📜
๒. จูฬวคฺโค
๑. รตนสุตฺตํ
ยานีธ ¶ ¶ ¶ ภูตานิ สมาคตานิ, ภุมฺมานิ [ภูมานิ (ก.)] วา ยานิ ว อนฺตลิกฺเข;
สพฺเพว ภูตา สุมนา ภวนฺตุ, อโถปิ สกฺกจฺจ สุณนฺตุ ภาสิตํ.
ตสฺมา หิ ภูตา นิสาเมถ สพฺเพ, เมตฺตํ กโรถ มานุสิยา ปชาย;
ทิวา จ รตฺโต จ หรนฺติ เย พลึ, ตสฺมา หิ เน รกฺขถ อปฺปมตฺตา.
ยํ กิฺจิ วิตฺตํ อิธ วา หุรํ วา, สคฺเคสุ วา ยํ รตนํ ปณีตํ;
น โน สมํ อตฺถิ ตถาคเตน, อิทมฺปิ พุทฺเธ รตนํ ปณีตํ;
เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.
ขยํ วิราคํ อมตํ ปณีตํ, ยทชฺฌคา ¶ สกฺยมุนี สมาหิโต;
น เตน ธมฺเมน สมตฺถิ กิฺจิ, อิทมฺปิ ธมฺเม รตนํ ปณีตํ;
เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.
ยํ พุทฺธเสฏฺโ ปริวณฺณยี สุจึ, สมาธิมานนฺตริกฺมาหุ;
สมาธินา ¶ เตน สโม น วิชฺชติ, อิทมฺปิ ธมฺเม รตนํ ปณีตํ;
เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.
เย ¶ ปุคฺคลา อฏฺ สตํ ปสตฺถา, จตฺตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนฺติ;
เต ทกฺขิเณยฺยา สุคตสฺส สาวกา, เอเตสุ ทินฺนานิ มหปฺผลานิ;
อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ, เอเตน ¶ สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.
เย ¶ สุปฺปยุตฺตา มนสา ทฬฺเหน, นิกฺกามิโน โคตมสาสนมฺหิ;
เต ปตฺติปตฺตา อมตํ วิคยฺห, ลทฺธา มุธา นิพฺพุตึ [นิพฺพุติ (ก.)] ภฺุชมานา;
อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.
ยถินฺทขีโล ปถวิสฺสิโต [ปทวิสฺสิโต (ก. สี.), ปวึ สิโต (ก. สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สิยา, จตุพฺภิ วาเตหิ อสมฺปกมฺปิโย;
ตถูปมํ สปฺปุริสํ วทามิ, โย อริยสจฺจานิ อเวจฺจ ปสฺสติ;
อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.
เย อริยสจฺจานิ วิภาวยนฺติ, คมฺภีรปฺเน สุเทสิตานิ;
กิฺจาปิ เต โหนฺติ ภุสํ ปมตฺตา, น เต ภวํ อฏฺมมาทิยนฺติ;
อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ, เอเตน ¶ สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.
สหาวสฺส ทสฺสนสมฺปทาย [สหาวสทฺทสฺสนสมฺปทาย (ก.)], ตยสฺสุ ธมฺมา ชหิตา ภวนฺติ;
สกฺกายทิฏฺิ ¶ วิจิกิจฺฉิตฺจ, สีลพฺพตํ วาปิ ยทตฺถิ กิฺจิ.
จตูหปาเยหิ ¶ จ วิปฺปมุตฺโต, ฉจฺจาภิานานิ [ฉ จาภิานานิ (สี. สฺยา.)] ภพฺพ กาตุํ [อภพฺโพ กาตุํ (สี.)];
อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.
กิฺจาปิ โส กมฺม [กมฺมํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] กโรติ ปาปกํ, กาเยน วาจา อุท เจตสา วา;
อภพฺพ [อภพฺโพ (พหูสุ)] โส ตสฺส ปฏิจฺฉทาย [ปฏิจฺฉาทาย (สี.)], อภพฺพตา ทิฏฺปทสฺส วุตฺตา;
อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.
วนปฺปคุมฺเพ ยถ [ยถา (สี. สฺยา.)] ผุสฺสิตคฺเค, คิมฺหานมาเส ปมสฺมึ [ปมสฺมิ (?)] คิมฺเห;
ตถูปมํ ธมฺมวรํ อเทสยิ [อเทสยี (สี.)], นิพฺพานคามึ ปรมํ หิตาย;
อิทมฺปิ พุทฺเธ รตนํ ปณีตํ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.
วโร วรฺู วรโท วราหโร, อนุตฺตโร ธมฺมวรํ อเทสยิ;
อิทมฺปิ พุทฺเธ รตนํ ปณีตํ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.
ขีณํ ¶ ปุราณํ นว นตฺถิ สมฺภวํ, วิรตฺตจิตฺตายติเก ภวสฺมึ;
เต ขีณพีชา อวิรูฬฺหิฉนฺทา, นิพฺพนฺติ ¶ ¶ ธีรา ยถายํ [ยถยํ (ก.)] ปทีโป;
อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.
ยานีธ ¶ ภูตานิ สมาคตานิ, ภุมฺมานิ วา ยานิ ว อนฺตลิกฺเข;
ตถาคตํ เทวมนุสฺสปูชิตํ, พุทฺธํ นมสฺสาม สุวตฺถิ โหตุ.
ยานีธ ภูตานิ สมาคตานิ, ภุมฺมานิ วา ยานิ ว อนฺตลิกฺเข;
ตถาคตํ เทวมนุสฺสปูชิตํ, ธมฺมํ นมสฺสาม สุวตฺถิ โหตุ.
ยานีธ ภูตานิ สมาคตานิ, ภุมฺมานิ วา ยานิ ว อนฺตลิกฺเข;
ตถาคตํ เทวมนุสฺสปูชิตํ, สงฺฆํ นมสฺสาม สุวตฺถิ โหตูติ.
รตนสุตฺตํ ปมํ นิฏฺิตํ.
๒. อามคนฺธสุตฺตํ
‘‘สามากจิงฺคูลกจีนกานิ ¶ จ, ปตฺตปฺผลํ มูลผลํ ควิปฺผลํ;
ธมฺเมน ลทฺธํ สตมสฺนมานา [สตมสมานา (สี. ปี.), สตมสฺสมานา (สฺยา. กํ.)], น กามกามา อลิกํ ภณนฺติ.
‘‘ยทสฺนมาโน สุกตํ สุนิฏฺิตํ, ปเรหิ ทินฺนํ ปยตํ ปณีตํ;
สาลีนมนฺนํ ¶ ปริภฺุชมาโน, โส ภฺุชสี กสฺสป อามคนฺธํ.
‘‘น ¶ อามคนฺโธ มม กปฺปตีติ, อิจฺเจว ตฺวํ ภาสสิ พฺรหฺมพนฺธุ;
สาลีนมนฺนํ ปริภฺุชมาโน, สกุนฺตมํเสหิ สุสงฺขเตหิ;
ปุจฺฉามิ ตํ กสฺสป เอตมตฺถํ, กถํ ปกาโร ตว อามคนฺโธ’’.
‘‘ปาณาติปาโต ¶ วธเฉทพนฺธนํ, เถยฺยํ มุสาวาโท นิกติวฺจนานิ จ;
อชฺเฌนกุตฺตํ [อชฺเฌน กุชฺชํ (สี. ปี.)] ปรทารเสวนา, เอสามคนฺโธ น หิ มํสโภชนํ.
