📜
๓. จูฬวคฺโค
๑. อภิชฺชมานเปตวตฺถุวณฺณนา
อภิชฺชมาเน ¶ ¶ วาริมฺหีติ อิทํ สตฺถริ เวฬุวเน วิหรนฺเต อฺตรํ ลุทฺทเปตํ อารพฺภ วุตฺตํ. พาราณสิยํ กิร อปรทิสาภาเค ปารคงฺคาย วาสภคามํ อติกฺกมิตฺวา จุนฺทฏฺิลนามเก คาเม เอโก ลุทฺทโก อโหสิ. โส อรฺเ มิเค วธิตฺวา วรมํสํ องฺคาเร ปจิตฺวา ขาทิตฺวา อวเสสํ ปณฺณปุเฏ พนฺธิตฺวา กาเชน คเหตฺวา คามํ อาคจฺฉติ. ตํ พาลทารกา คามทฺวาเร ทิสฺวา ‘‘มํสํ เม เทหิ, มํสํ เม เทหี’’ติ หตฺเถ ปสาเรตฺวา อุปธาวนฺติ. โส เตสํ โถกํ โถกํ มํสํ เทติ. อเถกทิวสํ มํสํ อลภิตฺวา ¶ อุทฺทาลกปุปฺผํ ปิฬนฺธิตฺวา พหฺุจ หตฺเถน คเหตฺวา คามํ คจฺฉนฺตํ ตํ ทารกา คามทฺวาเร ทิสฺวา ‘‘มํสํ เม เทหิ, มํสํ เม เทหี’’ติ หตฺเถ ปสาเรตฺวา อุปธาวึสุ. โส เตสํ เอเกกํ ปุปฺผมฺชรึ อทาสิ.
อถ อปเรน สมเยน กาลํ กตฺวา เปเตสุ นิพฺพตฺโต นคฺโค วิรูปรูโป ภยานกทสฺสโน สุปิเนปิ อนฺนปานํ อชานนฺโต สีเส อาพนฺธิตอุทฺทาลกกุสุมมาลากลาโป ‘‘จุนฺทฏฺิลายํ าตกานํ สนฺติเก กิฺจิ ลภิสฺสามี’’ติ คงฺคาย อุทเก อภิชฺชมาเน ปฏิโสตํ ปทสา คจฺฉติ. เตน จ สมเยน โกลิโย นาม รฺโ พิมฺพิสารสฺส มหามตฺโต กุปิตํ ปจฺจนฺตํ วูปสเมตฺวา ปฏินิวตฺเตนฺโต หตฺถิอสฺสาทิปริวารพลํ ถลปเถน เปเสตฺวา สยํ คงฺคาย นทิยา อนุโสตํ นาวาย อาคจฺฉนฺโต ตํ เปตํ ตถา คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ปุจฺฉนฺโต –
‘‘อภิชฺชมาเน วาริมฺหิ, คงฺคาย อิธ คจฺฉสิ;
นคฺโค ปุพฺพทฺธเปโตว, มาลธารี อลงฺกโต;
กุหึ คมิสฺสสิ เปต, กตฺถ วาโส ภวิสฺสตี’’ติ. –
คาถมาห. ตตฺถ อภิชฺชมาเนติ ปทนิกฺเขเปน อภิชฺชมาเน สงฺฆาเต, วาริมฺหิ คงฺคายาติ คงฺคาย นทิยา อุทเก. อิธาติ อิมสฺมึ าเน. ปุพฺพทฺธเปโตวาติ กายสฺส ปุริมทฺเธน อเปโต วิย อเปตโยนิโก เทวปุตฺโต ¶ วิย. กถํ? มาลธารี อลงฺกโตติ, มาลาหิ ปิฬนฺธิตฺวา อลงฺกตสีสคฺโคติ ¶ อตฺโถ. กตฺถ วาโส ภวิสฺสตีติ กตรสฺมึ คาเม เทเส วา ตุยฺหํ นิวาโส ภวิสฺสติ, ตํ กเถหีติ อตฺโถ.
อิทานิ ยํ ตทา เตน เปเตน โกลิเยน จ วุตฺตํ, ตํ ทสฺเสตุํ สงฺคีติการา –
‘‘จุนฺทฏฺิลํ ¶ คมิสฺสามิ, เปโต โส อิติ ภาสติ;
อนฺตเร วาสภคามํ, พาราณสิฺจ สนฺติเก.
‘‘ตฺจ ทิสฺวา มหามตฺโต, โกลิโย อิติ วิสฺสุโต;
สตฺตุํ ภตฺตฺจ เปตสฺส, ปีตกฺจ ยุคํ อทา.
‘‘นาวาย ติฏฺมานาย, กปฺปกสฺส อทาปยิ;
กปฺปกสฺส ปทินฺนมฺหิ, าเน เปตสฺส ทิสฺสถ.
‘‘ตโต สุวตฺถวสโน, มาลธารี อลงฺกโต;
าเน ิตสฺส เปตสฺส, ทกฺขิณา อุปกปฺปถ;
ตสฺมา ทชฺเชถ เปตานํ, อนุกมฺปาย ปุนปฺปุน’’นฺติ. – คาถาโย อโวจุํ;
๓๘๘. ตตฺถ จุนฺทฏฺิลนฺติ เอวํนามกํ คามํ. อนฺตเร วาสภคามํ, พาราณสิฺจ สนฺติเกติ วาสภคามสฺส จ พาราณสิยา จ เวมชฺเฌ. อนฺตรา-สทฺทโยเคน เหตํ สามฺยตฺเถ อุปโยควจนํ. พาราณสิยา สนฺติเก หิ โส คาโมติ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – อนฺตเร วาสภคามสฺส จ พาราณสิยา จ โย จุนฺทฏฺิลนามโก คาโม พาราณสิยา อวิทูเร, ตํ คามํ คมิสฺสามีติ.
๓๘๙. โกลิโย อิติ วิสฺสุโตติ โกลิโยติ เอวํปกาสิตนาโม. สตฺตุํ ภตฺตฺจาติ สตฺตฺุเจว ภตฺตฺจ. ปีตกฺจ ยุคํ อทาติ ปีตกํ สุวณฺณวณฺณํ เอกํ วตฺถยุคฺจ อทาสิ.
๓๙๐. กทา อทาสีติ เจ อาห นาวาย ติฏฺมานาย. กปฺปกสฺส อทาปยีติ คจฺฉนฺตึ นาวํ เปตฺวา ตตฺถ เอกสฺส นฺหาปิตสฺส อุปาสกสฺส ทาเปสิ ¶ , ทินฺนมฺหิ วตฺถยุเคติ โยชนา. าเนติ านโส ตงฺขณฺเว. เปตสฺส ทิสฺสถาติ เปตสฺส สรีเร ปฺายิตฺถ, ตสฺส นิวาสนปารุปนวตฺถํ ¶ สมฺปชฺชิ. เตนาห ‘‘ตโต สุวตฺถวสโน, มาลธารี อลงฺกโต’’ติ, สุวตฺถวสโน ¶ มาลาภรเณหิ สุมณฺฑิตปสาธิโต. าเน ิตสฺส เปตสฺส, ทกฺขิณา อุปกปฺปถาติ ทกฺขิเณยฺยฏฺาเน ิตา ปเนสา ทกฺขิณา ตสฺส เปตสฺส ยสฺมา อุปกปฺปติ, วินิโยคํ อคมาสิ. ตสฺมา ทชฺเชถ เปตานํ, อนุกมฺปาย ปุนปฺปุนนฺติ เปตานํ อนุกมฺปาย เปเต อุทฺทิสฺส ปุนปฺปุนํ ทกฺขิณํ ทเทยฺยาติ อตฺโถ.
อถ โส โกลิยมหามตฺโต ตํ เปตํ อนุกมฺปมาโน ทานวิธึ สมฺปาเทตฺวา อนุโสตํ อาคนฺตฺวา สูริเย อุคฺคจฺฉนฺเต พาราณสึ สมฺปาปุณิ. ภควา จ เตสํ อนุคฺคหตฺถํ อากาเสน อาคนฺตฺวา คงฺคาตีเร อฏฺาสิ. โกลิยมหามตฺโตปิ นาวาโต โอตริตฺวา หฏฺปหฏฺโ ภควนฺตํ นิมนฺเตสิ – ‘‘อธิวาเสถ เม, ภนฺเต, ภควา อชฺชตนาย ภตฺตํ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. โส ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา ตาวเทว รมณีเย ภูมิภาเค มหนฺตํ สาขามณฺฑปํ อุปริ จตูสุ จ ปสฺเสสุ นานาวิราควณฺณวิจิตฺตวิวิธวสนสมลงฺกตํ กาเรตฺวา ตตฺถ ภควโต อาสนํ ปฺาเปตฺวา อทาสิ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน.
อถ โส มหามตฺโต ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา คนฺธปุปฺผาทีหิ ปูเชตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน เหฏฺา อตฺตโน วุตฺตวจนํ เปตสฺส จ ปฏิวจนํ ภควโต อาโรเจสิ. ภควา ‘‘ภิกฺขุสงฺโฆ อาคจฺฉตู’’ติ จินฺเตสิ. จินฺติตสมนนฺตรเมว พุทฺธานุภาวสฺโจทิโต สุวณฺณหํสคโณ วิย ธตรฏฺหํสราชํ ภิกฺขุสงฺโฆ ธมฺมราชํ สมฺปริวาเรสิ. ตาวเทว มหาชโน สนฺนิปติ ‘‘อุฬารา ธมฺมเทสนา ภวิสฺสตี’’ติ. ตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส มหามตฺโต พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สนฺตปฺเปสิ. ภควา กตภตฺตกิจฺโจ มหาชนสฺส อนุกมฺปาย ‘‘พาราณสิสมีปคามวาสิโน สนฺนิปตนฺตู’’ติ อธิฏฺาสิ. สพฺเพ จ เต อิทฺธิพเลน มหาชนา สนฺนิปตึสุ, อุฬาเร จสฺส เปเต ปากเฏ อกาสิ. เตสุ เกจิ ฉินฺนภินฺนปิโลติกขณฺฑธรา, เกจิ ¶ อตฺตโน เกเสเหว ¶ ปฏิจฺฉาทิตโกปินา, เกจิ นคฺคา ยถาชาตรูปา ขุปฺปิปาสาภิภูตา ตจปริโยนทฺธา อฏฺิมตฺตสรีรา อิโต จิโต จ ปริพฺภมนฺตา มหาชนสฺส ปจฺจกฺขโต ปฺายึสุ.
อถ ภควา ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสิ, ยถา เต เอกชฺฌํ สนฺนิปติตฺวา อตฺตนา กตํ ปาปกมฺมํ มหาชนสฺส ปเวเทสุํ. ตมตฺถํ ทีเปนฺตา สงฺคีติการา –
‘‘สาตุนฺนวสนา ¶ เอเก, อฺเ เกสนิวาสนา;
เปตา ภตฺตาย คจฺฉนฺติ, ปกฺกมนฺติ ทิโสทิสํ.
‘‘ทูเร เอเก ปธาวิตฺวา, อลทฺธาว นิวตฺตเร;
ฉาตา ปมุจฺฉิตา ภนฺตา, ภูมิยํ ปฏิสุมฺภิตา.
‘‘เกจิ ตตฺถ ปปติตฺวา, ภูมิยํ ปฏิสุมฺภิตา;
ปุพฺเพ อกตกลฺยาณา, อคฺคิทฑฺฒาว อาตเป.
‘‘มยํ ปุพฺเพ ปาปธมฺมา, ฆรณี กุลมาตโร;
สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากมฺห อตฺตโน.
‘‘ปหูตํ อนฺนปานมฺปิ, อปิสฺสุ อวกิรียติ;
สมฺมคฺคเต ปพฺพชิเต, น จ กิฺจิ อทมฺหเส.
‘‘อกมฺมกามา อลสา, สาทุกามา มหคฺฆสา;
อาโลปปิณฺฑทาตาโร, ปฏิคฺคเห ปริภาสิมฺหเส.
‘‘เต ฆรา ตา จ ทาสิโย, ตาเนวาภรณานิ โน;
เต อฺเ ปริจาเรนฺติ, มยํ ทุกฺขสฺส ภาคิโน.
‘‘เวณี วา อวฺา โหนฺติ, รถการี จ ทุพฺภิกา;
จณฺฑาลี กปณา โหนฺติ, กปฺปกา จ ปุนปฺปุนํ.
‘‘ยานิ ¶ ยานิ นิหีนานิ, กุลานิ กปณานิ จ;
เตสุ เตสฺเวว ชายนฺติ, เอสา มจฺฉริโน คติ.
‘‘ปุพฺเพ ¶ จ กตกลฺยาณา, ทายกา วีตมจฺฉรา;
สคฺคํ เต ปริปูเรนฺติ, โอภาเสนฺติ จ นนฺทนํ.
‘‘เวชยนฺเต ¶ จ ปาสาเท, รมิตฺวา กามกามิโน;
อุจฺจากุเลสุ ชายนฺติ, สโภเคสุ ตโต จุตา.
‘‘กูฏาคาเร จ ปาสาเท, ปลฺลงฺเก โปนกตฺถเต;
พีชิตงฺคา โมรหตฺเถหิ, กุเล ชาตา ยสสฺสิโน.
‘‘องฺกโต องฺกํ คจฺฉนฺติ, มาลธารี อลงฺกตา;
ธาติโย อุปติฏฺนฺติ, สายํ ปาตํ สุเขสิโน.
‘‘นยิทํ อกตปฺุานํ, กตปฺุานเมวิทํ;
อโสกํ นนฺทนํ รมฺมํ, ติทสานํ มหาวนํ.
‘‘สุขํ อกตปฺุานํ, อิธ นตฺถิ ปรตฺถ จ;
สุขฺจ กตปฺุานํ, อิธ เจว ปรตฺถ จ.
‘‘เตสํ สหพฺยกามานํ, กตฺตพฺพํ กุสลํ พหุํ;
กตปฺุา หิ โมทนฺติ, สคฺเค โภคสมงฺคิโน’’ติ. – คาถาโย อโวจุํ;
๓๙๒. ตตฺถ สาตุนฺนวสนาติ ฉินฺนภินฺนปิโลติกขณฺฑนิวาสนา. เอเกติ เอกจฺเจ. เกสนิวาสนาติ เกเสเหว ปฏิจฺฉาทิตโกปินา. ภตฺตาย คจฺฉนฺตีติ ‘‘อปฺเปว นาม อิโต คตา ยตฺถ วา ตตฺถ วา กิฺจิ อุจฺฉิฏฺภตฺตํ วา วมิตภตฺตํ วา คพฺภมลาทิกํ วา ลเภยฺยามา’’ติ กตฺถจิเทว อฏฺตฺวา ฆาสตฺถาย คจฺฉนฺติ. ปกฺกมนฺติ ทิโสทิสนฺติ ทิสโต ทิสํ อเนกโยชนนฺตริกํ านํ ปกฺกมนฺติ.
๓๙๓. ทูเรติ ทูเรว าเน. เอเกติ เอกจฺเจ เปตา. ปธาวิตฺวาติ ฆาสตฺถาย อุปธาวิตฺวา. อลทฺธาว นิวตฺตเรติ ¶ กิฺจิ ฆาสํ วา ปานียํ วา อลภิตฺวา เอว นิวตฺตนฺติ. ปมุจฺฉิตาติ ขุปฺปิปาสาทิทุกฺเขน สฺชาตมุจฺฉา. ภนฺตาติ ¶ ปริพฺภมนฺตา. ภูมิยํ ปฏิสุมฺภิตาติ ตาย เอว มุจฺฉาย อุปฺปตฺติยา ตฺวา อวกฺขิตฺตมตฺติกาปิณฺฑา วิย วิสฺสุสฺสิตฺวา ปถวิยํ ปติตา.
๓๙๔. ตตฺถาติ ¶ คตฏฺาเน. ภูมิยํ ปฏิสุมฺภิตาติ ปปาเต ปติตา วิย ชิฆจฺฉาทิทุกฺเขน าตุํ อสมตฺถภาเวน ภูมิยํ ปติตา, ตตฺถ วา คตฏฺาเน ฆาสาทีนํ อลาเภน ฉินฺนาสา หุตฺวา เกนจิ ปฏิมุขํ สุมฺภิตา โปถิตา วิย ภูมิยํ ปติตา โหนฺตีติ อตฺโถ. ปุพฺเพ อกตกลฺยาณาติ ปุริมภเว อกตกุสลา. อคฺคิทฑฺฒาว อาตเปติ นิทาฆกาเล อาตปฏฺาเน อคฺคินา ทฑฺฒา วิย, ขุปฺปิปาสคฺคินา ฑยฺหมานา มหาทุกฺขํ อนุภวนฺตีติ อตฺโถ.
