📜
๑๓. เตรสนิปาโต
๑. โสณโกฬิวิสตฺเถรคาถาวณฺณนา
เตรสนิปาเต ¶ ¶ ¶ ยาหุ รฏฺเติอาทิกา อายสฺมโต โสณสฺส โกฬิวิสสฺส คาถา. กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปฺุานิ อุปจินิ. อยํ กิร อโนมทสฺสิสฺส ภควโต กาเล มหาวิภโว เสฏฺิ หุตฺวา อุปาสเกหิ สทฺธึ วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปสนฺนมานโส สตฺถุ จงฺกมนฏฺาเน สุธาย ปริกมฺมํ กาเรตฺวา นานาวณฺเณหิ ปุปฺเผหิ สนฺถริตฺวา อุปริ นานาวิราควตฺเถหิ วิตานํ พนฺธาเปสิ, ตถา สตฺถุ ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ทีฆสาลํ กาเรตฺวา นิยฺยาเทสิ. โส เตน ปฺุกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร เสฏฺิกุเล นิพฺพตฺติ, สิริวฑฺโฒติสฺส นามํ อโหสิ. โส วยปฺปตฺโต วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ อารทฺธวีริยานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา, สยมฺปิ ตํ านนฺตรํ ปตฺเถนฺโต สตฺตาหํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา ปณิธานมกาสิ. สตฺถาปิ ตสฺส ปตฺถนาย สมิชฺฌนภาวํ ทิสฺวา พฺยากริตฺวา ปกฺกามิ.
โสปิ ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต ปรินิพฺพุเต กสฺสปทสพเล อนุปฺปนฺเน อมฺหากํ ภควติ พาราณสิยํ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต คงฺคาตีเร ปณฺณสาลํ กริตฺวา เอกํ ปจฺเจกพุทฺธํ เตมาสํ จตูหิ ปจฺจเยหิ สกฺกจฺจํ อุปฏฺหิ. ปจฺเจกพุทฺโธ วุฏฺวสฺโส ปริปุณฺณปริกฺขาโร คนฺธมาทนเมว คโต. โสปิ กุลปุตฺโต ยาวชีวํ ตตฺถ ปฺุานิ กตฺวา ตโต จวิตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อมฺหากํ ภควโต กาเล จมฺปานคเร อุสภเสฏฺิสฺส เคเห ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. ตสฺส ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปฏฺาย เสฏฺิสฺส มหาโภคกฺขนฺโธ อภิวฑฺฒิ. ตสฺส ชาตทิวเส สกลนคเร มหาสกฺการสมฺปนฺโน อโหสิ, ตสฺส ปุพฺเพ ปจฺเจกพุทฺธสฺส สตสหสฺสคฺฆนิกรตฺตกมฺพลปริจฺจาเคน สุวณฺณวณฺโณ สุขุมาลตโร จ อตฺตภาโว อโหสิ, เตนสฺส โสโณติ นามํ อกํสุ. มหตา ปริวาเรน วฑฺฒติ ¶ , ตสฺส หตฺถปาทตลานิ พนฺธุชีวกปุปฺผวณฺณานิ อเหสุํ, สตวิหตกปฺปาสสฺส วิย สมฺผสฺโส ปาทตเลสุ มณิกุณฺฑลาวฏฺฏวณฺณานิ โลมานิ ¶ ชายึสุ. วยปฺปตฺตสฺส ตสฺส ติณฺณํ อุตูนํ อนุจฺฉวิเก ตโย ปาสาเท กาเรตฺวา นาฏกานิ อุปฏฺาเปสุํ. โส ตตฺถ มหตึ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต เทวกุมาโร วิย ปฏิวสติ.
