📜

๑๓. วีสตินิปาโต

๑. อมฺพปาลีเถรีคาถาวณฺณนา

วีสตินิปาเต กาฬกา ภมรวณฺณสาทิสาติอาทิกา อมฺพปาลิยา เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี สิขิสฺส ภควโต สาสเน ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปนฺนา หุตฺวา ภิกฺขุนิสิกฺขาปทํ สมาทาย วิหรนฺตี, เอกทิวสํ สมฺพหุลาหิ ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ เจติยํ วนฺทิตฺวา ปทกฺขิณํ กโรนฺตี ปุเรตรํ คจฺฉนฺติยา ขีณาสวตฺเถริยา ขิปนฺติยา สหสา เขฬปิณฺฑํ เจติยงฺคเณ ปติตํ, ขีณาสวตฺเถริยา อปสฺสิตฺวา คตาย อยํ ปจฺฉโต คจฺฉนฺตี ตํ เขฬปิณฺฑํ ทิสฺวา ‘‘กา นาม คณิกา อิมสฺมึ าเน เขฬปิณฺฑํ ปาเตสี’’ติ อกฺโกสิ. สา ภิกฺขุนิกาเล สีลํ รกฺขนฺตี คพฺภวาสํ ชิคุจฺฉิตฺวา โอปปาติกตฺตภาเว จิตฺตํ เปสิ. เตน จริมตฺตภาเว เวสาลิยํ ราชุยฺยาเน อมฺพรุกฺขมูเล โอปปาติกา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตํ ทิสฺวา อุยฺยานปาโล นครํ อุปเนสิ. อมฺพรุกฺขมูเล นิพฺพตฺตตาย สา อมฺพปาลีตฺเวว โวหรียิตฺถ. อถ นํ อภิรูปํ ทสฺสนียํ ปาสาทิกํ วิลาสกนฺตตาทิคุณวิเสสสมุทิตํ ทิสฺวา สมฺพหุลา ราชกุมารา อตฺตโน อตฺตโน ปริคฺคหํ กาตุกามา อฺมฺํ กลหํ อกํสุ. เตสํ กลหวูปสมตฺถํ ตสฺสา กมฺมสฺโจทิตา โวหาริกา ‘‘สพฺเพสํ โหตู’’ติ คณิกาฏฺาเน เปสุํ. สา สตฺถริ ปฏิลทฺธสทฺธา อตฺตโน อุยฺยาเน วิหารํ กตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิยฺยาเทตฺวา ปจฺฉา อตฺตโน ปุตฺตสฺส วิมลโกณฺฑฺตฺเถรสฺส สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี อตฺตโน สรีรสฺส ชราชิณฺณภาวํ นิสฺสาย สํเวคชาตา สงฺขารานํ อนิจฺจตํ วิภาเวนฺตี –

๒๕๒.

‘‘กาฬกา ภมรวณฺณสาทิสา, เวลฺลิตคฺคา มม มุทฺธชา อหุํ;

เต ชราย สาณวากสาทิสา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๕๓.

‘‘วาสิโตว สุรภี กรณฺฑโก, ปุปฺผปูร มม อุตฺตมงฺคโช;

ตํ ชรายถ สโลมคนฺธิกํ, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๕๔.

‘‘กานนํว สหิตํ สุโรปิตํ, โกจฺฉสูจิวิจิตคฺคโสภิตํ;

ตํ ชราย วิรลํ ตหึ ตหึ, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๕๕.

‘‘กณฺหขนฺธกสุวณฺณมณฺฑิตํ, โสภเต สุเวณีหิลงฺกตํ;

ตํ ชราย ขลิตํ สิรํ กตํ, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๕๖.

‘‘จิตฺตการสุกตาว เลขิกา, โสภเร สุ ภมุกา ปุเร มม;

ตา ชราย วลิภิปฺปลมฺพิตา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๕๗.

‘‘ภสฺสรา สุรุจิรา ยถา มณี, เนตฺตเหสุมภินีลมายตา;

เต ชรายภิหตา น โสภเร, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๕๘.

‘‘สณฺหตุงฺคสทิสี จ นาสิกา, โสภเต สุ อภิโยพฺพนํ ปติ;

สา ชราย อุปกูลิตา วิย, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๕๙.

‘‘กงฺกณํว สุกตํ สุนิฏฺิตํ, โสภเร สุ มม กณฺณปาฬิโย;

ตา ชราย วลิภิปฺปลมฺพิตา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๖๐.

‘‘ปตฺตลีมกุลวณฺณสาทิสา , โสภเร สุ ทนฺตา ปุเร มม;

เต ชราย ขณฺฑิตา จาสิตา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๖๑.

‘‘กานนมฺหิ วนสณฺฑจารินี, โกกิลาว มธุรํ นิกูชิหํ;

ตํ ชราย ขลิตํ ตหึ ตหึ, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๖๒.

‘‘สณฺหกมฺพุริว สุปฺปมชฺชิตา, โสภเต สุ คีวา ปุเร มม;

สา ชราย ภคฺคา วินามิตา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๖๓.

‘‘วฏฺฏปลิฆสทิโสปมา อุโภ, โสภเร สุ พาหา ปุเร มม;

ตา ชราย ยถา ปาฏลิพฺพลิตา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๖๔.

‘‘สณฺหมุทฺทิกสุวณฺณมณฺฑิตา , โสภเร สุ หตฺถา ปุเร มม;

เต ชราย ยถา มูลมูลิกา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๖๕.

‘‘ปีนวฏฺฏสหิภุคฺคตา อุโภ, โสภเร สุ ถนกา ปุเร มม;

เถวิกีว ลมฺพนฺติ โนทกา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๖๖.

‘‘กฺจนสฺส ผลกํว สมฺมฏฺํ, โสภเต สุ กาโย ปุเร มม;

โส วลีหิ สุขุมาหิ โอตโต, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๖๗.

‘‘นาคโภคสทิโสปมา อุโภ, โสภเร สุ อูรู ปุเร มม;

เต ชราย ยถา เวฬุนาฬิโย, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๖๘.

‘‘สณฺหนูปุรสุวณฺณมณฺฑิตา, โสภเร สุ ชงฺฆา ปุเร มม;

ตา ชราย ติลทณฺฑการิว, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๖๙.

‘‘ตูลปุณฺณสทิโสปมา อุโภ, โสภเร สุ ปาทา ปุเร มม;

เต ชราย ผุฏิตา วลีมตา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.

๒๗๐.

‘‘เอทิโส อหุ อยํ สมุสฺสโย, ชชฺชโร พหุทุขานมาลโย;

โสปเลปปติโต ชราฆโร, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา’’ติ. –

อิมา คาถาโย อภาสิ.

ตตฺถ กาฬกาติ กาฬกวณฺณา. ภมรวณฺณสาทิสาติ กาฬกา โหนฺตาปิ ภมรสทิสวณฺณา, สินิทฺธนีลาติ อตฺโถ. เวลฺลิตคฺคาติ กุฺจิตคฺคา, มูลโต ปฏฺาย ยาว อคฺคา กุฺจิตา เวลฺลิตาติ อตฺโถ. มุทฺธชาติ เกสา. ชรายาติ ชราเหตุ ชราย อุปหตโสภา. สาณวากสาทิสาติ สาณสทิสา วากสทิสา จ, สาณวากสทิสา เจว มกจิวากสทิสา จาติปิ อตฺโถ. สจฺจวาทิวจนํ อนฺถาติ สจฺจวาทิโน อวิตถวาทิโน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ‘‘สพฺพํ รูปํ อนิจฺจํ ชราภิภูต’’นฺติอาทิวจนํ อนฺถา ยถาภูตเมว, น ตตฺถ วิตถํ อตฺถีติ.

วาสิโตว สุรภี กรณฺฑโกติ ปุปฺผคนฺธวาสจุณฺณาทีหิ วาสิโต วาสํ คาหาปิโต ปสาธนสมุคฺโค วิย สุคนฺธิ. ปุปฺผปูร มม อุตฺตมงฺคโชติ จมฺปกสุมนมลฺลิกาทีหิ ปุปฺเผหิ ปูริโต ปุพฺเพ มม เกสกลาโป นิมฺมโลติ อตฺโถ. นฺติ อุตฺตมงฺคชํ. อถ ปจฺฉา เอตรหิ สโลมคนฺธิกํ ปากติกโลมคนฺธเมว ชาตํ. อถ วา สโลมคนฺธิกนฺติ เมณฺฑกโลเมหิ สมานคนฺธํ. ‘‘เอฬกโลมคนฺธ’’นฺติปิ วทนฺติ.

กานนํว สหิตํ สุโรปิตนฺติ สุฏฺุ โรปิตํ สหิตํ ฆนสนฺนิเวสํ อุทฺธเมว อุฏฺิตํ อุชุกทีฆสาขํ อุปวนํ วิย. โกจฺฉสูจิวิจิตคฺคโสภิตนฺติ ปุพฺเพ โกจฺเฉน สุวณฺณสูจิยา จ เกสชฏาวิชฏเนน วิจิตคฺคํ หุตฺวา โสภิตํ, ฆนภาเวน วา โกจฺฉสทิสํ หุตฺวา ปณทนฺตสูจีหิ วิจิตคฺคตาย โสภิตํ. นฺติ อุตฺตมงฺคชํ. วิรลํ ตหึ ตหินฺติ ตตฺถ ตตฺถ วิรลํ วิลูนเกสํ.

กณฺหขนฺธกสุวณฺณมณฺฑิตนฺติ สุวณฺณวชิราทีหิ วิภูสิตํ กณฺหเกสปุฺชกํ. เย ปน ‘‘สณฺหกณฺฑกสุวณฺณมณฺฑิต’’นฺติ ปนฺติ, เตสํ สณฺหาหิ สุวณฺณสูจีหิ ชฏาวิชฏเนน มณฺฑิตนฺติ อตฺโถ. โสภเต สุเวณีหิลงฺกตนฺติ สุนฺทเรหิ ราชรุกฺขมาลา สทิเสหิ เกสเวณีหิ อลงฺกตํ หุตฺวา ปุพฺเพ วิราชเต. ตํ ชราย ขลิตํ สิรํ กตนฺติ ตํ ตถา โสภิตํ สิรํ อิทานิ ชราย ขลิตํ ขณฺฑิตาขณฺฑิตํ วิลูนเกสํ กตํ.

จิตฺตการสุกตาว เลขิกาติ จิตฺตกาเรน สิปฺปินา นีลาย วณฺณธาตุยา สุฏฺุ กตา เลขา วิย โสภเต. สุ ภมุกา ปุเร มมาติ สุนฺทรา ภมุกา ปุพฺเพ มม โสภนํ คตา. วลิภิปฺปลมฺพิตาติ นลาฏนฺเต อุปฺปนฺนาหิ วลีหิ ปลมฺพนฺตา ิตา.

ภสฺสราติ ภาสุรา. สุรุจิราติ สุฏฺุ รุจิรา. ยถา มณีติ มณิมุทฺทิกา วิย. เนตฺตเหสุนฺติ สุเนตฺตา อเหสุํ. อภินีลมายตาติ อภินีลา หุตฺวา อายตา. เตติ เนตฺตา. ชรายภิหตาติ ชราย อภิหตา.

สณฺหตุงฺคสทิสีจาติ สณฺหา ตุงฺคา เสสมุขาวยวานํ อนุรูปา จ. โสภเตติ วฏฺเฏตฺวา ปิตหริตาลวฏฺฏิ วิย มม นาสิกา โสภเต. สุ อภิโยพฺพนํ ปตีติ สุนฺทเร อภินวโยพฺพนกาเล สา นาสิกา อิทานิ ชราย นิวาริตโสภตาย ปริเสทิตา วิย วรตฺตา วิย จ ชาตา.

กงฺกณํวสุกตํ สุนิฏฺิตนฺติ สุปริกมฺมกตํ สุวณฺณกงฺกณํ วิย วฏฺฏุลภาวํ สนฺธาย วทติ. โสภเรติ โสภนฺเต. ‘‘โสภนฺเต’’ติ วา ปาโ. สุอิติ นิปาตมตฺตํ. กณฺณปาฬิโยติ กณฺณคนฺธา. วลิภิปฺปลมฺพิตาติ ตหึ ตหึ อุปฺปนฺนวลีหิ วลิตา หุตฺวา วฏฺฏนิยา ปณามิตวตฺถขนฺธา วิย ภสฺสนฺตา โอลมฺพนฺติ.

ปตฺตลีมกุลวณฺณสาทิสาติ กทลิมกุลสทิสวณฺณสณฺานา. ขณฺฑิตาติ เภทนปตเนหิ ขณฺฑิตา ขณฺฑภาวํ คตา. อสิตาติ วณฺณเภเทน อสิตภาวํ คตา.

กานนมฺหิ วนสณฺฑจารินี, โกกิลาว มธุรํ นิกูชิหนฺติ วนสณฺเฑ โคจรจรเณน วนสณฺฑจารินี กานเน อนุสํคีตนิวาสินี โกกิลา วิย มธุราลาปํ นิกูชิหํ. นฺติ นิกูชิตํ อาลาปํ. ขลิตํ ตหึ ตหินฺติ ขณฺฑทนฺตาทิภาเวน ตตฺถ ตตฺถ ปกฺขลิตํ ชาตํ.

สณฺหกมฺพุริว สุปฺปมชฺชิตาติ สุฏฺุ ปมชฺชิตา สณฺหา สุวณฺณสงฺขา วิย. ภคฺคา วินามิตาติ มํสปริกฺขเยน วิภูตสิราชาลตาย ภคฺคา หุตฺวา วินตา.

วฏฺฏปลิฆสทิโสปมาติ วฏฺเฏน ปลิฆทณฺเฑน สมสมา. ตาติ ตา อุโภปิ พาหาโย. ยถา ปาฏลิพฺพลิตาติ ชชฺชรภาเวน ปลิตปาฏลิสาขาสทิสา.

สณฺหมุทฺทิกสุวณฺณมณฺฑิตาติ สุวณฺณมยาหิ มฏฺภาสุราหิ มุทฺทิกาหิ วิภูสิตา. ยถา มูลมูลิกาติ มูลกกณฺฑสทิสา.

ปีนวฏฺฏสหิตุคฺคตาติ ปีนา วฏฺฏา อฺมฺํ สหิตาว หุตฺวา อุคฺคตา อุทฺธมุขา. โสภเต สุ ถนกา ปุเร มมาติ มม อุโภปิ ถนา ยถาวุตฺตรูปา หุตฺวา สุวณฺณกลสิโย วิย โสภึสุ. ปุถุตฺเต หิ อิทํ เอกวจนํ, อตีตตฺเถ จ วตฺตมานวจนํ. เถวิกีว ลมฺพนฺติ โนทกาติ เต อุโภปิ เม ถนา โนทกา คลิตชลา เวณุทณฺฑเก ปิตอุทกภสฺมา วิย ลมฺพนฺติ.

