📜

๒. จูฬวคฺโค

๑. รตนสุตฺตํ

๒๒๔.

ยานีธ ภูตานิ สมาคตานิ, ภุมฺมานิ [ภูมานิ (ก.)] วา ยานิ ว อนฺตลิกฺเข;

สพฺเพว ภูตา สุมนา ภวนฺตุ, อโถปิ สกฺกจฺจ สุณนฺตุ ภาสิตํ.

๒๒๕.

ตสฺมา หิ ภูตา นิสาเมถ สพฺเพ, เมตฺตํ กโรถ มานุสิยา ปชาย;

ทิวา จ รตฺโต จ หรนฺติ เย พลึ, ตสฺมา หิ เน รกฺขถ อปฺปมตฺตา.

๒๒๖.

ยํ กิฺจิ วิตฺตํ อิธ วา หุรํ วา, สคฺเคสุ วา ยํ รตนํ ปณีตํ;

น โน สมํ อตฺถิ ตถาคเตน, อิทมฺปิ พุทฺเธ รตนํ ปณีตํ;

เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.

๒๒๗.

ขยํ วิราคํ อมตํ ปณีตํ, ยทชฺฌคา สกฺยมุนี สมาหิโต;

น เตน ธมฺเมน สมตฺถิ กิฺจิ, อิทมฺปิ ธมฺเม รตนํ ปณีตํ;

เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.

๒๒๘.

ยํ พุทฺธเสฏฺโ ปริวณฺณยี สุจึ, สมาธิมานนฺตริกฺมาหุ;

สมาธินา เตน สโม น วิชฺชติ, อิทมฺปิ ธมฺเม รตนํ ปณีตํ;

เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.

๒๒๙.

เย ปุคฺคลา อฏฺ สตํ ปสตฺถา, จตฺตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนฺติ;

เต ทกฺขิเณยฺยา สุคตสฺส สาวกา, เอเตสุ ทินฺนานิ มหปฺผลานิ;

อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.

๒๓๐.

เย สุปฺปยุตฺตา มนสา ทฬฺเหน, นิกฺกามิโน โคตมสาสนมฺหิ;

เต ปตฺติปตฺตา อมตํ วิคยฺห, ลทฺธา มุธา นิพฺพุตึ [นิพฺพุติ (ก.)] ภุฺชมานา;

อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.

๒๓๑.

ยถินฺทขีโล ปถวิสฺสิโต [ปทวิสฺสิโต (ก. สี.), ปวึ สิโต (ก. สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สิยา, จตุพฺภิ วาเตหิ อสมฺปกมฺปิโย;

ตถูปมํ สปฺปุริสํ วทามิ, โย อริยสจฺจานิ อเวจฺจ ปสฺสติ;

อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.

๒๓๒.

เย อริยสจฺจานิ วิภาวยนฺติ, คมฺภีรปฺเน สุเทสิตานิ;

กิฺจาปิ เต โหนฺติ ภุสํ ปมตฺตา, น เต ภวํ อฏฺมมาทิยนฺติ;

อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.

๒๓๓.

สหาวสฺส ทสฺสนสมฺปทาย [สหาวสทฺทสฺสนสมฺปทาย (ก.)], ตยสฺสุ ธมฺมา ชหิตา ภวนฺติ;

สกฺกายทิฏฺิ วิจิกิจฺฉิตฺจ, สีลพฺพตํ วาปิ ยทตฺถิ กิฺจิ.

๒๓๔.

จตูหปาเยหิ จ วิปฺปมุตฺโต, ฉจฺจาภิานานิ [ฉ จาภิานานิ (สี. สฺยา.)] ภพฺพ กาตุํ [อภพฺโพ กาตุํ (สี.)];

อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.

๒๓๕.

กิฺจาปิ โส กมฺม [กมฺมํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] กโรติ ปาปกํ, กาเยน วาจา อุท เจตสา วา;

อภพฺพ [อภพฺโพ (พหูสุ)] โส ตสฺส ปฏิจฺฉทาย [ปฏิจฺฉาทาย (สี.)], อภพฺพตา ทิฏฺปทสฺส วุตฺตา;

อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.

๒๓๖.

วนปฺปคุมฺเพ ยถ [ยถา (สี. สฺยา.)] ผุสฺสิตคฺเค, คิมฺหานมาเส ปมสฺมึ [ปมสฺมิ (?)] คิมฺเห;

ตถูปมํ ธมฺมวรํ อเทสยิ [อเทสยี (สี.)], นิพฺพานคามึ ปรมํ หิตาย;

อิทมฺปิ พุทฺเธ รตนํ ปณีตํ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.

๒๓๗.

วโร วรฺู วรโท วราหโร, อนุตฺตโร ธมฺมวรํ อเทสยิ;

อิทมฺปิ พุทฺเธ รตนํ ปณีตํ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.

๒๓๘.

ขีณํ ปุราณํ นว นตฺถิ สมฺภวํ, วิรตฺตจิตฺตายติเก ภวสฺมึ;

เต ขีณพีชา อวิรูฬฺหิฉนฺทา, นิพฺพนฺติ ธีรา ยถายํ [ยถยํ (ก.)] ปทีโป;

อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.

๒๓๙.

ยานีธ ภูตานิ สมาคตานิ, ภุมฺมานิ วา ยานิ ว อนฺตลิกฺเข;

ตถาคตํ เทวมนุสฺสปูชิตํ, พุทฺธํ นมสฺสาม สุวตฺถิ โหตุ.

๒๔๐.

ยานีธ ภูตานิ สมาคตานิ, ภุมฺมานิ วา ยานิ ว อนฺตลิกฺเข;

ตถาคตํ เทวมนุสฺสปูชิตํ, ธมฺมํ นมสฺสาม สุวตฺถิ โหตุ.

๒๔๑.

ยานีธ ภูตานิ สมาคตานิ, ภุมฺมานิ วา ยานิ ว อนฺตลิกฺเข;

ตถาคตํ เทวมนุสฺสปูชิตํ, สงฺฆํ นมสฺสาม สุวตฺถิ โหตูติ.

รตนสุตฺตํ ปมํ นิฏฺิตํ.

๒. อามคนฺธสุตฺตํ

๒๔๒.

‘‘สามากจิงฺคูลกจีนกานิ จ, ปตฺตปฺผลํ มูลผลํ ควิปฺผลํ;

ธมฺเมน ลทฺธํ สตมสฺนมานา [สตมสมานา (สี. ปี.), สตมสฺสมานา (สฺยา. กํ.)], น กามกามา อลิกํ ภณนฺติ.

๒๔๓.

‘‘ยทสฺนมาโน สุกตํ สุนิฏฺิตํ, ปเรหิ ทินฺนํ ปยตํ ปณีตํ;

สาลีนมนฺนํ ปริภุฺชมาโน, โส ภุฺชสี กสฺสป อามคนฺธํ.

๒๔๔.

‘‘น อามคนฺโธ มม กปฺปตีติ, อิจฺเจว ตฺวํ ภาสสิ พฺรหฺมพนฺธุ;

สาลีนมนฺนํ ปริภุฺชมาโน, สกุนฺตมํเสหิ สุสงฺขเตหิ;

ปุจฺฉามิ ตํ กสฺสป เอตมตฺถํ, กถํ ปกาโร ตว อามคนฺโธ’’.

๒๔๕.

‘‘ปาณาติปาโต วธเฉทพนฺธนํ, เถยฺยํ มุสาวาโท นิกติวฺจนานิ จ;

อชฺเฌนกุตฺตํ [อชฺเฌน กุชฺชํ (สี. ปี.)] ปรทารเสวนา, เอสามคนฺโธ น หิ มํสโภชนํ.

๒๔๖.

