📜
๓. มหาวคฺโค
๑. ปพฺพชฺชาสุตฺตํ
ปพฺพชฺชํ ¶ ¶ ¶ กิตฺตยิสฺสามิ, ยถา ปพฺพชิ จกฺขุมา;
ยถา วีมํสมาโน โส, ปพฺพชฺชํ สมโรจยิ.
สมฺพาโธยํ ฆราวาโส, รชสฺสายตนํ อิติ;
อพฺโภกาโสว ปพฺพชฺชา, อิติ ทิสฺวาน ปพฺพชิ.
ปพฺพชิตฺวาน กาเยน, ปาปกมฺมํ วิวชฺชยิ;
วจีทุจฺจริตํ ¶ หิตฺวา, อาชีวํ ปริโสธยิ.
อคมา ราชคหํ พุทฺโธ, มคธานํ คิริพฺพชํ;
ปิณฺฑาย อภิหาเรสิ, อากิณฺณวรลกฺขโณ.
ตมทฺทสา พิมฺพิสาโร, ปาสาทสฺมึ ปติฏฺิโต;
ทิสฺวา ลกฺขณสมฺปนฺนํ, อิมมตฺถํ อภาสถ.
‘‘อิมํ โภนฺโต นิสาเมถ, อภิรูโป พฺรหา สุจิ;
จรเณน จ สมฺปนฺโน, ยุคมตฺตฺจ เปกฺขติ.
‘‘โอกฺขิตฺตจกฺขุ สติมา, นายํ นีจกุลามิว;
ราชทูตาภิธาวนฺตุ, กุหึ ภิกฺขุ คมิสฺสติ’’.
เต เปสิตา ราชทูตา, ปิฏฺิโต อนุพนฺธิสุํ;
กุหึ คมิสฺสติ ภิกฺขุ, กตฺถ วาโส ภวิสฺสติ.
สปทานํ ¶ จรมาโน, คุตฺตทฺวาโร สุสํวุโต;
ขิปฺปํ ปตฺตํ อปูเรสิ, สมฺปชาโน ปฏิสฺสโต.
ปิณฺฑจารํ ¶ จริตฺวาน, นิกฺขมฺม นครา มุนิ;
ปณฺฑวํ อภิหาเรสิ, เอตฺถ วาโส ภวิสฺสติ.
ทิสฺวาน วาสูปคตํ, ตโย [ตโต (สี. ปี.)] ทูตา อุปาวิสุํ;
เตสุ เอโกว [เอโก จ ทูโต (สี. สฺยา. ปี.)] อาคนฺตฺวา, ราชิโน ปฏิเวทยิ.
‘‘เอส ¶ ภิกฺขุ มหาราช, ปณฺฑวสฺส ปุรตฺถโต [ปุรกฺขโต (สฺยา. ก.)];
นิสินฺโน พฺยคฺฆุสโภว, สีโหว คิริคพฺภเร’’.
สุตฺวาน ¶ ทูตวจนํ, ภทฺทยาเนน ขตฺติโย;
ตรมานรูโป นิยฺยาสิ, เยน ปณฺฑวปพฺพโต.
ส ยานภูมึ ยายิตฺวา, ยานา โอรุยฺห ขตฺติโย;
ปตฺติโก อุปสงฺกมฺม, อาสชฺช นํ อุปาวิสิ.
นิสชฺช ราชา สมฺโมทิ, กถํ สารณียํ ตโต;
กถํ โส วีติสาเรตฺวา, อิมมตฺถํ อภาสถ.
‘‘ยุวา จ ทหโร จาสิ, ปมุปฺปตฺติโก [ปมุปฺปตฺติยา (สี.), ปมุปฺปตฺติโต (สฺยา.)] สุสุ;
วณฺณาโรเหน สมฺปนฺโน, ชาติมา วิย ขตฺติโย.
‘‘โสภยนฺโต อนีกคฺคํ, นาคสงฺฆปุรกฺขโต;
ททามิ โภเค ภฺุชสฺสุ, ชาตึ อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’.
‘‘อุชุํ ชนปโท ราช, หิมวนฺตสฺส ปสฺสโต;
ธนวีริเยน สมฺปนฺโน, โกสเลสุ [โกสลสฺส (สฺยา. ก.)] นิเกติโน.
‘‘อาทิจฺจา ¶ ¶ [อาทิจฺโจ (ก.)] นาม โคตฺเตน, สากิยา [สากิโย (ก.)] นาม ชาติยา;
ตมฺหา กุลา ปพฺพชิโตมฺหิ, น กาเม อภิปตฺถยํ.
‘‘กาเมสฺวาทีนวํ ทิสฺวา, เนกฺขมฺมํ ทฏฺุ เขมโต;
ปธานาย คมิสฺสามิ, เอตฺถ เม รฺชตี มโน’’ติ.
ปพฺพชฺชาสุตฺตํ ปมํ นิฏฺิตํ.
๒. ปธานสุตฺตํ
‘‘ตํ ¶ มํ ปธานปหิตตฺตํ, นทึ เนรฺชรํ ปติ;
วิปรกฺกมฺม ฌายนฺตํ, โยคกฺเขมสฺส ปตฺติยา.
‘‘นมุจี กรุณํ วาจํ, ภาสมาโน อุปาคมิ;
‘กิโส ตฺวมสิ ทุพฺพณฺโณ, สนฺติเก มรณํ ตว.
‘‘‘สหสฺสภาโค ¶ มรณสฺส, เอกํโส ตว ชีวิตํ;
ชีว โภ ชีวิตํ เสยฺโย, ชีวํ ปฺุานิ กาหสิ.
‘‘‘จรโต ¶ จ เต พฺรหฺมจริยํ, อคฺคิหุตฺตฺจ ชูหโต;
ปหูตํ จียเต ปฺุํ, กึ ปธาเนน กาหสิ.
‘‘‘ทุคฺโค มคฺโค ปธานาย, ทุกฺกโร ทุรภิสมฺภโว’’’;
อิมา คาถา ภณํ มาโร, อฏฺา พุทฺธสฺส สนฺติเก.
ตํ ตถาวาทินํ มารํ, ภควา เอตทพฺรวิ;
‘‘ปมตฺตพนฺธุ ปาปิม, เยนตฺเถน [เสนตฺเถน (?), อตฺตโน อตฺเถน (อฏฺ. สํวณฺณนา)] อิธาคโต.
‘‘อณุมตฺโตปิ ¶ [อณุมตฺเตนปิ (สี. สฺยา.)] ปฺุเน, อตฺโถ มยฺหํ น วิชฺชติ;
เยสฺจ อตฺโถ ปฺุเน, เต มาโร วตฺตุมรหติ.
‘‘อตฺถิ สทฺธา ตถา [ตโต (สี. ปี.), ตโป (สฺยา. ก.)] วีริยํ, ปฺา จ มม วิชฺชติ;
เอวํ มํ ปหิตตฺตมฺปิ, กึ ชีวมนุปุจฺฉสิ.
‘‘นทีนมปิ โสตานิ, อยํ วาโต วิโสสเย;
กิฺจ ¶ เม ปหิตตฺตสฺส, โลหิตํ นุปสุสฺสเย.
‘‘โลหิเต สุสฺสมานมฺหิ, ปิตฺตํ เสมฺหฺจ สุสฺสติ;
มํเสสุ ขียมาเนสุ, ภิยฺโย จิตฺตํ ปสีทติ;
ภิยฺโย สติ จ ปฺา จ, สมาธิ มม ติฏฺติ.
‘‘ตสฺส เมวํ วิหรโต, ปตฺตสฺสุตฺตมเวทนํ;
กาเมสุ [กาเม (สี. สฺยา.)] นาเปกฺขเต จิตฺตํ, ปสฺส สตฺตสฺส สุทฺธตํ.
‘‘กามา ¶ เต ปมา เสนา, ทุติยา อรติ วุจฺจติ;
ตติยา ขุปฺปิปาสา เต, จตุตฺถี ตณฺหา ปวุจฺจติ.
‘‘ปฺจมํ [ปฺจมี (สี. ปี.)] ถินมิทฺธํ เต, ฉฏฺา ภีรู ปวุจฺจติ;
สตฺตมี วิจิกิจฺฉา เต, มกฺโข ถมฺโภ เต อฏฺโม.
‘‘ลาโภ สิโลโก สกฺกาโร, มิจฺฉาลทฺโธ จ โย ยโส;
โย จตฺตานํ สมุกฺกํเส, ปเร จ อวชานติ.
‘‘เอสา ¶ นมุจิ เต เสนา, กณฺหสฺสาภิปฺปหารินี;
น นํ อสูโร ชินาติ, เชตฺวา จ ลภเต สุขํ.
‘‘เอส มฺุชํ ปริหเร, ธิรตฺถุ มม [อิท (ก.)] ชีวิตํ;
สงฺคาเม เม มตํ เสยฺโย, ยํ เจ ชีเว ปราชิโต.
‘‘ปคาฬฺเหตฺถ ¶ น ทิสฺสนฺติ, เอเก สมณพฺราหฺมณา;
ตฺจ มคฺคํ น ชานนฺติ, เยน คจฺฉนฺติ สุพฺพตา.
‘‘สมนฺตา ธชินึ ทิสฺวา, ยุตฺตํ มารํ สวาหนํ;
ยุทฺธาย ปจฺจุคฺคจฺฉามิ, มา มํ านา อจาวยิ.
‘‘ยํ ¶ เต ตํ นปฺปสหติ, เสนํ โลโก สเทวโก;
ตํ ¶ เต ปฺาย เภจฺฉามิ [คจฺฉามิ (สี.), เวจฺฉามิ (สฺยา.), วชฺฌามิ (ก.)], อามํ ปตฺตํว อสฺมนา [ปกฺกํว อมุนา (ก.)].
‘‘วสีกริตฺวา [วสึ กริตฺวา (พหูสุ)] สงฺกปฺปํ, สติฺจ สูปติฏฺิตํ;
รฏฺา รฏฺํ วิจริสฺสํ, สาวเก วินยํ ปุถู.
‘‘เต อปฺปมตฺตา ปหิตตฺตา, มม สาสนการกา;
อกามสฺส [อกามา (ก.)] เต คมิสฺสนฺติ, ยตฺถ คนฺตฺวา น โสจเร’’.
‘‘สตฺต วสฺสานิ ภควนฺตํ, อนุพนฺธึ ปทาปทํ;
โอตารํ นาธิคจฺฉิสฺสํ, สมฺพุทฺธสฺส สตีมโต.
‘‘เมทวณฺณํว ปาสาณํ, วายโส อนุปริยคา;
อเปตฺถ มุทุํ [มุทุ (สี.)] วินฺเทม, อปิ อสฺสาทนา สิยา.
‘‘อลทฺธา ตตฺถ อสฺสาทํ, วายเสตฺโต อปกฺกมิ;
กาโกว เสลมาสชฺช, นิพฺพิชฺชาเปม โคตมํ’’.
ตสฺส ¶ โสกปเรตสฺส, วีณา กจฺฉา อภสฺสถ;
ตโต โส ทุมฺมโน ยกฺโข, ตตฺเถวนฺตรธายถาติ.
ปธานสุตฺตํ ทุติยํ นิฏฺิตํ.
๓. สุภาสิตสุตฺตํ
เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอก สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู ¶ อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตา วาจา สุภาสิตา โหติ, น ทุพฺภาสิตา, อนวชฺชา จ อนนุวชฺชา จ วิฺูนํ. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุภาสิตํเยว ภาสติ โน ทุพฺภาสิตํ, ธมฺมํเยว ภาสติ โน อธมฺมํ, ปิยํเยว ภาสติ โน อปฺปิยํ, สจฺจํเยว ภาสติ โน อลิกํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตา วาจา สุภาสิตา โหติ, โน ทุพฺภาสิตา, อนวชฺชา จ อนนุวชฺชา จ วิฺูน’’นฺติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘สุภาสิตํ อุตฺตมมาหุ สนฺโต, ธมฺมํ ภเณ นาธมฺมํ ตํ ทุติยํ;
ปิยํ ภเณ นาปฺปิยํ ตํ ตติยํ, สจฺจํ ภเณ นาลิกํ ตํ จตุตฺถ’’นฺติ.
อถ ¶ โข อายสฺมา วงฺคีโส อุฏฺายาสนา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปฏิภาติ มํ ภควา, ปฏิภาติ มํ สุคตา’’ติ. ‘‘ปฏิภาตุ ตํ วงฺคีสา’’ติ ภควา อโวจ. อถ โข อายสฺมา วงฺคีโส ภควนฺตํ สมฺมุขา สารุปฺปาหิ คาถาหิ อภิตฺถวิ –
‘‘ตเมว วาจํ ภาเสยฺย, ยายตฺตานํ น ตาปเย;
ปเร ¶ จ น วิหึเสยฺย, สา เว วาจา สุภาสิตา.
‘‘ปิยวาจเมว ภาเสยฺย, ยา วาจา ปฏินนฺทิตา;
ยํ อนาทาย ปาปานิ, ปเรสํ ภาสเต ปิยํ.
‘‘สจฺจํ เว อมตา วาจา, เอส ธมฺโม สนนฺตโน;
สจฺเจ อตฺเถ จ ธมฺเม จ, อาหุ สนฺโต ปติฏฺิตา.
‘‘ยํ ¶ ¶ พุทฺโธ ภาสติ วาจํ, เขมํ นิพฺพานปตฺติยา;
ทุกฺขสฺสนฺตกิริยาย, สา เว วาจานมุตฺตมา’’ติ.
สุภาสิตสุตฺตํ ตติยํ นิฏฺิตํ.
๔. สุนฺทริกภารทฺวาชสุตฺตํ
เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ วิหรติ สุนฺทริกาย นทิยา ตีเร. เตน โข ปน สมเยน สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ สุนฺทริกาย นทิยา ตีเร อคฺคึ ชุหติ, อคฺคิหุตฺตํ ปริจรติ. อถ โข สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ อคฺคึ ชุหิตฺวา อคฺคิหุตฺตํ ปริจริตฺวา อุฏฺายาสนา สมนฺตา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกสิ – ‘‘โก นุ โข อิมํ หพฺยเสสํ ภฺุเชยฺยา’’ติ? อทฺทสา โข สุนฺทริกภารทฺวาโช ¶ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ อวิทูเร อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล สสีสํ ปารุตํ นิสินฺนํ; ทิสฺวาน วาเมน หตฺเถน หพฺยเสสํ คเหตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน กมณฺฑลุํ คเหตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ.
อถ โข ภควา สุนฺทริกภารทฺวาชสฺส พฺราหฺมณสฺส ปทสทฺเทน สีสํ ¶ วิวริ. อถ โข สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ – ‘‘มุณฺโฑ อยํ ภวํ, มุณฺฑโก อยํ ภว’’นฺติ ตโตว ปุน นิวตฺติตุกาโม อโหสิ. อถ โข สุนฺทริกภารทฺวาชสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มุณฺฑาปิ หิ อิเธกจฺเจ พฺราหฺมณา ภวนฺติ, ยํนูนาหํ อุปสงฺกมิตฺวา ชาตึ ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ. อถ โข สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กึชจฺโจ ภว’’นฺติ?
อถ โข ภควา สุนฺทริกภารทฺวาชํ พฺราหฺมณํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –
‘‘น พฺราหฺมโณ โนมฺหิ น ราชปุตฺโต, น เวสฺสายโน อุท โกจิ โนมฺหิ;
โคตฺตํ ปริฺาย ปุถุชฺชนานํ, อกิฺจโน มนฺต จรามิ โลเก.
‘‘สงฺฆาฏิวาสี ¶ ¶ อคโห จรามิ [อคิโห (ก. สี. ปี.) อเคโห (กตฺถจิ)], นิวุตฺตเกโส อภินิพฺพุตตฺโต;
อลิปฺปมาโน อิธ มาณเวหิ, อกลฺลํ มํ พฺราหฺมณ ปุจฺฉสิ โคตฺตปฺหํ’’.
‘‘ปุจฺฉนฺติ ¶ เว โภ พฺราหฺมณา, พฺราหฺมเณภิ สห พฺราหฺมโณ โน ภว’’นฺติ.
‘‘พฺราหฺมโณ หิ เจ ตฺวํ พฺรูสิ, มฺจ พฺรูสิ อพฺราหฺมณํ;
ตํ ตํ สาวิตฺตึ ปุจฺฉามิ, ติปทํ จตุวีสตกฺขรํ.
