📜

๑๗. ตึสนิปาโต

๑. ผุสฺสตฺเถรคาถาวณฺณนา

ตึสนิปาเต ปาสาทิเก พหู ทิสฺวาติอาทิกา อายสฺมโต ผุสฺสตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท เอกสฺส มณฺฑลิกรฺโ ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ผุสฺโสติ นามํ อโหสิ. โส วิฺุตํ ปตฺโต ขตฺติยกุมาเรหิ สิกฺขิตพฺพสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ คโต. อุปนิสฺสยสมฺปนฺนตฺตา กาเมสุ อลคฺคจิตฺโต อฺตรสฺส มหาเถรสฺส สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา จริยานุกูลํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ภาวนํ อนุยุฺชนฺโต ฌานานิ นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานปาทกํ วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา นจิรสฺเสว ฉฬภิฺโ อโหสิ. อเถกทิวสํ ปณฺฑรโคตฺโต นาม เอโก ตาปโส ตสฺส สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา นิสินฺโน สมฺพหุเล ภิกฺขู สีลาจารสมฺปนฺเน สุสํวุตินฺทฺริเย ภาวิตกาเย ภาวิตจิตฺเต ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต ‘‘สาธุ วตายํ ปฏิปตฺติ โลเก จิรํ ติฏฺเยฺยา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘กถํ นุ โข, ภนฺเต, อนาคตมทฺธานํ ภิกฺขูนํ ปฏิปตฺติ ภวิสฺสตี’’ติ เถรํ ปุจฺฉิ. ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต สงฺคีติการา –

๙๔๙.

‘‘ปาสาทิเก พหู ทิสฺวา, ภาวิตตฺเต สุสํวุเต;

อิสิ ปณฺฑรสโคตฺโต, อปุจฺฉิ ผุสฺสสวฺหย’’นฺติ. – คาถํ อาทิโต เปสุํ;

ตตฺถ ปาสาทิเกติ อตฺตโน ปฏิปตฺติยา ปสาทารเห. พหูติ สมฺพหุเล. ภาวิตตฺเตติ สมถวิปสฺสนาภาวนาหิ ภาวิตจิตฺเต. สุสํวุเตติ สุฏฺุ สํวุตินฺทฺริเย. อิสีติ ตาปโส. ปณฺฑรสโคตฺโตติ ปณฺฑรสฺส นาม อิสิโน วํเส ชาตตฺตา เตน สมานโคตฺโต. ผุสฺสสวฺหยนฺติ ผุสฺสสทฺเทน อวฺหาตพฺพํ, ผุสฺสนามกนฺติ อตฺโถ.

๙๕๐.

‘‘กึ ฉนฺทา กิมธิปฺปายา, กิมากปฺปา ภวิสฺสเร;

อนาคตมฺหิ กาลมฺหิ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ. –

อยํ ตสฺส อิสิโน ปุจฺฉาคาถา.

ตตฺถ กึ ฉนฺทาติ อิมสฺมึ สาสเน อนาคเต ภิกฺขู กีทิสจฺฉนฺทา กีทิสาธิมุตฺติกา, กึ หีนาธิมุตฺติกา, อุทาหุ ปณีตาธิมุตฺติกาติ อตฺโถ. กิมธิปฺปายาติ กีทิสาธิปฺปายา กีทิสชฺฌาสยา, กึ สํกิเลสชฺฌาสยา, อุทาหุ โวทานชฺฌาสยาติ อตฺโถ. อถ วา ฉนฺทา นาม กตฺตุกมฺยตา, ตสฺมา กีทิสี เตสํ กตฺตุกมฺยตาติ อตฺโถ. อธิปฺปาโย อชฺฌาสโยเยว. กิมากปฺปาติ กีทิสากปฺปา. อากปฺปาติ จ เวสคหณาทิวาริตฺตจาริตฺตวนฺโตติ อตฺโถ. ภวิสฺสเรติ ภวิสฺสนฺติ. ตํ เมติ ตํ อนาคเต ภิกฺขูนํ ฉนฺทาธิปฺปายากปฺปเภทํ ปุจฺฉิโต มยฺหํ อกฺขาหิ กเถหีติ เถรํ อชฺเฌสติ. ตสฺส เถโร ตมตฺถํ อาจิกฺขนฺโต สกฺกจฺจสวเน ตาว นิโยเชตุํ –

๙๕๑.

‘‘สุโณหิ วจนํ มยฺหํ, อิสิ ปณฺฑรสวฺหย;

สกฺกจฺจํ อุปธาเรหิ, อาจิกฺขิสฺสามฺยนาคต’’นฺติ. – คาถมาห;

ตสฺสตฺโถ – โภ ปณฺฑรนาม อิสิ, ยํ ตฺวํ มํ ปุจฺฉสิ, ตํ เต อนาคตํ อาจิกฺขิสฺสามิ, อาจิกฺขโต ปน มม วจนํ สุณาหิ อนาคตตฺถทีปนโต สํเวคาวหโต จ สกฺกจฺจํ อุปธาเรหีติ.

อถ เถโร อนาคตํสาเณน ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนฺจ ภาวินึ ปวตฺตึ ยถาภูตํ ทิสฺวา ตสฺส อาจิกฺขนฺโต –

๙๕๒.

‘‘โกธนา อุปนาหี จ, มกฺขี ถมฺภี สา พหู;

อิสฺสุกี นานาวาทา จ, ภวิสฺสนฺติ อนาคเต.

๙๕๓.

‘‘อฺาตมานิโน ธมฺเม, คมฺภีเร ตีรโคจรา;

ลหุกา อครู ธมฺเม, อฺมฺมคารวา.

๙๕๔.

‘‘พหู อาทีนวา โลเก, อุปฺปชฺชิสฺสนฺตฺยนาคเต;

สุเทสิตํ อิมํ ธมฺมํ, กิเลสิสฺสนฺติ ทุมฺมตี.

๙๕๕.

‘‘คุณหีนาปิ สงฺฆมฺหิ, โวหรนฺตา วิสารทา;

พลวนฺโต ภวิสฺสนฺติ, มุขรา อสฺสุตาวิโน.

๙๕๖.

‘‘คุณวนฺโตปิ สงฺฆมฺหิ, โวหรนฺตา ยถาตฺถโต;

ทุพฺพลา เต ภวิสฺสนฺติ, หิรีมนา อนตฺถิกา.

๙๕๗.

‘‘รชตํ ชาตรูปฺจ, เขตฺตํ วตฺถุมเชฬกํ.

ทาสิทาสฺจ ทุมฺเมธา, สาทิยิสฺสนฺตฺยนาคเต.

๙๕๘.

‘‘อุชฺฌานสฺิโน พาลา, สีเลสุ อสมาหิตา;

อุนฺนฬา วิจริสฺสนฺติ, กลหาภิรตา มคา.

๙๕๙.

‘‘อุทฺธตา จ ภวิสฺสนฺติ, นีลจีวรปารุตา;

กุหา ถทฺธา ลปา สิงฺคี, จริสฺสนฺตฺยริยา วิย.

๙๖๐.

‘‘เตลสณฺเหิ เกเสหิ, จปลา อฺชนกฺขิกา;

รถิยาย คมิสฺสนฺติ, ทนฺตวณฺณิกปารุตา.

๙๖๑.

‘‘อเชคุจฺฉํ วิมุตฺเตหิ, สุรตฺตํ อรหทฺธชํ;

ชิคุจฺฉิสฺสนฺติ กาสาวํ, โอทาเตสุ สมุจฺฉิตา.

๙๖๒.

‘‘ลาภกามา ภวิสฺสนฺติ, กุสีตา หีนวีริยา;

กิจฺฉนฺตา วนปตฺถานิ, คามนฺเตสุ วสิสฺสเร.

๙๖๓.

‘‘เย เย ลาภํ ลภิสฺสนฺติ, มิจฺฉาชีวรตา สทา;

เต เตว อนุสิกฺขนฺตา, ภชิสฺสนฺติ อสํยตา.

๙๖๔.

‘‘เย เย อลาภิโน ลาภํ, น เต ปุชฺชา ภวิสฺสเร;

สุเปสเลปิ เต ธีเร, เสวิสฺสนฺติ น เต ตทา.

๙๖๕.

‘‘มิลกฺขุรชนํ รตฺตํ, ครหนฺตา สกํ ธชํ;

ติตฺถิยานํ ธชํ เกจิ, ธาริสฺสนฺตฺยวทาตกํ.

๙๖๖.

‘‘อคารโว จ กาสาเว, ตทา เตสํ ภวิสฺสติ;

ปฏิสงฺขา จ กาสาเว, ภิกฺขูนํ น ภวิสฺสติ.

๙๖๗.

‘‘อภิภูตสฺส ทุกฺเขน, สลฺลวิทฺธสฺส รุปฺปโต;

ปฏิสงฺขา มหาโฆรา, นาคสฺสาสิ อจินฺติยา.

๙๖๘.

‘‘ฉทฺทนฺโต หิ ตทา ทิสฺวา, สุรตฺตํ อรหทฺธชํ;

ตาวเทวภณี คาถา, คโช อตฺโถปสํหิตา.

๙๖๙.

‘‘อนิกฺกสาโว กาสาวํ, โย วตฺถํ ปริธสฺสติ;

อเปโต ทมสจฺเจน, น โส กาสาวมรหติ.

๙๗๐.

‘‘โย จ วนฺตกสาวสฺส, สีเลสุ สุสมาหิโต;

อุเปโต ทมสจฺเจน, ส เว กาสาวมรหติ.

๙๗๑.

‘‘วิปนฺนสีโล ทุมฺเมโธ, ปากโฏ กามการิโย;

วิพฺภนฺตจิตฺโต นิสฺสุกฺโก, น โส กาสาวมรหติ.

๙๗๒.

‘‘โย จ สีเลน สมฺปนฺโน, วีตราโค สมาหิโต;

โอทาตมนสงฺกปฺโป, ส เว กาสาวมรหติ.

๙๗๓.

‘‘อุทฺธโต อุนฺนโฬ พาโล, สีลํ ยสฺส น วิชฺชติ;

โอทาตกํ อรหติ, กาสาวํ กึ กริสฺสติ.

๙๗๔.

‘‘ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ, ทุฏฺจิตฺตา อนาทรา;

ตาทีนํ เมตฺตจิตฺตานํ, นิคฺคณฺหิสฺสนฺตฺยนาคเต.

๙๗๕.

‘‘สิกฺขาเปนฺตาปิ เถเรหิ, พาลา จีวรธารณํ;

น สุณิสฺสนฺติ ทุมฺเมธา, ปากฏา กามการิยา.

๙๗๖.

‘‘เต ตถา สิกฺขิตา พาลา, อฺมฺํ อคารวา;

นาทิยิสฺสนฺตุปชฺฌาเย, ขฬุงฺโก วิย สารถึ.

๙๗๗.

‘‘เอวํ อนาคตทฺธานํ, ปฏิปตฺติ ภวิสฺสติ;

ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนฺจ, ปตฺเต กาลมฺหิ ปจฺฉิเม.

๙๗๘.

‘‘ปุรา อาคจฺฉเต เอตํ, อนาคตํ มหพฺภยํ;

สุพฺพจา โหถ สขิลา, อฺมฺํ สคารวา.

๙๗๙.

‘‘เมตฺตจิตฺตา การุณิกา, โหถ สีเลสุ สํวุตา;

อารทฺธวีริยา ปหิตตฺตา, นิจฺจํ ทฬฺหปรกฺกมา.

๙๘๐.

‘‘ปมาทํ ภยโต ทิสฺวา, อปฺปมาทฺจ เขมโต;

ภาเวถฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ผุสนฺตา อมตํ ปท’’นฺติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ โกธนาติ กุชฺฌนสีลา. ภวิสฺสนฺติ อนาคเตติ สมฺพนฺโธ. กึ เถรสฺส กาเล ตถา นาเหสุนฺติ? น นาเหสุํ. ตทา ปน กลฺยาณมิตฺตพหุลตาย โอวาทเกสุ วิฺาปเกสุ สพฺรหฺมจารีสุ พหูสุ วิชฺชมาเนสุ กิเลเสสุ พลวนฺเตสุ ปฏิสงฺขานพหุลตาย จ เยภุยฺเยน ภิกฺขู อกฺโกธนา อเหสุํ, อายตึ ตพฺพิปริยาเย อติโกธนา ภวิสฺสนฺติ, ตสฺมา ‘‘อนาคเต’’ติ วุตฺตํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อุปนาหีติ อาฆาตวตฺถูสุ อาฆาตสฺส อุปนยฺหนสีลา อุปนาหสมฺภวโต วา อุปนาหี. ตตฺถ ปุริมกาลิโก พฺยาปาโท โกโธ, อปรกาลิโก อุปนาโห. สกึ ปวตฺโต วา โทโส โกโธ, อเนกกฺขตฺตุํ ปวตฺโต อุปนาโห. ปเรสํ วิชฺชมาเน คุเณ มกฺขนฺติ ปุฺชนฺติ, เตสํ วา อุทกปุฺชนิยา วิย อุทกสฺส มกฺโข มกฺขนํ ปุฺชนํ เอเตสํ อตฺถีติ มกฺขี. อติมานลกฺขโณ ถมฺโภ เอเตสํ อตฺถีติ ถมฺภี. สาติ อสนฺตคุณวิภาวนลกฺขเณน สาเยฺเยน สมนฺนาคตา. อิสฺสุกีติ ปรสมฺปตฺติขิยฺยนลกฺขณาย อิสฺสาย สมนฺนาคตา. นานาวาทาติ อฺมฺํ วิรุทฺธวาทา วิรุทฺธทิฏฺิกา, กลหการกา จาติ อตฺโถ.

อฺาตมานิโน ธมฺเม, คมฺภีเร ตีรโคจราติ คมฺภีเร ทุโรภาเส สทฺธมฺเม อฺาเต เอว ‘‘าโตติ, ทิฏฺโ’’ติ เอวํ มานิโน, ตโต เอว ตสฺส โอรภาเค ปวตฺติตาย โอริมตีรโคจรา. ลหุกาติ ลหุสภาวา จปลา. อครู ธมฺเมติ สทฺธมฺเม คารวรหิตา. อฺมฺมคารวาติ อฺมฺสฺมึ อปฺปติสฺสา, สงฺเฆ สพฺรหฺมจารีสุ จ ครุคารววิรหิตา. พหู อาทีนวาติ วุตฺตปฺปการา, วกฺขมานา จ พหู อเนกโทสา อนฺตรายา . โลเกติ สตฺตโลเก. อุปฺปชฺชิสฺสนฺตฺยนาคเตติ อนาคเต ปาตุ ภวิสฺสนฺติ. สุเทสิตํ อิมํ ธมฺมนฺติ, สมฺมาสมฺพุทฺเธน สุฏฺุ อวิปรีตํ อาทิกลฺยาณาทิปฺปกาเรน เทสิตํ อิมํ อาคมสทฺธมฺมํ. กิเลสิสฺสนฺตีติ กิลิฏฺํ กิเลสทูสิตํ กริสฺสนฺติ, ‘‘อาปตฺตึ ‘อนาปตฺตี’ติ ครุกาปตฺตึ ‘ลหุกาปตฺตี’’’ติอาทินา ทุจฺจริตสํกิเลเสน อสทฺธมฺเมน สณฺหสุขุมํ รูปารูปธมฺมํ ปฏิกฺขิปิสฺสนฺติ, ทิฏฺิสํกิเลเสน อุภยตฺราปิ ตณฺหาสํกิเลเสน สํกิเลสิสฺสนฺติ มลินํ กริสฺสนฺติ. ทุมฺมตีติ นิปฺปฺา. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘ภวิสฺสนฺติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อนาคตมทฺธานํ…เป… อภิธมฺมกถํ เวทลฺลกถํ กเถนฺตา กณฺหธมฺมํ โอกฺกมมานา น พุชฺฌิสฺสนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๗๙).

คุณหีนาติ สีลาทิคุณวิรหิตา ทุสฺสีลา, อลชฺชิโน จ. อถ วา คุณหีนาติ วินยวาริตฺตาทิคุเณน หีนา ธมฺมวินเย อปฺปกตฺุโน. สงฺฆมฺหีติ สงฺฆมชฺเฌ. โวหรนฺตาติ กเถนฺตา, สงฺเฆ วินิจฺฉยกถาย วตฺตมานาย ยํกิฺจิ ภณนฺตา. วิสารทาติ นิพฺภยา ปคพฺภา. พลวนฺโตติ ปกฺขพเลน พลวนฺโต. มุขราติ มุขขรา ขรวาทิโน. อสฺสุตาวิโนติ น สุตวนฺโต, เกวลํ ลาภสกฺการสิโลกสนฺนิสฺสเยน คุณธรา หุตฺวา ‘‘ธมฺมํ ‘อธมฺโม’ติ, อธมฺมฺจ ‘ธมฺโม’ติ, วินยํ ‘อวินโย’ติ, อวินยฺจ ‘วินโย’’’ติ เอวํ อตฺตนา ยถิจฺฉิตมตฺถํ สงฺฆมชฺเฌ ปติฏฺเปนฺตา พลวนฺโต ภวิสฺสนฺติ.

คุณวนฺโตติ สีลาทิคุณสมฺปนฺนา. โวหรนฺตา ยถาตฺถโตติ อตฺถานุรูปํ, อวิปรีตตฺถํ ‘‘ธมฺมํ ‘ธมฺโม’ติ, อธมฺมํ ‘อธมฺโม’ติ, วินยํ ‘วินโย’ติ อวินยํ ‘อวินโย’’’ติ เอวํ ทีเปนฺตา. ทุพฺพลา เต ภวิสฺสนฺตีติ ปริสายํ อลชฺชุสฺสนฺนตาย พลวิรหิตา เต ภวิสฺสนฺติ, เตสํ วจนํ น ติฏฺิสฺสติ. หิรีมนา อนตฺถิกาติ หิรีมนฺโต เกนจิ อนตฺถิกา. เต หิ ธมฺเมน วตฺตุํ สมตฺถาปิ ปาปชิคุจฺฉตาย อปฺปกิจฺจตาย จ เกหิจิ วิโรธํ อกโรนฺตา อตฺตโน วาทํ ปติฏฺาเปตุํ น วายมนฺตา ทิฏฺาวิกมฺมํ วา อธิฏฺานํ วา อกตฺวา ตุณฺหี โหนฺติ.

รชตนฺติ รูปิยํ, เตน กหาปณโลหมาสกาทีนมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ชาตรูปนฺติ สุวณฺณํ, เตน มณิมุตฺตาทีนมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. วา-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ ‘‘อปทา วา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๓๔; ๕.๓๒; อิติวุ. ๙๐) วิย. ‘‘รชตชาตรูปฺจา’’ติ วา ปาโ. เขตฺตนฺติ ยตฺถ ปุพฺพณฺณาปรณฺณํ รุหติ, ตํ เขตฺตํ. ตทตฺถํ อกตภูมิภาโค วตฺถุ. อเชฬกนฺติ เอฬกา นาม อชาเยว, เต เปตฺวา อวเสสา ปสุชาตี อชา นาม. อเชฬกคฺคหเณเนว เหตฺถ โคมหึสาทีนมฺปิ สงฺคโห กโต. ทาสิทาสฺจาติ ทาสิโย จ ทาเส จ. ทุมฺเมธาติ อวิทฺทสุโน , กปฺปิยากปฺปิยํ สารุปฺปาสารุปฺปํ อชานนฺตา อตฺตโน อตฺถาย สาทิยิสฺสนฺติ สมฺปฏิจฺฉิสฺสนฺติ.

อุชฺฌานสฺิโนติ ปเร เหฏฺโต กตฺวา โอโลกนจิตฺตา, อนุชฺฌายิตพฺพฏฺาเนปิ วา อุชฺฌานสีลา. พาลาติ ทุจฺจินฺติตจินฺตนาทินา พาลลกฺขเณน สมนฺนาคตา, ตโต เอว สีเลสุ อสมาหิตา จตุปาริสุทฺธิสีเลสุ น สมาหิตจิตฺตา. อุนฺนฬาติ, สมุสฺสิตตุจฺฉมานา. วิจริสฺสนฺตีติ มานทฺธชํ อุกฺขิปิตฺวา วิจริสฺสนฺติ. กลหาภิรตา มคาติ สารมฺภพหุลตาย กรณุตฺตริยปสุตา กลเห เอว อภิรตา มคสทิสา มิคา วิย อตฺตหิตาเปกฺขา ฆาเสสนาภิรตา ทุพฺพลวิเหสปราติ อตฺโถ.

อุทฺธตาติ อุทฺธจฺเจน สมนฺนาคตา จิตฺเตกคฺคตารหิตา. นีลจีวรปารุตาติ อกปฺปิยรชนรตฺเตน นีลวณฺเณน จีวเรน ปารุตา, ตาทิสํ จีวรํ นิวาเสตฺวา เจว ปารุปิตฺวา จ วิจรณกา. กุหาติ สามนฺตชปฺปนาทินา กุหนวตฺถุนา กุหกา, อสนฺตคุณสมฺภาวนิจฺฉาย โกหฺํ กตฺวา ปเรสํ วิมฺหาปยา. ถทฺธาติ โกเธน มาเนน จ ถทฺธมานสา กกฺขฬหทยา. ลปาติ ลปนกา กุหนวุตฺติกา, ปสนฺนมานเสหิ มนุสฺเสหิ ‘‘เกน, ภนฺเต, อยฺยสฺส อตฺโถ’’ติ ปจฺจยทายกานํ วทาปนกา, ปยุตฺตวาจาวเสน, นิปฺเปสิกตาวเสน จ ปจฺจยตฺถํ ลปกาติ วา อตฺโถ. สิงฺคีติ ‘‘ตตฺถ กตมํ สิงฺคํ? ยํ สิงฺคํ สิงฺคารตา จาตุรตา จาตุริยํ ปริกฺขตตา ปาริกฺขติย’’นฺติ (วิภ. ๘๕๒) เอวํ วุตฺเตหิ สิงฺคสทิเสหิ ปากฏกิเลเสหิ สมนฺนาคตา, สิงฺคารจริตาติ อตฺโถ. ‘‘อริยา วิยา’’ติ อิทํ ‘‘กุหา’’ติ เอตสฺเสว อตฺถทสฺสนํ. กุหกานฺหิ อริยานมิว ิตภาวํ ทสฺเสนฺโต อริยา วิย วิจรนฺตีติ อาห.

เตลสณฺเหีติ สิตฺถกเตเลน วา อุทกเตเลน วา โอสณฺิเตหิ. จปลาติ กายมณฺฑนปริกฺขารมณฺฑนาทินา จาปลฺเลน ยุตฺตา. อฺชนกฺขิกาติ อลงฺการฺชเนน อฺชิตเนตฺตา. รถิยาย คมิสฺสนฺตีติ ภิกฺขาจริยาย กุลูปสงฺกมนาปเทเสหิ, มหารจฺฉาย อิโต จิโต จ ปริพฺภมิสฺสนฺติ. ทนฺตวณฺณิกปารุตาติ ทนฺตวณฺณรตฺเตน จีวเรน ปารุตสรีรา.

อเชคุจฺฉนฺติ อชิคุจฺฉิตพฺพํ. วิมุตฺเตหีติ อริเยหิ. สุรตฺตนฺติ กปฺปิยรชเนน สุฏฺุ รตฺตํ, อรหนฺตานํ พุทฺธาทีนํ จิณฺณตาย อรหทฺธชํ ชิคุจฺฉิสฺสนฺติ กาสาวํ. กสฺมา? โอทาเตสุ สมุจฺฉิตา เคธํ อาปนฺนา. ทนฺตวณฺณปารุปนสฺส หิ อิทํ การณวจนํ. เต หิ เสตกํ สมฺภาเวนฺตา ‘‘สพฺเพน สพฺพํ เสตเก คหิเต ลิงฺคปริจฺจาโค เอว สิยา’’ติ ทนฺตวณฺณํ ปารุปนฺติ.

ลาภกามาติ ลาภคิทฺธา. ภิกฺขาจริยาสุปิ โกสชฺชโยคโต กุสีตา. สมณธมฺมํ กาตุํ จิตฺตสฺส อุสฺสาหาภาเวน หีนวีริยา. กิจฺฉนฺตาติ, กิลมนฺตา, วนปตฺเถสุ วสิตุํ กิจฺฉนฺตา กิลนฺตจิตฺตาติ อตฺโถ. คามนฺเตสูติ คามนฺตเสนาสเนสุ คามสมีเปสุ เสนาสเนสุ, คามทฺวาเรสุ วา เสนาสเนสุ. วสิสฺสเรติ วสิสฺสนฺติ.

เต เตว อนุสิกฺขนฺตาติ เย เย มิจฺฉาชีวปฺปโยเคน ลทฺธลาภา, เต เต เอว ปุคฺคเล อนุสิกฺขนฺตา ภมิสฺสนฺติ. ภมิสฺสนฺตีติ สยมฺปิ เต วิย มิจฺฉาชีเวน ลาภํ อุปฺปาเทตุํ ราชกุลาทีนิ เสวนฺตา ปริพฺภมิสฺสนฺติ. ‘‘ภชิสฺสนฺตี’’ติ วา ปาโ, เสวิสฺสนฺตีติ อตฺโถ. อสํยตาติ สีลสํยมรหิตา.

เย เย อลาภิโน ลาภนฺติ เย เย ภิกฺขู มิจฺฉาชีวปริวชฺชเนน อปฺปปุฺตาย จ ลาภสฺส ปจฺจยสฺส น ลาภิโน, เต ปุชฺชา ปูชนียา ปาสํสา ตทา อนาคเต กาเล น ภวิสฺสนฺติ. สุเปสเลปิ เต ธีเรติ ธิติสมฺปนฺนตาย ธีเร สุฏฺุ เปสเลปิ เต ภิกฺขู น เสวิสฺสนฺติ, ตทา อนาคเต เต ลาภิโน ลาภกามาว ภิกฺขูติ อตฺโถ.

มิลกฺขุรชนํ รตฺตนฺติ กาลกจฺฉกรชเนน รตฺตํ. สมาสปทฺเหตํ, คาถาสุขตฺถํ สานุนาสิกนิทฺเทโส. ครหนฺตา สกํ ธชนฺติ อตฺตโน ธชภูตํ กาสาวํ ชิคุจฺฉนฺตา. สาสเน ปพฺพชิตานฺหิ กาสาโว ธโช นาม. ติตฺถิยานํ ธชํ เกจีติ เกจิ สกฺยปุตฺติยภาวํ ปฏิชานนฺตา เอว ติตฺถิยานํ เสตวตฺถิกานํ ธชภูตํ อวทาตกํ เสตวตฺถํ ธาเรสฺสนฺติ.

อคารโวจ กาสาเวติ อรหทฺธชภูเต กาสาเว อคารโว อพหุมานํ ตทา อนาคเต เตสํ ภวิสฺสติ. ปฏิสงฺขา จ กาสาเวติ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส จีวรํ ปฏิเสวามี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๓; อ. นิ. ๖.๕๘) นเยน ปจฺจเวกฺขณมตฺตมฺปิ กาสาวปริโภเค น ภวิสฺสติ.

