📜
๒. ปุริสวิมานํ
๕. มหารถวคฺโค
๑. มณฺฑูกเทวปุตฺตวิมานวตฺถุ
‘‘โก ¶ ¶ ¶ เม วนฺทติ ปาทานิ, อิทฺธิยา ยสสา ชลํ;
อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, สพฺพา โอภาสยํ ทิสา’’ติ.
‘‘มณฺฑูโกหํ ปุเร อาสึ, อุทเก วาริโคจโร;
ตว ธมฺมํ สุณนฺตสฺส, อวธี วจฺฉปาลโก.
‘‘มุหุตฺตํ ¶ จิตฺตปสาทสฺส, อิทฺธึ ปสฺส ยสฺจ เม;
อานุภาวฺจ เม ปสฺส, วณฺณํ ปสฺส ชุติฺจ เม.
‘‘เย จ เต ทีฆมทฺธานํ, ธมฺมํ อสฺโสสุํ โคตม;
ปตฺตา เต อจลฏฺานํ, ยตฺถ คนฺตฺวา น โสจเร’’ติ.
มณฺฑูกเทวปุตฺตวิมานํ ปมํ.
๒. เรวตีวิมานวตฺถุ
[ธ. ป. ๒๑๙ ธมฺมปเท] ‘‘จิรปฺปวาสึ ปุริสํ, ทูรโต โสตฺถิมาคตํ;
าติมิตฺตา สุหชฺชา จ, อภินนฺทนฺติ อาคตํ;
[ธ. ป. ๒๒๐ ธมฺมปเท] ‘‘ตเถว ¶ กตปฺุมฺปิ, อสฺมา โลกา ปรํ คตํ;
ปฺุานิ ปฏิคณฺหนฺติ, ปิยํ าตีว อาคตํ.
[เป. ว. ๗๑๔]‘‘อุฏฺเหิ เรวเต สุปาปธมฺเม, อปารุตทฺวาเร [อปารุภํ ทฺวารํ (สี. สฺยา.), อปารุตทฺวารํ (ปี. ก.)] อทานสีเล;
เนสฺสาม ตํ ยตฺถ ถุนนฺติ ทุคฺคตา, สมปฺปิตา เนรยิกา ทุกฺเขนา’’ติ.
อิจฺเจว ¶ [อิจฺเจวํ (สฺยา. ก.)] วตฺวาน ยมสฺส ทูตา, เต ทฺเว ยกฺขา โลหิตกฺขา พฺรหนฺตา;
ปจฺเจกพาหาสุ คเหตฺวา เรวตํ, ปกฺกามยุํ เทวคณสฺส สนฺติเก.
‘‘อาทิจฺจวณฺณํ ¶ รุจิรํ ปภสฺสรํ, พฺยมฺหํ สุภํ กฺจนชาลฉนฺนํ;
กสฺเสตมากิณฺณชนํ ¶ วิมานํ, สูริยสฺส รํสีริว โชตมานํ.
‘‘นารีคณา จนฺทนสารลิตฺตา [จนฺทนสารานุลิตฺตา (สฺยา.)], อุภโต วิมานํ อุปโสภยนฺติ;
ตํ ทิสฺสติ สูริยสมานวณฺณํ, โก โมทติ สคฺคปตฺโต วิมาเน’’ติ.
‘‘พาราณสิยํ นนฺทิโย นามาสิ, อุปาสโก อมจฺฉรี ทานปติ วทฺู;
ตสฺเสตมากิณฺณชนํ วิมานํ, สูริยสฺส รํสีริว โชตมานํ.
‘‘นารีคณา จนฺทนสารลิตฺตา, อุภโต วิมานํ อุปโสภยนฺติ;
ตํ ทิสฺสติ สูริยสมานวณฺณํ, โส โมทติ สคฺคปตฺโต วิมาเน’’ติ.
‘‘นนฺทิยสฺสาหํ ภริยา, อคารินี สพฺพกุลสฺส อิสฺสรา;
ภตฺตุ วิมาเน รมิสฺสามิ ทานหํ, น ปตฺถเย นิรยํ ทสฺสนายา’’ติ.
‘‘เอโส เต นิรโย สุปาปธมฺเม, ปฺุํ ¶ ตยา อกตํ ชีวโลเก;
น หิ มจฺฉรี โรสโก ปาปธมฺโม, สคฺคูปคานํ ลภติ สหพฺยต’’นฺติ.
‘‘กึ ¶ นุ คูถฺจ มุตฺตฺจ, อสุจี ปฏิทิสฺสติ;
ทุคฺคนฺธํ กิมิทํ มีฬฺหํ, กิเมตํ อุปวายตี’’ติ.
‘‘เอส สํสวโก นาม, คมฺภีโร สตโปริโส;
ยตฺถ วสฺสสหสฺสานิ, ตุวํ ปจฺจสิ เรวเต’’ติ.
‘‘กึ ¶ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
เกน สํสวโก ลทฺโธ, คมฺภีโร สตโปริโส’’ติ.
‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ จาปิ, อฺเ วาปิ วนิพฺพเก [วณิพฺพเก (สฺยา. ก.)];
มุสาวาเทน วฺเจสิ, ตํ ปาปํ ปกตํ ตยา.
‘‘เตน สํสวโก ลทฺโธ, คมฺภีโร สตโปริโส;
ตตฺถ วสฺสสหสฺสานิ, ตุวํ ปจฺจสิ เรวเต.
‘‘หตฺเถปิ ฉินฺทนฺติ อโถปิ ปาเท, กณฺเณปิ ฉินฺทนฺติ อโถปิ นาสํ;
อโถปิ กาโกฬคณา สเมจฺจ, สงฺคมฺม ขาทนฺติ วิผนฺทมาน’’นฺติ.
‘‘สาธุ โข มํ ปฏิเนถ, กาหามิ กุสลํ พหุํ;
ทาเนน สมจริยาย, สํยเมน ทเมน จ;
ยํ กตฺวา สุขิตา โหนฺติ, น จ ปจฺฉานุตปฺปเร’’ติ.
‘‘ปุเร ¶ ตุวํ ปมชฺชิตฺวา, อิทานิ ปริเทวสิ;
สยํ กตานํ กมฺมานํ, วิปากํ อนุโภสฺสสี’’ติ.
‘‘โก ¶ เทวโลกโต มนุสฺสโลกํ, คนฺตฺวาน ปุฏฺโ เม เอวํ วเทยฺย;
‘นิกฺขิตฺตทณฺเฑสุ ททาถ ทานํ, อจฺฉาทนํ เสยฺย [สยน (สี.)] มถนฺนปานํ;
นหิ มจฺฉรี โรสโก ปาปธมฺโม, สคฺคูปคานํ ลภติ สหพฺยตํ’.
‘‘สาหํ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนึ ลทฺธาน มานุสึ;
วทฺู สีลสมฺปนฺนา, กาหามิ กุสลํ พหุํ;
ทาเนน สมจริยาย, สํยเมน ทเมน จ.
‘‘อารามานิ ¶ จ โรปิสฺสํ, ทุคฺเค สงฺกมนานิ จ;
ปปฺจ อุทปานฺจ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสึ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี;
ปาฏิหาริยปกฺขฺจ, อฏฺงฺคสุสมาคตํ.
‘‘อุโปสถํ อุปวสิสฺสํ, สทา สีเลสุ สํวุตา;
น จ ทาเน ปมชฺชิสฺสํ, สามํ ทิฏฺมิทํ มยา’’ติ;
อิจฺเจวํ วิปฺปลปนฺตึ, ผนฺทมานํ ตโต ตโต;
ขิปึสุ นิรเย โฆเร, อุทฺธปาทํ อวํสิรํ.
‘‘อหํ ปุเร มจฺฉรินี อโหสึ, ปริภาสิกา ¶ สมณพฺราหฺมณานํ;
วิตเถน จ สามิกํ วฺจยิตฺวา, ปจฺจามหํ นิรเย โฆรรูเป’’ติ.
เรวตีวิมานํ ทุติยํ.
๓. ฉตฺตมาณวกวิมานวตฺถุ
‘‘เย ¶ วทตํ ปวโร มนุเชสุ, สกฺยมุนี ภควา กตกิจฺโจ;
ปารคโต พลวีริยสมงฺคี [พลวีรสมงฺคี (ก.)], ตํ สุคตํ สรณตฺถมุเปหิ.
‘‘ราควิราคมเนชมโสกํ, ธมฺมมสงฺขตมปฺปฏิกูลํ;
มธุรมิมํ ปคุณํ สุวิภตฺตํ, ธมฺมมิมํ สรณตฺถมุเปหิ.
‘‘ยตฺถ ¶ จ ทินฺน มหปฺผลมาหุ, จตูสุ สุจีสุ ปุริสยุเคสุ;
อฏฺ จ ปุคฺคลธมฺมทสา เต, สงฺฆมิมํ สรณตฺถมุเปหิ.
‘‘น ¶ ตถา ตปติ นเภ สูริโย, จนฺโท จ น ภาสติ น ผุสฺโส;
ยถา อตุลมิทํ มหปฺปภาสํ, โก ¶ นุ ตฺวํ ติทิวา มหึ อุปาคา.
‘‘ฉินฺทติ ¶ รํสี ปภงฺกรสฺส, สาธิกวีสติโยชนานิ อาภา;
รตฺติมปิ ยถา ทิวํ กโรติ, ปริสุทฺธํ วิมลํ สุภํ วิมานํ.
‘‘พหุปทุมวิจิตฺรปุณฺฑรีกํ, โวกิณฺณํ กุสุเมหิ เนกจิตฺตํ;
อรชวิรชเหมชาลฉนฺนํ, อากาเส ตปติ ยถาปิ สูริโย.
‘‘รตฺตมฺพรปีตวสสาหิ, อครุปิยงฺคุจนฺทนุสฺสทาหิ;
กฺจนตนุสนฺนิภตฺตจาหิ, ปริปูรํ คคนํว ตารกาหิ.
‘‘นรนาริโย [นรนารี (ก.), นาริโย (?)] พหุเกตฺถเนกวณฺณา, กุสุมวิภูสิตาภรเณตฺถ สุมนา;
อนิลปมฺุจิตา ปวนฺติ [ปวายนฺติ (ก.)] สุรภึ, ตปนิยวิตตา สุวณฺณฉนฺนา [สุวณฺณจฺฉาทนา (สี.)].
‘‘กิสฺส สํยมสฺส [สมทมสฺส (สี.)] อยํ วิปาโก, เกนาสิ กมฺมผเลนิธูปปนฺโน;
ยถา ¶ จ เต อธิคตมิทํ วิมานํ, ตทนุปทํ อวจาสิ อิงฺฆ ปุฏฺโ’’ติ.
‘‘สยมิธ [ยมิธ (สี. สฺยา. ปี.)] ปเถ สเมจฺจ มาณเวน, สตฺถานุสาสิ อนุกมฺปมาโน;
ตว รตนวรสฺส ธมฺมํ สุตฺวา, กริสฺสามีติ จ พฺรวิตฺถ ฉตฺโต.
‘‘ชินวรปวรํ ¶ [ชินปวรํ (สฺยา. ก.)] อุเปหิ [อุเปมิ (พหูสุ)] สรณํ, ธมฺมฺจาปิ ตเถว ภิกฺขุสงฺฆํ;
โนติ ปมํ อโวจหํ [อโวจาหํ (สี. สฺยา. ก.)] ภนฺเต, ปจฺฉา เต วจนํ ตเถวกาสึ.
‘‘มา จ ปาณวธํ วิวิธํ จรสฺสุ อสุจึ,
น หิ ปาเณสุ อสฺตํ อวณฺณยึสุ สปฺปฺา;
โนติ ปมํ อโวจหํ ภนฺเต,
ปจฺฉา เต วจนํ ตเถวกาสึ.
‘‘มา ¶ จ ปรชนสฺส รกฺขิตมฺปิ, อาทาตพฺพมมฺิโถ [มมฺิตฺถ (สี. ปี.)] อทินฺนํ;
โนติ ปมํ อโวจหํ ภนฺเต, ปจฺฉา วจนํ ตเถวกาสึ.
‘‘มา จ ปรชนสฺส รกฺขิตาโย, ปรภริยา อคมา อนริยเมตํ;
โนติ ปมํ อโวจหํ ภนฺเต, ปจฺฉา เต วจนํ ตเถวกาสึ;
‘‘มา จ วิตถํ อฺถา อภาณิ,
น ¶ หิ มุสาวาทํ อวณฺณยึสุ สปฺปฺา;
โนติ ปมํ อโวจหํ ภนฺเต, ปจฺฉา เต วจนํ ตเถวกาสึ.
