📜

๕. ปารายนวคฺโค

วตฺถุคาถาวณฺณนา

๙๘๓. โกสลานํปุรา รมฺมาติ ปารายนวคฺคสฺส วตฺถุคาถา. ตาสํ อุปฺปตฺติ – อตีเต กิร พาราณสิวาสี เอโก รุกฺขวฑฺฒกี สเก อาจริยเก อทุติโย, ตสฺส โสฬส สิสฺสา, เอกเมกสฺส สหสฺสํ อนฺเตวาสิกา. เอวํ เต สตฺตรสาธิกโสฬสสหสฺสา อาจริยนฺเตวาสิโน สพฺเพปิ พาราณสึ อุปนิสฺสาย ชีวิกํ กปฺเปนฺตา ปพฺพตสมีปํ คนฺตฺวา รุกฺเข คเหตฺวา ตตฺเถว นานาปาสาทวิกติโย นิฏฺาเปตฺวา กุลฺลํ พนฺธิตฺวา คงฺคาย พาราณสึ อาเนตฺวา สเจ ราชา อตฺถิโก โหติ, รฺโ, เอกภูมิกํ วา…เป… สตฺตภูมิกํ วา ปาสาทํ โยเชตฺวา เทนฺติ. โน เจ, อฺเสมฺปิ วิกิณิตฺวา ปุตฺตทารํ โปเสนฺติ. อถ เนสํ เอกทิวสํ อาจริโย ‘‘น สกฺกา วฑฺฒกิกมฺเมน นิจฺจํ ชีวิกํ กปฺเปตุํ, ทุกฺกรฺหิ ชรากาเล เอตํ กมฺม’’นฺติ จินฺเตตฺวา อนฺเตวาสิเก อามนฺเตสิ – ‘‘ตาตา, อุทุมฺพราทโย, อปฺปสารรุกฺเข อาเนถา’’ติ. เต ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา อานยึสุ. โส เตหิ กฏฺสกุณํ กตฺวา ตสฺส อพฺภนฺตรํ ปวิสิตฺวา ยนฺตํ ปูเรสิ. กฏฺสกุโณ สุปณฺณราชา วิย อากาสํ ลงฺฆิตฺวา วนสฺส อุปริ จริตฺวา อนฺเตวาสีนํ ปุรโต โอรุหิ. อถ อาจริโย สิสฺเส อาห – ‘‘ตาตา, อีทิสานิ กฏฺวาหนานิ กตฺวา สกฺกา สกลชมฺพุทีเป รชฺชํ คเหตุํ, ตุมฺเหปิ, ตาตา, เอตานิ กโรถ, รชฺชํ คเหตฺวา ชีวิสฺสาม, ทุกฺขํ วฑฺฒกิสิปฺเปน ชีวิตุ’’นฺติ. เต ตถา กตฺวา อาจริยสฺส ปฏิเวเทสุํ. ตโต เน อาจริโย อาห – ‘‘กตมํ, ตาตา, รชฺชํ คณฺหามา’’ติ? ‘‘พาราณสิรชฺชํ อาจริยา’’ติ. ‘‘อลํ, ตาตา, มา เอตํ รุจฺจิ, มยฺหิ ตํ คเหตฺวาปิ ‘วฑฺฒกิราชา วฑฺฒกิยุวราชา’ติ วฑฺฒกิวาทา น มุจฺจิสฺสาม, มหนฺโต ชมฺพุทีโป, อฺตฺถ คจฺฉามา’’ติ.

ตโต สปุตฺตทารา กฏฺวาหนานิ , อภิรุหิตฺวา สชฺชาวุธา หุตฺวา หิมวนฺตาภิมุขา คนฺตฺวา หิมวติ อฺตรํ นครํ ปวิสิตฺวา รฺโ นิเวสเนเยว ปจฺจุฏฺหํสุ. เต ตตฺถ รชฺชํ คเหตฺวา อาจริยํ รชฺเช อภิสิฺจึสุ. โส ‘‘กฏฺวาหโน ราชา’’ติ ปากโฏ อโหสิ. ตมฺปิ นครํ เตน คหิตตฺตา ‘‘กฏฺวาหนนคร’’นฺตฺเวว นามํ ลภิ, ตถา สกลรฏฺมฺปิ . กฏฺวาหโน ราชา ธมฺมิโก อโหสิ, ตถา ยุวราชา อมจฺจฏฺาเนสุ จ ปิตา โสฬส สิสฺสา. ตํ รฏฺํ รฺา จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ สงฺคยฺหมานํ อติวิย อิทฺธํ ผีตํ นิรุปทฺทวฺจ อโหสิ. นาครา ชานปทา ราชานฺจ ราชปริสฺจ อติวิย มมายึสุ ‘‘ภทฺทโก โน ราชา ลทฺโธ, ภทฺทิกา ราชปริสา’’ติ.

อเถกทิวสํ มชฺฌิมเทสโต วาณิชา ภณฺฑํ คเหตฺวา กฏฺวาหนนครํ อาคมํสุ ปณฺณาการฺจ คเหตฺวา ราชานํ ปสฺสึสุ. ราชา ‘‘กุโต อาคตตฺถา’’ติ สพฺพํ ปุจฺฉิ. ‘‘พาราณสิโต เทวา’’ติ. โส ตตฺถ สพฺพํ ปวตฺตึ ปุจฺฉิตฺวา – ‘‘ตุมฺหากํ รฺา สทฺธึ มม มิตฺตภาวํ กโรถา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉึสุ. โส เตสํ ปริพฺพยํ ทตฺวา คมนกาเล สมฺปตฺเต ปุน อาทเรน วตฺวา วิสฺสชฺเชสิ. เต พาราณสึ คนฺตฺวา ตสฺส รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา ‘‘กฏฺวาหนรฏฺา อาคตานํ วาณิชกานํ อชฺชตคฺเค สุงฺกํ มุฺจามี’’ติ เภรึ จราเปตฺวา ‘‘อตฺถุ เม กฏฺวาหโน มิตฺโต’’ติ ทฺเวปิ อทิฏฺมิตฺตา อเหสุํ. กฏฺวาหโนปิ จ สกนคเร เภรึ จราเปสิ – ‘‘อชฺชตคฺเค พาราณสิโต อาคตานํ วาณิชกานํ สุงฺกํ มุฺจามิ, ปริพฺพโย จ เนสํ ทาตพฺโพ’’ติ. ตโต พาราณสิราชา กฏฺวาหนสฺส เลขํ เปเสสิ ‘‘สเจ ตสฺมึ ชนปเท ทฏฺุํ วา โสตุํ วา อรหรูปํ กิฺจิ อจฺฉริยํ อุปฺปชฺชติ, อมฺเหปิ ทกฺขาเปตุ จ สาเวตุ จา’’ติ. โสปิสฺส ตเถว ปฏิเลขํ เปเสสิ. เอวํ เตสํ กติกํ กตฺวา วสนฺตานํ กทาจิ กฏฺวาหนสฺส อติมหคฺฆา อจฺจนฺตสุขุมา กมฺพลา อุปฺปชฺชึสุ พาลสูริยรสฺมิสทิสา วณฺเณน. เต ทิสฺวา ราชา ‘‘มม สหายสฺส เปเสมี’’ติ ทนฺตกาเรหิ อฏฺ ทนฺตกรณฺฑเก ลิขาเปตฺวา เตสุ กรณฺฑเกสุ เต กมฺพเล ปกฺขิปิตฺวา ลาขาจริเยหิ พหิ ลาขาโคฬกสทิเส การาเปตฺวา อฏฺปิ ลาขาโคฬเก สมุคฺเค ปกฺขิปิตฺวา วตฺเถน เวเตฺวา ราชมุทฺทิกาย ลฺเฉตฺวา ‘‘พาราณสิรฺโ เทถา’’ติ อมจฺเจ เปเสสิ. เลขฺจ อทาสิ ‘‘อยํ ปณฺณากาโร นครมชฺเฌ อมจฺจปริวุเตน เปกฺขิตพฺโพ’’ติ.

เต คนฺตฺวา พาราณสิรฺโ อทํสุ. โส เลขํ วาเจตฺวา อมจฺเจ สนฺนิปาเตตฺวา นครมชฺเฌ ราชงฺคเณ ลฺฉนํ ภินฺทิตฺวา ปลิเวนํ อปเนตฺวา สมุคฺคํ วิวริตฺวา อฏฺ ลาขาโคฬเก ทิสฺวา ‘‘มม สหาโย ลาขาโคฬเกหิ กีฬนกพาลกานํ วิย มยฺหํ ลาขาโคฬเก เปเสสี’’ติ มงฺกุ หุตฺวา เอกํ ลาขาโคฬกํ อตฺตโน นิสินฺนาสเน ปหริ. ตาวเทว ลาขา ปริปติ, ทนฺตกรณฺฑโก วิวรํ ทตฺวา ทฺเวภาโค อโหสิ. โส อพฺภนฺตเร กมฺพลํ ทิสฺวา อิตเรปิ วิวริ สพฺพตฺถ ตเถว อโหสิ. เอกเมโก กมฺพโล ทีฆโต โสฬสหตฺโถ วิตฺถารโต อฏฺหตฺโถ. ปสาริเต กมฺพเล ราชงฺคณํ สูริยปฺปภาย โอภาสิตมิว อโหสิ. ตํ ทิสฺวา มหาชโน องฺคุลิโย วิธุนิ, เจลุกฺเขปฺจ อกาสิ, ‘‘อมฺหากํ รฺโ อทิฏฺสหาโย กฏฺวาหนราชา เอวรูปํ ปณฺณาการํ เปเสสิ, ยุตฺตํ เอวรูปํ มิตฺตํ กาตุ’’นฺติ อตฺตมโน อโหสิ. ราชา โวหาริเก ปกฺโกสาเปตฺวา เอกเมกํ กมฺพลํ อคฺฆาเปสิ, สพฺเพปิ อนคฺฆา อเหสุํ. ตโต จินฺเตสิ – ‘‘ปจฺฉา เปเสนฺเตน ปมํ เปสิตปณฺณาการโต อติเรกํ เปเสตุํ วฏฺฏติ, สหาเยน จ เม อนคฺโฆ ปณฺณากาโร เปสิโต, กึ นุ, โข, อหํ สหายสฺส เปเสยฺย’’นฺติ? เตน จ สมเยน กสฺสโป ภควา อุปฺปชฺชิตฺวา พาราณสิยํ วิหรติ. อถ รฺโ เอตทโหสิ – ‘‘วตฺถุตฺตยรตนโต อฺํ อุตฺตมรตนํ นตฺถิ, หนฺทาหํ วตฺถุตฺตยรตนสฺส อุปฺปนฺนภาวํ สหายสฺส เปเสมี’’ติ. โส –

‘‘พุทฺโธ โลเก สมุปฺปนฺโน, หิตาย สพฺพปาณินํ;

ธมฺโม โลเก สมุปฺปนฺโน, สุขาย สพฺพปาณินํ;

สงฺโฆ โลเก สมุปฺปนฺโน, ปุฺกฺเขตฺตํ อนุตฺตร’’นฺติ. –

อิมํ คาถํ, ยาว อรหตฺตํ, ตาว เอกภิกฺขุสฺส ปฏิปตฺติฺจ สุวณฺณปฏฺเฏ ชาติหิงฺคุลเกน ลิขาเปตฺวา สตฺตรตนมเย สมุคฺเค ปกฺขิปิตฺวา ตํ สมุคฺคํ มณิมเย สมุคฺเค, มณิมยํ มสารคลฺลมเย, มสารคลฺลมยํ โลหิตงฺคมเย, โลหิตงฺคมยํ, สุวณฺณมเย, สุวณฺณมยํ รชตมเย, รชตมยํ ทนฺตมเย, ทนฺตมยํ สารมเย, สารมยํ สมุคฺคํ เปฬาย ปกฺขิปิตฺวา เปฬํ ทุสฺเสน เวเตฺวา ลฺเฉตฺวา มตฺตวรวารณํ โสวณฺณทฺธชํ โสวณฺณาลงฺการ เหมชาลสฺฉนฺนํ กาเรตฺวา ตสฺสุปริ ปลฺลงฺกํ ปฺาเปตฺวา ปลฺลงฺเก เปฬํ อาโรเปตฺวา เสตจฺฉตฺเตน ธาริยมาเนน สพฺพคนฺธปุปฺผาทีหิ ปูชาย กริยมานาย สพฺพตาฬาวจเรหิ ถุติสตานิ คายมาเนหิ ยาว อตฺตโน รชฺชสีมา, ตาว มคฺคํ อลงฺการาเปตฺวา สยเมว เนสิ. ตตฺร จ ตฺวา สามนฺตราชูนํ ปณฺณาการํ เปเสสิ – ‘‘เอวํ สกฺกโรนฺเตหิ อยํ ปณฺณากาโร เปเสตพฺโพ’’ติ . ตํ สุตฺวา เต เต ราชาโน ปฏิมคฺคํ อาคนฺตฺวา ยาว กฏฺวาหนสฺส รชฺชสีมา, ตาว นยึสุ.

กฏฺวาหโนปิ สุตฺวา ปฏิมคฺคํ อาคนฺตฺวา ตเถว ปูเชนฺโต นครํ ปเวเสตฺวา อมจฺเจ จ นาคเร จ สนฺนิปาตาเปตฺวา ราชงฺคเณ ปลิเวนทุสฺสํ อปเนตฺวา เปฬํ วิวริตฺวา เปฬาย สมุคฺคํ ปสฺสิตฺวา อนุปุพฺเพน สพฺพสมุคฺเค วิวริตฺวา สุวณฺณปฏฺเฏ เลขํ ปสฺสิตฺวา ‘‘กปฺปสตสหสฺเสหิ อติทุลฺลภํ มม สหาโย ปณฺณาการรตนํ เปเสสี’’ติ อตฺตมโน หุตฺวา ‘‘อสุตปุพฺพํ วต สุณิมฺหา ‘พุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน’ติ, ยํนูนาหํ คนฺตฺวา พุทฺธฺจ ปสฺเสยฺยํ ธมฺมฺจ สุเณยฺย’’นฺติ จินฺเตตฺวา อมจฺเจ อามนฺเตสิ – ‘‘พุทฺธธมฺมสงฺฆรตนานิ กิร โลเก อุปฺปนฺนานิ, กึ กาตพฺพํ มฺถา’’ติ . เต อาหํสุ – ‘‘อิเธว ตุมฺเห, มหาราช, โหถ, มยํ คนฺตฺวา ปวตฺตึ ชานิสฺสามา’’ติ.

