📜

๒. อุพฺพริวคฺโค

๑. สํสารโมจกเปติวตฺถุ

๙๕.

‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาสิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;

อุปฺผาสุลิเก [อุปฺปาสุฬิเก (ก.)] กิสิเก, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺสี’’ติ.

๙๖.

‘‘อหํ ภทนฺเต เปตีมฺหิ, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๙๗.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๙๘.

‘‘อนุกมฺปกา มยฺหํ นาเหสุํ ภนฺเต, ปิตา จ มาตา อถวาปิ าตกา;

เย มํ นิโยเชยฺยุํ ททาหิ ทานํ, ปสนฺนจิตฺตา สมณพฺราหฺมณานํ.

๙๙.

‘‘อิโต อหํ วสฺสสตานิ ปฺจ, ยํ เอวรูปา วิจรามิ นคฺคา;

ขุทาย ตณฺหาย จ ขชฺชมานา, ปาปสฺส กมฺมสฺส ผลํ มเมทํ.

๑๐๐.

‘‘วนฺทามิ ตํ อยฺย ปสนฺนจิตฺตา, อนุกมฺป มํ วีร มหานุภาว;

ทตฺวา จ เม อาทิส ยํ หิ กิฺจิ, โมเจหิ มํ ทุคฺคติยา ภทนฺเต’’ติ.

๑๐๑.

สาธูติ โส ปฏิสฺสุตฺวา, สาริปุตฺโตนุกมฺปโก;

ภิกฺขูนํ อาโลปํ ทตฺวา, ปาณิมตฺตฺจ โจฬกํ;

ถาลกสฺส จ ปานียํ, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสิ.

๑๐๒.

สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, วิปาโก อุทปชฺชถ;

โภชนจฺฉาทนปานียํ, ทกฺขิณาย อิทํ ผลํ.

๑๐๓.

ตโต สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;

วิจิตฺตวตฺถาภรณา, สาริปุตฺตํ อุปสงฺกมิ.

๑๐๔.

‘‘อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, ยา ตฺวํ ติฏฺสิ เทวเต;

โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกา.

๑๐๕.

‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;

อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.

๑๐๖.

‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุฺํ;

เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.

๑๐๗.

‘‘อุปฺปณฺฑุกึ กิสํ ฉาตํ, นคฺคํ สมฺปติตจฺฉวึ [อาปติตจฺฉวึ (สี.)];

มุนิ การุณิโก โลเก, ตํ มํ อทฺทกฺขิ ทุคฺคตํ.

๑๐๘.

‘‘ภิกฺขูนํ อาโลปํ ทตฺวา, ปาณิมตฺตฺจ โจฬกํ;

ถาลกสฺส จ ปานียํ, มม ทกฺขิณมาทิสิ.

๑๐๙.

‘‘อาโลปสฺส ผลํ ปสฺส, ภตฺตํ วสฺสสตํ ทส;

ภุฺชามิ กามกามินี, อเนกรสพฺยฺชนํ.

๑๑๐.

‘‘ปาณิมตฺตสฺส โจฬสฺส, วิปากํ ปสฺส ยาทิสํ;

ยาวตา นนฺทราชสฺส, วิชิตสฺมึ ปฏิจฺฉทา.

๑๑๑.

‘‘ตโต พหุตรา ภนฺเต, วตฺถานจฺฉาทนานิ เม;

โกเสยฺยกมฺพลียานิ, โขมกปฺปาสิกานิ จ.

๑๑๒.

‘‘วิปุลา จ มหคฺฆา จ, เตปากาเสวลมฺพเร;

สาหํ ตํ ปริทหามิ, ยํ ยํ หิ มนโส ปิยํ.

๑๑๓.

‘‘ถาลกสฺส จ ปานียํ, วิปากํ ปสฺส ยาทิสํ;

คมฺภีรา จตุรสฺสา จ, โปกฺขรฺโ สุนิมฺมิตา.

๑๑๔.

‘‘เสโตทกา สุปฺปติตฺถา, สีตา อปฺปฏิคนฺธิยา;

ปทุมุปฺปลสฺฉนฺนา, วาริกิฺชกฺขปูริตา.

๑๑๕.

‘‘สาหํ รมามิ กีฬามิ, โมทามิ อกุโตภยา;

มุนึ การุณิกํ โลเก, ภนฺเต วนฺทิตุมาคตา’’ติ.

สํสารโมจกเปติวตฺถุ ปมํ.

๒. สาริปุตฺตตฺเถรมาตุเปติวตฺถุ

๑๑๖.

‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาสิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;

อุปฺผาสุลิเก กิสิเก, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺสิ’’.

๑๑๗.

‘‘อหํ เต สกิยา มาตา, ปุพฺเพ อฺาสุ ชาตีสุ;

อุปปนฺนา เปตฺติวิสยํ, ขุปฺปิปาสสมปฺปิตา.

๑๑๘.

‘‘ฉฑฺฑิตํ ขิปิตํ เขฬํ, สิงฺฆาณิกํ สิเลสุมํ;

วสฺจ ฑยฺหมานานํ, วิชาตานฺจ โลหิตํ.

๑๑๙.

‘‘วณิกานฺจ ยํ ฆาน-สีสจฺฉินฺนาน โลหิตํ;

ขุทาปเรตา ภุฺชามิ, อิตฺถิปุริสนิสฺสิตํ.

๑๒๐.

‘‘ปุพฺพโลหิตํ ภกฺขามิ [ปุพฺพโลหิตภกฺขาสฺมิ (สี.)], ปสูนํ มานุสาน จ;

อเลณา อนคารา จ, นีลมฺจปรายณา.

๑๒๑.

‘‘เทหิ ปุตฺตก เม ทานํ, ทตฺวา อนฺวาทิสาหิ เม;

อปฺเปว นาม มุจฺเจยฺยํ, ปุพฺพโลหิตโภชนา’’ติ.

๑๒๒.

มาตุยา วจนํ สุตฺวา, อุปติสฺโสนุกมฺปโก;

อามนฺตยิ โมคฺคลฺลานํ, อนุรุทฺธฺจ กปฺปินํ.

๑๒๓.

จตสฺโส กุฏิโย กตฺวา, สงฺเฆ จาตุทฺทิเส อทา;

กุฏิโย อนฺนปานฺจ, มาตุ ทกฺขิณมาทิสี.

๑๒๔.

สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, วิปาโก อุทปชฺชถ;

โภชนํ ปานียํ วตฺถํ, ทกฺขิณาย อิทํ ผลํ.

๑๒๕.

ตโต สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;

วิจิตฺตวตฺถาภรณา, โกลิตํ อุปสงฺกมิ.

๑๒๖.

‘‘อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, ยา ตฺวํ ติฏฺสิ เทวเต;

โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกา.

๑๒๗.

‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;

อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.

๑๒๘.

‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุฺํ;

เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.

๑๒๙.

‘‘สาริปุตฺตสฺสาหํ มาตา, ปุพฺเพ อฺาสุ ชาตีสุ;

อุปปนฺนา เปตฺติวิสยํ, ขุปฺปิปาสสมปฺปิตา.

๑๓๐.

‘‘ฉฑฺฑิตํ ขิปิตํ เขฬํ, สิงฺฆาณิกํ สิเลสุมํ;

วสฺจ ฑยฺหมานานํ, วิชาตานฺจ โลหิตํ.

๑๓๑.

‘‘วณิกานฺจ ยํ ฆาน-สีสจฺฉินฺนาน โลหิตํ;

ขุทาปเรตา ภุฺชามิ, อิตฺถิปุริสนิสฺสิตํ.

๑๓๒.

‘‘ปุพฺพโลหิตํ ภกฺขิสฺสํ, ปสูนํ มานุสาน จ;

อเลณา อนคารา จ, นีลมฺจปรายณา.

๑๓๓.

‘‘สาริปุตฺตสฺส ทาเนน, โมทามิ อกุโตภยา;

มุนึ การุณิกํ โลเก, ภนฺเต วนฺทิตุมาคตา’’ติ.

สาริปุตฺตตฺเถรสฺส มาตุเปติวตฺถุ ทุติยํ.

๓. มตฺตาเปติวตฺถุ

๑๓๔.

‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาสิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;

อุปฺผาสุลิเก กิสิเก, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺสี’’ติ.

๑๓๕.

‘‘อหํ มตฺตา ตุวํ ติสฺสา, สปตฺตี เต ปุเร อหุํ;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๑๓๖.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๑๓๗.

‘‘จณฺฑี จ ผรุสา จาสึ, อิสฺสุกี มจฺฉรี สา [สี (สี.)];

ตาหํ ทุรุตฺตํ วตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๑๓๘.

สพฺพํ [สจฺจํ (ก.)] อหมฺปิ ชานามิ, ยถา ตฺวํ จณฺฑิกา อหุ;

อฺฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกนาสิ ปํสุกุนฺถิตา’’ติ.

๑๓๙.

‘‘สีสํนฺหาตา ตุวํ อาสิ, สุจิวตฺถา อลงฺกตา;

อหฺจ โข [โข ตํ (สี. ก.)] อธิมตฺตํ, สมลงฺกตตรา ตยา.

