📜

๑๙. ปฺาสนิปาโต

๑. ตาลปุฏตฺเถรคาถาวณฺณนา

ปฺาสนิปาเต กทา นุหนฺติอาทิกา อายสฺมโต ตาลปุฏตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห อฺตรสฺมึ นฏกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต กุลานุรูเปสุ นจฺจฏฺาเนสุ นิปฺผตฺตึ คนฺตฺวา สกลชมฺพุทีเป ปากโฏ นฏคามณิ อโหสิ. โส ปฺจสตมาตุคามปริวาโร มหตา นฏวิภเวน คามนิคมราชธานีสุ สมชฺชํ ทสฺเสตฺวา, มหนฺตํ ปูชาสกฺการํ ลภิตฺวา, วิจรนฺโต ราชคหํ อาคนฺตฺวา, นครวาสีนํ สมชฺชํ ทสฺเสตฺวา, ลทฺธสมฺมานสกฺกาโร าณสฺส ปริปากํ คตตฺตา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา, วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตเมตํ, ภนฺเต, ปุพฺพกานํ อาจริยปาจริยานํ นฏานํ ภาสมานานํ ‘โย โส นโฏ รงฺคมชฺเฌ สมชฺชมชฺเฌ สจฺจาลิเกน ชนํ หาเสติ รเมติ, โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปหาสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’ติ, อิธ ภควา กิมาหา’’ติ. อถ นํ ภควา ติกฺขตฺตุํ ปฏิกฺขิปิ ‘‘มา มํ เอตํ ปุจฺฉี’’ติ. จตุตฺถวารํ ปุฏฺโ อาห – ‘‘คามณิ, อิเม สตฺตา ปกติยาปิ ราคพนฺธนพทฺธา โทสพนฺธนพทฺธา โมหพนฺธนพทฺธา เตสํ ภิยฺโยปิ รชนีเย โทสนีเย โมหนีเย ธมฺเม อุปสํหรนฺโต ปมาเทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา นิรเย อุปปชฺชติ. สเจ ปนสฺส เอวํทิฏฺิ โหติ ‘โย โส นโฏ รงฺคมชฺเฌ สมชฺชมชฺเฌ สจฺจาลิเกน ชนํ หาเสติ รเมติ, โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปหาสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’’ติ สาสฺส โหติ มิจฺฉาทิฏฺิ. มิจฺฉาทิฏฺิสฺส จ ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรา คติ อิจฺฉิตพฺพา, นิรยสฺส วา ติรจฺฉานโยนิยา วาติ. ตํ สุตฺวา ตาลปุโฏ คามณิ ปโรทิ. นนุ คามณิ ปเคว มยา ปฏิกฺขิตฺโต ‘‘มา มํ เอตํ ปุจฺฉี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๕๔)? ‘‘นาหํ, ภนฺเต, เอตํ โรทามิ, ยํ มํ ภควา นฏานํ อภิสมฺปรายํ เอวมาหา’’ติ. อปิ จาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพเกหิ อาจริยปาจริเยหิ นเฏหิ วฺจิโต ‘‘นโฏ มหาชนสฺส นฏสมชฺชํ ทสฺเสตฺวา สุคตึ อุปปชฺชตี’’ติ. โส สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา ลทฺธูปสมฺปนฺโน วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิ, อธิคตารหตฺโต ปน อรหตฺตปฺปตฺติโต ปุพฺเพ เยนากาเรน อตฺตโน จิตฺตํ นิคฺคณฺหนวเสน โยนิโสมนสิกาโร อุทปาทิ, ตํ อเนกธา วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ –

๑๐๙๔.

‘‘กทา นุหํ ปพฺพตกนฺทราสุ, เอกากิโย อทฺทุติโย วิหสฺสํ;

อนิจฺจโต สพฺพภวํ วิปสฺสํ, ตํ เม อิทํ ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

๑๐๙๕.

‘‘กทา นุหํ ภินฺนปฏนฺธโร มุนิ, กาสาววตฺโถ อมโม นิราโส;

ราคฺจ โทสฺจ ตเถว โมหํ, หนฺตฺวา สุขี ปวนคโต วิหสฺสํ.

๑๐๙๖.

‘‘กทา อนิจฺจํ วธโรคนีฬํ, กายํ อิมํ มจฺจุชรายุปทฺทุตํ;

วิปสฺสมาโน วีตภโย วิหสฺสํ, เอโก วเน ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

๑๐๙๗.

‘‘กทา นุหํ ภยชนนึ ทุขาวหํ, ตณฺหาลตํ พหุวิธานุวตฺตนึ;

ปฺามยํ ติขิณมสึ คเหตฺวา, เฉตฺวา วเส ตมฺปิ กทา ภวิสฺสติ.

๑๐๙๘.

‘‘กทา นุ ปฺามยมุคฺคเตชํ, สตฺถํ อิสีนํ สหสาทิยิตฺวา;

มารํ สเสนํ สหสา ภฺชิสฺสํ, สีหาสเน ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

๑๐๙๙.

‘‘กทา นุหํ สพฺภิ สมาคเมสุ, ทิฏฺโ ภเว ธมฺมครูหิ ตาทิภิ;

ยาถาวทสฺสีหิ ชิตินฺทฺริเยหิ, ปธานิโย ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

๑๑๐๐.

‘‘กทา นุ มํ ตนฺทิ ขุทา ปิปาสา, วาตาตปา กีฏสรีสปา วา;

น พาธยิสฺสนฺติ น ตํ คิริพฺพเช, อตฺถตฺถิยํ ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

๑๑๐๑.

‘‘กทา นุ โข ยํ วิทิตํ มเหสินา, จตฺตาริ สจฺจานิ สุทุทฺทสานิ;

สมาหิตตฺโต สติมา อคจฺฉํ, ปฺาย ตํ ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

๑๑๐๒.

‘‘กทา นุ รูเป อมิเต จ สทฺเท, คนฺเธ รเส ผุสิตพฺเพ จ ธมฺเม;

อาทิตฺตโตหํ สมเถหิ ยุตฺโต, ปฺาย ทจฺฉํ ตทิทํ กทา เม.

๑๑๐๓.

‘‘กทา นุหํ ทุพฺพจเนน วุตฺโต, ตโต นิมิตฺตํ วิมโน น เหสฺสํ;

อโถ ปสตฺโถปิ ตโต นิมิตฺตํ, ตุฏฺโ น เหสฺสํ ตทิทํ กทา เม.

๑๑๐๔.

‘‘กทา นุ กฏฺเ จ ติเณ ลตา จ, ขนฺเธ อิเมหํ อมิเต จ ธมฺเม;

อชฺฌตฺติกาเนว จ พาหิรานิ จ, สมํ ตุเลยฺยํ ตทิทํ กทา เม.

๑๑๐๕.

‘‘กทา นุ มํ ปาวุสกาลเมโฆ, นเวน โตเยน สจีวรํ วเน;

อิสิปฺปยาตมฺหิ ปเถ วชนฺตํ, โอวสฺสเต ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

๑๑๐๖.

‘‘กทา มยูรสฺส สิขณฺฑิโน วเน, ทิชสฺส สุตฺวา คิริคพฺภเร รุตํ;

ปจฺจุฏฺหิตฺวา อมตสฺส ปตฺติยา, สํจินฺตเย ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

๑๑๐๗.

‘‘กทา นุ คงฺคํ ยมุนํ สรสฺสตึ, ปาตาลขิตฺตํ วฬวามุขฺจ;

อสชฺชมาโน ปตเรยฺยมิทฺธิยา, วิภึสนํ ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

๑๑๐๘.

‘‘กทา นุ นาโคว อสงฺคจารี, ปทาลเย กามคุเณสุ ฉนฺทํ;

นิพฺพชฺชยํ สพฺพสุภํ นิมิตฺตํ, ฌาเน ยุโต ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

๑๑๐๙.

‘‘กทา อิณฏฺโฏว ทลิทฺทโก นิธึ, อาราธยิตฺวา ธนิเกหิ ปีฬิโต;

ตุฏฺโ ภวิสฺสํ อธิคมฺม สาสนํ, มเหสิโน ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

๑๑๑๐.

‘‘พหูนิ วสฺสานิ ตยามฺหิ ยาจิโต, อคารวาเสน อลํ นุ เต อิทํ;

ตํ ทานิ มํ ปพฺพชิตํ สมานํ, กึการณา จิตฺต ตุวํ น ยุฺชสิ.

๑๑๑๑.

‘‘นนุ อหํ จิตฺต ตยามฺหิ ยาจิโต, คิริพฺพเช จิตฺรฉทา วิหงฺคมา;

มหินฺทโฆสตฺถนิตาภิคชฺชิโน, เต ตํ รเมสฺสนฺติ วนมฺหิ ฌายินํ.

๑๑๑๒.

‘‘กุลมฺหิ มิตฺเต จ ปิเย จ าตเก, ขิฑฺฑารตึ กามคุณฺจ โลเก;

สพฺพํ ปหาย อิมมชฺฌุปาคโต, อโถปิ ตฺวํ จิตฺต น มยฺห ตุสฺสสิ.

