📜

๔. มหาวคฺโค

๑. อมฺพสกฺกรเปตวตฺถุ

๕๑๗.

เวสาลี นาม นครตฺถิ วชฺชีนํ, ตตฺถ อหุ ลิจฺฉวิ อมฺพสกฺกโร [อมฺพสกฺขโร (สี. สฺยา.), อปฺปสกฺกโร (ก.)];

ทิสฺวาน เปตํ นครสฺส พาหิรํ, ตตฺเถว ปุจฺฉิตฺถ ตํ การณตฺถิโก.

๕๑๘.

‘‘เสยฺยา นิสชฺชา นยิมสฺส อตฺถิ, อภิกฺกโม นตฺถิ ปฏิกฺกโม จ;

อสิตปีตขายิตวตฺถโภคา, ปริจาริกา [ปริจารณา (สี. ปี.)] สาปิ อิมสฺส นตฺถิ.

๕๑๙.

‘‘เย าตกา ทิฏฺสุตา สุหชฺชา, อนุกมฺปกา ยสฺส อเหสุํ ปุพฺเพ;

ทฏฺุมฺปิ เต ทานิ น ตํ ลภนฺติ, วิราชิตตฺโต [วิราธิตตฺโต (สี. ปี.)] หิ ชเนน เตน.

๕๒๐.

‘‘น โอคฺคตตฺตสฺส ภวนฺติ มิตฺตา, ชหนฺติ มิตฺตา วิกลํ วิทิตฺวา;

อตฺถฺจ ทิสฺวา ปริวารยนฺติ, พหู มิตฺตา อุคฺคตตฺตสฺส โหนฺติ.

๕๒๑.

‘‘นิหีนตฺโต สพฺพโภเคหิ กิจฺโฉ, สมฺมกฺขิโต สมฺปริภินฺนคตฺโต;

อุสฺสาวพินฺทูว ปลิมฺปมาโน, อชฺช สุเว ชีวิตสฺสูปโรโธ.

๕๒๒.

‘‘เอตาทิสํ อุตฺตมกิจฺฉปฺปตฺตํ, อุตฺตาสิตํ ปุจิมนฺทสฺส สูเล;

‘อถ ตฺวํ เกน วณฺเณน วเทสิ ยกฺข, ชีว โภ ชีวิตเมว เสยฺโย’’’ติ.

๕๒๓.

‘‘สาโลหิโต เอส อโหสิ มยฺหํ, อหํ สรามิ ปุริมาย ชาติยา;

ทิสฺวา จ เม การุฺมโหสิ ราช, มา ปาปธมฺโม นิรยํ ปตายํ [ปติ + อยํ = ปตายํ].

๕๒๔.

‘‘อิโต จุโต ลิจฺฉวิ เอส โปโส, สตฺตุสฺสทํ นิรยํ โฆรรูปํ;

อุปปชฺชติ ทุกฺกฏกมฺมการี, มหาภิตาปํ กฏุกํ ภยานกํ.

๕๒๕.

‘‘อเนกภาเคน คุเณน เสยฺโย, อยเมว สูโล นิรเยน เตน;

เอกนฺตทุกฺขํ กฏุกํ ภยานกํ, เอกนฺตติพฺพํ นิรยํ ปตายํ [ปเต + อยํ = ปตายํ].

๕๒๖.

‘‘อิทฺจ สุตฺวา วจนํ มเมโส, ทุกฺขูปนีโต วิชเหยฺย ปาณํ;

ตสฺมา อหํ สนฺติเก น ภณามิ, มา เม กโต ชีวิตสฺสูปโรโธ’’.

๕๒๗.

‘‘อฺาโต เอโส [อชฺฌิโต เอส (ก.)] ปุริสสฺส อตฺโถ, อฺมฺปิ อิจฺฉามเส ปุจฺฉิตุํ ตุวํ;

โอกาสกมฺมํ สเจ โน กโรสิ, ปุจฺฉาม ตํ โน น จ กุชฺฌิตพฺพ’’นฺติ.

๕๒๘.

‘‘อทฺธา ปฏิฺา เม ตทา อหุ [ปฏิฺาตเมตํ ตทาหุ (ก.), ปฏิฺา น เมเต ตทา อหุ (?)], นาจิกฺขนา อปฺปสนฺนสฺส โหติ;

อกามา สทฺเธยฺยวโจติ กตฺวา, ปุจฺฉสฺสุ มํ กามํ ยถา วิสยฺห’’นฺติ [วิสยํ (ก.)].

๕๒๙.

‘‘ยํ กิฺจหํ จกฺขุนา ปสฺสิสฺสามิ [ปสฺสามิ (ก.)], สพฺพมฺปิ ตาหํ อภิสทฺทเหยฺยํ;

ทิสฺวาว ตํ โนปิ เจ สทฺทเหยฺยํ, กเรยฺยาสิ [กโรหิ (กตฺถจิ)] เม ยกฺข นิยสฺสกมฺม’’นฺติ.

๕๓๐.

‘‘สจฺจปฺปฏิฺา ตว เมสา โหตุ, สุตฺวาน ธมฺมํ ลภ สุปฺปสาทํ;

อฺตฺถิโก โน จ ปทุฏฺจิตฺโต, ยํ เต สุตํ อสุตฺจาปิ ธมฺมํ;

สพฺพมฺปิ อกฺขิสฺสํ [สพฺพํ อาจิกฺขิสฺสํ (สี.)] ยถา ปชานนฺติ.

๕๓๑.

‘‘เสเตน อสฺเสน อลงฺกเตน, อุปยาสิ สูลาวุตกสฺส สนฺติเก;

ยานํ อิทํ อพฺภุตํ ทสฺสเนยฺยํ, กิสฺเสตํ กมฺมสฺส อยํ วิปาโก’’ติ.

๕๓๒.

‘‘เวสาลิยา นครสฺส [ตสฺส นครสฺส (สี. สฺยา. ปี.)] มชฺเฌ, จิกฺขลฺลมคฺเค นรกํ อโหสิ;

โคสีสเมกาหํ ปสนฺนจิตฺโต, เสตํ [เสตุํ (สฺยา. ก.)] คเหตฺวา นรกสฺมึ นิกฺขิปึ.

๕๓๓.

‘‘เอตสฺมึ ปาทานิ ปติฏฺเปตฺวา, มยฺจ อฺเ จ อติกฺกมิมฺหา;

ยานํ อิทํ อพฺภุตํ ทสฺสเนยฺยํ, ตสฺเสว กมฺมสฺส อยํ วิปาโก’’ติ.

๕๓๔.

‘‘วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสติ, คนฺโธ จ เต สพฺพทิสา ปวายติ;

ยกฺขิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, นคฺโค จาสิ กิสฺส อยํ วิปาโก’’ติ.

๕๓๕.

‘‘อกฺโกธโน นิจฺจปสนฺนจิตฺโต, สณฺหาหิ วาจาหิ ชนํ อุเปมิ;

ตสฺเสว กมฺมสฺส อยํ วิปาโก, ทิพฺโพ เม วณฺโณ สตตํ ปภาสติ.

๕๓๖.

‘‘ยสฺจ กิตฺติฺจ ธมฺเม ิตานํ, ทิสฺวาน มนฺเตมิ [ทิสฺวา สมนฺเตมิ (ก.)] ปสนฺนจิตฺโต;

ตสฺเสว กมฺมสฺส อยํ วิปาโก, ทิพฺโพ เม คนฺโธ สตตํ ปวายติ.

๕๓๗.

‘‘สหายานํ ติตฺถสฺมึ นฺหายนฺตานํ, ถเล คเหตฺวา นิทหิสฺส ทุสฺสํ;

ขิฑฺฑตฺถิโก โน จ ปทุฏฺจิตฺโต, เตนมฺหิ นคฺโค กสิรา จ วุตฺตี’’ติ.

๕๓๘.

‘‘โย กีฬมาโน ปกโรติ ปาปํ, ตสฺเสทิสํ กมฺมวิปากมาหุ;

อกีฬมาโน ปน โย กโรติ, กึ ตสฺส กมฺมสฺส วิปากมาหู’’ติ.

๕๓๙.

‘‘เย ทุฏฺสงฺกปฺปมนา มนุสฺสา, กาเยน วาจาย จ สงฺกิลิฏฺา;

กายสฺส เภทา อภิสมฺปรายํ, อสํสยํ เต นิรยํ อุเปนฺติ.

๕๔๐.

‘‘อปเร ปน สุคติมาสมานา, ทาเน รตา สงฺคหิตตฺตภาวา;

กายสฺส เภทา อภิสมฺปรายํ, อสํสยํ เต สุคตึ อุเปนฺตี’’ติ.

๕๔๑.

‘‘ตํ กินฺติ ชาเนยฺยมหํ อเวจฺจ, กลฺยาณปาปสฺส อยํ วิปาโก;

กึ วาหํ ทิสฺวา อภิสทฺทเหยฺยํ, โก วาปิ มํ สทฺทหาเปยฺย เอต’’นฺติ.

๕๔๒.

‘‘ทิสฺวา จ สุตฺวา อภิสทฺทหสฺสุ, กลฺยาณปาปสฺส อยํ วิปาโก;

กลฺยาณปาเป อุภเย อสนฺเต, สิยา นุ สตฺตา สุคตา ทุคฺคตา วา.

๕๔๓.

‘‘โน เจตฺถ กมฺมานิ กเรยฺยุํ มจฺจา, กลฺยาณปาปานิ มนุสฺสโลเก;

นาเหสุํ สตฺตา สุคตา ทุคฺคตา วา, หีนา ปณีตา จ มนุสฺสโลเก.

๕๔๔.

‘‘ยสฺมา จ กมฺมานิ กโรนฺติ มจฺจา, กลฺยาณปาปานิ มนุสฺสโลเก;

ตสฺมา หิ สตฺตา สุคตา ทุคฺคตา วา, หีนา ปณีตา จ มนุสฺสโลเก.

๕๔๕.

‘‘ทฺวยชฺช กมฺมานํ วิปากมาหุ, สุขสฺส ทุกฺขสฺส จ เวทนียํ;

ตา เทวตาโย ปริจารยนฺติ, ปจฺจนฺติ พาลา ทฺวยตํ อปสฺสิโน.

๕๔๖.

‘‘น มตฺถิ กมฺมานิ สยํกตานิ, ทตฺวาปิ เม นตฺถิ โย [โส (สพฺพตฺถ)] อาทิเสยฺย;

อจฺฉาทนํ สยนมถนฺนปานํ, เตนมฺหิ นคฺโค กสิรา จ วุตฺตี’’ติ.

๕๔๗.

‘‘สิยา นุ โข การณํ กิฺจิ ยกฺข, อจฺฉาทนํ เยน ตุวํ ลเภถ;

อาจิกฺข เม ตฺวํ ยทตฺถิ เหตุ, สทฺธายิกํ [สทฺธายิตํ (สี. ปี.)] เหตุวโจ สุโณมา’’ติ.

๕๔๘.

‘‘กปฺปิตโก [กปฺปินโก (สี.)] นาม อิธตฺถิ ภิกฺขุ, ฌายี สุสีโล อรหา วิมุตฺโต;

คุตฺตินฺทฺริโย สํวุตปาติโมกฺโข, สีติภูโต อุตฺตมทิฏฺิปตฺโต.

