📜
๕. ปารายนวคฺโค
วตฺถุคาถา
โกสลานํ ¶ ¶ ¶ ¶ ปุรา รมฺมา, อคมา ทกฺขิณาปถํ;
อากิฺจฺํ ปตฺถยาโน, พฺราหฺมโณ มนฺตปารคู.
โส อสฺสกสฺส วิสเย, อฬกสฺส [มุฬกสฺส (สฺยา.), มูฬฺหกสฺส (ก.), มฬกสฺส (นิทฺเทส)] สมาสเน;
วสิ โคธาวรีกูเล, อฺุเฉน จ ผเลน จ.
ตสฺเสว อุปนิสฺสาย, คาโม จ วิปุโล อหุ;
ตโต ชาเตน อาเยน, มหายฺมกปฺปยิ.
มหายฺํ ยชิตฺวาน, ปุน ปาวิสิ อสฺสมํ;
ตสฺมึ ปฏิปวิฏฺมฺหิ, อฺโ อาคฺฉิ พฺราหฺมโณ.
อุคฺฆฏฺฏปาโท ตสิโต [ตสฺสิโต (ก.)], ปงฺกทนฺโต รชสฺสิโร;
โส จ นํ อุปสงฺกมฺม, สตานิ ปฺจ ยาจติ.
ตเมนํ พาวรี ทิสฺวา, อาสเนน นิมนฺตยิ;
สุขฺจ กุสลํ ปุจฺฉิ, อิทํ วจนมพฺรวิ.
‘‘ยํ โข มม เทยฺยธมฺมํ, สพฺพํ วิสชฺชิตํ มยา;
อนุชานาหิ เม พฺรหฺเม, นตฺถิ ปฺจสตานิ เม’’.
‘‘สเจ ¶ เม ยาจมานสฺส, ภวํ นานุปทสฺสติ;
สตฺตเม ทิวเส ตุยฺหํ, มุทฺธา ผลตุ สตฺตธา’’.
อภิสงฺขริตฺวา ¶ ¶ กุหโก, เภรวํ โส อกิตฺตยิ;
ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, พาวรี ทุกฺขิโต อหุ.
อุสฺสุสฺสติ อนาหาโร, โสกสลฺลสมปฺปิโต;
อโถปิ เอวํ จิตฺตสฺส, ฌาเน น รมตี มโน.
อุตฺรสฺตํ ทุกฺขิตํ ทิสฺวา, เทวตา อตฺถกามินี;
พาวรึ อุปสงฺกมฺม, อิทํ วจนมพฺรวิ.
‘‘น ¶ โส มุทฺธํ ปชานาติ, กุหโก โส ธนตฺถิโก;
มุทฺธนิ มุทฺธปาเต วา, าณํ ตสฺส น วิชฺชติ’’.
‘‘โภตี จรหิ ชานาสิ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิตา;
มุทฺธํ มุทฺธาธิปาตฺจ, ตํ สุโณม วโจ ตว’’.
‘‘อหมฺเปตํ น ชานามิ, าณเมตฺถ น วิชฺชติ;
มุทฺธนิ มุทฺธาธิปาเต จ, ชินานํ เหตฺถ [มุทฺธํ มุทฺธาธิปาโต จ, ชินานํ เหต (สี. สฺยา. ปี.)] ทสฺสนํ’’.
‘‘อถ โก จรหิ ชานาติ, อสฺมึ ปถวิมณฺฑเล [ปุถวิมณฺฑเล (สี. ปี.)];
มุทฺธํ มุทฺธาธิปาตฺจ, ตํ เม อกฺขาหิ เทวเต’’.
‘‘ปุรา ¶ กปิลวตฺถุมฺหา, นิกฺขนฺโต โลกนายโก;
อปจฺโจ โอกฺกากราชสฺส, สกฺยปุตฺโต ปภงฺกโร.
‘‘โส หิ พฺราหฺมณ สมฺพุทฺโธ, สพฺพธมฺมาน ปารคู;
สพฺพาภิฺาพลปฺปตฺโต, สพฺพธมฺเมสุ จกฺขุมา;
สพฺพกมฺมกฺขยํ ปตฺโต, วิมุตฺโต อุปธิกฺขเย.
‘‘พุทฺโธ โส ภควา โลเก, ธมฺมํ เทเสติ จกฺขุมา;
ตํ ¶ ตฺวํ คนฺตฺวาน ปุจฺฉสฺสุ, โส เต ตํ พฺยากริสฺสติ’’.
สมฺพุทฺโธติ ¶ วโจ สุตฺวา, อุทคฺโค พาวรี อหุ;
โสกสฺส ตนุโก อาสิ, ปีติฺจ วิปุลํ ลภิ.
โส พาวรี อตฺตมโน อุทคฺโค, ตํ เทวตํ ปุจฺฉติ เวทชาโต;
‘‘กตมมฺหิ คาเม นิคมมฺหิ วา ปน, กตมมฺหิ วา ชนปเท โลกนาโถ;
ยตฺถ คนฺตฺวาน ปสฺเสมุ [คนฺตฺวา นมสฺเสมุ (สี. สฺยา. ปี.)], สมฺพุทฺธํ ทฺวิปทุตฺตมํ’’ [ทฺวิปทุตฺตมํ (สี. สฺยา. ปี.)],.
‘‘สาวตฺถิยํ โกสลมนฺทิเร ชิโน, ปหูตปฺโ วรภูริเมธโส;
โส สกฺยปุตฺโต วิธุโร อนาสโว, มุทฺธาธิปาตสฺส วิทู นราสโภ’’.
ตโต ¶ อามนฺตยี สิสฺเส, พฺราหฺมเณ มนฺตปารเค;
‘‘เอถ มาณวา อกฺขิสฺสํ, สุณาถ วจนํ มม.
‘‘ยสฺเสโส ¶ ทุลฺลโภ โลเก, ปาตุภาโว อภิณฺหโส;
สฺวาชฺช โลกมฺหิ อุปฺปนฺโน, สมฺพุทฺโธ อิติ วิสฺสุโต;
ขิปฺปํ คนฺตฺวาน สาวตฺถึ, ปสฺสวฺโห ทฺวิปทุตฺตมํ’’.
‘‘กถํ จรหิ ชาเนมุ, ทิสฺวา พุทฺโธติ พฺราหฺมณ;
อชานตํ โน ปพฺรูหิ, ยถา ชาเนมุ ตํ มยํ’’.
‘‘อาคตานิ ¶ หิ มนฺเตสุ, มหาปุริสลกฺขณา;
ทฺวตฺตึสานิ จ [ทฺวิตฺตึสา จ (สี. สฺยา. ปี.), ทฺวิตฺตึส ตานิ (?)] พฺยากฺขาตา, สมตฺตา อนุปุพฺพโส.
‘‘ยสฺเสเต โหนฺติ คตฺเตสุ, มหาปุริสลกฺขณา;
ทฺเวเยว ตสฺส คติโย, ตติยา หิ น วิชฺชติ.
‘‘สเจ อคารํ อาวสติ [อชฺฌาวสติ (ก.)], วิเชยฺย ปถวึ อิมํ;
อทณฺเฑน อสตฺเถน, ธมฺเมนมนุสาสติ.
‘‘สเจ ¶ จ โส ปพฺพชติ, อคารา อนคาริยํ;
วิวฏฺฏจฺฉโท [วิวตฺตฉทฺโท (สี.)] สมฺพุทฺโธ, อรหา ภวติ อนุตฺตโร.
‘‘ชาตึ โคตฺตฺจ ลกฺขณํ, มนฺเต สิสฺเส ปุนาปเร;
มุทฺธํ มุทฺธาธิปาตฺจ, มนสาเยว ปุจฺฉถ.