‘‘เย ¶ อิธ กาเมสุ อสฺตา ชนา, รเสสุ คิทฺธา อสุจิภาวมสฺสิตา [อสุจีกมิสฺสิตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)];
นตฺถิกทิฏฺี วิสมา ทุรนฺนยา, เอสามคนฺโธ น หิ มํสโภชนํ.
‘‘เย ลูขสา ทารุณา ปิฏฺิมํสิกา [เย ลูขรสา ทารุณา ปรปิฏฺิมํสิกา (ก.)], มิตฺตทฺทุโน นิกฺกรุณาติมานิโน;
อทานสีลา น จ เทนฺติ กสฺสจิ, เอสามคนฺโธ น หิ มํสโภชนํ.
‘‘โกโธ ¶ มโท ถมฺโภ ปจฺจุปฏฺาปนา [ปจฺจุฏฺาปนา จ (สี. สฺยา.), ปจฺจุฏฺาปนา (ปี.)], มายา อุสูยา ภสฺสสมุสฺสโย จ;
มานาติมาโน จ อสพฺภิ สนฺถโว, เอสามคนฺโธ น หิ มํสโภชนํ.
‘‘เย ปาปสีลา อิณฆาตสูจกา, โวหารกูฏา อิธ ปาฏิรูปิกา [ปาติรูปิกา (?)];
นราธมา เยธ กโรนฺติ กิพฺพิสํ, เอสามคนฺโธ น หิ มํสโภชนํ.
‘‘เย ¶ อิธ ปาเณสุ อสฺตา ชนา, ปเรสมาทาย วิเหสมุยฺยุตา;
ทุสฺสีลลุทฺทา ผรุสา อนาทรา, เอสามคนฺโธ ¶ น หิ มํสโภชนํ.
‘‘เอเตสุ คิทฺธา วิรุทฺธาติปาติโน, นิจฺจุยฺยุตา เปจฺจ ตมํ วชนฺติ เย;
ปตนฺติ สตฺตา นิรยํ อวํสิรา, เอสามคนฺโธ น หิ มํสโภชนํ.
‘‘น มจฺฉมํสานมนาสกตฺตํ [น มจฺฉมํสํ น อนาสกตฺตํ (สี. อฏฺ มูลปาโ), น มํจฺฉมํสานานาสกตฺตํ (สฺยา. ก.)], น นคฺคิยํ น มุณฺฑิยํ ชฏาชลฺลํ;
ขราชินานิ นาคฺคิหุตฺตสฺสุปเสวนา, เย วาปิ โลเก อมรา พหู ตปา;
มนฺตาหุตี ยฺมุตูปเสวนา, โสเธนฺติ มจฺจํ อวิติณฺณกงฺขํ.
‘‘โย เตสุ ¶ [โสเตสุ (สี. ปี.)] คุตฺโต วิทิตินฺทฺริโย จเร, ธมฺเม ิโต อชฺชวมทฺทเว รโต;
สงฺคาติโค สพฺพทุกฺขปฺปหีโน, น ลิปฺปติ [น ลิมฺปติ (สฺยา. กํ ก.)] ทิฏฺสุเตสุ ธีโร’’.
อิจฺเจตมตฺถํ ภควา ปุนปฺปุนํ, อกฺขาสิ นํ [ตํ (สี. ปี.)] เวทยิ มนฺตปารคู;
จิตฺราหิ คาถาหิ มุนี ปกาสยิ, นิรามคนฺโธ อสิโต ทุรนฺนโย.
สุตฺวาน ¶ พุทฺธสฺส สุภาสิตํ ปทํ, นิรามคนฺธํ ¶ สพฺพทุกฺขปฺปนูทนํ;
นีจมโน วนฺทิ ตถาคตสฺส, ตตฺเถว ปพฺพชฺชมโรจยิตฺถาติ.
อามคนฺธสุตฺตํ ทุติยํ นิฏฺิตํ.
๓. หิริสุตฺตํ
หิรึ ¶ ตรนฺตํ วิชิคุจฺฉมานํ, ตวาหมสฺมิ [สขาหมสฺมิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อิติ ภาสมานํ;
สยฺหานิ กมฺมานิ อนาทิยนฺตํ, เนโส มมนฺติ อิติ นํ วิชฺา.
อนนฺวยํ [อตฺถนฺวยํ (ก.)] ปิยํ วาจํ, โย มิตฺเตสุ ปกุพฺพติ;
อกโรนฺตํ ภาสมานํ, ปริชานนฺติ ปณฺฑิตา.
น ¶ โส มิตฺโต โย สทา อปฺปมตฺโต, เภทาสงฺกี รนฺธเมวานุปสฺสี;
ยสฺมิฺจ เสติ อุรสีว ปุตฺโต, ส เว มิตฺโต โย ปเรหิ อเภชฺโช.
ปามุชฺชกรณํ านํ, ปสํสาวหนํ สุขํ;
ผลานิสํโส ภาเวติ, วหนฺโต โปริสํ ธุรํ.
ปวิเวกรสํ ปิตฺวา, รสํ อุปสมสฺส จ;
นิทฺทโร ¶ โหติ นิปฺปาโป, ธมฺมปีติรสํ ปิวนฺติ.
หิริสุตฺตํ ตติยํ นิฏฺิตํ.
๔. มงฺคลสุตฺตํ
เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อฺตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข สา เทวตา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘พหู เทวา มนุสฺสา จ, มงฺคลานิ อจินฺตยุํ;
อากงฺขมานา โสตฺถานํ, พฺรูหิ มงฺคลมุตฺตมํ’’.
‘‘อเสวนา ¶ จ พาลานํ, ปณฺฑิตานฺจ เสวนา;
ปูชา จ ปูชเนยฺยานํ [ปูชนียานํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], เอตํ มงฺคลมุตฺตมํ.
‘‘ปติรูปเทสวาโส จ, ปุพฺเพ จ กตปฺุตา;
อตฺตสมฺมาปณิธิ [อตฺตสมฺมาปณีธี (กตฺถจิ)] จ, เอตํ มงฺคลมุตฺตมํ.
‘‘พาหุสจฺจฺจ ¶ สิปฺปฺจ, วินโย จ สุสิกฺขิโต;
สุภาสิตา จ ยา วาจา, เอตํ มงฺคลมุตฺตมํ.
‘‘มาตาปิตุ อุปฏฺานํ, ปุตฺตทารสฺส สงฺคโห;
อนากุลา ¶ จ กมฺมนฺตา, เอตํ มงฺคลมุตฺตมํ.
‘‘ทานฺจ ธมฺมจริยา จ, าตกานฺจ สงฺคโห;
อนวชฺชานิ กมฺมานิ, เอตํ มงฺคลมุตฺตมํ.
‘‘อารตี วิรตี ปาปา, มชฺชปานา จ สํยโม;
อปฺปมาโท จ ธมฺเมสุ, เอตํ มงฺคลมุตฺตมํ.
‘‘คารโว ¶ จ นิวาโต จ, สนฺตุฏฺิ จ กตฺุตา;
กาเลน ธมฺมสฺสวนํ [ธมฺมสวณํ (กตฺถจิ), ธมฺมสวนํ (สี. ก.)], เอตํ มงฺคลมุตฺตมํ.
‘‘ขนฺตี จ โสวจสฺสตา, สมณานฺจ ทสฺสนํ;
กาเลน ธมฺมสากจฺฉา, เอตํ มงฺคลมุตฺตมํ.