๕๔๙.

‘‘สขิโล วทฺู สุวโจ สุมุโข, สฺวาคโม สุปฺปฏิมุตฺตโก จ;

ปุฺสฺส เขตฺตํ อรณวิหารี, เทวมนุสฺสานฺจ ทกฺขิเณยฺโย.

๕๕๐.

‘‘สนฺโต วิธูโม อนีโฆ นิราโส, มุตฺโต วิสลฺโล อมโม อวงฺโก;

นิรูปธี สพฺพปปฺจขีโณ, ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺโต ชุติมา.

๕๕๑.

‘‘อปฺปฺาโต ทิสฺวาปิ น จ สุชาโน, มุนีติ นํ วชฺชิสุ โวหรนฺติ;

ชานนฺติ ตํ ยกฺขภูตา อเนชํ, กลฺยาณธมฺมํ วิจรนฺตํ โลเก.

๕๕๒.

‘‘ตสฺส ตุวํ เอกยุคํ ทุเว วา, มมุทฺทิสิตฺวาน สเจ ทเทถ;

ปฏิคฺคหีตานิ จ ตานิ อสฺสุ, มมฺจ ปสฺเสถ สนฺนทฺธทุสฺส’’นฺติ.

๕๕๓.

‘‘กสฺมึ ปเทเส สมณํ วสนฺตํ, คนฺตฺวาน ปสฺเสมุ มยํ อิทานิ;

โย มชฺช [ส มชฺช (สี.)] กงฺขํ วิจิกิจฺฉิตฺจ, ทิฏฺีวิสูกานิ วิโนทเยยฺยา’’ติ.

๕๕๔.

‘‘เอโส นิสินฺโน กปินจฺจนายํ, ปริวาริโต เทวตาหิ พหูหิ;

ธมฺมึ กถํ ภาสติ สจฺจนาโม, สกสฺมิมาเจรเก อปฺปมตฺโต’’ติ.

๕๕๕.

‘‘ตถาหํ [ยถาหํ (ก.)] กสฺสามิ คนฺตฺวา อิทานิ, อจฺฉาทยิสฺสํ สมณํ ยุเคน;

ปฏิคฺคหิตานิ จ ตานิ อสฺสุ, ตุวฺจ ปสฺเสมุ สนฺนทฺธทุสฺส’’นฺติ.

๕๕๖.

‘‘มา อกฺขเณ ปพฺพชิตํ อุปาคมิ, สาธุ โว ลิจฺฉวิ เนส ธมฺโม;

ตโต จ กาเล อุปสงฺกมิตฺวา, ตตฺเถว ปสฺสาหิ รโห นิสินฺน’’นฺติ.

๕๕๗.

ตถาติ วตฺวา อคมาสิ ตตฺถ, ปริวาริโต ทาสคเณน ลิจฺฉวิ;

โส ตํ นครํ อุปสงฺกมิตฺวา, วาสูปคจฺฉิตฺถ สเก นิเวสเน.

๕๕๘.

ตโต จ กาเล คิหิกิจฺจานิ กตฺวา, นฺหตฺวา ปิวิตฺวา จ ขณํ ลภิตฺวา;

วิเจยฺย เปฬาโต จ ยุคานิ อฏฺ, คาหาปยี ทาสคเณน ลิจฺฉวิ.

๕๕๙.

โส ตํ ปเทสํ อุปสงฺกมิตฺวา, ตํ อทฺทส สมณํ สนฺตจิตฺตํ;

ปฏิกฺกนฺตํ โคจรโต นิวตฺตํ, สีติภูตํ รุกฺขมูเล นิสินฺนํ.

๕๖๐.

ตเมนมโวจ อุปสงฺกมิตฺวา, อปฺปาพาธํ ผาสุวิหารฺจ ปุจฺฉิ;

‘‘เวสาลิยํ ลิจฺฉวิหํ ภทนฺเต, ชานนฺติ มํ ลิจฺฉวิ อมฺพสกฺกโร.

๕๖๑.

‘‘อิมานิ เม อฏฺ ยุคา สุภานิ [ยุคานิ ภนฺเต (สฺยา. ก.)], ปฏิคณฺห ภนฺเต ปททามิ ตุยฺหํ;

เตเนว อตฺเถน อิธาคโตสฺมิ, ยถา อหํ อตฺตมโน ภเวยฺย’’นฺติ.

๕๖๒.

‘‘ทูรโตว สมณพฺราหฺมณา จ, นิเวสนํ เต ปริวชฺชยนฺติ;

ปตฺตานิ ภิชฺชนฺติ จ เต [ภิชฺชนฺติ ตว (สฺยา. ก.)] นิเวสเน, สงฺฆาฏิโย จาปิ วิทาลยนฺติ [วิปาฏยนฺติ (สี.), วิปาตยนฺติ (ก.)].

๕๖๓.

‘‘อถาปเร ปาทกุาริกาหิ, อวํสิรา สมณา ปาตยนฺติ;

เอตาทิสํ ปพฺพชิตา วิเหสํ, ตยา กตํ สมณา ปาปุณนฺติ.

๕๖๔.

‘‘ติเณน เตลมฺปิ น ตฺวํ อทาสิ, มูฬฺหสฺส มคฺคมฺปิ น ปาวทาสิ;

อนฺธสฺส ทณฺฑํ สยมาทิยาสิ, เอตาทิโส กทริโย อสํวุโต ตุวํ;

อถ ตฺวํ เกน วณฺเณน กิเมว ทิสฺวา,

อมฺเหหิ สห สํวิภาคํ กโรสี’’ติ.

๕๖๕.

‘‘ปจฺเจมิ ภนฺเต ยํ ตฺวํ วเทสิ, วิเหสยึ สมเณ พฺราหฺมเณ จ;

ขิฑฺฑตฺถิโก โน จ ปทุฏฺจิตฺโต, เอตมฺปิ เม ทุกฺกฏเมว ภนฺเต.

๕๖๖.

‘‘ขิฑฺฑาย ยกฺโข ปสวิตฺวา ปาปํ, เวเทติ ทุกฺขํ อสมตฺตโภคี;

ทหโร ยุวา นคฺคนิยสฺส ภาคี, กึ สุ ตโต ทุกฺขตรสฺส โหติ.

๕๖๗.

‘‘ตํ ทิสฺวา สํเวคมลตฺถํ ภนฺเต, ตปฺปจฺจยา วาปิ [ตปฺปจฺจยา ตาหํ (สี.), ตปฺปจฺจยา จาหํ (ปี.)] ททามิ ทานํ;

ปฏิคณฺห ภนฺเต วตฺถยุคานิ อฏฺ, ยกฺขสฺสิมา คจฺฉนฺตุ ทกฺขิณาโย’’ติ.

๕๖๘.

‘‘อทฺธา หิ ทานํ พหุธา ปสตฺถํ, ททโต จ เต อกฺขยธมฺมมตฺถุ;

ปฏิคณฺหามิ เต วตฺถยุคานิ อฏฺ, ยกฺขสฺสิมา คจฺฉนฺตุ ทกฺขิณาโย’’ติ.

๕๖๙.

ตโต หิ โส อาจมยิตฺวา ลิจฺฉวิ, เถรสฺส ทตฺวาน ยุคานิ อฏฺ;

‘ปฏิคฺคหิตานิ จ ตานิ อสฺสุ, ยกฺขฺจ ปสฺเสถ สนฺนทฺธทุสฺสํ’.

๕๗๐.

ตมทฺทสา จนฺทนสารลิตฺตํ, อาชฺมารูฬฺหมุฬารวณฺณํ;

อลงฺกตํ สาธุนิวตฺถทุสฺสํ, ปริวาริตํ ยกฺขมหิทฺธิปตฺตํ.

๕๗๑.

โส ตํ ทิสฺวา อตฺตมนา อุทคฺโค, ปหฏฺจิตฺโต จ สุภคฺครูโป;

กมฺมฺจ ทิสฺวาน มหาวิปากํ, สนฺทิฏฺิกํ จกฺขุนา สจฺฉิกตฺวา.

๕๗๒.

ตเมนมโวจ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘ทสฺสามิ ทานํ สมณพฺราหฺมณานํ;

น จาปิ เม กิฺจิ อเทยฺยมตฺถิ, ตุวฺจ เม ยกฺข พหูปกาโร’’ติ.

๕๗๓.

‘‘ตุวฺจ เม ลิจฺฉวิ เอกเทสํ, อทาสิ ทานานิ อโมฆเมตํ;

สฺวาหํ กริสฺสามิ ตยาว สกฺขึ, อมานุโส มานุสเกน สทฺธิ’’นฺติ.

๕๗๔.

‘‘คตี จ พนฺธู จ ปรายณฺจ [ปรายนฺจ (สฺยา. ก.)], มิตฺโต มมาสิ อถ เทวตา เม [เทวตาสิ (สี. สฺยา.)];

ยาจามิ ตํ [ยาจามหํ (สี.)] ปฺชลิโก ภวิตฺวา, อิจฺฉามิ ตํ ยกฺข ปุนาปิ ทฏฺุ’’นฺติ.

๕๗๕.

‘‘สเจ ตุวํ อสฺสทฺโธ ภวิสฺสสิ, กทริยรูโป วิปฺปฏิปนฺนจิตฺโต;

ตฺวํ เนว มํ ลจฺฉสิ [เตเนว มํ น ลจฺฉสี (สี.), เตเนว มํ ลิจฺฉวิ (สฺยา.), เตเนว มํ ลจฺฉสิ (ก.)] ทสฺสนาย, ทิสฺวา จ ตํ โนปิ จ อาลปิสฺสํ.

๕๗๖.

‘‘สเจ ปน ตฺวํ ภวิสฺสสิ ธมฺมคารโว, ทาเน รโต สงฺคหิตตฺตภาโว;

โอปานภูโต สมณพฺราหฺมณานํ, เอวํ มมํ ลจฺฉสิ ทสฺสนาย.

๕๗๗.

‘‘ทิสฺวา จ ตํ อาลปิสฺสํ ภทนฺเต, อิมฺจ สูลโต ลหุํ ปมุฺจ;

ยโต นิทานํ อกริมฺห สกฺขึ, มฺามิ สูลาวุตกสฺส การณา.

๕๗๘.

‘‘เต อฺมฺํ อกริมฺห สกฺขึ, อยฺจ สูลโต [สูลาวุโต (สี. สฺยา.)] ลหุํ ปมุตฺโต;

สกฺกจฺจ ธมฺมานิ สมาจรนฺโต, มุจฺเจยฺย โส นิรยา จ ตมฺหา;

กมฺมํ สิยา อฺตฺร เวทนียํ.

๕๗๙.

‘‘กปฺปิตกฺจ อุปสงฺกมิตฺวา, เตเนว [เตน (สฺยา. ก.)] สห สํวิภชิตฺวา กาเล;

สยํ มุเขนูปนิสชฺช ปุจฺฉ, โส เต อกฺขิสฺสติ เอตมตฺถํ.

๕๘๐.