๑๔๐.

‘‘ตสฺสา เม เปกฺขมานาย, สามิเกน สมนฺตยิ;

ตโต เม อิสฺสา วิปุลา, โกโธ เม สมชายถ.

๑๔๑.

‘‘ตโต ปํสุํ คเหตฺวาน, ปํสุนา ตํ หิ โอกิรึ [ตํ วิกีริหํ (สฺยา. ก.)];

ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตนมฺหิ ปํสุกุนฺถิตา’’ติ.

๑๔๒.

‘‘สจฺจํ อหมฺปิ ชานามิ, ปํสุนา มํ ตฺวโมกิริ;

อฺฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกน ขชฺชสิ กจฺฉุยา’’ติ.

๑๔๓.

‘‘เภสชฺชหารี อุภโย, วนนฺตํ อคมิมฺหเส;

ตฺวฺจ เภสชฺชมาหริ, อหฺจ กปิกจฺฉุโน.

๑๔๔.

‘‘ตสฺสา ตฺยาชานมานาย, เสยฺยํ ตฺยาหํ สโมกิรึ;

ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตน ขชฺชามิ กจฺฉุยา’’ติ.

๑๔๕.

‘‘สจฺจํ อหมฺปิ ชานามิ, เสยฺยํ เม ตฺวํ สโมกิริ;

อฺฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกนาสิ นคฺคิยา ตุว’’นฺติ.

๑๔๖.

‘‘สหายานํ สมโย อาสิ, าตีนํ สมิตี อหุ;

ตฺวฺจ อามนฺติตา อาสิ, สสามินี โน จ โข อหํ.

๑๔๗.

‘‘ตสฺสา ตฺยาชานมานาย, ทุสฺสํ ตฺยาหํ อปานุทึ;

ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตนมฺหิ นคฺคิยา อห’’นฺติ.

๑๔๘.

‘‘สจฺจํ อหมฺปิ ชานามิ, ทุสฺสํ เม ตฺวํ อปานุทิ;

อฺฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกนาสิ คูถคนฺธินี’’ติ.

๑๔๙.

‘‘ตว คนฺธฺจ มาลฺจ, ปจฺจคฺฆฺจ วิเลปนํ;

คูถกูเป อธาเรสึ [อธาเรสึ (ก.)], ตํ ปาปํ ปกตํ มยา;

ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตนมฺหิ คูถคนฺธินี’’ติ.

๑๕๐.

‘‘สจฺจํ อหมฺปิ ชานามิ, ตํ ปาปํ ปกตํ ตยา;

อฺฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกนาสิ ทุคฺคตา ตุว’’นฺติ.

๑๕๑.

‘‘อุภินฺนํ สมกํ อาสิ, ยํ เคเห วิชฺชเต ธนํ;

สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากาสิมตฺตโน;

ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตนมฺหิ ทุคฺคตา อหํ.

๑๕๒.

‘‘ตเทว มํ ตฺวํ อวจ, ‘ปาปกมฺมํ นิเสวสิ;

น หิ ปาเปหิ กมฺเมหิ, สุลภา โหติ สุคฺคตี’’’ติ.

๑๕๓.

‘‘วามโต มํ ตฺวํ ปจฺเจสิ, อโถปิ มํ อุสูยสิ;

ปสฺส ปาปานํ กมฺมานํ, วิปาโก โหติ ยาทิโส.

๑๕๔.

‘‘เต ฆรา ตา จ ทาสิโย [เต ฆรทาสิโย อาสุํ (สี. สฺยา.), เต ฆเร ทาสิโย เจว (ก.)], ตาเนวาภรณานิเม;

เต อฺเ ปริจาเรนฺติ, น โภคา โหนฺติ สสฺสตา.

๑๕๕.

‘‘อิทานิ ภูตสฺส ปิตา, อาปณา เคหเมหิติ;

อปฺเปว เต ทเท กิฺจิ, มา สุ ตาว อิโต อคา’’ติ.

๑๕๖.

‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปามฺหิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;

โกปีนเมตํ อิตฺถีนํ, มา มํ ภูตปิตาทฺทสา’’ติ.

๑๕๗.

‘‘หนฺท กึ วา ตฺยาหํ [กึ ตฺยาหํ (สี. สฺยา.), กึ วตาหํ (ก.)] ทมฺมิ, กึ วา เตธ [กึ วา จ เต (สี. สฺยา.), กึ วิธ เต (ก.)] กโรมหํ;

เยน ตฺวํ สุขิตา อสฺส, สพฺพกามสมิทฺธินี’’ติ.

๑๕๘.

‘‘จตฺตาโร ภิกฺขู สงฺฆโต, จตฺตาโร ปน ปุคฺคลา;

อฏฺ ภิกฺขู โภชยิตฺวา, มม ทกฺขิณมาทิส;

ตทาหํ สุขิตา เหสฺสํ, สพฺพกามสมิทฺธินี’’ติ.

๑๕๙.

สาธูติ สา ปฏิสฺสุตฺวา, โภชยิตฺวาฏฺ ภิกฺขโว;

วตฺเถหจฺฉาทยิตฺวาน, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสี.

๑๖๐.

สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ , วิปาโก อุทปชฺชถ;

โภชนจฺฉาทนปานียํ, ทกฺขิณาย อิทํ ผลํ.

๑๖๑.

ตโต สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;

วิจิตฺตวตฺถาภรณา, สปตฺตึ อุปสงฺกมิ.

๑๖๒.

‘‘อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, ยา ตฺวํ ติฏฺสิ เทวเต;

โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกา.

๑๖๓.

‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;

อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.

๑๖๔.

‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุฺํ;

เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.

๑๖๕.

‘‘อหํ มตฺตา ตุวํ ติสฺสา, สปตฺตี เต ปุเร อหุํ;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา.

๑๖๖.

‘‘ตว ทินฺเนน ทาเนน, โมทามิ อกุโตภยา;

จีรํ ชีวาหิ ภคินิ, สห สพฺเพหิ าติภิ;

อโสกํ วิรชํ านํ, อาวาสํ วสวตฺตินํ.

๑๖๗.

‘‘อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ทานํ ทตฺวาน โสภเน;

วิเนยฺย มจฺเฉรมลํ สมูลํ, อนินฺทิตา สคฺคมุเปหิ าน’’นฺติ.

มตฺตาเปติวตฺถุ ตติยํ.

๔. นนฺทาเปติวตฺถุ

๑๖๘.

‘‘กาฬี ทุพฺพณฺณรูปาสิ, ผรุสา ภีรุทสฺสนา;

ปิงฺคลาสิ กฬาราสิ, น ตํ มฺามิ มานุสิ’’นฺติ.

๑๖๙.

‘‘อหํ นนฺทา นนฺทิเสน, ภริยา เต ปุเร อหุํ;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๑๗๐.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๑๗๑.

‘‘จณฺฑี จ ผรุสา จาสึ [จณฺฑี ผรุสวาจา จ (สี.)], ตยิ จาปิ อคารวา;

ตาหํ ทุรุตฺตํ วตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๑๗๒.

‘‘หนฺทุตฺตรียํ ททามิ เต, อิมํ [อิทํ (สี. อฏฺ.)] ทุสฺสํ นิวาสย;

อิมํ ทุสฺสํ นิวาเสตฺวา, เอหิ เนสฺสามิ ตํ ฆรํ.

๑๗๓.

‘‘วตฺถฺจ อนฺนปานฺจ, ลจฺฉสิ ตฺวํ ฆรํ คตา;

ปุตฺเต จ เต ปสฺสิสฺสสิ, สุณิสาโย จ ทกฺขสี’’ติ.

๑๗๔.

‘‘หตฺเถน หตฺเถ เต ทินฺนํ, น มยฺหํ อุปกปฺปติ;

ภิกฺขู จ สีลสมฺปนฺเน, วีตราเค พหุสฺสุเต.

๑๗๕.

‘‘ตปฺเปหิ อนฺนปาเนน, มม ทกฺขิณมาทิส;

ตทาหํ สุขิตา เหสฺสํ, สพฺพกามสมิทฺธินี’’ติ.

๑๗๖.

สาธูติ โส ปฏิสฺสุตฺวา, ทานํ วิปุลมากิริ;

อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จ;

ฉตฺตํ คนฺธฺจ มาลฺจ, วิวิธา จ อุปาหนา.

๑๗๗.

ภิกฺขู จ สีลสมฺปนฺเน, วีตราเค พหุสฺสุเต;

ตปฺเปตฺวา อนฺนปาเนน, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสี.

๑๗๘.

สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ , วิปาโก อุทปชฺชถ;

โภชนจฺฉาทนปานียํ, ทกฺขิณาย อิทํ ผลํ.

๑๗๙.

ตโต สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;

วิจิตฺตวตฺถาภรณา, สามิกํ อุปสงฺกมิ.

๑๘๐.

‘‘อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, ยา ตฺวํ ติฏฺสิ เทวเต;

โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกา.

๑๘๑.

‘‘เกน เตตาทิโส วณฺโณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;

อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา.