๑๑๑๓.

‘‘มเมว เอตํ น หิ ตฺวํ ปเรสํ, สนฺนาหกาเล ปริเทวิเตน กึ;

สพฺพํ อิทํ จลมิติ เปกฺขมาโน, อภินิกฺขมึ อมตปทํ ชิคีสํ.

๑๑๑๔.

‘‘สุยุตฺตวาที ทฺวิปทานมุตฺตโม, มหาภิสกฺโก นรทมฺมสารถิ;

จิตฺตํ จลํ มกฺกฏสนฺนิภํ อิติ, อวีตราเคน สุทุนฺนิวารยํ.

๑๑๑๕.

‘‘กามา หิ จิตฺรา มธุรา มโนรมา, อวิทฺทสู ยตฺถ สิตา ปุถุชฺชนา;

เต ทุกฺขมิจฺฉนฺติ ปุนพฺภเวสิโน, จิตฺเตน นีตา นิรเย นิรากตา.

๑๑๑๖.

‘‘มยูรโกฺจาภิรุตมฺหิ กานเน, ทีปีหิ พฺยคฺเฆหิ ปุรกฺขโต วสํ;

กาเย อเปกฺขํ ชห มา วิราธย, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุฺชสิ.

๑๑๑๗.

‘‘ภาเวหิ ฌานานิ จ อินฺทฺริยานิ จ, พลานิ โพชฺฌงฺคสมาธิภาวนา;

ติสฺโส จ วิชฺชา ผุส พุทฺธสาสเน, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุฺชสิ.

๑๑๑๘.

‘‘ภาเวหิ มคฺคํ อมตสฺส ปตฺติยา, นิยฺยานิกํ สพฺพทุขกฺขโยคธํ;

อฏฺงฺคิกํ สพฺพกิเลสโสธนํ, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุฺชสิ.

๑๑๑๙.

‘‘ทุกฺขนฺติ ขนฺเธ ปฏิปสฺส โยนิโส, ยโต จ ทุกฺขํ สมุเทติ ตํ ชห;

อิเธว ทุกฺขสฺส กโรหิ อนฺตํ, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุฺชสิ.

๑๑๒๐.

‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขนฺติ วิปสฺส โยนิโส, สุฺํ อนตฺตาติ อฆํ วธนฺติ จ;

มโนวิจาเร อุปรุนฺธ เจตโส, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุฺชสิ.

๑๑๒๑.

‘‘มุณฺโฑ วิรูโป อภิสาปมาคโต, กปาลหตฺโถว กุเลสุ ภิกฺขสุ;

ยุฺชสฺสุ สตฺถุวจเน มเหสิโน, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุฺชสิ.

๑๑๒๒.

‘‘สุสํวุตตฺโต วิสิขนฺตเร จรํ, กุเลสุ กาเมสุ อสงฺคมานโส;

จนฺโท ยถา โทสินปุณฺณมาสิยา, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุฺชสิ.

๑๑๒๓.

‘‘อารฺิโก โหหิ จ ปิณฺฑปาติโก, โสสานิโก โหหิ จ ปํสุกูลิโก;

เนสชฺชิโก โหหิ สทา ธุเต รโต, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุฺชสิ.

๑๑๒๔.

‘‘โรเปตฺว รุกฺขานิ ยถา ผเลสี, มูเล ตรุํ เฉตฺตุ ตเมว อิจฺฉสิ;

ตถูปมํ จิตฺตมิทํ กโรสิ, ยํ มํ อนิจฺจมฺหิ จเล นิยุฺชสิ.

๑๑๒๕.

‘‘อรูป ทูรงฺคม เอกจาริ, น เต กริสฺสํ วจนํ อิทานิหํ;

ทุกฺขา หิ กามา กฏุกา มหพฺภยา, นิพฺพานเมวาภิมโน จริสฺสํ.

๑๑๒๖.

‘‘นาหํ อลกฺขฺยา อหิริกฺกตาย วา,

น จิตฺตเหตู น จ ทูรกนฺตนา;

อาชีวเหตู จ อหํ น นิกฺขมึ,

กโต จ เต จิตฺต ปฏิสฺสโว มยา.

๑๑๒๗.

‘‘อปฺปิจฺฉตา สปฺปุริเสหิ วณฺณิตา, มกฺขปฺปหานํ วูปสโม ทุขสฺส;

อิติสฺสุ มํ จิตฺต ตทา นิยุฺชสิ, อิทานิ ตฺวํ คจฺฉสิ ปุพฺพจิณฺณํ.

๑๑๒๘.

‘‘ตณฺหา อวิชฺชา จ ปิยาปิยฺจ, สุภานิ รูปานิ สุขา จ เวทนา;

มนาปิยา กามคุณา จ วนฺตา, วนฺเต อหํ อาวมิตุํ น อุสฺสเห.

๑๑๒๙.

‘‘สพฺพตฺถ เต จิตฺต วโจ กตํ มยา, พหูสุ ชาตีสุ นเมสิ โกปิโต;

อชฺฌตฺตสมฺภโว กตฺุตาย เต, ทุกฺเข จิรํ สํสริตํ ตยา กเต.

๑๑๓๐.

‘‘ตฺวฺเว โน จิตฺต กโรสิ พฺราหฺมโณ, ตฺวํ ขตฺติโย ราชทสี กโรสิ;

เวสฺสา จ สุทฺทา จ ภวาม เอกทา, เทวตฺตนํ วาปิ ตเวว วาหสา.

๑๑๓๑.

‘‘ตเวว เหตู อสุรา ภวามเส, ตฺวํมูลกํ เนรยิกา ภวามเส;

อโถ ติรจฺฉานคตาปิ เอกทา, เปตตฺตนํ วาปิ ตเวว วาหสา.

๑๑๓๒.

‘‘นนุ ทุพฺภิสฺสสิ มํ ปุนปฺปุนํ, มุหุํ มุหุํ จารณิกํว ทสฺสยํ;

อุมฺมตฺตเกเนว มยา ปโลภสิ, กิฺจาปิ เต จิตฺต วิราธิตํ มยา.

๑๑๓๓.

‘‘อิทํ ปุเร จิตฺตมจาริ จาริกํ, เยนิจฺฉกํ ยตฺถกามํ ยถาสุขํ;

ตทชฺชหํ นิคฺคเหสฺสามิ โยนิโส, หตฺถิปฺปภินฺนํ วิย องฺคุสคฺคโห.

๑๑๓๔.

‘‘สตฺถา จ เม โลกมิมํ อธิฏฺหิ, อนิจฺจโต อทฺธุวโต อสารโต;

ปกฺขนฺท มํ จิตฺต ชินสฺส สาสเน, ตาเรหิ โอฆา มหตา สุทุตฺตรา.

๑๑๓๕.

‘‘น เต อิทํ จิตฺต ยถา ปุราณกํ, นาหํ อลํ ตุยฺห วเส นิวตฺติตุํ;

มเหสิโน ปพฺพชิโตมฺหิ สาสเน, น มาทิสา โหนฺติ วินาสธาริโน.

๑๑๓๖.

‘‘นคา สมุทฺทา สริตา วสุนฺธรา, ทิสา จตสฺโส วิทิสา อโธ ทิวา;

สพฺเพ อนิจฺจา ติภวา อุปทฺทุตา, กุหึ คโต จิตฺต สุขํ รมิสฺสสิ.

๑๑๓๗.

‘‘ธิติปฺปรํ กึ มม จิตฺต กาหิสิ, น เต อลํ จิตฺต วสานุวตฺตโก;

น ชาตุ ภสฺตํ อุภโตมุขํ ฉุเป, ธิรตฺถุ ปูรํ นวโสตสนฺทนึ.

๑๑๓๘.

‘‘วราหเอเณยฺยวิคาฬฺหเสวิเต, ปพฺภารกุฏฺเฏ ปกเตว สุนฺทเร;

นวมฺพุนา ปาวุสสิตฺตกานเน, ตหึ คุหาเคหคโต รมิสฺสสิ.

๑๑๓๙.

‘‘สุนีลคีวา สุสิขา สุเปขุนา, สุจิตฺตปตฺตจฺฉทนา วิหงฺคมา;

สุมฺชุโฆสตฺถนิตาภิคชฺชิโน, เต ตํ รเมสฺสนฺติ วนมฺหิ ฌายินํ.

๑๑๔๐.

‘‘วุฏฺมฺหิ เทเว จตุรงฺคุเล ติเณ, สํปุปฺผิเต เมฆนิภมฺหิ กานเน;

นคนฺตเร วิฏปิสโม สยิสฺสํ, ตํ เม มุทู เหหิติ ตูลสนฺนิภํ.

๑๑๔๑.

‘‘ตถา ตุ กสฺสามิ ยถาปิ อิสฺสโร, ยํ ลพฺภติ เตนปิ โหตุ เม อลํ;

น ตาหํ กสฺสามิ ยถา อตนฺทิโต, พิฬารภสฺตํว ยถา สุมทฺทิตํ.

๑๑๔๒.