‘‘ตเมว ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา, ปุจฺฉสฺสุ อฺตฺถิโก โน จ ปทุฏฺจิตฺโต;

โส เต สุตํ อสุตฺจาปิ ธมฺมํ,

สพฺพมฺปิ อกฺขิสฺสติ ยถา ปชาน’’นฺติ.

๕๘๑.

โส ตตฺถ รหสฺสํ สมุลฺลปิตฺวา, สกฺขึ กริตฺวาน อมานุเสน;

ปกฺกามิ โส ลิจฺฉวีนํ สกาสํ, อถ พฺรวิ ปริสํ สนฺนิสินฺนํ.

๕๘๒.

‘‘สุณนฺตุ โภนฺโต มม เอกวากฺยํ, วรํ วริสฺสํ ลภิสฺสามิ อตฺถํ;

สูลาวุโต ปุริโส ลุทฺทกมฺโม, ปณีหิตทณฺโฑ [ปณีตนณฺโฑ (ก.)] อนุสตฺตรูโป [อนุปกฺกรูโป (ก.)].

๕๘๓.

‘‘เอตฺตาวตา วีสติรตฺติมตฺตา, ยโต อาวุโต เนว ชีวติ น มโต;

ตาหํ โมจยิสฺสามิ ทานิ, ยถามตึ อนุชานาตุ สงฺโฆ’’ติ.

๕๘๔.

‘‘เอตฺจ อฺฺจ ลหุํ ปมุฺจ, โก ตํ วเทถ [วเทถาติ (ก.), วเทถ จ (สฺยา.)] ตถา กโรนฺตํ;

ยถา ปชานาสิ ตถา กโรหิ, ยถามตึ อนุชานาติ สงฺโฆ’’ติ.

๕๘๕.

โส ตํ ปเทสํ อุปสงฺกมิตฺวา, สูลาวุตํ โมจยิ ขิปฺปเมว;

‘มา ภายิ สมฺมา’ติ จ ตํ อโวจ, ติกิจฺฉกานฺจ อุปฏฺเปสิ.

๕๘๖.

‘‘กปฺปิตกฺจ อุปสงฺกมิตฺวา, เตเนว สห [เตน สมํ (สี.), เตน สห (สฺยา. ก.)] สํวิภชิตฺวา กาเล;

สยํ มุเขนูปนิสชฺช ลิจฺฉวิ, ตเถว ปุจฺฉิตฺถ นํ การณตฺถิโก.

๕๘๗.

‘‘สูลาวุโต ปุริโส ลุทฺทกมฺโม, ปณีตทณฺโฑ อนุสตฺตรูโป;

เอตฺตาวตา วีสติรตฺติมตฺตา, ยโต อาวุโต เนว ชีวติ น มโต.

๕๘๘.

‘‘โส โมจิโต คนฺตฺวา มยา อิทานิ, เอตสฺส ยกฺขสฺส วโจ หิ ภนฺเต;

สิยา นุ โข การณํ กิฺจิเทว, เยน โส นิรยํ โน วเชยฺย.

๕๘๙.

‘‘อาจิกฺข ภนฺเต ยทิ อตฺถิ เหตุ, สทฺธายิกํ เหตุวโจ สุโณม;

น เตสํ กมฺมานํ วินาสมตฺถิ, อเวทยิตฺวา อิธ พฺยนฺติภาโว’’ติ.

๕๙๐.

‘‘สเจ ส ธมฺมานิ สมาจเรยฺย, สกฺกจฺจ รตฺตินฺทิวมปฺปมตฺโต;

มุจฺเจยฺย โส นิรยา จ ตมฺหา, กมฺมํ สิยา อฺตฺร เวทนีย’’นฺติ.

๕๙๑.

‘‘อฺาโต [าโตมฺหิ (ก.)] เอโส ปุริสสฺส อตฺโถ, มมมฺปิ ทานิ อนุกมฺป ภนฺเต;

อนุสาส มํ โอวท ภูริปฺ, ยถา อหํ โน นิรยํ วเชยฺย’’นฺติ.

๕๙๒.

‘‘อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ อุเปหิ, ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ ปสนฺนจิตฺโต;

ตเถว สิกฺขาย ปทานิ ปฺจ, อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยสฺสุ.

๕๙๓.

‘‘ปาณาติปาตา วิรมสฺสุ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยสฺสุ;

อมชฺชโป มา จ มุสา อภาณี, สเกน ทาเรน จ โหหิ ตุฏฺโ;

อิมฺจ อริยํ [อิมฺจ (สฺยา.)] อฏฺงฺควเรนุเปตํ, สมาทิยาหิ กุสลํ สุขุทฺรยํ.

๕๙๔.

‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;

อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จ;

ททาหิ อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา [สทา ปุฺํ ปวฑฺฒติ (สฺยา. ก.)].

๕๙๕.

‘‘ภิกฺขูปิ สีลสมฺปนฺเน, วีตราเค พหุสฺสุเต;

ตปฺเปหิ อนฺนปาเนน, สทา ปุฺํ ปวฑฺฒติ.

๕๙๖.

‘‘เอวฺจ ธมฺมานิ [กมฺมานิ (สี. สฺยา.)] สมาจรนฺโต, สกฺกจฺจ รตฺตินฺทิวมปฺปมตฺโต;

มุฺจ ตุวํ [มุจฺเจยฺย โส ตฺวํ (ก.)] นิรยา จ ตมฺหา, กมฺมํ สิยา อฺตฺร เวทนีย’’นฺติ.

๕๙๗.

‘‘อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ อุเปมิ, ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ ปสนฺนจิตฺโต;

ตเถว สิกฺขาย ปทานิ ปฺจ, อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยามิ.

๕๙๘.

‘‘ปาณาติปาตา วิรมามิ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยามิ;

อมชฺชโป โน จ มุสา ภณามิ, สเกน ทาเรน จ โหมิ ตุฏฺโ;

อิมฺจ อริยํ อฏฺงฺควเรนุเปตํ, สมาทิยามิ กุสลํ สุขุทฺรยํ.

๕๙๙.

‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;

อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จ.

๖๐๐.

‘‘ภิกฺขู จ สีลสมฺปนฺเน, วีตราเค พหุสฺสุเต;

ททามิ น วิกมฺปามิ [วิกปฺปามิ (สี. สฺยา.)], พุทฺธานํ สาสเน รโต’’ติ.

๖๐๑.

เอตาทิสา ลิจฺฉวิ อมฺพสกฺกโร, เวสาลิยํ อฺตโร อุปาสโก;

สทฺโธ มุทู การกโร จ ภิกฺขุ, สงฺฆฺจ สกฺกจฺจ ตทา อุปฏฺหิ.

๖๐๒.

สูลาวุโต จ อโรโค หุตฺวา, เสรี สุขี ปพฺพชฺชํ อุปาคมิ [ปพฺพชฺชมุปคจฺฉิ (ก.)];

ภิกฺขุฺจ อาคมฺม กปฺปิตกุตฺตมํ, อุโภปิ สามฺผลานิ อชฺฌคุํ.

๖๐๓.

เอตาทิสา สปฺปุริสาน เสวนา, มหปฺผลา โหติ สตํ วิชานตํ;

สูลาวุโต อคฺคผลํ อผสฺสยิ [ผุสฺสยิ (สฺยา. ก.)], ผลํ กนิฏฺํ ปน อมฺพสกฺกโร’’ติ.

อมฺพสกฺกรเปตวตฺถุ ปมํ.

๒. เสรีสกเปตวตฺถุ

๖๐๔.

[วิ. ว. ๑๒๒๘] สุโณถ ยกฺขสฺส วาณิชาน จ, สมาคโม ยตฺถ ตทา อโหสิ;

ยถา กถํ อิตริตเรน จาปิ, สุภาสิตํ ตฺจ สุณาถ สพฺเพ.

๖๐๕.

โย โส อหุ ราชา ปายาสิ นาม [นาโม (สี.)], ภุมฺมานํ สหพฺยคโต ยสสฺสี;

โส โมทมาโนว สเก วิมาเน, อมานุโส มานุเส อชฺฌภาสีติ.

๖๐๖.

‘‘วงฺเก อรฺเ อมนุสฺสฏฺาเน, กนฺตาเร อปฺโปทเก อปฺปภกฺเข;

สุทุคฺคเม วณฺณุปถสฺส มชฺเฌ, วงฺกํภยา นฏฺมนา มนุสฺสา.

๖๐๗.

‘‘นยิธ ผลา มูลมยา จ สนฺติ, อุปาทานํ นตฺถิ กุโตธ ภกฺโข [ภิกฺโข (ก.)];

อฺตฺร ปํสูหิ จ วาลุกาหิ จ, ตตาหิ อุณฺหาหิ จ ทารุณาหิ จ.

๖๐๘.

‘‘อุชฺชงฺคลํ ตตฺตมิวํ กปาลํ, อนายสํ ปรโลเกน ตุลฺยํ;

ลุทฺทานมาวาสมิทํ ปุราณํ, ภูมิปฺปเทโส อภิสตฺตรูโป.

๖๐๙.

‘‘‘อถ ตุมฺเห เกน วณฺเณน, กิมาสมานา อิมํ ปเทสํ หิ;

อนุปวิฏฺา สหสา สมจฺจ, โลภา ภยา อถ วา สมฺปมูฬฺหา’’’ติ.

๖๑๐.

‘‘มคเธสุ องฺเคสุ จ สตฺถวาหา, อาโรปยิตฺวา ปณิยํ ปุถุตฺตํ;

เต ยามเส สินฺธุโสวีรภูมึ, ธนตฺถิกา อุทฺทยํ ปตฺถยานา.

๖๑๑.

‘‘ทิวา ปิปาสํ นธิวาสยนฺตา, โยคฺคานุกมฺปฺจ สเมกฺขมานา;

เอเตน เวเคน อายาม สพฺเพ, รตฺตึ มคฺคํ ปฏิปนฺนา วิกาเล.

๖๑๒.

‘‘เต ทุปฺปยาตา อปรทฺธมคฺคา, อนฺธากุลา วิปฺปนฏฺา อรฺเ;

สุทุคฺคเม วณฺณุปถสฺส มชฺเฌ, ทิสํ น ชานาม ปมูฬฺหจิตฺตา.

๖๑๓.

‘‘อิทฺจ ทิสฺวาน อทิฏฺปุพฺพํ, วิมานเสฏฺฺจ ตวฺจ ยกฺข;

ตตุตฺตรึ ชีวิตมาสมานา, ทิสฺวา ปตีตา สุมนา อุทคฺคา’’ติ.

๖๑๔.

‘‘ปารํ สมุทฺทสฺส อิมฺจ วณฺณุํ, เวตฺตาจรํ [เวตฺตํ ปรํ (สฺยา.), เวตฺตาจารํ (ก.)] สงฺกุปถฺจ มคฺคํ;

นทิโย ปน ปพฺพตานฺจ ทุคฺคา, ปุถุทฺทิสา คจฺฉถ โภคเหตุ.

๖๑๕.

‘‘ปกฺขนฺทิยาน วิชิตํ ปเรสํ, เวรชฺชเก มานุเส เปกฺขมานา;

ยํ โว สุตํ วา อถ วาปิ ทิฏฺํ, อจฺเฉรกํ ตํ โว สุโณม ตาตา’’ติ.

๖๑๖.

