📜

๑๖. วีสตินิปาโต

๑. อธิมุตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา

วีสตินิปาเต ยฺตฺถํ วาติอาทิกา อายสฺมโต อปรสฺส อธิมุตฺตตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินนฺโต อตฺถทสฺสิสฺส ภควโต กาเล วิภวสมฺปนฺเน กุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต สตฺถริ ปรินิพฺพุเต ภิกฺขุสงฺฆํ อุปฏฺหนฺโต มหาทานานิ ปวตฺเตสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท อายสฺมโต สํกิจฺจตฺเถรสฺส ภคินิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, อธิมุตฺโตติสฺส นามํ อโหสิ. โส วยปฺปตฺโต มาตุลตฺเถรสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต สามเณรภูมิยํเยว ิโต อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๔.๘๔-๘๘) –

‘‘นิพฺพุเต โลกนาถมฺหิ, อตฺถทสฺสีนรุตฺตเม;

อุปฏฺหึ ภิกฺขุสงฺฆํ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.

‘‘นิมนฺเตตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ, อุชุภูตํ สมาหิตํ;

อุจฺฉุนา มณฺฑปํ กตฺวา, โภเชสึ สงฺฆมุตฺตมํ.

‘‘ยํ ยํ โยนุปปชฺชามิ, เทวตฺตํ อถมานุสํ;

สพฺเพ สตฺเต อภิโภมิ, ปุฺกมฺมสฺสิทํ ผลํ.

‘‘อฏฺารเส กปฺปสเต, ยํ ทานมททึ ตทา;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, อุจฺฉุทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา สมาปตฺติสุเขน วีตินาเมนฺโต อุปสมฺปชฺชิตุกาโม ‘‘มาตรํ อาปุจฺฉิสฺสามี’’ติ มาตุ สนฺติกํ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค เทวตาย พลิกมฺมกรณตฺถํ มํสปริเยสนํ จรนฺเตหิ ปฺจสเตหิ โจเรหิ สมาคจฺฉิ. โจรา จ ตํ อคฺคเหสุํ ‘‘เทวตาย พลิ ภวิสฺสตี’’ติ. โส โจเรหิ คหิโตปิ อภีโต อจฺฉมฺภี วิปฺปสนฺนมุโขว อฏฺาสิ. ตํ ทิสฺวา โจรคามณิอจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาโต ปสํสนฺโต –

๗๐๕.

‘‘ยฺตฺถํ วา ธนตฺถํ วา, เย หนาม มยํ ปุเร;

อวเสสํ ภยํ โหติ, เวธนฺติ วิลปนฺติ จ.

๗๐๖.

‘‘ตสฺส เต นตฺถิ ภีตตฺตํ, ภิยฺโย วณฺโณ ปสีทติ;

กสฺมา น ปริเทเวสิ, เอวรูเป มหพฺภเย’’ติ. – ทฺเว คาถา อภาสิ;

ตตฺถ ยฺตฺถนฺติ ยชนตฺถํ เทวตานํ พลิกมฺมกรณตฺถํ วา. วา-สทฺโท วิกปฺปนตฺโถ. ธนตฺถนฺติ สาปเตยฺยหรณตฺถํ. เย หนาม มยํ ปุเรติ เย สตฺเต มยํ ปุพฺเพ หนิมฺห. อตีตตฺเถ หิ อิทํ วตฺตมานวจนํ. อวเสติ อวเส อเสริเก กตฺวา. นฺติ เตสํ. ‘‘อวเสสนฺติ’’ปิ ปนฺติ. อมฺเหหิ คหิเตสุ ตํ เอกํ เปตฺวา อวเสสานํ; อยเมว วา ปาโ. ภยํ โหตีติ มรณภยํ โหติ. เยน เต เวธนฺติ วิลปนฺติ,จิตฺตุตฺราเสน เวธนฺติ , ‘‘สามิ, ตุมฺหากํ อิทฺจิทฺจ ทสฺสาม, ทาสา ภวิสฺสามา’’ติอาทิกํ วทนฺตา วิลปนฺติ.

ตสฺส เตติ โย ตฺวํ อมฺเหหิ เทวตาย พลิกมฺมตฺถํ ชีวิตา โวโรเปตุกาเมหิ อุกฺขิตฺตาสิเกหิ สนฺตชฺชิโต, ตสฺส เต. ภีตตฺตนฺติ ภีตภาโว, ภยนฺติ อตฺโถ. ภิยฺโย วณฺโณ ปสีทตีติ ปกติวณฺณโต อุปริปิ เต มุขวณฺโณ วิปฺปสีทติ. เถรสฺส กิร ตทา ‘‘สเจ อิเม มาเรสฺสนฺติ, อิทาเนวาหํ อนุปาทาย ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ทุกฺขภาโร วิคจฺฉิสฺสตี’’ติ อุฬารํ ปีติโสมนสฺสํ อุปฺปชฺชิ. เอวรูเป มหพฺภเยติ เอทิเส มหติ มรณภเย อุปฏฺิเต. เหตุอตฺเถ วา เอตํ ภุมฺมวจนํ.

อิทานิ เถโร โจรคามณิสฺส ปฏิวจนทานมุเขน ธมฺมํ เทเสนฺโต –

๗๐๗.

‘‘นตฺถิ เจตสิกํ ทุกฺขํ, อนเปกฺขสฺส คามณิ;

อติกฺกนฺตา ภยา สพฺเพ, ขีณสํโยชนสฺส เว.

๗๐๘.

‘‘ขีณาย ภวเนตฺติยา, ทิฏฺเ ธมฺเม ยถาตเถ;

น ภยํ มรเณ โหติ, ภารนิกฺเขปเน ยถา.

๗๐๙.

‘‘สุจิณฺณํ พฺรหฺมจริยํ เม, มคฺโค จาปิ สุภาวิโต;

มรเณ เม ภยํ นตฺถิ, โรคานมิว สงฺขเย.

๗๑๐.

‘‘สุจิณฺณํ พฺรหฺมจริยํ เม, มคฺโค จาปิ สุภาวิโต;

นิรสฺสาทา ภวา ทิฏฺา, วิสํ ปิตฺวาว ฉฑฺฑิตํ.

๗๑๑.

‘‘ปารคู อนุปาทาโน, กตกิจฺโจ อนาสโว;

ตุฏฺโ อายุกฺขยา โหติ, มุตฺโต อาฆาตนา ยถา.

๗๑๒.

‘‘อุตฺตมํ ธมฺมตํ ปตฺโต, สพฺพโลเก อนตฺถิโก;

อาทิตฺตาว ฆรา มุตฺโต, มรณสฺมึ น โสจติ.

๗๑๓.

‘‘ยทตฺถิ สงฺคตํ กิฺจิ, ภโว วา ยตฺถ ลพฺภติ;

สพฺพํ อนิสฺสรํ เอตํ, อิติ วุตฺตํ มเหสินา.

๗๑๔.

‘‘โย ตํ ตถา ปชานาติ, ยถา พุทฺเธน เทสิตํ;

น คณฺหาติ ภวํ กิฺจิ, สุตตฺตํว อโยคุฬํ.

๗๑๕.

‘‘น เม โหติ ‘อโหสิ’นฺติ, ‘ภวิสฺส’นฺติ น โหติ เม;

สงฺขารา วิคมิสฺสนฺติ, ตตฺถ กา ปริเทวนา.

๗๑๖.

‘‘สุทฺธํ ธมฺมสมุปฺปาทํ, สุทฺธํ สงฺขารสนฺตตึ;

ปสฺสนฺตสฺส ยถาภูตํ, น ภยํ โหติ คามณิ.

๗๑๗.

‘‘ติณกฏฺสมํ โลกํ, ยทา ปฺาย ปสฺสติ;

มมตฺตํ โส อสํวินฺทํ, ‘นตฺถิ เม’ติ น โสจติ.

๗๑๘.

‘‘อุกฺกณฺามิ สรีเรน, ภเวนมฺหิ อนตฺถิโก;

โสยํ ภิชฺชิสฺสติ กาโย, อฺโ จ น ภวิสฺสติ.

๗๑๙.

‘‘ยํ โว กิจฺจํ สรีเรน, ตํ กโรถ ยทิจฺฉถ;

น เม ตปฺปจฺจยา ตตฺถ, โทโส เปมฺจ เหหิตี’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

๗๒๐.

‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, อพฺภุตํ โลมหํสนํ;

สตฺถานิ นิกฺขิปิตฺวาน, มาณวา เอตทพฺรวุ’’นฺติ. –

อยํ สงฺคีติกาเรหิ วุตฺตคาถา. อิโต อปรา ติสฺโส โจรานํ, เถรสฺส จ วจนปฏิวจนคาถา –

๗๒๑.

‘‘กึ ภทนฺเต กริตฺวาน, โก วา อาจริโย ตว;

กสฺส สาสนมาคมฺม, ลพฺภเต ตํ อโสกตา.

๗๒๒.

‘‘สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี, ชิโน อาจริโย มม;

มหาการุณิโก สตฺถา, สพฺพโลกติกิจฺฉโก.

๗๒๓.

‘‘เตนายํ เทสิโต ธมฺโม, ขยคามี อนุตฺตโร;

ตสฺส สาสนมาคมฺม, ลพฺภเต ตํ อโสกตา.

๗๒๔.

‘‘สุตฺวาน โจรา อิสิโน สุภาสิตํ, นิกฺขิปฺป สตฺถานิ จ อาวุธานิ จ;

ตมฺหา จ กมฺมา วิรมึสุ เอเก, เอเก จ ปพฺพชฺชมโรจยึสุ.

๗๒๕.

‘‘เต ปพฺพชิตฺวา สุคตสฺส สาสเน, ภาเวตฺว โพชฺฌงฺคพลานิ ปณฺฑิตา;

อุทคฺคจิตฺตา สุมนา กตินฺทฺริยา, ผุสึสุ นิพฺพานปทํ อสงฺขต’’นฺติ. –

อิมาปิ สงฺคีติกาเรหิ วุตฺตคาถา.

ตตฺถ นตฺถิ เจตสิกํ ทุกฺขํ, อนเปกฺขสฺส, คามณีติ คามณิ, อเปกฺขาย, ตณฺหาย, อภาเวน อนเปกฺขสฺส มาทิสสฺส, โลหิตสภาโว ปุพฺโพ วิย, เจตสิกํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ นตฺถิ, โทมนสฺสาภาวาปเทเสน ภยาภาวํ วทติ. เตนาห ‘‘อติกฺกนฺตา ภยา สพฺเพ’’ติ. อติกฺกนฺตา ภยา สพฺเพติ ขีณสํโยชนสฺส อรหโต ปฺจวีสติ มหาภยา, อฺเ จ สพฺเพปิ ภยา เอกํเสน อติกฺกนฺตา อตีตา, อปคตาติ อตฺโถ.

ทิฏฺเ ธมฺเม ยถาตเถติ จตุสจฺจธมฺเม ปริฺาปหานสจฺฉิกิริยภาวนาวเสน มคฺคปฺาย ยถาภูตํ ทิฏฺเ. มรเณติ มรณเหตุ. ภารนิกฺเขปเน ยถาติ ยถา โกจิ ปุริโส สีเส ิเตน มหตา ครุภาเรน สํสีทนฺโต ตสฺส นิกฺเขปเน, อปนยเน น ภายติ, เอวํ สมฺปทมิทนฺติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘ภารา หเว ปฺจกฺขนฺธา, ภารหาโร จ ปุคฺคโล;

ภาราทานํ ทุขํ โลเก, ภารนิกฺเขปนํ สุข’’นฺติ. (สํ. นิ. ๓.๒๒);

สุจิณฺณนฺติ สุฏฺุ จริตํ. พฺรหฺมจริยนฺติ, สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สาสนพฺรหฺมจริยํ. ตโต เอว มคฺโค จาปิ สุภาวิโต อฏฺงฺคิโก อริยมคฺโคปิ สมฺมเทว ภาวิโต. โรคานมิว สงฺขเยติ ยถา พหูหิ โรเคหิ อภิภูตสฺส อาตุรสฺส โรคานํ สงฺขเย ปีติโสมนสฺสเมว โหติ, เอวํ ขนฺธโรคสงฺขเย มรเณ มาทิสสฺส ภยํ นตฺถิ.

นิรสฺสาทา ภวา ทิฏฺาติ ตีหิ ทุกฺขตาหิ อภิภูตา, เอกาทสหิ อคฺคีหิ อาทิตฺตา, ตโย ภวา นิรสฺสาทา, อสฺสาทรหิตา, มยา ทิฏฺา. วิสํ ปิตฺวาว ฉฑฺฑิตนฺติ ปมาทวเสน วิสํ ปิวิตฺวา ตาทิเสน ปโยเคน ฉฑฺฑิตํ วิย มรเณ เม ภยํ นตฺถีติ อตฺโถ.

มุตฺโตอาฆาตนา ยถาติ ยถา โจเรหิ มารณตฺถํ อาฆาตนํ นีโต เกนจิ อุปาเยน ตโต มุตฺโต หฏฺตุฏฺโ โหติ, เอวํ สํสารปารํ, นิพฺพานํ, คตตฺตา ปารคู, จตูหิปิ อุปาทาเนหิ อนุปาทาโน, ปริฺาทีนํ โสฬสนฺนํ กิจฺจานํ กตตฺตา กตกิจฺโจ กามาสวาทีหิ อนาสโว, อายุกฺขยา อายุกฺขยเหตุ ตุฏฺโ โสมนสฺสิโก โหติ.

อุตฺตมนฺติ เสฏฺํ. ธมฺมตนฺติ, ธมฺมสภาวํ. อรหตฺเต สิทฺเธ สิชฺฌนเหตุ อิฏฺาทีสุ ตาทิภาวํ. สพฺพโลเกติ สพฺพโลกสฺมิมฺปิ, ทีฆายุกสุขพหุลตาทิวเสน สํยุตฺเตปิ โลเก. อนตฺถิโกติ, อนเปกฺโข. อาทิตฺตาว ฆรา มุตฺโตติ ยถา โกจิ ปุริโส สมนฺตโต อาทิตฺตโต ปชฺชลิตโต เคหโต นิสฺสโฏ, ตโต นิสฺสรณนิมิตฺตํ น โสจติ, เอวํ ขีณาสโว มรณนิมิตฺตํ น โสจติ.

ยทตฺถิ สงฺคตํ กิฺจีติ ยํกิฺจิ อิมสฺมึ โลเก อตฺถิ, วิชฺชติ, อุปลพฺภติ สงฺคตํ, สตฺเตหิ สงฺขาเรหิ วา สมาคโม, สโมธานํ. ‘‘สงฺขต’’นฺติปิ ปาโ, ตสฺส ยํกิฺจิ ปจฺจเยหิ สมจฺจ สมฺภุยฺย กตํ, ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนนฺติ อตฺโถ. ภโว วา ยตฺถ ลพฺภตีติ ยสฺมึ สตฺตนิกาเย โย อุปปตฺติภโว ลพฺภติ. สพฺพํ อนิสฺสรํ เอตนฺติ สพฺพเมตํ อิสฺสรรหิตํ, น เอตฺถ เกนจิ ‘‘เอวํ โหตู’’ติ อิสฺสริยํ วตฺเตตุํ สกฺกา. อิติ วุตฺตํ มเหสินาติ ‘‘สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา’’ติ เอวํ วุตฺตํ มเหสินา สมฺมาสมฺพุทฺเธน. ตสฺมา ‘‘อนิสฺสรํ เอต’’นฺติ ปชานนฺโต มรณสฺมึ น โสจตีติ โยชนา.

คณฺหาติ ภวํ กิฺจีติ โย อริยสาวโก ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติอาทินา (ธ. ป. ๒๗๗) ยถา พุทฺเธน ภควตา เทสิตํ, ตถา ตํ ภวตฺตยํ วิปสฺสนาปฺาสหิตาย มคฺคปฺาย ปชานาติ. โส ยถา โกจิ ปุริโส สุขกาโม ทิวสํ สนฺตตฺตํ อโยคุฬํ หตฺเถน น คณฺหาติ, เอวํ กิฺจิ ขุทฺทกํ วา มหนฺตํ วา ภวํ น คณฺหาติ, น ตตฺถ ตณฺหํ กโรตีติ อตฺโถ.

น เม โหติ ‘‘อโหสิ’’นฺติ ‘‘อตีตมทฺธานํ อหํ อีทิโส อโหสิ’’นฺติ อตฺตทิฏฺิวเสน น เม จิตฺตปฺปวตฺติ อตฺถิ ทิฏฺิยา สมฺมเทว อุคฺฆาฏิตตฺตา, ธมฺมสภาวสฺส จ สุทิฏฺตฺตา. ‘‘ภวิสฺส’’นฺติ น โหติ เมติ ตโต เอว ‘‘อนาคตมทฺธานํ อหํ เอทิโส กถํ นุ โข ภวิสฺสํ ภเวยฺย’’นฺติ เอวมฺปิ เม น โหติ. สงฺขารา วิคมิสฺสนฺตีติ เอวํ ปน โหติ ‘‘ยถาปจฺจยํ ปวตฺตมานา สงฺขาราว, น เอตฺถ โกจิ อตฺตา วา อตฺตนิยํ วา, เต จ โข วิคมิสฺสนฺติ , วินสฺสิสฺสนฺติ, ขเณ ขเณ ภิชฺชิสฺสนฺตี’’ติ. ตตฺถ กา ปริเทวนาติ เอวํ ปสฺสนฺตสฺส มาทิสสฺส ตตฺถ สงฺขารคเต กา นาม ปริเทวนา.

สุทฺธนฺติ เกวลํ, อตฺตสาเรน อสมฺมิสฺสํ. ธมฺมสมุปฺปาทนฺติ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมสมุปฺปตฺตึ อวิชฺชาทิปจฺจเยหิ สงฺขาราทิธมฺมมตฺตปฺปวตฺตึ. สงฺขารสนฺตตินฺติ กิเลสกมฺมวิปากปฺปเภทสงฺขารปพนฺธํ. ปสฺสนฺตสฺส ยถาภูตนฺติ สห วิปสฺสนาย มคฺคปฺาย ยาถาวโต ชานนฺตสฺส.

ติณกฏฺสมํ โลกนฺติ ยถา อรฺเ อปริคฺคเห ติณกฏฺเ เกนจิ คยฺหมาเน อปรสฺส ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ อยํ คณฺหตี’’ติ น โหติ, เอวํ โส อสามิกตาย ติณกฏฺสมํ สงฺขารโลกํ ยทา ปฺาย ปสฺสติ, โส ตตฺถ มมตฺตํ อสํวินฺทํ อสํวินฺทนฺโต อลภนฺโต อกโรนฺโต. นตฺถิ เมติ ‘‘อหุ วต โสหํ, ตํ เม นตฺถี’’ติ น โสจติ.

อุกฺกณฺามิ สรีเรนาติ อสารเกน อภินุเทน ทุกฺเขน อกตฺุนา อสุจิทุคฺคนฺธเชคุจฺฉปฏิกฺกูลสภาเวน อิมินา กาเยน อุกฺกณฺามิ อิมํ กายํ นิพฺพินฺทนฺโต เอวํ ติฏฺามิ. ภเวนมฺหิ อนตฺถิโกติ สพฺเพนปิ ภเวน อนตฺถิโก อมฺหิ, น กิฺจิ ภวํ ปตฺเถมิ. โสยํ ภิชฺชิสฺสติ กาโยติ อยํ มม กาโย อิทานิ ตุมฺหากํ ปโยเคน อฺถา วา อฺตฺถ ภิชฺชิสฺสติ. อฺโ จ น ภวิสฺสตีติ อฺโ กาโย มยฺหํ อายตึ น ภวิสฺสติ, ปุนพฺภวาภาวโต.

ยํ โว กิจฺจํ สรีเรนาติ ยํ ตุมฺหากํ อิมินา สรีเรน ปโยชนํ, ตํ กโรถ ยทิจฺฉถ, อิจฺฉถ เจ. น เม ตปฺปจฺจยาติ, ตํ นิมิตฺตํ อิมสฺส สรีรสฺส ตุมฺเหหิ ยถิจฺฉิตกิจฺจสฺส กรณเหตุ. ตตฺถาติ เตสุ กโรนฺเตสุ จ อกโรนฺเตสุ จ. โทโส เปมฺจ เหหิตีติ ยถากฺกมํ ปฏิโฆ อนุนโย น ภวิสฺสติ, อตฺตโน ภเว อเปกฺขาย สพฺพโส ปหีนตฺตาติ อธิปฺปาโย. อฺปจฺจยา อฺตฺถ จ ปฏิฆานุนเยสุ อสนฺเตสุปิ ตปฺปจฺจยา, ‘‘ตตฺถา’’ติ วจนํ ยถาธิคตวเสน วุตฺตํ.

ตสฺสาติ อธิมุตฺตตฺเถรสฺส. ตํ วจนนฺติ ‘‘นตฺถิ เจตสิกํ ทุกฺข’’นฺติอาทิกํ มรเณ ภยาภาวาทิทีปกํ, ตโต เอว อพฺภุตํ โลมหํสนํ วจนํ สุตฺวา. มาณวาติ โจรา. โจรา หิ ‘‘มาณวา’’ติ วุจฺจนฺติ ‘‘มาณเวหิ สห คจฺฉนฺติ กตกมฺเมหิ อกตกมฺเมหิปี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๑๔๙) วิย.

กึภทนฺเต กริตฺวานาติ, ภนฺเต, กึ นาม ตโปกมฺมํ กตฺวา. โก วา ตว อาจริโย กสฺส สาสนํ, โอวาทํ นิสฺสาย อยํ อโสกตา มรณกาเล โสกาภาโว ลพฺภตีติ เอตํ อตฺถํ อพฺรวุํ, ปุจฺฉาวเสน กเถสุํ, ภาสึสุ.

ตํ สุตฺวา เถโร เตสํ ปฏิวจนํ เทนฺโต ‘‘สพฺพฺู’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สพฺพฺูติ ปโรปเทเสน วินา สพฺพปกาเรน สพฺพธมฺมาวโพธนสมตฺถสฺส อากงฺขาปฏิพทฺธวุตฺติโน อนาวรณาณสฺส อธิคเมน อตีตาทิเภทํ สพฺพํ ชานาตีติ, สพฺพฺู. เตเนว สมนฺตจกฺขุนา สพฺพสฺส ทสฺสนโต สพฺพทสฺสาวี. ยมฺหิ อนาวรณาณํ, ตเทว สพฺพฺุตฺาณํ, นตฺเถว อสาธารณาณปาฬิยา วิโรโธ วิสยุปฺปตฺติมุเขน อฺเหิ อสาธารณภาวทสฺสนตฺถํ เอกสฺเสว าณสฺส ทฺวิธา วุตฺตตฺตา. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ อิติวุตฺตกวณฺณนายํ (อิติวุ. อฏฺ. ๓๘) วิตฺถารโต วุตฺตเมวาติ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ปฺจนฺนมฺปิ มารานํ วิชยโต ชิโน, หีนาทิวิภาคภินฺเน สพฺพสฺมึ สตฺตนิกาเย อธิมุตฺตวุตฺติตาย มหติยา กรุณาย สมนฺนาคตตฺตา มหาการุณิโก, ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ ยถารหํ เวเนยฺยานํ อนุสาสนโต สตฺถา, ตโต เอว สพฺพโลกสฺส กิเลสโรคติกิจฺฉนโต สพฺพโลกติกิจฺฉโก, สมฺมาสมฺพุทฺโธ อาจริโย มมาติ โยชนา. ขยคามีติ นิพฺพานคามี.

เอวํ เถเรน สตฺถุ สาสนสฺส จ คุเณ ปกาสิเต ปฏิลทฺธสทฺธา เอกจฺเจ โจรา ปพฺพชึสุ, เอกจฺเจ อุปาสกตฺตํ ปเวเทสุํ. ตมตฺถํ ทีเปนฺโต ธมฺมสงฺคาหกา ‘‘สุตฺวาน โจรา’’ติอาทินา ทฺเว คาถา อภาสึสุ. ตตฺถ อิสิโนติ อธิสีลสิกฺขาทีนํ เอสนฏฺเน อิสิโน, อธิมุตฺตตฺเถรสฺส. นิกฺขิปฺปาติ ปหาย. สตฺถานิ จ อาวุธานิ จาติ อสิอาทิสตฺถานิ เจว ธนุกลาปาทิอาวุธานิ จ. ตมฺหา จ กมฺมาติ ตโต โจรกมฺมโต.

เต ปพฺพชิตฺวา สุคตสฺส สาสเนติ เต โจรา โสภนคมนตาทีหิ สุคตสฺส ภควโต สาสเน ปพฺพชฺชํ อุปคนฺตฺวา. ภาวนาวิเสสาธิคตาย โอทคฺยลกฺขณาย ปีติยา สมนฺนาคเมน อุทคฺคจิตฺตา. สุมนาติ โสมนสฺสปฺปตฺตา. กตินฺทฺริยาติ ภาวิตินฺทฺริยา. ผุสึสูติ อคฺคมคฺคาธิคเมน อสงฺขตํ นิพฺพานํ อธิคจฺฉึสุ. อธิมุตฺโต กิร โจเร นิพฺพิเสวเน กตฺวา, เต ตตฺเถว เปตฺวา, มาตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา, มาตรํ อาปุจฺฉิตฺวา, ปจฺจาคนฺตฺวา เตหิ สทฺธึ อุปชฺฌายสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา, ปพฺพาเชตฺวา อุปสมฺปทํ อกาสิ. อถ เตสํ กมฺมฏฺานํ อาจิกฺขิ , เต นจิรสฺเสว อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปพฺพชิตฺวา…เป… อสงฺขต’’นฺติ.

อธิมุตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปาราปริยตฺเถรคาถาวณฺณนา

สมณสฺส อหุ จินฺตาติอาทิกา อายสฺมโต ปาราปริยตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา สุคตีสุเยว สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ อฺตรสฺส พฺราหฺมณมหาสาลสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺส วยปฺปตฺตสฺส โคตฺตวเสน ปาราปริโยตฺเวว สมฺา อโหสิ. โส ตโย เวเท อุคฺคเหตฺวา พฺราหฺมณสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ คโต. เอกทิวสํ สตฺถุ ธมฺมเทสนากาเล เชตวนวิหารํ คนฺตฺวา ปริสปริยนฺเต นิสีทิ. สตฺถา ตสฺส อชฺฌาสยํ โอโลเกตฺวา อินฺทฺริยภาวนาสุตฺตํ (ม. นิ. ๓.๔๕๓) เทเสสิ. โส ตํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิ. ตํ สุตฺตํ อุคฺคเหตฺวา ตทตฺถมนุจินฺเตสิ. ยถา ปน อนุจินฺเตสิ, สฺวายมตฺโถ คาถาสุ เอว อาวิ ภวิสฺสติ. โส ตถา อนุวิจินฺเตนฺโต อายตนมุเขน วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปตฺโต. อปรภาเค อตฺตนา จินฺติตาการํ ปกาเสนฺโต –

๗๒๖.

‘‘สมณสฺส อหุ จินฺตา, ปาราปริยสฺส ภิกฺขุโน;

เอกกสฺส นิสินฺนสฺส, ปวิวิตฺตสฺส ฌายิโน.

๗๒๗.

‘‘กิมานุปุพฺพํ ปุริโส, กึ วตํ กึ สมาจารํ;

อตฺตโน กิจฺจการีสฺส, น จ กฺจิ วิเหเย.

๗๒๘.

‘‘อินฺทฺริยานิ มนุสฺสานํ, หิตาย อหิตาย จ;

อรกฺขิตานิ อหิตาย, รกฺขิตานิ หิตาย จ.

๗๒๙.

‘‘อินฺทฺริยาเนว สารกฺขํ, อินฺทฺริยานิ จ โคปยํ;

อตฺตโน กิจฺจการีสฺส, น จ กฺจิ วิเหเย.

๗๓๐.

‘‘จกฺขุนฺทฺริยํ เจ รูเปสุ, คจฺฉนฺตํ อนิวารยํ;

อนาทีนวทสฺสาวี, โส ทุกฺขา น หิ มุจฺจติ.

๗๓๑.

‘‘โสตินฺทฺริยํ เจ สทฺเทสุ, คจฺฉนฺตํ อนิวารยํ;

อนาทีนวทสฺสาวี, โส ทุกฺขา น หิ มุจฺจติ.

๗๓๒.

‘‘อนิสฺสรณทสฺสาวี, คนฺเธ เจ ปฏิเสวติ;

น โส มุจฺจติ ทุกฺขมฺหา, คนฺเธสุ อธิมุจฺฉิโต.

๗๓๓.

‘‘อมฺพิลํ มธุรคฺคฺจ, ติตฺตกคฺคมนุสฺสรํ;

รสตณฺหาย คธิโต, หทยํ นาวพุชฺฌติ.

๗๓๔.

‘‘สุภานฺยปฺปฏิกูลานิ , โผฏฺพฺพานิ อนุสฺสรํ;

รตฺโต ราคาธิกรณํ, วิวิธํ วินฺทเต ทุขํ.

๗๓๕.

‘‘มนํ เจเตหิ ธมฺเมหิ, โย น สกฺโกติ รกฺขิตุํ;

ตโต นํ ทุกฺขมนฺเวติ, สพฺเพเหเตหิ ปฺจหิ.

๗๓๖.

‘‘ปุพฺพโลหิตสมฺปุณฺณํ, พหุสฺส กุณปสฺส จ;

นรวีรกตํ วคฺคุํ, สมุคฺคมิว จิตฺติตํ.

๗๓๗.

‘‘กฏุกํ มธุรสฺสาทํ, ปิยนิพนฺธนํ ทุขํ;

ขุรํว มธุนา ลิตฺตํ, อุลฺลิหํ นาวพุชฺฌติ.

๗๓๘.

‘‘อิตฺถิรูเป อิตฺถิสเร, โผฏฺพฺเพปิ จ อิตฺถิยา;

อิตฺถิคนฺเธสุ สารตฺโต, วิวิธํ วินฺทเต ทุขํ.

๗๓๙.

‘‘อิตฺถิโสตานิ สพฺพานิ, สนฺทนฺติ ปฺจ ปฺจสุ;

เตสมาวรณํ กาตุํ, โย สกฺโกติ วีริยวา.

๗๔๐.

‘‘โส อตฺถวา โส ธมฺมฏฺโ, โส ทกฺโข โส วิจกฺขโณ;

กเรยฺย รมมาโนปิ, กิจฺจํ ธมฺมตฺถสํหิตํ.

๗๔๑.

‘‘อโถ สีทติ สฺุตฺตํ, วชฺเช กิจฺจํ นิรตฺถกํ;

น ตํ กิจฺจนฺติ มฺิตฺวา, อปฺปมตฺโต วิจกฺขโณ.

๗๔๒.

‘‘ยฺจ อตฺเถน สฺุตฺตํ, ยา จ ธมฺมคตา รติ;

ตํ สมาทาย วตฺเตถ, สา หิ เว อุตฺตมา รติ.

๗๔๓.

‘‘อุจฺจาวเจหุปาเยหิ, ปเรสมภิชิคีสติ;

หนฺตฺวา วธิตฺวา อถ โสจยิตฺวา, อาโลปติ สาหสา โย ปเรสํ.

๗๔๔.

‘‘ตจฺฉนฺโต อาณิยา อาณึ, นิหนฺติ พลวา ยถา;

อินฺทฺริยานินฺทฺริเยเหว, นิหนฺติ กุสโล ตถา.

๗๔๕.

‘‘สทฺธํ วีริยํ สมาธิฺจ, สติปฺฺจ ภาวยํ;

ปฺจ ปฺจหิ หนฺตฺวาน, อนีโฆ ยาติ พฺราหฺมโณ.

๗๔๖.

‘‘โส อตฺถวา โส ธมฺมฏฺโ, กตฺวา วากฺยานุสาสนึ;

สพฺเพน สพฺพํ พุทฺธสฺส, โส นโร สุขเมธตี’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ สมณสฺสาติ ปพฺพชิตสฺส. อหูติ อโหสิ. จินฺตาติ ธมฺมจินฺตา ธมฺมวิจารณา. ปาราปริยสฺสาติ ปาราปรโคตฺตสฺส. ‘‘ปาราจริยสฺสา’’ติปิ ปนฺติ. ภิกฺขุโนติ สํสาเร ภยํ อิกฺขนสีลสฺส. เอกกสฺสาติ อสหายสฺส, เอเตน กายวิเวกํ ทสฺเสติ. ปวิวิตฺตสฺสาติ ปวิเวกเหตุนา กิเลสานํ วิกฺขมฺภเนน วิเวกํ อารทฺธสฺส, เอเตน จิตฺตวิเวกํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ฌายิโน’’ติ. ฌายิโนติ ฌายนสีลสฺส, โยนิโสมนสิกาเรสุ ยุตฺตสฺสาติ อตฺโถ. สพฺพเมตํ เถโร อตฺตานํ ปรํ วิย กตฺวา วทติ.

‘‘กิมานุปุพฺพ’’นฺติอาทินา ตํ จินฺตนํ ทสฺเสติ. ตตฺถ ปมคาถายํ ตาว กิมานุปุพฺพนฺติ อนุปุพฺพํ อนุกฺกโม, อนุปุพฺพเมว วกฺขมาเนสุ วตสมาจาเรสุ โก อนุกฺกโม, เกน อนุกฺกเมน เต ปฏิปชฺชิตพฺพาติ อตฺโถ. ปุริโส กึ วตํ กึ สมาจารนฺติ อตฺถกาโม ปุริโส สมาทิยิตพฺพฏฺเน ‘‘วต’’นฺติ ลทฺธนามํ, กีทิสํ สีลํ สมาจารํ, สมาจรนฺโต, อตฺตโน กิจฺจการี กตฺตพฺพการี อสฺส, กฺจิ สตฺตํ น จ วิเหเย, น พาเธยฺยาติ อตฺโถ. อตฺตโน กิจฺจํ นาม สมณธมฺโม, สงฺเขปโต สีลสมาธิปฺา, ตํ สมฺปาเทนฺตสฺส ปรวิเหนาย เลโสปิ นตฺถิ ตาย สติ สมณภาวสฺเสว อภาวโต.

ยถาห ภควา – ‘‘น หิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตี, น สมโณ โหติ ปรํ วิเหยนฺโต’’ติ (ธ. ป. ๑๘๔). เอตฺถ จ วตคฺคหเณน วาริตฺตสีลํ คหิตํ, สมาจารคฺคหเณน สมาจริตพฺพโต จาริตฺตสีเลน สทฺธึ ฌานวิปสฺสนาทิ, ตสฺมา วาริตฺตสีลํ ปธานํ. ตตฺถาปิ จ ยสฺมา อินฺทฺริยสํวเร สิทฺเธ สพฺพํ สีลํ สุรกฺขิตํ, สุโคปิตเมว โหติ, ตสฺมา อินฺทฺริยสํวรสีลํ ตาว ทสฺเสตุกาโม อินฺทฺริยานํ อรกฺขเณ รกฺขเณ จ อาทีนวานิสํเส วิภาเวนฺโต ‘‘อินฺทฺริยานิ มนุสฺสาน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อินฺทฺริยานีติ รกฺขิตพฺพธมฺมนิทสฺสนํ, ตสฺมา จกฺขาทีนิ ฉ อินฺทฺริยานีติ วุตฺตํ โหติ. มนุสฺสานนฺติ รกฺขณโยคฺยปุคฺคลนิทสฺสนํ. หิตายาติ อตฺถาย. อหิตายาติ อนตฺถาย. โหนฺตีติ วจนเสโส. กถํ ปน ตานิเยว หิตาย จ อหิตาย โหนฺตีติ อาห ‘‘รกฺขิตานี’’ติอาทิ. ตสฺสตฺโถ – ยสฺส จกฺขาทีนิ อินฺทฺริยานิ สติกวาเฏน อปิหิตานิ, ตสฺส รูปาทีสุ อภิชฺฌาทิปาปธมฺมปวตฺติยา ทฺวารภาวโต อนตฺถาย ปิหิตานิ, ตทภาวโต อตฺถาย สํวตฺตนฺตีติ.

อินฺทฺริยาเนวสารกฺขนฺติ ยสฺมา อินฺทฺริยสํวโร ปริปุณฺโณ สีลสมฺปทํ ปริปูเรติ, สีลสมฺปทา ปริปุณฺณา สมาธิสมฺปทํ ปริปูเรติ, สมาธิสมฺปทา ปริปุณฺณา ปฺาสมฺปทํ ปริปูเรติ, ตสฺมา อินฺทฺริยารกฺขา อตฺตหิตปฏิปตฺติยาว มูลนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อินฺทฺริยาเนว สารกฺข’’นฺติ. สติปุพฺพงฺคเมน อารกฺเขน สํรกฺขนฺโต โยนิโสมนสิกาเรน อินฺทฺริยานิ เอว ตาว สมฺมเทว รกฺขนฺโต, ยถา อกุสลโจรา เตหิ เตหิ ทฺวาเรหิ ปวิสิตฺวา จิตฺตสนฺตาเน กุสลํ ภณฺฑํ น วิลุมฺปนฺติ, ตถา ตานิ ปิทหนฺโตติ อตฺโถ. สารกฺขนฺติ จ สํ-สทฺทสฺส สาภาวํ กตฺวา วุตฺตํ, ‘‘สาราโค’’ติอาทีสุ วิย. ‘‘สํรกฺข’’นฺติ จ ปาโ. อินฺทฺริยานิ จ โคปยนฺติ ตสฺเสว ปริยายวจนํ, ปริยายวจเน ปโยชนํ เนตฺติอฏฺกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ‘‘อตฺตโน กิจฺจการีสฺสา’’ติ อิมินา อตฺตหิตปฏิปตฺตึ ทสฺเสติ, ‘‘น จ กฺจิ วิเหเย’’ติ อิมินา ปรหิตปฏิปตฺตึ, อุภเยนาปิ วา อตฺตหิตปฏิปตฺติเมว ทสฺเสติ ปราวิเหนสฺสาปิ อตฺตหิตปฏิปตฺติภาวโต. อถ วา ปททฺวเยนปิ อตฺตหิตปฏิปตฺตึ ทสฺเสติ ปุถุชฺชนสฺส เสกฺขสฺส จ ปรหิตปฏิปตฺติยาปิ อตฺตหิตปฏิปตฺติภาวโต.

