📜

๕. ปารายนวคฺโค

วตฺถุคาถา

๙๘๒.

โกสลานํ ปุรา รมฺมา, อคมา ทกฺขิณาปถํ;

อากิฺจฺํ ปตฺถยาโน, พฺราหฺมโณ มนฺตปารคู.

๙๘๓.

โส อสฺสกสฺส วิสเย, อฬกสฺส [มุฬกสฺส (สฺยา.), มูฬฺหกสฺส (ก.), มฬกสฺส (นิทฺเทส)] สมาสเน;

วสิ โคธาวรีกูเล, อุฺเฉน จ ผเลน จ.

๙๘๔.

ตสฺเสว อุปนิสฺสาย, คาโม จ วิปุโล อหุ;

ตโต ชาเตน อาเยน, มหายฺมกปฺปยิ.

๙๘๕.

มหายฺํ ยชิตฺวาน, ปุน ปาวิสิ อสฺสมํ;

ตสฺมึ ปฏิปวิฏฺมฺหิ, อฺโ อาคฺฉิ พฺราหฺมโณ.

๙๘๖.

อุคฺฆฏฺฏปาโท ตสิโต [ตสฺสิโต (ก.)], ปงฺกทนฺโต รชสฺสิโร;

โส จ นํ อุปสงฺกมฺม, สตานิ ปฺจ ยาจติ.

๙๘๗.

ตเมนํ พาวรี ทิสฺวา, อาสเนน นิมนฺตยิ;

สุขฺจ กุสลํ ปุจฺฉิ, อิทํ วจนมพฺรวิ.

๙๘๘.

‘‘ยํ โข มม เทยฺยธมฺมํ, สพฺพํ วิสชฺชิตํ มยา;

อนุชานาหิ เม พฺรหฺเม, นตฺถิ ปฺจสตานิ เม’’.

๙๘๙.

‘‘สเจ เม ยาจมานสฺส, ภวํ นานุปทสฺสติ;

สตฺตเม ทิวเส ตุยฺหํ, มุทฺธา ผลตุ สตฺตธา’’.

๙๙๐.

อภิสงฺขริตฺวา กุหโก, เภรวํ โส อกิตฺตยิ;

ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, พาวรี ทุกฺขิโต อหุ.

๙๙๑.

อุสฺสุสฺสติ อนาหาโร, โสกสลฺลสมปฺปิโต;

อโถปิ เอวํ จิตฺตสฺส, ฌาเน น รมตี มโน.

๙๙๒.

อุตฺรสฺตํ ทุกฺขิตํ ทิสฺวา, เทวตา อตฺถกามินี;

พาวรึ อุปสงฺกมฺม, อิทํ วจนมพฺรวิ.

๙๙๓.

‘‘น โส มุทฺธํ ปชานาติ, กุหโก โส ธนตฺถิโก;

มุทฺธนิ มุทฺธปาเต วา, าณํ ตสฺส น วิชฺชติ’’.

๙๙๔.

‘‘โภตี จรหิ ชานาสิ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิตา;

มุทฺธํ มุทฺธาธิปาตฺจ, ตํ สุโณม วโจ ตว’’.

๙๙๕.

‘‘อหมฺเปตํ น ชานามิ, าณเมตฺถ น วิชฺชติ;

มุทฺธนิ มุทฺธาธิปาเต จ, ชินานํ เหตฺถ [มุทฺธํ มุทฺธาธิปาโต จ, ชินานํ เหต (สี. สฺยา. ปี.)] ทสฺสนํ’’.

๙๙๖.

‘‘อถ โก จรหิ ชานาติ, อสฺมึ ปถวิมณฺฑเล [ปุถวิมณฺฑเล (สี. ปี.)];

มุทฺธํ มุทฺธาธิปาตฺจ, ตํ เม อกฺขาหิ เทวเต’’.

๙๙๗.

‘‘ปุรา กปิลวตฺถุมฺหา, นิกฺขนฺโต โลกนายโก;

อปจฺโจ โอกฺกากราชสฺส, สกฺยปุตฺโต ปภงฺกโร.

๙๙๘.

‘‘โส หิ พฺราหฺมณ สมฺพุทฺโธ, สพฺพธมฺมาน ปารคู;

สพฺพาภิฺาพลปฺปตฺโต, สพฺพธมฺเมสุ จกฺขุมา;

สพฺพกมฺมกฺขยํ ปตฺโต, วิมุตฺโต อุปธิกฺขเย.

๙๙๙.

‘‘พุทฺโธ โส ภควา โลเก, ธมฺมํ เทเสติ จกฺขุมา;

ตํ ตฺวํ คนฺตฺวาน ปุจฺฉสฺสุ, โส เต ตํ พฺยากริสฺสติ’’.

๑๐๐๐.

สมฺพุทฺโธติ วโจ สุตฺวา, อุทคฺโค พาวรี อหุ;

โสกสฺส ตนุโก อาสิ, ปีติฺจ วิปุลํ ลภิ.

๑๐๐๑.

โส พาวรี อตฺตมโน อุทคฺโค, ตํ เทวตํ ปุจฺฉติ เวทชาโต;

‘‘กตมมฺหิ คาเม นิคมมฺหิ วา ปน, กตมมฺหิ วา ชนปเท โลกนาโถ;

ยตฺถ คนฺตฺวาน ปสฺเสมุ [คนฺตฺวา นมสฺเสมุ (สี. สฺยา. ปี.)], สมฺพุทฺธํ ทฺวิปทุตฺตมํ’’ [ทฺวิปทุตฺตมํ (สี. สฺยา. ปี.)],.

๑๐๐๒.

‘‘สาวตฺถิยํ โกสลมนฺทิเร ชิโน, ปหูตปฺโ วรภูริเมธโส;

โส สกฺยปุตฺโต วิธุโร อนาสโว, มุทฺธาธิปาตสฺส วิทู นราสโภ’’.

๑๐๐๓.

ตโต อามนฺตยี สิสฺเส, พฺราหฺมเณ มนฺตปารเค;

‘‘เอถ มาณวา อกฺขิสฺสํ, สุณาถ วจนํ มม.

๑๐๐๔.

‘‘ยสฺเสโส ทุลฺลโภ โลเก, ปาตุภาโว อภิณฺหโส;

สฺวาชฺช โลกมฺหิ อุปฺปนฺโน, สมฺพุทฺโธ อิติ วิสฺสุโต;

ขิปฺปํ คนฺตฺวาน สาวตฺถึ, ปสฺสวฺโห ทฺวิปทุตฺตมํ’’.

๑๐๐๕.

‘‘กถํ จรหิ ชาเนมุ, ทิสฺวา พุทฺโธติ พฺราหฺมณ;

อชานตํ โน ปพฺรูหิ, ยถา ชาเนมุ ตํ มยํ’’.

๑๐๐๖.

‘‘อาคตานิ หิ มนฺเตสุ, มหาปุริสลกฺขณา;

ทฺวตฺตึสานิ จ [ทฺวิตฺตึสา จ (สี. สฺยา. ปี.), ทฺวิตฺตึส ตานิ (?)] พฺยากฺขาตา, สมตฺตา อนุปุพฺพโส.

๑๐๐๗.

‘‘ยสฺเสเต โหนฺติ คตฺเตสุ, มหาปุริสลกฺขณา;

ทฺเวเยว ตสฺส คติโย, ตติยา หิ น วิชฺชติ.

๑๐๐๘.

‘‘สเจ อคารํ อาวสติ [อชฺฌาวสติ (ก.)], วิเชยฺย ปถวึ อิมํ;

อทณฺเฑน อสตฺเถน, ธมฺเมนมนุสาสติ.

๑๐๐๙.

‘‘สเจ จ โส ปพฺพชติ, อคารา อนคาริยํ;

วิวฏฺฏจฺฉโท [วิวตฺตฉทฺโท (สี.)] สมฺพุทฺโธ, อรหา ภวติ อนุตฺตโร.

๑๐๑๐.

‘‘ชาตึ โคตฺตฺจ ลกฺขณํ, มนฺเต สิสฺเส ปุนาปเร;

มุทฺธํ มุทฺธาธิปาตฺจ, มนสาเยว ปุจฺฉถ.

