📜
๒. อุพฺพริวคฺโค
๑. สํสารโมจกเปติวตฺถุ
‘‘นคฺคา ¶ ¶ ¶ ทุพฺพณฺณรูปาสิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;
อุปฺผาสุลิเก [อุปฺปาสุฬิเก (ก.)] กิสิเก, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺสี’’ติ.
‘‘อหํ ภทนฺเต เปตีมฺหิ, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘อนุกมฺปกา มยฺหํ นาเหสุํ ภนฺเต, ปิตา จ มาตา อถวาปิ าตกา;
เย มํ นิโยเชยฺยุํ ททาหิ ทานํ, ปสนฺนจิตฺตา สมณพฺราหฺมณานํ.
‘‘อิโต อหํ วสฺสสตานิ ปฺจ, ยํ เอวรูปา วิจรามิ นคฺคา;
ขุทาย ¶ ตณฺหาย จ ขชฺชมานา, ปาปสฺส กมฺมสฺส ผลํ มเมทํ.
‘‘วนฺทามิ ตํ อยฺย ปสนฺนจิตฺตา, อนุกมฺป มํ วีร มหานุภาว;
ทตฺวา จ เม อาทิส ยํ หิ กิฺจิ, โมเจหิ มํ ทุคฺคติยา ภทนฺเต’’ติ.
สาธูติ โส ปฏิสฺสุตฺวา, สาริปุตฺโตนุกมฺปโก;
ภิกฺขูนํ อาโลปํ ทตฺวา, ปาณิมตฺตฺจ โจฬกํ;
ถาลกสฺส จ ปานียํ, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสิ.
สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, วิปาโก อุทปชฺชถ;
โภชนจฺฉาทนปานียํ, ทกฺขิณาย อิทํ ผลํ.
ตโต ¶ ¶ สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;
วิจิตฺตวตฺถาภรณา, สาริปุตฺตํ อุปสงฺกมิ.
‘‘อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, ยา ตฺวํ ติฏฺสิ เทวเต;
โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.
‘‘ปุจฺฉามิ ¶ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ ¶ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
‘‘อุปฺปณฺฑุกึ กิสํ ฉาตํ, นคฺคํ สมฺปติตจฺฉวึ [อาปติตจฺฉวึ (สี.)];
มุนิ การุณิโก โลเก, ตํ มํ อทฺทกฺขิ ทุคฺคตํ.
‘‘ภิกฺขูนํ อาโลปํ ทตฺวา, ปาณิมตฺตฺจ โจฬกํ;
ถาลกสฺส จ ปานียํ, มม ทกฺขิณมาทิสิ.
‘‘อาโลปสฺส ผลํ ปสฺส, ภตฺตํ วสฺสสตํ ทส;
ภฺุชามิ กามกามินี, อเนกรสพฺยฺชนํ.
‘‘ปาณิมตฺตสฺส โจฬสฺส, วิปากํ ปสฺส ยาทิสํ;
ยาวตา นนฺทราชสฺส, วิชิตสฺมึ ปฏิจฺฉทา.
‘‘ตโต พหุตรา ภนฺเต, วตฺถานจฺฉาทนานิ เม;
โกเสยฺยกมฺพลียานิ, โขมกปฺปาสิกานิ จ.
‘‘วิปุลา จ มหคฺฆา จ, เตปากาเสวลมฺพเร;
สาหํ ตํ ปริทหามิ, ยํ ยํ หิ มนโส ปิยํ.
‘‘ถาลกสฺส จ ปานียํ, วิปากํ ปสฺส ยาทิสํ;
คมฺภีรา จตุรสฺสา จ, โปกฺขรฺโ สุนิมฺมิตา.
‘‘เสโตทกา สุปฺปติตฺถา, สีตา อปฺปฏิคนฺธิยา;
ปทุมุปฺปลสฺฉนฺนา, วาริกิฺชกฺขปูริตา.
‘‘สาหํ ¶ รมามิ กีฬามิ, โมทามิ อกุโตภยา;
มุนึ การุณิกํ โลเก, ภนฺเต วนฺทิตุมาคตา’’ติ.
สํสารโมจกเปติวตฺถุ ปมํ.
๒. สาริปุตฺตตฺเถรมาตุเปติวตฺถุ
‘‘นคฺคา ¶ ¶ ทุพฺพณฺณรูปาสิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;
อุปฺผาสุลิเก กิสิเก, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺสิ’’.
‘‘อหํ ¶ เต สกิยา มาตา, ปุพฺเพ อฺาสุ ชาตีสุ;
อุปปนฺนา เปตฺติวิสยํ, ขุปฺปิปาสสมปฺปิตา.
‘‘ฉฑฺฑิตํ ¶ ขิปิตํ เขฬํ, สิงฺฆาณิกํ สิเลสุมํ;
วสฺจ ฑยฺหมานานํ, วิชาตานฺจ โลหิตํ.
‘‘วณิกานฺจ ยํ ฆาน-สีสจฺฉินฺนาน โลหิตํ;
ขุทาปเรตา ภฺุชามิ, อิตฺถิปุริสนิสฺสิตํ.
‘‘ปุพฺพโลหิตํ ภกฺขามิ [ปุพฺพโลหิตภกฺขาสฺมิ (สี.)], ปสูนํ มานุสาน จ;
อเลณา อนคารา จ, นีลมฺจปรายณา.
‘‘เทหิ ปุตฺตก เม ทานํ, ทตฺวา อนฺวาทิสาหิ เม;
อปฺเปว นาม มุจฺเจยฺยํ, ปุพฺพโลหิตโภชนา’’ติ.
มาตุยา วจนํ สุตฺวา, อุปติสฺโสนุกมฺปโก;
อามนฺตยิ โมคฺคลฺลานํ, อนุรุทฺธฺจ กปฺปินํ.
จตสฺโส กุฏิโย กตฺวา, สงฺเฆ จาตุทฺทิเส อทา;
กุฏิโย อนฺนปานฺจ, มาตุ ทกฺขิณมาทิสี.
สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, วิปาโก อุทปชฺชถ;
โภชนํ ปานียํ วตฺถํ, ทกฺขิณาย อิทํ ผลํ.
ตโต สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;
วิจิตฺตวตฺถาภรณา, โกลิตํ อุปสงฺกมิ.
‘‘อภิกฺกนฺเตน ¶ ¶ วณฺเณน, ยา ตฺวํ ติฏฺสิ เทวเต;
โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.
‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
‘‘สาริปุตฺตสฺสาหํ มาตา, ปุพฺเพ อฺาสุ ชาตีสุ;
อุปปนฺนา เปตฺติวิสยํ, ขุปฺปิปาสสมปฺปิตา.
‘‘ฉฑฺฑิตํ ขิปิตํ เขฬํ, สิงฺฆาณิกํ สิเลสุมํ;
วสฺจ ฑยฺหมานานํ, วิชาตานฺจ โลหิตํ.
‘‘วณิกานฺจ ยํ ฆาน-สีสจฺฉินฺนาน โลหิตํ;
ขุทาปเรตา ภฺุชามิ, อิตฺถิปุริสนิสฺสิตํ.
‘‘ปุพฺพโลหิตํ ภกฺขิสฺสํ, ปสูนํ มานุสาน จ;
อเลณา อนคารา จ, นีลมฺจปรายณา.
‘‘สาริปุตฺตสฺส ¶ ¶ ทาเนน, โมทามิ อกุโตภยา;
มุนึ การุณิกํ โลเก, ภนฺเต วนฺทิตุมาคตา’’ติ.
สาริปุตฺตตฺเถรสฺส มาตุเปติวตฺถุ ทุติยํ.
๓. มตฺตาเปติวตฺถุ
‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาสิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;
อุปฺผาสุลิเก ¶ กิสิเก, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺสี’’ติ.
‘‘อหํ มตฺตา ตุวํ ติสฺสา, สปตฺตี เต ปุเร อหุํ;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘จณฺฑี ¶ ¶ จ ผรุสา จาสึ, อิสฺสุกี มจฺฉรี สา [สี (สี.)];
ตาหํ ทุรุตฺตํ วตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
สพฺพํ [สจฺจํ (ก.)] อหมฺปิ ชานามิ, ยถา ตฺวํ จณฺฑิกา อหุ;
อฺฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกนาสิ ปํสุกุนฺถิตา’’ติ.
‘‘สีสํนฺหาตา ตุวํ อาสิ, สุจิวตฺถา อลงฺกตา;
อหฺจ โข [โข ตํ (สี. ก.)] อธิมตฺตํ, สมลงฺกตตรา ตยา.