กาสาวํ ธาเรนฺเตน กาสาวํ พหุมาเนน ‘‘ทุจฺจริตโต โอรมิตพฺพ’’นฺติ กาสาวสฺส ครุกาตพฺพภาเว ฉทฺทนฺตชาตกมุทาหรนฺโต ‘‘อภิภูตสฺส ทุกฺเขนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สลฺลวิทฺธสฺสาติ ปุถุนา สวิเสน สลฺเลน วิทฺธสฺส, ตโต เอว มหตา ทุกฺเขน อภิภูตสฺส. รุปฺปโตติ สรีรวิการํ อาปชฺชโต. มหาโฆราติ สรีรชีวิเตสุ นิรเปกฺขตาย ภิมฺมา ครุตรา ปฏิสงฺขา อฺเหิ อจินฺติยา จินฺตามตฺเตน ปวตฺเตตุํ อสกฺกุเณยฺยา ฉทฺทนฺตมหานาคสฺสอาสิ, อโหสิ. ฉทฺทนฺตนาคราชกาเล หิ โพธิสตฺโต โสณุตฺตเรน นาม เนสาเทน ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน ตฺวา วิสปีเตน สลฺเลน วิทฺโธ มหตา ทุกฺเขน อภิภูโต ตํ คเหตฺวา ปริทหิตํ กาสาวํ ทิสฺวา ‘‘อยํ อริยทฺธเชน ปฏิจฺฉนฺโน, น มยา หึสิตพฺโพ’’ติ ตตฺถ เมตฺตจิตฺตเมว ปจฺจุปฏฺเปตฺวา อุปริธมฺมํ เทเสสิ. ยถาห –

‘‘สมปฺปิโต ปุถุสลฺเลน นาโค,

อทุฏฺจิตฺโต ลุทฺทกมชฺฌภาสิ;

กิมตฺถยํ กิสฺส วา สมฺม เหตุ,

มมํ วธี กสฺส วายํ ปโยโค’’ติอาทิ. (ชา. ๑.๑๖.๑๒๔);

อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต เถโร ‘‘ฉทฺทนฺโต หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุรตฺตํ อรหทฺธชนฺติ โสณุตฺตเรน ปริทหิตกาสาวํ สนฺธายาห. อภณีติ อภาสิ. คาถาติ คาถาโย. คโชติ ฉทฺทนฺโต นาคราชา. อตฺโถปสํหิตาติ อตฺถสนฺนิสฺสิตา หิตา, หิตยุตฺตาติ อตฺโถ.

ฉทฺทนฺตนาคราเชน วุตฺตคาถาสุ อนิกฺกสาโวติ ราคาทีหิ กสาเวหิ กสาโว, ปริทหิสฺสตีติ นิวาสนปารุปนอตฺถรณวเสน ปริภุฺชิสฺสติ. ‘‘ปริธสฺสตี’’ติ วา ปาโ. อเปโต ทมสจฺเจนาติ อินฺทฺริยทเมน เจว ปรมตฺถสจฺจปกฺขิเกน วจีสจฺเจน จ อเปโต, วิยุตฺโต ปริจฺจตฺโตติ อตฺโถ. น โสติ โส เอวรูโป ปุคฺคโล กาสาวํ ปริทหิตุํ นารหติ.

วนฺตกสาวสฺสาติ จตูหิ มคฺเคหิ วนฺตกสาโว ฉฑฺฑิตกสาโว ปหีนกสาโว อสฺส ภเวยฺยาติ อตฺโถ. สีเลสูติ จตุปาริสุทฺธิสีเลสุ. สุสมาหิโตติ สุฏฺุ สมาหิโต. อุเปโตติ อินฺทฺริยทเมน เจว วุตฺตปฺปกาเรน สจฺเจน จ อุปคโต สมนฺนาคโต. ส เวติ โส เอวรูโป ปุคฺคโล ตํ คนฺธกาสาววตฺถํ เอกนฺเตน อรหตีติ อตฺโถ.

วิปนฺนสีโลติ ภินฺนสีโล. ทุมฺเมโธติ นิปฺปฺโ สีลวิโสธนปฺาย วิรหิโต. ปากโฏติ ‘‘ทุสฺสีโล อย’’นฺติ ปากโฏ ปกาโส, วิกฺขิตฺตินฺทฺริยตาย วา ปากโฏ ปากฏินฺทฺริโยติ อตฺโถ. กามการิโยติ ภินฺนสํวรตาย ยถิจฺฉิตการโก, กามสฺส วา มารสฺส ยถากามกรณีโย. วิพฺภนฺตจิตฺโตติ รูปาทีสุ วิสเยสุ วิกฺขิตฺตจิตฺโต. นิสฺสุกฺโกติ อสุกฺโก สุกฺกธมฺมรหิโต หิโรตฺตปฺปวิวชฺชิโต, กุสลธมฺมสมฺปาทนอุสฺสุกฺกรหิโต วา.

วีตราโคติ วิคตจฺฉนฺทราโค. โอทาตมนสงฺกปฺโปติ สุวิสุทฺธมโนวิตกฺโก, อนาวิลสงฺกปฺโป วา.

กาสาวํ กึ กริสฺสตีติ ยสฺส สีลํ นตฺถิ, ตสฺส กาสาวํ กึ นาม ปโยชนํ สาเธสฺสติ, จิตฺตกตสทิสํ ตสฺส ปพฺพชิตลิงฺคนฺติ อตฺโถ.

ทุฏฺจิตฺตาติ ราคาทิโทเสหิ ทูสิตจิตฺตา. อนาทราติ สตฺถริ ธมฺเม อฺมฺฺจ อาทรรหิตา อคารวา. ตาทีนํ เมตฺตจิตฺตานนฺติ เมตฺตาภาวนาย สมฺปยุตฺตหทเย เตเนว อรหตฺตาธิคเมน อิฏฺาทีสุ ตาทิภาวปฺปตฺเต อุฬารคุเณ. อุปโยคตฺเถ หิ อิทํ สามิวจนํ. นิคฺคณฺหิสฺสนฺตีติ ‘‘สีลาทิสมฺปนฺเน ทิสฺวา เต สมฺภาเวนฺตา วิปนฺนสีเล อมฺเห น พหุํ มฺิสฺสนฺตี’’ติ อตฺตนิ อคารวภเยน ยถา เต อุพฺพาฬฺหา ปกฺกมิสฺสนฺติ, ตถา พาธิสฺสนฺตีติ อตฺโถ.

สิกฺขาเปนฺตาปีติ สิกฺขาปิยมานาปิ. กมฺมตฺเถ หิ อยํ กตฺตุนิทฺเทโส. เถเรหีติ อตฺตโน อาจริยุปชฺฌาเยหิ. จีวรธารณนฺติ อิทํ สมณปฏิปตฺติยา นิทสฺสนมตฺตํ, ตสฺมา ‘‘เอวํ เต อภิกฺกมิตพฺพํ, เอวํ เต ปฏิกฺกมิตพฺพ’’นฺติอาทินา (อ. นิ. ๔.๑๒๒) สิกฺขาปิยมานาปีติ อตฺโถ. น สุณิสฺสนฺตีติ โอวาทํ น คณฺหิสฺสนฺติ.

เต ตถา สิกฺขิตา พาลาติ เต อนฺธพาลา อาจริยุปชฺฌาเยหิ สิกฺขาปิยมานาปิ อนาทรตาย อสิกฺขิตาติ. นาทิยิสฺสนฺตุปชฺฌาเยติ อุปชฺฌาเย อาจริเย จ อาทรํ น กโรนฺติ, เตสํ อนุสาสนิยํ น ติฏฺนฺติ. ยถา กึ? ขฬุงฺโก วิย สารถึ ยถา ขฬุงฺโก ทุฏฺสฺโส อสฺสทมกํ นาทิยติ น ตสฺส อุปเทเส ติฏฺติ, เอวํ เตปิ อุปชฺฌายาจริเย น ภายนฺติ น สารชฺชนฺตีติ อตฺโถ.

‘‘เอว’’นฺติอาทิ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส นิคมนํ. ตตฺถ เอวนฺติ วุตฺตปฺปกาเรน. อนาคตทฺธานนฺติ อนาคตมทฺธานํ, อนาคเต กาเลติ อตฺโถ. ตํเยว สรูปโต ทสฺเสนฺโต ‘‘ปตฺเต กาลมฺหิ ปจฺฉิเม’’ติ อาห. ตตฺถ กตโม ปจฺฉิมกาโล? ‘‘ตติยสงฺคีติโต ปฏฺาย ปจฺฉิมกาโล’’ติ เกจิ, ตํ เอเก นานุชานนฺติ. สาสนสฺส หิ ปฺจยุคานิ วิมุตฺติยุคํ, สมาธิยุคํ, สีลยุคํ, สุตยุคํ, ทานยุคนฺติ. เตสุ ปมํ วิมุตฺติยุคํ, ตสฺมึ อนฺตรหิเต สมาธิยุคํ วตฺตติ, ตสฺมิมฺปิ อนฺตรหิเต สีลยุคํ วตฺตติ, ตสฺมิมฺปิ อนฺตรหิเต สุตยุคํ วตฺตเตว. อปริสุทฺธสีโล หิ เอกเทเสน ปริยตฺติพาหุสจฺจํ ปคฺคยฺห ติฏฺติ ลาภาทิกามตาย. ยทา ปน มาติกาปริโยสานา ปริยตฺติ สพฺพโส อนฺตรธายติ, ตโต ปฏฺาย ลิงฺคมตฺตเมว อวสิสฺสติ, ตทา ยถา ตถา ธนํ สํหริตฺวา ทานมุเขน วิสฺสชฺเชนฺติ, สา กิร เนสํ จริมา สมฺมาปฏิปตฺติ. ตตฺถ สุตยุคโต ปฏฺาย ปจฺฉิมกาโล, ‘‘สีลยุคโต ปฏฺายา’’ติ อปเร.

เอวํ เถโร ปจฺฉิเม กาเล อุปฺปชฺชนกํ มหาภยํ ทสฺเสตฺวา ปุน ตตฺถ สนฺนิปติตภิกฺขูนํ โอวาทํ ททนฺโต ‘‘ปุรา อาคจฺฉเต’’ติอาทินา ติสฺโส คาถา อภาสิ. ตตฺถ ปุรา อาคจฺฉเต เอตนฺติ เอตํ มยา ตุมฺหากํ วุตฺตํ ปฏิปตฺติอนฺตรายกรํ อนาคตํ มหาภยํ อาคจฺฉติ ปุรา, ยาว อาคมิสฺสติ, ตาวเทวาติ อตฺโถ. สุพฺพจาติ วจนกฺขมา โสวจสฺสการเกหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา, ครูนํ อนุสาสนิโย ปทกฺขิณคฺคาหิโน โหถาติ อตฺโถ. สขิลาติ มุทุหทยา.

เมตฺตจิตฺตาติ สพฺพสตฺเตสุ หิตูปสํหารลกฺขณาย เมตฺตาย สมฺปยุตฺตจิตฺตา. การุณิกาติ กรุณาย นิยุตฺตา ปเรสํ ทุกฺขาปนยนาการวุตฺติยา กรุณาย สมนฺนาคตา. อารทฺธวีริยาติ อกุสลานํ ปหานาย กุสลานํ อุปสมฺปทาย ปคฺคหิตวีริยา. ปหิตตฺตาติ นิพฺพานํ ปฏิเปสิตจิตฺตา. นิจฺจนฺติ สพฺพกาลํ. ทฬฺหปรกฺกมาติ ถิรวีริยา.

ปมาทนฺติ ปมชฺชนํ, กุสลานํ ธมฺมานํ อนนุฏฺานํ, อกุสเลสุ จ ธมฺเมสุ จิตฺตโวสฺสคฺโค. วุตฺตฺหิ –

‘‘ตตฺถ กตโม ปมาโท? กายทุจฺจริเต วา วจีทุจฺจริเต วา มโนทุจฺจริเต วา ปฺจสุ วา กามคุเณสุ จิตฺตสฺส โวสฺสคฺโค โวสฺสคฺคานุปฺปทานํ, กุสลานํ ธมฺมานํ ภาวนาย อสกฺกจฺจกิริยตา’’ติอาทิ (วิภ. ๙๓๐).

อปฺปมาทนฺติ อปฺปมชฺชนํ, โส ปมาทสฺส ปฏิปกฺขโต เวทิตพฺโพ. อตฺถโต หิ อปฺปมาโท นาม สติยา อวิปฺปวาโส, อุปฏฺิตาย สติยา เอว เจตํ นามํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ยสฺมา ปมาทมูลกา สพฺเพ อนตฺถา, อปฺปมาทมูลกา จ สพฺเพ อตฺถา, ตสฺมา ปมาทํ ภยโต อุปทฺทวโต ทิสฺวา อปฺปมาทฺจ เขมโต อนุปทฺทวโต ทิสฺวา อปฺปมาทปฏิปตฺติยา สิขาภูตํ สีลาทิกฺขนฺธตฺตยสงฺคหํ สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ อฏฺนฺนํ องฺคานํ วเสน อฏฺงฺคิกํ อริยมคฺคํ ภาเวถ, อมตํ นิพฺพานํ ผุสนฺตา สจฺฉิกโรนฺตา อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปาเทถ, ทสฺสนมคฺคมตฺเต อฏฺตฺวา อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ อุปฺปาทนวเสน วฑฺเฒถ, เอวํ โว อปฺปมาทภาวนา สิขาปตฺตา ภวิสฺสตีติ.

เอวํ เถโร สมฺปตฺตปริสํ โอวทติ. อิมา เอว จิมสฺส เถรสฺส อฺาพฺยากรณคาถา อเหสุนฺติ.

ผุสฺสตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สาริปุตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา

ยถาจารียถาสโตติอาทิกา อายสฺมโต สาริปุตฺตตฺเถรสฺส คาถา. ตสฺส อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส จ วตฺถุ เอวํ เวทิตพฺพํ – อตีเต อิโต สตสหสฺสกปฺปาธิเก อสงฺขฺเยยฺยมตฺถเก อายสฺมา สาริปุตฺโต พฺราหฺมณมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติ, นาเมน สรทมาณโว นาม อโหสิ. มหาโมคฺคลฺลาโน คหปติมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติ, นาเมน สิริวฑฺฒกุฏุมฺพิโก นาม อโหสิ. เต อุโภปิ สหปํสุกีฬกสหายา อเหสุํ. เตสุ สรทมาณโว ปิตุ อจฺจเยน กุลสนฺตกํ ธนํ ปฏิปชฺชิตฺวา เอกทิวสํ รโหคโต จินฺเตสิ – ‘‘อิเมสํ สตฺตานํ มรณํ นาม เอกนฺติกํ, ตสฺมา มยา เอกํ ปพฺพชฺชํ อุปคนฺตฺวา โมกฺขมคฺโค คเวสิตพฺโพ’’ติ สหายํ อุปสงฺกมิตฺวา, สมฺม, อหํ ปพฺพชิตุกาโม, กึ ตฺวํ ปพฺพชิตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ วตฺวา เตน ‘‘น สกฺขิสฺสามี’’ติ วุตฺเต ‘‘โหตุ อหเมว ปพฺพชิสฺสามี’’ติ รตนโกฏฺาคารานิ วิวราเปตฺวา กปณทฺธิกาทีนํ มหาทานํ ทตฺวา ปพฺพตปาทํ คนฺตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิ. ตสฺส ปพฺพชฺชํ อนุปพฺพชิตา จตุสตฺตติสหสฺสมตฺตา พฺราหฺมณปุตฺตา อเหสุํ. โส ปฺจ อภิฺาโย อฏฺ จ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา เตสมฺปิ ชฏิลานํ กสิณปริกมฺมํ อาจิกฺขิ. เตปิ สพฺเพ ปฺจาภิฺา อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตสุํ.

เตน สมเยน อโนมทสฺสี นาม สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก สตฺเต สํสารมโหฆโต ตาเรตฺวา เอกทิวสํ ‘‘สรทตาปสสฺส จ อนฺเตวาสิกานฺจ สงฺคหํ กริสฺสามี’’ติ เอโก อทุติโย ปตฺตจีวรมาทาย อากาเสน คนฺตฺวา ‘‘พุทฺธภาวํ เม ชานาตู’’ติ ตาปสสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว อากาสโต โอตริตฺวา ปถวิยํ ปติฏฺาสิ. สรทตาปโส สตฺถุ สรีเร มหาปุริสลกฺขณานิ อุปธาเรตฺวา ‘‘สพฺพฺุพุทฺโธเยวาย’’นฺติ นิฏฺํ คนฺตฺวา ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา อาสนํ ปฺาเปตฺวา อทาสิ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. สรทตาปโส สตฺถุ สนฺติเก เอกมนฺตํ นิสีทิ.

ตสฺมึ สมเย ตสฺส อนฺเตวาสิกา จตุสตฺตติสหสฺสมตฺตา ชฏิลา ปณีตปณีตานิ โอชวนฺตานิ ผลาผลานิ คเหตฺวา อาคตา สตฺถารํ ทิสฺวา สฺชาตปฺปสาทา อตฺตโน อาจริยสฺส จ สตฺถุ จ นิสินฺนาการํ โอโลเกตฺวา, ‘‘อาจริย, มยํ ปุพฺเพ ‘ตุมฺเหหิ มหนฺตตโร โกจิ นตฺถี’ติ วิจราม, อยํ ปน ปุริโส ตุมฺเหหิ มหนฺตตโร มฺเ’’ติ อาหํสุ. ‘‘กึ วเทถ, ตาตา? สาสเปน สทฺธึ อฏฺสฏฺิโยชนสตสหสฺสุพฺเพธํ สิเนรุํ สมํ กาตุํ อิจฺฉถ? สพฺพฺุพุทฺเธน มํ ตุลฺยํ มา กริตฺถา’’ติ. อถ เต ตาปสา อาจริยสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘ยาว มหา วตายํ ปุริสุตฺตโม’’ติ สพฺเพว ปาเทสุ นิปติตฺวา สตฺถารํ วนฺทึสุ.

อถ เต อาจริโย อาห – ‘‘ตาตา, สตฺถุ อนุจฺฉวิโก โน เทยฺยธมฺโม นตฺถิ, สตฺถา จ ภิกฺขาจารเวลาย อิธาคโต, หนฺท มยํ เทยฺยธมฺมํ ยถาพลํ ทสฺสาม. ตุมฺเหหิ ยํ ยํ ปณีตํ ผลาผลํ อาภตํ, ตํ ตํ อาหรถา’’ติ อาหราเปตฺวา หตฺเถ โธวิตฺวา สยํ ตถาคตสฺส ปตฺเต ปติฏฺาเปสิ. สตฺถารา จ ผลาผเล ปฏิคฺคณฺหิตมตฺเต เทวตา ทิพฺโพชํ ปกฺขิปึสุ. ตาปโส อุทกมฺปิ สยเมว ปริสฺสาเวตฺวา อทาสิ. ตโต โภชนกิจฺจํ นิฏฺาเปตฺวา สตฺถริ นิสินฺเน สพฺเพ อนฺเตวาสิเก ปกฺโกสิตฺวา สตฺถุ สนฺติเก สารณียํ กถํ กเถนฺโต นิสีทิ. สตฺถา ‘‘ทฺเว อคฺคสาวกา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ อาคจฺฉนฺตู’’ติ จินฺเตสิ. เต สตฺถุ จิตฺตํ ตฺวา ตาวเทว สตสหสฺสขีณาสวปริวารา อคฺคสาวกา อาคนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ.

ตโต สรทตาปโส อนฺเตวาสิเก อามนฺเตสิ – ‘‘ตาตา, สตฺถุ ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ปุปฺผาสเนน ปูชา กาตพฺพา, ตสฺมา ปุปฺผานิ อาหรถา’’ติ. เต ตาวเทว อิทฺธิยา วณฺณคนฺธสมฺปนฺนานิ ปุปฺผานิ อาหริตฺวา พุทฺธสฺส โยชนปฺปมาณํ ปุปฺผาสนํ ปฺาเปสุํ, อุภินฺนํ อคฺคสาวกานํ ติคาวุตํ, เสสภิกฺขูนํ อฑฺฒโยชนิกาทิเภทํ, สงฺฆนวกสฺส อุสภมตฺตํ ปฺาเปสุํ. เอวํ เตสํ ปฺตฺเตสุ อาสเนสุ สรทตาปโส ตถาคตสฺส ปุรโต อฺชลึ ปคฺคยฺห ิโต – ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ อนุคฺคหตฺถาย อิมํ ปุปฺผาสนํ อภิรุหถา’’ติ อาห. นิสีทิ ภควา ปุปฺผาสเน. สตฺถริ นิสินฺเน ทฺเว อคฺคสาวกา เสสภิกฺขู จ อตฺตโน อตฺตโน ปตฺตาสเน นิสีทึสุ. สตฺถา ‘‘เตสํ มหปฺผลํ โหตู’’ติ นิโรธํ สมาปชฺชิ. สตฺถุ สมาปนฺนภาวํ ตฺวา ทฺเว อคฺคสาวกาปิ เสสภิกฺขูปิ นิโรธํ สมาปชฺชึสุ. ตาปโส สตฺตาหํ นิรนฺตรํ ปุปฺผจฺฉตฺตํ ธาเรนฺโต อฏฺาสิ. อิตเร ปน วนมูลผลาผลํ ปริภุฺชิตฺวา เสสกาเล อฺชลึ ปคฺคยฺห อฏฺํสุ.

สตฺถา สตฺตาหสฺส อจฺจเยน นิโรธโต วุฏฺาย อคฺคสาวกํ นิสภตฺเถรํ อามนฺเตสิ – ‘‘ตาปสานํ ปุปฺผาสนานุโมทนํ กโรหี’’ติ. เถโร สาวกปารมีาเณ ตฺวา เตสํ ปุปฺผาสนานุโมทนํ อกาสิ. ตสฺส เทสนาวสาเน สตฺถา ทุติยํ อคฺคสาวกํ อโนมตฺเถรํ อามนฺเตสิ – ‘‘ตฺวมฺปิ อิเมสํ ธมฺมํ เทเสหี’’ติ. โสปิ เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ สมฺมสิตฺวา เตสํ ธมฺมํ กเถสิ. ทฺวินฺนมฺปิ เทสนาย เอกสฺสปิ ธมฺมาภิสมโย นาโหสิ. อถ สตฺถา พุทฺธวิสเย ตฺวา ธมฺมเทสนํ อารภิ. เทสนาวสาเน เปตฺวา สรทตาปสํ อวเสสา สพฺเพปิ จตุสตฺตติสหสฺสมตฺตา ชฏิลา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. สตฺถา ‘‘เอถ, ภิกฺขโว’’ติ หตฺถํ ปสาเรสิ. เต ตาวเทว อนฺตรหิตตาปสเวสา อฏฺปริกฺขารวรธรา สฏฺิวสฺสิกตฺเถรา วิย อเหสุํ.

สรทตาปโส ปน ‘‘อโห วตาหมฺปิ อยํ นิสภตฺเถโร วิย อนาคเต เอกสฺส พุทฺธสฺส อคฺคสาวโก ภเวยฺย’’นฺติ สตฺถุ เทสนากาเล อุปฺปนฺนปริวิตกฺกตาย อฺวิหิโต หุตฺวา มคฺคผลานิ ปฏิวิชฺฌิตุํ นาสกฺขิ. อถ ตถาคตํ วนฺทิตฺวา ตถา ปณิธานํ อกาสิ. สตฺถาปิสฺส อนนฺตราเยน สมิชฺฌนภาวํ ทิสฺวา – ‘‘อิโต ตฺวํ กปฺปสตสหสฺสาธิกํ เอกํ อสงฺขฺเยยฺยํ อติกฺกมิตฺวา โคตมสฺส นาม สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อคฺคสาวโก สาริปุตฺโต นาม ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากริตฺวา ธมฺมกถํ วตฺวา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อากาสํ ปกฺขนฺทิ.

สรทตาปโสปิ สหายกสฺส สิริวฑฺฒสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา, สมฺม, มยา อโนมทสฺสิสฺส ภควโต ปาทมูเล อนาคเต อุปฺปชฺชนกสฺส โคตมสฺส นาม สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อคฺคสาวกฏฺานํ ปตฺถิตํ, ตฺวมฺปิ ตสฺส ทุติยสาวกฏฺานํ ปตฺเถหีติ.

สิริวฑฺโฒ ตํ อุปเทสํ สุตฺวา อตฺตโน นิเวสนทฺวาเร อฏฺกรีสมตฺตํ านํ สมตลํ กาเรตฺวา ลาชปฺจมานิ ปุปฺผานิ วิกิริตฺวา นีลุปฺปลจฺฉทนํ มณฺฑปํ กาเรตฺวา พุทฺธาสนํ ปฺาเปตฺวา ภิกฺขูนมฺปิ อาสนานิ ปฺาเปตฺวา มหนฺตํ สกฺการสมฺมานํ สชฺเชตฺวา, สรทตาปเสน สตฺถารํ นิมนฺตาเปตฺวา สตฺตาหํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา, พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ มหารเหหิ วตฺเถหิ อจฺฉาเทตฺวา, ทุติยสาวกภาวาย ปณิธานํ อกาสิ. สตฺถาปิสฺส อนนฺตราเยน สมิชฺฌนภาวํ ทิสฺวา วุตฺตนเยน พฺยากริตฺวา ภตฺตานุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ. สิริวฑฺโฒ หฏฺปหฏฺโ ยาวชีวํ กุสลกมฺมํ กตฺวา ทุติยจิตฺตวาเร กามาวจรเทวโลเก นิพฺพตฺติ. สรทตาปโส จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ.

ตโต ปฏฺาย เนสํ อุภินฺนมฺปิ อนฺตรากมฺมํ น กถิตํ. อมฺหากํ ปน ภควโต อุปฺปตฺติโต ปุเรตรเมว สรทตาปโส ราชคหสฺส อวิทูเร อุปติสฺสคาเม รูปสาริยา พฺราหฺมณิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. ตํทิวสเมวสฺส สหาโยปิ ราชคหสฺเสว อวิทูเร โกลิตคาเม โมคฺคลิยา พฺราหฺมณิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. ตานิ กิร ทฺเวปิ กุลานิ ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา อาพทฺธปฏิพทฺธสหายกาเนว. เตสํ ทฺวินฺนํ เอกทิวสเมว คพฺภปริหารมทํสุ. ทสมาสจฺจเยน ชาตานมฺปิ เตสํ ฉสฏฺิ ธาติโย อุปฏฺาเปสุํ, นามคฺคหณทิวเส รูปสาริพฺราหฺมณิยา ปุตฺตสฺส อุปติสฺสคาเม เชฏฺกุลสฺส ปุตฺตตฺตา อุปติสฺโสติ นามํ อกํสุ. อิตรสฺส โกลิตคาเม เชฏฺกุลสฺส ปุตฺตตฺตา โกลิโตติ นามํ อกํสุ. เต อุโภปิ มหตา ปริวาเรน วฑฺฒนฺตา วุทฺธิมนฺวาย สพฺพสิปฺปานํ ปารํ อคมํสุ.

