📜

๕. ปฺจกนิปาโต

๑. อฺตราเถรีคาถาวณฺณนา

ปฺจกนิปาเต ปณฺณวีสติ วสฺสานีติอาทิกา อฺตราย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท เทวทหนคเร มหาปชาปติโคตมิยา ธาตี หุตฺวา วฑฺเฒสิ. นามโคตฺตโต ปน อปฺาตา อโหสิ. สา มหาปชาปติโคตมิยา ปพฺพชิตกาเล สยมฺปิ ปพฺพชิตฺวา ปฺจวีสติ สํวจฺฉรานิ กามราเคน อุปทฺทุตา อจฺฉราสงฺฆาตมตฺตมฺปิ กาลํ จิตฺเตกคฺคตํ อลภนฺตี พาหา ปคฺคยฺห กนฺทมานา ธมฺมทินฺนาเถริยา สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา กาเมหิ วินิวตฺติตมานสา กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ภาวนมนุยฺชนฺตี น จิรสฺเสว ฉฬภิฺา หุตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –

๖๗.

‘‘ปณฺณวีสติ วสฺสานิ, ยโต ปพฺพชิตา อหํ;

นาจฺฉราสงฺฆาตมตฺตมฺปิ, จิตฺตสฺสูปสมชฺฌคํ.

๖๘.

‘‘อลทฺธา เจตโส สนฺตึ, กามราเคนวสฺสุตา;

พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺตี, วิหารํ ปาวิสึ อหํ.

๖๙.

‘‘สา ภิกฺขุนึ อุปาคจฺฉึ, ยา เม สทฺธายิกา อหุ;

สา เม ธมฺมมเทเสสิ, ขนฺธายตนธาตุโย.

๗๐.

‘‘ตสฺสา ธมฺมํ สุณิตฺวาน, เอกมนฺเต อุปาวิสึ;

ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ.

๗๑.

‘‘เจโตปริจฺจาณฺจ , โสตธาตุ วิโสธิตา;

อิทฺธีปิ เม สจฺฉิกตา, ปตฺโต เม อาสวกฺขโย;

ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ นาจฺฉราสงฺฆาตมตฺตมฺปีติ อจฺฉราฆฏิตมตฺตมฺปิ ขณํ องฺคุลิโผฏนมตฺตมฺปิ กาลนฺติ อตฺโถ. จิตฺตสฺสูปสมชฺฌคนฺติ จิตฺตสฺส อุปสมํ จิตฺเตกคฺคํ น อชฺฌคนฺติ โยชนา, น ปฏิลภินฺติ อตฺโถ.

กามราเคนวสฺสุตาติ กามคุณสงฺขาเตสุ วตฺถุกาเมสุ ทฬฺหตราภินิเวสิตาย พหเลน ฉนฺทราเคน ตินฺตจิตฺตา.

ภิกฺขุนินฺติ ธมฺมทินฺนตฺเถรึ สนฺธาย วทติ.

เจโตปริจฺจาณฺจาติ เจโตปริยาณฺจ วิโสธิตนฺติ สมฺพนฺโธ, อธิคตนฺติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

อฺตราเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. วิมลาเถรีคาถาวณฺณนา

มตฺตา วณฺเณน รูเปนาติอาทิกา วิมลาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท เวสาลิยํ อฺตราย รูปูปชีวินิยา อิตฺถิยา ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. วิมลาติสฺสา นามํ อโหสิ. สา วยปฺปตฺตา ตเถว ชีวิกํ กปฺเปนฺตี เอกทิวสํ อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เวสาลิยํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺตา หุตฺวา เถรสฺส วสนฏฺานํ คนฺตฺวา เถรํ อุทฺทิสฺส ปโลภนกมฺมํ กาตุํ อารภิ. ‘‘ติตฺถิเยหิ อุยฺโยชิตา ตถา อกาสี’’ติ เกจิ วทนฺติ. เถโร ตสฺสา อสุภวิภาวนมุเขน สนฺตชฺชนํ กตฺวา โอวาทมทาสิ. ตํ เหฏฺา เถรคาถาย อาคตเมว, ตถา ปน เถเรน โอวาเท ทินฺเน สา สํเวคชาตา หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา สาสเน ปฏิลทฺธสทฺธา อุปาสิกา หุตฺวา อปรภาเค ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตฺวา ฆเฏนฺตี วายมนฺตี เหตุสมฺปนฺนตาย น จิรสฺเสว อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –

๗๒.

‘‘มตฺตา วณฺเณน รูเปน, โสภคฺเคน ยเสน จ;

โยพฺพเนน จุปตฺถทฺธา, อฺาสมติมฺิหํ.

๗๓.

‘‘วิภูเสตฺวา อิมํ กายํ, สุจิตฺตํ พาลลาปนํ;

อฏฺาสึ เวสิทฺวารมฺหิ, ลุทฺโท ปาสมิโวฑฺฑิย.

๗๔.

‘‘ปิฬนฺธนํ วิทํเสนฺตี, คุยฺหํ ปกาสิกํ พหุํ;

อกาสึ วิวิธํ มายํ, อุชฺฌคฺฆนฺตี พหุํ ชนํ.

๗๕.

‘‘สาชฺช ปิณฺฑํ จริตฺวาน, มุณฺฑา สงฺฆาฏิปารุตา;

นิสินฺนา รุกฺขมูลมฺหิ, อวิตกฺกสฺส ลาภินี.

๗๖.

‘‘สพฺเพ โยคา สมุจฺฉินฺนา, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา;

เขเปตฺวา อาสเว สพฺเพ, สีติภูตามฺหิ นิพฺพุตา’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ มตฺตา วณฺเณน รูเปนาติ คุณวณฺเณน เจว รูปสมฺปตฺติยา จ. โสภคฺเคนาติ สุภคภาเวน. ยเสนาติ ปริวารสมฺปตฺติยา. มตฺตา วณฺณมทรูปมทโสภคฺคมทปริวารมทวเสน มทํ อาปนฺนาติ อตฺโถ. โยพฺพเนน จุปตฺถทฺธาติ โยพฺพนมเทน อุปรูปริ ถทฺธา โยพฺพนนิมิตฺเตน อหงฺกาเรน อุปตฺถทฺธจิตฺตา อนุปสนฺตมานสา. อฺาสมติมฺิหนฺติ อฺา อิตฺถิโย อตฺตโน วณฺณาทิคุเณหิ สพฺพถาปิ อติกฺกมิตฺวา มฺึ อหํ. อฺาสํ วา อิตฺถีนํ วณฺณาทิคุเณ อติมฺึ อติกฺกมิตฺวา อมฺึ อวมานํ อกาสึ.

วิภูสิตฺวาอิมํ กายํ, สุจิตฺตํ พาลลาปนนฺติ อิมํ นานาวิธอสุจิภริตํ เชคุจฺฉํ อหํ มมาติ พาลานํ ลาปนโต วาจนโต พาลลาปนํ มม กายํ ฉวิราคกรณเกสฏฺปนาทินา สุจิตฺตํ วตฺถาภรเณหิ วิภูสิตฺวา สุมณฺฑิตปสาทิตํ กตฺวา. อฏฺาสึ เวสิทฺวารมฺหิ, ลุทฺโท ปาสมิโวฑฺฑิยาติ มิคลุทฺโท วิย มิคานํ พนฺธนตฺถาย ทณฺฑวากุราทิมิคปาสํ, มารสฺส ปาสภูตํ ยถาวุตฺตํ มม กายํ เวสิทฺวารมฺหิ เวสิยา ฆรทฺวาเร โอฑฺฑิยิตฺวา อฏฺาสึ.