‘‘เยน จ ปุริสสฺส อเปติ สฺา, ตํ มชฺชํ ปริวชฺชยสฺสุ สพฺพํ;
โนติ ปมํ อโวจหํ ภนฺเต, ปจฺฉา เต วจนํ ตเถวกาสึ.
‘‘สฺวาหํ อิธ ปฺจ สิกฺขา กริตฺวา, ปฏิปชฺชิตฺวา ตถาคตสฺส ธมฺเม;
ทฺเวปถมคมาสึ โจรมชฺเฌ, เต มํ ตตฺถ วธึสุ โภคเหตุ.
‘‘เอตฺตกมิทํ ¶ ¶ อนุสฺสรามิ กุสลํ, ตโต ปรํ น เม วิชฺชติ อฺํ;
เตน สุจริเตน กมฺมุนาหํ [กมฺมนาหํ (สี.)], อุปฺปนฺโน [อุปปนฺโน (พหูสุ)] ติทิเวสุ กามกามี.
‘‘ปสฺส ขณมุหุตฺตสฺมสฺส, อนุธมฺมปฺปฏิปตฺติยา วิปากํ;
ชลมิว ยสสา สเมกฺขมานา, พหุกา มํ ปิหยนฺติ หีนกมฺมา.
‘‘ปสฺส กติปยาย เทสนาย, สุคติฺจมฺหิ ¶ คโต สุขฺจ ปตฺโต;
เย จ เต สตตํ สุณนฺติ ธมฺมํ, มฺเ เต อมตํ ผุสนฺติ เขมํ.
‘‘อปฺปมฺปิ กตํ มหาวิปากํ, วิปุลํ โหติ [วิปุลผลํ (ก.)] ตถาคตสฺส ธมฺเม;
ปสฺส กตปฺุตาย ฉตฺโต, โอภาเสติ ปถวึ ยถาปิ สูริโย.
‘‘กิมิทํ กุสลํ กิมาจเรม, อิจฺเจเก หิ สเมจฺจ มนฺตยนฺติ;
เต มยํ ปุนเรว [ปุนปิ (?)] ลทฺธ มานุสตฺตํ, ปฏิปนฺนา วิหเรมุ สีลวนฺโต.
‘‘พหุกาโร ¶ อนุกมฺปโก จ สตฺถา, อิติ เม สติ อคมา ทิวา ทิวสฺส;
สฺวาหํ อุปคโตมฺหิ สจฺจนามํ, อนุกมฺปสฺสุ ปุนปิ สุเณมุ [สุโณม (สี.), สุโณมิ (สฺยา.)] ธมฺมํ.
‘‘เย ¶ จิธ [เยธ (สี. สฺยา. ปี.), เย อิธ (ก.)] ปชหนฺติ กามราคํ, ภวราคานุสยฺจ ปหาย โมหํ;
น จ เต ปุนมุเปนฺติ คพฺภเสยฺยํ, ปรินิพฺพานคตา หิ สีติภูตา’’ติ.
ฉตฺตมาณวกวิมานํ ตติยํ.
๔. กกฺกฏกรสทายกวิมานวตฺถุ
‘‘อุจฺจมิทํ ¶ ¶ มณิถูณํ วิมานํ, สมนฺตโต ทฺวาทส โยชนานิ;
กูฏาคารา สตฺตสตา อุฬารา, เวฬุริยถมฺภา รุจกตฺถตา [รุจิรตฺถตา (สฺยา. ก.) ๖๔๖ คาถายํ ‘‘รุจกุปกิณฺณํ’’ติ ปทสฺส สํวณฺณนา ปสฺสิตพฺพา] สุภา.
‘‘ตตฺถจฺฉสิ ¶ ปิวสิ ขาทสิ จ, ทิพฺพา จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ [วคฺคุ (สี. ก.), วคฺคู (สฺยา.)];
ทิพฺพา รสา กามคุเณตฺถ ปฺจ, นาริโย จ นจฺจนฺติ สุวณฺณฉนฺนา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.
‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทว มหานุภาว, มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน, โมคฺคลฺลาเนน ปุจฺฉิโต;
ปฺหํ ปุฏฺโ วิยากาสิ, ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘สติสมุปฺปาทกโร ¶ , ทฺวาเร กกฺกฏโก ิโต;
นิฏฺิโต ชาตรูปสฺส, โสภติ ทสปาทโก.
‘‘เตน ¶ เมตาทิโส วณฺโณ, เตน เม อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ ¶ จ เม โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.
‘‘อกฺขามิ เต ภิกฺขุ มหานุภาว, มนุสฺสภูโต ยมกาสิ ปฺุํ;
เตนมฺหิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
กกฺกฏกรสทายกวิมานํ จตุตฺถํ.
(อนนฺตรํ ปฺจวิมานํ ยถา กกฺกฏกรสทายกวิมานํ ตถา วิตฺถาเรตพฺพํ)
๕. ทฺวารปาลวิมานวตฺถุ
‘‘อุจฺจมิทํ ¶ มณิถูณํ วิมานํ, สมนฺตโต ทฺวาทส โยชนานิ;
กูฏาคารา สตฺตสตา อุฬารา, เวฬุริยถมฺภา รุจกตฺถตา สุภา.
‘‘ตตฺถจฺฉสิ ปิวสิ ขาทสิ จ, ทิพฺพา จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ;
ทิพฺพา รสา กามคุเณตฺถ ปฺจ, นาริโย จ นจฺจนฺติ สุวณฺณฉนฺนา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ…เป… ¶ วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน, โมคฺคลฺลาเนน ปุจฺฉิโต;
ปฺหํ ปุฏฺโ วิยากาสิ, ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘ทิพฺพํ มมํ วสฺสสหสฺสมายุ, วาจาภิคีตํ มนสา ปวตฺติตํ;
เอตฺตาวตา สฺสติ ปฺุกมฺโม, ทิพฺเพหิ กาเมหิ สมงฺคิภูโต.
‘‘เตน ¶ เมตาทิโส วณฺโณ…เป…วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ทฺวารปาลวิมานํ ปฺจมํ.
๖. ปมกรณียวิมานวตฺถุ
‘‘อุจฺจมิทํ มณิถูณํ วิมานํ, สมนฺตโต ทฺวาทส โยชนานิ;
กูฏาคารา สตฺตสตา อุฬารา, เวฬุริยถมฺภา รุจกตฺถตา สุภา.
‘‘ตตฺถจฺฉสิ ¶ ปิวสิ ขาทสิ จ, ทิพฺพา จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ;
ทิพฺพา รสา กามคุเณตฺถ ปฺจ, นาริโย จ นจฺจนฺติ สุวณฺณฉนฺนา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ…เป…
วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป…ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘กรณียานิ ปฺุานิ, ปณฺฑิเตน วิชานตา;
สมฺมคฺคเตสุ พุทฺเธสุ, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.
‘‘อตฺถาย วต เม พุทฺโธ, อรฺา คามมาคโต;
ตตฺถ ¶ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, ตาวตึสูปโค อหํ [อหุํ (สี.)].
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป…วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ปมกรณียวิมานํ ฉฏฺํ.
๗. ทุติยกรณียวิมานวตฺถุ
‘‘อุจฺจมิทํ ¶ มณิถูณํ วิมานํ, สมนฺตโต ทฺวาทส โยชนานิ;
กูฏาคารา สตฺตสตา อุฬารา, เวฬุริยถมฺภา รุจกตฺถตา สุภา.
‘‘ตตฺถจฺฉสิ ปิวสิ ขาทสิ จ, ทิพฺพา จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ;
ทิพฺพา รสา กามคุเณตฺถ ปฺจ, นาริโย จ นจฺจนฺติ สุวณฺณฉนฺนา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ…เป… วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘กรณียานิ ปฺุานิ, ปณฺฑิเตน วิชานตา;
สมฺมคฺคเตสุ ภิกฺขูสุ, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.
‘‘อตฺถาย วต เม ภิกฺขุ, อรฺา คามมาคโต;
ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, ตาวตึสูปโค อหํ.
‘‘เตน ¶ เมตาทิโส วณฺโณ…เป…
วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ทุติยกรณียวิมานํ สตฺตมํ.
๘. ปมสูจิวิมานวตฺถุ
‘‘อุจฺจมิทํ ¶ มณิถูณํ วิมานํ, สมนฺตโต ทฺวาทส โยชนานิ;
กูฏาคารา สตฺตสตา อุฬารา, เวฬุริยถมฺภา รุจกตฺถตา สุภา.
‘‘ตตฺถจฺฉสิ ¶ ปิวสิ ขาทสิ จ, ทิพฺพา จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ;
ทิพฺพา รสา กามคุเณตฺถ ปฺจ, นาริโย จ นจฺจนฺติ สุวณฺณฉนฺนา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ…เป… วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส ¶ เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘ยํ ททาติ น ตํ โหติ,
ยฺเจว ทชฺชา ตฺเจว เสยฺโย;
สูจิ ทินฺนา สูจิเมว เสยฺโย.
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป… วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ปมสูจิวิมานํ อฏฺมํ.
๙. ทุติยสูจิวิมานวตฺถุ
‘‘อุจฺจมิทํ มณิถูณํ วิมานํ, สมนฺตโต ทฺวาทส โยชนานิ;
กูฏาคารา สตฺตสตา อุฬารา, เวฬุริยถมฺภา รุจกตฺถตา สุภา.
‘‘ตตฺถจฺฉสิ ปิวสิ ขาทสิ จ, ทิพฺพา จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ;
ทิพฺพา รสา กามคุเณตฺถ ปฺจ, นาริโย จ นจฺจนฺติ สุวณฺณฉนฺนา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ…เป… วณฺโณ ¶ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต,ปุริมชาติยา มนุสฺสโลเก.
‘‘อทฺทสํ ¶ วิรชํ ภิกฺขุํ, วิปฺปสนฺนมนาวิลํ;
ตสฺส อทาสหํ สูจึ, ปสนฺโน เสหิ ปาณิภิ.
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป…วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ทุติยสูจิวิมานํ นวมํ.
๑๐. ปมนาควิมานวตฺถุ
‘‘สุสุกฺกขนฺธํ ¶ ¶ อภิรุยฺห นาคํ, อกาจินํ ทนฺตึ พลึ มหาชวํ;
อภิรุยฺห คชวรํ [คชํ วรํ (สฺยา.)] สุกปฺปิตํ, อิธาคมา เวหายสํ อนฺตลิกฺเข.
‘‘นาคสฺส ทนฺเตสุ ทุเวสุ นิมฺมิตา, อจฺโฉทกา ปทุมินิโย สุผุลฺลา;
ปทุเมสุ จ ตุริยคณา ปวชฺชเร, อิมา จ นจฺจนฺติ มโนหราโย.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน, โมคฺคลฺลาเนน ปุจฺฉิโต;
ปฺหํ ปุฏฺโ วิยากาสิ, ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘อฏฺเว มุตฺตปุปฺผานิ, กสฺสปสฺส มเหสิโน [ภควโต (สฺยา. ก.)];
ถูปสฺมึ อภิโรเปสึ, ปสนฺโน เสหิ ปาณิภิ.
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป…วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ปมนาควิมานํ ทสมํ.
๑๑. ทุติยนาควิมานวตฺถุ
‘‘มหนฺตํ ¶ ¶ นาคํ อภิรุยฺห, สพฺพเสตํ คชุตฺตมํ;
วนา วนํ อนุปริยาสิ, นารีคณปุรกฺขโต;
โอภาเสนฺโต ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ…เป…วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน, วงฺคีเสเนว ปุจฺฉิโต;
ปฺหํ ปุฏฺโ วิยากาสิ, ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต, อุปาสโก จกฺขุมโต อโหสึ;
ปาณาติปาตา วิรโต อโหสึ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยิสฺสํ.
‘‘อมชฺชโป ¶ โน จ มุสา อภาณึ [อภาสึ (สี. ก.)], สเกน ทาเรน จ ตุฏฺโ อโหสึ;
อนฺนฺจ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺโต, สกฺกจฺจ ทานํ วิปุลํ อทาสึ.
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป…วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ทุติยนาควิมานํ เอกาทสมํ.
๑๒. ตติยนาควิมานวตฺถุ
‘‘โก ¶ ¶ นุ ทิพฺเพน ยาเนน, สพฺพเสเตน หตฺถินา;
ตุริยตาฬิตนิคฺโฆโส, อนฺตลิกฺเข มหียติ.
‘‘เทวตา นุสิ คนฺธพฺโพ, อทุ [อาทุ (สี. สฺยา.)] สกฺโก ปุรินฺทโท;
อชานนฺตา ตํ ปุจฺฉาม, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.