๑๘๒.

‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุฺํ;

เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ.

๑๘๓.

‘‘อหํ นนฺทา นนฺทิเสน, ภริยา เต ปุเร อหุํ;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา.

๑๘๔.

‘‘ตว ทินฺเนน ทาเนน, โมทามิ อกุโตภยา;

จิรํ ชีว คหปติ, สห สพฺเพหิ าติภิ;

อโสกํ วิรชํ เขมํ, อาวาสํ วสวตฺตินํ.

๑๘๕.

‘‘อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ทานํ ทตฺวา คหปติ;

วิเนยฺย มจฺเฉรมลํ สมูลํ, อนินฺทิโต สคฺคมุเปหิ าน’’นฺติ.

นนฺทาเปติวตฺถุ จตุตฺถํ.

๕. มฏฺกุณฺฑลีเปตวตฺถุ

๑๘๖.

[วิ. ว. ๑๒๐๗] ‘‘อลงฺกโต มฏฺกุณฺฑลี, มาลธารี หริจนฺทนุสฺสโท;

พาหา ปคฺคยฺห กนฺทสิ, วนมชฺเฌ กึ ทุกฺขิโต ตุว’’นฺติ.

๑๘๗.

‘‘โสวณฺณมโย ปภสฺสโร, อุปฺปนฺโน รถปฺชโร มม;

ตสฺส จกฺกยุคํ น วินฺทามิ, เตน ทุกฺเขน ชหามิ ชีวิต’’นฺติ.

๑๘๘.

‘‘โสวณฺณมยํ มณิมยํ, โลหิตกมยํ [โลหิตงฺคมยํ (สฺยา.), โลหิตงฺกมยํ (สี.), โลหมยํ (กตฺถจิ)] อถ รูปิยมยํ;

อาจิกฺข เม ภทฺทมาณว, จกฺกยุคํ ปฏิปาทยามิ เต’’ติ.

๑๘๙.

โส มาณโว ตสฺส ปาวทิ, ‘‘จนฺทสูริยา อุภเยตฺถ ทิสฺสเร;

โสวณฺณมโย รโถ มม, เตน จกฺกยุเคน โสภตี’’ติ.

๑๙๐.

‘‘พาโล โข ตฺวํ อสิ มาณว, โย ตฺวํ ปตฺถยเส อปตฺถิยํ;

มฺามิ ตุวํ มริสฺสสิ, น หิ ตฺวํ ลจฺฉสิ จนฺทสูริเย’’ติ.

๑๙๑.

‘‘คมนาคมนมฺปิ ทิสฺสติ, วณฺณธาตุ อุภยตฺถ วีถิยา;

เปโต กาลกโต น ทิสฺสติ, โก นิธ กนฺทตํ พาลฺยตโร’’ติ.

๑๙๒.

‘‘สจฺจํ โข วเทสิ มาณว, อหเมว กนฺทตํ พาลฺยตโร;

จนฺทํ วิย ทารโก รุทํ, เปตํ กาลกตาภิปตฺถยิ’’นฺติ.

๑๙๓.

‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;

วารินา วิย โอสิฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.

๑๙๔.

‘‘อพฺพหี [อพฺพูฬฺหํ (สฺยา. ก.)] วต เม สลฺลํ, โสกํ หทยนิสฺสิตํ;

โย เม โสกปเรตสฺส, ปุตฺตโสกํ อปานุทิ.

๑๙๕.

‘‘สฺวาหํ อพฺพูฬฺหสลฺโลสฺมิ, สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต;

น โสจามิ น โรทามิ, ตว สุตฺวาน มาณวา’’ติ.

๑๙๖.

‘‘เทวตา นุสิ คนฺธพฺโพ, อทุ สกฺโก ปุรินฺทโท;

โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุตฺโต, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.

๑๙๗.

‘‘ยฺจ กนฺทสิ ยฺจ โรทสิ, ปุตฺตํ อาฬาหเน สยํ ทหิตฺวา;

สฺวาหํ กุสลํ กริตฺวา กมฺมํ, ติทสานํ สหพฺยตํ คโต’’ติ.

๑๙๘.

‘‘อปฺปํ วา พหุํ วา นาทฺทสาม, ทานํ ททนฺตสฺส สเก อคาเร;

อุโปสถกมฺมํ วา ตาทิสํ, เกน กมฺเมน คโตสิ เทวโลก’’นฺติ.

๑๙๙.

‘‘อาพาธิโกหํ ทุกฺขิโต คิลาโน, อาตุรรูโปมฺหิ สเก นิเวสเน;

พุทฺธํ วิคตรชํ วิติณฺณกงฺขํ, อทฺทกฺขึ สุคตํ อโนมปฺํ.

๒๐๐.

‘‘สฺวาหํ มุทิตมโน ปสนฺนจิตฺโต, อฺชลึ อกรึ ตถาคตสฺส;

ตาหํ กุสลํ กริตฺวาน กมฺมํ, ติทสานํ สหพฺยตํ คโต’’ติ.

๒๐๑.

‘‘อจฺฉริยํ วต อพฺภุตํ วต, อฺชลิกมฺมสฺส อยมีทิโส วิปาโก;

อหมฺปิ มุทิตมโน ปสนฺนจิตฺโต, อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ วชามี’’ติ.

๒๐๒.

‘‘อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ วชาหิ, ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ ปสนฺนจิตฺโต;

ตเถว สิกฺขาย ปทานิ ปฺจ, อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยสฺสุ.

๒๐๓.

‘‘ปาณาติปาตา วิรมสฺสุ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยสฺสุ;

อมชฺชโป มา จ มุสา ภณาหิ, สเกน ทาเรน จ โหหิ ตุฏฺโ’’ติ.

๒๐๔.

‘‘อตฺถกาโมสิ เม ยกฺข, หิตกาโมสิ เทวเต;

กโรมิ ตุยฺหํ วจนํ, ตฺวํสิ อาจริโย มมาติ.

๒๐๕.

‘‘อุเปมิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมฺจาปิ อนุตฺตรํ;

สงฺฆฺจ นรเทวสฺส, คจฺฉามิ สรณํ อหํ.

๒๐๖.

‘‘ปาณาติปาตา วิรมามิ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยามิ;

อมชฺชโป โน จ มุสา ภณามิ; สเกน ทาเรน จ โหมิ ตุฏฺโ’’ติ.

มฏฺกุณฺฑลีเปตวตฺถุ ปฺจมํ.

๖. กณฺหเปตวตฺถุ

๒๐๗.

‘‘อุฏฺเหิ กณฺห กึ เสสิ, โก อตฺโถ สุปเนน เต;

โย จ ตุยฺหํ สโก ภาตา, หทยํ จกฺขุ จ [จกฺขุํว (อฏฺ.)] ทกฺขิณํ;

ตสฺส วาตา พลียนฺติ, สสํ ชปฺปติ [ฆโฏ ชปฺปติ (ก.)] เกสวา’’ติ.

๒๐๘.

‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, โรหิเณยฺยสฺส เกสโว;

ตรมานรูโป วุฏฺาสิ, ภาตุโสเกน อฏฺฏิโต.

๒๐๙.

‘‘กึ นุ อุมฺมตฺตรูโปว, เกวลํ ทฺวารกํ อิมํ;

สโส สโสติ ลปสิ, กีทิสํ สสมิจฺฉสิ.

๒๑๐.

‘‘โสวณฺณมยํ มณิมยํ, โลหมยํ อถ รูปิยมยํ;

สงฺขสิลาปวาฬมยํ, การยิสฺสามิ เต สสํ.

๒๑๑.

‘‘สนฺติ อฺเปิ สสกา, อรฺวนโคจรา;

เตปิ เต อานยิสฺสามิ, กีทิสํ สสมิจฺฉสี’’ติ.

๒๑๒.

‘‘นาหเมเต สเส อิจฺเฉ, เย สสา ปถวิสฺสิตา;

จนฺทโต สสมิจฺฉามิ, ตํ เม โอหร เกสวา’’ติ.

๒๑๓.

‘‘โส นูน มธุรํ าติ, ชีวิตํ วิชหิสฺสสิ;

อปตฺถิยํ ปตฺถยสิ, จนฺทโต สสมิจฺฉสี’’ติ.

๒๑๔.

‘‘เอวํ เจ กณฺห ชานาสิ, ยถฺมนุสาสสิ;

กสฺมา ปุเร มตํ ปุตฺตํ, อชฺชาปิ มนุโสจสิ.

๒๑๕.

‘‘น ยํ ลพฺภา มนุสฺเสน, อมนุสฺเสน วา ปน;

ชาโต เม มา มริ ปุตฺโต, กุโต ลพฺภา อลพฺภิยํ.

๒๑๖.

‘‘น มนฺตา มูลเภสชฺชา, โอสเธหิ ธเนน วา;

สกฺกา อานยิตุํ กณฺห, ยํ เปตมนุโสจสิ.

๒๑๗.

‘‘มหทฺธนา มหาโภคา, รฏฺวนฺโตปิ ขตฺติยา;

ปหูตธนธฺาเส, เตปิ โน [นตฺเถตฺถปาเภโท] อชรามรา.