ปิฬนฺธนํ วิทํเสนฺตี, คุยฺหํ ปกาสิกํ พหุนฺติ อูรุชฆนถนทสฺสนาทิกํ คุยฺหฺเจว ปาทชาณุสิราทิกํ ปกาสฺจาติ คุยฺหํ ปกาสิกฺจ พหุํ นานปฺปการํ ปิฬนฺธนํ อาภรณํ ทสฺเสนฺตี. อกาสึ วิวิธํ มายํ, อุชฺฌคฺฆนฺตี พหุํชนนฺติ โยพฺพนมทมตฺตํ พหุํ พาลชนํ วิปฺปลมฺเภตุํ หสนฺตี คนฺธมาลาวตฺถาภรณาทีหิ สรีรสภาวปฏิจฺฉาทเนน หสวิลาสภาวาทีหิ เตหิ จ วิวิธํ นานปฺปการํ วฺจนํ อกาสึ.

สาชฺช ปิณฺฑํ จริตฺวาน…เป… อวิตกฺกสฺส ลาภินีติ สา อหํ เอวํ ปมาทวิหารินี สมานา อชฺช อิทานิ อยฺยสฺส มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส โอวาเท ตฺวา สาสเน ปพฺพชิตฺวา มุณฺฑา สงฺฆาฏิปารุตา หุตฺวา ปิณฺฑํ จริตฺวาน ภิกฺขาหารํ ภุฺชิตฺวา นิสินฺนา รุกฺขมูลมฺหิ รุกฺขมูเล วิวิตฺตาสเน นิสินฺนา ทุติยชฺฌานปาทกสฺส อคฺคผลสฺส อธิคเมน อวิตกฺกสฺส ลาภินี อมฺหีติ โยชนา.

สพฺเพ โยคาติ กามโยคาทโย จตฺตาโรปิ โยคา. สมุจฺฉินฺนาติ ปมมคฺคาทินา ยถารหํ สมฺมเทว อุจฺฉินฺนา ปหีนา. เสสํ วุตฺตนยเมว.

วิมลาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สีหาเถรีคาถาวณฺณนา

อโยนิโส มนสิการาติอาทิกา สีหาย เถริยา คาถา . อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท เวสาลิยํ สีหเสนาปติโน ภคินิยา ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺสา ‘‘มาตุลสฺส นามํ กโรมา’’ติ สีหาติ นามํ อกํสุ. สา วิฺุตํ ปตฺวา เอกทิวสํ สตฺถารา สีหสฺส เสนาปติโน ธมฺเม เทสิยมาเน ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺธา มาตาปิตโร อนุชานาเปตฺวา ปพฺพชิ. ปพฺพชิตฺวา จ วิปสฺสนํ อารภิตฺวาปิ พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมเณ วิธาวนฺตํ จิตฺตํ นิวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺตี สตฺต สํวจฺฉรานิ มิจฺฉาวิตกฺเกหิ พาธียมานา จิตฺตสฺสาทํ อลภนฺตี ‘‘กึ เม อิมินา ปาปชีวิเตน , อุพฺพนฺธิตฺวา มริสฺสามี’’ติ ปาสํ คเหตฺวา รุกฺขสาขายํ ลคฺคิตฺวา ตํ อตฺตโน กณฺเ ปฏิมุฺจนฺตี ปุพฺพาจิณฺณวเสน วิปสฺสนาย จิตฺตํ อภินีหริ, อนฺติมภวิกตาย ปาสสฺส พนฺธนํ คีวฏฺาเน อโหสิ, าณสฺส ปริปากํ คตตฺตา สา ตาวเทว วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. อรหตฺตํ ปตฺตสมกาลเมว จ ปาสพนฺโธ คีวโต มุจฺจิตฺวา วินิวตฺติ. สา อรหตฺเต ปติฏฺิตา อุทานวเสน –

๗๗.

‘‘อโยนิโส มนสิการา, กามราเคน อฏฺฏิตา;

อโหสึ อุทฺธตา ปุพฺเพ, จิตฺเต อวสวตฺตินี.

๗๘.

‘‘ปริยุฏฺิตา กฺเลเสหิ, สุภสฺานุวตฺตินี;

สมํ จิตฺตสฺส น ลภึ, ราคจิตฺตวสานุคา.

๗๙.

‘‘กิสา ปณฺฑุ วิวณฺณา จ, สตฺต วสฺสานิ จาริหํ;

นาหํ ทิวา วา รตฺตึ วา, สุขํ วินฺทึ สุทุกฺขิตา.

๘๐.

‘‘ตโต รชฺชุํ คเหตฺวาน, ปาวิสึ วนมนฺตรํ;

วรํ เม อิธ อุพฺพนฺธํ, ยฺจ หีนํ ปุนาจเร.

๘๑.

‘‘ทฬฺหปาสํ กริตฺวาน, รุกฺขสาขาย พนฺธิย;

ปกฺขิปึ ปาสํ คีวายํ, อถ จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ อโยนิโส มนสิการาติ อนุปายมนสิกาเรน, อสุเภ สุภนฺติ วิปลฺลาสคฺคาเหน. กามราเคน อฏฺฏิตาติ กามคุเณสุ ฉนฺทราเคน ปีฬิตา. อโหสึ อุทฺธตา ปุพฺเพ, จิตฺเต อวสวตฺตินีติ ปุพฺเพ มม จิตฺเต มยฺหํ วเส อวตฺตมาเน อุทฺธตา นานารมฺมเณ วิกฺขิตฺตจิตฺตา อสมาหิตา อโหสึ.

ปริยุฏฺิตา กฺเลเสหิ, สุภสฺานุวตฺตินีติ ปริยุฏฺานปตฺเตหิ กามราคาทิกิเลเสหิ อภิภูตา รูปาทีสุ สุภนฺติ ปวตฺตาย กามสฺาย อนุวตฺตนสีลา. สมํ จิตฺตสฺส น ลภึ, ราคจิตฺตวสานุคาติ กามราคสมฺปยุตฺตจิตฺตสฺส วสํ อนุคจฺฉนฺตี อีสกมฺปิ จิตฺตสฺส สมํ เจโตสมถํ จิตฺเตกคฺคตํ น ลภึ.

กิสา ปณฺฑุ วิวณฺณา จาติ เอวํ อุกฺกณฺิตภาเวน กิสา ธมนิสนฺถตคตฺตา อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตา ตโต เอว วิวณฺณา วิคตฉวิวณฺณา จ หุตฺวา. สตฺต วสฺสานีติ สตฺต สํวจฺฉรานิ. จาริหนฺติ จรึ อหํ. นาหํ ทิวา วารตฺตึ วา, สุขํ วินฺทึ สุทุกฺขิตาติ เอวมหํ สตฺตสุ สํวจฺฉเรสุ กิเลสทุกฺเขน ทุกฺขิตา เอกทาปิ ทิวา วา รตฺตึ วา สมณสุขํ น ปฏิลภึ.

