📜

๓. มหาวคฺโค

๑. ปพฺพชฺชาสุตฺตํ

๔๐๗.

ปพฺพชฺชํ กิตฺตยิสฺสามิ, ยถา ปพฺพชิ จกฺขุมา;

ยถา วีมํสมาโน โส, ปพฺพชฺชํ สมโรจยิ.

๔๐๘.

สมฺพาโธยํ ฆราวาโส, รชสฺสายตนํ อิติ;

อพฺโภกาโสว ปพฺพชฺชา, อิติ ทิสฺวาน ปพฺพชิ.

๔๐๙.

ปพฺพชิตฺวาน กาเยน, ปาปกมฺมํ วิวชฺชยิ;

วจีทุจฺจริตํ หิตฺวา, อาชีวํ ปริโสธยิ.

๔๑๐.

อคมา ราชคหํ พุทฺโธ, มคธานํ คิริพฺพชํ;

ปิณฺฑาย อภิหาเรสิ, อากิณฺณวรลกฺขโณ.

๔๑๑.

ตมทฺทสา พิมฺพิสาโร, ปาสาทสฺมึ ปติฏฺิโต;

ทิสฺวา ลกฺขณสมฺปนฺนํ, อิมมตฺถํ อภาสถ.

๔๑๒.

‘‘อิมํ โภนฺโต นิสาเมถ, อภิรูโป พฺรหา สุจิ;

จรเณน จ สมฺปนฺโน, ยุคมตฺตฺจ เปกฺขติ.

๔๑๓.

‘‘โอกฺขิตฺตจกฺขุ สติมา, นายํ นีจกุลามิว;

ราชทูตาภิธาวนฺตุ, กุหึ ภิกฺขุ คมิสฺสติ’’.

๔๑๔.

เต เปสิตา ราชทูตา, ปิฏฺิโต อนุพนฺธิสุํ;

กุหึ คมิสฺสติ ภิกฺขุ, กตฺถ วาโส ภวิสฺสติ.

๔๑๕.

สปทานํ จรมาโน, คุตฺตทฺวาโร สุสํวุโต;

ขิปฺปํ ปตฺตํ อปูเรสิ, สมฺปชาโน ปฏิสฺสโต.

๔๑๖.

ปิณฺฑจารํ จริตฺวาน, นิกฺขมฺม นครา มุนิ;

ปณฺฑวํ อภิหาเรสิ, เอตฺถ วาโส ภวิสฺสติ.

๔๑๗.

ทิสฺวาน วาสูปคตํ, ตโย [ตโต (สี. ปี.)] ทูตา อุปาวิสุํ;

เตสุ เอโกว [เอโก จ ทูโต (สี. สฺยา. ปี.)] อาคนฺตฺวา, ราชิโน ปฏิเวทยิ.

๔๑๘.

‘‘เอส ภิกฺขุ มหาราช, ปณฺฑวสฺส ปุรตฺถโต [ปุรกฺขโต (สฺยา. ก.)];

นิสินฺโน พฺยคฺฆุสโภว, สีโหว คิริคพฺภเร’’.

๔๑๙.

สุตฺวาน ทูตวจนํ, ภทฺทยาเนน ขตฺติโย;

ตรมานรูโป นิยฺยาสิ, เยน ปณฺฑวปพฺพโต.

๔๒๐.

ส ยานภูมึ ยายิตฺวา, ยานา โอรุยฺห ขตฺติโย;

ปตฺติโก อุปสงฺกมฺม, อาสชฺช นํ อุปาวิสิ.

๔๒๑.

นิสชฺช ราชา สมฺโมทิ, กถํ สารณียํ ตโต;

กถํ โส วีติสาเรตฺวา, อิมมตฺถํ อภาสถ.

๔๒๒.

‘‘ยุวา จ ทหโร จาสิ, ปมุปฺปตฺติโก [ปมุปฺปตฺติยา (สี.), ปมุปฺปตฺติโต (สฺยา.)] สุสุ;

วณฺณาโรเหน สมฺปนฺโน, ชาติมา วิย ขตฺติโย.

๔๒๓.

‘‘โสภยนฺโต อนีกคฺคํ, นาคสงฺฆปุรกฺขโต;

ททามิ โภเค ภุฺชสฺสุ, ชาตึ อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’.

๔๒๔.

‘‘อุชุํ ชนปโท ราช, หิมวนฺตสฺส ปสฺสโต;

ธนวีริเยน สมฺปนฺโน, โกสเลสุ [โกสลสฺส (สฺยา. ก.)] นิเกติโน.

๔๒๕.

‘‘อาทิจฺจา [อาทิจฺโจ (ก.)] นาม โคตฺเตน, สากิยา [สากิโย (ก.)] นาม ชาติยา;

ตมฺหา กุลา ปพฺพชิโตมฺหิ, น กาเม อภิปตฺถยํ.

๔๒๖.

‘‘กาเมสฺวาทีนวํ ทิสฺวา, เนกฺขมฺมํ ทฏฺุ เขมโต;

ปธานาย คมิสฺสามิ, เอตฺถ เม รฺชตี มโน’’ติ.

ปพฺพชฺชาสุตฺตํ ปมํ นิฏฺิตํ.

๒. ปธานสุตฺตํ

๔๒๗.

‘‘ตํ มํ ปธานปหิตตฺตํ, นทึ เนรฺชรํ ปติ;

วิปรกฺกมฺม ฌายนฺตํ, โยคกฺเขมสฺส ปตฺติยา.

๔๒๘.

‘‘นมุจี กรุณํ วาจํ, ภาสมาโน อุปาคมิ;

‘กิโส ตฺวมสิ ทุพฺพณฺโณ, สนฺติเก มรณํ ตว.

๔๒๙.

‘‘‘สหสฺสภาโค มรณสฺส, เอกํโส ตว ชีวิตํ;

ชีว โภ ชีวิตํ เสยฺโย, ชีวํ ปุฺานิ กาหสิ.

๔๓๐.

‘‘‘จรโต จ เต พฺรหฺมจริยํ, อคฺคิหุตฺตฺจ ชูหโต;

ปหูตํ จียเต ปุฺํ, กึ ปธาเนน กาหสิ.

๔๓๑.

‘‘‘ทุคฺโค มคฺโค ปธานาย, ทุกฺกโร ทุรภิสมฺภโว’’’;

อิมา คาถา ภณํ มาโร, อฏฺา พุทฺธสฺส สนฺติเก.

๔๓๒.

ตํ ตถาวาทินํ มารํ, ภควา เอตทพฺรวิ;

‘‘ปมตฺตพนฺธุ ปาปิม, เยนตฺเถน [เสนตฺเถน (?), อตฺตโน อตฺเถน (อฏฺ. สํวณฺณนา)] อิธาคโต.

๔๓๓.

‘‘อณุมตฺโตปิ [อณุมตฺเตนปิ (สี. สฺยา.)] ปุฺเน, อตฺโถ มยฺหํ น วิชฺชติ;

เยสฺจ อตฺโถ ปุฺเน, เต มาโร วตฺตุมรหติ.

๔๓๔.

‘‘อตฺถิ สทฺธา ตถา [ตโต (สี. ปี.), ตโป (สฺยา. ก.)] วีริยํ, ปฺา จ มม วิชฺชติ;

เอวํ มํ ปหิตตฺตมฺปิ, กึ ชีวมนุปุจฺฉสิ.

๔๓๕.

‘‘นทีนมปิ โสตานิ, อยํ วาโต วิโสสเย;

กิฺจ เม ปหิตตฺตสฺส, โลหิตํ นุปสุสฺสเย.

๔๓๖.

‘‘โลหิเต สุสฺสมานมฺหิ, ปิตฺตํ เสมฺหฺจ สุสฺสติ;

มํเสสุ ขียมาเนสุ, ภิยฺโย จิตฺตํ ปสีทติ;

ภิยฺโย สติ จ ปฺา จ, สมาธิ มม ติฏฺติ.

๔๓๗.

‘‘ตสฺส เมวํ วิหรโต, ปตฺตสฺสุตฺตมเวทนํ;

กาเมสุ [กาเม (สี. สฺยา.)] นาเปกฺขเต จิตฺตํ, ปสฺส สตฺตสฺส สุทฺธตํ.

๔๓๘.

‘‘กามา เต ปมา เสนา, ทุติยา อรติ วุจฺจติ;

ตติยา ขุปฺปิปาสา เต, จตุตฺถี ตณฺหา ปวุจฺจติ.

๔๓๙.

‘‘ปฺจมํ [ปฺจมี (สี. ปี.)] ถินมิทฺธํ เต, ฉฏฺา ภีรู ปวุจฺจติ;

สตฺตมี วิจิกิจฺฉา เต, มกฺโข ถมฺโภ เต อฏฺโม.

๔๔๐.

‘‘ลาโภ สิโลโก สกฺกาโร, มิจฺฉาลทฺโธ จ โย ยโส;

โย จตฺตานํ สมุกฺกํเส, ปเร จ อวชานติ.

๔๔๑.

‘‘เอสา นมุจิ เต เสนา, กณฺหสฺสาภิปฺปหารินี;

น นํ อสูโร ชินาติ, เชตฺวา จ ลภเต สุขํ.

๔๔๒.

‘‘เอส มุฺชํ ปริหเร, ธิรตฺถุ มม [อิท (ก.)] ชีวิตํ;

สงฺคาเม เม มตํ เสยฺโย, ยํ เจ ชีเว ปราชิโต.

๔๔๓.

‘‘ปคาฬฺเหตฺถ น ทิสฺสนฺติ, เอเก สมณพฺราหฺมณา;

ตฺจ มคฺคํ น ชานนฺติ, เยน คจฺฉนฺติ สุพฺพตา.

๔๔๔.

‘‘สมนฺตา ธชินึ ทิสฺวา, ยุตฺตํ มารํ สวาหนํ;

ยุทฺธาย ปจฺจุคฺคจฺฉามิ, มา มํ านา อจาวยิ.

๔๔๕.

‘‘ยํ เต ตํ นปฺปสหติ, เสนํ โลโก สเทวโก;

ตํ เต ปฺาย เภจฺฉามิ [คจฺฉามิ (สี.), เวจฺฉามิ (สฺยา.), วชฺฌามิ (ก.)], อามํ ปตฺตํว อสฺมนา [ปกฺกํว อมุนา (ก.)].

๔๔๖.

‘‘วสีกริตฺวา [วสึ กริตฺวา (พหูสุ)] สงฺกปฺปํ, สติฺจ สูปติฏฺิตํ;

รฏฺา รฏฺํ วิจริสฺสํ, สาวเก วินยํ ปุถู.

๔๔๗.

‘‘เต อปฺปมตฺตา ปหิตตฺตา, มม สาสนการกา;

อกามสฺส [อกามา (ก.)] เต คมิสฺสนฺติ, ยตฺถ คนฺตฺวา น โสจเร’’.

๔๔๘.

‘‘สตฺต วสฺสานิ ภควนฺตํ, อนุพนฺธึ ปทาปทํ;

โอตารํ นาธิคจฺฉิสฺสํ, สมฺพุทฺธสฺส สตีมโต.

๔๔๙.

‘‘เมทวณฺณํว ปาสาณํ, วายโส อนุปริยคา;

อเปตฺถ มุทุํ [มุทุ (สี.)] วินฺเทม, อปิ อสฺสาทนา สิยา.

๔๕๐.

‘‘อลทฺธา ตตฺถ อสฺสาทํ, วายเสตฺโต อปกฺกมิ;

กาโกว เสลมาสชฺช, นิพฺพิชฺชาเปม โคตมํ’’.

๔๕๑.

ตสฺส โสกปเรตสฺส, วีณา กจฺฉา อภสฺสถ;

ตโต โส ทุมฺมโน ยกฺโข, ตตฺเถวนฺตรธายถาติ.

ปธานสุตฺตํ ทุติยํ นิฏฺิตํ.

๓. สุภาสิตสุตฺตํ

เอวํ เม สุตํ – เอก สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตา วาจา สุภาสิตา โหติ, น ทุพฺภาสิตา, อนวชฺชา จ อนนุวชฺชา จ วิฺูนํ. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุภาสิตํเยว ภาสติ โน ทุพฺภาสิตํ, ธมฺมํเยว ภาสติ โน อธมฺมํ, ปิยํเยว ภาสติ โน อปฺปิยํ, สจฺจํเยว ภาสติ โน อลิกํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตา วาจา สุภาสิตา โหติ, โน ทุพฺภาสิตา, อนวชฺชา จ อนนุวชฺชา จ วิฺูน’’นฺติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

๔๕๒.

‘‘สุภาสิตํ อุตฺตมมาหุ สนฺโต, ธมฺมํ ภเณ นาธมฺมํ ตํ ทุติยํ;

ปิยํ ภเณ นาปฺปิยํ ตํ ตติยํ, สจฺจํ ภเณ นาลิกํ ตํ จตุตฺถ’’นฺติ.

อถ โข อายสฺมา วงฺคีโส อุฏฺายาสนา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปฏิภาติ มํ ภควา, ปฏิภาติ มํ สุคตา’’ติ. ‘‘ปฏิภาตุ ตํ วงฺคีสา’’ติ ภควา อโวจ. อถ โข อายสฺมา วงฺคีโส ภควนฺตํ สมฺมุขา สารุปฺปาหิ คาถาหิ อภิตฺถวิ –

๔๕๓.

‘‘ตเมว วาจํ ภาเสยฺย, ยายตฺตานํ น ตาปเย;

ปเร จ น วิหึเสยฺย, สา เว วาจา สุภาสิตา.

๔๕๔.

‘‘ปิยวาจเมว ภาเสยฺย, ยา วาจา ปฏินนฺทิตา;

ยํ อนาทาย ปาปานิ, ปเรสํ ภาสเต ปิยํ.

๔๕๕.

‘‘สจฺจํ เว อมตา วาจา, เอส ธมฺโม สนนฺตโน;

สจฺเจ อตฺเถ จ ธมฺเม จ, อาหุ สนฺโต ปติฏฺิตา.

๔๕๖.

‘‘ยํ พุทฺโธ ภาสติ วาจํ, เขมํ นิพฺพานปตฺติยา;

ทุกฺขสฺสนฺตกิริยาย, สา เว วาจานมุตฺตมา’’ติ.

สุภาสิตสุตฺตํ ตติยํ นิฏฺิตํ.

๔. สุนฺทริกภารทฺวาชสุตฺตํ

เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ วิหรติ สุนฺทริกาย นทิยา ตีเร. เตน โข ปน สมเยน สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ สุนฺทริกาย นทิยา ตีเร อคฺคึ ชุหติ, อคฺคิหุตฺตํ ปริจรติ. อถ โข สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ อคฺคึ ชุหิตฺวา อคฺคิหุตฺตํ ปริจริตฺวา อุฏฺายาสนา สมนฺตา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกสิ – ‘‘โก นุ โข อิมํ หพฺยเสสํ ภุฺเชยฺยา’’ติ? อทฺทสา โข สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ อวิทูเร อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล สสีสํ ปารุตํ นิสินฺนํ; ทิสฺวาน วาเมน หตฺเถน หพฺยเสสํ คเหตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน กมณฺฑลุํ คเหตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ.

อถ โข ภควา สุนฺทริกภารทฺวาชสฺส พฺราหฺมณสฺส ปทสทฺเทน สีสํ วิวริ. อถ โข สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ – ‘‘มุณฺโฑ อยํ ภวํ, มุณฺฑโก อยํ ภว’’นฺติ ตโตว ปุน นิวตฺติตุกาโม อโหสิ. อถ โข สุนฺทริกภารทฺวาชสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มุณฺฑาปิ หิ อิเธกจฺเจ พฺราหฺมณา ภวนฺติ, ยํนูนาหํ อุปสงฺกมิตฺวา ชาตึ ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ. อถ โข สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กึชจฺโจ ภว’’นฺติ?

อถ โข ภควา สุนฺทริกภารทฺวาชํ พฺราหฺมณํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –

๔๕๗.

‘‘น พฺราหฺมโณ โนมฺหิ น ราชปุตฺโต, น เวสฺสายโน อุท โกจิ โนมฺหิ;

โคตฺตํ ปริฺาย ปุถุชฺชนานํ, อกิฺจโน มนฺต จรามิ โลเก.

๔๕๘.

‘‘สงฺฆาฏิวาสี อคโห จรามิ [อคิโห (ก. สี. ปี.) อเคโห (กตฺถจิ)], นิวุตฺตเกโส อภินิพฺพุตตฺโต;

อลิปฺปมาโน อิธ มาณเวหิ, อกลฺลํ มํ พฺราหฺมณ ปุจฺฉสิ โคตฺตปฺหํ’’.

๔๕๙.

‘‘ปุจฺฉนฺติ เว โภ พฺราหฺมณา, พฺราหฺมเณภิ สห พฺราหฺมโณ โน ภว’’นฺติ.

๔๖๐.