‘‘เย อิธ กาเมสุ อสฺตา ชนา, รเสสุ คิทฺธา อสุจิภาวมสฺสิตา [อสุจีกมิสฺสิตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)];

นตฺถิกทิฏฺี วิสมา ทุรนฺนยา, เอสามคนฺโธ น หิ มํสโภชนํ.

๒๔๗.

‘‘เย ลูขสา ทารุณา ปิฏฺิมํสิกา [เย ลูขรสา ทารุณา ปรปิฏฺิมํสิกา (ก.)], มิตฺตทฺทุโน นิกฺกรุณาติมานิโน;

อทานสีลา น จ เทนฺติ กสฺสจิ, เอสามคนฺโธ น หิ มํสโภชนํ.

๒๔๘.

‘‘โกโธ มโท ถมฺโภ ปจฺจุปฏฺาปนา [ปจฺจุฏฺาปนา จ (สี. สฺยา.), ปจฺจุฏฺาปนา (ปี.)], มายา อุสูยา ภสฺสสมุสฺสโย จ;

มานาติมาโน จ อสพฺภิ สนฺถโว, เอสามคนฺโธ น หิ มํสโภชนํ.

๒๔๙.

‘‘เย ปาปสีลา อิณฆาตสูจกา, โวหารกูฏา อิธ ปาฏิรูปิกา [ปาติรูปิกา (?)];

นราธมา เยธ กโรนฺติ กิพฺพิสํ, เอสามคนฺโธ น หิ มํสโภชนํ.

๒๕๐.

‘‘เย อิธ ปาเณสุ อสฺตา ชนา, ปเรสมาทาย วิเหสมุยฺยุตา;

ทุสฺสีลลุทฺทา ผรุสา อนาทรา, เอสามคนฺโธ น หิ มํสโภชนํ.

๒๕๑.

‘‘เอเตสุ คิทฺธา วิรุทฺธาติปาติโน, นิจฺจุยฺยุตา เปจฺจ ตมํ วชนฺติ เย;

ปตนฺติ สตฺตา นิรยํ อวํสิรา, เอสามคนฺโธ น หิ มํสโภชนํ.

๒๕๒.

‘‘น มจฺฉมํสานมนาสกตฺตํ [น มจฺฉมํสํ น อนาสกตฺตํ (สี. อฏฺ มูลปาโ), น มํจฺฉมํสานานาสกตฺตํ (สฺยา. ก.)], น นคฺคิยํ น มุณฺฑิยํ ชฏาชลฺลํ;

ขราชินานิ นาคฺคิหุตฺตสฺสุปเสวนา, เย วาปิ โลเก อมรา พหู ตปา;

มนฺตาหุตี ยฺมุตูปเสวนา, โสเธนฺติ มจฺจํ อวิติณฺณกงฺขํ.

๒๕๓.

‘‘โย เตสุ [โสเตสุ (สี. ปี.)] คุตฺโต วิทิตินฺทฺริโย จเร, ธมฺเม ิโต อชฺชวมทฺทเว รโต;

สงฺคาติโค สพฺพทุกฺขปฺปหีโน, น ลิปฺปติ [น ลิมฺปติ (สฺยา. กํ ก.)] ทิฏฺสุเตสุ ธีโร’’.

๒๕๔.

อิจฺเจตมตฺถํ ภควา ปุนปฺปุนํ, อกฺขาสิ นํ [ตํ (สี. ปี.)] เวทยิ มนฺตปารคู;

จิตฺราหิ คาถาหิ มุนี ปกาสยิ, นิรามคนฺโธ อสิโต ทุรนฺนโย.

๒๕๕.

สุตฺวาน พุทฺธสฺส สุภาสิตํ ปทํ, นิรามคนฺธํ สพฺพทุกฺขปฺปนูทนํ;

นีจมโน วนฺทิ ตถาคตสฺส, ตตฺเถว ปพฺพชฺชมโรจยิตฺถาติ.

อามคนฺธสุตฺตํ ทุติยํ นิฏฺิตํ.

๓. หิริสุตฺตํ

๒๕๖.

หิรึ ตรนฺตํ วิชิคุจฺฉมานํ, ตวาหมสฺมิ [สขาหมสฺมิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อิติ ภาสมานํ;

สยฺหานิ กมฺมานิ อนาทิยนฺตํ, เนโส มมนฺติ อิติ นํ วิชฺา.

๒๕๗.

อนนฺวยํ [อตฺถนฺวยํ (ก.)] ปิยํ วาจํ, โย มิตฺเตสุ ปกุพฺพติ;

อกโรนฺตํ ภาสมานํ, ปริชานนฺติ ปณฺฑิตา.

๒๕๘.

โส มิตฺโต โย สทา อปฺปมตฺโต, เภทาสงฺกี รนฺธเมวานุปสฺสี;

ยสฺมิฺจ เสติ อุรสีว ปุตฺโต, ส เว มิตฺโต โย ปเรหิ อเภชฺโช.

๒๕๙.

ปามุชฺชกรณํ านํ, ปสํสาวหนํ สุขํ;

ผลานิสํโส ภาเวติ, วหนฺโต โปริสํ ธุรํ.

๒๖๐.

ปวิเวกรสํ ปิตฺวา, รสํ อุปสมสฺส จ;

นิทฺทโร โหติ นิปฺปาโป, ธมฺมปีติรสํ ปิวนฺติ.

หิริสุตฺตํ ตติยํ นิฏฺิตํ.

๔. มงฺคลสุตฺตํ

เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข สา เทวตา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

๒๖๑.

‘‘พหู เทวา มนุสฺสา จ, มงฺคลานิ อจินฺตยุํ;

อากงฺขมานา โสตฺถานํ, พฺรูหิ มงฺคลมุตฺตมํ’’.

๒๖๒.

‘‘อเสวนา จ พาลานํ, ปณฺฑิตานฺจ เสวนา;

ปูชา จ ปูชเนยฺยานํ [ปูชนียานํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], เอตํ มงฺคลมุตฺตมํ.

๒๖๓.

‘‘ปติรูปเทสวาโส จ, ปุพฺเพ จ กตปุฺตา;

อตฺตสมฺมาปณิธิ [อตฺตสมฺมาปณีธี (กตฺถจิ)] จ, เอตํ มงฺคลมุตฺตมํ.

๒๖๔.

‘‘พาหุสจฺจฺจ สิปฺปฺจ, วินโย จ สุสิกฺขิโต;

สุภาสิตา จ ยา วาจา, เอตํ มงฺคลมุตฺตมํ.

๒๖๕.

‘‘มาตาปิตุ อุปฏฺานํ, ปุตฺตทารสฺส สงฺคโห;

อนากุลา จ กมฺมนฺตา, เอตํ มงฺคลมุตฺตมํ.

๒๖๖.

‘‘ทานฺจ ธมฺมจริยา จ, าตกานฺจ สงฺคโห;

อนวชฺชานิ กมฺมานิ, เอตํ มงฺคลมุตฺตมํ.

๒๖๗.

‘‘อารตี วิรตี ปาปา, มชฺชปานา จ สํยโม;

อปฺปมาโท จ ธมฺเมสุ, เอตํ มงฺคลมุตฺตมํ.

๒๖๘.

‘‘คารโว จ นิวาโต จ, สนฺตุฏฺิ จ กตฺุตา;

กาเลน ธมฺมสฺสวนํ [ธมฺมสวณํ (กตฺถจิ), ธมฺมสวนํ (สี. ก.)], เอตํ มงฺคลมุตฺตมํ.

๒๖๙.

‘‘ขนฺตี จ โสวจสฺสตา, สมณานฺจ ทสฺสนํ;

กาเลน ธมฺมสากจฺฉา, เอตํ มงฺคลมุตฺตมํ.

๒๗๐.