‘‘อนาวรณทสฺสาวี, ยทิ พุทฺโธ ภวิสฺสติ;
มนสา ปุจฺฉิเต ปฺเห, วาจาย วิสฺสเชสฺสติ’’.
พาวริสฺส วโจ สุตฺวา, สิสฺสา โสฬส พฺราหฺมณา;
อชิโต ติสฺสเมตฺเตยฺโย, ปุณฺณโก อถ เมตฺตคู.
โธตโก ¶ อุปสีโว จ, นนฺโท จ อถ เหมโก;
โตเทยฺยกปฺปา ทุภโย, ชตุกณฺณี จ ปณฺฑิโต.
ภทฺราวุโธ ¶ อุทโย จ, โปสาโล จาปิ พฺราหฺมโณ;
โมฆราชา จ เมธาวี, ปิงฺคิโย จ มหาอิสิ.
ปจฺเจกคณิโน สพฺเพ, สพฺพโลกสฺส วิสฺสุตา;
ฌายี ฌานรตา ธีรา, ปุพฺพวาสนวาสิตา.
พาวรึ ¶ อภิวาเทตฺวา, กตฺวา จ นํ ปทกฺขิณํ;
ชฏาชินธรา สพฺเพ, ปกฺกามุํ อุตฺตรามุขา.
อฬกสฺส ปติฏฺานํ, ปุริมาหิสฺสตึ [ปุริมํ มาหิสฺสตึ (สี. ปี.), ปุรํ มาหิสฺสตึ (สฺยา.)] ตทา;
อุชฺเชนิฺจาปิ โคนทฺธํ, เวทิสํ วนสวฺหยํ.
โกสมฺพิฺจาปิ สาเกตํ, สาวตฺถิฺจ ปุรุตฺตมํ;
เสตพฺยํ กปิลวตฺถุํ, กุสินารฺจ มนฺทิรํ.
ปาวฺจ ¶ โภคนครํ, เวสาลึ มาคธํ ปุรํ;
ปาสาณกํ เจติยฺจ, รมณียํ มโนรมํ.
ตสิโตวุทกํ ¶ สีตํ, มหาลาภํว วาณิโช;
ฉายํ ฆมฺมาภิตตฺโตว, ตุริตา ปพฺพตมารุหุํ.
ภควา ตมฺหิ สมเย, ภิกฺขุสงฺฆปุรกฺขโต;
ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสติ, สีโหว นทตี วเน.
อชิโต อทฺทส พุทฺธํ, สตรํสึ [วีตรํสึว (สฺยา.), สตรํสีว (ก.), ปีตรํสีว (นิทฺเทส)] ว ภาณุมํ;
จนฺทํ ยถา ปนฺนรเส, ปาริปูรึ อุปาคตํ.
อถสฺส คตฺเต ทิสฺวาน, ปริปูรฺจ พฺยฺชนํ;
เอกมนฺตํ ิโต หฏฺโ, มโนปฺเห อปุจฺฉถ.
‘‘อาทิสฺส ชมฺมนํ [ชปฺปนํ (ก.)] พฺรูหิ, โคตฺตํ พฺรูหิ สลกฺขณํ [พฺรูหิสฺส ลกฺขณํ (นิทฺเทส)];
มนฺเตสุ ปารมึ พฺรูหิ, กติ วาเจติ พฺราหฺมโณ’’.
‘‘วีสํ วสฺสสตํ อายุ, โส จ โคตฺเตน พาวรี;
ตีณิสฺส ลกฺขณา คตฺเต, ติณฺณํ เวทาน ปารคู.
‘‘ลกฺขเณ ¶ ¶ อิติหาเส จ, สนิฆณฺฑุสเกฏุเภ;
ปฺจสตานิ วาเจติ, สธมฺเม ปารมึ คโต’’.
‘‘ลกฺขณานํ ¶ ปวิจยํ, พาวริสฺส นรุตฺตม;
กงฺขจฺฉิท [ตณฺหจฺฉิท (พหูสุ)] ปกาเสหิ, มา โน กงฺขายิตํ อหุ’’.
‘‘มุขํ ชิวฺหาย ฉาเทติ, อุณฺณสฺส ภมุกนฺตเร;
โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํ, เอวํ ชานาหิ มาณว’’.
ปุจฺฉฺหิ ¶ กิฺจิ อสุณนฺโต, สุตฺวา ปฺเห วิยากเต;
วิจินฺเตติ ชโน สพฺโพ, เวทชาโต กตฺชลี.
‘‘โก นุ เทโว วา พฺรหฺมา วา, อินฺโท วาปิ สุชมฺปติ;
มนสา ปุจฺฉิเต ปฺเห, กเมตํ ปฏิภาสติ.
‘‘มุทฺธํ มุทฺธาธิปาตฺจ, พาวรี ปริปุจฺฉติ;
ตํ พฺยากโรหิ ภควา, กงฺขํ วินย โน อิเส’’.
‘‘อวิชฺชา มุทฺธาติ ชานาหิ, วิชฺชา มุทฺธาธิปาตินี;
สทฺธาสติสมาธีหิ, ฉนฺทวีริเยน สํยุตา’’.
ตโต เวเทน มหตา, สนฺถมฺภิตฺวาน มาณโว;
เอกํสํ อชินํ กตฺวา, ปาเทสุ สิรสา ปติ.
‘‘พาวรี พฺราหฺมโณ โภโต, สห สิสฺเสหิ มาริส;
อุทคฺคจิตฺโต สุมโน, ปาเท วนฺทติ จกฺขุม’’.
‘‘สุขิโต ¶ พาวรี โหตุ, สห สิสฺเสหิ พฺราหฺมโณ;
ตฺวฺจาปิ สุขิโต โหหิ, จิรํ ชีวาหิ มาณว.
‘‘พาวริสฺส ¶ จ ตุยฺหํ วา, สพฺเพสํ สพฺพสํสยํ;
กตาวกาสา ปุจฺฉวฺโห, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉถ’’.
สมฺพุทฺเธน กโตกาโส, นิสีทิตฺวาน ปฺชลี;
อชิโต ปมํ ปฺหํ, ตตฺถ ปุจฺฉิ ตถาคตํ.
วตฺถุคาถา นิฏฺิตา.
๑. อชิตมาณวปุจฺฉา
‘‘เกนสฺสุ ¶ ¶ นิวุโต โลโก, (อิจฺจายสฺมา อชิโต)
เกนสฺสุ นปฺปกาสติ;
กิสฺสาภิเลปนํ พฺรูสิ, กึสุ ตสฺส มหพฺภยํ’’.
‘‘อวิชฺชาย นิวุโต โลโก, (อชิตาติ ภควา)
เววิจฺฉา ปมาทา นปฺปกาสติ;
ชปฺปาภิเลปนํ พฺรูมิ, ทุกฺขมสฺส มหพฺภยํ’’.
‘‘สวนฺติ ¶ สพฺพธิ โสตา, (อิจฺจายสฺมา อชิโต)
โสตานํ กึ นิวารณํ;
โสตานํ สํวรํ พฺรูหิ, เกน โสตา ปิธิยฺยเร’’ [ปิถิยฺยเร (สี. สฺยา. ปี.), ปิถียเร (สี. อฏฺ.), ปิธียเร (?)].
‘‘ยานิ โสตานิ โลกสฺมึ, (อชิตาติ ภควา)
สติ เตสํ นิวารณํ;
โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ, ปฺาเยเต ปิธิยฺยเร’’.
‘‘ปฺา เจว สติ ยฺจ [สตี เจว (สี.), สตี จ (สฺยา.), สตี จาปิ (ปี. นิทฺเทส), สติ จาปิ (นิทฺเทส)], (อิจฺจายสฺมา อชิโต)
นามรูปฺจ มาริส;
เอตํ ¶ เม ปุฏฺโ ปพฺรูหิ, กตฺเถตํ อุปรุชฺฌติ’’.