ตโต โสฬสสหสฺสปริวารา โสฬส อมจฺจา ราชานํ อภิวาเทตฺวา ‘‘ยทิ พุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน ปุน ทสฺสนํ นตฺถิ, ยทิ น อุปฺปนฺโน, อาคมิสฺสามา’’ติ นิคฺคตา. รฺโ ปน ภาคิเนยฺโย ปจฺฉา ราชานํ วนฺทิตฺวา ‘‘อหมฺปิ คจฺฉามี’’ติ อาห. ตาต, ตฺวํ ตตฺถ พุทฺธุปฺปาทํ ตฺวา ปุน อาคนฺตฺวา มม อาโรเจหีติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อคมาสิ. เต สพฺเพปิ สพฺพตฺถ เอกรตฺติวาเสน คนฺตฺวา พาราณสึ ปตฺตา. อสมฺปตฺเตสฺเวว จ เตสุ ภควา ปรินิพฺพายิ. เต ‘‘โก พุทฺโธ, กุหึ พุทฺโธ’’ติ สกลวิหารํ อาหิณฺฑนฺตา สมฺมุขสาวเก ทิสฺวา ปุจฺฉึสุ. เต เนสํ ‘‘พุทฺโธ ปรินิพฺพุโต’’ติ อาจิกฺขึสุ. เต ‘‘อโห ทูรทฺธานํ อาคนฺตฺวา ทสฺสนมตฺตมฺปิ น ลภิมฺหา’’ติ ปริเทวมานา ‘‘กึ, ภนฺเต, โกจิ ภควตา ทินฺนโอวาโท อตฺถี’’ติ ปุจฺฉึสุ. อาม, อุปาสกา อตฺถิ, สรณตฺตเย ปติฏฺาตพฺพํ, ปฺจสีลานิ สมาทาตพฺพานิ, อฏฺงฺคสมนฺนาคโต อุโปสโถ อุปวสิตพฺโพ, ทานํ ทาตพฺพํ, ปพฺพชิตพฺพนฺติ. เต สุตฺวา ตํ ภาคิเนยฺยํ อมจฺจํ เปตฺวา สพฺเพ ปพฺพชึสุ. ภาคิเนยฺโย ปริโภคธาตุํ คเหตฺวา กฏฺวาหนรฏฺาภิมุโข ปกฺกามิ. ปริโภคธาตุ นาม โพธิรุกฺขปตฺตจีวราทีนิ. อยํ ปน ภควโต ธมฺมกรณํ ธมฺมธรํ วินยธรเมกํ เถรฺจ คเหตฺวา ปกฺกามิ, อนุปุพฺเพน จ นครํ คนฺตฺวา ‘‘พุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน จ ปรินิพฺพุตฺโต จา’’ติ รฺโ อาโรเจตฺวา ภควตา ทินฺโนวาทํ อาจิกฺขิ. ราชา เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา วิหารํ การาเปตฺวา เจติยํ ปติฏฺาเปตฺวา โพธิรุกฺขํ โรเปตฺวา สรณตฺตเย ปฺจสุ จ นิจฺจสีเลสุ ปติฏฺาย อฏฺงฺคุเปตํ อุโปสถํ อุปวสนฺโต ทานาทีนิ เทนฺโต ยาวตายุกํ ตฺวา กามาวจรเทวโลเก นิพฺพตฺติ. เตปิ โสฬสสหสฺสา ปพฺพชิตฺวา ปุถุชฺชนกาลกิริยํ กตฺวา ตสฺเสว รฺโ ปริวารา สมฺปชฺชึสุ.

เต เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทวโลเก เขเปตฺวา อมฺหากํ ภควติ อนุปฺปนฺเนเยว เทวโลกโต จวิตฺวา อาจริโย ปเสนทิรฺโ ปิตุ ปุโรหิตสฺส ปุตฺโต ชาโต นาเมน ‘‘พาวรี’’ติ, ตีหิ มหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต ติณฺณํ เวทานํ ปารคู, ปิตุโน จ อจฺจเยน ปุโรหิตฏฺาเน อฏฺาสิ. อวเสสาปิ โสฬสาธิกโสฬสสหสฺสา ตตฺเถว สาวตฺถิยา พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺตา. เตสุ โสฬส เชฏฺนฺเตวาสิโน พาวริสฺส สนฺติเก สิปฺปํ อุคฺคเหสุํ, อิตเร โสฬสสหสฺสา เตสํเยว สนฺติเกติ เอวํ เต ปุนปิ สพฺเพ สมาคจฺฉึสุ. มหาโกสลราชาปิ กาลมกาสิ, ตโต ปเสนทึ รชฺเช อภิสิฺจึสุ. พาวรี ตสฺสาปิ ปุโรหิโต อโหสิ. ราชา ปิตรา ทินฺนฺจ อฺฺจ โภคํ พาวริสฺส อทาสิ. โส หิ ทหรกาเล ตสฺเสว สนฺติเก สิปฺปํ อุคฺคเหสิ. ตโต พาวรี รฺโ อาโรเจสิ – ‘‘ปพฺพชิสฺสามหํ, มหาราชา’’ติ. ‘‘อาจริย, ตุมฺเหสุ ิเตสุ มม ปิตา ิโต วิย โหติ, มา ปพฺพชิตฺถา’’ติ. ‘‘อลํ, มหาราช, ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. ราชา วาเรตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘สายํ ปาตํ มม ทสฺสนฏฺาเน ราชุยฺยาเน ปพฺพชถา’’ติ ยาจิ. อาจริโย โสฬสสหสฺสปริวาเรหิ โสฬสหิ สิสฺเสหิ สทฺธึ ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ราชุยฺยาเน วสิ, ราชา จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺหติ. สายํ ปาตฺจสฺส อุปฏฺานํ คจฺฉติ.

อเถกทิวสํ อนฺเตวาสิโน อาจริยํ อาหํสุ – ‘‘นครสมีเป วาโส นาม มหาปลิโพโธ, วิชนสมฺปาตํ อาจริย โอกาสํ คจฺฉาม, ปนฺตเสนาสนวาโส นาม พหูปกาโร ปพฺพชิตาน’’นฺติ. อาจริโย ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ติกฺขตฺตุํ วาเรตฺวา วาเรตุํ อสกฺโกนฺโต ทฺเวสตสหสฺสานิ กหาปณานิ ทตฺวา ทฺเว อมจฺเจ อาณาเปสิ ‘‘ยตฺถ อิสิคโณ วาสํ อิจฺฉติ, ตตฺถ อสฺสมํ กตฺวา เทถา’’ติ. ตโต อาจริโย โสฬสาธิกโสฬสสหสฺสชฏิลปริวุโต อมจฺเจหิ อนุคฺคหมาโน อุตฺตรชนปทา ทกฺขิณชนปทาภิมุโข อคมาสิ. ตมตฺถํ คเหตฺวา อายสฺมา อานนฺโท สงฺคีติกาเล ปารายนวคฺคสฺส นิทานํ อาโรเปนฺโต อิมา คาถาโย อภาสิ.

ตตฺถ โกสลานํ ปุราติ โกสลรฏฺสฺส นครา, สาวตฺถิโตติ วุตฺตํ โหติ. อากิฺจฺนฺติ อกิฺจนภาวํ, ปริคฺคหูปกรณวิเวกนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๙๘๔. โส อสฺสกสฺส วิสเย, อฬกสฺส สมาสเนติ โส พฺราหฺมโณ อสฺสกสฺส จ อฬกสฺส จาติ ทฺวินฺนมฺปิ ราชูนํ สมาสนฺเน วิสเย อาสนฺเน รฏฺเ, ทฺวินฺนมฺปิ รฏฺานํ มชฺเฌติ อธิปฺปาโย. โคธาวรี กูเลติ โคธาวริยา นทิยา กูเล. ยตฺถ โคธาวรี ทฺวิธา ภิชฺชิตฺวา ติโยชนปฺปมาณํ อนฺตรทีปมกาสิ สพฺพํ กปิฏฺวนสฺฉนฺนํ, ยตฺถ ปุพฺเพสรภงฺคาทโย วสึสุ, ตสฺมึ เทเสติ อธิปฺปาโย. โส กิร ตํ ปเทสํ ทิสฺวา ‘‘อยํ ปุพฺพสมณาลโย ปพฺพชิตสารุปฺป’’นฺติ อมจฺจานํ นิเวเทสิ. อมจฺจา ภูมิคฺคหณตฺถํ อสฺสกรฺโ สตสหสฺสํ, อฬกรฺโ สตสหสฺสํ อทํสุ. เต ตฺจ ปเทสํ อฺฺจ ทฺวิโยชนมตฺตนฺติ สพฺพมฺปิ ปฺจโยชนมตฺตํ ปเทสํ อทํสุ. เตสํ กิร รชฺชสีมนฺตเร โส ปเทโส โหติ. อมจฺจา ตตฺถ อสฺสมํ กาเรตฺวา สาวตฺถิโต จ อฺมฺปิ ธนํ อาหราเปตฺวา โคจรคามํ นิเวเสตฺวา อคมํสุ. อุฺเฉน จ ผเลน จาติ อุฺฉาจริยาย จ วนมูลผเลน จ. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ตสฺเสว อุปนิสฺสาย, คาโม จ วิปุโล อหู’’ติ.

๙๘๕. ตตฺถ ตสฺสาติ ตสฺส โคธาวรีกูลสฺส, ตสฺส วา พฺราหฺมณสฺส อุปโยคตฺเถ เจตํ สามิวจนํ, ตํ อุปนิสฺสายาติ อตฺโถ. ตโต ชาเตน อาเยน, มหายฺมกปฺปยีติ ตสฺมึ คาเม กสิกมฺมาทินา สตสหสฺสํ อาโย อุปฺปชฺชิ, ตํ คเหตฺวา กุฏุมฺพิกา รฺโ อสฺสกสฺส สนฺติกํ อคมํสุ ‘‘สาทิยตุ เทโว อาย’’นฺติ. โส ‘‘นาหํ สาทิยามิ, อาจริยสฺเสว อุปเนถา’’ติ อาห. อาจริโยปิ ตํ อตฺตโน อคฺคเหตฺวา ทานยฺํ อกปฺปยิ. เอวํ โส สํวจฺฉเร สํวจฺฉเร ทานมทาสิ.

๙๘๖. มหายฺนฺติ คาถายตฺโถ – โส เอวํ สํวจฺฉเร สํวจฺฉเร ทานยฺํ ยชนฺโต เอกสฺมึ สํวจฺฉเร ตํ มหายฺํ ยชิตฺวา ตโต คามา นิกฺขมฺม ปุน ปาวิสิ อสฺสมํ. ปวิฏฺโ จ ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา ‘‘สุฏฺุ ทินฺน’’นฺติ ทานํ อนุมชฺชนฺโต นิสีทิ. เอวํ ตสฺมึ ปฏิปวิฏฺมฺหิ ตรุณาย พฺราหฺมณิยา ฆเร กมฺมํ อกาตุกามาย ‘‘เอโส, พฺราหฺมณ, พาวรี โคธาวรีตีเร อนุสํวจฺฉรํ สตสหสฺสํ วิสฺสชฺเชติ, คจฺฉ ตโต ปฺจสตานิ ยาจิตฺวา ทาสึ เม อาเนหี’’ติ เปสิโต อฺโ อาคฺฉิ พฺราหฺมโณติ.

๙๘๗-๘. อุคฺฆฏฺฏปาโทติ มคฺคคมเนน ฆฏฺฏปาทตโล, ปณฺหิกาย วา ปณฺหิกํ, โคปฺผเกน วา โคปฺผกํ, ชณฺณุเกน วา ชณฺณุกํ อาหจฺจ ฆฏฺฏปาโท. สุขฺจ กุสลํ ปุจฺฉีติ สุขฺจ กุสลฺจ ปุจฺฉิ ‘‘กจฺจิ เต, พฺราหฺมณ, สุขํ, กจฺจิ กุสล’’นฺติ.

๙๘๙-๙๑. อนุชานาหีติ อนุมฺาหิ สทฺทหาหิ. สตฺตธาติ สตฺตวิเธน. อภิสงฺขริตฺวาติ โคมยวนปุปฺผกุสติณาทีนิ อาทาย สีฆํ สีฆํ พาวริสฺส อสฺสมทฺวารํ คนฺตฺวา โคมเยน ภูมึ อุปลิมฺปิตฺวา ปุปฺผานิ วิกิริตฺวา ติณานิ สนฺถริตฺวา วามปาทํ กมณฺฑลูทเกน โธวิตฺวา สตฺตปาทมตฺตํ คนฺตฺวา อตฺตโน ปาทตเล ปรามสนฺโต เอวรูปํ กุหนํ กตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. เภรวํ โส อกิตฺตยีติ ภยชนกํ วจนํ อกิตฺตยิ, ‘‘สเจ เม ยาจมานสฺสา’’ติ อิมํ คาถมภาสีติ อธิปฺปาโย. ทุกฺขิโตติ โทมนสฺสชาโต.