‘‘ตสฺสา เม เปกฺขมานาย, สามิเกน สมนฺตยิ;
ตโต เม อิสฺสา วิปุลา, โกโธ เม สมชายถ.
‘‘ตโต ปํสุํ คเหตฺวาน, ปํสุนา ตํ หิ โอกิรึ [ตํ วิกีริหํ (สฺยา. ก.)];
ตสฺส ¶ กมฺมวิปาเกน, เตนมฺหิ ปํสุกุนฺถิตา’’ติ.
‘‘สจฺจํ อหมฺปิ ชานามิ, ปํสุนา มํ ตฺวโมกิริ;
อฺฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกน ขชฺชสิ กจฺฉุยา’’ติ.
‘‘เภสชฺชหารี อุภโย, วนนฺตํ อคมิมฺหเส;
ตฺวฺจ เภสชฺชมาหริ, อหฺจ กปิกจฺฉุโน.
‘‘ตสฺสา ตฺยาชานมานาย, เสยฺยํ ตฺยาหํ สโมกิรึ;
ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตน ขชฺชามิ กจฺฉุยา’’ติ.
‘‘สจฺจํ ¶ อหมฺปิ ชานามิ, เสยฺยํ เม ตฺวํ สโมกิริ;
อฺฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกนาสิ นคฺคิยา ตุว’’นฺติ.
‘‘สหายานํ สมโย อาสิ, าตีนํ สมิตี อหุ;
ตฺวฺจ อามนฺติตา อาสิ, สสามินี โน จ โข อหํ.
‘‘ตสฺสา ตฺยาชานมานาย, ทุสฺสํ ตฺยาหํ อปานุทึ;
ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตนมฺหิ นคฺคิยา อห’’นฺติ.
‘‘สจฺจํ อหมฺปิ ชานามิ, ทุสฺสํ เม ตฺวํ อปานุทิ;
อฺฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกนาสิ คูถคนฺธินี’’ติ.
‘‘ตว ¶ คนฺธฺจ มาลฺจ, ปจฺจคฺฆฺจ วิเลปนํ;
คูถกูเป อธาเรสึ [อธาเรสึ (ก.)], ตํ ปาปํ ปกตํ มยา;
ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตนมฺหิ คูถคนฺธินี’’ติ.
‘‘สจฺจํ อหมฺปิ ชานามิ, ตํ ปาปํ ปกตํ ตยา;
อฺฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกนาสิ ทุคฺคตา ตุว’’นฺติ.
‘‘อุภินฺนํ สมกํ อาสิ, ยํ เคเห วิชฺชเต ธนํ;
สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากาสิมตฺตโน;
ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตนมฺหิ ทุคฺคตา อหํ.
‘‘ตเทว ¶ มํ ตฺวํ อวจ, ‘ปาปกมฺมํ นิเสวสิ;
น หิ ปาเปหิ กมฺเมหิ, สุลภา โหติ สุคฺคตี’’’ติ.
‘‘วามโต มํ ตฺวํ ปจฺเจสิ, อโถปิ มํ อุสูยสิ;
ปสฺส ¶ ปาปานํ กมฺมานํ, วิปาโก โหติ ยาทิโส.
‘‘เต ฆรา ตา จ ทาสิโย [เต ฆรทาสิโย อาสุํ (สี. สฺยา.), เต ฆเร ทาสิโย เจว (ก.)], ตาเนวาภรณานิเม;
เต อฺเ ปริจาเรนฺติ, น โภคา โหนฺติ สสฺสตา.
‘‘อิทานิ ภูตสฺส ปิตา, อาปณา เคหเมหิติ;
อปฺเปว เต ทเท กิฺจิ, มา สุ ตาว อิโต อคา’’ติ.
‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปามฺหิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;
โกปีนเมตํ อิตฺถีนํ, มา มํ ภูตปิตาทฺทสา’’ติ.
‘‘หนฺท กึ วา ตฺยาหํ [กึ ตฺยาหํ (สี. สฺยา.), กึ วตาหํ (ก.)] ทมฺมิ, กึ วา เตธ [กึ วา จ เต (สี. สฺยา.), กึ วิธ เต (ก.)] กโรมหํ;
เยน ตฺวํ สุขิตา อสฺส, สพฺพกามสมิทฺธินี’’ติ.
‘‘จตฺตาโร ¶ ภิกฺขู สงฺฆโต, จตฺตาโร ปน ปุคฺคลา;
อฏฺ ภิกฺขู โภชยิตฺวา, มม ทกฺขิณมาทิส;
ตทาหํ สุขิตา เหสฺสํ, สพฺพกามสมิทฺธินี’’ติ.
สาธูติ สา ปฏิสฺสุตฺวา, โภชยิตฺวาฏฺ ภิกฺขโว;
วตฺเถหจฺฉาทยิตฺวาน, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสี.
สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ ¶ , วิปาโก อุทปชฺชถ;
โภชนจฺฉาทนปานียํ, ทกฺขิณาย อิทํ ผลํ.
ตโต สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;
วิจิตฺตวตฺถาภรณา, สปตฺตึ อุปสงฺกมิ.
‘‘อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, ยา ตฺวํ ติฏฺสิ เทวเต;
โอภาเสนฺตี ¶ ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.
‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
‘‘อหํ มตฺตา ตุวํ ติสฺสา, สปตฺตี เต ปุเร อหุํ;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา.
‘‘ตว ทินฺเนน ทาเนน, โมทามิ อกุโตภยา;
จีรํ ชีวาหิ ภคินิ, สห สพฺเพหิ าติภิ;
อโสกํ วิรชํ านํ, อาวาสํ วสวตฺตินํ.
‘‘อิธ ¶ ธมฺมํ จริตฺวาน, ทานํ ทตฺวาน โสภเน;
วิเนยฺย มจฺเฉรมลํ สมูลํ, อนินฺทิตา สคฺคมุเปหิ าน’’นฺติ.
มตฺตาเปติวตฺถุ ตติยํ.
๔. นนฺทาเปติวตฺถุ
‘‘กาฬี ¶ ทุพฺพณฺณรูปาสิ, ผรุสา ภีรุทสฺสนา;
ปิงฺคลาสิ กฬาราสิ, น ตํ มฺามิ มานุสิ’’นฺติ.
‘‘อหํ ¶ นนฺทา นนฺทิเสน, ภริยา เต ปุเร อหุํ;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘กึ ¶ ¶ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘จณฺฑี จ ผรุสา จาสึ [จณฺฑี ผรุสวาจา จ (สี.)], ตยิ จาปิ อคารวา;
ตาหํ ทุรุตฺตํ วตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘หนฺทุตฺตรียํ ททามิ เต, อิมํ [อิทํ (สี. อฏฺ.)] ทุสฺสํ นิวาสย;
อิมํ ทุสฺสํ นิวาเสตฺวา, เอหิ เนสฺสามิ ตํ ฆรํ.
‘‘วตฺถฺจ อนฺนปานฺจ, ลจฺฉสิ ตฺวํ ฆรํ คตา;
ปุตฺเต จ เต ปสฺสิสฺสสิ, สุณิสาโย จ ทกฺขสี’’ติ.
‘‘หตฺเถน หตฺเถ เต ทินฺนํ, น มยฺหํ อุปกปฺปติ;
ภิกฺขู จ สีลสมฺปนฺเน, วีตราเค พหุสฺสุเต.
‘‘ตปฺเปหิ อนฺนปาเนน, มม ทกฺขิณมาทิส;
ตทาหํ สุขิตา เหสฺสํ, สพฺพกามสมิทฺธินี’’ติ.
สาธูติ โส ปฏิสฺสุตฺวา, ทานํ วิปุลมากิริ;
อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จ;
ฉตฺตํ คนฺธฺจ มาลฺจ, วิวิธา จ อุปาหนา.
ภิกฺขู จ สีลสมฺปนฺเน, วีตราเค พหุสฺสุเต;
ตปฺเปตฺวา อนฺนปาเนน, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสี.
สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ ¶ , วิปาโก อุทปชฺชถ;
โภชนจฺฉาทนปานียํ, ทกฺขิณาย อิทํ ผลํ.
ตโต ¶ สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;
วิจิตฺตวตฺถาภรณา, สามิกํ อุปสงฺกมิ.
‘‘อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, ยา ตฺวํ ติฏฺสิ เทวเต;
โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกา.
‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.
‘‘ปุจฺฉามิ ¶ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปฺุํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.
‘‘อหํ ¶ นนฺทา นนฺทิเสน, ภริยา เต ปุเร อหุํ;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา.