‘‘ตถา ตุ กสฺสามิ ยถาปิ อิสฺสโร, ยํ ลพฺภติ เตนปิ โหตุ เม อลํ;

วิริเยน ตํ มยฺห วสานยิสฺสํ, คชํว มตฺตํ กุสลงฺกุสคฺคโห.

๑๑๔๓.

‘‘ตยา สุทนฺเตน อวฏฺิเตน หิ, หเยน โยคฺคาจริโยว อุชฺชุนา;

ปโหมิ มคฺคํ ปฏิปชฺชิตุํ สิวํ, จิตฺตานุรกฺขีหิ สทา นิเสวิตํ.

๑๑๔๔.

‘‘อารมฺมเณ ตํ พลสา นิพนฺธิสํ, นาคํว ถมฺภมฺหิ ทฬฺหาย รชฺชุยา;

ตํ เม สุคุตฺตํ สติยา สุภาวิตํ, อนิสฺสิตํ สพฺพภเวสุ เหหิสิ.

๑๑๔๕.

‘‘ปฺาย เฉตฺวา วิปถานุสารินํ, โยเคน นิคฺคยฺห ปเถ นิเวสิย;

ทิสฺวา สมุทยํ วิภวฺจ สมฺภวํ, ทายาทโก เหหิสิ อคฺควาทิโน.

๑๑๔๖.

‘‘จตุพฺพิปลฺลาสวสํ อธิฏฺิตํ, คามณฺฑลํว ปริเนสิ จิตฺต มํ;

นนุ สํโยชนพนฺธนจฺฉิทํ, สํเสวเส การุณิกํ มหามุนึ.

๑๑๔๗.

‘‘มิโค ยถา เสริ สุจิตฺตกานเน, รมฺมํ คิรึ ปาวุสอพฺภมาลินึ;

อนากุเล ตตฺถ นเค รมิสฺสํ, อสํสยํ จิตฺต ปรา ภวิสฺสสิ.

๑๑๔๘.

‘‘เย ตุยฺห ฉนฺเทน วเสน วตฺติโน,

นรา จ นารี จ อนุโภนฺติ ยํ สุขํ;

อวิทฺทสู มารวสานุวตฺติโน,

ภวาภินนฺที ตว จิตฺต สาวกา’’ติ.

ตตฺถ กทา นุหนฺติ กทา นุ อหํ. ปพฺพตกนฺทราสูติ ปพฺพเตสุ จ กนฺทเรสุ จ, ปพฺพตสฺส วา กนฺทราสุ. เอกากิโยติ เอกโก. อทฺทุติโยติ นิตฺตณฺโห. ตณฺหา หิ ปุริสสฺส ทุติยา นาม. วิหสฺสนฺติ วิหริสฺสามิ. อนิจฺจโต สพฺพภวํ วิปสฺสนฺติ กามภวาทิเภทํ สพฺพมฺปิ ภวํ ‘‘หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจ’’นฺติ วิปสฺสนฺโต กทา นุ วิหริสฺสนฺติ โยชนา. นิทสฺสนมตฺตฺเจตํ, ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ, ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตา’’ติ วจนโต (สํ. นิ. ๓.๑๕) อิตรมฺปิ ลกฺขณทฺวยํ วุตฺตเมวาติ ทฏฺพฺพํ. ตํ เม อิทํ ตํ นุ กทา ภวิสฺสตีติ ตํ อิทํ เม ปริวิตกฺกิตํ กทา นุ ภวิสฺสติ, กทา นุ โข มตฺถกํ ปาปุณิสฺสตีติ อตฺโถ. ตํ นูติ เจตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ. อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – กทา นุ โข อหํ มหาคโช วิย สงฺขลิกพนฺธนํ, คิหิพนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา ปพฺพชิตฺวา กายวิเวกํ ปริพฺรูหยนฺโต เอกากี ปพฺพตกนฺทราสุ อทุติโย สพฺพตฺถ นิรเปกฺโข สพฺพสงฺขารคตํ อนิจฺจาทิโต วิปสฺสนฺโต วิหริสฺสามีติ.

ภินฺนปฏนฺธโรติ ภินฺนวตฺถธโร, คาถาสุขตฺถํ นการาคมํ กตฺวา วุตฺตํ. สตฺถกจฺฉินฺนอคฺฆผสฺสวณฺณภินฺนํ ปฏจีวรํ ธาเรนฺโตติ อตฺโถ. มุนีติ ปพฺพชิโต. อมโมติ กุเล วา คเณ วา มมตฺตาภาเวน อมโม. กตฺถจิปิ อารมฺมเณ อาสีสนาย อภาเวน นิราโส. หนฺตฺวา สุขี ปวนคโต วิหสฺสนฺติ ราคาทิเก กิเลเส อริยมคฺเคน สมุจฺฉินฺทิตฺวา มคฺคสุเขน ผลสุเขน สุขี มหาวนคโต กทา นุ โข อหํ วิหริสฺสามิ.

วธโรคนีฬนฺติ มรณสฺส จ โรคสฺส จ กุลาวกภูตํ. กายํ อิมนฺติ อิมํ ขนฺธปฺจกสงฺขาตํ กายํ. ขนฺธปฺจโกปิ หิ ‘‘อวิชฺชาคตสฺส, ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคลสฺส ตณฺหานุคตสฺส อยเมว กาโย พหิทฺธา นามรูป’’นฺติอาทีสุ กาโย วุจฺจติ. มจฺจุชรายุปทฺทุตนฺติ มรเณน เจว ชราย จ ปีฬิตํ, วิปสฺสมาโน อหํ ภยเหตุปหาเนน วีตภโย, ตํ นุ กทา ภวิสฺสตีติ อตฺโถ.

ภยชนนินฺติ ปฺจวีสติยา มหาภยานํ อุปฺปาทการณภูตํ กายิกสฺส จ เจตสิกสฺส จ สกลสฺสปิ วฏฺฏทุกฺขสฺส อาวหนโต ทุขาวหํ. ตณฺหาลตํ พหุวิธานุวตฺตนินฺติ พหุวิธฺจ อารมฺมณํ ภวเมว วา อนุวตฺตติ สนฺตโนตีติ พหุวิธานุวตฺตนึ, ตณฺหาสงฺขาตลตํ. ปฺามยนฺติ มคฺคปฺามยํ สุนิสิตํ อสิขคฺคํ วีริยปคฺคหิเตน สทฺธาหตฺเถน คเหตฺวา สมุจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘กทา นุหํ วเส’’ติ ยํ ปริวิตกฺกิตํ, ตมฺปิ กทา ภวิสฺสตีติ โยชนา.

อุคฺคเตชนฺติ สมถวิปสฺสนาวเสน นิสิตตาย ติกฺขเตชํ. สตฺถํ อิสีนนฺติ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธอริยสาวกอิสีนํ สตฺถภูตํ . มารํ สเสนํ สหสา ภฺชิสฺสนฺติ กิเลสเสนาย สเสนํ อภิสงฺขาราทิมารํ สหสา สีฆเมว ภฺชิสฺสามิ. สีหาสเนติ ถิราสเน, อปราชิตปลฺลงฺเกติ อตฺโถ.

สพฺภิ สมาคเมสุ ทิฏฺโ ภเวติ ธมฺมคารวยุตฺตตาย ธมฺมครูหิ ตาทิลกฺขณปฺปตฺติยา ตาทีหิ อวิปรีตทสฺสิตาย ยาถาวทสฺสีหิ อริยมคฺเคเนว ปาปชิตินฺทฺริยตาย ชิตินฺทฺริเยหิ พุทฺธาทีหิ สาธูหิ สมาคเมสุ ‘‘กทา นุ อหํ ปธานิโยติ ทิฏฺโ ภเวยฺย’’นฺติ ยํ เม ปริวิตกฺกิตํ, ตํ นุ กทา ภวิสฺสตีติ โยชนา. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ ปทโยชนา เวทิตพฺพา, ปทตฺถมตฺตเมว วณฺณยิสฺสาม.

ตนฺทีติ อาลสิยํ. ขุทาติ ชิฆจฺฉา. กีฏสรีสปาติ กีฏฺเจว สรีสปา จ. น พาธยิสฺสนฺตีติ มํ น พฺยาธยิสฺสนฺติ สุขทุกฺขโสมนสฺสโทมนสฺสานํ ฌาเนหิ ปฏิพาหิตตฺตาติ อธิปฺปาโย. คิริพฺพเชติ ปพฺพตกนฺทราย. อตฺถตฺถิยนฺติ สทตฺถสงฺขาเตน อตฺเถน อตฺถิกํ.

ยํ วิทิตํ มเหสินาติ ยํ จตุสจฺจํ มเหสินา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สยมฺภูาเณน าตํ ปฏิวิทฺธํ, ตานิ จตฺตาริ สจฺจานิ อนุปจิตกุสลสมฺภาเรหิ สุฏฺุ ทุทฺทสานิ มคฺคสมาธินา สมาหิตตฺโต, สมฺมาสติยา สติมา, อริยมคฺคปฺาย อหํ อคจฺฉํ ปฏิวิชฺฌิสฺสํ อธิคมิสฺสนฺติ อตฺโถ.