‘‘กึ ¶ นิสฺสิตา อิสโย มนุชา, ขตฺติยา พฺราหฺมณา [ปมปาทนฺโต] เทวตานํ;
ยฺมกปฺปยึสุ ปุถู อิธ โลเก [ทุติยปาทนฺโต (สี.)].
‘‘ยทนฺตคู เวทคู ยฺกาเล, ยสฺสาหุตึ ลเภ ตสฺสิชฺเฌติ พฺรูมิ’’.
‘‘อทฺธา หิ ตสฺส หุตมิชฺเฌ, (อิติ พฺราหฺมโณ)
ยํ ตาทิสํ เวทคุมทฺทสาม;
ตุมฺหาทิสานฺหิ อทสฺสเนน, อฺโ ชโน ภฺุชติ ปูรฬาสํ’’.
‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ พฺราหฺมณ อตฺเถน, อตฺถิโก อุปสงฺกมฺม ปุจฺฉ;
สนฺตํ วิธูมํ อนีฆํ นิราสํ, อปฺเปวิธ อภิวินฺเท สุเมธํ’’.
‘‘ยฺเ รโตหํ โภ โคตม, ยฺํ ยิฏฺุกาโม นาหํ ปชานามิ;
อนุสาสตุ มํ ภวํ, ยตฺถ ¶ หุตํ อิชฺฌเต พฺรูหิ เม ตํ’’.
‘‘เตน หิ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, โอทหสฺสุ โสตํ; ธมฺมํ เต เทเสสฺสามิ –
‘‘มา ¶ ชาตึ ปุจฺฉี จรณฺจ ปุจฺฉ, กฏฺา หเว ชายติ ชาตเวโท;
นีจากุลีโนปิ ¶ มุนี ธิตีมา, อาชานิโย โหติ หิรีนิเสโธ.
‘‘สจฺเจน ทนฺโต ทมสา อุเปโต, เวทนฺตคู วูสิตพฺรหฺมจริโย;
กาเลน ตมฺหิ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปฺุเปกฺโข [ปฺุเปโข (สี. ปี.)] ยเชถ.
‘‘เย ¶ กาเม หิตฺวา อคหา จรนฺติ, สุสฺตตฺตา ตสรํว อุชฺชุํ;
กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปฺุเปกฺโข ยเชถ.
‘‘เย วีตราคา สุสมาหิตินฺทฺริยา, จนฺโทว ราหุคฺคหณา ปมุตฺตา;
กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปฺุเปกฺโข ยเชถ.
‘‘อสชฺชมานา วิจรนฺติ โลเก, สทา สตา หิตฺวา มมายิตานิ;
กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปฺุเปกฺโข ยเชถ.
‘‘โย กาเม หิตฺวา อภิภุยฺยจารี, โย เวทิ ชาตีมรณสฺส อนฺตํ;
ปรินิพฺพุโต ¶ อุทกรหโทว สีโต, ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสํ.
‘‘สโม ¶ สเมหิ วิสเมหิ ทูเร, ตถาคโต โหติ อนนฺตปฺโ;
อนูปลิตฺโต อิธ วา หุรํ วา, ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสํ.
‘‘ยมฺหิ ¶ น มายา วสติ น มาโน, โย วีตโลโภ อมโม นิราโส;
ปนุณฺณโกโธ อภินิพฺพุตตฺโต, โย พฺราหฺมโณ โสกมลํ อหาสิ;
ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสํ.
‘‘นิเวสนํ โย มนโส อหาสิ, ปริคฺคหา ยสฺส น สนฺติ เกจิ;
อนุปาทิยาโน อิธ วา หุรํ วา, ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสํ.
‘‘สมาหิโต โย อุทตาริ โอฆํ, ธมฺมํ จฺาสิ ปรมาย ทิฏฺิยา;
ขีณาสโว อนฺติมเทหธารี, ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสํ.
‘‘ภวาสวา ยสฺส วจี ขรา จ, วิธูปิตา อตฺถคตา น สนฺติ;
ส เวทคู สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโต, ตถาคโต ¶ อรหติ ปูรฬาสํ.
‘‘สงฺคาติโค ยสฺส น สนฺติ สงฺคา, โย มานสตฺเตสุ อมานสตฺโต;
ทุกฺขํ ¶ ปริฺาย สเขตฺตวตฺถุํ, ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสํ.
‘‘อาสํ ¶ อนิสฺสาย วิเวกทสฺสี, ปรเวทิยํ ทิฏฺิมุปาติวตฺโต;
อารมฺมณา ยสฺส น สนฺติ เกจิ, ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสํ.
‘‘ปโรปรา [ปโรวรา (สี. ปี.)] ยสฺส สเมจฺจ ธมฺมา, วิธูปิตา อตฺถคตา น สนฺติ;
สนฺโต อุปาทานขเย วิมุตฺโต, ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสํ.
‘‘สํโยชนํ ¶ ชาติขยนฺตทสฺสี, โยปานุทิ ราคปถํ อเสสํ;
สุทฺโธ นิโทโส วิมโล อกาโจ [อกาโม (สี. สฺยา.)], ตถาคโต ¶ อรหติ ปูรฬาสํ.
‘‘โย อตฺตโน อตฺตานํ [อตฺตนาตฺตานํ (สี. สฺยา.)] นานุปสฺสติ, สมาหิโต อุชฺชุคโต ิตตฺโต;
ส เว อเนโช อขิโล อกงฺโข, ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสํ.
‘‘โมหนฺตรา ยสฺส น สนฺติ เกจิ, สพฺเพสุ ธมฺเมสุ จ าณทสฺสี;
สรีรฺจ อนฺติมํ ธาเรติ, ปตฺโต จ สมฺโพธิมนุตฺตรํ สิวํ;
เอตฺตาวตา ยกฺขสฺส สุทฺธิ, ตถาคโต อรหติ ปูรฬาสํ’’.
‘‘หุตฺจ ¶ [หุตฺตฺจ (สี. ก.)] มยฺหํ หุตมตฺถุ สจฺจํ, ยํ ตาทิสํ เวทคุนํ อลตฺถํ;
พฺรหฺมา หิ สกฺขิ ปฏิคณฺหาตุ เม ภควา, ภฺุชตุ เม ภควา ปูรฬาสํ’’.
‘‘คาถาภิคีตํ เม อโภชเนยฺยํ, สมฺปสฺสตํ พฺราหฺมณ เนส ธมฺโม;
คาถาภิคีตํ ปนุทนฺติ พุทฺธา, ธมฺเม สตี พฺราหฺมณ วุตฺติเรสา.
‘‘อฺเน จ เกวลินํ มเหสึ, ขีณาสวํ กุกฺกุจฺจวูปสนฺตํ;
อนฺเนน ปาเนน อุปฏฺหสฺสุ, เขตฺตฺหิ ตํ ปฺุเปกฺขสฺส โหติ’’.
‘‘สาธาหํ ¶ ¶ ภควา ตถา วิชฺํ, โย ทกฺขิณํ ภฺุเชยฺย มาทิสสฺส;
ยํ ยฺกาเล ปริเยสมาโน, ปปฺปุยฺย ตว สาสนํ’’.
‘‘สารมฺภา ยสฺส วิคตา, จิตฺตํ ยสฺส อนาวิลํ;
วิปฺปมุตฺโต จ กาเมหิ, ถินํ ยสฺส ปนูทิตํ.
‘‘สีมนฺตานํ ¶ วิเนตารํ, ชาติมรณโกวิทํ;
มุนึ โมเนยฺยสมฺปนฺนํ, ตาทิสํ ยฺมาคตํ.
‘‘ภกุฏึ [ภูกุฏึ (ก. สี.), ภากุฏึ (ก. สี., ม. นิ. ๑.๒๒๖)] วินยิตฺวาน, ปฺชลิกา นมสฺสถ;
ปูเชถ อนฺนปาเนน, เอวํ อิชฺฌนฺติ ทกฺขิณา.
‘‘พุทฺโธ ¶ ภวํ อรหติ ปูรฬาสํ, ปฺุเขตฺตมนุตฺตรํ;
อายาโค สพฺพโลกสฺส, โภโต ทินฺนํ มหปฺผล’’นฺติ.
อถ โข สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. ลเภยฺยาหํ โภโต โคตมสฺส สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติ. อลตฺถ โข ¶ สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ…เป… อรหตํ อโหสีติ.
สุนฺทริกภารทฺวาชสุตฺตํ จตุตฺถํ นิฏฺิตํ.
๕. มาฆสุตฺตํ
เอวํ เม สุตํ – เอก สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. อถ โข มาโฆ มาณโว เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ¶ ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข มาโฆ มาณโว ภควนฺตํ ¶ เอตทโวจ –
‘‘อหฺหิ, โภ โคตม, ทายโก ทานปติ วทฺู ยาจโยโค; ธมฺเมน โภเค ปริเยสามิ; ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา ธมฺมลทฺเธหิ โภเคหิ ธมฺมาธิคเตหิ เอกสฺสปิ ททามิ ทฺวินฺนมฺปิ ¶ ติณฺณมฺปิ จตุนฺนมฺปิ ปฺจนฺนมฺปิ ฉนฺนมฺปิ สตฺตนฺนมฺปิ อฏฺนฺนมฺปิ นวนฺนมฺปิ ทสนฺนมฺปิ ททามิ, วีสายปิ ตึสายปิ จตฺตาลีสายปิ ปฺาสายปิ ททามิ, สตสฺสปิ ททามิ, ภิยฺโยปิ ททามิ. กจฺจาหํ, โภ โคตม, เอวํ ททนฺโต เอวํ ยชนฺโต พหุํ ปฺุํ ปสวามี’’ติ ¶ ?
‘‘ตคฺฆ ตฺวํ, มาณว, เอวํ ททนฺโต เอวํ ยชนฺโต พหุํ ปฺุํ ปสวสิ. โย โข, มาณว, ทายโก ทานปติ วทฺู ยาจโยโค; ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ; ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา ธมฺมลทฺเธหิ โภเคหิ ธมฺมาธิคเตหิ เอกสฺสปิ ททาติ…เป… สตสฺสปิ ททาติ, ภิยฺโยปิ ททาติ, พหุํ โส ปฺุํ ปสวตี’’ติ. อถ โข มาโฆ มาณโว ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘ปุจฺฉามหํ โคตมํ วทฺุํ, (อิติ มาโฆ มาณโว)
กาสายวาสึ อคหํ [อคิหํ (สี.), อเคหํ (ปี.)] จรนฺตํ;
โย ยาจโยโค ทานปติ [ทานปตี (สี. สฺยา. ปี.)] คหฏฺโ, ปฺุตฺถิโก [ปฺุเปโข (สี. ปี. ก.)] ยชติ ปฺุเปกฺโข;
ททํ ¶ ปเรสํ อิธ อนฺนปานํ, กถํ หุตํ ยชมานสฺส สุชฺเฌ’’.
‘‘โย ยาจโยโค ทานปติ คหฏฺโ, (มาฆาติ ภควา)
ปฺุตฺถิโก ยชติ ปฺุเปกฺโข;
ททํ ปเรสํ อิธ อนฺนปานํ, อาราธเย ทกฺขิเณยฺเยภิ ตาทิ’’.
‘‘โย ¶ ยาจโยโค ทานปติ คหฏฺโ, (อิติ มาโฆ มาณโว)
ปฺุตฺถิโก ยชติ ปฺุเปกฺโข;
ททํ ปเรสํ อิธ อนฺนปานํ, อกฺขาหิ เม ภควา ทกฺขิเณยฺเย’’.
‘‘เย ¶ เว อสตฺตา [อลคฺคา (สฺยา.)] วิจรนฺติ โลเก, อกิฺจนา เกวลิโน ยตตฺตา;
กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปฺุเปกฺโข ยเชถ.
‘‘เย สพฺพสํโยชนพนฺธนจฺฉิทา, ทนฺตา วิมุตฺตา อนีฆา นิราสา;
กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปฺุเปกฺโข ยเชถ.
‘‘เย ¶ สพฺพสํโยชนวิปฺปมุตฺตา, ทนฺตา วิมุตฺตา อนีฆา นิราสา;
กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปฺุเปกฺโข ยเชถ.
‘‘ราคฺจ โทสฺจ ปหาย โมหํ, ขีณาสวา วูสิตพฺรหฺมจริยา;
กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปฺุเปกฺโข ยเชถ.
‘‘เยสุ น มายา วสติ น มาโน, ขีณาสวา วูสิตพฺรหฺมจริยา;
กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปฺุเปกฺโข ยเชถ.
‘‘เย ¶ ¶ วีตโลภา อมมา นิราสา, ขีณาสวา วูสิตพฺรหฺมจริยา;
กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปฺุเปกฺโข ยเชถ.
‘‘เย ¶ เว น ตณฺหาสุ อุปาติปนฺนา, วิตเรยฺย โอฆํ อมมา จรนฺติ;
กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปฺุเปกฺโข ยเชถ.
‘‘เยสํ ตณฺหา นตฺถิ กุหิฺจิ โลเก, ภวาภวาย อิธ วา หุรํ วา;
กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปฺุเปกฺโข ยเชถ.
‘‘เย กาเม หิตฺวา อคหา จรนฺติ, สุสฺตตฺตา ตสรํว อุชฺชุํ;
กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปฺุเปกฺโข ยเชถ.
‘‘เย วีตราคา สุสมาหิตินฺทฺริยา, จนฺโทว ราหุคฺคหณา ปมุตฺตา;
กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปฺุเปกฺโข ยเชถ.
‘‘สมิตาวิโน วีตราคา อโกปา, เยสํ คตี นตฺถิธ วิปฺปหาย;
กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปฺุเปกฺโข ยเชถ.
‘‘ชหิตฺวา ชาติมรณํ อเสสํ, กถํกถึ สพฺพมุปาติวตฺตา;
กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปฺุเปกฺโข ยเชถ.
‘‘เย ¶ ¶ อตฺตทีปา วิจรนฺติ โลเก, อกิฺจนา สพฺพธิ วิปฺปมุตฺตา;
กาเลน ¶ เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปฺุเปกฺโข ยเชถ.
‘‘เย เหตฺถ ชานนฺติ ยถา ตถา อิทํ, อยมนฺติมา นตฺถิ ปุนพฺภโวติ;
กาเลน เตสุ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปฺุเปกฺโข ยเชถ.
‘‘โย ¶ เวทคู ฌานรโต สตีมา, สมฺโพธิปตฺโต สรณํ พหูนํ;
กาเลน ตมฺหิ หพฺยํ ปเวจฺเฉ, โย พฺราหฺมโณ ปฺุเปกฺโข ยเชถ’’.
‘‘อทฺธา อโมฆา มม ปุจฺฉนา อหุ, อกฺขาสิ เม ภควา ทกฺขิเณยฺเย;
ตฺวฺเหตฺถ ชานาสิ ยถา ตถา อิทํ, ตถา หิ เต วิทิโต เอส ธมฺโม.
‘‘โย ยาจโยโค ทานปติ คหฏฺโ, (อิติ มาโฆ มาณโว)
ปฺุตฺถิโก ยชติ ปฺุเปกฺโข;
ททํ ปเรสํ อิธ อนฺนปานํ,
อกฺขาหิ เม ภควา ยฺสมฺปทํ’’.
‘‘ยชสฺสุ ยชมาโน มาฆาติ ภควา, สพฺพตฺถ จ วิปฺปสาเทหิ จิตฺตํ;
อารมฺมณํ ยชมานสฺส ยฺโ, เอตฺถปฺปติฏฺาย ชหาติ โทสํ.
‘‘โส ¶ วีตราโค ปวิเนยฺย โทสํ, เมตฺตํ จิตฺตํ ภาวยมปฺปมาณํ;
รตฺตินฺทิวํ สตตมปฺปมตฺโต, สพฺพา ทิสา ผรติ อปฺปมฺํ’’.
‘‘โก ¶ สุชฺฌติ มุจฺจติ พชฺฌตี จ, เกนตฺตนา คจฺฉติ [เกนตฺเถนา คจฺฉติ (ก.)] พฺรหฺมโลกํ;
อชานโต เม มุนิ พฺรูหิ ปุฏฺโ, ภควา หิ เม สกฺขิ พฺรหฺมชฺชทิฏฺโ;
ตุวฺหิ ¶ โน พฺรหฺมสโมสิ สจฺจํ, กถํ อุปปชฺชติ พฺรหฺมโลกํ ชุติม’’.