เอวํ รกฺขิตานิ อินฺทฺริยานิ หิตาย โหนฺตีติ โวทานปกฺขํ สงฺเขเปเนว ทสฺเสตฺวา, อรกฺขิตานิ อหิตาย โหนฺตีติ สํกิเลสปกฺขํ ปน วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘จกฺขุนฺทฺริยํ เจ’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จกฺขุนฺทฺริยํ เจ รูเปสุ, คจฺฉนฺตํ อนิวารยํ. อนาทีนวทสฺสาวีติ โย นีลปีตาทิเภเทสุ อิฏฺานิฏฺเสุ รูปายตเนสุ คจฺฉนฺตํ ยถารุจิ ปวตฺตนฺตํ จกฺขุนฺทฺริยํ อนิวารยํ, อนิวารยนฺโต อปฺปฏิพาหนฺโต ตถาปวตฺติยํ อาทีนวทสฺสาวี น โหติ เจ, ทิฏฺธมฺมิกํ สมฺปรายิกฺจ อาทีนวํ โทสํ น ปสฺสติ เจ . ‘‘คจฺฉนฺตํ นิวารเย อนิสฺสรณทสฺสาวี’’ติ จ ปาโ. ตตฺถ โย ‘‘ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตํ ภวิสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๕) วุตฺตวิธินา ทิฏฺมตฺเตเยว ตฺวา สติสมฺปชฺวเสน รูปายตเน ปวตฺตมาโน ตตฺถ นิสฺสรณทสฺสาวี นาม. วุตฺตวิปริยาเยน อนิสฺสรณทสฺสาวี ทฏฺพฺโพ. โส ทุกฺขา น หิ มุจฺจตีติ โส เอวรูโป ปุคฺคโล วฏฺฏทุกฺขโต น มุจฺจเตว. เอตฺถ จ จกฺขุนฺทฺริยสฺส อนิวารณํ นาม ยถา เตน ทฺวาเรน อภิชฺฌาทโย ปาปธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตถา ปวตฺตนํ, ตํ ปน อตฺถโต สติสมฺปชฺสฺส อนุฏฺาปนํ ทฏฺพฺพํ. เสสินฺทฺริเยสุปิ เอเสว นโย. อธิมุจฺฉิโตติ อธิมุตฺตตณฺหาย มุจฺฉํ อาปนฺโน. อมฺพิลนฺติ อมฺพิลรสํ. มธุรคฺคนฺติ มธุรรสโกฏฺาสํ. ตถา ติตฺตกคฺคํ. อนุสฺสรนฺติ อสฺสาทวเสน ตํ ตํ รสํ อนุวิจินฺเตนฺโต. คนฺถิโตติ รสตณฺหาย ตสฺมึ ตสฺมึ รเส คนฺถิโต พนฺโธ. ‘‘คธิโต’’ติ จ ปนฺติ, เคธํ อาปนฺโนติ อตฺโถ. หทยํ นาวพุชฺฌตีติ ‘‘ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสามี’’ติ ปพฺพชฺชาทิกฺขเณ อุปฺปนฺนํ จิตฺตํ น ชานาติ น สลฺลกฺเขติ , สาสนสฺส หทยํ อพฺภนฺตรํ อนวชฺชธมฺมานํ สมฺมทฺทนรสตณฺหาย คธิโต นาวพุชฺฌติ น ชานาติ, น ปฏิปชฺชตีติ อตฺโถ.

สุภานีติ สุนฺทรานิ. อปฺปฏิกูลานีติ มโนรมานิ, อิฏฺานิ. โผฏฺพฺพานีติ อุปาทิณฺณานุปาทิณฺณปฺปเภเท ผสฺเส. รตฺโตติ รชฺชนสภาเวน ราเคน รตฺโต. ราคาธิกรณนฺติ ราคเหตุ. วิวิธํ วินฺทเต ทุขนฺติ ราคปริฬาหาทิวเสน ทิฏฺธมฺมิกฺจ นิรยสนฺตาปาทิวเสน อภิสมฺปรายฺจ นานปฺปการํ ทุกฺขํ ปฏิลภติ.

มนํ เจเตหีติ มนฺจ เอเตหิ รูปารมฺมณาทีหิ ธมฺมารมฺมณปฺปเภเทหิ จ. นฺติ ปุคฺคลํ. สพฺเพหีติ สพฺเพหิ ปฺจหิปิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โย ปุคฺคโล มนํ, มโนทฺวารํ, เอเตหิ ยถาวุตฺเตหิ รูปาทีหิ ปฺจหิ ธมฺเมหิ ธมฺมารมฺมณปฺปเภทโต จ. ตตฺถ ปวตฺตนกปาปกมฺมนิวารเณน รกฺขิตุํ, โคปิตุํ น สกฺโกติ, ตโต ตสฺส อรกฺขณโต นํ ปุคฺคลํ ตํนิมิตฺตํ ทุกฺขํ อนฺเวติ, อนุคจฺฉติ, อนุคจฺฉนฺตฺจ เอเตหิ ปฺจหิปิ รูปารมฺมณาทีหิ ฉฏฺารมฺมเณน สทฺธึ สพฺเพหิปิ อารมฺมณปฺปจฺจยภูเตหิ อนุคจฺฉตีติ. เอตฺถ จกฺขุนฺทฺริยํ, โสตินฺทฺริยฺจ อสมฺปตฺตคฺคาหิภาวโต ‘‘คจฺฉนฺตํ อนิวารย’’นฺติ วุตฺตํ อิตรํ สมฺปตฺตคฺคาหีติ ‘‘คนฺเธ เจ ปฏิเสวตี’’ติอาทินา วุตฺตํ. ตตฺถาปิ จ รสตณฺหา จ โผฏฺพฺพตณฺหา จ สตฺตานํ วิเสสโต พลวตีติ ‘‘รสตณฺหาย คธิโต, โผฏฺพฺพานิ อนุสฺสรนฺโตติ’’ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

เอวํ อคุตฺตทฺวารสฺส ปุคฺคลสฺส ฉหิ ทฺวาเรหิ ฉสุปิ อารมฺมเณสุ อสํวรนิมิตฺตํ อุปฺปชฺชนกทุกฺขํ ทสฺเสตฺวา สฺวายมสํวโร ยสฺมา สรีรสภาวานวโพเธน โหติ, ตสฺมา สรีรสภาวํ วิจินนฺโต ‘‘ปุพฺพโลหิตสมฺปุณฺณ’’นฺติอาทินา คาถาทฺวยมาห. ตสฺสตฺโถ – สรีรํ นาเมตํ ปุพฺเพน โลหิเตน จ สมฺปุณฺณํ ภริตํ อฺเน จ ปิตฺตเสมฺหาทินา พหุนา กุณเปน, ตยิทํ นรวีเรน นเรสุ เฉเกน สิปฺปาจริเยน กตํ วคฺคุ มฏฺํ ลาขาปริกมฺมาทินา จิตฺติตํ, อนฺโต ปน คูถาทิอสุจิภริตํ สมุคฺคํ วิย ฉวิมตฺตมโนหรํ พาลชนสมฺโมหํ ทุกฺขสภาวตาย นิรยาทิทุกฺขตาปนโต จ กฏุกํ, ปริกปฺปสมฺภเวน อมูลเกน อสฺสาทมตฺเตน มธุรตาย มธุรสฺสาทํ, ตโต เอว ปิยภาวนิพนฺธเนน ปิยนิพนฺธนํ, ทุสฺสหตาย อปฺปตีตตาย จ ทุขํ, อีทิเส สรีเร อสฺสาทโลเภน มหาทุกฺขํ ปจฺจนุภุยฺยมานํ อนวพุชฺฌนฺโต โลโก มธุรคิทฺโธ ขุรธาราเลหกปุริโส วิย ทฏฺพฺโพติ.

อิทานิ เอเต จกฺขาทีนํ โคจรภูตา รูปาทโย วุตฺตา, เต วิเสสโต ปุริสสฺส อิตฺถิปฏิพทฺธา กมนียาติ ตตฺถ สํวโร กาตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิตฺถิรูเป’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิตฺถิรูเปติ อิตฺถิยา จตุสมุฏฺานิกรูปายตนสงฺขาเต วณฺเณ. อปิ จ โย โกจิ อิตฺถิยา นิวตฺถสฺส อลงฺการสฺส วา คนฺธวณฺณกาทีนํ วา ปิฬนฺธนมาลานํ วา กายปฏิพทฺโธ วณฺโณ ปุริสสฺส จกฺขุวิฺาณสฺส อารมฺมณภาวาย อุปกปฺปติ, สพฺพเมตํ ‘‘อิตฺถิรูป’’นฺตฺเวว เวทิตพฺพํ. อิตฺถิสเรติ อิตฺถิยา คีตลปิตหสิตรุทิตสทฺเท. อปิ จ อิตฺถิยา นิวตฺถวตฺถสฺสปิ อลงฺกตอลงฺการสฺสปิ อิตฺถิปโยคนิปฺผาทิตา เวณุวีณาสงฺขปณวาทีนมฺปิ สทฺทา อิธ อิตฺถิสรคฺคหเณน คหิตาติ เวทิตพฺพา. สพฺโพเปโส ปุริสสฺส จิตฺตํ อากฑฺฒตีติ. ‘‘อิตฺถิรเส’’ติ ปน ปาฬิยา จตุสมุฏฺานิกรสายตนวเสน วุตฺตํ. อิตฺถิยา กึการปฏิสฺสาวิตาทิวเสน อสฺสวรโส เจว ปริโภครโส จ อิตฺถิรโสติ เอเก. โย ปน อิตฺถิยา โอฏฺมํสสมฺมกฺขิตเขฬาทิรโส, โย จ ตาย ปุริสสฺส ทินฺนยาคุภตฺตาทีนํ รโส, สพฺโพเปโส ‘‘อิตฺถิรโส’’ตฺเวว เวทิตพฺโพ. โผฏฺพฺเพปิ จ อิตฺถิยา กายสมฺผสฺโส, อิตฺถิสรีรารูฬฺหานํ วตฺถาลงฺการมาลาทีนํ ผสฺโส ‘‘อิตฺถิโผฏฺพฺโพ’’ตฺเวว เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ เยสํ อิตฺถิรูเป อิตฺถิสเรติ ปาฬิ, เตสํ อปิ-สทฺเทน อิตฺถิรสสงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อิตฺถิคนฺเธสูติ อิตฺถิยา จตุสมุฏฺานิกคนฺธายตเนสุ. อิตฺถิยา สรีรคนฺโธ นาม ทุคฺคนฺโธ. เอกจฺจา หิ อิตฺถี อสฺสคนฺธินี โหติ, เอกจฺจา เมณฺฑคนฺธินี, เอกจฺจา เสทคนฺธินี, เอกจฺจา โสณิตคนฺธินี, ตถาปิ ตาสุ อนฺธพาโล รชฺชเตว. จกฺกวตฺติโน ปน อิตฺถิรตนสฺส กายโต จนฺทนคนฺโธ วายติ, มุขโต อุปฺปลคนฺโธ, อยํ น สพฺพาสํ โหตีติ, อิตฺถิยา สรีเร อารูฬฺโห อาคนฺตุโก อนุลิมฺปนาทิคนฺโธ ‘‘อิตฺถิคนฺโธ’’ติ เวทิตพฺโพ. สารตฺโตติ สุฏฺุ รตฺโต คธิโต มุจฺฉิโต, อิทํ ปน ปทํ ‘‘อิตฺถิรูเป’’ติอาทีสุปิ โยเชตพฺพํ. วิวิธํ วินฺทเต ทุขนฺติ อิตฺถิรูปาทีสุ สราคนิมิตฺตํ ทิฏฺธมฺมิกํ วธพนฺธนาทิวเสน สมฺปรายิกํ ปฺจวิธพนฺธนาทิวเสน นานปฺปการํ ทุกฺขํ ปฏิลภติ.

อิตฺถิโสตานิ สพฺพานีติ อิตฺถิยา รูปาทิอารมฺมณานิ สพฺพานิ อนวเสสานิ ปฺจ ตณฺหาโสตานิ สนฺทนฺติ. ปฺจสูติ ปุริสสฺส ปฺจสุ ทฺวาเรสุ. เตสนฺติ เตสํ ปฺจนฺนํ โสตานํ. อาวรณนฺติ สํวรณํ, ยถา อสํวโร น อุปฺปชฺชติ, เอวํ สติสมฺปชฺํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา สํวรํ ปวตฺเตตุํ โย สกฺโกติ, โส วีริยวา อารทฺธวีริโย อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทายาติ อตฺโถ.

เอวํ รูปาทิโคจเร ปพฺพชิตสฺส ปฏิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ คหฏฺสฺส ทสฺเสตุํ ‘‘โส อตฺถวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โส อตฺถวา โส ธมฺมฏฺโ, โส ทกฺโข โส วิจกฺขโณติ โส ปุคฺคโล อิมสฺมึ โลเก อตฺถวา, พุทฺธิมา, ธมฺเม ิโต, ธมฺเม ทกฺโข, ธมฺเม เฉโก, อนลโส วา วิจกฺขโณ อิติ กตฺตพฺพตาสุ กุสโล นาม. กเรยฺย รมมาโนปิ, กิจฺจํ ธมฺมตฺถสํหิตนฺติ เคหรติยา รมมาโนปิ ธมฺมตฺถสํหิตํ ธมฺมโต อตฺถโต จ อนเปตเมว ตํ ตํ กตฺตพฺพํ. อนุปฺปนฺนานํ โภคานํ อุปฺปาทนํ, อุปฺปนฺนานํ ปริปาลนํ, ปริโภคฺจ กเรยฺย, อฺมฺํ, อวิโรเธน, อฺมฺํ, อพาธเนน, ติวคฺคตฺถํ อนุยุฺเชยฺยาติ อธิปฺปาโย . อยฺจ นโย เยสํ สมฺมาปฏิปตฺติอวิโรเธน ติวคฺคตฺถสฺส วเสน วตฺตติ พิมฺพิสารมหาราชาทีนํ วิย, เตสํ วเสน วุตฺโต. น เยสํ เกสฺจิ วเสนาติ ทฏฺพฺพํ.

อโถ สีทติ สฺุตฺตนฺติ ยทิ อิธโลเก สุปสํหิตํ ทิฏฺธมฺมิกํ อตฺถํ ปริคฺคเหตฺวา ิตํ. วชฺเช กิจฺจํ นิรตฺถกนฺติ สมฺปรายิกตฺถรหิตํ อนตฺถุปสํหิตํ กิจฺจํ สเจปิ วิสฺสชฺเชยฺย ปริจฺจเชยฺย. น ตํ กิจฺจนฺติ มฺิตฺวา, อปฺปมตฺโต วิจกฺขโณติ สติอวิปฺปวาเสน อปฺปมตฺโต วิจารณปฺาสมฺภเวน วิจกฺขโณ อนตฺถุปสํหิตํ, ตํ กิจฺจํ มยา น กาตพฺพนฺติ มฺิตฺวา วิวชฺเชยฺย.

วิวชฺเชตฺวา ปน ยฺจ อตฺเถน สฺุตฺตํ, ยา จ ธมฺมคตา รติ. ตํ สมาทาย วตฺเตถาติ ยํกิฺจิ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปฺปเภเทน อตฺเถน หิเตน สํยุตฺตํ ตทุภยหิตาวหํ, ยา จ อธิกุสลธมฺมคตา สมถวิปสฺสนาสหิตา รติ, ตทุภยํ สมฺมา อาทิยิตฺวา ปริคฺคหํ กตฺวา วตฺเตยฺย. ‘‘สพฺพํ รตึ ธมฺมรติ ชินาตี’’ติ (ธ. ป. ๓๕๔) วจนโต สา หิ เอกํเสน อุตฺตมตฺถสฺส ปาปนโต อุตฺตมา รติ นาม.

ยํ ปน กามรติสํยุตฺตํ กิจฺจํ นิรตฺถกนฺติ วุตฺตํ, ตสฺสา อนตฺถุปสํหิตภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุจฺจาวเจหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุจฺจาวเจหีติ มหนฺเตหิ เจว ขุทฺทเกหิ จ. อุปาเยหีติ นเยหิ. ปเรสมภิชิคีสตีติ ปเรสํ สนฺตกํ อาหริตุํ อิจฺฉติ, ปเร วา สพฺพถา หาเปติ, ชินาเปติ ปรํ หนฺตฺวา, วธิตฺวา อถ โสจยิตฺวา, อาโลปติ สาหสา โย ปเรสํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โย ปุคฺคโล กามเหตุ ปเร หนนฺโต, ฆาเตนฺโต, โสเจนฺโต สนฺธิจฺเฉทสนฺธิรุหนปสยฺหาวหาราทีหิ นานุปาเยหิ ปเรสํ สนฺตกํ หริตุํ วายมนฺโต สาหสาการํ กโรติ, อาโลปติ, ชิคีสติ สาปเตยฺยวเสน ปเร หาเปติ, ตสฺส ตํ กิจฺจํ กามรติสนฺนิสฺสิตํ อนตฺถุปสํหิตํ เอกนฺตนิหีนนฺติ. เอเตน ตปฺปฏิปกฺขโต ธมฺมคตาย รติยา เอกํสโต อุตฺตมภาวํเยว วิภาเวติ.

อิทานิ ยํ ‘‘เตสมาวรณํ กาตุํ โย สกฺโกตี’’ติ อินฺทฺริยานํ อาวรณํ วุตฺตํ, ตํ อุปาเยน สห วิภาเวนฺโต ‘‘ตจฺฉนฺโต อาณิยา อาณึ, นิหนฺติ พลวา ยถา’’ติ อาห. ยถา พลวา กายพเลน, าณพเลน จ สมนฺนาคโต ตจฺฉโก รุกฺขทณฺฑคตํ อาณึ นีหริตุกาโม ตโต พลวตึ อาณึ โกเฏนฺโต ตโต นีหรติ, ตถา กุสโล ภิกฺขุ จกฺขาทีนิ อินฺทฺริยานิ วิปสฺสนาพเลน นิหนฺตุกาโม อินฺทฺริเยหิ เอว นิหนฺติ.

กตเมหิ ปนาติ อาห ‘‘สทฺธ’’นฺติอาทิ. ตสฺสตฺโถ – อธิโมกฺขลกฺขณํ สทฺธํ, ปคฺคหลกฺขณํ วีริยํ, อวิกฺเขปลกฺขณํ สมาธึ, อุปฏฺานลกฺขณํ สตึ, ทสฺสนลกฺขณํ ปฺนฺติ อิมานิปิ วิมุตฺติปริปาจกานิ ปฺจินฺทฺริยานิ ภาเวนฺโต วฑฺเฒนฺโต เอเตหิ ปฺจหิ อินฺทฺริเยหิ จกฺขาทีนิ ปฺจินฺทฺริยานิ อนุนยปฏิฆาทิกิเลสุปฺปตฺติยา ทฺวารภาววิหเนน หนฺตฺวา, อริยมคฺเคน ตทุปนิสฺสเย กิเลเส สมุจฺฉินฺทิตฺวา, ตโต เอว อนีโฆ นิทฺทุกฺโข พฺราหฺมโณ อนุปาทิเสสปรินิพฺพานเมว ยาติ อุปคจฺฉตีติ.

โส อตฺถวาติ โส ยถาวุตฺโต พฺราหฺมโณ อุตฺตมตฺเถน สมนฺนาคตตฺตา อตฺถวา, ตํ สมฺปาปเก ธมฺเม ิตตฺตา ธมฺมฏฺโ. สพฺเพน สพฺพํ อนวเสเสน วิธินา อนวเสสํ พุทฺธสฺส ภควโต วากฺยภูตํ อนุสาสนึ กตฺวา ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชิตฺวา ิโต. ตโต เอว โส นโร อุตฺตมปุริโส นิพฺพานสุขฺจ เอธติ, พฺรูเหติ, วฑฺเฒตีติ.

เอวํ เถเรน อตฺตโน จินฺติตาการวิภาวนาวเสน ปฏิปตฺติยา ปกาสิตตฺตา อิทเมว จสฺส อฺาพฺยากรณํ ทฏฺพฺพํ.

ปาราปริยตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. เตลกานิตฺเถรคาถาวณฺณนา

จิรรตฺตํ วตาตาปีติอาทิกา อายสฺมโต เตลกานิตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สตฺถุ อภิชาติโต ปุเรตรํเยว สาวตฺถิยํ อฺตรสฺมึ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา เตลกานีติ ลทฺธนาโม วยปฺปตฺโต เหตุสมฺปนฺนตาย กาเม ชิคุจฺฉนฺโต ฆราวาสํ ปหาย ปริพฺพาชกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา วิวฏฺฏชฺฌาสโย ‘‘โก โส ปารงฺคโต โลเก’’ติอาทินา วิโมกฺขปริเยสนํ จรมาโน เต เต สมณพฺราหฺมเณ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉติ, เต น สมฺปายนฺติ. โส เตน อนาราธิตจิตฺโต วิจรติ. อถ อมฺหากํ ภควติ โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺเก โลกหิตํ กโรนฺเต เอกทิวสํ สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต นจิรสฺเสว อรหตฺเต ปติฏฺาติ. โส เอกทิวสํ ภิกฺขูหิ สทฺธึ นิสินฺโน อตฺตนา อธิคตวิเสสํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ตทนุสาเรน อตฺตโน ปฏิปตฺตึ อนุสฺสริตฺวา ตํ สพฺพํ ภิกฺขูนํ อาจิกฺขนฺโต –

๗๔๗.

‘‘จิรรตฺตํ วตาตาปี, ธมฺมํ อนุวิจินฺตยํ;

สมํ จิตฺตสฺส นาลตฺถํ, ปุจฺฉํ สมณพฺราหฺมเณ.

๗๔๘.

‘‘โก โส ปารงฺคโต โลเก, โก ปตฺโต อมโตคธํ;

กสฺส ธมฺมํ ปฏิจฺฉามิ, ปรมตฺถวิชานนํ.

๗๔๙.

‘‘อนฺโตวงฺกคโต อาสิ, มจฺโฉว ฆสมามิสํ;

พทฺโธ มหินฺทปาเสน, เวปจิตฺยสุโร ยถา.

๗๕๐.

‘‘อฺฉามิ นํ น มุฺจามิ, อสฺมา โสกปริทฺทวา;

โก เม พนฺธํ มุฺจํ โลเก, สมฺโพธึ เวทยิสฺสติ.

๗๕๑.

‘‘สมณํ พฺราหฺมณํ วา กํ, อาทิสนฺตํ ปภงฺคุนํ;

กสฺส ธมฺมํ ปฏิจฺฉามิ, ชรามจฺจุปวาหนํ.

๗๕๒.

‘‘วิจิกิจฺฉากงฺขาคนฺถิตํ, สารมฺภพลสฺุตํ;

โกธปฺปตฺตมนตฺถทฺธํ, อภิชปฺปปฺปทารณํ.

๗๕๓.

‘‘ตณฺหาธนุสมุฏฺานํ, ทฺเว จ ปนฺนรสายุตํ;

ปสฺส โอรสิกํ พาฬฺหํ, เภตฺวาน ยทิ ติฏฺติ.

๗๕๔.

‘‘อนุทิฏฺีนํ อปฺปหานํ, สงฺกปฺปปรเตชิตํ;

เตน วิทฺโธ ปเวธามิ, ปตฺตํว มาลุเตริตํ.

๗๕๕.

‘‘อชฺฌตฺตํ เม สมุฏฺาย, ขิปฺปํ ปจฺจติ มามกํ;

ฉผสฺสายตนี กาโย, ยตฺถ สรติ สพฺพทา.

๗๕๖.

‘‘ตํ น ปสฺสามิ เตกิจฺฉํ, โย เมตํ สลฺลมุทฺธเร;

นานารชฺเชน สตฺเถน, นาฺเน วิจิกิจฺฉิตํ.

๗๕๗.

‘‘โก เม อสตฺโถ อวโณ, สลฺลมพฺภนฺตรปสฺสยํ;

อหึสํ สพฺพคตฺตานิ, สลฺลํ เม อุทฺธริสฺสติ.

๗๕๘.

‘‘ธมฺมปฺปติ หิ โส เสฏฺโ, วิสโทสปฺปวาหโก;

คมฺภีเร ปติตสฺส เม, ถลํ ปาณิฺจ ทสฺสเย.

๗๕๙.

‘‘รหเทหมสฺมิ โอคาฬฺโห, อหาริยรชมตฺติเก;

มายาอุสูยสารมฺภ, ถินมิทฺธมปตฺถเฏ.

๗๖๐.

‘‘อุทฺธจฺจเมฆถนิตํ, สํโยชนวลาหกํ;

วาหา วหนฺติ กุทฺทิฏฺึ, สงฺกปฺปา ราคนิสฺสิตา.

๗๖๑.

‘‘สวนฺติ สพฺพธิ โสตา, ลตา อุพฺภิชฺช ติฏฺติ;

เต โสเต โก นิวาเรยฺย, ตํ ลตํ โก หิ เฉจฺฉติ.

๗๖๒.

‘‘เวลํ กโรถ ภทฺทนฺเต, โสตานํ สนฺนิวารณํ;

มา เต มโนมโย โสตา, รุกฺขํว สหสา ลุเว.

๗๖๓.

‘‘เอวํ เม ภยชาตสฺส, อปารา ปารเมสโต;

ตาโณ ปฺาวุโธ สตฺถา, อิสิสงฺฆนิเสวิโต.

๗๖๔.

‘‘โสปานํ สุคตํ สุทฺธํ, ธมฺมสารมยํ ทฬฺหํ;

ปาทาสิ วุยฺหมานสฺส, มา ภายีติ จ มพฺรวิ.

๗๖๕.

‘‘สติปฏฺานปาสาทํ, อารุยฺห ปจฺจเวกฺขิสํ;

ยํ ตํ ปุพฺเพ อมฺิสฺสํ, สกฺกายาภิรตํ ปชํ.

๗๖๖.

‘‘ยทา จ มคฺคมทฺทกฺขึ, นาวาย อภิรูหนํ;

อนธิฏฺาย อตฺตานํ, ติตฺถมทฺทกฺขิมุตฺตมํ.

๗๖๗.

‘‘สลฺลํ อตฺตสมุฏฺานํ, ภวเนตฺติปฺปภาวิตํ;

เอเตสํ อปฺปวตฺตาย, เทเสสิ มคฺคมุตฺตมํ.

๗๖๘.

‘‘ทีฆรตฺตานุสยิตํ , จิรรตฺตมธิฏฺิตํ;

พุทฺโธ เมปานุที คนฺถํ, วิสโทสปฺปวาหโน’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ จิรรตฺตํ วตาติ จิรกาลํ วต. อาตาปีติ วีริยวา วิโมกฺขธมฺมปริเยสเน อารทฺธวีริโย. ธมฺมํ อนุวิจินฺตยนฺติ ‘‘กีทิโส นุ โข วิโมกฺขธมฺโม, กถํ วา อธิคนฺตพฺโพ’’ติ วิมุตฺติธมฺมํ อนุวิจินนฺโต คเวสนฺโต. สมํ จิตฺตสฺส นาลตฺถํ, ปุจฺฉํ สมณพฺราหฺมเณติ เต เต นานาติตฺถิเย สมณพฺราหฺมเณ วิมุตฺติธมฺมํ ปุจฺฉนฺโต ปกติยา อนุปสนฺตสภาวสฺส จิตฺตสฺส สมํ วูปสมภูตํ วฏฺฏทุกฺขวิสฺสรณํ อริยธมฺมํ นาลตฺถํ นาธิคจฺฉนฺติ อตฺโถ.

โกโส ปารงฺคโตติอาทิ ปุจฺฉิตาการทสฺสนํ. ตตฺถ โก โส ปารงฺคโต โลเกติ อิมสฺมึ โลเก ติตฺถการปฏิฺเสุ สมณพฺราหฺมเณสุ โก นุ โข โส สํสารสฺส ปารํ นิพฺพานํ อุปคโต. โก ปตฺโต อมโตคธนฺติ นิพฺพานปติฏฺํ วิโมกฺขมคฺคํ โก ปตฺโต อธิคโตติ อตฺโถ. กสฺส ธมฺมํ ปฏิจฺฉามีติ กสฺส สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา โอวาทธมฺมํ ปฏิคฺคณฺหามิ ปฏิปชฺชามิ. ปรมตฺถวิชานนนฺติ ปรมตฺถสฺส วิชานนํ, อวิปรีตปฺปวตฺตินิวตฺติโย ปเวเทนฺตนฺติ อตฺโถ.

อนฺโตวงฺกคโต อาสีติ วงฺกํ วุจฺจติ ทิฏฺิคตํ มโนวงฺกภาวโต, สพฺเพปิ วา กิเลสา, อนฺโตติ ปน หทยวงฺกสฺส อนฺโต, หทยพฺภนฺตรคตกิเลสวงฺโก วา อโหสีติ อตฺโถ. มจฺโฉว ฆสมามิสนฺติ อามิสํ ฆสนฺโต ขาทนฺโต มจฺโฉ วิย, คิลพฬิโส มจฺโฉ วิยาติ อธิปฺปาโย. พทฺโธ มหินฺทปาเสน, เวปจิตฺยสุโร ยถาติ มหินฺทสฺส สกฺกสฺส ปาเสน พทฺโธ ยถา เวปจิตฺติ อสุรินฺโท อเสริวิหารี มหาทุกฺขปฺปตฺโต, เอวมหํ ปุพฺเพ กิเลสปาเสน พทฺโธ อาสึ, อเสริวิหารี มหาทุกฺขปฺปตฺโตติ อธิปฺปาโย.

อฺฉามีติ อากฑฺฒามิ. นฺติ กิเลสปาสํ. น มุฺจามีติ น โมเจมิ. อสฺมา โสกปริทฺทวาติ อิมสฺมา โสกปริเทววฏฺฏโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถาปาเสน พทฺโธ มิโค สูกโร วา โมจนุปายํ อชานนฺโต ปริปฺผนฺทมาโน ตํ อาวิฺฉนฺโต พนฺธนํ ทฬฺหํ กโรติ, เอวํ อหํ ปุพฺเพ กิเลสปาเสน ปฏิมุกฺโก โมจนุปายํ อชานนฺโต กายสฺเจตนาทิวเสน ปริปฺผนฺทมาโน ตํ น โมเจสึ, อฺทตฺถุ ตํ ทฬฺหํ กโรนฺโต โสกาทินา ปรํ กิเลสํ เอว ปาปุณินฺติ. โก เม พนฺธํ มุฺจํ โลเก, สมฺโพธึ เวทยิสฺสตีติ อิมสฺมึ โลเก เอตํ กิเลสพนฺธเนน พนฺธํ มุฺจนฺโต สมฺพุชฺฌติ เอเตนาติ ‘‘สมฺโพธี’’ติ ลทฺธนามํ วิโมกฺขมคฺคํ โก เม เวทยิสฺสติ อาจิกฺขิสฺสตีติ อตฺโถ. ‘‘พนฺธมุฺจ’’นฺติปิ ปนฺติ, พนฺธา, พนฺธสฺส วา โมจกํ สมฺโพธินฺติ โยชนา.

อาทิสนฺตนฺติ เทเสนฺตํ. ปภงฺคุนนฺติ ปภฺชนํ กิเลสานํ วิทฺธํสนํ , ปภงฺคุนํ วา ธมฺมปฺปวตฺตึ อาทิสนฺตํ กเถนฺตํ ชราย มจฺจุโน จ ปวาหนํ กสฺส ธมฺมํ ปฏิจฺฉามิ. ‘‘ปฏิปชฺชามี’’ติ วา ปาโ, โส เอวตฺโถ. วิจิกิจฺฉากงฺขาคนฺถิตนฺติ ‘‘อโหสึ นุ โข อหมตีตมทฺธาน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตาย (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐) วิจิกิจฺฉาย อาสปฺปนปริสปฺปนาการวุตฺติยา กงฺขาย จ คนฺถิตํ. สารมฺภพลสฺุตนฺติ กรณุตฺตริยกรณลกฺขเณน พลปฺปตฺเตน สารมฺเภน ยุตฺตํ. โกธปฺปตฺตมนตฺถทฺธนฺติ สพฺพตฺถ โกเธน ยุตฺตมนสา ถทฺธภาวํ คตํ อภิชปฺปปฺปทารณํ. อิจฺฉิตาลาภาทิวเสน หิ ตณฺหา สตฺตานํ จิตฺตํ ปทาเลนฺตี วิย ปวตฺตติ. ทูเร ิตสฺสาปิ วิชฺฌนุปายตาย ตณฺหาว ธนุ สมุปติฏฺติ อุปฺปชฺชติ เอตสฺมาติ ตณฺหาธนุสมุฏฺานํ, ทิฏฺิสลฺลํ. ตํ ปน ยสฺมา วีสติวตฺถุกา สกฺกายทิฏฺิ, ทสวตฺถุกา มิจฺฉาทิฏฺีติ ตึสปฺปเภทํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ทฺเว จ ปนฺนรสายุต’’นฺติ, ทฺวิกฺขตฺตุํ ปนฺนรสเภทวนฺตนฺติ อตฺโถ. ปสฺส โอรสิกํ พาฬฺหํ, เภตฺวาน ยทิ ติฏฺตีติ ยํ อุรสมฺพนฺธนียตาย โอรสิกํ พาฬฺหํ พลวตรํ เภตฺวาน หทยํ วินิวิชฺฌิตฺวา ตสฺมึเยว หทเย ติฏฺติ, ตํ ปสฺสาติ อตฺตานเมว อาลปติ.

อนุทิฏฺีนํ อปฺปหานนฺติ อนุทิฏฺิภูตานํ เสสทิฏฺีนํ อปฺปหานการณํ. ยาว หิ สกฺกายทิฏฺิ สนฺตานโต น วิคจฺฉติ, ตาว สสฺสตทิฏฺิอาทีนํ อปฺปหานเมวาติ. สงฺกปฺปปรเตชิตนฺติ สงฺกปฺเปน มิจฺฉาวิตกฺเกน ปเร ปรชเน นิสฺสยลกฺขณํ ปติปติเต เตชิตํ อุสฺสาหิตํ. เตน วิทฺโธ ปเวธามีติ เตน ทิฏฺิสลฺเลน ยถา หทยํ อาหจฺจ ติฏฺติ, เอวํ วิทฺโธ ปเวธามิ สงฺกปฺปามิ สสฺสตุจฺเฉทาทิวเสน อิโต จิโต จ ปริวฏฺฏามิ. ปตฺตํวมาลุเตริตนฺติ มาลุเตน วายุนา เอริตํ วณฺฏโต มุตฺตํ ทุมปตฺตํ วิย.

อชฺฌตฺตํ เม สมุฏฺายาติ ยถา โลเก สลฺลํ นาม พาหิรโต อุฏฺาย อชฺฌตฺตํ นิมฺมเถตฺวา พาธติ, น เอวมิทํ. อิทํ ปน อชฺฌตฺตํ เม มม อตฺตภาเว สมุฏฺาย โส อตฺตภาวสฺิโต ฉผสฺสายตนกาโย ยถา ขิปฺปํ สีฆํ ปจฺจติ, ฑยฺหติ. ยถา กึ? อคฺคิ วิย สนิสฺสยฑาหโก ตํเยว มามกํ มม สนฺตกํ อตฺตภาวํ ฑหนฺโต ยตฺถ อุปฺปนฺโน, ตตฺเถว สรติ ปวตฺตติ.

ตํ น ปสฺสามิ เตกิจฺฉนฺติ ตาทิสาย ติกิจฺฉาย นิยุตฺตตาย เตกิจฺฉํ สลฺลกตฺตํ ภิสกฺกํ ตํ น ปสฺสามิ. โย เมตํ สลฺลมุทฺธเรติ โย ภิสกฺโก เอตํ ทิฏฺิสลฺลํ กิเลสสลฺลฺจ อุทฺธเรยฺย, อุทฺธรนฺโต จ นานารชฺเชน รชฺชุสทิสสงฺขาตาย เอสนิสลากาย ปเวเสตฺวาน สตฺเถน กนฺติตฺวา นาฺเน มนฺตาคทปฺปโยเคน วิจิกิจฺฉิตํ สลฺลํ ติกิจฺฉิตุํ สกฺกาติ อาหริตฺวา โยเชตพฺพํ. วิจิกิจฺฉิตนฺติ, จ นิทสฺสนมตฺตเมตํ. สพฺพสฺสปิ กิเลสสลฺลสฺส วเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อสตฺโถติ สตฺถรหิโต. อวโณติ วเณน วินา. อพฺภนฺตรปสฺสยนฺติ อพฺภนฺตรสงฺขาตํ หทยํ นิสฺสาย ิตํ. อหึสนฺติ อปีเฬนฺโต. ‘‘อหึสา’’ติ จ ปาโ, อหึสาย อปีฬเนนาติ อตฺโถ. อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – โก นุ โข กิฺจิ สตฺถํ อคฺคเหตฺวา วณฺจ อกโรนฺโต ตโต เอว สพฺพคตฺตานิ อพาเธนฺโต มม หทยพฺภนฺตรคตํ ปีฬาชนนโต อนฺโต ตุทนโต อนฺโต รุทฺธนโต จ ปรมตฺเถเนว สลฺลภูตํ กิเลสสลฺลํ อุทฺธริสฺสตีติ.

เอวํ ทสหิ คาถาหิ ปุพฺเพ อตฺตนา จินฺติตาการํ ทสฺเสตฺวา ปุนปิ ตํ ปการนฺตเรน ทสฺเสตุํ ‘‘ธมฺมปฺปติ หิ โส เสฏฺโ’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ธมฺมปฺปตีติ ธมฺมนิมิตฺตํ ธมฺมเหตุ. หีติ นิปาตมตฺตํ. โส เสฏฺโติ โส ปุคฺคโล อุตฺตโม. วิสโทสปฺปวาหโกติ โย มยฺหํ ราคาทิกิเลสสฺส ปวาหโก อุจฺฉินฺนโก. คมฺภีเร ปติตสฺส เม, ถลํ ปาณิฺจ ทสฺสเยติ โก นุ โข อติคมฺภีเร สํสารมโหเฆ ปติตสฺส มยฺหํ ‘‘มา ภายี’’ติ อสฺสาเสนฺโต นิพฺพานถลํ ตํสมฺปาปกํ อริยมคฺคหตฺถฺจ ทสฺเสยฺย.