‘‘พฺราหฺมโณ หิ เจ ตฺวํ พฺรูสิ, มฺจ พฺรูสิ อพฺราหฺมณํ;

ตํ ตํ สาวิตฺตึ ปุจฺฉามิ, ติปทํ จตุวีสตกฺขรํ.

๔๖๑.

‘‘กึ นิสฺสิตา อิสโย มนุชา, ขตฺติยา พฺราหฺมณา [ปมปาทนฺโต] เทวตานํ;

ยฺมกปฺปยึสุ ปุถู อิธ โลเก [ทุติยปาทนฺโต (สี.)].

๔๖๒.

‘‘ยทนฺตคู เวทคู ยฺกาเล, ยสฺสาหุตึ ลเภ ตสฺสิชฺเฌติ พฺรูมิ’’.

๔๖๓.

‘‘อทฺธา หิ ตสฺส หุตมิชฺเฌ, (อิติ พฺราหฺมโณ)

ยํ ตาทิสํ เวทคุมทฺทสาม;

ตุมฺหาทิสานฺหิ อทสฺสเนน, อฺโ ชโน ภุฺชติ ปูรฬาสํ’’.

๔๖๔.

‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ พฺราหฺมณ อตฺเถน, อตฺถิโก อุปสงฺกมฺม ปุจฺฉ;

สนฺตํ วิธูมํ อนีฆํ นิราสํ, อปฺเปวิธ อภิวินฺเท สุเมธํ’’.

๔๖๕.

‘‘ยฺเ รโตหํ โภ โคตม, ยฺํ ยิฏฺุกาโม นาหํ ปชานามิ;

อนุสาสตุ มํ ภวํ, ยตฺถ หุตํ อิชฺฌเต พฺรูหิ เม ตํ’’.

‘‘เตน หิ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, โอทหสฺสุ โสตํ; ธมฺมํ เต เทเสสฺสามิ –

๔๖๖.

‘‘มา ชาตึ ปุจฺฉี จรณฺจ ปุจฺฉ, กฏฺา หเว ชายติ ชาตเวโท;

นีจากุลีโนปิ มุนี ธิตีมา, อาชานิโย โหติ หิรีนิเสโธ.

๔๖๗.

‘‘สจฺเจน ทนฺโต ทมสา อุเปโต, เวทนฺตคู วูสิตพฺรหฺมจริโย;

กาเลน ตมฺหิ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปุฺเปกฺโข [ปุฺเปโข (สี. ปี.)] ยเชถ.

๔๖๘.

‘‘เย กาเม หิตฺวา อคหา จรนฺติ, สุสฺตตฺตา ตสรํว อุชฺชุํ;

กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปุฺเปกฺโข ยเชถ.

๔๖๙.

‘‘เย วีตราคา สุสมาหิตินฺทฺริยา, จนฺโทว ราหุคฺคหณา ปมุตฺตา;

กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปุฺเปกฺโข ยเชถ.

๔๗๐.

‘‘อสชฺชมานา วิจรนฺติ โลเก, สทา สตา หิตฺวา มมายิตานิ;

กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปุฺเปกฺโข ยเชถ.

๔๗๑.

‘‘โย กาเม หิตฺวา อภิภุยฺยจารี, โย เวทิ ชาตีมรณสฺส อนฺตํ;

ปรินิพฺพุโต อุทกรหโทว สีโต, ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสํ.

๔๗๒.

‘‘สโม สเมหิ วิสเมหิ ทูเร, ตถาคโต โหติ อนนฺตปฺโ;

อนูปลิตฺโต อิธ วา หุรํ วา, ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสํ.

๔๗๓.

‘‘ยมฺหิ น มายา วสติ น มาโน, โย วีตโลโภ อมโม นิราโส;

ปนุณฺณโกโธ อภินิพฺพุตตฺโต, โย พฺราหฺมโณ โสกมลํ อหาสิ;

ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสํ.

๔๗๔.

‘‘นิเวสนํ โย มนโส อหาสิ, ปริคฺคหา ยสฺส น สนฺติ เกจิ;

อนุปาทิยาโน อิธ วา หุรํ วา, ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสํ.

๔๗๕.

‘‘สมาหิโต โย อุทตาริ โอฆํ, ธมฺมํ จฺาสิ ปรมาย ทิฏฺิยา;

ขีณาสโว อนฺติมเทหธารี, ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสํ.

๔๗๖.

‘‘ภวาสวา ยสฺส วจี ขรา จ, วิธูปิตา อตฺถคตา น สนฺติ;

ส เวทคู สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโต, ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสํ.

๔๗๗.

‘‘สงฺคาติโค ยสฺส น สนฺติ สงฺคา, โย มานสตฺเตสุ อมานสตฺโต;

ทุกฺขํ ปริฺาย สเขตฺตวตฺถุํ, ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสํ.

๔๗๘.

‘‘อาสํ อนิสฺสาย วิเวกทสฺสี, ปรเวทิยํ ทิฏฺิมุปาติวตฺโต;

อารมฺมณา ยสฺส น สนฺติ เกจิ, ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสํ.

๔๗๙.

‘‘ปโรปรา [ปโรวรา (สี. ปี.)] ยสฺส สเมจฺจ ธมฺมา, วิธูปิตา อตฺถคตา น สนฺติ;

สนฺโต อุปาทานขเย วิมุตฺโต, ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสํ.

๔๘๐.

‘‘สํโยชนํ ชาติขยนฺตทสฺสี, โยปานุทิ ราคปถํ อเสสํ;

สุทฺโธ นิโทโส วิมโล อกาโจ [อกาโม (สี. สฺยา.)], ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสํ.

๔๘๑.

‘‘โย อตฺตโน อตฺตานํ [อตฺตนาตฺตานํ (สี. สฺยา.)] นานุปสฺสติ, สมาหิโต อุชฺชุคโต ิตตฺโต;

ส เว อเนโช อขิโล อกงฺโข, ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสํ.

๔๘๒.

‘‘โมหนฺตรา ยสฺส น สนฺติ เกจิ, สพฺเพสุ ธมฺเมสุ จ าณทสฺสี;

สรีรฺจ อนฺติมํ ธาเรติ, ปตฺโต จ สมฺโพธิมนุตฺตรํ สิวํ;

เอตฺตาวตา ยกฺขสฺส สุทฺธิ, ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสํ’’.

๔๘๓.

‘‘หุตฺจ [หุตฺตฺจ (สี. ก.)] มยฺหํ หุตมตฺถุ สจฺจํ, ยํ ตาทิสํ เวทคุนํ อลตฺถํ;

พฺรหฺมา หิ สกฺขิ ปฏิคณฺหาตุ เม ภควา, ภุฺชตุ เม ภควา ปูรฬาสํ’’.

๔๘๔.

‘‘คาถาภิคีตํ เม อโภชเนยฺยํ, สมฺปสฺสตํ พฺราหฺมณ เนส ธมฺโม;

คาถาภิคีตํ ปนุทนฺติ พุทฺธา, ธมฺเม สตี พฺราหฺมณ วุตฺติเรสา.

๔๘๕.

‘‘อฺเน จ เกวลินํ มเหสึ, ขีณาสวํ กุกฺกุจฺจวูปสนฺตํ;

อนฺเนน ปาเนน อุปฏฺหสฺสุ, เขตฺตฺหิ ตํ ปุฺเปกฺขสฺส โหติ’’.

๔๘๖.

‘‘สาธาหํ ภควา ตถา วิชฺํ, โย ทกฺขิณํ ภุฺเชยฺย มาทิสสฺส;

ยํ ยฺกาเล ปริเยสมาโน, ปปฺปุยฺย ตว สาสนํ’’.

๔๘๗.

‘‘สารมฺภา ยสฺส วิคตา, จิตฺตํ ยสฺส อนาวิลํ;

วิปฺปมุตฺโต จ กาเมหิ, ถินํ ยสฺส ปนูทิตํ.

๔๘๘.

‘‘สีมนฺตานํ วิเนตารํ, ชาติมรณโกวิทํ;

มุนึ โมเนยฺยสมฺปนฺนํ, ตาทิสํ ยฺมาคตํ.

๔๘๙.

‘‘ภกุฏึ [ภูกุฏึ (ก. สี.), ภากุฏึ (ก. สี., ม. นิ. ๑.๒๒๖)] วินยิตฺวาน, ปฺชลิกา นมสฺสถ;

ปูเชถ อนฺนปาเนน, เอวํ อิชฺฌนฺติ ทกฺขิณา.

๔๙๐.

‘‘พุทฺโธ ภวํ อรหติ ปูรฬาสํ, ปุฺเขตฺตมนุตฺตรํ;

อายาโค สพฺพโลกสฺส, โภโต ทินฺนํ มหปฺผล’’นฺติ.

อถ โข สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. ลเภยฺยาหํ โภโต โคตมสฺส สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติ. อลตฺถ โข สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ…เป… อรหตํ อโหสีติ.

สุนฺทริกภารทฺวาชสุตฺตํ จตุตฺถํ นิฏฺิตํ.

๕. มาฆสุตฺตํ

เอวํ เม สุตํ – เอก สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. อถ โข มาโฆ มาณโว เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข มาโฆ มาณโว ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘อหฺหิ, โภ โคตม, ทายโก ทานปติ วทฺู ยาจโยโค; ธมฺเมน โภเค ปริเยสามิ; ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา ธมฺมลทฺเธหิ โภเคหิ ธมฺมาธิคเตหิ เอกสฺสปิ ททามิ ทฺวินฺนมฺปิ ติณฺณมฺปิ จตุนฺนมฺปิ ปฺจนฺนมฺปิ ฉนฺนมฺปิ สตฺตนฺนมฺปิ อฏฺนฺนมฺปิ นวนฺนมฺปิ ทสนฺนมฺปิ ททามิ, วีสายปิ ตึสายปิ จตฺตาลีสายปิ ปฺาสายปิ ททามิ, สตสฺสปิ ททามิ, ภิยฺโยปิ ททามิ. กจฺจาหํ, โภ โคตม, เอวํ ททนฺโต เอวํ ยชนฺโต พหุํ ปุฺํ ปสวามี’’ติ ?

‘‘ตคฺฆ ตฺวํ, มาณว, เอวํ ททนฺโต เอวํ ยชนฺโต พหุํ ปุฺํ ปสวสิ. โย โข, มาณว, ทายโก ทานปติ วทฺู ยาจโยโค; ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ; ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา ธมฺมลทฺเธหิ โภเคหิ ธมฺมาธิคเตหิ เอกสฺสปิ ททาติ…เป… สตสฺสปิ ททาติ, ภิยฺโยปิ ททาติ, พหุํ โส ปุฺํ ปสวตี’’ติ. อถ โข มาโฆ มาณโว ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

๔๙๑.

‘‘ปุจฺฉามหํ โคตมํ วทฺุํ, (อิติ มาโฆ มาณโว)

กาสายวาสึ อคหํ [อคิหํ (สี.), อเคหํ (ปี.)] จรนฺตํ;

โย ยาจโยโค ทานปติ [ทานปตี (สี. สฺยา. ปี.)] คหฏฺโ, ปุฺตฺถิโก [ปุฺเปโข (สี. ปี. ก.)] ยชติ ปุฺเปกฺโข;

ททํ ปเรสํ อิธ อนฺนปานํ, กถํ หุตํ ยชมานสฺส สุชฺเฌ’’.

๔๙๒.

‘‘โย ยาจโยโค ทานปติ คหฏฺโ, (มาฆาติ ภควา)

ปุฺตฺถิโก ยชติ ปุฺเปกฺโข;

ททํ ปเรสํ อิธ อนฺนปานํ, อาราธเย ทกฺขิเณยฺเยภิ ตาทิ’’.

๔๙๓.

‘‘โย ยาจโยโค ทานปติ คหฏฺโ, (อิติ มาโฆ มาณโว)

ปุฺตฺถิโก ยชติ ปุฺเปกฺโข;

ททํ ปเรสํ อิธ อนฺนปานํ, อกฺขาหิ เม ภควา ทกฺขิเณยฺเย’’.

๔๙๔.

‘‘เย เว อสตฺตา [อลคฺคา (สฺยา.)] วิจรนฺติ โลเก, อกิฺจนา เกวลิโน ยตตฺตา;

กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปุฺเปกฺโข ยเชถ.

๔๙๕.

‘‘เย สพฺพสํโยชนพนฺธนจฺฉิทา, ทนฺตา วิมุตฺตา อนีฆา นิราสา;

กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปุฺเปกฺโข ยเชถ.

๔๙๖.

‘‘เย สพฺพสํโยชนวิปฺปมุตฺตา, ทนฺตา วิมุตฺตา อนีฆา นิราสา;

กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปุฺเปกฺโข ยเชถ.

๔๙๗.

‘‘ราคฺจ โทสฺจ ปหาย โมหํ, ขีณาสวา วูสิตพฺรหฺมจริยา;

กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปุฺเปกฺโข ยเชถ.

๔๙๘.

‘‘เยสุ น มายา วสติ น มาโน, ขีณาสวา วูสิตพฺรหฺมจริยา;

กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปุฺเปกฺโข ยเชถ.

๔๙๙.

‘‘เย วีตโลภา อมมา นิราสา, ขีณาสวา วูสิตพฺรหฺมจริยา;

กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปุฺเปกฺโข ยเชถ.

๕๐๐.

‘‘เย เว น ตณฺหาสุ อุปาติปนฺนา, วิตเรยฺย โอฆํ อมมา จรนฺติ;

กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปุฺเปกฺโข ยเชถ.

๕๐๑.

‘‘เยสํ ตณฺหา นตฺถิ กุหิฺจิ โลเก, ภวาภวาย อิธ วา หุรํ วา;

กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปุฺเปกฺโข ยเชถ.

๕๐๒.

‘‘เย กาเม หิตฺวา อคหา จรนฺติ, สุสฺตตฺตา ตสรํว อุชฺชุํ;

กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปุฺเปกฺโข ยเชถ.

๕๐๓.

‘‘เย วีตราคา สุสมาหิตินฺทฺริยา, จนฺโทว ราหุคฺคหณา ปมุตฺตา;

กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปุฺเปกฺโข ยเชถ.

๕๐๔.

‘‘สมิตาวิโน วีตราคา อโกปา, เยสํ คตี นตฺถิธ วิปฺปหาย;

กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปุฺเปกฺโข ยเชถ.

๕๐๕.

‘‘ชหิตฺวา ชาติมรณํ อเสสํ, กถํกถึ สพฺพมุปาติวตฺตา;

กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปุฺเปกฺโข ยเชถ.

๕๐๖.

‘‘เย อตฺตทีปา วิจรนฺติ โลเก, อกิฺจนา สพฺพธิ วิปฺปมุตฺตา;

กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปุฺเปกฺโข ยเชถ.

๕๐๗.

‘‘เย เหตฺถ ชานนฺติ ยถา ตถา อิทํ, อยมนฺติมา นตฺถิ ปุนพฺภโวติ;

กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปุฺเปกฺโข ยเชถ.

๕๐๘.

‘‘โย เวทคู ฌานรโต สตีมา, สมฺโพธิปตฺโต สรณํ พหูนํ;

กาเลน ตมฺหิ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปุฺเปกฺโข ยเชถ’’.

๕๐๙.

‘‘อทฺธา อโมฆา มม ปุจฺฉนา อหุ, อกฺขาสิ เม ภควา ทกฺขิเณยฺเย;

ตฺวฺเหตฺถ ชานาสิ ยถา ตถา อิทํ, ตถา หิ เต วิทิโต เอส ธมฺโม.

๕๑๐.

‘‘โย ยาจโยโค ทานปติ คหฏฺโ, (อิติ มาโฆ มาณโว)

ปุฺตฺถิโก ยชติ ปุฺเปกฺโข;

ททํ ปเรสํ อิธ อนฺนปานํ,

อกฺขาหิ เม ภควา ยฺสมฺปทํ’’.

๕๑๑.

‘‘ยชสฺสุ ยชมาโน มาฆาติ ภควา, สพฺพตฺถ จ วิปฺปสาเทหิ จิตฺตํ;

อารมฺมณํ ยชมานสฺส ยฺโ, เอตฺถปฺปติฏฺาย ชหาติ โทสํ.

๕๑๒.

‘‘โส วีตราโค ปวิเนยฺย โทสํ, เมตฺตํ จิตฺตํ ภาวยมปฺปมาณํ;

รตฺตินฺทิวํ สตตมปฺปมตฺโต, สพฺพา ทิสา ผรติ อปฺปมฺํ’’.

๕๑๓.

‘‘โก สุชฺฌติ มุจฺจติ พชฺฌตี จ, เกนตฺตนา คจฺฉติ [เกนตฺเถนา คจฺฉติ (ก.)] พฺรหฺมโลกํ;

อชานโต เม มุนิ พฺรูหิ ปุฏฺโ, ภควา หิ เม สกฺขิ พฺรหฺมชฺชทิฏฺโ;

ตุวฺหิ โน พฺรหฺมสโมสิ สจฺจํ, กถํ อุปปชฺชติ พฺรหฺมโลกํ ชุติม’’.