๓๙๕. ปุพฺเพติ อตีตภเว. ปาปธมฺมาติ อิสฺสุกีมจฺฉรีอาทิภาเวน ลามกสภาวา. ฆรณีติ ฆรสามินิโย. กุลมาตโรติ กุลทารกานํ มาตโร, กุลปุริสานํ วา มาตโร. ทีปนฺติ ปติฏฺํ, ปฺุนฺติ อตฺโถ. ตฺหิ สตฺตานํ สุคตีสุ ปติฏฺาภาวโต ‘‘ปติฏฺา’’ติ วุจฺจติ. นากมฺหาติ น กริมฺห.
๓๙๖. ปหูตนฺติ พหุํ. อนฺนปานมฺปีติ อนฺนฺจ ปานฺจ. อปิสฺสุ อวกิรียตีติ สูติ นิปาตมตฺตํ, อปิ อวกิรียติ ฉฏฺฏียติ. สมฺมคฺคเตติ สมฺมา คเต สมฺมา ปฏิปนฺเน สมฺมา ปฏิปนฺนาย. ปพฺพชิเตติ ปพฺพชิตาย. สมฺปทาเน หิ อิทํ ภุมฺมวจนํ. สมฺมคฺคเต วา ปพฺพชิเต สติ ลพฺภมาเนติ อตฺโถ. น จ กิฺจิ อทมฺหเสติ ‘‘กิฺจิมตฺตมฺปิ เทยฺยธมฺมํ นาทมฺหา’’ติ วิปฺปฏิสาราภิภูตา วทนฺติ.
๓๙๗. อกมฺมกามาติ สาธูติ อกตฺตพฺพํ กมฺมํ อกุสลํ กาเมนฺตีติ อกมฺมกามา, สาธูหิ วา กตฺตพฺพํ กุสลํ กาเมนฺตีติ กมฺมกามา, น กมฺมกามาติ อกมฺมกามา ¶ , กุสลธมฺเมสุ อจฺฉนฺทิกาติ อตฺโถ. อลสาติ กุสีตา กุสลกมฺมกรเณ นิพฺพีริยา. สาทุกามาติ สาตมธุรวตฺถุปิยา. มหคฺฆสาติ มหาโภชนา, อุภเยนาปิ สุนฺทรฺจ มธุรฺจ โภชนํ ลภิตฺวา อตฺถิกานํ กิฺจิ อทตฺวา สยเมว ภฺุชิตาโรติ ¶ ทสฺเสติ. อาโลปปิณฺฑทาตาโรติ อาโลปมตฺตสฺสปิ โภชนปิณฺฑสฺส ทายกา. ปฏิคฺคเหติ ตสฺส ปฏิคฺคณฺหนเก. ปริภาสิมฺหเสติ ปริภวํ กโรนฺตา ภาสิมฺห, อวมฺิมฺห อุปฺปณฺฑิมฺหา จาติ อตฺโถ.
๓๙๘. เต ฆราติ ยตฺถ มยํ ปุพฺเพ ‘‘อมฺหากํ ฆร’’นฺติ มมตฺตํ อกริมฺหา, ตานิ ฆรานิ ยถาิตานิ, อิทานิ โน น กิฺจิ อุปกปฺปตีติ อธิปฺปาโย. ตา จ ทาสิโย ตาเนวาภรณานิ โนติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ตตฺถ โนติ อมฺหากํ. เตติ เต ฆราทิเก. อฺเ ปริจาเรนฺติ ¶ , ปริโภคาทิวเสน วินิโยคํ กโรนฺตีติ อตฺโถ. มยํ ทุกฺขสฺส ภาคิโนติ มยํ ปน ปุพฺเพ เกวลํ กีฬนปฺปสุตา หุตฺวา สาปเตยฺยํ ปหาย คมนียํ อนุคามิกํ กาตุํ อชานนฺตา อิทานิ ขุปฺปิปาสาทิทุกฺขสฺส ภาคิโน ภวามาติ อตฺตานํ ครหนฺตา วทนฺติ.
๓๙๙. อิทานิ ยสฺมา เปตโยนิโต จวิตฺวา มนุสฺเสสุ อุปฺปชฺชนฺตาปิ สตฺตา เยภุยฺเยน ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสน หีนชาติกา กปณวุตฺติโนว โหนฺติ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘เวณิวา’’ติอาทินา ทฺเว คาถา วุตฺตา. ตตฺถ เวณิวาติ เวนชาติกา, วิลีวการา นฬการา โหนฺตีติ อตฺโถ. วา-สทฺโท อนิยมตฺโถ. อวฺาติ อวฺเยฺยา, อวชานิตพฺพาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘วมฺภนา’’ติ วา ปาโ, ปเรหิ พาธนียาติ อตฺโถ. รถการีติ จมฺมการิโน. ทุพฺภิกาติ มิตฺตทุพฺภิกา มิตฺตานํ พาธิกา. จณฺฑาลีติ จณฺฑาลชาติกา. กปณาติ วนิพฺพกา อติวิย การฺุปฺปตฺตา ¶ . กปฺปกาติ กปฺปกชาติกา, สพฺพตฺถ ‘‘โหนฺติ ปุนปฺปุน’’นฺติ โยชนา, อปราปรมฺปิ อิเมสุ นิหีนกุเลสุ อุปฺปชฺชนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
๔๐๐. เตสุ เตสฺเวว ชายนฺตีติ ยานิ ยานิ อฺานิปิ เนสาทปุกฺกุสกุลาทีนิ กปณานิ อติวิย วมฺภนิยานิ ปรมทุคฺคตานิ จ, เตสุ เตสุ เอว นิหีนกุเลสุ มจฺฉริยมเลน เปเตสุ นิพฺพตฺติตฺวา ตโต จุตา นิพฺพตฺตนฺติ. เตนาห ‘‘เอสา มจฺฉริโน คตี’’ติ.
๔๐๑. เอวํ ¶ อกตปฺุานํ สตฺตานํ คตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ กตปฺุานํ คตึ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุพฺเพ จ กตกลฺยาณา’’ติ สตฺต คาถา วุตฺตา. ตตฺถ สคฺคํ เต ปริปูเรนฺตีติ เย ปุพฺเพ ปุริมชาติยํ กตกลฺยาณา ทายกา ทานปฺุาภิรตา วิคตมลมจฺเฉรา, เต อตฺตโน รูปสมฺปตฺติยา เจว ปริวารสมฺปตฺติยา จ สคฺคํ เทวโลกํ ปริปูเรนฺติ ปริปุณฺณํ กโรนฺติ. โอภาเสนฺติ จ นนฺทนนฺติ น เกวลํ ปริปูเรนฺติเยว, อถ โข กปฺปรุกฺขาทีนํ ปภาหิ สภาเวเนว โอภาสมานมฺปิ นนฺทนวนํ อตฺตโน วตฺถาภรณชุตีหิ สรีรปฺปภาย จ อภิภวิตฺวา เจว โอภาเสตฺวา จ โชเตนฺติ.
๔๐๒. กามกามิโนติ ยถิจฺฉิเตสุ กามคุเณสุ ยถากามํ ปริโภควนฺโต. อุจฺจากุเลสูติ อุจฺเจสุ ขตฺติยกุลาทีสุ กุเลสุ. สโภเคสูติ มหาวิภเวสุ. ตโต จุตาติ ตโต เทวโลกโต จุตา.
๔๐๓. กูฏาคาเร ¶ จ ปาสาเทติ กูฏาคาเร จ ปาสาเท จ. พีชิตงฺคาติ พีชิยมานเทหา. โมรหตฺเถหีติ โมรปิฺฉปฏิมณฺฑิตพีชนีหตฺเถหิ. ยสสฺสิโนติ ปริวารวนฺโต รมนฺตีติ อธิปฺปาโย.
๔๐๔. องฺกโต องฺกํ คจฺฉนฺตีติ ทารกกาเลปิ าตีนํ ธาตีนฺจ องฺกฏฺานโต องฺกฏฺานเมว คจฺฉนฺติ, น ภูมิตลนฺติ อธิปฺปาโย. อุปติฏฺนฺตีติ อุปฏฺานํ กโรนฺติ. สุเขสิโนติ สุขมิจฺฉนฺตา, ‘‘มา สีตํ ¶ วา อุณฺหํ วา’’ติ อปฺปกมฺปิ ทุกฺขํ ปริหรนฺตา อุปติฏฺนฺตีติ อธิปฺปาโย.
๔๐๕. นยิทํ อกตปฺุานนฺติ อิทํ โสกวตฺถุอภาวโต อโสกํ รมฺมํ รมณียํ ติทสานํ ตาวตึสเทวานํ มหาวนํ มหาอุปวนภูตํ นนฺทนํ นนฺทนวนํ อกตปฺุานํ น โหติ, เตหิ ลทฺธุํ น สกฺกาติ อตฺโถ.
๔๐๖. อิธาติ อิมสฺมึ มนุสฺสโลเก วิเสสโต ปฺุํ กรียติ, ตํ สนฺธายาห. อิธาติ วา ทิฏฺธมฺเม. ปรตฺถาติ สมฺปราเย.
๔๐๗. เตสนฺติ เตหิ ยถาวุตฺเตหิ เทเวหิ. สหพฺยกามานนฺติ สหภาวํ อิจฺฉนฺเตหิ. โภคสมงฺคิโนติ โภเคหิ สมนฺนาคตา, ทิพฺเพหิ ¶ ปฺจกามคุเณหิ สมปฺปิตา โมทนฺตีติ อตฺโถ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.
เอวํ เตหิ เปเตหิ สาธารณโต อตฺตนา กตกมฺมสฺส จ คติยา ปฺุกมฺมสฺส จ คติยา ปเวทิตาย สํวิคฺคมนสฺส โกฬิยามจฺจปมุขสฺส ตตฺถ สนฺนิปติตสฺส มหาชนสฺส อชฺฌาสยานุรูปํ ภควา วิตฺถาเรน ธมฺมํ เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.
อภิชฺชมานเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สาณวาสิตฺเถรเปตวตฺถุวณฺณนา
กุณฺฑินาคริโย เถโรติ อิทํ สตฺถริ เวฬุวเน วิหรนฺเต อายสฺมโต สาณวาสิตฺเถรสฺส าติเปเต ¶ อารพฺภ วุตฺตํ. อตีเต กิร พาราณสิยํ กิตวสฺส นาม รฺโ ปุตฺโต อุยฺยานกีฬํ กีฬิตฺวา นิวตฺตนฺโต สุเนตฺตํ นาม ปจฺเจกพุทฺธํ ปิณฺฑาย จริตฺวา นครโต นิกฺขมนฺตํ ทิสฺวา อิสฺสริยมทมตฺโต หุตฺวา ‘‘กถฺหิ นาม มยฺหํ อฺชลึ ¶ อกตฺวา อยํ มุณฺฑโก คจฺฉตี’’ติ ปทุฏฺจิตฺโต หตฺถิกฺขนฺธโต โอตริตฺวา ‘‘กจฺจิ เต ปิณฺฑปาโต ลทฺโธ’’ติ อาลปนฺโต หตฺถโต ปตฺตํ คเหตฺวา ปถวิยํ ปาเตตฺวา ภินฺทิ. อถ นํ สพฺพตฺถ ตาทิภาวปฺปตฺติยา นิพฺพิการํ กรุณาวิปฺผารโสมนสฺสนิปาตปสนฺนจิตฺตเมว โอโลเกนฺตํ อฏฺานาฆาเตน ทูสิตจิตฺโต ‘‘กึ มํ กิตวสฺส รฺโ ปุตฺตํ น ชานาสิ, ตฺวํ โอโลกยนฺโต มยฺหํ กึ กริสฺสสี’’ติ วตฺวา อวหสนฺโต ปกฺกามิ. ปกฺกนฺตมตฺตสฺเสว จสฺส นรกคฺคิทาหปฏิภาโค พลวสรีรทาโห อุปฺปชฺชิ. โส เตน มหาสนฺตาเปนาภิภูตกาโย อติพาฬฺหํ ทุกฺขเวทนาภิตุนฺโน กาลํ กตฺวา อวีจีมหานิรเย นิพฺพตฺติ.
โส ตตฺถ ทกฺขิณปสฺเสน วามปสฺเสน อุตฺตาโน อวกุชฺโชติ พหูหิ ปกาเรหิ ปริวตฺติตฺวา จตุราสีติ วสฺสสหสฺสานิ ปจฺจิตฺวา ตโต ¶ จุโต เปเตสุ อปิริมิตกาลํ ขุปฺปิปาสาทิทุกฺขํ อนุภวิตฺวา ตโต จุโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กุณฺฑินครสฺส สมีเป เกวฏฺฏคาเม นิพฺพตฺติ. ตสฺส ชาติสฺสราณํ อุปฺปชฺชิ, เตน โส ปุพฺเพ อตฺตนา อนุภูตปุพฺพํ ทุกฺขํ อนุสฺสรนฺโต วยปฺปตฺโตปิ ปาปภเยน าตเกหิปิ สทฺธึ มจฺฉพนฺธนตฺถํ น คจฺฉติ. เตสุ คจฺฉนฺเตสุ มจฺเฉ ฆาเตตุํ อนิจฺฉนฺโต นิลียติ, คโต จ ชาลํ ภินฺทติ, ชีวนฺเต วา มจฺเฉ คเหตฺวา อุทเก วิสฺสชฺเชติ, ตสฺส ตํ กิริยํ อโรจนฺตา าตกา เคหโต ตํ นีหรึสุ. เอโก ปนสฺส ภาตา สิเนหพทฺธหทโย อโหสิ.
เตน จ สมเยน อายสฺมา อานนฺโท กุณฺฑินครํ อุปนิสฺสาย สาณปพฺพเต วิหรติ. อถ โส เกวฏฺฏปุตฺโต าตเกหิ ปริจฺจตฺโต หุตฺวา อิโต จิโต จ ปริพฺภมนฺโต ตํ ปเทสํ ปตฺโต โภชนเวลาย เถรสฺส สนฺติกํ อุปสงฺกมิ. เถโร ตํ ปุจฺฉิตฺวา โภชเนน อตฺถิกภาวํ ตฺวา ตสฺส ภตฺตํ ทตฺวา กตภตฺตกิจฺโจ สพฺพํ ตํ ¶ ปวตฺตึ ตฺวา ธมฺมกถาย ปสนฺนมานสํ ตฺวา ‘‘ปพฺพชิสฺสสิ, อาวุโส’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. เถโร ตํ ปพฺพาเชตฺวา เตน สทฺธึ ภควโต สนฺติกํ อคมาสิ. อถ นํ สตฺถา อาห – ‘‘อานนฺท, อิมํ สามเณรํ อนุกมฺเปยฺยาสี’’ติ. โส จ อกตกุสลตฺตา อปฺปลาโภ อโหสิ. อถ นํ สตฺถา อนุคฺคณฺหนฺโต ภิกฺขูนํ ปริโภคตฺถาย ปานียฆฏานํ ปริปูรเณ นิโยเชสิ. ตํ ทิสฺวา อุปาสกา ตสฺส พหูนิ นิจฺจภตฺตานิ ปฏฺเปสุํ.
โส ¶ อปเรน สมเยน ลทฺธูปสมฺปโท อรหตฺตํ ปตฺวา เถโร หุตฺวา ทฺวาทสหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สาณปพฺพเต วสิ. ตสฺส ปน าตกา ปฺจสตมตฺตา อนุปจิตกุสลกมฺมา อุปจิตมจฺเฉราทิปาปธมฺมา กาลํ กตฺวา เปเตสุ นิพฺพตฺตึสุ. ตสฺส ปน มาตาปิตโร ‘‘เอส อมฺเหหิ ปุพฺเพ เคหโต นิกฺกฑฺฒิโต’’ติ สารชฺชมานา ตํ อนุปสงฺกมิตฺวา ตสฺมึ พทฺธสิเนหํ ภาติกํ เปเสสุํ. โส เถรสฺส คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺสมเย ทกฺขิณชาณุมณฺฑลํ ปถวิยํ ปติฏฺาเปตฺวา กตฺชลี อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา ¶ ‘‘มาตา ปิตา จ เต, ภนฺเต’’ติอาทิคาถา อโวจ. กุณฺฑินาคริโย เถโรติอาทโย ปน อาทิโต ปฺจ คาถา ตาสํ สมฺพนฺธทสฺสนตฺถํ ธมฺมสงฺคาหเกหิ ปิตา.