‘‘ยเมตํ ปฺหํ อปุจฺฉิ, อชิต ตํ วทามิ เต;
ยตฺถ นามฺจ รูปฺจ, อเสสํ อุปรุชฺฌติ;
วิฺาณสฺส นิโรเธน, เอตฺเถตํ อุปรุชฺฌติ’’.
‘‘เย จ สงฺขาตธมฺมาเส, เย จ เสขา ปุถู อิธ;
เตสํ เม นิปโก อิริยํ, ปุฏฺโ ปพฺรูหิ มาริส’’.
‘‘กาเมสุ ¶ นาภิคิชฺเฌยฺย, มนสานาวิโล สิยา;
กุสโล สพฺพธมฺมานํ, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ.
อชิตมาณวปุจฺฉา ปมา นิฏฺิตา.
๒. ติสฺสเมตฺเตยฺยมาณวปุจฺฉา
‘‘โกธ ¶ ¶ สนฺตุสิโต โลเก, (อิจฺจายสฺมา ติสฺสเมตฺเตยฺโย)
กสฺส โน สนฺติ อิฺชิตา;
โก อุภนฺตมภิฺาย, มชฺเฌ มนฺตา น ลิปฺปติ [ลิมฺปติ (ก.)];
กํ พฺรูสิ มหาปุริโสติ, โก อิธ สิพฺพินิมจฺจคา’’.
‘‘กาเมสุ พฺรหฺมจริยวา, (เมตฺเตยฺยาติ ภควา)
วีตตณฺโห สทา สโต;
สงฺขาย ¶ นิพฺพุโต ภิกฺขุ, ตสฺส โน สนฺติ อิฺชิตา.
‘‘โส อุภนฺตมภิฺาย, มชฺเฌ มนฺตา น ลิปฺปติ;
ตํ พฺรูมิ มหาปุริโสติ, โส อิธ สิพฺพินิมจฺจคา’’ติ.
ติสฺสเมตฺเตยฺยมาณวปุจฺฉา ทุติยา นิฏฺิตา.
๓. ปุณฺณกมาณวปุจฺฉา
‘‘อเนชํ มูลทสฺสาวึ, (อิจฺจายสฺมา ปุณฺณโก)
อตฺถิ [อตฺถี (สฺยา.)] ปฺเหน อาคมํ;
กึ ¶ นิสฺสิตา ¶ อิสโย มนุชา, ขตฺติยา พฺราหฺมณา เทวตานํ;
ยฺมกปฺปยึสุ ปุถูธ โลเก, ปุจฺฉามิ ตํ ภควา พฺรูหิ เม ตํ’’.
‘‘เย เกจิเม อิสโย มนุชา, (ปุณฺณกาติ ภควา)
ขตฺติยา พฺราหฺมณา เทวตานํ;
ยฺมกปฺปยึสุ ปุถูธ โลเก, อาสีสมานา ปุณฺณก อิตฺถตฺตํ [อิตฺถภาวํ (สี. สฺยา.)];
ชรํ สิตา ยฺมกปฺปยึสุ’’.
‘‘เย ¶ เกจิเม อิสโย มนุชา, (อิจฺจายสฺมา ปุณฺณโก)
ขตฺติยา พฺราหฺมณา เทวตานํ;
ยฺมกปฺปยึสุ ¶ ปุถูธ โลเก, กจฺจิสฺสุ เต ภควา ยฺปเถ อปฺปมตฺตา;
อตารุํ ชาติฺจ ชรฺจ มาริส, ปุจฺฉามิ ตํ ภควา พฺรูหิ เม ตํ’’.
‘‘อาสีสนฺติ โถมยนฺติ, อภิชปฺปนฺติ ชุหนฺติ; (ปุณฺณกาติ ภควา)
กามาภิชปฺปนฺติ ปฏิจฺจ ลาภํ, เต ยาชโยคา ภวราครตฺตา;
นาตรึสุ ชาติชรนฺติ พฺรูมิ’’.
‘‘เต ¶ เจ นาตรึสุ ยาชโยคา, (อิจฺจายสฺมา ปุณฺณโก)
ยฺเหิ ชาติฺจ ชรฺจ มาริส;
อถ โก จรหิ เทวมนุสฺสโลเก, อตาริ ชาติฺจ ชรฺจ มาริส;
ปุจฺฉามิ ตํ ภควา พฺรูหิ เม ตํ’’.
‘‘สงฺขาย โลกสฺมิ ปโรปรานิ [ปโรวรานิ (สี. สฺยา.)], (ปุณฺณกาติ ภควา)
ยสฺสิฺชิตํ นตฺถิ กุหิฺจิ โลเก;
สนฺโต วิธูโม อนีโฆ นิราโส, อตาริ โส ชาติชรนฺติ พฺรูมี’’ติ.
ปุณฺณกมาณวปุจฺฉา ตติยา นิฏฺิตา.
๔. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉา
‘‘ปุจฺฉามิ ¶ ¶ ตํ ภควา พฺรูหิ เม ตํ, (อิจฺจายสฺมา เมตฺตคู)
มฺามิ ตํ เวทคุํ ภาวิตตฺตํ;
กุโต นุ ทุกฺขา สมุทาคตา อิเม, เย เกจิ โลกสฺมิมเนกรูปา’’.
‘‘ทุกฺขสฺส ¶ ¶ เว มํ ปภวํ อปุจฺฉสิ, (เมตฺตคูติ ภควา)
ตํ เต ปวกฺขามิ ยถา ปชานํ;
อุปธินิทานา ปภวนฺติ ทุกฺขา, เย เกจิ โลกสฺมิมเนกรูปา.
‘‘โย เว อวิทฺวา อุปธึ กโรติ, ปุนปฺปุนํ ทุกฺขมุเปติ มนฺโท;
ตสฺมา ปชานํ อุปธึ น กยิรา, ทุกฺขสฺส ชาติปฺปภวานุปสฺสี’’.
‘‘ยํ ตํ อปุจฺฉิมฺห อกิตฺตยี โน, อฺํ ตํ ปุจฺฉาม [ปุจฺฉามิ (สี. ปี.)] ตทิงฺฆ พฺรูหิ;
กถํ นุ ธีรา วิตรนฺติ โอฆํ, ชาตึ ชรํ โสกปริทฺทวฺจ;
ตํ เม มุนิ สาธุ วิยากโรหิ, ตถา หิ เต วิทิโต เอส ธมฺโม’’.
‘‘กิตฺตยิสฺสามิ ¶ เต ธมฺมํ, (เมตฺตคูติ ภควา)
ทิฏฺเ ธมฺเม อนีติหํ;
ยํ วิทิตฺวา สโต จรํ, ตเร โลเก วิสตฺติกํ’’.
‘‘ตฺจาหํ อภินนฺทามิ, มเหสิ ธมฺมมุตฺตมํ;
ยํ วิทิตฺวา สโต จรํ, ตเร โลเก วิสตฺติกํ’’.
‘‘ยํ กิฺจิ สมฺปชานาสิ, (เมตฺตคูติ ภควา)
อุทฺธํ อโธ ติริยฺจาปิ มชฺเฌ;
เอเตสุ ¶ นนฺทิฺจ นิเวสนฺจ, ปนุชฺช วิฺาณํ ภเว น ติฏฺเ.
‘‘เอวํวิหารี ¶ สโต อปฺปมตฺโต, ภิกฺขุ จรํ หิตฺวา มมายิตานิ;
ชาตึ ชรํ โสกปริทฺทวฺจ, อิเธว วิทฺวา ปชเหยฺย ทุกฺขํ’’.
