📜

๘. อฏฺกนิปาโต

๑. มหากจฺจายนตฺเถรคาถาวณฺณนา

อฏฺกนิปาเต กมฺมํ พหุกนฺติอาทิกา อายสฺมโต มหากจฺจายนตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล คหปติมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วุทฺธิปฺปตฺโต, เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชนฺตานํ อคฺคฏฺาเน ปิยมานํ เอกํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา, สยมฺปิ ตํ านํ ปตฺเถนฺโต ปณิธานํ กตฺวา, ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา, เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต สุเมธสฺส ภควโต กาเล วิชฺชาธโร หุตฺวา อากาเสน คจฺฉนฺโต สตฺถารํ หิมวนฺตปพฺพเต เอกสฺมึ วนสณฺเฑ นิสินฺนํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส กณิการปุปฺเผหิ ปูชํ อกาสิ.

โส เตน ปุฺกมฺเมน อปราปรํ สุคตีสุเยว ปริวตฺเตนฺโต กสฺสปทสพลสฺส กาเล พาราณสิยํ กุลฆเร นิพฺพตฺติตฺวา ปรินิพฺพุเต ภควติ สุวณฺณเจติยกรณฏฺาเน สตสหสฺสคฺฆนิกาย สุวณฺณิฏฺกาย ปูชํ กตฺวา, ‘‘ภควา มยฺหํ นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน สรีรํ สุวณฺณวณฺณํ โหตู’’ติ ปตฺถนํ อกาสิ.

ตโต ยาวชีวํ กุสลกมฺมํ กตฺวา เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทวมนุสฺเสสุ สํสริตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท อุชฺเชนิยํ รฺโ จณฺฑปชฺโชตสฺส ปุโรหิตเคเห นิพฺพตฺติ. ตสฺส นามคฺคหณทิวเส มาตา ‘‘มยฺหํ ปุตฺโต สุวณฺณวณฺโณ, อตฺตโน นามํ คเหตฺวา อาคโต’’ติ กฺจนมาณโว ตฺเวว นามํ อกาสิ. โส วุฑฺฒิมนฺวาย ตโย เวเท อุคฺคเหตฺวา ปิตุ อจฺจเยน ปุโรหิตฏฺานํ ลภิ. โส โคตฺตวเสน กจฺจายโนติ ปฺายิตฺถ. ตํ ราชา จณฺฑปชฺโชโต พุทฺธุปฺปาทํ สุตฺวา, ‘‘อาจริย, ตฺวํ ตตฺถ คนฺตฺวา สตฺถารํ อิธาเนหี’’ติ เปเสสิ. โส อตฺตฏฺโม สตฺถุ สนฺติกํ อุปคโต. ตสฺส สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ. เทสนาปริโยสาเน โส สตฺตหิ ชเนหิ สทฺธึ สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺเต ปติฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๔.๑-๒๗) –

‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, อเนโช อชิตํ ชโย;

สตสหสฺเส กปฺปานํ, อิโต อุปฺปชฺชิ นายโก.

‘‘วีโร กมลปตฺตกฺโข, สสงฺกวิมลานโน;

กนกาจลสงฺกาโส, รวิทิตฺติสมปฺปโภ.

‘‘สตฺตเนตฺตมโนหารี, วรลกฺขณภูสิโต;

สพฺพวากฺยปถาตีโต, มนุชามรสกฺกโต.

‘‘สมฺพุทฺโธ โพธยํ สตฺเต, วาคีโส มธุรสฺสโร;

กรุณานิพนฺธสนฺตาโน, ปริสาสุ วิสารโท.

‘‘เทเสติ มธุรํ ธมฺมํ, จตุสจฺจูปสํหิตํ;

นิมุคฺเค โมหปงฺกมฺหิ, สมุทฺธรติ ปาณิเน.

‘‘ตทา เอกจโร หุตฺวา, ตาปโส หิมวาลโย;

นภสา มานุสํ โลกํ, คจฺฉนฺโต ชินมทฺทสํ.

‘‘อุเปจฺจ สนฺติกํ ตสฺส, อสฺโสสึ ธมฺมเทสนํ;

วณฺณยนฺตสฺส วีรสฺส, สาวกสฺส มหาคุณํ.

‘‘สํขิตฺเตน มยา วุตฺตํ, วิตฺถาเรน ปกาสยํ;

ปริสํ มฺจ โตเสติ, ยถา กจฺจายโน อยํ.

‘‘นาหํ เอวมิเธกจฺจํ, อฺํ ปสฺสามิ สาวกํ;

ตสฺมาตทคฺเค เอสคฺโค, เอวํ ธาเรถ ภิกฺขโว.

‘‘ตทาหํ วิมฺหิโต หุตฺวา, สุตฺวา วากฺยํ มโนรมํ;

หิมวนฺตํ คมิตฺวาน, อาหิตฺวา ปุปฺผสฺจยํ.

‘‘ปูเชตฺวา โลกสรณํ, ตํ านมภิปตฺถยึ;

ตทา มมาสยํ ตฺวา, พฺยากาสิ ส รณฺชโห.

‘‘ปสฺสเถตํ อิสิวรํ, นิทฺธนฺตกนกตฺตจํ;

อุทฺธคฺคโลมํ ปีณํสํ, อจลํ ปฺชลึ ิตํ.

‘‘หาสํ สุปุณฺณนยนํ, พุทฺธวณฺณคตาสยํ;

ธมฺมชํ อุคฺคหทยํ, อมตาสิตฺตสนฺนิภํ.

‘‘กจฺจานสฺส คุณํ สุตฺวา, ตํ านํ ปตฺถยํ ิโต;

อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, โคตมสฺส มหามุเน.

‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาโท, โอรโส ธมฺมนิมฺมิโต;

กจฺจาโน นาม นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวโก.