๙๙๒-๔. อุสฺสุสฺสตีติ ตสฺส ตํ วจนํ กทาจิ สจฺจํ ภเวยฺยาติ มฺมาโน สุสฺสติ . เทวตาติ อสฺสเม อธิวตฺถา เทวตา เอว. มุทฺธนิ มุทฺธปาเต วาติ มุทฺเธ วา มุทฺธปาเต วา.

๙๙๕-๖. โภตี จรหิ ชานาตีติ โภตี เจ ชานาติ. มุทฺธาธิปาตฺจาติ มุทฺธปาตฺจ. าณเมตฺถาติ าณํ เม เอตฺถ.

๙๙๘. ปุราติ เอกูนตึสวสฺสวยกาเล. พาวริพฺราหฺมเณ ปน โคธาวรีตีเร วสมาเน อฏฺนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน พุทฺโธ โลเก อุทปาทิ. อปจฺโจติ อนุวํโส.

๙๙๙. สพฺพาภิฺาพลปฺปตฺโตติ สพฺพาภิฺาย พลปฺปตฺโต, สพฺพา วา อภิฺาโย จ พลานิ จ ปตฺโต. วิมุตฺโตติ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺติยา วิมุตฺตจิตฺโต.

๑๐๐๑-๓. โสกสฺสาติ โสโก อสฺส. ปหูตปฺโติ มหาปฺโ. วรภูริเมธโสติ อุตฺตมวิปุลปฺโ ภูเต อภิรตวรปฺโ วา. วิธุโรติ วิคตธุโร, อปฺปฏิโมติ วุตฺตํ โหติ.

๑๐๐๔-๙. มนฺตปารเคติ เวทปารเค. ปสฺสวฺโหติ ปสฺสถ อชานตนฺติ อชานนฺตานํ. ลกฺขณาติ ลกฺขณานิ. พฺยากฺขาตาติ กถิตานิ, วิตฺถาริตานีติ วุตฺตํ โหติ. สมตฺตาติ สมตฺตานิ, ปริปุณฺณานีติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺเมน มนุสาสตีติ ธมฺเมน อนุสาสติ.

๑๐๑๑. ชาตึ โคตฺตฺจ ลกฺขณนฺติ ‘‘กีว จิรํ ชาโต’’ติ มม ชาติฺจ โคตฺตฺจ ลกฺขณฺจ. มนฺเต สิสฺเสติ มยา ปริจิตเวเท จ มม สิสฺเส จ. มนสาเยว ปุจฺฉถาติ อิเม สตฺต ปฺเห จิตฺเตเนว ปุจฺฉถ.

๑๐๑๓-๘. ติสฺสเมตฺเตยฺโยติ เอโกเยว เอส นามโคตฺตวเสน วุตฺโต. ทุภโยติ อุโภ. ปจฺเจกคณิโนติ วิสุํ วิสุํ คณวนฺโต. ปุพฺพวาสนวาสิตาติ ปุพฺเพ กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน ปพฺพชิตฺวา. คตปจฺจาคตวตฺตปุฺวาสนาย วาสิตจิตฺตา. ปุรมาหิสฺสตินฺติ มาหิสฺสตินามิกํ ปุรํ, นครนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตฺจ นครํ ปวิฏฺาติ อธิปฺปาโย, เอวํ สพฺพตฺถ. โคนทฺธนฺติ โคธปุรสฺส นามํ. วนสวฺหยนฺติ ปวนนครํ วุจฺจติ, ‘‘วนสาวตฺถิ’’นฺติ เอเก. เอวํ วนสาวตฺถิโต โกสมฺพึ, โกสมฺพิโต จ สาเกตํ อนุปฺปตฺตานํ กิร เตสํ โสฬสนฺนํ ชฏิลานํ ฉโยชนมตฺตา ปริสา อโหสิ.

๑๐๑๙. อถ ภควา ‘‘พาวริสฺส ชฏิลา มหาชนํ สํวฑฺเฒนฺตา อาคจฺฉนฺติ, น จ ตาว เนสํ อินฺทฺริยานิ ปริปากํ คจฺฉนฺติ, นาปิ อยํ เทโส สปฺปาโย, มคธเขตฺเต ปน เตสํ ปาสาณกเจติยํ สปฺปายํ. ตตฺร หิ มยิ ธมฺมํ เทเสนฺเต มหาชนสฺส ธมฺมาภิสมโย ภวิสฺสติ, สพฺพนครานิ จ ปวิสิตฺวา อาคจฺฉนฺตา พหุตเรน ชเนน อาคมิสฺสนฺตี’’ติ ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต สาวตฺถิโต ราชคหาภิมุโข อคมาสิ. เตปิ ชฏิลา สาวตฺถึ อาคนฺตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘โก พุทฺโธ, กุหึ พุทฺโธ’’ติ วิจินนฺตา คนฺธกุฏิมูลํ คนฺตฺวา ภควโต ปทนิกฺเขปํ ทิสฺวา ‘‘รตฺตสฺส หิ อุกฺกุฏิกํ ปทํ ภเว…เป… วิวฏฺฏจฺฉทสฺส อิทมีทิสํ ปท’’นฺติ (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๖๐-๒๖๑; ธ. ป. อฏฺ. ๑.๒๐ สามาวตีวตฺถุ; วิสุทฺธิ. ๑.๔๕) ‘‘สพฺพฺุ พุทฺโธ’’ติ นิฏฺํ คตา. ภควาปิ อนุปุพฺเพน เสตพฺยกปิลวตฺถุอาทีนิ นครานิ ปวิสิตฺวา มหาชนํ สํวฑฺเฒนฺโต ปาสาณกเจติยํ คโต. ชฏิลาปิ ตาวเทว สาวตฺถิโต นิกฺขมิตฺวา สพฺพานิ ตานิ นครานิ ปวิสิตฺวา ปาสาณกเจติยเมว อคมํสุ. เตน วุตฺตํ ‘‘โกสมฺพิฺจาปิ สาเกตํ, สาวตฺถิฺจ ปุรุตฺตมํ. เสตพฺยํ กปิลวตฺถุ’’นฺติอาทิ.

๑๐๒๐. ตตฺถ มาคธํ ปุรนฺติ มคธปุรํ ราชคหนฺติ อธิปฺปาโย. ปาสาณกํ เจติยนฺติ มหโต ปาสาณสฺส อุปริ ปุพฺเพ เทวฏฺานํ อโหสิ. อุปฺปนฺเน ปน ภควติ วิหาโร ชาโต. โส เตเนว ปุริมโวหาเรน ‘‘ปาสาณกํ เจติย’’นฺติ วุจฺจติ.

๑๐๒๑. ตสิโตวุทกนฺติ เต หิ ชฏิลา เวคสา ภควนฺตํ อนุพนฺธมานา สายํ คตมคฺคํ ปาโต, ปาโต คตมคฺคฺจ สายํ คจฺฉนฺตา ‘‘เอตฺถ ภควา’’ติ สุตฺวา อติวิย ปีติปาโมชฺชชาตา ตํ เจติยํ อภิรุหึสุ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตุริตา ปพฺพตมารุหุ’’นฺติ.

๑๐๒๔. เอกมนฺตํ ิโต หฏฺโติ ตสฺมึ ปาสาณเก เจติเย สกฺเกน มาปิตมหามณฺฑเป นิสินฺนํ ภควนฺตํ ทิสฺวา ‘‘กจฺจิ อิสโย ขมนีย’’นฺติอาทินา นเยน ภควตา ปฏิสมฺโมทนีเย กเต ‘‘ขมนียํ โภ โคตมา’’ติอาทีหิ สยมฺปิ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา อชิโต เชฏฺนฺเตวาสี เอกมนฺตํ ิโต หฏฺจิตฺโต หุตฺวา มโนปฺเห ปุจฺฉิ.

๑๐๒๕. ตตฺถ อาทิสฺสาติ ‘‘กติวสฺโส’’ติ เอวํ อุทฺทิสฺส. ชมฺมนนฺติ ‘‘อมฺหากํ อาจริยสฺส ชาตึ พฺรูหี’’ติ ปุจฺฉติ. ปารมินฺติ นิฏฺาคมนํ.

๑๐๒๖-๗. วีสํวสฺสสตนฺติ วีสติวสฺสาธิกํ วสฺสสตํ. ลกฺขเณติ มหาปุริสลกฺขเณ. เอตสฺมึ อิโต ปเรสุ จ อิติหาสาทีสุ อนวโยติ อธิปฺปาโย ปรปทํ วา อาเนตฺวา เตสุ ปารมึ คโตติ โยเชตพฺพํ. ปฺจสตานิ วาเจตีติ ปกติอลสทุมฺเมธมาณวกานํ ปฺจสตานิ สยํ มนฺเต วาเจติ. สธมฺเมติ เอเก พฺราหฺมณธมฺเม, เตวิชฺชเก ปาวจเนติ วุตฺตํ โหติ.

๑๐๒๘. ลกฺขณานํ ปวิจยนฺติ ลกฺขณานํ วิตฺถารํ, ‘‘กตมานิ ตานิสฺส คตฺเต ตีณิ ลกฺขณานี’’ติ ปุจฺฉติ.

๑๐๓๐-๓๑. ปุจฺฉฺหีติ ปุจฺฉมานํ กเมตํ ปฏิภาสตีติ เทวาทีสุ กํ ปุคฺคลํ เอตํ ปฺหวจนํ ปฏิภาสตีติ.

๑๐๓๒-๓๓. เอวํ พฺราหฺมโณ ปฺจนฺนํ ปฺหานํ เวยฺยากรณํ สุตฺวา อวเสเส ทฺเว ปุจฺฉนฺโต ‘‘มุทฺธํ มุทฺธาธิปาตฺจา’’ติ อาห. อถสฺส ภควา เต พฺยากโรนฺโต ‘‘อวิชฺชา มุทฺธา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ ยสฺมา จตูสุ สจฺเจสุ อฺาณภูตา อวิชฺชา สํสารสฺส สีสํ, ตสฺมา ‘‘อวิชฺชา มุทฺธา’’ติ อาห. ยสฺมา จ อรหตฺตมคฺควิชฺชา อตฺตนา สหชาเตหิ สทฺธาสติสมาธิกตฺตุกมฺยตาฉนฺทวีริเยหิ สมนฺนาคตา อินฺทฺริยานํ เอกรสฏฺภาวมุปคตตฺตา ตํ มุทฺธํ อธิปาเตติ, ตสฺมา ‘‘ธิชฺชา มุทฺธาธิปาตินี’’ติอาทิมาห.

๑๐๓๔-๘. ตโต เวเทน มหตาติ อถ อิมํ ปฺหเวยฺยากรณํ สุตฺวา อุปฺปนฺนาย มหาปีติยา สนฺถมฺภิตฺวา อลีนภาวํ, กายจิตฺตานํ อุทคฺคํ ปตฺวาติ อตฺโถ. ปติตฺวา จ ‘‘พาวรี’’ติ อิมํ คาถมาห. อถ นํ อนุกมฺปมาโน ภควา ‘‘สุขิโต’’ติ คาถมาห. วตฺวา จ ‘‘พาวริสฺส จา’’ติ สพฺพฺุปวารณํ ปวาเรสิ. ตตฺถ สพฺเพสนฺติ อนวเสสานํ โสฬสสหสฺสานํ. ตตฺถ ปุจฺฉิ ตถาคตนฺติ ตตฺถ ปาสาณเก เจติเย, ตตฺถ วา ปริสาย, เตสุ วา ปวาริเตสุ อชิโต ปมํ ปฺหํ ปุจฺฉีติ. เสสํ สพฺพคาถาสุ ปากฏเมวาติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย วตฺถุคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑. อชิตสุตฺตวณฺณนา

๑๐๓๙. ตสฺมึ ปน ปฺเห นิวุโตติ ปฏิจฺฉาทิโต. กิสฺสาภิเลปนํ พฺรูสีติ กึ อสฺส โลกสฺส อภิเลปนํ วเทสิ.

๑๐๔๐. เววิจฺฉา ปมาทา นปฺปกาสตีติ มจฺฉริยเหตุ จ ปมาทเหตุ จ นปฺปกาสติ. มจฺฉริยํ หิสฺส ทานาทิคุเณหิ ปกาสิตุํ น เทติ, ปมาโท สีลาทีหิ. ชปฺปาภิเลปนนฺติ ตณฺหา อสฺส โลกสฺส มกฺกฏเลโป วิย มกฺกฏสฺส อภิเลปนํ. ทุกฺขนฺติ ชาติอาทิกํ ทุกฺขํ.

๑๐๔๑. สวนฺติ สพฺพธิ โสตาติ สพฺเพสุ รูปาทิอายตเนสุ ตณฺหาทิกา โสตา สนฺทนฺติ. กึ นิวารณนฺติ เตสํ กึ อาวรณํ กา รกฺขาติ? สํวรํ พฺรูหีติ ตํ เตสํ นิวารณสงฺขาตํ สํวรํ พฺรูหิ. เอเตน สาวเสสปฺปหานํ ปุจฺฉติ. เกน โสตา ปิธิยฺยเรติ เกน ธมฺเมน เอเต โสตา ปิธิยฺยนฺติ ปจฺฉิชฺชนฺติ. เอเตน อนวเสสปฺปหานํ ปุจฺฉติ.

๑๐๔๒. สติ เตสํ นิวารณนฺติ วิปสฺสนายุตฺตา. กุสลานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเนสมานา สติ เตสํ โสตานํ นิวารณํ. โสตานํ สํวรํ พฺรูมีติ ตเมวาหํ สตึ โสตานํ สํวรํ พฺรูมีติ อธิปฺปาโย. ปฺาเยเต ปิธิยฺยเรติ รูปาทีสุ ปน อนิจฺจตาทิปฏิเวธสาธิกาย มคฺคปฺาย เอเต โสตา สพฺพโส ปิธิยฺยนฺตีติ.