‘‘ตโป จ พฺรหฺมจริยฺจ, อริยสจฺจาน ทสฺสนํ;

นิพฺพานสจฺฉิกิริยา จ, เอตํ มงฺคลมุตฺตมํ.

๒๗๑.

‘‘ผุฏฺสฺส โลกธมฺเมหิ, จิตฺตํ ยสฺส น กมฺปติ;

อโสกํ วิรชํ เขมํ, เอตํ มงฺคลมุตฺตมํ.

๒๗๒.

‘‘เอตาทิสานิ กตฺวาน, สพฺพตฺถมปราชิตา;

สพฺพตฺถ โสตฺถึ คจฺฉนฺติ, ตํ เตสํ มงฺคลมุตฺตม’’นฺติ.

มงฺคลสุตฺตํ จตุตฺถํ นิฏฺิตํ.

๕. สูจิโลมสุตฺตํ

เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา คยายํ วิหรติ ฏงฺกิตมฺเจ สูจิโลมสฺส ยกฺขสฺส ภวเน. เตน โข ปน สมเยน ขโร จ ยกฺโข สูจิโลโม จ ยกฺโข ภควโต อวิทูเร อติกฺกมนฺติ. อถ โข ขโร ยกฺโข สูจิโลมํ ยกฺขํ เอตทโวจ – ‘‘เอโส สมโณ’’ติ. ‘‘เนโส สมโณ, สมณโก เอโส. ยาวาหํ ชานามิ [ยาว ชานามิ (สี. ปี.)] ยทิ วา โส สมโณ [ยทิ วา สมโณ (สฺยา.)], ยทิ วา โส สมณโก’’ติ [ยทิ วา สมณโกติ (สี. สฺยา. ปี.)].

อถ โข สูจิโลโม ยกฺโข เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต กายํ อุปนาเมสิ. อถ โข ภควา กายํ อปนาเมสิ. อถ โข สูจิโลโม ยกฺโข ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ภายสิ มํ, สมณา’’ติ? ‘‘น ขฺวาหํ ตํ, อาวุโส, ภายามิ; อปิ จ เต สปฺผสฺโส ปาปโก’’ติ.

‘‘ปฺหํ ตํ, สมณ, ปุจฺฉิสฺสามิ. สเจ เม น พฺยากริสฺสสิ, จิตฺตํ วา เต ขิปิสฺสามิ, หทยํ วา เต ผาเลสฺสามิ, ปาเทสุ วา คเหตฺวา ปารคงฺคาย ขิปิสฺสามี’’ติ.

‘‘น ขฺวาหํ ตํ, อาวุโส, ปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย โย เม จิตฺตํ วา ขิเปยฺย หทยํ วา ผาเลยฺย ปาเทสุ วา คเหตฺวา ปารคงฺคาย ขิเปยฺย. อปิ จ ตฺวํ, อาวุโส, ปุจฺฉ ยทากงฺขสี’’ติ. อถ โข สูจิโลโม ยกฺโข ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

๒๗๓.

‘‘ราโค จ โทโส จ กุโตนิทานา, อรตี รตี โลมหํโส กุโตชา;

กุโต สมุฏฺาย มโนวิตกฺกา, กุมารกา ธงฺกมิโวสฺสชนฺติ’’.

๒๗๔.

‘‘ราโค จ โทโส จ อิโตนิทานา, อรตี รตี โลมหํโส อิโตชา;

อิโต สมุฏฺาย มโนวิตกฺกา, กุมารกา ธงฺกมิโวสฺสชนฺติ.

๒๗๔.

‘‘สฺเนหชา อตฺตสมฺภูตา, นิคฺโรธสฺเสว ขนฺธชา;

ปุถู วิสตฺตา กาเมสุ, มาลุวาว วิตตาวเน.

๒๗๕.

‘‘เย นํ ปชานนฺติ ยโตนิทานํ, เต นํ วิโนเทนฺติ สุโณหิ ยกฺข;

เต ทุตฺตรํ โอฆมิมํ ตรนฺติ, อติณฺณปุพฺพํ อปุนพฺภวายา’’ติ.

สูจิโลมสุตฺตํ ปฺจมํ นิฏฺิตํ.

๖. ธมฺมจริยสุตฺตํ

๒๗๖.

ธมฺมจริยํ พฺรหฺมจริยํ, เอตทาหุ วสุตฺตมํ;

ปพฺพชิโตปิ เจ โหติ, อคารา อนคาริยํ.

๒๗๗.

โส เจ มุขรชาติโก, วิเหสาภิรโต มโค;

ชีวิตํ ตสฺส ปาปิโย, รชํ วฑฺเฒติ อตฺตโน.

๒๗๘.

กลหาภิรโต ภิกฺขุ, โมหธมฺเมน อาวุโต;

อกฺขาตมฺปิ น ชานาติ, ธมฺมํ พุทฺเธน เทสิตํ.

๒๗๙.

วิเหสํ ภาวิตตฺตานํ, อวิชฺชาย ปุรกฺขโต;

สํกิเลสํ น ชานาติ, มคฺคํ นิรยคามินํ.

๒๘๐.

วินิปาตํ สมาปนฺโน, คพฺภา คพฺภํ ตมา ตมํ;

ส เว ตาทิสโก ภิกฺขุ, เปจฺจ ทุกฺขํ นิคจฺฉติ.

๒๘๑.

คูถกูโป ยถา อสฺส, สมฺปุณฺโณ คณวสฺสิโก;

โย จ เอวรูโป อสฺส, ทุพฺพิโสโธ หิ สางฺคโณ.

๒๘๒.

ยํ เอวรูปํ ชานาถ, ภิกฺขโว เคหนิสฺสิตํ;

ปาปิจฺฉํ ปาปสงฺกปฺปํ, ปาปอาจารโคจรํ.

๒๘๓.

สพฺเพ สมคฺคา หุตฺวาน, อภินิพฺพชฺชิยาถ [อภินิพฺพชฺชยาถ (สี. ปี. อ. นิ. ๘.๑๐)] นํ;

การณฺฑวํ [การณฺฑํ ว (สฺยา. ก.) อ. นิ. ๘.๑๐] นิทฺธมถ, กสมฺพุํ อปกสฺสถ [อวกสฺสถ (สี. สฺยา. ก.)].

๒๘๔.

ตโต ปลาเป [ปลาเส (ก.)] วาเหถ, อสฺสมเณ สมณมานิเน;

นิทฺธมิตฺวาน ปาปิจฺเฉ, ปาปอาจารโคจเร.

๒๘๕.

สุทฺธา สุทฺเธหิ สํวาสํ, กปฺปยวฺโห ปติสฺสตา;

ตโต สมคฺคา นิปกา, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสถาติ.

ธมฺมจริยสุตฺตํ [กปิลสุตฺตํ (อฏฺ.)] ฉฏฺํ นิฏฺิตํ.

๗. พฺราหฺมณธมฺมิกสุตฺตํ

เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข สมฺพหุลา โกสลกา พฺราหฺมณมหาสาลา ชิณฺณา วุฑฺฒา มหลฺลกา อทฺธคตา วโยอนุปฺปตฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต พฺราหฺมณมหาสาลา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘สนฺทิสฺสนฺติ นุ โข, โภ โคตม, เอตรหิ พฺราหฺมณา โปราณานํ พฺราหฺมณานํ พฺราหฺมณธมฺเม’’ติ? ‘‘น โข, พฺราหฺมณา, สนฺทิสฺสนฺติ เอตรหิ พฺราหฺมณา โปราณานํ พฺราหฺมณานํ พฺราหฺมณธมฺเม’’ติ. ‘‘สาธุ โน ภวํ โคตโม โปราณานํ พฺราหฺมณานํ พฺราหฺมณธมฺมํ ภาสตุ, สเจ โภโต โคตมสฺส อครู’’ติ. ‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณา, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข เต พฺราหฺมณมหาสาลา ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

๒๘๖.