‘‘อิโตปิ อจฺเฉรตรํ กุมาร, น โน สุตํ วา อถ วาปิ ทิฏฺํ;

อตีตมานุสฺสกเมว สพฺพํ, ทิสฺวา น ตปฺปาม อโนมวณฺณํ.

๖๑๗.

‘‘เวหายสํ โปกฺขรฺโ สวนฺติ, ปหูตมลฺยา [ปหูตมาลฺยา (สฺยา.)] พหุปุณฺฑรีกา;

ทุมา จิเม นิจฺจผลูปปนฺนา, อตีว คนฺธา สุรภึ ปวายนฺติ.

๖๑๘.

‘‘เวฬูริยถมฺภา สตมุสฺสิตาเส, สิลาปวาฬสฺส จ อายตํสา;

มสารคลฺลา สหโลหิตงฺคา, ถมฺภา อิเม โชติรสามยาเส.

๖๑๙.

‘‘สหสฺสถมฺภํ อตุลานุภาวํ, เตสูปริ สาธุมิทํ วิมานํ;

รตนนฺตรํ กฺจนเวทิมิสฺสํ, ตปนียปฏฺเฏหิ จ สาธุฉนฺนํ.

๖๒๐.

‘‘ชมฺโพนทุตฺตตฺตมิทํ สุมฏฺโ, ปาสาทโสปาณผลูปปนฺโน;

ทฬฺโห จ วคฺคุ จ สุสงฺคโต จ [วคฺคุ สุมุโข สุสงฺคโต (สี.)], อตีว นิชฺฌานขโม มนุฺโ.

๖๒๑.

‘‘รตนนฺตรสฺมึ พหุอนฺนปานํ, ปริวาริโต อจฺฉราสงฺคเณน;

มุรชอาลมฺพรตูริยฆุฏฺโ, อภิวนฺทิโตสิ ถุติวนฺทนาย.

๖๒๒.

‘‘โส โมทสิ นาริคณปฺปโพธโน, วิมานปาสาทวเร มโนรเม;

อจินฺติโย สพฺพคุณูปปนฺโน, ราชา ยถา เวสฺสวโณ นฬินฺยา [นฬิฺํ (ก.)].

๖๒๓.

‘‘เทโว นุ อาสิ อุทวาสิ ยกฺโข, อุทาหุ เทวินฺโท มนุสฺสภูโต;

ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, อาจิกฺข โก นาม ตุวํสิ ยกฺโข’’ติ.

๖๒๔.

‘‘เสรีสโก นาม อหมฺหิ ยกฺโข, กนฺตาริโย วณฺณุปถมฺหิ คุตฺโต;

อิมํ ปเทสํ อภิปาลยามิ, วจนกโร เวสฺสวณสฺส รฺโ’’ติ.

๖๒๕.

‘‘อธิจฺจลทฺธํ ปริณามชํ เต, สยํ กตํ อุทาหุ เทเวหิ ทินฺนํ;

ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, กถํ ตยา ลทฺธมิทํ มนุฺ’’นฺติ.

๖๒๖.

‘‘นาธิจฺจลทฺธํ น ปริณามชํ เม, น สยํ กตํ น หิ เทเวหิ ทินฺนํ;

สเกหิ กมฺเมหิ อปาปเกหิ, ปุฺเหิ เม ลทฺธมิทํ มนุฺ’’นฺติ.

๖๒๗.

‘‘กึ เต วตํ กึ ปน พฺรหฺมจริยํ, กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, กถํ ตยา ลทฺธมิทํ วิมาน’’นฺติ.

๖๒๘.

‘‘มมํ ปายาสีติ อหุ สมฺา, รชฺชํ ยทา การยึ โกสลานํ;

นตฺถิกทิฏฺิ กทริโย ปาปธมฺโม, อุจฺเฉทวาที จ ตทา อโหสึ.

๖๒๙.

‘‘สมโณ จ โข อาสิ กุมารกสฺสโป, พหุสฺสุโต จิตฺตกถี อุฬาโร;

โส เม ตทา ธมฺมกถํ อภาสิ, ทิฏฺิวิสูกานิ วิโนทยี เม.

๖๓๐.

‘‘ตาหํ ตสฺส ธมฺมกถํ สุณิตฺวา, อุปาสกตฺตํ ปฏิเทวยิสฺสํ;

ปาณาติปาตา วิรโต อโหสึ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยิสฺสํ;

อมชฺชโป โน จ มุสา อภาณึ, สเกน ทาเรน จ อโหสิ ตุฏฺโ.

๖๓๑.

‘‘ตํ เม วตํ ตํ ปน พฺรหฺมจริยํ, ตสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

เตเหว กมฺเมหิ อปาปเกหิ, ปุฺเหิ เม ลทฺธมิทํ วิมาน’’นฺติ.

๖๓๒.

‘‘สจฺจํ กิราหํสุ นรา สปฺา, อนฺถา วจนํ ปณฺฑิตานํ;

ยหึ ยหึ คจฺฉติ ปุฺกมฺโม, ตหึ ตหึ โมทติ กามกามี.

๖๓๓.

‘‘ยหึ ยหึ โสกปริทฺทโว จ, วโธ จ พนฺโธ จ ปริกฺกิเลโส;

ตหึ ตหึ คจฺฉติ ปาปกมฺโม, น มุจฺจติ ทุคฺคติยา กทาจี’’ติ.

๖๓๔.

‘‘สมฺมูฬฺหรูโปว ชโน อโหสิ, อสฺมึ มุหุตฺเต กลลีกโตว;

ชนสฺสิมสฺส ตุยฺหฺจ กุมาร, อปฺปจฺจโย เกน นุ โข อโหสี’’ติ.

๖๓๕.

‘‘อิเม จ สิรีสวนา [อิเม สิรีสูปวนา จ (สี.), อิเมปิ สิรีสวนา จ (ปี. ก.)] ตาตา, ทิพฺพา คนฺธา สุรภี สมฺปวนฺติ;

เต สมฺปวายนฺติ อิมํ วิมานํ, ทิวา จ รตฺโต จ ตมํ นิหนฺตฺวา.

๖๓๖.

‘‘อิเมสฺจ โข วสฺสสตจฺจเยน, สิปาฏิกา ผลติ เอกเมกา;

มานุสฺสกํ วสฺสสตํ อตีตํ, ยทคฺเค กายมฺหิ อิธูปปนฺโน.

๖๓๗.

‘‘ทิสฺวานหํ วสฺสสตานิ ปฺจ, อสฺมึ วิมาเน ตฺวาน ตาตา;

อายุกฺขยา ปุฺกฺขยา จวิสฺสํ, เตเนว โสเกน ปมุจฺฉิโตสฺมี’’ติ.

๖๓๘.

‘‘กถํ นุ โสเจยฺย ตถาวิโธ โส, ลทฺธา วิมานํ อตุลํ จิราย;

เย จาปิ โข อิตฺตรมุปปนฺนา, เต นูน โสเจยฺยุํ ปริตฺตปุฺา’’ติ.

๖๓๙.

‘‘อนุจฺฉวึ โอวทิยฺจ เม ตํ, ยํ มํ ตุมฺเห เปยฺยวาจํ วเทถ;

ตุมฺเห จ โข ตาตา มยานุคุตฺตา, เยนิจฺฉกํ เตน ปเลถ โสตฺถิ’’นฺติ.

๖๔๐.

‘‘คนฺตฺวา มยํ สินฺธุโสวีรภูมึ, ธนฺนตฺถิกา อุทฺทยํ ปตฺถยานา;

ยถาปโยคา ปริปุณฺณจาคา, กาหาม เสรีสมหํ อุฬาร’’นฺติ.

๖๔๑.

‘‘มา เจว เสรีสมหํ อกตฺถ, สพฺพฺจ โว ภวิสฺสติ ยํ วเทถ;

ปาปานิ กมฺมานิ วิวชฺชยาถ, ธมฺมานุโยคฺจ อธิฏฺหาถ.

๖๔๒.

‘‘อุปาสโก อตฺถิ อิมมฺหิ สงฺเฆ, พหุสฺสุโต สีลวตูปปนฺโน;

สทฺโธ จ จาคี จ สุเปสโล จ, วิจกฺขโณ สนฺตุสิโต มุตีมา.

๖๔๓.

‘‘สฺชานมาโน น มุสา ภเณยฺย, ปรูปฆาตาย จ เจตเยยฺย;

เวภูติกํ เปสุณํ โน กเรยฺย, สณฺหฺจ วาจํ สขิลํ ภเณยฺย.

๖๔๔.

‘‘สคารโว สปฺปฏิสฺโส วินีโต, อปาปโก อธิสีเล วิสุทฺโธ;

โส มาตรํ ปิตรฺจาปิ ชนฺตุ, ธมฺเมน โปเสติ อริยวุตฺติ.

๖๔๕.

‘‘มฺเ โส มาตาปิตูนํ การณา, โภคานิ ปริเยสติ น อตฺตเหตุ;

มาตาปิตูนฺจ โย อจฺจเยน, เนกฺขมฺมโปโณ จริสฺสติ พฺรหฺมจริยํ.

๖๔๖.

‘‘อุชู อวงฺโก อสโ อมาโย, น เลสกปฺเปน จ โวหเรยฺย;

โส ตาทิโส สุกตกมฺมการี, ธมฺเม ิโต กินฺติ ลเภถ ทุกฺขํ.

๖๔๗.

‘‘ตํ การณา ปาตุกโตมฺหิ อตฺตนา, ตสฺมา ธมฺมํ ปสฺสถ วาณิชาเส;

อฺตฺร เตนิห ภสฺมี [ภสฺมิ (สฺยา.), ภสฺม (ก.)] ภเวถ, อนฺธากุลา วิปฺปนฏฺา อรฺเ;

ตํ ขิปฺปมาเนน ลหุํ ปเรน, สุโข หเว สปฺปุริเสน สงฺคโม’’ติ.

๖๔๘.

‘‘กึ นาม โส กิฺจ กโรติ กมฺมํ, กึ นามเธยฺยํ กึ ปน ตสฺส โคตฺตํ;

มยมฺปิ นํ ทฏฺุกามมฺห ยกฺข, ยสฺสานุกมฺปาย อิธาคโตสิ;

ลาภา หิ ตสฺส ยสฺส ตุวํ ปิเหสี’’ติ.

๖๔๙.

‘‘โย กปฺปโก สมฺภวนามเธยฺโย, อุปาสโก โกจฺฉผลูปชีวี;

ชานาถ นํ ตุมฺหากํ เปสิโย โส, มา โข นํ หีฬิตฺถ สุเปสโล โส’’ติ.

๖๕๐.

‘‘ชานามเส ยํ ตฺวํ ปวเทสิ ยกฺข, น โข นํ ชานาม ส เอทิโสติ;

มยมฺปิ นํ ปูชยิสฺสาม ยกฺข, สุตฺวาน ตุยฺหํ วจนํ อุฬาร’’นฺติ.

๖๕๑.

‘‘เย เกจิ อิมสฺมึ สตฺเถ มนุสฺสา, ทหรา มหนฺตา อถวาปิ มชฺฌิมา;

สพฺเพว เต อาลมฺพนฺตุ วิมานํ, ปสฺสนฺตุ ปุฺานํ ผลํ กทริยา’’ติ.

