📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ขุทฺทกนิกาเย
เปตวตฺถุปาฬิ
๑. อุรควคฺโค
๑. เขตฺตูปมเปตวตฺถุ
‘‘เขตฺตูปมา ¶ ¶ ¶ ¶ อรหนฺโต, ทายกา กสฺสกูปมา;
พีชูปมํ เทยฺยธมฺมํ, เอตฺโต นิพฺพตฺตเต ผลํ.
‘‘เอตํ พีชํ กสิ เขตฺตํ, เปตานํ ทายกสฺส จ;
ตํ เปตา ปริภฺุชนฺติ, ทาตา ปฺุเน วฑฺฒติ.
‘‘อิเธว ¶ กุสลํ กตฺวา, เปเต จ ปฏิปูชิย;
สคฺคฺจ กมติ [คมติ (ก.)] ฏฺานํ, กมฺมํ กตฺวาน ภทฺทก’’นฺติ.
เขตฺตูปมเปตวตฺถุ ปมํ.
๒. สูกรมุขเปตวตฺถุ
‘‘กาโย ¶ เต สพฺพโสวณฺโณ, สพฺพา โอภาสเต ทิสา;
มุขํ เต สูกรสฺเสว, กึ กมฺมมกรี ปุเร’’ [มกรา ปุเร (ก.)].
‘‘กาเยน สฺโต อาสึ, วาจายาสิมสฺโต;
เตน เมตาทิโส วณฺโณ, ยถา ปสฺสสิ นารท.
‘‘ตํ ¶ ตฺยาหํ [ตาหํ (ก.)] นารท พฺรูมิ, สามํ ทิฏฺมิทํ ตยา;
มากาสิ ¶ มุขสา ปาปํ, มา โข สูกรมุโข อหู’’ติ.
สูกรมุขเปตวตฺถุ ทุติยํ.
๓. ปูติมุขเปตวตฺถุ
‘‘ทิพฺพํ สุภํ ธาเรสิ วณฺณธาตุํ, เวหายสํ ติฏฺสิ อนฺตลิกฺเข;
มุขฺจ เต กิมโย ปูติคนฺธํ, ขาทนฺติ กึ กมฺมมกาสิ ปุพฺเพ’’.
‘‘สมโณ อหํ ปาโปติทุฏฺวาโจ [ปาโป ทุฏฺวาโจ (สี.), ปาโป ทุกฺขวาโจ (สฺยา. ปี.)], ตปสฺสิรูโป มุขสา อสฺโต;
ลทฺธา จ เม ตปสา วณฺณธาตุ, มุขฺจ เม เปสุณิเยน ปูติ.
‘‘ตยิทํ ตยา นารท สามํ ทิฏฺํ,
อนุกมฺปกา เย กุสลา วเทยฺยุํ;
‘มา เปสุณํ มา จ มุสา อภาณิ,
ยกฺโข ตุวํ โหหิสิ กามกามี’’’ติ.
ปูติมุขเปตวตฺถุ ตติยํ.
๔. ปิฏฺธีตลิกเปตวตฺถุ
‘‘ยํ ¶ ¶ กิฺจารมฺมณํ กตฺวา, ทชฺชา ทานํ อมจฺฉรี;
ปุพฺพเปเต จ อารพฺภ, อถ วา วตฺถุเทวตา.
‘‘จตฺตาโร จ มหาราเช, โลกปาเล ยสสฺสิเน [ยสสฺสิโน (สี. สฺยา.)];
กุเวรํ ธตรฏฺฺจ, วิรูปกฺขํ วิรูฬฺหกํ;
เต ¶ เจว ปูชิตา โหนฺติ, ทายกา จ อนิปฺผลา.
‘‘น ¶ หิ รุณฺณํ วา โสโก วา, ยา จฺา ปริเทวนา;
น ตํ เปตสฺส อตฺถาย, เอวํ ติฏฺนฺติ าตโย.
‘‘อยฺจ โข ทกฺขิณา ทินฺนา, สงฺฆมฺหิ สุปฺปติฏฺิตา;
ทีฆรตฺตํ หิตายสฺส, านโส อุปกปฺปตี’’ติ.
ปิฏฺธีตลิกเปตวตฺถุ จตุตฺถํ.
