📜
๔. มหาวคฺโค
๑. อมฺพสกฺกรเปตวตฺถุ
เวสาลี ¶ ¶ ¶ ¶ นาม นครตฺถิ วชฺชีนํ, ตตฺถ อหุ ลิจฺฉวิ อมฺพสกฺกโร [อมฺพสกฺขโร (สี. สฺยา.), อปฺปสกฺกโร (ก.)];
ทิสฺวาน เปตํ นครสฺส พาหิรํ, ตตฺเถว ปุจฺฉิตฺถ ตํ การณตฺถิโก.
‘‘เสยฺยา นิสชฺชา นยิมสฺส อตฺถิ, อภิกฺกโม นตฺถิ ปฏิกฺกโม จ;
อสิตปีตขายิตวตฺถโภคา, ปริจาริกา [ปริจารณา (สี. ปี.)] สาปิ อิมสฺส นตฺถิ.
‘‘เย าตกา ทิฏฺสุตา สุหชฺชา, อนุกมฺปกา ยสฺส อเหสุํ ปุพฺเพ;
ทฏฺุมฺปิ เต ทานิ น ตํ ลภนฺติ, วิราชิตตฺโต [วิราธิตตฺโต (สี. ปี.)] หิ ชเนน เตน.
‘‘น โอคฺคตตฺตสฺส ภวนฺติ มิตฺตา, ชหนฺติ มิตฺตา วิกลํ วิทิตฺวา;
อตฺถฺจ ทิสฺวา ปริวารยนฺติ, พหู มิตฺตา อุคฺคตตฺตสฺส โหนฺติ.
‘‘นิหีนตฺโต สพฺพโภเคหิ กิจฺโฉ, สมฺมกฺขิโต ¶ สมฺปริภินฺนคตฺโต;
อุสฺสาวพินฺทูว ปลิมฺปมาโน, อชฺช สุเว ชีวิตสฺสูปโรโธ.
‘‘เอตาทิสํ อุตฺตมกิจฺฉปฺปตฺตํ, อุตฺตาสิตํ ปุจิมนฺทสฺส สูเล;
‘อถ ตฺวํ เกน วณฺเณน วเทสิ ยกฺข, ชีว โภ ชีวิตเมว เสยฺโย’’’ติ.
‘‘สาโลหิโต ¶ ¶ เอส อโหสิ มยฺหํ, อหํ สรามิ ปุริมาย ชาติยา;
ทิสฺวา จ เม การฺุมโหสิ ราช, มา ปาปธมฺโม นิรยํ ปตายํ [ปติ + อยํ = ปตายํ].
‘‘อิโต จุโต ลิจฺฉวิ เอส โปโส, สตฺตุสฺสทํ นิรยํ โฆรรูปํ;
อุปปชฺชติ ทุกฺกฏกมฺมการี, มหาภิตาปํ กฏุกํ ภยานกํ.
‘‘อเนกภาเคน คุเณน เสยฺโย, อยเมว สูโล นิรเยน เตน;
เอกนฺตทุกฺขํ กฏุกํ ภยานกํ, เอกนฺตติพฺพํ นิรยํ ปตายํ [ปเต + อยํ = ปตายํ].
‘‘อิทฺจ ¶ สุตฺวา วจนํ มเมโส, ทุกฺขูปนีโต วิชเหยฺย ปาณํ;
ตสฺมา อหํ สนฺติเก น ภณามิ, มา เม กโต ชีวิตสฺสูปโรโธ’’.
‘‘อฺาโต เอโส [อชฺฌิโต เอส (ก.)] ปุริสสฺส อตฺโถ, อฺมฺปิ อิจฺฉามเส ปุจฺฉิตุํ ตุวํ;
โอกาสกมฺมํ สเจ โน กโรสิ, ปุจฺฉาม ตํ โน น จ กุชฺฌิตพฺพ’’นฺติ.
‘‘อทฺธา ปฏิฺา เม ตทา อหุ [ปฏิฺาตเมตํ ตทาหุ (ก.), ปฏิฺา น เมเต ตทา อหุ (?)], นาจิกฺขนา อปฺปสนฺนสฺส โหติ;
อกามา สทฺเธยฺยวโจติ กตฺวา, ปุจฺฉสฺสุ มํ กามํ ยถา วิสยฺห’’นฺติ [วิสยํ (ก.)].
‘‘ยํ ¶ กิฺจหํ จกฺขุนา ปสฺสิสฺสามิ [ปสฺสามิ (ก.)], สพฺพมฺปิ ตาหํ อภิสทฺทเหยฺยํ;
ทิสฺวาว ตํ โนปิ เจ สทฺทเหยฺยํ, กเรยฺยาสิ [กโรหิ (กตฺถจิ)] เม ยกฺข นิยสฺสกมฺม’’นฺติ.
‘‘สจฺจปฺปฏิฺา ¶ ตว เมสา โหตุ, สุตฺวาน ธมฺมํ ลภ สุปฺปสาทํ;
อฺตฺถิโก ¶ โน จ ปทุฏฺจิตฺโต, ยํ เต สุตํ อสุตฺจาปิ ธมฺมํ;
สพฺพมฺปิ อกฺขิสฺสํ [สพฺพํ อาจิกฺขิสฺสํ (สี.)] ยถา ปชานนฺติ.
‘‘เสเตน อสฺเสน อลงฺกเตน, อุปยาสิ สูลาวุตกสฺส สนฺติเก;
ยานํ อิทํ อพฺภุตํ ทสฺสเนยฺยํ, กิสฺเสตํ กมฺมสฺส อยํ วิปาโก’’ติ.
‘‘เวสาลิยา ¶ นครสฺส [ตสฺส นครสฺส (สี. สฺยา. ปี.)] มชฺเฌ, จิกฺขลฺลมคฺเค นรกํ อโหสิ;
โคสีสเมกาหํ ปสนฺนจิตฺโต, เสตํ [เสตุํ (สฺยา. ก.)] คเหตฺวา นรกสฺมึ นิกฺขิปึ.
‘‘เอตสฺมึ ปาทานิ ปติฏฺเปตฺวา, มยฺจ อฺเ จ อติกฺกมิมฺหา;
ยานํ อิทํ อพฺภุตํ ทสฺสเนยฺยํ, ตสฺเสว กมฺมสฺส อยํ วิปาโก’’ติ.
‘‘วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสติ, คนฺโธ จ เต สพฺพทิสา ปวายติ;
ยกฺขิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, นคฺโค จาสิ กิสฺส อยํ วิปาโก’’ติ.
‘‘อกฺโกธโน ¶ นิจฺจปสนฺนจิตฺโต, สณฺหาหิ วาจาหิ ชนํ อุเปมิ;
ตสฺเสว กมฺมสฺส อยํ วิปาโก, ทิพฺโพ เม วณฺโณ สตตํ ปภาสติ.
‘‘ยสฺจ กิตฺติฺจ ธมฺเม ิตานํ, ทิสฺวาน มนฺเตมิ [ทิสฺวา สมนฺเตมิ (ก.)] ปสนฺนจิตฺโต;
ตสฺเสว กมฺมสฺส อยํ วิปาโก, ทิพฺโพ เม คนฺโธ สตตํ ปวายติ.
‘‘สหายานํ ¶ ติตฺถสฺมึ นฺหายนฺตานํ, ถเล คเหตฺวา นิทหิสฺส ทุสฺสํ;
ขิฑฺฑตฺถิโก โน จ ปทุฏฺจิตฺโต, เตนมฺหิ นคฺโค กสิรา จ วุตฺตี’’ติ.
‘‘โย กีฬมาโน ปกโรติ ปาปํ, ตสฺเสทิสํ กมฺมวิปากมาหุ;
อกีฬมาโน ปน โย กโรติ, กึ ตสฺส กมฺมสฺส วิปากมาหู’’ติ.
‘‘เย ทุฏฺสงฺกปฺปมนา มนุสฺสา, กาเยน วาจาย จ สงฺกิลิฏฺา;
กายสฺส เภทา อภิสมฺปรายํ, อสํสยํ เต นิรยํ อุเปนฺติ.
‘‘อปเร ¶ ปน สุคติมาสมานา, ทาเน รตา สงฺคหิตตฺตภาวา;
กายสฺส เภทา อภิสมฺปรายํ, อสํสยํ เต สุคตึ อุเปนฺตี’’ติ.
‘‘ตํ กินฺติ ชาเนยฺยมหํ อเวจฺจ, กลฺยาณปาปสฺส อยํ วิปาโก;
กึ วาหํ ทิสฺวา อภิสทฺทเหยฺยํ, โก วาปิ มํ สทฺทหาเปยฺย เอต’’นฺติ.
‘‘ทิสฺวา ¶ จ สุตฺวา อภิสทฺทหสฺสุ, กลฺยาณปาปสฺส อยํ วิปาโก;
กลฺยาณปาเป อุภเย อสนฺเต, สิยา นุ สตฺตา สุคตา ทุคฺคตา วา.
‘‘โน ¶ เจตฺถ กมฺมานิ กเรยฺยุํ มจฺจา, กลฺยาณปาปานิ มนุสฺสโลเก;
นาเหสุํ สตฺตา สุคตา ทุคฺคตา วา, หีนา ปณีตา จ มนุสฺสโลเก.
‘‘ยสฺมา ¶ จ กมฺมานิ กโรนฺติ มจฺจา, กลฺยาณปาปานิ มนุสฺสโลเก;
ตสฺมา หิ สตฺตา สุคตา ทุคฺคตา วา, หีนา ¶ ปณีตา จ มนุสฺสโลเก.
‘‘ทฺวยชฺช กมฺมานํ วิปากมาหุ, สุขสฺส ทุกฺขสฺส จ เวทนียํ;
ตา เทวตาโย ปริจารยนฺติ, ปจฺจนฺติ พาลา ทฺวยตํ อปสฺสิโน.
‘‘น มตฺถิ กมฺมานิ สยํกตานิ, ทตฺวาปิ เม นตฺถิ โย [โส (สพฺพตฺถ)] อาทิเสยฺย;
อจฺฉาทนํ สยนมถนฺนปานํ, เตนมฺหิ นคฺโค กสิรา จ วุตฺตี’’ติ.
‘‘สิยา นุ โข การณํ กิฺจิ ยกฺข, อจฺฉาทนํ เยน ตุวํ ลเภถ;
อาจิกฺข เม ตฺวํ ยทตฺถิ เหตุ, สทฺธายิกํ [สทฺธายิตํ (สี. ปี.)] เหตุวโจ สุโณมา’’ติ.