‘‘ตว ทินฺเนน ทาเนน, โมทามิ อกุโตภยา;
จิรํ ชีว คหปติ, สห สพฺเพหิ าติภิ;
อโสกํ วิรชํ เขมํ, อาวาสํ วสวตฺตินํ.
‘‘อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ทานํ ทตฺวา คหปติ;
วิเนยฺย มจฺเฉรมลํ สมูลํ, อนินฺทิโต สคฺคมุเปหิ าน’’นฺติ.
นนฺทาเปติวตฺถุ จตุตฺถํ.
๕. มฏฺกุณฺฑลีเปตวตฺถุ
[วิ. ว. ๑๒๐๗] ‘‘อลงฺกโต ¶ มฏฺกุณฺฑลี, มาลธารี หริจนฺทนุสฺสโท;
พาหา ปคฺคยฺห กนฺทสิ, วนมชฺเฌ กึ ทุกฺขิโต ตุว’’นฺติ.
‘‘โสวณฺณมโย ปภสฺสโร, อุปฺปนฺโน รถปฺชโร มม;
ตสฺส จกฺกยุคํ น วินฺทามิ, เตน ทุกฺเขน ชหามิ ชีวิต’’นฺติ.
‘‘โสวณฺณมยํ มณิมยํ, โลหิตกมยํ [โลหิตงฺคมยํ (สฺยา.), โลหิตงฺกมยํ (สี.), โลหมยํ (กตฺถจิ)] อถ รูปิยมยํ;
อาจิกฺข เม ภทฺทมาณว, จกฺกยุคํ ปฏิปาทยามิ เต’’ติ.
โส ¶ มาณโว ตสฺส ปาวทิ, ‘‘จนฺทสูริยา อุภเยตฺถ ทิสฺสเร;
โสวณฺณมโย รโถ มม, เตน จกฺกยุเคน โสภตี’’ติ.
‘‘พาโล โข ตฺวํ อสิ มาณว, โย ตฺวํ ปตฺถยเส อปตฺถิยํ;
มฺามิ ตุวํ มริสฺสสิ, น หิ ตฺวํ ลจฺฉสิ จนฺทสูริเย’’ติ.
‘‘คมนาคมนมฺปิ ทิสฺสติ, วณฺณธาตุ อุภยตฺถ วีถิยา;
เปโต กาลกโต น ทิสฺสติ, โก นิธ กนฺทตํ พาลฺยตโร’’ติ.
‘‘สจฺจํ โข วเทสิ มาณว, อหเมว กนฺทตํ พาลฺยตโร;
จนฺทํ วิย ทารโก รุทํ, เปตํ กาลกตาภิปตฺถยิ’’นฺติ.
‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;
วารินา วิย โอสิฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.
‘‘อพฺพหี [อพฺพูฬฺหํ (สฺยา. ก.)] วต เม สลฺลํ, โสกํ หทยนิสฺสิตํ;
โย เม โสกปเรตสฺส, ปุตฺตโสกํ อปานุทิ.
‘‘สฺวาหํ อพฺพูฬฺหสลฺโลสฺมิ, สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต;
น โสจามิ น โรทามิ, ตว สุตฺวาน มาณวา’’ติ.
‘‘เทวตา ¶ นุสิ คนฺธพฺโพ, อทุ สกฺโก ปุรินฺทโท;
โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุตฺโต, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.
‘‘ยฺจ กนฺทสิ ยฺจ โรทสิ, ปุตฺตํ อาฬาหเน สยํ ทหิตฺวา;
สฺวาหํ กุสลํ กริตฺวา กมฺมํ, ติทสานํ สหพฺยตํ คโต’’ติ.
‘‘อปฺปํ ¶ วา พหุํ วา นาทฺทสาม, ทานํ ททนฺตสฺส สเก อคาเร;
อุโปสถกมฺมํ วา ตาทิสํ, เกน กมฺเมน คโตสิ เทวโลก’’นฺติ.
‘‘อาพาธิโกหํ ทุกฺขิโต คิลาโน, อาตุรรูโปมฺหิ สเก นิเวสเน;
พุทฺธํ วิคตรชํ วิติณฺณกงฺขํ, อทฺทกฺขึ สุคตํ อโนมปฺํ.
‘‘สฺวาหํ มุทิตมโน ปสนฺนจิตฺโต, อฺชลึ อกรึ ตถาคตสฺส;
ตาหํ กุสลํ กริตฺวาน กมฺมํ, ติทสานํ สหพฺยตํ คโต’’ติ.
‘‘อจฺฉริยํ วต อพฺภุตํ วต, อฺชลิกมฺมสฺส อยมีทิโส วิปาโก;
อหมฺปิ มุทิตมโน ปสนฺนจิตฺโต, อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ วชามี’’ติ.
‘‘อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ วชาหิ, ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ ปสนฺนจิตฺโต;
ตเถว สิกฺขาย ปทานิ ปฺจ, อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยสฺสุ.
‘‘ปาณาติปาตา วิรมสฺสุ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยสฺสุ;
อมชฺชโป มา จ มุสา ภณาหิ, สเกน ทาเรน จ โหหิ ตุฏฺโ’’ติ.
‘‘อตฺถกาโมสิ เม ยกฺข, หิตกาโมสิ เทวเต;
กโรมิ ตุยฺหํ วจนํ, ตฺวํสิ อาจริโย มมาติ.
‘‘อุเปมิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมฺจาปิ อนุตฺตรํ;
สงฺฆฺจ นรเทวสฺส, คจฺฉามิ สรณํ อหํ.
‘‘ปาณาติปาตา ¶ วิรมามิ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยามิ;
อมชฺชโป โน จ มุสา ภณามิ; สเกน ทาเรน จ โหมิ ตุฏฺโ’’ติ.
มฏฺกุณฺฑลีเปตวตฺถุ ปฺจมํ.
๖. กณฺหเปตวตฺถุ
‘‘อุฏฺเหิ ¶ กณฺห กึ เสสิ, โก อตฺโถ สุปเนน เต;
โย จ ตุยฺหํ สโก ภาตา, หทยํ จกฺขุ จ [จกฺขุํว (อฏฺ.)] ทกฺขิณํ;
ตสฺส วาตา พลียนฺติ, สสํ ชปฺปติ [ฆโฏ ชปฺปติ (ก.)] เกสวา’’ติ.
‘‘ตสฺส ¶ ตํ วจนํ สุตฺวา, โรหิเณยฺยสฺส เกสโว;
ตรมานรูโป วุฏฺาสิ, ภาตุโสเกน อฏฺฏิโต.
‘‘กึ นุ อุมฺมตฺตรูโปว, เกวลํ ทฺวารกํ อิมํ;
สโส สโสติ ลปสิ, กีทิสํ สสมิจฺฉสิ.
‘‘โสวณฺณมยํ มณิมยํ, โลหมยํ อถ รูปิยมยํ;
สงฺขสิลาปวาฬมยํ, การยิสฺสามิ เต สสํ.
‘‘สนฺติ อฺเปิ สสกา, อรฺวนโคจรา;
เตปิ เต อานยิสฺสามิ, กีทิสํ สสมิจฺฉสี’’ติ.
‘‘นาหเมเต สเส อิจฺเฉ, เย สสา ปถวิสฺสิตา;
จนฺทโต สสมิจฺฉามิ, ตํ เม โอหร เกสวา’’ติ.
‘‘โส นูน มธุรํ าติ, ชีวิตํ วิชหิสฺสสิ;
อปตฺถิยํ ปตฺถยสิ, จนฺทโต สสมิจฺฉสี’’ติ.
‘‘เอวํ เจ กณฺห ชานาสิ, ยถฺมนุสาสสิ;
กสฺมา ¶ ปุเร มตํ ปุตฺตํ, อชฺชาปิ มนุโสจสิ.
‘‘น ยํ ลพฺภา มนุสฺเสน, อมนุสฺเสน วา ปน;
ชาโต เม มา มริ ปุตฺโต, กุโต ลพฺภา อลพฺภิยํ.
‘‘น ¶ มนฺตา มูลเภสชฺชา, โอสเธหิ ธเนน วา;
สกฺกา อานยิตุํ กณฺห, ยํ เปตมนุโสจสิ.
‘‘มหทฺธนา ¶ มหาโภคา, รฏฺวนฺโตปิ ขตฺติยา;
ปหูตธนธฺาเส, เตปิ โน [นตฺเถตฺถปาเภโท] อชรามรา.