๑๐๑๑.

‘‘อนาวรณทสฺสาวี, ยทิ พุทฺโธ ภวิสฺสติ;

มนสา ปุจฺฉิเต ปฺเห, วาจาย วิสฺสเชสฺสติ’’.

๑๐๑๒.

พาวริสฺส วโจ สุตฺวา, สิสฺสา โสฬส พฺราหฺมณา;

อชิโต ติสฺสเมตฺเตยฺโย, ปุณฺณโก อถ เมตฺตคู.

๑๐๑๓.

โธตโก อุปสีโว จ, นนฺโท จ อถ เหมโก;

โตเทยฺยกปฺปา ทุภโย, ชตุกณฺณี จ ปณฺฑิโต.

๑๐๑๔.

ภทฺราวุโธ อุทโย จ, โปสาโล จาปิ พฺราหฺมโณ;

โมฆราชา จ เมธาวี, ปิงฺคิโย จ มหาอิสิ.

๑๐๑๕.

ปจฺเจกคณิโน สพฺเพ, สพฺพโลกสฺส วิสฺสุตา;

ฌายี ฌานรตา ธีรา, ปุพฺพวาสนวาสิตา.

๑๐๑๖.

พาวรึ อภิวาเทตฺวา, กตฺวา จ นํ ปทกฺขิณํ;

ชฏาชินธรา สพฺเพ, ปกฺกามุํ อุตฺตรามุขา.

๑๐๑๗.

อฬกสฺส ปติฏฺานํ, ปุริมาหิสฺสตึ [ปุริมํ มาหิสฺสตึ (สี. ปี.), ปุรํ มาหิสฺสตึ (สฺยา.)] ตทา;

อุชฺเชนิฺจาปิ โคนทฺธํ, เวทิสํ วนสวฺหยํ.

๑๐๑๘.

โกสมฺพิฺจาปิ สาเกตํ, สาวตฺถิฺจ ปุรุตฺตมํ;

เสตพฺยํ กปิลวตฺถุํ, กุสินารฺจ มนฺทิรํ.

๑๐๑๙.

ปาวฺจ โภคนครํ, เวสาลึ มาคธํ ปุรํ;

ปาสาณกํ เจติยฺจ, รมณียํ มโนรมํ.

๑๐๒๐.

ตสิโตวุทกํ สีตํ, มหาลาภํว วาณิโช;

ฉายํ ฆมฺมาภิตตฺโตว, ตุริตา ปพฺพตมารุหุํ.

๑๐๒๑.

ภควา ตมฺหิ สมเย, ภิกฺขุสงฺฆปุรกฺขโต;

ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสติ, สีโหว นทตี วเน.

๑๐๒๒.

อชิโต อทฺทส พุทฺธํ, สตรํสึ [วีตรํสึว (สฺยา.), สตรํสีว (ก.), ปีตรํสีว (นิทฺเทส)] ว ภาณุมํ;

จนฺทํ ยถา ปนฺนรเส, ปาริปูรึ อุปาคตํ.

๑๐๒๓.

อถสฺส คตฺเต ทิสฺวาน, ปริปูรฺจ พฺยฺชนํ;

เอกมนฺตํ ิโต หฏฺโ, มโนปฺเห อปุจฺฉถ.

๑๐๒๔.

‘‘อาทิสฺส ชมฺมนํ [ชปฺปนํ (ก.)] พฺรูหิ, โคตฺตํ พฺรูหิ สลกฺขณํ [พฺรูหิสฺส ลกฺขณํ (นิทฺเทส)];

มนฺเตสุ ปารมึ พฺรูหิ, กติ วาเจติ พฺราหฺมโณ’’.

๑๐๒๕.

‘‘วีสํ วสฺสสตํ อายุ, โส จ โคตฺเตน พาวรี;

ตีณิสฺส ลกฺขณา คตฺเต, ติณฺณํ เวทาน ปารคู.

๑๐๒๖.

‘‘ลกฺขเณ อิติหาเส จ, สนิฆณฺฑุสเกฏุเภ;

ปฺจสตานิ วาเจติ, สธมฺเม ปารมึ คโต’’.

๑๐๒๗.

‘‘ลกฺขณานํ ปวิจยํ, พาวริสฺส นรุตฺตม;

กงฺขจฺฉิท [ตณฺหจฺฉิท (พหูสุ)] ปกาเสหิ, มา โน กงฺขายิตํ อหุ’’.

๑๐๒๘.

‘‘มุขํ ชิวฺหาย ฉาเทติ, อุณฺณสฺส ภมุกนฺตเร;

โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํ, เอวํ ชานาหิ มาณว’’.

๑๐๒๙.

ปุจฺฉฺหิ กิฺจิ อสุณนฺโต, สุตฺวา ปฺเห วิยากเต;

วิจินฺเตติ ชโน สพฺโพ, เวทชาโต กตฺชลี.

๑๐๓๐.

‘‘โก นุ เทโว วา พฺรหฺมา วา, อินฺโท วาปิ สุชมฺปติ;

มนสา ปุจฺฉิเต ปฺเห, กเมตํ ปฏิภาสติ.

๑๐๓๑.

‘‘มุทฺธํ มุทฺธาธิปาตฺจ, พาวรี ปริปุจฺฉติ;

ตํ พฺยากโรหิ ภควา, กงฺขํ วินย โน อิเส’’.

๑๐๓๒.

‘‘อวิชฺชา มุทฺธาติ ชานาหิ, วิชฺชา มุทฺธาธิปาตินี;

สทฺธาสติสมาธีหิ, ฉนฺทวีริเยน สํยุตา’’.

๑๐๓๓.

ตโต เวเทน มหตา, สนฺถมฺภิตฺวาน มาณโว;

เอกํสํ อชินํ กตฺวา, ปาเทสุ สิรสา ปติ.

๑๐๓๔.

‘‘พาวรี พฺราหฺมโณ โภโต, สห สิสฺเสหิ มาริส;

อุทคฺคจิตฺโต สุมโน, ปาเท วนฺทติ จกฺขุม’’.

๑๐๓๕.

‘‘สุขิโต พาวรี โหตุ, สห สิสฺเสหิ พฺราหฺมโณ;

ตฺวฺจาปิ สุขิโต โหหิ, จิรํ ชีวาหิ มาณว.

๑๐๓๖.

‘‘พาวริสฺส จ ตุยฺหํ วา, สพฺเพสํ สพฺพสํสยํ;

กตาวกาสา ปุจฺฉวฺโห, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉถ’’.

๑๐๓๗.

สมฺพุทฺเธน กโตกาโส, นิสีทิตฺวาน ปฺชลี;

อชิโต ปมํ ปฺหํ, ตตฺถ ปุจฺฉิ ตถาคตํ.

วตฺถุคาถา นิฏฺิตา.

๑. อชิตมาณวปุจฺฉา

๑๐๓๘.

‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก, (อิจฺจายสฺมา อชิโต)

เกนสฺสุ นปฺปกาสติ;

กิสฺสาภิเลปนํ พฺรูสิ, กึสุ ตสฺส มหพฺภยํ’’.

๑๐๓๙.

‘‘อวิชฺชาย นิวุโต โลโก, (อชิตาติ ภควา)

เววิจฺฉา ปมาทา นปฺปกาสติ;

ชปฺปาภิเลปนํ พฺรูมิ, ทุกฺขมสฺส มหพฺภยํ’’.

๑๐๔๐.

‘‘สวนฺติ สพฺพธิ โสตา, (อิจฺจายสฺมา อชิโต)

โสตานํ กึ นิวารณํ;

โสตานํ สํวรํ พฺรูหิ, เกน โสตา ปิธิยฺยเร’’ [ปิถิยฺยเร (สี. สฺยา. ปี.), ปิถียเร (สี. อฏฺ.), ปิธียเร (?)].

๑๐๔๑.

‘‘ยานิ โสตานิ โลกสฺมึ, (อชิตาติ ภควา)

สติ เตสํ นิวารณํ;

โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ, ปฺาเยเต ปิธิยฺยเร’’.

๑๐๔๒.