‘‘พหุสฺสุโต มหาาณี, อธิปฺปายวิทู มุเน;

ปาปุณิสฺสติ ตํ านํ, ยถายํ พฺยากโต มยา.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, ยํ กมฺมมกรึ ตทา;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.

‘‘ทุเว ภเว สํสรามิ, เทวตฺเต อถ มานุเส;

อฺํ คตึ น คจฺฉามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.

‘‘ทุเว กุเล ปชายามิ, ขตฺติเย อถ พฺราหฺมเณ;

นีเจ กุเล น ชายามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.

‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, ชาโต อุชฺเชนิยํ ปุเร;

ปชฺโชตสฺส จ จณฺฑสฺส, ปุโรหิตทิชาธิโน.

‘‘ปุตฺโต ติริฏิวจฺฉสฺส, นิปุโณ เวทปารคู;

มาตา จ จนฺทิมา นาม, กจฺจาโนหํ วรตฺตโจ.

‘‘วีมํสนตฺถํ พุทฺธสฺส, ภูมิปาเลน เปสิโต;

ทิสฺวา โมกฺขปุรทฺวารํ, นายกํ คุณสฺจยํ.

‘‘สุตฺวา จ วิมลํ วากฺยํ, คติปงฺกวิโสสนํ;

ปาปุณึ อมตํ สนฺตํ, เสเสหิ สห สตฺตหิ.

‘‘อธิปฺปายวิทู ชาโต, สุคตสฺส มหามเต.

ปิโต เอตทคฺเค จ, สุสมิทฺธมโนรโถ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อถ สตฺถา ‘‘เอถ, ภิกฺขโว’’ติ หตฺถํ ปสาเรสิ. เต ตาวเทว ทฺวงฺคุลมตฺตเกสมสฺสุกา อิทฺธิมยปตฺตจีวรธรา วสฺสสฏฺิกตฺเถรา วิย อเหสุํ. เอวํ เถโร สทตฺถํ นิปฺผาเทตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ราชา ปชฺโชโต ตุมฺหากํ ปาเท วนฺทิตุํ ธมฺมฺจ โสตุํ อิจฺฉตี’’ติ สตฺถุ อาโรเจสิ. สตฺถา, ‘‘ตฺวํเยว, ภิกฺขุ, ตตฺถ คจฺฉ, ตยิ คเตปิ ราชา ปสีทิสฺสตี’’ติ อาห. เถโร สตฺถุ อาณาย อตฺตฏฺโม ตตฺถ คนฺตฺวา ราชานํ ปสาเทตฺวา อวนฺตีสุ สาสนํ ปติฏฺาเปตฺวา ปุน สตฺถุ สนฺติกเมว คโต. โส เอกทิวสํ สมฺพหุเล ภิกฺขู สมณธมฺมํ ปหาย กมฺมาราเม สงฺคณิการาเม รสตณฺหานุคเต จ ปมาทวิหาริโน ทิสฺวา เตสํ โอวาทวเสน –

๔๙๔.

‘‘กมฺมํ พหุกํ น การเย, ปริวชฺเชยฺย ชนํ น อุยฺยเม;

โส อุสฺสุกฺโก รสานุคิทฺโธ, อตฺถํ ริฺจติ โย สุขาธิวาโห.

๔๙๕.

‘‘ปงฺโกติ หิ นํ อเวทยุํ, ยายํ วนฺทนปูชนา กุเลสุ;

สุขุมํ สลฺลํ ทุรุพฺพหํ, สกฺกาโร กาปุริเสน ทุชฺชโห’’ติ. –

ทฺเว คาถา อภาสิ.

ตตฺถ กมฺมํ พหุกํ น การเยติ นวาวาสการาปนาทึ สมณธมฺมกรณสฺส ปริพนฺธภูตํ มหนฺตํ นวกมฺมํ น ปฏฺเปยฺย, ขุทฺทกํ อปฺปสมารมฺภํ ขณฺฑผุลฺลปฏิสงฺขรณาทึ สตฺถุ วจนปฏิปูชนตฺถํ กาตพฺพเมว. ปริวชฺเชยฺย ชนนฺติ คณสงฺคณิกวเสน ชนํ วิวชฺเชยฺย. ชนนฺติ วา ยาทิสํ สํเสวโต ภชโต ปยิรุปาสโต กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, ตาทิสํ อกลฺยาณมิตฺตภูตํ ชนํ ปริวชฺเชยฺย. น อุยฺยเมติ, ปจฺจยุปฺปาทนตฺถํ กุลสงฺคณฺหนวเสน น วายเมยฺย, ยสฺมา โส อุสฺสุกฺโก รสานุคิทฺโธ, อตฺถํ ริฺจติ โย สุขาธิวาโหติ โย รสานุคิทฺโธ รสตณฺหาวสิโก ภิกฺขุ ปจฺจยุปฺปาทนปสุโต, โส กุลสงฺคณฺหนตฺถํ อุสฺสุกฺโก, เตสุ สุขิเตสุ สุขิโต, ทุกฺขิเตสุ ทุกฺขิโต, อุปฺปนฺเนสุ กิจฺจกรณีเยสุ อตฺตนา โยคํ อาปชฺชติ, โย สุขาธิวาโห สมถวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพานสุขาวโห สีลาทิอตฺโถ, ตํ ริฺจติ ปชหติ เอกํเสน อตฺตานํ ตโต วิเวเจตีติ อตฺโถ.

