิพฺพานปฺปตฺโต โหติ, ตสฺมา อสฺส ‘‘กึ ปตฺตินมาหุ ภิกฺขุน’’นฺติ อิมํ ปฺหํ พฺยากโรนฺโต ‘‘ปชฺเชนา’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – โย อตฺตนา ภาวิเตน มคฺเคน ปรินิพฺพานคโต กิเลสปรินิพฺพานํ ปตฺโต, ปรินิพฺพานคตตฺตา เอว จ วิติณฺณกงฺโข วิปตฺติสมฺปตฺติหานิพุทฺธิอุจฺเฉทสสฺสตอปุฺปุฺเภทํ วิภวฺจ ภวฺจ วิปฺปหาย, มคฺควาสํ วุสิตวา ขีณปุนพฺภโวติ จ เอเตสํ ถุติวจนานํ อรโห, โส ภิกฺขูติ.

๕๒๑. ยสฺมา ปน วิปฺปฏิปตฺติโต สุฏฺุ อุปรตภาเวน นานปฺปการกิเลสวูปสเมน จ โสรโต โหติ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สพฺพตฺถ อุเปกฺขโก’’ติอาทินา นเยน ทุติยปฺหพฺยากรณมาห. ตสฺสตฺโถ – โย สพฺพตฺถ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ, น ทุมฺมโน’’ติ เอวํ ปวตฺตาย ฉฬงฺคุเปกฺขาย อุเปกฺขโก, เวปุลฺลปฺปตฺตาย สติยา สติมา, น โส หึสติ เนว หึสติ กฺจิ ตสถาวราทิเภทํ สตฺตํ สพฺพโลเก สพฺพสฺมิมฺปิ โลเก, ติณฺโณฆตฺตา ติณฺโณ, สมิตปาปตฺตา สมโณ, อาวิลสงฺกปฺปปฺปหานา อนาวิโล. ยสฺส จิเม ราคโทสโมหมานทิฏฺิกิเลสทุจฺจริตสงฺขาตา สตฺตุสฺสทา เกจิ โอฬาริกา วา สุขุมา วา น สนฺติ, โส อิมาย อุเปกฺขาวิหาริตาย สติเวปุลฺลตาย อหึสกตาย จ วิปฺปฏิปตฺติโต สุฏฺุ อุปรตภาเวน อิมินา โอฆาทินานปฺปการกิเลสวูปสเมน โสรโตติ.

๕๒๒. ยสฺมา จ ภาวิตินฺทฺริโย นิพฺภโย นิพฺพิกาโร ทนฺโต โหติ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยสฺสินฺทฺริยานี’’ติ คาถาย ตติยปฺหํ พฺยากาสิ. ตสฺสตฺโถ – ยสฺส จกฺขาทีนิ ฉฬินฺทฺริยานิ โคจรภาวนาย อนิจฺจาทิติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา วาสนาภาวนาย สติสมฺปชฺคนฺธํ คาหาเปตฺวา จ ภาวิตานิ, ตานิ จ โข ยถา อชฺฌตฺตํ โคจรภาวนาย, เอวํ ปน พหิทฺธา จ สพฺพโลเกติ ยตฺถ ยตฺถ อินฺทฺริยานํ เวกลฺลตา เวกลฺลตาย วา สมฺภโว, ตตฺถ ตตฺถ นาภิชฺฌาทิวเสน ภาวิตานีติ เอวํ นิพฺพิชฺฌ ตฺวา ปฏิวิชฺฌิตฺวา อิมํ ปรฺจ โลกํ สกสนฺตติกฺขนฺธโลกํ ปรสนฺตติกฺขนฺธโลกฺจ อทนฺธมรณํ มริตุกาโม กาลํ กงฺขติ, ชีวิตกฺขยกาลํ อาคเมติ ปติมาเนติ, น ภายติ มรณสฺส. ยถาห เถโร –

‘‘มรเณ เม ภยํ นตฺถิ, นิกนฺติ นตฺถิ ชีวิเต’’; (เถรคา. ๒๐);

‘‘นาภิกงฺขามิ มรณํ, นาภิกงฺขามิ ชีวิตํ;

กาลฺจ ปฏิกงฺขามิ, นิพฺพิสํ ภตโก ยถา’’ติ. (เถรคา. ๖๐๖);

ภาวิโต ส ทนฺโตติ เอวํ ภาวิตินฺทฺริโย โส ทนฺโตติ.

๕๒๓. ยสฺมา ปน พุทฺโธ นาม พุทฺธิสมฺปนฺโน กิเลสนิทฺทา วิพุทฺโธ จ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กปฺปานี’’ติ คาถาย จตุตฺถปฺหํ พฺยากาสิ. ตตฺถ กปฺปานีติ ตณฺหาทิฏฺิโย. ตา หิ ตถา ตถา วิกปฺปนโต ‘‘กปฺปานี’’ติ วุจฺจนฺติ. วิเจยฺยาติ อนิจฺจาทิภาเวน สมฺมสิตฺวา. เกวลานีติ สกลานิ. สํสารนฺติ โย จายํ –

‘‘ขนฺธานฺจ ปฏิปาฏิ, ธาตุอายตนาน จ;

อพฺโพจฺฉินฺนํ วตฺตมานา, สํสาโรติ ปวุจฺจตี’’ติ. –

เอวํ ขนฺธาทิปฏิปาฏิสงฺขาโต สํสาโร, ตํ สํสารฺจ เกวลํ วิเจยฺย. เอตฺตาวตา ขนฺธานํ มูลภูเตสุ กมฺมกิเลเสสุ ขนฺเธสุ จาติ เอวํ ตีสุปิ วฏฺเฏสุ วิปสฺสนํ อาห. ทุภยํ จุตูปปาตนฺติ สตฺตานํ จุตึ อุปปาตนฺติ อิมฺจ อุภยํ วิเจยฺย ตฺวาติ อตฺโถ. เอเตน จุตูปปาตาณํ อาห. วิคตรชมนงฺคณํ วิสุทฺธนฺติ ราคาทิรชานํ วิคมา องฺคณานํ อภาวา มลานฺจ วิคมา วิคตรชมนงฺคณํ วิสุทฺธํ. ปตฺตํ ชาติขยนฺติ นิพฺพานํ ปตฺตํ. ตมาหุ พุทฺธนฺติ ตํ อิมาย โลกุตฺตรวิปสฺสนาย จุตูปปาตาณเภทาย พุทฺธิยา สมฺปนฺนตฺตา อิมาย จ วิคตรชาทิตาย กิเลสนิทฺทา วิพุทฺธตฺตา ตาย ปฏิปทาย ชาติกฺขยํ ปตฺตํ พุทฺธมาหุ.

อถ วา กปฺปานิ วิเจยฺย เกวลานีติ ‘‘อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป อมุตฺราสิ’’นฺติอาทินา (อิติวุ. ๙๙; ปารา. ๑๒) นเยน วิจินิตฺวาติ อตฺโถ. เอเตน ปมวิชฺชมาห. สํสารํ ทุภยํ จุตูปปาตนฺติ สตฺตานํ จุตึ อุปปาตนฺติ อิมฺจ อุภยํ สํสารํ ‘‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา’’ติอาทินา นเยน วิจินิตฺวาติ อตฺโถ. เอเตน ทุติยวิชฺชมาห. อวเสเสน ตติยวิชฺชมาห. อาสวกฺขยาเณน หิ วิคตรชาทิตา จ นิพฺพานปฺปตฺติ จ โหตีติ. ตมาหุ พุทฺธนฺติ เอวํ วิชฺชตฺตยเภทพุทฺธิสมฺปนฺนํ ตํ พุทฺธมาหูติ.

๕๒๕. เอวํ ปมคาถาย วุตฺตปฺเห วิสฺสชฺเชตฺวา ทุติยคาถาย วุตฺตปฺเหสุปิ ยสฺมา พฺรหฺมภาวํ เสฏฺภาวํ ปตฺโต ปรมตฺถพฺราหฺมโณ พาหิตสพฺพปาโป โหติ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘พาหิตฺวา’’ติ คาถาย ปมํ ปฺหํ พฺยากาสิ. ตสฺสตฺโถ – โย จตุตฺถมคฺเคน พาหิตฺวา สพฺพปาปกานิ ิตตฺโต, ิโต อิจฺเจว วุตฺตํ โหติ. พาหิตปาปตฺตา เอว จ วิมโล, วิมลภาวํ พฺรหฺมภาวํ เสฏฺภาวํ ปตฺโต, ปฏิปฺปสฺสทฺธสมาธิวิกฺเขปกรกิเลสมเลน อคฺคผลสมาธินา สาธุสมาหิโต, สํสารเหตุสมติกฺกเมน สํสารมติจฺจ ปรินิฏฺิตกิจฺจตาย เกวลี, โส ตณฺหาทิฏฺีหิ อนิสฺสิตตฺตา อสิโต, โลกธมฺเมหิ นิพฺพิการตฺตา ‘‘ตาที’’ติ จ ปวุจฺจติ. เอวํ ถุติรโห ส พฺรหฺมา โส พฺราหฺมโณติ.

๕๒๖. ยสฺมา ปน สมิตปาปตาย สมโณ, นฺหาตปาปตาย นฺหาตโก, อาคูนํ อกรเณน จ นาโคติ ปวุจฺจติ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ตโต อปราหิ ตีหิ คาถาหิ ตโย ปฺเห พฺยากาสิ. ตตฺถ สมิตาวีติ อริยมคฺเคน กิเลเส สเมตฺวา ิโต. สมโณ ปวุจฺจเต ตถตฺตาติ ตถารูโป สมโณ ปวุจฺจตีติ. เอตฺตาวตา ปฺโห พฺยากโต โหติ, เสสํ ตสฺมึ สมเณ สภิยสฺส พหุมานชนนตฺถํ ถุติวจนํ. โย หิ สมิตาวี, โส ปุฺปาปานํ อปฏิสนฺธิกรเณน ปหาย ปุฺปาปํ รชานํ วิคเมน วิรโช, อนิจฺจาทิวเสน ตฺวา อิมํ ปรฺจ โลกํ ชาติมรณํ อุปาติวตฺโต ตาทิ จ โหติ.

๕๒๗. นินฺหาย…เป… นฺหาตโกติ เอตฺถ ปน โย อชฺฌตฺตพหิทฺธาสงฺขาเต สพฺพสฺมิมฺปิ อายตนโลเก อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณวเสน อุปฺปตฺติรหานิ สพฺพปาปกานิ มคฺคาเณน นินฺหาย โธวิตฺวา ตาย นินฺหาตปาปกตาย ตณฺหาทิฏฺิกปฺเปหิ กปฺปิเยสุ เทวมนุสฺเสสุ กปฺปํ น เอติ, ตํ นฺหาตกมาหูติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

๕๒๘. จตุตฺถคาถายปิ อาคุํ น กโรติ กิฺจิ โลเกติ โย โลเก อปฺปมตฺตกมฺปิ ปาปสงฺขาตํ อาคุํ น กโรติ, นาโค ปวุจฺจเต ตถตฺตาติ . เอตฺตาวตา ปฺโห พฺยากโต โหติ, เสสํ ปุพฺพนเยเนว ถุติวจนํ. โย หิ มคฺเคน ปหีนอาคุตฺตา อาคุํ น กโรติ, โส กามโยคาทิเก สพฺพโยเค ทสสฺโชนเภทานิ จ สพฺพพนฺธนานิ วิสชฺช ชหิตฺวา สพฺพตฺถ ขนฺธาทีสุ เกนจิ สงฺเคน น สชฺชติ, ทฺวีหิ จ วิมุตฺตีหิ วิมุตฺโต, ตาทิ จ โหตีติ.

๕๓๐. เอวํ ทุติยคาถาย วุตฺตปฺเห วิสฺสชฺเชตฺวา ตติยคาถาย วุตฺตปฺเหสุปิ ยสฺมา ‘‘เขตฺตานี’’ติ อายตนานิ วุจฺจนฺติ. ยถาห – ‘‘จกฺขุเปตํ จกฺขายตนํเปตํ…เป… เขตฺตมฺเปตํ วตฺถุเปต’’นฺติ (ธ. ส. ๕๙๖-๕๙๘). ตานิ วิเชยฺย วิเชตฺวา อภิภวิตฺวา, วิเจยฺย วา อนิจฺจาทิภาเวน วิจินิตฺวา อุปปริกฺขิตฺวา เกวลานิ อนวเสสานิ, วิเสสโต ปน สงฺคเหตุภูตํ ทิพฺพํ มานุสกฺจ พฺรหฺมเขตฺตํ, ยํ ทิพฺพํ ทฺวาทสายตนเภทํ ตถา มานุสกฺจ, ยฺจ พฺรหฺมเขตฺตํ ฉฬายตเน จกฺขายตนาทิทฺวาทสายตนเภทํ, ตํ สพฺพมฺปิ วิเชยฺย วิเจยฺย วา. ยโต ยเทตํ สพฺเพสํ เขตฺตานํ มูลพนฺธนํ อวิชฺชาภวตณฺหาทิ, ตสฺมา สพฺพเขตฺตมูลพนฺธนา ปมุตฺโต. เอวเมเตสํ เขตฺตานํ วิชิตตฺตา วิจินิตตฺตา วา เขตฺตชิโน นาม โหติ, ตสฺมา ‘‘เขตฺตานี’’ติ อิมาย คาถาย ปมปฺหํ พฺยากาสิ. ตตฺถ เกจิ ‘‘กมฺมํ เขตฺตํ, วิฺาณํ พีชํ, ตณฺหา สฺเนโห’’ติ (อ. นิ. ๓.๗๗) วจนโต กมฺมานิ เขตฺตานีติ วทนฺติ. ทิพฺพํ มานุสกฺจ พฺรหฺมเขตฺตนฺติ เอตฺถ จ เทวูปคํ กมฺมํ ทิพฺพํ, มนุสฺสูปคํ กมฺมํ มานุสกํ, พฺรหฺมูปคํ กมฺมํ พฺรหฺมเขตฺตนฺติ วณฺณยนฺติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

๕๓๑. ยสฺมา ปน สกฏฺเน โกสสทิสตฺตา ‘‘โกสานี’’ติ กมฺมานิ วุจฺจนฺติ, เตสฺจ ลุนนา สมุจฺเฉทนา กุสโล โหติ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โกสานี’’ติ คาถาย ทุติยปฺหํ พฺยากาสิ. ตสฺสตฺโถ – โลกิยโลกุตฺตรวิปสฺสนาย วิสยโต กิจฺจโต จ อนิจฺจาทิภาเวน กุสลากุสลกมฺมสงฺขาตานิ โกสานิ วิเจยฺย เกวลานิ, วิเสสโต ปน สงฺคเหตุภูตํ อฏฺกามาวจรกุสลเจตนาเภทํ ทิพฺพํ มานุสกฺจ นวมหคฺคตกุสลเจตนาเภทฺจ พฺรหฺมโกสํ วิเจยฺย. ตโต อิมาย มคฺคภาวนาย อวิชฺชาภวตณฺหาทิเภทา สพฺพโกสานํ มูลพนฺธนา ปมุตฺโต, เอวเมเตสํ โกสานํ ลุนนา ‘‘กุสโล’’ติ ปวุจฺจติ, ตถตฺตา ตาที จ โหตีติ. อถ วา สตฺตานํ ธมฺมานฺจ นิวาสฏฺเน อสิโกสสทิสตฺตา ‘‘โกสานี’’ติ ตโย ภวา ทฺวาทสายตนานิ จ เวทิตพฺพานิ. เอวเมตฺถ โยชนา กาตพฺพา.

๕๓๒. ยสฺมา จ น เกวลํ ปณฺฑตีติ อิมินาว ‘‘ปณฺฑิโต’’ติ วุจฺจติ, อปิจ โข ปน ปณฺฑรานิ อิโต อุปคโต ปวิจยปฺาย อลฺลีโนติปิ ‘‘ปณฺฑิโต’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทุภยานี’’ติ คาถาย ตติยปฺหํ พฺยากาสิ . ตสฺสตฺโถ – อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จาติ เอวํ อุภยานิ อนิจฺจาทิภาเวน วิเจยฺย. ปณฺฑรานีติ อายตนานิ. ตานิ หิ ปกติปริสุทฺธตฺตา รุฬฺหิยา จ เอวํ วุจฺจนฺติ, ตานิ วิเจยฺย อิมาย ปฏิปตฺติยา นิทฺธนฺตมลตฺตา สุทฺธิปฺโ ปณฺฑิโตติ ปวุจฺจติ ตถตฺตา, ยสฺมา ตานิ ปณฺฑรานิ ปฺาย อิโต โหติ, เสสมสฺส ถุติวจนํ. โส หิ ปาปปุฺสงฺขาตํ กณฺหสุกฺกํ อุปาติวตฺโต ตาที จ โหติ, ตสฺมา เอวํ ถุโต.

๕๓๓. ยสฺมา ปน ‘‘โมนํ วุจฺจติ าณํ, ยา ปฺา ปชานนา…เป… สมฺมาทิฏฺิ, เตน าเณน สมนฺนาคโต มุนี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อสตฺจา’’ติ คาถาย จตุตฺถปฺหํ พฺยากาสิ. ตสฺสตฺโถ – ยฺวายํ อกุสลกุสลปฺปเภโท อสตฺจ สตฺจ ธมฺโม, ตํ อชฺฌตฺตํ พหิทฺธาติ อิมสฺมึ สพฺพโลเก ปวิจยาเณน อสตฺจ สตฺจ ตฺวา ธมฺมํ ตสฺส าตตฺตา เอว ราคาทิเภทโต สตฺตวิธํ สงฺคํ ตณฺหาทิฏฺิเภทโต ทุวิธํ ชาลฺจ อติจฺจ อติกฺกมิตฺวา ิโต. โส เตน โมนสงฺขาเตน ปวิจยาเณน สมนฺนาคตตฺตา มุนิ. เทวมนุสฺเสหิ ปูชนีโยติ อิทํ ปนสฺส ถุติวจนํ. โส หิ ขีณาสวมุนิตฺตา เทวมนุสฺสานํ ปูชารโห โหติ, ตสฺมา เอวํ ถุโต.

๕๓๕. เอวํ ตติยคาถาย วุตฺตปฺเห วิสฺสชฺเชตฺวา จตุตฺถคาถาย วุตฺตปฺเหสุปิ ยสฺมา โย จตูหิ มคฺคาณเวเทหิ กิเลสกฺขยํ กโรนฺโต คโต, โส ปรมตฺถโต เวทคู นาม โหติ. โย จ สพฺพสมณพฺราหฺมณานํ สตฺถสฺิตานิ เวทานิ, ตาเยว มคฺคภาวนาย กิจฺจโต อนิจฺจาทิวเสน วิเจยฺย. ตตฺถ ฉนฺทราคปฺปหาเนน ตเมว สพฺพํ เวทมติจฺจ ยา เวทปจฺจยา วา อฺถา วา อุปฺปชฺชนฺติ เวทนา , ตาสุ สพฺพเวทนาสุ วีตราโค โหติ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทํ ปตฺติน’’นฺติ อวตฺวา ‘‘เวทานี’’ติ คาถาย ปมปฺหํ พฺยากาสิ. ยสฺมา วา โย ปวิจยปฺาย เวทานิ วิเจยฺย, ตตฺถ ฉนฺทราคปฺปหาเนน สพฺพํ เวทมติจฺจ วตฺตติ, โส สตฺถสฺิตานิ เวทานิ คโต าโต อติกฺกนฺโต จ โหติ. โย เวทนาสุ วีตราโค, โสปิ เวทนาสฺิตานิ เวทานิ คโต อติกฺกนฺโต จ โหติ. เวทานิ คโตติปิ เวทคู, ตสฺมา ตมฺปิ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทํ ปตฺติน’’นฺติ อวตฺวา อิมาย คาถาย ปมปฺหํ พฺยากาสิ.

๕๓๖. ยสฺมา ปน ทุติยปฺเห ‘‘อนุวิทิโต’’ติ อนุพุทฺโธ วุจฺจติ, โส จ อนุวิจฺจ ปปฺจนามรูปํ อชฺฌตฺตํ อตฺตโน สนฺตาเน ตณฺหามานทิฏฺิเภทํ ปปฺจํ ตปฺปจฺจยา นามรูปฺจ อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ อนุวิจฺจ อนุวิทิตฺวา, น เกวลฺจ อชฺฌตฺตํ, พหิทฺธา จ โรคมูลํ, ปรสนฺตาเน จ อิมสฺส นามรูปโรคสฺส มูลํ อวิชฺชาภวตณฺหาทึ, ตเมว วา ปปฺจํ อนุวิจฺจ ตาย ภาวนาย สพฺเพสํ โรคานํ มูลพนฺธนา, สพฺพสฺมา วา โรคานํ มูลพนฺธนา, อวิชฺชาภวตณฺหาทิเภทา, ตสฺมา เอว วา ปปฺจา ปมุตฺโต โหติ, ตสฺมา ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนุวิจฺจา’’ติ คาถาย ทุติยปฺหํ พฺยากาสิ.

๕๓๗. ‘‘กถฺจ วีริยวา’’ติ เอตฺถ ปน ยสฺมา โย อริยมคฺเคน สพฺพปาปเกหิ วิรโต, ตถา วิรตตฺตา จ อายตึ อปฏิสนฺธิตาย นิรยทุกฺขํ อติจฺจ ิโต วีริยวาโส วีริยนิเกโต, โส ขีณาสโว ‘‘วีริยวา’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหติ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิรโต’’ติ คาถาย ตติยปฺหํ พฺยากาสิ. ปธานวา ธีโร ตาทีติ อิมานิ ปนสฺส ถุติวจนานิ. โส หิ ปธานวา มคฺคฌานปธาเนน, ธีโร กิเลสาริวิทฺธํสนสมตฺถตาย, ตาที นิพฺพิการตาย, ตสฺมา เอวํ ถุโต. เสสํ โยเชตฺวา วตฺตพฺพํ.

๕๓๘. ‘‘อาชานิโย กินฺติ นาม โหตี’’ติ เอตฺถ ปน ยสฺมา ปหีนสพฺพวงฺกโทโส การณาการณฺู อสฺโส วา หตฺถี วา ‘‘อาชานิโย โหตี’’ติ โลเก วุจฺจติ, น จ ตสฺส สพฺพโส เต โทสา ปหีนา เอว, ขีณาสวสฺส ปน เต ปหีนา, ตสฺมา โส ‘‘อาชานิโย’’ติ ปรมตฺถโต วตฺตพฺพตํ อรหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยสฺสา’’ติ คาถาย จตุตฺถปฺหํ พฺยากาสิ. ตสฺสตฺโถ – อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จาติ เอวํ อชฺฌตฺตพหิทฺธาสฺโชนสงฺขาตานิ ยสฺส อสฺสุ ลุนานิ พนฺธนานิ ปฺาสตฺเถน ฉินฺนานิ ปทาลิตานิ. สงฺคมูลนฺติ ยานิ เตสุ เตสุ วตฺถูสุ สงฺคสฺส สชฺชนาย อนติกฺกมนาย มูลํ โหนฺติ, อถ วา ยสฺส อสฺสุ ลุนานิ ราคาทีนิ พนฺธนานิ ยานิ อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ สงฺคมูลานิ โหนฺติ, โส สพฺพสฺมา สงฺคานํ มูลภูตา สพฺพสงฺคานํ วา มูลภูตา พนฺธนา ปมุตฺโต ‘‘อาชานิโย’’ติ วุจฺจติ, ตถตฺตา ตาทิ จ โหตีติ.

๕๔๐. เอวํ จตุตฺถคาถาย วุตฺตปฺเห วิสฺสชฺเชตฺวา ปฺจมคาถาย วุตฺตปฺเหสุปิ ยสฺมา ยํ ฉนฺทชฺเฌนมตฺเตน อกฺขรจินฺตกา โสตฺติยํ วณฺณยนฺติ, โวหารมตฺตโสตฺติโย โส. อริโย ปน พาหุสจฺเจน นิสฺสุตปาปตาย จ ปรมตฺถโสตฺติโย โหติ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทํ ปตฺติน’’นฺติ อวตฺวา ‘‘สุตฺวา’’ติ คาถาย ปมปฺหํ พฺยากาสิ. ตสฺสตฺโถ – โย อิมสฺมึ โลเก สุตมยปฺากิจฺจวเสน สุตฺวา กาตพฺพกิจฺจวเสน วา สุตฺวา วิปสฺสนูปคํ สพฺพธมฺมํ อนิจฺจาทิวเสน อภิฺาย สาวชฺชานวชฺชํ ยทตฺถิ กิฺจิ, อิมาย ปฏิปทาย กิเลเส กิเลสฏฺานิเย จ ธมฺเม อภิภวิตฺวา อภิภูติ สงฺขํ คโต, ตํ สุตฺวา สพฺพธมฺมํ อภิฺาย โลเก สาวชฺชานวชฺชํ ยทตฺถิ กิฺจิ, อภิภุํ สุตวตฺตา โสตฺติโยติ อาหุ. ยสฺมา จ โย อกถํกถี กิเลสพนฺธเนหิ วิมุตฺโต, ราคาทีหิ อีเฆหิ อนีโฆ จ โหติ สพฺพธิ สพฺเพสุ ธมฺเมสุ ขนฺธายตนาทีสุ, ตสฺมา ตํ อกถํกถึ วิมุตฺตํ อนีฆํ สพฺพธิ นิสฺสุตปาปกตฺตาปิ ‘‘โสตฺติโย’’ติ อาหูติ.

๕๔๑. ยสฺมา ปน หิตกาเมน ชเนน อรณียโต อริโย โหติ, อภิคมนียโตติ อตฺโถ. ตสฺมา เยหิ คุเณหิ โส อรณีโย โหติ, เต ทสฺเสนฺตา ‘‘เฉตฺวา’’ติ คาถาย ทุติยปฺหํ พฺยากาสิ. ตสฺสตฺโถ – จตฺตาริ อาสวานิ ทฺเว จ อาลยานิ ปฺาสตฺเถน เฉตฺวา วิทฺวา วิฺู วิภาวี จตุมคฺคาณี โส ปุนพฺภววเสน น อุเปติคพฺภเสยฺยํ, กฺจิ โยนึ น อุปคจฺฉติ, กามาทิเภทฺจ สฺํ ติวิธํ. กามคุณสงฺขาตฺจ ปงฺกํ ปนุชฺช ปนุทิตฺวา ตณฺหาทิฏฺิกปฺปานํ อฺตรมฺปิ กปฺปํ น เอติ, เอวํ อาสวจฺเฉทาทิคุณสมนฺนาคตํ ตมาหุ อริโยติ. ยสฺมา วา ปาปเกหิ อารกตฺตา อริโย โหติ อนเย จ อนิรียนา, ตสฺมา ตมฺปิ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อิมาย คาถาย ทุติยปฺหํ พฺยากาสิ. อาสวาทโย หิ ปาปกา ธมฺมา อนยสมฺมตา, เต จาเนน ฉินฺนา ปนุนฺนา, น จ เตหิ กมฺปติ, อิจฺจสฺส เต อารกา โหนฺติ, น จ เตสุ อิรียติ ตสฺมา อารกาสฺส โหนฺติ ปาปกา ธมฺมาติ อิมินาปตฺเถน. อนเย น อิรียตีติ อิมินาปตฺเถน ตมาหุ อริโยติ จ เอวมฺเปตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา. ‘‘วิทฺวา โส น อุเปติ คพฺภเสยฺย’’นฺติ อิทํ ปน อิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป ถุติวจนเมว โหติ.

๕๔๒. ‘‘กถํ จรณวา’’ติ เอตฺถ ปน ยสฺมา จรเณหิ ปตฺตพฺพํ ปตฺโต ‘‘จรณวา’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหติ, ตสฺมา ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โย อิธา’’ติ คาถาย ตติยปฺหํ พฺยากาสิ. ตตฺถ โย อิธาติ โย อิมสฺมึ สาสเน. จรเณสูติ สีลาทีสุ เหมวตสุตฺเต (สุ. นิ. ๑๕๓ อาทโย) วุตฺตปนฺนรสธมฺเมสุ. นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมวจนํ. ปตฺติปตฺโตติ ปตฺตพฺพํ ปตฺโต. โย จรณนิมิตฺตํ จรณเหตุ จรณปจฺจยา ปตฺตพฺพํ อรหตฺตํ ปตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. จรณวา โสติ โส อิมาย จรเณหิ ปตฺตพฺพปตฺติยา จรณวา โหตีติ. เอตฺตาวตา ปฺโห พฺยากโต โหติ, เสสมสฺส ถุติวจนํ. โย หิ จรเณหิ ปตฺติปตฺโต, โส กุสโล จ โหติ เฉโก, สพฺพทาอาชานาติ นิพฺพานธมฺมํ, นิจฺจํ นิพฺพานนินฺนจิตฺตตาย สพฺพตฺถ จ ขนฺธาทีสุ น สชฺชติ. ทฺวีหิ จ วิมุตฺตีหิ วิมุตฺตจิตฺโต โหติ, ปฏิฆา ยสฺส น สนฺตีติ.

๕๔๓. ยสฺมา ปน กมฺมาทีนํ ปริพฺพาชเนน ปริพฺพาชโก นาม โหติ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทุกฺขเวปกฺก’’นฺติ คาถาย จตุตฺถปฺหํ พฺยากาสิ. ตตฺถ วิปาโก เอว เวปกฺกํ, ทุกฺขํ เวปกฺกมสฺสาติ ทุกฺขเวปกฺกํ. ปวตฺติทุกฺขชนนโต สพฺพมฺปิ เตธาตุกกมฺมํ วุจฺจติ. อุทฺธนฺติ อตีตํ. อโธติ อนาคตํ. ติริยํ วาปิ มชฺเฌติ ปจฺจุปฺปนฺนํ. ตฺหิ น อุทฺธํ น อโธ, ติริยํ อุภินฺนฺจ อนฺตรา, เตน ‘‘มชฺเฌ’’ติ วุตฺตํ. ปริพฺพาชยิตฺวาติ นิกฺขาเมตฺวา นิทฺธเมตฺวา . ปริฺจารีติ ปฺาย ปริจฺฉินฺทิตฺวา จรนฺโต. อยํ ตาว อปุพฺพปทวณฺณนา. อยํ ปน อธิปฺปายโยชนา – โย ติยทฺธปริยาปนฺนมฺปิ ทุกฺขชนกํ ยทตฺถิ กิฺจิ กมฺมํ, ตํ สพฺพมฺปิ อริยมคฺเคน ตณฺหาวิชฺชาสิเนเห โสเสนฺโต อปฏิสนฺธิชนกภาวกรเณน ปริพฺพาชยิตฺวา ตถา ปริพฺพาชิตตฺตา เอว จ ตํ กมฺมํ ปริฺาย จรณโต ปริฺจารี. น เกวลฺจ กมฺมเมว, มายํ มานมโถปิ โลภโกธํ อิเมปิ ธมฺเม ปหานปริฺาย ปริฺจารี, ปริยนฺตมกาสิ นามรูปํ, นามรูปสฺส จ ปริยนฺตมกาสิ ปริพฺพาเชสิ อิจฺเจวตฺโถ. อิเมสํ กมฺมาทีนํ ปริพฺพาชเนน ตํ ปริพฺพาชกมาหุ. ปตฺติปตฺตนฺติ อิทํ ปนสฺส ถุติวจนํ.

๕๔๔. เอวํ ปฺหพฺยากรเณน ตุฏฺสฺส ปน สภิยสฺส ‘‘ยานิ จ ตีณี’’ติอาทีสุ อภิตฺถวนคาถาสุ โอสรณานีติ โอคหณานิ ติตฺถานิ, ทิฏฺิโยติ อตฺโถ. ตานิ ยสฺมา สกฺกายทิฏฺิยา สห พฺรหฺมชาเล วุตฺตทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตานิ คเหตฺวา เตสฏฺิ โหนฺติ, ยสฺมา จ ตานิ อฺติตฺถิยสมณานํ ปวาทภูตานิ สตฺถานิ สิตานิ อุปทิสิตพฺพวเสน, น อุปฺปตฺติวเสน. อุปฺปตฺติวเสน ปน ยเทตํ ‘‘อิตฺถี ปุริโส’’ติ สฺกฺขรํ โวหารนามํ, ยา จายํ มิจฺฉาปริวิตกฺกานุสฺสวาทิวเสน ‘‘เอวรูเปน อตฺตนา ภวิตพฺพ’’นฺติ พาลานํ วิปรีตสฺา อุปฺปชฺชติ, ตทุภยนิสฺสิตานิ เตสํ วเสน อุปฺปชฺชนฺติ, น อตฺตปจฺจกฺขานิ. ตานิ จ ภควา วิเนยฺย วินยิตฺวา โอฆตมคา โอฆตมํ โอฆนฺธการํ อคา อติกฺกนฺโต. ‘‘โอฆนฺตมคา’’ติปิ ปาโ, โอฆานํ อนฺตํ อคา, ตสฺมา อาห ‘‘ยานิ จ ตีณิ…เป… ตมคา’’ติ.

๕๔๕. ตโต ปรํ วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตํ ปารฺจ นิพฺพานํ ตปฺปตฺติยา ทุกฺขาภาวโต ตปฺปฏิปกฺขโต จ ตํ สนฺธายาห, ‘‘อนฺตคูสิ ปารคู ทุกฺขสฺสา’’ติ. อถ วา ปารคู ภควา นิพฺพานํ คตตฺตา, ตํ อาลปนฺโต อาห, ‘‘ปารคู อนฺตคูสิ ทุกฺขสฺสา’’ติ อยเมตฺถ สมฺพนฺโธ. สมฺมา จ พุทฺโธ สามฺจ พุทฺโธติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. ตํ มฺเติ ตเมว มฺามิ, น อฺนฺติ อจฺจาทเรน ภณติ. ชุติมาติ ปเรสมฺปิ อนฺธการวิธมเนน ชุติสมฺปนฺโน. มุติมาติ อปรปฺปจฺจยเยฺยาณสมตฺถาย มุติยา ปฺาย สมฺปนฺโน. ปหูตปฺโติ อนนฺตปฺโ. อิธ สพฺพฺุตฺาณมธิปฺเปตํ. ทุกฺขสฺสนฺตกราติ อามนฺเตนฺโต อาห. อตาเรสิ มนฺติ กงฺขาโต มํ ตาเรสิ.

๕๔๖-๙. ยํ เมติอาทิคาถาย นมกฺการกรณํ ภณติ. ตตฺถ กงฺขิตฺตนฺติ วีสติปฺหนิสฺสิตํ อตฺถํ สนฺธายาห. โส หิ เตน กงฺขิโต อโหสิ. โมนปเถสูติ าณปเถสุ. วินฬีกตาติ วิคตนฬา กตา, อุจฺฉินฺนาติ วุตฺตํ โหติ. นาค นาคสฺสาติ เอกํ อามนฺตนวจนํ, เอกสฺส ‘‘ภาสโต อนุโมทนฺตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘ธมฺมเทสน’’นฺติ ปาเสโส. สพฺเพ เทวาติ อากาสฏฺา จ ภูมฏฺา จ. นารทปพฺพตาติ เตปิ กิร ทฺเว เทวคณา ปฺวนฺโต, เตปิ อนุโมทนฺตีติ สพฺพํ ปสาเทน จ นมกฺการกรณํ ภณติ .