‘‘ปฺา เจว สติ ยฺจ [สตี เจว (สี.), สตี จ (สฺยา.), สตี จาปิ (ปี. นิทฺเทส), สติ จาปิ (นิทฺเทส)], (อิจฺจายสฺมา อชิโต)

นามรูปฺจ มาริส;

เอตํ เม ปุฏฺโ ปพฺรูหิ, กตฺเถตํ อุปรุชฺฌติ’’.

๑๐๔๓.

‘‘ยเมตํ ปฺหํ อปุจฺฉิ, อชิต ตํ วทามิ เต;

ยตฺถ นามฺจ รูปฺจ, อเสสํ อุปรุชฺฌติ;

วิฺาณสฺส นิโรเธน, เอตฺเถตํ อุปรุชฺฌติ’’.

๑๐๔๔.

‘‘เย จ สงฺขาตธมฺมาเส, เย จ เสขา ปุถู อิธ;

เตสํ เม นิปโก อิริยํ, ปุฏฺโ ปพฺรูหิ มาริส’’.

๑๐๔๕.

‘‘กาเมสุ นาภิคิชฺเฌยฺย, มนสานาวิโล สิยา;

กุสโล สพฺพธมฺมานํ, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ.

อชิตมาณวปุจฺฉา ปมา นิฏฺิตา.

๒. ติสฺสเมตฺเตยฺยมาณวปุจฺฉา

๑๐๔๖.

‘‘โกธ สนฺตุสิโต โลเก, (อิจฺจายสฺมา ติสฺสเมตฺเตยฺโย)

กสฺส โน สนฺติ อิฺชิตา;

โก อุภนฺตมภิฺาย, มชฺเฌ มนฺตา น ลิปฺปติ [ลิมฺปติ (ก.)];

กํ พฺรูสิ มหาปุริโสติ, โก อิธ สิพฺพินิมจฺจคา’’.

๑๐๔๗.

‘‘กาเมสุ พฺรหฺมจริยวา, (เมตฺเตยฺยาติ ภควา)

วีตตณฺโห สทา สโต;

สงฺขาย นิพฺพุโต ภิกฺขุ, ตสฺส โน สนฺติ อิฺชิตา.

๑๐๔๘.

‘‘โส อุภนฺตมภิฺาย, มชฺเฌ มนฺตา น ลิปฺปติ;

ตํ พฺรูมิ มหาปุริโสติ, โส อิธ สิพฺพินิมจฺจคา’’ติ.

ติสฺสเมตฺเตยฺยมาณวปุจฺฉา ทุติยา นิฏฺิตา.

๓. ปุณฺณกมาณวปุจฺฉา

๑๐๔๙.

‘‘อเนชํ มูลทสฺสาวึ, (อิจฺจายสฺมา ปุณฺณโก)

อตฺถิ [อตฺถี (สฺยา.)] ปฺเหน อาคมํ;

กึ นิสฺสิตา อิสโย มนุชา, ขตฺติยา พฺราหฺมณา เทวตานํ;

ยฺมกปฺปยึสุ ปุถูธ โลเก, ปุจฺฉามิ ตํ ภควา พฺรูหิ เม ตํ’’.

๑๐๕๐.

‘‘เย เกจิเม อิสโย มนุชา, (ปุณฺณกาติ ภควา)

ขตฺติยา พฺราหฺมณา เทวตานํ;

ยฺมกปฺปยึสุ ปุถูธ โลเก, อาสีสมานา ปุณฺณก อิตฺถตฺตํ [อิตฺถภาวํ (สี. สฺยา.)];

ชรํ สิตา ยฺมกปฺปยึสุ’’.

๑๐๕๑.

‘‘เย เกจิเม อิสโย มนุชา, (อิจฺจายสฺมา ปุณฺณโก)

ขตฺติยา พฺราหฺมณา เทวตานํ;

ยฺมกปฺปยึสุ ปุถูธ โลเก, กจฺจิสฺสุ เต ภควา ยฺปเถ อปฺปมตฺตา;

อตารุํ ชาติฺจ ชรฺจ มาริส, ปุจฺฉามิ ตํ ภควา พฺรูหิ เม ตํ’’.

๑๐๕๒.

‘‘อาสีสนฺติ โถมยนฺติ, อภิชปฺปนฺติ ชุหนฺติ; (ปุณฺณกาติ ภควา)

กามาภิชปฺปนฺติ ปฏิจฺจ ลาภํ, เต ยาชโยคา ภวราครตฺตา;

นาตรึสุ ชาติชรนฺติ พฺรูมิ’’.

๑๐๕๓.

‘‘เต เจ นาตรึสุ ยาชโยคา, (อิจฺจายสฺมา ปุณฺณโก)

ยฺเหิ ชาติฺจ ชรฺจ มาริส;

อถ โก จรหิ เทวมนุสฺสโลเก, อตาริ ชาติฺจ ชรฺจ มาริส;

ปุจฺฉามิ ตํ ภควา พฺรูหิ เม ตํ’’.

๑๐๕๔.

‘‘สงฺขาย โลกสฺมิ ปโรปรานิ [ปโรวรานิ (สี. สฺยา.)], (ปุณฺณกาติ ภควา)

ยสฺสิฺชิตํ นตฺถิ กุหิฺจิ โลเก;

สนฺโต วิธูโม อนีโฆ นิราโส, อตาริ โส ชาติชรนฺติ พฺรูมี’’ติ.

ปุณฺณกมาณวปุจฺฉา ตติยา นิฏฺิตา.

๔. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉา

๑๐๕๕.

‘‘ปุจฺฉามิ ตํ ภควา พฺรูหิ เม ตํ, (อิจฺจายสฺมา เมตฺตคู)

มฺามิ ตํ เวทคุํ ภาวิตตฺตํ;

กุโต นุ ทุกฺขา สมุทาคตา อิเม, เย เกจิ โลกสฺมิมเนกรูปา’’.

๑๐๕๖.

‘‘ทุกฺขสฺส เว มํ ปภวํ อปุจฺฉสิ, (เมตฺตคูติ ภควา)

ตํ เต ปวกฺขามิ ยถา ปชานํ;

อุปธินิทานา ปภวนฺติ ทุกฺขา, เย เกจิ โลกสฺมิมเนกรูปา.

๑๐๕๗.

‘‘โย เว อวิทฺวา อุปธึ กโรติ, ปุนปฺปุนํ ทุกฺขมุเปติ มนฺโท;

ตสฺมา ปชานํ อุปธึ น กยิรา, ทุกฺขสฺส ชาติปฺปภวานุปสฺสี’’.

๑๐๕๘.

‘‘ยํ ตํ อปุจฺฉิมฺห อกิตฺตยี โน, อฺํ ตํ ปุจฺฉาม [ปุจฺฉามิ (สี. ปี.)] ตทิงฺฆ พฺรูหิ;

กถํ นุ ธีรา วิตรนฺติ โอฆํ, ชาตึ ชรํ โสกปริทฺทวฺจ;

ตํ เม มุนิ สาธุ วิยากโรหิ, ตถา หิ เต วิทิโต เอส ธมฺโม’’.

๑๐๕๙.

‘‘กิตฺตยิสฺสามิ เต ธมฺมํ, (เมตฺตคูติ ภควา)

ทิฏฺเ ธมฺเม อนีติหํ;

ยํ วิทิตฺวา สโต จรํ, ตเร โลเก วิสตฺติกํ’’.

๑๐๖๐.

‘‘ตฺจาหํ อภินนฺทามิ, มเหสิ ธมฺมมุตฺตมํ;

ยํ วิทิตฺวา สโต จรํ, ตเร โลเก วิสตฺติกํ’’.

๑๐๖๑.

‘‘ยํ กิฺจิ สมฺปชานาสิ, (เมตฺตคูติ ภควา)

อุทฺธํ อโธ ติริยฺจาปิ มชฺเฌ;

เอเตสุ นนฺทิฺจ นิเวสนฺจ, ปนุชฺช วิฺาณํ ภเว น ติฏฺเ.

๑๐๖๒.