อถ ¶ อมฺหากํ สตฺถริ สพฺพฺุตํ ปตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺเก ราชคหํ อุปนิสฺสาย วิหรนฺเต พิมฺพิสารรฺา ปกฺโกสาปิโต อสีติยา คามิกสหสฺเสหิ สทฺธึ ราชคหํ อาคโต, สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ มาตาปิตโร อนุชานาเปตฺวา สาสเน ปพฺพชิตฺวา ลทฺธูปสมฺปโท สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา, ชนสํสคฺคปริหรณตฺถํ สีตวเน วสนฺโต ‘‘มม สรีรํ สุขุมาลํ, น จ สกฺกา สุเขเนว สุขํ อธิคนฺตุํ, กายํ กิลเมตฺวา สมณธมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ านจงฺกมเมว อธิฏฺาย, ปธานมนุยฺุชนฺโต ปาทตเลสุ โผเฏสุ อุฏฺหิเตสุปิ เวทนํ อชฺฌุเปกฺขิตฺวา ทฬฺหํ วีริยํ กโรนฺโต อจฺจารทฺธวีริยตาย วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโต, ‘‘เอวํ วายมนฺโตปิ อหํ มคฺคํ วา ผลํ วา นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺโกมิ, กึ เม ปพฺพชฺชาย, หีนายาวตฺติตฺวา โภเค จ ภฺุชิสฺสามิ, ปฺุานิ จ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. สตฺถา ตสฺส จิตฺตาจารํ ตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา วีณูปโมวาเทน โอวทิตฺวา วีริยสมตาโยชนวิธึ ทสฺเสนฺโต กมฺมฏฺานํ โสเธตฺวา คิชฺฌกูฏํ คโต. โสณตฺเถโรปิ สตฺถุ สมฺมุขา โอวาทํ ลภิตฺวา วีริยสมตํ โยเชตฺวา วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๕.๒๕-๕๓) –
‘‘อโนมทสฺสิสฺส มุนิโน, โลกเชฏฺสฺส ตาทิโน;
สุธาย เลปนํ กตฺวา, จงฺกมํ การยึ อหํ.
‘‘นานาวณฺเณหิ ปุปฺเผหิ, จงฺกมํ สนฺถรึ อหํ;
อากาเส วิตานํ กตฺวา, โภชยึ พุทฺธมุตฺตมํ.
‘‘อฺชลึ ปคฺคเหตฺวาน, อภิวาเทตฺวาน สุพฺพตํ;
ทีฆสาลํ ภควโต, นิยฺยาเทสิมหํ ตทา.
‘‘มม สงฺกปฺปมฺาย, สตฺถา โลเก อนุตฺตโร;
ปฏิคฺคเหสิ ภควา, อนุกมฺปาย จกฺขุมา.
‘‘ปฏิคฺคเหตฺวาน ¶ สมฺพุทฺโธ, ทกฺขิเณยฺโย สเทวเก;
ภิกฺขุสงฺเฆ นิสีทิตฺวา, อิมา คาถา อภาสถ.
‘‘โย โส หฏฺเน จิตฺเตน, ทีฆสาลํ อทาสิ เม;
ตมหํ กิตฺตยิสฺสามิ, สุณาถ มม ภาสโต.
‘‘อิมสฺส ¶ มจฺจุกาลมฺหิ, ปฺุกมฺมสมงฺคิโน;
สหสฺสยุตฺตสฺสรโถ, อุปฏฺิสฺสติ ตาวเท.
‘‘เตน ยาเนนยํ โปโส, เทวโลกํ คมิสฺสติ;
อนุโมทิสฺสเร เทวา, สมฺปตฺเต กุลสมฺภเว.
‘‘มหารหํ พฺยมฺหํ เสฏฺํ, รตนมตฺติกเลปนํ;
กูฏาคารวรูเปตํ, พฺยมฺหํ อชฺฌาวสิสฺสติ.
‘‘ตึสกปฺปสหสฺสานิ, เทวโลเก รมิสฺสติ;
ปฺจวีสติ กปฺปานิ, เทวราชา ภวิสฺสติ.
‘‘สตฺตสตฺตติกฺขตฺตฺุจ, จกฺกวตฺตี ภวิสฺสติ;
ยโสธรสนามา เต, สพฺเพปิ เอกนามกา.
‘‘ทฺเว สมฺปตฺตี อนุโภตฺวา, วฑฺเฒตฺวา ปฺุสฺจยํ;
อฏฺวีสติกปฺปมฺหิ, จกฺกวตฺตี ภวิสฺสติ.
‘‘ตตฺราปิ พฺยมฺหํ ปวรํ, วิสฺสกมฺเมน มาปิตํ;
ทสสทฺทาวิวิตฺตํ ตํ, ปุรมชฺฌาวสิสฺสติ.
‘‘อปริเมยฺเย อิโต กปฺเป, ภูมิปาโล มหิทฺธิโก;
โอกฺกาโก นาม นาเมน, ราชา รฏฺเ ภวิสฺสติ.