‘‘ตโป จ พฺรหฺมจริยฺจ, อริยสจฺจาน ทสฺสนํ;
นิพฺพานสจฺฉิกิริยา จ, เอตํ มงฺคลมุตฺตมํ.
‘‘ผุฏฺสฺส โลกธมฺเมหิ, จิตฺตํ ยสฺส น กมฺปติ;
อโสกํ วิรชํ เขมํ, เอตํ มงฺคลมุตฺตมํ.
‘‘เอตาทิสานิ กตฺวาน, สพฺพตฺถมปราชิตา;
สพฺพตฺถ โสตฺถึ คจฺฉนฺติ, ตํ เตสํ มงฺคลมุตฺตม’’นฺติ.
มงฺคลสุตฺตํ จตุตฺถํ นิฏฺิตํ.
๕. สูจิโลมสุตฺตํ
เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา คยายํ วิหรติ ฏงฺกิตมฺเจ สูจิโลมสฺส ยกฺขสฺส ภวเน. เตน โข ปน สมเยน ¶ ขโร จ ยกฺโข สูจิโลโม จ ยกฺโข ภควโต อวิทูเร อติกฺกมนฺติ. อถ โข ขโร ยกฺโข สูจิโลมํ ยกฺขํ เอตทโวจ – ‘‘เอโส สมโณ’’ติ. ‘‘เนโส สมโณ, สมณโก เอโส. ยาวาหํ ชานามิ [ยาว ชานามิ (สี. ปี.)] ยทิ วา โส สมโณ [ยทิ วา สมโณ (สฺยา.)], ยทิ วา โส สมณโก’’ติ [ยทิ วา สมณโกติ (สี. สฺยา. ปี.)].
อถ โข สูจิโลโม ยกฺโข เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต กายํ อุปนาเมสิ. อถ โข ภควา กายํ อปนาเมสิ. อถ โข สูจิโลโม ยกฺโข ภควนฺตํ เอตทโวจ ¶ – ‘‘ภายสิ มํ, สมณา’’ติ? ‘‘น ขฺวาหํ ตํ, อาวุโส, ภายามิ; อปิ จ เต สปฺผสฺโส ปาปโก’’ติ.
‘‘ปฺหํ ตํ, สมณ, ปุจฺฉิสฺสามิ. สเจ เม น พฺยากริสฺสสิ, จิตฺตํ วา เต ขิปิสฺสามิ, หทยํ วา เต ผาเลสฺสามิ, ปาเทสุ วา คเหตฺวา ปารคงฺคาย ขิปิสฺสามี’’ติ.
‘‘น ขฺวาหํ ตํ, อาวุโส, ปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย โย เม จิตฺตํ วา ขิเปยฺย หทยํ วา ผาเลยฺย ปาเทสุ วา คเหตฺวา ปารคงฺคาย ขิเปยฺย. อปิ จ ตฺวํ, อาวุโส, ปุจฺฉ ยทากงฺขสี’’ติ. อถ โข สูจิโลโม ยกฺโข ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘ราโค จ โทโส จ กุโตนิทานา, อรตี ¶ รตี โลมหํโส กุโตชา;
กุโต สมุฏฺาย มโนวิตกฺกา, กุมารกา ธงฺกมิโวสฺสชนฺติ’’.
‘‘ราโค จ โทโส จ อิโตนิทานา, อรตี รตี โลมหํโส อิโตชา;
อิโต สมุฏฺาย มโนวิตกฺกา, กุมารกา ธงฺกมิโวสฺสชนฺติ.
‘‘สฺเนหชา ¶ ¶ อตฺตสมฺภูตา, นิคฺโรธสฺเสว ขนฺธชา;
ปุถู วิสตฺตา กาเมสุ, มาลุวาว วิตตาวเน.
‘‘เย นํ ปชานนฺติ ยโตนิทานํ, เต นํ วิโนเทนฺติ สุโณหิ ยกฺข;
เต ทุตฺตรํ โอฆมิมํ ตรนฺติ, อติณฺณปุพฺพํ อปุนพฺภวายา’’ติ.
สูจิโลมสุตฺตํ ปฺจมํ นิฏฺิตํ.
๖. ธมฺมจริยสุตฺตํ
ธมฺมจริยํ ¶ พฺรหฺมจริยํ, เอตทาหุ วสุตฺตมํ;
ปพฺพชิโตปิ เจ โหติ, อคารา อนคาริยํ.
โส เจ มุขรชาติโก, วิเหสาภิรโต มโค;
ชีวิตํ ¶ ตสฺส ปาปิโย, รชํ วฑฺเฒติ อตฺตโน.
กลหาภิรโต ภิกฺขุ, โมหธมฺเมน อาวุโต;
อกฺขาตมฺปิ น ชานาติ, ธมฺมํ พุทฺเธน เทสิตํ.
วิเหสํ ภาวิตตฺตานํ, อวิชฺชาย ปุรกฺขโต;
สํกิเลสํ น ชานาติ, มคฺคํ นิรยคามินํ.
วินิปาตํ สมาปนฺโน, คพฺภา คพฺภํ ตมา ตมํ;
ส เว ตาทิสโก ภิกฺขุ, เปจฺจ ทุกฺขํ นิคจฺฉติ.
คูถกูโป ยถา อสฺส, สมฺปุณฺโณ คณวสฺสิโก;
โย จ เอวรูโป อสฺส, ทุพฺพิโสโธ หิ สางฺคโณ.
ยํ เอวรูปํ ชานาถ, ภิกฺขโว เคหนิสฺสิตํ;
ปาปิจฺฉํ ปาปสงฺกปฺปํ, ปาปอาจารโคจรํ.
สพฺเพ ¶ ¶ สมคฺคา หุตฺวาน, อภินิพฺพชฺชิยาถ [อภินิพฺพชฺชยาถ (สี. ปี. อ. นิ. ๘.๑๐)] นํ;
การณฺฑวํ [การณฺฑํ ว (สฺยา. ก.) อ. นิ. ๘.๑๐] นิทฺธมถ, กสมฺพุํ อปกสฺสถ [อวกสฺสถ (สี. สฺยา. ก.)].
ตโต ปลาเป [ปลาเส (ก.)] วาเหถ, อสฺสมเณ สมณมานิเน;
นิทฺธมิตฺวาน ปาปิจฺเฉ, ปาปอาจารโคจเร.
สุทฺธา ¶ สุทฺเธหิ สํวาสํ, กปฺปยวฺโห ปติสฺสตา;
ตโต สมคฺคา นิปกา, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสถาติ.
ธมฺมจริยสุตฺตํ [กปิลสุตฺตํ (อฏฺ.)] ฉฏฺํ นิฏฺิตํ.
๗. พฺราหฺมณธมฺมิกสุตฺตํ
เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข สมฺพหุลา โกสลกา พฺราหฺมณมหาสาลา ชิณฺณา วุฑฺฒา มหลฺลกา อทฺธคตา วโยอนุปฺปตฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต พฺราหฺมณมหาสาลา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘สนฺทิสฺสนฺติ นุ โข, โภ โคตม, เอตรหิ พฺราหฺมณา โปราณานํ พฺราหฺมณานํ พฺราหฺมณธมฺเม’’ติ? ‘‘น โข, พฺราหฺมณา, สนฺทิสฺสนฺติ เอตรหิ พฺราหฺมณา โปราณานํ พฺราหฺมณานํ พฺราหฺมณธมฺเม’’ติ. ‘‘สาธุ โน ภวํ โคตโม โปราณานํ พฺราหฺมณานํ พฺราหฺมณธมฺมํ ภาสตุ, สเจ โภโต โคตมสฺส อครู’’ติ. ‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณา, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข เต พฺราหฺมณมหาสาลา ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘อิสโย ปุพฺพกา อาสุํ, สฺตตฺตา ตปสฺสิโน;
ปฺจ กามคุเณ หิตฺวา, อตฺตทตฺถมจาริสุํ.