๑๐๔๓. ปฺา เจวาติ ปฺหคาถาย, ยา จายํ ตยา วุตฺตา ปฺา ยา จ สติ, ยฺจ ตทวเสสํ นามรูปํ, เอตํ สพฺพมฺปิ กตฺถ นิรุชฺฌติ, เอตํ เม ปฺหํ ปุฏฺโ พฺรูหีติ เอวํ สงฺเขปตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๑๐๔๔. วิสฺสชฺชนคาถาย ปนสฺส ยสฺมา ปฺาสติโย นาเมเนว สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, ตสฺมา ตา วิสุํ น วุตฺตา. อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ยํ มํ ตฺวํ, อชิต, เอตํ ปฺหํ อปุจฺฉิ ‘‘กตฺเถตํ อุปรุชฺฌตี’’ติ, ตํ เต ยตฺถ นามฺจ รูปฺจ อเสสํ อุปรุชฺฌติ, ตํ วทนฺโต วทามิ, ตสฺส, ตสฺส หิ วิฺาณสฺส นิโรเธน สเหว อปุพฺพํ อจริมํ เอตฺเถตํ อุปรุชฺฌติ. เอตฺเถว วิฺาณนิโรเธ นิรุชฺฌติ เอตํ, วิฺาณนิโรธา ตสฺส นิโรโธ โหติ. ตํ นาติวตฺตตีติ วุตฺตํ โหติ.

๑๐๔๕. เอตฺตาวตา จ ‘‘ทุกฺขมสฺส มหพฺภย’’นฺติ อิมินา ปกาสิตํ ทุกฺขสจฺจํ, ‘‘ยานิ โสตานี’’ติ อิมินา สมุทยสจฺจํ ปฺาเยเต ปิธิยฺยเรติ อิมินา มคฺคสจฺจํ, ‘‘อเสสํ อุปรุชฺฌตี’’ติ อิมินา นิโรธสจฺจนฺติ เอวํ จตฺตาริ สจฺจานิ สุตฺวาปิ อริยภูมึ อนธิคโต ปุน เสขาเสขปฏิปทํ ปุจฺฉนฺโต ‘‘เย จ สงฺขาตธมฺมาเส’’ติ คาถมาห. ตตฺถ สงฺขาตธมฺมาติ อนิจฺจาทิวเสน ปริวีมํสิตธมฺมา, อรหตํ เอตํ อธิวจนํ. เสขาติ สีลาทีนิ สิกฺขมานา อวเสสา อริยปุคฺคลา. ปุถูติ พหู สตฺตชนา. เตสํ เม นิปโก อิริยํ ปุฏฺโ ปพฺรูหีติ เตสํ เม เสขาเสขานํ นิปโก ปณฺฑิโต ตฺวํ ปุฏฺโ ปฏิปตฺตึ พฺรูหีติ.

๑๐๔๖. อถสฺส ภควา ยสฺมา เสเขน กามจฺฉนฺทนีวรณํ อาทึ กตฺวา สพฺพกิเลสา ปหาตพฺพา เอว, ตสฺมา ‘‘กาเมสู’’ติ อุปฑฺฒคาถาย เสขปฏิปทํ ทสฺเสติ. ตสฺสตฺโถ – วตฺถุ ‘‘กาเมสุ’’ กิเลสกาเมน นาภิคิชฺเฌยฺย กายทุจฺจริตาทโย จ มนโส อาวิลภาวกเร ธมฺเม ปชหนฺโต มนสา นาวิโล สิยาติ. ยสฺมา ปน อเสโข อนิจฺจาทิวเสน สพฺพสงฺขาราทีนํ ปริตุลิตตฺตา กุสโล สพฺพธมฺเมสุ กายานุปสฺสนาสติอาทีหิ จ สโต สกฺกายทิฏฺิอาทีนํ ภินฺนตฺตา ภิกฺขุภาวํ ปตฺโต จ หุตฺวา สพฺพิริยาปเถสุ ปริพฺพชติ, ตสฺมา ‘‘กุสโล’’ติ อุปฑฺฒคาถาย อเสขปฏิปทํ ทสฺเสติ. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.

เอวํ ภควา อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ, เทสนาปริโยสาเน อชิโต อรหตฺเต ปติฏฺาสิ สทฺธึ อนฺเตวาสิสหสฺเสน, อฺเสฺจ อเนกสหสฺสานํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ. สห อรหตฺตปฺปตฺติยา จ อายสฺมโต อชิตสฺส อนฺเตวาสิสหสฺสสฺส จ อชินชฏาวากจีราทีนิ อนฺตรธายึสุ. สพฺเพว อิทฺธิมยปตฺตจีวรธรา, ทฺวงฺคุลเกสา เอหิภิกฺขู หุตฺวา ภควนฺตํ นมสฺสมานา ปฺชลิกา นิสีทึสูติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย อชิตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ติสฺสเมตฺเตยฺยสุตฺตวณฺณนา

๑๐๔๗. โกธสนฺตุสฺสิโตติ ติสฺสเมตฺเตยฺยสุตฺตํ. กา อุปฺปตฺติ? สพฺพสุตฺตานํ ปุจฺฉาวสิกา เอว อุปฺปตฺติ. เต หิ พฺราหฺมณา ‘‘กตาวกาสา ปุจฺฉวฺโห’’ติ ภควตา ปวาริตตฺตา อตฺตโน อตฺตโน สํสยํ ปุจฺฉึสุ. ปุฏฺโ ปุฏฺโ จ เตสํ ภควา พฺยากาสิ. เอวํ ปุจฺฉาวสิกาเนเวตานิ สุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ.

นิฏฺิเต ปน อชิตปฺเห ‘‘กถํ โลกํ อเวกฺขนฺตํ, มจฺจุราชา น ปสฺสตี’’ติ (สุ. นิ. ๑๑๒๔; จูฬนิ. ปิงฺคิยมาณวปุจฺฉา ๑๔๔) เอวํ โมฆราชา ปุจฺฉิตุํ อารภิ. ตํ ‘‘น ตาวสฺส อินฺทฺริยานิ ปริปากํ คตานี’’ติ ตฺวา ภควา ‘‘ติฏฺ ตฺวํ, โมฆราช, อฺโ ปุจฺฉตู’’ติ ปฏิกฺขิปิ. ตโต ติสฺสเมตฺเตยฺโย อตฺตโน สํสยํ ปุจฺฉนฺโต ‘‘โกธา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ โกธ สนฺตุสฺสิโตติ โก อิธ ตุฏฺโ. อิฺชิตาติ ตณฺหาทิฏฺิวิปฺผนฺทิตานิ. อุภนฺตมภิฺายาติ อุโภ อนฺเต อภิชานิตฺวา. มนฺตา น ลิปฺปตีติ ปฺาย น ลิปฺปติ.

๑๐๔๘-๙. ตสฺเสตมตฺถํ พฺยากโรนฺโต ภควา ‘‘กาเมสู’’ติ คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ กาเมสุ พฺรหฺมจริยวาติ กามนิมิตฺตํ พฺรหฺมจริยวา, กาเมสุ อาทีนวํ ทิสฺวา มคฺคพฺรหฺมจริเยน สมนฺนาคโตติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺตาวตา สนฺตุสิตํ ทสฺเสติ, ‘‘วีตตณฺโห’’ติอาทีหิ อนิฺชิตํ . ตตฺถ สงฺขาย นิพฺพุโตติ อนิจฺจาทิวเสน ธมฺเม วีมํสิตฺวา ราคาทินิพฺพาเนน นิพฺพุโต. เสสํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนยตฺตา ปากฏเมว.

เอวํ ภควา อิมมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน อยมฺปิ พฺราหฺมโณ อรหตฺเต ปติฏฺาสิ สทฺธึ อนฺเตวาสิสหสฺเสน, อฺเสฺจ อเนกสหสฺสานํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ. เสสํ ปุพฺพสทิสเมวาติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย ติสฺสเมตฺเตยฺยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปุณฺณกสุตฺตวณฺณนา

๑๐๕๐. อเนชนฺติ ปุณฺณกสุตฺตํ. อิมมฺปิ ปุริมนเยเนว โมฆราชานํ ปฏิกฺขิปิตฺวา วุตฺตํ. ตตฺถ มูลทสฺสาวินฺติ อกุสลมูลาทิทสฺสาวึ. อิสโยติ อิสินามกา ชฏิลา. ยฺนฺติ เทยฺยธมฺมํ. อกปฺปยึสูติ ปริเยสนฺติ.

๑๐๕๑. อาสีสมานาติ รูปาทีนิ ปตฺถยมานา. อิตฺถตฺตนฺติ อิตฺถภาวฺจ ปตฺถยมานา, มนุสฺสาทิภาวํ อิจฺฉนฺตาติ วุตฺตํ โหติ. ชรํ สิตาติ ชรํ นิสฺสิตา. ชรามุเขน เจตฺถ สพฺพวฏฺฏทุกฺขํ วุตฺตํ. เตน วฏฺฏทุกฺขนิสฺสิตา ตโต อปริมุจฺจมานา เอว กปฺปยึสูติ ทีเปติ.

๑๐๕๒. กจฺจิสฺสุ เต ภควา ยฺปเถ อปฺปมตฺตา, อตารุํ ชาติฺจ ชรฺจ มาริสาติ เอตฺถ ยฺโเยว ยฺปโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กจฺจิ เต ยฺเ อปฺปมตฺตา หุตฺวา ยฺํ กปฺปยนฺตา วฏฺฏทุกฺขมตรึสูติ.

๑๐๕๓. อาสีสนฺตีติ รูปปฏิลาภาทโย ปตฺเถนฺติ. โถมยนฺตีติ ‘‘สุยิฏฺํ สุจิ ทินฺน’’นฺติอาทินา นเยน ยฺาทีนิ ปสํสนฺติ. อภิชปฺปนฺตีติ รูปาทิปฏิลาภาย วาจํ ภินฺทนฺติ. ชุหนฺตีติ เทนฺติ. กามาภิชปฺปนฺติ ปฏิจฺจ ลาภนฺติ รูปาทิปฏิลาภํ ปฏิจฺจ ปุนปฺปุนํ กาเม เอว อภิชปฺปนฺติ, ‘‘อโห วต อมฺหากํ สิยุ’’นฺติ วทนฺติ, ตณฺหฺจ ตตฺถ วฑฺเฒนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ยาชโยคาติ ยาคาธิมุตฺตา. ภวราครตฺตาติ เอวมิเมหิ อาสีสนาทีหิ ภวราเคเนว รตฺตา, ภวราครตฺตา วา หุตฺวา เอตานิ อาสีสนาทีนิ กโรนฺตา นาตรึสุ ชาติอาทิวฏฺฏทุกฺขํ น อุตฺตรึสูติ.

๑๐๕๔-๕. อถโกจรหีติ อถ อิทานิ โก อฺโ อตารีติ. สงฺขายาติ าเณน วีมํสิตฺวา. ปโรปรานีติ ปรานิ จ โอรานิ จ, ปรตฺตภาวสกตฺตภาวาทีนิ ปรานิ จ โอรานิ จาติ วุตฺตํ โหติ. วิธูโมติ กายทุจฺจริตาทิธูมวิรหิโต. อนีโฆติ ราคาทิอีฆวิรหิโต . อตาริ โสติ โส เอวรูโป อรหา ชาติชรํ อตาริ. เสสเมตฺถ ปากฏเมว.

เอวํ ภควา อิมมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน อยมฺปิ พฺราหฺมโณ อรหตฺเต ปติฏฺาสิ สทฺธึ อนฺเตวาสิสหสฺเสน, อฺเสฺจ อเนกสตานํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ. เสสํ วุตฺตสทิสเมวาติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย ปุณฺณกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. เมตฺตคูสุตฺตวณฺณนา

๑๐๕๖. ปุจฺฉามินฺติ เมตฺตคุสุตฺตํ. ตตฺถ มฺามิ ตํ เวทคุํ ภาวิตตฺตนฺติ ‘‘อยํ เวทคู’’ติ จ ‘‘ภาวิตตฺโต’’ติ จ เอวํ ตํ มฺามิ.

๑๐๕๗. อปุจฺฉสีติ เอตฺถ -อิติ ปทปูรณมตฺเต นิปาโต, ปุจฺฉสิจฺเจว อตฺโถ. ปวกฺขามิ ยถา ปชานนฺติ ยถา ปชานนฺโต อาจิกฺขติ, เอวํ อาจิกฺขิสฺสามิ. อุปธินิทานา ปภวนฺติ ทุกฺขาติ ตณฺหาทิอุปธินิทานา ชาติอาทิทุกฺขวิเสสา ปภวนฺติ.

๑๐๕๘. เอวํ อุปธินิทานโต ปภวนฺเตสุ ทุกฺเขสุ – โย เว อวิทฺวาติ คาถา. ตตฺถ ปชานนฺติ สงฺขาเร อนิจฺจาทิวเสน ชานนฺโต. ทุกฺขสฺสชาติปฺปภวานุปสฺสีติ วฏฺฏทุกฺขสฺส ชาติการณํ ‘‘อุปธี’’ติ อนุปสฺสนฺโต.

๑๐๕๙. โสกปริทฺทวฺจาติ โสกฺจ ปริเทวฺจ. ตถา หิ เต วิทิโต เอส ธมฺโมติ ยถา ยถา สตฺตา ชานนฺติ, ตถา ตถา ปฺาปนวเสน วิทิโต เอส ธมฺโมติ.

๑๐๖๐-๖๑. กิตฺตยิสฺสามิ เต ธมฺมนฺติ นิพฺพานธมฺมํ นิพฺพานคามินิปฏิปทาธมฺมฺจ เต เทสยิสฺสามิ. ทิฏฺเ ธมฺเมติ ทิฏฺเ ทุกฺขาทิธมฺเม, อิมสฺมึเยว วา อตฺตภาเว. อนีติหนฺติ อตฺตปจฺจกฺขํ. ยํ วิทิตฺวาติ ยํ ธมฺมํ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติอาทินา นเยน สมฺมสนฺโต วิทิตฺวา. ตฺจาหํ อภินนฺทามีติ ตํ วุตฺตปการธมฺมโชตกํ ตว วจนํ อหํ ปตฺถยามิ. ธมฺมมุตฺตมนฺติ ตฺจ ธมฺมมุตฺตมํ อภินนฺทามีติ.