‘‘โสฬสิตฺถิสหสฺสานํ, สพฺพาสํ ปวรา จ สา;
อภิชาตา ขตฺติยานี, นว ปุตฺเต ชเนสฺสติ.
‘‘นว ปุตฺเต ชเนตฺวาน, ขตฺติยานี มริสฺสติ;
ตรุณี จ ปิยา กฺา, มเหสิตฺตํ กริสฺสติ.
‘‘โอกฺกากํ โตสยิตฺวาน, วรํ กฺา ลภิสฺสติ;
วรํ ลทฺธาน สา กฺา, ปุตฺเต ปพฺพาชยิสฺสติ.
‘‘ปพฺพาชิตา ¶ จ เต สพฺเพ, คมิสฺสนฺติ นคุตฺตมํ;
ชาติเภทภยา สพฺเพ, ภคินีหิ วสิสฺสเร.
‘‘เอกา จ กฺา พฺยาธีหิ, ภวิสฺสติ ปริกฺขตา;
มา โน ชาติ ปภิชฺชีติ, นิขณิสฺสนฺติ ขตฺติยา.
‘‘ขตฺติโย นีหริตฺวาน, ตาย สทฺธึ วสิสฺสติ;
ภวิสฺสติ ตทา เภโท, โอกฺกากกุลสมฺภโว.
‘‘เตสํ ปชา ภวิสฺสนฺติ, โกฬิยา นาม ชาติยา;
ตตฺถ มานุสกํ โภคํ, อนุโภสฺสตินปฺปกํ.
‘‘ตมฺหา กายา จวิตฺวาน, เทวโลกํ คมิสฺสติ;
ตตฺราปิ ปวรํ พฺยมฺหํ, ลภิสฺสติ มโนรมํ.
‘‘เทวโลกา ¶ จวิตฺวาน, สุกฺกมูเลน โจทิโต;
อาคนฺตฺวาน มนุสฺสตฺตํ, โสโณ นาม ภวิสฺสติ.
‘‘อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต, ปทหํ สตฺถุ สาสเน;
สพฺพาสเว ปริฺาย, นิพฺพายิสฺสตินาสโว.
‘‘อนนฺตทสฺสี ภควา, โคตโม สกฺยปุงฺคโว;
วิเสสฺู มหาวีโร, อคฺคฏฺาเน เปสฺสติ.
‘‘วุฏฺมฺหิ เทเว จตุรงฺคุลมฺหิ, ติเณ อนิเลริตองฺคณมฺหิ;
ตฺวาน โยคสฺส ปยุตฺตตาทิโน, ตโตตฺตรึ ปารมตา น วิชฺชติ.
‘‘อุตฺตเม ทมเถ ทนฺโต, จิตฺตํ เม สุปณีหิตํ;
ภาโร เม โอหิโต สพฺโพ, นิพฺพุโตมฺหิ อนาสโว.
‘‘องฺคีรโส มหานาโค, อภิชาโตว เกสรี;
ภิกฺขุสงฺเฆ นิสีทิตฺวา, เอตทคฺเค เปสิ มํ.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน อฺาพฺยากรณวเสน จ –
‘‘ยาหุ รฏฺเ สมุกฺกฏฺโ, รฺโ องฺคสฺส ปทฺธคู;
สฺวาชฺช ธมฺเมสุ อุกฺกฏฺโ, โสโณ ทุกฺขสฺส ปารคู.
‘‘ปฺจ ฉินฺเท ปฺจ ชเห, ปฺจ จุตฺตริ ภาวเย;
ปฺจสงฺคาติโค ภิกฺขุ, โอฆติณฺโณติ วุจฺจติ.
‘‘อุนฺนฬสฺส ปมตฺตสฺส, พาหิราสสฺส ภิกฺขุโน;
สีลํ สมาธิ ปฺา จ, ปาริปูรึ น คจฺฉติ.
‘‘ยฺหิ กิจฺจํ อปวิทฺธํ, อกิจฺจํ ปน กรียติ;
อุนฺนฬานํ ปมตฺตานํ, เตสํ วฑฺฒนฺติ อาสวา.
‘‘เยสฺจ สุสมารทฺธา, นิจฺจํ กายคตา สติ;
อกิจฺจํ เต น เสวนฺติ, กิจฺเจ สาตจฺจการิโน;
สตานํ สมฺปชานานํ, อตฺถํ คจฺฉนฺติ อาสวา.
