📜
๑๘. จตฺตาลีสนิปาโต
๑. มหากสฺสปตฺเถรคาถาวณฺณนา
จตฺตาลีสนิปาเต ¶ ¶ น คเณน ปุรกฺขโตติอาทิกา อายสฺมโต มหากสฺสปตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยํ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร เวเทโห นาม อสีติโกฏิวิภโว กุฏุมฺพิโก อโหสิ. โส พุทฺธมามโก, ธมฺมมามโก, สงฺฆมามโก อุปาสโก หุตฺวา วิหรนฺโต เอกสฺมึ อุโปสถทิวเส ปาโตว สุโภชนํ ภฺุชิตฺวา อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย คนฺธปุปฺผาทีนิ คเหตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถารํ ปูเชตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ.
ตสฺมิฺจ ขเณ สตฺถา มหานิสภตฺเถรํ นาม ตติยสาวกํ ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ธุตวาทานํ, ยทิทํ นิสโภ’’ติ เอตทคฺเค เปสิ. อุปาสโก ตํ สุตฺวา ปสนฺโน ธมฺมกถาวสาเน มหาชเน อุฏฺาย คเต สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ‘‘สฺเว มยฺหํ ภิกฺขํ อธิวาเสถา’’ติ นิมนฺเตสิ. ‘‘มหา โข, อุปาสก ¶ , ภิกฺขุสงฺโฆ’’ติ. ‘‘กิตฺตโก, ภนฺเต’’ติ? ‘‘อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺส’’นฺติ. ‘‘ภนฺเต, เอกํ สามเณรมฺปิ วิหาเร อเสเสตฺวา มยฺหํ ภิกฺขํ อธิวาเสถา’’ติ. สตฺถา อธิวาเสสิ. อุปาสโก สตฺถุ อธิวาสนํ วิทิตฺวา เคหํ คนฺตฺวา มหาทานํ สชฺเชตฺวา ปุนทิวเส สตฺถุ กาลํ อาโรจาเปสิ. สตฺถา ปตฺตจีวรมาทาย ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อุปาสกสฺส ฆรํ คนฺตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสินฺโน ทกฺขิโณทกาวสาเน ยาคุอาทีนิ สมฺปฏิจฺฉนฺโต ภตฺตวิสฺสคฺคํ อกาสิ. อุปาสโกปิ สตฺถุ สนฺติเก นิสีทิ.
ตสฺมึ อนฺตเร มหานิสภตฺเถโร ปิณฺฑาย จรนฺโต ตเมว วีถึ ปฏิปชฺชิ. อุปาสโก ทิสฺวา อุฏฺาย คนฺตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา ‘‘ปตฺตํ, ภนฺเต, เทถา’’ติ อาห. เถโร ปตฺตํ อทาสิ. ‘‘ภนฺเต, อิเธว ปวิสถ, สตฺถาปิ เคเห นิสินฺโน’’ติ. ‘‘น วฏฺฏิสฺสติ, อุปาสกา’’ติ. โส เถรสฺส ปตฺตํ คเหตฺวา ปิณฺฑปาตสฺส ปูเรตฺวา อทาสิ. ตโต เถรํ อนุคนฺตฺวา นิวตฺโต สตฺถุ สนฺติเก นิสีทิตฺวา เอวมาห – ‘‘มหานิสภตฺเถโร, ภนฺเต, ‘สตฺถาปิ เคเห นิสินฺโน’ติ วุตฺเตปิ ปวิสิตุํ น อิจฺฉิ, อตฺถิ นุ โข เอตสฺส ตุมฺหากํ คุเณหิ อติเรกคุโณ’’ติ. พุทฺธานฺจ วณฺณมจฺเฉรํ ¶ ¶ นาม นตฺถิ, ตสฺมา สตฺถา เอวมาห – ‘‘อุปาสก, มยํ ภิกฺขํ อาคมยมานา เคเห นิสีทาม, โส ปน ภิกฺขุ น เอวํ นิสีทิตฺวา ภิกฺขํ อุทิกฺขติ, มยํ คามนฺตเสนาสเน วสาม, โส อรฺสฺมึเยว วสติ, มยํ ฉนฺเน วสาม, โส อพฺโภกาเสเยว วสตี’’ติ ภควา ‘‘อยฺจ อยฺเจตสฺส คุโณ’’ติ มหาสมุทฺทํ ปูรยมาโน วิย ตสฺส คุณํ กเถสิ.
อุปาสโก ปกติยาปิ ชลมานปทีโป เตเลน อาสิตฺโต วิย สุฏฺุตรํ ปสนฺโน หุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘กึ มยฺหํ อฺาย สมฺปตฺติยา, อนาคเต เอกสฺส พุทฺธสฺส สนฺติเก ธุตวาทานํ อคฺคภาวตฺถาย ปตฺถนํ กริสฺสามี’’ติ. โส ปุนปิ สตฺถารํ นิมนฺเตตฺวา เตเนว นิยาเมน สตฺต ทิวเส มหาทานํ ทตฺวา สตฺตเม ทิวเส พุทฺธปฺปมุขสฺส มหาภิกฺขุสงฺฆสฺส ติจีวรานิ ทตฺวา สตฺถุ ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา เอวมาห – ‘‘ยํ เม, ภนฺเต, สตฺต ทิวเส ทานํ เทนฺตสฺส เมตฺตํ กายกมฺมํ, เมตฺตํ วจีกมฺมํ, เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ, อิมินาหํ น อฺํ เทวสมฺปตฺตึ วา สกฺกมารพฺรหฺมสมฺปตฺตึ วา ปตฺเถมิ, อิทํ ปน เม กมฺมํ อนาคเต เอกสฺส พุทฺธสฺส สนฺติเก มหานิสภตฺเถเรน ปตฺตฏฺานนฺตรํ ปาปุณนตฺถาย เตรสธุตงฺคธรานํ อคฺคภาวสฺส อธิกาโร โหตู’’ติ. สตฺถา ‘‘มหนฺตํ านํ อิมินา ปตฺถิตํ, สมิชฺฌิสฺสติ นุ โข, โน’’ติ โอโลเกนฺโต สมิชฺฌนภาวํ ทิสฺวา อาห – ‘‘มนาปํ เต านํ ปตฺถิตํ, อนาคเต สตสหสฺสกปฺปาวสาเน โคตโม นาม พุทฺโธ อุปฺปชฺชิสฺสติ ¶ , ตสฺส ตฺวํ ตติยสาวโก มหากสฺสปตฺเถโร นาม ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ. ตํ สุตฺวา อุปาสโก ‘‘พุทฺธานํ ทฺเว กถา นาม นตฺถี’’ติ ปุนทิวเส ปตฺตพฺพํ วิย ตํ สมฺปตฺตึ อมฺิตฺถ. โส ยาวตายุกํ ทานํ ทตฺวา, สีลํ สมาทาย รกฺขิตฺวา, นานปฺปการํ กลฺยาณกมฺมํ กตฺวา, กาลํ กตฺวา, สคฺเค นิพฺพตฺติ.
ตโต ปฏฺาย เทวมนุสฺเสสุ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต อิโต เอกนวุเต กปฺเป วิปสฺสิสมฺมาสมฺพุทฺเธ พนฺธุมตีนครํ อุปนิสฺสาย เขเม มิคทาเย วิหรนฺเต เทวโลกา จวิตฺวา อฺตรสฺมึ ปริชิณฺณพฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติ. ตสฺมิฺจ กาเล วิปสฺสี ภควา สตฺตเม สตฺตเม สํวจฺฉเร ธมฺมํ กเถสิ, มหนฺตํ โกลาหลํ โหติ. สกลชมฺพุทีเป เทวตา ‘‘สตฺถา ธมฺมํ กเถสฺสตี’’ติ อาโรเจสุํ. พฺราหฺมโณ ตํ สาสนํ อสฺโสสิ ¶ . ตสฺส จ นิวาสนสาฏโก เอโกเยว โหติ, ตถา พฺราหฺมณิยา. ปารุปนํ ปน ทฺวินฺนมฺปิ เอกเมว. โส สกลนคเร ‘‘เอกสาฏกพฺราหฺมโณ’’ติ ปฺายิ. โส พฺราหฺมณานํ เกนจิเทว กิจฺเจน สนฺนิปาเต สติ พฺราหฺมณึ เคเห เปตฺวา สยํ ตํ วตฺถํ ปารุปิตฺวา คจฺฉติ. พฺราหฺมณีนํ สนฺนิปาเต สติ สยํ เคเห อจฺฉติ, พฺราหฺมณี ตํ วตฺถํ ปารุปิตฺวา คจฺฉติ. ตสฺมึ ปน ทิวเส พฺราหฺมโณ พฺราหฺมณึ อาห – ‘‘โภติ, กึ รตฺตึ ธมฺมํ สุณิสฺสสิ, ทิวา’’ติ? ‘‘มยํ มาตุคามชาติกา นาม รตฺตึ ¶ โสตุํ น สกฺโกม, ทิวา โสสฺสามา’’ติ พฺราหฺมณํ เคเห เปตฺวา ตํ วตฺถํ ปารุปิตฺวา อุปาสิกาหิ สทฺธึ ทิวา คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺเต นิสินฺนา ธมฺมํ สุตฺวา อุปาสิกาหิเยว สทฺธึ อาคมาสิ. อถ พฺราหฺมโณ พฺราหฺมณึ เคเห เปตฺวา ตํ วตฺถํ ปารุปิตฺวา วิหารํ คโต.
ตสฺมึ สมเย สตฺถา ปริสมชฺเฌ อลงฺกตธมฺมาสเน นิสินฺโน จิตฺตพีชนึ อาทาย อากาสคงฺคํ โอตาเรนฺโต วิย, สิเนรุํ มนฺถํ กตฺวา สาครํ นิมฺมเถนฺโต วิย, ธมฺมกถํ กเถสิ. พฺราหฺมณสฺส ปริสปริยนฺเต นิสินฺนสฺส ธมฺมํ สุณนฺตสฺส ปมยามสฺมึเยว สกลสรีรํ ปูรยมานา ปฺจวณฺณา ปีติ อุปฺปชฺชิ. โส ปารุตวตฺถํ สงฺฆริตฺวา ‘‘ทสพลสฺส ทสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. อถสฺส อาทีนวสหสฺสํ ทสฺสยมานํ มจฺเฉรํ อุปฺปชฺชิ. โส ‘‘พฺราหฺมณิยา มยฺหฺจ เอกเมว วตฺถํ, อฺํ กิฺจิ ปารุปนํ นตฺถิ, อปารุปิตฺวา จ นาม พหิ วิจริตุํ น สกฺกา’’ติ สพฺพถาปิ อทาตุกาโม อโหสิ, อถสฺส นิกฺขนฺเต ปมยาเม มชฺฌิมยาเมปิ ตเถว ปีติ อุปฺปชฺชิ. ตเถว จินฺเตตฺวา ตเถว อทาตุกาโม อโหสิ. อถสฺส มชฺฌิมยาเม นิกฺขนฺเต ปจฺฉิมยาเมปิ ตเถว ปีติ อุปฺปชฺชิ. ตทา โส ‘‘ยํ วา โหตุ ตํ วา ปจฺฉาปิ ชานิสฺสามี’’ติ วตฺถํ สงฺฆริตฺวา ¶ สตฺถุ ปาทมูเล เปสิ. ตโต วามหตฺถํ อาภุชิตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน ติกฺขตฺตุํ อปฺโผเฏตฺวา ‘‘ชิตํ เม, ชิตํ เม’’ติ ตโย วาเร นทิ.
