📜
๒. ปุริสวิมานํ
๕. มหารถวคฺโค
๑. มณฺฑูกเทวปุตฺตวิมานวณฺณนา
มหารถวคฺเค ¶ ¶ โก เม วนฺทติ ปาทานีติ มณฺฑูกเทวปุตฺตวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา ¶ จมฺปายํ วิหรติ คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเร. โส ปจฺจูสเวลายํ พุทฺธาจิณฺณํ มหากรุณาสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺาย เวเนยฺยพนฺธเว สตฺเต โวโลเกนฺโต อทฺทส ‘‘อชฺช มยิ สายนฺหสมเย ธมฺมํ เทเสนฺเต เอโก มณฺฑูโก มม สเร นิมิตฺตํ คณฺหนฺโต ปรูปกฺกเมน มริตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา มหตา เทวปริวาเรน มหาชนสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว อาคมิสฺสติ, ตตฺถ พหูนํ ธมฺมาภิสมโย ภวิสฺสตี’’ติ ทิสฺวา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ จมฺปานครํ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา, ภิกฺขูนํ สุลภปิณฺฑปาตํ กตฺวา กตภตฺตกิจฺโจ วิหารํ ปวิสิตฺวา ภิกฺขูสุ วตฺตํ ทสฺเสตฺวา, อตฺตโน อตฺตโน ทิวาฏฺานํ คเตสุ คนฺธกุฏึ ปวิสิตฺวา ผลสมาปตฺติสุเขน ทิวสภาคํ เขเปตฺวา, สายนฺหสมเย จตูสุ ปริสาสุ สนฺนิปติตาสุ สุรภิคนฺธกุฏิโต นิกฺขมิตฺวา ตงฺขณานุรูเปน ปาฏิหาริเยน โปกฺขรณิตีเร ธมฺมสภามณฺฑปํ ปวิสิตฺวา อลงฺกตวรพุทฺธาสเน นิสินฺโน มโนสิลาตเล สีหนาทํ นทนฺโต อฉมฺภีตเกสรสีโห วิย อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ พฺรหฺมสฺสรํ นิจฺฉาเรนฺโต อจินฺเตยฺเยน พุทฺธานุภาเวน อนุปมาย พุทฺธลีลาย ธมฺมํ เทเสตุํ อารภิ.
ตสฺมิฺจ ขเณ เอโก มณฺฑูโก โปกฺขรณิโต อาคนฺตฺวา ‘‘ธมฺโม เอโส วุจฺจตี’’ติ ธมฺมสฺาย สเร นิมิตฺตํ คณฺหนฺโต ปริสปริยนฺเต นิปชฺชิ. อเถโก วจฺฉปาโล ตํ ปเทสํ อาคโต สตฺถารํ ธมฺมํ เทเสนฺตํ ปริสฺจ ปรเมน อุปสเมน ธมฺมํ สุณนฺตํ ทิสฺวา ตคฺคตมานโส ทณฺฑโมลุพฺภ ติฏฺนฺโต มณฺฑูกํ อโนโลเกตฺวา ตสฺส สีเส สนฺนิรุมฺภิตฺวา อฏฺาสิ. โส ธมฺมสฺาย ปสนฺนจิตฺโต ตาวเทว กาลํ กตฺวา ตาวตึสภวเน ทฺวาทสโยชนิเก กนกวิมาเน นิพฺพตฺติตฺวา ¶ สุตฺตปฺปพุทฺโธ ¶ วิย ตตฺถ อจฺฉราสงฺฆปริวุตํ อตฺตานํ ทิสฺวา ‘‘กุโต นุ โข อิธ อหํ นิพฺพตฺโต’’ติ อาวชฺเชนฺโต ปุริมชาตึ ทิสฺวา ‘‘อหมฺปิ นาม อิธ อุปฺปชฺชึ, อีทิสฺจ ¶ สมฺปตฺตึ ปฏิลภึ, กึ นุ โข กมฺมํ อกาสิ’’นฺติ อุปธาเรนฺโต อฺํ น อทฺทส อฺตฺร ภควโต สเร นิมิตฺตคฺคาหา. โส ตาวเทว สห วิมาเนน อาคนฺตฺวา วิมานโต โอตริตฺวา, มหาชนสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว มหตา ปริวาเรน มหนฺเตน ทิพฺพานุภาเวน อุปสงฺกมิตฺวา, ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห นมสฺสมาโน อฏฺาสิ. อถ นํ ภควา ชานนฺโตว มหาชนสฺส กมฺมผลํ พุทฺธานุภาวฺจ ปจฺจกฺขํ กาตุํ –
‘‘โก เม วนฺทติ ปาทานิ, อิทฺธิยา ยสสา ชลํ;
อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, สพฺพา โอภาสยํ ทิสา’’ติ. –
ปุจฺฉิ. ตตฺถ โกติ เทวนาคยกฺขมนุสฺสาทีสุ โก, กตโมติ อตฺโถ. เมติ มม. ปาทานีติ ปาเท. อิทฺธิยาติ อิมาย อีทิสาย เทวิทฺธิยา. ยสสาติ อิมินา อีทิเสน ปริวาเรน ปริจฺเฉเทน จ. ชลนฺติ วิชฺโชตมาโน. อภิกฺกนฺเตนาติ อติวิย กนฺเตน กมนีเยน สุนฺทเรน. วณฺเณนาติ ฉวิวณฺเณน, สรีรวณฺณนิภายาติ อตฺโถ.
อถ เทวปุตฺโต อตฺตโน ปุริมชาติอาทึ อาวิ กโรนฺโต อิมาหิ คาถาหิ พฺยากาสิ –
‘‘มณฺฑูโกหํ ปุเร อาสึ, อุทเก วาริโคจโร;
ตว ธมฺมํ สุณนฺตสฺส, อวธี วจฺฉปาลโก.
‘‘มุหุตฺตํ จิตฺตปสาทสฺส, อิทฺธึ ปสฺส ยสฺจ เม;
อานุภาวฺจ เม ปสฺส, วณฺณํ ปสฺส ชุติฺจ เม.
‘‘เย จ เต ทีฆมทฺธานํ, ธมฺมํ อสฺโสสุํ โคตม;
ปตฺตา เต อจลฏฺานํ, ยตฺถ คนฺตฺวา น โสจเร’’ติ.
๘๕๘. ตตฺถ ปุเรติ ปุริมชาติยํ. อุทเกติ อิทํ ตทา อตฺตโน อุปฺปตฺติฏฺานทสฺสนํ. อุทเก มณฺฑูโกติ เอเตน อุทฺธุมายิกาทิกสฺส ถเล ¶ มณฺฑูกสฺส นิวตฺตนํ กตํ โหติ. คาโว จรนฺติ เอตฺถาติ โคจโร, โคจโร วิยาติ โคจโร, ฆาเสสนฏฺานํ. วาริ อุทกํ โคจโร เอตสฺสาติ ¶ วาริโคจโร ¶ . อุทกจารีปิ หิ โกจิ กจฺฉปาทิ อวาริโคจโรปิ โหตีติ ‘‘วาริโคจโร’’ติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. ตว ธมฺมํ สุณนฺตสฺสาติ พฺรหฺมสฺสเรน กรวีกรุตมฺชุนา เทเสนฺตสฺส ตว ธมฺมํ ‘‘ธมฺโม เอโส วุจฺจตี’’ติ สเร นิมิตฺตคฺคาหวเสน สุณนฺตสฺส, อนาทเร เจตํ สามิวจนํ เวทิตพฺพํ. อวธี วจฺฉปาลโกติ วจฺเฉ รกฺขนฺโต โคปาลทารโก มม สมีปํ อาคนฺตฺวา ทณฺฑโมลุพฺภิตฺวา ติฏฺนฺโต มม สีเส ทณฺฑํ สนฺนิรุมฺภิตฺวา มํ มาเรสิ.
๘๕๙. มุหุตฺตํ จิตฺตปสาทสฺสาติ ตว ธมฺเม มุหุตฺตมตฺตํ อุปฺปนฺนสฺส จิตฺตปสาทสฺส เหตุภูตสฺส อิทฺธินฺติ สมิทฺธึ, ทิพฺพวิภูตินฺติ อตฺโถ. ยสนฺติ ปริวารํ. อานุภาวนฺติ กามวณฺณิตาทิทิพฺพานุภาวํ. วณฺณนฺติ สรีรวณฺณสมฺปตฺตึ. ชุตินฺติ ทฺวาทสโยชนานิ ผรณสมตฺถํ ปภาวิเสสํ.
๘๖๐. เยติ เย สตฺตา. จ-สทฺโท พฺยติเรเก. เตติ ตว. ทีฆมทฺธานนฺติ พหุเวลํ. อสฺโสสุนฺติ สุณึสุ. โคตมาติ ภควนฺตํ โคตฺเตน อาลปติ. อจลฏฺานนฺติ นิพฺพานํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – โคตม ภควา อหํ วิย อิตฺตรเมว กาลํ อสุณิตฺวา เย ปน กตปฺุา จิรํ กาลํ ตว ธมฺมํ อสฺโสสุํ โสตุํ ลภึสุ, เต ทีฆรตฺตํ สํสารพฺยสนาภิภูตา อิเม สตฺตา ยตฺถ คนฺตฺวา น โสเจยฺยุํ, ตํ อโสกํ สสฺสตภาเวน อจลํ สนฺติปทํ ปตฺตา เอว, น เตสํ ตสฺส ปตฺติยา อนฺตราโยติ.
อถสฺส ภควา สมฺปตฺตปริสาย จ อุปนิสฺสยสมฺปตฺตึ โอโลเกตฺวา วิตฺถาเรน ธมฺมํ เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน โส เทวปุตฺโต โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ, จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ. เทวปุตฺโต ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ อฺชลึ กตฺวา สห ปริวาเรน เทวโลกเมว คโตติ.
มณฺฑูกเทวปุตฺตวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. เรวตีวิมานวณฺณนา
อุฏฺเหิ ¶ ¶ เรวเต สุปาปธมฺเมติ เรวตีวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา พาราณสิยํ วิหรติ อิสิปตเน มิคทาเย. เตน สมเยน พาราณสิยํ สทฺธาสมฺปนฺนสฺส กุลสฺส ปุตฺโต นนฺทิโย นาม อุปาสโก อโหสิ สทฺธาสมฺปนฺโน ทายโก ทานปติ สงฺฆุปฏฺาโก. อถสฺส มาตาปิตโร ¶ สมฺมุขเคหโต มาตุลธีตรํ เรวตึ นาม กฺํ อาเนตุกามา อเหสุํ. สา ปน อสฺสทฺธา อทานสีลา, นนฺทิโย ตํ น อิจฺฉิ. ตสฺส มาตา เรวตึ อาห ‘‘อมฺม, ตฺวํ อิมํ เคหํ อาคนฺตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิสีทนฏฺานํ หริเตน โคมเยน อุปลิมฺปิตฺวา อาสนานิ ปฺาเปหิ, อาธารเก เปหิ, ภิกฺขูนํ อาคตกาเล วนฺทิตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา นิสีทาเปตฺวา ธมกรเณน ปานียํ ปริสฺสาเวตฺวา ภุตฺตกาเล ปตฺตานิ โธวาหิ, เอวํ เม ปุตฺตสฺส อาราธิกา ภวิสฺสสี’’ติ. สา ตถา อกาสิ. อถ นํ ‘‘โอวาทกฺขมา ชาตา’’ติ ปุตฺตสฺส อาโรเจตฺวา เตน ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิเต ทิวสํ เปตฺวา อาวาหํ กรึสุ.
อถ นํ นนฺทิโย อาห ‘‘สเจ ภิกฺขุสงฺฆํ มาตาปิตโร จ เม อุปฏฺหิสฺสสิ, เอวํ อิมสฺมึ เคเห วสิตุํ ลภิสฺสสิ, อปฺปมตฺตา โหหี’’ติ. สา ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา กิฺจิ กาลํ สทฺธา วิย หุตฺวา ภตฺตารํ อนวตฺเตนฺตี ทฺเว ปุตฺเต วิชายิ. นนฺทิยสฺส มาตาปิตโร กาลมกํสุ. เคเห สพฺพิสฺสริยํ ตสฺสา เอว อโหสิ. นนฺทิโยปิ มหาทานปติ หุตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทานํ ปฏฺเปสิ, กปณทฺธิกาทีนมฺปิ เคหทฺวาเร ปากวตฺตํ ปฏฺเปสิ. อิสิปตนมหาวิหาเร จตูหิ คพฺเภหิ ปฏิมณฺฑิตํ จตุสาลํ กาเรตฺวา มฺจปีาทีนิ อตฺถราเปตฺวา ¶ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา ตถาคตสฺส หตฺเถ ทกฺขิโณทกํ ปาเตตฺวา นิยฺยาเทสิ, สห ทกฺขิโณทกทาเนน ตาวตึสภวเน อายามโต จ วิตฺถารโต จ สมนฺตา ทฺวาทสโยชนิโก โยชนสตุพฺเพโธ สตฺตรตนมโย อจฺฉราคณสหสฺสสงฺฆุฏฺโ ทิพฺพปาสาโท อุคฺคฺฉิ.
อถายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เทวจาริกํ จรนฺโต ตํ ปาสาทํ ทิสฺวา อตฺตานํ วนฺทิตุํ อาคเต เทวปุตฺเต ปุจฺฉิ ‘‘กสฺสายํ ปาสาโท’’ติ? ‘‘อิมสฺส ¶ , ภนฺเต, ปาสาทสฺส สามิโก มนุสฺสโลเก พาราณสิยํ นนฺทิโย นาม กุฏุมฺพิยปุตฺโต สงฺฆสฺส อิสิปตนมหาวิหาเร จตุสาลํ กาเรสิ, ตสฺสายํ นิพฺพตฺโต ปาสาโท’’ติ อาหํสุ. ปาสาเท นิพฺพตฺตเทวจฺฉราโยปิ เถรํ วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, มยํ พาราณสิยํ นนฺทิยสฺส นาม อุปาสกสฺส ปริจาริกา ภวิตุํ อิธ นิพฺพตฺตา, ตสฺส เอวํ วเทถ ‘‘ตุยฺหํ ปริจาริกา ภวิตุํ นิพฺพตฺตา, เทวตาโย ตยิ จิรายนฺเต อุกฺกณฺิตา, เทวโลกสมฺปตฺติ นาม มตฺติกาภาชนํ ภินฺทิตฺวา สุวณฺณภาชนสฺส คหณํ วิย อติมนาป’นฺติ วตฺวา อิธาคมนตฺถาย ตสฺส วเทถา’’ติ อาหํสุ. เถโร ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา สหสา เทวโลกโต อาคนฺตฺวา จตุปริสมชฺเฌ ภควนฺตํ ปุจฺฉิ ‘‘นิพฺพตฺตติ นุ โข, ภนฺเต, กตปฺุานํ มนุสฺสโลเก ิตานํเยว ทิพฺพสมฺปตฺตี’’ติ? ‘‘นนุ เต, โมคฺคลฺลาน, นนฺทิยสฺส เทวโลเก นิพฺพตฺตา ทิพฺพสมฺปตฺติ สามํ ทิฏฺา, กสฺมา มํ ปุจฺฉสี’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต, นิพฺพตฺตตี’’ติ ¶ . อถสฺส สตฺถา ‘‘ยถา จิรํ วิปฺปวสิตฺวา อาคตํ ปุริสํ มิตฺตพนฺธวา อภินนฺทนฺติ สมฺปฏิจฺฉนฺติ, เอวํ กตปฺุํ ปุคฺคลํ อิโต ปรโลกํ คตํ สกานิ ปฺุานิ สมฺปตฺติหตฺเถหิ สมฺปฏิจฺฉนฺติ ปฏิคฺคณฺหนฺตี’’ติ ทสฺเสนฺโต –
‘‘จิรปฺปวาสึ ปุริสํ, ทูรโต โสตฺถิมาคตํ;
าติมิตฺตา สุหชฺชา จ, อภินนฺทนฺติ อาคตํ.
‘‘ตเถว กตปฺุมฺปิ, อสฺมา โลกา ปรํ คตํ;
ปฺุานิ ปฏิคฺคณฺหนฺติ, ปิยํ าตีว อาคต’’นฺติ. – คาถา อภาสิ;
นนฺทิโย ¶ ตํ สุตฺวา ภิยฺโยโสมตฺตาย ทานานิ เทติ, ปฺุานิ กโรติ, โส วณิชฺชาย คจฺฉนฺโต เรวตึ อาห ‘‘ภทฺเท, มยา ปฏฺปิตํ สงฺฆสฺส ทานํ อนาถานํ ปากวตฺตฺจ ตฺวํ อปฺปมตฺตา ปวตฺเตยฺยาสี’’ติ. สา ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิ. โส ปวาสคโตปิ ยตฺถ ยตฺถ วาสํ กปฺเปติ, ตตฺถ ตตฺถ ภิกฺขูนํ อนาถานฺจ ยถาวิภวํ ทานํ เทติเยว. ตสฺส อนุกมฺปาย ขีณาสวา ทูรโตปิ อาคนฺตฺวา ทานํ สมฺปฏิจฺฉนฺติ. เรวตี ปน ตสฺมึ คเต กติปาหเมว ทานํ ปวตฺเตตฺวา อนาถานํ ภตฺตํ อุปจฺฉินฺทิ, ภิกฺขูนมฺปิ ภตฺตํ กณาชกํ พิลงฺคทุติยํ อทาสิ ¶ . ภิกฺขูนํ ภุตฺตฏฺาเน อตฺตนา ภุตฺตาวเสสานิ สิตฺถานิ มจฺฉมํสขณฺฑมิสฺสกานิ จลกฏฺิกานิ จ ปกิริตฺวา มนุสฺสานํ ทสฺเสติ ‘‘ปสฺสถ สมณานํ กมฺมํ, สทฺธาเทยฺยํ นาม เอวํ ฉฑฺเฑนฺตี’’ติ.
อถ นนฺทิโย โวหารกสิทฺธิ ยถาลาโภ อาคนฺตฺวา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา เรวตึ เคหโต นีหริตฺวา เคหํ ปาวิสิ. ทุติยทิวเส พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา นิจฺจภตฺตํ อนาถภตฺตฺจ สมฺมเทว ปวตฺเตสิ, อตฺตโน สหาเยหิ อุปนีตํ เรวตึ ฆาสจฺฉาทนปรมตาย เปสิ. โส อปเรน สมเยน กาลํ กตฺวา ตาวตึสภวเน อตฺตโน วิมาเนเยว นิพฺพตฺติ. เรวตี ปน สพฺพํ ทานํ ปจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘อิเมสํ วเสน มยฺหํ ลาภสกฺกาโร ปริหายี’’ติ ภิกฺขุสงฺฆํ อกฺโกสนฺตี ปริภาสนฺตี วิจรติ. อถ เวสฺสวโณ ทฺเว ยกฺเข อาณาเปสิ ‘‘คจฺฉถ, ภเณ, พาราณสินคเร อุคฺโฆสถ ‘‘อิโต สตฺตเม ทิวเส เรวตี ชีวนฺตีเยว นิรเย ปกฺขิปียตี’ติ’’. ตํ สุตฺวา มหาชโน สํเวคชาโต ภีตตสิโต อโหสิ.
อถ ¶ เรวตี ปน ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ทฺวารํ ถเกตฺวา นิสีทิ. สตฺตเม ทิวเส ตสฺสา ปาปกมฺมสฺโจทิเตน เวสฺสวเณน รฺา อาณตฺตา ชลิตกปิลเกสมสฺสุกา จิปิฏวิรูปนาสิกา ปริณตทาา โลหิตกฺขา สชลธรสมานวณฺณา ¶ อติวิย ภยานกรูปา ทฺเว ยกฺขา อุปคนฺตฺวา ‘‘อุฏฺเหิ, เรวเต, สุปาปธมฺเม’’ติอาทีนิ วทนฺตา นานาพาหาสุ คเหตฺวา ‘‘มหาชโน ปสฺสตู’’ติ สกลนคเร วีถิโต วีถึ ปริพฺภมาเปตฺวา อากาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ตาวตึสภวนํ เนตฺวา นนฺทิยสฺส วิมานํ สมฺปตฺติฺจสฺสา ทสฺเสตฺวา ตํ วิลปนฺตึเยว อุสฺสทนิรยสมีปํ ปาเปสุํ. ตํ ยมปุริสา อุสฺสทนิรเย ขิปึสุ. เตนาห –
‘‘อุฏฺเหิ เรวเต สุปาปธมฺเม, อปารุตทฺวาเร อทานสีเล;
เนสฺสาม ตํ ยตฺถ ถุนนฺติ ทุคฺคตา, สมปฺปิตา เนรยิกา ทุเขนา’’ติ.
ตตฺถ ¶ อุฏฺเหีติ อุฏฺห, น ทาเนส ปาสาโท ตํ นิรยภยโต รกฺขิตุํ สกฺโกติ, ตสฺมา สีฆํ อุฏฺหิตฺวา อาคจฺฉาหีติ อตฺโถ. เรวเตติ ตํ นาเมน อาลปติ. สุปาปธมฺเมติอาทินา อุฏฺานสฺส การณํ วทติ. ยสฺมา ตฺวํ อริยานํ อกฺโกสนปริภาสนาทินา สุฏฺฏุ ลามกปาปธมฺมา, ยสฺมา จ อปารุตํ ทฺวารํ นิรยสฺส ตว ปเวสนตฺถํ, ตสฺมา อุฏฺเหีติ. อทานสีเลติ กสฺสจิ กิฺจิ น ทานสีเล กทริเย มจฺฉรินี, อิทมฺปิ อุฏฺานสฺเสว การณวจนํ. ยสฺมา ทานสีลานํ อมจฺฉรีนํ ตว สามิกสทิสานํ สุคติยํ นิวาโส, ตาทิสานํ ปน อทานสีลานํ มจฺฉรีนํ นิรเย นิวาโส, ตสฺมา อุฏฺเหิ, มุหุตฺตมตฺตมฺปิ ตว อิธ าตุํ น ทสฺสามีติ อธิปฺปาโย. ยตฺถ ถุนนฺติ ทุคฺคตาติ ทุกฺขคตตฺตา ทุคฺคตา. เนรยิกาติ นิรยทุกฺเขน สมปฺปิตา สมงฺคีภูตา ยสฺมึ นิรเย ถุนนฺติ, ยาว ปาปกมฺมํ น พฺยนฺติ โหติ, ตาว นิกฺขมิตุํ อลภนฺตา ¶ นิตฺถุนนฺติ, ตตฺถ ตํ เนสฺสาม นยิสฺสาม ขิปิสฺสามาติ โยชนา.
‘‘อิจฺเจว วตฺวาน ยมสฺส ทูตา, เต ทฺเว ยกฺขา โลหิตกฺขา พฺรหนฺตา;
ปจฺเจกพาหาสุ คเหตฺวา เรวตํ, ปกฺกามยุํ เทวคณสฺส สนฺติเก’’ติ. –
อิทํ สงฺคีติการวจนํ.
ตตฺถ อิจฺเจว วตฺวานาติ อิติ เอว ‘‘อุฏฺเหี’’ติอาทินา วตฺวา, วจนสมนนฺตรเมวาติ อตฺโถ. ยมสฺส ทูตาติ อปฺปฏิเสธนิยตสฺส ยมสฺส รฺโ ทูตสทิสา. เวสฺสวเณน หิ เต เปสิตา ¶ . ตถา หิ เต ตาวตึสภวนํ นยึสุ. เกจิ ‘‘น ยมสฺส ทูตา’’ติ น-การํ ‘‘ยมสฺสา’’ติ ปเทน สมฺพนฺธิตฺวา ‘‘เวสฺสวณสฺส ทูตา’’ติ อตฺถํ วทนฺติ, ตํ น ยุชฺชติ. น หิ น ยมทูตตาย เวสฺสวณสฺส ทูตาติ สิชฺฌติ. ยชนฺติ ตตฺถ พลึ อุปหรนฺตีติ ยกฺขา. โลหิตกฺขาติ รตฺตนยนา. ยกฺขานฺหิ เนตฺตานิ อติโลหิตานิ โหนฺติ. พฺรหนฺตาติ มหนฺตา. ปจฺเจกพาหาสูติ เอโก เอกพาหายํ, อิตโร อิตรพาหายนฺติ ปจฺเจกํ พาหาสุ. เรวตนฺติ เรวตึ. เรวตาติปิ ตสฺสา นามเมว. ตถา หิ ‘‘เรวเต’’ติ ¶ วุตฺตํ. ปกฺกามยุนฺติ ปกฺกาเมสุํ, อุปเนสุนฺติ อตฺโถ. เทวคณสฺสาติ ตาวตึสภวเน เทวสงฺฆสฺส.
เอวํ เตหิ ยกฺเขหิ ตาวตึสภวนํ เนตฺวา นนฺทิยวิมานสฺส อวิทูเร ปิตา เรวตี ตํ สูริยมณฺฑลสทิสํ อติวิย ปภสฺสรํ ทิสฺวา –
‘‘อาทิจฺจวณฺณํ รุจิรํ ปภสฺสรํ, พฺยมฺหํ สุภํ กฺจนชาลฉนฺนํ;
กสฺเสตมากิณฺณชนํ ¶ วิมานํ, สุริยสฺส รํสีริว โชตมานํ.
‘‘นารีคณา จนฺทนสารลิตฺตา, อุภโต วิมานํ อุปโสภยนฺติ;
ตํ ทิสฺสติ สุริยสมานวณฺณํ, โก โมทติ สคฺคปตฺโต วิมาเน’’ติ. –
เต ยกฺเข ปุจฺฉิ. เตปิ ตสฺสา –
‘‘พาราณสิยํ นนฺทิโย นามาสิ, อุปาสโก อมจฺฉรี ทานปติ วทฺู;
ตสฺเสตมากิณฺณชนํ วิมานํ, สูริยสฺส รํสีริว โชตมานํ.
‘‘นารีคณา จนฺทนสารลิตฺตา, อุภโต วิมานํ อุปโสภยนฺติ;
ตํ ทิสฺสติ สูริยสมานวณฺณํ, โส โมทติ สคฺคปตฺโต วิมาเน’’ติ. –
อาจิกฺขึสุ.
๘๖๘. ตตฺถ จนฺทนสารลิตฺตาติ สารภูเตน จนฺทนคนฺเธน อนุลิตฺตสรีรา. อุภโต วิมานนฺติ วิมานํ อุภโต อนฺโต เจว พหิ จ สงฺคีตาทีหิ อุเปจฺจ โสภยนฺติ.
‘‘นนฺทิยสฺสาหํ ภริยา, อคารินี สพฺพกุลสฺส อิสฺสรา;
ภตฺตุ วิมาเน รมิสฺสามิ ทานหํ, น ปตฺถเย นิรยํ ทสฺสนายา’’ติ. –
อาห. ตตฺถ อคารินีติ เคหสามินี. ‘‘ภริยา สคามินี’’ติปิ ปนฺติ, ภริยา สหคามินีติ อตฺโถ. สพฺพกุลสฺส อิสฺสรา ภตฺตูติ มม ภตฺตุ นนฺทิยสฺส สพฺพกุฏุมฺพิกสฺส อิสฺสรา สามินี อโหสึ, ตสฺมา อิทานิปิ วิมาเน อิสฺสรา ภวิสฺสามีติ อาห. วิมาเน รมิสฺสามิ ¶ ทานหนฺติ เอวํ ปโลเภตุเมว หิ ตํ เต ตตฺถ เนสุํ. น ปตฺถเย นิรยํ ทสฺสนายาติ ยํ ปน นิรยํ มํ ตุมฺเห เนตุกามา, ตํ นิรยํ ทสฺสนายปิ น ปตฺถเย, กุโต ปวิสิตุนฺติ วทติ.
เอวํ วทนฺติเมว ‘‘ตฺวํ ตํ ปตฺเถหิ วา มา วา, กึ ตว ปตฺถนายา’’ติ นิรยสมีปํ เนตฺวา –
‘‘เอโส เต นิรโย สุปาปธมฺเม, ปฺุํ ตยา อกตํ ชีวโลเก;
น หิ มจฺฉรี โรสโก ปาปธมฺโม, สคฺคูปคานํ ลภติ สหพฺยต’’นฺติ. –
คาถมาหํสุ. ตสฺสตฺโถ – เอโส ตว นิรโย, ตยา ทีฆรตฺตํ มหาทุกฺขํ อนุภวิตพฺพฏฺานภูโต. กสฺมา? ปฺุํ ตยา อกตํ ชีวโลเก, ยสฺมา มนุสฺสโลเก อปฺปมตฺตกมฺปิ ตยา ปฺุํ นาม น กตํ, เอวํ อกตปฺุโ ปน ตาทิโส สตฺโต มจฺฉรี อตฺตโน สมฺปตฺตินิคูหนลกฺขเณน มจฺฉเรน สมนฺนาคโต, ปเรสํ โรสุปฺปาทเนน โรสโก, โลภาทีหิ ปาปธมฺเมหิ สมงฺคีภาวโต ปาปธมฺโม สคฺคูปคานํ เทวานํ สหพฺยตํ สหภาวํ น ลภตีติ โยชนา.
เอวํ ปน วตฺวา เต ทฺเว ยกฺขา ตตฺเถวนฺตรธายึสุ. ตํสทิเส ปน ทฺเว นิรยปาเล สํสวเก นาม คูถนิรเย ปกฺขิปิตุํ อากฑฺฒนฺเต ปสฺสิตฺวา –
‘‘กึ ¶ นุ คูถฺจ มุตฺตฺจ, อสุจิ ปฏิทิสฺสติ;
ทุคฺคนฺธํ กิมิทํ มีฬฺหํ, กิเมตํ อุปวายตี’’ติ. –
ตํ ¶ นิรยํ ปุจฺฉิ.
‘‘เอส สํสวโก นาม, คมฺภีโร สตโปริโส;
ยตฺถ วสฺสสหสฺสานิ, ตุวํ ปจฺจสิ เรวเต’’ติ. –
ตสฺมึ ¶ กถิเต ตตฺถ อตฺตโน นิพฺพตฺติเหตุภูตํ กมฺมํ ปุจฺฉนฺตี –
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
เกน สํสวโก ลทฺโธ, คมฺภีโร สตโปริโส’’ติ. – อาห;
‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ จาปิ, อฺเ วาปิ วนิพฺพเก;
มุสาวาเทน วฺเจสิ, ตํ ปาปํ ปกตํ ตยา’’ติ. –
ตสฺสา ตํ กมฺมํ กเถตฺวา ปุน เต –
‘‘เตน สํสวโก ลทฺโธ, คมฺภีโร สตโปริโส;
ตตฺเถ วสฺสสหสฺสานิ, ตุวํ ปจฺจสิ เรวเต’’ติ. –
อาหํสุ. ตตฺถ สํสวโก นามาติ นิจฺจกาลํ คูถมุตฺตาทิอสุจิสฺส สํสวนโต ปคฺฆรณโต สํสวโก นาม.
น เกวลํ ตุยฺหํ อิธ สํสวกลาโภ เอว, อถ โข เอตฺถ อเนกานิ วสฺสสหสฺสานิ ปจฺจิตฺวา อุตฺติณฺณาย หตฺถจฺเฉทาทิลาโภปีติ ทสฺเสตุํ –
‘‘หตฺเถปิ ฉินฺทนฺติ อโถปิ ปาเท, กณฺเณปิ ฉินฺทนฺติ อโถปิ นาสํ;
อโถปิ กาโกฬคณา สเมจฺจ, สงฺคมฺม ขาทนฺติ วิผนฺทมาน’’นฺติ. –
ตตฺถ ลทฺธพฺพการณํ อาหํสุ. ตตฺถ กาโกฬคณาติ กากสงฺฆา. เต กิรสฺสา ติคาวุตปฺปมาเณ สรีเร อเนกสตานิ อเนกสหสฺสานิ ปติตฺวา ตาลกฺขนฺธปริมาเณหิ สุนิสิตคฺเคหิ อโยมเยหิ ¶ มุขตุณฺเฑหิ วิชฺฌิตฺวา วิชฺฌิตฺวา ขาทนฺติ, มํสํ คหิตคหิตฏฺาเน กมฺมพเลน ¶ ปูรเตว. เตนาห ‘‘กาโกฬคณา สเมจฺจ, สงฺคมฺม ขาทนฺติ วิผนฺทมาน’’นฺติ.
ปุน สา มนุสฺสโลกํ ปจฺจานยนาย ยาจนาทิวเสน ตํ ตํ วิปฺปลปิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘สาธุ ¶ โข มํ ปฏิเนถ, กาหามิ กุสลํ พหุํ;
ทาเนน สมจริยาย, สํยเมน ทเมน จ;
ยํ กตฺวา สุขิตา โหนฺติ, น จ ปจฺฉานุตปฺปเร’’ติ.
ปุน นิรยปาลา –
‘‘ปุเร ตุวํ ปมชฺชิตฺวา, อิทานิ ปริเทวสิ;
สยํ กตานํ กมฺมานํ, วิปากํ อนุโภสฺสสี’’ติ. –
อาหํสุ. ปุน สา อาห –
‘‘โก เทวโลกโต มนุสฺสโลกํ, คนฺตฺวาน ปุฏฺโ เม เอวํ วเทยฺย;
นิกฺขิตฺตทณฺเฑสุ ททาถ ทานํ, อจฺฉาทนํ เสยฺยมถนฺนปานํ;
น หิ มจฺฉรี โรสโก ปาปธมฺโม, สคฺคูปคานํ ลภติ สหพฺยตํ.
‘‘สาหํ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนึ ลทฺธาน มานุสึ;
วทฺู สีลสมฺปนฺนา, กาหามิ กุสลํ พหุํ;
ทาเนน สมจริยาย, สํยเมน ทเมน จ.
‘‘อารามานิ จ โรปิสฺสํ, ทุคฺเค สงฺกมานิ จ;
ปปฺจ อุทปานฺจ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสึ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี;
ปาฏิหาริยปกฺขฺจ, อฏฺงฺคสุสมาคตํ.
‘‘อุโปสถํ ¶ อุปวสิสฺสํ, สทา สีเลสุ สํวุตา;
น จ ทาเน ปมชฺชิสฺสํ, สามํ ทิฏฺมิทํ มยา’’ติ.
‘‘อิจฺเจวํ ¶ วิปฺปลปนฺตึ, ผนฺทมานํ ตโต ตโต;
ขิปึสุ นิรเย โฆเร, อุทฺธํปาทํ อวํสิร’’นฺติ. –
อิทํ สงฺคีติการวจนํ. ปุน สา –
‘‘อหํ ปุเร มจฺฉรินี อโหสึ, ปริภาสิกา สมณพฺราหฺมณานํ;
วิตเถน จ สามิกํ วฺจยิตฺวา, ปจฺจามหํ นิรเย โฆรรูเป’’ติ. –
โอสานคาถมาห. ตตฺถ ¶ ‘‘อหํ ปุเร มจฺฉรินี’’ติ คาถา นิรเย นิพฺพตฺตาย วุตฺตา, อิตรา อนิพฺพตฺตาย เอวาติ เวทิตพฺพา. เสสํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.
ภิกฺขู เรวติยา ยกฺเขหิ คเหตฺวา นีตภาวํ ภควโต อาโรเจสุํ. ตํ สุตฺวา ภควา อาทิโต ปฏฺาย อิมํ วตฺถุํ กเถตฺวา อุปริ วิตฺถาเรน ธมฺมํ เทเสสิ, เทสนาปริโยสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสุ. กามฺเจตํ เรวตีปฏิพทฺธาย กถาย เยภุยฺยภาวโต ‘‘เรวตีวิมาน’’นฺติ โวหรียติ, ยสฺมา ปน เรวตี วิมานเทวตา น โหติ, นนฺทิยสฺส ปน เทวปุตฺตสฺส วิมานาทิสมฺปตฺติปฏิสํยุตฺตฺเจตํ, ตสฺมา ปุริสวิมาเนสฺเวว สงฺคหํ อาโรปิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
เรวตีวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ฉตฺตมาณวกวิมานวณฺณนา
โย วทตํ ปวโร มนุเชสูติ ฉตฺตมาณวกวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน. เตน สมเยน เสตพฺยายํ อฺตรสฺส พฺราหฺมณสฺส กิจฺฉาลทฺโธ ปุตฺโต ฉตฺโต นาม พฺราหฺมณมาณโว อโหสิ. โส วยปฺปตฺโต ปิตรา เปสิโต อุกฺกฏฺํ คนฺตฺวา พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส สนฺติเก เมธาวิตาย อนลสตาย จ น จิเรเนว มนฺเต วิชฺชาฏฺานานิ จ อุคฺคเหตฺวา พฺราหฺมณสิปฺเป นิปฺผตฺตึ ปตฺโต. โส อาจริยํ อภิวาเทตฺวา ‘‘มยา ¶ ตุมฺหากํ สนฺติเก สิปฺปํ ¶ สิกฺขิตํ, กึ โว ครุทกฺขิณํ เทมี’’ติ อาห. อาจริโย ‘‘ครุทกฺขิณา นาม อนฺเตวาสิกสฺส วิภวานุรูปา, กหาปณสหสฺสมาเนหี’’ติ อาห. ฉตฺตมาณโว อาจริยํ อภิวาเทตฺวา เสตพฺยํ คนฺตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา เตหิ อภินนฺทิยมาโน กตปฏิสนฺถาโร ตมตฺถํ ปิตุ อาโรเจตฺวา ‘‘เทถ เม ทาตพฺพยุตฺตกํ, อชฺเชว ทตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ อาห. ตํ มาตาปิตโร ¶ ‘‘ตาต, อชฺช วิกาโล, สฺเว คมิสฺสสี’’ติ วตฺวา กหาปเณ นีหริตฺวา ภณฺฑิกํ พนฺธาเปตฺวา เปสุํ. โจรา ตํ ปวตฺตึ ตฺวา ฉตฺตมาณวกสฺส คมนมคฺเค อฺตรสฺมึ วนคหเน นิลีนา อจฺฉึสุ ‘‘มาณวํ มาเรตฺวา กหาปเณ คณฺหิสฺสามา’’ติ.
ภควา ปจฺจูสสมเย มหากรุณาสมาปตฺติโต วุฏฺาย โลกํ โวโลเกนฺโต ฉตฺตมาณวกสฺส สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺานํ, โจเรหิ มาริตสฺส เทวโลเก นิพฺพตฺตึ, ตโต สห วิมาเนน อาคตสฺส ตตฺถ สนฺนิปติตปริสาย จ ธมฺมาภิสมยํ ทิสฺวา ปมตรเมว คนฺตฺวา มาณวกสฺส คมนมคฺเค อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ. มาณโว อาจริยธนํ คเหตฺวา เสตพฺยโต อุกฺกฏฺาภิมุโข คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค ภควนฺตํ นิสินฺนํ ทิสฺวา อุปสงฺกมิตฺวา อฏฺาสิ. ‘‘กุหึ คมิสฺสสี’’ติ ภควตา วุตฺโต ‘‘อุกฺกฏฺํ, โภ โคตม, คมิสฺสามิ มยฺหํ อาจริยสฺส โปกฺขรสาติสฺส ครุทกฺขิณํ ทาตุ’’นฺติ อาห. อถ ภควา ‘‘ชานาสิ ปน ตฺวํ, มาณว, ตีณิ สรณานิ, ปฺจ สีลานี’’ติ วตฺวา เตน ‘‘นาหํ ชานามิ, กิมตฺถิยานิ ปเนตานิ กีทิสานิ จา’’ติ วุตฺเต ‘‘อิทมีทิส’’นฺติ สรณคมนสฺส สีลสมาทานสฺส จ ผลานิสํสํ วิภาเวตฺวา ‘‘อุคฺคณฺหาหิ ตาว, มาณวก, สรณคมนวิธิ’’นฺติ วตฺวา ‘‘สาธุ อุคฺคณฺหิสฺสามิ, กเถถ ภนฺเต ภควา’’ติ เตน ยาจิโต ตสฺส รุจิยา อนุรูปํ คาถาพนฺธวเสน สรณคมนวิธึ ทสฺเสนฺโต –
‘‘โย วทตํ ปวโร มนุเชสุ, สกฺยมุนี ภควา กตกิจฺโจ;
ปารคโต พลวีริยสมงฺคี, ตํ สุคตํ สรณตฺถมุเปหิ.
‘‘ราควิราคมเนชมโสกํ ¶ , ธมฺมมสงฺขตมปฺปฏิกูลํ;
มธุรมิมํ ¶ ปคุณํ สุวิภตฺตํ, ธมฺมมิมํ สรณตฺถมุเปหิ.
‘‘ยตฺถ จ ทินฺน มหปฺผลมาหุ, จตูสุ สุจีสุ ปุริสยุเคสุ;
อฏฺ จ ปุคฺคล ธมฺมทสา เต, สงฺฆมิมํ สรณตฺถมุเปหี’’ติ. –
ติสฺโส ¶ คาถาโย อภาสิ.
๘๘๖. ตตฺถ โยติ อนิยมิตวจนํ, ตสฺส ‘‘ต’’นฺติ อิมินา นิยมนํ เวทิตพฺพํ. วทตนฺติ วทนฺตานํ. ปวโรติ เสฏฺโ, กถิกานํ อุตฺตโม วาทีวโรติ อตฺโถ. มนุเชสูติ อุกฺกฏฺนิทฺเทโส ยถา ‘‘สตฺถา เทวมนุสฺสาน’’นฺติ. ภควา ปน เทวมนุสฺสานมฺปิ พฺรหฺมานมฺปิ สพฺเพสมฺปิ สตฺตานํ ปวโรเยว, ภควโต จ จริมภเว มนุสฺเสสุ อุปฺปนฺนตาย วุตฺตํ ‘‘มนุเชสู’’ติ. เตเนวาห ‘‘สกฺยมุนี’’ติ. สกฺยกุลปฺปสุตตาย สกฺโย, กายโมเนยฺยาทีหิ สมนฺนาคตโต อนวเสสสฺส จ เยฺยสฺส มุนนโต มุนิ จาติ สกฺยมุนิ. ภาคฺยวนฺตตาทีหิ จตูหิ การเณหิ ภควา. จตูหิ มคฺเคหิ กาตพฺพสฺส ปริฺาทิปเภทสฺส โสฬสวิธสฺส กิจฺจสฺส กตตฺตา นิปฺผาทิตตฺตา กตกิจฺโจ. ปารํ สกฺกายสฺส ปรตีรํ นิพฺพานํ คโต สยมฺภุาเณน อธิคโตติ ปารคโต. อสทิเสน กายพเลน, อนฺสาธารเณน าณพเลน, จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานวีริเยน จ สมนฺนาคตตฺตา พลวีริยสมงฺคี. โสภนคมนตฺตา, สุนฺทรํ านํ คตตฺตา, สมฺมา คตตฺตา, สมฺมา จ คทิตตฺตา สุคโต. ตํ สุคตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ สรณตฺถํ สรณาย ปรายณาย อปายทุกฺขวฏฺฏทุกฺขปริตฺตาณาย อุเปหิ อุปคจฺฉ, อชฺช ปฏฺาย อหิตนิวตฺตเนน หิตสํวฑฺฒเนน ‘‘อยํ เม ภควา สรณํ ตาณํ เลณํ ปรายณํ คติ ปฏิสรณ’’นฺติ ภช เสว, เอวํ ชานาหิ วา พุชฺฌสฺสูติ อตฺโถ.
๘๘๗. ราควิราคนฺติ ¶ อริยมคฺคมาห. เตน หิ อริยา อนาทิกาลภาวิตมฺปิ ราคํ วิรชฺเชนฺติ. อเนชมโสกนฺติ อริยผลํ. ตฺหิ เอชาสงฺขาตาย ตณฺหาย อวสิฏฺานฺจ โสกนิมิตฺตานํ กิเลสานํ สพฺพโส ปฏิปฺปสฺสมฺภนโต ¶ ‘‘อเนชํ อโสก’’นฺติ จ วุจฺจติ. ธมฺมนฺติ สภาวธมฺมํ. สภาวโต คเหตพฺพธมฺโม เหส ยทิทํ มคฺคผลนิพฺพานานิ, น ปริยตฺติธมฺโม วิย ปฺตฺติธมฺมวเสน. ธมฺมนฺติ วา ปรมตฺถธมฺมํ, นิพฺพานนฺติ อตฺโถ. สเมจฺจ สมฺภุยฺย ปจฺจเยหิ กตํ สงฺขตํ, น สงฺขตนฺติ อสงฺขตํ. ตเทว นิพฺพานํ. นตฺถิ เอตฺถ กิฺจิปิ ปฏิกูลนฺติ อปฺปฏิกูลํ. สวนเวลายํ อุปปริกฺขณเวลายํ ปฏิปชฺชนเวลายนฺติ สพฺพทาปิ อิฏฺเมวาติ มธุรํ. สพฺพฺุตฺาณสนฺนิสฺสยาย ปฏิภานสมฺปทาย ปวตฺติตตฺตา สุปฺปวตฺติภาวโต นิปุณภาวโต จ ปคุณํ. วิภชิตพฺพสฺส อตฺถสฺส ขนฺธาทิวเสน กุสลาทิวเสน อุทฺเทสาทิวเสน จ สุฏฺุ วิภชนโต สุวิภตฺตํ. ตีหิปิ ปเทหิ ปริยตฺติธมฺมเมว วทติ. เตเนว หิสฺส อาปาถกาเล วิย วิมทฺทนกาเลปิ กเถนฺตสฺส วิย สุณนฺตสฺสาปิ สมฺมุขีภาวโต อุภโตปจฺจกฺขตาย ทสฺสนตฺถํ ‘‘อิม’’นฺติ วุตฺตํ. ธมฺมนฺติ ยถาวปฏิปชฺชนฺเต อปายทุกฺขปาตโต ธารณตฺเถน ธมฺมํ, อิทํ จตุพฺพิธสฺสาปิ ธมฺมสฺส สาธารณวจนํ. ปริยตฺติธมฺโมปิ ¶ หิ สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺานมตฺตายปิ ยถาวปฏิปตฺติยา อปายทุกฺขปาตโต ธาเรติ เอว. อิมสฺส จ อตฺถสฺส อิทเมว วิมานํ สาธกนฺติ ทฏฺพฺพํ. สาธารณภาเวน ยถาวุตฺตธมฺมสฺส ปจฺจกฺขํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต ปุน ‘‘อิม’’นฺติ อาห.