๕. ติโรกุฏฺฏเปตวตฺถุ
[ขุ. ปา. ๗.๑ ขุทฺทกปาเ] ‘‘ติโรกุฏฺเฏสุ [ติโรกุฑฺเฑสุ (สี. สฺยา. ปี.)] ติฏฺนฺติ, สนฺธิสิงฺฆาฏเกสุ จ;
ทฺวารพาหาสุ ติฏฺนฺติ, อาคนฺตฺวาน สกํ ฆรํ.
‘‘ปหูเต อนฺนปานมฺหิ, ขชฺชโภชฺเช อุปฏฺิเต;
น เตสํ โกจิ สรติ, สตฺตานํ กมฺมปจฺจยา.
‘‘เอวํ ¶ ททนฺติ าตีนํ, เย โหนฺติ อนุกมฺปกา;
สุจึ ปณีตํ กาเลน, กปฺปิยํ ปานโภชนํ;
‘อิทํ โว าตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ าตโย’.
‘‘เต จ ตตฺถ สมาคนฺตฺวา, าติเปตา สมาคตา;
ปหูเต อนฺนปานมฺหิ, สกฺกจฺจํ อนุโมทเร.
‘‘‘จิรํ ชีวนฺตุ โน าตี, เยสํ เหตุ ลภามเส;
อมฺหากฺจ กตา ปูชา, ทายกา จ อนิปฺผลา’.
‘‘‘น หิ ตตฺถ กสิ อตฺถิ, โครกฺเขตฺถ น วิชฺชติ;
วณิชฺชา ตาทิสี นตฺถิ, หิรฺเน กยากยํ [กโยกฺกยํ (สี. ก.) กโยกยํ (ขุ. ปา. ๗.๖)];
อิโต ¶ ทินฺเนน ยาเปนฺติ, เปตา กาลคตา [กาลกตา (สี. สฺยา. ปี.)] ตหึ’.
‘‘‘อุนฺนเม ¶ อุทกํ วุฏฺํ, ยถา นินฺนํ ปวตฺตติ;
เอวเมว อิโต ทินฺนํ, เปตานํ อุปกปฺปติ’.
‘‘‘ยถา วาริวหา ปูรา, ปริปูเรนฺติ สาครํ;
เอวเมว อิโต ทินฺนํ, เปตานํ อุปกปฺปติ’.
‘‘‘อทาสิ ¶ เม อกาสิ เม, าติ มิตฺตา [าติ มิตฺโต (?)] สขา จ เม;
เปตานํ ทกฺขิณํ ทชฺชา, ปุพฺเพ กตมนุสฺสรํ’.
‘‘‘น หิ รุณฺณํ วา โสโก วา, ยา จฺา ปริเทวนา;
น ตํ เปตานมตฺถาย, เอวํ ติฏฺนฺติ าตโย’.
‘‘‘อยฺจ โข ทกฺขิณา ทินฺนา, สงฺฆมฺหิ สุปฺปติฏฺิตา;
ทีฆรตฺตํ หิตายสฺส, านโส อุปกปฺปติ’.
‘‘โส าติธมฺโม จ อยํ นิทสฺสิโต, เปตาน ปูชา จ กตา อุฬารา;
พลฺจ ภิกฺขูนมนุปฺปทินฺนํ, ตุมฺเหหิ ปฺุํ ปสุตํ อนปฺปก’’นฺติ.
ติโรกุฏฺฏเปตวตฺถุ ปฺจมํ.
๖. ปฺจปุตฺตขาทเปติวตฺถุ
‘‘นคฺคา ¶ ทุพฺพณฺณรูปาสิ, ทุคฺคนฺธา ปูติ วายสิ;
มกฺขิกาหิ ปริกิณฺณา [มกฺขิกาปริกิณฺณา จ (สี.)], กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺสี’’ติ.
‘‘อหํ ภทนฺเต [ภทฺทนฺเต (ก.)] เปตีมฺหิ, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ ¶ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา.
‘‘กาเลน ปฺจ ปุตฺตานิ, สายํ ปฺจ ปุนาปเร;
วิชายิตฺวาน ขาทามิ, เตปิ นา โหนฺติ เม อลํ.
‘‘ปริฑยฺหติ ธูมายติ, ขุทาย [ขุทฺทาย (ก.)] หทยํ มม;
ปานียํ น ลเภ ปาตุํ, ปสฺส มํ พฺยสนํ คต’’นฺติ.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, ปุตฺตมํสานิ ขาทสี’’ติ.