‘‘กปฺปิตโก [กปฺปินโก (สี.)] นาม อิธตฺถิ ภิกฺขุ, ฌายี สุสีโล อรหา วิมุตฺโต;
คุตฺตินฺทฺริโย สํวุตปาติโมกฺโข, สีติภูโต อุตฺตมทิฏฺิปตฺโต.
‘‘สขิโล วทฺู สุวโจ สุมุโข, สฺวาคโม สุปฺปฏิมุตฺตโก จ;
ปฺุสฺส เขตฺตํ อรณวิหารี, เทวมนุสฺสานฺจ ¶ ทกฺขิเณยฺโย.
‘‘สนฺโต วิธูโม อนีโฆ นิราโส, มุตฺโต วิสลฺโล อมโม อวงฺโก;
นิรูปธี สพฺพปปฺจขีโณ, ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺโต ชุติมา.
‘‘อปฺปฺาโต ¶ ทิสฺวาปิ น จ สุชาโน, มุนีติ นํ วชฺชิสุ โวหรนฺติ;
ชานนฺติ ตํ ยกฺขภูตา อเนชํ, กลฺยาณธมฺมํ วิจรนฺตํ โลเก.
‘‘ตสฺส ¶ ตุวํ เอกยุคํ ทุเว วา, มมุทฺทิสิตฺวาน สเจ ทเทถ;
ปฏิคฺคหีตานิ จ ตานิ อสฺสุ, มมฺจ ปสฺเสถ สนฺนทฺธทุสฺส’’นฺติ.
‘‘กสฺมึ ปเทเส สมณํ วสนฺตํ, คนฺตฺวาน ปสฺเสมุ มยํ อิทานิ;
โย มชฺช [ส มชฺช (สี.)] กงฺขํ วิจิกิจฺฉิตฺจ, ทิฏฺีวิสูกานิ วิโนทเยยฺยา’’ติ.
‘‘เอโส นิสินฺโน กปินจฺจนายํ, ปริวาริโต เทวตาหิ พหูหิ;
ธมฺมึ ¶ กถํ ภาสติ สจฺจนาโม, สกสฺมิมาเจรเก อปฺปมตฺโต’’ติ.
‘‘ตถาหํ [ยถาหํ (ก.)] กสฺสามิ คนฺตฺวา อิทานิ, อจฺฉาทยิสฺสํ สมณํ ยุเคน;
ปฏิคฺคหิตานิ จ ตานิ อสฺสุ, ตุวฺจ ปสฺเสมุ สนฺนทฺธทุสฺส’’นฺติ.
‘‘มา อกฺขเณ ปพฺพชิตํ อุปาคมิ, สาธุ โว ลิจฺฉวิ เนส ธมฺโม;
ตโต จ กาเล อุปสงฺกมิตฺวา, ตตฺเถว ปสฺสาหิ รโห นิสินฺน’’นฺติ.
ตถาติ วตฺวา อคมาสิ ตตฺถ, ปริวาริโต ทาสคเณน ลิจฺฉวิ;
โส ตํ นครํ อุปสงฺกมิตฺวา, วาสูปคจฺฉิตฺถ สเก นิเวสเน.
ตโต ¶ ¶ จ กาเล คิหิกิจฺจานิ กตฺวา, นฺหตฺวา ปิวิตฺวา จ ขณํ ลภิตฺวา;
วิเจยฺย เปฬาโต จ ยุคานิ อฏฺ, คาหาปยี ทาสคเณน ลิจฺฉวิ.
โส ตํ ปเทสํ อุปสงฺกมิตฺวา, ตํ อทฺทส สมณํ สนฺตจิตฺตํ;
ปฏิกฺกนฺตํ ¶ โคจรโต นิวตฺตํ, สีติภูตํ รุกฺขมูเล นิสินฺนํ.
ตเมนมโวจ อุปสงฺกมิตฺวา, อปฺปาพาธํ ผาสุวิหารฺจ ปุจฺฉิ;
‘‘เวสาลิยํ ลิจฺฉวิหํ ภทนฺเต, ชานนฺติ มํ ลิจฺฉวิ อมฺพสกฺกโร.
‘‘อิมานิ เม อฏฺ ยุคา สุภานิ [ยุคานิ ภนฺเต (สฺยา. ก.)], ปฏิคณฺห ภนฺเต ปททามิ ตุยฺหํ;
เตเนว อตฺเถน อิธาคโตสฺมิ, ยถา อหํ อตฺตมโน ภเวยฺย’’นฺติ.
‘‘ทูรโตว ¶ สมณพฺราหฺมณา จ, นิเวสนํ เต ปริวชฺชยนฺติ;
ปตฺตานิ ภิชฺชนฺติ จ เต [ภิชฺชนฺติ ตว (สฺยา. ก.)] นิเวสเน, สงฺฆาฏิโย จาปิ วิทาลยนฺติ [วิปาฏยนฺติ (สี.), วิปาตยนฺติ (ก.)].
‘‘อถาปเร ปาทกุาริกาหิ, อวํสิรา สมณา ปาตยนฺติ;
เอตาทิสํ ปพฺพชิตา วิเหสํ, ตยา กตํ สมณา ปาปุณนฺติ.
‘‘ติเณน เตลมฺปิ น ตฺวํ อทาสิ, มูฬฺหสฺส ¶ มคฺคมฺปิ น ปาวทาสิ;
อนฺธสฺส ทณฺฑํ สยมาทิยาสิ, เอตาทิโส กทริโย อสํวุโต ตุวํ;
อถ ตฺวํ เกน วณฺเณน กิเมว ทิสฺวา,
อมฺเหหิ สห สํวิภาคํ กโรสี’’ติ.
‘‘ปจฺเจมิ ¶ ภนฺเต ยํ ตฺวํ วเทสิ, วิเหสยึ สมเณ พฺราหฺมเณ จ;
ขิฑฺฑตฺถิโก โน จ ปทุฏฺจิตฺโต, เอตมฺปิ เม ทุกฺกฏเมว ภนฺเต.
‘‘ขิฑฺฑาย ยกฺโข ปสวิตฺวา ปาปํ, เวเทติ ทุกฺขํ อสมตฺตโภคี;
ทหโร ยุวา นคฺคนิยสฺส ภาคี, กึ สุ ตโต ทุกฺขตรสฺส โหติ.
‘‘ตํ ทิสฺวา สํเวคมลตฺถํ ภนฺเต, ตปฺปจฺจยา วาปิ [ตปฺปจฺจยา ตาหํ (สี.), ตปฺปจฺจยา จาหํ (ปี.)] ททามิ ทานํ;
ปฏิคณฺห ภนฺเต วตฺถยุคานิ อฏฺ, ยกฺขสฺสิมา คจฺฉนฺตุ ทกฺขิณาโย’’ติ.
‘‘อทฺธา หิ ทานํ พหุธา ปสตฺถํ, ททโต จ เต อกฺขยธมฺมมตฺถุ;
ปฏิคณฺหามิ ¶ เต วตฺถยุคานิ อฏฺ, ยกฺขสฺสิมา คจฺฉนฺตุ ทกฺขิณาโย’’ติ.
ตโต หิ โส อาจมยิตฺวา ลิจฺฉวิ, เถรสฺส ทตฺวาน ยุคานิ อฏฺ;
‘ปฏิคฺคหิตานิ จ ตานิ อสฺสุ, ยกฺขฺจ ปสฺเสถ สนฺนทฺธทุสฺสํ’.
ตมทฺทสา จนฺทนสารลิตฺตํ, อาชฺมารูฬฺหมุฬารวณฺณํ;
อลงฺกตํ สาธุนิวตฺถทุสฺสํ, ปริวาริตํ ยกฺขมหิทฺธิปตฺตํ.
โส ¶ ตํ ทิสฺวา อตฺตมนา อุทคฺโค, ปหฏฺจิตฺโต จ สุภคฺครูโป;
กมฺมฺจ ทิสฺวาน มหาวิปากํ, สนฺทิฏฺิกํ จกฺขุนา สจฺฉิกตฺวา.
ตเมนมโวจ ¶ ¶ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘ทสฺสามิ ทานํ สมณพฺราหฺมณานํ;
น จาปิ เม กิฺจิ อเทยฺยมตฺถิ, ตุวฺจ เม ยกฺข พหูปกาโร’’ติ.
‘‘ตุวฺจ เม ลิจฺฉวิ เอกเทสํ, อทาสิ ทานานิ อโมฆเมตํ;
สฺวาหํ ¶ กริสฺสามิ ตยาว สกฺขึ, อมานุโส มานุสเกน สทฺธิ’’นฺติ.
‘‘คตี จ พนฺธู จ ปรายณฺจ [ปรายนฺจ (สฺยา. ก.)], มิตฺโต มมาสิ อถ เทวตา เม [เทวตาสิ (สี. สฺยา.)];
ยาจามิ ตํ [ยาจามหํ (สี.)] ปฺชลิโก ภวิตฺวา, อิจฺฉามิ ตํ ยกฺข ปุนาปิ ทฏฺุ’’นฺติ.
‘‘สเจ ตุวํ อสฺสทฺโธ ภวิสฺสสิ, กทริยรูโป วิปฺปฏิปนฺนจิตฺโต;
ตฺวํ เนว มํ ลจฺฉสิ [เตเนว มํ น ลจฺฉสี (สี.), เตเนว มํ ลิจฺฉวิ (สฺยา.), เตเนว มํ ลจฺฉสิ (ก.)] ทสฺสนาย, ทิสฺวา จ ตํ โนปิ จ อาลปิสฺสํ.
‘‘สเจ ปน ตฺวํ ภวิสฺสสิ ธมฺมคารโว, ทาเน รโต สงฺคหิตตฺตภาโว;
โอปานภูโต สมณพฺราหฺมณานํ, เอวํ มมํ ลจฺฉสิ ทสฺสนาย.
‘‘ทิสฺวา จ ตํ อาลปิสฺสํ ภทนฺเต, อิมฺจ สูลโต ลหุํ ปมฺุจ;
ยโต นิทานํ อกริมฺห สกฺขึ, มฺามิ สูลาวุตกสฺส การณา.
‘‘เต ¶ อฺมฺํ อกริมฺห สกฺขึ, อยฺจ ¶ สูลโต [สูลาวุโต (สี. สฺยา.)] ลหุํ ปมุตฺโต;
สกฺกจฺจ ธมฺมานิ สมาจรนฺโต, มุจฺเจยฺย โส นิรยา จ ตมฺหา;
กมฺมํ สิยา อฺตฺร เวทนียํ.
‘‘กปฺปิตกฺจ อุปสงฺกมิตฺวา, เตเนว [เตน (สฺยา. ก.)] สห สํวิภชิตฺวา กาเล;
สยํ มุเขนูปนิสชฺช ปุจฺฉ, โส เต อกฺขิสฺสติ เอตมตฺถํ.