เอวํ ปมคาถาย ‘‘กมฺมารามตํ สงฺคณิการามตํ ปจฺจยเคธฺจ วชฺเชถา’’ติ โอวทิตฺวา อิทานิ สกฺการาภิลาสํ ครหนฺโต ทุติยํ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ยา อยํ ภิกฺขาย อุปคตานํ ปพฺพชิตานํ กุเลสุ เคหวาสีหิ คุณสมฺภาวนาย กรียมานา วนฺทนา ปูชนา จ, ยสฺมา ตํ อภาวิตตฺตานํ โอสีทาปนฏฺเน มลินภาวกรณฏฺเน จ ปงฺโก กทฺทโมติ พุทฺธาทโย อริยา ปเวทยุํ อพฺภฺํสุ ปเวเทสุํ วา, ยสฺมา จ อปริฺาตกฺขนฺธานํ อนฺธปุถุชฺชนานํ สกฺการาภิลาสํ ทุวิฺเยฺยสภาวตาย ปีฬาชนนโต อนฺโต ตุทนโต ทุรุทฺธรณโต จ สุขุมํ สลฺลํ ทุรุพฺพหํ ปเวทยุํ, ตโต เอว สกฺกาโร กาปุริเสน ทุชฺชโห ทุปฺปชเหยฺโย ตสฺส ปหานปฏิปตฺติยา อปฺปฏิปชฺชนโต. สกฺการาภิลาสปฺปหาเนน หิ สกฺกาโร ปหีโน โหติ, ตสฺมา ตสฺส ปหานาย อาโยโค กรณีโยติ ทสฺเสติ –

๔๙๖.

‘‘น ปรสฺสุปนิธาย, กมฺมํ มจฺจสฺส ปาปกํ;

อตฺตนา ตํ น เสเวยฺย, กมฺมพนฺธู หิ มาติยา.

๔๙๗.

‘‘น ปเร วจนา โจโร, น ปเร วจนา มุนิ;

อตฺตา จ นํ ยถา เวทิ, เทวาปิ นํ ตถา วิทู.

๔๙๘.

‘‘ปเร จ น วิชานนฺติ, มยเมตฺถ ยมามเส;

เย จ ตตฺถ วิชานนฺติ, ตโต สมฺมนฺติ เมธคา.

๔๙๙.

‘‘ชีวเต วาปิ สปฺปฺโ, อปิ วิตฺตปริกฺขโย;

ปฺาย จ อลาเภน, วิตฺตวาปิ น ชีวติ.

๕๐๐.

‘‘สพฺพํ สุณาติ โสเตน, สพฺพํ ปสฺสติ จกฺขุนา;

น จ ทิฏฺํ สุตํ ธีโร, สพฺพํ อุชฺฌิตุมรหติ.

๕๐๑.

‘‘จกฺขุมาสฺส ยถา อนฺโธ, โสตวา พธิโร ยถา;

ปฺวาสฺส ยถา มูโค, พลวา ทุพฺพโลริว;

อถ อตฺเถ สมุปฺปนฺเน, สเยถ มตสายิก’’นฺติ. –

อิมา ฉ คาถา รฺโ ปชฺโชตสฺส โอวาทวเสน อภาสิ. โส กิร พฺราหฺมเณ สทฺทหิตฺวา ปสุฆาตยฺํ กาเรติ, กมฺมํ อโสเธตฺวาว อโจเร โจรสฺาย ทณฺเฑสิ, อฏฺฏกรเณ จ อสฺสามิเก สามิเก กโรติ, สามิเก จ อสฺสามิเก. ตโต นํ เถโร วิเวเจตุํ ‘‘น ปรสฺสา’’ติอาทินา ฉ คาถา อภาสิ.

ตตฺถ น ปรสฺสุปนิธาย, กมฺมํ มจฺจสฺส ปาปกนฺติ ปรสฺส มจฺจสฺส สตฺตสฺส อุปนิธาย อุทฺทิสฺส การณํ กตฺวา ปาปกํ วธพนฺธาทิกมฺมํ น เสเวยฺย, ปเรน น การาเปยฺยาติ อตฺโถ. อตฺตนา ตํ น เสเวยฺยาติ อตฺตนาปิ ตํ ปาปกํ น กเรยฺย. กสฺมา? กมฺมพนฺธู หิ มาติยา อิเม มาติยา มจฺจา กมฺมทายาทา, ตสฺมา อตฺตนา จ กิฺจิ ปาปกมฺมํ น กเรยฺย, ปเรนปิ น การาเปยฺยาติ อตฺโถ.

น ปเร วจนา โจโรติ อตฺตนา โจริยํ อกตฺวา ปรวจนา ปรสฺส วจนมตฺเตน โจโร นาม น โหติ, ตถา น ปเร วจนา มุนิ ปรสฺส วจนมตฺเตน มุนิ สุวิสุทฺธกายวจีมโนสมาจาโร น โหติ. เอตฺถ หิ ปเรติ วิภตฺติอโลปํ กตฺวา นิทฺเทโส. เกจิ ปน ‘‘ปเรสนฺติ วตฺตพฺเพ ปเรติ สํ-การโลปํ กตฺวา นิทฺทิฏฺ’’นฺติ วทนฺติ. อตฺตา จ นํ ยถา เวทีติ นํ สตฺตํ ตสฺส อตฺตา จิตฺตํ ยถา ‘‘อหํ ปริสุทฺโธ, อปริสุทฺโธ วา’’ติ ยาถาวโต อเวทิ ชานาติ. เทวาปิ นํ ตถา วิทูติ วิสุทฺธิเทวา, อุปปตฺติเทวา จ ตถา วิทู วิทนฺติ ชานนฺติ, ตสฺมา สยํ ตาทิสา เทวา จ ปมาณํ สุทฺธาสุทฺธานํ สุทฺธาสุทฺธภาวชานเน, น เย เกจิ อิจฺฉาโทสปเรตา สตฺตาติ อธิปฺปาโย.