‘‘โย ยชติ ติวิธํ ยฺสมฺปทํ, (มาฆาติ ภควา)
อาราธเย ทกฺขิเณยฺเยภิ ตาทิ;
เอวํ ¶ ยชิตฺวา สมฺมา ยาจโยโค,
อุปปชฺชติ พฺรหฺมโลกนฺติ พฺรูมี’’ติ.
เอวํ วุตฺเต, มาโฆ มาณโว ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.
มาฆสุตฺตํ ปฺจมํ นิฏฺิตํ.
๖. สภิยสุตฺตํ
เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน สภิยสฺส ปริพฺพาชกสฺส ปุราณสาโลหิตาย เทวตาย ปฺหา อุทฺทิฏฺา โหนฺติ – ‘‘โย เต, สภิย, สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิเม ปฺเห ปุฏฺโ พฺยากโรติ ตสฺส สนฺติเก พฺรหฺมจริยํ จเรยฺยาสี’’ติ.
อถ โข สภิโย ปริพฺพาชโก ตสฺสา เทวตาย สนฺติเก เต ปฺเห อุคฺคเหตฺวา เย เต สมณพฺราหฺมณา สงฺฆิโน คณิโน คณาจริยา าตา ยสสฺสิโน ติตฺถกรา สาธุสมฺมตา ¶ พหุชนสฺส, เสยฺยถิทํ – ปูรโณ กสฺสโป มกฺขลิโคสาโล อชิโต เกสกมฺพโล ปกุโธ [กกุโธ (สี.) ปกุทฺโธ (สฺยา. กํ.)] กจฺจาโน สฺจโย [สฺชโย (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] เพลฏฺปุตฺโต [เพลฺลฏฺิปุตฺโต (สี. ปี.), เวฬฏฺปุตฺโต (สฺยา.)] นิคณฺโ นาฏปุตฺโต [นาตปุตฺโต (สี. ปี.)], เต อุปสงฺกมิตฺวา เต ปฺเห ปุจฺฉติ. เต สภิเยน ¶ ปริพฺพาชเกน ปฺเห ปุฏฺา น สมฺปายนฺติ; อสมฺปายนฺตา โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรนฺติ. อปิ จ สภิยํ เยว ปริพฺพาชกํ ปฏิปุจฺฉนฺติ.
อถ โข สภิยสฺส ปริพฺพาชกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘เย โข เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สงฺฆิโน คณิโน คณาจริยา าตา ยสสฺสิโน ติตฺถกรา สาธุสมฺมตา พหุชนสฺส, เสยฺยถิทํ – ปูรโณ กสฺสโป…เป… นิคณฺโ นาฏปุตฺโต, เต มยา ปฺเห ปุฏฺา น สมฺปายนฺติ, อสมฺปายนฺตา โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรนฺติ; อปิ ¶ จ มฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉนฺติ. ยนฺนูนฺนาหํ หีนายาวตฺติตฺวา กาเม ปริภฺุเชยฺย’’นฺติ.
อถ ¶ โข สภิยสฺส ปริพฺพาชกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยมฺปิ โข สมโณ โคตโม สงฺฆี เจว คณี จ คณาจริโย จ าโต ยสสฺสี ติตฺถกโร สาธุสมฺมโต พหุชนสฺส; ยํนูนาหํ สมณํ โคตมํ อุปสงฺกมิตฺวา อิเม ปฺเห ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ.
อถ โข สภิยสฺส ปริพฺพาชกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘เยปิ โข เต [เย โข เต (สฺยา.), ยํ โข เต (ก.)] โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา ชิณฺณา วุฑฺฒา มหลฺลกา อทฺธคตา วโยอนุปฺปตฺตา เถรา รตฺตฺู จิรปพฺพชิตา สงฺฆิโน คณิโน คณาจริยา าตา ยสสฺสิโน ติตฺถกรา สาธุสมฺมตา พหุชนสฺส, เสยฺยถิทํ – ปูรโณ กสฺสโป…เป. ¶ … นิคณฺโ นาฏปุตฺโต, เตปิ มยา ปฺเห ปุฏฺา น สมฺปายนฺติ, อสมฺปายนฺตา โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรนฺติ, อปิ จ มฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉนฺติ; กึ ปน เม สมโณ โคตโม อิเม ปฺเห ปุฏฺโ พฺยากริสฺสติ! สมโณ หิ โคตโม ทหโร เจว ชาติยา, นโว จ ปพฺพชฺชายา’’ติ.
อถ โข สภิยสฺส ปริพฺพาชกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สมโณ โข [สมโณ โข โคตโม (สฺยา. ก.)] ทหโรติ น อฺุาตพฺโพ น ปริโภตพฺโพ. ทหโรปิ เจส สมโณ โคตโม มหิทฺธิโก โหติ มหานุภาโว, ยํนูนาหํ สมณํ โคตมํ อุปสงฺกมิตฺวา อิเม ปฺเห ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ.
อถ ¶ โข สภิโย ปริพฺพาชโก เยน ราชคหํ เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน ราชคหํ เวฬุวนํ กลนฺทกนิวาโป, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ ¶ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สภิโย ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘กงฺขี เวจิกิจฺฉี อาคมํ, (อิติ สภิโย)
ปฺเห ปุจฺฉิตุํ อภิกงฺขมาโน;
เตสนฺตกโร ภวาหิ [ภวาหิ เม (ปี. ก.)] ปฺเห เม ปุฏฺโ,
อนุปุพฺพํ อนุธมฺมํ พฺยากโรหิ เม’’.
‘‘ทูรโต ¶ อาคโตสิ สภิย, (อิติ ภควา)
ปฺเห ปุจฺฉิตุํ อภิกงฺขมาโน;
เตสนฺตกโร ภวามิ [เตสมนฺตกโรมิ เต (ก.)] ปฺเห เต ปุฏฺโ,
อนุปุพฺพํ อนุธมฺมํ พฺยากโรมิ เต.
‘‘ปุจฺฉ ¶ มํ สภิย ปฺหํ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ;
ตสฺส ตสฺเสว ปฺหสฺส, อหํ อนฺตํ กโรมิ เต’’ติ.
อถ โข สภิยสฺส ปริพฺพาชกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ! ยํ วตาหํ อฺเสุ สมณพฺราหฺมเณสุ โอกาสกมฺมมตฺตมฺปิ [โอกาสมตฺตมฺปิ (สี. ปี.)] นาลตฺถํ ตํ เม อิทํ สมเณน โคตเมน โอกาสกมฺมํ กต’’นฺติ. อตฺตมโน ปมุทิโต อุทคฺโค ปีติโสมนสฺสชาโต ภควนฺตํ ¶ ปฺหํ อปุจฺฉิ –
‘‘กึ ปตฺตินมาหุ ภิกฺขุนํ, (อิติ สภิโย)
โสรตํ เกน กถฺจ ทนฺตมาหุ;
พุทฺโธติ กถํ ปวุจฺจติ,
ปุฏฺโ เม ภควา พฺยากโรหิ’’.
‘‘ปชฺเชน ¶ กเตน อตฺตนา, (สภิยาติ ภควา)
ปรินิพฺพานคโต วิติณฺณกงฺโข;
วิภวฺจ ภวฺจ วิปฺปหาย,
วุสิตวา ขีณปุนพฺภโว ส ภิกฺขุ.
‘‘สพฺพตฺถ ¶ อุเปกฺขโก สติมา, น โส หึสติ กฺจิ สพฺพโลเก;
ติณฺโณ สมโณ อนาวิโล, อุสฺสทา ยสฺส น สนฺติ โสรโต โส.
‘‘ยสฺสินฺทฺริยานิ ภาวิตานิ, อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ สพฺพโลเก;
นิพฺพิชฺฌ อิมํ ปรฺจ โลกํ, กาลํ กงฺขติ ภาวิโต ส ทนฺโต.
‘‘กปฺปานิ วิเจยฺย เกวลานิ, สํสารํ ทุภยํ จุตูปปาตํ;
วิคตรชมนงฺคณํ ¶ วิสุทฺธํ, ปตฺตํ ชาติขยํ ตมาหุ พุทฺธ’’นฺติ.
อถ โข สภิโย ปริพฺพาชโก ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อตฺตมโน ปมุทิโต อุทคฺโค ปีติโสมนสฺสชาโต ภควนฺตํ อุตฺตรึ [อุตฺตริ (ก.)] ปฺหํ อปุจฺฉิ –
‘‘กึ ¶ ปตฺตินมาหุ พฺราหฺมณํ, (อิติ สภิโย)
สมณํ เกน กถฺจ นฺหาตโกติ;
นาโคติ ¶ กถํ ปวุจฺจติ,
ปุฏฺโ เม ภควา พฺยากโรหิ’’.
‘‘พาหิตฺวา สพฺพปาปกานิ, (สภิยาติ ภควา)
วิมโล สาธุสมาหิโต ิตตฺโต;
สํสารมติจฺจ เกวลี โส,
อสิโต ตาทิ ปวุจฺจเต ส พฺรหฺมา.
‘‘สมิตาวิ ปหาย ปฺุปาปํ, วิรโช ตฺวา อิมํ ปรฺจ โลกํ;
ชาติมรณํ อุปาติวตฺโต, สมโณ ตาทิ ปวุจฺจเต ตถตฺตา.
‘‘นินฺหาย ¶ [นินหาย (สฺยา.)] สพฺพปาปกานิ, อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ สพฺพโลเก;
เทวมนุสฺเสสุ ¶ กปฺปิเยสุ, กปฺปํ เนติ ตมาหุ นฺหาตโก’’ติ.
‘‘อาคุํ น กโรติ กิฺจิ โลเก, สพฺพสํโยเค [สพฺพโยเค (ก.)] วิสชฺช พนฺธนานิ;
สพฺพตฺถ น สชฺชตี วิมุตฺโต, นาโค ตาทิ ปวุจฺจเต ตถตฺตา’’ติ.
อถ โข สภิโย ปริพฺพาชโก…เป… ภควนฺตํ อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ –
‘‘กํ เขตฺตชินํ วทนฺติ พุทฺธา, (อิติ สภิโย)
กุสลํ เกน กถฺจ ปณฺฑิโตติ;
มุนิ ¶ นาม กถํ ปวุจฺจติ,
ปุฏฺโ เม ภควา พฺยากโรหิ’’.
‘‘เขตฺตานิ วิเจยฺย เกวลานิ, (สภิยาติ ภควา)
ทิพฺพํ มานุสกฺจ พฺรหฺมเขตฺตํ;
สพฺพเขตฺตมูลพนฺธนา ปมุตฺโต,
เขตฺตชิโน ตาทิ ปวุจฺจเต ตถตฺตา.
‘‘โกสานิ ¶ วิเจยฺย เกวลานิ, ทิพฺพํ มานุสกฺจ พฺรหฺมโกสํ;
สพฺพโกสมูลพนฺธนา ปมุตฺโต, กุสโล ตาทิ ปวุจฺจเต ตถตฺตา.
‘‘ทุภยานิ ¶ วิเจยฺย ปณฺฑรานิ, อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ สุทฺธิปฺโ;
กณฺหํ สุกฺกํ อุปาติวตฺโต, ปณฺฑิโต ตาทิ ปวุจฺจเต ตถตฺตา.
‘‘อสตฺจ ¶ สตฺจ ตฺวา ธมฺมํ, อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ สพฺพโลเก;
เทวมนุสฺเสหิ ปูชนีโย, สงฺคํ ชาลมติจฺจ โส มุนี’’ติ.
อถ โข สภิโย ปริพฺพาชโก…เป… ภควนฺตํ อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ –
‘‘กึ ปตฺตินมาหุ ¶ เวทคุํ, (อิติ สภิโย)
อนุวิทิตํ เกน กถฺจ วีริยวาติ;
อาชานิโย กินฺติ นาม โหติ,
ปุฏฺโ เม ภควา พฺยากโรหิ’’.
‘‘เวทานิ วิเจยฺย เกวลานิ, (สภิยาติ ภควา)
สมณานํ ยานิธตฺถิ [ยานิปตฺถิ (สี. สฺยา. ปี.)] พฺราหฺมณานํ;
สพฺพเวทนาสุ วีตราโค,
สพฺพํ เวทมติจฺจ เวทคู โส.
‘‘อนุวิจฺจ ปปฺจนามรูปํ, อชฺฌตฺตํ ¶ พหิทฺธา จ โรคมูลํ;
สพฺพโรคมูลพนฺธนา ปมุตฺโต, อนุวิทิโต ตาทิ ปวุจฺจเต ตถตฺตา.
‘‘วิรโต อิธ สพฺพปาปเกหิ, นิรยทุกฺขํ อติจฺจ วีริยวา โส;
โส วีริยวา ปธานวา, ธีโร ตาทิ ปวุจฺจเต ตถตฺตา.
‘‘ยสฺสสฺสุ ลุนานิ พนฺธนานิ, อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ สงฺคมูลํ;
สพฺพสงฺคมูลพนฺธนา ปมุตฺโต, อาชานิโย ตาทิ ปวุจฺจเต ตถตฺตา’’ติ.
อถ ¶ ¶ โข สภิโย ปริพฺพาชโก…เป… ภควนฺตํ อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ –
‘‘กึ ปตฺตินมาหุ โสตฺติยํ, (อิติ สภิโย)
อริยํ ¶ เกน กถฺจ จรณวาติ;
ปริพฺพาชโก กินฺติ นาม โหติ,
ปุฏฺโ เม ภควา พฺยากโรหิ’’.
‘‘สุตฺวา สพฺพธมฺมํ อภิฺาย โลเก, (สภิยาติ ภควา)
สาวชฺชานวชฺชํ ยทตฺถิ กิฺจิ;
อภิภุํ อกถํกถึ วิมุตฺตํ,
อนิฆํ ¶ สพฺพธิมาหุ โสตฺติโยติ.
‘‘เฉตฺวา อาสวานิ อาลยานิ, วิทฺวา โส น อุเปติ คพฺภเสยฺยํ;
สฺํ ติวิธํ ปนุชฺช ปงฺกํ, กปฺปํ เนติ ตมาหุ อริโยติ.
‘‘โย อิธ จรเณสุ ปตฺติปตฺโต, กุสโล สพฺพทา อาชานาติ [อาชานิ (สฺยา.)] ธมฺมํ;
สพฺพตฺถ น สชฺชติ วิมุตฺตจิตฺโต [วิมุตฺโต (สี.)], ปฏิฆา ยสฺส น สนฺติ จรณวา โส.
‘‘ทุกฺขเวปกฺกํ ยทตฺถิ กมฺมํ, อุทฺธมโธ ติริยํ วาปิ [ติริยฺจาปิ (สฺยา.)] มชฺเฌ;
ปริพฺพาชยิตฺวา ปริฺจารี, มายํ มานมโถปิ โลภโกธํ;
ปริยนฺตมกาสิ นามรูปํ, ตํ ปริพฺพาชกมาหุ ปตฺติปตฺต’’นฺติ.
อถ โข สภิโย ปริพฺพาชโก ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อตฺตมโน ปมุทิโต อุทคฺโค ปีติโสมนสฺสชาโต ¶ อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ สมฺมุขา สารุปฺปาหิ คาถาหิ อภิตฺถวิ –
‘‘ยานิ ¶ ¶ จ ตีณิ ยานิ จ สฏฺิ, สมณปฺปวาทสิตานิ [สมณปฺปวาทนิสฺสิตานิ (สฺยา. ก.)] ภูริปฺ;
สฺกฺขรสฺนิสฺสิตานิ, โอสรณานิ วิเนยฺย โอฆตมคา.
‘‘อนฺตคูสิ ¶ ปารคู [ปารคูสิ (สฺยา. ปี. ก.)] ทุกฺขสฺส, อรหาสิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ขีณาสวํ ตํ มฺเ;
ชุติมา มุติมา ปหูตปฺโ, ทุกฺขสฺสนฺตกรํ อตาเรสิ มํ.
‘‘ยํ เม กงฺขิตมฺาสิ, วิจิกิจฺฉา มํ ตารยิ นโม เต;
มุนิ โมนปเถสุ ปตฺติปตฺต, อขิล อาทิจฺจพนฺธุ โสรโตสิ.
‘‘ยา ¶ เม กงฺขา ปุเร อาสิ, ตํ เม พฺยากาสิ จกฺขุมา;
อทฺธา มุนีสิ สมฺพุทฺโธ, นตฺถิ นีวรณา ตว.
‘‘อุปายาสา จ เต สพฺเพ, วิทฺธสฺตา วินฬีกตา;
สีติภูโต ทมปฺปตฺโต, ธิติมา สจฺจนิกฺกโม.