‘‘กุณฺฑินาคริโย เถโร, สาณวาสินิวาสิโก;
โปฏฺปาโทติ นาเมน, สมโณ ภาวิตินฺทฺริโย.
‘‘ตสฺส มาตา ปิตา ภาตา, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา.
‘‘เต ทุคฺคตา สูจิกฏฺฏา, กิลนฺตา นคฺคิโน กิสา;
อุตฺตสนฺตา มหตฺตาสา, น ทสฺเสนฺติ กุรูริโน.
‘‘ตสฺส ¶ ภาตา วิตริตฺวา, นคฺโค เอกปเถกโก;
จตุกุณฺฑิโก ภวิตฺวาน, เถรสฺส ทสฺสยีตุมํ.
‘‘เถโร จามนสิกตฺวา, ตุณฺหีภูโต อติกฺกมิ;
โส จ วิฺาปยี เถรํ, ‘ภาตา เปตคโต อหํ’.
‘‘มาตา ปิตา จ เต ภนฺเต, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา.
‘‘เตน ทุคฺคตา สูจิกฏฺฏา, กิลนฺตา นคฺคิโน กิสา;
อุตฺตสนฺตา มหตฺตาสา, น ทสฺเสนฺติ กุรูริโน.
‘‘อนุกมฺปสฺสุ ¶ การุณิโก, ทตฺวา อนฺวาทิสาหิ โน;
ตว ทินฺเนน ทาเนน, ยาเปสฺสนฺติ กุรูริโน’’ติ.
๔๐๘-๙. ตตฺถ กุณฺฑินาคริโย เถโรติ เอวํนามเก นคเร ชาตสํวฑฺฒตฺเถโร, ‘‘กุณฺฑิกนคโร เถโร’’ติปิ ปาโ, โส เอวตฺโถ. สาณวาสินิวาสิโกติ สาณปพฺพตวาสี. โปฏฺปาโทติ นาเมนาติ นาเมน โปฏฺปาโท นาม. สมโณติ สมิตปาโป. ภาวิตินฺทฺริโยติ อริยมคฺคภาวนาย ภาวิตสทฺธาทิอินฺทฺริโย, อรหาติ อตฺโถ. ตสฺสาติ ตสฺส สาณวาสิตฺเถรสฺส. ทุคฺคตาติ ทุคฺคติคตา.
๔๑๐. สูจิกฏฺฏาติ ¶ ปูตินา ลูขคตฺตา อฏฺฏกา, สูจิกาติ ลทฺธนามาย ขุปฺปิปาสาย อฏฺฏา ปีฬิตา. ‘‘สูจิกณฺา’’ติ เกจิ ปนฺติ, สูจิฉิทฺทสทิสมุขทฺวาราติ อตฺโถ. กิลนฺตาติ กิลนฺตกายจิตฺตา. นคฺคิโนติ นคฺครูปา นิจฺโจฬา. กิสาติ อฏฺิตฺตจมตฺตสรีรตาย กิสเทหา. อุตฺตสนฺตาติ ‘‘อยํ สมโณ อมฺหากํ ปุตฺโต’’ติ โอตฺตปฺเปน อุตฺราสํ อาปชฺชนฺตา ¶ . มหตฺตาสาติ อตฺตนา ปุพฺเพ กตกมฺมํ ปฏิจฺจ สฺชาตมหาภยา. น ทสฺเสนฺตีติ อตฺตานํ น ทสฺเสนฺติ, สมฺมุขีภาวํ น คจฺฉนฺติ. กุรูริโนติ ทารุณกมฺมนฺตา.
๔๑๑. ตสฺส ภาตาติ สาณวาสิตฺเถรสฺส ภาตา. วิตริตฺวาติ วิติณฺโณ หุตฺวา, โอตฺตปฺปสนฺตาสภยาติ อตฺโถ. วิตุริตฺวาติ วา ปาโ, ตุริโต หุตฺวา, ตรมานรูโป หุตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. เอกปเถติ เอกปทิกมคฺเค. เอกโกติ เอกิโก อทุติโย. จตุกุณฺฑิโก ภวิตฺวานาติ จตูหิ องฺเคหิ กุณฺเฑติ อตฺตภาวํ ปวตฺเตตีติ จตุกุณฺฑิโก, ทฺวีหิ ชาณูหิ ทฺวีหิ หตฺเถหิ คจฺฉนฺโต ติฏฺนฺโต จ, เอวํภูโต หุตฺวาติ อตฺโถ. โส หิ เอวํ ปุรโต โกปีนปฏิจฺฉาทนา โหตีติ ตถา อกาสิ. เถรสฺส ทสฺสยีตุมนฺติ เถรสฺส อตฺตานํ อุทฺทิสยิ ทสฺเสสิ.
๔๑๒. อมนสิกตฺวาติ ‘‘อยํ นาม เอโส’’ติ เอวํ มนสิ อกริตฺวา อนาวชฺเชตฺวา. โส จาติ โส เปโต. ภาตา เปตคโต อหนฺติ ‘‘อหํ อตีตตฺตภาเว ภาตา, อิทานิ เปตภูโต อิธาคโต’’ติ วตฺวา วิฺาปยิ เถรนฺติ โยชนา.
๔๑๓-๕. ยถา ปน วิฺาปยิ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘มาตา ปิตา จา’’ติอาทินา ติสฺโส คาถา วุตฺตา. ตตฺถ มาตา ปิตา จ เตติ ตว มาตา จ ปิตา จ. อนุกมฺปสฺสูติ อนุคฺคณฺห อนุทยํ ¶ กโรหิ. อนฺวาทิสาหีติ อาทิส. โนติ อมฺหากํ. ตว ทินฺเนนาติ ตยา ทินฺเนน.
ตํ ¶ สุตฺวา เถโร ยถา ปฏิปชฺชิ, ตํ ทสฺเสตุํ –
‘‘เถโร จริตฺวา ปิณฺฑาย, ภิกฺขู อฺเ จ ทฺวาทส;
เอกชฺฌํ สนฺนิปตึสุ, ภตฺตวิสฺสคฺคการณา.
‘‘เถโร สพฺเพว เต อาห, ยถาลทฺธํ ททาถ เม;
สงฺฆภตฺตํ กริสฺสามิ, อนุกมฺปาย าตินํ.
‘‘นิยฺยาทยึสุ ¶ เถรสฺส, เถโร สงฺฆํ นิมนฺตยิ;
ทตฺวา อนฺวาทิสิ เถโร, มาตุ ปิตุ จ ภาตุโน;
‘อิทํ เม าตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ าตโย’.
‘‘สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, โภชนํ อุทปชฺชถ;
สุจึ ปณีตํ สมฺปนฺนํ, อเนกรสพฺยฺชนํ.
‘‘ตโต อุทฺทสฺสยี ภาตา, วณฺณวา พลวา สุขี;
ปหูตํ โภชนํ ภนฺเต, ปสฺส นคฺคามฺหเส มยํ;
ตถา ภนฺเต ปรกฺกม, ยถา วตฺถํ ลภามเส.
‘‘เถโร สงฺการกูฏมฺหา, อุจฺจินิตฺวาน นนฺตเก;
ปิโลติกํ ปฏํ กตฺวา, สงฺเฆ จาตุทฺทิเส อทา.
‘‘ทตฺวา อนฺวาทิสี เถโร, มาตุ ปิตุ จ ภาตุโน;
‘อิทํ เม าตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ าตโย’.
‘‘สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, วตฺถานิ อุทปชฺชิสุํ;
ตโต สุวตฺถวสโน, เถรสฺส ทสฺสยีตุมํ.
‘‘ยาวตา ¶ นนฺทราชสฺส, วิชิตสฺมึ ปฏิจฺฉทา;
ตโต พหุตรา ภนฺเต, วตฺถานจฺฉาทนานิ โน.
‘‘โกเสยฺยกมฺพลียานิ, โขมกปฺปาสิกานิ จ;
วิปุลา จ มหคฺฆา จ, เตปากาเสวลมฺพเร.
‘‘เต ¶ มยํ ปริทหาม, ยํ ยฺหิ มนโส ปิยํ;
ตถา ภนฺเต ปรกฺกม, ยถา เคหํ ลภามเส.
‘‘เถโร ¶ ปณฺณกุฏึ กตฺวา, สงฺเฆ จาตุทฺทิเส อทา;
ทตฺวา จ อนฺวาทิสี เถโร, มาตุ ปิตุ จ ภาตุโน;
‘อิทํ เม าตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ าตโย’.
‘‘สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, ฆรานิ อุทปชฺชิสุํ;
กูฏาคารนิเวสนา, วิภตฺตา ภาคโส มิตา.
‘‘น มนุสฺเสสุ อีทิสา, ยาทิสา โน ฆรา อิธ;
อปิ ทิพฺเพสุ ยาทิสา, ตาทิสา โน ฆรา อิธ.
‘‘ททฺทลฺลมานา อาเภนฺติ, สมนฺตา จตุโร ทิสา;
ตถา ภนฺเต ปรกฺกม, ยถา ปานียํ ลภามเส.
‘‘เถโร กรณํ ปูเรตฺวา, สงฺเฆ จาตุทฺทิเส อทา;
ทตฺวา อนฺวาทิสี เถโร, มาตุ ปิตุ จ ภาตุโน;
‘อิทํ เม าตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ าตโย’.
‘‘สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, ปานียํ อุทปชฺชถ;
คมฺภีรา จตุรสฺสา จ, โปกฺขรฺโ สุนิมฺมิตา.
‘‘สีโตทิกา ¶ สุปฺปติตฺถา, สีตา อปฺปฏิคนฺธิยา;
ปทุมุปฺปลสฺฉนฺนา, วาริกิฺชกฺขปูริตา.
‘‘ตตฺถ นฺหตฺวา ปิวิตฺวา จ, เถรสฺส ปฏิทสฺสยุํ;
ปหูตํ ปานียํ ภนฺเต, ปาทา ทุกฺขา ผลนฺติ โน.
‘‘อาหิณฺฑมานา ขฺชาม, สกฺขเร กุสกณฺฏเก;
ตถา ภนฺเต ปรกฺกม, ยถา ยานํ ลภามเส.
‘‘เถโร สิปาฏิกํ ลทฺธา, สงฺเฆ จาตุทฺทิเส อทา;
ทตฺวา อนฺวาทิสี เถโร, มาตุ ปิตุ จ ภาตุโน;
‘อิทํ เม าตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ าตโย’.
‘‘สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ ¶ , เปตา รเถน มาคมุํ;
อนุกมฺปิตมฺห ภทนฺเต, ภตฺเตนจฺฉาทเนน จ.
‘‘ฆเรน ¶ ปานียทาเนน, ยานทาเนน จูภยํ;
มุนึ การุณิกํ โลเก, ภนฺเต วนฺทิตุมาคตา’’ติ. – คาถาโย อาหํสุ;
๔๑๖-๗. ตตฺถ เถโร จริตฺวา ปิณฺฑายาติ เถโร ปิณฺฑาปาตจาริกาย จริตฺวา. ภิกฺขู อฺเ จ ทฺวาทสาติ เถเรน สห วสนฺตา อฺเ จ ทฺวาทส ภิกฺขู เอกชฺฌํ เอกโต สนฺนิปตึสุ. กสฺมาติ เจ? ภตฺตวิสฺสคฺคการณาติ ภตฺตกิจฺจการณา ภฺุชนนิมิตฺตํ. เตติ เต ภิกฺขู. ยถาลทฺธนฺติ ยํ ยํ ลทฺธํ. ททาถาติ เทถ.
๔๑๘. นิยฺยาทยึสูติ อทํสุ. สงฺฆํ นิมนฺตยีติ เต เอว ทฺวาทส ภิกฺขู สงฺฆุทฺเทสวเสน ตํ ภตฺตํ ทาตุํ นิมนฺเตสิ. อนฺวาทิสีติ อาทิสิ. ตตฺถ เยสํ อนฺวาทิสิ, เต ทสฺเสตุํ ‘‘มาตุ ปิตุ จ ภาตุโน, อิทํ เม าตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ าตโย’’ติ วุตฺตํ.
๔๑๙. สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเติ อุทฺทิฏฺสมนนฺตรเมว. โภชนํ อุทปชฺชถาติ เตสํ เปตานํ โภชนํ ¶ อุปฺปชฺชิ. กีทิสนฺติ อาห ‘‘สุจิ’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อเนกรสพฺยฺชนนฺติ นานารเสหิ พฺยฺชเนหิ ยุตฺตํ, อถ วา อเนกรสํ อเนกพฺยฺชนฺจ. ตโตติ โภชนลาภโต ปจฺฉา.
๔๒๐. อุทฺทสฺสยี ภาตาติ ภาติกภูโต เปโต เถรสฺส อตฺตานํ ทสฺเสสิ. วณฺณวา พลวา สุขีติ เตน โภชนลาเภน ตาวเทว รูปสมฺปนฺโน พลสมฺปนฺโน สุขิโตว หุตฺวา. ปหูตํ โภชนํ, ภนฺเตติ, ภนฺเต, ตว ทานานุภาเวน ปหูตํ อนปฺปกํ โภชนํ อมฺเหหิ ลทฺธํ. ปสฺส นคฺคามฺหเสติ โอโลเกหิ, นคฺคิกา ปน อมฺห, ตสฺมา ตถา, ภนฺเต, ปรกฺกม ปโยคํ กโรหิ. ยถา วตฺถํ ลภามเสติ เยน ปกาเรน ยาทิเสน ปโยเคน ¶ สพฺเพว มยํ วตฺถานิ ลเภยฺยาม, ตถา วายมถาติ อตฺโถ.
๔๒๑. สงฺการกูฏมฺหาติ ตตฺถ ตตฺถ สงฺการฏฺานโต. อุจฺจินิตฺวานาติ คเวสนวเสน คเหตฺวา. นนฺตเกติ ฉินฺนปริยนฺเต ฉฑฺฑิตทุสฺสขณฺเฑ ¶ . เต ปน ยสฺมา ขณฺฑภูตา ปิโลติกา นาม โหนฺติ, ตาหิ จ เถโร จีวรํ กตฺวา สงฺฆสฺส อทาสิ, ตสฺมา อาห ‘‘ปิโลติกํ ปฏํ กตฺวา, สงฺเฆ จาตุทฺทิเส อทา’’ติ. ตตฺถ สงฺเฆ จาตุทฺทิเส อทาติ จตูหิปิ ทิสาหิ อาคตภิกฺขุสงฺฆสฺส อทาสิ. สมฺปทานตฺเถ หิ อิทํ ภุมฺมวจนํ.
๔๒๓-๔. สุวตฺถวสโนติ สุนฺทรวตฺถวสโน. เถรสฺส ทสฺสยีตุมนฺติ เถรสฺส อตฺตานํ ทสฺสยิ ทสฺเสสิ, ปากโฏ อโหสิ. ปฏิจฺฉาทยติ เอตฺถาติ ปฏิจฺฉทา.
๔๒๘-๙. กูฏาคารนิเวสนาติ กูฏาคารภูตา ตทฺนิเวสนสงฺขาตา จ ฆรา. ลิงฺควิปลฺลาสวเสน เหตํ วุตฺตํ. วิภตฺตาติ สมจตุรสฺสอายตวฏฺฏสณฺานาทิวเสน วิภตฺตา. ภาคโส มิตาติ ภาเคน ปริจฺฉินฺนา. โนติ อมฺหากํ. อิธาติ อิมสฺมึ เปตโลเก. อปิ ทิพฺเพสูติ อปีติ นิปาตมตฺตํ, เทวโลเกสูติ อตฺโถ.
๔๓๑. กรณนฺติ ธมกรณํ. ปูเรตฺวาติ อุทกสฺส ปูเรตฺวา. วาริกิฺชกฺขปูริตาติ ตตฺถ ตตฺถ วาริมตฺถเก ปทุมุปฺปลาทีนํ เกสรภาเรหิ สฺฉาทิตวเสน ปูริตา. ผลนฺตีติ ปุปฺผนฺติ, ปณฺหิกปริยนฺตาทีสุ วิทาเลนฺตีติ อตฺโถ.