ตสฺมิฺจ สมเย พนฺธุมราชา ธมฺมาสนสฺส ปจฺฉโต อนฺโตสาณิยํ นิสินฺโน ธมฺมํ สุณาติ. รฺโ จ นาม ‘‘ชิตํ เม’’ติ สทฺโท อมนาโป โหติ ¶ . โส ปุริสํ เปเสสิ – ‘‘คจฺฉ, เอตํ ปุจฺฉ กึ วทสี’’ติ. โส เตน คนฺตฺวา ปุจฺฉิโต ‘‘อวเสสา หตฺถิยานาทีนิ อารุยฺห อสิจมฺมาทีนิ คเหตฺวา ปรเสนํ ชินนฺติ, น ตํ อจฺฉริยํ. อหํ ปน ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺตสฺส กูฏโคณสฺส มุคฺคเรน สีสํ ภินฺทิตฺวา ตํ ปลาเปนฺโต วิย มจฺเฉรจิตฺตํ มทฺทิตฺวา ปารุตวตฺถํ ทสพลสฺส อทาสึ, ตํ เม มจฺฉริยํ ชิต’’นฺติ อาห. โส ปุริโส อาคนฺตฺวา ตํ ปวตฺตึ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา อาห – ‘‘อมฺเห, ภเณ, ทสพลสฺส อนุรูปํ น ชานิมฺห, พฺราหฺมโณ ชานี’’ติ วตฺถยุคํ เปเสสิ. ตํ ทิสฺวา พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ – ‘‘อยํ มยฺหํ ตุณฺหีนิสินฺนสฺส ปมํ กิฺจิ อทตฺวา สตฺถุ คุเณ กเถนฺตสฺส อทาสิ. สตฺถุ คุเณ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺเนน ปน มยฺหํ โก อตฺโถ’’ติ ตมฺปิ วตฺถยุคํ ทสพลสฺเสว อทาสิ. ราชาปิ ‘‘กึ พฺราหฺมเณน กต’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ตมฺปิ เตน วตฺถยุคํ ตถาคตสฺเสว ทินฺน’’นฺติ สุตฺวา อฺานิปิ ทฺเว วตฺถยุคานิ เปเสสิ, โส ตานิปิ อทาสิ. ราชา อฺานิปิ จตฺตารีติ เอวํ ยาว ทฺวตฺตึสวตฺถยุคานิ เปเสสิ. อถ พฺราหฺมโณ ‘‘อิทํ วฑฺเฒตฺวา วฑฺเฒตฺวา คหณํ วิย โหตี’’ติ ¶ อตฺตโน อตฺถาย เอกํ, พฺราหฺมณิยา เอกนฺติ ทฺเว วตฺถยุคานิ คเหตฺวา ตึสยุคานิ ตถาคตสฺเสว อทาสิ. ตโต ปฏฺาย จ โส สตฺถุ วิสฺสาสิโก ชาโต.
อถ นํ ราชา เอกทิวสํ สีตสมเย สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตํ ทิสฺวา สตสหสฺสคฺฆนกํ อตฺตนา ปารุตรตฺตกมฺพลํ ทตฺวา อาห – ‘‘อิโต ปฏฺาย อิมํ ปารุปิตฺวา ธมฺมํ สุณาหี’’ติ. โส ‘‘กึ เม อิมินา กมฺพเลน อิมสฺมึ ปูติกาเย อุปนีเตนา’’ติ จินฺเตตฺวา อนฺโตคนฺธกุฏิยํ ตถาคตสฺส มฺจสฺส อุปริ วิตานํ กตฺวา อคมาสิ. อเถกทิวสํ ราชา ปาโตว วิหารํ คนฺตฺวา อนฺโตคนฺธกุฏิยํ สตฺถุ สนฺติเก นิสีทิ. ตสฺมิฺจ สมเย ฉพฺพณฺณา พุทฺธรสฺมิโย กมฺพเล ปฏิหฺนฺติ, กมฺพโล อติวิย วิโรจติ. ราชา อุลฺโลเกนฺโต สฺชานิตฺวา อาห – ‘‘อมฺหากํ, ภนฺเต, เอส กมฺพโล, อมฺเหหิ เอกสาฏกพฺราหฺมณสฺส ทินฺโน’’ติ. ‘‘ตุมฺเหหิ, มหาราช, พฺราหฺมโณ ปูชิโต, พฺราหฺมเณน มยํ ปูชิตา’’ติ. ราชา ‘‘พฺราหฺมโณ ยุตฺตํ อฺาสิ, น มย’’นฺติ ปสีทิตฺวา ยํ มนุสฺสานํ อุปการภูตํ, ตํ สพฺพํ อฏฺฏฺกํ กตฺวา สพฺพฏฺกํ นาม ทานํ ทตฺวา ปุโรหิตฏฺาเน เปสิ. โสปิ ‘‘อฏฺฏฺกํ นาล จตุสฏฺิ โหตี’’ติ ¶ จตุสฏฺิ ¶ สลากภตฺตานิ อุปนิพนฺธาเปตฺวา ยาวชีวํ ทานํ ทตฺวา สีลํ รกฺขิตฺวา ตโต จุโต สคฺเค นิพฺพตฺติ.
ปุน ตโต จุโต อิมสฺมึ กปฺเป โกณาคมนสฺส จ ภควโต กสฺสปทสพลสฺส จาติ ทฺวินฺนํ พุทฺธานํ อนฺตเร พาราณสิยํ กุฏุมฺพิยฆเร นิพฺพตฺโต. โส วุทฺธิมนฺวาย ฆราวาสํ วสนฺโต เอกทิวสํ อรฺเ ชงฺฆวิหารํ จรติ. ตสฺมิฺจ สมเย ปจฺเจกพุทฺโธ นทีตีเร จีวรกมฺมํ กโรนฺโต อนุวาเต อปฺปโหนฺเต สงฺฆริตฺวา เปตุํ อารทฺโธ. โส ทิสฺวา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, สงฺฆริตฺวา เปถา’’ติ อาห. ‘‘อนุวาโต นปฺปโหตี’’ติ. ‘‘อิมินา, ภนฺเต, กโรถา’’ติ อุตฺตรสาฏกํ ทตฺวา ‘‘นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน เม เกนจิ ปริหานิ มา โหตู’’ติ ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ.
ฆเรปิสฺส ภคินิยา สทฺธึ ภริยาย กลหํ กโรนฺติยา ปจฺเจกพุทฺโธ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อถสฺส ภคินี ปจฺเจกพุทฺธสฺส ปิณฺฑปาตํ ทตฺวา ตสฺส ภริยํ สนฺธาย ‘‘เอวรูปํ พาลํ โยชนสเตน ปริวชฺเชยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ. สา เคหงฺคเณ ิตา สุตฺวา ‘‘อิมาย ทินฺนภตฺตํ มา เอส ภฺุชตู’’ติ ปตฺตํ คเหตฺวา ปิณฺฑปาตํ ฉฑฺเฑตฺวา กลลสฺส ปูเรตฺวา อทาสิ. อิตรา ทิสฺวา ‘‘พาเล, ตฺวํ มํ ตาว อกฺโกส วา ปหร วา, เอวรูปสฺส ปน ทฺเว อสงฺขฺเยยฺยานิ ปูริตปารมิสฺส ปตฺตโต ภตฺตํ ฉฑฺเฑตฺวา กลลํ ทาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ อาห. อถสฺส ภริยาย ปฏิสงฺขานํ อุปฺปชฺชิ. สา ‘‘ติฏฺถ, ภนฺเต’’ติ กลลํ ฉฑฺเฑตฺวา ปตฺตํ โธวิตฺวา คนฺธจุณฺเณน ¶ . อุพฺพฏฺเฏตฺวา ปณีตภตฺตสฺส จตุมธุรสฺส จ ปูเรตฺวา อุปริ อาสิตฺเตน ปทุมคพฺภวณฺเณน สปฺปินา วิชฺโชตมานํ ปจฺเจกพุทฺธสฺส หตฺเถ เปตฺวา ‘‘ยถา อยํ ปิณฺฑปาโต โอภาสชาโต, เอวํ โอภาสชาตํ เม สรีรํ โหตู’’ติ ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ. ปจฺเจกพุทฺโธ อนุโมทิตฺวา อากาสํ ปกฺขนฺทิ.
เตปิ ชายมฺปติกา ยาวตายุกํ กุสลํ กตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺติตฺวา ปุน ตโต จวิตฺวา อุปาสโก กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล พาราณสิยํ อสีติโกฏิวิภวสฺส เสฏฺิโน ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, อิตราปิ ตาทิสสฺเสว เสฏฺิโน ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺส วุทฺธิปฺปตฺตสฺส ตเมว เสฏฺิธีตรํ อานยึสุ. ตสฺสา ปุพฺเพ อนิฏฺวิปากสฺส ปาปกมฺมสฺส อานุภาเวน ¶ ปติกุลํ ปวิฏฺมตฺตาย อุมฺมารพฺภนฺตเร สกลสรีรํ อุคฺฆาฏิตวจฺจกุฏิ วิย ทุคฺคนฺธํ ชาตํ. เสฏฺิกุมาโร ‘‘กสฺสายํ คนฺโธ’’ติ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘เสฏฺิกฺายา’’ติ สุตฺวา, ‘‘นีหรถ, นีหรถา’’ติ อาภตนิยาเมเนว กุลฆรํ เปเสสิ. สา เอเตเนว นีหาเรน สตฺตสุ าเนสุ ปฏินิวตฺติตา.
เตน จ สมเยน กสฺสปทสพโล ปรินิพฺพายิ. ตสฺส ฆนโกฏฺฏิมาหิ สตสหสฺสคฺฆนิกาหิ ¶ รตฺตสุวณฺณิฏฺกาหิ โยชนุพฺเพธํ เจติยํ อารภึสุ. ตสฺมึ เจติเย กรียมาเน สา เสฏฺิธีตา จินฺเตสิ – ‘‘อหํ สตฺตสุ าเนสุ ปฏินิวตฺติตา, กึ เม ชีวิเตนา’’ติ อตฺตโน อาภรณภณฺฑํ ภฺชาเปตฺวา สุวณฺณิฏฺกํ กาเรสิ รตนายตํ วิทตฺถิวิตฺถินฺนํ จตุรงฺคุลุพฺเพธํ. ตโต หริตาลมโนสิลาปิณฺฑํ คเหตฺวา อฏฺ อุปฺปลหตฺถเก อาทาย เจติยกรณฏฺานํ คตา. ตสฺมิฺจ ขเณ เอกา อิฏฺกาปนฺติ ปริกฺขิปิตฺวา อาคจฺฉมานา ฆฏนิฏฺกาย อูนา โหติ, เสฏฺิธีตา วฑฺฒกึ อาห – ‘‘อิมํ อิฏฺกํ เอตฺถ เปถา’’ติ. ‘‘อมฺม, ภทฺทเก กาเล อาคตาสิ, สยเมว เปหี’’ติ. สา อารุยฺห เตเลน หริตาลมโนสิลาปิณฺฑํ โยเชตฺวา เตน พนฺธเนน อิฏฺกํ ปติฏฺเปตฺวา อุปริ อฏฺหิ อุปฺปลหตฺถเกหิ ปูชํ กตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน เม กายโต จนฺทนคนฺโธ วายตุ, มุขโต อุปฺปลคนฺโธ’’ติ ปตฺถนํ กตฺวา เจติยํ วนฺทิตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา อคมาสิ.
อถ ตสฺมึเยว ขเณ ยสฺส เสฏฺิปุตฺตสฺส ปมํ เคหํ นีตา, ตสฺส ตํ อารพฺภ สติ อุทปาทิ. นคเรปิ นกฺขตฺตํ สงฺฆุฏฺํ โหติ. โส อุปฏฺาเก อาห – ‘‘ตทา อิธ อานีตา เสฏฺิธีตา อตฺถิ, กหํ สา’’ติ? ‘‘กุลเคเห สามี’’ติ. ‘‘อาเนถ นํ, นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสามา’’ติ. เต คนฺตฺวา ตํ วนฺทิตฺวา ิตา ‘‘กึ, ตาตา, อาคตตฺถา’’ติ ตาย ปุฏฺา ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขึสุ. ‘‘ตาตา, มยา อาภรณภณฺเฑน เจติยํ ปูชิตํ, อาภรณํ เม นตฺถี’’ติ ¶ . เต คนฺตฺวา เสฏฺิปุตฺตสฺส อาโรเจสุํ. อาเนถ นํ, ปิฬนฺธนํ ลภิสฺสตีติ. เต อานยึสุ. ตสฺสา สห ฆรปเวสเนน สกลเคหํ จนฺทนคนฺโธ เจว นีลุปฺปลคนฺโธ จ วายิ. เสฏฺิปุตฺโต ตํ ปุจฺฉิ – ‘‘ปมํ ตว สรีรโต ทุคฺคนฺโธ วายิ, อิทานิ ปน เต สรีรโต จนฺทนคนฺโธ, มุขโต ¶ อุปฺปลคนฺโธ วายติ. กึ เอต’’นฺติ? สา อาทิโต ปฏฺาย อตฺตนา กตกมฺมํ อาโรเจสิ. เสฏฺิปุตฺโต ‘‘นิยฺยานิกํ วต พุทฺธสาสน’’นฺติ ปสีทิตฺวา โยชนิกํ สุวณฺณเจติยํ กมฺพลกฺจุเกน ปริกฺขิปิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ รถจกฺกปฺปมาเณหิ สุวณฺณปทุเมหิ อลงฺกริ. เตสํ ทฺวาทสหตฺถา โอลมฺพกา โหนฺติ.