รหเทหมสฺมิโอคาฬฺโหติ มหติ สํสารรหเท อหมสฺมิ สสีสํ นิมุชฺชนวเสน โอติณฺโณ อนุปวิฏฺโ. อหาริยรชมตฺติเกติ อปเนตุํ อสกฺกุเณยฺโย ราคาทิรโช มตฺติกา กทฺทโม เอตสฺสาติ อหาริยรชมตฺติโก, รหโท. ตสฺมึ รหทสฺมึ. ‘‘อหาริยรชมนฺติเก’’ติ วา ปาโ, อนฺติเก ิตราคาทีสุ ทุนฺนีหรณียราคาทิรเชติ อตฺโถ. สนฺตโทสปฏิจฺฉาทนลกฺขณา มายา, ปรสมฺปตฺติอสหนลกฺขณา อุสูยา, กรณุตฺตริยกรณลกฺขโณ สารมฺโภ, จิตฺตาลสิยลกฺขณํ ถินํ, กายาลสิยลกฺขณํ มิทฺธนฺติ อิเม ปาปธมฺมา ปตฺถฏา ยํ รหทํ, ตสฺมึ มายาอุสูยสารมฺภถินมิทฺธมปตฺถเฏ, มกาโร เจตฺถ ปทสนฺธิกโร วุตฺโต. ยถาวุตฺเตหิ อิเมหิ ปาปธมฺเมหิ ปตฺถเฏติ อตฺโถ.

อุทฺธจฺจเมฆถนิตํ, สํโยชนวลาหกนฺติ วจนวิปลฺลาเสน วุตฺตํ, ภนฺตสภาวํ อุทฺธจฺจํ เมฆถนิตํ เมฆคชฺชิตํ เอเตสนฺติ อุทฺธจฺจเมฆถนิตา. ทสวิธา สํโยชนา เอว วลาหกา เอเตสนฺติ สํโยชนวลาหกา. วาหา มหาอุทกวาหสทิสา ราคนิสฺสิตา มิจฺฉาสงฺกปฺปา อสุภาทีสุ ิตา กุทฺทิฏฺึ มํ วหนฺติ อปายสมุทฺทเมว อุทฺทิสฺส กฑฺฒนฺตีติ อตฺโถ.

สวนฺติ สพฺพธิ โสตาติ ตณฺหาโสโต, ทิฏฺิโสโต, มานโสโต, อวิชฺชาโสโต, กิเลสโสโตติ อิเม ปฺจปิโสตา จกฺขุทฺวาราทีนํ วเสน สพฺเพสุ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ สวนโต ‘‘รูปตณฺหา…เป… ธมฺมตณฺหา’’ติอาทินา (วิภ. ๒๐๔, ๒๓๒) สพฺพภาเคหิ วา สวนโต สพฺพธิ สวนฺติ. ลตาติ ปลิเวนฏฺเน สํสิพฺพนฏฺเน ลตา วิยาติ ลตา, ตณฺหา. อุพฺภิชฺช ติฏฺตีติ ฉหิ ทฺวาเรหิ อุพฺภิชฺชิตฺวา รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ ติฏฺติ. เต โสเตติ ตณฺหาทิเก โสเต มม สนฺตาเน สนฺทนฺเต มคฺคเสตุพนฺธเนน โก ปุริสวิเสโส นิวาเรยฺย, ตํ ลตนฺติ ตณฺหาลตํ, มคฺคสตฺเถน โก เฉจฺฉติ ฉินฺทิสฺสติ.

เวลํ กโรถาติ เตสํ โสตานํ เวลํ เสตุํ กโรถ สนฺนิวารณํ. ภทฺทนฺเตติ อาลปนาการทสฺสนํ. มา เต มโนมโย โสโตติ อุทกโสโต โอฬาริโก, ตสฺส พาลมหาชเนนปิ เสตุํ กตฺวา นิวารณํ สกฺกา. อยํ ปน มโนมโย โสโต สุขุโม ทุนฺนิวารโณ. โส ยถา อุทกโสโต วฑฺฒนฺโต กูเล ิตํ รุกฺขํ ปาเตตฺวาว นาเสติ, เอวํ ตุมฺเห อปายตีเร ิเต ตตฺถ สหสา ปาเตตฺวา อปายสมุทฺทํ ปาเปนฺโต มา ลุเว มา วินาเสยฺย มา อนยพฺยสนํ ปาเปยฺยาติ อตฺโถ.

เอวํ อยํ เถโร ปุริมตฺตภาเว ปริมทฺทิตสงฺขารตฺตา าณปริปากํ คตตฺตา ปวตฺติทุกฺขํ อุปธาเรนฺโต ยถา วิจิกิจฺฉาทิเก สํกิเลสธมฺเม ปริคฺคณฺหิ, ตมาการํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ชาตสํเวโค กึกุสลคเวสี สตฺถุ สนฺติกํ คโต ยํ วิเสสํ อธิมุจฺจิ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอวํ เม ภยชาตสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เอวํ เม ภยชาตสฺสาติ เอวํ วุตฺตปฺปกาเรน สํสาเร ชาตภยสฺส อปารา โอริมตีรโต สปฺปฏิภยโต สํสารวฏฺฏโต ‘‘กถํ นุ โข มุฺเจยฺย’’นฺติ ปารํ นิพฺพานํ, เอสโต คเวสโต, ตาโณ สเทวกสฺส โลกสฺส ตาณภูโต กิเลสสมุจฺเฉทนี ปฺา อาวุโธ เอตสฺสาติ ปฺาวุโธ. ทิฏฺธมฺมิกาทิอตฺเถน สตฺตานํ ยถารหํ อนุสาสนโต สตฺถา, อิสิสงฺเฆน อคฺคสาวกาทิอริยปุคฺคลสมูเหน นิเสวิโต ปยิรุปาสิโต อิสิสงฺฆนิเสวิโต, โสปานนฺติ เทสนาาเณน สุฏฺุ กตตฺตา อภิสงฺขตตฺตา สุกตํ, อุปกฺกิเลสวิรหิตโต สุทฺธํ, สทฺธาปฺาทิสารภูตํ ธมฺมสารมยํ ปฏิปกฺเขหิ อจลนียโต ทฬฺหํ, วิปสฺสนาสงฺขาตํ โสปานํ มโหเฆน วุยฺหมานสฺส มยฺหํ สตฺถา ปาทาสิ, ททนฺโต จ ‘‘อิมินา เต โสตฺถิ ภวิสฺสตี’’ติ สมสฺสาเสนฺโต มา ภายีติ จ อพฺรวิ, กเถสิ.

สติปฏฺานปาสาทนฺติ เตน วิปสฺสนาโสปาเนน กายานุปสฺสนาทินา ลทฺธพฺพจตุพฺพิธสามฺผลวิเสเสน จตุภูมิสมฺปนฺนํ สติปฏฺานปาสาทํ อารุหิตฺวา ปจฺจเวกฺขิสํ จตุสจฺจธมฺมํ มคฺคาเณน ปติอเวกฺขึ ปฏิวิชฺฌึ. ยํ ตํ ปุพฺเพ อมฺิสฺสํ, สกฺกายาภิรตํ ปชนฺติ เอวํ ปฏิวิทฺธสจฺโจ ยํ สกฺกาเย ‘‘อหํ มมา’’ติ อภิรตํ ปชํ ติตฺถิยชนํ เตน ปริกปฺปิตอตฺตานฺจ ปุพฺเพ สารโต อมฺิสฺสํ. ยทา จ มคฺคมทฺทกฺขึ, นาวาย อภิรูหนนฺติ อริยมคฺคนาวาย อภิรุหนูปายภูตํ ยทา วิปสฺสนามคฺคํ ยาถาวโต อทฺทกฺขึ. ตโต ปฏฺาย ตํ ติตฺถิยชนํ อตฺตานฺจ อนธิฏฺาย จิตฺเต อฏฺเปตฺวา อคฺคเหตฺวา ติตฺถํ นิพฺพานสงฺขาตสฺส อมตมหาปารสฺส ติตฺถภูตํ อริยมคฺคทสฺสนํ สพฺเพหิ มคฺเคหิ สพฺเพหิ กุสลธมฺเมหิ อุกฺกฏฺํ อทฺทกฺขึ, ยาถาวโต อปสฺสินฺติ อตฺโถ.

เอวํ อตฺตโน อนุตฺตรํ มคฺคาธิคมํ ปกาเสตฺวา อิทานิ ตสฺส เทสกํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ โถเมนฺโต ‘‘สลฺลํ อตฺตสมุฏฺาน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ สลฺลนฺติ ทิฏฺิมานาทิกิเลสสลฺลํ. อตฺตสมุฏฺานนฺติ ‘‘อห’’นฺติ มานฏฺานตาย ‘‘อตฺตา’’ติ จ ลทฺธนาเม อตฺตภาเว สมฺภูตํ. ภวเนตฺติปฺปภาวิตนฺติ ภวตณฺหาสมุฏฺิตํ ภวตณฺหาสนฺนิสฺสยํ. สา หิ ทิฏฺิมานาทีนํ สมฺภโว. เอเตสํ อปฺปวตฺตายาติ ยถาวุตฺตานํ ปาปธมฺมานํ อปฺปวตฺติยา อนุปฺปาทาย. เทเสสิ มคฺคมุตฺตมนฺติ อุตฺตมํ เสฏฺํ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ตทุปายฺจ วิปสฺสนามคฺคํ กเถสิ.

ทีฆรตฺตานุสยิตนฺติ อนมตคฺเค สํสาเร จิรกาลํ สนฺตาเน อนุ อนุ สยิตํ การณลาเภน อุปฺปชฺชนารหภาเวน ถามคตํ, ตโต จ จิรรตฺตํ อธิฏฺิตํ สนฺตานํ อชฺฌารุยฺห ิตํ. คนฺถนฺติ อภิชฺฌากายคนฺถาทึ มม สนฺตาเน คนฺถภูตํ กิเลสวิสโทสํ ปวาหโน พุทฺโธ ภควา อตฺตโน เทสนานุภาเวน อปานุที ปริชหาเปสิ, คนฺเถสุ หิ อนวเสสโต ปหีเนสุ อปฺปหีโน นาม กิเลโส นตฺถีติ.

เตลกานิตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. รฏฺปาลตฺเถรคาถาวณฺณนา

ปสฺสจิตฺตกตนฺติอาทิกา อายสฺมโต รฏฺปาลตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยํ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต อุปฺปตฺติโต ปุเรตรเมว หํสวตีนคเร คหปติมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต ปิตุ อจฺจเยน ฆราวาเส ปติฏฺิโต รตนโกฏฺาคารกมฺมิเกน ทสฺสิตํ อปริมาณํ กุลวํสานุคตํ ธนํ ทิสฺวา ‘‘อิมํ เอตฺตกํ ธนราสึ มยฺหํ ปิตุอยฺยกปยฺยกาทโย อตฺตนา สทฺธึ คเหตฺวา คนฺตุํ นาสกฺขึสุ, มยา ปน คเหตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา กปณทฺธิกาทีนํ มหาทานํ อทาสิ. โส อภิฺาลาภึ เอกํ ตาปสํ อุปฏฺหนฺโต เตน เทวโลกาธิปจฺเจ นิโยชิโต ยาวชีวํ ปุฺานิ กตฺวา ตโต จุโต เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา ตโต จุโต มนุสฺสโลเก ภินฺนํ รฏฺํ สนฺธาเรตุํ สมตฺถสฺส กุลสฺส เอกปุตฺตโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ.

เตน จ สมเยน ปทุมุตฺตโร ภควา โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก เวเนยฺยสตฺเต นิพฺพานมหานครสงฺขาตํ เขมนฺตภูมึ สมฺปาเปสิ. อถ โส กุลปุตฺโต อนุกฺกเมน วิฺุตํ ปตฺโต เอกทิวสํ อุปาสเกหิ สทฺธึ วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถารํ ธมฺมํ เทเสนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต ปริสปริยนฺเต นิสีทิ. เตน โข ปน สมเยน สตฺถา เอกํ ภิกฺขุํ สทฺธาปพฺพชิตานํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. ตํ ทิสฺวา โส ปสนฺนมานโส ตทตฺถาย จิตฺตํ เปตฺวา สตสหสฺสภิกฺขุปริวุตสฺส ภควโต มหตา สกฺกาเรน สตฺตาหํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา ปณิธานํ อกาสิ. สตฺถา ตสฺส อนนฺตราเยน อิชฺฌนภาวํ ทิสฺวา ‘‘อนาคเต โคตมสฺส นาม สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาสเน สทฺธาปพฺพชิตานํ อคฺโค ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากาสิ. โส สตฺถารํ ภิกฺขุสงฺฆฺจ วนฺทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. โส ตตฺถ ยาวตายุกํ ปุฺานิ กตฺวา ตโต จวิตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิโต ทฺเวนวุเต กปฺเป ผุสฺสสฺส ภควโต กาเล สตฺถุ เวมาติกภาติเกสุ ตีสุ ราชปุตฺเตสุ สตฺถารํ อุปฏฺหนฺเตสุ เตสํ ปุฺกิริยาย กิจฺจํ อกาสิ.

เอวํ ตตฺถ ตตฺถ ภเว ตํ ตํ พหุํ กุสลํ อุปจินิตฺวา สุคตีสุเยว สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กุรุรฏฺเ ถุลฺลโกฏฺิกนิคเม รฏฺปาลเสฏฺิโน เคเห นิพฺพตฺติ, ตสฺส ภินฺนํ รฏฺํ สนฺธาเรตุํ สมตฺเถ กุเล นิพฺพตฺตตฺตา รฏฺปาโลติ วํสานุคตเมว นามํ อโหสิ. โส มหตา ปริวาเรน วฑฺฒนฺโต อนุกฺกเมน โยพฺพนปตฺโต มาตาปิตูหิ ปติรูเปน ทาเรน สํโยชิโต มหนฺเต จ ยเส ปติฏฺาปิโต ทิพฺพสมฺปตฺติสทิสํ สมฺปตฺตึ ปจฺจนุโภติ. อถ ภควา กุรุรฏฺเ ชนปทจาริกํ จรนฺโต ถุลฺลโกฏฺิกํ อนุปาปุณิ. ตํ สุตฺวา รฏฺปาโล กุลปุตฺโต สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตุกาโม สตฺตาหํ ภตฺตจฺเฉทํ กตฺวา กิจฺเฉน กสิเรน มาตาปิตโร อนุชานาเปตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิตฺวา สตฺถุ อาณตฺติยา อฺตรสฺส เถรสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา โยนิโสมนสิกาเรน กมฺมํ กโรนฺโต วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๒.๙๗-๑๑๑) –

‘‘ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต, โลกเชฏฺสฺส ตาทิโน;

วรนาโค มยา ทินฺโน, อีสาทนฺโต อุรูฬฺหวา.

‘‘เสตจฺฉตฺโต ปโสภิโต, สกปฺปโน สหตฺถิโป;

อคฺฆาเปตฺวาน ตํ สพฺพํ, สงฺฆารามํ อการยึ.

‘‘จตุปฺาสสหสฺสานิ, ปาสาเท การยึ อหํ;

มโหฆทานํ กริตฺวาน, นิยฺยาเทสึ มเหสิโน.

‘‘อนุโมทิ มหาวีโร, สยมฺภู อคฺคปุคฺคโล;

สพฺเพ ชเน หาสยนฺโต, เทเสสิ อมตํ ปทํ.

‘‘ตํ เม พุทฺโธ วิยากาสิ, ชลชุตฺตรนามโก;

ภิกฺขุสงฺเฆ นิสีทิตฺวา, อิมา คาถา อภาสถ.

‘‘จตุปฺาสสหสฺสานิ, ปาสาเท การยี อยํ;

กถยิสฺสามิ วิปากํ, สุโณถ มม ภาสโต.

‘‘อฏฺารสสหสฺสานิ, กูฏาคารา ภวิสฺสเร;

พฺยมฺหุตฺตมมฺหิ นิพฺพตฺตา, สพฺพโสณฺณมยา จ เต.

‘‘ปฺาสกฺขตฺตุํ เทวินฺโท, เทวรชฺชํ กริสฺสติ;

อฏฺปฺาสกฺขตฺตุฺจ, จกฺกวตฺตี ภวิสฺสติ.

‘‘กปฺปสตสหสฺสมฺหิ, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘เทวโลกา จวิตฺวาน, สุกฺกมูเลน โจทิโต;

อฑฺเฒ กุเล มหาโภเค, นิพฺพตฺติสฺสติ ตาวเท.

‘‘โส ปจฺฉา ปพฺพชิตฺวาน, สุกฺกมูเลน โจทิโต;

รฏฺปาโลติ นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวโก.

‘‘ปธานปหิตตฺโต โส, อุปสนฺโต นิรูปธิ;

สพฺพาสเว ปริฺาย, นิพฺพายิสฺสตินาสโว.

‘‘อุฏฺาย อภินิกฺขมฺม, ชหิตา โภคสมฺปทา;

เขฬปิณฺเฑว โภคมฺหิ, เปมํ มยฺหํ น วิชฺชติ.

‘‘วีริยํ เม ธุรโธรยฺหํ, โยคกฺเขมาธิวาหนํ;

ธาเรมิ อนฺติมํ เทหํ, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสเน.

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส, วิโมกฺขาปิ จ อฏฺิเม;

ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา สตฺถารํ อนุชานาเปตฺวา มาตาปิตโร ปสฺสิตุํ ถุลฺลโกฏฺิกํ คนฺตฺวา, ตตฺถ สปทานํ ปิณฺฑาย จรนฺโต ปิตุ นิเวสเน อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ ลภิตฺวา ตํ อมตํ วิย ปริภุฺชนฺโต, ปิตรา นิมนฺติโต สฺวาตนาย อธิวาเสตฺวา, ทุติยทิวเส ปิตุ นิเวสเน ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิตฺวา อลงฺกตปฏิยตฺเต อิตฺถาคารชเน อุปคนฺตฺวา ‘‘กีทิสา นาม ตา, อยฺยปุตฺต, อจฺฉราโย, ยาสํ ตฺวํ เหตุ พฺรหฺมจริยํ จรสี’’ติอาทีนิ (ม. นิ. ๒.๓๐๑) วตฺวา, ปโลภนกมฺมํ กาตุํ อารทฺเธ ตสฺส อธิปฺปายํ ปริวตฺเตตฺวา อนิจฺจตาทิปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมํ กเถนฺโต –

๗๖๙.

‘‘ปสฺส จิตฺตกตํ พิมฺพํ, อรุกายํ สมุสฺสิตํ;

อาตุรํ พหุสงฺกปฺปํ, ยสฺส นตฺถิ ธุวํ ิติ.

๗๗๐.

‘‘ปสฺส จิตฺตกตํ รูปํ, มณินา กุณฺฑเลน จ;

อฏฺึ ตเจน โอนทฺธํ, สห วตฺเถหิ โสภติ.

๗๗๑.

‘‘อลตฺตกกตา ปาทา, มุขํ จุณฺณกมกฺขิตํ;

อลํ พาลสฺส โมหาย, โน จ ปารคเวสิโน.

๗๗๒.

‘‘อฏฺาปทกตา เกสา, เนตฺตา อฺชนมกฺขิตา;

อลํ พาลสฺส โมหาย, โน จ ปารคเวสิโน.

๗๗๓.

‘‘อฺชนีว นวา จิตฺตา, ปูติกาโย อลงฺกโต;

อลํ พาลสฺส โมหาย, โน จ ปารคเวสิโน.

๗๗๔.

‘‘โอทหิ มิคโว ปาสํ, นาสทา วาคุรํ มิโค;

ภุตฺวา นิวาปํ คจฺฉาม, กนฺทนฺเต มิคพนฺธเก.

๗๗๕.

‘‘ฉินฺโน ปาโส มิควสฺส, นาสทา วาคุรํ มิโค;

ภุตฺวา นิวาปํ คจฺฉาม, โสจนฺเต มิคลุทฺทเก’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ จิตฺตกตนฺติ จิตฺตํ กตํ จิตฺตกตํ, วตฺถาภรณมาลาทีหิ วิจิตฺตํ กตนฺติ อตฺโถ. พิมฺพนฺติ ทีฆาทิภาเวน ยุตฺตฏฺาเนสุ ทีฆาทีหิ องฺคปจฺจงฺเคหิ มณฺฑิตํ อตฺตภาวํ. อรุกายนฺติ นวนฺนํ วณมุขานํ โลมกูปานฺจ วเสน วิสฺสนฺทมานอสุจึ, สพฺพโส จ อรุภูตํ วณภูตํ อรูนํ วา กายํ. สมุสฺสิตนฺติ ตีหิ อฏฺิสเตหิ สมุสฺสิตํ. อาตุรนฺติ สพฺพกาลํ อิริยาปถนฺตราทีหิ ปริหริตพฺพตาย นิจฺจํ คิลานํ. พหุสงฺกปฺปนฺติ พาลชเนน อภูตํ อาโรเปตฺวา พหุธา สงฺกปฺปิตพฺพํ. ยสฺส นตฺถิ ธุวํ ิตีติ ยสฺส กายสฺส ธุวภาโว ิติสภาโว นตฺถิ, เอกํสโต เภทนวิกิรณวิทฺธํสนธมฺโมเยว. ตํ ปสฺสาติ สมีเป ิตํ ชนํ, อตฺตานเมว วา สนฺธาย วทติ.

รูปนฺติ สรีรํ. สรีรมฺปิ หิ ‘‘อฏฺิฺจ ปฏิจฺจ, นฺหารุฺจ ปฏิจฺจ, มํสฺจ ปฏิจฺจ, จมฺมฺจ ปฏิจฺจ, อากาโส ปริวาริโต ‘รูปนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๐๖) รูปนฺติ วุจฺจติ. มณินา กุณฺฑเลน จาติ สีสูปคาทิอาภรณคเตน มณินา กุณฺฑเลน จิตฺตกตํ. อฏฺึ ตเจน โอนทฺธนฺติ อลฺลจมฺเมน ปริโยนทฺธํ อติเรกติสตปเภทํ อฏฺึ ปสฺสาติ โยชนา. กุณฺฑเลน จาติ -สทฺเทน เสสาภรณาลงฺกาเร สงฺคณฺหาติ. สห วตฺเถหิ โสภตีติ ตยิทํ รูปํ มณินา จิตฺตกตมฺปิ วตฺเถหิ ปฏิจฺฉาทิตเมว โสภติ, น อปฏิจฺฉาทิตนฺติ อตฺโถ. เย ปน ‘‘อฏฺิตเจนา’’ติ ปนฺติ, เตสํ อฏฺิตเจนํ โอนทฺธํ โสภติ, โอนทฺธตฺตา อฏฺิตเจนาติ อตฺโถ.

อลตฺตกกตาติ อลตฺตเกน กตรฺชนา ลาขาย สํรฺชิตา. ปาทาติ จรณา. มุขํ จุณฺณกมกฺขิตนฺติ มุขํ จุณฺณเกน มกฺขิตํ, ยํ มณฺฑนมนุยุตฺตา สาสปกกฺเกน มุขปีฬกาทีนิ หริตฺวา โลณมตฺติกาย ทุฏฺโลหิตํ หริตฺวา มุขจุณฺณกวิเลปนํ กโรนฺติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อลนฺติ พาลสฺส อนฺธปุถุชฺชนสฺส โนจ ปารคเวสิโน วฏฺฏาภิรตสฺส โมหาย สมฺโมหนาย สมตฺถํ ตสฺส จิตฺตํ โมเหตุํ ปริยตฺตํ, ปารคเวสิโน ปน วิวฏฺฏาภิรตสฺส โน อลํ น ปริยตฺตํ.

อฏฺาปทกตาติ อฏฺปทากาเรน กตา สฺจิตา ปุริมภาเค เกเส กปฺเปตฺวา นลาฏสฺส ปฏิจฺฉาทนวเสน กตา เกสรจนา อฏฺปทํ นาม, ยํ ‘‘อลก’’นฺติปิ วุจฺจติ. เนตฺตา อฺชนมกฺขิตาติ อุโภปิ นยนานิ อนฺโต ทฺวีสุ อนฺเตสุ จ ยถา อฺชนจฺฉายา ทิสฺสติ, เอวํ อฺชิตฺชนานิ.

อฺชนีว นวา จิตฺตา, ปูติกาโย อลงฺกโตติ ยถา อฺชนี อฺชนนาฬิกา นวา อภินวา มาลากมฺมมกรทนฺตาทิวเสน จิตฺตา พหิ มฏฺา อุชฺชลา ทสฺสนียา, อนฺโต ปน น ทสฺสนียา โหติ, เอวเมว ตาสํ กาโย นฺหานพฺภฺชนวตฺถาลงฺกาเรหิ อลงฺกโต พหิ อุชฺชโล, อนฺโต ปน ปูติ นานปฺปการอสุจีหิ ภริโต ติฏฺตีติ อตฺโถ.

โอทหีติ โอฑฺเฑสิ. มิคโวติ, มิคลุทฺทโก. ปาสนฺติ, ทณฺฑวาคุรํ. นาสทาติ น สงฺฆฏฺเฏสิ. วาคุรนฺติ ปาสํ. นิวาปนฺติ มิคานํ ขาทนตฺถาย ขิตฺตํ ติณาทิฆาสํ. อุปมา โข อยํ เถเรน กตา อตฺถสฺส วิฺาปนาย. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ยถา มิคานํ มารณตฺถาย ทณฺฑวาคุรํ โอฑฺเฑตฺวา ตตฺถ นิวาปํ วิกิริย มิคลุทฺทเก นิลีเน ิเต ตตฺเถโก ชวปรกฺกมสมฺปนฺโน เฉโก มิโค ปาสํ อผุสนฺโต เอว ยถาสุขํ นิวาปํ ขาทิตฺวา, ‘‘วฺเจสิ วต มิโค’’ติ มิคลุทฺทเก วิรวนฺเต เอว คจฺฉติ. อปโร มิโค พลวา เฉโก ชวสมฺปนฺโนว ตตฺถ คนฺตฺวา นิวาปํ ขาทิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ปาสํ ฉินฺทิตฺวา, ‘‘วฺเจสิ วต มิโค, ปาโส ฉินฺโน’’ติ มิคลุทฺทเก โสจนฺเต เอว คจฺฉติ, เอวํ มยมฺปิ ปุพฺเพ ปุถุชฺชนกาเล มาตาปิตูหิ อาสชฺชนตฺถาย นิยฺยาทิเต โภเค ภุฺชิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ อสชฺชมานา นิกฺขนฺตา. อิทานิ ปน สพฺพโส ฉินฺนกิเลสา อปาสา หุตฺวา ิตา, เตหิ ทินฺนโภชนํ ภุฺชิตฺวา เตสุ โสจนฺเตสุ เอว คจฺฉามาติ.

เอวํ เถโร มิคลุทฺทกํ วิย มาตาปิตโร, หิรฺสุวณฺณํ อิตฺถาคารฺจ วาคุรชาลํ วิย, อตฺตนา ปุพฺเพ ภุตฺตโภเค จ อิทานิ ภุตฺตโภชนฺจ นิวาปติณํ วิย, อตฺตานํ มหามิคํ วิย จ กตฺวา ทสฺเสติ. อิมา คาถา วตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา รฺโ โกรพฺยสฺส มิคาชินอุยฺยาเน มงฺคลสิลาปฏฺเฏ นิสีทิ. เถรสฺส กิร ปิตา สตฺตสุ ทฺวารโกฏฺเกสุ อคฺคฬํ ทาเปตฺวา มลฺเล อาณาเปสิ ‘‘นิกฺขมิตุํ มา เทถ, กาสายานิ อปเนตฺวา เสตกานิ นิวาเสถา’’ติ, ตสฺมา เถโร อากาเสน อคมาสิ. อถ ราชา โกรพฺโย เถรสฺส ตตฺถ นิสินฺนภาวํ สุตฺวา ตํ อุปสงฺกมิตฺวา สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา ‘‘อิธ, โภ รฏฺปาล, ปพฺพชนฺโต พฺยาธิปาริชุฺํ วา ชราโภคาติปาริชุฺํ วา ปตฺโต ปพฺพชติ. ตฺวํ ปน กิฺจิปิ ปาริชุฺํ อนุปคโต เอว กสฺมา ปพฺพชิโต’’ติ ปุจฺฉิ. อถสฺส เถโร, ‘‘อุปนิยฺยติ โลโก อทฺธุโว, อตาโณ โลโก อนภิสฺสโร, อสฺสโก โลโก สพฺพํ ปหาย คมนียํ, อูโน โลโก อติตฺโต ตณฺหาทาโส’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๐๕) อิเมสํ จตุนฺนํ ธมฺมุทฺเทสานํ อตฺตานํ วิวิตฺตภาวํ กเถตฺวา ตสฺสา เทสนาย อนุคีตึ กเถนฺโต –

๗๗๖.

‘‘ปสฺสามิ โลเก สธเน มนุสฺเส, ลทฺธาน วิตฺตํ น ททนฺติ โมหา;

ลุทฺธา ธนํ สนฺนิจยํ กโรนฺติ, ภิยฺโยว กาเม อภิปตฺถยนฺติ.

๗๗๗.

‘‘ราชา ปสยฺหปฺปถวึ วิเชตฺวา, สสาครนฺตํ มหิมาวสนฺโต;

โอรํ สมุทฺทสฺส อติตฺตรูโป, ปารํ สมุทฺทสฺสปิ ปตฺถเยถ.

๗๗๘.

‘‘ราชา จ อฺเ จ พหู มนุสฺสา, อวีตตณฺหา มรณํ อุเปนฺติ;

อูนาว หุตฺวาน ชหนฺติ เทหํ, กาเมหิ โลกมฺหิ น หตฺถิ ติตฺติ.

๗๗๙.

‘‘กนฺทนฺติ นํ าตี ปกิริย เกเส, ‘อโห วตา โน อมรา’ติ จาหุ;

วตฺเถน นํ ปารุตํ นีหริตฺวา, จิตํ สโมธาย ตโต ฑหนฺติ.

๗๘๐.

‘‘โส ฑยฺหติ สูเลหิ ตุชฺชมาโน, เอเกน วตฺเถน ปหาย โภเค;

น มียมานสฺส ภวนฺติ ตาณา, าตี จ มิตฺตา อถ วา สหายา.

๗๘๑.

‘‘ทายาทกา ตสฺส ธนํ หรนฺติ, สตฺโต ปน คจฺฉติ เยนกมฺมํ;

น มียมานํ ธนมนฺเวติ กิฺจิ, ปุตฺตา จ ทารา จ ธนฺจ รฏฺํ.

๗๘๒.

‘‘น ทีฆมายุํ ลภเต ธเนน, น จาปิ วิตฺเตน ชรํ วิหนฺติ;

อปฺปํ หิทํ ชีวิตมาหุ ธีรา, อสสฺสตํ วิปฺปริณามธมฺมํ.

๗๘๓.

‘‘อฑฺฒา ทลิทฺทา จ ผุสนฺติ ผสฺสํ, พาโล จ ธีโร จ ตเถว ผุฏฺโ;

พาโล หิ พาลฺยา วธิโตว เสติ, ธีโร จ โน เวธติ ผสฺสผุฏฺโ.

๗๘๔.

‘‘ตสฺมา หิ ปฺาว ธเนน เสยฺยา, ยาย โวสานมิธาธิคจฺฉติ;

อพฺโยสิตตฺตา หิ ภวาภเวสุ, ปาปานิ กมฺมานิ กโรติ โมหา.

๗๘๕.

‘‘อุเปติ คพฺภฺจ ปรฺจ โลกํ, สํสารมาปชฺช ปรมฺปราย;

ตสฺสปฺปปฺโ อภิสทฺทหนฺโต, อุเปติ คพฺภฺจ ปรฺจ โลกํ.

๗๘๖.

‘‘โจโร ยถา สนฺธิมุเข คหีโต, สกมฺมุนา หฺติ ปาปธมฺโม;

เอวํ ปชา เปจฺจ ปรมฺหิ โลเก, สกมฺมุนา หฺติ ปาปธมฺโม.

๗๘๗.

‘‘กามา หิ จิตฺรา มธุรา มโนรมา, วิรูปรูเปน มเถนฺติ จิตฺตํ;

อาทีนวํ กามคุเณสุ ทิสฺวา, ตสฺมา อหํ ปพฺพชิโตมฺหิ ราช.

๗๘๘.

‘‘ทุมปฺผลานีว ปตนฺติ มาณวา, ทหรา จ วุฑฺฒา จ สรีรเภทา;

เอตมฺปิ ทิสฺวา ปพฺพชิโตมฺหิ ราช, อปณฺณกํ สามฺเมว เสยฺโย.

๗๘๙.

‘‘สทฺธายาหํ ปพฺพชิโต, อุเปโต ชินสาสเน;

อวฺฌา มยฺหํ ปพฺพชฺชา, อนโณ ภุฺชามิ โภชนํ.

๗๙๐.

‘‘กาเม อาทิตฺตโต ทิสฺวา, ชาตรูปานิ สตฺถโต;

คพฺภโวกฺกนฺติโต ทุกฺขํ, นิรเยสุ มหพฺภยํ.

๗๙๑.

‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, สํเวคํ อลภึ ตทา;

โสหํ วิทฺโธ ตทา สนฺโต, สมฺปตฺโต อาสวกฺขยํ.

๗๙๒.

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;

โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติ สมูหตา.

๗๙๓.

‘‘ยสฺสตฺถาย ปพฺพชิโต, อคารสฺมานคาริยํ;

โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, สพฺพสํโยชนกฺขโย’’ติ. – อิมา คาถา อโวจ;

ตตฺถ ปสฺสามิ โลเกติ อหํ, มหาราช, อิมสฺมึ โลเก สธเน ธนสมฺปนฺเน อฑฺเฒ มนุสฺเส ปสฺสามิ, เต ปน ลทฺธาน วิตฺตํ ธนํ ลภิตฺวา โภคสมฺปตฺติยํ ิตา สมณพฺราหฺมณาทีสุ กสฺสจิ กิฺจิปิ น ททนฺติ. กสฺมา? โมหา กมฺมสฺสกตาปฺาย อภาวโต. ลุทฺธา โลภาภิภูตา ยถาลทฺธํ ธนํ สนฺนิจยํ สพฺพโส นิเจตพฺพํ นิเธตพฺพํ กโรนฺติ. ภิยฺโยว ยถาธิคตกามโต อุปริ กาเม กามคุเณ ‘‘ตถาหํ เอทิเส จ โภเค ปฏิลเภยฺย’’นฺติ อภิปตฺถยนฺติ ปจฺจาสีสนฺติ ตชฺชฺจ วายามํ กโรนฺติ.

ภิยฺโย กามปตฺถนาย อุทาหรณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ราชา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปสยฺหปฺปถวึ วิเชตฺวาติ อตฺตโน วํสานุคตํ ปถวึ พลกฺกาเรน อภิวิชิย. อาวสนฺโตติ ปสาเสนฺโต. โอรํ สมุทฺทสฺสาติ อนวเสสํ สมุทฺทสฺส โอรภาคํ ลภิตฺวาปิ เตน อติตฺตรูโป ปารํ สมุทฺทสฺส ทีปนฺตรมฺปิ ปตฺถเยยฺย.

อวีตตณฺหาติ อวิคตตณฺหา. อูนาวาติ อปริปุณฺณมโนรถาว. กาเมหิ โลกมฺหิ น หตฺถิ ติตฺตีติ ตณฺหาวิปนฺนานํ อิมสฺมึ โลเก วตฺถุกาเมหิ ติตฺติ นาม นตฺถิ.

กนฺทนฺติ นนฺติ มตปุริสํ อุทฺทิสฺส ตสฺส คุเณ กิตฺเตนฺตา กนฺทนํ กโรนฺติ. อโห วตา โน อมราติ จาหูติ อโห วต อมฺหากํ าตี อมรา สิยุนฺติ จ กเถนฺติ, คาถาสุขตฺถฺเหตฺถ วตา-อิติ ทีฆํ กตฺวา วุตฺตํ.

โส ฑยฺหติ สูเลหิ ตุชฺชมาโนติ โส มตสตฺโต ฉวฑาหเกหิ สมฺมา ฌาเปตุํ สูเลหิ ตุชฺชมาโน. ตาณาติ ปริตฺตาณกรา.

เยนกมฺมนฺติ ยถากมฺมํ. ธนนฺติ ธนายิตพฺพํ ยํกิฺจิ วตฺถุ. ปุน ธนนฺติ หิรฺสุวณฺณํ สนฺธาย วทติ.

‘‘น ทีฆมายุ’’นฺติอาทินา กามคุณสฺส ชราย จ ปฏิการาภาวํ วตฺวา ปุน ตสฺส เอกนฺติกภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปฺปํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ผุสนฺตีติ อนิฏฺผสฺสํ ผุสนฺติ ปาปุณนฺติ, ตตฺถ อฑฺฒทลิทฺทตา อการณนฺติ ทสฺเสติ. ผสฺสํ พาโล จ ธีโร จ ตเถว ผุฏฺโติ ยถา พาโล อิฏฺานิฏฺสมฺผสฺสํ ผุฏฺโ, ตเถว ธีโร อิฏฺานิฏฺผสฺสํ ผุฏฺโ โหติ, น เอตฺถ พาลปณฺฑิตานํ โกจิ วิเสโส. อยํ ปน วิเสโส, พาโล หิ พาลฺยา วธิโตว เสตีติ พาลปุคฺคโล เกนจิ ทุกฺขธมฺเมน ผุฏฺโ โสจนฺโต กิลมนฺโต อุรตฺตาฬึ กนฺทนฺโต พาลภาเวน วธิโต ปีฬิโตว หุตฺวา เสติ สยติ. อิโต จิโต จ อาวฏฺฏนฺโต วิวฏฺฏนฺโต วิโรเธนฺโต เวธติ ผสฺสผุฏฺโติ ธีโร ปน ปณฺฑิโต ทุกฺขสมฺผสฺเสน สมฺผุฏฺโ น เวธติ กมฺปนมตฺตมฺปิ ตสฺส น โหตีติ.