‘‘อุชุมคฺคมฺหิ ¶ ¶ อกฺขาเต, คจฺฉถ มา นิวตฺตถ;
อตฺตนา โจทยตฺตานํ, นิพฺพานมภิหารเย.
‘‘อจฺจารทฺธมฺหิ ¶ วีริยมฺหิ, สตฺถา โลเก อนุตฺตโร;
วีโณปมํ กริตฺวา เม, ธมฺมํ เทเสติ จกฺขุมา;
ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, วิหาสึ สาสเน รโต.
‘‘สมถํ ปฏิปาเทสึ, อุตฺตมตฺถสฺส ปตฺติยา;
ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.
‘‘เนกฺขมฺเม อธิมุตฺตสฺส, ปวิเวกฺจ เจตโส;
อพฺยาพชฺฌาธิมุตฺตสฺส, อุปาทานกฺขยสฺส จ.
‘‘ตณฺหกฺขยาธิมุตฺตสฺส, อสมฺโมหฺจ เจตโส;
ทิสฺวา อายตนุปฺปาทํ, สมฺมา จิตฺตํ วิมุจฺจติ.
‘‘ตสฺส สมฺมา วิมุตฺตสฺส, สนฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน;
กตสฺส ปติจโย นตฺถิ, กรณียํ น วิชฺชติ.
‘‘เสโล ¶ ยถา เอกฆโน, วาเตน น สมีรติ;
เอวํ รูปา รสา สทฺทา, คนฺธา ผสฺสา จ เกวลา.
‘‘อิฏฺา ธมฺมา อนิฏฺา จ, นปฺปเวเธนฺติ ตาทิโน;
ิตํ จิตฺตํ วิสฺุตฺตํ, วยฺจสฺสานุปสฺสตี’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;
ตตฺถ ยาหุ รฏฺเ สมุกฺกฏฺโติ โย อหุ อโหสิ องฺครฏฺเ อสีติยา คามิกสหสฺเสหิ โภคสมฺปตฺติยา อิสฺสริยสมฺปตฺติยา จ สมฺมา อติวิย อุกฺกฏฺโ เสฏฺโ. รฺโ องฺคสฺส ปทฺธคูติ จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ ปริสาย รฺชนฏฺเน รฺโ องฺคาธิปติโน พิมฺพิสารสฺส ปริวารภูโต คหปติวิเสโส ตสฺส รฏฺเ กุฏุมฺพิโก อหูติ โยเชตพฺพํ. สฺวาชฺช ธมฺเมสุ อุกฺกฏฺโติ โส โสโณ อชฺเชตรหิ โลกุตฺตรธมฺเมสุ อุกฺกฏฺโ ชาโต, คิหิกาเลปิ เกหิจิ อุกฺกฏฺโเยว หุตฺวา อิทานิ ปพฺพชิตกาเลปิ อุกฺกฏฺโเยว โหตีติ อตฺตานเมว ปรํ วิย ทสฺเสติ. ทุกฺขสฺส ปารคูติ สกลสฺส วฏฺฏทุกฺขสฺส ปารํ ปริยนฺตํ คโต, เอเตน ธมฺเมสุ อุกฺกฏฺโติ อวิเสเสน วุตฺตํ อุกฺกฏฺภาวํ วิเสเสติ อรหตฺตาธิคมทีปนโต.
อิทานิ ยาย ปฏิปตฺติยา ทุกฺขปารคู ชาโต, อฺาปเทเสน ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฺจ ฉินฺเท’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – อปายกามสุคติสมฺปาปกานิ ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปุริโส สตฺเถน ปาเท พทฺธรชฺชุกํ วิย เหฏฺิเมน มคฺคตฺตเยน ฉินฺเทยฺย, รูปารูปภวสมฺปาปกานิ ปฺจ อุทฺธมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปุริโส คีวาย พทฺธรชฺชุกํ วิย อคฺคมคฺเคน ชเหยฺย, ฉินฺเทยฺย, เตสํ ปน อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานํ ปหานาย ปฺจ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ ¶ อุตฺตริ ภาวเย ¶ ภาเวยฺย. เอวํภูโต ปน ภิกฺขุ ราคสงฺโค โทสโมหมานทิฏฺิสงฺโคติ ปฺจนฺนํ สงฺคานํ อติกฺกมเนน ปฺจสงฺคาติโค หุตฺวา, กาโมโฆ, ภโวโฆ, ทิฏฺโโฆ, อวิชฺโชโฆติ จตุนฺนํ โอฆานํ ติณฺณตฺตา โอฆติณฺโณติ วุจฺจติ.