‘‘นมฺหิ ¶ เทโว น คนฺธพฺโพ, นาปิ [นามฺหิ (ก.)] สกฺโก ปุรินฺทโท;
สุธมฺมา นาม เย เทวา, เตสํ อฺตโร อห’’นฺติ.
‘‘ปุจฺฉาม เทวํ สุธมฺมํ [เทว สุธมฺม (สฺยา.), เทว สุธมฺมํ (ก.)], ปุถุํ กตฺวาน อฺชลึ;
กึ กตฺวา มานุเส กมฺมํ, สุธมฺมํ อุปปชฺชตี’’ติ.
‘‘อุจฺฉาคารํ ติณาคารํ, วตฺถาคารฺจ โย ทเท;
ติณฺณํ อฺตรํ ทตฺวา, สุธมฺมํ อุปปชฺชตี’’ติ.
ตติยนาควิมานํ ทฺวาทสมํ.
๑๓. จูฬรถวิมานวตฺถุ
‘‘ทฬฺหธมฺมา นิสารสฺส, ธนุํ โอลุพฺภ ติฏฺสิ;
ขตฺติโย นุสิ ราชฺโ, อทุ ลุทฺโท วเนจโร’’ติ [วนาจโรติ (สฺยา. ก.)].
‘‘อสฺสกาธิปติสฺสาหํ ¶ , ภนฺเต ปุตฺโต วเนจโร;
นามํ เม ภิกฺขุ เต พฺรูมิ, สุชาโต อิติ มํ วิทู [วิทุํ (สี.)].
‘‘มิเค คเวสมาโนหํ, โอคาหนฺโต พฺรหาวนํ;
มิคํ ตฺเจว [มิคํ คนฺตฺเวว (สฺยา.), มิควธฺจ (ก.)] นาทฺทกฺขึ, ตฺจ ทิสฺวา ิโต อห’’นฺติ.
‘‘สฺวาคตํ ¶ เต มหาปฺุ, อโถ เต อทุราคตํ;
เอตฺโต อุทกมาทาย, ปาเท ปกฺขาลยสฺสุ เต.
‘‘อิทมฺปิ ปานียํ สีตํ, อาภตํ คิริคพฺภรา;
ราชปุตฺต ตโต ปิตฺวา [ปีตฺวา (สี. สฺยา.)], สนฺถตสฺมึ อุปาวิสา’’ติ.
‘‘กลฺยาณี วต เต วาจา, สวนียา มหามุนิ;
เนลา อตฺถวตี [จตฺถวตี (สี.)] วคฺคุ, มนฺตฺวา [มนฺตา (สฺยา. ปี. ก.)] อตฺถฺจ ภาสสิ [ภาสเส (สี.)].
‘‘กา ¶ เต รติ วเน วิหรโต, อิสินิสภ วเทหิ ปุฏฺโ;
ตว วจนปถํ นิสามยิตฺวา, อตฺถธมฺมปทํ สมาจเรมเส’’ติ.
‘‘อหึสา ¶ สพฺพปาณีนํ, กุมารมฺหาก รุจฺจติ;
เถยฺยา จ อติจารา จ, มชฺชปานา จ อารติ.
‘‘อารติ สมจริยา จ, พาหุสจฺจํ กตฺุตา;
ทิฏฺเว ธมฺเม ปาสํสา, ธมฺมา เอเต ปสํสิยาติ.
‘‘สนฺติเก มรณํ ตุยฺหํ, โอรํ มาเสหิ ปฺจหิ;
ราชปุตฺต ¶ วิชานาหิ, อตฺตานํ ปริโมจยา’’ติ.
‘‘กตมํ สฺวาหํ ชนปทํ คนฺตฺวา, กึ กมฺมํ กิฺจ โปริสํ;
กาย วา ปน วิชฺชาย, ภเวยฺยํ อชรามโร’’ติ.
‘‘น วิชฺชเต โส ปเทโส, กมฺมํ วิชฺชา จ โปริสํ;
ยตฺถ คนฺตฺวา ภเว มจฺโจ, ราชปุตฺตาชรามโร.
‘‘มหทฺธนา มหาโภคา, รฏฺวนฺโตปิ ขตฺติยา;
ปหูตธนธฺาเส, เตปิ โน [เตปิ น (พหูสุ)] อชรามรา.
‘‘ยทิ เต สุตา อนฺธกเวณฺฑุปุตฺตา [อนฺธกเวณฺหุปุตฺตา (สี.), อณฺฑกเวณฺฑปุตฺตา (สฺยา. ก.)], สูรา วีรา วิกฺกนฺตปฺปหาริโน;
เตปิ อายุกฺขยํ ปตฺตา, วิทฺธสฺตา สสฺสตีสมา.
‘‘ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา, สุทฺทา จณฺฑาลปุกฺกุสา;
เอเต จฺเ จ ชาติยา, เตปิ โน อชรามรา.
‘‘เย มนฺตํ ปริวตฺเตนฺติ, ฉฬงฺคํ พฺรหฺมจินฺติตํ;
เอเต จฺเ จ วิชฺชาย, เตปิ โน อชรามรา.
‘‘อิสโย จาปิ เย สนฺตา, สฺตตฺตา ตปสฺสิโน;
สรีรํ เตปิ กาเลน, วิชหนฺติ ตปสฺสิโน.
‘‘ภาวิตตฺตาปิ ¶ อรหนฺโต, กตกิจฺจา อนาสวา;
นิกฺขิปนฺติ อิมํ เทหํ, ปฺุปาปปริกฺขยา’’ติ.
‘‘สุภาสิตา อตฺถวตี, คาถาโย เต มหามุนิ;
นิชฺฌตฺโตมฺหิ ¶ สุภฏฺเน, ตฺวฺจ เม สรณํ ภวา’’ติ.
‘‘มา ¶ มํ ตฺวํ สรณํ คจฺฉ, ตเมว สรณํ วช [ภช (ก.)];
สกฺยปุตฺตํ มหาวีรํ, ยมหํ สรณํ คโต’’ติ.
‘‘กตรสฺมึ โส ชนปเท, สตฺถา ตุมฺหาก มาริส;
อหมฺปิ ทฏฺุํ คจฺฉิสฺสํ, ชินํ อปฺปฏิปุคฺคล’’นฺติ.
‘‘ปุรตฺถิมสฺมึ ¶ ชนปเท, โอกฺกากกุลสมฺภโว;
ตตฺถาสิ ปุริสาชฺโ, โส จ โข ปรินิพฺพุโต’’ติ.
‘‘สเจ หิ พุทฺโธ ติฏฺเยฺย, สตฺถา ตุมฺหาก มาริส;
โยชนานิ สหสฺสานิ, คจฺเฉยฺยํ [คจฺเฉ (สฺยา. ปี. ก.)] ปยิรุปาสิตุํ.
‘‘ยโต จ โข [ยตา โข (ปี. ก.)] ปรินิพฺพุโต, สตฺถา ตุมฺหาก มาริส;
นิพฺพุตมฺปิ [ปรินิพฺพุตํ (สฺยา. ก.)] มหาวีรํ, คจฺฉามิ สรณํ อหํ.
‘‘อุเปมิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมฺจาปิ อนุตฺตรํ;
สงฺฆฺจ นรเทวสฺส, คจฺฉามิ สรณํ อหํ.
‘‘ปาณาติปาตา วิรมามิ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยามิ;
อมชฺชโป โน จ มุสา ภณามิ, สเกน ทาเรน จ โหมิ ตุฏฺโ’’ติ.
‘‘สหสฺสรํสีว ยถา มหปฺปโภ, ทิสํ ยถา ภาติ นเภ อนุกฺกมํ;
ตถาปกาโร [ตถปฺปกาโร (สี. สฺยา.)] ตวายํ [ตวยํ (สี. ปี.)] มหารโถ, สมนฺตโต ¶ โยชนสตฺตมายโต.
‘‘สุวณฺณปฏฺเฏหิ สมนฺตโมตฺถโฏ, อุรสฺส มุตฺตาหิ มณีหิ จิตฺติโต;
เลขา สุวณฺณสฺส จ รูปิยสฺส จ, โสเภนฺติ เวฬุริยมยา สุนิมฺมิตา.
‘‘สีสฺจิทํ ¶ เวฬุริยสฺส นิมฺมิตํ, ยุคฺจิทํ โลหิตกาย จิตฺติตํ;
ยุตฺตา สุวณฺณสฺส จ รูปิยสฺส จ, โสภนฺติ อสฺสา จ อิเม มโนชวา.
‘‘โส ติฏฺสิ เหมรเถ อธิฏฺิโต, เทวานมินฺโทว สหสฺสวาหโน;
ปุจฺฉามิ ตาหํ ยสวนฺต โกวิทํ [โกวิท (ก.)], กถํ ตยา ลทฺโธ อยํ อุฬาโร’’ติ.
‘‘สุชาโต ¶ นามหํ ภนฺเต, ราชปุตฺโต ปุเร อหุํ;
ตฺวฺจ มํ อนุกมฺปาย, สฺมสฺมึ นิเวสยิ.
‘‘ขีณายุกฺจ มํ ตฺวา, สรีรํ ปาทาสิ สตฺถุโน;
อิมํ สุชาต ปูเชหิ, ตํ เต อตฺถาย เหหิติ.
‘‘ตาหํ คนฺเธหิ มาเลหิ, ปูชยิตฺวา สมุยฺยุโต;
ปหาย มานุสํ เทหํ, อุปปนฺโนมฺหิ นนฺทนํ.
‘‘นนฺทเน ¶ จ วเน [นนฺทโนปวเน (สี.), นนฺทเน ปวเน (สฺยา. ก.)] รมฺเม, นานาทิชคณายุเต;
รมามิ นจฺจคีเตหิ, อจฺฉราหิ ปุรกฺขโต’’ติ.
จูฬรถวิมานํ เตรสมํ.
๑๔. มหารถวิมานวตฺถุ
‘‘สหสฺสยุตฺตํ ¶ ¶ หยวาหนํ สุภํ, อารุยฺหิมํ สนฺทนํ เนกจิตฺตํ;
อุยฺยานภูมึ อภิโต อนุกฺกมํ, ปุรินฺทโท ภูตปตีว วาสโว.
‘‘โสวณฺณมยา เต รถกุพฺพรา อุโภ, ผเลหิ [ถเลหิ (สี.)] อํเสหิ อตีว สงฺคตา;
สุชาตคุมฺพา นรวีรนิฏฺิตา, วิโรจตี ปนฺนรเสว จนฺโท.
‘‘สุวณฺณชาลาวตโต ¶ รโถ อยํ, พหูหิ นานารตเนหิ จิตฺติโต;
สุนนฺทิโฆโส จ สุภสฺสโร จ, วิโรจตี จามรหตฺถพาหุภิ.
‘‘อิมา จ นาภฺโย มนสาภินิมฺมิตา, รถสฺส ปาทนฺตรมชฺฌภูสิตา;
อิมา จ นาภฺโย สตราชิจิตฺติตา, สเตรตา วิชฺชุริวปฺปภาสเร.
‘‘อเนกจิตฺตาวตโต ¶ รโถ อยํ, ปุถู จ เนมี จ สหสฺสรํสิโก;
เตสํ สโร สุยฺยติ [สูยติ (สี.)] วคฺคุรูโป, ปฺจงฺคิกํ ตุริยมิวปฺปวาทิตํ.
‘‘สิรสฺมึ ¶ จิตฺตํ มณิจนฺทกปฺปิตํ, สทา วิสุทฺธํ รุจิรํ ปภสฺสรํ;
สุวณฺณราชีหิ อตีว สงฺคตํ, เวฬุริยราชีว อตีว โสภติ.
‘‘อิเม จ วาฬี มณิจนฺทกปฺปิตา, อาโรหกมฺพู สุชวา พฺรหูปมา.
พฺรหา มหนฺตา พลิโน มหาชวา, มโน ตวฺาย ตเถว สึสเร [สพฺพเร (ก.), สปฺปเร (?)].
‘‘อิเม จ สพฺเพ สหิตา จตุกฺกมา, มโน ตวฺาย ตเถว สึสเร;
สมํ วหนฺตา มุทุกา อนุทฺธตา, อาโมทมานา ตุรคาน [ตุรงฺคาน (ก.)] มุตฺตมา.
‘‘ธุนนฺติ วคฺคนฺติ ปตนฺติ [ปวตฺตนฺติ (ปี. ก.)] จมฺพเร, อพฺภุทฺธุนนฺตา สุกเต ปิฬนฺธเน;
เตสํ สโร สุยฺยติ วคฺคุรูโป, ปฺจงฺคิกํ ¶ ตุริยมิวปฺปวาทิตํ.