รูเปติ จกฺขุวิฺเยฺยรูเป. อมิเตติ าเณน อมิเต, อปริจฺฉินฺเน อปริฺาเตติ อตฺโถ. ผุสิตพฺเพติ, โผฏฺพฺเพ. ธมฺเมติ มโนวิฺเยฺยธมฺเม. อมิเตติ วา อปริมาเณ นีลาทิวเสน อเนกเภทภินฺเน รูเป เภริสทฺทาทิวเสน, มูลรสาทิวเสน, กกฺขฬมุทุตาทิวเสน, สุขทุกฺขาทิวเสน จ, อเนกเภทสทฺทาทิเก จาติ อตฺโถ. อาทิตฺตโตติ เอกาทสหิ อคฺคีหิ อาทิตฺตภาวโต. สมเถหิ ยุตฺโตติ ฌานวิปสฺสนามคฺคสมาธีหิ สมนฺนาคโต. ปฺาย ทจฺฉนฺติ วิปสฺสนาปฺาสหิตาย มคฺคปฺาย ทกฺขิสฺสํ.

ทุพฺพจเนน วุตฺโตติ ทุรุตฺตวจเนน ฆฏฺฏิโต. ตโต นิมิตฺตนฺติ ผรุสวาจาเหตุ. วิมโน น เหสฺสนฺติ โทมนสฺสิโต น ภเวยฺยํ. อโถติ อถ. ปสตฺโถติ เกนจิ ปสํสิโต.

กฏฺเติ ทารุกฺขนฺเธ. ติเณติ ติณานํ ขนฺเธ. อิเมติ อิเม มม สนฺตติปริยาปนฺเน ปฺจ ขนฺเธ . อมิเต จ ธมฺเมติ ตโต อฺเน อินฺทฺริยกฺขนฺเธน อมิเต รูปธมฺเม. เตนาห – ‘‘อชฺฌตฺติกาเนว จ พาหิรานิ จา’’ติ. สมํ ตุเลยฺยนฺติ อนิจฺจาทิวเสน เจว อสาราทิอุปมาวเสน จ สพฺพํ สมเมว กตฺวา ตีเรยฺยํ.

อิสิปฺปยาตมฺหิปเถ วชนฺตนฺติ พุทฺธาทีหิ มเหสีหิ สมฺมเทว ปยาเต สมถวิปสฺสนามคฺเค วชนฺตํ ปฏิปชฺชนฺตํ. ปาวุสสมเย กาลเมโฆ นเวน โตเยน วสฺโสทเกน สจีวรํ ปวเน กทา นุ โอวสฺสติ, เตเมตีติ อตฺตโน อพฺโภกาสิกภาวปริวิตกฺกิตํ ทสฺเสติ.

มยูรสฺส สิขณฺฑิโน วเน ทิชสฺสาติ มาตุกุจฺฉิโต อณฺฑโกสโต จาติ ทฺวิกฺขตฺตุํ ชายนวเสน ทิชสฺส, สิขาสมฺภเวน สิขณฺฑิโน จ มยูรสฺส วเน กทา ปน คิริคพฺภเร รุตํ เกการวํ สุตฺวา เวลํ สลฺลกฺขิตฺวา สยนโต วุฏฺหิตฺวา อมตสฺส ปตฺติยา นิพฺพานาธิคมาย. สํจินฺตเยติ วุจฺจมาเน ภเว อนิจฺจาทิโต มนสิ กเรยฺยํ วิปสฺเสยฺยนฺติ อตฺโถ.

คงฺคํ ยมุนํ สรสฺสตินฺติ เอตา มหานทิโย อสชฺชมาโน ภาวนามยาย อิทฺธิยา กทา นุ ปตเรยฺยนฺติ โยชนา. ปาตาลขิตฺตํ พฬวามุขฺจาติ ปาตาย อลํ ปริยตฺตนฺติ ปาตาลํ, ตเทว ขิตฺตํ, ปถวิยา สณฺหนกาเล ตถา ิตนฺติ ปาตาลขิตฺตํ. โยชนสติกาทิเภทานิ สมุทฺทสฺส อนฺโตปถวิยา ตีรฏฺานานิ, เยสุ กานิจิ นาคาทีนํ วสนฏฺานานิ โหนฺติ, กานิจิ สุฺานิเยว หุตฺวา ติฏฺนฺติ. พฬวามุขนฺติ มหาสมุทฺเท มหนฺตํ อาวฏฺฏมุขํ. มหานิรยทฺวารสฺส หิ วิวฏกาเล มหาอคฺคิกฺขนฺโธ ตโต นิกฺขนฺโต ตทภิมุขํ อเนกโยชนสตายามวิตฺถารํ เหฏฺา สมุทฺทปเทสํ ฑหติ, ตสฺมึ ทฑฺเฒ อุปริ อุทกํ อาวฏฺฏากาเรน ปริพฺภมนฺตํ มหตา สทฺเทน เหฏฺา นิปตติ. ตตฺถ พฬวามุขสมฺา, อิติ ตฺจ ปาตาลขิตฺตํ พฬวามุขฺจ วิภึสนํ ภยานกํ อสชฺชมาโน อิทฺธิยา กทา นุ ปตเรยฺยนฺติ ยํ ปริวิตกฺกิตํ, ตํ กทา นุ ภวิสฺสติ, ภาวนามยํ อิทฺธึ นิพฺพตฺเตตฺวา กทา นุ เอวํ อิทฺธึ วฬฺชิสฺสามีติ อตฺโถ.

นาโคว อสงฺคจารี ปทาลเยติ ยถา มตฺตวารโณ ทฬฺหถมฺภํ ภินฺทิตฺวา อยสงฺขลิกํ วิทฺธํเสตฺวา อสงฺคจารี วนํ ปวิสิตฺวา เอโก อทุติโย หุตฺวา อตฺตโน รุจิวเสน จรติ, เอวมหํ กทา นุ สพฺพสุภํ นิมิตฺตํ นิพฺพชฺชยํ นิรวเสสโต วชฺชยนฺโต กามจฺฉนฺทวโส อหุตฺวา ฌาเน ยุโต ปยุตฺโต กามคุเณสุ ฉนฺทํ สมฺมเทว ปทาเลยฺยํ ฉินฺเทยฺยํ ปชเหยฺยนฺติ ยํ ปริวิตกฺกิตํ, ตํ นุ กทา ภวิสฺสติ.

อิณฏฺโฏวทลิทฺทโก นิธึ อาราธยิตฺวาติ ยถา โกจิ ทลิทฺโท ชีวิกปกโต อิณํ คเหตฺวา ตํ โสเธตุํ อสกฺโกนฺโต อิณฏฺโฏ อิเณน อฏฺฏิโต ธนิเกหิ ปีฬิโต นิธึ อาราธยิตฺวา อธิคนฺตฺวา อิณฺจ โสเธตฺวา สุเขน จ ชีวนฺโต ตุฏฺโ ภเวยฺย, เอวํ อหมฺปิ กทา นุ อิณสทิสํ กามจฺฉนฺทํ ปหาย มเหสิโน อริยธนสมฺปุณฺณตาย มณิกนกาทิรตนสมฺปุณฺณนิธิสทิสํ พุทฺธสฺส สาสนํ อธิคนฺตฺวา ตุฏฺโ ภเวยฺยนฺติ ยํ ปริวิตกฺกิตํ, ตํ กทา นุ ภวิสฺสตีติ.

เอวํ ปพฺพชฺชโต ปุพฺเพ เนกฺขมฺมวิตกฺกวเสน ปวตฺตํ อตฺตโน วิตกฺกปวตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปพฺพชิตฺวา เยหากาเรหิ อตฺตานํ โอวทิตฺวา อธิคจฺฉิ, เต ทสฺเสนฺโต ‘‘พหูนิ วสฺสานี’’ติอาทิกา คาถา อภาสิ. ตตฺถ พหูนิ วสฺสานิ ตยามฺหิ ยาจิโต, อคารวาเสน อลํ นุ เต อิทนฺติ อเนกสํวจฺฉรานิ วิวิธทุกฺขานุพนฺเธน อคารมชฺเฌ วาเสน อลํ ปริยตฺตเมว เตติ, อมฺโภ จิตฺต, อิทํ ตยา อเนกานิ สํวจฺฉรานิ อหํ อมฺหิ นนุ ยาจิโต. ตํ ทานิ มํ ปพฺพชิตํ สมานนฺติ ตํ มํ ตยา ตถา อุสฺสาหเนน ปพฺพชิตํ สมานํ เกน การเณน จิตฺต ตุวํ น ยุฺชสิ, สมถวิปสฺสนํ ฉฑฺเฑตฺวา นิหีเน อาลสิเย นิโยเชสีติ อตฺโถ.