อยฺจ โอฆตรณปฏิปตฺติสีลาทีนํ ปาริปูริยาว โหติ, สีลาทโย จ มานาทิปฺปหาเนน ปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, น อฺถาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุนฺนฬสฺสา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อุนฺนฬสฺสาติ อุคฺคตตุจฺฉมานสฺส. มาโน ¶ หิ อุนฺนมนาการวุตฺติยา ตุจฺฉภาเวน นโฬ วิยาติ ‘‘นโฬ’’ติ วุจฺจติ. ปมตฺตสฺสาติ สติโวสฺสคฺเคน ปมาทํ อาปนฺนสฺส. พาหิราสสฺสาติ พาหิเรสุ อายตเนสุ อาสาวโต, กาเมสุ อวีตราคสฺสาติ อตฺโถ. สีลํ สมาธิ ปฺา จ, ปาริปูรึ น คจฺฉตีติ ตสฺส สีลาทีนํ ปฏิปกฺขเสวิโน โลกิโยปิ ตาว สีลาทิคุโณ ปาริปูรึ น คจฺฉติ, ปเคว โลกุตฺตโร.
ตตฺถ การณมาห ‘‘ยฺหิ กิจฺจ’’นฺติอาทินา. ภิกฺขุโน หิ ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย อปริมาณสีลกฺขนฺธโคปนํ อรฺวาโส ธุตงฺคปริหรณํ ภาวนารามตาติ เอวมาทิ กิจฺจํ นาม. เยหิ ปน อิทํ ยถาวุตฺตํ อตฺตโน กิจฺจํ, ตํ อปวิทฺธํ อกรเณน ฉฑฺฑิตํ. อกิจฺจนฺติ ปตฺตมณฺฑนํ จีวรกายพนฺธนอํสพทฺธฉตฺตุปาหนตาลวณฺฏธมฺมกรณมณฺฑนนฺติ เอวมาทิ ปริกฺขารมณฺฑนํ ปจฺจยพาหุลิยนฺติ เอวมาทิ ภิกฺขุโน อกิจฺจํ นาม, ตํ กยิรติ, เตสํ มานนฬํ อุกฺขิปิตฺวา จรเณน อุนฺนฬานํ สติโวสฺสคฺเคน ปมตฺตานํ จตฺตาโรปิ อาสวา วฑฺฒนฺติ.
เยสํ ปน ปฺาทิคุโณ วฑฺฒติ, เต ทสฺเสตุํ ‘‘เยส’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สุสมารทฺธาติ สุฏฺุ ปคฺคหิตา. กายคตา สตีติ, กายานุปสฺสนาภาวนา. อกิจฺจํ เตติ เต เอตํ ปตฺตมณฺฑนาทิอกิจฺจํ. น เสวนฺตีติ น กโรนฺติ. กิจฺเจติ, ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย กตฺตพฺเพ อปริมาณสีลกฺขนฺธโคปนาทิเก. สาตจฺจการิโนติ สตตการิโน เตสํ สติยา อวิปฺปวาเสน สตานํ สาตฺถกสมฺปชฺํ, สปฺปายสมฺปชฺํ, โคจรสมฺปชฺํ, อสมฺโมหสมฺปชฺนฺติ จตูหิ สมฺปชฺเหิ สมฺปชานานํ, จตฺตาโรปิ อาสวา อตฺถํ คจฺฉนฺติ ปริกฺขยํ อภาวํ คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ.
อิทานิ อตฺตโน สนฺติเก ิตภิกฺขูนํ โอวาทํ เทนฺโต ‘‘อุชุมคฺคมฺหี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อุชุมคฺคมฺหิ อกฺขาเตติ อนฺตทฺวยปริวชฺชเนน กายวงฺกาทิปฺปหาเนน จ อุชุเก มชฺฌิมปฏิปทาภูเต อริยมคฺเค สตฺถารา ภาสิเต. คจฺฉถาติ ปฏิปชฺชถ. มา นิวตฺตถาติ อนฺตรา ¶ โวสานํ มาปชฺชถ. อตฺตนา โจทยตฺตานนฺติ อิธ ¶ อตฺถกาโม กุลปุตฺโต อปายภยปจฺจเวกฺขณาทินา ¶ อตฺตนาว อตฺตานํ โจเทนฺโต. นิพฺพานมภิหารเยติ, อตฺตานํ นิพฺพานํ อภิหเรยฺย อุปเนยฺย, ยถา นํ สจฺฉิกโรติ, ตถา ปฏิปชฺเชยฺยาติ อตฺโถ.