‘‘ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา, สุทฺทา จณฺฑาลปุกฺกุสา;
เอเต จฺเ จ ชาติยา, เตปิ โน อชรามรา.
‘‘เย มนฺตํ ปริวตฺเตนฺติ, ฉฬงฺคํ พฺรหฺมจินฺติตํ;
เอเต จฺเ จ วิชฺชาย, เตปิ โน อชรามรา.
‘‘อิสโย วาปิ [อิสโย จาปิ (วิมานวตฺถุ ๙๙)] เย สนฺตา, สฺตตฺตา ตปสฺสิโน;
สรีรํ เตปิ กาเลน, วิชหนฺติ ตปสฺสิโน.
‘‘ภาวิตตฺตา อรหนฺโต, กตกิจฺจา อนาสวา;
นิกฺขิปนฺติ อิมํ เทหํ, ปฺุปาปปริกฺขยา’’ติ.
‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;
วารินา วิย โอสิฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.
‘‘อพฺพหี ¶ วต เม สลฺลํ, โสกํ หทยนิสฺสิตํ;
โย เม โสกปเรตสฺส, ปุตฺตโสกํ อปานุทิ.
‘‘สฺวาหํ ¶ อพฺพูฬฺหสลฺโลสฺมิ, สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต;
น โสจามิ น โรทามิ, ตว สุตฺวาน ภาติก’’ [ภาสิตํ (สฺยา.)].
เอวํ กโรนฺติ สปฺปฺา, เย โหนฺติ อนุกมฺปกา;
นิวตฺตยนฺติ โสกมฺหา, ฆโฏ เชฏฺํว ภาตรํ.
ยสฺส เอตาทิสา โหนฺติ, อมจฺจา ปริจารกา;
สุภาสิเตน อนฺเวนฺติ, ฆโฏ เชฏฺํว ภาตรนฺติ.
กณฺหเปตวตฺถุ ฉฏฺํ.
๗. ธนปาลเสฏฺิเปตวตฺถุ
‘‘นคฺโค ¶ ¶ ทุพฺพณฺณรูโปสิ, กิโส ธมนิสนฺถโต;
อุปฺผาสุลิโก กิสิโก, โก นุ ตฺวมสิ มาริส’’.
‘‘อหํ ภทนฺเต เปโตมฺหิ, ทุคฺคโต ยมโลกิโก;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คโต’’.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คโต’’.
‘‘นครํ อตฺถิ ปณฺณานํ [ทสนฺนานํ (สี. สฺยา. ปี.)], เอรกจฺฉนฺติ วิสฺสุตํ;
ตตฺถ เสฏฺิ ปุเร อาสึ, ธนปาโลติ มํ วิทู.
‘‘อสีติ สกฏวาหานํ, หิรฺสฺส อโหสิ เม;
ปหูตํ เม ชาตรูปํ, มุตฺตา เวฬุริยา พหู.
‘‘ตาว มหทฺธนสฺสาปิ, น เม ทาตุํ ปิยํ อหุ;
ปิทหิตฺวา ¶ ทฺวารํ ภฺุชึ [ภฺุชามิ (สี. สฺยา.)], มา มํ ยาจนกาทฺทสุํ.
‘‘อสฺสทฺโธ มจฺฉรี จาสึ, กทริโย ปริภาสโก;
ททนฺตานํ กโรนฺตานํ, วารยิสฺสํ พหุ ชเน [พหุชฺชนํ (สี. สฺยา.)].
‘‘วิปาโก ¶ นตฺถิ ทานสฺส, สํยมสฺส กุโต ผลํ;
โปกฺขรฺโทปานานิ, อารามานิ จ โรปิเต;
ปปาโย จ วินาเสสึ, ทุคฺเค สงฺกมนานิ จ.
‘‘สฺวาหํ ¶ อกตกลฺยาโณ, กตปาโป ตโต จุโต;
อุปปนฺโน เปตฺติวิสยํ, ขุปฺปิปาสสมปฺปิโต.
‘‘ปฺจปณฺณาสวสฺสานิ, ยโต กาลงฺกโต อหํ;
นาภิชานามิ ภุตฺตํ วา, ปีตํ วา ปน ปานิยํ.
‘‘โย สํยโม โส วินาโส,โย วินาโส โส สํยโม;
เปตา หิ กิร ชานนฺติ, โย สํยโม โส วินาโส.
‘‘อหํ ¶ ปุเร สํยมิสฺสํ, นาทาสึ พหุเก ธเน;
สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากาสิมตฺตโน;
สฺวาหํ ปจฺฉานุตปฺปามิ, อตฺตกมฺมผลูปโค.
[เป. ว. ๖๙] ‘‘อุทฺธํ จตูหิ มาเสหิ, กาลํกิริยา ภวิสฺสติ;
เอกนฺตกฏุกํ โฆรํ, นิรยํ ปปติสฺสหํ.
[เป. ว. ๗๐] ‘‘จตุกฺกณฺณํ จตุทฺวารํ, วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ;
อโยปาการปริยนฺตํ, อยสา ปฏิกุชฺชิตํ.
[เป. ว. ๗๑] ‘‘ตสฺส ¶ อโยมยา ภูมิ, ชลิตา เตชสา ยุตา;
สมนฺตา โยชนสตํ, ผริตฺวา ติฏฺติ สพฺพทา.
[เป. ว. ๗๒] ‘‘ตตฺถาหํ ทีฆมทฺธานํ, ทุกฺขํ เวทิสฺส เวทนํ;
ผลํ ปาปสฺส กมฺมสฺส, ตสฺมา โสจามหํ ภุสํ.
‘‘ตํ โว วทามิ ภทฺทํ โว, ยาวนฺเตตฺถ สมาคตา;
มากตฺถ ปาปกํ กมฺมํ, อาวิ วา ยทิ วา รโห.
‘‘สเจ ตํ ปาปกํ กมฺมํ, กริสฺสถ กโรถ วา;
น โว ทุกฺขา ปมุตฺยตฺถิ [ปมุตฺตตฺถิ (สพฺพตฺถ) อุทา. ๔๔ ปสฺสิตพฺพํ], อุปฺปจฺจาปิ [อุเปจฺจาปิ (สฺยา. ก.)] ปลายตํ.
‘‘มตฺเตยฺยา โหถ เปตฺเตยฺยา, กุเล เชฏฺาปจายิกา;
สามฺา โหถ พฺรหฺมฺา, เอวํ สคฺคํ คมิสฺสถา’’ติ.
ธนปาลเสฏฺิเปตวตฺถุ สตฺตมํ.
๘. จูฬเสฏฺิเปตวตฺถุ
‘‘นคฺโค ¶ กิโส ปพฺพชิโตสิ ภนฺเต, รตฺตึ กุหึ คจฺฉสิ กิสฺส เหตุ;
อาจิกฺข เม ตํ อปิ สกฺกุเณมุ, สพฺเพน วิตฺตํ ปฏิปาทเย ตุว’’นฺติ.
‘‘พาราณสี ¶ ¶ ¶ นครํ ทูรฆุฏฺํ, ตตฺถาหํ คหปติ อฑฺฒโก อหุ ทีโน;
อทาตา เคธิตมโน อามิสสฺมึ, ทุสฺสีลฺเยน ยมวิสยมฺหิ ปตฺโต.
‘‘โส สูจิกาย กิลมิโต เตหิ,
เตเนว าตีสุ ยามิ อามิสกิฺจิกฺขเหตุ;
อทานสีลา น จ สทฺทหนฺติ,
ทานผลํ โหติ ปรมฺหิ โลเก.
‘‘ธีตา ¶ จ มยฺหํ ลปเต อภิกฺขณํ, ‘ทสฺสามิ ทานํ ปิตูนํ ปิตามหานํ’;
ตมุปกฺขฏํ ปริวิสยนฺติ พฺราหฺมณา [พฺราหฺมเณ (สี.)], ‘ยามิ อหํ อนฺธกวินฺทํ โภตฺตุ’’’นฺติ.
ตมโวจ ราชา ‘‘อนุภวิยาน ตมฺปิ,
เอยฺยาสิ ขิปฺปํ อหมปิ กสฺสํ ปูชํ;
อาจิกฺข เม ตํ ยทิ อตฺถิ เหตุ,
สทฺธายิตํ เหตุวโจ สุโณมา’’ติ.
‘ตถา’ติ วตฺวา อคมาสิ ตตฺถ, ภฺุชึสุ ภตฺตํ น จ ทกฺขิณารหา;
ปจฺจาคมิ ¶ ราชคหํ ปุนาปรํ, ปาตุรโหสิ ปุรโต ชนาธิปสฺส.