นนุ อหํ, จิตฺต, ตยามฺหิ ยาจิโตติ, อมฺโภ จิตฺต, อหํ ตยา นนุ ยาจิโต อมฺหิ อายาจิโต มฺเ. ยทิ ยาจิโต, กสฺมา อิทานิ ตทนุรูปํ น ปฏิปชฺชสีติ อธิปฺปาโย. ‘‘คิริพฺพเช’’ติอาทินา ยาจิตาการํ ทสฺเสติ. จิตฺรฉทา วิหงฺคมา วิจิตฺรเปขุณปกฺขิโน, มยูราติ อตฺโถ. มหินฺทโฆสตฺถนิตาภิคชฺชิโนติ ชลโฆสตฺถนิเตน เหตุนา สุฏฺุ คชฺชนสีลา. เต ตํ รเมสฺสนฺติ วนมฺหิ ฌายินนฺติ เต มยูรา ตํ วเน ฌานปสุตํ รเมสฺสนฺตีติ นนุ ตยา ยาจิโตติ ทสฺเสติ.

กุลมฺหีติ กุลปริวฏฺเฏ. อิมมชฺฌุปาคโตติ อิมํ อรฺฏฺานํ ปพฺพชฺชํ วา อชฺฌุปาคโต. อโถปิ ตฺวํ, จิตฺต, น มยฺห ตุสฺสสีติ ตฺวํ อนุวตฺติตฺวา ิตมฺปิ มํ นาราเธสฺสสีติ อตฺโถ.

มเมว เอตํ น หิ ตฺวํ ปเรสนฺติ เอตํ, จิตฺต, มเมว ตสฺมา ตฺวํ ปเรสํ น โหสิ. ตฺวํ ปน อฺเสํ วิย กตฺวา สนฺนาหกาเล กิเลสมาเร ยุชฺฌิตุํ ภาวนาสนฺนาหกาเล นติ วตฺวา ปริเทวิเตน กึ ปโยชนํ, อิทานิ ตํ อฺถา วตฺติตุํ น ทสฺสามีติ อธิปฺปาโย. สพฺพํ อิทํ จลมิติ เปกฺขมาโนติ ยสฺมา ‘‘อิทํ จิตฺตํ อฺฺจ สพฺพํ เตภูมกสงฺขารํ จลํ อนวฏฺิต’’นฺติ ปฺาจกฺขุนา โอโลเกนฺโต เคหโต กาเมหิ จ อภินิกฺขมึ อมตปทํ นิพฺพานํ ชิคีสํ ปริเยสนฺโต, ตสฺมา, จิตฺต, อนนุวตฺตนฺโต นิพฺพานํ ปริเยสนเมว กโรมีติ อธิปฺปาโย.

อวีตราเคน สุทุนฺนิวารยํ จิตฺตํ จลํ มกฺกฏสนฺนิภํ วนมกฺกฏสทิสํ อิติ สุยุตฺตวาที สุภาสิตวาที ทฺวิปทานมุตฺตโม มหาภิสกฺโก นรทมฺมสารถีติ โยชนา.

อวิทฺทสู ยตฺถ สิตา ปุถุชฺชนาติ ยตฺถ เยสุ วตฺถุกาเมสุ กิเลสกาเมสุ จ สิตา ปฏิพทฺธา เต อนฺธปุถุชฺชนา เตน กามราเคน ปุนพฺภเวสิโน เอกนฺเตเนว ทุกฺขมิจฺฉนฺติ. อิจฺฉนฺตา จ จิตฺเตน นีตา นิรเย นิรากตาติ จิตฺตวสิกา นิรยสํวตฺตนิกํ กมฺมํ กโรนฺตา หิตสุขโต นิรากตา หุตฺวา อตฺตโน จิตฺเตเนว นิรเย นีตา น อฺถาติ จิตฺตสฺเสว นิคฺคเหตพฺพตํ ทสฺเสติ.

ปุนปิ จิตฺตํเยว นิคฺคเหตุํ มนฺเตนฺโต ‘‘มยูรโกฺจาภิรุตมฺหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ มยูรโกฺจาภิรุตมฺหีติ สิขีหิ สารเสหิ จ อภิกูชิเต. ทีปีหิ พฺยคฺเฆหิ ปุรกฺขโต วสนฺติ เมตฺตาวิหาริตาย เอวรูเปหิ ติรจฺฉานคเตหิ ปุรกฺขโต ปริวาริโต หุตฺวา วเน วสนฺโต, เอเตน สุฺภาวปริพฺรูหนมาห. กาเย อเปกฺขํ ชหาติ สพฺพโส กาเย นิรเปกฺโข ชห, เอเตน ปหิตตฺตตํ วทติ. มา วิราธยาติ อิมํ สุทุลฺลภํ นวมํ ขณํ มา วิราเธหิ. อิติสฺสุ มํ, จิตฺต, ปุเร นิยุฺชสีติ เอวฺหิ ตฺวํ, จิตฺต, มํ ปพฺพชฺชโต ปุพฺเพ สมฺมาปฏิปตฺติยํ อุยฺโยเชสีติ อตฺโถ.

ภาเวหีติ อุปฺปาเทหิ วฑฺเฒหิ จ. ฌานานีติ ปมาทีนิ จตฺตาริ ฌานานิ. อินฺทฺริยานีติ สทฺธาทีนิ ปฺจินฺทฺริยานิ. พลานีติ ตานิเยว ปฺจ พลานิ. โพชฺฌงฺคสมาธิภาวนาติ สตฺต โพชฺฌงฺเค จตสฺโส สมาธิภาวนา จ. ติสฺโส จ วิชฺชาติ ปุพฺเพนิวาสาณาทิกา ติสฺโส วิชฺชา จ. ผุส ปาปุณาหิ พุทฺธสาสเน สมฺมาสมฺพุทฺธโอวาเท ิโต.

นิยฺยานิกนฺติ วฏฺฏทุกฺขโต นิยฺหานวหํ. สพฺพทุกฺขกฺขโยคธนฺติ อมโตคธํ นิพฺพานปติฏฺํ นิพฺพานารมฺมณํ. สพฺพกิเลสโสธนนฺติ อนวเสสกิเลสมลวิโสธนํ.

ขนฺเธติ อุปาทานกฺขนฺเธ. ปฏิปสฺส โยนิโสติ โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโตติ เอวมาทีหิ วิวิเธหิ ปกาเรหิ วิปสฺสนาาเณน สมฺมา อุปาเยน นเยน ปสฺส. ตํ ชหาติ ตํ ทุกฺขสฺส สมุทยํ ตณฺหํ ปชห, สมุจฺฉินฺท. อิเธวาติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว.

อนิจฺจนฺติอาทิ อนฺตวนฺตโต อนิจฺจนฺติกโต ตาวกาลิกโต นิจฺจปฏิกฺเขปโต จ อนิจฺจนฺติ วา ปสฺส. ทุกฺขนฺติ เต อุทยพฺพยปฏิปีฬนโต สปฺปฏิภยโต ทุกฺขมโต สุขปฏิกฺเขปโต ทุกฺขนฺติ วา ปสฺส. สุฺนฺติ อวสวตฺตนโต อสามิกโต อสารโต อตฺตปฏิกฺเขปโต จ สุฺํ, ตโต เอว อนตฺตาติ. วิครหิตพฺพโต อวฑฺฒิอาพาธนโต จ อฆนฺติ จ วธนฺติ จ วิปสฺส โยนิโสติ โยชนา. มโนวิจาเรอุปรุนฺธ เจตโสติ มโนวิจารสฺิโน เคหสิตโสมนสฺสุปวิจาราทิเก อฏฺารส เจตโส อุปรุนฺธ วาเรหิ นิโรเธหิ.

มุณฺโฑติ มุณฺฑภาวํ อุปคโต, โอหาริตเกสมสฺสุโก. วิรูโปติ เตน มุณฺฑภาเวน ปรูฬฺหโลมตาย ฉินฺนภินฺนกาสาย วตฺถตาย วิรูโป เววณฺณิยํ อุปคโต. อภิสาปมาคโตติ ‘‘ปิณฺโฑโล วิจรติ ปตฺตปาณี’’ติ อริเยหิ กาตพฺพํ อภิสาปํ อุปคโต. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อภิสาโปยํ, ภิกฺขเว, โลกสฺมึ ปิณฺโฑโล วิจรสิ ปตฺตปาณี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๘๐). เตนาห ‘‘กปาลหตฺโถว กุเลสุ ภิกฺขสู’’ติ. ยุฺชสฺสุ สตฺถุวจเนติ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส โอวาเท โยคํ กโรหิ อนุยุฺชสฺสุ.

สุสํวุตตฺโตติ สุฏฺุ กายวาจาจิตฺเตหิ สมฺมเทว สํวุโต. วิสิขนฺตเร จรนฺติ ภิกฺขาจริยาย อิจฺฉาวิเสเสสุ จรนฺโต. จนฺโท ยถา โทสินปุณฺณมาสิยาติ วิคตโทสาย ปุณฺณมาย กุเลสุ นิจฺจนวสาย ปาสาทิกตาย จนฺทิมา วิย จราติ โยชนา.