ปเรติ ปณฺฑิเต เปตฺวา ตโต อฺเ, กุสลากุสลสาวชฺชานวชฺชํ กมฺมํ กมฺมผลํ กายสฺส อสุภตํ สงฺขารานํ อนิจฺจตํ อชานนฺตา อิธ ปเร นาม. เต มยเมตฺถ อิมสฺมึ ชีวโลเก ยมาม อุปรมาม, ‘‘สตตํ สมิตํ มจฺจุ สนฺติกํ คจฺฉามา’’ติ น ชานนฺติ. เย จ ตตฺถ วิชานนฺตีติ เย จ ตตฺถ ปณฺฑิตา ‘‘มยํ มจฺจุ สมีปํ คจฺฉามา’’ติ วิชานนฺติ. ตโต สมฺมนฺติ เมธคาติ เอวฺหิ เต ชานนฺตา เมธคานํ ปรวิหึสนานํ วูปสมาย ปฏิปชฺชนฺติ, อตฺตนา ปเร จ อฺเ น เมธนฺติ น พาเธนฺตีติ อตฺโถ. ตฺวํ ปน ชีวิตนิมิตฺตํ อโจเร โจเร กโรนฺโตปิ ทณฺฑเนน สามิเก อสฺสามิเก กโรนฺโตปิ ธนชานิยา พาธสิ ปฺาเวกลฺลโต. ตถา อกโรนฺโตปิ ชีวเต วาปิ สปฺปฺโ, อปิ วิตฺตปริกฺขโย ปริกฺขีณธโนปิ สปฺปฺชาติโก อิตรีตรสนฺโตเสน สนฺตุฏฺโ อนวชฺชาย ชีวิกาย ชีวติเยว. ตสฺส หิ ชีวิตํ นาม. เตนาห ภควา – ‘‘ปฺาชีวึ ชีวิตมาหุ เสฏฺ’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๗๓, ๒๔๖; สุ. นิ. ๑๘๔). ทุมฺเมธปุคฺคโล ปน ปฺาย จ อลาเภน ทิฏฺธมฺมิกํ สมฺปรายิกฺจ อตฺถํ วิราเธนฺโต วิตฺตวาปิ น ชีวติ ครหาทิปวตฺติยา ชีวนฺโต นาม น โหติ, อนุปายฺุตาย ยถาธิคตํ ธนํ นาเสนฺโต ชีวิตมฺปิ สนฺธาเรตุํ น สกฺโกติเยว.

อิมา กิร จตสฺโสปิ คาถา เถโร สุปินนฺเตน รฺโ กเถสิ. ราชา สุปินํ ทิสฺวา เถรํ นมสฺสนฺโตเยว ปพุชฺฌิตฺวา ปภาตาย รตฺติยา เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา อตฺตนา ทิฏฺนิยาเมน สุปินํ กเถสิ. ตํ สุตฺวา เถโร ตา คาถา ปจฺจุนุภาสิตฺวา ‘‘สพฺพํ สุณาตี’’ติอาทินา ทฺวีหิ คาถาหิ ราชานํ โอวทิ. ตตฺถ สพฺพํ สุณาติ โสเตนาติ อิธ โสตพฺพํ สทฺทํ อาปาถคตํ สพฺพํ สุภาสิตํ ทุพฺภาสิตฺจ อพธิโร โสเตน สุณาติ. ตถา สพฺพํ รูปํ สุนฺทรํ อสุนฺทรมฺปิ จกฺขุนา อนนฺโธ ปสฺสติ, อยมินฺทฺริยานํ สภาโว. ตตฺถ ปน น จ ทิฏฺํ สุตํ ธีโร, สพฺพํ อุชฺฌิตุนฺติ จ นิทสฺสนมตฺตเมตํ. ยฺหิ ตํ ทิฏฺํ สุตํ วา, น ตํ สพฺพํ ธีโร สปฺปฺโ อุชฺฌิตุํ ปริจฺจชิตุํ คเหตุํ วา อรหติ. คุณาคุณํ ปน ตตฺถ อุปปริกฺขิตฺวา อุชฺฌิตพฺพเมว อุชฺฌิตุํ คเหตพฺพฺจ คเหตุํ อรหติ, ตสฺมา จกฺขุมาสฺส ยถา อนฺโธ จกฺขุมาปิ สมาโน อุชฺฌิตพฺเพ ทิฏฺเ อนฺโธ ยถา อสฺส อปสฺสนฺโต วิย ภเวยฺย, ตถา อุชฺฌิตพฺเพ สุเต โสตวาปิ พธิโร ยถา อสฺส อสุณนฺโต วิย ภเวยฺย. ปฺวาสฺส ยถา มูโคติ วิจารณปฺาย ปฺวา วจนกุสโลปิ อวตฺตพฺเพ มูโค วิย ภเวยฺย. พลวา ถามสมฺปนฺโนปิ อกตฺตพฺเพ ทุพฺพโลริว, รกาโร ปทสนฺธิกโร, อสมตฺโถ วิย ภเวยฺย. อถ อตฺเถ สมุปฺปนฺเน, สเยถ มตสายิกนฺติ อตฺตนา กาตพฺพกิจฺเจ อุปฺปนฺเน อุปฏฺิเต มตสายิกํ สเยถ, มตสายิกํ สยิตฺวาปิ ตํ กิจฺจํ ตีเรตพฺพเมว, น วิราเธตพฺพํ. อถ วา อถ อตฺเถ สมุปฺปนฺเนติ อตฺตนา อกรณีเย อตฺเถ กิจฺเจ อุปฺปนฺเน อุปฏฺิเต มตสายิกํ สเยถ, มตสายิกํ สยิตฺวาปิ ตํ น กาตพฺพเมว. น หิ ปณฺฑิโต อยุตฺตํ กาตุมรหตีติ เอวํ เถเรน โอวทิโต ราชา อกตฺตพฺพํ ปหาย กาตพฺเพเยว ยุตฺตปฺปยุตฺโต อโหสีติ.

มหากจฺจายนตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สิริมิตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา

อกฺโกธโนติอาทิกา อายสฺมโต สิริมิตฺตตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห มหทฺธนกุฏุมฺพิกสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, สิริมิตฺโตติ ลทฺธนาโม. ตสฺส กิร มาตา สิริคุตฺตสฺส ภคินี. ตสฺส วตฺถุ ธมฺมปทวณฺณนายํ (ธ. ป. อฏฺ. ๑.ครหทินฺนวตฺถุ) อาคตเมว. โส สิริคุตฺตสฺส ภาคิเนยฺโย สิริมิตฺโต วยปฺปตฺโต สตฺถุ ธนปาลทมเน ลทฺธปฺปสาโท ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปตฺโต. เอกทิวสํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุํ อาสนํ อภิรุหิตฺวา จิตฺตพีชนึ คเหตฺวา นิสินฺโน ภิกฺขูนํ ธมฺมํ กเถสิ. กเถนฺโต จ อุฬารตเร คุเณ วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต –

๕๐๒.

‘‘อกฺโกธโนนุปนาหี, อมาโย ริตฺตเปสุโณ;

ส เว ตาทิสโก ภิกฺขุ, เอวํ เปจฺจ น โสจติ.

๕๐๓.

‘‘อกฺโกธโนนุปนาหี, อมาโย ริตฺตเปสุโณ;

คุตฺตทฺวาโร สทา ภิกฺขุ, เอวํ เปจฺจ น โสจติ.

๕๐๔.

‘‘อกฺโกธโนนุปนาหี, อมาโย ริตฺตเปสุโณ;

กลฺยาณสีโล โส ภิกฺขุ, เอวํ เปจฺจ น โสจติ.

๕๐๕.

‘‘อกฺโกธโนนุปนาหี, อมาโย ริตฺตเปสุโณ;

กลฺยาณมิตฺโต โส ภิกฺขุ, เอวํ เปจฺจ น โสจติ.

๕๐๖.

‘‘อกฺโกธโนนุปนาหี, อมาโย ริตฺตเปสุโณ;

กลฺยาณปฺโ โส ภิกฺขุ, เอวํ เปจฺจ น โสจติ.

๕๐๗.

‘‘ยสฺส สทฺธา ตถาคเต, อจลา สุปฺปติฏฺิตา;

สีลฺจ ยสฺส กลฺยาณํ, อริยกนฺตํ ปสํสิตํ.

๕๐๘.

‘‘สงฺเฆ ปสาโท ยสฺสตฺถิ, อุชุภูตฺจ ทสฺสนํ;

อทลิทฺโทติ ตํ อาหุ, อโมฆํ ตสฺส ชีวิตํ.

๕๐๙.

‘‘ตสฺมา สทฺธฺจ สีลฺจ, ปสาทํ ธมฺมทสฺสนํ;

อนุยุฺเชถ เมธาวี, สรํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ อกฺโกธโนติ อกุชฺฌนสีโล. อุปฏฺิเต หิ โกธุปฺปตฺตินิมิตฺเต อธิวาสนขนฺติยํ ตฺวา โกปสฺส อนุปฺปาทโก. อนุปนาหีติ น อุปนาหโก, ปเรหิ กตํ อปราธํ ปฏิจฺจ ‘‘อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ มํ, อชินิ มํ อหาสิ เม’’ติอาทินา (ธ. ป. ๓; มหาว. ๔๖๔; ม. นิ. ๓.๒๓๗) โกธสฺส อนุปนยฺหนสีโล. สนฺตโทสปฏิจฺฉาทนลกฺขณาย มายาย อภาวโต อมาโย. ปิสุณวาจาวิรหิตโต ริตฺตเปสุโณ, ส เว ตาทิสโก ภิกฺขูติ โส ตถารูโป ตถาชาติโก ยถาวุตฺตคุณสมนฺนาคโต ภิกฺขุ . เอวํ ยถาวุตฺตปฏิปตฺติยา เปจฺจ ปรโลเก น โสจติ โสกนิมิตฺตสฺส อภาวโต. จกฺขุทฺวาราทโย กายทฺวาราทโย จ คุตฺตา ปิหิตา สํวุตา เอตสฺสาติ คุตฺตทฺวาโร. กลฺยาณสีโลติ สุนฺทรสีโล สุวิสุทฺธสีโล. กลฺยาณมิตฺโตติ –

‘‘ปิโย ครุภาวนิโย, วตฺตา จ วจนกฺขโม;

คมฺภีรฺจ กถํ กตฺตา, โน จฏฺาเน นิโยชเย’’ติ. (อ. นิ. ๗.๓๗) –

เอวํ วิภาวิตลกฺขโณ กลฺยาณมิตฺโต เอตสฺสาติ กลฺยาณมิตฺโต. กลฺยาณปฺโติ สุนฺทรปฺโ. ยทิปิ ปฺา นาม อสุนฺทรา นตฺถิ, นิยฺยานิกาย ปน ปฺาย วเสน เอวํ วุตฺตํ

เอวเมตฺถ โกธาทีนํ วิกฺขมฺภนวเสน สมุจฺเฉทวเสน จ อกฺโกธนาทิมุเขน, ปุคฺคลาธิฏฺานาย คาถาย สมฺมาปฏิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิปฺผตฺติตโลกุตฺตรสทฺธาทิเก อุทฺธริตฺวา ปุคฺคลาธิฏฺานาย เอว คาถาย สมฺมาปฏิปตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยสฺส สทฺธา’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – ยสฺส ปุคฺคลสฺส ตถาคเต สมฺมาสมฺพุทฺเธ ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินยปฺปวตฺตา มคฺเคนาคตสทฺธา, ตโต เอว อจลา อวิกมฺปา สุฏฺุ ปติฏฺิตา. ‘‘อตฺถี’’ติ, ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. อริยกนฺตนฺติ อริยานํ กนฺตํ ปิยายิตํ ภวนฺตเรปิ อวิชหนโต. ปสํสิตนฺติ พุทฺธาทีหิ ปสฏฺํ, วณฺณิตํ โถมิตํ อตฺถีติ โยชนา. ตํ ปเนตํ สีลํ คหฏฺสีลํ ปพฺพชิตสีลนฺติ ทุวิธํ. ตตฺถ คหฏฺสีลํ นาม ปฺจสิกฺขาปทสีลํ, ยํ คหฏฺเน รกฺขิตุํ สกฺกา. ปพฺพชิตสีลํ นาม ทสสิกฺขาปทสีลํ อุปาทาย สพฺพํ จตุปาริสุทฺธิสีลํ, ตยิทํ สพฺพมฺปิ อขณฺฑาทิภาเวน อปรามฏฺตาย ‘‘กลฺยาณ’’นฺติ เวทิตพฺพํ.