ทิสฺวาน เปตํ ปุนเทว อาคตํ, ราชา อโวจ ‘‘อหมปิ กึ ททามิ;
อาจิกฺข เม ตํ ยทิ อตฺถิ เหตุ, เยน ตุวํ จิรตรํ ปีณิโต สิยา’’ติ.
‘‘พุทฺธฺจ สงฺฆํ ปริวิสิยาน ราช, อนฺเนน ปาเนน จ จีวเรน;
ตํ ทกฺขิณํ อาทิส เม หิตาย, เอวํ อหํ จิรตรํ ปีณิโต สิยา’’ติ.
ตโต ¶ จ ราชา นิปติตฺวา ตาวเท [ตาวเทว (สฺยา.), ตเทว (ก.)], ทานํ สหตฺถา อตุลํ ททิตฺวา [อตุลฺจ ทตฺวา (สฺยา. ก.)] สงฺเฆ;
อาโรเจสิ ปกตํ [อาโรจยี ปกตึ (สี. สฺยา.)] ตถาคตสฺส, ตสฺส จ เปตสฺส ทกฺขิณํ อาทิสิตฺถ.
โส ปูชิโต อติวิย โสภมาโน, ปาตุรโหสิ ปุรโต ชนาธิปสฺส;
‘‘ยกฺโขหมสฺมิ ปรมิทฺธิปตฺโต, น มยฺหมตฺถิ สมา สทิสา [มยฺหมิทฺธิสมสทิสา (สี. สฺยา.)] มานุสา.
‘‘ปสฺสานุภาวํ อปริมิตํ มมยิทํ, ตยานุทิฏฺํ ¶ อตุลํ ทตฺวา สงฺเฆ;
สนฺตปฺปิโต สตตํ สทา พหูหิ, ยามิ อหํ สุขิโต มนุสฺสเทวา’’ติ.
จูฬเสฏฺิเปตวตฺถุ อฏฺมํ นิฏฺิตํ.
ภาณวารํ ปมํ นิฏฺิตํ.
๙. องฺกุรเปตวตฺถุ
‘‘ยสฺส ¶ ¶ อตฺถาย คจฺฉาม, กมฺโพชํ ธนหารกา;
อยํ กามทโท ยกฺโข, อิมํ ยกฺขํ นยามเส.
‘‘อิมํ ยกฺขํ คเหตฺวาน, สาธุเกน ปสยฺห วา;
ยานํ อาโรปยิตฺวาน, ขิปฺปํ คจฺฉาม ทฺวารก’’นฺติ.
[ชา. ๑.๑๐.๑๕๑; ๑.๑๔.๑๙๖; ๒.๑๘.๑๕๓; ๒.๒๒.๑๐] ‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;
น ตสฺส สาขํ ภฺเชยฺย, มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก’’ติ.
‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;
ขนฺธมฺปิ ตสฺส ฉินฺเทยฺย, อตฺโถ เจ ตาทิโส สิยา’’ติ.
‘‘ยสฺส ¶ รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;
น ตสฺส ปตฺตํ ภินฺเทยฺย [หึเสยฺย (ก.)], มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก’’ติ.
‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;
สมูลมฺปิ ตํ อพฺพุเห [อุพฺพเห (?)], อตฺโถ เจ ตาทิโส สิยา’’ติ.
‘‘ยสฺเสกรตฺติมฺปิ ฆเร วเสยฺย, ยตฺถนฺนปานํ ปุริโส ลเภถ;
น ตสฺส ปาปํ มนสาปิ จินฺตเย, กตฺุตา ¶ สปฺปุริเสหิ วณฺณิตา.
‘‘ยสฺเสกรตฺติมฺปิ ฆเร วเสยฺย, อนฺเนน ปาเนน อุปฏฺิโต สิยา;
น ตสฺส ปาปํ มนสาปิ จินฺตเย, อทุพฺภปาณี ทหเต มิตฺตทุพฺภึ.
‘‘โย ปุพฺเพ กตกลฺยาโณ, ปจฺฉา ปาเปน หึสติ;
อลฺลปาณิหโต [อทุพฺภิปาณีหโต (ก)] โปโส, น โส ภทฺรานิ ปสฺสตี’’ติ.
‘‘นาหํ เทเวน วา มนุสฺเสน วา, อิสฺสริเยน วาหํ สุปฺปสยฺโห;
ยกฺโขหมสฺมิ ปรมิทฺธิปตฺโต, ทูรงฺคโม วณฺณพลูปปนฺโน’’ติ.
‘‘ปาณิ เต สพฺพโส วณฺโณ, ปฺจธาโร มธุสฺสโว;
นานารสา ปคฺฆรนฺติ, มฺเหํ ตํ ปุรินฺทท’’นฺติ.
‘‘นามฺหิ เทโว น คนฺธพฺโพ, นาปิ สกฺโก ปุรินฺทโท;
เปตํ มํ องฺกุร ชานาหิ, โรรุวมฺหา [เหรุวมฺหา (สี.)] อิธาคต’’นฺติ.
‘‘กึสีโล ¶ ¶ กึสมาจาโร, โรรุวสฺมึ ปุเร ตุวํ;
เกน เต พฺรหฺมจริเยน, ปฺุํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌตี’’ติ.
‘‘ตุนฺนวาโย ปุเร อาสึ, โรรุวสฺมึ ตทา อหํ;
สุกิจฺฉวุตฺติ กปโณ, น เม วิชฺชติ ทาตเว.
‘‘นิเวสนฺจ ¶ ¶ [อาเวสนฺจ (สี.)] เม อาสิ, อสยฺหสฺส อุปนฺติเก;
สทฺธสฺส ทานปติโน, กตปฺุสฺส ลชฺชิโน.
‘‘ตตฺถ ยาจนกา ยนฺติ, นานาโคตฺตา วนิพฺพกา;
เต จ มํ ตตฺถ ปุจฺฉนฺติ, อสยฺหสฺส นิเวสนํ.
‘‘กตฺถ คจฺฉาม ภทฺทํ โว, กตฺถ ทานํ ปทียติ;
เตสาหํ ปุฏฺโ อกฺขามิ, อสยฺหสฺส นิเวสนํ.
‘‘ปคฺคยฺห ทกฺขิณํ พาหุํ, เอตฺถ คจฺฉถ ภทฺทํ โว;
เอตฺถ ทานํ ปทียติ, อสยฺหสฺส นิเวสเน.
‘‘เตน ปาณิ กามทโท, เตน ปาณิ มธุสฺสโว;
เตน เม พฺรหฺมจริเยน, ปฺุํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌตี’’ติ.
‘‘น กิร ตฺวํ อทา ทานํ, สกปาณีหิ กสฺสจิ;
ปรสฺส ทานํ อนุโมทมาโน, ปาณึ ปคฺคยฺห ปาวทิ.
‘‘เตน ปาณิ กามทโท, เตน ปาณิ มธุสฺสโว;
เตน เต พฺรหฺมจริเยน, ปฺุํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌติ.
‘‘โย ¶ โส ทานมทา ภนฺเต, ปสนฺโน สกปาณิภิ;
โส หิตฺวา มานุสํ เทหํ, กึ นุ โส ทิสตํ คโต’’ติ.
‘‘นาหํ ปชานามิ อสยฺหสาหิโน, องฺคีรสสฺส คตึ อาคตึ วา;
สุตฺจ เม เวสฺสวณสฺส สนฺติเก, สกฺกสฺส สหพฺยตํ คโต อสยฺโห’’ติ.
‘‘อลเมว กาตุํ กลฺยาณํ, ทานํ ทาตุํ ยถารหํ;
ปาณึ กามททํ ทิสฺวา, โก ปฺุํ น กริสฺสติ.
‘‘โส หิ นูน อิโต คนฺตฺวา, อนุปฺปตฺวาน ทฺวารกํ;
ทานํ ปฏฺปยิสฺสามิ, ยํ มมสฺส สุขาวหํ.
‘‘ทสฺสามนฺนฺจ ปานฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ;
ปปฺจ อุทปานฺจ, ทุคฺเค สงฺกมนานิ จา’’ติ.
‘‘เกน ¶ เต องฺคุลี กุณา [กุณฺา (สี. สฺยา.)], มุขฺจ กุณลีกตํ [กุณฺฑลีกตํ (สี. สฺยา. ก.)];
อกฺขีนิ จ ปคฺฆรนฺติ, กึ ปาปํ ปกตํ ตยา’’ติ.
‘‘องฺคีรสสฺส ¶ คหปติโน, สทฺธสฺส ฆรเมสิโน;
ตสฺสาหํ ทานวิสฺสคฺเค, ทาเน อธิกโต อหุํ.