กฺจนผลกํวสมฺมฏฺนฺติ ชาติหิงฺคุลเกน มกฺขิตฺวา จิรปริมชฺชิตโสวณฺณผลกํ วิย โสภเต. โส วลีหิ สุขุมาหิ โอตโตติ โส มม กาโย อิทานิ สุขุมาหิ วลีหิ ตหึ ตหึ วิตโต วลิตฺตจตํ อาปนฺโน.

นาคโภคสทิโสปมาติ หตฺถินาคสฺส หตฺเถน สมสมา. หตฺโถ หิ อิธ ภุฺชติ เอเตนาติ โภโคติ วุตฺโต. เตติ อูรุโย. ยถา เวฬุนาฬิโยติ อิทานิ เวฬุปพฺพสทิสา อเหสุํ.

สณฺหนูปุรสุวณฺณมณฺฑิตาติ สินิทฺธมฏฺเหิ สุวณฺณนูปุเรหิ วิภูสิตา. ชงฺฆาติ อฏฺิชงฺฆาโย. ตาติ ตา ชงฺฆาโย. ติลทณฺฑการิวาติ อปฺปมํสโลหิตตฺตา กิสภาเวน ลูนาวสิฏฺวิสุกฺขติลทณฺฑกา วิย อเหสุํ. ร-กาโร ปทสนฺธิกโร.

ตูลปุณฺณสทิโสปมาติ มุทุสินิทฺธภาเวน สิมฺพลิตูลปุณฺณปลิคุณฺิตอุปาหนสทิสา. เต มม ปาทา อิทานิ ผุฏิตา ผลิตา, วลีมตา วลิมนฺโต ชาตา.

เอทิโสติ เอวรูโป. อหุ อโหสิ ยถาวุตฺตปฺปกาโร. อยํ สมุสฺสโยติ อยํ มม กาโย. ชชฺชโรติ สิถิลาพนฺโธ . พหุทุขานมาลโยติ ชราทิเหตุกานํ พหูนํ ทุกฺขานํ อาลยภูโต. โสปเลปปติโตติ โส อยํ สมุสฺสโย อปเลปปติโต อภิสงฺขาราเลปปริกฺขเยน ปติโต ปาตาภิมุโขติ อตฺโถ. โสปิ อเลปปติโตติ วา ปทวิภาโค, โส เอวตฺโถ. ชราฆโรติ ชิณฺณฆรสทิโส. ชราย วา ฆรภูโต อโหสิ. ตสฺมา สจฺจวาทิโน ธมฺมานํ ยถาภูตํ สภาวํ สมฺมเทว ตฺวา กถนโต อวิตถวาทิโน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส มม สตฺถุวจนํ อนฺถา.

เอวํ อยํ เถรี อตฺตโน อตฺตภาเว อนิจฺจตาย สลฺลกฺขณมุเขน สพฺเพสุปิ เตภูมกธมฺเมสุ อนิจฺจตํ อุปธาเรตฺวา ตทนุสาเรน ตตฺถ ทุกฺขลกฺขณํ อนตฺตลกฺขณฺจ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปนฺตี มคฺคปฏิปาฏิยา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๔.๒๐๔-๒๑๙) –

‘‘โย รํสิผุสิตาเวโฬ, ผุสฺโส นาม มหามุนิ;

ตสฺสาหํ ภคินี อาสึ, อชายึ ขตฺติเย กุเล.

‘‘ตสฺส ธมฺมํ สุณิตฺวาหํ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา;

มหาทานํ ททิตฺวาน, ปตฺถยึ รูปสมฺปทํ.

‘‘เอกตึเส อิโต กปฺเป, สิขี โลกคฺคนายโก;

อุปฺปนฺโน โลกปชฺโชโต, ติโลกสรโณ ชิโน.

‘‘ตทารุณปุเร รมฺเม, พฺรหฺมฺกุลสมฺภวา;

วิมุตฺตจิตฺตํ กุปิตา, ภิกฺขุนึ อภิสาปยึ.

‘‘เวสิกาว อนาจารา, ชินสาสนทูสิกา;

เอวํ อกฺโกสยิตฺวาน, เตน ปาเปน กมฺมุนา.

‘‘ทารุณํ นิรยํ คนฺตฺวา, มหาทุกฺขสมปฺปิตา;

ตโต จุตา มนุสฺเสสุ, อุปปนฺนา ตปสฺสินี.

‘‘ทสชาติสหสฺสานิ, คณิกตฺตมการยึ;

ตมฺหา ปาปา น มุจฺจิสฺสํ, ภุตฺวา ทุฏฺวิสํ ยถา.

‘‘พฺรหฺมจริยมเสวิสฺสํ, กสฺสเป ชินสาสเน;

เตน กมฺมวิปาเกน, อชายึ ติทเส ปุเร.

‘‘ปจฺฉิเม ภเว สมฺปตฺเต, อโหสึ โอปปาติกา;

อมฺพสาขนฺตเร ชาตา, อมฺพปาลีติ เตนหํ.

‘‘ปริวุตา ปาณโกฏีหิ, ปพฺพชึ ชินสาสเน;

ปตฺตาหํ อจลํ านํ, ธีตา พุทฺธสฺส โอรสา.

‘‘อิทฺธีสุ จ วสี โหมิ, โสตธาตุวิสุทฺธิยา;

เจโตปริยาณสฺส, วสี โหมิ มหามุนิ.

‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;

สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.

‘‘อตฺถธมฺมนิรุตฺตีสุ, ปฏิภาเน ตเถว จ;

าณํ เม วิมลํ สุทฺธํ, พุทฺธเสฏฺสฺส วาหสา.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ, ภวา สพฺเพ สมูหตา;

นาคีว พนฺธนํ เฉตฺวา, วิหรามิ อนาสวา.

‘‘สฺวาคตํ วต เม อาสิ, พุทฺธเสฏฺสฺส สนฺติเก;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส, วิโมกฺขาปิ จ อฏฺิเม;

ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน ตา เอว คาถา ปจฺจุทาหาสีติ.

อมฺพปาลีเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. โรหินีเถรีคาถาวณฺณนา

สมณาติ โภติ สุปีติอาทิกา โรหินิยา เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อิโต เอกนวุติกปฺเป วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา, เอกทิวสํ พนฺธุมตีนคเร ภควนฺตํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา ปูวสฺส ปูเรตฺวา ภควโต ทตฺวา ปีติโสมนสฺสชาตา ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิ. สา เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อนุกฺกเมน อุปจิตวิโมกฺขสมฺภารา หุตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท เวสาลิยํ มหาวิภวสฺส พฺราหฺมณสฺส เคเห นิพฺพตฺติตฺวา โรหินีติ ลทฺธนามา วิฺุตํ ปตฺวา, สตฺถริ เวสาลิยํ วิหรนฺเต วิหารํ คนฺตวา ธมฺมํ สุตฺวา โสตาปนฺนา หุตฺวา มาตาปิตูนํ ธมฺมํ เทเสตฺวา สาสเน ปสาทํ อุปฺปาเทตฺวา เต อนุชานาเปตฺวา สยํ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ –

‘‘นคเร พนฺธุมติยา, วิปสฺสิสฺส มเหสิโน;

ปิณฺฑาย วิจรนฺตสฺส, ปูเวทาสิมหํ ตทา.

‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, ตาวตึสมคจฺฉหํ.

‘‘ฉตฺตึสเทวราชูนํ , มเหสิตฺตมการยึ;

ปฺาสจกฺกวตฺตีนํ, มเหสิตฺตมการยึ.

‘‘มนสา ปตฺถิตา นาม, สพฺพา มยฺหํ สมิชฺฌถ;

สมฺปตฺตึ อนุโภตฺวาน, เทเวสุ มนุเชสุ จ.

‘‘ปจฺฉิเม ภวสมฺปตฺเต, ชาโต วิปฺปกุเล อหํ;

โรหินี นาม นาเมน, าตเกหิ ปิยายิตา.

‘‘ภิกฺขูนํ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ธมฺมํ สุตฺวา ยถาตถํ;

สํวิคฺคมานสา หุตฺวา, ปพฺพชึ อนคาริยํ.

‘‘โยนิโส ปทหนฺตีนํ, อรหตฺตมปาปุณึ;

เอกนวุติโต กปฺเป, ยํ ทานมททึ ตทา;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ปูวทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปุพฺเพ โสตาปนฺนกาเล ปิตรา อตฺตนา จ วจนปฏิวจนวเสน วุตฺตคาถา อุทานวเสน ภาสนฺตี –

๒๗๑.

‘‘สมณาติ โภติ สุปิ, สมณาติ ปพุชฺฌสิ;

สมณาเนว กิตฺเตสิ, สมณี นูน ภวิสฺสสิ.

๒๗๒.

‘‘วิปุลํ อนฺนฺจ ปานฺจ, สมณานํ ปเวจฺฉสิ;

โรหินี ทานิ ปุจฺฉามิ, เกน เต สมณา ปิยา.

๒๗๓.

‘‘อกมฺมกามา อลสา, ปรทตฺตูปชีวิโน;

อาสํสุกา สาทุกามา, เกน เต สมณา ปิยา.

๒๗๔.

‘‘จิรสฺสํ วต มํ ตาต, สมณานํ ปริปุจฺฉสิ;

เตสํ เต กิตฺตยิสฺสามิ, ปฺาสีลปรกฺกมํ.

๒๗๕.

‘‘กมฺมกามา อนลสา, กมฺมเสฏฺสฺส การกา;

ราคํ โทสํ ปชหนฺติ, เตน เม สมณา ปิยา.

๒๗๖.

‘‘ตีณิ ปาปสฺส มูลานิ, ธุนนฺติ สุจิการิโน;

สพฺพํ ปาปํ ปหีเนสํ, เตน เม สมณา ปิยา.

๒๗๗.

‘‘กายกมฺมํ สุจิ เนสํ, วจีกมฺมฺจ ตาทิสํ;

มโนกมฺมํ สุจิ เนสํ, เตน เม สมณา ปิยา.

๒๗๘.

‘‘วิมลา สงฺขมุตฺตาว, สุทฺธา สนฺตรพาหิรา;

ปุณฺณา สุกฺกาน ธมฺมานํ, เตน เม สมณา ปิยา.

๒๗๙.

‘‘พหุสฺสุตา ธมฺมธรา, อริยา ธมฺมชีวิโน;

อตฺถํ ธมฺมฺจ เทเสนฺติ, เตน เม สมณา ปิยา.

๒๘๐.

‘‘พหุสฺสุตา ธมฺมธรา, อริยา ธมฺมชีวิโน;

เอกคฺคจิตฺตา สติมนฺโต, เตน เม สมณา ปิยา.

๒๘๑.

‘‘ทูรงฺคมา สติมนฺโต, มนฺตภาณี อนุทฺธตา;

ทุกฺขสฺสนฺตํ ปชานนฺติ, เตน เม สมณา ปิยา.

๒๘๒.

‘‘ยสฺมา คามา ปกฺกมนฺติ, น วิโลเกนฺติ กิฺจนํ;

อนเปกฺขาว คจฺฉนฺติ, เตน เม สมณา ปิยา.

๒๘๓.

‘‘น เต สํ โกฏฺเ โอเปนฺติ, น กุมฺภึ น ขโฬปิยํ;

ปรินิฏฺิตเมสานา, เตน เม สมณา ปิยา.

๒๘๔.

‘‘น เต หิรฺํ คณฺหนฺติ, น สุวณฺณํ น รูปิยํ;

ปจฺจุปฺปนฺเนน ยาเปนฺติ, เตน เม สมณา ปิยา.

๒๘๕.

‘‘นานากุลา ปพฺพชิตา, นานาชนปเทหิ จ;

อฺมฺํ ปิหยนฺติ, เตน เม สมณา ปิยา.

๒๘๖.

‘‘อตฺถาย วต โน โภติ, กุเล ชาตาสิ โรหินี;

สทฺธา พุทฺเธ จ ธมฺเม จ, สงฺเฆ จ ติพฺพคารวา.

๒๘๗.

‘‘ตุวฺเหตํ ปชานาสิ, ปุฺกฺเขตฺตํ อนุตฺตรํ;

อมฺหมฺปิ เอเต สมณา, ปฏิคฺคณฺหนฺติ ทกฺขิณํ.

๒๘๘.

‘‘ปติฏฺิโต เหตฺถ ยฺโ, วิปุโล โน ภวิสฺสติ;

สเจ ภายสิ ทุกฺขสฺส, สเจ เต ทุกฺขมปฺปิยํ.

๒๘๙.

‘‘อุเปหิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมํ สงฺฆฺจ ตาทินํ;

สมาทิยาหิ สีลานิ, ตํ เต อตฺถาย เหหิติ.

๒๙๐.

‘‘อุเปมิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมํ สงฺฆฺจ ตาทินํ;

สมาทิยามิ สีลานิ, ตํ เม อตฺถาย เหหิติ.

๒๙๑.

‘‘พฺรหฺมพนฺธุ ปุเร อาสึ, โส อิทานิมฺหิ พฺราหฺมโณ;

เตวิชฺโช โสตฺติโย จมฺหิ, เวทคู จมฺหิ นฺหาตโก’’ติ. –

อิมา คาถา ปจฺจุทาหาสิ.

ตตฺถ อาทิโต ติสฺโส คาถา อตฺตโน ธีตุ ภิกฺขูสุ สมฺมุตึ อนิจฺฉนฺเตน วุตฺตา. ตตฺถ สมณาติ โภติ สุปีติ โภติ ตฺวํ สุปนกาเลปิ ‘‘สมณา สมณา’’ติ กิตฺเตนฺตี สมณปฏิพทฺธํเยว กถํ กเถนฺตี สุปสิ. สมณาติ ปพุชฺฌสีติ สุปนโต อุฏฺหนฺตีปิ ‘‘สมณา’’อิจฺเจวํ วตฺวา ปพุชฺฌสิ นิทฺทาย วุฏฺาสิ. สมณาเนว กิตฺเตสีติ สพฺพกาลมฺปิ สมเณ เอว สมณานเมว วา คุเณ กิตฺเตสิ อภิตฺถวสิ. สมณี นูน ภวิสฺสสีติ คิหิรูเปน ิตาปิ จิตฺเตน สมณี เอว มฺเ ภวิสฺสสิ. อถ วา สมณี นูน ภวิสฺสสีติ อิทานิ คิหิรูเปน ิตาปิ น จิเรเนว สมณี เอว มฺเ ภวิสฺสสิ สมเณสุ เอว นินฺนโปณภาวโต.

ปเวจฺฉสีติ เทสิ. โรหินี ทานิ ปุจฺฉามีติ, อมฺม โรหินิ, ตํ อหํ อิทานิ ปุจฺฉามีติ พฺราหฺมโณ อตฺตโน ธีตรํ ปุจฺฉนฺโต อาห. เกน เต สมณา ปิยาติ, อมฺม โรหินิ, ตฺวํ สยนฺตีปิ ปพุชฺฌนฺตีปิ อฺทาปิ สมณานเมว คุเณ กิตฺตยสิ, เกน นาม การเณน ตุยฺหํ สมณา ปิยายิตพฺพา ชาตาติ อตฺโถ.