‘‘เอตาภินนฺทามิ ¶ วโจ มเหสิโน, สุกิตฺติตํ โคตมนูปธีกํ;
อทฺธา หิ ภควา ปหาสิ ทุกฺขํ, ตถา หิ เต วิทิโต เอส ธมฺโม.
‘‘เต จาปิ นูนปฺปชเหยฺยุ ทุกฺขํ, เย ตฺวํ มุนิ อฏฺิตํ โอวเทยฺย;
ตํ ตํ นมสฺสามิ สเมจฺจ นาค, อปฺเปว มํ ภควา อฏฺิตํ โอวเทยฺย’’.
‘‘ยํ ¶ พฺราหฺมณํ เวทคุมาภิชฺา, อกิฺจนํ กามภเว อสตฺตํ;
อทฺธา หิ โส โอฆมิมํ อตาริ, ติณฺโณ จ ปารํ อขิโล อกงฺโข.
‘‘วิทฺวา จ โย [โส (สี. สฺยา. ปี.)] เวทคู นโร อิธ, ภวาภเว สงฺคมิมํ วิสชฺช;
โส ¶ วีตตณฺโห อนีโฆ นิราโส, อตาริ โส ชาติชรนฺติ พฺรูมี’’ติ.
เมตฺตคูมาณวปุจฺฉา จตุตฺถี นิฏฺิตา.
๕. โธตกมาณวปุจฺฉา
‘‘ปุจฺฉามิ ตํ ภควา พฺรูหิ เม ตํ, (อิจฺจายสฺมา โธตโก)
วาจาภิกงฺขามิ มเหสิ ตุยฺหํ;
ตว สุตฺวาน นิคฺโฆสํ, สิกฺเข นิพฺพานมตฺตโน’’.
‘‘เตนหาตปฺปํ กโรหิ, (โธตกาติ ภควา) อิเธว นิปโก สโต;
อิโต สุตฺวาน นิคฺโฆสํ, สิกฺเข นิพฺพานมตฺตโน’’.
‘‘ปสฺสามหํ ¶ เทวมนุสฺสโลเก, อกิฺจนํ พฺราหฺมณมิริยมานํ;
ตํ ตํ นมสฺสามิ สมนฺตจกฺขุ, ปมฺุจ ¶ มํ สกฺก กถํกถาหิ’’.
‘‘นาหํ ¶ สหิสฺสามิ [สมิสฺสามิ (สฺยา.), คมิสฺสามิ (สี.), สมีหามิ (ปี.)] ปโมจนาย, กถํกถึ โธตก กฺจิ โลเก;
ธมฺมฺจ เสฏฺํ อภิชานมาโน [อาชานมาโน (สี. สฺยา. ปี.)], เอวํ ตุวํ โอฆมิมํ ตเรสิ’’.
‘‘อนุสาส พฺรหฺเม กรุณายมาโน, วิเวกธมฺมํ ยมหํ วิชฺํ;
ยถาหํ ¶ อากาโสว อพฺยาปชฺชมาโน, อิเธว สนฺโต อสิโต จเรยฺยํ’’.
‘‘กิตฺตยิสฺสามิ เต สนฺตึ, (โธตกาติ ภควา) ทิฏฺเ ธมฺเม อนีติหํ;
ยํ วิทิตฺวา สโต จรํ, ตเร โลเก วิสตฺติกํ’’.
‘‘ตฺจาหํ อภินนฺทามิ, มเหสิ สนฺติมุตฺตมํ;
ยํ วิทิตฺวา สโต จรํ, ตเร โลเก วิสตฺติกํ’’.
‘‘ยํ กิฺจิ สมฺปชานาสิ, (โธตกาติ ภควา)
อุทฺธํ อโธ ติริยฺจาปิ มชฺเฌ;
เอตํ วิทิตฺวา สงฺโคติ โลเก, ภวาภวาย มากาสิ ตณฺห’’นฺติ.
โธตกมาณวปุจฺฉา ปฺจมี นิฏฺิตา.
๖. อุปสีวมาณวปุจฺฉา
‘‘เอโก ¶ อหํ สกฺก มหนฺตโมฆํ, (อิจฺจายสฺมา อุปสีโว)
อนิสฺสิโต โน วิสหามิ ตาริตุํ;
อารมฺมณํ พฺรูหิ สมนฺตจกฺขุ, ยํ นิสฺสิโต โอฆมิมํ ตเรยฺยํ’’.
‘‘อากิฺจฺํ ¶ เปกฺขมาโน สติมา, (อุปสีวาติ ภควา)
นตฺถีติ นิสฺสาย ตรสฺสุ โอฆํ;
กาเม ¶ ปหาย วิรโต กถาหิ, ตณฺหกฺขยํ นตฺตมหาภิปสฺส’’ [รตฺตมหาภิปสฺส (สฺยา.), รตฺตมหํ วิปสฺส (ก.)].
‘‘สพฺเพสุ ¶ กาเมสุ โย วีตราโค, (อิจฺจายสฺมา อุปสีโว)
อากิฺจฺํ นิสฺสิโต หิตฺวา มฺํ;
สฺาวิโมกฺเข ปรเม วิมุตฺโต [ธิมุตฺโต (ก.)], ติฏฺเ นุ โส ตตฺถ อนานุยายี’’ [อนานุวายี (สฺยา. ก.)].
‘‘สพฺเพสุ กาเมสุ โย วีตราโค, (อุปสีวาติ ภควา)
อากิฺจฺํ นิสฺสิโต หิตฺวา มฺํ;
สฺาวิโมกฺเข ปรเม วิมุตฺโต, ติฏฺเยฺย โส ตตฺถ อนานุยายี’’.
‘‘ติฏฺเ เจ โส ตตฺถ อนานุยายี, ปูคมฺปิ ¶ วสฺสานํ สมนฺตจกฺขุ;
ตตฺเถว โส สีติสิยา วิมุตฺโต, จเวถ วิฺาณํ ตถาวิธสฺส’’.
‘‘อจฺจี ยถา วาตเวเคน ขิตฺตา [ขิตฺตํ (สฺยา.), ขิตฺโต (ปี.)], (อุปสีวาติ ภควา)
อตฺถํ ปเลติ น อุเปติ สงฺขํ;
เอวํ ¶ มุนี นามกายา วิมุตฺโต, อตฺถํ ปเลติ น อุเปติ สงฺขํ’’.
‘‘อตฺถงฺคโต โส อุท วา โส นตฺถิ, อุทาหุ เว สสฺสติยา อโรโค;
ตํ เม มุนี สาธุ วิยากโรหิ, ตถา หิ เต วิทิโต เอส ธมฺโม’’.
‘‘อตฺถงฺคตสฺส ¶ น ปมาณมตฺถิ, (อุปสีวาติ ภควา)
เยน นํ วชฺชุํ ตํ ตสฺส นตฺถิ;
สพฺเพสุ ธมฺเมสุ สมูหเตสุ, สมูหตา วาทปถาปิ สพฺเพ’’ติ.
อุปสีวมาณวปุจฺฉา ฉฏฺี นิฏฺิตา.
๗. นนฺทมาณวปุจฺฉา
‘‘สนฺติ ¶ โลเก มุนโย, (อิจฺจายสฺมา นนฺโท)
ชนา วทนฺติ ตยิทํ กถํสุ;
าณูปปนฺนํ ¶ โน มุนึ [มุนิ โน (สฺยา. ก.)] วทนฺติ, อุทาหุ เว ชีวิเตนูปปนฺนํ’’.
‘‘น ทิฏฺิยา น สุติยา น าเณน, (น สีลพฺพเตน) [( ) นตฺถิ สี.-ปี โปตฺถเกสุ]
มุนีธ นนฺท กุสลา วทนฺติ;
วิเสนิกตฺวา ¶ อนีฆา นิราสา, จรนฺติ เย เต มุนโยติ พฺรูมิ’’.