๕๕๐-๕๓. อนุโมทนารหํ พฺยากรณสมฺปทํ สุตฺวา ‘‘นโม เต’’ติ อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา อาห. ปุริสาชฺาติ ปุริเสสุ ชาติสมฺปนฺนํ. ปฏิปุคฺคโลติ ปฏิภาโค ปุคฺคโล ตุวํ พุทฺโธ จตุสจฺจปฏิเวเธน, สตฺถา อนุสาสนิยา สตฺถวาหตาย จ, มาราภิภู จตุมาราภิภเวน, มุนิ พุทฺธมุนิ. อุปธีติ ขนฺธกิเลสกามคุณาภิสงฺขารเภทา จตฺตาโร. วคฺคูติ อภิรูปํ. ปุฺเ จาติ โลกิเย น ลิมฺปสิ เตสํ อกรเณน, ปุพฺเพ กตานมฺปิ วา อายตึ ผลูปโภคาภาเวน. ตํนิมิตฺเตน วา ตณฺหาทิฏฺิเลเปน. วนฺทติ สตฺถุโนติ เอวํ ภณนฺโต โคปฺผเกสุ ปริคฺคเหตฺวา ปฺจปติฏฺิตํ วนฺทิ.

อฺติตฺถิยปุพฺโพติ อฺติตฺถิโย เอว. อากงฺขตีติ อิจฺฉติ. อารทฺธจิตฺตาติ อภิราธิตจิตฺตา. อปิจ เมตฺถ ปุคฺคลเวมตฺตตา วิทิตาติ อปิจ มยา เอตฺถ อฺติตฺถิยานํ ปริวาเส ปุคฺคลนานตฺตํ วิทิตํ, น สพฺเพเนว ปริวสิตพฺพนฺติ. เกน ปน น ปริวสิตพฺพํ? อคฺคิเยหิ ชฏิเลหิ, สากิเยน ชาติยา, ลิงฺคํ วิชหิตฺวา อาคเตน. อวิชหิตฺวา อาคโตปิ จ โย มคฺคผลปฏิลาภาย เหตุสมฺปนฺโน โหติ, ตาทิโสว สภิโย ปริพฺพาชโก. ตสฺมา ภควา ‘‘ตว ปน, สภิย, ติตฺถิยวตฺตปูรณตฺถาย ปริวาสการณํ นตฺถิ, อตฺถตฺถิโก ตฺวํ ‘มคฺคผลปฏิลาภาย เหตุสมฺปนฺโน’ติ วิทิตเมตํ มยา’’ติ ตสฺส ปพฺพชฺชํ อนุชานนฺโต อาห – ‘‘อปิจ เมตฺถ ปุคฺคลเวมตฺตตา วิทิตา’’ติ. สภิโย ปน อตฺตโน อาทรํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สเจ ภนฺเต’’ติ. ตํ สพฺพํ อฺฺจ ตถารูปํ อุตฺตานตฺถตฺตา ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตา จ อิธ น วณฺณิตํ, ยโต ปุพฺเพ วณฺณิตานุสาเรน เวทิตพฺพนฺติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย สภิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. เสลสุตฺตวณฺณนา

เอวํเม สุตนฺติ เสลสุตฺตํ. กา อุปฺปตฺติ? อยเมว ยาสฺส นิทาเน วุตฺตา. อตฺถวณฺณนากฺกเมปิ จสฺส ปุพฺพสทิสํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ยํ ปน อปุพฺพํ, ตํ อุตฺตานตฺถานิ ปทานิ ปริหรนฺตา วณฺณยิสฺสาม. องฺคุตฺตราเปสูติ องฺคา เอว โส ชนปโท, คงฺคาย ปน ยา อุตฺตเรน อาโป, ตาสํ อวิทูรตฺตา ‘‘อุตฺตราโป’’ติปิ วุจฺจติ. กตรคงฺคาย อุตฺตเรน ยา อาโปติ? มหามหีคงฺคาย.

ตตฺรายํ ตสฺสา นทิยา อาวิภาวตฺถํ อาทิโต ปภุติ วณฺณนา – อยํ กิร ชมฺพุทีโป ทสสหสฺสโยชนปริมาโณ. ตตฺถ จตุสหสฺสโยชนปริมาโณ ปเทโส อุทเกน อชฺโฌตฺถโฏ ‘‘สมุทฺโท’’ติ สงฺขํ คโต. ติสหสฺสโยชนปมาเณ มนุสฺสา วสนฺติ. ติสหสฺสโยชนปมาเณ หิมวา ปติฏฺิโต อุพฺเพเธน ปฺจโยชนสติโก จตุราสีติสหสฺสกูเฏหิ ปฏิมณฺฑิโต สมนฺตโต สนฺทมานปฺจสตนทีวิจิตฺโต. ยตฺถ อายามวิตฺถาเรน คมฺภีรตาย จ ปฺาสปฺาสโยชนา ทิยฑฺฒโยชนสตปริมณฺฑลา ปูรฬาสสุตฺตวณฺณนายํ วุตฺตา อโนตตฺตาทโย สตฺต มหาสรา ปติฏฺิตา.

เตสุ อโนตตฺโต สุทสฺสนกูฏํ, จิตฺรกูฏํ, กาฬกูฏํ, คนฺธมาทนกูฏํ, เกลาสกูฏนฺติ อิเมหิ ปฺจหิ ปพฺพเตหิ ปริกฺขิตฺโต. ตตฺถ สุทสฺสนกูฏํ สุวณฺณมยํ ทฺวิโยชนสตุพฺเพธํ อนฺโตวงฺกํ กากมุขสณฺานํ ตเมว สรํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ิตํ, จิตฺรกูฏํ สพฺพรตนมยํ, กาฬกูฏํ อฺชนมยํ, คนฺธมาทนกูฏํ สานุมยํ อพฺภนฺตเร มุคฺควณฺณํ นานปฺปการโอสธสฺฉนฺนํ กาฬปกฺขุโปสถทิวเส อาทิตฺตมิว องฺคารํ ชลนฺตํ ติฏฺติ, เกลาสกูฏํ รชตมยํ. สพฺพานิ สุทสฺสเนน สมานุพฺเพธสณฺานานิ ตเมว สรํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ิตานิ. สพฺพานิ เทวานุภาเวน นาคานุภาเวน จ วสฺสนฺติ, นทิโย จ เตสุ สนฺทนฺติ. ตํ สพฺพมฺปิ อุทกํ อโนตตฺตเมว ปวิสติ. จนฺทิมสูริยา ทกฺขิเณน วา อุตฺตเรน วา คจฺฉนฺตา ปพฺพตนฺตเรน ตํ โอภาเสนฺติ, อุชุํ คจฺฉนฺตา น โอภาเสนฺติ. เตเนวสฺส ‘‘อโนตตฺต’’นฺติ สงฺขา อุทปาทิ.

ตตฺถ มโนหรสิลาตลานิ นิมฺมจฺฉกจฺฉปานิ ผลิกสทิสนิมฺมลูทกานิ นหานติตฺถานิ สุปฺปฏิยตฺตานิ โหนฺติ, เยสุ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธขีณาสวา อิสิคณา จ นฺหายนฺติ, เทวยกฺขาทโย จ อุยฺยานกีฬิกํ กีฬนฺติ.

จตูสุ จสฺส ปสฺเสสุ สีหมุขํ, หตฺถิมุขํ, อสฺสมุขํ, อุสภมุขนฺติ จตฺตาริ มุขานิ โหนฺติ, เยหิ จตสฺโส นทิโย สนฺทนฺติ. สีหมุเขน นิกฺขนฺตนทีตีเร สีหา พหุตรา โหนฺติ, หตฺถิมุขาทีหิ หตฺถิอสฺสอุสภา. ปุรตฺถิมทิสโต นิกฺขนฺตนที อโนตตฺตํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อิตรา ติสฺโส นทิโย อนุปคมฺม ปาจีนหิมวนฺเตเนว อมนุสฺสปถํ คนฺตฺวา มหาสมุทฺทํ ปวิสติ. ปจฺฉิมทิสโต จ อุตฺตรทิสโต จ นิกฺขนฺตนทิโยปิ ตเถว ปทกฺขิณํ กตฺวา ปจฺฉิมหิมวนฺเตเนว อุตฺตรหิมวนฺเตเนว จ อมนุสฺสปถํ คนฺตฺวา มหาสมุทฺทํ ปวิสนฺติ. ทกฺขิณทิสโต นิกฺขนฺตนที ปน ตํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ทกฺขิเณน อุชุกํ ปาสาณปิฏฺเเนว สฏฺิโยชนานิ คนฺตฺวา ปพฺพตํ ปหริตฺวา วุฏฺาย ปริณาเหน ติคาวุตปมาณา อุทกธารา หุตฺวา อากาเสน สฏฺิ โยชนานิ คนฺตฺวา ติยคฺคเฬ นาม ปาสาเณ ปติตา, ปาสาโณ อุทกธาราเวเคน ภินฺโน. ตตฺร ปฺาสโยชนปมาณา ติยคฺคฬา นาม โปกฺขรณี ชาตา. โปกฺขรณิยา กูลํ ภินฺทิตฺวา ปาสาณํ ปวิสิย สฏฺิ โยชนานิ คตา. ตโต ฆนปถวึ ภินฺทิตฺวา อุมงฺเคน สฏฺิ โยชนานิ คนฺตฺวา วิฺฌํ นาม ติรจฺฉานปพฺพตํ ปหริตฺวา หตฺถตเล ปฺจงฺคุลิสทิสา ปฺจธารา หุตฺวา ปวตฺตติ. สา ติกฺขตฺตุํ อโนตตฺตํ ปทกฺขิณํ กตฺวา คตฏฺาเน ‘‘อาวฏฺฏคงฺคา’’ติ วุจฺจติ . อุชุกํ ปาสาณปิฏฺเน สฏฺิ โยชนานิ คตฏฺาเน ‘‘กณฺหคงฺคา’’ติ วุจฺจติ. อากาเสน สฏฺิ โยชนานิ คตฏฺาเน ‘‘อากาสคงฺคา’’ติ วุจฺจติ. ติยคฺคฬปาสาเณ ปฺาสโยชโนกาเส ‘‘ติยคฺคฬโปกฺขรณี’’ติ วุจฺจติ. กูลํ ภินฺทิตฺวา ปาสาณํ ปวิสิย สฏฺิ โยชนานิ คตฏฺาเน ‘‘พหลคงฺคา’’ติ วุจฺจติ. ปถวึ ภินฺทิตฺวา อุมงฺเคน สฏฺิ โยชนานิ คตฏฺาเน ‘‘อุมงฺคคงฺคา’’ติ วุจฺจติ. วิฺฌํ นาม ติรจฺฉานปพฺพตํ ปหริตฺวา ปฺจธารา หุตฺวา ปวตฺตฏฺาเน ‘‘คงฺคา, ยมุนา, อจิรวตี, สรภู, มหี’’ติ ปฺจธา วุจฺจติ. เอวเมตา ปฺจ มหาคงฺคา หิมวตา สมฺภวนฺติ. ตาสุ ยา อยํ ปฺจมี มหี นาม, สา อิธ ‘‘มหามหีคงฺคา’’ติ อธิปฺเปตา. ตสฺสา คงฺคาย อุตฺตเรน ยา อาโป, ตาสํ อวิทูรตฺตา โส ชนปโท ‘‘องฺคุตฺตราโป’’ติ เวทิตพฺโพ. ตสฺมึ ชนปเท องฺคุตฺตราเปสุ.

จาริกํ จรมาโนติ อทฺธานคมนํ กุรุมาโน . ตตฺถ ภควโต ทุวิธา จาริกา ตุริตจาริกา, อตุริตจาริกา จ. ตตฺถ ทูเรปิ ภพฺพปุคฺคเล ทิสฺวา สหสา คมนํ ตุริตจาริกา. สา มหากสฺสปปจฺจุคฺคมนาทีสุ ทฏฺพฺพา. ตํ ปจฺจุคฺคจฺฉนฺโต หิ ภควา มุหุตฺเตเนว ติคาวุตํ อคมาสิ, อาฬวกทมนตฺถํ ตึสโยชนํ, ตถา องฺคุลิมาลสฺสตฺถาย. ปุกฺกุสาติสฺส ปน ปฺจตฺตาลีสโยชนํ, มหากปฺปินสฺส วีสโยชนสตํ, ธนิยสฺสตฺถาย สตฺตโยชนสตํ อทฺธานํ อคมาสิ. อยํ ตุริตจาริกา นาม. คามนิคมนครปฏิปาฏิยา ปน ปิณฺฑปาตจริยาทีหิ โลกํ อนุคฺคณฺหนฺตสฺส คมนํ อตุริตจาริกา นาม. อยํ อิธ อธิปฺเปตา. เอวํ จาริกํ จรมาโน. มหตาติ สงฺขฺยามหตา คุณมหตา จ. ภิกฺขุสงฺเฆนาติ สมณคเณน. อฑฺฒเตฬเสหีติ อฑฺเฒน เตฬสหิ, ทฺวาทสหิ สเตหิ ปฺาสาย จ ภิกฺขูหิ สทฺธินฺติ วุตฺตํ โหติ. เยน…เป… ตทวสรีติ อาปณพหุลตาย โส นิคโม ‘‘อาปโณ’’ ตฺเวว นามํ ลภิ. ตสฺมึ กิร วีสติอาปณมุขสหสฺสานิ วิภตฺตานิ อเหสุํ. เยน ทิสาภาเคน มคฺเคน วา โส องฺคุตฺตราปานํ รฏฺสฺส นิคโม โอสริตพฺโพ, เตน อวสริ ตทวสริ อคมาสิ, ตํ นิคมํ อนุปาปุณีติ วุตฺตํ โหติ.

เกณิโย ชฏิโลติ เกณิโยติ นาเมน, ชฏิโลติ ตาปโส. โส กิร พฺราหฺมณมหาสาโล, ธนรกฺขณตฺถาย ปน ตาปสปพฺพชฺชํ สมาทาย รฺโ ปณฺณาการํ ทตฺวา ภูมิภาคํ คเหตฺวา ตตฺถ อสฺสมํ กาเรตฺวา วสติ กุลสหสฺสสฺส นิสฺสโย หุตฺวา. อสฺสเมปิ จสฺส เอโก ตาลรุกฺโข ทิวเส ทิวเส เอกํ สุวณฺณผลํ มุฺจตีติ วทนฺติ. โส ทิวา กาสายานิ ธาเรติ ชฏา จ พนฺธติ, รตฺตึ ยถาสุขํ ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรติ. สกฺยปุตฺโตติ อุจฺจากุลปริทีปนํ. สกฺยกุลา ปพฺพชิโตติ สทฺธาย ปพฺพชิตภาวปริทีปนํ, เกนจิ ปาริชุฺเน อนภิภูโต อปริกฺขีณํเยว ตํ กุลํ ปหาย สทฺธาย ปพฺพชิโตติ วุตฺตํ โหติ. ตํ โข ปนาติ อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ อุปโยควจนํ, ตสฺส โข ปน โภโต โคตมสฺสาติ อตฺโถ. กลฺยาโณติ กลฺยาณคุณสมนฺนาคโต, เสฏฺโติ วุตฺตํ โหติ. กิตฺติสทฺโทติ กิตฺติเยว ถุติโฆโส วา.

อิติปิ โส ภควาติ อาทิมฺหิ ปน อยํ ตาว โยชนา – โส ภควา อิติปิ อรหํ, อิติปิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… อิติปิ ภควาติ, อิมินา จ อิมินา จ การเณนาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ อารกตฺตา, อรีนํ อรานฺจ หตตฺตา ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวาติ อิเมหิ ตาว การเณหิ โส ภควา อรหนฺติ เวทิตพฺโพ. อารกา หิ โส สพฺพกิเลเสหิ มคฺเคน สวาสนานํ กิเลสานํ วิทฺธํสิตตฺตาติ อารกตฺตา อรหํ. เต จาเนน กิเลสารโย มคฺเคน หตาติ อรีนํ หตตฺตาปิ อรหํ. ยฺเจตํ อวิชฺชาภวตณฺหามยนาภิ, ปุฺาทิอภิสงฺขารานํ ชรามรณเนมิ, อาสวสมุทยมเยน อกฺเขน วิชฺฌิตฺวา ติภวรเถ สมาโยชิตํ อนาทิกาลปวตฺตํ สํสารจกฺกํ. ตสฺสาเนน โพธิมณฺเฑ วีริยปาเทหิ สีลปถวิยํ ปติฏฺาย สทฺธาหตฺเถน กมฺมกฺขยกราณผรสุํ คเหตฺวา สพฺเพ อรา หตาติ อรานํ หตตฺตาติปิ อรหํ . อคฺคทกฺขิเณยฺยตฺตา จ จีวราทิปจฺจเย สกฺการครุการาทีนิ จ อรหตีติ ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตาปิ อรหํ. ยถา จ โลเก เกจิ ปณฺฑิตมานิโน พาลา อสิโลกภเยน รโห ปาปํ กโรนฺติ, เอวํ นายํ กทาจิ กโรตีติ ปาปกรเณ รหาภาวโตปิ อรหํ. โหติ เจตฺถ –

‘‘อารกตฺตา หตตฺตา จ, กิเลสารีน โส มุนิ;

หตสํสารจกฺกาโร, ปจฺจยาทีน จารโห;

น รโห กโรติ ปาปานิ, อรหํ เตน ปวุจฺจตี’’ติ.

สมฺมา สามฺจ สจฺจานํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺโธ. อติสยวิสุทฺธาหิ วิชฺชาหิ อพฺภุตฺตเมน จรเณน จ สมนฺนาคตตฺตา วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน. โสภนคมนตฺตา สุนฺทรํ านํ คตตฺตา สุฏฺุ คตตฺตา สมฺมา คทตฺตา จ สุคโต. สพฺพถาปิ วิทิตโลกตฺตา โลกวิทู. โส หิ ภควา สภาวโต สมุทยโต นิโรธโต นิโรธูปายโตติ สพฺพถา ขนฺธายตนาทิเภทํ สงฺขารโลกํ อเวทิ, ‘‘เอโก โลโก สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา. ทฺเว โลกา นามฺจ รูปฺจ. ตโย โลกา ติสฺโส เวทนา. จตฺตาโร โลกา จตฺตาโร อาหารา. ปฺจ โลกา ปฺจุปาทานกฺขนฺธา. ฉ โลกา ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ. สตฺต โลกา สตฺต วิฺาณฏฺิติโย. อฏฺ โลกา อฏฺ โลกธมฺมา. นว โลกา นว สตฺตาวาสา. ทส โลกา ทสายตนานิ. ทฺวาทส โลกา ทฺวาทสายตนานิ. อฏฺารส โลกา อฏฺารส ธาตุโย’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๒) เอวํ สพฺพถา สงฺขารโลกํ อเวทิ. สตฺตานํ อาสยํ ชานาติ, อนุสยํ ชานาติ, จริตํ ชานาติ, อธิมุตฺตึ ชานาติ, อปฺปรชกฺเข มหารชกฺเข ติกฺขินฺทฺริเย มุทินฺทฺริเย สฺวากาเร ทฺวากาเร สุวิฺาปเย ทุวิฺาปเย ภพฺเพ อภพฺเพ สตฺเต ชานาตีติ สพฺพถา สตฺตโลกํ อเวทิ. ตถา เอกํ จกฺกวาฬํ อายามโต วิตฺถารโต จ โยชนานํ ทฺวาทส สตสหสฺสานิ ตีณิ สหสฺสานิ อฑฺฒปฺจมานิ จ สตานิ, ปริกฺเขปโต ฉตฺตึส สตสหสฺสานิ ทส สหสฺสานิ อฑฺฒุฑฺฒานิ จ สตานิ.

ตตฺถ –

ทุเว สตสหสฺสานิ, จตฺตาริ นหุตานิ จ;

เอตฺตกํ พหลตฺเตน, สงฺขาตายํ วสุนฺธรา.

จตฺตาริ สตสหสฺสานิ, อฏฺเว นหุตานิ จ;

เอตฺตกํ พหลตฺเตน, ชลํ วาเต ปติฏฺิตํ.

นว สตสหสฺสานิ, มาลุโต นภมุคฺคโต;

สฏฺิ เจว สหสฺสานิ, เอสา โลกสฺส สณฺิติ’’.

เอวํ สณฺิเต เจตฺถ โยชนานํ –

จตุราสีติ สหสฺสานิ, อชฺโฌคาฬฺโห มหณฺณเว;

อจฺจุคฺคโต ตาวเทว, สิเนรุ ปพฺพตุตฺตโม.

ตโต อุปฑฺฒุปฑฺเฒน, ปมาเณน ยถากฺกมํ;

อชฺโฌคาฬฺหุคฺคตา ทิพฺพา, นานารตนจิตฺติตา.

ยุคนฺธโร อีสธโร, กรวีโก สุทสฺสโน;

เนมินฺธโร วินตโก, อสฺสกณฺโณ คิริ พฺรหา.

เอเต สตฺต มหาเสลา, สิเนรุสฺส สมนฺตโต;

มหาราชานมาวาสา, เทวยกฺขนิเสวิตา.

โยชนานํ สตานุจฺโจ, หิมวา ปฺจ ปพฺพโต;

โยชนานํ สหสฺสานิ, ตีณิ อายตวิตฺถโต.

จตุราสีติสหสฺเสหิ, กูเฏหิ ปฏิมณฺฑิโต;

ติปฺจโยชนกฺขนฺธ-ปริกฺเขปา นควฺหยา.

ปฺาสโยชนกฺขนฺธ-สาขายามา สมนฺตโต;

สตฺตโยชนวิตฺถิณฺณา, ตาวเทว จ อุคฺคตา.

ชมฺพู ยสฺสานุภาเวน, ชมฺพุทีโป ปกาสิโต;

ทฺเว อสีติสหสฺสานิ, อชฺโฌคาฬฺโห มหณฺณเว.

อจฺจุคฺคโต ตาวเทว, จกฺกวาฬสิลุจฺจโย;

ปริกฺขิปิตฺวา ตํ สพฺพํ, จกฺกวาฬมยํ ิโต’’.

ตตฺถ จนฺทมณฺฑลํ เอกูนปฺาสโยชนํ, สูริยมณฺฑลํ ปฺาสโยชนํ, ตาวตึสภวนํ ทสสหสฺสโยชนํ, ตถา อสุรภวนํ อวีจิมหานิรโย ชมฺพุทีโป จ. อปรโคยานํ สตฺตสหสฺสโยชนํ, ตถา ปุพฺพวิเทโห, อุตฺตรกุรุ อฏฺสหสฺสโยชโน. เอกเมโก เจตฺถ มหาทีโป ปฺจสตปฺจสตปริตฺตทีปปริวาโร. ตํ สพฺพมฺปิ เอกํ จกฺกวาฬํ เอกา โลกธาตุ. จกฺกวาฬนฺตเรสุ โลกนฺตริกนิรยา. เอวํ อนนฺตานิ จกฺกวาฬานิ อนนฺตา โลกธาตุโย, อนนฺเตน พุทฺธาเณน อฺาสีติ สพฺพถา โอกาสโลกํ อเวทิ. เอวํ โส ภควา สพฺพถา. วิทิตโลกตฺตา โลกวิทูติ เวทิตพฺโพ.

อตฺตโน ปน คุเณหิ วิสิฏฺตรสฺส กสฺสจิ อภาวา อนุตฺตโร. วิจิตฺเตหิ วินยนูปาเยหิ ปุริสทมฺเม สาเรตีติ ปุริสทมฺมสารถิ. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ ยถารหํ อนุสาสติ นิตฺถาเรติ จาติ สตฺถา. เทวมนุสฺสคฺคหณํ อุกฺกฏฺปริจฺเฉทวเสน ภพฺพปุคฺคลปริคฺคหวเสน จ กตํ, นาคาทิเกปิ ปน เอส โลกิยตฺเถน อนุสาสติ. ยทตฺถิ เนยฺยํ นาม, สพฺพสฺส พุทฺธตฺตา วิโมกฺขนฺติกาณวเสน พุทฺโธ. ยโต ปน โส –

‘‘ภคฺยวา ภคฺควา ยุตฺโต, ภเคหิ จ วิภตฺตวา;

ภตฺตวา วนฺตคมโน, ภเวสุ ภควา ตโต’’ติ.

อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปเนตานิ ปทานิ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๔-๑๒๕) วุตฺตานิ.

โส อิมํ โลกนฺติ โส ภควา อิมํ โลกํ. อิทานิ วตฺตพฺพํ นิทสฺเสติ. สเทวกนฺติอาทีนิ กสิภารทฺวาชอาฬวกสุตฺเตสุ วุตฺตนยาเนว. สยนฺติ สามํ อปรเนยฺโย หุตฺวา. อภิฺาติ อภิฺาย. สจฺฉิกตฺวาติ ปจฺจกฺขํ กตฺวา. ปเวเทตีติ โพเธติ าเปติ ปกาเสติ. โส ธมฺมํ เทเสติ…เป… ปริโยสานกลฺยาณนฺติ โส ภควา สตฺเตสุ การุฺตํ ปฏิจฺจ อนุตฺตรํ วิเวกสุขํ หิตฺวาปิ ธมฺมํ เทเสติ. ตฺจ โข อปฺปํ วา พหุํ วา เทเสนฺโต อาทิกลฺยาณาทิปฺปการเมว เทเสติ. กถํ? เอกคาถาปิ หิ สมนฺตภทฺทกตฺตา ธมฺมสฺส ปมปาเทน อาทิกลฺยาณา, ทุติยตติยปาเทหิ มชฺเฌกลฺยาณา, ปจฺฉิมปาเทน ปริโยสานกลฺยาณา. เอกานุสนฺธิกํ สุตฺตํ นิทาเนน อาทิกลฺยาณํ, นิคมเนน ปริโยสานกลฺยาณํ, เสเสน มชฺเฌกลฺยาณํ. นานานุสนฺธิกํ ปมานุสนฺธินา อาทิกลฺยาณํ, ปจฺฉิเมน ปริโยสานกลฺยาณํ, เสเสหิ มชฺเฌกลฺยาณํ. สกโลปิ สาสนธมฺโม อตฺตโน อตฺถภูเตน สีเลน อาทิกลฺยาโณ, สมถวิปสฺสนามคฺคผเลหิ มชฺเฌกลฺยาโณ, นิพฺพาเนน ปริโยสานกลฺยาโณ. สีลสมาธีหิ วา อาทิกลฺยาโณ, วิปสฺสนามคฺเคหิ มชฺเฌกลฺยาโณ, ผลนิพฺพาเนหิ ปริโยสานกลฺยาโณ. พุทฺธสุโพธิตาย วา อาทิกลฺยาโณ, ธมฺมสุธมฺมตาย มชฺเฌกลฺยาโณ, สงฺฆสุปฺปฏิปตฺติยา ปริโยสานกลฺยาโณ . ตํ สุตฺวา ตถตฺตาย ปฏิปนฺเนน อธิคนฺตพฺพาย อภิสมฺโพธิยา วา อาทิกลฺยาโณ, ปจฺเจกโพธิยา มชฺเฌกลฺยาโณ, สาวกโพธิยา ปริโยสานกลฺยาโณ . สุยฺยมาโน เจส นีวรณาทิวิกฺขมฺภนโต สวเนนปิ กลฺยาณเมว อาวหตีติ อาทิกลฺยาโณ, ปฏิปชฺชมาโน สมถวิปสฺสนาสุขาวหนโต ปฏิปตฺติยาปิ กลฺยาณเมว อาวหตีติ มชฺเฌกลฺยาโณ, ตถา ปฏิปนฺโน จ ปฏิปตฺติผเล นิฏฺิเต ตาทิภาวาวหนโต ปฏิปตฺติผเลนปิ กลฺยาณเมว อาวหตีติ ปริโยสานกลฺยาโณ. นาถปฺปภวตฺตา จ ปภวสุทฺธิยา อาทิกลฺยาโณ, อตฺถสุทฺธิยา มชฺเฌกลฺยาโณ, กิจฺจสุทฺธิยา ปริโยสานกลฺยาโณ. ยโต อปฺปํ วา พหุํ วา เทเสนฺโต อาทิกลฺยาณาทิปฺปการเมว เทเสตีติ เวทิตพฺโพ.

สาตฺถํ สพฺยฺชนนฺติ เอวมาทีสุ ปน ยสฺมา อิมํ ธมฺมํ เทเสนฺโต สาสนพฺรหฺมจริยํ มคฺคพฺรหฺมจริยฺจ ปกาเสติ, นานานเยหิ ทีเปติ, ตฺจ ยถาสมฺภวํ อตฺถสมฺปตฺติยา สาตฺถํ, พฺยฺชนสมฺปตฺติยา สพฺยฺชนํ. สงฺกาสนปกาสนวิวรณวิภชนอุตฺตานีกรณปฺตฺติอตฺถปทสมาโยคโต สาตฺถํ, อกฺขรปทพฺยฺชนาการนิรุตฺตินิทฺเทสสมฺปตฺติยา สพฺยฺชนํ. อตฺถคมฺภีรตาปฏิเวธคมฺภีรตาหิ สาตฺถํ, ธมฺมคมฺภีรตาเทสนาคมฺภีรตาหิ สพฺยฺชนํ. อตฺถปฏิภานปฏิสมฺภิทาวิสยโต สาตฺถํ, ธมฺมนิรุตฺติปฏิสมฺภิทาวิสยโต สพฺยฺชนํ. ปณฺฑิตเวทนียโต สริกฺขกชนปฺปสาทกนฺติ สาตฺถํ, สทฺเธยฺยโต โลกิยชนปฺปสาทกนฺติ สพฺยฺชนํ. คมฺภีราธิปฺปายโต สาตฺถํ, อุตฺตานปทโต สพฺยฺชนํ. อุปเนตพฺพสฺสาภาวโต สกลปริปุณฺณภาเวน เกวลปริปุณฺณํ, อปเนตพฺพสฺส อภาวโต นิทฺโทสภาเวน ปริสุทฺธํ. สิกฺขตฺตยปริคฺคหิตตฺตา พฺรหฺมภูเตหิ เสฏฺเหิ จริตพฺพโต เตสฺจ จริยภาวโต พฺรหฺมจริยํ. ตสฺมา ‘‘สาตฺถํ สพฺยฺชนํ…เป… พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตี’’ติ วุจฺจติ.

อปิจ ยสฺมา สนิทานํ สอุปฺปตฺติกฺจ เทเสนฺโต อาทิกลฺยาณํ เทเสติ, วิเนยฺยานํ อนุรูปโต อตฺถสฺส อวิปรีตตาย เหตุทาหรณโยคโต จ มชฺเฌกลฺยาณํ , โสตูนํ สทฺธาปฏิลาเภน นิคมเนน จ ปริโยสานกลฺยาณํ. เอวํ เทเสนฺโต จ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. ตฺจ ปฏิปตฺติยา อธิคมพฺยตฺติโต สาตฺถํ, ปริยตฺติยา อาคมพฺยตฺติโต สพฺยฺชนํ, สีลาทิปฺจธมฺมกฺขนฺธยุตฺตโต เกวลปริปุณฺณํ, นิรุปกฺกิเลสโต นิตฺถรณตฺถาย ปวตฺติโต โลกามิสนิรเปกฺขโต จ ปริสุทฺธํ, เสฏฺฏฺเน พฺรหฺมภูตานํ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวกานํ จริยโต พฺรหฺมจริยนฺติ วุจฺจติ, ตสฺมาปิ ‘‘โส ธมฺมํ เทเสติ…เป… พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตี’’ติ วุจฺจติ.

สาธุ โข ปนาติ สุนฺทรํ โข ปน, อตฺถาวหํ สุขาวหนฺติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺมิยา กถายาติ ปานกานิสํสปฏิสํยุตฺตาย. อยฺหิ เกณิโย สายนฺหสมเย ภควโต อาคมนํ อสฺโสสิ. ‘‘ตุจฺฉหตฺโถ ภควนฺตํ ทสฺสนาย คนฺตุํ ลชฺชมาโน วิกาลโภชนา วิรตานมฺปิ ปานกํ กปฺปตี’’ติ จินฺเตตฺวา ปฺจหิ กาชสเตหิ สุสงฺขตํ พทรปานํ คาหาเปตฺวา อคมาสิ. ยถาห เภสชฺชกฺขนฺธเก ‘‘อถ โข เกณิยสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ, กึ นุ โข อหํ สมณสฺส โคตมสฺส หราเปยฺย’’นฺติ (มหาว. ๓๐๐) สพฺพํ เวทิตพฺพํ. ตโต นํ ภควา ยถา เสกฺขสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๒๒ อาทโย) สากิเย อาวสถานิสํสปฏิสํยุตฺตาย กถาย, โคสิงฺคสาลวเน (ม. นิ. ๑.๓๒๕ อาทโย) ตโย กุลปุตฺเต สามคฺคิรสานิสํสปฏิสํยุตฺตาย, รถวินีเต (ม. นิ. ๑.๒๕๒ อาทโย) ชาติภูมเก ภิกฺขู ทสกถาวตฺถุปฏิสํยุตฺตาย, เอวํ ตงฺขณานุรูปาย ปานกานิสํสปฏิสํยุตฺตาย กถาย ปานกทานานิสํสํ สนฺทสฺเสสิ, ตถารูปานํ ปุฺานํ ปุนปิ กตฺตพฺพตาย นิโยเชนฺโต สมาทเปสิ, อพฺภุสฺสาหํ ชเนนฺโต สมุตฺเตเชสิ, สนฺทิฏฺิกสมฺปรายิเกน ผลวิเสเสน ปหํเสนฺโต สมฺปหํเสสิ. เตนาห ‘‘ธมฺมิยา กถาย…เป… สมฺปหํเสสี’’ติ. โส ภิยฺโยโสมตฺตาย ภควติ ปสนฺโน ภควนฺตํ นิมนฺเตสิ, ภควา จสฺส ติกฺขตฺตุํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อธิวาเสสิ. เตนาห ‘‘อถ โข เกณิโย ชฏิโล…เป… อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนา’’ติ.

กิมตฺถํ ปน ปฏิกฺขิปิ ภควาติ? ปุนปฺปุนํ ยาจนาย จสฺส ปุฺวุฑฺฒิ ภวิสฺสติ, พหุตรฺจ ปฏิยาเทสฺสติ, ตโต อฑฺฒเตลสานํ ภิกฺขุสตานํ ปฏิยตฺตํ อฑฺฒโสฬสนฺนํ ปาปุณิสฺสตีติ. กุโต อปรานิ ตีณิ สตานีติ เจ? อปฺปฏิยตฺเตเยว หิ ภตฺเต เสโล พฺราหฺมโณ ตีหิ มาณวกสเตหิ สทฺธึ ปพฺพชิสฺสติ, ตํ ทิสฺวา ภควา เอวมาหาติ. มิตฺตามจฺเจติ มิตฺเต จ กมฺมกเร จ. าติสาโลหิเตติ สมานโลหิเต เอกโยนิสมฺพนฺเธ ปุตฺตธีตาทโย อวเสสพนฺธเว จ. เยนาติ ยสฺมา. เมติ มยฺหํ. กายเวยฺยาวฏิกนฺติ กาเยน เวยฺยาวจฺจํ. มณฺฑลมาฬํ ปฏิยาเทตีติ เสตวิตานมณฺฑปํ กโรติ.