๕๑๔.

‘‘โย ยชติ ติวิธํ ยฺสมฺปทํ, (มาฆาติ ภควา)

อาราธเย ทกฺขิเณยฺเยภิ ตาทิ;

เอวํ ยชิตฺวา สมฺมา ยาจโยโค,

อุปปชฺชติ พฺรหฺมโลกนฺติ พฺรูมี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต, มาโฆ มาณโว ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.

มาฆสุตฺตํ ปฺจมํ นิฏฺิตํ.

๖. สภิยสุตฺตํ

เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน สภิยสฺส ปริพฺพาชกสฺส ปุราณสาโลหิตาย เทวตาย ปฺหา อุทฺทิฏฺา โหนฺติ – ‘‘โย เต, สภิย, สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิเม ปฺเห ปุฏฺโ พฺยากโรติ ตสฺส สนฺติเก พฺรหฺมจริยํ จเรยฺยาสี’’ติ.

อถ โข สภิโย ปริพฺพาชโก ตสฺสา เทวตาย สนฺติเก เต ปฺเห อุคฺคเหตฺวา เย เต สมณพฺราหฺมณา สงฺฆิโน คณิโน คณาจริยา าตา ยสสฺสิโน ติตฺถกรา สาธุสมฺมตา พหุชนสฺส, เสยฺยถิทํ – ปูรโณ กสฺสโป มกฺขลิโคสาโล อชิโต เกสกมฺพโล ปกุโธ [กกุโธ (สี.) ปกุทฺโธ (สฺยา. กํ.)] กจฺจาโน สฺจโย [สฺชโย (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] เพลฏฺปุตฺโต [เพลฺลฏฺิปุตฺโต (สี. ปี.), เวฬฏฺปุตฺโต (สฺยา.)] นิคณฺโ นาฏปุตฺโต [นาตปุตฺโต (สี. ปี.)], เต อุปสงฺกมิตฺวา เต ปฺเห ปุจฺฉติ. เต สภิเยน ปริพฺพาชเกน ปฺเห ปุฏฺา น สมฺปายนฺติ; อสมฺปายนฺตา โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรนฺติ. อปิ จ สภิยํ เยว ปริพฺพาชกํ ปฏิปุจฺฉนฺติ.

อถ โข สภิยสฺส ปริพฺพาชกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘เย โข เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สงฺฆิโน คณิโน คณาจริยา าตา ยสสฺสิโน ติตฺถกรา สาธุสมฺมตา พหุชนสฺส, เสยฺยถิทํ – ปูรโณ กสฺสโป…เป… นิคณฺโ นาฏปุตฺโต, เต มยา ปฺเห ปุฏฺา น สมฺปายนฺติ, อสมฺปายนฺตา โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรนฺติ; อปิ จ มฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉนฺติ. ยนฺนูนฺนาหํ หีนายาวตฺติตฺวา กาเม ปริภุฺเชยฺย’’นฺติ.

อถ โข สภิยสฺส ปริพฺพาชกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยมฺปิ โข สมโณ โคตโม สงฺฆี เจว คณี จ คณาจริโย จ าโต ยสสฺสี ติตฺถกโร สาธุสมฺมโต พหุชนสฺส; ยํนูนาหํ สมณํ โคตมํ อุปสงฺกมิตฺวา อิเม ปฺเห ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ.

อถ โข สภิยสฺส ปริพฺพาชกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘เยปิ โข เต [เย โข เต (สฺยา.), ยํ โข เต (ก.)] โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา ชิณฺณา วุฑฺฒา มหลฺลกา อทฺธคตา วโยอนุปฺปตฺตา เถรา รตฺตฺู จิรปพฺพชิตา สงฺฆิโน คณิโน คณาจริยา าตา ยสสฺสิโน ติตฺถกรา สาธุสมฺมตา พหุชนสฺส, เสยฺยถิทํ – ปูรโณ กสฺสโป…เป. … นิคณฺโ นาฏปุตฺโต, เตปิ มยา ปฺเห ปุฏฺา น สมฺปายนฺติ, อสมฺปายนฺตา โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรนฺติ, อปิ จ มฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉนฺติ; กึ ปน เม สมโณ โคตโม อิเม ปฺเห ปุฏฺโ พฺยากริสฺสติ! สมโณ หิ โคตโม ทหโร เจว ชาติยา, นโว จ ปพฺพชฺชายา’’ติ.

อถ โข สภิยสฺส ปริพฺพาชกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สมโณ โข [สมโณ โข โคตโม (สฺยา. ก.)] ทหโรติ น อุฺาตพฺโพ น ปริโภตพฺโพ. ทหโรปิ เจส สมโณ โคตโม มหิทฺธิโก โหติ มหานุภาโว, ยํนูนาหํ สมณํ โคตมํ อุปสงฺกมิตฺวา อิเม ปฺเห ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ.

อถ โข สภิโย ปริพฺพาชโก เยน ราชคหํ เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน ราชคหํ เวฬุวนํ กลนฺทกนิวาโป, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สภิโย ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

๕๑๕.

‘‘กงฺขี เวจิกิจฺฉี อาคมํ, (อิติ สภิโย)

ปฺเห ปุจฺฉิตุํ อภิกงฺขมาโน;

เตสนฺตกโร ภวาหิ [ภวาหิ เม (ปี. ก.)] ปฺเห เม ปุฏฺโ,

อนุปุพฺพํ อนุธมฺมํ พฺยากโรหิ เม’’.

๕๑๖.

‘‘ทูรโต อาคโตสิ สภิย, (อิติ ภควา)

ปฺเห ปุจฺฉิตุํ อภิกงฺขมาโน;

เตสนฺตกโร ภวามิ [เตสมนฺตกโรมิ เต (ก.)] ปฺเห เต ปุฏฺโ,

อนุปุพฺพํ อนุธมฺมํ พฺยากโรมิ เต.

๕๑๗.

‘‘ปุจฺฉ มํ สภิย ปฺหํ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ;

ตสฺส ตสฺเสว ปฺหสฺส, อหํ อนฺตํ กโรมิ เต’’ติ.

อถ โข สภิยสฺส ปริพฺพาชกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ! ยํ วตาหํ อฺเสุ สมณพฺราหฺมเณสุ โอกาสกมฺมมตฺตมฺปิ [โอกาสมตฺตมฺปิ (สี. ปี.)] นาลตฺถํ ตํ เม อิทํ สมเณน โคตเมน โอกาสกมฺมํ กต’’นฺติ. อตฺตมโน ปมุทิโต อุทคฺโค ปีติโสมนสฺสชาโต ภควนฺตํ ปฺหํ อปุจฺฉิ –

๕๑๘.

‘‘กึ ปตฺตินมาหุ ภิกฺขุนํ, (อิติ สภิโย)

โสรตํ เกน กถฺจ ทนฺตมาหุ;

พุทฺโธติ กถํ ปวุจฺจติ,

ปุฏฺโ เม ภควา พฺยากโรหิ’’.

๕๑๙.

‘‘ปชฺเชน กเตน อตฺตนา, (สภิยาติ ภควา)

ปรินิพฺพานคโต วิติณฺณกงฺโข;

วิภวฺจ ภวฺจ วิปฺปหาย,

วุสิตวา ขีณปุนพฺภโว ส ภิกฺขุ.

๕๒๐.

‘‘สพฺพตฺถ อุเปกฺขโก สติมา, น โส หึสติ กฺจิ สพฺพโลเก;

ติณฺโณ สมโณ อนาวิโล, อุสฺสทา ยสฺส น สนฺติ โสรโต โส.

๕๒๑.

‘‘ยสฺสินฺทฺริยานิ ภาวิตานิ, อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ สพฺพโลเก;

นิพฺพิชฺฌ อิมํ ปรฺจ โลกํ, กาลํ กงฺขติ ภาวิโต ส ทนฺโต.

๕๒๒.

‘‘กปฺปานิ วิเจยฺย เกวลานิ, สํสารํ ทุภยํ จุตูปปาตํ;

วิคตรชมนงฺคณํ วิสุทฺธํ, ปตฺตํ ชาติขยํ ตมาหุ พุทฺธ’’นฺติ.

อถ โข สภิโย ปริพฺพาชโก ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อตฺตมโน ปมุทิโต อุทคฺโค ปีติโสมนสฺสชาโต ภควนฺตํ อุตฺตรึ [อุตฺตริ (ก.)] ปฺหํ อปุจฺฉิ –

๕๒๓.

‘‘กึ ปตฺตินมาหุ พฺราหฺมณํ, (อิติ สภิโย)

สมณํ เกน กถฺจ นฺหาตโกติ;

นาโคติ กถํ ปวุจฺจติ,

ปุฏฺโ เม ภควา พฺยากโรหิ’’.

๕๒๔.

‘‘พาหิตฺวา สพฺพปาปกานิ, (สภิยาติ ภควา)

วิมโล สาธุสมาหิโต ิตตฺโต;

สํสารมติจฺจ เกวลี โส,

อสิโต ตาทิ ปวุจฺจเต ส พฺรหฺมา.

๕๒๕.

‘‘สมิตาวิ ปหาย ปุฺปาปํ, วิรโช ตฺวา อิมํ ปรฺจ โลกํ;

ชาติมรณํ อุปาติวตฺโต, สมโณ ตาทิ ปวุจฺจเต ตถตฺตา.

๕๒๖.

‘‘นินฺหาย [นินหาย (สฺยา.)] สพฺพปาปกานิ, อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ สพฺพโลเก;

เทวมนุสฺเสสุ กปฺปิเยสุ, กปฺปํ เนติ ตมาหุ นฺหาตโก’’ติ.

๕๒๗.

‘‘อาคุํ น กโรติ กิฺจิ โลเก, สพฺพสํโยเค [สพฺพโยเค (ก.)] วิสชฺช พนฺธนานิ;

สพฺพตฺถ น สชฺชตี วิมุตฺโต, นาโค ตาทิ ปวุจฺจเต ตถตฺตา’’ติ.

อถ โข สภิโย ปริพฺพาชโก…เป… ภควนฺตํ อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ –

๕๒๘.

‘‘กํ เขตฺตชินํ วทนฺติ พุทฺธา, (อิติ สภิโย)

กุสลํ เกน กถฺจ ปณฺฑิโตติ;

มุนิ นาม กถํ ปวุจฺจติ,

ปุฏฺโ เม ภควา พฺยากโรหิ’’.

๕๒๙.

‘‘เขตฺตานิ วิเจยฺย เกวลานิ, (สภิยาติ ภควา)

ทิพฺพํ มานุสกฺจ พฺรหฺมเขตฺตํ;

สพฺพเขตฺตมูลพนฺธนา ปมุตฺโต,

เขตฺตชิโน ตาทิ ปวุจฺจเต ตถตฺตา.

๕๓๐.

‘‘โกสานิ วิเจยฺย เกวลานิ, ทิพฺพํ มานุสกฺจ พฺรหฺมโกสํ;

สพฺพโกสมูลพนฺธนา ปมุตฺโต, กุสโล ตาทิ ปวุจฺจเต ตถตฺตา.

๕๓๑.

‘‘ทุภยานิ วิเจยฺย ปณฺฑรานิ, อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ สุทฺธิปฺโ;

กณฺหํ สุกฺกํ อุปาติวตฺโต, ปณฺฑิโต ตาทิ ปวุจฺจเต ตถตฺตา.

๕๓๒.

‘‘อสตฺจ สตฺจ ตฺวา ธมฺมํ, อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ สพฺพโลเก;

เทวมนุสฺเสหิ ปูชนีโย, สงฺคํ ชาลมติจฺจ โส มุนี’’ติ.

อถ โข สภิโย ปริพฺพาชโก…เป… ภควนฺตํ อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ –

๕๓๓.

‘‘กึ ปตฺตินมาหุ เวทคุํ, (อิติ สภิโย)

อนุวิทิตํ เกน กถฺจ วีริยวาติ;

อาชานิโย กินฺติ นาม โหติ,

ปุฏฺโ เม ภควา พฺยากโรหิ’’.

๕๓๔.

‘‘เวทานิ วิเจยฺย เกวลานิ, (สภิยาติ ภควา)

สมณานํ ยานิธตฺถิ [ยานิปตฺถิ (สี. สฺยา. ปี.)] พฺราหฺมณานํ;

สพฺพเวทนาสุ วีตราโค,

สพฺพํ เวทมติจฺจ เวทคู โส.

๕๓๕.

‘‘อนุวิจฺจ ปปฺจนามรูปํ, อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ โรคมูลํ;

สพฺพโรคมูลพนฺธนา ปมุตฺโต, อนุวิทิโต ตาทิ ปวุจฺจเต ตถตฺตา.

๕๓๖.

‘‘วิรโต อิธ สพฺพปาปเกหิ, นิรยทุกฺขํ อติจฺจ วีริยวา โส;

โส วีริยวา ปธานวา, ธีโร ตาทิ ปวุจฺจเต ตถตฺตา.

๕๓๗.

‘‘ยสฺสสฺสุ ลุนานิ พนฺธนานิ, อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ สงฺคมูลํ;

สพฺพสงฺคมูลพนฺธนา ปมุตฺโต, อาชานิโย ตาทิ ปวุจฺจเต ตถตฺตา’’ติ.

อถ โข สภิโย ปริพฺพาชโก…เป… ภควนฺตํ อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ –

๕๓๘.

‘‘กึ ปตฺตินมาหุ โสตฺติยํ, (อิติ สภิโย)

อริยํ เกน กถฺจ จรณวาติ;

ปริพฺพาชโก กินฺติ นาม โหติ,

ปุฏฺโ เม ภควา พฺยากโรหิ’’.

๕๓๙.

‘‘สุตฺวา สพฺพธมฺมํ อภิฺาย โลเก, (สภิยาติ ภควา)

สาวชฺชานวชฺชํ ยทตฺถิ กิฺจิ;

อภิภุํ อกถํกถึ วิมุตฺตํ,

อนิฆํ สพฺพธิมาหุ โสตฺติโยติ.

๕๔๐.

‘‘เฉตฺวา อาสวานิ อาลยานิ, วิทฺวา โส น อุเปติ คพฺภเสยฺยํ;

สฺํ ติวิธํ ปนุชฺช ปงฺกํ, กปฺปํ เนติ ตมาหุ อริโยติ.

๕๔๑.

‘‘โย อิธ จรเณสุ ปตฺติปตฺโต, กุสโล สพฺพทา อาชานาติ [อาชานิ (สฺยา.)] ธมฺมํ;

สพฺพตฺถ น สชฺชติ วิมุตฺตจิตฺโต [วิมุตฺโต (สี.)], ปฏิฆา ยสฺส น สนฺติ จรณวา โส.

๕๔๒.

‘‘ทุกฺขเวปกฺกํ ยทตฺถิ กมฺมํ, อุทฺธมโธ ติริยํ วาปิ [ติริยฺจาปิ (สฺยา.)] มชฺเฌ;

ปริพฺพาชยิตฺวา ปริฺจารี, มายํ มานมโถปิ โลภโกธํ;

ปริยนฺตมกาสิ นามรูปํ, ตํ ปริพฺพาชกมาหุ ปตฺติปตฺต’’นฺติ.

อถ โข สภิโย ปริพฺพาชโก ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อตฺตมโน ปมุทิโต อุทคฺโค ปีติโสมนสฺสชาโต อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ สมฺมุขา สารุปฺปาหิ คาถาหิ อภิตฺถวิ –

๕๔๓.

‘‘ยานิ จ ตีณิ ยานิ จ สฏฺิ, สมณปฺปวาทสิตานิ [สมณปฺปวาทนิสฺสิตานิ (สฺยา. ก.)] ภูริปฺ;

สฺกฺขรสฺนิสฺสิตานิ, โอสรณานิ วิเนยฺย โอฆตมคา.

๕๔๔.

‘‘อนฺตคูสิ ปารคู [ปารคูสิ (สฺยา. ปี. ก.)] ทุกฺขสฺส, อรหาสิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ขีณาสวํ ตํ มฺเ;

ชุติมา มุติมา ปหูตปฺโ, ทุกฺขสฺสนฺตกรํ อตาเรสิ มํ.

๕๔๕.

‘‘ยํ เม กงฺขิตมฺาสิ, วิจิกิจฺฉา มํ ตารยิ นโม เต;

มุนิ โมนปเถสุ ปตฺติปตฺต, อขิล อาทิจฺจพนฺธุ โสรโตสิ.

๕๔๖.

‘‘ยา เม กงฺขา ปุเร อาสิ, ตํ เม พฺยากาสิ จกฺขุมา;

อทฺธา มุนีสิ สมฺพุทฺโธ, นตฺถิ นีวรณา ตว.

๕๔๗.

‘‘อุปายาสา จ เต สพฺเพ, วิทฺธสฺตา วินฬีกตา;

สีติภูโต ทมปฺปตฺโต, ธิติมา สจฺจนิกฺกโม.

๕๔๘.