‘‘สปตี [สปตฺตี (สี.)] เม คพฺภินี อาสิ, ตสฺสา ปาปํ อเจตยึ;
สาหํ ปทุฏฺมนสา, อกรึ คพฺภปาตนํ.
‘‘ตสฺสา ¶ ¶ ทฺเวมาสิโก คพฺโภ, โลหิตฺเว ปคฺฆริ;
ตทสฺสา มาตา กุปิตา, มยฺหํ าตี สมานยิ;
สปถฺจ มํ กาเรสิ, ปริภาสาปยี จ มํ.
‘‘สาหํ โฆรฺจ สปถํ, มุสาวาทํ อภาสิสํ;
ปุตฺตมํสานิ ขาทามิ, สเจ ตํ ปกตํ มยา.
‘‘ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน [วิปากํ (สฺยา. ก.)], มุสาวาทสฺส จูภยํ;
ปุตฺตมํสานิ ขาทามิ, ปุพฺพโลหิตมกฺขิตา’’ติ.
ปฺจปุตฺตขาทเปติวตฺถุ [ปฺจปุตฺตขาทเปตวตฺถุ (สี. สฺยา. ปี.) เอวมุปริปิ] ฉฏฺํ.
๗. สตฺตปุตฺตขาทเปติวตฺถุ
‘‘นคฺคา ¶ ทุพฺพณฺณรูปาสิ, ทุคฺคนฺธา ปูติ วายสิ;
มกฺขิกาหิ ¶ ปริกิณฺณา, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺสี’’ติ.
‘‘อหํ ภทนฺเต เปตีมฺหิ, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา.
‘‘กาเลน สตฺต ปุตฺตานิ, สายํ สตฺต ปุนาปเร;
วิชายิตฺวาน ขาทามิ, เตปิ นา โหนฺติ เม อลํ.
‘‘ปริฑยฺหติ ธูมายติ, ขุทาย หทยํ มม;
นิพฺพุตึ นาธิคจฺฉามิ, อคฺคิทฑฺฒาว อาตเป’’ติ.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, ปุตฺตมํสานิ ขาทสี’’ติ.
‘‘อหู มยฺหํ ทุเว ปุตฺตา, อุโภ สมฺปตฺตโยพฺพนา;
สาหํ ปุตฺตพลูเปตา, สามิกํ อติมฺิสํ.
‘‘ตโต เม สามิโก กุทฺโธ, สปตฺตึ มยฺหมานยิ;
สา จ คพฺภํ อลภิตฺถ, ตสฺสา ปาปํ อเจตยึ.
‘‘สาหํ ¶ ปทุฏฺมนสา, อกรึ คพฺภปาตนํ;
ตสฺสา เตมาสิโก คพฺโภ, ปุพฺพโลหิตโก [ปุพฺพโลหิตโก (ก.)] ปติ.
‘‘ตทสฺสา มาตา กุปิตา, มยฺหํ าตี สมานยิ;
สปถฺจ มํ กาเรสิ, ปริภาสาปยี จ มํ.
‘‘สาหํ ¶ โฆรฺจ สปถํ, มุสาวาทํ อภาสิสํ;
‘ปุตฺตมํสานิ ขาทามิ, สเจ ตํ ปกตํ มยา’.
‘‘ตสฺส ¶ กมฺมสฺส วิปาเกน, มุสาวาทสฺส จูภยํ;
ปุตฺตมํสานิ ขาทามิ, ปุพฺพโลหิตมกฺขิตา’’ติ.
สตฺตปุตฺตขาทเปติวตฺถุ สตฺตมํ.
๘. โคณเปตวตฺถุ
‘‘กึ ¶ นุ อุมฺมตฺตรูโปว, ลายิตฺวา หริตํ ติณํ;
ขาท ขาทาติ ลปสิ, คตสตฺตํ ชรคฺควํ.
‘‘น หิ อนฺเนน ปาเนน, มโต โคโณ สมุฏฺเห;
ตฺวํสิ พาโล จ [พาโลว (ก.)] ทุมฺเมโธ, ยถา ตฺโว ทุมฺมตี’’ติ.
‘‘อิเม ปาทา อิทํ สีสํ, อยํ กาโย สวาลธิ;
เนตฺตา ตเถว ติฏฺนฺติ, อยํ โคโณ สมุฏฺเห.