‘‘น ¶ ปสู พฺราหฺมณานาสุํ, น หิรฺํ น ธานิยํ;
สชฺฌายธนธฺาสุํ, พฺรหฺมํ นิธิมปาลยุํ.
‘‘ยํ ¶ ¶ เนสํ ปกตํ อาสิ, ทฺวารภตฺตํ อุปฏฺิตํ;
สทฺธาปกตเมสานํ, ทาตเว ตทมฺิสุํ.
‘‘นานารตฺเตหิ ¶ วตฺเถหิ, สยเนหาวสเถหิ จ;
ผีตา ชนปทา รฏฺา, เต นมสฺสึสุ พฺราหฺมเณ.
‘‘อวชฺฌา พฺราหฺมณา อาสุํ, อเชยฺยา ธมฺมรกฺขิตา;
น เน โกจิ นิวาเรสิ, กุลทฺวาเรสุ สพฺพโส.
‘‘อฏฺจตฺตาลีสํ วสฺสานิ, (โกมาร) พฺรหฺมจริยํ จรึสุ เต;
วิชฺชาจรณปริเยฏฺึ, อจรุํ พฺราหฺมณา ปุเร.
‘‘น พฺราหฺมณา อฺมคมุํ, นปิ ภริยํ กิณึสุ เต;
สมฺปิเยเนว สํวาสํ, สงฺคนฺตฺวา สมโรจยุํ.
‘‘อฺตฺร ตมฺหา สมยา, อุตุเวรมณึ ปติ;
อนฺตรา เมถุนํ ธมฺมํ, นาสฺสุ คจฺฉนฺติ พฺราหฺมณา.
‘‘พฺรหฺมจริยฺจ สีลฺจ, อชฺชวํ มทฺทวํ ตปํ;
โสรจฺจํ อวิหึสฺจ, ขนฺติฺจาปิ อวณฺณยุํ.
‘‘โย ¶ เนสํ ปรโม อาสิ, พฺรหฺมา ทฬฺหปรกฺกโม;
ส วาปิ เมถุนํ ธมฺมํ, สุปินนฺเตปิ นาคมา.
‘‘ตสฺส วตฺตมนุสิกฺขนฺตา, อิเธเก วิฺุชาติกา;
พฺรหฺมจริยฺจ สีลฺจ, ขนฺติฺจาปิ อวณฺณยุํ.
‘‘ตณฺฑุลํ สยนํ วตฺถํ, สปฺปิเตลฺจ ยาจิย;
ธมฺเมน สโมธาเนตฺวา, ตโต ยฺมกปฺปยุํ.
‘‘อุปฏฺิตสฺมึ ¶ ยฺสฺมึ, นาสฺสุ คาโว หนึสุ เต;
ยถา มาตา ปิตา ภาตา, อฺเ วาปิ จ าตกา;
คาโว โน ปรมา มิตฺตา, ยาสุ ชายนฺติ โอสธา.
‘‘อนฺนทา ¶ พลทา เจตา, วณฺณทา สุขทา ตถา [สุขทา จ ตา (ก.)];
เอตมตฺถวสํ ตฺวา, นาสฺสุ คาโว หนึสุ เต.
‘‘สุขุมาลา ¶ มหากายา, วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน;
พฺราหฺมณา เสหิ ธมฺเมหิ, กิจฺจากิจฺเจสุ อุสฺสุกา;
ยาว โลเก อวตฺตึสุ, สุขเมธิตฺถยํ ปชา.
‘‘เตสํ อาสิ วิปลฺลาโส, ทิสฺวาน อณุโต อณุํ;
ราชิโน จ วิยาการํ, นาริโย สมลงฺกตา.
‘‘รเถ จาชฺสํยุตฺเต, สุกเต จิตฺตสิพฺพเน;
นิเวสเน นิเวเส จ, วิภตฺเต ภาคโส มิเต.
‘‘โคมณฺฑลปริพฺยูฬฺหํ, นารีวรคณายุตํ;
อุฬารํ มานุสํ โภคํ, อภิชฺฌายึสุ พฺราหฺมณา.
‘‘เต ตตฺถ มนฺเต คนฺเถตฺวา, โอกฺกากํ ตทุปาคมุํ;
ปหูตธนธฺโสิ ¶ , ยชสฺสุ พหุ เต วิตฺตํ;
ยชสฺสุ พหุ เต ธนํ.
‘‘ตโต จ ราชา สฺตฺโต, พฺราหฺมเณหิ รเถสโภ;
อสฺสเมธํ ปุริสเมธํ, สมฺมาปาสํ วาชเปยฺยํ นิรคฺคฬํ;
เอเต ¶ ยาเค ยชิตฺวาน, พฺราหฺมณานมทา ธนํ.
‘‘คาโว สยนฺจ วตฺถฺจ, นาริโย สมลงฺกตา;
รเถ จาชฺสํยุตฺเต, สุกเต จิตฺตสิพฺพเน.
‘‘นิเวสนานิ รมฺมานิ, สุวิภตฺตานิ ภาคโส;
นานาธฺสฺส ปูเรตฺวา, พฺราหฺมณานมทา ธนํ.
‘‘เต ¶ จ ตตฺถ ธนํ ลทฺธา, สนฺนิธึ สมโรจยุํ;
เตสํ อิจฺฉาวติณฺณานํ, ภิยฺโย ตณฺหา ปวฑฺฒถ;
เต ตตฺถ มนฺเต คนฺเถตฺวา, โอกฺกากํ ปุนมุปาคมุํ.
‘‘ยถา อาโป จ ปถวี จ, หิรฺํ ธนธานิยํ;
เอวํ คาโว มนุสฺสานํ, ปริกฺขาโร โส หิ ปาณินํ;
ยชสฺสุ พหุ เต วิตฺตํ, ยชสฺสุ พหุ เต ธนํ.
‘‘ตโต จ ราชา สฺตฺโต, พฺราหฺมเณหิ รเถสโภ;
เนกา สตสหสฺสิโย, คาโว ยฺเ อฆาตยิ.
‘‘น ¶ ปาทา น วิสาเณน, นาสฺสุ หึสนฺติ เกนจิ;
คาโว เอฬกสมานา, โสรตา กุมฺภทูหนา;
ตา วิสาเณ คเหตฺวาน, ราชา สตฺเถน ฆาตยิ.
‘‘ตโต ¶ เทวา ปิตโร จ [ตโต จ เทวา ปิตโร (สี. สฺยา.)], อินฺโท อสุรรกฺขสา;
อธมฺโม อิติ ปกฺกนฺทุํ, ยํ สตฺถํ นิปตี คเว.
‘‘ตโย โรคา ปุเร อาสุํ, อิจฺฉา อนสนํ ชรา;
ปสูนฺจ สมารมฺภา, อฏฺานวุติมาคมุํ.