สทา ธุเต รโตติ สพฺพกาลฺจ ธุตคุเณ อภิรโต. ตถูปมํ จิตฺตมิทํ กโรสีติ ยถา โกจิ ปุริโส ผลานิ อิจฺฉนฺโต ผลรุกฺเข โรเปตฺวา ตโต อลทฺธผโลว เต มูลโต ฉินฺทิตุํ อิจฺฉติ, จิตฺต, ตฺวํ ตถูปมํ ตปฺปฏิภาคํ อิทํ กโรสิ. ยํ มํ อนิจฺจมฺหิ จเล นิยุฺชสีติ ยํ มํ ปพฺพชฺชาย นิโยเชตฺวา ปพฺพชิตฺวา อทฺธาคตํ ปพฺพชฺชาผลํ อนิจฺจมฺหิ จเล สํสารมุเข นิยุฺชสิ นิโยชนวเสน ปวตฺเตสิ.

รูปาภาวโต อรูปา. จิตฺตสฺส หิ ตาทิสํ สณฺานํ นีลาทิวณฺณเภโท วา นตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ อรูปาติ. ทูรฏฺานปฺปวตฺติยา ทูรงฺคม. ยทิปิ จิตฺตสฺส มกฺกฏสุตฺตมตฺตมฺปิ ปุรตฺถิมาทิทิสาภาเคน คมนํ นาม นตฺถิ, ทูเร สนฺตํ ปน อารมฺมณํ สมฺปฏิจฺฉตีติ ทูรงฺคม. เอโกเยว หุตฺวา จรณวเสน ปวตฺตนโต เอกจาริ, อนฺตมโส ทฺเว ตีณิปิ จิตฺตานิ เอกโต อุปฺปชฺชิตุํ สมตฺถานิ นาม นตฺถิ, เอกเมว ปน จิตฺตํ เอกสฺมึ สนฺตาเน อุปฺปชฺชติ. ตสฺมึ นิรุทฺเธ อปรมฺปิ เอกเมว อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา เอกจาริ. น เต กริสฺสํ วจนํ อิทานิหนฺติ ยทิปิ ปุพฺเพ ตว วเส อนุวตฺตึ, อิทานิ ปน สตฺถุ โอวาทํ ลทฺธกาลโต ปฏฺาย จิตฺตวสิโก น ภวิสฺสามิ. กสฺมาติ เจ? ทุกฺขา หิ กามา กฏุกา มหพฺภยา กามา นาเมเต อตีเตปิ ทุกฺขา, อายติมฺปิ กฏุกผลา, อตฺตานุวาทาทิเภเทน มหตา ภเยน อนุพนฺธนฺตา มหพฺภยา. นิพฺพานเมวาภิมโน จริสฺสํ ตสฺมา นิพฺพานเมว อุทฺทิสฺส อภิมุขจิตฺโต วิหริสฺสํ.

ตเมว นิพฺพานาภิมุขภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นาหํ อลกฺขฺยา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ นาหํ อลกฺขฺยาติ อลกฺขิกตาย นิสฺสิรีกตาย นาหํ เคหโต นิกฺขมินฺติ โยชนา.

อหิริกฺกตายาติ ยถาวชฺชํ เกฬึ กโรนฺโต วิย นิลฺลชฺชตาย. จิตฺตเหตูติ เอกทา นิคณฺโ, เอกทา ปริพฺพาชกาทิโก โหนฺโต อนวฏฺิตจิตฺโต ปุริโส วิย จิตฺตวสิโก หุตฺวา. ทูรกนฺตนาติ ราชาทีหิ เมตฺตํ กตฺวา เตสุ ทุพฺภิตฺวา ทุพฺภิภาเวน. อาชีวเหตูติ อาชีวการณา ชีวิกาปกโต หุตฺวา อาชีวิกาภเยน อหํ น นิกฺขมึ น ปพฺพชึ. กโต จ เต, จิตฺต, ปฏิสฺสโว มยาติ, ‘‘ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย น ตว วเส วตฺตามิ, มเมว ปน วเส วตฺตามี’’ติ, จิตฺต, มยา นนุ ปฏิฺา กตาติ ทสฺเสติ.

อปฺปิจฺฉตา สปฺปุริเสหิ วณฺณิตาติ ‘‘ปจฺจเยสุ สพฺพโส อปฺปิจฺฉา นาม สาธู’’ติ พุทฺธาทีหิ ปสฏฺา, ตถา มกฺขปฺปหานํ ปเรสํ คุเณ มกฺขนสฺส ปหานํ วูปสโม สพฺพสฺส ทุกฺขสฺส วูปสโม นิพฺพาปนํ สปฺปุริเสหิ วณฺณิตํ. อิติสฺสุ มํ, จิตฺต, ตทา นิยุฺชสิ, ‘‘สมฺม, ตยา เตสุ คุเณสุ ปติฏฺาตพฺพ’’นฺติ, จิตฺต, ตฺวํ เอวํ ตทา นิยุฺชสิ. อิทานิ ตฺวํ คจฺฉสิ ปุพฺพจิณฺณํ อิทานิ มํ ตฺวํ ปหาย อตฺตโน ปุริมาจิณฺณํ มหิจฺฉตาทึ ปฏิปชฺชสิ, กึ นาเมตนฺติ อธิปฺปาโย.

ยมตฺถํ สนฺธาย ‘‘คจฺฉสิ ปุพฺพจิณฺณ’’นฺติ วุตฺตํ. ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตณฺหา อวิชฺชา จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตณฺหาติ ปจฺจเยสุ ตณฺหา, อวิชฺชาติ ตตฺเถว อาทีนวปฏิจฺฉาทิกา อวิชฺชา. ปิยาปิยนฺติ ปุตฺตทาราทีสุ เปมสงฺขาโต ปิยภาโว เจว ปนฺตเสนาสเนสุ อธิกุสลธมฺเมสุ อนภิรติสงฺขาโต อปฺปิยภาโว จ อุภยตฺถ อนุโรธปฏิวิโรโธ. สุภานิ รูปานีติ อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ สุภรูปานิ. สุขา เวทนาติ อิฏฺารมฺมเณ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนสุขเวทนา. มนาปิยา กามคุณาติ วุตฺตาวเสสา มโนรมา กามโกฏฺาสา. วนฺตาติ นิรูปโต ตํนิสฺสิตสฺส ฉนฺทราคสฺส วิกฺขมฺภนปหาเนน ฉฑฺฑิตตาย ปริจฺจตฺตตาย จ วนฺตา. วนฺเต อหํ อาวมิตุํ น อุสฺสเหติ เอวํ เต ฉฑฺฑิเต ปุน ปจฺจาวมิตุํ อหํ น สกฺโกมิ, ปริจฺจตฺตา เอว โหนฺตีติ วทติ.

สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ ภเวสุ สพฺพาสุ โยนีสุ สพฺพาสุ คตีสุ วิฺาณฏฺิตีสุ จ. วโจ กตํ มยาติ, อมฺโภ จิตฺต, ตว วจนํ มยา กตํ. กโรนฺโต จ พหูสุ ชาตีสุ น เมสิ โกปิโตติ อเนกาสุ ชาตีสุ ปน มยา น โกปิโต อสิ. มยา เนว ปริภวิโต. ตถาปิ อชฺฌตฺตสมฺภโว อตฺตนิ สมฺภูโต หุตฺวาปิ ตว อกตฺุตาย ทุกฺเข จีรํ สํสริตํ ตยา กเตติ ตยา นิพฺพตฺติเต อนาทิมติ สํสารทุกฺเข สุจิรกาลํ มยา สํสริตํ ปริพฺภมิตํ.

อิทานิ ‘‘ทุกฺเข จิรํ สํสริตํ ตยา กเต’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ อุปฺปตฺติเภเทน คติเภเทน จ วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต ‘‘ตฺวฺเวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ราชทสีติ ราชา อสิ, ทกาโร ปทสนฺธิกโร, เวสฺสา จ สุทฺทา จ ภวาม เอกทา ตเวว วาหสาติ โยชนา . เทวตฺตนํ วาปีติ เทวภาวํ วาปิ ตฺวํเยว โน อมฺหากํ, จิตฺต, กโรสีติ โยชนา. วาหสาติ การณภาเวน.

ตเวว เหตูติ ตเวว เหตุภาเวน. ตฺวํมูลกนฺติ ตฺวํนิมิตฺตํ.

นนุ ทุพฺภิสฺสสิ มํ ปุนปฺปุนนฺติ ปุนปฺปุนํ ทุพฺภิสฺสสิ นุน, ยถา ปุพฺเพ ตฺวํ อนนฺตาสุ ชาตีสุ, จิตฺต, มิตฺตปฏิรูปโก สปตฺโต หุตฺวา มยฺหํ ปุนปฺปุนํ ทุพฺภิ, อิทานิ ตถา ทุพฺภิสฺสสิ มฺเ, ปุพฺเพ วิย จาเรตุํ น ทสฺสามีติ อธิปฺปาโย. มุหุํ มุหุํ จารณิกํว ทสฺสยนฺติ อภิณฺหโต จรณารหํ วิย มโน ทสฺเสนฺโต จรณารหํ ปุริสํ วฺเจตฺวา จรโคปกํ นิปฺผาเทนฺโต วิย ปุนปฺปุนํ ตํ ตํ ภวํ ทสฺเสนฺโต. อุมฺมตฺตเกเนว มยา ปโลภสีติ อุมฺมตฺตกปุริเสน วิย มยา สทฺธึ กีฬนฺโต ตํ ตํ ปโลภนียํ ทสฺเสตฺวา ปโลภสิ. กิฺจาปิ เต, จิตฺต, วิราธิตํ มยาติ, อมฺโภ จิตฺต, กึ นาม เต มยา วิรทฺธํ, ตํ กเถหีติ อธิปฺปาโย.