๒๑๘.

‘‘ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา, สุทฺทา จณฺฑาลปุกฺกุสา;

เอเต จฺเ จ ชาติยา, เตปิ โน อชรามรา.

๒๑๙.

‘‘เย มนฺตํ ปริวตฺเตนฺติ, ฉฬงฺคํ พฺรหฺมจินฺติตํ;

เอเต จฺเ จ วิชฺชาย, เตปิ โน อชรามรา.

๒๒๐.

‘‘อิสโย วาปิ [อิสโย จาปิ (วิมานวตฺถุ ๙๙)] เย สนฺตา, สฺตตฺตา ตปสฺสิโน;

สรีรํ เตปิ กาเลน, วิชหนฺติ ตปสฺสิโน.

๒๒๑.

‘‘ภาวิตตฺตา อรหนฺโต, กตกิจฺจา อนาสวา;

นิกฺขิปนฺติ อิมํ เทหํ, ปุฺปาปปริกฺขยา’’ติ.

๒๒๒.

‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;

วารินา วิย โอสิฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.

๒๒๓.

‘‘อพฺพหี วต เม สลฺลํ, โสกํ หทยนิสฺสิตํ;

โย เม โสกปเรตสฺส, ปุตฺตโสกํ อปานุทิ.

๒๒๔.

‘‘สฺวาหํ อพฺพูฬฺหสลฺโลสฺมิ, สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต;

น โสจามิ น โรทามิ, ตว สุตฺวาน ภาติก’’ [ภาสิตํ (สฺยา.)].

๒๒๕.

เอวํ กโรนฺติ สปฺปฺา, เย โหนฺติ อนุกมฺปกา;

นิวตฺตยนฺติ โสกมฺหา, ฆโฏ เชฏฺํว ภาตรํ.

๒๒๖.

ยสฺส เอตาทิสา โหนฺติ, อมจฺจา ปริจารกา;

สุภาสิเตน อนฺเวนฺติ, ฆโฏ เชฏฺํว ภาตรนฺติ.

กณฺหเปตวตฺถุ ฉฏฺํ.

๗. ธนปาลเสฏฺิเปตวตฺถุ

๒๒๗.

‘‘นคฺโค ทุพฺพณฺณรูโปสิ, กิโส ธมนิสนฺถโต;

อุปฺผาสุลิโก กิสิโก, โก นุ ตฺวมสิ มาริส’’.

๒๒๘.

‘‘อหํ ภทนฺเต เปโตมฺหิ, ทุคฺคโต ยมโลกิโก;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คโต’’.

๒๒๙.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คโต’’.

๒๓๐.

‘‘นครํ อตฺถิ ปณฺณานํ [ทสนฺนานํ (สี. สฺยา. ปี.)], เอรกจฺฉนฺติ วิสฺสุตํ;

ตตฺถ เสฏฺิ ปุเร อาสึ, ธนปาโลติ มํ วิทู.

๒๓๑.

‘‘อสีติ สกฏวาหานํ, หิรฺสฺส อโหสิ เม;

ปหูตํ เม ชาตรูปํ, มุตฺตา เวฬุริยา พหู.

๒๓๒.

‘‘ตาว มหทฺธนสฺสาปิ, น เม ทาตุํ ปิยํ อหุ;

ปิทหิตฺวา ทฺวารํ ภุฺชึ [ภุฺชามิ (สี. สฺยา.)], มา มํ ยาจนกาทฺทสุํ.

๒๓๓.

‘‘อสฺสทฺโธ มจฺฉรี จาสึ, กทริโย ปริภาสโก;

ททนฺตานํ กโรนฺตานํ, วารยิสฺสํ พหุ ชเน [พหุชฺชนํ (สี. สฺยา.)].

๒๓๔.

‘‘วิปาโก นตฺถิ ทานสฺส, สํยมสฺส กุโต ผลํ;

โปกฺขรฺโทปานานิ, อารามานิ จ โรปิเต;

ปปาโย จ วินาเสสึ, ทุคฺเค สงฺกมนานิ จ.

๒๓๕.

‘‘สฺวาหํ อกตกลฺยาโณ, กตปาโป ตโต จุโต;

อุปปนฺโน เปตฺติวิสยํ, ขุปฺปิปาสสมปฺปิโต.

๒๓๖.

‘‘ปฺจปณฺณาสวสฺสานิ, ยโต กาลงฺกโต อหํ;

นาภิชานามิ ภุตฺตํ วา, ปีตํ วา ปน ปานิยํ.

๒๓๗.

‘‘โย สํยโม โส วินาโส,โย วินาโส โส สํยโม;

เปตา หิ กิร ชานนฺติ, โย สํยโม โส วินาโส.

๒๓๘.

‘‘อหํ ปุเร สํยมิสฺสํ, นาทาสึ พหุเก ธเน;

สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากาสิมตฺตโน;

สฺวาหํ ปจฺฉานุตปฺปามิ, อตฺตกมฺมผลูปโค.

๒๓๙.

[เป. ว. ๖๙] ‘‘อุทฺธํ จตูหิ มาเสหิ, กาลํกิริยา ภวิสฺสติ;

เอกนฺตกฏุกํ โฆรํ, นิรยํ ปปติสฺสหํ.

๒๔๐.

[เป. ว. ๗๐] ‘‘จตุกฺกณฺณํ จตุทฺวารํ, วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ;

อโยปาการปริยนฺตํ, อยสา ปฏิกุชฺชิตํ.

๒๔๑.

[เป. ว. ๗๑] ‘‘ตสฺส อโยมยา ภูมิ, ชลิตา เตชสา ยุตา;

สมนฺตา โยชนสตํ, ผริตฺวา ติฏฺติ สพฺพทา.

๒๔๒.

[เป. ว. ๗๒] ‘‘ตตฺถาหํ ทีฆมทฺธานํ, ทุกฺขํ เวทิสฺส เวทนํ;

ผลํ ปาปสฺส กมฺมสฺส, ตสฺมา โสจามหํ ภุสํ.

๒๔๓.

‘‘ตํ โว วทามิ ภทฺทํ โว, ยาวนฺเตตฺถ สมาคตา;

มากตฺถ ปาปกํ กมฺมํ, อาวิ วา ยทิ วา รโห.

๒๔๔.

‘‘สเจ ตํ ปาปกํ กมฺมํ, กริสฺสถ กโรถ วา;

น โว ทุกฺขา ปมุตฺยตฺถิ [ปมุตฺตตฺถิ (สพฺพตฺถ) อุทา. ๔๔ ปสฺสิตพฺพํ], อุปฺปจฺจาปิ [อุเปจฺจาปิ (สฺยา. ก.)] ปลายตํ.

๒๔๕.

‘‘มตฺเตยฺยา โหถ เปตฺเตยฺยา, กุเล เชฏฺาปจายิกา;

สามฺา โหถ พฺรหฺมฺา, เอวํ สคฺคํ คมิสฺสถา’’ติ.

ธนปาลเสฏฺิเปตวตฺถุ สตฺตมํ.

๘. จูฬเสฏฺิเปตวตฺถุ

๒๔๖.

‘‘นคฺโค กิโส ปพฺพชิโตสิ ภนฺเต, รตฺตึ กุหึ คจฺฉสิ กิสฺส เหตุ;

อาจิกฺข เม ตํ อปิ สกฺกุเณมุ, สพฺเพน วิตฺตํ ปฏิปาทเย ตุว’’นฺติ.

๒๔๗.

‘‘พาราณสี นครํ ทูรฆุฏฺํ, ตตฺถาหํ คหปติ อฑฺฒโก อหุ ทีโน;

อทาตา เคธิตมโน อามิสสฺมึ, ทุสฺสีลฺเยน ยมวิสยมฺหิ ปตฺโต.

๒๔๘.

‘‘โส สูจิกาย กิลมิโต เตหิ,

เตเนว าตีสุ ยามิ อามิสกิฺจิกฺขเหตุ;

อทานสีลา น จ สทฺทหนฺติ,

ทานผลํ โหติ ปรมฺหิ โลเก.

๒๔๙.

‘‘ธีตา จ มยฺหํ ลปเต อภิกฺขณํ, ‘ทสฺสามิ ทานํ ปิตูนํ ปิตามหานํ’;

ตมุปกฺขฏํ ปริวิสยนฺติ พฺราหฺมณา [พฺราหฺมเณ (สี.)], ‘ยามิ อหํ อนฺธกวินฺทํ โภตฺตุ’’’นฺติ.

๒๕๐.

ตมโวจ ราชา ‘‘อนุภวิยาน ตมฺปิ,

เอยฺยาสิ ขิปฺปํ อหมปิ กสฺสํ ปูชํ;

อาจิกฺข เม ตํ ยทิ อตฺถิ เหตุ,

สทฺธายิตํ เหตุวโจ สุโณมา’’ติ.

๒๕๑.

‘ตถา’ติ วตฺวา อคมาสิ ตตฺถ, ภุฺชึสุ ภตฺตํ น จ ทกฺขิณารหา;

ปจฺจาคมิ ราชคหํ ปุนาปรํ, ปาตุรโหสิ ปุรโต ชนาธิปสฺส.