‘‘เอโส ¶ อธมฺโม ทณฺฑานํ, โอกฺกนฺโต ปุราโณ อหุ;
อทูสิกาโย หฺนฺติ, ธมฺมา ธํสนฺติ [ธํเสนฺติ (สี. ปี.)] ยาชกา.
‘‘เอวเมโส อณุธมฺโม, โปราโณ วิฺุครหิโต;
ยตฺถ เอทิสกํ ปสฺสติ, ยาชกํ ครหตี [ครหี (ก.)] ชโน.
‘‘เอวํ ธมฺเม วิยาปนฺเน, วิภินฺนา สุทฺทเวสฺสิกา;
ปุถู วิภินฺนา ขตฺติยา, ปตึ ภริยาวมฺถ.
‘‘ขตฺติยา ¶ พฺรหฺมพนฺธู จ, เย จฺเ โคตฺตรกฺขิตา;
ชาติวาทํ นิรํกตฺวา [นิรากตฺวา (?) ยถา อนิรากตชฺฌาโนติ], กามานํ วสมนฺวคุ’’นฺติ.
เอวํ วุตฺเต, เต พฺราหฺมณมหาสาลา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป. ¶ … อุปาสเก โน ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปเต สรณํ คเต’’ติ.
พฺราหฺมณธมฺมิกสุตฺตํ สตฺตมํ นิฏฺิตํ.
๘. นาวาสุตฺตํ
ยสฺมา ¶ หิ ธมฺมํ ปุริโส วิชฺา, อินฺทํว นํ เทวตา ปูชเยยฺย;
โส ปูชิโต ตสฺมิ ปสนฺนจิตฺโต, พหุสฺสุโต ปาตุกโรติ ธมฺมํ.
ตทฏฺิกตฺวาน ¶ นิสมฺม ธีโร, ธมฺมานุธมฺมํ ปฏิปชฺชมาโน;
วิฺู วิภาวี นิปุโณ จ โหติ, โย ตาทิสํ ภชติ อปฺปมตฺโต.
ขุทฺทฺจ พาลํ อุปเสวมาโน, อนาคตตฺถฺจ อุสูยกฺจ;
อิเธว ธมฺมํ อวิภาวยิตฺวา, อวิติณฺณกงฺโข มรณํ อุเปติ.
ยถา นโร อาปคโมตริตฺวา, มโหทกํ สลิลํ สีฆโสตํ;
โส วุยฺหมาโน อนุโสตคามี, กึ โส ปเร สกฺขติ ตารเยตุํ.
ตเถว ธมฺมํ อวิภาวยิตฺวา, พหุสฺสุตานํ อนิสามยตฺถํ;
สยํ อชานํ อวิติณฺณกงฺโข, กึ ¶ โส ปเร สกฺขติ นิชฺฌเปตุํ.
ยถาปิ ¶ นาวํ ทฬฺหมารุหิตฺวา, ผิเยน [ปิเยน (สี. สฺยา.)] ริตฺเตน สมงฺคิภูโต;
โส ตารเย ตตฺถ พหูปิ อฺเ, ตตฺรูปยฺู กุสโล มุตีมา [มตีมา (สฺยา. ก.)].
เอวมฺปิ ¶ โย เวทคุ ภาวิตตฺโต, พหุสฺสุโต โหติ อเวธธมฺโม;
โส โข ปเร นิชฺฌปเย ปชานํ, โสตาวธานูปนิสูปปนฺเน.
ตสฺมา หเว สปฺปุริสํ ภเชถ, เมธาวินฺเจว พหุสฺสุตฺจ;
อฺาย อตฺถํ ปฏิปชฺชมาโน, วิฺาตธมฺโม ส สุขํ [โส สุขํ (สี.)] ลเภถาติ.
นาวาสุตฺตํ อฏฺมํ นิฏฺิตํ.
๙. กึสีลสุตฺตํ
‘‘กึสีโล ¶ กึสมาจาโร, กานิ กมฺมานิ พฺรูหยํ;
นโร สมฺมา นิวิฏฺสฺส, อุตฺตมตฺถฺจ ปาปุเณ’’.
‘‘วุฑฺฒาปจายี อนุสูยโก สิยา, กาลฺู ¶ [กาลฺุ (สี. สฺยา.)] จสฺส ครูนํ [ครูนํ (สี.)] ทสฺสนาย;
ธมฺมึ กถํ เอรยิตํ ขณฺู, สุเณยฺย สกฺกจฺจ สุภาสิตานิ.
‘‘กาเลน คจฺเฉ ครูนํ สกาสํ, ถมฺภํ นิรํกตฺวา [นิรากตฺวา (?) นิ + อา + กร + ตฺวา] นิวาตวุตฺติ;
อตฺถํ ¶ ธมฺมํ สํยมํ พฺรหฺมจริยํ, อนุสฺสเร เจว สมาจเร จ.
‘‘ธมฺมาราโม ธมฺมรโต, ธมฺเม ิโต ธมฺมวินิจฺฉยฺู;
เนวาจเร ธมฺมสนฺโทสวาทํ, ตจฺเฉหิ นีเยถ สุภาสิเตหิ.
‘‘หสฺสํ ชปฺปํ ปริเทวํ ปโทสํ, มายากตํ กุหนํ คิทฺธิ มานํ;
สารมฺภํ กกฺกสํ กสาวฺจ มุจฺฉํ [สารมฺภ กกฺกสฺส กสาว มุจฺฉํ (สฺยา. ปี.)], หิตฺวา จเร วีตมโท ิตตฺโต.
‘‘วิฺาตสารานิ สุภาสิตานิ, สุตฺจ วิฺาตสมาธิสารํ;
น ตสฺส ปฺา จ สุตฺจ วฑฺฒติ, โย สาหโส โหติ นโร ปมตฺโต.
‘‘ธมฺเม ¶ ¶ จ เย อริยปเวทิเต รตา,
อนุตฺตรา ¶ เต วจสา มนสา กมฺมุนา จ;
เต สนฺติโสรจฺจสมาธิสณฺิตา,
สุตสฺส ปฺาย จ สารมชฺฌคู’’ติ.
กึสีลสุตฺตํ นวมํ นิฏฺิตํ.
๑๐. อุฏฺานสุตฺตํ
อุฏฺหถ นิสีทถ, โก อตฺโถ สุปิเตน โว;
อาตุรานฺหิ กา นิทฺทา, สลฺลวิทฺธาน รุปฺปตํ.
อุฏฺหถ ¶ นิสีทถ, ทฬฺหํ สิกฺขถ สนฺติยา;
มา โว ปมตฺเต วิฺาย, มจฺจุราชา อโมหยิตฺถ วสานุเค.
ยาย เทวา มนุสฺสา จ, สิตา ติฏฺนฺติ อตฺถิกา;
ตรเถตํ วิสตฺติกํ, ขโณ โว [ขโณ เว (ปี. ก.)] มา อุปจฺจคา;
ขณาตีตา หิ โสจนฺติ, นิรยมฺหิ สมปฺปิตา.
ปมาโท รโช ปมาโท, ปมาทานุปติโต รโช;
อปฺปมาเทน วิชฺชาย, อพฺพเห [อพฺพูฬฺเห (สฺยา. ปี.), อพฺพุเห (ก. อฏฺ.)] สลฺลมตฺตโนติ.
อุฏฺานสุตฺตํ ทสมํ นิฏฺิตํ.