‘‘อิสโย ปุพฺพกา อาสุํ, สฺตตฺตา ตปสฺสิโน;

ปฺจ กามคุเณ หิตฺวา, อตฺตทตฺถมจาริสุํ.

๒๘๗.

‘‘น ปสู พฺราหฺมณานาสุํ, น หิรฺํ น ธานิยํ;

สชฺฌายธนธฺาสุํ, พฺรหฺมํ นิธิมปาลยุํ.

๒๘๘.

‘‘ยํ เนสํ ปกตํ อาสิ, ทฺวารภตฺตํ อุปฏฺิตํ;

สทฺธาปกตเมสานํ, ทาตเว ตทมฺิสุํ.

๒๘๙.

‘‘นานารตฺเตหิ วตฺเถหิ, สยเนหาวสเถหิ จ;

ผีตา ชนปทา รฏฺา, เต นมสฺสึสุ พฺราหฺมเณ.

๒๙๐.

‘‘อวชฺฌา พฺราหฺมณา อาสุํ, อเชยฺยา ธมฺมรกฺขิตา;

น เน โกจิ นิวาเรสิ, กุลทฺวาเรสุ สพฺพโส.

๒๙๑.

‘‘อฏฺจตฺตาลีสํ วสฺสานิ, (โกมาร) พฺรหฺมจริยํ จรึสุ เต;

วิชฺชาจรณปริเยฏฺึ, อจรุํ พฺราหฺมณา ปุเร.

๒๙๒.

‘‘น พฺราหฺมณา อฺมคมุํ, นปิ ภริยํ กิณึสุ เต;

สมฺปิเยเนว สํวาสํ, สงฺคนฺตฺวา สมโรจยุํ.

๒๙๓.

‘‘อฺตฺร ตมฺหา สมยา, อุตุเวรมณึ ปติ;

อนฺตรา เมถุนํ ธมฺมํ, นาสฺสุ คจฺฉนฺติ พฺราหฺมณา.

๒๙๔.

‘‘พฺรหฺมจริยฺจ สีลฺจ, อชฺชวํ มทฺทวํ ตปํ;

โสรจฺจํ อวิหึสฺจ, ขนฺติฺจาปิ อวณฺณยุํ.

๒๙๕.

‘‘โย เนสํ ปรโม อาสิ, พฺรหฺมา ทฬฺหปรกฺกโม;

ส วาปิ เมถุนํ ธมฺมํ, สุปินนฺเตปิ นาคมา.

๒๙๖.

‘‘ตสฺส วตฺตมนุสิกฺขนฺตา, อิเธเก วิฺุชาติกา;

พฺรหฺมจริยฺจ สีลฺจ, ขนฺติฺจาปิ อวณฺณยุํ.

๒๙๗.

‘‘ตณฺฑุลํ สยนํ วตฺถํ, สปฺปิเตลฺจ ยาจิย;

ธมฺเมน สโมธาเนตฺวา, ตโต ยฺมกปฺปยุํ.

๒๙๘.

‘‘อุปฏฺิตสฺมึ ยฺสฺมึ, นาสฺสุ คาโว หนึสุ เต;

ยถา มาตา ปิตา ภาตา, อฺเ วาปิ จ าตกา;

คาโว โน ปรมา มิตฺตา, ยาสุ ชายนฺติ โอสธา.

๒๙๙.

‘‘อนฺนทา พลทา เจตา, วณฺณทา สุขทา ตถา [สุขทา จ ตา (ก.)];

เอตมตฺถวสํ ตฺวา, นาสฺสุ คาโว หนึสุ เต.

๓๐๐.

‘‘สุขุมาลา มหากายา, วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน;

พฺราหฺมณา เสหิ ธมฺเมหิ, กิจฺจากิจฺเจสุ อุสฺสุกา;

ยาว โลเก อวตฺตึสุ, สุขเมธิตฺถยํ ปชา.

๓๐๑.

‘‘เตสํ อาสิ วิปลฺลาโส, ทิสฺวาน อณุโต อณุํ;

ราชิโน จ วิยาการํ, นาริโย สมลงฺกตา.

๓๐๒.

‘‘รเถ จาชฺสํยุตฺเต, สุกเต จิตฺตสิพฺพเน;

นิเวสเน นิเวเส จ, วิภตฺเต ภาคโส มิเต.

๓๐๓.

‘‘โคมณฺฑลปริพฺยูฬฺหํ, นารีวรคณายุตํ;

อุฬารํ มานุสํ โภคํ, อภิชฺฌายึสุ พฺราหฺมณา.

๓๐๔.

‘‘เต ตตฺถ มนฺเต คนฺเถตฺวา, โอกฺกากํ ตทุปาคมุํ;

ปหูตธนธฺโสิ , ยชสฺสุ พหุ เต วิตฺตํ;

ยชสฺสุ พหุ เต ธนํ.

๓๐๕.

‘‘ตโต จ ราชา สฺตฺโต, พฺราหฺมเณหิ รเถสโภ;

อสฺสเมธํ ปุริสเมธํ, สมฺมาปาสํ วาชเปยฺยํ นิรคฺคฬํ;

เอเต ยาเค ยชิตฺวาน, พฺราหฺมณานมทา ธนํ.

๓๐๖.

‘‘คาโว สยนฺจ วตฺถฺจ, นาริโย สมลงฺกตา;

รเถ จาชฺสํยุตฺเต, สุกเต จิตฺตสิพฺพเน.

๓๐๗.

‘‘นิเวสนานิ รมฺมานิ, สุวิภตฺตานิ ภาคโส;

นานาธฺสฺส ปูเรตฺวา, พฺราหฺมณานมทา ธนํ.

๓๐๘.

‘‘เต จ ตตฺถ ธนํ ลทฺธา, สนฺนิธึ สมโรจยุํ;

เตสํ อิจฺฉาวติณฺณานํ, ภิยฺโย ตณฺหา ปวฑฺฒถ;

เต ตตฺถ มนฺเต คนฺเถตฺวา, โอกฺกากํ ปุนมุปาคมุํ.

๓๐๙.

‘‘ยถา อาโป จ ปถวี จ, หิรฺํ ธนธานิยํ;

เอวํ คาโว มนุสฺสานํ, ปริกฺขาโร โส หิ ปาณินํ;

ยชสฺสุ พหุ เต วิตฺตํ, ยชสฺสุ พหุ เต ธนํ.

๓๑๐.

‘‘ตโต จ ราชา สฺตฺโต, พฺราหฺมเณหิ รเถสโภ;

เนกา สตสหสฺสิโย, คาโว ยฺเ อฆาตยิ.

๓๑๑.

‘‘น ปาทา น วิสาเณน, นาสฺสุ หึสนฺติ เกนจิ;

คาโว เอฬกสมานา, โสรตา กุมฺภทูหนา;

ตา วิสาเณ คเหตฺวาน, ราชา สตฺเถน ฆาตยิ.

๓๑๒.

‘‘ตโต เทวา ปิตโร จ [ตโต จ เทวา ปิตโร (สี. สฺยา.)], อินฺโท อสุรรกฺขสา;

อธมฺโม อิติ ปกฺกนฺทุํ, ยํ สตฺถํ นิปตี คเว.

๓๑๓.

‘‘ตโย โรคา ปุเร อาสุํ, อิจฺฉา อนสนํ ชรา;

ปสูนฺจ สมารมฺภา, อฏฺานวุติมาคมุํ.

๓๑๔.

‘‘เอโส อธมฺโม ทณฺฑานํ, โอกฺกนฺโต ปุราโณ อหุ;

อทูสิกาโย หฺนฺติ, ธมฺมา ธํสนฺติ [ธํเสนฺติ (สี. ปี.)] ยาชกา.