๘๘๘. ยตฺถาติ ยสฺมึ อริยสงฺเฆ. ทินฺนนฺติ ปริจฺจตฺตํ อนฺนาทิเทยฺยธมฺมํ. ทินฺน มหปฺผลนฺติ คาถาสุขตฺถํ ¶ อนุนาสิกโลโป กโต. อจฺจนฺตเมว กิเลสาสุจิโต วิสุชฺฌเนน สุจีสุ ‘‘โสตาปนฺโน โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน’’ติอาทินา (อ. นิ. ๘.๖๐) วุตฺเตสุ จตูสุ ปุริสยุเคสุ. อฏฺาติ มคฺคฏฺผลฏฺเสุ ยุคเฬ อกตฺวา วิสุํ วิสุํ คหเณน อฏฺ ปุคฺคลา. คาถาสุขตฺถเมว เจตฺถ ‘‘ปุคฺคล ธมฺมทสา’’ติ รสฺสํ กตฺวา นิทฺเทโส. ธมฺมทสาติ จตุสจฺจธมฺมสฺส นิพฺพานธมฺมสฺส จ ปจฺจกฺขโต ทสฺสนกา. ทิฏฺิสีลสามฺเน สํหตภาเวน สงฺฆํ.
เอวํ ภควตา ตีหิ คาถาหิ สรณคุณสนฺทสฺสเนน สทฺธึ สรณคมนวิธิมฺหิ วุตฺเต มาณโว ตํตํสรณคุณานุสฺสรณมุเขน สรณคมนวิธิโน อตฺตโน หทเย ปิตภาวํ วิภาเวนฺโต ตสฺสา ตสฺสา คาถาย ¶ อนนฺตรํ ‘‘โย วทตํ ปวโร’’ติอาทินา ตํ ตํ คาถํ ปจฺจนุภาสิ. เอวํ ปจฺจนุภาสิตฺวา ิตสฺส ปฺจ สิกฺขาปทานิ สรูปโต ผลานิสํสโต จ วิภาเวตฺวา เตสํ สมาทานวิธึ กเถสิ. โส ตมฺปิ สุฏฺุ อุปธาเรตฺวา ปสนฺนมานโส ‘‘หนฺทาหํ ภควา คมิสฺสามี’’ติ วตฺวา รตนตฺตยคุณํ อนุสฺสรนฺโต ตํเยว มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. ภควาปิ ‘‘อลํ อิมสฺส เอตฺตกํ กุสลํ เทวโลกูปปตฺติยา’’ติ เชตวนเมว อคมาสิ.
มาณวสฺส ปน ปสนฺนจิตฺตสฺส รตนตฺตยคุณํ สลฺลกฺขณวเสน ‘‘สรณํ อุเปมี’’ติ ปวตฺตจิตฺตุปฺปาทตาย สรเณสุ จ, ภควตา วุตฺตนเยน ปฺจนฺนํ สีลานํ อธิฏฺาเนน สีเลสุ จ ปติฏฺิตสฺส เตเนว นเยน รตนตฺตยคุเณ อนุสฺสรนฺตสฺเสว คจฺฉนฺตสฺส โจรา มคฺเค ปริยุฏฺึสุ. โส เต อคเณตฺวา รตนตฺตยคุเณ อนุสฺสรนฺโตเยว คจฺฉติ. ตฺเจโก โจโร คุมฺพนฺตรํ อุปนิสฺสาย ิโต วิสปีเตน สเรน สหสาว วิชฺฌิตฺวา ¶ ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา กหาปณภณฺฑิกํ คเหตฺวา อตฺตโน สหาเยหิ สทฺธึ ปกฺกามิ. มาณโว ปน กาลํ กตฺวา ตาวตึสภวเน ตึสโยชนิเก กนกวิมาเน สุตฺตปฺปพุทฺโธ วิย อจฺฉราสหสฺสปริวุโต สฏฺิสกฏภาราลงฺการปฏิมณฺฑิตตฺตภาโว นิพฺพตฺติ, ตสฺส วิมานสฺส อาภา สาติเรกานิ วีสติโยชนานิ ผริตฺวา ติฏฺติ.
อถ มาณวํ กาลกตํ ทิสฺวา เสตพฺยคามวาสิโน มนุสฺสา เสตพฺยํ คนฺตฺวา ตสฺส มาตาปิตูนํ ¶ อุกฺกฏฺคามวาสิโน จ อุกฺกฏฺํ คนฺตฺวา พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส กเถสุํ. ตํ สุตฺวา ตสฺส มาตาปิตโร าติมิตฺตา พฺราหฺมโณ จ โปกฺขรสาติ สปริวารา อสฺสุมุขา โรทมานา ตํ ปเทสํ อคมํสุ, เยภุยฺเยน เสตพฺยวาสิโน จ อุกฺกฏฺวาสิโน จ อิจฺฉานงฺคลวาสิโน จ สนฺนิปตึสุ, มหาสมาคโม อโหสิ. อถ มาณวสฺส มาตาปิตโร มคฺคสฺส อวิทูเร จิตกํ สชฺเชตฺวา สรีรกิจฺจํ กาตุํ อารภึสุ.
อถ ภควา จินฺเตสิ ‘‘มยิ คเต ฉตฺตมาณโว มํ วนฺทิตุํ อาคมิสฺสติ, อาคตฺจ ตํ กตกมฺมํ กถาเปนฺโต กมฺมผลํ ปจฺจกฺขํ กาเรตฺวา ธมฺมํ เทเสสฺสามิ, เอวํ มหาชนสฺส ธมฺมาภิสมโย ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ตํ ปเทสํ อุปคนฺตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ¶ นิสีทิ ฉพฺพณฺณพุทฺธรํสิโย วิสฺสชฺเชนฺโต. อถ ฉตฺตมาณวเทวปุตฺโตปิ อตฺตโน สมฺปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา, ตสฺสา การณํ อุปธาเรนฺโต สรณคมนฺจ สีลสมาทานฺจ ทิสฺวา, วิมฺหยชาโต ภควติ สฺชาตปสาทพหุมาโน ‘‘อิทาเนวาหํ คนฺตฺวา ภควนฺตฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ วนฺทิสฺสามิ, รตนตฺตยคุเณ จ มหาชนสฺส ปากเฏ กริสฺสามี’’ติ กตฺุตํ นิสฺสาย สกลํ ตํ อรฺปเทสํ เอกาโลกํ กโรนฺโต, สห วิมาเนน อาคนฺตฺวา วิมานโต โอรุยฺห มหตา ปริวาเรน สทฺธึ ทิสฺสมานรูโป อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต ¶ ปาเทสุ สิรสา นิปตนฺโต อภิวาเทตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. ตํ ทิสฺวา มหาชโน ‘‘โก นุ โข อยํ เทโว วา พฺรหฺมา วา’’ติ อจฺฉริยพฺภุตชาโต อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ ปริวาเรสิ. ภควา เตน กตปฺุกมฺมํ ปากฏํ กาตุํ –
‘‘น ตถา ตปติ นเภ สูริโย, จนฺโท จ น ภาสติ น ผุสฺโส;
ยถา อตุลมิทํ มหปฺปภาสํ, โก นุ ตฺวํ ติทิวา มหึ อุปาคา.
‘‘ฉินฺทติ รํสี ปภงฺกรสฺส, สาธิกวีสติโยชนานิ อาภา;
รตฺติมปิ ยถา ทิวํ กโรติ, ปริสุทฺธํ วิมลํ สุภํ วิมานํ.
‘‘พหุปทุมวิจิตฺรปุณฺฑรีกํ, โวกิณฺณํ กุสุเมหิ เนกจิตฺตํ;
อรชวิรชเหมชาลฉนฺนํ, อากาเส ตปติ ยถาปิ สูริโย.
‘‘รตฺตมฺพรปีตวาสสาหิ, อครุปิยงฺคุจนฺทนุสฺสทาหิ;
กฺจนตนุสนฺนิภตฺตจาหิ, ปริปูรํ คคนํว ตารกาหิ.
‘‘นรนาริโย ¶ ¶ พหุเกตฺถเนกวณฺณา, กุสุมวิภูสิตาภรเณตฺถ สุมนา;
อนิลปมฺุจิตา ปวนฺติ สุรภึ, ตปนิยวิตตา สุวณฺณฉนฺนา.
‘‘กิสฺส สํยมสฺส อยํ วิปาโก, เกนาสิ กมฺมผเลนิธูปปนฺโน;
ยถา ¶ จ เต อธิคตมิทํ วิมานํ, ตทนุปทํ อวจาสิ อิคฺฆ ปุฏฺโ’’ติ. –
ตํ เทวปุตฺตํ ปฏิปุจฺฉิ.
๘๘๖. ตตฺถ ตปตีติ ทิปฺปติ. นเภติ อากาเส. ผุสฺโสติ ผุสฺสตารกา. อตุลนฺติ อนุปมํ, อปฺปมาณํ วา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา อิทํ ตว วิมานํ อนุปมํ อปฺปมาณํ ปภสฺสรภาเวน ตโต เอว มหปฺปภาสํ อากาเส ทิปฺปติ, น ตถา ตารกรูปานิ ทิปฺปนฺติ, น จนฺโท, ตานิ ตาว ติฏฺนฺตุ, นาปิ สูริโย ทิปฺปติ, เอวํภูโต โก นุ ตฺวํ เทวโลกโต อิมํ ภูมิปเทสํ อุปคโต, ตํ ปากฏํ กตฺวา อิมสฺส มหาชนสฺส กเถหีติ.
๘๙๐. ฉินฺทตีติ วิจฺฉินฺทติ, ปวตฺติตุํ อเทนฺโต ปฏิหนตีติ อตฺโถ. รํสีติ รสฺมิโย. ปภงฺกรสฺสาติ สูริยสฺส. ตสฺส จ วิมานสฺส ปภา สมนฺตโต ปฺจวีสติ โยชนานิ ผริตฺวา ติฏฺติ. เตนาห ‘‘สาธิกวีสติโยชนานิ อาภา’’ติ. รตฺติมปิ ยถา ทิวํ กโรตีติ อตฺตโน ปภาย อนฺธการํ วิธมนฺตํ รตฺติภาคมฺปิ ทิวสภาคํ วิย กโรติ. ปริสมนฺตโต อนฺโต เจว พหิ จ สุทฺธตาย ปริสุทฺธํ. สพฺพโส มลาภาเวน วิมลํ. สุนฺทรตาย สุภํ.
๘๙๑. พหุปทุมวิจิตฺรปุณฺฑรีกนฺติ พหุวิธรตฺตกมลฺเจว วิจิตฺตวณฺณเสตกมลฺจ. เสตกมลํ ปทุมํ, รตฺตกมลํ ปุณฺฑรีกนฺติ วทนฺติ. โวกิณฺณํ กุสุเมหีติ อฺเหิ จ นานาวิเธหิ ปุปฺเผหิ สโมกิณฺณํ. เนกจิตฺตนฺติ ¶ มาลากมฺมลตากมฺมาทินานาวิธวิจิตฺตํ. อรชวิรชเหมชาลฉนฺนนฺติ สยํ อปคตรชํ วิรเชน นิทฺโทเสน กฺจนชาเลน ฉาทิตํ.
๘๙๒. รตฺตมฺพรปีตวาสสาหีติ รตฺตวตฺถาหิ เจว ปีตวตฺถาหิ จ. เอกา หิ รตฺตํ ทิพฺพวตฺถํ นิวาเสตฺวา ปีตํ อุตฺตริยํ กโรติ, อปรา ปีตํ นิวาเสตฺวา รตฺตํ อุตฺตริยํ กโรติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘รตฺตมฺพรปีตวาสสาหี’’ติ ¶ . อครุปิยงฺคุจนฺทนุสฺสทาหีติ อครุคนฺเธน ปิยงฺคุมาลาหิ จนฺทนคนฺเธหิ จ อุสฺสทาหิ, อุสฺสนฺนทิพฺพาครุคนฺธาทิกาหีติ อตฺโถ. กฺจนตนุสนฺนิภตฺตจาหีติ ¶ กนกสทิสสุขุมจฺฉวีหิ. ปริปูรนฺติ ตหํ ตหํ วิจรนฺตีหิ สงฺคีติปสุตาหิ จ ปริปุณฺณํ.
๘๙๓. พหุเกตฺถาติ พหุกา เอตฺถ. อเนกวณฺณาติ นานารูปา. กุสมวิภูสิตาภรณาติ วิเสสโต สุรภิวายนตฺถํ ทิพฺพกุสุเมหิ อลงฺกตทิพฺพาภรณา. เอตฺถาติ เอตสฺมึ วิมาเน. สุมนาติ สุนฺทรมนา ปมุทิตจิตฺตา. อนิลปมฺุจิตา ปวนฺติ สุรภินฺติ อนิเลน ปมฺุจิตคนฺธานํ ปุปฺผานํ วายุนา วิมุตฺตปตฺตปุฏํ วิย วิพนฺธตาย วิกสิตตาย จ สุคนฺธํ ปวายนฺติ. ‘‘อนิลปธูปิตา’’ติปิ ปนฺติ, วาเตน มนฺทํ อาวุยฺหมานา เหมมยปุปฺผาติ อตฺโถ. กนกจีรกาทีหิ เวณิอาทีสุ โอตตตาย ตปนิยวิตตา. เยภุยฺเยน กฺจนาภรเณหิ อจฺฉาทิตสรีรตาย สุวณฺณฉนฺนา. นรนาริโยติ เทวปุตฺตา เทวธีตโร จ พหุกา เอตฺถ ตว วิมาเนติ ทสฺเสติ.
๘๙๔. อิงฺฆาติ โจทนตฺเถ นิปาโต ปุฏฺโติ ปุจฺฉิโต อิมสฺส มหาชนสฺส กมฺมผลปจฺจกฺขภาวายาติ อธิปฺปาโย.
ตโต เทวปุตฺโต อิมาหิ คาถาหิ พฺยากาสิ –
‘‘สยมิธ ปเถ สเมจฺจ มาณเวน, สตฺถานุสาสิ อนุกมฺปมาโน;
ตว รตนวรสฺส ธมฺมํ สุตฺวา, กริสฺสามีติ จ พฺรวิตฺถ ฉตฺโต.
‘‘ชินวรปวรํ ¶ ¶ อุเปหิ สรณํ, ธมฺมฺจาปิ ตเถว ภิกฺขุสงฺฆํ;
โนติ ปมํ อโวจหํ ภนฺเต, ปจฺฉา เต วจนํ ตเถวกาสึ.
‘‘มา จ ปาณวธํ วิวิธํ จรสฺสุ อสุจึ,
น หิ ปาเณสุ อสฺตํ อวณฺณยึสุ สปฺปฺา;
โนติ ปมํ อโวจหํ ภนฺเต, ปจฺฉา เต วจนํ ตเถวกาสึ.
‘‘มา จ ปรชนสฺส รกฺขิตมฺปิ, อาทาตพฺพมมฺิโถ อทินฺนํ;
โนติ ปมํ อโวจหํ ภนฺเต, ปจฺฉา เต วจนํ ตเถวกาสึ.
‘‘มา ¶ จ ปรชนสฺส รกฺขิตาโย, ปรภริยา อคมา อนริยเมตํ;
โนติ ปมํ อโวจหํ ภนฺเต, ปจฺฉา เต วจนํ ตเถวกาสึ.
‘‘มา จ วิตถํ อฺถา อภาณิ, น หิ มุสาวาทํ อวณฺณยึสุ สปฺปฺา;
โนติ ปมํ อโวจหํ ภนฺเต, ปจฺฉา เต วจนํ ตเถวกาสึ.
‘‘เยน จ ปุริสสฺส อเปติ สฺา, ตํ มชฺชํ ปริวชฺชยสฺสุ สพฺพํ;
โนติ ปมํ อโวจหํ ภนฺเต, ปจฺฉา เต วจนํ ตเถวกาสึ.
‘‘สฺวาหํ อิธ ปฺจ สิกฺขา กริตฺวา, ปฏิปชฺชิตฺวา ตถาคตสฺส ธมฺเม;
ทฺเวปถมคมาสึ โจรมชฺเฌ, เต มํ ตตฺถ วธึสุ โภคเหตุ.
‘‘เอตฺตกมิทํ ¶ อนุสฺสรามิ กุสลํ, ตโต ปรํ น เม วิชฺชติ อฺํ;
เตน ¶ สุจริเตน กมฺมุนาหํ, อุปฺปนฺโน ติทิเวสุ กามกามี.
‘‘ปสฺส ขณมุหุตฺตสฺมสฺส, อนุธมฺมปฺปฏิปตฺติยา วิปากํ;
ชลมิว ยสสา สเมกฺขมานา, พหุกามํ ปิหยนฺติ หีนกมฺมา.
‘‘ปสฺส กติปยาย เทสนาย, สุคติฺจมฺหิ คโต สุขฺจ ปตฺโต;
เย จ เต สตตํ สุณนฺติ ธมฺมํ, มฺเ เต อมตํ ผุสนฺติ เขมํ.
‘‘อปฺปมฺปิ กตํ มหาวิปากํ, วิปุลํ โหติ ตถาคตสฺส ธมฺเม;
ปสฺส กตปฺุตาย ฉตฺโต, โอภาเสติ ปถวึ ยถาปิ สูริโย.
‘‘กิมิทํ กุสลํ กิมาจเรม, อิจฺเจเก หิ สเมจฺจ มนฺตยนฺติ;
เต มยํ ปุนเรว ลทฺธ มานุสตฺตํ, ปฏิปนฺนา วิหเรมุ สีลวนฺโต.
‘‘พหุกาโร อนุกมฺปโก จ สตฺถา, อิติ เม สติ อคมา ทิวา ทิวสฺส;
สฺวาหํ อุปคโตมฺหิ สจฺจนามํ, อนุกมฺปสฺสุ ปุนปิ สุเณมฺห ธมฺมํ.
‘‘เย ¶ จิธ ปชหนฺติ กามราคํ, ภวราคานุสยฺจ ปหาย โมหํ;
น จ เต ปุน มุเปนฺติ คพฺภเสยฺยํ, ปรินิพฺพานคตา หิ สีติภูตา’’ติ.
๘๙๕. ตตฺถ ¶ สยมิธ ปเถ สเมจฺจ มาณเวนาติ อิธ อิมสฺมึ ปเถ มหามคฺเค สยเมว อุปคเตน มาณเวน พฺราหฺมณกุมาเรน สเมจฺจ สมาคนฺตฺวา. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ สตฺตานํ ยถารหมนุสาสนโต สตฺถา ภควา, ตฺวํ ยํ มาณวํ ยถาธมฺมํ ¶ อนุสาสิ อนุกมฺปมาโน อนุคฺคณฺหนฺโต, ตว รตนวรสฺส อคฺครตนสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส, ตํ ธมฺมํ สุตฺวา อิติ เอวํ กริสฺสามิ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชิสฺสามีติ, โส ฉตฺโต ฉตฺตนามโก มาณโว พฺรวิตฺถ กเถสีติ ปทโยชนา.
๘๙๖. เอวํ ยถาปุจฺฉิตํ กมฺมํ การณโต ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตํ สรูปโต วิภาคโต จ ทสฺเสนฺโต สตฺถารา สมาทปิตภาวํ อตฺตนา จ ตตฺถ ปจฺฉา ปติฏฺิตภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ชินวรปวร’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ โนติ ปมํ อโวจหํ ภนฺเตติ ภนฺเต ภควา ‘‘สรณคมนํ ชานาสี’’ติ ตยา วุตฺโต ‘‘โน’’ติ น ‘‘ชานามี’’ติ ปมํ อโวจํ อหํ. ปจฺฉา เต วจนํ ตเถวกาสินฺติ ปจฺฉา ตยา วุตฺตํ กถํ ปริวตฺเตนฺโต ตว วจนํ ตเถว อกาสึ ปฏิปชฺชึ, ตีณิปิ สรณานิ อุปคจฺฉินฺติ อตฺโถ.
๘๙๗. วิวิธนฺติ อุจฺจาวจํ, อปฺปสาวชฺชํ มหาสาวชฺชฺจาติ อตฺโถ. มา จรสฺสูติ มา อกาสิ. อสุจินฺติ กิเลสาสุจิมิสฺสตาย น สุจึ. ปาเณสุ อสฺตนฺติ ปาณฆาตโต อวิรตํ. น หิ อวณฺณยึสูติ น หิ วณฺณยนฺติ. ปจฺจูปฺปนฺนกาลตฺเถ หิ อิทํ อตีตกาลวจนํ. อถ วา ‘‘อวณฺณยึสู’’ติ เอกเทเสน สกลสฺส กาลสฺส อุปลกฺขณํ, ตสฺมา ยถา น วณฺณยึสุ อตีตมทฺธานํ, เอวํ เอตรหิปิ น วณฺณยนฺติ, อนาคเตปิ น วณฺณยิสฺสนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
๘๙๘-๙๐๐. ปรชนสฺส รกฺขิตนฺติ ปรปริคฺคหิตวตฺถุ. เตนาห ‘‘อทินฺน’’นฺติ. มา อคมาติ มา อชฺฌาจริ. วิตถนฺติ อตถํ, มุสาติ อตฺโถ. อฺถาติ อฺถาว, วิตถสฺี เอวํ วิตถนฺติ ชานนฺโต เอวํ มา ภณีติ อตฺโถ.
๙๐๑. เยนาติ ¶ ¶ เยน มชฺเชน, ปีเตนาติ อธิปฺปาโย. อเปตีติ วิคจฺฉติ. สฺาติ ธมฺมสฺา, โลกสฺา เอว วา. สพฺพนฺติ อนวเสสํ, พีชโต ปฏฺายาติ อตฺโถ.
๙๐๒. สฺวาหนฺติ ¶ โส ตทา ฉตฺตมาณวภูโต อหํ. อิธ อิมสฺมึ มคฺคปเทเส, อิมสฺมึ วา ตว สาสเน. เตนาห ‘‘ตถาคตสฺส ธมฺเม’’ติ. ปฺจ สิกฺขาติ ปฺจ สีลานิ. กริตฺวาติ อาทิยิตฺวา, อธิฏฺายาติ อตฺโถ. ทฺเวปถนฺติ ทฺวินฺนํ คามสีมานํ เวมชฺฌภูตํ ปถํ, สีมนฺตริกปถนฺติ อตฺโถ. เตติ เต โจรา. ตตฺถาติ สีมนฺตริกมคฺเค. โภคเหตูติ อามิสกิฺจิกฺขนิมิตฺตํ.
๙๐๓. ตโตติ ยถาวุตฺตกุสลโต ปรํ อุปริ อฺํ กุสลํ น วิชฺชติ น อุปลพฺภติ, ยมหํ อนุสฺสเรยฺยนฺติ อตฺโถ. กามกามีติ ยถิจฺฉิตกามคุณสมงฺคี.
๙๐๔. ขณมุหุตฺตสฺมสฺสาติ ขณมุหุตฺตมตฺตํ ปวตฺตสีลสฺส. อนุธมฺมปฺปฏิปตฺติยาติ ยถาธิคตสฺส ผลสฺส อนุรูปธมฺมํ ปฏิปชฺชมานสฺส ภควา ปสฺส, ตุยฺหํ โอวาทธมฺมสฺส วา อนุรูปาย ธมฺมปฏิปตฺติยา วุตฺตนิยาเมเนว สรณคมนสฺส สีลสมาทานสฺส จาติ อตฺโถ. ชลมิว ยสสาติ อิทฺธิยา ปริวารสมฺปตฺติยา จ ชลนฺตํ วิย. สเมกฺขมานาติ ปสฺสนฺตา. พหุกาติ พหโว. ปิหยนฺตีติ ‘‘กถํ นุ โข มยํ เอทิสา ภเวยฺยามา’’ติ ปตฺเถนฺติ. หีนกมฺมาติ มม สมฺปตฺติโต นิหีนโภคา.
๙๐๕. กติปยายาติ อปฺปิกาย. เยติ เย ภิกฺขู เจว อุปาสกาทโย จ. จ-สทฺโท พฺยติเรเก. เตติ ตว. สตตนฺติ ทิวเส ทิวเส.
๙๐๖. วิปุลนฺติ อุฬารผลํ วิปุลานุภาวํ. ตถาคตสฺส ธมฺเมติ ตถาคตสฺส สาสเน โอวาเท ตฺวา กตนฺติ โยชนา. เอวํ อนุทฺเทสิกวเสน วุตฺตเมวตฺถํ อตฺตุทฺเทสิกวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘ปสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปสฺสาติ ภควนฺตํ วทติ, อตฺตานเมว วา อฺํ วิย จ กตฺวา วทติ.
๙๐๗. กิมิทํ ¶ ¶ กุสลํ กิมาจเรมาติ กุสลํ นาเมตํ กึสภาวํ กีทิสํ, กถํ วา ตํ อาจเรยฺยาม. อิจฺเจเก หิ สเมจฺจ มนฺตยนฺตีติ เอวเมเก สเมจฺจ สมาคนฺตฺวา ปถวึ ปริวตฺเตนฺตา วิย สิเนรุํ อุกฺขิปนฺตา วิย จ สุทุกฺกรํ กตฺวา มนฺตยนฺติ วิจาเรนฺติ, มยํ ปน อกิจฺเฉเนว ปุนปิ กุสลํ อาจเรยฺยามาติ อธิปฺปาโย. เตเนวาห ‘‘มย’’นฺติอาทิ.
๙๐๘. พหุกาโรติ พหูปกาโร, มหาอุปกาโร วา. อนุกมฺปโกติ การุณิโก. ม-กาโร ¶ ปทสนฺธิกโร. อิตีติ เอวํ, ภควโต อตฺตนิ ปฏิปนฺนาการํ สนฺธาย วทติ. เม สตีติ มยิ สติ วิชฺชมาเน, โจเรหิ อวธิเต เอวาติ อตฺโถ. ทิวา ทิวสฺสาติ ทิวสสฺสปิ ทิวา, กาลสฺเสวาติ อตฺโถ. สฺวาหนฺติ โส ฉตฺตมาณวภูโต อหํ. สจฺจนามนฺติ ‘‘ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติอาทินาเมหิ อวิตถนามํ ภูตตฺถนามํ. อนุกมฺปสฺสูติ อนุคฺคณฺหาหิ. ปุนปีติ ภิยฺโยปิ สุเณมุ, ตว ธมฺมํ สุเณยฺยามเยวาติ อตฺโถ.
เอวํ เทวปุตฺโต สพฺพเมตํ กตฺุตาภาเว ตฺวา สตฺถุ ปยิรุปาสเน จ ธมฺมสฺสวเน จ อติตฺติเมว ทีเปนฺโต วทติ. ภควา เทวปุตฺตสฺส จ ตตฺถ สนฺนิปติตปริสาย จ อชฺฌาสยํ โอโลเกตฺวา อนุปุพฺพิกถํ กเถสิ. อถ เนสํ อลฺลจิตฺตตํ ตฺวา สามุกฺกํสิกํ ธมฺมเทสนํ ปกาเสสิ. เทสนาปริโยสาเน เทวปุตฺโต เจว มาตาปิตโร จสฺส โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหึสุ, มหโต จ ชนกายสฺส ธมฺมาภิสมโย อโหสิ.
๙๐๙. ปมผเล ปติฏฺิโต เทวปุตฺโต อุปริมคฺเคสุ อตฺตโน ครุจิตฺตีการํ, ตทธิคมสฺส จ มหานิสํสตํ วิภาเวนฺโต ‘‘เย จิธ ปชหนฺติ กามราค’’นฺติ ปริโยสานคาถมาห. ตสฺสตฺโถ – เย อิธ อิมสฺมึ สาสเน ิตา ปชหนฺติ อนวเสสโต สมุจฺฉินฺทนฺติ กามราคํ, น จ เต ปุน อุเปนฺติ ¶ คพฺภเสยฺยํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ สมุจฺฉินฺนตฺตา. เย จ ปน ปหาย โมหํ สพฺพโส สมุคฺฆาเตตฺวา ภวราคานุสยฺจ ปชหนฺติ, เต ปุน อุเปนฺติ คพฺภเสยฺยนฺติ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. กสฺมา? ปรินิพฺพานคตา หิ สีติภูตา, เต หิ อุตฺตมปุริสา อนุปาทิเสสาย ¶ นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพานํ คตา เอวํ อิเธว สพฺพเวทยิตานํ สพฺพปริฬาหานํ พฺยนฺติภาเวน สีติภูตา.
อิติ เทวปุตฺโต อตฺตโน อริยโสตสมาปนฺนภาวํ ปเวเทนฺโต อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา เทสนาย กูฏํ คเหตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส อปจิตึ ทสฺเสตฺวา มาตาปิตโร อาปุจฺฉิตฺวา เทวโลกเมว คโต, สตฺถาปิ อุฏฺายาสนา คโต สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน. มาณวสฺส ปน มาตาปิตโร พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ สพฺโพ จ มหาชโน ภควนฺตํ อนุคนฺตฺวา นิวตฺติ. ภควา เชตวนํ คนฺตฺวา สนฺนิปติตาย ปริสาย อิมํ วิมานํ วิตฺถารโต กเถสิ. สา เทสนา มหาชนสฺส สาตฺถิกา อโหสีติ.
ฉตฺตมาณวกวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. กกฺกฏกรสทายกวิมานวณฺณนา
อุจฺจมิทํ ¶ มณิถูณํ วิมานนฺติ กกฺกฏกรสทายกวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน. เตน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ อารทฺธวิปสฺสโก กณฺณสูเลน ปีฬิโต อกลฺลสรีรตาย วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตุํ นาสกฺขิ, เวชฺเชหิ วุตฺตวิธินา เภสชฺเช กเตปิ โรโค น วูปสมิ. โส ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. อถสฺส ภควา ‘‘กกฺกฏกรสโภชนํ สปฺปาย’’นฺติ ตฺวา อาห ‘‘คจฺฉ ตฺวํ ภิกฺขุ มคธเขตฺเต ปิณฺฑาย จราหี’’ติ.
โส ภิกฺขุ ‘‘ทีฆทสฺสินา อทฺธา กิฺจิ ทิฏฺํ ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘สาธุ ภนฺเต’’ติ ภควโต ปฏิสฺสุณิตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย มคธเขตฺตํ คนฺตฺวา ¶ อฺตรสฺส เขตฺตปาลสฺส กุฏิยา ทฺวาเร ปิณฺฑาย อฏฺาสิ. โส จ เขตฺตปาโล กกฺกฏกรสํ สมฺปาเทตฺวา ภตฺตฺจ ปจิตฺวา ‘‘โถกํ วิสฺสมิตฺวา ภฺุชิสฺสามี’’ติ นิสินฺโน เถรํ ทิสฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา กุฏิกายํ นิสีทาเปตฺวา กกฺกฏกรสภตฺตํ อทาสิ. เถรสฺส ตํ ภตฺตํ โถกํ ภุตฺตสฺสเยว กณฺณสูลํ ปฏิปฺปสฺสมฺภิ, ฆฏสเตน นฺหาโต วิย อโหสิ ¶ . โส สปฺปายาหารวเสน จิตฺตผาสุกํ ลภิตฺวา วิปสฺสนาวเสน จิตฺตํ อภินินฺนาเมนฺโต อปริโยสิเตเยว โภชเน อนวเสสโต อาสเว เขเปตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺาย เขตฺตปาลํ อาห ‘‘อุปาสก, ตว ปิณฺฑปาตโภชเนน มยฺหํ โรโค วูปสนฺโต, กายจิตฺตํ กลฺลํ ชาตํ, ตฺวมฺปิ อิมสฺส ปฺุสฺส ผเลน วิคตกายจิตฺตทุกฺโข ภวิสฺสสี’’ติ วตฺวา อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ.
เขตฺตปาโล อปเรน สมเยน กาลํ กตฺวา ตาวตึสภวเน ทฺวาทสโยชนิเก มณิถมฺเภ กนกวิมาเน สตฺตสตกูฏาคารปฏิมณฺฑิเต เวฬุริยมยคพฺเภ นิพฺพตฺติ, ทฺวาเร จสฺส ยถูปจิตกมฺมสํสูจโก มุตฺตาสิกฺกาคโต สุวณฺณกกฺกฏโก โอลมฺพมาโน อฏฺาสิ. อถายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ตตฺถ คโต ตํ ทิสฺวา อิมาหิ คาถาหิ ปุจฺฉิ –
‘‘อุจฺจมิทํ มณิถูณํ วิมานํ, สมนฺตโต ทฺวาทส โยชนานิ;
กูฏาคารา สตฺตสตา อุฬารา, เวฬุริยถมฺภา รุจกตฺถตา สุภา.
‘‘ตตฺถจฺฉสิ ¶ ปิวสิ ขาทสิ จ, ทิพฺพา จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ;
ทิพฺพา ¶ รสา กามคุเณตฺถ ปฺจ, นาริโย จ นจฺจนฺติ สุวณฺณฉนฺนา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.
‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทว มหานุภาว, มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โสปิสฺส พฺยากาสิ, ตํ ทสฺเสตุํ –
‘‘โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน, โมคฺคลฺลาเนน ปุจฺฉิโต;
ปฺหํ ปุฏฺโ วิยากาสิ, ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผล’’นฺติ. – วุตฺตํ;
‘‘สติสมุปฺปาทกโร ¶ , ทฺวาเร กกฺกฏโก ิโต;
นิฏฺิโต ชาตรูปสฺส, โสภติ ทสปาทโก.
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ, เตน เม อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เม โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.
‘‘อกฺขามิ เต ภิกฺขุ มหานุภาว, มนุสฺสภูโต ยมกาสิ ปฺุํ;
เตนมฺหิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
๙๑๐. ตตฺถ อุจฺจนฺติ อจฺจุคฺคตํ. มณิถูณนฺติ ปทุมราคาทิมณิมยถมฺภํ. สมนฺตโตติ จตูสุปิ ปสฺเสสุ. รุจกตฺถตาติ ตสฺสํ ตสฺสํ ภูมิยํ สุวณฺณผลเกหิ อตฺถตา.
๙๑๑. ปิวสิ ขาทสิ จาติ กาเลน กาลํ อุปยุชฺชมานํ คนฺธปานํ สุธาโภชนฺจ สนฺธาย วทติ. ปวทนฺตีติ ปวชฺชนฺติ. ทิพฺพา รสา กามคุเณตฺถ ปฺจาติ ทิพฺพา รสา อนปฺปกา ปฺจ กามคุณา เอตฺถ เอตสฺมึ ตว วิมาเน สํวิชฺชนฺตีติ อตฺโถ. สุวณฺณฉนฺนาติ เหมาภรณวิภูสิตา.
๙๑๕. สติสมุปฺปาทกโรติ ¶ สตุปฺปาทกโร, เยน ปฺุกมฺเมน อยํ ทิพฺพสมฺปตฺติ มยา ลทฺธา, ตตฺถ สตุปฺปาทสฺส การโก, ‘‘กกฺกฏกรสทาเนน อยํ ตยา สมฺปตฺติ ¶ ลทฺธา’’ติ เอวํ สตุปฺปาทํ กโรนฺโตติ อตฺโถ. นิฏฺิโต ชาตรูปสฺสาติ ชาตรูเปน สิทฺโธ ชาตรูปมโย. เอกเมกสฺมึ ปสฺเส ปฺจ ปฺจ กตฺวา ทส ปาทา เอตสฺสาติ ทสปาทโก ทฺวาเร กกฺกฏโก ิโต โสภติ. โส เอว มม ปฺุกมฺมํ ตาทิสานํ มเหสีนํ วิภาเวติ, น เอตฺถ มยา วตฺตพฺพํ อตฺถีติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ’’ติอาทิ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
กกฺกฏกรสทายกวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ทฺวารปาลกวิมานวณฺณนา
อุจฺจมิทํ ¶ มณิถูณนฺติ ทฺวารปาลกวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน. เตน จ สมเยน ราชคเห อฺตโร อุปาสโก จตฺตาริ นิจฺจภตฺตานิ สงฺฆสฺส เทติ. ตสฺส ปน เคหํ ปริยนฺเต ิตํ โจรภเยน เยภุยฺเยน ปิหิตทฺวารเมว โหติ. ภิกฺขู คนฺตฺวา กทาจิ ทฺวารสฺส ปิหิตตฺตา ภตฺตํ อลทฺธาว ปฏิคจฺฉนฺติ. อุปาสโก ภริยํ อาห ‘‘กึ, ภทฺเท, อยฺยานํ สกฺกจฺจํ ภิกฺขา ทียตี’’ติ? สา อาห ‘‘เอเกสุ ทิวเสสุ อยฺยา นาคมึสู’’ติ. ‘‘กึ การณ’’นฺติ? ‘‘ทฺวารสฺส ปิหิตตฺตา มฺเ’’ติ. ตํ สุตฺวา อุปาสโก สํเวคปฺปตฺโต หุตฺวา เอกํ ปุริสํ ทฺวารปาลํ กตฺวา เปสิ ‘‘ตฺวํ อชฺชโต ปฏฺาย ทฺวารํ รกฺขนฺโต นิสีท, ยทา จ อยฺยา อาคมิสฺสนฺติ, ตทา เต ปเวเสตฺวา ปวิฏฺานํ เนสํ ปตฺตปฏิคฺคหณอาสนปฺาปนาทิ สพฺพํ ยุตฺตปยุตฺตํ ชานาหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ ตถา กโรนฺโต ภิกฺขูนํ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา อุปฺปนฺนสทฺโธ กมฺมผลํ สทฺทหิตฺวา สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺหิ, สกฺกจฺจํ ภิกฺขู อุปฏฺหิ.
อปรภาเค นิจฺจภตฺตทายโก อุปาสโก กาลํ กตฺวา ยาเมสุ นิพฺพตฺติ. ทฺวารปาโล ปน สกฺกจฺจํ ภิกฺขูนํ อุปฏฺหิตฺวา ปรสฺส ปริจฺจาเค เวยฺยาวจฺจกรเณน อนุโมทเนน จ ตาวตึเสสุ อุปฺปชฺชิ. ตสฺส ทฺวาทสโยชนิกํ กนกวิมานนฺติอาทิ สพฺพํ กกฺกฏกวิมาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนคาถา เอวมาคตา –
‘‘อุจฺจมิทํ ¶ มณิถูณํ วิมานํ, สมนฺตโต ทฺวาทส โยชนานิ;
กูฏาคารา สตฺตสตา อุฬารา, เวฬุริยถมฺภา รุจกตฺถตา สุภา.
‘‘ตตฺถจฺฉสิ ¶ ปิวสิ ขาทสิ จ, ทิพฺพา จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ;
ทิพฺพา รสา กามคุเณตฺถ ปฺจ, นาริโย จ นจฺจนฺติ สุวณฺณฉนฺนา.
๙๒๐. ‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ…เป… วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
๙๒๒. ‘‘โส ¶ เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘ทิพฺพํ มมํ วสฺสสหสฺสมายุ, วาจาภิคีตํ มนสา ปวตฺติตํ;
เอตฺตาวตา สฺสติ ปฺุกมฺโม, ทิพฺเพหิ กาเมหิ สมงฺคิภูโต.
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป…
วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
๙๒๓. ตตฺถ ทิพฺพํ มมํ วสฺสสหสฺสมายูติ ยสฺมึ เทวนิกาเย สยํ อุปฺปนฺโน, เตสํ ตาวตึสเทวานํ อายุปฺปมาณเมว วทติ. เตสฺหิ มนุสฺสานํ คณนาย วสฺสสตํ เอโก รตฺติทิโว, ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโก มาโส, เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโก สํวจฺฉโร, เตน สํวจฺฉเรน สหสฺสสํวจฺฉรานิ อายุ, ตํ มนุสฺสานํ คณนาย ติสฺโส วสฺสโกฏิโย สฏฺิ จ วสฺสสตสหสฺสานิ โหนฺติ. วาจาภิคีตนฺติ วาจาย อภิคีตํ, ‘‘อาคจฺฉนฺตุ อยฺยา, อิทํ อาสนํ ปฺตฺตํ, อิธ นิสีทถา’’ติอาทินา, ‘‘กึ อยฺยานํ สรีรสฺส อาโรคฺยํ, กึ วสนฏฺานํ ผาสุก’’นฺติอาทินา ปฏิสนฺถารวเสน จ วาจาย กถิตมตฺตํ ¶ . มนสา ปวตฺติตนฺติ ‘‘อิเม อยฺยา เปสลา พฺรหฺมจาริโน ธมฺมจาริโน’’ติอาทินา จิตฺเตน ปวตฺติตํ ปสาทมตฺตํ, น ปน มม สนฺตกํ กิฺจิ ปริจฺจตฺตํ อตฺถีติ ทสฺเสติ. เอตฺตาวตาติ เอตฺตเกน เอวํ กถนมตฺเตน ปสาทมตฺเตนปิ. สฺสติ ปฺุกมฺโมติ กตปฺุโ นาม หุตฺวา เทวโลเก สฺสติ จิรํ ปวตฺติสฺสติ, ติฏฺนฺโต จ ทิพฺเพหิ กาเมหิ สมงฺคีภูโต ตสฺมึ เทวนิกาเย เทวานํ วลฺชนิยาเมเนว ทิพฺเพหิ ปฺจหิ กามคุเณหิ สมงฺคีภูโต สมนฺนาคโต หุตฺวา อินฺทฺริยานิ ปริจาเรนฺโต วิหรตีติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
ทฺวารปาลกวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ปมกรณียวิมานวณฺณนา
อุจฺจมิทํ ¶ ¶ มณิถูณนฺติ กรณียวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน. เตน สมเยน สาวตฺถิวาสี เอโก อุปาสโก นฺหาโนปกรณานิ คเหตฺวา อจิรวตึ คนฺตฺวา นฺหตฺวา อาคจฺฉนฺโต ภควนฺตํ สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิสนฺตํ ทิสฺวา อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอวมาห ‘‘ภนฺเต เกน นิมนฺติตา’’ติ. ภควา ตุณฺหี อโหสิ. โส เกนจิ อนิมนฺติตภาวํ ตฺวา อาห ‘‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา ภตฺตํ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. โส ภควนฺตํ อตฺตโน เคหํ เนตฺวา พุทฺธารหํ อาสนํ ปฺาเปตฺวา ตตฺถ ภควนฺตํ นิสีทาเปตฺวา ปณีเตน อนฺนปาเนน สนฺตปฺเปสิ. ภควา กตภตฺตกิจฺโจ ตสฺส อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ. เสสํ อนนฺตรวิมานสทิสํ. เตน วุตฺตํ –
๙๒๖. ‘‘อุจฺจมิทํ มณิถูณํ วิมานํ…เป… นาริโย จ นจฺจนฺติ สุวณฺณฉนฺนา.
๙๒๘. ‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ…เป… วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
๙๓๐. ‘‘โส ¶ เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘กรณียานิ ปฺุานิ, ปณฺฑิเตน วิชานตา;
สมฺมคฺคเตสุ พุทฺเธสุ, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.
‘‘อตฺถาย วต เม พุทฺโธ, อรฺา คามมาคโต;
กตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, ตาวตึสูปโค อหํ.
๙๓๓. ‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป… วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
๙๓๑. ตตฺถ ปณฺฑิเตนาติ สปฺปฺเน. วิชานตาติ อตฺตโน หิตาหิตํ ชานนฺเตน. สมฺมคฺคเตสูติ สมฺมาปฏิปนฺเนสุ, พุทฺเธสูติ สมฺมาสมฺพุทฺเธสุ.
๙๓๒. อตฺถายาติ ¶ หิตาย, วุฑฺฒิยา วา. อรฺาติ วิหารโต, เชตวนํ สนฺธาย วทติ ¶ . ตาวตึสูปโคติ ตาวตึสเทวกายํ, ตาวตึสภวนํ วา อุปฺปชฺชนวเสน อุปคโต. เสสํ วุตฺตนยเมว.
กรณียวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ทุติยกรณียวิมานวณฺณนา
สตฺตมวิมานํ ฉฏฺวิมานสทิสํ. เกวลํ ตตฺถ อุปาสเกน ภควโต อาหาโร ทินฺโน, อิธ อฺตรสฺส เถรสฺส. เอสํ วุตฺตนยเมว. เตน วุตฺตํ –
‘‘อุจฺจมิทํ มณิถูณํ วิมานํ, สมนฺตโต ทฺวาทส โยชนานิ;
กูฏาคารา สตฺตสตา อุฬารา, เวฬุริยถมฺภา รุจกตฺถตา สุภา.
‘‘ตตฺถจฺฉสิ ปิวสิ ขาทสิ จ, ทิพฺพา จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ;
ทิพฺพา รสา กามคุเณตฺถ ปฺจ, นาริโย จ นจฺจนฺติ สุวณฺณฉนฺนา.
๙๓๗. ‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ…เป… วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตีติ.
‘‘โส ¶ เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘กรณียานิ ปฺุานิ, ปณฺฑิเตน วิชานตา;
สมฺมคฺคเตสุ ภิกฺขูสุ, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.
‘‘อตฺถาย ¶ วต เม ภิกฺขุ, อรฺา คามมาคโต;
ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, ตาวตึสูปโค อหํ.
๙๔๒. ‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป… วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ทุติยกรณียวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ปมสูจิวิมานวณฺณนา
อุจฺจมิทํ ¶ มณิถูณํ วิมานนฺติ สูจิวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน. เตน สมเยน อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส จีวรกมฺมํ กาตพฺพํ โหติ, อตฺโถ จ โหติ สูจิยา. โส ราชคเห ปิณฺฑาย จรนฺโต กมฺมารสฺส เคหทฺวาเร อฏฺาสิ. ตํ ทิสฺวา กมฺมาโร อาห ‘‘เกน, ภนฺเต, อตฺโถ’’ติ? ‘‘จีวรกมฺมํ กาตพฺพํ อตฺถิ, สูจิยา อตฺโถ’’ติ. กมฺมาโร ปสนฺนมานโส กตปริโยสิตา ทฺเว สูจิโย ทตฺวา ‘‘ปุนปิ, ภนฺเต, สูจิยา อตฺเถ สติ มม อาจิกฺเขยฺยาถา’’ติ วตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิ. เถโร ตสฺส อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ. โส อปรภาเค กาลํ กตฺวา ตาวตึเสสุ อุปฺปชฺชิ. อถ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เทวจาริกํ จรนฺโต ตํ เทวปุตฺตํ อิมาหิ คาถาหิ ปุจฺฉิ –
‘‘อุจฺจมิทํ มณิถูณํ วิมานํ…เป…
วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
๙๔๘. ‘‘โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘ยํ ททาติ น ตํ โหติ, ยฺเจว ทชฺชา ตฺเจว เสยฺโย;
สูจิ ทินฺนา สูจิเมว เสยฺโย.