‘‘ตเมว ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา, ปุจฺฉสฺสุ อฺตฺถิโก โน จ ปทุฏฺจิตฺโต;
โส เต สุตํ อสุตฺจาปิ ธมฺมํ,
สพฺพมฺปิ ¶ อกฺขิสฺสติ ยถา ปชาน’’นฺติ.
โส ตตฺถ รหสฺสํ สมุลฺลปิตฺวา, สกฺขึ กริตฺวาน อมานุเสน;
ปกฺกามิ โส ลิจฺฉวีนํ สกาสํ, อถ พฺรวิ ปริสํ สนฺนิสินฺนํ.
‘‘สุณนฺตุ โภนฺโต มม เอกวากฺยํ, วรํ วริสฺสํ ลภิสฺสามิ อตฺถํ;
สูลาวุโต ¶ ปุริโส ลุทฺทกมฺโม, ปณีหิตทณฺโฑ [ปณีตนณฺโฑ (ก.)] อนุสตฺตรูโป [อนุปกฺกรูโป (ก.)].
‘‘เอตฺตาวตา วีสติรตฺติมตฺตา, ยโต อาวุโต เนว ชีวติ น มโต;
ตาหํ โมจยิสฺสามิ ทานิ, ยถามตึ อนุชานาตุ สงฺโฆ’’ติ.
‘‘เอตฺจ อฺฺจ ลหุํ ปมฺุจ, โก ตํ วเทถ [วเทถาติ (ก.), วเทถ จ (สฺยา.)] ตถา กโรนฺตํ;
ยถา ปชานาสิ ตถา กโรหิ, ยถามตึ อนุชานาติ สงฺโฆ’’ติ.
โส ¶ ตํ ปเทสํ อุปสงฺกมิตฺวา, สูลาวุตํ โมจยิ ขิปฺปเมว;
‘มา ภายิ สมฺมา’ติ จ ตํ อโวจ, ติกิจฺฉกานฺจ อุปฏฺเปสิ.
‘‘กปฺปิตกฺจ ¶ อุปสงฺกมิตฺวา, เตเนว สห [เตน สมํ (สี.), เตน สห (สฺยา. ก.)] สํวิภชิตฺวา กาเล;
สยํ มุเขนูปนิสชฺช ลิจฺฉวิ, ตเถว ปุจฺฉิตฺถ นํ การณตฺถิโก.
‘‘สูลาวุโต ปุริโส ลุทฺทกมฺโม, ปณีตทณฺโฑ ¶ อนุสตฺตรูโป;
เอตฺตาวตา วีสติรตฺติมตฺตา, ยโต อาวุโต เนว ชีวติ น มโต.
‘‘โส โมจิโต คนฺตฺวา มยา อิทานิ, เอตสฺส ยกฺขสฺส วโจ หิ ภนฺเต;
สิยา นุ โข การณํ กิฺจิเทว, เยน โส นิรยํ โน วเชยฺย.
‘‘อาจิกฺข ภนฺเต ยทิ อตฺถิ เหตุ, สทฺธายิกํ เหตุวโจ สุโณม;
น เตสํ กมฺมานํ วินาสมตฺถิ, อเวทยิตฺวา อิธ พฺยนฺติภาโว’’ติ.
‘‘สเจ ¶ ส ธมฺมานิ สมาจเรยฺย, สกฺกจฺจ รตฺตินฺทิวมปฺปมตฺโต;
มุจฺเจยฺย โส นิรยา จ ตมฺหา, กมฺมํ สิยา อฺตฺร เวทนีย’’นฺติ.
‘‘อฺาโต [าโตมฺหิ (ก.)] เอโส ปุริสสฺส อตฺโถ, มมมฺปิ ทานิ อนุกมฺป ภนฺเต;
อนุสาส มํ โอวท ภูริปฺ, ยถา อหํ โน นิรยํ วเชยฺย’’นฺติ.
‘‘อชฺเชว ¶ ¶ พุทฺธํ สรณํ อุเปหิ, ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ ปสนฺนจิตฺโต;
ตเถว สิกฺขาย ปทานิ ปฺจ, อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยสฺสุ.
‘‘ปาณาติปาตา วิรมสฺสุ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยสฺสุ;
อมชฺชโป มา จ มุสา อภาณี, สเกน ทาเรน จ โหหิ ตุฏฺโ;
อิมฺจ อริยํ [อิมฺจ (สฺยา.)] อฏฺงฺควเรนุเปตํ, สมาทิยาหิ กุสลํ สุขุทฺรยํ.
‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;
อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จ;
ททาหิ อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา [สทา ปฺุํ ปวฑฺฒติ (สฺยา. ก.)].
‘‘ภิกฺขูปิ สีลสมฺปนฺเน, วีตราเค พหุสฺสุเต;
ตปฺเปหิ อนฺนปาเนน, สทา ปฺุํ ปวฑฺฒติ.
‘‘เอวฺจ ธมฺมานิ [กมฺมานิ (สี. สฺยา.)] สมาจรนฺโต, สกฺกจฺจ รตฺตินฺทิวมปฺปมตฺโต;
มฺุจ ตุวํ [มุจฺเจยฺย โส ตฺวํ (ก.)] นิรยา จ ตมฺหา, กมฺมํ ¶ สิยา อฺตฺร เวทนีย’’นฺติ.
‘‘อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ อุเปมิ, ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ ปสนฺนจิตฺโต;
ตเถว สิกฺขาย ปทานิ ปฺจ, อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยามิ.
‘‘ปาณาติปาตา วิรมามิ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยามิ;
อมชฺชโป โน จ มุสา ภณามิ, สเกน ทาเรน จ โหมิ ตุฏฺโ;
อิมฺจ อริยํ อฏฺงฺควเรนุเปตํ, สมาทิยามิ กุสลํ สุขุทฺรยํ.
‘‘จีวรํ ¶ ¶ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;
อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จ.
‘‘ภิกฺขู ¶ จ สีลสมฺปนฺเน, วีตราเค พหุสฺสุเต;
ททามิ น วิกมฺปามิ [วิกปฺปามิ (สี. สฺยา.)], พุทฺธานํ สาสเน รโต’’ติ.
เอตาทิสา ลิจฺฉวิ อมฺพสกฺกโร, เวสาลิยํ อฺตโร อุปาสโก;
สทฺโธ มุทู การกโร จ ภิกฺขุ, สงฺฆฺจ สกฺกจฺจ ตทา อุปฏฺหิ.
สูลาวุโต จ อโรโค หุตฺวา, เสรี ¶ สุขี ปพฺพชฺชํ อุปาคมิ [ปพฺพชฺชมุปคจฺฉิ (ก.)];
ภิกฺขฺุจ อาคมฺม กปฺปิตกุตฺตมํ, อุโภปิ สามฺผลานิ อชฺฌคุํ.
เอตาทิสา สปฺปุริสาน เสวนา, มหปฺผลา โหติ สตํ วิชานตํ;
สูลาวุโต อคฺคผลํ อผสฺสยิ [ผุสฺสยิ (สฺยา. ก.)], ผลํ กนิฏฺํ ปน อมฺพสกฺกโร’’ติ.
อมฺพสกฺกรเปตวตฺถุ ปมํ.
๒. เสรีสกเปตวตฺถุ
[วิ. ว. ๑๒๒๘] สุโณถ ยกฺขสฺส วาณิชาน จ, สมาคโม ยตฺถ ตทา อโหสิ;
ยถา กถํ อิตริตเรน จาปิ, สุภาสิตํ ตฺจ สุณาถ สพฺเพ.
โย โส อหุ ราชา ปายาสิ นาม [นาโม (สี.)], ภุมฺมานํ สหพฺยคโต ยสสฺสี;
โส โมทมาโนว สเก วิมาเน, อมานุโส มานุเส อชฺฌภาสีติ.
‘‘วงฺเก ¶ อรฺเ อมนุสฺสฏฺาเน, กนฺตาเร อปฺโปทเก อปฺปภกฺเข;
สุทุคฺคเม วณฺณุปถสฺส มชฺเฌ, วงฺกํภยา นฏฺมนา มนุสฺสา.
‘‘นยิธ ผลา มูลมยา จ สนฺติ, อุปาทานํ นตฺถิ กุโตธ ภกฺโข [ภิกฺโข (ก.)];
อฺตฺร ปํสูหิ จ วาลุกาหิ จ, ตตาหิ อุณฺหาหิ จ ทารุณาหิ จ.
‘‘อุชฺชงฺคลํ ตตฺตมิวํ กปาลํ, อนายสํ ปรโลเกน ตุลฺยํ;
ลุทฺทานมาวาสมิทํ ปุราณํ, ภูมิปฺปเทโส อภิสตฺตรูโป.
‘‘‘อถ ตุมฺเห เกน วณฺเณน, กิมาสมานา อิมํ ปเทสํ หิ;
อนุปวิฏฺา สหสา สมจฺจ, โลภา ภยา อถ วา สมฺปมูฬฺหา’’’ติ.
‘‘มคเธสุ องฺเคสุ จ สตฺถวาหา, อาโรปยิตฺวา ปณิยํ ปุถุตฺตํ;
เต ยามเส สินฺธุโสวีรภูมึ, ธนตฺถิกา อุทฺทยํ ปตฺถยานา.
‘‘ทิวา ปิปาสํ นธิวาสยนฺตา, โยคฺคานุกมฺปฺจ สเมกฺขมานา;
เอเตน เวเคน อายาม สพฺเพ, รตฺตึ มคฺคํ ปฏิปนฺนา วิกาเล.
‘‘เต ¶ ทุปฺปยาตา อปรทฺธมคฺคา, อนฺธากุลา วิปฺปนฏฺา อรฺเ;
สุทุคฺคเม วณฺณุปถสฺส มชฺเฌ, ทิสํ น ชานาม ปมูฬฺหจิตฺตา.
‘‘อิทฺจ ¶ ทิสฺวาน อทิฏฺปุพฺพํ, วิมานเสฏฺฺจ ตวฺจ ยกฺข;
ตตุตฺตรึ ชีวิตมาสมานา, ทิสฺวา ปตีตา สุมนา อุทคฺคา’’ติ.
‘‘ปารํ สมุทฺทสฺส อิมฺจ วณฺณุํ, เวตฺตาจรํ [เวตฺตํ ปรํ (สฺยา.), เวตฺตาจารํ (ก.)] สงฺกุปถฺจ มคฺคํ;
นทิโย ปน ปพฺพตานฺจ ทุคฺคา, ปุถุทฺทิสา คจฺฉถ โภคเหตุ.