๓๑๕.

‘‘เอวเมโส อณุธมฺโม, โปราโณ วิฺุครหิโต;

ยตฺถ เอทิสกํ ปสฺสติ, ยาชกํ ครหตี [ครหี (ก.)] ชโน.

๓๑๖.

‘‘เอวํ ธมฺเม วิยาปนฺเน, วิภินฺนา สุทฺทเวสฺสิกา;

ปุถู วิภินฺนา ขตฺติยา, ปตึ ภริยาวมฺถ.

๓๑๗.

‘‘ขตฺติยา พฺรหฺมพนฺธู จ, เย จฺเ โคตฺตรกฺขิตา;

ชาติวาทํ นิรํกตฺวา [นิรากตฺวา (?) ยถา อนิรากตชฺฌาโนติ], กามานํ วสมนฺวคุ’’นฺติ.

เอวํ วุตฺเต, เต พฺราหฺมณมหาสาลา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป. … อุปาสเก โน ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปเต สรณํ คเต’’ติ.

พฺราหฺมณธมฺมิกสุตฺตํ สตฺตมํ นิฏฺิตํ.

๘. นาวาสุตฺตํ

๓๑๘.

ยสฺมา หิ ธมฺมํ ปุริโส วิชฺา, อินฺทํว นํ เทวตา ปูชเยยฺย;

โส ปูชิโต ตสฺมิ ปสนฺนจิตฺโต, พหุสฺสุโต ปาตุกโรติ ธมฺมํ.

๓๑๙.

ตทฏฺิกตฺวาน นิสมฺม ธีโร, ธมฺมานุธมฺมํ ปฏิปชฺชมาโน;

วิฺู วิภาวี นิปุโณ จ โหติ, โย ตาทิสํ ภชติ อปฺปมตฺโต.

๓๒๐.

ขุทฺทฺจ พาลํ อุปเสวมาโน, อนาคตตฺถฺจ อุสูยกฺจ;

อิเธว ธมฺมํ อวิภาวยิตฺวา, อวิติณฺณกงฺโข มรณํ อุเปติ.

๓๒๑.

ยถา นโร อาปคโมตริตฺวา, มโหทกํ สลิลํ สีฆโสตํ;

โส วุยฺหมาโน อนุโสตคามี, กึ โส ปเร สกฺขติ ตารเยตุํ.

๓๒๒.

ตเถว ธมฺมํ อวิภาวยิตฺวา, พหุสฺสุตานํ อนิสามยตฺถํ;

สยํ อชานํ อวิติณฺณกงฺโข, กึ โส ปเร สกฺขติ นิชฺฌเปตุํ.

๓๒๓.

ยถาปิ นาวํ ทฬฺหมารุหิตฺวา, ผิเยน [ปิเยน (สี. สฺยา.)] ริตฺเตน สมงฺคิภูโต;

โส ตารเย ตตฺถ พหูปิ อฺเ, ตตฺรูปยฺู กุสโล มุตีมา [มตีมา (สฺยา. ก.)].

๓๒๔.

เอวมฺปิ โย เวทคุ ภาวิตตฺโต, พหุสฺสุโต โหติ อเวธธมฺโม;

โส โข ปเร นิชฺฌปเย ปชานํ, โสตาวธานูปนิสูปปนฺเน.

๓๒๕.

ตสฺมา หเว สปฺปุริสํ ภเชถ, เมธาวินฺเจว พหุสฺสุตฺจ;

อฺาย อตฺถํ ปฏิปชฺชมาโน, วิฺาตธมฺโม ส สุขํ [โส สุขํ (สี.)] ลเภถาติ.

นาวาสุตฺตํ อฏฺมํ นิฏฺิตํ.

๙. กึสีลสุตฺตํ

๓๒๖.

‘‘กึสีโล กึสมาจาโร, กานิ กมฺมานิ พฺรูหยํ;

นโร สมฺมา นิวิฏฺสฺส, อุตฺตมตฺถฺจ ปาปุเณ’’.

๓๒๗.

‘‘วุฑฺฒาปจายี อนุสูยโก สิยา, กาลฺู [กาลฺุ (สี. สฺยา.)] จสฺส ครูนํ [ครูนํ (สี.)] ทสฺสนาย;

ธมฺมึ กถํ เอรยิตํ ขณฺู, สุเณยฺย สกฺกจฺจ สุภาสิตานิ.

๓๒๘.

‘‘กาเลน คจฺเฉ ครูนํ สกาสํ, ถมฺภํ นิรํกตฺวา [นิรากตฺวา (?) นิ + อา + กร + ตฺวา] นิวาตวุตฺติ;

อตฺถํ ธมฺมํ สํยมํ พฺรหฺมจริยํ, อนุสฺสเร เจว สมาจเร จ.

๓๒๙.

‘‘ธมฺมาราโม ธมฺมรโต, ธมฺเม ิโต ธมฺมวินิจฺฉยฺู;

เนวาจเร ธมฺมสนฺโทสวาทํ, ตจฺเฉหิ นีเยถ สุภาสิเตหิ.

๓๓๐.

‘‘หสฺสํ ชปฺปํ ปริเทวํ ปโทสํ, มายากตํ กุหนํ คิทฺธิ มานํ;

สารมฺภํ กกฺกสํ กสาวฺจ มุจฺฉํ [สารมฺภ กกฺกสฺส กสาว มุจฺฉํ (สฺยา. ปี.)], หิตฺวา จเร วีตมโท ิตตฺโต.

๓๓๑.

‘‘วิฺาตสารานิ สุภาสิตานิ, สุตฺจ วิฺาตสมาธิสารํ;

น ตสฺส ปฺา จ สุตฺจ วฑฺฒติ, โย สาหโส โหติ นโร ปมตฺโต.

๓๓๒.

‘‘ธมฺเม จ เย อริยปเวทิเต รตา,

อนุตฺตรา เต วจสา มนสา กมฺมุนา จ;

เต สนฺติโสรจฺจสมาธิสณฺิตา,

สุตสฺส ปฺาย จ สารมชฺฌคู’’ติ.

กึสีลสุตฺตํ นวมํ นิฏฺิตํ.

๑๐. อุฏฺานสุตฺตํ

๓๓๓.

อุฏฺหถ นิสีทถ, โก อตฺโถ สุปิเตน โว;

อาตุรานฺหิ กา นิทฺทา, สลฺลวิทฺธาน รุปฺปตํ.

๓๓๔.

อุฏฺหถ นิสีทถ, ทฬฺหํ สิกฺขถ สนฺติยา;

มา โว ปมตฺเต วิฺาย, มจฺจุราชา อโมหยิตฺถ วสานุเค.

๓๓๕.

ยาย เทวา มนุสฺสา จ, สิตา ติฏฺนฺติ อตฺถิกา;

ตรเถตํ วิสตฺติกํ, ขโณ โว [ขโณ เว (ปี. ก.)] มา อุปจฺจคา;

ขณาตีตา หิ โสจนฺติ, นิรยมฺหิ สมปฺปิตา.

๓๓๖.

ปมาโท รโช ปมาโท, ปมาทานุปติโต รโช;

อปฺปมาเทน วิชฺชาย, อพฺพเห [อพฺพูฬฺเห (สฺยา. ปี.), อพฺพุเห (ก. อฏฺ.)] สลฺลมตฺตโนติ.

อุฏฺานสุตฺตํ ทสมํ นิฏฺิตํ.

๑๑. ราหุลสุตฺตํ

๓๓๗.

‘‘กจฺจิ อภิณฺหสํวาสา, นาวชานาสิ ปณฺฑิตํ;

อุกฺกาธาโร [โอกฺกาธาโร (สฺยา. ก.)] มนุสฺสานํ, กจฺจิ อปจิโต ตยา’’ [ตว (สี. อฏฺ.)].