ติณฺณํ เวทานนฺติ อิรุพฺเพทยชุพฺเพทสามเวทานํ. สห นิฆณฺฑุนา จ เกฏุเภน จ สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ. นิฆณฺฑูติ นามนิฆณฺฑุรุกฺขาทีนํ เววจนปฺปกาสกํ สตฺถํ. เกฏุภนฺติ กิริยากปฺปวิกปฺโป กวีนํ อุปการาย สตฺถํ. สห อกฺขรปฺปเภเทน สากฺขรปฺปเภทานํ. อกฺขรปฺปเภโทติ สิกฺขา จ นิรุตฺติ จ. อิติหาสปฺจมานนฺติ อถพฺพนเวทํ จตุตฺถํ กตฺวา ‘‘อิติห อาส อิติห อาสา’’ติ อีทิสวจนปฏิสํยุตฺโต ปุราณกถาสงฺขาโต อิติหาโส ปฺจโม เอเตสนฺติ อิติหาสปฺจมา. เตสํ อิติหาสปฺจมานํ. ปทํ ตทวเสสฺจ พฺยากรณํ อชฺเฌติ เวเทติ จาติ ปทโก เวยฺยากรโณ. โลกายเต วิตณฺฑวาทสตฺเถ มหาปุริสลกฺขณาธิกาเร จ ทฺวาทสสหสฺเส มหาปุริสลกฺขณสตฺเถ อนูโน ปริปูรการีติ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย, อวโย น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อวโย นาม โย ตานิ อตฺถโต จ คนฺถโต จ สนฺธาเรตุํ น สกฺโกติ.

ชงฺฆาย หิตํ วิหารํ ชงฺฆาวิหารํ, จิราสนาทิชนิตํ ปริสฺสมํ วิโนเทตุํ ชงฺฆาปสารณตฺถํ อทีฆจาริกนฺติ วุตฺตํ โหติ. อนุจงฺกมมาโนติ จงฺกมมาโน เอว. อนุวิจรมาโนติ อิโต จิโต จ จรมาโน. เกณิยสฺส ชฏิลสฺส อสฺสโมติ เกณิยสฺส อสฺสมํ นิเวสนํ. อาวาโหติ กฺาคหณํ. วิวาโหติ กฺาทานํ. มหายฺโติ มหายชนํ. มาคโธติ มคธานํ อิสฺสโร. มหติยา เสนาย สมนฺนาคตตฺตา เสนิโย. พิมฺพีติ สุวณฺณํ, ตสฺมา สารสุวณฺณสทิสวณฺณตาย พิมฺพิสาโร. โส เม นิมนฺติโตติ โส มยา นิมนฺติโต.

อถ พฺราหฺมโณ ปุพฺเพ กตาธิการตฺตา พุทฺธสทฺทํ สุตฺวาว อมเตเนวาภิสิตฺโต วิมฺหยรูปตฺตา อาห – ‘‘พุทฺโธติ, โภ เกณิย, วเทสี’’ติ. อิตโร ยถาภูตํ อาจิกฺขนฺโต อาห – ‘‘พุทฺโธติ, โภ เสล, วทามี’’ติ. ตโต นํ ปุนปิ ทฬฺหีกรณตฺถํ ปุจฺฉิ, อิตโรปิ ตเถว อาโรเจสิ. อถ กปฺปสตสหสฺเสหิปิ พุทฺธสทฺทสฺส ทุลฺลภภาวํ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘โฆโสปิ โข เอโส ทุลฺลโภ โลกสฺมึ ยทิทํ พุทฺโธ’’ติ. ตตฺถ ยทิทนฺติ นิปาโต, โย เอโสติ วุตฺตํ โหติ.

อถ พฺราหฺมโณ พุทฺธสทฺทํ สุตฺวา ‘‘กึ นุ โข โส สจฺจเมว พุทฺโธ, อุทาหุ นามมตฺตเมวสฺส พุทฺโธ’’ติ วีมํสิตุกาโม จินฺเตสิ, อภาสิ เอว วา ‘‘อาคตานิ โข ปน…เป… วิวฏฺฏจฺฉโท’’ติ. ตตฺถ ‘‘มนฺเตสู’’ติ เวเทสุ. ‘‘ตถาคโต กิร อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ ปฏิกจฺเจว สุทฺธาวาสเทวา พฺราหฺมณเวเสน ลกฺขณานิ ปกฺขิปิตฺวา เวเท วาเจนฺติ ‘‘ตทนุสาเรน มเหสกฺขา สตฺตา ตถาคตํ ชานิสฺสนฺตี’’ติ. เตน ปุพฺเพ เวเทสุ มหาปุริสลกฺขณานิ อาคจฺฉนฺติ. ปรินิพฺพุเต ปน ตถาคเต กเมน อนฺตรธายนฺติ, เตน เอตรหิ นตฺถิ. มหาปุริสสฺสาติ ปณิธิสมาทานาณสมาทานกรุณาทิคุณมหโต ปุริสสฺส . ทฺเวว คติโยติ ทฺเว เอว นิฏฺา. กามฺจายํ คติสทฺโท ‘‘ปฺจ โข อิมา, สาริปุตฺต, คติโย’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๕๓) ภวเภเท, ‘‘คตี มิคานํ ปวน’’นฺติอาทีสุ (ปริ. ๓๓๙) นิวาสฏฺาเน, ‘‘เอวํ อธิมตฺตคติมนฺโต’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๖๑) ปฺายํ, ‘‘คติคต’’นฺติอาทีสุ (จูฬว. ๒๐๔) วิสฏภาเว วตฺตติ, อิธ ปน นิฏฺายํ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ กิฺจาปิ เยหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต ราชา โหติ จกฺกวตฺติ, น เตหิ เอว พุทฺโธ. ชาติสามฺโต ปน ตานิเยว ตานีติ วุจฺจนฺติ. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘เยหิ สมนฺนาคตสฺสา’’ติ.

สเจ อคารํ อชฺฌาวสตีติ ยทิ อคาเร วสติ. ราชา โหติ จกฺกวตฺตีติ จตูหิ อจฺฉริยธมฺเมหิ สงฺคหวตฺถูหิ จ โลกํ รฺชนโต ราชา. จกฺกรตนํ วตฺเตติ, จตูหิ สมฺปตฺติจกฺเกหิ, วตฺตติ, เตหิ จ ปรํ วตฺเตติ, ปรหิตาย จ อิริยาปถจกฺกานํ วตฺโต เอตสฺมึ อตฺถีติ จกฺกวตฺติ. เอตฺถ จ ราชาติ สามฺํ, จกฺกวตฺตีติ วิเสสนํ. ธมฺเมน จรตีติ ธมฺมิโก, าเยน สเมน วตฺตตีติ อตฺโถ. ธมฺเมน รชฺชํ ลภิตฺวา ราชา ชาโตติ ธมฺมราชา. ปรหิตธมฺมกรเณน วา ธมฺมิโก, อตฺตหิตธมฺมกรเณน ธมฺมราชา. จตุรนฺตาย อิสฺสโรติ จาตุรนฺโต, จตุสมุทฺทนฺตาย จตฺตุพฺพิธทีปวิภูสิตาย จ ปถวิยา อิสฺสโรติ อตฺโถ. อชฺฌตฺตํ โกธาทิปจฺจตฺถิเก พหิทฺธา จ สพฺพราชาโน วิเชสีติ วิชิตาวี. ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโตติ ชนปเท ธุวภาวํ ถาวรภาวํ ปตฺโต, น สกฺกา เกนจิ จาเลตุํ, ชนปโท วา ตมฺหิ ถาวริยปฺปตฺโต อนุสฺสุกฺโก สกมฺมนิรโต อจโล อสมฺปเวธีติปิ ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต.

เสยฺยถิทนฺติ นิปาโต, ตสฺส เอตานิ กตมานีติ อตฺโถ. จกฺกรตนํ…เป… ปริณายกรตนเมว สตฺตมนฺติ ตานิ สพฺพปฺปการโต รตนสุตฺตวณฺณนายํ วุตฺตานิ. เตสุ อยํ จกฺกวตฺติราชา จกฺกรตเนน อชิตํ ชินาติ, หตฺถิอสฺสรตเนหิ วิชิเต ยถาสุขมนุวิจรติ, ปริณายกรตเนน วิชิตมนุรกฺขติ, เสเสหิ อุปโภคสุขมนุภวติ. ปเมน จสฺส อุสฺสาหสตฺติโยโค, หตฺถิอสฺสคหปติรตเนหิ ปภุสตฺติโยโค, ปริณายกรตเนน มนฺตสตฺติโยโค สุปริปุณฺโณ โหติ, อิตฺถิมณิรตเนหิ จ ติวิธสตฺติโยคผลํ. โส อิตฺถิมณิรตเนหิ โภคสุขมนุโภติ, เสเสหิ อิสฺสริยสุขํ. วิเสสโต จสฺส ปุริมานิ ตีณิ อโทสกุสลมูลชนิตกมฺมานุภาเวน สมฺปชฺชนฺติ, มชฺฌิมานิ อโลภกุสลมูลชนิตกมฺมานุภาเวน, ปจฺฉิมเมกํ อโมหกุสลมูลชนิตกมฺมานุภาเวนาติ เวทิตพฺพํ.

ปโรสหสฺสนฺติ อติเรกสหสฺสํ. สูราติ อภีรุกชาติกา. วีรงฺครูปาติ เทวปุตฺตสทิสกายา, เอวํ ตาเวเก. อยํ ปเนตฺถ สภาโว วีราติ อุตฺตมสูรา วุจฺจนฺติ, วีรานํ องฺคํ วีรงฺคํ, วีรการณํ วีริยนฺติ วุตฺตํ โหติ. วีรงฺคํ รูปํ เอเตสนฺติ วีรงฺครูปา, วีริยมยสรีรา วิยาติ วุตฺตํ โหติ. ปรเสนปฺปมทฺทนาติ สเจ ปฏิมุขํ ติฏฺเยฺย ปรเสนา, ตํ ปมทฺทิตุํ สมตฺถาติ อธิปฺปาโย. ธมฺเมนาติ ‘‘ปาโณ น หนฺตพฺโพ’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๒๔๔; ม. นิ. ๓.๒๕๗) ปฺจสีลธมฺเมน. อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโทติ เอตฺถ ราคโทสโมหมานทิฏฺิอวิชฺชาทุจฺจริตฉทเนหิ สตฺตหิ ปฏิจฺฉนฺเน กิเลสนฺธกาเร โลเก ตํ ฉทนํ วิวฏฺเฏตฺวา สมนฺตโต สฺชาตาโลโก หุตฺวา ิโตติ วิวฏฺฏจฺฉโท. ตตฺถ ปเมน ปเทน ปูชารหตา, ทุติเยน ตสฺสา เหตุ ยสฺมา สมฺมาสมฺพุทฺโธติ. ตติเยน พุทฺธตฺตเหตุ วิวฏฺฏจฺฉทตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อถ วา วิวฏฺโฏ จ วิจฺฉโท จาติ วิวฏฺฏจฺฉโท, วฏฺฏรหิโต ฉทนรหิโต จาติ วุตฺตํ โหติ. เตน อรหํ วฏฺฏาภาเวน สมฺมาสมฺพุทฺโธ ฉทนาภาเวนาติ เอวํ ปุริมปททฺวยสฺเสว เหตุทฺวยํ วุตฺตํ โหติ. ทุติเยน เวสารชฺเชน เจตฺถ ปุริมสิทฺธิ, ปเมน ทุติยสิทฺธิ, ตติยจตุตฺเถหิ ตติยสิทฺธิ โหติ. ปุริมฺจ ธมฺมจกฺขุํ, ทุติยํ พุทฺธจกฺขุํ, ตติยํ สมนฺตจกฺขุํ สาเธตีติ เวทิตพฺพํ.

อิทานิ ภควโต สนฺติกํ คนฺตุกาโม อาห – ‘‘กหํ ปน โภ…เป… สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ. เอวํ วุตฺเตติอาทีสุ เยเนสาติ เยน ทิสาภาเคน เอสา. นีลวนราชีติ นีลวณฺณรุกฺขปนฺติ. วนํ กิร เมฆปนฺติสทิสํ. ยตฺถ ภควา ตทา วิหาสิ, ตํ นิทฺทิสนฺโต อาห – ‘‘เยเนสา โภ, เสล, นีลวนราชี’’ติ. ตตฺถ ‘‘โส วิหรตี’’ติ อยํ ปเนตฺถ ปาเสโส, ภุมฺมตฺเถ วา กรณวจนํ. ปเท ปทนฺติ ปทสมีเป ปทํ. เตน ตุริตคมนํ ปฏิเสเธติ. ทุราสทา หีติ การณํ อาห, ยสฺมา เต ทุราสทา, ตสฺมา เอวํ โภนฺโต อาคจฺฉนฺตูติ. กึ ปน การณา ทุราสทาติ เจ? สีหาว เอกจรา. ยถา หิ สีหา สหายกิจฺจาภาวโต เอกจรา, เอวํ เตปิ วิเวกกามตาย. ‘‘ยทา จาห’’นฺติอาทินา ปน เต มาณวเก อุปจารํ สิกฺขาเปติ. ตตฺถ มา โอปาเตถาติ มา ปเวเสถ, มา กเถถาติ วุตฺตํ โหติ. อาคเมนฺตูติ ปฏิมาเนนฺตุ, ยาว กถา ปริโยสานํ คจฺฉติ, ตาว ตุณฺหี ภวนฺตูติ อตฺโถ.

สมนฺเนสีติ คเวสิ. เยภุยฺเยนาติ พหุกานิ อทฺทส, อปฺปกานิ นาทฺทส. ตโต ยานิ น อทฺทส , ตานิ ทีเปนฺโต อาห ‘‘เปตฺวา ทฺเว’’ติ. กงฺขตีติ กงฺขํ อุปฺปาเทติ ปตฺถนํ ‘‘อโห วต ปสฺเสยฺย’’นฺติ. วิจิกิจฺฉตีติ ตโต ตโต ตานิ วิจินนฺโต กิจฺฉติ น สกฺโกติ ทฏฺุํ. นาธิมุจฺจตีติ ตาย วิจิกิจฺฉาย สนฺนิฏฺานํ น คจฺฉติ. น สมฺปสีทตีติ ตโต ‘‘ปริปุณฺณลกฺขโณ อย’’นฺติ ภควติ ปสาทํ นาปชฺชติ. กงฺขาย วา สุทุพฺพลวิมติ วุตฺตา, วิจิกิจฺฉาย มชฺฌิมา, อนธิมุจฺจนตาย พลวตี, อสมฺปสาเทน เตหิ ตีหิ ธมฺเมหิ จิตฺตสฺส กาลุสฺสิยภาโว.

โกโสหิเตติ วตฺถิโกเสน ปฏิจฺฉนฺเน. วตฺถคุยฺเหติ องฺคชาเต. ภควโต หิ วรวารณสฺเสว โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํ สุวณฺณวณฺณํ ปทุมคพฺภสมานํ. ตํ โส วตฺถปฏิจฺฉนฺนตฺตา อปสฺสนฺโต อนฺโตมุขคตาย จ ชิวฺหาย ปหูตภาวํ อสลฺลกฺเขนฺโต เตสุ ทฺวีสุ ลกฺขเณสุ กงฺขี อโหสิ วิจิกิจฺฉี. ตถารูปนฺติ กถํ รูปํ? กิเมตฺถ อมฺเหหิ วตฺตพฺพํ, วุตฺตเมตํ นาคเสนตฺเถเรเนว มิลินฺทรฺา ปุฏฺเน (มิ. ป. ๔.๓.๓) –

‘‘ทุกฺกรํ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา กตนฺติ. กึ, มหาราชาติ? มหาชเนน หิริกรโณกาสํ พฺรหฺมายุพฺราหฺมณสฺส จ อนฺเตวาสิอุตฺตรสฺส จ พาวริสฺส อนฺเตวาสีนํ โสฬสนฺนํ พฺราหฺมณานฺจ เสลสฺส พฺราหฺมณสฺส อนฺเตวาสีนํ ติสตมาณวานฺจ ทสฺเสสิ, ภนฺเตติ. น, มหาราช, ภควา คุยฺหํ ทสฺเสติ, ฉายํ ภควา ทสฺเสติ, อิทฺธิยา อภิสงฺขริตฺวา นิวาสนนิวตฺถํ กายพนฺธนพทฺธํ จีวรปารุตํ ฉายารูปกมตฺตํ ทสฺเสติ, มหาราชาติ. ฉายารูเป ทิฏฺเ สติ ทิฏฺโ เอว นนุ, ภนฺเตติ. ติฏฺเตตํ, มหาราช, หทยรูปํ ทิสฺวา พุชฺฌนกสตฺโต ภเวยฺย, หทยมํสํ นีหริตฺวา ทสฺเสยฺย สมฺมาสมฺพุทฺโธติ. กลฺโลสิ, ภนฺเต, นาคเสนา’’ติ (มิ. ป. ๔.๓.๓).

นินฺนาเมตฺวาติ นีหริตฺวา. กณฺณโสตานุมสเนน เจตฺถ ทีฆภาโว, นาสิกาโสตานุมสเนน ตนุภาโว, นลาฏจฺฉาทเนน ปุถุลภาโว ปกาสิโตติ เวทิตพฺโพ. อาจริยปาจริยานนฺติ อาจริยานฺเจว อาจริยาจริยานฺจ. สเก วณฺเณติ อตฺตโน คุเณ.

๕๕๔. ปริปุณฺณกาโยติ ลกฺขเณหิ ปริปุณฺณตาย อหีนงฺคปจฺจงฺคตาย จ ปริปุณฺณสรีโร . สุรุจีติ สุนฺทรสรีรปฺปโภ. สุชาโตติ อาโรหปริณาหสมฺปตฺติยา สณฺานสมฺปตฺติยา จ สุนิพฺพตฺโต. จารุทสฺสโนติ สุจิรมฺปิ ปสฺสนฺตานํ อติตฺติชนกํ อปฺปฏิกูลํ รมณียํ จารุ เอว ทสฺสนํ อสฺสาติ จารุทสฺสโน. เกจิ ปน ภณนฺติ ‘‘จารุทสฺสโนติ สุนฺทรเนตฺโต’’ติ. สุวณฺณวณฺโณติ สุวณฺณสทิสวณฺโณ. อสีติ ภวสิ. เอตํ สพฺพปเทหิ โยเชตพฺพํ. สุสุกฺกทาโติ สุฏฺุ สุกฺกทาโ. ภควโต หิ ทาาหิ จนฺทกิรณา วิย อติวิย ปณฺฑรรํสิโย นิจฺฉรนฺติ. เตนาห – ‘‘สุสุกฺกทาโสี’’ติ.

๕๕๕. มหาปุริสลกฺขณาติ ปุพฺเพ วุตฺตพฺยฺชนาเนว วจนนฺตเรน นิคเมนฺโต อาห.

๕๕๖. อิทานิ เตสุ ลกฺขเณสุ อตฺตโน อภิรุจิเตหิ ลกฺขเณหิ ภควนฺตํ ถุนนฺโต อาห – ‘‘ปสนฺนเนตฺโต’’ติอาทิ. ภควา หิ ปฺจวณฺณปสาทสมฺปตฺติยา ปสนฺนเนตฺโต, ปริปุณฺณจนฺทมณฺฑลสทิสมุขตฺตา สุมุโข, อาโรหปริณาหสมฺปตฺติยา พฺรหา, พหฺมุชุคตฺตตาย อุชุ, ชุติมนฺตตาย ปตาปวา. ยมฺปิ เจตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตํ, ตํ ‘‘มชฺเฌ สมณสงฺฆสฺสา’’ติ อิมินา ปริยาเยน ถุนตา ปุน วุตฺตํ. อีทิโส หิ เอวํ วิโรจติ. เอส นโย อุตฺตรคาถายปิ.

๕๕๗-๘. อุตฺตมวณฺณิโนติ อุตฺตมวณฺณสมฺปนฺนสฺส. ชมฺพุสณฺฑสฺสาติ ชมฺพุทีปสฺส. ปากเฏน อิสฺสริยํ วณฺณยนฺโต อาห, อปิจ จกฺกวตฺติ จตุนฺนมฺปิ ทีปานํ อิสฺสโร โหติ.

๕๕๙. ขตฺติยาติ ชาติขตฺติยา. โภชาติ โภคิยา. ราชาโนติ เย เกจิ รชฺชํ กาเรนฺตา. อนุยนฺตาติ อนุคามิโน เสวกา. ราชาภิราชาติ ราชูนํ ปูชนิโย ราชา หุตฺวา, จกฺกวตฺตีติ อธิปฺปาโย. มนุชินฺโทติ มนุสฺสาธิปติ ปรมิสฺสโร หุตฺวา.

๕๖๐. เอวํ วุตฺเต ภควา ‘‘เย เต ภวนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, เต สเก วณฺเณ ภฺมาเน อตฺตานํ ปาตุกโรนฺตี’’ติ อิมํ เสลสฺส มโนรถํ ปูเรนฺโต อาห ‘‘ราชาหมสฺมี’’ติ. ตตฺรายมธิปฺปาโย – ยํ โข มํ ตฺวํ เสล ยาจสิ ‘‘ราชา อรหสิ ภวิตุํ จกฺกวตฺตี’’ติ, เอตฺถ อปฺโปสฺสุกฺโก โหติ, ราชาหมสฺมิ, สติ จ ราชตฺเต ยถา อฺโ ราชา สมาโนปิ โยชนสตํ วา อนุสาสติ, ทฺเว ตีณิ วา จตฺตาริ วา ปฺจ วา โยชนสตานิ โยชนสหสฺสํ วา จกฺกวตฺติ หุตฺวาปิ จตุทีปปริยนฺตมตฺตํ วา, นาหเมวํ ปริจฺฉินฺนวิสโย. อหฺหิ ธมฺมราชา อนุตฺตโร ภวคฺคโต อวีจิปริยนฺตํ กตฺวา ติริยํ อปฺปเมยฺยา โลกธาตุโย อนุสาสามิ. ยาวตา หิ อปททฺวิปทาทิเภทา สตฺตา, อหํ เตสํ อคฺโค. น หิ เม โกจิ สีเลน วา…เป… วิมุตฺติาณทสฺสเนน วา ปฏิภาโค อตฺถิ. สฺวาหํ เอวํ ธมฺมราชา อนุตฺตโร อนุตฺตเรเนว จตุสติปฏฺานาทิเภทโพธิปกฺขิยสงฺขาเตน ธมฺเมน จกฺกํ วตฺเตมิ ‘‘อิทํ ปชหถ, อิทํ อุปสมฺปชฺช วิหรถา’’ติอาทินา อาณาจกฺกํ, ‘‘อิทํ โข ปน, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ อริยสจฺจ’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๔) ปริยตฺติธมฺเมน ธมฺมจกฺกเมว วา. จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยนฺติ ยํ จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยํ โหติ สมเณน วา…เป… เกนจิ โลกสฺมินฺติ.

๕๖๑-๒. เอวํ อตฺตานํ อาวิกโรนฺตํ ภควนฺตํ ทิสฺวา ปีติโสมนสฺสชาโต เสโล ทฬฺหิกรณตฺถํ ‘‘สมฺพุทฺโธ ปฏิชานาสี’’ติ คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ โก นุ เสนาปตีติ ธมฺมรฺโ โภโต, ธมฺเมน ปวตฺติตสฺส ธมฺมจกฺกสฺส อนุปฺปวตฺตโก เสนาปติ โกติ ปุจฺฉิ.

๕๖๓. เตน จ สมเยน ภควโต ทกฺขิณปสฺเส อายสฺมา สาริปุตฺโต นิสินฺโน โหติ สุวณฺณปุฺโช วิย สิริยา โสภมาโน, ตํ ทสฺเสนฺโต ภควา ‘‘มยา ปวตฺติต’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ อนุชาโต ตถาคตนฺติ ตถาคตเหตุ อนุชาโต, ตถาคเตน เหตุนา ชาโตติ อตฺโถ.

๕๖๔. เอวํ ‘‘โก นุ เสนาปตี’’ติ ปฺหํ พฺยากริตฺวา ยํ เสโล อาห – ‘‘สมฺพุทฺโธ ปฏิชานาสี’’ติ, ตตฺร นํ นิกฺกงฺขํ กาตุกาโม ‘‘นาหํ ปฏิฺามตฺเตเนว ปฏิชานามิ, อปิจาหํ อิมินา การเณน พุทฺโธ’’ติ าเปตุํ ‘‘อภิฺเยฺย’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ อภิฺเยฺยนฺติ วิชฺชา จ วิมุตฺติ จ. มคฺคสจฺจสมุทยสจฺจานิ ปน ภาเวตพฺพปหาตพฺพานิ, เหตุวจเนน ปน ผลสิทฺธิโต เตสํ ผลานิ นิโรธสจฺจทุกฺขสจฺจานิปิ วุตฺตาเนว ภวนฺติ. ยโต สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกตํ, ปริฺเยฺยํ ปริฺาตนฺติ เอวมฺเปตฺถ วุตฺตเมว โหติ. เอวํ จตุสจฺจภาวนาผลฺจ วิชฺชาวิมุตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘พุชฺฌิตพฺพํ พุชฺฌิตฺวา พุทฺโธ ชาโตสฺมี’’ติ ยุตฺเตน เหตุนา พุทฺธตฺตํ สาเธติ.

๕๖๕-๗. เอวํ นิปฺปริยาเยน อตฺตานํ ปาตุกตฺวา อตฺตนิ กงฺขาวิตรณตฺถํ พฺราหฺมณํ อภิตฺถรยมาโน ‘‘วินยสฺสู’’ติ คาถาตฺตยมาห. ตตฺถ สลฺลกตฺโตติ ราคสลฺลาทิสตฺตสลฺลกตฺตโน. พฺรหฺมภูโตติ เสฏฺภูโต. อติตุโลติ ตุลํ อตีโต อุปมํ อตีโต, นิรูปโมติ อตฺโถ. มารเสนปฺปมทฺทโนติ ‘‘กามา เต ปมา เสนา’’ติอาทิกาย ‘‘ปเร จ อวชานาตี’’ติ (สุ. นิ. ๔๔๐; มหานิ. ๒๘; จูฬนิ. นนฺทมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๔๗) เอวํ วุตฺตาย มารปริสสงฺขาตาย มารเสนาย ปมทฺทโน. สพฺพามิตฺเตติ ขนฺธกิเลสาภิสงฺขารมจฺจุเทวปุตฺตมาราทิเก สพฺพปจฺจตฺถิเก. วสีกตฺวาติ อตฺตโน วเส วตฺเตตฺวา. อกุโตภโยติ กุโตจิ อภโย.

๕๖๘-๗๐. เอวํ วุตฺเต เสโล พฺราหฺมโณ ตาวเทว ภควติ สฺชาตปฺปสาโท ปพฺพชฺชาเปกฺโข หุตฺวา ‘‘อิมํ ภวนฺโต’’ติ คาถาตฺตยมาห ยถา ตํ ปริปากคตาย อุปนิสฺสยสมฺปตฺติยา สมฺมา โจทิยมาโน. ตตฺถ กณฺหาภิชาติโกติ จณฺฑาลาทินีจกุเล ชาโต.

๕๗๑. ตโต เตปิ มาณวกา ตเถว ปพฺพชฺชาเปกฺขา หุตฺวา ‘‘เอตฺเจ รุจฺจติ โภโต’’ติ คาถมาหํสุ ยถา ตํ เตน สทฺธึ กตาธิการา กุลปุตฺตา.

๕๗๒. อถ เสโล เตสุ มาณวเกสุ ตุฏฺจิตฺโต เต ทสฺเสนฺโต ปพฺพชฺชํ ยาจมาโน ‘‘พฺราหฺมณา’’ติ คาถมาห.

๕๗๓. ตโต ภควา ยสฺมา เสโล อตีเต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต สาสเน เตสํเยว ติณฺณํ ปุริสสตานํ คณเสฏฺโ หุตฺวา เตหิ สทฺธึ ปริเวณํ การาเปตฺวา ทานาทีนิ ปุฺานิ จ กตฺวา กเมน เทวมนุสฺสสมฺปตฺตึ อนุภวมาโน ปจฺฉิเม ภเว เตสํเยว อาจริโย หุตฺวา นิพฺพตฺโต, ตฺจ เนสํ กมฺมํ วิมุตฺติปริปากาย ปริปกฺกํ เอหิภิกฺขุภาวสฺส จ อุปนิสฺสยภูตํ, ตสฺมา เต สพฺเพว เอหิภิกฺขุปพฺพชฺชาย ปพฺพาเชนฺโต ‘‘สฺวากฺขาต’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ สนฺทิฏฺิกนฺติ ปจฺจกฺขํ. อกาลิกนฺติ มคฺคานนฺตรผลุปฺปตฺติโต น กาลนฺตเร ปตฺตพฺพผลํ. ยตฺถาติ ยนฺนิมิตฺตา. มคฺคพฺรหฺมจริยนิมิตฺตา หิ ปพฺพชฺชา อปฺปมตฺตสฺส สติวิปฺปวาสวิรหิตสฺส ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขโต อโมฆา โหติ. เตนาห – ‘‘สฺวากฺขาตํ…เป… สิกฺขโต’’ติ.

เอวฺจ วตฺวา ‘‘เอถ ภิกฺขโว’’ติ ภควา อโวจ. เต สพฺเพ ปตฺตจีวรธรา หุตฺวา อากาเสนาคมฺม ภควนฺตํ อภิวาเทสุํ. เอวมิมํ เตสํ เอหิภิกฺขุภาวํ สนฺธาย สงฺคีติการา ‘‘อลตฺถ โข เสโล…เป… อุปสมฺปท’’นฺติ อาหํสุ.

ภุตฺตาวินฺติ ภุตฺตวนฺตํ. โอนีตปตฺตปาณินฺติ ปตฺตโต โอนีตปาณึ, อปนีตหตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ ‘‘อุปคนฺตฺวา’’ติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ. อิตรถา หิ ภควนฺตํ เอกมนฺตํ นิสีทีติ น ยุชฺชติ.

๕๗๔. อคฺคิหุตฺตมุขาติ ภควา เกณิยสฺส จิตฺตานุกูลวเสน อนุโมทนฺโต เอวมาห. ตตฺถ อคฺคิปริจริยํ วินา พฺราหฺมณานํ ยฺาภาวโต ‘‘อคฺคิหุตฺตมุขา ยฺา’’ติ วุตฺตํ. อคฺคิหุตฺตเสฏฺา อคฺคิหุตฺตปธานาติ อตฺโถ. เวเท สชฺฌายนฺเตหิ ปมํ สชฺฌายิตพฺพโต สาวิตฺตี ‘‘ฉนฺทโส มุข’’นฺติ วุตฺตา. มนุสฺสานํ เสฏฺโต ราชา ‘‘มุข’’นฺติ วุตฺโต. นทีนํ อาธารโต ปฏิสรณโต จ สาคโร ‘‘มุข’’นฺติ วุตฺโต. จนฺทโยควเสน ‘‘อชฺช กตฺติกา อชฺช โรหินี’’ติ สฺชานนโต อาโลกกรณโต โสมฺมภาวโต จ ‘‘นกฺขตฺตานํ มุขํ จนฺโท’’ติ วุตฺโต. ตปนฺตานํ อคฺคตฺตา อาทิจฺโจ ‘‘ตปตํ มุข’’นฺติ วุตฺโต. ทกฺขิเณยฺยานํ ปน อคฺคตฺตา วิเสเสน ตสฺมึ สมเย พุทฺธปฺปมุขํ สงฺฆํ สนฺธาย ‘‘ปุฺํ อากงฺขมานานํ, สงฺโฆ เว ยชตํ มุข’’นฺติ วุตฺโต. เตน สงฺโฆ ปุฺสฺส อายมุขนฺติ ทสฺเสติ.

๕๗๖. ยํ ตํ สรณนฺติ อฺพฺยากรณคาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมา ภควา, ยสฺมา มยํ อิโต อฏฺเม ทิวเส ตํ สรณํ อคมมฺห, ตสฺมา สตฺตรตฺเตน ตว สาสเน อนุตฺตเรน ทมเถน ทนฺตมฺห. อโห เต สรณสฺส อานุภาโวติ.

๕๗๗-๘. ตโต ปรํ ภควนฺตํ ทฺวีหิ คาถาหิ ถุนิตฺวา ตติยาย วนฺทนํ ยาจติ –

๕๗๙.

‘‘ภิกฺขโว ติสตา อิเม, ติฏฺนฺติ ปฺชลีกตา;

ปาเท วีร ปสาเรหิ, นาคา วนฺทนฺตุ สตฺถุโน’’ติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย เสลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. สลฺลสุตฺตวณฺณนา

๕๘๐. อนิมิตฺตนฺติ สลฺลสุตฺตํ. กา อุปฺปตฺติ? ภควโต กิร อุปฏฺาโก เอโก อุปาสโก, ตสฺส ปุตฺโต กาลมกาสิ. โส ปุตฺตโสกาภิภูโต สตฺตาหํ นิราหาโร อโหสิ. ตํ อนุกมฺปนฺโต ภควา ตสฺส ฆรํ คนฺตฺวา โสกวิโนทนตฺถํ อิมํ สุตฺตมภาสิ.

ตตฺถ อนิมตฺตนฺติ กิริยาการนิมิตฺตวิรหิตํ. ยถา หิ ‘‘ยทาหํ อกฺขึ วา นิขณิสฺสามิ, ภมุกํ วา อุกฺขิปิสฺสามิ, เตน นิมิตฺเตน ตํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติอาทีสุ กิริยาการนิมิตฺตมตฺถิ, น เอวํ ชีวิเต. น หิ สกฺกา ลทฺธุํ ‘‘ยาวาหํ อิทํ วา อิทํ วา กโรมิ, ตาว ตฺวํ ชีว, มา มียา’’ติ. อนฺาตนฺติ อโต เอว น สกฺกา เอกํเสน อฺาตุํ ‘‘เอตฺตกํ วา เอตฺตกํ วา กาลํ อิมินา ชีวิตพฺพ’’นฺติ คติยา อายุปริยนฺตวเสน วา. ยถา หิ จาตุมหาราชิกาทีนํ ปริมิตํ อายุ, น ตถา มจฺจานํ, เอวมฺปิ เอกํเสน อนฺาตํ.