‘‘ตสฺส เต นาคนาคสฺส, มหาวีรสฺส ภาสโต;

สพฺเพ เทวานุโมทนฺติ, อุโภ นารทปพฺพตา.

๕๔๙.

‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;

สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เต ปฏิปุคฺคโล.

๕๕๐.

‘‘ตุวํ พุทฺโธ ตุวํ สตฺถา, ตุวํ มาราภิภู มุนิ;

ตุวํ อนุสเย เฉตฺวา, ติณฺโณ ตาเรสิ มํ ปชํ.

๕๕๑.

‘‘อุปธี เต สมติกฺกนฺตา, อาสวา เต ปทาลิตา;

สีโหสิ อนุปาทาโน, ปหีนภยเภรโว.

๕๕๒.

‘‘ปุณฺฑรีกํ ยถา วคฺคุ, โตเย น อุปลิมฺปติ [โตเยน น อุปลิปฺปติ (สี.), โตเย น อุปลิปฺปติ (ปี.), โตเยน น อุปลิมฺปติ (ก.)];

เอวํ ปุฺเ จ ปาเป จ, อุภเย ตฺวํ น ลิมฺปสิ;

ปาเท วีร ปสาเรหิ, สภิโย วนฺทติ สตฺถุโน’’ติ.

อถ โข สภิโย ปริพฺพาชโก ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป… เอสาหํ ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ; ลเภยฺยาหํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติ .

‘‘โย โข, สภิย, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขติ ปพฺพชฺชํ, อากงฺขติ อุปสมฺปทํ, โส จตฺตาโร มาเส ปริวสติ; จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺติ, อุปสมฺปาเทนฺติ ภิกฺขุภาวาย. อปิ จ เมตฺถ ปุคฺคลเวมตฺตตา วิทิตา’’ติ.

‘‘สเจ, ภนฺเต, อฺติตฺถิยปุพฺพา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขนฺตา ปพฺพชฺชํ, อากงฺขนฺตา อุปสมฺปทํ จตฺตาโร มาเส ปริวสนฺติ, จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺติ, อุปสมฺปาเทนฺติ ภิกฺขุภาวาย, อหํ จตฺตาริ วสฺสานิ ปริวสิสฺสามิ; จตุนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺตุ อุปสมฺปาเทนฺตุ ภิกฺขุภาวายา’’ติ. อลตฺถ โข สภิโย ปริพฺพาชโก ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ อลตฺถ อุปสมฺปทํ…เป… อฺตโร โข ปนายสฺมา สภิโย อรหตํ อโหสีติ.

สภิยสุตฺตํ ฉฏฺํ นิฏฺิตํ.

๗. เสลสุตฺตํ

เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา องฺคุตฺตราเปสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ อฑฺฒเตฬเสหิ ภิกฺขุสเตหิ เยน อาปณํ นาม องฺคุตฺตราปานํ นิคโม ตทวสริ. อสฺโสสิ โข เกณิโย ชฏิโล ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต องฺคุตฺตราเปสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ อฑฺฒเตฬเสหิ ภิกฺขุสเตหิ อาปณํ อนุปฺปตฺโต. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ [ภควา (สฺยา. ปี.)]. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ.

อถ โข เกณิโย ชฏิโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข เกณิยํ ชฏิลํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข เกณิโย ชฏิโล ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภควา เกณิยํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘มหา โข, เกณิย, ภิกฺขุสงฺโฆ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ; ตฺวฺจ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน’’ติ.

ทุติยมฺปิ โข เกณิโย ชฏิโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิฺจาปิ, โภ โคตม, มหา ภิกฺขุสงฺโฆ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ, อหฺจ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน; อธิวาเสตุ เม ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. ทุติยมฺปิ โข ภควา เกณิยํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘มหา โข, เกณิย, ภิกฺขุสงฺโฆ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ; ตฺวฺจ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน’’ติ.

ตติยมฺปิ โข เกณิโย ชฏิโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิฺจาปิ, โภ โคตม, มหา ภิกฺขุสงฺโฆ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ, อหฺจ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน, อธิวาเสตุ [อธิวาเสตฺเวว (สี.)] เม ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข เกณิโย ชฏิโล ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา เยน สโก อสฺสโม เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มิตฺตามจฺเจ าติสาโลหิเต อามนฺเตสิ – ‘‘สุณนฺตุ เม ภวนฺโต มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา, สมโณ เม โคตโม นิมนฺติโต สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน, เยน เม กายเวยฺยาวฏิกํ กเรยฺยาถา’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข เกณิยสฺส ชฏิลสฺส มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา เกณิยสฺส ชฏิลสฺส ปฏิสฺสุตฺวา อปฺเปกจฺเจ อุทฺธนานิ ขณนฺติ, อปฺเปกจฺเจ กฏฺานิ ผาเลนฺติ, อปฺเปกจฺเจ ภาชนานิ โธวนฺติ, อปฺเปกจฺเจ อุทกมณิกํ ปติฏฺาเปนฺติ, อปฺเปกจฺเจ อาสนานิ ปฺาเปนฺติ. เกณิโย ปน ชฏิโล สามํเยว มณฺฑลมาฬํ ปฏิยาเทติ.

เตน โข ปน สมเยน เสโล พฺราหฺมโณ อาปเณ ปฏิวสติ, ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย, ตีณิ จ มาณวกสตานิ มนฺเต วาเจติ.

เตน โข ปน สมเยน เกณิโย ชฏิโล เสเล พฺราหฺมเณ อภิปฺปสนฺโน โหติ. อถ โข เสโล พฺราหฺมโณ ตีหิ มาณวกสเตหิ ปริวุโต ชงฺฆาวิหารํ อนุจงฺกมมาโน อนุวิจรมาโน เยน เกณิยสฺส ชฏิลสฺส อสฺสโม เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข เสโล พฺราหฺมโณ เกณิยสฺส ชฏิลสฺส อสฺสเม [เกณิสฺสมิเย ชฏิเล (สี. ปี.)] อปฺเปกจฺเจ อุทฺธนานิ ขณนฺเต…เป… อปฺเปกจฺเจ อาสนานิ ปฺเปนฺเต, เกณิยํ ปน ชฏิลํ สามํเยว มณฺฑลมาฬํ ปฏิยาเทนฺตํ. ทิสฺวาน เกณิยํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ โข โภโต เกณิยสฺส อาวาโห วา ภวิสฺสติ, วิวาโห วา ภวิสฺสติ, มหายฺโ วา ปจฺจุปฏฺิโต, ราชา วา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร นิมนฺติโต สฺวาตนาย สทฺธึ พลกาเยนา’’ติ?

‘‘น เม, โภ เสล, อาวาโห วา ภวิสฺสติ วิวาโห วา, นาปิ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร นิมนฺติโต สฺวาตนาย สทฺธึ พลกาเยน; อปิ จ โข เม มหายฺโ ปจฺจุปฏฺิโต. อตฺถิ สมโณ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต องฺคุตฺตราเปสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ อฑฺฒเตฬเสหิ ภิกฺขุสเตหิ อาปณํ อนุปฺปตฺโต. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ…เป… พุทฺโธ ภควาติ. โส เม นิมนฺติโต สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. ‘‘พุทฺโธติ, โภ เกณิย, วเทสิ’’? ‘‘พุทฺโธติ, โภ เสล, วทามิ’’. ‘‘พุทฺโธติ, โภ เกณิย, วเทสิ’’? ‘‘พุทฺโธติ, โภ เสล, วทามี’’ติ.

อถ โข เสลสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘โฆโสปิ โข เอโส ทุลฺลโภ โลกสฺมึ ยทิทํ พุทฺโธติ. อาคตานิ โข ปนมฺหากํ มนฺเตสุ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ, เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ทฺเวว คติโย ภวนฺติ อนฺา. สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ ราชา โหติ จกฺกวตฺติ ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. ตสฺสิมานิ สตฺต รตนานิ ภวนฺติ, เสยฺยถิทํ – จกฺกรตนํ, หตฺถิรตนํ, อสฺสรตนํ, มณิรตนํ, อิตฺถิรตนํ, คหปติรตนํ, ปริณายกรตนเมว สตฺตมํ. ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. โส อิมํ ปถวึ สาครปริยนฺตํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน อภิวิชิย อชฺฌาวสติ. สเจ โข ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท [วิวตฺตจฺฉทฺโท (สี. ปี.)]. กหํ ปน, โภ เกณิย, เอตรหิ โส ภวํ โคตโม วิหรติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ?

เอวํ วุตฺเต, เกณิโย ชฏิโล ทกฺขิณํ พาหุํ ปคฺคเหตฺวา เสลํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘เยเนสา , โภ เสล, นีลวนราชี’’ติ. อถ โข เสโล พฺราหฺมโณ ตีหิ มาณวกสเตหิ สทฺธึ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. อถ โข เสโล พฺราหฺมโณ เต มาณวเก อามนฺเตสิ – ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต อาคจฺฉนฺตุ, ปเท ปทํ นิกฺขิปนฺตา. ทุราสทา หิ เต ภควนฺโต [ภวนฺโต (สฺยา. ก.)] สีหาว เอกจรา. ยทา จาหํ, โภ, สมเณน โคตเมน สทฺธึ มนฺเตยฺยุํ, มา เม โภนฺโต อนฺตรนฺตรา กถํ โอปาเตถ; กถาปริโยสานํ เม ภวนฺโต อาคเมนฺตู’’ติ.

อถ โข เสโล พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข เสโล พฺราหฺมโณ ภควโต กาเย ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ สมนฺเนสิ [สมฺมนฺเนสิ (สี. สฺยา.)]. อทฺทสา โข เสโล พฺราหฺมโณ ภควโต กาเย ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ เยภุยฺเยน เปตฺวา ทฺเว. ทฺวีสุ มหาปุริสลกฺขเณสุ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ – โกโสหิเต จ วตฺถคุยฺเห, ปหูตชิวฺหตาย จาติ.

อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ปสฺสติ โข เม อยํ เสโล พฺราหฺมโณ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ เยภุยฺเยน เปตฺวา ทฺเว. ทฺวีสุ มหาปุริสลกฺขเณสุ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ – โกโสหิเต จ วตฺถคุยฺเห, ปหูตชิวฺหตาย จา’’ติ. อถ โข ภควา ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสิ [อภิสงฺขาเรสิ (สฺยา. ก.)], ยถา อทฺทส เสโล พฺราหฺมโณ ภควโต โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํ . อถ โข ภควา ชิวฺหํ นินฺนาเมตฺวา อุโภปิ กณฺณโสตานิ อนุมสิ ปฏิมสิ, อุโภปิ นาสิกโสตานิ อนุมสิ ปฏิมสิ, เกวลมฺปิ นลาฏมณฺฑลํ ชิวฺหาย ฉาเทสิ.

อถ โข เสลสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สมนฺนาคโต โข สมโณ โคตโม ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ ปริปุณฺเณหิ, โน อปุริปุณฺเณหิ. โน จ โข นํ ชานามิ พุทฺโธ วา โน วา. สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุฑฺฒานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘เย เต ภวนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, เต สเก วณฺเณ ภฺมาเน อตฺตานํ ปาตุกโรนฺตี’ติ. ยํนูนาหํ สมณํ โคตมํ สมฺมุขา สารุปฺปาหิ คาถาหิ อภิตฺถเวยฺย’’นฺติ. อถ โข เสโล พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ สมฺมุขา สารุปฺปาหิ คาถาหิ อภิตฺถวิ –

๕๕๓.

‘‘ปริปุณฺณกาโย สุรุจิ, สุชาโต จารุทสฺสโน;

สุวณฺณวณฺโณสิ ภควา, สุสุกฺกทาโสิ วีริยวา.

๕๕๔.

‘‘นรสฺส หิ สุชาตสฺส, เย ภวนฺติ วิยฺชนา;

สพฺเพ เต ตว กายสฺมึ, มหาปุริสลกฺขณา.

๕๕๕.

‘‘ปสนฺนเนตฺโต สุมุโข, พฺรหา อุชุ ปตาปวา;

มชฺเฌ สมณสงฺฆสฺส, อาทิจฺโจว วิโรจสิ.

๕๕๖.

‘‘กลฺยาณทสฺสโน ภิกฺขุ, กฺจนสนฺนิภตฺตโจ;

กึ เต สมณภาเวน, เอวํ อุตฺตมวณฺณิโน.

๕๕๗.

‘‘ราชา อรหสิ ภวิตุํ, จกฺกวตฺตี รเถสโภ;

จาตุรนฺโต วิชิตาวี, ชมฺพุสณฺฑสฺส [ชมฺพุมณฺฑสฺส (ก.)] อิสฺสโร.

๕๕๘.

‘‘ขตฺติยา โภคิราชาโน [โภชราชาโน (สี. สฺยา.)], อนุยนฺตา [อนุยุตฺตา (สี.)] ภวนฺตุ เต;

ราชาภิราชา มนุชินฺโท, รชฺชํ กาเรหิ โคตม’’.

๕๕๙.

‘‘ราชาหมสฺมิ เสลาติ, (ภควา) ธมฺมราชา อนุตฺตโร;

ธมฺเมน จกฺกํ วตฺเตมิ, จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยํ’’.

๕๖๐.

‘‘สมฺพุทฺโธ ปฏิชานาสิ, (อิติ เสโล พฺราหฺมโณ) ธมฺมราชา อนุตฺตโร;

‘ธมฺเมน จกฺกํ วตฺเตมิ’, อิติ ภาสสิ โคตม.

๕๖๑.

‘‘โก นุ เสนาปติ โภโต, สาวโก สตฺถุรนฺวโย;

โก เต ตมนุวตฺเตติ, ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ’’.

๕๖๒.

‘‘มยา ปวตฺติตํ จกฺกํ, (เสลาติ ภควา) ธมฺมจกฺกํ อนุตฺตรํ;

สาริปุตฺโต อนุวตฺเตติ, อนุชาโต ตถาคตํ.

๕๖๓.

‘‘อภิฺเยฺยํ อภิฺาตํ, ภาเวตพฺพฺจ ภาวิตํ;

ปหาตพฺพํ ปหีนํ เม, ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ พฺราหฺมณ.

๕๖๔.

‘‘วินยสฺสุ มยิ กงฺขํ, อธิมุจฺจสฺสุ พฺราหฺมณ;

ทุลฺลภํ ทสฺสนํ โหติ, สมฺพุทฺธานํ อภิณฺหโส.

๕๖๕.

‘‘เยสํ เว [เยสํ โว (ปี.), ยสฺส เว (สฺยา.)] ทุลฺลโภ โลเก, ปาตุภาโว อภิณฺหโส;

โสหํ พฺราหฺมณ สมฺพุทฺโธ, สลฺลกตฺโต อนุตฺตโร.

๕๖๖.

‘‘พฺรหฺมภูโต อติตุโล, มารเสนปฺปมทฺทโน;

สพฺพามิตฺเต วสีกตฺวา, โมทามิ อกุโตภโย’’.

๕๖๗.

‘‘อิมํ ภวนฺโต นิสาเมถ, ยถา ภาสติ จกฺขุมา;

สลฺลกตฺโต มหาวีโร, สีโหว นทตี วเน.

๕๖๘.

‘‘พฺรหฺมภูตํ อติตุลํ, มารเสนปฺปมทฺทนํ;

โก ทิสฺวา นปฺปสีเทยฺย, อปิ กณฺหาภิชาติโก.

๕๖๙.

‘‘โย มํ อิจฺฉติ อนฺเวตุ, โย วา นิจฺฉติ คจฺฉตุ;

อิธาหํ ปพฺพชิสฺสามิ, วรปฺสฺส สนฺติเก’’.

๕๗๐.

‘‘เอวฺเจ [เอตฺเจ (สี. ปี.)] รุจฺจติ โภโต, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสเน [สมฺมาสมฺพุทฺธสาสนํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)];

มยมฺปิ ปพฺพชิสฺสาม, วรปฺสฺส สนฺติเก’’.

๕๗๑.

‘‘พฺราหฺมณา ติสตา อิเม, ยาจนฺติ ปฺชลีกตา;

พฺรหฺมจริยํ จริสฺสาม, ภควา ตว สนฺติเก’’.

๕๗๒.

‘‘สฺวากฺขาตํ พฺรหฺมจริยํ, (เสลาติ ภควา) สนฺทิฏฺิกมกาลิกํ;

ยตฺถ อโมฆา ปพฺพชฺชา, อปฺปมตฺตสฺส สิกฺขโต’’ติ.

อลตฺถ โข เสโล พฺราหฺมโณ สปริโส ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํ. อถ โข เกณิโย ชฏิโล ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก อสฺสเม ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, โภ โคตม, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ . อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน เกณิยสฺส ชฏิลสฺส อสฺสโม เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน.

อถ โข เกณิโย ชฏิโล พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ. อถ โข เกณิโย ชฏิโล ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข เกณิยํ ชฏิลํ ภควา อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิ –

๕๗๓.