อเถกทิวสํ เต ราชคเห คิรคฺคสมชฺชํ ปสฺสนฺตา มหาชนํ สนฺนิปติตํ ทิสฺวา าณสฺส ปริปากคตตฺตา โยนิโส อุมฺมุชฺชนฺตา ‘‘สพฺเพปิเม โอรํ วสฺสสตานํ มจฺจุมุเข ปติสฺสนฺตี’’ติ สํเวคํ ปฏิลภิตฺวา ‘‘อมฺเหหิ โมกฺขธมฺโม ปริเยสิตพฺโพ, ตฺจ ปริเยสนฺเตหิ เอกํ ปพฺพชฺชํ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ นิจฺฉยํ กตฺวา ปฺจหิ มาณวกสเตหิ สทฺธึ สฺจยสฺส ปริพฺพาชกสฺส สนฺติเก ปพฺพชึสุ. เตสํ ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย สฺจโย ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺโต อโหสิ . เต กติปาเหเนว สพฺพํ สฺจยสฺส สมยํ ปริคฺคณฺหิตฺวา ตตฺถ สารํ อทิสฺวา ตโต นิกฺขมิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ เต เต ปณฺฑิตสมฺมเต สมณพฺราหฺมเณ ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ, เต เตหิ ปุฏฺา เนว สมฺปายนฺติ, อฺทตฺถุ เตเยว เตสํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺติ. เอวํ เต โมกฺขํ ปริเยสนฺตา กติกํ อกํสุ – ‘‘อมฺเหสุ โย ปมํ อมตํ อธิคจฺฉติ, โส อิตรสฺส อาโรเจตู’’ติ.

เตน จ สมเยน อมฺหากํ สตฺถริ ปมาภิสมฺโพธึ ปตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺเก อนุปุพฺเพน อุรุเวลกสฺสปาทิเก สหสฺสชฏิเล ทเมตฺวา ราชคเห วิหรนฺเต เอกทิวสํ อุปติสฺโส ปริพฺพาชโก ปริพฺพาชการามํ คจฺฉนฺโต อายสฺมนฺตํ อสฺสชิตฺเถรํ ราชคเห ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา ‘‘น มยา เอวรูโป อากปฺปสมฺปนฺโน ปพฺพชิโต ทิฏฺปุพฺโพ, สนฺตธมฺเมน นาม เอตฺถ ภวิตพฺพ’’นฺติ สฺชาตปฺปสาโท ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ อายสฺมนฺตํ อุทิกฺขนฺโต ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธิ. เถโรปิ ลทฺธปิณฺฑปาโต ปริภุฺชิตุํ ปติรูปํ โอกาสํ คโต. ปริพฺพาชโก อตฺตโน ปริพฺพาชกปีํ ปฺาเปตฺวา อทาสิ. ภตฺตกิจฺจปริโยสาเน จสฺส อตฺตโน กุณฺฑิกาย อุทกํ อทาสิ.

เอวํ โส อาจริยวตฺตํ กตฺวา กตภตฺตกิจฺเจน เถเรน สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘โก วา เต สตฺถา, กสฺส วา ตฺวํ ธมฺมํ โรเจสี’’ติ ปุจฺฉิ. เถโร สมฺมาสมฺพุทฺธํ อปทิสิ. ปุน เตน ‘‘กึวาที ปนายสฺมโต สตฺถา’’ติ ปุฏฺโ ‘‘อิมสฺส สาสนสฺส คมฺภีรตํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ อตฺตโน นวกภาวํ ปเวเทตฺวา สงฺเขปวเสน จสฺส สาสนธมฺมํ กเถนฺโต ‘‘เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา’’ติ (มหาว. ๖๐; อป. เถร ๑.๑.๒๘๖; เปฏโก. ๙) คาถมาห. ปริพฺพาชโก ปมปททฺวยเมว สุตฺวา สหสฺสนยสมฺปนฺเน โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาสิ, อิตรํ ปททฺวยํ โสตาปนฺนกาเล นิฏฺาสิ. คาถาปริโยสาเน ปน โสตาปนฺโน หุตฺวา อุปริ วิเสเส อปฺปวตฺเตนฺเต ‘‘ภวิสฺสติ เอตฺถ การณ’’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา เถรํ อาห – ‘‘มา, ภนฺเต, อุปริ ธมฺมเทสนํ วฑฺฒยิตฺถ, เอตฺตกเมว โหตุ, กหํ อมฺหากํ สตฺถา วสตี’’ติ? ‘‘เวฬุวเน’’ติ. ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห ปุรโต คจฺฉถ, อหํ มยฺหํ สหายกสฺส กตปฏิฺํ โมเจตฺวา ตํ คเหตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา เถรํ อุยฺโยเชตฺวา ปริพฺพาชการามํ อคมาสิ.

โกลิตปริพฺพาชโก ตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘มุขวณฺโณ น อฺทิวเสสุ วิย, อทฺธาเนน อมตํ อธิคตํ ภวิสฺสตี’’ติ เตเนวสฺส วิเสสาธิคมํ สมฺภาเวตฺวา อมตาธิคมํ ปุจฺฉิ. โสปิสฺส ‘‘อามาวุโส, อมตํ อธิคต’’นฺติ ปฏิชานิตฺวา ตเมว คาถํ อภาสิ. คาถาปริโยสาเน โกลิโต โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิตฺวา อาห – ‘‘กหํ โน สตฺถา’’ติ? ‘‘เวฬุวเน’’ติ. ‘‘เตน หิ, อาวุโส, อายาม, สตฺถารํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ. อุปติสฺโส สพฺพกาลมฺปิ อาจริยปูชโกว, ตสฺมา สฺจยสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา สตฺถุ คุเณ ปกาเสตฺวา ตมฺปิ สตฺถุ สนฺติกํ เนตุกาโม อโหสิ. โส ลาภาสาปกโต อนฺเตวาสิกภาวํ อนิจฺฉนฺโต ‘‘น สกฺโกมิ จาฏิ หุตฺวา อุทกสิฺจนํ โหตุ’’นฺติ ปฏิกฺขิปิ. เต อเนเกหิ การเณหิ ตํ สฺาเปตุํ อสกฺโกนฺตา อตฺตโน โอวาเท วตฺตมาเนหิ อฑฺฒเตยฺยสเตหิ อนฺเตวาสิเกหิ สทฺธึ เวฬุวนํ อคมํสุ. สตฺถา เต ทูรโตว อาคจฺฉนฺเต ทิสฺวา ‘‘เอตํ เม สาวกยุคํ ภวิสฺสติ อคฺคํ ภทฺทยุค’’นฺติ วตฺวา เตสํ ปริสาย จริยวเสน ธมฺมํ เทเสตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺาเปตฺวา เอหิภิกฺขุภาเวน อุปสมฺปทํ อทาสิ. ยถา เตสํ, เอวํ อคฺคสาวกานมฺปิ อิทฺธิมยปตฺตจีวรํ อาคตเมว. อุปริมคฺคตฺตยกิจฺจํ ปน น นิฏฺาติ. กสฺมา? สาวกปารมีาณสฺส มหนฺตตาย.

เตสุ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ปพฺพชิตทิวสโต สตฺตเม ทิวเส มคธรฏฺเ กลฺลวาลคาเม สมณธมฺมํ กโรนฺโต ถินมิทฺเธ โอกฺกนฺเต สตฺถารา สํเวชิโต ถินมิทฺธํ วิโนเทตฺวา ธาตุกมฺมฏฺานํ (อ. นิ. ๗.๖๑) สุณนฺโต เอว อุปริมคฺคตฺตยํ อธิคนฺตฺวา สาวกปารมีาณสฺส มตฺถกํ ปาปุณิ. อายสฺมา สาริปุตฺโต ปพฺพชิตทิวสโต อฑฺฒมาสํ อติกฺกมิตฺวา สตฺถารา สทฺธึ ราชคเห สูกรขตเลเณ วิหรนฺโต อตฺตโน ภาคิเนยฺยสฺส ทีฆนขปริพฺพาชกสฺส เวทนาปริคฺคหสุตฺตนฺเต (ม. นิ. ๒.๒๐๑ อาทโย) เทสิยมาเน เทสนานุสาเรน าณํ เปเสตฺวา ปรสฺส วฑฺฒิตํ ภตฺตํ ภุฺชนฺโต วิย สาวกปารมีาณสฺส มตฺถกํ ปาปุณิ. อิติ ทฺวินฺนมฺปิ อคฺคสาวกานํ สตฺถุ สมีเป เอว สาวกปารมีาณํ มตฺถกํ ปตฺตํ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๑.๑๔๑-๓๗๔) –

‘‘หิมวนฺตสฺส อวิทูเร, ลมฺพโก นาม ปพฺพโต;

อสฺสโม สุกโต มยฺหํ, ปณฺณสาลา สุมาปิตา.

‘‘อุตฺตานกูลา นทิกา, สุปติตฺถา มโนรมา;

สุสุทฺธปุลินากิณฺณา, อวิทูเร มมสฺสมํ.

‘‘อสกฺขรา อปพฺภารา, สาทุ อปฺปฏิคนฺธิกา;

สนฺทตี นทิกา ตตฺถ, โสภยนฺตา มมสฺสมํ.

‘‘กุมฺภีลา มกรา เจตฺถ, สุสุมารา จ กจฺฉปา;

จรนฺติ นทิยา ตตฺถ, โสภยนฺตา มมสฺสมํ.

‘‘ปาีนา ปาวุสา มจฺฉา, พลชา มุฺชโรหิตา;

วคฺคฬา ปปตายนฺตา, โสภยนฺติ มมสฺสมํ.

‘‘อุโภ กูเลสุ นทิยา, ปุปฺผิโน ผลิโน ทุมา;

อุภโต อภิลมฺพนฺตา, โสภยนฺติ มมสฺสมํ.

‘‘อมฺพา สาลา จ ติลกา, ปาฏลี สินฺทุวารกา;

ทิพฺพคนฺธา สมฺปวนฺติ, ปุปฺผิตา มม อสฺสเม.

‘‘จมฺมกา สฬลา นีปา, นาคปุนฺนาคเกตกา;

ทิพฺพคนฺธา สมฺปวนฺติ, ปุปฺผิตา มม อสฺสเม.

‘‘อติมุตฺตา อโสกา จ, ภคินีมาลา จ ปุปฺผิตา;

องฺโกลา พิมฺพิชาลา จ, ปุปฺผิตา มม อสฺสเม.

‘‘เกตกา กนฺทลิ เจว, โคธุกา ติณสูลิกา;

ทิพฺพคนฺธํ สมฺปวนฺตา, โสภยนฺติ มมสฺสมํ.

‘‘กณิการา กณฺณิกา จ, อสนา อชฺชุนา พหู;

ทิพฺพคนฺธํ สมฺปวนฺตา, โสภยนฺติ มมสฺสมํ.

‘‘ปุนฺนาคา คิริปุนฺนาคา, โกวิฬารา จ ปุปฺผิตา;

ทิพฺพคนฺธํ สมฺปวนฺตา, โสภยนฺติ มมสฺสมํ.

‘‘อุทฺทาลกา จ กุฏชา, กทมฺพา วกุลา พหู;

ทิพฺพคนฺธํ สมฺปวนฺตา, โสภยนฺติ มมสฺสมํ.

‘‘อาฬกา อิสิมุคฺคา จ, กทลิมาตุลุงฺคิโย;

คนฺโธทเกน สํวฑฺฒา, ผลานิ ธารยนฺติ เต.

‘‘อฺเ ปุปฺผนฺติ ปทุมา, อฺเ ชายนฺติ เกสรี;

อฺเ โอปุปฺผา ปทุมา, ปุปฺผิตา ตฬาเก ตทา.

‘‘คพฺภํ คณฺหนฺติ ปทุมา, นิทฺธาวนฺติ มุฬาลิโย;

สิงฺฆาฏิปตฺตมากิณฺณา, โสภนฺติ ตฬาเก ตทา.

‘‘นยิตา อมฺพคนฺธี จ, อุตฺตลี พนฺธุชีวกา;

ทิพฺพคนฺธา สมฺปวนฺติ, ปุปฺผิตา ตฬาเก ตทา.

‘‘ปาีนา ปาวุสา มจฺฉา, พลชา มุฺชโรหิตา;

สํคุลา มคฺคุรา เจว, วสนฺติ ตฬาเก ตทา.

‘‘กุมฺภีลา สุสุมารา จ, ตนฺติคาหา จ รกฺขสา;

โอคุหา อชครา จ, วสนฺติ ตฬาเก ตทา.

‘‘ปาเรวตา รวิหํสา, จกฺกวากา นทีจรา;

โกกิลา สุกสาฬิกา, อุปชีวนฺติ ตํ สรํ.

‘‘กุกุตฺถกา กุฬีรกา, วเน โปกฺขรสาตกา;

ทินฺทิภา สุวโปตา จ, อุปชีวนฺติ ตํ สรํ.

‘‘หํสา โกฺจา มยูรา จ, โกกิลา ตมฺพจูฬกา;

ปมฺปกา ชีวํชีวา จ, อุปชีวนฺติ ตํ สรํ.

‘‘โกสิกา โปฏฺสีสา จ, กุรรา เสนกา พหู;

มหากาฬา จ สกุณา, อุปชีวนฺติ ตํ สรํ.

‘‘ปสทา จ วราหา จ, จมรา คณฺฑกา พหู;

โรหิจฺจา สุกโปตา จ, อุปชีวนฺติ ตํ สรํ.

‘‘สีหพฺยคฺฆา จ ทีปี จ, อจฺฉโกกตรจฺฉกา;

ติธา ปภินฺนมาตงฺคา, อุปชีวนฺติ ตํ สรํ.

‘‘กินฺนรา วานรา เจว, อโถปิ วนกมฺมิกา;

เจตา จ ลุทฺทกา เจว, อุปชีวนฺติ ตํ สรํ.

‘‘ตินฺทุกานิ ปิยาลานิ, มธุเก กาสุมาริโย;

ธุวํ ผลานิ ธาเรนฺติ, อวิทูเร มมสฺสมํ.

‘‘โกสมฺพา สฬลา นิมฺพา, สาทุผลสมายุตา;

ธุวํ ผลานิ ธาเรนฺติ, อวิทูเร มมสฺสมํ.

‘‘หรีตกา อามลกา, อมฺพชมฺพุวิภีตกา;

โกลา ภลฺลาตกา พิลฺลา, ผลานิ ธารยนฺติ เต.

‘‘อาลุวา จ กฬมฺพา จ, พิฬาลีตกฺกฬานิ จ;

ชีวกา สุตกา เจว, พหุกา มม อสฺสเม.

‘‘อสฺสมสฺสาวิทูรมฺหิ, ตฬากาสุํ สุนิมฺมิตา;

อจฺโฉทกา สีตชลา, สุปติตฺถา มโนรมา.

‘‘ปทุมุปฺปลสฺฉนฺนา, ปุณฺฑรีกสมายุตา;

มนฺทาลเกหิ สฺฉนฺนา, ทิพฺพคนฺโธปวายติ.

‘‘เอวํ สพฺพงฺคสมฺปนฺเน, ปุปฺผิเต ผลิเต วเน;

สุกเต อสฺสเม รมฺเม, วิหรามิ อหํ ตทา.

‘‘สีลวา วตสมฺปนฺโน, ฌายี ฌานรโต สทา;

ปฺจาภิฺาพลปฺปตฺโต, สุรุจิ นาม ตาปโส.

‘‘จตุวีสสหสฺสานิ, สิสฺสา มยฺหํ อุปฏฺหุํ;

สพฺเพ มํ พฺราหฺมณา เอเต, ชาติมนฺโต ยสสฺสิโน.

‘‘ลกฺขเณ อิติหาเส จ, สนิฆณฺฑุสเกฏุเภ;

ปทกา เวยฺยากรณา, สธมฺเม ปารมึ คตา.

‘‘อุปฺปาเตสุ นิมิตฺเตสุ, ลกฺขเณสุ จ โกวิทา;

ปถพฺยา ภูมนฺตลิกฺเข, มม สิสฺสา สุสิกฺขิตา.

‘‘อปฺปิจฺฉา นิปกา เอเต, อปฺปาหารา อโลลุปา;

ลาภาลาเภน สนฺตุฏฺา, ปริวาเรนฺติ มํ สทา.

‘‘ฌายี ฌานรตา ธีรา, สนฺตจิตฺตา สมาหิตา;

อากิฺจฺํ ปตฺถยนฺตา, ปริวาเรนฺติ มํ สทา.

‘‘อภิฺาปารมิปฺปตฺตา, เปตฺติเก โคจเร รตา;

อนฺตลิกฺขจรา ธีรา, ปริวาเรนฺติ มํ สทา.

‘‘สํวุตา ฉสุ ทฺวาเรสุ, อเนชา รกฺขิตินฺทฺริยา;

อสํสฏฺา จ เต ธีรา, มม สิสฺสา ทุราสทา.

‘‘ปลฺลงฺเกน นิสชฺชาย, านจงฺกมเนน จ;

วีตินาเมนฺติ เต รตฺตึ, มม สิสฺสา ทุราสทา.

‘‘รชฺชนีเย น รชฺชนฺติ, ทุสฺสนีเย น ทุสฺสเร;

โมหนีเย น มุยฺหนฺติ, มม สิสฺสา ทุราสทา.

‘‘อิทฺธึ วีมํสมานา เต, วตฺตนฺติ นิจฺจกาลิกํ;

ปถวึ เต ปกมฺเปนฺติ, สารพฺเภน ทุราสทา.

‘‘กีฬมานา จ เต สิสฺสา, กีฬนฺติ ฌานกีฬิตํ.

ชมฺพุโต ผลมาเนนฺติ, มม สิสฺสา ทุราสทา.

‘‘อฺเ คจฺฉนฺติ โคยานํ, อฺเ ปุพฺพวิเทหกํ;

อฺเ จ อุตฺตรกุรุํ, เอสนาย ทุราสทา.

‘‘ปุรโต เปเสนฺติ ขารึ, ปจฺฉโต จ วชนฺติ เต;

จตุวีสสหสฺเสหิ, ฉาทิตํ โหติ อมฺพรํ.

‘‘อคฺคิปากี อนคฺคี จ, ทนฺโตทุกฺขลิกาปิ จ;

อสฺเมน โกฏฺฏิตา เกจิ, ปวตฺตผลโภชนา.

‘‘อุทโกโรหณา เกจิ, สายํ ปาโต สุจีรตา;

โตยาภิเสจนกรา, มม สิสฺสา ทุราสทา.

‘‘ปรูฬฺหกจฺฉนขโลมา, ปงฺกทนฺตา รชสฺสิรา;

คนฺธิตา สีลคนฺเธน, มม สิสฺสา ทุราสทา.

‘‘ปาโตว สนฺนิปติตฺวา, ชฏิลา อุคฺคตาปนา;

ลาภาลาภํ ปกิตฺเตตฺวา, คจฺฉนฺติ อมฺพเร ตทา.

‘‘เอเตสํ ปกฺกมนฺตานํ, มหาสทฺโท ปวตฺตติ;

อชินจมฺมสทฺเทน, มุทิตา โหนฺติ เทวตา.

‘‘ทิโสทิสํ ปกฺกมนฺติ, อนฺตลิกฺขจรา อิสี;

สเก พเลนุปตฺถทฺธา, เต คจฺฉนฺติ ยทิจฺฉกํ.

‘‘ปถวีกมฺปกา เอเต, สพฺเพว นภจาริโน;

อุคฺคเตชา ทุปฺปสหา, สาคโรว อโขภิยา.

‘‘านจงฺกมิโน เกจิ, เกจิ เนสชฺชิกา อิสี;

ปวตฺตโภชนา เกจิ, มม สิสฺสา ทุราสทา.

‘‘เมตฺตาวิหาริโน เอเต, หิเตสี สพฺพปาณินํ;

อนตฺตุกฺกํสกา สพฺเพ, น เต วมฺเภนฺติ กสฺสจิ.

‘‘สีหราชาวสมฺภีตา, คชราชาว ถามวา;

ทุราสทา พฺยคฺฆาริว, อาคจฺฉนฺติ มมนฺติเก.

‘‘วิชฺชาธรา เทวตา จ, นาคคนฺธพฺพรกฺขสา;

กุมฺภณฺฑา ทานวา ครุฬา, อุปชีวนฺติ ตํ สรํ.

‘‘เต ชฏาขาริภริตา, อชินุตฺตรวาสนา;

อนฺตลิกฺขจรา สพฺเพ, อุปชีวนฺติ ตํ สรํ.

‘‘สทานุจฺฉวิกา เอเต, อฺมฺํ สคารวา;

จตุพฺพีสสหสฺสานํ, ขิปิตสทฺโท น วิชฺชติ.

‘‘ปาเท ปาทํ นิกฺขิปนฺตา, อปฺปสทฺทา สุสํวุตา;

อุปสงฺกมฺม สพฺเพว, สิรสา วนฺทเร มมํ.

‘‘เตหิ สิสฺเสหิ ปริวุโต, สนฺเตหิ จ ตปสฺสิภิ;

วสามิ อสฺสเม ตตฺถ, ฌายี ฌานรโต อหํ.

‘‘อิสีนํ สีลคนฺเธน, ปุปฺผคนฺเธน จูภยํ;

ผลีนํ ผลคนฺเธน, คนฺธิโต โหติ อสฺสโม.

‘‘รตฺตินฺทิวํ น ชานามิ, อรติ เม น วิชฺชติ;

สเก สิสฺเส โอวทนฺโต, ภิยฺโย หาสํ ลภามหํ.

‘‘ปุปฺผานํ ปุปฺผมานานํ, ผลานฺจ วิปจฺจตํ;

ทิพฺพคนฺธา ปวายนฺติ, โสภยนฺตา มมสฺสมํ.

‘‘สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวา, อตาปี นิปโก อหํ;

ขาริภารํ คเหตฺวาน, วนํ อชฺโฌคหึ อหํ.

‘‘อุปฺปาเต สุปิเน จาปิ, ลกฺขเณสุ สุสิกฺขิโต;

ปวตฺตมานํ มนฺตปทํ, ธารยามิ อหํ ตทา.

‘‘อโนมทสฺสี ภควา, โลกเชฏฺโ นราสโภ;

วิเวกกาโม สมฺพุทฺโธ, หิมวนฺตมุปาคมิ.

‘‘อชฺโฌคาเหตฺวา หิมวนฺตํ, อคฺโค การุณิโก มุนิ;

ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวาน, นิสีทิ ปุริสุตฺตโม.

‘‘ตมทฺทสาหํ สมฺพุทฺธํ, สปฺปภาสํ มโนรมํ;

อินฺทีวรํว ชลิตํ, อาทิตฺตํว หุตาสนํ.

‘‘ชลนฺตํ ทีปรุกฺขํว, วิชฺชุตํ คคเน ยถา;

สุผุลฺลํ สาลราชํว, อทฺทสํ โลกนายกํ.

‘‘อยํ นาโค มหาวีโร, ทุกฺขสฺสนฺตกโร มุนิ;

อิมํ ทสฺสนมาคมฺม, สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจเร.

‘‘ทิสฺวานาหํ เทวเทวํ, ลกฺขณํ อุปธารยึ;

พุทฺโธ นุ โข น วา พุทฺโธ, หนฺท ปสฺสามิ จกฺขุมํ.

‘‘สหสฺสารานิ จกฺกานิ, ทิสฺสนฺติ จรณุตฺตเม;

ลกฺขณานิสฺส ทิสฺวาน, นิฏฺํ คจฺเฉ ตถาคเต.

‘‘สมฺมชฺชนึ คเหตฺวาน, สมฺมชฺชิตฺวานหํ ตทา;

อถ ปุปฺเผ สมาเนตฺวา, พุทฺธเสฏฺํ อปูชยึ.

‘‘ปูชยิตฺวาน สมฺพุทฺธํ, โอฆติณฺณมนาสวํ;

เอกํสํ อชินํ กตฺวา, นมสฺสึ โลกนายกํ.

‘‘เยน าเณน สมฺพุทฺโธ, วิหรติ อนาสโว;

ตํ าณํ กิตฺตยิสฺสามิ, สุณาถ มม ภาสโต.

‘‘สมุทฺธรสิมํ โลกํ, สยมฺภู อมิโตทย;

ตว ทสฺสนมาคมฺม, กงฺขาโสตํ ตรนฺติ เต.

‘‘ตุวํ สตฺถา จ เกตุ จ, ธโช ยูโป จ ปาณินํ;

ปรายโณ ปติฏฺา จ, ทีโป จ ทฺวิปทุตฺตโม.

‘‘สกฺกา สมุทฺเท อุทกํ, ปเมตุํ อาฬฺหเกน วา;

น ตฺเวว ตว สพฺพฺุ, าณํ สกฺกา ปเมตเว.

‘‘ธาเรตุํ ปถวึ สกฺกา, เปตฺวา ตุลมณฺฑเล;

น ตฺเวว ตว สพฺพฺุ, าณํ สกฺกา ธเรตเว.

‘‘อากาโส มินิตุํ สกฺกา, รชฺชุยา องฺคุเลน วา;

น ตฺเวว ตว สพฺพฺุ, าณํ สกฺกา ปเมตเว.

‘‘มหาสมุทฺเท อุทกํ, ปถวิฺจาขิลฺชเห;

พุทฺธาณํ อุปาทาย, อุปมาโต น ยุชฺชเร.

‘‘สเทวกสฺส โลกสฺส, จิตฺตํ เยสํ ปวตฺตติ;

อนฺโตชาลีกตา เอเต, ตว าณมฺหิ จกฺขุม.

‘‘เยน าเณน ปตฺโตสิ, เกวลํ โพธิมุตฺตมํ;

เตน าเณน สพฺพฺุ, มทฺทสี ปรติตฺถิเย.

‘‘อิมา คาถา ถวิตฺวาน, สุรุจิ นาม ตาปโส;

อชินํ ปตฺถริตฺวาน, ปถวิยํ นิสีทิ โส.

‘‘จุลฺลาสีติสหสฺสานิ , อชฺโฌคาฬฺโห มหณฺณเว;

อจฺจุคฺคโต ตาวเทว, คิริราชา ปวุจฺจติ.

‘‘ตาว อจฺจุคฺคโต เนรุ, อายโต วิตฺถโต จ โส;

จุณฺณิโต อณุเภเทน, โกฏิสตสหสฺสโส.

‘‘ลกฺเข ปิยมานมฺหิ, ปริกฺขยมคจฺฉถ;

น ตฺเวว ตว สพฺพฺุ, าณํ สกฺกา ปเมตเว.

‘‘สุขุมจฺฉิเกน ชาเลน, อุทกํ โย ปริกฺขิเป;

เย เกจิ อุทเก ปาณา, อนฺโตชาลีกตา สิยุํ.

‘‘ตเถว หิ มหาวีร, เย เกจิ ปุถุติตฺถิยา;

ทิฏฺิคหนปกฺขนฺทา, ปรามาเสน โมหิตา.

‘‘ตว สุทฺเธน าเณน, อนาวรณทสฺสินา;

อนฺโตชาลีกตา เอเต, าณํ เต นาติวตฺตเร.

‘‘ภควา ตมฺหิ สมเย, อโนมทสฺสี มหายโส;

วุฏฺหิตฺวา สมาธิมฺหา, ทิสํ โอโลกยี ชิโน.

‘‘อโนมทสฺสิมุนิโน, นิสโภ นาม สาวโก;

ปริวุโต สตสหสฺเสหิ, สนฺตจิตฺเตหิ ตาทิภิ.

‘‘ขีณาสเวหิ สุทฺเธหิ, ฉฬภิฺเหิ ฌายิภิ;

จิตฺตมฺาย พุทฺธสฺส, อุเปสิ โลกนายกํ.

‘‘อนฺตลิกฺเข ิตา ตตฺถ, ปทกฺขิณมกํสุ เต;

นมสฺสนฺตา ปฺชลิกา, โอตรุํ พุทฺธสนฺติเก.

‘‘อโนมทสฺสี ภควา, โลกเชฏฺโ นราสโภ;

ภิกฺขุสงฺเฆ นิสีทิตฺวา, สิตํ ปาตุกรี ชิโน.