‘‘ตสฺส เต นาคนาคสฺส, มหาวีรสฺส ภาสโต;
สพฺเพ เทวานุโมทนฺติ, อุโภ นารทปพฺพตา.
‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;
สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เต ปฏิปุคฺคโล.
‘‘ตุวํ ¶ พุทฺโธ ตุวํ สตฺถา, ตุวํ มาราภิภู มุนิ;
ตุวํ อนุสเย เฉตฺวา, ติณฺโณ ตาเรสิ มํ ปชํ.
‘‘อุปธี เต สมติกฺกนฺตา, อาสวา เต ปทาลิตา;
สีโหสิ อนุปาทาโน, ปหีนภยเภรโว.
‘‘ปุณฺฑรีกํ ¶ ยถา วคฺคุ, โตเย น อุปลิมฺปติ [โตเยน น อุปลิปฺปติ (สี.), โตเย น อุปลิปฺปติ (ปี.), โตเยน น อุปลิมฺปติ (ก.)];
เอวํ ปฺุเ จ ปาเป จ, อุภเย ตฺวํ น ลิมฺปสิ;
ปาเท วีร ปสาเรหิ, สภิโย วนฺทติ สตฺถุโน’’ติ.
อถ โข สภิโย ปริพฺพาชโก ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ ¶ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป… เอสาหํ ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ; ลเภยฺยาหํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติ ¶ .
‘‘โย โข, สภิย, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขติ ปพฺพชฺชํ, อากงฺขติ อุปสมฺปทํ, โส จตฺตาโร มาเส ปริวสติ; จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺติ, อุปสมฺปาเทนฺติ ภิกฺขุภาวาย. อปิ จ เมตฺถ ปุคฺคลเวมตฺตตา วิทิตา’’ติ.
‘‘สเจ, ภนฺเต, อฺติตฺถิยปุพฺพา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขนฺตา ปพฺพชฺชํ, อากงฺขนฺตา ¶ อุปสมฺปทํ จตฺตาโร มาเส ปริวสนฺติ, จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺติ, อุปสมฺปาเทนฺติ ภิกฺขุภาวาย, อหํ จตฺตาริ วสฺสานิ ปริวสิสฺสามิ; จตุนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺตุ อุปสมฺปาเทนฺตุ ภิกฺขุภาวายา’’ติ. อลตฺถ โข สภิโย ปริพฺพาชโก ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ อลตฺถ อุปสมฺปทํ…เป… อฺตโร โข ปนายสฺมา สภิโย อรหตํ อโหสีติ.
สภิยสุตฺตํ ฉฏฺํ นิฏฺิตํ.
๗. เสลสุตฺตํ
เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา องฺคุตฺตราเปสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ อฑฺฒเตฬเสหิ ¶ ภิกฺขุสเตหิ เยน อาปณํ นาม องฺคุตฺตราปานํ นิคโม ตทวสริ. อสฺโสสิ ¶ โข เกณิโย ชฏิโล ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต องฺคุตฺตราเปสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ อฑฺฒเตฬเสหิ ภิกฺขุสเตหิ อาปณํ อนุปฺปตฺโต. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ ¶ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ [ภควา (สฺยา. ปี.)]. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ¶ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ.
อถ โข เกณิโย ชฏิโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข เกณิยํ ชฏิลํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข เกณิโย ชฏิโล ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภควา เกณิยํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘มหา โข, เกณิย, ภิกฺขุสงฺโฆ ¶ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ; ตฺวฺจ พฺราหฺมเณสุ ¶ อภิปฺปสนฺโน’’ติ.
ทุติยมฺปิ โข เกณิโย ชฏิโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิฺจาปิ, โภ โคตม, มหา ภิกฺขุสงฺโฆ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ, อหฺจ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน; อธิวาเสตุ เม ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. ทุติยมฺปิ โข ภควา เกณิยํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘มหา โข, เกณิย, ภิกฺขุสงฺโฆ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ; ตฺวฺจ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน’’ติ.
ตติยมฺปิ โข เกณิโย ชฏิโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิฺจาปิ, โภ โคตม, มหา ภิกฺขุสงฺโฆ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ, อหฺจ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน, อธิวาเสตุ [อธิวาเสตฺเวว (สี.)] เม ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข เกณิโย ชฏิโล ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา ¶ อุฏฺายาสนา เยน สโก อสฺสโม เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มิตฺตามจฺเจ าติสาโลหิเต อามนฺเตสิ – ‘‘สุณนฺตุ เม ภวนฺโต มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา, สมโณ เม โคตโม นิมนฺติโต สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน, เยน เม กายเวยฺยาวฏิกํ กเรยฺยาถา’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข เกณิยสฺส ชฏิลสฺส มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา เกณิยสฺส ชฏิลสฺส ปฏิสฺสุตฺวา อปฺเปกจฺเจ อุทฺธนานิ ขณนฺติ, อปฺเปกจฺเจ กฏฺานิ ผาเลนฺติ, อปฺเปกจฺเจ ภาชนานิ โธวนฺติ, อปฺเปกจฺเจ อุทกมณิกํ ปติฏฺาเปนฺติ, อปฺเปกจฺเจ อาสนานิ ปฺาเปนฺติ. เกณิโย ปน ชฏิโล สามํเยว มณฺฑลมาฬํ ¶ ปฏิยาเทติ.
เตน โข ปน สมเยน เสโล พฺราหฺมโณ อาปเณ ปฏิวสติ, ติณฺณํ ¶ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ ¶ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย, ตีณิ จ มาณวกสตานิ มนฺเต วาเจติ.
เตน โข ปน สมเยน เกณิโย ชฏิโล เสเล พฺราหฺมเณ อภิปฺปสนฺโน โหติ. อถ โข เสโล พฺราหฺมโณ ตีหิ มาณวกสเตหิ ปริวุโต ชงฺฆาวิหารํ อนุจงฺกมมาโน อนุวิจรมาโน เยน เกณิยสฺส ชฏิลสฺส อสฺสโม เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข เสโล พฺราหฺมโณ เกณิยสฺส ชฏิลสฺส อสฺสเม [เกณิสฺสมิเย ชฏิเล (สี. ปี.)] อปฺเปกจฺเจ อุทฺธนานิ ขณนฺเต…เป… อปฺเปกจฺเจ อาสนานิ ปฺเปนฺเต, เกณิยํ ปน ชฏิลํ สามํเยว มณฺฑลมาฬํ ปฏิยาเทนฺตํ. ทิสฺวาน เกณิยํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ โข โภโต เกณิยสฺส อาวาโห วา ภวิสฺสติ, วิวาโห วา ภวิสฺสติ, มหายฺโ วา ปจฺจุปฏฺิโต, ราชา วา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร นิมนฺติโต สฺวาตนาย สทฺธึ พลกาเยนา’’ติ?
‘‘น เม, โภ เสล, อาวาโห วา ภวิสฺสติ วิวาโห วา, นาปิ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร นิมนฺติโต สฺวาตนาย สทฺธึ พลกาเยน; อปิ จ โข เม มหายฺโ ปจฺจุปฏฺิโต. อตฺถิ สมโณ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต องฺคุตฺตราเปสุ จาริกํ ¶ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ อฑฺฒเตฬเสหิ ¶ ภิกฺขุสเตหิ อาปณํ อนุปฺปตฺโต. ตํ โข ปน ¶ ภวนฺตํ โคตมํ…เป… พุทฺโธ ภควาติ. โส เม นิมนฺติโต สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. ‘‘พุทฺโธติ, โภ เกณิย, วเทสิ’’? ‘‘พุทฺโธติ, โภ เสล, วทามิ’’. ‘‘พุทฺโธติ, โภ เกณิย, วเทสิ’’? ‘‘พุทฺโธติ, โภ เสล, วทามี’’ติ.
อถ โข เสลสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘โฆโสปิ โข เอโส ทุลฺลโภ โลกสฺมึ ยทิทํ พุทฺโธติ. อาคตานิ โข ปนมฺหากํ มนฺเตสุ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ, เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ทฺเวว คติโย ภวนฺติ อนฺา. สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ ราชา โหติ จกฺกวตฺติ ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. ตสฺสิมานิ สตฺต รตนานิ ภวนฺติ, เสยฺยถิทํ – จกฺกรตนํ, หตฺถิรตนํ, อสฺสรตนํ, มณิรตนํ, อิตฺถิรตนํ, คหปติรตนํ, ปริณายกรตนเมว สตฺตมํ. ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. โส อิมํ ปถวึ สาครปริยนฺตํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน อภิวิชิย อชฺฌาวสติ. สเจ โข ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท [วิวตฺตจฺฉทฺโท (สี. ปี.)]. กหํ ปน, โภ เกณิย, เอตรหิ โส ภวํ โคตโม วิหรติ ¶ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ?
เอวํ ¶ วุตฺเต, เกณิโย ชฏิโล ทกฺขิณํ พาหุํ ปคฺคเหตฺวา เสลํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘เยเนสา ¶ , โภ เสล, นีลวนราชี’’ติ. อถ โข เสโล พฺราหฺมโณ ตีหิ มาณวกสเตหิ สทฺธึ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. อถ โข เสโล พฺราหฺมโณ เต มาณวเก อามนฺเตสิ – ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต อาคจฺฉนฺตุ, ปเท ปทํ นิกฺขิปนฺตา. ทุราสทา หิ เต ภควนฺโต [ภวนฺโต (สฺยา. ก.)] สีหาว เอกจรา. ยทา จาหํ, โภ, สมเณน โคตเมน สทฺธึ มนฺเตยฺยุํ, มา เม โภนฺโต อนฺตรนฺตรา กถํ โอปาเตถ; กถาปริโยสานํ เม ภวนฺโต อาคเมนฺตู’’ติ.
อถ โข เสโล พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข เสโล พฺราหฺมโณ ภควโต ¶ กาเย ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ สมนฺเนสิ [สมฺมนฺเนสิ (สี. สฺยา.)]. อทฺทสา โข เสโล พฺราหฺมโณ ภควโต กาเย ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ เยภุยฺเยน เปตฺวา ทฺเว. ทฺวีสุ มหาปุริสลกฺขเณสุ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ – โกโสหิเต จ วตฺถคุยฺเห, ปหูตชิวฺหตาย จาติ.
อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ปสฺสติ โข เม อยํ เสโล พฺราหฺมโณ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ เยภุยฺเยน เปตฺวา ทฺเว. ทฺวีสุ มหาปุริสลกฺขเณสุ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ – โกโสหิเต จ วตฺถคุยฺเห, ปหูตชิวฺหตาย ¶ จา’’ติ. อถ โข ภควา ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสิ [อภิสงฺขาเรสิ (สฺยา. ก.)], ยถา อทฺทส เสโล พฺราหฺมโณ ภควโต โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํ ¶ . อถ โข ภควา ชิวฺหํ นินฺนาเมตฺวา อุโภปิ กณฺณโสตานิ อนุมสิ ปฏิมสิ, อุโภปิ นาสิกโสตานิ อนุมสิ ปฏิมสิ, เกวลมฺปิ นลาฏมณฺฑลํ ชิวฺหาย ฉาเทสิ.
อถ โข เสลสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สมนฺนาคโต โข สมโณ โคตโม ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ ปริปุณฺเณหิ, โน อปุริปุณฺเณหิ. โน จ โข นํ ชานามิ พุทฺโธ วา โน วา. สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุฑฺฒานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘เย เต ภวนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, เต สเก วณฺเณ ภฺมาเน อตฺตานํ ปาตุกโรนฺตี’ติ. ยํนูนาหํ สมณํ โคตมํ สมฺมุขา สารุปฺปาหิ คาถาหิ อภิตฺถเวยฺย’’นฺติ. อถ โข เสโล พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ สมฺมุขา สารุปฺปาหิ คาถาหิ อภิตฺถวิ –
‘‘ปริปุณฺณกาโย สุรุจิ, สุชาโต จารุทสฺสโน;
สุวณฺณวณฺโณสิ ภควา, สุสุกฺกทาโสิ วีริยวา.
‘‘นรสฺส ¶ หิ สุชาตสฺส, เย ภวนฺติ วิยฺชนา;
สพฺเพ เต ตว กายสฺมึ, มหาปุริสลกฺขณา.
‘‘ปสนฺนเนตฺโต สุมุโข, พฺรหา อุชุ ปตาปวา;
มชฺเฌ ¶ สมณสงฺฆสฺส, อาทิจฺโจว วิโรจสิ.
‘‘กลฺยาณทสฺสโน ¶ ภิกฺขุ, กฺจนสนฺนิภตฺตโจ;
กึ เต สมณภาเวน, เอวํ อุตฺตมวณฺณิโน.
‘‘ราชา อรหสิ ภวิตุํ, จกฺกวตฺตี รเถสโภ;
จาตุรนฺโต วิชิตาวี, ชมฺพุสณฺฑสฺส [ชมฺพุมณฺฑสฺส (ก.)] อิสฺสโร.
‘‘ขตฺติยา ¶ โภคิราชาโน [โภชราชาโน (สี. สฺยา.)], อนุยนฺตา [อนุยุตฺตา (สี.)] ภวนฺตุ เต;
ราชาภิราชา มนุชินฺโท, รชฺชํ กาเรหิ โคตม’’.
‘‘ราชาหมสฺมิ เสลาติ, (ภควา) ธมฺมราชา อนุตฺตโร;
ธมฺเมน จกฺกํ วตฺเตมิ, จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยํ’’.
‘‘สมฺพุทฺโธ ปฏิชานาสิ, (อิติ เสโล พฺราหฺมโณ) ธมฺมราชา อนุตฺตโร;
‘ธมฺเมน จกฺกํ วตฺเตมิ’, อิติ ภาสสิ โคตม.
‘‘โก นุ เสนาปติ โภโต, สาวโก สตฺถุรนฺวโย;
โก เต ตมนุวตฺเตติ, ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ’’.
‘‘มยา ปวตฺติตํ จกฺกํ, (เสลาติ ภควา) ธมฺมจกฺกํ อนุตฺตรํ;
สาริปุตฺโต อนุวตฺเตติ, อนุชาโต ตถาคตํ.
‘‘อภิฺเยฺยํ อภิฺาตํ, ภาเวตพฺพฺจ ภาวิตํ;
ปหาตพฺพํ ปหีนํ เม, ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ พฺราหฺมณ.
‘‘วินยสฺสุ ¶ มยิ กงฺขํ, อธิมุจฺจสฺสุ พฺราหฺมณ;
ทุลฺลภํ ทสฺสนํ โหติ, สมฺพุทฺธานํ อภิณฺหโส.
‘‘เยสํ ¶ ¶ ¶ เว [เยสํ โว (ปี.), ยสฺส เว (สฺยา.)] ทุลฺลโภ โลเก, ปาตุภาโว อภิณฺหโส;
โสหํ พฺราหฺมณ สมฺพุทฺโธ, สลฺลกตฺโต อนุตฺตโร.
‘‘พฺรหฺมภูโต อติตุโล, มารเสนปฺปมทฺทโน;
สพฺพามิตฺเต วสีกตฺวา, โมทามิ อกุโตภโย’’.
‘‘อิมํ ภวนฺโต นิสาเมถ, ยถา ภาสติ จกฺขุมา;
สลฺลกตฺโต มหาวีโร, สีโหว นทตี วเน.
‘‘พฺรหฺมภูตํ อติตุลํ, มารเสนปฺปมทฺทนํ;
โก ทิสฺวา นปฺปสีเทยฺย, อปิ กณฺหาภิชาติโก.
‘‘โย มํ อิจฺฉติ อนฺเวตุ, โย วา นิจฺฉติ คจฺฉตุ;
อิธาหํ ปพฺพชิสฺสามิ, วรปฺสฺส สนฺติเก’’.
‘‘เอวฺเจ [เอตฺเจ (สี. ปี.)] รุจฺจติ โภโต, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสเน [สมฺมาสมฺพุทฺธสาสนํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)];
มยมฺปิ ปพฺพชิสฺสาม, วรปฺสฺส สนฺติเก’’.
‘‘พฺราหฺมณา ติสตา อิเม, ยาจนฺติ ปฺชลีกตา;
พฺรหฺมจริยํ จริสฺสาม, ภควา ตว สนฺติเก’’.
‘‘สฺวากฺขาตํ พฺรหฺมจริยํ, (เสลาติ ภควา) สนฺทิฏฺิกมกาลิกํ;
ยตฺถ อโมฆา ปพฺพชฺชา, อปฺปมตฺตสฺส สิกฺขโต’’ติ.