‘‘เอวํวิหารี สโต อปฺปมตฺโต, ภิกฺขุ จรํ หิตฺวา มมายิตานิ;

ชาตึ ชรํ โสกปริทฺทวฺจ, อิเธว วิทฺวา ปชเหยฺย ทุกฺขํ’’.

๑๐๖๓.

‘‘เอตาภินนฺทามิ วโจ มเหสิโน, สุกิตฺติตํ โคตมนูปธีกํ;

อทฺธา หิ ภควา ปหาสิ ทุกฺขํ, ตถา หิ เต วิทิโต เอส ธมฺโม.

๑๐๖๔.

‘‘เต จาปิ นูนปฺปชเหยฺยุ ทุกฺขํ, เย ตฺวํ มุนิ อฏฺิตํ โอวเทยฺย;

ตํ ตํ นมสฺสามิ สเมจฺจ นาค, อปฺเปว มํ ภควา อฏฺิตํ โอวเทยฺย’’.

๑๐๖๕.

‘‘ยํ พฺราหฺมณํ เวทคุมาภิชฺา, อกิฺจนํ กามภเว อสตฺตํ;

อทฺธา หิ โส โอฆมิมํ อตาริ, ติณฺโณ จ ปารํ อขิโล อกงฺโข.

๑๐๖๖.

‘‘วิทฺวา จ โย [โส (สี. สฺยา. ปี.)] เวทคู นโร อิธ, ภวาภเว สงฺคมิมํ วิสชฺช;

โส วีตตณฺโห อนีโฆ นิราโส, อตาริ โส ชาติชรนฺติ พฺรูมี’’ติ.

เมตฺตคูมาณวปุจฺฉา จตุตฺถี นิฏฺิตา.

๕. โธตกมาณวปุจฺฉา

๑๐๖๗.

‘‘ปุจฺฉามิ ตํ ภควา พฺรูหิ เม ตํ, (อิจฺจายสฺมา โธตโก)

วาจาภิกงฺขามิ มเหสิ ตุยฺหํ;

ตว สุตฺวาน นิคฺโฆสํ, สิกฺเข นิพฺพานมตฺตโน’’.

๑๐๖๘.

‘‘เตนหาตปฺปํ กโรหิ, (โธตกาติ ภควา) อิเธว นิปโก สโต;

อิโต สุตฺวาน นิคฺโฆสํ, สิกฺเข นิพฺพานมตฺตโน’’.

๑๐๖๙.

‘‘ปสฺสามหํ เทวมนุสฺสโลเก, อกิฺจนํ พฺราหฺมณมิริยมานํ;

ตํ ตํ นมสฺสามิ สมนฺตจกฺขุ, ปมุฺจ มํ สกฺก กถํกถาหิ’’.

๑๐๗๐.

‘‘นาหํ สหิสฺสามิ [สมิสฺสามิ (สฺยา.), คมิสฺสามิ (สี.), สมีหามิ (ปี.)] ปโมจนาย, กถํกถึ โธตก กฺจิ โลเก;

ธมฺมฺจ เสฏฺํ อภิชานมาโน [อาชานมาโน (สี. สฺยา. ปี.)], เอวํ ตุวํ โอฆมิมํ ตเรสิ’’.

๑๐๗๑.

‘‘อนุสาส พฺรหฺเม กรุณายมาโน, วิเวกธมฺมํ ยมหํ วิชฺํ;

ยถาหํ อากาโสว อพฺยาปชฺชมาโน, อิเธว สนฺโต อสิโต จเรยฺยํ’’.

๑๐๗๒.

‘‘กิตฺตยิสฺสามิ เต สนฺตึ, (โธตกาติ ภควา) ทิฏฺเ ธมฺเม อนีติหํ;

ยํ วิทิตฺวา สโต จรํ, ตเร โลเก วิสตฺติกํ’’.

๑๐๗๓.

‘‘ตฺจาหํ อภินนฺทามิ, มเหสิ สนฺติมุตฺตมํ;

ยํ วิทิตฺวา สโต จรํ, ตเร โลเก วิสตฺติกํ’’.

๑๐๗๔.

‘‘ยํ กิฺจิ สมฺปชานาสิ, (โธตกาติ ภควา)

อุทฺธํ อโธ ติริยฺจาปิ มชฺเฌ;

เอตํ วิทิตฺวา สงฺโคติ โลเก, ภวาภวาย มากาสิ ตณฺห’’นฺติ.

โธตกมาณวปุจฺฉา ปฺจมี นิฏฺิตา.

๖. อุปสีวมาณวปุจฺฉา

๑๐๗๕.

‘‘เอโก อหํ สกฺก มหนฺตโมฆํ, (อิจฺจายสฺมา อุปสีโว)

อนิสฺสิโต โน วิสหามิ ตาริตุํ;

อารมฺมณํ พฺรูหิ สมนฺตจกฺขุ, ยํ นิสฺสิโต โอฆมิมํ ตเรยฺยํ’’.

๑๐๗๖.

‘‘อากิฺจฺํ เปกฺขมาโน สติมา, (อุปสีวาติ ภควา)

นตฺถีติ นิสฺสาย ตรสฺสุ โอฆํ;

กาเม ปหาย วิรโต กถาหิ, ตณฺหกฺขยํ นตฺตมหาภิปสฺส’’ [รตฺตมหาภิปสฺส (สฺยา.), รตฺตมหํ วิปสฺส (ก.)].

๑๐๗๗.

‘‘สพฺเพสุ กาเมสุ โย วีตราโค, (อิจฺจายสฺมา อุปสีโว)

อากิฺจฺํ นิสฺสิโต หิตฺวา มฺํ;

สฺาวิโมกฺเข ปรเม วิมุตฺโต [ธิมุตฺโต (ก.)], ติฏฺเ นุ โส ตตฺถ อนานุยายี’’ [อนานุวายี (สฺยา. ก.)].

๑๐๗๘.

‘‘สพฺเพสุ กาเมสุ โย วีตราโค, (อุปสีวาติ ภควา)

อากิฺจฺํ นิสฺสิโต หิตฺวา มฺํ;

สฺาวิโมกฺเข ปรเม วิมุตฺโต, ติฏฺเยฺย โส ตตฺถ อนานุยายี’’.

๑๐๗๙.

‘‘ติฏฺเ เจ โส ตตฺถ อนานุยายี, ปูคมฺปิ วสฺสานํ สมนฺตจกฺขุ;

ตตฺเถว โส สีติสิยา วิมุตฺโต, จเวถ วิฺาณํ ตถาวิธสฺส’’.

๑๐๘๐.

‘‘อจฺจี ยถา วาตเวเคน ขิตฺตา [ขิตฺตํ (สฺยา.), ขิตฺโต (ปี.)], (อุปสีวาติ ภควา)

อตฺถํ ปเลติ น อุเปติ สงฺขํ;

เอวํ มุนี นามกายา วิมุตฺโต, อตฺถํ ปเลติ น อุเปติ สงฺขํ’’.

๑๐๘๑.

‘‘อตฺถงฺคโต โส อุท วา โส นตฺถิ, อุทาหุ เว สสฺสติยา อโรโค;

ตํ เม มุนี สาธุ วิยากโรหิ, ตถา หิ เต วิทิโต เอส ธมฺโม’’.

๑๐๘๒.

‘‘อตฺถงฺคตสฺส น ปมาณมตฺถิ, (อุปสีวาติ ภควา)

เยน นํ วชฺชุํ ตํ ตสฺส นตฺถิ;

สพฺเพสุ ธมฺเมสุ สมูหเตสุ, สมูหตา วาทปถาปิ สพฺเพ’’ติ.

อุปสีวมาณวปุจฺฉา ฉฏฺี นิฏฺิตา.

๗. นนฺทมาณวปุจฺฉา

๑๐๘๓.

‘‘สนฺติ โลเก มุนโย, (อิจฺจายสฺมา นนฺโท)

ชนา วทนฺติ ตยิทํ กถํสุ;

าณูปปนฺนํ โน มุนึ [มุนิ โน (สฺยา. ก.)] วทนฺติ, อุทาหุ เว ชีวิเตนูปปนฺนํ’’.

๑๐๘๔.