‘‘วรุโณ นามุปฏฺาโก, อโนมทสฺสิสฺส สตฺถุโน;

เอกํสํ จีวรํ กตฺวา, อปุจฺฉิ โลกนายกํ.

‘‘โก นุ โข ภควา เหตุ, สิตกมฺมสฺส สตฺถุโน;

น หิ พุทฺธา อเหตูหิ, สิตํ ปาตุกโรนฺติ เต.

‘‘อโนมทสฺสี ภควา, โลกเชฏฺโ นราสโภ;

ภิกฺขุมชฺเฌ นิสีทิตฺวา, อิมํ คาถํ อภาสถ.

‘‘โย มํ ปุปฺเผน ปูเชสิ, าณฺจาปิ อนุตฺถวิ;

ตมหํ กิตฺตยิสฺสามิ, สุโณถ มม ภาสโต.

‘‘พุทฺธสฺส คิรมฺาย, สพฺเพ เทวา สมาคตา;

สทฺธมฺมํ โสตุกามา เต, สมฺพุทฺธมุปสงฺกมุํ.

‘‘ทสสุ โลกธาตูสุ, เทวกายา มหิทฺธิกา;

สทฺธมฺมํ โสตุกามา เต, สมฺพุทฺธมุปสงฺกมุํ.

‘‘หตฺถี อสฺสา รถา ปตฺตี, เสนา จ จตุรงฺคินี;

ปริวาเรสฺสนฺติมํ นิจฺจํ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.

‘‘สฏฺิตูริยสหสฺสานิ, เภริโย สมลงฺกตา;

อุปฏฺิสฺสนฺติมํ นิจฺจํ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.

‘‘โสฬสิตฺถิสหสฺสานิ, นาริโย สมลงฺกตา;

วิจิตฺตวตฺถาภรณา, อามุตฺตมณิกุณฺฑลา.

‘‘อฬารปมฺหา หสุลา, สุสฺา ตนุมชฺฌิมา;

ปริวาเรสฺสนฺติมํ นิจฺจํ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.

‘‘กปฺปสตสหสฺสานิ, เทวโลเก รมิสฺสติ;

สหสฺสกฺขตฺตุํ จกฺกวตฺตี, ราชา รฏฺเ ภวิสฺสติ.

‘‘สหสฺสกฺขตฺตุํ เทวินฺโท, เทวรชฺชํ กริสฺสติ;

ปเทสรชฺชํ วิปุลํ, คณนาโต อสงฺขิยํ.

‘‘ปจฺฉิเม ภวสมฺปตฺเต, มนุสฺสตฺตํ คมิสฺสติ;

พฺราหฺมณี สาริยา นาม, ธารยิสฺสติ กุจฺฉินา.

‘‘มาตุยา นามโคตฺเตน, ปฺายิสฺสติยํ นโร;

สาริปุตฺโตติ นาเมน, ติกฺขปฺโ ภวิสฺสติ.

‘‘อสีติโกฏี ฉฑฺเฑตฺวา, ปพฺพชิสฺสติกิฺจโน;

คเวสนฺโต สนฺติปทํ, จริสฺสติ มหึ อิมํ.

‘‘อปริเมยฺเย อิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาโท, โอรโส ธมฺมนิมฺมิโต;

สาริปุตฺโตติ นาเมน, เหสฺสติ อคฺคสาวโก.

‘‘อยํ ภาคีรถี คงฺคา, หิมวนฺตา ปภาวิตา;

มหาสมุทฺทมปฺเปติ, ตปฺปยนฺตี มโหทธึ.

‘‘ตเถวายํ สาริปุตฺโต, สเก ตีสุ วิสารโท;

ปฺาย ปารมึ คนฺตฺวา, ตปฺปยิสฺสติ ปาณิเน.

‘‘หิมวนฺตมุปาทาย , สาครฺจ มโหทธึ;

เอตฺถนฺตเร ยํ ปุลินํ, คณนาโต อสงฺขิยํ.

‘‘ตมฺปิ สกฺกา อเสเสน, สงฺขาตุํ คณนา ยถา;

น ตฺเวว สาริปุตฺตสฺส, ปฺายนฺโต ภวิสฺสติ.

‘‘ลกฺเข ปิยมานมฺหิ, ขีเย คงฺคาย วาลุกา;

น ตฺเวว สาริปุตฺตสฺส, ปฺายนฺโต ภวิสฺสติ.

‘‘มหาสมุทฺเท อูมิโย, คณนาโต อสงฺขิยา;

ตเถว สาริปุตฺตสฺส, ปฺายนฺโต น เหสฺสติ.

‘‘อาราธยิตฺวา สมฺพุทฺธํ, โคตมํ สกฺยปุงฺควํ;

ปฺาย ปารมึ คนฺตฺวา, เหสฺสติ อคฺคสาวโก.

‘‘ปวตฺติตํ ธมฺมจกฺกํ, สกฺยปุตฺเตน ตาทินา;

อนุวตฺเตสฺสติ สมฺมา, วสฺเสนฺโต ธมฺมวุฏฺิโย.

‘‘สพฺพเมตํ อภิฺาย, โคตโม สกฺยปุงฺคโว;

ภิกฺขุสงฺเฆ นิสีทิตฺวา, อคฺคฏฺาเน เปสฺสติ.

‘‘อโห เม สุกตํ กมฺมํ, อโนมทสฺสิสฺส สตฺถุโน;

ยสฺสาหํ การํ กตฺวาน, สพฺพตฺถ ปารมึ คโต.

‘‘อปริเมยฺเย กตํ กมฺมํ, ผลํ ทสฺเสติ เม อิธ;

สุมุตฺโต สรเวโคว, กิเลเส ฌาปยึ อหํ.

‘‘อสงฺขตํ คเวสนฺโต, นิพฺพานํ อจลํ ปทํ;

วิจินํ ติตฺถิเย สพฺเพ, เอสาหํ สํสรึ ภเว.

‘‘ยถาปิ พฺยาธิโต โปโส, ปริเยเสยฺย โอสธํ;

วิจิเนยฺย วนํ สพฺพํ, พฺยาธิโต ปริมุตฺติยา.

‘‘อสงฺขตํ คเวสนฺโต, นิพฺพานํ อมตํ ปทํ;

อพฺโพกิณฺณํ ปฺจสตํ, ปพฺพชึ อิสิปพฺพชํ.

‘‘ชฏาภาเรน ภริโต, อชินุตฺตรนิวาสโน;

อภิฺาปารมึ คนฺตฺวา, พฺรหฺมโลกํ อคจฺฉิหํ.

‘‘นตฺถิ พาหิรเก สุทฺธิ, เปตฺวา ชินสาสนํ;

เย เกจิ พุทฺธิมา สตฺตา, สุชฺฌนฺติ ชินสาสเน.

‘‘อตฺตการมยํ เอตํ, นยิทํ อิติหีติหํ;

อสงฺขตํ คเวสนฺโต, กุติตฺเถ สฺจรึ อหํ.

‘‘ยถา สารตฺถิโก โปโส, กทลึ เฉตฺวาน ผาลเย;

น ตตฺถ สารํ วินฺเทยฺย, สาเรน ริตฺตโก หิ โส.

‘‘ตเถว ติตฺถิยา โลเก, นานาทิฏฺี พหุชฺชนา.

อสงฺขเตน ริตฺตาเส, สาเรน กทลี ยถา.

‘‘ปจฺฉิเม ภวสมฺปตฺเต, พฺรหฺมพนฺธุ อโหสหํ;

มหาโภคํ ฉฑฺเฑตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ.

‘‘อชฺฌายโก มนฺตธโร, ติณฺณํ เวทาน ปารคู;

พฺราหฺมโณ สฺจโย นาม, ตสฺส มูเล วสามหํ.

‘‘สาวโก เต มหาวีร, อสฺสชิ นาม พฺราหฺมโณ;

ทุราสโท อุคฺคเตโช, ปิณฺฑาย จรตี ตทา.

‘‘ตมทฺทสาสึ สปฺปฺํ, มุนึ โมเน สมาหิตํ;

สนฺตจิตฺตํ มหานาคํ, สุผุลฺลํ ปทุมํ ยถา.

‘‘ทิสฺวา เม จิตฺตมุปฺปชฺชิ, สุทนฺตํ สุทฺธมานสํ;

อุสภํ ปวรํ วีรํ, อรหายํ ภวิสฺสติ.

‘‘ปาสาทิโก อิริยติ, อภิรูโป สุสํวุโต;

อุตฺตเม ทมเถ ทนฺโต, อมตทสฺสี ภวิสฺสติ.

‘‘ยํนูนาหํ อุตฺตมตฺถํ, ปุจฺเฉยฺยํ ตุฏฺมานสํ;

โส เม ปุฏฺโ กเถสฺสติ, ปฏิปุจฺฉามหํ ตทา.

‘‘ปิณฺฑปาตํ จรนฺตสฺส, ปจฺฉโต อคมาสหํ;

โอกาสํ ปฏิมาเนนฺโต, ปุจฺฉิตุํ อมตํ ปทํ.

‘‘วีถินฺตเร อนุปฺปตฺตํ, อุปคนฺตฺวาน ปุจฺฉหํ;

กถํ โคตฺโตสิ ตฺวํ วีร, กสฺส สิสฺโสสิ มาริส.

‘‘โส เม ปุฏฺโ วิยากาสิ, อสมฺภีโตว เกสรี;

พุทฺโธ โลเก สมุปฺปนฺโน, ตสฺส สิสฺโสมฺหิ อาวุโส.

‘‘กีทิสํ เต มหาวีร, อนุชาโต มหายโส;

พุทฺธสฺส สาสนํ ธมฺมํ, สาธุ เม กถยสฺสุ โภ.

‘‘โส เม ปุฏฺโ กถี สพฺพํ, คมฺภีรํ นิปุณํ ปทํ;

ตณฺหาสลฺลสฺส หนฺตารํ, สพฺพทุกฺขาปนูทนํ.

‘‘เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา, เตสํ เหตุํ ตถาคโต อาห;

เตสฺจ โย นิโรโธ, เอวํวาที มหาสมโณ.

‘‘โสหํ วิสฺสชฺชิเต ปฺเห, ปมํ ผลมชฺฌคํ;

วิรโช วิมโล อาสึ, สุตฺวาน ชินสาสนํ.

‘‘สุตฺวาน มุนิโน วากฺยํ, ปสฺสิตฺวา ธมฺมมุตฺตมํ;

ปริโยคาฬฺหสทฺธมฺโม, อิมํ คาถมภาสหํ.

‘‘เอเสว ธมฺโม ยทิ ตาวเทว, ปจฺจพฺยถ ปทมโสกํ;

อทิฏฺํ อพฺภตีตํ, พหุเกหิ กปฺปนหุเตหิ.

‘‘ยฺวาหํ ธมฺมํ คเวสนฺโต, กุติตฺเถ สฺจรึ อหํ;

โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, กาโล เม นปฺปมชฺชิตุํ.

‘‘โตสิโตหํ อสฺสชินา, ปตฺวาน อจลํ ปทํ;

สหายกํ คเวสนฺโต, อสฺสมํ อคมาสหํ.

‘‘ทูรโตว มมํ ทิสฺวา, สหาโย เม สุสิกฺขิโต;

อิริยาปถสมฺปนฺโน, อิทํ วจนมพฺรวิ.

‘‘ปสนฺนมุขเนตฺโตสิ, มุนิภาโวว ทิสฺสติ;

อมตาธิคโต กจฺจิ, นิพฺพานมจฺจุตํ ปทํ.

‘‘สุภานุรูโป อายาสิ, อาเนฺชการิโต วิย;

ทนฺโตว ทนฺตทมโถ, อุปสนฺโตสิ พฺราหฺมณ.

‘‘อมตํ มยาธิคตํ, โสกสลฺลาปนูทนํ;

ตฺวมฺปิ ตํ อธิคจฺเฉสิ, คจฺฉาม พุทฺธสนฺติกํ.

‘‘สาธูติ โส ปฏิสฺสุตฺวา, สหาโย เม สุสิกฺขิโต;

หตฺเถน หตฺถํ คณฺหิตฺวา, อุปคมฺม ตวนฺติกํ.

‘‘อุโภปิ ปพฺพชิสฺสาม, สกฺยปุตฺต ตวนฺติเก;

ตว สาสนมาคมฺม, วิหราม อนาสวา.

‘‘โกลิโต อิทฺธิยา เสฏฺโ, อหํ ปฺาย ปารโค;

อุโภว เอกโต หุตฺวา, สาสนํ โสภยามเส.

‘‘อปริโยสิตสงฺกปฺโป, กุติตฺเถ สฺจรึ อหํ;

ตว ทสฺสนมาคมฺม, สงฺกปฺโป ปูริโต มม.

‘‘ปถวิยํ ปติฏฺาย, ปุปฺผนฺติ สมเย ทุมา;

ทิพฺพคนฺธา สมฺปวนฺติ, โตเสนฺติ สพฺพปาณินํ.

‘‘ตเถวาหํ มหาวีร, สกฺยปุตฺต มหายส;

สาสเน เต ปติฏฺาย, สมเยสามิ ปุปฺผิตุํ.

‘‘วิมุตฺติปุปฺผํ เอสนฺโต, ภวสํสารโมจนํ;

วิมุตฺติปุปฺผลาเภน, โตเสมิ สพฺพปาณินํ.

‘‘ยาวตา พุทฺธเขตฺตมฺหิ, เปตฺวาน มหามุนึ;

ปฺาย สทิโส นตฺถิ, ตว ปุตฺตสฺส จกฺขุม.

‘‘สุวินีตา จ เต สิสฺสา, ปริสา จสุสิกฺขิตา;

อุตฺตเม ทมเถ ทนฺตา, ปริวาเรนฺติ ตํ สทา.

‘‘ฌายี ฌานรตา ธีรา, สนฺตจิตฺตา สมาหิตา;

มุนี โมเนยฺยสมฺปนฺนา, ปริวาเรนฺติ ตํ สทา.

‘‘อปฺปิจฺฉา นิปกา ธีรา, อปฺปาหารา อโลลุปา;

ลาภาลาเภน สนฺตุฏฺา, ปริวาเรนฺติ ตํ สทา.

‘‘อารฺิกา ธุตรตา, ฌายิโน ลูขจีวรา;

วิเวกาภิรตา ธีรา, ปริวาเรนฺติ ตํ สทา.

‘‘ปฏิปนฺนา ผลฏฺา จ, เสขา ผลสมงฺคิโน;

อาสีสกา อุตฺตมตฺถํ, ปริวาเรนฺติ ตํ สทา.

‘‘โสตาปนฺนา จ วิมลา, สกทาคามิโน จ เย;

อนาคามี จ อรหา, ปริวาเรนฺติ ตํ สทา.

‘‘สติปฏฺานกุสลา, โพชฺฌงฺคภาวนารตา;

สาวกา เต พหู สพฺเพ, ปริวาเรนฺติ ตํ สทา.

‘‘อิทฺธิปาเทสุ กุสลา, สมาธิภาวนารตา;

สมฺมปฺปธานานุยุตฺตา, ปริวาเรนฺติ ตํ สทา.

‘‘เตวิชฺชา ฉฬภิฺา จ, อิทฺธิยา ปารมึ คตา;

ปฺาย ปารมึ ปตฺตา, ปริวาเรนฺติ ตํ สทา.

‘‘เอทิสา เต มหาวีร, ตว สิสฺสา สุสิกฺขิตา;

ทุราสทา อุคฺคเตชา, ปริวาเรนฺติ ตํ สทา.

‘‘เตหิ สิสฺเสหิ ปริวุโต, สฺเตหิ ตปสฺสิภิ;

มิคราชาวสมฺภีโต, อุฬุราชาว โสภสิ.

‘‘ปถวิยํ ปติฏฺาย, รุหนฺติ ธรณีรุหา;

เวปุลฺลตํ ปาปุณนฺติ, ผลฺจ ทสฺสยนฺติ เต.

‘‘ปถวีสทิโส ตฺวํสิ, สกฺยปุตฺต มหายส;

สาสเน เต ปติฏฺาย, ลภนฺติ อมตํ ผลํ.

‘‘สินฺธุ สรสฺสตี เจว, นนฺทิโย จนฺทภาคิกา;

คงฺคา จ ยมุนา เจว, สรภู จ อโถ มหี.

‘‘เอตาสํ สนฺทมานานํ, สาคโรว สมฺปฏิจฺฉติ;

ชหนฺติ ปุริมํ นามํ, สาคโรเตว ายติ.

‘‘ตเถวิเม จตุพฺพณฺณา, ปพฺพชิตฺวา ตวนฺติเก;

ชหนฺติ ปุริมํ นามํ, พุทฺธปุตฺตาติ ายเร.

‘‘ยถาปิ จนฺโท วิมโล, คจฺฉํ อากาสธาตุยา;

สพฺเพ ตารคเณ โลเก, อาภาย อติโรจติ.

‘‘ตเถว ตฺวํ มหาวีร, ปริวุโต เทวมานุเส;

เอเต สพฺเพ อติกฺกมฺม, ชลสิ สพฺพทา ตุวํ.

‘‘คมฺภีเร อุฏฺิตา อูมี, น เวลมติวตฺตเร;

สพฺพา เวลํว ผุสนฺติ, สฺจุณฺณา วิกิรนฺติ ตา.

‘‘ตเถว ติตฺถิยา โลเก, นานาทิฏฺี พหุชฺชนา;

ธมฺมํ วาทิตุกามา เต, นาติวตฺตนฺติ ตํ มุนึ.

‘‘สเจ จ ตํ ปาปุณนฺติ, ปฏิวาเทหิ จกฺขุม;

ตวนฺติกํ อุปคนฺตฺวา, สฺจุณฺณาว ภวนฺติ เต.

‘‘ยถาปิ อุทเก ชาตา, กุมุทา มนฺทาลกา พหู;

อุปลิมฺปนฺติ โตเยน, กทฺทมกลเลน จ.

‘‘ตเถว พหุกา สตฺตา, โลเก ชาตา วิรูหเร;

อฏฺฏิตา ราคโทเสน, กทฺทเม กุมุทํ ยถา.

‘‘ยถาปิ ปทุมํ ชลชํ, ชลมชฺเฌ วิรูหติ;

น โส ลิมฺปติ โตเยน, ปริสุทฺโธ หิ เกสรี.

‘‘ตเถว ตฺวํ มหาวีร, โลเก ชาโต มหามุนิ;

โนปลิมฺปสิ โลเกน, โตเยน ปทุมํ ยถา.

‘‘ยถาปิ รมฺมเก มาเส, พหู ปุปฺผนฺติ วาริชา;

นาติกฺกมนฺติ ตํ มาสํ, สมโย ปุปฺผนาย โส.

‘‘ตเถว ตฺวํ มหาวีร, ปุปฺผิโต เต วิมุตฺติยา;

สาสนํ นาติวตฺตนฺติ, ปทุมํ วาริชํ ยถา.

‘‘สุปุปฺผิโต สาลราชา, ทิพฺพคนฺธํ ปวายติ;

อฺสาเลหิ ปริวุโต, สาลราชาว โสภติ.

‘‘ตเถว ตฺวํ มหาวีร, พุทฺธาเณน ปุปฺผิโต;

ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต, สาลราชาว โสภสิ.

‘‘ยถาปิ เสโล หิมวา, โอสโธ สพฺพปาณินํ;

นาคานํ อสุรานฺจ, เทวตานฺจ อาลโย.

‘‘ตเถว ตฺวํ มหาวีร, โอสโธ วิย ปาณินํ;

เตวิชฺชา ฉฬภิฺา จ, อิทฺธิยา ปารมึ คตา.

‘‘อนุสิฏฺา มหาวีร, ตยา การุณิเกน เต;

รมนฺติ ธมฺมรติยา, วสนฺติ ตว สาสเน.

‘‘มิคราชา ยถา สีโห, อภินิกฺขมฺม อาสยา;

จตุทฺทิสานุวิโลเกตฺวา, ติกฺขตฺตุํ อภินาทติ.

‘‘สพฺเพ มิคา อุตฺตสนฺติ, มิคราชสฺส คชฺชโต;

ตถา หิ ชาติมา เอโส, ปสู ตาเสติ สพฺพทา.

‘‘คชฺชโต เต มหาวีร, วสุธา สมฺปกมฺปติ;

โพธเนยฺยาวพุชฺฌนฺติ, ตสนฺติ มารกายิกา.

‘‘ตสนฺติ ติตฺถิยา สพฺเพ, นทโต เต มหามุนิ;

กากา เสนาว วิพฺภนฺตา, มิครฺา ยถา มิคา.

‘‘เย เกจิ คณิโน โลเก, สตฺถาโรติ ปวุจฺจเร;

ปรมฺปราคตํ ธมฺมํ, เทเสนฺติ ปริสาย เต.

‘‘น เหวํ ตฺวํ มหาวีร, ธมฺมํ เทเสสิ ปาณินํ;

สามํ สจฺจานิ พุชฺฌิตฺวา, เกวลํ โพธิปกฺขิยํ.

‘‘อาสยานุสยํ ตฺวา; อินฺทฺริยานํ พลาพลํ;

ภพฺพาภพฺเพ วิทิตฺวาน, มหาเมโฆว คชฺชสิ.

‘‘จกฺกวาฬปริยนฺตา, นิสินฺนา ปริสา ภเว;

นานาทิฏฺี วิจินนฺตํ, วิมติจฺเฉทนาย ตํ.

‘‘สพฺเพสํ จิตฺตมฺาย, โอปมฺมกุสโล มุนิ;

เอกํ ปฺหํ กเถนฺโตว, วิมตึ ฉินฺทสิ ปาณินํ.

‘‘อุปติสฺสสทิเสเหว, วสุธา ปูริตา ภเว;

สพฺเพว เต ปฺชลิกา, กิตฺตยุํ โลกนายกํ.

‘‘กปฺปํ วา เต กิตฺตยนฺตา, นานาวณฺเณหิ กิตฺตยุํ;

ปริเมตุํ น สกฺเกยฺยุํ, อปฺปเมยฺโย ตถาคโต.

‘‘ยถา สเกน ถาเมน, กิตฺติโต หิ มยา ชิโน;

กปฺปโกฏีปิ กิตฺเตนฺตา, เอวเมว ปกิตฺตยุํ.

‘‘สเจ หิ โกจิ เทโว วา, มนุสฺโส วา สุสิกฺขิโต;

ปเมตุํ ปริกปฺเปยฺย, วิฆาตํว ลเภยฺย โส.

‘‘สาสเน เต ปติฏฺาย, สกฺยปุตฺต มหายส;

ปฺาย ปารมึ คนฺตฺวา, วิหรามิ อนาสโว.

‘‘ติตฺถิเย สมฺปมทฺทามิ, วตฺเตมิ ชินสาสนํ;

ธมฺมเสนาปติ อชฺช, สกฺยปุตฺตสฺส สาสเน.

‘‘อปริเมยฺเย กตํ กมฺมํ, ผลํ ทสฺเสสิ เม อิธ;

สุขิตฺโต สรเวโคว, กิเลเส ฌาปยี มม.

‘‘โย โกจิ มนุโช ภารํ, ธาเรยฺย มตฺถเก สทา;

ภาเรน ทุกฺขิโต อสฺส, ภาเรหิ ภริโต ตถา.

‘‘ฑยฺหมาโน ตีหคฺคีหิ, ภเวสุ สํสรึ อหํ;

ภริโต ภวภาเรน, คิรึ อุจฺจาริโต ยถา.

‘‘โอโรปิโต จ เม ภาโร, ภวา อุคฺฆาฏิตา มยา;

กรณียํ กตํ สพฺพํ, สกฺยปุตฺตสฺส สาสเน.

‘‘ยาวตา พุทฺธเขตฺตมฺหิ, เปตฺวา สกฺยปุงฺควํ;

อหํ อคฺโคมฺหิ ปฺาย, สทิโส เม น วิชฺชติ.

‘‘สมาธิมฺหิ สุกุสโล, อิทฺธิยา ปารมึ คโต;

อิจฺฉมาโน จหํ อชฺช, สหสฺสํ อภินิมฺมิเน.

‘‘อนุปุพฺพวิหารสฺส, วสีภูโต มหามุนิ;

กเถสิ สาสนํ มยฺหํ, นิโรโธ สยนํ มม.

‘‘ทิพฺพจกฺขุ วิสุทฺธํ เม, สมาธิกุสโล อหํ;

สมฺมปฺปธานานุยุตฺโต, โพชฺฌงฺคภาวนารโต.

‘‘สาวเกน หิ ปตฺตพฺพํ, สพฺพเมว กตํ มยา;

โลกนาถํ เปตฺวาน, สทิโส เม น วิชฺชติ.

‘‘สมาปตฺตีนํ กุสโล, ฌานวิโมกฺขาน ขิปฺปปฏิลาภี;

โพชฺฌงฺคภาวนารโต, สาวกคุณปารมิคโตสฺมิ.

‘‘สาวกคุเณนปิ ผุสฺเสน, พุทฺธิยา ปริสุตฺตมภารวา;

ยํ สทฺธาสงฺคหิตํ จิตฺตํ, สทา สพฺรหฺมจารีสุ.

‘‘อุทฺธตวิโสว สปฺโป, ฉินฺนวิสาโณว อุสโภ;

นิกฺขิตฺตมานทปฺโปว, อุเปมิ ครุคารเวน คณํ.

‘‘ยทิ รูปินี ภเวยฺย, ปฺา เม วสุมตีปิ น สเมยฺย;

อโนมทสฺสิสฺส ภควโต, ผลเมตํ าณถวนาย.

‘‘ปวตฺติตํ ธมฺมจกฺกํ, สกฺยปุตฺเตน ตาทินา;

อนุวตฺเตมหํ สมฺมา, าณถวนายิทํ ผลํ.

‘‘มา เม กทาจิ ปาปิจฺโฉ, กุสีโต หีนวีริโย;

อปฺปสฺสุโต อนาจาโร, สเมโต อหุ กตฺถจิ.

‘‘พหุสฺสุโต จ เมธาวี, สีเลสุ สุสมาหิโต;

เจโตสมถานุยุตฺโต, อปิ มุทฺธนิ ติฏฺตุ.

‘‘ตํ โว วทามิ ภทฺทนฺเต, ตาวนฺเตตฺถ สมาคตา;

อปฺปิจฺฉา โหถ สนฺตุฏฺา, ฌายี ฌานรตา สทา.

‘‘ยมหํ ปมํ ทิสฺวา, วิรโช วิมโล อหุํ;

โส เม อาจริโย ธีโร, อสฺสชิ นาม สาวโก.

‘‘ตสฺสาหํ วาหสา อชฺช, ธมฺมเสนาปตี อหุํ;

สพฺพตฺถ ปารมึ ปตฺวา, วิหรามิ อนาสโว.

‘‘โย เม อาจริโย อาสิ, อสฺสชิ นาม สาวโก;

ยสฺสํ ทิสายํ วสติ, อุสฺสีสมฺหิ กโรมหํ.

‘‘มม กมฺมํ สริตฺวาน, โคตโม สกฺยปุงฺคโว;

ภิกฺขุสงฺเฆ นิสีทิตฺวา, อคฺคฏฺาเน เปสิ มํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อปรภาเค ปน สตฺถา เชตวนมหาวิหาเร อริยคณมชฺเฌ นิสินฺโน อตฺตโน สาวเก เตน เตน คุณวิเสเสน เอตทคฺเค เปนฺโต – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ มหาปฺานํ ยทิทํ สาริปุตฺโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๘-๑๘๙) เถรํ มหาปฺภาเวน เอตทคฺเค เปสิ. โส เอวํ สาวกปารมีาณสฺส มตฺถกํ ปตฺวา ธมฺมเสนาปติฏฺาเน ปติฏฺหิตฺวา สตฺตหิตํ กโรนฺโต เอกทิวสํ สพฺรหฺมจารีนํ อตฺตโน จริยวิภาวนมุเขน อฺํ พฺยากโรนฺโต –

๙๘๑.