‘‘เตน ¶ เมตาทิโส วณฺโณ…เป…
วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
๙๔๙. ตตฺถ ¶ ยํ ททาตีติ ยาทิสํ เทยฺยธมฺมํ ททาติ. น ตํ โหตีติ ตสฺส ตาทิสเมว ผลํ น โหติ. อถ โข เขตฺตสมฺปตฺติยา จ จิตฺตสมฺปตฺติยา จ ตโต วิปุลตรํ อุฬารตรเมว ผลํ โหติ. ตสฺมา ยฺเจว ทชฺชา ตฺเจว เสยฺโยติ ยํกิฺจิเทว วิชฺชมานํ ทชฺชา ทเทยฺย, ตฺเจว ตเทว เสยฺโย, ยสฺส กสฺสจิ อนวชฺชสฺส เทยฺยธมฺมสฺส ทานเมว เสยฺโย, กสฺมา? มยา หิ สูจิ ทินฺนา สูจิเมว เสยฺโย, สูจิทานเมว มยฺหํ เสยฺยํ ชาตํ, ยโต อยมีทิสี สมฺปตฺติ ลทฺธาติ อธิปฺปาโย.
สูจิวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ทุติยสูจิวิมานวณฺณนา
อุจฺจมิทํ ¶ มณิถูณนฺติ ทุติยสูจิวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน. เตน สมเยน ราชคหวาสี เอโก ตุนฺนการโก วิหารเปกฺขโก หุตฺวา เวฬุวนํ คโต. ตตฺถ อฺตรํ ภิกฺขุํ เวฬุวเน กตสูจิยา จีวรํ สิพฺพนฺตํ ทิสฺวา สูจิฆเรน สทฺธึ สูจิโย อทาสิ. เสสํ สพฺพํ วุตฺตนยเมว.
‘‘อุจฺจมิทํ มณิถูณํ วิมานํ…เป…
วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ. – ปุจฺฉิ;
‘‘โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต, ปุริมชาติยา มนุสฺสโลเก.
‘‘อทฺทสํ วิรชํ ภิกฺขุํ, วิปฺปสนฺนมนาวิลํ;
ตสฺส อทาสหํ สูจึ, ปสนฺโน เสหิ ปาณิภิ.
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป… วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ตํ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.
ทุติยสูจิวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ปมนาควิมานวณฺณนา
สุสุกฺกขนฺธํ ¶ ¶ อภิรุยฺห นาคนฺติ นาควิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน. เตน สมเยน อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เทวจาริกํ จรนฺโต ตาวตึสภวนํ อุปคโต. ตตฺถ อทฺทส อฺตรํ เทวปุตฺตํ สพฺพเสตํ มหนฺตํ ทิพฺพนาคํ อภิรุยฺห มหนฺเตน ปริวาเรน มหตา ทิพฺพานุภาเวน อากาเสน คจฺฉนฺตํ, สพฺพา ทิสา จนฺโท วิย สูริโย วิย จ โอภาสยมานํ. ทิสฺวา เยน โส เทวปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ. อถ โส เทวปุตฺโต ¶ ตโต โอรุยฺห อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ อภิวาเทตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห อฏฺาสิ. อถ เถโร –
‘‘สุสุกฺกขนฺธํ อภิรุยฺห นาคํ, อกาจินํ ทนฺตึ พลึ มหาชวํ;
อภิรุยฺห คชวรํ สุกปฺปิตํ, อิธาคมา เวหายสํ อนฺตลิกฺเข.
‘‘นาคสฺส ทนฺเตสุ ทุเวสุ นิมฺมิตา, อจฺโฉทกา ปทุมินิโย สุผุลฺลา;
ปทุเมสุ จ ตูริยคณา ปวชฺชเร, อิมา จ นจฺจนฺติ มโนหราโย.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ. –
ตสฺส สมฺปตฺติกิตฺตนมุเขน กตกมฺมํ ปุจฺฉิ.
๙๖๑. ตตฺถ สุสุกฺกขนฺธนฺติ สุฏฺุ เสตขนฺธํ. กิฺจาปิ ตสฺส นาคสฺส จตฺตาโร ปาทา, วตฺถิโกสํ, มุขปฺปเทโส, อุโภ กณฺณา, วาลธีติ เอตฺตกํ มฺุจิตฺวา สพฺโพ กาโย เสโตว, ขนฺธปฺปเทสสฺส ปน สาติสยํ ธวลตรตาย ¶ วุตฺตํ ‘‘สุสุกฺกขนฺธ’’นฺติ. นาคนฺติ ทิพฺพํ หตฺถินาคํ. อกาจินนฺติ นิทฺโทสํ ¶ , สพลลวงฺกติลกาทิฉวิโทสวิรหิตนฺติ อตฺโถ. ‘‘อาชานีย’’นฺติปิ ปาฬิ, อาชานียลกฺขณูเปตนฺติ อตฺโถ. ทนฺตินฺติ วิปุลรุจิรทนฺตวนฺตํ. พลินฺติ พลวนฺตํ มหาพลํ. มหาชวนฺติ อติชวํ สีฆคามึ. ปุน อภิรุยฺหาติ เอตฺถ อนุนาสิกโลโป ทฏฺพฺโพ, อภิรุยฺหํ อาโรหนียนฺติ วุตฺตํ โหติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
เอวํ ปน เถเรน ปุฏฺโ เทวปุตฺโต อตฺตนา กตกมฺมํ กเถนฺโต –
‘‘อฏฺเว มุตฺตปุปฺผานิ, กสฺสปสฺส มเหสิโน;
ถูปสฺมึ อภิโรเปสึ, ปสนฺโน เสหิ ปาณิภิ.
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป…
วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ. – อิมาหิ คาถาหิ พฺยากาสิ;
ตสฺสตฺโถ ¶ – อหํ ปุพฺเพ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส โยชนิเก กนกถูเป วณฺฏโต มุจฺจิตฺวา คจฺฉมูเล ปติตานิ อฏฺ มุตฺตปุปฺผานิ ลภิตฺวา ตานิ คเหตฺวา ปูชนวเสน ปสนฺนจิตฺโต หุตฺวา อภิโรเปสึ ปูเชสึ.
อตีเต กิร กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺเธ ปรินิพฺพุเต โยชนิเก กนกถูเป จ การิเต สปริวาโร กิกี กาสิราชา จ นาครา จ เนคมา จ ชานปทา จ ทิวเส ทิวเส ปุปฺผปูชํ กโรนฺติ. เตสุ ตถา กโรนฺเตสุ ปุปฺผานิ มหคฺฆานิ ทุลฺลภานิ จ อเหสุํ. อเถโก อุปาสโก มาลาการวีถิยํ วิจริตฺวา เอกเมเกน กหาปเณน เอกเมกมฺปิ ปุปฺผํ อลภนฺโต อฏฺ กหาปณานิ คเหตฺวา ปุปฺผารามํ คนฺตฺวา มาลาการํ อาห ‘‘อิเมหิ อฏฺหิ กหาปเณหิ ¶ อฏฺ ปุปฺผานิ เทหี’’ติ. ‘‘นตฺถยฺโย ปุปฺผานิ, สมฺมเทว อุปธาเรตฺวา โอจินิตฺวา ทินฺนานี’’ติ. ‘‘อหํ โอโลเกตฺวา คณฺหามี’’ติ. ‘‘ยทิ เอวํ, อารามํ ปวิสิตฺวา คเวสาหี’’ติ. โส ปวิสิตฺวา คเวสนฺโต ปติตานิ อฏฺ ปุปฺผานิ ลภิตฺวา มาลาการํ อาห ‘‘คณฺห, ตาต, กหาปณานี’’ติ. ‘‘ตว ปฺุเน ลทฺธานิ, นาหํ กหาปณานิ คณฺหามี’’ติ อาห. อิตโร ‘‘นาหํ มุธา ปุปฺผานิ คเหตฺวา ภควโต ปูชํ กริสฺสามี’’ติ กหาปณานิ ตสฺส ปุรโต เปตฺวา ปุปฺผานิ คเหตฺวา เจติยงฺคณํ ¶ คนฺตฺวา ปสนฺนจิตฺโต ปูชํ อกาสิ. โส อปรภาเค กาลํ กตฺวา ตาวตึเสสุ อุปฺปชฺชิตฺวา ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา ปุนปิ เทวโลเก, ปุนปิ เทวโลเกติ เอวํ อปราปรํ เทเวสุเยว สํสรนฺโต ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสน อิมสฺมิมฺปิ พุทฺธุปฺปาเท ตาวตึเสสุเยว อุปฺปชฺชิ. ตํ สนฺธาย เหฏฺา วุตฺตํ ‘‘ตตฺถ อทฺทส อฺตรํ เทวปุตฺต’’นฺติอาทิ.
ตํ ปเนตํ ปวตฺตึ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน มนุสฺสโลกํ อาคนฺตฺวา ภควโต อาโรเจสิ. ภควา ตมตฺถํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา สมฺปตฺตปริสาย วิตฺถาเรน ธมฺมํ เทเสสิ. สา เทสนา มหาชนสฺส สาตฺถิกา อโหสีติ.
นาควิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. ทุติยนาควิมานวณฺณนา
มหนฺตํ นาคํ อภิรุยฺหาติ ทุติยนาควิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน. เตน สมเยน ราชคเห อฺตโร อุปาสโก สทฺโธ ปสนฺโน ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺิโต อุโปสถทิวเสสุ อุโปสถสีลํ สมาทิยิตฺวา ปุเรภตฺตํ อตฺตโน วิภวานุรูปํ ภิกฺขูนํ ทานานิ ทตฺวา ¶ สยํ ภฺุชิตฺวา สุทฺธวตฺถนิวตฺโถ สุทฺธุตฺตราสงฺโค ปจฺฉาภตฺตํ เยภุยฺเยน อฏฺ ปานานิ คาหาเปตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิยฺยาเทตฺวา ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุณาติ. เอวํ โส สกฺกจฺจํ ทานมยํ สีลมยฺจ พหุํ สุจริตํ อุปจินิตฺวา อิโต จุโต ตาวตึเสสุ อุปฺปชฺชิ. ตสฺส ปฺุานุภาเวน สพฺพเสโต ¶ มหนฺโต ทิพฺโพ หตฺถินาโค ปาตุรโหสิ. โส ตํ อภิรุยฺห มหนฺเตน ปริวาเรน มหนฺเตน ทิพฺพานุภาเวน กาเลน กาลํ อุยฺยานกีฬํ คจฺฉติ.
อเถกทิวสํ กตฺุตาย โจทิยมาโน อฑฺฒรตฺติสมเย ตํ ทิพฺพนาคํ อภิรุยฺห มหตา ปริวาเรน ‘‘ภควนฺตํ วนฺทิสฺสามี’’ติ เทวโลกโต อาคนฺตฺวา เกวลกปฺปํ เวฬุวนํ โอภาเสตฺวา หตฺถิกฺขนฺธโต โอรุยฺห ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา อภิวาเทตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห เอกมนฺตํ อฏฺาสิ ¶ . ตํ ภควโต สมีเป ิโต อายสฺมา วงฺคีโส ภควโต อนฺุาย อิมาหิ คาถาหิ ปุจฺฉิ –
‘‘มหนฺตํ นาคํ อภิรุยฺห, สพฺพเสตํ คชุตฺตมํ;
วนา วนํ อนุปริยาสิ, นารีคณปุรกฺขโต;
โอภาเสนฺโต ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ…เป…
วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ตตฺถา ปุจฺฉิโต โสปิ ตสฺส คาถาหิ เอว พฺยากาสิ.
‘‘โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน, วงฺคีเสเนว ปุจฺฉิโต;
ปฺหํ ปุฏฺโ วิยากาสิ, ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต, อุปาสโก จกฺขุมโต อโหสึ;
ปาณาติปาตา วิรโต อโหสึ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยิสฺสํ.
‘‘อมชฺชโป โน จ มุสา อภาณึ, สเกน ทาเรน จ ตุฏฺโ อโหสึ;
อนฺนฺจ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺโต, สกฺกจฺจ ทานํ วิปุลํ อทาสึ.
‘‘เตน ¶ เมตาทิโส วณฺโณ…เป…
วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ตตฺถ อปุพฺพํ นตฺถิ, เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.
ทุติยนาควิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. ตติยนาควิมานวณฺณนา
โก ¶ นุ ทิพฺเพน ยาเนนาติ ตติยนาควิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา ¶ ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน สมเยน ตโย ขีณาสวตฺเถรา คามกาวาเส วสฺสํ อุปคจฺฉึสุ. เต วุตฺถวสฺสา ปวาเรตฺวา ‘‘ภควนฺตํ วนฺทิสฺสามา’’ติ ราชคหํ อุทฺทิสฺส คจฺฉนฺตา อนฺตรามคฺเค สายํ อฺตรสฺมึ คามเก มิจฺฉาทิฏฺิกพฺราหฺมณสฺส อุจฺฉุเขตฺตสมีปํ คนฺตฺวา อุจฺฉุปาลํ ปุจฺฉึสุ ‘‘อาวุโส, สกฺกา อชฺช ราชคหํ ปาปุณิตุ’’นฺติ. ‘‘น สกฺกา, ภนฺเต, อิโต อฑฺฒโยชเน ราชคหํ, อิเธว วสิตฺวา สฺเว คจฺฉถา’’ติ อาห. ‘‘อตฺเถตฺถ โกจิ วสนโยคฺโค อาวาโส’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต, อหํ ปน โว วสนฏฺานํ ชานิสฺสามี’’ติ. เถรา อธิวาเสสุํ.
โส อุจฺฉูสุเยว ยถาิเตสุ สาขามณฺฑปากาเรน ทณฺฑกานิ พนฺธิตฺวา อุจฺฉุปณฺเณหิ ฉาเทตฺวา เหฏฺา ปลาลํ อตฺถริตฺวา เอกสฺส เถรสฺส อทาสิ, ทุติยสฺส เถรสฺส ตีหิ อุจฺฉูหิ ทณฺฑกสงฺเขเปน พนฺธิตฺวา ติเณน ฉาเทตฺวา เหฏฺา จ ติณสนฺถรํ กตฺวา อทาสิ, อิตรสฺส อตฺตโน กุฏิยํ ทฺเว ตโย ทณฺฑเก สาขาโย จ นีหริตฺวา จีวเรน ปฏิจฺฉาเทนฺโต จีวรกุฏึ กตฺวา อทาสิ. เต ตตฺถ วสึสุ. อถ วิภาตาย รตฺติยา กาลสฺเสว ภตฺตํ ปจิตฺวา ทนฺตกฏฺฺจ มุโขทกฺจ ทตฺวา สห อุจฺฉุรเสน ภตฺตํ อทาสิ. เตสํ ภฺุชิตฺวา อนุโมทนํ กตฺวา คจฺฉนฺตานํ เอเกกํ อุจฺฉุํ อทาสิ ‘‘มยฺหํ ภาโค ภวิสฺสตี’’ติ. โส โถกํ มคฺคํ เถเร อนุคนฺตฺวา นิวตฺตนฺโต อตฺตโน เวยฺยาวจฺจฺจ ทานฺจ อารพฺภ อุฬารํ ปีติโสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทนฺโต นิวตฺติ.
เขตฺตสามิโก ปน คจฺฉนฺตานํ ภิกฺขูนํ ปฏิปเถน อาคจฺฉนฺโต ภิกฺขู ปุจฺฉิ ‘‘กุโต โว อุจฺฉุ ลทฺธา’’ติ? ‘‘อุจฺฉุปาลเกน ทินฺนา’’ติ. ตํ สุตฺวา พฺราหฺมโณ กุปิโต อนตฺตมโน ตฏตฏายมาโน โกธาภิภูโต ตสฺส ปิฏฺิโต อุปธาวิตฺวา มุคฺคเรน ตํ ปหรนฺโต เอกปฺปหาเรเนว ¶ ชีวิตา ¶ โวโรเปสิ. โส อตฺตนา กตปฺุกมฺมเมว อนุสฺสรนฺโต กาลํ กตฺวา สุธมฺมาเทวสภายํ นิพฺพตฺติ. ตสฺส ปฺุานุภาเวน สพฺพเสโต มหนฺโต ทิพฺพวรวารโณ นิพฺพตฺติ.
อุจฺฉุปาลกสฺส ¶ มรณํ สุตฺวา ตสฺส มาตาปิตโร เจว าติมิตฺตา จ อสฺสุมุขา โรทมานา ตํ านํ อคมํสุ, สพฺเพ จ คามวาสิโน สนฺนิปตึสุ. ตตฺรสฺส มาตาปิตโร สรีรกิจฺจํ กาตุํ อารภึสุ. ตสฺมึ ขเณ โส เทวปุตฺโต ตํ ทิพฺพหตฺถึ อภิรุหิตฺวา สพฺพตาฬาวจรปริวุโต ปฺจงฺคิเกน ตูริเยน ปวชฺชมาเนน มหนฺเตน ปริวาเรน มหติยา เทวิทฺธิยา เทวโลกโต อาคนฺตฺวา ตาย ปริสาย ทิสฺสมานรูโป อากาเส อฏฺาสิ. อถ นํ ตตฺถ ปณฺฑิตชาติโก ปุริโส อิมาหิ คาถาหิ เตน กตปฺุกมฺมํ ปุจฺฉิ –
‘‘โก นุ ทิพฺเพน ยาเนน, สพฺพเสเตน หตฺถินา;
ตูริยตาฬิตนิคฺโฆโส, อนฺตลิกฺเข มหียติ.
‘‘เทวตา นุสิ คนฺธพฺโพ, อทุ สกฺโก ปุรินฺทโท;
อชานนฺตา ตํ ปุจฺฉาม, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.
โสปิสฺส อิมาหิ คาถาหิ เอตมตฺถํ พฺยากาสิ –
‘‘นามฺหิ เทโว น คนฺธพฺโพ, นาปิ สกฺโก ปุรินฺทโท;
สุธมฺมา นาม เย เทวา, เตสํ อฺตโร อห’’นฺติ.
‘‘ปุจฺฉาม เทวํ สุธมฺมํ, ปุถุํ กตฺวาน อฺชลึ;
กึ กตฺวา มานุเส กมฺมํ, สุธมฺมํ อุปปชฺชตี’’ติ – ปุนปิ ปุจฺฉิ;
‘‘อุจฺฉาคารํ ติณาคารํ, วตฺถาคารฺจ โย ทเท;
ติณฺณํ อฺตรํ ทตฺวา, สุธมฺมํ อุปปชฺชตี’’ติ. – ปุนปิ พฺยากาสิ;
๙๗๖. ตตฺถ ตูริยตาฬิตนิคฺโฆโสติ ตาฬิตปฺจงฺคิตทิพฺพตูริยนิคฺโฆโส อตฺตานํ อุทฺทิสฺส ปวชฺชมานทิพฺพตูริยสทฺโท ¶ . อนฺตลิกฺเข มหียตีติ อากาเส ตฺวา อากาสฏฺเเนว มหตา ปริวาเรน ปูชียติ.
๙๗๗. เทวตา ¶ ¶ นุสีติ เทวตา นุ อสิ, กึ นุ ตฺวํ เทโวสีติ อตฺโถ. คนฺธพฺโพติ คนฺธพฺพกายิกเทโว อสีติ อตฺโถ. อทุ สกฺโก ปุรินฺทโทติ อุทาหุ ปุเร ททาตีติ ‘‘ปุรินฺทโท’’ติ วิสฺสุโต สกฺโก นุสิ, อถ สกฺโก เทวราชา อสีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ สติปิ สกฺกคนฺธพฺพานํ เทวภาเว เตสํ วิสุํ คหิตตฺตา โคพลิพทฺธาเยน ตทฺเทววาจโก เทวสทฺโท ทฏฺพฺโพ.
๙๗๘. อถ เทวปุตฺโต ‘‘วิสฺสชฺชนํ นาม ปุจฺฉาสภาเคน โหตี’’ติ เตหิ ปุจฺฉิตํ เทวคนฺธพฺพสกฺกภาวํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อตฺตานํ อาจิกฺขนฺโต ‘‘นมฺหิ เทโว น คนฺธพฺโพ’’ติอาทิมาห. ตตฺถ นมฺหิ เทโวติ ตยา อาสงฺกิโต โย โกจิ เทโว น โหมิ น คนฺธพฺโพ น สกฺโก, อปิจ โข สุธมฺมา นาม เย เทวา, เตสํ อฺตโร อหํ, สุธมฺมา เทวตา นาม ตาวตึสเทวนิกายสฺเสว อฺตรเทวนิกาโย. โส กิร อุจฺฉุปาโล เตสํ เทวานํ สมฺปตฺตึ สุตฺวา ปเคว ตตฺถ จิตฺตํ ปณิธาย ิโตติ เกจิ วทนฺติ.
๙๗๙. ปุถุนฺติ มหนฺตํ, ปริปุณฺณํ กตฺวาติ อตฺโถ. สกฺกจฺจกิริยาทีปนตฺถฺเหตํ วุตฺตํ.
๙๘๐. สุธมฺมาเทวยานํ ปุฏฺโ เทวปุตฺโต กกณฺฏกนิมิตฺตํ วทนฺโต วิย ทิฏฺมตฺตเมว คเหตฺวา อตฺตนา กตปฺุํ อาจิกฺขนฺโต ‘‘อุจฺฉาคาร’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ ติณฺณํ อฺตรํ ทตฺวาติ ยทิปิ มยา ตีณิ อคารานิ ทินฺนานิ, ตีสุ ปน อฺตเรนาติ อยมตฺโถปิ สิชฺฌตีติ นยคฺคาเหน เทวปุตฺโต เอวมาห. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
เอวํ ¶ โส เตน ปุจฺฉิ ตมตฺถํ วิสฺสชฺเชตฺวา รตนตฺตยคุณํ ปกาเสนฺโต มาตาปิตูหิ สทฺธึ สมฺโมทนํ กตฺวา เทวโลกเมว คโต. มนุสฺสา เทวปุตฺตสฺส วจนํ สุตฺวา ภควติ ภิกฺขุสงฺเฆ จ สฺชาตปสาทพหุมานา พหุํ ทานูปกรณํ สชฺเชตฺวา สกฏานํ ปูเรตฺวา เวฬุวนํ คนฺตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา สตฺถุ ตํ ปวตฺตึ อาโรจยึสุ. สตฺถา ตํ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ ตเถว วตฺวา ตเมว อตฺถํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา ¶ วิตฺถาเรน ธมฺมํ เทเสตฺวา เต สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺาเปสิ. เต จ ปติฏฺิตสทฺธา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา อตฺตโน คามํ อุปคนฺตฺวา อุจฺฉุปาลสฺส มตฏฺาเน วิหารํ การยึสูติ.
ตติยนาควิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. จูฬรถวิมานวณฺณนา
ทฬฺหธมฺมา ¶ นิสารสฺสาติ จูฬรถวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควติ ปรินิพฺพุเต ธาตุวิภาคํ กตฺวา ตตฺถ ตตฺถ สตฺถุ ถูเปสุ ปติฏฺาปิยมาเนสุ มหากสฺสปตฺเถรปฺปมุเขสุ ธมฺมํ สงฺคายิตุํ อุจฺจินิตฺวา คหิเตสุ สาวเกสุ ยาว วสฺสูปคมนา เวเนยฺยาเปกฺขาย อตฺตโน อตฺตโน ปริสาย สทฺธึ ตตฺถ ตตฺถ วสนฺเตสุ อายสฺมา มหากจฺจายโน ปจฺจนฺตเทเส อฺตรสฺมึ อรฺายตเน วิหรติ. เตน สมเยน อสฺสกรฏฺเ โปตลินคเร อสฺสกราชา รชฺชํ กาเรติ, ตสฺส เชฏฺาย เทวิยา ปุตฺโต สุชาโต นาม กุมาโร โสฬสวสฺสุทฺเทสิโก กนิฏฺาย เทวิยา นิพนฺธเนน ปิตรา รฏฺโต ปพฺพาชิโต อรฺํ ปวิสิตฺวา วนจรเก นิสฺสาย อรฺเ วสติ. โส กิร กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน ปพฺพชิตฺวา สีลมตฺเต ปติฏฺิโต ปุถุชฺชนกาลกิริยํ กตฺวา ตาวตึเสสุ นิพฺพตฺติตฺวา ¶ ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา อปราปรํ สุคติยํเยว ปริพฺภมนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ภควโต อภิสมฺโพธิโต ตึสวสฺเส อสฺสกรฏฺเ อสฺสกรฺโ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺติ, ‘‘สุชาโต’’ติสฺส นามํ อโหสิ. โส มหนฺเตน ปริวาเรน วฑฺฒติ.
ตสฺส ปน มาตริ กาลกตาย ราชา อฺํ ราชธีตรํ อคฺคมเหสิฏฺาเน เปสิ. สาปิ อปเรน สมเยน ปุตฺตํ วิชายิ. ตสฺสา ราชา ปุตฺตํ ทิสฺวา ปสนฺโน ‘‘ภทฺเท, ตยา อิจฺฉิตํ วรํ คณฺหาหี’’ติ วรํ อทาสิ. สา คหิตกํ กตฺวา เปตฺวา ยทา สุชาตกุมาโร โสฬสวสฺสุทฺเทสิโก ชาโต, ตทา ราชานํ อาห ‘‘เทว, ตุมฺเหหิ มม ปุตฺตํ ทิสฺวา ตุฏฺจิตฺเตหิ วโร ทินฺโน, ตํ อิทานิ เทถา’’ติ. ‘‘คณฺห, เทวี’’ติ ¶ . ‘‘มยฺหํ ปุตฺตสฺส รชฺชํ เทถา’’ติ. ‘‘นสฺส, วสลิ, มม เชฏฺปุตฺเต เทวกุมารสทิเส สุชาตกุมาเร ิเต กสฺมา เอวํ วทสี’’ติ ปฏิกฺขิปิ. เทวี ปุนปฺปุนํ นิพนฺธนํ กโรนฺตี มนํ อลภิตฺวา เอกทิวสํ อาห ‘‘เทว, ยทิ สจฺเจ ติฏฺสิ, เทหิ เอวา’’ติ. ราชา ‘‘อนุปธาเรตฺวา มยา อิมิสฺสา วโร ทินฺโน, อยฺจ เอวํ วทตี’’ติ วิปฺปฏิสารี หุตฺวา สุชาตกุมารํ ปกฺโกสิตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา อสฺสูนิ ปวตฺเตสิ. กุมาโร ปิตรํ โสจมานํ ทิสฺวา โทมนสฺสปฺปตฺโต อสฺสูนิ ปวตฺเตตฺวา ‘‘อนุชานาหิ, เทว, อหํ อฺตฺถ คมิสฺสามี’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา รฺา ‘‘อฺํ เต นครํ มาเปสฺสามิ, ตตฺถ วเสยฺยาสี’’ติ วุตฺเต กุมาโร น อิจฺฉิ. ‘‘มม สหายานํ ราชูนํ สนฺติเก เปเสสฺสามี’’ติ จ วุตฺเต ตมฺปิ นานุชานิ. เกวลํ ‘‘เทว, อรฺํ คมิสฺสามี’’ติ อาห. ราชา ปุตฺตํ อาลิงฺคิตฺวา สีเส จุมฺพิตฺวา ‘‘มมจฺจเยน อิธาคนฺตฺวา รชฺเช ปติฏฺหา’’ติ วตฺวา วิสฺสชฺเชสิ.
โส ¶ อรฺํ ปวิสิตฺวา วนจรเก นิสฺสาย วสนฺโต เอกทิวสํ มิควํ คโต. ตสฺส สมณกาเล สหายวโร เอโก เทวปุตฺโต หิเตสิตาย มิครูเปน ตํ ปโลเภนฺโต ธาวิตฺวา อายสฺมโต มหากจฺจายนสฺส วสนฏฺานสมีปํ ปตฺวา อนฺตรธายิ. โส ‘‘อิมํ มิคํ ¶ อิทานิ คณฺหิสฺสามี’’ติ อุปธาวนฺโต เถรสฺส วสนฏฺานํ ปตฺวา ตํ อปสฺสนฺโต พหิ ปณฺณสาลาย เถรํ นิสินฺนํ ทิสฺวา ตสฺส สมีเป จาปโกฏึ โอลุพฺภ อฏฺาสิ. เถโร ตํ โอโลเกตฺวา อาทิโต ปฏฺาย สพฺพํ ตสฺส ปวตฺตึ ตฺวา อนุคฺคณฺหนฺโต อชานนฺโต วิย สงฺคหํ กโรนฺโต –
‘‘ทฬฺหธมฺมา นิสารสฺส, ธนุํ โอลุพฺภ ติฏฺสิ;
ขตฺติโย นุสิ ราชฺโ, อทุ ลุทฺโท วเนจโร’’ติ. –
ปุจฺฉิ. ตตฺถ ทฬฺหธมฺมาติ ทฬฺหธนุ. ทฬฺหธนุ นาม ทฺวิสหสฺสถามํ วุจฺจติ. ทฺวิสหสฺสถามนฺติ จ ยสฺส อาโรปิตสฺส ชิยาย พทฺโธ โลหสีสาทีนํ ภาโร ทณฺเฑ คเหตฺวา ยาว กณฺฑปฺปมาณา อุกฺขิตฺตสฺส ปถวิโต มุจฺจติ. นิสารสฺสาติ นิรติสยสารสฺส วิสิฏฺสารสฺส รุกฺขสฺส ¶ ธนุํ, สารตรรุกฺขมยํ ธนุนฺติ อตฺโถ. โอลุพฺภาติ สนฺนิรุมฺภิตฺวา. ราชฺโติ ราชกุมาโร. วเนจโรติ วนจโร.
อถ โส อตฺตานํ อาวิกโรนฺโต –
‘‘อสฺสกาธิปติสฺสาหํ, ภนฺเต ปุตฺโต วเนจโร;
นามํ เม ภิกฺขุ เต พฺรูมิ, สุชาโต อิติ มํ วิทู.
‘‘มิเค คเวสมาโนหํ, โอคาหนฺโต พฺรหาวนํ;
มิคํ ตฺเจว นาทฺทกฺขึ, ตฺจ ทิสฺวา ิโต อห’’นฺติ. –
อาห. ตตฺถ อสฺสกาธิปติสฺสาติ อสฺสกรฏฺาธิปติโน อสฺสกราชสฺส. ภิกฺขูติ เถรํ อาลปติ. มิเค คเวสมาโนติ มิคสูกราทิเก คเวสนฺโต, มิควํ จรนฺโตติ อตฺโถ.
ตํ สุตฺวา เถโร เตน สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต –
‘‘สฺวาคตํ ¶ เต มหาปฺุ, อโถ เต อทุราคตํ;
เอตฺโต อุทกมาทาย, ปาเท ปกฺขาลยสฺสุ เต.
‘‘อิทมฺปิ ¶ ปานียํ สีตํ, อาภตํ คิริคพฺภรา;
ราชปุตฺต ตโต ปิตฺวา, สนฺถตสฺมึ อุปาวิสา’’ติ. – อาห;
๙๘๔. ตตฺถ อทุราคตนฺติ ทุราคมนวชฺชิตํ, มหาปฺุ, เต อิธาคมนํ สฺวาคตํ, น เต อปฺปกมฺปิ ทุราคมนํ อตฺถิ ตุยฺหฺจ มยฺหฺจ ปีติโสมนสฺสชนนโตติ อธิปฺปาโย. ‘‘อธุนาคต’’นฺติปิ ปาโ, อิทานิ อาคมนนฺติ อตฺโถ.
๙๘๕. สนฺถตสฺมึ อุปาวิสาติ อนนฺตรหิตาย ภูมิยา อนิสีทิตฺวา อมุกสฺมึ ติณสนฺถารเก นิสีทาติ.
ตโต ราชกุมาโร เถรสฺส ปฏิสนฺถารํ สมฺปฏิจฺฉนฺโต อาห –
‘‘กลฺยาณี วต เต วาจา, สวนียา มหามุนิ;
เนลา อตฺถวตี วคฺคุ, มนฺตฺวา อตฺถฺจ ภาสสิ.
‘‘กา ¶ เต รติ วเน วิหรโต, อิสินิสภ วเทหิ ปุฏฺโ;
ตว วจนปถํ นิสามยิตฺวา, อตฺถธมฺมปทํ สมาจเรมเส’’ติ.
๙๘๖. ตตฺถ กลฺยาณีติ สุนฺทรา โสภนา. สวนียาติ โสตุํ ยุตฺตา. เนลาติ นิทฺโทสา. อตฺถวตีติ อตฺถยุตฺตา ทิฏฺธมฺมิกาทินา หิเตน อุเปตา. วคฺคูติ มธุรา. มนฺตฺวาติ ชานิตฺวา ปฺาย ปริจฺฉินฺทิตฺวา. อตฺถนฺติ อตฺถโต อนเปตํ เอกนฺตหิตาวหํ.
๙๘๗. อิสินิสภาติ อิสีสุ นิสภ อาชานียสทิส. วจนปถนฺติ วจนํ. วจนเมว หิ อตฺถาธิคมสฺส อุปายภาวโต ‘‘วจนปถ’’นฺติ วุตฺตํ. อตฺถธมฺมปทํ ¶ สมาจเรมเสติ อิธ เจว สมฺปราเย จ อตฺถาวหํ สีลาทิธมฺมโกฏฺาสํ ปฏิปชฺชามเส.
อิทานิ เถโร อตฺตโน สมฺมาปฏิปตฺตึ ตสฺส อนุจฺฉวิกํ วทนฺโต –
‘‘อหึสา ¶ สพฺพปาณีนํ, กุมารมฺหาก รุจฺจติ;
เถยฺยา จ อติจารา จ, มชฺชปานา จ อารติ.
‘‘อารติ สมจริยา จ, พาหุสจฺจํ กตฺุตา;
ทิฏฺเว ธมฺเม ปาสํสา, ธมฺมา เอเต ปสํสิยา’’ติ. – อาห;
๙๘๙. ตตฺถ อารติ สมจริยา จาติ ยถาวุตฺตา จ ปาปธมฺมโต อารติ, ปฏิวิรติ กายสมตาทิสมจริยา จ. พาหุสจฺจนฺติ ปริยตฺติพาหุสจฺจํ. กตฺุตาติ ปเรหิ อตฺตโน กตสฺส อุปการสฺส ชานนา. ปาสํสาติ อตฺถกาเมหิ กุลปุตฺเตหิ ปการโต อาสํสิตพฺพา. ธมฺมา เอเตติ เอเต ยถาวุตฺตา อหึสาทิธมฺมา. ปสํสิยาติ วิฺูหิ ปสํสิตพฺพา.
เอวํ เถโร ตสฺส อนุจฺฉวิกํ สมฺมาปฏิปตฺตึ วตฺวา อนาคตํสาเณน อายุสงฺขาเร โอโลเกนฺโต ‘‘ปฺจมาสมตฺตเมวา’’ติ ทิสฺวา ตํ สํเวเชตฺวา ทฬฺหํ ตตฺถ สมฺมาปฏิปตฺติยํ ปติฏฺาเปตุํ อิมํ คาถมาห –
‘‘สนฺติเก ¶ มรณํ ตุยฺหํ, โอรํ มาเสหิ ปฺจหิ;
ราชปุตฺต วิชานาหิ, อตฺตานํ ปริโมจยา’’ติ.
ตตฺถ อตฺตานํ ปริโมจยาติ อตฺตานํ อปายทุกฺขโต โมเจหิ.
ตโต กุมาโร อตฺตโน มุตฺติยา อุปายํ ปุจฺฉนฺโต อาห –
‘‘กตมํ สฺวาหํ ชนปทํ คนฺตฺวา, กึ กมฺมํ กิฺจ โปริสํ;
กาย วา ปน วิชฺชาย, ภเวยฺยํ อชรามโร’’ติ.
ตตฺถ กตมํ สฺวาหนฺติ กตมํ สุ อหํ, กตมํ นูติ อตฺโถ. กึ กมฺมํ กิฺจ โปริสนฺติ กตฺวาติ วจนเสโส. โปริสนฺติ ปุริสกิจฺจํ.
ตโต ¶ เถโร ตสฺส ธมฺมํ เทเสตุํ อิมา คาถาโย อโวจ –
‘‘น ¶ วิชฺชเต โส ปเทโส, กมฺมํ วิชฺชา จ โปริสํ;
ยตฺถ คนฺตฺวา ภเว มจฺโจ, ราชปุตฺตาชรามโร.
‘‘มหทฺธนา มหาโภคา, รฏฺวนฺโตปิ ขตฺติยา;
ปหูตธนธฺาเส, เตปิ โน อชรามรา.
‘‘ยทิ เต สุตา อนฺธกเวณฺฑุปุตฺตา, สูรา วีรา วิกฺกนฺตปฺปหาริโน;
เตปิ อายุกฺขยํ ปตฺตา, วิทฺธสฺตา สสฺสตีสมา.
‘‘ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา, สุทฺทา จณฺฑาลปุกฺกุสา;
เอเต จฺเ จ ชาติยา, เตปิ โน อชรามรา.
‘‘เย มนฺตํ ปริวตฺเตนฺติ, ฉฬงฺคํ พฺรหฺมจินฺติตํ;
เอเต จฺเ จ วิชฺชาย, เตปิ โน อชรามรา.
‘‘อิสโย จาปิ เย สนฺตา, สฺตตฺตา ตปสฺสิโน;
สรีรํ เตปิ กาเลน, วิชหนฺติ ตปสฺสิโน.
‘‘ภาวิตตฺตาปิ อรหนฺโต, กตกิจฺจา อนาสวา;
นิกฺขิปนฺติ อิมํ เทหํ, ปฺุปาปปริกฺขยา’’ติ.
๙๙๒. ตตฺถ ¶ ยตฺถ คนฺตฺวาติ ยํ ปเทสํ คนฺตฺวา กมฺมํ วิชฺชํ โปริสฺจ กายปโยเคน อิตรปโยเคน จ อุปคนฺตฺวา ปาปุณิตฺวา ภเวยฺย อชรามโรติ อตฺโถ.
๙๙๓. เหฏฺิมโกฏิยา โกฏิสตาทิปริมาณํ สํหริตฺวา ปิตํ มหนฺตํ ธนํ เอเตสนฺติ มหทฺธนา. กุมฺภตฺตยาทิกหาปณปริพฺพโย มหนฺโต โภโค เอเตสนฺติ มหาโภคา. รฏฺวนฺโตติ รฏฺสามิกา, อเนกโยชนปริมาณํ รฏฺํ ปสาสนฺตาติ อธิปฺปาโย. ขตฺติยาติ ขตฺติยชาติกา. ปหูตธนธฺาเสติ มหาธนธฺสนฺนิจยา, อตฺตโน ปริสาย จ สตฺตฏฺสํวจฺฉรปโหนกธนธฺสนฺนิจยา. เตปิ โน อชรามราติ ¶ ชรามรณธมฺมา เอว, มหทฺธนตาทีนิปิ เตสํ อุปริ นิปตนฺตํ ชรามรณํ นิวตฺเตตุํ น สกฺโกนฺตีติ อตฺโถ.
๙๙๔. อนฺธกเวณฺฑุปุตฺตาติ ¶ อนฺธกเวณฺฑุสฺส ปุตฺตาติ ปฺาตา. สูราติ สตฺติมนฺโต. วีราติ วีริยวนฺโต. วิกฺกนฺตปฺปหาริโนติ สูรวีรภาเวเนว ปฏิสตฺตุพลํ วิกฺกมฺม ปสยฺห ปหรณสีลา. วิทฺธสฺตาติ วินฏฺา. สสฺสตีสมาติ กุลปรมฺปราย สสฺสตีหิ จนฺทสูริยาทีหิ สมานา, เตปิ อจิรกาลปวตฺตกุลนฺวยาติ อตฺโถ.
๙๙๕. ชาติยาติ อตฺตโน ชาติยา, วิสิฏฺตรา ปน ชาติปิ เนสํ ชรามรณํ นิวตฺเตตุํ น สกฺโกตีติ อตฺโถ.
๙๙๖. มนฺตนฺติ เวทํ. ฉฬงฺคนฺติ กปฺปพฺยากรณนิรุตฺติสิกฺขาฉนฺโทวิจิติโชติสตฺถสงฺขาเตหิ ฉหิ องฺเคหิ ฉฬงฺคํ. พฺรหฺมจินฺติตนฺติ พฺรหฺเมหิ อฏฺกาทีหิ จินฺติตํ ปฺาจกฺขุนา ทิฏฺํ.
๙๙๗. สนฺตาติ อุปสนฺตกายวจีกมฺมนฺตา. สฺตตฺตาติ สฺตจิตฺตา. ตปสฺสิโนติ ตปนิสฺสิตา.
อิทานิ กุมาโร อตฺตนา กตฺตพฺพํ วทนฺโต –
‘‘สุภาสิตา อตฺถวตี, คาถาโย เต มหามุนิ;
นิชฺฌตฺโตมฺหิ สุภฏฺเน, ตฺวฺจ เม สรณํ ภวา’’ติ. –
อาห ¶ . ตตฺถ นิชฺฌตฺโตมฺหีติ นิชฺฌาปิโต ธมฺโมชสฺาย สฺตฺติคโต อมฺหิ. สุภฏฺเนาติ สุฏฺุ ภาสิเตน.
ตโต ¶ เถโร ตํ อนุสาสนฺโต อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘มา มํ ตฺวํ สรณํ คจฺฉ, ตเมว สรณํ วช;
สกฺยปุตฺตํ มหาวีรํ, ยมหํ สรณํ คโต’’ติ.
ตโต ราชกุมาโร อาห –
‘‘กตรสฺมึ ¶ โส ชนปเท, สตฺถา ตุมฺหาก มาริส;
อหมฺปิ ทฏฺุํ คจฺฉิสฺสํ, ชินํ อปฺปฏิปุคฺคล’’นฺติ.
ปุน เถโร อาห –
‘‘ปุรตฺถิมสฺมึ ชนปเท, โอกฺกากกุลสมฺภโว;
ตตฺถาสิ ปุริสาชฺโ, โส จ โข ปรินิพฺพุโต’’ติ.
ตตฺถ เถเรน นิสินฺนปเทสโต มชฺฌิมเทสสฺส ปาจีนทิสาภาคตฺตา วุตฺตํ ‘‘ปุรตฺถิมสฺมึ ชนปเท’’ติ.
เอวํ โส ราชปุตฺโต เถรสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปสนฺนมานโส สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺหิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘สเจ หิ พุทฺโธ ติฏฺเยฺย, สตฺถา ตุมฺหาก มาริส;
โยชนานิ สหสฺสานิ, คจฺเฉยฺยํ ปยิรุปาสิตุํ.
‘‘ยโต จ โข ปรินิพฺพุโต, สตฺถา ตุมฺหาก มาริส;
นิพฺพุตมฺปิ มหาวีรํ, คจฺฉามิ สรณํ อหํ.
‘‘อุเปมิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมฺจาปิ อนุตฺตรํ;
สงฺฆฺจ นรเทวสฺส, คจฺฉามิ สรณํ อหํ.
‘‘ปาณาติปาตา วิรมามิ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยามิ;
อมชฺชโป โน จ มุสา ภณามิ, สเกน ทาเรน จ โหมิ ตุฏฺโ’’ติ.
เอวํ ¶ ปน ตํ สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺิตํ เถโร เอวมาห ‘‘ราชกุมาร, ตุยฺหํ อิธ อรฺวาเสน อตฺโถ นตฺถิ, น จิรํ ตว ชีวิตํ, ปฺจมาสพฺภนฺตเร เอว กาลํ กริสฺสสิ, ตสฺมา ตว ปิตุ สนฺติกเมว คนฺตฺวา ทานาทีนิ ปฺุานิ กตฺวา สคฺคปรายโณ ภเวยฺยาสี’’ติ วตฺวา อตฺตโน สนฺติเก ธาตุโย ทตฺวา วิสฺสชฺเชสิ. โส คจฺฉนฺโต ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ วจเนน ¶ อิโต คมิสฺสามิ, ตุมฺเหหิปิ มยฺหํ อนุกมฺปาย ¶ ตตฺถ อาคนฺตพฺพ’’นฺติ วตฺวา เถรสฺส อธิวาสนํ วิทิตฺวา วนฺทิตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปิตุ นครํ คนฺตฺวา อุยฺยานํ ปวิสิตฺวา อตฺตโน อาคตภาวํ รฺโ นิเวเทสิ.
ตํ สุตฺวา ราชา สปริวาโร อุยฺยานํ คนฺตฺวา กุมารํ อาลิงฺคิตฺวา อนฺเตปุรํ เนตฺวา อภิสิฺจิตุกาโม อโหสิ. กุมาโร ‘‘เทว, มยฺหํ อปฺปกํ อายุ, อิโต จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน มรณํ ภวิสฺสติ, กึ เม รชฺเชน, ตุมฺเห นิสฺสาย ปฺุเมว กริสฺสามี’’ติ วตฺวา เถรสฺส คุณํ รตนตฺตยสฺส จ อานุภาวํ ปเวเทสิ. ตํ สุตฺวา ราชา สํเวคปฺปตฺโต รตนตฺตเย จ เถเร จ ปสนฺนมานโส มหนฺตํ วิหารํ กาเรตฺวา มหากจฺจายนตฺเถรสฺส สนฺติเก ทูตํ ปาเหสิ. เถโรปิ ราชานํ มหาชนฺจ อนุคฺคณฺหนฺโต อาคจฺฉิ. ราชา จ สปริวาโร ทูรโตว ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา เถรํ วิหารํ ปเวเสตฺวา จตูหิ ปจฺจเยหิ สกฺกจฺจํ อุปฏฺหนฺโต สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺหิ. กุมาโร จ สีลานิ สมาทิยิตฺวา เถรํ ภิกฺขู เจว สกฺกจฺจํ อุปฏฺหนฺโต ทานานิ ททนฺโต ธมฺมํ สุณนฺโต จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน กาลํ กตฺวา ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺติ. ตสฺส ปฺุานุภาเวน สตฺตรตนปฏิมณฺฑิโต สตฺตโยชนปฺปมาโณ รโถ อุปฺปชฺชิ, อเนกานิ จสฺส อจฺฉราสหสฺสานิ ปริวาโร อโหสิ.