ตโตติ กิเลสปริยุฏฺาเนน สมณสุขาลาภภาวโต. รชฺชุํ คเหตฺวาน ปาวิสึ, วนมนฺตรนฺติ ปาสรชฺชุํ อาทาย วนนฺตรํ ปาวิสึ. กิมตฺถํ ปาวิสีติ เจ อาห – ‘‘วรํ เม อิธ อุพฺพนฺธํ, ยฺจ หีนํ ปุนาจเร’’ติ ยทหํ สมณธมฺมํ กาตุํ อสกฺโกนฺตี หีนํ คิหิภาวํ ปุน อาจเร อาจเรยฺยํ อนุติฏฺเยฺยํ, ตโต สตคุเณน สหสฺสคุเณน อิมสฺมึ วนนฺตเร อุพฺพนฺธํ พนฺธิตฺวา มรณํ เม วรํ เสฏฺนฺติ อตฺโถ. อถ จิตฺตํ วิมุจฺจิ เมติ ยทา รุกฺขสาขาย พนฺธปาสํ คีวายํ ปกฺขิปิ, อถ ตทนนฺตรเมว วุฏฺานคามินิวิปสฺสนามคฺเคน ฆฏิตตฺตา มคฺคปฏิปาฏิยา สพฺพาสเวหิ มม จิตฺตํ วิมุจฺจิ วิมุตฺตํ อโหสีติ.

สีหาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สุนฺทรีนนฺทาเถรีคาถาวณฺณนา

อาตุรํ อสุจินฺติอาทิกา สุนฺทรีนนฺทาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา, สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตี สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุนึ ฌายินีนํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา อธิการกมฺมํ กตฺวา ตํ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา กุสลํ อุปจินนฺตี กปฺปสตสหสฺสํ เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สกฺยราชกุเล นิพฺพตฺติ. นนฺทาติสฺสา นามํ อกํสุ. อปรภาเค รูปสมฺปตฺติยา สุนฺทรีนนฺทา, ชนปทกลฺยาณีติ จ ปฺายิตฺถ. สา อมฺหากํ ภควติ สพฺพฺุตํ ปตฺวา อนุปุพฺเพน กปิลวตฺถุํ คนฺตฺวา นนฺทกุมารฺจ ราหุลกุมารฺจ ปพฺพาเชตฺวา คเต สุทฺโธทนมหาราเช จ ปรินิพฺพุเต มหาปชาปติโคตมิยา ราหุลมาตาย จ ปพฺพชิตาย จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ เชฏฺภาตา จกฺกวตฺติรชฺชํ ปหาย ปพฺพชิตฺวา โลเก อคฺคปุคฺคโล พุทฺโธ ชาโต, ปุตฺโตปิสฺส ราหุลกุมาโร ปพฺพชิ, ภตฺตาปิ เม นนฺทราชา, มาตาปิ มหาปชาปติโคตมี, ภคินีปิ ราหุลมาตา ปพฺพชิตา, อิทานาหํ เคเห กึ กริสฺสามิ, ปพฺพชิสฺสามี’’ติ ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา าติสิเนเหน ปพฺพชิ, โน สทฺธาย. ตสฺมา ปพฺพชิตฺวาปิ รูปํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนมทา. ‘‘สตฺถา รูปํ วิวณฺเณติ ครหติ, อเนกปริยาเยน รูเป อาทีนวํ ทสฺเสตี’’ติ พุทฺธุปฏฺานํ น คจฺฉตีติอาทิ สพฺพํ เหฏฺา อภิรูปนนฺทาย วตฺถุสฺมึ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – สตฺถารา นิมฺมิตํ อิตฺถิรูปํ อนุกฺกเมน ชราภิภูตํ ทิสฺวา อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต มนสิกโรนฺติยา เถริยา กมฺมฏฺานาภิมุขํ จิตฺตํ อโหสิ. ตํ ทิสฺวา สตฺถา ตสฺสา สปฺปายวเสน ธมฺมํ เทเสนฺโต –

๘๒.

‘‘อาตุรํ อสุจึ ปูตึ, ปสฺส นนฺเท สมุสฺสยํ;

อสุภาย จิตฺตํ ภาเวหิ, เอกคฺคํ สุสมาหิตํ.

๘๓.

‘‘ยถา อิทํ ตถา เอตํ, ยถา เอตํ ตถา อิทํ;

ทุคฺคนฺธํ ปูติกํ วาติ, พาลานํ อภินนฺทิตํ.

๘๔.

‘‘เอวเมตํ อเวกฺขนฺตี, รตฺตินฺทิวมตนฺทิตา;

ตโต สกาย ปฺาย, อภินิพฺพิชฺฌ ทกฺขิส’’นฺติ. –

อิมา ติสฺโส คาถา อภาสิ.

สา เทสนานุสาเรน าณํ เปเสตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตสฺสา อุปริมคฺคตฺถาย กมฺมฏฺานํ อาจิกฺขนฺโต ‘‘นนฺเท, อิมสฺมึ สรีเร อปฺปมตฺตโกปิ สาโร นตฺถิ, มํสโลหิตเลปโน ชราทีนํ วาสภูโต, อฏฺิปุฺชมตฺโต เอวาย’’นฺติ ทสฺเสตุํ –

‘‘อฏฺินํ นครํ กตํ, มํสโลหิตเลปนํ;

ยตฺถ ชรา จ มจฺจุ จ, มาโน มกฺโข จ โอหิโต’’ติ. (ธ. ป. ๑๕๐) –

ธมฺมปเท อิมํ คาถมาห.

สา เทสนาวสาเน อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๓.๑๖๖-๒๑๙) –

‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺมาน ปารคู;

อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโก.

‘‘โอวาทโก วิฺาปโก, ตารโก สพฺพปาณินํ;

เทสนากุสโล พุทฺโธ, ตาเรสิ ชนตํ พหุํ.

‘‘อนุกมฺปโก การุณิโก, หิเตสี สพฺพปาณินํ;

สมฺปตฺเต ติตฺถิเย สพฺเพ, ปฺจสีเล ปติฏฺปิ.

‘‘เอวํ นิรากุลํ อาสิ, สุฺตํ ติตฺถิเยหิ จ;

วิจิตฺตํ อรหนฺเตหิ, วสีภูเตหิ ตาทิภิ.

‘‘รตนานฏฺปฺาสํ, อุคฺคโตว มหามุนิ;

กฺจนคฺฆิยสงฺกาโส, พาตฺตึสวรลกฺขโณ.

‘‘วสฺสสตสหสฺสานิ, อายุ วิชฺชติ ตาวเท;

ตาวตา ติฏฺมาโน โส, ตาเรสิ ชนตํ พหุํ.

‘‘ตทาหํ หํสวติยํ, ชาตา เสฏฺิกุเล อหุํ;

นานารตนปชฺโชเต, มหาสุขสมปฺปิตา.

‘‘อุเปตฺวา ตํ มหาวีรํ, อสฺโสสึ ธมฺมเทสนํ;

อมตํ ปรมสฺสาทํ, ปรมตฺถนิเวทกํ.

‘‘ตทา นิมนฺตยิตฺวาน, สสงฺฆํ โลกนายกํ;

ทตฺวา ตสฺส มหาทานํ, ปสนฺนา เสหิ ปาณิภิ.

‘‘ฌายินีนํ ภิกฺขุนีนํ, อคฺคฏฺานมปตฺถยึ;

นิปจฺจ สิรสา ธีรํ, สสงฺฆํ โลกนายกํ.

‘‘ตทา อทนฺตทมโก, ติโลกสรโณ ปภู;

พฺยากาสิ นรสารถิ, ลจฺฉเส ตํ สุปตฺถิตํ.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาทา, โอรสา ธมฺมนิมฺมิตา;

นนฺทาติ นาม นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวิกา.

‘‘ตํ สุตฺวา มุทิตา หุตฺวา, ยาวชีวํ ตทา ชินํ;

เมตฺตจิตฺตา ปริจรึ, ปจฺจเยหิ วินายกํ.

‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.

‘‘ตโต จุตา ยามมคํ, ตโตหํ ตุสิตํ คตา;

ตโต จ นิมฺมานรตึ, วสวตฺติปุรํ ตโต.