ตสฺมาติ ยสฺมา พาลปณฺฑิตานํ โลกธมฺเม เอทิสี ปวตฺติ, ตสฺมา หิ ปฺาว ธเนน เสยฺยา, ยาย โวสานมิธาธิคจฺฉตีติ ปฺาว ธนโต ปาสํสตรา, ยาย ปฺาย โวสานํ ภวสฺส ปริโยสานภูตํ นิพฺพานํ อธิคจฺฉติ. อพฺโยสิตตฺตา หีติ อนธิคตนิฏฺตฺตา. ภวาภเวสูติ มหนฺตามหนฺเตสุ ภเวสุ.

อุเปติ คพฺภฺจ ปรฺจ โลกํ, สํสารมาปชฺช ปรมฺปรายาติ โย ปาปานิ กตฺวา อปราปรํ สํสรณมาปชฺชิตฺวา อุเปติ คพฺภฺจ ปรฺจ โลกํ คพฺภเสยฺยาย ปรโลกุปฺปตฺติยา จ น มุจฺจติ, ตสฺส ปาปกมฺมการิโน ปุคฺคลสฺส กิริยํ อภิสทฺทหนฺโต ‘‘อตฺตา จ เม โหตี’’ติ ปตฺติยายนฺโต อฺโปิ อปฺปปฺโ พาโล ยถา ปฏิปชฺชิตฺวา อุเปติ คพฺภฺจ ปรฺจ โลกํ, น ตโต ปริมุจฺจติ.

โจโร ยถาติ ยถา โจโร ปาปธมฺโม ฆรสนฺธึ ฉินฺทนฺโต สนฺธิมุเข อารกฺขกปุริเสหิ คหิโต สกมฺมุนา เตน อตฺตโน สนฺธิจฺเฉทกมฺมุนา การณภูเตน กสาทีหิ ตาฬนาทิวเสน หฺติ ราชปุริเสหิ พาธิยฺยติ พชฺฌติ จ. เอวํ ปชาติ เอวมยํ สตฺตโลโก อิธ ปาปานิ กริตฺวา เปจฺจ ปตฺวา เตน กมฺมุนา ปรมฺหิ โลเก นิรยาทีสุ หฺติ, ปฺจวิธพนฺธนกมฺมการณาทิวเสน พาธิยฺยติ.

เอวเมตาหิ เอกาทสหิ คาถาหิ ยถารหํ จตฺตาโร ธมฺมุทฺเทเส ปกาเสตฺวา อิทานิ กาเมสุ สํสาเร จ อาทีนวํ ทิสฺวา สทฺธาย อตฺตโน ปพฺพชิตภาวํ ปพฺพชิตกิจฺจสฺส จ มตฺถกปฺปตฺตึ วิภาเวนฺโต ‘‘กามา หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กามาติ วตฺถุกามา มนาปิยา รูปาทโย ธมฺมา, กิเลสกามา สพฺเพปิ ราคปฺปเภทา. อิธ ปน วตฺถุกามา เวทิตพฺพา. เต หิ รูปาทิวเสน อเนกปฺปการตาย จิตฺรา. โลกสฺสาทวเสน อิฏฺาการตาย มธุรา. พาลปุถุชฺชนานํ มนํ รเมนฺตีติ มโนรมา. วิรูปรูเปนาติ วิวิธรูเปน, อเนกวิธสภาเวนาติ อตฺโถ. เต หิ รูปาทิวเสน จิตฺรา, นีลาทิวเสน วิวิธรูปา. เอวํ เตน วิรูปรูเปน ตถา ตถา อสฺสาทํ ทสฺเสตฺวา มเถนฺติ จิตฺตํ ปพฺพชฺชาย อภิรมิตุํ น เทนฺตีติ อิมินา อปฺปสฺสาทพหุทุกฺขตาทินา อาทีนวํ กามคุเณสุ ทิสฺวา ตสฺมา ตํนิมิตฺตํ อหํ ปพฺพชิโต อมฺหิ. ทุมปฺผลานิ ปกฺกกาเล อปริปกฺกกาเล จ ยตฺถ กตฺถจิ ปรูปกฺกมโต สรสโต วา ปตนฺติ, เอวํ สตฺตา ทหรา จ วุฑฺฒา จ สรีรสฺส เภทา ปตนฺติเยว. เอตมฺปิ ทิสฺวาติ เอวํ อนิจฺจตมฺปิ ปฺาจกฺขุนา ทิสฺวา, น เกวลํ อปฺปสฺสาทตาทิตาย อาทีนวเมวาติ อธิปฺปาโย. อปณฺณกนฺติ อวิรทฺธนกํ สามฺเมว สมณภาโวว เสยฺโย อุตฺตริตโร.

สทฺธายาติ กมฺมํ กมฺมผลํ พุทฺธสุพุทฺธตํ ธมฺมสุธมฺมตํ สงฺฆสุปฺปฏิปตฺติฺจ สทฺทหิตฺวา. อุเปโตชินสาสเนติ สตฺถุ สาสเน สมฺมาปฏิปตฺตึ อุปคโต. อวฺฌา มยฺหํ ปพฺพชฺชา อรหตฺตสฺส อธิคตตฺตา. ตโต เอว อนโณ ภุฺชามิ โภชนํ นิกฺกิเลสวเสน สามิภาวโต สามิปริโภเคน ปริภุฺชนโต.

กาเม อาทิตฺตโต ทิสฺวาติ วตฺถุกาเม กิเลสกาเม จ เอกาทสหิ อคฺคีหิ อาทิตฺตภาวโต ทิสฺวา. ชาตรูปานิ สตฺถโตติ กตากตปฺปเภทา สพฺพสุวณฺณวิกติโย อนตฺถาวหตาย นิสิตสตฺถโต. คพฺภโวกฺกนฺติโต ทุกฺขนฺติ คพฺภโวกฺกนฺติโต ปฏฺาย สพฺพสํสารปวตฺติทุกฺขํ. นิรเยสุ มหพฺภยนฺติ สอุสฺสเทสุ อฏฺสุ มหานิรเยสุ ลพฺภมานํ มหาภยฺจ สพฺพตฺถ ทิสฺวาติ โยชนา.

เอตมาทีนวํ ตฺวาติ เอตํ กามานํ อาทิตฺตตาทึ สํสาเร อาทีนวํ โทสํ ตฺวา. สํเวคํ อลภึ ตทาติ ตสฺมึ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมสฺส สุตกาเล ภวาทิเก สํเวคํ อลตฺถํ. วิทฺโธ ตทา สนฺโตติ ตสฺมึ คหฏฺกาเล ราคสลฺลาทีหิ วิทฺโธ สมาโน อิทานิ สตฺถุ สาสนํ อาคมฺม สมฺปตฺโต อาสวกฺขยํ, วิทฺโธ วา จตฺตาริ สจฺจานิ, ปฏิวิทฺโธติ อตฺโถ. เสสํ อนฺตรนฺตราทีสุ วุตฺตตฺตา สุวิฺเยฺยเมว.

เอวํ เถโร รฺโ โกรพฺยสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา สตฺถุ สนฺติกเมว คโต. สตฺถา จ อปรภาเค อริยคณมชฺเฌ นิสินฺโน เถรํ สทฺธาปพฺพชิตานํ อคฺคฏฺาเน เปสีติ.

รฏฺปาลตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. มาลุกฺยปุตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา

รูปํทิสฺวา สติ มุฏฺาติอาทิกา อายสฺมโต มาลุกฺยปุตฺตสฺส คาถา. อิมสฺส อายสฺมโต วตฺถุ เหฏฺา ฉกฺกนิปาเต (เถรคา. ๓๙๙ อาทโย) วุตฺตเมว. ตา ปน คาถา เถเรน อรหตฺเต ปติฏฺิเตน าตีนํ ธมฺมเทสนาวเสน ภาสิตา. อิธ ปน ปุถุชฺชนกาเล ‘‘สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา สํขิตฺเตน ธมฺมํ เทเสตู’’ติ ยาจิเตน สตฺถารา ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มาลุกฺยปุตฺต, เย เต จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา อทิฏฺา อทิฏฺปุพฺพา, น จ ปสฺสสิ, น จ เต โหติ ปสฺเสยฺยนฺติ, อตฺถิ เต ตตฺถ ฉนฺโท วา ราโค วา เปมํ วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘เย เต โสตวิฺเยฺยา สทฺทา…เป… ฆาน…ชิวฺหา…กาย…มโนวิฺเยฺยา ธมฺมา อวิฺาตา อวิฺาตปุพฺพา, น จ วิชานาสิ, น จ เต โหติ วิชาเนยฺยนฺติ, อตฺถิ เต ตตฺถ ฉนฺโท วา ราโค วา เปมํ วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอตฺถ จ เต, มาลุกฺยปุตฺต, ทิฏฺสุตมุตวิฺาตพฺเพสุ ธมฺเมสุ ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตํ ภวิสฺสติ, สุเต สุตมตฺตํ, มุเต มุตมตฺตํ, วิฺาเต วิฺาตมตฺตํ ภวิสฺสติ. ยโต โข เต, มาลุกฺยปุตฺต, ทิฏฺสุตมุตวิฺาตพฺเพสุ ธมฺเมสุ ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตํ, สุเต สุตมตฺตํ, มุเต มุตมตฺตํ, วิฺาเต วิฺาตมตฺตํ ภวิสฺสติ, ตโต ตฺวํ, มาลุกฺยปุตฺต, น เตน. ยโต ตฺวํ, มาลุกฺยปุตฺต, น เตน, ตโต ตฺวํ, มาลุกฺยปุตฺต, น ตตฺถ. ยโต ตฺวํ, มาลุกฺยปุตฺต, น ตตฺถ, ตโต ตฺวํ, มาลุกฺยปุตฺต, เนวิธ น หุรํ น อุภยมนฺตเรน, เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๕). สํขิตฺเตน ธมฺเม เทสิเต ตสฺส ธมฺมสฺส สาธุกํ อุคฺคหิตภาวํ ปกาเสนฺเตน –

๗๙๔.

‘‘รูปํ ทิสฺวา สติ มุฏฺา, ปิยํ นิมิตฺตํ มนสิ กโรโต;

สารตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ อชฺโฌส ติฏฺติ.

๗๙๕.

‘‘ตสฺส วฑฺฒนฺติ เวทนา, อเนกา รูปสมฺภวา;

อภิชฺฌา จ วิเหสา จ, จิตฺตมสฺสูปหฺติ;

เอวมาจินโต ทุกฺขํ, อารา นิพฺพาน วุจฺจติ.

๗๙๖.

‘‘สทฺทํ สุตฺวา สติ มุฏฺา, ปิยํ นิมิตฺตํ มนสิ กโรโต;

สารตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ อชฺโฌส ติฏฺติ.

๗๙๗.

‘‘ตสฺส วฑฺฒนฺติ เวทนา, อเนกา สทฺทสมฺภวา;

อภิชฺฌา จ วิเหสา จ, จิตฺตมสฺสูปหฺติ;

เอวมาจินโต ทุกฺขํ, อารา นิพฺพาน วุจฺจติ.

๗๙๘.

‘‘คนฺธํ ฆตฺวา สติ มุฏฺา, ปิยํ นิมิตฺตํ มนสิ กโรโต;

สารตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ อชฺโฌส ติฏฺติ.

๗๙๙.

‘‘ตสฺส วฑฺฒนฺติ เวทนา, อเนกา คนฺธสมฺภวา;

อภิชฺฌา จ วิเหสา จ, จิตฺตมสฺสูปหฺติ;

เอวมาจินโต ทุกฺขํ, อารา นิพฺพาน วุจฺจติ.

๘๐๐.

‘‘รสํ โภตฺวา สติ มุฏฺา, ปิยํ นิมิตฺตํ มนสิ กโรโต;

สารตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ อชฺโฌส ติฏฺติ.

๘๐๑.

‘‘ตสฺส วฑฺฒนฺติ เวทนา, อเนกา รสสมฺภวา;

อภิชฺฌา จ วิเหสา จ, จิตฺตมสฺสูปหฺติ;

เอวมาจินโต ทุกฺขํ, อารา นิพฺพาน วุจฺจติ.

๘๐๒.

‘‘ผสฺสํ ผุสฺส สติ มุฏฺา, ปิยํ นิมิตฺตํ มนสิ กโรโต;

สารตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ อชฺโฌส ติฏฺติ.

๘๐๓.

‘‘ตสฺส วฑฺฒนฺติ เวทนา, อเนกา ผสฺสสมฺภวา;

อภิชฺฌา จ วิเหสา จ, จิตฺตมสฺสูปหฺติ;

เอวมาจินโต ทุกฺขํ, อารา นิพฺพาน วุจฺจติ.

๘๐๔.

‘‘ธมฺมํ ตฺวา สติ มุฏฺา, ปิยํ นิมิตฺตํ มนสิ กโรโต;

สารตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ อชฺโฌส ติฏฺติ.

๘๐๕.

‘‘ตสฺส วฑฺฒนฺติ เวทนา, อเนกา ธมฺมสมฺภวา;

อภิชฺฌา จ วิเหสา จ, จิตฺตมสฺสูปหฺติ;

เอวมาจินโต ทุกฺขํ, อารา นิพฺพาน วุจฺจติ.

๘๐๖.

‘‘น โส รชฺชติ รูเปสุ, รูปํ ทิสฺวา ปฏิสฺสโต;

วิรตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ นาชฺโฌส ติฏฺติ.

๘๐๗.

‘‘ยถาสฺส ปสฺสโต รูปํ, เสวโต จาปิ เวทนํ;

ขียติ โนปจียติ, เอวํ โส จรตี สโต;

เอวํ อปจินโต ทุกฺขํ, สนฺติเก นิพฺพาน วุจฺจติ.

๘๐๘.

‘‘น โส รชฺชติ สทฺเทสุ, สทฺทํ สุตฺวา ปฏิสฺสโต;

วิรตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ นาชฺโฌส ติฏฺติ.

๘๐๙.

‘‘ยถาสฺส สุณโต สทฺทํ, เสวโต จาปิ เวทนํ;

ขียติ โนปจียติ, เอวํ โส จรตี สโต;

เอวํ อปจินโต ทุกฺขํ, สนฺติเก นิพฺพาน วุจฺจติ.

๘๑๐.

‘‘น โส รชฺชติ คนฺเธสุ, คนฺธํ ฆตฺวา ปฏิสฺสโต;

วิรตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ นาชฺโฌส ติฏฺติ.

๘๑๑.

‘‘ยถาสฺส ฆายโต คนฺธํ, เสวโต จาปิ เวทนํ;

ขียติ โนปจียติ, เอวํ โส จรตี สโต;

เอวํ อปจินโต ทุกฺขํ, สนฺติเก นิพฺพาน วุจฺจติ.

๘๑๒.

‘‘น โส รชฺชติ รเสสุ, รสํ โภตฺวา ปฏิสฺสโต;

วิรตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ นาชฺโฌส ติฏฺติ.

๘๑๓.

‘‘ยถาสฺส สายโต รสํ, เสวโต จาปิ เวทนํ;

ขียติ โนปจียติ, เอวํ โส จรตี สโต;

เอวํ อปจินโต ทุกฺขํ, สนฺติเก นิพฺพาน วุจฺจติ.

๘๑๔.

‘‘น โส รชฺชติ ผสฺเสสุ, ผสฺสํ ผุสฺส ปฏิสฺสโต;

วิรตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ นาชฺโฌส ติฏฺติ.

๘๑๕.

‘‘ยถาสฺส ผุสโต ผสฺสํ, เสวโต จาปิ เวทนํ;

ขียติ โนปจียติ, เอวํ โส จรตี สโต;

เอวํ อปจินโต ทุกฺขํ, สนฺติเก นิพฺพาน วุจฺจติ.

๘๑๖.

‘‘น โส รชฺชติ ธมฺเมสุ, ธมฺมํ ตฺวา ปฏิสฺสโต;

วิรตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตฺจ นาชฺโฌส ติฏฺติ.

๘๑๗.

‘‘ยถาสฺส วิชานโต ธมฺมํ, เสวโต จาปิ เวทนํ;

ขียติ โนปจียติ, เอวํ โส จรตี สโต;

เอวํ อปจินโต ทุกฺขํ, สนฺติเก นิพฺพาน วุจฺจตี’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ รูปํ ทิสฺวาติ จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํ จกฺขุทฺวาเรน อุปลภิตฺวา. สติ มุฏฺา, ปิยํ นิมิตฺตํ มนสิ กโรโตติ ตสฺมึ รูเป ทิฏฺมตฺเต เอว อฏฺตฺวา สุภนิมิตฺตํ มนสิ กโรโต สุภาการคฺคหณวเสน อโยนิโส มนสิ กโรโต สติ มุฏฺา โหติ. ตถา จ สติ สารตฺตจิตฺโต เวเทติ ตํ รูปารมฺมณํ รตฺโต, คิทฺโธ, คธิโต หุตฺวา อนุภวติ, อสฺสาเทติ, อภินนฺทติ. ตถาภูโต จ ตฺจ อชฺโฌส ติฏฺตีติ ตฺจ รูปารมฺมณํ อชฺโฌสาย ‘‘สุขํ สุข’’นฺติ อภินิวิสฺส คิลิตฺวา ปรินิฏฺาเปตฺวา ติฏฺติ.

ตสฺส วฑฺฒนฺติ เวทนา, อเนกา รูปสมฺภวาติ ตสฺส เอวรูปสฺส ปุคฺคลสฺส รูปสมฺภวา รูปารมฺมณา สุขาทิเภเทน อเนกา เวทนา กิเลสุปฺปตฺติเหตุภูตา วฑฺฒนฺติ. อภิชฺฌา จ วิเหสา จ, จิตฺตมสฺสูปหฺตีติ ปิยรูเป สารชฺชนวเสน อุปฺปชฺชมานาย อภิชฺฌาย, อปิยรูเป พฺยาปชฺชนวเสน ปิยรูปสฺเสว วิปริณามฺถาภาวาย อุปฺปชฺชมานาย โสกาทิลกฺขณาย วิเหสาย จ อสฺส ปุคฺคลสฺส จิตฺตํ อุปหฺติ พาธียติ. เอวมาจินโต ทุกฺขนฺติ วุตฺตากาเรน ตํ ตํ เวทนสฺสาทวเสน ภวาภิสงฺขารํ อาจินโต วฏฺฏทุกฺขํ ปวตฺตติ. เตนาห ภควา – ‘‘เวทนาปจฺจยา ตณฺหา…เป… ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี’’ติ (วิภ. ๒๒๕; สํ. นิ. ๒.๑). ตถาภูตสฺส อารา อารกา ทูเร นิพฺพานํ วุจฺจติ, ตสฺส ตํ ทุลฺลภนฺติ อตฺโถ. สทฺทํ สุตฺวาติอาทิคาถาสุปิ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ฆตฺวาติ ฆายิตฺวา. โภตฺวาติ สายิตฺวา. ผุสฺสาติ ผุสิตฺวา. ธมฺมํ ตฺวาติ ธมฺมารมฺมณํ วิชานิตฺวา.

เอวํ ฉทฺวารโคจเร สารชฺชนฺตสฺส วฏฺฏํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตตฺถ วิรชฺชนฺตสฺส วิวฏฺฏํ ทสฺเสนฺโต ‘‘น โส รชฺชติ รูเปสู’’ติอาทิมาห. ตตฺถ น โส รชฺชติ รูเปสุ, รูปํ ทิสฺวา ปฏิสฺสโตติ โย ปุคฺคโล รูปํ ทิสฺวา อาปาถคตํ รูปารมฺมณํ จกฺขุทฺวาริเกน วิฺาณสนฺตาเนน คเหตฺวา จตุสมฺปชฺวเสน สมฺปชานการิตาย ปฏิสฺสโต โหติ, โส รูปารมฺมเณสุ น รชฺชติ ราคํ น ชเนติ, อฺทตฺถุ วิรตฺตจิตฺโต เวเทติ, รูปารมฺมณมฺหิ สมุทยาทิโต ยถาภูตํ ปชานนฺโต นิพฺพินฺทติ, นิพฺพินฺทนฺโต ตํ ตตฺถุปฺปนฺนเวทนฺจ วิรตฺตจิตฺโต เวเทติ, ตถาภูโต จ ตฺจ นชฺโฌส ติฏฺตีติ ตํ รูปารมฺมณํ สมฺมเทว วิรตฺตจิตฺตตาย อชฺโฌสาย น ติฏฺติ ‘‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’ติ ตณฺหามานทิฏฺิวเสน นาภินิวิสติ.

ยถาสฺส ปสฺสโต รูปนฺติ อสฺส โยคิโน ยถา ตตฺถ อภิชฺฌาทโย นปฺปวตฺตนฺติ, เอวํ อนิจฺจาทิโต รูปํ ปสฺสนฺตสฺส. เสวโต จาปิ เวทนนฺติ ตํ อารพฺภ อุปฺปนฺนํ เวทนํ ตํสมฺปยุตฺตธมฺเม จ โคจรเสวนาย เสวโต จาปิ. ขียตีติ สพฺพํ กิเลสวฏฺฏํ ปริกฺขยํ ปริยาทานํ คจฺฉติ. โนปจียตีติ น อุปจิยติ น อาจยํ คจฺฉติ. เอวํ โส จรตี สโตติ เอวํ กิเลสาปนยนปฏิปตฺติยา สโต สมฺปชาโน หุตฺวา จรติ, วิหรติ. เอวํ อปจินโต ทุกฺขนฺติ วุตฺตนเยน อปจยคามินิยา มคฺคปฺาย สกลํ วฏฺฏทุกฺขํ อปจินนฺตสฺส. สนฺติเก นิพฺพาน วุจฺจตีติ สอุปาทิเสสอนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุสมีเป เอวาติ วุจฺจติ อสงฺขตาย ธาตุยา สจฺฉิกตตฺตา. น โส รชฺชติ สทฺเทสูติอาทีสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เอวํ เถโร อิมาหิ คาถาหิ สตฺถุ โอวาทสฺส อตฺตนา อุปธาริตภาวํ ปเวเทตฺวา อุฏฺายาสนา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา คโต นจิรสฺเสว วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณีติ.

มาลุกฺยปุตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. เสลตฺเถรคาถาวณฺณนา

ปริปุณฺณกาโยติอาทิกา อายสฺมโต เสลตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยํ กิร ปทุมุตฺตรภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต คณปาโมกฺโข หุตฺวา ตีณิ ปุริสสตานิ สมาทเปตฺวา เตหิ สทฺธึ สตฺถุ คนฺธกุฏึ กาเรตฺวา กตปริโยสิตาย คนฺธกุฏิยา สภิกฺขุสงฺฆสฺส ภควโต มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา สตฺถารํ ภิกฺขู จ ติจีวเรน อจฺฉาเทสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทวโลเก เอว วสิตฺวา ตโต จุโต เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท องฺคุตฺตราเปสุ อาปเณ นาม พฺราหฺมณคาเม พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา เสโลติ ลทฺธนาโม อโหสิ. โส วยปฺปตฺโต ตีสุ เวเทสุ, พฺราหฺมณสิปฺเปสุ จ นิปฺผตฺตึ คนฺตฺวา ตีณิ มาณวกสตานิ มนฺเต วาเจนฺโต อาปเณ ปฏิวสติ. เตน จ สมเยน สตฺถา สาวตฺถิโต นิกฺขมิตฺวา อฑฺฒเตฬสหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ องฺคุตฺตราเปสุ จาริกํ จรนฺโต เสลสฺส, อนฺเตวาสิกานฺจ าณปริปากํ ทิสฺวา อฺตรสฺมึ วนสณฺเฑ วิหรติ. อถ เกณิโย นาม ชฏิโล สตฺถุ อาคมนํ สุตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน สตฺถารํ สฺวาตนาย นิมนฺเตตฺวา สเก อสฺสเม ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาเทติ. ตสฺมิฺจ สมเย เสโล พฺราหฺมโณ สทฺธึ ตีหิ มาณวกสเตหิ ชงฺฆาวิหารํ อนุวิจรนฺโต เกณิยสฺส อสฺสมํ ปวิสิตฺวา ชฏิเล กฏฺผาลนุทฺธนสมฺปาทนาทินา ทานูปกรณํ สชฺเชนฺเต ทิสฺวา, ‘‘กึ นุ โข เต, เกณิย, มหายฺโ ปจฺจุปฏฺิโต’’ติอาทึ ปุจฺฉิตฺวา เตน ‘‘พุทฺโธ ภควา มยา สฺวาตนาย นิมนฺติโต’’ติ วุตฺเต ‘‘พุทฺโธ’’ติ วจนํ สุตฺวาว หฏฺโ อุทคฺโค ปีติโสมนสฺสชาโต ตาวเทว มาณวเกหิ สทฺธึ สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา กตปฏิสนฺถาโร เอกมนฺตํ นิสินฺโน ภควโต กาเย พาตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ ทิสฺวา ‘‘อิเมหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต ราชา วา โหติ จกฺกวตฺตี, พุทฺโธ วา โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท, อยํ ปน ปพฺพชิโต, โน จ โข นํ ชานามิ ‘พุทฺโธ วา, โน วา’, สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ ‘เย เต ภวนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา , เต สเก วณฺเณ ภฺมาเน อตฺตานํ ปาตุกโรนฺตี’ติ อสมฺมาสมฺพุทฺโธ หิ สมฺมุเข ตฺวา พุทฺธคุเณหิ อภิตฺถวียมาโน สารชฺชติ มงฺกุภาวํ อาปชฺชติ อเวสารชฺชปฺปตฺตตาย อนนุโยคกฺขมตฺตา, ยํนูนาหํ สมณํ โคตมํ สมฺมุขา สารุปฺปาหิ คาถาหิ อภิตฺถเวยฺย’’นฺติ เอวํ ปน จินฺเตตฺวา –

๘๑๘.

‘‘ปริปุณฺณกาโย สุรุจิ, สุชาโต จารุทสฺสโน;

สุวณฺณวณฺโณสิ ภควา, สุสุกฺกทาโสิ วีริยวา.

๘๑๙.

‘‘นรสฺส หิ สุชาตสฺส, เย ภวนฺติ วิยฺชนา;

สพฺเพ เต ตว กายสฺมึ, มหาปุริสลกฺขณา.

๘๒๐.

‘‘ปสนฺนเนตฺโต สุมุโข, พฺรหา อุชุ ปตาปวา;

มชฺเฌ สมณสงฺฆสฺส, อาทิจฺโจว วิโรจสิ.

๘๒๑.

‘‘กลฺยาณทสฺสโน ภิกฺขุ, กฺจนสนฺนิภตฺตโจ;

กึ เต สมณภาเวน, เอวํ อุตฺตมวณฺณิโน.

๘๒๒.

‘‘ราชา อรหสิ ภวิตุํ, จกฺกวตฺตี รเถสโภ;

จาตุรนฺโต วิชิตาวี, ชมฺพุสณฺฑสฺส อิสฺสโร.

๘๒๓.

‘‘ขตฺติยา โภคี ราชาโน, อนุยนฺตา ภวนฺติ เต;

ราชาภิราชา มนุชินฺโท, รชฺชํ กาเรหิ โคตมา’’ติ. –

ฉหิ คาถาหิ ภควนฺตํ อภิตฺถวิ.

ตตฺถ ปริปุณฺณกาโยติ อภิพฺยตฺตรูปานํ ทฺวตฺตึสาย มหาปุริสลกฺขณานํ ปริปุณฺณตาย อหีนงฺคปจฺจงฺคตาย จ ปริปุณฺณสรีโร. สุรุจีติ สุนฺทรสรีรปฺปโภ. สุชาโตติ อาโรหปริณาหสมฺปตฺติยา, สณฺานสมฺปตฺติยา จ สุนิพฺพตฺโต. จารุทสฺสโนติ สุจิรมฺปิ ปสฺสนฺตานํ อติตฺติชนกํ อปฺปฏิกฺกูลํ รมณียํ จารุ เอว ทสฺสนํ อสฺสาติ จารุทสฺสโน. เกจิ ปนาหุ ‘‘จารุทสฺสโนติ สุนฺทรเนตฺโต’’ติ. สุวณฺณวณฺโณติ สุวณฺณสทิสวณฺโณ. อสีติ ภวสิ, อิทํ ปทํ ‘‘ปริปุณฺณกาโย อสี’’ติอาทินา สพฺพปเทหิ โยเชตพฺพํ. สุสุกฺกทาโติ สุฏฺุ สุกฺกทาโ. ภควโต หิ ทาาหิ จนฺทกิรณา วิย ธวลรสฺมิโย นิจฺฉรนฺติ. วีริยวาติ วีริยปารมีปาริปูริยา จตุรงฺคสมนฺนาคตวีริยาธิฏฺานโต จตุพฺพิธสฺส สมฺมปฺปธานสฺส สมฺปตฺติยา จ อติสยยุตฺโต.

นรสฺส หิ สุชาตสฺสาติ สมตึสาย ปารมีนํ, อริยสฺส วา จกฺกวตฺตีวตฺตสฺส ปริปูริตตฺตา สุฏฺุ สมฺมเทว ชาตสฺส นรสฺส, มหาปุริสสฺสาติ อตฺโถ. สพฺเพ เตติ เย มหาปุริสภาวํ โลเก อคฺคปุคฺคลภาวํ พฺยฺชยนฺตีติ พฺยฺชนาติ ลทฺธโวหารสุปฺปติฏฺิตปาทตาทิพาตฺตึสมหาปุริสลกฺขณสงฺขาตา ตมฺพนขตุงฺคนขตาทิอสีติอนุพฺยฺชนสงฺขาตา จ รูปคุณา, เต อนวเสสา, ตว กายสฺมึ สนฺตีติ วจนเสโส.

มหาปุริสลกฺขณาติ ปุพฺเพ วุตฺตพฺยฺชนาเนว วจนนฺตเรน นิคเมนฺโต อาห.

อิทานิ เตสุ ลกฺขเณสุ อตฺตนา อภิรุจิเตหิ ลกฺขเณหิ ภควนฺตํ โถเมนฺโต ‘‘ปสนฺนเนตฺโต’’ติอาทิมาห. ภควา หิ ปฺจ วณฺณปสาทสมฺปตฺติยา ปสนฺนเนตฺโต. ปริปุณฺณจนฺทมณฺฑลสทิสมุขตาย สุมุโข. อาโรหปริณาหสมฺปตฺติยา พฺรหา. พฺรหฺมุชุคตฺตตาย อุชุ. ชุติมนฺตตาย ปตาปวา.

อิทานิ ตเมว ปตาปวนฺตตํ อาทิจฺจูปมาย วิภาเวนฺโต ‘‘มชฺเฌ สมณสงฺฆสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อาทิจฺโจว วิโรจสีติ ยถา อาทิจฺโจ อุคฺคจฺฉนฺโต สพฺพํ ตมคตํ วิธเมตฺวา อาโลกํ กโรนฺโต วิโรจติ, เอวํ ตฺวมฺปิ อนฺโต เจว พหิ จ สพฺพํ อวิชฺชาตมํ วิทฺธํเสตฺวา าณาโลกํ กโรนฺโต วิโรจสิ.

ทสฺสนียรูปตาย องฺคีคตานํ ทสฺสนสมฺปตฺตีนํ อาวหนโต, กลฺยาเณหิ ปฺจหิ ทสฺสเนหิ สมนฺนาคตตฺตา จ กลฺยาณทสฺสโน. อุตฺตมวณฺณิโนติ อุตฺตมวณฺณสมฺปนฺนสฺส.

จกฺกวตฺตีติ จกฺกรตนํ วตฺเตติ, จตูหิ สมฺปตฺติจกฺเกหิ วตฺเตติ, เตหิ จ ปเร วตฺเตติ. ปรหิตาย อิริยาปถจกฺกานํ วตฺโต เอตสฺมึ อตฺถีติ จกฺกวตฺตี. อถ วา จตูหิ อจฺฉริยธมฺเมหิ จ สงฺคหวตฺถูหิ จ สมนฺนาคเมน ปเรหิ อนภิภวนียสฺส อาณาจกฺกสฺส วตฺโต เอตสฺมึ อตฺถีติปิ จกฺกวตฺตี. รเถสโภติ รถิเกสุ อาชานียอุสภปุริโส, มหารถิโกติ อตฺโถ. จาตุรนฺโตติ จตุสมุทฺทนฺตาย ปถวิยา อิสฺสโร. วิชิตาวีติ วิชิตวิชโย. ชมฺพุสณฺฑสฺสาติ ชมฺพุทีปสฺส, ปากเฏน หิ อิสฺสริยานิ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. จกฺกวตฺตี ปน สปริตฺตทีปานํ จตุนฺนมฺปิ มหาทีปานํ อิสฺสโรว.

ขตฺติยาติ ชาติขตฺติยา. โภคีติ โภคิยา. ราชาโนติ เย เกจิ รชฺชํ กาเรนฺตา. อนุยนฺตาติ อนุคามิโน เสวกา. ราชาภิราชาติ ราชูนํ ปูชนีโย ราชา หุตฺวา, จกฺกวตฺตีติ อธิปฺปาโย. มนุชินฺโทติ มนุสฺสาธิปติ, มนุสฺสานํ ปรมิสฺสโรติ อตฺโถ.

เอวํ เสเลน วุตฺเต ภควา ‘‘เย เต ภวนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, เต สเก วณฺเณ ภฺมาเน อตฺตานํ ปาตุกโรนฺตี’’ติ อิมํ เสลสฺส มโนรถํ ปูเรนฺโต –

๘๒๔.

‘‘ราชาหมสฺมิ เสล, (เสลาติ ภควา) ธมฺมราชา อนุตฺตโร;

ธมฺเมน จกฺกํ วตฺเตมิ, จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติย’’นฺติ. – อิมํ คาถมาห;

ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – ยํ มํ ตฺวํ, เสล, ยาจสิ, ‘‘ราชา อรหสิ ภวิตุํ จกฺกวตฺตี’’ติ, เอตฺถ อปฺโปสฺสุกฺโก โหหิ, ราชาหมสฺมิ, สติ จ ราชตฺเต ยถา อฺโ ราชา สมาโนปิ โยชนสตํ วา อนุสาสติ, ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ โยชนสตานิ วา โยชนสหสฺสํ วา จกฺกวตฺตี หุตฺวาปิ จตุทีปปริยนฺตมตฺตํ วา, นาหเมวํ ปริจฺฉินฺนวิสโย. อหฺหิ ธมฺมราชา อนุตฺตโร ภวคฺคโต อวีจิปริยนฺตํ กตฺวา ติริยํ อปริเมยฺยโลกธาตุโย อนุสาสามิ. ยาวตา หิ อปทาทิเภทา สตฺตา, อหํ เตสํ อคฺโค. น หิ เม โกจิ สีเลน วา…เป… วิมุตฺติาณทสฺสเนน วา สทิโส นตฺถิ, กุโต ภิยฺโย. สฺวาหํ เอวํ ธมฺมราชา อนุตฺตโร, อนุตฺตเรเนว จตุสติปฏฺานาทิเภทโพธิปกฺขิยสงฺขาเตน ธมฺเมน จกฺกํ วตฺเตมิ, ‘‘อิทํ ปชหถ, อิทํ อุปสมฺปชฺช วิหรถา’’ติอาทินา อาณาจกฺกํ. ‘‘อิทํ โข ปน, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ อริยสจฺจ’’นฺติอาทินา (มหาว. ๑๔; สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑) ปริยตฺติธมฺเมน ธมฺมจกฺกเมว วา. จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยนฺติ ยํ จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยํ โหติ สมเณน วา…เป… เกนจิ วา โลกสฺมินฺติ.

เอวํ อตฺตานมาวิกโรนฺตํ ภควนฺตํ ทิสฺวา ปีติโสมนสฺสชาโต เสโล ปุน ทฬฺหีกรณตฺถํ –

๘๒๕.

‘‘สมฺพุทฺโธ ปฏิชานาสิ, (อิติ เสโล พฺราหฺมโณ) ธมฺมราชา อนุตฺตโร;

ธมฺเมน จกฺกํ วตฺเตมิ, อิติ ภาสถ โคตม.

๘๒๖.

‘‘โก นุ เสนาปติ โภโต, สาวโก สตฺถุรนฺวโย;

โก เตตมนุวตฺเตติ, ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติต’’นฺติ. – คาถาทฺวยมาห;

ตตฺถ โก นุ เสนาปตีติ ธมฺมรฺโ โภโต ธมฺเมน ปวตฺติตสฺส จกฺกสฺส อนุปวตฺตนโก เสนาปติ โก นูติ ปุจฺฉิ.

เตน จ สมเยน ภควโต ทกฺขิณปสฺเส อายสฺมา สาริปุตฺโต นิสินฺโน โหติ, สุวณฺณปุฺโช วิย สิริยา โสภมาโน. ตํ ทสฺเสนฺโต ภควา –

๘๒๗.

‘‘มยา ปวตฺติตํ จกฺกํ, (เสลาติ ภควา) ธมฺมจกฺกํ อนุตฺตรํ;

สาริปุตฺโต อนุวตฺเตติ, อนุชาโต ตถาคต’’นฺติ. – คาถมาห;

ตตฺถ อนุชาโต ตถาคตนฺติ, ตถาคตํ อนุชาโต, ตถา คเตน เหตุนา อริยาย ชาติยา ชาโตติ อตฺโถ.

เอวํ ‘‘โก นุ เสนาปติ โภโต’’ติ เสเลน วุตฺตปฺหํ พฺยากริตฺวา ยํ เสโล อาห ‘‘สมฺพุทฺโธ ปฏิชานาสี’’ติ ตตฺถ นํ นิกฺกงฺขํ กาตุกาโม ‘‘นาหํ ปฏิฺามตฺเตเนว ปฏิชานามิ, อปิ จาหํ อิมินา การเณน พุทฺโธ’’ติ าเปตุํ –

๘๒๘.