๓๓๘.

‘‘นาหํ อภิณฺหสํวาสา, อวชานามิ ปณฺฑิตํ;

อุกฺกาธาโร มนุสฺสานํ, นิจฺจํ อปจิโต มยา’’.

๓๓๙.

‘‘ปฺจ กามคุเณ หิตฺวา, ปิยรูเป มโนรเม;

สทฺธาย ฆรา นิกฺขมฺม, ทุกฺขสฺสนฺตกโร ภว.

๓๔๐.

‘‘มิตฺเต ภชสฺสุ กลฺยาเณ, ปนฺตฺจ สยนาสนํ;

วิวิตฺตํ อปฺปนิคฺโฆสํ, มตฺตฺู โหหิ โภชเน.

๓๔๑.

‘‘จีวเร ปิณฺฑปาเต จ, ปจฺจเย สยนาสเน;

เอเตสุ ตณฺหํ มากาสิ, มา โลกํ ปุนราคมิ.

๓๔๒.

‘‘สํวุโต ปาติโมกฺขสฺมึ, อินฺทฺริเยสุ จ ปฺจสุ;

สติ กายคตาตฺยตฺถุ, นิพฺพิทาพหุโล ภว.

๓๔๓.

‘‘นิมิตฺตํ ปริวชฺเชหิ, สุภํ ราคูปสฺหิตํ;

อสุภาย จิตฺตํ ภาเวหิ, เอกคฺคํ สุสมาหิตํ.

๓๔๔.

‘‘อนิมิตฺตฺจ ภาเวหิ, มานานุสยมุชฺชห;

ตโต มานาภิสมยา, อุปสนฺโต จริสฺสตี’’ติ.

อิตฺถํ สุทํ ภควา อายสฺมนฺตํ ราหุลํ อิมาหิ คาถาหิ อภิณฺหํ โอวทตีติ.

ราหุลสุตฺตํ เอกาทสมํ นิฏฺิตํ.

๑๒. นิคฺโรธกปฺปสุตฺตํ

เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อาฬวิยํ วิหรติ อคฺคาฬเว เจติเย. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต วงฺคีสสฺส อุปชฺฌาโย นิคฺโรธกปฺโป นาม เถโร อคฺคาฬเว เจติเย อจิรปรินิพฺพุโต โหติ. อถ โข อายสฺมโต วงฺคีสสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘ปรินิพฺพุโต นุ โข เม อุปชฺฌาโย อุทาหุ โน ปรินิพฺพุโต’’ติ? อถ โข อายสฺมา วงฺคีโส สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา วงฺคีโส ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘ปรินิพฺพุโต นุ โข เม อุปชฺฌาโย, อุทาหุ โน ปรินพฺพุโต’’’ติ. อถ โข อายสฺมา วงฺคีโส อุฏฺายาสนา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

๓๔๕.

‘‘ปุจฺฉาม [ปุจฺฉามิ (ก.)] สตฺถารมโนมปฺํ, ทิฏฺเว ธมฺเม โย วิจิกิจฺฉานํ เฉตฺตา;

อคฺคาฬเว กาลมกาสิ ภิกฺขุ, าโต ยสสฺสี อภินิพฺพุตตฺโต.

๓๔๖.

‘‘นิคฺโรธกปฺโป อิติ ตสฺส นามํ, ตยา กตํ ภควา พฺราหฺมณสฺส;

โส ตํ นมสฺสํ อจริ มุตฺยเปกฺโข, อารทฺธวีริโย ทฬฺหธมฺมทสฺสี.

๓๔๗.

‘‘ตํ สาวกํ สกฺย [สกฺก (สี. สฺยา. ปี.)] มยมฺปิ สพฺเพ, อฺาตุมิจฺฉาม สมนฺตจกฺขุ;

สมวฏฺิตา โน สวนาย โสตา, ตุวํ โน สตฺถา ตฺวมนุตฺตโรสิ.

๓๔๘.

‘‘ฉินฺเทว โน วิจิกิจฺฉํ พฺรูหิ เมตํ, ปรินิพฺพุตํ เวทย ภูริปฺ;

มชฺเฌว [มชฺเฌ จ (สฺยา. ก.)] โน ภาส สมนฺตจกฺขุ, สกฺโกว เทวาน สหสฺสเนตฺโต.

๓๔๙.

‘‘เย เกจิ คนฺถา อิธ โมหมคฺคา, อฺาณปกฺขา วิจิกิจฺฉานา;

ตถาคตํ ปตฺวา น เต ภวนฺติ, จกฺขุฺหิ เอตํ ปรมํ นรานํ.

๓๕๐.

‘‘โน เจ หิ ชาตุ ปุริโส กิเลเส, วาโต ยถา อพฺภธนํ วิหาเน;

ตโมวสฺส นิวุโต สพฺพโลโก, น โชติมนฺโตปิ นรา ตเปยฺยุํ.

๓๕๑.

‘‘ธีรา จ ปชฺโชตกรา ภวนฺติ, ตํ ตํ อหํ วีร [ธีร (สี. สฺยา.)] ตเถว มฺเ;

วิปสฺสินํ ชานมุปาคมุมฺหา [ชานมุปคมมฺหา (สี. สฺยา.)], ปริสาสุ โน อาวิกโรหิ กปฺปํ.

๓๕๒.

‘‘ขิปฺปํ คิรํ เอรย วคฺคุ วคฺคุํ, หํโสว ปคฺคยฺห สณิกํ [สณึ (สฺยา. ปี.)] นิกูช;

พินฺทุสฺสเรน สุวิกปฺปิเตน, สพฺเพว เต อุชฺชุคตา สุโณม.

๓๕๓.

‘‘ปหีนชาติมรณํ อเสสํ, นิคฺคยฺห โธนํ [โธตํ (สี.)] วเทสฺสามิ ธมฺมํ;

น กามกาโร หิ ปุถุชฺชนานํ, สงฺเขยฺยกาโร จ [สงฺขยฺยกาโรว (ก.)] ตถาคตานํ.

๓๕๔.

‘‘สมฺปนฺนเวยฺยากรณํ ตเวทํ, สมุชฺชุปฺสฺส [สมุชฺชปฺสฺส (สฺยา. ก.)] สมุคฺคหีตํ;

อยมฺชลี ปจฺฉิโม สุปฺปณามิโต, มา โมหยี ชานมโนมปฺ.

๓๕๕.

‘‘ปโรวรํ [วราวรํ (กตฺถจิ)] อริยธมฺมํ วิทิตฺวา, มา โมหยี ชานมโนมวีร;

วารึ ยถา ฆมฺมนิ ฆมฺมตตฺโต, วาจาภิกงฺขามิ สุตํ ปวสฺส [สุตสฺส วสฺส (สฺยา.)].

๓๕๖.

‘‘ยทตฺถิกํ [ยทตฺถิยํ (ปี.), ยทตฺถิตํ (ก.)] พฺรหฺมจริยํ อจรี, กปฺปายโน กจฺจิสฺส ตํ อโมฆํ;

นิพฺพายิ โส อาทุ สอุปาทิเสโส, ยถา วิมุตฺโต อหุ ตํ สุโณม’’.

๓๕๗.

‘‘อจฺเฉจฺฉิ [อเฉชฺชิ (ก.)] ตณฺหํ อิธ นามรูเป, (อิติ ภควา)

กณฺหสฺส [ตณฺหาย (ก.)] โสตํ ทีฆรตฺตานุสยิตํ;

อตาริ ชาตึ มรณํ อเสสํ,’’

อิจฺจพฺรวี ภควา ปฺจเสฏฺโ.

๓๕๘.