‘‘ยตฺถ ยตฺถูปปชฺชามิ, ตสฺส กมฺมสฺส วาหสา;

ตตฺถ ตตฺเถว ราชูนํ, มเหสิตฺตมการยึ.

‘‘ตโต จุตา มนุสฺสตฺเต, ราชานํ จกฺกวตฺตินํ;

มณฺฑลีนฺจ ราชูนํ, มเหสิตฺตมการยึ.

‘‘สมฺปตฺตึ อนุโภตฺวาน, เทเวสุ มนุเชสุ จ;

สพฺพตฺถ สุขิตา หุตฺวา, เนกกปฺเปสุ สํสรึ.

‘‘ปจฺฉิเม ภเว สมฺปตฺเต, สุรมฺเม กปิลวฺหเย;

รฺโ สุทฺโธทนสฺสาหํ, ธีตา อาสึ อนินฺทิตา.

‘‘สิริยา รูปินึ ทิสฺวา, นนฺทิตํ อาสิ ตํ กุลํ;

เตน นนฺทาติ เม นามํ, สุนฺทรํ ปวรํ อหุ.

‘‘ยุวตีนฺจ สพฺพาสํ, กลฺยาณีติ จ วิสฺสุตา;

ตสฺมิมฺปิ นคเร รมฺเม, เปตฺวา ตํ ยโสธรํ.

‘‘เชฏฺโ ภาตา ติโลกคฺโค, ปจฺฉิโม อรหา ตถา;

เอกากินี คหฏฺาหํ, มาตรา ปริโจทิตา.

‘‘สากิยมฺหิ กุเล ชาตา, ปุตฺเต พุทฺธานุชา ตุวํ;

นนฺเทนปิ วินา ภูตา, อคาเร กินฺนุ อจฺฉสิ.

‘‘ชราวสานํ โยพฺพฺํ, รูปํ อสุจิสมฺมตํ;

โรคนฺตมปิจาโรคฺยํ, ชีวิตํ มรณนฺติกํ.

‘‘อิทมฺปิ เต สุภํ รูปํ, สสีกนฺตํ มโนหรํ;

ภูสนานํ อลงฺการํ, สิริสงฺฆาฏสํนิภํ.

‘‘ปุฺชิตํ โลกสารํว, นยนานํ รสายนํ;

ปุฺานํ กิตฺติชนนํ, อุกฺกากกุลนนฺทนํ.

‘‘น จิเรเนว กาเลน, ชรา สมธิเสสฺสติ;

วิหาย เคหํ การุฺเ, จร ธมฺมมนินฺทิเต.

‘‘สุตฺวาหํ มาตุ วจนํ, ปพฺพชึ อนคาริยํ;

เทเหน นตุ จิตฺเตน, รูปโยพฺพนลาฬิตา.

‘‘มหตา จ ปยตฺเตน, ฌานชฺเฌน ปรํ มม;

กาตุฺจ วทเต มาตา, น จาหํ ตตฺถ อุสฺสุกา.

‘‘ตโต มหาการุณิโก, ทิสฺวา มํ กามลาลสํ;

นิพฺพนฺทนตฺถํ รูปสฺมึ, มม จกฺขุปเถ ชิโน.

‘‘สเกน อานุภาเวน, อิตฺถึ มาเปสิ โสภินึ;

ทสฺสนียํ สุรุจิรํ, มมโตปิ สุรูปินึ.

‘‘ตมหํ วิมฺหิตา ทิสฺวา, อติวิมฺหิตเทหินึ;

จินฺตยึ สผลํ เมติ, เนตฺตลาภฺจ มานุสํ.

‘‘ตมหํ เอหิ สุภเค, เยนตฺโถ ตํ วเทหิ เม;

กุลํ เต นามโคตฺตฺจ, วท เม ยทิ เต ปิยํ.

‘‘น วฺจกาโล สุภเค, อุจฺฉงฺเค มํ นิวาสย;

สีทนฺตีว มมงฺคานิ, ปสุปฺปยมุหุตฺตกํ.

‘‘ตโต สีสํ มมงฺเค สา, กตฺวา สยิ สุโลจนา;

ตสฺสา นลาเฏ ปติตา, ลุทฺธา ปรมทารุณา.

‘‘สห ตสฺสา นิปาเตน, ปิฬกา อุปปชฺชถ;

ปคฺฆรึสุ ปภินฺนา จ, กุณปา ปุพฺพโลหิตา.

‘‘ปภินฺนํ วทนฺจาปิ, กุณปํ ปูติคนฺธนํ;

อุทฺธุมาตํ วินิลฺจ, ปุพฺพฺจาปิ สรีรกํ.

‘‘สา ปเวทิตสพฺพงฺคี, นิสฺสสนฺตี มุหุํ มุหุํ;

เวทยนฺตี สกํ ทุกฺขํ, กรุณํ ปริเทวยิ.

‘‘ทุกฺเขน ทุกฺขิตา โหมิ, ผุสยนฺติ จ เวทนา;

มหาทุกฺเข นิมุคฺคมฺหิ, สรณํ โหหิ เม สขี.

‘‘กุหึ วทนโสตํ เต, กุหึ เต ตุงฺคนาสิกา;

ตมฺพพิมฺพวโรฏฺนฺเต, วทนํ เต กุหึ คตํ.

‘‘กุหึ สสีนิภํ วณฺณํ, กมฺพุคีวา กุหึ คตา;

โทฬา โลลาว เต กณฺณา, เววณฺณํ สมุปาคตา.

‘‘มกุฬขารกาการา, กลิกาว ปโยธรา;

ปภินฺนา ปูติกุณปา, ทุฏฺคนฺธิตฺตมาคตา.

‘‘เวทิมชฺฌาว สุสฺโสณี, สูนาว นีตกิพฺพิสา;

ชาตา อมชฺฌภริตา, อโห รูปมสสฺสตํ.

‘‘สพฺพํ สรีรสฺชาตํ, ปูติคนฺธํ ภยานกํ;

สุสานมิว พีภจฺฉํ, รมนฺเต ยตฺถ พาลิสา.

‘‘ตทา มหาการุณิโก, ภาตา เม โลกนายโก;

ทิสฺวา สํวิคฺคจิตฺตํ มํ, อิมา คาถา อภาสถ.

‘‘อาตุรํ กุณปํ ปูตึ, ปสฺส นนฺเท สมุสฺสยํ;

อสุภาย จิตฺตํ ภาเวหิ, เอกคฺคํ สุสมาหิตํ.

‘‘ยถา อิทํ ตถา เอตํ, ยถา เอตํ ตถา อิทํ;

ทุคฺคนฺธํ ปูติกํ วาติ, พาลานํ อภินนฺทิตํ.

‘‘เอวเมตํ อเวกฺขนฺตี, รตฺตินฺทิวมตนฺทิตา;

ตโต สกาย ปฺาย, อภินิพฺพิชฺฌ ทกฺขิสํ.

‘‘ตโตหํ อติสํวิคฺคา, สุตฺวา คาถา สุภาสิตา;

ตตฺรฏฺิตาวหํ สนฺตี, อรหตฺตมปาปุณึ.

‘‘ยตฺถ ยตฺถ นิสินฺนาหํ, สทา ฌานปรายณา;

ชิโน ตสฺมึ คุเณ ตุฏฺโ, เอตทคฺเค เปสิ มํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน ‘‘อาตุรํ อสุจิ’’นฺติอาทินา สตฺถารา เทสิตาหิ ตีหิ คาถาหิ สทฺธึ –

๘๕.

‘‘ตสฺสา เม อปฺปมตฺตาย, วิจินนฺติยา โยนิโส;

ยถาภูตํ อยํ กาโย, ทิฏฺโ สนฺตรพาหิโร.