‘‘ปกฺขนฺทิยาน วิชิตํ ปเรสํ, เวรชฺชเก มานุเส เปกฺขมานา;
ยํ โว สุตํ วา อถ วาปิ ทิฏฺํ, อจฺเฉรกํ ตํ โว สุโณม ตาตา’’ติ.
‘‘อิโตปิ อจฺเฉรตรํ กุมาร, น โน สุตํ วา อถ วาปิ ทิฏฺํ;
อตีตมานุสฺสกเมว สพฺพํ, ทิสฺวา น ตปฺปาม อโนมวณฺณํ.
‘‘เวหายสํ โปกฺขรฺโ สวนฺติ, ปหูตมลฺยา [ปหูตมาลฺยา (สฺยา.)] พหุปุณฺฑรีกา;
ทุมา จิเม นิจฺจผลูปปนฺนา, อตีว คนฺธา สุรภึ ปวายนฺติ.
‘‘เวฬูริยถมฺภา สตมุสฺสิตาเส, สิลาปวาฬสฺส จ อายตํสา;
มสารคลฺลา สหโลหิตงฺคา, ถมฺภา อิเม โชติรสามยาเส.
‘‘สหสฺสถมฺภํ อตุลานุภาวํ, เตสูปริ สาธุมิทํ วิมานํ;
รตนนฺตรํ กฺจนเวทิมิสฺสํ, ตปนียปฏฺเฏหิ จ สาธุฉนฺนํ.
‘‘ชมฺโพนทุตฺตตฺตมิทํ ¶ สุมฏฺโ, ปาสาทโสปาณผลูปปนฺโน;
ทฬฺโห จ วคฺคุ จ สุสงฺคโต จ [วคฺคุ สุมุโข สุสงฺคโต (สี.)], อตีว นิชฺฌานขโม มนฺุโ.
‘‘รตนนฺตรสฺมึ พหุอนฺนปานํ, ปริวาริโต อจฺฉราสงฺคเณน;
มุรชอาลมฺพรตูริยฆุฏฺโ, อภิวนฺทิโตสิ ถุติวนฺทนาย.
‘‘โส โมทสิ นาริคณปฺปโพธโน, วิมานปาสาทวเร มโนรเม;
อจินฺติโย สพฺพคุณูปปนฺโน, ราชา ยถา เวสฺสวโณ นฬินฺยา [นฬิฺํ (ก.)].
‘‘เทโว นุ อาสิ อุทวาสิ ยกฺโข, อุทาหุ เทวินฺโท มนุสฺสภูโต;
ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, อาจิกฺข โก นาม ตุวํสิ ยกฺโข’’ติ.
‘‘เสรีสโก นาม อหมฺหิ ยกฺโข, กนฺตาริโย วณฺณุปถมฺหิ คุตฺโต;
อิมํ ปเทสํ อภิปาลยามิ, วจนกโร เวสฺสวณสฺส รฺโ’’ติ.
‘‘อธิจฺจลทฺธํ ปริณามชํ เต, สยํ กตํ อุทาหุ เทเวหิ ทินฺนํ;
ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, กถํ ตยา ลทฺธมิทํ มนฺุ’’นฺติ.
‘‘นาธิจฺจลทฺธํ น ปริณามชํ เม, น สยํ กตํ น หิ เทเวหิ ทินฺนํ;
สเกหิ กมฺเมหิ อปาปเกหิ, ปฺุเหิ เม ลทฺธมิทํ มนฺุ’’นฺติ.
‘‘กึ ¶ เต วตํ กึ ปน พฺรหฺมจริยํ, กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;
ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, กถํ ตยา ลทฺธมิทํ วิมาน’’นฺติ.
‘‘มมํ ¶ ปายาสีติ อหุ สมฺา, รชฺชํ ยทา การยึ โกสลานํ;
นตฺถิกทิฏฺิ กทริโย ปาปธมฺโม, อุจฺเฉทวาที จ ตทา อโหสึ.
‘‘สมโณ จ โข อาสิ กุมารกสฺสโป, พหุสฺสุโต จิตฺตกถี อุฬาโร;
โส เม ตทา ธมฺมกถํ อภาสิ, ทิฏฺิวิสูกานิ วิโนทยี เม.
‘‘ตาหํ ตสฺส ธมฺมกถํ สุณิตฺวา, อุปาสกตฺตํ ปฏิเทวยิสฺสํ;
ปาณาติปาตา วิรโต อโหสึ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยิสฺสํ;
อมชฺชโป โน จ มุสา อภาณึ, สเกน ทาเรน จ อโหสิ ตุฏฺโ.
‘‘ตํ เม วตํ ตํ ปน พฺรหฺมจริยํ, ตสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;
เตเหว กมฺเมหิ อปาปเกหิ, ปฺุเหิ เม ลทฺธมิทํ วิมาน’’นฺติ.
‘‘สจฺจํ กิราหํสุ นรา สปฺา, อนฺถา วจนํ ปณฺฑิตานํ;
ยหึ ยหึ คจฺฉติ ปฺุกมฺโม, ตหึ ตหึ โมทติ กามกามี.
‘‘ยหึ ยหึ โสกปริทฺทโว จ, วโธ จ พนฺโธ จ ปริกฺกิเลโส;
ตหึ ตหึ คจฺฉติ ปาปกมฺโม, น มุจฺจติ ทุคฺคติยา กทาจี’’ติ.
‘‘สมฺมูฬฺหรูโปว ¶ ชโน อโหสิ, อสฺมึ มุหุตฺเต กลลีกโตว;
ชนสฺสิมสฺส ตุยฺหฺจ กุมาร, อปฺปจฺจโย เกน นุ โข อโหสี’’ติ.
‘‘อิเม จ สิรีสวนา [อิเม สิรีสูปวนา จ (สี.), อิเมปิ สิรีสวนา จ (ปี. ก.)] ตาตา, ทิพฺพา คนฺธา สุรภี สมฺปวนฺติ;
เต สมฺปวายนฺติ อิมํ วิมานํ, ทิวา จ รตฺโต จ ตมํ นิหนฺตฺวา.
‘‘อิเมสฺจ โข วสฺสสตจฺจเยน, สิปาฏิกา ผลติ เอกเมกา;
มานุสฺสกํ วสฺสสตํ อตีตํ, ยทคฺเค กายมฺหิ อิธูปปนฺโน.
‘‘ทิสฺวานหํ วสฺสสตานิ ปฺจ, อสฺมึ วิมาเน ตฺวาน ตาตา;
อายุกฺขยา ปฺุกฺขยา จวิสฺสํ, เตเนว โสเกน ปมุจฺฉิโตสฺมี’’ติ.
‘‘กถํ นุ โสเจยฺย ตถาวิโธ โส, ลทฺธา วิมานํ อตุลํ จิราย;
เย จาปิ โข อิตฺตรมุปปนฺนา, เต นูน โสเจยฺยุํ ปริตฺตปฺุา’’ติ.
‘‘อนุจฺฉวึ โอวทิยฺจ เม ตํ, ยํ มํ ตุมฺเห เปยฺยวาจํ วเทถ;
ตุมฺเห จ โข ตาตา มยานุคุตฺตา, เยนิจฺฉกํ เตน ปเลถ โสตฺถิ’’นฺติ.
‘‘คนฺตฺวา มยํ สินฺธุโสวีรภูมึ, ธนฺนตฺถิกา อุทฺทยํ ปตฺถยานา;
ยถาปโยคา ปริปุณฺณจาคา, กาหาม เสรีสมหํ อุฬาร’’นฺติ.
‘‘มา ¶ เจว เสรีสมหํ อกตฺถ, สพฺพฺจ โว ภวิสฺสติ ยํ วเทถ;
ปาปานิ กมฺมานิ วิวชฺชยาถ, ธมฺมานุโยคฺจ อธิฏฺหาถ.
‘‘อุปาสโก อตฺถิ อิมมฺหิ สงฺเฆ, พหุสฺสุโต สีลวตูปปนฺโน;
สทฺโธ จ จาคี จ สุเปสโล จ, วิจกฺขโณ สนฺตุสิโต มุตีมา.
‘‘สฺชานมาโน ¶ น มุสา ภเณยฺย, ปรูปฆาตาย จ เจตเยยฺย;
เวภูติกํ เปสุณํ โน กเรยฺย, สณฺหฺจ วาจํ สขิลํ ภเณยฺย.
‘‘สคารโว สปฺปฏิสฺโส วินีโต, อปาปโก อธิสีเล วิสุทฺโธ;
โส มาตรํ ปิตรฺจาปิ ชนฺตุ, ธมฺเมน โปเสติ อริยวุตฺติ.
‘‘มฺเ โส มาตาปิตูนํ การณา, โภคานิ ปริเยสติ น อตฺตเหตุ;
มาตาปิตูนฺจ โย อจฺจเยน, เนกฺขมฺมโปโณ จริสฺสติ พฺรหฺมจริยํ.
‘‘อุชู อวงฺโก อสโ อมาโย, น เลสกปฺเปน จ โวหเรยฺย;
โส ตาทิโส สุกตกมฺมการี, ธมฺเม ิโต กินฺติ ลเภถ ทุกฺขํ.
‘‘ตํ การณา ปาตุกโตมฺหิ อตฺตนา, ตสฺมา ธมฺมํ ปสฺสถ วาณิชาเส;
อฺตฺร เตนิห ภสฺมี [ภสฺมิ (สฺยา.), ภสฺม (ก.)] ภเวถ, อนฺธากุลา วิปฺปนฏฺา อรฺเ;
ตํ ขิปฺปมาเนน ลหุํ ปเรน, สุโข หเว สปฺปุริเสน สงฺคโม’’ติ.
‘‘กึ ¶ นาม โส กิฺจ กโรติ กมฺมํ, กึ นามเธยฺยํ กึ ปน ตสฺส โคตฺตํ;
มยมฺปิ นํ ทฏฺุกามมฺห ยกฺข, ยสฺสานุกมฺปาย อิธาคโตสิ;
ลาภา หิ ตสฺส ยสฺส ตุวํ ปิเหสี’’ติ.
‘‘โย กปฺปโก สมฺภวนามเธยฺโย, อุปาสโก โกจฺฉผลูปชีวี;
ชานาถ นํ ตุมฺหากํ เปสิโย โส, มา โข นํ หีฬิตฺถ สุเปสโล โส’’ติ.
‘‘ชานามเส ยํ ตฺวํ ปวเทสิ ยกฺข, น โข นํ ชานาม ส เอทิโสติ;
มยมฺปิ นํ ปูชยิสฺสาม ยกฺข, สุตฺวาน ตุยฺหํ วจนํ อุฬาร’’นฺติ.