‘‘ตตฺถ ยาจนเก ทิสฺวา, อาคเต โภชนตฺถิเก;
เอกมนฺตํ อปกฺกมฺม, อกาสึ กุณลึ มุขํ.
‘‘เตน ¶ เม องฺคุลี กุณา, มุขฺจ กุณลีกตํ;
อกฺขีนิ เม ปคฺฆรนฺติ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา’’ติ.
‘‘ธมฺเมน ¶ เต กาปุริส, มุขฺจ กุณลีกตํ;
อกฺขีนิ จ ปคฺฆรนฺติ, ยํ ตํ ปรสฺส ทานสฺส;
อกาสิ กุณลึ มุขํ.
‘‘กถํ หิ ทานํ ททมาโน, กเรยฺย ปรปตฺติยํ;
อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จ.
‘‘โส หิ นูน อิโต คนฺตฺวา, อนุปฺปตฺวาน ทฺวารกํ;
ทานํ ปฏฺปยิสฺสามิ, ยํ มมสฺส สุขาวหํ.
‘‘ทสฺสามนฺนฺจ ปานฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ;
ปปฺจ อุทปานฺจ, ทุคฺเค สงฺกมนานิ จา’’ติ.
ตโต หิ โส นิวตฺติตฺวา, อนุปฺปตฺวาน ทฺวารกํ;
ทานํ ปฏฺปยิ องฺกุโร, ยํตุมสฺส [ยํ ตํ อสฺส (สฺยา.), ยนฺตมสฺส (ก.)] สุขาวหํ.
อทา อนฺนฺจ ปานฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ;
ปปฺจ อุทปานฺจ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
‘‘โก ฉาโต โก จ ตสิโต, โก วตฺถํ ปริทหิสฺสติ;
กสฺส สนฺตานิ โยคฺคานิ, อิโต โยเชนฺตุ วาหนํ.
‘‘โก ฉตฺติจฺฉติ คนฺธฺจ, โก มาลํ โก อุปาหนํ;
อิติสฺสุ ตตฺถ โฆเสนฺติ, กปฺปกา สูทมาคธา [ปาฏวา (ก.)];
สทา สายฺจ ปาโต จ, องฺกุรสฺส นิเวสเน.
‘‘‘สุขํ ¶ สุปติ องฺกุโร’, อิติ ชานาติ มํ ชโน;
ทุกฺขํ ¶ สุปามิ สินฺธก [สนฺทุก, สินฺธุก (ก.)], ยํ น ปสฺสามิ ยาจเก.
‘‘‘สุขํ สุปติ องฺกุโร’, อิติ ชานาติ มํ ชโน;
ทุกฺขํ สินฺธก สุปามิ, อปฺปเก สุ วนิพฺพเก’’ติ.
‘‘สกฺโก เจ เต วรํ ทชฺชา, ตาวตึสานมิสฺสโร;
กิสฺส สพฺพสฺส โลกสฺส, วรมาโน วรํ วเร’’ติ.
‘‘สกฺโก เจ เม วรํ ทชฺชา, ตาวตึสานมิสฺสโร;
กาลุฏฺิตสฺส เม สโต, สุริยุคฺคมนํ ปติ;
ทิพฺพา ภกฺขา ปาตุภเวยฺยุํ, สีลวนฺโต จ ยาจกา.
‘‘ททโต ¶ ¶ เม น ขีเยถ, ทตฺวา นานุตเปยฺยหํ;
ททํ จิตฺตํ ปสาเทยฺยํ, เอตํ สกฺกํ วรํ วเร’’ติ.
‘‘น สพฺพวิตฺตานิ ปเร ปเวจฺเฉ, ทเทยฺย ทานฺจ ธนฺจ รกฺเข;
ตสฺมา หิ ทานา ธนเมว เสยฺโย, อติปฺปทาเนน กุลา น โหนฺติ.
‘‘อทานมติทานฺจ, นปฺปสํสนฺติ ปณฺฑิตา;
ตสฺมา หิ ทานา ธนเมว เสยฺโย, สเมน วตฺเตยฺย ส ธีรธมฺโม’’ติ.
‘‘อโห วต เร อหเมว ทชฺชํ, สนฺโต จ มํ สปฺปุริสา ภเชยฺยุํ;
เมโฆว ¶ นินฺนานิ ปริปูรยนฺโต [ภิปูรยนฺโต (สี.), หิ ปูรยนฺโต (สฺยา.)], สนฺตปฺปเย สพฺพวนิพฺพกานํ.
‘‘ยสฺส ยาจนเก ทิสฺวา, มุขวณฺโณ ปสีทติ;
ทตฺวา อตฺตมโน โหติ, ตํ ฆรํ วสโต สุขํ.
‘‘ยสฺส ยาจนเก ทิสฺวา, มุขวณฺโณ ปสีทติ;
ทตฺวา อตฺตมโน โหติ, เอสา ยฺสฺส [ปฺุสฺส (สี.)] สมฺปทา.
[อ. นิ. ๖.๓๗] ‘‘ปุพฺเพว ¶ ทานา สุมโน, ททํ จิตฺตํ ปสาทเย;
ทตฺวา อตฺตมโน โหติ, เอสา ยฺสฺส [ปฺุสฺส (สี.)] สมฺปทา’’ติ.
สฏฺิ วาหสหสฺสานิ, องฺกุรสฺส นิเวสเน;
โภชนํ ทียเต นิจฺจํ, ปฺุเปกฺขสฺส ชนฺตุโน.
ติสหสฺสานิ สูทานิ หิ [สูทานิ (สฺยา. ก.)], อามุตฺตมณิกุณฺฑลา;
องฺกุรํ อุปชีวนฺติ, ทาเน ยฺสฺส วาวฏา [พฺยาวฏา (สี.), ปาวฏา (สฺยา.)].
สฏฺิ ปุริสสหสฺสานิ, อามุตฺตมณิกุณฺฑลา;
องฺกุรสฺส มหาทาเน, กฏฺํ ผาเลนฺติ มาณวา.
โสฬสิตฺถิสหสฺสานิ, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
องฺกุรสฺส มหาทาเน, วิธา ปิณฺเฑนฺติ นาริโย.
โสฬสิตฺถิสหสฺสานิ, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
องฺกุรสฺส มหาทาเน, ทพฺพิคาหา อุปฏฺิตา.
พหุํ ¶ พหูนํ ปาทาสิ, จิรํ ปาทาสิ ขตฺติโย;
สกฺกจฺจฺจ สหตฺถา จ, จิตฺตีกตฺวา ปุนปฺปุนํ.
พหู มาเส จ ปกฺเข จ, อุตุสํวจฺฉรานิ จ;
มหาทานํ ปวตฺเตสิ, องฺกุโร ทีฆมนฺตรํ.
เอวํ ¶ ¶ ทตฺวา ยชิตฺวา จ, องฺกุโร ทีฆมนฺตรํ;
โส หิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสูปโค อหุ.
กฏจฺฉุภิกฺขํ ทตฺวาน, อนุรุทฺธสฺส อินฺทโก;
โส หิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสูปโค อหุ.
ทสหิ าเนหิ องฺกุรํ, อินฺทโก อติโรจติ;
รูเป สทฺเท รเส คนฺเธ, โผฏฺพฺเพ จ มโนรเม.
อายุนา ยสสา เจว, วณฺเณน จ สุเขน จ;
อาธิปจฺเจน องฺกุรํ, อินฺทโก อติโรจติ.
ตาวตึเส ยทา พุทฺโธ, สิลายํ ปณฺฑุกมฺพเล;
ปาริจฺฉตฺตกมูลมฺหิ, วิหาสิ ปุริสุตฺตโม.
ทสสุ ¶ โลกธาตูสุ, สนฺนิปติตฺวาน เทวตา;
ปยิรุปาสนฺติ สมฺพุทฺธํ, วสนฺตํ นคมุทฺธนิ.
น โกจิ เทโว วณฺเณน, สมฺพุทฺธํ อติโรจติ;
สพฺเพ เทเว อติกฺกมฺม [อธิคยฺห (สี.), อติคฺคยฺห (ก)], สมฺพุทฺโธว วิโรจติ.
โยชนานิ ¶ ทส ทฺเว จ, องฺกุโรยํ ตทา อหุ;
อวิทูเรว พุทฺธสฺส [อวิทูเร สมฺพุทฺธสฺส (ก.)], อินฺทโก อติโรจติ.