๑๑. ราหุลสุตฺตํ
‘‘กจฺจิ ¶ ¶ อภิณฺหสํวาสา, นาวชานาสิ ปณฺฑิตํ;
อุกฺกาธาโร [โอกฺกาธาโร (สฺยา. ก.)] มนุสฺสานํ, กจฺจิ อปจิโต ตยา’’ [ตว (สี. อฏฺ.)].
‘‘นาหํ อภิณฺหสํวาสา, อวชานามิ ปณฺฑิตํ;
อุกฺกาธาโร มนุสฺสานํ, นิจฺจํ อปจิโต มยา’’.
‘‘ปฺจ ¶ กามคุเณ หิตฺวา, ปิยรูเป มโนรเม;
สทฺธาย ฆรา นิกฺขมฺม, ทุกฺขสฺสนฺตกโร ภว.
‘‘มิตฺเต ภชสฺสุ กลฺยาเณ, ปนฺตฺจ สยนาสนํ;
วิวิตฺตํ อปฺปนิคฺโฆสํ, มตฺตฺู โหหิ โภชเน.
‘‘จีวเร ¶ ปิณฺฑปาเต จ, ปจฺจเย สยนาสเน;
เอเตสุ ตณฺหํ มากาสิ, มา โลกํ ปุนราคมิ.
‘‘สํวุโต ปาติโมกฺขสฺมึ, อินฺทฺริเยสุ จ ปฺจสุ;
สติ กายคตาตฺยตฺถุ, นิพฺพิทาพหุโล ภว.
‘‘นิมิตฺตํ ปริวชฺเชหิ, สุภํ ราคูปสฺหิตํ;
อสุภาย จิตฺตํ ภาเวหิ, เอกคฺคํ สุสมาหิตํ.
‘‘อนิมิตฺตฺจ ภาเวหิ, มานานุสยมุชฺชห;
ตโต มานาภิสมยา, อุปสนฺโต จริสฺสตี’’ติ.
อิตฺถํ สุทํ ภควา อายสฺมนฺตํ ราหุลํ อิมาหิ คาถาหิ อภิณฺหํ โอวทตีติ.
ราหุลสุตฺตํ เอกาทสมํ นิฏฺิตํ.
๑๒. นิคฺโรธกปฺปสุตฺตํ
เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อาฬวิยํ วิหรติ อคฺคาฬเว เจติเย. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต วงฺคีสสฺส อุปชฺฌาโย นิคฺโรธกปฺโป นาม เถโร อคฺคาฬเว เจติเย อจิรปรินิพฺพุโต โหติ. อถ โข อายสฺมโต วงฺคีสสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘ปรินิพฺพุโต นุ โข เม อุปชฺฌาโย อุทาหุ โน ปรินิพฺพุโต’’ติ? อถ โข อายสฺมา วงฺคีโส สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ ¶ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา วงฺคีโส ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘ปรินิพฺพุโต ¶ นุ โข เม อุปชฺฌาโย, อุทาหุ โน ปรินพฺพุโต’’’ติ. อถ โข อายสฺมา วงฺคีโส อุฏฺายาสนา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘ปุจฺฉาม [ปุจฺฉามิ (ก.)] สตฺถารมโนมปฺํ, ทิฏฺเว ธมฺเม โย วิจิกิจฺฉานํ เฉตฺตา;
อคฺคาฬเว กาลมกาสิ ภิกฺขุ, าโต ยสสฺสี อภินิพฺพุตตฺโต.
‘‘นิคฺโรธกปฺโป ¶ อิติ ตสฺส นามํ, ตยา กตํ ภควา พฺราหฺมณสฺส;
โส ตํ นมสฺสํ อจริ มุตฺยเปกฺโข, อารทฺธวีริโย ทฬฺหธมฺมทสฺสี.
‘‘ตํ สาวกํ สกฺย [สกฺก (สี. สฺยา. ปี.)] มยมฺปิ สพฺเพ, อฺาตุมิจฺฉาม สมนฺตจกฺขุ;
สมวฏฺิตา โน สวนาย โสตา, ตุวํ โน สตฺถา ตฺวมนุตฺตโรสิ.
‘‘ฉินฺเทว โน วิจิกิจฺฉํ พฺรูหิ เมตํ, ปรินิพฺพุตํ เวทย ภูริปฺ;
มชฺเฌว [มชฺเฌ จ (สฺยา. ก.)] โน ภาส สมนฺตจกฺขุ, สกฺโกว เทวาน สหสฺสเนตฺโต.
‘‘เย เกจิ คนฺถา อิธ โมหมคฺคา, อฺาณปกฺขา วิจิกิจฺฉานา;
ตถาคตํ ¶ ปตฺวา น เต ภวนฺติ, จกฺขฺุหิ เอตํ ปรมํ นรานํ.
‘‘โน ¶ เจ หิ ชาตุ ปุริโส กิเลเส, วาโต ยถา อพฺภธนํ วิหาเน;
ตโมวสฺส นิวุโต สพฺพโลโก, น ¶ โชติมนฺโตปิ นรา ตเปยฺยุํ.
‘‘ธีรา ¶ จ ปชฺโชตกรา ภวนฺติ, ตํ ตํ อหํ วีร [ธีร (สี. สฺยา.)] ตเถว มฺเ;
วิปสฺสินํ ชานมุปาคมุมฺหา [ชานมุปคมมฺหา (สี. สฺยา.)], ปริสาสุ โน อาวิกโรหิ กปฺปํ.
‘‘ขิปฺปํ คิรํ เอรย วคฺคุ วคฺคุํ, หํโสว ปคฺคยฺห สณิกํ [สณึ (สฺยา. ปี.)] นิกูช;
พินฺทุสฺสเรน สุวิกปฺปิเตน, สพฺเพว เต อุชฺชุคตา สุโณม.
‘‘ปหีนชาติมรณํ อเสสํ, นิคฺคยฺห โธนํ [โธตํ (สี.)] วเทสฺสามิ ธมฺมํ;
น กามกาโร หิ ปุถุชฺชนานํ, สงฺเขยฺยกาโร จ [สงฺขยฺยกาโรว (ก.)] ตถาคตานํ.
‘‘สมฺปนฺนเวยฺยากรณํ ตเวทํ, สมุชฺชุปฺสฺส [สมุชฺชปฺสฺส (สฺยา. ก.)] สมุคฺคหีตํ;
อยมฺชลี ปจฺฉิโม สุปฺปณามิโต, มา โมหยี ชานมโนมปฺ.
‘‘ปโรวรํ [วราวรํ (กตฺถจิ)] อริยธมฺมํ วิทิตฺวา, มา โมหยี ชานมโนมวีร;
วารึ ยถา ¶ ฆมฺมนิ ฆมฺมตตฺโต, วาจาภิกงฺขามิ ¶ สุตํ ปวสฺส [สุตสฺส วสฺส (สฺยา.)].
‘‘ยทตฺถิกํ [ยทตฺถิยํ (ปี.), ยทตฺถิตํ (ก.)] พฺรหฺมจริยํ อจรี, กปฺปายโน กจฺจิสฺส ตํ อโมฆํ;
นิพฺพายิ โส อาทุ สอุปาทิเสโส, ยถา วิมุตฺโต อหุ ตํ สุโณม’’.
‘‘อจฺเฉจฺฉิ ¶ [อเฉชฺชิ (ก.)] ตณฺหํ อิธ นามรูเป, (อิติ ภควา)
กณฺหสฺส [ตณฺหาย (ก.)] โสตํ ทีฆรตฺตานุสยิตํ;
อตาริ ชาตึ มรณํ อเสสํ,’’
อิจฺจพฺรวี ภควา ปฺจเสฏฺโ.