‘‘น ทิฏฺิยา น สุติยา น าเณน, (น สีลพฺพเตน) [( ) นตฺถิ สี.-ปี โปตฺถเกสุ]

มุนีธ นนฺท กุสลา วทนฺติ;

วิเสนิกตฺวา อนีฆา นิราสา, จรนฺติ เย เต มุนโยติ พฺรูมิ’’.

๑๐๘๕.

‘‘เย เกจิเม สมณพฺราหฺมณาเส, (อิจฺจายสฺมา นนฺโท)

ทิฏฺสฺสุเตนาปิ [ทิฏฺเน สุเตนาปิ (สี.), ทิฏฺเ สุเตนาปิ (สฺยา. ปี. ก.)] วทนฺติ สุทฺธึ;

สีลพฺพเตนาปิ วทนฺติ สุทฺธึ, อเนกรูเปน วทนฺติ สุทฺธึ;

กจฺจิสฺสุ เต ภควา ตตฺถ ยตา จรนฺตา, อตารุ ชาติฺจ ชรฺจ มาริส;

ปุจฺฉามิ ตํ ภควา พฺรูหิ เม ตํ’’.

๑๐๘๖.

‘‘เย เกจิเม สมณพฺราหฺมณาเส, (นนฺทาติ ภควา)

ทิฏฺสฺสุเตนาปิ วทนฺติ สุทฺธึ;

สีลพฺพเตนาปิ วทนฺติ สุทฺธึ, อเนกรูเปน วทนฺติ สุทฺธึ;

กิฺจาปิ เต ตตฺถ ยตา จรนฺติ, นารึสุ ชาติชรนฺติ พฺรูมิ’’.

๑๐๘๗.

‘‘เย เกจิเม สมณพฺราหฺมณาเส, (อิจฺจายสฺมา นนฺโท)

ทิฏฺสฺสุเตนาปิ วทนฺติ สุทฺธึ;

สีลพฺพเตนาปิ วทนฺติ สุทฺธึ, อเนกรูเปน วทนฺติ สุทฺธึ;

เต เจ มุนิ [สเจ มุนิ (สี.)] พฺรูสิ อโนฆติณฺเณ, อถ โก จรหิ เทวมนุสฺสโลเก;

อตาริ ชาติฺจ ชรฺจ มาริส, ปุจฺฉามิ ตํ ภควา พฺรูหิ เม ตํ’’.

๑๐๘๘.

‘‘นาหํ สพฺเพ สมณพฺราหฺมณาเส, (นนฺทาติ ภควา)

ชาติชราย นิวุตาติ พฺรูมิ;

เย สีธ ทิฏฺํว สุตํ มุตํ วา, สีลพฺพตํ วาปิ ปหาย สพฺพํ;

อเนกรูปมฺปิ ปหาย สพฺพํ, ตณฺหํ ปริฺาย อนาสวาเส;

เต เว นรา โอฆติณฺณาติ พฺรูมิ’’.

๑๐๘๙.

‘‘เอตาภินนฺทามิ วโจ มเหสิโน, สุกิตฺติตํ โคตมนูปธีกํ;

เย สีธ ทิฏฺํ ว สุตํ มุตํ วา, สีลพฺพตํ วาปิ ปหาย สพฺพํ;

อเนกรูปมฺปิ ปหาย สพฺพํ, ตณฺหํ ปริฺาย อนาสวาเส;

อหมฺปิ เต โอฆติณฺณาติ พฺรูมี’’ติ.

นนฺทมาณวปุจฺฉา สตฺตมา นิฏฺิตา.

๘. เหมกมาณวปุจฺฉา

๑๐๙๐.

‘‘เย เม ปุพฺเพ วิยากํสุ, (อิจฺจายสฺมา เหมโก)

หุรํ โคตมสาสนา;

อิจฺจาสิ อิติ ภวิสฺสติ, สพฺพํ ตํ อิติหีติหํ;

สพฺพํ ตํ ตกฺกวฑฺฒนํ, นาหํ ตตฺถ อภิรมึ.

๑๐๙๑.

‘‘ตฺวฺจ เม ธมฺมมกฺขาหิ, ตณฺหานิคฺฆาตนํ มุนิ;

ยํ วิทิตฺวา สโต จรํ, ตเร โลเก วิสตฺติกํ’’.

๑๐๙๒.

‘‘อิธ ทิฏฺสุตมุตวิฺาเตสุ, ปิยรูเปสุ เหมก;

ฉนฺทราควิโนทนํ, นิพฺพานปทมจฺจุตํ.

๑๐๙๓.

‘‘เอตทฺาย เย สตา, ทิฏฺธมฺมาภินิพฺพุตา;

อุปสนฺตา จ เต สทา, ติณฺณา โลเก วิสตฺติก’’นฺติ.

เหมกมาณวปุจฺฉา อฏฺมา นิฏฺิตา.

๙. โตเทยฺยมาณวปุจฺฉา

๑๐๙๔.

‘‘ยสฺมึ กามา น วสนฺติ, (อิจฺจายสฺมา โตเทยฺโย)

ตณฺหา ยสฺส น วิชฺชติ;

กถํกถา จ โย ติณฺโณ, วิโมกฺโข ตสฺส กีทิโส’’.

๑๐๙๕.

‘‘ยสฺมึ กามา น วสนฺติ, (โตเทยฺยาติ ภควา)

ตณฺหา ยสฺส น วิชฺชติ;

กถํกถา จ โย ติณฺโณ, วิโมกฺโข ตสฺส นาปโร’’.

๑๐๙๖.

‘‘นิราสโส โส อุท อาสสาโน, ปฺาณวา โส อุท ปฺกปฺปี;

มุนึ อหํ สกฺก ยถา วิชฺํ, ตํ เม วิยาจิกฺข สมนฺตจกฺขุ’’.

๑๐๙๗.

‘‘นิราสโส โส น จ อาสสาโน, ปฺาณวา โส น จ ปฺกปฺปี;

เอวมฺปิ โตเทยฺย มุนึ วิชาน, อกิฺจนํ กามภเว อสตฺต’’นฺติ.

โตเทยฺยมาณวปุจฺฉา นวมา นิฏฺิตา.

๑๐. กปฺปมาณวปุจฺฉา

๑๐๙๘.

‘‘มชฺเฌ สรสฺมึ ติฏฺตํ, (อิจฺจายสฺมา กปฺโป)

โอเฆ ชาเต มหพฺภเย;

ชรามจฺจุปเรตานํ, ทีปํ ปพฺรูหิ มาริส;

ตฺวฺจ เม ทีปมกฺขาหิ, ยถายิทํ นาปรํ สิยา’’.

๑๐๙๙.

‘‘มชฺเฌ สรสฺมึ ติฏฺตํ, (กปฺปาติ ภควา)

โอเฆ ชาเต มหพฺภเย;

ชรามจฺจุปเรตานํ, ทีปํ ปพฺรูมิ กปฺป เต.

๑๑๐๐.

‘‘อกิฺจนํ อนาทานํ, เอตํ ทีปํ อนาปรํ;

นิพฺพานํ อิติ [นิพฺพานมีติ (สี.)] นํ พฺรูมิ, ชรามจฺจุปริกฺขยํ.

๑๑๐๑.

‘‘เอตทฺาย เย สตา, ทิฏฺธมฺมาภินิพฺพุตา;

น เต มารวสานุคา, น เต มารสฺส ปทฺธคู’’ติ [ปฏฺคูติ (สฺยา. ก.)].

กปฺปมาณวปุจฺฉา ทสมา นิฏฺิตา.

๑๑. ชตุกณฺณิมาณวปุจฺฉา

๑๑๐๒.

‘‘สุตฺวานหํ วีรมกามกามึ, (อิจฺจายสฺมา ชตุกณฺณิ)

โอฆาติคํ ปุฏฺุมกามมาคมํ;

สนฺติปทํ พฺรูหิ สหชเนตฺต, ยถาตจฺฉํ ภควา พฺรูหิ เม ตํ.

๑๑๐๓.

‘‘ภควา หิ กาเม อภิภุยฺย อิริยติ, อาทิจฺโจว ปถวึ เตชี เตชสา;

ปริตฺตปฺสฺส เม ภูริปฺ, อาจิกฺข ธมฺมํ ยมหํ วิชฺํ;

ชาติชราย อิธ วิปฺปหานํ’’.