‘‘อภิฺเยฺยํ อภิฺาตํ, ภาเวตพฺพฺจ ภาวิตํ;

ปหาตพฺพํ ปหีนํ เม, ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ พฺราหฺมณา’’ติ. – คาถมาห;

ตตฺถ อภิฺเยฺยนฺติ จตฺตาริ สจฺจานิ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ. จตุนฺนฺหิ สจฺจานํ อริยสจฺจานฺจ สามฺคฺคหณเมตํ ยทิทํ อภิฺเยฺยนฺติ. ตตฺถ อริยสจฺเจสุ ยํ ภาเวตพฺพํ มคฺคสจฺจํ, ยฺจ ปหาตพฺพํ สมุทยสจฺจํ, ตทุภยคฺคหเณน เตสํ ผลภูตานิ นิโรธสจฺจทุกฺขสจฺจานิปิ คหิตาเนว โหนฺติ เหตุคฺคหเณเนว ผลสิทฺธิโต. เตน ตตฺถ ‘‘สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกตํ, ปริฺเยฺยํ ปริฺาต’’นฺติ อิทมฺปิ วุตฺตเมว โหติ. ‘‘อภิฺเยฺยํ อภิฺาต’’นฺติ วา อิมินา จ สพฺพสฺสปิ เยฺยสฺส อภิฺาตสมฺพุทฺธภาวํ อุทฺเทสวเสน ปกาเสตฺวา ตเทกเทสํ นิทฺเทสวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘ภาเวตพฺพฺจ ภาวิต’’นฺติอาทิมาห. อถ วา ‘‘ภาเวตพฺพํ ภาวิตํ, ปหาตพฺพํ ปหีน’’นฺติ อิมินา อตฺตโน าณปหานสมฺปทากิตฺตนมุเขน ตํมูลกตฺตา สพฺเพปิ พุทฺธคุณา กิตฺติตา โหนฺตีติ อาห ‘‘ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ, พฺราหฺมณา’’ติ. อภิฺเยฺยอภิฺาตคฺคหเณน หิ สพฺพโส วิชฺชาวิมุตฺตีนํ คหิตตฺตา สผลํ จตุสจฺจภาวํ สทฺธึ เหตุสมฺปตฺติยา ทสฺเสนฺโต พุชฺฌิตพฺพํ สพฺพํ พุชฺฌิตฺวา พุทฺโธ ชาโตสฺมีติ าเยน เหตุนา อตฺตโน พุทฺธภาวํ วิภาเวติ.

เอวํ นิปฺปริยาเยน อตฺตานํ ปาตุกริตฺวา อตฺตนิ กงฺขาวิตรณตฺถํ พฺราหฺมณํ อุสฺสาเหนฺโต –

๘๒๙.

‘‘วินยสฺสุ มยิ กงฺขํ, อธิมุจฺจสฺสุ พฺราหฺมณ;

ทุลฺลภํ ทสฺสนํ โหติ, สมฺพุทฺธานํ อภิณฺหโส.

๘๓๐.

‘‘เยสํ เว ทุลฺลโภ โลเก, ปาตุภาโว อภิณฺหโส;

โสหํ พฺราหฺมณ พุทฺโธสฺมิ, สลฺลกตฺโต อนุตฺตโร.

๘๓๑.

‘‘พฺรหฺมภูโต อติตุโล, มารเสนปฺปมทฺทโน;

สพฺพามิตฺเต วเส กตฺวา, โมทามิ อกุโตภโย’’ติ. – คาถตฺตยมาห;

ตตฺถ วินยสฺสูติ วิเนหิ ฉินฺท. กงฺขนฺติ วิจิกิจฺฉํ. อธิมุจฺจสฺสูติ อธิโมกฺขํ กร ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ สทฺทห. ทุลฺลภํ ทสฺสนํ โหติ, สมฺพุทฺธานนฺติ ยโต กปฺปานํ อสงฺขฺเยยฺยมฺปิ พุทฺธสุฺโ โลโก โหติ. สลฺลกตฺโตติ, ราคาทิสลฺลกตฺตโน. พฺรหฺมภูโตติ เสฏฺภูโต. อติตุโลติ ตุลํ อตีโต, นิรุปโมติ อตฺโถ. มารเสนปฺปมทฺทโนติ ‘‘กามา เต ปมา เสนา’’ติ (สุ. นิ. ๔๓๘; มหานิ. ๒๘; จูฬนิ. นนฺทมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๔๗) เอวํ อาคตาย มารเสนาย ปมทฺทโน. สพฺพามิตฺเตติ ขนฺธกิเลสาภิสงฺขารมจฺจุเทวปุตฺตมารสงฺขาเต สพฺพปจฺจตฺถิเก . วเส กตฺวาติ อตฺตโน วเส กตฺวา. โมทามิ อกุโตภโยติ กุโตจิ นิพฺภโย สมาธิสุเขน, ผลนิพฺพานสุเขน จ โมทามิ.

เอวํ วุตฺเต เสโล พฺราหฺมโณ ตาวเทว ภควติ สฺชาตปสาโท ปพฺพชฺชาเปกฺโข หุตฺวา –

๘๓๒.

‘‘อิทํ โภนฺโต นิสาเมถ, ยถา ภาสติ จกฺขุมา;

สลฺลกตฺโต มหาวีโร, สีโหว นทตี วเน.

๘๓๓.

‘‘พฺรหฺมภูตํ อติตุลํ, มารเสนปฺปมทฺทนํ;

โก ทิสฺวา นปฺปสีเทยฺย, อปิ กณฺหาภิชาติโก.

๘๓๔.

‘‘โย มํ อิจฺฉติ อนฺเวตุ, โย วา นิจฺฉติ คจฺฉตุ;

อิธาหํ ปพฺพชิสฺสามิ, วรปฺสฺส สนฺติเก’’ติ. –

คาถตฺตยมาห. ยถา ตํ ปริปากคตาย อุปนิสฺสยสมฺปตฺติยา โจทิยมาโน.

ตตฺถ กณฺหาภิชาติโกติ, นีจชาติโก, ตโมตมปรายณภาเว ิโต.

ตโต เตปิ มาณวกา เหตุสมฺปนฺนตาย ตตฺเถว ปพฺพชฺชาเปกฺขา หุตฺวา –

๘๓๕.

‘‘เอตํ เจ รุจฺจติ โภโต, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสนํ;

มยมฺปิ ปพฺพชิสฺสาม, วรปฺสฺส สนฺติเก’’ติ. –

คาถมาหํสุ, ยถา ตํ เตน สทฺธึ กตาธิการา กุลปุตฺตา.

อถ เสโล เตสุ มาณวเกสุ ตุฏฺจิตฺโต เต ทสฺเสนฺโต ปพฺพชฺชฺจ ยาจมาโน –

๘๓๖.

‘‘พฺราหฺมณา ติสตา อิเม, ยาจนฺติ ปฺชลีกตา;

พฺรหฺมจริยํ จริสฺสาม, ภควา ตว สนฺติเก’’ติ. – คาถมาห;

ตโต ภควา ยสฺมา เสโล เหฏฺา วุตฺตนเยน ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล เตสํเยว ติณฺณํ ปุริสสตานํ คณเชฏฺโ หุตฺวา โรปิตกุสลมูโล, อิทานิ ปจฺฉิมภเวปิ เตสํเยว อาจริโย หุตฺวา นิพฺพตฺโต, าณฺจสฺส เตสฺจ ปริปกฺกํ, เอหิภิกฺขุภาวสฺส จ อุปนิสฺสโย อตฺถิ, ตสฺมา เต สพฺเพว เอหิภิกฺขุภาเวน ปพฺพชฺชาย ปพฺพาเชนฺโต –

๘๓๗.

‘‘สฺวาขาตํ พฺรหฺมจริยํ, (เสลาติ ภควา) สนฺทิฏฺิกมกาลิกํ;

ยตฺถ อโมฆา ปพฺพชฺชา, อปฺปมตฺตสฺส สิกฺขโต’’ติ. – คาถมาห;

ตตฺถ สนฺทิฏฺิกนฺติ ปจฺจกฺขํ. อกาลิกนฺติ มคฺคานนฺตรผลุปฺปตฺติโต น กาลนฺตเร ปตฺตพฺพผลํ. ยตฺถาติ ยํนิมิตฺตา . มคฺคพฺรหฺมจริยนิมิตฺตา หิ ปพฺพชฺชา อโมฆา อนิปฺผลา, ยตฺถาติ วา ยสฺมึ สาสเน อปฺปมตฺตสฺส สติวิปฺปวาสรหิตสฺส ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขโต.

เอวฺจ วตฺวา ‘‘เอถ, ภิกฺขโว’’ติ ภควา อโวจ. ตาวเทว เต สพฺเพ อิทฺธิมยปตฺตจีวรธรา หุตฺวา สฏฺิวสฺสิกตฺเถรา วิย ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปริวาเรสุํ. โส เอวํ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต สตฺตเม ทิวเส สปริโส อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๔๐.๒๐๘-๓๐๓) –

‘‘นคเร หํสวติยา, วีถิสามี อโหสหํ;

มม าตี สมาเนตฺวา, อิทํ วจนมพฺรวึ.

‘‘พุทฺโธ โลเก สมุปฺปนฺโน, ปุฺกฺเขตฺโต อนุตฺตโร;

อาสิ โส สพฺพโลกสฺส, อาหุตีนํ ปฏิคฺคโห.

‘‘ขตฺติยา เนคมา เจว, มหาสาลา จ พฺราหฺมณา;

ปสนฺนจิตฺตา สุมนา, ปูคธมฺมํ อกํสุ เต.

‘‘หตฺถาโรหา อนีกฏฺา, รถิกา ปตฺติการกา;

ปสนฺนจิตฺตา สุมนา, ปูคธมฺมํ อกํสุ เต.

‘‘อุคฺคา จ ราชปุตฺตา จ, เวสิยานา จ พฺราหฺมณา;

ปสนฺนจิตฺตา สุมนา, ปูคธมฺมํ อกํสุ เต.

‘‘อาฬาริกา กปฺปกา จ, นฺหาปกา มาลการกา;

ปสนฺนจิตฺตา สุมนา, ปูคธมฺมํ อกํสุ เต.

‘‘รชกา เปสการา จ, จมฺมการา จ นฺหาปิตา;

ปสนฺนจิตฺตา สุมนา, ปูคธมฺมํ อกํสุ เต.

‘‘อุสุการา ภมการา, จมฺมการา จ ตจฺฉกา;

ปสนฺนจิตฺตา สุมนา, ปูคธมฺมํ อกํสุ เต.

‘‘กมฺมารา โสณฺณการา จ, ติปุโลหกรา ตถา;

ปสนฺนจิตฺตา สุมนา, ปูคธมฺมํ อกํสุ เต.

‘‘ภตกา เจฏกา เจว, ทาสกมฺมกรา พหู;

ยถาสเกน ถาเมน, ปูคธมฺมํ อกํสุ เต.

‘‘อุทหารา กฏฺหารา, กสฺสกา ติณหารกา;

ยถาสเกน ถาเมน, ปูคธมฺมํ อกํสุ เต.

‘‘ปุปฺผิกา มาลิกา เจว, ปณฺณิกา ผลหารกา;

ยถาสเกน ถาเมน, ปูคธมฺมํ อกํสุ เต.

‘‘คณิกา กุมฺภทาสี จ, ปูวิกา มจฺฉิกาปิ จ;

ยถาสเกน ถาเมน, ปูคธมฺมํ อกํสุ เต.

‘‘เอถ สพฺเพ สมาคนฺตฺวา, คณํ พนฺธาม เอกโต;

อธิการํ กริสฺสาม, ปุฺกฺเขตฺเต อนุตฺตเร.

‘‘เต เม สุตฺวาน วจนํ, คณํ พนฺธึสุ ตาวเท;

อุปฏฺานสาลํ สุกตํ, ภิกฺขุสงฺฆสฺส การยุํ.

‘‘นิฏฺาเปตฺวาน ตํ สาลํ, อุทคฺโค ตุฏฺมานโส;

ปเรโต เตหิ สพฺเพหิ, สมฺพุทฺธมุปสงฺกมึ.

‘‘อุปสงฺกมฺม สมฺพุทฺธํ, โลกนาถํ นราสภํ;

วนฺทิตฺวา สตฺถุโน ปาเท, อิทํ วจนมพฺรวึ.

‘‘อิเม ตีณิ สตา วีร, ปุริสา เอกโต คณา;

อุปฏฺานสาลํ สุกตํ, นิยฺยาเทนฺติ ตุวํ มุนิ.

‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปุรโต, สมฺปฏิจฺฉตฺว จกฺขุมา;

ติณฺณํ สตานํ ปุรโต, อิมา คาถา อภาสถ.

‘‘ติสตาปิ จ เชฏฺโ จ, อนุวตฺตึสุ เอกโต;

สมฺปตฺติฺหิ กริตฺวาน, สพฺเพ อนุภวิสฺสถ.

‘‘ปจฺฉิเม ภเว สมฺปตฺเต, สีติภาวมนุตฺตรํ;

อชรํ อมตํ สนฺตํ, นิพฺพานํ ผสฺสยิสฺสถ.

‘‘เอวํ พุทฺโธ วิยากาสิ, สพฺพฺู สมณุตฺตโร;

พุทฺธสฺส วจนํ สุตฺวา, โสมนสฺสํ ปเวทยึ.

‘‘ตึสกปฺปสหสฺสานิ, เทวโลเก รมึ อหํ;

เทวาธิโป ปฺจสตํ, เทวรชฺชมการยึ.

‘‘สหสฺสกฺขตฺตุํ ราชา จ, จกฺกวตฺตี อโหสหํ;

เทวรชฺชํ กโรนฺตสฺส, มหาเทวา อวนฺทิสุํ.

‘‘อิธ มานุสเก รชฺชํ, ปริสา โหนฺติ พนฺธวา;

ปจฺฉิเม ภเว สมฺปตฺเต, วาเสฏฺโ นาม พฺราหฺมโณ.

‘‘อสีติโกฏิ นิจโย, ตสฺส ปุตฺโต อโหสหํ;

เสโล อิติ มมํ นามํ, ฉฬงฺเค ปารมึ คโต.

‘‘ชงฺฆาวิหารํ วิจรํ, สสิสฺเสหิ ปุรกฺขโต;

ชฏาภาริกภริตํ, เกณิยํ นาม ตาปสํ.

‘‘ปฏิยตฺตาหุตึ ทิสฺวา, อิทํ วจนมพฺรวึ;

อาวาโห วา วิวาโห วา, ราชา วา เต นิมนฺติโต.

‘‘อาหุตึ ยิฏฺุกาโมหํ, พฺราหฺมเณ เทวสมฺมเต;

น นิมนฺเตมิ ราชานํ, อาหุตี เม น วิชฺชติ.

‘‘น จตฺถิ มยฺหมาวาโห, วิวาโห เม น วิชฺชติ;

สกฺยานํ นนฺทิชนโน, เสฏฺโ โลเก สเทวเก.

‘‘สพฺพโลกหิตตฺถาย , สพฺพสตฺตสุขาวโห;

โส เม นิมนฺติโต อชฺช, ตสฺเสตํ ปฏิยาทนํ.

‘‘ติมฺพรูสกวณฺณาโภ, อปฺปเมยฺโย อนูปโม;

รูเปนาสทิโส พุทฺโธ, สฺวาตนาย นิมนฺติโต.

‘‘อุกฺกามุขปหฏฺโว, ขทิรงฺคารสนฺนิโภ;

วิชฺชูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘ปพฺพตคฺเค ยถา อจฺจิ, ปุณฺณมาเยว จนฺทิมา;

นฬคฺคิวณฺณสงฺกาโส, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘อสมฺภีโต ภยาตีโต, ภวนฺตกรโณ มุนิ;

สีหูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘กุสโล พุทฺธธมฺเมหิ, อปสยฺโห ปเรหิ โส;

นาคูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘สทฺธมฺมาจารกุสโล, พุทฺธนาโค อสาทิโส;

อุสภูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘อนนฺตวณฺโณ อมิตยโส, วิจิตฺตสพฺพลกฺขโณ;

สกฺกูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘วสี คณี ปตาปี จ, เตชสฺสี จ ทุราสโท;

พฺรหฺมูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘ปตฺตธมฺโม ทสพโล, พลาติพลปารโค;

ธรณูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘สีลวีจิสมากิณฺโณ, ธมฺมวิฺาณโขภิโต;

อุทธูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘ทุราสโท ทุปฺปสโห, อจโล อุคฺคโต พฺรหา;

เนรูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘อนนฺตาโณ อสมสโม, อตุโล อคฺคตํ คโต;

คคนูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘ปติฏฺา ภยภีตานํ, ตาโณ สรณคามินํ;

อสฺสาสโก มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘อาสโย พุทฺธิมนฺตานํ, ปุฺกฺเขตฺตํ สุเขสินํ;

รตนากโร มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘อสฺสาสโก เวทกโร, สามฺผลทายโก;

เมฆูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘โลกจกฺขุ มหาเตโช, สพฺพตมวิโนทโน;

สูริยูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘อารมฺมณวิมุตฺตีสุ, สภาวทสฺสโน มุนิ;

จนฺทูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘พุทฺโธ สมุสฺสิโต โลเก, ลกฺขเณหิ อลงฺกโต;

อปฺปเมยฺโย มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘ยสฺส าณํ อปฺปเมยฺยํ, สีลํ ยสฺส อนูปมํ;

วิมุตฺติ อสทิสา ยสฺส, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘ยสฺส ธีติ อสทิสา, ถาโม ยสฺส อจินฺติโย;

ยสฺส ปรกฺกโม เชฏฺโ, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘ราโค โทโส จ โมโห จ, วิสา สพฺเพ สมูหตา;

อคทูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘กฺเลสพฺยาธิพหุทุกฺข-สพฺพตมวิโนทโน;

เวชฺชูปโม มหาวีโร, โส เม พุทฺโธ นิมนฺติโต.

‘‘พุทฺโธติ โภ ยํ วเทสิ, โฆโสเปโส สุทุลฺลโภ;

พุทฺโธ พุทฺโธติ สุตฺวาน, ปีติ เม อุทปชฺชถ.

‘‘อพฺภนฺตรํ อคณฺหนฺตํ, ปีติ เม พหิ นิจฺฉเร;

โสหํ ปีติมโน สนฺโต, อิทํ วจนมพฺรวึ.

‘‘กหํ นุ โข โส ภควา, โลกเชฏฺโ นราสโภ;

ตตฺถ คนฺตฺวา นมสฺสิสฺสํ, สามฺผลทายกํ.

‘‘ปคฺคยฺห ทกฺขิณํ พาหุํ, เวทชาโต กตฺชลี;

อาจิกฺขิ เม ธมฺมราชํ, โสกสลฺลวิโนทนํ.

‘‘อุเทนฺตํว มหาเมฆํ, นีลํ อฺชนสนฺนิภํ;

สาครํ วิย ทิสฺสนฺตํ, ปสฺสเสตํ มหาวนํ.

‘‘เอตฺถ โส วสเต พุทฺโธ, อทนฺตทมโก มุนิ;

วินยนฺโต จ เวเนยฺเย, โพเธนฺโต โพธิปกฺขิเย.

‘‘ปิปาสิโตว อุทกํ, โภชนํว ชิฆจฺฉิโต;

คาวี ยถา วจฺฉคิทฺธา, เอวาหํ วิจินึ ชินํ.

‘‘อาจารอุปจารฺู, ธมฺมานุจฺฉวิสํวรํ;

สิกฺขาเปมิ สเก สิสฺเส, คจฺฉนฺเต ชินสนฺติกํ.

‘‘ทุราสทา ภควนฺโต, สีหาว เอกจาริโน;

ปเท ปทํ นิกฺขิปนฺตา, อาคจฺเฉยฺยาถ มาณวา.

‘‘อาสีวิโส ยถา โฆโร, มิคราชาว เกสรี;

มตฺโตว กุฺชโร ทนฺตี, เอวํ พุทฺธา ทุราสทา.

‘‘อุกฺกาสิตฺจ ขิปิตํ, อชฺฌุเปกฺขิย มาณวา;

ปเท ปทํ นิกฺขิปนฺตา, อุเปถ พุทฺธสนฺติกํ.

‘‘ปฏิสลฺลานครุกา, อปฺปสทฺทา ทุราสทา;

ทุรูปสงฺกมา พุทฺธา, ครู โหนฺติ สเทวเก.

‘‘ยทาหํ ปฺหํ ปุจฺฉามิ, ปฏิสมฺโมทยามิ วา;

อปฺปสทฺทา ตทา โหถ, มุนิภูตาว ติฏฺถ.

‘‘ยํ โส เทเสติ สมฺพุทฺโธ, เขมํ นิพฺพานปตฺติยา;

ตเมวตฺถํ นิสาเมถ, สทฺธมฺมสวนํ สุขํ.

‘‘อุปสงฺกมฺม สมฺพุทฺธํ, สมฺโมทึ มุนินา อหํ;

ตํ กถํ วีติสาเรตฺวา, ลกฺขเณ อุปธารยึ.

‘‘ลกฺขเณ ทฺเว จ กงฺขามิ, ปสฺสามิ ตึสลกฺขเณ;

โกโสหิตวตฺถคุยฺหํ, อิทฺธิยา ทสฺสยี มุนิ.

‘‘ชิวฺหํ นินฺนามยิตฺวาน, กณฺณโสเต จ นาสิเก;

ปฏิมสิ นลาฏนฺตํ, เกวลํ ฉาทยี ชิโน.

‘‘ตสฺสาหํ ลกฺขเณ ทิสฺวา, ปริปุณฺเณ สพฺยฺชเน;

พุทฺโธติ นิฏฺํ คนฺตฺวาน, สห สิสฺเสหิ ปพฺพชึ.

‘‘สเตหิ ตีหิ สหิโต, ปพฺพชึ อนคาริยํ;

อฑฺฒมาเส อสมฺปตฺเต, สพฺเพ ปตฺตามฺห นิพฺพุตึ.

‘‘เอกโต กมฺมํ กตฺวาน, ปุฺกฺเขตฺเต อนุตฺตเร;

เอกโต สํสริตฺวาน, เอกโต วินิวตฺตยุํ.

‘‘โคปานสิโย ทตฺวาน, ปูคธมฺเม วสึ อหํ

เตน กมฺเมน สุกเตน, อฏฺ เหตู ลภามหํ.

‘‘ทิสาสุ ปูชิโต โหมิ, โภคา จ อมิตา มม;

ปติฏฺา โหมิ สพฺเพสํ, ตาโส มม น วิชฺชติ.

‘‘พฺยาธโย เม น วิชฺชนฺติ, ทีฆายุํ ปาลยามิ จ;

สุขุมจฺฉวิโก โหมิ, อาวาเส ปตฺถิเต วเส.

‘‘อฏฺ โคปานสี ทตฺวา, ปูคธมฺเม วสึ อหํ;

ปฏิสมฺภิทารหตฺตฺจ, เอตํ เม อปรฏฺมํ.

‘‘สพฺพโวสิตโวสาโน, กตกิจฺโจ อนาสโว;

อฏฺ โคปานสี นาม, ตว ปุตฺโต มหามุนิ.

‘‘ปฺจ ถมฺภานิ ทตฺวาน, ปูคธมฺเม วสึ อหํ;

เตน กมฺเมน สุกเตน, ปฺจ เหตู ลภามหํ.

‘‘อจโล โหมิ เมตฺตาย, อนูนงฺโค ภวามหํ;

อาเทยฺยวจโน โหมิ, น ธํเสมิ ยถา อหํ.

‘‘อภนฺตํ โหติ เม จิตฺตํ, อขิโล โหมิ กสฺสจิ;

เตน กมฺเมน สุกเตน, วิมโล โหมิ สาสเน.

‘‘สคารโว สปฺปติสฺโส, กตกิจฺโจ อนาสโว;

สาวโก เต มหาวีร, ภิกฺขุ ตํ วนฺทเต มุนิ.

‘‘กตฺวา สุกตปลฺลงฺกํ, สาลายํ ปฺเปสหํ;

เตน กมฺเมน สุกเตน, ปฺจ เหตู ลภามหํ.

‘‘อุจฺเจ กุเล ปชายิตฺวา, มหาโภโค ภวามหํ;

สพฺพสมฺปตฺติโก โหมิ, มจฺเฉรํ เม น วิชฺชติ.

‘‘คมเน ปตฺถิเต มยฺหํ, ปลฺลงฺโก อุปติฏฺติ;

สห ปลฺลงฺกเสฏฺเน, คจฺฉามิ มม ปตฺถิตํ.

‘‘เตน ปลฺลงฺกทาเนน, ตมํ สพฺพํ วิโนทยึ;

สพฺพาภิฺาพลปฺปตฺโต, เถโร วนฺทติ ตํ มุนิ.

‘‘ปริกิจฺจตฺตกิจฺจานิ, สพฺพกิจฺจานิ สาธยึ;

เตน กมฺเมน สุกเตน, ปาวิสึ อภยํ ปุรํ.

‘‘ปรินิฏฺิตสาลมฺหิ , ปริโภคมทาสหํ;

เตน กมฺเมน สุกเตน, เสฏฺตฺตํ อชฺฌุปาคโต.

‘‘เย เกจิ ทมกา โลเก, หตฺถิอสฺเส ทเมนฺติ เย;

กริตฺวา การณา นานา, ทารุเณน ทเมนฺติ เต.

‘‘น เหวํ ตฺวํ มหาวีร, ทเมสิ นรนาริโย;

อทณฺเฑน อสตฺเถน, ทเมสิ อุตฺตเม ทเม.

‘‘ทานสฺส วณฺเณ กิตฺเตนฺโต, เทสนากุสโล มุนิ;

เอกปฺหํ กเถนฺโตว, โพเธสิ ติสเต มุนิ.

‘‘ทนฺตา มยํ สารถินา, สุวิมุตฺตา อนาสวา;

สพฺพาภิฺาพลปตฺตา, นิพฺพุตา อุปธิกฺขเย.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, ยํ ทานมททึ ตทา;

อติกฺกนฺตา ภยา สพฺเพ, สาลาทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา อฺํ พฺยากโรนฺโต –

๘๓๘.

‘‘ยํ ตํ สรณมาคมฺห, อิโต อฏฺเม จกฺขุม;

สตฺตรตฺเตน ภควา, ทนฺตามฺห ตว สาสเน’’ติ. –

คาถมาห . ตสฺสตฺโถ – ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุม ภควา ยสฺมา มยํ อิโต อตีเต อฏฺเม ทิวเส ตํ สรณํ อคมิมฺห. ตสฺมา สตฺตรตฺเตน ตว สาสเน ทมเกน ทนฺตา อมฺห, อโห เต สรณคมนสฺส อานุภาโวติ. ตโต ปรํ –

๘๓๙.

‘‘ตุวํ พุทฺโธ ตุวํ สตฺถา, ตุวํ มาราภิภู มุนิ;

ตุวํ อนุสเย เฉตฺวา, ติณฺโณ ตาเรสิมํ ปชํ.

๘๔๐.

‘‘อุปธี เต สมติกฺกนฺตา, อาสวา เต ปทาลิตา;

สีโหว อนุปาทาโน, ปหีนภยเภรโว’’ติ. –

อิมาหิ ทฺวีหิ คาถาหิ อภิตฺถวิตฺวา โอสานคาถาย สตฺถารํ วนฺทนํ ยาจติ –

๘๔๑.

‘‘ภิกฺขโว ติสตา อิเม, ติฏฺนฺติ ปฺชลีกตา;

ปาเท วีร ปสาเรหิ, นาคา วนฺทนฺตุ สตฺถุโน’’ติ.

ตตฺถ ตุวํ พุทฺโธติ ตฺวเมว อิมสฺมึ โลเก สพฺพฺุพุทฺโธ. ทิฏฺธมฺมิกาทิอตฺเถน สตฺตานํ อนุสาสนโต ตฺวเมว สตฺถา. สพฺเพสํ มารานํ อภิภวนโต มาราภิภู. มุนิภาวโต มุนิ. อนุสเยเฉตฺวาติ กามราคาทิเก อนุสเย อริยมคฺคสตฺเถน ฉินฺทิตฺวา. ติณฺโณติ สยํ สํสารมโหฆํ ติณฺโณ, เทสนาหตฺเถน อิมํ ปชํ สตฺตกายํ ตาเรสิ. อุปธีติ ขนฺธูปธิอาทโย สพฺเพ อุปธี. อทุปาทาโนติ สพฺพโส ปหีนกามุปาทานาทิโก. เอวํ วตฺวา เถโร สปริโส สตฺถารํ อภิวนฺทตีติ.

เสลตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. กาฬิโคธาปุตฺตภทฺทิยตฺเถรคาถาวณฺณนา

ยาตํเม หตฺถิคีวายาติอาทิกา อายสฺมโต ภทฺทิยตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล มหาโภคกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารา เอกํ ภิกฺขุํ อุจฺจากุลิกานํ อคฺคฏฺาเน ปิยมานํ ทิสฺวา สยมฺปิ ตํ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา สตฺตาหํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา ปณิธานํ อกาสิ. สตฺถาปิสฺส อนนฺตราเยน สมิชฺฌนภาวํ ทิสฺวา พฺยากาสิ. โสปิ ตํ พฺยากรณํ สุตฺวา อุจฺจากุลิกสํวตฺตนิกํ กมฺมํ ปุจฺฉิตฺวา ธมฺมสฺสวนสฺส การาปนํ, ธมฺมมณฺฑเป อาสนทานํ, พีชนีทานํ, ธมฺมกถิกานํ ปูชาสกฺการกรณํ, อุโปสถาคาเร ปฏิสฺสยทานนฺติ เอวมาทึ ยาวชีวํ พหุปุฺํ กตฺวา ตโต จุโต เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต กสฺสปสฺส ภควโต อปรภาเค อมฺหากํ ภควโต อุปฺปตฺติยา ปุเรตรํ พาราณสิยํ กุฏุมฺพิยฆเร นิพฺพตฺโต สมฺพหุเล ปจฺเจกพุทฺเธ ปิณฺฑาย จริตฺวา เอกสฺมึเยว าเน สมาคนฺตฺวา ภตฺตวิสฺสคฺคํ กโรนฺเต ทิสฺวา ตตฺถ ปาสาณผลกานิ อตฺถริตฺวา ปาโททกาทึ อุปฏฺเปนฺโต ยาวชีวํ อุปฏฺหิ.

โส เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทวมนุสฺเสสุ สํสริตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กปิลวตฺถุนคเร สากิยราชกุเล นิพฺพตฺติ, ภทฺทิโยติสฺส นามํ อโหสิ. โส วยปฺปตฺโต อนุรุทฺธาทีหิ ปฺจหิ ขตฺติเยหิ สทฺธึ สตฺถริ อนุปิยมฺพวเน วิหรนฺเต สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. ตํ สตฺถา อปรภาเค เชตวเน อริยคณมชฺเฌ นิสินฺโน อุจฺจากุลิกานํ ภิกฺขูนํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. โส ผลสุเขน นิพฺพานสุเขน จ วีตินาเมนฺโต อรฺคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สุฺาคารคโตปิ ‘‘อโห สุขํ, อโห สุข’’นฺติ อภิกฺขณํ อุทานํ อุทาเนสิ. ตํ สุตฺวา ภิกฺขู สตฺถุ อาโรเจสุํ – ‘‘อายสฺมา ภทฺทิโย กาฬิโคธาย ปุตฺโต อภิกฺขณํ ‘อโห สุขํ, อโห สุข’นฺติ วทติ, อนภิรโต มฺเ พฺรหฺมจริยํ จรตี’’ติ. สตฺถา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภทฺทิย, อภิกฺขณํ ‘อโห สุขํ, อโห สุข’นฺติ วทสี’’ติ ปุจฺฉิ. โส ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติ ปฏิชานิตฺวา ‘‘ปุพฺเพ เม, ภนฺเต, รชฺชํ กาเรนฺตสฺส สุสํวิหิตารกฺโข อโหสึ, ตถาปิ ภีโต อุพฺพิคฺโค อุสฺสงฺกิโต วิหาสึ. อิทานิ ปน ปพฺพชิโต อภีโต อนุพฺพิคฺโค อนุสฺสงฺกิโต วิหรามี’’ติ วตฺวา –

๘๔๒.

‘‘ยาตํ เม หตฺถิคีวาย, สุขุมา วตฺถา ปธาริตา;

สาลีนํ โอทโน ภุตฺโต, สุจิมํสูปเสจโน.

๘๔๓.

‘‘โสชฺช ภทฺโท สาตติโก, อุฺฉาปตฺตาคเต รโต;

ฌายติ อนุปาทาโน, ปุตฺโต โคธาย ภทฺทิโย.

๘๔๔.

‘‘ปํสุกูลี สาตติโก, อุฺฉาปตฺตาคเต รโต;

ฌายติ อนุปาทาโน, ปุตฺโต โคธาย ภทฺทิโย.

๘๔๕.

‘‘ปิณฺฑปาตี สาตติโก…เป….

๘๔๖.

‘‘เตจีวรี สาตติโก…เป….

๘๔๗.

‘‘สปทานจารี สาตติโก…เป….

๘๔๘.

‘‘เอกาสนี สาตติโก…เป….

๘๔๙.

‘‘ปตฺตปิณฺฑี สาตติโก…เป….

๘๕๐.

‘‘ขลุปจฺฉาภตฺตี สาตติโก…เป….

๘๕๑.

‘‘อารฺิโก สาตติโก…เป….

๘๕๒.

‘‘รุกฺขมูลิโก สาตติโก…เป….

๘๕๓.

‘‘อพฺโภกาสี สาตติโก…เป….

๘๕๔.

‘‘โสสานิโก สาตติโก…เป….

๘๕๕.

‘‘ยถาสนฺถติโก สาตติโก…เป….

๘๕๖.

‘‘เนสชฺชิโก สาตติโก…เป….

๘๕๗.

‘‘อปฺปิจฺโฉ สาตติโก…เป….

๘๕๘.

‘‘สนฺตุฏฺโ สาตติโก…เป….

๘๕๙.

‘‘ปวิวิตฺโต สาตติโก…เป….

๘๖๐.

‘‘อสํสฏฺโ สาตติโก…เป….

๘๖๑.

‘‘อารทฺธวีริโย สาตติโก…เป….

๘๖๒.

‘‘หิตฺวา สตปลํ กํสํ, โสวณฺณํ สตราชิกํ;

อคฺคหึ มตฺติกาปตฺตํ, อิทํ ทุติยาภิเสจนํ.

๘๖๓.

‘‘อุจฺเจ มณฺฑลิปากาเร, ทฬฺหมฏฺฏาลโกฏฺเก;

รกฺขิโต ขคฺคหตฺเถหิ, อุตฺตมํ วิหรึ ปุเร.

๘๖๔.

‘‘โสชฺช ภทฺโท อนุตฺราสี, ปหีนภยเภรโว;

ฌายติ วนโมคยฺห, ปุตฺโต โคธาย ภทฺทิโย.

๘๖๕.

‘‘สีลกฺขนฺเธ ปติฏฺาย, สตึ ปฺฺจ ภาวยํ;

ปาปุณึ อนุปุพฺเพน, สพฺพสํโยชนกฺขย’’นฺติ. –

อิมาหิ คาถาหิ สตฺถุ ปุรโต สีหนาทํ นทิ.

ตตฺถ ยาตํ เม หตฺถิคีวายาติ, ภนฺเต, ปุพฺเพ มยา คจฺฉนฺเตนาปิ หตฺถิคีวาย หตฺถิกฺขนฺเธ นิสีทิตฺวา ยาตํ จริตํ. วตฺถานิ ปริหรนฺเตนาปิ สุขุมา สุขสมฺผสฺสา กาสิกวตฺถวิเสสา ธาริตา. โอทนํ ภุฺชนฺเตนาปิ ติวสฺสิกานํ ปุราณคนฺธสาลีนํ โอทโน ติตฺติรกปิฺชราทินา สุจินา มํเสน อุปสิตฺตตาย สุจิมํสูปเสจโน ภุตฺโต, ตถาปิ ตํ สุขํ น มยฺหํ จิตฺตปริโตสกรํ อโหสิ, ยถา เอตรหิ วิเวกสุขนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘โสชฺช ภทฺโท’’ติอาทิ. เอตฺถ จ หตฺถิคฺคหเณเนว อสฺสรถยานานิ, วตฺถคฺคหเณน สพฺพราชาลงฺการา, โอทนคฺคหเณน สพฺพโภชนวิกติ คหิตาติ เวทิตพฺพํ. โสชฺชาติ โส อชฺช เอตรหิ ปพฺพชฺชายํ ิโต. ภทฺโทติ สีลาทิคุเณหิ สมนฺนาคตตฺตา ภทฺโท. สาตติโกติ สมณธมฺเม ทิฏฺธมฺมสุขวิหาเร สาตจฺจยุตฺโต. อุฺฉาปตฺตาคเต รโตติ อุฺฉาจริยาย ปตฺเต อาคเต ปตฺตปริยาปนฺเน อภิรโต, เตเนว สนฺตุฏฺโติ อธิปฺปาโย. ฌายตีติ ผลสมาปตฺติฌาเนน ฌายติ. ปุตฺโต โคธายาติ กาฬิโคธาย นาม ขตฺติยาย ปุตฺโต. ภทฺทิโยติ เอวํนาโม อตฺตานเมว เถโร อฺํ วิย กตฺวา วทติ.

คหปติจีวรํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปํสุกูลิกงฺคสมาทาเนน ปํสุกูลิโก. สงฺฆภตฺตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปิณฺฑปาติกงฺคสมาทาเนน ปิณฺฑปาติโก. อติเรกจีวรํ ปฏิกฺขิปิตฺวา เตจีวริกงฺคสมาทาเนน เตจีวริโก. โลลุปฺปจารํ ปฏิกฺขิปิตฺวา สปทานจาริกงฺคสมาทาเนน สปทานจารี. นานาสนโภชนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา เอกาสนิกงฺคสมาทาเนน เอกาสนิโก. ทุติยกภาชนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปตฺตปิณฺฑิกงฺคสมาทาเนน ปตฺตปิณฺฑิโก. อติริตฺตโภชนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ขลุปจฺฉาภตฺติกงฺคสมาทาเนน ขลุปจฺฉาภตฺติโก. คามนฺตเสนาสนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อารฺิกงฺคสมาทาเนน อารฺิโก. ฉนฺนวาสํ ปฏิกฺขิปิตฺวา รุกฺขมูลิกงฺคสมาทาเนน รุกฺขมูลิโก. ฉนฺนรุกฺขมูลานิ ปฏิกฺขิปิตฺวา อพฺโภกาสิกงฺคสมาทาเนน อพฺโภกาสิโก. นสุสานํ ปฏิกฺขิปิตฺวา โสสานิกงฺคสมาทาเนน โสสานิโก. เสนาสนโลลุปฺปํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ยถาสนฺถติกงฺคสมาทาเนน ยถาสนฺถติโก. สยนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา เนสชฺชิกงฺคสมาทาเนน เนสชฺชิโก. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปน ธุตงฺคกถา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๒ อาทโย) วุตฺตนเยเนว คเหตพฺพา.