กสิรนฺติ อเนกปจฺจยปฏิพทฺธวุตฺติภาวโต กิจฺฉํ น สุขยาปนียํ. ตถา หิ ตํ อสฺสาสปฏิพทฺธฺจ, ปสฺสาสปฏิพทฺธฺจ, มหาภูตปฏิพทฺธฺจ, กพฬีการาหารปฏิพทฺธฺจ, อุสฺมาปฏิพทฺธฺจ, วิฺาณปฏิพทฺธฺจ. อนสฺสสนฺโตปิ หิ น ชีวติ อปสฺสสนฺโตปิ. จตูสุ จ ธาตูสุ กฏฺมุขาทิอาสีวิสทฏฺโ วิย กาโย ปถวีธาตุปฺปโกเปน ตาว ถทฺโธ โหติ กลิงฺครสทิโส. ยถาห –

‘‘ปตฺถทฺโธ ภวตี กาโย, ทฏฺโ กฏฺมุเขน วา;

ปถวีธาตุปฺปโกเปน, โหติ กฏฺมุเขว โส’’ติ. (ธ. ส. อฏฺ. ๕๘๔);

อาโปธาตุปฺปโกเปน ปูติภาวํ อาปชฺชิตฺวา ปคฺฆริตปุพฺพมํสโลหิโต อฏฺิจมฺมาวเสโส โหติ. ยถาห –

‘‘ปูติโก ภวตี กาโย, ทฏฺโ ปูติมุเขน วา;

อาโปธาตุปฺปโกเปน, โหติ ปูติมุเขว โส’’ติ. (ธ. ส. อฏฺ. ๕๘๔);

เตโชธาตุปฺปโกเปน องฺคารกาสุยํ ปกฺขิตฺโต วิย สมนฺตา ปริฑยฺหติ. ยถาห –

‘‘สนฺตตฺโต ภวตี กาโย, ทฏฺโ อคฺคิมุเขน วา;

เตโชธาตุปฺปโกเปน, โหติ อคฺคิมุเขว โส’’ติ. (ธ. ส. อฏฺ. ๕๘๔);

วาโยธาตุปฺปโกเปน สฺฉิชฺชมานสนฺธิพนฺธโน ปาสาเณหิ โกฏฺเฏตฺวา สฺจุณฺณิยมานฏฺิโก วิย จ โหติ. ยถาห –

‘‘สฺฉินฺโน ภวตี กาโย, ทฏฺโ สตฺถมุเขน วา;

วาโยธาตุปฺปโกเปน, โหติ สตฺถมุเขว โส’’ติ. (ธ. ส. อฏฺ. ๕๘๔);

ธาตุปฺปโกปพฺยาปนฺนกาโยปิ จ น ชีวติ. ยทา ปน ตา ธาตุโย อฺมฺํ ปติฏฺานาทิกิจฺจํ สาเธนฺตาปิ สมํ วหนฺติ, ตทา ชีวิตํ ปวตฺตติ. เอวํ มหาภูตปฏิพทฺธฺจ ชีวิตํ. ทุพฺภิกฺขาทีสุ ปน อาหารุปจฺเฉเทน สตฺตานํ ชีวิตกฺขโย ปากโฏ เอว. เอวํ กพฬีการาหารปฏิพทฺธฺจ ชีวิตํ. ตถา อสิตปีตาทิปริปาเก กมฺมชเตเช ขีเณ สตฺตา ชีวิตกฺขยํ ปาปุณนฺตาปิ ปากฏา เอว. เอวํ อุสฺมาปฏิพทฺธฺจ ชีวิตํ. วิฺาเณ ปน นิรุทฺเธ นิรุทฺธโต ปภุติ สตฺตานํ น โหติ ชีวิตนฺติ เอวมฺปิ โลเก ปากฏเมว. เอวํ วิฺาณปฏิพทฺธฺจ ชีวิตํ. เอวํ อเนกปจฺจยปฏิพทฺธวุตฺติภาวโต กสิรํ เวทิตพฺพํ.

ปริตฺตฺจาติ อปฺปกํ, เทวานํ ชีวิตํ อุปนิธาย ติณคฺเค อุสฺสาวพินฺทุสทิสํ, จิตฺตกฺขณโต อุทฺธํ อภาเวน วา ปริตฺตํ. อติทีฆายุโกปิ หิ สตฺโต อตีเตน จิตฺเตน ชีวิตฺถ น ชีวติ น ชีวิสฺสติ, อนาคเตน ชีวิสฺสติ น ชีวติ น ชีวิตฺถ, ปจฺจุปฺปนฺเนน ชีวติ น ชีวิตฺถ น ชีวิสฺสติ. วุตฺตฺเจตํ –

‘‘ชีวิตํ อตฺตภาโว จ, สุขทุกฺขา จ เกวลา;

เอกจิตฺตสมายุตฺตา, ลหุโส วตฺตเต ขโณ.

‘‘จุลฺลาสีติสหสฺสานิ , กปฺปา ติฏฺนฺติ เย มรู;

นตฺเวว เตปิ ชีวนฺติ, ทฺวีหิ จิตฺเตหิ สํยุตา’’ติ. (มหานิ. ๑๐);

ตฺจ ทุกฺเขน สํยุตนฺติ ตฺจ ชีวิตํ เอวํ อนิมิตฺตมนฺาตํ กสิรํ ปริตฺตฺจ สมานมฺปิ สีตุณฺหฑํสมกสาทิสมฺผสฺสขุปฺปิปาสาสงฺขารทุกฺขวิปริณามทุกฺขทุกฺขทุกฺเขหิ สํยุตํ. กึ วุตฺตํ โหติ? ยสฺมา อีทิสํ มจฺจานํ ชีวิตํ, ตสฺมา ตฺวํ ยาว ตํ ปริกฺขยํ น คจฺฉติ, ตาว ธมฺมจริยเมว พฺรูหย, มา ปุตฺตมนุโสจาติ.

๕๘๑. อถาปิ มฺเยฺยาสิ ‘‘สพฺพูปกรเณหิ ปุตฺตํ อนุรกฺขนฺตสฺสาปิ เม โส มโต, เตน โสจามี’’ติ, เอวมฺปิ มา โสจิ. น หิ โส อุปกฺกโม อตฺถิ, เยน ชาตา น มิยฺยเร, น หิ สกฺกา เกนจิ อุปกฺกเมน ชาตา สตฺตา มา มรนฺตูติ รกฺขิตุนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตโต ยสฺมา โส ‘‘ชรํ ปตฺวา นาม, ภนฺเต, มรณํ อนุรูปํ, อติทหโร เม ปุตฺโต มโต’’ติ จินฺเตสิ, ตสฺมา อาห ‘‘ชรมฺปิ ปตฺวา มรณํ, เอวํธมฺมา หิ ปาณิโน’’ติ, ชรํ ปตฺวาปิ อปฺปตฺวาปิ มรณํ, นตฺถิ เอตฺถ นิยโมติ วุตฺตํ โหติ.

๕๘๒. อิทานิ ตมตฺถํ นิทสฺสเนน สาเธนฺโต ‘‘ผลานมิว ปกฺกาน’’นฺติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – ยถา ผลานํ ปกฺกานํ ยสฺมา สูริยุคฺคมนโต ปภุติ สูริยาตเปน สนฺตปฺปมาเน รุกฺเข ปถวิรโส จ อาโปรโส จ ปตฺตโต สาขํ สาขโต ขนฺธํ ขนฺธโต มูลนฺติ เอวํ อนุกฺกเมน มูลโต ปถวิเมว ปวิสติ, โอคมนโต ปภุติ ปน ปถวิโต มูลํ มูลโต ขนฺธนฺติ เอวํ อนุกฺกเมน สาขาปตฺตปลฺลวาทีนิ ปุน อาโรหติ, เอวํ อาโรหนฺโต จ ปริปากคเต ผเล วณฺฏมูลํ น ปวิสติ. อถ สูริยาตเปน ตปฺปมาเน วณฺฏมูเล ปริฬาโห อุปฺปชฺชติ. เตน ตานิ ผลานิ ปาโต ปาโต นิจฺจกาลํ ปตนฺติ, เนสํ ปาโต ปตนโต ภยํ โหติ, ปตนา ภยํ โหตีติ อตฺโถ. เอวํ ชาตานํ มจฺจานํ นิจฺจํ มรณโต ภยํ . ปกฺกผลสทิสา หิ สตฺตาติ.

๕๘๓-๖. กิฺจ ภิยฺโย ‘‘ยถาปิ กุมฺภการสฺส…เป… ชีวิต’’นฺติ. ตสฺมา ‘‘ทหรา จ…เป… ปรายณา’’ติ เอวํ คณฺห, เอวฺจ คเหตฺวา ‘‘เตสํ มจฺจุ…เป… าตี วา ปน าตเก’’ติ เอวมฺปิ คณฺห. ยสฺมา จ น ปิตา ตายเต ปุตฺตํ, าตี วา ปน าตเก, ตสฺมา เปกฺขตํเยว…เป… นียติ.

ตตฺถ อยํ โยชนา – ปสฺสมานานํเยว าตีนํ ‘‘อมฺม, ตาตา’’ติอาทินา นเยน ปุถุ อเนกปฺปการกํ ลาลปตํเยว มจฺจานํ เอกเมโก มจฺโจ ยถา โค วชฺโฌ เอวํ นียติ, เอวํ ปสฺส, อุปาสก, ยาว อตาโณ โลโกติ.

๕๘๗. ตตฺถ เย พุทฺธปจฺเจกพุทฺธาทโย ธิติสมฺปนฺนา, เต ‘‘เอวมพฺภาหโต โลโก มจฺจุนา จ ชราย จ, โส น สกฺกา เกนจิ ปริตฺตาณํ กาตุ’’นฺติ ยสฺมา ชานนฺติ, ตสฺมา ธีรา น โสจนฺติ วิทิตฺวา โลกปริยายํ. อิมํ โลกสภาวํ ตฺวา น โสจนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.

๕๘๘. ตฺวํ ปน ยสฺส มคฺคํ…เป… ปริเทวสิ. กึ วุตฺตํ โหติ? ยสฺส มาตุกุจฺฉึ อาคตสฺส อาคตมคฺคํ วา อิโต จวิตฺวา อฺตฺถ คตสฺส คตมคฺคํ วา น ชานาสิ, ตสฺส อิเม อุโภ อนฺเต อสมฺปสฺสํ นิรตฺถํ ปริเทวสิ. ธีรา ปน เต ปสฺสนฺตา วิทิตฺวา โลกปริยายํ น โสจนฺตีติ.

๕๘๙. อิทานิ ‘‘นิรตฺถํ ปริเทวสี’’ติ เอตฺถ วุตฺตปริเทวนาย นิรตฺถกภาวํ สาเธนฺโต ‘‘ปริเทวยมาโน เจ’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อุทพฺพเหติ อุพฺพเหยฺย ธาเรยฺย, อตฺตนิ สฺชเนยฺยาติ อตฺโถ. สมฺมูฬฺโห หึสมตฺตานนฺติ สมฺมูฬฺโห หุตฺวา อตฺตานํ พาเธนฺโต. กยิรา เจ นํ วิจกฺขโณติ ยทิ ตาทิโส กฺจิ อตฺถํ อุทพฺพเห, วิจกฺขโณปิ นํ ปริเทวํ กเรยฺย.

๕๙๐. น หิ รุณฺเณนาติ เอตฺถายํ โยชนา – น ปน โกจิ รุณฺเณน วา โสเกน วา เจตโส สนฺตึ ปปฺโปติ, อปิจ โข ปน โรทโต โสจโต จ ภิยฺโย อสฺส อุปฺปชฺชเต ทุกฺขํ, สรีรฺจ ทุพฺพณฺณิยาทีหิ อุปหฺตีติ.

๕๙๑. น เตน เปตาติ เตน ปริเทวเนน กาลกตา น ปาเลนฺติ น ยาเปนฺติ, น ตํ เตสํ อุปการาย โหติ. ตสฺมา นิรตฺถา ปริเทวนาติ.

๕๙๒. น เกวลฺจ นิรตฺถา, อนตฺถมฺปิ อาวหติ. กสฺมา? ยสฺมา โสกมปฺปชหํ…เป… วสมนฺวคู. ตตฺถ อนุตฺถุนนฺโตติ อนุโสจนฺโต. วสมนฺวคูติ วสํ คโต.

๕๙๓. เอวมฺปิ นิรตฺถกตฺตํ อนตฺถาวหตฺตฺจ โสกสฺส ทสฺเสตฺวา อิทานิ โสกวินยตฺถํ โอวทนฺโต ‘‘อฺเปิ ปสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ คมิเนติ คมิเก, ปรโลกคมนสชฺเช ิเตติ วุตฺตํ โหติ. ผนฺทนฺเตวิธ ปาณิโนติ มรณภเยน ผนฺทมาเนเยว อิธ สตฺเต.

๕๙๔. เยน เยนาติ เยนากาเรน มฺนฺติ ‘‘ทีฆายุโก ภวิสฺสติ, อโรโค ภวิสฺสตี’’ติ. ตโต ตํ อฺถาเยว โหติ, โส เอวํ มฺิโต มรติปิ, โรคีปิ โหติ. เอตาทิโส อยํ วินาภาโว มฺิตปฺปจฺจนีเกน โหติ, ปสฺส, อุปาสก, โลกสภาวนฺติ เอวเมตฺถ อธิปฺปายโยชนา เวทิตพฺพา.

๕๙๖. อรหโต สุตฺวาติ อิมํ เอวรูปํ อรหโต ธมฺมเทสนํ สุตฺวา. เนโส ลพฺภา มยา อิตีติ โส เปโต ‘‘อิทานิ มยา ปุน ชีวตู’’ติ น ลพฺภา อิติ ปริชานนฺโต, วิเนยฺย ปริเทวิตนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๕๙๗. กิฺจ ภิยฺโย – ‘‘ยถา สรณมาทิตฺตํ…เป… ธํสเย’’ติ. ตตฺถ ธีโร ธิติสมฺปทาย, สปฺโ สาภาวิกปฺาย, ปณฺฑิโต พาหุสจฺจปฺาย, กุสโล จินฺตกชาติกตาย เวทิตพฺโพ. จินฺตามยสุตมยภาวนามยปฺาหิ วา โยเชตพฺพํ.

๕๙๘-๙. น เกวลฺจ โสกเมว, ปริเทวํ…เป… สลฺลมตฺตโน. ตตฺถ ปชปฺปนฺติ ตณฺหํ. โทมนสฺสนฺติ เจตสิกทุกฺขํ. อพฺพเหติ อุทฺธเร. สลฺลนฺติ เอตเมว ติปฺปการํ ทุนฺนีหรณฏฺเน อนฺโตวิชฺฌนฏฺเน จ สลฺลํ. ปุพฺเพ วุตฺตํ สตฺตวิธํ ราคาทิสลฺลํ วา. เอตสฺมิฺหิ อพฺพูฬฺเห สลฺเล อพฺพูฬฺหสลฺโล…เป… นิพฺพุโตติ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ. ตตฺถ อสิโตติ ตณฺหาทิฏฺีหิ อนิสฺสิโต. ปปฺปุยฺยาติ ปาปุณิตฺวา. เสสํ อิธ อิโต ปุพฺเพ วุตฺตตฺตา อุตฺตานตฺถเมว, ตสฺมา น วณฺณิตํ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย สลฺลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. วาเสฏฺสุตฺตวณฺณนา

เอวํเม สุตนฺติ วาเสฏฺสุตฺตํ. กา อุปฺปตฺติ? อยเมว ยาสฺส นิทาเน วุตฺตา อตฺถวณฺณนํ ปนสฺส วุตฺตนยานิ อุตฺตานตฺถานิ จ ปทานิ ปริหรนฺตา กริสฺสาม. อิจฺฉานงฺคโลติ คามสฺส นามํ. พฺราหฺมณมหาสาลานํ จงฺกี ตารุกฺโข โตเทยฺโยติ โวหารนามเมตํ. โปกฺขรสาติ ชาณุสฺโสณีติ เนมิตฺติกํ. เตสุ กิร เอโก หิมวนฺตปสฺเส โปกฺขรณิยา ปทุเม นิพฺพตฺโต, อฺตโร ตาปโส ตํ ปทุมํ คเหตฺวา ตตฺถ สยิตํ ทารกํ ทิสฺวา สํวฑฺเฒตฺวา รฺโ ทสฺเสสิ. โปกฺขเร สยิตตฺตา ‘‘โปกฺขรสาตี’’ติ จสฺส นามมกาสิ. เอกสฺส านนฺตเร เนมิตฺติกํ. เตน กิร ชาณุสฺโสณินามกํ ปุโรหิตฏฺานํ ลทฺธํ, โส เตเนว ปฺายิ.

เต สพฺเพปิ อฺเ จ อภิฺาตา อภิฺาตา พฺราหฺมณมหาสาลา กสฺมา อิจฺฉานงฺคเล ปฏิวสนฺตีติ? เวทสชฺฌายนปริวีมํสนตฺถํ. เตน กิร สมเยน โกสลชนปเท เวทกา พฺราหฺมณา เวทานํ สชฺฌายกรณตฺถฺจ อตฺถูปปริกฺขณตฺถฺจ ตสฺมึเยว คาเม สนฺนิปตนฺติ. เตน เตปิ อนฺตรนฺตรา อตฺตโน โภคคามโต อาคมฺม ตตฺถ ปฏิวสนฺติ.

วาเสฏฺภารทฺวาชานนฺติ วาเสฏฺสฺส จ ภารทฺวาชสฺส จ. อยมนฺตรากถาติ ยํ อตฺตโน สหายกภาวานุรูปํ กถํ กเถนฺตา อนุวิจรึสุ, ตสฺสา กถาย อนฺตรา เวมชฺเฌเยว อยํ อฺา กถา อุทปาทีติ วุตฺตํ โหติ. สํสุทฺธคหณิโกติ สํสุทฺธกุจฺฉิโก, สํสุทฺธาย พฺราหฺมณิยา เอว กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺโตติ อธิปฺปาโย. ‘‘สมเวปากินิยา คหณิยา’’ติอาทีสุ หิ อุทรคฺคิ ‘‘คหณี’’ติ วุจฺจติ. อิธ ปน มาตุกุจฺฉิ. ยาว สตฺตมาติ มาตุ มาตา, ปิตุ ปิตาติ เอวํ ปฏิโลเมน ยาว สตฺต ชาติโย. เอตฺถ จ ปิตามโห จ ปิตามหี จ ปิตามหา, ตถา มาตามโห จ มาตามหี จ มาตามหา, ปิตามหา จ มาตามหา จ ปิตามหาเยว. ปิตามหานํ ยุคํ ปิตามหยุคํ. ยุคนฺติ อายุปฺปมาณํ. อภิลาปมตฺตเมว เจตํ, อตฺถโต ปน ปิตามหาเยว ปิตามหยุคํ. อกฺขิตฺโตติ ชาตึ อารพฺภ ‘‘กึ โส’’ติ เกนจิ อนวฺาโต . อนุปกฺกุฏฺโติ ชาติสนฺโทสวาเทน อนุปกฺกุฏฺปุพฺโพ. วตสมฺปนฺโนติ อาจารสมฺปนฺโน. สฺาเปตุนฺติ าเปตุํ โพเธตุํ, นิรนฺตรํ กาตุนฺติ วุตฺตํ โหติ. อายามาติ คจฺฉาม.

๖๐๐. อนุฺาตปฏิฺาตาติ ‘‘เตวิชฺชา ตุมฺเห’’ติ เอวํ มยํ อาจริเยหิ จ อนุฺาตา อตฺตนา จ ปฏิชานิมฺหาติ อตฺโถ. อสฺมาติ ภวาม. อุโภติ ทฺเวปิ ชนา. อหํ โปกฺขรสาติสฺส, ตารุกฺขสฺสายํ มาณโวติ อหํ โปกฺขรสาติสฺส เชฏฺนฺเตวาสี อคฺคสิสฺโส, อยํ ตารุกฺขสฺสาติ อธิปฺปาเยน ภณติ อาจริยสมฺปตฺตึ อตฺตโน สมฺปตฺติฺจ ทีเปนฺโต.

๖๐๑. เตวิชฺชานนฺติ ติเวทานํ. เกวลิโนติ นิฏฺงฺคตา. อสฺมเสติ อมฺห ภวาม. อิทานิ ตํ เกวลิภาวํ วิตฺถาเรนฺโต อาห – ‘‘ปทกสฺมา…เป… สาทิสา’’ติ. ตตฺถ ชปฺเปติ เวเท. กมฺมุนาติ ทสวิเธน กุสลกมฺมปถกมฺมุนา. อยฺหิ ปุพฺเพ สตฺตวิธํ กายวจีกมฺมํ สนฺธาย ‘‘ยโต โข โภ สีลวา โหตี’’ติ อาห. ติวิธํ มโนกมฺมํ สนฺธาย ‘‘วตสมฺปนฺโน’’ติ อาห. เตน สมนฺนาคโต หิ อาจารสมฺปนฺโน โหติ.

๖๐๒-๕. อิทานิ ตํ วจนนฺตเรน ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘อหฺจ กมฺมุนา พฺรูมี’’ติ. ขยาตีตนฺติ อูนภาวํ อตีตํ, ปริปุณฺณนฺติ อตฺโถ. เปจฺจาติ อุปคนฺตฺวา. นมสฺสนฺตีติ นโม กโรนฺติ. จกฺขุํ โลเก สมุปฺปนฺนนฺติ อวิชฺชนฺธกาเร โลเก, ตํ อนฺธการํ วิธมิตฺวา โลกสฺส ทิฏฺธมฺมิกาทิอตฺถสนฺทสฺสเนน จกฺขุ หุตฺวา สมุปฺปนฺนํ.

๖๐๖. เอวํ อภิตฺถวิตฺวา วาเสฏฺเน ยาจิโต ภควา ทฺเวปิ ชเน สงฺคณฺหนฺโต อาห – ‘‘เตสํ โว อหํ พฺยกฺขิสฺส’’นฺติอาทิ. ตตฺถ พฺยกฺขิสฺสนฺติ พฺยากริสฺสามิ. อนุปุพฺพนฺติ ติฏฺตุ ตาว พฺราหฺมณจินฺตา, กีฏปฏงฺคติณรุกฺขโต ปภุติ โว อนุปุพฺพํ พฺยกฺขิสฺสนฺติ เอวเมตฺถ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ, เอวํ วิตฺถารกถาย วิเนตพฺพา หิ เต มาณวกา. ชาติวิภงฺคนฺติ ชาติวิตฺถารํ. อฺมฺา หิ ชาติโยติ เตสํ เตสฺหิ ปาณานํ ชาติโย อฺา อฺา นานปฺปการาติ อตฺโถ.

๖๐๗. ตโต ปาณานํ ชาติวิภงฺเค กเถตพฺเพ ‘‘ติณรุกฺเขปิ ชานาถา’’ติ อนุปาทินฺนกานํ ตาว กเถตุํ อารทฺโธ. ตํ กิมตฺถมิติ เจ? อุปาทินฺเนสุ สุขาปนตฺถํ. อนุปาทินฺเนสุ หิ ชาติเภเท คหิเต อุปาทินฺเนสุ โส ปากฏตโร โหติ. ตตฺถ ติณานิ นาม อนฺโตเผคฺคูนิ พหิสารานิ. ตสฺมา ตาลนาฬิเกราทโยปิ ติณสงฺคหํ คจฺฉนฺติ. รุกฺขา นาม พหิเผคฺคู อนฺโตสารา. ติณานิ จ รุกฺขา จ ติณรุกฺขา. เต อุปโยคพหุวจเนน ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘ติณรุกฺเขปิ ชานาถา’’ติ. น จาปิ ปฏิชานเรติ ‘‘มยํ ติณา, มยํ รุกฺขา’’ติ เอวมฺปิ น ปฏิชานนฺติ. ลิงฺคํ ชาติมยนฺติ อปฏิชานนฺตานมฺปิ จ เตสํ ชาติมยเมว สณฺานํ อตฺตโน มูลภูตติณาทิสทิสเมว โหติ. กึ การณํ? อฺมฺา หิ ชาติโย, ยสฺมา อฺา ติณชาติ, อฺา รุกฺขชาติ; ติเณสุปิ อฺา ตาลชาติ, อฺา นาฬิเกรชาตีติ เอวํ วิตฺถาเรตพฺพํ.

เตน กึ ทีเปติ? ยํ ชาติวเสน นานา โหติ, ตํ อตฺตโน ปฏิฺํ ปเรสํ วา อุปเทสํ วินาปิ อฺชาติโต วิเสเสน คยฺหติ. ยทิ จ ชาติยา พฺราหฺมโณ ภเวยฺย, โสปิ อตฺตโน ปฏิฺํ ปเรสํ วา อุปเทสํ วินา ขตฺติยโต เวสฺสสุทฺทโต วา วิเสเสน คยฺเหยฺย, น จ คยฺหติ, ตสฺมา น ชาติยา พฺราหฺมโณติ. ปรโต ปน ‘‘ยถา เอตาสุ ชาตีสู’’ติ อิมาย คาถาย เอตมตฺถํ วจีเภเทเนว อาวิกริสฺสติ.

๖๐๘. เอวํ อนุปาทินฺเนสุ ชาติเภทํ ทสฺเสตฺวา อุปาทินฺเนสุ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตโต กีเฏ’’ติ เอวมาทิมาห. ตตฺถ กีฏาติ กิมโย. ปฏงฺคาติ ปฏงฺคาเยว. ยาว กุนฺถกิปิลฺลิเกติ กุนฺถกิปิลฺลิกํ ปริยนฺตํ กตฺวาติ อตฺโถ.

๖๐๙. ขุทฺทเกติ กาฬกกณฺฑกาทโย. มหลฺลเกติ สสพิฬาราทโย. สพฺเพ หิ เต อเนกวณฺณา.

๖๑๐. ปาทูทเรติ อุทรปาเท, อุทรํเยว เยสํ ปาทาติ วุตฺตํ โหติ. ทีฆปิฏฺิเกติ สปฺปานฺหิ สีสโต ยาว นงฺคุฏฺา ปิฏฺิ เอว โหติ, เตน เต ‘‘ทีฆปิฏฺิกา’’ติ วุจฺจนฺติ. เตปิ อเนกปฺปการา อาสีวิสาทิเภเทน.

๖๑๑. โอทเกติ อุทกมฺหิ ชาเต. มจฺฉาปิ อเนกปฺปการา โรหิตมจฺฉาทิเภเทน.

๖๑๒. ปกฺขีติ สกุเณ. เต หิ ปกฺขานํ อตฺถิตาย ‘‘ปกฺขี’’ติ วุจฺจนฺติ. ปตฺเตหิ ยนฺตีติ ปตฺตยานา. เวหาเส คจฺฉนฺตีติ วิหงฺคมา. เตปิ อเนกปฺปการา กากาทิเภเทน.

๖๑๓. เอวํ ถลชลากาสโคจรานํ ปาณานํ ชาติเภทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เยนาธิปฺปาเยน ตํ ทสฺเสสิ, ตํ อาวิกโรนฺโต ‘‘ยถา เอตาสู’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ สงฺเขปโต ปุพฺเพ วุตฺตาธิปฺปายวณฺณนาวเสเนว เวทิตพฺโพ.

๖๑๔-๖. วิตฺถารโต ปเนตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ สยเมว ทสฺเสนฺโต ‘‘น เกเสหี’’ติอาทิมาห. ตตฺรายํ โยชนา – ยํ วุตฺตํ ‘‘นตฺถิ มนุสฺเสสุ ลิงฺคํ ชาติมยํ ปุถู’’ติ, ตํ เอวํ นตฺถีติ เวทิตพฺพํ. เสยฺยถิทํ, น เกเสหีติ. น หิ ‘‘พฺราหฺมณานํ อีทิสา เกสา โหนฺติ, ขตฺติยานํ อีทิสา’’ติ นิยโม อตฺถิ ยถา หตฺถิอสฺสมิคาทีนนฺติ อิมินา นเยน สพฺพํ โยเชตพฺพํ. ลิงฺคํ ชาติมยํ เนว, ยถา อฺาสุ ชาติสูติ อิทํ ปน วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส นิคมนนฺติ เวทิตพฺพํ. ตสฺส โยชนา – ตเทว ยสฺมา อิเมหิ เกสาทีหิ นตฺถิ มนุสฺเสสุ ลิงฺคํ ชาติมยํ ปุถุ, ตสฺมา เวทิตพฺพเมตํ ‘‘พฺราหฺมณาทิเภเทสุ มนุสฺเสสุ ลิงฺคํ ชาติมยํ เนว ยถา อฺาสุ ชาตีสู’’ติ.

๖๑๗. อิทานิ เอวํ ชาติเภเท อสนฺเตปิ พฺราหฺมโณ ขตฺติโยติ อิทํ นานตฺตํ ยถา ชาตํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปจฺจตฺต’’นฺติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – เอตํ ติรจฺฉานานํ วิย โยนิสิทฺธเมว เกสาทิสณฺานานตฺตํ มนุสฺเสสุ พฺราหฺมณาทีนํ อตฺตโน อตฺตโน สรีเรสุ น วิชฺชติ. อวิชฺชมาเนปิ ปน เอตสฺมึ ยเทตํ พฺราหฺมโณ ขตฺติโยติ นานตฺตวิธานปริยายํ โวการํ, ตํ โวการฺจ มนุสฺเสสุ สมฺาย ปวุจฺจติ, โวหารมตฺเตน วุจฺจตีติ.

๖๑๙-๖๒๕. เอตฺตาวตา ภควา ภารทฺวาชสฺส วาทํ นิคฺคเหตฺวา อิทานิ ยทิ ชาติยา พฺราหฺมโณ ภเวยฺย, อาชีวสีลาจารวิปนฺโนปิ พฺราหฺมโณ ภเวยฺย. ยสฺมา ปน โปราณา พฺราหฺมณา ตสฺส พฺราหฺมณภาวํ น อิจฺฉนฺติ โลเก จ อฺเปิ ปณฺฑิตมนุสฺสา, ตสฺมา วาเสฏฺสฺส วาทปคฺคหณตฺถํ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โย หิ โกจิ มนุสฺเสสู’’ติอาทิกา อฏฺ คาถาโย อาห. ตตฺถ โครกฺขนฺติ เขตฺตรกฺขํ, กสิกมฺมนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปถวี หิ ‘‘โค’’ติ วุจฺจติ, ตปฺปเภโท จ เขตฺตํ. ปุถุสิปฺเปนาติ ตนฺตวายกมฺมาทินานาสิปฺเปน. โวหารนฺติ วณิชฺชํ. ปรเปสฺเสนาติ ปเรสํ เวยฺยาวจฺเจน. อิสฺสตฺถนฺติ อาวุธชีวิกํ, อุสุฺจ สตฺติฺจาติ วุตฺตํ โหติ. โปโรหิจฺเจนาติ ปุโรหิตกมฺเมน.

๖๒๖. เอวํ พฺราหฺมณสมเยน จ โลกโวหาเรน จ อาชีวสีลาจารวิปนฺนสฺส อพฺราหฺมณภาวํ สาเธตฺวา เอวํ สนฺเต น ชาติยา พฺราหฺมโณ, คุเณหิ ปน พฺราหฺมโณ โหติ. ตสฺมา ยตฺถ ยตฺถ กุเล ชาโต โย คุณวา, โส พฺราหฺมโณ, อยเมตฺถ าโยติ เอวเมตํ ายํ อตฺถโต อาปาเทตฺวา ปุน ตเทว ายํ วจีเภเทน ปกาเสนฺโต อาห ‘‘น จาหํ พฺราหฺมณํ พฺรูมี’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – อหํ ปน ยฺวายํ จตูสุ โยนีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ชาโต, ตตฺราปิ วา วิเสเสน โย พฺราหฺมณสมฺิตาย มาตริ สมฺภูโต, ตํ โยนิชํ มตฺติสมฺภวํ ยา จายํ ‘‘อุภโต สุชาโต’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๓๐๓; ม. นิ. ๒.๔๒๔) นเยน พฺราหฺมเณหิ พฺราหฺมณสฺส ปริสุทฺธอุปฺปตฺติมคฺคสงฺขาตา โยนิ กถียติ, ‘‘สํสุทฺธคหณิโก’’ติ อิมินา จ มาตุสมฺปตฺติ, ตโตปิ ชาตสมฺภูตตฺตา ‘‘โยนิโช มตฺติสมฺภโว’’ติ จ วุจฺจติ, ตมฺปิ โยนิชํ มตฺติสมฺภวํ อิมินา จ โยนิชมตฺติสมฺภวมตฺเตน พฺราหฺมณํ น พฺรูมิ. กสฺมา? ยสฺมา ‘‘โภ โภ’’ติ วจนมตฺเตน อฺเหิ สกิฺจเนหิ วิสิฏฺตฺตา โภวาที นาม โส โหติ, สเจ โหติ สกิฺจโน. โย ปนายํ ยตฺถ กตฺถจิ กุเล ชาโตปิ ราคาทิกิฺจนาภาเวน อกิฺจโน, สพฺพคหณปฏินิสฺสคฺเคน จ อนาทาโน, อกิฺจนํ อนาทานํ ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ. กสฺมา? ยสฺมา พาหิตปาโปติ.