ราชา กุมารสฺส สรีรสกฺการํ กตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา เจติยสฺส ปูชํ อกาสิ, ตตฺถ มหาชโน สนฺนิปติ, เถโรปิ สปริวาโร ตํ ปเทสํ อุปคฺฉิ. อถ เทวปุตฺโต อตฺตนา กตกุสลกมฺมํ โอโลเกตฺวา กตฺุตาย ‘‘คนฺตฺวา เถรํ วนฺทิสฺสามิ, สาสนคุเณ จ ปากเฏ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทิพฺพรถํ อารุยฺห มหตา ปริวาเรน ทิสฺสมานรูโป อาคนฺตฺวา รถา โอรุยฺห เถรสฺส ปาเท วนฺทิตฺวา ¶ ปิตรา สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา เถรํ ปยิรุปาสมาโน อฺชลึ ปคฺคยฺห อฏฺาสิ. ตํ เถโร อิมาหิ คาถาหิ ปุจฺฉิ –
‘‘สหสฺสรํสีว ยถามหปฺปโภ, ทิสํ ยถา ภาติ นเภ อนุกฺกมํ;
ตถาปกาโร ¶ ตวายํ มหารโถ, สมนฺตโต โยชนสตฺตมายโต.
‘‘สุวณฺณปฏฺเฏหิ สมนฺตโมตฺถโฏ, อุรสฺส มุตฺตาหิ มณีหิ จิตฺติโต;
เลขา สุวณฺณสฺส จ รูปิยสฺส จ, โสเภนฺติ เวฬุริยมยา สุนิมฺมิตา.
‘‘สีสฺจิทํ ¶ เวฬุริยสฺส นิมฺมิตํ, ยุคฺจิทํ โลหิตกาย จิตฺติตํ;
ยุตฺตา สุวณฺณสฺส จ รูปิยสฺส จ, โสภนฺติ อสฺสา จ อิเม มโนชวา.
‘‘โส ติฏฺสิ เหมรเถ อธิฏฺิโต, เทวานมินฺโทว สหสฺสวาหโน;
ปุจฺฉามิ ตาหํ ยสวนฺต โกวิทํ, กถํ ตยา ลทฺโธ อยํ อุฬาโร’’ติ.
๑๐๐๗. ตตฺถ สหสฺสรํสีติ สูริโย. โส หิ อเนกสหสฺสรํสิมนฺตตาย ‘‘สหสฺสรํสี’’ติ วุจฺจติ. ยถามหปฺปโภติ อตฺตโน มหตฺตสฺส อนุรูปปฺปโภ. ยถา หิ มหตฺเตน สูริยมณฺฑเลน สทิสํ โชติมณฺฑลํ นตฺถิ, เอวํ ปภายปิ. ตถา หิ ตํ เอกสฺมึ ขเณ ตีสุ มหาทีเปสุ อาโลกํ ผรนฺตํ ติฏฺติ. ทิสํ ยถา ภาติ นเภ อนุกฺกมนฺติ นเภ อากาเส ยเถว ทิสํ อนุกฺกมนฺโต คจฺฉนฺโต ยถา เยน ปกาเรน ภาติ ทิพฺพติ โชตติ. ตถาปกาโรติ ตาทิสากาโร. ตวายนฺติ ตว อยํ.
๑๐๐๘. สุวณฺณปฏฺเฏหีติ ¶ สุวณฺณมเยหิ ปฏฺเฏหิ. สมนฺตโมตฺถโฏ สมนฺตโต ฉาทิโต. อุรสฺสาติ อุโร อสฺส, รถสฺส ¶ อุโรติ จ อีสามูลํ วทติ. เลขาติ เวฬุริยมยา มาลากมฺมลตากมฺมาทิเลขา. ตาสํ สุวณฺณปฏฺเฏสุ จ รชตปฏฺเฏสุ จ ทิสฺสมานตฺตา วุตฺตํ ‘‘สุวณฺณสฺส จ รูปิยสฺส จา’’ติ. โสเภนฺตีติ รถํ โสภยนฺติ.
๑๐๐๙. สีสนฺติ รถกุพฺพรสีสํ. เวฬุริยสฺส นิมฺมิตนฺติ เวฬุริเยน นิมฺมิตํ, เวฬุริยมณิมยนฺติ อตฺโถ. โลหิตกายาติ โลหิตกมณินา, เยน เกนจิ รตฺตมณินา วา. ยุตฺตาติ โยชิตา, อถ วา โยตฺตา สุวณฺณสฺส จ รูปิยสฺส จาติ สุวณฺณมยา จ รูปิยมยา จ โยตฺตา, สงฺขลิกาติ อตฺโถ.
๑๐๑๐. อธิฏฺิโตติ อตฺตโน เทวิทฺธิยา สกลมิทํ านํ อภิภวิตฺวา ิโต. สหสฺสวาหโนติ สหสฺสยุตฺตวาหโน, สหสฺสอาชานียยุตฺตรโถ เทวานมินฺโท ยถาติ อธิปฺปาโย. ยสวนฺตาติ อาลปนํ, ยสสฺสีติ อตฺโถ. โกวิทนฺติ กุสลาณวนฺตํ, รถาโรหเน วา เฉกํ. อยํ อุฬาโรติ อยํ อุฬาโร มหนฺโต ยโสติ อธิปฺปาโย.
เอวํ เถเรน ปุฏฺโ เทวปุตฺโต อิมาหิ คาถาหิ พฺยากาสิ –
‘‘สุชาโต ¶ นามหํ ภนฺเต, ราชปุตฺโต ปุเร อหุํ;
ตฺวฺจ มํ อนุกมฺปาย, สฺมสฺมึ นิเวสยิ.
‘‘ขีณายุกฺจ มํ ตฺวา, สรีรํ ปาทาสิ สตฺถุโน;
อิมํ สุชาต ปูเชหิ, ตํ เต อตฺถาย เหหิติ.
‘‘ตาหํ คนฺเธหิ มาเลหิ, ปูชยิตฺวา สมุยฺยุโต;
ปหาย มานุสํ เทหํ, อุปปนฺโนมฺหิ นนฺทนํ.
‘‘นนฺทเน จ วเน รมฺเม, นานาทิชคณายุเต;
รมามิ นจฺจคีเตหิ, อจฺฉราหิ ปุรกฺขโต’’ติ.
๑๐๑๒-๓. ตตฺถ ¶ สรีรนฺตี สรีรธาตุํ. เหหิตีติ ภวิสฺสติ. สมุยฺยุโตติ สมฺมา อุยฺยุตฺโต, ยุตฺตปฺปยุตฺโตติ อตฺโถ.
เอวํ เทวปุตฺโต เถเรน ปุจฺฉิตมตฺถํ กเถตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปิตรํ อาปุจฺฉิตฺวา รถํ ¶ อารุยฺห เทวโลกเมว คโต. เถโรปิ ตมตฺถํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา สมฺปตฺตปริสาย วิตฺถาเรน ธมฺมกถํ กเถสิ. สา ธมฺมกถา มหาชนสฺส สาตฺถิกา อโหสิ. อถ เถโร ตํ สพฺพํ อตฺตนา จ เตน จ กถิตนิยาเมเนว สงฺคีติกาเล ธมฺมสงฺคาหกานํ อาโรเจสิ, เต จ ตํ ตถา สงฺคหํ อาโรเปสุนฺติ.
จูฬรถวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๔. มหารถวิมานวณฺณนา
สหสฺสยุตฺตํ หยวาหนํ สุภนฺติ มหารถวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน. เตน จ สมเยน อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เหฏฺา วุตฺตนเยน เทวจาริกํ จรนฺโต ตาวตึสภวเน โคปาลสฺส นาม เทวปุตฺตสฺส อตฺตโน วิมานโต นิกฺขมิตฺวา สหสฺสยุตฺตํ มหนฺตํ ทิพฺพรถํ อภิรุยฺห มหนฺเตน ปริวาเรน มหติยา เทวิทฺธิยา อุยฺยานกีฬนตฺถํ คจฺฉนฺตสฺส อวิทูเร ปาตุรโหสิ. ตํ ทิสฺวา เทวปุตฺโต สฺชาตคารวพหุมาโน สหสา ¶ รถโต โอรุยฺห อุปสงฺกมิตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา อฺชลึ สิรสิ ปคฺคยฺห อฏฺาสิ.
ตสฺสิทํ ปุพฺพกมฺมํ – โส กิร วิปสฺสึ ภควนฺตํ สุวณฺณมาลาย ปูเชตฺวา ‘‘อิมสฺส ปฺุสฺส อานุภาเวน มยฺหํ ภเว ภเว โสวณฺณมยา อุรจฺฉทมาลา นิพฺพตฺตตู’’ติ กตปณิธานาย อเนกกปฺเปสุ สุคตีสุเยว สํสรนฺติยา กสฺสปสฺส ภควโต กาเล กิกิสฺส กาสิรฺโ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตาย ยถาปณิธานํ สุวณฺณมาลาลาเภน ‘‘อุรจฺฉทมาลา’’ติ ลทฺธนามาย เทวกฺาสทิสาย ราชธีตาย อาจริโย โคปาโล นาม พฺราหฺมโณ หุตฺวา สสาวกสงฺฆสฺส กสฺสปสฺส ภควโต อสทิสทานาทีนิ มหาทานานิ ปวตฺเตตฺวา อินฺทฺริยานํ อปริปกฺกภาเวน อตฺตานํ ราชธีตรฺจ อุทฺทิสฺส สตฺถารา เทสิตํ ¶ ธมฺมํ ¶ สุตฺวาปิ วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโต ปุถุชฺชนกาลกิริยเมว กตฺวา ยถูปจิตปฺุานุภาเวน ตาวตึเสสุ โยชนสติเก กนกวิมาเน นิพฺพตฺติ, อเนกโกฏิอจฺฉราปริวาโร อโหสิ, สตฺตรตนมโย จสฺส สหสฺสยุตฺโต สุวิภตฺตภิตฺติวิจิตฺโต สินิทฺธมธุรนิคฺโฆโส อตฺตโน ปภาสมุทเยน อวหสนฺโต วิย ทิวงฺกรมณฺฑลํ ทิพฺโพ อาชฺรโถ นิพฺพตฺติ.
โส ตตฺถ ยาวตายุกํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา อปราปรํ เทเวสุเยว สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสน ยถาวุตฺตสมฺปตฺติวิภโว โคปาโล เอว นาม เทวปุตฺโต หุตฺวา ตาวตึเสสุเยว นิพฺพตฺติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เตน จ สมเยน อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน…เป… อฺชลึ สิรสิ ปคฺคยฺห อฏฺาสี’’ติ.
เอวํ ปน อุปสงฺกมิตฺวา ิตํ ตํ เทวปุตฺตํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน อิมาหิ คาถาหิ ปุจฺฉิ –
‘‘สหสฺสยุตฺตํ หยวาหนํ สุภํ, อารุยฺหิมํ สนฺทนํ เนกจิตฺตํ;
อุยฺยานภูมึ อภิโต อนุกฺกมํ, ปุรินฺทโท ภูตปตีว วาสโว.
‘‘โสวณฺณมยา เต รถกุพฺพรา อุโภ, ผเลหิ อํเสหิ อตีว สงฺคตา;
สุชาตคุมฺพา นรวีรนิฏฺิตา, วิโรจติ ปนฺนรเสว จนฺโท.
‘‘สุวณฺณชาลาวตโต ¶ รโถ อยํ, พหูหิ นานารตเนหิ จิตฺติโต;
สุนนฺทิโฆโส จ สุภสฺสโร จ, วิโรจตี จามรหตฺถพาหุภิ.
‘‘อิมา ¶ จ นาภฺโย มนสาภินิมฺมิตา, รถสฺส ปาทนฺตรมชฺฌภูสิตา;
อิมา จ นาภฺโย สตราชิจิตฺติตา, สเตรตา วิชฺชุริวปฺปภาสเร.
‘‘อเนกจิตฺตาวตโต ¶ รโถ อยํ, ปุถู จ เนมี จ สหสฺสรํสิโก;
เตสํ สโร สุยฺยติ วคฺคุรูโป, ปฺจงฺคิกํ ตูริยมิวปฺปวาทิตํ.
‘‘สิรสฺมึ จิตฺตํ มณิจนฺทกปฺปิตํ, สทา วิสุทฺธํ รุจิรํ ปภสฺสรํ;
สุวณฺณราชีหิ อตีว สงฺคตํ, เวฬุริยราชีว อตีว โสภติ.
‘‘อิเม จ วาฬี มณิจนฺทกปฺปิตา, อาโรหกมฺพู สุชวา พฺรหูปมา;
พฺรหา มหนฺตา พลิโน มหาชวา, มโน ตวฺาย ตเถว สึสเร.
‘‘อิเม จ สพฺเพ สหิตา จตุกฺกมา, มโน ตวฺาย ตเถว สึสเร;
สมํ วหนฺตี มุทุกา อนุทฺธตา, อาโมทมานา ตุรคานมุตฺตมา.
‘‘ธุนนฺติ วคฺคนฺติ ปตนฺติ จมฺพเร, อพฺภุทฺธุนนฺตา สุกเต ปิฬนฺธเน;
เตสํ สโร สุยฺยติ วคฺคุรูโป, ปฺจงฺคิกํ ตูริยมิวปฺปวาทิตํ.
‘‘รถสฺส โฆโส อปิฬนฺธนาน จ, ขุรสฺส นาโท อภิหึสนาย จ;
โฆโส สุวคฺคู สมิตสฺส สุยฺยติ, คนฺธพฺพตูริยานิ วิจิตฺรสํวเน.
‘‘รเถ ¶ ิตาตา มิคมนฺทโลจนา, อาฬารปมฺหา หสิตา ปิยํวทา;
เวฬุริยชาลาวตตา ตนุจฺฉวา, สเทว คนฺธพฺพสูรคฺคปูชิตา.
‘‘ตา ¶ รตฺตรตฺตมฺพรปีตวาสสา, วิสาลเนตฺตา อภิรตฺตโลจนา;
กุเล สุชาตา สุตนู สุจิมฺหิตา, รเถ ิตา ปฺชลิกา อุปฏฺิตา.
‘‘ตา ¶ กมฺพุเกยูรธรา สุวาสสา, สุมชฺฌิมา อูรุถนูปปนฺนา;
วฏฺฏงฺคุลิโย สุมุขา สุทสฺสนา, รเถ ิตา ปฺชลิกา อุปฏฺิตา.
‘‘อฺา สุเวณี สุสุ มิสฺสเกสิโย, สมํ วิภตฺตาหิ ปภสฺสราหิ จ;
อนุพฺพตา ตา ตว มานเส รตา, รเถ ิตา ปฺชลิกา อุปฏฺิตา.
‘‘อาเวฬินิโย ปทุมุปฺปลจฺฉทา, อลงฺกตา จนฺทนสารวาสิตา;
อนุพฺพตา ตา ตว มานเส รตา, รเถ ิตา ปฺชลิกา อุปฏฺิตา.
‘‘ตา มาลินิโย ปทุมุปฺปลจฺฉทา, อลงฺกตา จนฺทนสารวาสิตา;
อนุพฺพตา ตา ตว มานเส รตา, รเถ ิตา ปฺชลิกา อุปฏฺิตา.
‘‘กณฺเสุ เต ยานิ ปิฬนฺธนานิ, หตฺเถสุ ปาเทสุ ตเถว สีเส;
โอภาสยนฺตี ทส สพฺพโส ทิสา, อพฺภุทฺทยํ สารทิโกว ภาณุมา.
‘‘วาตสฺส ¶ เวเคน จ สมฺปกมฺปิตา, ภุเชสุ มาลา อปิฬนฺธนานิ จ;
มฺุจนฺติ โฆสํ รุจิรํ สุจึ สุภํ, สพฺเพหิ วิฺูหิ สุตพฺพรูปํ.
‘‘อุยฺยานภูมฺยา ¶ จ ทุวทฺธโต ิตา, รถา จ นาคา ตูริยานิ จ สโร;
ตเมว เทวินฺท ปโมทยนฺติ, วีณา ยถา โปกฺขรปตฺตพาหุภิ.
‘‘อิมาสุ วีณาสุ พหูสุ วคฺคูสุ, มนฺุรูปาสุ หทเยริตํ ปีตึ;
ปวชฺชมานาสุ อตีว อจฺฉรา, ภมนฺติ กฺา ปทุเมสุ สิกฺขิตา.
‘‘ยทา จ คีตานิ จ วาทิตานิ จ, นจฺจานิ จิมานิ สเมนฺติ เอกโต;
อเถตฺถ นจฺจนฺติ อเถตฺถ อจฺฉรา, โอภาสยนฺตี อุภโต วริตฺถิโย.
‘‘โส โมทสิ ตูริยคณปฺปโพธโน, มหียมาโน วชิราวุโธริว;
อิมาสุ วีณาสุ พหูสุ วคฺคูสุ, มนฺุรูปาสุ หทเยริตํ ปีตึ.
‘‘กึ ¶ ตฺวํ ปุเร กมฺมมกาสิ อตฺตนา, มนุสฺสภูโต ปุริมาย ชาติยา;
อุโปสถํ กํ วา ตุวํ อุปาวสิ, กํ ธมฺมจริยํ วตมาภิโรจยิ.
‘‘นยีทมปฺปสฺส กตสฺส กมฺมุโน, ปุพฺเพ สุจิณฺณสฺส อุโปสถสฺส วา;
อิทฺธานุภาโว วิปุโล อยํ ตว, ยํ เทวสงฺฆํ อภิโรจเส ภุสํ.
‘‘ทานสฺส ¶ เต อิทํ ผลํ, อโถ สีลสฺส วา ปน;
อโถ อฺชลิกมฺมสฺส, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.
๑๐๑๕. ตตฺถ สหสฺสยุตฺตนฺติ สหสฺเสน ยุตฺตํ, สหสฺสํ วา ยุตฺตํ โยชิตํ เอตสฺมินฺติ สหสฺสยุตฺตํ. กสฺส ปเนตํ ¶ สหสฺสนฺติ? ‘‘หยวาหน’’นฺติ อนนฺตรํ วุจฺจมานตฺตา หยานนฺติ อยมตฺโถ วิฺายเตว. หยา วาหนํ เอตสฺสาติ หยวาหนํ. เกจิ ปน ‘‘สหสฺสยุตฺตหยวาหน’’นฺติ อนุนาสิกโลปํ เอกเมว สมาสปทํ กตฺวา วณฺเณนฺติ, เอตสฺมึ ปกฺเข หยวาหนํ วิย วาหนนฺติ อตฺโถ ยุชฺชติ. หยวาหนสหสฺสยุตฺตํ ยุตฺตหยวาหนสหสฺสนฺติ หิ อตฺโถ. อปเร ปน ‘‘สหสฺสยุตฺตนฺติ สหสฺสทิพฺพาชฺยุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. สนฺทนนฺติ รถํ. เนกจิตฺตนฺติ อเนกจิตฺตํ นานาวิธวิจิตฺตวนฺตํ. อุยฺยานภูมึ อภิโตติ อุยฺยานภูมิยา สมีเป. ‘‘อภิโต’’ติ หิ ปทํ อเปกฺขิตฺวา สามิอตฺเถ เอตํ อุปโยควจนํ. เกจิ ปน ‘‘อุยฺยานภูมฺยา’’ติปิ ปนฺติ, เต สทฺทนยมฺปิ อนุปธาเรนฺตา ปนฺติ. อนุกฺกมนฺติ คจฺฉนฺโต ปุรินฺทโท ภูตปตีว วาสโว วิโรจสีติ สมฺพนฺโธ.
๑๐๑๖. โสวณฺณมยาติ สุวณฺณมยา. เตติ ตว. รถกุพฺพรา อุโภติ รถสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ เวทิกา. โย หิ รถสฺส โสภนตฺถฺเจว อุปริ ิตานํ คุตฺตตฺถฺจ อุโภสุ ปสฺเสสุ เวทิกากาเรน ปริกฺเขโป กรียติ, ตสฺส ปุริมภาเค อุโภสุ ปสฺเสสุ ยาว รถีสา, ตาว หตฺเถหิ คหณโยคฺโค รถสฺส อวยววิเสโส, อิธ โส เอว กุพฺพโรติ อธิปฺเปโต. เตเนวาห ‘‘อุโภ’’ติ. อฺตฺถ ปน รถีสา กุพฺพโรติ วุจฺจติ. ผเลหีติ รถูปตฺถมฺภสฺส ทกฺขิณวามเภเทหิ ทฺวีหิ ผเลหิ, ปริยนฺตาเวตฺถ ผลาติ วุตฺตา. อํเสหีติ กุพฺพรผเล ปติฏฺิเตหิ เหฏฺิมอํเสหิ. อตีว สงฺคตาติ อติวิย สุฏฺุ สงฺคตา สุผสฺสิตา นิพฺพิวรา. อิทฺจ สิปฺปิวิรจิเต กิตฺติมรเถ ลพฺภมานวิเสสํ ตตฺถ อาโรเปตฺวา วุตฺตํ. โส ปน อโปริสตาย อกิตฺติโม สยํชาโต ¶ เกนจิ อฆฏิโตเยว. สุชาตคุมฺพาติ สุสณฺิตถมฺภกสมุทายา. เย หิ เวทิกาย นิรนฺตรํ ิตา สุสณฺิตฆฏกาทิอวยววิเสสวนฺโต ¶ ถมฺภกสมุทายา, เตสํ ¶ วเสเนวํ วุตฺตํ ‘‘สุชาตคุมฺพา’’ติ. นรวีรนิฏฺิตาติ สิปฺปาจริเยหิ นิฏฺาปิตสทิสา. สิปฺปาจริยา หิ อตฺตโน สรีรเขทํ อจินฺเตตฺวา วีริยพเลน สิปฺปสฺส สุฏฺุ วิจารณโต นเรสุ วีริยวนฺโตติ อิธ ‘‘นรวีรา’’ติ วุตฺตา. นรวีราติ วา เทวปุตฺตสฺส อาลปนํ. นิฏฺิตาติ ปริโยสิตา ปริปุณฺณโสภาติสยา. ‘‘นรวีรนิมฺมิตา’’ติ วา ปาโ, นเรสุ ธิติสมฺปนฺเนหิ นิมฺมิตสทิสาติ อตฺโถ. เอวํวิธกุพฺพรตาย อยํ ตว รโถ วิโรจติ. กึ วิย? ปนฺนรเสว จนฺโท, สุกฺกปกฺเข ปนฺนรสิยํ ปริปุณฺณกาเล จนฺทิมา วิย.
๑๐๑๗. สุวณฺณชาลาวตโตติ สุวณฺณชาลเกหิ อวตโต ฉาทิโต. ‘‘สุวณฺณชาลาวิตโต’’ติปิ ปาโ, ควจฺฉิโตติ อตฺโถ. พหูหีติ อเนเกหิ. นานารตเนหีติ ปทุมราคผุสฺสราคาทินานาวิธรตเนหิ. สุนนฺทิโฆโสติ สุฏฺุ นนฺทิตพฺพโฆโส, สวนียมธุรนินฺนาโทติ อตฺโถ. สุนนฺทิโฆโสติ วา สุฏฺุ กตนนฺทิโฆโส, นจฺจนาทีนํ ทสฺสนาทีสุ ปวตฺติตสาธุการสทฺทาทิวเสน กตปโมทนินฺนาโทติ อตฺโถ, ‘‘กาเลน กาลํ อาสีวาทนวเสน สุฏฺุ ปยุตฺตนนฺทิโฆโส’’ติ จ วทนฺติ. สุภสฺสโรติ สุฏฺุ อติวิย โอภาสนสภาโว, ตตฺถ วา ปวตฺตมานานํ เทวตานํ โสภเนน คีตวาทิตสฺสเรน สุภสฺสโร. จามรหตฺถพาหุภีติ จามรหตฺถยุตฺตพาหูหิ อิโต จิโต จ พีชยมาน จามรกลาเปหิ เทวตานํ ภุเชหิ, ตถาภูตาหิ เทวตาหิ วา วิโรจติ.
๑๐๑๘. นาภฺโยติ รถจกฺกานํ นาภิโย. มนสาภินิมฺมิตาติ ‘‘อิเม อีทิสา โหนฺตู’’ติ จิตฺเตน นิมฺมิตสทิสา. รถสฺส ¶ ปาทนฺตรมชฺฌภูสิตาติ รถสฺส ปาทานํ รถจกฺกานํ อนฺเตน เนมินา นานารตนสมุชฺชเลน อรานํ เวมชฺเฌน จ มณฺฑิตา. สตราชิจิตฺติตาติ อเนกวณฺณาหิ อเนกสตาหิ ราชีหิ เลขาหิ จิตฺติตา วิจิตฺตภาวํ คตา. สเตรตา วิชฺชุริวาติ สเตรตสงฺขาตวิชฺชุลตา วิย ปภาสเร วิชฺโชตนฺติ.
๑๐๑๙. อเนกจิตฺตาวตโตติ ¶ อเนเกหิ มาลากมฺมาทิจิตฺเตหิ อวตโต สโมกิณฺโณ. ‘‘อเนกจิตฺตาวิตโต’’ติปิ ปนฺติ, โสเยว อตฺโถ, คาถาสุขตฺถํ ปน ทีฆกรณํ. ปุถู จ เนมี จาติ ปุถุลเนมิ จ, เอโก จ-กาโร นิปาตมตฺตํ. สหสฺสรํสิโกติ อเนกสหสฺสรํสิโก. ‘‘สหสฺสรํสิโย’’ติปิ ปาฬิ. อปเร ปน ‘‘นตา รํสิโย’’ติ จ ปนฺติ, ตตฺถ นตาติ อชิยธนุทณฺฑโก วิย โอณตา เนมิปฺปเทสา. สหสฺสรํสิโยติ สูริยมณฺฑลํ วิย วิปฺผุรนฺตกิรณชาลา. เตสนฺติ โอลมฺพมานกิงฺกิณิกชาลานํ เนมิปฺปเทสานํ.
๑๐๒๐. สิรสฺมินฺติ ¶ สีเส, รถสฺส สีเสติ อตฺโถ. สิโร วา อสฺมึ รเถ. จิตฺตนฺติ วิจิตฺตํ. มณิจนฺทกปฺปิตนฺติ มณิมยมณฺฑลานุวิทฺธํ จนฺทมณฺฑลสทิเสน มณินา อนุวิทฺธํ. รุจิรํ ปภสฺสรนฺติ อิมินา ตสฺส จนฺทมณฺฑลสทิสตํเยว วิภาเวติ, สทา วิสุทฺธนฺติ อิมินา ปนสฺส จนฺทมณฺฑลโตปิ วิเสสํ ทสฺเสติ. สุวณฺณราชีหีติ อนฺตรนฺตรา วฏฺฏากาเรน สณฺิตาหิ สุวณฺณเลขาหิ. สงฺคตนฺติ สหิตํ. เวฬุริยราชีวาติ อนฺตรนฺตรา สุวณฺณราชีหิ ขจิตมณิมณฺฑลตฺตา เวฬุริยราชีหิ วิย โสภติ. ‘‘เวฬุริยราชีหี’’ติ จ ปนฺติ.
๑๐๒๑. วาฬีติ วาฬวนฺโต สมฺปนฺนวาฬธิโน, อสฺเส สนฺธาย วทติ ¶ . ‘‘วาชี’’ติ วา ปาโ. มณิจนฺทกปฺปิตาติ จามโรลมฺพนฏฺาเนสุ มณิมยจนฺทกานุวิทฺธา. อาโรหกมฺพูติ อุจฺจา เจว ตทนุรูปปริณาหา จ, อาโรหปริณาหสมฺปนฺนาติ อตฺโถ. สุชวาติ สุนฺทรชวา ชววนฺโต มหาชวา, โสภนคติกาติ อตฺโถ. พฺรหูปมาติ พฺรหา วิย ปมินิตพฺพา, อตฺตโน ปมาณโต อธิกา วิย ปฺายนฺตาติ อตฺโถ. พฺรหาติ วุฑฺฒา ปวฑฺฒสพฺพงฺคปจฺจงฺคา. มหนฺตาติ มหานุภาวา มหิทฺธิกา. พลิโนติ สรีรพเลน จ อุสฺสาหพเลน จ พลวนฺโต. มหาชวาติ สีฆเวคา. มโน ตวฺายาติ ตว จิตฺตํ ตฺวา. ตเถวาติ จิตฺตานุรูปเมว. สึสเรติ สํสปฺปเร, ปวตฺตเรติ อตฺโถ.
๑๐๒๒. อิเมติ ยถาวุตฺตอสฺเส สนฺธายาห. สพฺเพติ สหสฺสมตฺตาปิ. สหิตาติ สมานชวตาย สมานคมนตาย จ คติยํ สหิตา, อฺมฺํ อนูนาธิกคมนาติ อตฺโถ. จตูหิ ปาเทหิ กมนฺติ ¶ คจฺฉนฺตีติ จตุกฺกมา. สมํ วหนฺตีติ ‘‘สหิตา’’ติ ปเทน วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กโรติ. มุทุกาติ มุทุสภาวา, ภทฺรา อาชานียาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อนุทฺธตา’’ติ, อุทฺธตรหิตา โขภํ อกโรนฺตาติ อตฺโถ. อาโมทมานาติ ปโมทมานา, อขฬุงฺกตาย อฺมฺํ รถิกาทีนฺจ ตุฏฺึ ปเวทยนฺตาติ อตฺโถ.
๑๐๒๓. ธุนนฺตีติ จามรภารํ เกสรภารํ วาลธิฺจ วิธุนนฺติ. วคฺคนฺตีติ กทาจิ ปเท ปทํ นิกฺขิปนฺตา วคฺคเนน คมเนน คจฺฉนฺติ. ปตนฺตีติ กทาจิ ปวตฺตนฺติ, ลงฺฆนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘ปฺลวนฺตี’’ติ จ เกจิ ปนฺติ, โสเยวตฺโถ. อพฺภุทฺธุนนฺตาติ กมฺมสิปฺปินา สุกเต สุฏฺุ ¶ นิมฺมิเต ขุทฺทกฆณฺฏาทิอสฺสาลงฺกาเร อภิอุทฺธุนนฺตา อธิกํ อุทฺธุนนฺตา. เตสนฺติ เตสํ ปิฬนฺธนานํ.
๑๐๒๔. รถสฺส โฆโสติ ยถาวุตฺโต รถนิคฺโฆโส. อปิฬนฺธนาน จาติ อ-กาโร นิปาตมตฺตํ ¶ . ปิฬนฺธนานํ อาภรณานํ. อปิฬนฺธนนฺติ จ อาภรณปริยาโยติ วา วทนฺติ, รถสฺสานํ อาภรณานฺจโฆโสติ อตฺโถ. ขุรสฺสนาโทติ ตุรงฺคานํ ขุรนิปาตสทฺโท. กิฺจาปิ อสฺสา อากาเสน คจฺฉนฺติ, มธุรสฺส ปน ขุรนิปาตสทฺทสฺส อุปลทฺธิเหตุภูเตน กมฺมุนา เตสํ ขุรนิกฺเขเป ขุรนิกฺเขเป ปฏิฆาโต ลพฺภตีติ วทนฺติ. อภิหึสนาย จาติ อสฺสานํ อธิกหึสเนน จ, อนฺตรนฺตรา อสฺเสหิ ปวตฺติตเหสเนน จาติ อตฺโถ. ‘‘อภิเหสนาย จา’’ติ เกจิ ปนฺติ. สมิตสฺสาติ สมุทิตสฺส ทิพฺพชนสฺส โฆโส จ สุวคฺคุ สุมธุรํ สุยฺยติ. กึ วิยาติ อาห ‘‘คนฺธพฺพตูริยานิ วิจิตฺรสํวเน’’ติ, จิตฺรลตาวเน คนฺธพฺพเทวปุตฺตานํ ปฺจงฺคิกตูริยานิ วิย. ตูริยสนฺนิสฺสิโต หิ สทฺโท ‘‘ตูริยานี’’ติ วุตฺโต นิสฺสยโวหาเรน. ‘‘คนฺธพฺพตูริยาน จ วิจิตฺรสํวเน’’ติ จ ปาโ, ‘‘ตูริยานฺจ’’อิติ อนุนาสิกํ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. อปเร ‘‘คนฺธพฺพตูริยานิ วิจิตฺรปวเน’’ติ ปนฺติ.
๑๐๒๕. รเถ ิตาตาติ รเถ ิตา เอตา. มิคมนฺทโลจนาติ มิคจฺฉาปิกานํ วิย มุทุสินิทฺธทิฏฺินิปาตา. อาฬารปมฺหาติ พหลสงฺคตปขุมา, โคปขุมาติ อตฺโถ. หสิตาติ ปหสิตา, ปหํสิตมุขาติ อตฺโถ ¶ . ปิยํวทาติ ปิยวาทินิโย. เวฬุริยชาลาวตตาติ ¶ เวฬุริยมณิมเยน ชาเลน ฉาทิตสรีรา. ตนุจฺฉวาติ สุขุมจฺฉวิโย. สเทวาติ สทา เอว สพฺพกาลเมว. คนฺธพฺพสูรคฺคปูชิตาติ คนฺธพฺพเทวตาหิ เจว อปราหิ จ อคฺคเทวตาหิ ลทฺธปูชา.
๑๐๒๖. ตา รตฺตรตฺตมฺพรปีตวาสสาติ รชนียรูปา จ รตฺตปีตวตฺถา จ. อภิรตฺตโลจนาติ วิเสสโต รตฺตราชีหิ อุปโสภิตนยนา. กุเล สุชาตาติ สินฺธวกุเล สุชาตา วิสิฏฺเทวนิกาเย สมฺภวา. สุตนูติ สุนฺทรสรีรา. สุจิมฺหิตาติ สุทฺธสิตกรณา.
๑๐๒๗. ตา กมฺพุเกยูรธราติ สุวณฺณมยเกยูรธรา. สุมชฺฌิมาติ วิลคฺคมชฺฌา. อูรุถนูปปนฺนาติ สมฺปนฺนอูรุถนา, กทลิกฺขนฺธสทิสอูรุ เจว สมุคฺคสทิสถนา จ. วฏฺฏงฺคุลิโยติ อนุปุพฺพโต วฏฺฏงฺคุลิโย. สุมุขาติ สุนฺทรมุขา, ปมุทิตมุขา วา. สุทสฺสนาติ ทสฺสนียา.
๑๐๒๘. อฺาติ เอกจฺจา. สุเวณีติ สุนฺทรเกสเวณิโย. สุสูติ ทหรา. มิสฺสเกสิโยติ รตฺตมาลาทีหิ มิสฺสิตเกสวฏฺฏิโย. กถํ? สมํ วิภตฺตาหิ ปภสฺสราหิ จาติ, สมํ อฺมฺสทิสํ นานาวิภตฺติวเสน วิภตฺตาหิ สุวณฺณจีราทิขจิตาหิ อินฺทนีลมณิอาทโย ¶ วิย ปภสฺสราหิ เกสวฏฺฏีหิ มิสฺสิตเกสิโยติ โยชนา. อนุพฺพตาติ อนุกูลกิริยา. ตาติ อจฺฉราโย.
๑๐๒๙. จนฺทนสารโวสิตาติ สารภูเตน ทิพฺพจนฺทเนน อุลฺลิตฺตา วิจฺฉุริตา.
๑๐๓๑. กณฺเสูติอาทินา คีวูปคหตฺถูปคปาทูปคสีสูปคาทิอาภรณานิ ทสฺเสติ. โอภาสยนฺตีติ กณฺเสุ ยานิ ปิฬนฺธนานิ, เตหิ โอภาสยนฺตีติ โยชนา. เอวํ เสเสสุปิ. อพฺภุทฺทยนฺติ อภิอุคฺคจฺฉนฺโต, ‘‘อพฺภุทฺทส’’นฺติปิ ปาโ, โสเยวตฺโถ. สารทิโกติ สรทกาลิโก. ภาณุมาติ ¶ สูริโย. โส หิ อพฺภาทิโทสวิรเหน ทสปิ ทิสา สุฏฺุ โอภาเสติ.
๑๐๓๒. วาตสฺส เวเคน จาติ มนฺุคนฺธูปหารํ สทฺทูปหารฺจ กโรนฺเตน อุปหรนฺเตน วิย วายนฺเตน วาตสฺส เวเคน รถตุรงฺคเวเคน จ. มฺุจนฺตีติ ¶ วิสฺสชฺเชนฺติ. รุจิรนฺติ ปฺจงฺคิกตูริยานิ วิย อุปรูปริ รุจิทายกํ. สุจินฺติ สุทฺธํ อสํสฏฺํ. สุภนฺติ มนฺุํ. สพฺเพหิ วิฺูหิ สุตพฺพรูปนฺติ สพฺเพหิปิ วิฺุชาติเกหิ คนฺธพฺพสมยฺูหิ โสตพฺพํ สวนียํ อุตฺตมสภาวํ โฆสํ มฺุจนฺตีติ โยชนา.
๑๐๓๓. อุยฺยานภูมฺยาติ อุยฺยานภูมิยํ. ทุวทฺธโตติ ทฺวีหิ อทฺธปสฺเสหิ. ‘‘ทุภโต จ ิตา’’ติปิ ปนฺติ, โสเยวตฺโถ. รถาติ รเถ. นาคาติ นาเค. อุปโยคตฺเถ หิ เอตํ ปจฺจตฺตวจนํ. สโรติ รถนาคตูริยานิ ปฏิจฺจ นิพฺพตฺโต สโร. เทวินฺทาติ เทวปุตฺตํ อาลปติ. วีณา ยถา โปกฺขรปตฺตพาหุภีติ ยถา วีณา สมฺมเทว โยชิเตหิ โทณิปตฺตพาหุทณฺเฑหิ ตํตํมุจฺฉนานุรูปํ อวฏฺิเตหิ วาทิยมานา สุณนฺตํ ชนํ ปโมเทติ, เอวํ ตํ รถาทโย อตฺตโน สเรน ปโมทยนฺติ. สุสิกฺขิตภาเวน โปกฺขรภาวํ สุนฺทรภาวํ ปตฺเตหิ วีณาวาทกสฺส หตฺเถหิ ปวาทิตา วีณา ยถา มหาชนํ ปโมเทติ, เอวํ ตํ รถาทโย อตฺตโน สเรน ปโมทยนฺตีติ.
๑๐๓๔. อิมาสุ วีณาสูติ คาถาย อยํ สงฺเขปตฺโถ – อิมาสุ อุชุโกฏิวงฺกพฺรหตีนนฺทินีติสรอาทิเภทาสุ พหูสุ วีณาสุ สินิทฺธมธุรสฺสรตาย วคฺคูสุ ตโต เอว มนฺุรูปาสุ หทเยริตํ หทยงฺคมํ หทยหารินึ ปีตึ ปีตินิมิตฺตํ ปวชฺชมานาสุ ปวาทิยมานาสุ ¶ อจฺฉรา เทวกฺา ปีติเวคุกฺขิตฺตตาย อตฺตโน ¶ สุสิกฺขิตตาย จ ทิพฺพปทุเมสุ ภมนฺติ นจฺจํ ทสฺเสนฺติโย สฺจรนฺติ.
๑๐๓๕. อิมานีติ อิทํ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ ‘‘อิมานิ คีตานิ, อิมานิ วาทิตานิ, อิมานิ นจฺจานิ จา’’ติ. สเมนฺติ เอกโตติ เอกชฺฌํ สมรสานิ โหนฺติ. อถ วา สเมนฺติ เอกโตติ เอกโต เอกชฺฌํ สมานิ สมรสานิ กโรนฺติ, ตนฺติสฺสรํ คีตสฺสเรน, คีตสฺสรฺจ ตนฺติสฺสเรน สํสนฺทนฺติโย นจฺจเนน ยถาธิคเต หสฺสาทิรเส อปริหาเปนฺติโย สเมนฺติ สมาเนนฺตีติ อตฺโถ. อตฺเถตฺถ นจฺจนฺติ อเถตฺถ อจฺฉรา โอภาสยนฺตีติ เอวํ คีตาทีนิ สมรเส กโรนฺติโย อถ อฺา เอกจฺจา อจฺฉรา เอตฺถ เอตสฺมึ ตว รเถ นจฺจนฺติ, อถ อฺา วริตฺถิโย อุตฺตมิตฺถิโย นจฺจํ ปสฺสนฺติโย อตฺตโน สรีโรภาเสน เจว วตฺถาภรณโอภาเสน จ เอตฺถ ¶ เอตสฺมึ ปเทเส อุภโต ทฺวีสุ ปสฺเสสุ ทสปิ ทิสา เกวลํ โอภาสยนฺติ วิชฺโชตยนฺตีติ อตฺโถ.
๑๐๓๖. โสติ โส ตฺวํ เอวํภูโต. ตูริยคณปฺปโพธโนติ ทิพฺพตูริยสมูเหน กตปีติปโพธโน. มหียมาโนติ ปูชียมาโน. วชิราวุโธริวาติ อินฺโท วิย.
๑๐๓๗. อุโปสถํ กํ วา ตุวํ อุปาวสีติ อฺเหิปิ อุโปสโถ อุปวสียติ, ตฺวํ กํ วา กีทิสํ นาม อุโปสถํ อุปวสีติ ปุจฺฉติ. ธมฺมจริยนฺติ ทานาทิปฺุปฏิปตฺตึ. วตนฺติ วตสมาทานํ. อภิโรจยีติ อภิโรเจสิ, รุจฺจิตฺวา ปูเรสีติ อตฺโถ. ‘‘อภิราธยี’’ติปิ ปาโ, สาเธสิ นิปฺผาเทสีติ อตฺโถ.
๑๐๓๘. อิทนฺติ นิปาตมตฺตํ, อิทํ วา ผลนฺติ อธิปฺปาโย. อภิโรจเสติ อภิภวิตฺวา วิชฺโชตสิ.
เอวํ มหาเถเรน ปุฏฺโ เทวปุตฺโต ตมตฺถํ อาจิกฺขิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘โส ¶ เทวปุตฺโต อตฺตมโน, โมคฺคลฺลาเนน ปุจฺฉิโต;
ปฺหํ ปุฏฺโ วิยากาสิ, ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผล’’นฺติ.
‘‘ชิตินฺทฺริยํ ¶ พุทฺธมโนมนิกฺกมํ, นรุตฺตมํ กสฺสปมคฺคปุคฺคลํ;
อวาปุรนฺตํ อมตสฺส ทฺวารํ, เทวาติเทวํ สตปฺุลกฺขณํ.
‘‘ตมทฺทสํ กฺุชรโมฆติณฺณํ, สุวณฺณสิงฺคีนทพิมฺพสาทิสํ;
ทิสฺวาน ตํ ขิปฺปมหุํ สุจีมโน, ตเมว ทิสฺวาน สุภาสิตทฺธชํ.
‘‘ตมนฺนปานํ อถวาปิ จีวรํ, สุจึ ปณีตํ รสสา อุเปตํ;
ปุปฺผาภิกิณฺณมฺหิ สเก นิเวสเน, ปติฏฺเปสึ ส อสงฺคมานโส.
‘‘ตมนฺนปาเนน ¶ จ จีวเรน จ, ขชฺเชน โภชฺเชน จ สายเนน จ;
สนฺตปฺปยิตฺวา ทฺวิปทานมุตฺตมํ, โส สคฺคโส เทวปุเร รมามหํ.
‘‘เอเตนุปาเยน อิมํ นิรคฺคฬํ, ยฺํ ยชิตฺวา ติวิธํ วิสุทฺธํ;
ปหายหํ มานุสกํ สมุสฺสยํ, อินฺทูปโม เทวปุเร รมามหํ.
‘‘อายฺุจ วณฺณฺจ สุขํ พลฺจ, ปณีตรูปํ อติกงฺขตา มุนิ;
อนฺนฺจ ปานฺจ พหุํ สุสงฺขตํ, ปติฏฺเปตพฺพมสงฺคมานเส.
‘‘นยิมสฺมึ โลเก ปรสฺมึ วา ปน, พุทฺเธน เสฏฺโ ว สโม ว วิชฺชติ;
อาหุเนยฺยานํ ¶ ปรมาหุตึ คโต, ปฺุตฺถิกานํ วิปุลปฺผเลสิน’’นฺติ.
๑๐๔๑. ตตฺถ ชิตินฺทฺริยนฺติ มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ โพธิมูเลเยว อคฺคมคฺเคน ชิตตฺตา นิพฺพิเสวนภาวสฺส กตตฺตา ชิตินฺทฺริยํ. อภิฺเยฺยาทีนํ อภิฺเยฺยาทิภาวโต อนวเสสโต อภิสมฺพุทฺธตฺตา พุทฺธํ. ปุริปุณฺณวีริยตาย อโนมนิกฺกมํ จตุรงฺคสมนฺนาคตสฺส วีริยสฺส จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานสฺส จ ปาริปูริยาติ อตฺโถ. นรุตฺตมนฺติ นรานํ อุตฺตมํ ทฺวิปทุตฺตมํ. กสฺสปนฺติ ภควนฺตํ โคตฺเตน วทติ. อวาปุรนฺตํ อมตสฺส ทฺวารนฺติ โกณาคมนสฺส ภควโต สาสนนฺตรธานโต ปภุติ ปิหิตํ นิพฺพานมหานครสฺส ทฺวารํ อริยมคฺคํ วิวรนฺตํ. เทวาติเทวนฺติ สพฺเพสมฺปิ เทวานํ อติเทวํ. สตปฺุลกฺขณนฺติ อเนกสตปฺุวเสน นิพฺพตฺตมหาปุริสลกฺขณํ.