‘‘เย เกจิ อิมสฺมึ สตฺเถ มนุสฺสา, ทหรา มหนฺตา อถวาปิ มชฺฌิมา;
สพฺเพว เต อาลมฺพนฺตุ วิมานํ, ปสฺสนฺตุ ปฺุานํ ผลํ กทริยา’’ติ.
เต ตตฺถ สพฺเพว ‘อหํ ปุเร’ติ, ตํ กปฺปกํ ตตฺถ ปุรกฺขตฺวา [ปุรกฺขิปิตฺวา (สี.)];
สพฺเพว เต อาลมฺพึสุ วิมานํ, มสกฺกสารํ วิย วาสวสฺส.
เต ตตฺถ สพฺเพว ‘อหํ ปุเร’ติ, อุปาสกตฺตํ ปฏิเวทยึสุ;
ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อเหสุํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยึสุ;
อมชฺชปา โน จ มุสา ภณึสุ, สเกน ทาเรน จ อเหสุํ ตุฏฺา.
เต ¶ ตตฺถ สพฺเพว ‘อหํ ปุเร’ติ, อุปาสกตฺตํ ปฏิเวทยิตฺวา;
ปกฺกามิ สตฺโถ อนุโมทมาโน, ยกฺขิทฺธิยา อนุมโต ปุนปฺปุนํ.
คนฺตฺวาน เต สินฺธุโสวีรภูมึ, ธนตฺถิกา อุทฺทยํ [อุทย (ปี. ก.)] ปตฺถยานา;
ยถาปโยคา ปริปุณฺณลาภา, ปจฺจาคมุํ ปาฏลิปุตฺตมกฺขตํ.
คนฺตฺวาน เต สงฺฆรํ โสตฺถิวนฺโต, ปุตฺเตหิ ทาเรหิ สมงฺคิภูตา;
อานนฺที วิตฺตา สุมนา ปตีตา, อกํสุ เสรีสมหํ อุฬารํ;
เสรีสกํ เต ปริเวณํ มาปยึสุ.
เอตาทิสา ¶ สปฺปุริสาน เสวนา, มหตฺถิกา ธมฺมคุณาน เสวนา;
เอกสฺส อตฺถาย อุปาสกสฺส, สพฺเพว สตฺตา สุขิตา [สุขิโน (ปี. ก.)] อเหสุนฺติ.
เสรีสกเปตวตฺถุ ทุติยํ.
ภาณวารํ ตติยํ นิฏฺิตํ.
๓. นนฺทกเปตวตฺถุ
ราชา ¶ ปิงฺคลโก นาม, สุรฏฺานํ อธิปติ อหุ;
โมริยานํ อุปฏฺานํ คนฺตฺวา, สุรฏฺํ ปุนราคมา.
อุณฺเห มชฺฌนฺหิเก [มชฺฌนฺติเก (สพฺพตฺถ)] กาเล, ราชา ปงฺกํ [วงฺกํ (ก.)] อุปาคมิ;
อทฺทส มคฺคํ รมณียํ, เปตานํ ตํ วณฺณุปถํ [วณฺณนาปถํ (สี. สฺยา.)].
สารถึ ¶ อามนฺตยี ราชา –
‘‘อยํ มคฺโค รมณีโย, เขโม โสวตฺถิโก สิโว;
อิมินา สารถิ ยาม, สุรฏฺานํ สนฺติเก อิโต’’.
เตน ¶ ปายาสิ โสรฏฺโ, เสนาย จตุรงฺคินิยา;
อุพฺพิคฺครูโป ปุริโส, โสรฏฺํ เอตทพฺรวิ.
‘‘กุมฺมคฺคํ ปฏิปนฺนมฺหา, ภึสนํ โลมหํสนํ;
ปุรโต ทิสฺสติ มคฺโค, ปจฺฉโต จ น ทิสฺสติ.
‘‘กุมฺมคฺคํ ปฏิปนฺนมฺหา, ยมปุริสาน สนฺติเก;
อมานุโส วายติ คนฺโธ, โฆโส สุยฺยติ [สูยติ (สี. สฺยา.)] ทารุโณ’’.
สํวิคฺโค ราชา โสรฏฺโ, สารถึ เอตทพฺรวิ;
‘‘กุมฺมคฺคํ ปฏิปนฺนมฺหา, ภึสนํ โลมหํสนํ;
ปุรโต ทิสฺสติ มคฺโค, ปจฺฉโต จ น ทิสฺสติ.
‘‘กุมฺมคฺคํ ปฏิปนฺนมฺหา, ยมปุริสาน สนฺติเก;
อมานุโส วายติ คนฺโธ, โฆโส สุยฺยติ ทารุโณ’’.
หตฺถิกฺขนฺธํ สมารุยฺห, โอโลเกนฺโต จตุทฺทิสํ [จตุทฺทิสฺสา (ก.)];
อทฺทส นิคฺโรธํ รมณียํ [รุกฺขํ นิคฺโรธํ (สฺยา. ก.)], ปาทปํ ฉายาสมฺปนฺนํ;
นีลพฺภวณฺณสทิสํ, เมฆวณฺณสิรีนิภํ.
สารถึ ¶ ¶ อามนฺตยี ราชา, ‘‘กึ เอโส ทิสฺสติ พฺรหา;
นีลพฺภวณฺณสทิโส, เมฆวณฺณสิรีนิโภ’’.
‘‘นิคฺโรโธ โส มหาราช, ปาทโป ฉายาสมฺปนฺโน;
นีลพฺภวณฺณสทิโส ¶ , เมฆวณฺณสิรีนิโภ’’.
เตน ปายาสิ โสรฏฺโ, เยน โส ทิสฺสเต พฺรหา;
นีลพฺภวณฺณสทิโส, เมฆวณฺณสิรีนิโภ.
หตฺถิกฺขนฺธโต โอรุยฺห, ราชา รุกฺขํ อุปาคมิ;
นิสีทิ รุกฺขมูลสฺมึ, สามจฺโจ สปริชฺชโน;
ปูรํ ปานียสรกํ, ปูเว วิตฺเต จ อทฺทส.
ปุริโส ¶ จ เทววณฺณี, สพฺพาภรณภูสิโต;
อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ, โสรฏฺํ เอตทพฺรวิ.
‘‘สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ;
ปิวตุ เทโว ปานียํ, ปูเว ขาท อรินฺทม’’.
ปิวิตฺวา ราชา ปานียํ, สามจฺโจ สปริชฺชโน;
ปูเว ขาทิตฺวา ปิตฺวา จ, โสรฏฺโ เอตทพฺรวิ.
‘‘เทวตา นุสิ คนฺธพฺโพ, อทุ สกฺโก ปุรินฺทโท;
อชานนฺตา ตํ ปุจฺฉาม, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.
‘‘นามฺหิ เทโว น คนฺธพฺโพ, นาปิ [นมฺหิ (ก.)] สกฺโก ปุรินฺทโท;
เปโต อหํ มหาราช, สุรฏฺา อิธ มาคโต’’ติ.
‘‘กึสีโล กึสมาจาโร, สุรฏฺสฺมึ ปุเร ตุวํ;
เกน เต พฺรหฺมจริเยน, อานุภาโว อยํ ตวา’’ติ.
‘‘ตํ สุโณหิ มหาราช, อรินฺทม รฏฺวฑฺฒน;
อมจฺจา ปาริสชฺชา จ, พฺราหฺมโณ จ ปุโรหิโต.
‘‘สุรฏฺสฺมึ อหํ เทว, ปุริโส ปาปเจตโส;
มิจฺฉาทิฏฺิ จ ทุสฺสีโล, กทริโย ปริภาสโก.
‘‘‘ททนฺตานํ ¶ กโรนฺตานํ, วารยิสฺสํ พหุชฺชนํ;
อฺเสํ ททมานานํ, อนฺตรายกโร อหํ.
‘‘‘วิปาโก นตฺถิ ทานสฺส, สํยมสฺส กุโต ผลํ;
นตฺถิ อาจริโย นาม, อทนฺตํ โก ทเมสฺสติ.
‘‘‘สมตุลฺยานิ ¶ ภูตานิ, กุโต [กุเล (สฺยา. ก.)] เชฏฺาปจายิโก;
นตฺถิ พลํ วีริยํ วา, กุโต อุฏฺานโปริสํ.
‘‘‘นตฺถิ ทานผลํ นาม, น วิโสเธติ เวรินํ;
ลทฺเธยฺยํ ลภเต มจฺโจ, นิยติปริณามชํ [ปริณามชา (สี. ก.)].
‘‘‘นตฺถิ ¶ มาตา ปิตา ภาตา, โลโก นตฺถิ อิโต ปรํ;
นตฺถิ ทินฺนํ นตฺถิ หุตํ, สุนิหิตํ น วิชฺชติ.
‘‘‘โยปิ ¶ หเนยฺย ปุริสํ, ปรสฺส ฉินฺทเต [ปุริสสฺส ฉินฺเท (สฺยา. ก.)] สิรํ;
น โกจิ กฺจิ หนติ, สตฺตนฺนํ วิวรมนฺตเร.
‘‘‘อจฺเฉชฺชาเภชฺโช หิ [เภชฺโช (สี.), อเภชฺโช (สฺยา.), เภชฺชาสิ (ก.)] ชีโว, อฏฺํโส คุฬปริมณฺฑโล;
โยชนานํ สตํ ปฺจ, โก ชีวํ เฉตฺตุมรหติ.
‘‘‘ยถา สุตฺตคุเฬ ขิตฺเต, นิพฺเพเนฺตํ ปลายติ;
เอวเมว จ โส ชีโว, นิพฺเพเนฺโต ปลายติ.
‘‘‘ยถา คามโต นิกฺขมฺม, อฺํ คามํ ปวิสติ;
เอวเมว จ โส ชีโว, อฺํ โพนฺทึ ปวิสติ.
‘‘‘ยถา ¶ เคหโต นิกฺขมฺม, อฺํ เคหํ ปวิสติ;
เอวเมว จ โส ชีโว, อฺํ โพนฺทึ ปวิสติ.
‘‘‘จุลฺลาสีติ [จุฬาสีติ (สี. สฺยา. ก.)] มหากปฺปิโน [มหากปฺปุโน (สี.)], สตสหสฺสานิ หิ;
เย พาลา เย จ ปณฺฑิตา, สํสารํ เขปยิตฺวาน;
ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสเร.
‘‘‘มิตานิ สุขทุกฺขานิ, โทเณหิ ปิฏเกหิ จ;
ชิโน สพฺพํ ปชานาติ’, สมฺมูฬฺหา อิตรา ปชา.
‘‘เอวํทิฏฺิ ปุเร อาสึ, สมฺมูฬฺโห โมหปารุโต;
มิจฺฉาทิฏฺิ จ ทุสฺสีโล, กทริโย ปริภาสโก.