๖๒๗. กิฺจ ภิยฺโย – ‘‘สพฺพสํโยชนํ เฉตฺวา’’ติอาทิกา สตฺตวีสติ คาถา. ตตฺถ สพฺพสํโยชนนฺติ ทสวิธํ สํโยชนํ. น ปริตสฺสตีติ ตณฺหาย น ตสฺสติ. ตมหนฺติ ตํ อหํ ราคาทีนํ สงฺคานํ อติกฺกนฺตตฺตา สงฺคาติคํ, จตุนฺนมฺปิ โยคานํ อภาเวน วิสํยุตฺตํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๒๘. นทฺธินฺติ นยฺหนภาเวน ปวตฺตํ โกธํ. วรตฺตนฺติ พนฺธนภาเวน ปวตฺตํ ตณฺหํ. สนฺทานํ สหนุกฺกมนฺติ อนุสยานุกฺกมสหิตํ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิสนฺทานํ, อิทํ สพฺพมฺปิ ฉินฺทิตฺวา ิตํ อวิชฺชาปลิฆสฺส อุกฺขิตฺตตฺตา อุกฺขิตฺตปลิฆํ จตุนฺนํ สจฺจานฺนํ พุทฺธตฺตา พุทฺธํ อหํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๒๙. อทุฏฺโติ เอวํ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสฺจ ปาณิอาทีหิ โปถนฺจ อนฺทุพนฺธนาทีหิ พนฺธนฺจ โย อกุทฺธมานโส หุตฺวา อธิวาเสสิ, ขนฺติพเลน สมนฺนาคตตฺตา ขนฺตีพลํ, ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติยา อนีกภูเตน เตเนว ขนฺตีพลานีเกน สมนฺนาคตตฺตา พลานีกํ ตํ เอวรูปํ อหํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๓๐. วตนฺตนฺติ ธุตวเตน สมนฺนาคตํ, จตุปาริสุทฺธิสีเลน สีลวนฺตํ, ตณฺหาอุสฺสทาภาเวน อนุสฺสทํ, ฉฬินฺทฺริยทมเนน ทนฺตํ, โกฏิยํ ิเตน อตฺตภาเวน อนฺติมสารีรํ ตมหํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๓๑. โยน ลิมฺปตีติ เอวเมว โย อพฺภนฺตเร ทุวิเธปิ กาเม น ลิมฺปติ, ตสฺมึ กาเม น สณฺาติ, ตมหํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๓๒. ทุกฺขสฺสาติ ขนฺธทุกฺขสฺส. ปนฺนภารนฺติ โอหิตกฺขนฺธภารํ จตูหิ โยเคหิ สพฺพกิเลเสหิ วา วิสํยุตฺตํ ตมหํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๓๓. คมฺภีรปฺนฺติ คมฺภีเรสุ ขนฺธาทีสุ ปวตฺตาย ปฺาย สมนฺนาคตํ, ธมฺโมชปฺาย เมธาวึ, ‘‘อยํ ทุคฺคติยา, อยํ สุคติยา, อยํ นิพฺพานสฺส มคฺโค, อยํ อมคฺโค’’ติ เอวํ มคฺเค อมคฺเค จ เฉกตาย มคฺคามคฺคสฺสโกวิทํ, อรหตฺตสงฺขาตํ อุตฺตมตฺถมนุปฺปตฺตํ ตมหํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๓๔. อสํสฏฺนฺติ ทสฺสนสวนสมุลฺลาปปริโภคกายสํสคฺคานํ อภาเวน อสํสฏฺํ. อุภยนฺติ คิหีหิ จ อนคาเรหิ จาติ อุภเยหิปิ อสํสฏฺํ. อโนกสารินฺติ อนาลยจารึ, ตํ เอวรูปํ อหํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๓๕. นิธายาติ นิกฺขิปิตฺวา โอโรเปตฺวา. ตเสสุ ถาวเรสุ จาติ ตณฺหาตาเสน ตเสสุ ตณฺหาภาเวน ถิรตาย ถาวเรสุ. โย น หนฺตีติ โย เอวํ สพฺพสตฺเตสุ วิคตปฏิฆตาย นิกฺขิตฺตทณฺโฑ เนว กฺจิ สยํ หนติ, น อฺเน ฆาเตติ, ตมหํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๓๖. อวิรุทฺธนฺติ อาฆาตวเสน วิรุทฺเธสุปิ โลกิยมหาชเนสุ อาฆาตาภาเวน อวิรุทฺธํ, หตฺถคเต ทณฺเฑ วา สตฺเถ วา อวิชฺชมาเนปิ ปเรสํ ปหารทานโต อวิรตตฺตา อตฺตทณฺเฑสุ ชเนสุ นิพฺพุตํ นิกฺขิตฺตทณฺฑํ, ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ ‘‘อหํ มม’’นฺติ คหิตตฺตา สาทาเนสุ, ตสฺส คหณสฺส อภาเวน อนาทานํ ตํ เอวรูปํ อหํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๓๗. อารคฺคาติ ยสฺเสเต ราคาทโย อยฺจ ปรคุณมกฺขณลกฺขโณ มกฺโข อารคฺคา สาสโป วิย ปปติโต, ยถา สาสโป อารคฺเค น สนฺติฏฺติ, เอวํ จิตฺเต น ติฏฺติ, ตมหํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๓๘. อกกฺกสนฺติ อผรุสํ. วิฺาปนินฺติ อตฺถวิฺาปนึ. สจฺจนฺติ ภูตํ. นาภิสเชติ ยาย คิราย อฺํ กุชฺฌาปนวเสน น ลคฺคาเปยฺย. ขีณาสโว นาม เอวรูปเมว คิรํ ภาเสยฺย. ตสฺมา ตมหํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๓๙. สาฏกาภรณาทีสุ ทีฆํ วา รสฺสํ วา, มณิมุตฺตาทีสุ อณุํ วา ถูลํ วา มหคฺฆอปฺปคฺฆวเสน สุภํ วา อสุภํ วา โย ปุคฺคโล อิมสฺมึ โลเก ปรปริคฺคหิตํ นาทิยติ, ตมหํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๔๐. นิราสาสนฺติ นิตฺตณฺหํ. วิสํยุตฺตนฺติ สพฺพกิเลเสหิ วิยุตฺตํ ตมหํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๔๑. อาลยาติ ตณฺหา. อฺาย อกถํกถีติ อฏฺ วตฺถูนิ ยถาภูตํ ชานิตฺวา อฏฺวตฺถุกาย วิจิกิจฺฉาย นิพฺพิจิกิจฺโฉ. อมโตคธมนุปฺปตฺตนฺติ อมตํ นิพฺพานํ โอคเหตฺวา อนุปฺปตฺตํ ตมหํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๔๒. อุโภติ ทฺเวปิ ปุฺานิ ปาปานิ จ ฉฑฺเฑตฺวาติ อตฺโถ. สงฺคนฺติ ราคาทิเภทํ สงฺคํ. อุปจฺจคาติ อติกฺกนฺโต. ตมหํ วฏฺฏมูลโสเกน อโสกํ, อพฺภนฺตเร ราครชาทีนํ อภาเวน วิรชํ, นิรุปกฺกิเลสตาย สุทฺธํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๔๓. วิมลนฺติ อพฺภาทิมลวิรหิตํ. สุทฺธนฺติ นิรุปกฺกิเลสํ. วิปฺปสนฺนนฺติ ปสนฺนจิตฺตํ. อนาวิลนฺติ กิเลสาวิลตฺตวิรหิตํ. นนฺทีภวปริกฺขีณนฺติ ตีสุ ภเวสุ ปริกฺขีณตณฺหํ ตมหํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๔๔. โย ภิกฺขุ อิมํราคปลิปถฺเจว กิเลสทุคฺคฺจ สํสารวฏฺฏฺจ จตุนฺนํ สจฺจานํ อปฺปฏิวิชฺฌนกโมหฺจ อตีโต, จตฺตาโร โอเฆ ติณฺโณ หุตฺวา ปารํ อนุปฺปตฺโต, ทุวิเธน ฌาเนน ฌายี, ตณฺหาย อภาเวน อเนโช, กถํกถาย อภาเวน อกถํกถี, อุปาทานานํ อภาเวน อนุปาทิยิตฺวา กิเลสนิพฺพาเนน นิพฺพุโต, ตมหํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๔๕. โย ปุคฺคโล, อิธ โลเก, อุโภปิ กาเม หิตฺวา อนาคาโร หุตฺวา ปริพฺพชติ, ตํ ปริกฺขีณกามฺเจว ปริกฺขีณภวฺจ อหํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๔๖. โยอิธ โลเก ฉทฺวาริกํ ตณฺหํ ชหิตฺวา ฆราวาเสน อนตฺถิโก อนาคาโร หุตฺวา ปริพฺพชติ, ตณฺหาย เจว ภวสฺส จ ปริกฺขีณตฺตา ตณฺหาภวปริกฺขีณํ ตมหํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๔๗. มานุสกํ โยคนฺติ มานุสกํ อายุฺเจว ปฺจวิธกามคุเณ จ. ทิพฺพโยเคปิ เอเสว นโย. อุปจฺจคาติ โย มานุสกํ โยคํ หิตฺวา ทิพฺพํ อติกฺกนฺโต, ตํ สพฺเพหิ จตูหิ โยเคหิ วิสํยุตฺตํ อหํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๔๘. รตินฺติ ปฺจกามคุณรตึ. อรตินฺติ อรฺวาเส อุกฺกณฺิตตฺตํ. สีติภูตนฺติ นิพฺพุตํ, นิรุปธินฺติ นิรุปกฺกิเลสํ, วีรนฺติ ตํ เอวรูปํ สพฺพํ ขนฺธโลกํ อภิภวิตฺวา ิตํ วีริยวนฺตํ อหํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๔๙. โย เวทีติ โย สตฺตานํ สพฺพากาเรน จุติฺจ ปฏิสนฺธิฺจ ปากฏํ กตฺวา ชานาติ, ตมหํ อลคฺคตาย อสตฺตํ, ปฏิปตฺติยา สุฏฺุ คตตฺตา สุคตํ, จตุนฺนํ สจฺจานํ พุทฺธตาย พุทฺธํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๕๐. ยสฺสาติ ยสฺเสเต เทวาทโย คตึ น ชานนฺติ, ตมหํ อาสวานํ ขีณตาย ขีณาสวํ, กิเลเสหิ อารกตฺตา อรหนฺตํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๕๑. ปุเรติ อตีตกฺขนฺเธสุ. ปจฺฉาติ อนาคเตสุ. มชฺเฌติ ปจฺจุปฺปนฺเนสุ. กิฺจนนฺติ ยสฺเสเตสุ าเนสุ ตณฺหาคาหสงฺขาตํ กิฺจนํ นตฺถิ. ตมหํ ราคกิฺจนาทีหิ อกิฺจนํ. กสฺสจิ คหณสฺส อภาเวน อนาทานํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๕๒. อจฺฉมฺภิตตฺเตน อุสภสทิสตาย อุสภํ, อุตฺตมฏฺเน ปวรํ, วีริยสมฺปตฺติยา วีรํ, มหนฺตานํ สีลกฺขนฺธาทีนํ เอสิตตฺตา มเหสึ, ติณฺณํ มารานํ วิชิตตฺตา วิชิตาวินํ, นินฺหาตกิเลสตาย นฺหาตกํ, จตุสจฺจพุทฺธตาย พุทฺธํ ตํ เอวรูปํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๕๓. โย ปุพฺเพนิวาสํ ปากฏํ กตฺวา ชานาติ, ฉพฺพีสติเทวโลกเภทํ สคฺคํ, จตุพฺพิธํ อปายฺจ ทิพฺพจกฺขุนา ปสฺสติ, อโถ ชาติกฺขยสงฺขาตํ อรหตฺตํ ปตฺโต, ตมหํ พฺราหฺมณํ วทามีติ อตฺโถ.

๖๕๔. เอวํ ภควา คุณโต พฺราหฺมณํ วตฺวา ‘‘เย ‘ชาติโต พฺราหฺมโณ’ติ อภินิเวสํ กโรนฺติ, เต อิทํ โวหารมตฺตํ อชานนฺตา, สา จ เนสํ ทิฏฺิ ทุทฺทิฏฺี’’ติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมฺา เหสา’’ติ คาถาทฺวยมาห. ตสฺสตฺโถ – ‘‘ยทิทํ พฺราหฺมโณ ขตฺติโย ภารทฺวาโช วาเสฏฺโ’’ติ นามโคตฺตํ ปกปฺปิตํ, สมฺา เหสา โลกสฺมึ, ปฺตฺติโวหารมตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. กสฺมา? ยสฺมา สมฺมุจฺจา สมุทาคตํ สมนุฺาย อาคตํ. ตฺหิ ตตฺถ ตตฺถ ชาตกาเลเยวสฺส าติสาโลหิเตหิ ปกปฺปิตํ กตํ. โน เจตํ เอวํ ปกปฺเปยฺยุํ, น โกจิ กฺจิ ทิสฺวา ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ’’ติ วา ‘‘ภารทฺวาโช’’ติ วา ชาเนยฺย.

๖๕๕. เอวํ ปกปฺปิตฺเจตํ ทีฆรตฺตมนุสยิตํ ทิฏฺิคตมชานตํ, ‘‘ปกปฺปิตํ นามโคตฺตํ, นามโคตฺตมตฺตเมตํ สํโวหารตฺถํ ปกปฺปิต’’นฺติ อชานนฺตานํ สตฺตานํ หทเย ทีฆรตฺตํ ทิฏฺิคตมนุสยิตํ, ตสฺส อนุสยิตตฺตา ตํ นามโคตฺตํ อชานนฺตา เต ปพฺรุวนฺติ ‘‘ชาติยา โหติ พฺราหฺมโณ’’ติ, อชานนฺตาเยว เอวํ วทนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.

๖๕๖-๗. เอวํ ‘‘เย ‘ชาติโต พฺราหฺมโณ’ติ อภินิเวสํ กโรนฺติ, เต อิทํ โวหารมตฺตมชานนฺตา, สา จ เนสํ ทิฏฺิ ทุทฺทิฏฺี’’ติ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิปฺปริยายเมว ชาติวาทํ ปฏิกฺขิปนฺโต กมฺมวาทฺจ นิโรเปนฺโต ‘‘น ชจฺจา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘กมฺมุนา พฺราหฺมโณ โหติ, กมฺมุนา โหติ อพฺราหฺมโณ’’ติ อิมิสฺสา อุปฑฺฒคาถาย อตฺถวิตฺถารณตฺถํ ‘‘กสฺสโก กมฺมุนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กมฺมุนาติ ปจฺจุปฺปนฺเนน กสิกมฺมาทินิพฺพตฺตกเจตนากมฺมุนา.

๖๕๙. ปฏิจฺจสมุปฺปาททสฺสาติ ‘‘อิมินา ปจฺจเยน เอวํ โหตี’’ติ เอวํ ปฏิจฺจสมุปฺปาททสฺสาวิโน. กมฺมวิปากโกวิทาติ สมฺมานาวมานารเห กุเล กมฺมวเสน อุปฺปตฺติ โหติ, อฺาปิ หีนปณีตตา หีนปณีเต กมฺเม วิปจฺจมาเน โหตีติ เอวํ กมฺมวิปากกุสลา.

๖๖๐. ‘‘กมฺมุนาวตฺตตี’’ติ คาถาย ปน ‘‘โลโก’’ติ วา ‘‘ปชา’’ติ วา ‘‘สตฺตา’’ติ วา เอโกเยว อตฺโถ, วจนมตฺตเมว นานํ. ปุริมปเทน เจตฺถ ‘‘อตฺถิ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา…เป… เสฏฺโ สชิตา วสี ปิตา ภูตภพฺยาน’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๔๒) อิมิสฺสา ทิฏฺิยา นิเสโธ เวทิตพฺโพ. กมฺมุนา หิ วตฺตติ ตาสุ ตาสุ คตีสุ อุปฺปชฺชติ โลโก, ตสฺส โก สชิตาติ? ทุติเยน ‘‘เอวํ กมฺมุนา อุปฺปนฺโนปิ จ ปวตฺติยมฺปิ อตีตปจฺจุปฺปนฺนเภเทน กมฺมุนา เอว ปวตฺตติ, สุขทุกฺขานิ ปจฺจนุโภนฺโต หีนปณีตาทิภาวํ อาปชฺชนฺโต ปวตฺตตี’’ติ ทสฺเสติ. ตติเยน ตเมวตฺถํ นิคเมติ ‘‘เอวํ สพฺพถาปิ กมฺมนิพนฺธนา สตฺตา กมฺเมเนว พทฺธา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ, น อฺถา’’ติ. จตุตฺเถน ตมตฺถํ อุปมาย วิภาเวติ รถสฺสาณีว ยายโตติ. ยถา รถสฺส ยายโต อาณิ นิพนฺธนํ โหติ, น ตาย อนิพทฺโธ ยาติ, เอวํ โลกสฺส อุปฺปชฺชโต จ ปวตฺตโต จ กมฺมํ นิพนฺธนํ, น เตน อนิพทฺโธ อุปฺปชฺชติ นปฺปวตฺตติ.

๖๖๑. อิทานิ ยสฺมา เอวํ กมฺมนิพนฺธโน โลโก, ตสฺมา เสฏฺเน กมฺมุนา เสฏฺภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตเปนา’’ติ คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ ตเปนาติ อินฺทฺริยสํวเรน. พฺรหฺมจริเยนาติ สิกฺขานิสฺสิเตน วุตฺตาวเสสเสฏฺจริเยน. สํยเมนาติ สีเลน. ทเมนาติ ปฺาย. เอเตน เสฏฺฏฺเน พฺรหฺมภูเตน กมฺมุนา พฺราหฺมโณ โหติ. กสฺมา? ยสฺมา เอตํ พฺราหฺมณมุตฺตมํ, ยสฺมา เอตํ กมฺมํ อุตฺตโม พฺราหฺมณภาโวติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘พฺรหฺมาน’’นฺติปิ ปาโ, ตสฺสตฺโถ – พฺรหฺมํ อาเนตีติ พฺรหฺมานํ, พฺรหฺมภาวํ อาเนติ อาวหติ เทตีติ วุตฺตํ โหติ.

๖๖๒. ทุติยคาถาย สนฺโตติ สนฺตกิเลโส. พฺรหฺมา สกฺโกติ พฺรหฺมา จ สกฺโก จ. โย เอวรูโป, โส น เกวลํ พฺราหฺมโณ, อปิจ โข พฺรหฺมา จ สกฺโก จ โส วิชานตํ ปณฺฑิตานํ, เอวํ วาเสฏฺ ชานาหีติ วุตฺตํ โหติ. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย วาเสฏฺสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. โกกาลิกสุตฺตวณฺณนา

เอวํเม สุตนฺติ โกกาลิกสุตฺตํ. กา อุปฺปตฺติ? อิมสฺส สุตฺตสฺส อุปฺปตฺติ อตฺถวณฺณนายเมว อาวิ ภวิสฺสติ. อตฺถวณฺณนาย จสฺส เอวํ เม สุตนฺติอาทิ วุตฺตนยเมว. อถ โข โกกาลิโกติ เอตฺถ ปน โก อยํ โกกาลิโก, กสฺมา จ อุปสงฺกมีติ? วุจฺจเต – อยํ กิร โกกาลิกรฏฺเ โกกาลิกนคเร โกกาลิกเสฏฺิสฺส ปุตฺโต ปพฺพชิตฺวา ปิตรา การาปิเต วิหาเรเยว ปฏิวสติ ‘‘จูฬโกกาลิโก’’ติ นาเมน, น เทวทตฺตสฺส สิสฺโส. โส หิ พฺราหฺมณปุตฺโต ‘‘มหาโกกาลิโก’’ติ ปฺายิ.

ภควติ กิร สาวตฺถิยํ วิหรนฺเต ทฺเว อคฺคสาวกา ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ ชนปทจาริกํ จรมานา อุปกฏฺาย วสฺสูปนายิกาย วิเวกวาสํ วสิตุกามา เต ภิกฺขู อุยฺโยเชตฺวา อตฺตโน ปตฺตจีวรมาทาย ตสฺมึ ชนปเท ตํ นครํ ปตฺวา ตํ วิหารํ อคมํสุ. ตตฺถ เต โกกาลิเกน สทฺธึ สมฺโมทิตฺวา ตํ อาหํสุ – ‘‘อาวุโส, มยํ อิธ เตมาสํ วสิสฺสาม, มา กสฺสจิ อาโรเจยฺยาสี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา เตมาเส อตีเต อิตรทิวสํ ปเคว นครํ ปวิสิตฺวา อาโรเจสิ – ‘‘ตุมฺเห อคฺคสาวเก อิธาคนฺตฺวา วสมาเน น ชานิตฺถ, น เต โกจิ ปจฺจเยนาปิ นิมนฺเตตี’’ติ. นครวาสิโน ‘‘กสฺมา โน, ภนฺเต, นาโรจยิตฺถา’’ติ. กึ อาโรจิเตน, กึ นาทฺทสถ ทฺเว ภิกฺขู วสนฺเต, นนุ เอเต อคฺคสาวกาติ. เต ขิปฺปํ สนฺนิปติตฺวา สปฺปิคุฬวตฺถาทีนิ อาเนตฺวา โกกาลิกสฺส ปุรโต นิกฺขิปึสุ. โส จินฺเตสิ – ‘‘ปรมปฺปิจฺฉา อคฺคสาวกา ‘ปยุตฺตวาจาย อุปฺปนฺโน ลาโภ’ติ ตฺวา น สาทิยิสฺสนฺติ, อสาทิยนฺตา อทฺธา ‘อาวาสิกสฺส เทถา’ติ ภณิสฺสนฺติ, หนฺทาหํ อิมํ ลาภํ คาหาเปตฺวา คจฺฉามี’’ติ . โส ตถา อกาสิ, เถรา ทิสฺวาว ปยุตฺตวาจาย อุปฺปนฺนภาวํ ตฺวา ‘‘อิเม ปจฺจยา เนว อมฺหากํ น โกกาลิกสฺส วฏฺฏนฺตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘อาวาสิกสฺส เทถา’’ติ อวตฺวา ปฏิกฺขิปิตฺวา ปกฺกมึสุ. เตน โกกาลิโก ‘‘กถฺหิ นาม อตฺตนา อคฺคณฺหนฺตา มยฺหมฺปิ น ทาเปสุ’’นฺติ โทมนสฺสํ อุปฺปาเทสิ.

เต ภควโต สนฺติกํ อคมํสุ. ภควา จ ปวาเรตฺวา สเจ อตฺตนา ชนปทจาริกํ น คจฺฉติ, อคฺคสาวเก เปเสติ – ‘‘จรถ, ภิกฺขเว, จาริกํ พหุชนหิตายา’’ติอาทีนิ (มหาว. ๓๒) วตฺวา . อิทมาจิณฺณํ ตถาคตานํ. เตน โข ปน สมเยน อตฺตนา อคนฺตุกาโม โหติ. อถ โข อิเม ปุนเทว อุยฺโยเชสิ – ‘‘คจฺฉถ, ภิกฺขเว, จรถ จาริก’’นฺติ. เต ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ จาริกํ จรมานา อนุปุพฺเพน ตสฺมึ รฏฺเ ตเมว นครํ อคมํสุ. นาครา เถเร สฺชานิตฺวา สห ปริกฺขาเรหิ ทานํ สชฺเชตฺวา นครมชฺเฌ มณฺฑปํ กตฺวา ทานํ อทํสุ, เถรานฺจ ปริกฺขาเร อุปนาเมสุํ. เถรา คเหตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส อทํสุ. ตํ ทิสฺวา โกกาลิโก จินฺเตสิ – ‘‘อิเม ปุพฺเพ อปฺปิจฺฉา อเหสุํ, อิทานิ โลภาภิภูตา ปาปิจฺฉา ชาตา, ปุพฺเพปิ อปฺปิจฺฉสนฺตุฏฺปวิวิตฺตสทิสา มฺเ, อิเม ปาปิจฺฉา อสนฺตคุณปริทีปกา ปาปภิกฺขู’’ติ. โส เถเร อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อาวุโส, ตุมฺเห ปุพฺเพ อปฺปิจฺฉา สนฺตุฏฺา ปวิวิตฺตา วิย อหุวตฺถ, อิทานิ ปนตฺถ ปาปภิกฺขู ชาตา’’ติ วตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ตาวเทว ตรมานรูโป นิกฺขมิตฺวา คนฺตฺวา ‘‘ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสฺสามี’’ติ สาวตฺถาภิมุโข คนฺตฺวา อนุปุพฺเพน ภควนฺตํ อุปสงฺกมิ. อยเมตฺถ โกกาลิโก, อิมินา การเณน อุปสงฺกมิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อถ โข โกกาลิโก ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมี’’ติอาทิ.

ภควา ตํ ตุริตตุริตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวาว อาวชฺเชตฺวา อฺาสิ – ‘‘อคฺคสาวเก อกฺโกสิตุกาโม อาคโต’’ติ. ‘‘สกฺกา นุ โข ปฏิเสเธตุ’’นฺติ จ อาวชฺเชนฺโต ‘‘น สกฺกา, เถเรสุ อปรชฺฌิตฺวา อาคโต, เอกํเสน ปทุมนิรเย อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ อทฺทส. เอวํ ทิสฺวาปิ ปน ‘‘สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนปิ นาม ครหนฺตํ สุตฺวา น นิเสเธตี’’ติ ปรูปวาทโมจนตฺถํ อริยูปวาทสฺส มหาสาวชฺชภาวทสฺสนตฺถฺจ ‘‘มา เหว’’นฺติอาทินา นเยน ติกฺขตฺตุํ ปฏิเสเธสิ. ตตฺถ มา เหวนฺติ มา เอวมาห, มา เอวํ อภณีติ อตฺโถ. เปสลาติ ปิยสีลา. สทฺธายิโกติ สทฺธาคมกโร, ปสาทาวโหติ วุตฺตํ โหติ. ปจฺจยิโกติ ปจฺจยกโร, ‘‘เอวเมต’’นฺติ สนฺนิฏฺาวโหติ วุตฺตํ โหติ.

อจิรปกฺกนฺตสฺสาติ ปกฺกนฺตสฺส สโต น จิเรเนว สพฺโพ กาโย ผุโฏ อโหสีติ เกสคฺคมตฺตมฺปิ โอกาสํ อวชฺเชตฺวา สกลสรีรํ อฏฺีนิ ภินฺทิตฺวา อุคฺคตาหิ ปีฬกาหิ อชฺโฌตฺถฏํ อโหสิ. ตตฺถ ยสฺมา พุทฺธานุภาเวน ตถารูปํ กมฺมํ พุทฺธานํ สมฺมุขีภาเว วิปากํ น เทติ, ทสฺสนูปจาเร ปน วิชหิตมตฺเต เทติ, ตสฺมา ตสฺส อจิรปกฺกนฺตสฺส ปีฬกา อุฏฺหึสุ. เตเนว วุตฺตํ ‘‘อจิรปกฺกนฺตสฺส จ โกกาลิกสฺสา’’ติ. อถ กสฺมา ตตฺเถว น อฏฺาสีติ เจ? กมฺมานุภาเวน. โอกาสกตฺหิ กมฺมํ อวสฺสํ วิปจฺจติ, ตํ ตสฺส ตตฺถ าตุํ น เทติ. โส กมฺมานุภาเวน โจทิยมาโน อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. กฬายมตฺติโยติ จณกมตฺติโย . เพลุวสลาฏุกมตฺติโยติ ตรุณเพลุวมตฺติโย. ปภิชฺชึสูติ ภิชฺชึสุ. ตาสุ ภินฺนาสุ สกลสรีรํ ปนสปกฺกํ วิย อโหสิ. โส ปกฺเกน คตฺเตน อนยพฺยสนํ ปตฺวา ทุกฺขาภิภูโต เชตวนทฺวารโกฏฺเก สยิ. อถ ธมฺมสฺสวนตฺถํ อาคตาคตา มนุสฺสา ตํ ทิสฺวา ‘‘ธิ โกกาลิก, ธิ โกกาลิก, อยุตฺตมกาสิ, อตฺตโนเยว มุขํ นิสฺสาย อนยพฺยสนํ ปตฺโตสี’’ติ อาหํสุ. เตสํ สุตฺวา อารกฺขเทวตา ธิกฺการํ อกํสุ, อารกฺขเทวตานํ อากาสฏฺเทวตาติ อิมินา อุปาเยน ยาว อกนิฏฺภวนา เอกธิกฺกาโร อุทปาทิ.

ตทา จ ตุรู นาม ภิกฺขุ โกกาลิกสฺส อุปชฺฌาโย อนาคามิผลํ ปตฺวา สุทฺธาวาเสสุ นิพฺพตฺโต โหติ. โสปิ สมาปตฺติยา วุฏฺิโต ตํ ธิกฺการํ สุตฺวา อาคมฺม โกกาลิกํ โอวทิ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตปฺปสาทชนนตฺถํ. โส ตสฺสาปิ วจนํ อคฺคเหตฺวา อฺทตฺถุ ตเมว อปราเธตฺวา กาลํ กตฺวา ปทุมนิรเย อุปฺปชฺชิ. เตนาห – ‘‘อถ โข โกกาลิโก ภิกฺขุ เตเนวาพาเธน…เป… อาฆาเตตฺวา’’ติ.

อถ โข พฺรหฺมา สหมฺปตีติ โก อยํ พฺรหฺมา, กสฺมา จ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจาติ? อยํ กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน สหโก นาม ภิกฺขุ อนาคามี หุตฺวา สุทฺธาวาเสสุ อุปฺปนฺโน, ตตฺถ นํ ‘‘สหมฺปติ พฺรหฺมา’’ติ สฺชานนฺติ. โส ปน ‘‘อหํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปทุมนิรยํ กิตฺเตสฺสามิ, ตโต ภควา ภิกฺขูนํ อาโรเจสฺสติ. กถานุสนฺธิกุสลา ภิกฺขู ตตฺถายุปฺปมาณํ ปุจฺฉิสฺสนฺติ, ภควา อาจิกฺขนฺโต อริยูปวาเท อาทีนวํ ปกาเสสฺสตี’’ติ อิมินา การเณน ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจ. ภควา ตเถว อกาสิ, อฺตโรปิ ภิกฺขุ ปุจฺฉิ. เตน จ ปุฏฺโ ‘‘เสยฺยถาปิ ภิกฺขู’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ วีสติขาริโกติ มาคธเกน ปตฺเถน จตฺตาโร ปตฺถา โกสลรฏฺเ เอโก ปตฺโถ โหติ, เตน ปตฺเถน จตฺตาโร ปตฺถา อาฬฺหกํ, จตฺตาริ อาฬฺหกานิ โทณํ, จตุโทณา มานิกา, จตุมานิกา ขารี, ตาย ขาริยา วีสติขาริโก. ติลวาโหติ ติลสกฏํ. อพฺพุโท นิรโยติ อพฺพุโท นาม โกจิ ปจฺเจกนิรโย นตฺถิ, อวีจิมฺหิเยว อพฺพุทคณนาย ปจฺจโนกาโส ปน ‘‘อพฺพุโท นิรโย’’ติ วุตฺโต. เอส นโย นิรพฺพุทาทีสุ.

ตตฺถ วสฺสคณนาปิ เอวํ เวทิตพฺพา – ยเถว หิ สตํ สตสหสฺสานิ โกฏิ โหติ, เอวํ สตํ สตสหสฺสโกฏิโย ปโกฏิ นาม โหติ, สตํ สตสหสฺสปโกฏิโย โกฏิปฺปโกฏิ นาม, สตํ สตสหสฺสโกฏิปฺปโกฏิโย นหุตํ, สตํ สตสหสฺสนหุตานิ นินฺนหุตํ, สตํ สตสหสฺสนินฺนหุตานิ เอกํ อพฺพุทํ, ตโต วีสติคุณํ นิรพฺพุทํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. เกจิ ปน ‘‘ตตฺถ ตตฺถ ปริเทวนานตฺเตนปิ กมฺมกรณนานตฺเตนปิ อิมานิ นามานิ ลทฺธานี’’ติ วทนฺติ, อปเร ‘‘สีตนรกา เอว เอเต’’ติ.

อถาปรนฺติ ตทตฺถวิเสสตฺถทีปกํ คาถาพนฺธํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปาวเสน วุตฺตวีสติคาถาสุ หิ เอตฺถ ‘‘สตํ สหสฺสาน’’นฺติ อยเมกา เอว คาถา วุตฺตตฺถทีปิกา, เสสา วิเสสตฺถทีปิกา เอว, อวสาเน คาถาทฺวยเมว ปน มหาอฏฺกถายํ วินิจฺฉิตปาเ นตฺถิ. เตนาโวจุมฺห ‘‘วีสติคาถาสู’’ติ.

๖๖๓. ตตฺถ กุารีติ อตฺตจฺเฉทกฏฺเน กุาริสทิสา ผรุสวาจา. ฉินฺทตีติ กุสลมูลสงฺขาตํ อตฺตโน มูลํเยว นิกนฺตติ.

๖๖๔. นินฺทิยนฺติ นินฺทิตพฺพํ. ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโยติ โย อุตฺตมฏฺเน ปสํสารโห ปุคฺคโล, ตํ วา โส ปาปิจฺฉตาทีนิ อาโรเปตฺวา ครหติ. วิจินาตีติ อุปจินาติ. กลินฺติ อปราธํ.

๖๖๕. อยํ กลีติ อยํ อปราโธ. อกฺเขสูติ ชูตกีฬนอกฺเขสุ. สพฺพสฺสาปิ สหาปิ อตฺตนาติ สพฺเพน อตฺตโน ธเนนปิ อตฺตนาปิ สทฺธึ. สุคเตสูปิ สุฏฺุ คตตฺตา, สุนฺทรฺจ านํ คตตฺตา สุคตนามเกสุ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวเกสุ. มนํ ปโทสเยติ โย มนํ ปทูเสยฺย. ตสฺสายํ มโนปโทโส เอว มหตฺตโร กลีติ วุตฺตํ โหติ.

๖๖๖. กสฺมา? ยสฺมา สตํ สหสฺสานํ…เป… ปาปกํ, ยสฺมา วสฺสคณนาย เอตฺตโก โส กาโล, ยํ กาลํ อริยครหีวาจํ มนฺจ ปณิธาย ปาปกํ นิรยํ อุเปติ, ตตฺถ ปจฺจตีติ วุตฺตํ โหติ. อิทฺหิ สงฺเขเปน ปทุมนิรเย อายุปฺปมาณํ.

๖๖๗. อิทานิ อปเรนปิ นเยน ‘‘อยเมว มหตฺตโร กลิ, โย สุคเตสุ มนํ ปทูสเย’’ติ อิมมตฺถํ วิภาเวนฺโต ‘‘อภูตวาที’’ติ อาทิมาห. ตตฺถ อภูตวาทีติ อริยูปวาทวเสน อลิกวาที. นิรยนฺติ ปทุมาทึ. เปจฺจ สมา ภวนฺตีติ อิโต ปฏิคนฺตฺวา นิรยูปปตฺติยา สมา ภวนฺติ. ปรตฺถาติ ปรโลเก.

๖๖๘. กิฺจ ภิยฺโย – โย อปฺปทุฏฺสฺสาติ. ตตฺถ มโนปโทสาภาเวน อปฺปทุฏฺโ, อวิชฺชามลาภาเวน สุทฺโธ, ปาปิจฺฉาภาเวน อนงฺคโณติ เวทิตพฺโพ. อปฺปทุฏฺตฺตา วา สุทฺธสฺส, สุทฺธตฺตา อนงฺคณสฺสาติ เอวมฺเปตฺถ โยเชตพฺพํ.

๖๖๙. เอวํ สุคเตสุ มโนปโทสสฺส มหตฺตรกลิภาวํ สาเธตฺวา อิทานิ วาริตวตฺถุคาถา นาม จุทฺทส คาถา อาห. อิมา กิร โกกาลิกํ มียมานเมว โอวทนฺเตนายสฺมตา มหาโมคฺคลฺลาเนน วุตฺตา, ‘‘มหาพฺรหฺมุนา’’ติ เอเก. ตาสํ อิมินา สุตฺเตน สทฺธึ เอกสงฺคหตฺถํ อยมุทฺเทโส ‘‘โย โลภคุเณ อนุยุตฺโต’’ติอาทิ. ตตฺถ ปมคาถาย ตาว ‘‘คุโณ’’ติ นิทฺทิฏฺตฺตา อเนกกฺขตฺตุํ ปวตฺตตฺตา วา โลโภเยว โลภคุโณ, ตณฺหาเยตํ อธิวจนํ. อวทฺูติ อวจนฺู พุทฺธานมฺปิ โอวาทํ อคฺคหเณน. มจฺฉรีติ ปฺจวิธมจฺฉริเยน. เปสุณิยํ อนุยุตฺโตติ อคฺคสาวกานํ เภทกามตาย. เสสํ ปากฏเมว. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โย, อาวุโส โกกาลิก, ตุมฺหาทิโส อนุยุตฺตโลภตณฺหาย โลภคุเณ อนุยุตฺโต อสฺสทฺโธ กทริโย อวทฺู มจฺฉรี เปสุณิยํ อนุยุตฺโต, โส วจสา ปริภาสติ อฺํ อภาสเนยฺยมฺปิ ปุคฺคลํ. เตน ตํ วทามิ ‘‘มุขทุคฺคา’’ติ คาถาตฺตยํ.

๖๗๐. ตสฺสายํ อนุตฺตานปทตฺโถ – มุขทุคฺค มุขวิสม, วิภูต วิคตภูต, อลิกวาทิ, อนริย อสปฺปุริส, ภูนหุ ภูติหนก, วุฑฺฒินาสก, ปุริสนฺต อนฺติมปุริส, กลิ อลกฺขิปุริส, อวชาต พุทฺธสฺส อวชาตปุตฺต.

๖๗๑. รชมากิรสีติ กิเลสรชํ อตฺตนิ ปกฺขิปสิ. ปปตนฺติ โสพฺภํ. ‘‘ปปาต’’นฺติปิ ปาโ, โส เอวตฺโถ. ‘‘ปปท’’นฺติปิ ปาโ, มหานิรยนฺติ อตฺโถ.

๖๗๒. เอติ หตนฺติ เอตฺถ -อิติ นิปาโต, นฺติ ตํ กุสลากุสลกมฺมํ. อถ วา หตนฺติ คตํ ปฏิปนฺนํ, อุปจิตนฺติ อตฺโถ. สุวามีติ สามิ ตสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา. โส หิ ตํ กมฺมํ ลภเตว, นาสฺส ตํ นสฺสตีติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺมา จ ลภติ, ตสฺมา ทุกฺขํ มนฺโท…เป… กิพฺพิสการี.

๖๗๓. อิทานิ ยํ ทุกฺขํ มนฺโท ปสฺสติ, ตํ ปกาเสนฺโต ‘‘อโยสงฺกุสมาหตฏฺาน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปุริมอุปฑฺฒคาถาย ตาว อตฺโถ – ยํ ตํ อโยสงฺกุสมาหตฏฺานํ สนฺธาย ภควตา ‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา ปฺจวิธพนฺธนํ นาม การณํ กโรนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๕๐; อ. นิ. ๓.๓๖) วุตฺตํ, ตํ อุเปติ, เอวํ อุเปนฺโต จ ตตฺเถว อาทิตฺตาย โลหปถวิยา นิปชฺชาเปตฺวา นิรยปาเลหิ ปฺจสุ าเนสุ อาโกฏิยมานํ ตตฺตํ ขิลสงฺขาตํ ติณฺหธารมยสูลมุเปติ, ยํ สนฺธาย ภควตา วุตฺตํ ‘‘ตตฺตํ อโยขิลํ หตฺเถ คเมนฺตี’’ติอาทิ. ตโต ปรา อุปฑฺฒคาถา อเนกานิ วสฺสสหสฺสานิ ตตฺถ ปจฺจิตฺวา ปกฺกาวเสสานุภวนตฺถํ อนุปุพฺเพน ขาโรทกนทีตีรํ คตสฺส ยํ ตํ ‘‘ตตฺตํ อโยคุฬํ มุเข ปกฺขิปนฺติ, ตตฺตํ ตมฺพโลหํ มุเข อาสิฺจนฺตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ อโยติ โลหํ. คุฬสนฺนิภนฺติ เพลุวสณฺานํ. อโยคหเณน เจตฺถ ตมฺพโลหํ, อิตเรน อโยคุฬํ เวทิตพฺพํ. ปติรูปนฺติ กตกมฺมานุรูปํ.