๘๖.

‘‘อถ นิพฺพินฺทหํ กาเย, อชฺฌตฺตฺจ วิรชฺชหํ;

อปฺปมตฺตา วิสํยุตฺตา, อุปสนฺตามฺหิ นิพฺพุตา’’ติ. –

อิมา ทฺเว คาถา อภาสิ.

ตตฺถ เอวเมตํ อเวกฺขนฺตี…เป… ทกฺขิสนฺติ เอตํ อาตุราทิสภาวํ กายํ เอวํ ‘‘ยถา อิทํ ตถา เอต’’นฺติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรน รตฺตินฺทิวํ สพฺพกาลํ อตนฺทิตา หุตฺวา ปรโต โฆสเหตุกํ สุตมยาณํ มุฺจิตฺวา, ตโต ตํนิมิตฺตํ อตฺตนิ สมฺภูตตฺตา สกายภาวนามยาย ปฺาย ยาถาวโต ฆนวินิพฺโภคกรเณน อภินิพฺพิชฺฌ, กถํ นุ โข ทกฺขิสํ ปสฺสิสฺสนฺติ อาโภคปุเรจาริเกน ปุพฺพภาคาณจกฺขุนา อเวกฺขนฺตี วิจินนฺตีติ อตฺโถ.

เตนาห ‘‘ตสฺสา เม อปฺปมตฺตายา’’ติอาทิ. ตสฺสตฺโถ – ตสฺสา เม สติอวิปฺปวาเสน อปฺปมตฺตาย โยนิโส อุปาเยน อนิจฺจาทิวเสน วิปสฺสนาปฺาย วิจินนฺติยา วีมํสนฺติยา, อยํ ขนฺธปฺจกสงฺขาโต กาโย สสนฺตานปรสนฺตานวิภาคโต สนฺตรพาหิโร ยถาภูตํ ทิฏฺโ.

อถ ตถา ทสฺสนโต ปจฺฉา นิพฺพินฺทหํ กาเย วิปสฺสนาปฺาสหิตาย มคฺคปฺาย อตฺตภาเว นิพฺพินฺทึ, วิเสสโตว อชฺฌตฺตสนฺตาเน วิรชฺชิ วิราคํ อาปชฺชึ, อหํ ยถาภูตาย อปฺปมาทปฏิปตฺติยา มตฺถกปฺปตฺติยา อปฺปมตฺตา สพฺพโส สํโยชนานํ สมุจฺฉินฺนตฺตา วิสํยุตฺตา อุปสนฺตา จ นิพฺพุตา จ อมฺหีติ.

สุนฺทรีนนฺทาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. นนฺทุตฺตราเถรีคาถาวณฺณนา

อคฺคึจนฺทฺจาติอาทิกา นนฺทุตฺตราย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กุรุรฏฺเ กมฺมาสธมฺมนิคเม พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา , เอกจฺจานิ วิชฺชาฏฺานานิ สิปฺปายตนานิ จ อุคฺคเหตฺวา นิคณฺปพฺพชฺชํ อุปคนฺตฺวา, วาทปฺปสุตา ชมฺพุสาขํ คเหตฺวา ภทฺทากุณฺฑลเกสา วิย ชมฺพุทีปตเล วิจรนฺตี มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ปราชยํ ปตฺตา เถรสฺส โอวาเท ตฺวา สาสเน ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺตี น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –

๘๗.

‘‘อคฺคึ จนฺทฺจ สูริยฺจ, เทวตา จ นมสฺสิหํ;

นทีติตฺถานิ คนฺตฺวาน, อุทกํ โอรุหามิหํ.

๘๘.

‘‘พหูวตสมาทานา, อฑฺฒํ สีสสฺส โอลิขึ;

ฉมาย เสยฺยํ กปฺเปมิ, รตฺตึ ภตฺตํ น ภุฺชหํ.

๘๙.

‘‘วิภูสามณฺฑนรตา, นฺหาปนุจฺฉาทเนหิ จ;

อุปกาสึ อิมํ กายํ, กามราเคน อฏฺฏิตา.

๙๐.

‘‘ตโต สทฺธํ ลภิตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ;

ทิสฺวา กายํ ยถาภูตํ, กามราโค สมูหโต.

๙๑.

‘‘สพฺเพ ภวา สมุจฺฉินฺนา, อิจฺฉา จ ปตฺถนาปิ จ;

สพฺพโยควิสํยุตฺตา, สนฺตึ ปาปุณิ เจตโส’’ติ. –

อิมา ปฺจ คาถา อภาสิ.

ตตฺถ อคฺคึ จนฺทฺจ สูริยฺจ, เทวตา จ นมสฺสิหนฺติ อคฺคิปฺปมุขา เทวาติ อินฺทานํ เทวานํ อาราธนตฺถํ อาหุตึ ปคฺคเหตฺวา อคฺคิฺจ, มาเส มาเส สุกฺกปกฺขสฺส ทุติยาย จนฺทฺจ, ทิวเส ทิวเส สายํ ปาตํ สูริยฺจ, อฺา จ พาหิรา หิรฺคพฺภาทโย เทวตา จ, วิสุทฺธิมคฺคํ คเวสนฺตี นมสฺสิหํ นมกฺการํ อหํ อกาสึ. นทีติตฺถานิคนฺตฺวาน, อุทกํ โอรุหามิหนฺติ คงฺคาทีนํ นทีนํ ปูชาติตฺถานิ อุปคนฺตฺวา สายํ ปาตํ อุทกํ โอตรามิ อุทเก นิมุชฺชิตฺวา องฺคสิฺจนํ กโรมิ.

พหูวตสมาทานาติ ปฺจาตปตปฺปนาทิ พหุวิธวตสมาทานา. คาถาสุขตฺถํ พหูติ ทีฆกรณํ. อฑฺฒํ สีสสฺส โอลิขินฺติ มยฺหํ สีสสฺส อฑฺฒเมว มุณฺเฑมิ. เกจิ ‘‘อฑฺฒํ สีสสฺส โอลิขินฺติ เกสกลาปสฺส อฑฺฒํ ชฏาพนฺธนวเสน พนฺธิตฺวา อฑฺฒํ วิสฺสชฺเชสิ’’นฺติ อตฺถํ วทนฺติ. ฉมาย เสยฺยํ กปฺเปมีติ ถณฺฑิลสายินี หุตฺวา อนนฺตรหิตาย ภูมิยา สยามิ. รตฺตึ ภตฺตํ น ภุฺชหนฺติ รตฺตูปรตา หุตฺวา รตฺติยํ โภชนํ น ภุฺชึ.

วิภูสามณฺฑนรตาติ จิรกาลํ อตฺตกิลมถานุโยเคน กิลนฺตกายา ‘‘เอวํ สรีรสฺส กิลมเนน นตฺถิ ปฺาสุทฺธิ. สเจ ปน อินฺทฺริยานํ โตสนวเสน สรีรสฺส ตปฺปเนน สุทฺธิ สิยา’’ติ มนฺตฺวา อิมํ กายํ อนุคฺคณฺหนฺตี วิภูสายํ มณฺฑเน จ รตา วตฺถาลงฺกาเรหิ อลงฺกรเณ คนฺธมาลาทีหิ มณฺฑเน จ อภิรตา. นฺหาปนุจฺฉาทเนหิ จาติ สมฺพาหนาทีนิ กาเรตฺวา นฺหาปเนน อุจฺฉาทเนน จ. อุปกาสึ อิมํ กายนฺติ อิมํ มม กายํ อนุคฺคณฺหึ สนฺตปฺเปสึ. กามราเคน อฏฺฏิตาติ เอวํ กายทฬฺหีพหุลา หุตฺวา อโยนิโสมนสิการปจฺจยา ปริยุฏฺิเตน กามราเคน อฏฺฏิตา อภิณฺหํ อุปทฺทุตา อโหสึ.

