📜

๑๕. โสฬสกนิปาโต

๑. อฺาสิโกณฺฑฺตฺเถรคาถา

๖๗๓.

‘‘เอส ภิยฺโย ปสีทามิ, สุตฺวา ธมฺมํ มหารสํ;

วิราโค เทสิโต ธมฺโม, อนุปาทาย สพฺพโส.

๖๗๔.

‘‘พหูนิ โลเก จิตฺรานิ, อสฺมึ ปถวิมณฺฑเล;

มเถนฺติ มฺเ สงฺกปฺปํ, สุภํ ราคูปสํหิตํ.

๖๗๕.

‘‘รชมุหตฺจ วาเตน, ยถา เมโฆปสมฺมเย;

เอวํ สมฺมนฺติ สงฺกปฺปา, ยทา ปฺาย ปสฺสติ.

๖๗๖.

[ธ. ป. ๒๗๗ ธมฺมปเท] ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจาติ, ยทา ปฺาย ปสฺสติ;

อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข, เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา.

๖๗๗.

[ธ. ป. ๒๗๘ ธมฺมปเท] ‘‘สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขาติ, ยทา ปฺาย ปสฺสติ

อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข, เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา.

๖๗๘.

[ธ. ป. ๒๗๙ ธมฺมปเท] ‘‘สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตาติ, ยทา ปฺาย ปสฺสติ;

อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข, เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา.

๖๗๙.

‘‘พุทฺธานุพุทฺโธ โย เถโร, โกณฺฑฺโ ติพฺพนิกฺกโม;

ปหีนชาติมรโณ, พฺรหฺมจริยสฺส เกวลี.

๖๘๐.

‘‘โอฆปาโส ทฬฺหขิโล [ทฬฺโห ขิโล (สฺยา. ก.)], ปพฺพโต ทุปฺปทาลโย;

เฉตฺวา ขิลฺจ ปาสฺจ, เสลํ เภตฺวาน [เฉตฺวาน (ก.)] ทุพฺภิทํ;

ติณฺโณ ปารงฺคโต ฌายี, มุตฺโต โส มารพนฺธนา.

๖๘๑.

‘‘อุทฺธโต จปโล ภิกฺขุ, มิตฺเต อาคมฺม ปาปเก;

สํสีทติ มโหฆสฺมึ, อูมิยา ปฏิกุชฺชิโต.

๖๘๒.

‘‘อนุทฺธโต อจปโล, นิปโก สํวุตินฺทฺริโย;

กลฺยาณมิตฺโต เมธาวี, ทุกฺขสฺสนฺตกโร สิยา.

๖๘๓.

‘‘กาลปพฺพงฺคสงฺกาโส, กิโส ธมนิสนฺถโต;

มตฺตฺู อนฺนปานสฺมึ, อทีนมนโส นโร.

๖๘๔.

‘‘ผุฏฺโ ฑํเสหิ มกเสหิ, อรฺสฺมึ พฺรหาวเน;

นาโค สงฺคามสีเสว, สโต ตตฺราธิวาสเย.

๖๘๕.

‘‘นาภินนฺทามิ มรณํ…เป… นิพฺพิสํ ภตโก ยถา.

๖๘๖.

‘‘นาภินนฺทามิ มรณํ…เป… สมฺปชาโน ปติสฺสโต.

๖๘๗.

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา…เป… ภวเนตฺติ สมูหตา.

๖๘๘.

‘‘ยสฺส จตฺถาย ปพฺพชิโต, อคารสฺมานคาริยํ;

โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, กึ เม สทฺธิวิหารินา’’ติ.

… อฺาสิโกณฺฑฺโ [อฺาโกณฺฑฺโ (สี. สฺยา.)] เถโร….

๒. อุทายิตฺเถรคาถา

๖๘๙.

[อ. นิ. ๖.๔๓] ‘‘มนุสฺสภูตํ สมฺพุทฺธํ, อตฺตทนฺตํ สมาหิตํ;

อิริยมานํ พฺรหฺมปเถ, จิตฺตสฺสูปสเม รตํ.