‘‘เอส สุตฺวา ปสีทามิ, วโจ เต อิสิสตฺตม;

อโมฆํ กิร เม ปุฏฺํ, น มํ วฺเจสิ พฺราหฺมโณ.

๓๕๙.

‘‘ยถาวาที ตถาการี, อหุ พุทฺธสฺส สาวโก;

อจฺฉิทา มจฺจุโน ชาลํ, ตตํ มายาวิโน ทฬฺหํ.

๓๖๐.

‘‘อทฺทสา ภควา อาทึ, อุปาทานสฺส กปฺปิโย;

อจฺจคา วต กปฺปายโน, มจฺจุเธยฺยํ สุทุตฺตร’’นฺติ.

นิคฺโรธกปฺปสุตฺตํ ทฺวาทสมํ นิฏฺิตํ.

๑๓. สมฺมาปริพฺพาชนียสุตฺตํ

๓๖๑.

‘‘ปุจฺฉามิ มุนึ ปหูตปฺํ,

ติณฺณํ ปารงฺคตํ ปรินิพฺพุตํ ิตตฺตํ;

นิกฺขมฺม ฆรา ปนุชฺช กาเม, กถํ ภิกฺขุ

สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย’’.

๓๖๒.

‘‘ยสฺส มงฺคลา สมูหตา, (อิติ ภควา)

อุปฺปาตา สุปินา จ ลกฺขณา จ;

โส มงฺคลโทสวิปฺปหีโน,

สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.

๓๖๓.

‘‘ราคํ วินเยถ มานุเสสุ, ทิพฺเพสุ กาเมสุ จาปิ ภิกฺขุ;

อติกฺกมฺม ภวํ สเมจฺจ ธมฺมํ, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.

๓๖๔.

‘‘วิปิฏฺิกตฺวาน เปสุณานิ, โกธํ กทริยํ ชเหยฺย ภิกฺขุ;

อนุโรธวิโรธวิปฺปหีโน, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.

๓๖๕.

‘‘หิตฺวาน ปิยฺจ อปฺปิยฺจ, อนุปาทาย อนิสฺสิโต กุหิฺจิ;

สํโยชนิเยหิ วิปฺปมุตฺโต, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.

๓๖๖.

‘‘น โส อุปธีสุ สารเมติ, อาทาเนสุ วิเนยฺย ฉนฺทราคํ;

โส อนิสฺสิโต อนฺเนยฺโย, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.

๓๖๗.

‘‘วจสา มนสา จ กมฺมุนา จ, อวิรุทฺโธ สมฺมา วิทิตฺวา ธมฺมํ;

นิพฺพานปทาภิปตฺถยาโน, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.

๓๖๘.

‘‘โย วนฺทติ มนฺติ นุณฺณเมยฺย [นุนฺนเมยฺย (?)], อกฺกุฏฺโปิ น สนฺธิเยถ ภิกฺขุ;

ลทฺธา ปรโภชนํ น มชฺเช, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.

๓๖๙.

‘‘โลภฺจ ภวฺจ วิปฺปหาย, วิรโต เฉทนพนฺธนา จ [เฉทนพนฺธนโต (สี. สฺยา.)] ภิกฺขุ;

โส ติณฺณกถํกโถ วิสลฺโล, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.

๓๗๐.

‘‘สารุปฺปํ อตฺตโน วิทิตฺวา, โน จ ภิกฺขุ หึเสยฺย กฺจิ โลเก;

ยถา ตถิยํ วิทิตฺวา ธมฺมํ, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.

๓๗๑.

‘‘ยสฺสานุสยา น สนฺติ เกจิ, มูลา จ [มูลา (สี. สฺยา.)] อกุสลา สมูหตาเส;

โส นิราโส [นิราสโย (สี.), นิราสโส (สฺยา.)] อนาสิสาโน [อนาสยาโน (สี. ปี.), อนาสสาโน (สฺยา.)], สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.

๓๗๒.

‘‘อาสวขีโณ ปหีนมาโน, สพฺพํ ราคปถํ อุปาติวตฺโต;

ทนฺโต ปรินิพฺพุโต ิตตฺโต, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.

๓๗๓.

‘‘สทฺโธ สุตวา นิยามทสฺสี, วคฺคคเตสุ น วคฺคสาริ ธีโร;

โลภํ โทสํ วิเนยฺย ปฏิฆํ, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.

๓๗๔.

‘‘สํสุทฺธชิโน วิวฏฺฏจฺฉโท, ธมฺเมสุ วสี ปารคู อเนโช;

สงฺขารนิโรธาณกุสโล , สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.

๓๗๕.

‘‘อตีเตสุ อนาคเตสุ จาปิ, กปฺปาตีโต อติจฺจสุทฺธิปฺโ;

สพฺพายตเนหิ วิปฺปมุตฺโต, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.

๓๗๖.

‘‘อฺาย ปทํ สเมจฺจ ธมฺมํ, วิวฏํ ทิสฺวาน ปหานมาสวานํ;

สพฺพุปธีนํ ปริกฺขยาโน [ปริกฺขยา (ปี.)], สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย’’.

๓๗๗.

‘‘อทฺธา หิ ภควา ตเถว เอตํ, โย โส เอวํวิหารี ทนฺโต ภิกฺขุ;

สพฺพสํโยชนโยควีติวตฺโต [สพฺพสํโยชนิเย จ วีติวตฺโต (สี. สฺยา. ปี.)], สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺยา’’ติ.

สมฺมาปริพฺพาชนียสุตฺตํ เตรสมํ นิฏฺิตํ.

๑๔. ธมฺมิกสุตฺตํ

เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข ธมฺมิโก อุปาสโก ปฺจหิ อุปาสกสเตหิ สทฺธึ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ธมฺมิโก อุปาสโก ภควนฺตํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –

๓๗๘.

‘‘ปุจฺฉามิ ตํ โคตม ภูริปฺ, กถํกโร สาวโก สาธุ โหติ;

โย วา อคารา อนคารเมติ, อคาริโน วา ปนุปาสกาเส.

๓๗๙.

‘‘ตุวฺหิ โลกสฺส สเทวกสฺส, คตึ ปชานาสิ ปรายณฺจ;

น จตฺถิ ตุลฺโย นิปุณตฺถทสฺสี, ตุวฺหิ พุทฺธํ ปวรํ วทนฺติ.

๓๘๐.

‘‘สพฺพํ ตุวํ าณมเวจฺจ ธมฺมํ, ปกาเสสิ สตฺเต อนุกมฺปมาโน;

วิวฏฺฏจฺฉโทสิ สมนฺตจกฺขุ, วิโรจสิ วิมโล สพฺพโลเก.

๓๘๑.

‘‘อาคฺฉิ เต สนฺติเก นาคราชา, เอราวโณ นาม ชิโนติ สุตฺวา;

โสปิ ตยา มนฺตยิตฺวาชฺฌคมา, สาธูติ สุตฺวาน ปตีตรูโป.

๓๘๒.

‘‘ราชาปิ ตํ เวสฺสวโณ กุเวโร, อุเปติ ธมฺมํ ปริปุจฺฉมาโน;

ตสฺสาปิ ตฺวํ ปุจฺฉิโต พฺรูสิ ธีร, โส จาปิ สุตฺวาน ปตีตรูโป.

๓๘๓.

‘‘เย เกจิเม ติตฺถิยา วาทสีลา, อาชีวกา วา ยทิ วา นิคณฺา;

ปฺาย ตํ นาติตรนฺติ สพฺเพ, ิโต วชนฺตํ วิย สีฆคามึ.

๓๘๔.

