📜
๔. มหาวคฺโค
๑. อมฺพสกฺกรเปตวตฺถุวณฺณนา
เวสาลี ¶ ¶ นาม นครตฺถิ วชฺชีนนฺติ อิทํ อมฺพสกฺกรเปตวตฺถุ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควติ เชตวเน วิหรนฺเต อมฺพสกฺกโร นาม ลิจฺฉวิราชา มิจฺฉาทิฏฺิโก นตฺถิกวาโท เวสาลิยํ รชฺชํ กาเรสิ. เตน จ สมเยน เวสาลินคเร อฺตรสฺส วาณิชสฺส อาปณสมีเป จิกฺขลฺลํ โหติ, ตตฺถ พหู ชนา อุปฺปติตฺวา อติกฺกมนฺตา กิลมนฺติ, เกจิ กทฺทเมน ลิมฺปนฺติ. ตํ ทิสฺวา โส วาณิโช ‘‘มา อิเม มนุสฺสา กลลํ อกฺกมึสู’’ติ อปคตทุคฺคนฺธํ สงฺขวณฺณปฏิภาคํ โคสีสฏฺึ อาหราเปตฺวา นิกฺขิปาเปสิ. ปกติยา จ สีลวา อโหสิ อกฺโกธโน สณฺหวาโจ, ปเรสฺจ ยถาภูตํ คุณํ กิตฺเตติ.
โส เอกสฺมึ ทิวเส อตฺตโน สหายสฺส นฺหายนฺตสฺส ปมาเทน อโนโลเกนฺตสฺส นิวาสนวตฺถํ กีฬาธิปฺปาเยน อปนิธาย ตํ ทุกฺขาเปตฺวา อทาสิ. ภาคิเนยฺโย ปนสฺส โจริกาย ปรเคหโต ภณฺฑํ อาหริตฺวา ตสฺเสว อาปเณ นิกฺขิปิ. ภณฺฑสามิกา วีมํสนฺตา ภณฺเฑน สทฺธึ ตสฺส ภาคิเนยฺยํ ตฺจ รฺโ ทสฺเสสุํ. ราชา ‘‘อิมสฺส สีสํ ฉินฺทถ, ภาคิเนยฺยํ ปนสฺส สูเล อาโรเปถา’’ติ อาณาเปสิ. ราชปุริสา ตถา อกํสุ. โส กาลํ กตฺวา ภุมฺมเทเวสุ อุปฺปชฺชิ. โส โคสีเสน เสตุโน กตตฺตา เสตวณฺณํ ¶ ทิพฺพํ มโนชวํ อสฺสาชานียํ ปฏิลภิ, คุณวนฺตานํ วณฺณกถเนน ตสฺส คตฺตโต ทิพฺพคนฺโธ วายติ, สาฏกสฺส ปน อปนิหิตตฺตา นคฺโค อโหสิ. โส อตฺตนา ปุพฺเพ กตกมฺมํ โอโลเกนฺโต ตทนุสาเรน อตฺตโน ภาคิเนยฺยํ สูเล อาโรปิตํ ทิสฺวา กรุณาย โจทิยมาโน มโนชวํ อสฺสํ อภิรุหิตฺวา อฑฺฒรตฺติสมเย ตสฺส สูลา โรปิตฏฺานํ คนฺตฺวา อวิทูเร ิโต ‘‘ชีว, โภ, ชีวิตเมว เสยฺโย’’ติ ทิวเส ทิวเส วทติ.
เตน จ สมเยน อมฺพสกฺกโร ราชา หตฺถิกฺขนฺธวรคโต นครํ ปทกฺขิณํ กโรนฺโต อฺตรสฺมึ เคเห วาตปานํ วิวริตฺวา ราชวิภูตึ ปสฺสนฺตึ ¶ เอกํ อิตฺถึ ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺโต หุตฺวา ปจฺฉาสเน นิสินฺนสฺส ปุริสสฺส ‘‘อิมํ ฆรํ อิมฺจ อิตฺถึ อุปธาเรหี’’ติ สฺํ ทตฺวา อนุกฺกเมน ¶ อตฺตโน ราชเคหํ ปวิฏฺโ ตํ ปุริสํ เปเสสิ – ‘‘คจฺฉ, ภเณ, ตสฺสา อิตฺถิยา สสามิกภาวํ วา อสามิกภาวํ วา ชานาหี’’ติ. โส คนฺตฺวา ตสฺสา สสามิกภาวํ ตฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ตสฺสา อิตฺถิยา ปริคฺคหณูปายํ จินฺเตนฺโต ตสฺสา สามิกํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘เอหิ, ภเณ, มํ อุปฏฺาหี’’ติ อาห. โส อนิจฺฉนฺโตปิ ‘‘ราชา อตฺตโน วจนํ อกโรนฺเต มยิ ราชทณฺฑํ กเรยฺยา’’ติ ภเยน ราชุปฏฺานํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ทิวเส ทิวเส ราชุปฏฺานํ คจฺฉติ. ราชาปิ ตสฺส ภตฺตเวตนํ ทาเปตฺวา กติปยทิวสาติกฺกเมน ปาโตว อุปฏฺานํ อาคตํ เอวมาห – ‘‘คจฺฉ, ภเณ, อมุมฺหิ าเน เอกา โปกฺขรณี อตฺถิ, ตโต อรุณวณฺณมตฺติกํ รตฺตุปฺปลานิ จ อาเนหิ, สเจ อชฺเชว นาคจฺเฉยฺยาสิ, ชีวิตํ เต นตฺถี’’ติ. ตสฺมิฺจ คเต ทฺวารปาลํ อาห – ‘‘อชฺช อนตฺถงฺคเต เอว สูริเย สพฺพทฺวารานิ ถเกตพฺพานี’’ติ.
สา จ โปกฺขรณี เวสาลิยา ติโยชนมตฺถเก โหติ, ตถาปิ โส ปุริโส มรณภยตชฺชิโต วาตเวเคน ปุพฺพณฺเหเยว ตํ โปกฺขรณึ สมฺปาปุณิ. ‘‘สา จ โปกฺขรณี อมนุสฺสปริคฺคหิตา’’ติ ปเคว สุตตฺตา ภเยน โส ‘‘อตฺถิ นุ โข เอตฺถ โกจิ ปริสฺสโย’’ติ สมนฺตโต ¶ อนุปริยายติ. ตํ ทิสฺวา โปกฺขรณิปาลโก อมนุสฺโส กรุณายมานรูโป มนุสฺสรูเปน อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘กิมตฺถํ, โภ ปุริส, อิธาคโตสี’’ติ อาห. โส ตสฺส ตํ ปวตฺตึ กเถสิ. โส ‘‘ยทิ เอวํ ยาวทตฺถํ คณฺหาหี’’ติ อตฺตโน ทิพฺพรูปํ ทสฺเสตฺวา อนฺตรธายิ.
โส ตตฺถ อรุณวณฺณมตฺติกํ รตฺตุปฺปลานิ จ คเหตฺวา อนตฺถงฺคเตเยว สูริเย นครทฺวารํ สมฺปาปุณิ. ตํ ทิสฺวา ทฺวารปาโล ตสฺส วิรวนฺตสฺเสว ทฺวารํ ถเกสิ. โส ถกิเต ทฺวาเร ปเวสนํ อลภนฺโต ทฺวารสมีเป สูเล อาโรปิตํ ปุริสํ ทิสฺวา ‘‘เอเต มยิ อนตฺถงฺคเต เอว สูริเย อาคเต วิรวนฺเต เอวํ ทฺวารํ ถเกสุํ. ‘อหํ กาเลเยว อาคโต, มม ทาโส นตฺถี’ติ ตยาปิ าตํ โหตู’’ติ ¶ สกฺขิมกาสิ. ตํ สุตฺวา โส อาห ‘‘อหํ สูเล อาวุโต วชฺโฌ มรณาภิมุโข, กถํ ตว สกฺขิ โหมิ. เอโก ปเนตฺถ เปโต มหิทฺธิโก มม สมีปํ อาคมิสฺสติ, ตํ สกฺขึ กโรหี’’ติ. ‘‘กถํ ปน โส มยา ทฏฺพฺโพ’’ติ? อิเธว ตฺวํ ติฏฺ, ‘‘สยเมว ทกฺขิสฺสสี’’ติ. โส ตตฺถ ิโต มชฺฌิมยาเม ตํ เปตํ อาคตํ ทิสฺวา สกฺขึ อกาสิ. วิภาตาย จ รตฺติยา รฺา ‘‘มม อาณา ตยา อติกฺกนฺตา, ตสฺมา ราชทณฺฑํ เต กริสฺสามี’’ติ วุตฺเต, เทว, มยา ตว อาณา นาติกฺกนฺตา, อนตฺถงฺคเต เอว สูริเย อหํ อิธาคโตติ. ตตฺถ โก เต สกฺขีติ? โส ¶ ตสฺส สูลาวุตสฺส ปุริสสฺส สนฺติเก อาคจฺฉนฺตํ นคฺคเปตํ ‘‘สกฺขี’’ติ นิทฺทิสิตฺวา ‘‘กถเมตํ อมฺเหหิ สทฺธาตพฺพ’’นฺติ รฺา วุตฺเต ‘‘อชฺช รตฺติยํ ตุมฺเหหิ สทฺธาตพฺพํ ปุริสํ มยา สทฺธึ เปเสถา’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา ราชา สยเมว เตน สทฺธึ ตตฺถ คนฺตฺวา ิโต เปเตน จ ตตฺถาคนฺตฺวา ‘‘ชีว, โภ, ชีวิตเมว เสยฺโย’’ติ วุตฺเต ตํ ‘‘เสยฺยา นิสชฺชา นยิมสฺส อตฺถี’’ติอาทินา ปฺจหิ คาถาหิ ปฏิปุจฺฉิ. อิทานิ อาทิโต ปน ‘‘เวสาลิ นาม นครตฺถิ วชฺชีน’’นฺติ คาถา ตาสํ สมฺพนฺธทสฺสนตฺถํ สงฺคีติกาเรหิ ปิตา –
‘‘เวสาลี ¶ นาม นครตฺถิ วชฺชีนํ, ตตฺถ อหุ ลิจฺฉวิ อมฺพสกฺกโร;
ทิสฺวาน เปตํ นครสฺส พาหิรํ, ตตฺเถว ปุจฺฉิตฺถ ตํ การณตฺถิโก.
‘‘เสยฺยา นิสชฺชา นยิมสฺส อตฺถิ, อภิกฺกโม นตฺถิ ปฏิกฺกโม จ;
อสิตปีตขายิตวตฺถโภคา, ปริจารณา สาปิ อิมสฺส นตฺถิ.
‘‘เย าตกา ทิฏฺสุตา สุหชฺชา, อนุกมฺปกา ยสฺส อเหสุํ ปุพฺเพ;
ทฏฺุมฺปิ เต ทานิ น ตํ ลภนฺติ, วิราชิตโต หิ ชเนน เตน.
‘‘น ¶ โอคฺคตตฺตสฺส ภวนฺติ มิตฺตา, ชหนฺติ มิตฺตา วิกลํ วิทิตฺวา;
อตฺถฺจ ทิสฺวา ปริวารยนฺติ, พหู มิตฺตา อุคฺคตตฺตสฺส โหนฺติ.
‘‘นิหีนตฺโต สพฺพโภเคหิ กิจฺโฉ, สมฺมกฺขิโต สมฺปริภินฺนคตฺโต;
อุสฺสาวพินฺทูว ปลิมฺปมานา, อชฺช สุเว ชีวิตสฺสูปโรโธ.
‘‘เอตาทิสํ อุตฺตมกิจฺฉปฺปตฺตํ,
อุตฺตาสิตํ ปุจิมนฺทสฺส สูเล;
อถ ตฺวํ เกน วณฺเณน วเทสิ ยกฺข,
‘ชีว โภ ชีวิตเมว เสยฺโย’’’ติ.
๕๑๗. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺสํ เวสาลิยํ. นครสฺส พาหิรนฺติ นครสฺส พหิ ภวํ, เวสาลินครสฺส พหิ เอว ¶ ชาตํ ปวตฺตํ สมฺพนฺธํ. ตตฺเถวาติ ยตฺถ ตํ ปสฺสิ, ตตฺเถว าเน. ตนฺติ ¶ ตํ เปตํ. การณตฺถิโกติ ‘‘ชีว, โภ, ชีวิตเมว เสยฺโย’’ติ วุตฺตอตฺถสฺส การเณน อตฺถิโก หุตฺวา.
๕๑๘. เสยฺยา นิสชฺชา นยิมสฺส อตฺถีติ ปิฏฺิปสารณลกฺขณา เสยฺยา, ปลฺลงฺกาภุชนลกฺขณา นิสชฺชา จ อิมสฺส สูเล อาโรปิตปุคฺคลสฺส นตฺถิ. อภิกฺกโม นตฺถิ ปฏิกฺกโม จาติ อภิกฺกมาทิลกฺขณํ อปฺปมตฺตกมฺปิ คมนํ อิมสฺส นตฺถิ. ปริจาริกา สาปีติ ยา อสิตปีตขายิตวตฺถปริโภคาทิลกฺขณา อินฺทฺริยานํ ปริจารณา, สาปิ อิมสฺส นตฺถิ. ‘‘ปริหรณา สาปี’’ติ วา ปาโ, อสิตาทิปริโภควเสน อินฺทฺริยานํ ปริหรณา, สาปิ อิมสฺส นตฺถิ วิคตชีวิตตฺตาติ อตฺโถ. ‘‘ปริจารณา สาปี’’ติ เกจิ ปนฺติ.
๕๑๙. ทิฏฺสุตา สุหชฺชา, อนุกมฺปกา ยสฺส อเหสุํ ปุพฺเพติ สนฺทิฏฺสหายา เจว อทิฏฺสหายา จ ยสฺส มิตฺตา อนุทฺทยาวนฺโต เย ¶ อสฺส อิมสฺส ปุพฺเพ อเหสุํ. ทฏฺุมฺปีติ ปสฺสิตุมฺปิ น ลภนฺติ, กุโต สห วสิตุนฺติ อตฺโถ. วิราชิตตฺโตติ ปริจฺจตฺตสภาโว. ชเนน เตนาติ เตน าติอาทิชเนน.
๕๒๐. น โอคฺคตตฺตสฺส ภวนฺติ มิตฺตาติ อปคตวิฺาณสฺส มตสฺส มิตฺตา นาม น โหนฺติ ตสฺส มิตฺเตหิ กาตพฺพกิจฺจสฺส อติกฺกนฺตตฺตา. ชหนฺติ มิตฺตา วิกลํ วิทิตฺวาติ มโต ตาว ติฏฺตุ, ชีวนฺตมฺปิ โภควิกลํ ปุริสํ วิทิตฺวา ‘‘น อิโต กิฺจิ คยฺหูปค’’นฺติ มิตฺตา ปชหนฺติ. อตฺถฺจ ทิสฺวา ปริวารยนฺตีติ ตสฺส ปน สนฺตกํ อตฺถํ ธนํ ทิสฺวา ปิยวาทิโน มุขุลฺโลกิกา หุตฺวา ตํ ปริวาเรนฺติ. พหู มิตฺตา อุคฺคตตฺตสฺส โหนฺตีติ วิภวสมฺปตฺติยา ¶ อุคฺคตสภาวสฺส สมิทฺธสฺส พหู อเนกา มิตฺตา โหนฺติ, อยํ โลกิยสภาโวติ อตฺโถ.
๕๒๑. นิหีนตฺโต สพฺพโภเคหีติ สพฺเพหิ อุปโภคปริโภควตฺถูหิ ปริหีนตฺโต. กิจฺโฉติ ทุกฺขิโต. สมฺมกฺขิโตติ รุหิเรหิ สมฺมกฺขิตสรีโร. สมฺปริภินฺนคตฺโตติ สูเลน อพฺภนฺตเร วิทาลิตคตฺโต. อุสฺสาวพินฺทูว ปลิมฺปมาโนติ ติณคฺเค ลิมฺปมานอุสฺสาวพินฺทุสทิโส. อชฺช สุเวติ อชฺช วา สุเว วา อิมสฺส นาม ปุริสสฺส ชีวิตสฺส อุปโรโธ นิโรโธ, ตโต อุทฺธํ นปฺปวตฺตตีติ อตฺโถ.
๕๒๒. อุตฺตาสิตนฺติ อาวุตํ อาโรปิตํ. ปุจิมนฺทสฺส สูเลติ นิมฺพรุกฺขสฺส ทณฺเฑน กตสูเล ¶ . เกน วณฺเณนาติ เกน การเณน. ชีว, โภ, ชีวิตเมว เสยฺโยติ, โภ ปุริส, ชีว. กสฺมา? สูลํ อาโรปิตสฺสาปิ หิ เต อิธ ชีวิตเมว อิโต จุตสฺส ชีวิตโต สตภาเคน สหสฺสภาเคน เสยฺโย สุนฺทรตโรติ.
เอวํ เตน รฺา ปุจฺฉิโต โส เปโต อตฺตโน อธิปฺปายํ ปกาเสนฺโต –
‘‘สาโลหิโต เอส อโหสิ มยฺหํ, อหํ สรามิ ปุริมาย ชาติยา;
ทิสฺวา จ เม การฺุมโหสิ ราช, มา ปาปธมฺโม นิรยํ ปตายํ.
‘‘อิโต ¶ จุโต ลิจฺฉวิ เอส โปโส, สตฺถุสฺสทํ นิรยํ โฆรรูปํ;
อุปปชฺชติ ทุกฺกฏกมฺมการี, มหาภิตาปํ กฏุกํ ภยานกํ.
‘‘อเนกภาเคน คุเณน เสยฺโย, อยเมว สูโล นิรเยน เตน;
เอกนฺตทุกฺขํ กฏุกํ ภยานกํ, เอกนฺตติพฺพํ นิรยํ ปตายํ.
‘‘อิทฺจ ¶ สุตฺวา วจนํ มเมโส, ทุกฺขูปนีโต วิชเหยฺย ปาณํ;
ตสฺมา อหํ สนฺติเก น ภณามิ, มา เมกโต ชีวิตสฺสูปโรโธ’’ติ. –
จตสฺโส คาถา อภาสิ.
๕๒๓. ตตฺถ สาโลหิโต สมานโลหิโต โยนิสมฺพนฺเธน สมฺพนฺโธ, าตโกติ อตฺโถ. ปุริมาย ชาติยาติ ปุริมตฺตภาเว. มา ปาปธมฺโม นิรยํ ปตายนฺติ อยํ ปาปธมฺโม ปุริโส นิรยํ มา ปติ, มา นิรยํ อุปปชฺชีติ อิมํ ทิสฺวา เม การฺุํ อโหสีติ โยชนา.
๕๒๔. สตฺตุสฺสทนฺติ ปาปการีหิ สตฺเตหิ อุสฺสนฺนํ, อถ วา ปฺจวิธพนฺธนํ, มุเข ตตฺตโลหเสจนํ, องฺคารปพฺพตาโรปนํ, โลหกุมฺภิปกฺเขปนํ, อสิปตฺตวนปฺปเวสนํ, เวตฺตรณิยํ สโมตรณํ, มหานิรเย ปกฺเขโปติ. อิเมหิ สตฺตหิ ปฺจวิธพนฺธนาทีหิ ทารุณการเณหิ อุสฺสนฺนํ, อุปรูปริ นิจิตนฺติ อตฺโถ. มหาภิตาปนฺติ มหาทุกฺขํ, มหาอคฺคิสนฺตาปํ วา. กฏุกนฺติ อนิฏฺํ. ภยานกนฺติ ภยชนกํ.
๕๒๕. อเนกภาเคน ¶ คุเณนาติ อเนกโกฏฺาเสน อานิสํเสน. อยเมว สูโล นิรเยน เตนาติ ตโต อิมสฺส อุปฺปตฺติฏฺานภูตโต นิรยโต อยเมว สูโล เสยฺโยติ. นิสฺสกฺเก หิ ¶ อิทํ กรณวจนํ. เอกนฺต ติพฺพนฺติ เอกนฺเตเนว ติขิณทุกฺขํ, นิยตมหาทุกฺขนฺติ อตฺโถ.
๕๒๖. อิทฺจ สุตฺวา วจนํ มเมโสติ ‘‘อิโต จุโต’’ติอาทินา วุตฺตํ มม วจนํ สุตฺวา เอโส ปุริโส ทุกฺขูปนีโต มม วจเนน นิรยทุกฺขํ อุปนีโต วิย หุตฺวา. วิชเหยฺย ปาณนฺติ อตฺตโน ชีวิตํ ปริจฺจเชยฺย. ตสฺมาติ เตน การเณน. มา เมกโตติ ‘‘มยา เอกโต อิมสฺส ปุริสสฺส ชีวิตสฺส อุปโรโธ มา โหตู’’ติ อิมสฺส สนฺติเก อิทํ วจนํ อหํ น ภณามิ, อถ โข ¶ ‘‘ชีว, โภ, ชีวิตเมว เสยฺโย’’ติ อิทเมว ภณามีติ อธิปฺปาโย.
เอวํ เปเตน อตฺตโน อธิปฺปาเย ปกาสิเต ปุน ราชา เปตสฺส ปวตฺตึ ปุจฺฉิตุํ โอกาสํ กโรนฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘อฺาโต เอโส ปุริสสฺส อตฺโถ, อฺมฺปิ อิจฺฉามเส ปุจฺฉิตุํ ตุวํ;
โอกาสกมฺมํ สเจ โน กโรสิ, ปุจฺฉาม ตํ โน น จ กุชฺฌิตพฺพ’’นฺติ.
‘‘อทฺธา ปฏิฺา เม ตทา อหุ, นาจิกฺขณา อปฺปสนฺนสฺส โหติ;
อกามา สทฺเธยฺยวโจติ กตฺวา, ปุจฺฉสฺสุ มํ กามํ ยถา วิสยฺห’’นฺติ. –
อิมา รฺโ เปตสฺส จ วจนปฏิวจนคาถา.
๕๒๗. ตตฺถ อฺาโตติ อวคโต. อิจฺฉามเสติ อิจฺฉาม. โนติ อมฺหากํ. น จ กุชฺฌิตพฺพนฺติ ‘‘อิเม มนุสฺสา ยํกิฺจิ ปุจฺฉนฺตี’’ติ โกโธ น กาตพฺโพ.
๕๒๘. อทฺธาติ เอกํเสน. ปฏิฺา เมติ าณวเสน มยฺหํ ‘‘ปุจฺฉสฺสู’’ติ ปฏิฺา, โอกาสทานนฺติ อตฺโถ. ตทา อหูติ ตสฺมึ กาเล ¶ ปมทสฺสเน อโหสิ. นาจิกฺขณา อปฺปสนฺนสฺส โหตีติ อกถนา อปฺปสนฺนสฺส โหติ. ปสนฺโน เอว หิ ปสนฺนสฺส กิฺจิ กเถติ. ตฺวํ ปน ตทา มยิ อปฺปสนฺโน, อหฺจ ตยิ, เตน ปฏิชานิตฺวา กเถตุกาโม นาโหสิ. อิทานิ ปนาหํ ตุยฺหํ อกามา สทฺเธยฺยวโจ อกาโม เอว สทฺธาตพฺพวจโน อิติ กตฺวา อิมินา การเณน ¶ . ปุจฺฉสฺสุ ¶ มํ กามํ ยถา วิสยฺหนฺติ ตฺวํ ยถา อิจฺฉสิ, ตมตฺถํ มํ ปุจฺฉสฺสุ. อหํ ปน ยถา วิสยฺหํ ยถา มยฺหํ สหิตุํ สกฺกา, ตถา อตฺตโน าณพลานุรูปํ กเถสฺสามีติ อธิปฺปาโย.
เอวํ เปเตน ปุจฺฉนาย โอกาเส กเต ราชา –
‘‘ยํ กิฺจหํ จกฺขุนา ปสฺสิสามิ,
สพฺพมฺปิ ตาหํ อภิสทฺทเหยฺยํ;
ทิสฺวาว ตํ โนปิ เจ สทฺทเหยฺยํ,
กเรยฺยาสิ เม ยกฺข นิยสฺสกมฺม’’นฺติ. –
คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – อหํ ยํ กิฺจิเทว จกฺขุนา ปสฺสิสฺสามิ, ตํ สพฺพมฺปิ ตเถว อหํ อภิสทฺทเหยฺยํ, ตํ ปน ทิสฺวาว ตํ วจนํ โนปิ เจ สทฺทเหยฺยํ. ยกฺข, มยฺหํ นิยสฺสกมฺมํ นิคฺคหกมฺมํ กเรยฺยาสีติ. อถ วา ยํ กิฺจหํ จกฺขุนา ปสฺสิสฺสามีติ อหํ ยํ กิฺจิเทว จกฺขุนา ปสฺสิสฺสามิ อจกฺขุโคจรสฺส อทสฺสนโต. สพฺพมฺปิ ตาหํ อภิสทฺทเหยฺยนฺติ สพฺพมฺปิ เต อหํ ทิฏฺํ สุตํ อฺํ วา อภิสทฺทเหยฺยํ. ตาทิโส หิ มยฺหํ ตยิ อภิปฺปสาโทติ อธิปฺปาโย. ปจฺฉิมปทสฺส ปน ยถาวุตฺโตว อตฺโถ.