‘‘รถสฺส ¶ โฆโส อปิฬนฺธนาน จ, ขุรสฺส นาโท [นาที (สฺยา.), นาทิ (ปี. ก.)] อภิหึสนาย จ;
โฆโส สุวคฺคู สมิตสฺส สุยฺยติ, คนฺธพฺพตูริยานิ วิจิตฺรสํวเน.
‘‘รเถ ิตา ตา มิคมนฺทโลจนา, อาฬารปมฺหา หสิตา ปิยํวทา;
เวฬุริยชาลาวตตา ตนุจฺฉวา, สเทว คนฺธพฺพสูรคฺคปูชิตา.
‘‘ตา รตฺตรตฺตมฺพรปีตวาสสา, วิสาลเนตฺตา อภิรตฺตโลจนา;
กุเล สุชาตา สุตนู สุจิมฺหิตา, รเถ ิตา ปฺชลิกา อุปฏฺิตา.
‘‘ตา กมฺพุเกยูรธรา สุวาสสา, สุมชฺฌิมา อูรุถนูปปนฺนา;
วฏฺฏงฺคุลิโย สุมุขา สุทสฺสนา, รเถ ิตา ปฺชลิกา อุปฏฺิตา.
‘‘อฺา สุเวณี สุสุ มิสฺสเกสิโย, สมํ วิภตฺตาหิ ปภสฺสราหิ จ;
อนุพฺพตา ตา ตว มานเส รตา, รเถ ิตา ปฺชลิกา อุปฏฺิตา.
‘‘อาเวฬินิโย ¶ ปทุมุปฺปลจฺฉทา, อลงฺกตา จนฺทนสารวาสิตา [โวสิตา (สฺยา.), ภูสิตา (ก.)];
อนุพฺพตา ¶ ตา ตว มานเส รตา, รเถ ิตา ปฺชลิกา อุปฏฺิตา.
‘‘ตา ¶ มาลินิโย ปทุมุปฺปลจฺฉทา, อลงฺกตา จนฺทนสารวาสิตา;
อนุพฺพตา ตา ตว มานเส รตา, รเถ ิตา ปฺชลิกา อุปฏฺิตา.
‘‘กณฺเสุ ¶ เต ยานิ ปิฬนฺธนานิ, หตฺเถสุ ปาเทสุ ตเถว สีเส;
โอภาสยนฺตี ทส สพฺพโส ทิสา, อพฺภุทฺทยํ สารทิโกว ภาณุมา.
‘‘วาตสฺส เวเคน จ สมฺปกมฺปิตา, ภุเชสุ มาลา อปิฬนฺธนานิ จ;
มฺุจนฺติ โฆสํ รูจิรํ สุจึ สุภํ, สพฺเพหิ วิฺูหิ สุตพฺพรูปํ.
‘‘อุยฺยานภูมฺยา จ ทุวทฺธโต ิตา, รถา ¶ จ นาคา ตูริยานิ จ สโร;
ตเมว เทวินฺท ปโมทยนฺติ, วีณา ยถา โปกฺขรปตฺตพาหุภิ.
‘‘อิมาสุ วีณาสุ พหูสุ วคฺคูสุ, มนฺุรูปาสุ หทเยริตํ ปีตึ [หทเยริตํ ปติ (สี.), หทเยริตมฺปิ ตํ (สฺยา.)];
ปวชฺชมานาสุ อตีว อจฺฉรา, ภมนฺติ กฺา ปทุเมสุ สิกฺขิตา.
‘‘ยทา จ คีตานิ จ วาทิตานิ จ, นจฺจานิ จิมานิ [เจมานิ (สี.)] สเมนฺติ เอกโต;
อเถตฺถ นจฺจนฺติ อเถตฺถ อจฺฉรา, โอภาสยนฺตี อุภโต วริตฺถิโย.
‘‘โส โมทสิ ตุริยคณปฺปโพธโน, มหียมาโน วชิราวุโธริว;
อิมาสุ วีณาสุ พหูสุ วคฺคูสุ, มนฺุรูปาสุ หทเยริตํ ปีตึ.
‘‘กึ ตฺวํ ปุเร กมฺมมกาสิ อตฺตนา, มนุสฺสภูโต ปุริมาย ชาติยา;
อุโปสถํ กํ วา [อุโปสถํ กึ ว (สฺยา.)] ตุวํ อุปาวสิ, กํ [กึ (สฺยา.)] ธมฺมจริยํ วตมาภิโรจยิ.
‘‘นยีทมปฺปสฺส ¶ กตสฺส [นยิทํ อปฺปสฺส กตสฺส (สี. สฺยา.), สาเสทํ อปฺปกตสฺส (ก.)] กมฺมุโน, ปุพฺเพ สุจิณฺณสฺส อุโปสถสฺส วา;
อิทฺธานุภาโว ¶ วิปุโล อยํ ตว, ยํ เทวสงฺฆํ อภิโรจเส ภุสํ.
‘‘ทานสฺส เต อิทํ ผลํ, อโถ สีลสฺส วา ปน;
อโถ อฺชลิกมฺมสฺส, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.
โส ¶ เทวปุตฺโต อตฺตมโน, โมคฺคลฺลาเนน ปุจฺฉิโต;
ปฺหํ ปุฏฺโ วิยากาสิ, ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลนฺติ.
‘‘ชิตินฺทฺริยํ พุทฺธมโนมนิกฺกมํ, นรุตฺตมํ กสฺสปมคฺคปุคฺคลํ;
อวาปุรนฺตํ อมตสฺส ทฺวารํ, เทวาติเทวํ สตปฺุลกฺขณํ.
‘‘ตมทฺทสํ กฺุชรโมฆติณฺณํ, สุวณฺณสิงฺคีนทพิมฺพสาทิสํ;
ทิสฺวาน ตํ ขิปฺปมหุํ สุจีมโน, ตเมว ทิสฺวาน สุภาสิตทฺธชํ.
‘‘ตมนฺนปานํ อถวาปิ จีวรํ, สุจึ ปณีตํ รสสา อุเปตํ;
ปุปฺผาภิกฺกิณมฺหิ สเก นิเวสเน, ปติฏฺเปสึ ส อสงฺคมานโส.
‘‘ตมนฺนปาเนน ¶ จ จีวเรน จ, ขชฺเชน โภชฺเชน จ สายเนน จ;
สนฺตปฺปยิตฺวา ¶ ทฺวิปทานมุตฺตมํ, โส สคฺคโส เทวปุเร รมามหํ.
‘‘เอเตนุปาเยน อิมํ นิรคฺคฬํ, ยฺํ ยชิตฺวา ติวิธํ วิสุทฺธํ.
ปหายหํ มานุสกํ สมุสฺสยํ, อินฺทูปโม [อินฺทสฺสโม (สฺยา. ก.)] เทวปุเร รมามหํ.
‘‘อายฺุจ ¶ วณฺณฺจ สุขํ พลฺจ, ปณีตรูปํ อภิกงฺขตา มุนิ;
อนฺนฺจ ปานฺจ พหุํ สุสงฺขตํ, ปติฏฺเปตพฺพมสงฺคมานเส.
[กถา. ๗๙๙]‘‘นยิมสฺมึ โลเก ปรสฺมึ [นยิมสฺมึ วา โลเก ปรสฺมึ (กถาวตฺถุ ๗๙๙), นยิมสฺมิ โลเก ว ปรสฺมิ (?)] วา ปน, พุทฺเธน เสฏฺโ ว สโม ว วิชฺชติ;
อาหุเนยฺยานํ [ยมาหุเนยฺยานํ (ก.)] ปรมาหุตึ คโต, ปฺุตฺถิกานํ วิปุลปฺผเลสิน’’นฺติ.
มหารถวิมานํ จุทฺทสมํ.
มหารถวคฺโค ปฺจโม นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
มณฺฑูโก เรวตี ฉตฺโต, กกฺกโฏ ทฺวารปาลโก;
ทฺเว กรณียา ทฺเว สูจิ, ตโย นาคา จ ทฺเว รถา;
ปุริสานํ ปโม วคฺโค ปวุจฺจตีติ.
ภาณวารํ ตติยํ นิฏฺิตํ.
๖. ปายาสิวคฺโค
๑. ปมอคาริยวิมานวตฺถุ
‘‘ยถา ¶ ¶ ¶ วนํ จิตฺตลตํ ปภาสติ [ปกาสติ (ก.)], อุยฺยานเสฏฺํ ติทสานมุตฺตมํ;
ตถูปมํ ตุยฺหมิทํ วิมานํ, โอภาสยํ ติฏฺติ อนฺตลิกฺเข.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส ¶ เทวปุตฺโต อตฺตมโน, โมคฺคลฺลาเนน ปุจฺฉิโต;
ปฺหํ ปุฏฺโ วิยากาสิ, ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘อหฺจ ภริยา จ มนุสฺสโลเก, โอปานภูตา ฆรมาวสิมฺห;
อนฺนฺจ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺตา, สกฺกจฺจ ทานํ วิปุลํ อทมฺห.
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป…วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ปมอคาริยวิมานํ ปมํ.
๒. ทุติยอคาริยวิมานวตฺถุ
‘‘ยถา ¶ วนํ จิตฺตลตํ ปภาสติ, อุยฺยานเสฏฺํ ติทสานมุตฺตมํ;
ตถูปมํ ¶ ตุยฺหมิทํ วิมานํ, โอภาสยํ ติฏฺติ อนฺตลิกฺเข.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘อหฺจ ภริยา จ มนุสฺสโลเก, โอปานภูตา ฆรมาวสิมฺห;
อนฺนฺจ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺตา, สกฺกจฺจ ทานํ วิปุลํ อทมฺห.
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป… วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ทุติยอคาริยวิมานํ ทุติยํ.
๓. ผลทายกวิมานวตฺถุ
‘‘อุจฺจมิทํ ¶ ¶ ¶ มณิถูณํ วิมานํ, สมนฺตโต โสฬส โยชนานิ;
กูฏาคารา สตฺตสตา อุฬารา, เวฬุริยถมฺภา รุจกตฺถตา สุภา.
‘‘ตตฺถจฺฉสิ ปิวสิ ขาทสิ จ, ทิพฺพา ¶ จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ;
อฏฺฏฺกา สิกฺขิตา สาธุรูปา, ทิพฺพา จ กฺา ติทสจรา อุฬารา;
นจฺจนฺติ คายนฺติ ปโมทยนฺติ.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘ผลทายี ผลํ วิปุลํ ลภติ, ททมุชุคเตสุ ปสนฺนมานโส;
โส หิ ปโมทติ [โมทติ (สี. สฺยา. ปี.)] สคฺคคโต ติทิเว [ตตฺถ (ก.)], อนุโภติ จ ปฺุผลํ วิปุลํ.
‘‘ตเววาหํ [ตเถวาหํ (สี. สฺยา. ปี.)] มหามุนิ, อทาสึ จตุโร ผเล.
‘‘ตสฺมา หิ ผลํ อลเมว ทาตุํ, นิจฺจํ มนุสฺเสน สุขตฺถิเกน;
ทิพฺพานิ วา ปตฺถยตา สุขานิ, มนุสฺสโสภคฺคตมิจฺฉตา วา.
‘‘เตน ¶ เมตาทิโส วณฺโณ…เป…
วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ผลทายกวิมานํ ตติยํ.
๔. ปมอุปสฺสยทายกวิมานวตฺถุ
‘‘จนฺโท ¶ ¶ ยถา วิคตวลาหเก นเภ, โอภาสยํ คจฺฉติ อนฺตลิกฺเข;
ตถูปมํ ตุยฺหมิทํ วิมานํ, โอภาสยํ ติฏฺติ อนฺตลิกฺเข.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาวา, มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘อหฺจ ภริยา จ มนุสฺสโลเก, อุปสฺสยํ อรหโต อทมฺห;
อนฺนฺจ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺตา, สกฺกจฺจ ทานํ วิปุลํ อทมฺห.
‘‘เตน ¶ เมตาทิโส วณฺโณ…เป… วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ปมอุปสฺสยทายกวิมานํ จตุตฺถํ.
๕. ทุติยอุปสฺสยทายกวิมานวตฺถุ
สูริโย ¶ ¶ ยถา วิคตวลาหเก นเภ…เป….
(ยถา ปุริมวิมานํ ตถา วิตฺถาเรตพฺพํ).
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป…วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ทุติยอุปสฺสยทายกวิมานํ ปฺจมํ.
๖. ภิกฺขาทายกวิมานวตฺถุ
‘‘อุจฺจมิทํ ¶ มณิถูณํ วิมานํ, สมนฺตโต ทฺวาทส โยชนานิ;
กูฏาคารา สตฺตสตา อุฬารา, เวฬุริยถมฺภา รุจกตฺถตา สุภา.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ ¶ มหานุภาโว, มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต, ทิสฺวาน ภิกฺขุํ ตสิตํ กิลนฺตํ;
เอกาหํ ภิกฺขํ ปฏิปาทยิสฺสํ, สมงฺคิ ภตฺเตน ตทา อกาสึ.