๖๗๔. ตโต ปราสุ คาถาสุ น หิ วคฺคูติ ‘‘คณฺหถ, ปหรถา’’ติอาทีนิ วทนฺตา นิรยปาลา มธุรวาจํ น วทนฺติ. นาภิชวนฺตีติ น สุมุขภาเวน อภิมุขา ชวนฺติ, น สุมุขา อุปสงฺกมนฺติ, อนยพฺยสนมาวหนฺตา เอว อุปสงฺกมนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. น ตาณมุเปนฺตีติ ตาณํ เลณํ ปฏิสรณํ หุตฺวา น อุปคจฺฉนฺติ, คณฺหนฺตา หนนฺตา เอว อุเปนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. องฺคาเร สนฺถเต สยนฺตีติ องฺคารปพฺพตํ อาโรปิตา สมานา อเนกานิ วสฺสสหสฺสานิ สนฺถเต องฺคาเร เสนฺติ. คินิสมฺปชฺชลิตนฺติ สมนฺตโต ชลิตํ สพฺพทิสาสุ จ สมฺปชฺชลิตํ อคฺคึ. ปวิสนฺตีติ มหานิรเย ปกฺขิตฺตา สมานา โอคาหนฺติ. มหานิรโย นาม โย โส ‘‘จตุกฺกณฺโณ’’ติ (อ. นิ. ๓.๓๖) วุตฺโต, นํ โยชนสเต ตฺวา ปสฺสตํ อกฺขีนิ ภิชฺชนฺติ.

๖๗๕. ชาเลน จ โอนหิยานาติ อโยชาเลน ปลิเวเตฺวา มิคลุทฺทกา มิคํ วิย หนนฺติ. อิทํ เทวทูเต อวุตฺตกมฺมการณํ. อนฺธํว ติมิสมายนฺตีติ อนฺธกรเณน อนฺธเมว พหลนฺธการตฺตา ‘‘ติมิส’’นฺติ สฺิตํ ธูมโรรุวํ นาม นรกํ คจฺฉนฺติ. ตตฺร กิร เนสํ ขรธูมํ ฆายิตฺวา อกฺขีนิ ภิชฺชนฺติ, เตน ‘‘อนฺธํวา’’ติ วุตฺตํ. ตํ วิตตฺหิ ยถา มหิกาโยติ ตฺจ อนฺธติมิสํ มหิกาโย วิย วิตตํ โหตีติ อตฺโถ. ‘‘วิตฺถต’’นฺติปิ ปาโ. อิทมฺปิ เทวทูเต อวุตฺตกมฺมการณเมว.

๖๗๖. อถ โลหมยนฺติ อยํ ปน โลหกุมฺภี ปถวิปริยนฺติกา จตุนหุตาธิกานิ ทฺเวโยชนสตสหสฺสานิ คมฺภีรา สมติตฺติกา ตตฺรโลหปูรา โหติ. ปจฺจนฺติ หิ ตาสุ จิรรตฺตนฺติ ตาสุ กุมฺภีสุ ทีฆรตฺตํ ปจฺจนฺติ. อคฺคินิสมาสูติ อคฺคิสมาสุ . สมุปฺปิลวาเตติ สมุปฺปิลวนฺตา , สกิมฺปิ อุทฺธํ สกิมฺปิ อโธ คจฺฉมานา เผณุทฺเทหกํ ปจฺจนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. เทวทูเต วุตฺตนเยเนว ตํ เวทิตพฺพํ.

๖๗๗. ปุพฺพโลหิตมิสฺเสติ ปุพฺพโลหิตมิสฺสาย โลหกุมฺภิยา. ตตฺถ กินฺติ ตตฺถ. ยํ ยํ ทิสกนฺติ ทิสํ วิทิสํ. อธิเสตีติ คจฺฉติ. ‘‘อภิเสตี’’ติปิ ปาโ, ตตฺถ ยํ ยํ ทิสํ อลฺลียติ อปสฺสยตีติ อตฺโถ. กิลิสฺสตีติ พาธียติ. ‘‘กิลิชฺชตี’’ติปิ ปาโ, ปูติ โหตีติ อตฺโถ. สมฺผุสมาโนติ เตน ปุพฺพโลหิเตน ผุฏฺโ สมาโน. อิทมฺปิ เทวทูเต อวุตฺตกมฺมการณํ.

๖๗๘. ปุฬวาวสเถติ ปุฬวานํ อาวาเส. อยมฺปิ โลหกุมฺภีเยว เทวทูเต ‘‘คูถนิรโย’’ติ วุตฺตา, ตตฺถ ปติตสฺส สูจิมุขปาณา ฉวิอาทีนิ ฉินฺทิตฺวา อฏฺิมิฺชํ ขาทนฺติ. คนฺตุํ น หิ ตีรมปตฺถีติ อปคนฺตุํ น หิ ตีรํ อตฺถิ. ‘‘ตีรวมตฺถี’’ติปิ ปาโ, โสเยวตฺโถ. ตีรเมว เอตฺถ ‘‘ตีรว’’นฺติ วุตฺตํ. สพฺพสมา หิ สมนฺตกปลฺลาติ ยสฺมา ตสฺสา กุมฺภิยา อุปริภาเคปิ นิกุชฺชิตตฺตา สพฺพตฺถ สมา สมนฺตโต กฏาหา, ตสฺมา อปคนฺตุํ ตีรํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ.

๖๗๙. อสิปตฺตวนํ เทวทูเต วุตฺตนยเมว. ตฺหิ ทูรโต รมณียํ อมฺพวนํ วิย ทิสฺสติ, อเถตฺถ โลเภน เนรยิกา ปวิสนฺติ, ตโต เนสํ วาเตริตานิ ปตฺตานิ ปติตฺวา องฺคปจฺจงฺคานิ ฉินฺทนฺติ. เตนาห – ‘‘ตํ ปวิสนฺติ สมุจฺฉิทคตฺตา’’ติ. ตํ ปวิสนฺติ ตโต สุฏฺุ ฉินฺนคตฺตา โหนฺตีติ. ชิวฺหํ พฬิเสน คเหตฺวา อารชยารชยา วิหนนฺตีติ ตตฺถ อสิปตฺตวเน เวเคน ธาวิตฺวา ปติตานํ มุสาวาทีนํ เนรยิกานํ นิรยปาลา ชิวฺหํ พฬิเสน นิกฺกฑฺฒิตฺวา ยถา มนุสฺสา อลฺลจมฺมํ ภูมิยํ ปตฺถริตฺวา ขิเลหิ อาโกเฏนฺติ, เอวํ อาโกเฏตฺวา ผรสูหิ ผาเลตฺวา ผาเลตฺวา เอกเมกํ โกฏึ ฉินฺเทตฺวา วิหนนฺติ, ฉินฺนฉินฺนา โกฏิ ปุนปฺปุนํ สมุฏฺาติ. ‘‘อารจยารจยา’’ติปิ ปาโ, อาวิฺฉิตฺวา อาวิฺฉิตฺวาติ อตฺโถ. เอตมฺปิ เทวทูเต อวุตฺตกมฺมการณํ.

๖๘๐. เวตรณินฺติ เทวทูเต ‘‘มหตี ขาโรทกา นที’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๖๙) วุตฺตนทึ. สา กิร คงฺคา วิย อุทกภริตา ทิสฺสติ. อเถตฺถ นฺหายิสฺสาม ปิวิสฺสามาติ เนรยิกา ปตนฺติ. ติณฺหธารขุรธารนฺติ ติณฺหธารํ ขุรธารํ, ติกฺขธารขุรธารวตินฺติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺสา กิร นทิยา อุทฺธมโธ อุภยตีเรสุ จ ติณฺหธารา ขุรา ปฏิปาฏิยา ปิตา วิย ติฏฺนฺติ, เตน สา ‘‘ติณฺหธารา ขุรธารา’’ติ วุจฺจติ. ตํ ติณฺหธารขุรธารํ อุทกาสาย อุเปนฺติ อลฺลียนฺตีติ อตฺโถ. เอวํ อุเปนฺตา จ ปาปกมฺเมน โจทิตา ตตฺถ มนฺทา ปปตนฺติ พาลาติ อตฺโถ.

๖๘๑. สามา สพลาติ เอตํ ปรโต ‘‘โสณา’’ติ อิมินา โยเชตพฺพํ. สามวณฺณา กมฺมาสวณฺณา จ โสณา ขาทนฺตีติ วุตฺตํ โหติ . กาโกลคณาติ กณฺหกากคณา. ปฏิคิทฺธาติ สุฏฺุ สฺชาตเคธา หุตฺวา, ‘‘มหาคิชฺฌา’’ติ เอเก. กุลลาติ กุลลปกฺขิโน, ‘‘เสนานเมตํ นาม’’นฺติ เอเก. วายสาติ อกณฺหกากา. อิทมฺปิ เทวทูเต อวุตฺตกมฺมการณํ. ตตฺถ วุตฺตานิปิ ปน กานิจิ อิธ น วุตฺตานิ, ตานิ เอเตสํ ปุริมปจฺฉิมภาคตฺตา วุตฺตาเนว โหนฺตีติ เวทิตพฺพานิ.

๖๘๒. อิทานิ สพฺพเมเวตํ นรกวุตฺตึ ทสฺเสตฺวา โอวทนฺโต ‘‘กิจฺฉา วตาย’’นฺติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – กิจฺฉา วต อยํ อิธ นรเก นานปฺปการกมฺมกรณเภทา วุตฺติ, ยํ ชโน ผุสติ กิพฺพิสการี. ตสฺมา อิธ ชีวิตเสเส ชีวิตสนฺตติยา วิชฺชมานาย อิธ โลเก ิโตเยว สมาโน สรณคมนาทิกุสลธมฺมานุฏฺาเนน กิจฺจกโร นโร สิยา ภเวยฺย. กิจฺจกโร ภวนฺโตปิ จ สาตจฺจการิตาวเสเนว ภเวยฺย, น ปมชฺเช มุหุตฺตมฺปิ น ปมาทมาปชฺเชยฺยาติ อยเมตฺถ สมุจฺจยวณฺณนา. ยสฺมา ปน วุตฺตาวเสสานิ ปทานิ ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถตฺตา จ สุวิฺเยฺยาเนว, ตสฺมา อนุปทวณฺณนา น กตาติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย โกกาลิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. นาลกสุตฺตวณฺณนา

๖๘๕. อานนฺทชาเตติ นาลกสุตฺตํ. กา อุปฺปตฺติ? ปทุมุตฺตรสฺส กิร ภควโต สาวกํ โมเนยฺยปฏิปทํ ปฏิปนฺนํ ทิสฺวา ตถตฺตํ อภิกงฺขมาโน ตโต ปภุติ กปฺปสตสหสฺสํ ปารมิโย ปูเรตฺวา อสิตสฺส อิสิโน ภาคิเนยฺโย นาลโก นาม ตาปโส ภควนฺตํ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺติตทิวสโต สตฺตเม ทิวเส ‘‘อฺาตเมต’’นฺติอาทีหิ ทฺวีหิ คาถาหิ โมเนยฺยปฏิปทํ ปุจฺฉิ. ตสฺส ภควา ‘‘โมเนยฺยํ เต อุปฺิสฺส’’นฺติอาทินา นเยน ตํ พฺยากาสิ. ปรินิพฺพุเต ปน ภควติ สงฺคีตึ กโรนฺเตนายสฺมตา มหากสฺสเปน อายสฺมา อานนฺโท ตเมว โมเนยฺยปฏิปทํ ปุฏฺโ เยน ยทา จ สมาทปิโต นาลโก ภควนฺตํ ปุจฺฉิ . ตํ สพฺพํ ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสตุกาโม ‘‘อานนฺทชาเต’’ติอาทิกา วีสติ วตฺถุคาถาโย วตฺวา อภาสิ. ตํ สพฺพมฺปิ ‘‘นาลกสุตฺต’’นฺติ วุจฺจติ.

ตตฺถ อานนฺทชาเตติ สมิทฺธิชาเต วุทฺธิปฺปตฺเต. ปตีเตติ ตุฏฺเ. อถ วา อานนฺทชาเตติ ปมุทิเต. ปตีเตติ โสมนสฺสชาเต. สุจิวสเนติ อกิลิฏฺวสเน. เทวานฺหิ กปฺปรุกฺขนิพฺพตฺตานิ วสนานิ รชํ วา มลํ วา น คณฺหนฺติ. ทุสฺสํ คเหตฺวาติ อิธ ทุสฺสสทิสตฺตา ‘‘ทุสฺส’’นฺติ ลทฺธโวหารํ ทิพฺพวตฺถํ อุกฺขิปิตฺวา. อสิโต อิสีติ กณฺหสรีรวณฺณตฺตา เอวํลทฺธนาโม อิสิ. ทิวาวิหาเรติ ทิวาวิหารฏฺาเน. เสสํ ปทโต อุตฺตานเมว.

สมฺพนฺธโต ปน – อยํ กิร สุทฺโธทนสฺส ปิตุ สีหหนุรฺโ ปุโรหิโต สุทฺโธทนสฺสปิ อนภิสิตฺตกาเล สิปฺปาจริโย หุตฺวา อภิสิตฺตกาเล ปุโรหิโตเยว อโหสิ. ตสฺส สายํ ปาตํ ราชุปฏฺานํ อาคตสฺส ราชา ทหรกาเล วิย นิปจฺจการํ อกตฺวา อฺชลิกมฺมมตฺตเมว กโรติ. ธมฺมตา กิเรสา ปตฺตาภิเสกานํ สกฺยราชูนํ. ปุโรหิโต เตน นิพฺพิชฺชิตฺวา ‘‘ปพฺพชฺชามหํ มหาราชา’’ติ อาห. ราชา ตสฺส นิจฺฉยํ ตฺวา ‘‘เตน หิ, อาจริย, มเมว อุยฺยาเน วสิตพฺพํ, ยถา เต อหํ อภิณฺหํ ปสฺเสยฺย’’นฺติ ยาจิ. โส ‘‘เอวํ โหตู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา รฺา อุปฏฺหิยมาโน อุยฺยาเนเยว วสนฺโต กสิณปริกมฺมํ กตฺวา อฏฺ สมาปตฺติโย ปฺจาภิฺาโย จ นิพฺพตฺเตสิ. โส ตโต ปภุติ ราชกุเล ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา หิมวนฺตจาตุมหาราชิกภวนาทีนํ อฺตรํ คนฺตฺวา ทิวาวิหารํ กโรติ. อเถกทิวสํ ตาวตึสภวนํ คนฺตฺวา รตนวิมานํ ปวิสิตฺวา ทิพฺพรตนปลฺลงฺเก นิสินฺโน สมาธิสุขํ อนุภวิตฺวา สายนฺหสมยํ วุฏฺาย วิมานทฺวาเร ตฺวา อิโต จิโต จ วิโลเกนฺโต สฏฺิโยชนาย มหาวีถิยา เจลุกฺเขปํ กตฺวา โพธิสตฺตคุณปสํสิตานิ ถุติวจนานิ วตฺวา กีฬนฺเต สกฺกปฺปมุเข เทเว อทฺทส. เตนาห อายสฺมา อานนฺโท – ‘‘อานนฺทชาเต…เป… ทิวาวิหาเร’’ติ.

๖๘๖. ตโต โส เอวํ ทิสฺวาน เทเว…เป… กึ ปฏิจฺจ. ตตฺถ อุทคฺเคติ อพฺภุนฺนตกาเย. จิตฺตึ กริตฺวานาติ อาทรํ กตฺวา. กลฺยรูโปติ ตุฏฺรูโป. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.

๖๘๗. อิทานิ ‘‘ยทาปิ อาสี’’ติอาทิคาถา อุตฺตานสมฺพนฺธา เอว. ปทตฺโถ ปน ปมคาถาย ตาว สงฺคโมติ สงฺคาโม. ชโย สุรานนฺติ เทวานํ ชโย.

ตสฺสาวิภาวตฺถํ อยมนุปุพฺพิกถา เวทิตพฺพา – สกฺโก กิร มคธรฏฺเ มจลคามวาสี เตตฺตึสมนุสฺสเสฏฺโ มโฆ นาม มาณโว หุตฺวา สตฺต วตฺตปทานิ ปูเรตฺวา ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺติ สทฺธึ ปริสาย. ตโต ปุพฺพเทวา ‘‘อาคนฺตุกเทวปุตฺตา อาคตา, สกฺการํ เนสํ กริสฺสามา’’ติ วตฺวา ทิพฺพปทุมานิ อุปนาเมสุํ, อุปฑฺฒรชฺเชน จ นิมนฺเตสุํ. สกฺโก อุปฑฺฒรชฺเชน อสนฺตุฏฺโ สกปริสํ สฺาเปตฺวา เอกทิวสํ สุรามทมตฺเต เต ปาเท คเหตฺวา สิเนรุปพฺพตปาเท ขิปิ. เตสํ สิเนรุสฺส เหฏฺิมตเล ทสสหสฺสโยชนํ อสุรภวนํ นิพฺพตฺติ ปาริจฺฉตฺตกปฏิจฺฉนฺนภูตาย จิตฺรปาฏลิยา อุปโสภิตํ. ตโต เต สตึ ปฏิลภิตฺวา ตาวตึสภวนํ อปสฺสนฺตา ‘‘อโห เร นฏฺา มยํ ปานมทโทเสน, น ทานิ มยํ สุรํ ปิวิมฺหา, อสุรํ ปิวิมฺหา, น ทานิมฺหา สุรา, อสุรา ทานิ ชาตมฺหา’’ติ. ตโต ปภุติ ‘‘อสุรา’’อิจฺเจว อุปฺปนฺนสมฺา หุตฺวา ‘‘หนฺท ทานิ เทเวหิ สทฺธึ สงฺคาเมมา’’ติ สิเนรุํ ปริโต อาโรหึสุ. ตโต สกฺโก อสุเร ยุทฺเธน อพฺภุคฺคนฺตฺวา ปุนปิ สมุทฺเท ปกฺขิปิตฺวา จตูสุ ทฺวาเรสุ อตฺตนา สทิสํ อินฺทปฏิมํ มาเปตฺวา เปสิ. ตโต อสุรา ‘‘อปฺปมตฺโต วตายํ สกฺโก นิจฺจํ รกฺขนฺโต ติฏฺตี’’ติ จินฺเตตฺวา ปุนเทว นครํ อคมึสุ. ตโต เทวา อตฺตโน ชยํ โฆเสนฺตา มหาวีถิยํ เจลุกฺเขปํ กโรนฺตา นกฺขตฺตํ กีฬึสุ. อถ อสิโต อตีตานาคเต จตฺตาลีสกปฺเป อนุสฺสริตุํ สมตฺถตาย ‘‘กึ นุ โข อิเมหิ ปุพฺเพปิ เอวํ กีฬิตปุพฺพ’’นฺติ อาวชฺเชนฺโต ตํ เทวาสุรสงฺคาเม เทววิชยํ ทิสฺวา อาห –

‘‘ยทาปิ อาสี อสุเรหิ สงฺคโม,

ชโย สุรานํ อสุรา ปราชิตา;

ตทาปิ เนตาทิโส โลมหํสโน’’ติ.

ตสฺมิมฺปิ กาเล เอตาทิโส โลมหํสโน ปโมโท น อาสิ. กิมพฺภุตํ ทฏฺุ มรู ปโมทิตาติ อชฺช ปน กึ อพฺภุตํ ทิสฺวา เอวํ เทวา ปมุทิตาติ.

๖๘๘. ทุติยคาถาย เสเฬนฺตีติ มุเขน อุสฺเสฬนสทฺทํ มุฺจนฺติ. คายนฺติ นานาวิธานิ คีตานิ, วาทยนฺติ อฏฺสฏฺิ ตูริยสหสฺสานิ, โผเฏนฺตีติ อปฺโผเฏนฺติ. ปุจฺฉามิ โวหนฺติ อตฺตนา อาวชฺเชตฺวา าตุํ สมตฺโถปิ เตสํ วจนํ โสตุกามตาย ปุจฺฉติ. เมรุมุทฺธวาสิเนติ สิเนรุมุทฺธนิ วสนฺเต. สิเนรุสฺส หิ เหฏฺิมตเล ทสโยชนสหสฺสํ อสุรภวนํ, มชฺฌิมตเล ทฺวิสหสฺสปริตฺตทีปปริวารา จตฺตาโร มหาทีปา, อุปริมตเล ทสโยชนสหสฺสํ ตาวตึสภวนํ. ตสฺมา เทวา ‘‘เมรุมุทฺธวาสิโน’’ติ วุจฺจนฺติ. มาริสาติ เทเว อามนฺเตติ, นิทุกฺขา นิราพาธาติ วุตฺตํ โหติ.

๖๘๙. อถสฺส ตมตฺถํ อาโรเจนฺเตหิ เทเวหิ วุตฺตาย ตติยคาถาย โพธิสตฺโตติ พุชฺฌนกสตฺโต, สมฺมาสมฺโพธึ คนฺตุํ อรโห สตฺโต รตนวโรติ วรรตนภูโต. เตนมฺห ตุฏฺาติ เตน การเณน มยํ ตุฏฺา. โส หิ พุทฺธตฺตํ ปตฺวา ตถา ธมฺมํ เทเสสฺสติ, ยถา มยฺจ อฺเ จ เทวคณา เสกฺขาเสกฺขภูมึ ปาปุณิสฺสาม. มนุสฺสาปิสฺส ธมฺมํ สุตฺวา เย น สกฺขิสฺสนฺติ ปรินิพฺพาตุํ, เต ทานาทีนิ กตฺวา เทวโลเก ปริปูเรสฺสนฺตีติ อยํ กิร เนสํ อธิปฺปาโย. ตตฺถ ‘‘ตุฏฺา กลฺยรูปา’’ติ กิฺจาปิ อิทํ ปททฺวยํ อตฺถโต อภินฺนํ, ตถาปิ ‘‘กิมพฺภุตํ ทฏฺุ มรู ปโมทิตา, กึ เทวสงฺโฆ อติริว กลฺยรูโป’’ติ อิมสฺส ปฺหทฺวยสฺส วิสฺสชฺชนตฺถํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๖๙๐. อิทานิ เยน อธิปฺปาเยน โพธิสตฺเต ชาเต ตุฏฺา อเหสุํ, ตํ อาวิกโรนฺเตหิ วุตฺตาย จตุตฺถคาถาย สตฺตคฺคหเณน เทวมนุสฺสคฺคหณํ, ปชาคหเณน เสสคติคฺคหณํ. เอวํ ทฺวีหิ ปเทหิ ปฺจสุปิ คตีสุ เสฏฺภาวํ ทสฺเสติ. ติรจฺฉานาปิ หิ สีหาทโย อสนฺตาสาทิคุณยุตฺตา, เตปิ อยเมว อติเสติ. ตสฺมา ‘‘ปชานมุตฺตโม’’ติ วุตฺโต. เทวมนุสฺเสสุ ปน เย อตฺตหิตาย ปฏิปนฺนาทโย จตฺตาโร ปุคฺคลา, เตสุ อุภยหิตปฏิปนฺโน อคฺคปุคฺคโล อยํ, นเรสุ จ อุสภสทิสตฺตา นราสโภ. เตนสฺส ถุตึ ภณนฺตา อิทมฺปิ ปททฺวยมาหํสุ.

๖๙๑. ปฺจมคาถาย ตํ สทฺทนฺติ ตํ เทเวหิ วุตฺตวจนสทฺทํ. อวสรีติ โอตริ. ตท ภวนนฺติ ตทา ภวนํ.

๖๙๒. ฉฏฺคาถาย ตโตติ อสิตสฺส วจนโต อนนฺตรํ. อุกฺกามุเขวาติ อุกฺกามุเข เอว, มูสามุเขติ วุตฺตํ โหติ. สุกุสลสมฺปหฏฺนฺติ สุกุสเลน สุวณฺณกาเรน สงฺฆฏฺฏิตํ, สงฺฆฏฺเฏนฺเตน ตาปิตนฺติ อธิปฺปาโย. ททฺทลฺลมานนฺติ วิชฺโชตมานํ. อสิตวฺหยสฺสาติ อสิตนามสฺส ทุติเยน นาเมน กณฺหเทวิลสฺส อิสิโน.

๖๙๓. สตฺตมคาถาย ตาราสภํ วาติ ตารานํ อุสภสทิสํ, จนฺทนฺติ อธิปฺปาโย. วิสุทฺธนฺติ อพฺภาทิอุปกฺกิเลสรหิตํ. สรทริวาติ สรเท อิว. อานนฺทชาโตติ สวนมตฺเตเนว อุปฺปนฺนาย ปีติยา ปีติชาโต. อลตฺถ ปีตินฺติ ทิสฺวา ปุนปิ ปีตึ ลภิ.

๖๙๔. ตโต ปรํ โพธิสตฺตสฺส เทเวหิ สทา ปยุชฺชมานสกฺการทีปนตฺถํ วุตฺตอฏฺมคาถาย อเนกสาขนฺติ อเนกสลากํ. สหสฺสมณฺฑลนฺติ รตฺตสุวณฺณมยสหสฺสมณฺฑลยุตฺตํ. ฉตฺตนฺติ ทิพฺพเสตจฺฉตฺตํ. วีติปตนฺตีติ สรีรํ พีชมานา ปตนุปฺปตนํ กโรนฺติ.

๖๙๕. นวมคาถาย ชฏีติ ชฏิโล. กณฺหสิริวฺหโยติ กณฺหสทฺเทน จ สิริสทฺเทน จ อวฺหยมาโน. ตํ กิร ‘‘สิริกณฺโห’’ติปิ อวฺหยนฺติ อามนฺเตนฺติ, อาลปนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ปณฺฑุกมฺพเลติ รตฺตกมฺพเล. อธิการโต เจตฺถ ‘‘กุมาร’’นฺติ วตฺตพฺพํ, ปาเสโส วา กาตพฺโพ. ปุริมคาถาย จ อหตฺถปาสคตํ สนฺธาย ‘‘ทิสฺวา’’ติ วุตฺตํ. อิธ ปน หตฺถปาสคตํ ปฏิคฺคหณตฺถํ อุปนีตํ, ตสฺมา ปุน วจนํ ‘‘ทิสฺวา’’ติ. ปุริมํ วา ทสฺสนปีติลาภาเปกฺขํ คาถาวสาเน ‘‘วิปุลมลตฺถ ปีติ’’นฺติ วจนโต, อิทํ ปฏิคฺคหาเปกฺขํ อวสาเน ‘‘สุมโน ปฏิคฺคเห’’ติ วจนโต. ปุริมฺจ กุมารสมฺพนฺธเมว, อิทํ เสตจฺฉตฺตสมฺพนฺธมฺปิ. ทิสฺวาติ สตสหสฺสคฺฆนเก คนฺธารรตฺตกมฺพเล สุวณฺณนิกฺขํ วิย กุมารํ ‘‘ฉตฺตํ มรู’’ติ เอตฺถ วุตฺตปฺปการํ เสตจฺฉตฺตํ ธาริยนฺตํ มุทฺธนิ ทิสฺวา. เกจิ ปน ‘‘อิทํ มานุสกํ ฉตฺตํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ ภณนฺติ. ยเถว หิ เทวา, เอวํ มนุสฺสาปิ ฉตฺตจามรโมรหตฺถตาลวณฺฏวาฬพีชนิหตฺถา มหาปุริสํ อุปคจฺฉนฺตีติ. เอวํ สนฺเตปิ น ตสฺส วจเนน โกจิปิ อติสโย อตฺถิ, ตสฺมา ยถาวุตฺตเมว สุนฺทรํ. ปฏิคฺคเหติ อุโภหิ หตฺเถหิ ปฏิคฺคเหสิ. อิสึ กิร วนฺทาเปตุํ กุมารํ อุปเนสุํ. อถสฺส ปาทา ปริวตฺติตฺวา อิสิสฺส มตฺถเก ปติฏฺหึสุ. โส ตมฺปิ อจฺฉริยํ ทิสฺวา อุทคฺคจิตฺโต สุมโน ปฏิคฺคเหสิ.

๖๙๖. ทสมคาถายํ ชิคีสโกติ ชิคีสนฺโต มคฺคนฺโต ปริเยสนฺโต, อุปปริกฺขนฺโตติ วุตฺตํ โหติ. ลกฺขณมนฺตปารคูติ ลกฺขณานํ เวทานฺจ ปารํ คโต. อนุตฺตรายนฺติ อนุตฺตโร อยํ. โส กิร อตฺตโน อภิมุขาคเตสุ มหาสตฺตสฺส ปาทตเลสุ จกฺกานิ ทิสฺวา ตทนุสาเรน เสสลกฺขณานิ ชิคีสนฺโต สพฺพํ ลกฺขณสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘อทฺธายํ พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา เอวมาห.

๖๙๗. เอกาทสายํ อถตฺตโน คมนนฺติ ปฏิสนฺธิวเสน อรูปคมนํ. อกลฺยรูโป คฬยติ อสฺสุกานีติ ตํ อตฺตโน อรูปูปปตฺตึ อนุสฺสริตฺวา ‘‘น ทานาหํ อสฺส ธมฺมเทสนํ โสตุํ ลจฺฉามี’’ติ อตุฏฺรูโป พลวโสกาภิภเวน โทมนสฺสชาโต หุตฺวา อสฺสูนิ ปาเตติ คฬยติ. ‘‘ครยตี’’ติปิ ปาโ. ยทิ ปเนส รูปภเว จิตฺตํ นเมยฺย, กึ ตตฺถ น อุปฺปชฺเชยฺย, เยเนวํ โรทตีติ? น น อุปฺปชฺเชยฺย, อกุสลตาย ปเนตํ วิธึ น ชานาติ. เอวํ สนฺเตปิ โทมนสฺสุปฺปตฺติเยวสฺส อยุตฺตา สมาปตฺติลาเภน วิกฺขมฺภิตตฺตาติ เจ? น, วิกฺขมฺภิตตฺตา เอว. มคฺคภาวนาย สมุจฺฉินฺนา หิ กิเลสา น อุปฺปชฺชนฺติ, สมาปตฺติลาภีนํ ปน พลวปจฺจเยน อุปฺปชฺชนฺติ. อุปฺปนฺเน กิเลเส ปริหีนชฺฌานตฺตา กุตสฺส อรูปคมนนฺติ เจ? อปฺปกสิเรน ปุนาธิคมโต. สมาปตฺติลาภิโน หิ อุปฺปนฺเน กิเลเส พลววีติกฺกมํ อนาปชฺชนฺตา วูปสนฺตมตฺเตเยว กิเลสเวเค ปุน ตํ วิเสสํ อปฺปกสิเรเนวาธิคจฺฉนฺติ, ‘‘ปริหีนวิเสสา อิเม’’ติปิ ทุวิฺเยฺยา โหนฺติ, ตาทิโส จ เอโส. โน เจ กุมาเร ภวิสฺสติ อนฺตราโยติ น ภวิสฺสติ นุ โข อิมสฺมึ กุมาเร อนฺตราโย.

๖๙๘. ทฺวาทสายํ น โอรกายนฺติ อยํ โอรโก ปริตฺโต น โหติ. อุตฺตรคาถาย วตฺตพฺพํ พุทฺธภาวํ สนฺธายาห.

๖๙๙. เตรสายํ สมฺโพธิยคฺคนฺติ สพฺพฺุตฺาณํ. ตฺหิ อวิปรีตภาเวน สมฺมา พุชฺฌนโต สมฺโพธิ, กตฺถจิ อาวรณาภาเวน สพฺพาณุตฺตมโต ‘‘อคฺค’’นฺติ วุจฺจติ. ผุสิสฺสตีติ ปาปุณิสฺสติ. ปรมวิสุทฺธทสฺสีติ นิพฺพานทสฺสี. ตฺหิ เอกนฺตวิสุทฺธตฺตา ปรมวิสุทฺธํ. วิตฺถาริกสฺสาติ วิตฺถาริกํ อสฺส. พฺรหฺมจริยนฺติ สาสนํ.

๗๐๐. จุทฺทสายํ อถนฺตราติ อนฺตราเยว อสฺส, สมฺโพธิปฺปตฺติโต โอรโต เอวาติ วุตฺตํ โหติ. น โสสฺสนฺติ น สุณิสฺสํ. อสมธุรสฺสาติ อสมวีริยสฺส. อฏฺโฏติ อาตุโร. พฺยสนํ คโตติ สุขวินาสํ ปตฺโต. อฆาวีติ ทุกฺขิโต, สพฺพํ โทมนสฺสุปฺปาทเมว สนฺธายาห. โทมนสฺเสน หิ โส อาตุโร. ตฺจสฺส สุขพฺยสนโต พฺยสนํ, สุขวินาสนโตติ วุตฺตํ โหติ. เตน จ โส เจตสิกอฆภูเตน อฆาวี.

๗๐๑. ปนฺนรสายํ วิปุลํ ชเนตฺวานาติ วิปุลํ ชเนตฺวา. อยเมว วา ปาโ. นิคฺคมาติ นิคฺคโต. เอวํ นิคฺคโต จ โส ภาคิเนยฺยํ สยนฺติ สกํ ภาคิเนยฺยํ, อตฺตโน ภคินิยา ปุตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. สมาทเปสีติ อตฺตโน อปฺปายุกภาวํ ตฺวา กนิฏฺภคินิยา จ ปุตฺตสฺส นาลกสฺส มาณวกสฺส อุปจิตปุฺตํ อตฺตโน พเลน ตฺวา ‘‘วุฑฺฒิปฺปตฺโต ปมาทมฺปิ อาปชฺเชยฺยา’’ติ นํ อนุกมฺปมาโน ภคินิยา ฆรํ คนฺตฺวา ‘‘กหํ นาลโก’’ติ. ‘‘พหิ, ภนฺเต, กีฬตี’’ติ. ‘‘อาเนถ น’’นฺติ อาณาเปตฺวา ตงฺขณํเยว ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพาเชตฺวา สมาทเปสิ โอวทิ อนุสาสิ. กถํ? ‘‘พุทฺโธติ โฆสํ…เป… พฺรหฺมจริย’’นฺติ โสฬสมคาถมาห.

๗๐๒. ตตฺถ ยท ปรโตติ ยทา ปรโต. ธมฺมมคฺคนฺติ ปรมธมฺมสฺส นิพฺพานสฺส มคฺคํ, ธมฺมํ วา อคฺคํ สห ปฏิปทาย นิพฺพานํ. ตสฺมินฺติ ตสฺส สนฺติเก. พฺรหฺมจริยนฺติ สมณธมฺมํ.