‘‘อคฺคิหุตฺตมุขา ยฺา, สาวิตฺตี ฉนฺทโส มุขํ;

ราชา มุขํ มนุสฺสานํ, นทีนํ สาคโร มุขํ.

๕๗๔.

‘‘นกฺขตฺตานํ มุขํ จนฺโท, อาทิจฺโจ ตปตํ มุขํ;

ปุฺํ อากงฺขมานานํ, สงฺโฆ เว ยชตํ มุข’’นฺติ.

อถ โข ภควา เกณิยํ ชฏิลํ อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. อถ โข อายสฺมา เสโล สปริโส เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรสฺเส …เป… อฺตโร โข ปนาปสฺมา เสโล สปริโส อรหตํ อโหสิ.

อถ โข อายสฺมา เสโล สปริโส เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

๕๗๕.

‘‘ยํ ตํ สรณมาคมฺห [มาคมฺม (สี. สฺยา. ก.)], อิโต อฏฺมิ จกฺขุม;

สตฺตรตฺเตน ภควา, ทนฺตมฺห ตว สาสเน.

๕๗๖.

‘‘ตุวํ พุทฺโธ ตุวํ สตฺถา, ตุวํ มาราภิภู มุนิ;

ตุวํ อนุสเย เฉตฺวา, ติณฺโณ ตาเรสิมํ ปชํ.

๕๗๗.

‘‘อุปธี เต สมติกฺกนฺตา, อาสวา เต ปทาลิตา;

สีโหสิ [สีโหว (ม. นิ. ๒.๔๐๑)] อนุปาทาโน, ปหีนภยเภรโว.

๕๗๘.

‘‘ภิกฺขโว ติสตา อิเม, ติฏฺนฺติ ปฺชลีกตา;

ปาเท วีร ปสาเรหิ, นาคา วนฺทนฺตุ สตฺถุโน’’ติ.

เสลสุตฺตํ สตฺตมํ นิฏฺิตํ.

๘. สลฺลสุตฺตํ

๕๗๙.

อนิมิตฺตมนฺาตํ , มจฺจานํ อิธ ชีวิตํ;

กสิรฺจ ปริตฺตฺจ, ตฺจ ทุกฺเขน สํยุตํ.

๕๘๐.

หิ โส อุปกฺกโม อตฺถิ, เยน ชาตา น มิยฺยเร;

ชรมฺปิ ปตฺวา มรณํ, เอวํธมฺมา หิ ปาณิโน.

๕๘๑.

ผลานมิว ปกฺกานํ, ปาโต ปตนโต [ปปตโต (สี. ปี. อฏฺ.)] ภยํ;

เอวํ ชาตาน มจฺจานํ, นิจฺจํ มรณโต ภยํ.

๕๘๒.

ยถาปิ กุมฺภการสฺส, กตา มตฺติกภาชนา;

สพฺเพ เภทนปริยนฺตา [เภทปริยนฺตา (สฺยา.)], เอวํ มจฺจาน ชีวิตํ.

๕๘๓.

ทหรา จ มหนฺตา จ, เย พาลา เย จ ปณฺฑิตา;

สพฺเพ มจฺจุวสํ ยนฺติ, สพฺเพ มจฺจุปรายณา.

๕๘๔.

เตสํ มจฺจุปเรตานํ, คจฺฉตํ ปรโลกโต;

น ปิตา ตายเต ปุตฺตํ, าตี วา ปน าตเก.

๕๘๕.

เปกฺขตํ เยว าตีนํ, ปสฺส ลาลปตํ ปุถุ;

เอกเมโกว มจฺจานํ, โควชฺโฌ วิย นียติ [นิยฺยติ (พหูสุ)].

๕๘๖.

เอวมพฺภาหโต โลโก, มจฺจุนา จ ชราย จ;

ตสฺมา ธีรา น โสจนฺติ, วิทิตฺวา โลกปริยายํ.

๕๘๗.

ยสฺส มคฺคํ น ชานาสิ, อาคตสฺส คตสฺส วา;

อุโภ อนฺเต อสมฺปสฺสํ, นิรตฺถํ ปริเทวสิ.

๕๘๘.

ปริเทวยมาโน เจ, กิฺจิทตฺถํ อุทพฺพเห;

สมฺมูฬฺโห หึสมตฺตานํ, กยิรา เจ นํ วิจกฺขโณ.

๕๘๙.

น หิ รุณฺเณน โสเกน, สนฺตึ ปปฺโปติ เจตโส;

ภิยฺยสฺสุปฺปชฺชเต ทุกฺขํ, สรีรํ จุปหฺติ.

๕๙๐.

กิโส วิวณฺโณ ภวติ, หึสมตฺตานมตฺตนา;

เตน เปตา ปาเลนฺติ, นิรตฺถา ปริเทวนา.

๕๙๑.

โสกมปฺปชหํ ชนฺตุ, ภิยฺโย ทุกฺขํ นิคจฺฉติ;

อนุตฺถุนนฺโต กาลงฺกตํ [กาลกตํ (สี. สฺยา.)], โสกสฺส วสมนฺวคู.

๕๙๒.

อฺเปิ ปสฺส คมิเน, ยถากมฺมูปเค นเร;

มจฺจุโน วสมาคมฺม, ผนฺทนฺเตวิธ ปาณิโน.

๕๙๓.

เยน เยน หิ มฺนฺติ, ตโต ตํ โหติ อฺถา;

เอตาทิโส วินาภาโว, ปสฺส โลกสฺส ปริยายํ.

๕๙๔.

อปิ วสฺสสตํ ชีเว, ภิยฺโย วา ปน มาณโว;

าติสงฺฆา วินา โหติ, ชหาติ อิธ ชีวิตํ.

๕๙๕.

ตสฺมา อรหโต สุตฺวา, วิเนยฺย ปริเทวิตํ;

เปตํ กาลงฺกตํ ทิสฺวา, เนโส ลพฺภา มยา อิติ.

๕๙๖.

ยถา สรณมาทิตฺตํ, วารินา ปรินิพฺพเย [ปรินิพฺพุโต (สี. ก.)];

เอวมฺปิ ธีโร สปฺโ, ปณฺฑิโต กุสโล นโร;

ขิปฺปมุปฺปติตํ โสกํ, วาโต ตูลํว ธํสเย.

๕๙๗.

ปริเทวํ ปชปฺปฺจ, โทมนสฺสฺจ อตฺตโน;

อตฺตโน สุขเมสาโน, อพฺพเห สลฺลมตฺตโน.

๕๙๘.

อพฺพุฬฺหสลฺโล อสิโต, สนฺตึ ปปฺปุยฺย เจตโส;

สพฺพโสกํ อติกฺกนฺโต, อโสโก โหติ นิพฺพุโตติ.

สลฺลสุตฺตํ อฏฺมํ นิฏฺิตํ.

๙. วาเสฏฺสุตฺตํ

เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อิจฺฉานงฺคเล วิหรติ อิจฺฉานงฺคลวนสณฺเฑ. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา อภิฺาตา อภิฺาตา พฺราหฺมณมหาสาลา อิจฺฉานงฺคเล ปฏิวสนฺติ, เสยฺยถิทํ – จงฺกี พฺราหฺมโณ, ตารุกฺโข พฺราหฺมโณ, โปกฺขรสาติ พฺราหฺมโณ, ชาณุสฺโสณิ [ชาณุโสณิ (ก.)] พฺราหฺมโณ, โตเทยฺโย พฺราหฺมโณ, อฺเ จ อภิฺาตา อภิฺาตา พฺราหฺมณมหาสาลา. อถ โข วาเสฏฺภารทฺวาชานํ มาณวานํ ชงฺฆาวิหารํ อนุจงฺกมนฺตานํ อนุวิจรนฺตานํ [อนุจงฺกมมานานํ อนุวิจรมานานํ (สี. ปี.)] อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘กถํ, โภ, พฺราหฺมโณ โหตี’’ติ?

ภารทฺวาโช มาณโว เอวมาห – ‘‘ยโต โข, โภ, อุภโต สุชาโต โหติ มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทน, เอตฺตาวตา โข โภ พฺราหฺมโณ โหตี’’ติ.

วาเสฏฺโ มาณโว เอวมาห – ‘‘ยโต โข, โภ, สีลวา จ โหติ วตสมฺปนฺโน [วตฺตสมฺปนฺโน (สี. สฺยา. ม. นิ. ๒.๔๕๔)] จ, เอตฺตาวตา โข, โภ, พฺราหฺมโณ โหตี’’ติ. เนว โข อสกฺขิ ภารทฺวาโช มาณโว วาเสฏฺํ มาณวํ สฺาเปตุํ, น ปน อสกฺขิ วาเสฏฺโ มาณโว ภารทฺวาชํ มาณวํ สฺาเปตุํ.

อถ โข วาเสฏฺโ มาณโว ภารทฺวาชํ มาณวํ อามนฺเตสิ – ‘‘อยํ โข, โภ [อยํ โภ (สี. สฺยา. ก.), อยํ โข (ปี.)] ภารทฺวาช, สมโณ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต อิจฺฉานงฺคเล วิหรติ อิจฺฉานงฺคลวนสณฺเฑ; ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ…เป… พุทฺโธ ภควา’ติ. อายาม, โภ ภารทฺวาช, เยน สมโณ โคตโม เตนุปสงฺกมิสฺสาม; อุปสงฺกมิตฺวา สมณํ โคตมํ เอตมตฺถํ ปุจฺฉิสฺสาม. ยถา โน สมโณ โคตโม พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข ภารทฺวาโช มาณโว วาเสฏฺสฺส มาณวสฺส ปจฺจสฺโสสิ.

อถ โข วาเสฏฺภารทฺวาชา มาณวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วาเสฏฺโ มาณโว ภควนฺตํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –

๕๙๙.

‘‘อนุฺาตปฏิฺาตา, เตวิชฺชา มยมสฺมุโภ;

อหํ โปกฺขรสาติสฺส, ตารุกฺขสฺสายํ มาณโว.

๖๐๐.

‘‘เตวิชฺชานํ ยทกฺขาตํ, ตตฺร เกวลิโนสฺมเส;

ปทกสฺม เวยฺยากรณา, ชปฺเป อาจริยสาทิสา.

๖๐๑.

‘‘เตสํ โน ชาติวาทสฺมึ, วิวาโท อตฺถิ โคตม;

ชาติยา พฺราหฺมโณ โหติ, ภารทฺวาโช อิติ ภาสติ;

อหฺจ กมฺมุนา [กมฺมนา (สี. ปี.) เอวมุปริปิ] พฺรูมิ, เอวํ ชานาหิ จกฺขุม.

๖๐๒.

‘‘เต น สกฺโกม สฺาเปตุํ, อฺมฺํ มยํ อุโภ;

ภวนฺตํ [ภควนฺตํ (ก.)] ปุฏฺุมาคมฺหา, สมฺพุทฺธํ อิติ วิสฺสุตํ.

๖๐๓.

‘‘จนฺทํ ยถา ขยาตีตํ, เปจฺจ ปฺชลิกา ชนา;

วนฺทมานา นมสฺสนฺติ, เอวํ โลกสฺมิ โคตมํ.

๖๐๔.

‘‘จกฺขุํ โลเก สมุปฺปนฺนํ, มยํ ปุจฺฉาม โคตมํ;

ชาติยา พฺราหฺมโณ โหติ, อุทาหุ ภวติ กมฺมุนา;

อชานตํ โน ปพฺรูหิ, ยถา ชาเนสุ พฺราหฺมณํ’’.

๖๐๕.

‘‘เตสํ โว อหํ พฺยกฺขิสฺสํ, (วาเสฏฺาติ ภควา) อนุปุพฺพํ ยถาตถํ;

ชาติวิภงฺคํ ปาณานํ, อฺมฺา หิ ชาติโย.

๖๐๖.

‘‘ติณรุกฺเขปิ ชานาถ, น จาปิ ปฏิชานเร;

ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อฺมฺา หิ ชาติโย.

๖๐๗.

‘‘ตโต กีเฏ ปฏงฺเค จ, ยาว กุนฺถกิปิลฺลิเก;

ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อฺมฺา หิ ชาติโย.

๖๐๘.

‘‘จตุปฺปเทปิ ชานาถ, ขุทฺทเก จ มหลฺลเก;

ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อฺมฺา หิ ชาติโย.

๖๐๙.

‘‘ปาทูทเรปิ ชานาถ, อุรเค ทีฆปิฏฺิเก;

ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อฺมฺา หิ ชาติโย.

๖๑๐.

‘‘ตโต มจฺเฉปิ ชานาถ, โอทเก วาริโคจเร;

ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อฺมฺา หิ ชาติโย.

๖๑๑.

‘‘ตโต ปกฺขีปิ ชานาถ, ปตฺตยาเน วิหงฺคเม;

ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อฺมฺา หิ ชาติโย.

๖๑๒.

‘‘ยถา เอตาสุ ชาตีสุ, ลิงฺคํ ชาติมยํ ปุถุ;

เอวํ นตฺถิ มนุสฺเสสุ, ลิงฺคํ ชาติมยํ ปุถุ.

๖๑๓.

‘‘น เกเสหิ น สีเสน, น กณฺเณหิ น อกฺขิภิ;

น มุเขน น นาสาย, น โอฏฺเหิ ภมูหิ วา.

๖๑๔.

‘‘น คีวาย น อํเสหิ, น อุทเรน น ปิฏฺิยา;

น โสณิยา น อุรสา, น สมฺพาเธ น เมถุเน [น สมฺพาธา น เมถุนา (สฺยา. ก.)].

๖๑๕.

‘‘น หตฺเถหิ น ปาเทหิ, นางฺคุลีหิ นเขหิ วา;

น ชงฺฆาหิ น อูรูหิ, น วณฺเณน สเรน วา;

ลิงฺคํ ชาติมยํ เนว, ยถา อฺาสุ ชาติสุ.

๖๑๖.

‘‘ปจฺจตฺตฺจ สรีเรสุ [ปจฺจตฺตํ สสรีเรสุ (สี. ปี.)], มนุสฺเสสฺเวตํ น วิชฺชติ;

โวการฺจ มนุสฺเสสุ, สมฺาย ปวุจฺจติ.

๖๑๗.

‘‘โย หิ โกจิ มนุสฺเสสุ, โครกฺขํ อุปชีวติ;

เอวํ วาเสฏฺ ชานาหิ, กสฺสโก โส น พฺราหฺมโณ.

๖๑๘.

‘‘โย หิ โกจิ มนุสฺเสสุ, ปุถุสิปฺเปน ชีวติ;

เอวํ วาเสฏฺ ชานาหิ, สิปฺปิโก โส น พฺราหฺมโณ.

๖๑๙.

‘‘โย หิ โกจิ มนุสฺเสสุ, โวหารํ อุปชีวติ;

เอวํ วาเสฏฺ ชานาหิ, วาณิโช โส น พฺราหฺมโณ.

๖๒๐.

‘‘โย หิ โกจิ มนุสฺเสสุ, ปรเปสฺเสน ชีวติ;

เอวํ วาเสฏฺ ชานาหิ, เปสฺสิโก [เปสฺสโก (ก.)] โส น พฺราหฺมโณ.

๖๒๑.

‘‘โย หิ โกจิ มนุสฺเสสุ, อทินฺนํ อุปชีวติ;

เอวํ วาเสฏฺ ชานาหิ, โจโร เอโส น พฺราหฺมโณ.

๖๒๒.

‘‘โย หิ โกจิ มนุสฺเสสุ, อิสฺสตฺถํ อุปชีวติ;

เอวํ วาเสฏฺ ชานาหิ, โยธาชีโว น พฺราหฺมโณ.

๖๒๓.

‘‘โย หิ โกจิ มนุสฺเสสุ, โปโรหิจฺเจน ชีวติ;

เอวํ วาเสฏฺ ชานาหิ, ยาชโก เอโส น พฺราหฺมโณ.

๖๒๔.

‘‘โย หิ โกจิ มนุสฺเสสุ, คามํ รฏฺฺจ ภุฺชติ;

เอวํ วาเสฏฺ ชานาหิ, ราชา เอโส น พฺราหฺมโณ.

๖๒๕.

‘‘น จาหํ พฺราหฺมณํ พฺรูมิ, โยนิชํ มตฺติสมฺภวํ;

โภวาทิ นาม โส โหติ, สเจ [ส เว (สี. สฺยา.)] โหติ สกิฺจโน;

อกิฺจนํ อนาทานํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๒๖.

‘‘สพฺพสํโยชนํ เฉตฺวา, โส เว น ปริตสฺสติ;

สงฺคาติคํ วิสํยุตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๒๗.

‘‘เฉตฺวา นทฺธึ วรตฺตฺจ, สนฺทานํ สหนุกฺกมํ;

อุกฺขิตฺตปลิฆํ พุทฺธํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๒๘.

‘‘อกฺโกสํ วธพนฺธฺจ, อทุฏฺโ โย ติติกฺขติ;

ขนฺตีพลํ พลานีกํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๒๙.