๖๙๐.

‘‘ยํ มนุสฺสา นมสฺสนฺติ, สพฺพธมฺมาน ปารคุํ;

เทวาปิ ตํ นมสฺสนฺติ, อิติ เม อรหโต สุตํ.

๖๙๑.

‘‘สพฺพสํโยชนาตีตํ , วนา นิพฺพนมาคตํ;

กาเมหิ เนกฺขมฺมรตํ [นิกฺขมฺมรตํ (ก.)], มุตฺตํ เสลาว กฺจนํ.

๖๙๒.

‘‘ส เว อจฺจรุจิ นาโค, หิมวาวฺเ สิลุจฺจเย;

สพฺเพสํ นาคนามานํ, สจฺจนาโม อนุตฺตโร.

๖๙๓.

‘‘นาคํ โว กิตฺตยิสฺสามิ, น หิ อาคุํ กโรติ โส;

โสรจฺจํ อวิหึสา จ, ปาทา นาคสฺส เต ทุเว.

๖๙๔.

‘‘สติ จ สมฺปชฺฺจ, จรณา นาคสฺส เตปเร;

สทฺธาหตฺโถ มหานาโค, อุเปกฺขาเสตทนฺตวา.

๖๙๕.

‘‘สติ คีวา สิโร ปฺา, วีมํสา ธมฺมจินฺตนา;

ธมฺมกุจฺฉิสมาวาโส, วิเวโก ตสฺส วาลธิ.

๖๙๖.

‘‘โส ฌายี อสฺสาสรโต, อชฺฌตฺตํ สุสมาหิโต;

คจฺฉํ สมาหิโต นาโค, ิโต นาโค สมาหิโต.

๖๙๗.

‘‘สยํ สมาหิโต นาโค, นิสินฺโนปิ สมาหิโต;

สพฺพตฺถ สํวุโต นาโค, เอสา นาคสฺส สมฺปทา.

๖๙๘.

‘‘ภุฺชติ อนวชฺชานิ, สาวชฺชานิ น ภุฺชติ;

ฆาสมจฺฉาทนํ ลทฺธา, สนฺนิธึ ปริวชฺชยํ.

๖๙๙.

‘‘สํโยชนํ อณุํ ถูลํ, สพฺพํ เฉตฺวาน พนฺธนํ;

เยน เยเนว คจฺฉติ, อนปกฺโขว คจฺฉติ.

๗๐๐.

‘‘ยถาปิ อุทเก ชาตํ, ปุณฺฑรีกํ ปวฑฺฒติ;

โนปลิปฺปติ โตเยน, สุจิคนฺธํ มโนรมํ.

๗๐๑.

‘‘ตเถว จ โลเก ชาโต, พุทฺโธ โลเก วิหรติ;

โนปลิปฺปติ โลเกน, โตเยน ปทุมํ ยถา.

๗๐๒.

‘‘มหาคินิ ปชฺชลิโต, อนาหาโรปสมฺมติ;

องฺคาเรสุ จ สนฺเตสุ, นิพฺพุโตติ ปวุจฺจติ.

๗๐๓.

‘‘อตฺถสฺสายํ วิฺาปนี, อุปมา วิฺูหิ เทสิตา;

วิฺิสฺสนฺติ มหานาคา, นาคํ นาเคน เทสิตํ.

๗๐๔.

‘‘วีตราโค วีตโทโส, วีตโมโห อนาสโว;

สรีรํ วิชหํ นาโค, ปรินิพฺพิสฺสตฺยนาสโว’’ติ.

… อุทายี เถโร….

โสฬสกนิปาโต นิฏฺิโต.

ตตฺรุทฺทานํ –

โกณฺฑฺโ จ อุทายี จ, เถรา ทฺเว เต มหิทฺธิกา;

โสฬสมฺหิ นิปาตมฺหิ, คาถาโย ทฺเว จ ตึส จาติ.