‘‘เตน ¶ เมตาทิโส วณฺโณ…เป… วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ภิกฺขาทายกวิมานํ ฉฏฺํ.
๗. ยวปาลกวิมานวตฺถุ
‘‘อุจฺจมิทํ มณิถูณํ วิมานํ…เป… วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘อหํ ¶ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต, อโหสึ ยวปาลโก;
อทฺทสํ วิรชํ ภิกฺขุํ, วิปฺปสนฺนมนาวิลํ.
‘‘ตสฺส ¶ อทาสหํ ภาคํ, ปสนฺโน เสหิ ปาณิภิ;
กุมฺมาสปิณฺฑํ ทตฺวาน, โมทามิ นนฺทเน วเน.
‘‘เตน ¶ เมตาทิโส วณฺโณ…เป… วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ยวปาลกวิมานํ สตฺตมํ.
๘. ปมกุณฺฑลีวิมานวตฺถุ
‘‘อลงฺกโต มลฺยธโร สุวตฺโถ, สุกุณฺฑลี กปฺปิตเกสมสฺสุ;
อามุตฺตหตฺถาภรโณ ยสสฺสี, ทิพฺเพ ¶ วิมานมฺหิ ยถาปิ จนฺทิมา.
‘‘ทิพฺพา จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ, อฏฺฏฺกา สิกฺขิตา สาธุรูปา;
ทิพฺพา จ กฺา ติทสจรา อุฬารา, นจฺจนฺติ คายนฺติ ปโมทยนฺติ.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต, ทิสฺวาน สมเณ สีลวนฺเต;
สมฺปนฺนวิชฺชาจรเณ ยสสฺสี, พหุสฺสุเต ตณฺหกฺขยูปปนฺเน;
อนฺนฺจ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺโต, สกฺกจฺจ ทานํ วิปุลํ อทาสึ.
‘‘เตน ¶ เมตาทิโส วณฺโณ…เป…วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ปมกุณฺฑลีวิมานํ อฏฺมํ.
๙. ทุติยกุณฺฑลีวิมานวตฺถุ
‘‘อลงฺกโต ¶ ¶ มลฺยธโร สุวตฺโถ, สุกุณฺฑลี กปฺปิตเกสมสฺสุ;
อามุตฺตหตฺถาภรโณ ยสสฺสี, ทิพฺเพ วิมานมฺหิ ยถาปิ จนฺทิมา.
‘‘ทิพฺพา จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ, อฏฺฏฺกา สิกฺขิตา สาธุรูปา;
ทิพฺพา จ กฺา ติทสจรา อุฬารา, นจฺจนฺติ คายนฺติ ปโมทยนฺติ.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘อหํ ¶ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต, ทิสฺวาน สมเณ สาธุรูเป [สีลวนฺเต (ก.)];
สมฺปนฺนวิชฺชาจรเณ ยสสฺสี, พหุสฺสุเต สีลวนฺเต ปสนฺเน [สีลวตูปปนฺเน (ก. สี. ก.)];
อนฺนฺจ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺโต, สกฺกจฺจ ¶ ทานํ วิปุลํ อทาสึ.
‘‘เตน ¶ เมตาทิโส วณฺโณ…เป…วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
ทุติยกุณฺฑลีวิมานํ นวมํ.
๑๐. (อุตฺตร) ปายาสิวิมานวตฺถุ
‘‘ยา ¶ เทวราชสฺส สภา สุธมฺมา, ยตฺถจฺฉติ เทวสงฺโฆ สมคฺโค;
ตถูปมํ ตุยฺหมิทํ วิมานํ, โอภาสยํ ติฏฺติ อนฺตลิกฺเข.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต, รฺโ ปายาสิสฺส อโหสึ มาณโว;
ลทฺธา ธนํ สํวิภาคํ อกาสึ, ปิยา จ เม สีลวนฺโต อเหสุํ;
อนฺนฺจ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺโต, สกฺกจฺจ ¶ ทานํ วิปุลํ อทาสึ.
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป. ¶ …วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
(อุตฺตร) ปายาสิวิมานํ [อุตฺตรวิมานํ (สี. สฺยา. อฏฺ.)] ทสมํ.
ปายาสิวคฺโค ฉฏฺโ นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
ทฺเว อคาริโน ผลทายี, ทฺเว อุปสฺสยทายี ภิกฺขาย ทายี;
ยวปาลโก เจว ทฺเว, กุณฺฑลิโน ปายาสีติ [ปาเภโท นตฺถิ];
ปุริสานํ ทุติโย วคฺโค ปวุจฺจตีติ.
๗. สุนิกฺขิตฺตวคฺโค
๑. จิตฺตลตาวิมานวตฺถุ
‘‘ยถา ¶ ¶ ¶ วนํ จิตฺตลตํ ปภาสติ, อุยฺยานเสฏฺํ ติทสานมุตฺตมํ;
ตถูปมํ ตุยฺหมิทํ วิมานํ, โอภาสยํ ติฏฺติ อนฺตลิกฺเข.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ¶ ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต, ทลิทฺโท อตาโณ กปโณ กมฺมกโร อโหสึ;
ชิณฺเณ จ มาตาปิตโร อภารึ [อภรึ (สี. สฺยา.)], ปิยา จ เม สีลวนฺโต อเหสุํ;
อนฺนฺจ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺโต, สกฺกจฺจ ทานํ วิปุลํ อทาสิ.
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป… วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
จิตฺตลตาวิมานํ ปมํ.
๒. นนฺทนวิมานวตฺถุ
‘‘ยถา ¶ วนํ นนฺทนํ [นนฺทนํ จิตฺตลตํ (สี. สฺยา. ก.), นนฺทวนํ (ก.)] ปภาสติ, อุยฺยานเสฏฺํ ติทสานมุตฺตมํ;
ตถูปมํ ตุยฺหมิทํ วิมานํ, โอภาสยํ ติฏฺติ อนฺตลิกฺเข.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ ¶ มหานุภาโว, มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ¶ ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต, ทลิทฺโท อตาโณ กปโณ กมฺมกโร อโหสึ;
ชิณฺเณ จ มาตาปิตโร อภารึ, ปิยา จ เม สีลวนฺโต อเหสุํ;
อนฺนฺจ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺโต, สกฺกจฺจ ทานํ วิปุลํ อทาสึ.
‘‘เตน ¶ เมตาทิโส วณฺโณ…เป… วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
นนฺทนวิมานํ ทุติยํ.
๓. มณิถูณวิมานวตฺถุ
‘‘อุจฺจมิทํ ¶ มณิถูณํ วิมานํ, สมนฺตโต ทฺวาทส โยชนานิ;
กูฏาคารา สตฺตสตา อุฬารา, เวฬุริยถมฺภา รุจกตฺถตา สุภา.
‘‘ตตฺถจฺฉสิ ปิวสิ ขาทสิ จ, ทิพฺพา จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ;
ทิพฺพา รสา กามคุเณตฺถ ปฺจ, นาริโย จ นจฺจนฺติ สุวณฺณฉนฺนา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ…เป…วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส ¶ เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป…ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘อหํ ¶ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต, วิวเน ปเถ สงฺกมนํ [จงฺกมนํ (สี.), จงฺกมํ (สฺยา.), สมกํ (ก. สี.)] อกาสึ;
อารามรุกฺขานิ จ โรปยิสฺสํ, ปิยา จ เม สีลวนฺโต อเหสุํ;
อนฺนฺจ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺโต, สกฺกจฺจ ทานํ วิปุลํ อทาสึ.
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ…เป… วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
มณิถูณวิมานํ ตติยํ.
๔. สุวณฺณวิมานวตฺถุ
‘‘โสวณฺณมเย ¶ ปพฺพตสฺมึ, วิมานํ สพฺพโตปภํ;
เหมชาลปฏิจฺฉนฺนํ [เหมชาลกปจฺฉนฺนํ (สี.)], กิงฺกิณิ [กิงฺกณิก (สฺยา. ก.), กิงฺกิณิก (ปี.)] ชาลกปฺปิตํ.
‘‘อฏฺํสา สุกตา ถมฺภา, สพฺเพ เวฬุริยามยา;
เอกเมกาย อํสิยา, รตนา สตฺต นิมฺมิตา.
‘‘เวฬุริยสุวณฺณสฺส, ผลิกา รูปิยสฺส จ;
มสารคลฺลมุตฺตาหิ, โลหิตงฺคมณีหิ จ.
‘‘จิตฺรา มโนรมา ภูมิ, น ตตฺถุทฺธํสตี รโช;
โคปาณสีคณา ปีตา, กูฏํ ธาเรนฺติ นิมฺมิตา.
‘‘โสปาณานิ ¶ จ จตฺตาริ, นิมฺมิตา จตุโร ทิสา;
นานารตนคพฺเภหิ ¶ , อาทิจฺโจว วิโรจติ.
‘‘เวทิยา จตสฺโส ตตฺถ, วิภตฺตา ภาคโส มิตา;
ททฺทลฺลมานา อาภนฺติ, สมนฺตา จตุโร ทิสา.
‘‘ตสฺมึ วิมาเน ปวเร, เทวปุตฺโต มหปฺปโภ;
อติโรจสิ วณฺเณน, อุทยนฺโตว ภาณุมา.
‘‘ทานสฺส ¶ เต อิทํ ผลํ, อโถ สีลสฺส วา ปน;
อโถ อฺชลิกมฺมสฺส, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’.
โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘อหํ อนฺธกวินฺทสฺมึ, พุทฺธสฺสาทิจฺจพนฺธุโน;
วิหารํ สตฺถุ กาเรสึ, ปสนฺโน เสหิ ปาณิภิ.
‘‘ตตฺถ คนฺธฺจ มาลฺจ, ปจฺจยฺจ [ปจฺจคฺคฺจ (สี.), ปจฺจคฺฆฺจ (?)] วิเลปนํ;
วิหารํ สตฺถุ อทาสึ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา;
เตน มยฺหํ อิทํ ลทฺธํ, วสํ วตฺเตมิ นนฺทเน.
‘‘นนฺทเน จ วเน [นนฺทเน ปวเน (สี. สฺยา.)] รมฺเม, นานาทิชคณายุเต;
รมามิ นจฺจคีเตหิ, อจฺฉราหิ ปุรกฺขโต’’ติ.
สุวณฺณวิมานํ จตุตฺถํ.
๕. อมฺพวิมานวตฺถุ
‘‘อุจฺจมิทํ ¶ มณิถูณํ วิมานํ, สมนฺตโต ทฺวาทส โยชนานิ;
กูฏาคารา ¶ สตฺตสตา อุฬารา, เวฬุริยถมฺภา รุจกตฺถตา สุภา.
‘‘ตตฺถจฺฉสิ ปิวสิ ขาทสิ จ, ทิพฺพา จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ;
ทิพฺพา รสา กามคุเณตฺถ ปฺจ, นาริโย จ นจฺจนฺติ สุวณฺณฉนฺนา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ…เป… วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘คิมฺหานํ ¶ ปจฺฉิเม มาเส, ปตปนฺเต [ปตาปนฺเต (สฺยา.), ปตาเปนฺเต (ก.)] ทิวงฺกเร;
ปเรสํ ภตโก โปโส, อมฺพารามมสิฺจติ.
‘‘อถ ¶ เตนาคมา ภิกฺขุ, สาริปุตฺโตติ วิสฺสุโต;
กิลนฺตรูโป กาเยน, อกิลนฺโตว เจตสา.
‘‘ตฺจ ¶ ทิสฺวาน อายนฺตํ, อโวจํ อมฺพสิฺจโก;
สาธุ ตํ [สาธุกํ (ก.)] ภนฺเต นฺหาเปยฺยํ, ยํ มมสฺส สุขาวหํ.
‘‘ตสฺส เม อนุกมฺปาย, นิกฺขิปิ ปตฺตจีวรํ;
นิสีทิ รุกฺขมูลสฺมึ, ฉายาย เอกจีวโร.
‘‘ตฺจ อจฺเฉน วารินา, ปสนฺนมานโส นโร;
นฺหาปยี รุกฺขมูลสฺมึ, ฉายาย เอกจีวรํ.
‘‘อมฺโพ ¶ จ สิตฺโต สมโณ จ นฺหาปิโต, มยา จ ปฺุํ ปสุตํ อนปฺปกํ;
อิติ โส ปีติยา กายํ, สพฺพํ ผรติ อตฺตโน.