โอโลเกตฺวาน สมฺพุทฺโธ, องฺกุรฺจาปิ อินฺทกํ;
ทกฺขิเณยฺยํ สมฺภาเวนฺโต [ปภาเวนฺโต (สี.)], อิทํ วจนมพฺรวิ.
‘‘มหาทานํ ตยา ทินฺนํ, องฺกุร ทีฆมนฺตรํ;
อติทูเร [สุวิทูเร (ก.)] นิสินฺโนสิ, อาคจฺฉ มม สนฺติเก’’ติ.
โจทิโต ภาวิตตฺเตน, องฺกุโร อิทมพฺรวิ;
‘‘กึ มยฺหํ เตน ทาเนน, ทกฺขิเณยฺเยน สฺุตํ.
‘‘อยํ โส อินฺทโก ยกฺโข, ทชฺชา ทานํ ปริตฺตกํ;
อติโรจติ อมฺเหหิ, จนฺโท ตารคเณ ยถา’’ติ.
‘‘อุชฺชงฺคเล ยถา เขตฺเต, พีชํ พหุมฺปิ โรปิตํ;
น วิปุลผลํ โหติ, นปิ โตเสติ กสฺสกํ.
‘‘ตเถว ทานํ พหุกํ, ทุสฺสีเลสุ ปติฏฺิตํ;
น วิปุลผลํ โหติ, นปิ โตเสติ ทายกํ.
‘‘ยถาปิ ¶ ภทฺทเก เขตฺเต, พีชํ อปฺปมฺปิ โรปิตํ;
สมฺมา ธารํ ปเวจฺฉนฺเต, ผลํ โตเสติ กสฺสกํ.
‘‘ตเถว สีลวนฺเตสุ, คุณวนฺเตสุ ตาทิสุ;
อปฺปกมฺปิ กตํ การํ, ปฺุํ โหติ มหปฺผล’’นฺติ.
วิเจยฺย ¶ ¶ ทานํ ทาตพฺพํ, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ;
วิเจยฺย ทานํ ทตฺวาน, สคฺคํ คจฺฉนฺติ ทายกา.
วิเจยฺย ¶ ทานํ สุคตปฺปสตฺถํ, เย ทกฺขิเณยฺยา อิธ ชีวโลเก;
เอเตสุ ทินฺนานิ มหปฺผลานิ, พีชานิ วุตฺตานิ ยถา สุเขตฺเตติ.
องฺกุรเปตวตฺถุ นวมํ.
๑๐. อุตฺตรมาตุเปติวตฺถุ
ทิวาวิหารคตํ ¶ ภิกฺขุํ, คงฺคาตีเร นิสินฺนกํ;
ตํ เปตี อุปสงฺกมฺม, ทุพฺพณฺณา ภีรุทสฺสนา.
เกสา จสฺสา อติทีฆา [อหู ทีฆา (ก.)], ยาวภูมาวลมฺพเร [ยาว ภูมฺยา’วลมฺพเร (?)];
เกเสหิ สา ปฏิจฺฉนฺนา, สมณํ เอตทพฺรวิ.
‘‘ปฺจปณฺณาสวสฺสานิ, ยโต กาลงฺกตา อหํ;
นาภิชานามิ ภุตฺตํ วา, ปีตํ วา ปน ปานิยํ;
เทหิ ตฺวํ ปานิยํ ภนฺเต, ตสิตา ปานิยาย เม’’ติ.
‘‘อยํ สีโตทิกา คงฺคา, หิมวนฺตโต [หิมวนฺตาว (ก.)] สนฺทติ;
ปิว เอตฺโต คเหตฺวาน, กึ มํ ยาจสิ ปานิย’’นฺติ.
‘‘สจาหํ ภนฺเต คงฺคาย, สยํ คณฺหามิ ปานิยํ;
โลหิตํ เม ปริวตฺตติ, ตสฺมา ยาจามิ ปานิย’’นฺติ.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, คงฺคา เต โหติ โลหิต’’นฺติ.
‘‘ปุตฺโต เม อุตฺตโร นาม [ปุตฺโต เม ภนฺเต อุตฺตโร (ก.)], สทฺโธ อาสิ อุปาสโก;
โส ¶ จ มยฺหํ อกามาย, สมณานํ ปเวจฺฉติ.
‘‘จีวรํ ¶ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;
ตมหํ ปริภาสามิ, มจฺเฉเรน อุปทฺทุตา.
‘‘ยํ ตฺวํ มยฺหํ อกามาย, สมณานํ ปเวจฺฉสิ;
จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ.
‘‘เอตํ ¶ เต ปรโลกสฺมึ, โลหิตํ โหตุ อุตฺตร;
ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน, คงฺคา เม โหติ โลหิต’’นฺติ.
อุตฺตรมาตุเปติวตฺถุ ทสมํ.
๑๑. สุตฺตเปตวตฺถุ
‘‘อหํ ¶ ปุเร ปพฺพชิตสฺส ภิกฺขุโน, สุตฺตํ อทาสึ อุปสงฺกมฺม ยาจิตา;
ตสฺส วิปาโก วิปุลผลูปลพฺภติ, พหุกา จ เม อุปฺปชฺชเร [พหู จ เม อุปปชฺชเร (สี.)] วตฺถโกฏิโย.
‘‘ปุปฺผาภิกิณฺณํ รมิตํ [รมฺมมิทํ (ก.)] วิมานํ, อเนกจิตฺตํ นรนาริเสวิตํ;
สาหํ ภฺุชามิ จ ปารุปามิ จ, ปหูตวิตฺตา น จ ตาว ขียติ.
‘‘ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากมนฺวยา, สุขฺจ สาตฺจ อิธูปลพฺภติ;
สาหํ คนฺตฺวา ปุนเทว มานุสํ, กาหามิ ¶ ปฺุานิ นยยฺยปุตฺต ม’’นฺติ.
‘‘สตฺต ตุวํ วสฺสสตา อิธาคตา,
ชิณฺณา จ วุฑฺฒา จ ตหึ ภวิสฺสสิ;
สพฺเพว เต กาลกตา จ าตกา,
กึ ตตฺถ คนฺตฺวาน อิโต กริสฺสสี’’ติ.
‘‘สตฺเตว วสฺสานิ อิธาคตาย เม, ทิพฺพฺจ สุขฺจ สมปฺปิตาย;
สาหํ คนฺตฺวาน ปุนเทว มานุสํ, กาหามิ ปฺุานิ นยยฺยปุตฺต ม’’นฺติ.
โส ¶ ตํ คเหตฺวาน ปสยฺห พาหายํ, ปจฺจานยิตฺวาน เถรึ สุทุพฺพลํ;
‘‘วชฺเชสิ อฺมฺปิ ชนํ อิธาคตํ, ‘กโรถ ปฺุานิ สุขูปลพฺภติ’’.
‘‘ทิฏฺา ¶ มยา อกเตน สาธุนา, เปตา วิหฺนฺติ ตเถว มนุสฺสา;
กมฺมฺจ กตฺวา สุขเวทนียํ, เทวา มนุสฺสา จ สุเข ิตา ปชา’’ติ.
สุตฺตเปตวตฺถุ เอกาทสมํ.
๑๒. กณฺณมุณฺฑเปติวตฺถุ
‘‘โสณฺณโสปานผลกา ¶ ¶ , โสณฺณวาลุกสนฺถตา;
ตตฺถ โสคนฺธิยา วคฺคู, สุจิคนฺธา มโนรมา.
‘‘นานารุกฺเขหิ สฺฉนฺนา, นานาคนฺธสเมริตา;
นานาปทุมสฺฉนฺนา, ปุณฺฑรีกสโมตตา [สโมหตา (ก.)].
‘‘สุรภึ สมฺปวายนฺติ, มนฺุา มาลุเตริตา;
หํสโกฺจาภิรุทา จ, จกฺกวกฺกาภิกูชิตา.
‘‘นานาทิชคณากิณฺณา ¶ , นานาสรคณายุตา;
นานาผลธรา รุกฺขา, นานาปุปฺผธรา วนา.
‘‘น มนุสฺเสสุ อีทิสํ, นครํ ยาทิสํ อิทํ;
ปาสาทา พหุกา ตุยฺหํ, โสวณฺณรูปิยามยา;
ททฺทลฺลมานา อาเภนฺติ [อาภนฺติ (ก.)], สมนฺตา จตุโร ทิสา.
‘‘ปฺจ ทาสิสตา ตุยฺหํ, ยา เตมา ปริจาริกา;
ตา [กา (ก.)] กมฺพุกายูรธรา [กมฺพุเกยูรธรา (สี.)], กฺจนาเวฬภูสิตา.