อิทานิ มยาปิ เอวเมว ปฏิปนฺนนฺติ, อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘อจฺจารทฺธมฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อจฺจารทฺธมฺหิ วีริยมฺหีติ วิปสฺสนํ ภาเวนฺเตน มยา สมาธินา วีริยํ สมรสํ อกตฺวา อติวิย วีริเย ปคฺคหิเต. อจฺจารทฺธวีริยตา จสฺส เหฏฺา วุตฺตาเยว. วีโณปมํ กริตฺวา เมติ อายสฺมโต โสณสฺส ‘‘เย โข เกจิ ภควโต สาวกา อารทฺธวีริยา วิหรนฺติ. อหํ เตสํ อฺตโร, อถ จ ปน เม นานุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ตสฺมาหํ วิพฺภมิสฺสามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺเน สตฺถา อิทฺธิยา ตสฺส สมฺมุเข อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา ‘‘กสฺมา ตฺวํ, โสณ, ‘วิพฺภมิสฺสามี’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ, กุสโล ตฺวํ ปุพฺเพ อคาริยภูโต วีณาย ตนฺติสฺสเร’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เตน ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ตํ กึ มฺสิ, โสณ? ยทา เต วีณาย ตนฺติโย อจฺจายตา โหนฺติ, อปิ นุ เต วีณา ตสฺมึ สมเย สรวตี วา โหติ กมฺมฺา วาติ? โน เหตํ, ภนฺเต! ตํ กึ มฺสิ, โสณ, ยทา เต วีณาย ตนฺติโย อติสิถิลา โหนฺติ, อปิ นุ เต วีณา ตสฺมึ สมเย สรวตี วา โหติ กมฺมฺา วาติ? โน เหตํ, ภนฺเต. ตํ กึ มฺสิ, โสณ, ยทา ปน เต วีณาย ตนฺติโย เนว อจฺจายตา โหนฺติ, นาติสิถิลา สเม คุเณ ปติฏฺิตา, อปิ นุ เต วีณา ตสฺมึ สมเย สรวตี วา โหติ กมฺมฺา วาติ? เอวํ, ภนฺเต. เอวเมว โข, โสณ, อจฺจารทฺธวีริยํ อุทฺธจฺจาย สํวตฺตติ, อติลีนวีริยํ โกสชฺชาย สํวตฺตติ, ตสฺมาติห ตฺวํ, โสณ, วีริยสมตํ อธิฏฺห, อินฺทฺริยานฺจ สมตํ ปฏิวิชฺฌา’’ติ เอวํ วีณํ อุปมํ กตฺวา ปวตฺติเตน วีโณปโมวาเทน มยฺหํ ธมฺมํ เทเสสิ. ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวาติ ตสฺส ภควโต วจนํ วีโณปโมวาทํ สุตฺวา อนฺตรา อุปฺปนฺนํ วิพฺภมิตุกามตํ ปหาย สตฺถุ สาสเน รโต อภิรโต วิหรึ.
วิหรนฺโต จ สมถํ ปฏิปาเทสึ วีริยสมตํ โยเชนฺโต สทฺธาปฺานํ วิย สมาธิวีริยานํ สมรสตํ อุปฺปาเทนฺโต ฌานาธิฏฺานํ วิปสฺสนาสมาธึ ¶ สมฺปาเทสึ วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปสึ. ตตฺถ ปโยชนํ อาห ‘‘อุตฺตมตฺถสฺส ปตฺติยา’’ติ. อุตฺตมตฺถสฺส ปตฺติยาติ อรหตฺตาธิคมายาติ อตฺโถ.