‘‘ตเทว เอตฺตกํ กมฺมํ, อกาสึ ตาย ชาติยา;
ปหาย มานุสํ เทหํ, อุปปนฺโนมฺหิ นนฺทนํ.
‘‘นนฺทเน จ วเน รมฺเม, นานาทิชคณายุเต;
รมามิ นจฺจคีเตหิ, อจฺฉราหิ ปุรกฺขโต’’ติ.
อมฺพวิมานํ ปฺจมํ.
๖. โคปาลวิมานวตฺถุ
‘‘ทิสฺวาน เทวํ ปฏิปุจฺฉิ ภิกฺขุ, อุจฺเจ วิมานมฺหิ จิรฏฺิติเก;
อามุตฺตหตฺถาภรณํ ยสสฺสึ [อามุตฺตหตฺถาภรโณ ยสสฺสี (สฺยา. ปี. ก.)], ทิพฺเพ วิมานมฺหิ ยถาปิ จนฺทิมา.
‘‘อลงฺกโต ¶ ¶ มลฺยธโร [มาลภารี (สี.), มาลธรี (ก.)] สุวตฺโถ, สุกุณฺฑลี กปฺปิตเกสมสฺสุ;
อามุตฺตหตฺถาภรโณ ยสสฺสี, ทิพฺเพ วิมานมฺหิ ยถาปิ จนฺทิมา.
‘‘ทิพฺพา จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ, อฏฺฏฺกา สิกฺขิตา สาธุรูปา;
ทิพฺพา จ กฺา ติทสจรา อุฬารา, นจฺจนฺติ คายนฺติ ปโมทยนฺติ.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส ¶ เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูโต, สงฺคมฺม รกฺขิสฺสํ ปเรสํ เธนุโย;
ตโต จ อาคา สมโณ มมนฺติเก คาโว จ มาเส อคมํสุ ขาทิตุํ.
‘‘ทฺวยชฺช ¶ กิจฺจํ อุภยฺจ การิยํ, อิจฺเจวหํ [อิจฺเจวํ (ก.)] ภนฺเต ตทา วิจินฺตยึ;
ตโต จ สฺํ ปฏิลทฺธโยนิโส, ททามิ ภนฺเตติ ขิปึ อนนฺตกํ.
‘‘โส มาสเขตฺตํ ตุริโต อวาสรึ, ปุรา อยํ ภฺชติ ยสฺสิทํ ธนํ;
ตโต จ กณฺโห อุรโค มหาวิโส, อฑํสิ ปาเท ตุริตสฺส เม สโต.
‘‘สฺวาหํ ¶ อฏฺโฏมฺหิ ทุกฺเขน ปีฬิโต, ภิกฺขุ จ ตํ สามํ มฺุจิตฺวานนฺตกํ [มฺุจิตฺว นนฺตกํ (สี.), มฺุจิตฺวา อนนฺตกํ (สฺยา.)];
อหาสิ กุมฺมาสํ มมานุกมฺปยา [มมานุกมฺปิยา (ปี. ก.), มมานุกมฺปาย (สฺยา.)], ตโต จุโต กาลกโตมฺหิ เทวตา.
‘‘ตเทว ¶ กมฺมํ กุสลํ กตํ มยา, สุขฺจ กมฺมํ อนุโภมิ อตฺตนา;
ตยา หิ ภนฺเต อนุกมฺปิโต ภุสํ, กตฺุตาย อภิปาทยามิ ตํ.
‘‘สเทวเก โลเก สมารเก จ, อฺโ มุนิ นตฺถิ ตยานุกมฺปโก;
ตยา หิ ภนฺเต อนุกมฺปิโต ภุสํ, กตฺุตาย อภิวาทยามิ ตํ.
‘‘อิมสฺมึ ¶ โลเก ปรสฺมึ วา ปน, อฺโ มุนี นตฺถิ ตยานุกมฺปโก;
ตยา หิ ภนฺเต อนุกมฺปิโต ภุสํ, กตฺุตาย อภิวาทยามิ ต’’นฺติ.
โคปาลวิมานํ ฉฏฺํ.
๗. กณฺฑกวิมานวตฺถุ
‘‘ปุณฺณมาเส ยถา จนฺโท, นกฺขตฺตปริวาริโต;
สมนฺตา อนุปริยาติ, ตารกาธิปตี สสี.
‘‘ตถูปมํ อิทํ พฺยมฺหํ, ทิพฺพํ เทวปุรมฺหิ จ;
อติโรจติ วณฺเณน, อุทยนฺโตว รํสิมา.
‘‘เวฬุริยสุวณฺณสฺส, ผลิกา รูปิยสฺส จ;
มสารคลฺลมุตฺตาหิ, โลหิตงฺคมณีหิ จ.
‘‘จิตฺรา มโนรมา ภูมิ, เวฬูริยสฺส สนฺถตา;
กูฏาคารา ¶ สุภา รมฺมา, ปาสาโท เต สุมาปิโต.
‘‘รมฺมา ¶ ¶ จ เต โปกฺขรณี, ปุถุโลมนิเสวิตา;
อจฺโฉทกา วิปฺปสนฺนา, โสวณฺณวาลุกสนฺถตา.
‘‘นานาปทุมสฺฉนฺนา, ปุณฺฑรีกสโมตตา [สโมตฺถตา (ก.), สโมคตา (สฺยา.)];
สุรภึ สมฺปวายนฺติ, มนฺุา มาลุเตริตา.
‘‘ตสฺสา ¶ เต อุภโต ปสฺเส, วนคุมฺพา สุมาปิตา;
อุเปตา ปุปฺผรุกฺเขหิ, ผลรุกฺเขหิ จูภยํ.
‘‘โสวณฺณปาเท ปลฺลงฺเก, มุทุเก โคณกตฺถเต [โจลสนฺถเต (สี.)];
นิสินฺนํ เทวราชํว, อุปติฏฺนฺติ อจฺฉรา.
‘‘สพฺพาภรณสฺฉนฺนา, นานามาลาวิภูสิตา;
รเมนฺติ ตํ มหิทฺธิกํ, วสวตฺตีว โมทสิ.
‘‘เภริสงฺขมุทิงฺคาหิ, วีณาหิ ปณเวหิ จ;
รมสิ รติสมฺปนฺโน, นจฺจคีเต สุวาทิเต.
‘‘ทิพฺพา เต วิวิธา รูปา, ทิพฺพา สทฺทา อโถ รสา;
คนฺธา จ เต อธิปฺเปตา, โผฏฺพฺพา จ มโนรมา.
‘‘ตสฺมึ วิมาเน ปวเร, เทวปุตฺต มหปฺปโภ;
อติโรจสิ วณฺเณน, อุทยนฺโตว ภาณุมา.
‘‘ทานสฺส เต อิทํ ผลํ, อโถ สีลสฺส วา ปน;
อโถ อฺชลิกมฺมสฺส, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’.
โส ¶ เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘อหํ กปิลวตฺถุสฺมึ, สากิยานํ ปุรุตฺตเม;
สุทฺโธทนสฺส ปุตฺตสฺส, กณฺฑโก สหโช อหํ.
‘‘ยทา โส อฑฺฒรตฺตายํ, โพธาย มภินิกฺขมิ;
โส มํ มุทูหิ ปาณีหิ, ชาลิ [ชาล (สี.)] ตมฺพนเขหิ จ.
‘‘สตฺถึ อาโกฏยิตฺวาน, วห สมฺมาติ จพฺรวิ;
อหํ โลกํ ตารยิสฺสํ, ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตมํ.
‘‘ตํ ¶ เม คิรํ สุณนฺตสฺส, หาโส เม วิปุโล อหุ;
อุทคฺคจิตฺโต สุมโน, อภิสีสึ [อภิสึสึ (สี.), อภิสีสิ (ปี.)] ตทา อหํ.
‘‘อภิรูฬฺหฺจ มํ ตฺวา, สกฺยปุตฺตํ มหายสํ;
อุทคฺคจิตฺโต มุทิโต, วหิสฺสํ ปุริสุตฺตมํ.
‘‘ปเรสํ วิชิตํ คนฺตฺวา, อุคฺคตสฺมึ ทิวากเร [ทิวงฺกเร (สฺยา. ก.)];
มมํ ฉนฺนฺจ โอหาย, อนเปกฺโข โส อปกฺกมิ.
‘‘ตสฺส ¶ ตมฺพนเข ปาเท, ชิวฺหาย ปริเลหิสํ;
คจฺฉนฺตฺจ มหาวีรํ, รุทมาโน อุทิกฺขิสํ.
‘‘อทสฺสเนนหํ ¶ ตสฺส, สกฺยปุตฺตสฺส สิรีมโต;
อลตฺถํ ครุกาพาธํ, ขิปฺปํ เม มรณํ อหุ.
‘‘ตสฺเสว อานุภาเวน, วิมานํ อาวสามิทํ;
สพฺพกามคุโณเปตํ ¶ , ทิพฺพํ เทวปุรมฺหิ จ.
‘‘ยฺจ เม อหุวา หาโส, สทฺทํ สุตฺวาน โพธิยา;
เตเนว กุสลมูเลน, ผุสิสฺสํ อาสวกฺขยํ.
‘‘สเจ หิ ภนฺเต คจฺเฉยฺยาสิ, สตฺถุ พุทฺธสฺส สนฺติเก;
มมาปิ นํ วจเนน, สิรสา วชฺชาสิ วนฺทนํ.
‘‘อหมฺปิ ทฏฺุํ คจฺฉิสฺสํ, ชินํ อปฺปฏิปุคฺคลํ;
ทุลฺลภํ ทสฺสนํ โหติ, โลกนาถาน ตาทิน’’นฺติ.
โส กตฺู กตเวที, สตฺถารํ อุปสงฺกมิ;
สุตฺวา คิรํ จกฺขุมโต, ธมฺมจกฺขุํ วิโสธยิ.
วิโสเธตฺวา ทิฏฺิคตํ, วิจิกิจฺฉํ วตานิ จ;
วนฺทิตฺวา สตฺถุโน ปาเท, ตตฺเถวนฺตรธายถาติ [ตตฺเถวนฺตรธายตีติ (ก.)].
กณฺฑกวิมานํ สตฺตมํ.
๘. อเนกวณฺณวิมานวตฺถุ
‘‘อเนกวณฺณํ ¶ ¶ ทรโสกนาสนํ, วิมานมารุยฺห อเนกจิตฺตํ;
ปริวาริโต อจฺฉราสงฺคเณน, สุนิมฺมิโต ภูตปตีว โมทสิ.
‘‘สมสฺสโม นตฺถิ กุโต ปนุตฺตโร [อุตฺตริ (ก.)], ยเสน ปฺุเน จ อิทฺธิยา จ;
สพฺเพ จ เทวา ติทสคณา สเมจฺจ, ตํ ¶ ตํ นมสฺสนฺติ สสึว เทวา;
อิมา จ เต อจฺฉราโย สมนฺตโต, นจฺจนฺติ คายนฺติ ปโมทยนฺติ.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ ¶ มหานุภาโว, มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส เทวปุตฺโต อตฺตมโน…เป… ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘อหํ ภทนฺเต อหุวาสิ ปุพฺเพ, สุเมธนามสฺส ชินสฺส สาวโก;
ปุถุชฺชโน อนนุโพโธหมสฺมิ [อนวโพโธหมสฺมึ (สี.), อนนุโพโธหมาสึ (?)], โส สตฺต วสฺสานิ ปริพฺพชิสฺสหํ [ปพฺพชิสฺสหํ (สฺยา. ก.), ปพฺพชิสาหํ (ปี.)].
‘‘โสหํ ¶ สุเมธสฺส ชินสฺส สตฺถุโน, ปรินิพฺพุตสฺโสฆติณฺณสฺส ตาทิโน;
รตนุจฺจยํ เหมชาเลน ฉนฺนํ, วนฺทิตฺวา ถูปสฺมึ มนํ ปสาทยึ.
‘‘น ¶ มาสิ ทานํ น จ มตฺถิ ทาตุํ, ปเร จ โข ตตฺถ สมาทเปสึ;
ปูเชถ นํ ปูชนียสฺส [ปูชเนยฺยสฺส (สฺยา. ก.)] ธาตุํ, เอวํ ¶ กิร สคฺคมิโต คมิสฺสถ.
‘‘ตเทว กมฺมํ กุสลํ กตํ มยา, สุขฺจ ทิพฺพํ อนุโภมิ อตฺตนา;
โมทามหํ ติทสคณสฺส มชฺเฌ, น ตสฺส ปฺุสฺส ขยมฺปิ อชฺฌค’’นฺติ.
อเนกวณฺณวิมานํ อฏฺมํ.