‘‘โอรํ เม ฉหิ มาเสหิ, กาลงฺกิริยา ภวิสฺสติ;
เอกนฺตกฏุกํ โฆรํ, นิรยํ ปปติสฺสหํ.
[เป. ว. ๗๐] ‘‘จตุกฺกณฺณํ จตุทฺวารํ, วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ;
อโยปาการปริยนฺตํ, อยสา ปฏิกุชฺชิตํ.
[เป. ว. ๗๑] ‘‘ตสฺส อโยมยา ภูมิ, ชลิตา เตชสา ยุตา;
สมนฺตา โยชนสตํ, ผริตฺวา ติฏฺติ สพฺพทา.
‘‘วสฺสานิ ¶ สตสหสฺสานิ, โฆโส สุยฺยติ ตาวเท;
ลกฺโข เอโส มหาราช, สตภาควสฺสโกฏิโย.
‘‘โกฏิสตสหสฺสานิ ¶ , นิรเย ปจฺจเร ชนา;
มิจฺฉาทิฏฺี จ ทุสฺสีลา, เย จ อริยูปวาทิโน.
‘‘ตตฺถาหํ ทีฆมทฺธานํ, ทุกฺขํ เวทิสฺส เวทนํ;
ผลํ ปาปสฺส กมฺมสฺส, ตสฺมา โสจามหํ ภุสํ.
‘‘ตํ ¶ ¶ สุโณหิ มหาราช, อรินฺทม รฏฺวฑฺฒน;
ธีตา มยฺหํ มหาราช, อุตฺตรา ภทฺทมตฺถุ เต.
‘‘กโรติ ภทฺทกํ กมฺมํ, สีเลสุโปสเถ รตา;
สฺตา สํวิภาคี จ, วทฺู วีตมจฺฉรา.
‘‘อขณฺฑการี สิกฺขาย, สุณฺหา ปรกุเลสุ จ;
อุปาสิกา สกฺยมุนิโน, สมฺพุทฺธสฺส สิรีมโต.
‘‘ภิกฺขุ จ สีลสมฺปนฺโน, คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ;
โอกฺขิตฺตจกฺขุ สติมา, คุตฺตทฺวาโร สุสํวุโต.
‘‘สปทานํ จรมาโน, อคมา ตํ นิเวสนํ;
‘ตมทฺทส มหาราช, อุตฺตรา ภทฺทมตฺถุ เต’.
‘‘ปูรํ ปานียสรกํ, ปูเว วิตฺเต จ สา อทา;
‘ปิตา เม กาลงฺกโต, ภนฺเต ตสฺเสตํ อุปกปฺปตุ’.
‘‘สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, วิปาโก อุทปชฺชถ;
ภฺุชามิ กามกามีหํ, ราชา เวสฺสวโณ ยถา.
‘‘ตํ สุโณหิ มหาราช, อรินฺทม รฏฺวฑฺฒน;
สเทวกสฺส โลกสฺส, พุทฺโธ อคฺโค ปวุจฺจติ;
ตํ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉ, สปุตฺตทาโร อรินฺทม.
‘‘อฏฺงฺคิเกน มคฺเคน, ผุสนฺติ อมตํ ปทํ;
ตํ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉ, สปุตฺตทาโร อรินฺทม.
‘‘จตฺตาโร ¶ จ ปฏิปนฺนา [มคฺคปฏิปนฺนา (สี. สฺยา.)], จตฺตาโร จ ผเล ิตา;
เอส สงฺโฆ อุชุภูโต, ปฺาสีลสมาหิโต;
ตํ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉ, สปุตฺตทาโร อรินฺทม.
‘‘ปาณาติปาตา ¶ ¶ วิรมสฺสุ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยสฺสุ;
อมชฺชโป มา จ มุสา อภาณี, สเกน ทาเรน จ โหหิ ตุฏฺโ’’ติ.
‘‘อตฺถกาโมสิ เม ยกฺข, หิตกาโมสิ เทวเต;
กโรมิ ตุยฺหํ วจนํ, ตฺวํสิ อาจริโย มม.
‘‘อุเปมิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมฺจาปิ อนุตฺตรํ;
สงฺฆฺจ นรเทวสฺส, คจฺฉามิ สรณํ อหํ.
‘‘ปาณาติปาตา วิรมามิ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยามิ;
อมชฺชโป โน จ มุสา ภณามิ, สเกน ทาเรน จ โหมิ ตุฏฺโ.
‘‘โอผุณามิ ¶ [โอปุณามิ (สี.), โอผุนามิ (สฺยา. ก.), โอปุนามิ (?)] มหาวาเต, นทิยา สีฆคามิยา;
วมามิ ปาปิกํ ทิฏฺึ, พุทฺธานํ สาสเน รโต’’.
อิทํ วตฺวาน โสรฏฺโ, วิรมิตฺวา ปาปทสฺสนา [ปาปทสฺสนํ (สฺยา. ก.)];
นโม ¶ ภควโต กตฺวา, ปาโมกฺโข รถมารุหีติ.
นนฺทกเปตวตฺถุ ตติยํ.
๔. เรวตีเปตวตฺถุ
[วิ. ว. ๘๖๓] ‘‘อุฏฺเหิ เรวเต สุปาปธมฺเม, อปารุตทฺวาเร อทานสีเล;
เนสฺสาม ตํ ยตฺถ ถุนนฺติ ทุคฺคตา, สมปฺปิตา [สมชฺชตา (สี.)] เนรยิกา ทุเขนา’’ติ.
อิจฺเจว [อิจฺเจวํ (สฺยา. ก.)] วตฺวาน ยมสฺส ทูตา, เต ทฺเว ยกฺขา โลหิตกฺขา พฺรหนฺตา;
ปจฺเจกพาหาสุ คเหตฺวา เรวตํ, ปกฺกามยุํ เทวคณสฺส สนฺติเก.
‘‘อาทิจฺจวณฺณํ ¶ รุจิรํ ปภสฺสรํ, พฺยมฺหํ สุภํ กฺจนชาลฉนฺนํ;
กสฺเสตมากิณฺณชนํ วิมานํ, สุริยสฺส รํสีริว โชตมานํ.
‘‘นารีคณา จนฺทนสารลิตฺตา [จนฺทนสารานุลิตฺตา (สฺยา.)], อุภโต วิมานํ อุปโสภยนฺติ;
ตํ ทิสฺสติ สุริยสมานวณฺณํ, โก โมทติ สคฺคปตฺโต วิมาเน’’ติ.
‘‘พาราณสิยํ นนฺทิโย นามาสิ, อุปาสโก อมจฺฉรี ทานปติ วทฺู;
ตสฺเสตมากิณฺณชนํ วิมานํ, สุริยสฺส รํสีริว โชตมานํ.
‘‘นารีคณา จนฺทนสารลิตฺตา, อุภโต วิมานํ อุปโสภยนฺติ;
ตํ ทิสฺสติ สุริยสมานวณฺณํ, โส โมทติ สคฺคปตฺโต วิมาเน’’ติ.
‘‘นนฺทิยสฺสาหํ ¶ ภริยา, อคารินี สพฺพกุลสฺส อิสฺสรา;
ภตฺตุ วิมาเน รมิสฺสามิ ทานหํ, น ปตฺถเย นิรยทสฺสนายา’’ติ.
‘‘เอโส เต นิรโย สุปาปธมฺเม, ปฺุํ ตยา อกตํ ชีวโลเก;
น หิ มจฺฉรี โรสโก ปาปธมฺโม, สคฺคูปคานํ ลภติ สหพฺยต’’นฺติ.
‘‘กึ นุ คูถฺจ มุตฺตฺจ, อสุจี ปฏิทิสฺสติ;
ทุคฺคนฺธํ กิมิทํ มีฬฺหํ, กิเมตํ อุปวายตี’’ติ.
‘‘เอส สํสวโก นาม, คมฺภีโร สตโปริโส;
ยตฺถ วสฺสสหสฺสานิ, ตุวํ ปจฺจสิ เรวเต’’ติ.
‘‘กึ ¶ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
เกน สํสวโก ลทฺโธ, คมฺภีโร สตโปริโส’’ติ.
‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ จาปิ, อฺเ วาปิ วนิพฺพเก;
มุสาวาเทน วฺเจสิ, ตํ ปาปํ ปกตํ ตยา.
‘‘เตน สํสวโก ลทฺโธ, คมฺภีโร สตโปริโส;
ตตฺถ วสฺสสหสฺสานิ, ตุวํ ปจฺจสิ เรวเต.
‘‘หตฺเถปิ ฉินฺทนฺติ อโถปิ ปาเท, กณฺเณปิ ฉินฺทนฺติ อโถปิ นาสํ;
อโถปิ กาโกฬคณา สเมจฺจ, สงฺคมฺม ขาทนฺติ วิผนฺทมาน’’นฺติ.
‘‘สาธุ โข มํ ปฏิเนถ, กาหามิ กุสลํ พหุํ;
ทาเนน สมจริยาย, สํยเมน ทเมน จ;
ยํ กตฺวา สุขิตา โหนฺติ, น จ ปจฺฉานุตปฺปเร’’ติ.
‘‘ปุเร ตุวํ ปมชฺชิตฺวา, อิทานิ ปริเทวสิ;
สยํ กตานํ กมฺมานํ, วิปากํ อนุโภสฺสสี’’ติ.
‘‘โก เทวโลกโต มนุสฺสโลกํ, คนฺตฺวาน ปุฏฺโ เม เอวํ วเทยฺย;
‘นิกฺขิตฺตทณฺเฑสุ ททาถ ทานํ, อจฺฉาทนํ เสยฺย [สยน (สี.)] มถนฺนปานํ;
น หิ มจฺฉรี โรสโก ปาปธมฺโม, สคฺคูปคานํ ลภติ สหพฺยตํ’.
‘‘สาหํ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนึ ลทฺธาน มานุสึ;
วทฺู สีลสมฺปนฺนา, กาหามิ กุสลํ พหุํ;
ทาเนน สมจริยาย, สํยเมน ทเมน จ.
‘‘อารามานิ จ โรปิสฺสํ, ทุคฺเค สงฺกมนานิ จ;
ปปฺจ อุทปานฺจ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
‘‘จาตุทฺทสึ ¶ ปฺจทสึ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี;
ปาฏิหาริยปกฺขฺจ, อฏฺงฺคสุสมาคตํ.
‘‘อุโปสถํ อุปวสิสฺสํ, สทา สีเลสุ สํวุตา;
น จ ทาเน ปมชฺชิสฺสํ, สามํ ทิฏฺมิทํ มยา’’ติ.