ตโต สทฺธํ ลภิตฺวานาติ เอวํ สมาทินฺนวตานิ ภินฺทิตฺวา กายทฬฺหีพหุลา วาทปฺปสุตา หุตฺวา ตตฺถ ตตฺถ วิจรนฺตี ตโต ปจฺฉา อปรภาเค มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส สนฺติเก ลทฺโธวาทานุสาสนา สทฺธํ ปฏิลภิตฺวา. ทิสฺวา กายํ ยถาภูตนฺติ สห วิปสฺสนาย มคฺคปฺาย อิมํ มม กายํ ยถาภูตํ ทิสฺวา อนาคามิมคฺเคน สพฺพโส กามราโค สมูหโต. ตโต ปรํ อคฺคมคฺเคน สพฺเพ ภวา สมุจฺฉินฺนา, อิจฺฉา จ ปตฺถนาปิ จาติ ปจฺจุปฺปนฺนวิสยาภิลาสสงฺขาตา อิจฺฉา จ อายติภวาภิลาสสงฺขาตา ปตฺถนาปิ สพฺเพ ภวาปิ สมุจฺฉินฺนาติ โยชนา . สนฺตึ ปาปุณิ เจตโสติ อจฺจนฺตํ สนฺตึ อรหตฺตผลํ ปาปุณึ อธิคจฺฉินฺติ อตฺโถ.

นนฺทุตฺตราเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. มิตฺตากาฬีเถรีคาถาวณฺณนา

สทฺธายปพฺพชิตฺวานาติอาทิกา มิตฺตากาฬิยา เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กุรุรฏฺเ กมฺมาสธมฺมนิคเม พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺตา มหาสติปฏฺานเทสนาย ปฏิลทฺธสทฺธา ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตฺวา สตฺต สํวจฺฉรานิ ลาภสกฺการคิทฺธิกา หุตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺตี ตตฺถ ตตฺถ วิจริตฺวา อปรภาเค โยนิโส อุมฺมุชฺชนฺตี สํเวคชาตา หุตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –

๙๒.

‘‘สทฺธาย ปพฺพชิตฺวาน, อคารสฺมานคาริยํ;

วิจรึหํ เตน เตน, ลาภสกฺการอุสฺสุกา.

๙๓.

‘‘ริฺจิตฺวา ปรมํ อตฺถํ, หีนมตฺถํ อเสวิหํ;

กิเลสานํ วสํ คนฺตฺวา, สามฺตฺถํ น พุชฺฌิหํ.

๙๔.

‘‘ตสฺสา เม อหุ สํเวโค, นิสินฺนาย วิหารเก;

อุมฺมคฺคปฏิปนฺนามฺหิ, ตณฺหาย วสมาคตา.

๙๕.

‘‘อปฺปกํ ชีวิตํ มยฺหํ, ชรา พฺยาธิ จ มทฺทติ;

ปุรายํ ภิชฺชติ กาโย, น เม กาโล ปมชฺชิตุํ.

๙๖.

‘‘ยถาภูตมเวกฺขนฺตี, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;

วิมุตฺตจิตฺตา อุฏฺาสึ, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ วิจรึหํ เตน เตน, ลาภสกฺการอุสฺสุกาติ ลาเภ จ สกฺกาเร จ อุสฺสุกา ยุตฺตปฺปยุตฺตา หุตฺวา เตน เตน พาหุสจฺจธมฺมกถาทินา ลาภุปฺปาทเหตุนา วิจรึ อหํ.

ริฺจิตฺวา ปรมํ อตฺถนฺติ ฌานวิปสฺสนามคฺคผลาทึ อุตฺตมํ อตฺถํ ชหิตฺวา ฉฑฺเฑตฺวา. หีนมตฺถํ อเสวิหนฺติ จตุปจฺจยสงฺขาตอามิสภาวโต หีนํ ลามกํ อตฺถํ อโยนิโส ปริเยสนาย ปฏิเสวึ อหํ. กิเลสานํ วสํ คนฺตฺวาติ มานมทตณฺหาทีนํ กิเลสานํ วสํ อุปคนฺตฺวา สามฺตฺถํ สมณกิจฺจํ น พุชฺฌึ น ชานึ อหํ.

นิสินฺนายวิหารเกติ มม วสนกโอวรเก นิสินฺนาย อหุ สํเวโค. กถนฺติ เจ, อาห ‘‘อุมฺมคฺคปฏิปนฺนามฺหี’’ติ. ตตฺถ อุมฺมคฺคปฏิปนฺนามฺหีติ ยาวเทว อนุปาทาย ปรินิพฺพานตฺถมิทํ สาสนํ, ตตฺถ สาสเน ปพฺพชิตฺวา กมฺมฏฺานํ อมนสิกโรนฺตี ตสฺส อุมฺมคฺคปฏิปนฺนา อมฺหีติ. ตณฺหาย วสมาคตาติ ปจฺจยุปฺปาทนตณฺหาย วสํ อุปคตา.

อปฺปกํ ชีวิตํ มยฺหนฺติ ปริจฺฉินฺนกาลา วชฺชิตโต พหูปทฺทวโต จ มม ชีวิตํ อปฺปกํ ปริตฺตํ ลหุกํ. ชรา พฺยาธิ จ มทฺทตีติ ตฺจ สมนฺตโต อาปติตฺวา นิปฺโปเถนฺตา ปพฺพตา วิย ชรา พฺยาธิ จ มทฺทติ นิมฺมถติ. ‘‘มทฺทเร’’ติปิ ปาโ. ปุรายํ ภิชฺชติ กาโยติ อยํ กาโย ภิชฺชติ ปุรา. ยสฺมา ตสฺส เอกํสิโก เภโท, ตสฺมา น เม กาโล ปมชฺชิตุํ อยํ กาโล อฏฺกฺขณวชฺชิโต นวโม ขโณ, โส ปมชฺชิตุํ น ยุตฺโตติ ตสฺสาหุํ สํเวโคติ โยชนา.

ยถาภูตมเวกฺขนฺตีติ เอวํ ชาตสํเวคา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อนิจฺจาทิมนสิกาเรน ยถาภูตมเวกฺขนฺตี. กึ อเวกฺขนฺตีติ อาห ‘‘ขนฺธานํ อุทยพฺพย’’นฺติ. ‘‘อวิชฺชาสมุทยา รูปสมุทโย’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๕๐) สมปฺาสปฺปเภทานํ ปฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อุปฺปาทนิโรธฺจ อุทยพฺพยานุปสฺสนาย อเวกฺขนฺตี วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคปฏิปาฏิยา สพฺพโส กิเลเสหิ จ ภเวหิ จ วิมุตฺตจิตฺตา อุฏฺาสึ, อุภโต อุฏฺาเนน มคฺเคน ภวตฺตยโต จาติ วุฏฺิตา อโหสึ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

มิตฺตากาฬีเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สกุลาเถรีคาถาวณฺณนา