๔๓๕-๖. อาหิณฺฑมานาติ วิจรมานา. ขฺชามาติ ขฺชนวเสน ¶ คจฺฉาม. สกฺขเร กุสกณฺฏเกติ ¶ สกฺขรวติ กุสกณฺฏกวติ จ ภูมิภาเค, สกฺขเร กุสกณฺฏเก จ อกฺกมนฺตาติ อตฺโถ. ยานนฺติ รถวยฺหาทิกํ ยํกิฺจิ ยานํ. สิปาฏิกนฺติ เอกปฏลอุปาหนํ.
๔๓๗-๘. รเถน มาคมุนฺติ มกาโร ปทสนฺธิกโร, รเถน อาคมํสุ. อุภยนฺติ อุภเยน ทาเนน, ยานทาเนน เจว ภตฺตาทิจตุปจฺจยทาเนน จ. ปานียทาเนน เหตฺถ เภสชฺชทานมฺปิ สงฺคหิตํ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมวาติ.
เถโร ¶ ตํ ปวตฺตึ ภควโต อาโรเจสิ. ภควา ตมตฺถํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา ‘‘ยถา อิเม เอตรหิ, เอวํ ตฺวมฺปิ อิโต อนนฺตราตีเต อตฺตภาเว เปโต หุตฺวา มหาทุกฺขํ อนุภวี’’ติ วตฺวา เถเรน ยาจิโต สุตฺตเปตวตฺถุํ กเถตฺวา สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสสิ. ตํ สุตฺวา มหาชโน สฺชาตสํเวโค ทานสีลาทิปฺุกมฺมนิรโต อโหสีติ.
สาณวาสิตฺเถรเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. รถการเปติวตฺถุวณฺณนา
เวฬุริยถมฺภํ รุจิรํ ปภสฺสรนฺติ อิทํ สตฺถริ สาวตฺถิยํ วิหรนฺเต อฺตรํ เปตึ อารพฺภ วุตฺตํ. อตีเต กิร กสฺสปสฺส ภควโต กาเล อฺตรา อิตฺถี สีลาจารสมฺปนฺนา กลฺยาณมิตฺตสนฺนิสฺสเยน สาสเน อภิปฺปสนฺนา สุวิภตฺตวิจิตฺรภิตฺติถมฺภโสปานภูมิตลํ อติวิย ทสฺสนียํ เอกํ อาวาสํ กตฺวา ตตฺถ ภิกฺขู นิสีทาเปตฺวา ปณีเตน อาหาเรน ปริวิสิตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิยฺยาเทสิ. สา อปเรน สมเยน กาลํ กตฺวา อฺสฺส ปาปกมฺมสฺส วเสน หิมวติ ปพฺพตราเช รถการทหํ นิสฺสาย วิมานเปตี หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺสา สงฺฆสฺส อาวาสทานปฺุานุภาเวน สพฺพรตนมยํ อุฬารํ อติวิย สมนฺตโต ปาสาทิกํ มโนหรํ รมณียํ โปกฺขรณิยํ ¶ นนฺทนวนสทิสํ อุปโสภิตํ วิมานํ นิพฺพตฺติ, สยฺจ สุวณฺณวณฺณา อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา อโหสิ.
สา ตตฺถ ปุริเสหิ วินาว ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวนฺตี วิหรติ. ตสฺสา ตตฺถ ทีฆรตฺตํ นิปฺปุริสาย วสนฺติยา อนภิรติ อุปฺปนฺนา. สา อุกฺกณฺิตา หุตฺวา ‘‘อตฺเถโส อุปาโย’’ติ จินฺเตตฺวา ทิพฺพานิ อมฺพปกฺกานิ นทิยํ ปกฺขิปติ. สพฺพํ กณฺณมุณฺฑเปติวตฺถุสฺมึ อาคตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิธ ปน พาราณสิวาสี เอโก มาณโว คงฺคาย เตสุ เอกํ อมฺพผลํ ทิสฺวา ¶ ตสฺส ปภวํ คเวสนฺโต อนุกฺกเมน ตํ านํ คนฺตฺวา นทึ ทิสฺวา ตทนุสาเรน ตสฺสา วสนฏฺานํ คโต. สา ตํ ทิสฺวา อตฺตโน วสนฏฺานํ ¶ เนตฺวา ปฏิสนฺถารํ กโรนฺตี นิสีทิ. โส ตสฺสา วสนฏฺานสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ปุจฺฉนฺโต –
‘‘เวฬุริยถมฺภํ รุจิรํ ปภสฺสรํ, วิมานมารุยฺห อเนกจิตฺตํ;
ตตฺถจฺฉสิ เทวิ มหานุภาเว, ปถทฺธนิ ปนฺนรเสว จนฺโท.
‘‘วณฺโณ จ เต กนกสฺส สนฺนิโภ, อุตฺตตฺตรูโป ภุส ทสฺสเนยฺโย;
ปลฺลงฺกเสฏฺเ อตุเล นิสินฺนา, เอกา ตุวํ นตฺถิ จ ตุยฺห สามิโก.
‘‘อิมา จ เต โปกฺขรณี สมนฺตา, ปหูตมลฺยา พหุปุณฺฑรีกา;
สุวณฺณจุณฺเณหิ สมนฺตโมตฺถตา, น ตตฺถ ปงฺโก ปณโก จ วิชฺชติ.
‘‘หํสา จิเม ทสฺสนียา มโนรมา, อุทกสฺมิมนุปริยนฺติ ¶ สพฺพทา;
สมยฺย วคฺคูปนทนฺติ สพฺเพ, พินฺทุสฺสรา ทุนฺทุภีนํว โฆโส.
‘‘ททฺทลฺลมานา ยสสา ยสสฺสินี, นาวาย จ ตฺวํ อวลมฺพ ติฏฺสิ;
อาฬารปมฺเห หสิเต ปิยํวเท, สพฺพงฺคกลฺยาณิ ภุสํ วิโรจสิ.
‘‘อิทํ วิมานํ วิรชํ สเม ิตํ, อุยฺยานวนฺตํ รตินนฺทิวฑฺฒนํ;
อิจฺฉามหํ นาริ อโนมทสฺสเน, ตยา สห นนฺทเน อิธ โมทิตุ’’นฺติ. –
อิมา คาถา อภาสิ.
๔๓๙. ตตฺถ ¶ ตตฺถาติ ตสฺมึ วิมาเน. อจฺฉสีติ อิจฺฉิติจฺฉิตกาเล นิสีทสิ. เทวีติ ตํ อาลปติ. มหานุภาเวติ มหตา ทิพฺพานุภาเวน สมนฺนาคเต. ปถทฺธนีติ อตฺตโน ปถภูเต อทฺธนิ, คคนตลมคฺเคติ อตฺโถ. ปนฺนรเสว จนฺโทติ ปุณฺณมาสิยํ ปริปุณฺณมณฺฑโล จนฺโท วิย วิชฺโชตมานาติ อตฺโถ.
๔๔๐. วณฺโณ ¶ จ เต กนกสฺส สนฺนิโภติ ตว วณฺโณ จ อุตฺตตฺตสิงฺคีสุวณฺเณน สทิโส อติวิย มโนหโร. เตนาห ‘‘อุตฺตตฺตรูโป ภุส ทสฺสเนยฺโย’’ติ. อตุเลติ มหารเห. อตุเลติ วา เทวตาย อาลปนํ, อสทิสรูเปติ อตฺโถ. นตฺถิ จ ตุยฺห สามิโกติ ตุยฺหํ สามิโก จ นตฺถิ.
๔๔๑. ปหูตมลฺยาติ กมลกุวลยาทิพหุวิธกุสุมวติโย ¶ . สุวณฺณจุณฺเณหีติ สุวณฺณวาลุกาหิ. สมนฺตโมตฺถตาติ สมนฺตโต โอกิณฺณา. ตตฺถาติ ตาสุ โปกฺขรณีสุ. ปงฺโก ปณโก จาติ กทฺทโม วา อุทกปิจฺฉิลฺโล วา น วิชฺชติ.
๔๔๒. หํสา จิเม ทสฺสนียา มโนรมาติ อิเม หํสา จ ทสฺสนสุขา มโนรมา จ. อนุปริยนฺตีติ อนุวิจรนฺติ. สพฺพทาติ สพฺเพสุ อุตูสุ. สมยฺยาติ สงฺคมฺม. วคฺคูติ มธุรํ. อุปนทนฺตีติ วิกูชนฺติ. พินฺทุสฺสราติ อวิสฏสฺสรา สมฺปิณฺฑิตสฺสรา. ทุนฺทุภีนํว โฆโสติ วคฺคุพินฺทุสฺสรภาเวน ทุนฺทุภีนํ วิย ตว โปกฺขรณิยํ หํสานํ โฆโสติ อตฺโถ.
๔๔๓. ททฺทลฺลมานาติ อติวิย อภิชลนฺตี. ยสสาติ เทวิทฺธิยา. นาวายาติ โทณิยํ. โปกฺขรณิยฺหิ ปทุมินิยํ สุวณฺณนาวาย มหารเห ปลฺลงฺเก นิสีทิตฺวา อุทกกีฬํ กีฬนฺตึ เปตึ ทิสฺวา เอวมาห. อวลมฺพาติ อวลมฺพิตฺวา อปสฺเสนํ อปสฺสาย. ติฏฺสีติ อิทํ านสทฺทสฺส คตินิวตฺติ อตฺถตฺตา คติยา ปฏิกฺเขปวจนํ. ‘‘นิสชฺชสี’’ติ วา ปาโ, นิสีทสิจฺเจวสฺส อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อาฬารปมฺเหติ เวลฺลิตทีฆนีลปขุเม. หสิเตติ หสิตมหาหสิตมุเข. ปิยํวเทติ ปิยภาณินี. สพฺพงฺคกลฺยาณีติ สพฺเพหิ องฺเคหิ สุนฺทเร, โสภนสพฺพงฺคปจฺจงฺคีติ อตฺโถ. วิโรจสีติ วิราเชสิ.
๔๔๔. วิรชนฺติ ¶ วิคตรชํ นิทฺโทสํ. สเม ิตนฺติ สเม ภูมิภาเค ิตํ, จตุรสฺสโสภิตตาย วา สมภาเค ิตํ, สมนฺตภทฺทกนฺติ อตฺโถ. อุยฺยานวนฺตนฺติ นนฺทนวนสหิตํ. รตินนฺทิวฑฺฒนนฺติ รติฺจ ¶ นนฺทิฺจ วฑฺเฒตีติ รตินนฺทิวฑฺฒนํ, สุขสฺส จ ปีติยา จ สํวฑฺฒนนฺติ อตฺโถ. นารีติ ตสฺสา อาลปนํ. อโนมทสฺสเนติ ปริปุณฺณองฺคปจฺจงฺคตาย อนินฺทิตทสฺสเน. นนฺทเนติ นนฺทนกเร. อิธาติ นนฺทนวเน, วิมาเน วา. โมทิตุนฺติ อภิรมิตุํ อิจฺฉามีติ โยชนา.
เอวํ ¶ เตน มาณเวน วุตฺเต สา วิมานเปติเทวตา ตสฺส ปฏิวจนํ เทนฺตี –
‘‘กโรหิ กมฺมํ อิธ เวทนียํ, จิตฺตฺจ เต อิธ นิหิตํ ภวตุ;
กตฺวาน กมฺมํ อิธ เวทนียํ, เอวํ มมํ ลจฺฉสิ กามกามินิ’’นฺติ. –
คาถมาห. ตตฺถ กโรหิ กมฺมํ อิธ เวทนียนฺติ อิธ อิมสฺมึ ทิพฺพฏฺาเน วิปจฺจนกํ วิปากทายกํ กุสลกมฺมํ กโรหิ ปสเวยฺยาสิ. อิธ นิหิตนฺติ อิธูปนีตํ, ‘‘อิธ นินฺน’’นฺติ วา ปาโ, อิมสฺมึ าเน นินฺนํ โปณํ ปพฺภารํ ตว จิตฺตํ ภวตุ โหตุ. มมนฺติ มํ. ลจฺฉสีติ ลภิสฺสสิ.
โส มาณโว ตสฺสา วิมานเปติยา วจนํ สุตฺวา ตโต มนุสฺสปถํ คโต ตตฺถ จิตฺตํ ปณิธาย ตชฺชํ ปฺุกมฺมํ กตฺวา นจิรสฺเสว กาลํ กตฺวา ตตฺถ นิพฺพตฺติ ตสฺสา เปติยา สหพฺยตํ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺตา สงฺคีติการา –
‘‘สาธูติ โส ตสฺสา ปฏิสฺสุณิตฺวา,
อกาสิ กมฺมํ ตหึ เวทนียํ;
กตฺวาน กมฺมํ ตหึ เวทนียํ,
อุปปชฺชิ โส มาณโว ตสฺสา สหพฺยต’’นฺติ. –
โอสานคาถมาหํสุ. ตตฺถ ¶ สาธูติ สมฺปฏิจฺฉเน นิปาโต. ตสฺสาติ ตสฺสา วิมานเปติยา. ปฏิสฺสุณิตฺวาติ ตสฺสา วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา. ตหึ เวทนียนฺติ ¶ ตสฺมึ วิมาเน ตาย สทฺธึ เวทิตพฺพสุขวิปากํ กุสลกมฺมํ. สหพฺยตนฺติ สหภาวํ. โส มาณโว ตสฺสา สหพฺยตํ อุปปชฺชีติ โยชนา. เสสํ อุตฺตานเมว.
เอวํ เตสุ ตตฺถ จิรกาลํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวนฺเตสุ ปุริโส กมฺมสฺส ปริกฺขเยน กาลมกาสิ, อิตฺถี ปน อตฺตโน ปฺุกมฺมสฺส เขตฺตงฺคตภาเวน เอกํ พุทฺธนฺตรํ ตตฺถ ปริปุณฺณํ กตฺวา วสิ. อถ อมฺหากํ ภควติ โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺเก อนุกฺกเมน เชตวเน วิหรนฺเต อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เอกทิวสํ ปพฺพตจาริกํ จรมาโน ตํ วิมานฺจ วิมานเปติฺจ ทิสฺวา ‘‘เวฬุริยถมฺภํ รุจิรํ ปภสฺสร’’นฺติอาทิกาหิ คาถาหิ ปุจฺฉิ. สา จสฺส ¶ อาทิโต ปฏฺาย สพฺพํ อตฺตโน ปวตฺตึ อาโรเจสิ. ตํ สุตฺวา เถโร สาวตฺถึ อาคนฺตฺวา ภควโต อาโรเจสิ. ภควา ตมตฺถํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสสิ. ตํ สุตฺวา มหาชโน ทานาทิปฺุธมฺมนิรโต อโหสีติ.
รถการเปติวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ภุสเปตวตฺถุวณฺณนา
ภุสานิ เอโก สาลึ ปุนาปโรติ อิทํ สตฺถริ สาวตฺถิยํ วิหรนฺเต จตฺตาโร เปเต อารพฺภ วุตฺตํ. สาวตฺถิยา กิร อวิทูเร อฺตรสฺมึ คามเก เอโก กูฏวาณิโช กูฏมานาทีหิ ชีวิกํ กปฺเปสิ. โส สาลิปลาเป คเหตฺวา ตมฺพมตฺติกาย ปริภาเวตฺวา ครุตเร กตฺวา รตฺตสาลิหิ สทฺธึ มิสฺเสตฺวา วิกฺกิณิ. ตสฺส ปุตฺโต ‘‘ฆรํ อาคตานํ มม มิตฺตสุหชฺชานํ สมฺมานํ น กโรตี’’ติ กุปิโต ยุคจมฺมํ คเหตฺวา มาตุสีเส ปหารมทาสิ. ตสฺส สุณิสา ¶ สพฺเพสํ อตฺถาย ปิตมํสํ โจริกาย ขาทิตฺวา ปุน เตหิ อนุยฺุชิยมานา ‘‘สเจ มยา ตํ มํสํ ขาทิตํ, ภเว ภเว อตฺตโน ปิฏฺิมํสํ กนฺติตฺวา ขาเทยฺย’’นฺติ สปถมกาสิ. ภริยา ปนสฺส กิฺจิเทว อุปกรณํ ยาจนฺตานํ ‘‘นตฺถี’’ติ วตฺวา เตหิ นิปฺปีฬิยมานา ‘‘สเจ สนฺตํ นตฺถีติ วทามิ, ชาตชาตฏฺาเน คูถภกฺขา ภเวยฺย’’นฺติ มุสาวาเทน สปถมกาสิ.