๙. มฏฺกุณฺฑลีวิมานวตฺถุ
[เป. ว. ๑๘๖] ‘‘อลงฺกโต ¶ มฏฺกุณฺฑลี [มฏฺฏกุณฺฑลี (สี.)], มาลธารี หริจนฺทนุสฺสโท;
พาหา ปคฺคยฺห กนฺทสิ, วนมชฺเฌ กึ ทุกฺขิโต ตุว’’นฺติ.
‘‘โสวณฺณมโย ปภสฺสโร, อุปฺปนฺโน รถปฺชโร มม;
ตสฺส จกฺกยุคํ น วินฺทามิ, เตน ทุกฺเขน ชหามิ [ชหิสฺสํ (สี.), ชหิสฺสามิ (สฺยา. ปี.)] ชีวิต’’นฺติ.
‘‘โสวณฺณมยํ มณิมยํ, โลหิตกมยํ [โลหิตงฺคมยํ (สฺยา.), โลหิตงฺกมยํ (สี.), โลหมยํ (กตฺถจิ)] อถ รูปิยมยํ;
อาจิกฺข [อาจิกฺขถ (ก.)] เม ภทฺทมาณว, จกฺกยุคํ ปฏิปาทยามิ เต’’ติ.
โส ¶ มาณโว ตสฺส ปาวทิ, ‘‘จนฺทิมสูริยา อุภเยตฺถ ทิสฺสเร;
โสวณฺณมโย รโถ มม, เตน จกฺกยุเคน โสภตี’’ติ.
‘‘พาโล ¶ โข ตฺวํ อสิ มาณว, โย ตฺวํ ปตฺถยเส อปตฺถิยํ;
มฺามิ ตุวํ มริสฺสสิ, น หิ ตฺวํ ลจฺฉสิ จนฺทิมสูริเย’’ติ.
‘‘คมนาคมนมฺปิ ทิสฺสติ, วณฺณธาตุ อุภยตฺถ วีถิยา;
เปโต [เปโต ปน (สี. สฺยา.)] กาลกโต น ทิสฺสติ, โก นิธ กนฺทตํ พาลฺยตโร’’ติ.
‘‘สจฺจํ โข วเทสิ มาณว, อหเมว กนฺทตํ พาลฺยตโร;
จนฺทํ วิย ทารโก รุทํ, เปตํ กาลกตาภิปตฺถยิ’’นฺติ.
‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;
วารินา วิย โอสิฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.
‘‘อพฺพหี ¶ [อพฺพูฬฺห (ปี.), อพฺพูฬฺหํ (สฺยา. ก.)] วต เม สลฺลํ, โสกํ หทยนิสฺสิตํ;
โย เม โสกปเรตสฺส, ปุตฺตโสกํ อปานุทิ.
‘‘สฺวาหํ ¶ ¶ อพฺพูฬฺหสลฺโลสฺมิ, สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต;
น โสจามิ น โรทามิ, วต สุตฺวาน มาณวาติ.
‘‘เทวตา นุสิ คนฺธพฺโพ, อทุ [อาทุ (สี. สฺยา.)] สกฺโก ปุรินฺทโท;
โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุตฺโต, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.
‘‘ยฺจ [ยํ (ก.)] กนฺทสิ ยฺจ โรทสิ, ปุตฺตํ อาฬาหเน สยํ ทหิตฺวา;
สฺวาหํ กุสลํ กริตฺวา กมฺมํ, ติทสานํ สหพฺยตํ คโต’’ติ [ปตฺโตติ (สี. สฺยา. ปี.)].
‘‘อปฺปํ ¶ วา พหุํ วา นาทฺทสาม, ทานํ ททนฺตสฺส สเก อคาเร;
อุโปสถกมฺมํ วา [อุโปสถกมฺมฺจ (ก.)] ตาทิสํ, เกน กมฺเมน คโตสิ เทวโลก’’นฺติ.
‘‘อาพาธิโกหํ ทุกฺขิโต คิลาโน, อาตุรรูโปมฺหิ สเก นิเวสเน;
พุทฺธํ วิคตรชํ วิติณฺณกงฺขํ, อทฺทกฺขึ สุคตํ อโนมปฺํ.
‘‘สฺวาหํ มุทิตมโน ปสนฺนจิตฺโต, อฺชลึ ¶ อกรึ ตถาคตสฺส;
ตาหํ กุสลํ กริตฺวาน กมฺมํ, ติทสานํ สหพฺยตํ คโต’’ติ.
‘‘อจฺฉริยํ วต อพฺภุตํ วต, อฺชลิกมฺมสฺส อยมีทิโส วิปาโก;
อหมฺปิ มุทิตมโน ปสนฺนจิตฺโต, อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ วชามี’’ติ.
‘‘อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ วชาหิ, ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ ปสนฺนจิตฺโต;
ตเถว สิกฺขาย ปทานิ ปฺจ, อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยสฺสุ.
‘‘ปาณาติปาตา วิรมสฺสุ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยสฺสุ;
อมชฺชโป มา จ มุสา ภณาหิ, สเกน ทาเรน จ โหหิ ตุฏฺโ’’ติ.
‘‘อตฺถกาโมสิ เม ยกฺข, หิตกาโมสิ เทวเต;
กโรมิ ตุยฺหํ วจนํ, ตฺวํสิ อาจริโย มมาติ.
‘‘อุเปมิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมฺจาปิ อนุตฺตรํ;
สงฺฆฺจ นรเทวสฺส, คจฺฉามิ สรณํ อหํ.
‘‘ปาณาติปาตา ¶ ¶ วิรมามิ ขิปฺปํ, โลเก ¶ อทินฺนํ ปริวชฺชยามิ;
อมชฺชโป โน จ มุสา ภณามิ, สเกน ทาเรน จ โหมิ ตุฏฺโ’’ติ.
มฏฺกุณฺฑลีวิมานํ นวมํ.
๑๐. เสรีสกวิมานวตฺถุ
[เป. ว. ๖๐๔] สุโณถ ¶ ¶ ยกฺขสฺส จ วาณิชาน จ, สมาคโม ยตฺถ ตทา อโหสิ;
ยถา กถํ อิตริตเรน จาปิ, สุภาสิตํ ตฺจ สุณาถ สพฺเพ.
‘‘โย โส อหุ ราชา ปายาสิ นาม [นาโม (สี.)], ภุมฺมานํ สหพฺยคโต ยสสฺสี;
โส โมทมาโนว สเก วิมาเน, อมานุโส มานุเส อชฺฌภาสีติ.
‘‘วงฺเก อรฺเ อมนุสฺสฏฺาเน, กนฺตาเร อปฺโปทเก อปฺปภกฺเข;
สุทุคฺคเม วณฺณุปถสฺส มชฺเฌ, วงฺกํ ภยา [ธงฺกํภยา (ก.)] นฏฺมนา มนุสฺสา.
‘‘นยิธ ผลา มูลมยา จ สนฺติ, อุปาทานํ นตฺถิ กุโตธ ภกฺโข;
อฺตฺร ปํสูหิ จ วาลุกาหิ จ, ตตาหิ ¶ อุณฺหาหิ จ ทารุณาหิ จ.
‘‘อุชฺชงฺคลํ ตตฺตมิวํ กปาลํ, อนายสํ ปรโลเกน ตุลฺยํ;
ลุทฺทานมาวาสมิทํ ปุราณํ, ภูมิปฺปเทโส อภิสตฺตรูโป.
‘‘อถ ¶ ตุมฺเห เกน [เกน นุ (สฺยา. ก.)] วณฺเณน, กิมาสมานา อิมํ ปเทสํ หิ;
อนุปวิฏฺา สหสา สเมจฺจ, โลภา ภยา อถ วา สมฺปมูฬฺหา’’ติ.
‘‘มคเธสุ องฺเคสุ จ สตฺถวาหา, อาโรปยิตฺวา ปณิยํ ปุถุตฺตํ;
เต ยามเส สินฺธุโสวีรภูมึ, ธนตฺถิกา อุทฺทยํ ปตฺถยานา.
‘‘ทิวา ¶ ปิปาสํ นธิวาสยนฺตา, โยคฺคานุกมฺปฺจ สเมกฺขมานา,
เอเตน เวเคน อายาม สพฺเพ [สพฺเพ เต (ก.)], รตฺตึ มคฺคํ ปฏิปนฺนา วิกาเล.
‘‘เต ทุปฺปยาตา อปรทฺธมคฺคา, อนฺธากุลา วิปฺปนฏฺา อรฺเ;
สุทุคฺคเม ¶ วณฺณุปถสฺส มชฺเฌ, ทิสํ น ชานาม ปมูฬฺหจิตฺตา.
‘‘อิทฺจ ทิสฺวาน อทิฏฺปุพฺพํ, วิมานเสฏฺฺจ ตวฺจ ยกฺข;
ตตุตฺตรึ ชีวิตมาสมานา, ทิสฺวา ปตีตา สุมนา อุทคฺคา’’ติ.
‘‘ปารํ สมุทฺทสฺส อิมฺจ วณฺณุํ [วนํ (สฺยา.), วณฺณํ (ก.)], เวตฺตาจรํ [เวตฺตํ ปรํ (สฺยา.), เวตฺตาจารํ (ก.)] สงฺกุปถฺจ มคฺคํ;
นทิโย ปน ปพฺพตานฺจ ทุคฺคา, ปุถุทฺทิสา คจฺฉถ โภคเหตุ.
‘‘ปกฺขนฺทิยาน วิชิตํ ปเรสํ, เวรชฺชเก มานุเส เปกฺขมานา;
ยํ โว สุตํ วา อถ วาปิ ทิฏฺํ, อจฺเฉรกํ ตํ โว สุโณม ตาตา’’ติ.
‘‘อิโตปิ ¶ อจฺเฉรตรํ กุมาร, น โต สุตํ วา อถ วาปิ ทิฏฺํ;
อตีตมานุสฺสกเมว สพฺพํ, ทิสฺวาน ตปฺปาม อโนมวณฺณํ.
‘‘เวหายสํ โปกฺขรฺโ สวนฺติ, ปหูตมลฺยา ¶ [ปหูตมาลฺยา (สฺยา.)] พหุปุณฺฑรีกา;
ทุมา จิเม [ทุมา จ เต (สฺยา. ก.)] นิจฺจผลูปปนฺนา, อตีว คนฺธา สุรภึ ปวายนฺติ.
‘‘เวฬูริยถมฺภา ¶ สตมุสฺสิตาเส, สิลาปวาฬสฺส จ อายตํสา;
มสารคลฺลา สหโลหิตงฺคา, ถมฺภา อิเม โชติรสามยาเส.
‘‘สหสฺสถมฺภํ อตุลานุภาวํ, เตสูปริ สาธุมิทํ วิมานํ;
รตนนฺตรํ กฺจนเวทิมิสฺสํ, ตปนียปฏฺเฏหิ จ สาธุฉนฺนํ.
‘‘ชมฺโพนทุตฺตตฺตมิทํ สุมฏฺโ, ปาสาทโสปาณผลูปปนฺโน;
ทฬฺโห จ วคฺคุ จ สุสงฺคโต จ [วคฺคุ สุมุโข สุสงฺคโต (สี.)], อตีว นิชฺฌานขโม มนฺุโ.
‘‘รตนนฺตรสฺมึ ¶ พหุอนฺนปานํ, ปริวาริโต อจฺฉราสงฺคเณน;
มุรชอาลมฺพรตูริยฆุฏฺโ, อภิวนฺทิโตสิ ถุติวนฺทนาย.
‘‘โส ¶ โมทสิ นาริคณปฺปโพธโน, วิมานปาสาทวเร มโนรเม;
อจินฺติโย สพฺพคุณูปปนฺโน, ราชา ยถา เวสฺสวโณ นฬินฺยา [นฬิฺํ (ก.)].
‘‘เทโว ¶ นุ อาสิ อุทวาสิ ยกฺโข, อุทาหุ เทวินฺโท มนุสฺสภูโต;
ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, อาจิกฺข โก นาม ตุวํสิ ยกฺโข’’ติ.
‘‘เสรีสโก [เสริสฺสโก (สี. สฺยา.)] นาม อหมฺหิ ยกฺโข, กนฺตาริโย วณฺณุปถมฺหิ คุตฺโต;
อิมํ ปเทสํ อภิปาลยามิ, วจนกโร เวสฺสวณสฺส รฺโ’’ติ.
‘‘อธิจฺจลทฺธํ ปริณามชํ เต, สยํ กตํ อุทาหุ เทเวหิ ทินฺนํ;
ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, กถํ ตยา ลทฺธมิทํ มนฺุ’’นฺติ.