๑๐๖๒. อุทฺธํอโธ ติริยฺจาปิ มชฺเฌติ เอตฺถ อุทฺธนฺติ อนาคตทฺธา วุจฺจติ, อโธติ อตีตทฺธา, ติริยฺจาปิ มชฺเฌติ ปจฺจุปฺปนฺนทฺธา. เอเตสุ นนฺทิฺจ นิเวสนฺจ, ปนุชฺช วิฺาณนฺติ เอเตสุ อุทฺธาทีสุ ตณฺหฺจ ทิฏฺินิเวสนฺจ อภิสงฺขารวิฺาณฺจ ปนุเทหิ, ปนุทิตฺวา จ ภเว น ติฏฺเ, เอวํ สนฺเต ทุวิเธปิ ภเว น ติฏฺเยฺย. เอวํ ตาว ปนุชฺชสทฺทสฺส ปนุเทหีติ อิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป สมฺพนฺโธ, ปนุทิตฺวาติ เอตสฺมึ ปน อตฺถวิกปฺเป ภเว น ติฏฺเติ อยเมว สมฺพนฺโธ. เอตานิ นนฺทินิเวสนวิฺาณานิ ปนุทิตฺวา ทุวิเธปิ ภเว น ติฏฺเยฺยาติ วุตฺตํ โหติ.

๑๐๖๓-๔. เอตานิ วิโนเทตฺวา ภเว อติฏฺนฺโต เอโส – เอวํวิหารีติ คาถา. ตตฺถ อิเธวาติ อิมสฺมึเยว สาสเน, อิมสฺมึเยว วา อตฺตภาเว. สุกิตฺติตํ โคตมนูปธีกนฺติ เอตฺถ อนุปธิกนฺติ นิพฺพานํ. ตํ สนฺธาย ภควนฺตํ อาลปนฺโต อาห – ‘‘สุกิตฺติตํ โคตมนูปธีก’’นฺติ.

๑๐๖๕. น เกวลํ ทุกฺขเมว ปหาสิ – เต จาปีติ คาถา. ตตฺถ อฏฺิตนฺติ สกฺกจฺจํ, สทา วา. ตํ ตํ นมสฺสามีติ ตสฺมา ตํ นมสฺสามิ. สเมจฺจาติ อุปคนฺตฺวา. นาคาติ ภควนฺตํ อาลปนฺโต อาห.

๑๐๖๖. อิทานิ ตํ ภควา ‘‘อทฺธา หิ ภควา ปหาสิ ทุกฺข’’นฺติ เอวํ เตน พฺราหฺมเณน วิทิโตปิ อตฺตานํ อนุปเนตฺวาว ปหีนทุกฺเขน ปุคฺคเลน โอวทนฺโต ‘‘ยํ พฺราหฺมณ’’นฺติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ยํ ตฺวํ อภิชานนฺโต ‘‘อยํ พาหิตปาปตฺตา พฺราหฺมโณ, เวเทหิ คตตฺตา เวทคู, กิฺจนาภาเวน อกิฺจโน, กาเมสุ จ ภเวสุ จ อสตฺตตฺตา กามภเว อสตฺโต’’ติ ชฺา ชาเนยฺยาสิ. อทฺธา หิ โส อิมํ โอฆํ อตาริ, ติณฺโณ จ ปารํ อขิโล อกงฺโข.

๑๐๖๗. กิฺจ ภิยฺโย – วิทฺวา จ โยติ คาถา. ตตฺถ อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน, อตฺตภาเว วา. วิสชฺชาติ โวสฺสชฺชิตฺวา. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.

เอวํ ภควา อิมมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน จ วุตฺตสทิโส เอว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย เมตฺตคูสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. โธตกสุตฺตวณฺณนา

๑๐๖๘-๙. ปุจฺฉามินฺติ โธตกสุตฺตํ. ตตฺถ วาจาภิกงฺขามีติ วาจํ อภิกงฺขามิ. สิกฺเข นิพฺพานมตฺตโนติ อตฺตโน ราคาทีนํ นิพฺพานตฺถาย อธิสีลาทีนิ สิกฺเขยฺย. อิโตติ มม มุขโต.

๑๐๗๐. เอวํ วุตฺเต อตฺตมโน โธตโก ภควนฺตํ อภิตฺถวมาโน กถํกถาปโมกฺขํ ยาจนฺโต ‘‘ปสฺสามห’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ ปสฺสามหํ เทวมนุสฺสโลเกติ ปสฺสามิ อหํ เทวมนุสฺสโลเก. ตํ ตํ นมสฺสามีติ ตํ เอวรูปํ นมสฺสามิ. ปมุฺจาติ ปโมเจหิ.

๑๐๗๑. อถสฺส ภควา อตฺตาธีนเมว กถํกถาปโมกฺขํ โอฆตรณมุเขน ทสฺเสนฺโต ‘‘นาห’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ นาหํ สหิสฺสามีติ อหํ น สหิสฺสามิ น สกฺขิสฺสามิ, น วายมิสฺสามีติ วุตฺตํ โหติ. ปโมจนายาติ ปมาเจตุํ. กถํกถินฺติ สกงฺขํ. ตเรสีติ ตเรยฺยาสิ.

๑๐๗๒-๕. เอวํ วุตฺเต อตฺตมนตโร โธตโก ภควนฺตํ อภิตฺถวมาโน อนุสาสนึ ยาจนฺโต ‘‘อนุสาส พฺรหฺเม’’ติ คาถมาห. ตตฺถ พฺรหฺมาติ เสฏฺวจนเมตํ. เตน ภควนฺตํ อามนฺตยมาโน อาห – ‘‘อนุสาส พฺรหฺเม’’ติ . วิเวกธมฺมนฺติ สพฺพสงฺขารวิเวกนิพฺพานธมฺมํ. อพฺยาปชฺชมาโนติ นานปฺปการตํ อนาปชฺชมาโน. อิเธว สนฺโตติ อิเธว สมาโน. อสิโตติ อนิสฺสิโต. อิโต ปรา ทฺเว คาถา เมตฺตคุสุตฺเต วุตฺตนยา เอว. เกวลฺหิ ตตฺถ ธมฺมํ, อิธ สนฺตินฺติ อยํ วิเสโส. ตติยคาถายปิ ปุพฺพฑฺฒํ ตตฺถ วุตนยเมว อปรฑฺเฒ สงฺโคติ สชฺชนฏฺานํ, ลคฺคนนฺติ วุตฺตํ โหติ. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.

เอวํ ภควา อิมมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน จ วุตฺตสทิโส เอว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย โธตกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อุปสีวสุตฺตวณฺณนา

๑๐๗๖. เอโกอหนฺติ อุปสีวสุตฺตํ. ตตฺถ มหนฺตโมฆนฺติ มหนฺตํ โอฆํ. อนิสฺสิโตติ ปุคฺคลํ วา ธมฺมํ วา อนิสฺสิโต. โน วิสหามีติ น สกฺโกมิ. อารมฺมณนฺติ นิสฺสยํ. ยํ นิสฺสิโตติ ยํ ปุคฺคลํ วา ธมฺมํ วา นิสฺสิโต.

๑๐๗๗. อิทานิ ยสฺมา โส พฺราหฺมโณ อากิฺจฺายตนลาภี ตฺจ สนฺตมฺปิ นิสฺสยํ น ชานาติ, เตนสฺส ภควา ตฺจ นิสฺสยํ อุตฺตริ จ นิยฺยานปถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อากิฺจฺ’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ เปกฺขมาโนติ ตํ อากิฺจฺายตนสมาปตฺตึ สโต สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺหิตฺวา จ อนิจฺจาทิวเสน ปสฺสมาโน. นตฺถีติ นิสฺสายาติ ตํ ‘‘นตฺถิ กิฺจี’’ติ ปวตฺตสมาปตฺตึ อารมฺมณํ กตฺวา. ตรสฺสุ โอฆนฺติ ตโต ปภุติ ปวตฺตาย วิปสฺสนาย ยถานุรูปํ จตุพฺพิธมฺปิ โอฆํ ตรสฺสุ. กถาหีติ กถํกถาหิ. ตณฺหกฺขยํ นตฺตมหาภิปสฺสาติ รตฺตินฺทิวํ นิพฺพานํ วิภูตํ กตฺวา ปสฺส. เอเตนสฺส ทิฏฺธมฺมสุขวิหารํ กเถติ.

๑๐๗๘-๙. อิทานิ ‘‘กาเม ปหายา’’ติ สุตฺวา วิกฺขมฺภนวเสน อตฺตนา ปหีเน กาเม สมฺปสฺสมาโน ‘‘สพฺเพสู’’ติ คาถมาห. ตตฺถ หิตฺวา มฺนฺติ อฺํ ตโต เหฏฺา ฉพฺพิธมฺปิ สมาปตฺตึ หิตฺวา. สฺาวิโมกฺเข ปรเมติ สตฺตสุ สฺาวิโมกฺเขสุ อุตฺตเม อากิฺจฺายตเน. ติฏฺเ นุโส ตตฺถ อนานุยายีติ โส ปุคฺคโล ตตฺถ อากิฺจฺายตนพฺรหฺมโลเก อวิคจฺฉมาโน ติฏฺเยฺย นูติ ปุจฺฉติ. อถสฺส ภควา สฏฺิกปฺปสหสฺสมตฺตํเยว านํ อนุชานนฺโต ตติยคาถมาห.

๑๐๘๐. เอวํ ตสฺส ตตฺถ านํ สุตฺวา อิทานิสฺส สสฺสตุจฺเฉทภาวํ ปุจฺฉนฺโต ‘‘ติฏฺเ เจ’’ติ คาถมาห. ตตฺถ ปูคมฺปิ วสฺสานนฺติ อเนกสงฺขฺยมฺปิ วสฺสานํ, คณราสินฺติ อตฺโถ. ‘‘ปูคมฺปิ วสฺสานี’’ติปิ ปาโ, ตตฺถ วิภตฺติพฺยตฺตเยน สามิวจนสฺส ปจฺจตฺตวจนํ กตฺตพฺพํ, ปูคนฺติ วา เอตสฺส พหูนีติ อตฺโถ วตฺตพฺโพ. ‘‘ปูคานี’’ติ วาปิ ปนฺติ, ปุริมปาโเยว สพฺพสุนฺทโร. ตตฺเถว โส สีติ สิยา วิมุตฺโตติ โส ปุคฺคโล ตตฺเถวากิฺจฺายตเน นานาทุกฺเขหิ วิมุตฺโต สีติภาวปฺปตฺโต ภเวยฺย, นิพฺพานปฺปตฺโต สสฺสโต หุตฺวา ติฏฺเยฺยาติ อธิปฺปาโย. จเวถ วิฺาณํ ตถาวิธสฺสาติ อุทาหุ ตถาวิธสฺส วิฺาณํ อนุปาทาย ปรินิพฺพาเยยฺยาติ อุจฺเฉทํ ปุจฺฉติ, ปฏิสนฺธิคฺคหณตฺถํ วาปิ ภเวยฺยาติ ปฏิสนฺธิมฺปิ ตสฺส ปุจฺฉติ.

๑๐๘๑. อถสฺส ภควา อุจฺเฉทสสฺสตํ อนุปคมฺม ตตฺถ อุปฺปนฺนสฺส อริยสาวกสฺส อนุปาทาย ปรินิพฺพานํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อจฺจี ยถา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อตฺถํ ปเลตีติ อตฺถํ คจฺฉติ. น อุเปติ สงฺขนฺติ ‘‘อสุกํ นาม ทิสํ คโต’’ติ โวหารํ น คจฺฉติ. เอวํ มุนี นามกายา วิมุตฺโตติ เอวํ ตตฺถ อุปฺปนฺโน เสกฺขมุนิ ปกติยา ปุพฺเพว รูปกายา วิมุตฺโต ตตฺถ จตุตฺถมคฺคํ นิพฺพตฺเตตฺวา ธมฺมกายสฺส ปริฺาตตฺตา ปุน นามกายาปิ วิมุตฺโต อุภโตภาควิมุตฺโต ขีณาสโว หุตฺวา อนุปาทาปรินิพฺพานสงฺขาตํ อตฺถํ ปเลติ, น อุเปติ สงฺขํ ‘‘ขตฺติโย วา พฺราหฺมโณ วา’’ติ เอวมาทิกํ.

๑๐๘๒. อิทานิ ‘‘อตฺถํ ปเลตี’’ติ สุตฺวา ตสฺส โยนิโส อตฺถํ อสลฺลกฺเขนฺโต ‘‘อตฺถงฺคโต โส’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – โส อตฺถงฺคโต อุทาหุ นตฺถิ, อุทาหุ เว สสฺสติยา สสฺสตภาเวน อโรโค อวิปริณามธมฺโม โสติ เอวํ ตํ เม มุนี สาธุ วิยากโรหิ. กึ การณํ? ตถา หิ เต วิทิโต เอส ธมฺโมติ.

๑๐๘๓. อถสฺส ภควา ตถา อวตฺตพฺพตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺถงฺคตสฺสา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อตฺถงฺคตสฺสาติ อนุปาทาปรินิพฺพุตสฺส. น ปมาณมตฺถีติ รูปาทิปฺปมาณํ นตฺถิ. เยน นํ วชฺชุนฺติ เยน ราคาทินา นํ วเทยฺยุํ. สพฺเพสุ ธมฺเมสูติ สพฺเพสุ ขนฺธาทิธมฺเมสุ. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.