อิทํ ปุเร จิตฺตนฺติ อิทํ จิตฺตํ นาม อิโต ปุพฺเพ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ รชฺชนาทินา, เยน อากาเรน อิจฺฉติ, ยตฺเถว จสฺส กาโม อุปฺปชฺชติ, ตสฺส วเสน ยตฺถกามํ ยถา วิจรนฺตสฺส สุขํ โหติ, ตเถว จ จรนฺโต ยถาสุขํ ทีฆรตฺตํ จาริกํ อจริ. อชฺชาหํ ปภินฺนมทํ มตฺตหตฺถึ หตฺถาจริยสงฺขาโต เฉโก องฺกุสคฺคโห องฺกุเสน วิย โยนิโสมนสิกาเรน นํ นิคฺคเหสฺสามิ, นสฺส วีติกฺกมิตุํ ทสฺสามีติ.

สตฺถา จ เม โลกมิมํ อธิฏฺหีติ มม สตฺถา สมฺมาสมฺพุทฺโธ อิมํ อนวเสสขนฺธโลกํ าเณน อธิฏฺหิ. กินฺติ? หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจโต, กสฺสจิปิ ธุวสฺส ถาวรสฺส อภาวโต อทฺธุวโต สุขสาราทีนํ อภาวโต อสารโต. ปกฺขนฺท มํ, จิตฺต, ชินสฺส สาสเนติ ตสฺมา ยาถาวโต ปฏิปชฺชิตุํ, จิตฺต, มํ ชินสฺส ภควโต สาสเน ปกฺขนฺเทหิ อนุปฺปเวเสหิ. ‘‘ปกฺขนฺทิม’’นฺติปิ ปาฬิ, ชินสฺส สาสเน อิมํ โลกํ าเณน ปกฺขนฺท, ยาถาวโต ตาเรหิ, ปกฺขนฺทนฺโต จ วิปสฺสนาาณมคฺเคน ยาเปนฺโต สุทุตฺตรโต มหนฺตโต สํสารมโหฆโต มํ ตาเรหิ.

น เต อิทํ, จิตฺต, ยถา ปุราณกนฺติ, อมฺโภ จิตฺต, อิทํ อตฺตภาวเคหํ โปราณกํ วิย ตว น โหตีติ อตฺโถ. กสฺมา? นาหํ อลํ ตุยฺห วเส นิวตฺติตุนฺติ อิทานาหํ ตว วเส นิวตฺติตุํ น ยุตฺโต. ยสฺมา มเหสิโน ภควโต ปพฺพชิโตมฺหิ สาสเน. ปพฺพชิตกาลโต จ ปฏฺาย สมณา นาม มาทิสาว น โหนฺติ วินาสธาริโน, เอกํสโต สมณาเยว โหนฺตีติ อตฺโถ.

นคาติ สิเนรุหิมวนฺตาทโย สพฺเพ ปพฺพตา. สมุทฺทาติ ปุรตฺถิมสมุทฺทาทโย สีตสมุทฺทาทโย, น สพฺเพ สมุทฺทา. สริตาติ คงฺคาทโย สพฺพา นทิโย จ. วสุนฺธราติ ปถวี. ทิสา จตสฺโสติ ปุรตฺถิมาทิเภทา จตสฺโส ทิสา. วิทิสาติ ปุรตฺถิมทกฺขิณาทโย จตสฺโส อนุทิสา. อโธติ เหฏฺา ยาว อุทกสนฺธารกวายุขนฺธา. ทิวาติ เทวโลกา. ทิวาคฺคหเณน เจตฺถ ตตฺถ คเต สตฺตสงฺขาเร วทติ. สพฺเพ อนิจฺจา ติภวา อุปทฺทุตาติ สพฺเพ กามภวาทโย ตโย ภวา อนิจฺจา เจว ชาติอาทีหิ ราคาทีหิ กิเลเสหิ อุปทฺทุตา ปีฬิตา จ, น เอตฺถ กิฺจิ เขมฏฺานํ นาม อตฺถิ, ตทภาวโต กุหึ คโต, จิตฺต, สุขํ รมิสฺสสิ, ตสฺมา ตโต นิสฺสรณฺเจตฺถ ปริเยสาหีติ อธิปฺปาโย.

ธิติปฺปรนฺติ ธิติปรายณํ ปรมํ ถิรภาเว ิตํ มมํ, จิตฺต, กึ กาหิสิ, ตโต อีสกมฺปิ มํ จาเลตุํ นาสกฺขิสฺสสีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘น เต อลํ, จิตฺต, วสานุวตฺตโก’’ติ. อิทานิ ตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘น ชาตุ ภสฺตํ อุภโตมุขํ ฉุเป , ธิรตฺถุ ปูรํ นวโสตสนฺทนิ’’นฺติ อาห. ตตฺถ ภสฺตนฺติ รุตฺตึ. อุภโตมุขนฺติ ปุโตฬิยา อุภโตมุขํ. น ชาตุ ฉุเปติ เอกํเสเนว ปาเทนาปิ น ฉุเปยฺย, ตถา ธิรตฺถุ ปูรํ นวโสตสนฺทนินฺติ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปูรํ นวหิ โสเตหิ วณมุเขหิ อสุจิสนฺทนึ สวตึ. ตาย วจฺจกุฏิยา ธี อตฺถุ, ตสฺสา ครหา โหตุ.

เอวํ อฏฺวีสติยา คาถาหิ นิคฺคณฺหนวเสน จิตฺตํ โอวทิตฺวา อิทานิ วิเวกฏฺานาจิกฺขณาทินา สมฺปหํเสนฺโต ‘‘วราหเอเณยฺยวิคาฬฺหเสวิเต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วราหเอเณยฺยวิคาฬฺหเสวิเตติ วราเหหิ เจว เอเณยฺเยหิ จ โอคาเหตฺวา เสวิเต. ปพฺภารกุฏฺเฏติ ปพฺภารฏฺาเน เจว ปพฺพตสิขเร จ. ปกเตว สุนฺทเรติ ปกติยา เอว สุนฺทเร อติตฺติมโนหเร. ‘‘ปกติวสุนฺธเร’’ติ วา ปาโ, ปากติเก ภูมิปเทเสติ อตฺโถ. นวมฺพุนา ปาวุสสิตฺตกานเนติ ปาวุสวเสน วุฏฺเน เมโฆทเกน อุปสิตฺตวสฺเส สุเถเว วเน. ตหึ คุหาเคหคโต รมิสฺสสีติ ตสฺมึ ปพฺพตกานเน คุหาสงฺขาตํ เคหํ อุปคโต ภาวนารติยา อภิรมิสฺสสิ.

เต ตํ รเมสฺสนฺตีติ เต มยูราทโย วนสฺํ อุปฺปาเทนฺตา ตํ รเมสฺสนฺตีติ อตฺโถ.

วุฏฺมฺหิ เทเวติ เมเฆ อธิปฺปวุฏฺเ. จตุรงฺคุเล ติเณติ เตเนว คสฺโสทกปาเตน ตตฺถ ตตฺถ ติเณ สุรตฺตวณฺณกมฺพลสทิเส จตุรงฺคุเล ชาเต. สํปุปฺผิเต เมฆนิภมฺหิ กานเนติ ปาวุสเมฆสงฺกาเส กานเน สมฺมเทว ปุปฺผิเต. นคนฺตเรติ ปพฺพตนฺตเร. วิฏปิสโม สยิสฺสนฺติ ตรุสทิโส อปริคฺคโห หุตฺวา นิปชฺชิสฺสํ. ตํ เม มุทู เหหิติ ตูลสนฺนิภนฺติ ตํ ติณปจฺจตฺถรณํ มุทุ สุขสมฺผสฺสํ ตูลสนฺนิภํ ตูลิกสทิสํ สยนํ เม ภวิสฺสติ.