‘‘อกฺโกธนํ วตวนฺตํ, สีลวนฺตํ อนุสฺสทํ;

ทนฺตํ อนฺติมสารีรํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๓๐.

‘‘วาริ โปกฺขรปตฺเตว, อารคฺเคริว สาสโป;

โย น ลิมฺปติ กาเมสุ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๓๑.

‘‘โย ทุกฺขสฺส ปชานาติ, อิเธว ขยมตฺตโน;

ปนฺนภารํ วิสํยุตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๓๒.

‘‘คมฺภีรปฺํ เมธาวึ, มคฺคามคฺคสฺส โกวิทํ;

อุตฺตมตฺถมนุปฺปตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๓๓.

‘‘อสํสฏฺํ คหฏฺเหิ, อนาคาเรหิ จูภยํ;

อโนกสาริมปฺปิจฺฉํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๓๔.

‘‘นิธาย ทณฺฑํ ภูเตสุ, ตเสสุ ถาวเรสุ จ;

โย น หนฺติ น ฆาเตติ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๓๕.

‘‘อวิรุทฺธํ วิรุทฺเธสุ, อตฺตทณฺเฑสุ นิพฺพุตํ;

สาทาเนสุ อนาทานํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๓๖.

‘‘ยสฺส ราโค จ โทโส จ, มาโน มกฺโข จ ปาติโต;

สาสโปริว อารคฺคา, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๓๗.

‘‘อกกฺกสํ วิฺาปนึ, คิรํ สจฺจมุทีรเย;

ยาย นาภิสเช กฺจิ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๓๘.

‘‘โยธ ทีฆํ ว รสฺสํ วา, อณุํ ถูลํ สุภาสุภํ;

โลเก อทินฺนํ นาทิยติ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๓๙.

‘‘อาสา ยสฺส น วิชฺชนฺติ, อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จ;

นิราสาสํ [นิราสยํ (สี. สฺยา. ปี.), นิราสกํ (?)] วิสํยุตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๔๐.

‘‘ยสฺสาลยา น วิชฺชนฺติ, อฺาย อกถํกถี;

อมโตคธมนุปฺปตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๔๑.

‘‘โยธ ปุฺฺจ ปาปฺจ, อุโภ สงฺคมุปจฺจคา;

อโสกํ วิรชํ สุทฺธํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๔๒.

‘‘จนฺทํว วิมลํ สุทฺธํ, วิปฺปสนฺนมนาวิลํ;

นนฺทีภวปริกฺขีณํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๔๓.

‘‘โยมํ ปลิปถํ ทุคฺคํ, สํสารํ โมหมจฺจคา;

ติณฺโณ ปารงฺคโต ฌายี, อเนโช อกถํกถี;

อนุปาทาย นิพฺพุโต, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๔๔.

‘‘โยธ กาเม ปหนฺตฺวาน, อนาคาโร ปริพฺพเช;

กามภวปริกฺขีณํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๔๕.

‘‘โยธ ตณฺหํ ปหนฺตฺวาน, อนาคาโร ปริพฺพเช;

ตณฺหาภวปริกฺขีณํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๔๖.

‘‘หิตฺวา มานุสกํ โยคํ, ทิพฺพํ โยคํ อุปจฺจคา;

สพฺพโยควิสํยุตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๔๗.

‘‘หิตฺวา รติฺจ อรตึ, สีติภูตํ นิรูปธึ;

สพฺพโลกาภิภุํ วีรํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๔๘.

‘‘จุตึ โย เวทิ [โย’เวติ (?) อิติวุตฺตเก ๙๙ อฏฺกถาสํวณนา ปสฺสิตพฺพา] ตฺตานํ, อุปปตฺติฺจ สพฺพโส;

อสตฺตํ สุคตํ พุทฺธํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๔๙.

‘‘ยสฺส คตึ น ชานนฺติ, เทวา คนฺธพฺพมานุสา;

ขีณาสวํ อรหนฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๕๐.

‘‘ยสฺส ปุเร จ ปจฺฉา จ, มชฺเฌ จ นตฺถิ กิฺจนํ;

อกิฺจนํ อนาทานํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๕๑.

‘‘อุสภํ ปวรํ วีรํ, มเหสึ วิชิตาวินํ;

อเนชํ นฺหาตกํ พุทฺธํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๕๒.

‘‘ปุพฺเพนิวาสํ โย เวทิ [โย’เวติ (?) อิติวุตฺตเก ๙๙ อฏฺกถาสํวณนา ปสฺสิตพฺพา], สคฺคาปายฺจ ปสฺสติ;

อโถ ชาติกฺขยํ ปตฺโต, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.

๖๕๓.

‘‘สมฺา เหสา โลกสฺมึ, นามโคตฺตํ ปกปฺปิตํ;

สมฺมุจฺจา สมุทาคตํ, ตตฺถ ตตฺถ ปกปฺปิตํ.

๖๕๔.

‘‘ทีฆรตฺตมนุสยิตํ, ทิฏฺิคตมชานตํ;

อชานนฺตา โน [อชานนฺตา เต (อฏฺ.) ม. นิ. ๒.๔๖๐] ปพฺรุวนฺติ, ชาติยา โหติ พฺราหฺมโณ.

๖๕๕.

‘‘น ชจฺจา พฺราหฺมโณ โหติ, น ชจฺจา โหติ อพฺราหฺมโณ;

กมฺมุนา พฺราหฺมโณ โหติ, กมฺมุนา โหติ อพฺราหฺมโณ.

๖๕๖.

‘‘กสฺสโก กมฺมุนา โหติ, สิปฺปิโก โหติ กมฺมุนา;

วาณิโช กมฺมุนา โหติ, เปสฺสิโก โหติ กมฺมุนา.

๖๕๗.

‘‘โจโรปิ กมฺมุนา โหติ, โยธาชีโวปิ กมฺมุนา;

ยาชโก กมฺมุนา โหติ, ราชาปิ โหติ กมฺมุนา.

๖๕๘.

‘‘เอวเมตํ ยถาภูตํ, กมฺมํ ปสฺสนฺติ ปณฺฑิตา;

ปฏิจฺจสมุปฺปาททสฺสา, กมฺมวิปากโกวิทา.

๖๕๙.

‘‘กมฺมุนา วตฺตติ โลโก, กมฺมุนา วตฺตติ ปชา;

กมฺมนิพนฺธนา สตฺตา, รถสฺสาณีว ยายโต.

๖๖๐.

‘‘ตเปน พฺรหฺมจริเยน, สํยเมน ทเมน จ;

เอเตน พฺราหฺมโณ โหติ, เอตํ พฺราหฺมณมุตฺตมํ.

๖๖๑.

‘‘ตีหิ วิชฺชาหิ สมฺปนฺโน, สนฺโต ขีณปุนพฺภโว;

เอวํ วาเสฏฺ ชานาหิ, พฺรหฺมา สกฺโก วิชานต’’นฺติ.

เอวํ วุตฺเต, วาเสฏฺภารทฺวาชา มาณวา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสเก โน ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปเต [ปาณุเปตํ (ก.)] สรณํ คเต’’ติ.

วาเสฏฺสุตฺตํ นวมํ นิฏฺิตํ.

๑๐. โกกาลิกสุตฺตํ

เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข โกกาลิโก ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โกกาลิโก ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปาปิจฺฉา, ภนฺเต, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา, ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คตา’’ติ.

เอวํ วุตฺเต, ภควา โกกาลิกํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘มา เหวํ, โกกาลิก, มา เหวํ, โกกาลิก! ปสาเทหิ, โกกาลิก, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ. เปสลา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา’’ติ.

ทุติยมฺปิ โข…เป… ตติยมฺปิ โข โกกาลิโก ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิฺจาปิ เม, ภนฺเต, ภควา สทฺธายิโก ปจฺจยิโก, อถ โข ปาปิจฺฉาว สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา, ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คตา’’ติ. ตติยมฺปิ โข ภควา โกกาลิกํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘มา เหวํ, โกกาลิก , มา เหวํ, โกกาลิก! ปสาเทหิ, โกกาลิก, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ. เปสลา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา’’ติ.

อถ โข โกกาลิโก ภิกฺขุ อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อจิรปฺปกฺกนฺตสฺส จ โกกาลิกสฺส ภิกฺขุโน สาสปมตฺตีหิ ปิฬกาหิ สพฺโพ กาโย ผุโฏ [ผุฏฺโ (สฺยา.)] อโหสิ; สาสปมตฺติโย หุตฺวา มุคฺคมตฺติโย อเหสุํ; มุคฺคมตฺติโย หุตฺวา กฬายมตฺติโย อเหสุํ; กฬายมตฺติโย หุตฺวา โกลฏฺิมตฺติโย อเหสุํ; โกลฏฺิมตฺติโย หุตฺวา โกลมตฺติโย อเหสุํ; โกลมตฺติโย หุตฺวา อามลกมตฺติโย อเหสุํ; อามลกมตฺติโย หุตฺวา เพฬุวสลาฏุกมตฺติโย อเหสุํ; เพฬุวสลาฏุกมตฺติโย หุตฺวา พิลฺลมตฺติโย อเหสุํ; พิลฺลมตฺติโย หุตฺวา ปภิชฺชึสุ; ปุพฺพฺจ โลหิตฺจ ปคฺฆรึสุ. อถ โข โกกาลิโก ภิกฺขุ เตเนวาพาเธน กาลมกาสิ. กาลงฺกโต จ โกกาลิโก ภิกฺขุ ปทุมํ นิรยํ อุปปชฺชิ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ อาฆาเตตฺวา .

อถ โข พฺรหฺมา สหมฺปติ อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ . เอกมนฺตํ, ิโต โข พฺรหฺมา สหมฺปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โกกาลิโก, ภนฺเต, ภิกฺขุ กาลงฺกโต; กาลงฺกโต จ, ภนฺเต, โกกาลิโก ภิกฺขุ ปทุมํ นิรยํ อุปปนฺโน สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ อาฆาเตตฺวา’’ติ. อิทมโวจ พฺรหฺมา สหมฺปติ; อิทํ วตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิ.

อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิมํ, ภิกฺขเว, รตฺตึ พฺรหฺมา สหมฺปติ อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา…เป… อิทมโวจ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา สหมฺปติ, อิทํ วตฺวา มํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต, อฺตโร ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กีวทีฆํ นุ โข, ภนฺเต, ปทุเม นิรเย อายุปฺปมาณ’’นฺติ? ‘‘ทีฆํ โข, ภิกฺขุ, ปทุเม นิรเย อายุปฺปมาณํ; ตํ น สุกรํ สงฺขาตุํ เอตฺตกานิ วสฺสานิ อิติ วา เอตฺตกานิ วสฺสสตานิ อิติ วา เอตฺตกานิ วสฺสสหสฺสานิ อิติ วา เอตฺตกานิ วสฺสสตสหสฺสานิ อิติ วา’’ติ. ‘‘สกฺกา ปน, ภนฺเต, อุปมา [อุปมํ (สี. สฺยา. ก.)] กาตุ’’นฺติ? ‘‘สกฺกา, ภิกฺขู’’ติ ภควา อโวจ –

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติขาริโก โกสลโก ติลวาโห; ตโต ปุริโส วสฺสสตสฺส วสฺสสตสฺส อจฺจเยน เอกเมกํ ติลํ อุทฺธเรยฺย. ขิปฺปตรํ โข โส ภิกฺขุ วีสติขาริโก โกสลโก ติลวาโห อิมินา อุปกฺกเมน ปริกฺขยํ ปริยาทานํ คจฺเฉยฺย, นตฺเวว เอโก อพฺพุโท นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อพฺพุทา นิรยา เอวเมโก นิรพฺพุโท นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ นิรพฺพุทา นิรยา เอวเมโก อพโพ นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อพพา นิรยา เอวเมโก อหโห นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อหหา นิรยา เอวเมโก อฏโฏ นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อฏฏา นิรยา เอวเมโก กุมุโท นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ กุมุทา นิรยา เอวเมโก โสคนฺธิโก นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ โสคนฺธิกา นิรยา เอวเมโก อุปฺปลโก นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อุปฺปลกา นิรยา เอวเมโก ปุณฺฑรีโก นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ ปุณฺฑรีกา นิรยา เอวเมโก ปทุโม นิรโย. ปทุมํ โข ปน ภิกฺขุ นิรยํ โกกาลิโก ภิกฺขุ อุปปนฺโน สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ อาฆาเตตฺวา’’ติ. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

๖๖๒.

‘‘ปุริสสฺส หิ ชาตสฺส, กุารี [กุธารี (ก.)] ชายเต มุเข;

ยาย ฉินฺทติ อตฺตานํ, พาโล ทุพฺภาสิตํ ภณํ.

๖๖๓.

‘‘โย นินฺทิยํ ปสํสติ, ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโย;

วิจินาติ มุเขน โส กลึ, กลินา เตน สุขํ น วินฺทติ.

๖๖๔.

‘‘อปฺปมตฺโต อยํ กลิ, โย อกฺเขสุ ธนปราชโย;

สพฺพสฺสาปิ สหาปิ อตฺตนา, อยเมว มหตฺตโร [มหนฺตกโร (สี.)] กลิ;

โย สุคเตสุ มนํ ปโทสเย.

๖๖๕.

‘‘สตํ สหสฺสานํ นิรพฺพุทานํ, ฉตฺตึสติ ปฺจ จ อพฺพุทานิ [อพฺพุทานํ (ก.)];

ยมริยครหี นิรยํ อุเปติ, วาจํ มนฺจ ปณิธาย ปาปกํ.

๖๖๖.

‘‘อภูตวาที นิรยํ อุเปติ, โย วาปิ กตฺวา น กโรมิจาห;

อุโภปิ เต เปจฺจ สมา ภวนฺติ, นิหีนกมฺมา มนุชา ปรตฺถ.

๖๖๗.

‘‘โย อปฺปทุฏฺสฺส นรสฺส ทุสฺสติ, สุทฺธสฺส โปสสฺส อนงฺคณสฺส;

ตเมว พาลํ ปจฺเจติ ปาปํ, สุขุโม รโช ปฏิวาตํว ขิตฺโต.

๖๖๘.

‘‘โย โลภคุเณ อนุยุตฺโต, โส วจสา ปริภาสติ อฺเ;

อสทฺโธ กทริโย อวทฺู, มจฺฉริ เปสุณิยํ [เปสุณิยสฺมึ (พหูสุ)] อนุยุตฺโต.

๖๖๙.

‘‘มุขทุคฺค วิภูต อนริย, ภูนหุ [ภุนหต (สฺยา. ก.)] ปาปก ทุกฺกฏการิ;

ปุริสนฺต กลี อวชาต, มา พหุภาณิธ เนรยิโกสิ.

๖๗๐.

‘‘รชมากิรสี อหิตาย, สนฺเต ครหสิ กิพฺพิสการี;

พหูนิ ทุจฺจริตานิ จริตฺวา, คจฺฉสิ โข ปปตํ จิรรตฺตํ.

๖๗๑.

‘‘น หิ นสฺสติ กสฺสจิ กมฺมํ, เอติ หตํ ลภเตว สุวามิ;

ทุกฺขํ มนฺโท ปรโลเก, อตฺตนิ ปสฺสติ กิพฺพิสการี.

๖๗๒.

‘‘อโยสงฺกุสมาหตฏฺานํ , ติณฺหธารมยสูลมุเปติ;

อถ ตตฺตอโยคุฬสนฺนิภํ, โภชนมตฺถิ ตถา ปติรูปํ.

๖๗๓.

‘‘น หิ วคฺคุ วทนฺติ วทนฺตา, นาภิชวนฺติ น ตาณมุเปนฺติ;

องฺคาเร สนฺถเต สยนฺติ [เสนฺติ (สี. สฺยา. ปี.)], คินิสมฺปชฺชลิตํ ปวิสนฺติ.

๖๗๔.

‘‘ชาเลน จ โอนหิยาน, ตตฺถ หนนฺติ อโยมยกุเฏภิ [อโยมยกูเฏหิ (สี. สฺยา. ปี.)];

อนฺธํว ติมิสมายนฺติ, ตํ วิตตฺหิ ยถา มหิกาโย.

๖๗๕.

‘‘อถ โลหมยํ ปน กุมฺภึ, คินิสมฺปชฺชลิตํ ปวิสนฺติ;

ปจฺจนฺติ หิ ตาสุ จิรรตฺตํ, อคฺคินิสมาสุ [คินิสฺสมาสุ (ก.)] สมุปฺปิลวาเต.

๖๗๖.

‘‘อถ ปุพฺพโลหิตมิสฺเส, ตตฺถ กึ ปจฺจติ กิพฺพิสการี;

ยํ ยํ ทิสกํ [ทิสตํ (สี. สฺยา. ปี.)] อธิเสติ, ตตฺถ กิลิสฺสติ สมฺผุสมาโน.

๖๗๗.

‘‘ปุฬวาวสเถ สลิลสฺมึ, ตตฺถ กึ ปจฺจติ กิพฺพิสการี;

คนฺตุํ น หิ ตีรมปตฺถิ, สพฺพสมา หิ สมนฺตกปลฺลา.