๖๕๒.

เต ตตฺถ สพฺเพว ‘อหํ ปุเร’ติ, ตํ กปฺปกํ ตตฺถ ปุรกฺขตฺวา [ปุรกฺขิปิตฺวา (สี.)];

สพฺเพว เต อาลมฺพึสุ วิมานํ, มสกฺกสารํ วิย วาสวสฺส.

๖๕๓.

เต ตตฺถ สพฺเพว ‘อหํ ปุเร’ติ, อุปาสกตฺตํ ปฏิเวทยึสุ;

ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อเหสุํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยึสุ;

อมชฺชปา โน จ มุสา ภณึสุ, สเกน ทาเรน จ อเหสุํ ตุฏฺา.

๖๕๔.

เต ตตฺถ สพฺเพว ‘อหํ ปุเร’ติ, อุปาสกตฺตํ ปฏิเวทยิตฺวา;

ปกฺกามิ สตฺโถ อนุโมทมาโน, ยกฺขิทฺธิยา อนุมโต ปุนปฺปุนํ.

๖๕๕.

คนฺตฺวาน เต สินฺธุโสวีรภูมึ, ธนตฺถิกา อุทฺทยํ [อุทย (ปี. ก.)] ปตฺถยานา;

ยถาปโยคา ปริปุณฺณลาภา, ปจฺจาคมุํ ปาฏลิปุตฺตมกฺขตํ.

๖๕๖.

คนฺตฺวาน เต สงฺฆรํ โสตฺถิวนฺโต, ปุตฺเตหิ ทาเรหิ สมงฺคิภูตา;

อานนฺที วิตฺตา สุมนา ปตีตา, อกํสุ เสรีสมหํ อุฬารํ;

เสรีสกํ เต ปริเวณํ มาปยึสุ.

๖๕๗.

เอตาทิสา สปฺปุริสาน เสวนา, มหตฺถิกา ธมฺมคุณาน เสวนา;

เอกสฺส อตฺถาย อุปาสกสฺส, สพฺเพว สตฺตา สุขิตา [สุขิโน (ปี. ก.)] อเหสุนฺติ.

เสรีสกเปตวตฺถุ ทุติยํ.

ภาณวารํ ตติยํ นิฏฺิตํ.

๓. นนฺทกเปตวตฺถุ

๖๕๘.

ราชา ปิงฺคลโก นาม, สุรฏฺานํ อธิปติ อหุ;

โมริยานํ อุปฏฺานํ คนฺตฺวา, สุรฏฺํ ปุนราคมา.

๖๕๙.

อุณฺเห มชฺฌนฺหิเก [มชฺฌนฺติเก (สพฺพตฺถ)] กาเล, ราชา ปงฺกํ [วงฺกํ (ก.)] อุปาคมิ;

อทฺทส มคฺคํ รมณียํ, เปตานํ ตํ วณฺณุปถํ [วณฺณนาปถํ (สี. สฺยา.)].

๖๖๐.

สารถึ อามนฺตยี ราชา –

‘‘อยํ มคฺโค รมณีโย, เขโม โสวตฺถิโก สิโว;

อิมินา สารถิ ยาม, สุรฏฺานํ สนฺติเก อิโต’’.

๖๖๑.

เตน ปายาสิ โสรฏฺโ, เสนาย จตุรงฺคินิยา;

อุพฺพิคฺครูโป ปุริโส, โสรฏฺํ เอตทพฺรวิ.

๖๖๒.

‘‘กุมฺมคฺคํ ปฏิปนฺนมฺหา, ภึสนํ โลมหํสนํ;

ปุรโต ทิสฺสติ มคฺโค, ปจฺฉโต จ น ทิสฺสติ.

๖๖๓.

‘‘กุมฺมคฺคํ ปฏิปนฺนมฺหา, ยมปุริสาน สนฺติเก;

อมานุโส วายติ คนฺโธ, โฆโส สุยฺยติ [สูยติ (สี. สฺยา.)] ทารุโณ’’.

๖๖๔.

สํวิคฺโค ราชา โสรฏฺโ, สารถึ เอตทพฺรวิ;

‘‘กุมฺมคฺคํ ปฏิปนฺนมฺหา, ภึสนํ โลมหํสนํ;

ปุรโต ทิสฺสติ มคฺโค, ปจฺฉโต จ น ทิสฺสติ.

๖๖๕.

‘‘กุมฺมคฺคํ ปฏิปนฺนมฺหา, ยมปุริสาน สนฺติเก;

อมานุโส วายติ คนฺโธ, โฆโส สุยฺยติ ทารุโณ’’.

๖๖๖.

หตฺถิกฺขนฺธํ สมารุยฺห, โอโลเกนฺโต จตุทฺทิสํ [จตุทฺทิสฺสา (ก.)];

อทฺทส นิคฺโรธํ รมณียํ [รุกฺขํ นิคฺโรธํ (สฺยา. ก.)], ปาทปํ ฉายาสมฺปนฺนํ;

นีลพฺภวณฺณสทิสํ, เมฆวณฺณสิรีนิภํ.

๖๖๗.

สารถึ อามนฺตยี ราชา, ‘‘กึ เอโส ทิสฺสติ พฺรหา;

นีลพฺภวณฺณสทิโส, เมฆวณฺณสิรีนิโภ’’.

๖๖๘.

‘‘นิคฺโรโธ โส มหาราช, ปาทโป ฉายาสมฺปนฺโน;

นีลพฺภวณฺณสทิโส , เมฆวณฺณสิรีนิโภ’’.

๖๖๙.

เตน ปายาสิ โสรฏฺโ, เยน โส ทิสฺสเต พฺรหา;

นีลพฺภวณฺณสทิโส, เมฆวณฺณสิรีนิโภ.

๖๗๐.

หตฺถิกฺขนฺธโต โอรุยฺห, ราชา รุกฺขํ อุปาคมิ;

นิสีทิ รุกฺขมูลสฺมึ, สามจฺโจ สปริชฺชโน;

ปูรํ ปานียสรกํ, ปูเว วิตฺเต จ อทฺทส.

๖๗๑.

ปุริโส จ เทววณฺณี, สพฺพาภรณภูสิโต;

อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ, โสรฏฺํ เอตทพฺรวิ.

๖๗๒.

‘‘สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ;

ปิวตุ เทโว ปานียํ, ปูเว ขาท อรินฺทม’’.

๖๗๓.

ปิวิตฺวา ราชา ปานียํ, สามจฺโจ สปริชฺชโน;

ปูเว ขาทิตฺวา ปิตฺวา จ, โสรฏฺโ เอตทพฺรวิ.

๖๗๔.

‘‘เทวตา นุสิ คนฺธพฺโพ, อทุ สกฺโก ปุรินฺทโท;

อชานนฺตา ตํ ปุจฺฉาม, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.

๖๗๕.

‘‘นามฺหิ เทโว น คนฺธพฺโพ, นาปิ [นมฺหิ (ก.)] สกฺโก ปุรินฺทโท;

เปโต อหํ มหาราช, สุรฏฺา อิธ มาคโต’’ติ.

๖๗๖.

‘‘กึสีโล กึสมาจาโร, สุรฏฺสฺมึ ปุเร ตุวํ;

เกน เต พฺรหฺมจริเยน, อานุภาโว อยํ ตวา’’ติ.

๖๗๗.

‘‘ตํ สุโณหิ มหาราช, อรินฺทม รฏฺวฑฺฒน;

อมจฺจา ปาริสชฺชา จ, พฺราหฺมโณ จ ปุโรหิโต.

๖๗๘.

‘‘สุรฏฺสฺมึ อหํ เทว, ปุริโส ปาปเจตโส;

มิจฺฉาทิฏฺิ จ ทุสฺสีโล, กทริโย ปริภาสโก.

๖๗๙.

‘‘‘ททนฺตานํ กโรนฺตานํ, วารยิสฺสํ พหุชฺชนํ;

อฺเสํ ททมานานํ, อนฺตรายกโร อหํ.

๖๘๐.

‘‘‘วิปาโก นตฺถิ ทานสฺส, สํยมสฺส กุโต ผลํ;

นตฺถิ อาจริโย นาม, อทนฺตํ โก ทเมสฺสติ.

๖๘๑.

‘‘‘สมตุลฺยานิ ภูตานิ, กุโต [กุเล (สฺยา. ก.)] เชฏฺาปจายิโก;

นตฺถิ พลํ วีริยํ วา, กุโต อุฏฺานโปริสํ.

๖๘๒.

‘‘‘นตฺถิ ทานผลํ นาม, น วิโสเธติ เวรินํ;

ลทฺเธยฺยํ ลภเต มจฺโจ, นิยติปริณามชํ [ปริณามชา (สี. ก.)].

๖๘๓.

‘‘‘นตฺถิ มาตา ปิตา ภาตา, โลโก นตฺถิ อิโต ปรํ;

นตฺถิ ทินฺนํ นตฺถิ หุตํ, สุนิหิตํ น วิชฺชติ.

๖๘๔.

‘‘‘โยปิ หเนยฺย ปุริสํ, ปรสฺส ฉินฺทเต [ปุริสสฺส ฉินฺเท (สฺยา. ก.)] สิรํ;

น โกจิ กฺจิ หนติ, สตฺตนฺนํ วิวรมนฺตเร.

๖๘๕.

‘‘‘อจฺเฉชฺชาเภชฺโช หิ [เภชฺโช (สี.), อเภชฺโช (สฺยา.), เภชฺชาสิ (ก.)] ชีโว, อฏฺํโส คุฬปริมณฺฑโล;

โยชนานํ สตํ ปฺจ, โก ชีวํ เฉตฺตุมรหติ.

๖๘๖.

‘‘‘ยถา สุตฺตคุเฬ ขิตฺเต, นิพฺเพเนฺตํ ปลายติ;

เอวเมว จ โส ชีโว, นิพฺเพเนฺโต ปลายติ.

๖๘๗.

‘‘‘ยถา คามโต นิกฺขมฺม, อฺํ คามํ ปวิสติ;

เอวเมว จ โส ชีโว, อฺํ โพนฺทึ ปวิสติ.

๖๘๘.

‘‘‘ยถา เคหโต นิกฺขมฺม, อฺํ เคหํ ปวิสติ;

เอวเมว จ โส ชีโว, อฺํ โพนฺทึ ปวิสติ.

๖๘๙.

‘‘‘จุลฺลาสีติ [จุฬาสีติ (สี. สฺยา. ก.)] มหากปฺปิโน [มหากปฺปุโน (สี.)], สตสหสฺสานิ หิ;

เย พาลา เย จ ปณฺฑิตา, สํสารํ เขปยิตฺวาน;

ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสเร.

๖๙๐.

‘‘‘มิตานิ สุขทุกฺขานิ, โทเณหิ ปิฏเกหิ จ;

ชิโน สพฺพํ ปชานาติ’, สมฺมูฬฺหา อิตรา ปชา.

๖๙๑.

‘‘เอวํทิฏฺิ ปุเร อาสึ, สมฺมูฬฺโห โมหปารุโต;

มิจฺฉาทิฏฺิ จ ทุสฺสีโล, กทริโย ปริภาสโก.

๖๙๒.