‘‘เย เกจิเม สมณพฺราหฺมณาเส, (อิจฺจายสฺมา นนฺโท)
ทิฏฺสฺสุเตนาปิ [ทิฏฺเน สุเตนาปิ (สี.), ทิฏฺเ สุเตนาปิ (สฺยา. ปี. ก.)] วทนฺติ สุทฺธึ;
สีลพฺพเตนาปิ วทนฺติ สุทฺธึ, อเนกรูเปน วทนฺติ สุทฺธึ;
กจฺจิสฺสุ เต ภควา ตตฺถ ยตา จรนฺตา, อตารุ ชาติฺจ ชรฺจ มาริส;
ปุจฺฉามิ ตํ ภควา พฺรูหิ เม ตํ’’.
‘‘เย ¶ เกจิเม สมณพฺราหฺมณาเส, (นนฺทาติ ภควา)
ทิฏฺสฺสุเตนาปิ วทนฺติ สุทฺธึ;
สีลพฺพเตนาปิ วทนฺติ สุทฺธึ, อเนกรูเปน วทนฺติ สุทฺธึ;
กิฺจาปิ เต ตตฺถ ยตา จรนฺติ, นารึสุ ชาติชรนฺติ พฺรูมิ’’.
‘‘เย ¶ เกจิเม สมณพฺราหฺมณาเส, (อิจฺจายสฺมา นนฺโท)
ทิฏฺสฺสุเตนาปิ วทนฺติ สุทฺธึ;
สีลพฺพเตนาปิ วทนฺติ สุทฺธึ, อเนกรูเปน วทนฺติ สุทฺธึ;
เต เจ มุนิ [สเจ มุนิ (สี.)] พฺรูสิ อโนฆติณฺเณ, อถ ¶ โก จรหิ เทวมนุสฺสโลเก;
อตาริ ชาติฺจ ชรฺจ มาริส, ปุจฺฉามิ ตํ ภควา พฺรูหิ เม ตํ’’.
‘‘นาหํ สพฺเพ สมณพฺราหฺมณาเส, (นนฺทาติ ภควา)
ชาติชราย นิวุตาติ พฺรูมิ;
เย ¶ สีธ ทิฏฺํว สุตํ มุตํ วา, สีลพฺพตํ วาปิ ปหาย สพฺพํ;
อเนกรูปมฺปิ ปหาย สพฺพํ, ตณฺหํ ปริฺาย อนาสวาเส;
เต เว นรา โอฆติณฺณาติ พฺรูมิ’’.
‘‘เอตาภินนฺทามิ วโจ มเหสิโน, สุกิตฺติตํ โคตมนูปธีกํ;
เย สีธ ทิฏฺํ ว สุตํ มุตํ วา, สีลพฺพตํ วาปิ ปหาย สพฺพํ;
อเนกรูปมฺปิ ¶ ปหาย สพฺพํ, ตณฺหํ ปริฺาย อนาสวาเส;
อหมฺปิ เต โอฆติณฺณาติ พฺรูมี’’ติ.
นนฺทมาณวปุจฺฉา สตฺตมา นิฏฺิตา.
๘. เหมกมาณวปุจฺฉา
‘‘เย ¶ เม ปุพฺเพ วิยากํสุ, (อิจฺจายสฺมา เหมโก)
หุรํ ¶ โคตมสาสนา;
อิจฺจาสิ อิติ ภวิสฺสติ, สพฺพํ ตํ อิติหีติหํ;
สพฺพํ ตํ ตกฺกวฑฺฒนํ, นาหํ ตตฺถ อภิรมึ.
‘‘ตฺวฺจ เม ธมฺมมกฺขาหิ, ตณฺหานิคฺฆาตนํ มุนิ;
ยํ วิทิตฺวา สโต จรํ, ตเร โลเก วิสตฺติกํ’’.
‘‘อิธ ทิฏฺสุตมุตวิฺาเตสุ, ปิยรูเปสุ เหมก;
ฉนฺทราควิโนทนํ, นิพฺพานปทมจฺจุตํ.
‘‘เอตทฺาย เย สตา, ทิฏฺธมฺมาภินิพฺพุตา;
อุปสนฺตา จ เต สทา, ติณฺณา โลเก วิสตฺติก’’นฺติ.
เหมกมาณวปุจฺฉา อฏฺมา นิฏฺิตา.
๙. โตเทยฺยมาณวปุจฺฉา
‘‘ยสฺมึ ¶ ¶ กามา น วสนฺติ, (อิจฺจายสฺมา โตเทยฺโย)
ตณฺหา ยสฺส น วิชฺชติ;
กถํกถา จ โย ติณฺโณ, วิโมกฺโข ตสฺส กีทิโส’’.
‘‘ยสฺมึ ¶ กามา น วสนฺติ, (โตเทยฺยาติ ภควา)
ตณฺหา ยสฺส น วิชฺชติ;
กถํกถา จ โย ติณฺโณ, วิโมกฺโข ตสฺส นาปโร’’.
‘‘นิราสโส โส อุท อาสสาโน, ปฺาณวา โส อุท ปฺกปฺปี;
มุนึ อหํ สกฺก ยถา วิชฺํ, ตํ เม วิยาจิกฺข สมนฺตจกฺขุ’’.
‘‘นิราสโส ¶ โส น จ อาสสาโน, ปฺาณวา โส น จ ปฺกปฺปี;
เอวมฺปิ โตเทยฺย มุนึ วิชาน, อกิฺจนํ กามภเว อสตฺต’’นฺติ.
โตเทยฺยมาณวปุจฺฉา นวมา นิฏฺิตา.
๑๐. กปฺปมาณวปุจฺฉา
‘‘มชฺเฌ ¶ สรสฺมึ ติฏฺตํ, (อิจฺจายสฺมา กปฺโป)
โอเฆ ชาเต มหพฺภเย;
ชรามจฺจุปเรตานํ, ทีปํ ปพฺรูหิ มาริส;
ตฺวฺจ เม ทีปมกฺขาหิ, ยถายิทํ นาปรํ สิยา’’.
‘‘มชฺเฌ ¶ ¶ สรสฺมึ ติฏฺตํ, (กปฺปาติ ภควา)
โอเฆ ชาเต มหพฺภเย;
ชรามจฺจุปเรตานํ, ทีปํ ปพฺรูมิ กปฺป เต.
‘‘อกิฺจนํ อนาทานํ, เอตํ ทีปํ อนาปรํ;
นิพฺพานํ อิติ [นิพฺพานมีติ (สี.)] นํ พฺรูมิ, ชรามจฺจุปริกฺขยํ.
‘‘เอตทฺาย เย สตา, ทิฏฺธมฺมาภินิพฺพุตา;
น เต มารวสานุคา, น เต มารสฺส ปทฺธคู’’ติ [ปฏฺคูติ (สฺยา. ก.)].
กปฺปมาณวปุจฺฉา ทสมา นิฏฺิตา.
๑๑. ชตุกณฺณิมาณวปุจฺฉา
‘‘สุตฺวานหํ วีรมกามกามึ, (อิจฺจายสฺมา ชตุกณฺณิ)
โอฆาติคํ ปุฏฺุมกามมาคมํ;
สนฺติปทํ พฺรูหิ สหชเนตฺต, ยถาตจฺฉํ ¶ ภควา พฺรูหิ เม ตํ.
‘‘ภควา ¶ หิ กาเม อภิภุยฺย อิริยติ, อาทิจฺโจว ปถวึ เตชี เตชสา;
ปริตฺตปฺสฺส เม ภูริปฺ, อาจิกฺข ธมฺมํ ยมหํ วิชฺํ;
ชาติชราย อิธ วิปฺปหานํ’’.