อิจฺเจวํ ¶ วิปฺปลปนฺตึ, ผนฺทมานํ ตโต ตโต;
ขิปึสุ นิรเย โฆเร, อุทฺธํปาทํ อวํสิรํ.
‘‘อหํ ปุเร มจฺฉรินี อโหสึ, ปริภาสิกา สมณพฺราหฺมณานํ;
วิตเถน จ สามิกํ วฺจยิตฺวา, ปจฺจามหํ นิรเย โฆรรูเป’’ติ.
เรวตีเปตวตฺถุ จตุตฺถํ.
๕. อุจฺฉุเปตวตฺถุ
‘‘อิทํ ¶ มม อุจฺฉุวนํ มหนฺตํ, นิพฺพตฺตติ ปฺุผลํ อนปฺปกํ;
ตํ ทานิ เม น [น ทานิ เม ตํ (สี. ก.)] ปริโภคเมติ, อาจิกฺข ภนฺเต กิสฺส อยํ วิปาโก.
‘‘หฺามิ [วิหฺามิ (ก.)] ขชฺชามิ จ วายมามิ, ปริสกฺกามิ ปริภฺุชิตุํ กิฺจิ;
สฺวาหํ ฉินฺนถาโม กปโณ ลาลปามิ, กิสฺส [กิสฺสสฺส (สี.), กิสฺสสฺสุ (?)] กมฺมสฺส อยํ วิปาโก.
‘‘วิฆาโต จาหํ ปริปตามิ ฉมายํ, ปริวตฺตามิ วาริจโรว ฆมฺเม;
รุทโต จ เม [ทูรโต จ เม (สฺยา. ก.)] อสฺสุกา นิคฺคลนฺติ, อาจิกฺข ภนฺเต กิสฺส อยํ วิปาโก.
‘‘ฉาโต ¶ กิลนฺโต จ ปิปาสิโต จ, สนฺตสฺสิโต ¶ สาตสุขํ น วินฺเท;
ปุจฺฉามิ ตํ เอตมตฺถํ ภทนฺเต, กถํ นุ อุจฺฉุปริโภคํ ลเภยฺย’’นฺติ.
‘‘ปุเร ตุวํ กมฺมมกาสิ อตฺตนา, มนุสฺสภูโต ปุริมาย ชาติยา;
อหฺจ ตํ เอตมตฺถํ วทามิ, สุตฺวาน ตฺวํ เอตมตฺถํ วิชาน.
‘‘อุจฺฉุํ ¶ ตุวํ ขาทมาโน ปยาโต, ปุริโส จ เต ปิฏฺิโต อนฺวคจฺฉิ;
โส จ ตํ ปจฺจาสนฺโต กเถสิ, ตสฺส ตุวํ น กิฺจิ อาลปิตฺถ.
‘‘โส จ ตํ อภณนฺตํ อยาจิ, ‘เทหยฺย อุจฺฉุ’นฺติ จ ตํ อโวจ;
ตสฺส ตุวํ ปิฏฺิโต อุจฺฉุํ อทาสิ, ตสฺเสตํ กมฺมสฺส อยํ วิปาโก.
‘‘อิงฺฆ ตฺวํ คนฺตฺวาน ปิฏฺิโต คณฺเหยฺยาสิ [อิงฺฆ ตฺวํ ปิฏฺิโต คณฺห อุจฺฉุํ (สี.)], คเหตฺวาน ตํ ขาทสฺสุ ยาวทตฺถํ;
เตเนว ตฺวํ อตฺตมโน ภวิสฺสสิ, หฏฺโ จุทคฺโค จ ปโมทิโต จา’’ติ.
คนฺตฺวาน ¶ โส ปิฏฺิโต อคฺคเหสิ, คเหตฺวาน ตํ ขาทิ ยาวทตฺถํ;
เตเนว โส อตฺตมโน อโหสิ, หฏฺโ จุทคฺโค จ ปโมทิโต จาติ.
อุจฺฉุเปตวตฺถุ ปฺจมํ.
๖. กุมารเปตวตฺถุ
‘‘สาวตฺถิ ¶ ¶ นาม นครํ, หิมวนฺตสฺส ปสฺสโต;
ตตฺถ อาสุํ ทฺเว กุมารา, ราชปุตฺตาติ เม สุตํ.
‘‘สมฺมตฺตา ¶ [ปมตฺตา (ก.)] รชนีเยสุ, กามสฺสาทาภินนฺทิโน;
ปจฺจุปฺปนฺนสุเข คิทฺธา, น เต ปสฺสึสุนาคตํ.
‘‘เต จุตา จ มนุสฺสตฺตา, ปรโลกํ อิโต คตา;
เตธ โฆเสนฺตฺยทิสฺสนฺตา, ปุพฺเพ ทุกฺกฏมตฺตโน.
‘‘‘พหูสุ วต [พหุสฺสุเตสุ (สี. ก.)] สนฺเตสุ, เทยฺยธมฺเม อุปฏฺิเต;
นาสกฺขิมฺหา จ อตฺตานํ, ปริตฺตํ กาตุํ สุขาวหํ.
‘‘‘กึ ตโต ปาปกํ อสฺส, ยํ โน ราชกุลา จุตา;
อุปปนฺนา เปตฺติวิสยํ, ขุปฺปิปาสสมปฺปิตา [ขุปฺปิปาสาสมปฺปิตา (สี. ปี.)].
‘‘สามิโน อิธ หุตฺวาน, โหนฺติ อสามิโน ตหึ;
ภมนฺติ [จรนฺติ (สี. ปี.), มรนฺติ (สฺยา.)] ขุปฺปิปาสาย, มนุสฺสา อุนฺนโตนตา.
‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, อิสฺสรมทสมฺภวํ;
ปหาย ¶ อิสฺสรมทํ, ภเว สคฺคคโต นโร;
กายสฺส เภทา สปฺปฺโ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตี’’ติ.
กุมารเปตวตฺถุ ฉฏฺํ.
๗. ราชปุตฺตเปตวตฺถุ
ปุพฺเพ ¶ กตานํ กมฺมานํ, วิปาโก มถเย มนํ;
รูเป สทฺเท รเส คนฺเธ, โผฏฺพฺเพ จ มโนรเม.
นจฺจํ คีตํ รตึ ขิฑฺฑํ, อนุภุตฺวา อนปฺปกํ;
อุยฺยาเน ปริจริตฺวา, ปวิสนฺโต คิริพฺพชํ.
อิสึ สุเนตฺต [สุนิต (ก.)] มทฺทกฺขิ, อตฺตทนฺตํ สมาหิตํ;
อปฺปิจฺฉํ หิริสมฺปนฺนํ, อฺุเฉ ปตฺตคเต รตํ.
หตฺถิกฺขนฺธโต โอรุยฺห, ลทฺธา ภนฺเตติ จาพฺรวิ;
ตสฺส ปตฺตํ คเหตฺวาน, อุจฺจํ ปคฺคยฺห ขตฺติโย.
ถณฺฑิเล ¶ ปตฺตํ ภินฺทิตฺวา, หสมาโน อปกฺกมิ;
‘‘รฺโ กิตวสฺสาหํ ปุตฺโต, กึ มํ ภิกฺขุ กริสฺสสิ’’.
ตสฺส ¶ กมฺมสฺส ผรุสสฺส, วิปาโก กฏุโก อหุ;
ยํ ราชปุตฺโต เวเทสิ, นิรยมฺหิ สมปฺปิโต.
ฉเฬว จตุราสีติ, วสฺสานิ นวุตานิ จ;
ภุสํ ทุกฺขํ นิคจฺฉิตฺโถ, นิรเย กตกิพฺพิโส.
อุตฺตาโนปิ จ ปจฺจิตฺถ, นิกุชฺโช วามทกฺขิโณ;
อุทฺธํปาโท ิโต เจว, จิรํ พาโล อปจฺจถ.
พหูนิ ¶ วสฺสสหสฺสานิ, ปูคานิ นหุตานิ จ;
ภุสํ ทุกฺขํ นิคจฺฉิตฺโถ, นิรเย กตกิพฺพิโส.
เอตาทิสํ โข กฏุกํ, อปฺปทุฏฺปฺปโทสินํ;
ปจฺจนฺติ ปาปกมฺมนฺตา, อิสิมาสชฺช สุพฺพตํ.
โส ตตฺถ พหุวสฺสานิ, เวทยิตฺวา พหุํ ทุขํ;
ขุปฺปิปาสหโต นาม [ขุปฺปิปาสาหโต นาม (สี. ปี)], เปโต อาสิ ตโต จุโต.
เอตมาทีนวํ ตฺวา [ทิสฺวา (สี.)], อิสฺสรมทสมฺภวํ;
ปหาย อิสฺสรมทํ, นิวาตมนุวตฺตเย.
ทิฏฺเว ธมฺเม ปาสํโส, โย พุทฺเธสุ สคารโว;
กายสฺส เภทา สปฺปฺโ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตีติ.
ราชปุตฺตเปตวตฺถุ สตฺตมํ.
๘. คูถขาทกเปตวตฺถุ
‘‘คูถกูปโต ¶ อุคฺคนฺตฺวา, โก นุ ทีโน ปติฏฺสิ [ทีโน หิ ติฏฺสิ (สี.)];
นิสฺสํสยํ ปาปกมฺมนฺโต, กึ นุ สทฺทหเส ตุว’’นฺติ.
‘‘อหํ ภทนฺเต เปโตมฺหิ, ทุคฺคโต ยมโลกิโก;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คโต’’.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉสี’’ติ.
‘‘อหุ ¶ อาวาสิโก มยฺหํ, อิสฺสุกี กุลมจฺฉรี;
อชฺโฌสิโต มยฺหํ ฆเร, กทริโย ปริภาสโก.
‘‘ตสฺสาหํ ¶ ¶ วจนํ สุตฺวา, ภิกฺขโว ปริภาสิสํ;
ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คโต’’ติ.
‘‘อมิตฺโต มิตฺตวณฺเณน, โย เต อาสิ กุลูปโก;
กายสฺส เภทา ทุปฺปฺโ, กึ นุ เปจฺจ คตึ คโต’’ติ.
‘‘ตสฺเสวาหํ ปาปกมฺมสฺส, สีเส ติฏฺามิ มตฺถเก;
โส จ ปรวิสยํ ปตฺโต, มเมว ปริจารโก.
‘‘ยํ ภทนฺเต หทนฺตฺเ, เอตํ เม โหติ โภชนํ;
อหฺจ โข ยํ หทามิ, เอตํ โส อุปชีวตี’’ติ.
คูถขาทกเปตวตฺถุ อฏฺมํ.