‘‘ยถาจารี ยถาสโต สตีมา, ยตสงฺกปฺปชฺฌายิ อปฺปมตฺโต;

อชฺฌตฺตรโต สมาหิตตฺโต, เอโก สนฺตุสิโต ตมาหุ ภิกฺขุํ.

๙๘๒.

‘‘อลฺลํ สุกฺขํ วา ภุฺชนฺโต, น พาฬฺหํ สุหิโต สิยา;

อูนูทโร มิตาหาโร, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช.

๙๘๓.

‘‘จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป, อภุตฺวา อุทกํ ปิเว;

อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน.

๙๘๔.

‘‘กปฺปิยํ ตฺเจ ฉาเทติ, จีวรํ อิทมตฺถิกํ;

อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน.

๙๘๕.

‘‘ปลฺลงฺเกน นิสินฺนสฺส, ชณฺณุเก นาภิวสฺสติ;

อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน.

๙๘๖.

‘‘โย สุขํ ทุกฺขโต อทฺท, ทุกฺขมทฺทกฺขิ สลฺลโต;

อุภยนฺตเรน นาโหสิ, เกน โลกสฺมิ กึ สิยา.

๙๘๗.

‘‘มา เม กทาจิ ปาปิจฺโฉ, กุสีโต หีนวีริโย;

อปฺปสฺสุโต อนาทโร, เกน โลกสฺมิ กึ สิยา.

๙๘๘.

‘‘พหุสฺสุโต จ เมธาวี, สีเลสุ สุสมาหิโต;

เจโตสมถมนุยุตฺโต, อปิ มุทฺธนิ ติฏฺตุ.

๙๘๙.

‘‘โย ปปฺจมนุยุตฺโต, ปปฺจาภิรโต มโค;

วิราธยี โส นิพฺพานํ, โยคกฺเขมํ อนุตฺตรํ.

๙๙๐.

‘‘โย จ ปปฺจํ หิตฺวาน, นิปฺปปฺจปเถ รโต;

อาราธยี โส นิพฺพานํ, โยคกฺเขมํ อนุตฺตรํ.

๙๙๑.

‘‘คาเม วา ยทิ วารฺเ, นินฺเน วา ยทิ วา ถเล;

ยตฺถ อรหนฺโต วิหรนฺติ, ตํ ภูมิรามเณยฺยกํ.

๙๙๒.

‘‘รมณียานิ อรฺานิ, ยตฺถ น รมตี ชโน;

วีตราคา รมิสฺสนฺติ, น เต กามคเวสิโน.

๙๙๓.

‘‘นิธีนํว ปวตฺตารํ, ยํ ปสฺเส วชฺชทสฺสินํ;

นิคฺคยฺหวาทึ เมธาวึ, ตาทิสํ ปณฺฑิตํ ภเช;

ตาทิสํ ภชมานสฺส, เสยฺโย โหติ น ปาปิโย.

๙๙๔.

‘‘โอวเทยฺยานุสาเสยฺย, อสพฺภา จ นิวารเย;

สตฺหิ โส ปิโย โหติ, อสตํ โหติ อปฺปิโย.

๙๙๕.

‘‘อฺสฺส ภควา พุทฺโธ, ธมฺมํ เทเสสิ จกฺขุมา;

ธมฺเม เทสิยมานมฺหิ, โสตมาเธสิมตฺถิโก;

ตํ เม อโมฆํ สวนํ, วิมุตฺโตมฺหิ อนาสโว.

๙๙๖.

‘‘เนว ปุพฺเพนิวาสาย, นปิ ทิพฺพสฺส จกฺขุโน;

เจโตปริยาย อิทฺธิยา, จุติยา อุปปตฺติยา;

โสตธาตุวิสุทฺธิยา, ปณิธี เม น วิชฺชติ.

๙๙๗.

‘‘รุกฺขมูลํว นิสฺสาย, มุณฺโฑ สงฺฆาฏิปารุโต;

ปฺาย อุตฺตโม เถโร, อุปติสฺโสว ฌายติ.

๙๙๘.

‘‘อวิตกฺกํ สมาปนฺโน, สมฺมาสมฺพุทฺธสาวโก;

อริเยน ตุณฺหีภาเวน, อุเปโต โหติ ตาวเท.

๙๙๙.

‘‘ยถาปิ ปพฺพโต เสโล, อจโล สุปฺปติฏฺิโต;

เอวํ โมหกฺขยา ภิกฺขุ, ปพฺพโตว น เวธติ.

๑๐๐๐.

‘‘อนงฺคณสฺส โปสสฺส, นิจฺจํ สุจิคเวสิโน;

วาลคฺคมตฺตํ ปาปสฺส, อพฺภมตฺตํว ขายติ.

๑๐๐๑.

‘‘นาภินนฺทามิ มรณํ, นาภินนฺทามิ ชีวิตํ;

นิกฺขิปิสฺสํ อิมํ กายํ, สมฺปชาโน ปฏิสฺสโต.

๑๐๐๒.

‘‘นาภินนฺทามิ มรณํ, นาภินนฺทามิ ชีวิตํ;

กาลฺจ ปฏิกงฺขามิ, นิพฺพิสํ ภตโก ยถา.

๑๐๐๓.

‘‘อุภเยน มิทํ มรณเมว, นามรณํ ปจฺฉา วา ปุเร วา;

ปฏิปชฺชถ มา วินสฺสถ, ขโณ โว มา อุปจฺจคา.

๑๐๐๔.

‘‘นครํ ยถา ปจฺจนฺตํ, คุตฺตํ สนฺตรพาหิรํ;

เอวํ โคเปถ อตฺตานํ, ขโณ โว มา อุปจฺจคา;

ขณาตีตา หิ โสจนฺติ, นิรยมฺหิ สมปฺปิตา.

๑๐๐๕.

‘‘อุปสนฺโต อุปรโต, มนฺตภาณี อนุทฺธโต;

ธุนาติ ปาปเก ธมฺเม, ทุมปตฺตํว มาลุโต.

๑๐๐๖.

‘‘อุปสนฺโต อุปรโต, มนฺตภาณี อนุทฺธโต;

อปฺปาสิ ปาปเก ธมฺเม, ทุมปตฺตํว มาลุโต.

๑๐๐๗.

‘‘อุปสนฺโต อนายาโส, วิปฺปสนฺโน อนาวิโล;

กลฺยาณสีโล เมธาวี, ทุกฺขสฺสนฺตกโร สิยา.

๑๐๐๘.

‘‘น วิสฺสเส เอกติเยสุ เอวํ, อคาริสุ ปพฺพชิเตสุ จาปิ;

สาธูปิ หุตฺวาน อสาธุ โหนฺติ, อสาธุ หุตฺวา ปุน สาธุ โหนฺติ.

๑๐๐๙.

‘‘กามจฺฉนฺโท จ พฺยาปาโท, ถินมิทฺธฺจ ภิกฺขุโน;

อุทฺธจฺจํ วิจิกิจฺฉา จ, ปฺเจเต จิตฺตเกลิสา.

๑๐๑๐.

‘‘ยสฺส สกฺกริยมานสฺส, อสกฺกาเรน จูภยํ;

สมาธิ น วิกมฺปติ, อปฺปมาทวิหาริโน.

๑๐๑๑.

‘‘ตํ ฌายินํ สาตติกํ, สุขุมทิฏฺิปสฺสกํ;

อุปาทานกฺขยารามํ, อาหุ สปฺปุริโส อิติ.

๑๐๑๒.

‘‘มหาสมุทฺโท ปถวี, ปพฺพโต อนิโลปิ จ;

อุปมาย น ยุชฺชนฺติ, สตฺถุ วรวิมุตฺติยา.

๑๐๑๓.

‘‘จกฺกานุวตฺตโก เถโร, มหาาณี สมาหิโต;

ปถวาปคฺคิสมาโน, น รชฺชติ น ทุสฺสติ.

๑๐๑๔.

‘‘ปฺาปารมิตํ ปตฺโต, มหาพุทฺธิ มหามติ;

อชโฬ ชฬสมาโน, สทา จรติ นิพฺพุโต.

๑๐๑๕.

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา…เป… ภวเนตฺติสมูหตา.

๑๐๑๖.

‘‘สมฺปาเทถปฺปมาเทน, เอสา เม อนุสาสนี;

หนฺทาหํ ปรินิพฺพิสฺสํ, วิปฺปมุตฺโตมฺหิ สพฺพธี’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ. อิมา หิ กาจิ คาถา เถเรน ภาสิตา, กาจิ เถรํ อารพฺภ ภควตา ภาสิตา, สพฺพา ปจฺฉา อตฺตโน จริยปเวทนวเสน เถเรน ภาสิตตฺตา เถรสฺเสว คาถา อเหสุํ.

ตตฺถ ยถาจารีติ ยถา กายาทีหิ สํยโต, สํวุโต หุตฺวา จรติ วิหรติ, ยถาจรณสีโลติ วา ยถาจารี, สีลสมฺปนฺโนติ อตฺโถ. ยถาสโตติ ยถาสนฺโต. คาถาสุขตฺถฺหิ อนุนาสิกโลปํ กตฺวา นิทฺเทโส กโต, สนฺโต วิย, อริเยหิ นิพฺพิเสโสติ อตฺโถ. สตีมาติ ปรมาย สติยา สมนฺนาคโต. ยตสงฺกปฺปชฺฌายีติ สพฺพโส มิจฺฉาสงฺกปฺปํ ปหาย เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทิวเสน สํยตสงฺกปฺโป หุตฺวา อารมฺมณูปนิชฺฌาเนน ลกฺขณูปนิชฺฌาเนน จ ฌายนสีโล. อปฺปมตฺโตติ ตสฺมึเยว ยถาจาริภาเว ยตสงฺกปฺโป หุตฺวา ฌายเนน จ ปมาทรหิโต สพฺพตฺถ สุปฺปติฏฺิตสติสมฺปชฺโ. อชฺฌตฺตรโตติ โคจรชฺฌตฺเต กมฺมฏฺานภาวนาย อภิรโต. สมาหิตตฺโตติ ตาย เอว ภาวนาย เอกคฺคจิตฺโต. เอโกติ อสหาโย คณสํสคฺคํ, กิเลสสํสคฺคฺจ ปหาย กายวิเวกํ, จิตฺตวิเวกฺจ ปริพฺรูหยนฺโต. สนฺตุสิโตติ ปจฺจยสนฺโตเสน จ ภาวนารามสนฺโตเสน จ สมฺมเทว ตุสิโต ตุฏฺโ. ภาวนาย หิ อุปรูปริ วิเสสํ อาวหนฺติยา อุฬารํ ปีติปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ, มตฺถกํ ปตฺตาย ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ตมาหุภิกฺขุนฺติ ตํ เอวรูปํ ปุคฺคลํ สิกฺขตฺตยปาริปูริยา ภยํ อิกฺขนตาย ภินฺนกิเลสตาย จ ภิกฺขูติ วทนฺติ.

อิทานิ ยถาวุตฺตสนฺโตสทฺวเย ปจฺจยสนฺโตสํ ตาว ทสฺเสนฺโต ‘‘อลฺลํ สุกฺขํ วา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อลฺลนฺติ สปฺปิอาทิอุปเสเกน ตินฺตํ สินิทฺธํ. สุกฺขนฺติ ตทภาเวน ลูขํ. วา-สทฺโท อนิยมตฺโถ, อลฺลํ วา สุกฺขํ วาติ. พาฬฺหนฺติ อติวิย. สุหิโตติ ธาโต น สิยาติ อตฺโถ. กถํ ปน สิยาติ อาห ‘‘อูนูทโร มิตาหาโร’’ติ ปณีตํ ลูขํ วาปิ โภชนํ ภุฺชนฺโต ภิกฺขุ ยาวทตฺถํ อภุฺชิตฺวา อูนูทโร สลฺลหุกุทโร, ตโต เอว มิตาหาโร ปริมิตโภชโน อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อาหารํ อาหรนฺโต ตตฺถ มตฺตฺุตาย ปจฺจเวกฺขณสติยา จ สโต หุตฺวา ปริพฺพเช วิหเรยฺย.

ยถา ปน อูนูทโร มิตาหาโร จ นาม โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘จตฺตาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อภุตฺวาติ จตฺตาโร วา ปฺจ วา อาโลเป กพเฬ อภุฺชิตฺวา ตตฺตกสฺส อาหารสฺส โอกาสํ เปตฺวา ปานียํ ปิเวยฺย. อยฺหิ อาหาเร สลฺลหุกวุตฺติ. นิพฺพานฺหิ เปสิตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน ผาสุวิหาราย ฌานาทีนํ อธิคมโยคฺยตาย สุขวิหาราย อลํ ปริยตฺตนฺติ อตฺโถ. อิมินา กุจฺฉิปริหาริยํ ปิณฺฑปาตํ วทนฺโต ปิณฺฑปาเต อิตรีตรสนฺโตสํ ทสฺเสติ. ‘‘ภุตฺวานา’’ติ วา ปาโ, โส จตุปฺจาโลปมตฺเตนาปิ อาหาเรน สรีรํ ยาเปตุํ สมตฺถสฺส อติวิย ถิรปกติกสฺส ปุคฺคลสฺส วเสน วุตฺโต สิยา, อุตฺตรคาถาหิปิ สํสนฺทติ เอว อปฺปกสฺเสว จีวรสฺส เสนาสนสฺส จ วกฺขมานตฺตา.

กปฺปิยนฺติ ยํ กปฺปิยกปฺปิยานุโลเมสุ โขมาทีสุ อฺตรนฺติ อตฺโถ. ตฺเจ ฉาเทตีติ กปฺปิยํ จีวรํ สมานํ ฉาเทตพฺพํ านํ ฉาเทติ เจ, สตฺถารา อนุฺาตชาติยํ สนฺตํ เหฏฺิมนฺเตน อนุฺาตปมาณยุตฺตํ เจ โหตีติ อตฺโถ. อิทมตฺถิกนฺติ อิทํ ปโยชนตฺถํ สตฺถารา วุตฺตปโยชนตฺถํ ยาวเทว สีตาทิปฏิฆาตนตฺถฺเจว หิรีโกปีนปฏิจฺฉาทนตฺถฺจาติ อตฺโถ. เอเตน กายปริหาริยํ จีวรํ ตตฺถ อิตรีตรสนฺโตสฺจ วทติ.

ปลฺลงฺเกน นิสินฺนสฺสาติ ปลฺลงฺกํ วุจฺจติ สมนฺตโต อูรุพทฺธาสนํ, เตน นิสินฺนสฺส, ติสนฺธิปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสินฺนสฺสาติ อตฺโถ. ชณฺณุเกนาภิวสฺสตีติ ยสฺสํ กุฏิยํ ตถา นิสินฺนสฺส เทเว วสฺสนฺเต ชณฺณุกทฺวยํ วสฺโสทเกน น เตมิยติ, เอตฺตกมฺปิ สพฺพปริยนฺตเสนาสนํ , สกฺกา หิ ตตฺถ นิสีทิตฺวา อตฺถกามรูเปน กุลปุตฺเตน สทตฺถํ นิปฺผาเทตุํ. เตนาห ‘‘อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน’’ติ.

เอวํ เถโร อิมาหิ จตูหิ คาถาหิ เย เต ภิกฺขู มหิจฺฉา อสนฺตุฏฺา, เตสํ ปรมุกฺกํสคตํ สลฺเลขโอวาทํ ปกาเสตฺวา อิทานิ เวทนามุเขน ภาวนารามสนฺโตสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โย สุข’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ สุขนฺติ สุขเวทนํ. ทุกฺขโตติ วิปริณามทุกฺขโต. อทฺทาติ อทฺทส, วิปสฺสนาปฺาสหิตาย มคฺคปฺาย ยถาภูตํ โย อปสฺสีติ อตฺโถ. สุขเวทนา หิ ปริโภคกาเล อสฺสาทิยมานาปิ วิสมิสฺสํ วิย โภชนํ วิปริณามกาเล ทุกฺขาเยว โหติ. เตเนตฺถ ทุกฺขานุปสฺสนํ ทสฺเสติ. ทุกฺขมทฺทกฺขิ สลฺลโตติ ทุกฺขเวทนํ โย สลฺลนฺติ ปสฺสิ. ทุกฺขเวทนา หิ ยถา สลฺลํ สรีรํ อนุปวิสนฺตมฺปิ อนุปวิสิตฺวา ิตมฺปิ อุทฺธริยมานมฺปิ ปีฬนเมว ชเนติ, เอวํ อุปฺปชฺชมานาปิ ิติปฺปตฺตาปิ ภิชฺชมานาปิ วิพาธติเยวาติ. เอเตเนตฺถ ทุกฺขานุปสฺสนํเยว อุกฺกํเสตฺวา วทติ, เตน จ ‘‘ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๕) วจนโต เวทนาทฺวเย อตฺตตฺตนิยคาหํ วินิเวเติ. อุภยนฺตเรนาติ อุภเยสํ อนฺตเร, สุขทุกฺขเวทนานํ มชฺฌภูเต อทุกฺขมสุเขติ อตฺโถ. นาโหสีติ ยถาภูตาวโพธเน อตฺตตฺตนิยาภินิเวสนํ อโหสิ. เกน โลกสฺมิ กึ สิยาติ เอวํ เวทนามุเขน ปฺจปิ อุปาทานกฺขนฺเธ ปริชานิตฺวา ตปฺปฏิพทฺธํ สกลกิเลสชาลํ สมุจฺฉินฺทิตฺวา ิโต เกน นาม กิเลเสน โลกสฺมึ พทฺโธ, เทวตาทีสุ กึ วา อายติ สิยา, อฺทตฺถุ ฉินฺนพนฺธโน อปฺตฺติโกว สิยาติ อธิปฺปาโย.

อิทานิ มิจฺฉาปฏิปนฺเน ปุคฺคเล ครหนฺโต สมฺมาปฏิปนฺเน ปสํสนฺโต ‘‘มา เม’’ติอาทิกา จตสฺโส คาถา อภาสิ. ตตฺถ มา เม กทาจิ ปาปิจฺโฉติ โย อสนฺตคุณสมฺภาวนิจฺฉาย ปาปิจฺโฉ , สมณธมฺเม อุสฺสาหาภาเวน กุสีโต, ตโตเยว หีนวีริโย, สจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิปฏิสํยุตฺตสฺส สุตสฺส อภาเวน อปฺปสฺสุโต, โอวาทานุสาสนีสุ อาทราภาเวน อนาทโร, ตาทิโส อติหีนปุคฺคโล มม สนฺติเก กทาจิปิ มา โหตุ. กสฺมา? เกน โลกสฺมิ กึ สิยาติ โลกสฺมึ สตฺตนิกาเย ตสฺส ตาทิสสฺส ปุคฺคลสฺส เกน โอวาเทน กึ ภวิตพฺพํ, เกน วา กเตน กึ สิยา, นิรตฺถกเมวาติ อตฺโถ.

พหุสฺสุโต จาติ โย ปุคฺคโล สีลาทิปฏิสํยุตฺตสฺส สุตฺตเคยฺยาทิเภทสฺส พหุโน สุตสฺส สมฺภเวน พหุสฺสุโต, ธมฺโมชปฺาย ปาริหาริยปฺาย ปฏิเวธปฺาย จ วเสน เมธาวี, สีเลสุ จ สุฏฺุ ปติฏฺิตตฺตา สุสมาหิโต, เจโตสมถํ โลกิยโลกุตฺตรเภทํ จิตฺตสมาธานํ อนุยุตฺโต, ตาทิโส ปุคฺคโล มยฺหํ มตฺถเกปิ ติฏฺตุ, ปเคว สหวาโส.

โย ปปฺจมนุยุตฺโตติ โย ปน ปุคฺคโล กมฺมารามตาทิวเสน รูปาภิสงฺคาทิวเสน จ ปวตฺติยา ปปฺจนฏฺเน ตณฺหาทิเภทํ ปปฺจํ อนุยุตฺโต, ตตฺถ จ อนาทีนวทสฺสเนน อภิรโต มคสทิโส, โส นิพฺพานํ วิราธยิ, โส นิพฺพานา สุวิทูรวิทูเร ิโต.

โย จ ปปฺจํ หิตฺวานาติ โย ปน ปุคฺคโล ตณฺหาปปฺจํ ปหาย ตทภาวโต นิปฺปปฺจสฺส นิพฺพานสฺส ปเถ อธิคมุปาเย อริยมคฺเค รโต ภาวนาภิสมเย อภิรโต, โส นิพฺพานํ อาราธยิ สาเธสิ อธิคจฺฉีติ อตฺโถ.

อเถกทิวสํ เถโร อตฺตโน กนิฏฺภาติกสฺส เรวตตฺเถรสฺส กณฺฏกนิจิตขทิรรุกฺขสฺฉนฺเน นิรุทกกนฺตาเร วาสํ ทิสฺวา ตํ ปสํสนฺโต ‘‘คาเม วา’’ติอาทิกา ทฺเว คาถา อภาสิ. ตตฺถ คาเม วาติ กิฺจาปิ อรหนฺโต คามนฺเต กายวิเวกํ น ลภนฺติ, จิตฺตวิเวกํ ปน ลภนฺเตว. เตสฺหิ ทิพฺพปฏิภาคานิปิ อารมฺมณานิ จิตฺตํ จาเลตุํ น สกฺโกนฺติ, ตสฺมา คาเม วา โหตุ อรฺาทีสุ อฺตรํ วา, ยตฺถ อรหนฺโต วิหรนฺติ, ตํ ภูมิรามเณยฺยกนฺติ โส ภูมิปฺปเทโส รมณีโย เอวาติ อตฺโถ.

อรฺานีติ สุปุปฺผิตตรุสณฺฑมณฺฑิตานิ วิมลสลิลาสยสมฺปนฺนานิ อรฺานิ รมณียานีติ สมฺพนฺโธ. ยตฺถาติ เยสุ อรฺเสุ วิกสิเตสุ วิย รมมาเนสุ กามปกฺขิโก กามคเวสโก ชโน น รมติ. วีตราคาติ วิคตราคา ปน ขีณาสวา ภมรมธุกรา วิย ปทุมวเนสุ ตถารูเปสุ อรฺเสุ รมิสฺสนฺตีติ. น เต กามคเวสิโนติ ยสฺมา เต วีตราคา กามคเวสิโน น โหนฺตีติ อตฺโถ.

ปุน เถโร ราธํ นาม ทุคฺคตพฺราหฺมณํ อนุกมฺปาย ปพฺพาเชตฺวา, อุปสมฺปาเทตฺวา ตเมว ปจฺฉาสมณํ กตฺวา วิจรนฺโต เอกทิวสํ ตสฺส จ สุพฺพจภาเวน ตุสฺสิตฺวา โอวาทํ เทนฺโต ‘‘นิธีนํวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ นิธีนํวาติ ตตฺถ ตตฺถ นิทหิตฺวา ปิตานํ หิรฺสุวณฺณาทิปูรานํ นิธิกุมฺภีนํ. ปวตฺตารนฺติ กิจฺฉชีวิเก ทุคฺคตมนุสฺเส อนุกมฺปํ กตฺวา ‘‘เอหิ เต สุเขน ชีวิตุํ อุปายํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ นิธิฏฺานํ เนตฺวา หตฺถํ ปสาเรตฺวา ‘‘อิมํ คเหตฺวา สุขํ ชีวาหี’’ติ อาจิกฺขิตารํ วิย. วชฺชทสฺสินนฺติ ทฺเว วชฺชทสฺสิโน – ‘‘อิมินา นํ อสารุปฺเปน วา ขลิเตน วา สงฺฆมชฺเฌ นิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ รนฺธคเวสโก จ, อฺาตํ าเปตุกาโม าตํ อสฺสาเทนฺโต สีลาทิวุทฺธิกามตาย ตํ ตํ วชฺชํ โอโลเกนฺโต อุลฺลุมฺปนสภาวสณฺิโต จาติ, อยํ อิธ อธิปฺเปโต. ยถา หิ ทุคฺคตมนุสฺโส ‘‘อิมํ นิธึ คณฺหาหี’’ติ นิคฺคยฺหมาโนปิ นิธิทสฺสเน โกปํ น กโรติ, ปมุทิโตว โหติ, เอวํ เอวรูเปสุ ปุคฺคเลสุ อสารุปฺปํ วา ขลิตํ วา ทิสฺวา อาจิกฺขนฺเต โกโป น กาตพฺโพ, ตุฏฺจิตฺเตเนว ภวิตพฺพํ, ‘‘ภนฺเต, ปุนปิ มํ เอวรูปํ วเทยฺยาถา’’ติ ปวาเรตพฺพเมว. นิคฺคยฺหวาทินฺติ โย วชฺชํ ทิสฺวา อยํ เม สทฺธิวิหาริโก, อนฺเตวาสิโก, อุปการโกติ อจินฺเตตฺวา วชฺชานุรูปํ ตชฺเชนฺโต ปณาเมนฺโต ทณฺฑกมฺมํ กโรนฺโต สิกฺขาเปติ, อยํ นิคฺคยฺหวาที นาม สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิย. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘นิคฺคยฺห นิคฺคยฺหาหํ, อานนฺท, วกฺขามิ; ปวยฺห ปวยฺห, อานนฺท, วกฺขามิ. โย สาโร โส สฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๙๖). เมธาวินฺติ ธมฺโมชปฺาย สมนฺนาคตํ. ตาทิสนฺติ เอวรูปํ ปณฺฑิตํ. ภเชติ ปยิรุปาเสยฺย. ตาทิสฺหิ อาจริยํ ภชมานสฺส อนฺเตวาสิกสฺส เสยฺโย โหติ, น ปาปิโย, วุฑฺฒิเยว โหติ, โน ปริหานีติ อตฺโถ.

อเถกทา อสฺสชิปุนพฺพสุเกหิ กีฏาคิริสฺมึ อาวาเส ทูสิเต สตฺถารา อาณตฺโต อตฺตโน ปริสาย มหาโมคฺคลฺลาเนน จ สทฺธึ ตตฺถ คโต ธมฺมเสนาปติ อสฺสชิปุนพฺพสุเกสุ โอวาทํ อนาทิยนฺเตสุ อิมํ คาถมาห. ตตฺถ โอวเทยฺยาติ โอวาทํ อนุสิฏฺึ ทเทยฺย. อนุสาเสยฺยาติ ตสฺเสว ปริยายวจนํ. อถ วา อุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมึ วทนฺโต โอวทติ นาม, อนุปฺปนฺเน ‘‘อยโสปิ เต สิยา’’ติอาทึ อนาคตํ อุทฺทิสฺส วทนฺโต อนุสาสติ นาม. สมฺมุขา วทนฺโต วา โอวทติ นาม, ปรมฺมุขา ทูตํ, สาสนํ วา เปเสตฺวา วทนฺโต อนุสาสติ นาม. สกึ วทนฺโต วา โอวทติ นาม, ปุนปฺปุนํ วทนฺโต อนุสาสติ นาม. อสพฺภา จาติ อกุสลา ธมฺมา จ นิวารเย, กุสเล ธมฺเม จ ปติฏฺาเปยฺยาติ อตฺโถ. สตฺหิ โสติ เอวรูโป ปุคฺคโล สาธูนํ ปิโย โหติ. เย ปน อสนฺตา อสปฺปุริสา วิติณฺณปรโลกา อามิสจกฺขุกา ชีวิกตฺถาย ปพฺพชิตา, เตสํ โส โอวาทโก อนุสาสโก ‘‘น ตฺวํ อมฺหากํ อุปชฺฌาโย, น อาจริโย, กสฺมา อมฺเห วทสี’’ติ เอวํ มุขสตฺตีหิ วิชฺฌนฺตานํ อปฺปิโย โหตีติ.