อลตฺถ โข เสโล พฺราหฺมโณ สปริโส ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํ. อถ โข เกณิโย ชฏิโล ตสฺสา ¶ รตฺติยา อจฺจเยน สเก อสฺสเม ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต ¶ กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, โภ โคตม, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ ¶ . อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน เกณิยสฺส ชฏิลสฺส อสฺสโม เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน.
อถ ¶ โข เกณิโย ชฏิโล พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ. อถ โข เกณิโย ชฏิโล ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข เกณิยํ ชฏิลํ ภควา อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิ –
‘‘อคฺคิหุตฺตมุขา ยฺา, สาวิตฺตี ฉนฺทโส มุขํ;
ราชา มุขํ มนุสฺสานํ, นทีนํ สาคโร มุขํ.
‘‘นกฺขตฺตานํ มุขํ จนฺโท, อาทิจฺโจ ตปตํ มุขํ;
ปฺุํ อากงฺขมานานํ, สงฺโฆ เว ยชตํ มุข’’นฺติ.
อถ โข ภควา เกณิยํ ชฏิลํ อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. อถ โข อายสฺมา เสโล สปริโส เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรสฺเส ¶ …เป… ¶ อฺตโร โข ปนาปสฺมา เสโล สปริโส อรหตํ อโหสิ.
อถ โข อายสฺมา เสโล สปริโส เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘ยํ ตํ สรณมาคมฺห [มาคมฺม (สี. สฺยา. ก.)], อิโต อฏฺมิ จกฺขุม;
สตฺตรตฺเตน ภควา, ทนฺตมฺห ตว สาสเน.
‘‘ตุวํ พุทฺโธ ตุวํ สตฺถา, ตุวํ มาราภิภู มุนิ;
ตุวํ อนุสเย เฉตฺวา, ติณฺโณ ตาเรสิมํ ปชํ.
‘‘อุปธี เต สมติกฺกนฺตา, อาสวา เต ปทาลิตา;
สีโหสิ [สีโหว (ม. นิ. ๒.๔๐๑)] อนุปาทาโน, ปหีนภยเภรโว.
‘‘ภิกฺขโว ¶ ติสตา อิเม, ติฏฺนฺติ ปฺชลีกตา;
ปาเท วีร ปสาเรหิ, นาคา วนฺทนฺตุ สตฺถุโน’’ติ.
เสลสุตฺตํ สตฺตมํ นิฏฺิตํ.
๘. สลฺลสุตฺตํ
อนิมิตฺตมนฺาตํ ¶ , มจฺจานํ อิธ ชีวิตํ;
กสิรฺจ ปริตฺตฺจ, ตฺจ ทุกฺเขน สํยุตํ.
น ¶ หิ โส อุปกฺกโม อตฺถิ, เยน ชาตา น มิยฺยเร;
ชรมฺปิ ¶ ปตฺวา มรณํ, เอวํธมฺมา หิ ปาณิโน.
ผลานมิว ปกฺกานํ, ปาโต ปตนโต [ปปตโต (สี. ปี. อฏฺ.)] ภยํ;
เอวํ ชาตาน มจฺจานํ, นิจฺจํ มรณโต ภยํ.
ยถาปิ กุมฺภการสฺส, กตา มตฺติกภาชนา;
สพฺเพ เภทนปริยนฺตา [เภทปริยนฺตา (สฺยา.)], เอวํ มจฺจาน ชีวิตํ.
ทหรา จ มหนฺตา จ, เย พาลา เย จ ปณฺฑิตา;
สพฺเพ มจฺจุวสํ ยนฺติ, สพฺเพ มจฺจุปรายณา.
เตสํ มจฺจุปเรตานํ, คจฺฉตํ ปรโลกโต;
น ปิตา ตายเต ปุตฺตํ, าตี วา ปน าตเก.
เปกฺขตํ เยว าตีนํ, ปสฺส ลาลปตํ ปุถุ;
เอกเมโกว มจฺจานํ, โควชฺโฌ วิย นียติ [นิยฺยติ (พหูสุ)].
เอวมพฺภาหโต ¶ โลโก, มจฺจุนา จ ชราย จ;
ตสฺมา ธีรา น โสจนฺติ, วิทิตฺวา โลกปริยายํ.
ยสฺส มคฺคํ น ชานาสิ, อาคตสฺส คตสฺส วา;
อุโภ อนฺเต อสมฺปสฺสํ, นิรตฺถํ ปริเทวสิ.
ปริเทวยมาโน เจ, กิฺจิทตฺถํ อุทพฺพเห;
สมฺมูฬฺโห หึสมตฺตานํ, กยิรา เจ นํ วิจกฺขโณ.
น หิ รุณฺเณน โสเกน, สนฺตึ ปปฺโปติ เจตโส;
ภิยฺยสฺสุปฺปชฺชเต ทุกฺขํ, สรีรํ จุปหฺติ.
กิโส ¶ วิวณฺโณ ภวติ, หึสมตฺตานมตฺตนา;
น ¶ เตน เปตา ปาเลนฺติ, นิรตฺถา ปริเทวนา.
โสกมปฺปชหํ ¶ ชนฺตุ, ภิยฺโย ทุกฺขํ นิคจฺฉติ;
อนุตฺถุนนฺโต กาลงฺกตํ [กาลกตํ (สี. สฺยา.)], โสกสฺส วสมนฺวคู.
อฺเปิ ปสฺส คมิเน, ยถากมฺมูปเค นเร;
มจฺจุโน วสมาคมฺม, ผนฺทนฺเตวิธ ปาณิโน.
เยน เยน หิ มฺนฺติ, ตโต ตํ โหติ อฺถา;
เอตาทิโส วินาภาโว, ปสฺส โลกสฺส ปริยายํ.
อปิ วสฺสสตํ ชีเว, ภิยฺโย วา ปน มาณโว;
าติสงฺฆา วินา โหติ, ชหาติ อิธ ชีวิตํ.
ตสฺมา อรหโต สุตฺวา, วิเนยฺย ปริเทวิตํ;
เปตํ กาลงฺกตํ ทิสฺวา, เนโส ลพฺภา มยา อิติ.
ยถา ¶ สรณมาทิตฺตํ, วารินา ปรินิพฺพเย [ปรินิพฺพุโต (สี. ก.)];
เอวมฺปิ ธีโร สปฺโ, ปณฺฑิโต กุสโล นโร;
ขิปฺปมุปฺปติตํ โสกํ, วาโต ตูลํว ธํสเย.
ปริเทวํ ปชปฺปฺจ, โทมนสฺสฺจ อตฺตโน;
อตฺตโน สุขเมสาโน, อพฺพเห สลฺลมตฺตโน.
อพฺพุฬฺหสลฺโล อสิโต, สนฺตึ ปปฺปุยฺย เจตโส;
สพฺพโสกํ อติกฺกนฺโต, อโสโก โหติ นิพฺพุโตติ.
สลฺลสุตฺตํ อฏฺมํ นิฏฺิตํ.
๙. วาเสฏฺสุตฺตํ
เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อิจฺฉานงฺคเล วิหรติ อิจฺฉานงฺคลวนสณฺเฑ. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา อภิฺาตา อภิฺาตา พฺราหฺมณมหาสาลา อิจฺฉานงฺคเล ปฏิวสนฺติ, เสยฺยถิทํ – จงฺกี พฺราหฺมโณ, ตารุกฺโข พฺราหฺมโณ, โปกฺขรสาติ พฺราหฺมโณ, ชาณุสฺโสณิ [ชาณุโสณิ (ก.)] พฺราหฺมโณ, โตเทยฺโย พฺราหฺมโณ, อฺเ จ อภิฺาตา อภิฺาตา พฺราหฺมณมหาสาลา. อถ โข วาเสฏฺภารทฺวาชานํ มาณวานํ ¶ ชงฺฆาวิหารํ อนุจงฺกมนฺตานํ อนุวิจรนฺตานํ [อนุจงฺกมมานานํ อนุวิจรมานานํ (สี. ปี.)] อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘กถํ, โภ, พฺราหฺมโณ โหตี’’ติ?
ภารทฺวาโช มาณโว เอวมาห – ‘‘ยโต โข, โภ, อุภโต สุชาโต โหติ มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทน, เอตฺตาวตา โข โภ พฺราหฺมโณ โหตี’’ติ.
วาเสฏฺโ มาณโว เอวมาห – ‘‘ยโต โข, โภ, สีลวา จ โหติ วตสมฺปนฺโน [วตฺตสมฺปนฺโน (สี. สฺยา. ม. นิ. ๒.๔๕๔)] จ, เอตฺตาวตา โข, โภ, พฺราหฺมโณ โหตี’’ติ. เนว โข อสกฺขิ ภารทฺวาโช มาณโว วาเสฏฺํ ¶ มาณวํ สฺาเปตุํ, น ปน อสกฺขิ วาเสฏฺโ มาณโว ภารทฺวาชํ มาณวํ สฺาเปตุํ.
อถ ¶ โข วาเสฏฺโ มาณโว ภารทฺวาชํ มาณวํ อามนฺเตสิ – ‘‘อยํ โข, โภ [อยํ โภ (สี. สฺยา. ก.), อยํ โข (ปี.)] ภารทฺวาช, สมโณ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ¶ ปพฺพชิโต อิจฺฉานงฺคเล วิหรติ อิจฺฉานงฺคลวนสณฺเฑ; ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ…เป… พุทฺโธ ภควา’ติ. อายาม, โภ ภารทฺวาช, เยน สมโณ โคตโม เตนุปสงฺกมิสฺสาม; อุปสงฺกมิตฺวา สมณํ โคตมํ เอตมตฺถํ ปุจฺฉิสฺสาม. ยถา โน สมโณ โคตโม พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข ภารทฺวาโช มาณโว วาเสฏฺสฺส มาณวสฺส ปจฺจสฺโสสิ.
อถ โข วาเสฏฺภารทฺวาชา มาณวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วาเสฏฺโ มาณโว ภควนฺตํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –
‘‘อนฺุาตปฏิฺาตา, เตวิชฺชา มยมสฺมุโภ;
อหํ โปกฺขรสาติสฺส, ตารุกฺขสฺสายํ มาณโว.
‘‘เตวิชฺชานํ ยทกฺขาตํ, ตตฺร เกวลิโนสฺมเส;
ปทกสฺม เวยฺยากรณา, ชปฺเป อาจริยสาทิสา.
‘‘เตสํ ¶ ¶ โน ชาติวาทสฺมึ, วิวาโท อตฺถิ โคตม;
ชาติยา พฺราหฺมโณ โหติ, ภารทฺวาโช อิติ ภาสติ;
อหฺจ กมฺมุนา [กมฺมนา (สี. ปี.) เอวมุปริปิ] พฺรูมิ, เอวํ ชานาหิ จกฺขุม.
‘‘เต น สกฺโกม สฺาเปตุํ, อฺมฺํ มยํ อุโภ;
ภวนฺตํ [ภควนฺตํ (ก.)] ปุฏฺุมาคมฺหา, สมฺพุทฺธํ อิติ วิสฺสุตํ.
‘‘จนฺทํ ¶ ยถา ขยาตีตํ, เปจฺจ ปฺชลิกา ชนา;
วนฺทมานา นมสฺสนฺติ, เอวํ โลกสฺมิ โคตมํ.
‘‘จกฺขุํ โลเก สมุปฺปนฺนํ, มยํ ปุจฺฉาม โคตมํ;
ชาติยา พฺราหฺมโณ โหติ, อุทาหุ ภวติ กมฺมุนา;
อชานตํ โน ปพฺรูหิ, ยถา ชาเนสุ พฺราหฺมณํ’’.
‘‘เตสํ ¶ โว อหํ พฺยกฺขิสฺสํ, (วาเสฏฺาติ ภควา) อนุปุพฺพํ ยถาตถํ;
ชาติวิภงฺคํ ปาณานํ, อฺมฺา หิ ชาติโย.
‘‘ติณรุกฺเขปิ ชานาถ, น จาปิ ปฏิชานเร;
ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อฺมฺา หิ ชาติโย.
‘‘ตโต ¶ กีเฏ ปฏงฺเค จ, ยาว กุนฺถกิปิลฺลิเก;
ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อฺมฺา หิ ชาติโย.
‘‘จตุปฺปเทปิ ชานาถ, ขุทฺทเก จ มหลฺลเก;
ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อฺมฺา หิ ชาติโย.
‘‘ปาทูทเรปิ ชานาถ, อุรเค ทีฆปิฏฺิเก;
ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อฺมฺา หิ ชาติโย.
‘‘ตโต มจฺเฉปิ ชานาถ, โอทเก วาริโคจเร;
ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อฺมฺา หิ ชาติโย.
‘‘ตโต ปกฺขีปิ ชานาถ, ปตฺตยาเน วิหงฺคเม;
ลิงฺคํ ชาติมยํ เตสํ, อฺมฺา หิ ชาติโย.
‘‘ยถา ¶ ¶ เอตาสุ ชาตีสุ, ลิงฺคํ ชาติมยํ ปุถุ;
เอวํ นตฺถิ มนุสฺเสสุ, ลิงฺคํ ชาติมยํ ปุถุ.
‘‘น เกเสหิ น สีเสน, น กณฺเณหิ น อกฺขิภิ;
น มุเขน น นาสาย, น โอฏฺเหิ ภมูหิ วา.
‘‘น คีวาย น อํเสหิ, น อุทเรน น ปิฏฺิยา;
น โสณิยา น อุรสา, น สมฺพาเธ น เมถุเน [น สมฺพาธา น เมถุนา (สฺยา. ก.)].
‘‘น ¶ หตฺเถหิ น ปาเทหิ, นางฺคุลีหิ นเขหิ วา;
น ชงฺฆาหิ น อูรูหิ, น วณฺเณน สเรน วา;
ลิงฺคํ ชาติมยํ เนว, ยถา อฺาสุ ชาติสุ.
‘‘ปจฺจตฺตฺจ ¶ สรีเรสุ [ปจฺจตฺตํ สสรีเรสุ (สี. ปี.)], มนุสฺเสสฺเวตํ น วิชฺชติ;
โวการฺจ มนุสฺเสสุ, สมฺาย ปวุจฺจติ.
‘‘โย หิ โกจิ มนุสฺเสสุ, โครกฺขํ อุปชีวติ;
เอวํ วาเสฏฺ ชานาหิ, กสฺสโก โส น พฺราหฺมโณ.
‘‘โย หิ โกจิ มนุสฺเสสุ, ปุถุสิปฺเปน ชีวติ;
เอวํ วาเสฏฺ ชานาหิ, สิปฺปิโก โส น พฺราหฺมโณ.
‘‘โย หิ โกจิ มนุสฺเสสุ, โวหารํ อุปชีวติ;
เอวํ วาเสฏฺ ชานาหิ, วาณิโช โส น พฺราหฺมโณ.
‘‘โย หิ โกจิ มนุสฺเสสุ, ปรเปสฺเสน ชีวติ;
เอวํ วาเสฏฺ ชานาหิ, เปสฺสิโก [เปสฺสโก (ก.)] โส น พฺราหฺมโณ.
‘‘โย หิ โกจิ มนุสฺเสสุ, อทินฺนํ อุปชีวติ;
เอวํ ¶ วาเสฏฺ ชานาหิ, โจโร เอโส น พฺราหฺมโณ.
‘‘โย หิ โกจิ มนุสฺเสสุ, อิสฺสตฺถํ อุปชีวติ;
เอวํ วาเสฏฺ ชานาหิ, โยธาชีโว น พฺราหฺมโณ.
‘‘โย หิ โกจิ มนุสฺเสสุ, โปโรหิจฺเจน ชีวติ;
เอวํ วาเสฏฺ ชานาหิ, ยาชโก เอโส น พฺราหฺมโณ.
‘‘โย ¶ หิ โกจิ มนุสฺเสสุ, คามํ รฏฺฺจ ภฺุชติ;
เอวํ วาเสฏฺ ชานาหิ, ราชา เอโส น พฺราหฺมโณ.