๑๐๔๒. กฺุชรนฺติ ¶ กิเลสปฏิสตฺตุนิมฺมทฺทเนน กฺุชรสทิสํ, มหานาคนฺติ อตฺโถ. จตุนฺนํ โอฆานํ สํสารมโหฆสฺส ตริตตฺตา โอฆติณฺณํ. สุวณฺณสิงฺคีนทพิมฺพสาทิสนฺติ ¶ สิงฺคีสุวณฺณชมฺพุนทสุวณฺณรูปสทิสํ, กฺจนสนฺนิภตฺตจนฺติ อตฺโถ. ทิสฺวาน ตํ ขิปฺปมหุํ สุจีมโนติ ตํ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธํ ทิสฺวา ขิปฺปํ ตาวเทว ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา’’ติ ปสาทวเสน กิเลสมลาปคมเนน สุจิมโน วิสุทฺธมโน อโหสึ, ตฺจ โข ตเมว ทิสฺวาน ตํ ทิสฺวา เอว. สุภาสิตทฺธชนฺติ ธมฺมทฺธชํ.
๑๐๔๓. ตมนฺนปานนฺติ ตมฺหิ ภควติ อนฺนฺจ ปานฺจ. อถวาปิ จีวรนฺติ อถ จีวรมฺปิ. รสสา อุเปตนฺติ รเสน อุเปตํ สาทุรสํ, อุฬารนฺติ อตฺโถ ¶ . ปุปฺผาภิกิณฺณมฺหีติ คนฺถิเตหิ จ อคนฺถิเกหิ จ ปุปฺเผหิ โอลมฺพนวเสน สนฺถรณวเสน จ อภิกิณฺเณ. ปติฏฺเปสินฺติ ปฏิปาเทสึ อทาสึ. อสงฺคมานโสติ กตฺถจิ อลคฺคจิตฺโต โส อหนฺติ โยชนา.
๑๐๔๔. สคฺคโสติ อปราปรูปปตฺติวเสน สคฺเค สคฺเค, ตตฺถาปิ จ เทวปุเร สุทสฺสนมหานคเร. รมามีติ กีฬามิ โมทามิ.
๑๐๔๕. เอเตนุปาเยนาติ โคปาลพฺราหฺมณกาเล สสาวกสงฺฆสฺส กสฺสปภควโต ยถา อสทิสทานํ อทาสึ, เอเตน อุปาเยน. อิมํ นิรคฺคฬํ ยฺํ ยชิตฺวา ติวิธํ วิสุทฺธนฺติ อนาวฏทฺวารตาย มุตฺตจาคตาย จ นิรคฺคฬํ, ตีสุปิ กาเลสุ ตีหิ ทฺวาเรหิ กรณการาปนานุสฺสรณวิธีหิ สมฺปนฺนตาย ติวิธํ, ตตฺถ สํกิเลสาภาเวน วิสุทฺธํ อปริมิตธนปริจฺจาคภาเวน มหาจาคตาย ยฺํ ยชิตฺวา, มหาทานํ ทตฺวาติ อตฺโถ. ตํ ปน ทานํ จิรกตมฺปิ เขตฺตวตฺถุจิตฺตานํ อุฬารตาย อนฺตรนฺตรา อนุสฺสรเณน อตฺตโน ปากฏํ อาสนฺนํ ปจฺจกฺขํ วิย อุปฏฺิตํ คเหตฺวา อาห ‘‘อิม’’นฺติ.
๑๐๔๖. เอวํ เทวปุตฺโต อตฺตนา กตกมฺมํ เถรสฺส กเถตฺวา อิทานิ ตาทิสาย สมฺปตฺติยา ปเรปิ ปติฏฺาเปตุกามตํ ตถาคเต จ อุตฺตมํ อตฺตโน ปสาทพหุมานํ ปเวเทนฺโต ‘‘อายฺุจ วณฺณฺจา’’ติอาทินา คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ อภิกงฺขตาติ อิจฺฉนฺเตน. มุนีติ เถรํ อาลปติ.
๑๐๔๗. นยิมสฺมึ โลเกติ เทวปุตฺโต อตฺตโน ปจฺจกฺขภูตํ โลกํ วทติ. ปรสฺมินฺติ ตโต อฺสฺมึ. เอเตน สพฺเพปิ สเทวเก โลเก ¶ ทสฺเสติ. สโม จ วิชฺชตีติ เสฏฺโ ตาว ติฏฺตุ ¶ , สโม เอว น วิชฺชตีติ อตฺโถ. อาหุเนยฺยานํ ปรมาหุตึ คโตติ อิมสฺมึ โลเก ยตฺตกา อาหุเนยฺยา นาม, เตสุ สพฺเพสุ ปรมาหุตึ ปรมํ อาหุเนยฺยภาวํ ¶ คโต. ‘‘ทกฺขิเณยฺยานํ ปรมคฺคตํ คโต’’ติ วา ปาโ, ตตฺถ ปรมคฺคตนฺติ ปรมํ อคฺคภาวํ, อคฺคทกฺขิเณยฺยภาวนฺติ อตฺโถ. เกสนฺติ อาห ‘‘ปฺุตฺถิกานํ วิปุลปฺผเลสิน’’นฺติ, ปฺุเน อตฺถิกานํ วิปุลํ มหนฺตํ ปฺุผลํ อิจฺฉนฺตานํ, ตถาคโต เอว โลกสฺส ปฺุกฺเขตฺตนฺติ ทสฺเสติ. เกจิ ปน ‘‘อาหุเนยฺยานํ ปรมคฺคตํ คโต’’ติ ปนฺติ, โสเยวตฺโถ.
เอวํ กเถนฺตเมว ตํ เถโร กลฺลจิตฺตํ มุทุจิตฺตํ วินีวรณจิตฺตํ อุทคฺคจิตฺตํ ปสนฺนจิตฺตฺจ ตฺวา สจฺจานิ ปกาเสสิ. โส สจฺจปริโยสาเน โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. อถ เถโร มนุสฺสโลกํ อาคนฺตฺวา ภควโต ตมตฺถํ อตฺตนา จ เทวปุตฺเตน จ กถิตนิยาเมเนว อาโรเจสิ. สตฺถา ตมตฺถํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา สมฺปตฺตปริยาย ธมฺมํ เทเสสิ. สา เทสนา มหาชนสฺส สาตฺถิกา อโหสีติ.
มหารถวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ ปรมตฺถทีปนิยา ขุทฺทกฏฺกถาย วิมานวตฺถุสฺมึ
จุทฺทสวตฺถุปฏิมณฺฑิตสฺส ปฺจมสฺส มหารถวคฺคสฺส
อตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ปายาสิวคฺโค
๑. ปมอคาริยวิมานวณฺณนา
ยถา ¶ วนํ จิตฺตลตํ ปภาสตีติ อคาริยวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน. เตน สมเยน ราชคเห เอกํ กุลํ อุภโตปสนฺนํ โหติ สีลาจารสมฺปนฺนํ โอปานภูตํ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ. เต ทฺเว ชยมฺปติกา รตนตฺตยํ อุทฺทิสฺส ยาวชีวํ ปฺุานิ กตฺวา ตโต จุตา ตาวตึเสสุ นิพฺพตฺตึสุ, เตสํ ทฺวาทสโยชนิกํ กนกวิมานํ นิพฺพตฺติ. เต ตตฺถ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวนฺติ. อถายสฺมา ¶ มหาโมคฺคลฺลาโนติอาทิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
‘‘ยถา ¶ วนํ จิตฺตลตํ ปภาสติ, อุยฺยานเสฏฺํ ติทสานมุตฺตมํ;
ตถูปมํ ตุยฺหมิทํ วิมานํ, โอภาสยํ ติฏฺติ อนฺตลิกฺเข.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ. –
เถโร ปุจฺฉิ.
‘‘โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน, โมคฺคลฺลาเนน ปุจฺฉิโต;
ปฺหํ ปุฏฺโ วิยากาสิ, ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘อหฺจ ภริยา จ มนุสฺสโลเก, โอปานภูตา ฆรมาวสิมฺห;
อนฺนฺจ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺตา, สกฺกจฺจ ทานํ วิปุลํ อทมฺห.
‘‘เตน ¶ เมตาทิโส วณฺโณ…เป…
วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ. –
อตฺตโน สมฺปตฺตึ พฺยากาสิ. คาถาสุปิ อปุพฺพํ นตฺถิ.
ปมอคาริยวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุติยอคาริยวิมานวณฺณนา
ยถา ¶ วนํ จิตฺตลตนฺติ ทุติยอคาริยวิมานํ. เอตฺถาปิ อฏฺุปฺปตฺติ อนนฺตรสทิสาว.
‘‘ยถา วนํ จิตฺตลตํ ปภาสติ, อุยฺยานเสฏฺํ ติทสานมุตฺตมํ;
ตถูปมํ ตุยฺหมิทํ วิมานํ, โอภาสยํ ติฏฺติ อนฺตลิกฺเข.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว,
มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว,
วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ. – ปุจฺฉิ;
‘‘โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘อหฺจ ¶ ภริยา จ มนุสฺสโลเก, โอปานภูตา ฆรมาวสิมฺห;
อนฺนฺจ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺตา, สกฺกจฺจ ทานํ วิปุลํ อทมฺห.
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป…
วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ. –
อตฺตโน สมฺปตฺตึ พฺยากาสิ. คาถาสุปิ อปุพฺพํ นตฺถิ.
ทุติยอคาริยวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ผลทายกวิมานวณฺณนา
อุจฺจมิทํ ¶ มณิถูณนฺติ ผลทายกวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน. เตน สมเยน รฺโ พิมฺพิสารสฺส อกาเล อมฺพผลานิ ปริภฺุชิตุํ อิจฺฉา อุปฺปชฺชิ. โส อารามปาลํ อาห – ‘‘มยฺหํ โข, ภเณ, อมฺพผเลสุ อิจฺฉา อุปฺปนฺนา, ตสฺมา อมฺพานิ เม อาเนตฺวา ¶ เทหี’’ติ. ‘‘เทว, นตฺถิ อมฺเพสุ อมฺพผลํ, อปิจาหํ ตถา กโรมิ, สเจ เทโว กิฺจิ กาลํ อาคเมติ, ยถา อมฺพา น จิรสฺเสว ผลํ คณฺหนฺตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภเณ, ตถา กโรหี’’ติ. อารามปาโล อารามํ คนฺตฺวา อมฺพรุกฺขมูเลสุ ปํสุํ อปเนตฺวา ตาทิสํ ปํสุํ อากิริ, ตาทิสฺจ อุทกํ อาสิฺจิ, ยถา น จิรสฺเสว อมฺพรุกฺขา สจฺฉินฺนปตฺตา อเหสุํ. อถ นํ ปํสุํ อปเนตฺวา ผารุสกกสฏมิสฺสกํ ปากติกํ ปํสุํ อากิริตฺวา สาธุกํ อุทกํ อทาสิ. ตทา อมฺพรุกฺขา น จิเรเนว โกรกิตา ปลฺลวิตา กุฏมลกชาตา หุตฺวา ปุปฺผึสุ, อถ สลาฏุกชาตา หุตฺวา ผลานิ คณฺหึสุ. ตตฺเถกสฺมึ อมฺพรุกฺเข ปมตรํ จตฺตาริ ผลานิ มโนสิลาจุณฺณปิฺชรวณฺณานิ สมฺปนฺนคนฺธรสานิ ปริณตานิ อเหสุํ.
โส ตานิ คเหตฺวา ‘‘รฺโ ทสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ ปิณฺฑาย จรมานํ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘อิมานิ อมฺพานิ อคฺคผลภูตานิ อิมสฺส อยฺยสฺส ทสฺสามิ ¶ , กามํ มํ ราชา หนตุ วา ปพฺพาเชตุ วา, รฺโ หิ ทินฺเน ทิฏฺธมฺเม ปูชามตฺตํ อปฺปมตฺตกํ ผลํ, อยฺยสฺส ทินฺเน ปน ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ สมฺปรายิกมฺปิ อปริมาณํ ผลํ ภวิสฺสตี’’ติ. เอวํ ปน จินฺเตตฺวา ตานิ ผลานิ เถรสฺส ทตฺวา ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา รฺโ ตมตฺถํ อาโรเจสิ. ตํ สุตฺวา ราชา ราชปุริเส อาณาเปสิ ‘‘วีมํสถ ตาว, ภเณ, ยถายํ อาหา’’ติ. เถโร ปน ตานิ ผลานิ ภควโต อุปนาเมสิ. ภควา เตสุ เอกํ สาริปุตฺตตฺเถรสฺส, เอกํ มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส, เอกํ มหากสฺสปตฺเถรสฺส ทตฺวา เอกํ อตฺตนา ปริภฺุชิ. ปุริสา ตํ ปวตฺตึ รฺโ อาโรเจสุํ.
ราชา ตํ สุตฺวา ‘‘ธีโร วตายํ ปุริโส, โย อตฺตโน ชีวิตมฺปิ ปริจฺจชิตฺวา ปฺุปสุโต อโหสิ, อตฺตโน ปริสฺสมฺจ านคตเมว อกาสี’’ติ ตุฏฺจิตฺโต ตสฺส เอกํ คามวรํ วตฺถาลงฺการาทีนิ จ ทตฺวา ‘‘ยํ ตยา ภเณ อมฺพผลทาเนน ปฺุํ ปสุตํ, ตโต เม ปตฺตึ เทหี’’ติ อาห. โส ‘‘เทมิ, เทว, ยถาสุขํ ปตฺตึ คณฺหาหี’’ติ อโวจ. อารามปาโล อปรภาเค กาลํ กตฺวา ตาวตึเสสุ อุปฺปชฺชิ ¶ , ตสฺส โสฬสโยชนิกํ กนกวิมานํ นิพฺพตฺติ สตฺตสตกูฏาคารปฏิมณฺฑิตํ. ตํ ทิสฺวา อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ปุจฺฉิ –
‘‘อุจฺจมิทํ ¶ มณิถูณํ วิมานํ, สมนฺตโต โสฬส โยชนานิ;
กูฏาคารา สตฺตสตา อุฬารา, เวฬุริยถมฺภา รุจกตฺถตา สุภา.
‘‘ตตฺถจฺฉสิ ปิวสิ ขาทสิ จ, ทิพฺพา จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ;
อฏฺฏฺกา สิกฺขิตา สาธุรูปา, ทิพฺพา จ กฺา ติทสจรา อุฬารา;
นจฺจนฺติ คายนฺติ ปโมทยนฺติ.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว…เป…
วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
‘‘โส ¶ เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘ผลทายี ผลํ วิปุลํ ลภติ, ททมุชุคเตสุ ปสนฺนมานโส;
โส หิ ปโมทติ สคฺคคโต ติทิเว, อนุโภติ จ ปฺุผลํ วิปุลํ.
‘‘ตเววาหํ มหามุนิ, อทาสึ จตุโร ผเล.
‘‘ตสฺมา หิ ผลํ อลเมว ทาตุํ, นิจฺจํ มนุสฺเสน สุขตฺถิเกน;
ทิพฺพานิ วา ปตฺถยตา สุขานิ, มนุสฺสโสภคฺคตมิจฺฉตา วา.
‘‘เตน ¶ เมตาทิโส วณฺโณ…เป…
วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ. – โสปิสฺส พฺยากาสิ;
๑๐๖๑. ตตฺถ อฏฺฏฺกาติ เอเกกสฺมึ กูฏาคาเร อฏฺฏฺกา จตุสฏฺิปริมาณา. สาธุรูปาติ รูปสมฺปตฺติยา จ สีลาจารสมฺปตฺติยา จ สิกฺขาสมฺปตฺติยา จ สุนฺทรสภาวา. ทิพฺพา จ กฺาติ เทวจฺฉราโย. ติทสจราติ ติทเสสุ สุขาจารา สุขวิหารินิโย. อุฬาราติ อุฬารวิภวา.
๑๐๖๔. ผลทายีติ อตฺตนา อมฺพผลสฺส ทินฺนตฺตา อตฺตานํ สนฺธาย วทติ. ผลนฺติ ปฺุผลํ. วิปุลนฺติ มหนฺตํ ลภติ มนุสฺสโลเก ปติฏฺิโตติ อธิปฺปาโย. ททนฺติ ททนฺโต ¶ ทานเหตุ. อุชุคเตสูติ อุชุปฏิปนฺเนสุ. สคฺคคโตติ อุปฺปชฺชนวเสน สคฺคํ คโต, ตตฺถาปิ ติทิเว ตาวตึสภวเน อนุโภติ จ ปฺุผลํ วิปุลํ ยถาหํ, เอวํ อฺโปีติ อตฺโถ.
๑๐๖๖. ตสฺมาติ ยสฺมา จตุนฺนํ ผลานํ ทานมตฺเตน อีทิสี สมฺปตฺติ ¶ อธิคตา, ตสฺมา. อลเมว ยุตฺตเมว. นิจฺจนฺติ สพฺพกาลํ. ทิพฺพานีติ เทวโลกปริยาปนฺนานิ. มนุสฺสโสภคฺคตนฺติ มนุสฺเสสุ สุภคภาวํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
ผลทายกวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปมอุปสฺสยทายกวิมานวณฺณนา
จนฺโท ยถา วิคตวลาหเก นเภติ อุปสฺสยทายกวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน. เตน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ คามกาวาเส วสฺสํ วสิตฺวา วุตฺถวสฺโส ปวาเรตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตุํ ราชคหํ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค สายํ อฺตรํ คามํ ปวิสิตฺวา วสนฏฺานํ ปริเยสนฺโต อฺตรํ อุปาสกํ ทิสฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘อุปาสก, อิมสฺมึ คาเม อตฺถิ กิฺจิ ปพฺพชิตานํ วสนโยคฺคฏฺาน’’นฺติ. อุปาสโก ปสนฺนจิตฺโต เคหํ คนฺตฺวา ภริยาย สทฺธึ มนฺเตตฺวา เถรสฺส ¶ วสนโยคฺคํ านํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ตตฺถ อาสนํ ปฺาเปตฺวา ปาโททกํ ปาทปีํ อุปฏฺเปตฺวา เถรํ ปเวเสตฺวา ตสฺมึ ปาเท โธวนฺเต ปทีปํ อุชฺชาเลตฺวา มฺเจ ปจฺจตฺถรณานิ ปฺาเปตฺวา อทาสิ. สฺวาตนาย จ นิมนฺเตตฺวา เถรสฺส ทุติยทิวเส โภเชตฺวา ปานกตฺถาย คุฬปิณฺฑฺจ ทตฺวา เถรํ คจฺฉนฺตํ อนุคนฺตฺวา นิวตฺติ. โส อปเรน สมเยน สห ภริยาย กาลํ กตฺวา ตาวตึสภวเน ทฺวาทสโยชนิเก กนกวิมาเน นิพฺพตฺติ. ตํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ทฺวีหิ คาถาหิ ปฏิปุจฺฉิ –
‘‘จนฺโท ยถา วิคตวลาหเก นเภ, โอภาสยํ คจฺฉติ อนฺตลิกฺเข;
ตถูปมํ ตุยฺหมิทํ วิมานํ, โอภาสยํ ติฏฺติ อนฺตลิกฺเข.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส ¶ เทวปุตฺโต อิมาหิ คาถาหิ พฺยากาสิ –
‘‘โส ¶ เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘อหฺจ ภริยา จ มนุสฺสโลเก, อุปสฺสยํ อรหโต อทมฺห;
อนฺนฺจ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺตา, สกฺกจฺจ ทานํ วิปุลํ อทมฺห.
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป… วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ตตฺถ คาถาสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว;
ปมอุปสฺสยทายกวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ทุติยอุปสฺสยทายกวิมานวณฺณนา
สูริโย ¶ ยถา วิคตวลาหเก นเภติ ทุติยอุปสฺสยทายกวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน. เตน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู คามกาวาเส วสฺสํ วสิตฺวา ภควนฺตํ ทสฺสนาย ราชคหํ อุทฺทิสฺส คจฺฉนฺตา สายํ อฺตรํ คามํ สมฺปาปุณึสุ. เสสํ อนนฺตรวิมานสทิสเมว.
‘‘สูริโย ยถา วิคตวลาหเก นเภ…เป….
(ยถา ปุริมวิมานํ, ตถา วิตฺถาเรตพฺพํ;)
‘‘วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ตตฺถ คาถาสุปิ อปุพฺพํ นตฺถิ;
ทุติยอุปสฺสยทายกวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ภิกฺขาทายกวิมานวณฺณนา
อุจฺจมิทํ มณิถูณํ วิมานนฺติ ภิกฺขาทายกวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน. เตน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ อทฺธานมคฺคปฏิปนฺโน อฺตรํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺโ เอกสฺส ฆรทฺธาเร อฏฺาสิ. ตตฺถ อฺตโร ปุริโส โธตหตฺถปาโท ‘‘ภฺุชิสฺสามี’’ติ ¶ นิสินฺโน โภชนํ อุปเนตฺวา ปาติยา ปกฺขิตฺเต ตํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา ปาติยา ภตฺตํ ตสฺส ภิกฺขุโน ปตฺเต อากิรนฺโต เตน ‘‘เอกเทสเมว เทหี’’ติ วุตฺโตปิ สพฺพเมว อากิริ. โส ภิกฺขุ อนุโมทนํ ¶ วตฺวา ปกฺกามิ. โส ปุริโส ‘‘ฉาตชฺฌตฺตสฺส ภิกฺขุโน มยา อภฺุชิตฺวา ภตฺตํ ทินฺน’’นฺติ อนุสฺสรนฺโต อุฬารํ ปีติโสมนสฺสํ ปฏิลภิ. โส อปรภาเค กาลํ กตฺวา ตาวตึเสสุ ทฺวาทสโยชนิเก กนกวิมาเน นิพฺพตฺติ. ตํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร เทวจาริกํ จรนฺโต มหติยา เทวิทฺธิยา วิโรจมานํ ทิสฺวา อิมาหิ คาถาหิ ปฏิปุจฺฉิ –
‘‘อุจฺจมิทํ ¶ มณิถูณํ วิมานํ, สมนฺตโต ทฺวาทส โยชนานิ;
กูฏาคารา สตฺตสตา อุฬารา, เวฬุริยถมฺภา รุจกตฺถตา สุภา.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว…เป…
วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โสปิ ตสฺส อิมาหิ คาถาหิ พฺยากาสิ –
‘‘โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต, ทิสฺวาน ภิกฺขุํ ตสิตํ กิลนฺตํ;
เอกาหํ ภิกฺขํ ปฏิปาทยิสฺสํ, สมงฺคิ ภตฺเตน ตทา อกาสึ.
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป… วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
๑๐๘๔. ตตฺถ เอกาหํ ภิกฺขนฺติ เอกํ อหํ ภิกฺขามตฺตํ, เอกํ ภตฺตวฑฺฒิตกนฺติ อตฺโถ. ปฏิปาทยิสฺสนฺติ ปฏิปาเทสึ อทาสึ. สมงฺคิ ภตฺเตนาติ ภตฺเตน สมงฺคีภูตํ, ลทฺธภิกฺขนฺติ อตฺโถ. เอวํ มหาเถโร เตน เทวปุตฺเตน อตฺตโน สุจริตกมฺเม ปกาสิเต สปริวารสฺส ตสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา มนุสฺสโลกมาคโต, ตํ ปวตฺตึ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส กเถสิ. สตฺถา ตํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา สมฺปตฺตมหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสสิ. สา เทสนา มหาชนสฺส สาตฺถิกา อโหสีติ.
ภิกฺขาทายกวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ยวปาลกวิมานวณฺณนา
อุจฺจมิทํ ¶ ¶ ¶ มณิถูณํ วิมานนฺติ ยวปาลกวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน. เตน สมเยน ราชคเห อฺตโร ทุคฺคตทารโก ยวเขตฺตํ รกฺขติ. โส เอกทิวสํ ปาตราสตฺถาย กุมฺมาสํ ลภิตฺวา ‘‘เขตฺตํ คนฺตฺวา ภฺุชิสฺสามี’’ติ ตํ กุมฺมาสํ คเหตฺวา ยวเขตฺตํ คนฺตฺวา รุกฺขมูเล นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ อฺตโร ขีณาสวตฺเถโร มคฺคปฺปฏิปนฺโน อุปกฏฺเ กาเล ตํ านํ ปตฺวา ยวปาลเกน นิสินฺนํ รุกฺขมูลํ อุปสงฺกมิ. ยวปาลโก เวลํ โอโลเกตฺวา ‘‘กจฺจิ, ภนฺเต, อาหาโร ลทฺโธ’’ติ อาห. เถโร ตุณฺหี อโหสิ. โส อลทฺธภาวํ ตฺวา ‘‘ภนฺเต, อุปกฏฺา เวลา, ปิณฺฑาย จริตฺวา ภฺุชิตุํ น สกฺกา, มยฺหํ อนุกมฺปาย อิมํ กุมฺมาสํ ปริภฺุชถา’’ติ วตฺวา เถรสฺส ตํ กุมฺมาสํ อทาสิ. เถโร ตํ อนุกมฺปนฺโต ตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว ตํ ปริภฺุชิตฺวา อนุโมทนํ วตฺวา ปกฺกามิ. โสปิ ทารโก ‘‘สุทินฺนํ วต มยา อีทิสสฺส กุมฺมาสทานํ ททนฺเตนา’’ติ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา อปรภาเค กาลํ กตฺวา ตาวตึสภวเน วุตฺตนเยเนว วิมาเน นิพฺพตฺติ. ตํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร อิมาหิ คาถาหิ ปฏิปุจฺฉิ –
‘‘อุจฺจมิทํ มณิถูณํ วิมานํ…เป…
วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โสปิ ตสฺส อิมาหิ คาถาหิ พฺยากาสิ –
๑๐๘๙. ‘‘โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต, อโหสึ ยวปาลโก;
อทฺทสํ วิรชํ ภิกฺขุํ, วิปฺปสนฺนมนาวิลํ.
‘‘ตสฺส อทาสหํ ภาคํ, ปสนฺโน เสหิ ปาณิภิ;
กุมฺมาสปิณฺฑํ ทตฺวาน, โมทามิ นนฺทเน วเน.
วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ตตฺถ คาถาสุปิ อปุพฺพํ นตฺถิ.
ยวปาลกวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ปมกุณฺฑลีวิมานวณฺณนา
อลงฺกโต ¶ มลฺยธโร สุวตฺโถติ กุณฺฑลีวิมานํ. ตสฺส กา อุปตฺติ? ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน. เตน สมเยน ทฺเว อคฺคสาวกา สปริวารา กาสีสุ จาริกํ จรนฺตา สูริยตฺถงฺคมนเวลายํ อฺตรํ วิหารํ ปาปุณึสุ. ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ตสฺส วิหารสฺส โคจรคาเม อฺตโร อุปาสโก เถเร อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ปาทโธวนํ ปาทพฺภฺชนเตลํ มฺจปีํ ปจฺจตฺถรณํ ปทีปิยฺจ อุปเนตฺวา สฺวาตนาย จ นิมนฺเตตฺวา ทุติยทิวเส มหาทานํ ปวตฺเตสิ, เถรา ตสฺส อนุโมทนํ วตฺวา ปกฺกมึสุ. โส อปเรน สมเยน กาลํ กตฺวา ตาวตึเสสุ ทฺวาทสโยชนิเก กนกวิมาเน นิพฺพตฺติ. ตํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร อิมาหิ คาถาหิ ปฏิปุจฺฉิ –
‘‘อลงฺกโต มลฺยธโร สุวตฺโถ, สุกุณฺฑลี กปฺปิตเกสมสฺสุ;
อามุตฺตหตฺถาภรโณ ยสสฺสี, ทิพฺเพ วิมานมฺหิ ยถาปิ จนฺทิมา.
‘‘ทิพฺพา จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ, อฏฺฏฺกา สิกฺขิตา สาธุรูปา;
ทิพฺพา จ กฺา ติทสจรา อุฬารา, นจฺจนฺติ คายนฺติ ปโมทยนฺติ.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว…เป…
วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โสปิ ¶ ตสฺส อิมาหิ คาถาหิ พฺยากาสิ –
๑๐๙๗. ‘‘โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘อหํ ¶ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต, ทิสฺวาน สมเณ สีลวนฺเต;
สมฺปนฺนวิชฺชาจรเณ ยสสฺสี, พหุสฺสุเต ตณฺหกฺขยูปปนฺเน;
อนฺนฺจ ¶ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺโต, สกฺกจฺจ ทานํ วิปุลํ อทาสึ.
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป…
วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
๑๐๙๔. ตตฺถ สุกุณฺฑลีติ สุนฺทเรหิ กุณฺฑเลหิ อลงฺกตกณฺโณ. ‘‘สกุณฺฑลี’’ติปิ ปาโ, สทิสํ กุณฺฑลํ สกุณฺฑลํ, ตํ อสฺส อตฺถีติ สกุณฺฑลี, ยุตฺตกุณฺฑลี อฺมฺฺจ ตุยฺหฺจ อนุจฺฉวิกกุณฺฑลีติ อตฺโถ. กปฺปิตเกสมสฺสูติ สมฺมากปฺปิตเกสมสฺสุ. อามุตฺตหตฺถาภรโณติ ปฏิมุกฺกองฺคุลิยาทิหตฺถาภรโณ.
๑๐๙๘. ตณฺหกฺขยูปปนฺเนติ ตณฺหกฺขยํ อรหตฺตํ, นิพฺพานเมว วา อุปคเต, อธิคตวนฺเตติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
ปมกุณฺฑลีวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ทุติยกุณฺฑลีวิมานวณฺณนา
อลงฺกโต มลฺยธโร สุวตฺโถติ ทุติยกุณฺฑลีวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน. เตน สมเยน ทฺเว อคฺคสาวกา กาสีสุ ชนปทจาริกํ จรนฺตาติอาทิ สพฺพํ อนนฺตรสทิสเมว.
‘‘อลงฺกโต มลฺยธโร สุวตฺโถ, สุกุณฺฑลี กปฺปิตเกสมสฺสุ;
อามุตฺตหตฺถาภรโณ ยสสฺสี, ทิพฺเพ วิมานมฺหิ ยถาปิ จนฺทิมา.
‘‘ทิพฺพา ¶ จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ;
อฏฺฏฺกา สิกฺขิตา สาธุรูปา;
ทิพฺพา จ กฺา ติทสจรา อุฬารา, นจฺจนฺติ คายนฺติ ปโมทยนฺติ.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ ¶ มหานุภาโว…เป…
วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ. – ปุจฺฉิ;
‘‘โส ¶ เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต, ทิสฺวาน สมเณ สาธุรูเป;
สมฺปนฺนวิชฺชาจรเณ ยสสฺสี, พหุสฺสุเต สีลวนฺเต ปสนฺเน;
อนฺนฺจ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺโต, สกฺกจฺจ ทานํ วิปุลํ อทาสึ.
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป…
วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
คาถาสุปิ อปุพฺพํ นตฺถิ.
ทุติยกุณฺฑลีวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. (อุตฺตร) ปายาสิวิมานวณฺณนา
ยา เทวราชสฺส สภา สุธมฺมาติ อุตฺตรวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควติ ปรินิพฺพุเต ธาตุวิภาเค จ กเต ตตฺถ ตตฺถ ถูเปสุ ปติฏฺาปิยมาเนสุ ธมฺมวินยํ สงฺคายิตุํ อุจฺจินิตฺวา คหิเตสุ มหากสฺสปปฺปมุเขสุ มหาเถเรสุ ยาว วสฺสูปคมนา อฺเสุ จ เถเรสุ อตฺตโน อตฺตโน ปริสาย สทฺธึ ตตฺถ ตตฺถ วสนฺเตสุ อายสฺมา กุมารกสฺสโป ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ เสตพฺยนครํ คนฺตฺวา สึสปาวเน วสิ. อถ ปายาสิ ราชฺโ เถรสฺส ตตฺถ วสนภาวํ สุตฺวา มหตา ชนกาเยน ¶ ปริวุโต ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา นิสินฺโน อตฺตโน ทิฏฺิคตํ ปเวเทสิ. อถ นํ เถโร จนฺทิมสูริยูทาหรณาทีหิ ปรโลกสฺส อตฺถิภาวํ ปกาเสนฺโต อเนกวิหิตเหตูปมาลงฺกตํ ทิฏฺิคณฺิวินิเวนํ นานานยวิจิตฺตํ ปายาสิสุตฺตํ (ที. นิ. ๒.๔๐๖ อาทโย) เทเสตฺวา ตํ ทิฏฺิสมฺปทายํ ปติฏฺาเปสิ.
โส วิสุทฺธทิฏฺิโก หุตฺวา สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกาทีนํ ทานํ เทนฺโต อนุฬารชฺฌาสยตาย ¶ ลูขํ อทาสิ ฆาสจฺฉาทนมตฺตํ กณาชกํ พิลงฺคทุติยํ สาณานิ จ วตฺถานิ ¶ . เอวํ ปน อสกฺกจฺจทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา หีนกายํ อุปปชฺชิ จาตุมหาราชิกานํ สหพฺยตํ. ตสฺส ปน กิจฺจากิจฺเจสุ ยุตฺตปฺปยุตฺโต อุตฺตโร นาม มาณโว อโหสิ ทาเน พฺยาวโฏ. โส สกฺกจฺจทานํ ทตฺวา ตาวตึสกายํ อุปปนฺโน, ตสฺส ทฺวาทสโยชนิกํ วิมานํ นิพฺพตฺติ. โส กตฺุตํ วิภาเวนฺโต สห วิมาเนน กุมารกสฺสปตฺเถรํ อุปสงฺกมิตฺวา วิมานโต โอรุยฺห ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห อฏฺาสิ. ตํ เถโร –
‘‘ยา เทวราชสฺส สภา สุธมฺมา, ยตฺถจฺฉติ เทวสงฺโฆ สมคฺโค;
ตถูปมํ ตุยฺหมิทํ วิมานํ, โอภาสยํ ติฏฺติ อนฺตลิกฺเข.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว…เป…
วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ. – คาถาหิ ปฏิปุจฺฉิ;
‘‘โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต, รฺโ ปายาสิสฺส อโหสึ มาณโว;
ลทฺธา ธนํ สํวิภาคํ อกาสึ, ปิยา จ เม สีลวนฺโต อเหสุํ;
อนฺนฺจ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺโต, สกฺกจฺจ ทานํ วิปุลํ อทาสึ.
‘‘เตน ¶ เมตาทิโส วณฺโณ…เป…
วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ. –
โส เทวปุตฺโต ตสฺส อิมาหิ คาถาหิ พฺยากาสิ.
๑๑๐๘. ตตฺถ เทวราชสฺสาติ สกฺกสฺส. สภา สุธมฺมาติ เอวํนามกํ สนฺถาคารํ. ยตฺถาติ ยสฺสํ สภายํ. อจฺฉตีติ นิสีทติ. เทวสงฺโฆติ ตาวตึสเทวกาโย. สมคฺโคติ สหิโต สนฺนิปติโต.
๑๑๑๑. ปายาสิสฺส ¶ อโหสึ มาณโวติ ปายาสิราชฺสฺส กิจฺจากิจฺจกโร ทหรตาย มาณโว, นาเมน ปน อุตฺตโร นาม อโหสึ. สํวิภาคํ อกาสินฺติ อหเมว อภฺุชิตฺวา ¶ ยถาลทฺธํ ธนํ ทานมุเข ปริจฺจชนวเสน สํวิภชนํ อกาสึ. อนฺนฺจ ปานฺจ ปริจฺจชนฺโตติ วจนเสโส. อถ วา ทานํ วิปุลํ อทาสึ. กถํ? สกฺกจฺจํ. กีทิสํ? อนฺนฺจ ปานฺจาติ โยเชตพฺพํ.
(อุตฺตร) ปายาสิวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ ปรมตฺถทีปนิยา ขุทฺทก-อฏฺกถาย วิมานวตฺถุสฺมึ
ทสวตฺถุปฏิมณฺฑิตสฺส ฉฏฺสฺส ปายาสิวคฺคสฺส
อตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สุนิกฺขิตฺตวิมานวคฺโค
๑. จิตฺตลตาวิมานวณฺณนา
ยถา ¶ วนํ จิตฺตลตํ ปภาสตีติ จิตฺตลตาวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน. เตน สมเยน สาวตฺถิยํ อฺตโร อุปาสโก ทลิทฺโท อปฺปโภโค ปเรสํ กมฺมํ กตฺวา ชีวติ. โส สทฺโธ ปสนฺโน ชิณฺเณ วุฑฺเฒ มาตาปิตโร โปเสนฺโต ‘‘อิตฺถิโย นาม ปติกุเล ิตา อิสฺสริยํ กโรนฺติ, สสฺสุสสุรานํ มนาปจารินิโย ทุลฺลภา’’ติ มาตาปิตูนํ จิตฺตทุกฺขํ ปริหรนฺโต ทารปริคฺคหํ อกตฺวา สยเมว เน อุปฏฺหติ, สีลานิ รกฺขติ, อุโปสถํ อุปวสติ ¶ , ยถาวิภวํ ทานานิ เทติ. โส อปรภาเค กาลํ กตฺวา ตาวตึเสสุ ทฺวาทสโยชนิเก วิมาเน นิพฺพตฺติ. ตํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เหฏฺา วุตฺตนเยน คนฺตฺวา กตกมฺมํ อิมาหิ คาถาหิ ปฏิปุจฺฉิ –
‘‘ยถา วนํ จิตฺตลตํ ปภาสติ, อุยฺยานเสฏฺํ ติทสานมุตฺตมํ;
ตถูปมํ ตุยฺหมิทํ วิมานํ, โอภาสยํ ติฏฺติ อนฺตลิกฺเข.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว…เป…
วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
‘‘โส ¶ เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต, ทลิทฺโท อตาโณ กปโณ กมฺมกโร อโหสึ;
ชิณฺเณ จ มาตาปิตโร อภารึ, ปิยา จ เม สีลวนฺโต อเหสุํ;
อนฺนฺจ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺโต, สกฺกจฺจ ทานํ วิปุลํ อทาสึ.
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป…วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ. –
โสปิ ¶ ตสฺส พฺยากาสิ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
จิตฺตลตาวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. นนฺทนวิมานวณฺณนา
ยถา ¶ วนํ นนฺทนํ ปภาสตีติ นนฺทนวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน. เตน สมเยน สาวตฺถิยํ อฺตโร อุปาสโกติอาทิ สพฺพํ อนนฺตรวิมานสทิสํ. อยํ ปน ทารปริคฺคหํ กตฺวา มาตาปิตโร โปเสสีติ อยเมว วิเสโส.
ยถา วนํ นนฺทนํ ปภาสติ, อุยฺยานเสฏฺํ ติทสานมุตฺตมํ;
ตถูปมํ ตุยฺหมิทํ วิมานํ, โอภาสยํ ติฏฺติ อนฺตลิกฺเข.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว…เป…วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตีติ.
‘‘โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต, ทลิทฺโท อตาโณ กปโณ กมฺมกโร อโหสึ;
ชิณฺเณ จ มาตาปิตโร อภารึ, ปิยา จ เม สีลวนฺโต อเหสุํ;
อนฺนฺจ ¶ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺโต, สกฺกจฺจ ทานํ วิปุลํ อทาสึ.
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป…วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ. –
คาถาหิ พฺยากาสิ. ตตฺถ คาถาสุปิ อปุพฺพํ นตฺถิ.
นนฺทนวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. มณิถูณวิมานวณฺณนา
อุจฺจมิทํ ¶ มณิถูณํ วิมานนฺติ มณิถูณวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน. เตน สมเยน สมฺพหุลา เถรา ภิกฺขู อรฺายตเน วิหรนฺติ. เตสํ คามํ ปิณฺฑาย ¶ คมนมคฺเค เอโก อุปาสโก วิสมํ สมํ กโรติ, กณฺฏเก นีหรติ, คจฺฉคุมฺเพ อปเนติ, อุทกกาเล มาติกาสุ เสตุํ พนฺธติ, วิวนฏฺาเนสุ ฉายารุกฺเข โรเปติ, ชลาสเยสุ มตฺติกํ อุทฺธริตฺวา เต ปุถุลคมฺภีเร กโรติ, ติตฺเถ สมฺปาเทติ, ยถาวิภวํ ทานํ เทติ, สีลํ รกฺขติ. โส อปรภาเค กาลํ กตฺวา ตาวตึเสสุ ทฺวาทสโยชนิเก กนกวิมาเน นิพฺพตฺติ. ตํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร อุปสงฺกมิตฺวา อิมาหิ คาถาหิ ปฏิปุจฺฉิ –
‘‘อุจฺจมิทํ มณิถูณํ วิมานํ, สมนฺตโต ทฺวาทส โยชนานิ;
กูฏาคารา สตฺตสตา อุฬารา, เวฬุริยถมฺภา รุจกตฺถตา สุภา.
‘‘ตตฺถจฺฉสิ ปิวสิ ขาทสิ จ, ทิพฺพา จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ;
ทิพฺพา รสา กามคุเณตฺถ ปฺจ, นาริโย จ นจฺจนฺติ สุวณฺณจฺฉนฺนา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ…เป…วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โสปิ ตสฺส คาถาหิ พฺยากาสิ –
‘‘โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘อหํ ¶ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต, วิวเน ปเถ สงฺกมนํ อกาสึ;
อารามรุกฺขานิ จ โรปยิสฺสํ, ปิยา จ เม สีลวนฺโต อเหสุํ;
อนฺนฺจ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺโต, สกฺกจฺจ ทานํ วิปุลํ อทาสึ.
‘‘เตน ¶ เมตาทิโส วณฺโณ…เป…วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
๑๑๓๑. ตตฺถ วิวเนติ อรฺเ. อารามรุกฺขานิ จา อารามภูเต รุกฺเข, อารามํ กตฺวา ตตฺถ รุกฺเข โรเปสินฺติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพํ วุตฺตนยเมว.
มณิถูณวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สุวณฺณวิมานวณฺณนา
โสวณฺณมเย ¶ ปพฺพตสฺมินฺติ สุวณฺณวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา อนฺธกวินฺเท วิหรติ. เตน สมเยน อฺตโร อุปาสโก สทฺโธ ปสนฺโน วิภวสมฺปนฺโน ตสฺส คามสฺส อวิทูเร อฺตรสฺมึ มุณฺฑกปพฺพเต สพฺพาการสมฺปนฺนํ ภควโต วสนานุจฺฉวิกํ คนฺธกุฏึ กาเรตฺวา ตตฺถ ภควนฺตํ วสาเปนฺโต สกฺกจฺจํ อุปฏฺหิ, สยฺจ นิจฺจสีเล ปติฏฺิโต สุวิสุทฺธสีลสํวโร หุตฺวา กาลํ กตฺวา ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺติ. ตสฺส กมฺมานุภาวสํสูจกํ นานารตนรํสิชาลสมุชฺชลํ วิจิตฺตเวทิกาปริกฺขิตฺตํ วิวิธวิปุลาลงฺกาโรปโสภิตํ สุวิภตฺตภิตฺติตฺถมฺภโสปานํ อารามรมณียกํ กฺจนปพฺพตมุทฺธนิ วิมานํ อุปฺปชฺชิ. ตํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เทวจาริกํ จรนฺโต ทิสฺวา อิมาหิ คาถาหิ ปฏิปุจฺฉิ –
‘‘โสวณฺณมเย ปพฺพตสฺมึ, วิมานํ สพฺพโตปภํ;
เหมชาลปฏิจฺฉนฺนํ, กิงฺกิณิชาลกปฺปิตํ.
‘‘อฏฺํสา ¶ สุกตา ถมฺภา, สพฺเพ เวฬุริยามยา;
เอกเมกาย อํสิยา, รตนา สตฺต นิมฺมิตา.
‘‘เวฬูริยสุวณฺณสฺส, ผลิกา รูปิยสฺส จ;
มสารคลฺลมุตฺตาหิ, โลหิตงฺคมณีหิ จ.
‘‘จิตฺรา มโนรมา ภูมิ, น ตตฺถุทฺธํสตี รโช;
โคปานสีคณา ปีตา, กูฏํ ทาเรนฺติ นิมฺมิตา.
‘‘โสปานานิ ¶ จ จตฺตาริ, นิมฺมิตา จตุโร ทิสา;
นานารตนคพฺเภหิ, อาทิจฺโจว วิโรจติ.
‘‘เวทิยา จตสฺโส ตตฺถ, วิภตฺตา ภาคโส มิตา;
ททฺทลฺลมานา อาภนฺติ, สมนฺตา จตุโร ทิสา.
‘‘ตสฺมึ ¶ วิมาเน ปวเร, เทวปุตฺโต มหปฺปโภ;
อติโรจสิ วณฺเณน, อุทยนฺโตว ภาณุมา.
‘‘ทานสฺส เต อิทํ ผลํ, อโถ สีลสฺส วา ปน;
อโถ อฺชลิกมฺมสฺส, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.
โสปิสฺส อิมาหิ คาถาหิ พฺยากาสิ –
๑๑๔๒. ‘‘โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘อหํ อนฺธกวินฺทสฺมึ, พุทฺธสฺสาทิจฺจพนฺธุโน;
วิหารํ สตฺถุ กาเรสึ, ปสนฺโน เสหิ ปาณิภิ.
‘‘ตตฺถ คนฺธฺจ มาลฺจ, ปจฺจยฺจ วิเลปนํ;
วิหารํ สตฺถุ อทาสึ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา;
เตน มยฺหํ อิทํ ลทฺธํ, วสํ วตฺเตมิ นนฺทเน.
‘‘นนฺทเน จ วเน รมฺเม, นานาทิชคณายุเต;
รมามิ นจฺจคีเตหิ, อจฺฉราหิ ปุรกฺขโต’’ติ.
๑๑๓๔. ตตฺถ สพฺพโตปภนฺติ สพฺพภาเคหิ ปภาสนฺตํ ปภามฺุจนกํ. กิงฺกิณิชาลกปฺปิตนฺติ กปฺปิตกิงฺกิณิกชาลํ.
๑๑๓๕. สพฺเพ เวฬุริยามยาติ สพฺเพ ถมฺภา เวฬุริยมณิมยา. ตตฺถ ปน เอกเมกาย อํสิยาติ อฏฺํเสสุ ถมฺเภสุ เอกเมกสฺมึ อํสภาเค. รตนา สตฺต นิมฺมิตาติ ¶ สตฺตรตนกมฺมนิมฺมิตา, เอเกโก อํโส สตฺตรตนมโยติ อตฺโถ.