ตํ สุตฺวา เปโต –
‘‘สจฺจปฺปฏิฺา ตว เมสา โหตุ, สุตฺวาน ธมฺมํ ลภ สุปฺปสาทํ;
อฺตฺถิโก โน จ ปทุฏฺจิตฺโต, ยํ เต สุตํ อสุตฺจาปิ ธมฺมํ;
สพฺพมฺปิ อกฺขิสฺสํ ยถา ปชาน’’นฺติ. – คาถมาห ¶ ; อิโต ปรํ –
‘‘เสเตน ¶ อสฺเสน อลงฺกเตน, อุปยาสิ สูลาวุตกสฺส สนฺติเก;
ยานํ อิทํ อพฺภุตํ ทสฺสเนยฺยํ, กิสฺเสตํ กมฺมสฺส อยํ วิปาโกติ.
‘‘เวสาลิยา นครสฺส มชฺเฌ, จิกฺขลฺลมคฺเค นรกํ อโหสิ;
โคสีสเมกาหํ ปสนฺนจิตฺโต, เสตํ คเหตฺวา นรกสฺมึ นิกฺขิปึ.
‘‘เอตสฺมึ ¶ ปาทานิ ปติฏฺเปตฺวา, มยฺจ อฺเ จ อติกฺกมิมฺหา;
ยานํ อิทํ อพฺภุตํ ทสฺสเนยฺยํ, ตสฺเสว กมฺมสฺส อยํ วิปาโกติ.
‘‘วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสติ, คนฺโธ จ เต สพฺพทิสา ปวายติ;
ยกฺขิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, นคฺโค จาสิ กิสฺส อยํ วิปาโกติ.
‘‘อกฺโกธโน นิจฺจปสนฺนจิตฺโต, สณฺหาหิ วาจาหิ ชนํ อุเปมิ;
ตสฺเสว กมฺมสฺส อยํ วิปาโก, ทิพฺโพ เม วณฺโณ สตตํ ปภาสติ.
‘‘ยสฺจ กิตฺติฺจ ธมฺเม ิตานํ, ทิสฺวาน มนฺเตมิ ปสนฺนจิตฺโต;
ตสฺเสว กมฺมสฺส อยํ วิปาโก, ทิพฺโพ เม คนฺโธ สตตํ ปวายติ.
‘‘สหายานํ ¶ ติตฺถสฺมึ นฺหายนฺตานํ, ถเล คเหตฺวา นิทหิสฺส ทุสฺสํ;
ขิฑฺฑตฺถิโก โน จ ปทุฏฺจิตฺโต, เตนมฺหิ นคฺโค กสิรา จ วุตฺตีติ.
‘‘โย ¶ กีฬมาโน ปกโรติ ปาปํ, ตสฺเสทิสํ กมฺมวิปากมาหุ;
อกีฬมาโน ปน โย กโรติ, กึ ตสฺส กมฺมสฺส วิปากมาหูติ.
‘‘เย ทุฏฺสงฺกปฺปมนา มนุสฺสา, กาเยน วาจาย จ สํกิลิฏฺา;
กายสฺส เภทา อภิสมฺปรายํ, อสํสยํ เต นิรยํ อุเปนฺติ.
‘‘อปเร ปน สุคติมาสมานา, ทาเน รตา สงฺคหิตตฺตภาวา;
กายสฺส เภทา อภิสมฺปรายํ, อสํสยํ เต สุคตึ อุเปนฺตี’’ติ. –
เตสํ อุภินฺนํ วจนปฏิวจนคาถา โหนฺติ.
๕๓๐. ตตฺถ สจฺจปฺปฏิฺา ตว เมสา โหตูติ ‘‘สพฺพมฺปิ ตาหํ อภิสทฺทเหยฺย’’นฺติ ตว เอสา ปฏิฺา มยฺหํ สจฺจํ โหตุ. สุตฺวาน ธมฺมํ ลภ สุปฺปสาทนฺติ มยา วุจฺจมานํ ธมฺมํ สุตฺวา สุนฺทรํ ปสาทํ ลภสฺสุ. อฺตฺถิโกติ อาชานนตฺถิโก. ยถา ปชานนฺติ ยถา อฺโปิ ¶ ปชานนฺโต, ‘‘ยถาปิ าต’’นฺติ วา มยา ยถา าตนฺติ อตฺโถ.
๕๓๑. กิสฺเสตํ กมฺมสฺส อยํ วิปาโกติ กิสฺเสตํ กิสฺส นาม เอตํ, กิสฺส กมฺมสฺส อยํ วิปาโก. เอตนฺติ วา นิปาตมตฺตํ, กิสฺส กมฺมสฺสาติ โยชนา. ‘‘กิสฺส เต’’ติ จ เกจิ ปนฺติ.
๕๓๒-๓๓. จิกฺขลฺลมคฺเคติ ¶ จิกฺขลฺลวติ ปถมฺหิ. นรกนฺติ อาวาฏํ. เอกาหนฺติ เอกํ อหํ. นรกสฺมึ นิกฺขิปินฺติ ยถา กทฺทโม น อกฺกมียติ, เอวํ ตสฺมึ จิกฺขลฺลาวาเฏ เปสึ. ตสฺสาติ ตสฺส โคสีเสน เสตุกรณสฺส.
๕๓๖-๗. ธมฺเม ิตานนฺติ ธมฺมจารีนํ สมจารีนํ. มนฺเตมีติ กเถมิ กิตฺตยามิ. ขิฑฺฑตฺถิโกติ ¶ หสาธิปฺปาโย. โน จ ปทุฏฺจิตฺโตติ ทุสฺสสามิเก น ทูสิตจิตฺโต, น อวหรณาธิปฺปาโย นาปิ วินาสาธิปฺปาโยติ อตฺโถ.
๕๓๘. อกีฬมาโนติ อขิฑฺฑาธิปฺปาโย, โลภาทีหิ ทูสิตจิตฺโต. กึ ตสฺส กมฺมสฺส วิปากมาหูติ ตสฺส ตถา กตสฺส ปาปกมฺมสฺส กีว กฏุกํ ทุกฺขวิปากํ ปณฺฑิตา อาหุ.
๕๓๙-๔๐. ทุฏฺสงฺกปฺปมนาติ กามสงฺกปฺปาทิวเสน ทูสิตมโนวิตกฺกา, เอเตน มโนทุจฺจริตมาห. กาเยน วาจาย จ สํกิลิฏฺาติ ปาณาติปาตาทิวเสน กายวาจาหิ มลินา. อาสมานาติ อาสีสมานา ปตฺถยมานา.
เอวํ เปเตน สงฺเขเปเนว กมฺมผเลสุ วิภชิตฺวา ทสฺสิเตสุ ตํ อสทฺทหนฺโต ราชา –
‘‘ตํ กินฺติ ชาเนยฺยมหํ อเวจฺจ, กลฺยาณปาปสฺส อยํ วิปาโก;
กึ วาหํ ทิสฺวา อภิสทฺทเหยฺยํ, โก วาปิ มํ สทฺทหาเปยฺย เอต’’นฺติ. –
คาถมาห. ตตฺถ ตํ กินฺติ ชาเนยฺยมหํ อเวจฺจาติ โยยํ ตยา ‘‘เย ทุฏฺสงฺกปฺปมนา มนุสฺสา, กาเยน วาจาย จ สํกิลิฏฺา’’ติอาทินา. ‘‘อปเร ปน สุคติมาสมานา’’ติอาทินา จ กลฺยาณสฺส ปาปสฺส จ กมฺมสฺส วิปาโก วิภชิตฺวา วุตฺโต, ตํ กินฺติ เกน การเณน อหํ อเวจฺจ ¶ ¶ อปรปจฺจยภาเวน สทฺทเหยฺยํ. กึ วาหํ ทิสฺวา อภิสทฺทเหยฺยนฺติ กีทิสํ วา ปนาหํ ปจฺจกฺขภูตํ นิทสฺสนํ ทิสฺวา ปฏิสทฺทเหยฺยํ. โก วาปิ มํ สทฺทหาเปยฺย เอตนฺติ โก วา วิฺู ปุริโส ปณฺฑิโต เอตมตฺถํ มํ สทฺทหาเปยฺย, ตํ กเถหีติ ¶ อตฺโถ.
ตํ สุตฺวา เปโต การเณน ตมตฺถํ ตสฺส ปกาเสนฺโต –
‘‘ทิสฺวา จ สุตฺวา อภิสทฺทหสฺสุ, กลฺยาณปาปสฺส อยํ วิปาโก;
กลฺยาณปาเป อุภเย อสนฺเต, สิยา นุ สตฺตา สุคตา ทุคฺคตา วา.
‘‘โน เจตฺถ กมฺมานิ กเรยฺยุํ มจฺจา, กลฺยาณปาปานิ มนุสฺสโลเก;
นาเหสุํ สตฺตา สุคตา ทุคฺคตา วา, หีนา ปณีตา จ มนุสฺสโลเก.
‘‘ยสฺมา จ กมฺมานิ กโรนฺติ มจฺจา, กลฺยาณปาปานิ มนุสฺสโลเก;
ตสฺมา หิ สตฺตา สุคตา ทุคฺคตา วา, หีนา ปณีตา จ มนุสฺสโลเก.
‘‘ทฺวยชฺช กมฺมานํ วิปากมาหุ, สุขสฺส ทุกฺขสฺส จ เวทนียํ;
ตา เทวตาโย ปริจารยนฺติ, ปจฺเจนฺติ พาลา ทฺวยตํ อปสฺสิโน’’ติ. –
คาถา อภาสิ.
๕๔๒. ตตฺถ ทิสฺวา จาติ ปจฺจกฺขโต ทิสฺวาปิ. สุตฺวาติ ธมฺมํ สุตฺวา ตทนุสาเรน นยํ เนนฺโต อนุมินนฺโต. กลฺยาณปาปสฺสาติ กุสลสฺส อกุสลสฺส จ กมฺมสฺส อยํ สุโข อยํ ทุกฺโข จ วิปาโกติ อภิสทฺทหสฺสุ. อุภเย อสนฺเตติ กลฺยาเณ ปาเป จาติ ทุวิเธ กมฺเม อวิชฺชมาเน. สิยา นุ สตฺตา สุคตา ทุคฺคตา วาติ ‘‘อิเม สตฺตา ¶ สุคตึ คตา ทุคฺคตึ คตา วา, สุคติยํ วา อฑฺฒา ทุคฺคติยํ ทลิทฺทา วา’’ติ อยมตฺโถ กึ นุ สิยา กถํ สมฺภเวยฺยาติ อตฺโถ.
๕๔๓-๔. อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ ‘‘โน ¶ เจตฺถ กมฺมานี’’ติ จ ‘‘ยสฺมา จ กมฺมานี’’ติ จ คาถาทฺวเยน พฺยติเรกโต อนฺวยโต จ วิภาเวติ. ตตฺถ หีนา ปณีตาติ กุลรูปาโรคฺยปริวาราทีหิ ¶ หีนา อุฬารา จ.
๕๔๕. ทฺวยชฺช กมฺมานํ วิปากมาหูติ ทฺวยํ ทุวิธํ อชฺช อิทานิ กมฺมานํ สุจริตทุจฺจริตานํ วิปากํ วทนฺติ กเถนฺติ. กึ ตนฺติ อาห ‘‘สุขสฺส ทุกฺขสฺส จ เวทนีย’’นฺติ, อิฏฺสฺส จ อนิฏฺสฺส จ อนุภวนโยคฺคํ. ตา เทวตาโย ปริจารยนฺตีติ เย อุกฺกํสวเสน สุขเวทนียํ วิปากํ ปฏิลภนฺติ, เต เทวโลเก ตา เทวตา หุตฺวา ทิพฺพสุขสมปฺปิตา อินฺทฺริยานิ ปริจาเรนฺติ. ปจฺเจนฺติ พาลา ทฺวยตํ อปสฺสิโนติ เย พาลา กมฺมฺจ กมฺมผลฺจาติ ทฺวยํ อปสฺสนฺตา อสทฺทหนฺตา, เต ปาปปฺปสุตา ทุกฺขเวทนียํ วิปากํ อนุภวนฺตา นิรยาทีสุ กมฺมุนา ปจฺเจนฺติ ทุกฺขํ ปาปุณนฺติ.
เอวํ กมฺมผลํ สทฺทหนฺโต ปน ตฺวํ กสฺมา เอวรูปํ ทุกฺขํ ปจฺจนุภวสีติ อนุโยคํ สนฺธาย –
‘‘น มตฺถิ กมฺมานิ สยํกตานิ, ทตฺวาปิ เม นตฺถิ โย อาทิเสยฺย;
อจฺฉาทนํ สยนมถนฺนปานํ, เตนมฺหิ นคฺโค กสิรา จ วุตฺตี’’ติ. –
คาถมาห. ตตฺถ น มตฺถิ กมฺมานิ สยํกตานีติ ยสฺมา สยํ อตฺตนา ปุพฺเพ กตานิ ปฺุกมฺมานิ มม นตฺถิ น วิชฺชนฺติ, เยหิ อิทานิ อจฺฉาทนาทีนิ ลเภยฺยํ. ทตฺวาปิ เม นตฺถิ โย อาทิเสยฺยาติ โย สมณพฺราหฺมณานํ ทานํ ทตฺวา ‘‘อสุกสฺส เปตสฺส โหตู’’ติ เม อาทิเสยฺย อุทฺทิเสยฺย, โส นตฺถิ. เตนมฺหิ นคฺโค กสิรา จ วุตฺตีติ เตน ทุวิเธนาปิ การเณน อิทานิ นคฺโค ¶ นิจฺโจโฬ อมฺหิ, กสิรา ทุกฺขา จ วุตฺติ ชีวิกา โหตีติ.
ตํ ¶ สุตฺวา ราชา ตสฺส อจฺฉาทนาทิลาภํ อากงฺขนฺโต –
‘‘สิยา นุ โข การณํ กิฺจิ ยกฺข, อจฺฉาทนํ เยน ตุวํ ลเภถ;
อาจิกฺข เม ตฺวํ ยทตฺถิ เหตุ, สทฺธายิกํ เหตุวโจ สุโณมา’’ติ. –
คาถมาห. ตตฺถ เยนาติ เยน การเณน ตฺวํ อจฺฉาทนํ ลเภถ ลเภยฺยาสิ, กิฺจิ ตํ การณํ สิยา นุ โข ภเวยฺย นุ โขติ อตฺโถ. ยทตฺถีติ ยทิ อตฺถิ.
อถสฺส ¶ เปโต ตํ การณํ อาจิกฺขนฺโต –
‘‘กปฺปิตโก นาม อิธตฺถิ ภิกฺขุ, ฌายี สุสีโล อรหา วิมุตฺโต;
คุตฺตินฺทฺริโย สํวุตปาติโมกฺโข, สีติภูโต อุตฺตมทิฏฺิปตฺโต.
‘‘สขิโล วทฺู สุวโจ สุมุโข, สฺวาคโม สุปฺปฏิมุตฺตโก จ;
ปฺุสฺส เขตฺตํ อรณวิหารี, เทวมนุสฺสานฺจ ทกฺขิเณยฺโย.
‘‘สนฺโต วิธูโม อนีโฆ นิราโส, มุตฺโต วิสลฺโล อมโม อวงฺโก;
นิรูปธี สพฺพปปฺจขีโณ, ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺโต ชุติมา.
‘‘อปฺปฺาโต ทิสฺวาปิ น จ สุชาโน, มุนีติ นํ วชฺชิสุ โวหรนฺติ;
ชานนฺติ ตํ ยกฺขภูตา อเนชํ, กลฺยาณธมฺมํ วิจรนฺตํ โลเก.
‘‘ตสฺส ¶ ¶ ตุวํ เอกยุคํ ทุเว วา, มมุทฺทิสิตฺวาน สเจ ทเทถ;
ปฏิคฺคหีตานิ จ ตานิ อสฺสุ, มมฺจ ปสฺเสถ สนฺนทฺธทุสฺส’’นฺติ. –
คาถา อภาสิ.
๕๔๘. ตตฺถ กปฺปิตโต นามาติ ชฏิลสหสฺสสฺส อพฺภนฺตเร อายสฺมโต อุปาลิตฺเถรสฺส อุปชฺฌายํ สนฺธาย วทติ. อิธาติ อิมิสฺสา เวสาลิยา สมีเป. ฌายีติ อคฺคผลฌาเนน ฌายี. สีติภูโตติ สพฺพกิเลสทรถปริฬาหวูปสเมน สีติภาวปฺปตฺโต. อุตฺตมทิฏฺิปตฺโตติ อุตฺตมํ อคฺคผลํ สมฺมาทิฏฺึ ปตฺโต.
๕๔๙. สขิโลติ มุทุ. สุวโจติ สุพฺพโจ. สฺวาคโมติ สุฏฺุ อาคตาคโม. สุปฺปฏิมุตฺตโกติ สุฏฺุ ปฏิมุตฺตกวาโจ, มุตฺตภาณีติ อตฺโถ. อรณวิหารีติ เมตฺตาวิหารี.
๕๕๐. สนฺโตติ อุปสนฺตกิเลโส. วิธูโมติ วิคตมิจฺฉาวิตกฺกธูโม. อนีโฆติ นิทฺทุกฺโข. นิราโสติ นิตฺตณฺโห. มุตฺโตติ สพฺพภเวหิ วิมุตฺโต. วิสลฺโลติ วีตราคาทิสลฺโล. อมโมติ ¶ มมํการวิรหิโต. อวงฺโกติ กายวงฺกาทิวงฺกวิรหิโต. นิรูปธีติ กิเลสาภิสงฺขาราทิอุปธิปฺปหายี. สพฺพปปฺจขีโณติ ปริกฺขีณตณฺหาทิปปฺโจ. ชุติมาติ อนุตฺตราย าณชุติยา ชุติมา. อปฺปฺาโตติ ปรมปฺปิจฺฉตาย ปฏิจฺฉนฺนคุณตาย จ น ปากโฏ.
๕๕๑. ทิสฺวาปิ น จ สุชาโนติ คมฺภีรภาเวน ทิสฺวาปิ ‘‘เอวํสีโล, เอวํธมฺโม, เอวํปฺโ’’ติ น สุวิฺเยฺโย. ชานนฺติ ตํ ยกฺขภูตา อเนชนฺติ ยกฺขภูตา จ อเนชํ นิตฺตณฺหํ ‘‘อรหา’’ติ ตํ ชานนฺติ. กลฺยาณธมฺมนฺติ สุนฺทรสีลาทิคุณํ.
๕๕๒. ตสฺสาติ ตสฺส กปฺปิตกมหาเถรสฺส. เอกยุคนฺติ เอกํ วตฺถยุคํ. ทุเว วาติ ทฺเว วา วตฺถยุคานิ. มมุทฺทิสิตฺวานาติ มมํ อุทฺทิสิตฺวา. ปฏิคฺคหีตานิจ ¶ ตานิ อสฺสูติ ตานิ วตฺถยุคานิ เตน ปฏิคฺคหิตานิ จ อสฺสุ ¶ ภเวยฺยุํ. สนฺนทฺธทุสฺสนฺติ ทุสฺเสน กตสนฺนาหํ, ลทฺธวตฺถํ นิวตฺถปารุตทุสฺสนฺติ อตฺโถ.
ตโต ราชา –
‘‘กสฺมึ ปเทเส สมณํ วสนฺตํ, คนฺตฺวาน ปสฺเสมุ มยํ อิทานิ;
โย มชฺช กงฺขํ วิจิกิจฺฉิตฺจ, ทิฏฺีวิสูกานิ วิโนทเยยฺยา’’ติ. –
เถรสฺส วสนฏฺานํ ปุจฺฉิ. ตตฺถ กสฺมึ ปเทเสติ กตรสฺมึ ปเทเส. โย มชฺชาติ โย อชฺช, ม-กาโร ปทสนฺธิกโร.
ตโต เปโต –
‘‘เอโส นิสินฺโน กปินจฺจนายํ, ปริวาริโต เทวตาหิ พหูหิ;
ธมฺมึ กถํ ภาสติ สจฺจนาโม, สกสฺมิมาเจรเก อปฺปมตฺโต’’ติ. –
คาถมาห. ตตฺถ กปินจฺจนายนฺติ กปีนํ วานรานํ นจฺจเนน ‘‘กปินจฺจนา’’ติ ลทฺธโวหาเร ปเทเส. สจฺจนาโมติ ฌายี สุสีโล อรหา วิมุตฺโตติอาทีหิ คุณนาเมหิ ยาถาวนาโม อวิปรีตนาโม ¶ .
เอวํ เปเตน วุตฺเต ราชา ตาวเทว เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตุกาโม –
‘‘ตถาหํ กสฺสามิ คนฺตฺวา อิทานิ, อจฺฉาทยิสฺสํ สมณํ ยุเคน;
ปฏิคฺคหีตานิ จ ตานิ อสฺสุ, ตุวฺจ ปสฺเสมุ สนฺนทฺธทุสฺส’’นฺติ. –
คาถมาห. ตตฺถ ¶ กสฺสามีติ กริสฺสามิ.
อถ เปโต ‘‘เทวตานํ เถโร ธมฺมํ เทเสติ, ตสฺมา นายํ อุปสงฺกมนกาโล’’ติ ทสฺเสนฺโต –
‘‘มา ¶ อกฺขเณ ปพฺพชิตํ อุปาคมิ, สาธุ โว ลิจฺฉวิ เนส ธมฺโม;
ตโต จ กาเล อุปสงฺกมิตฺวา, ตตฺเถว ปสฺสาหิ รโห นิสินฺน’’นฺติ. –
คาถมาห. ตตฺถ สาธูติ อายาจเน นิปาโต. โว ลิจฺฉวิ เนส ธมฺโมติ, ลิจฺฉวิราช, ตุมฺหากํ ราชูนํ เอส ธมฺโม น โหติ, ยํ อกาเล อุปสงฺกมนํ. ตตฺเถวาติ ตสฺมึเยว าเน.
เอวํ เปเตน วุตฺเต ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อตฺตโน นิเวสนเมว คนฺตฺวา ปุน ยุตฺตปตฺตกาเล อฏฺ วตฺถุยุคานิ คาหาเปตฺวา เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘อิมานิ, ภนฺเต, อฏฺ วตฺถยุคานิ ปฏิคฺคณฺหา’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา เถโร กถาสมุฏฺาปนตฺถํ ‘‘มหาราช, ปุพฺเพ ตฺวํ อทานสีโล สมณพฺราหฺมณานํ วิเหนชาติโกว กถํ ปณีตานิ วตฺถานิ ทาตุกาโม ชาโต’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา ราชา ตสฺส การณํ อาจิกฺขนฺโต เปเตน สมาคมํ, เตน จ อตฺตนา จ กถิตํ สพฺพํ เถรสฺส อาโรเจตฺวา วตฺถานิ ทตฺวา เปตสฺส อุทฺทิสิ. เตน เปโต ทิพฺพวตฺถธโร อลงฺกตปฏิยตฺโต อสฺสารุฬฺโห เถรสฺส จ รฺโ จ ปุรโต ปาตุภวิ. ตํ ทิสฺวา ราชา อตฺตมโน ปมุทิโต ปีติโสมนสฺสชาโต ‘‘ปจฺจกฺขโต วต มยา กมฺมผลํ ทิฏฺํ, น ทานาหํ ปาปํ กริสฺสามิ, ปฺุเมว กริสฺสามี’’ติ วตฺวา เตน เปเตน สกฺขึ อกาสิ. โส จ เปโต ‘‘สเจ, ตฺวํ ลิจฺฉวิราช, อิโต ปฏฺาย อธมฺมํ ปหาย ธมฺมํ จรสิ, เอวาหํ ตว สกฺขึ กริสฺสามิ, สนฺติกฺจ เต อาคมิสฺสามิ, สูลาวุตฺจ ปุริสํ สีฆํ สูลโต โมเจหิ, เอวํ โส ชีวิตํ ลภิตฺวา ธมฺมํ จรนฺโต ทุกฺขโต มุจฺจิสฺสติ, เถรฺจ กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุณนฺโต ¶ ปฺุานิ ¶ กโรหี’’ติ วตฺวา คโต.