อิทานิ ยถา ปฏิปนฺนสฺส สมถวิปสฺสนา สมฺปชฺชึสุ, ตํ ¶ อฺาปเทเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘เนกฺขมฺเม’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เนกฺขมฺเมติ ปพฺพชฺชาทิเก กามนิสฺสรเณ. อธิมุตฺตสฺสาติ ตตฺถ นินฺนโปณปพฺภารภาเวน ¶ ยุตฺตปฺปยุตฺตสฺส, ปมํ ตาว ปพฺพชฺชาภิมุโข หุตฺวา กาเม ปหาย ปพฺพชิตฺวา จ สีลวิโสธนํ อรฺวาโส ธุตงฺคปริหรณํ ภาวนาภิโยโคติ เอวมาทีสุ อนวชฺชธมฺเมสุ ยุตฺตปฺปยุตฺตสฺสาติ อตฺโถ. ปวิเวกฺจ เจตโสติ เจตโส ปวิเวกฺจ อธิมุตฺตสฺส เอวํ เนกฺขมฺมาธิมุตฺตสฺส สโต จตุกฺกปฺจกชฺฌานานํ นิพฺพตฺตเนน วิเวเก ยุตฺตสฺส ปยุตฺตสฺส. อพฺยาพชฺฌาธิมุตฺตสฺสาติ อพฺยาพชฺเฌ นิทุกฺขตาย อธิมุตฺตสฺส ฌานสมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา สมถสุเข ยุตฺตปฺปยุตฺตสฺส. อุปาทานกฺขยสฺส จาติ จตุนฺนมฺปิ อุปาทานานํ ขยนฺเต อรหตฺเต อธิมุตฺตสฺส. ภุมฺมตฺเถ หิ เอตํ สามิวจนํ. ตํ ยถาธิคตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อรหตฺตาธิคมาย วิปสฺสนํ อนุยฺุชนฺตสฺสาติ อตฺโถ.
ตณฺหกฺขยาธิมุตฺตสฺสาติ ตณฺหา ขียติ เอตฺถาติ ตณฺหกฺขโย, นิพฺพานํ, ตสฺมึ อธิมุตฺตสฺส อุปาทึ ภยโต, อนุปาทิฺจ เขมโต ทสฺสเนน นิโรเธ นินฺนโปณปพฺภารสฺส. อสมฺโมหฺจ เจตโสติ อสมฺโมหสมฺปชฺวเสน จิตฺตสฺส อสมฺโมหปวตฺตึ สมฺโมหสมุจฺฉินฺทเนน วา จิตฺตสฺส อสมฺโมหภูตํ อริยมคฺคํ อธิมุตฺตสฺส. ทิสฺวา อายตนุปฺปาทนฺติ จกฺขาทีนํ อายตนานํ ยถาสกปจฺจเยหิ ขเณ ขเณ อุปฺปาทํ, ตปฺปฏิปกฺขโต นิโรธฺจ วิปสฺสนาปฺาสหิตาย มคฺคปฺาย ทิสฺวา ทสฺสนเหตุ สมฺมา จิตฺตํ วิมุจฺจตีติ สมฺมา เหตุนา าเยน มคฺคปฏิปาฏิยา สพฺพาสวโต จิตฺตํ วิมุจฺจติ.
‘‘ตสฺส สมฺมา วิมุตฺตสฺสา’’ติอาทีสุ อยํ สงฺเขปตฺโถ – ตสฺส วุตฺตนเยน สมฺมเทว สพฺพสํกิเลสโต วิมุตฺตสฺส, ตโต เอว อจฺจนฺตุปสเมน สนฺตจิตฺตสฺส ขีณาสวภิกฺขุโน กตสฺส กุสลสฺส อกุสลสฺส วา อุปจโย นตฺถิ มคฺเคเนว สมุคฺฆาติตตฺตา, ปริฺาทิเภทํ กรณียํ ¶ น วิชฺชติ กตกิจฺจตฺตา. เอวํ ภูตสฺส ยถา เอกฆโน เสโล ปพฺพโต ปกติวาเตน น สมีรติ น สํกมฺปติ, เอวํ อิฏฺา จ อนิฏฺา จ รูปาทโย อารมฺมณธมฺมา ตาทิโน ตาทิภาวปฺปตฺตสฺส ิตํ อเนชํ ปหีนสพฺพโสกตาย วิสํยุตฺตํ จิตฺตํ นปฺปเวธนฺติ น จาเลนฺติ. อสฺส จ อารมฺมณธมฺมสฺส กาเลน กาลํ ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา วิปสฺสนฺโต วยํ นิโรธํ ขเณ ขเณ ภิชฺชนสภาวํ อนุปสฺสตีติ อฺํ พฺยากาสิ.
โสณโกฬิวิสตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เตรสนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.