โส ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺติตฺวา ตโต จุโต พาราณสิโต โยชนมตฺเต าเน อฺตรสฺมึ อมจฺจกุเล นิพฺพตฺติ, เสฏฺิกฺาปิ เทวโลกโต จวิตฺวา ราชกุเล เชฏฺธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. เตสุ วยปฺปตฺเตสุ กุมารสฺส วสนคาเม นกฺขตฺตํ สงฺฆุฏฺํ. โส มาตรํ อาห – ‘‘สาฏกํ เม, อมฺม, เทหิ, นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสามี’’ติ ¶ . สา โธตวตฺถํ นีหริตฺวา อทาสิ. ‘‘อมฺม, ถูลํ อิท’’นฺติ อาห. สา อฺํ นีหริตฺวา อทาสิ, ตมฺปิ ปฏิกฺขิปิ. อถ นํ มาตา อาห – ‘‘ตาต, ยาทิเส เคเห มยํ ชาตา, นตฺถิ โน อิโต สุขุมตรสฺส ปฏิลาภาย ปฺุ’’นฺติ. ‘‘เตน หิ ลภนฏฺานํ คจฺฉามิ อมฺมา’’ติ. ‘‘ปุตฺต, อหํ อชฺเชว ตุยฺหํ พาราณสินคเร รชฺชปฏิลาภมฺปิ อิจฺฉามี’’ติ. โส มาตรํ วนฺทิตฺวา อาห – ‘‘คจฺฉามิ, อมฺมา’’ติ. ‘‘คจฺฉ, ตาตา’’ติ. เอวํ กิรสฺสา จิตฺตํ อโหสิ – ‘‘กหํ คมิสฺสติ? อิธ วา เอตฺถ วา เคเห นิสีทิสฺสตี’’ติ. โส ปน ปฺุนิยาเมน นิกฺขมิตฺวา พาราณสึ คนฺตฺวา อุยฺยาเน มงฺคลสิลาปฏฺเฏ สสีสํ ปารุปิตฺวา นิปชฺชิ. โส จ พาราณสิรฺโ กาลงฺกตสฺส สตฺตโม ทิวโส โหติ.
อมจฺจา รฺโ สรีรกิจฺจํ กตฺวา ราชงฺคเณ นิสีทิตฺวา มนฺตยึสุ – ‘‘รฺโ เอกา ธีตาว อตฺถิ, ปุตฺโต นตฺถิ, อราชกํ รชฺชํ นสฺสติ, โก ราชา โหตี’’ติ? ‘‘ตฺวํ โหหิ, ตฺวํ โหหี’’ติ อาหํสุ. ปุโรหิโต อาห – ‘‘พหุํ โอโลเกตุํ น วฏฺฏติ, ผุสฺสรถํ วิสฺสชฺเชมา’’ติ. เต กุมุทวณฺเณ จตฺตาโร สินฺธเว โยเชตฺวา ปฺจวิธํ ราชกกุธภณฺฑํ เสตจฺฉตฺตฺจ รถสฺมึเยว เปตฺวา รถํ วิสฺสชฺเชตฺวา ปจฺฉโต ตูริยานิ ปคฺคณฺหาเปสุํ. รโถ ปาจีนทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา อุยฺยานาภิมุโข อโหสิ. ‘‘ปริจเยน อุยฺยานาภิมุโข คจฺฉติ, นิวตฺเตมา’’ติ เกจิ อาหํสุ. ปุโรหิโต ‘‘มา นิวตฺตยิตฺถา’’ติ อาห. รโถ กุมารํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อาโรหนสชฺโช หุตฺวา อฏฺาสิ, ปุโรหิโต ¶ ปารุปนกณฺณํ อปเนตฺวา ปาทตลานิ โอโลเกนฺโต, ‘‘ติฏฺตุ อยํ ทีโป, ทฺวิสหสฺสทีปปริวาเรสุ จตูสุ มหาทีเปสุ เอส รชฺชํ กาเรตุํ ¶ ยุตฺโต’’ติ วตฺวา ‘‘ปุนปิ ตูริยานิ ปคฺคณฺหถ, ปุนปิ ปคฺคณฺหถา’’ติ ติกฺขตฺตุํ ตูริยานิ ปคฺคณฺหาเปสิ.
อถ กุมาโร มุขํ วิวริตฺวา โอโลเกตฺวา, ‘‘เกน กมฺเมน อาคตตฺถา’’ติ อาห. ‘‘เทว, ตุมฺหากํ รชฺชํ ปาปุณาตี’’ติ. ‘‘ราชา กห’’นฺติ? ‘‘เทวตฺตํ คโต, สามี’’ติ. ‘‘กติ ทิวสา อติกฺกนฺตา’’ติ? ‘‘อชฺช สตฺตโม ทิวโส’’ติ. ‘‘ปุตฺโต วา ธีตา วา นตฺถี’’ติ? ‘‘ธีตา อตฺถิ เทว, ปุตฺโต นตฺถี’’ติ. ‘‘กริสฺสามิ รชฺช’’นฺติ. เต ตาวเทว อภิเสกมณฺฑปํ กาเรตฺวา ราชธีตรํ สพฺพาลงฺกาเรหิ อลงฺกริตฺวา, อุยฺยานํ อาเนตฺวา กุมารสฺส อภิเสกํ อกํสุ. อถสฺส กตาภิเสกสฺส สตสหสฺสคฺฆนกํ วตฺถํ อุปหรึสุ. โส ‘‘กิมิทํ, ตาตา’’ติ อาห. ‘‘นิวาสนวตฺถํ เทวา’’ติ. ‘‘นนุ, ตาตา, ถูล’’นฺติ? ‘‘มนุสฺสานํ ปริโภควตฺเถสุ อิโต สุขุมตรํ นตฺถิ, ¶ เทวา’’ติ. ‘‘ตุมฺหากํ ราชา เอวรูปํ นิวาเสสี’’ติ? ‘‘อาม, เทวา’’ติ. ‘‘น มฺเ ปฺุวา ตุมฺหากํ ราชา, สุวณฺณภิงฺคารํ อาหรถ, ลภิสฺสาม วตฺถ’’นฺติ. สุวณฺณภิงฺคารํ อาหรึสุ. โส อุฏฺาย หตฺเถ โธวิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา หตฺเถน อุทกํ อาทาย ปุรตฺถิมทิสายํ อพฺภุกฺกิริ. ตาวเทว ฆนปถวึ ภินฺทิตฺวา อฏฺ กปฺปรุกฺขา อุฏฺหึสุ. ปุน อุทกํ คเหตฺวา ทกฺขิณายํ ปจฺฉิมายํ อุตฺตรายนฺติ เอวํ จตูสุ ทิสาสุ อพฺภุกฺกิริ. สพฺพทิสาสุ อฏฺฏฺกํ กตฺวา ทฺวตฺตึส กปฺปรุกฺขา อุฏฺหึสุ. โส เอกํ ทิพฺพทุสฺสํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา ‘‘นนฺทรฺโ วิชิเต สุตฺตกนฺติกา อิตฺถิโย มา สุตฺตํ กนฺตึสูติ เอวํ เภรึ จราเปถา’’ติ วตฺวา ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา อลงฺกตปฏิยตฺโต หตฺถิกฺขนฺธวรคโต นครํ ปวิสิตฺวา ปาสาทํ อารุยฺห มหาสมฺปตฺตึ อนุภวิ.
เอวํ กาเล คจฺฉนฺเต เอกทิวสํ เทวี รฺโ มหาสมฺปตฺตึ ทิสฺวา, ‘‘อโห ตปสฺสี’’ติ การฺุาการํ ทสฺเสติ. ‘‘กิมิทํ, เทวี’’ติ จ ปุฏฺา ‘‘อติมหตี เต, เทว, สมฺปตฺติ. อตีเต พุทฺธานํ สทฺทหิตฺวา กลฺยาณํ อกตฺถ, อิทานิ อนาคตสฺส ปจฺจยํ กุสลํ น กโรถา’’ติ อาห. ‘‘กสฺส ทสฺสาม, สีลวนฺโต นตฺถี’’ติ? ‘‘อสฺุโ, เทว, ชมฺพุทีโป อรหนฺเตหิ, ตุมฺเห ทานเมว สชฺเชถ, อหํ อรหนฺเต ลจฺฉามี’’ติ อาห. ราชา ปุนทิวเส ¶ ปาจีนทฺวาเร ทานํ สชฺชาเปสิ. เทวี ปาโตว อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย อุปริปาสาเท ปุรตฺถาภิมุขา อุเรน นิปชฺชิตฺวา ‘‘สเจ เอติสฺสํ ทิสายํ อรหนฺโต อตฺถิ, สฺเวว อาคนฺตฺวา อมฺหากํ ภิกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ อาห. ตสฺสํ ทิสายํ อรหนฺโต นาเหสุํ, ตํ สกฺการํ กปณยาจกานํ อทํสุ. ปุนทิวเส ทกฺขิณทฺวาเร ทานํ สชฺเชตฺวา ตเถว อกาสิ, ปุนทิวเส ปจฺฉิมทฺวาเร. อุตฺตรทฺวาเร สชฺชิตทิวเส ปน เทวิยา ตเถว นิมนฺเตนฺติยา หิมวนฺเต วสนฺตานํ ปทุมวติยา ¶ ปุตฺตานํ ปฺจสตานํ ปจฺเจกพุทฺธานํ เชฏฺโก มหาปทุมปจฺเจกพุทฺโธ ภาติเก อามนฺเตสิ, ‘‘มาริสา, นนฺทราชา, ตุมฺเห นิมนฺเตติ, อธิวาเสถ ตสฺสา’’ติ. เต อธิวาเสตฺวา ปุนทิวเส อโนตตฺตทเห มุขํ โธวิตฺวา, อากาเสน อาคนฺตฺวา อุตฺตรทฺวาเร โอตรึสุ. มนุสฺสา ทิสฺวา คนฺตฺวา ‘‘ปฺจสตา, เทว, ปจฺเจกพุทฺธา อาคตา’’ติ รฺโช อาโรเจสุํ. ราชา สทฺธึ เทวิยา คนฺตฺวา, วนฺทิตฺวา, ปตฺตํ คเหตฺวา ปจฺเจกพุทฺเธ ปาสาทํ อาโรเปตฺวา, ตตฺร เนสํ ทานํ ทตฺวา, ภตฺตกิจฺจาวสาเน ราชา ¶ สงฺฆตฺเถรสฺส, เทวี, สงฺฆนวกสฺส ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา ‘‘อยฺยา ปจฺจเยหิ น กิลมิสฺสนฺติ, มยํ ปฺุเน น หายิสฺสาม. อมฺหากํ ยาวชีวํ อิธ นิวาสาย ปฏิฺํ เทถา’’ติ ปฏิฺํ กาเรตฺวา อุยฺยาเน ปฺจปณฺณสาลาสตานิ ปฺจจงฺกมนสตานีติ สพฺพากาเรน นิวาสนฏฺานานิ สมฺปาเทตฺวา ตตฺถ วสาเปสุํ.
เอวํ กาเล คจฺฉนฺเต รฺโ ปจฺจนฺโต กุปิโต. โส ‘‘อหํ ปจฺจนฺตํ วูปสเมตุํ คจฺฉามิ, ตฺวํ ปจฺเจกพุทฺเธสุ มา ปมชฺชี’’ติ เทวึ โอวทิตฺวา คโต. ตสฺมึ อนาคเตเยว ปจฺเจกพุทฺธานํ อายุสงฺขารา ขีณา. มหาปทุมปจฺเจกพุทฺโธ ติยามรตฺตึ ฌานกีฬํ กีฬิตฺวา อรุณุคฺคมเน อาลมฺพนผลกํ อาลมฺพิตฺวา ิตโกว อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิ. เอเตนุปาเยน เสสาปีติ สพฺเพว ปรินิพฺพุตา. ปุนทิวเส เทวี ปจฺเจกพุทฺธานํ นิสีทนฏฺานํ หริตูปลิตฺตํ กาเรตฺวา ปุปฺผานิ วิกิริตฺวา, ธูปํ ทตฺวา เตสํ อาคมนํ โอโลกยนฺตี นิสินฺนา อาคมนํ อปสฺสนฺตี ปุริสํ เปเสสิ – ‘‘คจฺฉ, ตาต, ชานาหิ, กึ อยฺยานํ กิฺจิ อผาสุก’’นฺติ? โส คนฺตฺวา มหาปทุมสฺส ปณฺณสาลาย ทฺวารํ วิวริตฺวา ตตฺถ อปสฺสนฺโต จงฺกมนํ คนฺตฺวา อาลมฺพนผลกํ นิสฺสาย ิตํ ทิสฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘กาโล, ภนฺเต’’ติ ¶ อาห. ‘‘ปรินิพฺพุตสรีรํ กึ กเถสฺสติ? โส นิทฺทายติ มฺเ’’ติ คนฺตฺวา ปิฏฺิปาเท หตฺเถน ปรามสิตฺวา ปาทานํ สีตลตาย เจว ถทฺธตาย จ ปรินิพฺพุตภาวํ ตฺวา, ทุติยสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. เอวํ ตติยสฺสาติ สพฺเพสํ ปรินิพฺพุตภาวํ ตฺวา ราชกุลํ คโต. ‘‘กหํ, ตาต, ปจฺเจกพุทฺธา’’ติ ปุฏฺโ ‘‘ปรินิพฺพุตา, เทวี’’ติ อาห. เทวี กนฺทนฺตี โรทนฺตี นิกฺขมิตฺวา นาคเรหิ สทฺธึ ตตฺถ คนฺตฺวา สาธุกีฬิตํ กาเรตฺวา ปจฺเจกพุทฺธานํ สรีรกิจฺจํ กาเรตฺวา ธาตุโย คเหตฺวา เจติยํ ปติฏฺาเปสิ.