‘‘นายฺยกสฺส หตฺถปาทา, กาโย สีสฺจ ทิสฺสติ;
รุทํ มตฺติกถูปสฺมึ, นนุ ตฺวฺเว ทุมฺมตี’’ติ.
‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;
วารินา วิย โอสิฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.
‘‘อพฺพหี [อพฺพูฬฺหํ (พหูสุ)] วต เม สลฺลํ, โสกํ หทยนิสฺสิตํ;
โย เม โสกปเรตสฺส, ปิตุโสกํ อปานุทิ.
‘‘สฺวาหํ อพฺพูฬฺหสลฺโลสฺมิ, สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต;
น โสจามิ น โรทามิ, ตว สุตฺวาน มาณว’.
เอวํ ¶ กโรนฺติ สปฺปฺา, เย โหนฺติ อนุกมฺปกา;
วินิวตฺตยนฺติ โสกมฺหา, สุชาโต ปิตรํ ยถาติ.
โคณเปตวตฺถุ อฏฺมํ.
๙. มหาเปสการเปติวตฺถุ
‘‘คูถฺจ ¶ ¶ ¶ มุตฺตํ รุหิรฺจ ปุพฺพํ, ปริภฺุชติ กิสฺส อยํ วิปาโก;
อยํ นุ กึ กมฺมมกาสิ นารี, ยา สพฺพทา โลหิตปุพฺพภกฺขา.
‘‘นวานิ วตฺถานิ สุภานิ เจว, มุทูนิ สุทฺธานิ จ โลมสานิ;
ทินฺนานิ มิสฺสา กิตกา [กิฏกา (ก.)] ภวนฺติ, อยํ นุ กึ กมฺมมกาสิ นารี’’ติ.
‘‘ภริยา มเมสา อหู ภทนฺเต, อทายิกา มจฺฉรินี กทริยา;
สา มํ ททนฺตํ สมณพฺราหฺมณานํ, อกฺโกสติ จ ปริภาสติ จ.
‘‘‘คูถฺจ มุตฺตํ รุหิรฺจ ปุพฺพํ, ปริภฺุช ตฺวํ อสุจึ สพฺพกาลํ;
เอตํ เต ปรโลกสฺมึ โหตุ, วตฺถา จ เต กิฏกสมา ภวนฺตุ’;
เอตาทิสํ ทุจฺจริตํ จริตฺวา, อิธาคตา จิรรตฺตาย ขาทตี’’ติ.
มหาเปสการเปติวตฺถุ นวมํ.
๑๐. ขลฺลาฏิยเปติวตฺถุ
‘‘กา ¶ ¶ นุ อนฺโตวิมานสฺมึ, ติฏฺนฺตี นูปนิกฺขมิ;
อุปนิกฺขมสฺสุ ภทฺเท, ปสฺสาม ตํ พหิฏฺิต’’นฺติ.
‘‘อฏฺฏียามิ ¶ หรายามิ, นคฺคา นิกฺขมิตุํ พหิ;
เกเสหมฺหิ ปฏิจฺฉนฺนา, ปฺุํ เม อปฺปกํ กต’’นฺติ.
‘‘หนฺทุตฺตรียํ ททามิ เต, อิทํ ทุสฺสํ นิวาสย;
อิทํ ทุสฺสํ นิวาเสตฺวา, เอหิ นิกฺขม โสภเน;
อุปนิกฺขมสฺสุ ภทฺเท, ปสฺสาม ตํ พหิฏฺิต’’นฺติ.
‘‘หตฺเถน หตฺเถ เต ทินฺนํ, น มยฺหํ อุปกปฺปติ;
เอเสตฺถุปาสโก สทฺโธ, สมฺมาสมฺพุทฺธสาวโก.
‘‘เอตํ อจฺฉาทยิตฺวาน, มม ทกฺขิณมาทิส;
ตถาหํ [อถาหํ (สี.)] สุขิตา เหสฺสํ, สพฺพกามสมิทฺธินี’’ติ.
ตฺจ เต นฺหาปยิตฺวาน, วิลิมฺเปตฺวาน วาณิชา;
วตฺเถหจฺฉาทยิตฺวาน, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสุํ.
สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ ¶ [สมนนฺตรา อนุทฺทิฏฺเ (สฺยา. ก.)], วิปาโก อุทปชฺชถ [อุปปชฺชถ (สี. สฺยา.)];
โภชนจฺฉาทนปานียํ [โภชนจฺฉาทนํ ปานียํ (สฺยา. ก.)], ทกฺขิณาย อิทํ ผลํ.