‘‘โอรํ เม ฉหิ มาเสหิ, กาลงฺกิริยา ภวิสฺสติ;

เอกนฺตกฏุกํ โฆรํ, นิรยํ ปปติสฺสหํ.

๖๙๓.

[เป. ว. ๗๐] ‘‘จตุกฺกณฺณํ จตุทฺวารํ, วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ;

อโยปาการปริยนฺตํ, อยสา ปฏิกุชฺชิตํ.

๖๙๔.

[เป. ว. ๗๑] ‘‘ตสฺส อโยมยา ภูมิ, ชลิตา เตชสา ยุตา;

สมนฺตา โยชนสตํ, ผริตฺวา ติฏฺติ สพฺพทา.

๖๙๕.

‘‘วสฺสานิ สตสหสฺสานิ, โฆโส สุยฺยติ ตาวเท;

ลกฺโข เอโส มหาราช, สตภาควสฺสโกฏิโย.

๖๙๖.

‘‘โกฏิสตสหสฺสานิ , นิรเย ปจฺจเร ชนา;

มิจฺฉาทิฏฺี จ ทุสฺสีลา, เย จ อริยูปวาทิโน.

๖๙๗.

‘‘ตตฺถาหํ ทีฆมทฺธานํ, ทุกฺขํ เวทิสฺส เวทนํ;

ผลํ ปาปสฺส กมฺมสฺส, ตสฺมา โสจามหํ ภุสํ.

๖๙๘.

‘‘ตํ สุโณหิ มหาราช, อรินฺทม รฏฺวฑฺฒน;

ธีตา มยฺหํ มหาราช, อุตฺตรา ภทฺทมตฺถุ เต.

๖๙๙.

‘‘กโรติ ภทฺทกํ กมฺมํ, สีเลสุโปสเถ รตา;

สฺตา สํวิภาคี จ, วทฺู วีตมจฺฉรา.

๗๐๐.

‘‘อขณฺฑการี สิกฺขาย, สุณฺหา ปรกุเลสุ จ;

อุปาสิกา สกฺยมุนิโน, สมฺพุทฺธสฺส สิรีมโต.

๗๐๑.

‘‘ภิกฺขุ จ สีลสมฺปนฺโน, คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ;

โอกฺขิตฺตจกฺขุ สติมา, คุตฺตทฺวาโร สุสํวุโต.

๗๐๒.

‘‘สปทานํ จรมาโน, อคมา ตํ นิเวสนํ;

‘ตมทฺทส มหาราช, อุตฺตรา ภทฺทมตฺถุ เต’.

๗๐๓.

‘‘ปูรํ ปานียสรกํ, ปูเว วิตฺเต จ สา อทา;

‘ปิตา เม กาลงฺกโต, ภนฺเต ตสฺเสตํ อุปกปฺปตุ’.

๗๐๔.

‘‘สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเ, วิปาโก อุทปชฺชถ;

ภุฺชามิ กามกามีหํ, ราชา เวสฺสวโณ ยถา.

๗๐๕.

‘‘ตํ สุโณหิ มหาราช, อรินฺทม รฏฺวฑฺฒน;

สเทวกสฺส โลกสฺส, พุทฺโธ อคฺโค ปวุจฺจติ;

ตํ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉ, สปุตฺตทาโร อรินฺทม.

๗๐๖.

‘‘อฏฺงฺคิเกน มคฺเคน, ผุสนฺติ อมตํ ปทํ;

ตํ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉ, สปุตฺตทาโร อรินฺทม.

๗๐๗.

‘‘จตฺตาโร จ ปฏิปนฺนา [มคฺคปฏิปนฺนา (สี. สฺยา.)], จตฺตาโร จ ผเล ิตา;

เอส สงฺโฆ อุชุภูโต, ปฺาสีลสมาหิโต;

ตํ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉ, สปุตฺตทาโร อรินฺทม.

๗๐๘.

‘‘ปาณาติปาตา วิรมสฺสุ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยสฺสุ;

อมชฺชโป มา จ มุสา อภาณี, สเกน ทาเรน จ โหหิ ตุฏฺโ’’ติ.

๗๐๙.

‘‘อตฺถกาโมสิ เม ยกฺข, หิตกาโมสิ เทวเต;

กโรมิ ตุยฺหํ วจนํ, ตฺวํสิ อาจริโย มม.

๗๑๐.

‘‘อุเปมิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมฺจาปิ อนุตฺตรํ;

สงฺฆฺจ นรเทวสฺส, คจฺฉามิ สรณํ อหํ.

๗๑๑.

‘‘ปาณาติปาตา วิรมามิ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยามิ;

อมชฺชโป โน จ มุสา ภณามิ, สเกน ทาเรน จ โหมิ ตุฏฺโ.

๗๑๒.

‘‘โอผุณามิ [โอปุณามิ (สี.), โอผุนามิ (สฺยา. ก.), โอปุนามิ (?)] มหาวาเต, นทิยา สีฆคามิยา;

วมามิ ปาปิกํ ทิฏฺึ, พุทฺธานํ สาสเน รโต’’.

๗๑๓.

อิทํ วตฺวาน โสรฏฺโ, วิรมิตฺวา ปาปทสฺสนา [ปาปทสฺสนํ (สฺยา. ก.)];

นโม ภควโต กตฺวา, ปาโมกฺโข รถมารุหีติ.

นนฺทกเปตวตฺถุ ตติยํ.

๔. เรวตีเปตวตฺถุ

๗๑๔.

[วิ. ว. ๘๖๓] ‘‘อุฏฺเหิ เรวเต สุปาปธมฺเม, อปารุตทฺวาเร อทานสีเล;

เนสฺสาม ตํ ยตฺถ ถุนนฺติ ทุคฺคตา, สมปฺปิตา [สมชฺชตา (สี.)] เนรยิกา ทุเขนา’’ติ.

๗๑๕.

อิจฺเจว [อิจฺเจวํ (สฺยา. ก.)] วตฺวาน ยมสฺส ทูตา, เต ทฺเว ยกฺขา โลหิตกฺขา พฺรหนฺตา;

ปจฺเจกพาหาสุ คเหตฺวา เรวตํ, ปกฺกามยุํ เทวคณสฺส สนฺติเก.

๗๑๖.

‘‘อาทิจฺจวณฺณํ รุจิรํ ปภสฺสรํ, พฺยมฺหํ สุภํ กฺจนชาลฉนฺนํ;

กสฺเสตมากิณฺณชนํ วิมานํ, สุริยสฺส รํสีริว โชตมานํ.

๗๑๗.

‘‘นารีคณา จนฺทนสารลิตฺตา [จนฺทนสารานุลิตฺตา (สฺยา.)], อุภโต วิมานํ อุปโสภยนฺติ;

ตํ ทิสฺสติ สุริยสมานวณฺณํ, โก โมทติ สคฺคปตฺโต วิมาเน’’ติ.

๗๑๘.

‘‘พาราณสิยํ นนฺทิโย นามาสิ, อุปาสโก อมจฺฉรี ทานปติ วทฺู;

ตสฺเสตมากิณฺณชนํ วิมานํ, สุริยสฺส รํสีริว โชตมานํ.

๗๑๙.

‘‘นารีคณา จนฺทนสารลิตฺตา, อุภโต วิมานํ อุปโสภยนฺติ;

ตํ ทิสฺสติ สุริยสมานวณฺณํ, โส โมทติ สคฺคปตฺโต วิมาเน’’ติ.

๗๒๐.

‘‘นนฺทิยสฺสาหํ ภริยา, อคารินี สพฺพกุลสฺส อิสฺสรา;

ภตฺตุ วิมาเน รมิสฺสามิ ทานหํ, น ปตฺถเย นิรยทสฺสนายา’’ติ.

๗๒๑.

‘‘เอโส เต นิรโย สุปาปธมฺเม, ปุฺํ ตยา อกตํ ชีวโลเก;

น หิ มจฺฉรี โรสโก ปาปธมฺโม, สคฺคูปคานํ ลภติ สหพฺยต’’นฺติ.

๗๒๒.

‘‘กึ นุ คูถฺจ มุตฺตฺจ, อสุจี ปฏิทิสฺสติ;

ทุคฺคนฺธํ กิมิทํ มีฬฺหํ, กิเมตํ อุปวายตี’’ติ.

๗๒๓.

‘‘เอส สํสวโก นาม, คมฺภีโร สตโปริโส;

ยตฺถ วสฺสสหสฺสานิ, ตุวํ ปจฺจสิ เรวเต’’ติ.

๗๒๔.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

เกน สํสวโก ลทฺโธ, คมฺภีโร สตโปริโส’’ติ.

๗๒๕.

‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ จาปิ, อฺเ วาปิ วนิพฺพเก;

มุสาวาเทน วฺเจสิ, ตํ ปาปํ ปกตํ ตยา.

๗๒๖.

‘‘เตน สํสวโก ลทฺโธ, คมฺภีโร สตโปริโส;

ตตฺถ วสฺสสหสฺสานิ, ตุวํ ปจฺจสิ เรวเต.

๗๒๗.

‘‘หตฺเถปิ ฉินฺทนฺติ อโถปิ ปาเท, กณฺเณปิ ฉินฺทนฺติ อโถปิ นาสํ;

อโถปิ กาโกฬคณา สเมจฺจ, สงฺคมฺม ขาทนฺติ วิผนฺทมาน’’นฺติ.

๗๒๘.

‘‘สาธุ โข มํ ปฏิเนถ, กาหามิ กุสลํ พหุํ;

ทาเนน สมจริยาย, สํยเมน ทเมน จ;

ยํ กตฺวา สุขิตา โหนฺติ, น จ ปจฺฉานุตปฺปเร’’ติ.

๗๒๙.

‘‘ปุเร ตุวํ ปมชฺชิตฺวา, อิทานิ ปริเทวสิ;

สยํ กตานํ กมฺมานํ, วิปากํ อนุโภสฺสสี’’ติ.

๗๓๐.

‘‘โก เทวโลกโต มนุสฺสโลกํ, คนฺตฺวาน ปุฏฺโ เม เอวํ วเทยฺย;

‘นิกฺขิตฺตทณฺเฑสุ ททาถ ทานํ, อจฺฉาทนํ เสยฺย [สยน (สี.)] มถนฺนปานํ;

น หิ มจฺฉรี โรสโก ปาปธมฺโม, สคฺคูปคานํ ลภติ สหพฺยตํ’.

๗๓๑.

‘‘สาหํ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนึ ลทฺธาน มานุสึ;

วทฺู สีลสมฺปนฺนา, กาหามิ กุสลํ พหุํ;

ทาเนน สมจริยาย, สํยเมน ทเมน จ.

๗๓๒.

‘‘อารามานิ จ โรปิสฺสํ, ทุคฺเค สงฺกมนานิ จ;

ปปฺจ อุทปานฺจ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.

๗๓๓.

‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสึ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี;

ปาฏิหาริยปกฺขฺจ, อฏฺงฺคสุสมาคตํ.

๗๓๔.

‘‘อุโปสถํ อุปวสิสฺสํ, สทา สีเลสุ สํวุตา;

น จ ทาเน ปมชฺชิสฺสํ, สามํ ทิฏฺมิทํ มยา’’ติ.

๗๓๕.