‘‘น ¶ จาหํ พฺราหฺมณํ พฺรูมิ, โยนิชํ มตฺติสมฺภวํ;
โภวาทิ นาม โส โหติ, สเจ [ส เว (สี. สฺยา.)] โหติ สกิฺจโน;
อกิฺจนํ อนาทานํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘สพฺพสํโยชนํ เฉตฺวา, โส เว น ปริตสฺสติ;
สงฺคาติคํ วิสํยุตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘เฉตฺวา ¶ นทฺธึ วรตฺตฺจ, สนฺทานํ สหนุกฺกมํ;
อุกฺขิตฺตปลิฆํ พุทฺธํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘อกฺโกสํ วธพนฺธฺจ, อทุฏฺโ โย ติติกฺขติ;
ขนฺตีพลํ พลานีกํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘อกฺโกธนํ วตวนฺตํ, สีลวนฺตํ อนุสฺสทํ;
ทนฺตํ อนฺติมสารีรํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘วาริ โปกฺขรปตฺเตว, อารคฺเคริว สาสโป;
โย น ลิมฺปติ กาเมสุ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘โย ¶ ทุกฺขสฺส ปชานาติ, อิเธว ขยมตฺตโน;
ปนฺนภารํ วิสํยุตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘คมฺภีรปฺํ เมธาวึ, มคฺคามคฺคสฺส โกวิทํ;
อุตฺตมตฺถมนุปฺปตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘อสํสฏฺํ คหฏฺเหิ, อนาคาเรหิ จูภยํ;
อโนกสาริมปฺปิจฺฉํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘นิธาย ทณฺฑํ ภูเตสุ, ตเสสุ ถาวเรสุ จ;
โย น หนฺติ น ฆาเตติ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘อวิรุทฺธํ ¶ วิรุทฺเธสุ, อตฺตทณฺเฑสุ นิพฺพุตํ;
สาทาเนสุ อนาทานํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘ยสฺส ¶ ราโค จ โทโส จ, มาโน มกฺโข จ ปาติโต;
สาสโปริว อารคฺคา, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘อกกฺกสํ ¶ วิฺาปนึ, คิรํ สจฺจมุทีรเย;
ยาย นาภิสเช กฺจิ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘โยธ ทีฆํ ว รสฺสํ วา, อณุํ ถูลํ สุภาสุภํ;
โลเก อทินฺนํ นาทิยติ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘อาสา ยสฺส น วิชฺชนฺติ, อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จ;
นิราสาสํ [นิราสยํ (สี. สฺยา. ปี.), นิราสกํ (?)] วิสํยุตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘ยสฺสาลยา น วิชฺชนฺติ, อฺาย อกถํกถี;
อมโตคธมนุปฺปตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘โยธ ¶ ปฺฺุจ ปาปฺจ, อุโภ สงฺคมุปจฺจคา;
อโสกํ วิรชํ สุทฺธํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘จนฺทํว วิมลํ สุทฺธํ, วิปฺปสนฺนมนาวิลํ;
นนฺทีภวปริกฺขีณํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘โยมํ ปลิปถํ ทุคฺคํ, สํสารํ โมหมจฺจคา;
ติณฺโณ ปารงฺคโต ฌายี, อเนโช อกถํกถี;
อนุปาทาย นิพฺพุโต, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘โยธ กาเม ปหนฺตฺวาน, อนาคาโร ปริพฺพเช;
กามภวปริกฺขีณํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘โยธ ¶ ตณฺหํ ปหนฺตฺวาน, อนาคาโร ปริพฺพเช;
ตณฺหาภวปริกฺขีณํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘หิตฺวา มานุสกํ โยคํ, ทิพฺพํ โยคํ อุปจฺจคา;
สพฺพโยควิสํยุตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘หิตฺวา รติฺจ อรตึ, สีติภูตํ นิรูปธึ;
สพฺพโลกาภิภุํ วีรํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘จุตึ ¶ ¶ โย เวทิ [โย’เวติ (?) อิติวุตฺตเก ๙๙ อฏฺกถาสํวณนา ปสฺสิตพฺพา] ตฺตานํ, อุปปตฺติฺจ สพฺพโส;
อสตฺตํ สุคตํ พุทฺธํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘ยสฺส คตึ น ชานนฺติ, เทวา คนฺธพฺพมานุสา;
ขีณาสวํ อรหนฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘ยสฺส ปุเร จ ปจฺฉา จ, มชฺเฌ จ นตฺถิ กิฺจนํ;
อกิฺจนํ ¶ อนาทานํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘อุสภํ ปวรํ วีรํ, มเหสึ วิชิตาวินํ;
อเนชํ นฺหาตกํ พุทฺธํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘ปุพฺเพนิวาสํ โย เวทิ [โย’เวติ (?) อิติวุตฺตเก ๙๙ อฏฺกถาสํวณนา ปสฺสิตพฺพา], สคฺคาปายฺจ ปสฺสติ;
อโถ ชาติกฺขยํ ปตฺโต, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
‘‘สมฺา เหสา โลกสฺมึ, นามโคตฺตํ ปกปฺปิตํ;
สมฺมุจฺจา สมุทาคตํ, ตตฺถ ตตฺถ ปกปฺปิตํ.
‘‘ทีฆรตฺตมนุสยิตํ, ทิฏฺิคตมชานตํ;
อชานนฺตา โน [อชานนฺตา เต (อฏฺ.) ม. นิ. ๒.๔๖๐] ปพฺรุวนฺติ, ชาติยา โหติ พฺราหฺมโณ.
‘‘น ¶ ชจฺจา พฺราหฺมโณ โหติ, น ชจฺจา โหติ อพฺราหฺมโณ;
กมฺมุนา พฺราหฺมโณ โหติ, กมฺมุนา โหติ อพฺราหฺมโณ.
‘‘กสฺสโก กมฺมุนา โหติ, สิปฺปิโก โหติ กมฺมุนา;
วาณิโช กมฺมุนา โหติ, เปสฺสิโก โหติ กมฺมุนา.
‘‘โจโรปิ กมฺมุนา โหติ, โยธาชีโวปิ กมฺมุนา;
ยาชโก กมฺมุนา โหติ, ราชาปิ โหติ กมฺมุนา.
‘‘เอวเมตํ ¶ ¶ ยถาภูตํ, กมฺมํ ปสฺสนฺติ ปณฺฑิตา;
ปฏิจฺจสมุปฺปาททสฺสา, กมฺมวิปากโกวิทา.
‘‘กมฺมุนา วตฺตติ โลโก, กมฺมุนา วตฺตติ ปชา;
กมฺมนิพนฺธนา สตฺตา, รถสฺสาณีว ยายโต.
‘‘ตเปน พฺรหฺมจริเยน, สํยเมน ทเมน จ;
เอเตน ¶ พฺราหฺมโณ โหติ, เอตํ พฺราหฺมณมุตฺตมํ.
‘‘ตีหิ วิชฺชาหิ สมฺปนฺโน, สนฺโต ขีณปุนพฺภโว;
เอวํ วาเสฏฺ ชานาหิ, พฺรหฺมา สกฺโก วิชานต’’นฺติ.
เอวํ วุตฺเต, วาเสฏฺภารทฺวาชา มาณวา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสเก โน ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปเต [ปาณุเปตํ (ก.)] สรณํ คเต’’ติ.
วาเสฏฺสุตฺตํ นวมํ นิฏฺิตํ.
๑๐. โกกาลิกสุตฺตํ
เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข โกกาลิโก ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ ¶ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โกกาลิโก ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปาปิจฺฉา, ภนฺเต, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา, ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คตา’’ติ.
เอวํ วุตฺเต, ภควา โกกาลิกํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘มา เหวํ, โกกาลิก, มา เหวํ, โกกาลิก! ปสาเทหิ, โกกาลิก, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ. เปสลา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา’’ติ.
ทุติยมฺปิ โข…เป… ¶ ตติยมฺปิ โข โกกาลิโก ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิฺจาปิ เม, ภนฺเต, ภควา สทฺธายิโก ปจฺจยิโก, อถ โข ปาปิจฺฉาว สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา, ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คตา’’ติ. ตติยมฺปิ โข ภควา โกกาลิกํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘มา เหวํ, โกกาลิก ¶ , มา เหวํ, โกกาลิก! ปสาเทหิ, โกกาลิก, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ. เปสลา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา’’ติ.
อถ โข โกกาลิโก ภิกฺขุ อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อจิรปฺปกฺกนฺตสฺส จ โกกาลิกสฺส ภิกฺขุโน สาสปมตฺตีหิ ปิฬกาหิ สพฺโพ กาโย ผุโฏ [ผุฏฺโ (สฺยา.)] อโหสิ; สาสปมตฺติโย หุตฺวา มุคฺคมตฺติโย อเหสุํ; มุคฺคมตฺติโย หุตฺวา กฬายมตฺติโย อเหสุํ; กฬายมตฺติโย หุตฺวา โกลฏฺิมตฺติโย อเหสุํ; โกลฏฺิมตฺติโย ¶ หุตฺวา โกลมตฺติโย อเหสุํ; โกลมตฺติโย หุตฺวา อามลกมตฺติโย อเหสุํ; อามลกมตฺติโย หุตฺวา เพฬุวสลาฏุกมตฺติโย อเหสุํ; เพฬุวสลาฏุกมตฺติโย หุตฺวา พิลฺลมตฺติโย อเหสุํ; พิลฺลมตฺติโย หุตฺวา ปภิชฺชึสุ; ปุพฺพฺจ โลหิตฺจ ปคฺฆรึสุ. อถ โข โกกาลิโก ภิกฺขุ เตเนวาพาเธน กาลมกาสิ. กาลงฺกโต จ โกกาลิโก ภิกฺขุ ปทุมํ นิรยํ อุปปชฺชิ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ อาฆาเตตฺวา ¶ .
อถ โข พฺรหฺมา สหมฺปติ อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ ¶ . เอกมนฺตํ, ิโต โข พฺรหฺมา สหมฺปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โกกาลิโก, ภนฺเต, ภิกฺขุ กาลงฺกโต; กาลงฺกโต จ, ภนฺเต, โกกาลิโก ภิกฺขุ ปทุมํ นิรยํ อุปปนฺโน สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ อาฆาเตตฺวา’’ติ. อิทมโวจ พฺรหฺมา สหมฺปติ; อิทํ วตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิ.
อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิมํ, ภิกฺขเว, รตฺตึ พฺรหฺมา สหมฺปติ อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา…เป… อิทมโวจ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา สหมฺปติ, อิทํ วตฺวา มํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายี’’ติ.
เอวํ วุตฺเต, อฺตโร ภิกฺขุ ภควนฺตํ ¶ เอตทโวจ – ‘‘กีวทีฆํ นุ โข, ภนฺเต, ปทุเม นิรเย อายุปฺปมาณ’’นฺติ? ‘‘ทีฆํ โข, ภิกฺขุ, ปทุเม นิรเย อายุปฺปมาณํ; ตํ น สุกรํ สงฺขาตุํ เอตฺตกานิ วสฺสานิ อิติ วา เอตฺตกานิ วสฺสสตานิ อิติ วา เอตฺตกานิ วสฺสสหสฺสานิ ¶ อิติ วา เอตฺตกานิ วสฺสสตสหสฺสานิ อิติ วา’’ติ. ‘‘สกฺกา ปน, ภนฺเต, อุปมา [อุปมํ (สี. สฺยา. ก.)] กาตุ’’นฺติ? ‘‘สกฺกา, ภิกฺขู’’ติ ภควา อโวจ –
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติขาริโก โกสลโก ติลวาโห; ตโต ปุริโส วสฺสสตสฺส วสฺสสตสฺส อจฺจเยน เอกเมกํ ติลํ อุทฺธเรยฺย. ขิปฺปตรํ โข โส ภิกฺขุ วีสติขาริโก โกสลโก ติลวาโห ¶ อิมินา อุปกฺกเมน ปริกฺขยํ ปริยาทานํ คจฺเฉยฺย, นตฺเวว เอโก อพฺพุโท นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อพฺพุทา นิรยา เอวเมโก นิรพฺพุโท นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ นิรพฺพุทา นิรยา เอวเมโก อพโพ นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อพพา นิรยา เอวเมโก อหโห นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อหหา นิรยา เอวเมโก อฏโฏ นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อฏฏา นิรยา เอวเมโก กุมุโท นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ กุมุทา นิรยา เอวเมโก โสคนฺธิโก นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ โสคนฺธิกา นิรยา เอวเมโก อุปฺปลโก นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อุปฺปลกา นิรยา เอวเมโก ปุณฺฑรีโก นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ ปุณฺฑรีกา นิรยา เอวเมโก ปทุโม นิรโย. ปทุมํ โข ปน ภิกฺขุ นิรยํ โกกาลิโก ภิกฺขุ อุปปนฺโน สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ อาฆาเตตฺวา’’ติ. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘ปุริสสฺส ¶ ¶ หิ ชาตสฺส, กุารี [กุธารี (ก.)] ชายเต มุเข;
ยาย ฉินฺทติ อตฺตานํ, พาโล ทุพฺภาสิตํ ภณํ.
‘‘โย นินฺทิยํ ปสํสติ, ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโย;
วิจินาติ มุเขน โส กลึ, กลินา ¶ เตน สุขํ น วินฺทติ.
‘‘อปฺปมตฺโต ¶ อยํ กลิ, โย อกฺเขสุ ธนปราชโย;
สพฺพสฺสาปิ สหาปิ อตฺตนา, อยเมว มหตฺตโร [มหนฺตกโร (สี.)] กลิ;
โย สุคเตสุ มนํ ปโทสเย.
‘‘สตํ สหสฺสานํ นิรพฺพุทานํ, ฉตฺตึสติ ปฺจ จ อพฺพุทานิ [อพฺพุทานํ (ก.)];
ยมริยครหี นิรยํ อุเปติ, วาจํ มนฺจ ปณิธาย ปาปกํ.
‘‘อภูตวาที นิรยํ อุเปติ, โย วาปิ กตฺวา น กโรมิจาห;
อุโภปิ เต เปจฺจ สมา ภวนฺติ, นิหีนกมฺมา มนุชา ปรตฺถ.
‘‘โย อปฺปทุฏฺสฺส นรสฺส ทุสฺสติ, สุทฺธสฺส โปสสฺส อนงฺคณสฺส;
ตเมว พาลํ ปจฺเจติ ปาปํ, สุขุโม รโช ปฏิวาตํว ขิตฺโต.
‘‘โย โลภคุเณ อนุยุตฺโต, โส วจสา ปริภาสติ อฺเ;
อสทฺโธ ¶ ¶ กทริโย อวทฺู, มจฺฉริ เปสุณิยํ [เปสุณิยสฺมึ (พหูสุ)] อนุยุตฺโต.
‘‘มุขทุคฺค วิภูต อนริย, ภูนหุ [ภุนหต (สฺยา. ก.)] ปาปก ทุกฺกฏการิ;
ปุริสนฺต กลี อวชาต, มา พหุภาณิธ เนรยิโกสิ.
‘‘รชมากิรสี ¶ อหิตาย, สนฺเต ครหสิ กิพฺพิสการี;
พหูนิ ทุจฺจริตานิ จริตฺวา, คจฺฉสิ โข ปปตํ จิรรตฺตํ.
‘‘น หิ นสฺสติ กสฺสจิ กมฺมํ, เอติ หตํ ลภเตว สุวามิ;
ทุกฺขํ มนฺโท ปรโลเก, อตฺตนิ ปสฺสติ กิพฺพิสการี.
‘‘อโยสงฺกุสมาหตฏฺานํ ¶ , ติณฺหธารมยสูลมุเปติ;
อถ ¶ ตตฺตอโยคุฬสนฺนิภํ, โภชนมตฺถิ ตถา ปติรูปํ.
‘‘น หิ วคฺคุ วทนฺติ วทนฺตา, นาภิชวนฺติ น ตาณมุเปนฺติ;
องฺคาเร ¶ สนฺถเต สยนฺติ [เสนฺติ (สี. สฺยา. ปี.)], คินิสมฺปชฺชลิตํ ปวิสนฺติ.
‘‘ชาเลน จ โอนหิยาน, ตตฺถ หนนฺติ อโยมยกุเฏภิ [อโยมยกูเฏหิ (สี. สฺยา. ปี.)];
อนฺธํว ติมิสมายนฺติ, ตํ วิตตฺหิ ยถา มหิกาโย.
‘‘อถ โลหมยํ ปน กุมฺภึ, คินิสมฺปชฺชลิตํ ปวิสนฺติ;
ปจฺจนฺติ หิ ตาสุ จิรรตฺตํ, อคฺคินิสมาสุ [คินิสฺสมาสุ (ก.)] สมุปฺปิลวาเต.
‘‘อถ ปุพฺพโลหิตมิสฺเส, ตตฺถ กึ ปจฺจติ กิพฺพิสการี;
ยํ ยํ ¶ ทิสกํ [ทิสตํ (สี. สฺยา. ปี.)] อธิเสติ, ตตฺถ กิลิสฺสติ สมฺผุสมาโน.