ราชา ปจฺจนฺตํ วูปสเมตฺวา อาคโต ปจฺจุคฺคมนํ อาคตํ เทวึ ปุจฺฉิ – ‘‘กึ, ภทฺเท, ปจฺเจกพุทฺเธสุ นปฺปมชฺชิ, นิโรคา อยฺยา’’ติ? ‘‘ปรินิพฺพุตา เทวา’’ติ. ราชา จินฺเตติ ‘‘เอวรูปานมฺปิ ปณฺฑิตานํ มรณํ อุปฺปชฺชติ, อมฺหากํ กุโต โมกฺโข’’ติ. โส นครํ อคนฺตฺวา, อุยฺยานเมว ปวิสิตฺวา เชฏฺปุตฺตํ ปกฺโกสาเปตฺวา, ตสฺส รชฺชํ นิยฺยาเตตฺวา, สยํ สมณปพฺพชฺชํ ¶ ปพฺพชิ. เทวีปิ ‘‘อิมสฺมึ ปพฺพชิเต อหํ กึ กริสฺสามี’’ติ ตตฺเถว อุยฺยาเน ปพฺพชิตฺวา ทฺเวปิ ฌานํ ภาเวตฺวา ตโต จุตา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตึสุ.
เตสุ ตตฺเถว วสนฺเตสุ อมฺหากํ สตฺถา โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก อนุปุพฺเพน ราชคหํ ปาวิสิ. สตฺถริ ตตฺถ ปฏิวสนฺเต ¶ อยํ ปิปฺปลิมาณโว มคธรฏฺเ มหาติตฺถพฺราหฺมณคาเม กปิลพฺราหฺมณสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺโต. อยํ ภทฺทา กาปิลานี มทฺทรฏฺเ สาคลนคเร โกสิยโคตฺตพฺราหฺมณสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺตา. เตสํ อนุกฺกเมน วฑฺฒมานานํ ปิปฺปลิมาณวสฺส วีสติเม, ภทฺทาย โสฬสเม วสฺเส สมฺปตฺเต มาตาปิตโร ปุตฺตํ โอโลเกตฺวา ‘‘ตาต, ตฺวํ วยปฺปตฺโต, กุลวํโส นาม ปติฏฺเปตพฺโพ’’ติ อติวิย นิปฺปีฬยึสุ. มาณโว อาห ‘‘มยฺหํ โสตปเถ เอวรูปํ กถํ มา กเถถ. อหํ ยาว ตุมฺเห ธรถ, ตาว ปฏิชคฺคิสฺสามิ, ตุมฺหากํ อจฺจเยน นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. เต กติปาหํ อติกฺกมิตฺวา ปุน กถยึสุ. โสปิ ตเถว ปฏิกฺขิปิ. ตโต ปฏฺาย นิรนฺตรํ กเถติเยว.
มาณโว ¶ ‘‘มม มาตรํ สฺาเปสฺสามี’’ติ รตฺตสุวณฺณสฺส นิกฺขสหสฺสํ ทตฺวา สพฺพกาเมหิ สนฺตปฺเปตฺวา สุวณฺณกาเรหิ เอกํ อิตฺถิรูปํ การาเปตฺวา ตสฺส มชฺชนฆฏฺฏนาทิกมฺมปริโยสาเน ตํ รตฺตวตฺถํ นิวาสาเปตฺวา วณฺณสมฺปนฺเนหิ ปุปฺเผหิ เจว นานาอลงฺกาเรหิ จ อลงฺการาเปตฺวา มาตรํ ปกฺโกสาเปตฺวา อาห ‘‘อมฺม, เอวรูปํ อารมฺมณํ ลภนฺโต เคเห วสิสฺสามิ อลภนฺโต น วสิสฺสามี’’ติ. ปณฺฑิตา พฺราหฺมณี จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ ปุตฺโต ปฺุวา ทินฺนทาโน กตาภินีหาโร, ปฺุํ กโรนฺโต น เอกโกว อกาสิ, อทฺธา เอเตน สหกตปฺุา สุวณฺณรูปปฏิภาคาว ภวิสฺสตี’’ติ อฏฺ พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปตฺวา สพฺพกาเมหิ สนฺตปฺเปตฺวา สุวณฺณรูปกํ รถํ อาโรเปตฺวา ‘‘คจฺฉถ, ตาตา, ยตฺถ อมฺหากํ ชาติโคตฺตโภเคหิ สมาเน กุเล เอวรูปํ ทาริกํ ปสฺสถ, อิมเมว สุวณฺณรูปกํ ปณฺณาการํ กตฺวา เอถา’’ติ อุยฺโยเชสิ.
เต ‘‘อมฺหากํ นาม เอตํ กมฺม’’นฺติ นิกฺขมิตฺวา ‘‘กตฺถ คมิสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘มทฺทรฏฺํ นาม อิตฺถากโร, มทฺทรฏฺํ คมิสฺสามา’’ติ มทฺทรฏฺเ สาคลนครํ อคมํสุ. ตตฺถ ตํ สุวณฺณรูปกํ นฺหานติตฺเถ เปตฺวา เอกมนฺเต นิสีทึสุ. อถ ภทฺทาย ธาตี ภทฺทํ นฺหาเปตฺวา, อลงฺกริตฺวา, สิริคพฺเภ นิสีทาเปตฺวา สยํ นฺหายิตุํ อุทกติตฺถํ คตา ตตฺถ ตํ สุวณฺณรูปกํ ทิสฺวา ‘‘กิสฺสายํ อวินีตา อิธาคนฺตฺวา ิตา’’ติ ปิฏฺิปสฺเส ปหริตฺวา ‘‘สุวณฺณรูปก’’นฺติ ตฺวา ¶ ‘‘อยฺยธีตา เม’’ติ สฺํ อุปฺปาเทสึ, ‘‘อยํ ปน เม อยฺยธีตาย นิวาสนปฏิคฺคาหิกายาปิ อสทิสา’’ติ อาห. อถ นํ เต มนุสฺสา ปริวาเรตฺวา ‘‘เอวรูปา เต สามิธีตา’’ติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘กึ เอสา, อิมาย สุวณฺณปฏิมาย สตคุเณน สหสฺสคุเณน มยฺหํ อยฺยธีตา อภิรูปตรา, ทฺวาทสหตฺเถ คพฺเภ ¶ นิสินฺนาย ปทีปกิจฺจํ นตฺถิ, สรีโรภาเสเนว ตมํ วิธมตี’’ติ. ‘‘เตน หิ อาคจฺฉา’’ติ ตํ ขุชฺชํ คเหตฺวา สุวณฺณรูปกํ รเถ อาโรเปตฺวา โกสิยโคตฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส ฆรทฺวาเร ตฺวา อาคมนํ นิเวทยึสุ.
พฺราหฺมโณ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘กุโต อาคตตฺถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘มคธรฏฺเ มหาติตฺถคาเม กปิลพฺราหฺมณสฺส ฆรโต’’ติ. ‘‘กึ การณา อาคตา’’ติ? ‘‘อิมินา นาม การเณนา’’ติ. ‘‘กลฺยาณํ, ตาตา, สมชาติโคตฺตวิภโว อมฺหากํ พฺราหฺมโณ, ทสฺสามิ ทาริก’’นฺติ ปณฺณาการํ คณฺหิ. เต กปิลพฺราหฺมณสฺส สาสนํ ปหิณึสุ ‘‘ลทฺธา ทาริกา ¶ , กตฺตพฺพํ กโรถา’’ติ. ตํ สาสนํ สุตฺวา ปิปฺปลิมาณวสฺส อาโรจยึสุ ‘‘ลทฺธา กิร ทาริกา’’ติ. มาณโว ‘‘อหํ ‘น ลภิสฺสนฺตี’ติ จินฺเตสึ, อิเม ‘ลทฺธา’ติ วทนฺติ, อนตฺถิโก หุตฺวา ปณฺณํ เปเสสฺสามี’’ติ รโหคโต ปณฺณํ ลิขิ ‘‘ภทฺทา, อตฺตโน ชาติโคตฺตโภคานุรูปํ ฆราวาสํ ลภตุ, อหํ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิสฺสามิ, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสารินี อโหสี’’ติ. ภทฺทาปิ ‘‘อสุกสฺส กิร มํ ทาตุกาโม’’ติ สุตฺวา ‘‘ปณฺณํ เปเสสฺสามี’’ติ รโหคตา ปณฺณํ ลิขิ ‘‘อยฺยปุตฺโต อตฺตโน ชาติโคตฺตโภคานุรูปํ ฆราวาสํ ลภตุ, อหํ ปพฺพชิสฺสามิ, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสารี อโหสี’’ติ. ทฺเวปิ ปณฺณานิ อนฺตรามคฺเค สมาคจฺฉึสุ. ‘‘อิทํ กสฺส ปณฺณ’’นฺติ? ‘‘ปิปฺปลิมาณเวน ภทฺทาย ปหิต’’นฺติ. ‘‘อิทํ กสฺสา’’ติ? ‘‘ภทฺทาย ปิปฺปลิมาณวสฺส ปหิต’’นฺติ จ วุตฺเต เต ทฺเวปิ วาเจตฺวา ‘‘ปสฺสถ ทารกานํ กมฺม’’นฺติ ผาเลตฺวา อรฺเ ฉฑฺเฑตฺวา อฺํ ตํสมานํ ปณฺณํ ลิขิตฺวา อิโต เอตฺโต จ เปเสสุํ. อิติ กุมารสฺส กุมาริกาย จ สทิสํ ปณฺณํ โลกสฺสาทรหิตเมวาติ อนิจฺฉมานานํเยว ทฺวินฺนํ สมาคโม อโหสิ.
ตํ ทิวสํเยว ปิปฺปลิมาณโว เอกํ ปุปฺผทามํ คนฺถาเปสิ ภทฺทาปิ. ตานิ สยนมชฺเฌ เปสุํ ภุตฺตสายมาสา อุโภปิ ‘‘สยนํ อารุหิสฺสามา’’ติ มาณโว ทกฺขิณปสฺเสน สยนํ อารุหิ. ภทฺทา วามปสฺเสน อภิรุหิตฺวา อาห – ‘‘ยสฺส ปสฺเส ปุปฺผานิ มิลายนฺติ, ตสฺส ราคจิตฺตํ อุปฺปนฺนนฺติ วิชานิสฺสาม, อิมํ ปุปฺผทามํ น อลฺลิยิตพฺพ’’นฺติ. เต ปน อฺมฺํ สรีรสมฺผสฺสภเยน ติยามรตฺตึ นิทฺทํ อโนกฺกมนฺตาว วีตินาเมนฺติ, ทิวา ปน หสิตมตฺตมฺปิ นาโหสิ. เต โลกามิเสน อสํสฏฺา ยาว มาตาปิตโร ธรนฺติ, ตาว กุฏุมฺพํ อวิจาเรตฺวา เตสุ กาลงฺกเตสุ วิจารยึสุ. มหตี มาณวสฺส สมฺปตฺติ – เอกทิวสํ สรีรํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา ¶ ฉฑฺเฑตพฺพํ สุวณฺณจุณฺณํ เอว มคธนาฬิยา ทฺวาทสนาฬิมตฺตํ ลทฺธุํ ¶ วฏฺฏติ. ยนฺตพทฺธานิ สฏฺิมหาตฬากานิ, กมฺมนฺโต ทฺวาทสโยชนิโก, อนุราธปุรปมาณา จุทฺทส คามา, จุทฺทส หตฺถานีกานิ, จุทฺทส อสฺสานีกานิ, จุทฺทส รถานีกานิ.
โส เอกทิวสํ อลงฺกตอสฺสํ อารุยฺห มหาชนปริวุโต กมฺมนฺตํ คนฺตฺวา เขตฺตโกฏิยํ ิโต นงฺคเลหิ ภินฺนฏฺานโต กากาทโย สกุเณ ¶ คณฺฑุปฺปาทาทิปาณเก อุทฺธริตฺวา ขาทนฺเต ทิสฺวา, ‘‘ตาตา, อิเม กึ ขาทนฺตี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘คณฺฑุปฺปาเท, อยฺยา’’ติ. ‘‘เอเตหิ กตํ ปาปํ กสฺส โหตี’’ติ? ‘‘ตุมฺหากํ, อยฺยา’’ติ. โส จินฺเตสิ – ‘‘สเจ เอเตหิ กตํ ปาปํ มยฺหํ โหติ, กึ เม กริสฺสติ สตฺตอสีติโกฏิธนํ, กึ ทฺวาทสโยชโน กมฺมนฺโต, กึ ยนฺตพทฺธานิ ตฬากานิ, กึ จุทฺทส คามา, สพฺพเมตํ ภทฺทาย กาปิลานิยา นิยฺยาเตตฺวา นิกฺขมฺม ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.