ตถาตุ กสฺสามิ ยถาปิ อิสฺสโรติ ยถา โกจิ อิสฺสรปุริโส อตฺตโน วจนกรทาสาทึ วเส วตฺเตติ, อหมฺปิ, จิตฺต, ตํ ตถา กริสฺสามิ, มยฺหํ วเส วตฺเตมิเยว. กถํ? ยํ ลพฺภติ เตนปิ โหตุ เม อลนฺติ จตูสุ ปจฺจเยสุ ยํ ยาทิสํ วา ตาทิสํ วา ลพฺภติ, เตน จ มยฺหํ อลํ ปริยตฺตํ โหตุ. เอเตน อิทํ ทสฺเสติ – ยสฺมา อิเธกจฺเจ สตฺตา ตณฺหุปฺปาทเหตุ จิตฺตสฺส วเส อนุวตฺตนฺติ, อหํ ปน ตณฺหุปฺปาทํ ทูรโต วชฺเชนฺโต จิตฺตํ ทาสํ วิย กโรนฺโต อตฺตโน วเส วตฺเตมีติ. น ตาหํ กสฺสามิ ยถา อตนฺทิโต, พิฬารภสฺตํว ยถา สุมทฺทิตนฺติ จิตฺต ตณฺหุปฺปาทปริวชฺชนเหตุ, ปุน ตนฺติ จิตฺตํ อามสติ, ยถา อฺโปิ โกจิ สมฺมปฺปธานโยเคน ภาวนาย อตนฺทิโต อตฺตโน จิตฺตํ กมฺมกฺขมํ, กมฺมโยคฺคํ กโรติ, ตถา อหมฺปิ, จิตฺต, ตํ กมฺมกฺขมํ, กมฺมโยคฺคํ มยฺหํ วเส วตฺตํ กริสฺสามิ . ยถา กึ? พิฬารภสฺตํว ยถา สุมทฺทิตํ, นอิติ นิปาตมตฺตํ. ยถา สุฏฺุ มทฺทิตํ พิฬารภสฺตํ กมฺมกฺขมํ, กมฺมโยคฺคํ สุเขน ปริหรณียฺจ โหติ, ตถาหํ ตํ กริสฺสามิ.

วีริเยน ตํ มยฺห วสานยิสฺสนฺติ, อมฺโภ จิตฺต, ตํ อตฺตโน วีริเยน ภาวนาพลํ อุปฺปาเทตฺวา เตน มยฺหํ วสํ อานยิสฺสํ. คชํว มตฺตํ กุสลงฺกุสคฺคโหติ ยถา กุสโล เฉโก องฺกุสคฺคโห หตฺถาจริโย อตฺตโน สิกฺขาพเลน มตฺตหตฺถึ อตฺตโน วสํ อาเนติ, ตเถวาติ อตฺโถ.

ตยา สุทนฺเตน อวฏฺิเตน หีติ หีติ นิปาตมตฺตํ, จิตฺต, สมถวิปสฺสนาภาวนาหิ สุฏฺุ ทนฺเตน ตโต เอว สมฺมเทว วิปสฺสนาวีถึ ปฏิปนฺนตฺตา อวฏฺิเตน ตยา. หเยน โยคฺคาจริโยว อุชฺชุนาติ ยถา สุทนฺเตน สุทนฺตตฺตา เอว อุชุนา อวงฺกคตินา อสฺสาชานีเยน โยคฺคาจริโย อสฺสทมฺมสารถิ อเขมฏฺานโต เขมนฺตภูมึ ปฏิปชฺชิตุํ สกฺโกติ, เอวํ ปโหมิ มคฺคํ ปฏิปชฺชิตุํ สิวนฺติ อสิวภาวกรานํ กิเลสานํ อภาเวน สิวํ. จิตฺตานุรกฺขีหีติ อตฺตโน จิตฺตํ อนุรกฺขณสีเลหิ พุทฺธาทีหิ สพฺพกาลํ เสวิตํ อริยมคฺคํ อหํ ปฏิปชฺชิตุํ อธิคนฺตุํ ปโหมิ สกฺโกมีติ.

อารมฺมเณตํ พลสา นิพนฺธิสํ, นาคํว ถมฺภมฺหิ ทฬฺหายรชฺชุยาติ ยถา หตฺถาจริโย มหาหตฺถึ อาฬานถมฺเภ ทฬฺหาย ถิราย รชฺชุยา นิพนฺธติ, เอวมหํ, จิตฺต, กมฺมฏฺานารมฺมเณ ภาวนาพเลน นิพนฺธิสฺสํ. ตํ เม สุคุตฺตํ สติยา สุภาวิตนฺติ ตํ ตฺวํ, จิตฺต, มม สติยา สุคุตฺตํ สุภาวิตฺจ หุตฺวา. อนิสฺสิตํ สพฺพภเวสุ เหหิสีติ อริยมคฺคภาวนาทิพเลน กามภวาทีสุ สพฺเพสุปิ ภเวสุ ตณฺหาทินิสฺสเยหิ อนิสฺสิตํ ภวิสฺสสิ.

ปฺาย เฉตฺวา วิปถานุสารินนฺติ อุปฺปถคามินํ อายตนสมุทยํ ยาถาวโต ทิสฺวา เยน สมุทเยน อุปฺปถคามี, ตสฺส กิเลสวิสฺสนฺทนํ กิเลสวิปฺผนฺทิตํ อินฺทฺริยสํวรูปนิสฺสยาย ปฏิสงฺขานปฺาย ฉินฺทิตฺวา โสตวิจฺเฉทนวเสน อาวรณํ กตฺวา. โยเคน นิคฺคยฺหาติ วิปสฺสนาภาวนาสงฺขาเตน โยเคน สามตฺถิยวิธมเนน นิคฺคเหตฺวา. ปเถ นิเวสิยาติ วิปสฺสนาวีถิยํ นิเวเสตฺวา, ปติฏฺเปตฺวา. ยทา ปน วิปสฺสนา อุสฺสุกฺกาปิตา มคฺเคน ฆฏฺเฏติ, ตทา มคฺคปฺาย ‘‘ยํกิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ (มหาว. ๑๖; สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑) นิทสฺสเนน สพฺพโส อายตนสมุทยสฺส วิภวํ สมฺภวฺจ อสมฺโมหโต ทิสฺวา สเทวเก โลเก อคฺควาทิโน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ทายาโท โอรสปุตฺโต เหหิสิ ภวิสฺสสีติ อตฺโถ.

จตุพฺพิปลฺลาสวสํอธิฏฺิตนฺติ อนิจฺเจ นิจฺจนฺติ, อสุเภ สุภนฺติ, ทุกฺเข สุขนฺติ, อนตฺตนิ อตฺตาติ อิเมสํ จตุนฺนํ วิปลฺลาสานํ วสํ อธิฏฺิตํ อนุวตฺตนฺตํ. คามณฺฑลํว ปริเนสิ, จิตฺต, มนฺติ, อมฺโภ จิตฺต, มํ คามทารกํ วิย ปริกฑฺฒสิ, อิโต จิโต ปริกฑฺฒสิ. นนุ สํโยชนพนฺธนจฺฉิทนฺติ สํโยชนสงฺขาตานํ ทสนฺนํ พนฺธนานํ เฉทกํ การุณิกํ มหามุนึ สมฺมาสมฺพุทฺธํ สํเสวสิ นนุ, ‘‘ตถารูเป มหานุภาเว ทูรโตว วชฺเชสิ, มาทิเส ปน ตปสฺสิเน ยถารุจิ ปริเนสี’’ติ อปฺปสาทเลเสน สตฺถารํ ปสํสติ.

มิโค ยถาติ ยถา มิโค รุกฺขคจฺฉลตาทีหิ สุฏฺุ จิตฺตวิจิตฺเต อนากุเล กานเน เสริ สยํวสี รมติ. รมฺมํ คิรึ ปาวุสอพฺภมาลินินฺติ เอวํ ปาวุสกาเล สมนฺตโต สุมาลินีหิ ถลชชลชมาลาหิ สมนฺนาคตตฺตา อพฺภมาลินึ ชนวิวิตฺตตาย มโนรมตาย จ รมฺมํ ปพฺพตํ ลภิตฺวา ตตฺถ นเค รมิสฺสํ, อสํสยํ เอกํเสเนว ตฺวํ, จิตฺต, ปราภวิสฺสสิ, สํสารพฺยสเนหิ สฺสสีติ อตฺโถ.

เย ตุยฺห ฉนฺเทน วเสน วตฺติโนติ สพฺเพ ปุถุชฺชเน จิตฺตสามฺเน คเหตฺวา วทติ. ตสฺสตฺโถ – เย นรนาริโย, อมฺโภ จิตฺต, ตุยฺหํ ฉนฺเทน วเสน รุจิยา ิตา ยํ เคหนิสฺสิตํ สุขํ อนุโภนฺติ อนุภวิสฺสนฺติ, เต อวิทฺทสู อนฺธพาลา, มารวสานุวตฺติโน กิเลสมาราทีนํ วเส อนุวตฺตนสีลา, ภวาภินนฺที กามาทิภวเมว อภินนฺทนโต, ตว สาวกา อนุสิฏฺิกรา. มยํ ปน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาวกา, น ตุยฺหํ วเส อนุวตฺตามาติ.

เอวํ เถโร ปุพฺเพ อตฺตโน อุปฺปนฺนํ โยนิโสมนสิการํ จิตฺตสฺส นิคฺคณฺหนวเสน ปวตฺตํ นานปฺปการโต วิภชิตฺวา สมีเป ิตานํ ภิกฺขูนํ โอวาททานวเสน ธมฺมํ กเถสิ. ยํ ปเนตฺถ อนฺตรนฺตรา อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ตาลปุฏตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺาสนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.