‘‘ปุฬวาวสเถ ¶ สลิลสฺมึ, ตตฺถ กึ ปจฺจติ กิพฺพิสการี;
คนฺตุํ น หิ ตีรมปตฺถิ, สพฺพสมา หิ สมนฺตกปลฺลา.
‘‘อสิปตฺตวนํ ปน ติณฺหํ, ตํ ปวิสนฺติ สมุจฺฉิทคตฺตา;
ชิวฺหํ ¶ พลิเสน คเหตฺวา, อารชยารชยา วิหนนฺติ.
‘‘อถ เวตรณึ ปน ทุคฺคํ, ติณฺหธารขุรธารมุเปนฺติ;
ตตฺถ มนฺทา ปปตนฺติ, ปาปกรา ปาปานิ กริตฺวา.
‘‘ขาทนฺติ ¶ หิ ตตฺถ รุทนฺเต, สามา สพลา กาโกลคณา จ;
โสณา สิงฺคาลา [สิคาลา (สี. ปี.)] ปฏิคิทฺธา [ปฏิคิชฺฌา (สฺยา. ปี.)], กุลลา วายสา จ [กุลลา จ วายสา (?)] วิตุทนฺติ.
‘‘กิจฺฉา วตยํ อิธ วุตฺติ, ยํ ชโน ผุสติ [ปสฺสติ (สี. สฺยา. ปี.)] กิพฺพิสการี;
ตสฺมา อิธ ชีวิตเสเส, กิจฺจกโร สิยา นโร น จปฺปมชฺเช.
‘‘เต ¶ คณิตา วิทูหิ ติลวาหา, เย ปทุเม นิรเย อุปนีตา;
นหุตานิ หิ โกฏิโย ปฺจ ภวนฺติ, ทฺวาทส โกฏิสตานิ ปุนฺา [ปนยฺเย (ก.)].
‘‘ยาว ¶ ทุขา [ทุกฺขา (สี. สฺยา.), ทุกฺข (ปี. ก.)] นิรยา อิธ วุตฺตา, ตตฺถปิ ตาว จิรํ วสิตพฺพํ;
ตสฺมา ¶ สุจิเปสลสาธุคุเณสุ, วาจํ มนํ สตตํ [ปกตํ (สฺยา.)] ปริรกฺเข’’ติ.
โกกาลิกสุตฺตํ ทสมํ นิฏฺิตํ.
๑๑. นาลกสุตฺตํ
อานนฺทชาเต ติทสคเณ ปตีเต, สกฺกฺจ อินฺทํ สุจิวสเน จ เทเว;
ทุสฺสํ คเหตฺวา อติริว โถมยนฺเต, อสิโต อิสิ อทฺทส ทิวาวิหาเร.
ทิสฺวาน ¶ เทเว มุทิตมเน อุทคฺเค, จิตฺตึ กริตฺวาน อิทมโวจ [กริตฺวา อิทมโวจาสิ (สี.)] ตตฺถ;
‘‘กึ เทวสงฺโฆ อติริว กลฺยรูโป, ทุสฺสํ คเหตฺวา รมยถ [ภมยถ (สี.)] กึ ปฏิจฺจ.
‘‘ยทาปิ อาสี อสุเรหิ สงฺคโม, ชโย สุรานํ อสุรา ปราชิตา.
ตทาปิ เนตาทิโส โลมหํสโน, กิมพฺภุตํ ทฏฺุ มรู ปโมทิตา.
‘‘เสเฬนฺติ คายนฺติ จ วาทยนฺติ จ, ภุชานิ โผเฏนฺติ [โปเนฺติ (สี. ปี.), โปเถนฺติ (ก.)] จ นจฺจยนฺติ จ;
ปุจฺฉามิ ¶ โวหํ เมรุมุทฺธวาสิเน, ธุนาถ เม สํสยํ ขิปฺป มาริสา’’.
‘‘โส ¶ โพธิสตฺโต รตนวโร อตุลฺโย, มนุสฺสโลเก หิตสุขตฺถาย [หิตสุขตาย (สี. สฺยา. ปี.)] ชาโต;
สกฺยาน คาเม ชนปเท ลุมฺพิเนยฺเย, เตนมฺห ตุฏฺา อติริว กลฺยรูปา.
‘‘โส สพฺพสตฺตุตฺตโม อคฺคปุคฺคโล, นราสโภ สพฺพปชานมุตฺตโม;
วตฺเตสฺสติ ¶ จกฺกมิสิวฺหเย วเน, นทํว สีโห พลวา มิคาภิภู’’.
ตํ ¶ สทฺทํ สุตฺวา ตุริตมวสรี โส, สุทฺโธทนสฺส ตท ภวนํ อุปาวิสิ [อุปาคมิ (สี. ปี.)];
นิสชฺช ตตฺถ อิทมโวจาสิ สกฺเย, ‘‘กุหึ กุมาโร อหมปิ ทฏฺุกาโม’’.
ตโต กุมารํ ชลิตมิว สุวณฺณํ, อุกฺกามุเขว สุกุสลสมฺปหฏฺํ [สุกุสเลน สมฺปหฏฺํ (ก.)];
ททฺทลฺลมานํ [ททฺทฬฺหมานํ (ก.)] สิริยา อโนมวณฺณํ, ทสฺเสสุ ปุตฺตํ อสิตวฺหยสฺส สกฺยา.
ทิสฺวา กุมารํ สิขิมิว ปชฺชลนฺตํ, ตาราสภํว ¶ นภสิคมํ วิสุทฺธํ;
สูริยํ ตปนฺตํ สรทริวพฺภมุตฺตํ, อานนฺทชาโต วิปุลมลตฺถ ปีตึ.
อเนกสาขฺจ สหสฺสมณฺฑลํ, ฉตฺตํ มรู ธารยุมนฺตลิกฺเข;
สุวณฺณทณฺฑา วีติปตนฺติ จามรา, น ทิสฺสเร จามรฉตฺตคาหกา.
ทิสฺวา ¶ ¶ ชฏี กณฺหสิริวฺหโย อิสิ, สุวณฺณนิกฺขํ วิย ปณฺฑุกมฺพเล;
เสตฺจ ฉตฺตํ ธริยนฺต [ธาริยนฺต (สฺยา.), ธารยนฺตํ (สี. ก.)] มุทฺธนิ, อุทคฺคจิตฺโต สุมโน ปฏิคฺคเห.
ปฏิคฺคเหตฺวา ปน สกฺยปุงฺควํ, ชิคีสโต [ชิคึสโก (สี. สฺยา. ปี.)] ลกฺขณมนฺตปารคู;
ปสนฺนจิตฺโต คิรมพฺภุทีรยิ, ‘‘อนุตฺตรายํ ทฺวิปทานมุตฺตโม’’ [ทิปทานมุตฺตโม (สี. สฺยา. ปี.)].
อถตฺตโน คมนมนุสฺสรนฺโต, อกลฺยรูโป คฬยติ อสฺสุกานิ;
ทิสฺวาน สกฺยา อิสิมโวจุํ รุทนฺตํ,
‘‘โน เจ กุมาเร ภวิสฺสติ อนฺตราโย’’.
ทิสฺวาน สกฺเย อิสิมโวจ อกลฺเย, ‘‘นาหํ ¶ กุมาเร อหิตมนุสฺสรามิ;
น จาปิมสฺส ภวิสฺสติ อนฺตราโย, น โอรกายํ อธิมานสา [อธิมนสา (สี. สฺยา.)] ภวาถ.
‘‘สมฺโพธิยคฺคํ ผุสิสฺสตายํ กุมาโร, โส ธมฺมจกฺกํ ปรมวิสุทฺธทสฺสี;
วตฺเตสฺสตายํ พหุชนหิตานุกมฺปี, วิตฺถาริกสฺส ภวิสฺสติ พฺรหฺมจริยํ.
‘‘มมฺจ ¶ อายุ น จิรมิธาวเสโส, อถนฺตรา เม ภวิสฺสติ กาลกิริยา;
โสหํ น โสสฺสํ [สุสฺสํ (สี. สฺยา.)] อสมธุรสฺส ธมฺมํ, เตนมฺหิ อฏฺโฏ พฺยสนํคโต อฆาวี’’.
โส ¶ ¶ สากิยานํ วิปุลํ ชเนตฺวา ปีตึ, อนฺเตปุรมฺหา นิคฺคมา [นิรคมา (สี. สฺยา.), นิคมา (ก. สี.), นิรคม (ปี.)] พฺรหฺมจารี;
โส ภาคิเนยฺยํ สยํ อนุกมฺปมาโน, สมาทเปสิ อสมธุรสฺส ธมฺเม.
‘‘พุทฺโธติ โฆสํ ยท [ยทิ (สฺยา. ก.)] ปรโต สุณาสิ, สมฺโพธิปตฺโต วิวรติ ธมฺมมคฺคํ;
คนฺตฺวาน ตตฺถ สมยํ ปริปุจฺฉมาโน [สยํ ปริปุจฺฉิยาโน (สี. สฺยา.)], จรสฺสุ ตสฺมึ ภควติ พฺรหฺมจริยํ’’.
เตนานุสิฏฺโ หิตมเนน ตาทินา, อนาคเต ¶ ปรมวิสุทฺธทสฺสินา;
โส นาลโก อุปจิตปฺุสฺจโย, ชินํ ปติกฺขํ [ปติ + อิกฺขํ = ปติกฺขํ] ปริวสิ รกฺขิตินฺทฺริโย.
สุตฺวาน โฆสํ ชินวรจกฺกวตฺตเน, คนฺตฺวาน ทิสฺวา อิสินิสภํ ปสนฺโน;
โมเนยฺยเสฏฺํ ¶ มุนิปวรํ อปุจฺฉิ, สมาคเต อสิตาวฺหยสฺส สาสเนติ.
วตฺถุคาถา นิฏฺิตา.
‘‘อฺาตเมตํ วจนํ, อสิตสฺส ยถาตถํ;
ตํ ตํ โคตม ปุจฺฉามิ, สพฺพธมฺมาน ปารคุํ.
‘‘อนคาริยุเปตสฺส, ภิกฺขาจริยํ ชิคีสโต;
มุนิ ปพฺรูหิ เม ปุฏฺโ, โมเนยฺยํ อุตฺตมํ ปทํ’’.
‘‘โมเนยฺยํ เต อุปฺิสฺสํ, (อิติ ภควา) ทุกฺกรํ ทุรภิสมฺภวํ;
หนฺท เต นํ ปวกฺขามิ, สนฺถมฺภสฺสุ ทฬฺโห ภว.
‘‘สมานภาคํ ¶ กุพฺเพถ, คาเม อกฺกุฏฺวนฺทิตํ;
มโนปโทสํ รกฺเขยฺย, สนฺโต อนุณฺณโต จเร.
‘‘อุจฺจาวจา ¶ ¶ นิจฺฉรนฺติ, ทาเย อคฺคิสิขูปมา;
นาริโย มุนึ ปโลเภนฺติ, ตาสุ ตํ มา ปโลภยุํ.
‘‘วิรโต เมถุนา ธมฺมา, หิตฺวา กาเม ปโรปเร [ปโรวเร (สี. ปี.), วราวเร (สฺยา.)];
อวิรุทฺโธ ¶ อสารตฺโต, ปาเณสุ ตสถาวเร.
‘‘ยถา อหํ ตถา เอเต, ยถา เอเต ตถา อหํ;
อตฺตานํ อุปมํ กตฺวา, น หเนยฺย น ฆาตเย.
‘‘หิตฺวา อิจฺฉฺจ โลภฺจ, ยตฺถ สตฺโต ปุถุชฺชโน;
จกฺขุมา ปฏิปชฺเชยฺย, ตเรยฺย นรกํ อิมํ.
‘‘อูนูทโร มิตาหาโร, อปฺปิจฺฉสฺส อโลลุโป;
สทา [ส เว (ปี.)] อิจฺฉาย นิจฺฉาโต, อนิจฺโฉ โหติ นิพฺพุโต.
‘‘ส ปิณฺฑจารํ จริตฺวา, วนนฺตมภิหารเย;
อุปฏฺิโต รุกฺขมูลสฺมึ, อาสนูปคโต มุนิ.
‘‘ส ฌานปสุโต ธีโร, วนนฺเต รมิโต สิยา;
ฌาเยถ รุกฺขมูลสฺมึ, อตฺตานมภิโตสยํ.
‘‘ตโต รตฺยา วิวสาเน [วิวสเน (สี. สฺยา. ปี.)], คามนฺตมภิหารเย;
อวฺหานํ นาภินนฺเทยฺย, อภิหารฺจ คามโต.
‘‘น มุนี คามมาคมฺม, กุเลสุ สหสา จเร;
ฆาเสสนํ ฉินฺนกโถ, น วาจํ ปยุตํ ภเณ.
‘‘อลตฺถํ ยทิทํ สาธุ, นาลตฺถํ กุสลํ อิติ;
อุภเยเนว โส ตาที, รุกฺขํวุปนิวตฺตติ [รุกฺขํวุ’ปติวตฺตติ (ก.), รุกฺขํว อุปาติวตฺตติ (สฺยา.)].
‘‘ส ¶ ¶ ปตฺตปาณิ วิจรนฺโต, อมูโค มูคสมฺมโต;
อปฺปํ ทานํ น หีเฬยฺย, ทาตารํ นาวชานิยา.
‘‘อุจฺจาวจา ¶ หิ ปฏิปทา, สมเณน ปกาสิตา;
น ปารํ ¶ ทิคุณํ ยนฺติ, นยิทํ เอกคุณํ มุตํ.
‘‘ยสฺส จ วิสตา นตฺถิ, ฉินฺนโสตสฺส ภิกฺขุโน;
กิจฺจากิจฺจปฺปหีนสฺส, ปริฬาโห น วิชฺชติ.
‘‘โมเนยฺยํ เต อุปฺิสฺสํ, ขุรธารูปโม ภเว;
ชิวฺหาย ตาลุมาหจฺจ, อุทเร สฺโต สิยา.
‘‘อลีนจิตฺโต จ สิยา, น จาปิ พหุ จินฺตเย;
นิรามคนฺโธ อสิโต, พฺรหฺมจริยปรายโณ.
‘‘เอกาสนสฺส สิกฺเขถ, สมณูปาสนสฺส จ;
เอกตฺตํ โมนมกฺขาตํ, เอโก เจ อภิรมิสฺสสิ;
อถ ภาหิสิ [ภาสิหิ (สี. สฺยา. ปี.)] ทสทิสา.
‘‘สุตฺวา ธีรานํ นิคฺโฆสํ, ฌายีนํ กามจาคินํ;
ตโต หิริฺจ สทฺธฺจ, ภิยฺโย กุพฺเพถ มามโก.
‘‘ตํ ¶ นทีหิ วิชานาถ, โสพฺเภสุ ปทเรสุ จ;
สณนฺตา ยนฺติ กุโสพฺภา [กุสฺสุพฺภา (สี.)], ตุณฺหียนฺติ มโหทธี.
‘‘ยทูนกํ ตํ สณติ, ยํ ปูรํ สนฺตเมว ตํ;
อฑฺฒกุมฺภูปโม พาโล, รหโท ปูโรว ปณฺฑิโต.
‘‘ยํ สมโณ พหุํ ภาสติ, อุเปตํ อตฺถสฺหิตํ;
ชานํ โส ธมฺมํ เทเสติ, ชานํ โส พหุ ภาสติ.
‘‘โย ¶ จ ชานํ สํยตตฺโต, ชานํ น พหุ ภาสติ;
ส ¶ มุนี โมนมรหติ, ส มุนี โมนมชฺฌคา’’ติ.
นาลกสุตฺตํ เอกาทสมํ นิฏฺิตํ.
๑๒. ทฺวยตานุปสฺสนาสุตฺตํ
เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. เตน โข ปน สมเยน ภควา ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส ¶ ปุณฺณาย ปุณฺณมาย รตฺติยา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหติ ¶ . อถ โข ภควา ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตํ ภิกฺขุสงฺฆํ อนุวิโลเกตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ –
‘‘‘เย เต, ภิกฺขเว, กุสลา ธมฺมา อริยา นิยฺยานิกา สมฺโพธคามิโน, เตสํ โว, ภิกฺขเว, กุสลานํ ธมฺมานํ อริยานํ นิยฺยานิกานํ สมฺโพธคามีนํ กา อุปนิสา สวนายา’ติ อิติ เจ, ภิกฺขเว, ปุจฺฉิตาโร อสฺสุ, เต เอวมสฺสุ วจนียา – ‘ยาวเทว ทฺวยตานํ ธมฺมานํ ยถาภูตํ าณายา’ติ. กิฺจ ทฺวยตํ วเทถ?