อิจฺเจวํ วิปฺปลปนฺตึ, ผนฺทมานํ ตโต ตโต;

ขิปึสุ นิรเย โฆเร, อุทฺธํปาทํ อวํสิรํ.

๗๓๖.

‘‘อหํ ปุเร มจฺฉรินี อโหสึ, ปริภาสิกา สมณพฺราหฺมณานํ;

วิตเถน จ สามิกํ วฺจยิตฺวา, ปจฺจามหํ นิรเย โฆรรูเป’’ติ.

เรวตีเปตวตฺถุ จตุตฺถํ.

๕. อุจฺฉุเปตวตฺถุ

๗๓๗.

‘‘อิทํ มม อุจฺฉุวนํ มหนฺตํ, นิพฺพตฺตติ ปุฺผลํ อนปฺปกํ;

ตํ ทานิ เม น [น ทานิ เม ตํ (สี. ก.)] ปริโภคเมติ, อาจิกฺข ภนฺเต กิสฺส อยํ วิปาโก.

๗๓๘.

‘‘หฺามิ [วิหฺามิ (ก.)] ขชฺชามิ จ วายมามิ, ปริสกฺกามิ ปริภุฺชิตุํ กิฺจิ;

สฺวาหํ ฉินฺนถาโม กปโณ ลาลปามิ, กิสฺส [กิสฺสสฺส (สี.), กิสฺสสฺสุ (?)] กมฺมสฺส อยํ วิปาโก.

๗๓๙.

‘‘วิฆาโต จาหํ ปริปตามิ ฉมายํ, ปริวตฺตามิ วาริจโรว ฆมฺเม;

รุทโต จ เม [ทูรโต จ เม (สฺยา. ก.)] อสฺสุกา นิคฺคลนฺติ, อาจิกฺข ภนฺเต กิสฺส อยํ วิปาโก.

๗๔๐.

‘‘ฉาโต กิลนฺโต จ ปิปาสิโต จ, สนฺตสฺสิโต สาตสุขํ น วินฺเท;

ปุจฺฉามิ ตํ เอตมตฺถํ ภทนฺเต, กถํ นุ อุจฺฉุปริโภคํ ลเภยฺย’’นฺติ.

๗๔๑.

‘‘ปุเร ตุวํ กมฺมมกาสิ อตฺตนา, มนุสฺสภูโต ปุริมาย ชาติยา;

อหฺจ ตํ เอตมตฺถํ วทามิ, สุตฺวาน ตฺวํ เอตมตฺถํ วิชาน.

๗๔๒.

‘‘อุจฺฉุํ ตุวํ ขาทมาโน ปยาโต, ปุริโส จ เต ปิฏฺิโต อนฺวคจฺฉิ;

โส จ ตํ ปจฺจาสนฺโต กเถสิ, ตสฺส ตุวํ น กิฺจิ อาลปิตฺถ.

๗๔๓.

‘‘โส จ ตํ อภณนฺตํ อยาจิ, ‘เทหยฺย อุจฺฉุ’นฺติ จ ตํ อโวจ;

ตสฺส ตุวํ ปิฏฺิโต อุจฺฉุํ อทาสิ, ตสฺเสตํ กมฺมสฺส อยํ วิปาโก.

๗๔๔.

‘‘อิงฺฆ ตฺวํ คนฺตฺวาน ปิฏฺิโต คณฺเหยฺยาสิ [อิงฺฆ ตฺวํ ปิฏฺิโต คณฺห อุจฺฉุํ (สี.)], คเหตฺวาน ตํ ขาทสฺสุ ยาวทตฺถํ;

เตเนว ตฺวํ อตฺตมโน ภวิสฺสสิ, หฏฺโ จุทคฺโค จ ปโมทิโต จา’’ติ.

๗๔๕.

คนฺตฺวาน โส ปิฏฺิโต อคฺคเหสิ, คเหตฺวาน ตํ ขาทิ ยาวทตฺถํ;

เตเนว โส อตฺตมโน อโหสิ, หฏฺโ จุทคฺโค จ ปโมทิโต จาติ.

อุจฺฉุเปตวตฺถุ ปฺจมํ.

๖. กุมารเปตวตฺถุ

๗๔๖.

‘‘สาวตฺถิ นาม นครํ, หิมวนฺตสฺส ปสฺสโต;

ตตฺถ อาสุํ ทฺเว กุมารา, ราชปุตฺตาติ เม สุตํ.

๗๔๗.

‘‘สมฺมตฺตา [ปมตฺตา (ก.)] รชนีเยสุ, กามสฺสาทาภินนฺทิโน;

ปจฺจุปฺปนฺนสุเข คิทฺธา, น เต ปสฺสึสุนาคตํ.

๗๔๘.

‘‘เต จุตา จ มนุสฺสตฺตา, ปรโลกํ อิโต คตา;

เตธ โฆเสนฺตฺยทิสฺสนฺตา, ปุพฺเพ ทุกฺกฏมตฺตโน.

๗๔๙.

‘‘‘พหูสุ วต [พหุสฺสุเตสุ (สี. ก.)] สนฺเตสุ, เทยฺยธมฺเม อุปฏฺิเต;

นาสกฺขิมฺหา จ อตฺตานํ, ปริตฺตํ กาตุํ สุขาวหํ.

๗๕๐.

‘‘‘กึ ตโต ปาปกํ อสฺส, ยํ โน ราชกุลา จุตา;

อุปปนฺนา เปตฺติวิสยํ, ขุปฺปิปาสสมปฺปิตา [ขุปฺปิปาสาสมปฺปิตา (สี. ปี.)].

๗๕๑.

‘‘สามิโน อิธ หุตฺวาน, โหนฺติ อสามิโน ตหึ;

ภมนฺติ [จรนฺติ (สี. ปี.), มรนฺติ (สฺยา.)] ขุปฺปิปาสาย, มนุสฺสา อุนฺนโตนตา.

๗๕๒.

‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, อิสฺสรมทสมฺภวํ;

ปหาย อิสฺสรมทํ, ภเว สคฺคคโต นโร;

กายสฺส เภทา สปฺปฺโ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตี’’ติ.

กุมารเปตวตฺถุ ฉฏฺํ.

๗. ราชปุตฺตเปตวตฺถุ

๗๕๓.

ปุพฺเพ กตานํ กมฺมานํ, วิปาโก มถเย มนํ;

รูเป สทฺเท รเส คนฺเธ, โผฏฺพฺเพ จ มโนรเม.

๗๕๔.

นจฺจํ คีตํ รตึ ขิฑฺฑํ, อนุภุตฺวา อนปฺปกํ;

อุยฺยาเน ปริจริตฺวา, ปวิสนฺโต คิริพฺพชํ.

๗๕๕.

อิสึ สุเนตฺต [สุนิต (ก.)] มทฺทกฺขิ, อตฺตทนฺตํ สมาหิตํ;

อปฺปิจฺฉํ หิริสมฺปนฺนํ, อุฺเฉ ปตฺตคเต รตํ.

๗๕๖.

หตฺถิกฺขนฺธโต โอรุยฺห, ลทฺธา ภนฺเตติ จาพฺรวิ;

ตสฺส ปตฺตํ คเหตฺวาน, อุจฺจํ ปคฺคยฺห ขตฺติโย.

๗๕๗.

ถณฺฑิเล ปตฺตํ ภินฺทิตฺวา, หสมาโน อปกฺกมิ;

‘‘รฺโ กิตวสฺสาหํ ปุตฺโต, กึ มํ ภิกฺขุ กริสฺสสิ’’.

๗๕๘.

ตสฺส กมฺมสฺส ผรุสสฺส, วิปาโก กฏุโก อหุ;

ยํ ราชปุตฺโต เวเทสิ, นิรยมฺหิ สมปฺปิโต.

๗๕๙.

ฉเฬว จตุราสีติ, วสฺสานิ นวุตานิ จ;

ภุสํ ทุกฺขํ นิคจฺฉิตฺโถ, นิรเย กตกิพฺพิโส.

๗๖๐.

อุตฺตาโนปิ จ ปจฺจิตฺถ, นิกุชฺโช วามทกฺขิโณ;

อุทฺธํปาโท ิโต เจว, จิรํ พาโล อปจฺจถ.

๗๖๑.

พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ, ปูคานิ นหุตานิ จ;

ภุสํ ทุกฺขํ นิคจฺฉิตฺโถ, นิรเย กตกิพฺพิโส.

๗๖๒.

เอตาทิสํ โข กฏุกํ, อปฺปทุฏฺปฺปโทสินํ;

ปจฺจนฺติ ปาปกมฺมนฺตา, อิสิมาสชฺช สุพฺพตํ.

๗๖๓.

โส ตตฺถ พหุวสฺสานิ, เวทยิตฺวา พหุํ ทุขํ;

ขุปฺปิปาสหโต นาม [ขุปฺปิปาสาหโต นาม (สี. ปี)], เปโต อาสิ ตโต จุโต.

๗๖๔.

เอตมาทีนวํ ตฺวา [ทิสฺวา (สี.)], อิสฺสรมทสมฺภวํ;

ปหาย อิสฺสรมทํ, นิวาตมนุวตฺตเย.

๗๖๕.

ทิฏฺเว ธมฺเม ปาสํโส, โย พุทฺเธสุ สคารโว;

กายสฺส เภทา สปฺปฺโ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตีติ.

ราชปุตฺตเปตวตฺถุ สตฺตมํ.

๘. คูถขาทกเปตวตฺถุ

๗๖๖.

‘‘คูถกูปโต อุคฺคนฺตฺวา, โก นุ ทีโน ปติฏฺสิ [ทีโน หิ ติฏฺสิ (สี.)];

นิสฺสํสยํ ปาปกมฺมนฺโต, กึ นุ สทฺทหเส ตุว’’นฺติ.

๗๖๗.

‘‘อหํ ภทนฺเต เปโตมฺหิ, ทุคฺคโต ยมโลกิโก;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คโต’’.

๗๖๘.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉสี’’ติ.

๗๖๙.

‘‘อหุ อาวาสิโก มยฺหํ, อิสฺสุกี กุลมจฺฉรี;

อชฺโฌสิโต มยฺหํ ฆเร, กทริโย ปริภาสโก.

๗๗๐.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, ภิกฺขโว ปริภาสิสํ;

ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คโต’’ติ.

๗๗๑.

‘‘อมิตฺโต มิตฺตวณฺเณน, โย เต อาสิ กุลูปโก;

กายสฺส เภทา ทุปฺปฺโ, กึ นุ เปจฺจ คตึ คโต’’ติ.

๗๗๒.

‘‘ตสฺเสวาหํ ปาปกมฺมสฺส, สีเส ติฏฺามิ มตฺถเก;

โส จ ปรวิสยํ ปตฺโต, มเมว ปริจารโก.

๗๗๓.

‘‘ยํ ภทนฺเต หทนฺตฺเ, เอตํ เม โหติ โภชนํ;

อหฺจ โข ยํ หทามิ, เอตํ โส อุปชีวตี’’ติ.

คูถขาทกเปตวตฺถุ อฏฺมํ.

๙. คูถขาทกเปติวตฺถุ

๗๗๔.