เต ¶ จตฺตาโรปิ ชนา อปเรน สมเยน กาลํ กตฺวา วิฺฌาฏวิยํ เปตา หุตฺวา นิพฺพตฺตึสุ. ตตฺถ กูฏวาณิโช กมฺมผเลน ปชฺชลนฺตํ ภุสํ อุโภหิ หตฺเถหิ คเหตฺวา อตฺตโน มตฺถเก อากิริตฺวา มหาทุกฺขํ อนุภวติ, ตสฺส ปุตฺโต อโยมเยหิ มุคฺคเรหิ สยเมว อตฺตโน สีสํ ภินฺทิตฺวา อนปฺปกํ ทุกฺขํ ปจฺจนุโภติ. ตสฺส สุณิสา กมฺมผเลน สุนิสิเตหิ อติวิย วิปุลายเตหิ นเขหิ อตฺตโน ปิฏฺิมํสานิ กนฺติตฺวา ขาทนฺตี อปริมิตํ ทุกฺขํ อนุภวติ, ตสฺส ภริยาย สุคนฺธํ สุวิสุทฺธํ อปคตกาฬกํ สาลิภตฺตํ อุปนีตมตฺตเมว นานาวิธกิมิกุลากุลํ ปรมทุคฺคนฺธเชคุจฺฉํ คูถํ สมฺปชฺชติ, ตํ สา อุโภหิ หตฺเถหิ ปริคฺคเหตฺวา ภฺุชนฺตี มหาทุกฺขํ ปฏิสํเวเทติ.
เอวํ เตสุ จตูสุ ชเนสุ เปเตสุ นิพฺพตฺติตฺวา มหาทุกฺขํ อนุภวนฺเตสุ อายสฺมา มหาโมคฺคลาโน ปพฺพตจาริกํ จรนฺโต เอกทิวสํ ตํ านํ คโต. เต เปเต ทิสฺวา –
‘‘ภุสานิ ¶ เอโก สาลึ ปุนาปโร, อยฺจ นารี สกมํสโลหิตํ;
ตุวฺจ คูถํ อสุจึ อกนฺตํ, ปริภฺุชสิ กิสฺส อยํ วิปาโก’’ติ. –
อิมาย คาถาย เตหิ กตกมฺมํ ปุจฺฉิ. ตตฺถ ภุสานีติ ปลาปานิ. เอโกติ เอกโก. สาลินฺติ สาลิโน. สามิอตฺเถ เหตํ อุปโยควจนํ, สาลิโน ปลาปานิ ¶ ปชฺชลนฺตานิ อตฺตโน สีเส อวกิรตีติ อธิปฺปาโย. ปุนาปโรติ ปุน อปโร. โย หิ โส มาตุสีสํ ปหริ, โส อโยมุคฺคเรหิ อตฺตโน สีสํ ปหริตฺวา สีสเภทํ ปาปุณาติ, ตํ สนฺธาย วทติ. สกมํสโลหิตนฺติ อตฺตโน ปิฏฺิมํสํ โลหิตฺจ ปริภฺุชตีติ โยชนา. อกนฺตนฺติ อมนาปํ เชคุจฺฉํ. กิสฺส อยํ วิปาโกติ กตมสฺส ปาปกมฺมสฺส อิทํ ผลํ, ยํ อิทานิ ตุมฺเหหิ ปจฺจนุภวียตีติ อตฺโถ.
เอวํ เถเรน เตหิ กตกมฺเม ปุจฺฉิเต กูฏวาณิชสฺส ภริยา สพฺเพหิ เตหิ กตกมฺมํ อาจิกฺขนฺตี –
‘‘อยํ ¶ ปุเร มาตรํ หึสติ, อยํ ปน กูฏวาณิโช;
อยํ มํสานิ ขาทิตฺวา, มุสาวาเทน วฺเจติ.
‘‘อหํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสภูตา, อคารินี สพฺพกุลสฺส อิสฺสรา;
สนฺเตสุ ปริคุหามิ, มา จ กิฺจิ อิโต อทํ.
‘‘มุสาวาเทน ฉาเทมิ, นตฺถิ เอตํ มม เคเห;
สเจ สนฺตํ นิคุหามิ, คูโถ เม โหตุ โภชนํ.
‘‘ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน, มุสาวาทสฺส จูภยํ;
สุคนฺธํ สาลิโน ภตฺตํ, คูถํ เม ปริวตฺตติ.
‘‘อวฺฌานิ จ กมฺมานิ, น หิ กมฺมํ วินสฺสติ;
ทุคฺคนฺธํ กิมินํ มีฬฺหํ, ภฺุชามิ จ ปิวามิ จา’’ติ. – คาถา อภาสิ;
๔๔๘. ตตฺถ ¶ อยนฺติ ปุตฺตํ ทสฺเสนฺติ วทติ. หึสตีติ ถาเมน ปริพาเธติ, มุคฺคเรน ปหรตีติ อตฺโถ. กูฏวาณิโชติ ขลวาณิโช, วฺจนาย วณิชฺชการโกติ อตฺโถ ¶ . มํสานิ ขาทิตฺวาติ ปเรหิ สาธารณมํสํ ขาทิตฺวา ‘‘น ขาทามี’’ติ มุสาวาเทน เต วฺเจติ.
๔๔๙-๕๐. อคารินีติ เคหสามินี. สนฺเตสูติ วิชฺชมาเนสฺเวว ปเรหิ ยาจิตอุปกรเณสุ. ปริคุหามีติ ปฏิจฺฉาเทสึ. กาลวิปลฺลาเสน เหตํ วุตฺตํ. มา จ กิฺจิ อิโต อทนฺติ อิโต มม สนฺตกโต กิฺจิมตฺตมฺปิ อตฺถิกสฺส ปรสฺส น อทาสึ. ฉาเทมิติ ‘‘นตฺถิ เอตํ มม เคเห’’ติ มุสาวาเทน ฉาเทสึ.
๔๕๑-๒. คูถํ เม ปริวตฺตตีติ สุคนฺธํ สาลิภตฺตํ มยฺหํ กมฺมวเสน คูถภาเวน ปริวตฺตติ ปริณมติ. อวฺฌานีติ อโมฆานิ อนิปฺผลานิ. น หิ กมฺมํ วินสฺสตีติ ยถูปจิตํ กมฺมํ ผลํ อทตฺวา น หิ วินสฺสติ. กิมินนฺติ ¶ กิมิวนฺตํ สฺชาตกิมิกุลํ. มีฬฺหนฺติ คูถํ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมว.
เอวํ เถโร ตสฺสา เปติยา วจนํ สุตฺวา ตํ ปวตฺตึ ภควโต อาโรเจสิ. ภควา ตมตฺถํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสสิ. สา เทสนา มหาชนสฺส สาตฺถิกา อโหสีติ.
ภุสเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. กุมารเปตวตฺถุวณฺณนา
อจฺเฉรรูปํ สุคตสฺส าณนฺติ อิทํ กุมารเปตวตฺถุ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? สาวตฺถิยํ กิร พหู อุปาสกา ธมฺมคณา หุตฺวา นคเร มหนฺตํ มณฺฑปํ กาเรตฺวา ตํ นานาวณฺเณหิ วตฺเถหิ อลงฺกริตฺวา กาลสฺเสว สตฺถารํ ภิกฺขุสงฺฆฺจ นิมนฺเตตฺวา มหารหวรปจฺจตฺถรณตฺถเตสุ อาสเนสุ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิสีทาเปตฺวา คนฺธปุปฺผาทีหิ ปูเชตฺวา ¶ มหาทานํ ปวตฺเตนฺติ. ตํ ทิสฺวา อฺตโร มจฺเฉรมลปริยุฏฺิตจิตฺโต ปุริโส ตํ สกฺการํ อสหมาโน เอวมาห – ‘‘วรเมตํ สพฺพํ สงฺการกูเฏ ฉฑฺฑิตํ, น ตฺเวว อิเมสํ มุณฺฑกานํ ทินฺน’’นฺติ. ตํ สุตฺวา อุปาสกา สํวิคฺคมานสา ‘‘ภาริยํ วต อิมินา ปุริเสน ปาปํ ปสุตํ, เยน เอวํ พุทฺธปฺปมุเข ภิกฺขุสงฺเฆ อปรทฺธ’’นฺติ ตมตฺถํ ตสฺส มาตุยา อาโรเจตฺวา ‘‘คจฺฉ, ตฺวํ สสาวกสงฺฆํ ภควนฺตํ ขมาเปหี’’ติ อาหํสุ. สา ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา ปุตฺตํ สนฺตชฺเชนฺตี สฺาเปตฺวา ภควนฺตํ ภิกฺขุสงฺฆฺจ ¶ อุปสงฺกมิตฺวา ปุตฺเตน กตอจฺจยํ เทเสนฺตี ขมาเปตฺวา ภควโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ สตฺตาหํ ยาคุทาเนน ปูชํ อกาสิ. ตสฺสา ปุตฺโต นจิรสฺเสว กาลํ กตฺวา กิลิฏฺกมฺมูปชีวินิยา คณิกาย กุจฺฉิยํ นิพฺพตฺติ. สา จ นํ ชาตมตฺตํเยว ‘‘ทารโก’’ติ ตฺวา สุสาเน ฉฑฺฑาเปสิ. โส ตตฺถ อตฺตโน ปฺุพเลเนว คหิตารกฺโข เกนจิ อนุปทฺทุโต มาตุ-องฺเก วิย สุขํ สุปิ. เทวตา ตสฺส อารกฺขํ คณฺหึสูติ จ วทนฺติ.
อถ ¶ ภควา ปจฺจูสสมเย มหากรุณาสมาปตฺติโต วุฏฺาย พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต ตํ ทารกํ สิวถิกาย ฉฑฺฑิตํ ทิสฺวา สูริยุคฺคมนเวลาย สิวถิกํ อคมาสิ. ‘‘สตฺถา อิธาคโต, การเณเนตฺถ ภวิตพฺพ’’นฺติ มหาชโน สนฺนิปติ. ภควา สนฺนิปติตปริสาย ‘‘นายํ ทารโก โอฺาตพฺโพ, ยทิปิ อิทานิ สุสาเน ฉฑฺฑิโต อนาโถ ิโต, อายตึ ปน ทิฏฺเว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจ อุฬารสมฺปตฺตึ ปฏิลภิสฺสตี’’ติ วตฺวา เตหิ มนุสฺเสหิ ‘‘กึ นุ โข, ภนฺเต, อิมินา ปุริมชาติยํ กตํ กมฺม’’นฺติ ปุฏฺโ –
‘‘พุทฺธปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส, ปูชํ อกาสิ ชนตา อุฬารํ;
ตตฺรสฺส จิตฺตสฺสหุ อฺถตฺตํ, วาจํ อภาสิ ผรุสํ อสพฺภ’’นฺติ. –
อาทินา นเยน ทารเกน กตกมฺมํ อายตึ ปตฺตพฺพํ สมฺปตฺติฺจ ปกาเสตฺวา สนฺนิปติตาย ปริสาย อชฺฌาสยานุรูปํ ธมฺมํ กเถตฺวา อุปริ สามุกฺกํสิกํ ธมฺมเทสนํ อกาสิ. สจฺจปริโยสาเน จตุราสีติยา ¶ ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ, ตฺจ ทารกํ อสีติโกฏิวิภโว เอโก กุฏุมฺพิโก ภควโต สมฺมุขาว ‘‘มยฺหํ ปุตฺโต’’ติ อคฺคเหสิ. ภควา ‘‘เอตฺตเกน อยํ ทารโก รกฺขิโต, มหาชนสฺส จ อนุคฺคโห กโต’’ติ วิหารํ อคมาสิ.
โส อปเรน สมเยน ตสฺมึ กุฏุมฺพิเก กาลกเต เตน นิยฺยาทิตํ ธนํ ปฏิปชฺชิตฺวา กุฏุมฺพํ สณฺเปนฺโต ตสฺมึ นคเรเยว มหาวิภโว คหปติ หุตฺวา ทานาทินิรโต อโหสิ. อเถกทิวสํ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ – ‘‘อโห นูน สตฺถา สตฺเตสุ อนุกมฺปโก, โสปิ นาม ทารโก ตทา อนาโถ ิโต เอตรหิ มหตึ สมฺปตฺตึ ปจฺจนุภวติ, อุฬารานิ จ ปฺุานิ กโรตี’’ติ. ตํ สุตฺวา สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, ตสฺส เอตฺตกาว สมฺปตฺติ, อถ โข อายุปริโยสาเน ตาวตึสภวเน สกฺกสฺส เทวรฺโ ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติสฺสติ, มหตึ ทิพฺพสมฺปตฺติฺจ ¶ ปฏิลภิสฺสตี’’ติ พฺยากาสิ. ตํ สุตฺวา ภิกฺขู จ มหาชโน ¶ จ ‘‘อิทํ กิร การณํ ทิสฺวา ทีฆทสฺสี ภควา ชาตมตฺตสฺเสวสฺส อามกสุสาเน ฉฑฺฑิตสฺส ตตฺถ คนฺตฺวา สงฺคหํ อกาสี’’ติ สตฺถุ าณวิเสสํ โถเมตฺวา ตสฺมึ อตฺตภาเว ตสฺส ปวตฺตึ กเถสุํ. ตมตฺถํ ทีเปนฺตา สงฺคีติการา –
‘‘อจฺเฉรรูปํ สุคตสฺส าณํ, สตฺถา ยถา ปุคฺคลํ พฺยากาสิ;
อุสฺสนฺนปฺุาปิ ภวนฺติ เหเก, ปริตฺตปฺุาปิ ภวนฺติ เหเก.
‘‘อยํ กุมาโร สีวถิกาย ฉฑฺฑิโต, องฺคุฏฺสฺเนเหน ยาเปติ รตฺตึ;
น ยกฺขภูตา น สรีสปา วา, วิเหเยยฺยุํ กตปฺุํ กุมารํ.
‘‘สุนขาปิมสฺส ปลิหึสุ ปาเท, ธงฺกา สิงฺคาลา ปริวตฺตยนฺติ;
คพฺภาสยํ ¶ ปกฺขิคณา หรนฺติ, กากา ปน อกฺขิมลํ หรนฺติ.
‘‘นยิมสฺส รกฺขํ วิทหึสุ เกจิ, น โอสธํ สาสปธูปนํ วา;
นกฺขตฺตโยคมฺปิ น อคฺคเหสุํ, น สพฺพธฺานิปิ อากิรึสุ.
‘‘เอตาทิสํ อุตฺตมกิจฺฉปตฺตํ, รตฺตาภตํ สีวถิกาย ฉฑฺฑิตํ;
โนนีตปิณฺฑํว ปเวธมานํ, สสํสยํ ชีวิตสาวเสสํ.
‘‘ตมทฺทสา เทวมนุสฺสปูชิโต, ทิสฺวา จ ตํ พฺยากริ ภูริปฺโ;
‘อยํ กุมาโร นครสฺสิมสฺส, อคฺคกุลิโก ภวิสฺสติ โภคโต จ’.
‘‘กิสฺส ¶ วตํ กึ ปน พฺรหฺมจริยํ, กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;
เอตาทิสํ พฺยสนํ ปาปุณิตฺวา, ตํ ตาทิสํ ปจฺจนุโภสฺสติทฺธิ’’นฺติ. –
ฉ คาถา อโวจุํ.
๔๕๓. ตตฺถ อจฺเฉรรูปนฺติ อจฺฉริยสภาวํ. สุคตสฺส าณนฺติ อฺเหิ อสาธารณํ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ¶ าณํ, อาสยานุสยาณาทิสพฺพฺุตฺาณเมว สนฺธาย วุตฺตํ. ตยิทํ อฺเสํ อวิสยภูตํ กถํ าณนฺติ อาห ‘‘สตฺถา ยถา ปุคฺคลํ พฺยากาสี’’ติ. เตน สตฺถุ เทสนาย เอว าณสฺส อจฺฉริยภาโว วิฺายตีติ ทสฺเสติ.