๑๑๓๖. ‘‘เวฬูริยสุวณฺณสฺสา’’ติอาทินา นานารตนานิ ทสฺเสติ. ตตฺถ เวฬูริยสุวณฺณสฺสาติ เวฬุริเยน จ สุวณฺเณน จ นิมฺมิตา, จิตฺราติ ¶ วา โยชนา. กรณตฺเถ หิ ¶ อิทํ สามิวจนํ. ผลิกา รูปิยสฺส จาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. มสารคลฺลมุตฺตาหีติ กพรมณีหิ. โลหิตงฺคมณีหิ จาติ รตฺตมณีหิ.
๑๑๓๗. น ตตฺถุทฺธํสตี รโชติ มณิมยภูมิกตฺตา น ตสฺมึ วิมาเน รโช อุคฺคจฺฉติ. โคปานสีคณาติ โคปานสีสมูหา. ปีตาติ ปีตวณฺณา, สุวณฺณมยา เจว ผุสฺสราคาทิมณิมยา จาติ อตฺโถ. กูฏํ ธาเรนฺตีติ สตฺตรตนมยํ กณฺณิกํ ธาเรนฺติ.
๑๑๓๘-๙. นานารตนคพฺเภหีติ นานารตนมเยหิ โอวรเกหิ. เวทิยาติ เวทิกา. จตสฺโสติ จตูสุ ทิสาสุ จตสฺโส. เตนาห ‘‘สมนฺตา จตุโร ทิสา’’ติ.
๑๑๔๐. มหปฺปโภติ มหาชุติโก. อุทยนฺโตติ อุคฺคจฺฉนฺโต. ภาณุมาติ อาทิจฺโจ.
๑๑๔๓. เสหิ ปาณิภีติ กายสารํ ปฺุํ ปสวนฺโต อตฺตโน ปาณีหิ ตํ ตํ กิจฺจํ กโรนฺโต วิหารํ สตฺถุ กาเรสินฺติ โยชนา. อถ วา เสหิ ปาณิภีติ ตตฺถ อนฺธกวินฺทสฺมึ คนฺธฺจ มาลฺจ ปจฺจยฺจ วิเลปนฺจ ปูชาวเสน. ยถา กถํ? วิหารฺจ วิปฺปสนฺเนน เจตสา สตฺถุโน อทาสึ ปูเชสึ นิยฺยาเทสึ จาติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา.
๑๑๔๔. เตนาติ เตน ยถาวุตฺเตน ปฺุกมฺเมน การณภูเตน. มยฺหนฺติ มยา. อิทนฺติ อิทํ ปฺุผลํ, อิทํ วา ทิพฺพํ อาธิปเตยฺยํ. เตนาห ‘‘วสํ วตฺเตมี’’ติ.
๑๑๔๕. นนฺทเนติ นนฺทิยา ทิพฺพสมิทฺธิยา อุปฺปชฺชนฏฺาเน ¶ อิมสฺมึ เทวโลเก, ตตฺถาปิ วิเสสโต นนฺทเน วเน รมฺเม, เอวํ รมณีเย อิมสฺมึ นนฺทเน วเน รมามีติ โยชนา. เสสํ วุตฺตนยเมว.
เอวํ เทวตาย อตฺตโน ปฺุกมฺเม อาวิกเต เถโร สปริวารสฺส ตสฺส เทวปุตฺตสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา ภควโต ตมตฺถํ นิเวเทสิ. ภควา ตํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสสิ. สา เทสนา มหาชนสฺส สาตฺถิกา อโหสีติ.
สุวณฺณวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อมฺพวิมานวณฺณนา
อุจฺจมิทํ ¶ ¶ มณิถูณนฺติ อมฺพวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน. เตน สมเยน ราชคเห อฺตโร ทุคฺคตปุริโส ปเรสํ ภตฺตเวตนภโต หุตฺวา อมฺพวนํ รกฺขติ. โส เอกทิวสํ อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ คิมฺหสมเย สูริยาตปสนฺตตฺเต อุณฺหวาลิกานิปฺปีฬิเต วิปฺผนฺทมานมรีจิชาลวิตฺถเต ภูมิปฺปเทเส ตสฺส อมฺพารามสฺส อวิทูเรน มคฺเคน เสทาคเตน คตฺเตน คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา สฺชาตคารวพหุมาโน อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาห ‘‘มหา อยํ, ภนฺเต, ฆมฺมปริฬาโห, อติวิย ปริสฺสนฺตรูโป วิย ทิสฺสติ, สาธุ, ภนฺเต, อยฺโย อิมํ อมฺพารามํ ปวิสิตฺวา มุหุตฺตํ วิสฺสมิตฺวา อทฺธานปริสฺสมํ ปฏิวิโนเทตฺวา คจฺฉถ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. เถโร วิเสสโต ตสฺส จิตฺตปฺปสาทํ ปริพฺรูเหตุกาโม ตํ อารามํ ปวิสิตฺวา อฺตรสฺส อมฺพรุกฺขสฺส มูเล นิสีทิ.
ปุน โส ปุริโส อาห ‘‘สเจ, ภนฺเต, นฺหายิตุกามตฺถ, อหํ อิโต กูปโต อุทกํ อุทฺธริตฺวา ตุมฺเห นฺหาเปสฺสามิ, ปานียฺจ ทสฺสามี’’ติ. เถโรปิ อธิวาเสสิ ตุณฺหีภาเวน. โส กูปโต อุทกํ อุทฺธริตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา เถรํ นฺหาเปสิ, นฺหาเปตฺวา จ หตฺถปาเท โธวิตฺวา นิสินฺนสฺส ปานียํ อุปเนสิ. เถโร ปานียํ ปิวิตฺวา ปฏิปฺปสฺสทฺธทรโถ ตสฺส ปุริสสฺส อุทกทาเน เจว นฺหาปเน จ อนุโมทนํ ¶ วตฺวา ปกฺกามิ. อถ โส ปุริโส ‘‘ฆมฺมาภิตตฺตสฺส วต เถรสฺส ฆมฺมปริฬาหํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภสึ, พหุํ วต มยา ปฺุํ ปสุต’’นฺติ อุฬารปีติโสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทสิ. โส อปรภาเค กาลํ กตฺวา ตาวตึเสสุ อุปฺปชฺชิ. ตํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน อุปสงฺกมิตฺวา อิมาหิ คาถาหิ กตปฺุํ ปุจฺฉิ.
‘‘อุจฺจมิทํ มณิถูณํ วิมานํ, สมนฺตโต ทฺวาทส โยชนานิ;
กูฏาคารา สตฺตสตา อุฬารา, เวฬุริยถมฺภา รุจกตฺถตา สุภา.
‘‘ตตฺถจฺฉสิ ¶ ปิวสิ ขาทสิ จ, ทิพฺพา จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ;
ทิพฺพา รสา กามคุเณตฺถ ปฺจ, นาริโย จ นจฺจนฺติ สุวณฺณฉนฺนา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ…เป…
วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
‘‘โส ¶ เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป…
ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเส, ปตปนฺเต ทิวงฺกเร;
ปเรสํ ภตโก โปโส, อมฺพารามมสิฺจติ.
‘‘อถ เตนาคมา ภิกฺขุ, สาริปุตฺโตติ วิสฺสุโต;
กิลนฺตรูโป กาเยน, อกิลนฺโตว เจตสา.
‘‘ตฺจ ทิสฺวาน อายนฺตํ, อโวจํ อมฺพสิฺจโก;
สาธุ ตํ ภนฺเต นฺหาเปยฺยํ, ยํ มมสฺส สุขาวหํ.
‘‘ตสฺส เม อนุกมฺปาย, นิกฺขิปิ ปตฺตจีวรํ;
นิสีทิ รุกฺขมูลสฺมึ, ฉายาย เอกจีวโร.
‘‘ตฺจ อจฺเฉน วารินา, ปสนฺนมานโส นโร;
นฺหาปยี รุกฺขมูลสฺมึ, ฉายาย เอกจีวรํ.
‘‘อมฺโพ ¶ จ สิตฺโต สมโณ จ นฺหาปิโต,
มยา จ ปฺุํ ปสุตํ อนปฺปกํ;
อิติ โส ปีติยา กายํ, สพฺพํ ผรติ อตฺตโน.
‘‘ตเทว เอตฺตกํ กมฺมํ, อกาสึ ตาย ชาติยา;
ปหาย มานุสํ เทหํ, อุปปนฺโนมฺหิ นนฺทนํ.
‘‘นนฺทเน ¶ จ วเน รมฺเม, นานาทิชคณายุเต;
รมามิ นจฺจคีเตหิ, อจฺฉราหิ ปุรกฺขโต’’ติ. –
โสปิ ตสฺส อิมาหิ คาถาหิ พฺยากาสิ.
๑๑๕๑. ตตฺถ ¶ คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเสติ อาสาฬฺหิมาเส. ปตปนฺเตติ อติวิย ทิปฺปนฺเต, สพฺพโส อุณฺหํ วิสฺสชฺเชนฺเตติ อตฺโถ. ทิวงฺกเรติ ทิวากเร, อยเมว วา ปาโ. อสิฺจตีติ สิฺจติ, -กาโร นิปาตมตฺตํ, สิฺจติ อมฺพรุกฺขมูเลสุ ธุวํ ชลเสกํ กโรตีติ อตฺโถ. ‘‘อสิฺจถา’’ติ จ ปาโ, สิฺจิตฺถาติ อตฺโถ. ‘‘อสิฺจห’’นฺติ จ ปนฺติ, ปเรสํ ภตโก โปโส หุตฺวา ตทา อมฺพารามํ อสิฺจึ อหนฺติ อตฺโถ.
๑๑๕๒. เตนาติ เยน ทิสาภาเคน โส อมฺพาราโม, เตน อคมา อคฺฉิ. อกิลนฺโตว เจตสาติ เจโตทุกฺขสฺส มคฺเคเนว ปหีนตฺตา เจตสา อกิลนฺโตปิ สมาโน กิลนฺตุรูโป กาเยน เตน มคฺเคน อคมาติ โยชนา.
๑๑๕๓-๔. อโวจํ อหํ ตทา อมฺพสิฺจโก หุตฺวาติ โยชนา. เอกจีวโรติ นฺหายิตุกาโมติ อธิปฺปาโย.
๑๑๕๖. อิตีติ เอวํ ‘‘อมฺโพ จ สิตฺโต, สมโณ จ นฺหาปิโต, มยา จ ปฺุํ ปสุตํ อนปฺปกํ, เอเกเนว ปโยเคน ติวิโธปิ อตฺโถ สาธิโต’’ติ อิมินากาเรน ปวตฺตาย ปีติยา โส ปุริโส อตฺตโน สพฺพํ กายํ ผรติ, นิรนฺตรํ ผุฏํ กโรตีติ โยชนา. อตีตตฺเถ เจตํ วตฺตมานวจนํ, ผรีติ อตฺโถ.
๑๑๕๗. ตเทว เอตฺตกํ กมฺมนฺติ ตํ เอตฺตกํ เอวํ ปานียทานมตฺตกํ ¶ กมฺมํ อกาสึ, ตาย ตสฺสํ ชาติยํ อฺํ นานุสฺสรามีติ อธิปฺปาโย. เตสํ วุตฺตนยเมว.
อมฺพวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. โคปาลวิมานวณฺณนา
ทิสฺวาน ¶ เทวํ ปฏิปุจฺฉิ ภิกฺขูติ โคปาลวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน. เตน สมเยน ราชคหวาสี อฺตโร โคปาลโก ปาตราสตฺถาย ปิโลติกาย ปุฏพทฺธํ กุมฺมาสํ คเหตฺวา นครโต นิกฺขมิตฺวา คาวีนํ จรณฏฺานภูตํ โคจรภูมึ สมฺปาปุณิ. ตํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ‘‘อยํ อิทาเนว กาลํ กริสฺสติ, มยฺหฺจ กุมฺมาสํ ทตฺวา ตาวตึเสสุ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ จ ตฺวา ตสฺส สมีปํ อคมาสิ. โส ¶ เวลํ โอโลเกตฺวา เถรสฺส กุมฺมาสํ ทาตุกาโม อโหสิ. เตน จ สมเยน คาวิโย มาสกฺเขตฺตํ ปวิสนฺติ. อถ โส โคปาโล จินฺเตสิ ‘‘กึ นุ โข เถรสฺส กุมฺมาสํ ทเทยฺยํ, อุทาหุ คาวิโย มาสกฺเขตฺตโต นีหเรยฺย’’นฺติ. อถสฺส เอตทโหสิ ‘‘มาสสามิกา มํ ยํ อิจฺฉนฺติ, ตํ กโรนฺตุ, เถเร ปน คเต กุมฺมาสทานนฺตราโย เม สิยา, หนฺทาหํ ปมํ อยฺยสฺส กุมฺมาสํ ทสฺสามี’’ติ ตํ เถรสฺส อุปเนสิ. ปฏิคฺคเหสิ เถโร อนุกมฺปํ อุปาทาย.
อถ นํ คาวิโย นิวตฺเตตุํ ปริสฺสยํ อโนโลเกตฺวา เวเคน อุปธาวนฺตํ ปาเทน ผุฏฺโ อาสีวิโส ฑํสิ. เถโรปิ ตํ อนุกมฺปมาโน ตํ กุมฺมาสํ ปริภฺุชิตุํ อารภิ. โคปาลโกปิ คาวิโย นิวตฺเตตฺวา อาคโต เถรํ กุมฺมาสํ ปริภฺุชนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต อุฬารํ ปีติโสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทนฺโต นิสีทิ. ตาวเทวสฺส สกลสรีรํ วิสํ อชฺโฌตฺถริ. มุหุตฺตเมว เวเค มุทฺธปตฺเต กาลมกาสิ, กาลกโต จ ตาวตึเสสุ ทฺวาทสโยชนิเก กนกวิมาเน นิพฺพตฺติ. ตํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ทิสฺวา อิมาหิ คาถาหิ ปฏิปุจฺฉิ –
‘‘ทิสฺวาน เทวํ ปฏิปุจฺฉิ ภิกฺขุ, อุจฺเจ วิมานมฺหิ จิรฏฺิติเก;
อามุตฺตหตฺถาภรณํ ¶ ยสสฺสึ, ทิพฺเพ วิมานมฺหิ ยถาปิ จนฺทิมา.
‘‘อลงฺกโต ¶ มลฺยธโร สุวตฺโถ, สุกุณฺฑลี กปฺปิตเกสมสฺสุ;
อามุตฺตหตฺถาภรโณ ยสสฺสี, ทิพฺเพ วิมานมฺหิ ยถาปิ จนฺทิมา.
‘‘ทิพฺพา จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ; อฏฺฏฺกา สิกฺขิตา สาธุรูปา;
ทิพฺพา จ กฺา ติทสจรา อุฬารา, นจฺจนฺติ คายนฺติ ปโมทยนฺติ.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว…เป…
วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โสปิ ตสฺส พฺยากาสิ –
๑๑๖๓. ‘‘โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป…ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘อหํ ¶ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต, สงฺคมฺม รกฺขิสฺสํ ปเรสํ เธนุโย;
ตโต จ อาคา สมโณ มมนฺติเก, คาโว จ มาเส อคมํสุ ขาทิตุํ.
‘‘ทฺวยชฺช กิจฺจํ อุภยฺจ การิยํ, อิจฺเจวหํ ภนฺเต ตทา วิจินฺตยึ;
ตโต จ สฺํ ปฏิลทฺธ โยนิโส, ‘ททามิ ภนฺเต’ติ ขิปึ อนนฺตกํ.
‘‘โส มาสเขตฺตํ ตุริโต อวาสรึ, ปุรา อยํ ภฺชติ ยสฺสิทํ ธนํ;
ตโต จ กณฺโห อุรโค มหาวิโส, อฑํสิ ปาเท ตุริตสฺส เม สโต.
‘‘สฺวาหํ อฏฺโฏมฺหิ ทุกฺเขน ปีฬิโต, ภิกฺขุ จ ตํ สามํ มฺุจิตฺวานนฺตกํ;
อหาสิ กุมฺมาสํ มมานุกมฺปยา, ตโต จุโต กาลกโตมฺหิ เทวตา.
‘‘ตเทว ¶ ¶ กมฺมํ กุสลํ กตํ มยา, สุขฺจ กมฺมํ อนุโภมิ อตฺตนา;
ตยา หิ ภนฺเต อนุกมฺปิโต ภุสํ, กตฺุตาย อภิวาทยามิ ตํ.
‘‘สเทวเก โลเก สมารเก จ, อฺโ มุนิ นตฺถิ ตยานุกมฺปโก;
ตยา หิ ภนฺเต อนุกมฺปิโต ภุสํ, กตฺุตาย อภิวาทยามิ ตํ.
‘‘อิมสฺมึ โลเก ปรสฺมึ วา ปน, อฺโ มุนี นตฺถิ ตยานุกมฺปโก;
ตยา หิ ภนฺเต อนุกมฺปิโต ภุสํ, กตฺุตาย อภิวาทยามิ ต’’นฺติ.
อถายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน อตฺตนา จ เทวตาย จ กถิตนิยาเมเนว ตํ ภควโต อาโรเจสิ. สตฺถา ตมตฺถํ ปจฺจนุภาสิตฺวา ตํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสตุํ ‘‘ทิสฺวาน เทวํ ปฏิปุจฺฉิ ภิกฺขู’’ติอาทิมาห.
๑๑๕๙. ตตฺถ เทวนฺติ โคปาลเทวปุตฺตํ. ภิกฺขูติ อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ สนฺธาย สตฺถา วทติ. โส หิ สพฺพโส ภินฺนกิเลสตาย ภิกฺขุ. วิมานสฺส พหุกาลาวฏฺายิตาย กปฺปฏฺิติกตาย เอว วา ‘‘จิรฏฺิติเก’’ติ วุตฺตํ, ‘‘จิรฏฺิติก’’นฺติปิ เกจิ ปนฺติ. ตฺหิ ‘‘เทว’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺธิตพฺพํ. โสปิ หิ สฏฺิสตสหสฺสาธิกา ติสฺโส วสฺสโกฏิโย ตตฺถ อวฏฺานโต ‘‘จิรฏฺิติเก’’ติ วตฺตพฺพตํ ลภติ. ยถาปิ จนฺทิมาติ ยถา จนฺทิมา เทวปุตฺโต กนฺตสีตลมโนหรกิรณชาลสมุชฺชเล ¶ อตฺตโน ทิพฺเพ วิมานมฺหิ วิโรจติ, เอวํ วิโรจมานนฺติ วจนเสสา.
๑๑๖๐. อลงฺกโตติอาทิ ตสฺส เทวปุตฺตสฺส เถเรน ปุจฺฉิตาการทสฺสนํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตตฺถเมว.
๑๑๖๔. สงฺคมฺมาติ ¶ สงฺคเมตฺวา, สงฺคมฺมาติ วา สงฺคเหตฺวา. เหตฺวตฺโถปิ หิ อิธ อนฺโตนีโต, พหู เอกโต หุตฺวาติ อตฺโถ. อาคาติ อาคฺฉิ. มาเสติ มาสสสฺสานิ.
๑๑๖๕. ทฺวยชฺชาติ ¶ ทฺวยํ อชฺช เอตรหิ กิจฺจํ กาตพฺพํ. อุภยฺจ การิยนฺติ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส ปริยายวจนํ. สฺนฺติ ธมฺมสฺํ. เตนาห ‘‘โยนิโส’’ติ ปฏิลทฺธาติ ปฏิลภิตฺวา. ขิปินฺติ ปนิคฺคาหาปนวเสน หตฺเถ ขิปึ. อนนฺตกนฺติ นนฺตกํ กุมฺมาสํ ปกฺขิปิตฺวา พนฺธิตฺวา ปิตํ ปิโลติกํ. อ-กาโร เจตฺถ นิปาตมตฺตํ.
๑๑๖๖. โสติ โส อหํ. ตุริโตติ ตุริโต สมฺภมนฺโต. อวาสรินฺติ อุปคจฺฉิ, ปาวิสึ วา. ปุรา อยํ ภฺชติ ยสฺสิทํ ธนนฺติ ยสฺส เขตฺตสามิกสฺส อิทํ มาสสสฺสํ ธนํ, ตํ อยํ โคคโณ ภฺชติ ปุรา ตสฺส ภฺชนโต, อามทฺทนโต ปุเรตรเมวาติ อตฺโถ. ตโตติ ตตฺถ. ตุริตสฺส เม สโตติ สมฺภมนฺตสฺส เม สมานสฺส, สหสา คมเนน มคฺเค กณฺหสปฺปํ อโนโลเกตฺวา คตสฺสาติ อธิปฺปาโย.
๑๑๖๗. อฏฺโฏมฺหิ ทุกฺเขน ปีฬิโตติ เตน อาสีวิสฑํสเนน อฏฺโฏ อฏฺฏิโต อุปทฺทุโต มรณทุกฺเขน พาธิโต ภวามิ. อหาสีติ อชฺโฌหริ, ปริภฺุชีติ อตฺโถ. ตโต จุโต กาลกโตมฺหิ เทวตาติ ตโต มนุสฺสตฺตภาวโต จุโต มรณกาลปฺปตฺติยา, ตตฺถ วา อายุสงฺขารสฺส เขปนสงฺขาตสฺส กาลสฺส กตตฺตา กาลกโต, ตทนนฺตรเมว จ อมฺหิ เทวตา เทวตฺตภาวปฺปตฺติยา เทวตา โหมีติ อตฺโถ.
๑๑๖๙. ตยาติ ตยา สทิโส อฺโ มุนิ โมเนยฺยคุณยุตฺโต อิสิ นตฺถิ. ตยาติ วา นิสฺสกฺเก อิทํ กรณวจนํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
โคปาลวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. กณฺฑกวิมานวณฺณนา
ปุณฺณมาเส ¶ ¶ ยถา จนฺโทติ กณฺฑกวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา ¶ สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน. เตน จ สมเยน อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เทวจาริกํ จรนฺโต ตาวตึสภวนํ คโต. ตสฺมึ ขเณ กณฺฑโก เทวปุตฺโต สกภวนโต นิกฺขมิตฺวา ทิพฺพยานํ อภิรุหิตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน มหติยา เทวิทฺธิยา อุยฺยานํ คจฺฉนฺโต อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ ทิสฺวา สฺชาตคารวพหุมาโน สหสา ยานโต โอรุยฺห เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา สิรสฺมึ อฺชลึ ปคฺคยฺห อฏฺาสิ. อถ นํ เถโร –
‘‘ปุณฺณมาเส ยถา จนฺโท, นกฺขตฺตปริวาริโต;
สมนฺตา อนุปริยาติ, ตารกาธิปตี สสี.
‘‘ตถูปมํ อิทํ พฺยมฺหํ, ทิพฺพํ เทวปุรมฺหิ จ;
อติโรจติ วณฺเณน, อุทยนฺโตว รํสิมา.
‘‘เวฬูริยสุวณฺณสฺส, ผลิกา รูปิยสฺส จ;
มสารคลฺลมุตฺตาหิ, โลหิตงฺคมณีหิ จ.
‘‘จิตฺรา มโนรมา ภูมิ, เวฬูริยสฺส สนฺถตา;
กูฏาคารา สุภา รมฺมา, ปาสาโท เต สุมาปิโต.
‘‘รมฺมา จ เต โปกฺขรณี, ปุถุโลมนิเสวิตา;
อจฺโฉทกา วิปฺปสนฺนา, โสณฺณวาลุกสนฺถตา.
‘‘นานาปทุมสฺฉนฺนา, ปุณฺฑรีกสโมตตา;
สุรภึ สมฺปวายนฺติ, มนฺุา มาตุเตริตา.
‘‘ตสฺสา เต อุภโต ปสฺเส, วนคุมฺพา สุมาปิตา;
อุเปตา ปุปฺผรุกฺเขหิ, ผลรุกฺเขหิ จูภยํ.
‘‘โสวณฺณปาเท ¶ ปลฺลงฺเก, มุทุเก โคนกตฺถเต;
นิสินฺนํ เทวราชํว, อุปติฏฺนฺติ อจฺฉรา.
‘‘สพฺพาภรณสฺฉนฺนา ¶ , นานามาลาวิภูสิตา;
รเมนฺติ ตํ มหิทฺธิกํ, วสวตฺตีว โมทสิ.
‘‘เภริสงฺขมุทิงฺคาหิ, วีณาหิ ปณเวหิ จ;
รมสิ รติสมฺปนฺโน, นจฺจคีเต สุวาทิเต.
‘‘ทิพฺพา เต วิวิธา รูปา, ทิพฺพา สทฺทา อโถ รสา;
คนฺธา จ เต อธิปฺเปตา, โผฏฺพฺพา จ มโนรมา.
‘‘ตสฺมึ ¶ วิมาเน ปวเร, เทวปุตฺต มหปฺปโภ;
อติโรจสิ วณฺเณน, อุทยนฺโตว ภาณุมา.
‘‘ทานสฺส เต อิทํ ผลํ, อโถ สีลสฺส วา ปน;
อโถ อฺชลิกมฺมสฺส, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ. –
อธิคตสมฺปตฺติกิตฺตนมุเขน กตกมฺมํ ปุจฺฉิ.
‘‘โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน, โมคฺคลฺลาเนน ปุจฺฉิโต;
ปฺหํ ปุฏฺโ วิยากาสิ, ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘อหํ กปิลวตฺถุสฺมึ, สากิยานํ ปุรุตฺตเม;
สุทฺโธทนสฺส ปุตฺตสฺส, กณฺฑโก สหโช อหํ.
‘‘ยทา โส อฑฺฒรตฺตายํ, โพธาย มภินิกฺขมิ;
โส มํ มุทูหิ ปาณีหิ, ชาลิตมฺพนเขหิ จ.
‘‘สตฺถึ ¶ อาโกฏยิตฺวาน, วห สมฺมาติ จพฺรวิ;
‘อหํ โลกํ ตารยิสฺสํ, ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตมํ’.
‘‘ตํ เม คิรํ สุณนฺตสฺส, หาโส เม วิปุโล อหุ;
อุทคฺคจิตฺโต สุมโน, อภิสีสึ ตทา อหํ.
‘‘อภิรูฬฺหฺจ มํ ตฺวา, สกฺยปุตฺตํ มหายสํ;
อุทคฺคจิตฺโต มุทิโต, วหิสฺสํ ปุริสุตฺตมํ.
‘‘ปเรสํ ¶ วิชิตํ คนฺตฺวา, อุคฺคตสฺมึ ทิวากเร;
มมํ ฉนฺนฺจ โอหาย, อนเปกฺโข โส อปกฺกมิ.
‘‘ตสฺส ตมฺพนเข ปาเท, ชิวฺหาย ปริเลหิสํ;
คจฺฉนฺตฺจ มหาวีรํ, รุทมาโน อุทิกฺขิสํ.
‘‘อทสฺสเนนหํ ตสฺส, สกฺยปุตฺตสฺส สิรีมโต;
อลตฺถํ ครุกาพาธํ, ขิปฺปํ เม มรณํ อหุ.
‘‘ตสฺเสว อานุภาเวน, วิมานํ อาวสามิทํ;
สพฺพกามคุโณเปตํ, เทโว เทวปุรมฺหิว.
‘‘ยฺจ เม อหุวา หาโส, สทฺทํ สุตฺวาน โพธิยา;
เตเนว กุสลมูเลน, ผุสิสฺสํ อาสวกฺขยํ.
‘‘สเจ ¶ หิ ภนฺเต คจฺเฉยฺยาสิ, สตฺถุ พุทฺธสฺส สนฺติเก;
มมาปิ นํ วจเนน, สิรสา วชฺชาสิ วนฺทนํ.
‘‘อหมฺปิ ทฏฺุํ คจฺฉิสฺสํ, ชินํ อปฺปฏิปุคฺคลํ;
ทุลฺลภํ ทสฺสนํ โหติ, โลกนาถาน ตาทิน’’นฺติ. –
โสปิ ¶ อตฺตนา กตกมฺมํ กเถสิ. อยฺหิ อนนฺตเร อตฺตภาเว อมฺหากํ โพธิสตฺเตน สหชาโต กณฺฑโก อสฺสราชา อโหสิ. โส อภินิกฺขมนสมเย อภิรุฬฺโห เตเนว รตฺตาวเสเสน ตีณิ รชฺชานิ มหาปุริสํ อติกฺกมาเปตฺวา อโนมานทีตีรํ สมฺปาเปสิ. อถ โส มหาสตฺเตน สูริเย อุคฺคเต ฆฏิการมหาพฺรหฺมุนา อุปนีตานิ ปตฺตจีวรานิ คเหตฺวา ปพฺพชิตฺวา ฉนฺเนน สทฺธึ กปิลวตฺถุํ อุทฺทิสฺส วิสฺสชฺชิโต. สิเนหภาริเกน หทเยน มหาปุริสสฺส ปาเท อตฺตโน ชิวฺหาย เลหิตฺวา ปสาทโสมฺมานิ อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา ยาว ทสฺสนปถา โอโลเกนฺโต ทสฺสนูปจารํ ปน อติกฺกนฺเต โลกนาเถ ‘‘เอวํวิธํ นาม โลกคฺคนายกํ มหาปุริสํ อหํ วหึ, สผลํ วต เม สรีรํ อโหสี’’ติ ปสนฺนมานโส หุตฺวา ปุน จิรกาลํ สงฺคตสฺส เปมสฺส วเสน วิโยคทุกฺขํ อสหนฺโต ภาวินิยา ทิพฺพสมฺปตฺติยา วเสน ¶ ธมฺมตาย โจทิยมาโน กาลํ กตฺวา ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ปุณฺณมาเส ยถา จนฺโท…เป… อหํ กปิลวตฺถุสฺมิ’’นฺติอาทิ.
๑๑๗๑. ตตฺถ ปุณฺณมาเสติ ปุณฺณมาสิยํ สุกฺกปกฺเข ปนฺนรสิยํ. ตารกาธิปตีติ ตารกานํ อธิปติ. สสีติ สสลฺฉนวา. ‘‘ตารกาธิป ทิสฺสตี’’ติ เกจิ ปนฺติ, เตสํ ตารกาธิปาติ อวิภตฺติกนิทฺเทโส, ตารกานํ อธิโป หุตฺวา ทิสฺสติ อนุปริยาติ จาติ โยชนา กาตพฺพา.
๑๑๗๒. ทิพฺพํ เทวปุรมฺหิ จาติ เทวปุรสฺมิมฺปิ ทิพฺพํ. ยถา มนุสฺสานํ านโต เทวปุรํ อุตฺตมํ, เอวํ เทวปุรโต จาปิ อิทํ ตว วิมานํ อุตฺตมนฺติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘อติโรจติ วณฺเณน, อุทยนฺโตว รํสิมา’’ติ, อุคฺคจฺฉนฺโต สูริโย วิยาติ อตฺโถ.
๑๑๗๓. เวฬูริยสุวณฺณสฺสาติ เวฬุริเยน สุวณฺเณน จ อิทํ พฺยมฺหํ ¶ นิมฺมิตนฺติ วจนเสเสน โยชนา. ผลิกาติ ผลิกมณินา.
๑๑๗๗-๘. ตสฺสาติ ตสฺสา โปกฺขรณิยา. วนคุมฺพาติ อุยฺยาเน สุปุปฺผคจฺเฉ สนฺธาย วทติ. เทวราชํวาติ สกฺกํ วิย. อุปติฏฺนฺตีติ อุปฏฺานํ กโรนฺติ.
๑๑๗๙. สพฺพาภรณสฺฉนฺนาติ ¶ สพฺเพหิ อิตฺถาลงฺกาเรหิ ปฏิจฺฉาทิตา, สพฺพโส วิภูสิตสรีราติ อตฺโถ. วสวตฺตีวาติ วสวตฺติเทวราชา วิย.
๑๑๘๐. เภริสงฺขมุทิงฺคาหีติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ, เภรีหิ จ สงฺเขหิ จ มุทิงฺเคหิ จาติ โยชนา. รติสมฺปนฺโนติ ทิพฺพาย รติยา สมงฺคีภูโต. นจฺจคีเต สุวาทิเตติ นจฺเจ จ คีเต จ สุนฺทเร วาทิเต จ, นจฺจเน จ คายเน จ สุนฺทเร วาทิเต จ เหตุภูเต. นิมิตฺตตฺเถ หิ เอตํ ภุมฺมํ, ปวตฺติเตติ วา วจนเสโส.
๑๑๘๑. ทิพฺพา เต วิวิธา รูปาติ เทวโลกปริยาปนฺนา นานปฺปการา จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา ตุยฺหํ อธิปฺเปตา ยถาธิปฺเปตา มโนรมา ¶ วิชฺชนฺตีติ กิริยาปทํ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. ทิพฺพา สทฺทาติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
๑๑๘๕. กณฺฑโก สหโช อหนฺติ เอตฺถ อหนฺติ นิปาตมตฺตํ. ‘‘อหู’’ติ เกจิ ปฏฺนฺติ, กณฺฑโก นาม อสฺสราชา มหาสตฺเตน สห เอกสฺมึเยว ทิวเส ชาตตฺตา สหโช อโหสินฺติ อตฺโถ.
๑๑๘๖. อฑฺฒรตฺตายนฺติ อฑฺฒรตฺติยํ, มชฺฌิมยามสมเยติ อตฺโถ. โพธาย มภินิกฺขมีติ ม-กาโร ปทสนฺธิกโร, อภิสมฺโพธิอตฺถํ มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมีติ อตฺโถ. มุทูหิ ปาณีหีติ มุทุหตฺถตํ มหาปุริสลกฺขณํ วทติ. ชาลิตมฺพนเขหีติ ชาลวนฺเตหิ อภิโลหิตนเขหิ. เตน ชาลหตฺถตํ มหาปุริสลกฺขณํ ตมฺพนขตํ อนุพฺยฺชนฺจ ทสฺเสติ.
๑๑๘๗. สตฺถิ นาม ชงฺฆา, อิธ ปน สตฺถิโน อาสนฺนฏฺานภูโต ¶ อูรุปฺปเทโส ‘‘สตฺถี’’ติ วุตฺโต. อาโกฏยิตฺวานาติ อปฺโปเตฺวา. ‘‘วห สมฺมา’’ติ จพฺรวีติ ‘‘สมฺม กณฺฑก, อชฺเชกรตฺตึ มํ วห, มยฺหํ โอปวุยฺหํ โหหี’’ติ จ กเถสิ. วหเน ปน ปโยชนํ ตทา มหาสตฺเตน ทสฺสิตํ วทนฺโต ‘‘อหํ โลกํ ตารยิสฺสํ, ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตม’’นฺติ อาห. เตน ‘‘อหํ อุตฺตมํ อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ ปตฺโต อธิคโต หุตฺวา สเทวกํ โลกํ สํสารมโหฆโต ตารยิสฺสามิ, ตสฺมา นยิทํ คมนํ ยํกิฺจีติ จินฺเตยฺยาสี’’ติ คมเน ปโยชนสฺส อนุตฺตรภาวํ ทสฺเสติ.
๑๑๘๘-๙. หาโสติ ตุฏฺิ. วิปุโลติ มหาอุฬาโร. อภิสีสินฺติ อาสิสึ อิจฺฉึ สมฺปฏิจฺฉึ ¶ . อภิรูฬฺหฺจ มํ ตฺวา, สกฺยปุตฺตํ มหายสนฺติ ปตฺถฏวิปุลยสํ สกฺยราชปุตฺตํ มหาสตฺตํ มํ อภิรุยฺห นิสินฺนํ ชานิตฺวา. วหิสฺสนฺติ เนสึ.
๑๑๙๐-๙๑. ปเรสนฺติ ปรราชูนํ. วิชิตนฺติ เทสํ ปรรชฺชํ. โอหายาติ วิสฺสชฺชิตฺวา. อปกฺกมีติ อปกฺกมิตุํ อารภิ. ‘‘ปริพฺพชี’’ติ จ ปนฺติ. ปริเลหิสนฺติ ปริโต เลหึ. อุทิกฺขิสนฺติ โอโลเกสึ.
๑๑๙๒-๓. ครุกาพาธนฺติ ¶ ครุกํ พาฬฺหํ อาพาธํ, มรณนฺติกํ ทุกฺขนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ขิปฺปํ เม มรณํ อหู’’ติ. โส หิ อเนกาสุ ชาตีสุ มหาสตฺเตน ทฬฺหภตฺติโก หุตฺวา อาคโต, ตสฺมา วิโยคทุกฺขํ สหิตุํ นาสกฺขิ, ‘‘สมฺมาสมฺโพธึ อธิคนฺตุํ นิกฺขนฺโต’’ติ ปน สุตฺวา นิรามิสํ อุฬารํ ปีติโสมนสฺสฺจ อุปฺปชฺชิ, เตน มรณานนฺตรํ ตาวตึเสสุ นิพฺพตฺติ, อุฬารา จสฺส ทิพฺพสมฺปตฺติโย ปาตุรเหสุํ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตสฺเสว อานุภาเวนา’’ติ, านคตสฺส ปสาทมยปฺุสฺส พเลน. เทโว เทวปุรมฺหิวาติ ตาวตึสภวเน สกฺโก เทวราชา วิย.
๑๑๙๔. ยฺจ ¶ เม อหุวา หาโส, สทฺทํ สุตฺวาน โพธิยาติ ‘‘ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตม’’นฺติ ปมตรํ โพธิสทฺทํ สุตฺวา ตทา มยฺหํ หาโส อหุ, ยํ หาสสฺส ภวนํ สุสฺสนํ, เตเนว กุสลมูเลน เตเนว กุสลพีเชน ผุสิสฺสนฺติ ผุสิสฺสามิ ปาปุณิสฺสามิ.
๑๑๙๕. เอวํ เทวปุตฺโต ยถาธิคตาย อนาคตาย ภวสมฺปตฺติยา การณภูตํ อตฺตโน กุสลกมฺมํ กเถนฺโต อิทานิ อตฺตนา ภควโต สนฺติกํ คนฺตุกาโมปิ ปุเรตรํ เถเรน สตฺถุ วนฺทนํ เปเสนฺโต ‘‘สเจ’’ติ คาถมาห. ตตฺถ สเจ คจฺเฉยฺยาสีติ ยทิ คมิสฺสสิ. ‘‘สเจ คจฺฉสี’’ติ เกจิ ปนฺติ, โส เอวตฺโถ. มมาปิ นํ วจเนนาติ น เกวลํ ตว สภาเวเนว, อถ โข มมาปิ วจเนน ภควนฺตํ. วชฺชาสีติ วเทยฺยาสิ, มมาปิ สิรสา วนฺทนนฺติ โยชนา.
๑๑๙๖. ยทิปิ ทานิ วนฺทนฺจ เปเสมิ, เปเสตฺวา เอว ปน น ติฏฺามีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อหมฺปิ ทฏฺุํ คจฺฉิสฺสํ, ชินํ อปฺปฏิปุคฺคล’’นฺติ. คมเน ปน ทฬฺหตรํ การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทุลฺลภํ ทสฺสนํ โหติ, โลกนาถาน ตาทิน’’นฺติ อาห.
‘‘โส ¶ กตฺู กตเวที, สตฺถารํ อุปสงฺกมิ;
สุตฺวา คิรํ จกฺขุมโต, ธมฺมจกฺขุํ วิโสธยิ.
‘‘วิโสเธตฺวา ทิฏฺิคตํ, วิจิกิจฺฉํ วตานิ จ;
วนฺทิตฺวา สตฺถุโน ปาเท, ตตฺเถวนฺตรธายถา’’ติ. –
อิมา ทฺเว คาถา สงฺคีติกาเรหิ ปิตา.
๑๑๙๗. ตตฺถ ¶ สุตฺวา คิรํ จกฺขุมโตติ ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วจนํ สุตฺวา. ธมฺมจกฺขุนฺติ โสตาปตฺติมคฺคํ. วิโสธยีติ อธิคจฺฉิ. อธิคโมเยว หิ ตสฺส วิโสธนํ.
๑๑๙๘. วิโสเธตฺวา ทิฏฺิคตนฺติ ทิฏฺิคตํ สมุคฺฆาเตตฺวา. วิจิกิจฺฉํ วตานิ จาติ โสฬสวตฺถุกํ อฏฺวตฺถุกฺจ วิจิกิจฺฉฺจ ‘‘สีลพฺพเตหิ สุทฺธี’’ติ ปวตฺตนกสีลพฺพตปรามาเส ¶ จ วิโสธยีติ โยชนา. ตตฺถ หิ สห ปริยาเยหิ ตถา ปวตฺตา ปรามาสา ‘‘วตานี’’ติ วุตฺตํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
กณฺฑกวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อเนกวณฺณวิมานวณฺณนา
อเนกวณฺณํ ทรโสกนาสนนฺติ อเนกวณฺณวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน. เตน สมเยน อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เหฏฺา วุตฺตนเยน เทวจาริกํ จรนฺโต ตาวตึสภวนํ อคมาสิ. อถ นํ อเนกวณฺโณ เทวปุตฺโต ทิสฺวา สฺชาตคารวพหุมาโน อุปสงฺกมิตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห อฏฺาสิ. เถโร –
‘‘อเนกวณฺณํ ทรโสกนาสนํ, วิมานมารุยฺห อเนกจิตฺตํ;
ปริวาริโต อจฺฉราสงฺคเณน, สุนิมฺมิโต ภูตปตีว โมทสิ.
‘‘สมสฺสโม ¶ นตฺถิ กุโต ปนุตฺตโร, ยเสน ปฺุเน จ อิทฺธิยา จ;
สพฺเพ จ เทวา ติทสคณา สเมจฺจ, ตํ ตํ นมสฺสนฺติ สสึว เทวา;
อิมา จ เต อจฺฉราโย สมนฺตโต, นจฺจนฺติ คายนฺติ ปโมทยนฺติ.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ ¶ มหานุภาโว,
มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว,
วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ. –
อธิคตสมฺปตฺติกิตฺตนมุเขน กตกมฺมํ ปุจฺฉิ. ตํ ทสฺเสตุํ –
๑๒๐๒. ‘‘โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป…ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผล’’นฺติ. –
วุตฺตํ ¶ . โสปิ –
‘‘อหํ ภทนฺเต อหุวาสิ ปุพฺเพ, สุเมธนามสฺส ชินสฺส สาวโก;
ปุถุชฺชโน อนนุโพโธหมสฺมิ, โส สตฺต วสฺสานิ ปริพฺพชิสฺสหํ.
‘‘โสหํ สุเมธสฺส ชินสฺส สตฺถุโน, ปรินิพฺพุตสฺโสฆติณฺณสฺส ตาทิโน;
รตนุจฺจยํ เหมชาเลน ฉนฺนํ, วนฺทิตฺวา ถูปสฺมึ มนํ ปสาทยึ.
‘‘น มาสิ ทานํ น จ มตฺถิ ทาตุํ, ปเร จ โข ตตฺถ สมาทเปสึ;
ปูเชถ นํ ปูชนียสฺส ธาตุํ, เอวํ กิร สคฺคมิโต คมิสฺสถ.
‘‘ตเทว กมฺมํ กุสลํ กตํ มยา,
สุขฺจ ทิพฺพํ อนุโภมิ อตฺตนา;
โมทามหํ ติทสคณสฺส มชฺเฌ,
น ตสฺส ปฺุสฺส ขยมฺปิ อชฺฌค’’นฺติ. – กเถสิ;
อิโต กิร ตึสกปฺปสหสฺเส สุเมโธ นาม สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา สเทวกํ โลกํ ¶ เอโกภาสํ กตฺวา กตพุทฺธกิจฺโจ ปรินิพฺพุโต, มนุสฺเสหิ จ ภควโต ธาตุํ คเหตฺวา รตนเจติเย กเต อฺตโร ปุริโส สตฺถุ สาสเน ปพฺพชิตฺวา สตฺต วสฺสานิ พฺรหฺมจริยํ ¶ จริตฺวา อนวฏฺิตจิตฺตตาย กุกฺกุจฺจโก หุตฺวา อุปฺปพฺพชิ. อุปฺปพฺพชิโต จ สํเวคพหุลตาย ธมฺมจฺฉนฺทวนฺตตาย จ เจติยงฺคเณ สมฺมชฺชนปริภณฺฑาทีนิ กโรนฺโต นิจฺจสีลอุโปสถสีลานิ รกฺขนฺโต ธมฺมํ สุณนฺโต อฺเ จ ปฺุกิริยาย สมาทเปนฺโต วิจริ. โส อายุปริโยสาเน กาลกโต ตาวตึเสสุ นิพฺพตฺติ. โส ปฺุกมฺมสฺส อุฬารภาเวน มเหสกฺโข ¶ มหานุภาโว สกฺกาทีหิ เทวตาหิ สกฺกตปูชิโต หุตฺวา ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา ตโต จุโต อปราปรํ เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสน ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺติ, ‘‘อเนกวณฺโณ’’ติ นํ เทวตา สฺชานึสุ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อถ นํ อเนกวณฺโณ เทวปุตฺโต…เป… น ตสฺส ปฺุสฺส ขยมฺปิ อชฺฌคนฺติ กเถสี’’ติ.
๑๑๙๙. ตตฺถ อเนกวณฺณนฺติ นีลปีตาทิวเสน วิวิธวณฺณตาย อนนฺตรวิมานาทีนํ วิวิธสณฺานตาย จ นานาวิธวณฺณํ. ทรโสกนาสนนฺติ สีตลภาเวน ทรถปริฬาหานํ วิโนทนโต มนฺุตาย ทสฺสนียตาย จ โสกสฺส อโนกาสโต ทรโสกนาสนํ. อเนกจิตฺตนฺติ นานาวิธจิตฺตรูปํ. สุนิมฺมิโต ภูตปตีวาติ ตาวตึสกายิโกปิ อุฬารทิพฺพโภคตาย สุนิมฺมิตเทวราชา วิย โมทสิ ตุสฺสสิ อภิรมสิ.