อิทานิ พฺราหฺมโณ สมเณสุ โทสํ ธีตุ อาจิกฺขนฺโต ‘‘อกมฺมกามา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อกมฺมกามาติ น กมฺมกามา, อตฺตโน ปเรสฺจ อตฺถาวหํ กิฺจิ กมฺมํ น กาตุกามา. อลสาติ กุสีตา. ปรทตฺตูปชีวิโนติ ปเรหิ ทินฺเนเนว อุปชีวนสีลา. อาสํสุกาติ ตโต เอว ฆาสจฺฉาทนาทีนํ อาสีสนกา. สาทุกามาติ สาทุํ มธุรเมว อาหารํ อิจฺฉนกา. สพฺพเมตํ พฺราหฺมโณ สมณานํ คุเณ อชานนฺโต อตฺตนาว ปริกปฺปิตํ โทสมาห.

ตํ สุตฺวา โรหินี ‘‘ลทฺโธ ทานิ เม โอกาโส อยฺยานํ คุเณ กเถตุ’’นฺติ ตุฏฺมานสา ภิกฺขูนํ คุเณ กิตฺเตตุกามา ปมํ ตาว เตสํ กิตฺตเน โสมนสฺสํ ปเวเทนฺตี ‘‘จีรสฺสํ วต มํ, ตาตา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ จิรสฺสํ วตาติ จิเรน วต. ตาตาติ ปิตรํ อาลปติ. สมณานนฺติ สมเณ สมณานํ วา มยฺหํ ปิยายิตพฺพํ ปริปุจฺฉสิ. เตสนฺติ สมณานํ. ปฺาสีลปรกฺกมนฺติ ปฺฺจ สีลฺจ อุสฺสาหฺจ.

กิตฺตยิสฺสามีติ กถยิสฺสามิ. ปฏิชาเนตฺวา เต กิตฺเตนฺตี ‘‘อกมฺมกามา อลสา’’ติ เตน วุตฺตํ โทสํ ตาว นิพฺเพเตฺวา ตปฺปฏิปกฺขภูตํ คุณํ ทสฺเสตุํ ‘‘กมฺมกามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กมฺมกามาติ วตฺตปฏิวตฺตาทิเภทํ กมฺมํ สมณกิจฺจํ ปริปูรณวเสน กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ กมฺมกามา. ตตฺถ ยุตฺตปฺปยุตฺตา หุตฺวา อุฏฺาย สมุฏฺาย วายมนโต น อลสาติ อนลสา. ตํ ปน กมฺมํ เสฏฺํ อุตฺตมํ นิพฺพานาวหเมว กโรนฺตีติ กมฺมเสฏฺสฺส การกา. กโรนฺตา ปน ตํ ปฏิปตฺติยา อนวชฺชภาวโต ราคํ โทสํ ปชหนฺติ, ยถา ราคโทสา ปหียนฺติ, เอวํ สมณา กมฺมํ กโรนฺติ. เตน เม สมณา ปิยาติ เตน ยถาวุตฺเตน สมฺมาปฏิปชฺชเนน มยฺหํ สมณา ปิยายิตพฺพาติ อตฺโถ.

ตีณิ ปาปสฺส มูลานีติ โลภโทสโมหสงฺขาตานิ อกุสลสฺส ตีณิ มูลานิ. ธุนนฺตีติ นิคฺฆาเตนฺติ, ปชหนฺตีติ อตฺโถ. สุจิการิโนติ อนวชฺชกมฺมการิโน. สพฺพํ ปาปํ ปหีเนสนฺติ อคฺคมคฺคาธิคเมน เอสํ สพฺพมฺปิ ปาปํ ปหีนํ.

เอวํ ‘‘สมณา สุจิการิโน’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘กายกมฺม’’นฺติ คาถมาห. ตํ สุวิฺเยฺยเมว.

วิมลา สงฺขมุตฺตาวาติ สุโธตสงฺขา วิย มุตฺตา วิย จ วิคตมลา ราคาทิมลรหิตา. สุทฺธา สนฺตรพาหิราติ สนฺตรฺจ พาหิรฺจ สนฺตรพาหิรํ. ตโต สนฺตรพาหิรโต สุทฺธา, สุทฺธาสยปโยคาติ อตฺโถ. ปุณฺณา สุกฺกาน ธมฺมานนฺติ เอกนฺตสุกฺเกหิ อนวชฺชธมฺเมหิ ปริปุณฺณา, อเสเขหิ สีลกฺขนฺธาทีหิ สมนฺนาคตาติ อตฺโถ.

สุตฺตเคยฺยาทิพหุํ สุตํ เอเตสํ, สุเตน วา อุปฺปนฺนาติ พหุสฺสุตา, ปริยตฺติพาหุสจฺเจน ปฏิเวธพาหุสจฺเจน จ สมนฺนาคตาติ อตฺโถ. ตเมว ทุวิธมฺปิ ธมฺมํ ธาเรนฺตีติ ธมฺมธรา. สตฺตานํ อาจารสมาจารสิกฺขาปเทน อรียนฺตีติ อริยา. ธมฺเมน าเยน ชีวนฺตีติ ธมฺมชีวิโน. อตฺถํ ธมฺมฺจ เทเสนฺตีติ ภาสิตตฺถฺจ เทสนาธมฺมฺจ กเถนฺติ ปกาเสนฺติ. อถ วา อตฺถโต อนเปตํ ธมฺมโต อนเปตฺจ เทเสนฺติ อาจิกฺขนฺติ.

เอกคฺคจิตฺตาติ สมาหิตจิตฺตา. สติมนฺโตติ อุปฏฺิตสติโน.

ทูรงฺคมาติ อรฺคตา, มนุสฺสูปจารํ มุฺจิตฺวา ทูรํ คจฺฉนฺตา, อิทฺธานุภาเวน วา ยถารุจิตํ ทูรํ านํ คจฺฉนฺตีติ ทูรงฺคมา. มนฺตา วุจฺจติ ปฺา, ตาย ภณนสีลตาย มนฺตภาณี. น อุทฺธตาติ อนุทฺธตา, อุทฺธจฺจรหิตา วูปสนฺตจิตฺตา. ทุกฺขสฺสนฺตํ ปชานนฺตีติ วฏฺฏทุกฺขสฺส ปริยนฺตภูตํ นิพฺพานํ ปฏิวิชฺฌนฺติ.

น วิโลเกนฺติ กิฺจนนฺติ ยโต คามโต ปกฺกมนฺติ, ตสฺมึ คาเม กฺจิ สตฺตํ วา สงฺขารํ วา อเปกฺขาวเสน น โอโลเกนฺติ, อถ โข ปน อนเปกฺขาว คจฺฉนฺติ ปกฺกมนฺติ.

น เต สํ โกฏฺเ โอเปนฺตีติ เต สมณา สํ อตฺตโน สนฺตกํ สาปเตยฺยํ โกฏฺเ น โอเปนฺติ น ปฏิสาเมตฺวา เปนฺติ ตาทิสสฺส ปริคฺคหสฺส อภาวโต. กุมฺภินฺติ กุมฺภิยํ. ขโฬปิยนฺติ ปจฺฉิยํ. ปรินิฏฺิตเมสานาติ ปรกุเลสุ ปเรสํ อตฺถาย สิทฺธเมว ฆาสํ ปริเยสนฺตา.

หิรฺนฺติ กหาปณํ. รูปิยนฺติ รชตํ. ปจฺจุปฺปนฺเนน ยาเปนฺตีติ อตีตํ อนนุโสจนฺตา อนาคตฺจ อปจฺจาสีสนฺตา ปจฺจุปฺปนฺเนน ยาเปนฺติ อตฺตภาวํ ปวตฺเตนฺติ.

อฺมฺํ ปิหยนฺตีติ อฺมฺสฺมึ เมตฺตึ กโรนฺติ. ‘‘ปิหายนฺติ’’ปิ ปาโ, โส เอว อตฺโถ.

เอวํ โส พฺราหฺมโณ ธีตุยา สนฺติเก ภิกฺขูนํ คุเณ สุตฺวา ปสนฺนมานโส ธีตรํ ปสํสนฺโต ‘‘อตฺถาย วตา’’ติอาทิมาห.

อมฺหมฺปีติ อมฺหากมฺปิ. ทกฺขิณนฺติ เทยฺยธมฺมํ.

เอตฺถาติ เอเตสุ สมเณสุ. ยฺโติ ทานธมฺโม. วิปุโลติ วิปุลผโล. เสสํ วุตฺตนยเมว.

เอวํ พฺราหฺมโณ สรเณสุ สีเลสุ จ ปติฏฺิโต อปรภาเค สฺชาตสํเวโค ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺาย อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทาเนนฺโต ‘‘พฺรหฺมพนฺธู’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ เหฏฺา วุตฺโตเยว.

โรหินีเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. จาปาเถรีคาถาวณฺณนา

ลฏฺิหตฺโถ ปุเร อาสีติอาทิกา จาปาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี, อนุกฺกเมน อุปจิตกุสลมูลา สมฺภตวิโมกฺขสมฺภารา หุตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท วงฺคหารชนปเท อฺตรสฺมึ มิคลุทฺทกคาเม เชฏฺกมิคลุทฺทกสฺส ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ, จาปาติสฺสา นามํ อโหสิ. เตน จ สมเยน อุปโก อาชีวโก โพธิมณฺฑโต ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตุํ พาราณสึ อุทฺทิสฺส คจฺฉนฺเตน สตฺถารา สมาคโต ‘‘วิปฺปสนฺนานิ โข เต, อาวุโส, อินฺทฺริยานิ, ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต, กํสิ ตฺวํ, อาวุโส, อุทฺทิสฺส ปพฺพชิโต, โก วา เต สตฺถา, กสฺส วา ตฺวํ ธมฺมํ โรเจสี’’ติ (มหาว. ๑๑; ม. นิ. ๑.๒๘๕) ปุจฺฉิตฺวา –

‘‘สพฺพาภิภู สพฺพวิทูหมสฺมิ, สพฺเพสุ ธมฺเมสุ อนูปลิตฺโต;

สพฺพฺชโห ตณฺหากฺขเย วิมุตฺโต, สยํ อภิฺาย กมุทฺทิเสยฺยํ. (ธ. ป. ๓๕๓; มหาว. ๑๑; กถา. ๔๐๕; ม. นิ. ๑.๒๘๕);

‘‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชติ;

สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโล.

‘‘อหฺหิ อรหา โลเก, อหํ สตฺถา อนุตฺตโร;

เอโกมฺหิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, สีติภูโตมฺหิ นิพฺพุโต.

‘‘ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตุํ, คจฺฉามิ กาสินํ ปุรํ;

อนฺธีภูตสฺมึ โลกสฺมึ, อาหฺฉํ อมตทุนฺทุภิ’’นฺติ. (มหาว. ๑๑; กถา. ๔๐๕; ม. นิ. ๑.๒๘๕) –

สตฺถารา อตฺตโน สพฺพฺุพุทฺธภาเว ธมฺมจกฺกปวตฺตเน จ ปเวทิเต ปสนฺนจิตฺโต โส ‘‘หุเปยฺยปาวุโส, อรหสิ อนนฺตชิโน’’ติ (มหาว. ๑๑; ม. นิ. ๑.๒๘๕) วตฺวา อุมฺมคฺคํ คเหตฺวา ปกฺกนฺโต วงฺคหารชนปทํ อคมาสิ. โส ตตฺถ เอกํ มิคลุทฺทกคามกํ อุปนิสฺสาย วาสํ กปฺเปสิ. ตํ ตตฺถ เชฏฺกมิคลุทฺทโก อุปฏฺาสิ. โส เอกทิวสํ ทูรํ มิควํ คจฺฉนฺโต ‘‘มยฺหํ อรหนฺเต มา ปมชฺชี’’ติ อตฺตโน ธีตรํ จาปํ อาณาเปตฺวา อคมาสิ สทฺธึ ปุตฺตภาตุเกหิ. สา จสฺส ธีตา อภิรูปา โหติ ทสฺสนียา.

อถ โข อุปโก อาชีวโก ภิกฺขาจารเวลายํ มิคลุทฺทกสฺส ฆรํ คโต ปริวิสิตุํ อุปคตํ จาปํ ทิสฺวา ราเคน อภิภูโต ภุฺชิตุมฺปิ อสกฺโกนฺโต ภาชเนน ภตฺตํ อาทาย วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ภตฺตํ เอกมนฺเต นิกฺขิปิตฺวา ‘‘สเจ จาปํ ลภิสฺสามิ, ชีวามิ, โน เจ, มริสฺสามี’’ติ นิราหาโร นิปชฺชิ. สตฺตเม ทิวเส มิคลุทฺทโก อาคนฺตฺวา ธีตรํ ปุจฺฉิ – ‘‘กึ มยฺหํ อรหนฺเต น ปมชฺชี’’ติ? สา ‘‘เอกทิวสเมว อาคนฺตฺวา ปุน นาคตปุพฺโพ’’ติ อาห. มิคลุทฺทโก จ ตาวเทวสฺส วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ‘‘กึ, ภนฺเต, อผาสุก’’นฺติ ปาเท ปริมชฺชนฺโต ปุจฺฉิ. อุปโก นิตฺถุนนฺโต ปริวตฺตติเยว. โส ‘‘วทถ, ภนฺเต, ยํ มยา สกฺกา กาตุํ, สพฺพํ ตํ กริสฺสามี’’ติ อาห. อุปโก เอเกน ปริยาเยน อตฺตโน อชฺฌาสยํ อาโรเจสิ. ‘‘อิตโร ชานาสิ ปน, ภนฺเต, กิฺจิ สิปฺป’’นฺติ. ‘‘น ชานามี’’ติ. ‘‘น, ภนฺเต, กิฺจิ สิปฺปํ อชานนฺเตน สกฺกา ฆรํ อาวสิตุ’’นฺติ. โส อาห – ‘‘นาหํ กิฺจิ สิปฺปํ ชานามิ, อปิจ ตุมฺหากํ มํสหารโก ภวิสฺสามิ, มํสฺจ วิกฺกิณิสฺสามี’’ติ. มาควิโก ‘‘อมฺหากมฺปิ เอตเทว รุจฺจตี’’ติ อุตฺตรสาฏกํ ทตฺวา อตฺตโน สหายกสฺส เคเห กติปาหํ วสาเปตฺวา ตาทิเส ทิวเส ฆรํ อาเนตฺวา ธีตรํ อทาสิ.