อิทานิ พฺยากรณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุสฺสนฺนปฺุาปิ ภวนฺติ เหเก, ปริตฺตปฺุาปิ ภวนฺติ เหเก’’ติ อาห. ตสฺสตฺโถ – อุสฺสนฺนกุสลธมฺมาปิ อิเธกจฺเจ ปุคฺคลา ลทฺธปจฺจยสฺส ¶ อปฺุสฺส วเสน ชาติอาทินา นิหีนา ภวนฺติ, ปริตฺตปฺุาปิ อปฺปตรปฺุธมฺมาปิ เอเก สตฺตา เขตฺตสมฺปตฺติอาทินา ตสฺส ปฺุสฺส มหาชุติกตาย อุฬารา ภวนฺตีติ.
๔๕๔. สีวถิกายาติ สุสาเน. องฺคุฏฺสฺเนเหนาติ องฺคุฏฺโต ปวตฺตสฺเนเหน, เทวตาย องฺคุฏฺโต ปคฺฆริตขีเรนาติ อตฺโถ. น ยกฺขภูตา น สรีสปา วาติ ปิสาจภูตา วา ยกฺขภูตา วา สรีสปา วา เย เกจิ สรนฺตา คจฺฉนฺตา วา น วิเหเยยฺยุํ น พาเธยฺยุํ.
๔๕๕. ปลิหึสุ ปาเทติ อตฺตโน ชิวฺหาย ปาเท ลิหิสุํ. ธงฺกาติ กากา. ปริวตฺตยนฺตีติ ‘‘มา นํ กุมารํ เกจิ วิเหเยฺยุ’’นฺติ รกฺขนฺตา นิโรคภาวชานนตฺถํ อปราปรํ ปริวตฺตนฺติ. คพฺภาสยนฺติ คพฺภมลํ. ปกฺขิคณาติ คิชฺฌกุลลาทโย สกุณคณา. หรนฺตีติ อปเนนฺติ. อกฺขิมลนฺติ อกฺขิคูถํ.
๔๕๖. เกจีติ ¶ เกจิ มนุสฺสา, อมนุสฺสา ปน รกฺขํ สํวิทหึสุ. โอสธนฺติ ตทา อายติฺจ อาโรคฺยาวหํ อคทํ. สาสปธูปนํ วาติ ยํ ชาตสฺส ทารกสฺส รกฺขณตฺถํ สาสเปน ธูปนํ กโรนฺติ, ตมฺปิ ตสฺส กโรนฺตา นาเหสุนฺติ ทีเปนฺติ. นกฺขตฺตโยคมฺปิ น อคฺคเหสุนฺติ นกฺขตฺตยุตฺตมฺปิ น คณฺหึสุ. ‘‘อสุกมฺหิ นกฺขตฺเต ติถิมฺหิ มุหุตฺเต อยํ ชาโต’’ติ เอวํ ชาตกมฺมมฺปิสฺส น เกจิ อกํสูติ อตฺโถ. น สพฺพธฺานิปิ อากิรึสูติ มงฺคลํ กโรนฺตา อคทวเสน ยํ สาสปเตลมิสฺสิตํ สาลิอาทิธฺํ อากิรนฺติ, ตมฺปิสฺส นากํสูติ อตฺโถ.
๔๕๗. เอตาทิสนฺติ เอวรูปํ ¶ . อุตฺตมกิจฺฉปตฺตนฺติ ปรมกิจฺฉํ อาปนฺนํ อติวิย ทุกฺขปฺปตฺตํ. รตฺตาภตนฺติ รตฺติยํ อาภตํ. โนนีตปิณฺฑํ วิยาติ นวนีตปิณฺฑสทิสํ, มํสเปสิมตฺตตา เอวํ วุตฺตํ. ปเวธมานนฺติ ทุพฺพลภาเวน ปกมฺปมานํ. สสํสยนฺติ ‘‘ชีวติ นุ โข น นุ โข ชีวตี’’ติ สํสยิตตาย สํสยวนฺตํ. ชีวิตสาวเสสนฺติ ชีวิตฏฺิติยา เหตุภูตานํ ¶ สาธนานํ อภาเวน เกวลํ ชีวิตมตฺตาวเสสกํ.
๔๕๘. อคฺคกุลิโก ภวิสฺสติ โภคโต จาติ โภคนิมิตฺตํ โภคสฺส วเสน อคฺคกุลิโก เสฏฺกุลิโก ภวิสฺสตีติ อตฺโถ.
๔๕๙. ‘‘กิสฺส วต’’นฺติ อยํ คาถา สตฺถุ สนฺติเก ิเตหิ อุปาสเกหิ เตน กตกมฺมสฺส ปุจฺฉาวเสน วุตฺตา. สา จ โข สิวถิกาย สนฺนิปติเตหีติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ กิสฺสาติ กึ อสฺส. วตนฺติ วตสมาทานํ. ปุน กิสฺสาติ กีทิสสฺส สุจิณฺณสฺส วตสฺส พฺรหฺมจริยสฺส จาติ วิภตฺตึ วิปริณาเมตฺวา โยชนา. เอตาทิสนฺติ คณิกาย กุจฺฉิยา นิพฺพตฺตนํ, สุสาเน ฉฑฺฑนนฺติ เอวรูปํ. พฺยสนนฺติ อนตฺถํ. ตาทิสนฺติ ตถารูปํ, ‘‘องฺคุฏฺสฺเนเหน ยาเปติ รตฺติ’’นฺติอาทินา, ‘‘อยํ กุมาโร นครสฺสิมสฺส อคฺคกุลิโก ภวิสฺสตี’’ติอาทินา จ วุตฺตปฺปการนฺติ อตฺโถ. อิทฺธินฺติ เทวิทฺธึ, ทิพฺพสมฺปตฺตินฺติ วุตฺตํ โหติ.
อิทานิ เตหิ อุปาสเกหิ ปุฏฺโ ภควา ยถา ตทา พฺยากาสิ, ตํ ทสฺเสนฺตา สงฺคีติการา –
‘‘พุทฺธปมุขสฺส ¶ ภิกฺขุสงฺฆสฺส, ปูชํ อกาสิ ชนตา อุฬารํ;
ตตฺรสฺส จิตฺตสฺสหุ อฺถตฺตํ, วาจํ อภาสิ ผรุสํ อสพฺภํ.
‘‘โส ตํ วิตกฺกํ ปวิโนทยิตฺวา, ปีตึ ปสาทํ ปฏิลทฺธา ปจฺฉา;
ตถาคตํ ¶ เชตวเน วสนฺตํ, ยาคุยา อุปฏฺาสิ สตฺตรตฺตํ.
‘‘ตสฺส วตํ ตํ ปน พฺรหฺมจริยํ, ตสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;
เอตาทิสํ พฺยสนํ ปาปุณิตฺวา, ตํ ตาทิสํ ปจฺจนุโภสฺสติทฺธึ.
‘‘ตฺวาน โส วสฺสสตํ อิเธว, สพฺเพหิ กาเมหิ สมงฺคิภูโต;
กายสฺส เภทา อภิสมฺปรายํ, สหพฺยตํ คจฺฉติ วาสวสฺสา’’ติ. –
จตสฺโส คาถา อโวจุํ.
๔๖๐. ตตฺถ ¶ ชนตาติ ชนสมูโห, อุปาสกคโณติ อธิปฺปาโย. ตตฺราติ ตสฺสํ ปูชายํ. อสฺสาติ ตสฺส ทารกสฺส. จิตฺตสฺสหุ อฺถตฺตนฺติ ปุริมภวสฺมึ จิตฺตสฺส อฺถาภาโว อนาทโร อคารโว อปจฺจโย อโหสิ. อสพฺภนฺติ สาธุสภาย สาเวตุํ อยุตฺตํ ผรุสํ วาจํ อภาสิ.
๔๖๑. โสติ โส อยํ. ตํ วิตกฺกนฺติ ตํ ปาปกํ วิตกฺกํ. ปวิโนทยิตฺวาติ มาตรา กตาย สฺตฺติยา วูปสเมตฺวา. ปีตึ ปสาทํ ปฏิลทฺธาติ ปีตึ ปสาทฺจ ปฏิลภิตฺวา อุปฺปาเทตฺวา. ยาคุยา อุปฏฺาสีติ ยาคุทาเนน อุปฏฺหิ. สตฺตรตฺตนฺติ สตฺตทิวสํ.
๔๖๒. ตสฺส ¶ วตํ ตํ ปน พฺรหฺมจริยนฺติ ตํ มยา เหฏฺา วุตฺตปฺปการํ อตฺตโน จิตฺตสฺส ปสาทนํ ทานฺจ อิมสฺส ปุคฺคลสฺส วตํ ตํ พฺรหฺมจริยฺจ, อฺํ กิฺจิ นตฺถีติ อตฺโถ.
๔๖๓. ตฺวานาติ ยาว อายุปริโยสานา อิเธว มนุสฺสโลเก ตฺวา. อภิสมฺปรายนฺติ ปุนพฺภเว. สหพฺยตํ คจฺฉติ วาสวสฺสาติ สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ¶ ปุตฺตภาเวน สหภาวํ คมิสฺสติ. อนาคตตฺเถ หิ อิทํ ปจฺจุปฺปนฺนกาลวจนํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
กุมารเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. เสริณีเปติวตฺถุวณฺณนา
นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาสีติ อิทํ สตฺถริ เชตวเน วิหรนฺเต เสริณีเปตึ อารพฺภ วุตฺตํ. กุรุรฏฺเ กิร หตฺถินิปุเร เสริณี นาม เอกา รูปูปชีวินี อโหสิ. ตตฺถ จ อุโปสถกรณตฺถาย ตโต ตโต ภิกฺขู สนฺนิปตึสุ. ปุน มหาภิกฺขุสนฺนิปาโต อโหสิ. ตํ ทิสฺวา มนุสฺสา ติลตณฺฑุลาทึ สปฺปินวนีตมธุอาทิฺจ พหุํ ทานูปกรณํ สชฺเชตฺวา มหาทานํ ปวตฺเตสุํ. เตน จ สมเยน สา คณิกา อสฺสทฺธา อปฺปสนฺนา มจฺเฉรมลปริยุฏฺิตจิตฺตา เตหิ มนุสฺเสหิ ‘‘เอหิ ตาว อิทํ ทานํ อนุโมทาหี’’ติ อุสฺสาหิตาปิ ‘‘กึ เตน มุณฺฑกานํ สมณานํ ทินฺเนนา’’ติ อปฺปสาทเมว เนสํ สมฺปเวเทสิ, กุโต อปฺปมตฺตกสฺส ปริจฺจาโค.
สา อปเรน สมเยน กาลํ กตฺวา อฺตรสฺส ปจฺจนฺตนครสฺส ปริขาปิฏฺเ เปตี หุตฺวา นิพฺพตฺติ. อถ หตฺถินิปุรวาสี อฺตโร อุปาสโก วณิชฺชาย ตํ นครํ คนฺตฺวา รตฺติยา ปจฺจูสสมเย ¶ ปริขาปิฏฺํ คโต ตาทิเสน ปโยชเนน. สา ตตฺถ ตํ ทิสฺวา สฺชานิตฺวา นคฺคา อฏฺิตฺตจมตฺตาวเสสสรีรา อติวิย พีภจฺฉทสฺสนา อวิทูเร ตฺวา อตฺตานํ ทสฺเสสิ. โส ตํ ทิสฺวา –
‘‘นคฺคา ¶ ทุพฺพณฺณรูปาสิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;
อุปฺผาสุลิเก กิสิเก, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺสี’’ติ. –
คาถาย ปุจฺฉิ. สาปิสฺส –
‘‘อหํ ภทนฺเต เปตีมฺหิ, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ. –
คาถาย อตฺตานํ ปกาเสสิ. ปุน เตน –
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺสกมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ. –
คาถาย กตกมฺมํ ปุจฺฉิตา –
‘‘อนาวเฏสุ ¶ ติตฺเถสุ, วิจินึ อฑฺฒมาสกํ;
สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากาสิมตฺตโน.
‘‘นทึ อุเปมิ ตสิตา, ริตฺตกา ปริวตฺตติ;
ฉายํ อุเปมิ อุณฺเหสุ, อาตโป ปริวตฺตติ.
‘‘อคฺคิวณฺโณ จ เม วาโต, ฑหนฺโต อุปวายติ;
เอตฺจ ภนฺเต อรหามิ, อฺฺจ ปาปกํ ตโต.
‘‘คนฺตฺวาน ¶ หตฺถินึ ปุรํ, วชฺเชสิ มยฺห มาตรํ;
‘ธีตา จ เต มยา ทิฏฺา, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’.
‘‘อตฺถิ เม เอตฺถ นิกฺขิตฺตํ, อนกฺขาตฺจ ตํ มยา;
จตฺตาริ สตสหสฺสานิ, ปลฺลงฺกสฺส จ เหฏฺโต.
‘‘ตโต เม ทานํ ททตุ, ตสฺสา จ โหตุ ชีวิกา;
ทานํ ทตฺวา จ เม มาตา, ทกฺขิณํ อนุทิจฺฉตุ;
ตทาหํ สุขิตา เหสฺสํ, สพฺพกามสมิทฺธินี’’ติ. –
อิมาหิ ¶ ฉหิ คาถาหิ อตฺตนา กตกมฺมฺเจว ปุน เตน อตฺตโน กาตพฺพํ อตฺถฺจ อาจิกฺขิ.
๔๖๗. ตตฺถ อนาวเฏสุ ติตฺเถสูติ เกนจิ อนิวาริเตสุ นทีตฬากาทีนํ ติตฺถปเทเสสุ, ยตฺถ มนุสฺสา นฺหายนฺติ, อุทกกิจฺจํ กโรนฺติ, ตาทิเสสุ าเนสุ. วิจินึ อฑฺฒมาสกนฺติ ‘‘มนุสฺเสหิ เปตฺวา วิสฺสริตํ อปินาเมตฺถ กิฺจิ ลเภยฺย’’นฺติ โลภาภิภูตา อฑฺฒมาสกมตฺตมฺปิ วิจินึ คเวสึ. อถ วา อนาวเฏสุ ติตฺเถสูติ อุปสงฺกมเนน เกนจิ อนิวาริเตสุ สตฺตานํ ปโยคาสยสุทฺธิยา การณภาเวน ติตฺถภูเตสุ สมณพฺราหฺมเณสุ วิชฺชมาเนสุ. วิจินึ อฑฺฒมาสกนฺติ มจฺเฉรมลปริยุฏฺิตจิตฺตา กสฺสจิ กิฺจิ อเทนฺตี อฑฺฒมาสกมฺปิ วิเสเสน จินึ, น สฺจินึ ปฺุํ. เตนาห ‘‘สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากาสิมตฺตโน’’ติ.
๔๖๘. ตสิตาติ ปิปาสิตา. ริตฺตกาติ กากเปยฺยา สนฺทมานาปิ นที มม ปาปกมฺเมน อุทเกน ริตฺตา ตุจฺฉา วาลิกมตฺตา ¶ หุตฺวา ปริวตฺตติ. อุณฺเหสูติ อุณฺหสมเยสุ. อาตโป ปริวตฺตตีติ ฉายาฏฺานํ มยิ อุปคตาย อาตโป สมฺปชฺชติ.
๔๖๙-๗๐. อคฺคิวณฺโณติ สมฺผสฺเสน อคฺคิสทิโส. เตน วุตฺตํ ‘‘ฑหนฺโต อุปวายตี’’ติ. เอตฺจ, ภนฺเต, อรหามีติ, ภนฺเตติ ตํ อุปาสกํ ครุกาเรน วทติ. ภนฺเต, เอตฺจ ยถาวุตฺตํ ปิปาสาทิทุกฺขํ, อฺฺจ ตโต ปาปกํ ทารุณํ ทุกฺขํ อนุภวิตุํ อรหามิ ตชฺชสฺส ¶ ปาปสฺส กตตฺตาติ อธิปฺปาโย. วชฺเชสีติ วเทยฺยาสิ.
๔๗๑-๗๒. เอตฺถ นิกฺขิตฺตํ, อนกฺขาตนฺติ ‘‘เอตฺตกํ เอตฺถ นิกฺขิตฺต’’นฺติ อนาจิกฺขิตํ. อิทานิ ตสฺส ปริมาณํ ปิตฏฺานฺจ ทสฺเสนฺตี ‘‘จตฺตาริ สตสหสฺสานิ, ปลฺลงฺกสฺส จ เหฏฺโต’’ติ อาห. ตตฺถ ปลฺลงฺกสฺสาติ ปุพฺเพ อตฺตโน สยนปลฺลงฺกสฺส. ตโตติ นิหิตธนโต เอกเทสํ คเหตฺวา มมํ อุทฺทิสฺส ทานํ เทตุ. ตสฺสาติ มยฺหํ มาตุยา.