อุจฺเจติ อุจฺจาทิฏฺาเน, อุปริปาสาทตาย วา อุจฺเจ. มณฺฑลิปากาเรติ มณฺฑลากาเรน ปาการปริกฺขิตฺเต. ทฬฺหมฏฺฏาลโกฏฺเกติ ถิเรหิ อฏฺฏาเลหิ ทฺวารโกฏฺเกหิ จ สมนฺนาคเต, นคเรติ อตฺโถ.

สตึ ปฺฺจาติ เอตฺถ สติสีเสน สมาธึ วทติ. ผลสมาปตฺตินิโรธสมาปตฺติโย สนฺธาย ‘‘สตึ ปฺฺจ ภาวย’’นฺติ วุตฺโต. เสสํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมว.

เอวํ เถโร สตฺถุ สมฺมุขา สีหนาทํ นทิ. ตํ สุตฺวา ภิกฺขู อภิปฺปสนฺนา อเหสุํ.

กาฬิโคธาปุตฺตภทฺทิยตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. องฺคุลิมาลตฺเถรคาถาวณฺณนา

คจฺฉํ วเทสีติอาทิกา อายสฺมโต องฺคุลิมาลตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ โกสลรฺโ ปุโรหิตสฺส ภคฺควสฺส นาม พฺราหฺมณสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺส ชาตทิวเส สกลนคเร อาวุธานิ ปชฺชลึสุ, รฺโ จ มงฺคลาวุธํ สยนปีเ ปิตํ ปชฺชลิ, ตํ ทิสฺวา ราชา ภีโต สํวิคฺโค นิทฺทํ น ลภิ. ปุโรหิโต ตายํ เวลายํ นกฺขตฺตโยคํ อุลฺโลเกนฺโต ‘‘โจรนกฺขตฺเตน ชาโต’’ติ สนฺนิฏฺานมกาสิ. โส วิภาตาย รตฺติยา รฺโ สนฺติกํ คโต สุขเสยฺยํ ปุจฺฉิ. ราชา ‘‘กุโต, อาจริย, สุขเสยฺยํ, รตฺติยํ มยฺหํ มงฺคลาวุธํ ปชฺชลิ, ตสฺส โก นุ โข วิปาโก ภวิสฺสตี’’ติ? ‘‘มา ภายิ, มหาราช, มยฺหํ ฆเร ทารโก ชาโต. ตสฺส อานุภาเวน สกลนคเรปิ อาวุธานิ ปชฺชลึสู’’ติ. ‘‘กึ ภวิสฺสติ, อาจริยา’’ติ? ‘‘ทารโก โจโร ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘กึ เอกจารี โจโร, อุทาหุ คณเชฏฺโก’’ติ? ‘‘เอกจาริโก, เทว’’. ‘‘กึ นํ มาเรมา’’ติ? ‘‘เอกจาริโก เจ, ปฏิชคฺคถ ตาว น’’นฺติ อาห. ตสฺส นามํ กโรนฺตา ยสฺมา ชายมาโน รฺโ จิตฺตํ วิเหเสนฺโต ชาโต, ตสฺมา หึสโกติ กตฺวา ปจฺฉา ทิฏฺํ อทิฏฺนฺติ วิย อหึสโกติ โวหรึสุ.

โส วยปฺปตฺโต ปุพฺพกมฺมพเลน สตฺตนฺนํ หตฺถีนํ พลํ ธาเรติ. ตสฺสิทํ ปุพฺพกมฺมํ – พุทฺธสุฺเ โลเก กสฺสโก หุตฺวา นิพฺพตฺโต เอกํ ปจฺเจกพุทฺธํ วสฺโสทเกน ตินฺตํ อลฺลจีวรํ สีตปีฬิตํ อตฺตโน เขตฺตภูมึ อุปคตํ ทิสฺวา ‘‘ปุฺกฺเขตฺตํ เม อุปฏฺิต’’นฺติ โสมนสฺสชาโต อคฺคึ กตฺวา อทาสิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส พเลน นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน ถามชวพลสมฺปนฺโน จ หุตฺวา อิมสฺมึ ปจฺฉิมตฺตภาเว สตฺตนฺนํ หตฺถีนํ พลํ ธาเรติ. โส ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา ทิสาปาโมกฺขสฺส อาจริยสฺส สนฺติเก ธมฺมนฺเตวาสี หุตฺวา สิปฺปํ อุคฺคณฺหโต อาจริยพฺราหฺมณํ ตสฺส ภริยฺจ สกฺกจฺจํ ปฏิชคฺคติ. เตนสฺส สา พฺราหฺมณี เคเห ลพฺภมาเนน ภตฺตาทินา สงฺคหํ กโรติ. ตํ อสหมานา อฺเ มาณวา อาจริเยน สทฺธึ เภทํ อกํสุ. พฺราหฺมโณ เตสํ วจนํ ทฺเว ตโย วาเร อสทฺทหนฺโต หุตฺวา ปจฺฉา สทฺทหิตฺวา ‘‘มหาพโล มาณโว, น สกฺกา เกนจิ มาราเปตุํ, อุปาเยน นํ มาเรสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา นิฏฺิตสิปฺปํ อตฺตโน นครํ คนฺตุํ อาปุจฺฉนฺตํ มาณวํ อาห – ‘‘ตาต อหึสก, นิฏฺิตสิปฺเปน นาม อนฺเตวาสินา อาจริยสฺส ครุทกฺขิณา ทาตพฺพา, ตํ มยฺหํ เทหี’’ติ. ‘‘สาธุ, อาจริย, กึ ทสฺสามี’’ติ? ‘‘มนุสฺสานํ สหสฺสทกฺขิณหตฺถงฺคลิโย อาเนหี’’ติ. พฺราหฺมณสฺส กิร อยมสฺส อธิปฺปาโย – พหูสุ มาริยมาเนสุ เอกนฺตโต เอโก นํ มาเรยฺยาติ . ตํ สุตฺวา อหึสโก อตฺตโน จิรปริจิตํ นิกฺกรุณตํ ปุรกฺขตฺวา สนฺนทฺธปฺจาวุโธ โกสลรฺโ วิชิเต ชาลินํ วนํ ปวิสิตฺวา มหามคฺคสมีเป ปพฺพตนฺตเร วสนฺโต ปพฺพตสิขเร ตฺวา มคฺเคน คจฺฉนฺเต มนุสฺเส โอโลเกตฺวา เวเคน คนฺตฺวา องฺคุลิโย คเหตฺวา รุกฺขคฺเค โอลมฺเพสิ. ตา คิชฺฌาปิ กากาปิ ขาทึสุ, ภูมิยํ นิกฺขิตฺตา ปูติภาวํ อคมํสุ. เอวํ คณนาย อปริปูรมานาย ลทฺธา ลทฺธา องฺคุลิโย สุตฺเตน คนฺถิตฺวา มาลํ กตฺวา ยฺโปจิตํ วิย อํเส โอลมฺเพสิ. ตโต ปฏฺาย องฺคุลิมาโลตฺเววสฺส สมฺา อโหสิ.

เอวํ ตสฺมึ มนุสฺเส มาเรนฺเต มคฺโค อวฬฺโช อโหสิ. โส มคฺเค มนุสฺเส อลภนฺโต คามูปจารํ คนฺตฺวา นิลียิตฺวา อาคตาคเต มนุสฺเส มาเรตฺวา องฺคุลิโย คเหตฺวา คจฺฉติ. ตํ ตฺวา มนุสฺสา คามโต อปกฺกมึสุ, คามา สุฺา อเหสุํ, ตถา นิคมา ชนปทา จ. เอวํ เตน โส ปเทโส อุพฺพาสิโต อโหสิ. องฺคุลิมาลสฺส จ เอกาย อูนา สหสฺสองฺคุลิโย สงฺคหา อเหสุํ. อถ มนุสฺสา ตํ โจรุปทฺทวํ โกสลรฺโ อาโรเจสุํ. ราชา ปาโตว นคเร เภรึ จราเปสิ, ‘‘สีฆํ องฺคุลิมาลโจรํ คณฺหาม, พลกาโย อาคจฺฉตู’’ติ. ตํ สุตฺวา องฺคุลิมาลสฺส มาตา มนฺตาณี นาม พฺราหฺมณี ตสฺส ปิตรํ อาห – ‘‘ปุตฺโต กิร เต โจโร หุตฺวา อิทฺจิทฺจ กโรติ, ตํ ‘อีทิสํ มา กรี’ติ สฺาเปตฺวา อาเนหิ, อฺถา นํ ราชา ฆาเตยฺยา’’ติ. พฺราหฺมโณ ‘‘น มยฺหํ ตาทิเสหิ ปุตฺเตหิ อตฺโถ, ราชา ยํ วา ตํ วา กโรตู’’ติ อาห . อถ พฺราหฺมณี ปุตฺตสิเนเหน ปาเถยฺยํ คเหตฺวา ‘‘มม ปุตฺตํ สฺาเปตฺวา อาเนสฺสามี’’ติ มคฺคํ ปฏิปชฺชิ.

ภควา ‘‘อยํ ‘องฺคุลิมาลํ อาเนสฺสามี’ติ คจฺฉติ, สเจ สา คมิสฺสติ, องฺคุลิมาโล ‘องฺคุลิสหสฺสํ ปูเรสฺสามี’ติ มาตรมฺปิ มาเรสฺสติ. โส จ ปจฺฉิมภวิโก, สจาหํ น คมิสฺสํ, มหาชานิ อภวิสฺสา’’ติ ตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต สยเมว ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา องฺคุลิมาลํ อุทฺทิสฺส ตึสโยชนิกํ มคฺคํ ปทสาว ปฏิปชฺชมาโน อนฺตรามคฺเค โคปาลกาทีหิ วาริยมาโนปิ ชาลินํ วนํ อุปคจฺฉิ. ตสฺมิฺจ ขเณ ตสฺส มาตา เตน ทิฏฺา, โส มาตรํ ทูรโตว ทิสฺวา ‘‘มาตรมฺปิ มาเรตฺวา อชฺช อูนงฺคุลึ ปูเรสฺสามี’’ติ อสึ อุกฺขิปิตฺวา อุปธาวิ. เตสํ อุภินฺนํ อนฺตเร ภควา อตฺตานํ ทสฺเสสิ. องฺคุลิมาโล ภควนฺตํ ทิสฺวา ‘‘กึ เม มาตรํ วธิตฺวา องฺคุลิยา คหิเตน? ชีวตุ เม มาตา, ยํนูนาหํ อิมํ สมณํ ชีวิตา โวโรเปตฺวา องฺคุลึ คณฺเหยฺย’’นฺติ อุกฺขิตฺตาสิโก ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธิ. อถ โข ภควา ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสิ, ยถา ปกติอิริยาปเถน คจฺฉนฺตมฺปิ อตฺตานํ องฺคุลิมาโล สพฺพถาเมน ธาวนฺโตปิ น สกฺโกติ สมฺปาปุณิตุํ. โส ปริหีนชโว ฆุรุฆุรุปสฺสาสี กจฺเฉหิ เสทํ มุฺจนฺโต ปทํ อุทฺธริตุมฺปิ อสกฺโกนฺโต ขาณุ วิย ิโต ภควนฺตํ ‘‘ติฏฺ ติฏฺ, สมณา’’ติ อาห. ภควา คจฺฉนฺโตว ‘‘ิโต อหํ, องฺคุลิมาล, ตฺวฺจ ติฏฺา’’ติ อาห. โส ‘‘อิเม โข สมณา สกฺยปุตฺติยา สจฺจวาทิโน, อยํ สมโณ คจฺฉนฺโตเยว ‘ิโต อหํ, องฺคุลิมาล, ตฺวฺจ ติฏฺา’ติ อาห, อหฺจมฺหิ ิโต, โก นุ โข อิมสฺส อธิปฺปาโย, ปุจฺฉิตฺวา นํ ชานิสฺสามี’’ติ ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

๘๖๖.

‘‘คจฺฉํ วเทสิ สมณ ิโตมฺหิ, มมฺจ พฺรูสิ ิตมฏฺิโตติ;

ปุจฺฉามิ ตํ สมณ เอตมตฺถํ, กถํ ิโต ตฺวํ อหมฏฺิโตมฺหี’’ติ.

ตตฺถ สมณาติ ภควนฺตํ อาลปติ. มมนฺติ มํ. กถนฺติ เกนากาเรน. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – สมณ, ตฺวํ คจฺฉนฺโตว สมาโน ‘‘ิโตมฺหี’’ติ วเทสิ. มมฺจ ิตํเยว ‘‘อฏฺิโต’’ติ พฺรูสิ, วเทสิ. การเณเนตฺถ ภวิตพฺพํ, ตสฺมา ตํ สมณํ อหํ เอวมตฺถํ ปุจฺฉามิ. กถํ เกนากาเรน ตฺวํ ิโต อโหสิ, อหฺจ อฏฺิโตมฺหีติ. เอวํ วุตฺเต ภควา –

๘๖๗.

‘‘ิโต อหํ องฺคุลิมาล สพฺพทา, สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ;

ตุวฺจ ปาเณสุ อสฺโตสิ, ตสฺมา ิโตหํ ตุวมฏฺิโตสี’’ติ. –

คาถาย ตํ อชฺฌภาสิ.

ตตฺถ ิโต อหํ, องฺคุลิมาล, สพฺพทา, สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑนฺติ, องฺคุลิมาล, อหํ สพฺพทา สพฺพกาเล อาทิมชฺฌปริโยสาเนสุ ตสถาวรเภเทสุ สพฺเพสุ สตฺเตสุ ทณฺฑํ นิธาย นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, ตโต อฺถา อวตฺตนโต เอวรูเปเนว ิโต. ตุวฺจ ปาเณสุ อสฺโตสีติ ตฺวํ ปน สตฺเตสุ สฺมรหิโต อสิ, ลุทฺโท โลหิตปาณิ หตปหเต นิวิฏฺโ อทยาปนฺโน, ตสฺมา อสฺโต วิรติวเสน อฏฺิโต. ตโต เอว ตาสุ ตาสุ คตีสุ ปริพฺภมนโตปิ ตุวํ อิทานิ อิริยาปเถน ิโตปิ อฏฺิโต อสิ, อหํ ปน วุตฺตปฺปกาเรน ิโตติ. ตโต องฺคุลิมาโล ยถาภุจฺจคุณปฺปภาวิตสฺส ชลตเล เตลสฺส วิย สกลํ โลกํ อภิพฺยาเปตฺวา ิตสฺส ภควโต กิตฺติสทฺทสฺส สุตปุพฺพตฺตา เหตุสมฺปตฺติยา าณสฺส จ ปริปากคตตฺตา ‘‘อยํ โส ภควา’’ติ สฺชาตปีติโสมนสฺโส ‘‘มหา อยํ สีหนาโท, มหนฺตํ คชฺชิตํ, นยิทํ อฺสฺส ภวิสฺสติ, สมณสฺส มฺเ โคตมสฺส เอตํ คชฺชิตํ, ทิฏฺโ วตมฺหิ มเหสินา สมฺมาสมฺพุทฺเธน, มยฺหํ สงฺคหกรณตฺถํ ภควา อิธาคโต’’ติ จินฺเตตฺวา –

๘๖๘.

‘‘จิรสฺสํ วต เม มหิโต มเหสี, มหาวนํ สมโณ ปจฺจปาทิ;

โสหํ จชิสฺสามิ สหสฺสปาปํ, สุตฺวาน คาถํ ตว ธมฺมยุตฺต’’นฺติ. –

อิมํ คาถํ อภาสิ.

ตตฺถ จิรสฺสํ วตาติ จิรกาเลน วต. เมติ มยฺหํ อนุคฺคหตฺถาย. มหิโตติ สเทวเกน โลเกน มหติยา ปูชาย ปูชิโต. มหนฺเต สีลกฺขนฺธาทิคุเณ เอสิ, คเวสีติ มเหสี. มหาวนํ สมโณ ปจฺจปาทีติ อิมํ มหารฺํ สมิตสพฺพปาโป ภควา ปฏิปชฺชิ. โสหํ จชิสฺสามิ สหสฺสปาปํ, สุตฺวาน คาถํ ตว ธมฺมยุตฺตนฺติ โสหํ ธมฺมยุตฺตํ ธมฺมูปสํหิตํ ตว คาถํ สุณึ. โสหํ ตํ สุตฺวาน ‘‘จิรสฺสมฺปิ จิรกาเลนปิ สงฺคตํ ปริจิตํ ปาปสหสฺสํ ปชหิสฺส’’นฺติ จินฺเตตฺวา อิทานิ นํ อฺทตฺถุ ปริจฺจชิสฺสามีติ อตฺโถ. เอวํ ปน วตฺวา ยถา ปฏิปชฺชิ, ยถา จ ภควตา อนุคฺคหิโต, ตํ ทสฺเสตุํ –

๘๖๙.

‘‘อิจฺเจว โจโร อสิมาวุธฺจ, โสพฺเภ ปปาเต นรเก อนฺวกาสิ;

อวนฺทิ โจโร สุคตสฺส ปาเท, ตตฺเถว ปพฺพชฺชมยาจิ พุทฺธํ.

๘๗๐.

‘‘พุทฺโธ จ โข การุณิโก มเหสิ, โย สตฺถา โลกสฺส สเทวกสฺส;

ตเมหิ ภิกฺขูติ ตทา อโวจ, เอเสว ตสฺส อหุ ภิกฺขุภาโว’’ติ.

สงฺคีติการา อิมา ทฺเว คาถา เปสุํ.

ตตฺถ อิจฺเจวาติ อิติ เอว เอวํ วตฺวา อนนฺตรเมว. โจโรติ องฺคุลิมาโล. อสินฺติ ขคฺคํ. อาวุธนฺติ เสสาวุธํ. โสพฺเภติ สมนฺตโต ฉินฺนตเฏ. ปปาเตติ เอกโต ฉินฺนตเฏ. นรเกติ ภูมิยา ผลิตวิวเร. อิธ ปน ตีหิปิ ปเทหิ ยตฺถ ปติตํ อฺเน คเหตุํ น สกฺกา, ตาทิสํ ปพฺพตนฺตรเมว วทติ. อนฺวกาสีติ อนุ อกาสิ, ปฺจวิธมฺปิ อตฺตโน อาวุธํ อนุ ขิปิ ฉฑฺเฑสิ, ตานิ ฉฑฺเฑตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ‘‘ปพฺพาเชถ มํ, ภนฺเต’’ติ อาห. เตน วุตฺตํ ‘‘อวนฺทิ โจโร สุคตสฺส ปาเท, ตตฺเถว ปพฺพชฺชมยาจิ พุทฺธ’’นฺติ. เอวํ เตน ปพฺพชฺชาย ยาจิตาย สตฺถา ตสฺส ปุริมกมฺมํ โอโลเกนฺโต เอหิภิกฺขุภาวาย เหตุสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ทกฺขิณหตฺถํ ปสาเรตฺวา – ‘‘เอหิ, ภิกฺขุ, สฺวาขาโต ธมฺโม, จร พฺรหฺมจริยํ, สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ อาห. สา เอว จ ตสฺส ปพฺพชฺชา อุปสมฺปทา จ อโหสิ. เตนาห ‘‘ตเมหิ ภิกฺขูติ ตทา อโวจ, เอเสว ตสฺส อหุ ภิกฺขุภาโว’’ติ.

เอวํ เถโร สตฺถุ สนฺติเก เอหิภิกฺขุภาเวน ปพฺพชฺชํ อุปสมฺปทฺจ ลภิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต อรหตฺตํ ปตฺวา วิมุตฺติสุขํ ปฏิสํเวเทนฺโต ปีติโสมนสฺสชาโต อุทานวเสน –

๘๗๑.

‘‘โย จ ปุพฺเพ ปมชฺชิตฺวา, ปจฺฉา โส นปฺปมชฺชติ;

โสมํ โลกํ ปภาเสติ, อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา.

๘๗๒.

‘‘ยสฺส ปาปํ กตํ กมฺมํ, กุสเลน ปิธียติ;

โสมํ โลกํ ปภาเสติ, อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา.

๘๗๓.

‘‘โย หเว ทหโร ภิกฺขุ, ยุฺชติ พุทฺธสาสเน;

โสมํ โลกํ ปภาเสติ, อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา’’ติ. – คาถตฺตยํ อภาสิ;

ตสฺสตฺโถ – โย ปุคฺคโล คหฏฺโ วา ปพฺพชิโต วา กลฺยาณมิตฺตสํสคฺคโต ปุพฺเพ ปาปมิตฺตสํสคฺเคน วา อตฺตโน วา ปฏิสงฺขานาภาเวน ปมชฺชิตฺวา สมฺมาปฏิปตฺติยํ ปมาทํ อาปชฺชิตฺวา , ปจฺฉา กลฺยาณมิตฺตสํสคฺเคน โยนิโส อุมฺมุชฺชนฺโต นปฺปมชฺชติ, สมฺมา ปฏิปชฺชติ, สมถวิปสฺสนํ อนุยุฺชนฺโต ติสฺโส วิชฺชา ฉ อภิฺา ปาปุณาติ, โส อพฺภาทีหิ มุตฺโต จนฺโท วิย โอกาสโลกํ อตฺตนา อธิคตาหิ วิชฺชาภิฺาหิ อิมํ ขนฺธาทิโลกํ โอภาเสตีติ.

ยสฺส ปุคฺคลสฺส กตํ อุปจิตํ ปาปกมฺมํ กมฺมกฺขยกเรน โลกุตฺตรกุสเลน อวิปาการหภาวสฺส อาหริตตฺตา วิปากุปฺปาทเน ทฺวารปิธาเนน ปิธียติ ถกียติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

ทหโรติ ตรุโณ, เตนสฺส โยคกฺขมสรีรตํ ทสฺเสติ. โส หิ อุปฺปนฺนํ วาตาตปปริสฺสยํ อภิภวิตฺวา โยคํ กาตุํ สกฺโกติ. ยุฺชติ พุทฺธสาสเน สิกฺขตฺตเย ยุตฺตปฺปยุตฺโต โหติ, สกฺกจฺจํ สมฺปาเทตีติ อตฺโถ.

เอวํ ปีติโสมนสฺสชาโต วิมุตฺติสุเขน วิหรนฺโต ยทา นครํ ปิณฺฑาย ปวิสติ, ตทา อฺเนปิ ขิตฺโต เลฑฺฑุ เถรสฺส กาเย นิปตติ, อฺเนปิ ขิตฺโต ทณฺโฑ ตสฺเสว กาเย นิปตติ. โส ภินฺเนน ปตฺเตน วิหารํ ปวิสิตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คจฺฉติ. สตฺถา ตํ โอวทติ ‘‘อธิวาเสหิ, ตฺวํ พฺราหฺมณ, อธิวาเสหิ, ตฺวํ พฺราหฺมณ, ยสฺส โข, ตฺวํ พฺราหฺมณ, กมฺมสฺส วิปาเกน พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ นิรเย ปจฺเจยฺยาสิ, ตสฺส, ตฺวํ พฺราหฺมณ, กมฺมสฺส วิปากํ ทิฏฺเว ธมฺเม ปฏิสํเวเทสี’’ติ. อถ เถโร อโนธิโส สพฺพสตฺเตสุ เมตฺตจิตฺตํ อุปฏฺเปตฺวา –

๘๗๔.

‘‘ทิสาปิ เม ธมฺมกถํ สุณนฺตุ, ทิสาปิ เม ยุฺชนฺตุ พุทฺธสาสเน;

ทิสาปิ เม เต มนุเช ภชนฺตุ, เย ธมฺมเมวาทปยนฺติ สนฺโต.

๘๗๕.

‘‘ทิสา หิ เม ขนฺติวาทานํ, อวิโรธปฺปสํสินํ;

สุณนฺตุ ธมฺมํ กาเลน, ตฺจ อนุวิธียนฺตุ.

๘๗๖.

‘‘น หิ ชาตุ โส มมํ หึเส, อฺํ วา ปน กฺจิ นํ;

ปปฺปุยฺย ปรมํ สนฺตึ, รกฺเขยฺย ตสถาวเร.

๘๗๗.

‘‘อุทกฺหิ นยนฺติ เนตฺติกา, อุสุการา ทมยนฺติ เตชนํ;

ทารุํ ทมยนฺติ ตจฺฉกา, อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา.

๘๗๘.

‘‘ทณฺเฑเนเก ทมยนฺติ, องฺกุเสภิ กสาหิ จ;

อทณฺเฑน อสตฺเถน, อหํ ทนฺโตมฺหิ ตาทินา.

๘๗๙.

‘‘อหึสโกติ เม นามํ, หึสกสฺส ปุเร สโต;

อชฺชาหํ สจฺจนาโมมฺหิ, น นํ หึสามิ กฺจิ นํ.

๘๘๐.

‘‘โจโร อหํ ปุเร อาสึ, องฺคุลิมาโลติ วิสฺสุโต;

วุยฺหมาโน มโหเฆน, พุทฺธํ สรณมาคมํ.

๘๘๑.

‘‘โลหิตปาณิ ปุเร อาสึ, องฺคุลิมาโลติ วิสฺสุโต;

สรณคมนํ ปสฺส, ภวเนตฺติ สมูหตา.

๘๘๒.

‘‘ตาทิสํ กมฺมํ กตฺวาน, พหุํ ทุคฺคติคามินํ;

ผุฏฺโ กมฺมวิปาเกน, อนโณ ภุฺชามิ โภชนํ.

๘๘๓.

‘‘ปมาทมนุยุฺชนฺติ, พาลา ทุมฺเมธิโน ชนา;

อปฺปมาทฺจ เมธาวี, ธนํ เสฏฺํว รกฺขติ.

๘๘๔.

‘‘มา ปมาทมนุยุฺเชถ, มา กามรติสนฺถวํ;

อปฺปมตฺโต หิ ฌายนฺโต, ปปฺโปติ ปรมํ สุขํ.

๘๘๕.

‘‘สฺวาคตํ นาปคตํ, เนตํ ทุมฺมนฺติตํ มม;

สวิภตฺเตสุ ธมฺเมสุ, ยํ เสฏฺํ ตทุปาคมํ.

๘๘๖.

‘‘สฺวาคตํ นาปคตํ, เนตํ ทุมฺมนฺติตํ มม;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

๘๘๗.

‘‘อรฺเ รุกฺขมูเล วา, ปพฺพเตสุ คุหาสุ วา;

ตตฺถ ตตฺเถว อฏฺาสึ, อุพฺพิคฺคมนโส ตทา.

๘๘๘.

‘‘สุขํ สยามิ ายามิ, สุขํ กปฺเปมิ ชีวิตํ;

อหตฺถปาโส มารสฺส, อโห สตฺถานุกมฺปิโต.

๘๘๙.

‘‘พฺรหฺมชจฺโจ ปุเร อาสึ, อุทิจฺโจ อุภโต อหุ.

โสชฺช ปุตฺโต สุคตสฺส, ธมฺมราชสฺส สตฺถุโน.

๘๙๐.

‘‘วีตตณฺโห อนาทาโน, คุตฺตทฺวาโร สุสํวุโต;

อฆมูลํ วธิตฺวาน, ปตฺโต เม อาสวกฺขโย.

๘๙๑.

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;

โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติ สมูหตา’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ ทิสาปีติ มยฺหํ ทิสาปิ อมิตฺตา ปจฺจตฺถิกาปิ เย มํ เอวํ อุปวทนฺติ ‘‘ยถา มยํ องฺคุลิมาลสฺส วเสน าติวิโยคทุกฺขปเรตา ทุกฺขํ ปาปุณาม, เอวํ องฺคุลิมาโลปิ ทุกฺขํ ปาปุณาตู’’ติ. เม ธมฺมกถํ สุณนฺตูติ มยา สตฺถุ สนฺติเก สุตํ จตุสจฺจธมฺมปฏิสํยุตฺตํ กถํ สุณนฺตุ . ยุฺชนฺตูติ สุตฺวา จ ตทตฺถาย ปฏิปชฺชนฺตุ. เต มนุเช ภชนฺตูติ ตาทิเส สปฺปุริเส กลฺยาณมิตฺเต ภชนฺตุ เสวนฺตุ. เย ธมฺมเมวาทปยนฺติ สนฺโตติ เย สปฺปุริสา กุสลธมฺมเมว, อุตฺตริมนุสฺสธมฺมเมว, นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรธมฺมเมว จ อาทเปนฺติ สมาทเปนฺติ คณฺหาเปนฺติ.

ขนฺติวาทานนฺติ อธิวาสนขนฺติเมว วทนฺตานํ ตโต เอว อวิโรธปฺปสํสินนฺติ เกนจิ อวิโรธภูตาย เมตฺตาย เอว ปสํสนสีลานํ. สุณนฺตุ ธมฺมํกาเลนาติ ยุตฺตปฺปยุตฺตกาเล เตสํ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตุ. ตฺจ อนุวิธียนฺตูติ ตฺจ ยถาสุตํ ธมฺมํ สมฺมเทว อุคฺคหิตฺวา อนุกโรนฺตุ ธมฺมานุธมฺมํ ปฏิปชฺชนฺตูติ อตฺโถ.

น หิ ชาตุ โส มมํ หึเสติ โส มยฺหํ ทิโส ปจฺจตฺถิโก ชาตุ, เอกํเสเนว มํ น หึเส, น พาเธยฺย. อฺํ วา ปน กฺจิ นนฺติ น เกวลํ มํเยว, อฺํ วาปิ กฺจิ สตฺตํ น หึเสยฺย, ปปฺปุยฺย ปรมํ สนฺตินฺติ, ปรมํ อุตฺตมํ สนฺตึ นิพฺพานํ ปาปุเณยฺย, ปาปุณิตฺวา จ รกฺเขยฺย ตสถาวเรติ สพฺเพ จ สตฺเต ปรมาย รกฺขาย รกฺเขยฺย, สิสฺสํ ปุตฺตํ วิย ปริปาเลยฺยาติ อตฺโถ.

เอวํ เถโร อิมาหิ คาถาหิ ปเร ปาปโต ปริโมเจนฺโต ปริตฺตกิริยํ นาม กตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปกาเสนฺโต ‘‘อุทกํ หี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ ปถวิยา ถลฏฺานํ ขณิตฺวา นินฺนฏฺานํ ปูเรตฺวา มาติกํ วา กตฺวา รุกฺขโทณึ วา เปตฺวา อตฺตนา อิจฺฉิกิจฺฉิตฏฺานํ อุทกํ เนนฺตีติ เนตฺติกา, อุทกหาริโน. เตชนนฺติ กณฺฑํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เนตฺติกา อตฺตโน รุจิยา อุทกํ นยนฺติ, อุสุการาปิ ตาเปตฺวา วงฺกาภาวํ หรนฺตา เตชนํ อุสุํ ทมยนฺติ, อุชุกํ กโรนฺติ, ตจฺฉกาปิ เนมิอาทีนํ อตฺถาย ตจฺฉนฺตา ทารุํ ทมยนฺติ อตฺตโน รุจิยา อุชุํ วา วงฺกํ วา กโรนฺติ. เอวํ เอตฺตกํ อารมฺมณํ กตฺวา ปณฺฑิตา สปฺปฺา อริยมคฺคํ อุปฺปาเทนฺตา อตฺตานํ ทเมนฺติ, อรหตฺตปฺปตฺตา ปน เอกนฺตทนฺตา นาม โหนฺตีติ.

อิทานิ ปุริสทมฺมสารถินา สตฺถารา อตฺตโน ทมิตาการํ กตฺุตฺจ ปกาเสนฺโต ‘‘ทณฺเฑเนเก’’ติอาทิกา ปฺจ คาถา อภาสิ. ตตฺถ ทณฺเฑเนเก ทมยนฺตีติ ราชราชมหามตฺตาทโย ทณฺเฑน, หตฺถิอสฺสาทินา พลกาเยน จ ปจฺจตฺถิกาทิเก ทเมนฺติ, โคปาลาทโย จ คาวาทิเก ทณฺเฑน ยฏฺิยา ทเมนฺติ. หตฺถาจริยา หตฺถึ องฺกุเสหิ, อสฺสาจริยา อสฺเส กสาหิ จ ทเมนฺติ. อทณฺเฑน อสตฺเถน, อหํ ทนฺโตมฺหิ ตาทินาติ อหํ ปน อิฏฺาทีสุ ตาทิภาวปฺปตฺเตน สมฺมาสมฺพุทฺเธน วินา เอว ทณฺเฑน, วินา สตฺเถน, นิหิตทณฺฑนิหิตสตฺถภาเวน ทนฺโต ทมิโต นิพฺพิเสวโน คโต อมฺหิ.

อหึสโกติเม นามํ, หึสกสฺส ปุเร สโตติ สตฺถารา สมาคมโต ปุพฺเพ หึสกสฺส เม สมานสฺส อหึสโกติ นามมตฺตํ อโหสิ. อชฺชาหนฺติ อิทานิ ปนาหํ ‘‘อหึสโก’’ติ สจฺจนาโม อวิตถนาโม อมฺหิ. ตสฺมา น นํ หึสามิ กฺจิปิ สตฺตํ น หึสามิ น พาเธมิ, นฺติ นิปาตมตฺตํ.

วิสฺสุโตติ ‘‘ปาณาติปาตี ลุทฺโท โลหิตปาณี’’ติอาทินา ปฺาโต. มโหเฆนาติ กาโมฆาทินา มหตา โอเฆน, ตสฺส โอฆสฺส วิจฺเฉทกรํ พุทฺธํ สรณํ พุทฺธสงฺขาตํ สรณํ อคมํ อุปคจฺฉึ.

โลหิตปาณีติ ปาณมติปาตเนน ปเรสํ โลหิเตน รุหิเรน มกฺขิตปาณิ. สรณคมนํ ปสฺสาติ มหปฺผลํ มม สรณคมนํ ปสฺสาติ อตฺตานเมวาลปติ.

ตาทิสํ กมฺมนฺติ อเนกสตปุริสวธํ ทารุณํ ตถารูปํ ปาปกมฺมํ. ผุฏฺโ กมฺมวิปาเกนาติ ปุพฺเพ กตสฺส ปาปกมฺมสฺส วิปาเกน ผุฏฺโ, สพฺพโส ปหีนกมฺโม วิปากมตฺตํ ปจฺจนุโภนฺโต. อถ วา ผุฏฺโ กมฺมวิปาเกนาติ อุปนิสฺสยภูตสฺส กุสลกมฺมสฺส ผลภูเตน โลกุตฺตรมคฺเคน, โลกุตฺตรกมฺมสฺเสว วา ผเลน วิมุตฺติสุเขน ผุฏฺโ. สพฺพโส กิเลสานํ ขีณตฺตา อนโณ ภุฺชามิ โภชนํ, โภชนาปเทเสน จตฺตาโรปิ ปจฺจเย วทติ.

อิทานิ ปุพฺเพ อตฺตโน ปมาทวิหารํ ครหามุเขน ปจฺฉา อปฺปมาทปฏิปตฺตึ ปสํสนฺโต ตตฺถ จ ปเรสํ อุสฺสาหํ ชเนนฺโต ‘‘ปมาทมนุยุฺชนฺตี’’ติอาทิกา คาถา อภาสิ. ตตฺถ พาลาติ พาลฺเยน สมนฺนาคตา อิธโลกปรโลกตฺถํ อชานนฺตา. ทุมฺเมธิโนติ นิปฺปฺา, เต ปมาเท อาทีนวํ อปสฺสนฺตา ปมาทํ อนุยุฺชนฺติ ปวตฺเตนฺติ, ปมาเทเนว กาลํ วีตินาเมนฺติ. เมธาวีติ ธมฺโมชปฺาย สมนฺนาคโต ปน ปณฺฑิโต กุลวํสาคตํ เสฏฺํ อุตฺตมํ สตฺตรตนธนํ วิย อปฺปมาทํ รกฺขติ. ยถา หิ ‘‘อุตฺตมํ ธนํ นิสฺสาย โภคสมฺปตฺตึ ปาปุณิสฺสาม, ปุตฺตทารํ โปเสสฺสาม, สุคติมคฺคํ โสเธสฺสามา’’ติ ธเน อานิสํสํ ปสฺสนฺตา ธนํ รกฺขนฺติ; เอวํ ปณฺฑิโตปิ ‘‘อปฺปมาทํ นิสฺสาย ปมชฺฌานาทีนิ ปฏิลภิสฺสามิ , มคฺคผลานิ ปาปุณิสฺสามิ, ติสฺโส วิชฺชา ฉ อภิฺา สมฺปาเทสฺสามี’’ติ อปฺปมาเท อานิสํสํ ปสฺสนฺโต ธนํ เสฏฺํว อปฺปมาทํ รกฺขตีติ อตฺโถ.

มา ปมาทนฺติ ปมาทํ มา อนุยุฺเชถ ปมาเทน กาลํ มา วีตินามยิตฺถ. กามรติสนฺถวนฺติ วตฺถุกาเมสุ, กิเลสกาเมสุ จ รติสงฺขาตํ ตณฺหาสนฺถวมฺปิ มา อนุยุฺเชถ มา วินฺทิตฺถ มา ปฏิลภิตฺถ. อปฺปมตฺโต หีติ อุปฏฺิตสติตาย อปฺปมตฺโต ปุคฺคโล ฌายนฺโต ฌายนปฺปสุโต ปรมํ อุตฺตมํ นิพฺพานสุขํ ปาปุณาติ.