อถ กาเล คจฺฉนฺเต เตสํ สํวาสมนฺวาย ปุตฺโต นิพฺพตฺติ, สุภทฺโทติสฺส นามํ อกํสุ. จาปา ตสฺส โรทนกาเล ‘‘อุปกสฺส ปุตฺต, อาชีวกสฺส ปุตฺต, มํสหารกสฺส ปุตฺต, มา โรทิ มา โรที’’ติอาทินา ปุตฺตโตสนคีเตน อุปกํ อุปฺปณฺเฑสิ. โส ‘‘มา ตฺวํ จาเป มํ ‘อนาโถ’ติ มฺิ, อตฺถิ เม สหาโย อนนฺตชิโน นาม, ตสฺสาหํ สนฺติกํ คมิสฺสามี’’ติ อาห. จาปา ‘‘เอวมยํ อฏฺฏียตี’’ติ ตฺวา ปุนปฺปุนํ ตถา กเถสิเยว. โส เอกทิวสํ ตาย ตถา วุตฺโต กุชฺฌิตฺวา คนฺตุมารทฺโธ. ตาย ตํ ตํ วตฺวา อนุนียมาโนปิ สฺตฺตึ อนาคจฺฉนฺโต ปจฺฉิมทิสาภิมุโข ปกฺกามิ.

ภควา จ เตน สมเยน สาวตฺถิยํ เชตวเน วิหรนฺโต ภิกฺขูนํ อาจิกฺขิ – ‘‘โย, ภิกฺขเว, อชฺช ‘กุหึ อนนฺตชิโน’ติ อิธาคนฺตฺวา ปุจฺฉติ, ตํ มม สนฺติกํ เปเสถา’’ติ. อุปโกปิ ‘‘กุหึ อนนฺตชิโน วสตี’’ติ ตตฺถ ตตฺถ ปุจฺฉนฺโต อนุปุพฺเพน สาวตฺถึ คนฺตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา วิหารมชฺเฌ ตฺวา ‘‘กุหึ อนนฺตชิโน’’ติ ปุจฺฉิ. ตํ ภิกฺขู ภควโต สนฺติกํ นยึสุ. โส ภควนฺตํ ทิสฺวา ‘‘ชานาถ มํ ภควา’’ติ อาห. ‘‘อาม, ชานามิ, กุหึ ปน ตฺวํ เอตฺตกํ กาลํ วสี’’ติ? ‘‘วงฺคหารชนปเท, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อุปก, อิทานิ มหลฺลโก ชาโต ปพฺพชิตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ? ‘‘ปพฺพชิสฺสามิ, ภนฺเต’’ติ. สตฺถา อฺตรํ ภิกฺขุํ อาณาเปสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อิมํ ปพฺพาเชหี’’ติ. โส ตํ ปพฺพาเชสิ. โส ปพฺพชิโต สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ภาวนํ อนุยุฺชนฺโต น จิรสฺเสว อนาคามิผเล ปติฏฺาย กาลํ กตฺวา อวิเหสุ นิพฺพตฺโต, นิพฺพตฺตกฺขเณเยว อรหตฺตํ ปาปุณิ. อวิเหสุ นิพฺพตฺตมตฺตา สตฺต ชนา อรหตฺตํ ปตฺตา, เตสํ อยํ อฺตโร. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อวิหํ อุปปนฺนาเส, วิมุตฺตา สตฺต ภิกฺขโว;

ราคโทสปริกฺขีณา, ติณฺณา โลเก วิสตฺติกํ.

‘‘อุปโกปลคณฺโฑ จ, ปกฺกุสาติ จ เต ตโย;

ภทฺทิโย ขณฺฑเทโว จ, พาหุรคฺคิ จ สิงฺคิโย;

เต หิตฺวา มานุสํ เทหํ, ทิพฺพโยคํ อุปจฺจคุ’’นฺติ. (สํ. นิ. ๑.๑๐๕);

อุปเก ปน ปกฺกนฺเต นิพฺพินฺทหทยา จาปา ทารกํ อยฺยกสฺส นิยฺยาเทตฺวา ปุพฺเพ อุปเกน คตมคฺคํ คจฺฉนฺตี สาวตฺถึ คนฺตฺวา ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี มคฺคปฏิปาฏิยา อรหตฺเต ปติฏฺิตา, อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปุพฺเพ อุปเกน อตฺตนา จ กถิตคาถาโย อุทานวเสน เอกชฺฌํ กตฺวา –

๒๙๒.

‘‘ลฏฺิหตฺโถ ปุเร อาสิ, โส ทานิ มิคลุทฺทโก;

อาสาย ปลิปา โฆรา, นาสกฺขิ ปารเมตเว.

๒๙๓.

‘‘สุมตฺตํ มํ มฺมานา, จาปิ ปุตฺตมโตสยิ;

จาปาย พนฺธนํ เฉตฺวา, ปพฺพชิสฺสํ ปุโนปหํ.

๒๙๔.

‘‘มา เม กุชฺฌิ มหาวีร, มา เม กุชฺฌิ มหามุนิ;

น หิ โกธปเรตสฺส, สุทฺธิ อตฺถิ กุโต ตโป.

๒๙๕.

‘‘ปกฺกมิสฺสฺจ นาฬาโต, โกธ นาฬาย วจฺฉติ;

พนฺธนฺตี อิตฺถิรูเปน, สมเณ ธมฺมชีวิโน.

๒๙๖.

‘‘เอหิ กาฬ นิวตฺตสฺสุ, ภุฺช กาเม ยถา ปุเร;

อหฺจ เต วสีกตา, เย จ เม สนฺติ าตกา.

๒๙๗.

‘‘เอตฺโต จาเป จตุพฺภาคํ, ยถา ภาสสิ ตฺวฺจ เม;

ตยิ รตฺตสฺส โปสสฺส, อุฬารํ วต ตํ สิยา.

๒๙๘.

‘‘กาฬงฺคินึว ตกฺการึ, ปุปฺผิตํ คิริมุทฺธนิ;

ผุลฺลํ ทาลิมลฏฺึว, อนฺโตทีเปว ปาฏลึ.

๒๙๙.

‘‘หริจนฺทนลิตฺตงฺคึ, กาสิกุตฺตมธารินึ;

ตํ มํ รูปวตึ สนฺตึ, กสฺส โอหายํ คจฺฉสิ.

๓๐๐.

‘‘สากุนฺติโกว สกุณึ, ยถา พนฺธิตุมิจฺฉติ;

อาหริเมน รูเปน, น มํ ตฺวํ พาธยิสฺสสิ.

๓๐๑.

‘‘อิมฺจ เม ปุตฺตผลํ, กาฬ อุปฺปาทิตํ ตยา;

ตํ มํ ปุตฺตวตึ สนฺตึ, กสฺส โอหาย คจฺฉสิ.

๓๐๒.

‘‘ชหนฺติ ปุตฺเต สปฺปฺา, ตโต าตี ตโต ธนํ;

ปพฺพชนฺติ มหาวีรา, นาโค เฉตฺวาว พนฺธนํ.

๓๐๓.

‘‘อิทานิ เต อิมํ ปุตฺตํ, ทณฺเฑน ฉุริกาย วา;

ภูมิยํ วา นิสุมฺภิสฺสํ, ปุตฺตโสกา น คจฺฉสิ.

๓๐๔.

‘‘สเจ ปุตฺตํ สิงฺคาลานํ, กุกฺกุรานํ ปทาหิสิ;

น มํ ปุตฺตกตฺเต ชมฺมิ, ปุนราวตฺตยิสฺสสิ.

๓๐๕.

‘‘หนฺท โข ทานิ ภทฺทนฺเต, กุหึ กาฬ คมิสฺสสิ;

กตมํ คามนิคมํ, นครํ ราชธานิโย.

๓๐๖.

‘‘อหุมฺห ปุพฺเพ คณิโน, อสฺสมณา สมณมานิโน;

คาเมน คามํ วิจริมฺห, นคเร ราชธานิโย.

๓๐๗.

‘‘เอโส หิ ภควา พุทฺโธ, นทึ เนรฺชรํ ปติ;

สพฺพทุกฺขปฺปหานาย, ธมฺมํ เทเสติ ปาณินํ;

ตสฺสาหํ สนฺติกํ คจฺฉํ, โส เม สตฺถา ภวิสฺสติ.

๓๐๘.

‘‘วนฺทนํ ทานิ เม วชฺชาสิ, โลกนาถํ อนุตฺตรํ;

ปทกฺขิณฺจ กตฺวาน, อาทิเสยฺยาสิ ทกฺขิณํ.

๓๐๙.

‘‘เอตํ โข ลพฺภมมฺเหหิ, ยถา ภาสสิ ตฺวฺจ เม;

วนฺทนํ ทานิ เต วชฺชํ, โลกนาถํ อนุตฺตรํ;

ปทกฺขิณฺจ กตฺวาน, อาทิสิสฺสามิ ทกฺขิณํ.

๓๑๐.

‘‘ตโต จ กาโฬ ปกฺกามิ, นทึ เนรฺชรํ ปติ;

โส อทฺทสาสิ สมฺพุทฺธํ, เทเสนฺตํ อมตํ ปทํ.

๓๑๑.

‘‘ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;

อริยํ จฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํ.

๓๑๒.

‘‘ตสฺส ปาทานิ วนฺทิตฺวา, กตฺวาน นํ ปทกฺขิณํ;

จาปาย อาทิสิตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ ลฏฺิหตฺโถติ ทณฺฑหตฺโถ. ปุเรติ ปุพฺเพ ปริพฺพาชกกาเล จณฺฑโคณกุกฺกุราทีนํ ปริหรณตฺถํ ทณฺฑํ หตฺเถน คเหตฺวา วิจรณโก อโหสิ. โส ทานิ มิคลุทฺทโกติ โส อิทานิ มิคลุทฺเทหิ สทฺธึ สมฺโภคสํวาเสหิ มิคลุทฺโท มาควิโก ชาโต. อาสายาติ ตณฺหาย. ‘‘อาสยา’’ติปิ ปาโ, อชฺฌาสยเหตูติ อตฺโถ. ปลิปาติ กามปงฺกโต ทิฏฺิปงฺกโต จ. โฆราติ อวิทิตวิปุลานตฺถาวหตฺตา ทารุณโต โฆรา. นาสกฺขิ ปารเมตเวติ ตสฺเสว ปลิปสฺส ปารภูตํ นิพฺพานํ เอตุํ คนฺตุํ น อสกฺขิ, น อภิสมฺภุนีติ อตฺตานเมว สนฺธาย อุปโก วทติ.

สุมตฺตํ มํ มฺมานาติ อตฺตนิ สุฏฺุ มตฺตํ มทปฺปตฺตํ กามเคธวเสน ลคฺคํ ปมตฺตํ วา กตฺวา มํ สลฺลกฺขนฺตี. จาปา ปุตฺตมโตสยีติ มิคลุทฺทสฺส ธีตา จาปา ‘‘อาชีวกสฺส ปุตฺตา’’ติอาทินา มํ ฆฏฺเฏนฺตี ปุตฺตํ โตเสสิ เกฬายสิ. ‘‘สุปติ มํ มฺมานา’’ติ จ ปนฺติ, สุปตีติ มํ มฺมานาติ อตฺโถ. จาปาย พนฺธนํ เฉตฺวาติ จาปาย ตยิ อุปฺปนฺนํ กิเลสพนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา. ปพฺพชิสฺสํ ปุโนปหนฺติ ปุน ทุติยวารมฺปิ อหํ ปพฺพชิสฺสามิ.

อิทานิ ตสฺสา ‘‘มยฺหํ อตฺโถ นตฺถี’’ติ วทติ, ตํ สุตฺวา จาปา ขมาเปนฺตี ‘‘มา เม กุชฺฌี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ มา เม กุชฺฌีติ เกฬิกรณมตฺเตน มา มยฺหํ กุชฺฌิ. มหาวีร, มหามุนีติ อุปกํ อาลปติ. ตฺหิ สา ปุพฺเพปิ ปพฺพชิโต, อิทานิปิ ปพฺพชิตุกาโมติ กตฺวา ขนฺติฺจ ปจฺจาสีสนฺตี ‘‘มหามุนี’’ติ อาห. เตเนวาห – ‘‘น หิ โกธปเรตสฺส, สุทฺธิ อตฺถิ กุโต ตโป’’ติ, ตฺวํ เอตฺตกมฺปิ อสหนฺโต กถํ จิตฺตํ ทเมสฺสสิ, กถํ วา ตปํ จริสฺสสีติ อธิปฺปาโย.

อถ นาฬํ คนฺตฺวา ชีวิตุกาโมสีติ จาปาย วุตฺโต อาห – ‘‘ปกฺกมิสฺสฺจ นาฬาโต, โกธ นาฬาย วจฺฉตี’’ติ โก อิธ นาฬาย วสิสฺสติ, นาฬาโตว อหํ ปกฺกมิสฺสาเมว. โส หิ ตสฺส ชาตคาโม, ตโต นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิ. โส จ มคธรฏฺเ โพธิมณฺฑสฺส อาสนฺนปเทเส, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. พนฺธนฺตี อิตฺถิรูเปน, สมเณ ธมฺมชีวิโนติ จาเป ตฺวํ ธมฺเมน ชีวนฺเต ธมฺมิเก ปพฺพชิเต อตฺตโน อิตฺถิรูเปน อิตฺถิกุตฺตากปฺเปหิ พนฺธนฺตี ติฏฺสิ. เยนาหํ อิทานิ เอทิโส ชาโต, ตสฺมา ตํ ปริจฺจชามีติ อธิปฺปาโย.

เอวํ วุตฺเต จาปา ตํ นิวตฺเตตุกามา ‘‘เอหิ, กาฬา’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – กาฬวณฺณตาย, กาฬ, อุปก, เอหิ นิวตฺตสฺสุ มา ปกฺกมิ, ปุพฺเพ วิย กาเม ปริภุฺช, อหฺจ เย จ เม สนฺติ าตกา, เต สพฺเพว ตุยฺหํ มา ปกฺกมิตุกามตาย วสีกตา วสวตฺติโน กตาติ.

ตํ สุตฺวา อุปโก ‘‘เอตฺโต จาเป’’ติ คาถมาห. ตตฺถ จาเปติ จาเป. จาปสทิสองฺคลฏฺิตาย หิ สา, จาปาติ นามํ ลภิ, ตสฺมา, จาปาติ วุจฺจติ. ตฺวํ จาเป, ยถา ภาสสิ, อิทานิ ยาทิสํ กเถสิ, อิโต จตุพฺภาคเมว ปิยสมุทาจารํ กเรยฺยาสิ. ตยิ รตฺตสฺส ราคาภิภูตสฺส ปุริสสฺส อุฬารํ วต ตํ สิยา, อหํ ปเนตรหิ ตยิ กาเมสุ จ วิรตฺโต, ตสฺมา จาปาย วจเน น ติฏฺามีติ อธิปฺปาโย.