ตโต สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;
หสนฺตี วิมานา นิกฺขมิ, ‘ทกฺขิณาย อิทํ ผล’’’นฺติ.
‘‘สุจิตฺตรูปํ รุจิรํ, วิมานํ เต ปภาสติ;
เทวเต ปุจฺฉิตาจิกฺข, กิสฺส กมฺมสฺสิทํ ผล’’นฺติ.
‘‘ภิกฺขุโน ¶ จรมานสฺส, โทณินิมฺมชฺชนึ อหํ;
อทาสึ อุชุภูตสฺส, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
‘‘ตสฺส กมฺมสฺส กุสลสฺส, วิปากํ ทีฆมนฺตรํ;
อนุโภมิ วิมานสฺมึ, ตฺจ ทานิ ปริตฺตกํ.
‘‘อุทฺธํ ¶ จตูหิ มาเสหิ, กาลํกิริยา [กาลํกิริยา (ก.)] ภวิสฺสติ;
เอกนฺตกฏุกํ โฆรํ, นิรยํ ปปติสฺสหํ.
[ม. นิ. ๓.๒๕๐, ๒๖๗; อ. นิ. ๓.๓๖; เป. ว. ๒๔๐, ๖๙๓] ‘‘จตุกฺกณฺณํ จตุทฺวารํ, วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ;
อโยปาการปริยนฺตํ, อยสา ปฏิกุชฺชิตํ.
‘‘ตสฺส ¶ อโยมยา ภูมิ, ชลิตา เตชสา ยุตา;
สมนฺตา โยชนสตํ, ผริตฺวา ติฏฺติ สพฺพทา.
‘‘ตตฺถาหํ ทีฆมทฺธานํ, ทุกฺขํ เวทิสฺส เวทนํ;
ผลฺจ ปาปกมฺมสฺส, ตสฺมา โสจามหํ ภุส’’นฺติ.
ขลฺลาฏิยเปติวตฺถุ ทสมํ.
๑๑. นาคเปตวตฺถุ
‘‘ปุรโตว ¶ [ปุรโต จ (สฺยา.)] เสเตน ปเลติ หตฺถินา, มชฺเฌ ปน อสฺสตรีรเถน;
ปจฺฉา จ กฺา สิวิกาย นียติ, โอภาสยนฺตี ทส สพฺพโต [สพฺพโต (ก.)] ทิสา.
‘‘ตุมฺเห ปน มุคฺครหตฺถปาณิโน, รุทํมุขา ฉินฺนปภินฺนคตฺตา;
มนุสฺสภูตา ¶ กิมกตฺถ ปาปํ, เยนฺมฺสฺส ปิวาถ โลหิต’’นฺติ.
‘‘ปุรโตว โย คจฺฉติ กฺุชเรน, เสเตน นาเคน จตุกฺกเมน;
อมฺหาก ปุตฺโต อหุ เชฏฺโก โส [โสว เชฏฺโ (ก.)], ทานานิ ทตฺวาน สุขี ปโมทติ.
‘‘โย ¶ โส มชฺเฌ อสฺสตรีรเถน, จตุพฺภิ ยุตฺเตน สุวคฺคิเตน;
อมฺหาก ปุตฺโต อหุ มชฺฌิโม โส, อมจฺฉรี ทานวตี วิโรจติ.
‘‘ยา สา จ ปจฺฉา สิวิกาย นียติ, นารี สปฺา มิคมนฺทโลจนา;
อมฺหาก ธีตา อหุ สา กนิฏฺิกา, ภาคฑฺฒภาเคน สุขี ปโมทติ.
‘‘เอเต ¶ จ ทานานิ อทํสุ ปุพฺเพ, ปสนฺนจิตฺตา สมณพฺราหฺมณานํ;
มยํ ปน มจฺฉริโน อหุมฺห, ปริภาสกา สมณพฺราหฺมณานํ;
เอเต จ ทตฺวา ปริจารยนฺติ, มยฺจ ¶ สุสฺสาม นโฬว ฉินฺโน’’ติ [ขิตฺโตติ (สี.)].
‘‘กึ ตุมฺหากํ โภชนํ กึ สยานํ, กถฺจ ยาเปถ สุปาปธมฺมิโน;
ปหูตโภเคสุ อนปฺปเกสุ, สุขํ วิราธาย [วิราคาย (สฺยา. ก.)] ทุกฺขชฺช ปตฺตา’’ติ.