อถ ราชา เถรํ วนฺทิตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา สีฆํ สีฆํ ลิจฺฉวิปริสํ สนฺนิปาเตตฺวา เต อนุชานาเปตฺวา ตํ ปุริสํ สูลโต โมเจตฺวา ‘‘อิมํ อโรคํ กโรถา’’ติ ติกิจฺฉเก อาณาเปสิ. เถรฺจ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘สิยา นุ โข, ภนฺเต, นิรยคามิกมฺมํ กตฺวา ิตสฺส นิรยโต มุตฺตี’’ติ. สิยา, มหาราช, สเจ อุฬารํ ปฺุํ กโรติ, มุจฺจตีติ ¶ วตฺวา เถโร ราชานํ สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺาเปสิ. โส ตตฺถ ปติฏฺิโต เถรสฺส โอวาเท ตฺวา โสตาปนฺโน อโหสิ, สูลาวุโต ปน ปุริโส อโรโค หุตฺวา สํเวคชาโต ภิกฺขูสุ ปพฺพชิตฺวา นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิ. ตมตฺถํ ทสฺเสนฺตา สงฺคีติการา –
‘‘ตถาติ วตฺวา อคมาสิ ตตฺถ, ปริวาริโต ทาสคเณน ลิจฺฉวิ;
โส ตํ นครํ อุปสงฺกมิตฺวา, วาสูปคจฺฉิตฺถ สเก นิเวสเน.
‘‘ตโต จ กาเล คิหิกิจฺจานิ กตฺวา,
นฺหตฺวา ปิวิตฺวา จ ขณํ ลภิตฺวา;
วิเจยฺย เปฬาโต จ ยุคานิ อฏฺ,
คาหาปยี ทาสคเณน ลิจฺฉวิ.
‘‘โส ตํ ปเทสํ อุปสงฺกมิตฺวา, ตํ อทฺทส สมณํ สนฺตจิตฺตํ;
ปฏิกฺกนฺตํ โคจรโต นิวตฺตํ, สีติภูตํ รุกฺขมูเล นิสินฺนํ.
‘‘ตเมนมโวจ อุปสงฺกมิตฺวา, อปฺปาพาธํ ผาสุวิหารฺจ ปุจฺฉิ;
เวสาลิยํ ลิจฺฉวิหํ ภทนฺเต, ชานนฺติ มํ ลิจฺฉวิ อมฺพสกฺกโร.
‘‘อิมานิ ¶ เม อฏฺ ยุคา สุภานิ, ปฏิคฺคณฺห ภนฺเต ปททามิ ตุยฺหํ;
เตเนว อตฺเถน อิธาคโตสฺมิ, ยถา อหํ อตฺตมโน ภเวยฺยนฺติ.
‘‘ทูรโตว สมณา พฺราหฺมณา จ, นิเวสนํ เต ปริวชฺชยนฺติ;
ปตฺตานิ ภิชฺชนฺติ จ เต นิเวสเน, สงฺฆาฏิโย จาปิ วิทาลยนฺติ.
‘‘อถาปเร ¶ ¶ ปาทกุาริกาหิ, อวํสิรา สมณา ปาตยนฺติ;
เอตาทิสํ ปพฺพชิตา วิเหสํ, ตยา กตํ สมณา ปาปุณนฺติ.
‘‘ติเณน เตลมฺปิ น ตฺวํ อทาสิ, มูฬฺหสฺส มคฺคมฺปิ น ปาวทาสิ;
อนฺธสฺส ทณฺฑํ สยมาทิยาสิ, เอตาทิโส กทริโย อสํวุโต ตุวํ;
อถ ตฺวํ เกน วณฺเณน กิเมว ทิสฺวา, อมฺเหหิ สห สํวิภาคํ กโรสีติ.
‘‘ปจฺเจมิ ภนฺเต ยํ ตฺวํ วเทสิ, วิเหสยึ สมเณ พฺราหฺมเณ จ;
ขิฑฺฑตฺถิโก โน จ ปทุฏฺจิตฺโต, เอตมฺปิ เม ทุกฺกฏเมว ภนฺเต.
ขิฑฺฑาย ยกฺโข ปสวิตฺวา ปาปํ, เวเทติ ทุกฺขํ อสมตฺตโภคี;
ทหโร ¶ ยุวา นคฺคนิยสฺส ภาคี, กึ สุ ตโต ทุกฺขตรสฺส โหติ.
‘‘ตํ ทิสฺวา สํเวคมลตฺถํ ภนฺเต, ตปฺปจฺจยา วาปิ ททามิ ทานํ;
ปฏิคฺคณฺห ภนฺเต วตฺถยุคานิ อฏฺ, ยกฺขสฺสิมา คจฺฉนฺตุ ทกฺขิณาโยติ.
‘‘อทฺธา หิ ทานํ พหุธา ปสตฺถํ, ททโต จ เต อกฺขยธมฺมมตฺถุ;
ปฏิคณฺหามิ เต วตฺถยุคานิ อฏฺ, ยกฺขสฺสิมา คจฺฉนฺตุ ทกฺขิณาโยติ.
‘‘ตโต ¶ หิ โส อาจมยิตฺวา ลิจฺฉวิ, เถรสฺส ทตฺวาน ยุคานิ อฏฺ;
ปฏิคฺคหีตานิ จ ตานิ อสฺสุ, ยกฺขฺจ ปสฺเสถ สนฺนทฺธทุสฺสํ.
‘‘ตมทฺทสา จนฺทนสารลิตฺตํ, อาชฺมารูฬฺหมุฬารวณฺณํ;
อลงฺกตํ สาธุนิวตฺถทุสฺสํ, ปริวาริตํ ยกฺขมหิทฺธิปตฺตํ.
‘‘โส ตํ ทิสฺวา อตฺตมโน อุทคฺโค, ปหฏฺจิตฺโต จ สุภคฺครูโป;
กมฺมฺจ ทิสฺวาน มหาวิปากํ, สนฺทิฏฺิกํ จกฺขุนา สจฺฉิกตฺวา.
‘‘ตเมนมโวจ ¶ อุปสงฺกมิตฺวา, ทสฺสามิ ทานํ สมณพฺราหฺมณานํ;
น จาปิ เม กิฺจิ อเทยฺยมตฺถิ, ตุวฺจ เม ยกฺข พหูปกาโรติ.
‘‘ตุวฺจ เม ลิจฺฉวิ เอกเทสํ, อทาสิ ทานานิ อโมฆเมตํ;
สฺวาหํ ¶ กริสฺสามิ ตยาว สกฺขึ, อมานุโส มานุสเกน สทฺธินฺติ.
‘‘คตี จ พนฺธู จ ปรายณฺจ, มิตฺโต มมาสิ อถ เทวตา เม;
ยาจามิ ตํ ปฺชลิโก ภวิตฺวา, อิจฺฉามิ ตํ ยกฺข ปุนปิ ทฏฺุนฺติ.
‘‘สเจ ตุวํ อสฺสทฺโธ ภวิสฺสสิ, กทริยรูโป วิปฺปฏิปนฺนจิตฺโต;
ตฺวํ เนว มํ ลจฺฉสิ ทสฺสนาย, ทิสฺวา จ ตํ โนปิ จ อาลปิสฺสํ.
‘‘สเจ ¶ ปน ตฺวํ ภวิสฺสสิ ธมฺมคารโว, ทาเน รโต สงฺคหิตตฺตภาโว;
โอปานภูโต สมณพฺราหฺมณานํ, เอวํ มมํ ลจฺฉสิ ทสฺสนาย.
‘‘ทิสฺวา จ ตํ อาลปิสฺสํ ภทนฺเต, อิมฺจ สูลโต ลหุํ ปมฺุจ;
ยโตนิทานํ อกริมฺห สกฺขึ, มฺามิ สูลาวุตกสฺส การณา.
‘‘เต อฺมฺํ อกริมฺห สกฺขึ, อยฺจ สูลโต ลหุํ ปมุตฺโต;
สกฺกจฺจ ธมฺมานิ สมาจรนฺโต, มุจฺเจยฺย โส นิรยา จ ตมฺหา;
กมฺมํ สิยา อฺตฺร เวทนียํ.
‘‘กปฺปิตกฺจ ¶ อุปสงฺกมิตฺวา, เตเนว สห สํวิภชิตฺวา กาเล;
สยํ มุเขนูปนิสชฺช ปุจฺฉ, โส เต อกฺขิสฺสติ เอตมตฺถํ.
‘‘ตเมว ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา, ปุจฺฉสฺสุ อฺตฺถิโก โน จ ปทุฏฺจิตฺโต;
โส เต สุตํ อสุตฺจาปิ ธมฺมํ, สพฺพมฺปิ อกฺขิสฺสติ ยถา ปชานนฺติ.
‘‘โส ¶ ตตฺถ รหสฺสํ สมุลฺลปิตฺวา, สกฺขึ กริตฺวาน อมานุเสน;
ปกฺกามิ โส ลิจฺฉวินํ สกาสํ, อถ พฺรวิ ปริสํ สนฺนิสินฺนํ.
‘‘‘สุณนฺตุ ¶ โภนฺโต มม เอกวากฺยํ, วรํ วริสฺสํ ลภิสฺสามิ อตฺถํ;
สูลาวุโต ปุริโส ลุทฺทกมฺโม, ปณิหิตทณฺโฑ อนุสตฺตรูโป.
‘‘‘เอตฺตาวตา วีสติรตฺติมตฺตา, ยโต อาวุโต เนว ชีวติ น มโต;
ตาหํ โมจยิสฺสามิ ทานิ, ยถามตึ อนุชานาตุ สงฺโฆ’ติ.
‘‘‘เอตฺจ อฺฺจ ลหุํ ปมฺุจ, โก ตํ วเทถ ตถา กโรนฺตํ;
ยถา ปชานาสิ ตถา กโรหิ, ยถามตึ อนุชานาติ สงฺโฆ’ติ.
‘‘โส ¶ ตํ ปเทสํ อุปสงฺกมิตฺวา, สูลาวุตํ โมจยิ ขิปฺปเมว;
มา ภายิ สมฺมาติ จ ตํ อโวจ, ติกิจฺฉกานฺจ อุปฏฺเปสิ.
‘‘กปฺปิตกฺจ อุปสงฺกมิตฺวา, เตเนว สห สํวิภชิตฺวา กาเล;
สยํ มุเขนูปนิสชฺช ลิจฺฉวิ, ตเถว ปุจฺฉิตฺถ นํ การณตฺถิโก.
‘‘สูลาวุโต ปุริโส ลุทฺทกมฺโม, ปณีตทณฺโฑ อนุสตฺตรูโป;
เอตฺตาวตา วีสติรตฺติมตฺตา, ยโต อาวุโต เนว ชีวติ น มโต.
‘‘โส โมจิโต คนฺตฺวา มยา อิทานิ, เอตสฺส ยกฺขสฺส วโจ หิ ภนฺเต;
สิยา นุ โข การณํ กิฺจิเทว, เยน โส นิรยํ โน วเชยฺย.
‘‘อาจิกฺข ¶ ภนฺเต ยทิ อตฺถิ เหตุ, สทฺธายิกํ เหตุวโจ สุโณม;
น เตสํ กมฺมานํ วินาสมตฺถิ, อเวทยิตฺวา อิธ พฺยนฺติภาโวติ.
‘‘สเจ ส ธมฺมานิ สมาจเรยฺย, สกฺกจฺจ รตฺตินฺทิวมปฺปมตฺโต;
มุจฺเจยฺย โส นิรยา จ ตมฺหา, กมฺมํ สิยา อฺตฺร เวทนียนฺติ.
‘‘อฺาโต ¶ เอโส ปุริสสฺส อตฺโถ, มมมฺปิ ทานิ อนุกมฺป ภนฺเต;
อนุสาส มํ โอวท ภูริปฺ, ยถา อหํ โน นิรยํ วเชยฺยนฺติ.
‘‘อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ อุเปหิ, ธมฺมฺจ ¶ สงฺฆฺจ ปสนฺนจิตฺโต;
ตเถว สิกฺขาย ปทานิ ปฺจ, อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยสฺสุ.
‘‘ปาณาติปาตา วิรมสฺสุ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยสฺสุ;
อมชฺชโป มา จ มุสา อภาณี, สเกน ทาเรน จ โหติ ตุฏฺโ;
อิมฺจ อริยํ อฏฺงฺควเรนุเปตํ, สมาทิยาหิ กุสลํ สุขุทฺรยํ.
‘‘จีวรํ ¶ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;
อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จ;
ททาหิ อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
‘‘ภิกฺขูปิ สีลสมฺปนฺเน, วีตราเค พหุสฺสุเต;
ตปฺเปหิ อนฺนปาเนน, สทา ปฺุํ ปวฑฺฒติ.
‘‘เอวฺจ ¶ ธมฺมานิ สมาจรนฺโต, สกฺกจฺจ รตฺตินฺทิวมปฺปมตฺโต;
มฺุจ ตุวํ นิรยา จ ตมฺหา, กมฺมํ สิยา อฺตฺร เวทนียนฺติ.
‘‘อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ อุเปมิ, ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ ปสนฺนจิตฺโต;
ตเถว สิกฺขาย ปทานิ ปฺจ, อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยามิ.
‘‘ปาณาติปาตา วิรมามิ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยามิ;
อมชฺชโป โน จ มุสา ภณามิ, สเกน ทาเรน จ โหมิ ตุฏฺโ;
อิมฺจ อริยํ อฏฺงฺควเรนุเปตํ, สมาทิยามิ กุสลํ สุขุทฺรยํ.
‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;
อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จ.
‘‘ภิกฺขู ¶ จ สีลสมฺปนฺเน, วีตราเค พหุสฺสุเต;
ททามิ น วิกมฺปามิ, พุทฺธานํ สาสเน รโตติ.
‘‘เอตาทิโส ลิจฺฉวิ อมฺพสกฺกโร, เวสาลิยํ อฺตโร อุปาสโก;
สทฺโธ มุทู การกโร จ ภิกฺขุ, สงฺฆฺจ สกฺกจฺจ ตทา อุปฏฺหิ.
‘‘สูลาวุโต จ อโรโค หุตฺวา, เสรี สุขี ปพฺพชฺชํ อุปาคมิ;
ภิกฺขฺุจ อาคมฺม กปฺปิตกุตฺตมํ, อุโภปิ สามฺผลานิ อชฺฌคุํ.
‘‘เอตาทิสา ¶ สปฺปุริสาน เสวนา, มหปฺผลา โหติ สตํ วิชานตํ;
สูลาวุโต อคฺคผลํ อผสฺสยิ, ผลํ กนิฏฺํ ปน อมฺพสกฺกโร’’ติ. –
คาถาโย อโวจุํ.
๕๕๗-๕๖๐. ตตฺถ วาสูปคจฺฉิตฺถาติ วาสํ อุปคจฺฉิ. คิหิกิจฺจานีติ เคหํ อาวสนฺเตน กาตพฺพกุฏุมฺพกิจฺจานิ. วิเจยฺยาติ สุนฺทรวตฺถคหณตฺถํ วิจินิตฺวา. ปฏิกฺกนฺตนฺติ ปิณฺฑปาตโต ปฏิกฺกนฺตํ. เตนาห ‘‘โคจรโต นิวตฺต’’นฺติ. อโวจาติ ‘‘เวสาลิยํ ลิจฺฉวิหํ, ภทนฺเต’’ติอาทิกํ อโวจ.
๕๖๒-๓. วิทาลยนฺตีติ วิผาลยนฺติ. ปาทกุาริกาหีติ ปาทสงฺขาตาหิ กุารีหิ. ปาตยนฺตีติ ปริปาตยนฺติ.
๕๖๔. ติเณนาติ ¶ ติณคฺเคนาปิ. มูฬฺหสฺส มคฺคมฺปิ น ปาวทาสีติ มคฺคมูฬฺหสฺส มคฺคมฺปิ ตฺวํ น กถยสิ ‘‘เอวายํ ปุริสา อิโต จิโต จ ปริพฺภมตู’’ติ. เกฬีสีโล หิ อยํ ราชา. สยมาทิยาสีติ อนฺธสฺส หตฺถโต ยฏฺึ สยเมว อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหสิ. สํวิภาคํ กโรสีติ อตฺตนา ปริภฺุชิตพฺพวตฺถุโต เอกจฺจานิ ทตฺวา สํวิภชสิ.
๕๖๕. ปจฺเจมิ, ภนฺเต, ยํ ตฺวํ วเทสีติ ‘‘ภนฺเต, ตฺวํ ปตฺตานิ ภิชฺชนฺตี’’ติอาทินา ยํ วเทสิ, ตํ ปฏิชานามิ, สพฺพเมเวตํ มยา กตํ การาปิตฺจาติ ทสฺเสติ. เอตมฺปีติ เอตํ ขิฑฺฑาธิปฺปาเยน ¶ กตมฺปิ.
๕๖๖-๗. ขิฑฺฑาติ ขิฑฺฑาย. ปสวิตฺวาติ อุปจินิตฺวา. เวเทตีติ อนุภวติ. อสมตฺตโภคีติ อปริปุณฺณโภโค. ตเมว อปริปุณฺณโภคตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทหโร ยุวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นคฺคนิยสฺสาติ นคฺคภาวสฺส. กึ สุ ตโต ทุกฺขตรสฺส โหตีติ กึ สุ นาม ตโต นคฺคภาวโต ทุกฺขตรํ อสฺส เปตสฺส โหติ. ยกฺขสฺสิมา คจฺฉนฺตุ ทกฺขิณาโยติ อิมา มยา ทิยฺยมานวตฺถทกฺขิณาโย เปตสฺส อุปกปฺปนฺตุ.
๕๖๘-๗๒. พหุธา ¶ ปสตฺถนฺติ พหูหิ ปกาเรหิ พุทฺธาทีหิ วณฺณิตํ. อกฺขยธมฺมมตฺถูติ อปริกฺขยธมฺมํ โหตุ. อาจมยิตฺวาติ หตฺถปาทโธวนปุพฺพกํ มุขํ วิกฺขาเลตฺวา. จนฺทนสารลิตฺตนฺติ สารภูตจนฺทนลิตฺตํ. อุฬารวณฺณนฺติ เสฏฺรูปํ. ปริวาริตนฺติ อนุกุลวุตฺตินา ปริชเนน ปริวาริตํ. ยกฺขมหิทฺธิปตฺตนฺติ มหตึ ยกฺขิทฺธึ, เทวิทฺธึ ปตฺวา ิตํ. ตเมนมโวจาติ ตเมนํ อโวจ.
๕๗๓. เอกเทสํ อทาสีติ จตูสุ ปจฺจเยสุ เอกเทสภูตํ วตฺถทานํ สนฺธาย วทติ. สกฺขินฺติ สกฺขิภาวํ.
๕๗๔. มมาสีติ ¶ เม อาสิ. เทวตา เมติ มยฺหํ เทวตา อาสีติ โยชนา.
๕๗๕-๗. วิปฺปฏิปนฺนจิตฺโตติ มิจฺฉาทิฏฺึ ปฏิปนฺนมานโส, ธมฺมิยํ ปฏิปทํ ปหาย อธมฺมิยํ ปฏิปทํ ปฏิปนฺโนติ อตฺโถ. ยโตนิทานนฺติ ยนฺนิมิตฺตํ ยสฺส สนฺติกํ อาคมนเหตุ.
๕๗๙. สํวิภชิตฺวาติ ทานสํวิภาคํ กตฺวา. สยํ มุเขนูปนิสชฺช ปุจฺฉาติ อฺเ ปุริเส อเปเสตฺวา อุปินิสีทิตฺวา สมฺมุเขเนว ปุจฺฉ.
๕๘๑-๓. สนฺนิสินฺนนฺติ สนฺนิปติตวเสน นิสินฺนํ. ลภิสฺสามิ อตฺถนฺติ มยา อิจฺฉิตมฺปิ อตฺถํ ลภิสฺสามิ. ปณิหิตทณฺโฑติ ปิตสรีรทณฺโฑ. อนุสตฺตรูโปติ ราชินิ อนุสตฺตสภาโว. วีสติรตฺติมตฺตาติ วีสติมตฺตา รตฺติโย อติวตฺตาติ อตฺโถ. ตาหนฺติ ตํ อหํ. ยถามตินฺติ มยฺหํ ยถารุจิ.
๕๘๔. เอตฺจ ¶ อฺฺจาติ เอตํ สูเล อาวุตํ ปุริสํ อฺฺจ ยสฺส ราชาณา ปณิหิตา, ตฺจ. ลหุํ ปมฺุจาติ สีฆํ โมเจหิ. โก ตํ วเทถ ตถา กโรนฺตนฺติ ตถา ธมฺมิยกมฺมํ กโรนฺตํ ตํ อิมสฺมึ วชฺชิรฏฺเ โก นาม ‘‘น ปโมเจหี’’ติ วเทยฺย, เอวํ วตฺตุํ โกจิปิ น ลภตีติ อตฺโถ.
๕๘๕. ติกิจฺฉกานฺจาติ ¶ ติกิจฺฉเก จ.
๕๘๘. ยกฺขสฺส วโจติ เปตสฺส วจนํ, ตสฺส, ภนฺเต, เปตสฺส วจเนน เอวมกาสินฺติ ทสฺเสติ.
๕๙๐. ธมฺมานีติ ปุพฺเพ กตํ ปาปกมฺมํ อภิภวิตุํ สมตฺเถ ปฺุธมฺเม. กมฺมํ สิยา อฺตฺร เวทนียนฺติ ยํ ตสฺมึ ปาปกมฺเม อุปปชฺชเวทนียํ, ตํ อโหสิกมฺมํ นาม โหติ. ยํ ปน อปรปริยายเวทนียํ, ตํ อฺตฺร อปรปริยาเย เวทยิตพฺพผลํ โหติ สติ สํสารปฺปวตฺติยนฺติ อตฺโถ.
๕๙๓. อิมฺจาติ ¶ อตฺตนา วุจฺจมานํ ตาย อาสนฺนํ ปจฺจกฺขํ วาติ กตฺวา วุตฺตํ. อริยํ อฏฺงฺควเรนุเปตนฺติ ปริสุทฺธฏฺเน อริยํ, ปาณาติปาตาเวรมณิอาทีหิ อฏฺหิ องฺเคหิ อุเปตํ ยุตฺตํ อุตฺตมํ อุโปสถสีลํ. กุสลนฺติ อนวชฺชํ. สุขุทฺรยนฺติ สุขวิปากํ.
๕๙๕. สทา ปฺุํ ปวฑฺฒตีติ สกิเทว ปฺุํ กตฺวา ‘‘อลเมตฺตาวตา’’ติ อปริตุฏฺโ หุตฺวา อปราปรํ สุจริตํ ปูเรนฺตสฺส สพฺพกาลํ ปฺุํ อภิวฑฺฒติ, อปราปรํ วา สุจริตํ ปูเรนฺตสฺส ปฺุสงฺขาตํ ปฺุผลํ อุปรูปริ วฑฺฒติ ปริปูเรตีติ อตฺโถ.
๕๙๗. เอวํ เถเรน วุตฺเต ราชา อปายทุกฺขโต อุตฺรสฺตจิตฺโต รตนตฺตเย ปฺุธมฺเม จ อภิวฑฺฒมานปสาโท ตโต ปฏฺาย สรณานิ สีลานิ จ สมาทิยนฺโต ‘‘อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ อุเปมี’’ติอาทิมาห.
๖๐๑. ตตฺถ เอตาทิโสติ เอทิโส ยถาวุตฺตรูโป. เวสาลิยํ อฺตโร อุปาสโกติ เวสาลิยํ อเนกสหสฺเสสุ อุปาสเกสุ อฺตโร อุปาสโก หุตฺวา. สทฺโธติอาทิ กลฺยาณมิตฺตสนฺนิสฺสเยน ¶ ตสฺส ปุริมภาวโต อฺาทิสตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ปุพฺเพ หิ โส อสฺสทฺโธ กกฺขโฬ ภิกฺขูนํ อกฺโกสการโก สงฺฆสฺส จ อนุปฏฺาโก อโหสิ. อิทานิ ปน สทฺโธ มุทุโก หุตฺวา ภิกฺขุสงฺฆฺจ สกฺกจฺจํ ตทา อุปฏฺหีติ. ตตฺต การกโรติ อุปการการี.
๖๐๒. อุโภปีติ ¶ ทฺเวปิ สูลาวุโต ราชา จ. สามฺผลานิ อชฺฌคุนฺติ ยถารหํ สามฺผลานิ อธิคจฺฉึสุ. ตยิทํ ยถารหํ ทสฺเสตุํ ‘‘สูลาวุโต อคฺคผลํ อผสฺสยิ, ผลํ กนิฏฺํ ปน อมฺพสกฺกโร’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ผลํ กนิฏฺนฺติ โสตาปตฺติผลํ สนฺธายาห. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต อวิภตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมว.
เอวํ รฺา เปเตน อตฺตนา จ วุตฺตมตฺถํ อายสฺมา กปฺปิตโก สตฺถารํ วนฺทิตุํ สาวตฺถึ คโต ภควโต อาโรเจสิ ¶ . สตฺถา ตมตฺถํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสสิ. สา เทสนา มหาชนสฺส สาตฺถิกา อโหสีติ.
อมฺพสกฺกรเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. เสรีสกเปตวตฺถุวณฺณนา
๖๐๔-๕๗. สุโณถ ยกฺขสฺส วาณิชานฺจาติ อิทํ เสรีสกเปตวตฺถุ. ตํ ยสฺมา เสรีสกวิมานวตฺถุนา นิพฺพิเสสํ, ตสฺมา ตตฺถ อฏฺุปฺปตฺติยํ คาถาสุ จ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรมตฺถทีปนิยํ วิมานวตฺถุวณฺณนายํ (วิ. ว. อฏฺ. ๑๒๒๗ เสรีสกวิมานวณฺณนา) วุตฺตเมว, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพนฺติ.
เสรีสกเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. นนฺทกเปตวตฺถุวณฺณนา
ราชา ปิงฺคลโก นามาติ อิทํ นนฺทกเปตวตฺถุ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? สตฺถุ ปรินิพฺพานโต วสฺสสตทฺวยสฺส อจฺจเยน สุรฏฺวิสเย ปิงฺคโล นาม ราชา อโหสิ. ตสฺส เสนาปติ นนฺทโก นาม มิจฺฉาทิฏฺี วิปรีตทสฺสโน ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินา มิจฺฉาคาหํ ปคฺคยฺห วิจริ. ตสฺส ธีตา อุตฺตรา นาม อุปาสิกา ปติรูเป กุเล ทินฺนา อโหสิ. นนฺทโก ปน กาลํ กตฺวา วิฺฌาฏวิยํ มหติ นิคฺโรธรุกฺเข เวมานิกเปโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺมึ กาลกเต อุตฺตรา สุจิสีตลคนฺโธทกปูริตํ ¶ ปานียฆฏํ กุมฺมาสาภิสงฺขเตหิ ¶ วณฺณคนฺธรสสมฺปนฺเนหิ ปูเวหิ ปริปุณฺณสราวกฺจ อฺตรสฺส ขีณาสวตฺเถรสฺส ทตฺวา ‘‘อยํ ทกฺขิณา มยฺหํ ปิตุ อุปกปฺปตู’’ติ อุทฺทิสิ, ตสฺส เตน ทาเนน ทิพฺพปานียํ อปริมิตา จ ปูวา ปาตุภวึสุ. ตํ ทิสฺวา โส เอวํ จินฺเตสิ – ‘‘ปาปกํ วต มยา กตํ, ยํ มหาชโน ‘นตฺถิ ทินฺน’นฺติอาทินา มิจฺฉาคาหํ คาหิโต. อิทานิ ปน ปิงฺคโล ราชา ธมฺมาโสกสฺส รฺโ โอวาทํ ทาตุํ คโต, โส ตํ ตสฺส ทตฺวา อาคมิสฺสติ, หนฺทาหํ นตฺถิกทิฏฺึ วิโนเทสฺสามี’’ติ. น จิเรเนว จ ปิงฺคโล ราชา ธมฺมาโสกสฺส รฺโ โอวาทํ ทตฺวา ปฏินิวตฺตนฺโต ¶ มคฺคํ ปฏิปชฺชิ.
อถ โส เปโต อตฺตโน วสนฏฺานาภิมุขํ ตํ มคฺคํ นิมฺมินิ. ราชา ิตมชฺฌนฺหิเก สมเย เตน มคฺเคน คจฺฉติ. ตสฺส คฉนฺตสฺส ปุรโต มคฺโค ทิสฺสติ, ปิฏฺิโต ปนสฺส อนฺตรธายติ. สพฺพปจฺฉโต คจฺฉนฺโต ปุริโส มคฺคํ อนฺตรหิตํ ทิสฺวา ภีโต วิสฺสรํ วิรวนฺโต ธาวิตฺวา รฺโ อาโรเจสิ, ตํ สุตฺวา ราชา ภีโต สํวิคฺคมานโส หตฺถิกฺขนฺเธ ตฺวา จตสฺโส ทิสา โอโลเกนฺโต เปตสฺส วสนนิคฺโรธรุกฺขํ ทิสฺวา ตทภิมุโข อคมาสิ สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย. อถานุกฺกเมน รฺเ ตํ านํ ปตฺเต เปโต สพฺพาภรณวิภูสิโต ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ปูเว จ ปานียฺจ ทาเปสิ. ราชา สปริชโน นฺหตฺวา ปูเว ขาทิตฺวา ปานียํ ปิวิตฺวา ปฏิปฺปสฺสทฺธมคฺคกิลมโถ ‘‘เทวตา นุสิ คนฺธพฺโพ’’ติอาทินา เปตํ ปุจฺฉิ. เปโต อาทิโต ปฏฺาย อตฺตโน ปวตฺตึ อาจิกฺขิตฺวา ราชานํ มิจฺฉาทสฺสนโต วิโมเจตฺวา สรเณสุ สีเลสุ จ ปติฏฺาเปสิ. ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ สงฺคีติการา –
‘‘ราชา ปิงฺคลโก นาม, สุรฏฺานํ อธิปติ อหุ;
โมริยานํ อุปฏฺานํ คนฺตฺวา, สุรฏฺํ ปุนราคมา.
‘‘อุณฺเห มชฺฌนฺหิเก กาเล, ราชา ปงฺกํ อุปาคมิ;
อทฺทส มคฺคํ รมณียํ, เปตานํ ตํ วณฺณุปถํ.
๖๖๐. สารถึ ¶ อามนฺตยี ราชา –
‘‘‘อยํ มคฺโค รมณีโย, เขโม โสวตฺถิโก สิโว;
อิมินา สารถิ ยาม, สุรฏฺานํ สนฺติเก อิโต’.
‘‘เตน ¶ ปายาสิ โสรฏฺโ, เสนาย จตุรงฺคินิยา;
อุพฺพิคฺครูโป ปุริโส, โสรฏฺํ เอตทพฺรวิ.
‘‘‘กุมฺมคฺคํ ¶ ปฏิปนฺนมฺหา, ภึสนํ โลมหํสนํ;
ปุรโต ทิสฺสติ มคฺโค, ปจฺฉโต จ น ทิสฺสติ.
‘‘‘กุมฺมคฺคํ ปฏิปนฺนมฺหา, ยมปุริสาน สนฺติเก;
อมานุโส วายติ คนฺโธ, โฆโส สุยฺยติ ทารุโณ’.
‘‘สํวิคฺโค ราชา โสรฏฺโ, สารถึ เอตทพฺรวิ;
‘กุมฺมคฺคํ ปฏิปนฺนมฺหา, ภึสนํ โลมหํสนํ;
ปุรโต ทิสฺสติ มคฺโค, ปจฺฉโต จ น ทิสฺสติ.
‘‘‘กุมฺมคฺคํ ปฏิปนฺนมฺหา, ยมปุริสาน สนฺติเก;
อมานุโส วายติ คนฺโธ, โฆโส สุยฺยติ ทารุโณ’.
‘‘หตฺถิกฺขนฺธํ สมารุยฺห, โอโลเกนฺโต จตุทฺทิสา;
อทฺทส นิคฺโรธํ รมณียํ, ปาทปํ ฉายาสมฺปนฺนํ;
นีลพฺภวณฺณสทิสํ, เมฆวณฺณสิรีนิภํ.
‘‘สารถึ อามนฺตยี ราชา, ‘กึ เอโส ทิสฺสติ พฺรหา;
นีลพฺภวณฺณสทิโส, เมฆวณฺณสิรีนิโภ’.
‘‘นิคฺโรโธ โส มหาราช, ปาทโป ฉายาสมฺปนฺโน;
นีลพฺภวณฺณสทิโส, เมฆวณฺณสิรีนิโภ.
‘‘เตน ปายาสิ โสรฏฺโ, เยน โส ทิสฺสเต พฺรหา;
นีลพฺภวณฺณสทิโส, เมฆวณฺณสิรีนิโภ.
‘‘หตฺถิกฺขนฺธโต ¶ ¶ โอรุยฺห, ราชา รุกฺขํ อุปาคมิ;
นิสีทิ รุกฺขมูลสฺมึ, สามจฺโจ สปริชฺชโน;
ปูรํ ปานียสรกํ, ปูเว วิตฺเต จ อทฺทส.
‘‘ปุริโส จ เทววณฺณี, สพฺพาภรณภูสิโต;
อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ, โสรฏฺํ เอตทพฺรวิ.
‘‘‘สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ;
ปิวตุ เทโว ปานียํ, ปูเว ขาท อรินฺทม’.
‘‘ปิวิตฺวา ราชา ปานียํ, สามจฺโจ สปริชฺชโน;
ปูเว ขาทิตฺวา ปิตฺวา จ, โสรฏฺโ เอตทพฺรวิ.
‘‘เทวตา ¶ นุสิ คนฺธพฺโพ, อทุ สกฺโก ปุรินฺทโท;
อชานนฺตา ตํ ปุจฺฉาม, กถํ ชาเนมุ ตํ มยนฺติ.
‘‘นามฺหิ เทโว น คนฺธพฺโพ, นาปิ สกฺโก ปุรินฺทโท;
เปโต อหํ มหาราช, สุรฏฺา อิธ มาคโตติ.
‘‘กึสีโล กึสมาจาโร, สุรฏฺสฺมึ ปุเร ตุวํ;
เกน เต พฺรหฺมจริเยน, อานุภาโว อยํ ตวาติ.
‘‘ตํ สุโณหิ มหาราช, อรินฺทม รฏฺวฑฺฒน;
อมจฺจา ปาริสชฺชา จ, พฺราหฺมโณ จ ปุโรหิโต.
‘‘สุรฏฺสฺมึ อหํ เทว, ปุริโส ปาปเจตโส;
มิจฺฉาทิฏฺิ จ ทุสฺสีโล, กทริโย ปริภาสโก.
‘‘ททนฺตานํ ¶ กโรนฺตานํ, วารยิสฺสํ พหุชฺชนํ;
อฺเสํ ททมานานํ, อนฺตรายกโร อหํ.
‘‘วิปาโก นตฺถิ ทานสฺส, สํยมสฺส กุโต ผลํ;
นตฺถิ อาจริโย นาม, อทนฺตํ โก ทเมสฺสติ.
‘‘สมตุลฺยานิ ¶ ภูตานิ, กุโต เชฏฺาปจายิโก;
นตฺถิ พลํ วีริยํ วา, กุโต อุฏฺานโปริสํ.
‘‘นตฺถิ ทานผลํ นาม, น วิโสเธติ เวรินํ;
ลทฺเธยฺยํ ลภเต มจฺโจ, นิยติปริณามชํ.
‘‘นตฺถิ มาตา ปิตา ภาตา, โลโก นตฺถิ อิโต ปรํ;
นตฺถิ ทินฺนํ นตฺถิ หุตํ, สุนิหิตํ น วิชฺชติ.
‘‘โยปิ หเนยฺย ปุริสํ, ปรสฺส ฉินฺทเต สิรํ;
น โกจิ กฺจิ หนติ, สตฺตนฺนํ วิวรมนฺตเร.
‘‘อจฺเฉชฺชาเภชฺโช หิ ชีโว, อฏฺํโส คุฬปริมณฺฑโล;
โยชนานํ สตํ ปฺจ, โก ชีวํ เฉตฺตุมรหติ.
‘‘ยถา ¶ สุตฺตคุเฬ ขิตฺเต, นิพฺเพเนฺตํ ปลายติ;
เอวเมว จ โส ชีโว, นิพฺเพเนฺโต ปลายติ.
‘‘ยถา คามโต นิกฺขมฺม, อฺํ คามํ ปวิสติ;
เอวเมว จ โส ชีโว, อฺํ โพนฺทึ ปวิสติ.
‘‘ยถา เคหโต นิกฺขมฺม, อฺํ เคหํ ปวิสติ;
เอวเมว จ โส ชีโว, อฺํ โพนฺทึ ปวิสติ.
‘‘จุลฺลาสีติ ¶ มหากปฺปิโน, สตสหสฺสานิ หิ;
เย พาลา เย จ ปณฺฑิตา, สํสารํ เขปยิตฺวาน;
ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสเร.
‘‘มิตานิ สุขทุกฺขานิ, โทเณหิ ปิฏเกหิ จ;
ชิโน สพฺพํ ปชานาติ, สมฺมูฬฺหา อิตรา ปชา.
‘‘เอวํทิฏฺิ ปุเร อาสึ, สมฺมูฬฺโห โมหปารุโต;
มิจฺฉาทิฏฺิ จ ทุสฺสีโล, กทริโย ปริภาสโก.
‘‘โอรํ ¶ เม ฉหิ มาเสหิ, กาลกิริยา ภวิสฺสติ;
เอกนฺตกฏุกํ โฆรํ, นิรยํ ปปติสฺสหํ.
‘‘จตุกฺกณฺณํ จตุทฺวารํ, วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ;
อโยปาการปริยนฺตํ, อยสา ปฏิกุชฺชิตํ.
‘‘ตสฺส อโยมยา ภูมิ, ชลิตา เตชสา ยุตา;
สมนฺตา โยชนสตํ, ผริตฺวา ติฏฺติ สพฺพทา.
‘‘วสฺสานิ สตสหสฺสานิ, โฆโส สุยฺยติ ตาวเท;
ลกฺโข เอโส มหาราช, สตภาควสฺสโกฏิโย.
‘‘โกฏิสตสหสฺสานิ, นิรเย ปจฺจเร ชนา;
มิจฺฉาทิฏฺี จ ทุสฺสีลา, เย จ อริยูปวาทิโน.
‘‘ตตฺถาหํ ทีฆมทฺธานํ, ทุกฺขํ เวทิสฺส เวทนํ;
ผลํ ปาปสฺส กมฺมสฺส, ตสฺมา โสจามหํ ภุสํ.
‘‘ตํ ¶ ¶ สุโณหิ มหาราช, อรินฺทม รฏฺวฑฺฒน;
ธีตา มยฺหํ มหาราช, อุตฺตรา ภทฺทมตฺถุ เต.
‘‘กโรติ ภทฺทกํ กมฺมํ, สีเลสุโปสเถ รตา;
สฺตา สํวิภาคี จ, วทฺู วีตมจฺฉรา.
‘‘อขณฺฑการี สิกฺขาย, สุณฺหา ปรกุเลสุ จ;
อุปาสิกา สกฺยมุนิโน, สมฺพุทฺธสฺส สิรีมโต.
‘‘ภิกฺขุ จ สีลสมฺปนฺโน, คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ;
โอกฺขิตฺตจกฺขุ สติมา, คุตฺตทฺวาโร สุสํวุโต.
‘‘สปทานํ จรมาโน, อคมา ตํ นิเวสนํ;
ตมทฺทส มหาราช, อุตฺตรา ภทฺทมตฺถุ เต.
‘‘ปูรํ ปานียสรกํ, ปูเว วิตฺเต จ สา อทา;
ปิตา เม กาลกโต ภนฺเต, ตสฺเสตํ อุปกปฺปตุ.
‘‘สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ ¶ , วิปาโก อุทปชฺชถ;
ภฺุชามิ กามกามีหํ, ราชา เวสฺสวโณ ยถา.
‘‘ตํ สุโณหิ มหาราช, อรินฺทม รฏฺวฑฺฒน;
สเทวกสฺส โลกสฺส, พุทฺโธ อคฺโค ปวุจฺจติ;
ตํ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉ, สปุตฺตทาโร อรินฺทม.
‘‘อฏฺงฺคิเกน มคฺเคน, ผุสนฺติ อมตํ ปทํ;
ตํ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉ, สปุตฺตทาโร อรินฺทม.
‘‘จตฺตาโร ¶ จ ปฏิปนฺนา, จตฺตาโร จ ผเล ิตา;
เอส สงฺโฆ อุชุภูโต, ปฺาสีลสมาหิโต;
ตํ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉ, สปุตฺตทาโร อรินฺทม.
‘‘ปาณาติปาตา วิรมสฺสุ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยสฺสุ;
อมชฺชโป ¶ มา จ มุสา อภาณิ, สเกน ทาเรน จ โหหิ ตุฏฺโติ.
‘‘อตฺถกาโมสิ เม ยกฺข, หิตกาโมสิ เทวเต;
กโรมิ ตุยฺหํ วจนํ, ตฺวํสิ อาจริโย มม.
‘‘อุเปมิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมฺจาปิ อนุตฺตรํ;
สงฺฆฺจ นรเทวสฺส, คจฺฉามิ สรณํ อหํ.
‘‘ปาณาติปาตา วิรมามิ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยามิ;
อมชฺชโป โน จ มุสา ภณามิ, สเกน ทาเรน จ โหมิ ตุฏฺโ.
‘‘โอผุณามิ มหาวาเต, นทิยา สีฆคามิยา;
วมามิ ปาปิกํ ทิฏฺึ, พุทฺธานํ สาสเน รโต.
‘‘อิทํ ¶ วตฺวาน โสรฏฺโ, วิรมิตฺวา ปาปทสฺสนา;
นโม ภควโต กตฺวา, ปาโมกฺโข รถมารุหี’’ติ. – คาถาโย อโวจุํ;
๖๕๘-๙. ตตฺถ ราชา ปิงฺคลโก นาม, สุรฏฺานํ อธิปติ อหูติ ปิงฺคลจกฺขุตาย ‘‘ปิงฺคโล’’ติ ปากฏนาโม สุรฏฺเทสสฺส อิสฺสโร ราชา อโหสิ. โมริยานนฺติ โมริยราชูนํ, ธมฺมาโสกํ สนฺธาย วทติ. สุรฏฺํ ปุนราคมาติ สุรฏฺสฺส วิสยํ อุทฺทิสฺส สุรฏฺคามิมคฺคํ ปจฺจาคฺฉิ. ปงฺกนฺติ มุทุภูมึ. วณฺณุปถนฺติ เปเตน นิมฺมิตํ มรูภูมิมคฺคํ.
๖๖๐. เขโมติ นิพฺภโย. โสวตฺถิโกติ โสตฺถิภาวาวโห. สิโวติ อนุปทฺทโว. สุรฏฺานํ สนฺติเก อิโตติ อิมินา มคฺเคน คจฺฉนฺตา มยํ สุรฏฺวิสยสฺส สมีเปเยว.
๖๖๑-๒. โสรฏฺโติ ¶ สุรฏฺาธิปติ. อุพฺพิคฺครูโปติ อุตฺรสฺตสภาโว. ภึสนนฺติ ภยชนนํ ¶ . โลมหํสนนฺติ ภึสนกภาเวน โลมานํ หํสาปนํ.
๖๖๓. ยมปุริสาน สนฺติเกติ เปตานํ สมีเป วตฺตาม. อมานุโส วายติ คนฺโธติ เปตานํ สรีรคนฺโธ วายติ. โฆโส สุยฺยติ ทารุโณติ ปจฺเจกนิรเยสุ การณํ การิยมานานํ สตฺตานํ โฆรตโร สทฺโท สุยฺยติ.
๖๖๖. ปาทปนฺติ ปาทสทิเสหิ มูลาวยเวหิ อุทกสฺส ปิวนโต ‘‘ปาทโป’’ติ ลทฺธนามํ ตรุํ. ฉายาสมฺปนฺนนฺติ สมฺปนฺนจฺฉายํ. นีลพฺภวณฺณสทิสนฺติ วณฺเณน นีลเมฆสทิสํ. เมฆวณฺณสิรีนิภนฺติ เมฆวณฺณสณฺานํ หุตฺวา ขายมานํ.
๖๗๐. ปูรํ ปานียสรกนฺติ ปานีเยน ปุณฺณํ ปานียภาชนํ. ปูเวติ ขชฺชเก. วิตฺเตติ วิตฺติชนเน มธุเร มนฺุเ ตหึ ตหึ สราเว ปูเรตฺวา ปิตปูเว อทฺทส.
๖๗๒. อโถ ¶ เต อทุราคตนฺติ เอตฺถ อโถติ นิปาตมตฺตํ, อวธารณตฺเถ วา, มหาราช, เต อาคตํ ทุราคตํ น โหติ, อถ โข สฺวาคตเมวาติ มยํ สมฺปฏิจฺฉามาติ อตฺโถ. อรินฺทมาติ อรีนํ ทมนสีล.
๖๗๗. อมจฺจา ปาริสชฺชาติ อมจฺจา ปาริสชฺชา จ วจนํ สุณนฺตุ, พฺราหฺมโณ จ ตุยฺหํ ปุโรหิโต ตํ สุณาตูติ โยชนา.
๖๗๘. สุรฏฺสฺมึ อหนฺติ สุรฏฺเทเส อหํ. เทวาติ ราชานํ อาลปติ. มิจฺฉาทิฏฺีติ นตฺถิกทิฏฺิยา วิปรีตทสฺสโน. ทุสฺสีโลติ นิสฺสีโล. กทริโยติ ถทฺธมจฺฉรี. ปริภาสโกติ สมณพฺราหฺมณานํ อกฺโกสโก.
๖๗๙. วารยิสฺสนฺติ วาเรสึ. อนฺตรายกโร อหนฺติ ทานํ ททนฺตานํ อุปการํ กโรนฺตานํ อนฺตรายกโร หุตฺวา อฺเสฺจ ปเรสํ ทานํ ททมานานํ ทานมยปฺุโต อหํ พหุชนํ วารยิสฺสํ วาเรสินฺติ โยชนา.
๖๘๐. วิปาโก ¶ นตฺถิ ทานสฺสาติอาทิ วาริตาการทสฺสนํ. ตตฺถ วิปาโก นตฺถิ ทานสฺสาติ ทานํ ททโต ตสฺส วิปาโก ¶ อายตึ ปตฺตพฺพผลํ นตฺถีติ วิปากํ ปฏิพาหติ. สํยมสฺส กุโต ผลนฺติ สีลสฺส ปน กุโต นาม ผลํ, สพฺเพน สพฺพํ ตํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. นตฺถิ อาจริโย นามาติ อาจารสมาจารสิกฺขาปโก อาจริโย นาม โกจิ นตฺถิ. สภาวโต เอว หิ สตฺตา ทนฺตา วา อทนฺตา วา โหนฺตีติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘อทนฺตํ โก ทเมสฺสตี’’ติ.
๖๘๑. สมตุลฺยานิ ภูตานีติ อิเม สตฺตา สพฺเพปิ อฺมฺํ สมสมา, ตสฺมา เชฏฺโ เอว นตฺถิ, กุโต เชฏฺาปจายิโก, เชฏฺาปจายนปฺุํ นาม นตฺถีติ อตฺโถ. นตฺถิ พลนฺติ ยมฺหิ อตฺตโน พเล ปติฏฺิตา สตฺตา วีริยํ กตฺวา มนุสฺสโสภคฺยตํ อาทึ กตฺวา ยาวอรหตฺตํ สมฺปตฺติโย ปาปุณนฺติ, ตํ วีริยพลํ ปฏิกฺขิปติ. วีริยํ วา นตฺถิ กุโต อุฏฺานโปริสนฺติ อิทํ โน ปุริสวีริเยน ปุริสกาเรน ปวตฺตนฺติ เอวํ ปวตฺตวาทปฏิกฺเขปวเสน วุตฺตํ.
๖๘๒. นตฺถิ ¶ ทานผลํ นามาติ ทานสฺส ผลํ นาม กิฺจิ นตฺถิ, เทยฺยธมฺมปริจฺจาโค ภสฺมนิหิตํ วิย นิปฺผโล เอวาติ อตฺโถ. น วิโสเธติ เวรินนฺติ เอตฺถ เวรินนฺติ เวรวนฺตํ เวรานํ วเสน ปาณาติปาตาทีนํ วเสน จ กตปาปํ ปุคฺคลํ ทานสีลาทิวตโต น วิโสเธติ, กทาจิปิ สุทฺธํ น กโรติ. ปุพฺเพ ‘‘วิปาโก นตฺถิ ทานสฺสา’’ติอาทิ ทานาทิโต อตฺตโน ปเรสํ นิวาริตาการทสฺสนํ, ‘‘นตฺถิ ทานผลํ นามา’’ติอาทิ ปน อตฺถโน มิจฺฉาภินิเวสทสฺสนนฺติ ทฏฺพฺพํ. ลทฺเธยฺยนฺติ ลทฺธพฺพํ. กถํ ปน ลทฺธพฺพนฺติ อาห ‘‘นิยติปริณามช’’นฺติ. อยํ สตฺโต สุขํ วา ทุกฺขํ วา ลภนฺโต นิยติวิปริณามวเสเนว ลภติ, น กมฺมสฺส กตตฺตา, น อิสฺสราทินา จาติ อธิปฺปาโย.