ปุน, จาปา, อตฺตนิ ตสฺส อาสตฺตึ อุปฺปาเทตุกามา ‘‘กาฬงฺคินิ’’นฺติ อาห. ตตฺถ, กาฬาติ ตสฺสาลปนํ. องฺคินินฺติ องฺคลฏฺิสมฺปนฺนํ. อิวาติ อุปมาย นิปาโต. ตกฺการึ ปุปฺผิตํ คิริมุทฺธนีติ ปพฺพตมุทฺธนิ ิตํ สุปุปฺผิตทาลิมลฏฺึ วิย. ‘‘อุกฺกาคาริ’’นฺติ จ เกจิ ปนฺติ, องฺคตฺถิลฏฺึ วิยาติ อตฺโถ. คิริมุทฺธนีติ จ อิทํ เกนจิ อนุปหตโสภตาทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เกจิ ‘‘กาลิงฺคินิ’’นฺติ ปาํ วตฺวา ตสฺส กุมฺภณฺฑลตาสทิสนฺติ อตฺถํ วทนฺติ. ผุลฺลํ ทาลิมลฏฺึวาติ ปุปฺผิตํ พีชปูรลตํ วิย. อนฺโตทีเปว ปาฏลินฺติ ทีปกพฺภนฺตเร ปุปฺผิตปาฏลิรุกฺขํ วิย, ทีปคฺคหณฺเจตฺถ โสภาปาฏิหาริยทสฺสนตฺถเมว.

หริจนฺทนลิตฺตงฺคินฺติ โลหิตจนฺทเนน อนุลิตฺตสพฺพงฺคึ. กาสิกุตฺตมธารินินฺติ อุตฺตมกาสิกวตฺถธรํ. ตํ มนฺติ ตาทิสํ มํ. รูปวตึ สนฺตินฺติ รูปสมฺปนฺนํ สมานํ. กสฺสโอหาย คจฺฉสีติ กสฺส นาม สตฺตสฺส, กสฺส วา เหตุโน, เกน การเณน, โอหาย ปหาย ปริจฺจชิตฺวา คจฺฉสิ.

อิโต ปรมฺปิ เตสํ วจนปฏิวจนคาถาว เปตฺวา ปริโยสาเน ติสฺโส คาถา. ตตฺถ สากุนฺติโกวาติ สกุณลุทฺโท วิย. อาหริเมน รูเปนาติ เกสมณฺฑนาทินา สรีรชคฺคเนน เจว วตฺถาภรณาทินา จ อภิสงฺขาริเกน รูเปน วณฺเณน กิตฺติเมน จาตุริเยนาติ อตฺโถ. น มํ ตฺวํ พาธยิสฺสสีติ ปุพฺเพ วิย อิทานิ มํ ตฺวํ น พาธิตุํ สกฺขิสฺสสิ.

ปุตฺตผลนฺติ ปุตฺตสงฺขาตํ ผลํ ปุตฺตปสโว.

สปฺปฺาติ ปฺวนฺโต, สํสาเร อาทีนววิภาวินิยา ปฺาย สมนฺนาคตาติ อธิปฺปาโย. เต หิ อปฺปํ วา มหนฺตํ วา าติปริวฏฺฏํ โภคกฺขนฺธํ วา ปหาย ปพฺพชนฺติ. เตนาห – ‘‘ปพฺพชนฺติ มหาวีรา, นาโค เฉตฺวาว พนฺธน’’นฺติ, อยพนฺธนํ วิย หตฺถินาโค คิหิพนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา มหาวีริยาว ปพฺพชนฺติ, น นิหีนวีริยาติ อตฺโถ.

ทณฺเฑนาติ เยน เกนจิ ทณฺเฑน. ฉุริกายาติ ขุเรน. ภูมิยํ วา นิสุมฺภิสฺสนฺติ ปถวิยํ ปาเตตฺวา โปถนวิชฺฌนาทินา วิพาธิสฺสามิ. ปุตฺตโสกา น คจฺฉสีติ ปุตฺตโสกนิมิตฺตํ น คจฺฉิสฺสสิ.

ปทาหิสีติ ทสฺสสิ. ปุตฺตกตฺเตติ ปุตฺตการณา. ชมฺมีติ ตสฺสา อาลปนํ, ลามเกติ อตฺโถ.

อิทานิ ตสฺส คมนํ อนุชานิตฺวา คมนฏฺานํ ชานิตุํ ‘‘หนฺท โข’’ติ คาถมาห.

อิตโร ปุพฺเพ อหํ อนิยฺยานิกํ สาสนํ ปคฺคยฺห อฏฺาสึ, อิทานิ ปน นิยฺยานิเก อนนฺตชินสฺส สาสเน าตุกาโม, ตสฺมา ตสฺส สนฺติกํ คมิสฺสามีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อหุมฺหา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ คณิโนติ คณธรา. อสฺสมณาติ น สมิตปาปา. สมณมานิโนติ สมิตปาปาติ เอวํ สฺิโน. วิจริมฺหาติ ปูรณาทีสุ อตฺตานํ ปกฺขิปิตฺวา วทติ.

เนรฺชรํปตีติ เนรฺชราย นทิยา สมีเป ตสฺสา ตีเร. พุทฺโธติ อภิสมฺโพธึ ปตฺโต, อภิสมฺโพธึ ปตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต สพฺพกาลํ ภควา ตตฺเถว วสีติ อธิปฺปาเยน วทติ.

วนฺทนํ ทานิ เม วชฺชาสีติ มม วนฺทนํ วเทยฺยาสิ, มม วจเนน โลกนาถํ อนุตฺตรํ วเทยฺยาสีติ อตฺโถ. ปทกฺขิณฺจ กตฺวาน, อาทิเสยฺยาสิ ทกฺขิณนฺติ พุทฺธํ ภควนฺตํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวาปิ จตูสุ าเนสุ วนฺทิตฺวา, ตโต ปุฺโต มยฺหํ ปตฺติทานํ เทนฺโต ปทกฺขิณํ อาทิเสยฺยาสิ พุทฺธคุณานํ สุตปุพฺพตฺตา เหตุสมฺปนฺนตาย จ เอวํ วทติ.

เอตํโข ลพฺภมมฺเหหีติ เอตํ ปทกฺขิณกรณํ ปุฺํ อมฺเหหิ ตว ทาตุํ สกฺกา, น นิวตฺตนํ, ปุพฺเพ วิย กามูปโภโค จ น สกฺกาติ อธิปฺปาโย. เต วชฺชนฺติ ตว วนฺทนํ วชฺชํ วกฺขามิ.

โสติ กาโฬ, อทฺทสาสีติ อทฺทกฺขิ.

สตฺถุเทสนายํ สจฺจกถาย ปธานตฺตา ตพฺพินิมุตฺตาย อภาวโต ‘‘ทุกฺข’’นฺติอาทิ วุตฺตํ, เสสํ วุตฺตนยเมว.

จาปาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สุนฺทรีเถรีคาถาวณฺณนา

เปตานิ โภติ ปุตฺตานีติอาทิกา สุนฺทริยา เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อิโต เอกตึสกปฺเป เวสฺสภุสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา เอกทิวสํ สตฺถารํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานสา ภิกฺขํ ทตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิ. สตฺถา ตสฺสา จิตฺตปฺปสาทํ ตฺวา อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ. สา เตน ปุฺกมฺเมน ตาวตึเสสุ นิพฺพตฺติตฺวา ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา ตโต จุตา อปราปรํ สุคตีสุเยว สํสรนฺตี ปริปกฺกาณา หุตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท พาราณสิยํ สุชาตสฺส นาม พฺราหฺมณสฺส ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺสา รูปสมฺปตฺติยา สุนฺทรีติ นามํ อโหสิ. วยปฺปตฺตกาเล จสฺสา กนิฏฺภาตา กาลมกาสิ. อถสฺสา ปิตา ปุตฺตโสเกน อภิภูโต ตตฺถ ตตฺถ วิจรนฺโต วาสิฏฺิตฺเถริยา สมาคนฺตฺวา ตํ โสกวิโนทนการณํ ปุจฺฉนฺโต ‘‘เปตานิ โภติ ปุตฺตานี’’ติอาทิกา ทฺเว คาถา อภาสิ. เถรี ตํ โสกาภิภูตํ ตฺวา โสกํ วิโนเทตุกามา ‘‘พหูนิ ปุตฺตสตานี’’ติอาทิกา ทฺเว คาถา วตฺวา อตฺตโน อโสกภาวํ กเถสิ. ตํ สุตฺวา พฺราหฺมโณ ‘‘กถํ ตฺวํ, อยฺเย, เอวํ อโสกา ชาตา’’ติ อาห. ตสฺส เถรี รตนตฺตยคุณํ กเถสิ.

อถ พฺราหฺมโณ ‘‘กุหึ สตฺถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิทานิ มิถิลายํ วิหรตี’’ติ ตํ สุตฺวา ตาวเทว รถํ โยเชตฺวา รเถน มิถิลํ คนฺตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา สมฺโมทนียํ กถํ กตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. ตสฺส สตฺถา ธมฺมํ เทเสสิ. โส ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ฆเฏนฺโต วายมนฺโต ตติเย ทิวเส อรหตฺตํ ปาปุณิ. อถ สารถิ รถํ อาทาย พาราณสึ คนฺตฺวา พฺราหฺมณิยา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. สุนฺทรี อตฺตโน ปิตุ ปพฺพชิตภาวํ สุตฺวา, ‘‘อมฺม, อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ มาตรํ อาปุจฺฉิ. มาตา ‘‘ยํ อิมสฺมึ เคเห โภคชาตํ, สพฺพํ ตํ ตุยฺหํ สนฺตกํ, ตฺวํ อิมสฺส กุลสฺส ทายาทิกา ปฏิปชฺช, อิมํ สพฺพโภคํ ปริภุฺช, มา ปพฺพชี’’ติ อาห. สา ‘‘น มยฺหํ โภเคหิ อตฺโถ, ปพฺพชิสฺสาเมวาหํ, อมฺมา’’ติ มาตรํ อนุชานาเปตฺวา มหตึ สมฺปตฺตึ เขฬปิณฺฑํ วิย ฉฑฺเฑตฺวา ปพฺพชิ. ปพฺพชิตฺวา จ สิกฺขมานาเยว หุตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ฆเฏนฺตี วายมนฺตี เหตุสมฺปนฺนตาย าณสฺส ปริปากํ คตตฺตา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน

‘‘ปิณฺฑปาตํ จรนฺตสฺส, เวสฺสภุสฺส มเหสิโน;

กฏจฺฉุภิกฺขมุคฺคยฺห, พุทฺธเสฏฺสฺสทาสหํ.

‘‘ปฏิคฺคเหตฺวา สมฺพุทฺโธ, เวสฺสภู โลกนายโก;

วีถิยา สณฺิโต สตฺถา, อกา เม อนุโมทนํ.

‘‘กฏจฺฉุภิกฺขํ ทตฺวาน, ตาวตึสํ คมิสฺสสิ;

ฉตฺตึสเทวราชูนํ, มเหสิตฺตํ กริสฺสสิ.

‘‘ปฺาสํ จกฺกวตฺตีนํ, มเหสิตฺตํ กริสฺสสิ;

มนสา ปตฺถิตํ สพฺพํ, ปฏิลจฺฉสิ สพฺพทา.

‘‘สมฺปตฺตึ อนุโภตฺวาน, ปพฺพชิสฺสสิ กิฺจนา;

สพฺพาสเว ปริฺาย, นิพฺพายิสฺสสินาสวา.

‘‘อิทํ วตฺวาน สมฺพุทฺโธ, เวสฺสภู โลกนายโก;

นภํ อพฺภุคฺคมี วีโร, หํสราชาว อมฺพเร.

‘‘สุทินฺนํ เม ทานวรํ, สุยิฏฺา ยาคสมฺปทา;

กฏจฺฉุภิกฺขํ ทตฺวาน, ปตฺตาหํ อจลํ ปทํ.

‘‘เอกตึเส อิโต กปฺเป, ยํ ทานมททึ ตทา;

ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ภิกฺขาทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา ผลสุเขน นิพฺพานสุเขน จ วิหรนฺตี อปรภาเค ‘‘สตฺถุ ปุรโต สีหนาทํ นทิสฺสามี’’ติ อุปชฺฌายํ อาปุจฺฉิตฺวา พาราณสิโต นิกฺขมิตฺวา สมฺพหุลาหิ ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ อนุกฺกเมน สาวตฺถึ คนฺตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ อุปสงฺกมิตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิตา สตฺถารา กตปฏิสนฺถารา สตฺถุ โอรสธีตุภาวาทิวิภาวเนน อฺํ พฺยากาสิ. อถสฺสา มาตรํ อาทึ กตฺวา สพฺโพ าติคโณ ปริชโน จ ปพฺพชิ. สา อปรภาเค อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปิตรา วุตฺตคาถํ อาทึ กตฺวา อุทานวเสน –

๓๑๓.

‘‘เปตานิ โภติ ปุตฺตานิ, ขาทมานา ตุวํ ปุเร;

ตุวํ ทิวา จ รตฺโต จ, อตีว ปริตปฺปสิ.

๓๑๔.

‘‘สาชฺช สพฺพานิ ขาทิตฺวา, สตปุตฺตานิ พฺราหฺมณี;

วาเสฏฺิ เกน วณฺเณน, น พาฬฺหํ ปริตปฺปสิ.

๓๑๕.

‘‘พหูนิ ปุตฺตสตานิ, าติสงฺฆสตานิ จ;

ขาทิตานิ อตีตํเส, มม ตุฺหฺจ พฺราหฺมณ.

๓๑๖.

‘‘สาหํ นิสฺสรณํ ตฺวา, ชาติยา มรณสฺส จ;

น โสจามิ น โรทามิ, น จาปิ ปริตปฺปยึ.

๓๑๗.

‘‘อพฺภุตํ วต วาเสฏฺิ, วาจํ ภาสสิ เอทิสึ;

กสฺส ตฺวํ ธมฺมมฺาย, คิรํ ภาสสิ เอทิสึ.

๓๑๘.

‘‘เอส พฺราหฺมณ สมฺพุทฺโธ, นครํ มิถิลํ ปติ;

สพฺพทุกฺขปฺปหานาย, ธมฺมํ เทเสสิ ปาณินํ.

๓๑๙.

‘‘ตสฺส พฺรหฺเม อรหโต, ธมฺมํ สุตฺวา นิรูปธึ;

ตตฺถ วิฺาตสทฺธมฺมา, ปุตฺตโสกํ พฺยปานุทึ.

๓๒๐.

‘‘โส อหมฺปิ คมิสฺสามิ, นครํ มิถิลํ ปติ;

อปฺเปว มํ โส ภควา, สพฺพทุกฺขา ปโมจเย.

๓๒๑.

‘‘อทฺทส พฺราหฺมโณ พุทฺธํ, วิปฺปมุตฺตํ นิรูปธึ;

สฺวสฺส ธมฺมมเทเสสิ, มุนิ ทุกฺขสฺส ปารคู.

๓๒๒.

‘‘ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;

อริยํ จฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํ.

๓๒๓.