๗๐๓. สตฺตรสายํ ตาทินาติ ตสฺสณฺิเตน, ตสฺมึ สมเย กิเลสวิกฺขมฺภเน สมาธิลาเภ จ สติ วิกฺขมฺภิตกิเลเสน สมาหิตจิตฺเตน จาติ อธิปฺปาโย. อนาคเต ปรมวิสุทฺธทสฺสินาติ ‘‘อยํ นาลโก อนาคเต กาเล ภควโต สนฺติเก ปรมวิสุทฺธํ นิพฺพานํ ปสฺสิสฺสตี’’ติ เอวํ ทิฏฺตฺตา โส อิสิ อิมินา ปริยาเยน ‘‘อนาคเต ปรมวิสุทฺธทสฺสี’’ติ วุตฺโต. เตน อนาคเต ปรมวิสุทฺธทสฺสินา. อุปจิตปุฺสฺจโยติ ปทุมุตฺตรโต ปภุติ กตปุฺสฺจโย. ปติกฺขนฺติ อาคมยมาโน. ปริวสีติ ปพฺพชิตฺวา ตาปสเวเสน วสิ. รกฺขิตินฺทฺริโยติ รกฺขิตโสตินฺทฺริโย หุตฺวา. โส กิร ตโต ปภุติ อุทเก น นิมุชฺชิ ‘‘อุทกํ ปวิสิตฺวา โสตินฺทฺริยํ วินาเสยฺย, ตโต ธมฺมสฺสวนพาหิโร ภเวยฺย’’นฺติ จินฺเตตฺวา.

๗๐๔. อฏฺารสายํ สุตฺวาน โฆสนฺติ โส นาลโก เอวํ ปริวสนฺโต อนุปุพฺเพน ภควตา สมฺโพธึ ปตฺวา พาราณสิยํ ธมฺมจกฺเก ปวตฺติเต ตํ ‘‘ภควตา ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ, สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต โส ภควา อุปฺปนฺโน’’ติอาทินา นเยน ชินวรจกฺกวตฺตเน ปวตฺตโฆสํ อตฺตโน อตฺถกามาหิ เทวตาหิ อาคนฺตฺวา อาโรจิตํ สุตฺวา. คนฺตฺวาน ทิสฺวา อิสินิสภนฺติ สตฺตาหํ เทวตาหิ โมเนยฺยโกลาหเล กยิรมาเน สตฺตเม ทิวเส อิสิปตนํ คนฺตฺวา ‘‘นาลโก อาคมิสฺสติ, ตสฺส ธมฺมํ เทเสสฺสามี’’ติ อิมินา จ อภิสนฺธินา วรพุทฺธาสเน นิสินฺนํ ทิสฺวา นิสภสทิสํ อิสินิสภํ ภควนฺตํ. ปสนฺโนติ สห ทสฺสเนเนว ปสนฺนจิตฺโต หุตฺวา. โมเนยฺยเสฏฺนฺติ าณุตฺตมํ, มคฺคาณนฺติ วุตฺตํ โหติ. สมาคเต อสิตาวฺหยสฺส สาสเนติ อสิตสฺส อิสิโน โอวาทกาเล อนุปฺปตฺเต. เตน หิ – ‘‘ยทา วิวรติ ธมฺมมคฺคํ, ตทา คนฺตฺวา สมยํ ปริปุจฺฉมาโน จรสฺสุ ตสฺมึ ภควติ พฺรหฺมจริย’’นฺติ อนุสิฏฺโ, อยฺจ โส กาโล. เตน วุตฺตํ – ‘‘สมาคเต อสิตาวฺหยสฺส สาสเน’’ติ. เสสเมตฺถ ปากฏเมว.

อยํ ตาว วตฺถุคาถาวณฺณนา.

๗๐๕. ปุจฺฉาคาถาทฺวเย อฺาตเมตนฺติ วิทิตํ มยา เอตํ. ยถาตถนฺติ อวิปรีตํ. โก อธิปฺปาโย? ยํ อสิโต ‘‘สมฺโพธิยคฺคํ ผุสิสฺสตายํ กุมาโร’’ติ ตฺวา ‘‘พุทฺโธติ โฆสํ ยท ปรโต สุโณสิ, สมฺโพธิปฺปตฺโต วิวรติ ธมฺมมคฺค’’นฺติ มํ อวจ, ตเทตํ มยา อสิตสฺส วจนํ อชฺช ภควนฺตํ สกฺขึ ทิสฺวา ‘‘ยถาตถเมวา’’ติ อฺาตนฺติ. ตํ ตนฺติ ตสฺมา ตํ. สพฺพธมฺมาน ปารคุนฺติ เหมวตสุตฺเต วุตฺตนเยน ฉหิ อากาเรหิ. สพฺพธมฺมานํ ปารคตํ.

๗๐๖. อนคาริยุเปตสฺสาติ อนคาริยํ อุเปตสฺส, ปพฺพชิตสฺสาติ อตฺโถ. ภิกฺขาจริยํ ชิคีสโตติ อริเยหิ อาจิณฺณํ อนุปกฺกิลิฏฺํ ภิกฺขาจริยํ ปริเยสมานสฺส. โมเนยฺยนฺติ มุนีนํ สนฺตกํ. อุตฺตมํ ปทนฺติ อุตฺตมปฏิปทํ. เสสเมตฺถ ปากฏเมว.

๗๐๗. อถสฺส เอวํ ปุฏฺโ ภควา ‘‘โมเนยฺยํ เต อุปฺิสฺส’’นฺติอาทินา นเยน โมเนยฺยปฏิปทํ พฺยากาสิ. ตตฺถ อุปฺิสฺสนฺติ อุปฺาเปยฺยํ, วิวเรยฺยํ ปฺาเปยฺยนฺติ อตฺโถ. ทุกฺกรํ ทุรภิสมฺภวนฺติ กาตุฺจ ทุกฺขํ กยิรมานฺจ สมฺภวิตุํ สหิตุํ ทุกฺขนฺติ วุตฺตํ โหติ. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย – อหํ เต โมเนยฺยํ ปฺาเปยฺยํ, ยทิ นํ กาตุํ วา อภิสมฺโภตุํ วา สุขํ ภเวยฺย, เอวํ ปน ทุกฺกรํ ทุรภิสมฺภวํ ปุถุชฺชนกาลโต ปภุติ กิลิฏฺจิตฺตํ อนุปฺปาเทตฺวา ปฏิปชฺชิตพฺพโต. ตถา หิ นํ เอกสฺส พุทฺธสฺส เอโกว สาวโก กโรติ จ สมฺโภติ จาติ.

เอวํ ภควา โมเนยฺยสฺส ทุกฺกรภาวํ ทุรภิสมฺภวตฺจ ทสฺเสนฺโต นาลกสฺส อุสฺสาหํ ชเนตฺวา ตมสฺส วตฺตุกาโม อาห ‘‘หนฺท เต นํ ปวกฺขามิ, สนฺถมฺภสฺสุ ทฬฺโห ภวา’’ติ. ตตฺถ หนฺทาติ พฺยวสายตฺเถ นิปาโต. เต นํ ปวกฺขามีติ ตุยฺหํ ตํ โมเนยฺยํ ปวกฺขามิ. สนฺถมฺภสฺสูติ ทุกฺกรกรณสมตฺเถน วีริยูปตฺถมฺเภน อตฺตานํ อุปตฺถมฺภย. ทฬฺโห ภวาติ ทุรภิสมฺภวสหนสมตฺถาย อสิถิลปรกฺกมตาย ถิโร โหติ. กึ วุตฺตํ โหติ? ยสฺมา ตฺวํ อุปจิตปุฺสมฺภาโร, ตสฺมาหํ เอกนฺตพฺยวสิโตว หุตฺวา เอวํ ทุกฺกรํ ทุรภิสมฺภวมฺปิ สมานํ ตุยฺหํ ตํ โมเนยฺยํ ปวกฺขามิ, สนฺถมฺภสฺสุ ทฬฺโห ภวาติ.

๗๐๘. เอวํ ปรมสลฺเลขํ โมเนยฺยวตฺตํ วตฺตุกาโม นาลกํ สนฺถมฺภเน ทฬฺหีภาเว จ นิโยเชตฺวา ปมํ ตาว คามูปนิพทฺธกิเลสปฺปหานํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมานภาค’’นฺติ อุปฑฺฒคาถมาห. ตตฺถ สมานภาคนฺติ สมภาคํ เอกสทิสํ นินฺนานากรณํ. อกฺกุฏฺวนฺทิตนฺติ อกฺโกสฺจ วนฺทนฺจ.

อิทานิ ยถา ตํ สมานภาคํ กยิรติ, ตํ อุปายํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มโนปโทส’’นฺติ อุปฑฺฒคาถมาห. ตสฺสตฺโถ – อกฺกุฏฺโ มโนปโทสํ รกฺเขยฺย, วนฺทิโต สนฺโต อนุณฺณโต จเร, รฺาปิ วนฺทิโต สมาโน ‘‘มํ วนฺทตี’’ติ อุทฺธจฺจํ นาปชฺเชยฺย.

๗๐๙. อิทานิ อรฺูปนิพทฺธกิเลสปฺปหานํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุจฺจาวจา’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – อรฺสฺิเต ทาเยปิ อิฏฺานิฏฺวเสน อุจฺจาวจา นานปฺปการา อารมฺมณา นิจฺฉรนฺติ, จกฺขาทีนํ อาปาถมาคจฺฉนฺติ, เต จ โข อคฺคิสิขูปมา ปริฬาหชนกฏฺเน. ยถา วา ฑยฺหมาเน วเน อคฺคิสิขา นานปฺปการตาย อุจฺจาวจา นิจฺฉรนฺติ, สธูมาปิ, วิธูมาปิ, นีลาปิ, ปีตาปิ, รตฺตาปิ, ขุทฺทกาปิ, มหนฺตาปิ, เอวํ สีหพฺยคฺฆมนุสฺสามนุสฺสวิวิธวิหงฺควิรุตปุปฺผผลปลฺลวาทิเภทวเสน นานปฺปการตาย ทาเย อุจฺจาวจา อารมฺมณา นิจฺฉรนฺติ ภึสนกาปิ, รชนียาปิ, โทสนียาปิ, โมหนียาปิ. เตนาห – ‘‘อุจฺจาวจา นิจฺฉรนฺติ, ทาเย อคฺคิสิขูปมา’’ติ. เอวํ นิจฺฉรนฺเตสุ จ อุจฺจาวเจสุ อารมฺมเณสุ ยา กาจิ อุยฺยานวนจาริกํ คตา สมานา ปกติยา วา วนจารินิโย กฏฺหาริกาทโย รโหคตํ ทิสฺวา หสิตลปิตรุทิตทุนฺนิวตฺถาทีหิ นาริโย มุนึ ปโลเภนฺติ, ตา สุ ตํ มา ปโลภยุํ, ตา นาริโย ตํ มา ปโลภยุํ. ยถา น ปโลเภนฺติ, ตถา กโรหีติ วุตฺตํ โหติ.

๗๑๐-๑๑. เอวมสฺส ภควา คาเม จ อรฺเ จ ปฏิปตฺติวิธึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สีลสํวรํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิรโต เมถุนา ธมฺมา’’ติ คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ หิตฺวา กาเม ปโรปเรติ เมถุนธมฺมโต อวเสเสปิ สุนฺทเร จ อสุนฺทเร จ ปฺจ กามคุเณ หิตฺวา. ตปฺปหาเนน หิ เมถุนวิรติ สุสมฺปนฺนา โหติ. เตนาห – ‘‘หิตฺวา กาเม ปโรปเร’’ติ. อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. ‘‘อวิรุทฺโธ’’ติอาทีนิ ปน ปทานิ ‘‘น หเนยฺย, น ฆาตเย’’ติ เอตฺถ วุตฺตาย ปาณาติปาตาเวรมณิยา สมฺปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ. ตตฺรายํ สงฺเขปวณฺณนา – ปรปกฺขิเยสุ ปาเณสุ อวิรุทฺโธ, อตฺตปกฺขิเยสุ อสารตฺโต, สพฺเพปิ สตณฺหนิตฺตณฺหตาย ตสถาวเร ปาเณ ชีวิตุกามตาย อมริตุกามตาย สุขกามตาย ทุกฺขปฏิกูลตาย จ ‘‘ยถา อหํ ตถา เอเต’’ติ อตฺตสมานตาย เตสุ วิโรธํ วิเนนฺโต เตเนว ปกาเรน ‘‘ยถา เอเต ตถา อห’’นฺติ ปเรสํ สมานตาย จ อตฺตนิ อนุโรธํ วิเนนฺโต เอวํ อุภยถาปิ อนุโรธวิโรธวิปฺปหีโน หุตฺวา มรณปฏิกูลตาย อตฺตานํ อุปมํ กตฺวา ปาเณสุ เย เกจิ ตเส วา ถาวเร วา ปาเณ น หเนยฺย สาหตฺถิกาทีหิ ปโยเคหิ, น ฆาตเย อาณตฺติกาทีหีติ.

๗๑๒. เอวมสฺส เมถุนวิรติปาณาติปาตวิรติมุเขน สงฺเขปโต ปาติโมกฺขสํวรสีลํ วตฺวา ‘‘หิตฺวา กาเม’’ติอาทีหิ อินฺทฺริยสํวรฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อาชีวปาริสุทฺธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘หิตฺวา อิจฺฉฺจา’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – ยายํ ตณฺหา เอกํ ลทฺธา ทุติยํ อิจฺฉติ, ทฺเว ลทฺธา ตติยํ, สตสหสฺสํ ลทฺธา ตทุตฺตริมฺปิ อิจฺฉตีติ เอวํ อปฺปฏิลทฺธวิสยํ อิจฺฉนโต ‘‘อิจฺฉา’’ติ วุจฺจติ, โย จายํ ปฏิลทฺธวิสยลุพฺภโน โลโภ. ตํ หิตฺวา อิจฺฉฺจ โลภฺจ ยตฺถ สตฺโต ปุถุชฺชโน, ยสฺมึ จีวราทิปจฺจเย เตหิ อิจฺฉาโลเภหิ ปุถุชฺชโน สตฺโต ลคฺโค ปฏิพทฺโธ ติฏฺติ, ตตฺถ ตํ อุภยมฺปิ หิตฺวา ปจฺจยตฺถํ อาชีวปาริสุทฺธึ อวิโรเธนฺโต าณจกฺขุนา จกฺขุมา หุตฺวา อิมํ โมเนยฺยปฏิปทํ ปฏิปชฺเชยฺย. เอวฺหิ ปฏิปนฺโน ตเรยฺย นรกํ อิมํ, ทุปฺปูรณฏฺเน นรกสฺิตํ มิจฺฉาชีวเหตุภูตํ อิมํ ปจฺจยตณฺหํ ตเรยฺย, อิมาย วา ปฏิปทาย ตเรยฺยาติ วุตฺตํ โหติ.

๗๑๓. เอวํ ปจฺจยตณฺหาปหานมุเขน อาชีวปาริสุทฺธึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ โภชเน มตฺตฺุตามุเขน ปจฺจยปริโภคสีลํ ตทนุสาเรน จ ยาว อรหตฺตปฺปตฺติ, ตาว ปฏิปทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อูนูทโร’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ธมฺเมน สเมน ลทฺเธสุ อิตรีตรจีวราทีสุ ปจฺจเยสุ อาหารํ ตาว อาหาเรนฺโต –

‘‘จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป, อภุตฺวา อุทกํ ปิเว;

อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน’’ติ. (เถรคา. ๙๘๓) –

วุตฺตนเยน อูนอุทโร อสฺส, น วาตภริตภสฺตา วิย อุทฺธุมาตุทโร, ภตฺตสมฺมทปจฺจยา ถินมิทฺธํ ปริหเรยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. อูนูทโร โหนฺโตปิ จ มิตาหาโร อสฺส โภชเน มตฺตฺู, ‘‘เนว ทวายา’’ติอาทินา ปจฺจเวกฺขเณน คุณโต โทสโต จ ปริจฺฉินฺนาหาโร. เอวํ มิตาหาโร สมาโนปิ ปจฺจยธุตงฺคปริยตฺติอธิคมวเสน จตุพฺพิธาย อปฺปิจฺฉตาย อปฺปิจฺโฉ อสฺส. เอกํเสน หิ โมเนยฺยปฏิปทํ ปฏิปนฺเนน ภิกฺขุนา เอวํ อปฺปิจฺเฉน ภวิตพฺพํ. ตตฺถ เอเกกสฺมึ ปจฺจเย ตีหิ สนฺโตเสหิ สนฺตุสฺสนา ปจฺจยปฺปิจฺฉตา. ธุตงฺคธรสฺเสว สโต ‘‘ธุตวาติ มํ ปเร ชานนฺตู’’ติ อนิจฺฉนตา ธุตงฺคปฺปิจฺฉตา. พหุสฺสุตสฺเสว สโต ‘‘พหุสฺสุโตติ มํ ปเร ชานนฺตู’’ติ อนิจฺฉนตา ปริยตฺติอปฺปิจฺฉตา มชฺฌนฺติกตฺเถรสฺส วิย. อธิคมสมฺปนฺนสฺเสว สโต ‘‘อธิคโต อยํ กุสลํ ธมฺมนฺติ มํ ปเร ชานนฺตู’’ติ อนิจฺฉนตา อธิคมปฺปิจฺฉตา. สา จ อรหตฺตาธิคมโต โอรํ เวทิตพฺพา. อรหตฺตาธิคมตฺถฺหิ อยํ ปฏิปทาติ. เอวํ อปฺปิจฺโฉปิ จ อรหตฺตมคฺเคน ตณฺหาโลลุปฺปํ หิตฺวา อโลลุโป อสฺส. เอวํ อโลลุโป หิ สทา อิจฺฉาย นิจฺฉาโต อนิจฺโฉ โหติ นิพฺพุโต, ยาย อิจฺฉาย ฉาตา โหนฺติ สตฺตา ขุปฺปิปาสาตุรา วิย อติตฺตา, ตาย อิจฺฉาย อนิจฺโฉ โหติ อนิจฺฉตฺตา จ นิจฺฉาโต โหติ อนาตุโร ปรมติตฺติปฺปตฺโต. เอวํ นิจฺฉาตตฺตา นิพฺพุโต โหติ วูปสนฺตสพฺพกิเลสปริฬาโหติ เอวเมตฺถ อุปฺปฏิปาฏิยา โยชนา เวทิตพฺพา.

๗๑๔. เอวํ ยาว อรหตฺตปฺปตฺติ, ตาวปฏิปทํ กเถตฺวา อิทานิ ตํ ปฏิปทํ ปฏิปนฺนสฺส ภิกฺขุโน อรหตฺตปฺปตฺตินิฏฺํ ธุตงฺคสมาทานํ เสนาสนวตฺตฺจ กเถนฺโต ‘‘ส ปิณฺฑจาร’’นฺติ คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ ส ปิณฺฑจารํ จริตฺวาติ โส ภิกฺขุ ภิกฺขํ จริตฺวา ภตฺตกิจฺจํ วา กตฺวา. วนนฺตมภิหารเยติ อปปฺจิโต คิหิปปฺเจน วนํ เอว คจฺเฉยฺย. อุปฏฺิโต รุกฺขมูลสฺมินฺติ รุกฺขมูเล ิโต วา หุตฺวา. อาสนูปคโตติ อาสนํ อุปคโต วา หุตฺวา, นิสินฺโนติ วุตฺตํ โหติ. มุนีติ โมเนยฺยปฏิปทํ ปฏิปนฺโน. เอตฺถ จ ‘‘ปิณฺฑจารํ จริตฺวา’’ติ อิมินา ปิณฺฑปาติกงฺคํ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน อุกฺกฏฺปิณฺฑปาติโก สปทานจารี เอกาสนิโก ปตฺตปิณฺฑิโก ขลุปจฺฉาภตฺติโก จ โหติเยว, เตจีวริกปํสุกูลมฺปิ จ สมาทิยเตว, ตสฺมา อิมานิปิ ฉ วุตฺตาเนว โหนฺติ. ‘‘วนนฺตมภิหารเย’’ติ อิมินา ปน อารฺิกงฺคํ วุตฺตํ, ‘‘อุปฏฺิโต รุกฺขมูลสฺมิ’’นฺติ อิมินา รุกฺขมูลิกงฺคํ, ‘‘อาสนูปคโต’’ติ อิมินา เนสชฺชิกงฺคํ. ยถากฺกมํ ปน เอเตสํ อนุโลมตฺตา อพฺโภกาสิกยถาสนฺถติกโสสานิกงฺคานิ วุตฺตานิเยว โหนฺตีติ เอวเมตาย คาถาย เตรส ธุตงฺคานิ นาลกตฺเถรสฺส กเถสิ.

๗๑๕. ส ฌานปสุโต ธีโรติ โส อนุปฺปนฺนสฺส ฌานสฺส อุปฺปาทเนน อุปฺปนฺนสฺส อาวชฺชนสมาปชฺชนาธิฏฺานวุฏฺานปจฺจเวกฺขเณหิ จ ฌาเนสุ ปสุโต อนุยุตฺโต. ธีโรติ ธิติสมฺปนฺโน. วนนฺเต รมิโต สิยาติ วเน อภิรโต สิยา, คามนฺตเสนาสเน นาภิรเมยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. ฌาเยถรุกฺขมูลสฺมึ, อตฺตานมภิโตสยนฺติ น เกวลํ โลกิยชฺฌานปสุโตเยว สิยา, อปิจ โข ตสฺมึเยว รุกฺขมูเล โสตาปตฺติมคฺคาทิสมฺปยุตฺเตน โลกุตฺตรชฺฌาเนนาปิ อตฺตานํ อตีว โตเสนฺโต ฌาเยถ. ปรมสฺสาสปฺปตฺติยา หิ โลกุตฺตรชฺฌาเนเนว จิตฺตํ อตีว ตุสฺสติ, น อฺเน. เตนาห – ‘‘อตฺตานมภิโตสย’’นฺติ. เอวมิมาย คาถาย ฌานปสุตตาย วนนฺตเสนาสนาภิรตึ อรหตฺตฺจ กเถสิ.

๗๑๖. อิทานิ ยสฺมา อิมํ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา นาลกตฺเถโร วนนฺตมภิหาเรตฺวา นิราหาโรปิ ปฏิปทาปูรเณ อตีว อุสฺสุกฺโก อโหสิ, นิราหาเรน จ สมณธมฺมํ กาตุํ น สกฺกา. ตถา กโรนฺตสฺส หิ ชีวิตํ นปฺปวตฺตติ, กิเลเส ปน อนุปฺปาเทนฺเตน อาหาโร ปริเยสิตพฺโพ, อยเมตฺถ าโย. ตสฺมา ตสฺส ภควา อปราปเรสุปิ ทิวเสสุ ปิณฺฑาย จริตพฺพํ, กิเลสา ปน น อุปฺปาเทตพฺพาติ ทสฺสนตฺถํ อรหตฺตปฺปตฺตินิฏฺํเยว ภิกฺขาจารวตฺตํ กเถนฺโต ‘‘ตโต รตฺยา วิวสาเน’’ติอาทิกา ฉ คาถาโย อภาสิ. ตตฺถ ตโตติ ‘‘ส ปิณฺฑจารํ จริตฺวา, วนนฺตมภิหารเย’’ติ เอตฺถ วุตฺตปิณฺฑจารวนนฺตาภิหารโต อุตฺตริปิ. รตฺยา วิวสาเนติ รตฺติสมติกฺกเม, ทุติยทิวเสติ วุตฺตํ โหติ. คามนฺตมภิหารเยติ อาภิสมาจาริกวตฺตํ กตฺวา ยาว ภิกฺขาจารเวลา, ตาว วิเวกมนุพฺรูเหตฺวา คตปจฺจาคตวตฺเต วุตฺตนเยน กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรนฺโต คามํ คจฺเฉยฺย. อวฺหานํ นาภินนฺเทยฺยาติ ‘‘ภนฺเต, อมฺหากํ ฆเร ภุฺชิตพฺพ’’นฺติ นิมนฺตนํ, ‘‘เทติ นุ โข น เทติ นุ โข สุนฺทรํ นุ โข เทติ อสุนฺทรํ นุ โข เทตี’’ติ เอวรูปํ วิตกฺกํ โภชนฺจ ปฏิปทาปูรโก ภิกฺขุ นาภินนฺเทยฺย, นปฺปฏิคฺคณฺเหยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. ยทิ ปน พลกฺกาเรน ปตฺตํ คเหตฺวา ปูเรตฺวา เทนฺติ, ปริภุฺชิตฺวา สมณธมฺโม กาตพฺโพ, ธุตงฺคํ น กุปฺปติ, ตทุปาทาย ปน ตํ คามํ น ปวิสิตพฺพํ. อภิหารฺจ คามโตติ สเจ คามํ ปวิฏฺสฺส ปาติสเตหิปิ ภตฺตํ อภิหรนฺติ , ตมฺปิ นาภินนฺเทยฺย, ตโต เอกสิตฺถมฺปิ นปฺปฏิคฺคณฺเหยฺย, อฺทตฺถุ ฆรปฏิปาฏิยา ปิณฺฑปาตเมว จเรยฺยาติ.

๗๑๗. มุนี คามมาคมฺม, กุเลสุ สหสา จเรติ โส จ โมนตฺถาย ปฏิปนฺนโก มุนิ คามํ คโต สมาโน กุเลสุ สหสา น จเร, สหโสกิตาทิอนนุโลมิกํ คิหิสํสคฺคํ น อาปชฺเชยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. ฆาเสสนํ ฉินฺนกโถ, น วาจํ ปยุตํ ภเณติ ฉินฺนกโถ วิย หุตฺวา โอภาสปริกถานิมิตฺตวิฺตฺติปยุตฺตํ ฆาเสสนวาจํ น ภเณยฺย. สเจ อากงฺเขยฺย, คิลาโน สมาโน เคลฺปฏิพาหนตฺถาย ภเณยฺย. เสนาสนตฺถาย วา วิฺตฺตึ เปตฺวา โอภาสปริกถานิมิตฺตปยุตฺตํ, อวเสสปจฺจยตฺถาย ปน อคิลาโน เนว กิฺจิ ภเณยฺยาติ.

๗๑๘-๙. อลตฺถํ ยทิทนฺติ อิมิสฺสา ปน คาถาย อยมตฺโถ – คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺโ อปฺปมตฺตเกปิ กิสฺมิฺจิ ลทฺเธ ‘‘อลตฺถํ ยํ อิทํ สาธู’’ติ จินฺเตตฺวา อลทฺเธ ‘‘นาลตฺถํ กุสล’’นฺติ ตมฺปิ ‘‘สุนฺทร’’นฺติ จินฺเตตฺวา อุภเยเนว ลาภาลาเภน โส ตาที นิพฺพิกาโร หุตฺวา รุกฺขํวุปนิวตฺตติ, ยถาปิ ปุริโส ผลคเวสี รุกฺขํ อุปคมฺม ผลํ ลทฺธาปิ อลทฺธาปิ อนนุนีโต อปฺปฏิหโต มชฺฌตฺโตเยว หุตฺวา คจฺฉติ, เอวํ กุลํ อุปคมฺม ลาภํ ลทฺธาปิ อลทฺธาปิ มชฺฌตฺโตว หุตฺวา คจฺฉตีติ. ส ปตฺตปาณี ติ คาถา อุตฺตานตฺถาว.

๗๒๐. อุจฺจาวจาติ อิมิสฺสา คาถาย สมฺพนฺโธ – เอวํ ภิกฺขาจารวตฺตสมฺปนฺโน หุตฺวาปิ ตาวตเกเนว ตุฏฺึ อนาปชฺชิตฺวา ปฏิปทํ อาโรเธยฺย. ปฏิปตฺติสารฺหิ สาสนํ. สา จายํ อุจฺจาวจา…เป… มุตนฺติ. ตสฺสตฺโถ – สา จายํ มคฺคปฏิปทา อุตฺตมนิหีนเภทโต อุจฺจาวจา พุทฺธสมเณน ปกาสิตา. สุขาปฏิปทา หิ ขิปฺปาภิฺา อุจฺจา, ทุกฺขาปฏิปทา ทนฺธาภิฺา อวจา. อิตรา ทฺเว เอเกนงฺเคน อุจฺจา, เอเกน อวจา. ปมา เอว วา อุจฺจา, อิตรา ติสฺโสปิ อวจา. ตาย เจตาย อุจฺจาย อวจาย วา ปฏิปทาย น ปารํ ทิคุณํ ยนฺติ. ‘‘ทุคุณ’’นฺติ วา ปาโ, เอกมคฺเคน ทฺวิกฺขตฺตุํ นิพฺพานํ น ยนฺตีติ อตฺโถ. กสฺมา? เยน มคฺเคน เย กิเลสา ปหีนา, เตสํ ปุน อปฺปหาตพฺพโต. เอเตน ปริหานธมฺมาภาวํ ทีเปติ. นยิทํ เอกคุณํ มุตนฺติ ตฺจ อิทํ ปารํ เอกกฺขตฺตุํเยว ผุสนารหมฺปิ น โหติ. กสฺมา? เอเกน มคฺเคน สพฺพกิเลสปฺปหานาภาวโต. เอเตน เอกมคฺเคเนว อรหตฺตาภาวํ ทีเปติ.

๗๒๑. อิทานิ ปฏิปทานิสํสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยสฺส จ วิสตา’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ยสฺส จ เอวํ ปฏิปนฺนสฺส ภิกฺขุโน ตาย ปฏิปทาย ปหีนตฺตา อฏฺสตตณฺหาวิจริตภาเวน วิสตตฺตา วิสตา ตณฺหา นตฺถิ, ตสฺส กิเลสโสตจฺเฉเทน ฉินฺนโสตสฺส กุสลากุสลปฺปหาเนน กิจฺจากิจฺจปฺปหีนสฺส ราคโช วา โทสโช วา อปฺปมตฺตโกปิ ปริฬาโห น วิชฺชตีติ.

๗๒๒. อิทานิ ยสฺมา อิมา คาถาโย สุตฺวา นาลกตฺเถรสฺส จิตฺตํ อุทปาทิ – ‘‘ยทิ เอตฺตกํ โมเนยฺยํ สุกรํ น ทุกฺกรํ, สกฺกา อปฺปกสิเรน ปูเรตุ’’นฺติ, ตสฺมาสฺส ภควา ‘‘ทุกฺกรเมว โมเนยฺย’’นฺติ ทสฺเสนฺโต ปุน ‘‘โมเนยฺยํ เต อุปฺิสฺส’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อุปฺิสฺสนฺติ อุปฺาเปยฺยํ, กถยิสฺสนฺติ วุตฺตํ โหติ. ขุรธารา อุปมา อสฺสาติ ขุรธารูปโม. ภเวติ ภเวยฺย. โก อธิปฺปาโย? โมเนยฺยํ ปฏิปนฺโน ภิกฺขุ ขุรธารํ อุปมํ กตฺวา ปจฺจเยสุ วตฺเตยฺย. ยถา มธุทิทฺธํ ขุรธารํ ลิหนฺโต, เฉทโต, ชิวฺหํ รกฺขติ, เอวํ ธมฺเมน ลทฺเธ ปจฺจเย ปริภุฺชนฺโต จิตฺตํ กิเลสุปฺปตฺติโต รกฺเขยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. ปจฺจยา หิ ปริสุทฺเธน าเยน ลทฺธุฺจ อนวชฺชปริโภเคน ปริภุฺชิตุฺจ น สุเขน สกฺกาติ ภควา ปจฺจยนิสฺสิตเมว พหุโส ภณติ. ชิวฺหาย ตาลุมาหจฺจ, อุทเร สฺโต สิยาติ ชิวฺหาย ตาลุํ อุปฺปีเฬตฺวาปิ รสตณฺหํ วิโนเทนฺโต กิลิฏฺเน มคฺเคน อุปฺปนฺนปจฺจเย อเสวนฺโต อุทเร สํยโต สิยา.

๗๒๓. อลีนจิตฺโต จ สิยาติ นิจฺจํ กุสลานํ ธมฺมานํ ภาวนาย อฏฺิตการิตาย อกุสีตจิตฺโต จ ภเวยฺย. น จาปิ พหุ จินฺตเยติ าติชนปทามรวิตกฺกวเสน จ พหุํ น จินฺเตยฺย. นิรามคนฺโธ อสิโต, พฺรหฺมจริยปรายโณติ นิกฺกิเลโส จ หุตฺวา ตณฺหาทิฏฺีหิ กิสฺมิฺจิ ภเว อนิสฺสิโต สิกฺขาตฺตยสกลสาสนพฺรหฺมจริยปรายโณ เอว ภเวยฺย.

๗๒๔-๕. เอกาสนสฺสาติ วิวิตฺตาสนสฺส. อาสนมุเขน เจตฺถ สพฺพอิริยาปถา วุตฺตา. ยโต สพฺพอิริยาปเถสุ เอกีภาวสฺส สิกฺเขยฺยาติ วุตฺตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. เอกาสนสฺสาติ จ สมฺปทานวจนเมตํ. สมณูปาสนสฺสจาติ สมเณหิ อุปาสิตพฺพสฺส อฏฺตึสารมฺมณภาวนานุโยคสฺส, สมณานํ วา อุปาสนภูตสฺส อฏฺตึสารมฺมณเภทสฺเสว. อิทมฺปิ สมฺปทานวจนเมว, อุปาสนตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ จ เอกาสเนน กายวิเวโก, สมณูปาสเนน จิตฺตวิเวโก วุตฺโต โหตีติ เวทิตพฺโพ. เอกตฺตํ โมนมกฺขาตนฺติ เอวมิทํ กายจิตฺตวิเวกวเสน ‘‘เอกตฺตํ โมน’’นฺติ อกฺขาตํ. เอโก เจ อภิรมิสฺสสีติ อิทํ ปน อุตฺตรคาถาเปกฺขํ ปทํ, ‘‘อถ ภาหิสิ ทสทิสา’’ติ อิมินา อสฺส สมฺพนฺโธ.

ภาหิสีติ ภาสิสฺสสิ ปกาเสสฺสสิ. อิมํ ปฏิปทํ ภาเวนฺโต สพฺพทิสาสุ กิตฺติยา ปากโฏ ภวิสฺสสีติ วุตฺตํ โหติ. สุตฺวา ธีรานนฺติอาทีนํ ปน จตุนฺนํ ปทานํ อยมตฺโถ – เยน จ กิตฺติโฆเสน ภาหิสิ ทสทิสา ตํ ธีรานํ ฌายีนํ กามจาคินํ นิโฆสํ สุตฺวา อถ ตฺวํ เตน อุทฺธจฺจํ อนาปชฺชิตฺวา ภิยฺโย หิริฺจ สทฺธฺจ กเรยฺยาสิ, เตน โฆเสน หรายมาโน ‘‘นิยฺยานิกปฏิปทา อย’’นฺติ สทฺธํ อุปฺปาเทตฺวา อุตฺตริ ปฏิปตฺติเมว พฺรูเหยฺยาสิ. มามโกติ เอวฺหิ สนฺเต มม สาวโก โหตีติ.

๗๒๖. ตํ นทีหีติ ยํ ตํ มยา ‘‘หิริฺจ สทฺธฺจ ภิยฺโย กุพฺเพถา’’ติ วทตา ‘‘อุทฺธจฺจํ น กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ อิมินา นทีนิทสฺสเนนาปิ ชานาถ, ตพฺพิปริยายฺจ โสพฺเภสุปทเรสุจ ชานาถ. โสพฺเภสูติ มาติกาสุ . ปทเรสูติ ทรีสุ. กถํ? สณนฺตา ยนฺติ กุโสพฺภา, ตุณฺหี ยนฺติ มโหทธีติ. กุโสพฺภา หิ โสพฺภปทราทิเภทา สพฺพาปิ กุนฺนทิโย สณนฺตา สทฺทํ กโรนฺตา อุทฺธตา หุตฺวา ยนฺติ, คงฺคาทิเภทา ปน มหานทิโย ตุณฺหี ยนฺติ, เอวํ ‘‘โมเนยฺยํ ปูเรมี’’ติ อุทฺธโต โหติ อมามโก, มามโก ปน หิริฺจ สทฺธฺจ อุปฺปาเทตฺวา นีจจิตฺโตว โหติ.