ภทฺทาปิ กาปิลานี ตสฺมึ ขเณ อนฺตรวตฺถุมฺหิ ตโย ติลกุมฺเภ ปตฺถราเปตฺวา ธาตีหิ ปริวุตา นิสินฺนา กาเก ติลปาณเก ขาทมาเน ทิสฺวา, ‘‘อมฺมา, กึ อิเม ขาทนฺตี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ปาณเก อยฺเย’’ติ. ‘‘อกุสลํ กสฺส โหตี’’ติ? ‘‘ตุมฺหากํ, อยฺเย’’ติ. สา จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ จตุหตฺถวตฺถํ นาฬิโกทนมตฺตฺจ ลทฺธุํ วฏฺฏติ, ยทิ ปเนตํ เอตฺตเกน ชเนน กตํ อกุสลํ มยฺหํ โหติ, ภวสหสฺเสนปิ วฏฺฏโต สีสํ อุกฺขิปิตุํ น สกฺกา. อยฺยปุตฺเต อาคตมตฺเตเยว สพฺพํ ตสฺส นิยฺยาเตตฺวา นิกฺขมฺม ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.
มาณโว อาคนฺตฺวา, นฺหตฺวา ปาสาทํ อารุยฺห มหารเห ปลฺลงฺเก นิสีทิ. อถสฺส จกฺกวตฺติโน อนุจฺฉวิกํ โภชนํ สชฺชยึสุ. ทฺเวปิ ภฺุชิตฺวา ปริชเน นิกฺขนฺเต รโหคตา ผาสุกฏฺาเน นิสีทึสุ. ตโต มาณโว ภทฺทํ อาห – ‘‘ภทฺเท, อิมํ ฆรํ อาคจฺฉนฺตี ตฺวํ กิตฺตกํ ธนํ อาหรสี’’ติ? ‘‘ปฺจปณฺณาส สกฏสหสฺสานิ, อยฺยา’’ติ. ‘‘ตํ สพฺพํ, ยา จ อิมสฺมึ ฆเร สตฺตอสีติโกฏิโย ยนฺตพทฺธสฏฺิตฬากาทิเภทา จ สมฺปตฺติ อตฺถิ, ตํ สพฺพฺจ ตุยฺหํเยว นิยฺยาเทมี’’ติ. ‘‘ตุมฺเห ปน กหํ คจฺฉถ, อยฺยา’’ติ? ‘‘อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. ‘‘อยฺย, อหมฺปิ ตุมฺหากํเยว อาคมนํ โอโลกยมานา นิสินฺนา. อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. เตสํ อาทิตฺตปณฺณกุฏิ วิย ตโย ภวา อุปฏฺหึสุ. เต อนฺตราปณโต กสายรสปีตานิ วตฺถานิ มตฺติกาปตฺเต จ อาหราเปตฺวา อฺมฺํ เกเส โอโรเปตฺวา ‘‘เย โลเก อรหนฺโต, เต อุทฺทิสฺส อมฺหากํ ปพฺพชฺชา’’ติ ปพฺพชิตฺวา, ถวิกาสุ ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา อํเส ¶ ลคฺเคตฺวา ปาสาทโต โอตรึสุ. เคเห ทาเสสุ วา กมฺมกเรสุ วา น โกจิ สฺชานิ.
อถ ¶ ¶ เน พฺราหฺมณคามโต นิกฺขมฺม ทาสคามทฺวาเรน คจฺฉนฺเต อากปฺปกุตฺตวเสน ทาสคามวาสิโน สฺชานึสุ. เต โรทนฺตา ปาเทสุ นิปติตฺวา ‘‘กึ, อมฺเห, อนาเถ กโรถ อยฺยา’’ติ อาหํสุ. ‘‘มยํ, ‘ภเณ, อาทิตฺตปณฺณสาลา วิย ตโย ภวา’ติ ปพฺพชิมฺหา. สเจ ตุมฺเหสุ เอเกกํ ภุชิสฺสํ กโรม, วสฺสสตมฺปิ นปฺปโหติ. ตุมฺเหว ตุมฺหากํ สีสํ โธวิตฺวา ภุชิสฺสา หุตฺวา ชีวถา’’ติ วตฺวา เตสํ โรทนฺตานํเยว ปกฺกมึสุ.
เถโร ปุรโต คจฺฉนฺโต นิวตฺติตฺวา โอโลเกนฺโต จินฺเตสิ – ‘‘อยํ, ภทฺทา กาปิลานี, สกลชมฺพุทีปคฺฆนิกา อิตฺถี มยฺหํ ปจฺฉโต อาคจฺฉติ, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ โกจิเทว เอวํ จินฺเตยฺย ‘อิเม ปพฺพชิตาปิ วินา ภวิตุํ น สกฺโกนฺติ, อนนุจฺฉวิกํ กโรนฺตี’ติ, โกจิ ปาเปน มนํ ปทูเสตฺวา อปายปูรโก ภเวยฺย, อิมํ ปหาย มยฺหํ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ. โส ปุรโต คจฺฉนฺโต ทฺเวธาปถํ ทิสฺวา ตสฺส มตฺถเก อฏฺาสิ. ภทฺทาปิ อาคนฺตฺวา, วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. อถ นํ อาห – ‘‘ภทฺเท, ตาทิสึ อิตฺถึ มม ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺตึ ทิสฺวา ‘อิเม ปพฺพชิตาปิ วินา ภวิตุํ น สกฺโกนฺตี’ติ จินฺเตตฺวา อมฺเหสุ ปทุฏฺจิตฺโต มหาชโน อปายปูรโก ภเวยฺย. อิมสฺมึ ทฺเวธาปเถ ตฺวํ เอกํ คณฺห, อหเมเกน คมิสฺสามี’’ติ. ‘‘อาม, อยฺย, ปพฺพชิตานํ มาตุคาโม ปลิโพโธ, ‘ปพฺพชิตฺวาปิ วินา น ภวนฺตี’ติ อมฺหากํ โทสํ ทสฺเสสฺสนฺติ, ตุมฺเห เอกํ มคฺคํ คณฺหถ, วินา ภวิสฺสามา’’ติ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา จตูสุ าเนสุ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา ทสนขสโมธานสมุชฺชลํ อฺชลึ ปคฺคยฺห ‘‘สตสหสฺสกปฺปปริมาเณ อทฺธาเน กโต มิตฺตสนฺถโว อชฺช ภิชฺชตี’’ติ วตฺวา ‘‘ตุมฺเห ทกฺขิณชาติกา นาม, ตุมฺหากํ ทกฺขิณมคฺโค วฏฺฏติ, มยํ มาตุคามา นาม วามชาติกา, อมฺหากํ วามมคฺโค วฏฺฏตี’’ติ วนฺทิตฺวา มคฺคํ ปฏิปนฺนา. เตสํ ทฺเวธาภูตกาเล อยํ มหาปถวี ‘‘อหํ จกฺกวาฬสิเนรุปพฺพเต ธาเรตุํ สกฺโกนฺตีปิ ตุมฺหากํ คุเณ ธาเรตุํ น สกฺโกมี’’ติ วทนฺตี วิย วิรวมานา กมฺปิ, อากาเส อสนิสทฺโท วิย ปวตฺติ, จกฺกวาฬสิเนรุปพฺพโต อุนฺนทิ.
สมฺมาสมฺพุทฺโธ เวฬุวนมหาวิหาเร คนฺธกุฏิยํ นิสินฺโน ปถวีกมฺปนสทฺทํ สุตฺวา ‘‘กิสฺส นุ โข ปถวี กมฺปตี’’ติ อาวชฺเชนฺโต ‘‘ปิปฺปลิมาณโว จ ภทฺทา จ กาปิลานี มํ อุทฺทิสฺส อปฺปเมยฺยํ ¶ สมฺปตฺตึ ปหาย ปพฺพชิตา. เตสํ ¶ วิโยคฏฺาเน อุภินฺนํ คุณพเลน อยํ ปถวีกมฺโป ชาโต. มยาปิ เอเตสํ สงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ คนฺธกุฏิโต นิกฺขมฺม สยเมว ปตฺตจีวรมาทาย อสีติมหาเถเรสุ กฺจิปิ อนามนฺเตตฺวา ติคาวุตํ มคฺคํ ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา ราชคหสฺส จ นาลนฺทาย จ อนฺตเร พหุปุตฺตกนิคฺโรธรุกฺขมูเล ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสีทิ. นิสีทนฺโต ¶ ปน อฺตรปํสุกูลิโก วิย อนิสีทิตฺวา พุทฺธเวสํ คเหตฺวา อสีติหตฺถฆนพุทฺธรสฺมิโย วิสฺสชฺเชนฺโต นิสีทิ. อิติ ตสฺมึ ขเณ ปณฺณจฺฉตฺตสกฏจกฺกกูฏาคาราทิปฺปมาณา พุทฺธรสฺมิโย อิโต จิโต จ วิปฺผรนฺติโย วิธาวนฺติโย จนฺทสหสฺสสูริยสหสฺสอุคฺคมนกาโล วิย กุรุมานา ตํ วนนฺตํ เอโกภาสํ อกํสุ. ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณสิริยา สมุชฺชลตาราคเณน วิย คคนํ, สุปุปฺผิตกมลกุวลเยน วิย สลิลํ, วนนฺตํ วิโรจิตฺถ. นิคฺโรธรุกฺขสฺส นาม ขนฺโธ เสโต โหติ, ปตฺตานิ นีลานิ, ปกฺกานิ รตฺตานิ. ตสฺมึ ปน ทิวเส สตสาโข นิคฺโรโธ สุวณฺณวณฺโณว อโหสิ.
มหากสฺสปตฺเถโร ‘‘อยํ อมฺหากํ สตฺถา ภวิสฺสติ, อิมํ อหํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิโต’’ติ ทิฏฺฏฺานโต ปฏฺาย โอณโตณโตว คนฺตฺวา ตีสุ าเนสุ วนฺทิตฺวา ‘‘สตฺถา เม, ภนฺเต, ภควา, สาวโกหมสฺมิ, สตฺถา เม, ภนฺเต, ภควา สาวโกหมสฺมี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔) อาห. อถ นํ ภควา อาห ‘‘กสฺสป, สเจ ตฺวํ อิมํ นิปจฺจการํ มหาปถวิยา กเรยฺยาสิ, สาปิ ธาเรตุํ น สกฺกุเณยฺย. ตถาคตสฺส เอวํ คุณมหนฺตตํ ชานตา ตยา กโต นิปจฺจกาโร มยฺหํ, โลมมฺปิ จาเลตุํ น สกฺโกติ. นิสีท, กสฺสป, ทายชฺชํ เต ทสฺสามี’’ติ. อถสฺส ภควา ตีหิ โอวาเทหิ อุปสมฺปทมทาสิ. ทตฺวา พหุปุตฺตกนิคฺโรธมูลโต นิกฺขมิตฺวา เถรํ ปจฺฉาสมณํ กตฺวา มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. สตฺถุ สรีรํ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณวิจิตฺตํ, มหากสฺสปสฺส สรีรํ สตฺตมหาปุริสลกฺขณปฏิมณฺฑิตํ, โส กฺจนมหานาวาย ปจฺฉาพทฺโธ วิย สตฺถุ ปทานุปทิกํ อนุคจฺฉิ. สตฺถา โถกํ มคฺคํ คนฺตฺวา มคฺคา โอกฺกมฺม อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสชฺชาการํ ทสฺเสสิ. เถโร ‘‘นิสีทิตุกาโม สตฺถา’’ติ ตฺวา อตฺตโน ปารุปิตปฏปิโลติกสงฺฆาฏึ จตุคฺคุณํ กตฺวา ปฺเปสิ.
สตฺถา ¶ ตตฺถ นิสีทิตฺวา หตฺเถน จีวรํ ปริมชฺชนฺโต ‘‘มุทุกา โข ตฺยายํ, กสฺสป, ปฏปิโลติกสงฺฆาฏี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔) อาห. เถโร ‘‘สตฺถา มม สงฺฆาฏิยา มุทุภาวํ กเถติ, ปารุปิตุกาโม ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา ‘‘ปารุปตุ, ภนฺเต, ภควา สงฺฆาฏิ’’นฺติ อาห. ‘‘ตฺวํ ¶ กึ ปารุปิสฺสสิ, กสฺสปา’’ติ? ‘‘ตุมฺหากํ นิวาสนํ ลภนฺโต ปารุปิสฺสามิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ปน ตฺวํ, กสฺสป, อิมํ ปริโภคชิณฺณํ ปํสุกูลํ ธาเรตุํ สกฺขิสฺสสิ? มยา หิ อิมสฺส ปํสุกูลสฺส คหิตทิวเส อุทกปริยนฺตํ กตฺวา มหาปถวี กมฺปิ, อิมํ พุทฺธานํ ปริโภคชิณฺณจีวรํ นาม น สกฺกา ปริตฺตคุเณน ธาเรตุํ, ปฏิพเลเนวิทํ ปฏิปตฺติปูรณสมตฺเถน ชาติปํสุกูลิเกน ธาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา เถเรน สทฺธึ จีวรํ ปริวตฺเตสิ.