‘‘เอส สุตฺวา ปสีทามิ, วโจ เต อิสิสตฺตม;
อโมฆํ กิร เม ปุฏฺํ, น มํ วฺเจสิ พฺราหฺมโณ.
‘‘ยถาวาที ¶ ตถาการี, อหุ พุทฺธสฺส สาวโก;
อจฺฉิทา มจฺจุโน ชาลํ, ตตํ มายาวิโน ทฬฺหํ.
‘‘อทฺทสา ภควา อาทึ, อุปาทานสฺส กปฺปิโย;
อจฺจคา วต กปฺปายโน, มจฺจุเธยฺยํ สุทุตฺตร’’นฺติ.
นิคฺโรธกปฺปสุตฺตํ ทฺวาทสมํ นิฏฺิตํ.
๑๓. สมฺมาปริพฺพาชนียสุตฺตํ
‘‘ปุจฺฉามิ ¶ ¶ มุนึ ปหูตปฺํ,
ติณฺณํ ปารงฺคตํ ปรินิพฺพุตํ ิตตฺตํ;
นิกฺขมฺม ฆรา ปนุชฺช กาเม, กถํ ภิกฺขุ
สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย’’.
‘‘ยสฺส มงฺคลา สมูหตา, (อิติ ภควา)
อุปฺปาตา สุปินา จ ลกฺขณา จ;
โส มงฺคลโทสวิปฺปหีโน,
สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.
‘‘ราคํ วินเยถ มานุเสสุ, ทิพฺเพสุ กาเมสุ จาปิ ภิกฺขุ;
อติกฺกมฺม ภวํ สเมจฺจ ธมฺมํ, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.
‘‘วิปิฏฺิกตฺวาน ¶ เปสุณานิ, โกธํ กทริยํ ชเหยฺย ภิกฺขุ;
อนุโรธวิโรธวิปฺปหีโน, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.
‘‘หิตฺวาน ¶ ปิยฺจ อปฺปิยฺจ, อนุปาทาย อนิสฺสิโต กุหิฺจิ;
สํโยชนิเยหิ วิปฺปมุตฺโต, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.
‘‘น ¶ โส อุปธีสุ สารเมติ, อาทาเนสุ วิเนยฺย ฉนฺทราคํ;
โส อนิสฺสิโต อนฺเนยฺโย, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.
‘‘วจสา ¶ มนสา จ กมฺมุนา จ, อวิรุทฺโธ สมฺมา วิทิตฺวา ธมฺมํ;
นิพฺพานปทาภิปตฺถยาโน, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.
‘‘โย วนฺทติ มนฺติ นุณฺณเมยฺย [นุนฺนเมยฺย (?)], อกฺกุฏฺโปิ น สนฺธิเยถ ภิกฺขุ;
ลทฺธา ปรโภชนํ น มชฺเช, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.
‘‘โลภฺจ ภวฺจ วิปฺปหาย, วิรโต เฉทนพนฺธนา จ [เฉทนพนฺธนโต (สี. สฺยา.)] ภิกฺขุ;
โส ติณฺณกถํกโถ วิสลฺโล, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.
‘‘สารุปฺปํ ¶ อตฺตโน วิทิตฺวา, โน จ ภิกฺขุ หึเสยฺย กฺจิ โลเก;
ยถา ตถิยํ วิทิตฺวา ธมฺมํ, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.
‘‘ยสฺสานุสยา ¶ น สนฺติ เกจิ, มูลา จ [มูลา (สี. สฺยา.)] อกุสลา สมูหตาเส;
โส นิราโส [นิราสโย (สี.), นิราสโส (สฺยา.)] อนาสิสาโน [อนาสยาโน (สี. ปี.), อนาสสาโน (สฺยา.)], สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.
‘‘อาสวขีโณ ¶ ปหีนมาโน, สพฺพํ ราคปถํ อุปาติวตฺโต;
ทนฺโต ปรินิพฺพุโต ิตตฺโต, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.
‘‘สทฺโธ สุตวา นิยามทสฺสี, วคฺคคเตสุ น วคฺคสาริ ธีโร;
โลภํ โทสํ วิเนยฺย ปฏิฆํ, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.
‘‘สํสุทฺธชิโน วิวฏฺฏจฺฉโท, ธมฺเมสุ วสี ปารคู อเนโช;
สงฺขารนิโรธาณกุสโล ¶ , สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.
‘‘อตีเตสุ อนาคเตสุ จาปิ, กปฺปาตีโต อติจฺจสุทฺธิปฺโ;
สพฺพายตเนหิ วิปฺปมุตฺโต, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.
‘‘อฺาย ¶ ปทํ สเมจฺจ ธมฺมํ, วิวฏํ ทิสฺวาน ปหานมาสวานํ;
สพฺพุปธีนํ ปริกฺขยาโน [ปริกฺขยา (ปี.)], สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย’’.
‘‘อทฺธา ¶ หิ ภควา ตเถว เอตํ, โย โส เอวํวิหารี ทนฺโต ภิกฺขุ;
สพฺพสํโยชนโยควีติวตฺโต ¶ [สพฺพสํโยชนิเย จ วีติวตฺโต (สี. สฺยา. ปี.)], สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺยา’’ติ.
สมฺมาปริพฺพาชนียสุตฺตํ เตรสมํ นิฏฺิตํ.
๑๔. ธมฺมิกสุตฺตํ
เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข ธมฺมิโก อุปาสโก ¶ ปฺจหิ อุปาสกสเตหิ สทฺธึ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ธมฺมิโก อุปาสโก ภควนฺตํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –
‘‘ปุจฺฉามิ ตํ โคตม ภูริปฺ, กถํกโร สาวโก สาธุ โหติ;
โย วา อคารา อนคารเมติ, อคาริโน วา ปนุปาสกาเส.
‘‘ตุวฺหิ โลกสฺส สเทวกสฺส, คตึ ปชานาสิ ปรายณฺจ;
น จตฺถิ ตุลฺโย นิปุณตฺถทสฺสี, ตุวฺหิ พุทฺธํ ปวรํ วทนฺติ.
‘‘สพฺพํ ตุวํ าณมเวจฺจ ธมฺมํ, ปกาเสสิ สตฺเต อนุกมฺปมาโน;
วิวฏฺฏจฺฉโทสิ สมนฺตจกฺขุ, วิโรจสิ วิมโล สพฺพโลเก.
‘‘อาคฺฉิ ¶ เต สนฺติเก นาคราชา, เอราวโณ นาม ชิโนติ สุตฺวา;
โสปิ ตยา มนฺตยิตฺวาชฺฌคมา, สาธูติ สุตฺวาน ปตีตรูโป.
‘‘ราชาปิ ¶ ¶ ¶ ตํ เวสฺสวโณ กุเวโร, อุเปติ ธมฺมํ ปริปุจฺฉมาโน;
ตสฺสาปิ ตฺวํ ปุจฺฉิโต พฺรูสิ ธีร, โส จาปิ สุตฺวาน ปตีตรูโป.
‘‘เย เกจิเม ติตฺถิยา วาทสีลา, อาชีวกา วา ยทิ วา นิคณฺา;
ปฺาย ตํ นาติตรนฺติ สพฺเพ, ิโต วชนฺตํ วิย สีฆคามึ.