๖๘๓. นตฺถิ ¶ มาตา ปิตา ภาตาติ มาตาทีสุ สมฺมาปฏิปตฺติมิจฺฉาปฏิปตฺตีนํ ผลาภาวํ สนฺธาย วทติ. โลโก นตฺถิ อิโต ปรนฺติ อิโต อิธโลกโต ปรโลโก นาม โกจิ นตฺถิ, ตตฺถ ตตฺเถว สตฺตา อุจฺฉิชฺชนฺตีติ อธิปฺปาโย. ทินฺนนฺติ มหาทานํ. หุตนฺติ ปเหนกสกฺกาโร, ตทุภยมฺปิ ผลาภาวํ สนฺธาย ‘‘นตฺถี’’ติ ปฏิกฺขิปติ. สุนิหิตนฺติ สุฏฺุ นิหิตํ. น วิชฺชตีติ ยํ สมณพฺราหฺมณานํ ทานํ นาม ‘‘อนุคามิกนิธี’’ติ วทนฺติ, ตํ น วิชฺชติ. เตสํ ตํ วาจาวตฺถุมตฺตเมวาติ อธิปฺปาโย.
๖๘๔. น โกจิ กฺจิ หนตีติ โย ปุริโส ปรํ ปุริสํ หเนยฺย, ปรสฺส ปุริสสฺส สีสํ ¶ ฉินฺเทยฺย, ตตฺถ ปรมตฺถโต น โกจิ กฺจิ หนติ, สตฺตนฺนํ กายานํ ฉิทฺทภาวโต หนนฺโต วิย โหติ. กถํ สตฺถปหาโรติ อาห ‘‘สตฺตนฺนํ วิวรมนฺตเร’’ติ. ปถวีอาทีนํ สตฺตนฺนํ กายานํ วิวรภูเต อนฺตเร ฉิทฺเท สตฺถํ ปวิสติ, เตน สตฺตา อสิอาทีหิ ปหตา วิย โหนฺติ, ชีโว วิย ปน เสสกายาปิ นิจฺจสภาวตฺตา น ฉิชฺชนฺตีติ อธิปฺปาโย.
๖๘๕. อจฺเฉชฺชาเภชฺโช หิ ชีโวติ อยํ สตฺตานํ ชีโว สตฺถาทีหิ น ฉินฺทิตพฺโพ น ภินฺทิตพฺโพ นิจฺจสภาวตฺตา. อฏฺํโส คุฬปริมณฺฑโลติ โส ปน ชีโว กทาจิ อฏฺํโส โหติ กทาจิ คุฬปริมณฺฑโล ¶ . โยชนานํ สตํ ปฺจาติ เกวลีภาวํ ปตฺโต ปฺจโยชนสตุพฺเพโธ โหติ. โก ชีวํ เฉตฺตุมรหตีติ นิจฺจํ นิพฺพิการํ ชีวํ โก นาม สตฺถาทีหิ ฉินฺทิตุํ อรหติ, น โส เกนจิ วิโกปเนยฺโยติ วทติ.
๖๘๖. สุตฺตคุเฬติ เวเตฺวา กตสุตฺตคุเฬ. ขิตฺเตติ นิพฺเพนวเสน ขิตฺเต. นิพฺเพเนฺตํ ปลายตีติ ปพฺพเต วา รุกฺขคฺเค วา ตฺวา นิพฺเพิยมานํ ขิตฺตํ สุตฺตคุฬํ ¶ นิพฺเพเนฺตเมว คจฺฉติ, สุตฺเต ขีเณ น คจฺฉติ. เอวเมวนฺติ ยถา ตํ สุตฺตคุฬํ นิพฺเพิยมานํ คจฺฉติ, สุตฺเต ขีเณ น คจฺฉติ, เอวเมว โส ชีโว ‘‘จุลฺลาสีติ มหากปฺปิโน สตสหสฺสานี’’ติ วุตฺตกาลเมว อตฺตภาวคุฬํ นิพฺเพเนฺโต ปลายติ ปวตฺตติ, ตโต อุทฺธํ น ปวตฺตติ.
๖๘๗. เอวเมว จ โส ชีโวติ ยถา โกจิ ปุริโส อตฺตโน นิวาสคามโต นิกฺขมิตฺวา ตโต อฺํ คามํ ปวิสติ เกนจิเทว กรณีเยน, เอวเมว โส ชีโว อิโต สรีรโต นิกฺขมิตฺวา อฺํ อปรํ สรีรํ นิยตวเสน ปวิสตีติ อธิปฺปาโย. โพนฺทินฺติ กายํ.
๖๘๙. จุลฺลาสีตีติ จตุราสีติ. มหากปฺปิโนติ มหากปฺปานํ. ตตฺถ ‘‘เอกมฺหา มหาสรา อโนตตฺตาทิโต วสฺสสเต วสฺสสเต กุสคฺเคน เอเกกํ อุทกพินฺทุํ นีหรนฺเต อิมินา อุปกฺกเมน สตฺตกฺขตฺตุํ ตมฺหิ สเร นิรุทเก ชาเต เอโก มหากปฺโป นาม โหตี’’ติ วตฺวา ‘‘เอวรูปานํ มหากปฺปานํ จตุราสีติสตสหสฺสานิ สํสารสฺส ปริมาณ’’นฺติ วทนฺติ. เย พาลา เย จ ปณฺฑิตาติ เย อนฺธพาลา, เย จ สปฺปฺา, สพฺเพปิ เต. สํสารํ เขปยิตฺวานาติ ยถาวุตฺตกาลปริจฺเฉทํ สํสารํ อปราปรุปฺปตฺติวเสน เขเปตฺวา. ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสเรติ วฏฺฏทุกฺขสฺส ปริยนฺตํ ปริโยสานํ กริสฺสนฺติ. ปณฺฑิตาปิ อนฺตรา สุชฺฌิตุํ น สกฺโกนฺติ, พาลาปิ ตโต อุทฺธํ นปฺปวตฺตนฺตีติ ตสฺส ลทฺธิ.
๖๙๐. มิตานิ ¶ สุขทุกฺขานิ, โทเณหิ ปิฏเกหิ จาติ สตฺตานํ สุขทุกฺขานิ นาม โทเณหิ ปิฏเกหิ มานภาชเนหิ มิตานิ วิย ยถาวุตฺตกาลปริจฺเฉเทเนว ¶ ปริมิตตฺตา ปจฺเจกฺจ เตสํ เตสํ สตฺตานํ ตานิ นิยติปริณามชานิ ปริมิตานิ. ตยิทํ ชิโน สพฺพํ ปชานาติ ชินภูมิยํ ิโต เกวลํ ปชานาติ สํสารสฺส สมติกฺกนฺตตฺตา. สํสาเร ¶ ปน ปริพฺภมติ สมฺมูฬฺหายํ อิตรา ปชา.
๖๙๑. เอวํทิฏฺิ ปุเร อาสินฺติ ยถาวุตฺตนตฺถิกทิฏฺิโก ปุพฺเพว อหํ อโหสึ. สมฺมูฬฺโห โมหปารุโตติ ยถาวุตฺตาย ทิฏฺิยา เหตุภูเตน สมฺโมเหน สมฺมูฬฺโห, ตํสหชาเตน ปน โมเหน ปารุโต, ปฏิจฺฉาทิตกุสลพีโชติ อธิปฺปาโย.
๖๙๒. เอวํ ปุพฺเพ ยา อตฺตโน อุปฺปนฺนา ปาปทิฏฺิ, ตสฺสา วเสน กตํ ปาปกมฺมํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺตนา อายตึ อนุภวิตพฺพํ ตสฺส ผลํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โอรํ เม ฉหิ มาเสหี’’ติอาทิมาห.
๖๙๕-๗. ตตฺถ วสฺสานิ สตสหสฺสานีติ วสฺสานํ สตสหสฺสานิ, อติกฺกมิตฺวาติ วจนเสโส. ภุมฺมตฺเถ วา เอตํ ปจฺจตฺตวจนํ, วสฺเสสุ สตสหสฺเสสุ วีติวตฺเตสูติ อตฺโถ. โฆโส สุยฺยติ ตาวเทติ ยทา เอตฺตโก กาโล อติกฺกนฺโต โหติ, ตาวเทว ตสฺมึ กาเล ‘‘อิธ ปจฺจนฺตานํ โว มาริสา วสฺสสตสหสฺสปริมาโณ กาโล อตีโต’’ติ เอวํ ตสฺมึ นิรเย สทฺโท สุยฺยติ. ลกฺโข เอโส, มหาราช, สตภาควสฺสโกฏิโยติ สตภาคา สตโกฏฺาสา วสฺสโกฏิโย, มหาราช, นิรเย ปจฺจนฺตานํ สตฺตานํ อายุโน เอโส ลกฺโข เอโส ปริจฺเฉโทติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ทสทสกํ สตํ นาม, ทส สตานิ สหสฺสํ นาม, ทสทสสหสฺสานิ สตสหสฺสํ นาม, สตสตสหสฺสานิ โกฏิ นาม, ตาสํ โกฏีนํ วเสน สตสหสฺสวสฺสโกฏิโย สตภาคา วสฺสโกฏิโย. สา จ โข เนรยิกานํเยว วสฺสคณนาวเสน เวทิตพฺพา, น มนุสฺสานํ, เทวานํ วา. อีทิสานิ อเนกานิ วสฺสโกฏิสตสหสฺสานิ เนรยิกานํ อายุ. เตนาห ‘‘โกฏิสตสหสฺสานิ, นิรเย ปจฺจเร ชนา’’ติ. ยาทิเสน ปน ปาเปน สตฺตา เอวํ นิรเยสุ ปจฺจนฺติ ¶ , ตํ นิคมนวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘มิจฺฉาทิฏฺี จ ทุสฺสีลา, เย จ อริยูปวาทิโน’’ติ วุตฺตํ. เวทิสฺสนฺติ อนุภวิสฺสํ.
๖๙๘-๗๐๖. เอวํ อายตึ อตฺตนา อนุภวิตพฺพํ ปาปผลํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘เกน เต ¶ พฺรหฺมจริเยน ¶ , อานุภาโว อยํ ตวา’’ติ รฺา ปุจฺฉิตมตฺถํ อาจิกฺขิตฺวา ตํ สรเณสุ เจว สีเลสุ จ ปติฏฺาเปตุกาโม ‘‘ตํ สุโณหิ มหาราชา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สีเลสุโปสเถ รตาติ นิจฺจสีเลสุ จ อุโปสถสีเลสุ จ อภิรตา. อทาติ อทาสิ. ตํ ธมฺมนฺติ ตํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ อมตปทฺจ.
๗๐๙-๑๒. เอวํ เปเตน สรเณสุ สีเลสุ จ สมาทปิโต ราชา ปสนฺนมานโส เตน อตฺตโน กตํ อุปการํ ตาว กิตฺเตตฺวา สรณาทีสุ ปติฏฺหนฺโต ‘‘อตฺถกาโม’’ติอาทิกา ติสฺโส คาถา วตฺวา ปุพฺเพ อตฺตนา คหิตาย ปาปิกาย ทิฏฺิยา ปฏินิสฺสฏฺภาวํ ปกาเสนฺโต ‘‘โอผุณามี’’ติ คาถมาห.
ตตฺถ โอผุณามิ มหาวาเตติ มหนฺเต วาเต วายนฺเต ภุสํ วิย ตํ ปาปกํ ทิฏฺึ, ยกฺข, ตว ธมฺมเทสนาวาเต โอผุณามิ นิทฺธุนามิ. นทิยา วา สีฆคามิยาติ สีฆโสตาย มหานทิยา วา ติณกฏฺปณฺณกสฏํ วิย ปาปิกํ ทิฏฺึ ปวาเหมีติ อธิปฺปาโย. วมามิ ปาปิกํ ทิฏฺินฺติ มม มโนมุขคตํ ปาปิกํ ทิฏฺึ อุจฺฉฑฺฑยามิ. ตตฺถ การณมาห ‘‘พุทฺธานํ สาสเน รโต’’ติ. ยสฺมา เอกํเสน อมตาวเห พุทฺธานํ ภควนฺตานํ สาสเน รโต อภิรโต, ตสฺมา ตํ ทิฏฺิสงฺขาตํ วิสํ วมามีติ โยชนา.
๗๑๓. ติ โอสานคาถา สงฺคีติกาเรหิ ปิตา. ตตฺถ ปาโมกฺโขติ ปาจีนทิสาภิมุโข หุตฺวา. รถมารุหีติ ราชา คมนสชฺชํ อตฺตโน ราชรถํ อภิรุหิ, อารุยฺห ยกฺขานุภาเวน ตํ ทิวสเมว อตฺตโน นครํ ปตฺวา ราชภวนํ ปาวิสิ. โส อปเรน สมเยน อิมํ ปวตฺตึ ภิกฺขูนํ อาโรเจสิ, ภิกฺขู ¶ ตํ เถรานํ อาโรเจสุํ, เถรา ตติยสงฺคีติยํ สงฺคหํ อาโรเปสุํ.
นนฺทกเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. เรวตีเปตวตฺถุวณฺณนา
๗๑๔-๓๖. อุฏฺเหิ ¶ , เรวเต, สุปาปธมฺเมติ อิทํ เรวตีเปตวตฺถุ. ตํ ยสฺมา เรวตีวิมานวตฺถุนา นิพฺพิเสสํ, ตสฺมา ยเทตฺถ อฏฺุปฺปตฺติยํ คาถาสุ จ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรมตฺถทีปนิยํ วิมานวตฺถุวณฺณนายํ (วิ. ว. อฏฺ. ๘๖๐ เรวตีวิมานวณฺณนา) วุตฺตนเยเนว ¶ เวทิตพฺพํ. อิทฺหิ นนฺทิยสฺส เทวปุตฺตสฺส วเสน วิมานวตฺถุปาฬิยํ สงฺคหํ อาโรปิตมฺปิ เรวตีปฏิพทฺธาย คาถาย วเสน ‘‘เรวตีเปตวตฺถุ’’นฺติ เปตวตฺถุปาฬิยมฺปิ สงฺคหํ อาโรปิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
เรวตีเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อุจฺฉุเปตวตฺถุวณฺณนา
อิทํ มม อุจฺฉุวนํ มหนฺตนฺติ อิทํ อุจฺฉุเปตวตฺถุ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควติ เวฬุวเน วิหรนฺเต อฺตโร ปุริโส อุจฺฉุกลาปํ ขนฺเธ กตฺวา เอกํ อุจฺฉุํ ขาทนฺโต คจฺฉติ. อถ อฺตโร อุปาสโก สีลวา กลฺยาณธมฺโม พาลทารเกน สทฺธึ ตสฺส ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต คจฺฉติ. ทารโก อุจฺฉุํ ปสฺสิตฺวา ‘‘เทหี’’ติ ปโรทติ. อุปาสโก ทารกํ ปโรทนฺตํ ทิสฺวา ตํ ปุริสํ สงฺคณฺหนฺโต เตน สทฺธึ สลฺลาปมกาสิ. โส ปน ปุริโส เตน สทฺธึ น กิฺจิ อาลปิ, ทารกสฺส อุจฺฉุขณฺฑมฺปิ นาทาสิ. อุปาสโก ตํ ทารกํ ทสฺเสตฺวา ‘‘อยํ ทารโก อติวิย โรทติ, อิมสฺส เอกํ อุจฺฉุขณฺฑํ เทหี’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา โส ปุริโส อสหนฺโต ปฏิหตจิตฺตํ อุปฏฺเปตฺวา อนาทรวเสน เอกํ อุจฺฉุลฏฺึ ปิฏฺิโต ขิปิ.
โส อปเรน สมเยน กาลํ กตฺวา จิรํ ปริภาวิตสฺส โลภสฺส วเสน เปเตสุ นิพฺพตฺติ, ตสฺส ผลํ นาม ¶ สกกมฺมสริกฺขกํ โหตีติ อฏฺกรีสมตฺตํ านํ อวตฺถรนฺตํ อฺชนวณฺณํ มุสลทณฺฑปริมาเณหิ อุจฺฉูหิ ฆนสฺฉนฺนํ มหนฺตํ อุจฺฉุวนํ นิพฺพตฺติ. ตสฺมึ ขาทิตุกามตาย ‘‘อุจฺฉุํ คเหสฺสามี’’ติ อุปคตมตฺเต ตํ อุจฺฉู อภิหนนฺติ, โส เตน ปุจฺฉิโต ปตติ.
อเถกทิวสํ ¶ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ราชคหํ ปิณฺฑาย คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค ตํ เปตํ อทฺทส. โส เถรํ ทิสฺวา อตฺตนา กตกมฺมํ ปุจฺฉิ –
‘‘อิทํ มม อุจฺฉุวนํ มหนฺตํ, นิพฺพตฺตติ ปฺุผลํ อนปฺปกํ;
ตํ ทานิ เม น ปริโภคเมติ, อาจิกฺข ภนฺเต กิสฺส อยํ วิปาโก.
‘‘หฺามิ ¶ ขชฺชามิ จ วายมามิ, ปริสกฺกามิ ปริภฺุชิตุํ กิฺจิ;
สฺวาหํ ฉินฺนถาโม กปโณ ลาลปามิ, กิสฺส กมฺมสฺส อยํ วิปาโก.
‘‘วิฆาโต จาหํ ปริปตามิ ฉมายํ,
ปริวตฺตามิ วาริจโรว ฆมฺเม;
รุทโต จ เม อสฺสุกา นิคฺคลนฺติ,
อาจิกฺข ภนฺเต กิสฺส อยํ วิปาโก.
‘‘ฉาโต กิลนฺโต จ ปิปาสิโต จ, สนฺตสฺสิโต สาตสุขํ น วินฺเท;
ปุจฺฉามิ ตํ เอตมตฺถํ ภทนฺเต, กถํ นุ อุจฺฉุปริโภคํ ลเภยฺย’’นฺติ.
‘‘ปุเร ¶ ตุวํ กมฺมมกาสิ อตฺตนา, มนุสฺสภูโต ปุริมาย ชาติยา;
อหฺจ ตํ เอตมตฺถํ วทามิ, สุตฺวาน ตฺวํ เอตมตฺถํ วิชาน.
‘‘อุจฺฉุํ ตุวํ ขาทมาโน ปยาโต, ปุริโส จ เต ปิฏฺิโต อนฺวคจฺฉิ;
โส จ ตํ ปจฺจาสนฺโต กเถสิ, ตสฺส ตุวํ น กิฺจิ อาลปิตฺถ.
‘‘โส ¶ จ ตํ อภณนฺตํ อยาจิ, เทหยฺย อุจฺฉุนฺติ จ ตํ อโวจ;
ตสฺส ตุวํ ปิฏฺิโต อุจฺฉุํ อทาสิ, ตสฺเสตํ กมฺมสฺส อยํ วิปาโก.
‘‘อิงฺฆ ตฺวํ คนฺตฺวาน ปิฏฺิโต คณฺเหยฺยาสิ, คเหตฺวาน ตํ ขาทสฺสุ ยาวทตฺถํ;
เตเนว ตฺวํ อตฺตมโน ภวิสฺสสิ, หฏฺโ จุทคฺโค จ ปโมทิโต จาติ.
‘‘คนฺตฺวาน โส ปิฏฺิโต อคฺคเหสิ, คเหตฺวาน ตํ ขาทิ ยาวทตฺถํ;
เตเนว โส อตฺตมโน อโหสิ, หฏฺโ จุทคฺโค จ ปโมทิโต จา’’ติ. –
วจนปฏิวจนคาถา เปเตน เถเรน จ วุตฺตา.
๗๓๗-๘. ตตฺถ กิสฺสาติ กีทิสสฺส, กมฺมสฺสาติ อธิปฺปาโย. หฺามีติ วิหฺามิ ¶ วิฆาตํ อาปชฺชามิ. วิหฺามีติ วา วิพาธิยามิ, วิเสสโต ปีฬิยามีติ อตฺโถ. ขชฺชามีติ ขาทิยามิ, อสิปตฺตสทิเสหิ นิสิเตหิ ขาทนฺเตหิ วิย อุจฺฉุปตฺเตหิ กนฺติยามีติ อตฺโถ. วายมามีติ อุจฺฉุํ ขาทิตุํ วายามํ กโรมิ. ปริสกฺกามีติ ปโยคํ กโรมิ. ปริภฺุชิตุนฺติ อุจฺฉุรสํ ปริภฺุชิตุํ, อุจฺฉุํ ขาทิตุนฺติ อตฺโถ. ฉินฺนถาโมติ ฉินฺนสโห อุปจฺฉินฺนถาโม, ปริกฺขีณพโลติ อตฺโถ. กปโณติ ¶ ทีโน. ลาลปามีติ ทุกฺเขน อฏฺฏิโต อติวิย วิลปามิ.
๗๓๙. วิฆาโตติ วิฆาตวา, วิหตพโล วา. ปริปตามิ ฉมายนฺติ าตุํ อสกฺโกนฺโต ภูมิยํ ปปตามิ. ปริวตฺตามีติ ปริพฺภมามิ. วาริจโรวาติ มจฺโฉ วิย. ฆมฺเมติ ฆมฺมสนฺตตฺเต ถเล.
๗๔๐-๔. สนฺตสฺสิโตติ โอฏฺกณฺตาลูนํ โสสปฺปตฺติยา สุฏฺุ ตสิโต. สาตสุขนฺติ สาตภูตํ สุขํ. น วินฺเทติ น ลภามิ. ตนฺติ ¶ ตุวํ. วิชานาติ วิชานาหิ. ปยาโตติ คนฺตุํ อารทฺโธ. อนฺวคจฺฉีติ อนุพนฺธิ. ปจฺจาสนฺโตติ ปจฺจาสีสมาโน. ตสฺเสตํ กมฺมสฺสาติ เอตฺถ เอตนฺติ นิปาตมตฺตํ, ตสฺส กมฺมสฺสาติ อตฺโถ. ปิฏฺิโต คณฺเหยฺยาสีติ อตฺตโน ปิฏฺิปสฺเสเนว อุจฺฉุํ คณฺเหยฺยาสิ. ปโมทิโตติ ปมุทิโต.
๗๔๕. คเหตฺวาน ตํ ขาทิ ยาวทตฺถนฺติ เถเรน อาณตฺตินิยาเมน อุจฺฉุํ คเหตฺวา ยถารุจิ ขาทิตฺวา มหนฺตํ อุจฺฉุกลาปํ คเหตฺวา เถรสฺส อุปเนสิ, เถโร ตํ อนุคฺคณฺหนฺโต เตเนว ตํ อุจฺฉุกลาปํ คาหาเปตฺวา เวฬุวนํ คนฺตฺวา ภควโต อทาสิ, ภควา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ตํ ปริภฺุชิตฺวา อนุโมทนํ อกาสิ, เปโต ปสนฺนจิตฺโต วนฺทิตฺวา คโต, ตโต ปฏฺาย ยถาสุขํ อุจฺฉุํ ปริภฺุชิ.
โส อปเรน สมเยน กาลํ กตฺวา ตาวตึเสสุ อุปฺปชฺชิ. สา ปเนสา เปตสฺส ปวตฺติ มนุสฺสโลเก ปากฏา อโหสิ. อถ มนุสฺสา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ปวตฺตึ ปุจฺฉึสุ. สตฺถา เตสํ ตมตฺถํ วิตฺถารโต กเถตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ, ตํ สุตฺวา มนุสฺสา มจฺเฉรมลโต ปฏิวิรตา อเหสุนฺติ.
อุจฺฉุเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. กุมารเปตวตฺถุวณฺณนา
สาวตฺถิ ¶ ¶ นาม นครนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ทฺเว เปเต อารพฺภ กเถสิ. สาวตฺถิยํ กิร โกสลรฺโ ทฺเว ปุตฺตา ปาสาทิกา ปมวเย ิตา โยพฺพนมทมตฺตา ปรทารกมฺมํ กตฺวา กาลํ กตฺวา ปริขาปิฏฺเ เปตา หุตฺวา นิพฺพตฺตึสุ. เต รตฺติยํ เภรเวน สทฺเทน ปริเทวึสุ. มนุสฺสา ตํ สุตฺวา ภีตตสิตา ‘‘เอวํ กเต อิทํ อวมงฺคลํ วูปสมฺมตี’’ติ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา ตํ ปวตฺตึ ภควโต อาโรเจสุํ. ภควา ‘‘อุปาสกา ตสฺส สทฺทสฺส สวเนน ตุมฺหากํ น โกจิ อนฺตราโย’’ติ วตฺวา ตสฺส การณํ อาจิกฺขิตฺวา เตสํ ธมฺมํ เทเสตุํ –
‘‘สาวตฺถิ ¶ นาม นครํ, หิมวนฺตสฺส ปสฺสโต;
ตตฺถ อาสุํ ทฺเว กุมารา, ราชปุตฺตาติ เม สุตํ.
‘‘สมฺมตฺตา รชนีเยสุ, กามสฺสาทาภินนฺทิโน;
ปจฺจุปฺปนฺนสุเข คิทฺธา, น เต ปสฺสึสุนาคตํ.
‘‘เต จุตา จ มนุสฺสตฺตา, ปรโลกํ อิโต คตา;
เตธ โฆเสนฺตฺยทิสฺสนฺตา, ปุพฺเพ ทุกฺกฏมตฺตโน.