อคารสฺมึวสนฺตีติอาทิกา สกุลาย เถริยา คาถา. อยํ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร อานนฺทสฺส รฺโ ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺตา, สตฺถุ เวมาติกภคินี นนฺทาติ นาเมน. สา วิฺุตํ ปตฺวา เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตี สตฺถารา เอกํ ภิกฺขุนึ ทิพฺพจกฺขุกานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา อุสฺสาหชาตา อธิการกมฺมํ กตฺวา สยมฺปิ ตํ านนฺตรํ ปตฺเถนฺตี ปณิธานมกาสิ. สา ตตฺถ ยาวชีวํ พหุํ อุฬารํ กุสลกมฺมํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา อปราปรํ สุคตีสุเยว สํสรนฺตี กสฺสปสฺส ภควโต กาเล พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา ปริพฺพาชกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา เอกจารินี วิจรนฺตี เอกทิวสํ เตลภิกฺขาย อาหิณฺฑิตฺวา เตลํ ลภิตฺวา เตน เตเลน สตฺถุ เจติเย สพฺพรตฺตึ ทีปปูชํ อกาสิ. สา ตโต จุตา ตาวตึเส นิพฺพตฺติตฺวา สุวิสุทฺธทิพฺพจกฺขุกา หุตฺวา เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทเวสุเยว สํสริตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติ. สกุลาติสฺสา นามํ อโหสิ. สา วิฺุตํ ปตฺตา สตฺถุ เชตวนปฏิคฺคหเณ ปฏิลทฺธสทฺธา อุปาสิกา หุตฺวา อปรภาเค อฺตรสฺส ขีณาสวตฺเถรสฺส สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา สฺชาตสํเวคา ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ฆเฏนฺตี วายมนฺตี น จิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๓.๑๓๑-๑๖๕) –

‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺมาน ปารคู;

อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโก.

‘‘หิตาย สพฺพสตฺตานํ, สุขาย วทตํ วโร;

อตฺถาย ปุริสาชฺโ, ปฏิปนฺโน สเทวเก.

‘‘ยสคฺคปตฺโต สิริมา, กิตฺติวณฺณคโต ชิโน;

ปูชิโต สพฺพโลกสฺส, ทิสา สพฺพาสุ วิสฺสุโต.

‘‘อุตฺติณฺณวิจิกิจฺโฉ โส, วีติวตฺตกถํกโถ;

สมฺปุณฺณมนสงฺกปฺโป, ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตมํ.

‘‘อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส, อุปฺปาเทตา นรุตฺตโม;

อนกฺขาตฺจ อกฺขาสิ, อสฺชาตฺจ สฺชนี.

‘‘มคฺคฺู จ มคฺควิทู, มคฺคกฺขายี นราสโภ;

มคฺคสฺส กุสโล สตฺถา, สารถีนํ วรุตฺตโม.

‘‘มหาการุณิโก สตฺถา, ธมฺมํ เทเสติ นายโก;

นิมุคฺเค กามปงฺกมฺหิ, สมุทฺธรติ ปาณิเน.

‘‘ตทาหํ หํสวติยํ, ชาตา ขตฺติยนนฺทนา;

สุรูปา สธนา จาปิ, ทยิตา จ สิรีมตี.

‘‘อานนฺทสฺส มหารฺโ, ธีตา ปรมโสภนา;

เวมาตา ภคินี จาปิ, ปทุมุตฺตรนามิโน.

‘‘ราชกฺาหิ สหิตา, สพฺพาภรณภูสิตา;

อุปาคมฺม มหาวีรํ, อสฺโสสึ ธมฺมเทสนํ.

‘‘ตทา หิ โส โลกครุ, ภิกฺขุนึ ทิพฺพจกฺขุกํ;

กิตฺตยํ ปริสามชฺเฌ, อคฺคฏฺาเน เปสิ ตํ.

‘‘สุณิตฺวา ตมหํ หฏฺา, ทานํ ทตฺวาน สตฺถุโน;

ปูชิตฺวาน จ สมฺพุทฺธํ, ทิพฺพจกฺขุํ อปตฺถยึ.

‘‘ตโต อโวจ มํ สตฺถา, นนฺเท ลจฺฉสิ ปตฺถิตํ;

ปทีปธมฺมทานานํ, ผลเมตํ สุนิจฺฉิตํ.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาทา, โอรสา ธมฺมนิมฺมิตา;

สกุลา นาม นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวิกา.

‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.

‘‘อิมมฺหิ ภทฺทเก กปฺเป, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;

กสฺสโป นาม โคตฺเตน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโร.

‘‘ปริพฺพาชกินี อาสึ, ตทาหํ เอกจารินี;

ภิกฺขาย วิจริตฺวาน, อลภึ เตลมตฺตกํ.

‘‘เตน ทีปํ ปทีเปตฺวา, อุปฏฺึ สพฺพสํวรึ;

เจติยํ ทฺวิปทคฺคสฺส, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.

‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.

‘‘ยตฺถ ยตฺถูปปชฺชามิ, ตสฺส กมฺมสฺส วาหสา;

ปชฺชลนฺติ มหาทีปา, ตตฺถ ตตฺถ คตาย เม.

‘‘ติโรกุฏฺฏํ ติโรเสลํ, สมติคฺคยฺห ปพฺพตํ;

ปสฺสามหํ ยทิจฺฉามิ, ทีปทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘วิสุทฺธนยนา โหมิ, ยสสา จ ชลามหํ;

สทฺธาปฺาวตี เจว, ทีปทานสฺสิทํ ผลํ.

‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, ชาตา วิปฺปกุเล อหํ;

ปหูตธนธฺมฺหิ, มุทิเต ราชปูชิเต.

‘‘อหํ สพฺพงฺคสมฺปนฺนา, สพฺพาภรณภูสิตา;

ปุรปฺปเวเส สุคตํ, วาตปาเน ิตา อหํ.

‘‘ทิสฺวา ชลนฺตํ ยสสา, เทวมนุสฺสสกฺกตํ;

อนุพฺยฺชนสมฺปนฺนํ, ลกฺขเณหิ วิภูสิตํ.

‘‘อุทคฺคจิตฺตา สุมนา, ปพฺพชฺชํ สมโรจยึ;

น จิเรเนว กาเลน, อรหตฺตมปาปุณึ.

‘‘อิทฺธีสุ จ วสี โหมิ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;

ปรจิตฺตานิ ชานามิ, สตฺถุสาสนการิกา.

‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;

เขเปตฺวา อาสเว สพฺเพ, วิสุทฺธาสึ สุนิมฺมลา.

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;

โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติสมูหตา.

‘‘ยสฺสตฺถาย ปพฺพชิตา, อคารสฺมานคาริยํ;

โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, สพฺพสํโยชนกฺขโย.

‘‘ตโต มหาการุณิโก, เอตทคฺเค เปสิ มํ;

ทิพฺพจกฺขุกานํ อคฺคา, สกุลาติ นรุตฺตโม.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา กตาธิการตาย ทิพฺพจกฺขุาเณ จิณฺณวสี อโหสิ. เตน นํ สตฺถา ทิพฺพจกฺขุกานํ ภิกฺขุนีนํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. สา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปีติโสมนสฺสชาตา อุทานวเสน –

๙๗.

‘‘อคารสฺมึ วสนฺตีหํ, ธมฺมํ สุตฺวาน ภิกฺขุโน;

อทฺทสํ วิรชํ ธมฺมํ, นิพฺพานํ ปทมจฺจุตํ.

๙๘.

‘‘สาหํ ปุตฺตํ ธีตรฺจ, ธนธฺฺจ ฉฑฺฑิย;

เกเส เฉทาปยิตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ.

๙๙.

‘‘สิกฺขมานา อหํ สนฺตี, ภาเวนฺตี มคฺคมฺชสํ;

ปหาสึ ราคโทสฺจ, ตเทกฏฺเ จ อาสเว.

๑๐๐.