๑๒๐๐. สมสฺสโมติ สโม เอว หุตฺวา สโม, นิพฺพริยาเยน สทิโส เต ตุยฺหํ นตฺถิ, กุโต ปน เกน การเณน อุตฺตริ อธิโก โก นาม สิยา. เกน ปน สมตา อุตฺตริตรตา จาติ อาห ‘‘ยเสน ปฺุเน จ อิทฺธิยา จา’’ติ. ตตฺถ ยเสนาติ ปริวาเรน. อิทฺธิยาติ อานุภาเวน. ยเสนาติ วา อิสฺสริเยน, อิทฺธิยาติ เทวิทฺธิยา. ยเสนาติ วา วิภวสมฺปตฺติยา, อิทฺธิยาติ ยถิจฺฉิ ตสฺส กามคุณสฺส อิชฺฌเนน. ยเสนาติ วา กิตฺติโฆเสน, อิทฺธิยาติ สมิทฺธิยา. ปฺุเนาติ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตาวสิฏฺปฺุผเลน, ปฺุกมฺเมเนว วา.
‘‘สพฺเพ จ เทวา’’ติ สามฺโต คหิตมตฺถํ ‘‘ติทสคณา’’ติ อิมินา วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. เอกจฺจสฺส ปจฺเจกํ นิปจฺจการํ กโรนฺตาปิ ปมุทิตา น กโรนฺติ ¶ , น เอวเมตสฺส ¶ . เอตสฺส ปน ปมุทิตาปิ กโรนฺติเยวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สเมจฺจา’’ติ วุตฺตํ. ตํ ตนฺติ ตํ ตฺวํ. สสึว เทวาติ ยถา นาม สุกฺกปกฺขปาฏิปทิยํ ทิสฺสมานํ สสึ จนฺทํ มนุสฺสา เทวา จ อาทรชาตา นมสฺสนฺติ, เอวํ ตํ สพฺเพปิ ติทสคณา นมสฺสนฺตีติ อตฺโถ.
๑๒๐๓. ภทนฺเตติ ¶ เถรํ คารวพหุมาเนน สมุทาจรติ. อหุวาสินฺติ อโหสึ. ปุพฺเพติ ปุริมชาติยํ. สุเมธนามสฺส ชินสฺส สาวโกติ สุเมโธติ เอวํ ปากฏนามสฺส สมฺมาสมฺพุทฺทสฺส สาสเน ปพฺพชิตภาเวน สาวโก. ปุถูชฺชโนติ อนริโย. ตตฺถาปิ สจฺจานํ อนุโพธมตฺตสฺสาปิ อภาเวน อนนุโพโธ. โส สตฺต วสฺสานิ ปริพฺพชิสฺสหนฺติ โส อหํ สตฺต สํวจฺฉรานิ ปพฺพชฺชาคุณมตฺเตน วิจรึ, อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ นาธิคจฺฉินฺติ อธิปฺปาโย.
๑๒๐๔. รตนุจฺจยนฺติ มณิกนกาทิรตเนหิ อุจฺจิตํ อุสฺสิตรตนเจติยํ. เหมชาเลน ฉนฺนนฺติ สมนฺตโต อุปริ จ กฺจนชาเลน ปฏิจฺฉาทิตํ. วนฺทิตฺวาติ ปฺจปติฏฺิเตน ตตฺถ ตตฺถ ปณามํ กตฺวา. ถูปสฺมึ มนํ ปสาทยินฺติ ‘‘สพฺพฺุคุณาธิฏฺานาย วต ธาตุยา อยํ ถูโป’’ติ ถูปสฺมึ จิตฺตํ ปสาเทสึ.
๑๒๐๕. น มาสิ ทานนฺติ เม มยา กตํ ทานํ นาสิ นาโหสิ. กสฺมา ปน? น จ เมตฺถิ ทาตุนฺติ เม มม ปริคฺคหภูตํ ทานํ ทาตุํ น อตฺถิ, น กิฺจิ เทยฺยวตฺถุ วิชฺชติ, ปเร จ โข สตฺเต ตตฺถ ทาเน สมาทเปสึ. ‘‘ปเรสฺจ ตตฺถ สมาทเปสิ’’นฺติ จ ปนฺติ, ตตฺถ ปเรสนฺติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ ทฏฺพฺพํ ¶ . ปูเชถ นนฺติอาทิ สมาทปนาการทสฺสนํ, ตํ ธาตุนฺติ โยชนา. เอวํ กิราติ กิร-สทฺโท อนุสฺสวตฺโถ.
๑๒๐๖. น ตสฺส ปฺุสฺส ขยมฺปิ อชฺฌคนฺติ ตสฺส ตทา สุเมธํ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส กตสฺส ปฺุกมฺมสฺส ปริกฺขยํ นาธิคจฺฉึ, ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสสํ ปจฺจนุโภมีติ ทสฺเสติ. ยํ ปเนตฺถ น วุตฺตํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา สุวิฺเยฺยเมวาติ ทฏฺพฺพํ.
อเนกวณฺณวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. มฏฺกุณฺฑลีวิมานวณฺณนา
อลงฺกโต ¶ มฏฺกุณฺฑลีติ มฏฺกุณฺฑลีวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน. เตน สมเยน สาวตฺถิวาสี เอโก พฺราหฺมโณ อทฺโธ มหทฺธโน มหาโภโค อสฺสทฺโธ อปฺปสนฺโน มิจฺฉาทิฏฺิโก กสฺสจิ กิฺจิ น เทติ, อทานโต เอว ‘‘อทินฺนปุพฺพโก’’ติ ปฺายิตฺถ. โส มิจฺฉาทิฏฺิภาเวน จ ลุทฺธภาเวน จ ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา ทฏฺุมฺปิ น อิจฺฉติ. มฏฺกุณฺฑลํ นาม อตฺตโน ปุตฺตฺจ สิกฺขาเปสิ ‘‘ตาต ¶ , ตยา สมโณ โคตโม ตสฺส สาวกา จ น อุปสงฺกมิตพฺพา น ทฏฺพฺพา’’ติ. โสปิ ตถา อกาสิ. อถสฺส ปุตฺโต คิลาโน อโหสิ, พฺราหฺมโณ ธนกฺขยภเยน เภสชฺชํ น กาเรสิ, โรเค ปน วฑฺฒิเตว เวชฺเช ปกฺโกสิตฺวา ทสฺเสสิ. เวชฺชา ตสฺส สรีรํ โอโลเกตฺวา ‘‘อเตกิจฺโฉ’’ติ ตํ ตฺวา อปกฺกมึสุ. พฺราหฺมโณ ‘‘ปุตฺเต อพฺภนฺตเร มเต นีหรณํ ทุกฺข’’นฺติ ปุตฺตํ พหิทฺวารโกฏฺเก นิปชฺชาเปสิ.
ภควา รตฺติยา ปจฺจูสสมเย มหากรุณาสมาปตฺติโต วุฏฺาย โลกํ โวโลเกนฺโต อทฺทส ¶ มฏฺกุณฺฑลีมาณวํ ขีณายุกํ ตทเหว จวนธมฺมํ, นิรยสํวตฺตนิกฺจสฺส กมฺมํ กโตกาสํ. ‘‘สเจ ปนาหํ ตตฺถ คมิสฺสามิ, โส มยิ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา ปิตรํ อาฬาหเน โรทมานํ อุปคนฺตฺวา สํเวเชสฺสติ, เอวํ โส จ ตสฺส ปิตา จ มม สนฺติกํ อาคมิสฺสติ, มหาชนกาโย สนฺนิปติสฺสติ ตตฺถ มยา ธมฺเม เทสิเต มหาธมฺมาภิสมโย ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ ปน ตฺวา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิฏฺโ มฏฺกุณฺฑลีมาณวสฺส ปิตุ เคหสมีเป ตฺวา ฉพฺพณฺณพุทฺธรํสิโย วิสฺสชฺเชสิ. ตา ทิสฺวา มาณโว ‘‘กิเมต’’นฺติ อิโต จิโต จ วิโลเกนฺโต อทฺทส ภควนฺตํ ทนฺตํ คุตฺตํ สนฺตินฺทฺริยํ ทฺวตฺตึสาย มหาปุริสลกฺขเณหิ อสีติยา อนุพฺยฺชเนหิ พฺยามปฺปภาย เกตุมาลาย จ วิชฺโชตมานํ อนุปมาย พุทฺธสิริยา อจินฺเตยฺเยน พุทฺธานุภาเวน วิโรจมานํ. ทิสฺวา ตสฺส เอตทโหสิ ‘‘พุทฺโธ นุ โข ภควา อิธานุปฺปตฺโต, ยสฺสายํ รูปสมฺปทา อตฺตโน เตชสา สูริยมฺปิ อภิภวติ, กนฺตภาเวน จนฺทิมํ, อุปสนฺตภาเวน ¶ สพฺเพปิ สมณพฺราหฺมเณ, อุปสเมน นาม เอตฺเถว ภวิตพฺพํ, อยเมว จ มฺเ อิมสฺมึ โลเก อคฺคปุคฺคโล, มเมว จ อนุกมฺปาย อิธานุปฺปตฺโต’’ติ พุทฺธารมฺมณาย ปีติยา นิรนฺตรํ ผุฏสรีโร อนปฺปกํ ปีติโสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทนฺโต ปสนฺนจิตฺโต อฺชลึ ปคฺคยฺห นิปชฺชิ. ตํ ทิสฺวา ภควา ‘‘อลํ อิมสฺส เอตฺตเกน สคฺคูปปตฺติยา’’ติ ปกฺกามิ.
โสปิ ตํ ปีติโสมนสฺสํ อวิชหนฺโตว กาลํ กตฺวา ตาวตึเสสุ ทฺวาทสโยชนิเก วิมาเน นิพฺพตฺติ. ปิตา ปนสฺส สรีรสกฺการํ กริตฺวา ทุติยทิวเส ปจฺจูสเวลายํ อาฬาหนํ คนฺตฺวา ‘‘หา หา มฏฺกุณฺฑลิ, หา หา มฏฺกุณฺฑลี’’ติ ปริเทวมาโน อาฬาหนํ อนุปริกฺกมนฺโต โรทติ. เทวปุตฺโต อตฺตโน ¶ วิภวสมฺปตฺตึ โอโลเกตฺวา ‘‘กุโต นุ โข อหํ อิธาคโต กิฺจ กมฺมํ กตฺวา’’ติ อุปธาเรนฺโต อตฺตโน ปุริมตฺตภาวํ ตฺวา ตตฺถ จ มรณกาเล ภควติ ปวตฺติตํ จิตฺตปฺปสาทํ มโนหรํ อฺชลิกรณมตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อโห มหานุภาวา พุทฺธา ภควนฺโต’’ติ สาติสยํ ตถาคเต สฺชาตปฺปสาทพหุมาโน ‘‘อทินฺนปุพฺพกพฺราหฺมโณ นุ โข กึ กโรตี’’ติ ¶ อุปธาเรนฺโต อาฬาหเน โรทมานํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มยฺหํ ปุพฺเพ เภสชฺชมตฺตมฺปิ อกตฺวา อิทานิ นิรตฺถกํ อาฬาหเน โรทติ, หนฺท นํ สํเวเชตฺวา กุสเล ปติฏฺาเปสฺสามี’’ติ เทวโลกโต อาคนฺตฺวา มฏฺกุณฺฑลีรูเปน โรทมาโน ‘‘หา หา จนฺท, หา หา สูริยา’’ติ พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺโต ปิตุ สมีเป อฏฺาสิ. อถ นํ พฺราหฺมโณ ‘‘อยํ มฏฺกุณฺฑลี อาคโต’’ติ จินฺเตตฺวา คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘อลงฺกโต มฏฺกุณฺฑลี, มาลธารี หริจนฺทนุสฺสโท;
พาหา ปคฺคยฺห กนฺทสิ, วนมชฺเฌ กึ ทุกฺขิโต ตุว’’นฺติ.
ตตฺถ อลงฺกโตติ วิภูสิโต. มฏฺกุณฺฑลีติ สรีรปฺปเทสสฺส อฆํสนตฺถํ มาลาลตาทโย อทสฺเสตฺวา มฏฺากาเรเนว กตกุณฺฑโล. อถ วา มฏฺกุณฺฑลีติ วิสุทฺธกุณฺฑโล, ตาเปตฺวา ชาติหิงฺคุลิกาย มชฺชิตฺวา โธวิตฺวา สูกรโลเมน มชฺชิตกุณฺฑโลติ อตฺโถ ¶ . มาลธารีติ มาลํ ธาเรนฺโต, ปิฬนฺธิตมาโลติ อตฺโถ. หริจนฺทนุสฺสโทติ รตฺตจนฺทเนน สพฺพโส อนุลิตฺตคตฺโต. กินฺติ ปุจฺฉาวจนํ. ทุกฺขิโตติ ทุกฺขปฺปตฺโต. กึทุกฺขิโตติ วา เอกเมว ปทํ, เกน ทุกฺเขน ทุกฺขิโตติ อตฺโถ.
อถ นํ เทวปุตฺโต อาห –
‘‘โสวณฺณมโย ปภสฺสโร, อุปฺปนฺโน รถปฺชโร มม;
ตสฺส ¶ จกฺกยุคํ น วินฺทามิ, เตน ทุกฺเขน ชหามิ ชีวิต’’นฺติ.
อถ นํ พฺราหฺมโณ อาห –
‘‘โสวณฺณมยํ มณิมยํ, โลหิตกมยํ อถ รูปิยมยํ;
อาจิกฺข เม ภทฺทมาณว, จกฺกยุคํ ปฏิปาทยามิ เต’’ติ.
ตํ สุตฺวา มาณโว ‘‘อยํ ปุตฺตสฺส เภสชฺชํ อกตฺวา ปุตฺตปติรูปกํ มํ ทิสฺวา โรทนฺโต ‘สุวณฺณาทิมยํ รถจกฺกํ กโรมี’ติ วทติ, โหตุ นิคฺคณฺหิสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘กีว มหนฺตํ เม จกฺกยุคํ กริสฺสสี’’ติ วตฺวา ‘‘ยาว มหนฺตํ อากงฺขสี’’ติ วุตฺเต ‘‘จนฺทิมสูริเยหิ เม อตฺโถ, เต เม เทหี’’ติ ยาจนฺโต –
‘‘โส ¶ มาณโว ตสฺส ปาวทิ, จนฺทสูริยา อุภเยตฺถ ทิสฺสเร;
โสวณฺณมโย รโถ มม, เตน จกฺกยุเคน โสภตี’’ติ.
อถ นํ พฺราหฺมโณ อาห –
‘‘พาโล โข ตฺวํ อสิ มาณว, โย ตฺวํ ปตฺถยเส อปตฺถิยํ;
มฺามิ ตุวํ มริสฺสสิ, น หิ ตฺวํ ลจฺฉสิ จนฺทสูริเย’’ติ.
อถ ¶ นํ มาณโว ‘‘กึ ปน ปฺายมานสฺสตฺถาย โรทนฺโต พาโล โหติ, อุทาหุ อปฺายมานสฺสา’’ติ วตฺวา –
‘‘คมนาคมนมฺปิ ทิสฺสติ, วณฺณธาตุ อุภยตฺถ วีถิยา;
เปโต กาลกโต น ทิสฺสติ, โก นิธ กนฺทตํ พาลฺยตโร’’ติ.
ตํ ¶ สุตฺวา พฺราหฺมโณ ‘‘ยุตฺตํ เอส วทตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา –
‘‘สจฺจํ โข วเทสิ มาณว, อหเมว กนฺทตํ พาลฺยตโร;
จนฺทํ วิย ทารโก รุทํ, เปตํ กาลกตาภิปตฺถยิ’’นฺติ. –
วตฺวา ตสฺส กถาย นิสฺโสโก หุตฺวา มาณวสฺส ถุตึ กโรนฺโต อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;
วารินา วิย โอสิฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.
‘‘อพฺพหี วต เม สลฺลํ, โสกํ หทยนิสฺสิตํ;
โย เม โสกปเรตสฺส, ปุตฺตโสกํ อปานุทิ.
‘‘สฺวาหํ อพฺพูฬฺหสลฺโลสฺมิ, สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต;
น โสจามิ น โรทามิ, ตว สุตฺวาน มาณวา’’ติ.
๑๒๐๘-๑๐. ตตฺถ ¶ รถปฺชโรติ รถูปตฺถํ. น วินฺทามีติ น ลภามิ. ภทฺทมาณวาติ อาลปนํ. ปฏิปาทยามีติ สมฺปาเทตฺวา ททามิ, มา จกฺกยุคาภาเวน ชีวิตํ ชหีติ อธิปฺปาโย. อุภเยตฺถ ทิสฺสเรติ อุโภปิ เอตฺถ จนฺทสูริยา อากาเส ทิสฺสนฺติ. ย-กาโร ปทสนฺธิกโร, อุภเย เอตฺถาติ วา ปทวิภาโค.
๑๒๑๒. คมนาคมนนฺติ ทิวเส ทิวเส โอคมนุคฺคมนวเสน จนฺทสูริยานํ คมนํ อาคมนฺจ ทิสฺสติ. ‘‘คมโนคมน’’นฺติปิ ปาฬิ, อุคฺคมนํ โอคมนฺจาติ ¶ อตฺโถ. วณฺณธาตูติ สีติภาววิสิฏฺา กนฺตภาวภาสุรา, อุณฺหภาววิสิฏฺา ติกฺขภาวภาสุรา จ วณฺณนิภา. อุภยตฺถาติ จนฺเท สูริเย จาติ ทฺวีสุปิ วณฺณธาตุ ทิสฺสตีติ โยเชตพฺพํ. วีถิยาติ ปวตฺตนวีถิยํ อากาเส, นาควีถิยาทิวีถิยํ วา. ‘‘อุภเยตฺถา’’ติปิ ปาโ, อุภเย เอตฺถาติ ปทวิสนฺธิ. พาลฺยตโรติ พาลตโร อติสเยน พาโล.
๑๒๑๓. อิมํ ¶ ปน กถํ สุตฺวา ‘‘อลพฺภนียวตฺถุํ วตาหํ ปตฺเถตฺวา เกวลํ โสกคฺคินา ฑยฺหามิ, กึ เม นิรตฺถเกน อนยพฺยสเนนา’’ติ ปฏิสงฺขาเน อฏฺาสิ. อถ เทวปุตฺโต มฏฺกุณฺฑลีรูปํ ปฏิสํหริตฺวา อตฺตโน ทิพฺพรูเปเนว อฏฺาสิ. พฺราหฺมโณ ปน ตํ อโนโลเกตฺวา มาณวโวหาเรเนว โวหรนฺโต ‘‘สจฺจํ โข วเทสิ มาณวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จนฺทํ วิย ทารโก รุทนฺติ จนฺทํ อภิปตฺถยํ รุทนฺโต ทารโก วิยาติ อตฺโถ. กาลกตาภิปตฺถยินฺติ กาลกตํ อภิปตฺถยึ. ‘‘อภิปตฺถย’’นฺติปิ ปาโ.
๑๒๑๔-๕. อาทิตฺตนฺติ โสกคฺคินา อาทิตฺตํ. นิพฺพาปเย ทรนฺติ นิพฺพาปยิ ทรถํ โสกปริฬาหํ. อพฺพหีติ อุทฺธริ.
อถ พฺราหฺมโณ โสกํ วิโนเทตฺวา อตฺตโน อุปเทสทายกํ ทิพฺพรูเปน ิตํ ทิสฺวา ‘‘โก นาม ตฺว’’นฺติ ปุจฺฉนฺโต –
‘‘เทวตา นุสิ คนฺธพฺโพ, อทุ สกฺโก ปุรินฺทโท;
โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุตฺโต, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ. –
อาห. โสปิ ตสฺส –
‘‘ยฺจ ¶ กนฺทสิ ยฺจ โรทสิ, ปุตฺตํ อาฬาหเน สยํ ทหิตฺวา;
สฺวาหํ กุสลํ กริตฺวา กมฺมํ, ติทสานํ สหพฺยตํ คโต’’ติ. –
อตฺตานํ ¶ กเถสิ. ตตฺถ ยฺจ กนฺทสิ ยฺจ โรทสีติ ยํ ตว ปุตฺตํ มฏฺกุณฺฑลึ อุทฺทิสฺส โรทสิ, อสฺสูนิ มฺุจสิ.
อถ นํ พฺราหฺมโณ อาห –
‘‘อปฺปํ ¶ วา พหุํ วา นาทฺทสาม, ทานํ ททนฺตสฺส สเก อคาเร;
อุโปสถกมฺมํ วา ตาทิสํ, เกน กมฺเมน คโตสิ เทวโลก’’นฺติ.
ตตฺถ ‘‘อุโปสถกมฺมํ วา ตาทิสํ นาทฺทสามา’’ติ โยชนา.
อถ นํ มาณโว อาห –
‘‘อาพาธิโกหํ ทุกฺขิโต คิลาโน, อาตุรรูโปมฺหิ สเก นิเวสเน;
พุทฺธํ วิคตรชํ วิติณฺณกงฺขํ, อทฺทกฺขึ สุคตํ อโนมปฺํ.
‘‘สฺวาหํ มุทิตมโน ปสนฺนจิตฺโต, อฺชลึ อกรึ ตถาคตสฺส;
ตาหํ กุสลํ กริตฺวาน กมฺมํ, ติทสานํ สหพฺยตํ คโต’’ติ.
๑๒๒๐-๒๑. ตตฺถ อาพาธิโกติ อาพาธสมงฺคี. ทุกฺขิโตติ เตเนว อาพาธิกภาเวน ชาตทุกฺโข. คิลาโนติ คิลายมาโนติ อตฺโถ. อาตุรรูโปติ ทุกฺขเวทนาภิตุนฺนกาโย. วิคตรชนฺติ วิคตราคาทิรชํ. วิติณฺณกงฺขนฺติ สพฺพโส สํสยานํ สมุจฺฉินฺนตฺตา ติณฺณวิจิกิจฺฉํ. อโนมปฺนฺติ ปริปุณฺณปฺํ, สพฺพฺุนฺติ อตฺโถ. อกรินฺติ อกาสึ. ตาหนฺติ ตํ อหํ.
เอวํ ตสฺมึ กเถนฺเตเยว พฺราหฺมณสฺส สกลสรีรํ ปีติยา ปริปูริ. โส ตํ ปีตึ ปเวเทนฺโต –
อฺชลิกมฺมสฺส อยมีทิโส วิปาโก;
อหมฺปิ ¶ มุทิตมโน ปสนฺนจิตฺโต,
อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ วชามี’’ติ. – อาห;
ตตฺถ อนภิณฺหปฺปวตฺติตาย อจฺฉรํ ปหริตุํ โยคฺคนฺติ อจฺฉริยํ, อภูตปุพฺพตาย อพฺภุตํ. อุภเยนปิ วิมฺหยาวหตํเยว ทสฺเสตฺวา ‘‘อหมฺปิ มุทิตมโน ปสนฺนจิตฺโต, อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ วชามี’’ติ อาห.
อถ นํ เทวปุตฺโต สรณคมเน สีลสมาทาเน จ นิโยเชนฺโต –
‘‘อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ วชาหิ, ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ ปสนฺนจิตฺโต;
ตเถว สิกฺขาย ปทานิ ปฺจ, อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยสฺสุ.
‘‘ปาณาติปาตา วิรมสฺสุ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยสฺสุ;
อมชฺชโป มา จ มุสา ภณาหิ, สเกน ทาเรน จ โหหิ ตุฏฺโ’’ติ. –
คาถาทฺวยมาห.
๑๒๒๓. ตตฺถ ตเถวาติ ยถา ปสนฺนจิตฺโต ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา’’ติ พุทฺธํ สรณํ วเชสิ, ตเถว ‘‘สฺวากฺขาโต ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆ’’ติ ปสนฺนจิตฺโต ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ สรณํ วชาหิ. ยถา วา ปสนฺนจิตฺโต รตนตฺตยํ สรณํ วเชสิ, ตเถว ‘‘อยํ เอกํสโต ทิฏฺเว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจ หิตสุขาวโห’’ติ ปสนฺนจิตฺโต สิกฺขาย อธิสีลสิกฺขาย ปทานิ โกฏฺาสภูตานิ อธิจิตฺตอธิปฺาสิกฺขาย วา อุปายภูตานิ ปฺจสีลานิ อวิโกปนโต จ อสํกิลิสฺสนโต จ อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยสฺสุ, สมาทาย วตฺตสฺสูติ อตฺโถ.
เอวํ ¶ เทวปุตฺเตน สรณคมเน สีลสมาทาเน จ นิโยชิโต พฺราหฺมโณ ตสฺส วจนํ สิรสา สมฺปฏิจฺฉนฺโต –
‘‘อตฺถกาโมสิ ¶ ¶ เม ยกฺข, หิตกาโมสิ เทวเต;
กโรมิ ตุยฺหํ วจนํ, ตฺวํสิ อาจริโย มมา’’ติ. –
คาถํ วตฺวา ตตฺถ ปติฏฺหนฺโต –
‘‘อุเปมิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมฺจาปิ อนุตฺตรํ;
สงฺฆฺจ นรเทวสฺส, คจฺฉามิ สรณํ อหํ.
‘‘ปาณาติปาตา วิรมามิ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยามิ;
อมชฺชโป โน จ มุสา ภณามิ, สเกน ทาเรน จ โหมิ ตุฏฺโ’’ติ. –
คาถาทฺวยมาห. ตมฺปิ สุวิฺเยฺยเมว.
ตโต เทวปุตฺโต ‘‘กตํ มยา พฺราหฺมณสฺส กตฺตพฺพยุตฺตกํ, อิทานิ สยเมว ภควนฺตํ อุปสงฺกมิสฺสตี’’ติ ตตฺเถว อนฺตรธายิ. พฺราหฺมโณปิ โข ภควติ สฺชาตปสาทพหุมาโน เทวตาย จ โจทิยมาโน ‘‘สมณํ โคตมํ อุปสงฺกมิสฺสามี’’ติ วิหาราภิมุโข คจฺฉติ. ตํ ทิสฺวา มหาชโน ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ เอตฺตกํ กาลํ ตถาคตํ อนุปสงฺกมิตฺวา อชฺช ปุตฺตโสเกน อุปสงฺกมติ, กีทิสี นุ โข ธมฺมเทสนา ภวิสฺสตี’’ติ ตํ อนุพนฺธิ.
พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอวมาห ‘‘สกฺกา นุ โข โภ โคตม กิฺจิ ทานํ อทตฺวา สีลํ วา อรกฺขิตฺวา เกวลํ ตุมฺเหสุ ปสาทมตฺเตน สคฺเค นิพฺพตฺติตุ’’นฺติ. ‘‘นนุ, พฺราหฺมณ, อชฺช ปจฺจูสเวลายํ มฏฺกุณฺฑลินา เทวปุตฺเตน อตฺตโน เทวโลกูปปตฺติการณํ ตุยฺหํ กถิก’’นฺติ ภควา อโวจ. ตสฺมึ ขเณ มฏฺกุณฺฑลีเทวปุตฺโต สห วิมาเนน อาคนฺตฺวา ทิสฺสมานรูโป วิมานโต โอรุยฺห ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. อถ ภควา ตสฺสํ ปริสติ เตน เทวปุตฺเตน กตสุจริตํ กเถตฺวา ปริสาย จิตฺตกลฺลตํ ตฺวา สามุกฺกํสิกํ ธมฺมเทสนํ อกาสิ. เทสนาปริโยสาเน เทวปุตฺโต จ พฺราหฺมโณ จ สนฺนิปติตปริสา จาติ จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.
มฏฺกุณฺฑลีวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. เสรีสกวิมานวณฺณนา
สุโณถ ¶ ¶ ¶ ยกฺขสฺส จ วาณิชาน จาติ เสรีสกวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควติ ปรินิพฺพุเต อายสฺมา กุมารกสฺสโป ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ เสตพฺยนครํ สมฺปตฺโต. ตตฺถ ปายาสิราชฺํ อตฺตโน สนฺติกํ อุปคตํ วิปรีตคฺคาหโต วิเวเจตฺวา สมฺมาทสฺสเน ปติฏฺาเปสิ. โส ตโต ปฏฺาย ปฺุปสุโต หุตฺวา สมณพฺราหฺมณานํ ทานํ เทนฺโต ตตฺถ อกตปริจยตาย อสกฺกจฺจํ ทานํ ทตฺวา อปรภาเค กาลํ กตฺวา จาตุมหาราชิกภวเน สฺุเ เสรีสเก วิมาเน นิพฺพตฺติ.
อตีเต กิร กสฺสปสฺส ภควโต กาเล เอโก ขีณาสวตฺเถโร อฺตรสฺมึ คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา พหิคาเม เทวสิกํ เอกสฺมึ ปเทเส ภตฺตกิจฺจํ อกาสิ. ตํ ทิสฺวา เอโก โคปาลโก ‘‘อยฺโย สูริยาตเปน กิลมตี’’ติ ปสนฺนจิตฺโต จตูหิ สิรีสถมฺเภหิ สาขามณฺฑปํ กตฺวา อทาสิ, มณฺฑปสฺส สมีเป สิรีสรุกฺขํ โรเปสีติ จ วทนฺติ. โส กาลํ กตฺวา เตเนว ปฺุกมฺเมน จาตุมหาราชิเกสุ นิพฺพตฺติ, ตสฺส ปุริมกมฺมสฺส สูจกํ วิมานทฺวาเร สิรีสวนํ นิพฺพตฺติ วณฺณคนฺธสมฺปนฺเนหิ ปุปฺเผหิ สพฺพกาลํ อุปโสภมานํ, เตน ตํ วิมานํ ‘‘เสรีสก’’นฺติ ปฺายิตฺถ. โส จ เทวปุตฺโต เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทเวสุ เจว มนุสฺเสสุ จ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ยสตฺเถรสฺส จตูสุ วิมลาทีสุ คิหิสหาเยสุ ควมฺปติ นาม หุตฺวา ภควโต ธมฺมเทสนาย อรหตฺเต ปติฏฺิโต ปุพฺพาจิณฺณวเสน ตํ สฺุวิมานํ ทิสฺวา อภิณฺหํ ¶ ทิวาวิหารํ คจฺฉติ.
โส อปรภาเค ปายาสิเทวปุตฺตํ ตตฺถ ทิสฺวา ‘‘โกสิ ตฺวํ, อาวุโส’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เตน ‘‘อหํ, ภนฺเต, ปายาสิราชฺโ อิธูปปนฺโน’’ติ วุตฺเต ‘‘นนุ ตฺวํ มิจฺฉาทิฏฺิโก วิปรีตทสฺสโน กถมิธูปปนฺโน’’ติ อาห. อถ นํ ปายาสิเทวปุตฺโต ‘‘อยฺเยนมฺหิ กุมารกสฺสปตฺเถเรน มิจฺฉาทสฺสนโต วิเวจิโต, ปฺุกิริยานํ อสกฺกจฺจการิตาย ปน สฺุเ วิมาเน นิพฺพตฺโต. สาธุ, ภนฺเต, มนุสฺสโลกํ คตกาเล มม ปริชนสฺส อาโรเจถ ¶ ‘ปายาสิราชฺโ อสกฺกจฺจํ ทานํ ทตฺวา สฺุํ เสรีสกวิมานํ อุปปนฺโน, ตุมฺเห ปน สกฺกจฺจํ ปฺุานิ กตฺวา ตตฺรูปปตฺติยา จิตฺตํ ปณิทหถา’’ติ. เถโร ตสฺสานุกมฺปาย ตถา อกาสิ. เตปิ เถรสฺส วจนํ สุตฺวา ตถา จิตฺตํ ปณิธาย ปฺุานิ กตฺวา เสรีสเก วิมาเน นิพฺพตฺตึสุ. เสรีสกเทวปุตฺตํ ปน ¶ เวสฺสวณมหาราชา มรุภูมิยํ ฉายูทกรหิเต มคฺเค มคฺคปฏิปนฺนานํ มนุสฺสานํ อมนุสฺสปริปนฺถ โมจนตฺถํ มคฺครกฺขกํ เปสิ.
อถ อปเรน สมเยน องฺคมคธวาสิโน วาณิชา สกฏสหสฺสํ ภณฺฑสฺส ปูเรตฺวา สินฺธุโสวีรเทสํ คจฺฉนฺตา มรุกนฺตาเร ทิวา อุณฺหภเยน มคฺคํ อปฺปฏิปชฺชิตฺวา รตฺตึ นกฺขตฺตสฺาย มคฺคํ ปฏิปชฺชึสุ. เต มคฺคมูฬฺหา หุตฺวา อฺํ ทิสํ อคมํสุ. เตสํ อนฺตเร เอโก อุปาสโก อโหสิ สทฺโธ ปสนฺโน สีลสมฺปนฺโน อรหตฺตปฺปตฺติยา อุปนิสฺสยสมฺปนฺโน มาตาปิตูนํ อุปฏฺานตฺถํ วณิชฺชาย คโต. ตํ อนุคฺคณฺหนฺโต เสรีสกเทวปุตฺโต สห วิมาเนน อตฺตานํ ทสฺเสสิ. ทสฺเสตฺวา จ ปน ‘‘กสฺมา ตุมฺเห อิมํ ฉายูทกรหิตํ วาลุกากนฺตารํ ปฏิปนฺนา’’ติ ปุจฺฉิ. เต จสฺส ตตฺถ อตฺตโน อาคตปฺปการํ กเถสุํ, ตทตฺถทีปนา เทวปุตฺตสฺส วาณิชานฺจ วจนปฏิวจนคาถา โหนฺติ. อาทิโต ปน ทฺเว คาถา ตาสํ สมฺพนฺธทสฺสนตฺถํ ธมฺมสงฺคาหเกหิ ปิตา –
‘‘สุโณถ ¶ ยกฺขสฺส จ วาณิชาน จ, สมาคโม ยตฺถ ตทา อโหสิ;
ยถา กถํ อิตริตเรน จาปิ, สุภาสิตํ ตฺจ สุณาถ สพฺเพ.
‘‘โย โส อหุ ราชา ปายาสิ นาม, ภุมฺมานํ สหพฺยคโต ยสสฺสี;
โส โมทมาโนว สเก วิมาเน, อมานุโส มานุเส อชฺฌภาสี’’ติ.
๑๒๒๘-๙. ตตฺถ สุโณถาติ สวนาณตฺติกวจนํ. ยํ มยํ อิทานิ ภณาม, ตํ สุโณถาติ. ยกฺขสฺสาติ เทวสฺส. เทโว หิ มนุสฺสานํ เอกจฺจานํ ¶ เทวานฺจ ปูชนียภาวโต ‘‘ยกฺโข’’ติ วุจฺจติ. อปิจ สกฺโกปิ จตฺตาโร มหาราชาโนปิ เวสฺสวณปาริสชฺชาปิ ปุริโสปิ ‘‘ยกฺโข’’ติ วุจฺจติ. ตถา หิ ‘‘อติพาฬฺหํ โข อยํ ยกฺโข ปมตฺโต วิหรติ, ยํนูนาหํ อิมํ ยกฺขํ สํเวเชยฺย’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๙๓) สกฺโก ‘‘ยกฺโข’’ติ วุตฺโต. ‘‘จตฺตาโร ยกฺขา ขคฺคหตฺถา’’ติอาทีสุ มหาราชาโน. ‘‘สนฺติ หิ, ภนฺเต, อุฬารา ยกฺขา ภควโต อปฺปสนฺนา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๒๗๖) เวสฺสวณปาริสชฺชา. ‘‘เอตฺตาวตา ยกฺขสฺส สุทฺธี’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๔๘๒) ปุริโส. อิธ ปน เวสฺสวณปาริสชฺโช อธิปฺเปโต. วาณิชาน จาติ คาถาพนฺธสุขตฺถํ อนุนาสิกโลปํ กตฺวา วุตฺตํ. สมาคโมติ สโมธานํ. ยตฺถาติ ยสฺมึ วณฺณุปเถ. ตทาติ ตสฺมึ มคฺคมูฬฺหา หุตฺวา คมนกาเล. อิตริตเรน จาปีติ อิตรีตรฺจาปิ, อิทํ ยถาติ อิมินา โยเชตพฺพํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ ¶ – เสรีสกเทวปุตฺตสฺส วาณิชานฺจ ตทา ยตฺถ สมาคโม อโหสิ, ตํ สุโณถ, ยถา วาปิ เตหิ ¶ อฺมฺํ สุภาสิตํ สุลปิตํ กถํ ปวตฺติตํ, ตฺจ สพฺเพ โอหิตจิตฺตา สุณาถาติ. ภุมฺมานนฺติ ภุมฺมเทวานํ.
อิทานิ ยกฺขสฺส ปุจฺฉาคาถาโย โหนฺติ –
‘‘วงฺเก อรฺเ อมนุสฺสฏฺาเน, กนฺตาเร อปฺโปทเก อปฺปภกฺเข;
สุทุคฺคเม วณฺณุปถสฺส มชฺเฌ, วงฺกํภยา นฏฺมนา มนุสฺสา.
‘‘นยิธ ผลา มูลมยา จ สนฺติ, อุปาทานํ นตฺถิ กุโตธ ภกฺโข;
อฺตฺร ปํสูหิ จ วาลุกาหิ จ, ตตฺตาหิ อุณฺหาหิ จ ทารุณาหิ จ.
‘‘อุชฺชงฺคลํ ตตฺตมิวํ กปาลํ, อนายสํ ปรโลเกน ตุลฺยํ;
ลุทฺทานมาวาสมิทํ ปุราณํ, ภูมิปฺปเทโส อภิสตฺตรูโป.
‘‘อถ ¶ ตุมฺเห เกน วณฺเณน, กิมาสมานา อิมํ ปเทสฺหิ;
อนุปวิฏฺา สหสา สเมจฺจ, โลภา ภยา อถ วา สมฺปมูฬฺหา’’ติ.
๑๒๓๐. ตตฺถ วงฺเกติ สํสยฏฺาเน. ยตฺถ ปวิฏฺานํ ‘‘ชีวิสฺสาม นุ โข, มริสฺสาม นุ โข’’ติ ชีวิเต สํสโย โหติ, ตาทิเส อรฺเ. อมนุสฺสฏฺาเนติ อมนุสฺสานํ ปิสาจาทีนํ สฺจรณฏฺาเน, มนุสฺสานํ วา อโคจรฏฺาเน. กนฺตาเรติ นิรุทเก อิริเณ, กํ ตาเรนฺติ นยนฺติ เอตฺถาติ หิ กนฺตาโร, อุทกํ คเหตฺวา ตริตพฺพฏฺานํ. เตนาห ‘‘อปฺโปทเก’’ติ. อปฺป-สทฺโท เหตฺถ อภาวตฺโถ ‘‘อปฺปิจฺโฉ อปฺปนิคฺโฆโส’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๘.๒๓; จูฬว. ๔๕๖) วิย. วณฺณุปถสฺส มชฺเฌติ วาลุกากนฺตารมชฺเฌติ อตฺโถ. วงฺกํภยาติ วงฺเกหิ ภีตา. วงฺเกหิ ภยํ เอเตสนฺติ ¶ ‘‘วงฺกภยา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาสุขตฺถํ สานุนาสิกํ กตฺวา ‘‘วงฺกํภยา’’ติ วุตฺตํ. อิทฺจ วาลุกากนฺตารปเวสนโต ปุพฺเพ เตสํ อุปฺปนฺนภยํ สนฺธาย วุตฺตํ. นฏฺมนาติ มคฺคสติวิปฺปวาเสน นฏฺมานสา, มคฺคมูฬฺหาติ อตฺโถ. มนุสฺสาติ เตสํ อาลปนํ.
๑๒๓๑. อิธาติ อิมสฺมึ มรุกนฺตาเร. ผลาติ อมฺพชมฺพุตาลนาฬิเกราทิผลานิ น สนฺตีติ โยชนา. มูลมยา จาติ มูลานิเยว มูลมยา, วลฺลิกนฺทาทีนิ สนฺธาย วทติ. อุปาทานํ ¶ นตฺถีติ กิฺจาปิ กิฺจิ ภกฺขํ นตฺถิ, อุปาทานํ วา อินฺธนํ, อคฺคิสฺส อินฺธนมตฺตมฺปิ นตฺถิ, กุโต เกน การเณน อิธ มรุกนฺตาเร ภกฺโข สิยาติ อตฺโถ. ยํ ปน อตฺถิ ตตฺถ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อฺตฺร ปํสูหี’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๑๒๓๒. อุชฺชงฺคลนฺติ ชงฺคลํ วุจฺจติ ลูขธูสโร อนุทโก ภูมิปฺปเทโส, ตํ ปน านํ ชงฺคลโตปิ อุกฺกํเสน ชงฺคลนฺติ อาห ‘‘อุชฺชงฺคล’’นฺติ. เตนาห ‘‘ตตฺตมิวํ กปาล’’นฺติ, ตตฺตํ อโยกปาลสทิสนฺติ อตฺโถ. คาถาสุขตฺถฺเจตฺถ สานุนาสิกํ กตฺวา วุตฺตํ, ตตฺตมิวอิจฺเจว ทฏฺพฺพํ. อนายสนฺติ นตฺถิ เอตฺถ อาโย สุขนฺติ อนายํ, ตโต เอว ชีวิตํ สียติ ¶ วินาเสตีติ อนายสํ. อถ วา น อายสนฺติ อนายสํ. ปรโลเกนาติ นรเกน ตุลฺยํ. นรกฺหิ สตฺตานํ เอกนฺตานตฺถตาย ปรภูโต ปฏิสตฺตุภูโต โลโกติ วิเสสโต ‘‘ปรโลโก’’ติ วุจฺจติ, สมนฺตโต อโยมยตฺตา อายสฺจ, อิทํ ปน ตทภาวโต อนายสํ, มหโต ทุกฺขสฺส อุปฺปตฺติฏฺานตาย ปรโลกสทิสนฺติ ทสฺเสติ, ‘‘อนสฺสย’’นฺติ จ เกจิ ปนฺติ, สุขสฺส อปฺปติฏฺานภูตนฺติ อตฺโถ. ลุทฺทานมาวาสมิทํ ปุราณนฺติ อิทํ านํ จิรกาลโต ปฏฺาย ลุทฺทานํ ทารุณานํ ปิสาจาทีนํ อาวาสภูตํ. อภิสตฺตรูโปติ ‘‘เอวํ ลูโข ¶ โฆรากาโร โหตู’’ติ โปราเณหิ อิสีหิ สปิตสทิโส, ทินฺนสโป วิยาติ อตฺโถ.
๑๒๓๓. เกน วณฺเณนาติ เกน การเณน. กิมาสมานาติ กึ ปจฺจาสีสนฺตา. หีติ นิปาตมตฺตํ. ‘‘ปเทสมฺปี’’ติ จ ปนฺติ, อิมมฺปิ นาม ปเทสนฺติ อตฺโถ. สหสา สเมจฺจาติ สหสา อาทีนวานิสํเส อวิจาเรตฺวา สมวาเยน อนุปวิฏฺา สปฺปวิฏฺา. โลภา ภยา อถ วา เกนจิ อนตฺถกาเมน ปโลภิตา โลภโต เกนจิ อมนุสฺสาทินา ปริปาติตา ภยา วา. อถ วา สมฺปมูฬฺหาติ มคฺควิปฺปนฏฺา อิมํ ปเทสํ อนุปวิฏฺาติ โยชนา.
อิทานิ วาณิชา อาหํสุ –
‘‘มคเธสุ องฺเคสุ จ สตฺถวาหา, อาโรปยิตฺวา ปณิยํ ปุถุตฺตํ;
เต ยามเส สินฺธุโสวีรภูมึ, ธนตฺถิกา อุทฺทยํ ปตฺถยานา.
‘‘ทิวา ปิปาสํนธิวาสยนฺตา, โยคฺคานุกมฺปฺจ สเมกฺขมานา;
เอเตน เวเคน อายาม สพฺเพ, รตฺตึ มคฺคํ ปฏิปนฺนา วิกาเล.
‘‘เต ¶ ¶ ทุปฺปยาตา อปรทฺธมคฺคา, อนฺธากุลา วิปฺปนฏฺา อรฺเ;
สุทุคฺคเม วณฺณุปถสฺส มชฺเฌ, ทิสํ น ชานาม ปมูฬฺหจิตฺตา.
‘‘อิทฺจ ทิสฺวาน อทิฏฺปุพฺพํ, วิมานเสฏฺฺจ ตวฺจ ยกฺข;
ตตุตฺตรึ ชีวิตมาสมานา, ทิสฺวา ปตีตา สุมนา อุทคฺคา’’ติ.
๑๒๓๔. ตตฺถ ¶ มคเธสุ องฺเคสุ จ สตฺถวาหาติ มคธรฏฺเ จ องฺครฏฺเ จ ชาตา สํวฑฺฒา ตํนิวาสิโน สตฺเถ สตฺถสฺส จ วาหนกา สตฺถกา เจว สตฺถสามิกา จ. ปณิยนฺติ ภณฺฑํ. เตติ เต มยํ. ยามเสติ คจฺฉาม. สินฺธุโสวีรภูมินฺติ สินฺธุเทสํ โสวีรเทสฺจ. อุทฺทยนฺติ อานิสํสํ อติเรกลาภํ.
๑๒๓๕. อนธิวาสยนฺตาติ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺตา. โยคฺคานุกมฺปนฺติ โคณาทีนํ สตฺตานํ อนุคฺคหํ. เอเตน เวเคนาติ อิมินา ชเวน, เยน ตว ทสฺสนโต ปุพฺเพ อายาม อาคตมฺห. รตฺตึ มคฺคํ ปฏิปนฺนาติ รตฺติยํ มคฺคํ ปฏิปนฺนา. วิกาเลติ อกาเล อเวลายํ.
๑๒๓๖. ทุปฺปยาตาติ ทุฏฺุ ปยาตา อปเถ คตา, ตโต เอว อปรทฺธมคฺคา. อนฺธากุลาติ อนฺธา วิย อากุลา, มคฺคชานนสมตฺถสฺส ปฺาจกฺขุโน อภาเวน อนฺธา, ตโต เอว อากุลา, วิปฺปนฏฺา จ มคฺคสมฺมูฬฺหตาย. ทิสนฺติ คนฺตพฺพทิสํ, ยสฺสํ ทิสายํ สินฺธุโสวีรเทโส, ตํ ทิสํ. ปมูฬฺหจิตฺตาติ ทิสาสํสยสุมูฬฺหจิตฺตา.