๑๑๐๔.

‘‘กาเมสุ วินย เคธํ, (ชตุกณฺณีติ ภควา) เนกฺขมฺมํ ทฏฺุ เขมโต;

อุคฺคหีตํ นิรตฺตํ วา, มา เต วิชฺชิตฺถ กิฺจนํ.

๑๑๐๕.

‘‘ยํ ปุพฺเพ ตํ วิโสเสหิ, ปจฺฉา เต มาหุ กิฺจนํ;

มชฺเฌ เจ โน คเหสฺสสิ, อุปสนฺโต จริสฺสสิ.

๑๑๐๖.

‘‘สพฺพโส นามรูปสฺมึ, วีตเคธสฺส พฺราหฺมณ;

อาสวาสฺส น วิชฺชนฺติ, เยหิ มจฺจุวสํ วเช’’ติ.

ชตุกณฺณิมาณวปุจฺฉา เอกาทสมา นิฏฺิตา.

๑๒. ภทฺราวุธมาณวปุจฺฉา

๑๑๐๗.

‘‘โอกฺชหํ ตณฺหจฺฉิทํ อเนชํ, (อิจฺจายสฺมา ภทฺราวุโธ)

นนฺทิฺชหํ โอฆติณฺณํ วิมุตฺตํ;

กปฺปฺชหํ อภิยาเจ สุเมธํ, สุตฺวาน นาคสฺส อปนมิสฺสนฺติ อิโต.

๑๑๐๘.

‘‘นานาชนา ชนปเทหิ สงฺคตา, ตว วีร วากฺยํ อภิกงฺขมานา;

เตสํ ตุวํ สาธุ วิยากโรหิ, ตถา หิ เต วิทิโต เอส ธมฺโม’’.

๑๑๐๙.

‘‘อาทานตณฺหํ วินเยถ สพฺพํ, (ภทฺราวุธาติ ภควา)

อุทฺธํ อโธ ติริยฺจาปิ มชฺเฌ;

ยํ ยฺหิ โลกสฺมิมุปาทิยนฺติ, เตเนว มาโร อนฺเวติ ชนฺตุํ.

๑๑๑๐.

‘‘ตสฺมา ปชานํ น อุปาทิเยถ, ภิกฺขุ สโต กิฺจนํ สพฺพโลเก;

อาทานสตฺเต อิติ เปกฺขมาโน, ปชํ อิมํ มจฺจุเธยฺเย วิสตฺต’’นฺติ.

ภทฺราวุธมาณวปุจฺฉา ทฺวาทสมา นิฏฺิตา.

๑๓. อุทยมาณวปุจฺฉา

๑๑๑๑.

‘‘ฌายึ วิรชมาสีนํ, (อิจฺจายสฺมา อุทโย) กตกิจฺจํ อนาสวํ;

ปารคุํ สพฺพธมฺมานํ, อตฺถิ ปฺเหน อาคมํ;

อฺาวิโมกฺขํ ปพฺรูหิ, อวิชฺชาย ปเภทนํ’’.

๑๑๑๒.

‘‘ปหานํ กามจฺฉนฺทานํ, (อุทยาติ ภควา) โทมนสฺสาน จูภยํ;

ถินสฺส จ ปนูทนํ, กุกฺกุจฺจานํ นิวารณํ.

๑๑๑๓.

‘‘อุเปกฺขาสติสํสุทฺธํ, ธมฺมตกฺกปุเรชวํ;

อฺาวิโมกฺขํ ปพฺรูมิ, อวิชฺชาย ปเภทนํ’’.

๑๑๑๔.

‘‘กึสุ สํโยชโน โลโก, กึสุ ตสฺส วิจารณํ;

กิสฺสสฺส วิปฺปหาเนน, นิพฺพานํ อิติ วุจฺจติ’’.

๑๑๑๕.

‘‘นนฺทิสํโยชโน โลโก, วิตกฺกสฺส วิจารณํ;

ตณฺหาย วิปฺปหาเนน, นิพฺพานํ อิติ วุจฺจติ’’.

๑๑๑๖.

‘‘กถํ สตสฺส จรโต, วิฺาณํ อุปรุชฺฌติ;

ภควนฺตํ ปุฏฺุมาคมฺม, ตํ สุโณม วโจ ตว’’.

๑๑๑๗.

‘‘อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ, เวทนํ นาภินนฺทโต;

เอวํ สตสฺส จรโต, วิฺาณํ อุปรุชฺฌตี’’ติ.

อุทยมาณวปุจฺฉา เตรสมา นิฏฺิตา.

๑๔. โปสาลมาณวปุจฺฉา

๑๑๑๘.

‘‘โย อตีตํ อาทิสติ, (อิจฺจายสฺมา โปสาโล) อเนโช ฉินฺนสํสโย;

ปารคุํ สพฺพธมฺมานํ, อตฺถิ ปฺเหน อาคมํ.

๑๑๑๙.

‘‘วิภูตรูปสฺิสฺส , สพฺพกายปฺปหายิโน;

อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ, นตฺถิ กิฺจีติ ปสฺสโต;

าณํ สกฺกานุปุจฺฉามิ, กถํ เนยฺโย ตถาวิโธ’’.

๑๑๒๐.

‘‘วิฺาณฏฺิติโย สพฺพา, (โปสาลาติ ภควา) อภิชานํ ตถาคโต;

ติฏฺนฺตเมนํ ชานาติ, วิมุตฺตํ ตปฺปรายณํ.

๑๑๒๑.

‘‘อากิฺจฺสมฺภวํ ตฺวา, นนฺที สํโยชนํ อิติ;

เอวเมตํ อภิฺาย, ตโต ตตฺถ วิปสฺสติ;

เอตํ [เอวํ (สฺยา. ก.)] าณํ ตถํ ตสฺส, พฺราหฺมณสฺส วุสีมโต’’ติ.

โปสาลมาณวปุจฺฉา จุทฺทสมา นิฏฺิตา.

๑๕. โมฆราชมาณวปุจฺฉา

๑๑๒๒.

‘‘ทฺวาหํ สกฺกํ อปุจฺฉิสฺสํ, (อิจฺจายสฺมา โมฆราชา)

น เม พฺยากาสิ จกฺขุมา;

ยาวตติยฺจ เทวีสิ, พฺยากโรตีติ เม สุตํ.

๑๑๒๓.

‘‘อยํ โลโก ปโร โลโก, พฺรหฺมโลโก สเทวโก;

ทิฏฺึ เต นาภิชานาติ, โคตมสฺส ยสสฺสิโน.

๑๑๒๔.

‘‘เอวํ อภิกฺกนฺตทสฺสาวึ, อตฺถิ ปฺเหน อาคมํ;

กถํ โลกํ อเวกฺขนฺตํ, มจฺจุราชา น ปสฺสติ’’.

๑๑๒๕.

‘‘สุฺโต โลกํ อเวกฺขสฺสุ, โมฆราช สทา สโต;

อตฺตานุทิฏฺึ อูหจฺจ, เอวํ มจฺจุตโร สิยา;

เอวํ โลกํ อเวกฺขนฺตํ, มจฺจุราชา น ปสฺสตี’’ติ.

โมฆราชมาณวปุจฺฉา ปนฺนรสมา นิฏฺิตา.

๑๖. ปิงฺคิยมาณวปุจฺฉา

๑๑๒๖.

‘‘ชิณฺโณหมสฺมิ อพโล วีตวณฺโณ, (อิจฺจายสฺมา ปิงฺคิโย)

เนตฺตา น สุทฺธา สวนํ น ผาสุ;

มาหํ นสฺสํ โมมุโห อนฺตราว

อาจิกฺข ธมฺมํ ยมหํ วิชฺํ;

ชาติชราย อิธ วิปฺปหานํ’’.

๑๑๒๗.

‘‘ทิสฺวาน รูเปสุ วิหฺมาเน, (ปิงฺคิยาติ ภควา)

รุปฺปนฺติ รูเปสุ ชนา ปมตฺตา;

ตสฺมา ตุวํ ปิงฺคิย อปฺปมตฺโต,

ชหสฺสุ รูปํ อปุนพฺภวาย’’.