เอวํ ¶ ปน จีวรปริวตฺตนํ กตฺวา เถรสฺส ปารุตจีวรํ ภควา ปารุปิ, สตฺถุ จีวรํ เถโร. ตสฺมึ สมเย อเจตนาปิ อยํ มหาปถวี ‘‘ทุกฺกรํ, ภนฺเต, อกตฺถ, อตฺตนา ปารุตจีวรํ สาวกสฺส ทินฺนปุพฺโพ นาม นตฺถิ, อหํ ตุมฺหากํ คุณํ ธาเรตุํ น สกฺโกมี’’ติ วทนฺตี วิย อุทกปริยนฺตํ กตฺวา กมฺปิ. เถโรปิ ‘‘ลทฺธํ ทานิ มยา พุทฺธานํ ปริโภคจีวรํ, กึ เม อิทานิ อุตฺตริ กตฺตพฺพํ อตฺถี’’ติ อุนฺนตึ อกตฺวา พุทฺธานํ สนฺติเกเยว เตรส ธุตคุเณ สมาทาย สตฺตทิวสมตฺตํ ปุถุชฺชโน อโหสิ, อฏฺเม ทิวเส สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๑.๓๙๘-๔๒๐) –
‘‘ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต, โลกเชฏฺสฺส ตาทิโน;
นิพฺพุเต โลกนาถมฺหิ, ปูชํ กุพฺพนฺติ สตฺถุโน.
‘‘อุทคฺคจิตฺตา ชนตา, อาโมทิตปโมทิตา;
เตสุ สํเวคชาเตสุ, ปีติ เส อุทปชฺชถ.
‘‘าติมิตฺเต สมาเนตฺวา, อิทํ วจนมพฺรวึ;
ปรินิพฺพุโต มหาวีโร, หนฺท ปูชํ กโรมเส.
‘‘สาธูติ เต ปฏิสฺสุตฺวา, ภิยฺโย หาสํ ชนึสุ เม;
พุทฺธสฺมึ โลกนาถมฺหิ, กาหาม ปฺุสฺจยํ.
‘‘อคฺฆิยํ สุกตํ กตฺวา, สตหตฺถสมุคฺคตํ;
ทิยฑฺฒหตฺถปตฺถฏํ, วิมานํ นภมุคฺคตํ.
‘‘กตฺวาน ¶ หมฺมิยํ ตตฺถ, ตาลปนฺตีหิ จิตฺติตํ;
สกํ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, เจติยํ ปูชยุตฺตมํ.
‘‘อคฺคิกฺขนฺโธว ชลิโต, กึสุโก อิว ผุลฺลิโต;
อินฺทลฏฺีว อากาเส, โอภาเสติ จตุทฺทิสา.
‘‘ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, กตฺวาน กุสลํ พหุํ;
ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวาน, ติทสํ อุปปชฺชหํ.
‘‘สหสฺสยุตฺตํ หยวาหึ, ทิพฺพยานมธิฏฺิโต;
อุพฺพิทฺธํ ภวนํ มยฺหํ, สตฺตภูมํ สมุคฺคตํ.
‘‘กูฏาคารสหสฺสานิ, สพฺพโสณฺณมยา อหุํ;
ชลนฺติ สกเตเชน, ทิสา สพฺพา ปภาสยํ.
‘‘สนฺติ อฺเปิ นิยฺยูหา, โลหิตงฺคมยา ตทา;
เตปิ โชตนฺติ อาภาย, สมนฺตา จตุโร ทิสา.
‘‘ปฺุกมฺมาภินิพฺพตฺตา, กูฏาคารา สุนิมฺมิตา;
มณิมยาปิ โชตนฺติ, ทิสา ทส สมนฺตโต.
‘‘เตสํ ¶ อุชฺโชตมานานํ, โอภาโส วิปุโล อหุ;
สพฺเพ เทเว อภิโภมิ, ปฺุกมฺมสฺสิทํ ผลํ.
‘‘สฏฺิกปฺปสหสฺสมฺหิ, อุพฺพิทฺโธ นาม ขตฺติโย;
จาตุรนฺโต วิชิตาวี, ปถวึ อาวสึ อหํ.
‘‘ตเถว ภทฺทเก กปฺเป, ตึสกฺขตฺตุํ อโหสหํ;
สกกมฺมาภิรทฺโธมฺหิ, จกฺกวตฺตี มหพฺพโล.
‘‘สตฺตรตนสมฺปนฺโน, จตุทีปมฺหิ อิสฺสโร;
ตตฺถาปิ ภวนํ มยฺหํ, อินฺทลฏฺีว อุคฺคตํ.
‘‘อายามโต จตุพฺพีสํ, วิตฺถาเรน จ ทฺวาทส;
รมฺมณํ นาม นครํ, ทฬฺหปาการโตรณํ.
‘‘อายามโต ปฺจสตํ, วิตฺถาเรน ตทฑฺฒกํ;
อากิณฺณํ ชนกาเยหิ, ติทสานํ ปุรํ วิย.
‘‘ยถา ¶ สูจิฆเร สูจี, ปกฺขิตฺตา ปณฺณวีสติ;
อฺมฺํ ปฆฏฺเฏนฺติ, อากิณฺณํ โหติ ลงฺกตํ.
‘‘เอวมฺปิ นครํ มยฺหํ, หตฺถิสฺสรถสํกุลํ;
มนุสฺเสหิ สทากิณฺณํ, รมฺมณํ นครุตฺตมํ.
‘‘ตตฺถ ภุตฺวา ปิวิตฺวา จ, ปุน เทวตฺตนํ คโต;
ภเว ปจฺฉิมเก มยฺหํ, อโหสิ กุลสมฺปทา.
‘‘พฺรหฺมฺกุลสมฺภูโต, มหารตนสฺจโย;
อสีติโกฏิโย หิตฺวา, หิรฺสฺสาปิ ปพฺพชึ.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อถ นํ สตฺถา ‘‘กสฺสโป, ภิกฺขเว, จนฺทูปโม กุลานิ อุปสงฺกมติ อปกสฺเสว กายํ, อปกสฺส จิตฺตํ, นิจฺจนวโก กุเลสุ อปฺปคพฺโภ’’ติ เอวมาทินา (สํ. นิ. ๒.๑๔๖) ปสํสิตฺวา อปรภาเค อริยคณมชฺเฌ นิสินฺโน ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ธุตวาทานํ ยทิทํ มหากสฺสโป’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๘, ๑๙๑) ธุตงฺคธรานํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. โส วิเวกาภิรติกิตฺตนมุเขน ภิกฺขูนํ โอวาทํ เทนฺโต อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปกาเสนฺโต –
‘‘น คเณน ปุรกฺขโต จเร, วิมโน โหติ สมาธิ ทุลฺลโภ;
นานาชนสงฺคโห ทุโข, อิติ ทิสฺวาน คณํ น โรจเย.
‘‘น ¶ กุลานิ อุปพฺพเช มุนิ, วิมโน โหติ สมาธิ ทุลฺลโภ;
โส อุสฺสุกฺโก รสานุคิทฺโธ, อตฺถํ ริฺจติ โย สุขาวโห.
‘‘ปงฺโกติ ¶ หิ นํ อเวทยุํ, ยายํ วนฺทนปูชนา กุเลสุ;
สุขุมํ สลฺลํ ทุรุพฺพหํ, สกฺกาโร กาปุริเสน ทุชฺชโห.
‘‘เสนาสนมฺหา ¶ โอรุยฺห, นครํ ปิณฺฑาย ปาวิสึ;
ภฺุชนฺตํ ปุริสํ กุฏฺึ, สกฺกจฺจํ ตํ อุปฏฺหึ.
‘‘โส เม ปกฺเกน หตฺเถน, อาโลปํ อุปนามยิ;
อาโลปํ ปกฺขิปนฺตสฺส, องฺคุลิ เจตฺถ ฉิชฺชถ.
‘‘กุฏฺฏมูลฺจ นิสฺสาย, อาโลปํ ตํ อภฺุชิสํ;
ภฺุชมาเน วา ภุตฺเต วา, เชคุจฺฉํ เม น วิชฺชติ.
‘‘อุตฺติฏฺปิณฺโฑ อาหาโร, ปูติมุตฺตฺจ โอสธํ;
เสนาสนํ รุกฺขมูลํ, ปํสุกูลฺจ จีวรํ;
ยสฺเสเต อภิสมฺภุตฺวา, ส เว จาตุทฺทิโส นโร.
‘‘ยตฺถ เอเก วิหฺนฺติ, อารุหนฺตา สิลุจฺจยํ;
ตตฺถ พุทฺธสฺส ทายาโท, สมฺปชาโน ปฏิสฺสโต;
อิทฺธิพเลนุปตฺถทฺโธ, กสฺสโป อภิรูหติ.
‘‘ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต, เสลมารุยฺห กสฺสโป;
ฌายติ อนุปาทาโน, ปหีนภยเภรโว.
‘‘ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต, เสลมารุยฺห กสฺสโป;
ฌายติ อนุปาทาโน, ฑยฺหมาเนสุ นิพฺพุโต.
‘‘ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต, เสลมารุยฺห กสฺสโป;
ฌายติ อนุปาทาโน, กตกิจฺโจ อนาสโว.
‘‘กเรริมาลาวิตตา, ภูมิภาคา มโนรมา;
กฺุชราภิรุทา รมฺมา, เต เสลา รมยนฺติ มํ.
‘‘นีลพฺภวณฺณา รุจิรา, วาริสีตา สุจินฺธรา;
อินฺทโคปกสฺฉนฺนา, เต เสลา รมยนฺติ มํ.
‘‘นีลพฺภกูฏสทิสา, กูฏาคารวรูปมา;
วารณาภิรุทา รมฺมา, เต เสลา รมยนฺติ มํ.
‘‘อภิวุฏฺา รมฺมตลา, นคา อิสิภิ เสวิตา;
อพฺภุนฺนทิตา สิขีหิ, เต เสลา รมยนฺติ มํ.
‘‘อลํ ¶ ¶ ฌายิตุกามสฺส, ปหิตตฺตสฺส เม สโต;
อลํ เม อตฺถกามสฺส, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน.
‘‘อลํ เม ผาสุกามสฺส, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน;
อลํ เม โยคกามสฺส, ปหิตตฺตสฺส ตาทิโน.
‘‘อุมาปุปฺเผน สมานา, คคนาวพฺภฉาทิตา;
นานาทิชคณากิณฺณา, เต เสลา รมยนฺติ มํ.
‘‘อนากิณฺณา ¶ คหฏฺเหิ, มิคสงฺฆนิเสวิตา;
นานาทิชคณากิณฺณา, เต เสลา รมยนฺติ มํ.
‘‘อจฺโฉทิกา ปุถุสิลา, โคนงฺคุลมิคายุตา;
อมฺพุเสวาลสฺฉนฺนา, เต เสลา รมยนฺติ มํ.
‘‘น ปฺจงฺคิเกน ตูริเยน, รติ เม โหติ ตาทิสี;
ยถา เอกคฺคจิตฺตสฺส, สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสโต.
‘‘กมฺมํ พหุกํ น การเย, ปริวชฺเชยฺย ชนํ น อุยฺยเม;
อุสฺสุกฺโก โส รสานุคิทฺโธ, อตฺถํ ริฺจติ โย สุขาวโห.
‘‘กมฺมํ พหุกํ น การเย, ปริวชฺเชยฺย อนตฺตเนยฺยเมตํ;
กิจฺฉติ กาโย กิลมติ, ทุกฺขิโต โส สมถํ น วินฺทติ.
‘‘โอฏฺปฺปหตมตฺเตน, อตฺตานมฺปิ น ปสฺสติ;
ปตฺถทฺธคีโว จรติ, อหํ เสยฺโยติ มฺติ.
‘‘อเสยฺโย เสยฺยสมานํ, พาโล มฺติ อตฺตานํ;
น ตํ วิฺู ปสํสนฺติ, ปตฺถทฺธมานสํ นรํ.
‘‘โย จ เสยฺโยหมสฺมีติ, นาหํ เสยฺโยติ วา ปน;
หีโน ตํสทิโส วาติ, วิธาสุ น วิกมฺปติ.
‘‘ปฺวนฺตํ ¶ ตถา ตาทึ, สีเลสุ สุสมาหิตํ;
เจโตสมถมนุยุตฺตํ, ตฺเจ วิฺู ปสํสเร.
‘‘ยสฺส สพฺรหฺมจารีสุ, คารโว นูปลพฺภติ;
อารกา โหติ สทฺธมฺมา, นภโต ปุถวี ยถา.
‘‘เยสฺจ หิริ โอตฺตปฺปํ, สทา สมฺมา อุปฏฺิตํ;
วิรูฬฺหพฺรหฺมจริยา เต, เตสํ ขีณา ปุนพฺภวา.