๒๕๒.

ทิสฺวาน เปตํ ปุนเทว อาคตํ, ราชา อโวจ ‘‘อหมปิ กึ ททามิ;

อาจิกฺข เม ตํ ยทิ อตฺถิ เหตุ, เยน ตุวํ จิรตรํ ปีณิโต สิยา’’ติ.

๒๕๓.

‘‘พุทฺธฺจ สงฺฆํ ปริวิสิยาน ราช, อนฺเนน ปาเนน จ จีวเรน;

ตํ ทกฺขิณํ อาทิส เม หิตาย, เอวํ อหํ จิรตรํ ปีณิโต สิยา’’ติ.

๒๕๔.

ตโต จ ราชา นิปติตฺวา ตาวเท [ตาวเทว (สฺยา.), ตเทว (ก.)], ทานํ สหตฺถา อตุลํ ททิตฺวา [อตุลฺจ ทตฺวา (สฺยา. ก.)] สงฺเฆ;

อาโรเจสิ ปกตํ [อาโรจยี ปกตึ (สี. สฺยา.)] ตถาคตสฺส, ตสฺส จ เปตสฺส ทกฺขิณํ อาทิสิตฺถ.

๒๕๕.

โส ปูชิโต อติวิย โสภมาโน, ปาตุรโหสิ ปุรโต ชนาธิปสฺส;

‘‘ยกฺโขหมสฺมิ ปรมิทฺธิปตฺโต, น มยฺหมตฺถิ สมา สทิสา [มยฺหมิทฺธิสมสทิสา (สี. สฺยา.)] มานุสา.

๒๕๖.

‘‘ปสฺสานุภาวํ อปริมิตํ มมยิทํ, ตยานุทิฏฺํ อตุลํ ทตฺวา สงฺเฆ;

สนฺตปฺปิโต สตตํ สทา พหูหิ, ยามิ อหํ สุขิโต มนุสฺสเทวา’’ติ.

จูฬเสฏฺิเปตวตฺถุ อฏฺมํ นิฏฺิตํ.

ภาณวารํ ปมํ นิฏฺิตํ.

๙. องฺกุรเปตวตฺถุ

๒๕๗.

‘‘ยสฺส อตฺถาย คจฺฉาม, กมฺโพชํ ธนหารกา;

อยํ กามทโท ยกฺโข, อิมํ ยกฺขํ นยามเส.

๒๕๘.

‘‘อิมํ ยกฺขํ คเหตฺวาน, สาธุเกน ปสยฺห วา;

ยานํ อาโรปยิตฺวาน, ขิปฺปํ คจฺฉาม ทฺวารก’’นฺติ.

๒๕๙.

[ชา. ๑.๑๐.๑๕๑; ๑.๑๔.๑๙๖; ๒.๑๘.๑๕๓; ๒.๒๒.๑๐] ‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;

น ตสฺส สาขํ ภฺเชยฺย, มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก’’ติ.

๒๖๐.

‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;

ขนฺธมฺปิ ตสฺส ฉินฺเทยฺย, อตฺโถ เจ ตาทิโส สิยา’’ติ.

๒๖๑.

‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;

น ตสฺส ปตฺตํ ภินฺเทยฺย [หึเสยฺย (ก.)], มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก’’ติ.

๒๖๒.

‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;

สมูลมฺปิ ตํ อพฺพุเห [อุพฺพเห (?)], อตฺโถ เจ ตาทิโส สิยา’’ติ.

๒๖๓.

‘‘ยสฺเสกรตฺติมฺปิ ฆเร วเสยฺย, ยตฺถนฺนปานํ ปุริโส ลเภถ;

น ตสฺส ปาปํ มนสาปิ จินฺตเย, กตฺุตา สปฺปุริเสหิ วณฺณิตา.

๒๖๔.

‘‘ยสฺเสกรตฺติมฺปิ ฆเร วเสยฺย, อนฺเนน ปาเนน อุปฏฺิโต สิยา;

น ตสฺส ปาปํ มนสาปิ จินฺตเย, อทุพฺภปาณี ทหเต มิตฺตทุพฺภึ.

๒๖๕.

‘‘โย ปุพฺเพ กตกลฺยาโณ, ปจฺฉา ปาเปน หึสติ;

อลฺลปาณิหโต [อทุพฺภิปาณีหโต (ก)] โปโส, น โส ภทฺรานิ ปสฺสตี’’ติ.

๒๖๖.

‘‘นาหํ เทเวน วา มนุสฺเสน วา, อิสฺสริเยน วาหํ สุปฺปสยฺโห;

ยกฺโขหมสฺมิ ปรมิทฺธิปตฺโต, ทูรงฺคโม วณฺณพลูปปนฺโน’’ติ.

๒๖๗.

‘‘ปาณิ เต สพฺพโส วณฺโณ, ปฺจธาโร มธุสฺสโว;

นานารสา ปคฺฆรนฺติ, มฺเหํ ตํ ปุรินฺทท’’นฺติ.

๒๖๘.

‘‘นามฺหิ เทโว น คนฺธพฺโพ, นาปิ สกฺโก ปุรินฺทโท;

เปตํ มํ องฺกุร ชานาหิ, โรรุวมฺหา [เหรุวมฺหา (สี.)] อิธาคต’’นฺติ.

๒๖๙.

‘‘กึสีโล กึสมาจาโร, โรรุวสฺมึ ปุเร ตุวํ;

เกน เต พฺรหฺมจริเยน, ปุฺํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌตี’’ติ.

๒๗๐.

‘‘ตุนฺนวาโย ปุเร อาสึ, โรรุวสฺมึ ตทา อหํ;

สุกิจฺฉวุตฺติ กปโณ, น เม วิชฺชติ ทาตเว.

๒๗๑.

‘‘นิเวสนฺจ [อาเวสนฺจ (สี.)] เม อาสิ, อสยฺหสฺส อุปนฺติเก;

สทฺธสฺส ทานปติโน, กตปุฺสฺส ลชฺชิโน.

๒๗๒.

‘‘ตตฺถ ยาจนกา ยนฺติ, นานาโคตฺตา วนิพฺพกา;

เต จ มํ ตตฺถ ปุจฺฉนฺติ, อสยฺหสฺส นิเวสนํ.

๒๗๓.

‘‘กตฺถ คจฺฉาม ภทฺทํ โว, กตฺถ ทานํ ปทียติ;

เตสาหํ ปุฏฺโ อกฺขามิ, อสยฺหสฺส นิเวสนํ.

๒๗๔.

‘‘ปคฺคยฺห ทกฺขิณํ พาหุํ, เอตฺถ คจฺฉถ ภทฺทํ โว;

เอตฺถ ทานํ ปทียติ, อสยฺหสฺส นิเวสเน.

๒๗๕.

‘‘เตน ปาณิ กามทโท, เตน ปาณิ มธุสฺสโว;

เตน เม พฺรหฺมจริเยน, ปุฺํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌตี’’ติ.

๒๗๖.

‘‘น กิร ตฺวํ อทา ทานํ, สกปาณีหิ กสฺสจิ;

ปรสฺส ทานํ อนุโมทมาโน, ปาณึ ปคฺคยฺห ปาวทิ.

๒๗๗.

‘‘เตน ปาณิ กามทโท, เตน ปาณิ มธุสฺสโว;

เตน เต พฺรหฺมจริเยน, ปุฺํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌติ.

๒๗๘.

‘‘โย โส ทานมทา ภนฺเต, ปสนฺโน สกปาณิภิ;

โส หิตฺวา มานุสํ เทหํ, กึ นุ โส ทิสตํ คโต’’ติ.

๒๗๙.

‘‘นาหํ ปชานามิ อสยฺหสาหิโน, องฺคีรสสฺส คตึ อาคตึ วา;

สุตฺจ เม เวสฺสวณสฺส สนฺติเก, สกฺกสฺส สหพฺยตํ คโต อสยฺโห’’ติ.

๒๘๐.

‘‘อลเมว กาตุํ กลฺยาณํ, ทานํ ทาตุํ ยถารหํ;

ปาณึ กามททํ ทิสฺวา, โก ปุฺํ น กริสฺสติ.

๒๘๑.

‘‘โส หิ นูน อิโต คนฺตฺวา, อนุปฺปตฺวาน ทฺวารกํ;

ทานํ ปฏฺปยิสฺสามิ, ยํ มมสฺส สุขาวหํ.

๒๘๒.

‘‘ทสฺสามนฺนฺจ ปานฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ;

ปปฺจ อุทปานฺจ, ทุคฺเค สงฺกมนานิ จา’’ติ.

๒๘๓.

‘‘เกน เต องฺคุลี กุณา [กุณฺา (สี. สฺยา.)], มุขฺจ กุณลีกตํ [กุณฺฑลีกตํ (สี. สฺยา. ก.)];

อกฺขีนิ จ ปคฺฆรนฺติ, กึ ปาปํ ปกตํ ตยา’’ติ.

๒๘๔.

‘‘องฺคีรสสฺส คหปติโน, สทฺธสฺส ฆรเมสิโน;

ตสฺสาหํ ทานวิสฺสคฺเค, ทาเน อธิกโต อหุํ.