๖๗๘.

‘‘อสิปตฺตวนํ ปน ติณฺหํ, ตํ ปวิสนฺติ สมุจฺฉิทคตฺตา;

ชิวฺหํ พลิเสน คเหตฺวา, อารชยารชยา วิหนนฺติ.

๖๗๙.

‘‘อถ เวตรณึ ปน ทุคฺคํ, ติณฺหธารขุรธารมุเปนฺติ;

ตตฺถ มนฺทา ปปตนฺติ, ปาปกรา ปาปานิ กริตฺวา.

๖๘๐.

‘‘ขาทนฺติ หิ ตตฺถ รุทนฺเต, สามา สพลา กาโกลคณา จ;

โสณา สิงฺคาลา [สิคาลา (สี. ปี.)] ปฏิคิทฺธา [ปฏิคิชฺฌา (สฺยา. ปี.)], กุลลา วายสา จ [กุลลา จ วายสา (?)] วิตุทนฺติ.

๖๘๑.

‘‘กิจฺฉา วตยํ อิธ วุตฺติ, ยํ ชโน ผุสติ [ปสฺสติ (สี. สฺยา. ปี.)] กิพฺพิสการี;

ตสฺมา อิธ ชีวิตเสเส, กิจฺจกโร สิยา นโร น จปฺปมชฺเช.

๖๘๒.

‘‘เต คณิตา วิทูหิ ติลวาหา, เย ปทุเม นิรเย อุปนีตา;

นหุตานิ หิ โกฏิโย ปฺจ ภวนฺติ, ทฺวาทส โกฏิสตานิ ปุนฺา [ปนยฺเย (ก.)].

๖๘๓.

‘‘ยาว ทุขา [ทุกฺขา (สี. สฺยา.), ทุกฺข (ปี. ก.)] นิรยา อิธ วุตฺตา, ตตฺถปิ ตาว จิรํ วสิตพฺพํ;

ตสฺมา สุจิเปสลสาธุคุเณสุ, วาจํ มนํ สตตํ [ปกตํ (สฺยา.)] ปริรกฺเข’’ติ.

โกกาลิกสุตฺตํ ทสมํ นิฏฺิตํ.

๑๑. นาลกสุตฺตํ

๖๘๔.

อานนฺทชาเต ติทสคเณ ปตีเต, สกฺกฺจ อินฺทํ สุจิวสเน จ เทเว;

ทุสฺสํ คเหตฺวา อติริว โถมยนฺเต, อสิโต อิสิ อทฺทส ทิวาวิหาเร.

๖๘๕.

ทิสฺวาน เทเว มุทิตมเน อุทคฺเค, จิตฺตึ กริตฺวาน อิทมโวจ [กริตฺวา อิทมโวจาสิ (สี.)] ตตฺถ;

‘‘กึ เทวสงฺโฆ อติริว กลฺยรูโป, ทุสฺสํ คเหตฺวา รมยถ [ภมยถ (สี.)] กึ ปฏิจฺจ.

๖๘๖.

‘‘ยทาปิ อาสี อสุเรหิ สงฺคโม, ชโย สุรานํ อสุรา ปราชิตา.

ตทาปิ เนตาทิโส โลมหํสโน, กิมพฺภุตํ ทฏฺุ มรู ปโมทิตา.

๖๘๗.

‘‘เสเฬนฺติ คายนฺติ จ วาทยนฺติ จ, ภุชานิ โผเฏนฺติ [โปเนฺติ (สี. ปี.), โปเถนฺติ (ก.)] จ นจฺจยนฺติ จ;

ปุจฺฉามิ โวหํ เมรุมุทฺธวาสิเน, ธุนาถ เม สํสยํ ขิปฺป มาริสา’’.

๖๘๘.

‘‘โส โพธิสตฺโต รตนวโร อตุลฺโย, มนุสฺสโลเก หิตสุขตฺถาย [หิตสุขตาย (สี. สฺยา. ปี.)] ชาโต;

สกฺยาน คาเม ชนปเท ลุมฺพิเนยฺเย, เตนมฺห ตุฏฺา อติริว กลฺยรูปา.

๖๘๙.

‘‘โส สพฺพสตฺตุตฺตโม อคฺคปุคฺคโล, นราสโภ สพฺพปชานมุตฺตโม;

วตฺเตสฺสติ จกฺกมิสิวฺหเย วเน, นทํว สีโห พลวา มิคาภิภู’’.

๖๙๐.

ตํ สทฺทํ สุตฺวา ตุริตมวสรี โส, สุทฺโธทนสฺส ตท ภวนํ อุปาวิสิ [อุปาคมิ (สี. ปี.)];

นิสชฺช ตตฺถ อิทมโวจาสิ สกฺเย, ‘‘กุหึ กุมาโร อหมปิ ทฏฺุกาโม’’.

๖๙๑.

ตโต กุมารํ ชลิตมิว สุวณฺณํ, อุกฺกามุเขว สุกุสลสมฺปหฏฺํ [สุกุสเลน สมฺปหฏฺํ (ก.)];

ททฺทลฺลมานํ [ททฺทฬฺหมานํ (ก.)] สิริยา อโนมวณฺณํ, ทสฺเสสุ ปุตฺตํ อสิตวฺหยสฺส สกฺยา.

๖๙๒.

ทิสฺวา กุมารํ สิขิมิว ปชฺชลนฺตํ, ตาราสภํว นภสิคมํ วิสุทฺธํ;

สูริยํ ตปนฺตํ สรทริวพฺภมุตฺตํ, อานนฺทชาโต วิปุลมลตฺถ ปีตึ.

๖๙๓.

อเนกสาขฺจ สหสฺสมณฺฑลํ, ฉตฺตํ มรู ธารยุมนฺตลิกฺเข;

สุวณฺณทณฺฑา วีติปตนฺติ จามรา, น ทิสฺสเร จามรฉตฺตคาหกา.

๖๙๔.

ทิสฺวา ชฏี กณฺหสิริวฺหโย อิสิ, สุวณฺณนิกฺขํ วิย ปณฺฑุกมฺพเล;

เสตฺจ ฉตฺตํ ธริยนฺต [ธาริยนฺต (สฺยา.), ธารยนฺตํ (สี. ก.)] มุทฺธนิ, อุทคฺคจิตฺโต สุมโน ปฏิคฺคเห.

๖๙๕.

ปฏิคฺคเหตฺวา ปน สกฺยปุงฺควํ, ชิคีสโต [ชิคึสโก (สี. สฺยา. ปี.)] ลกฺขณมนฺตปารคู;

ปสนฺนจิตฺโต คิรมพฺภุทีรยิ, ‘‘อนุตฺตรายํ ทฺวิปทานมุตฺตโม’’ [ทิปทานมุตฺตโม (สี. สฺยา. ปี.)].

๖๙๖.

อถตฺตโน คมนมนุสฺสรนฺโต, อกลฺยรูโป คฬยติ อสฺสุกานิ;

ทิสฺวาน สกฺยา อิสิมโวจุํ รุทนฺตํ,

‘‘โน เจ กุมาเร ภวิสฺสติ อนฺตราโย’’.

๖๙๗.

ทิสฺวาน สกฺเย อิสิมโวจ อกลฺเย, ‘‘นาหํ กุมาเร อหิตมนุสฺสรามิ;

น จาปิมสฺส ภวิสฺสติ อนฺตราโย, น โอรกายํ อธิมานสา [อธิมนสา (สี. สฺยา.)] ภวาถ.

๖๙๘.

‘‘สมฺโพธิยคฺคํ ผุสิสฺสตายํ กุมาโร, โส ธมฺมจกฺกํ ปรมวิสุทฺธทสฺสี;

วตฺเตสฺสตายํ พหุชนหิตานุกมฺปี, วิตฺถาริกสฺส ภวิสฺสติ พฺรหฺมจริยํ.

๖๙๙.

‘‘มมฺจ อายุ น จิรมิธาวเสโส, อถนฺตรา เม ภวิสฺสติ กาลกิริยา;

โสหํ น โสสฺสํ [สุสฺสํ (สี. สฺยา.)] อสมธุรสฺส ธมฺมํ, เตนมฺหิ อฏฺโฏ พฺยสนํคโต อฆาวี’’.

๗๐๐.

โส สากิยานํ วิปุลํ ชเนตฺวา ปีตึ, อนฺเตปุรมฺหา นิคฺคมา [นิรคมา (สี. สฺยา.), นิคมา (ก. สี.), นิรคม (ปี.)] พฺรหฺมจารี;

โส ภาคิเนยฺยํ สยํ อนุกมฺปมาโน, สมาทเปสิ อสมธุรสฺส ธมฺเม.

๗๐๑.

‘‘พุทฺโธติ โฆสํ ยท [ยทิ (สฺยา. ก.)] ปรโต สุณาสิ, สมฺโพธิปตฺโต วิวรติ ธมฺมมคฺคํ;

คนฺตฺวาน ตตฺถ สมยํ ปริปุจฺฉมาโน [สยํ ปริปุจฺฉิยาโน (สี. สฺยา.)], จรสฺสุ ตสฺมึ ภควติ พฺรหฺมจริยํ’’.

๗๐๒.

เตนานุสิฏฺโ หิตมเนน ตาทินา, อนาคเต ปรมวิสุทฺธทสฺสินา;

โส นาลโก อุปจิตปุฺสฺจโย, ชินํ ปติกฺขํ [ปติ + อิกฺขํ = ปติกฺขํ] ปริวสิ รกฺขิตินฺทฺริโย.

๗๐๓.

สุตฺวาน โฆสํ ชินวรจกฺกวตฺตเน, คนฺตฺวาน ทิสฺวา อิสินิสภํ ปสนฺโน;

โมเนยฺยเสฏฺํ มุนิปวรํ อปุจฺฉิ, สมาคเต อสิตาวฺหยสฺส สาสเนติ.

วตฺถุคาถา นิฏฺิตา.

๗๐๔.

‘‘อฺาตเมตํ วจนํ, อสิตสฺส ยถาตถํ;

ตํ ตํ โคตม ปุจฺฉามิ, สพฺพธมฺมาน ปารคุํ.

๗๐๕.

‘‘อนคาริยุเปตสฺส, ภิกฺขาจริยํ ชิคีสโต;

มุนิ ปพฺรูหิ เม ปุฏฺโ, โมเนยฺยํ อุตฺตมํ ปทํ’’.

๗๐๖.

‘‘โมเนยฺยํ เต อุปฺิสฺสํ, (อิติ ภควา) ทุกฺกรํ ทุรภิสมฺภวํ;

หนฺท เต นํ ปวกฺขามิ, สนฺถมฺภสฺสุ ทฬฺโห ภว.

๗๐๗.

‘‘สมานภาคํ กุพฺเพถ, คาเม อกฺกุฏฺวนฺทิตํ;

มโนปโทสํ รกฺเขยฺย, สนฺโต อนุณฺณโต จเร.

๗๐๘.

‘‘อุจฺจาวจา นิจฺฉรนฺติ, ทาเย อคฺคิสิขูปมา;

นาริโย มุนึ ปโลเภนฺติ, ตาสุ ตํ มา ปโลภยุํ.

๗๐๙.

‘‘วิรโต เมถุนา ธมฺมา, หิตฺวา กาเม ปโรปเร [ปโรวเร (สี. ปี.), วราวเร (สฺยา.)];

อวิรุทฺโธ อสารตฺโต, ปาเณสุ ตสถาวเร.

๗๑๐.

‘‘ยถา อหํ ตถา เอเต, ยถา เอเต ตถา อหํ;

อตฺตานํ อุปมํ กตฺวา, น หเนยฺย น ฆาตเย.

๗๑๑.

‘‘หิตฺวา อิจฺฉฺจ โลภฺจ, ยตฺถ สตฺโต ปุถุชฺชโน;

จกฺขุมา ปฏิปชฺเชยฺย, ตเรยฺย นรกํ อิมํ.

๗๑๒.

‘‘อูนูทโร มิตาหาโร, อปฺปิจฺฉสฺส อโลลุโป;

สทา [ส เว (ปี.)] อิจฺฉาย นิจฺฉาโต, อนิจฺโฉ โหติ นิพฺพุโต.

๗๑๓.

‘‘ส ปิณฺฑจารํ จริตฺวา, วนนฺตมภิหารเย;

อุปฏฺิโต รุกฺขมูลสฺมึ, อาสนูปคโต มุนิ.

๗๑๔.

‘‘ส ฌานปสุโต ธีโร, วนนฺเต รมิโต สิยา;

ฌาเยถ รุกฺขมูลสฺมึ, อตฺตานมภิโตสยํ.

๗๑๕.

‘‘ตโต รตฺยา วิวสาเน [วิวสเน (สี. สฺยา. ปี.)], คามนฺตมภิหารเย;

อวฺหานํ นาภินนฺเทยฺย, อภิหารฺจ คามโต.

๗๑๖.

‘‘น มุนี คามมาคมฺม, กุเลสุ สหสา จเร;

ฆาเสสนํ ฉินฺนกโถ, น วาจํ ปยุตํ ภเณ.

๗๑๗.

‘‘อลตฺถํ ยทิทํ สาธุ, นาลตฺถํ กุสลํ อิติ;

อุภเยเนว โส ตาที, รุกฺขํวุปนิวตฺตติ [รุกฺขํวุ’ปติวตฺตติ (ก.), รุกฺขํว อุปาติวตฺตติ (สฺยา.)].

๗๑๘.

‘‘ส ปตฺตปาณิ วิจรนฺโต, อมูโค มูคสมฺมโต;

อปฺปํ ทานํ น หีเฬยฺย, ทาตารํ นาวชานิยา.

๗๑๙.

‘‘อุจฺจาวจา หิ ปฏิปทา, สมเณน ปกาสิตา;

น ปารํ ทิคุณํ ยนฺติ, นยิทํ เอกคุณํ มุตํ.

๗๒๐.

‘‘ยสฺส จ วิสตา นตฺถิ, ฉินฺนโสตสฺส ภิกฺขุโน;

กิจฺจากิจฺจปฺปหีนสฺส, ปริฬาโห น วิชฺชติ.

๗๒๑.

‘‘โมเนยฺยํ เต อุปฺิสฺสํ, ขุรธารูปโม ภเว;

ชิวฺหาย ตาลุมาหจฺจ, อุทเร สฺโต สิยา.

๗๒๒.

‘‘อลีนจิตฺโต จ สิยา, น จาปิ พหุ จินฺตเย;

นิรามคนฺโธ อสิโต, พฺรหฺมจริยปรายโณ.

๗๒๓.

‘‘เอกาสนสฺส สิกฺเขถ, สมณูปาสนสฺส จ;

เอกตฺตํ โมนมกฺขาตํ, เอโก เจ อภิรมิสฺสสิ;

อถ ภาหิสิ [ภาสิหิ (สี. สฺยา. ปี.)] ทสทิสา.

๗๒๔.

‘‘สุตฺวา ธีรานํ นิคฺโฆสํ, ฌายีนํ กามจาคินํ;

ตโต หิริฺจ สทฺธฺจ, ภิยฺโย กุพฺเพถ มามโก.

๗๒๕.

‘‘ตํ นทีหิ วิชานาถ, โสพฺเภสุ ปทเรสุ จ;

สณนฺตา ยนฺติ กุโสพฺภา [กุสฺสุพฺภา (สี.)], ตุณฺหียนฺติ มโหทธี.

๗๒๖.

‘‘ยทูนกํ ตํ สณติ, ยํ ปูรํ สนฺตเมว ตํ;

อฑฺฒกุมฺภูปโม พาโล, รหโท ปูโรว ปณฺฑิโต.

๗๒๗.

‘‘ยํ สมโณ พหุํ ภาสติ, อุเปตํ อตฺถสฺหิตํ;

ชานํ โส ธมฺมํ เทเสติ, ชานํ โส พหุ ภาสติ.

๗๒๘.

‘‘โย จ ชานํ สํยตตฺโต, ชานํ น พหุ ภาสติ;

มุนี โมนมรหติ, ส มุนี โมนมชฺฌคา’’ติ.

นาลกสุตฺตํ เอกาทสมํ นิฏฺิตํ.

๑๒. ทฺวยตานุปสฺสนาสุตฺตํ

เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. เตน โข ปน สมเยน ภควา ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส ปุณฺณาย ปุณฺณมาย รตฺติยา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหติ . อถ โข ภควา ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตํ ภิกฺขุสงฺฆํ อนุวิโลเกตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ –

‘‘‘เย เต, ภิกฺขเว, กุสลา ธมฺมา อริยา นิยฺยานิกา สมฺโพธคามิโน, เตสํ โว, ภิกฺขเว, กุสลานํ ธมฺมานํ อริยานํ นิยฺยานิกานํ สมฺโพธคามีนํ กา อุปนิสา สวนายา’ติ อิติ เจ, ภิกฺขเว, ปุจฺฉิตาโร อสฺสุ, เต เอวมสฺสุ วจนียา – ‘ยาวเทว ทฺวยตานํ ธมฺมานํ ยถาภูตํ าณายา’ติ. กิฺจ ทฺวยตํ วเทถ?