‘‘คูถกูปโต อุคฺคนฺตฺวา, กา นุ ทีนา ปติฏฺสิ;

นิสฺสํสยํ ปาปกมฺมนฺตา, กึ นุ สทฺทหเส ตุว’’นฺติ.

๗๗๕.

‘‘อหํ ภทนฺเต เปตีมฺหิ, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๗๗๖.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉสี’’ติ.

๗๗๗.

‘‘อหุ อาวาสิโก มยฺหํ, อิสฺสุกี กุลมจฺฉรี;

อชฺโฌสิโต มยฺหํ ฆเร, กทริโย ปริภาสโก.

๗๗๘.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, ภิกฺขโว ปริภาสิสํ;

ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๗๗๙.

‘‘อมิตฺโต มิตฺตวณฺเณน, โย เต อาสิ กุลูปโก;

กายสฺส เภทา ทุปฺปฺโ, กึ นุ เปจฺจ คตึ คโต’’ติ.

๗๘๐.

‘‘ตสฺเสวาหํ ปาปกมฺมสฺส, สีเส ติฏฺามิ มตฺถเก;

โส จ ปรวิสยํ ปตฺโต, มเมว ปริจารโก.

๗๘๑.

‘‘ยํ ภทนฺเต หทนฺตฺเ, เอตํ เม โหติ โภชนํ;

อหฺจ โข ยํ หทามิ, เอตํ โส อุปชีวตี’’ติ.

คูถขาทกเปติวตฺถุ นวมํ.

๑๐. คณเปตวตฺถุ

๗๘๒.

‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาตฺถ, กิสา ธมนิสนฺถตา;

อุปฺผาสุลิกา [อุปฺปาสุฬิกา (ก.)] กิสิกา, เก นุ ตุมฺเหตฺถ มาริสา’’ติ.

๗๘๓.

‘‘มยํ ภทนฺเต เปตามฺหา, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๗๘๔.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติ.

๗๘๕.

‘‘อนาวเฏสุ ติตฺเถสุ, วิจินิมฺหทฺธมาสกํ;

สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากมฺห อตฺตโน.

๗๘๖.

‘‘นทึ อุเปม ตสิตา, ริตฺตกา ปริวตฺตติ;

ฉายํ อุเปม อุณฺเหสุ, อาตโป ปริวตฺตติ.

๗๘๗.

‘‘อคฺคิวณฺโณ จ โน วาโต, ฑหนฺโต อุปวายติ;

เอตฺจ ภนฺเต อรหาม, อฺฺจ ปาปกํ ตโต.

๗๘๘.

‘‘อปิ โยชนานิ [อธิโยชนานิ (สี. ก.)] คจฺฉาม, ฉาตา อาหารเคธิโน;

อลทฺธาว นิวตฺตาม, อโห โน อปฺปปุฺตา.

๗๘๙.

‘‘ฉาตา ปมุจฺฉิตา ภนฺตา, ภูมิยํ ปฏิสุมฺภิตา;

อุตฺตานา ปฏิกิราม, อวกุชฺชา ปตามเส.

๗๙๐.

‘‘เต จ ตตฺเถว ปติตา [ตตฺถ ปปหิตา (ก.)], ภูมิยํ ปฏิสุมฺภิตา;

อุรํ สีสฺจ ฆฏฺเฏม, อโห โน อปฺปปุฺตา.

๗๙๑.

‘‘เอตฺจ ภนฺเต อรหาม, อฺฺจ ปาปกํ ตโต;

สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากมฺห อตฺตโน.

๗๙๒.

‘‘เต หิ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนึ ลทฺธาน มานุสึ;

วทฺู สีลสมฺปนฺนา, กาหาม กุสลํ พหุ’’นฺติ.

คณเปตวตฺถุ ทสมํ.

๑๑. ปาฏลิปุตฺตเปตวตฺถุ

๗๙๓.

‘‘ทิฏฺา ตยา นิรยา ติรจฺฉานโยนิ,

เปตา อสุรา อถวาปิ มานุสา เทวา; สยมทฺทส กมฺมวิปากมตฺตโน,

เนสฺสามิ ตํ ปาฏลิปุตฺตมกฺขตํ; ตตฺถ คนฺตฺวา กุสลํ กโรหิ กมฺมํ’’.

๗๙๔.

‘‘อตฺถกาโมสิ เม ยกฺข, หิตกาโมสิ เทวเต;

กโรมิ ตุยฺหํ วจนํ, ตฺวํสิ อาจริโย มม.

๗๙๕.

‘‘ทิฏฺา มยา นิรยา ติรจฺฉานโยนิ, เปตา อสุรา อถวาปิ มานุสา เทวา;

สยมทฺทสํ กมฺมวิปากมตฺตโน, กาหามิ ปุฺานิ อนปฺปกานี’’ติ.

ปาฏลิปุตฺตเปตวตฺถุ เอกาทสมํ.

๑๒. อมฺพวนเปตวตฺถุ

๗๙๖.

‘‘อยฺจ เต โปกฺขรณี สุรมฺมา, สมา สุติตฺถา จ มโหทกา จ;

สุปุปฺผิตา ภมรคณานุกิณฺณา, กถํ ตยา ลทฺธา อยํ มนุฺา.

๗๙๗.

‘‘อิทฺจ เต อมฺพวนํ สุรมฺมํ, สพฺโพตุกํ ธารยเต [ธารยติ (สฺยา. ก.)] ผลานิ;

สุปุปฺผิตํ ภมรคณานุกิณฺณํ, กถํ ตยา ลทฺธมิทํ วิมานํ’’.

๗๙๘.

‘‘อมฺพปกฺกํ ทกํ [อมฺพปกฺโกทกํ (สี. สฺยา. ปี.), อมฺพปกฺกูทกํ (ก.)] ยาคุ, สีตจฺฉายา มโนรมา;

ธีตาย ทินฺนทาเนน, เตน เม อิธ ลพฺภติ’’.

๗๙๙.

‘‘สนฺทิฏฺิกํ กมฺมํ เอวํ [สนฺทิฏฺิกํ เอว (สฺยา.)] ปสฺสถ, ทานสฺส ทมสฺส สํยมสฺส วิปากํ;

ทาสี อหํ อยฺยกุเลสุ หุตฺวา, สุณิสา โหมิ อคารสฺส อิสฺสรา’’ติ.

อมฺพวนเปตวตฺถุ ทฺวาทสมํ.

๑๓. อกฺขรุกฺขเปตวตฺถุ

๘๐๐.

‘‘ยํ ททาติ น ตํ โหติ, เทเถว ทานํ ทตฺวา อุภยํ ตรติ;

อุภยํ เตน ทาเนน [เตน (ก.)] คจฺฉติ, ชาครถ มาปมชฺชถา’’ติ.

อกฺขรุกฺขเปตวตฺถุ เตรสมํ.

๑๔. โภคสํหรเปตวตฺถุ

๘๐๑.

‘‘มยํ โภเค สํหริมฺห, สเมน วิสเมน จ;

เต อฺเ ปริภุฺชนฺติ, มยํ ทุกฺขสฺส ภาคินี’’ติ.

โภคสํหรเปตวตฺถุ จุทฺทสมํ.

๑๕. เสฏฺิปุตฺตเปตวตฺถุ

๘๐๒.

[ชา. ๑.๔.๕๔ ชาตเกปิ] ‘‘สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;

นิรเย ปจฺจมานานํ, กทา อนฺโต ภวิสฺสติ’’.

๘๐๓.

[ชา. ๑.๔.๕๕ ชาตเกปิ] ‘‘นตฺถิ อนฺโต กุโต อนฺโต, น อนฺโต ปฏิทิสฺสติ;

ตถา หิ ปกตํ ปาปํ, ตุยฺหํ มยฺหฺจ มาริสา [มม ตุยฺหฺจ มาริส (สี. สฺยา. ปี.)].

๘๐๔.

[ชา. ๑.๔.๕๓ ชาตเกปิ] ‘‘ทุชฺชีวิตมชีวมฺห , เย สนฺเต น ททมฺหเส;

สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากมฺห อตฺตโน.

๘๐๕.

[ชา. ๑.๔.๕๖ ชาตเกปิ] ‘‘โสหํ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนึ ลทฺธาน มานุสึ;

วทฺู สีลสมฺปนฺโน, กาหามิ กุสลํ พหุ’’นฺติ.

เสฏฺิปุตฺตเปตวตฺถุ ปนฺนรสมํ.

๑๖. สฏฺิกูฏเปตวตฺถุ

๘๐๖.

‘‘กึ นุ อุมฺมตฺตรูโปว, มิโค ภนฺโตว ธาวสิ;

นิสฺสํสยํ ปาปกมฺมนฺโต [ปาปกมฺมํ (สฺยา. ปี.)], กึ นุ สทฺทายเส ตุว’’นฺติ.

๘๐๗.

‘‘อหํ ภทนฺเต เปโตมฺหิ, ทุคฺคโต ยมโลกิโก;

ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คโต.

๘๐๘.

‘‘สฏฺิ กูฏสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;

สีเส มยฺหํ นิปตนฺติ, เต ภินฺทนฺติ จ มตฺถก’’นฺติ.

๘๐๙.

‘‘กึ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;

กิสฺส กมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.

๘๑๐.

‘‘สฏฺิ กูฏสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;

สีเส ตุยฺหํ นิปตนฺติ, เต ภินฺทนฺติ จ มตฺถก’’นฺติ.

๘๑๑.

‘‘อถทฺทสาสึ สมฺพุทฺธํ, สุเนตฺตํ ภาวิตินฺทฺริยํ;

นิสินฺนํ รุกฺขมูลสฺมึ, ฌายนฺตํ อกุโตภยํ.

๘๑๒.

‘‘สาลิตฺตกปฺปหาเรน, ภินฺทิสฺสํ ตสฺส มตฺถกํ;

ตสฺส กมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉิสํ.

๘๑๓.

‘‘สฏฺิ กูฏสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;

สีเส มยฺหํ นิปตนฺติ, เต ภินฺทนฺติ จ [นิปตนฺติ, โว ภินฺทนฺเตว (สี. ธมฺมปทฏฺกถา)] มตฺถก’’นฺติ.

๘๑๔.

‘‘ธมฺเมน เต กาปุริส, สฏฺิกูฏสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;

สีเส ตุยฺหํ นิปตนฺติ, เต ภินฺทนฺติ จ มตฺถก’’นฺติ.

สฏฺิกูฏเปตวตฺถุ โสฬสมํ.

มหาวคฺโค จตุตฺโถ นิฏฺิโต.

ตสฺสุทฺทานํ

อมฺพสกฺกโร เสรีสโก, ปิงฺคโล เรวติ อุจฺฉุ;

ทฺเว กุมารา ทุเว คูถา, คณปาฏลิอมฺพวนํ.

อกฺขรุกฺขโภคสํหรา, เสฏฺิปุตฺตสฏฺิกูฏา;

อิติ โสฬสวตฺถูนิ, วคฺโค เตน ปวุจฺจติ.

อถ วคฺคุทฺทานํ –

อุรโค อุปริวคฺโค, จูฬมหาติ จตุธา;

วตฺถูนิ เอกปฺาสํ, จตุธา ภาณวารโต.

เปตวตฺถุปาฬิ นิฏฺิตา.