‘‘ยํ อารพฺภ สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ, โส เอว อุปนิสฺสยสมฺปนฺโน’’ติ ภิกฺขูสุ กถาย สมุฏฺิตาย ‘‘นยิทเมต’’นฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อฺสฺสา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อฺสฺสาติ อตฺตโน ภาคิเนยฺยํ ทีฆนขปริพฺพาชกํ สนฺธายาห. ตสฺส หิ สตฺถารา เวทนาปริคฺคหสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๒๐๕-๒๐๖) เทสิยมาเน อยํ มหาเถโร ภาวนามคฺเค อธิคนฺตฺวา สาวกปารมีาณสฺส มตฺถกํ ปตฺโต. โสตโมเธสิมตฺถิโกติ สตฺถารํ พีชยมาโน ิโต อตฺถิโก หุตฺวา สุสฺสูสนฺโต โสตํ โอทหึ. ตํเม อโมฆํ สวนนฺติ ตํ ตถา สุตํ สวนํ มยฺหํ อโมฆํ อวฺฌํ อโหสิ, อคฺคสาวเกน ปตฺตพฺพํ สมฺปตฺตีนํ อวสฺสโย อโหสิ. เตนาห ‘‘วิมุตฺโตมฺหี’’ติอาทิ.

ตตฺถ เนว ปุพฺเพนิวาสายาติ อตฺตโน ปเรสฺจ ปุพฺเพนิวาสชานนาณตฺถาย, ปณิธี เม เนว วิชฺชตีติ โยชนา. ปริกมฺมกรณวเสน ตทตฺถํ จิตฺตปณิธานมตฺตมฺปิ เนวตฺถิ เนว อโหสีติ อตฺโถ. เจโตปริยายาติ เจโตปริยาณสฺส. อิทฺธิยาติ อิทฺธิวิธาณสฺส. จุติยา อุปปตฺติยาติ, สตฺตานํ จุติยา อุปปตฺติยา จ ชานนาณาย จุตูปปาตาณตฺถาย. โสตธาตุวิสุทฺธิยาติ ทิพฺพโสตาณสฺส. ปณิธี เม น วิชฺชตีติ อิเมสํ อภิฺาวิเสสานํ อตฺถาย ปริกมฺมวเสน จิตฺตสฺส ปณิธิ จิตฺตาภินีหาโร เม นตฺถิ นาโหสีติ อตฺโถ. สพฺพฺุคุณา วิย หิ พุทฺธานํ อคฺคมคฺคาธิคเมเนว สาวกานํ สพฺเพ สาวกคุณา หตฺถคตา โหนฺติ, น เตสํ อธิคมาย วิสุํ ปริกมฺมกรณกิจฺจํ อตฺถีติ.

รุกฺขมูลนฺติอาทิกา ติสฺโส คาถา กโปตกนฺทรายํ วิหรนฺตสฺส ยกฺเขน ปหตกาเล สมาปตฺติพเลน อตฺตโน นิพฺพิการตาทีปนวเสน วุตฺตา. ตตฺถ มุณฺโฑติ น โวโรปิตเกโส. สงฺฆาฏิปารุโตติ สงฺฆาฏึ ปารุปิตฺวา นิสินฺโน. ‘‘สงฺฆาฏิยา สุปารุโต’’ติ จ ปนฺติ. ปฺาย อุตฺตโม เถโรติ เถโร หุตฺวา ปฺาย อุตฺตโม, สาวเกสุ ปฺาย เสฏฺโติ อตฺโถ. ฌายตีติ อารมฺมณูปนิชฺฌาเนน ลกฺขณูปนิชฺฌาเนน จ ฌายติ, พหุลํ สมาปตฺติวิหาเรน วิหรตีติ อตฺโถ.

อุเปโต โหติ ตาวเทติ ยทา ยกฺเขน สีเส ปหโต, ตาวเทว อวิตกฺกํ จตุตฺถชฺฌานิกผลสมาปตฺตึ สมาปนฺโน อริเยน ตุณฺหีภาเวน อุเปโต สมนฺนาคโต อโหสิ. อตีตตฺเถ หิ โหตีติ อิทํ วตฺตมานวจนํ.

ปพฺพโตว น เวธตีติ โมหกฺขยา ภินฺนสพฺพกิเลโส ภิกฺขุ. โส เสลมยปพฺพโต วิย อจโล สุปฺปติฏฺิโต อิฏฺาทินา เกนจิ น เวธติ, สพฺพตฺถ นิพฺพิกาโร โหตีติ อตฺโถ.

อเถกทิวสํ เถรสฺส อสติยา นิวาสนกณฺเณ โอลมฺพนฺเต อฺตโร สามเณโร, ‘‘ภนฺเต, ปริมณฺฑลํ นิวาเสตพฺพ’’นฺติ อาห. ตํ สุตฺวา ‘‘ภทฺทํ ตยา สุฏฺุ วุตฺต’’นฺติ สิรสา วิย สมฺปฏิจฺฉนฺโต ตาวเทว โถกํ อปกฺกมิตฺวา ปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา ‘‘มาทิสานํ อยมฺปิ โทโสเยวา’’ติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนงฺคณสฺสา’’ติ คาถมาห.

ปุน มรเณ ชีวิเต จ อตฺตโน สมจิตฺตตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นาภินนฺทามี’’ติอาทินา ทฺเว คาถา วตฺวา ปเรสํ ธมฺมํ กเถนฺโต ‘‘อุภเยน มิท’’นฺติอาทินา คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ อุภเยนาติ อุภเยสุ, อุโภสุ กาเลสูติ อตฺโถ. มิทนฺติ ม-กาโร ปทสนฺธิกโร. อิทํ มรณเมว, มรณํ อตฺเถว นาม, อมรณํ นาม นตฺถิ. เกสุ อุโภสุ กาเลสูติ อาห ‘‘ปจฺฉา วา ปุเร วา’’ติ มชฺฌิมวยสฺส ปจฺฉา วา ชราชิณฺณกาเล ปุเร วา ทหรกาเล มรณเมว มรณํ เอกนฺติกเมว. ตสฺมา ปฏิปชฺชถ สมฺมา ปฏิปตฺตึ ปูเรถ วิปฺปฏิปชฺชิตฺวา มา วินสฺสถ อปาเยสุ มหาทุกฺขํ มานุภวถ. ขโณ โว มา อุปจฺจคาติ อฏฺหิ อกฺขเณหิ วิวชฺชิโต อยํ นวโม ขโณ มา ตุมฺเห อติกฺกมีติ อตฺโถ.

อเถกทิวสํ อายสฺมนฺตํ มหาโกฏฺิกํ ทิสฺวา ตสฺส คุณํ ปกาเสนฺโต ‘‘อุปสนฺโต’’ติอาทินา ติสฺโส คาถา อภาสิ. ตตฺถ อนุทฺเทสิกวเสน ‘‘ธุนาตี’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ ปุน เถรสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา วทนฺโต ‘‘อปฺปาสี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อปฺปาสีติ อธุนา ปหาสีติ อตฺโถ. อนายาโสติ อปริสฺสโม, กิเลสทุกฺขรหิโตติ อตฺโถ. วิปฺปสนฺโน อนาวิโลติ วิปฺปสนฺโน อสทฺธิยาทีนํ อภาเวน สุฏฺุ ปสนฺนจิตฺโต อนาวิลสงฺกปฺปตาย อนาวิโล.

น วิสฺสเสติ คาถา เทวทตฺตํ สทฺทหิตฺวา ตสฺส ทิฏฺึ โรเจตฺวา ิเต วชฺชิปุตฺตเก อารพฺภ วุตฺตา. ตตฺถ น วิสฺสเสติ วิสฺสฏฺโ น ภเวยฺย, น สทฺทเหยฺยาติ อตฺโถ. เอกติเยสูติ เอกจฺเจสุ อนวฏฺิตสภาเวสุ ปุถุชฺชเนสุ. เอวนฺติ ยถา ตุมฺเห ‘‘เทวทตฺโต สมฺมา ปฏิปนฺโน’’ติ วิสฺสาสํ อาปชฺชิตฺถ, เอวํ. อคาริสูติ คหฏฺเสุ. สาธูปิ หุตฺวานาติ ยสฺมา ปุถุชฺชนภาโว นาม อสฺสปิฏฺเ ปิตกุมฺภณฺฑํ วิย ถุสราสิมฺหิ นิขาตขาณุกํ วิย จ อนวฏฺิโต, ตสฺมา เอกจฺเจ อาทิโต สาธู หุตฺวา ิตาปิ ปจฺฉา อสาธู โหนฺติ. ยถา เทวทตฺโต ปุพฺเพ สีลสมฺปนฺโน อภิฺาสมาปตฺติลาภี หุตฺวา ลาภสกฺการปกโต อิทานิ ปริหีนวิเสโส ฉินฺนปกฺขกาโก วิย อาปายิโก ชาโต. ตสฺมา ตาทิโส ทิฏฺมตฺเตน ‘‘สาธู’’ติ น วิสฺสาสิตพฺโพ. เอกจฺเจ ปน กลฺยาณมิตฺตสํสคฺคาภาเวน อาทิโต อสาธู หุตฺวาปิ ปจฺฉา กลฺยาณสํสคฺเคน สาธู โหนฺติเยว, ตสฺมา เทวทตฺตสทิเส สาธุปติรูเป ‘‘สาธู’’ติ น วิสฺสาเสยฺยาติ อตฺโถ.

เยสํ กามจฺฉนฺทาทโย จิตฺตุปกฺกิเลสา อวิคตา, เต อสาธู. เยสํ เต วิคตา, เต สาธูติ ทสฺเสตุํ ‘‘กามจฺฉนฺโท’’ติ คาถํ วตฺวา อสาธารณโต อุกฺกํสคตํ สาธุลกฺขณํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺส สกฺกริยมานสฺสา’’ติอาทินา คาถาทฺวยํ วุตฺตํ.

อสาธารณโต ปน อุกฺกํสคตํ ตํ ทสฺเสตุํ สตฺถารํ อตฺตานฺจ อุทาหรนฺโต ‘‘มหาสมุทฺโท’’ติอาทิกา คาถา อภาสิ. ตตฺถ มหาสมุทฺโทติ อยํ มหาสมุทฺโท, มหาปถวี เสโล ปพฺพโต, ปุรตฺถิมาทิเภทโต อนิโล จ อตฺตโน อเจตนาภาเวน อิฏฺานิฏฺํ สหนฺติ, น ปฏิสงฺขานพเลน, สตฺถา ปน ยสฺสา อรหตฺตุปฺปตฺติยา วเสน อุตฺตเม ตาทิภาเว ิโต อิฏฺาทีสุ สพฺพตฺถ สโม นิพฺพิกาโร, ตสฺสา สตฺถุ วรวิมุตฺติยา อคฺคผลวิมุตฺติยา เต มหาสมุทฺทาทโย อุปมาย อุปมาภาเวน น ยุชฺชนฺติ กลภาคมฺปิ น อุเปนฺตีติ อตฺโถ.

จกฺกานุวตฺตโกติ สตฺถารา วตฺติตสฺส ธมฺมจกฺกสฺส อนุวตฺตโก. เถโรติ อเสกฺเขหิ สีลกฺขนฺธาทีหิ สมนฺนาคเมน เถโร. มหาาณีติ มหาปฺโ. สมาหิโตติ อุปจารปฺปนาสมาธินา อนุตฺตรสมาธินา จ สมาหิโต. ปวาปคฺคิสมาโนติ อิฏฺาทิอารมฺมณสนฺนิปาเต นิพฺพิการตาย ปถวิยา อาเปน อคฺคินา จ สทิสวุตฺติโก. เตนาห ‘‘น รชฺชติ น ทุสฺสตี’’ติ.

ปฺาปารมิตํ ปตฺโตติ สาวกาณสฺส ปารมึ ปารโกฏึ ปตฺโต. มหาพุทฺธีติ มหาปุถุหาสชวนติกฺขนิพฺเพธิกภาวปฺปตฺตาย มหติยา พุทฺธิยา ปฺาย สมนฺนาคโต. มหามตีติ ธมฺมนฺวยเวทิตสงฺขาตาย มหติยา นยคฺคาหมติยา สมนฺนาคโต. เย หิ เต จตุพฺพิธา, โสฬสวิธา, จตุจตฺตาลีสวิธา, เตสตฺตติวิธา จ ปฺปฺปเภทา. เตสํ สพฺพโส อนวเสสานํ อธิคตตฺตา มหาปฺตา ทิวิเสสโยคโต จ อยํ มหาเถโร สาติสยํ ‘‘มหาพุทฺธี’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหติ. ยถาห ภควา –

‘‘ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; มหาปฺโ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; ปุถุปฺโ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; หาสปฺโ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; ชวนปฺโ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; ติกฺขปฺโ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; นิพฺเพธิกปฺโ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต’’ติอาทิ (ม. นิ. ๓.๙๓).

ตตฺถายํ ปณฺฑิตภาวาทีนํ วิภาควิภาวนา. ธาตุกุสลตา, อายตนกุสลตา, ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสลตา, านาฏฺานกุสลตาติ อิเมหิ จตูหิ การเณหิ ปณฺฑิโต. มหาปฺตาทีนํ วิภาคทสฺสเน อยํ ปาฬิ –

‘‘กตมา มหาปฺา? มหนฺเต อตฺเถ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต ธมฺเม ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺตา นิรุตฺติโย ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺตานิ ปฏิภานานิ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต สีลกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต สมาธิกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต ปฺากฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต วิมุตฺติกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺตานิ านาฏฺานานิ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺตา วิหารสมาปตฺติโย ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺตานิ อริยสจฺจานิ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต สติปฏฺาเน ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต สมฺมปฺปธาเน ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต อิทฺธิปาเท ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺตานิ อินฺทฺริยานิ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺตานิ พลานิ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต โพชฺฌงฺเค ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต อริยมคฺเค ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺตานิ สามฺผลานิ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺตา อภิฺาโย ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา.

‘‘กตมา ปุถุปฺา? ปุถุนานาขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา , ปุถุนานาธาตูสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาอายตเนสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาปฏิจฺจสมุปฺปาเทสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาสุฺตมนุปลพฺเภสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาอตฺเถสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาธมฺเมสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานานิรุตฺตีสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาปฏิภาเนสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาสีลกฺขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาสมาธิกฺขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาปฺากฺขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาวิมุตฺติกฺขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาวิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาานาฏฺาเนสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาวิหารสมาปตฺตีสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาอริยสจฺเจสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาสติปฏฺาเนสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาสมฺมปฺปธาเนสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาอิทฺธิปาเทสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาอินฺทฺริเยสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาพเลสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาโพชฺฌงฺเคสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาอริยมคฺเคสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาสามฺผเลสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุนานาอภิฺาสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา, ปุถุชฺชนสาธารเณ ธมฺเม อติกฺกมฺม ปรมตฺเถ นิพฺพาเน าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา.

‘‘กตมา หาสปฺา? อิเธกจฺโจ หาสพหุโล เวทพหุโล ตุฏฺิพหุโล ปาโมชฺชพหุโล สีลานิ ปริปูเรตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล…เป… ปาโมชฺชพหุโล อินฺทฺริยสํวรํ ปริปูเรตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล…เป… ปาโมชฺชพหุโล โภชเน มตฺตฺุตํ ปริปูเรตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล…เป… ปาโมชฺชพหุโล ชาคริยานุโยคํ ปริปูเรตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล…เป… ปาโมชฺชพหุโล สีลกฺขนฺธํ…เป… สมาธิกฺขนฺธํ, ปฺากฺขนฺธํ, วิมุตฺติกฺขนฺธํ, วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺธํ ปริปูเรตีติ…เป… ปฏิวิชฺฌตีติ. วิหารสมาปตฺติโย ปริปูเรตีติ, อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌตีติ, สติปฏฺาเน ภาเวตีติ, สมฺมปฺปธาเน ภาเวตีติ, อิทฺธิปาเท ภาเวตีติ, อินฺทฺริยานิ ภาเวตีติ, พลานิ ภาเวตีติ, โพชฺฌงฺเค ภาเวตีติ, อริยมคฺคํ ภาเวตีติ…เป… สามฺผลานิ สจฺฉิกโรตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล เวทพหุโล ตุฏฺิพหุโล ปาโมชฺชพหุโล อภิฺาโย ปฏิวิชฺฌตีติ หาสปฺา; หาสพหุโล เวทพหุโล ตุฏฺิพหุโล ปาโมชฺชพหุโล ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตีติ หาสปฺา.

‘‘กตมา ชวนปฺา? ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ…เป… ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ รูปํ อนิจฺจโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา, ทุกฺขโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา, อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา; ยา กาจิ เวทนา…เป… ยํ กิฺจิ วิฺาณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ…เป… สพฺพํ วิฺาณํ อนิจฺจโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา, ทุกฺขโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา, อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. จกฺขุ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ, อนิจฺจโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา, ทุกฺขโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา, อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา.

‘‘รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ ขยฏฺเน, ทุกฺขํ ภยฏฺเน, อนตฺตา อสารกฏฺเนาติ ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา รูปนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา…เป… เวทนา…เป… สฺา… สงฺขารา… วิฺาณํ… จกฺขุ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ ขยฏฺเน, ทุกฺขํ ภยฏฺเน, อนตฺตา อสารกฏฺเนาติ ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา ชรามรณนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา.

‘‘รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมนฺติ ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา รูปนิโรเธ ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. เวทนา…เป… สฺา… สงฺขารา… วิฺาณํ… จกฺขุ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมนฺติ ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา ชรามรณนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา.

‘‘กตมา ติกฺขปฺา? ขิปฺปํ กิเลเส ฉินฺทตีติ ติกฺขปฺา, อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมตีติ ติกฺขปฺา; อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมตีติ ติกฺขปฺา; อุปฺปนฺนํ วิหึสาวิตกฺกํ นาธิวาเสติ…เป… อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมตีติ ติกฺขปฺา; อุปฺปนฺนํ ราคํ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมตีติ ติกฺขปฺา; อุปฺปนฺนํ โทสํ…เป… อุปฺปนฺนํ โมหํ… อุปฺปนฺนํ โกธํ… อุปฺปนฺนํ อุปนาหํ… มกฺขํ… ปฬาสํ… อิสฺสํ… มจฺฉริยํ… มายํ… สาเยฺยํ… ถมฺภํ… สารมฺภํ… มานํ… อติมานํ… มทํ… ปมาทํ… สพฺเพ กิเลเส… สพฺเพ ทุจฺจริเต… สพฺเพ อภิสงฺขาเร…เป… สพฺเพ ภวคามิกมฺเม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมตีติ ติกฺขปฺา. เอกสฺมึ อาสเน จตฺตาโร จ อริยมคฺคา, จตฺตาริ สามฺผลานิ, จตสฺโส ปฏิสมฺภิทาโย, ฉ อภิฺาโย อธิคตา โหนฺติ สจฺฉิกตา ผสฺสิตา ปฺายาติ ติกฺขปฺา.

‘‘กตมา นิพฺเพธิกปฺา? อิเธกจฺโจ สพฺพสงฺขาเรสุ อุพฺเพคพหุโล โหติ อุตฺตาสพหุโล อุกฺกณฺนพหุโล อรติพหุโล อนภิรติพหุโล พหิมุโข น รมติ สพฺพสงฺขาเรสุ, อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปทาลิตปุพฺพํ โลภกฺขนฺธํ นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกปฺา, อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปทาลิตปุพฺพํ โทสกฺขนฺธํ นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกปฺา, อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปทาลิตปุพฺพํ โมหกฺขนฺธํ นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกปฺา; อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปทาลิตปุพฺพํ โกธํ…เป… อุปนาหํ…เป… สพฺเพ ภวคามิกมฺเม นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกปฺา’’ติ (ปฏิ. ม. ๓.๖-๗).

เอวํ ยถาวุตฺตวิภาคาย มหติยา ปฺาย สมนฺนาคตตฺตา ‘‘มหาพุทฺธี’’ติ วุตฺตํ.

อปิจ อนุปทธมฺมวิปสฺสนาวเสนาปิ อิมสฺส เถรสฺส มหาปฺตา เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘สาริปุตฺโต, ภิกฺขเว, อฑฺฒมาสํ อนุปทธมฺมวิปสฺสนํ วิปสฺสติ. ตตฺริทํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺตสฺส อนุปทธมฺมวิปสฺสนาย โหติ.

‘‘อิธ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เย จ ปเม ฌาเน ธมฺมา วิตกฺโก จ…เป… จิตฺเตกคฺคตา จ ผสฺโส เวทนา สฺา เจตนา จิตฺตํ ฉนฺโท อธิโมกฺโข วีริยํ สติ อุเปกฺขา มนสิกาโร, ตฺยาสฺส ธมฺมา อนุปทววตฺถิตา โหนฺติ, ตฺยาสฺส ธมฺมา วิทิตา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ. โส เอวํ ปชานาติ ‘เอวํ กิร เม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’ติ. โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติ. โส ‘อตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณ’นฺติ ปชานาติ. ตพฺพหุลีการา อตฺถิตฺเววสฺส โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ… ตติยํ ฌานํ… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อากาสานฺจายตนํ… วิฺาณฺจายตนํ… อากิฺจฺายตนํ… สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตาย สมาปตฺติยา สโต วุฏฺหติ, โส ตาย สมาปตฺติยา สโต วุฏฺหิตฺวา เย ธมฺมา อตีตา นิรุทฺธา วิปริณตา, เต ธมฺเม สมนุปสฺสติ ‘‘เอวํ กิร เม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’’ติ. โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติ. โส ‘อตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณ’นฺติ ปชานาติ. ตพฺพหุลีการา อตฺถิตฺเววสฺส โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. โส ตาย สมาปตฺติยา สโต วุฏฺหติ, โส ตาย สมาปตฺติยา สโต วุฏฺหิตฺวา เย ธมฺมา อตีตา นิรุทฺธา วิปริณตา, เต ธมฺเม สมนุปสฺสติ ‘เอวํ กิร เม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’ติ. โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติ, โส ‘นตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณ’นฺติ ปชานาติ. ตพฺพหุลีการา นตฺถิตฺเววสฺส โหติ.

‘‘ยํ โข ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย ‘วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยสฺมึ สีลสฺมึ, วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยสฺมึ สมาธิสฺมึ, วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยาย ปฺาย, วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยาย วิมุตฺติยา’ติ. สาริปุตฺตเมเวตํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺยา’’ติ (ม. นิ. ๓.๙๓-๙๗).

เอวํ มหาปุถุหาสชวนติกฺขนิพฺเพธิกภาวปฺปตฺตาย มหติยา พุทฺธิยา สมนฺนาคตตฺตา เถโร มหาพุทฺธีติ อตฺโถ. ธมฺมนฺวยเวทิตา ปนสฺส สมฺปสาทนียสุตฺเตน (ที. นิ. ๓.๑๔๑ อาทโย) ทีเปตพฺพา. ตตฺถ หิ สพฺพฺุตฺาณสทิโส เถรสฺส นยคฺคาโห วุตฺโต. อชโฬ ชฬสมาโนติ สาวเกสุ ปฺาย อุกฺกํสคตตฺตา สพฺพถาปิ อชโฬ สมาโน ปรมปฺปิจฺฉตาย อตฺตานํ อชานนฺตํ วิย กตฺวา, ทสฺสเนน ชฬสทิโส มนฺทสริกฺโข กิเลสปริฬาหาภาเวน นิพฺพุโต สีติภูโต สทา จรติ นิจฺจํ วิหรตีติ อตฺโถ.

ปริจิณฺโณติ คาถา เถเรน อตฺตโน กตกิจฺจตํ ปกาเสนฺเตน ภาสิตา, สาปิ วุตฺตตฺถาเยว.

สมฺปาเทถปฺปมาเทนาติ อยํ ปน อตฺตโน ปรินิพฺพานกาเล สนฺนิปติตานํ ภิกฺขูนํ โอวาททานวเสน ภาสิตา. สาปิ วุตฺตตฺถาเยวาติ.

สาริปุตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อานนฺทตฺเถรคาถาวณฺณนา

ปิสุเณนจ โกธเนนาติอาทิกา อายสฺมโต อานนฺทตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร สตฺถุ เวมาติกภาตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ, สุมโนติสฺส นามํ อโหสิ. ปิตา ปนสฺส อานนฺทราชา นาม. โส อตฺตโน ปุตฺตสฺส สุมนกุมารสฺส วยปฺปตฺตสฺส หํสวติโต วีสโยชนสเต าเน โภคนครํ อทาสิ. โส กทาจิ กทาจิ อาคนฺตฺวา อตฺตานฺจ ปิตรฺจ ปสฺสติ. ตทา ราชา สตฺถารฺจ สตสหสฺสปริมาณํ ภิกฺขุสงฺฆฺจ สยเมว สกฺกจฺจํ อุปฏฺหิ, อฺเสํ อุปฏฺาตุํ น เทติ.

เตน สมเยน ปจฺจนฺโต กุปิโต อโหสิ. กุมาโร ตสฺส กุปิตภาวํ รฺโ อนาโรเจตฺวา สยเมว ตํ วูปสเมติ. ตํ สุตฺวา ราชา ตุฏฺมานโส ปุตฺตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘วรํ เต, ตาต ทมฺมิ, วรํ คณฺหาหี’’ติ อาห. กุมาโร ‘‘สตฺถารํ ภิกฺขุสงฺฆฺจ เตมาสํ อุปฏฺหนฺโต ชีวิตํ อวฺฌํ กาตุํ อิจฺฉามี’’ติ อาห. ‘‘เอตํ น สกฺกา, อฺํ วเทหี’’ติ. ‘‘เทว, ขตฺติยานํ ทฺเวกถา นาม นตฺถิ, เอตเทว เม เทหิ, น มยฺหํ อฺเน อตฺโถ’’ติ. ‘‘สเจ สตฺถา อนุชานาติ, ทินฺนเมวา’’ติ. โส ‘‘สตฺถุ จิตฺตํ ชานิสฺสามี’’ติ วิหารํ คโต.

เตน จ สมเยน ภควา ภตฺตกิจฺจํ นิฏฺาเปตฺวา คนฺธกุฏึ ปวิฏฺโ โหติ. โส ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ ทสฺสนาย อาคโต, ทสฺเสถ เม ภควนฺต’’นฺติ อาห. ภิกฺขู ‘‘สุมโน นาม เถโร สตฺถุ อุปฏฺาโก, ตสฺส สนฺติกํ คจฺฉาหี’’ติ อาหํสุ. โส เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘สตฺถารํ, ภนฺเต, เม ทสฺเสถา’’ติ อาห. อถ เถโร ตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว ปถวิยํ นิมุชฺชิตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ราชปุตฺโต ตุมฺหากํ ทสฺสนาย อาคโต’’ติ อาห. ‘‘เตน หิ, ภิกฺขุ, พหิ อาสนํ ปฺาเปหี’’ติ. เถโร ปุนปิ ตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว พุทฺธาสนํ คเหตฺวา อนฺโตคนฺธกุฏิยํ นิมุชฺชิตฺวา พหิปริเวเณ ปาตุภวิตฺวา คนฺธกุฏิปริเวเณ อาสนํ ปฺาเปสิ. กุมาโร ตํ ทิสฺวา ‘‘มหนฺโต วตายํ ภิกฺขู’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ.