เอวํ ภควา อิมํ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน จ วุตฺตสทิโส เอว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย อุปสีวสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. นนฺทสุตฺตวณฺณนา

๑๐๘๔-๕. สนฺติโลเกติ นนฺทสุตฺตํ. ตตฺถ ปมคาถาย อตฺโถ – โลเก ขตฺติยาทโย ชนา อาชีวกนิคณฺาทิเก สนฺธาย ‘‘สนฺติ มุนโย’’ติ วทนฺติ, ตยิทํ กถํสูติ กึ นุ โข เต สมาปตฺติาณาทินา าเณน อุปฺปนฺนตฺตา าณูปปนฺนํ โน มุนึ วทนฺติ, เอวํวิธํ นุ วทนฺติ, อุทาหุ เว นานปฺปการเกน ลูขชีวิตสงฺขาเตน ชีวิเตนูปปนฺนนฺติ อถสฺส ภควา ตทุภยํ ปฏิกฺขิปิตฺวา มุนึ ทสฺเสนฺโต ‘‘น ทิฏฺิยา’’ติ คาถมาห.

๑๐๘๖-๗. อิทานิ ‘‘ทิฏฺาทีหิ สุทฺธี’’ติ วทนฺตานํ วาเท กงฺขาปหานตฺถํ ‘‘เย เกจิเม’’ติ ปุจฺฉติ. ตตฺถ อเนกรูเปนาติ โกตูหลมงฺคลาทินา. ตตฺถ ยตา จรนฺตาติ ตตฺถ สกาย ทิฏฺิยา คุตฺตา วิหรนฺตา. อถสฺส ตถา สุทฺธิอภาวํ ทีเปนฺโต ภควา ทุติยํ คาถมาห.

๑๐๘๘-๙๐. เอวํ ‘‘นาตรึสู’’ติ สุตฺวา อิทานิ โย อตริ, ตํ โสตุกาโม ‘‘เย เกจิเม’’ติ ปุจฺฉติ. อถสฺส ภควา โอฆติณฺณมุเขน ชาติชราติณฺเณ ทสฺเสนฺโต ตติยํ คาถมาห. ตตฺถ นิวุตาติ โอวุฏา ปริโยนทฺธา. เยสีธาติ เยสุ อิธ. เอตฺถ จ สุ-อิติ นิปาตมตฺตํ. ตณฺหํ ปริฺายาติ ตีหิ ปริฺาหิ ตณฺหํ ปริชานิตฺวา. เสสํ สพฺพตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตา ปากฏเมว.

เอวํ ภควา อรหตฺตนิกูเฏเนว เทสนํ นิฏฺาเปสิ, เทสนาปริโยสาเน ปน นนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทมาโน ‘‘เอตาภินนฺทามี’’ติ คาถมาห. อิธาปิ จ ปุพฺเพ วุตฺตสทิโส เอว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย นนฺทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. เหมกสุตฺตวณฺณนา

๑๐๙๑-๔. เยเม ปุพฺเพติ เหมกสุตฺตํ. ตตฺถ เย เม ปุพฺเพ วิยากํสูติ เย พาวริอาทโย ปุพฺเพ มยฺหํ สกํ ลทฺธึ วิยากํสุ. หุรํ โคตมสาสนาติ โคตมสาสนา ปุพฺพตรํ. สพฺพํ ตํ ตกฺกวฑฺฒนนฺติ สพฺพํ ตํ กามวิตกฺกาทิวฑฺฒนํ. ตณฺหานิคฺฆาตนนฺติ ตณฺหาวินาสนํ. อถสฺส ภควา ตํ ธมฺมํ อาจิกฺขนฺโต ‘‘อิธา’’ติ คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ เอตทฺาย เย สตาติ เอตํ นิพฺพานปทมจฺจุตํ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติอาทินา นเยน วิปสฺสนฺตา อนุปุพฺเพน ชานิตฺวา เย กายานุปสฺสนาสติอาทีหิ สตา. ทิฏฺธมฺมาภินิพฺพุตาติ วิทิตธมฺมตฺตา, ทิฏฺธมฺมตฺตา, ราคาทินิพฺพาเนน จ อภินิพฺพุตา. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.

เอวํ ภควา อิมมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน จ ปุพฺพสทิโส เอว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย เหมกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. โตเทยฺยสุตฺตวณฺณนา

๑๐๙๕. ยสฺมึกามาติ โตเทยฺยสุตฺตํ. ตตฺถ วิโมกฺโข ตสฺส กีทิโสติ ตสฺส กีทิโส วิโมกฺโข อิจฺฉิตพฺโพติ ปุจฺฉติ . อิทานิ ตสฺส อฺวิโมกฺขาภาวํ ทสฺเสนฺโต ภควา ทุติยํ คาถมาห. ตตฺถ วิโมกฺโข ตสฺส นาปโรติ ตสฺส อฺโ วิโมกฺโข นตฺถิ.

๑๐๙๗-๘. เอวํ ‘‘ตณฺหกฺขโย เอว วิโมกฺโข’’ติ วุตฺเตปิ ตมตฺถํ อสลฺลกฺเขนฺโต ‘‘นิราสโส โส อุท อาสสาโน’’ติ ปุน ปุจฺฉติ. ตตฺถ อุท ปฺกปฺปีติ อุทาหุ สมาปตฺติาณาทินา าเณน ตณฺหากปฺปํ วา ทิฏฺิกปฺปํ วา กปฺปยติ. อถสฺส ภควา ตํ อาจิกฺขนฺโต ทุติยํ คาถมาห. ตตฺถ กามภเวติ กาเม จ ภเว จ. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.

เอวํ ภควา อิมมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน จ ปุพฺพสทิโส เอว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย โตเทยฺยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. กปฺปสุตฺตวณฺณนา

๑๐๙๙. มชฺเฌสรสฺมินฺติ กปฺปสุตฺตํ. ตตฺถ มชฺเฌ สรสฺมินฺติ ปุริมปจฺฉิมโกฏิปฺาณาภาวโต มชฺฌภูเต สํสาเรติ วุตฺตํ โหติ. ติฏฺตนฺติ ติฏฺมานานํ. ยถายิทํ นาปรํ สิยาติ ยถา อิทํ ทุกฺขํ ปุน น ภเวยฺย.

๑๑๐๑-๒. อถสฺส ภควา ตมตฺถํ พฺยากโรนฺโต ติสฺโส คาถาโย อภาสิ. ตตฺถ อกิฺจนนฺติ กิฺจนปฏิปกฺขํ. อนาทานนฺติ อาทานปฏิปกฺขํ, กิฺจนาทานวูปสมนฺติ วุตฺตํ โหติ. อนาปรนฺติ อปรปฏิภาคทีปวิรหิตํ, เสฏฺนฺติ วุตฺตํ โหติ. น เต มารสฺส ปทฺธคูติ เต มารสฺส ปทฺธจรา ปริจารกา สิสฺสา น โหนฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.

เอวํ ภควา อิมมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ เทสนาปริโยสาเน จ ปุพฺพสทิโส เอว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย กปฺปสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. ชตุกณฺณิสุตฺตวณฺณนา

๑๑๐๓-๔. สุตฺวานหนฺติ ชตุกณฺณิสุตฺตํ. ตตฺถ สุตฺวานหํ วีรมกามกามินฺติ อหํ ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินา นเยน วีรํ กามานํ อกามนโต อกามกามึ พุทฺธํ สุตฺวา. อกามมาคมนฺติ นิกฺกามํ ภควนฺตํ ปุจฺฉิตุํ อาคโตมฺหิ. สหชเนตฺตาติ สหชาตสพฺพฺุตฺาณจกฺขุ. ยถาตจฺฉนฺติ ยถาตถํ. พฺรูหิ เมติ ปุน ยาจนฺโต ภณติ. ยาจนฺโต หิ สหสฺสกฺขตฺตุมฺปิ ภเณยฺย, โก ปน วาโท ทฺวิกฺขตฺตุํ. เตชี เตชสาติ เตเชน สมนฺนาคโต เตชสา อภิภุยฺย. ยมหํ วิชฺํ ชาติชราย อิธ วิปฺปหานนฺติ ยมหํ ชาติชรานํ ปหานภูตํ ธมฺมํ อิเธว ชาเนยฺยํ.

๑๑๐๕-๗. อถสฺส ภควา ตํ ธมฺมมาจิกฺขนฺโต ติสฺโส คาถาโย อภาสิ. ตตฺถ เนกฺขมฺมํ ทฏฺุ เขมโตติ นิพฺพานฺจ นิพฺพานคามินิฺจ ปฏิปทํ ‘‘เขม’’นฺติ ทิสฺวา. อุคฺคหิตนฺติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน คหิตํ. นิรตฺตํ วาติ นิรสฺสิตพฺพํ วา, มุฺจิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. มา เต วิชฺชิตฺถาติ มา เต อโหสิ. กิฺจนนฺติ ราคาทิกิฺจนํ วาปิ เต มา วิชฺชิตฺถ. ปุพฺเพติ อตีเต สงฺขาเร อารพฺภ อุปฺปนฺนกิเลสา. พฺราหฺมณาติ ภควา ชตุกณฺณึ อาลปติ. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.

เอวํ ภควา อิมมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน จ ปุพฺพสทิโส เอว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย ชตุกณฺณิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. ภทฺราวุธสุตฺตวณฺณนา

๑๑๐๘-๙. โอกฺชหนฺติ ภทฺราวุธสุตฺตํ. ตตฺถ โอกฺชหนฺติ อาลยํ ชหํ. ตณฺหจฺฉิทนฺติ ฉตณฺหากายจฺฉิทํ. อเนชนฺติ โลกธมฺเมสุ นิกฺกมฺปํ. นนฺทิฺชหนฺติ อนาคตรูปาทิปตฺถนาชหํ. เอกา เอว หิ ตณฺหา ถุติวเสน อิธ นานปฺปการโต วุตฺตา. กปฺปฺชหนฺติ ทุวิธกปฺปชหํ. อภิยาเจติ อติวิย ยาจามิ. สุตฺวาน นาคสฺส อปนมิสฺสนฺติ อิโตติ นาคสฺส ตว ภควา วจนํ สุตฺวา อิโต ปาสาณกเจติยโต พหู ชนา ปกฺกมิสฺสนฺตีติ อธิปฺปาโย. ชนปเทหิ สงฺคตาติ องฺคาทีหิ ชนปเทหิ อิธ สมาคตา. วิยากโรหีติ ธมฺมํ เทเสหิ.

๑๑๑๐. อถสฺส อาสยานุโลเมน ธมฺมํ เทเสนฺโต ภควา ทฺเว คาถาโย อภาสิ. ตตฺถ อาทานตณฺหนฺติ รูปาทีนํ อาทายิกํ คหณตณฺหํ, ตณฺหุปาทานนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยํ ยฺหิ โลกสฺมิมุปาทิยนฺตีติ เอเตสุ อุทฺธาทิเภเทสุ ยํ ยํ คณฺหนฺติ. เตเนว มาโร อนฺเวติ ชนฺตุนฺติ เตเนว อุปาทานปจฺจยนิพฺพตฺตกมฺมาภิสงฺขารนิพฺพตฺตวเสน ปฏิสนฺธิกฺขนฺธมาโร ตํ สตฺตํ อนุคจฺฉติ.

๑๑๑๑. ตสฺมา ปชานนฺติ ตสฺมา เอตมาทีนวํ อนิจฺจาทิวเสน วา สงฺขาเร ชานนฺโต. อาทานสตฺเต อิติ เปกฺขมาโน, ปชํ อิมํ มจฺจุเธยฺเย วิสตฺตนฺติ อาทาตพฺพฏฺเน อาทาเนสุ รูปาทีสุ สตฺเต สพฺพโลเก อิมํ ปชํ มจฺจุเธยฺเย ลคฺคํ เปกฺขมาโน. อาทานสตฺเต วา อาทานาภินิวิฏฺเ ปุคฺคเล อาทานสงฺคเหตุฺจ อิมํ ปชํ มจฺจุเธยฺเย ลคฺคํ ตโต วีติกฺกมิตุํ อสมตฺถํ อิติ เปกฺขมาโน กิฺจนํ สพฺพโลเก น อุปฺปาทิเยถาติ เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.

เอวํ ภควา อิมมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน จ ปุพฺพสทิโส เอว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย ภทฺราวุธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๓. อุทยสุตฺตวณฺณนา

๑๑๑๒-๓. ฌายินฺติ อุทยสุตฺตํ. ตตฺถ อฺาวิโมกฺขนฺติ ปฺานุภาวนิชฺฌาตํ วิโมกฺขํ ปุจฺฉติ. อถ ภควา ยสฺมา อุทโย จตุตฺถชฺฌานลาภี, ตสฺมาสฺส ปฏิลทฺธชฺฌานวเสน นานปฺปการโต อฺาวิโมกฺขํ ทสฺเสนฺโต คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ ปหานํ กามจฺฉนฺทานนฺติ ยมิทํ ปมชฺฌานํ นิพฺพตฺเตนฺตสฺส กามจฺฉนฺทปฺปหานํ, ตมฺปิ อฺาวิโมกฺขํ ปพฺรูมิ. เอวํ สพฺพปทานิ โยเชตพฺพานิ.

๑๑๑๔. อุเปกฺขาสติสํสุทฺธนฺติ จตุตฺถชฺฌานอุเปกฺขาสตีหิ สํสุทฺธํ. ธมฺมตกฺกปุเรชวนฺติ อิมินา ตสฺมึ จตุตฺถชฺฌานวิโมกฺเข ตฺวา ฌานงฺคานิ วิปสฺสิตฺวา อธิคตํ อรหตฺตวิโมกฺขํ วทติ. อรหตฺตวิโมกฺขสฺส หิ มคฺคสมฺปยุตฺตสมฺมาสงฺกปฺปาทิเภโท ธมฺมตกฺโก ปุเรชโว โหติ. เตนาห – ‘‘ธมฺมตกฺกปุเรชว’’นฺติ. อวิชฺชาย ปเภทนนฺติ เอตเมว จ อฺาวิโมกฺขํ อวิชฺชาปเภทนสงฺขาตํ นิพฺพานํ นิสฺสาย ชาตตฺตา การโณปจาเรน ‘‘อวิชฺชาย ปเภทน’’นฺติ ปพฺรูมีติ.