‘‘อุทฺธโต จปโล ภิกฺขุ, ปํสุกูเลน ปารุโต;
กปีว สีหจมฺเมน, น โส เตนุปโสภติ.
‘‘อนุทฺธโต ¶ อจปโล, นิปโก สํวุตินฺทฺริโย;
โสภติ ปํสุกูเลน, สีโหว คิริคพฺภเร.
‘‘เอเต สมฺพหุลา เทวา, อิทฺธิมนฺโต ยสสฺสิโน;
ทสเทวสหสฺสานิ, สพฺเพ เต พฺรหฺมกายิกา.
‘‘ธมฺมเสนาปตึ วีรํ, มหาฌายึ สมาหิตํ;
สาริปุตฺตํ นมสฺสนฺตา, ติฏฺนฺติ ปฺชลีกตา.
‘‘นโม ¶ เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;
ยสฺส เต นาภิชานาม, ยมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ.
‘‘อจฺเฉรํ วต พุทฺธานํ, คมฺภีโร โคจโร สโก;
เย มยํ นาภิชานาม, วาลเวธิสมาคตา.
‘‘ตํ ตถา เทวกาเยหิ, ปูชิตํ ปูชนารหํ;
สาริปุตฺตํ ตทา ทิสฺวา, กปฺปินสฺส สิตํ อหุ.
‘‘ยาวตา พุทฺธเขตฺตมฺหิ, ปยิตฺวา มหามุนึ;
ธุตคุเณ วิสิฏฺโหํ, สทิโส เม น วิชฺชติ.
‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;
โอหิโต ครุโก ภาโร, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.
‘‘น ¶ จีวเร น สยเน, โภชเน นุปลิมฺปติ;
โคตโม อนปฺปเมยฺโย, มูฬาลปุปฺผํ วิมลํว;
อมฺพุนา เนกฺขมฺมนินฺโน, ติภวาภินิสฺสโฏ.
‘‘สติปฏฺานคีโว โส, สทฺธาหตฺโถ มหามุนิ;
ปฺาสีโส มหาาณี, สทา จรติ นิพฺพุโต’’ติ. –
อิมา คาถา อภาสิ. ตตฺถ อาทิโต ติสฺโส คาถา คเณสุ กุเลสุ จ สํสฏฺเ ภิกฺขู ทิสฺวา เตสํ โอวาททานวเสน วุตฺตา.
ตตฺถ น คเณน ปุรกฺขโต จเรติ ภิกฺขุคเณหิ ปุรกฺขโต ปริวาริโต หุตฺวา น จเรยฺย น วิหเรยฺย. กสฺมา? วิมโน โหติ สมาธิ ทุลฺลโภ คณํ ปริหรนฺตสฺส ทุกฺขุปฺปตฺติยา พฺยากุลมนตาย, อุทฺเทเสน โอวาเทน อนุสาสนิยา อนุคฺคหํ กโรนฺโต ยถานุสิฏฺํ อปฺปฏิปตฺติยา จ วิมโน วิการิภูตจิตฺโต โหติ, ตโต สํสคฺเคน เอกคฺคตํ อลภนฺตสฺส สมาธิ ทุลฺลโภ โหติ. ตถารูปสฺส หิ อุปจารสมาธิมตฺตมฺปิ น อิชฺฌติ, ปเคว อิตโร. นานาชนสงฺคโหติ นานชฺฌาสยสฺส นานารุจิกสฺส ชนสฺส เปยฺยขชฺชาทินา สงฺคโห. ทุโขติ กิจฺโฉ ¶ กสิโร. อิติ ทิสฺวานาติ เอวํ คณสงฺคเห พหุวิธํ อาทีนวํ ทิสฺวา าณจกฺขุนา โอโลเกตฺวา. คณํ คณวาสํ น โรจเย น โรเจยฺย น อิจฺเฉยฺย.
น กุลานิ อุปพฺพเช มุนีติ อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชิโต ขตฺติยาทิกุลูปโก หุตฺวา น อุปคจฺเฉยฺย. กึการณา? วิมโน โหติ สมาธิ ทุลฺลโภ. โส อุสฺสุกฺโก กุลูปสงฺกมเน อุสฺสุกฺกํ อาปนฺโน กุเลสุ ลทฺธพฺเพสุ มธุราทิรเสสุ อนุคิทฺโธ เคธํ อาปนฺโน ตตฺถ อุปฺปนฺเนสุ กิจฺจกรณีเยสุ อตฺตนาว โยคํ อาปชฺชนฺโต. อตฺถํ ริฺจติ โย สุขาวโหติ โย อตฺตโน มคฺคผลนิพฺพานสุขาวโห ตํ สีลวิสุทฺธิอาทิสงฺขาตํ อตฺถํ ริฺจติ ชหติ, นานุยฺุชตีติ อตฺโถ.
ตติยคาถา ¶ เหฏฺา วุตฺตา เอว.
เสนาสนมฺหา โอรุยฺหาติอาทิกา จตสฺโส คาถา ปจฺจเยสุ อตฺตโน สนฺโตสทสฺสนมุเขน ‘‘ภิกฺขุนา นาม เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ ภิกฺขูนํ โอวาททานวเสน วุตฺตา. ตตฺถ เสนาสนมฺหา โอรุยฺหาติ ปพฺพตเสนาสนตฺตา ¶ วุตฺตํ. สกฺกจฺจํ ตํ อุปฏฺหินฺติ ตํ กุฏฺิปุริสํ อุฬารสมฺปตฺตึ ปาเปตุกามตาย ภิกฺขาย อตฺถิโก หุตฺวา ปณีตภิกฺขทายกํ กุลํ มหิจฺฉปุคฺคโล วิย อาทเรน อุปคนฺตฺวา อฏฺาสึ.
ปกฺเกนาติ อฏฺิคตกุฏฺโรคตาย อุปกฺเกน กุถิเตน. องฺคุลิ เจตฺถ ฉิชฺชถาติ เอตฺถ ปตฺเต ตสฺส องฺคุลิ ฉิชฺชิตฺวา อาหาเรน สทฺธึ ปตตีติ อตฺโถ.
กุฏฺฏมูลํ นิสฺสายาติ ตสฺส ปุริสสฺส ปสาทชนนตฺถํ ตาทิเส ฆรภิตฺติสมีเป นิสีทิตฺวา อาโลปํ ตํ อภฺุชิสํ ปริภฺุชึ. อยํ ปน เถรสฺส ปฏิปตฺติ สิกฺขาปเท อปฺตฺเตติ ทฏฺพฺพํ. ปฏิกฺกูเล จ อปฺปฏิกฺกูเล อิว อปฺปฏิกฺกูลสฺิตาย อริยิทฺธิยา อุกฺกํสคตตฺตา เถรสฺส ตํ อชฺโฌหรนฺตสฺส ชิคุจฺฉา น อุปฺปชฺชิ, ปุถุชฺชนสฺส ปน ตาทิสํ ภฺุชนฺตสฺส อนฺตานิ นิกฺขเมยฺยุํ. เตนาห ‘‘ภฺุชมาเน วา ภุตฺเต วา, เชคุจฺฉํ เม น วิชฺชตี’’ติ.
อุตฺติฏฺปิณฺโฑติ อุตฺติฏฺิตฺวา ปเรสํ ฆรทฺวาเร ตฺวา คเหตพฺพปิณฺโฑ, ชงฺฆพลํ นิสฺสาย อนุฆรํ คนฺตฺวา ลทฺธพฺพมิสฺสกภิกฺขาติ อตฺโถ. ปูติมุตฺตนฺติ โคมุตฺตปริภาวิตหรีฏกาทิ จ. ยสฺเสเต อภิสมฺภุตฺวาติ, โย ภิกฺขุ เอเต อุตฺติฏฺปิณฺฑาทโย จตฺตาโร ปจฺจเย อนฺติมนฺเตน อภิรมิตฺวา ¶ ปริภฺุชติ. ส เว จาตุทฺทิโส นโรติ โส ปุคฺคโล เอกํเสน จาตุทฺทิโส ปุรตฺถิมาทิจตุทิสาโยคฺโย, กตฺถจิ อปฺปฏิโฆ ยาย กายจิ ทิสาย วิหริตุํ สกฺโกตีติ อตฺโถ.
อถ เถโร อตฺตโน มหลฺลกกาเล มนุสฺเสหิ ‘‘กถํ, ภนฺเต, ตุมฺเห เอวรูปาย ชราย วตฺตมานาย ทิเน ทิเน ปพฺพตํ อภิรุหถา’’ติ วุตฺเต ‘‘ยตฺถ เอเก’’ติอาทิกา จตสฺโส คาถา อภาสิ. ตตฺถ ยตฺถาติ ยสฺมึ ปจฺฉิมวเย. เอเกติ เอกจฺเจ. วิหฺนฺตีติ สรีรกิลมเถน จิตฺเตน วิฆาตํ อาปชฺชนฺติ. สิลุจฺจยนฺติ ปพฺพตํ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ชราชิณฺณกาเลปิ. สมฺปชาโน ปฏิสฺสโตติ อิมินา จิตฺตเขทาภาวํ ทสฺเสติ, อิทฺธิพเลนุปตฺถทฺโธติ อิมินา สรีรเขทาภาวํ.
ภยเหตูนํ กิเลสานํ สมุจฺฉินฺนตฺตา ปหีนภยเภรโว.
ฑยฺหมาเนสูติ ราคคฺคิอาทีหิ เอกาทสหิ อคฺคีหิ สตฺเตสุ ฑยฺหมาเนสุ. สํกิเลสปริฬาหาภาเวน นิพฺพุโต สีติภูโต.
ปุน ¶ ¶ มนุสฺเสหิ ‘‘กึ, ภนฺเต, ชิณฺณกาเลปิ อรฺปพฺพเตเยว วิหรถ, นนุ อิเม เวฬุวนาทโย วิหารา มโนรมา’’ติ วุตฺเต อรฺปพฺพตา เอว มยฺหํ มโนรมาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กเรริมาลาวิตตา’’ติอาทิกา ทฺวาทส คาถา อภาสิ. ตตฺถ กเรริมาลาวิตตาติ วรุณรุกฺขปนฺตีหิ สมาคตา. ‘‘กาลวณฺณปุปฺเผหิ โอตฺถฏา’’ติปิ วทนฺติ. กฺุชราภิรุทาติ ปฏิโฆสาทิคุณีภูเตหิ หตฺถีนํ โคจเรสีนํ คชฺชิเตหิ อภิตฺถนิตา.
อภิวุฏฺาติ มหาเมเฆน อภิปฺปวุฏฺา. รมฺมตลาติ เตเนว รโชชลฺลปณฺเณยฺยาทีนํ อปคเมน รมณียตลา. นคาติ เทสนฺตรํ อคมนโต ‘‘นคา’’ติ เสลมยตาย ‘‘เสลา’’ติ จ ลทฺธนามา ปพฺพตา. อพฺภุนฺนทิตา สิขีหีติ มธุรสฺสเรน อุนฺนทิตา.
อลนฺติ ยุตฺตํ สมตฺถํ วา. ฌายิตุกามสฺส อตฺถกามสฺสาติอาทีสุปิ อิมินา นเยน โยเชตพฺพํ. ภิกฺขุโนติ ภินฺนกิเลสภิกฺขุโน, เมติ สมฺพนฺโธ.
อุมาปุปฺเผน ¶ สมานาติ เมจกนิภตาย อุมากุสุมสทิสา. คคนาวพฺภ ฉาทิตาติ ตโต เอว สรทสฺส คคนอพฺภา วิย กาฬเมฆสฺฉาทิตา, นีลวณฺณาติ อตฺโถ.
อนากิณฺณาติ อสํกิณฺณา อสมฺพาธา. ปฺจงฺคิเกนาติ อาตตาทีหิ ปฺจหิ องฺเคหิ ยุตฺเตน ตูริเยน ปริวาริยมานสฺส ตาทิสีปิ น โหติ, ยถา ยาทิสี เอกคฺคจิตฺตสฺส สมาหิตจิตฺตสฺส สมฺมเทว รูปารูปธมฺมํ อนิจฺจาทิวเสน วิปสฺสนฺตสฺส รติ โหติ. เตนาห ภควา –
‘‘ยโต ยโต สมฺมสติ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;
ลภตี ปีติปาโมชฺชํ, อมตํ ตํ วิชานต’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๗๔)
กมฺมํ พหุกนฺติอาทินา ทฺเว คาถา กมฺมารามานํ ปจฺจยคิทฺธานํ ภิกฺขูนํ โอวาททานวเสน วุตฺตา. ตตฺถ กมฺมํ พหุกํ น การเยติ กมฺมาราโม หุตฺวา พหุํ นาม กมฺมํ น การเย น อธิฏฺเห, ขณฺฑผุลฺลปฏิสงฺขรณํ ปน สตฺถารา อนฺุาตเมว. ปริวชฺเชยฺย ชนนฺติ อกลฺยาณมิตฺตภูตํ ชนํ วชฺเชยฺย. น อุยฺยเมติ ปจฺจยุปฺปาทนคณพนฺธาทิวเสน วายามํ น กเรยฺย.