ภควาปิ คนฺธกุฏิโต นิกฺขมิตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทิ. ราชปุตฺโต สตฺถารํ วนฺทิตฺวา, ปฏิสนฺถารํ กตฺวา, อยํ, ภนฺเต, เถโร ตุมฺหากํ สาสเน วลฺลโภ มฺเติ. ‘‘อาม กุมาร, วลฺลโภ’’ติ? ‘‘กึ กตฺวา, ภนฺเต, เอส วลฺลโภ โหตี’’ติ?‘‘ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา’’ติ. ‘‘ภควา , อหมฺปิ อยํ เถโร วิย อนาคเต พุทฺธสาสเน วลฺลโภ โหตุกาโม’’ติ สตฺถาหํ ขนฺธาวารภตฺตํ นาม ทตฺวาปิ สตฺตเม ทิวเส, ภนฺเต, มยา ปิตุ สนฺติกา เตมาสํ ตุมฺหากํ ปฏิชคฺคนวโร ลทฺโธ, เตมาสํ เม วสฺสาวาสํ อธิวาเสถาติ. ภควา, ‘‘อตฺถิ นุ โข ตตฺถ คเตน อตฺโถ’’ติ โอโลเกตฺวา ‘‘อตฺถี’’ติ ทิสฺวา ‘‘สุฺาคาเร โข, กุมาร, ตถาคตา อภิรมนฺตี’’ติ อาห. กุมาโร ‘‘อฺาตํ ภควา, อฺาตํ สุคตา’’ติ วตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, ปุริมตรํ คนฺตฺวา วิหารํ กาเรมิ, มยา เปสิเต ภิกฺขุสตสหสฺเสน สทฺธึ อาคจฺฉถา’’ติ ปฏิฺํ คเหตฺวา ปิตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ทินฺนา เม, เทว, ภควตา ปฏิฺา, มยา ปหิเต ภควนฺตํ เปเสยฺยาถา’’ติ ปิตรํ วนฺทิตฺวา, นิกฺขมิตฺวา โยชเน โยชเน วิหารํ กโรนฺโต วีสโยชนสตํ อทฺธานํ คโต. คนฺตฺวา จ อตฺตโน นคเร วิหารฏฺานํ วิจินนฺโต โสภนสฺส นาม กุฏุมฺพิกสฺส อุยฺยานํ ทิสฺวา สตสหสฺเสน กิณิตฺวา สตสหสฺสํ วิสฺสชฺเชตฺวา วิหารํ กาเรสิ. ตตฺถ ภควโต คนฺธกุฏึ เสสภิกฺขูนฺจ รตฺติฏฺานทิวาฏฺานตฺถาย กุฏิเลณมณฺฑเป กาเรตฺวา ปาการปริกฺเขปํ ทฺวารโกฏฺกฺจ นิฏฺาเปตฺวา ปิตุ สนฺติกํ เปเสสิ ‘‘นิฏฺิตํ มยฺหํ กิจฺจํ, สตฺถารํ ปหิณถา’’ติ.

ราชา ภควนฺตํ โภเชตฺวา ‘‘ภควา สุมนสฺส กิจฺจํ นิฏฺิตํ, ตุมฺหากํ คมนํ ปจฺจาสีสตี’’ติ อาห. ภควา สตสหสฺสภิกฺขุปริวุโต โยชเน โยชเน วิหาเรสุ วสมาโน อคมาสิ. กุมาโร ‘‘สตฺถา อาคจฺฉตี’’ติ สุตฺวา โยชนํ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา คนฺธมาลาทีหิ ปูชยมาโน สตสหสฺเสน กีเต โสภเน นาม อุยฺยาเน สตสหสฺเสน การิตํ วิหารํ ปเวเสตฺวา –

‘‘สตสหสฺเสน เม กีตํ, สตสหสฺเสน มาปิตํ;

โสภนํ นาม อุยฺยานํ, ปฏิคฺคณฺห มหามุนี’’ติ. –

ตํ นิยฺยาเทสิ. โส วสฺสูปนายิกทิวเส มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา ‘‘อิมินาว นีหาเรน ทานํ ทเทยฺยาถา’’ติ ปุตฺตทาเร อมจฺเจ จ กิจฺจกรณีเยสุ จ นิโยเชตฺวา สยํ สุมนตฺเถรสฺส วสนฏฺานสมีเปเยว วสนฺโต เตมาสํ สตฺถารํ อุปฏฺหนฺโต อุปกฏฺาย ปวารณาย คามํ ปวิสิตฺวา สตฺตาหํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา สตฺตเม ทิวเส สตฺถุ ภิกฺขุสตสหสฺสสฺส จ ปาทมูเล ติจีวรานิ เปตฺวา วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ยเทตํ มยา สตฺตาหํ ขนฺธาวารทานโต ปฏฺาย ปุฺํ กตํ, น ตํ สคฺคสมฺปตฺติอาทีนํ อตฺถาย, อถ โข อหํ อยํ สุมนตฺเถโร วิย อนาคเต เอกสฺส พุทฺธสฺส อุปฏฺาโก ภเวยฺย’’นฺติ ปณิธานํ อกาสิ. สตฺถาปิสฺส อนนฺตรายตํ ทิสฺวา พฺยากริตฺวา ปกฺกามิ.

โสปิ ตสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท วสฺสสตสหสฺสํ ปุฺานิ กตฺวา ตโต ปรมฺปิ ตตฺถ ตตฺถ ภเว อุฬารานิ ปุฺกมฺมานิ อุปจินิตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต กสฺสปสฺส ภควโต กาเล ปิณฺฑาย จรโต เอกสฺส เถรสฺส ปตฺตคฺคหณตฺถํ อุตฺตรสาฏกํ ทตฺวา ปูชํ อกาสิ. ปุน สคฺเค นิพฺพตฺติตฺวา ตโต จุโต พาราณสิราชา หุตฺวา อฏฺ ปจฺเจกพุทฺเธ ทิสฺวา เต โภเชตฺวา อตฺตโน มงฺคลุยฺยาเน อฏฺ ปณฺณสาลาโย กาเรตฺวา เตสํ นิสีทนตฺถาย อฏฺ สพฺพรตนมยปีเ เจว มณิอาธารเก จ ปฏิยาเทตฺวา ทสวสฺสสหสฺสานิ อุปฏฺานํ อกาสิ. เอตานิ ปากฏฏฺานานิ.

กปฺปสตสหสฺสํ ปน ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ กโรนฺโตว อมฺหากํ โพธิสตฺเตน สทฺธึ ตุสิตปุเร นิพฺพตฺติตฺวา ตโต จุโต อมิโตทนสกฺกสฺส เคเห นิพฺพตฺติ. ตสฺส สพฺเพ าตเก อานนฺทิเต กโรนฺโต ชาโตติ อานนฺโทตฺเวว นามํ อโหสิ. โส อนุกฺกเมน วยปฺปตฺโต กตาภินิกฺขมเน สมฺมาสมฺโพธึ ปตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺเก ปมํ กปิลวตฺถุํ คนฺตฺวา ตโต นิกฺขนฺเต ภควติ ตสฺส ปริวารตฺถํ ปพฺพชิตุํ นิกฺขนฺเตหิ ภทฺทิยาทีหิ สทฺธึ นิกฺขมิตฺวา ภควโต สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา นจิรสฺเสว อายสฺมโต ปุณฺณสฺส มนฺตาณิปุตฺตสฺส สนฺติเก ธมฺมกถํ สุตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ.

เตน จ สมเยน ภควโต ปมโพธิยํ วีสติวสฺสานิ อนิพทฺธอุปฏฺากา อเหสุํ. เอกทา นาคสมาโล ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา วิจริ, เอกทา นาคิโต, เอกทา อุปวาโน, เอกทา สุนกฺขตฺโต, เอกทา จุนฺโท สมณุทฺเทโส, เอกทา สาคโต, เอกทา เมฆิโย, เต เยภุยฺเยน สตฺถุ จิตฺตํ นาราธยึสุ. อเถกทิวสํ ภควา คนฺธกุฏิปริเวเณ ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต นิสินฺโน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อหํ, ภิกฺขเว, อิทานิมฺหิ มหลฺลโก, เอกจฺเจ ภิกฺขู ‘อิมินา มคฺเคน คจฺฉามา’ติ วุตฺเต อฺเน คจฺฉนฺติ, เอกจฺเจ มยฺหํ ปตฺตจีวรํ ภูมิยํ นิกฺขิปนฺติ, มยฺหํ นิพทฺธุปฏฺากํ ภิกฺขุํ ชานาถา’’ติ. ตํ สุตฺวา ภิกฺขูนํ ธมฺมสํเวโค อุทปาทิ. อถายสฺมา สาริปุตฺโต อุฏฺาย ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา – ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺเห อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ อาห. ตํ ภควา ปฏิกฺขิปิ. เอเตนุปาเยน มหาโมคฺคลฺลานํ อาทึ กตฺวา สพฺเพ มหาสาวกา – ‘‘อหํ อุปฏฺหิสฺสามิ, อหํ อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ อุฏฺหึสุ เปตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ, เตปิ ภควา ปฏิกฺขิปิ . โส ปน ตุณฺหีเยว นิสีทิ. อถ นํ ภิกฺขู อาหํสุ – ‘‘อาวุโส, ตฺวมฺปิ สตฺถุ อุปฏฺากฏฺานํ ยาจาหี’’ติ. ยาจิตฺวา ลทฺธฏฺานํ นาม กีทิสํ โหติ, สเจ รุจฺจติ, สตฺถา สยเมว วกฺขตีติ. อถ ภควา ‘‘น, ภิกฺขเว, อานนฺโท อฺเหิ อุสฺสาเหตพฺโพ, สยเมว ชานิตฺวา มํ อุปฏฺหิสฺสตี’’ติ อาห. ตโต ภิกฺขู ‘‘อุฏฺเหิ, อาวุโส อานนฺท, สตฺถารํ อุปฏฺากฏฺานํ ยาจาหี’’ติ อาหํสุ.

เถโร อุฏฺหิตฺวา ‘‘สเจ เม, ภนฺเต, ภควา อตฺตนา ลทฺธํ ปณีตจีวรํ น ทสฺสติ, ปณีตปิณฺฑปาตํ น ทสฺสติ, เอกคนฺธกุฏิยํ วสิตุํ น ทสฺสติ, นิมนฺตนํ คเหตฺวา น คมิสฺสติ, เอวาหํ ภควนฺตํ อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘เอตฺตเก คุเณ ลภโต สตฺถุ อุปฏฺาเน โก ภาโร’’ติ อุปวาทโมจนตฺถํ อิเม จตฺตาโร ปฏิกฺเขปา จ – ‘‘สเจ, ภนฺเต, ภควา มยา คหิตนิมนฺตนํ คมิสฺสติ, สจาหํ เทสนฺตรโต อาคตาคเต ตาวเทว ทสฺเสตุํ ลจฺฉามิ; ยทา เม กงฺขา อุปฺปชฺชติ, ตาวเทว ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตุํ ลจฺฉามิ, สเจ ภควา ปรมฺมุขา เทสิตํ ธมฺมํ ปุน มยฺหํ กเถสฺสติ, เอวาหํ ภควนฺตํ อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ ‘‘เอตฺตกมฺปิ สตฺถุ สนฺติเก อนุคฺคหํ น ลภตี’’ติ อุปวาทโมจนตฺถฺเจว ธมฺมภณฺฑาคาริกภาวปารมีปูรณตฺถฺจ อิมา จตสฺโส อายาจนา จาติ อฏฺ วเร คเหตฺวา นิพทฺธุปฏฺาโก อโหสิ. ตสฺเสว านนฺตรสฺส อตฺถาย กปฺปสตสหสฺสํ ปูริตานํ ปารมีนํ ผลํ ปาปุณิ. โส อุปฏฺากฏฺานํ ลทฺธทิวสโต ปฏฺาย ทสพลํ ทุวิเธน อุทเกน, ติวิเธน ทนฺตกฏฺเน, หตฺถปาทปริกมฺเมน ปิฏฺิปริกมฺเมน, คนฺธกุฏิปริเวณสมฺมชฺชเนนาติ เอวมาทีหิ กิจฺเจหิ อุปฏฺหนฺโต ‘‘อิมาย นาม เวลาย สตฺถุ อิทํ นาม ลทฺธุํ วฏฺฏติ, อิทํ นาม กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ ทิวสภาคํ สนฺติกาวจโร หุตฺวา, รตฺติภาเค มหนฺตํ ทณฺฑทีปิกํ คเหตฺวา คนฺธกุฏิปริเวณํ นว วาเร อนุปริยายติ, สตฺถริ ปกฺโกสนฺเต ปฏิวจนทานาย ถินมิทฺธวิโนทนตฺถํ.

อถ นํ สตฺถา เชตวเน อริยคณมชฺเฌ นิสินฺโน อเนกปริยาเยน ปสํสิตฺวา ‘‘พหุสฺสุตานํ สติมนฺตานํ คติมนฺตานํ ธิติมนฺตานํ อุปฏฺากานฺจ ภิกฺขูนํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. เอวํ สตฺถารา ปฺจสุ าเนสุ เอตทคฺเค ปิโต จตูหิ อจฺฉริยพฺภุตธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สตฺถุ ธมฺมโกสารกฺโข อยํ มหาเถโร เสโขว สมาโน สตฺถริ ปรินิพฺพุเต เหฏฺา วุตฺตนเยน ภิกฺขูหิ สมุตฺเตชิโต เทวตาย จ สํเวชิโต ‘‘สฺเวเยว จ ทานิ ธมฺมสงฺคีติ กาตพฺพา, น โข ปน เมตํ ปติรูปํ, ยฺวายํ เสโข สกรณีโย หุตฺวา อเสเขหิ เถเรหิ สทฺธึ ธมฺมํ สงฺคายิตุํ สนฺนิปาตํ คนฺตุ’’นฺติ สฺชาตุสฺสาโห วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา พหุเทวรตฺตึ วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต จงฺกเม วีริยสมตํ อลภิตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา สยเน นิสีทิตฺวา สยิตุกาโม กายํ อาวฏฺเฏสิ. อปฺปตฺตฺจ สีสํ พิมฺโพหนํ ปาทา จ ภูมิโต มุตฺตมตฺตา, เอตสฺมึ อนฺตเร อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจิ ฉฬภิฺโ อโหสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๑.๖๔๔-๖๖๓) –

‘‘อารามทฺวารา นิกฺขมฺม, ปทุมุตฺตโร มหามุนิ;

วสฺเสนฺโต อมตํ วุฏฺึ, นิพฺพาเปสิ มหาชนํ.

‘‘สตสหสฺสํ เต ธีรา, ฉฬภิฺา มหิทฺธิกา;

ปริวาเรนฺติ สมฺพุทฺธํ, ฉายาว อนปายินี.

‘‘หตฺถิกฺขนฺธคโต อาสึ, เสตจฺฉตฺตํ วรุตฺตมํ;

สุจารุรูปํ ทิสฺวาน, วิตฺติ เม อุทปชฺชถ.

‘‘โอรุยฺห หตฺถิขนฺธมฺหา, อุปคจฺฉึ นราสภํ;

รตนามยฉตฺตํ เม, พุทฺธเสฏฺสฺส ธารยึ.

‘‘มม สงฺกปฺปมฺาย, ปทุมุตฺตโร มหาอิสิ;

ตํ กถํ ปยิตฺวาน, อิมา คาถา อภาสถ.

‘‘โย โส ฉตฺตมธาเรสิ, โสณฺณาลงฺการภูสิตํ;

ตมหํ กิตฺตยิสฺสามิ, สุโณถ มม ภาสโต.

‘‘อิโต คนฺตฺวา อยํ โปโส, ตุสิตํ อาวสิสฺสติ;

อนุโภสฺสติ สมฺปตฺตึ, อจฺฉราหิ ปุรกฺขโต.

‘‘จตุตึสติกฺขตฺตุฺจ, เทวรชฺชํ กริสฺสติ;

พลาธิโป อฏฺสตํ, วสุธํ อาวสิสฺสติ.

‘‘อฏฺปฺาสกฺขตฺตุฺจ, จกฺกวตฺตี ภวิสฺสติ;

ปเทสรชฺชํ วิปุลํ, มหิยา การยิสฺสติ.

‘‘กปฺปสตสหสฺสมฺหิ , โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘สกฺยานํ กุลเกตุสฺส, าติพนฺธุ ภวิสฺสติ;

อานนฺโท นาม นาเมน, อุปฏฺาโก มเหสิโน.

‘‘อาตาปี นิปโก จาปิ, พาหุสจฺเจสุ โกวิโท;

นิวาตวุตฺติ อตฺถทฺโธ, สพฺพปาี ภวิสฺสติ.

‘‘ปธานปหิตตฺโต โส, อุปสนฺโต นิรูปธิ;

สพฺพาสเว ปริฺาย, นิพฺพายิสฺสตินาสโว.

‘‘สนฺติ อารฺกา นาคา, กุฺชรา สฏฺิหายนา;

ติธาปภินฺนา มาตงฺคา, อีสาทนฺตา อุรูฬฺหวา.

‘‘อเนกสตสหสฺสา, ปณฺฑิตาปิ มหิทฺธิกา;

สพฺเพ เต พุทฺธนาคสฺส, น โหนฺตุปณิธิมฺหิ เต.

‘‘อาทิยา เม นมสฺสามิ, มชฺฌิเม อถ ปจฺฉิเม;

ปสนฺนจิตฺโต สุมโน, พุทฺธเสฏฺํ อุปฏฺหึ.

‘‘อาตาปี นิปโก จาปิ, สมฺปชาโน ปฏิสฺสโต;

โสตาปตฺติผลํ ปตฺโต, เสขภูมีสุ โกวิโท.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, ยํ กมฺมมภินีหรึ;

ตาหํ ภูมิมนุปฺปตฺโต, ิตา สทฺธมฺมมาจลา.

‘‘สฺวาคตํ วต เม อาสิ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

ฉฬภิฺโ ปน หุตฺวา สงฺคีติมณฺฑปํ ปวิสิตฺวา ธมฺมํ สงฺคายนฺโต ตตฺถ ตตฺถ ภิกฺขูนํ โอวาททานวเสน อตฺตโน ปฏิปตฺติทีปนาทิวเสน จ ภาสิตคาถา เอกชฺฌํ กตฺวา อนุกฺกเมว ขุทฺทกนิกายสงฺคายนกาเล เถรคาถาสุ สงฺคีตึ อาโรเปนฺโต –

๑๐๑๗.

‘‘ปิสุเณน จ โกธเนน จ, มจฺฉรินา จ วิภูตนนฺทินา;

สขิตํ น กเรยฺย ปณฺฑิโต, ปาโป กาปุริเสน สงฺคโม.

๑๐๑๘.

‘‘สทฺเธน จ เปสเลน จ, ปฺวตา พหุสฺสุเตน จ;

สขิตํ กเรยฺย ปณฺฑิโต, ภทฺโท สปฺปุริเสน สงฺคโม.

๑๐๑๙.

‘‘ปสฺส จิตฺตกตํ พิมฺพํ, อรุกายํ สมุสฺสิตํ;

อาตุรํ พหุสงฺกปฺปํ, ยสฺส นตฺถิ ธุวํ ิติ.

๑๐๒๐.

‘‘ปสฺส จิตฺตกตํ รูปํ, มณินา กุณฺฑเลน จ;

อฏฺิตเจน โอนทฺธํ, สห วตฺเถหิ โสภติ.

๑๐๒๑.

‘‘อลตฺตกกตา ปาทา, มุขํ จุณฺณกมกฺขิตํ;

อลํ พาลสฺส โมหาย, โน จ ปารคเวสิโน.

๑๐๒๒.

‘‘อฏฺปทกตา เกสา, เนตฺตา อฺชนมกฺขิตา;

อลํ พาลสฺส โมหาย, โน จ ปารคเวสิโน.

๑๐๒๓.

‘‘อฺชนีว นวา จิตฺตา, ปูติกาโย อลงฺกโต;

อลํ พาลสฺส โมหาย, โน จ ปารคเวสิโน.

‘‘โอทหิ มิคโว ปาสํ, นาสทา วาคุรํ มิโค;

ภุตฺวา นิวาปํ คจฺฉาม, กนฺทนฺเต มิคพนฺธเก.

‘‘ฉินฺโน ปาโส มิควสฺส, นาสทา วาคุรํ มิโค;

ภุตฺวา นิวาปํ คจฺฉาม, โสจนฺเต มิคลุทฺทเก.

๑๐๒๔.

‘‘พหุสฺสุโต จิตฺตกถี, พุทฺธสฺส ปริจารโก;

ปนฺนภาโร วิสฺุตฺโต, เสยฺยํ กปฺเปติ โคตโม.

๑๐๒๕.

‘‘ขีณาสโว วิสฺุตฺโต, สงฺคาตีโต สุนิพฺพุโต;

ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, ชาติมรณปารคู.

๑๐๒๖.

‘‘ยสฺมึ ปติฏฺิตา ธมฺมา, พุทฺธสฺสาทิจฺจพนฺธุโน;

นิพฺพานคมเน มคฺเค, โสยํ ติฏฺติ โคตโม.

๑๐๒๗.

‘‘ทฺวาสีติ พุทฺธโต คณฺหึ, ทฺเว สหสฺสานิ ภิกฺขุโต;

จตุราสีติสหสฺสานิ, เย เม ธมฺมา ปวตฺติโน.

๑๐๒๘.

‘‘อปฺปสฺสุตายํ ปุริโส, พลิพทฺโทว ชีรติ;

มํสานิ ตสฺส วฑฺฒนฺติ, ปฺา ตสฺส น วฑฺฒติ.

๑๐๒๙.

‘‘พหุสฺสุโต อปฺปสฺสุตํ, โย สุเตนาติมฺติ;

อนฺโธ ปทีปธาโรว, ตเถว ปฏิภาติ มํ.

๑๐๓๐.

‘‘พหุสฺสุตํ อุปาเสยฺย, สุตฺจ น วินาสเย;

ตํ มูลํ พฺรหฺมจริยสฺส, ตสฺมา ธมฺมธโร สิยา.

๑๐๓๑.

‘‘ปุพฺพาปรฺู อตฺถฺู, นิรุตฺติปทโกวิโท;

สุคฺคหีตฺจ คณฺหาติ, อตฺถฺโจปปริกฺขติ.

๑๐๓๒.

‘‘ขนฺตฺยา ฉนฺทิกโต โหติ, อุสฺสหิตฺวา ตุเลติ ตํ;

สมเย โส ปทหติ, อชฺฌตฺตํ สุสมาหิโต.

๑๐๓๓.

‘‘พหุสฺสุตํ ธมฺมธรํ, สปฺปฺํ พุทฺธสาวกํ;

ธมฺมวิฺาณมากงฺขํ, ตํ ภเชถ ตถาวิธํ.

๑๐๓๔.

‘‘พหุสฺสุโต ธมฺมธโร, โกสารกฺโข มเหสิโน;

จกฺขุ สพฺพสฺส โลกสฺส, ปูชนีโย พหุสฺสุโต.

๑๐๓๕.

‘‘ธมฺมาราโม ธมฺมรโต, ธมฺมํ อนุวิจินฺตยํ;

ธมฺมํ อนุสฺสรํ ภิกฺขุ, สทฺธมฺมา น ปริหายติ.

๑๐๓๖.

‘‘กายมจฺเฉรครุโน , หิยฺยมาเน อนุฏฺเห;

สรีรสุขคิทฺธสฺส, กุโต สมณผาสุตา.

๑๐๓๗.

‘‘น ปกฺขนฺติ ทิสา สพฺพา, ธมฺมา น ปฏิภนฺติ มํ;

คเต กลฺยาณมิตฺตมฺหิ, อนฺธการํว ขายติ.

๑๐๓๘.

‘‘อพฺภตีตสหายสฺส, อตีตคตสตฺถุโน;

นตฺถิ เอตาทิสํ มิตฺตํ, ยถา กายคตา สติ.

๑๐๓๙.

‘‘เย ปุราณา อตีตา เต, นเวหิ น สเมติ เม;

สฺวชฺช เอโกว ฌายามิ, วสฺสุเปโตว ปกฺขิมา.

๑๐๔๐.

‘‘ทสฺสนาย อภิกฺกนฺเต, นานาเวรชฺชเก พหู;

มา วารยิตฺถ โสตาโร, ปสฺสนฺตุ สมโย มมํ.

๑๐๔๑.

‘‘ทสฺสนาย อภิกฺกนฺเต, นานาเวรชฺชเก ปุถุ;

กโรติ สตฺถา โอกาสํ, น นิวาเรติ จกฺขุมา.

๑๐๔๒.

‘‘ปณฺณวีสติ วสฺสานิ, เสขภูตสฺส เม สโต;

น กามสฺา อุปฺปชฺชิ, ปสฺส ธมฺมสุธมฺมตํ.

๑๐๔๓.

‘‘ปณฺณวีสติ วสฺสานิ, เสขภูตสฺส เม สโต;

น โทสสฺา อุปฺปชฺชิ, ปสฺส ธมฺมสุธมฺมตํ.

๑๐๔๔.

‘‘ปณฺณวีสติ วสฺสานิ, ภควนฺตํ อุปฏฺหึ;

เมตฺเตน กายกมฺเมน, ฉายาว อนปายินี.

๑๐๔๕.

‘‘ปณฺณวีสติ วสฺสานิ, ภควนฺตํ อุปฏฺหึ;

เมตฺเตน วจีกมฺเมน, ฉายาว อนปายินี.

๑๐๔๖.

‘‘ปณฺณวีสติ วสฺสานิ, ภควนฺตํ อุปฏฺหึ;

เมตฺเตน มโนกมฺเมน, ฉายาว อนปายินี.

๑๐๔๗.

‘‘พุทฺธสฺส จงฺกมนฺตสฺส, ปิฏฺิโต อนุจงฺกมึ;

ธมฺเม เทสิยมานมฺหิ, าณํ เม อุทปชฺชถ.

๑๐๔๘.

‘‘อหํ สกรณีโยมฺหิ, เสโข อปฺปตฺตมานโส;

สตฺถุ จ ปรินิพฺพานํ, โย อมฺหํ อนุกมฺปโก.

๑๐๔๙.

‘‘ตทาสิ ยํ ภึสนกํ, ตทาสิ โลมหํสนํ;

สพฺพการวรูเปเต, สมฺพุทฺเธ ปรินิพฺพุเต.

๑๐๕๐.

‘‘พหุสฺสุโต ธมฺมธโร, โกสารกฺโข มเหสิโน;

จกฺขุ สพฺพสฺส โลกสฺส, อานนฺโท ปรินิพฺพุโต.

๑๐๕๑.

‘‘พหุสฺสุโต ธมฺมธโร, โกสารกฺโข มเหสิโน;

จกฺขุ สพฺพสฺส โลกสฺส, อนฺธกาเร ตโมนุโท.

๑๐๕๒.