๑๒๓๗. ตวฺจาติ ตุวฺจ. ยกฺขาติ อาลปนํ. ตตุตฺตรึ ชีวิตมาสมานาติ โย ‘‘อิโต ปรํ อมฺหากํ ชีวิตํ นตฺถี’’ติ ชีวิตสํสโย อุปฺปนฺโน, อิทานิ ตโต อุตฺตริมฺปิ ชีวิตํ อาสีสนฺตา. ทิสฺวาติ ทสฺสนเหตุ. ปตีตาติ ปหฏฺา. สุมนาติ โสมนสฺสปฺปตฺตา. อุทคฺคาติ อุทคฺคาย ปีติยา อุทคฺคจิตฺตา.
เอวํ ¶ วาณิเชหิ อตฺตโน ปวตฺติยา ปกาสิตาย ปุน เทวปุตฺโต ทฺวีหิ คาถาหิ ปุจฺฉิ –
‘‘ปารํ สมุทฺทสฺส อิมฺจ วณฺณุํ, เวตฺตาจรํ สงฺกุปถฺจ มคฺคํ;
นทิโย ¶ ปน ปพฺพตานฺจ ทุคฺคา, ปุถุทฺทิสา คจฺฉถ โภคเหตุ.
‘‘ปกฺขนฺทิยาน ¶ วิชิตํ ปเรสํ, เวรชฺชเก มานุเส เปกฺขมานา;
ยํ โว สุตํ วา อถ วาปิ ทิฏฺํ, อจฺเฉรกํ ตํ โว สุโณม ตาตา’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – ปารํ สมุทฺทสฺสาติ สมุทฺทสฺส ปรตีรํ, อิมฺจ อีทิสํ, วณฺณุํ วณฺณุปถํ เวตฺตลตา พนฺธิตฺวา อาจริตพฺพโต เวตฺตาจรํ มคฺคํ, สงฺกุเก ขาณุเก โกฏฺเฏตฺวา คนฺตพฺพโต สงฺกุปถํ มคฺคํ, นทิโย ปน จนฺทภาคาทิกา, ปพฺพตานฺจ วิสมปฺปเทสาติ เอวํ ทุคฺคา ปุถุทฺทิสา โภคนิมิตฺตํ คจฺฉถ, เอวํ คจฺฉนฺตา จ ปกฺขนฺทิยาน ปกฺขนฺทิตฺวา อนุปวิสิตฺวา, ปเรสํ ราชูนํ วิชิตํ ตตฺถ เวรชฺชเก วิเทสวาสิเก มนุสฺเส เปกฺขมานา คจฺฉถ, เอวํภูเตหิ โว ตุมฺเหหิ ยํ สุตํ วา อถ วา ทิฏฺํ วา อจฺเฉรกํ อจฺฉริยํ, ตํ โว สนฺติเก ตาตา วาณิชา สุโณมาติ อตฺตโน วิมานสฺส อจฺฉริยภาวํ เตหิ กถาเปตุกาโม ปุจฺฉติ.
เอวํ เทวปุตฺเตน ปุฏฺา วาณิชา อาหํสุ –
‘‘อิโตปิ อจฺเฉรตรํ กุมาร, น โน สุตํ วา อถ วาปิ ทิฏฺํ;
อตีตมานุสกเมว สพฺพํ, ทิสฺวา น ตปฺปาม อโนมวณฺณํ.
‘‘เวหายสํ โปกฺขรฺโ สวนฺติ, ปหูตมลฺยา พหุปุณฺฑรีกา;
ทุมา จิเม นิจฺจผลูปปนฺนา, อตีว คนฺธา สุรภึ ปวายนฺติ.
‘‘เวฬูริยถมฺภา ¶ ¶ สตมุสฺสิตาเส, สิลาปวาฬสฺส จ อายตํสา;
มสารคลฺลา สหโลหิตงฺคา, ถมฺภา อิเม โชติรสามยาเส.
‘‘สหสฺสถมฺภํ อตุลานุภาวํ, เตสูปริ สาธุมิทํ วิมานํ;
รตนนฺตรํ กฺจนเวทิมิสฺสํ, ตปนียปฏฺเฏหิ จ สาธุฉนฺนํ.
‘‘ชมฺโพนทุตฺตตฺตมิทํ สุมฏฺโ, ปาสาทโสปานผลูปปนฺโน;
ทฬฺโห จ วคฺคุ จ สุสงฺคโต จ, อตีว นิชฺฌานขโม มนฺุโ.
‘‘รตนนฺตรสฺมึ พหุอนฺนปานํ, ปริวาริโต อจฺฉราสงฺคเณน;
มุรชอาลมฺพรตูริยฆุฏฺโ, อภิวนฺทิโตสิ ถุติวนฺทนาย.
‘‘โส ¶ โมทสิ นาริคณปฺปโพธโน, วิมานปาสาทวเร มโนรเม;
อจินฺติโย สพฺพคุณูปปนฺโน, ราชา ยถา เวสฺสวโณ นฬินฺยา.
‘‘เทโว นุ อาสิ อุทวาสิ ยกฺโข,
อุทาหุ เทวินฺโท มนุสฺสภูโต;
ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา,
อาจิกฺข โก นาม ตุวํสิ ยกฺโข’’ติ.
๑๒๔๐-๒. ตตฺถ ¶ กุมาราติ ปมวเย ิตตฺตา เทวปุตฺตํ อาลปติ. สพฺพนฺติ เทวปุตฺตํ ตสฺส วิมานปฏิพทฺธฺจ สนฺธาย วทติ. โปกฺขรฺโติ โปกฺขรณิโย. สตมุสฺสิตาเสติ สตรตนุพฺเพธา. สิลาปวาฬสฺสาติ สิลาย ปวาฬสฺส จ, สิลามยา ปวาฬมยาติ อตฺโถ. อายตํสาติ ทีฆํสา. อถ วา อายตา หุตฺวา อฏฺโสฬสทฺวตฺตึสาทิอํสวนฺโต.
๑๒๔๒. เตสูปรีติ ¶ เตสํ ถมฺภานํ อุปริ. สาธุมิทนฺติ สุนฺทรํ อิทํ ตว วิมานํ. รตนนฺตรนฺติ รตนนฺตรวนฺตํ, ภิตฺติถมฺภโสปานาทีสุ นานาวิเธหิ อฺเหิ รตเนหิ ยุตฺตํ. กฺจนเวทิมิสฺสนฺติ สุวณฺณมยาย เวทิกาย สหิตํ ปริกฺขิตฺตํ. ตปนียปฏฺเฏหิ จ สาธุฉนฺนนฺติ ตปนียมเยหิ อเนกรตนมเยหิ จ ฉทเนหิ ตตฺถ ตตฺถ สุฏฺุ ฉาทิตํ.
๑๒๔๔. ชมฺโพนทุตฺตตฺตมิทนฺติ อิทํ ตว วิมานํ เยภุยฺเยน อุตฺตตฺตชมฺพุนทภาสุรํ. สุมฏฺโ ปาสาทโสปานผลูปปนฺโนติ ตสฺส จ โส โส ปเทโส สุมฏฺโ สุฏฺุ มชฺชิโต, เตหิ เตหิ อนนฺตรปาสาเทหิ โสปานวิเสเสหิ รมณีเยหิ ผลเกหิ จ ยุตฺโต. ทฬฺโหติ ถิโร. วคฺคูติ อภิรูโป สมุคฺคโต. สุสงฺคโตติ สุฏฺุ สงฺคตาวยโว อฺมฺานุรูปปาสาทาวยโว. อตีว นิชฺฌานขโมติ ปภสฺสรภาเวปิ อติวิย โอโลกนกฺขโม. มนฺุโติ มโนรโม.
๑๒๔๕. รตนนฺตรสฺมินฺติ รตนมเย, รตนภูเต วา สารภูเต วิมานสฺส อพฺภนฺตเร. พหุอนฺนปานนฺติ เปสลํ ปหูตํ อนฺนฺจ ปานฺจ วิชฺชติ, อุปลพฺภตีติ อธิปฺปาโย. มุรชอาลมฺพรตูริยฆุฏฺโติ มุทิงฺคานํ อาลมฺพรานํ อวสิฏฺตูริยานฺจ สทฺเทหิ นิจฺจโฆสิโต. อภิวนฺทิโตสีติ นมสฺสิโต, โถมิโต วา อสิ. เตนาห ‘‘ถูติวนฺทนายา’’ติ.
๑๒๔๖. อจินฺติโยติ ¶ อจินฺเตยฺยานุภาโว. นฬินฺยาติ เอวํนามเก กีฬนฏฺาเน ยถา เวสฺสวโณ มหาราชา, เอวํ ตฺวํ โมทสีติ โยชนา.
๑๒๔๗. อาสีติ ¶ อสิ ภวสิ. เทวินฺโทติ สกฺโก เทวราชา. มนุสฺสภูโตติ มนุสฺเสสุ ภูโต มนุสฺสชาติโก. ยกฺโขติ ¶ เทวาทิภาวํ ปุจฺฉิตฺวาปิ ยกฺขภาวํ อาสงฺกนฺตา วทนฺติ.
อิทานิ โส เทวปุตฺโต อตฺตานํ ชานาเปนฺโต –
‘‘เสรีสโก นาม อหมฺหิ ยกฺโข, กนฺตาริโย วณฺณุปถมฺหิ คุตฺโต;
อิมํ ปเทสํ อภิปาลยามิ, วจนกโร เวสฺสวณสฺส รฺโ’’ติ. –
อาห. ตตฺถ อหมฺหี ยกฺโขติ อหํ ยกฺโข อมฺหิ. กนฺตาริโยติ อารกฺขณตฺถํ กนฺตาเร นิยุตฺโต. คุตฺโตติ โคปโก. เตนาห ‘‘อภิปาลยามี’’ติ.
อิทานิ วาณิชา ตสฺส กมฺมาทีนิ ปุจฺฉนฺตา อาหํสุ –
‘‘อธิจฺจลทฺธํ ปริณามชํ เต, สยํกตํ อุทาหุ เทเวหิ ทินฺนํ;
ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, กถํ ตยา ลทฺธมิทํ มนฺุ’’นฺติ.
ตตฺถ อธิจฺจลทฺธนฺติ อธิจฺจสมุปฺปตฺติกํ, ยทิจฺฉกํ ลทฺธนฺติ อตฺโถ. ปริณามชํ เตติ นิยติสงฺคติภาวปริณตํ, กาลปริณตํ วา. สยํกตนฺติ ตยา สยเมว กตํ, เทวิทฺธิยา ตยา สยเมว นิพฺพตฺติตนฺติ อตฺโถ. อุทาหุ เทเวหิ ทินฺนนฺติ ตยา อาราธิเตหิ เทเวหิ ปสาทวเสน นิสฺสฏฺํ.
อิทานิ เทวปุตฺโต จตุโรปิ ปกาเร ปฏิกฺขิปิตฺวา ปฺุเมว อปทิสนฺโต –
‘‘นาธิจฺจลทฺธํ น ปริณามชํ เม, น สยํกตํ น หิ เทเวหิ ทินฺนํ;
สเกหิ กมฺเมหิ อปาปเกหิ, ปฺุเหิ เม ลทฺธมิทํ มนฺุ’’นฺติ. –
คาถมาห.
ตํ ¶ ¶ สุตฺวา วาณิชา ปุน ‘‘นาธิจฺจลทฺธ’’นฺติ คาถายํ ปฺุาธิกเมว เต จตุโร ปกาเร อาโรเปตฺวา ปฺุสฺส จ สรูปํ ปุจฺฉึสุ –
‘‘กึ เต วตํ กึ ปน พฺรหฺมจริยํ, กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;
ปุจฺฉนฺติ ¶ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, กถํ ตยา ลทฺธมิทํ วิมาน’’นฺติ.
ตตฺถ วตนฺติ วตสมาทานํ. พฺรหฺมจริยนฺติ เสฏฺจริยํ.
ปุน เทวปุตฺโต เต ปฏิกฺขิปิตฺวา อตฺตานํ ยถูปจิตํ ปฺฺุจ ทสฺเสนฺโต –
‘‘มมํ ปายาสีติ อหุ สมฺา, รชฺชํ ยทา การยึ โกสลานํ;
นตฺถิกทิฏฺิ กทริโย ปาปธมฺโม, อุจฺเฉทวาที จ ตทา อโหสึ.
‘‘สมโณ จ โข อาสิ กุมารกสฺสโป, พหุสฺสุโต จิตฺตกถี อุฬาโร;
โส เม ตทา ธมฺมกถํ อภาสิ, ทิฏฺิวิสูกานิ วิโนทยี เม.
‘‘ตาหํ ตสฺส ธมฺมกถํ สุณิตฺวา, อุปาสกตฺตํ ปฏิเวทยิสฺสํ;
ปาณาติปาตา วิรโต อโหสึ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยิสฺสํ;
อมชฺชโป โน จ มุสา อภาณึ, สเกน ทาเรน จ อโหสึ ตุฏฺโ.
‘‘ตํ ¶ เม วตํ ตํ ปน พฺรหฺมจริยํ, ตสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;
เตเหว กมฺเมหิ อปาปเกหิ, ปฺุเหิ เม ลทฺธมิทํ วิมาน’’นฺติ. –
อาห. ตํ สุวิฺเยฺยเมว.
อถ วาณิชา เทวปุตฺตํ วิมานฺจสฺส ปจฺจกฺขโต ทิสฺวา กมฺมผลํ สทฺทหิตฺวา อตฺตโน กมฺมผเล สทฺธํ ปเวเทนฺตา –
‘‘สจฺจํ กิราหํสุ นรา สปฺา, อนฺถา วจนํ ปณฺฑิตานํ;
ยหึ ¶ ยหึ คจฺฉติ ปฺุกมฺโม, ตหึ ตหึ โมทติ กามกามี.
‘‘ยหึ ¶ ยหึ โสกปริทฺทโว จ, วโธ จ พนฺโธ จ ปริกฺกิเลโส;
ตหึ ตหึ คจฺฉติ ปาปกมฺโม, น มุจฺจติ ทุคฺคติยา กทาจี’’ติ. –
คาถาทฺวยํ อโวจุํ. ตตฺถ โสกปริทฺทโวติ โสโก จ ปริเทโว จ. ปริกฺกิเลโสติ วุตฺตา อนตฺถุปฺปตฺติ.
เอวํ เตสุ กเถนฺเตสุเยว วิมานทฺวาเร สิรีสรุกฺขโต ปริปาเกน มุตฺตพนฺธนา ปริปกฺกา สิปาฏิกา ปติ, เตน เทวปุตฺโต สปริชโน โทมนสฺสปฺปตฺโต อโหสิ. ตํ ทิสฺวา วาณิชา –
‘‘สมฺมูฬฺหรูโปว ชโน อโหสิ, อสฺมึ มุหุตฺเต กลลีกโตว;
ชนสฺสิมสฺส ตุยฺหฺจ กุมาร, อปฺปจฺจโย เกน นุ โข อโหสี’’ติ. –
คาถมาหํสุ. ตตฺถ สมฺมูฬฺหรูโปวาติ โสกวเสน สพฺพโส มูฬฺหสภาโว วิย. ชโนติ เทวชโน. อสฺมึ มุหุตฺเตติ อิมสฺมึ มุหุตฺตมตฺเต ¶ . กลลีกโตติ กลลํ วิย กโต, กลลนิสฺสิตอุทกีภูโต วิย อาวิโลติ อธิปฺปาโย. ชนสฺสิมสฺส ตุยฺหฺจาติ อิมสฺส ตว ปริชนสฺส ตุยฺหฺจ. อปฺปจฺจโยติ โทมนสฺสํ.
ตํ สุตฺวา เทวปุตฺโต –
‘‘อิเม จ สิรีสวนา ตาตา, ทิพฺพา คนฺธา สุรภี สมฺปวนฺติ;
เต สมฺปวายนฺติ อิมํ วิมานํ, ทิวา จ รตฺโต จ ตมํ นิหนฺตฺวา.
‘‘อิเมสฺจ โข วสฺสสตจฺจเยน, สิปาฏิกา ผลติ เอกเมกา;
มานุสฺสกํ ¶ วสฺสสตํ อตีตํ, ยทคฺเค กายมฺหิ อิธูปปนฺโน.
‘‘ทิสฺวานหํ วสฺสสตานิ ปฺจ,
อสฺมึ วิมาเน ตฺวาน ตาตา;
อายุกฺขยา ปฺุกฺขยา จวิสฺสํ,
เตเนว โสเกน ปมุจฺฉิโตสฺมี’’ติ. – อาห;
๑๒๕๖. ตตฺถ ¶ สิรีสวนาติ สิรีสวิปินโต. ตาตาติ วาณิเช อาลปติ. อิเม ตุมฺหากํ มยฺหฺจ ปจฺจกฺขภูตา ทิพฺพา คนฺธา สุรภี อติวิย สุคนฺธาเยว สมนฺตโต ปวนฺติ ปวายนฺติ. เต ทิพฺพา คนฺธา เอวํ วายนฺตา อิมํ วิมานํ สมฺปวายนฺติ สมฺมเทว คนฺธํ คาหาเปนฺติ, น เกวลํ สมฺปวายนเมว, อถ โข อตฺตโน ปภาย ตมมฺปิ นิหนฺติ. เตนาห ‘‘ทิวา จ รตฺโต จ ตมํ นิหนฺตฺวา’’ติ.
๑๒๖๐-๖๑. อิเมสนฺติ สิรีสานํ. สิปาฏิกาติ ผลกุฏฺิลิกา. ผลตีติ ปจฺจิตฺวา วณฺฏโต มุจฺจติ, ปุฏเภทํ วา ปตฺวา สิสฺสติ. มานุสฺสกํ วสฺสสตํ อตีตนฺติ ยสฺมา วสฺสสตสฺส อจฺจเยน อิมสฺส สิรีสสฺส สิปาฏิกา ผลติ, อยฺจ ผลิตา, ตสฺมา มยฺหํ มานุสฺสกํ วสฺสสตํ อตีตํ. ยทคฺเค ยโต ปฏฺาย, กายมฺหิ อิธ อิมสฺมึ เทวนิกาเย อุปปนฺโน ¶ นิพฺพตฺโต. มยฺหฺจ เทวคณนาย ปฺจ วสฺสสตานิ อายุ, ตสฺมา ขียติ เม อายูติ โสกวเสน สมฺปมูฬฺโหติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ทิสฺวานหํ วสฺสสตานิ ปฺจ…เป… เตเนว โสเกน ปมุจฺฉิโตสฺมี’’ติ.
อถ นํ วาณิชา สมสฺสาเสนฺโต –
‘‘กถํ นุ โสเจยฺย ตถาวิโธ โส, ลทฺธา วิมานํ อตุลํ จิราย;
เย จาปิ โข อิตฺตรมุปปนฺนา, เต นูน โสเจยฺยุํ ปริตฺตปฺุา’’ติ. –
อาหํสุ. ตตฺถ ¶ ยาทิเสหิ อปฺปายุเกหิ มรณํ ปฏิจฺจ โสจิตพฺพํ สิยา, ตาทิโส ปน เอวํ ทิพฺพานุภาวสมฺปนฺโน นวุติวสฺสสตสหสฺสายุโก กถํ นุ โสเจยฺย, น โสจิตพฺพเมวาติ อธิปฺปาโย.
เทวปุตฺโต ตตฺตเกเนว สมสฺสาเสตฺวา เตสํ วจนํ สมฺปฏิจฺฉนฺโต เตสฺจ อุปเทสํ เทนฺโต –
‘‘อนุจฺฉวึ โอวทิยฺจ เมตํ, ยํ มํ ตุมฺเห เปยฺยวาจํ วเทถ;
ตุมฺเห จ โข ตาตา มยานุคุตฺตา, เยหิจฺฉกํ เตน ปเลถ โสตฺถิ’’นฺติ. –
คาถมาห. ตตฺถ อนุจฺฉวินฺติ อนุจฺฉวิกํ, ตุมฺหากเมว ตํ ยุตฺตรูปํ. โอวทิยฺจ เมตนฺติ เม มยฺหํ ตุมฺเหหิ โอวทิยํ โอวาทวเสน วตฺตพฺพเมตํ. ยํ ยสฺมา, มํ มยฺหํ, ตุมฺเห ‘‘กถํ นุ โสเจยฺย’’นฺติอาทินา ¶ เปยฺยวาจํ ปิยวจนํ วเทถ. ยํ วา เปยฺยวาจาย วทนํ กถนํ, ตํ ตุมฺหากเมว อนุจฺฉวิกนฺติ โยชนา. อถ วา ยํ ยสฺมา ตุมฺเห เปยฺยวาจํ วเทถ, ตสฺมา อนุจฺฉวิกํ โอวทิยฺจ โอวทิตพฺพํ โอวาทานุรูปํ กาตพฺพฺจ เม มยา กตํ, กึ ปน ตนฺติ อาห ‘‘ตุมฺเห จ โข ตาตา’’ติอาทิ. ตตฺถ มยานุคุตฺตาติ อิมสฺมึ อมนุสฺสปริคฺคเห มรุกนฺตาเร ยาว กนฺตาราติกฺกมา มยา อนุคุตฺตา รกฺขิตา, เยนิจฺฉกํ ยถารุจิเตน, โสตฺถึ เขเมน, ปเลถ คจฺฉถาติ อตฺโถ.
อถ วาณิชา กตฺุภาวํ ปกาเสนฺตา –
‘‘คนฺตฺวา ¶ มยํ สินฺธุโสวีรภูมึ, ธนตฺถิกา อุทฺทยํ ปตฺถยานา;
ยถาปโยคา ปริปุณฺณจาคา, กาหาม เสรีสมหํ อุฬารนฺติ. –
คาถมาหํสุ. ตตฺถ ¶ ยถาปโยคาติ อิทานิ กตปฏิฺานุรูปปโยคา. ปริปุณฺณจาคาติ สมตฺตจาคา, อุฬารสฺส มหสฺส ปริยตฺตปริจฺจาคา. มหนฺติ อุสฺสวปูชํ.
ปุน เทวปุตฺโต มหกรณํ ปฏิกฺขิปนฺโต กตฺตพฺเพสุ จ เต นิโยเชนฺโต –
‘‘มา เจว เสรีสมหํ อกตฺถ, สพฺพฺจ โว ภวิสฺสติ ยํ วเทถ;
ปาปานิ กมฺมานิ วิวชฺชยาถ, ธมฺมานุโยคฺจ อธิฏฺหาถา’’ติ. –
คาถมาห. ตตฺถ ยํ วเทถาติ ยํ ตุมฺเห เขเมน สินฺธุโสวีรเทสปตฺตึ ตตฺถ จ วิปุลํ อุทฺทยํ ลาภํ ปจฺจาสีสนฺตา ‘‘คนฺตฺวา มย’’นฺติอาทีนิ วทถ. สพฺพํ ตํ โว ตุมฺหากํ ตเถว ภวิสฺสติ, ตตฺถ นิกฺกงฺขา โหถ, ตุมฺเห ปน อิโต ปฏฺาย ปาปานิ กมฺมานิ ปาณาติปาตาทีนิ วิวชฺชยาถ ปริวชฺเชถ. ธมฺมานุโยคนฺติ ทานาทิกุสลธมฺมสฺส อนุยฺุชนํ. อธิฏฺหาถาติ อนุสิกฺขถ อิทํ เสรีสกมหนฺติ ทสฺเสติ.
ยํ ปน อุปาสกํ อนุคฺคณฺหนฺโต เตสํ รกฺขาวรณํ กาตุกาโม อโหสิ, ตสฺส คุณํ กิตฺเตตฺวา ตํ เตสํ อุทฺทิสนฺโต อิมา คาถาโย อาห –
‘‘อุปาสโก ¶ อตฺถิ อิมมฺหิ สงฺเฆ, พหุสฺสุโต สีลวตูปปนฺโน;
สทฺโธ จ จาคี จ สุเปสโล จ, วิจกฺขโณ สนฺตุสิโต มุตีมา.
‘‘สฺชานมาโน ¶ น มุสา ภเณยฺย, ปรูปฆาตาย น เจตเยยฺย;
เวภูติกํ เปสุณํ โน กเรยฺย, สณฺหฺจ วาจํ สขิลํ ภเณยฺย.
‘‘สคารโว สปฺปติสฺโส วินีโต, อปาปโก อธิสีเล วิสุทฺโธ;
โส ¶ มาตรํ ปิตรฺจาปิ ชนฺตุ, ธมฺเมน โปเสติ อริยวุตฺติ.
‘‘มฺเ โส มาตาปิตูนํ การณา, โภคานิ ปริเยสติ น อตฺตเหตุ;
มาตาปิตูนฺจ โย อจฺจเยน, เนกฺขมฺมโปโณ จริสฺสติ พฺรหฺมจริยํ.
‘‘อุชู อวงฺโก อสโ อมาโย, น เลสกปฺเปน จ โวหเรยฺย;
โส ตาทิโส สุกตกมฺมการี, ธมฺเม ิโต กินฺติ ลเภถ ทุกฺขํ.
‘‘ตํการณา ปาตุกโตมฺหิ อตฺตนา, ตสฺมา ธมฺมํ ปสฺสถ วาณิชาเส;
อฺตฺร เตนิห ภสฺมี ภเวถ, อนฺธากุลา วิปฺปนฏฺา อรฺเ;
ตํ ขิปฺปมาเนน ลหุํ ปเรน, สุโข หเว สปฺปุริเสน สงฺคโม’’ติ.
๑๒๖๖. ตตฺถ สงฺเฆติ สตฺตสมูเห. วิจกฺขโณติ ตตฺถ ตตฺถ กตฺตพฺพตาย กุสโล. สนฺตุสิโตติ สนฺตุฏฺโ. มุตีมาติ กมฺมสฺสกตาณาทินา อิธโลกปรโลกหิตานํ มุนนโต มุติมา.
๑๒๖๗. สฺชานมาโน น มุสา ภเณยฺยาติ สมฺปชานมุสา น ภาเสยฺย. เวภูติกนฺติ สหิตานํ วินาภาวกรณโต ‘‘เวภูติก’’นฺติ ลทฺธนามํ ปิสุณํ, โน กเรยฺย น วเทยฺย.
๑๒๖๘. สปฺปติสฺโสติ ¶ ปติสฺสโย ครุฏฺานิเยสุ นิวาตวุตฺติกตฺตา โสรจฺจํ, สห ปติสฺเสนาติ สปฺปติสฺโส. อธิสีเลติ อุปาสเกน รกฺขิตพฺพอธิสีลสิกฺขาย. อริยวุตฺตีติ ปริสุทฺธวุตฺติ.
๑๒๖๙. เนกฺขมฺมโปโณติ ¶ ¶ นิพฺพานนินฺโน. จริสฺสติ พฺรหฺมจริยนฺติ ปพฺพชฺชํ สาสนพฺรหฺมจริยํ จริสฺสติ.
๑๒๗๐. เลสกปฺเปนาติ กปฺปิยเลเสน. น จ โวหเรยฺยาติ มายาสาเยฺยวเสน วจนํ น นิจฺฉาเรยฺย. ธมฺเม ิโต กินฺติ ลเภถ ทุกฺขนฺติ เอวํ วุตฺตนเยน ธมฺเม ิโต ธมฺมจารี สมจารี กินฺติ เกน ปกาเรน ทุกฺขํ ลเภถ ปาปุเณยฺย.
๑๒๗๑. ตํการณาติ ตนฺนิมิตฺตํ ตสฺส อุปาสกสฺส เหตุ. ปาตุกโตมฺหิ อตฺตนาติ สยเมว ตุมฺหากํ อหํ ปาตุรโหสึ. ‘‘อตฺตาน’’นฺติปิ ปาโ, มม อตฺตานํ ตุมฺหากํ ปาตฺวากาสินฺติ อตฺโถ. ตสฺมาติ ยสฺมา อหํ ธมฺมํ อปจายมาโน ตํ รกฺขนฺโต ตุมฺเหปิ รกฺขามิ, ตสฺมา ธมฺมํ ปสฺสถ ธมฺมเมว จริตพฺพํ กตฺวา โอโลเกถ. อฺตฺร เตนิห ภสฺมี ภเวถาติ เตน อุปาสเกน วินา เจ อาคตา, อิมสฺมึ มรุกนฺตาเร อนาถา อปฺปฏิสรณา ภสฺมภาวํ คจฺเฉยฺยาถ. ขิปฺปมาเนนาติ เอวํ ขิปฺปนฺเตน วมฺภนฺเตน ปีฬนฺเตน. ลหุนฺติ สุกรํ. ปเรนาติ อธิกํ, อฺเน วา. ตสฺมา สุโข หเว สปฺปุริเสน สงฺคโมติ. โส หิ ขนฺติโสรจฺเจ นิวิฏฺโ เกนจิ กิฺจิ วุตฺโตปิ น ปฏิปฺผรตีติ อธิปฺปาโย.
เอวํ สามฺโต กิตฺติตํ สรูปโต าตุกามา วาณิชา –
‘‘กึ นาม โส กิฺจ กโรติ กมฺมํ,
กึ นามเธยฺยํ กึ ปน ตสฺส โคตฺตํ;
มยมฺปิ นํ ทฏฺุกามมฺห ยกฺข, ยสฺสานุกมฺปาย อิธาคโตสิ;
ลาภา หิ ตสฺส ยสฺส ตุวํ ปิเหสี’’ติ. –
คาถมาหํสุ. ตตฺถ กึ นาม โสติ นามโต โส ชนฺตุ สตฺโต โก นาม. กิฺจ กโรติ กมฺมนฺติ กสิวณิชฺชาทีสุ กีทิสํ กมฺมํ กโรติ. กึ ¶ นามเธยฺยนฺติ มาตาปิตูหิ กตํ ¶ ปน ‘‘ติสฺโส ผุสฺโส’’ติอาทีสุ ตสฺส กึ นามเธยฺยํ, ‘‘ภคฺคโว ภารทฺวาโช’’ติอาทีสุ กึ วา ตสฺส โคตฺตํ. ยสฺส ตุวํ ปิเหสีติ ยํ ตุวํ ปิยายสิ.
อิทานิ เทวปุตฺโต ตํ นามโคตฺตาทิวเสน ทสฺเสนฺโต –
‘‘โย ¶ กปฺปโก สมฺภวนามเธยฺโย,
อุปาสโก โกจฺฉผลูปชีวี;
ชานาถ นํ ตุมฺหากํ เปสิโย โส,
มา โข นํ หีฬิตฺถ สุเปสโล โส’’ติ. –
อาห. ตตฺถ กปฺปโกติ นฺหาปิโต. สมฺภวนามเธยฺโยติ สมฺภโวติ เอวํนาโม. โกจฺฉผลูปชีวีติ โกจฺฉฺจ ผลฺจ อุปนิสฺสาย ชีวนโก. ตตฺถ โกจฺฉํ นาม อาฬกาทิสณฺาปนตฺถํ เกสาทีนํ อุลฺลิขนสาธนํ. เปสิโย เปสนการโก เวยฺยาวจฺจกโร.
อิทานิ วาณิชา ตํ สฺชานิตฺวา อาหํสุ –
‘‘ชานามเส ยํ ตฺวํ ปวเทสิ ยกฺข, น โข นํ ชานาม ส เอทิโสติ;
มยมฺปิ นํ ปูชยิสฺสาม ยกฺข, สุตฺวาน ตุยฺหํ วจนํ อุฬาร’’นฺติ.
ตตฺถ ชานามเสติ ยํ ตฺวํ วเทสิ, ตํ มยํ สรูปโต ชานาม. เอทิโสติ คุณโต ปน ยถา ตยา กิตฺติตํ, เอวํ เอทิโสติ ตํ น โข ชานาม, ยถา ตํ อวิทฺทสุโนติ อธิปฺปาโย.
อิทานิ เทวปุตฺโต เต อตฺตโน วิมานํ อาโรเปตฺวา อนุสาสนตฺถํ –
‘‘เย เกจิ อิมสฺมึ สตฺเถ มนุสฺสา, ทหรา มหนฺตา อถวาปิ มชฺฌิมา;
สพฺเพว ¶ เต อาลมฺพนฺตุ วิมานํ, ปสฺสนฺตุ ปฺุานํ ผลํ กทริยา’’ติ. –
คาถมาห ¶ . ตตฺถ มหนฺตาติ วุฑฺฒา. อาลมฺพนฺตูติ อาโรหนฺตุ. กทริยาติ มจฺฉริโน อทานสีลา.
อิทานิ ปริโยสาเน ฉ คาถา ธมฺมสงฺคาหเกหิ วุตฺตา –
‘‘เต ¶ ตตฺถ สพฺเพว อหํ ปุเรติ, ตํ กปฺปกํ ตตฺถ ปุรกฺขตฺวา;
สพฺเพว เต อาลมฺพึสุ วิมานํ, มสกฺกสารํ วิย วาสวสฺส.
‘‘เต ตตฺถ สพฺเพว อหํ ปุเรติ, อุปาสกตฺตํ ปฏิเวทยึสุ;
ปาณาติปาตา วิรตา อเหสุํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยึสุ;
อมชฺชปา โน จ มุสา ภณึสุ, สเกน ทาเรน จ อเหสุํ ตุฏฺา.
‘‘เต ตตฺถ สพฺเพว อหํ ปุเรติ, อุปาสกตฺตํ ปฏิเวทยิตฺวา;
ปกฺกามิ สตฺโถ อนุโมทมาโน, ยกฺขิทฺธิยา อนุมโต ปุนปฺปุนํ.
‘‘คนฺตฺวาน เต สินฺธุโสวีรภูมึ, ธนตฺถิกา อุทฺทยํ ปตฺถยานา;
ยถาปโยคา ปริปุณฺณลาภา, ปจฺจาคมุํ ปาฏลิปุตฺตมกฺขตํ.
‘‘คนฺตฺวาน เต สงฺฆรํ โสตฺถิวนฺโต, ปุตฺเตหิ ทาเรหิ สมงฺคิภูตา;
อานนฺที วิตฺตา สุมนา ปตีตา, อกํสุ เสรีสมหํ อุฬารํ;
เสรีสกํ เต ปริเวณํ มาปยึสุ.
‘‘เอตาทิสา ¶ ¶ สปฺปุริสาน เสวนา, มหตฺถิกา ธมฺมคุณาน เสวนา;
เอกสฺส อตฺถาย อุปาสกสฺส, สพฺเพว สตฺตา สุขิตา อเหสุ’’นฺติ.
๑๒๗๖. ตตฺถ อหํ ปุเรติ อหํ ปุริมํ อหํ ปุริมนฺติ อหมหํกราติ อตฺโถ. ‘‘เต ตตฺถ สพฺเพวา’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘สพฺเพว เต’’ติ วจนํ ‘‘สพฺเพว เต ยถา วิมานสฺส อารุหเน อุสฺสุกฺกชาตา อเหสุํ, ตถา สพฺเพว ตํ อารุหึสุ, น กสฺสจิ อารุหเน อนฺตราโย อโหสี’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. มสกฺกสารํ วิย วาสวสฺสาติ ‘‘มสกฺกสาร’’นฺติ จ ตาวตึสภวนํ วุจฺจติ, สพฺพํ วา เทวภวนํ, อิธ ปน สกฺกภวนํ เวทิตพฺพํ. เตนาห ‘‘มสกฺกสารํ วิย วาสวสฺสา’’ติ.
๑๒๗๗-๘. อถ เต วาณิชา วิมานํ ปสฺสิตฺวา ปสนฺนจิตฺตา ตสฺส เทวปุตฺตสฺส โอวาเท ตฺวา สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺาย ตสฺส อานุภาเวน โสตฺถินา อิจฺฉิตํ เทสํ อคมํสุ. เตน วุตฺตํ ‘‘เต ตตฺถ สพฺเพวา’’ติอาทิ. ตตฺถ อนุมโต ปกฺกามิ สตฺโถ ยกฺขิทฺธิยา ปุนปฺปุนํ อนุโมทมาโนติ โยชนา. เกน ปน อนุมโตติ? ยกฺเขนาติ ปากโฏยมตฺโถ.
๑๒๗๙. ยถาปโยคาติ ยถาอชฺฌาสยํ กตปโยคา. ปริปุณฺณลาภาติ สมิทฺธลาภา. อกฺขตนฺติ ¶ อนุปทฺทุตํ ปาฏลิปุตฺตํ. อกฺขตนฺติ วา อนาพาธํ อนุปฺปีฬํ, อนนฺตราเยนาติ อตฺโถ.
๑๒๘๐. สงฺฆรนฺติ สกํ เคหํ. โสตฺถิวนฺโตติ โสตฺถิภาเวน ยุตฺตา เขมิโน. อานนฺทีติอาทีหิ จตูหิ ปเทหิ โสมนสฺสิตภาวเมว วทติ. เสรีสกํ เต ปริเวณํ มาปยึสูติ กตฺุตาย ตฺวา ปฏิสฺสวโมจนตฺถฺจ เทวปุตฺตสฺส นาเมน เสรีสกํ นาม ปริจฺเฉทวเสน เวณิยโต เปกฺขิตพฺพโต ปริเวณํ ปาสาทกูฏาคารรตฺติฏฺานาทิสมฺปนฺนํ ¶ ปาการปริกฺขิตฺตํ ทฺวารโกฏฺกยุตฺตํ อาวาสํ อกํสุ.
๑๒๘๑. เอตาทิสาติ ¶ เอทิสี, เอวํ อนตฺถปฏิพาหินี อตฺถสาธิกา จ. มหตฺถิกาติ มหาปโยชนา มหานิสํสา. ธมฺมคุณานนฺติ อวิปรีตคุณานํ. เอกสฺส สตฺตสฺส หิตตฺถํ สพฺเพว สตฺตา สพฺเพ เอว เต สตฺถปริยาปนฺนา สตฺตา, สุขิตา สุขปฺปตฺตา เขมปฺปตฺตา อเหสุํ.
สมฺภโว ปน อุปาสโก ปายาสิสฺส เทวปุตฺตสฺส เตสฺจ วาณิชานํ วจนปฏิวจนวเสน ปวตฺตํ คาถาพนฺธํ สุตนิยาเมเนว อุคฺคเหตฺวา เถรานํ อาโรเจสิ. ปายาสิเทวปุตฺโต อายสฺมโต สมฺภวตฺเถรสฺส กเถสีติ อปเร. ตํ ยสตฺเถรปฺปมุขา มหาเถรา ทุติยสงฺคีติยํ สงฺคหํ อาโรเปสุํ. สมฺภโว ปน อุปาสโก มาตาปิตูนํ อจฺจเยน ปพฺพชิตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺาสิ.
เสรีสกวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. สุนิกฺขิตฺตวิมานวณฺณนา
อุจฺจมิทํ มณิถูณํ วิมานนฺติ สุนิกฺขิตฺตวิมานํ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน. เตน สมเยน อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เทวจาริกํ จรนฺโต ตาวตึสภวนํ อุปคโต. ตสฺมิฺจ ขเณ อฺตโร เทวปุตฺโต อตฺตโน วิมานทฺวาเร ิโต อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ ทิสฺวา สฺชาตคารวพหุมาโน อุปสงฺกมิตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห อฏฺาสิ.
โส กิร อตีเต กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ตสฺส สรีรธาตุโย ปกฺขิปิตฺวา โยชนิเก กนกถูเป จ กเต จตสฺโส ปริสา กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา คนฺธปุปฺผธูปาทีหิ เจติเย ¶ ปูชํ กโรนฺติ, ตตฺถ อฺตโร อุปาสโก อฺเสุ ปุปฺผปูชํ กตฺวา คเตสุ เตหิ ปูชิตฏฺาเน ทุนฺนิกฺขิตฺตานิ ปุปฺผานิ ทิสฺวา ตตฺเถว ตานิ สมฺมเทว เปนฺโต สนฺนิเวสวเสน ทสฺสนียํ ปาสาทิกํ ¶ วิภตฺติวิเสสยุตฺตํ ปุปฺผปูชํ อกาสิ. กตฺวา จ ปน เอตํ อารมฺมณํ คณฺหนฺโต สตฺถุ คุเณ อนุสฺสริตฺวา ปสนฺนจิตฺโต ตํ ปฺุํ หทเย เปสิ.
โส ¶ อปรภาเค กาลํ กตฺวา ตสฺเสว กมฺมสฺส อานุภาเวน ตาวตึสภวเน ทฺวาทสโยชนิเก กนกวิมาเน นิพฺพตฺติ, มหานุภาโว มหา จสฺส ปริวาโร อโหสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ตสฺมิฺจ ขเณ อฺตโร เทวปุตฺโต…เป… อฏฺาสี’’ติ. อถ นํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ยถาลทฺธสมฺปตฺติกิตฺตนมุเขน กตสุจริตกมฺมํ อิมาหิ คาถาหิ ปุจฺฉิ –
‘‘อุจฺจมิทํ มณิถูณํ วิมานํ, สมนฺตโต ทฺวาทสโยชนานิ;
กูฏาคารา สตฺตสตา อุฬารา, เวฬุริยถมฺภา รุจกตฺถตา สุภา.
‘‘ตตฺถจฺฉสิ ปิวสิ ขาทสิ จ, ทิพฺพา จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ;
ทิพฺพา รสา กามคุเณตฺถ ปฺจ, นาริโย จ นจฺจนฺติ สุวณฺณฉนฺนา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.
‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทว มหานุภาว, มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โสปิ ตสฺส อตฺตโน กตกมฺมํ อิมาหิ คาถาหิ กเถสิ. ตํ ทสฺเสนฺตา สงฺคีติการา อาหํสุ –
‘‘โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน, โมคฺคลฺลาเนน ปุจฺฉิโต;
ปฺหํ ปุฏฺโ วิยากาสิ, ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ’’.
‘‘ทุนฺนิกฺขิตฺตํ ¶ มาลํ สุนิกฺขิปิตฺวา, ปติฏฺเปตฺวา สุคตสฺส ถูเป;
มหิทฺธิโก จมฺหิ มหานุภาโว, ทิพฺเพหิ กาเมหิ สมงฺคิภูโต.
‘‘เตน ¶ ¶ เมตาทิโส วณฺโณ, เตน เม อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เม โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.
‘‘อกฺขามิ เต ภิกฺขุ มหานุภาว, มนุสฺสภูโต ยมหํ อกาสึ;
เตนมฺหิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
๑๒๘๗. ตตฺถ ทุนฺนิกฺขิตฺตํ มาลนฺติ เจติเย ปูชากรณฏฺาเน นิรนฺตรฏฺปนาทินา รจนาวิเสเสน อฏฺเปตฺวา ยถานิกฺขิตฺตตาย น สุฏฺุ นิกฺขิตฺตํ, วาเตน วา ปหริตฺวา ทุนฺนิกฺขิตฺตํ ปุปฺผํ. สุนิกฺขิปิตฺวาติ สุฏฺุ นิกฺขิปิตฺวา รจนาวิเสเสน ทสฺสนียํ ปาสาทิกํ กตฺวา นิกฺขิปิย. ปติฏฺเปตฺวาติ วิภตฺติวิเสสาทิวเสน ปุปฺผํ ปติฏฺาเปตฺวา. ตํ วา ปุปฺผํ นิกฺขิปนฺโต สตฺถุ เจติยํ อุทฺทิสฺส มม สนฺตาเน กุสลธมฺมํ ปติฏฺาเปตฺวาติ เอวํ เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
เอวํ เทวปุตฺเตน อตฺตโน สุจริตกมฺเม ปกาสิเต เถโร ตสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา อาคนฺตฺวา ภควโต ตมตฺถํ นิเวเทสิ. ภควา ตํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา สมฺปตฺตมหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสสิ. เทสนา มหาชนสฺส สาตฺถิกา อโหสีติ.
สุนิกฺขิตฺตวิมานวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ ปรมตฺถทีปนิยา ขุทฺทก-อฏฺกถาย วิมานวตฺถุสฺมึ
เอกาทสวตฺถุปฏิมณฺฑิตสฺส สตฺตมสฺส
สุนิกฺขิตฺตวคฺคสฺส อตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิตา จ ปุริสวิมานวณฺณนา.
นิคมนกถา
เทวตานํ วิมานาทิ-สมฺปตฺตึ ตสฺส การณํ;
ปกาสยนฺตี สตฺตานํ, สพฺพโลกหิตาวหา.
อปฺปกานมฺปิ การานํ, ยา วิภาเวติ เทสนา;
อุฬารผลตํ จิตฺต-เขตฺตสมฺปตฺติโยคโต.
ยํ กถาวตฺถุกุสลา, สุปริฺาตวตฺถุกา;
วิมานวตฺถุอิจฺเจว, สงฺคายึสุ มเหสโย.
ตสฺส อตฺถํ ปกาเสตุํ, โปราณฏฺกถานยํ;
สนฺนิสฺสาย สมารทฺธา, อตฺถสํวณฺณนา มยา.
ยา ¶ ตตฺถ ปรมตฺถานํ, ตตฺถ ตตฺถ ยถารหํ;
ปกาสนา ปรมตฺถ-ทีปนี นาม นามโต.
สมฺปตฺตา ปรินิฏฺานํ, อนากุลวินิจฺฉยา;
สา สตฺตรสมตฺตาย, ปาฬิยา ภาณวารโต.
อิติ ตํ สงฺขโรนฺเตน, ยํ ตํ อธิคตํ มยา;
ปฺุํ ตสฺสานุภาเวน, โลกนาถสฺส สาสนํ.
โอคาเหตฺวา วิสุทฺธาย, สีลาทิปฏิปตฺติยา;
สพฺเพปิ เทหิโน โหนฺตุ, วิมุตฺติรสภาคิโน.
จิรํ ¶ ติฏฺตุ โลกสฺมึ, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสนํ;
ตสฺมึ สคารวา นิจฺจํ, โหนฺตุ สพฺเพปิ ปาณิโน.
สมฺมา ¶ วสฺสตุ กาเลน, เทโวปิ ชคตีปติ;
สทฺธมฺมนิรโต โลกํ, ธมฺเมเนว ปสาสตูติ.
อิติ พทรติตฺถวิหารวาสินา อาจริยธมฺมปาเลน
กตาย
ปรมตฺถทีปนิยา ขุทฺทก-อฏฺกถาย
วิมานวตฺถุอตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.
วิมานวตฺถุ-อฏฺกถา สมตฺตา.