‘‘พหูสุ วต สนฺเตสุ, เทยฺยธมฺเม อุปฏฺิเต;
นาสกฺขิมฺหา จ อตฺตานํ, ปริตฺตํ กาตุํ สุขาวหํ.
‘‘กึ ตโต ปาปกํ อสฺส, ยํ โน ราชกุลา จุตา;
อุปปนฺนา เปตฺติวิสยํ, ขุปฺปิปาสสมปฺปิตา.
‘‘สามิโน อิธ หุตฺวาน, โหนฺติ อสามิโน ตหึ;
ภมนฺติ ขุปฺปิปาสาย, มนุสฺสา อุนฺนโตนตา.
‘‘เอตมาทีนวํ ¶ ตฺวา, อิสฺสรมทสมฺภวํ;
ปหาย ¶ อิสฺสรมทํ, ภเว สคฺคคโต นโร;
กายสฺส เภทา สปฺปฺโ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตี’’ติ – คาถา อภาสิ;
๗๔๖. ตตฺถ อิติ เม สุตนฺติ น เกวลํ อตฺตโน าเณน ทิฏฺเมว, อถ โข โลเก ปากฏภาเวน เอวํ มยา สุตนฺติ อตฺโถ.
๗๔๗. กามสฺสาทาภินนฺทิโนติ กามคุเณสุ อสฺสาทวเสน อภินนฺทนสีลา. ปจฺจุปฺปนฺนสุเข คิทฺธาติ วตฺตมานสุขมตฺเต คิทฺธา คถิตา หุตฺวา. น เต ปสฺสึสุนาคตนฺติ ทุจฺจริตํ ปหาย สุจริตํ จริตฺวา อนาคตํ อายตึ เทวมนุสฺเสสุ ลทฺธพฺพํ สุขํ เต น จินฺเตสุํ.
๗๔๘. เตธ โฆเสนฺตฺยทิสฺสนฺตาติ เต ปุพฺเพ ราชปุตฺตภูตา เปตา อิธ สาวตฺถิยา สมีเป อทิสฺสมานรูปา โฆเสนฺติ กนฺทนฺติ. กึ กนฺทนฺตีติ อาห ‘‘ปุพฺเพ ทุกฺกฏมตฺตโน’’ติ.
๗๔๙. อิทานิ ¶ เตสํ กนฺทนสฺส การณํ เหตุโต จ ผลโต จ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘พหูสุ วต สนฺเตสู’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ตตฺถ พหูสุ วต สนฺเตสูติ อเนเกสุ ทกฺขิเณยฺเยสุ วิชฺชมาเนสุ. เทยฺยธมฺเม อุปฏฺิเตติ อตฺตโน สนฺตเก ทาตพฺพเทยฺยธมฺเมปิ สมีเป ิเต, ลพฺภมาเนติ อตฺโถ. ปริตฺตํ สุขาวหนฺติ อปฺปมตฺตกมฺปิ อายตึ สุขาวหํ ปฺุํ กตฺวา อตฺตานํ โสตฺถึ นิรุปทฺทวํ กาตุํ นาสกฺขิมฺหา วตาติ โยชนา.
๗๕๐. กึ ตโต ปาปกํ อสฺสาติ ตโต ปาปกํ ลามกํ นาม กึ อฺํ อสฺส สิยา. ยํ โน ราชกุลา จุตาติ เยน ปาปกมฺเมน มยํ ราชกุลโต จุตา อิธ เปตฺติวิสยํ อุปปนฺนา เปเตสุ นิพฺพตฺตา ขุปฺปิปาสสมปฺปิตา วิจรามาติ อตฺโถ.
๗๕๑. สามิโน อิธ หุตฺวานาติ อิธ อิมสฺมึ โลเก ยสฺมึเยว าเน ปุพฺเพ สามิโน หุตฺวา วิจรนฺติ, ตหึ ตสฺมึเยว าเน โหนฺติ อสฺสามิโน. มนุสฺสา อุนฺนโตนตาติ มนุสฺสกาเล สามิโน ¶ หุตฺวา กาลกตา กมฺมวเสน โอนตา ¶ ภมนฺติ ขุปฺปิปาสาย, ปสฺส สํสารปกตินฺติ ทสฺเสติ.
๗๕๒. เอตมาทีนวํ ตฺวา, อิสฺสรมทสมฺภวนฺติ เอตํ อิสฺสริยมทวเสน สมฺภูตํ อปายูปปตฺติสงฺขาตํ อาทีนวํ โทสํ ตฺวา ปหาย อิสฺสริยมทํ ปฺุปฺปสุโต หุตฺวา. ภเว สคฺคคโต นโรติ สคฺคํ เทวโลกํ คโตเยว ภเวยฺย.
อิติ สตฺถา เตสํ เปตานํ ปวตฺตึ กเถตฺวา เตหิ มนุสฺเสหิ กตํ ทานํ เตสํ เปตานํ อุทฺทิสาเปตฺวา สมฺปตฺตปริสาย อชฺฌาสยานุรูปํ ธมฺมํ เทเสสิ. สา เทสนา มหาชนสฺส สาตฺถิกา อโหสีติ.
กุมารเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ราชปุตฺตเปตวตฺถุวณฺณนา
ปุพฺเพ ¶ กตานํ กมฺมานนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ราชปุตฺตเปตํ อารพฺภ กเถสิ. ตตฺถ โย โส อตีเต กิตวสฺส นาม รฺโ ปุตฺโต อตีเต ปจฺเจกพุทฺเธ อปรชฺฌิตฺวา พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ นิรเย ปจฺจิตฺวา ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสน เปเตสุ อุปฺปนฺโน. โส อิธ ‘‘ราชปุตฺตเปโต’’ติ อธิปฺเปโต. ตสฺส วตฺถุ เหฏฺา สาณวาสิเปตวตฺถุมฺหิ วิตฺถารโต อาคตเมว, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว คเหตพฺพํ. สตฺถา หิ ตทา เถเรน อตฺตโน าติเปตานํ ปวตฺติยา กถิตาย ‘‘น เกวลํ ตว าตกาเยว, อถ โข ตฺวมฺปิ อิโต อนนฺตราตีเต อตฺตภาเว เปโต หุตฺวา มหาทุกฺขํ อนุภวี’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต –
‘‘ปุพฺเพ กตานํ กมฺมานํ, วิปาโก มถเย มนํ;
รูเป สทฺเท รเส คนฺเธ, โผฏฺพฺเพ จ มโนรเม.
‘‘อิจฺจํ คีตํ รตึ ขิฑฺฑํ, อนุภุตฺวา อนปฺปกํ;
อุยฺยาเน ปริจริตฺวา, ปวิสนฺโต คิริพฺพชํ.
‘‘อิสึ ¶ ¶ สุเนตฺตมทฺทกฺขิ, อตฺตทนฺตํ สมาหิตํ;
อปฺปิจฺฉํ หิริสมฺปนฺนํ, อฺุเฉ ปตฺตคเต รตํ.
‘‘หตฺถิกฺขนฺธโต โอรุยฺห, ลทฺธา ภนฺเตติ จาพฺรวิ;
ตสฺส ปตฺตํ คเหตฺวาน, อุจฺจํ ปคฺคยฺห ขตฺติโย.
‘‘ถณฺฑิเล ปตฺตํ ภินฺทิตฺวา, หสมาโน อปกฺกมิ;
รฺโ กิตวสฺสาหํ ปุตฺโต, กึ มํ ภิกฺขุ กริสฺสสิ.
‘‘ตสฺส กมฺมสฺส ผรุสสฺส, วิปาโก กฏุโก อหุ;
ยํ ราชปุตฺโต เวเทสิ, นิรยมฺหิ สมปฺปิโต.
‘‘ฉเฬว จตุราสีติ, วสฺสานิ นหุตานิ จ;
ภุสํ ทุกฺขํ นิคจฺฉิตฺโถ, นิรเย กตกิพฺพิโส.
‘‘อุตฺตาโนปิ ¶ จ ปจฺจิตฺถ, นิกุชฺโช วามทกฺขิโณ;
อุทฺธํปาโท ิโต เจว, จิรํ พาโล อปจฺจถ.
‘‘พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ, ปูคานิ นหุตานิ จ;
ภุสํ ทุกฺขํ นิคจฺฉิตฺโถ, นิรเย กตกิพฺพิโส.
‘‘เอตาทิสํ โข กฏุกํ, อปฺปทุฏฺปฺปโทสินํ;
ปจฺจนฺติ ปาปกมฺมนฺตา, อิสิมาสชฺช สุพฺพตํ.
‘‘โส ตตฺถ พหุวสฺสานิ, เวทยิตฺวา พหุํ ทุขํ;
ขุปฺปิปาสหโต นาม, เปโต อาสิ ตโต จุโต.
‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, อิสฺสรมทสมฺภวํ;
ปหาย อิสฺสรมทํ, นิวาตมนุวตฺตเย.
‘‘ทิฏฺเว ¶ ธมฺเม ปาสํโส, โย พุทฺเธสุ สคารโว;
กายสฺส เภทา สปฺปฺโ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตี’’ติ. –
อิทํ เปตวตฺถุํ กเถสิ.
๗๕๓. ตตฺถ ปุพฺเพ กตานํ กมฺมานํ, วิปาโก มถเย มนนฺติ ปุริมาสุ ชาตีสุ กตานํ อกุสลกมฺมานํ ผลํ อุฬารํ หุตฺวา อุปฺปชฺชมานํ อนฺธพาลานํ จิตฺตํ มถเยยฺย อภิภเวยฺย, ปเรสํ อนตฺถกรณมุเขน อตฺตโน อตฺถํ อุปฺปาเทยฺยาติ อธิปฺปาโย.
อิทานิ ¶ ตํ จิตฺตมถนํ วิสเยน สทฺธึ ทสฺเสตุํ ‘‘รูเป สทฺเท’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ รูเปติ รูปเหตุ, ยถิจฺฉิตสฺส มนาปิยสฺส รูปารมฺมณสฺส ปฏิลาภนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. สทฺเทติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
๗๕๔. เอวํ สาธารณโต วุตฺตมตฺถํ อสาธารณโต นิยเมตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘นจฺจํ คีต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ รตินฺติ กามรตึ. ขิฑฺฑนฺติ สหายกาทีหิ เกฬึ. คิริพฺพชนฺติ ราชคหํ.
๗๕๕. อิสินฺติ ¶ อเสกฺขานํ สีลกฺขนฺธาทีนํ เอสนฏฺเน อิสึ. สุเนตฺตนฺติ เอวํนามกํ ปจฺเจกพุทฺธํ. อตฺตทนฺตนฺติ อุตฺตเมน ทมเถน ทมิตจิตฺตํ. สมาหิตนฺติ อรหตฺตผลสมาธินา สมาหิตํ. อฺุเฉ ปตฺตคเต รตนฺติ อฺุเฉน ภิกฺขาจาเรน ลทฺเธ ปตฺตคเต ปตฺตปริยาปนฺเน อาหาเร รตํ สนฺตุฏฺํ.
๗๕๖. ลทฺธา, ภนฺเตติ จาพฺรวีติ ‘‘อปิ, ภนฺเต, ภิกฺขา ลทฺธา’’ติ วิสฺสาสชนนตฺถํ กเถสิ. อุจฺจํ ปคฺคยฺหาติ อุจฺจตรํ กตฺวา ปตฺตํ อุกฺขิปิตฺวา.
๗๕๗. ถณฺฑิเล ปตฺตํ ภินฺทิตฺวาติ ขรกิเน ภูมิปฺปเทเส ขิปนฺโต ปตฺตํ ภินฺทิตฺวา. อปกฺกมีติ โถกํ อปสกฺกิ. อปสกฺกนฺโต จ ‘‘อการเณเนว อนฺธพาโล มหนฺตํ อนตฺถํ อตฺตโน อกาสี’’ติ กรุณายนวเสน โอโลเกนฺตํ ปจฺเจกพุทฺธํ ราชปุตฺโต อาห ‘‘รฺโ กิตวสฺสาหํ ปุตฺโต, กึ มํ ภิกฺขุ กริสฺสสี’’ติ.
๗๕๘. ผรุสสฺสาติ ¶ ทารุณสฺส. กฏุโกติ อนิฏฺโ. ยนฺติ ยํ วิปากํ. สมปฺปิโตติ อลฺลีโน.
๗๕๙. ฉเฬว จตุราสีติ, วสฺสานิ นหุตานิ จาติ อุตฺตาโน นิปนฺโน จตุราสีติวสฺสสหสฺสานิ, นิกุชฺโช, วามปสฺเสน, ทกฺขิณปสฺเสน, อุทฺธํปาโท, โอลมฺพิโก, ยถาิโต จาติ เอวํ ฉ จตุราสีติสหสฺสานิ วสฺสานิ โหนฺติ. เตนาห –
‘‘อุตฺตาโนปิ จ ปจฺจิตฺถ, นิกุชฺโช วามทกฺขิโณ;
อุทฺธํปาโท ิโต เจว, จิรํ พาโล อปจฺจถา’’ติ.
ตานิ ¶ ปน วสฺสานิ ยสฺมา อเนกานิ นหุตานิ โหนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘นหุตานี’’ติ. ภุสํ ทุกฺขํ นิคจฺฉิตฺโถติ อติวิย ทุกฺขํ ปาปุณิ.
๗๖๑. ปูคานีติ วสฺสสมูเห, อิธ ปุริมคาถาย จ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ ทฏฺพฺพํ.
๗๖๒. เอตาทิสนฺติ เอวรูปํ. กฏุกนฺติ อติทุกฺขํ, ภาวนปํสกนิทฺเทโสยํ ‘‘เอกมนฺตํ นิสีที’’ติอาทีสุ วิย. อปฺปทุฏฺปฺปโทสินํ อิสึ สุพฺพตํ อาสชฺช อาสาเทตฺวา ปาปกมฺมนฺตา ปุคฺคลา เอวรูปํ กฏุกํ อติวิย ทุกฺขํ ปจฺจนฺตีติ โยชนา.
๗๖๓. โสติ ¶ โส ราชปุตฺตเปโต. ตตฺถาติ นิรเย. เวทยิตฺวาติ อนุภวิตฺวา. นามาติ พฺยตฺตปากฏภาเวน. ตโต จุโตติ นิรยโต จุโต. เสสํ วุตฺตนยเมว.
เอวํ ภควา ราชปุตฺตเปตกถาย ตตฺถ สนฺนิปติตํ มหาชนํ สํเวเชตฺวา อุปริ สจฺจานิ ปกาเสสิ. สจฺจปริโยสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ สมฺปาปุณึสูติ.
ราชปุตฺตเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. คูถขาทกเปตวตฺถุวณฺณนา
คูถกูปโต ¶ ¶ อุคฺคนฺตฺวาติ อิทํ สตฺถริ เชตวเน วิหรนฺเต เอกํ คูถขาทกเปตํ อารมฺภ วุตฺตํ. สาวตฺถิยา กิร อวิทูเร อฺตรสฺมึ คามเก เอโก กุฏุมฺพิโก อตฺตโน กุลูปกํ ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส วิหารํ กาเรสิ. ตตฺถ นานาชนปทโต ภิกฺขู อาคนฺตฺวา ปฏิวสึสุ. เต ทิสฺวา มนุสฺสา ปสนฺนจิตฺตา ปณีเตน ปจฺจเยน อุปฏฺหึสุ. กุลูปโก ภิกฺขุ ตํ อสหมาโน อิสฺสาปกโต หุตฺวา เตสํ ภิกฺขูนํ โทสํ วทนฺโต กุฏุมฺพิกํ อุชฺฌาเปสิ. กุฏุมฺพิโก เต ภิกฺขู กุลูปกฺจ ปริภวนฺโต ปริภาสิ. อถ กุลูปโก กาลํ กตฺวา ตสฺมึเยว วิหาเร วจฺจกุฏิยํ เปโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, กุฏุมฺพิโก ปน กาลํ กตฺวา ตสฺเสว อุปริ เปโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. อถายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ ทิสฺวา ปุจฺฉนฺโต –
‘‘คูถกูปโต อุคฺคนฺตฺวา, โก น ทีโน ปติฏฺสิ;
นิสฺสํสยํ ปาปกมฺมนฺโต, กึ นุ สทฺทหเส ตุว’’นฺติ. –
คาถมาห. ตํ สุตฺวา เปโต –
‘‘อหํ ภทนฺเต เปโตมฺหิ, ทุคฺคโต ยมโลกิโก;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คโต’’ติ. –
คาถาย ¶ อตฺตานํ อาจิกฺขิ. อถ นํ เถโร –
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺสกมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉสี’’ติ. –
คาถาย เตน กตกมฺมํ ปุจฺฉิ. โส เปโต –
‘‘อหุ อาวาสิโก มยฺหํ, อิสฺสุกี กุลมจฺฉรี;
อชฺฌาสิโต มยฺหํ ฆเร, กทริโย ปริภาสโก.
‘‘ตสฺสาหํ ¶ วจนํ สุตฺวา, ภิกฺขโว ปริภาสิสํ;
ตสฺสกมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คโต’’ติ. –
ทฺวีหิ คาถาหิ อตฺตนา กตกมฺมํ กเถสิ.
๗๖๙. ตตฺถ อหุ อาวาสิโก มยฺหนฺติ มยฺหํ อาวาเส มยา กตวิหาเร เอโก ภิกฺขุ อาวาสิโก นิพทฺธวสนโก อโหสิ. อชฺฌาสิโต มยฺหํ ฆเรติ กุลูปกภาเวน มม เคเห ตณฺหาภินิเวสวเสน อภินิวิฏฺโ.
๗๗๐. ตสฺสาติ ตสฺส กุลูปกภิกฺขุสฺส. ภิกฺขโวติ ภิกฺขู. ปริภาสิสนฺติ อกฺโกสึ. เปตโลกํ อิโต คโตติ อิมินา อากาเรน เปตโยนึ อุปคโต เปตภูโต.
ตํ สุตฺวา เถโร อิตรสฺส คตึ ปุจฺฉนฺโต –
‘‘อมิตฺโต มิตฺตวณฺเณน, โย เต อาสิ กุลูปโก;
กายสฺส เภทา ทุปฺปฺโ, กึ นุ เปจฺจ คตึ คโต’’ติ. –
คาถมาห. ตตฺถ ¶ มิตฺตวณฺเณนาติ มิตฺตปฏิรูเปน มิตฺตปฏิรูปตาย.
ปุน เปโต เถรสฺส ตมตฺถํ อาจิกฺขนฺโต –
‘‘ตสฺเสวาหํ ปาปกมฺมสฺส, สีเส ติฏฺามิ มตฺถเก;
โส จ ปรวิสยํ ปตฺโต, มเมว ปริจารโก.
‘‘ยํ ¶ ภทนฺเต หทนฺตฺเ, เอตํ เม โหติ โภชนํ;
อหฺจ โข ยํ หทามิ, เอตํ โส อุปชีวตี’’ติ. – คาถาทฺวยมาห;
๗๗๒. ตตฺถ ตสฺเสวาติ ตสฺเสว มยฺหํ ปุพฺเพ กุลูปกภิกฺขุภูตสฺส เปตสฺส. ปาปกมฺมสฺสาติ ปาปสมาจารสฺส. สีเส ติฏฺามิ มตฺถเกติ สีเส ติฏฺามิ, ติฏฺนฺโต จ มตฺถเก เอว ¶ ติฏฺามิ, น สีสปฺปมาเณ อากาเสติ อตฺโถ. ปรวิสยํ ปตฺโตติ มนุสฺสโลกํ อุปาทาย ปรวิสยภูตํ เปตฺติวิสยํ ปตฺโต. มเมวาติ มยฺหํ เอว ปริจารโก อโหสีติ วจนเสโส.
๗๗๓. ยํ ภทนฺเต หทนฺตฺเติ ภทนฺเต, อยฺย มหาโมคฺคลาน, ตสฺสํ วจฺจกุฏิยํ ยํ อฺเ อุหทนฺติ วจฺจํ โอสฺสชนฺติ. เอตํ เม โหติ โภชนนฺติ เอตํ วจฺจํ มยฺหํ ทิวเส ทิวเส โภชนํ โหติ. ยํ หทามีติ ตํ ปน วจฺจํ ขาทิตฺวา ยมฺปหํ วจฺจํ กโรมิ. เอตํ โส อุปชีวตีติ เอตํ มม วจฺจํ โส กุลูปกเปโต ทิวเส ทิวเส ขาทนวเสน อุปชีวติ, อตฺตภาวํ ยาเปตีติ อตฺโถ.
เตสุ กุฏุมฺพิโก เปสเล ภิกฺขู ‘‘เอวํ อาหารปริโภคโต วรํ ตุมฺหากํ คูถขาทน’’นฺติ อกฺโกสิ. กุลูปโก ปน กุฏุมฺพิกมฺปิ ตถาวจเน สมาทเปตฺวา สยํ ตถา อกฺโกสิ, เตนสฺส ตโตปิ ปฏิกุฏฺตรา ชีวิกา อโหสิ. อายสฺมา ¶ มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ ปวตฺตึ ภควโต อาโรเจสิ. ภควา ตมตฺถํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา อุปวาเท อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสสิ. สา เทสนา มหาชนสฺส สาตฺถิกา อโหสีติ.
คูถขาทกเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. คูถขาทกเปติวตฺถุวณฺณนา
๗๗๔-๘๑. คูถกูปโต ¶ อุคฺคนฺตฺวาติ อิทํ สตฺถริ เชตวเน วิหรนฺเต อฺตรํ คูถขาทกเปตึ อารพฺภ วุตฺตํ. ตสฺสา วตฺถุ อนนฺตรวตฺถุสทิสํ. ตตฺถ อุปาสเกน วิหาโร การิโตติ อุปาสกสฺส วเสน อาคตํ, อิธ ปน อุปาสิกายาติ อยเมว วิเสโส. เสสํ วตฺถุสฺมึ คาถาสุ จ อปุพฺพํ นตฺถิ.
คูถขาทกเปติวตฺถุวณฺณานา นิฏฺิตา.
๑๐. คณเปตวตฺถุวณฺณนา
นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาตฺถาติ อิทํ สตฺถริ เชตวเน วิหรนฺเต สมฺพหุเล เปเต อารพฺภ วุตฺตํ. สาวตฺถิยํ กิร สมฺพหุลา มนุสฺสา คณภูตา อสฺสทฺธา อปฺปสนฺนา มจฺเฉรมลปริยุฏฺิตจิตฺตา ทานาทิสุจริตวิมุขา หุตฺวา จิรํ ชีวิตฺวา กายสฺส เภทา นครสฺส สมีเป เปตโยนิยํ นิพฺพตฺตึสุ ¶ . อเถกทิวสํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค เปเต ทิสฺวา –
‘‘นคฺคา ทุพฺพณรูปาตฺถ, กิสา ธมนิสนฺถตา;
อุปฺผาสุลิกา กิสิกา, เก นุ ตุมฺเหตฺถ มาริสา’’ติ. –
คาถาย ปุจฺฉิ. ตตฺถ ทุพฺพณฺณรูปาตฺถาติ ทุพฺพณฺณสรีรา โหถ. เก นุ ตุมฺเหตฺถาติ ตุมฺเห เก นุ นาม ภวถ. มาริสาติ เต อตฺตโน สารุปฺปวเสน อาลปติ.
ตํ สุตฺวา เปตา –
‘‘มยํ ¶ ภทนฺเต เปตมฺหา, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ. –
คาถาย อตฺตโน เปตภาวํ ปกาเสตฺวา ปุน เถเรน –
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺสกมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ. –
คาถาย กตกมฺมํ ปุจฺฉิตา –
‘‘อนาวเฏสุ ¶ ติตฺเถสุ, วิจินิมฺหทฺธมาสกํ;
สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากมฺห อตฺตโน.
‘‘นทึ อุเปม ตสิตา, ริตฺตกา ปริวตฺตติ;
ฉายํ อุเปม อุณฺเหสุ, อาตโป ปริวตฺตติ.
‘‘อคฺคิวณฺโณ จ โน วาโต, ฑหนฺโต อุปวายติ;
เอตฺจ ภนฺเต อรหาม, อฺฺจ ปาปกํ ตโต.
‘‘อปิ ¶ โยชนานิ คจฺฉาม, ฉาตา อาหารเคธิโน;
อลทฺธาว นิวตฺตาม, อโห โน อปฺปปฺุตา.
‘‘ฉาตา ปมุจฺฉิตา ภนฺตา, ภูมิยํ ปฏิสุมฺภิตา;
อุตฺตานา ปฏิกิราม, อวกุชฺชา ปตามเส.
‘‘เต จ ตตฺเถว ปติตา, ภูมิยํ ปฏิสุมฺภิตา;
อุรํ สีสฺจ ฆฏฺเฏม, อโห โน อปฺปปฺุตา.