‘‘ตตฺถ วิฺาตสทฺธมฺโม, ปพฺพชฺชํ สมโรจยิ;

สุชาโต ตีหิ รตฺตีหิ, ติสฺโส วิชฺชา อผสฺสยิ.

๓๒๔.

‘‘เอหิ สารถิ คจฺฉาหิ, รถํ นิยฺยาทยาหิมํ;

อาโรคฺยํ พฺราหฺมณึ วชฺช, ปพฺพชิ ทานิ พฺราหฺมโณ;

สุชาโต ตีหิ รตฺตีหิ, ติสฺโส วิชฺชา อผสฺสยิ.

๓๒๕.

‘‘ตโต จ รถมาทาย, สหสฺสฺจาปิ สารถิ;

อาโรคฺยํ พฺราหฺมณึโวจ, ‘ปพฺพชิ ทานิ พฺราหฺมโณ;

สุชาโต ตีหิ รตฺตีหิ, ติสฺโส วิชฺชา อผสฺสยิ.

๓๒๖.

‘‘เอตฺจาหํ อสฺสรถํ, สหสฺสฺจาปิ สารถิ;

เตวิชฺชํ พฺราหฺมณํ สุตฺวา, ปุณฺณปตฺตํ ททามิ เต.

๓๒๗.

‘‘ตุยฺเหว โหตฺวสฺสรโถ, สหสฺสฺจาปิ พฺราหฺมณิ;

อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามิ, วรปฺสฺส สนฺติเก.

๓๒๘.

‘‘หตฺถี ควสฺสํ มณิกุณฺฑลฺจ, ผีตฺจิมํ คหวิภวํ ปหาย;

ปิตา ปพฺพชิโต ตุยฺหํ, ภุฺช โภคานิ สุนฺทรี;

ตุวํ ทายาทิกา กุเล.

๓๒๙.

‘‘หตฺถี ควสฺสํ มณิกุณฺฑลฺจ, รมฺมํ จิมํ คหวิภวํ ปหาย;

ปิตา ปพฺพชิโต มยฺหํ, ปุตฺตโสเกน อฏฺฏิโต;

อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามิ, ภาตุโสเกน อฏฺฏิตา.

๓๓๐.

‘‘โส เต อิชฺฌตุ สงฺกปฺโป, ยํ ตฺวํ ปตฺเถสิ สุนฺทรี;

อุตฺติฏฺปิณฺโฑ อุฺโฉ จ, ปํสุกูลฺจ จีวรํ;

เอตานิ อภิสมฺโภนฺตี, ปรโลเก อนาสวา.

๓๓๑.

‘‘สิกฺขมานาย เม อยฺเย, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;

ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ยตฺถ เม วุสิตํ ปุเร.

๓๓๒.

‘‘ตุวํ นิสฺสาย กลฺยาณิ, เถริ สงฺฆสฺส โสภเน;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

๓๓๓.

‘‘อนุชานาหิ เม อยฺเย, อิจฺเฉ สาวตฺถิ คนฺตเว;

สีหนาทํ นทิสฺสามิ, พุทฺธเสฏฺสฺส สนฺติเก.

๓๓๔.

‘‘ปสฺส สุนฺทริ สตฺถารํ, เหมวณฺณํ หริตฺตจํ;

อทนฺตานํ ทเมตารํ, สมฺพุทฺธมกุโตภยํ.

๓๓๕.

‘‘ปสฺส สุนฺทริมายนฺตึ, วิปฺปมุตฺตํ นิรูปธึ;

วีตราคํ วิสํยุตฺตํ, กตกิจฺจมนาสวํ.

๓๓๖.

‘‘พาราณสิโต นิกฺขมฺม, ตว สนฺติกมาคตา;

สาวิกา เต มหาวีร, ปาเท วนฺทติ สุนฺทรี.

๓๓๗.

‘‘ตุวํ พุทฺโธ ตุวํ สตฺถา, ตุยฺหํ ธีตามฺหิ พฺราหฺมณ;

โอรสา มุขโต ชาตา, กตกิจฺจา อนาสวา.

๓๓๘.

‘‘ตสฺสา เต สฺวาคตํ ภทฺเท, ตโต เต อทุราคตํ;

เอวฺหิ ทนฺตา อายนฺติ, สตฺถุ ปาทานิ วนฺทิกา;

วีตราคา วิสํยุตฺตา, กตกิจฺจา อนาสวา’’ติ. –

อิมา คาถา ปจฺจุทาหาสิ.

ตตฺถ เปตานีติ มตานิ. โภตีติ ตํ อาลปติ. ปุตฺตานีติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ, เปเต ปุตฺเตติ อตฺโถ. เอโก เอว จ ตสฺสา ปุตฺโต มโต, พฺราหฺมโณ ปน ‘‘จิรกาลํ อยํ โสเกน อฏฺฏา หุตฺวา วิจริ, พหู มฺเ อิมิสฺสา ปุตฺตา มตา’’ติ เอวํสฺี หุตฺวา พหุวจเนนาห. ตถา จ ‘‘สาชฺช สพฺพานิ ขาทิตฺวา สตปุตฺตานี’’ติ. ขาทมานาติ โลกโวหารวเสน ขุํสนวจนเมตํ. โลเก หิ ยสฺสา อิตฺถิยา ชาตชาตา ปุตฺตา มรนฺติ, ตํ ครหนฺตา ‘‘ปุตฺตขาทินี’’ติอาทึ วทนฺติ. อตีวาติ อติวิย ภุสํ. ปริตปฺปสีติ สนฺตปฺปสิ, ปุเรติ โยชนา. อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – โภติ วาเสฏฺิ, ปุพฺเพ ตฺวํ มตปุตฺตา หุตฺวา โสจนฺตี ปริเทวนฺตี อติวิย โสกาย สมปฺปิตา คามนิคมราชธานิโย อาหิณฺฑสิ.

สาชฺชาติ สา อชฺช, สา ตฺวํ เอตรหีติ อตฺโถ. ‘‘สชฺชา’’ติ วา ปาโ. เกน วณฺเณนาติ เกน การเณน.

ขาทิตานีติ เถรีปิ พฺราหฺมเณน วุตฺตปริยาเยเนว วทติ. ขาทิตานิ วา พฺยคฺฆทีปิพิฬาราทิชาติโย สนฺธาเยวมาห. อตีตํเสติ อตีตโกฏฺาเส, อติกฺกนฺตภเวสูติ อตฺโถ. มม ตุยฺหฺจาติ มยา จ ตยา จ.

นิสฺสรณํ ตฺวา ชาติยา มรณสฺส จาติ ชาติชรามรณานํ นิสฺสรณภูตํ นิพฺพานํ มคฺคาเณน ปฏิวิชฺฌิตฺวา. น จาปิ ปริตปฺปยินฺติ น จาปิ อุปายาสาสึ, อหํ อุปายาสํ น อาปชฺชินฺติ อตฺโถ.

อพฺภุตํ วตาติ อจฺฉริยํ วต. ตฺหิ อพฺภุตํ ปุพฺเพ อภูตํ อพฺภุตนฺติ วุจฺจติ. เอทิสินฺติ เอวรูปึ, ‘‘น โสจามิ น โรทามิ, น จาปิ ปริตปฺปยิ’’นฺติ เอวํ โสจนาทีนํ อภาวทีปนึ วาจํ. กสฺส ตฺวํ ธมฺมมฺายาติ เกวลํ ยถา เอทิโส ธมฺโม ลทฺธุํ น สกฺกา, ตสฺมา กสฺส นาม สตฺถุโน ธมฺมมฺาย คิรํ ภาสสิ เอทิสนฺติ สตฺถารํ สาสนฺจ ปุจฺฉติ.

นิรูปธินฺติ นิทฺทุกฺขํ. วิฺาตสทฺธมฺมาติ ปฏิวิทฺธอริยสจฺจธมฺมา. พฺยปานุทินฺติ นีหรึ ปชหึ.

วิปฺปมุตฺตนฺติ สพฺพโส วิมุตฺตํ, สพฺพกิเลเสหิ สพฺพภเวหิ จ วิสํยุตฺตํ. สฺวสฺสาติ โส สมฺมาสมฺพุทฺโธ อสฺส พฺราหฺมณสฺส.

ตตฺถาติ ตสฺสํ จตุสจฺจธมฺมเทสนายํ.

รถํ นิยฺยาทยาหิมนฺติ อิมํ รถํ พฺราหฺมณิยา นิยฺยาเทหิ.

สหสฺสฺจาปีติ มคฺคปริพฺพยตฺถํ นีตํ กหาปณสหสฺสฺจาปิ อาทาย นิยฺยาเทหีติ โยชนา.

อสฺสรถนฺติ อสฺสยุตฺตรถํ. ปุณฺณปตฺตนฺติ ตุฏฺิทานํ.

เอวํ พฺราหฺมณิยา ตุฏฺิทาเน ทิยฺยมาเน ตํ อสมฺปฏิจฺฉนฺโต สารถิ ‘‘ตุยฺเหว โหตู’’ติ คาถํ วตฺวา สตฺถุ สนฺติกเมว คนฺตฺวา ปพฺพชิ. ปพฺพชิเต ปน สารถิมฺหิ พฺราหฺมณี อตฺตโน ธีตรํ สุนฺทรึ อามนฺเตตฺวา ฆราวาเส นิโยเชนฺตี ‘‘หตฺถี ควสฺส’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ หตฺถีติ หตฺถิโน. ควสฺสนฺติ คาโว จ อสฺสา จ. มณิกุณฺฑลฺจาติ มณิ จ กุณฺฑลานิ จ. ผีตฺจิมํ คหวิภวํ ปหายาติ อิมํ หตฺถิอาทิปฺปเภทํ ยถาวุตฺตํ อวุตฺตฺจ เขตฺตวตฺถุหิรฺสุวณฺณาทิเภทํ ผีตํ ปหูตฺจ คหวิภวํ เคหูปกรณํ อฺฺจ ทาสิทาสาทิกํ สพฺพํ ปหาย ตว ปิตา ปพฺพชิโต. ภุฺช โภคานิ สุนฺทรีติ สุนฺทริ, ตฺวํ อิเม โภเค ภุฺชสฺสุ. ตุวํ ทายาทิกา กุเลติ ตุวฺหิ อิมสฺมึ กุเล ทายชฺชารหาติ.

ตํ สุตฺวา สุนฺทรี อตฺตโน เนกฺขมฺมชฺฌาสยํ ปกาเสนฺตี ‘‘หตฺถีควสฺส’’นฺติอาทิมาห.

อถ นํ มาตา เนกฺขมฺเมเยว นิโยเชนฺตี ‘‘โส เต อิชฺฌตู’’ติอาทินา ทิยฑฺฒคาถมาห. ตตฺถ ยํ ตฺวํ ปตฺเถสิ สุนฺทรีติ สุนฺทริ ตฺวํ อิทานิ ยํ ปตฺเถสิ อากงฺขสิ. โส ตว ปพฺพชฺชาย สงฺกปฺโป ปพฺพชฺชาย ฉนฺโท อิชฺฌตุ อนนฺตราเยน สิชฺฌตุ. อุตฺติฏฺปิณฺโฑติ ฆเร ฆเร ปติฏฺิตฺวา ลทฺธพฺพภิกฺขาปิณฺโฑ. อุฺโฉติ ตทตฺถํ ฆรปฏิปาฏิยา อาหิณฺฑนํ อุทฺทิสฺส านฺจ. เอตานีติ อุตฺติฏฺปิณฺฑาทีนิ. อภิสมฺโภนฺตีติ อนิพฺพินฺนรูปา ชงฺฆพลํ นิสฺสาย อภิสมฺภวนฺตี, สาเธนฺตีติ อตฺโถ.

อถ สุนฺทรี ‘‘สาธุ, อมฺมา’’ติ มาตุยา ปฏิสฺสุณิตฺวา นิกฺขมิตฺวา ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา สิกฺขมานาเยว สมานา ติสฺโส วิชฺชา สจฺฉิกตฺวา ‘‘สตฺถุ สนฺติกํ คมิสฺสามี’’ติ อุปชฺฌายํ อาโรเจตฺวา ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ สาวตฺถึ อคมาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘สิกฺขมานาย เม, อยฺเย’’ติอาทิ. ตตฺถ สิกฺขมานาย เมติ สิกฺขมานาย สมานาย มยา. อยฺเยติ อตฺตโน อุปชฺฌายํ อาลปติ.

ตุวํ นิสฺสาย กลฺยาณิ, เถริ สงฺฆสฺส โสภเนติ ภิกฺขุนิสงฺเฆ วุทฺธตรภาเวน ถิรคุณโยเคน จ สงฺฆตฺเถริ โสภเนหิ สีลาทีหิ สมนฺนาคตตฺตา โสภเน กลฺยาณิ กลฺยาณมิตฺเต, อยฺเย, ตํ นิสฺสาย มยา ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา กตํ พุทฺธสฺส สาสนนฺติ โยชนา.

อิจฺเฉติ อิจฺฉามิ. สาวตฺถิ คนฺตเวติ สาวตฺถึ คนฺตุํ. สีหนาทํ นทิสฺสามีติ อฺาพฺยากรณเมว สนฺธายาห.

อถ สุนฺทรี อนุกฺกเมน สาวตฺถึ คนฺตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา สตฺถารํ ธมฺมาสเน นิสินฺนํ ทิสฺวา อุฬารํ ปีติโสมนสฺสํ ปฏิสํเวทยมานา อตฺตานเมว อาลปนฺตี อาห ‘‘ปสฺส สุนฺทรี’’ติ. เหมวณฺณนฺติ สุวณฺณวณฺณํ. หริตฺตจนฺติ กฺจนสนฺนิภตฺตจํ. เอตฺถ จ ภควา ปีตวณฺเณน ‘‘สุวณฺณวณฺโณ’’ติ วุจฺจติ. อถ โข สมฺมเทว ฆํสิตฺวา ชาติหิงฺคุลเกน อนุลิมฺปิตฺวา สุปริมชฺชิตกฺจนาทาสสนฺนิโภติ ทสฺเสตุํ ‘‘เหมวณฺณ’’นฺติ วตฺวา ‘‘หริตฺตจ’’นฺติ วุตฺตํ.

ปสฺส สุนฺทริมายนฺตินฺติ ตํ สุนฺทรินามิกํ มํ ภควา อาคจฺฉนฺติ ปสฺส. ‘‘วิปฺปมุตฺต’’นฺติอาทินา อฺํ พฺยากโรนฺตี ปีติวิปฺผารวเสน วทติ.