‘‘กาเมสุ ¶ วินย เคธํ, (ชตุกณฺณีติ ภควา) เนกฺขมฺมํ ทฏฺุ เขมโต;
อุคฺคหีตํ นิรตฺตํ วา, มา เต วิชฺชิตฺถ กิฺจนํ.
‘‘ยํ ปุพฺเพ ตํ วิโสเสหิ, ปจฺฉา เต มาหุ กิฺจนํ;
มชฺเฌ เจ โน คเหสฺสสิ, อุปสนฺโต จริสฺสสิ.
‘‘สพฺพโส ¶ นามรูปสฺมึ, วีตเคธสฺส พฺราหฺมณ;
อาสวาสฺส น วิชฺชนฺติ, เยหิ มจฺจุวสํ วเช’’ติ.
ชตุกณฺณิมาณวปุจฺฉา เอกาทสมา นิฏฺิตา.
๑๒. ภทฺราวุธมาณวปุจฺฉา
‘‘โอกฺชหํ ตณฺหจฺฉิทํ อเนชํ, (อิจฺจายสฺมา ภทฺราวุโธ)
นนฺทิฺชหํ โอฆติณฺณํ วิมุตฺตํ;
กปฺปฺชหํ อภิยาเจ สุเมธํ, สุตฺวาน ¶ นาคสฺส อปนมิสฺสนฺติ อิโต.
‘‘นานาชนา ชนปเทหิ สงฺคตา, ตว วีร วากฺยํ อภิกงฺขมานา;
เตสํ ตุวํ สาธุ วิยากโรหิ, ตถา หิ เต วิทิโต เอส ธมฺโม’’.
‘‘อาทานตณฺหํ วินเยถ สพฺพํ, (ภทฺราวุธาติ ภควา)
อุทฺธํ อโธ ติริยฺจาปิ มชฺเฌ;
ยํ ¶ ยฺหิ โลกสฺมิมุปาทิยนฺติ, เตเนว มาโร อนฺเวติ ชนฺตุํ.
‘‘ตสฺมา ¶ ปชานํ น อุปาทิเยถ, ภิกฺขุ สโต กิฺจนํ สพฺพโลเก;
อาทานสตฺเต อิติ เปกฺขมาโน, ปชํ อิมํ มจฺจุเธยฺเย วิสตฺต’’นฺติ.
ภทฺราวุธมาณวปุจฺฉา ทฺวาทสมา นิฏฺิตา.
๑๓. อุทยมาณวปุจฺฉา
‘‘ฌายึ ¶ วิรชมาสีนํ, (อิจฺจายสฺมา อุทโย) กตกิจฺจํ อนาสวํ;
ปารคุํ สพฺพธมฺมานํ, อตฺถิ ปฺเหน อาคมํ;
อฺาวิโมกฺขํ ปพฺรูหิ, อวิชฺชาย ปเภทนํ’’.
‘‘ปหานํ ¶ กามจฺฉนฺทานํ, (อุทยาติ ภควา) โทมนสฺสาน จูภยํ;
ถินสฺส จ ปนูทนํ, กุกฺกุจฺจานํ นิวารณํ.
‘‘อุเปกฺขาสติสํสุทฺธํ, ธมฺมตกฺกปุเรชวํ;
อฺาวิโมกฺขํ ปพฺรูมิ, อวิชฺชาย ปเภทนํ’’.
‘‘กึสุ ¶ สํโยชโน โลโก, กึสุ ตสฺส วิจารณํ;
กิสฺสสฺส วิปฺปหาเนน, นิพฺพานํ อิติ วุจฺจติ’’.
‘‘นนฺทิสํโยชโน โลโก, วิตกฺกสฺส วิจารณํ;
ตณฺหาย วิปฺปหาเนน, นิพฺพานํ อิติ วุจฺจติ’’.
‘‘กถํ สตสฺส จรโต, วิฺาณํ อุปรุชฺฌติ;
ภควนฺตํ ปุฏฺุมาคมฺม, ตํ สุโณม วโจ ตว’’.
‘‘อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ, เวทนํ นาภินนฺทโต;
เอวํ สตสฺส จรโต, วิฺาณํ อุปรุชฺฌตี’’ติ.
อุทยมาณวปุจฺฉา เตรสมา นิฏฺิตา.
๑๔. โปสาลมาณวปุจฺฉา
‘‘โย ¶ ¶ อตีตํ อาทิสติ, (อิจฺจายสฺมา โปสาโล) อเนโช ฉินฺนสํสโย;
ปารคุํ สพฺพธมฺมานํ, อตฺถิ ปฺเหน อาคมํ.
‘‘วิภูตรูปสฺิสฺส ¶ , สพฺพกายปฺปหายิโน;
อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ, นตฺถิ กิฺจีติ ปสฺสโต;
าณํ สกฺกานุปุจฺฉามิ, กถํ เนยฺโย ตถาวิโธ’’.
‘‘วิฺาณฏฺิติโย ¶ สพฺพา, (โปสาลาติ ภควา) อภิชานํ ตถาคโต;
ติฏฺนฺตเมนํ ชานาติ, วิมุตฺตํ ตปฺปรายณํ.
‘‘อากิฺจฺสมฺภวํ ตฺวา, นนฺที สํโยชนํ อิติ;
เอวเมตํ อภิฺาย, ตโต ตตฺถ วิปสฺสติ;
เอตํ [เอวํ (สฺยา. ก.)] าณํ ตถํ ตสฺส, พฺราหฺมณสฺส วุสีมโต’’ติ.
โปสาลมาณวปุจฺฉา จุทฺทสมา นิฏฺิตา.
๑๕. โมฆราชมาณวปุจฺฉา
‘‘ทฺวาหํ สกฺกํ อปุจฺฉิสฺสํ, (อิจฺจายสฺมา โมฆราชา)
น เม พฺยากาสิ จกฺขุมา;
ยาวตติยฺจ เทวีสิ, พฺยากโรตีติ เม สุตํ.
‘‘อยํ โลโก ปโร โลโก, พฺรหฺมโลโก สเทวโก;
ทิฏฺึ เต นาภิชานาติ, โคตมสฺส ยสสฺสิโน.
‘‘เอวํ ¶ ¶ ¶ อภิกฺกนฺตทสฺสาวึ, อตฺถิ ปฺเหน อาคมํ;
กถํ โลกํ อเวกฺขนฺตํ, มจฺจุราชา น ปสฺสติ’’.
‘‘สฺุโต ¶ โลกํ อเวกฺขสฺสุ, โมฆราช สทา สโต;
อตฺตานุทิฏฺึ อูหจฺจ, เอวํ มจฺจุตโร สิยา;
เอวํ โลกํ อเวกฺขนฺตํ, มจฺจุราชา น ปสฺสตี’’ติ.
โมฆราชมาณวปุจฺฉา ปนฺนรสมา นิฏฺิตา.
๑๖. ปิงฺคิยมาณวปุจฺฉา
‘‘ชิณฺโณหมสฺมิ อพโล วีตวณฺโณ, (อิจฺจายสฺมา ปิงฺคิโย)
เนตฺตา น สุทฺธา สวนํ น ผาสุ;
มาหํ นสฺสํ โมมุโห อนฺตราว
อาจิกฺข ธมฺมํ ยมหํ วิชฺํ;
ชาติชราย อิธ วิปฺปหานํ’’.
‘‘ทิสฺวาน รูเปสุ วิหฺมาเน, (ปิงฺคิยาติ ภควา)
รุปฺปนฺติ รูเปสุ ชนา ปมตฺตา;
ตสฺมา ตุวํ ปิงฺคิย อปฺปมตฺโต,
ชหสฺสุ รูปํ อปุนพฺภวาย’’.