๑๑๒๘.

‘‘ทิสา จตสฺโส วิทิสา จตสฺโส, อุทฺธํ อโธ ทส ทิสา อิมาโย;

ตุยฺหํ อทิฏฺํ อสุตํ อมุตํ [อสุตํ อมุตํ วา (สี.), อสุตามุตํ วา (สฺยา.), อสุตํ’มุตํ วา (ปี.)], อโถ อวิฺาตํ กิฺจนมตฺถิ [กิฺจิ มตฺถิ (สฺยา.), กิฺจิ นตฺถิ (ปี.), กิฺจินมตฺถิ (ก.)] โลเก;

อาจิกฺข ธมฺมํ ยมหํ วิชฺํ, ชาติชราย อิธ วิปฺปหานํ’’.

๑๑๒๙.

‘‘ตณฺหาธิปนฺเน มนุเช เปกฺขมาโน, (ปิงฺคิยาติ ภควา)

สนฺตาปชาเต ชรสา ปเรเต;

ตสฺมา ตุวํ ปิงฺคิย อปฺปมตฺโต, ชหสฺสุ ตณฺหํ อปุนพฺภวายา’’ติ.

ปิงฺคิยมาณวปุจฺฉา โสฬสมา นิฏฺิตา.

ปารายนตฺถุติคาถา

อิทมโวจ ภควา มคเธสุ วิหรนฺโต ปาสาณเก เจติเย, ปริจารกโสฬสานํ [ปริจารกโสฬสนฺนํ (สฺยา. ก.)] พฺราหฺมณานํ อชฺฌิฏฺโ ปุฏฺโ ปุฏฺโ ปฺหํ [ปฺเห (สี. ปี.)] พฺยากาสิ. เอกเมกสฺส เจปิ ปฺหสฺส อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมํ ปฏิปชฺเชยฺย, คจฺเฉยฺเยว ชรามรณสฺส ปารํ. ปารงฺคมนียา อิเม ธมฺมาติ, ตสฺมา อิมสฺส ธมฺมปริยายสฺส ปารายนนฺเตว [ปารายณํตฺเวว (สี. อฏฺ.)] อธิวจนํ.

๑๑๓๐.

อชิโต ติสฺสเมตฺเตยฺโย, ปุณฺณโก อถ เมตฺตคู;

โธตโก อุปสีโว จ, นนฺโท จ อถ เหมโก.

๑๑๓๑.

โตเทยฺย-กปฺปา ทุภโย, ชตุกณฺณี จ ปณฺฑิโต;

ภทฺราวุโธ อุทโย จ, โปสาโล จาปิ พฺราหฺมโณ;

โมฆราชา จ เมธาวี, ปิงฺคิโย จ มหาอิสิ.

๑๑๓๒.

เอเต พุทฺธํ อุปาคจฺฉุํ, สมฺปนฺนจรณํ อิสึ;

ปุจฺฉนฺตา นิปุเณ ปฺเห, พุทฺธเสฏฺํ อุปาคมุํ.

๑๑๓๓.

เตสํ พุทฺโธ ปพฺยากาสิ, ปฺเห ปุฏฺโ ยถาตถํ;

ปฺหานํ เวยฺยากรเณน, โตเสสิ พฺราหฺมเณ มุนิ.

๑๑๓๔.

เต โตสิตา จกฺขุมตา, พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา;

พฺรหฺมจริยมจรึสุ, วรปฺสฺส สนฺติเก.

๑๑๓๕.

เอกเมกสฺส ปฺหสฺส, ยถา พุทฺเธน เทสิตํ;

ตถา โย ปฏิปชฺเชยฺย, คจฺเฉ ปารํ อปารโต.

๑๑๓๖.

อปารา ปารํ คจฺเฉยฺย, ภาเวนฺโต มคฺคมุตฺตมํ;

มคฺโค โส ปารํ คมนาย, ตสฺมา ปารายนํ อิติ.

ปารายนานุคีติคาถา

๑๑๓๗.

‘‘ปารายนมนุคายิสฺสํ, (อิจฺจายสฺมา ปิงฺคิโย)

ยถาทฺทกฺขิ ตถากฺขาสิ, วิมโล ภูริเมธโส;

นิกฺกาโม นิพฺพโน [นิพฺพุโต (สฺยา.)] นาโค, กิสฺส เหตุ มุสา ภเณ.

๑๑๓๘.

‘‘ปหีนมลโมหสฺส , มานมกฺขปฺปหายิโน;

หนฺทาหํ กิตฺตยิสฺสามิ, คิรํ วณฺณูปสฺหิตํ.

๑๑๓๙.

‘‘ตโมนุโท พุทฺโธ สมนฺตจกฺขุ, โลกนฺตคู สพฺพภวาติวตฺโต;

อนาสโว สพฺพทุกฺขปหีโน, สจฺจวฺหโย พฺรหฺเม อุปาสิโต เม.

๑๑๔๐.

‘‘ทิโช ยถา กุพฺพนกํ ปหาย, พหุปฺผลํ กานนมาวเสยฺย;

เอวํ ปหํ อปฺปทสฺเส ปหาย, มโหทธึ หํโสริว อชฺฌปตฺโต.

๑๑๔๑.

‘‘เยเม ปุพฺเพ วิยากํสุ, หุรํ โคตมสาสนา;

อิจฺจาสิ อิติ ภวิสฺสติ;

สพฺพํ ตํ อิติหิติหํ, สพฺพํ ตํ ตกฺกวฑฺฒนํ.

๑๑๔๒.

‘‘เอโก ตมนุทาสิโน, ชุติมา โส ปภงฺกโร;

โคตโม ภูริปฺาโณ, โคตโม ภูริเมธโส.

๑๑๔๓.

‘‘โย เม ธมฺมมเทเสสิ, สนฺทิฏฺิกมกาลิกํ;

ตณฺหกฺขยมนีติกํ , ยสฺส นตฺถิ อุปมา กฺวจิ’’.

๑๑๔๔.

‘‘กึนุ ตมฺหา วิปฺปวสสิ, มุหุตฺตมปิ ปิงฺคิย;

โคตมา ภูริปฺาณา, โคตมา ภูริเมธสา.

๑๑๔๕.

‘‘โย เต ธมฺมมเทเสสิ, สนฺทิฏฺิกมกาลิกํ;

ตณฺหกฺขยมนีติกํ, ยสฺส นตฺถิ อุปมา กฺวจิ’’.

๑๑๔๖.

‘‘นาหํ ตมฺหา วิปฺปวสามิ, มุหุตฺตมปิ พฺราหฺมณ;

โคตมา ภูริปฺาณา, โคตมา ภูริเมธสา.

๑๑๔๗.

‘‘โย เม ธมฺมมเทเสสิ, สนฺทิฏฺิกมกาลิกํ;

ตณฺหกฺขยมนีติกํ, ยสฺส นตฺถิ อุปมา กฺวจิ.

๑๑๔๘.

‘‘ปสฺสามิ นํ มนสา จกฺขุนาว, รตฺตินฺทิวํ พฺราหฺมณ อปฺปมตฺโต;

นมสฺสมาโน วิวเสมิ รตฺตึ, เตเนว มฺามิ อวิปฺปวาสํ.

๑๑๔๙.

‘‘สทฺธา จ ปีติ จ มโน สติ จ, นาเปนฺติ เม โคตมสาสนมฺหา;

ยํ ยํ ทิสํ วชติ ภูริปฺโ, ส เตน เตเนว นโตหมสฺมิ.

๑๑๕๐.

‘‘ชิณฺณสฺส เม ทุพฺพลถามกสฺส, เตเนว กาโย น ปเลติ ตตฺถ;

สํกปฺปยนฺตาย [สํกปฺปยตฺตาย (สี.)] วชามิ นิจฺจํ, มโน หิ เม พฺราหฺมณ เตน ยุตฺโต.

๑๑๕๑.