‘‘นาธิจฺจลทฺธํ น ปริณามชํ เม, น สยํ กตํ น หิ เทเวหิ ทินฺนํ;
สเกหิ กมฺเมหิ อปาปเกหิ, ปฺุเหิ ¶ เม ลทฺธมิทํ มนฺุ’’นฺติ.
‘‘กึ เต วตํ กึ ปน พฺรหฺมจริยํ, กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;
ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, กถํ ตยา ลทฺธมิทํ วิมาน’’นฺติ.
‘‘มมํ ปายาสีติ อหุ สมฺา, รชฺชํ ยทา การยึ โกสลานํ;
นตฺถิกทิฏฺิ กทริโย ปาปธมฺโม, อุจฺเฉทวาที จ ตทา อโหสึ.
‘‘สมโณ จ โข อาสิ กุมารกสฺสโป, พหุสฺสุโต จิตฺตกถี อุฬาโร;
โส เม ตทา ธมฺมกถํ อภาสิ [อกาสิ (สี.)], ทิฏฺิวิสูกานิ วิโนทยี เม.
‘‘ตาหํ ¶ ตสฺส [ตาหํ (ก.)] ธมฺมกถํ สุณิตฺวา, อุปาสกตฺตํ ปฏิเวทยิสฺสํ;
ปาณาติปาตา วิรโต อโหสึ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยิสฺสํ;
อมชฺชโป ¶ โน จ มุสา อภาณึ, สเกน ทาเรน จ อโหสิ ตุฏฺโ.
‘‘ตํ ¶ เม วตํ ตํ ปน พฺรหฺมจริยํ, ตสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;
เตเหว กมฺเมหิ อปาปเกหิ, ปฺุเหิ เม ลทฺธมิทํ วิมาน’’นฺติ.
‘‘สจฺจํ ¶ กิราหํสุ นรา สปฺา, อนฺถา วจนํ ปณฺฑิตานํ;
ยหึ ยหึ คจฺฉติ ปฺุกมฺโม, ตหึ ตหึ โมทติ กามกามี.
‘‘ยหึ ยหึ โสกปริทฺทโว จ, วโธ จ พนฺโธ จ ปริกฺกิเลโส;
ตหึ ตหึ คจฺฉติ ปาปกมฺโม, น มุจฺจติ ทุคฺคติยา กทาจี’’ติ.
‘‘สมฺมูฬฺหรูโปว ชโน อโหสิ, อสฺมึ มุหุตฺเต กลลีกโตว;
ชนสฺสิมสฺส ตุยฺหฺจ กุมาร, อปฺปจฺจโย เกน นุ โข อโหสี’’ติ.
‘‘อิเม จ สิรีสวนา [อิเม สิรีสูปวนา จ (สี.), อิเมปิ สิรีสวนา จ (ปี. ก.)] ตาตา, ทิพฺพา [ทิพฺพา จ (ปี. ก.)] คนฺธา สุรภี [สุรภึ (สี. ก.)] สมฺปวนฺติ [สมฺปวายนฺติ (ก.)];
เต สมฺปวายนฺติ อิมํ วิมานํ, ทิวา ¶ จ รตฺโต จ ตมํ นิหนฺตฺวา.
‘‘อิเมสฺจ ¶ โข วสฺสสตจฺจเยน, สิปาฏิกา ผลติ เอกเมกา;
มานุสฺสกํ วสฺสสตํ อตีตํ, ยทคฺเค กายมฺหิ อิธูปปนฺโน.
‘‘ทิสฺวานหํ วสฺสสตานิ ปฺจ, อสฺมึ วิมาเน ตฺวาน ตาตา;
อายุกฺขยา ปฺุกฺขยา จวิสฺสํ, เตเนว โสเกน ปมุจฺฉิโตสฺมี’’ติ [สมุจฺฉิโตสฺมีติ (ปี. ก.)].
‘‘กถํ นุ โสเจยฺย ตถาวิโธ โส, ลทฺธา วิมานํ อตุลํ จิราย;
เย จาปิ โข อิตฺตรมุปปนฺนา, เต นูน โสเจยฺยุํ ปริตฺตปฺุา’’ติ.
‘‘อนุจฺฉวึ โอวทิยฺจ เม ตํ, ยํ มํ ตุมฺเห เปยฺยวาจํ วเทถ;
ตุมฺเห จ โข ตาตา มยานุคุตฺตา, เยนิจฺฉกํ เตน ปเลถ โสตฺถิ’’นฺติ.
‘‘คนฺตฺวา ¶ มยํ สินฺธุโสวีรภูมึ, ธนตฺถิกา อุทฺทยํ ปตฺถยานา;
ยถาปโยคา ปริปุณฺณจาคา, กาหาม ¶ เสรีสมหํ อุฬาร’’นฺติ.
‘‘มา เจว เสรีสมหํ อกตฺถ, สพฺพฺจ โว ภวิสฺสติ ยํ วเทถ;
ปาปานิ กมฺมานิ วิวชฺชยาถ, ธมฺมานุโยคฺจ อธิฏฺหาถ.
‘‘อุปาสโก อตฺถิ อิมมฺหิ สงฺเฆ, พหุสฺสุโต สีลวตูปปนฺโน;
สทฺโธ จ จาคี จ สุเปสโล จ, วิจกฺขโณ สนฺตุสิโต มุตีมา.
‘‘สฺชานมาโน ¶ น มุสา ภเณยฺย, ปรูปฆาตาย น เจตเยยฺย;
เวภูติกํ เปสุณํ โน กเรยฺย, สณฺหฺจ วาจํ สขิลํ ภเณยฺย.
‘‘สคารโว สปฺปฏิสฺโส วินีโต, อปาปโก อธิสีเล วิสุทฺโธ;
โส มาตรํ ปิตรฺจาปิ ชนฺตุ, ธมฺเมน โปเสติ อริยวุตฺติ.
‘‘มฺเ โส มาตาปิตูนํ การณา, โภคานิ ปริเยสติ น อตฺตเหตุ;
มาตาปิตูนฺจ โย [โส (?)] อจฺจเยน, เนกฺขมฺมโปโณ ¶ จริสฺสติ พฺรหฺมจริยํ.
‘‘อุชู อวงฺโก อสโ อมาโย, น เลสกปฺเปน จ โวหเรยฺย;
โส ตาทิโส สุกตกมฺมการี, ธมฺเม ิโต กินฺติ ลเภถ ทุกฺขํ.
‘‘ตํ ¶ การณา ปาตุกโตมฺหิ อตฺตนา, ตสฺมา ธมฺมํ ปสฺสถ วาณิชาเส;
อฺตฺร เตนิห ภสฺมี [ภสฺมิ (สฺยา.), ภสฺม (ก.)] ภเวถ, อนฺธากุลา วิปฺปนฏฺา อรฺเ;
ตํ ขิปฺปมาเนน ลหุํ ปเรน, สุโข หเว สปฺปุริเสน สงฺคโม’’ติ.
‘‘กึ นาม โส กิฺจ กโรติ กมฺมํ,
กึ นามเธยฺยํ กึ ปน ตสฺส โคตฺตํ;
มยมฺปิ นํ ทฏฺุกามมฺห ยกฺข, ยสฺสานุกมฺปาย อิธาคโตสิ;
ลาภา หิ ตสฺส, ยสฺส ตุวํ ปิเหสี’’ติ.
‘‘โย ¶ ¶ กปฺปโก สมฺภวนามเธยฺโย,
อุปาสโก โกจฺฉผลูปชีวี;
ชานาถ นํ ตุมฺหากํ เปสิโย โส,
มา ¶ โข นํ หีฬิตฺถ สุเปสโล โส’’ติ.
‘‘ชานามเส ยํ ตฺวํ ปวเทสิ [วเทสิ (สี.)] ยกฺข,
น โข นํ ชานาม ส เอทิโสติ;
มยมฺปิ นํ ปูชยิสฺสาม ยกฺข,
สุตฺวาน ตุยฺหํ วจนํ อุฬาร’’นฺติ.
‘‘เย เกจิ อิมสฺมึ สตฺเถ มนุสฺสา,
ทหรา มหนฺตา อถวาปิ มชฺฌิมา;
สพฺเพว เต อาลมฺพนฺตุ วิมานํ,
ปสฺสนฺตุ ปฺุานํ ผลํ กทริยา’’ติ.
เต ตตฺถ สพฺเพว ‘อหํ ปุเร’ติ,
ตํ กปฺปกํ ตตฺถ ปุรกฺขตฺวา [ปุรกฺขิปิตฺวา (สี.)];
สพฺเพว เต อาลมฺพึสุ วิมานํ,
มสกฺกสารํ วิย วาสวสฺส.
เต ¶ ตตฺถ สพฺเพว ‘อหํ ปุเร’ติ, อุปาสกตฺตํ ปฏิเวทยึสุ;
ปาณาติปาตา วิรตา อเหสุํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยึสุ;
อมชฺชปา โน จ มุสา ภณึสุ, สเกน ทาเรน จ อเหสุํ ตุฏฺา.
เต ตตฺถ สพฺเพว ‘อหํ ปุเร’ติ, อุปาสกตฺตํ ปฏิเวทยิตฺวา;
ปกฺกามิ สตฺโถ อนุโมทมาโน, ยกฺขิทฺธิยา อนุมโต ปุนปฺปุนํ.
‘‘คนฺตฺวาน ¶ เต สินฺธุโสวีรภูมึ, ธนตฺถิกา อุทฺทยํ [อุทย (ปี. ก.)] ปตฺถยานา;
ยถาปโยคา ปริปุณฺณลาภา, ปจฺจาคมุํ ปาฏลิปุตฺตมกฺขตํ.
‘‘คนฺตฺวาน ¶ เต สงฺฆรํ โสตฺถิวนฺโต,
ปุตฺเตหิ ทาเรหิ สมงฺคิภูตา;
อานนฺที วิตฺตา [อานนฺทจิตฺตา (สฺยา.), อานนฺทีจิตฺตา (ก.)] สุมนา ปตีตา,
อกํสุ เสรีสมหํ อุฬารํ;
เสรีสกํ เต ปริเวณํ มาปยึสุ.
เอตาทิสา สปฺปุริสาน เสวนา,
มหตฺถิกา ธมฺมคุณาน เสวนา;
เอกสฺส อตฺถาย อุปาสกสฺส,
สพฺเพว สตฺตา สุขิตา [สุขิโน (ปี. ก.)] อเหสุนฺติ.
เสรีสกวิมานํ ทสมํ.
๑๑. สุนิกฺขิตฺตวิมานวตฺถุ
‘‘อุจฺจมิทํ ¶ มณิถูณํ วิมานํ, สมนฺตโต ทฺวาทส โยชนานิ;
กูฏาคารา ¶ สตฺตสตา อุฬารา, เวฬุริยถมฺภา รุจกตฺถตา สุภา.
‘‘ตตฺถจฺฉสิ ปิวสิ ขาทสิ จ, ทิพฺพา จ วีณา ปวทนฺติ วคฺคุํ;
ทิพฺพา รสา กามคุเณตฺถ ปฺจ, นาริโย จ นจฺจนฺติ สุวณฺณฉนฺนา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.
‘‘ปุจฺฉามิ ¶ ‘ตํ เทว มหานุภาว, มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาโว, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
โส ¶ เทวปุตฺโต อตฺตมโน, โมคฺคลฺลาเนน ปุจฺฉิโต;
ปฺหํ ปุฏฺโ วิยากาสิ, ยสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘ทุนฺนิกฺขิตฺตํ มาลํ สุนิกฺขิปิตฺวา, ปติฏฺเปตฺวา สุคตสฺส ถูเป;
มหิทฺธิโก จมฺหิ มหานุภาโว, ทิพฺเพหิ กาเมหิ สมงฺคิภูโต.
‘‘เตน เมตาทิโส วณฺโณ,
เตน เม อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เม โภคา,
เย เกจิ มนโส ปิยา.
‘‘อกฺขามิ เต ภิกฺขุ มหานุภาว,
มนุสฺสภูโต ยมหํ อกาสึ;
เตนมฺหิ ¶ เอวํ ชลิตานุภาโว,
วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
สุนิกฺขิตฺตวิมานํ เอกาทสมํ.
สุนิกฺขิตฺตวคฺโค สตฺตโม นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
ทฺเว ทลิทฺทา วนวิหารา, ภตโก โคปาลกณฺฑกา;
อเนกวณฺณมฏฺกุณฺฑลี, เสรีสโก สุนิกฺขิตฺตํ;
ปุริสานํ ตติโย วคฺโค ปวุจฺจตีติ.
ภาณวารํ จตุตฺถํ นิฏฺิตํ.
วิมานวตฺถุปาฬิ นิฏฺิตา.