‘‘คติมนฺโต สติมนฺโต, ธิติมนฺโต จ โย อิสิ;

สทฺธมฺมธารโก เถโร, อานนฺโท รตนากโร.

๑๐๕๓.

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;

โอหิโต ครุโก ภาโร, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ ปิสุเณน จาติ อาทิโต ทฺเว คาถา ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู เทวทตฺตปกฺขิเยหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํสคฺคํ กโรนฺเต ทิสฺวา เตสํ โอวาททานวเสน วุตฺตา. ตตฺถ ปิสุเณนาติ ปิสุณาย วาจาย. ตาย หิ ยุตฺโต ปุคฺคโล ‘‘ปิสุโณ’’ติ วุตฺโต ยถา นีลคุณยุตฺโต ปโฏ นีโลติ. โกธเนนาติ กุชฺฌนสีเลน. อตฺตสมฺปตฺตินิคูหณลกฺขณสฺส มจฺเฉรสฺส สมฺภวโต มจฺฉรินา. วิภูตนนฺทินาติ สตฺตานํ วิภูตํ วิภวนํ วินาสํ อิจฺฉนฺเตน, วิภูตํ วา วิสุํ ภาโว เภโท, ตํ นนฺทเนน, สพฺพเมตํ เทวทตฺตปกฺขิเยว สนฺธาย วุตฺตํ. เต หิ ปฺจวตฺถุทีปนาย พหู ชเน สมฺมาปฏิปนฺเน ภินฺทนฺตา สตฺถริ พหิทฺธตาย ถทฺธมจฺฉริยาทิมจฺฉริยปกตา มหาชนสฺส มหโต อนตฺถาย ปฏิปชฺชึสุ. สขิตนฺติ สหายภาวํ สํสคฺคํ น กเรยฺย, กึการณา? ปาโปกาปุริเสน สงฺคโม กาปุริเสน ปาปปุคฺคเลน สมาคโม นิหีโน ลามโก. เย หิสฺส ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺติ. เตสํ ทุจินฺติตาทิเภทํ พาลลกฺขณเมว อาวหติ, ปเคว วจนกรสฺส. เตนาห ภควา – ‘‘ยานิ กานิจิ, ภิกฺขเว, ภยานิ อุปฺปชฺชนฺติ, สพฺพานิ ตานิ พาลโต อุปฺปชฺชนฺติ, โน ปณฺฑิตโต’’ติอาทิ (อ. นิ. ๓.๑).

เยน ปน สํสคฺโค กาตพฺโพ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สทฺเธน จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สทฺเธนาติ กมฺมกมฺมผลสทฺธาย เจว, รตนตฺตยสทฺธาย จ สมนฺนาคเตน. เปสเลนาติ ปิยสีเลน สีลสมฺปนฺเนน. ปฺวตาติ อุทยตฺถคามินิยา นิพฺเพธิกาย ปฺาย วเสน ปฺาสมฺปนฺเนน. พหุสฺสุเตนาติ ปริยตฺติปฏิเวธพาหุสจฺจานํ ปาริปูริยา พหุสฺสุเตน. ภทฺโทติ เตน ตาทิเสน สาธุนา สงฺคโม ภทฺโท สุนฺทโร กลฺยาโณ ทิฏฺธมฺมิกาทิเภทํ อตฺถํ อาวหตีติ อธิปฺปาโย.

ปสฺส จิตฺตกตนฺติอาทิกา สตฺต คาถา อตฺตโน รูปสมฺปตฺตึ ทิสฺวา กามสฺํ อุปฺปาเทนฺติยา อุตฺตราย นาม อุปาสิกาย กายวิจฺฉนฺทชนนตฺถํ ภาสิตา . ‘‘อมฺพปาลึ คณิกํ ทิสฺวา วิกฺขิตฺตจิตฺตานํ โอวาททานตฺถ’’นฺติปิ วทนฺติ. ตา เหฏฺา วุตฺตตฺถา เอว.

พหุสฺสุโตจิตฺตกถีติอาทิกา ทฺเว คาถา เถเรน อรหตฺตํ ปตฺวา อุทานวเสน ภาสิตา. ตตฺถ ปริจารโกติ อุปฏฺาโก. เสยฺยํ กปฺเปตีติ อรหตฺตปฺปตฺติสมนนฺตรํ สยิตตฺตา วุตฺตํ. เถโร หิ พหุเทว รตฺตึ จงฺกเมน วีตินาเมตฺวา สรีรํ อุตุํ คาหาเปตุํ โอวรกํ ปวิสิตฺวา สยิตุํ มฺจเก นิสินฺโน ปาทา จ ภูมิโต มุตฺตา, อปฺปตฺตฺจ สีสํ พิมฺโพหนํ, เอตฺถนฺตเร อรหตฺตํ ปตฺวา สยิ.

ขีณาสโวติ ปริกฺขีณจตุราสโว, ตโต เอว จตูหิปิ โยเคหิ วิสํยุตฺโต, ราคสงฺคาทีนํ อติกฺกนฺตตฺตา สงฺคาตีโต, สพฺพโส กิเลสปริฬาหสฺส วูปสนฺตตฺตา สุนิพฺพุโต สีติภูโตติ อตฺโถ.

ยสฺมึ ปติฏฺิตา ธมฺมาติ เถรํ อุทฺทิสฺส ขีณาสวมหาพฺรหฺมุนา ภาสิตา คาถา. อุปฏฺิตาย หิ ธมฺมสงฺคีติยา เถรํ อุทฺทิสฺส เยหิ ภิกฺขูหิ ‘‘เอโก ภิกฺขุ วิสฺสคนฺธํ วายตี’’ติ วุตฺตํ. อถ เถโร อธิคเต อรหตฺเต สตฺตปณฺณิคุหาทฺวารํ สงฺฆสฺส สามคฺคีทานตฺถํ อาคโต, ตสฺส ขีณาสวภาวปฺปกาสเนน สุทฺธาวาสมหาพฺรหฺมา. เต ภิกฺขู ลชฺชาเปนฺโต ‘‘ยสฺมึ ปติฏฺิตา ธมฺมา’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – พุทฺธสฺส ภควโต ธมฺมา เตเนว อธิคตา ปเวทิตา จ ปฏิเวธปริยตฺติธมฺมา. ยสฺมึ ปุริสวิเสเส ปติฏฺิตา, โสยํ โคตฺตโต โคตโม ธมฺมภณฺฑาคาริโก สอุปาทิเสสนิพฺพานสฺส อธิคตตฺตา อิทานิ อนุปาทิเสสนิพฺพานคมเน มคฺเค ปติฏฺหิ, ตสฺส เอกํสภาคีติ.

อเถกทิวสํ โคปกโมคฺคลฺลาโน นาม พฺราหฺมโณ เถรํ ปุจฺฉิ – ‘‘ตฺวํ พหุสฺสุโตติ พุทฺธสฺส สาสเน ปากโฏ, กิตฺตกา ธมฺมา เต สตฺถารา ภาสิตา, ตยา ธาริตา’’ติ? ตสฺส เถโร ปฏิวจนํ เทนฺโต ‘‘ทฺวาสีตี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ ทฺวาสีติ สหสฺสานีติ โยชนา, พุทฺธโต คณฺหินฺติ สมฺมาสมฺพุทฺธโต อุคฺคณฺหึ ทฺวิสหสฺสาธิกานิ อสีติธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานิ สตฺถุ สนฺติกา อธิคณฺหินฺติ อตฺโถ. ทฺเว สหสฺสานิ ภิกฺขุโตติ ทฺเว ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานิ ภิกฺขุโต คณฺหึ, ธมฺมเสนาปติอาทีนํ ภิกฺขูนํ สนฺติกา อธิคจฺฉึ. จตุราสีติสหสฺสานีติ ตทุภยํ สโมธาเนตฺวา จตุสหสฺสาธิกานิ อสีติสหสฺสานิ. เย เม ธมฺมา ปวตฺติโนติ เย ยถาวุตฺตปริมาณา ธมฺมกฺขนฺธา มยฺหํ ปคุณา วาจุคฺคตา ชิวฺหคฺเค ปริวตฺตนฺตีติ.

อเถกทา เถโร สาสเน ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาธุเรปิ คนฺถธุเรปิ อนนุยุตฺตํ เอกํ ปุคฺคลํ ทิสฺวา พาหุสจฺจาภาเว อาทีนวํ ปกาเสนฺโต ‘‘อปฺปสฺสุตาย’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ อปฺปสฺสุตายนฺติ เอกสฺส ทฺวินฺนํ วา ปณฺณาสานํ, อถ วา ปน วคฺคานํ อนฺตมโส เอกสฺส ทฺวินฺนํ วา สุตฺตนฺตานมฺปิ อุคฺคหิตานํ อภาเวน อปฺปสฺสุโต อยํ, กมฺมฏฺานํ ปน อุคฺคเหตฺวา อนุยุฺชนฺโต พหุสฺสุโตว. พลิพทฺโทว ชีรตีติ ยถา พลิพทฺโท ชีรมาโน วฑฺฒมาโน เนว มาตุ น ปิตุ, น เสสาตกานํ อตฺถาย วฑฺฒติ, อถ โข นิรตฺถกเมว ชีรติ; เอวเมวํ อยมฺปิ น อุปชฺฌายวตฺตํ กโรติ, น อาจริยวตฺตํ, น อาคนฺตุกวตฺตาทีนิ, น ภาวนํ อนุยุฺชติ, นิรตฺถกเมว ชีรติ. มํสานิ ตสฺส วฑฺฒนฺตีติ ยถา พลิพทฺทสฺส ‘‘กสนภารวหนาทีสุ อสมตฺโถ เอโส’’ติ อรฺเ วิสฺสฏฺสฺส ยถา ตถา วิจรนฺตสฺส ขาทนฺตสฺส ปิวนฺตสฺส มํสานิ ตสฺส วฑฺฒนฺติ; เอวเมวํ อิมสฺสาปิ อุปชฺฌายาทีหิ วิสฺสฏฺสฺส สงฺฆํ นิสฺสาย จตฺตาโร ปจฺจเย ลภิตฺวา อุทฺธํวิเรจนาทีนิ กตฺวา กายํ โปเสนฺตสฺส มํสานิ วฑฺฒนฺติ ถูลสรีโร หุตฺวา วิจรติ. ปฺาติ โลกิยโลกุตฺตรา ปนสฺส ปฺา เอกงฺคุลิมตฺตาปิ น วฑฺฒติ, อรฺเ คจฺฉลตาทีนิ วิย อสฺส ฉทฺวารานิ นิสฺสาย ตณฺหา เจว นววิธมาโน จ วฑฺฒตีติ อธิปฺปาโย.

พหุสฺสุโตติ คาถา อตฺตโน พาหุสจฺจํ นิสฺสาย อฺํ อติมฺนฺตํ เอกํ ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส วุตฺตา. ตตฺถ สุเตนาติ สุตเหตุ อตฺตโน พาหุสจฺจนิมิตฺตํ. อติมฺตีติ อติกฺกมิตฺวา มฺติ อตฺตานํ อุกฺกํเสนฺโต ปรํ ปริภวติ. ตเถวาติ ยถา อนฺโธ อนฺธกาเร เตลปชฺโชตํ ธาเรนฺโต อาโลกทาเนน ปเรสํเยว อตฺถาวโห , น อตฺตโน, ตเถว ปริยตฺติพาหุสจฺเจน สุตวา ปุคฺคโล สุเตน อนุปปนฺโน อตฺตโน อตฺถํ อปริปูเรนฺโต อนฺโธ าณาโลกทาเนน ปเรสํเยว อตฺถาวโห, น อตฺตโน, ทีปธาโร อนฺโธ วิย มยฺหํ อุปฏฺาตีติ.

อิทานิ พาหุสจฺเจ อานิสํสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘พหุสฺสุต’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ อุปาเสยฺยาติ ปยิรุปาเสยฺย. สุตฺจ น วินาสเยติ พหุสฺสุตํ ปยิรุปาสิตฺวา ลทฺธํ สุตฺจ น วินาเสยฺย, น สุสฺเสยฺย ธารณปริจยปริปุจฺฉามนสิกาเรหิ วฑฺเฒยฺย. ตํ มูลํ พฺรหฺมจริยสฺสาติ ยสฺมา พหุสฺสุตํ ปยิรุปาสิตฺวา ลทฺธํ ตํ สุตํ ปริยตฺติพาหุสจฺจํ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส มูลํ ปธานการณํ. ตสฺมา ธมฺมธโร สิยา วิมุตฺตายตนสีเส ตฺวา ยถาสุตสฺส ธมฺมสฺส ธารเณ ปมํ ปริยตฺติธมฺมธโร ภเวยฺย.

อิทานิ ปริยตฺติพาหุสจฺเจน สาเธตพฺพมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุพฺพาปรฺู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปุพฺพฺจ อปรฺจ ชานาตีติ ปุพฺพาปรฺู. เอกิสฺสา หิ คาถาย ปุพฺพภาเค อปฺายมาเนปิ ปุพฺพภาเค วา ปฺายมาเน อปรภาเค อปฺายมาเนปิ ‘‘อิมสฺส อปรภาคสฺส อิมินา ปุพฺพภาเคน , อิมสฺส วา ปุพฺพภาคสฺส อิมินา อปรภาเคน ภวิตพฺพ’’นฺติ ชานนฺโต ปุพฺพาปรฺู นาม. อตฺตตฺถาทิเภทํ ตสฺส ตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ ชานาตีติ อตฺถฺู. นิรุตฺติปทโกวิโทติ นิรุตฺติยํ เสสปเทสุปิ จาติ จตูสุปิ ปฏิสมฺภิทาสุ เฉโก. สุคฺคหีตฺจ คณฺหาตีติ เตเนว โกวิทภาเวน อตฺถโต พฺยฺชนโต จ ธมฺมํ สุคหิตเมว กตฺวา คณฺหาติ. อตฺถฺโจปปริกฺขตีติ ยถาสุตสฺส ยถาปริยตฺตสฺส ธมฺมสฺส อตฺถํ อุปปริกฺขติ ‘‘อิติ สีลํ, อิติ สมาธิ, อิติ ปฺา, อิเม รูปารูปธมฺมา’’ติ มนสา อนุเปกฺขติ.

ขนฺตฺยา ฉนฺทิกโต โหตีติ เตสุ มนสา อนุเปกฺขิเตสุ ธมฺเมสุ ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา นิชฺฌานํ ขมาเปตฺวา รูปปริคฺคหาทิมุเขน วิปสฺสนาภินิเวเส ฉนฺทิกโต ฉนฺทชาโต โหติ. ตถาภูโต จ วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต อุสฺสหิตฺวา ตุเลติ ตํตํปจฺจยนามรูปทสฺสนวเสน อุสฺสาหํ กตฺวา ตโต ปรํ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา ตุเลติ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติปิ, ‘‘ทุกฺข’’นฺติปิ, ‘‘อนตฺตา’’ติปิ ตํ นามรูปํ ตีเรติ วิปสฺสติ. สมเย โส ปทหติ, อชฺฌตฺตํ สุสมาหิโตติ โส เอวํ ปสฺสนฺโต ปคฺคเหตพฺพาทิสมเย จิตฺตสฺส ปคฺคณฺหนาทินา ปทหติ, ปทหนฺโต จ อชฺฌตฺตํ โคจรชฺฌตฺเต วิปสฺสนาสมาธินา มคฺคสมาธินา จ สุฏฺุ สมาหิโต ภเวยฺย, อสมาธานเหตุภูเต กิเลเส ปชเหยฺย. สฺวายํ คุโณ สพฺโพปิ ยสฺมา พหุสฺสุตํ ธมฺมธรํ สปฺปฺํ พุทฺธสาวกํ ปยิรุปาสนฺตสฺส โหติ, ตสฺมา อสงฺขตํ ธมฺมํ อารพฺภ ทุกฺขาทีสุ ปริฺาทิวิสิฏฺกิจฺจตาย ธมฺมวิฺาณสงฺขาตํ ธมฺมาณํ อากงฺขนฺโต ตถาวิธํ วุตฺตปฺปการํ กลฺยาณมิตฺตํ ภเชถ, เสเวยฺย ปยิรุปาเสยฺยาติ อตฺโถ.

เอวํ พหุปการตาย ตสฺส ปูชนียกํ ทสฺเสนฺโต ‘‘พหุสฺสุโต’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – สุตฺตเคยฺยาทิ พหุ สุตํ เอตสฺสาติ พหุสฺสุโต. ตเมว เทสนาธมฺมํ สุวณฺณภาชเน ปกฺขิตฺตสีหวสา วิย อวินสฺสนฺตํ ธาเรตีติ ธมฺมธโร. ตโต เอว มเหสิโน ภควโต ธมฺมโกสํ ธมฺมรตนํ อารกฺขตีติ โกสารกฺโข. ยสฺมา สเทวกสฺส โลกสฺส สมทสฺสเนน จกฺขุภูโต, ตสฺมา จกฺขุ สพฺพสฺส โลกสฺส ปูชนีโย มานนีโยติ, พหุสฺสุตภาเวน พหุชนสฺส ปูชนียภาวทสฺสนตฺถํ นิคมนวเสน ปุนปิ ‘‘พหุสฺสุโต’’ติ วุตฺตํ.

เอวรูปํ กลฺยาณมิตฺตํ ลภิตฺวาปิ การกสฺเสว อปริหานิ, น อการกสฺสาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ธมฺมาราโม’’ติ คาถมาห. ตตฺถ นิวาสนฏฺเน สมถวิปสฺสนาธมฺโม อาราโม, ตสฺมึ เอว ธมฺเม รโต อภิรโตติ ธมฺมรโต, ตสฺเสว ธมฺมสฺส ปุนปฺปุนํ วิจินฺตเนน ธมฺมํ อนุวิจินฺตยํ ธมฺมํ อาวชฺเชนฺโต มนสิ กโรตีติ อตฺโถ. อนุสฺสรนฺติ ตเมว ธมฺมํ อนุสฺสรนฺโต. สทฺธมฺมาติ เอวรูโป ภิกฺขุ สตฺตตึสปเภทา โพธิปกฺขิยธมฺมา นววิธโลกุตฺตรธมฺมา จ น ปริหายติ, น กทาจิ ตสฺส ตโต ปริหานิ โหตีติ อตฺโถ.

อเถกทิวสํ กาเย อวีตราคํ กุสีตํ หีนวีริยํ โกสลฺลายา ติ นามํ ภิกฺขุํ สํเวเชนฺโต ‘‘กายมจฺเฉรครุโน’’ติ คาถมาห. ตตฺถ กายมจฺเฉรครุโนติ ‘‘กายทฬฺหีพหุลสฺส กาเย มมตฺตสฺส อาจริยุปชฺฌายานมฺปิ กาเยน กตฺตพฺพํ กิฺจิ อกตฺวา วิจรนฺตสฺส. หิยฺยมาเนติ อตฺตโน กาเย ชีวิเต จ ขเณ ขเณ ปริหิยฺยมาเน. อนุฏฺเหติ สีลาทีนํ ปริปูรณวเสน อุฏฺานวีริยํ น กเรยฺย. สรีรสุขคิทฺธสฺสาติ อตฺตโน สรีรสฺส สุขาปเนเนว เคธํ อาปนฺนสฺส. กุโต สมณผาสุตาติ เอวรูปสฺส ปุคฺคลสฺส สามฺวเสน กุโต สุขวิหาโร, ผาสุวิหาโร น ตสฺส วิชฺชตีติ อตฺโถ.

น ปกฺขนฺตีติอาทิกา อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ธมฺมเสนาปติโน ปรินิพฺพุตภาวํ สุตฺวา เถเรน ภาสิตา. ตตฺถ น ปกฺขนฺติ ทิสา สพฺพาติ ปุรตฺถิมาทิเภทา สพฺพา ทิสา น ปกฺขยนฺติ, ทิสามูฬฺโหติ อตฺโถ. ธมฺมา น ปฏิภนฺติ มนฺติ ปุพฺเพ สุฏฺุ ปคุณาปิ ปริยตฺติธมฺมา อิทานิ สกฺกจฺจํ สมนฺนาหริยมานาปิ มยฺหํ น อุปฏฺหนฺติ. คเต กลฺยาณมิตฺตมฺหีติ สเทวกสฺส โลกสฺส กลฺยาณมิตฺตภูเต ธมฺมเสนาปติมฺหิ อนุปาทิเสสนิพฺพานํ คเต. อนฺธการํว ขายตีติ สพฺโพปายํ โลโก อนฺธกาโร วิย อุปฏฺาติ.

อพฺภตีตสหายสฺสาติ อปคตสหายสฺส, กลฺยาณมิตฺตรหิตสฺสาติ อตฺโถ. อตีตคตสตฺถุโนติ อายสฺมโต อตีโต หุตฺวา นิพฺพานคตสตฺถุกสฺส, สตฺถริ ปรินิพฺพุเตติ อตฺโถ. ยถา กายคตา สตีติ กายคตาสติภาวนา ตกฺกรสฺส ยถา เอกนฺตหิตาวหา, เอวํ เอตาทิสํ อนาถสฺส ปุคฺคลสฺส เอกนฺตหิตาวหํ อฺํ มิตฺตํ นาม นตฺถิ, สนาถสฺส อฺาปิ ภาวนา หิตาวหา เอวาติ อธิปฺปาโย.

ปุราณาติ โปราณา, สาริปุตฺตาทิเก กลฺยาณมิตฺเต สนฺธาย วทติ. นเวหีติ นวเกหิ. น สเมติ เมติ มยฺหํ จิตฺตํ น สมาคจฺฉติ, น เต มม จิตฺตํ อาราเธนฺตีติ อตฺโถ. สฺวชฺช เอโกว ฌายามีติ โสหํ อชฺช วุฑฺฒตเรหิ วิรหิโต เอโกว หุตฺวา ฌายามิ ฌานปสุโต โหมิ. วสฺสุเปโตติ วสฺสกาเล กุลาวกํ อุเปโต ปกฺขี วิย. ‘‘วาสุเปโต’’ติปิ ปาฬิ, วาสํ อุปคโตติ อตฺโถ.

ทสฺสนายอภิกฺกนฺเตติ คาถา สตฺถารา ภาสิตา. ตสฺสตฺโถ – มม ทสฺสนาย อภิกฺกนฺเต นานาวิธวิเทสปวาสิกพหุชเน, อานนฺท, มม อุปสงฺกมนํ มา วาเรสิ. กสฺมา? เต โสตาโร ธมฺมสฺส, มมํ ปสฺสนฺตุ, อยเมว ทสฺสนาย สมโยติ.

ตํ สุตฺวา เถโร ‘‘ทสฺสนาย อภิกฺกนฺเต’’ติ อปรํ คาถมาห. อิมาย หิ คาถาย สมฺพนฺธตฺถํ ปุริมคาถา อิธ นิกฺขิตฺตา. เตเนว สจาหํ เทสนฺตรโต อาคตาคเต ตาวเทว ทสฺเสตุํ ลจฺฉามีติ เอตสฺส ปทสฺส อตฺถสิทฺธึ ทสฺเสติ.

ปณฺณวีสติ วสฺสานีติ ปฺจ คาถา อตฺตโน อคฺคุปฏฺากภาวํ ทีเปตุํ วุตฺตา. อารทฺธกมฺมฏฺานภาเวน หิ สตฺถุ อุปฏฺานปสุตภาเวน จ เถรสฺส มคฺเคน อสมุจฺฉินฺนาปิ กามสฺาทโย น อุปฺปชฺชึสุ, กายวจีมโนกมฺมานิ จ สพฺพกาลํ สตฺถริ เมตฺตาปุพฺพงฺคมานิ เมตฺตานุปริวตฺตานิ อเหสุํ. ตตฺถ ปณฺณวีสติ วสฺสานีติ ปฺจวีสติ สํวจฺฉรานิ. เสขภูตสฺส เม สโตติ เสขภูมิยํ โสตาปตฺติผเล ิตสฺส เม สโต. กามสฺาติ กามสหคตา สฺา น อุปฺปชฺชิ, เอตฺถ จ กามสฺาทิอนุปฺปตฺติวจเนน อตฺตโน อาสยสุทฺธึ ทสฺเสติ, ‘‘เมตฺเตน กายกมฺเมนา’’ติอาทินา ปโยคสุทฺธึ. ตตฺถ คนฺธกุฏิยํ ปริภณฺฑกรณาทินา สตฺถุ วตฺตปฏิวตฺตกรเณน จ เมตฺตํ กายกมฺมํ เวทิตพฺพํ, ธมฺมเทสนากาลาโรจนาทินา เมตฺตํ วจีกมฺมํ, รโหคตสฺส สตฺถารํ อุทฺทิสฺส หิตูปสํหารมนสิกาเรน เมตฺตํ มโนกมฺมํ. าณํ เม อุทปชฺชถาติ อตฺตโน เสกฺขภูมิปตฺติมาห.

อหํ สกรณีโยมฺหีติ สตฺถุ ปรินิพฺพาเน อุปฏฺิเต มณฺฑลมาฬํ ปวิสิตฺวา กปิสีสํ อาลมฺพิตฺวา โสกาภิภูเตน วุตฺตคาถา . ตตฺถ สกรณีโยมฺหีติ ทุกฺขปริชานนาทินา กรณีเยน สกรณีโย อมฺหิ. อปฺปตฺตมานโสติ อนธิคตารหตฺโต. สตฺถุ จ ปรินิพฺพานนฺติ มยฺหํ สตฺถุ ปรินิพฺพานฺจ อุปฏฺิตํ. โย อมฺหํ อนุกมฺปโกติ โย สตฺถา มยฺหํ อนุคฺคาหโก.

ตทาสิ ยํ ภึสนกนฺติ คาถา สตฺถุ ปรินิพฺพานกาเล ปถวีกมฺปนเทวทุนฺทุภิผลนาทิเก ทิสฺวา สฺชาตสํเวเคน วุตฺตคาถา.

พหุสฺสุโตติอาทิกา ติสฺโส คาถา เถรํ ปสํสนฺเตหิ สงฺคีติกาเรหิ ปิตา. ตตฺถ คติมนฺโตติ อสทิสาย าณคติยา สมนฺนาคโต. สติมนฺโตติ ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคโต. ธิติมนฺโตติ อสาธารณาย พฺยฺชนตฺถาวธารณสมตฺถาย ธิติสมฺปตฺติยา สมนฺนาคโต. อยฺหิ เถโร เอกปเทเยว ตฺวา สฏฺิปทสหสฺสานิ สตฺถารา กถิตนิยาเมเนว คณฺหาติ, คหิตฺจ สุวณฺณภาชเน ปกฺขิตฺตสีหวสา วิย สพฺพกาลํ น วินสฺสติ, อวิปรีตพฺยฺชนาวธารณสมตฺถาย สติปุพฺพงฺคมาย ปฺาย, อตฺถาวธารณสมตฺถาย ปฺาปุพฺพงฺคมาย สติยา จ สมนฺนาคโต. เตนาห ภควา – ‘‘เอตทคฺคํ , ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ พหุสฺสุตาน’’นฺติอาทิ (อ. นิ. ๑.๒๑๙). ตถา จาห ธมฺมเสนาปติ – ‘‘อายสฺมา อานนฺโท อตฺถกุสโล’’ติอาทิ (อ. นิ. ๕.๑๖๙). รตนากโรติ สทฺธมฺมรตนสฺส อากรภูโต.

ปริจิณฺโณติ คาถา ปรินิพฺพานกาเล เถเรน ภาสิตา, สา วุตฺตตฺถา เอว.

อานนฺทตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตึสนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.