(๑) ‘‘อิทํ ทุกฺขํ, อยํ ทุกฺขสมุทโยติ อยเมกานุปสฺสนา. อยํ ทุกฺขนิโรโธ, อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา ทฺวยตานุปสฺสิโน โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต ทฺวินฺนํ ผลานํ อฺตรํ ผลํ ปาฏิกงฺขํ – ทิฏฺเว ธมฺเม อฺา, สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตา’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

๗๒๙.

‘‘เย ทุกฺขํ นปฺปชานนฺติ, อโถ ทุกฺขสฺส สมฺภวํ;

ยตฺถ จ สพฺพโส ทุกฺขํ, อเสสํ อุปรุชฺฌติ;

ตฺจ มคฺคํ น ชานนฺติ, ทุกฺขูปสมคามินํ.

๗๓๐.

‘‘เจโตวิมุตฺติหีนา เต, อโถ ปฺาวิมุตฺติยา;

อภพฺพา เต อนฺตกิริยาย, เต เว ชาติชรูปคา.

๗๓๑.

‘‘เย จ ทุกฺขํ ปชานนฺติ, อโถ ทุกฺขสฺส สมฺภวํ;

ยตฺถ จ สพฺพโส ทุกฺขํ, อเสสํ อุปรุชฺฌติ;

ตฺจ มคฺคํ ปชานนฺติ, ทุกฺขูปสมคามินํ.

๗๓๒.

‘‘เจโตวิมุตฺติสมฺปนฺนา, อโถ ปฺาวิมุตฺติยา;

ภพฺพา เต อนฺตกิริยาย, น เต ชาติชรูปคา’’ติ.

(๒) ‘‘‘สิยา อฺเนปิ ปริยาเยน สมฺมา ทฺวยตานุปสฺสนา’ติ, อิติ เจ, ภิกฺขเว, ปุจฺฉิตาโร อสฺสุ; ‘สิยา’ติสฺสุ วจนียา. กถฺจ สิยา? ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ สพฺพํ อุปธิปจฺจยาติ, อยเมกานุปสฺสนา. อุปธีนํ ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

๗๓๓.

‘‘อุปธินิทานา ปภวนฺติ ทุกฺขา, เย เกจิ โลกสฺมิมเนกรูปา;

โย เว อวิทฺวา อุปธึ กโรติ, ปุนปฺปุนํ ทุกฺขมุเปติ มนฺโท;

ตสฺมา ปชานํ อุปธึ น กยิรา, ทุกฺขสฺส ชาติปฺปภวานุปสฺสี’’ติ.

(๓) ‘‘‘สิยา อฺเนปิ ปริยาเยน สมฺมา ทฺวยตานุปสฺสนา’ติ, อิติ เจ, ภิกฺขเว, ปุจฺฉิตาโร อสฺสุ; ‘สิยา’ติสฺสุ วจนียา. กถฺจ สิยา? ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ สพฺพํ อวิชฺชาปจฺจยาติ, อยเมกานุปสฺสนา. อวิชฺชาย ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

๗๓๔.

‘‘ชาติมรณสํสารํ , เย วชนฺติ ปุนปฺปุนํ;

อิตฺถภาวฺถาภาวํ, อวิชฺชาเยว สา คติ.

๗๓๕.

‘‘อวิชฺชา หายํ มหาโมโห, เยนิทํ สํสิตํ จิรํ;

วิชฺชาคตา จ เย สตฺตา, น เต คจฺฉนฺติ [นาคจฺฉนฺติ (สี. ปี.)] ปุนพฺภว’’นฺติ.

(๔) ‘‘สิยา อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ สพฺพํ สงฺขารปจฺจยาติ, อยเมกานุปสฺสนา. สงฺขารานํ ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

๗๓๖.

‘‘ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ, สพฺพํ สงฺขารปจฺจยา;

สงฺขารานํ นิโรเธน, นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโว.

๗๓๗.

‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, ทุกฺขํ สงฺขารปจฺจยา;

สพฺพสงฺขารสมถา, สฺานํ อุปโรธนา;

เอวํ ทุกฺขกฺขโย โหติ, เอตํ ตฺวา ยถาตถํ.

๗๓๘.

‘‘สมฺมทฺทสา เวทคุโน, สมฺมทฺาย ปณฺฑิตา;

อภิภุยฺย มารสํโยคํ, น คจฺฉนฺติ [นาคจฺฉนฺติ (สี. ปี.)] ปุนพฺภว’’นฺติ.

(๕) ‘‘สิยา อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ สพฺพํ วิฺาณปจฺจยาติ, อยเมกานุปสฺสนา. วิฺาณสฺส ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

๗๓๙.

‘‘ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ, สพฺพํ วิฺาณปจฺจยา;

วิฺาณสฺส นิโรเธน, นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโว.

๗๔๐.

‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, ทุกฺขํ วิฺาณปจฺจยา;

วิฺาณูปสมา ภิกฺขุ, นิจฺฉาโต ปรินิพฺพุโต’’ติ.

(๖) ‘‘สิยา อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ สพฺพํ ผสฺสปจฺจยาติ, อยเมกานุปสฺสนา. ผสฺสสฺส ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

๗๔๑.

‘‘เตสํ ผสฺสปเรตานํ, ภวโสตานุสารินํ;

กุมฺมคฺคปฏิปนฺนานํ, อารา สํโยชนกฺขโย.

๗๔๒.

‘‘เย จ ผสฺสํ ปริฺาย, อฺายุปสเม [ปฺาย อุปสเม (สฺยา.)] รตา;

เต เว ผสฺสาภิสมยา, นิจฺฉาตา ปรินิพฺพุตา’’ติ.

(๗) ‘‘สิยา อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ สพฺพํ เวทนาปจฺจยาติ, อยเมกานุปสฺสนา. เวทนานํ ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

๗๔๓.

‘‘สุขํ วา ยทิ วา ทุกฺขํ, อทุกฺขมสุขํ สห;

อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ, ยํ กิฺจิ อตฺถิ เวทิตํ.

๗๔๔.

‘‘เอตํ ทุกฺขนฺติ ตฺวาน, โมสธมฺมํ ปโลกินํ [ปโลกิตํ (สี.)];

ผุสฺส ผุสฺส วยํ ปสฺสํ, เอวํ ตตฺถ วิชานติ [วิรชฺชติ (ก. สี.)];

เวทนานํ ขยา ภิกฺขุ, นิจฺฉาโต ปรินิพฺพุโต’’ติ.

(๘) ‘‘สิยา อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ สพฺพํ ตณฺหาปจฺจยาติ, อยเมกานุปสฺสนา. ตณฺหาย ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

๗๔๕.

‘‘ตณฺหาทุติโย ปุริโส, ทีฆมทฺธาน สํสรํ;

อิตฺถภาวฺถาภาวํ, สํสารํ นาติวตฺตติ.

๗๔๖.

‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, ตณฺหํ [ตณฺหา (พหูสุ) อิติวุตฺตเก ๑๕ ปสฺสิตพฺพํ] ทุกฺขสฺส สมฺภวํ;

วีตตณฺโห อนาทาโน, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ.

(๙) ‘‘สิยา อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ สพฺพํ อุปาทานปจฺจยาติ, อยเมกานุปสฺสนา. อุปาทานานํ [อุปาทานสฺส (สฺยา. ก.)] ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

๗๔๗.

‘‘อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภูโต ทุกฺขํ นิคจฺฉติ;

ชาตสฺส มรณํ โหติ, เอโส ทุกฺขสฺส สมฺภโว.

๗๔๘.

‘‘ตสฺมา อุปาทานกฺขยา, สมฺมทฺาย ปณฺฑิตา;

ชาติกฺขยํ อภิฺาย, น คจฺฉนฺติ ปุนพฺภว’’นฺติ.

(๑๐) ‘‘สิยา อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ สพฺพํ อารมฺภปจฺจยาติ, อยเมกานุปสฺสนา. อารมฺภานํ ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

๗๔๙.

‘‘ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ, สพฺพํ อารมฺภปจฺจยา;

อารมฺภานํ นิโรเธน, นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโว.

๗๕๐.

‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, ทุกฺขํ อารมฺภปจฺจยา;

สพฺพารมฺภํ ปฏินิสฺสชฺช, อนารมฺเภ วิมุตฺติโน.

๗๕๑.

‘‘อุจฺฉินฺนภวตณฺหสฺส, สนฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน;

วิกฺขีโณ [วิติณฺโณ (สี.)] ชาติสํสาโร, นตฺถิ ตสฺส ปุนพฺภโว’’ติ.

(๑๑) ‘‘สิยา อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ สพฺพํ อาหารปจฺจยาติ, อยเมกานุปสฺสนา. อาหารานํ ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

๗๕๒.

‘‘ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ, สพฺพํ อาหารปจฺจยา;

อาหารานํ นิโรเธน, นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโว.

๗๕๓.

‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, ทุกฺขํ อาหารปจฺจยา;

สพฺพาหารํ ปริฺาย, สพฺพาหารมนิสฺสิโต.

๗๕๔.

‘‘อาโรคฺยํ สมฺมทฺาย, อาสวานํ ปริกฺขยา;

สงฺขาย เสวี ธมฺมฏฺโ, สงฺขฺยํ [สงฺขํ (สี. ปี.)] โนเปติ เวทคู’’ติ.

(๑๒) ‘‘สิยา อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ สพฺพํ อิฺชิตปจฺจยาติ, อยเมกานุปสฺสนา. อิฺชิตานํ ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

๗๕๕.

‘‘ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ, สพฺพํ อิฺชิตปจฺจยา;

อิฺชิตานํ นิโรเธน, นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโว.

๗๕๖.

‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, ทุกฺขํ อิฺชิตปจฺจยา;

ตสฺมา หิ เอชํ โวสฺสชฺช, สงฺขาเร อุปรุนฺธิย;

อเนโช อนุปาทาโน, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ.

(๑๓) ‘‘สิยา อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? นิสฺสิตสฺส จลิตํ โหตีติ, อยเมกานุปสฺสนา. อนิสฺสิโต น จลตีติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

๗๕๗.

‘‘อนิสฺสิโต น จลติ, นิสฺสิโต จ อุปาทิยํ;

อิตฺถภาวฺถาภาวํ, สํสารํ นาติวตฺตติ.

๗๕๘.

‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, นิสฺสเยสุ มหพฺภยํ;

อนิสฺสิโต อนุปาทาโน, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ.

(๑๔) ‘‘สิยา อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? รูเปหิ, ภิกฺขเว, อรูปา [อารุปฺปา (สี. ปี.)] สนฺตตราติ, อยเมกานุปสฺสนา. อรูเปหิ นิโรโธ สนฺตตโรติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

๗๕๙.

‘‘เย จ รูปูปคา สตฺตา, เย จ อรูปฏฺายิโน [อารุปฺปวาสิโน (สี. ปี.)];

นิโรธํ อปฺปชานนฺตา, อาคนฺตาโร ปุนพฺภวํ.

๗๖๐.

‘‘เย จ รูเป ปริฺาย, อรูเปสุ อสณฺิตา [สุสณฺิตา (สี. สฺยา. ปี.)];

นิโรเธ เย วิมุจฺจนฺติ, เต ชนา มจฺจุหายิโน’’ติ.

(๑๕) ‘‘สิยา อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? ยํ, ภิกฺขเว, สเทวกสฺส โลกสฺส สมารกสฺส สพฺรหฺมกสฺส สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อิทํ สจฺจนฺติ อุปนิชฺฌายิตํ ตทมริยานํ เอตํ มุสาติ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺํ, อยเมกานุปสฺสนา. ยํ , ภิกฺขเว, สเทวกสฺส…เป… สเทวมนุสฺสาย อิทํ มุสาติ อุปนิชฺฌายิตํ, ตทมริยานํ เอตํ สจฺจนฺติ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺํ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

๗๖๑.

‘‘อนตฺตนิ อตฺตมานึ [อตฺตมานี (สฺยา.), อตฺตมานํ (ปี. ก.)], ปสฺส โลกํ สเทวกํ;

นิวิฏฺํ นามรูปสฺมึ, อิทํ สจฺจนฺติ มฺติ.

๗๖๒.

‘‘เยน เยน หิ มฺนฺติ, ตโต ตํ โหติ อฺถา;

ตฺหิ ตสฺส มุสา โหติ, โมสธมฺมฺหิ อิตฺตรํ.

๗๖๓.

‘‘อโมสธมฺมํ นิพฺพานํ, ตทริยา สจฺจโต วิทู;

เต เว สจฺจาภิสมยา, นิจฺฉาตา ปรินิพฺพุตา’’ติ.

(๑๖) ‘‘‘สิยา อฺเนปิ ปริยาเยน สมฺมา ทฺวยตานุปสฺสนา’ติ, อิติ เจ, ภิกฺขเว, ปุจฺฉิตาโร อสฺสุ; ‘สิยา’ติสฺสุ วจนียา. กถฺจ สิยา? ยํ, ภิกฺขเว, สเทวกสฺส โลกสฺส สมารกสฺส สพฺรหฺมกสฺส สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อิทํ สุขนฺติ อุปนิชฺฌายิตํ, ตทมริยานํ เอตํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺํ, อยเมกานุปสฺสนา . ยํ, ภิกฺขเว, สเทวกสฺส…เป… สเทวมนุสฺสาย อิทํ ทุกฺขนฺติ อุปนิชฺฌายิตํ ตทมริยานํ เอตํ สุขนฺติ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺํ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา ทฺวยตานุปสฺสิโน โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต ทฺวินฺนํ ผลานํ อฺตรํ ผลํ ปาฏิกงฺขํ – ทิฏฺเว ธมฺเม อฺา, สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตาติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

๗๖๔.

‘‘รูปา สทฺทา รสา คนฺธา, ผสฺสา ธมฺมา จ เกวลา;

อิฏฺา กนฺตา มนาปา จ, ยาวตตฺถีติ วุจฺจติ.

๗๖๕.

‘‘สเทวกสฺส โลกสฺส, เอเต โว สุขสมฺมตา;

ยตฺถ เจเต นิรุชฺฌนฺติ, ตํ เนสํ ทุกฺขสมฺมตํ.

๗๖๖.

‘‘สุขนฺติ ทิฏฺมริเยหิ, สกฺกายสฺสุปโรธนํ;

ปจฺจนีกมิทํ โหติ, สพฺพโลเกน ปสฺสตํ.

๗๖๗.

‘‘ยํ ปเร สุขโต อาหุ, ตทริยา อาหุ ทุกฺขโต;

ยํ ปเร ทุกฺขโต อาหุ, ตทริยา สุขโต วิทู.

๗๖๘.

‘‘ปสฺส ธมฺมํ ทุราชานํ, สมฺปมูฬฺเหตฺถวิทฺทสุ [สมฺปมูฬฺเหตฺถ อวิทฺทสุ (สี. ปี.), สมฺมูฬฺเหตฺถ อวิทฺทสุ (?)];

นิวุตานํ ตโม โหติ, อนฺธกาโร อปสฺสตํ.

๗๖๙.

‘‘สตฺจ วิวฏํ โหติ, อาโลโก ปสฺสตามิว;

สนฺติเก น วิชานนฺติ, มคฺคา ธมฺมสฺส โกวิทา.

๗๗๐.

‘‘ภวราคปเรเตหิ , ภวโสตานุสาริภิ;

มารเธยฺยานุปนฺเนหิ, นายํ ธมฺโม สุสมฺพุโธ.

๗๗๑.

‘‘โก นุ อฺตฺรมริเยหิ, ปทํ สมฺพุทฺธุมรหติ;

ยํ ปทํ สมฺมทฺาย, ปรินิพฺพนฺติ อนาสวา’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ. อิมสฺมึ จ [อิมสฺมึ โข (สี.)] ปน เวยฺยากรณสฺมึ ภฺมาเน สฏฺิมตฺตานํ ภิกฺขูนํ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสูติ.

ทฺวยตานุปสฺสนาสุตฺตํ ทฺวาทสมํ นิฏฺิตํ.

ตสฺสุทฺทานํ

สจฺจํ อุปธิ อวิชฺชา จ, สงฺขาเร วิฺาณปฺจมํ;

ผสฺสเวทนิยา ตณฺหา, อุปาทานารมฺภอาหารา;

อิฺชิตํ จลิตํ รูปํ, สจฺจํ ทุกฺเขน โสฬสาติ.

มหาวคฺโค ตติโย นิฏฺิโต.

ตสฺสุทฺทานํ

ปพฺพชฺชา จ ปธานฺจ, สุภาสิตฺจ สุนฺทริ;

มาฆสุตฺตํ สภิโย จ, เสโล สลฺลฺจ วุจฺจติ.

วาเสฏฺโ จาปิ โกกาลิ, นาลโก ทฺวยตานุปสฺสนา;

ทฺวาทเสตานิ สุตฺตานิ, มหาวคฺโคติ วุจฺจตีติ.