‘‘อฺมฺํ วธิตฺวาน, ปิวาม ปุพฺพโลหิตํ;
พหุํ ปิตฺวา น ธาตา โหม, นจฺฉาทิมฺหเส [นรุจฺจาทิมฺหเส (ก.)] มยํ.
‘‘อิจฺเจว มจฺจา ปริเทวยนฺติ, อทายกา เปจฺจ [มจฺฉริโน (ก.)] ยมสฺส ายิโน;
เย เต วิทิจฺจ [วิทิตฺวา (สี.)] อธิคมฺม โภเค, น ภฺุชเร นาปิ กโรนฺติ ปฺุํ.
‘‘เต ¶ ขุปฺปิปาสูปคตา ปรตฺถ, ปจฺฉา [เปตา (สี.)] จิรํ ฌายเร ฑยฺหมานา;
กมฺมานิ กตฺวาน ทุขุทฺรานิ, อนุโภนฺติ ทุกฺขํ กฏุกปฺผลานิ.
‘‘อิตฺตรํ หิ ธนํ ธฺํ, อิตฺตรํ อิธ ชีวิตํ;
อิตฺตรํ อิตฺตรโต ตฺวา, ทีปํ กยิราถ ปณฺฑิโต.
‘‘เย เต เอวํ ปชานนฺติ, นรา ธมฺมสฺส โกวิทา;
เต ทาเน นปฺปมชฺชนฺติ, สุตฺวา อรหตํ วโจ’’ติ.
นาคเปตวตฺถุ เอกาทสมํ.
๑๒. อุรคเปตวตฺถุ
‘‘อุรโคว ¶ ¶ ¶ ตจํ ชิณฺณํ, หิตฺวา คจฺฉติ สนฺตนุํ;
เอวํ สรีเร นิพฺโภเค, เปเต กาลงฺกเต สติ.
‘‘ฑยฺหมาโน น ชานาติ, าตีนํ ปริเทวิตํ;
ตสฺมา เอตํ น โรทามิ, คโต โส ตสฺส ยา คติ’’.
‘‘อนพฺภิโต [อนวฺหิโต (สี.)] ตโต อาคา, นานฺุาโต อิโต คโต;
ยถาคโต ตถา คโต, ตตฺถ กา [กา ตตฺถ (สี.)] ปริเทวนา.
‘‘ฑยฺหมาโน ¶ น ชานาติ, าตีนํ ปริเทวิตํ;
ตสฺมา เอตํ น โรทามิ, คโต โส ตสฺส ยา คติ’’.
‘‘สเจ โรเท กิสา อสฺสํ, ตตฺถ เม กึ ผลํ สิยา;
าติมิตฺตสุหชฺชานํ, ภิยฺโย โน อรตี สิยา.
‘‘ฑยฺหมาโน น ชานาติ, าตีนํ ปริเทวิตํ;
ตสฺมา เอตํ น โรทามิ, คโต โส ตสฺส ยา คติ’’.
‘‘ยถาปิ ทารโก จนฺทํ, คจฺฉนฺตมนุโรทติ;
เอวํ สมฺปทเมเวตํ, โย เปตมนุโสจติ.
‘‘ฑยฺหมาโน น ชานาติ, าตีนํ ปริเทวิตํ;
ตสฺมา เอตํ น โรทามิ, คโต โส ตสฺส ยา คติ’’.
‘‘ยถาปิ พฺรหฺเม อุทกุมฺโภ, ภินฺโน อปฺปฏิสนฺธิโย;
เอวํ สมฺปทเมเวตํ, โย เปตมนุโสจติ.
‘‘ฑยฺหมาโน น ชานาติ, าตีนํ ปริเทวิตํ;
ตสฺมา ¶ เอตํ น โรทามิ, คโต โส ตสฺส ยา คตี’’ติ.
อุรคเปตวตฺถุ ทฺวาทสมํ.
อุรควคฺโค ปโม นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
เขตฺตฺจ สูกรํ ปูติ, ปิฏฺํ จาปิ ติโรกุฏฺฏํ;
ปฺจาปิ ¶ สตฺตปุตฺตฺจ, โคณํ เปสการกฺจ;
ตถา ขลฺลาฏิยํ นาคํ, ทฺวาทสํ อุรคฺเจวาติ.