สฺวาคตํ นาปคตนฺติ ยํ ตทา มม สตฺถุ สนฺติเก อาคตํ อาคมนํ, สตฺถุ วา ตสฺมึ มหาวเน อาคมนํ, ตํ สฺวาคตํ สฺวาคมนํ นาปคตํ, อตฺถโต อเปตํ วิคตํ น โหติ. เนตํ ทุมฺมนฺติตํ มมาติ ยํ ตทา มยา ‘‘สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิสฺสามี’’ติ มนฺติตํ, อิทมฺปิ มม น ทุมฺมนฺติตํ, สุมนฺติตเมว. กสฺมา? สวิภตฺเตสุ ธมฺเมสูติ สาวชฺชานวชฺชาทิวเสน ปการโต วิภตฺเตสุ ธมฺเมสุ ยํ เสฏฺํ อุตฺตมํ ปวรํ นิพฺพานํ. ตทุปาคมํ ตเทว อุปคจฺฉินฺติ อตฺโถ.

‘‘ตทา ปุถุชฺชนกาเล ปโยคาสยวิปนฺนตาย อรฺาทีสุ ทุกฺขํ วิหาสึ, อิทานิ ปโยคาสยสมฺปนฺนตาย ตตฺถ สุขํ วิหรามี’’ติ สุขวิหารภาวฺเจว ‘‘ปุพฺเพ ชาติมตฺเตน พฺราหฺมโณ, อิทานิ สตฺถุ โอรสปุตฺตตาย พฺราหฺมโณ’’ติ ปรมตฺถพฺราหฺมณภาวฺจ ทสฺเสนฺโต ‘‘อรฺเ’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุขํ สยามีติ สยนฺโตปิ สุขํ สุเขน นิทุกฺเขน จิตฺตุตฺราสาทีนํ อภาเวน เจโตทุกฺขรหิโต สยามิ. ายามีติ ามิ . อหตฺถปาโส มารสฺสาติ กิเลสมาราทีนํ อโคจโร. อโห สตฺถานุกมฺปิโตติ สตฺถารานุกมฺปิโต อโห.

พฺรหฺมชจฺโจติ พฺราหฺมณชาติโก. อุทิจฺโจ อุภโตติ มาติโต จ ปิติโต จ อุภโต อุทิโต สํสุทฺธคหณิโก. เสสํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนยเมว.

องฺคุลิมาลตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อนุรุทฺธตฺเถรคาถาวณฺณนา

ปหายมาตาปิตโรติอาทิกา อายสฺมโต อนุรุทฺธตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล วิภวสมฺปนฺโน กุฏุมฺพิโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ. โส เอกทิวสํ วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ ทิพฺพจกฺขุกานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา สยมฺปิ ตํ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา สตสหสฺสภิกฺขุปริวารสฺส ภควโต สตฺตาหํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา สตฺตเม ทิวเส ภควโต, ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ อุตฺตมานิ วตฺถานิ ทตฺวา ปณิธานมกาสิ. สตฺถาปิสฺส อนนฺตราเยน สมิชฺฌนภาวํ ทิสฺวา ‘‘อนาคเต โคตมสฺส นาม สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาสเน ทิพฺพจกฺขุกานํ อคฺโค ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากาสิ. โสปิ ตตฺถ ปุฺานิ กโรนฺโต สตฺถริ ปรินิพฺพุเต นิฏฺิเต สตฺตโยชนิเก สุวณฺณเจติเย อเนกสหสฺเสหิ ทีปรุกฺเขหิ ทีปกปลฺลิกาหิ จ ‘‘ทิพฺพจกฺขุาณสฺส อุปนิสฺสยปจฺจโย โหตู’’ติ อุฬารํ ทีปปูชํ อกาสิ.

เอวํ ยาวชีวํ ปุฺานิ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต กสฺสปสฺส ภควโต กาเล พาราณสิยํ กุฏุมฺพิกเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต สตฺถริ ปรินิพฺพุเต นิฏฺิเต โยชนิเก กนกถูเป พหู กํสปาติโย กาเรตฺวา สปฺปิมณฺฑสฺส ปูเรตฺวา มชฺเฌ เอเกกํ คุฬปิณฺฑํ เปตฺวา มุขวฏฺฏิยา มุขวฏฺฏึ ผุสาเปนฺโต เจติยํ ปริกฺขิปาเปตฺวา อตฺตนา เอกํ มหตึ กํสปาตึ กาเรตฺวา สปฺปิมณฺฑสฺส ปูเรตฺวา สหสฺสวฏฺฏิโย ชาลาเปตฺวา สีเส เปตฺวา สพฺพรตฺตึ เจติยํ อนุปริยายิ.

เอวํ ตสฺมิมฺปิ อตฺตภาเว ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา ตโต จุโต เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา ตโต จุโต อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ พาราณสิยํเยว ทุคฺคตกุเล นิพฺพตฺติ, อนฺนภาโรติสฺส นามํ อโหสิ. โส สุมนเสฏฺิสฺส นาม เคเห กมฺมํ กโรนฺโต ชีวติ. โส เอกทิวสํ อุปริฏฺํ นาม ปจฺเจกพุทฺธํ นิโรธสมาปตฺติโต วุฏฺาย คนฺธมาทนปพฺพตโต อากาเสนาคนฺตฺวา พาราณสีนครทฺวาเร โอตริตฺวา จีวรํ ปารุปิตฺวา นคเร ปิณฺฑาย ปวิสนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต ปตฺตํ คเหตฺวา อตฺตโน อตฺถาย ปิตํ เอกํ ภาคภตฺตํ ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา ปจฺเจกพุทฺธสฺส ทาตุกาโม อารภิ. ภริยาปิสฺส อตฺตโน ภาคภตฺตํ ตตฺเถว ปกฺขิปิ. โส ตํ เนตฺวา ปจฺเจกพุทฺธสฺส หตฺเถ เปสิ. ปจฺเจกพุทฺโธ ตํ คเหตฺวา อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ. ตํ ทิสฺวา รตฺตึ สุมนเสฏฺิสฺส ฉตฺเต อธิวตฺถา เทวตา ‘‘อโห ทานํ ปรมทานํ, อุปริฏฺเ, สุปฺปติฏฺิต’’นฺติ มหาสทฺเทน อนุโมทิ. ตํ สุตฺวา สุมนเสฏฺิ ‘‘เอวํ เทวตาย อนุโมทิตํ อิทเมว อุตฺตมทาน’’นฺติ จินฺเตตฺวา ตตฺถ ปตฺตึ ยาจิ. อนฺนภาโร ปน ตสฺส ปตฺตึ อทาสิ. เตน ปสนฺนจิตฺโต สุมนเสฏฺิ ตสฺส สหสฺสํ ทตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย ตุยฺหํ สหตฺเถน กมฺมกรณกิจฺจํ นตฺถิ, ปติรูปํ เคหํ กตฺวา นิจฺจํ วสาหี’’ติ อาห.

ยสฺมา นิโรธโต วุฏฺิตสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส ทินฺนปิณฺฑปาโต ตํทิวสเมว อุฬารตรวิปาโก โหติ, ตสฺมา ตํทิวสํ สุมนเสฏฺิ รฺโ สนฺติกํ คจฺฉนฺโต ตํ คเหตฺวา อคมาสิ. ราชา ปน ตํ อาทรวเสน โอโลเกสิ. เสฏฺิ ‘‘มหาราช, อยํ โอโลเกตพฺพยุตฺโตเยวา’’ติ วตฺวา ตทา เตน กตปุฺํ อตฺตนาปิสฺส สหสฺสํ ทินฺนภาวํ กเถสิ. ตํ สุตฺวา ราชา ตุสฺสิตฺวา สหสฺสํ ทตฺวา อสุกสฺมึ นาม าเน เคหํ กตฺวา วสา’’ติ เคหฏฺานมสฺส อาณาเปสิ. ตสฺส ตํ านํ โสธาเปนฺตสฺส มหนฺติโย นิธิกุมฺภิโย อุฏฺหึสุ. ตา ทิสฺวา โส รฺโ อาโรเจสิ. ราชา สพฺพํ ธนํ อุทฺธราเปตฺวา ราสิกตํ ทิสฺวา ‘‘เอตฺตกํ ธนํ อิมสฺมึ นคเร กสฺส เคเห อตฺถี’’ติ? ‘‘น กสฺสจิ, เทวา’’ติ. ‘‘เตน หิ อยํ อนฺนภาโร อิมสฺมึ นคเร มหาธนเสฏฺิ นาม โหตู’’ติ ตํทิวสเมว ตสฺส เสฏฺิฉตฺตํ อุสฺสาเปสิ.

โส ตโต ปฏฺาย ยาวชีวํ กุสลกมฺมํ กตฺวา ตโต จุโต เทวมนุสฺเสสุ สํสริตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กปิลวตฺถุนคเร สุกฺโกทนสกฺกสฺส เคเห ปฏิสนฺธึ คณฺหิ, อนุรุทฺโธติสฺส นามํ อโหสิ. โส มหานามสฺส สกฺกสฺส กนิฏฺภาตา, สตฺถุ จูฬปิตุ ปุตฺโต ปรมสุขุมาโล มหาปุฺโ ติณฺณํ อุตูนํ อนุจฺฉวิเกสุ ตีสุ ปาสาเทสุ อลงฺกตนาฏกิตฺถีหิ ปริวุโต เทโว วิย สมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต สุทฺโธทนมหาราเชน อุสฺสาหิเตหิ สกฺยราชูหิ สตฺถุ ปริวารตฺถํ เปสิเตหิ ภทฺทิยกุมาราทีหิ อนุปิยมฺพวเน วิหรนฺตํ สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา อนฺโตวสฺเสเยว ทิพฺพจกฺขุํ นิพฺพตฺเตตฺวา, ปุน ธมฺมเสนาปติสฺส สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา เจติยรฏฺเ ปาจีนวํสทายํ คนฺตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺโต สตฺตมหาปุริสวิตกฺเก วิตกฺเกตฺวา อฏฺมํ ชานิตุํ นาสกฺขิ. ตสฺส ตํ ปวตฺตึ ตฺวา สตฺถา อฏฺมํ มหาปุริสวิตกฺกํ กเถตฺวา จตุปจฺจยสนฺโตสภาวนารามปฏิมณฺฑิตํ มหาอริยวํสปฏิปทํ เทเสติ. โส เทสนานุสาเรน วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อภิฺาปฏิสมฺภิทาปริวารํ อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๑.๔๒๑-๔๓๓) –

‘‘สุเมธํ ภควนฺตาหํ, โลกเชฏฺํ นราสภํ;

วูปกฏฺํ วิหรนฺตํ, อทฺทสํ โลกนายกํ.

‘‘อุปคนฺตฺวาน สมฺพุทฺธํ, สุเมธํ โลกนายกํ;

อฺชลึ ปคฺคเหตฺวาน, พุทฺธเสฏฺมยาจหํ.

‘‘อนุกมฺป มหาวีร, โลกเชฏฺ นราสภ;

ปทีปํ เต ปทสฺสามิ, รุกฺขมูลมฺหิ ฌายโต.

‘‘อธิวาเสสิ โส ธีโร, สยมฺภู วทตํ วโร;

ทุเมสุ วินิวิชฺฌิตฺวา, ยนฺตํ โยชิยหํ ตทา.

‘‘สหสฺสวฏฺฏึ ปาทาสึ, พุทฺธสฺส โลกพนฺธุโน;

สตฺตาหํ ปชฺชลิตฺวาน, ทีปา วูปสมึสุ เม.

‘‘เตน จิตฺตปฺปสาเทน, เจตนาปณิธีหิ จ;

ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, วิมานมุปปชฺชหํ.

‘‘อุปปนฺนสฺส เทวตฺตํ, พฺยมฺหํ อาสิ สุนิมฺมิตํ;

สมนฺตโต ปชฺชลติ, ทีปทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘สมนฺตา โยชนสตํ, วิโรเจสิมหํ ตทา;

สพฺเพ เทเว อภิโภมิ, ทีปทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘ตึสกปฺปานิ เทวินฺโท, เทวรชฺชมการยึ;

น มํ เกจีติมฺนฺติ, ทีปทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘อฏฺวีสติกฺขตฺตุฺจ, จกฺกวตฺตี อโหสหํ;

ทิวา รตฺติฺจ ปสฺสามิ, สมนฺตา โยชนํ ตทา.

‘‘สหสฺสโลกํ าเณน, ปสฺสามิ สตฺถุ สาสเน;

ทิพฺพจกฺขุมนุปฺปตฺโต, ทีปทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘สุเมโธ นาม สมฺพุทฺโธ, ตึสกปฺปสหสฺสิโต;

ตสฺส ทีโป มยา ทินฺโน, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อถ นํ สตฺถา อปรภาเค เชตวนมหาวิหาเร อริยคณมชฺเฌ นิสินฺโน ทิพฺพจกฺขุกานํ อคฺคฏฺาเน เปสิ ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ทิพฺพจกฺขุกานํ ยทิทํ อนุรุทฺโธ’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๐, ๑๙๒).

โส วิมุตฺติสุขํ ปฏิสํเวที วิหรนฺโต เอกทิวสํ อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปีติโสมนสฺสชาโต อุทานวเสน ‘‘ปหาย มาตาปิตโร’’ติอาทิกา คาถา อภาสิ. เกจิ ปน ‘‘เถรสฺส ปพฺพชฺชํ อรหตฺตปฺปตฺติฺจ ปกาเสนฺเตหิ สงฺคีติกาเรหิ อาทิโต จตสฺโส คาถา ภาสิตา. ตโต ปรา เถรสฺส อริยวํสปฏิปตฺติยา อาราธิตจิตฺเตน ภควตา ภาสิตา. อิตรา สพฺพาปิ เตน เตน การเณน เถเรเนว ภาสิตา’’ติ วทนฺติ. อิติ สพฺพถาปิ อิมา คาถา เถเรน ภาสิตาปิ, เถรํ อุทฺทิสฺส ภาสิตาปิ เถรสฺส เจตา คาถาติ เวทิตพฺพา. เสยฺยถิทํ –

๘๙๒.

‘‘ปหาย มาตาปิตโร, ภคินี าติภาตโร;

ปฺจ กามคุเณ หิตฺวา, อนุรุทฺโธว ฌายติ.

๘๙๓.

‘‘สเมโต นจฺจคีเตหิ, สมฺมตาฬปฺปโพธโน;

น เตน สุทฺธิมชฺฌคํ, มารสฺส วิสเย รโต.

๘๙๔.

‘‘เอตฺจ สมติกฺกมฺม, รโต พุทฺธสฺส สาสเน;

สพฺโพฆํ สมติกฺกมฺม, อนุรุทฺโธว ฌายติ.

๘๙๕.

‘‘รูปา สทฺทา รสา คนฺธา, โผฏฺพฺพา จ มโนรมา;

เอเต จ สมติกฺกมฺม, อนุรุทฺโธว ฌายติ.

๘๙๖.

‘‘ปิณฺฑปาตมติกฺกนฺโต, เอโก อทุติโย มุนิ;

เอสติ ปํสุกูลานิ อนุรุทฺโธ อนาสโว.

๘๙๗.

‘‘วิจินี อคฺคหี โธวิ, รชยี ธารยี มุนิ;

ปํสุกูลานิ มติมา, อนุรุทฺโธ อนาสโว.

๘๙๘.

‘‘มหิจฺโฉ จ อสนฺตุฏฺโ, สํสฏฺโ โย จ อุทฺธโต;

ตสฺส ธมฺมา อิเม โหนฺติ, ปาปกา สํกิเลสิกา.

๘๙๙.

‘‘สโต จ โหติ อปฺปิจฺโฉ, สนฺตุฏฺโ อวิฆาตวา;

ปวิเวกรโต วิตฺโต, นิจฺจมารทฺธวีริโย.

๙๐๐.

‘‘ตสฺส ธมฺมา อิเม โหนฺติ, กุสลา โพธิปกฺขิกา;

อนาสโว จ โส โหติ, อิติ วุตฺตํ มเหสินา.

๙๐๑.

‘‘มม สงฺกปฺปมฺาย, สตฺถา โลเก อนุตฺตโร;

มโนมเยน กาเยน, อิทฺธิยา อุปสงฺกมิ.

๙๐๒.

‘‘ยทา เม อหุ สงฺกปฺโป, ตโต อุตฺตริ เทสยิ;

นิปฺปปฺจรโต พุทฺโธ, นิปฺปปฺจมเทสยิ.

๙๐๓.

‘‘ตสฺสาหํ ธมฺมมฺาย, วิหาสึ สาสเน รโต;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

๙๐๔.

‘‘ปฺจปฺาสวสฺสานิ, ยโต เนสชฺชิโก อหํ;

ปฺจวีสติวสฺสานิ, ยโต มิทฺธํ สมูหตํ.

๙๐๕.

‘‘นาหุ อสฺสาสปสฺสาสา, ิตจิตฺตสฺส ตาทิโน;

อเนโช สนฺติมารพฺภ, จกฺขุมา ปรินิพฺพุโต.

๙๐๖.

‘‘อสลฺลีเนน จิตฺเตน, เวทนํ อชฺฌวาสยิ;

ปชฺโชตสฺเสว นิพฺพานํ, วิโมกฺโข เจตโส อหุ.

๙๐๗.

‘‘เอเต ปจฺฉิมกา ทานิ, มุนิโน ผสฺสปฺจมา;

นาฺเ ธมฺมา ภวิสฺสนฺติ, สมฺพุทฺเธ ปรินิพฺพุเต.

๙๐๘.

‘‘นตฺถิ ทานิ ปุนาวาโส, เทวกายสฺมิ ชาลินิ;

วิกฺขีโณ ชาติสํสาโร, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.

๙๐๙.

‘‘ยสฺส มุหุตฺเตน สหสฺสธา, โลโก สํวิทิโต สพฺรหฺมกปฺโป;

วสี อิทฺธิคุเณ จุตูปปาเต, กาเล ปสฺสติ เทวตา ส ภิกฺขุ.

๙๑๐.

‘‘อนฺนภาโร ปุเร อาสึ, ทลิทฺโท ฆาสหารโก;

สมณํ ปฏิปาเทสึ, อุปริฏฺํ ยสสฺสินํ.

๙๑๑.

‘‘โสมฺหิ สกฺยกุเล ชาโต, อนุรุทฺโธติ มํ วิทู;

อุเปโต นจฺจคีเตหิ, สมฺมตาฬปฺปโพธโน.

๙๑๒.

‘‘อถทฺทสาสึ สมฺพุทฺธํ, สตฺถารํ อกุโตภยํ;

ตสฺมึ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, ปพฺพชึ อนคาริยํ.

๙๑๓.

‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ยตฺถ เม วุสิตํ ปุเร;

ตาวตึเสสุ เทเวสุ, อฏฺาสึ สกฺกชาติยา.

๙๑๔.

‘‘สตฺตกฺขตฺตุํ มนุสฺสินฺโท, อหํ รชฺชมการยึ;

จาตุรนฺโต วิชิตาวี, ชมฺพุสณฺฑสฺส อิสฺสโร;

อทณฺเฑน อสตฺเถน, ธมฺเมน อนุสาสยึ.

๙๑๕.

‘‘อิโต สตฺต ตโต สตฺต, สํสารานิ จตุทฺทส;

นิวาสมภิชานิสฺสํ, เทวโลเก ิโต ตทา.

๙๑๖.

‘‘ปฺจงฺคิเก สมาธิมฺหิ, สนฺเต เอโกทิภาวิเต;

ปฏิปฺปสฺสทฺธิลทฺธมฺหิ, ทิพฺพจกฺขุ วิสุชฺฌิ เม.

๙๑๗.

‘‘จุตูปปาตํ ชานามิ, สตฺตานํ อาคตึ คตึ;

อิตฺถภาวฺถาภาวํ, ฌาเน ปฺจงฺคิเก ิโต.

๙๑๘.

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา…เป… ภวเนตฺติ สมูหตา.

๙๑๙.

‘‘วชฺชีนํ เวฬุวคาเม, อหํ ชีวิตสงฺขยา;

เหฏฺโต เวฬุคุมฺพสฺมึ, นิพฺพายิสฺสํ อนาสโว’’ติ.

ตตฺถ ปหายาติ ปชหิตฺวา. มาตาปิตโรติ มาตรฺจ ปิตรฺจ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – ยถา อฺเ เกจิ าติปาริชุฺเน วา โภคปาริชุฺเน วา อภิภูตา ปพฺพชนฺติ, ปพฺพชิตา จ กิจฺจนฺตรปสุตา วิหรนฺติ, น เอวํ มยํ. มยํ ปน มหนฺตํ าติปริวฏฺฏํ, มหนฺตฺจ โภคกฺขนฺธํ ปหาย กาเมสุ นิรเปกฺขา ปพฺพชิตาติ. ฌายตีติ อารมฺมณูปนิชฺฌานํ ลกฺขณูปนิชฺฌานฺจาติ, ทุวิธมฺปิ ฌานํ อนุยุตฺโต วิหรติ.

สเมโต นจฺจคีเตหีติ นจฺเจหิ จ คีเตหิ จ สมงฺคีภูโต, นจฺจานิ ปสฺสนฺโต คีตานิ สุณนฺโตติ อตฺโถ. ‘‘สมฺมโต’’ติ จ ปนฺติ, นจฺจคีเตหิ ปูชิโตติ อตฺโถ. สมฺมตาฬปฺปโพธโนติ สมฺมตาฬสทฺเทหิ ปจฺจูสกาเล ปโพเธตพฺโพ. น เตน สุทฺธิมชฺฌคนฺติ เตน กามโภเคน สํสารสุทฺธึ นาธิคจฺฉึ. มารสฺส วิสเย รโตติ กิเลสมารสฺส วิสยภูเต กามคุเณ รโต. ‘‘กิเลสมารสฺส วิสยภูเตน กามคุณโภเคน สํสารสุทฺธิ โหตี’’ติ เอวํทิฏฺิโก อหุตฺวาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘เอตฺจ สมติกฺกมฺมา’’ติอาทิ. ตตฺถ เอตนฺติ เอตํ ปฺจวิธมฺปิ กามคุณํ. สมติกฺกมฺมาติ สมติกฺกมิตฺวา, อนเปกฺโข ฉฑฺเฑตฺวาติ อตฺโถ. สพฺโพฆนฺติ กาโมฆาทิกํ สพฺพมฺปิ โอฆํ.

ปฺจ กามคุเณ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘รูปา สทฺทา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ มโนรมาติ โลภนียฏฺเน มนํ รมยนฺตีติ มโนรมา, มนาปิยาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘กตเม ปฺจ มนาปิยา รูปา, มนาปิยา สทฺทา’’ติอาทิ (ม. นิ. ๓.๓๒๘ อตฺถโต สมานํ).

ปิณฺฑปาตมติกฺกนฺโตติ ปิณฺฑปาตคฺคหณํ อติกฺกนฺโต, ปิณฺฑปาตคฺคหณโต นิวตฺเตนฺโตติ อตฺโถ. เอโกติ เอกากี อปจฺฉาสมโณ. อทุติโยติ นิตฺตณฺโห. ตณฺหา หิ ปุริสสฺส ทุติโย นาม. ยถาห ‘‘ตณฺหาทุติโย ปุริโส’’ติ (อิติวุ. ๑๕, ๑๐๕; มหานิ. ๑๙๑). เอสตีติ ปริเยสติ.

วิจินีติ เอสนฺโตว ตตฺถ ตตฺถ สงฺการกูฏาทิเก ปํสุกูลุปฺปตฺติฏฺาเน วิจินิ. อคฺคหีติ วิจินิตฺวา อสุจิมกฺขิตมฺปิ อชิคุจฺฉนฺโต คณฺหิ. โธวีติ, วิกฺขาเลสิ. รชยีติ โธวิตฺวา คหิตํ สิพฺพิตฺวา กปฺปิยรชเนน รชยิ. ธารยีติ รชิตฺวา กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา ธาเรสิ, นิวาเสสิ เจว ปารุปิ จ.

อิทานิ ปาจีนวํสทาเย สตฺถารา ทินฺนโอวาทํ ตสฺส จ อตฺตนา มตฺถกปฺปตฺตภาวํ ทีเปนฺโต ‘‘มหิจฺโฉ จ อสนฺตุฏฺโ’’ติอาทิกา คาถา อภาสิ. ตตฺถ มหิจฺโฉติ มหติยา ปจฺจยิจฺฉาย สมนฺนาคโต, อุฬารุฬาเร พหู จ ปจฺจเย อิจฺฉนฺโตติ อตฺโถ. อสนฺตุฏฺโติ นิสฺสนฺตุฏฺโ, ยถาลาภสนฺโตสาทินา สนฺโตเสน วิรหิโต. สํสฏฺโติ คิหีหิ เจว ปพฺพชิเตหิ จ อนนุโลมิเกน สํสคฺเคน สํสฏฺโ. อุทฺธโตติ อุกฺขิตฺโต. ตสฺสาติ ‘‘มหิจฺโฉ’’ติอาทินา วุตฺตปุคฺคลสฺส. ธมฺมาติ มหิจฺฉตา อสนฺโตโส, สํสฏฺตา วิกฺเขโปติ อีทิสา. ลามกฏฺเน ปาปกา. สํกิเลสิกาติ ตสฺส จิตฺตสฺส มลีนภาวกรณโต สํกิเลสิกา ธมฺมา โหนฺติ.

สโตจ โหติ อปฺปิจฺโฉติ ยทา ปนายํ ปุคฺคโล กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺโต ภชนฺโต ปยิรุปาสนฺโต สทฺธมฺมํ สุณนฺโต โยนิโส มนสิ กโรนฺโต สติมา จ มหิจฺฉตํ ปหาย อปฺปิจฺโฉ จ โหติ. อสนฺโตสํ ปหาย สนฺตุฏฺโ, จิตฺตสฺส วิฆาตกรํ วิกฺเขปํ ปหาย อวิฆาตวา อวิกฺขิตฺโต สมาหิโต, คณสงฺคณิกํ ปหาย ปวิเวกรโต, วิเวกาภิรติยา นิพฺพิทาย ธมฺมปีติยา วิตฺโต สุมโน ตุฏฺจิตฺโต, สพฺพโส โกสชฺชปหาเนน อารทฺธวีริโย.

ตสฺส เอวํ อปฺปิจฺฉตาทิคุณสมนฺนาคตสฺส อิเม สติปฏฺานาทโย สตฺตตึสปฺปเภทา ติวิธวิปสฺสนาสงฺคหา โกสลฺลสมฺภูตฏฺเน กุสลา, มคฺคปริยาปนฺนา โพธิปกฺขิกา ธมฺมา โหนฺติ. โส เตหิ สมนฺนาคโต สพฺพโส อาสวานํ เขปเนน อคฺคมคฺคกฺขณโต ปฏฺาย อนาสโว จ โหติ. อิติ เอวํ วุตฺตํ มเหสินา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปาจีนวํสทาเย มหาปุริสวิตกฺเก มตฺถกํ ปาปนวเสนาติ อธิปฺปาโย.

มมสงฺกปฺปมฺายาติ ‘‘อปิจฺฉสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มหิจฺฉสฺสา’’ติอาทินา (อ. นิ. ๘.๓๐) มหาปุริสวิตกฺกวเสน อารทฺธํ, เต จ มตฺถกํ ปาเปตุํ อสมตฺถภาเวน ิตํ มม สงฺกปฺปํ ชานิตฺวา. มโนมเยนาติ มโนมเยน วิย, มนสา นิมฺมิตสทิเสน ปริณามิเตนาติ อตฺโถ. อิทฺธิยาติ ‘‘อยํ กาโย อิทํ จิตฺตํ วิย โหตู’’ติ เอวํ ปวตฺตอธิฏฺานิทฺธิยา.

ยทาเม อหุ สงฺกปฺโปติ ยสฺมึ กาเล มยฺหํ ‘‘กีทิโส นุ โข อฏฺโม มหาปุริสวิตกฺโก’’ติ ปริวิตกฺโก อโหสิ. ตโต มม สงฺกปฺปมฺาย อิทฺธิยา อุปสงฺกมีติ โยชนา. อุตฺตริ เทสยีติ ‘‘นิปฺปปฺจารามสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม นิปฺปปฺจรติโน, นายํธมฺโม ปปฺจารามสฺส ปปฺจรติโน’’ติ (อ. นิ. ๘.๓๐) อิมมฏฺมํ มหาปุริสวิตกฺกํ ปูเรนฺโต อุปริ เทสยิ. ตํ ปน เทสิตํ ธมฺมํ เทเสนฺโต อาห ‘‘นิปฺปปฺจรโต พุทฺโธ, นิปฺปปฺจมเทสยี’’ติ. ปปฺจา นาม ราคาทโย กิเลสา, เตสํ วูปสมตาย, ตทภาวโต จ โลกุตฺตรธมฺมา นิปฺปปฺจา นาม. ตสฺมึ นิปฺปปฺเจ รโต อภิรโต สมฺมาสมฺพุทฺโธ ยถา ตํ ปาปุณามิ, ตถา ตาทิสํ ธมฺมํ อเทสยิ, สามุกฺกํสิกํ จตุสจฺจธมฺมเทสนํ ปกาสยีติ อตฺโถ.

ตสฺสาหํ ธมฺมมฺายาติ ตสฺสา สตฺถุ เทสนาย ธมฺมํ ชานิตฺวา ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชนฺโต วิหาสึ สิกฺขตฺตยสงฺคเห สาสเน รโต อภิรโต หุตฺวาติ อตฺโถ.

สตฺถารา อตฺตโน สมาคมํ เตน สาธิตมตฺถํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺตโน ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย อารทฺธวีริยตํ, กาเย อนเปกฺขตาย เสยฺยสุขปสฺสสุขานํ ปริจฺจาคํ, อปฺปมิทฺธกาลโต ปฏฺาย อารทฺธวีริยตฺจ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฺจปฺาสวสฺสานี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ ยโต เนสชฺชิโก อหนฺติ ยโต ปฏฺาย ‘‘โยคานุกูลตา กมฺมฏฺานปริยุฏฺิตสปฺปุริสจริยา สลฺเลขวุตฺตี’’ติ เอวมาทิคุเณ ทิสฺวา เนสชฺชิโก อโหสึ ตานิ ปฺจปฺาส วสฺสานิ. ยโต มิทฺธํ สมูหตนฺติ ยโต ปฏฺาย มยา นิทฺทา ปริจฺจตฺตา ตานิ ปฺจวีสติวสฺสานิ. ‘‘เถรสฺส ปฺจปฺาสาย วสฺเสสุ เนสชฺชิกสฺส สโต อาทิโต ปฺจวีสติวสฺสานิ นิทฺทา นาโหสิ, ตโต ปรํ สรีรกิลมเถน ปจฺฉิมยาเม นิทฺทา อโหสี’’ติ วทนฺติ.

‘‘นาหุ อสฺสาสปสฺสาสา’’ ติอาทิกา ติสฺโส คาถา สตฺถุ ปรินิพฺพานกาเล ภิกฺขูหิ ‘‘กึ ภควา ปรินิพฺพุโต’’ติ ปุฏฺโ ปรินิพฺพานภาวํ ปเวเทนฺโต อาห. ตตฺถ นาหุ อสฺสาสปสฺสาสา, ิตจิตฺตสฺส ตาทิโนติ อนุโลมปฏิโลมโต อเนกาการโวการา สพฺพา สมาปตฺติโย สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย สพฺพปจฺฉา จตุตฺถชฺฌาเน ิตจิตฺตสฺส ตาทิโน พุทฺธสฺส ภควโต อสฺสาสปสฺสาสา นาหุ นาเหสุนฺติ อตฺโถ. เอเตน ยสฺมา จตุตฺถชฺฌานํ สมาปนฺนสฺส กายสงฺขารา นิรุชฺฌนฺติ. กายสงฺขาราติ จ อสฺสาสปสฺสาสา วุจฺจนฺติ, ตสฺมา จตุตฺถชฺฌานกฺขณโต ปฏฺาย อสฺสาสปสฺสาสา นาเหสุนฺติ ทสฺเสติ. ตณฺหาสงฺขาตาย เอชาย อภาวโต อเนโช, สมาธิสฺมึ ิตตฺตา วา อเนโช. สนฺติมารพฺภาติ อนุปาทิเสสํ นิพฺพานํ อารพฺภ ปฏิจฺจ สนฺธาย. จกฺขุมาติ ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมา. ปรินิพฺพุโตติ ปรินิพฺพายิ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – นิพฺพานารมฺมณจตุตฺถชฺฌานผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ตทนนฺตรเมว อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุโตติ.

อสลฺลีเนนาติ อลีเนน อสํกุฏิเตน สุวิกสิเตเนว จิตฺเตน. เวทนํ อชฺฌวาสยีติ สโต สมฺปชาโน หุตฺวา มารณนฺติกํ เวทนํ อธิวาเสสิ, น เวทนานุวตฺตี หุตฺวา อิโต จิโต จ สมฺปริวตฺติ. ปชฺโชตสฺเสว นิพฺพานํ, วิโมกฺโข เจตโส อหูติ ยถา เตลฺจ ปฏิจฺจ, วฏฺฏิฺจ ปฏิจฺจ ปชฺชลนฺโต ปชฺโชโต ปทีโป เตสํ ปริกฺขเย นิพฺพายติ. นิพฺพุโต จ กตฺถจิ คนฺตฺวา น ติฏฺติ, อฺทตฺถุ อนฺตรธายติ, อทสฺสนเมว คจฺฉติ; เอวํ กิเลสาภิสงฺขาเร นิสฺสาย ปวตฺตมาโน ขนฺธสนฺตาโน เตสํ ปริกฺขเย นิพฺพายติ, นิพฺพุโต จ กตฺถจิ คนฺตฺวา น ติฏฺติ, อฺทตฺถุ อนฺตรธายติ, อทสฺสนเมว คจฺฉตีติ ทสฺเสติ. เตน วุตฺตํ ‘‘นิพฺพนฺติ ธีรา ยถายํ ปทีโป’’ติ (ขุ. ปา. ๖.๑๕), ‘‘อจฺจี ยถา วาตเวเคน ขิตฺตา’’ติ (สุ. นิ. ๑๐๘๐) จ อาทิ.

เอเตติ ปรินิพฺพานกฺขเณ สตฺถุ สนฺตาเน ปวตฺตมานานํ ธมฺมานํ อตฺตโน ปจฺจกฺขตาย วุตฺตํ. ปจฺฉิมกา ตโต ปรํ จิตฺตุปฺปาทาภาวโต. ทานีติ เอตรหิ. ผสฺสปฺจมาติ ผสฺสปฺจมกานํ ธมฺมานํ ปากฏภาวโต วุตฺตํ. ตถา หิ จิตฺตุปฺปาทกถายมฺปิ ผสฺสปฺจมกาว อาทิโต วุตฺตา. อฺเ ธมฺมาติ สห นิสฺสเยน อฺเ จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา, น ปรินิพฺพานจิตฺตเจตสิกา. นนุ เตปิ น ภวิสฺสนฺเตวาติ? สจฺจํ น ภวิสฺสนฺติ, อาสงฺกาภาวโต ปน เต สนฺธาย ‘‘น ภวิสฺสนฺตี’’ติ น วตฺตพฺพเมว. ‘‘อิตเร ปน เสกฺขปุถุชฺชนานํ วิย ภวิสฺสนฺติ นุ โข’’ติ สิยา อาสงฺกาติ ตทาสงฺกานิวตฺตนตฺถํ ‘‘นาฺเ ธมฺมา ภวิสฺสนฺตี’’ติ วุตฺตํ.

นตฺถิทานิ ปุนาวาโส, เทวกายสฺมิ ชาลินีติ, เอตฺถ ชาลินีติ เทวตํ อาลปติ, เทวเต เทวกายสฺมึ เทวสมูเห อุปปชฺชนวเสน ปุน อาวาโส อาวสนํ อิทานิ มยฺหํ นตฺถีติ อตฺโถ. ตตฺถ การณมาห ‘‘วิกฺขีโณ’’ติอาทินา. สา กิร เทวตา ปุริมตฺตภาเว เถรสฺส ปาทปริจาริกา, ตสฺมา อิทานิ เถรํ ชิณฺณํ วุทฺธํ ทิสฺวา ปุริมสิเนเหน อาคนฺตฺวา ‘‘ตตฺถ จิตฺตํ ปณิเธหิ, ยตฺถ เต วุสิตํ ปุเร’’ติ เทวูปปตฺตึ ยาจิ. อถ ‘‘ทานิ นตฺถี’’ติอาทินา เถโร ตสฺสา ปฏิวจนํ อทาสิ. ตํ สุตฺวา เทวตา วิหตาสา ตตฺเถวนฺตรธายิ.

อถ เถโร เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อตฺตโน อานุภาวํ สพฺรหฺมจารีนํ ปกาเสนฺโต ‘‘ยสฺส มุหุตฺเตนา’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ยสฺส ขีณาสวภิกฺขุโน มุหุตฺตมตฺเตน เอว สหสฺสธา สหสฺสปฺปกาโร ติสหสฺสิมหาสหสฺสิปเภโท, โลโก สพฺรหฺมกปฺโป สหพฺรหฺมโลโก, สํวิทิโต สมฺมเทว วิทิโต าโต ปจฺจกฺขํ กโต, เอวํ อิทฺธิคุเณ อิทฺธิสมฺปทาย จุตูปปาเต จ วสีภาวปฺปตฺโต โส ภิกฺขุ อุปคตกาเล เทวตา ปสฺสติ, น ตสฺส เทวตานํ ทสฺสเน ปริหานีติ. เถเรน กิร ชาลินิยา เทวตาย ปฏิวจนทานวเสน ‘‘นตฺถิ ทานี’’ติ คาถาย วุตฺตาย ภิกฺขู ชาลินึ อปสฺสนฺตา ‘‘กึ นุ โข เถโร ธมฺมาลปนวเสน กิฺจิ อาลปตี’’ติ จินฺเตสุํ. เตสํ จิตฺตาจารํ ตฺวา เถโร ‘‘ยสฺส มุหุตฺเตนา’’ติ อิมํ คาถมาห.

อนฺนภาโร ปุเรติ เอวํนาโม ปุริมตฺตภาเว. ฆาสหารโกติ ฆาสมตฺตสฺส อตฺถาย ภตฺตึ กตฺวา ชีวนโก. สมณนฺติ สมิตปาปํ. ปฏิปาเทสินฺติ ปฏิมุโข หุตฺวา ปาทาสึ, ปสาเทน อภิมุโข หุตฺวา อาหารทานํ อทาสินฺติ อธิปฺปาโย. อุปริฏฺนฺติ เอวํนามกํ ปจฺเจกพุทฺธํ. ยสสฺสินนฺติ กิตฺติมนฺตํ ปตฺถฏยสํ. อิมาย คาถาย ยาว จริมตฺตภาวา อุฬารสมฺปตฺติเหตุภูตํ อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘โสมฺหิ สกฺยกุเล ชาโต’’ติอาทิ.