๒๘๕.

‘‘ตตฺถ ยาจนเก ทิสฺวา, อาคเต โภชนตฺถิเก;

เอกมนฺตํ อปกฺกมฺม, อกาสึ กุณลึ มุขํ.

๒๘๖.

‘‘เตน เม องฺคุลี กุณา, มุขฺจ กุณลีกตํ;

อกฺขีนิ เม ปคฺฆรนฺติ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา’’ติ.

๒๘๗.

‘‘ธมฺเมน เต กาปุริส, มุขฺจ กุณลีกตํ;

อกฺขีนิ จ ปคฺฆรนฺติ, ยํ ตํ ปรสฺส ทานสฺส;

อกาสิ กุณลึ มุขํ.

๒๘๘.

‘‘กถํ หิ ทานํ ททมาโน, กเรยฺย ปรปตฺติยํ;

อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จ.

๒๘๙.

‘‘โส หิ นูน อิโต คนฺตฺวา, อนุปฺปตฺวาน ทฺวารกํ;

ทานํ ปฏฺปยิสฺสามิ, ยํ มมสฺส สุขาวหํ.

๒๙๐.

‘‘ทสฺสามนฺนฺจ ปานฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ;

ปปฺจ อุทปานฺจ, ทุคฺเค สงฺกมนานิ จา’’ติ.

๒๙๑.

ตโต หิ โส นิวตฺติตฺวา, อนุปฺปตฺวาน ทฺวารกํ;

ทานํ ปฏฺปยิ องฺกุโร, ยํตุมสฺส [ยํ ตํ อสฺส (สฺยา.), ยนฺตมสฺส (ก.)] สุขาวหํ.

๒๙๒.

อทา อนฺนฺจ ปานฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ;

ปปฺจ อุทปานฺจ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.

๒๙๓.

‘‘โก ฉาโต โก จ ตสิโต, โก วตฺถํ ปริทหิสฺสติ;

กสฺส สนฺตานิ โยคฺคานิ, อิโต โยเชนฺตุ วาหนํ.

๒๙๔.

‘‘โก ฉตฺติจฺฉติ คนฺธฺจ, โก มาลํ โก อุปาหนํ;

อิติสฺสุ ตตฺถ โฆเสนฺติ, กปฺปกา สูทมาคธา [ปาฏวา (ก.)];

สทา สายฺจ ปาโต จ, องฺกุรสฺส นิเวสเน.

๒๙๕.

‘‘‘สุขํ สุปติ องฺกุโร’, อิติ ชานาติ มํ ชโน;

ทุกฺขํ สุปามิ สินฺธก [สนฺทุก, สินฺธุก (ก.)], ยํ น ปสฺสามิ ยาจเก.

๒๙๖.

‘‘‘สุขํ สุปติ องฺกุโร’, อิติ ชานาติ มํ ชโน;

ทุกฺขํ สินฺธก สุปามิ, อปฺปเก สุ วนิพฺพเก’’ติ.

๒๙๗.

‘‘สกฺโก เจ เต วรํ ทชฺชา, ตาวตึสานมิสฺสโร;

กิสฺส สพฺพสฺส โลกสฺส, วรมาโน วรํ วเร’’ติ.

๒๙๘.

‘‘สกฺโก เจ เม วรํ ทชฺชา, ตาวตึสานมิสฺสโร;

กาลุฏฺิตสฺส เม สโต, สุริยุคฺคมนํ ปติ;

ทิพฺพา ภกฺขา ปาตุภเวยฺยุํ, สีลวนฺโต จ ยาจกา.

๒๙๙.

‘‘ททโต เม น ขีเยถ, ทตฺวา นานุตเปยฺยหํ;

ททํ จิตฺตํ ปสาเทยฺยํ, เอตํ สกฺกํ วรํ วเร’’ติ.

๓๐๐.

‘‘น สพฺพวิตฺตานิ ปเร ปเวจฺเฉ, ทเทยฺย ทานฺจ ธนฺจ รกฺเข;

ตสฺมา หิ ทานา ธนเมว เสยฺโย, อติปฺปทาเนน กุลา น โหนฺติ.

๓๐๑.

‘‘อทานมติทานฺจ, นปฺปสํสนฺติ ปณฺฑิตา;

ตสฺมา หิ ทานา ธนเมว เสยฺโย, สเมน วตฺเตยฺย ส ธีรธมฺโม’’ติ.

๓๐๒.

‘‘อโห วต เร อหเมว ทชฺชํ, สนฺโต จ มํ สปฺปุริสา ภเชยฺยุํ;

เมโฆว นินฺนานิ ปริปูรยนฺโต [ภิปูรยนฺโต (สี.), หิ ปูรยนฺโต (สฺยา.)], สนฺตปฺปเย สพฺพวนิพฺพกานํ.

๓๐๓.

‘‘ยสฺส ยาจนเก ทิสฺวา, มุขวณฺโณ ปสีทติ;

ทตฺวา อตฺตมโน โหติ, ตํ ฆรํ วสโต สุขํ.

๓๐๔.

‘‘ยสฺส ยาจนเก ทิสฺวา, มุขวณฺโณ ปสีทติ;

ทตฺวา อตฺตมโน โหติ, เอสา ยฺสฺส [ปุฺสฺส (สี.)] สมฺปทา.

๓๐๕.

[อ. นิ. ๖.๓๗] ‘‘ปุพฺเพว ทานา สุมโน, ททํ จิตฺตํ ปสาทเย;

ทตฺวา อตฺตมโน โหติ, เอสา ยฺสฺส [ปุฺสฺส (สี.)] สมฺปทา’’ติ.

๓๐๖.

สฏฺิ วาหสหสฺสานิ, องฺกุรสฺส นิเวสเน;

โภชนํ ทียเต นิจฺจํ, ปุฺเปกฺขสฺส ชนฺตุโน.

๓๐๗.

ติสหสฺสานิ สูทานิ หิ [สูทานิ (สฺยา. ก.)], อามุตฺตมณิกุณฺฑลา;

องฺกุรํ อุปชีวนฺติ, ทาเน ยฺสฺส วาวฏา [พฺยาวฏา (สี.), ปาวฏา (สฺยา.)].

๓๐๘.

สฏฺิ ปุริสสหสฺสานิ, อามุตฺตมณิกุณฺฑลา;

องฺกุรสฺส มหาทาเน, กฏฺํ ผาเลนฺติ มาณวา.

๓๐๙.

โสฬสิตฺถิสหสฺสานิ, สพฺพาลงฺการภูสิตา;

องฺกุรสฺส มหาทาเน, วิธา ปิณฺเฑนฺติ นาริโย.

๓๑๐.

โสฬสิตฺถิสหสฺสานิ, สพฺพาลงฺการภูสิตา;

องฺกุรสฺส มหาทาเน, ทพฺพิคาหา อุปฏฺิตา.

๓๑๑.

พหุํ พหูนํ ปาทาสิ, จิรํ ปาทาสิ ขตฺติโย;

สกฺกจฺจฺจ สหตฺถา จ, จิตฺตีกตฺวา ปุนปฺปุนํ.

๓๑๒.

พหู มาเส จ ปกฺเข จ, อุตุสํวจฺฉรานิ จ;

มหาทานํ ปวตฺเตสิ, องฺกุโร ทีฆมนฺตรํ.

๓๑๓.

เอวํ ทตฺวา ยชิตฺวา จ, องฺกุโร ทีฆมนฺตรํ;

โส หิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสูปโค อหุ.

๓๑๔.

กฏจฺฉุภิกฺขํ ทตฺวาน, อนุรุทฺธสฺส อินฺทโก;

โส หิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสูปโค อหุ.

๓๑๕.

ทสหิ าเนหิ องฺกุรํ, อินฺทโก อติโรจติ;

รูเป สทฺเท รเส คนฺเธ, โผฏฺพฺเพ จ มโนรเม.

๓๑๖.

อายุนา ยสสา เจว, วณฺเณน จ สุเขน จ;

อาธิปจฺเจน องฺกุรํ, อินฺทโก อติโรจติ.

๓๑๗.

ตาวตึเส ยทา พุทฺโธ, สิลายํ ปณฺฑุกมฺพเล;

ปาริจฺฉตฺตกมูลมฺหิ, วิหาสิ ปุริสุตฺตโม.

๓๑๘.

ทสสุ โลกธาตูสุ, สนฺนิปติตฺวาน เทวตา;

ปยิรุปาสนฺติ สมฺพุทฺธํ, วสนฺตํ นคมุทฺธนิ.

๓๑๙.

น โกจิ เทโว วณฺเณน, สมฺพุทฺธํ อติโรจติ;

สพฺเพ เทเว อติกฺกมฺม [อธิคยฺห (สี.), อติคฺคยฺห (ก)], สมฺพุทฺโธว วิโรจติ.

๓๒๐.

โยชนานิ ทส ทฺเว จ, องฺกุโรยํ ตทา อหุ;

อวิทูเรว พุทฺธสฺส [อวิทูเร สมฺพุทฺธสฺส (ก.)], อินฺทโก อติโรจติ.