กุโต ปน อาคตา, กตฺถ จ อาคตา, กีทิสา จายํ สุนฺทรีติ อาสงฺกนฺตานํ อาสงฺกํ นิวตฺเตตุํ ‘‘พาราณสิโต’’ติ คาถํ วตฺวา ตตฺถ ‘‘สาวิกา จา’’ติ วุตฺตมตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘ตุวํ พุทฺโธ’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – อิมสฺมึ สเทวเก โลเก ตุวเมเวโก สพฺพฺุพุทฺโธ, ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ ยถารหํ อนุสาสนโต ตุวํ เม สตฺถา, อหฺจ ขีณาสวพฺราหฺมณี ภควา ตุยฺหํ อุเร วายาม ชนิตาภิชาติตาย โอรสา, มุขโต ปวตฺตธมฺมโฆเสน สาสนสฺส จ มุขภูเตน อริยมคฺเคน ชาตตฺตา มุขโต ชาตา, นิฏฺิตปริฺาตาทิกรณียตาย กตกิจฺจา, สพฺพโส อาสวานํ เขปิตตฺตา อนาสวาติ.

อถสฺสา สตฺถา อาคมนํ อภินนฺทนฺโต ‘‘ตสฺสา เต สฺวาคต’’นฺติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ยา ตฺวํ มยา อธิคตํ ธมฺมํ ยาถาวโต อธิคจฺฉิ. ตสฺสา เต, ภทฺเท สุนฺทริ, อิธ มม สนฺติเก อาคตํ อาคมนํ สุอาคตํ. ตโต เอว ตํ อทุราคตํ น ทุราคตํ โหติ. กสฺมา? ยสฺมา เอวฺหิ ทนฺตา อายนฺตีติ, ยถา ตฺวํ สุนฺทริ, เอวฺหิ อุตฺตเมน อริยมคฺคทมเถน ทนฺตา ตโต เอว สพฺพธิ วีตราคา, สพฺเพสํ สํโยชนานํ สมุจฺฉินฺนตฺตา วิสํยุตฺตา กตกิจฺจา อนาสวา สตฺถุ ปาทานํ วนฺทิกา อาคจฺฉนฺติ, ตสฺมา ตสฺสา เต สฺวาคตํ อทุราคตนฺติ โยชนา.

สุนฺทรีเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สุภากมฺมารธีตุเถรีคาถาวณฺณนา

ทหราหนฺติอาทิกา สุภาย กมฺมารธีตาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อนุกฺกเมน สมฺภาวิตกุสลมูลา อุปจิตวิโมกฺขสมฺภารา สุคตีสุเยว สํสรนฺตี ปริปกฺกาณา หุตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห อฺตรสฺส สุวณฺณการสฺส ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ, รูปสมฺปตฺติโสภาย สุภาติ ตสฺสา นามํ อโหสิ. สา อนุกฺกเมน วิฺุตํ ปตฺวา, สตฺถุ ราชคหปฺปเวสเน สตฺถริ สฺชาตปฺปสาทา เอกทิวสํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. สตฺถา ตสฺสา อินฺทฺริยปริปากํ ทิสฺวา อชฺฌาสยานุรูปํ จตุสจฺจคพฺภธมฺมํ เทเสสิ. สา ตาวเทว สหสฺสนยปฏิมณฺฑิเต โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาสิ. สา อปรภาเค ฆราวาเส โทสํ ทิสฺวา มหาปชาปติยา โคตมิยา สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ภิกฺขุนิสีเล ปติฏฺิตา อุปริมคฺคตฺถาย ภาวนมนุยุฺชิ. ตํ าตกา กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา กาเมหิ นิมนฺเตนฺตา ปหูตธนํ วิภวชาตฺจ ทสฺเสตฺวา ปโลเภนฺติ. สา เอกทิวสํ อตฺตโน สนฺติกํ อุปคตานํ ฆราวาเสสุ กาเมสุ จ อาทีนวํ ปกาเสนฺตี ‘‘ทหราห’’นฺติอาทีหิ จตุวีสติยา คาถาหิ ธมฺมํ กเถตฺวา เต นิราเส กตฺวา วิสฺสชฺเชตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี อินฺทฺริยานิ ปริโยทเปนฺตี ภาวนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. อรหตฺตํ ปน ปตฺวา –

๓๓๙.

‘‘ทหราหํ สุทฺธวสนา, ยํ ปุเร ธมฺมมสฺสุณึ;

ตสฺสา เม อปฺปมตฺตาย, สจฺจาภิสมโย อหุ.

๓๔๐.

‘‘ตโตหํ สพฺพกาเมสุ, ภุสํ อรติมชฺฌคํ;

สกฺกายสฺมึ ภยํ ทิสฺวา, เนกฺขมฺมเมว ปีหเย.

๓๔๑.

‘‘หิตฺวานหํ าติคณํ, ทาสกมฺมกรานิ จ;

คามเขตฺตานิ ผีตานิ, รมณีเย ปโมทิเต.

๓๔๒.

‘‘ปหายหํ ปพฺพชิตา, สาปเตยฺยมนปฺปกํ;

เอวํ สทฺธาย นิกฺขมฺม, สทฺธมฺเม สุปฺปเวทิเต.

๓๔๓.

‘‘เนตํ อสฺส ปติรูปํ, อากิฺจฺฺหิ ปตฺถเย;

โย ชาตรูปํ รชตํ, ฉฑฺเฑตฺวา ปุนราคเม.

๓๔๔.

‘‘รชตํ ชาตรูปํ วา, น โพธาย น สนฺติยา;

เนตํ สมณสารุปฺปํ, น เอตํ อริยทฺธนํ.

๓๔๕.

‘‘โลภนํ มทนฺเจตํ, โมหนํ รชวฑฺฒนํ;

สาสงฺกํ พหุอายาสํ, นตฺถิ เจตฺถ ธุวํ ิติ.

๓๔๖.

‘‘เอตฺถ รตฺตา ปมตฺตา จ, สํกิลิฏฺมนา นรา;

อฺมฺเน พฺยารุทฺธา, ปุถู กุพฺพนฺติ เมธคํ.

๓๔๗.

‘‘วโธ พนฺโธ ปริกฺเลโส, ชานิ โสกปริทฺทโว;

กาเมสุ อธิปนฺนานํ, ทิสฺสเต พฺยสนํ พหุํ.

๓๔๘.

‘‘ตํ มํ าตี อมิตฺตาว, กึ โว กาเมสุ ยุฺชถ;

ชานาถ มํ ปพฺพชิตํ, กาเมสุ ภยทสฺสินึ.

๓๔๙.

‘‘น หิรฺสุวณฺเณน, ปริกฺขียนฺติ อาสวา;

อมิตฺตา วธกา กามา, สปตฺตา สลฺลพนฺธนา.

๓๕๐.

‘‘ตํ มํ าตี อมิตฺตาว, กึ โว กาเมสุ ยุฺชถ;

ชานาถ มํ ปพฺพชิตํ, มุณฺฑํ สงฺฆาฏิปารุตํ.

๓๕๑.

‘‘อุตฺติฏฺปิณฺโฑ อุฺโฉ จ, ปํสุกูลฺจ จีวรํ;

เอตํ โข มม สารุปฺปํ, อนคารูปนิสฺสโย.

๓๕๒.

‘‘วนฺตา มเหสีหิ กามา, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา;

เขมฏฺาเน วิมุตฺตา เต, ปตฺตา เต อจลํ สุขํ.

๓๕๓.

‘‘มาหํ กาเมหิ สํคจฺฉึ, เยสุ ตาณํ น วิชฺชติ;

อมิตฺตา วธกา กามา, อคฺคิกฺขนฺธูปมา ทุขา.

๓๕๔.

‘‘ปริปนฺโถ เอส ภโย, สวิฆาโต สกณฺฏโก;

เคโธ สุวิสโม เจโส, มหนฺโต โมหนามุโข.

๓๕๕.

‘‘อุปสคฺโค ภีมรูโป, กามา สปฺปสิรูปมา;

เย พาลา อภินนฺทนฺติ, อนฺธภูตา ปุถุชฺชนา.

๓๕๖.

‘‘กามปงฺเกน สตฺตา หิ, พหู โลเก อวิทฺทสู;

ปริยนฺตํ น ชานนฺติ, ชาติยา มรณสฺส จ.

๓๕๗.

‘‘ทุคฺคติคมนํ มคฺคํ, มนุสฺสา กามเหตุกํ;

พหุํ เว ปฏิปชฺชนฺติ, อตฺตโน โรคมาวหํ.

๓๕๘.

‘‘เอวํ อมิตฺตชนนา, ตาปนา สํกิเลสิกา;

โลกามิสา พนฺธนียา, กามา มรณพนฺธนา.

๓๕๙.

‘‘อุมฺมาทนา อุลฺลปนา, กามา จิตฺตปฺปมาถิโน;

สตฺตานํ สํกิเลสาย, ขิปฺปํ มาเรน โอฑฺฑิตํ.

๓๖๐.

‘‘อนนฺตาทีนวา กามา, พหุทุกฺขา มหาวิสา;

อปฺปสฺสาทา รณกรา, สุกฺกปกฺขวิโสสนา.

๓๖๑.

‘‘สาหํ เอตาทิสํ กตฺวา, พฺยสนํ กามเหตุกํ;

น ตํ ปจฺจาคมิสฺสามิ, นิพฺพานาภิรตา สทา.

๓๖๒.

‘‘รณํ ตริตฺวา กามานํ, สีติภาวาภิกงฺขินี;

อปฺปมตฺตา วิหสฺสามิ, สพฺพสํโยชนกฺขเย.

๓๖๓.

‘‘อโสกํ วิรชํ เขมํ, อริยฏฺงฺคิกํ อุชุํ;

ตํ มคฺคํ อนุคจฺฉามิ, เยน ติณฺณา มเหสิโน.

๓๖๔.

‘‘อิมํ ปสฺสถ ธมฺมฏฺํ, สุภํ กมฺมารธีตรํ;

อเนชํ อุปสมฺปชฺช, รุกฺขมูลมฺหิ ฌายติ.

๓๖๕.

‘‘อชฺชฏฺมี ปพฺพชิตา, สทฺธา สทฺธมฺมโสภนา;

วินีตุปฺปลวณฺณาย, เตวิชฺชา มจฺจุหายินี.

๓๖๖.

‘‘สายํ ภุชิสฺสา อณณา, ภิกฺขุนี ภาวิตินฺทฺริยา;

สพฺพโยควิสํยุตฺตา, กตกิจฺจา อนาสวา.

๓๖๗.

‘‘ตํ สกฺโก เทวสงฺเฆน, อุปสงฺกมฺม อิทฺธิยา;

นมสฺสติ ภูตปติ, สุภํ กมฺมารธีตร’’นฺติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ ทหราหํ สุทฺธวสนา, ยํ ปุเร ธมฺมมสฺสุณินฺติ ยสฺมา อหํ ปุพฺเพ ทหรา ตรุณี เอว สุทฺธวสนา สุทฺธวตฺถนิวตฺถา อลงฺกตปฺปฏิยตฺตา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ อสฺโสสึ. ตสฺสา เม อปฺปมตฺตาย, สจฺจาภิสมโย อหูติ ยสฺมา จ ตสฺสา เม มยฺหํ ยถาสุตํ ธมฺมํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อปฺปมตฺตาย อุปฏฺิตสฺสติยา สีลํ อธิฏฺหิตฺวา ภาวนํ อนุยุฺชนฺติยาว จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ อภิสมโย ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๓๒) ปฏิเวโธ อโหสิ.

ตโตหํ สพฺพกาเมสุ, ภุสํ อรติมชฺฌคนฺติ ตโต เตน การเณน สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมสฺส สุตตฺตา สจฺจานฺจ อภิสมิตตฺตา มนุสฺเสสุ ทิพฺเพสุ จาติ สพฺเพสุปิ กาเมสุ ภุสํ อติวิย อรตึ อุกฺกณฺึ อธิคจฺฉึ. สกฺกายสฺมึ อุปาทานกฺขนฺธปฺจเก, ภยํ สปฺปฏิภยภาวํ าณจกฺขุนา ทิสฺวา, เนกฺขมฺมเมว ปพฺพชฺชํ นิพฺพานเมว, ปีหเย ปิหยามิ ปตฺถยามิ.

ทาสกมฺมกรานิ จาติ ทาเส จ กมฺมกาเร จ, ลิงฺควิปลฺลาเสน เหตํ วุตฺตํ. คามเขตฺตานีติ คาเม จ ปุพฺพณฺณาปรณฺณวิรุหนกฺเขตฺตานิ จ, คามปริยาปนฺนานิ วา เขตฺตานิ. ผีตานีติ สมิทฺธานิ. รมณีเยติ มนุฺเ. ปโมทิเตติ ปมุทิเต, โภคกฺขนฺเธ หิตฺวาติ สมฺพนฺโธ. สาปเตยฺยนฺติ สนฺตกํ ธนํ, มณิกนกรชตาทิปริคฺคหวตฺถุํ. อนปฺปกนฺติ มหนฺตํ, ปหายาติ โยชนา. เอวํ สทฺธาย นิกฺขมฺมาติ ‘‘หิตฺวานหํ าติคณ’’นฺติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรน มหนฺตํ าติปริวฏฺฏํ มหนฺตฺจ โภคกฺขนฺธํ ปหาย กมฺมกมฺมผลานิ รตนตฺตยฺจาติ สทฺเธยฺยวตฺถุํ สทฺธาย สทฺทหิตฺวา ฆรโต นิกฺขมฺม, สทฺธมฺเม สุปฺปเวทิเต สมฺมาสมฺพุทฺเธน สุฏฺุ ปเวทิเต อริยวินเย อหํ ปพฺพชิตา.

เอวํ ปพฺพชิตาย ปน เนตํ อสฺส ปติรูปํ, ยทิทํ ฉฑฺฑิตานํ กามานํ ปจฺจาคมนํ. อากิฺจฺฺหิ ปตฺถเยติ อหํ อกิฺจนภาวํ อปริคฺคหภาวเมว ปตฺถยามิ. โย ชาตรูปรชตํ, ฉฑฺเฑตฺวา ปุนราคเมติ โย ปุคฺคโล สุวณฺณํ รชตํ อฺมฺปิ วา กิฺจิ ธนชาตํ ฉฑฺเฑตฺวา ปุน ตํ คณฺเหยฺย, โส ปณฺฑิตานํ อนฺตเร กถํ สีสํ อุกฺขิเปยฺย?

ยสฺมา รชตํ ชาตรูปํ วา, น โพธาย น สนฺติยา น มคฺคาณาย น นิพฺพานาย โหตีติ อตฺโถ. เนตํ สมณสารุปฺปนฺติ เอตํ ชาตรูปรชตาทิปริคฺคหวตฺถุ, ตสฺส วา ปริคฺคณฺหนํ สมณานํ สารุปฺปํ น โหติ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘น กปฺปติ สมณานํ สกฺยปุตฺติยานํ ชาตรูปรชต’’นฺติอาทิ (จูฬว. ๔๔๖). น เอตํ อริยทฺธนนฺติ เอตํ ยถาวุตฺตปริคฺคหวตฺถุ สทฺธาทิธนํ วิย อริยธมฺมมยมฺปิ ธนํ น โหติ, น อริยภาวาวหโต. เตนาห ‘‘โลภน’’นฺติอาทิ.