สงฺเฆ ปสาโท ยสฺสตฺถีติ ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ’’ติอาทินา อริยสงฺเฆ ปสาโท สทฺธา ยสฺส ปุคฺคลสฺส อตฺถิ อจโล สุปฺปติฏฺิโตติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. อุชุภูตฺจ ทสฺสนนฺติ ทิฏฺิวงฺกาภาวโต กิเลสวงฺกาภาวโต จ อุชุภูตํ. อกุฏิลํ อชิมฺหํ กมฺมสฺสกตาทสฺสนฺเจว สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสนฺจาติ ทุวิธมฺปิ ทสฺสนํ ยสฺส อตฺถิ อจลํ สุปฺปติฏฺิตนฺติ โยชนา. อทลิทฺโทติ ตํ อาหุ สทฺธาธนํ, สีลธนํ, สุตธนํ, จาคธนํ, ปฺาธนนฺติ อิเมสํ สุวิสุทฺธานํ ธนานํ อตฺถิตาย ‘‘อทลิทฺโท’’ติ ตํ ตาทิสํ ปุคฺคลํ พุทฺธาทโย อริยา อาหุ. อโมฆํ ตสฺส ชีวิตํ ตสฺส ตถารูปสฺส ชีวิตํ ทิฏฺธมฺมิกาทิอตฺถาธิคเมน อโมฆํ อวฺฌํ สผลเมวาติ อาหูติ อตฺโถ.

ตสฺมาติ , ยสฺมา ยถาวุตฺตสทฺธาทิคุณสมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘อทลิทฺโท อโมฆชีวิโต’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมา อหมฺปิ ตถารูโป ภเวยฺยนฺติ. สทฺธฺจ…เป… สาสนนฺติ ‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณ’’นฺติอาทินา (ธ. ป. ๑๘๓; ที. นิ. ๒.๙๐) วุตฺตํ พุทฺธานํ สาสนํ อนุสฺสรนฺโต กุลปุตฺโต วุตฺตปฺปเภทํ สทฺธฺเจว สีลฺจ ธมฺมทสฺสนเหตุกํ ธมฺเม สุนิจฺฉยา วิโมกฺขภูตํ ปสาทฺจ อนุยุฺเชยฺย วฑฺเฒยฺยาติ.

เอวํ เถโร ภิกฺขูนํ ธมฺมเทสนามุเขน อตฺตนิ วิชฺชมาเน คุเณ ปกาเสนฺโต อฺํ พฺยากาสิ.

สิริมิตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. มหาปนฺถกตฺเถรคาถาวณฺณนา

ยทาปมมทฺทกฺขินฺติอาทิกา อายสฺมโต มหาปนฺถกตฺเถรสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยํ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร วิภวสมฺปนฺโน กุฏุมฺพิโย หุตฺวา เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ สฺาวิวฏฺฏกุสลานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา สยมฺปิ ตํ านนฺตรํ ปตฺเถนฺโต พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สตฺตาหํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ยํ ภิกฺขุํ ตุมฺเห อิโต สตฺตทิวสมตฺถเก – ‘สฺาวิวฏฺฏกุสลานํ อยํ มม สาสเน อคฺโค’ติ เอตทคฺเค ปยิตฺถ, อหมฺปิ อิมสฺส อธิการกมฺมสฺส พเลน โส ภิกฺขุ วิย อนาคเต เอกสฺส พุทฺธสฺส สาสเน อคฺโค ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ อกาสิ. กนิฏฺภาตา ปนสฺส ตเถว ภควติ อธิการกมฺมํ กตฺวา มโนมยสฺส กายสฺสาภินิมฺมานํ เจโตวิวฏฺฏโกสลฺลนฺติ ทฺวินฺนํ องฺคานํ วเสน วุตฺตนเยเนว ปณิธานํ อกาสิ. ภควา ทฺวินฺนมฺปิ ปตฺถนํ อนนฺตราเยน สมิชฺฌนภาวํ ทิสฺวา ‘‘อนาคเต กปฺปสตสหสฺสมตฺถเก โคตมสฺส นาม สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาสเน ตุมฺหากํ ปตฺถนา สมิชฺฌิสฺสตี’’ติ พฺยากาสิ.

เต อุโภปิ ชนา ตตฺถ ยาวชีวํ ปุฺานิ กตฺวา ตโต จุโต เทวโลเก นิพฺพตฺตึสุ. ตตฺถ มหาปนฺถกสฺส อนฺตรากตํ กลฺยาณธมฺมํ น กถียติ. จูฬปนฺถโก ปน กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน ปพฺพชิตฺวา วีสติ วสฺสสหสฺสานิ โอทาตกสิณกมฺมํ กตฺวา เทวปุเร นิพฺพตฺติ. อปทาเน ปน ‘‘จูฬปนฺถโก ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล ตาปโส หุตฺวา หิมวนฺเต วสนฺโต ตตฺถ ภควนฺตํ ทิสฺวา ปุปฺผจฺฉตฺเตน ปูชํ อกาสี’’ติ อาคตํ. เตสํ เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตานํเยว กปฺปสตสหสฺสํ อติกฺกนฺตํ. อถ อมฺหากํ สตฺถา อภิสมฺโพธึ ปตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก ราชคหํ อุปนิสฺสาย เวฬุวเน มหาวิหาเร วิหรติ.