๙. คูถขาทกเปติวตฺถุ
‘‘คูถกูปโต ¶ อุคฺคนฺตฺวา, กา นุ ทีนา ปติฏฺสิ;
นิสฺสํสยํ ปาปกมฺมนฺตา, กึ นุ สทฺทหเส ตุว’’นฺติ.
‘‘อหํ ภทนฺเต เปตีมฺหิ, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉสี’’ติ.
‘‘อหุ อาวาสิโก มยฺหํ, อิสฺสุกี กุลมจฺฉรี;
อชฺโฌสิโต มยฺหํ ฆเร, กทริโย ปริภาสโก.
‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, ภิกฺขโว ปริภาสิสํ;
ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘อมิตฺโต ¶ มิตฺตวณฺเณน, โย เต อาสิ กุลูปโก;
กายสฺส เภทา ทุปฺปฺโ, กึ นุ เปจฺจ คตึ คโต’’ติ.
‘‘ตสฺเสวาหํ ปาปกมฺมสฺส, สีเส ติฏฺามิ มตฺถเก;
โส จ ปรวิสยํ ปตฺโต, มเมว ปริจารโก.
‘‘ยํ ¶ ภทนฺเต หทนฺตฺเ, เอตํ เม โหติ โภชนํ;
อหฺจ โข ยํ หทามิ, เอตํ โส อุปชีวตี’’ติ.
คูถขาทกเปติวตฺถุ นวมํ.
๑๐. คณเปตวตฺถุ
‘‘นคฺคา ¶ ทุพฺพณฺณรูปาตฺถ, กิสา ธมนิสนฺถตา;
อุปฺผาสุลิกา [อุปฺปาสุฬิกา (ก.)] กิสิกา, เก นุ ตุมฺเหตฺถ มาริสา’’ติ.
‘‘มยํ ภทนฺเต เปตามฺหา, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘กึ ¶ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.
‘‘อนาวเฏสุ ติตฺเถสุ, วิจินิมฺหทฺธมาสกํ;
สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากมฺห อตฺตโน.
‘‘นทึ อุเปม ตสิตา, ริตฺตกา ปริวตฺตติ;
ฉายํ อุเปม อุณฺเหสุ, อาตโป ปริวตฺตติ.
‘‘อคฺคิวณฺโณ จ โน วาโต, ฑหนฺโต อุปวายติ;
เอตฺจ ภนฺเต อรหาม, อฺฺจ ปาปกํ ตโต.
‘‘อปิ โยชนานิ [อธิโยชนานิ (สี. ก.)] คจฺฉาม, ฉาตา อาหารเคธิโน;
อลทฺธาว ¶ นิวตฺตาม, อโห โน อปฺปปฺุตา.
‘‘ฉาตา ปมุจฺฉิตา ภนฺตา, ภูมิยํ ปฏิสุมฺภิตา;
อุตฺตานา ปฏิกิราม, อวกุชฺชา ปตามเส.
‘‘เต จ ตตฺเถว ปติตา [ตตฺถ ปปหิตา (ก.)], ภูมิยํ ปฏิสุมฺภิตา;
อุรํ สีสฺจ ฆฏฺเฏม, อโห โน อปฺปปฺุตา.
‘‘เอตฺจ ภนฺเต อรหาม, อฺฺจ ปาปกํ ตโต;
สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากมฺห อตฺตโน.
‘‘เต หิ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนึ ลทฺธาน มานุสึ;
วทฺู สีลสมฺปนฺนา, กาหาม กุสลํ พหุ’’นฺติ.
คณเปตวตฺถุ ทสมํ.
๑๑. ปาฏลิปุตฺตเปตวตฺถุ
‘‘ทิฏฺา ¶ ¶ ¶ ตยา นิรยา ติรจฺฉานโยนิ,
เปตา อสุรา อถวาปิ มานุสา เทวา; สยมทฺทส กมฺมวิปากมตฺตโน,
เนสฺสามิ ตํ ปาฏลิปุตฺตมกฺขตํ; ตตฺถ คนฺตฺวา กุสลํ กโรหิ กมฺมํ’’.
‘‘อตฺถกาโมสิ เม ยกฺข, หิตกาโมสิ เทวเต;
กโรมิ ตุยฺหํ วจนํ, ตฺวํสิ อาจริโย มม.
‘‘ทิฏฺา มยา นิรยา ติรจฺฉานโยนิ, เปตา อสุรา อถวาปิ มานุสา เทวา;
สยมทฺทสํ ¶ กมฺมวิปากมตฺตโน, กาหามิ ปฺุานิ อนปฺปกานี’’ติ.
ปาฏลิปุตฺตเปตวตฺถุ เอกาทสมํ.
๑๒. อมฺพวนเปตวตฺถุ
‘‘อยฺจ เต โปกฺขรณี สุรมฺมา, สมา สุติตฺถา จ มโหทกา จ;
สุปุปฺผิตา ภมรคณานุกิณฺณา, กถํ ตยา ลทฺธา อยํ มนฺุา.
‘‘อิทฺจ เต อมฺพวนํ สุรมฺมํ, สพฺโพตุกํ ธารยเต [ธารยติ (สฺยา. ก.)] ผลานิ;
สุปุปฺผิตํ ภมรคณานุกิณฺณํ, กถํ ตยา ลทฺธมิทํ วิมานํ’’.
‘‘อมฺพปกฺกํ ทกํ [อมฺพปกฺโกทกํ (สี. สฺยา. ปี.), อมฺพปกฺกูทกํ (ก.)] ยาคุ, สีตจฺฉายา มโนรมา;
ธีตาย ทินฺนทาเนน, เตน เม อิธ ลพฺภติ’’.
‘‘สนฺทิฏฺิกํ ¶ กมฺมํ เอวํ [สนฺทิฏฺิกํ เอว (สฺยา.)] ปสฺสถ, ทานสฺส ทมสฺส สํยมสฺส วิปากํ;
ทาสี อหํ อยฺยกุเลสุ หุตฺวา, สุณิสา โหมิ อคารสฺส อิสฺสรา’’ติ.
อมฺพวนเปตวตฺถุ ทฺวาทสมํ.
๑๓. อกฺขรุกฺขเปตวตฺถุ
‘‘ยํ ¶ ¶ ททาติ น ตํ โหติ, เทเถว ทานํ ทตฺวา อุภยํ ตรติ;
อุภยํ เตน ทาเนน [เตน (ก.)] คจฺฉติ, ชาครถ มาปมชฺชถา’’ติ.
อกฺขรุกฺขเปตวตฺถุ เตรสมํ.
๑๔. โภคสํหรเปตวตฺถุ
‘‘มยํ ¶ โภเค สํหริมฺห, สเมน วิสเมน จ;
เต อฺเ ปริภฺุชนฺติ, มยํ ทุกฺขสฺส ภาคินี’’ติ.
โภคสํหรเปตวตฺถุ จุทฺทสมํ.
๑๕. เสฏฺิปุตฺตเปตวตฺถุ
[ชา. ๑.๔.๕๔ ชาตเกปิ] ‘‘สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;
นิรเย ปจฺจมานานํ, กทา อนฺโต ภวิสฺสติ’’.
[ชา. ๑.๔.๕๕ ชาตเกปิ] ‘‘นตฺถิ อนฺโต กุโต อนฺโต, น อนฺโต ปฏิทิสฺสติ;
ตถา หิ ปกตํ ปาปํ, ตุยฺหํ มยฺหฺจ มาริสา [มม ตุยฺหฺจ มาริส (สี. สฺยา. ปี.)].
[ชา. ๑.๔.๕๓ ชาตเกปิ] ‘‘ทุชฺชีวิตมชีวมฺห ¶ , เย สนฺเต น ททมฺหเส;
สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากมฺห อตฺตโน.
[ชา. ๑.๔.๕๖ ชาตเกปิ] ‘‘โสหํ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนึ ลทฺธาน มานุสึ;
วทฺู สีลสมฺปนฺโน, กาหามิ กุสลํ พหุ’’นฺติ.
เสฏฺิปุตฺตเปตวตฺถุ ปนฺนรสมํ.
๑๖. สฏฺิกูฏเปตวตฺถุ
‘‘กึ ¶ นุ อุมฺมตฺตรูโปว, มิโค ภนฺโตว ธาวสิ;
นิสฺสํสยํ ปาปกมฺมนฺโต [ปาปกมฺมํ (สฺยา. ปี.)], กึ นุ สทฺทายเส ตุว’’นฺติ.
‘‘อหํ ¶ ภทนฺเต เปโตมฺหิ, ทุคฺคโต ยมโลกิโก;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คโต.
‘‘สฏฺิ กูฏสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;
สีเส มยฺหํ นิปตนฺติ, เต ภินฺทนฺติ จ มตฺถก’’นฺติ.
‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.
‘‘สฏฺิ ¶ กูฏสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;
สีเส ตุยฺหํ นิปตนฺติ, เต ภินฺทนฺติ จ มตฺถก’’นฺติ.
‘‘อถทฺทสาสึ สมฺพุทฺธํ, สุเนตฺตํ ภาวิตินฺทฺริยํ;
นิสินฺนํ รุกฺขมูลสฺมึ, ฌายนฺตํ อกุโตภยํ.
‘‘สาลิตฺตกปฺปหาเรน, ภินฺทิสฺสํ ตสฺส มตฺถกํ;
ตสฺส กมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉิสํ.
‘‘สฏฺิ กูฏสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;
สีเส มยฺหํ นิปตนฺติ, เต ภินฺทนฺติ จ [นิปตนฺติ, โว ภินฺทนฺเตว (สี. ธมฺมปทฏฺกถา)] มตฺถก’’นฺติ.
‘‘ธมฺเมน เต กาปุริส, สฏฺิกูฏสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;
สีเส ตุยฺหํ นิปตนฺติ, เต ภินฺทนฺติ จ มตฺถก’’นฺติ.
สฏฺิกูฏเปตวตฺถุ โสฬสมํ.
มหาวคฺโค จตุตฺโถ นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
อมฺพสกฺกโร ¶ ¶ เสรีสโก, ปิงฺคโล เรวติ อุจฺฉุ;
ทฺเว กุมารา ทุเว คูถา, คณปาฏลิอมฺพวนํ.
อกฺขรุกฺขโภคสํหรา, เสฏฺิปุตฺตสฏฺิกูฏา;
อิติ โสฬสวตฺถูนิ, วคฺโค เตน ปวุจฺจติ.
อถ วคฺคุทฺทานํ –
อุรโค อุปริวคฺโค, จูฬมหาติ จตุธา;
วตฺถูนิ เอกปฺาสํ, จตุธา ภาณวารโต.
เปตวตฺถุปาฬิ นิฏฺิตา.