ตตฺถ โลภนนฺติ โลภุปฺปาทนํ. มทนนฺติ มทาวหํ. โมหนนฺติ สมฺโมหชนนํ. รชวฑฺฒนนฺติ ราครชาทิสํวฑฺฒนํ. เยน ปริคฺคหิตํ, ตสฺส อาสงฺกาวหตฺตา สห อาสงฺกาย วตฺตตีติ สาสงฺกํ, เยน ปริคฺคหิตํ, ตสฺส ยโต กุโต อาสงฺกาวหนฺติ อตฺโถ. พหุอายาสนฺติ สชฺชนรกฺขณาทิวเสน พหุปริสฺสมํ. นตฺถิ เจตฺถ ธุวํ ิตีติ เอตสฺมึ ธเน ธุวภาโว จ ิติภาโว จ นตฺถิ, จฺจลมนวฏฺิตเมวาติ อตฺโถ.

เอตฺถ รตฺตา ปมตฺตา จาติ เอตสฺมึ ธเน รตฺตา สฺชาตราคา ทสกุสลธมฺเมสุ สติยา วิปฺปวาเสน ปมตฺตา. สํกิลิฏฺมนา โลภาทิสํกิเลเสน สํกิลิฏฺจิตฺตาว นาม โหนฺติ. ตโต จ อฺมฺมฺหิ พฺยารุทฺธา, ปุถู กุพฺพนฺติ เมธคํ อนฺตมโส มาตาปิ ปุตฺเตน, ปุตฺโตปิ มาตราติ เอวํ อฺมฺํ ปฏิรุทฺธา หุตฺวา ปุถู สตฺตา เมธคํ กลหํ กโรนฺติ. เตนาห ภควา – ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, กามเหตุ กามนิทานํ กามาธิกรณํ…เป… มาตาปิ ปุตฺเตน วิวทติ ปุตฺโตปิ มาตรา วิวทตี’’ติอาทิ (ม. นิ. ๑.๑๖๘, ๑๗๘).

วโธติ มรณํ. พนฺโธติ อทฺทุพนฺธนาทิพนฺธนํ. ปริกฺเลโสติ หตฺถจฺเฉทาทิปริกิเลสาปตฺติ. ชานีติ ธนชานิ เจว ปริวารชานิ จ. โสกปริทฺทโวติ โสโก จ ปริเทโว จ. อธิปนฺนานนฺติ อชฺโฌสิตานํ. ทิสฺสเต พฺยสนํ พหุนฺติ ยถาวุตฺตวธพนฺธนาทิเภทํ อวุตฺตฺจ โทมนสฺสุปายาสาทึ ทิฏฺธมฺมิกํ สมฺปรายิกฺจ พหุํ พหุวิธํ พฺยสนํ อนตฺโถ กาเมสุ ทิสฺสเตว.

ตํ มํ าตี อมิตฺตาว, กึ โว กาเมสุ ยุฺชถาติ ตาทิสํ มํ ยถา กาเมสุ วิรตฺตํ ตุมฺเห าตี าตกา สมานา อนตฺถกามา อมิตฺตา วิย กึ เกน การเณน กาเมสุ ยุฺชถ นิโยเชถ. ชานาถ มํ ปพฺพชิตํ, กาเมสุ ภยทสฺสินินฺติ กาเม ภยโต ปสฺสนฺตึ ปพฺพชิตํ มํ อาชานาถ, กึ เอตฺตกํ ตุมฺเหหิ อนฺาตนฺติ อธิปฺปาโย.

น หิรฺสุวณฺเณน, ปริกฺขียนฺติ อาสวาติ กามาสวาทโย หิรฺสุวณฺเณน น กทาจิ ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, อถ โข เตหิ เอว ปริวฑฺฒนฺเตว. เตนาห – ‘‘อมิตฺตา วธกา กามา, สปตฺตา สลฺลพนฺธนา’’ติ. กามา หิ อหิตาวหตฺตา เมตฺติยา อภาเวน อมิตฺตา, มรณเหตุตาย อุกฺขิตฺตาสิกวธกสทิสตฺตา วธกา, อนุพนฺธิตฺวาปิ อนตฺถาวหนตาย เวรานุพนฺธสปตฺตสทิสตฺตา สปตฺตา, ราคาทีนํ สลฺลานํ พนฺธนโต สลฺลพนฺธนา.

มุณฺฑนฺติ มุณฺฑิตเกสํ. ตตฺถ ตตฺถ นนฺตกานิ คเหตฺวา สงฺฆาฏิจีวรปารุปเนน สงฺฆาฏิปารุตํ.

อุตฺติฏฺปิณฺโฑติ วิวฏทฺวาเร ฆเร ฆเร ปติฏฺิตฺวา ลภนกปิณฺโฑ. อุฺโฉติ ตทตฺถํ อุฺฉาจริยา. อนคารูปนิสฺสโยติ อนคารานํ ปพฺพชิตานํ อุปคนฺตฺวา นิสฺสิตพฺพโต อุปนิสฺสยภูโต ชีวิตปริกฺขาโร. ตฺหิ นิสฺสาย ปพฺพชิตา ชีวนฺติ.

วนฺตาติ ฉฑฺฑิตา. มเหสีหีติ พุทฺธาทีหิ มเหสีหิ. เขมฏฺาเนติ กามโยคาทีหิ อนุปทฺทวฏฺานภูเต นิพฺพาเน. เตติ มเหสโย. อจลํ สุขนฺติ นิพฺพานสุขํ ปตฺตา. ตสฺมา ตํ ปตฺเถนฺเตน กามา ปริจฺจชิตพฺพาติ อธิปฺปาโย.

มาหํ กาเมหิ สํคจฺฉินฺติ อหํ กทาจิปิ กาเมหิ น สมาคจฺเฉยฺยํ. กสฺมาติ เจ อาห ‘‘เยสุ ตาณํ น วิชฺชตี’’ติอาทิ, เยสุ กาเมสุ อุปปริกฺขิยมาเนสุ เอกสฺมิมฺปิ อนตฺถปริตฺตาณํ นาม นตฺถิ. อคฺคิกฺขนฺธูปมา มหาภิตาปฏฺเน. ทุขา ทุกฺขมฏฺเน.

ปริปนฺโถ เอส ภโย ยทิทํ กามา นาม อวิทิตวิปุลานตฺถาวหตฺตา. สวิฆาโต จิตฺตวิฆาตกรตฺตา. สกณฺฏโก วินิวิชฺฌนตฺตา. เคโธ สุวิสโม เจโสติ คิทฺธิเหตุตาย เคโธ. สุฏฺุ วิสโม มหาปลิโพโธ โส. ทุรติกฺกมนฏฺเน มหนฺโต. โมหนามุโข มุจฺฉาปตฺติเหตุโต.

อุปสคฺโค ภีมรูโปติ อติภึสนกสภาโว, มหนฺโต เทวตูปสคฺโค วิย อนตฺถกาทิทุกฺขาวหนโต. สปฺปสิรูปมา กามา สปฺปฏิภยฏฺเน.

กามปงฺเกน สตฺตาติ กามสงฺขาเตน ปงฺเกน สตฺตา ลคฺคา.

ทุคฺคติคมนํ มคฺคนฺติ นิรยาทิอปายคามินํ มคฺคํ. กามเหตุกนฺติ กาโมปโภคเหตุกํ. พหุนฺติ ปาณาติปาตาทิเภเทน พหุวิธํ. โรคมาวหนฺติ รุชฺชนฏฺเน โรคสงฺขาตสฺส ทิฏฺธมฺมิกาทิเภทสฺส ทุกฺขสฺส อาวหนกํ.

เอวนฺติ ‘‘อมิตฺตา วธกา’’ติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรน. อมิตฺตชนนาติ อมิตฺตภาวสฺส นิพฺพตฺตนกา. ตาปนาติ สนฺตาปนกา, ตปนียาติ อตฺโถ. สํกิเลสิกาติ สํกิเลสาวหา. โลกามิสาติ โลเก อามิสภูตา. พนฺธนิยาติ พนฺธภูเตหิ สํโยชเนหิ วฑฺฒิตพฺพา, สํโยชนิยาติ อตฺโถ. มรณพนฺธนาติ ภวาทีสุ นิพฺพตฺตินิมิตฺตตาย ปวตฺตการณโต จ มรณวิพนฺธนา.

อุมฺมาทนาติ วิปริณามธมฺมานํ วิโยควเสน โสกุมฺมาทกรา, วฑฺฒิยา วา อุปรูปริมทาวหา. อุลฺลปนาติ ‘‘อโห สุขํ อโห สุข’’นฺติ อุทฺธํ อุทฺธํ ลปาปนกา. ‘‘อุลฺโลลนา’’ติปิ ปาโ, ภตฺตปิณฺฑนิมิตฺตํ นงฺคุฏฺํ อุลฺโลเลนฺโต สุนโข วิย อามิสเหตุ สตฺเต อุปรูปริลาลนา, ปราภวาวฺาตปาปนกาติ อตฺโถ. จิตฺตปฺปมาถิโนติ ปริฬาหุปฺปาทนาทินา สมฺปติ อายติฺจ จิตฺตสฺส ปมถนสีลา. ‘‘จิตฺตปฺปมทฺทิโน’’ติ วา ปาโ, โส เอวตฺโถ. เย ปน ‘‘จิตฺตปฺปมาทิโน’’ติ วทนฺติ, เตสํ จิตฺตสฺส ปมาทาวหาติ อตฺโถ. สํกิเลสายาติ วิพาธนาย อุปตาปนาย วา. ขิปฺปํ มาเรน โอฑฺฑิตนฺติ กามา นาเมเต มาเรน โอฑฺฑิตํ กุมินนฺติ ทฏฺพฺพา สตฺตานํ อนตฺถาวหนโต.

อนนฺตาทีนวาติ ‘‘โลภนํ มทนฺเจต’’นฺติอาทินา, ‘‘อิธ สีตสฺส ปุรกฺขโต อุณฺหสฺส ปุรกฺขโต’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๑๖๗) จ ทุกฺขกฺขนฺธสุตฺตาทีสุ วุตฺตนเยน อปริยนฺตาทีนวา พหุโทสา. พหุทุกฺขาติ อาปายิกาทิพหุวิธทุกฺขานุพนฺธา. มหาวิสาติ กฏุกาสยฺหผลตาย หลาหลาทิมหาวิสสทิสา . อปฺปสฺสาทาติ สตฺถธาราคตมธุพินฺทุ วิย ปริตฺตสฺสาทา. รณกราติ สาราคาทิสํวฑฺฒกา. สุกฺกปกฺขวิโสสนาติ สตฺตานํ อนวชฺชโกฏฺาสสฺส วินาสกา.

สาหนฺติ สา อหํ, เหฏฺา วุตฺตนเยเนว สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺธา กาเม ปหาย ปพฺพชิตฺวา ิตาติ อตฺโถ. เอตาทิสนฺติ เอวรูปํ วุตฺตปฺปการํ. กตฺวาติ อิติ กตฺวา, ยถาวุตฺตการเณนาติ อตฺโถ. น ตํ ปจฺจาคมิสฺสามีติ ตํ มยา ปุพฺเพ วนฺตกาเม ปุน น ปริภุฺชิสฺสามิ. นิพฺพานาภิรตา สทาติ ยสฺมา ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย สพฺพกาลํ นิพฺพานาภิรตา, ตสฺมา น ตํ ปจฺจาคมิสฺสามีติ โยชนา.

รณํ ตริตฺวา กามานนฺติ กามานํ รณํ ตริตฺวา, ตฺจ มยา กาตพฺพํ อริยมคฺคสํปหารํ กตฺวา. สีติภาวาภิกงฺขินีติ สพฺพกิเลสทรถปริฬาหวูปสเมน สีติภาวสงฺขาตํ อรหตฺตํ อภิกงฺขนฺตี. สพฺพสํโยชนกฺขเยติ สพฺเพสํ สํโยชนานํ ขยภูเต นิพฺพาเน อภิรตา.

เยนติณฺณา มเหสิโนติ เยน อริยมคฺเคน พุทฺธาทโย มเหสิโน สํสารมโหฆํ ติณฺณา, อหมฺปิ เตหิ คตมคฺคํ อนุคจฺฉามิ, สีลาทิปฏิปตฺติยา อนุปาปุณามีติ อตฺโถ.

ธมฺมฏฺนฺติ อริยผลธมฺเม ิตํ. อเนชนฺติ ปฏิปฺปสฺสทฺธ เอชตาย อเนชนฺติ ลทฺธนามํ อคฺคผลํ. อุปสมฺปชฺชาติ สมฺปาเทตฺวา อคฺคมคฺคาธิคเมน อธิคนฺตฺวา. ฌายตีติ ตเมว ผลชฺฌานํ อุปนิชฺฌายติ.

อชฺชฏฺมี ปพฺพชิตาติ ปพฺพชิตา หุตฺวา ปพฺพชิตโต ปฏฺาย อชฺช อฏฺมทิวโส, อิโต อตีเต อฏฺมิยํ ปพฺพชิตาติ อตฺโถ. สทฺธาติ สทฺธาสมฺปนฺนา. สทฺธมฺมโสภนาติ สทฺธมฺมาธิคเมน โสภนา.

ภุชิสฺสาติ ทาสภาวสทิสานํ กิเลสานํ ปหาเนน ภุชิสฺสา. กามจฺฉนฺทาทิอิณาปคเมน อณณา.

อิมา กิร ติสฺโส คาถา ปพฺพชิตฺวา อฏฺเม ทิวเส อรหตฺตํ ปตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา นิสินฺนํ เถรึ ภิกฺขูนํ ทสฺเสตฺวา ปสํสนฺเตน ภควตา วุตฺตา.

อถ สกฺโก เทวานมินฺโท ตํ ปวตฺตึ ทิพฺเพน จกฺขุนา ทิสฺวา ‘‘เอวํ สตฺถารา ปสํสียมานา อยํ เถรี ยสฺมา เทเวหิ จ ปยิรุปาสิตพฺพา’’ติ ตาวเทว ตาวตึเสหิ เทเวหิ สทฺธึ อุปสงฺกมิตฺวา อภิวาเทตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห อฏฺาสิ. ตํ สนฺธาย สงฺคีติกาเรหิ วุตฺตํ –

‘‘ตํ สกฺโก เทวสงฺเฆน, อุปสงฺกมฺม อิทฺธิยา;

นมสฺสติ ภูตปติ, สุภํ กมฺมารธีตร’’นฺติ.

ตตฺถ ตีสุ กามภเวสุ ภูตานํ สตฺตานํ ปติ อิสฺสโรติ กตฺวา ภูตปตีติ ลทฺธนาโม สกฺโก เทวราชา เทวสงฺเฆน สทฺธึ ตํ สุภํ กมฺมารธีตรํ อตฺตโน เทวิทฺธิยา อุปสงฺกมฺม นมสฺสติ, ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทตีติ อตฺโถ.

สุภากมฺมารธีตุเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

วีสตินิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.