เอวํ ¶ ตาย เปติยา วุตฺเต โส อุปาสโก ตสฺสา วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตตฺถ อตฺตโน กรณียํ ตีเรตฺวา หตฺถินิปุรํ คนฺตฺวา ตสฺสา มาตุยา ตมตฺถํ อาโรเจสิ. ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ –
สาธูติ โส ปฏิสฺสุตฺวา, คนฺตฺวาน หตฺถินึ ปุรํ;
อโวจ ตสฺสา มาตรํ –
‘‘ธีตา จ เต มยา ทิฏฺา, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา.
‘‘สา มํ ตตฺถ สมาทเปสิ, วชฺเชสิ มยฺห มาตรํ;
‘ธีตา จ เต มยา ทิฏฺา, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา.
‘‘‘อตฺถิ จ เม เอตฺถ นิกฺขิตฺตํ, อนกฺขาตฺจ ตํ มยา;
จตฺตาริ สตสหสฺสานิ, ปลฺลงฺกสฺส จ เหฏฺโต.
‘‘‘ตโต ¶ เม ทานํ ททตุ, ตสฺสา จ โหตุ ชีวิกา;
ทานํ ทตฺวา จ เม มาตา, ทกฺขิณํ อนุทิจฺฉตุ;
ตทาหํ สุขิตา เหสฺสํ, สพฺพกามสมิทฺธินี’.
‘‘ตโต หิ สา ทานมทา, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสี;
เปตี จ สุขิตา อาสิ, ตสฺสา จาสิ สุชีวิกา’’ติ. –
สงฺคีติการา ¶ อาหํสุ. ตา สุวิฺเยฺยาว.
ตํ สุตฺวา ตสฺสา มาตา ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทานํ ทตฺวา ตสฺสา อาทิสิ. เตน สา ปฏิลทฺธูปกรณสมฺปตฺติยํ ิตา มาตุ อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา ตํ การณํ อาจิกฺขิ, มาตา ภิกฺขูนํ อาโรเจสิ, ภิกฺขู ตํ ปวตฺตึ ภควโต อาโรเจสุํ. ภควา ตมตฺถํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสสิ. สา เทสนา มหาชนสฺส สาตฺถิกา อโหสีติ.
เสริณีเปติวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. มิคลุทฺทกเปตวตฺถุวณฺณนา
นรนาริปุรกฺขโต ¶ ยุวาติ อิทํ ภควติ เวฬุวเน วิหรนฺเต มิคลุทฺทกเปตํ อารพฺภ วุตฺตํ. ราชคเห กิร อฺตโร ลุทฺทโก รตฺตินฺทิวํ มิเค วธิตฺวา ชีวิกํ กปฺเปสิ. ตสฺเสโก อุปาสโก มิตฺโต อโหสิ, โส ตํ สพฺพกาลํ ปาปโต นิวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘เอหิ, สมฺม, รตฺติยํ ปาณาติปาตา วิรมาหี’’ติ รตฺติยํ ปฺุเ สมาทเปสิ. โส รตฺติยํ วิรมิตฺวา ทิวา เอว ปาณาติปาตํ กโรติ.
โส อปเรน สมเยน กาลํ กตฺวา ราชคหสมีเป เวมานิกเปโต หุตฺวา นิพฺพตฺโต, ทิวสภาคํ มหาทุกฺขํ อนุภวิตฺวา รตฺติยํ ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตา สมงฺคีภูโต ปริจาเรสิ. ตํ ทิสฺวา อายสฺมา นารโท –
‘‘นรนาริปุรกฺขโต ¶ ยุวา, รชนีเยหิ กามคุเณหิ โสภสิ;
ทิวสํ อนุโภสิ การณํ, กิมกาสิ ปุริมาย ชาติยา’’ติ. –
อิมาย คาถาย ปฏิปุจฺฉิ. ตตฺถ นรนาริปุรกฺขโตติ ปริจารกภูเตหิ เทวปุตฺเตหิ เทวธีตาหิ จ ปุรกฺขโต ปยิรุปาสิโต. ยุวาติ ตรุโณ. รชนีเยหีติ กมนีเยหิ ราคุปฺปตฺติเหตุภูเตหิ. กามคุเณหีติ กามโกฏฺาเสหิ. โสภสีติ สมงฺคิภาเวน วิโรจสิ รตฺติยนฺติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ทิวสํ อนุโภสิ การณ’’นฺติ, ทิวสภาเค ปน นานปฺปการํ การณํ ฆาตนํ ปจฺจนุภวสิ. รชนีติ วา รตฺตีสุ. เยหีติ นิปาตมตฺตํ. กิมกาสิ ปุริมาย ชาติยาติ เอวํ สุขทุกฺขสํวตฺตนิยํ กึ นาม กมฺมํ อิโต ปุริมาย ชาติยา ตฺวํ อกตฺถ, ตํ กเถหีติ อตฺโถ ¶ .
ตํ สุตฺวา เปโต เถรสฺส อตฺตนา กตกมฺมํ อาจิกฺขนฺโต –
‘‘อหํ ราชคเห รมฺเม, รมณีเย คิริพฺพเช;
มิคลุทฺโท ปุเร อาสึ, โลหิตปาณิ ทารุโณ.
‘‘อวิโรธกเรสุ ¶ ปาณิสุ, ปุถุสตฺเตสุ ปทุฏฺมานโส;
วิจรึ อติทารุโณ สทา, ปรหึสาย รโต อสฺโต.
‘‘ตสฺส เม สหาโย สุหทโย, สทฺโธ อาสิ อุปาสโก;
โสปิ มํ อนุกมฺปนฺโต, นิวาเรสิ ปุนปฺปุนํ.
‘‘‘มากาสิ ปาปกํ กมฺมํ, มา ตาต ทุคฺคตึ อคา;
สเจ อิจฺฉสิ เปจฺจ สุขํ, วิรม ปาณวธา อสํยมา.
‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, สุขกามสฺส หิตานุกมฺปิโน;
นากาสึ สกลานุสาสนึ, จิรปาปาภิรโต อพุทฺธิมา.
‘‘โส มํ ปุน ภูริสุเมธโส, อนุกมฺปาย สํยเม นิเวสยิ;
สเจ ทิวา หนสิ ปาณิโน, อถ เต รตฺตึ ภวตุ สํยโม.
‘‘สฺวาหํ ¶ ทิวา หนิตฺวา ปาณิโน, วิรโต รตฺติมโหสิ สฺโต;
รตฺตาหํ ปริจาเรมิ, ทิวา ขชฺชามิ ทุคฺคโต.
‘‘ตสฺส กมฺมสฺส กุสลสฺส, อนุโภมิ รตฺตึ อมานุสึ;
ทิวา ปฏิหตาว กุกฺกุรา, อุปธาวนฺติ สมนฺตา ขาทิตุํ.
‘‘เย ¶ จ เต สตตานุโยคิโน, ธุวํ ปยุตฺตา สุคตสฺส สาสเน;
มฺามิ เต อมตเมว เกวลํ, อธิคจฺฉนฺติ ปทํ อสงฺขต’’นฺติ. –
อิมา คาถา อภาสิ.
๔๗๙-๘๐. ตตฺถ ¶ ลุทฺโทติ ทารุโณ. โลหิตปาณีติ อภิณฺหํ ปาณฆาเตน โลหิตมกฺขิตปาณี. ทารุโณติ ขโร, สตฺตานํ หึสนโกติ อตฺโถ. อวิโรธกเรสูติ เกนจิ วิโรธํ อกโรนฺเตสุ มิคสกุณาทีสุ.
๔๘๒-๘๓. อสํยมาติ อสํวรา ทุสฺสีลฺยา. สกลานุสาสนินฺติ สพฺพํ อนุสาสนึ, สพฺพกาลํ ปาณาติปาตโต ปฏิวิรตินฺติ อตฺโถ. จิรปาปาภิรโตติ จิรกาลํ ปาเป อภิรโต.
๔๘๔. สํยเมติ สุจริเต. นิเวสยีหิ นิเวเสสิ. สเจ ทิวา หนสิ ปาณิโน, อถ เต รตฺตึ ภวตุ สํยโมติ นิเวสิตาการทสฺสนํ. โส กิร สลฺลปาสสชฺชนาทินา รตฺติยมฺปิ ปาณวธํ อนุยุตฺโต อโหสิ.
๔๘๕. ทิวา ขชฺชามิ ทุคฺคโตติ อิทานิ ทุคฺคตึ คโต มหาทุกฺขปฺปตฺโต ทิวสภาเค ขาทิยามิ. ตสฺส กิร ทิวา สุนเขหิ มิคานํ ขาทาปิตตฺตา กมฺมสริกฺขกํ ผลํ โหติ, ทิวสภาเค มหนฺตา สุนขา อุปธาวิตฺวา อฏฺิสงฺฆาตมตฺตาวเสสํ สรีรํ กโรนฺติ. รตฺติยา ปน อุปคตาย ตํ ปากติกเมว โหติ, ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวติ. เตน วุตฺตํ –
‘‘ตสฺส ¶ กมฺมสฺส กุสลสฺส, อนุโภมิ รตฺตึ อมานุสึ;
ทิวา ปฏิหตาว กุกฺกุรา, อุปธาวนฺติ สมนฺตา ขาทิตุ’’นฺติ.
ตตฺถ ปฏิหตาติ ปฏิหตจิตฺตา พทฺธาฆาตา วิย หุตฺวา. สมนฺตา ขาทิตุนฺติ มม สรีรํ สมนฺตโต ขาทิตุํ อุปธาวนฺติ. อิทฺจ เนสํ อติวิย อตฺตโน ภยาวหํ อุปคมนกาลํ คเหตฺวา วุตฺตํ. เต ปน อุปธาวิตฺวา อฏฺิมตฺตาวเสสํ สรีรํ กตฺวา คจฺฉนฺติ.
๔๘๗. เย จ เต สตตานุโยคิโนติ โอสานคาถาย อยํ สงฺเขปตฺโถ – อหมฺปิ นาม รตฺติยํ ¶ ปาณวธมตฺตโต วิรโต เอวรูปํ สมฺปตฺตึ ¶ อนุภวามิ. เย ปน เต ปุริสา สุคตสฺส พุทฺธสฺส ภควโต สาสเน อธิสีลาทิเก ธุวํ ปยุตฺตา ทฬฺหํ ปยุตฺตา สตตํ สพฺพกาลํ อนุโยควนฺตา, เต ปฺุวนฺโต เกวลํ โลกิยสุเขน อสมฺมิสฺสํ ‘‘อสงฺขตํ ปท’’นฺติ ลทฺธนามํ อมตเมว อธิคจฺฉนฺติ มฺเ, นตฺถิ เตสํ ตทธิคเม โกจิ วิพนฺโธติ.
เอวํ เตน เปเตน วุตฺเต เถโร ตํ ปวตฺตึ สตฺถุ อาโรเจสิ. สตฺถา ตมตฺถํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสสิ. สพฺพมฺปิ วุตฺตนยเมว.
มิคลุทฺทกเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ทุติยมิคลุทฺทกเปตวตฺถุวณฺณนา
กูฏาคาเร จ ปาสาเทติ อิทํ ภควติ เวฬุวเน วิหรนฺเต อปรํ มิคลุทฺทกเปตํ อารพฺภ วุตฺตํ. ราชคเห กิร อฺตโร มาควิโก มาณโว วิภวสมฺปนฺโนปิ สมาโน โภคสุขํ ปหาย รตฺตินฺทิวํ มิเค หนนฺโต วิจรติ. ตสฺส สหายภูโต เอโก อุปาสโก อนุทฺทยํ ปฏิจฺจ – ‘‘สาธุ, สมฺม, ปาณาติปาตโต วิรมาหิ, มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ โอวาทํ อทาสิ. โส ¶ ตํ อนาทิยิ. อถ โส อุปาสโก อฺตรํ อตฺตโน มโนภาวนียํ ขีณาสวตฺเถรํ ยาจิ – ‘‘สาธุ, ภนฺเต, อสุกปุริสสฺส ตถา ธมฺมํ เทเสถ, ยถา โส ปาณาติปาตโต วิรเมยฺยา’’ติ.
อเถกทิวสํ โส เถโร ราชคเห ปิณฺฑาย จรนฺโต ตสฺส เคหทฺวาเร อฏฺาสิ. ตํ ทิสฺวา โส มาควิโก สฺชาตพหุมาโน ปจฺจุคฺคนฺตฺวา เคหํ ปเวเสตฺวา อาสนํ ปฺาเปตฺวา อทาสิ. นิสีทิ เถโร ปฺตฺเต อาสเน, โสปิ เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา นิสีทิ. ตสฺส เถโร ปาณาติปาเต อาทีนวํ, ตโต วิรติยา อานิสํสฺจ ปกาเสสิ. โส ตํ สุตฺวาปิ ตโต วิรมิตุํ น อิจฺฉิ. อถ นํ เถโร อาห – ‘‘สเจ, ตฺวํ อาวุโส, สพฺเพน สพฺพํ วิรมิตุํ น สกฺโกสิ, รตฺติมฺปิ ตาว วิรมสฺสู’’ติ, โส ‘‘สาธุ, ภนฺเต, วิรมามิ รตฺติ’’นฺติ ตโต วิรมิ. เสสํ อนนฺตรวตฺถุสทิสํ. คาถาสุ ปน –
‘‘กูฏาคาเร ¶ จ ปาสาเท, ปลฺลงฺเก โคนกตฺถเต;
ปฺจงฺคิเกน ตุริเยน, รมสิ สุปฺปวาทิเต.
‘‘ตโต ¶ รตฺยา วิวสาเน, สูริยุคฺคมนํ ปติ;
อปวิทฺโธ สุสานสฺมึ, พหุทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺสกมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉสี’’ติ. –
ตีหิ คาถาหิ นารทตฺเถโร นํ ปฏิปุจฺฉิ. อถสฺส เปโต –
‘‘อหํ ราชคเห รมฺเม, รมณีเย คิริพฺพเช;
มิคลุทฺโท ปุเร อาสึ, ลุทฺโท จาสิมสฺโต.
‘‘ตสฺส เม สหาโย สุหทโย, สทฺโธ อาสิ อุปาสโก;
ตสฺส ¶ กุลูปโก ภิกฺขุ, อาสิ โคตมสาวโก;
โสปิ มํ อนุกมฺปนฺโต, นิวาเรสิ ปุนปฺปุนํ.
‘‘‘มากาสิ ปาปกํ กมฺมํ, มา ตาต ทุคฺคตึ อคา;
สเจ อิจฺฉสิ เปจฺจ สุขํ, วิรม ปาณวธา อสํยมา’.
‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, สุขกามสฺส หิตานุกมฺปิโน;
นากาสึ สกลานุสาสนึ, จิรปาปาภิรโต อพุทฺธิมา.
‘‘โส มํ ปุน ภูริสุเมธโส, อนุกมฺปาย สํยเม นิเวสยิ;
‘สเจ ทิวา หนสิ ปาณิโน, อถ เต รตฺตึ ภวตุ สํยโม’.
‘‘สฺวาหํ ทิวา หนิตฺวา ปาณิโน, วิรโต รตฺติมโหสิ สฺโต;
รตฺตาหํ ปริจาเรมิ, ทิวา ขชฺชามิ ทุคฺคโต.
‘‘ตสฺส ¶ กมฺมสฺส กุสลสฺส, อนุโภมิ รตฺตึ อมานุสึ;
ทิวา ปฏิหตาว กุกฺกุรา, อุปธาวนฺติ สมนฺตา ขาทิตุํ.
‘‘เย ¶ จ เต สตตานุโยคิโน, ธุวํ ปยุตฺตา สุคตสฺส สาสเน;
มฺามิ เต อมตเมว เกวลํ, อธิคจฺฉนฺติ ปทํ อสงฺขต’’นฺติ. –
ตมตฺถํ อาจิกฺขิ. ตาสํ อตฺโถ เหฏฺา วุตฺตนโยว.
ทุติยมิคลุทฺทกเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. กูฏวินิจฺฉยิกเปตวตฺถุวณฺณนา
มาลี กิริฏี กายูรีติ อิทํ สตฺถริ เวฬุวเน วิหรนฺเต กูฏวินิจฺฉยิกเปตํ อารพฺภ วุตฺตํ. ตทา พิมฺพิสาโร ราชา มาสสฺส ฉสุ ทิวเสสุ อุโปสถํ อุปวสติ, ตํ อนุวตฺตนฺตา พหู มนุสฺสา อุโปสถํ อุปวสนฺติ. ราชา อตฺตโน สนฺติกํ อาคตาคเต มนุสฺเส ปุจฺฉติ – ‘‘กึ ตุมฺเหหิ อุโปสโถ อุปวุตฺโถ, อุทาหุ น อุปวุตฺโถ’’ติ? ตตฺเรโก อธิกรเณ นิยุตฺตกปุริโส ปิสุณวาโจ เนกติโก ลฺชคาหโก ‘‘น อุปวุตฺโถมฺหี’’ติ วตฺตุํ อสหนฺโต ‘‘อุปวุตฺโถมฺหิ, เทวา’’ติ อาห. อถ นํ ราชสมีปโต นิกฺขนฺตํ สหาโย อาห – ‘‘กึ, สมฺม, อชฺช ตยา อุปวุตฺโถ’’ติ? ‘‘ภเยนาหํ, สมฺม, รฺโ สมฺมุขา เอวํ อโวจํ, นาหํ อุโปสถิโก’’ติ.
อถ นํ สหาโย อาห – ‘‘ยทิ เอวํ อุปฑฺฒุโปสโถปิ ตาว เต อชฺช โหตุ, อุโปสถงฺคานิ สมาทิยาหี’’ติ. โส ตสฺส วจนํ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เคหํ คนฺตฺวา อภุตฺวาว มุขํ วิกฺขาเลตฺวา อุโปสถํ อธิฏฺาย รตฺติยํ วาสูปคโต ริตฺตาสยสมฺภูเตน ¶ พลววาตเหตุเกน สูเลน อุปจฺฉินฺนายุสงฺขาโร จุติอนนฺตรํ ปพฺพตกุจฺฉิยํ เวมานิกเปโต ¶ หุตฺวา นิพฺพตฺติ. โส หิ เอกรตฺตึ อุโปสถรกฺขณมตฺเตน วิมานํ ปฏิลภิ ทสกฺาสหสฺสปริวารํ มหติฺจ ทิพฺพสมฺปตฺตึ. กูฏวินิจฺฉยิกตาย ปน เปสุณิกตาย จ อตฺตโน ปิฏฺิมํสานิ สยเมว โอกฺกนฺติตฺวา ขาทติ. ตํ อายสฺมา นารโท คิชฺชกูฏโต โอตรนฺโต ทิสฺวา –
‘‘มาลี กิริฏี กายูรี, คตฺตา เต จนฺทนุสฺสทา;
ปสนฺนมุขวณฺโณสิ, สูริยวณฺโณว โสภสิ.
‘‘อมานุสา ¶ ปาริสชฺชา, เย เตเม ปริจารกา;
ทส กฺาสหสฺสานิ, ยา เตมา ปริจาริกา;
ตา กมฺพุกายูรธรา, กฺจนาเวฬภูสิตา.
‘‘มหานุภาโวสิ ตุวํ, โลมหํสนรูปวา;
ปิฏฺิมํสานิ อตฺตโน, สามํ อุกฺกจฺจ ขาทสิ.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺสกมฺมวิปาเกน, ปิฏฺิมํสานิ อตฺตโน;
สามํ อุกฺกจฺจ ขาทสีติ.
‘‘อตฺตโนหํ อนตฺถาย, ชีวโลเก อจาริสํ;
เปสฺุมุสาวาเทน, นิกติวฺจนาย จ.
‘‘ตตฺถาหํ ปริสํ คนฺตฺวา, สจฺจกาเล อุปฏฺิเต;
อตฺถํ ธมฺมํ นิรากตฺวา, อธมฺมมนุวตฺติสํ.
‘‘เอวํ โส ขาทตตฺตานํ, โย โหติ ปิฏฺิมํสิโก;
ยถาหํ อชฺช ขาทามิ, ปิฏฺิมํสานิ อตฺตโน.
‘‘ตยิทํ ¶ ตยา นารท สามํ ทิฏฺํ, อนุกมฺปกา เย กุสลา วเทยฺยุํ;
มา เปสุณํ มา จ มุสา อภาณิ, มา โขสิ ปิฏฺิมํสิโก ตุว’’นฺติ. –
เถโร ¶ จตูหิ คาถาหิ ปุจฺฉิ, โสปิ ตสฺส จตูหิ คาถาหิ เอตมตฺถํ วิสฺสชฺเชสิ.
๔๙๙. ตตฺถ มาลีติ มาลธารี, ทิพฺพปุปฺเผหิ ปฏิมณฺฑิโตติ อธิปฺปาโย. กิริฏีติ เวิตสีโส. กายูรีติ เกยูรวา, พาหาลงฺการปฏิมณฺฑิโตติ อตฺโถ. คตฺตาติ สรีราวยวา. จนฺทนุสฺสทาติ จนฺทนสารานุลิตฺตา. สูริยวณฺโณว โสภสีติ พาลสูริยสทิสวณฺโณ เอว หุตฺวา วิโรจสิ. ‘‘อรณวณฺณี ปภาสสี’’ติปิ ปาฬิ, อรณนฺติ อรณิเยหิ เทเวหิ สทิสวณฺโณ อริยาวกาโสติ ¶ อตฺโถ.
๕๐๐. ปาริสชฺชาติ ปริสปริยาปนฺนา, อุปฏฺากาติ อตฺโถ. ตุวนฺติ ตฺวํ. โลมหํสนรูปวาติ ปสฺสนฺตานํ โลมหํสชนนรูปยุตฺโต. มหานุภาวตาสมงฺคิตาย เหตํ วุตฺตํ. อุกฺกจฺจาติ อุกฺกนฺติตฺวา, ฉินฺทิตฺวาติ อตฺโถ.
๕๐๓. อจาริสนฺติ อจรึ ปฏิปชฺชึ. เปสฺุมุสาวาเทนาติ เปสฺุเน เจว มุสาวาเทน จ. นิกติวฺจนาย จาติ นิกติยา วฺจนาย จ ปติรูปทสฺสเนน ปเรสํ วิกาเรน วฺจนาย จ.
๕๐๔. สจฺจกาเลติ สจฺจํ วตฺตุํ ยุตฺตกาเล. อตฺถนฺติ ทิฏฺธมฺมิกาทิเภทํ หิตํ. ธมฺมนฺติ การณํ ายํ. นิรากตฺวาติ ฉฑฺเฑตฺวา ปหาย. โสติ โย เปสฺุาทึ อาจรติ, โส สตฺโต. เสสํ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.
กูฏวินิจฺฉยิกเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ธาตุวิวณฺณเปตวตฺถุวณฺณนา
อนฺตลิกฺขสฺมึ ¶ ติฏฺนฺโตติ อิทํ ธาตุวิวณฺณเปตวตฺถุ. ภควติ กุสินารายํ อุปวตฺตเน มลฺลานํ สาลวเน ยมกสาลานมนฺตเร ปรินิพฺพุเต ธาตุวิภาเค จ กเต ราชา อชาตสตฺตุ อตฺตนา ลทฺธธาตุภาคํ คเหตฺวา สตฺต วสฺสานิ สตฺต จ มาเส สตฺต จ ทิวเส พุทฺธคุเณ อนุสฺสรนฺโต อุฬารปูชํ ปวตฺเตสิ. ตตฺถ อสงฺเขยฺยา อปฺปเมยฺยา มนุสฺสา จิตฺตานิ ปสาเทตฺวา ¶ สคฺคูปคา อเหสุํ, ฉฬาสีติมตฺตานิ ปน ปุริสสหสฺสานิ จิรกาลภาวิเตน อสฺสทฺธิเยน มิจฺฉาทสฺสเนน จ วิปลฺลตฺถจิตฺตา ปสาทนีเยปิ าเน อตฺตโน จิตฺตานิ ปโทเสตฺวา เปเตสุ อุปฺปชฺชึสุ. ตสฺมึเยว ราชคเห อฺตรสฺส วิภวสมฺปนฺนสฺส กุฏุมฺพิกสฺส ภริยา ธีตา สุณิสา จ ปสนฺนจิตฺตา ‘‘ธาตุปูชํ กริสฺสามา’’ติ คนฺธปุปฺผาทีนิ คเหตฺวา ธาตุฏฺานํ คนฺตุํ อารทฺธา. โส กุฏุมฺพิโก ‘‘กึ อฏฺิกานํ ปูชเนนา’’ติ ตา ปริภาเสตฺวา ธาตุปูชํ วิวณฺเณสิ. ตาปิ ตสฺส วจนํ อนาทิยิตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา ธาตุปูชํ กตฺวา เคหํ อาคตา ตาทิเสน โรเคน อภิภูตา นจิรสฺเสว กาลํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺตึสุ. โส ปน โกเธน อภิภูโต นจิรสฺเสว กาลํ กตฺวา เตน ปาปกมฺเมน เปเตสุ นิพฺพตฺติ.
อเถกทิวสํ ¶ อายสฺมา มหากสฺสโป สตฺเตสุ อนุกมฺปาย ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสิ, ยถา มนุสฺสา เต เปเต ตา จ เทวตาโย ปสฺสนฺติ. ตถา ปน กตฺวา เจติยงฺคเณ ิโต ตํ ธาตุวิวณฺณกํ เปตํ ตีหิ คาถาหิ ปุจฺฉิ. ตสฺส โส เปโต พฺยากาสิ –
‘‘อนฺตลิกฺขสฺมึ ติฏฺนฺโต, ทุคฺคนฺโธ ปูติ วายสิ;
มุขฺจ เต กิมโย ปูติคนฺธํ, ขาทนฺติ กึ กมฺมมกาสิ ปุพฺเพ.
‘‘ตโต สตฺถํ คเหตฺวาน, โอกฺกนฺตนฺติ ปุนปฺปุนํ;
ขาเรน ปริปฺโผสิตฺวา, โอกฺกนฺตนฺติ ปุนปฺปุนํ.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺสกมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉสี’’ติ.
‘‘อหํ ¶ ราชคเห รมฺเม, รมณีเย คิริพฺพเช;
อิสฺสโร ธนธฺสฺส, สุปหูตสฺส มาริส.
‘‘ตสฺสายํ เม ภริยา จ, ธีตา จ สุณิสา จ เม;
ตา มาลํ อุปฺปลฺจาปิ, ปจฺจคฺฆฺจ วิเลปนํ;
ถูปํ หรนฺติโย วาเรสึ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา.
‘‘ฉฬาสีติสหสฺสานิ ¶ , มยํ ปจฺจตฺตเวทนา;
ถูปปูชํ วิวณฺเณตฺวา, ปจฺจาม นิรเย ภุสํ.
‘‘เย จ โข ถูปปูชาย, วตฺตนฺเต อรหโต มเห;
อาทีนวํ ปกาเสนฺติ, วิเวจเยถ เน ตโต.
‘‘อิมา จ ปสฺส อยนฺติโย, มาลธารี อลงฺกตา;
มาลาวิปากํนุโภนฺติโย, สมิทฺธา จ ตา ยสสฺสินิโย.
‘‘ตฺจ ¶ ทิสฺวาน อจฺเฉรํ, อพฺภุตํ โลมหํสนํ;
นโม กโรนฺติ สปฺปฺา, วนฺทนฺติ ตํ มหามุนึ.
‘‘โสหํ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนึ ลทฺธาน มานุสึ;
ถูปปูชํ กริสฺสามิ, อปฺปมตฺโต ปุนปฺปุน’’นฺติ.
๕๐๗-๘. ตตฺถ ทุคฺคนฺโธติ อนิฏฺคนฺโธ, กุณปคนฺธคนฺธีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปูติ วายสี’’ติ. ตโตติ ทุคฺคนฺธวายนโต กิมีหิ ขายิตพฺพโต จ อุปริ. สตฺตํ คเหตฺวาน, โอกฺกนฺตนฺติ ปุนปฺปุนนฺติ กมฺมสฺโจทิตา สตฺตา นิสิตธารํ สตฺถํ คเหตฺวา ปุนปฺปุนํ ตํ วณมุขํ อวกนฺตนฺติ. ขาเรน ปริปฺโผสิตฺวา, โอกฺกนฺตนฺติ ปุนปฺปุนนฺติ อวกนฺติตฏฺาเน ขาโรทเกน อาสิฺจิตฺวา ปุนปฺปุนมฺปิ อวกนฺตนฺติ.
๕๑๐. อิสฺสโร ธนธฺสฺส, สุปหูตสฺสาติ อติวิย ปหูตสฺส ¶ ธนสฺส ธฺสฺส จ อิสฺสโร สามี, อฑฺโฒ มหทฺธโนติ อตฺโถ.
๕๑๑. ตสฺสายํ เม ภริยา จ, ธีตา จ สุณิสา จาติ ตสฺส มยฺหํ อยํ ปุริมตฺตภาเว ภริยา, อยํ ธีตา, อยํ สุณิสา. ตา เทวภูตา อากาเส ิตาติ ทสฺเสนฺโต วทติ. ปจฺจคฺฆนฺติ อภินวํ. ถูปํ หรนฺติโย วาเรสินฺติ ถูปํ ปูเชตุํ อุปเนนฺติโย ธาตุํ วิวณฺเณนฺโต ปฏิกฺขิปึ. ตํ ปาปํ ปกตํ มยาติ ตํ ธาตุวิวณฺณนปาปํ กตํ สมาจริตํ มยาติ วิปฺปฏิสารปฺปตฺโต วทติ.
๕๑๒. ฉฬาสีติสหสฺสานีติ ¶ ฉสหสฺสาธิกา อสีติสหสฺสมตฺตา. มยนฺติ เต เปเต อตฺตนา สทฺธึ สงฺคเหตฺวา วทติ. ปจฺจตฺตเวทนาติ วิสุํ วิสุํ อนุภุยฺยมานทุกฺขเวทนา. นิรเยติ พลทุกฺขตาย เปตฺติวิสยํ นิรยสทิสํ กตฺวา อาห.
๕๑๓. เย จ โข ถูปปูชาย, วตฺตนฺเต อรหโต มเหติ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ถูปํ อุทฺทิสฺส ปูชามเห ปวตฺตมาเน อหํ วิย เย ถูปปูชาย อาทีนวํ โทสํ ปกาเสนฺติ. เต ปุคฺคเล ตโต ปฺุโต วิเวจเยถ วิเวจาปเยถ, ปริพาหิเร ชนเยถาติ อฺาปเทเสน อตฺตโน มหาชานิยตํ วิภาเวติ.
๕๑๔. อายนฺติโยติ ¶ อากาเสน อาคจฺฉนฺติโย. มาลาวิปากนฺติ ถูเป กตมาลาปูชาย วิปากํ ผลํ. สมิทฺธาติ ทิพฺพสมฺปตฺติยา สมิทฺธา. ตา ยสสฺสินิโยติ ตา ปริวารวนฺติโย.
๕๑๕. ตฺจ ทิสฺวานาติ ตสฺส อติปริตฺตสฺส ปูชาปฺุสฺส อจฺฉริยํ อพฺภุตํ โลมหํสนํ อติอุฬารํ วิปากวิเสสํ ทิสฺวา. นโม กโรนฺติ สปฺปฺา, วนฺทนฺติ ตํ มหามุนินฺติ, ภนฺเต กสฺสป, อิมา อิตฺถิโย ตํ อุตฺตมปฺุกฺเขตฺตภูตํ วนฺทนฺติ อภิวาเทนฺติ, นโม กโรนฺติ นมกฺการฺจ กโรนฺตีติ อตฺโถ.
๕๑๖. อถ ¶ โส เปโต สํวิคฺคมานโส สํเวคานุรูปํ อายตึ อตฺตนา กาตพฺพํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โสหํ นูนา’’ติ คาถมาห. ตํ อุตฺตานตฺถเมว.
เอวํ เปเตน วุตฺโต มหากสฺสโป ตํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสสิ.
ธาตุวิวณฺณเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ ขุทฺทก-อฏฺกถาย เปตวตฺถุสฺมึ
ทสวตฺถุปฏิมณฺฑิตสฺส
ตติยสฺส จูฬวคฺคสฺส อตฺถสํวณฺณนา นิฏฺิตา.