‘‘เอตฺจ ภนฺเต อรหาม, อฺฺจ ปาปกํ ตโต;
สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากมฺห อตฺตโน.
‘‘เต หิ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนึ ลทฺธาน มานุสึ;
วทฺู สีลสมฺปนฺนา, กาหาม กุสลํ พหุ’’นฺติ. –
อตฺตนา กตกมฺมํ กเถสุํ.
๗๘๘. ตตฺถ อปิ โยชนานิ คจฺฉามาติ อเนกานิปิ โยชนานิ คจฺฉาม. กถํ? ฉาตา อาหารเคธิโนติ ¶ , จิรกาลํ ชิฆจฺฉาย ชิฆจฺฉิตา อาหาเร คิทฺธา อภิคิชฺฌนฺตา หุตฺวา, เอวํ คนฺตฺวาปิ กิฺจิ อาหารํ อลทฺธาเยว นิวตฺตาม. อปฺปปฺุตาติ อปฺุตา อกตกลฺยาณตา.
๗๘๙. อุตฺตานา ¶ ปฏิกิรามาติ กทาจิ อุตฺตานา หุตฺวา วิกิริยมานงฺคปจฺจงฺคา วิย วตฺตาม. อวกุชฺชา ปตามเสติ กทาจิ อวกุชฺชา หุตฺวา ปตาม.
๗๙๐. เต จาติ เต มยํ. อุรํ สีสฺจ ฆฏฺเฏมาติ อวกุชฺชา หุตฺวา ปติตา อุฏฺาตุํ อสกฺโกนฺตา เวธนฺตา เวทนาปฺปตฺตา อตฺตโน อตฺตโน อุรํ สีสฺจ ปฏิฆํสาม. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.
เถโร ¶ ตํ ปวตฺตึ ภควโต อาโรเจสิ. ภควา ตมตฺถํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสสิ. ตํ สุตฺวา มหาชโน มจฺเฉรมลํ ปหาย ทานาทิสุจริตนิรโต อโหสีติ.
คณเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. ปาฏลิปุตฺตเปตวตฺถุวณฺณนา
ทิฏฺา ตยา นิรยา ติรจฺฉานโยนีติ อิทํ สตฺถริ เชตวเน วิหรนฺเต อฺตรํ วิมานเปตํ อารพฺภ วุตฺตํ. สาวตฺถิวาสิโน กิร ปาฏลิปุตฺตวาสิโน จ พหู วาณิชา นาวาย สุวณฺณภูมึ อคมึสุ. ตตฺเถโก อุปาสโก อาพาธิโก มาตุคาเม ปฏิพทฺธจิตฺโต กาลมกาสิ. โส กตกุสโลปิ เทวโลกํ อนุปปชฺชิตฺวา อิตฺถิยา ปฏิพทฺธจิตฺตตาย สมุทฺทมชฺเฌ วิมานเปโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ยสฺสํ ปน โส ปฏิพทฺธจิตฺโต, สา อิตฺถี สุวณฺณภูมิคามินึ นาวํ อภิรุยฺห คจฺฉติ. อถ โข โส เปโต ตํ อิตฺถึ คเหตุกาโม นาวาย คมนํ อุปรุนฺธิ. อถ วาณิชา ‘‘เกน นุ โข การเณน อยํ นาวา น ¶ คจฺฉตี’’ติ วีมํสนฺตา กาฬกณฺณิสลากํ วิจาเรสุํ. อมนุสฺสิทฺธิยา ยาวตติยํ ตสฺสา เอว อิตฺถิยา ปาปุณิ, ยสฺสํ โส ปฏิพทฺธจิตฺโต. ตํ ทิสฺวา วาณิชา เวฬุกลาปํ สมุทฺเท โอตาเรตฺวา ตสฺส อุปริ ตํ อิตฺถึ โอตาเรสุํ. อิตฺถิยา โอตาริตมตฺตาย นาวา เวเคน สุวณฺณภูมึ อภิมุขา ปายาสิ. อมนุสฺโส ตํ อิตฺถึ อตฺตโน วิมานํ อาโรเปตฺวา ตาย สทฺธึ อภิรมิ.
สา ¶ เอกํ สํวจฺฉรํ อติกฺกมิตฺวา นิพฺพินฺนรูปา ตํ เปตํ ยาจนฺตี อาห – ‘‘อหํ อิธ วสนฺตี มยฺหํ สมฺปรายิกํ อตฺถํ กาตุํ น ลภามิ, สาธุ, มาริส, มํ ปาฏลิปุตฺตเมว เนหี’’ติ. โส ตาย ยาจิโต –
‘‘ทิฏฺา ตยา นิรยา ติรจฺฉานโยนิ, เปตา อสุรา อถวาปิ มานุสา เทวา;
สยมทฺทส กมฺมวิปากมตฺตโน, เนสฺสามิ ตํ ปาฏลิปุตฺตมกฺขตํ;
ตตฺถ คนฺตฺวา กุสลํ กโรหิ กมฺม’’นฺติ. –
คาถมาห. ตตฺถ ทิฏฺา ตยา นิรยาติ เอกจฺเจ ปจฺเจกนิรยาปิ ตยา ทิฏฺา. ติรจฺฉานโยนีติ มหานุภาวา นาคสุปณฺณาทิติรจฺฉานาปิ ทิฏฺา ตยาติ โยชนา. เปตาติ ขุปฺปิปาสาทิเภทา เปตา. อสุราติ กาลกฺจิกาทิเภทา อสุรา. เทวาติ เอกจฺเจ จาตุมหาราชิกา เทวา. โส กิร ¶ อตฺตโน อานุภาเวน อนฺตรนฺตรา ตํ คเหตฺวา ปจฺเจกนิรยาทิเก ทสฺเสนฺโต วิจรติ, เตน เอวมาห. สยมทฺทส กมฺมวิปากมตฺตโนติ นิรยาทิเก วิเสสโต คนฺตฺวา ปสฺสนฺตี สยเมว อตฺตนา กตกมฺมานํ วิปากํ ปจฺจกฺขโต อทฺทส อทกฺขิ. เนสฺสามิ ตํ ปาฏลิปุตฺตมกฺขตนฺติ อิทานาหํ ตํ อกฺขตํ เกนจิ อปริกฺขตํ มนุสฺสรูเปเนว ปาฏลิปุตฺตํ นยิสฺสามิ. ตฺวํ ปน ตตฺถ คนฺตฺวา กุสลํ กโรหิ กมฺมํ, กมฺมวิปากสฺส ปจฺจกฺขโต ทิฏฺตฺตา ยุตฺตปยุตฺตา ปฺุนิรตา โหหีติ อตฺโถ.
อถ ¶ สา อิตฺถี ตสฺส วจนํ สุตฺวา อตฺตมนา –
‘‘อตฺถกาโมสิ เม ยกฺข, หิตกาโมสิ เทวเต;
กโรมิ ตุยฺหํ วจนํ, ตฺวํสิ อาจริโย มม.
‘‘ทิฏฺา มยา นิรยา ติรจฺฉานโยนิ, เปตา อสุรา อถวาปิ มานุสา เทวา;
สยมทฺทสํ กมฺมวิปากมตฺตโน, กาหามิ ปฺุานิ อนปฺปกานี’’ติ. –
คาถมาห.
อถ ¶ โส เปโต ตํ อิตฺถึ คเหตฺวา อากาเสน คนฺตฺวา ปาฏลิปุตฺตนครสฺส มชฺเฌ เปตฺวา ปกฺกามิ. อถสฺสา าติมิตฺตาทโย ตํ ทิสฺวา ‘‘มยํ ปุพฺเพ สมุทฺเท ปกฺขิตฺตา มตาติ อสฺสุมฺห. สา อยํ ทิฏฺา วต, โภ, โสตฺถินา อาคตา’’ติ อภินนฺทมานา สมาคนฺตฺวา ตสฺสา ปวตฺตึ ปุจฺฉึสุ. สา เตสํ อาทิโต ปฏฺาย อตฺตนา ทิฏฺํ อนุภูตฺจ สพฺพํ กเถสิ. สาวตฺถิวาสิโนปิ โข เต วาณิชา อนุกฺกเมน สาวตฺถึ อุปคตกาเล สตฺถุ สนฺติกํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺนา ตํ ปวตฺตึ ภควโต อาโรเจสุํ. ภควา ตมตฺถํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา จตุนฺนํ ปริสานํ ธมฺมํ เทเสสิ. ตํ สุตฺวา มหาชโน สํเวคชาโต ทานาทิกุสลธมฺมนิรโต อโหสีติ.
ปาฏลิปุตฺตเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. อมฺพวนเปตวตฺถุวณฺณนา
อยฺจ เต โปกฺขรณี สุรมฺมาติ อิทํ สตฺถริ สาวตฺถิยํ วิหรนฺเต อมฺพเปตํ อารพฺภ วุตฺตํ ¶ . สาวตฺถิยํ กิร อฺตโร คหปติ ปริกฺขีณโภโค อโหสิ. ตสฺส ภริยา กาลมกาสิ, เอกา ธีตาเยว โหติ. โส ตํ อตฺตโน มิตฺตสฺส เคเห เปตฺวา อิณวเสน คหิเตน กหาปณสเตน ภณฺฑํ คเหตฺวา สตฺเถน สทฺธึ วณิชฺชาย คโต, น จิเรเนว มูเลน สห อุทยภูตานิ ปฺจ กหาปณสตานิ ลภิตฺวา สตฺเถน สห ปฏินิวตฺติ. อนฺตรามคฺเค ¶ โจรา ปริยุฏฺาย สตฺถํ ปาปุณึสุ, สตฺถิกา อิโต จิโต จ ปลายึสุ. โส ปน คหปติ อฺตรสฺมึ คจฺเฉ กหาปเณ นิกฺขิปิตฺวา อวิทูเร นิลียิ. โจรา ตํ คเหตฺวา ชีวิตา โวโรเปสุํ. โส ธนโลเภน ตตฺเถว เปโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ.
วาณิชา สาวตฺถึ คนฺตฺวา ตสฺส ธีตุยา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสุํ. สา ปิตุ มรเณน อาชีวิกาภเยน จ อติวิย สฺชาตโทมนสฺสา พาฬฺหํ ปริเทวิ. อถ นํ โส ปิตุ สหาโย กุฏุมฺพิโก ‘‘ยถา นาม กุลาลภาชนํ สพฺพํ เภทนปริยนฺตํ, เอวเมว สตฺตานํ ชีวิตํ เภทนปริยนฺตํ. มรณํ ¶ นาม สพฺพสาธารณํ อปฺปฏิการฺจ, ตสฺมา มา ตฺวํ ปิตริ อติพาฬฺหํ โสจิ, มา ปริเทวิ, อหํ เต ปิตา, ตฺวํ มยฺหํ ธีตา, อหํ ตว ปิตุ กิจฺจํ กโรมิ, ตฺวํ ปิตุโน เคเห วิย อิมสฺมึ เคเห อวิมนา อภิรมสฺสู’’ติ วตฺวา สมสฺสาเสสิ. สา ตสฺส วจเนน ปฏิปฺปสฺสทฺธโสกา ปิตริ วิย ตสฺมึ สฺชาตคารวพหุมานา อตฺตโน กปณภาเวน ตสฺส เวยฺยาวจฺจการินี หุตฺวา วตฺตมานา ปิตรํ อุทฺทิสฺส มตกิจฺจํ กาตุกามา ยาคุํ ปจิตฺวา มโนสิลาวณฺณานิ สุปริปกฺกานิ มธุรานิ อมฺพผลานิ กํสปาติยํ เปตฺวา ยาคุํ อมฺพผลานิ จ ทาสิยา คาหาเปตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอวมาห – ‘‘ภควา มยฺหํ ทกฺขิณาย ปฏิคฺคหเณน อนุคฺคหํ กโรถา’’ติ. สตฺถา มหากรุณาย สฺโจทิตมานโส ตสฺสา มโนรถํ ปูเรนฺโต นิสชฺชาการํ ทสฺเสสิ. สา หฏฺตุฏฺา ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน อตฺตนา อุปนีตํ สุวิสุทฺธวตฺถํ อตฺถริตฺวา อทาสิ, นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน.
อถ ¶ สา ภควโต ยาคุํ อุปนาเมสิ, ปฏิคฺคเหสิ ภควา ยาคุํ. อถ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ภิกฺขูนมฺปิ ยาคุํ ทตฺวา ปุน โธตหตฺถา อมฺพผลานิ ภควโต อุปนาเมสิ, ภควา ตานิ ปริภฺุชิ. สา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา เอวมาห ¶ – ‘‘ยา เม, ภนฺเต, ปจฺจตฺถรณยาคุอมฺพผลทานวเสน ปวตฺตา ทกฺขิณา, สา เม ปิตรํ ปาปุณาตู’’ติ. ภควา ‘‘เอวํ โหตู’’ติ วตฺวา อนุโมทนํ อกาสิ. สา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. ตาย ทกฺขิณาย สมุทฺทิฏฺมตฺตาย โส เปโต อมฺพวนอุยฺยานวิมานกปฺปรุกฺขโปกฺขรณิโย มหติฺจ ทิพฺพสมฺปตฺตึ ปฏิลภิ.
อถ เต วาณิชา อปเรน สมเยน วณิชฺชาย คจฺฉนฺตา ตเมว มคฺคํ ปฏิปนฺนา ปุพฺเพ วสิตฏฺาเน เอกรตฺตึ วาสํ กปฺเปสุํ. เต ทิสฺวา โส วิมานเปโต อุยฺยานวิมานาทีหิ สทฺธึ เตสํ อตฺตานํ ทสฺเสสิ. เต วาณิชา ตํ ทิสฺวา เตน ลทฺธสมฺปตฺตึ ปุจฺฉนฺตา –
‘‘อยฺจ เต โปกฺขรณี สุรมฺมา, สมา สุติตฺถา จ มโหทกา จ;
สุปุปฺผิตา ภมรคณานุกิณฺณา, กถํ ตยา ลทฺธา อยํ มนฺุา.
‘‘อิทฺจ ¶ เต อมฺพวนํ สุรมฺมํ, สพฺโพตุกํ ธารยเต ผลานิ;
สุปุปฺผิตํ ภมรคณานุกิณฺณํ, กถํ ตยา ลทฺธมิทํ วิมาน’’นฺติ. –
อิมา ทฺเว คาถา อโวจุํ.
๗๙๖. ตตฺถ สุรมฺมาติ สุฏฺุ รมณียา. สมาติ สมตลา. สุติตฺถาติ รตนมยโสปานตาย สุนฺทรติตฺถา. มโหทกาติ พหุชลา.
๗๙๗. สพฺโพตุกนฺติ ปุปฺผูปคผลูปครุกฺขาทีหิ สพฺเพสุ อุตูสุ สุขาวหํ. เตนาห ‘‘ธารยเต ผลานี’’ติ. สุปุปฺผิตนฺติ นิจฺจํ สุปุปฺผิตํ.
ตํ สุตฺวา เปโต โปกฺขรณิอาทีนํ ปฏิลาภการณํ อาจิกฺขนฺโต –
‘‘อมฺพปกฺกํ ทกํ ยาคุ, สีตจฺฉายา มโนรมา;
ธีตาย ทินฺนทาเนน, เตน เม อิธ ลพฺภตี’’ติ. –
คาถมาห. ตตฺถ ¶ เตน เม อิธ ลพฺภตีติ ยํ ตํ ภควโต ภิกฺขูนฺจ อมฺพปกฺกํ อุทกํ ยาคฺุจ มมํ อุทฺทิสฺส เทนฺติยา มยฺหํ ธีตาย ทินฺนํ ทานํ, เตน เม ธีตาย ทินฺนทาเนน อิธ อิมสฺมึ ทิพฺเพ อมฺพวเน สพฺโพตุกํ อมฺพปกฺกํ, อิมิสฺสา ทิพฺพาย มนฺุาย โปกฺขรณิยา ทิพฺพํ อุทกํ, ยาคุยา อตฺถรณสฺส จ ทาเนน อุยฺยานวิมานกปฺปรุกฺขาทีสุ สีตจฺฉายา มโนรมา อิธ ลพฺภติ, สมิชฺฌตีติ อตฺโถ.
เอวฺจ ¶ ปน วตฺวา โส เปโต เต วาณิเช เนตฺวา ตานิ ปฺจ กหาปณสตานิ ทสฺเสตฺวา ‘‘อิโต อุปฑฺฒํ ตุมฺเห คณฺหถ, อุปฑฺฒํ มยา คหิตํ อิณํ โสเธตฺวา สุเขน ชีวตูติ มยฺหํ ธีตาย เทถา’’ติ อาห. วาณิชา อนุกฺกเมน สาวตฺถึ ปตฺวา ตสฺส ธีตาย กเถตฺวา เตน อตฺตโน ทินฺนภาคมฺปิ ตสฺสา เอว อทํสุ. สา กหาปณสตํ ธนิกานํ ทตฺวา อิตรํ อตฺตโน ปิตุ สหายสฺส ตสฺส กุฏุมฺพิกสฺส ทตฺวา สยํ เวยฺยาวจฺจํ กโรนฺติ นิวสติ. โส ‘‘อิทํ สพฺพํ ตุยฺหํเยว โหตู’’ติ ¶ ตสฺสาเยว ปฏิทตฺวา ตํ อตฺตโน เชฏฺปุตฺตสฺส ฆรสามินึ อกาสิ.
สา คจฺฉนฺเต กาเล เอกํ ปุตฺตํ ลภิตฺวา ตํ อุปลาเลนฺตี –
‘‘สนฺทิฏฺิกํ กมฺมํ เอวํ ปสฺสถ, ทานสฺส ทมสฺส สํยมสฺส วิปากํ;
ทาสี อหํ อยฺยกุเลสุ หุตฺวา, สุณิสา โหมิ อคารสฺส อิสฺสรา’’ติ. –
อิมํ คาถํ วทติ.
อเถกทิวสํ สตฺถา ตสฺสา าณปริปากํ โอโลเกตฺวา โอภาสํ ผริตฺวา สมฺมุเข ิโต วิย อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา –
‘‘อสาตํ สาตรูเปน, ปิยรูเปน อปฺปิยํ;
ทุกฺขํ สุขสฺส รูเปน, ปมตฺตํ อติวตฺตตี’’ติ. (อุทา. ๑๘; ชา. ๑.๑.๑๐๐) –
อิมํ คาถมาห. สา คาถาปริโยสาเน โสตาปตฺติผเล ปติฏฺิตา. สา ทุติยทิวเส พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ¶ ทานํ ทตฺวา ตํ ปวตฺตึ ภควโต อาโรเจสิ. ภควา ตมตฺถํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสสิ. สา เทสนา มหาชนสฺส สาตฺถิกา อโหสีติ.
อมฺพวนเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. อกฺขรุกฺขเปตวตฺถุวณฺณนา
ยํ ททาติ น ตํ โหตีติ อิทํ อกฺขทายกเปตวตฺถุ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควติ สาวตฺถิยํ ¶ วิหรนฺเต อฺตโร สาวตฺถิวาสี อุปาสโก สกเฏหิ ภณฺฑสฺส ปูเรตฺวา วณิชฺชาย วิเทสํ คนฺตฺวา ตตฺถ อตฺตโน ภณฺฑํ วิกฺกิณิตฺวา ปฏิภณฺฑํ สกเฏสุ อาโรเปตฺวา สาวตฺถึ อุทฺทิสฺส มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. ตสฺส มคฺคํ คจฺฉนฺตสฺส อฏวิยํ เอกสฺส สกฏสฺส อกฺโข ภิชฺชิ. อถ อฺตโร ปุริโส รุกฺขคหณตฺถํ กุาริผรสุํ คาหาเปตฺวา อตฺตโน คามโต นิกฺขมิตฺวา อรฺเ วิจรนฺโต ตํ านํ ปตฺวา ¶ ตํ อุปาสกํ อกฺขภฺชเนน โทมนสฺสปฺปตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ วาณิโช อกฺขภฺชเนน อฏวิยํ กิลมตี’’ติ อนุกมฺปํ อุปาทาย รุกฺขทณฺฑํ ฉินฺทิตฺวา ทฬฺหํ อกฺขํ กตฺวา สกเฏ โยเชตฺวา อทาสิ.
โส อปเรน สมเยน กาลํ กตฺวา ตสฺมึเยว อฏวิปเทเส ภุมฺมเทวตา หุตฺวา นิพฺพตฺโต. อตฺตโน กมฺมํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา รตฺติยํ ตสฺส อุปาสกสฺส เคหํ คนฺตฺวา เคหทฺวาเร ตฺวา –
‘‘ยํ ททาติ น ตํ โหติ, เทเถว ทานํ ทตฺวา อุภยํ ตรติ;
อุภยํ เตน ทาเนน คจฺฉติ, ชาครถ มา ปมชฺชถา’’ติ. –
คาถมาห. ตตฺถ ยํ ททาติ น ตํ โหตีติ ยํ เทยฺยธมฺมํ ทายโก เทติ, น ตเทว ปรโลเก ตสฺส ทานสฺส ผลภาเวน โหติ, อถ โข อฺํ พหุํ อิฏฺํ กนฺตํ ผลํ โหติเยว. ตสฺมา เทเถว ทานนฺติ ยถา ตถา ทานํ เทถ เอว. ตตฺถ การณมาห ‘‘ทตฺวา อุภยํ ตรตี’’ติ ¶ , ทานํ ทตฺวา ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ สมฺปรายิกมฺปิ ทุกฺขํ อนตฺถฺจ อติกฺกมติ. อุภยํ เตน ทาเนน คจฺฉตีติ ทิฏฺธมฺมิกํ สมฺปรายิกฺจาติ อุภยมฺปิ สุขํ เตน ทาเนน อุปคจฺฉติ ปาปุณาติ, อตฺตโน ปเรสฺจ หิตสุขวเสนาปิ อยมตฺโถ โยเชตพฺโพ. ชาครถ มา ปมชฺชถาติ เอวํ อุภยานตฺถนิวารณํ อุภยหิตสาธนํ ทานํ สมฺปาเทตุํ ชาครถ, ทานูปกรณานิ สชฺเชตฺวา ตตฺถ จ อปฺปมตฺตา โหถาติ อตฺโถ. อาทรทสฺสนตฺถํ เจตฺถ อาเมฑิตวเสน วุตฺตํ.
วาณิโช อตฺตโน กิจฺจํ ตีเรตฺวา ปฏินิวตฺติตฺวา อนุกฺกเมน สาวตฺถึ ปตฺวา ทุติยทิวเส สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน ตํ ปวตฺตึ ภควโต อาโรเจสิ. สตฺถา ตมตฺถํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสสิ. สา เทสนา มหาชนสฺส สาตฺถิกา อโหสีติ.
อกฺขรุกฺขเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๔. โภคสํหรณเปติวตฺถุวณฺณนา
มยํ ¶ ¶ โภเค สํหริมฺหาติ อิทํ โภคสํหรณเปติวตฺถุ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควติ เวฬุวเน วิหรนฺเต ราชคเห กิร จตสฺโส อิตฺถิโย มานกูฏาทิวเสน สปฺปิมธุเตลธฺาทีหิ โวหารํ กตฺวา อโยนิโส โภเค สํหริตฺวา ชีวนฺติ. ตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา พหินคเร ปริขาปิฏฺเ เปติโย หุตฺวา นิพฺพตฺตึสุ. ตา รตฺติยํ ทุกฺขาภิภูตา –
‘‘มยํ โภเค สํหริมฺหา, สเมน วิสเมน จ;
เต อฺเ ปริภฺุชนฺติ, มยํ ทุกฺขสฺส ภาคินี’’ติ. –
วิปฺปลปนฺติโย เภรเวน มหาสทฺเทน วิรวึสุ. มนุสฺสา ตํ สุตฺวา ภีตตสิตา วิภาตาย รตฺติยา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ สชฺเชตฺวา สตฺถารํ ภิกฺขุสงฺฆฺจ นิมนฺเตตฺวา ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน ปริวิสิตฺวา ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ อุปนิสีทิตฺวา ตํ ปวตฺตึ นิเวเทสุํ. ภควา ‘‘อุปาสกา เตน ¶ โว สทฺเทน โกจิ อนฺตราโย นตฺถิ, จตสฺโส ปน เปติโย ทุกฺขาภิภูตา อตฺตนา ทุกฺกฏํ กมฺมํ กเถตฺวา ปริเทวนวเสน วิสฺสเรน วิรวนฺติโย –
‘‘มยํ โภเค สํหริมฺหา, สเมน วิสเมน จ;
เต อฺเ ปริภฺุชนฺติ, มยํ ทุกฺขสฺส ภาคินี’’ติ. –
อิมํ คาถมาหํสูติ อโวจ.
