📜

๑๒. ทฺวาทสกนิปาโต

๑. สีลวตฺเถรคาถา

๖๐๘.

‘‘สีลเมวิธ สิกฺเขถ, อสฺมึ โลเก สุสิกฺขิตํ;

สีลํ หิ สพฺพสมฺปตฺตึ, อุปนาเมติ เสวิตํ.

๖๐๙.

‘‘สีลํ รกฺเขยฺย เมธาวี, ปตฺถยาโน ตโย สุเข;

ปสํสํ วิตฺติลาภฺจ, เปจฺจ สคฺเค ปโมทนํ [เปจฺจ สคฺเค จ โมทนํ (สี. ปี.)].

๖๑๐.

‘‘สีลวา หิ พหู มิตฺเต, สฺเมนาธิคจฺฉติ;

ทุสฺสีโล ปน มิตฺเตหิ, ธํสเต ปาปมาจรํ.

๖๑๑.

‘‘อวณฺณฺจ อกิตฺติฺจ, ทุสฺสีโล ลภเต นโร;

วณฺณํ กิตฺตึ ปสํสฺจ, สทา ลภติ สีลวา.

๖๑๒.

‘‘อาทิ สีลํ ปติฏฺา จ, กลฺยาณานฺจ มาตุกํ;

ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ, ตสฺมา สีลํ วิโสธเย.

๖๑๓.

‘‘เวลา จ สํวรํ สีลํ [สํวโร สีลํ (สี.), สํวรสีลํ (สี. อฏฺ.)], จิตฺตสฺส อภิหาสนํ;

ติตฺถฺจ สพฺพพุทฺธานํ, ตสฺมา สีลํ วิโสธเย.

๖๑๔.

‘‘สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ, สีลํ อาวุธมุตฺตมํ;

สีลมาภรณํ เสฏฺํ, สีลํ กวจมพฺภุตํ.

๖๑๕.

‘‘สีลํ เสตุ มเหสกฺโข, สีลํ คนฺโธ อนุตฺตโร;

สีลํ วิเลปนํ เสฏฺํ, เยน วาติ ทิโสทิสํ.

๖๑๖.

‘‘สีลํ สมฺพลเมวคฺคํ, สีลํ ปาเถยฺยมุตฺตมํ;

สีลํ เสฏฺโ อติวาโห, เยน ยาติ ทิโสทิสํ.

๖๑๗.

‘‘อิเธว นินฺทํ ลภติ, เปจฺจาปาเย จ ทุมฺมโน;

สพฺพตฺถ ทุมฺมโน พาโล, สีเลสุ อสมาหิโต.

๖๑๘.

‘‘อิเธว กิตฺตึ ลภติ, เปจฺจ สคฺเค จ สุมฺมโน;

สพฺพตฺถ สุมโน ธีโร, สีเลสุ สุสมาหิโต.

๖๑๙.

‘‘สีลเมว อิธ อคฺคํ, ปฺวา ปน อุตฺตโม;

มนุสฺเสสุ จ เทเวสุ, สีลปฺาณโต ชย’’นฺติ.

… สีลโว เถโร….

๒. สุนีตตฺเถรคาถา

๖๒๐.

‘‘นีเจ กุลมฺหิ ชาโตหํ, ทลิทฺโท อปฺปโภชโน;

หีนกมฺมํ [หีนํ กมฺมํ (สฺยา.)] มมํ อาสิ, อโหสึ ปุปฺผฉฑฺฑโก.

๖๒๑.

‘‘ชิคุจฺฉิโต มนุสฺสานํ, ปริภูโต จ วมฺภิโต;

นีจํ มนํ กริตฺวาน, วนฺทิสฺสํ พหุกํ ชนํ.

๖๒๒.

‘‘อถทฺทสาสึ สมฺพุทฺธํ, ภิกฺขุสงฺฆปุรกฺขตํ;

ปวิสนฺตํ มหาวีรํ, มคธานํ ปุรุตฺตมํ.

๖๒๓.

‘‘นิกฺขิปิตฺวาน พฺยาภงฺคึ, วนฺทิตุํ อุปสงฺกมึ;

มเมว อนุกมฺปาย, อฏฺาสิ ปุริสุตฺตโม.

๖๒๔.

‘‘วนฺทิตฺวา สตฺถุโน ปาเท, เอกมนฺตํ ิโต ตทา;

ปพฺพชฺชํ อหมายาจึ, สพฺพสตฺตานมุตฺตมํ.

๖๒๕.

‘‘ตโต การุณิโก สตฺถา, สพฺพโลกานุกมฺปโก;

‘เอหิ ภิกฺขู’ติ มํ อาห, สา เม อาสูปสมฺปทา.

๖๒๖.

‘‘โสหํ เอโก อรฺสฺมึ, วิหรนฺโต อตนฺทิโต;

อกาสึ สตฺถุวจนํ, ยถา มํ โอวที ชิโน.

๖๒๗.

‘‘รตฺติยา ปมํ ยามํ, ปุพฺพชาติมนุสฺสรึ;

รตฺติยา มชฺฌิมํ ยามํ, ทิพฺพจกฺขุํ วิโสธยึ [ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ (ก.)];

รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม, ตโมขนฺธํ ปทาลยึ.

๖๒๘.

‘‘ตโต รตฺยา วิวสาเน, สูริยสฺสุคฺคมนํ ปติ;

อินฺโท พฺรหฺมา จ อาคนฺตฺวา, มํ นมสฺสึสุ ปฺชลี.

๖๒๙.

‘‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;

ยสฺส เต อาสวา ขีณา, ทกฺขิเณยฺโยสิ มาริส’.

๖๓๐.

‘‘ตโต ทิสฺวาน มํ สตฺถา, เทวสงฺฆปุรกฺขตํ;

สิตํ ปาตุกริตฺวาน, อิมมตฺถํ อภาสถ.

๖๓๑.

[สุ. นิ. ๖๖๐ สุตฺตนิปาเตปิ] ‘‘‘ตเปน พฺรหฺมจริเยน, สํยเมน ทเมน จ;

เอเตน พฺราหฺมโณ โหติ, เอตํ พฺราหฺมณมุตฺตม’’’นฺติ.

… สุนีโต เถโร….

ทฺวาทสกนิปาโต นิฏฺิโต.

ตตฺรุทฺทานํ –

สีลวา จ สุนีโต จ, เถรา ทฺเว เต มหิทฺธิกา;

ทฺวาทสมฺหิ นิปาตมฺหิ, คาถาโย จตุวีสตีติ.