‘‘ทิสา จตสฺโส วิทิสา จตสฺโส, อุทฺธํ ¶ อโธ ทส ทิสา อิมาโย;
น ¶ ตุยฺหํ อทิฏฺํ อสุตํ อมุตํ [อสุตํ อมุตํ วา (สี.), อสุตามุตํ วา (สฺยา.), อสุตํ’มุตํ วา (ปี.)], อโถ อวิฺาตํ กิฺจนมตฺถิ [กิฺจิ มตฺถิ (สฺยา.), กิฺจิ นตฺถิ (ปี.), กิฺจินมตฺถิ (ก.)] โลเก;
อาจิกฺข ธมฺมํ ยมหํ วิชฺํ, ชาติชราย อิธ วิปฺปหานํ’’.
‘‘ตณฺหาธิปนฺเน ¶ มนุเช เปกฺขมาโน, (ปิงฺคิยาติ ภควา)
สนฺตาปชาเต ชรสา ปเรเต;
ตสฺมา ตุวํ ปิงฺคิย อปฺปมตฺโต, ชหสฺสุ ตณฺหํ อปุนพฺภวายา’’ติ.
ปิงฺคิยมาณวปุจฺฉา โสฬสมา นิฏฺิตา.
ปารายนตฺถุติคาถา
อิทมโวจ ¶ ภควา มคเธสุ วิหรนฺโต ปาสาณเก เจติเย, ปริจารกโสฬสานํ [ปริจารกโสฬสนฺนํ (สฺยา. ก.)] พฺราหฺมณานํ อชฺฌิฏฺโ ปุฏฺโ ปุฏฺโ ปฺหํ [ปฺเห (สี. ปี.)] พฺยากาสิ. เอกเมกสฺส เจปิ ปฺหสฺส อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมํ ปฏิปชฺเชยฺย, คจฺเฉยฺเยว ชรามรณสฺส ปารํ. ปารงฺคมนียา อิเม ธมฺมาติ, ตสฺมา อิมสฺส ธมฺมปริยายสฺส ปารายนนฺเตว [ปารายณํตฺเวว (สี. อฏฺ.)] อธิวจนํ.
อชิโต ติสฺสเมตฺเตยฺโย, ปุณฺณโก อถ เมตฺตคู;
โธตโก อุปสีโว จ, นนฺโท จ อถ เหมโก.
โตเทยฺย-กปฺปา ¶ ทุภโย, ชตุกณฺณี จ ปณฺฑิโต;
ภทฺราวุโธ อุทโย จ, โปสาโล จาปิ พฺราหฺมโณ;
โมฆราชา ¶ จ เมธาวี, ปิงฺคิโย จ มหาอิสิ.
เอเต พุทฺธํ อุปาคจฺฉุํ, สมฺปนฺนจรณํ อิสึ;
ปุจฺฉนฺตา นิปุเณ ปฺเห, พุทฺธเสฏฺํ อุปาคมุํ.
เตสํ พุทฺโธ ปพฺยากาสิ, ปฺเห ปุฏฺโ ยถาตถํ;
ปฺหานํ เวยฺยากรเณน, โตเสสิ พฺราหฺมเณ มุนิ.
เต โตสิตา จกฺขุมตา, พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา;
พฺรหฺมจริยมจรึสุ, วรปฺสฺส สนฺติเก.
เอกเมกสฺส ¶ ปฺหสฺส, ยถา พุทฺเธน เทสิตํ;
ตถา โย ปฏิปชฺเชยฺย, คจฺเฉ ปารํ อปารโต.
อปารา ปารํ คจฺเฉยฺย, ภาเวนฺโต มคฺคมุตฺตมํ;
มคฺโค โส ปารํ คมนาย, ตสฺมา ปารายนํ อิติ.
ปารายนานุคีติคาถา
‘‘ปารายนมนุคายิสฺสํ, (อิจฺจายสฺมา ปิงฺคิโย)
ยถาทฺทกฺขิ ตถากฺขาสิ, วิมโล ภูริเมธโส;
นิกฺกาโม นิพฺพโน [นิพฺพุโต (สฺยา.)] นาโค, กิสฺส เหตุ มุสา ภเณ.
‘‘ปหีนมลโมหสฺส ¶ ¶ , มานมกฺขปฺปหายิโน;
หนฺทาหํ กิตฺตยิสฺสามิ, คิรํ วณฺณูปสฺหิตํ.
‘‘ตโมนุโท พุทฺโธ สมนฺตจกฺขุ, โลกนฺตคู สพฺพภวาติวตฺโต;
อนาสโว สพฺพทุกฺขปหีโน, สจฺจวฺหโย ¶ พฺรหฺเม อุปาสิโต เม.
‘‘ทิโช ยถา กุพฺพนกํ ปหาย, พหุปฺผลํ กานนมาวเสยฺย;
เอวํ ปหํ อปฺปทสฺเส ปหาย, มโหทธึ หํโสริว อชฺฌปตฺโต.
‘‘เยเม ปุพฺเพ วิยากํสุ, หุรํ โคตมสาสนา;
อิจฺจาสิ อิติ ภวิสฺสติ;
สพฺพํ ตํ อิติหิติหํ, สพฺพํ ตํ ตกฺกวฑฺฒนํ.
‘‘เอโก ตมนุทาสิโน, ชุติมา โส ปภงฺกโร;
โคตโม ภูริปฺาโณ, โคตโม ภูริเมธโส.
‘‘โย ¶ เม ธมฺมมเทเสสิ, สนฺทิฏฺิกมกาลิกํ;
ตณฺหกฺขยมนีติกํ ¶ , ยสฺส นตฺถิ อุปมา กฺวจิ’’.
‘‘กึนุ ¶ ตมฺหา วิปฺปวสสิ, มุหุตฺตมปิ ปิงฺคิย;
โคตมา ภูริปฺาณา, โคตมา ภูริเมธสา.
‘‘โย เต ธมฺมมเทเสสิ, สนฺทิฏฺิกมกาลิกํ;
ตณฺหกฺขยมนีติกํ, ยสฺส นตฺถิ อุปมา กฺวจิ’’.
‘‘นาหํ ตมฺหา วิปฺปวสามิ, มุหุตฺตมปิ พฺราหฺมณ;
โคตมา ภูริปฺาณา, โคตมา ภูริเมธสา.
‘‘โย เม ธมฺมมเทเสสิ, สนฺทิฏฺิกมกาลิกํ;
ตณฺหกฺขยมนีติกํ, ยสฺส นตฺถิ อุปมา กฺวจิ.
‘‘ปสฺสามิ ¶ นํ มนสา จกฺขุนาว, รตฺตินฺทิวํ พฺราหฺมณ อปฺปมตฺโต;
นมสฺสมาโน วิวเสมิ รตฺตึ, เตเนว มฺามิ อวิปฺปวาสํ.
‘‘สทฺธา จ ปีติ จ มโน สติ จ, นาเปนฺติ เม โคตมสาสนมฺหา;
ยํ ยํ ทิสํ วชติ ภูริปฺโ, ส เตน เตเนว นโตหมสฺมิ.
‘‘ชิณฺณสฺส ¶ เม ทุพฺพลถามกสฺส, เตเนว กาโย น ปเลติ ตตฺถ;
สํกปฺปยนฺตาย [สํกปฺปยตฺตาย (สี.)] วชามิ นิจฺจํ, มโน หิ เม พฺราหฺมณ เตน ยุตฺโต.
‘‘ปงฺเก สยาโน ปริผนฺทมาโน, ทีปา ทีปํ อุปปฺลวึ [อุปลฺลวึ (สฺยา. นิทฺเทส)];
อถทฺทสาสึ สมฺพุทฺธํ, โอฆติณฺณมนาสวํ’’.