เตน จ สมเยน ราชคเห ธนเสฏฺิสฺส ธีตา อตฺตโน ทาเสน สทฺธึ สนฺถวํ กตฺวา าตเกหิ ภีตา หตฺถสารํ คเหตฺวา เตน สทฺธึ ปลายิตฺวา อฺตฺถ วสนฺตี ตํ ปฏิจฺจ คพฺภํ ลภิตฺวา ปริปกฺกคพฺภา ‘‘าติฆรํ คนฺตฺวา วิชายิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺตี อนฺตรามคฺเคเยว ปุตฺตํ วิชายิตฺวา สามินา นิวตฺติตา ปุพฺเพ วสิตฏฺาเน วสนฺตี ปุตฺตสฺส ปนฺเถ ชาตตฺตา ปนฺถโกติ, นามํ อกาสิ. ตสฺมึ อาธาวิตฺวา วิธาวิตฺวา วิจรณกาเล ตเมว ปฏิจฺจ ทุติยํ คพฺภํ ปฏิลภิตฺวา ปริปกฺกคพฺภา ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว อนฺตรามคฺเค ปุตฺตํ วิชายิตฺวา สามินา นิวตฺติตา เชฏฺปุตฺตสฺส มหาปนฺถโกติ กนิฏฺสฺส จูฬปนฺถโกติ นามํ กตฺวา ยถาวสิตฏฺาเนเยว วสนฺตี อนุกฺกเมน ทารเกสุ วฑฺฒนฺเตสุ เตหิ, ‘‘อมฺม, อยฺยกกุลํ โน ทสฺเสหี’’ติ นิพุนฺธิยมานา ทารเก มาตาปิตูนํ สนฺติกํ เปเสสิ. ตโต ปฏฺาย ทารกา ธนเสฏฺิโน เคเห วฑฺฒนฺติ. เตสุ จูฬปนฺถโก อติทหโร. มหาปนฺถโก ปน อยฺยเกน สทฺธึ ภควโต สนฺติกํ คโต สตฺถารํ ทิสฺวา สห ทสฺสเนน ปฏิลทฺธสทฺโธ ธมฺมํ สุตฺวา อุปนิสฺสยสมฺปนฺนตาย ปพฺพชิตุกาโม หุตฺวา ปิตามหํ อาปุจฺฉิ. โส สตฺถุ ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ตํ ปพฺพาเชสิ. โส ปพฺพชิตฺวา พหุํ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิตฺวา ปริปุณฺณวสฺโส อุปสมฺปชฺชิตฺวา โยนิโสมนสิกาเร กมฺมํ กโรนฺโต วิเสสโต จตุนฺนํ อรูปชฺฌานานํ ลาภี หุตฺวา ตโต วุฏฺาย วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. อิติ โส สฺาวิวฏฺฏกุสลานํ อคฺโค ชาโต. โส ฌานสุเขน ผลสุเขน วีตินาเมนฺโต เอกทิวสํ อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อธิคตสมฺปตฺตึ ปฏิจฺจ สฺชาตโสมนสฺโส สีหนาทํ นทนฺโต –

๕๑๐.

‘‘ยทา ปมมทฺทกฺขึ, สตฺถารมกุโตภยํ;

ตโต เม อหุ สํเวโค, ปสฺสิตฺวา ปุริสุตฺตมํ.

๕๑๑.

‘‘สิรึ หตฺเถหิ ปาเทหิ, โย ปณาเมยฺย อาคตํ;

เอตาทิสํ โส สตฺถารํ, อาราเธตฺวา วิราธเย.

๕๑๒.

‘‘ตทาหํ ปุตฺตทารฺจ, ธนธฺฺจ ฉฑฺฑยึ;

เกสมสฺสูนิ เฉเทตฺวา, ปพฺพชึ อนคาริยํ.

๕๑๓.

‘‘สิกฺขาสาชีวสมฺปนฺโน, อินฺทฺริเยสุ สุสํวุโต;

นมสฺสมาโน สมฺพุทฺธํ, วิหาสึ อปราชิโต.

๕๑๔.

‘‘ตโต เม ปณิธี อาสิ, เจตโส อภิปตฺถิโต;

น นิสีเท มุหุตฺตมฺปิ, ตณฺหาสลฺเล อนูหเต.

๕๑๕.

‘‘ตสฺส เมวํ วิหรโต, ปสฺส วีริยปรกฺกมํ;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

๕๑๖.

‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;

อรหา ทกฺขิเณยฺโยมฺหิ, วิปฺปมุตฺโต นิรูปธิ.

๕๑๗.

‘‘ตโต รตฺยาวิวสาเน, สูริยุคฺคมนํ ปติ;