๗๒๗-๙. กิฺจ ภิยฺโย – ยทูนกํ…เป… ปณฺฑิโตติ. ตตฺถ สิยา – สเจ อฑฺฒกุมฺภูปโม พาโล สณนฺตตาย, รหโท ปูโรว ปณฺฑิโต สนฺตตาย, อถ กสฺมา พุทฺธสมโณ เอวํ ธมฺมเทสนาพฺยาวโฏ หุตฺวา พหุํ ภาสตีติ อิมินา สมฺพนฺเธน ‘‘ยํ สมโณ’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ยํ พุทฺธสมโณ พหุํ ภาสติ อุเปตํ อตฺถสฺหิตํ, อตฺถุเปตํ ธมฺมุเปตฺจ หิเตน จ สํหิตํ, ตํ น อุทฺธจฺเจน, อปิจ โข ชานํ โส ธมฺมํ เทเสติ ทิวสมฺปิ เทเสนฺโต นิปฺปปฺโจว หุตฺวา. ตสฺส หิ สพฺพํ วจีกมฺมํ าณานุปริวตฺติ. เอวํ เทเสนฺโต จ ‘‘อิทมสฺส หิตํ อิทมสฺส หิต’’นฺติ นานปฺปการโต ชานํ โส พหุ ภาสติ, น เกวลํ พหุภาณิตาย. อวสานคาถาย สมฺพนฺโธ – เอวํ ตาว สพฺพฺุตฺาเณน สมนฺนาคโต พุทฺธสมโณ ชานํ โส ธมฺมํ เทเสติ, ชานํ โส พหุ ภาสติ. เตน เทสิตํ ปน ธมฺมํ นิพฺเพธภาคิเยเนว าเณน โย จ ชานํ สํยตตฺโต, ชานํ น พหุ ภาสติ, ส มุนิ โมนมรหติ, ส มุนิ โมนมชฺฌคาติ. ตสฺสตฺโถ – ตํ ธมฺมํ ชานนฺโต สํยตตฺโต คุตฺตจิตฺโต หุตฺวา ยํ ภาสิตํ สตฺตานํ หิตสุขาวหํ น โหติ, ตํ ชานํ น พหุ ภาสติ. โส เอวํวิโธ โมนตฺถํ ปฏิปนฺนโก มุนิ โมเนยฺยปฏิปทาสงฺขาตํ โมนํ อรหติ. น เกวลฺจ อรหติเยว, อปิจ โข ปน ส มุนิ อรหตฺตมคฺคาณสงฺขาตํ โมนํ อชฺฌคา อิจฺเจว เวทิตพฺโพติ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ.

ตํ สุตฺวา นาลกตฺเถโร ตีสุ าเนสุ อปฺปิจฺโฉ อโหสิ ทสฺสเน สวเน ปุจฺฉายาติ. โส หิ เทสนาปริโยสาเน ปสนฺนจิตฺโต ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา วนํ ปวิฏฺโ, ปุน ‘‘อโห วตาหํ ภควนฺตํ ปสฺเสยฺย’’นฺติ โลลภาวํ น ชเนสิ. อยมสฺส ทสฺสเน อปฺปิจฺฉตา. ตถา ‘‘อโห วตาหํ ปุน ธมฺมเทสนํ สุเณยฺย’’นฺติ โลลภาวํ น ชเนสิ. อยมสฺส สวเน อปฺปิจฺฉตา. ตถา ‘‘อโห วตาหํ ปุน โมเนยฺยปฏิปทํ ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ โลลภาวํ น ชเนสิ. อยมสฺส ปุจฺฉาย อปฺปิจฺฉตา.

โส เอวํ อปฺปิจฺโฉ สมาโน ปพฺพตปาทํ ปวิสิตฺวา เอกวนสณฺเฑ ทฺเว ทิวสานิ น วสิ , เอกรุกฺขมูเล ทฺเว ทิวสานิ น นิสีทิ, เอกคาเม ทฺเว ทิวสานิ ปิณฺฑาย น ปาวิสิ. อิติ วนโต วนํ, รุกฺขโต รุกฺขํ, คามโต คามํ อาหิณฺฑนฺโต อนุรูปปฏิปทํ ปฏิปชฺชิตฺวา อคฺคผเล ปติฏฺาสิ. อถ ยสฺมา โมเนยฺยปฏิปทํ อุกฺกฏฺํ กตฺวา ปูเรนฺโต ภิกฺขุ สตฺเตว มาสานิ ชีวติ, มชฺฌิมํ กตฺวา ปูเรนฺโต สตฺต วสฺสานิ, มนฺทํ กตฺวา ปูเรนฺโต โสฬส วสฺสานิ. อยฺจ อุกฺกฏฺํ กตฺวา ปูเรสิ, ตสฺมา สตฺต มาเส ตฺวา อตฺตโน อายุสงฺขารปริกฺขยํ ตฺวา นฺหายิตฺวา นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา ทิคุณํ สงฺฆาฏึ ปารุปิตฺวา ทสพลาภิมุโข ปฺจปติฏฺิตํ วนฺทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา หิงฺคุลกปพฺพตํ นิสฺสาย ิตโกว อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิ. ตสฺส ปรินิพฺพุตภาวํ ตฺวา ภควา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ตตฺถ คนฺตฺวา สรีรกิจฺจํ กตฺวา ธาตุโย คาหาเปตฺวา เจติยํ ปติฏฺาเปตฺวา อคมาสีติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย นาลกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. ทฺวยตานุปสฺสนาสุตฺตวณฺณนา

เอวํเม สุตนฺติ ทฺวยตานุปสฺสนาสุตฺตํ. กา อุปฺปตฺติ? อิมสฺส สุตฺตสฺส อตฺตชฺฌาสยโต อุปฺปตฺติ. อตฺตชฺฌาสเยน หิ ภควา อิมํ สุตฺตํ เทเสสิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปนสฺส อตฺถวณฺณนายเมว อาวิ ภวิสฺสติ. ตตฺถ เอวํ เม สุตนฺติอาทีนิ วุตฺตนยาเนว. ปุพฺพาราเมติ สาวตฺถินครสฺส ปุรตฺถิมทิสายํ อาราเม. มิคารมาตุ ปาสาเทติ เอตฺถ วิสาขา อุปาสิกา อตฺตโน สสุเรน มิคาเรน เสฏฺินา มาตุฏฺาเน ปิตตฺตา ‘‘มิคารมาตา’’ติ วุจฺจติ. ตาย มิคารมาตุยา นวโกฏิอคฺฆนกํ มหาลตาปิฬนฺธนํ วิสฺสชฺเชตฺวา การาปิโต ปาสาโท เหฏฺา จ อุปริ จ ปฺจ ปฺจ คพฺภสตานิ กตฺวา สหสฺสกูฏาคารคพฺโภ, โส ‘‘มิคารมาตุปาสาโท’’ติ วุจฺจติ. ตสฺมึ มิคารมาตุ ปาสาเท.

เตน โข ปน สมเยน ภควาติ ยํ สมยํ ภควา สาวตฺถึ นิสฺสาย ปุพฺพาราเม มิคารมาตุ ปาสาเท วิหรติ, เตน สมเยน. ตทหุโปสเถติ ตสฺมึ อหุ อุโปสเถ, อุโปสถทิวเสติ วุตฺตํ โหติ. ปนฺนรเสติ อิทํ อุโปสถคฺคหเณน สมฺปตฺตาวเสสุโปสถปฏิกฺเขปวจนํ. ปุณฺณาย ปุณฺณมาย รตฺติยาติ ปนฺนรสทิวสตฺตา ทิวสคณนาย อพฺภาทิอุปกฺกิเลสวิรหตฺตา รตฺติคุณสมฺปตฺติยา จ ปุณฺณตฺตา ปุณฺณาย, ปริปุณฺณจนฺทตฺตา ปุณฺณมาย จ รตฺติยา. ภิกฺขุสงฺฆปริวุโตติ ภิกฺขุสงฺเฆน ปริวุโต. อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหตีติ มิคารมาตุ รตนปาสาทปริเวเณ อพฺโภกาเส อุปริ อปฺปฏิจฺฉนฺเน โอกาเส ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสินฺโน โหติ. ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตนฺติ อตีว ตุณฺหีภูตํ, ยโต ยโต วา อนุวิโลเกติ , ตโต ตโต ตุณฺหีภูตํ, ตุณฺหีภูตํ วาจาย, ปุน ตุณฺหีภูตํ กาเยน. ภิกฺขุสงฺฆํ อนุวิโลเกตฺวาติ ตํ ปริวาเรตฺวา นิสินฺนํ อเนกสหสฺสภิกฺขุปริมาณํ ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตํ ภิกฺขุสงฺฆํ ‘‘เอตฺตกา เอตฺถ โสตาปนฺนา, เอตฺตกา สกทาคามิโน, เอตฺตกา อนาคามิโน เอตฺตกา อารทฺธวิปสฺสกา กลฺยาณปุถุชฺชนา, อิมสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส กีทิสี ธมฺมเทสนา สปฺปายา’’ติ สปฺปายธมฺมเทสนาปริจฺเฉทนตฺถํ อิโต จิโต จ วิโลเกตฺวา.

เยเต, ภิกฺขเว, กุสลา ธมฺมาติ เย เต อาโรคฺยฏฺเน อนวชฺชฏฺเน อิฏฺผลฏฺเน โกสลฺลสมฺภูตฏฺเน จ กุสลา สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺมา, ตชฺโชตกา วา ปริยตฺติธมฺมา. อริยานิยฺยานิกา สมฺโพธคามิโนติ อุปคนฺตพฺพฏฺเน อริยา, โลกโต นิยฺยานฏฺเน นิยฺยานิกา, สมฺโพธสงฺขาตํ อรหตฺตํ คมนฏฺเน สมฺโพธคามิโน. เตสํ โว ภิกฺขเว…เป… สวนาย, เตสํ ภิกฺขเว กุสลานํ…เป… สมฺโพธคามีนํ กา อุปนิสา, กึ การณํ, กึ ปโยชนํ ตุมฺหากํ สวนาย, กิมตฺถํ ตุมฺเห เต ธมฺเม สุณาถาติ วุตฺตํ โหติ. ยาวเทว ทฺวยตานํ ธมฺมานํ ยถาภูตํ าณายาติ เอตฺถ ยาวเทวาติ ปริจฺเฉทาวธารณวจนํ. ทฺเว อวยวา เอเตสนฺติ ทฺวยา, ทฺวยา เอว ทฺวยตา, เตสํ ทฺวยตานํ. ‘‘ทฺวยาน’’นฺติปิ ปาโ. ยถาภูตํ าณายาติ อวิปรีตาณาย. กึ วุตฺตํ โหติ? ยเทตํ โลกิยโลกุตฺตราทิเภเทน ทฺวิธา ววตฺถิตานํ ธมฺมานํ วิปสฺสนาสงฺขาตํ ยถาภูตาณํ, เอตทตฺถาย น อิโต ภิยฺโยติ, สวเนน หิ เอตฺตกํ โหติ, ตทุตฺตริ วิเสสาธิคโม ภาวนายาติ. กิฺจ ทฺวยตํ วเทถาติ เอตฺถ ปน สเจ, โว ภิกฺขเว, สิยา, กิฺจ ตุมฺเห, ภนฺเต, ทฺวยตํ วเทถาติ อยมธิปฺปาโย. ปทตฺโถ ปน ‘‘กิฺจ ทฺวยตาภาวํ วเทถา’’ติ.

(๑) ตโต ภควา ทฺวยตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ เอวมาทิมาห. ตตฺถ ทฺวยตานํ จตุสจฺจธมฺมานํ ‘‘อิทํ ทุกฺขํ, อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ เอวํ โลกิยสฺส เอกสฺส อวยวสฺส สเหตุกสฺส วา ทุกฺขสฺส ทสฺสเนน อยํ เอกานุปสฺสนา, อิตรา โลกุตฺตรสฺส ทุติยสฺส อวยวสฺส สอุปายสฺส วา นิโรธสฺส ทสฺสเนน ทุติยานุปสฺสนา. ปมา เจตฺถ ตติยจตุตฺถวิสุทฺธีหิ โหติ, ทุติยา ปฺจมวิสุทฺธิยา. เอวํ สมฺมา ทฺวยตานุปสฺสิโนติ อิมินา วุตฺตนเยน สมฺมา ทฺวยธมฺเม อนุปสฺสนฺตสฺส สติยา อวิปฺปวาเสน อปฺปมตฺตสฺส, กายิกเจตสิกวีริยาตาเปน อาตาปิโน กาเย จ ชีวิเต จ นิรเปกฺขตฺตา , ปหิตตฺตสฺส. ปาฏิกงฺขนฺติ อิจฺฉิตพฺพํ. ทิฏฺเว ธมฺเม อฺาติ อสฺมึเยว อตฺตภาเว อรหตฺตํ. สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตาติ ‘‘อุปาทิเสส’’นฺติ ปุนพฺภววเสน อุปาทาตพฺพกฺขนฺธเสสํ วุจฺจติ, ตสฺมึ วา สติ อนาคามิภาโว ปฏิกงฺโขติ ทสฺเสติ. ตตฺถ กิฺจาปิ เหฏฺิมผลานิปิ เอวํ ทฺวยตานุปสฺสิโนว โหนฺติ, อุปริมผเลสุ ปน อุสฺสาหํ ชเนนฺโต เอวมาห.

อิทมโวจาติอาทิ สงฺคีติการานํ วจนํ. ตตฺถ อิทนฺติ ‘‘เย เต, ภิกฺขเว’’ติอาทิวุตฺตนิทสฺสนํ. เอตนฺติ อิทานิ ‘‘เย ทุกฺข’’นฺติ เอวมาทิวตฺตพฺพคาถาพนฺธนิทสฺสนํ. อิมา จ คาถา จตุสจฺจทีปกตฺตา วุตฺตตฺถทีปิกา เอว, เอวํ สนฺเตปิ คาถารุจิกานํ ปจฺฉา อาคตานํ ปุพฺเพ วุตฺตํ อสมตฺถตาย อนุคฺคเหตฺวา ‘‘อิทานิ ยทิ วเทยฺย สุนฺทร’’นฺติ อากงฺขนฺตานํ วิกฺขิตฺตจิตฺตานฺจ อตฺถาย วุตฺตา. วิเสสตฺถทีปิกา วาติ อวิปสฺสเก วิปสฺสเก จ ทสฺเสตฺวา เตสํ วฏฺฏวิวฏฺฏทสฺสนโต, ตสฺมา วิเสสตฺถทสฺสนตฺถเมว วุตฺตา. เอส นโย อิโต ปรมฺปิ คาถาวจเนสุ.

๗๓๐. ตตฺถ ยตฺถ จาติ นิพฺพานํ ทสฺเสติ. นิพฺพาเน หิ ทุกฺขํ สพฺพโส อุปรุชฺฌติ, สพฺพปฺปการํ อุปรุชฺฌติ, สเหตุกํ อุปรุชฺฌติ, อเสสฺจ อุปรุชฺฌติ. ตฺจ มคฺคนฺติ ตฺจ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ.

๗๓๑-๓. เจโตวิมุตฺติหีนา เต, อโถ ปฺาวิมุตฺติยาติ เอตฺถ อรหตฺตผลสมาธิ ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ, อรหตฺตผลปฺา อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺตีติ เวทิตพฺพา. ตณฺหาจริเตน วา อปฺปนาฌานพเลน กิเลเส วิกฺขมฺเภตฺวา อธิคตํ อรหตฺตผลํ ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ, ทิฏฺิจริเตน อุปจารชฺฌานมตฺตํ นิพฺพตฺเตตฺวา วิปสฺสิตฺวา อธิคตํ อรหตฺตผลํ อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺติ. อนาคามิผลํ วา กามราคํ สนฺธาย ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ, อรหตฺตผลํ สพฺพปฺปการโต อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺตีติ. อนฺตกิริยายาติ วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตกรณตฺถาย . ชาติชรูปคาติ ชาติชรํ อุปคตา, ชาติชราย วา อุปคตา, น ปริมุจฺจนฺติ ชาติชรายาติ เอวํ เวทิตพฺพา. เสสเมตฺถ อาทิโต ปภุติ ปากฏเมว. คาถาปริโยสาเน จ สฏฺิมตฺตา ภิกฺขู ตํ เทสนํ อุคฺคเหตฺวา วิปสฺสิตฺวา ตสฺมึเยว อาสเน อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. ยถา เจตฺถ, เอวํ สพฺพวาเรสุ.

(๒) อโต เอว ภควา ‘‘สิยา อฺเนปิ ปริยาเยนา’’ติอาทินา นเยน นานปฺปการโต ทฺวยตานุปสฺสนํ อาห. ตตฺถ ทุติยวาเร อุปธิปจฺจยาติ สาสวกมฺมปจฺจยา. สาสวกมฺมฺหิ อิธ ‘‘อุปธี’’ติ อธิปฺเปตํ. อเสสวิราคนิโรธาติ อเสสํ วิราเคน นิโรธา, อเสสวิราคสงฺขาตา วา นิโรธา.

๗๓๔. อุปธินิทานาติ กมฺมปจฺจยา. ทุกฺขสฺส ชาติปฺปภวานุปสฺสีติ วฏฺฏทุกฺขสฺส ชาติการณํ ‘‘อุปธี’’ติ อนุปสฺสนฺโต. เสสเมตฺถ ปากฏเมว. เอวํ อยมฺปิ วาโร จตฺตาริ สจฺจานิ ทีเปตฺวา อรหตฺตนิกูเฏเนว วุตฺโต. ยถา จายํ, เอวํ สพฺพวารา.

(๓) ตตฺถ ตติยวาเร อวิชฺชาปจฺจยาติ ภวคามิกมฺมสมฺภารอวิชฺชาปจฺจยา. ทุกฺขํ ปน สพฺพตฺถ วฏฺฏทุกฺขเมว.

๗๓๕. ชาติมรณสํสารนฺติ ขนฺธนิพฺพตฺตึ ชาตึ ขนฺธเภทํ มรณํ ขนฺธปฏิปาฏึ สํสารฺจ. วชนฺตีติ คจฺฉนฺติ อุเปนฺติ. อิตฺถภาวฺถาภาวนฺติ อิมํ มนุสฺสภาวํ อิโต อวเสสอฺนิกายภาวฺจ. คตีติ ปจฺจยภาโว.

๗๓๖. อวิชฺชา หายนฺติ อวิชฺชา หิ อยํ. วิชฺชาคตา จ เย สตฺตาติ เย จ อรหตฺตมคฺควิชฺชาย กิเลเส วิชฺฌิตฺวา คตา ขีณาสวสตฺตา. เสสมุตฺตานตฺถเมว.

(๔) จตุตฺถวาเร สงฺขารปจฺจยาติ ปุฺาปุฺาเนฺชาภิสงฺขารปจฺจยา.

๗๓๘-๙. เอตมาทีนวํ ตฺวาติ ยทิทํ ทุกฺขํ สงฺขารปจฺจยา, เอตํ อาทีนวนฺติ ตฺวา. สพฺพสงฺขารสมถาติ สพฺเพสํ วุตฺตปฺปการานํ สงฺขารานํ มคฺคาเณน สมถา, อุปหตตาย ผลสมตฺถตายาติ วุตฺตํ โหติ. สฺานนฺติ กามสฺาทีนํ มคฺเคเนว อุปโรธนา. เอตํ ตฺวา ยถาตถนฺติ เอตํ ทุกฺขกฺขยํ อวิปรีตํ ตฺวา. สมฺมทฺทสาติ สมฺมาทสฺสนา. สมฺมทฺายาติ สงฺขตํ อนิจฺจาทิโต, อสงฺขตฺจ นิจฺจาทิโต ตฺวา. มารสํโยคนฺติ เตภูมกวฏฺฏํ. เสสมุตฺตานตฺถเมว.

(๕) ปฺจมวาเร วิฺาณปจฺจยาติ กมฺมสหชาตอภิสงฺขารวิฺาณปจฺจยา.

๗๔๑. นิจฺฉาโตติ นิตฺตณฺโห. ปรินิพฺพุโตติ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต โหติ. เสสํ ปากฏเมว.

(๖) ฉฏฺวาเร ผสฺสปจฺจยาติ อภิสงฺขารวิฺาณสมฺปยุตฺตผสฺสปจฺจยาติ อตฺโถ. เอวํ เอตฺถ ปทปฏิปาฏิยา วตฺตพฺพานิ นามรูปสฬายตนานิ อวตฺวา ผสฺโส วุตฺโต. ตานิ หิ รูปมิสฺสกตฺตา กมฺมสมฺปยุตฺตาเนว น โหนฺติ, อิทฺจ วฏฺฏทุกฺขํ กมฺมโต วา สมฺภเวยฺย กมฺมสมฺปยุตฺตธมฺมโต วาติ.

๗๔๒-๓. ภวโสตานุสารินนฺติ ตณฺหานุสารินํ. ปริฺายาติ ตีหิ ปริฺาหิ ปริชานิตฺวา. อฺายาติ อรหตฺตมคฺคปฺาย ตฺวา. อุปสเม รตาติ ผลสมาปตฺติวเสน นิพฺพาเน รตา. ผสฺสาภิสมยาติ ผสฺสนิโรธา. เสสํ ปากฏเมว.

(๗) สตฺตมวาเร เวทนาปจฺจยาติ กมฺมสมฺปยุตฺตเวทนาปจฺจยา.

๗๔๔-๕. อทุกฺขมสุขํ สหาติ อทุกฺขมสุเขน สห. เอตํ ทุกฺขนฺติ ตฺวานาติ เอตํ สพฺพํ เวทยิตํ ‘‘ทุกฺขการณ’’นฺติ ตฺวา, วิปริณามฏฺิติอฺาณทุกฺขตาหิ วา ทุกฺขํ ตฺวา. โมสธมฺมนฺติ นสฺสนธมฺมํ. ปโลกินนฺติ ชรามรเณหิ ปลุชฺชนธมฺมํ. ผุสฺส ผุสฺสาติ อุทยพฺพยาเณน ผุสิตฺวา ผุสิตฺวา. วยํ ปสฺสนฺติ อนฺเต ภงฺคเมว ปสฺสนฺโต. เอวํ ตตฺถ วิชานตีติ เอวํ ตา เวทนา วิชานาติ, ตตฺถ วา ทุกฺขภาวํ วิชานาติ. เวทนานํ ขยาติ ตโต ปรํ มคฺคาเณน กมฺมสมฺปยุตฺตานํ เวทนานํ ขยา. เสสมุตฺตานเมว.

(๘) อฏฺมวาเร ตณฺหาปจฺจยาติ กมฺมสมฺภารตณฺหาปจฺจยา .

๗๔๗. เอตมาทีนวํ ตฺวา, ตณฺหํ ทุกฺขสฺส สมฺภวนฺติ เอตํ ทุกฺขสฺส สมฺภวํ ตณฺหาย อาทีนวํ ตฺวา. เสสมุตฺตานเมว.

(๙) นวมวาเร อุปาทานปจฺจยาติ กมฺมสมฺภารอุปาทานปจฺจยา.

๗๔๘-๙. ภโวติ วิปากภโว ขนฺธปาตุภาโว. ภูโต ทุกฺขนฺติ ภูโต สมฺภูโต วฏฺฏทุกฺขํ นิคจฺฉติ. ชาตสฺส มรณนฺติ ยตฺราปิ ‘‘ภูโต สุขํ นิคจฺฉตี’’ติ พาลา มฺนฺติ, ตตฺราปิ ทุกฺขเมว ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘ชาตสฺส มรณํ โหตี’’ติ. ทุติยคาถาย โยชนา – อนิจฺจาทีหิ สมฺมทฺาย ปณฺฑิตา อุปาทานกฺขยา ชาติกฺขยํ นิพฺพานํ อภิฺาย น คจฺฉนฺติ ปุนพฺภวนฺติ.

(๑๐) ทสมวาเร อารมฺภปจฺจยาติ กมฺมสมฺปยุตฺตวีริยปจฺจยา.

๗๕๑. อนารมฺเภ วิมุตฺติโนติ อนารมฺเภ นิพฺพาเน วิมุตฺตสฺส. เสสมุตฺตานเมว.

(๑๑) เอกาทสมวาเร อาหารปจฺจยาติ กมฺมสมฺปยุตฺตาหารปจฺจยา. อปโร นโย – จตุพฺพิธา สตฺตา รูปูปคา, เวทนูปคา, สฺูปคา, สงฺขารูปคาติ. ตตฺถ เอกาทสวิธาย กามธาตุยา สตฺตา รูปูปคา กพฬีการาหารเสวนโต. รูปธาตุยา สตฺตา อฺตฺร อสฺเหิ เวทนูปคา ผสฺสาหารเสวนโต. เหฏฺา ติวิธาย อรูปธาตุยา สตฺตา สฺูปคา สฺาภินิพฺพตฺตมโนสฺเจตนาหารเสวนโต . ภวคฺเค สตฺตา สงฺขารูปคา สงฺขาราภินิพฺพตฺตวิฺาณาหารเสวนโตติ. เอวมฺปิ ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ, สพฺพํ อาหารปจฺจยาติ เวทิตพฺพํ.

๗๕๕. อาโรคฺยนฺติ นิพฺพานํ. สงฺขาย เสวีติ จตฺตาโร ปจฺจเย ปจฺจเวกฺขิตฺวา เสวมาโน, ‘‘ปฺจกฺขนฺธา ทฺวาทสายตนานิ อฏฺารสธาตุโย’’ติ เอวํ วา โลกํ สงฺขาย ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’’ติ าเณน เสวมาโน. ธมฺมฏฺโติ จตุสจฺจธมฺเม ิโต. สงฺขฺยํ โนเปตีติ ‘‘เทโว’’ติ วา ‘‘มนุสฺโส’’ติ วา อาทิกํ สงฺขฺยํ น คจฺฉติ. เสสมุตฺตานเมว.

(๑๒) ทฺวาทสมวาเร อิฺชิตปจฺจยาติ ตณฺหามานทิฏฺิกมฺมกิเลสอิฺชิเตสุ ยโต กุโตจิ กมฺมสมฺภาริฺชิตปจฺจยา.

๗๕๗. เอชํ โวสฺสชฺชาติ ตณฺหํ จชิตฺวา. สงฺขาเร อุปรุนฺธิยาติ กมฺมํ กมฺมสมฺปยุตฺเต จ สงฺขาเร นิโรเธตฺวา. เสสมุตฺตานเมว.

(๑๓) เตรสมวาเร นิสฺสิตสฺส จลิตนฺติ ตณฺหาย ตณฺหาทิฏฺิมาเนหิ วา ขนฺเธ นิสฺสิตสฺส สีหสุตฺเต (สํ. นิ. ๓.๗๘) เทวานํ วิย ภยจลนํ โหติ. เสสมุตฺตานเมว.

(๑๔) จุทฺทสมวาเร รูเปหีติ รูปภเวหิ รูปสมาปตฺตีหิ วา. อรูปาติ อรูปภวา อรูปสมาปตฺติโย วา. นิโรโธติ นิพฺพานํ.

๗๖๑. มจฺจุหายิโนติ มรณมจฺจุ กิเลสมจฺจุ เทวปุตฺตมจฺจุหายิโน, ติวิธมฺปิ ตํ มจฺจุํ หิตฺวา คามิโนติ วุตฺตํ โหติ. เสสมุตฺตานเมว.

(๑๕) ปนฺนรสมวาเร นฺติ นามรูปํ สนฺธายาห. ตฺหิ โลเกน ธุวสุภสุขตฺตวเสน ‘‘อิทํ สจฺจ’’นฺติ อุปนิชฺฌายิตํ ทิฏฺมาโลกิตํ. ตทมริยานนฺติ อิทํ อริยานํ, อนุนาสิกอิการโลปํ กตฺวา วุตฺตํ. เอตํ มุสาติ เอตํ ธุวาทิวเสน คหิตมฺปิ มุสา, น ตาทิสํ โหตีติ. ปุน นฺติ นิพฺพานํ สนฺธายาห. ตฺหิ โลเกน รูปเวทนาทีนมภาวโต ‘‘อิทํ มุสา นตฺถิ กิฺจี’’ติ อุปนิชฺฌายิตํ. ตทมริยานํ เอตํ สจฺจนฺติ ตํ อิทํ อริยานํ เอตํ นิกฺกิเลสสงฺขาตา สุภภาวา, ปวตฺติทุกฺขปฏิปกฺขสงฺขาตา สุขภาวา, อจฺจนฺตสนฺติสงฺขาตา นิจฺจภาวา จ อนปคมเนน ปรมตฺถโต ‘‘สจฺจ’’นฺติ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺํ.

๗๖๒-๓. อนตฺตนิ อตฺตมานินฺติ อนตฺตนิ นามรูเป อตฺตมานึ. อิทํ สจฺจนฺติ มฺตีติ อิทํ นามรูปํ ธุวาทิวเสน ‘‘สจฺจ’’นฺติ มฺติ. เยน เยน หีติ เยน เยน รูเป วา เวทนาย วา ‘‘มม รูปํ, มม เวทนา’’ติอาทินา นเยน มฺนฺติ. ตโต ตนฺติ ตโต มฺิตาการา ตํ นามรูปํ โหติ อฺถา. กึ การณํ? ตฺหิ ตสฺส มุสา โหติ, ยสฺมา ตํ ยถามฺิตาการา มุสา โหติ, ตสฺมา อฺถา โหตีติ อตฺโถ. กสฺมา ปน มุสา โหตีติ? โมสธมฺมฺหิ อิตฺตรํ, ยสฺมา ยํ อิตฺตรํ ปริตฺตปจฺจุปฏฺานํ, ตํ โมสธมฺมํ นสฺสนธมฺมํ โหติ, ตถารูปฺจ นามรูปนฺติ. สจฺจาภิสมยาติ สจฺจาวโพธา. เสสมุตฺตานเมว.

(๑๖) โสฬสมวาเร นฺติ ฉพฺพิธมิฏฺารมฺมณํ สนฺธายาห. ตฺหิ โลเกน สลภมจฺฉมกฺกฏาทีหิ ปทีปพฬิสเลปาทโย วิย ‘‘อิทํ สุข’’นฺติ อุปนิชฺฌายิตํ. ตทมริยานํ เอตํ ทุกฺขนฺติ ตํ อิทํ อริยานํ ‘‘กามา หิ จิตฺรา มธุรา มโนรมา, วิรูปรูเปน มเถนฺติ จิตฺต’’นฺติอาทินา (สุ. นิ. ๕๐; จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๓๖) นเยน ‘‘เอตํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺํ. ปุน นฺติ นิพฺพานเมว สนฺธายาห. ตฺหิ โลเกน กามคุณาภาวา ‘‘ทุกฺข’’นฺติ อุปนิชฺฌายิตํ. ตทมริยานนฺติ ตํ อิทํ อริยานํ ปรมตฺถสุขโต ‘‘เอตํ สุข’’นฺติ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺํ.

๗๖๕-๖. เกวลาติ อนวเสสา. อิฏฺาติ อิจฺฉิตา ปตฺถิตา. กนฺตาติ ปิยา. มนาปาติ มนวุฑฺฒิกรา. ยาวตตฺถีติ วุจฺจตีติ ยาวตา เอเต ฉ อารมฺมณา อตฺถีติ วุจฺจนฺติ. วจนพฺยตฺตโย เวทิตพฺโพ. เอเต โวติ เอตฺถ โวติ นิปาตมตฺตํ.

๗๖๗-๘. สุขนฺติ ทิฏฺมริเยหิ, สกฺกายสฺสุปโรธนนฺติ ‘‘สุข’’มิติ อริเยหิ ปฺจกฺขนฺธนิโรโธ ทิฏฺโ, นิพฺพานนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปจฺจนีกมิทํ โหตีติ ปฏิโลมมิทํ ทสฺสนํ โหติ. ปสฺสตนฺติ ปสฺสนฺตานํ, ปณฺฑิตานนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยํ ปเรติ เอตฺถ นฺติ วตฺถุกาเม สนฺธายาห. ปุน ยํ ปเรติ เอตฺถ นิพฺพานํ.

๗๖๙-๗๑. ปสฺสาติ โสตารํ อาลปติ. ธมฺมนฺติ นิพฺพานธมฺมํ. สมฺปมูฬฺเหตฺถวิทฺทสูติ สมฺปมูฬฺหา เอตฺถ อวิทฺทสู พาลา. กึการณํ สมฺปมูฬฺหา? นิวุตานํ ตโม โหติ, อนฺธกาโร อปสฺสตํ, พาลานํ อวิชฺชาย นิวุตานํ โอตฺถฏานํ อนฺธภาวกรโณ ตโม โหติ, เยน นิพฺพานธมฺมํ ทฏฺุํ น สกฺโกนฺติ. สตฺจ วิวฏํ โหติ, อาโลโก ปสฺสตามิวาติ สตฺจ สปฺปุริสานํ ปฺาทสฺสเนน ปสฺสตํ อาโลโกว วิวฏํ โหติ นิพฺพานํ. สนฺติเก น วิชานนฺติ, มคา ธมฺมสฺสโกวิทาติ ยํ อตฺตโน สรีเร ตจปฺจกมตฺตํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา อนนฺตรเมว อธิคนฺตพฺพโต, อตฺตโน ขนฺธานํ วา นิโรธมตฺตโต สนฺติเก นิพฺพานํ, ตํ เอวํ สนฺติเก สนฺตมฺปิ น วิชานนฺติ มคภูตา ชนา มคฺคามคฺคธมฺมสฺส สจฺจธมฺมสฺส วา อโกวิทา, สพฺพถา ภวราค…เป… สุสมฺพุโธ. ตตฺถ มารเธยฺยานุปนฺเนหีติ เตภูมกวฏฺฏํ อนุปนฺเนหิ.

๗๗๒. ปจฺฉิมคาถาย สมฺพนฺโธ ‘‘เอวํ อสุสมฺพุธํ โก นุ อฺตฺร มริเยหี’’ติ. ตสฺสตฺโถ – เปตฺวา อริเย โก นุ อฺโ นิพฺพานปทํ ชานิตุํ อรหติ, ยํ ปทํ จตุตฺเถน อริยมคฺเคน สมฺมทฺาย อนนฺตรเมว อนาสวา หุตฺวา กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพนฺติ, สมฺมทฺาย วา อนาสวา หุตฺวา อนฺเต อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพนฺตีติ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ.

อตฺตมนาติ ตุฏฺมนา. อภินนฺทุนฺติ อภินนฺทึสุ. อิมสฺมิฺจ ปน เวยฺยากรณสฺมินฺติ อิมสฺมึ โสฬสเม เวยฺยากรเณ. ภฺมาเนติ ภณิยมาเน. เสสํ ปากฏเมว.

เอวํ สพฺเพสุปิ โสฬสสุ เวยฺยากรเณสุ สฏฺิมตฺเต สฏฺิมตฺเต กตฺวา สฏฺิอธิกานํ นวนฺนํ ภิกฺขุสตานํ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสุ, โสฬสกฺขตฺตุํ จตฺตาริ จตฺตาริ กตฺวา จตุสฏฺิ สจฺจาเนตฺถ เวเนยฺยวเสน นานปฺปการโต เทสิตานีติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย ทฺวยตานุปสฺสนาสุตฺตวณฺณนา

นิฏฺิตฺตา.

นิฏฺิโต จ ตติโย วคฺโค อตฺถวณฺณนานยโต, นาเมน

มหาวคฺโคติ.