๓๒๑.

โอโลเกตฺวาน สมฺพุทฺโธ, องฺกุรฺจาปิ อินฺทกํ;

ทกฺขิเณยฺยํ สมฺภาเวนฺโต [ปภาเวนฺโต (สี.)], อิทํ วจนมพฺรวิ.

๓๒๒.

‘‘มหาทานํ ตยา ทินฺนํ, องฺกุร ทีฆมนฺตรํ;

อติทูเร [สุวิทูเร (ก.)] นิสินฺโนสิ, อาคจฺฉ มม สนฺติเก’’ติ.

๓๒๓.

โจทิโต ภาวิตตฺเตน, องฺกุโร อิทมพฺรวิ;

‘‘กึ มยฺหํ เตน ทาเนน, ทกฺขิเณยฺเยน สุฺตํ.

๓๒๔.

‘‘อยํ โส อินฺทโก ยกฺโข, ทชฺชา ทานํ ปริตฺตกํ;

อติโรจติ อมฺเหหิ, จนฺโท ตารคเณ ยถา’’ติ.

๓๒๕.

‘‘อุชฺชงฺคเล ยถา เขตฺเต, พีชํ พหุมฺปิ โรปิตํ;

น วิปุลผลํ โหติ, นปิ โตเสติ กสฺสกํ.

๓๒๖.

‘‘ตเถว ทานํ พหุกํ, ทุสฺสีเลสุ ปติฏฺิตํ;

น วิปุลผลํ โหติ, นปิ โตเสติ ทายกํ.

๓๒๗.

‘‘ยถาปิ ภทฺทเก เขตฺเต, พีชํ อปฺปมฺปิ โรปิตํ;

สมฺมา ธารํ ปเวจฺฉนฺเต, ผลํ โตเสติ กสฺสกํ.

๓๒๘.

‘‘ตเถว สีลวนฺเตสุ, คุณวนฺเตสุ ตาทิสุ;

อปฺปกมฺปิ กตํ การํ, ปุฺํ โหติ มหปฺผล’’นฺติ.

๓๒๙.

วิเจยฺย ทานํ ทาตพฺพํ, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ;

วิเจยฺย ทานํ ทตฺวาน, สคฺคํ คจฺฉนฺติ ทายกา.

๓๓๐.

วิเจยฺย ทานํ สุคตปฺปสตฺถํ, เย ทกฺขิเณยฺยา อิธ ชีวโลเก;

เอเตสุ ทินฺนานิ มหปฺผลานิ, พีชานิ วุตฺตานิ ยถา สุเขตฺเตติ.

องฺกุรเปตวตฺถุ นวมํ.

๑๐. อุตฺตรมาตุเปติวตฺถุ

๓๓๑.

ทิวาวิหารคตํ ภิกฺขุํ, คงฺคาตีเร นิสินฺนกํ;

ตํ เปตี อุปสงฺกมฺม, ทุพฺพณฺณา ภีรุทสฺสนา.

๓๓๒.

เกสา จสฺสา อติทีฆา [อหู ทีฆา (ก.)], ยาวภูมาวลมฺพเร [ยาว ภูมฺยา’วลมฺพเร (?)];

เกเสหิ สา ปฏิจฺฉนฺนา, สมณํ เอตทพฺรวิ.

๓๓๓.

‘‘ปฺจปณฺณาสวสฺสานิ, ยโต กาลงฺกตา อหํ;

นาภิชานามิ ภุตฺตํ วา, ปีตํ วา ปน ปานิยํ;

เทหิ ตฺวํ ปานิยํ ภนฺเต, ตสิตา ปานิยาย เม’’ติ.

๓๓๔.

‘‘อยํ สีโตทิกา คงฺคา, หิมวนฺตโต [หิมวนฺตาว (ก.)] สนฺทติ;

ปิว เอตฺโต คเหตฺวาน, กึ มํ ยาจสิ ปานิย’’นฺติ.

๓๓๕.

‘‘สจาหํ ภนฺเต คงฺคาย, สยํ คณฺหามิ ปานิยํ;

โลหิตํ เม ปริวตฺตติ, ตสฺมา ยาจามิ ปานิย’’นฺติ.

๓๓๖.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, คงฺคา เต โหติ โลหิต’’นฺติ.

๓๓๗.

‘‘ปุตฺโต เม อุตฺตโร นาม [ปุตฺโต เม ภนฺเต อุตฺตโร (ก.)], สทฺโธ อาสิ อุปาสโก;

โส จ มยฺหํ อกามาย, สมณานํ ปเวจฺฉติ.

๓๓๘.

‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;

ตมหํ ปริภาสามิ, มจฺเฉเรน อุปทฺทุตา.

๓๓๙.

‘‘ยํ ตฺวํ มยฺหํ อกามาย, สมณานํ ปเวจฺฉสิ;

จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ.

๓๔๐.

‘‘เอตํ เต ปรโลกสฺมึ, โลหิตํ โหตุ อุตฺตร;

ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน, คงฺคา เม โหติ โลหิต’’นฺติ.

อุตฺตรมาตุเปติวตฺถุ ทสมํ.

๑๑. สุตฺตเปตวตฺถุ

๓๔๑.

‘‘อหํ ปุเร ปพฺพชิตสฺส ภิกฺขุโน, สุตฺตํ อทาสึ อุปสงฺกมฺม ยาจิตา;

ตสฺส วิปาโก วิปุลผลูปลพฺภติ, พหุกา จ เม อุปฺปชฺชเร [พหู จ เม อุปปชฺชเร (สี.)] วตฺถโกฏิโย.

๓๔๒.

‘‘ปุปฺผาภิกิณฺณํ รมิตํ [รมฺมมิทํ (ก.)] วิมานํ, อเนกจิตฺตํ นรนาริเสวิตํ;

สาหํ ภุฺชามิ จ ปารุปามิ จ, ปหูตวิตฺตา น จ ตาว ขียติ.

๓๔๓.

‘‘ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากมนฺวยา, สุขฺจ สาตฺจ อิธูปลพฺภติ;

สาหํ คนฺตฺวา ปุนเทว มานุสํ, กาหามิ ปุฺานิ นยยฺยปุตฺต ม’’นฺติ.

๓๔๔.

‘‘สตฺต ตุวํ วสฺสสตา อิธาคตา,

ชิณฺณา จ วุฑฺฒา จ ตหึ ภวิสฺสสิ;

สพฺเพว เต กาลกตา จ าตกา,

กึ ตตฺถ คนฺตฺวาน อิโต กริสฺสสี’’ติ.

๓๔๕.

‘‘สตฺเตว วสฺสานิ อิธาคตาย เม, ทิพฺพฺจ สุขฺจ สมปฺปิตาย;

สาหํ คนฺตฺวาน ปุนเทว มานุสํ, กาหามิ ปุฺานิ นยยฺยปุตฺต ม’’นฺติ.

๓๔๖.

โส ตํ คเหตฺวาน ปสยฺห พาหายํ, ปจฺจานยิตฺวาน เถรึ สุทุพฺพลํ;

‘‘วชฺเชสิ อฺมฺปิ ชนํ อิธาคตํ, ‘กโรถ ปุฺานิ สุขูปลพฺภติ’’.

๓๔๗.

‘‘ทิฏฺา มยา อกเตน สาธุนา, เปตา วิหฺนฺติ ตเถว มนุสฺสา;

กมฺมฺจ กตฺวา สุขเวทนียํ, เทวา มนุสฺสา จ สุเข ิตา ปชา’’ติ.

สุตฺตเปตวตฺถุ เอกาทสมํ.

๑๒. กณฺณมุณฺฑเปติวตฺถุ

๓๔๘.

‘‘โสณฺณโสปานผลกา , โสณฺณวาลุกสนฺถตา;

ตตฺถ โสคนฺธิยา วคฺคู, สุจิคนฺธา มโนรมา.

๓๔๙.

‘‘นานารุกฺเขหิ สฺฉนฺนา, นานาคนฺธสเมริตา;

นานาปทุมสฺฉนฺนา, ปุณฺฑรีกสโมตตา [สโมหตา (ก.)].

๓๕๐.

‘‘สุรภึ สมฺปวายนฺติ, มนุฺา มาลุเตริตา;

หํสโกฺจาภิรุทา จ, จกฺกวกฺกาภิกูชิตา.

๓๕๑.

‘‘นานาทิชคณากิณฺณา , นานาสรคณายุตา;

นานาผลธรา รุกฺขา, นานาปุปฺผธรา วนา.

๓๕๒.

‘‘น มนุสฺเสสุ อีทิสํ, นครํ ยาทิสํ อิทํ;

ปาสาทา พหุกา ตุยฺหํ, โสวณฺณรูปิยามยา;

ททฺทลฺลมานา อาเภนฺติ [อาภนฺติ (ก.)], สมนฺตา จตุโร ทิสา.

๓๕๓.

‘‘ปฺจ ทาสิสตา ตุยฺหํ, ยา เตมา ปริจาริกา;

ตา [กา (ก.)] กมฺพุกายูรธรา [กมฺพุเกยูรธรา (สี.)], กฺจนาเวฬภูสิตา.

๓๕๔.