‘‘เย เกจิเม พฺราหฺมณา วาทสีลา, วุทฺธา จาปิ พฺราหฺมณา สนฺติ เกจิ;

สพฺเพ ตยิ อตฺถพทฺธา ภวนฺติ, เย จาปิ อฺเ วาทิโน มฺมานา.

๓๘๕.

‘‘อยฺหิ ธมฺโม นิปุโณ สุโข จ, โยยํ ตยา ภควา สุปฺปวุตฺโต;

ตเมว สพฺเพปิ [สพฺเพ มยํ (สฺยา.)] สุสฺสูสมานา, ตํ โน วท ปุจฺฉิโต พุทฺธเสฏฺ.

๓๘๖.

‘‘สพฺเพปิ เม ภิกฺขโว สนฺนิสินฺนา, อุปาสกา จาปิ ตเถว โสตุํ;

สุณนฺตุ ธมฺมํ วิมเลนานุพุทฺธํ, สุภาสิตํ วาสวสฺเสว เทวา’’.

๓๘๗.

‘‘สุณาถ เม ภิกฺขโว สาวยามิ โว, ธมฺมํ ธุตํ ตฺจ จราถ สพฺเพ;

อิริยาปถํ ปพฺพชิตานุโลมิกํ, เสเวถ นํ อตฺถทโส มุตีมา.

๓๘๘.

‘‘โน เว วิกาเล วิจเรยฺย ภิกฺขุ, คาเม จ ปิณฺฑาย จเรยฺย กาเล;

อกาลจาริฺหิ สชนฺติ สงฺคา, ตสฺมา วิกาเล น จรนฺติ พุทฺธา.

๓๘๙.

‘‘รูปา จ สทฺทา จ รสา จ คนฺธา, ผสฺสา จ เย สมฺมทยนฺติ สตฺเต;

เอเตสุ ธมฺเมสุ วิเนยฺย ฉนฺทํ, กาเลน โส ปวิเส ปาตราสํ.

๓๙๐.

‘‘ปิณฺฑฺจ ภิกฺขุ สมเยน ลทฺธา, เอโก ปฏิกฺกมฺม รโห นิสีเท;

อชฺฌตฺตจินฺตี น มโน พหิทฺธา, นิจฺฉารเย สงฺคหิตตฺตภาโว.

๓๙๑.

‘‘สเจปิ โส สลฺลเป สาวเกน, อฺเน วา เกนจิ ภิกฺขุนา วา;

ธมฺมํ ปณีตํ ตมุทาหเรยฺย, น เปสุณํ โนปิ ปรูปวาทํ.

๓๙๒.

‘‘วาทฺหิ เอเก ปฏิเสนิยนฺติ, น เต ปสํสาม ปริตฺตปฺเ;

ตโต ตโต เน ปสชนฺติ สงฺคา, จิตฺตฺหิ เต ตตฺถ คเมนฺติ ทูเร.

๓๙๓.

‘‘ปิณฺฑํ วิหารํ สยนาสนฺจ, อาปฺจ สงฺฆาฏิรชูปวาหนํ;

สุตฺวาน ธมฺมํ สุคเตน เทสิตํ, สงฺขาย เสเว วรปฺสาวโก.

๓๙๔.

‘‘ตสฺมา หิ ปิณฺเฑ สยนาสเน จ, อาเป จ สงฺฆาฏิรชูปวาหเน;

เอเตสุ ธมฺเมสุ อนูปลิตฺโต, ภิกฺขุ ยถา โปกฺขเร วาริพินฺทุ.

๓๙๕.

‘‘คหฏฺวตฺตํ ปน โว วทามิ, ยถากโร สาวโก สาธุ โหติ;

น เหส [น เหโส (สี.)] ลพฺภา สปริคฺคเหน, ผสฺเสตุํ โย เกวโล ภิกฺขุธมฺโม.

๓๙๖.

‘‘ปาณํ น หเน [น หาเน (สี.)] น จ ฆาตเยยฺย, น จานุชฺา หนตํ ปเรสํ;

สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ, เย ถาวรา เย จ ตสา สนฺติ [ตสนฺติ (สี. ปี.)] โลเก.

๓๙๗.

‘‘ตโต อทินฺนํ ปริวชฺชเยยฺย, กิฺจิ กฺวจิ สาวโก พุชฺฌมาโน;

น หารเย หรตํ นานุชฺา, สพฺพํ อทินฺนํ ปริวชฺชเยยฺย.

๓๙๘.

‘‘อพฺรหฺมจริยํ ปริวชฺชเยยฺย, องฺคารกาสุํ ชลิตํว วิฺู;

อสมฺภุณนฺโต ปน พฺรหฺมจริยํ, ปรสฺส ทารํ น อติกฺกเมยฺย.

๓๙๙.

‘‘สภคฺคโต วา ปริสคฺคโต วา, เอกสฺส เวโก [เจโต (สี. สฺยา.)] น มุสา ภเณยฺย;

น ภาณเย ภณตํ นานุชฺา, สพฺพํ อภูตํ ปริวชฺชเยยฺย.

๔๐๐.

‘‘มชฺชฺจ ปานํ น สมาจเรยฺย, ธมฺมํ อิมํ โรจเย โย คหฏฺโ;

น ปายเย ปิวตํ นานุชฺา, อุมฺมาทนนฺตํ อิติ นํ วิทิตฺวา.

๔๐๑.

‘‘มทา หิ ปาปานิ กโรนฺติ พาลา, กาเรนฺติ จฺเปิ ชเน ปมตฺเต;

เอตํ อปุฺายตนํ วิวชฺชเย, อุมฺมาทนํ โมหนํ พาลกนฺตํ.

๔๐๒.

‘‘ปาณํ น หเน น จาทินฺนมาทิเย, มุสา น ภาเส น จ มชฺชโป สิยา;

อพฺรหฺมจริยา วิรเมยฺย เมถุนา, รตฺตึ น ภุฺเชยฺย วิกาลโภชนํ.

๔๐๓.

‘‘มาลํ น ธาเร น จ คนฺธมาจเร, มฺเจ ฉมายํ ว สเยถ สนฺถเต;

เอตฺหิ อฏฺงฺคิกมาหุโปสถํ, พุทฺเธน ทุกฺขนฺตคุนา ปกาสิตํ.

๔๐๔.

‘‘ตโต จ ปกฺขสฺสุปวสฺสุโปสถํ, จาตุทฺทสึ ปฺจทสิฺจ อฏฺมึ;

ปาฏิหาริยปกฺขฺจ ปสนฺนมานโส, อฏฺงฺคุเปตํ สุสมตฺตรูปํ.

๔๐๕.

‘‘ตโต จ ปาโต อุปวุตฺถุโปสโถ, อนฺเนน ปาเนน จ ภิกฺขุสงฺฆํ;

ปสนฺนจิตฺโต อนุโมทมาโน, ยถารหํ สํวิภเชถ วิฺู.

๔๐๖.

‘‘ธมฺเมน มาตาปิตโร ภเรยฺย, ปโยชเย ธมฺมิกํ โส วณิชฺชํ;

เอตํ คิหี วตฺตยมปฺปมตฺโต, สยมฺปเภ นาม อุเปติ เทเว’’ติ.

ธมฺมิกสุตฺตํ จุทฺทสมํ นิฏฺิตํ.

จูฬวคฺโค ทุติโย นิฏฺิโต.

ตสฺสุทฺทานํ

รตนามคนฺโธ หิริ จ, มงฺคลํ สูจิโลเมน;

ธมฺมจริยฺจ พฺราหฺมโณ [กปิโล พฺราหฺมโณปิ จ (สฺยา. ก.)], นาวา กึสีลมุฏฺานํ.

ราหุโล ปุน กปฺโป จ, ปริพฺพาชนิยํ ตถา;

ธมฺมิกฺจ วิทุโน อาหุ, จูฬวคฺคนฺติ จุทฺทสาติ.