๑๑๑๕-๖. เอวํ อวิชฺชาปเภทนวจเนน วุตฺตํ นิพฺพานํ สุตฺวา ‘‘ตํ กิสฺส วิปฺปหาเนน วุจฺจตี’’ติ ปุจฺฉนฺโต ‘‘กึสุ สํโยชโน’’ติ คาถมาห. ตตฺถ กึสุ สํโยชโนติ กึ สํโยชโน. วิจารณนฺติ วิจรณการณํ. กิสฺสสฺส วิปฺปหาเนนาติ กึ นามกสฺส อสฺส ธมฺมสฺส วิปฺปหาเนน. อถสฺส ภควา ตมตฺถํ พฺยากโรนฺโต ‘‘นนฺทิสํโยชโน’’ติ คาถมาห. ตตฺถ วิตกฺกสฺสาติ กามวิตกฺกาทิโก วิตกฺโก อสฺส.

๑๑๑๗-๘. อิทานิ ตสฺส นิพฺพานสฺส มคฺคํ ปุจฺฉนฺโต ‘‘กถํ สตสฺสา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ วิฺาณนฺติ อภิสงฺขารวิฺาณํ. อถสฺส มคฺคํ กเถนฺโต ภควา ‘‘อชฺฌตฺตฺจา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ เอวํ สตสฺสาติ เอวํ สตสฺส สมฺปชานสฺส. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.

เอวํ ภควา อิมมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน จ ปุพฺพสทิโส เอว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย อุทยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๔. โปสาลสุตฺตวณฺณนา

๑๑๑๙-๒๐. โยอตีตนฺติ โปสาลสุตฺตํ. ตตฺถ โย อตีตํ อาทิสตีติ โย ภควา อตฺตโน จ ปเรสฺจ ‘‘เอกมฺปิ ชาติ’’นฺติอาทิเภทํ อตีตํ อาทิสติ. วิภูตรูปสฺิสฺสาติ สมติกฺกนฺตรูปสฺิสฺส. สพฺพกายปฺปหายิโนติ ตทงฺควิกฺขมฺภนวเสน สพฺพรูปกายปฺปหายิโน, ปหีนรูปภวปฏิสนฺธิกสฺสาติ อธิปฺปาโย. นตฺถิ กิฺจีติ ปสฺสโตติ วิฺาณาภาววิปสฺสเนน ‘‘นตฺถิ กิฺจี’’ติ ปสฺสโต, อากิฺจฺายตนลาภิโนติ วุตฺตํ โหติ. าณํ สกฺกานุปุจฺฉามีติ สกฺกาติ ภควนฺตํ อาลปนฺโต อาห. ตสฺส ปุคฺคลสฺส าณํ ปุจฺฉามิ, กีทิสํ ปุจฺฉิตพฺพนฺติ. กถํ เนยฺโยติ กถํ โส เนตพฺโพ, กถมสฺส อุตฺตริาณํ อุปฺปาเทตพฺพนฺติ.

๑๑๒๑. อถสฺส ภควา ตาทิเส ปุคฺคเล อตฺตโน อปฺปฏิหตาณตํ ปกาเสตฺวา ตํ าณํ พฺยากาตุํ คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ วิฺาณฏฺิติโย สพฺพา, อภิชานํ ตถาคโตติ อภิสงฺขารวเสน จตสฺโส ปฏิสนฺธิวเสน สตฺตาติ เอวํ สพฺพา วิฺาณฏฺิติโย อภิชานนฺโต ตถาคโต. ติฏฺนฺตเมนํ ชานาตีติ กมฺมาภิสงฺขารวเสน ติฏฺนฺตํ เอตํ ปุคฺคลํ ชานาติ ‘‘อายตึ อยํ เอวํคติโก ภวิสฺสตี’’ติ. วิมุตฺตนฺติ อากิฺจฺายตนาทีสุ อธิมุตฺตํ. ตปฺปรายณนฺติ ตมฺมยํ.

๑๑๒๒. อากิฺจฺสมฺภวํ ตฺวาติ อากิฺจฺายตนชนกํ กมฺมาภิสงฺขารํ ตฺวา ‘‘กินฺติ ปลิโพโธ อย’’นฺติ. นนฺที สํโยชนํ อิตีติ ยา จ ตตฺถ อรูปราคสงฺขาตา นนฺที, ตฺจ สํโยชนํ อิติ ตฺวา. ตโต ตตฺถ วิปสฺสตีติ ตโต อากิฺจฺายตนสมาปตฺติโต วุฏฺหิตฺวา ตํ สมาปตฺตึ อนิจฺจาทิวเสน วิปสฺสติ. เอตํ าณํ ตถํ ตสฺสาติ เอตํ ตสฺส ปุคฺคลสฺส เอวํ วิปสฺสโต อนุกฺกเมเนว อุปฺปนฺนํ อรหตฺตาณํ อวิปรีตํ. วุสีมโตติ วุสิตวนฺตสฺส. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.

เอวํ ภควา อิมมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน จ ปุพฺพสทิโส เอว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย โปสาลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๕. โมฆราชสุตฺตวณฺณนา

๑๑๒๓. ทฺวาหํสกฺกนฺติ โมฆราชสุตฺตํ. ตตฺถ ทฺวาหนฺติ ทฺเว วาเร อหํ. โส หิ ปุพฺเพ อชิตสุตฺตสฺส จ ติสฺสเมตฺเตยฺยสุตฺตสฺส จ อวสาเน ทฺวิกฺขตฺตุํ ภควนฺตํ ปุจฺฉิ. ภควา ปนสฺส อินฺทฺริยปริปากํ อาคมยมาโน น พฺยากาสิ. เตนาห – ‘‘ทฺวาหํ สกฺกํ อปุจฺฉิสฺส’’นฺติ. ยาวตติยฺจ เทวีสิ, พฺยากโรตีติ เม สุตนฺติ ยาวตติยฺจ สหธมฺมิกํ ปุฏฺโ วิสุทฺธิเทวภูโต อิสิ ภควา สมฺมาสมฺพุทฺโธ พฺยากโรตีติ เอวํ เม สุตํ. โคธาวรีตีเรเยว กิร โส เอวมสฺโสสิ. เตนาห – ‘‘พฺยากโรตีติ เม สุต’’นฺติ.

๑๑๒๔. อยํ โลโกติ มนุสฺสโลโก. ปโร โลโกติ ตํ เปตฺวา อวเสโส. สเทวโกติ พฺรหฺมโลกํ เปตฺวา อวเสโส อุปปตฺติเทวสมฺมุติเทวยุตฺโต, ‘‘พฺรหฺมโลโก สเทวโก’’ติ เอตํ วา ‘‘สเทวเก โลเก’’ติอาทินยนิทสฺสนมตฺตํ, เตน สพฺโพปิ ตถาวุตฺตปฺปกาโร โลโก เวทิตพฺโพ.

๑๑๒๕. เอวํ อภิกฺกนฺตทสฺสาวินฺติ เอวํ อคฺคทสฺสาวึ, สเทวกสฺส โลกสฺส อชฺฌาสยาธิมุตฺติคติปรายณาทีนิ ปสฺสิตุํ สมตฺถนฺติ ทสฺเสติ.

๑๑๒๖. สุฺโต โลกํ อเวกฺขสฺสูติ อวสิยปวตฺตสลฺลกฺขณวเสน วา ตุจฺฉสงฺขารสมนุปสฺสนาวเสน วาติ ทฺวีหิ การเณหิ สุฺโต โลกํ ปสฺส. อตฺตานุทิฏฺึ อูหจฺจาติ สกฺกายทิฏฺึ อุทฺธริตฺวา. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.

เอวํ ภควา อิมมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน จ วุตฺตสทิโส เอว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย โมฆราชสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๖. ปิงฺคิยสุตฺตวณฺณนา

๑๑๒๗. ชิณฺโณหมสฺมีติ ปิงฺคิยสุตฺตํ. ตตฺถ ชิณฺโณหมสฺมิ อพโล วีตวณฺโณติ โส กิร พฺราหฺมโณ ชราภิภูโต วีสวสฺสสติโก ชาติยา, ทุพฺพโล จ ‘‘อิธ ปทํ กริสฺสามี’’ติ อฺตฺเถว กโรติ, วินฏฺปุริมจฺฉวิวณฺโณ จ . เตนาห – ‘‘ชิณฺโณหมสฺมิ อพโล วีตวณฺโณ’’ติ. มาหํ นสฺสํ โมมุโห อนฺตราวาติ มาหํ ตุยฺหํ ธมฺมํ อสจฺฉิกตฺวา อนฺตราเยว อวิทฺวา หุตฺวา อนสฺสึ. ชาติชราย อิธ วิปฺปหานนฺติ อิเธว ตว ปาทมูเล ปาสาณเก วา เจติย ชาติชราย วิปฺปหานํ นิพฺพานธมฺมํ ยมหํ วิชฺํ, ตํ เม อาจิกฺข.

๑๑๒๘. อิทานิ ยสฺมา ปิงฺคิโย กาเย สาเปกฺขตาย ‘‘ชิณฺโณหมสฺมี’’ติ คาถมาห เตนสฺส ภควา กาเย สิเนหปฺปหานตฺถํ ‘‘ทิสฺวานรูเปสุ วิหฺมาเน’’ติ คาถมาห. ตตฺถ รูเปสูติ รูปเหตุ รูปปจฺจยา. วิหฺมาเนติ กมฺมการณาทีหิ อุปหฺมาเน. รุปฺปนฺติ รูเปสูติ จกฺขุโรคาทีหิ จ รูปเหตุเยว ชนา รุปฺปนฺติ พาธียนฺติ.

๑๑๒๙-๓๐. เอวํ ภควตา ยาว อรหตฺตํ ตาว กถิตํ ปฏิปตฺตึ สุตฺวาปิ ปิงฺคิโย ชราทุพฺพลตาย วิเสสํ อนธิคนฺตฺวาว ปุน ‘‘ทิสา จตสฺโส’’ติ อิมาย คาถาย ภควนฺตํ โถเมนฺโต เทสนํ ยาจติ. อถสฺส ภควา ปุนปิ ยาว อรหตฺตํ, ตาว ปฏิปทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตณฺหาธิปนฺเน’’ติ คาถมาห. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.

อิมมฺปิ สุตฺตํ ภควา อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน จ ปิงฺคิโย อนาคามิผเล ปติฏฺาสิ. โส กิร อนฺตรนฺตรา จินฺเตสิ – ‘‘เอวํ วิจิตฺรปฏิภานํ นาม เทสนํ น ลภิ มยฺหํ มาตุโล พาวรี สวนายา’’ติ. เตน สิเนหวิกฺเขเปน อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ นาสกฺขิ. อนฺเตวาสิโน ปนสฺส สหสฺสชฏิลา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. สพฺเพว อิทฺธิมยปตฺตจีวรธรา เอหิภิกฺขโว อเหสุนฺติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย ปิงฺคิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปารายนตฺถุติคาถาวณฺณนา

อิโต ปรํ สงฺคีติการา เทสนํ โถเมนฺตา ‘‘อิทมโวจ ภควา’’ติอาทิมาหํสุ. ตตฺถ อิทมโวจาติ อิทํ ปรายนํ อโวจ. ปริจารกโสฬสานนฺติ พาวริสฺส ปริจารเกน ปิงฺคิเยน สห โสฬสนฺนํ พุทฺธสฺส วา ภควโต ปริจารกานํ โสฬสนฺนนฺติ ปริจารกโสฬสนฺนํ. เต เอว พฺราหฺมณา. ตตฺถ โสฬสปริสา ปน ปุรโต จ ปจฺฉโต จ วามปสฺสโต จ ทกฺขิณปสฺสโต จ ฉ ฉ โยชนานิ นิสินฺนา อุชุเกน ทฺวาทสโยชนิกา อโหสิ. อชฺฌิฏฺโติ ยาจิโต อตฺถมฺายาติ ปาฬิอตฺถมฺาย. ธมฺมมฺายาติ ปาฬิมฺาย. ปารายนนฺติ เอวํ อิมสฺส ธมฺมปริยายสฺส อธิวจนํ อาโรเปตฺวา เตสํ พฺราหฺมณานํ นามานิ กิตฺตยนฺตา ‘‘อชิโต ติสฺสเมตฺเตยฺโย…เป… พุทฺธเสฏฺํ อุปาคมุ’’นฺติ อาหํสุ.

๑๑๓๑-๗. ตตฺถ สมฺปนฺนจรณนฺติ นิพฺพานปทฏฺานภูเตน ปาติโมกฺขสีลาทินา สมฺปนฺนํ. อิสินฺติ มเหสึ. เสสํ ปากฏเมว. ตโต ปรํ พฺรหฺมจริยมจรึสูติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ อจรึสุ. ตสฺมา ปารายนนฺติ ตสฺส ปารภูตสฺส นิพฺพานสฺส อยนนฺติ วุตฺตํ โหติ.

ปารายนานุคีติคาถาวณฺณนา

๑๑๓๘. ปารายนมนุคายิสฺสนฺติ อสฺส อยํ สมฺพนฺโธ – ภควตา หิ ปารายเน เทสิเต โสฬสสหสฺสา ชฏิลา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ, อวเสสานฺจ จุทฺทสโกฏิสงฺขานํ เทวมนุสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ. วุตฺตฺเหตํ โปราเณหิ –

‘‘ตโต ปาสาณเก รมฺเม, ปารายนสมาคเม;

อมตํ ปาปยี พุทฺโธ, จุทฺทส ปาณโกฏิโย’’ติ.