อิโตสตฺตาติ อิโต มนุสฺสโลกโต จวิตฺวา เทวโลเก ทิพฺเพน อาธิปจฺเจน สตฺต. ตโต สตฺตาติ ตโต เทวโลกโต จวิตฺวา มนุสฺสโลเก จกฺกวตฺติภาเวน สตฺต. สํสารานิ จตุทฺทสาติ จตุทฺทส ภวนฺตรสํสรณานิ. นิวาสมภิชานิสฺสนฺติ ปุพฺเพนิวาสํ อฺาสึ. เทวโลเก ิโต ตทาติ ตฺจ โข น อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว, อปิ จ โข ยทา อิโต อนนฺตราตีเต อตฺตภาเว เทวโลเก ิโต, ตทา อฺาสินฺติ อตฺโถ.

อิทานิ อตฺตนา ทิพฺพจกฺขุาณจุตูปปาตาณานํ อธิคตาการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฺจงฺคิเก’’ติอาทินา ทฺเว คาถา อภาสิ. ตตฺถ ปฺจงฺคิเก สมาธิมฺหีติ อภิฺาปาทกจตุตฺถชฺฌานสมาธิมฺหิ. โส หิ ปีติผรณตา, สุขผรณตา, เจโตผรณตา, อาโลกผรณตา , ปจฺจเวกฺขณนิมิตฺตนฺติ อิเมหิ ปฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตตฺตา ปฺจงฺคิโก สมาธีติ วุจฺจติ. สนฺเตติ ปฏิปกฺขวูปสเมน องฺคสนฺตตาย จ สนฺเต. เอโกทิภาวิเตติ เอโกทิภาวคเต, สุจิณฺเณ วสีภาวปฺปตฺเตติ อตฺโถ. ปฏิปฺปสฺสทฺธิลทฺธมฺหีติ กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา ลทฺเธ. ทิพฺพจกฺขุ วิสุชฺฌิ เมติ เอวํวิเธ สมาธิมฺหิ สมฺปาทิเต มยฺหํ ทิพฺพจกฺขุาณํ วิสุชฺฌิ, เอกาทสหิ อุปกฺกิเลเสหิ วิมุตฺติยา วิสุทฺธํ อโหสิ.

จุตูปปาตํ ชานามีติ สตฺตานํ จุติฺจ อุปปตฺติฺจ ชานามิ, ชานนฺโต จ ‘‘อิเม สตฺตา อมุมฺหา โลกมฺหา อาคนฺตฺวา อิธูปปนฺนา, อิมมฺหา จ โลกา คนฺตฺวา อมุมฺหิ โลเก อุปปชฺชิสฺสนฺตี’’ติ สตฺตานํ อาคตึ คติฺจ ชานามิ, ชานนฺโต เอว จ เนสํ อิตฺถภาวํ มนุสฺสภาวํ ตโต อฺถาภาวํ อฺถาติรจฺฉานภาวฺจ อุปปตฺติโต ปุเรตรเมว ชานามิ. ตยิทํ สพฺพมฺปิ ปฺจงฺคิเก สมาธิมฺหิ สมฺปาทิเต เอวาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ฌาเน ปฺจงฺคิเก ิโต’’ติ. ตตฺถ ปฺจงฺคิเก ฌาเน ิโต ปติฏฺิโต หุตฺวา เอวํ ชานามีติ อตฺโถ.

เอวํ วิชฺชาตฺตยํ ทสฺเสตฺวา ตปฺปสงฺเคน ปุพฺเพ ทสฺสิตมฺปิ ตติยวิชฺชํ สห กิจฺจนิปฺผตฺติยา ทสฺเสนฺโต ‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา’’ติอาทินา คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ วชฺชีนํ เวฬุวคาเมติ วชฺชิรฏฺสฺส เวฬุวคาเม, วชฺชิรฏฺเ ยตฺถ ปจฺฉิมวสฺสํ อุปคจฺฉิ เวฬุวคาเม. เหฏฺโต เวฬุคุมฺพสฺมินฺติ ตตฺถ อฺตรสฺส เวฬุคุมฺพสฺส เหฏฺา. นิพฺพายิสฺสนฺติ นิพฺพายิสฺสามิ, อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิสฺสามีติ อตฺโถ.

อนุรุทฺธตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ปาราปริยตฺเถรคาถาวณฺณนา

สมณสฺสอหุ จินฺตาติอาทิกา อายสฺมโต ปาราปริยตฺเถรสฺส คาถา. อิมสฺส วตฺถุ เหฏฺา อาคตเมว. ตา จ คาถา สตฺถริ ธรนฺเต อตฺตโน ปุถุชฺชนกาเล มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ นิคฺคณฺหนจินฺตาย ปกาสนวเสน ภาสิตา. อิมา ปน อปรภาเค สตฺถริ ปรินิพฺพุเต อตฺตโน จ ปรินิพฺพาเน อุปฏฺิเต ตทา อายติฺจ ภิกฺขูนํ อุทฺธมฺมปฏิปตฺติยา ปกาสนวเสน ภาสิตา. ตตฺถ –

๙๒๐.

‘‘สมณสฺส อหุ จินฺตา, ปุปฺผิตมฺหิ มหาวเน;

เอกคฺคสฺส นิสินฺนสฺส, ปวิวิตฺตสฺส ฌายิโน’’ติ. –

อยํ คาถา สงฺคีติกาเรหิ ปิตา. ตสฺสตฺโถ เหฏฺา วุตฺตนโยว. อยํ ปน สมฺพนฺโธ – สตฺถริ อคฺคสาวเกสุ เอกจฺเจสุ มหาเถเรสุ จ ปรินิพฺพุเตสุ อตีตสตฺถุเก ปาวจเน สุพฺพเจสุ สิกฺขากาเมสุ ภิกฺขูสุ ทุลฺลเภสุ, ทุพฺพเจสุ มิจฺฉาปฏิปตฺติพหุเลสุ ภิกฺขูสุ จ ชาเตสุ สุปุปฺผิเต มหนฺเต สาลวเน นิสินฺนสฺส ปวิวิตฺตสฺส เอกคฺคสฺส ฌายนสีลสฺส, สมิตปาปตาย สมณสฺส, ปาราปริยตฺเถรสฺส ปฏิปตฺตึ นิสฺสาย จินฺตา วีมํสา อโหสีติ อิตรา –

๙๒๑.

‘‘อฺถา โลกนาถมฺหิ, ติฏฺนฺเต ปุริสุตฺตเม;

อิริยํ อาสิ ภิกฺขูนํ, อฺถา ทานิ ทิสฺสติ.

๙๒๒.

‘‘สีตวาตปริตฺตาณํ, หิริโกปีนฉาทนํ;

มตฺตฏฺิยํ อภุฺชึสุ, สนฺตุฏฺา อิตรีตเร.

๙๒๓.

‘‘ปณีตํ ยทิ วา ลูขํ, อปฺปํ วา ยทิ วา พหุํ;

ยาปนตฺถํ อภุฺชึสุ, อคิทฺธา นาธิมุจฺฉิตา.

๙๒๔.

‘‘ชีวิตานํ ปริกฺขาเร, เภสชฺเช อถ ปจฺจเย;

น พาฬฺหํ อุสฺสุกา อาสุํ, ยถา เต อาสวกฺขเย.

๙๒๕.

‘‘อรฺเ รุกฺขมูเลสุ, กนฺทราสุ คุหาสุ จ;

วิเวกมนุพฺรูหนฺตา, วิหํสุ ตปฺปรายณา.

๙๒๖.

‘‘นีจา นิวิฏฺา สุภรา, มุทู อถทฺธมานสา;

อพฺยาเสกา อมุขรา, อตฺถจินฺตาวสานุคา.

๙๒๗.

‘‘ตโต ปาสาทิกํ อาสิ, คตํ ภุตฺตํ นิเสวิตํ;

สินิทฺธา เตลธาราว, อโหสิ อิริยาปโถ.

๙๒๘.

‘‘สพฺพาสวปริกฺขีณา , มหาฌายี มหาหิตา;

นิพฺพุตา ทานิ เต เถรา, ปริตฺตา ทานิ ตาทิสา.

๙๒๙.

‘‘กุสลานฺจ ธมฺมานํ, ปฺาย จ ปริกฺขยา;

สพฺพาการวรูเปตํ, ลุชฺชเต ชินสาสนํ.

๙๓๐.

‘‘ปาปกานฺจ ธมฺมานํ, กิเลสานฺจ โย อุตุ;

อุปฏฺิตา วิเวกาย, เย จ สทฺธมฺมเสสกา.

๙๓๑.

‘‘เต กิเลสา ปวฑฺฒนฺตา, อาวิสนฺติ พหุํ ชนํ;

กีฬนฺติ มฺเ พาเลหิ, อุมฺมตฺเตหิว รกฺขสา.

๙๓๒.

‘‘กิเลเสหาภิภูตา เต, เตน เตน วิธาวิตา;

นรา กิเลสวตฺถูสุ, สสงฺคาเมว โฆสิเต.

๙๓๓.

‘‘ปริจฺจชิตฺวา สทฺธมฺมํ, อฺมฺเหิ ภณฺฑเร;

ทิฏฺิคตานิ อนฺเวนฺตา, อิทํ เสยฺโยติ มฺเร.

๙๓๔.

‘‘ธนฺจ ปุตฺตํ ภริยฺจ, ฉฑฺฑยิตฺวาน นิคฺคตา;

กฏจฺฉุภิกฺขเหตูปิ, อกิจฺฉานิ นิเสวเร.

๙๓๕.

‘‘อุทราวเทหกํ ภุตฺวา, สยนฺตุตฺตานเสยฺยกา;

กถา วฑฺเฒนฺติ ปฏิพุทฺธา, ยา กถา สตฺถุครหิตา.

๙๓๖.

‘‘สพฺพการุกสิปฺปานิ, จิตฺตึ กตฺวาน สิกฺขเร;

อวูปสนฺตา อชฺฌตฺตํ, สามฺตฺโถติอจฺฉติ.

๙๓๗.

‘‘มตฺติกํ เตลจุณฺณฺจ, อุทกาสนโภชนํ;

คิหีนํ อุปนาเมนฺติ, อากงฺขนฺตา พหุตฺตรํ.

๙๓๘.

‘‘ทนฺตโปนํ กปิตฺถฺจ, ปุปฺผํ ขาทนิยานิ จ;

ปิณฺฑปาเต จ สมฺปนฺเน, อมฺเพ อามลกานิ จ.

๙๓๙.

‘‘เภสชฺเชสุ ยถา เวชฺชา, กิจฺจากิจฺเจ ยถา คิหี;

คณิกาว วิภูสายํ, อิสฺสเร ขตฺติยา ยถา.

๙๔๐.

‘‘เนกติกา วฺจนิกา, กูฏสกฺขี อปาฏุกา;

พหูหิ ปริกปฺเปหิ, อามิสํ ปริภุฺชเร.

๙๔๑.

‘‘เลสกปฺเป ปริยาเย, ปริกปฺเปนุธาวิตา;

ชีวิกตฺถา อุปาเยน, สงฺกฑฺฒนฺติ พหุํ ธนํ.

๙๔๒.

‘‘อุปฏฺาเปนฺติ ปริสํ, กมฺมโต โน จ ธมฺมโต;

ธมฺมํ ปเรสํ เทเสนฺติ, ลาภโต โน จ อตฺถโต.

๙๔๓.

‘‘สงฺฆลาภสฺส ภณฺฑนฺติ, สงฺฆโต ปริพาหิรา;

ปรลาโภปชีวนฺตา, อหิรีกา น ลชฺชเร.

๙๔๔.

‘‘นานุยุตฺตา ตถา เอเก, มุณฺฑา สงฺฆาฏิปารุตา;

สมฺภาวนํเยวิจฺฉนฺติ, ลาภสกฺการมุจฺฉิตา.

๙๔๕.

‘‘เอวํ นานปฺปยาตมฺหิ, น ทานิ สุกรํ ตถา;

อผุสิตํ วา ผุสิตุํ, ผุสิตํ วานุรกฺขิตุํ.

๙๔๖.

‘‘ยถา กณฺฏกฏฺานมฺหิ, จเรยฺย อนุปาหโน;

สตึ อุปฏฺเปตฺวาน, เอวํ คาเม มุนี จเร.

๙๔๗.

‘‘สริตฺวา ปุพฺพเก โยคี, เตสํ วตฺตมนุสฺสรํ;

กิฺจาปิ ปจฺฉิโม กาโล, ผุเสยฺย อมตํ ปทํ.

๙๔๘.

‘‘อิทํ วตฺวา สาลวเน, สมโณ ภาวิตินฺทฺริโย;

พฺราหฺมโณ ปรินิพฺพายี, อิสิ ขีณปุนพฺภโว’’ติ. –

อิมา คาถา เถเรเนว ภาสิตา.

ตตฺถ อิริยํ อาสิ ภิกฺขูนนฺติ ปุริสุตฺตเม โลกนาถมฺหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธ ติฏฺนฺเต ธรนฺเต เอตรหิ ปฏิปตฺติภาวโต. อฺถา อฺเน ปกาเรน ภิกฺขูนํ อิริยํ จริตํ อโหสิ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปตฺติภาวโต. อฺถา ทานิ ทิสฺสตีติ อิทานิ ปน ตโต อฺถา ภิกฺขูนํ อิริยํ ทิสฺสติ อยาถาวปฏิปตฺติภาวโตติ อธิปฺปาโย .

อิทานิ สตฺถริ ธรนฺเต เยนากาเรน ภิกฺขูนํ ปฏิปตฺติ อโหสิ, ตํ ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘สีตวาตปริตฺตาณ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ มตฺตฏฺิยนฺติ ตํ มตฺตํ ปโยชนํ. ยาวเทว สีตวาตปริตฺตาณํ, ยาวเทว หิรีโกปีนปฏิจฺฉาทนํ กตฺวา จีวรํ ปริภุฺชึสุ. กถํ? สนฺตุฏฺา อิตรีตเร ยสฺมึ ตสฺมึ หีเน ปณีเต วา ยถาลทฺเธ ปจฺจเย สนฺโตสํ อาปนฺนา.

ปณีตนฺติ อุฬารํ สปฺปิอาทินา สํสฏฺํ, ตทภาเวน ลูขํ. อปฺปนฺติ, จตุปฺจาโลปมตฺตมฺปิ. พหุํ ยาปนตฺถํ อภุฺชึสูติ ปณีตํ พหุํ ภุฺชนฺตาปิ ยาปนมตฺตเมว อาหารํ ภุฺชึสุ. ตโต เอว อคิทฺธา เคธํ อนาปนฺนา. นาธิมุจฺฉิตา น อชฺโฌสิตา อกฺขพฺภฺชนํ วิย สากฏิกา, วณเลปนํ วิย วณิโน อภุฺชึสุ.

ชีวิตานํปริกฺขาเร, เภสชฺเช อถ ปจฺจเยปิ ชีวิตานํ ปวตฺติยา ปริกฺขารภูเต เภสชฺชสงฺขาเต ปจฺจเย คิลานปจฺจเย. ยถา เตติ ยถา เต ปุริมกา ภิกฺขู อาสวกฺขเย อุสฺสุกา ยุตฺตา อาสุํ, ตถา เต โรคาภิภูตาปิ คิลานปจฺจเย พาฬฺหํ อติวิย อุสฺสุกา นาเหสุนฺติ อตฺโถ.

ตปฺปรายณาติ วิเวกปรายณา วิเวกโปณา. เอวํ จตูหิ คาถาหิ จตุปจฺจยสนฺโตสํ ภาวนาภิรติฺจ ทสฺเสนฺเตน เตสํ อริยวํสปฏิปทา ทสฺสิตา.

นีจาติ ‘‘มยํ ปํสุกูลิกา ปิณฺฑปาติกา’’ติ อตฺตุกฺกํสนปรวมฺภนานิ อกตฺวา นีจวุตฺติโน, นิวาตวุตฺติโนติ อตฺโถ. นิวิฏฺาติ สาสเน นิวิฏฺสทฺธา. สุภราติ อปฺปิจฺฉตาทิภาเวน สุโปสา. มุทูติ วตฺตปฏิปตฺติยํ สกเล จ พฺรหฺมจริเย มุทู, สุปริกมฺมกตสุวณฺณํ วิย วินิโยคกฺขมา. มุทูติ วา อภากุฏิกา อุตฺตานมุขา ปุปฺผิตมุเขน ปฏิสนฺถารวุตฺติโน, สุติตฺถํ วิย สุขาวหาติ วุตฺตํ โหติ. อถทฺธมานสาติ อกถินจิตฺตา เตน สุพฺพจภาวมาห. อพฺยาเสกาติ สติวิปฺปวาสาภาวโต กิเลสพฺยาเสกรหิตา, อนฺตรนฺตรา ตณฺหาทิฏฺิมานาทีหิ อโวกิณฺณาติ อตฺโถ. อมุขราติ น มุขรา, น มุเขน ขรา วจีปาคพฺภิยรหิตาติ วา อตฺโถ. อตฺถจินฺตาวสานุคาติ หิตจินฺตาวสานุคาหิตจินฺตาวสิกา, อตฺตโน ปเรสฺจ หิตจินฺตเมว อนุปริวตฺตนกา.

ตโตติ ตสฺมา นีจวุตฺตาทิเหตุ. ปาสาทิกนฺติ ปสาทชนิกํ ปฏิปตฺตึ ปสฺสนฺตานํ สุณนฺตานฺจ ปสาทาวหํ. คตนฺติ อภิกฺกนฺตปฏิกฺกนฺตปริวตฺตนาทิคมนํ. คตนฺติ วา กายวาจาปวตฺติ. ภุตฺตนฺติ จตุปจฺจยปริโภโค. นิเสวิตนฺติ โคจรนิเสวนํ. สินิทฺธาเตลธาราวาติ ยถา อนิวตฺติตา กุสลชนาภิสิฺจิตา สวนฺตี เตลธารา อวิจฺฉินฺนา สินิทฺธา มฏฺา ทสฺสนียา ปาสาทิกา โหติ, เอวํ เตสํ อากปฺปสมฺปนฺนานํ อิริยาปโถ อจฺฉิทฺโท สณฺโห มฏฺโ ทสฺสนีโย ปาสาทิโก อโหสิ.

มหาฌายีติ มหนฺเตหิ ฌาเนหิ ฌายนสีลา, มหนฺตํ วา นิพฺพานํ ฌายนฺตีติ มหาฌายี. ตโต เอว มหาหิตา, มหนฺเตหิ หิเตหิ สมนฺนาคตาติ อตฺโถ. เต เถราติ เต ยถาวุตฺตปฺปการา ปฏิปตฺติปรายณา เถรา อิทานิ ปรินิพฺพุตาติ อตฺโถ. ปริตฺตา ทานิ ตาทิสาติ อิทานิ ปจฺฉิเม กาเล ตาทิสา ตถารูปา เถรา ปริตฺตา อปฺปกา กติปยา เอวาติ วุตฺตํ โหติ.

กุสลานฺจธมฺมานนฺติ วิวฏฺฏสฺส อุปนิสฺสยภูตานํ วิโมกฺขสมฺภารานํ อนวชฺชธมฺมานํ. ปฺาย จาติ ตถารูปาย ปฺาย จ. ปริกฺขยาติ อภาวโต อนุปฺปตฺติโต. กามฺเจตฺถ ปฺาปิ สิยา อนวชฺชธมฺมา, พหุการภาวทสฺสนตฺถํ ปนสฺสา วิสุํ คหณํ ยถา ปุฺาณสมฺภาราติ. สพฺพาการวรูเปตนฺติ อาทิกลฺยาณตาทีหิ สพฺเพหิ อาการวเรหิ ปการวิเสเสหิ อุเปตํ ยุตฺตํ ชินสฺส ภควโต สาสนํ ลุชฺชติ วินสฺสตีติ อตฺโถ.

ปาปกานฺจ ธมฺมานํ, กิเลสานฺจ โย อุตูติ กายทุจฺจริตาทีนํ ปาปธมฺมานํ โลภาทีนฺจ กิเลสานํ โย อุตุ โย กาโล, โส อยํ วตฺตตีติ วจนเสโส. อุปฏฺิตา วิเวกาย, เย จ สทฺธมฺมเสสกาติ เย ปน เอวรูเป กาเล กายจิตฺตอุปธิวิเวกตฺถาย อุปฏฺิตา อารทฺธวีริยา, เต จ เสสปฏิปตฺติสทฺธมฺมกา โหนฺติ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – สุวิสุทฺธสีลาจาราปิ สมานา อิทานิ เอกจฺเจ ภิกฺขู อิริยาปถสณฺาปนํ, สมถวิปสฺสนาภาวนาวิธานํ, มหาปลิโพธูปจฺเฉโท, ขุทฺทกปลิโพธูปจฺเฉโทติ เอวมาทิปุพฺพกิจฺจํ สมฺปาเทตฺวา ภาวนมนุยุฺชนฺติ. เต เสสปฏิปตฺติสทฺธมฺมกา, ปฏิปตฺตึ มตฺถกํ ปาเปตุํ น สกฺโกนฺตีติ.

เต กิเลสา ปวฑฺฒนฺตาติ เย ภควโต โอรสปุตฺเตหิ จ ตทา ปริกฺขยํ ปริยาทานํ คมิตา กิเลสา, เต เอตรหิ ลทฺโธกาสา ภิกฺขูสุ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชนฺตา. อาวิสนฺติ พหุํ ชนนฺติ กลฺยาณมิตฺตรหิตํ อโยนิโสมนสิการพหุลํ อนฺธพาลชนํ อภิภวิตฺวา อวสํ กโรนฺตา อาวิสนฺติ สนฺตานํ อนุปวิสนฺติ. เอวํภูตา จ เต กีฬนฺติ มฺเ พาเลหิ, อุมฺมตฺเตหิว รกฺขสา, ยถา นาม เกฬิสีลา รกฺขสา ภิสกฺกรหิเต อุมฺมตฺเต อาวิสิตฺวา เต อนยพฺยสนํ อาปาเทนฺตา เตหิ กีฬนฺติ, เอวํ เต กิเลสา สมฺมาสมฺพุทฺธภิสกฺกรหิเต อนฺธพาเล ภิกฺขู อาวิสิตฺวา เตสํ ทิฏฺธมฺมิกาทิเภทํ อนตฺถํ อุปฺปาเทนฺตา เตหิ สทฺธึ กีฬนฺติ มฺเ, กีฬนฺตา วิย โหนฺตีติ อตฺโถ.

เตนเตนาติ เตน เตน อารมฺมณภาเคน. วิธาวิตาติ วิรูปํ ธาวิตา อสารุปฺปวเสน ปฏิปชฺชนฺตา. กิเลสวตฺถูสูติ ปมํ อุปฺปนฺนํ กิเลสา ปจฺฉา อุปฺปชฺชนกานํ การณภาวโต กิเลสาว กิเลสวตฺถูนิ, เตสุ กิเลสวตฺถูสุ สมูหิเตสุ. สสงฺคาเมว โฆสิเตติ หิรฺสุวณฺณมณิมุตฺตาทิกํ ธนํ วิปฺปกิริตฺวา ‘‘ยํ ยํ หิรฺสุวณฺณาทิ ยสฺส ยสฺส หตฺถคตํ, ตํ ตํ ตสฺส ตสฺเสว โหตู’’ติ เอวํ กามโฆสนา สสงฺคามโฆสนา นาม. ตตฺถายมตฺโถ – กิเลสวตฺถูสุ ‘‘โย โย กิเลโส ยํ ยํ สตฺตํ คณฺหาติ อภิภวติ, โส โส ตสฺส ตสฺส โหตู’’ติ กิเลสเสนาปตินา มาเรน สสงฺคาเม โฆสิเต วิย. เตหิ เตหิ กิเลเสหิ อภิภูตา เต พาลปุถุชฺชนา เตน เตน อารมฺมณภาเคน วิธาวิตา โวสิตาติ.

เต เอวํ วิธาวิตา กึ กโรนฺตีติ อาห ‘‘ปริจฺจชิตฺวา สทฺธมฺมํ, อฺมฺเหิ ภณฺฑเร’’ติ. ตสฺสตฺโถ – ปฏิปตฺติสทฺธมฺมํ ฉฑฺเฑตฺวา อามิสกิฺชกฺขเหตุ อฺมฺเหิ ภณฺฑเร กลหํ กโรนฺตีติ. ทิฏฺิคตานีติ ‘‘วิฺาณมตฺตเมว อตฺถิ, นตฺเถว รูปธมฺมา’’ติ, ‘‘ยถา ปุคฺคโล นาม ปรมตฺถโต นตฺถิ, เอวํ สภาวธมฺมาปิ ปรมตฺถโต นตฺถิ, โวหารมตฺตเมวา’’ติ จ เอวมาทีนิ ทิฏฺิคตานิ มิจฺฉาคาเห อนฺเวนฺตา อนุคจฺฉนฺตา อิทํ เสยฺโย อิทเมว เสฏฺํ, อฺํ มิจฺฉาติ มฺนฺติ.

นิคฺคตาติ เคหโต นิกฺขนฺตา. กฏจฺฉุภิกฺขเหตูปีติ กฏจฺฉุมตฺตภิกฺขานิมิตฺตมฺปิ. ตํ ททนฺตสฺส คหฏฺสฺส อนนุโลมิกสํสคฺควเสน อกิจฺจานิ ปพฺพชิเตน อกตฺตพฺพานิ กมฺมานิ นิเสวเร กโรนฺติ.

อุทราวเทหกํ ภุตฺวาติ ‘‘อูนูทโร มิตาหาโร’’ติ (เถรคา. ๙๘๒; มิ. ป. ๖.๕.๑๐) วุตฺตวจนํ อจินฺเตตฺวา อุทรปูรํ ภุฺชิตฺวา. สยนฺตุตฺตานเสยฺยกาติ ‘‘ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปติ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย สโต สมฺปชาโน’’ติ (อ. นิ. ๘.๙; วิภ. ๕๑๙) วุตฺตวิธานํ อนนุสฺสริตฺวา อุตฺตานเสยฺยกา สยนฺติ. ยา กถา สตฺถุครหิตาติ ราชกถาทิติรจฺฉานกถํ สนฺธาย วทติ.

สพฺพการุกสิปฺปานีติ สพฺเพหิ เวสฺสาทีหิ การุเกหิ กตฺตพฺพานิ ภตฺตตาลวณฺฏกรณาทีนิ หตฺถสิปฺปานิ. จิตฺตึ กตฺวานาติ สกฺกจฺจํ สาทรํ กตฺวา. อวูปสนฺตา อชฺฌตฺตนฺติ กิเลสวูปสมาภาวโต คทฺทุหนมตฺตมฺปิ สมาธานาภาวโต จ อชฺฌตฺตํ อวูปสนฺตา, อวูปสนฺตจิตฺตาติ อตฺโถ. สามฺตฺโถติ สมณธมฺโม. อติอจฺฉตีติ เตสํ อาชีวกิจฺจปสุตตาย เอกเทสมฺปิ อผุสนโต วิสุํเยว นิสีทติ, อนลฺลียตีติ วุตฺตํ โหติ.

มตฺติกนฺติ ปากติกํ วา ปฺจวณฺณํ วา คิหีนํ วินิโยคกฺขมํ มตฺติกํ. เตลจุณฺณฺจาติ ปากติกํ, อภิสงฺขตํ วา เตลฺจ จุณฺณฺจ. อุทกาสนโภชนนฺติ อุทกฺจ อาสนฺจ โภชนฺจ. อากงฺขนฺตา พหุตฺตรนฺติ พหุํ ปิณฺฑปาตาทิอุตฺตรุตฺตรํ อากงฺขนฺตา ‘‘อมฺเหหิ มตฺติกาทีสุ ทินฺเนสุ มนุสฺสา ทฬฺหภตฺติกา หุตฺวา พหุํ อุตฺตรุตฺตรํ จตุปจฺจยชาตํ ทสฺสนฺตี’’ติ อธิปฺปาเยน คิหีนํ อุปนาเมนฺตีติ อตฺโถ.

ทนฺเต ปุนนฺติ โสเธนฺติ เอเตนาติ ทนฺตโปนํ, ทนฺตกฏฺํ. กปิตฺถนฺติ กปิตฺถผลํ. ปุปฺผนฺติ สุมนจมฺปกาทิปุปฺผํ. ขาทนียานีติ อฏฺารสวิเธปิ ขชฺชกวิเสเส. ปิณฺฑปาเต จ สมฺปนฺเนติ วณฺณาทิสมฺปยุตฺเต โอทนวิเสเส. ‘‘อมฺเพ อามลกานิ จา’’ติ -สทฺเทน มาตุลุงฺคตาลนาฬิเกราทิผลานิ อวุตฺตานิ สงฺคณฺหาติ. สพฺพตฺถ คิหีนํ อุปนาเมนฺติ อากงฺขนฺตา พหุตฺตรนฺติ โยชนา.

เภสชฺเชสุ ยถา เวชฺชาติ คิหีนํ เภสชฺชปฺปโยเคสุ ยถา เวชฺชา, ตถา ภิกฺขู ปฏิปชฺชนฺตีติ อธิปฺปาโย. กิจฺจากิจฺเจ ยถา คิหีติ คหฏฺานํ ขุทฺทเก เจว มหนฺเต จ กิจฺเจ กตฺตพฺเพ คิหี วิย. คณิกาว วิภูสายนฺติ อตฺตโน สรีรสฺส วิภูสเน รูปูปชีวินิโย วิย. อิสฺสเร ขตฺติยา ยถาติ อิสฺสเร อิสฺสริยปวตฺตเน ยถา ขตฺติยา, เอวํ กุลปตี หุตฺวา วตฺตนฺตีติ อตฺโถ.

เนกติกาติ นิกติยํ นิยุตฺตา, อมณึเยว มณึ, อสุวณฺณํเยว สุวณฺณํ กตฺวา ปฏิรูปสาจิโยคนิรตา. วฺจนิกาติ กูฏมานาทีหิ วิปฺปลมฺพกา. กูฏสกฺขีติ อยาถาวสกฺขิโน. อปาฏุกาติ วามกา, อสํยตวุตฺตีติ อตฺโถ. พหูหิ ปริกปฺเปหีติ ยถาวุตฺเตหิ อฺเหิ จ พหูหิ มิจฺฉาชีวปฺปกาเรหิ.

เลสกปฺเปติ กปฺปิยเลเส กปฺปิยปฏิรูเป. ปริยาเยติ, ปจฺจเยสุ ปริยายสฺส โยเค. ปริกปฺเปติ วฑฺฒิอาทิวิกปฺปเน, สพฺพตฺถ วิสเย ภุมฺมํ. อนุธาวิตาติ มหิจฺฉตาทีหิ ปาปธมฺเมหิ อนุธาวิตา โวสิตา. ชีวิกตฺถา ชีวิกปฺปโยชนา อาชีวเหตุกา. อุปาเยนาติ ปริกถาทินา อุปาเยน ปจฺจยุปฺปาทนนเยน. สงฺกฑฺฒนฺตีติ สํหรนฺติ.

อุปฏฺาเปนฺติ ปริสนฺติ ปริสาย อตฺตานํ อุปฏฺเปนฺติ, ยถา ปริสา อตฺตานํ อุปฏฺเปนฺติ, เอวํ ปริสํ สงฺคณฺหนฺตีติ อตฺโถ. กมฺมโตติ กมฺมเหตุ. เต หิ อตฺตโน กตฺตพฺพเวยฺยาวจฺจนิมิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ. โน จ ธมฺมโตติ ธมฺมนิมิตฺตํ โน จ อุปฏฺเปนฺติ. โย สตฺถารา อุลฺลุมฺปนสภาวสณฺิตาย ปริสาย สงฺคโห อนุฺาโต, เตน น สงฺคณฺหนฺตีติ อตฺโถ. ลาภโตติ ลาภเหตุ, ‘‘อยฺโย พหุสฺสุโต, ภาณโก, ‘ธมฺมกถิโก’ติ เอวํ สมฺภาเวนฺโต มหาชโน มยฺหํ ลาภสกฺกาเร อุปนยิสฺสตี’’ติ อิจฺฉาจาเร ตฺวา ลาภนิมิตฺตํ ปเรสํ ธมฺมํ เทเสนฺติ. โน จ อตฺถโตติ โย โส วิมุตฺตายตนสีเส ตฺวา สทฺธมฺมํ กเถนฺเตน ปตฺตพฺโพ อตฺโถ, น ตํทิฏฺธมฺมิกาทิเภทหิตนิมิตฺตํ ธมฺมํ เทเสนฺตีติ อตฺโถ.

สงฺฆลาภสฺส ภณฺฑนฺตีติ สงฺฆลาภเหตุ ภณฺฑนฺติ ‘‘มยฺหํ ปาปุณาติ, น ตุยฺห’’นฺติอาทินา กลหํ กโรนฺติ. สงฺฆโต ปริพาหิราติ, อริยสงฺฆโต พหิภูตา อริยสงฺเฆ ตทภาวโต. ปรลาโภปชีวนฺตาติ สาสเน ลาภสฺส อนฺธพาลปุถุชฺชเนหิ ปเร สีลาทิคุณสมฺปนฺเน เสกฺเข อุทฺทิสฺส อุปฺปนฺนตฺตา ตํ ปรลาภํ, ปรโต วา ทายกโต ลทฺธพฺพลาภํ อุปชีวนฺตา ภณฺฑนการกา ภิกฺขู ปาปชิคุจฺฉาย อภาวโต อหิริกา สมานา จ ‘‘มยํ ปรลาภํ ภุฺชาม, ปรปฏิพทฺธชีวิกา’’ติปิ น ลชฺชเร น หิรียนฺติ.

นานุยุตฺตาติ สมณกรเณหิ ธมฺเมหิ อนนุยุตฺตา. ตถาติ ยถา ปุพฺเพ วุตฺตา พนฺธนการกาทโย, ตถา. เอเกติ เอกจฺเจ. มุณฺฑา สงฺฆาฏิปารุตาติ เกวลํ มุณฺฑิตเกสตาย มุณฺฑา ปิโลติกขณฺเฑหิ สงฺฆฏิตฏฺเน ‘‘สงฺฆาฏี’’ติ ลทฺธนาเมน จีวเรน ปารุตสรีรา. สมฺภาวนํเยวิจฺฉนฺติ, ลาภสกฺการมุจฺฉิตาติ ลาภสกฺการาสาย มุจฺฉิตา อชฺโฌสิตา หุตฺวา, ‘‘เปสโล ธุตวาโท พหุสฺสุโต’’ติ วา มธุรวจนมนุยุตฺตา ‘‘อริโย’’ติ จ เกวลํ สมฺภาวนํ พหุมานํเยว อิจฺฉนฺติ เอสนฺติ, น ตนฺนิมิตฺเต คุเณติ อตฺโถ.

เอวนฺติ ‘‘กุสลานฺจ ธมฺมานํ ปฺาย จ ปริกฺขยา’’ติ วุตฺตนเยน. นานปฺปยาตมฺหีติ นานปฺปกาเร เภทนธมฺเม ปยาเต สมกเต, นานปฺปกาเรน วา สํกิเลสธมฺเม ปยาตุํ ปวตฺติตุํ อารทฺเธ. น ทานิ สุกรํ ตถาติ อิทานิ อิมสฺมึ ทุลฺลภกลฺยาณมิตฺเต ทุลฺลภสปฺปายสทฺธมฺมสฺสวเน จ กาเล ยถา สตฺถริ ธรนฺเต อผุสิตํ อผุฏฺํ, อนธิคตํ ฌานวิปสฺสนํ ผุสิตุํ อธิคนฺตุํ, ผุสิตํ วา หานภาคิยํ ิติภาคิยเมว วา อหุตฺวา ยถา วิเสสภาคิยํ โหติ, ตถา อนุรกฺขิตุํ ปาเลตุํ สุกรํ, ตถา น สุกรํ, ตถา สมฺปาเทตุํ น สกฺกาติ อตฺโถ.

อิทานิ อตฺตโน ปรินิพฺพานกาลสฺส อาสนฺนตฺตา สํขิตฺเตน โอวาเทน สพฺรหฺมจารึ โอวทนฺโต ‘‘ยถา กณฺฏกฏฺานมฺหี’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – ยถา ปุริโส เกนจิเทว ปโยชเนน กณฺฏกนิจิเต ปเทเส อนุปาหโน วิจรนฺโต ‘‘มา มํ กณฺฏโก วิชฺฌี’’ติ สตึ อุปฏฺเปตฺวาว วิจรติ, เอวํ กิเลสกณฺฏกนิจิเต โคจรคาเม ปโยชเนน จรนฺโต มุนิ สตึ อุปฏฺเปตฺวาน สติสมฺปชฺยุตฺโต อปฺปมตฺโตว จเรยฺย กมฺมฏฺานํ อวิชหนฺโตติ วุตฺตํ โหติ.

สริตฺวา ปุพฺพเก โยคี, เตสํ วตฺตมนุสฺสรนฺติ ปุริมเก โยเค ภาวนาย ยุตฺตตาย โยคี อารทฺธวิปสฺสเก สริตฺวา เตสํ วตฺตํ อาคมานุสาเรน สมฺมาปฏิปตฺติภาวนาวิธึ อนุสฺสรนฺโต ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวา ยถาปฏิปชฺชนฺโต. กิฺจาปิ ปจฺฉิโม กาโลติ ยทิปายํ อตีตสตฺถุโก จริโม กาโล, ตถาปิ ยถาธมฺมเมว ปฏิปชฺชนฺโต วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปนฺโต ผุเสยฺย อมตํ ปทํ นิพฺพานํ อธิคจฺเฉยฺย.

อิทํ วตฺวาติ, ยถาทสฺสิตํ สํกิเลสโวทาเนสุ อิมํ ปฏิปตฺติวิธึ กเถตฺวา. อยฺจ โอสานคาถา สงฺคีติกาเรหิ เถรสฺส ปรินิพฺพานํ ปกาเสตุํ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.

ปาราปริยตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

วีสตินิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.