อนตฺตเนยฺยเมตนฺติ ¶ เอตํ นวกมฺมาธิฏฺานาทิกํ อตฺตโน อตฺถาวหํ น โหตีติ อตฺโถ. ตตฺถ การณมาห ‘‘กิจฺฉติ กาโย กิลมตี’’ติ. นวกมฺมาทิปสุตสฺส หิ ตหํ ตหํ วิจรโต กายสุขาทิอลาเภน กิจฺฉปฺปตฺโต โหติ กิลมติ เขทํ อาปชฺชติ, เตน ¶ จ กายกิลมเถน ทุกฺขิโต. วตฺถุวิสทอตฺตเนยฺยกิริยาทีนํ อภาเวน โส ปุคฺคโล สมถํ น วินฺทติ จิตฺตสมาธานํ น ลภตีติ.
โอฏฺปฺปหตมตฺเตนาติอาทินา ทฺเว คาถา สุตปรมสฺส ปณฺฑิตมานิโน ครหวเสน, ตโต ปรา ทฺเว ปณฺฑิตสฺส ปสํสาวเสน วุตฺตา. ตตฺถ โอฏฺปฺปหตมตฺเตนาติ สชฺฌายสีเสน โอฏฺปริวตฺตนมตฺเตน, พุทฺธวจนํ สชฺฌายกรณมตฺเตนาติ อตฺโถ. อตฺตานมฺปิ น ปสฺสตีติ อนตฺถฺุตาย อตฺตโน ปจฺจกฺขภูตมฺปิ อตฺถํ น ชานาติ, ยาถาวโต อตฺตโน ปมาณํ น ปริจฺฉินฺทตีติ อตฺโถ. ปตฺถทฺธคีโว จรตีติ ‘‘อหํ พหุสฺสุโต, สติมา, ปฺวา, น มยา สทิโส อฺโ อตฺถี’’ติ มานตฺถทฺโธ หุตฺวา ครุฏฺานิยานมฺปิ อปจิตึ อทสฺเสนฺโต อโยสลากํ ¶ คิลิตฺวา ิโต วิย ถทฺธคีโว จรติ. อหํ เสยฺโยติ มฺตีติ อหเมว เสยฺโย อุตฺตโมติ มฺติ.
อเสยฺโย เสยฺยสมานํ, พาโล มฺติ อตฺตานนฺติ อยํ อเสยฺโย หีโน สมาโน อฺเน เสยฺเยน อุตฺตเมน สมานํ สทิสํ กตฺวา อตฺตานํ พาโล มนฺทพุทฺธิ พาลภาเวเนว มฺตีติ. น ตํ วิฺู ปสํสนฺตีติ ตํ ตาทิสํ พาลํ ปคฺคหิตจิตฺตตาย ปตฺถทฺธมานสํ ถมฺภิตตฺตํ นรํ วิฺู ปณฺฑิตา น ปสํสนฺติ, อฺทตฺถุ ครหนฺติเยว.
เสยฺโยหมสฺมีติ โย ปน ปณฺฑิโต ปุคฺคโล ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ วา หีนสทิสมานวเสน ‘‘นาหํ เสยฺโย’’ติ วา กฺจิปิ มานํ อชปฺเปนฺโต วิธาสุ นวสุ มานโกฏฺาเสสุ กสฺสจิปิ วเสน น วิกมฺปติ.
ปฺวนฺตนฺติ อคฺคผลปฺาวเสน ปฺวนฺตํ อิฏฺาทีสุ ตาทิภาวปฺปตฺติยา ตาทึ, อเสกฺขผลสีเลสุ สุฏฺุ ปติฏฺิตตฺตา สีเลสุ สุสมาหิตํ, อรหตฺตผลสมาปตฺติสมาปชฺชเนน เจโตสมถมนุยุตฺตนฺติ ตาทิสํ สพฺพโส ¶ ปหีนมานํ ขีณาสวํ วิฺู พุทฺธาทโย ปณฺฑิตา ปสํสเร วณฺเณนฺติ โถเมนฺตีติ อตฺโถ.
ปุน อฺตรํ ทุพฺพจํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา โทวจสฺสตาย อาทีนวํ, โสวจสฺสตาย อานิสํสฺจ ปกาเสนฺโต ‘‘ยสฺส สพฺรหฺมจารีสู’’ติอาทิกา ทฺเว คาถา อภาสิ. ตา วุตฺตตฺถา เอว.
ปุน อุทฺธตํ อุนฺนฬํ เอกํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา อุทฺธตาทิภาเว โทสํ, อนุทฺธตาทิภาเว จ คุณํ วิภาเวนฺโต ‘‘อุทฺธโต จปโล ภิกฺขู’’ติอาทิกา ทฺเว คาถา อภาสิ. ตตฺถ กปีว สีหจมฺเมนาติ สีหจมฺเมน ปารุโต มกฺกโฏ วิย. โส อุทฺธตาทิโทสสํยุตฺโต ภิกฺขุ ¶ เตน ปํสุกูเลน อริยทฺธเชน น อุปโสภติ อริยคุณานํ อภาวโต.
โย ปน อุปโสภติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อนุทฺธโต’’ติอาทิ วุตฺตํ;
เอเต สมฺพหุลาติอาทิกา ปฺจ คาถา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ นมสฺสนฺเต พฺรหฺมกายิเก เทเว ทิสฺวา อายสฺมโต กปฺปินสฺส สิตปาตุกมฺมนิมิตฺตํ วุตฺตา. ตตฺถ เอเตติ เตสํ ปจฺจกฺขตาย วุตฺตํ ¶ . สมฺพหุลาติ พหุภาวโต, ตํ ปน พหุภาวํ ‘‘ทสเทวสหสฺสานี’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา อาห. เทวาติ อุปปตฺติเทวา. ตํ เตสํ เทวภาวํ อฺเหิ วิเสเสตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘สพฺเพ เต พฺรหฺมกายิกา’’ติ อาห. ยสฺมา เต อตฺตโน อุปปตฺติทฺธิยา มหติยา เทวิทฺธิยา สมนฺนาคตา ปริวารสมฺปนฺนา จ, ตสฺมา อาห ‘‘อิทฺธิมนฺโต ยสสฺสิโน’’ติ.
‘‘โก นุ เสนาปติ โภโต’’ติ ปุจฺฉาย วิสฺสชฺชนวเสน ‘‘มยา ปวตฺติตํ ธมฺมจกฺกํ อนุตฺตรํ สาริปุตฺโต อนุวตฺเตตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๙๙) วทนฺเตน ภควตา อายสฺมโต สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ธมฺมเสนาปติภาโว อนฺุาโตติ อาห – ‘‘ธมฺมเสนาปตึ วีรํ มหาฌายึ สมาหิตํ สาริปุตฺต’’นฺติ. ตตฺถ วีรนฺติ กิเลสมาราทีนํ นิมฺมถเนน วีริยวนฺตํ มหาวิกฺกนฺตํ. มหาฌายินฺติ ทิพฺพวิหาราทีนํ อุกฺกํสคมเนน มหนฺตํ ฌายึ. ตโต เอว สพฺพโส วิกฺเขปวิทฺธํสนวเสน สมาหิตํ. นมสฺสนฺตาติ สิรสิ อฺชลึ ปคฺคยฺห นมสฺสมานา ติฏฺนฺติ.
ยมฺปิ ¶ นิสฺสายาติ ยํ นุ โข อารมฺมณํ นิสฺสาย อารพฺภ ฌายตีติ นาภิชานามาติ ปุถุชฺชนภาเวน พฺรหฺมาโน เอวํ อาหํสุ.
อจฺเฉรํ วตาติ อจฺฉริยํ วต. พุทฺธานนฺติ จตุสจฺจพุทฺธานํ. คมฺภีโร โคจโร สโกติ ปรมคมฺภีโร อติทุทฺทโส ทุรนุโพโธ ปุถุชฺชเนหิ อสาธารโณ อวิสโย. อิทานิ ตสฺส คมฺภีรภาเว การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘เย มย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ วาลเวธิสมาคตาติ เย มยํ วาลเวธิธนุคฺคหสทิสา อติสุขุมมฺปิ วิสยํ ปฏิวิชฺฌิตุํ สมตฺถา อาคตา อุปปริกฺขนฺตา นาภิชานาม, คมฺภีโร วต พุทฺธานํ วิสโยติ อตฺโถ. ตํ ตถา เทวกาเยหีติ ตํ ตถารูปํ สาริปุตฺตํ สเทวกสฺส โลกสฺส ปูชนารหํ เตหิ พฺรหฺมกายิเกหิ ตทา ตถา ปูชิตํ ทิสฺวา อายสฺมโต มหากปฺปินสฺส สิตํ อโหสิ. อิเมสํ โลกสมฺมตานํ พฺรหฺมูนมฺปิ อวิสโย, ยตฺถ สาวกานํ วิสโยติ.
ยาวตา พุทฺธเขตฺตมฺหีติ คาถา เถเรน อตฺตานํ อารพฺภ สีหนาทํ นทนฺเตน ภาสิตา. ตตฺถ พุทฺธเขตฺตมฺหีติ อาณาเขตฺตํ สนฺธาย วทติ. ปยิตฺวา มหามุนินฺติ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เปตฺวา ¶ . พุทฺธา หิ ภควนฺโต ธุตคุเณหิปิ สพฺพสตฺเตหิ ปรมุกฺกํสคตา เอว, เกวลํ ปน มหากรุณาสฺโจทิตมานสา สตฺตานํ ตาทิสํ มหนฺตํ อุปการํ โอโลเกตฺวา คามนฺตเสนาสนวาสาทึ อนุวตฺตนฺตีติ ตํ ตํ ธุตธมฺมวิโรธี โหติ. ธุตคุเณติ กิเลสานํ ธุเตน คุเณน ¶ อารฺกาทิภาเวน อเปกฺขิตคุเณ. กรณตฺเถ วา เอตํ ภุมฺมวจนํ. สทิโส เม น วิชฺชติ, กุโต ปน อุตฺตรีติ อธิปฺปาโย. ตถา เหส เถโร ตตฺถ อคฺคฏฺาเน ปิโต.
น จีวเรติ คาถาย ‘‘ปยิตฺวา มหามุนิ’’นฺติ วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กโรติ, จีวราทีสุ ตณฺหาย อนุปเลโป ธุตงฺคผลํ. ตตฺถ น จีวเร สมฺปตฺเต ตณฺหาเลเปนาติ โยชนา. สยเนติ เสนาสเน. โคตโมติ ภควนฺตํ โคตฺเตน กิตฺเตติ. อนปฺปเมยฺโยติ ปมาณกรกิเลสาภาวโต อปริมาณคุณตาย จ อนปฺปเมยฺโย. มุฬาลปุปฺผํ วิมลํว อมฺพุนาติ ยถา นิมฺมลํ วิรชํ นฬินํ อุทเกน น ลิมฺปติ, เอวํ ¶ โคตโม ภควา ตณฺหาเลปาทินา น ลิมฺปตีติ อตฺโถ. เนกฺขมฺมนินฺโน อภินิกฺขมฺมนินฺโน ตโต เอว ติภวาภินิสฺสโฏ ภวตฺตยโต วินิสฺสโฏ วิสํยุตฺโต.
เยสํ สติปฏฺานคีวาทีนํ ภาวนาปาริปูริยา ยตฺถ กตฺถจิ อนุปลิตฺโต เนกฺขมฺมนินฺโนว อโหสิ, เต องฺคภูเต ทสฺเสนฺโต ‘‘สติปฏฺานคีโว’’ติ โอสานคาถมาห. ตตฺถ คุณราสิโต อุตฺตมงฺคภูตาย ปฺาย อธิฏฺานภาวโต สติปฏฺานํ คีวา เอตสฺสาติ สติปฏฺานคีโว, อนวชฺชธมฺมานํ อาทาเน สทฺธา หตฺโถ เอตสฺสาติ สทฺธาหตฺโถ. คุณสรีรสฺส อุตฺตมงฺคภาวโต ปฺา สีสํ เอตสฺสาติ ปฺาสีโส. มหาสมุทาคมนตาย มหาวิสยตาย มหานุภาวตาย มหาพลตาย จ มหนฺตํ สพฺพฺุตสงฺขาตํ าณํ เอตสฺส อตฺถีติ มหาาณี. สทา สพฺพกาลํ นิพฺพุโต สีติภูโต จรติ. ‘‘สุสมาหิโต…เป… นาโค’’ติ (อ. นิ. ๖.๔๓) สุตฺตปทฺเจตฺถ นิทสฺเสตพฺพํ. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต อวิภตฺตํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.
มหากสฺสปตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตฺตาลีสนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.