นิฏฺิตาย ปน ธมฺมเทสนาย ตโต ตโต อาคตา มนุสฺสา ภควโต อานุภาเวน อตฺตโน อตฺตโน คามนิคมาทีสฺเวว ปาตุรเหสุํ. ภควาปิ สาวตฺถิเมว อคมาสิ ปริจารกโสฬสาทีหิ อเนเกหิ ภิกฺขุสหสฺเสหิ ปริวุโต. ตตฺถ ปิงฺคิโย ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา อาห – ‘‘คจฺฉามหํ, ภนฺเต, พาวริสฺส พุทฺธุปฺปาทํ อาโรเจตุํ, ปฏิสฺสุตฺหิ ตสฺส มยา’’ติ. อถ ภควตา อนุฺาโต าณคมเนเนว โคธาวรีตีรํ คนฺตฺวา ปาทคมเนน อสฺสมาภิมุโข อคมาสิ. ตเมนํ พาวรี พฺราหฺมโณ มคฺคํ โอโลเกนฺโต นิสินฺโน ทูรโตว ขาริชฏาทิวิรหิตํ ภิกฺขุเวเสน อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘พุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน’’ติ นิฏฺํ อคมาสิ. สมฺปตฺตฺจาปิ นํ ปุจฺฉิ – ‘‘กึ, ปิงฺคิย, พุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน’’ติ. ‘‘อาม, พฺราหฺมณ, อุปฺปนฺโน, ปาสาณเก เจติเย นิสินฺโน อมฺหากํ ธมฺมํ เทเสสิ, ตมหํ ตุยฺหํ เทเสสฺสามี’’ติ. ตโต พาวรี มหตา สกฺกาเรน สปริโส ตํ ปูเชตฺวา อาสนํ ปฺาเปสิ. ตตฺถ นิสีทิตฺวา ปิงฺคิโย ‘‘ปารายนมนุคายิสฺส’’นฺติอาทิมาห.

ตตฺถ อนุคายิสฺสนฺติ ภควตา คีตํ อนุคายิสฺสํ. ยถาทฺทกฺขีติ ยถา สามํ สจฺจาภิสมฺโพเธน อสาธารณาเณน จ อทฺทกฺขิ. นิกฺกาโมติ ปหีนกาโม . ‘‘นิกฺกโม’’ติปิ ปาโ, วีริยวาติ อตฺโถ นิกฺขนฺโต วา อกุสลปกฺขา. นิพฺพโนติ กิเลสวนวิรหิโต, ตณฺหาวิรหิโต เอว วา. กิสฺส เหตุ มุสา ภเณติ เยหิ กิเลเสหิ มุสา ภเณยฺย, เอเต ตสฺส ปหีนาติ ทสฺเสติ. เอเตน พฺราหฺมณสฺส สวเน อุสฺสาหํ ชเนติ.

๑๑๓๙-๔๑. วณฺณูปสฺหิตนฺติ คุณูปสฺหิตํ. สจฺจวฺหโยติ ‘‘พุทฺโธ’’ติ สจฺเจเนว อวฺหาเนน นาเมน ยุตฺโต. พฺรหฺเมติ ตํ พฺราหฺมณํ อาลปติ. กุพฺพนกนฺติ ปริตฺตวนํ. พหุปฺผลํ กานนมาวเสยฺยาติ อเนกผลาทิวิกติภริตํ กานนํ อาคมฺม วเสยฺย. อปฺปทสฺเสติ พาวริปภุติเก ปริตฺตปฺเ. มโหทธินฺติ อโนตตฺตาทึ มหนฺตํ อุทกราสึ.

๑๑๔๒-๔. เยเม ปุพฺเพติ เย อิเม ปุพฺเพ. ตมนุทาสิโนติ ตโมนุโท อาสิโน. ภูริปฺาโณติ าณธโช. ภูริเมธโสติ วิปุลปฺโ. สนฺทิฏฺิกมกาลิกนฺติ สามํ ปสฺสิตพฺพผลํ, น จ กาลนฺตเร ปตฺตพฺพผลํ. อนีติกนฺติ กิเลสอีติวิรหิตํ.

๑๑๔๕-๕๐. อถ นํ พาวรี อาห ‘‘กึ นุ ตมฺหา’’ติ ทฺเว คาถา. ตโต ปิงฺคิโย ภควโต สนฺติกา อวิปฺปวาสเมว ทีเปนฺโต ‘‘นาหํ ตมฺหา’’ติอาทิมาห. ปสฺสามิ นํ มนสา จกฺขุนาวาติ ตํ พุทฺธํ อหํ จกฺขุนา วิย มนสา ปสฺสามิ . นมสฺสมาโน วิวเสมิ รตฺตินฺติ นมสฺสมาโนว รตฺตึ อตินาเมมิ. เตน เตเนว นโตติ เยน ทิสาภาเคน พุทฺโธ, เตน เตเนวาหมฺปิ นโต ตนฺนินฺโน ตปฺโปโณติ ทสฺเสติ.

๑๑๕๑. ทุพฺพลถามกสฺสาติ อปฺปถามกสฺส, อถ วา ทุพฺพลสฺส ทุตฺถามกสฺส จ พลวีริยหีนสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. เตเนว กาโย น ปเลตีติ เตเนว ทุพฺพลถามกตฺเตน กาโย น คจฺฉติ, เยน วา พุทฺโธ, เตน น คจฺฉติ. ‘‘น ปเรตี’’ติปิ ปาโ, โส เอวตฺโถ. ตตฺถาติ พุทฺธสฺส สนฺติเก. สงฺกปฺปยนฺตายาติ สงฺกปฺปคมเนน. เตน ยุตฺโตติ เยน พุทฺโธ, เตน ยุตฺโต ปยุตฺโต อนุยุตฺโตติ ทสฺเสติ.

๑๑๕๒. ปงฺเกสยาโนติ กามกทฺทเม สยมาโน. ทีปา ทีปํ อุปปฺลวินฺติ สตฺถาราทิโต สตฺถาราทึ อภิคจฺฉึ. อถทฺทสาสึ สมฺพุทฺธนฺติ โสหํ เอวํ ทุทฺทิฏฺึ คเหตฺวา อนฺวาหิณฺฑนฺโต อถ ปาสาณเก เจติเย พุทฺธมทฺทกฺขึ.

๑๑๕๓. อิมิสฺสา คาถาย อวสาเน ปิงฺคิยสฺส จ พาวริสฺส จ อินฺทฺริยปริปากํ วิทิตฺวา ภควา สาวตฺถิยํ ิโตเยว สุวณฺโณภาสํ มุฺจิ. ปิงฺคิโย พาวริสฺส พุทฺธคุเณ วณฺณยนฺโต นิสินฺโน เอว ตํ โอภาสํ ทิสฺวา ‘‘กึ อิท’’นฺติ วิโลเกนฺโต ภควนฺตํ อตฺตโน ปุรโต ิตํ วิย ทิสฺวา พาวริพฺราหฺมณสฺส ‘‘พุทฺโธ อาคโต’’ติ อาโรเจสิ, พฺราหฺมโณ อุฏฺายาสนา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา อฏฺาสิ. ภควาปิ โอภาสํ ผริตฺวา พฺราหฺมณสฺส อตฺตานํ ทสฺเสนฺโต อุภินฺนมฺปิ สปฺปายํ วิทิตฺวา ปิงฺคิยเมว อาลปมาโน ‘‘ยถา อหู วกฺกลี’’ติ อิมํ คาถมภาสิ.

ตสฺสตฺโถ – ยถา วกฺกลิตฺเถโร สทฺธาธิมุตฺโต อโหสิ, สทฺธาธุเรน จ อรหตฺตํ ปาปุณิ. ยถา จ โสฬสนฺนํ เอโก ภทฺราวุโธ นาม ยถา จ อาฬวิ โคตโม, เอวเมว ตฺวมฺปิ ปมุฺจสฺสุ สทฺธํ. ตโต สทฺธาย อธิมุจฺจนฺโต ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติอาทินา นเยน วิปสฺสนํ อารภิตฺวา มจฺจุเธยฺยสฺส ปารํ นิพฺพานํ คมิสฺสสีติ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทสนํ นิฏฺาเปสิ. เทสนาปริโยสาเน ปิงฺคิโย อรหตฺเต พาวรี อนาคามิผเล ปติฏฺหิ. พาวริพฺราหฺมณสฺส สิสฺสา ปน ปฺจสตา โสตาปนฺนา อเหสุํ.

๑๑๕๔-๕. อิทานิ ปิงฺคิโย อตฺตโน ปสาทํ ปเวเทนฺโต ‘‘เอส ภิยฺโย’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปฏิภานวาติ ปฏิภานปฏิสมฺภิทาย อุเปโต. อธิเทเว อภิฺายาติ อธิเทวกเร ธมฺเม ตฺวา. ปโรวรนฺติ หีนปณีตํ, อตฺตโน จ ปรสฺส จ อธิเทวตฺตกรํ สพฺพํ ธมฺมชาตํ เวทีติ วุตฺตํ โหติ. กงฺขีนํ ปฏิชานตนฺติ กงฺขีนํเยว สตํ ‘‘นิกฺกงฺขมฺหา’’ติ ปฏิชานนฺตานํ.

๑๑๕๖. อสํหีรนฺติ ราคาทีหิ อสํหาริยํ. อสํกุปฺปนฺติ อกุปฺปํ อวิปริณามธมฺมํ. ทฺวีหิปิ ปเทหิ นิพฺพานํ ภณติ. อทฺธา คมิสฺสามีติ เอกํเสเนว ตํ อนุปาทิเสสํ นิพฺพานธาตุํ คมิสฺสามิ. น เมตฺถ กงฺขาติ นตฺถิ เม เอตฺถ นิพฺพาเน กงฺขา. เอวํ มํ ธาเรหิ อธิมุตฺตจิตฺตนฺติ ปิงฺคิโย ‘‘เอวเมว ตฺวมฺปิ ปมุฺจสฺสุ สทฺธ’’นฺติ. อิมินา ภควโต โอวาเทน อตฺตนิ สทฺธํ อุปฺปาเทตฺวา สทฺธาธุเรเนว จ วิมุฺจิตฺวา ตํ สทฺธาธิมุตฺตตํ ปกาเสนฺโต ภควนฺตํ อาห – ‘‘เอวํ มํ ธาเรหิ อธิมุตฺตจิตฺต’’นฺติ. อยเมตฺถ อธิปฺปาโย ‘‘ยถา มํ ตฺวํ อวจ, เอวเมว อธิมุตฺตํ ธาเรหี’’ติ.

อิติ ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

สุตฺตนิปาต-อฏฺกถาย โสฬสพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิโต จ ปฺจโม วคฺโค อตฺถวณฺณนานยโต, นาเมน

ปารายนวคฺโคติ.

นิคมนกถา

เอตฺตาวตา จ ยํ วุตฺตํ –

‘‘อุตฺตมํ วนฺทเนยฺยานํ, วนฺทิตฺวา รตนตฺตยํ;

โย ขุทฺทกนิกายมฺหิ, ขุทฺทาจารปฺปหายินา.

‘‘เทสิโต โลกนาเถน, โลกนิตฺถรเณสินา;

ตสฺส สุตฺตนิปาตสฺส, กริสฺสามตฺถวณฺณน’’นฺติ.

เอตฺถ อุรควคฺคาทิปฺจวคฺคสงฺคหิตสฺส อุรคสุตฺตาทิสตฺตติสุตฺตปฺปเภทสฺส สุตฺตนิปาตสฺส อตฺถวณฺณนา กตา โหติ. เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘อิมํ สุตฺตนิปาตสฺส, กโรนฺเตนตฺถวณฺณนํ;

สทฺธมฺมฏฺิติกาเมน, ยํ ปตฺตํ กุสลํ มยา.

‘‘ตสฺสานุภาวโต ขิปฺปํ, ธมฺเม อริยปฺปเวทิเต;

วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ, ปาปุณาตุ อยํ ชโน’’ติ.

(ปริยตฺติปฺปมาณโต จตุจตฺตาลีสมตฺตา ภาณวารา.)

ปรมวิสุทฺธสทฺธาพุทฺธิวีริยปฺปฏิมณฺฑิเตน สีลาจารชฺชวมทฺทวาทิคุณสมุทยสมุทิเตน สกสมยสมยนฺตรคหนชฺโฌคาหณสมตฺเถน ปฺาเวยฺยตฺติยสมนฺนาคเตน ติปิฏกปริยตฺติปฺปเภเท สาฏฺกเถ สตฺถุสาสเน อปฺปฏิหตาณปฺปภาเวน มหาเวยฺยากรเณน กรณสมฺปตฺติชนิตสุขวินิคฺคตมธุโรทารวจนลาวณฺณยุตฺเตน ยุตฺตมุตฺตวาทินา วาทีวเรน มหากวินา ฉฬภิฺาปฏิสมฺภิทาทิปฺปเภทคุณปฏิมณฺฑิเต อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม สุปฺปติฏฺิตพุทฺธีนํ เถรวํสปฺปทีปานํ เถรานํ มหาวิหารวาสีนํ วํสาลงฺการภูเตน วิปุลวิสุทฺธพุทฺธินา พุทฺธโฆโสติ ครูหิ คหิตนามเธยฺเยน เถเรน กตา อยํ ปรมตฺถโชติกา นาม สุตฺตนิปาต-อฏฺกถา –

ตาว ติฏฺตุ โลกสฺมึ, โลกนิตฺถรเณสินํ;

ทสฺเสนฺตี กุลปุตฺตานํ, นยํ ปฺาวิสุทฺธิยา.

ยาว พุทฺโธติ นามมฺปิ, สุทฺธจิตฺตสฺส ตาทิโน;

โลกมฺหิ โลกเชฏฺสฺส, ปวตฺตติ มเหสิโนติ.

สุตฺตนิปาต-อตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.