‘‘ปลฺลงฺกา พหุกา ตุยฺหํ, โสวณฺณรูปิยามยา;

กทลิมิคสฺฉนฺนา [กาทลิมิคสฺฉนฺนา (สี.)], สชฺชา โคนกสนฺถตา.

๓๕๕.

‘‘ยตฺถ ตฺวํ วาสูปคตา, สพฺพกามสมิทฺธินี;

สมฺปตฺตายฑฺฒรตฺตาย [… รตฺติยา (ก.)], ตโต อุฏฺาย คจฺฉสิ.

๓๕๖.

‘‘อุยฺยานภูมึ คนฺตฺวาน, โปกฺขรฺา สมนฺตโต;

ตสฺสา ตีเร ตุวํ าสิ, หริเต สทฺทเล สุเภ.

๓๕๗.

‘‘ตโต เต กณฺณมุณฺโฑ สุนโข, องฺคมงฺคานิ ขาทติ;

ยทา จ ขายิตา อาสิ, อฏฺิสงฺขลิกา กตา;

โอคาหสิ โปกฺขรณึ, โหติ กาโย ยถา ปุเร.

๓๕๘.

‘‘ตโต ตฺวํ องฺคปจฺจงฺคี [องฺคปจฺจงฺคา (ก.)], สุจารุ ปิยทสฺสนา;

วตฺเถน ปารุปิตฺวาน, อายาสิ มม สนฺติกํ.

๓๕๙.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, กณฺณมุณฺโฑ สุนโข ตวองฺคมงฺคานิ ขาทตี’’ติ.

๓๖๐.

‘‘กิมิลายํ [กิมฺพิลายํ (สี. สฺยา.)] คหปติ, สทฺโธ อาสิ อุปาสโก;

ตสฺสาหํ ภริยา อาสึ, ทุสฺสีลา อติจารินี.

๓๖๑.

‘‘โส มํ อติจรมานาย [เอวมาติจรมานาย (สฺยา. ปี.)], สามิโก เอตทพฺรวิ;

‘เนตํ ฉนฺนํ [เนตํ ฉนฺนํ น (สี.), เนตํ ฉนฺนํ เนตํ (ก.)] ปติรูปํ, ยํ ตฺวํ อติจราสิ มํ’.

๓๖๒.

‘‘สาหํ โฆรฺจ สปถํ, มุสาวาทฺจ ภาสิสํ;

‘นาหํ ตํ อติจรามิ, กาเยน อุท เจตสา.

๓๖๓.

‘‘‘สจาหํ ตํ อติจรามิ, กาเยน อุท เจตสา;

กณฺณมุณฺโฑ ยํ สุนโข, องฺคมงฺคานิ ขาทตุ’.

๓๖๔.

‘‘ตสฺส กมฺมสฺส วิปากํ, มุสาวาทสฺส จูภยํ;

สตฺเตว วสฺสสตานิ, อนุภูตํ ยโต หิ เม;

กณฺณมุณฺโฑ จ สุนโข, องฺคมงฺคานิ ขาทติ.

๓๖๕.

‘‘ตฺวฺจ เทว พหุกาโร, อตฺถาย เม อิธาคโต;

สุมุตฺตาหํ กณฺณมุณฺฑสฺส, อโสกา อกุโตภยา.

๓๖๖.

‘‘ตาหํ เทว นมสฺสามิ, ยาจามิ ปฺชลีกตา;

ภุฺช อมานุเส กาเม, รม เทว มยา สหา’’ติ.

๓๖๗.

‘‘ภุตฺตา อมานุสา กามา, รมิโตมฺหิ ตยา สห;

ตาหํ สุภเค ยาจามิ, ขิปฺปํ ปฏินยาหิ ม’’นฺติ.

กณฺณมุณฺฑเปติวตฺถุ ทฺวาทสมํ.

๑๓. อุพฺพริเปตวตฺถุ

๓๖๘.

อหุ ราชา พฺรหฺมทตฺโต, ปฺจาลานํ รเถสโภ;

อโหรตฺตานมจฺจยา, ราชา กาลมกฺรุพฺพถ [ราชา กาลงฺกรี ตทา (สี.)].

๓๖๙.

ตสฺส อาฬาหนํ คนฺตฺวา, ภริยา กนฺทติ อุพฺพรี [อุปฺปริ (ก.)];

พฺรหฺมทตฺตํ อปสฺสนฺตี, พฺรหฺมทตฺตาติ กนฺทติ.

๓๗๐.

อิสิ จ ตตฺถ อาคจฺฉิ, สมฺปนฺนจรโณ มุนิ;

โส จ ตตฺถ อปุจฺฉิตฺถ, เย ตตฺถ สุสมาคตา.

๓๗๑.

‘‘กสฺส อิทํ อาฬาหนํ, นานาคนฺธสเมริตํ;

กสฺสายํ กนฺทติ ภริยา, อิโต ทูรคตํ ปตึ;

พฺรหฺมทตฺตํ อปสฺสนฺตี, ‘พฺรหฺมทตฺตา’ติ กนฺทติ’’.

๓๗๒.

เต จ ตตฺถ วิยากํสุ, เย ตตฺถ สุสมาคตา;

‘‘พฺรหฺมทตฺตสฺส ภทนฺเต [ภทฺทนฺเต (ก.)], พฺรหฺมทตฺตสฺส มาริส.

๓๗๓.

‘‘ตสฺส อิทํ อาฬาหนํ, นานาคนฺธสเมริตํ;

ตสฺสายํ กนฺทติ ภริยา, อิโต ทูรคตํ ปตึ;

พฺรหฺมทตฺตํ อปสฺสนฺตี, ‘พฺรหฺมทตฺตา’ติ กนฺทติ’’.

๓๗๔.

‘‘ฉฬาสีติสหสฺสานิ, พฺรหฺมทตฺตสฺสนามกา;

อิมสฺมึ อาฬาหเน ทฑฺฒา, เตสํ กมนุโสจสี’’ติ.

๓๗๕.

‘‘โย ราชา จูฬนีปุตฺโต, ปฺจาลานํ รเถสโภ;

ตํ ภนฺเต อนุโสจามิ, ภตฺตารํ สพฺพกามท’’นฺติ.

๓๗๖.

‘‘สพฺเพ วาเหสุํ ราชาโน, พฺรหฺมทตฺตสฺสนามกา;

สพฺเพวจูฬนีปุตฺตา, ปฺจาลานํ รเถสภา.

๓๗๗.

‘‘สพฺเพสํ อนุปุพฺเพน, มเหสิตฺตมการยิ;

กสฺมา ปุริมเก หิตฺวา, ปจฺฉิมํ อนุโสจสี’’ติ.

๓๗๘.

‘‘อาตุเม อิตฺถิภูตาย, ทีฆรตฺตาย มาริส;

ยสฺสา เม อิตฺถิภูตาย, สํสาเร พหุภาสสี’’ติ.

๓๗๙.

‘‘อหุ อิตฺถี อหุ ปุริโส, ปสุโยนิมฺปิ อาคมา;

เอวเมตํ อตีตานํ, ปริยนฺโต น ทิสฺสตี’’ติ.

๓๘๐.

‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;

วารินา วิย โอสิฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.

๓๘๑.

‘‘อพฺพหี วต เม สลฺลํ, โสกํ หทยนิสฺสิตํ;

โย เม โสกปเรตาย, ปติโสกํ อปานุทิ.

๓๘๒.

‘‘สาหํ อพฺพูฬฺหสลฺลาสฺมิ, สีติภูตาสฺมิ นิพฺพุตา;

น โสจามิ น โรทามิ, ตว สุตฺวา มหามุนี’’ติ.

๓๘๓.

ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, สมณสฺส สุภาสิตํ;

ปตฺตจีวรมาทาย, ปพฺพชิ อนคาริยํ.

๓๘๔.

สา จ ปพฺพชิตา สนฺตา, อคารสฺมา อนคาริยํ;

เมตฺตาจิตฺตํ อภาเวสิ, พฺรหฺมโลกูปปตฺติยา.

๓๘๕.

คามา คามํ วิจรนฺตี, นิคเม ราชธานิโย;

อุรุเวลา นาม โส คาโม, ยตฺถ กาลมกฺรุพฺพถ.

๓๘๖.

เมตฺตาจิตฺตํ อาภาเวตฺวา, พฺรหฺมโลกูปปตฺติยา;

อิตฺถิจิตฺตํ วิราเชตฺวา, พฺรหฺมโลกูปคา อหูติ.

อุพฺพริเปตวตฺถุ เตรสมํ.

อุพฺพริวคฺโค ทุติโย นิฏฺิโต.

ตสฺสุทฺทานํ –

โมจกํ [ปณฺฑุ (สพฺพตฺถ)] มาตา มตฺตา [ปิตา (สี. ก.), ปติยา (สฺยา.)] จ, นนฺทา กุณฺฑลีนา ฆโฏ;

ทฺเว เสฏฺี ตุนฺนวาโย จ, อุตฺตร [วิหาร (สพฺพตฺถ)] สุตฺตกณฺณ [โสปาน (สพฺพตฺถ)] อุพฺพรีติ.