‘‘เย เกจิเม พฺราหฺมณา วาทสีลา, วุทฺธา จาปิ พฺราหฺมณา สนฺติ เกจิ;
สพฺเพ ตยิ อตฺถพทฺธา ภวนฺติ, เย จาปิ อฺเ วาทิโน มฺมานา.
‘‘อยฺหิ ธมฺโม นิปุโณ สุโข จ, โยยํ ตยา ภควา สุปฺปวุตฺโต;
ตเมว สพฺเพปิ [สพฺเพ มยํ (สฺยา.)] สุสฺสูสมานา, ตํ โน วท ปุจฺฉิโต พุทฺธเสฏฺ.
‘‘สพฺเพปิ เม ภิกฺขโว สนฺนิสินฺนา, อุปาสกา จาปิ ตเถว โสตุํ;
สุณนฺตุ ธมฺมํ วิมเลนานุพุทฺธํ, สุภาสิตํ ¶ วาสวสฺเสว เทวา’’.
‘‘สุณาถ เม ภิกฺขโว สาวยามิ โว, ธมฺมํ ธุตํ ตฺจ จราถ สพฺเพ;
อิริยาปถํ ¶ ปพฺพชิตานุโลมิกํ, เสเวถ นํ อตฺถทโส มุตีมา.
‘‘โน เว วิกาเล วิจเรยฺย ภิกฺขุ, คาเม จ ปิณฺฑาย จเรยฺย กาเล;
อกาลจาริฺหิ สชนฺติ สงฺคา, ตสฺมา วิกาเล น จรนฺติ พุทฺธา.
‘‘รูปา ¶ จ สทฺทา จ รสา จ คนฺธา, ผสฺสา จ เย สมฺมทยนฺติ สตฺเต;
เอเตสุ ธมฺเมสุ วิเนยฺย ฉนฺทํ, กาเลน โส ปวิเส ปาตราสํ.
‘‘ปิณฺฑฺจ ภิกฺขุ สมเยน ลทฺธา, เอโก ปฏิกฺกมฺม รโห นิสีเท;
อชฺฌตฺตจินฺตี น มโน พหิทฺธา, นิจฺฉารเย สงฺคหิตตฺตภาโว.
‘‘สเจปิ โส สลฺลเป สาวเกน, อฺเน วา เกนจิ ภิกฺขุนา วา;
ธมฺมํ ¶ ปณีตํ ตมุทาหเรยฺย, น เปสุณํ โนปิ ปรูปวาทํ.
‘‘วาทฺหิ ¶ เอเก ปฏิเสนิยนฺติ, น เต ปสํสาม ปริตฺตปฺเ;
ตโต ตโต เน ปสชนฺติ สงฺคา, จิตฺตฺหิ เต ตตฺถ คเมนฺติ ทูเร.
‘‘ปิณฺฑํ วิหารํ สยนาสนฺจ, อาปฺจ สงฺฆาฏิรชูปวาหนํ;
สุตฺวาน ธมฺมํ สุคเตน เทสิตํ, สงฺขาย เสเว วรปฺสาวโก.
‘‘ตสฺมา หิ ปิณฺเฑ สยนาสเน จ, อาเป จ สงฺฆาฏิรชูปวาหเน;
เอเตสุ ¶ ธมฺเมสุ อนูปลิตฺโต, ภิกฺขุ ยถา โปกฺขเร วาริพินฺทุ.
‘‘คหฏฺวตฺตํ ปน โว วทามิ, ยถากโร สาวโก สาธุ โหติ;
น เหส [น เหโส (สี.)] ลพฺภา สปริคฺคเหน, ผสฺเสตุํ โย เกวโล ภิกฺขุธมฺโม.
‘‘ปาณํ ¶ น หเน [น หาเน (สี.)] น จ ฆาตเยยฺย, น จานุชฺา หนตํ ปเรสํ;
สพฺเพสุ ¶ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ, เย ถาวรา เย จ ตสา สนฺติ [ตสนฺติ (สี. ปี.)] โลเก.
‘‘ตโต อทินฺนํ ปริวชฺชเยยฺย, กิฺจิ กฺวจิ สาวโก พุชฺฌมาโน;
น หารเย หรตํ นานุชฺา, สพฺพํ อทินฺนํ ปริวชฺชเยยฺย.
‘‘อพฺรหฺมจริยํ ปริวชฺชเยยฺย, องฺคารกาสุํ ชลิตํว วิฺู;
อสมฺภุณนฺโต ปน พฺรหฺมจริยํ, ปรสฺส ทารํ น อติกฺกเมยฺย.
‘‘สภคฺคโต วา ปริสคฺคโต วา, เอกสฺส เวโก [เจโต (สี. สฺยา.)] น มุสา ภเณยฺย;
น ภาณเย ภณตํ นานุชฺา, สพฺพํ อภูตํ ปริวชฺชเยยฺย.
‘‘มชฺชฺจ ปานํ น สมาจเรยฺย, ธมฺมํ อิมํ โรจเย โย คหฏฺโ;
น ปายเย ปิวตํ นานุชฺา, อุมฺมาทนนฺตํ อิติ นํ วิทิตฺวา.
‘‘มทา หิ ปาปานิ กโรนฺติ พาลา, กาเรนฺติ จฺเปิ ชเน ปมตฺเต;
เอตํ ¶ ¶ อปฺุายตนํ วิวชฺชเย, อุมฺมาทนํ โมหนํ พาลกนฺตํ.
‘‘ปาณํ ¶ น หเน น จาทินฺนมาทิเย, มุสา น ภาเส น จ มชฺชโป สิยา;
อพฺรหฺมจริยา วิรเมยฺย เมถุนา, รตฺตึ น ภฺุเชยฺย วิกาลโภชนํ.
‘‘มาลํ ¶ น ธาเร น จ คนฺธมาจเร, มฺเจ ฉมายํ ว สเยถ สนฺถเต;
เอตฺหิ อฏฺงฺคิกมาหุโปสถํ, พุทฺเธน ทุกฺขนฺตคุนา ปกาสิตํ.
‘‘ตโต จ ปกฺขสฺสุปวสฺสุโปสถํ, จาตุทฺทสึ ปฺจทสิฺจ อฏฺมึ;
ปาฏิหาริยปกฺขฺจ ปสนฺนมานโส, อฏฺงฺคุเปตํ สุสมตฺตรูปํ.
‘‘ตโต จ ปาโต อุปวุตฺถุโปสโถ, อนฺเนน ปาเนน จ ภิกฺขุสงฺฆํ;
ปสนฺนจิตฺโต อนุโมทมาโน, ยถารหํ สํวิภเชถ วิฺู.
‘‘ธมฺเมน มาตาปิตโร ภเรยฺย, ปโยชเย ธมฺมิกํ โส วณิชฺชํ;
เอตํ ¶ คิหี วตฺตยมปฺปมตฺโต, สยมฺปเภ นาม อุเปติ เทเว’’ติ.
ธมฺมิกสุตฺตํ จุทฺทสมํ นิฏฺิตํ.
จูฬวคฺโค ทุติโย นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
รตนามคนฺโธ หิริ จ, มงฺคลํ สูจิโลเมน;
ธมฺมจริยฺจ พฺราหฺมโณ [กปิโล พฺราหฺมโณปิ จ (สฺยา. ก.)], นาวา กึสีลมุฏฺานํ.
ราหุโล ปุน กปฺโป จ, ปริพฺพาชนิยํ ตถา;
ธมฺมิกฺจ วิทุโน อาหุ, จูฬวคฺคนฺติ จุทฺทสาติ.