‘‘ยถา อหู วกฺกลิ มุตฺตสทฺโธ, ภทฺราวุโธ อาฬวิ โคตโม จ;
เอวเมว ตฺวมฺปิ ปมฺุจสฺสุ สทฺธํ,
คมิสฺสสิ ตฺวํ ปิงฺคิย มจฺจุเธยฺยสฺส ปารํ’’ [มจฺจุเธยฺยปารํ (สี.)].
‘‘เอส ภิยฺโย ปสีทามิ, สุตฺวาน มุนิโน วโจ;
วิวฏฺฏจฺฉโท ¶ สมฺพุทฺโธ, อขิโล ปฏิภานวา.
‘‘อธิเทเว ¶ อภิฺาย, สพฺพํ เวทิ วโรวรํ [ปโร วรํ (สี. สฺยา.), ปโร ปรํ (นิทฺเทส)];
ปฺหานนฺตกโร สตฺถา, กงฺขีนํ ปฏิชานตํ.
‘‘อสํหีรํ ¶ อสงฺกุปฺปํ, ยสฺส นตฺถิ อุปมา กฺวจิ;
อทฺธา คมิสฺสามิ น เมตฺถ กงฺขา, เอวํ มํ ธาเรหิ อธิมุตฺตจิตฺต’’นฺติ.
ปารายนวคฺโค ปฺจโม นิฏฺิโต.
สุตฺตุทฺทานํ –
อุรโค ¶ [อิมา อุทฺทานคาถาโย สี. ปี. โปตฺถเกสุ น สนฺติ] ธนิโยปิ จ, ขคฺควิสาโณ กสิ จ;
จุนฺโท ภโว ปุนเทว, วสโล จ กรณียฺจ;
เหมวโต อถ ยกฺโข, วิชยสุตฺตํ มุนิสุตฺตวรนฺติ.
ปมกฏฺวโร วรวคฺโค, ทฺวาทสสุตฺตธโร สุวิภตฺโต;
เทสิโต จกฺขุมตา วิมเลน, สุยฺยติ วคฺควโร อุรโคติ.
รตนามคนฺโธ หิริมงฺคลนาโม, สุจิโลมกปิโล จ พฺราหฺมณธมฺโม;
นาวา [นาถ (ก.)] กึสีลอุฏฺหโน จ, ราหุโล ¶ จ ปุนปิ วงฺคีโส.
สมฺมาปริพฺพาชนีโยปิ เจตฺถ, ธมฺมิกสุตฺตวโร สุวิภตฺโต;
จุทฺทสสุตฺตธโร ทุติยมฺหิ, จูฬกวคฺควโรติ ตมาหุ.
ปพฺพชฺชปธานสุภาสิตนาโม, ปูรฬาโส ปุนเทว มาโฆ จ;
สภิยํ เกณิยเมว สลฺลนาโม, วาเสฏฺวโร กาลิโกปิ จ.
นาลกสุตฺตวโร สุวิภตฺโต, ตํ อนุปสฺสี ตถา ปุนเทว;
ทฺวาทสสุตฺตธโร ตติยมฺหิ, สุยฺยติ วคฺควโร มหานาโม.
กามคุหฏฺกทุฏฺกนามา ¶ , สุทฺธวโร ปรมฏฺกนาโม;
ชรา เมตฺติยวโร สุวิภตฺโต, ปสูรมาคณฺฑิยา ปุราเภโท.
กลหวิวาโท ¶ อุโภ วิยุหา จ, ตุวฏกอตฺตทณฺฑสาริปุตฺตา;
โสฬสสุตฺตธโร จตุตฺถมฺหิ, อฏฺกวคฺควโรติ ¶ ตมาหุ.
มคเธ ชนปเท รมณีเย, เทสวเร กตปฺุนิเวเส;
ปาสาณกเจติยวเร สุวิภตฺเต, วสิ ภควา คณเสฏฺโ.
อุภยวาสมาคติยมฺหิ [อุภยํ วา ปุณฺณสมาคตํ ยมฺหิ (สฺยา.)], ทฺวาทสโยชนิยา ปริสาย;
โสฬสพฺราหฺมณานํ กิร ปุฏฺโ, ปุจฺฉาย โสฬสปฺหกมฺมิยา;
นิปฺปกาสยิ ธมฺมมทาสิ.
อตฺถปกาสกพฺยฺชนปุณฺณํ, ธมฺมมเทเสสิ ปรเขมชนิยํ [วรํ ขมนียํ (ก.)];
โลกหิตาย ชิโน ทฺวิปทคฺโค, สุตฺตวรํ พหุธมฺมวิจิตฺรํ;
สพฺพกิเลสปโมจนเหตุํ, เทสยิ สุตฺตวรํ ทฺวิปทคฺโค.
พฺยฺชนมตฺถปทํ สมยุตฺตํ [พฺยฺชนมตฺถปทสมยุตฺตํ (สฺยา.)], อกฺขรสฺิตโอปมคาฬฺหํ;
โลกวิจารณาณปภคฺคํ, เทสยิ สุตฺตวรํ ทฺวิปทคฺโค.
ราคมเล ¶ อมลํ วิมลคฺคํ, โทสมเล อมลํ วิมลคฺคํ;
โมหมเล อมลํ วิมลคฺคํ, โลกวิจารณาณปภคฺคํ;
เทสยิ สุตฺตวรํ ทฺวิปทคฺโค.
กฺเลสมเล ¶ อมลํ วิมลคฺคํ, ทุจฺจริตมเล อมลํ วิมลคฺคํ;
โลกวิจารณาณปภคฺคํ, เทสยิ สุตฺตวรํ ทฺวิปทคฺโค.
อาสวพนฺธนโยคากิเลสํ, นีวรณานิ จ ตีณิ มลานิ;
ตสฺส กิเลสปโมจนเหตุํ, เทสยิ สุตฺตวรํ ทฺวิปทคฺโค.
นิมฺมลสพฺพกิเลสปนูทํ, ราควิราคมเนชมโสกํ;
สนฺตปณีตสุทุทฺทสธมฺมํ, เทสยิ ¶ สุตฺตวรํ ทฺวิปทคฺโค.
ราคฺจ ¶ โทสกมภฺชิตสนฺตํ [โทสฺจ ภฺชิตสนฺตํ (สฺยา.)], โยนิจตุคฺคติปฺจวิฺาณํ;
ตณฺหารตจฺฉทนตาณลตาปโมกฺขํ [ตณฺหาตลรตจฺเฉทนตาณปโมกฺขํ (สฺยา.)], เทสยิ สุตฺตวรํ ทฺวิปทคฺโค.
คมฺภีรทุทฺทสสณฺหนิปุณํ, ปณฺฑิตเวทนิยํ นิปุณตฺถํ;
โลกวิจารณาณปภคฺคํ, เทสยิ สุตฺตวรํ ทฺวิปทคฺโค.
นวงฺคกุสุมมาลคีเวยฺยํ, อินฺทฺริยฌานวิโมกฺขวิภตฺตํ;
อฏฺงฺคมคฺคธรํ วรยานํ, เทสยิ สุตฺตวรํ ทฺวิปทคฺโค.
โสมุปมํ ¶ วิมลํ ปริสุทฺธํ, อณฺณวมูปมรตนสุจิตฺตํ;
ปุปฺผสมํ รวิมูปมเตชํ, เทสยิ สุตฺตวรํ ทฺวิปทคฺโค.
เขมสิวํ สุขสีตลสนฺตํ, มจฺจุตตาณปรํ ปรมตฺถํ;
ตสฺส สุนิพฺพุตทสฺสนเหตุํ, เทสยิ สุตฺตวรํ ทฺวิปทคฺโคติ.
สุตฺตนิปาตปาฬิ นิฏฺิตา.