ตตฺถ โภเคติ ปริภฺุชิตพฺพฏฺเน ‘‘โภคา’’ติ ลทฺธนาเม วตฺถาภรณาทิเก วิตฺตูปกรณวิเสเส. สํหริมฺหาติ มจฺเฉรมเลน ปริยาทินฺนจิตฺตา กสฺสจิ กิฺจิ อทตฺวา สฺจินิมฺห. สเมน วิสเมน จาติ าเยน จ อฺาเยน จ, ายปติรูปเกน วา อฺาเยน เต โภเค อมฺเหหิ สํหริเต อิทานิ อฺเ ปริภฺุชนฺติ. มยํ ทุกฺขสฺส ภาคินีติ มยํ ปน กสฺสจิปิ สุจริตสฺส อกตตฺตา ทุจฺจริตสฺส จ กตตฺตา เอตรหิ เปตโยนิปริยาปนฺนสฺส มหโต ทุกฺขสฺส ภาคินิโย ภวาม, มหาทุกฺขํ อนุภวามาติ อตฺโถ.
เอวํ ¶ ¶ ภควา ตาหิ เปตีหิ วุตฺตํ คาถํ วตฺวา ตาสํ ปวตฺตึ กเถตฺวา ตํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสตฺวา อุปริ สจฺจานิ ปกาเสสิ, สจฺจปริโยสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.
โภคสํหรณเปติวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๕. เสฏฺิปุตฺตเปตวตฺถุวณฺณนา
สฏฺิวสฺสสหสฺสานีติ อิทํ เสฏฺิปุตฺตเปตวตฺถุ. ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน. เตน โข ปน สมเยน ราชา ปเสนทิ โกสโล อลงฺกตปฺปฏิยตฺโต หตฺถิกฺขนฺธวรคโต มหติยา ราชิทฺธิยา มหนฺเตน ราชานุภาเวน นครํ อนุสฺจรนฺโต อฺตรสฺมึ เคเห อุปริปาสาเท วาตปานํ วิวริตฺวา ตํ ราชวิภูตึ โอโลเกนฺตึ รูปสมฺปตฺติยา เทวจฺฉราปฏิภาคํ เอกํ อิตฺถึ ทิสฺวา อทิฏฺปุพฺเพ อารมฺมเณ สหสา สมุปฺปนฺเนน กิเลสสมุทาจาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺโต สติปิ กุลรูปาจาราทิคุณวิเสสสมฺปนฺเน ¶ อนฺเตปุรชเน สภาวลหุกสฺส ปน ทุทฺทมสฺส จิตฺตสฺส วเสน ตสฺสํ อิตฺถิยํ ปฏิพทฺธมานโส หุตฺวา ปจฺฉาสเน นิสินฺนสฺส ปุริสสฺส ‘‘อิมํ ปาสาทํ อิมฺจ อิตฺถึ อุปธาเรหี’’ติ สฺํ ทตฺวา ราชเคหํ ปวิฏฺโ. อฺํ สพฺพํ อมฺพสกฺกรเปตวตฺถุมฺหิ อาคตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อยํ ปน วิเสโส – อิธ ปุริโส สูริเย อนตฺถงฺคเตเยว อาคนฺตฺวา นครทฺวาเร ถกิเต อตฺตนา อานีตํ อรุณวณฺณมตฺติกํ อุปฺปลานิ จ นครทฺวารกวาเฏ ลคฺเคตฺวา นิปชฺชิตุํ เชตวนํ อคมาสิ. ราชา ปน สิริสยเน วาสูปคโต มชฺฌิมยาเม ส-อิติ น-อิติ ทุ-อิติ โส-อิติ จ อิมานิ จตฺตาริ อกฺขรานิ มหตา กณฺเน อุจฺจาริตานิ วิย วิสฺสรวเสน อสฺโสสิ. ตานิ กิร อตีเต กาเล สาวตฺถิวาสีหิ จตูหิ เสฏฺิปุตฺเตหิ โภคมทมตฺเตหิ โยพฺพนกาเล ปารทาริกกมฺมวเสน พหุํ อปฺุํ ปสเวตฺวา อปรภาเค กาลํ กตฺวา ตสฺเสว นครสฺส สมีเป โลหกุมฺภิยํ นิพฺพตฺติตฺวา ปจฺจมาเนหิ โลหกุมฺภิยา มุขวฏฺฏึ ปตฺวา เอเกกํ คาถํ วตฺถุกาเมหิ อุจฺจาริตานํ ตาสํ คาถานํ อาทิอกฺขรานิ ¶ , เต ปมกฺขรเมว วตฺวา เวทนาปฺปตฺตา หุตฺวา โลหกุมฺภึ โอตรึสุ.
ราชา ปน ตํ สทฺทํ สุตฺวา ภีตตสิโต สํวิคฺโค โลมหฏฺชาโต ตํ รตฺตาวเสสํ ทุกฺเขน วีตินาเมตฺวา วิภาตาย รตฺติยา ปุโรหิตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ตํ ปวตฺตึ กเถสิ. ปุโรหิโต ราชานํ ¶ ภีตตสิตํ ตฺวา ลาภคิทฺโธ ‘‘อุปฺปนฺโน โข อยํ มยฺหํ พฺราหฺมณานฺจ ลาภุปฺปาทนุปาโย’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘มหาราช, มหา วตายํ อุปทฺทโว อุปฺปนฺโน, สพฺพจตุกฺกํ ยฺํ ยชาหี’’ติ อาห. ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา อมจฺเจ อาณาเปสิ ‘‘สพฺพจตุกฺกยฺสฺส อุปกรณานิ สชฺเชถา’’ติ. ตํ สุตฺวา มลฺลิกา เทวี ราชานํ เอวมาห – ‘‘กสฺมา, มหาราช, พฺราหฺมณสฺส วจนํ สุตฺวา อเนกปาณวธหึสนกกิจฺจํ กาตุกาโมสิ, นนุ สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตาณจาโร ภควา ปุจฺฉิตพฺโพ? ยถา ¶ จ เต ภควา พฺยากริสฺสติ, ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ. ราชา ตสฺสา วจนํ สุตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ ปวตฺตึ ภควโต อาโรเจสิ. ภควา ‘‘น, มหาราช, ตโตนิทานํ ตุยฺหํ โกจิ อนฺตราโย’’ติ วตฺวา อาทิโต ปฏฺาย เตสํ โลหกุมฺภินิรเย นิพฺพตฺตสตฺตานํ ปวตฺตึ กเถตฺวา เตหิ ปจฺเจกํ อุจฺจาเรตุํ อารทฺธคาถาโย –
‘‘สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;
นิรเย ปจฺจมานานํ, กทา อนฺโต ภวิสฺสติ.
‘‘นตฺถิ อนฺโต กุโต อนฺโต, น อนฺโต ปฏิทิสฺสติ;
ตถา หิ ปกตํ ปาปํ, ตุยฺหํ มยฺหฺจ มาริสา.
‘‘ทุชฺชีวิตมชีวิมฺห, เย สนฺเต น ททมฺหเส;
สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากมฺห อตฺตโน.
‘‘โสหํ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนึ ลทฺธาน มานุสึ;
วทฺู สีลสมฺปนฺโน, กาหามิ กุสลํ พหุ’’นฺติ. –
ปริปุณฺณํ กตฺวา กเถสิ.
๘๐๒. ตตฺถ ¶ สฏฺิวสฺสสหสฺสานีติ วสฺสานํ สฏฺิสหสฺสานิ. ตสฺมึ กิร โลหกุมฺภินิรเย นิพฺพตฺตสตฺโต อโธ โอคจฺฉนฺโต ตึสาย วสฺสสหสฺเสหิ เหฏฺิมตลํ ปาปุณาติ, ตโต อุทฺธํ อุคฺคจฺฉนฺโตปิ ตึสาย เอว วสฺสสหสฺเสหิ มุขวฏฺฏิปเทสํ ปาปุณาติ, ตาย สฺาย โส ‘‘สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส’’ติ คาถํ วตฺตุกาโม ส-อิติ วตฺวา อธิมตฺตเวทนาปฺปตฺโต ¶ หุตฺวา อโธมุโข ปติ. ภควา ปน ตํ รฺโ ปริปุณฺณํ กตฺวา กเถสิ. เอส นโย เสสคาถาสุปิ. ตตฺถ กทา อนฺโต ภวิสฺสตีติ โลหกุมฺภินิรเย ปจฺจมานานํ อมฺหากํ กทา นุ โข อิมสฺส ทุกฺขสฺส อนฺโต ปริโยสานํ ภวิสฺสติ.
๘๐๓. ตถา หีติ ยถา ตุยฺหํ มยฺหฺจ อิมสฺส ทุกฺขสฺส นตฺถิ อนฺโต, น อนฺโต ปฏิทิสฺสติ, ตถา เตน ปกาเรน ปาปกํ กมฺมํ ปกตํ ตยา มยา จาติ วิภตฺตึ วิปริณาเมตฺวา วตฺตพฺพํ.
๘๐๔. ทุชฺชีวิตนฺติ วิฺูหิ ครหิตพฺพํ ชีวิตํ. เย สนฺเตติ เย มยํ สนฺเต วิชฺชมาเน เทยฺยธมฺเม. น ททมฺหเสติ ¶ น อทมฺห. วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากมฺห อตฺตโน’’ติ วุตฺตํ.
๘๐๕. โสหนฺติ โส อหํ. นูนาติ ปริวิตกฺเก นิปาโต. อิโตติ อิมสฺมา โลหกุมฺภินิรยา. คนฺตฺวาติ อปคนฺตฺวา. โยนึ ลทฺธาน มานุสินฺติ มนุสฺสโยนึ มนุสฺสตฺตภาวํ ลภิตฺวา. วทฺูติ ปริจฺจาคสีโล, ยาจกานํ วา วจนฺู. สีลสมฺปนฺโนติ สีลาจารสมฺปนฺโน. กาหามิ กุสลํ พหุนฺติ ปุพฺเพ วิย ปมาทํ อนาปชฺชิตฺวา พหุํ ปหูตํ กุสลํ ปฺุกมฺมํ กริสฺสามิ, อุปจินิสฺสามีติ อตฺโถ.
สตฺถา อิมา คาถาโย วตฺวา วิตฺถาเรน ธมฺมํ เทเสสิ, เทสนาปริโยสาเน มตฺติการตฺตุปฺปลหารโก ปุริโส โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ราชา สฺชาตสํเวโค ปรปริคฺคเห อภิชฺฌํ ปหาย สทารสนฺตุฏฺโ อโหสีติ.
เสฏฺิปุตฺตเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๖. สฏฺิกูฏเปตวตฺถุวณฺณนา
กึ ¶ นุ อุมฺมตฺตรูโปวาติ อิทํ สตฺถริ เวฬุวเน วิหรนฺเต อฺตรํ เปตํ อารพฺภ วุตฺตํ. อตีเต กิร พาราณสินคเร อฺตโร ปีสปฺปี สาลิตฺตกปโยเค กุสโล, ตหึ สกฺขรขิปนสิปฺเป นิปฺผตฺตึ คโต นครทฺวาเร นิคฺโรธรุกฺขมูเล นิสีทิตฺวา สกฺขรปหาเรหิ หตฺถิอสฺสมนุสฺสรถกูฏาคารธชปุณฺณฆฏาทิรูปานิ นิคฺโรธปตฺเตสุ ทสฺเสติ. นครทารกา อตฺตโน กีฬนตฺถาย ¶ มายกฑฺฒมาสกาทีนิ ทตฺวา ยถารุจิ ตานิ สิปฺปานิ การาเปนฺติ.
อเถกทิวสํ พาราณสิราชา นครโต นิกฺขมิตฺวา ตํ นิคฺโรธมูลํ อุปคโต นิคฺโรธปตฺเตสุ หตฺถิรูปาทิวเสน นานาวิธรูปวิภตฺติโย อปฺปิตา ทิสฺวา มนุสฺเส ปุจฺฉิ – ‘‘เกน นุ โข อิเมสุ นิคฺโรธปตฺเตสุ เอวํ นานาวิธรูปวิภตฺติโย กตา’’ติ? มนุสฺสา ตํ ปีสปฺปึ ทสฺเสสุํ ‘‘เทว, อิมินา กตา’’ติ ¶ . ราชา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา เอวมาห – ‘‘สกฺกา นุ โข, ภเณ, มยา ทสฺสิตสฺส เอกสฺส ปุริสสฺส กเถนฺตสฺส อชานนฺตสฺเสว กุจฺฉิยํ อชลณฺฑิกาหิ ปูเรตุ’’นฺติ? ‘‘สกฺกา, เทวา’’ติ. ราชา ตํ อตฺตโน ราชภวนํ เนตฺวา พหุภาณิเก ปุโรหิเต นิพฺพินฺนรูโป ปุโรหิตํ ปกฺโกสาเปตฺวา เตน สห วิวิตฺเต โอกาเส สาณิปาการปริกฺขิตฺเต นิสีทิตฺวา มนฺตยมาโน ปีสปฺปึ ปกฺโกสาเปสิ. ปีสปฺปี นาฬิมตฺตา อชลณฺฑิกา อาทายาคนฺตฺวา รฺโ อาการํ ตฺวา ปุโรหิตาภิมุโข นิสินฺโน เตน มุเข วิวเฏ สาณิปาการวิวเรน เอเกกํ อชลณฺฑิกํ ตสฺส คลมูเล ปติฏฺาเปสิ. โส ลชฺชาย อุคฺคิลิตุํ อสกฺโกนฺโต สพฺพา อชฺโฌหริ. อถ นํ ราชา อชลณฺฑิกาหิ ปูริโตทรํ วิสฺสชฺชิ – ‘‘คจฺฉ, พฺราหฺมณ, ลทฺธํ ตยา พหุภาณิตาย ผลํ, มทฺทนผลปิยงฺคุตจาทีหิ อภิสงฺขตํ ปานกํ ปิวิตฺวา อุจฺฉฑฺเฑหิ, เอวํ เต โสตฺถิ ภวิสฺสตี’’ติ. ตสฺส จ ปีสปฺปิสฺส เตน กมฺเมน อตฺตมโน หุตฺวา จุทฺทส คาเม อทาสิ. โส คาเม ลภิตฺวา อตฺตานํ สุเขนฺโต ปีเณนฺโต ปริชนมฺปิ สุเขนฺโต ปีเณนฺโต สมณพฺราหฺมณาทีนํ ยถารหํ กิฺจิ เทนฺโต ทิฏฺธมฺมิกํ สมฺปรายิกฺจ อตฺถํ อหาเปนฺโต สุเขเนว ชีวติ, อตฺตโน สนฺติกํ อุปคตานํ สิปฺปํ สิกฺขนฺตานํ ภตฺตเวตนํ เทติ.
อเถโก ¶ ปุริโส ตสฺส สนฺติกํ อุปคนฺตฺวา เอวมาห – ‘‘สาธุ, อาจริย, มมฺปิ เอตํ สิปฺปํ สิกฺขาเปหิ, มยฺหํ ปน อลํ ภตฺตเวตเนนา’’ติ. โส ตํ ปุริสํ ตํ สิปฺปํ สิกฺขาเปสิ. โส สิกฺขิตสิปฺโป สิปฺปํ วีมํสิตุกาโม คนฺตฺวา คงฺคาตีเร นิสินฺนสฺส สุเนตฺตสฺส นาม ปจฺเจกพุทฺธสฺส สกฺขราภิฆาเตน สีสํ ภินฺทิ. ปจฺเจกพุทฺโธ ตตฺเถว คงฺคาตีเร ปรินิพฺพายิ. มนุสฺสา ¶ ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ตํ ปุริสํ ตตฺเถว เลฑฺฑุทณฺฑาทีหิ ปหริตฺวา ชีวิตา โวโรเปสุํ. โส กาลกโต อวีจิมหานิรเย นิพฺพตฺติตฺวา พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ นิรเย ปจฺจิตฺวา ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสน อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคหนครสฺส อวิทูเร เปโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺส กมฺมสฺส สริกฺขเกน วิปาเกน ภวิตพฺพนฺติ กมฺมเวคุกฺขิตฺตานิ ปุพฺพณฺหสมยํ มชฺฌนฺหิกสมยํ สายนฺหสมยฺจ สฏฺิ อโยกูฏสหสฺสานิ มตฺถเก นิปตนฺติ. โส ฉินฺนภินฺนสีโส ¶ อธิมตฺตเวทนาปฺปตฺโต ภูมิยํ นิปตติ, อโยกูเฏสุ ปน อปคตมตฺเตสุ ปฏิปากติกสิโร ติฏฺติ.
อเถกทิวสํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน คิชฺฌกูฏปพฺพตา โอตรนฺโต ตํ ทิสฺวา –
‘‘กึ นุ อุมฺมตฺตรูโปว, มิโค ภนฺโตว ธาวสิ;
นิสฺสํสยํ ปาปกมฺมนฺโต, กึ นุ สทฺทายเส ตุว’’นฺติ. –
อิมาย คาถาย ปฏิปุจฺฉิ. ตตฺถ อุมฺมตฺตรูโปวาติ อุมฺมตฺตกสภาโว วิย อุมฺมาทปฺปตฺโต วิย. มิโค ภนฺโตว ธาวสีติ ภนฺตมิโค วิย อิโต จิโต จ ธาวสิ. โส หิ เตสุ อโยกูเฏสุ นิปตนฺเตสุ ปริตฺตาณํ อปสฺสนฺโต ‘‘น สิยา นุ โข เอวํ ปหาโร’’ติ อิโตปิ เอตฺโตปิ ปลายติ. เต ปน กมฺมเวคุกฺขิตฺตา ยตฺถ กตฺถจิ ิตสฺส มตฺถเกเยว นิปตนฺติ. กึ นุ สทฺทายเส ตุวนฺติ กึ นุ โข ตุวํ สทฺทํ กโรสิ, อติวิย วิสฺสรํ กโรนฺโต วิจรสิ.
ตํ สุตฺวา เปโต –
‘‘อหํ ภทนฺเต เปโตมฺหิ, ทุคฺคโต ยมโลกิโก;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คโต.
‘‘สฏฺิ ¶ ¶ กูฏสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;
สีเส มยฺหํ นิปตนฺติ, เต ภินฺทนฺติ จ มตฺถก’’นฺติ. –
ทฺวีหิ คาถาหิ ปฏิวจนํ อทาสิ. ตตฺถ สฏฺิ กูฏสหสฺสานีติ สฏฺิมตฺตานิ อโยกูฏสหสฺสานิ. ปริปุณฺณานีติ อนูนานิ. สพฺพโสติ สพฺพภาคโต. ตสฺส กิร สฏฺิยา อโยกูฏสหสฺสานํ ปตนปฺปโหนกํ มหนฺตํ ปพฺพตกูฏปฺปมาณํ สีสํ นิพฺพตฺติ. ตํ ตสฺส วาลคฺคโกฏินิตุทนมตฺตมฺปิ านํ อเสเสตฺวา ตานิ กูฏานิ ปตนฺตานิ มตฺถกํ ภินฺทนฺติ, เตน โส อฏฺฏสฺสรํ กโรติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺพโส สีเส มยฺหํ นิปตนฺติ, เต ภินฺทนฺติ จ มตฺถก’’นฺติ.
อถ ¶ นํ เถโร กตกมฺมํ ปุจฺฉนฺโต –
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.
‘‘สฏฺิ กูฏสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;
สีเส ตุยฺหํ นิปตนฺติ, เต ภินฺทนฺติ จ มตฺถก’’นฺติ. –
ทฺเว คาถา อภาสิ.
ตสฺส เปโต อตฺตนา กตกมฺมํ อาจิกฺขนฺโต –
‘‘อถทฺทสาสึ สมฺพุทฺธํ, สุเนตฺตํ ภาวิตินฺทฺริยํ;
นิสินฺนํ รุกฺขมูลสฺมึ, ฌายนฺตํ อกุโตภยํ.
‘‘สาลิตฺตกปฺปหาเรน, ภินฺทิสฺสํ ตสฺส มตฺถกํ;
ตสฺสกมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉิสํ.
‘‘สฏฺิ กูฏสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;
สีเส มยฺหํ นิปตนฺติ, เต ภินฺทนฺติ จ มตฺถก’’นฺติ. –
ติสฺโส คาถาโย อภาสิ.
๘๑๑. ตตฺถ สมฺพุทฺธนฺติ ปจฺเจกสมฺพุทฺธํ. สุเนตฺตนฺติ เอวํนามกํ. ภาวิตินฺทฺริยนฺติ อริยมคฺคภาวนาย ภาวิตสทฺธาทิอินฺทฺริยํ.
๘๑๒-๑๓. สาลิตฺตกปฺปหาเรนาติ ¶ สาลิตฺตกํ วุจฺจติ ธนุเกน, องฺคุลีหิ เอว วา สกฺขรขิปนปโยโค. ตถา หิ สกฺขราย ปหาเรนาติ วา ปาโ. ภินฺทิสฺสนฺติ ภินฺทึ.
ตํ ¶ ¶ สุตฺวา เถโร ‘‘อตฺตโน กตกมฺมานุรูปเมว อิทานิ ปุราณกมฺมสฺส อิทํ ผลํ ปฏิลภตี’’ติ ทสฺเสนฺโต –
‘‘ธมฺเมน เต กาปุริส;
สฏฺิ กูฏสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;
สีเส ตุยฺหํ นิปตนฺติ, เต ภินฺทนฺติ จ มตฺถก’’นฺติ. –
โอสานคาถมาห. ตตฺถ ธมฺเมนาติ อนุรูปการเณน. เตติ ตว, ตสฺมึ ปจฺเจกพุทฺเธ อปรชฺฌนฺเตน ตยา กตสฺส ปาปกมฺมสฺส อนุจฺฉวิกเมเวตํ ผลํ ตุยฺหํ อุปนีตํ. ตสฺมา เกนจิ เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา อปิ สมฺมาสมฺพุทฺเธนปิ อปฺปฏิพาหนียเมตนฺติ ทสฺเสติ.
เอวฺจ ปน วตฺวา ตโต นคเร ปิณฺฑาย จริตฺวา กตภตฺตกิจฺโจ สายนฺหสมเย สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ปวตฺตึ ภควโต อาโรเจสิ. ภควา ตมตฺถํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสนฺโต ปจฺเจกพุทฺธานํ คุณานุภาวํ กมฺมานฺจ อวฺฌตํ ปกาเสสิ, มหาชโน สํเวคชาโต หุตฺวา ปาปํ ปหาย ทานาทิปฺุนิรโต อโหสีติ.
สฏฺิกูฏเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ ขุทฺทก-อฏฺกถาย เปตวตฺถุสฺมึ
โสฬสวตฺถุปฏิมณฺฑิตสฺส
จตุตฺถสฺส มหาวคฺคสฺส อตฺถสํวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิคมนกถา
เย เต เปเตสุ นิพฺพตฺตา, สตฺตา ทุกฺกฏการิโน;
เยหิ กมฺเมหิ เตสํ ตํ, ปาปกํ กฏุกปฺผลํ.
ปจฺจกฺขโต วิภาเวนฺตี, ปุจฺฉาวิสฺสชฺชเนหิ จ;
ยา ¶ เทสนานิยาเมน, สตํ สํเวควฑฺฒนี.
ยํ กถาวตฺถุกุสลา, สุปริฺาตวตฺถุกา;
เปตวตฺถูติ นาเมน, สงฺคายึสุ มเหสโย.
ตสฺส อตฺถํ ปกาเสตุํ, โปราณฏฺกถานยํ;
นิสฺสาย ยา สมารทฺธา, อตฺถสํวณฺณนา มยา.
ยา ตตฺถ ปรมตฺถานํ, ตตฺถ ตตฺถ ยถารหํ;
ปกาสนา ปรมตฺถ-ทีปนี นาม นามโต.
สมฺปตฺตา ปรินิฏฺานํ, อนากุลวินิจฺฉยา;
สา ปนฺนรสมตฺตาย, ปาฬิยา ภาณวารโต.
อิติ ตํ สงฺขโรนฺเตน, ยํ ตํ อธิคตํ มยา;
ปฺุํ ตสฺสานุภาเวน, โลกนาถสฺส สาสนํ.
โอคาเหตฺวา วิสุทฺธาย, สีลาทิปฏิปตฺติยา;
สพฺเพปิ เทหิโน โหนฺตุ, วิมุตฺติรสภาคิโน.
จิรํ ¶ ติฏฺตุ โลกสฺมึ, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสนํ;
ตสฺมึ สคารวา นิจฺจํ, โหนฺตุ สพฺเพปิ ปาณิโน.
สมฺมา ¶ วสฺสตุ กาเลน, เทโวปิ ชคตีปติ;
สทฺธมฺมนิรโต โลกํ, ธมฺเมเนว ปสาสตูติ.
อิติ พทรติตฺถวิหารวาสินา มุนิวรยตินา
ภทนฺเตน อาจริยธมฺมปาเลน กตา เปตวตฺถุอตฺถสํวณฺณนา นิฏฺิตา.
เปตวตฺถุ-อฏฺกถา สมตฺตา.