(๑) ‘‘อิทํ ทุกฺขํ, อยํ ทุกฺขสมุทโยติ อยเมกานุปสฺสนา. อยํ ทุกฺขนิโรโธ, อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา ทฺวยตานุปสฺสิโน โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต ทฺวินฺนํ ผลานํ อฺตรํ ผลํ ปาฏิกงฺขํ – ทิฏฺเว ธมฺเม อฺา, สติ วา ¶ อุปาทิเสเส อนาคามิตา’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘เย ทุกฺขํ นปฺปชานนฺติ, อโถ ทุกฺขสฺส สมฺภวํ;
ยตฺถ จ สพฺพโส ทุกฺขํ, อเสสํ อุปรุชฺฌติ;
ตฺจ มคฺคํ น ชานนฺติ, ทุกฺขูปสมคามินํ.
‘‘เจโตวิมุตฺติหีนา เต, อโถ ปฺาวิมุตฺติยา;
อภพฺพา เต อนฺตกิริยาย, เต เว ชาติชรูปคา.
‘‘เย ¶ จ ทุกฺขํ ปชานนฺติ, อโถ ทุกฺขสฺส สมฺภวํ;
ยตฺถ จ สพฺพโส ทุกฺขํ, อเสสํ อุปรุชฺฌติ;
ตฺจ ¶ มคฺคํ ปชานนฺติ, ทุกฺขูปสมคามินํ.
‘‘เจโตวิมุตฺติสมฺปนฺนา, อโถ ปฺาวิมุตฺติยา;
ภพฺพา เต อนฺตกิริยาย, น เต ชาติชรูปคา’’ติ.
(๒) ‘‘‘สิยา อฺเนปิ ปริยาเยน สมฺมา ทฺวยตานุปสฺสนา’ติ, อิติ เจ, ภิกฺขเว, ปุจฺฉิตาโร อสฺสุ; ‘สิยา’ติสฺสุ วจนียา. กถฺจ สิยา? ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ สพฺพํ อุปธิปจฺจยาติ, อยเมกานุปสฺสนา. อุปธีนํ ¶ ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘อุปธินิทานา ปภวนฺติ ทุกฺขา, เย ¶ เกจิ โลกสฺมิมเนกรูปา;
โย เว อวิทฺวา อุปธึ กโรติ, ปุนปฺปุนํ ทุกฺขมุเปติ มนฺโท;
ตสฺมา ปชานํ อุปธึ น กยิรา, ทุกฺขสฺส ชาติปฺปภวานุปสฺสี’’ติ.
(๓) ‘‘‘สิยา อฺเนปิ ปริยาเยน สมฺมา ทฺวยตานุปสฺสนา’ติ, อิติ เจ, ภิกฺขเว, ปุจฺฉิตาโร อสฺสุ; ‘สิยา’ติสฺสุ วจนียา. กถฺจ สิยา? ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ สพฺพํ อวิชฺชาปจฺจยาติ, อยเมกานุปสฺสนา. อวิชฺชาย ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘ชาติมรณสํสารํ ¶ , เย วชนฺติ ปุนปฺปุนํ;
อิตฺถภาวฺถาภาวํ, อวิชฺชาเยว สา คติ.
‘‘อวิชฺชา หายํ มหาโมโห, เยนิทํ สํสิตํ จิรํ;
วิชฺชาคตา จ เย สตฺตา, น เต คจฺฉนฺติ [นาคจฺฉนฺติ (สี. ปี.)] ปุนพฺภว’’นฺติ.
(๔) ‘‘สิยา อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ สพฺพํ สงฺขารปจฺจยาติ, อยเมกานุปสฺสนา. สงฺขารานํ ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘ยํ ¶ ¶ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ, สพฺพํ สงฺขารปจฺจยา;
สงฺขารานํ นิโรเธน, นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโว.
‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, ทุกฺขํ สงฺขารปจฺจยา;
สพฺพสงฺขารสมถา, สฺานํ อุปโรธนา;
เอวํ ทุกฺขกฺขโย โหติ, เอตํ ตฺวา ยถาตถํ.
‘‘สมฺมทฺทสา เวทคุโน, สมฺมทฺาย ปณฺฑิตา;
อภิภุยฺย มารสํโยคํ, น คจฺฉนฺติ [นาคจฺฉนฺติ (สี. ปี.)] ปุนพฺภว’’นฺติ.
(๕) ‘‘สิยา ¶ ¶ อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ สพฺพํ วิฺาณปจฺจยาติ, อยเมกานุปสฺสนา. วิฺาณสฺส ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ, สพฺพํ วิฺาณปจฺจยา;
วิฺาณสฺส นิโรเธน, นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโว.
‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, ทุกฺขํ วิฺาณปจฺจยา;
วิฺาณูปสมา ภิกฺขุ, นิจฺฉาโต ปรินิพฺพุโต’’ติ.
(๖) ‘‘สิยา อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ สพฺพํ ผสฺสปจฺจยาติ, อยเมกานุปสฺสนา. ผสฺสสฺส ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ ¶ สตฺถา –
‘‘เตสํ ผสฺสปเรตานํ, ภวโสตานุสารินํ;
กุมฺมคฺคปฏิปนฺนานํ, อารา สํโยชนกฺขโย.
‘‘เย จ ผสฺสํ ปริฺาย, อฺายุปสเม [ปฺาย อุปสเม (สฺยา.)] รตา;
เต เว ผสฺสาภิสมยา, นิจฺฉาตา ปรินิพฺพุตา’’ติ.
(๗) ‘‘สิยา ¶ อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ สพฺพํ เวทนาปจฺจยาติ, อยเมกานุปสฺสนา. เวทนานํ ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘สุขํ ¶ วา ยทิ วา ทุกฺขํ, อทุกฺขมสุขํ สห;
อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ, ยํ กิฺจิ อตฺถิ เวทิตํ.
‘‘เอตํ ทุกฺขนฺติ ตฺวาน, โมสธมฺมํ ปโลกินํ [ปโลกิตํ (สี.)];
ผุสฺส ผุสฺส วยํ ปสฺสํ, เอวํ ตตฺถ วิชานติ [วิรชฺชติ (ก. สี.)];
เวทนานํ ขยา ภิกฺขุ, นิจฺฉาโต ปรินิพฺพุโต’’ติ.
(๘) ‘‘สิยา ¶ อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ สพฺพํ ตณฺหาปจฺจยาติ, อยเมกานุปสฺสนา. ตณฺหาย ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘ตณฺหาทุติโย ¶ ปุริโส, ทีฆมทฺธาน สํสรํ;
อิตฺถภาวฺถาภาวํ, สํสารํ นาติวตฺตติ.
‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, ตณฺหํ [ตณฺหา (พหูสุ) อิติวุตฺตเก ๑๕ ปสฺสิตพฺพํ] ทุกฺขสฺส สมฺภวํ;
วีตตณฺโห อนาทาโน, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ.
(๙) ‘‘สิยา อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ สพฺพํ อุปาทานปจฺจยาติ, อยเมกานุปสฺสนา. อุปาทานานํ [อุปาทานสฺส (สฺยา. ก.)] ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภูโต ทุกฺขํ นิคจฺฉติ;
ชาตสฺส มรณํ โหติ, เอโส ทุกฺขสฺส สมฺภโว.
‘‘ตสฺมา อุปาทานกฺขยา, สมฺมทฺาย ปณฺฑิตา;
ชาติกฺขยํ อภิฺาย, น คจฺฉนฺติ ปุนพฺภว’’นฺติ.
(๑๐) ‘‘สิยา ¶ ¶ อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ สพฺพํ อารมฺภปจฺจยาติ, อยเมกานุปสฺสนา. อารมฺภานํ ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ, สพฺพํ อารมฺภปจฺจยา;
อารมฺภานํ นิโรเธน, นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโว.
‘‘เอตมาทีนวํ ¶ ตฺวา, ทุกฺขํ อารมฺภปจฺจยา;
สพฺพารมฺภํ ปฏินิสฺสชฺช, อนารมฺเภ วิมุตฺติโน.
‘‘อุจฺฉินฺนภวตณฺหสฺส, สนฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน;
วิกฺขีโณ [วิติณฺโณ (สี.)] ชาติสํสาโร, นตฺถิ ตสฺส ปุนพฺภโว’’ติ.
(๑๑) ‘‘สิยา ¶ อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ สพฺพํ อาหารปจฺจยาติ, อยเมกานุปสฺสนา. อาหารานํ ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ, สพฺพํ อาหารปจฺจยา;
อาหารานํ นิโรเธน, นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโว.
‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, ทุกฺขํ อาหารปจฺจยา;
สพฺพาหารํ ปริฺาย, สพฺพาหารมนิสฺสิโต.
‘‘อาโรคฺยํ ¶ สมฺมทฺาย, อาสวานํ ปริกฺขยา;
สงฺขาย เสวี ธมฺมฏฺโ, สงฺขฺยํ [สงฺขํ (สี. ปี.)] โนเปติ เวทคู’’ติ.
(๑๒) ‘‘สิยา อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? ยํ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ สพฺพํ อิฺชิตปจฺจยาติ, อยเมกานุปสฺสนา. อิฺชิตานํ ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโวติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘ยํ ¶ ¶ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ, สพฺพํ อิฺชิตปจฺจยา;
อิฺชิตานํ นิโรเธน, นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโว.
‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, ทุกฺขํ อิฺชิตปจฺจยา;
ตสฺมา หิ เอชํ โวสฺสชฺช, สงฺขาเร อุปรุนฺธิย;
อเนโช อนุปาทาโน, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ.
(๑๓) ‘‘สิยา อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? นิสฺสิตสฺส จลิตํ โหตีติ, อยเมกานุปสฺสนา. อนิสฺสิโต น จลตีติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘อนิสฺสิโต น จลติ, นิสฺสิโต จ อุปาทิยํ;
อิตฺถภาวฺถาภาวํ, สํสารํ นาติวตฺตติ.
‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, นิสฺสเยสุ มหพฺภยํ;
อนิสฺสิโต อนุปาทาโน, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ.
(๑๔) ‘‘สิยา ¶ อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? รูเปหิ, ภิกฺขเว, อรูปา [อารุปฺปา (สี. ปี.)] สนฺตตราติ, อยเมกานุปสฺสนา. อรูเปหิ ¶ นิโรโธ สนฺตตโรติ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘เย จ รูปูปคา สตฺตา, เย จ อรูปฏฺายิโน [อารุปฺปวาสิโน (สี. ปี.)];
นิโรธํ อปฺปชานนฺตา, อาคนฺตาโร ปุนพฺภวํ.
‘‘เย จ รูเป ปริฺาย, อรูเปสุ อสณฺิตา [สุสณฺิตา (สี. สฺยา. ปี.)];
นิโรเธ ¶ เย วิมุจฺจนฺติ, เต ชนา มจฺจุหายิโน’’ติ.
(๑๕) ‘‘สิยา อฺเนปิ…เป… กถฺจ สิยา? ยํ, ภิกฺขเว, สเทวกสฺส โลกสฺส สมารกสฺส สพฺรหฺมกสฺส สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อิทํ สจฺจนฺติ อุปนิชฺฌายิตํ ตทมริยานํ เอตํ มุสาติ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺํ, อยเมกานุปสฺสนา. ยํ ¶ , ภิกฺขเว, สเทวกสฺส…เป… สเทวมนุสฺสาย อิทํ มุสาติ อุปนิชฺฌายิตํ, ตทมริยานํ เอตํ สจฺจนฺติ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺํ, อยํ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา…เป… อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘อนตฺตนิ อตฺตมานึ [อตฺตมานี (สฺยา.), อตฺตมานํ (ปี. ก.)], ปสฺส โลกํ สเทวกํ;
นิวิฏฺํ นามรูปสฺมึ, อิทํ สจฺจนฺติ มฺติ.
‘‘เยน เยน หิ มฺนฺติ, ตโต ตํ โหติ อฺถา;
ตฺหิ ตสฺส มุสา โหติ, โมสธมฺมฺหิ อิตฺตรํ.
‘‘อโมสธมฺมํ ¶ นิพฺพานํ, ตทริยา สจฺจโต วิทู;
เต เว สจฺจาภิสมยา, นิจฺฉาตา ปรินิพฺพุตา’’ติ.
(๑๖) ‘‘‘สิยา อฺเนปิ ปริยาเยน สมฺมา ทฺวยตานุปสฺสนา’ติ, อิติ เจ, ภิกฺขเว, ปุจฺฉิตาโร อสฺสุ; ‘สิยา’ติสฺสุ วจนียา. กถฺจ สิยา? ยํ, ภิกฺขเว, สเทวกสฺส โลกสฺส สมารกสฺส สพฺรหฺมกสฺส สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อิทํ สุขนฺติ อุปนิชฺฌายิตํ, ตทมริยานํ เอตํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺํ, อยเมกานุปสฺสนา ¶ . ยํ, ภิกฺขเว, สเทวกสฺส…เป… สเทวมนุสฺสาย อิทํ ทุกฺขนฺติ อุปนิชฺฌายิตํ ตทมริยานํ เอตํ สุขนฺติ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺํ, อยํ ¶ ทุติยานุปสฺสนา. เอวํ สมฺมา ทฺวยตานุปสฺสิโน โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต ทฺวินฺนํ ผลานํ อฺตรํ ผลํ ปาฏิกงฺขํ – ทิฏฺเว ธมฺเม อฺา, สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตาติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘รูปา สทฺทา รสา คนฺธา, ผสฺสา ธมฺมา จ เกวลา;
อิฏฺา กนฺตา มนาปา จ, ยาวตตฺถีติ วุจฺจติ.
‘‘สเทวกสฺส โลกสฺส, เอเต โว สุขสมฺมตา;
ยตฺถ เจเต นิรุชฺฌนฺติ, ตํ เนสํ ทุกฺขสมฺมตํ.
‘‘สุขนฺติ ¶ ทิฏฺมริเยหิ, สกฺกายสฺสุปโรธนํ;
ปจฺจนีกมิทํ โหติ, สพฺพโลเกน ปสฺสตํ.
‘‘ยํ ¶ ปเร สุขโต อาหุ, ตทริยา อาหุ ทุกฺขโต;
ยํ ปเร ทุกฺขโต อาหุ, ตทริยา สุขโต วิทู.
‘‘ปสฺส ธมฺมํ ทุราชานํ, สมฺปมูฬฺเหตฺถวิทฺทสุ [สมฺปมูฬฺเหตฺถ อวิทฺทสุ (สี. ปี.), สมฺมูฬฺเหตฺถ อวิทฺทสุ (?)];
นิวุตานํ ตโม โหติ, อนฺธกาโร อปสฺสตํ.
‘‘สตฺจ วิวฏํ โหติ, อาโลโก ปสฺสตามิว;
สนฺติเก น วิชานนฺติ, มคฺคา ธมฺมสฺส โกวิทา.
‘‘ภวราคปเรเตหิ ¶ , ภวโสตานุสาริภิ;
มารเธยฺยานุปนฺเนหิ, นายํ ธมฺโม สุสมฺพุโธ.
‘‘โก นุ อฺตฺรมริเยหิ, ปทํ สมฺพุทฺธุมรหติ;
ยํ ปทํ สมฺมทฺาย, ปรินิพฺพนฺติ อนาสวา’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ. อิมสฺมึ จ [อิมสฺมึ โข (สี.)] ปน เวยฺยากรณสฺมึ ภฺมาเน สฏฺิมตฺตานํ ภิกฺขูนํ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสูติ.
ทฺวยตานุปสฺสนาสุตฺตํ ทฺวาทสมํ นิฏฺิตํ.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
สจฺจํ ¶ อุปธิ อวิชฺชา จ, สงฺขาเร วิฺาณปฺจมํ;
ผสฺสเวทนิยา ตณฺหา, อุปาทานารมฺภอาหารา;
อิฺชิตํ จลิตํ รูปํ, สจฺจํ ทุกฺเขน โสฬสาติ.
มหาวคฺโค ตติโย นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
ปพฺพชฺชา จ ปธานฺจ, สุภาสิตฺจ สุนฺทริ;
มาฆสุตฺตํ สภิโย จ, เสโล สลฺลฺจ วุจฺจติ.
วาเสฏฺโ จาปิ โกกาลิ, นาลโก ทฺวยตานุปสฺสนา;
ทฺวาทเสตานิ สุตฺตานิ, มหาวคฺโคติ วุจฺจตีติ.