‘‘ปลฺลงฺกา พหุกา ตุยฺหํ, โสวณฺณรูปิยามยา;
กทลิมิคสฺฉนฺนา [กาทลิมิคสฺฉนฺนา (สี.)], สชฺชา โคนกสนฺถตา.
‘‘ยตฺถ ตฺวํ วาสูปคตา, สพฺพกามสมิทฺธินี;
สมฺปตฺตายฑฺฒรตฺตาย [… รตฺติยา (ก.)], ตโต อุฏฺาย คจฺฉสิ.
‘‘อุยฺยานภูมึ ¶ คนฺตฺวาน, โปกฺขรฺา สมนฺตโต;
ตสฺสา ¶ ตีเร ตุวํ าสิ, หริเต สทฺทเล สุเภ.
‘‘ตโต เต กณฺณมุณฺโฑ สุนโข, องฺคมงฺคานิ ขาทติ;
ยทา จ ขายิตา อาสิ, อฏฺิสงฺขลิกา กตา;
โอคาหสิ โปกฺขรณึ, โหติ กาโย ยถา ปุเร.
‘‘ตโต ตฺวํ องฺคปจฺจงฺคี [องฺคปจฺจงฺคา (ก.)], สุจารุ ปิยทสฺสนา;
วตฺเถน ปารุปิตฺวาน, อายาสิ มม สนฺติกํ.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, กณฺณมุณฺโฑ สุนโข ตวองฺคมงฺคานิ ขาทตี’’ติ.
‘‘กิมิลายํ [กิมฺพิลายํ (สี. สฺยา.)] คหปติ, สทฺโธ อาสิ อุปาสโก;
ตสฺสาหํ ภริยา อาสึ, ทุสฺสีลา อติจารินี.
‘‘โส ¶ มํ อติจรมานาย [เอวมาติจรมานาย (สฺยา. ปี.)], สามิโก เอตทพฺรวิ;
‘เนตํ ฉนฺนํ [เนตํ ฉนฺนํ น (สี.), เนตํ ฉนฺนํ เนตํ (ก.)] ปติรูปํ, ยํ ตฺวํ อติจราสิ มํ’.
‘‘สาหํ โฆรฺจ สปถํ, มุสาวาทฺจ ภาสิสํ;
‘นาหํ ตํ อติจรามิ, กาเยน อุท เจตสา.
‘‘‘สจาหํ ตํ อติจรามิ, กาเยน อุท เจตสา;
กณฺณมุณฺโฑ ยํ สุนโข, องฺคมงฺคานิ ขาทตุ’.
‘‘ตสฺส กมฺมสฺส วิปากํ, มุสาวาทสฺส จูภยํ;
สตฺเตว วสฺสสตานิ, อนุภูตํ ยโต หิ เม;
กณฺณมุณฺโฑ ¶ จ สุนโข, องฺคมงฺคานิ ขาทติ.
‘‘ตฺวฺจ เทว พหุกาโร, อตฺถาย เม อิธาคโต;
สุมุตฺตาหํ กณฺณมุณฺฑสฺส, อโสกา อกุโตภยา.
‘‘ตาหํ ¶ เทว นมสฺสามิ, ยาจามิ ปฺชลีกตา;
ภฺุช อมานุเส กาเม, รม เทว มยา สหา’’ติ.
‘‘ภุตฺตา ¶ อมานุสา กามา, รมิโตมฺหิ ตยา สห;
ตาหํ สุภเค ยาจามิ, ขิปฺปํ ปฏินยาหิ ม’’นฺติ.
กณฺณมุณฺฑเปติวตฺถุ ทฺวาทสมํ.
๑๓. อุพฺพริเปตวตฺถุ
อหุ ¶ ราชา พฺรหฺมทตฺโต, ปฺจาลานํ รเถสโภ;
อโหรตฺตานมจฺจยา, ราชา กาลมกฺรุพฺพถ [ราชา กาลงฺกรี ตทา (สี.)].
ตสฺส อาฬาหนํ คนฺตฺวา, ภริยา กนฺทติ อุพฺพรี [อุปฺปริ (ก.)];
พฺรหฺมทตฺตํ อปสฺสนฺตี, พฺรหฺมทตฺตาติ กนฺทติ.
อิสิ จ ตตฺถ อาคจฺฉิ, สมฺปนฺนจรโณ มุนิ;
โส จ ตตฺถ อปุจฺฉิตฺถ, เย ตตฺถ สุสมาคตา.
‘‘กสฺส อิทํ อาฬาหนํ, นานาคนฺธสเมริตํ;
กสฺสายํ กนฺทติ ภริยา, อิโต ทูรคตํ ปตึ;
พฺรหฺมทตฺตํ อปสฺสนฺตี, ‘พฺรหฺมทตฺตา’ติ กนฺทติ’’.
เต ¶ จ ตตฺถ วิยากํสุ, เย ตตฺถ สุสมาคตา;
‘‘พฺรหฺมทตฺตสฺส ภทนฺเต [ภทฺทนฺเต (ก.)], พฺรหฺมทตฺตสฺส มาริส.
‘‘ตสฺส ¶ อิทํ อาฬาหนํ, นานาคนฺธสเมริตํ;
ตสฺสายํ กนฺทติ ภริยา, อิโต ทูรคตํ ปตึ;
พฺรหฺมทตฺตํ อปสฺสนฺตี, ‘พฺรหฺมทตฺตา’ติ กนฺทติ’’.
‘‘ฉฬาสีติสหสฺสานิ, พฺรหฺมทตฺตสฺสนามกา;
อิมสฺมึ อาฬาหเน ทฑฺฒา, เตสํ กมนุโสจสี’’ติ.
‘‘โย ราชา จูฬนีปุตฺโต, ปฺจาลานํ รเถสโภ;
ตํ ภนฺเต อนุโสจามิ, ภตฺตารํ สพฺพกามท’’นฺติ.
‘‘สพฺเพ วาเหสุํ ราชาโน, พฺรหฺมทตฺตสฺสนามกา;
สพฺเพวจูฬนีปุตฺตา, ปฺจาลานํ รเถสภา.
‘‘สพฺเพสํ ¶ อนุปุพฺเพน, มเหสิตฺตมการยิ;
กสฺมา ปุริมเก หิตฺวา, ปจฺฉิมํ อนุโสจสี’’ติ.
‘‘อาตุเม ¶ อิตฺถิภูตาย, ทีฆรตฺตาย มาริส;
ยสฺสา เม อิตฺถิภูตาย, สํสาเร พหุภาสสี’’ติ.
‘‘อหุ อิตฺถี อหุ ปุริโส, ปสุโยนิมฺปิ อาคมา;
เอวเมตํ อตีตานํ, ปริยนฺโต น ทิสฺสตี’’ติ.
‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;
วารินา วิย โอสิฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.
‘‘อพฺพหี วต เม สลฺลํ, โสกํ หทยนิสฺสิตํ;
โย เม โสกปเรตาย, ปติโสกํ อปานุทิ.
‘‘สาหํ ¶ อพฺพูฬฺหสลฺลาสฺมิ, สีติภูตาสฺมิ นิพฺพุตา;
น โสจามิ น โรทามิ, ตว สุตฺวา มหามุนี’’ติ.
ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, สมณสฺส สุภาสิตํ;
ปตฺตจีวรมาทาย, ปพฺพชิ อนคาริยํ.
สา จ ปพฺพชิตา สนฺตา, อคารสฺมา อนคาริยํ;
เมตฺตาจิตฺตํ อภาเวสิ, พฺรหฺมโลกูปปตฺติยา.
คามา คามํ วิจรนฺตี, นิคเม ราชธานิโย;
อุรุเวลา นาม โส คาโม, ยตฺถ กาลมกฺรุพฺพถ.
เมตฺตาจิตฺตํ ¶ อาภาเวตฺวา, พฺรหฺมโลกูปปตฺติยา;
อิตฺถิจิตฺตํ วิราเชตฺวา, พฺรหฺมโลกูปคา อหูติ.
อุพฺพริเปตวตฺถุ เตรสมํ.
อุพฺพริวคฺโค ทุติโย นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
โมจกํ [ปณฺฑุ (สพฺพตฺถ)] มาตา มตฺตา [ปิตา (สี. ก.), ปติยา (สฺยา.)] จ, นนฺทา กุณฺฑลีนา ฆโฏ;
ทฺเว เสฏฺี ตุนฺนวาโย จ, อุตฺตร [วิหาร (สพฺพตฺถ)] สุตฺตกณฺณ [โสปาน (สพฺพตฺถ)] อุพฺพรีติ.