‘‘ปงฺเก สยาโน ปริผนฺทมาโน, ทีปา ทีปํ อุปปฺลวึ [อุปลฺลวึ (สฺยา. นิทฺเทส)];

อถทฺทสาสึ สมฺพุทฺธํ, โอฆติณฺณมนาสวํ’’.

๑๑๕๒.

‘‘ยถา อหู วกฺกลิ มุตฺตสทฺโธ, ภทฺราวุโธ อาฬวิ โคตโม จ;

เอวเมว ตฺวมฺปิ ปมุฺจสฺสุ สทฺธํ,

คมิสฺสสิ ตฺวํ ปิงฺคิย มจฺจุเธยฺยสฺส ปารํ’’ [มจฺจุเธยฺยปารํ (สี.)].

๑๑๕๓.

‘‘เอส ภิยฺโย ปสีทามิ, สุตฺวาน มุนิโน วโจ;

วิวฏฺฏจฺฉโท สมฺพุทฺโธ, อขิโล ปฏิภานวา.

๑๑๕๔.

‘‘อธิเทเว อภิฺาย, สพฺพํ เวทิ วโรวรํ [ปโร วรํ (สี. สฺยา.), ปโร ปรํ (นิทฺเทส)];

ปฺหานนฺตกโร สตฺถา, กงฺขีนํ ปฏิชานตํ.

๑๑๕๕.

‘‘อสํหีรํ อสงฺกุปฺปํ, ยสฺส นตฺถิ อุปมา กฺวจิ;

อทฺธา คมิสฺสามิ น เมตฺถ กงฺขา, เอวํ มํ ธาเรหิ อธิมุตฺตจิตฺต’’นฺติ.

ปารายนวคฺโค ปฺจโม นิฏฺิโต.

สุตฺตุทฺทานํ –

.

อุรโค [อิมา อุทฺทานคาถาโย สี. ปี. โปตฺถเกสุ น สนฺติ] ธนิโยปิ จ, ขคฺควิสาโณ กสิ จ;

จุนฺโท ภโว ปุนเทว, วสโล จ กรณียฺจ;

เหมวโต อถ ยกฺโข, วิชยสุตฺตํ มุนิสุตฺตวรนฺติ.

.

ปมกฏฺวโร วรวคฺโค, ทฺวาทสสุตฺตธโร สุวิภตฺโต;

เทสิโต จกฺขุมตา วิมเลน, สุยฺยติ วคฺควโร อุรโคติ.

.

รตนามคนฺโธ หิริมงฺคลนาโม, สุจิโลมกปิโล จ พฺราหฺมณธมฺโม;

นาวา [นาถ (ก.)] กึสีลอุฏฺหโน จ, ราหุโล จ ปุนปิ วงฺคีโส.

.

สมฺมาปริพฺพาชนีโยปิ เจตฺถ, ธมฺมิกสุตฺตวโร สุวิภตฺโต;

จุทฺทสสุตฺตธโร ทุติยมฺหิ, จูฬกวคฺควโรติ ตมาหุ.

.

ปพฺพชฺชปธานสุภาสิตนาโม, ปูรฬาโส ปุนเทว มาโฆ จ;

สภิยํ เกณิยเมว สลฺลนาโม, วาเสฏฺวโร กาลิโกปิ จ.

.

นาลกสุตฺตวโร สุวิภตฺโต, ตํ อนุปสฺสี ตถา ปุนเทว;

ทฺวาทสสุตฺตธโร ตติยมฺหิ, สุยฺยติ วคฺควโร มหานาโม.

.

กามคุหฏฺกทุฏฺกนามา , สุทฺธวโร ปรมฏฺกนาโม;

ชรา เมตฺติยวโร สุวิภตฺโต, ปสูรมาคณฺฑิยา ปุราเภโท.

.

กลหวิวาโท อุโภ วิยุหา จ, ตุวฏกอตฺตทณฺฑสาริปุตฺตา;

โสฬสสุตฺตธโร จตุตฺถมฺหิ, อฏฺกวคฺควโรติ ตมาหุ.

.

มคเธ ชนปเท รมณีเย, เทสวเร กตปุฺนิเวเส;

ปาสาณกเจติยวเร สุวิภตฺเต, วสิ ภควา คณเสฏฺโ.

๑๐.

อุภยวาสมาคติยมฺหิ [อุภยํ วา ปุณฺณสมาคตํ ยมฺหิ (สฺยา.)], ทฺวาทสโยชนิยา ปริสาย;

โสฬสพฺราหฺมณานํ กิร ปุฏฺโ, ปุจฺฉาย โสฬสปฺหกมฺมิยา;

นิปฺปกาสยิ ธมฺมมทาสิ.

๑๑.

อตฺถปกาสกพฺยฺชนปุณฺณํ, ธมฺมมเทเสสิ ปรเขมชนิยํ [วรํ ขมนียํ (ก.)];

โลกหิตาย ชิโน ทฺวิปทคฺโค, สุตฺตวรํ พหุธมฺมวิจิตฺรํ;

สพฺพกิเลสปโมจนเหตุํ, เทสยิ สุตฺตวรํ ทฺวิปทคฺโค.

๑๒.

พฺยฺชนมตฺถปทํ สมยุตฺตํ [พฺยฺชนมตฺถปทสมยุตฺตํ (สฺยา.)], อกฺขรสฺิตโอปมคาฬฺหํ;

โลกวิจารณาณปภคฺคํ, เทสยิ สุตฺตวรํ ทฺวิปทคฺโค.

๑๓.

ราคมเล อมลํ วิมลคฺคํ, โทสมเล อมลํ วิมลคฺคํ;

โมหมเล อมลํ วิมลคฺคํ, โลกวิจารณาณปภคฺคํ;

เทสยิ สุตฺตวรํ ทฺวิปทคฺโค.

๑๔.

กฺเลสมเล อมลํ วิมลคฺคํ, ทุจฺจริตมเล อมลํ วิมลคฺคํ;

โลกวิจารณาณปภคฺคํ, เทสยิ สุตฺตวรํ ทฺวิปทคฺโค.

๑๕.

อาสวพนฺธนโยคากิเลสํ, นีวรณานิ จ ตีณิ มลานิ;

ตสฺส กิเลสปโมจนเหตุํ, เทสยิ สุตฺตวรํ ทฺวิปทคฺโค.

๑๖.

นิมฺมลสพฺพกิเลสปนูทํ, ราควิราคมเนชมโสกํ;

สนฺตปณีตสุทุทฺทสธมฺมํ, เทสยิ สุตฺตวรํ ทฺวิปทคฺโค.

๑๗.

ราคฺจ โทสกมภฺชิตสนฺตํ [โทสฺจ ภฺชิตสนฺตํ (สฺยา.)], โยนิจตุคฺคติปฺจวิฺาณํ;

ตณฺหารตจฺฉทนตาณลตาปโมกฺขํ [ตณฺหาตลรตจฺเฉทนตาณปโมกฺขํ (สฺยา.)], เทสยิ สุตฺตวรํ ทฺวิปทคฺโค.

๑๘.

คมฺภีรทุทฺทสสณฺหนิปุณํ, ปณฺฑิตเวทนิยํ นิปุณตฺถํ;

โลกวิจารณาณปภคฺคํ, เทสยิ สุตฺตวรํ ทฺวิปทคฺโค.

๑๙.

นวงฺคกุสุมมาลคีเวยฺยํ, อินฺทฺริยฌานวิโมกฺขวิภตฺตํ;

อฏฺงฺคมคฺคธรํ วรยานํ, เทสยิ สุตฺตวรํ ทฺวิปทคฺโค.

๒๐.

โสมุปมํ วิมลํ ปริสุทฺธํ, อณฺณวมูปมรตนสุจิตฺตํ;

ปุปฺผสมํ รวิมูปมเตชํ, เทสยิ สุตฺตวรํ ทฺวิปทคฺโค.

๒๑.

เขมสิวํ สุขสีตลสนฺตํ, มจฺจุตตาณปรํ ปรมตฺถํ;

ตสฺส สุนิพฺพุตทสฺสนเหตุํ, เทสยิ สุตฺตวรํ ทฺวิปทคฺโคติ.

สุตฺตนิปาตปาฬิ นิฏฺิตา.