สพฺพํ ตณฺหํ วิโสเสตฺวา, ปลฺลงฺเกน อุปาวิสิ’’นฺติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ ยทาติ ยสฺมึ กาเล. ปมนฺติ อาทิโต. อทฺทกฺขินฺติ ปสฺสึ, สตฺถารนฺติ, ภควนฺตํ. อกุโตภยนฺติ นิพฺภยํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – สพฺเพสํ ภยเหตูนํ โพธิมูเลเยว ปหีนตฺตา กุโตจิปิ ภยาภาวโต อกุโตภยํ นิพฺภยํ, จตุเวสารชฺชวิสารทํ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ เวเนยฺยานํ ยถารหมนุสาสนโต สตฺถารํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ มยฺหํ ปิตามเหน สทฺธึ คนฺตฺวา ยาย เวลาย สพฺพปมํ ปสฺสึ, ตํ ปุริสุตฺตมํ สเทวเก โลเก อคฺคปุคฺคลํ ปสฺสิตฺวา ตโต ทสฺสนเหตุ ตโต ทสฺสนโต ปจฺฉา ‘‘เอตฺตกํ กาลํ สตฺถารํ ทฏฺุํ ธมฺมฺจ โสตุํ นาลตฺถ’’นฺติ มยฺหํ สํเวโค อหุ สโหตฺตปฺปํ าณํ อุปฺปชฺชิ. อุปฺปนฺนสํเวโค ปนาหํ เอวํ จินฺเตสินฺติ ทสฺเสติ สิรึ หตฺเถหีติ คาถาย. ตสฺสตฺโถ – โย วิภวตฺถิโก ปุริโส ‘‘อุปฏฺายิโก หุตฺวา ตว สนฺติเก วสิสฺสามี’’ติ สวิคฺคหํ สิรึ สยเน อุปคตํ หตฺเถหิ จ ปาเทหิ จ โกฏฺเฏนฺโต ปณาเมยฺย นีหเรยฺย, โส ตถารูโป อลกฺขิกปุริโส เอตาทิสํ สตฺถารํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อาราเธตฺวา อิมสฺมึ นวเม ขเณ ปฏิลภิตฺวา วิราธเย ตสฺส โอวาทากรเณน ตํ วิรชฺเฌยฺย, อหํ ปเนวํ น กโรมีติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ตทาหํ…เป… อนคาริย’’นฺติ. ตตฺถ ฉฑฺฑยินฺติ, ปชหึ. ‘‘ฉฑฺฑิย’’นฺติปิ ปาโ. นนุ อยํ เถโร ทารปริคฺคหํ อกตฺวาว ปพฺพชิโต, โส กสฺมา ‘‘ปุตฺตทารฺจ ฉฑฺฑยิ’’นฺติ อโวจาติ? ยถา นาม ปุริโส อนิพฺพตฺตผลเมว รุกฺขํ ฉินฺทนฺโต อจฺฉินฺเน ตโต ลทฺธผเลหิ ปริหีโน นาม โหติ. เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.

สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโนติ ยา อธิสีลสิกฺขา, ตาย จ, ยตฺถ ภิกฺขู สห ชีวนฺติ, เอกชีวิกา สภาควุตฺติโน โหนฺติ, เตน ภควตา ปฺตฺตสิกฺขาปทสงฺขาเตน สาชีเวน จ สมนฺนาคโต สิกฺขนภาเวน สมงฺคีภูโต, สิกฺขํ ปริปูเรนฺโต สาชีวฺจ อวีติกฺกมนฺโต หุตฺวา ตทุภยํ สมฺปาเทนฺโตติ อตฺโถ. เตน สุวิสุทฺเธ ปาติโมกฺเข สีเล ปติฏฺิตภาวํ ทสฺเสติ. อินฺทฺริเยสุ สุสํวุโตติ มนจฺฉฏฺเสุ อินฺทฺริเยสุ สุฏฺุ สํวุโต. รูปาทิวิสเยสุ อุปฺปชฺชนกานํ อภิชฺฌาทีนํ ปวตฺตินิวารณวเสน สติกวาเฏน สุปิหิตจกฺขาทิทฺวาโรติ อตฺโถ. เอวํ ปาติโมกฺขสํวรอินฺทฺริยสํวรสีลสมฺปตฺติทสฺสเนน อิตรสีลมฺปิ อตฺถโต ทสฺสิตเมว โหตีติ เถโร อตฺตโน จตุปาริสุทฺธิสีลสมฺปทํ ทสฺเสตฺวา ‘‘นมสฺสมาโน สมฺพุทฺธ’’นฺติ อิมินา พุทฺธานุสฺสติภาวนานุโยคมาห. วิหาสึ อปราชิโตติ กิเลสมาราทีหิ อปราชิโต เอว หุตฺวา วิหรึ, ยาว อรหตฺตปฺปตฺติ, ตาว เตหิ อนภิภูโต, อฺทตฺถุ เต อภิภวนฺโต เอว วิหาสินฺติ อตฺโถ.

ตโตติ ตสฺมา, ยสฺมา สุวิสุทฺธสีโล สตฺถริ อภิปฺปสนฺโน กิเลสาภิภวนปฏิปตฺติยฺจ ิโต, ตสฺมา. ปณิธีติ ปณิธานํ. ตโต วา จิตฺตาภินีหาโร. อาสีติ อโหสิ. เจตโส อภิปตฺถิโตติ, มม จิตฺเตน อิจฺฉิโต. กีทิโส ปน โสติ อาห ‘‘น นิสีเท มุหุตฺตมฺปิ, ตณฺหาสลฺเล อนูหเต’’ติ. ‘‘อคฺคมคฺคสณฺฑาเสน มม หทยโต ตณฺหาสลฺเล อนุทฺธเฏ มุหุตฺตมฺปิ น นิสีเท, นิสชฺชํ น กปฺเปยฺย’’นฺติ เอวํ เม จิตฺตาภินีหาโร อโหสีติ อตฺโถ.

เอวํ ปน จิตฺตํ อธิฏฺาย ภาวนํ ภาวยิตฺวา านจงฺกเมเหว รตฺตึ วีตินาเมนฺโต อรูปสมาปตฺติโต วุฏฺาย ฌานงฺคมุเขน วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตสฺส เม’’ติอาทิ. นิรูปธีติ กิเลสุปธิอาทีนํ อภาเวน นิรุปธิ. รตฺยาวิวสาเนติ รตฺติภาคสฺส วิคมเน วิภาตาย รตฺติยา. สูริยุคฺคมนํ ปตีติ สูริยุคฺคมนํ ลกฺขณํ กตฺวา. สพฺพํ ตณฺหนฺติ กามตณฺหาทิเภทํ สพฺพํ ตณฺหาโสตํ อคฺคมคฺเคน วิโสเสตฺวา สุกฺขาเปตฺวา ‘‘ตณฺหาสลฺเล อนูหเต น นิสีเท’’ติ, ปฏิฺาย โมจิตตฺตา. ปลฺลงฺเกน อุปาวิสินฺติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสีทินฺติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.

มหาปนฺถกตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อฏฺกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.