‘‘ภิกฺขุนี อุปสมฺปชฺช, ปุพฺพชาติมนุสฺสรึ;

ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ, วิมลํ สาธุภาวิตํ.

๑๐๑.

‘‘สงฺขาเร ปรโต ทิสฺวา, เหตุชาเต ปโลกิเต;

ปหาสึ อาสเว สพฺเพ, สีติภูตามฺหิ นิพฺพุตา’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ อคารสฺมึ วสนฺตีหํ, ธมฺมํ สุตฺวาน ภิกฺขุโนติ อหํ ปุพฺเพ อคารมชฺเฌ วสมานา อฺตรสฺส ภินฺนกิเลสสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก จตุสจฺจคพฺภํ ธมฺมกถํ สุตฺวา. อทฺทสํ วิรชํ ธมฺมํ, นิพฺพานํ ปทมจฺจุตนฺติ ราครชาทีนํ อภาเวน วิรชํ, วานโต นิกฺขนฺตตฺตา นิพฺพานํ, จวนาภาวโต อธิคตานํ อจฺจุติเหตุตาย จ นิพฺพานํ อจฺจุตํ, ปทนฺติ จ ลทฺธนามํ อสงฺขตธมฺมํ, สหสฺสนยปฏิมณฺฑิเตน ทสฺสนสงฺขาเตน ธมฺมจกฺขุนา อทฺทสํ ปสฺสึ.

สาหนฺติ สา อหํ วุตฺตปฺปกาเรน โสตาปนฺนา โหมิ.

สิกฺขมานา อหํ สนฺตีติ อหํ สิกฺขมานาว สมานา ปพฺพชิตฺวา วสฺเส อปริปุณฺเณ เอว. ภาเวนฺตี มคฺคมฺชสนฺติ มชฺฌิมปฏิปตฺติภาวโต อฺชสํ อุปริมคฺคํ อุปฺปาเทนฺตี. ตเทกฏฺเ จ อาสเวติ ราคโทเสหิ สหเชกฏฺเ ปหาเนกฏฺเ จ ตติยมคฺควชฺเฌ อาสเว ปหาสึ สมุจฺฉินฺทึ.

ภิกฺขุนีอุปสมฺปชฺชาติ วสฺเส ปริปุณฺเณ อุปสมฺปชฺชิตฺวา ภิกฺขุนี หุตฺวา. วิมลนฺติ อวิชฺชาทีหิ อุปกฺกิเลเสหิ วิมุตฺตตาย วิคตมลํ, สาธุ สกฺกจฺจ สมฺมเทว ภาวิตํ, สาธูหิ วา พุทฺธาทีหิ ภาวิตํ อุปฺปาทิตํ ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตนฺติ สมฺพนฺโธ.

สงฺขาเรติ เตภูมกสงฺขาเร. ปรโตติ อนตฺตโต. เหตุชาเตติ ปจฺจยุปฺปนฺเน. ปโลกิเตติ ปลุชฺชนสภาเว ปภงฺคุเน ปฺาจกฺขุนา ทิสฺวา. ปหาสึ อาสเว สพฺเพติ อคฺคมคฺเคน อวสิฏฺเ สพฺเพปิ อาสเว ปชหึ, เขเปสินฺติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

สกุลาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. โสณาเถรีคาถาวณฺณนา

ทส ปุตฺเต วิชายิตฺวาติอาทิกา โสณาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตี สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุนึ อารทฺธวีริยานํ ภิกฺขุนีนํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา, อธิการกมฺมํ กตฺวา สยมฺปิ ตํ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา ยาวชีวํ ปุฺานิ กตฺวา, ตโต จุตา กปฺปสตสหสฺสํ เทวมนุสฺเสสุ สํสริตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺตา ปติกุลํ คตา ทส ปุตฺตธีตโร ลภิตฺวา พหุปุตฺติกาติ ปฺายิตฺถ. สา สามิเก ปพฺพชิเต วยปฺปตฺเต ปุตฺตธีตโร ฆราวาเส ปติฏฺาเปตฺวา สพฺพํ ธนํ ปุตฺตานํ วิภชิตฺวา อทาสิ, น กิฺจิ อตฺตโน เปสิ. ตํ ปุตฺตา จ ธีตโร จ กติปาหเมว อุปฏฺหิตฺวา ปริภวํ อกํสุ. สา ‘‘กึ มยฺหํ อิเมหิ ปริภวาย ฆเร วสนฺติยา’’ติ ภิกฺขุนิโย อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิ. ตํ ภิกฺขุนิโย ปพฺพาเชสุํ. สา ลทฺธูปสมฺปทา ‘‘อหํ มหลฺลิกากาเล ปพฺพชิตฺวา อปฺปมตฺตาย ภวิตพฺพ’’นฺติ ภิกฺขุนีนํ วตฺตปฏิวตฺตํ กโรนฺตี ‘‘สพฺพรตฺตึ สมณธมฺมํ กริสฺสามี’’ติ เหฏฺาปาสาเท เอกถมฺภํ หตฺเถน คเหตฺวา ตํ อวิชหมานา สมณธมฺมํ กโรนฺตี จงฺกมมานาปิ ‘‘อนฺธกาเร าเน รุกฺขาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ เม สีสํ ปฏิหฺเยฺยา’’ติ รุกฺขํ หตฺเถน คเหตฺวา ตํ อวิชหมานาว สมณธมฺมํ กโรติ. ตโต ปฏฺาย สา อารทฺธวีริยตาย ปากฏา อโหสิ. สตฺถา ตสฺสา าณปริปากํ ทิสฺวา คนฺธกุฏิยํ นิสินฺโนว โอภาสํ ผริตฺวา สมฺมุเข นิสินฺโน วิย อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา –

‘‘โย จ วสฺสสตํ ชีเว, อปสฺสํ ธมฺมมุตฺตมํ;

เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย, ปสฺสโต ธมฺมมุตฺตม’’นฺติ. (ธ. ป. ๑๑๕) –

คาถํ อภาสิ. สา คาถาปริโยสาเน อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๓.๒๒๐-๒๔๓) –

‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺมาน ปารคู;

อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโก.

‘‘ตทา เสฏฺิกุเล ชาตา, สุขิตา ปูชิตา ปิยา;

อุเปตฺวา ตํ มุนิวรํ, อสฺโสสึ มธุรํ วจํ.

‘‘อารทฺธวีริยานคฺคํ, วณฺเณสิ ภิกฺขุนึ ชิโน;

ตํ สุตฺวา มุทิตา หุตฺวา, การํ กตฺวาน สตฺถุโน.

‘‘อภิวาทิย สมฺพุทฺธํ, านํ ตํ ปตฺถยึ ตทา;

อนุโมทิ มหาวีโร, สิชฺฌตํ ปณิธี ตว.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาทา, โอรสา ธมฺมนิมฺมิตา;

โสณาติ นาม นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวิกา.

‘‘ตํ สุตฺวา มุทิตา หุตฺวา, ยาวชีวํ ตทา ชินํ;

เมตฺตจิตฺตา ปริจรึ, ปจฺจเยหิ วินายกํ.

‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.

‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, ชาตา เสฏฺิกุเล อหํ;

สาวตฺถิยํ ปุรวเร, อิทฺเธ ผีเต มหทฺธเน.

‘‘ยทา จ โยพฺพนปฺปตฺตา, คนฺตฺวา ปติกุลํ อหํ;

ทส ปุตฺตานิ อชนึ, สุรูปานิ วิเสสโต.

‘‘สุเขธิตา จ เต สพฺเพ, ชนเนตฺตมโนหรา;

อมิตฺตานมฺปิ รุจิตา, มม ปเคว เต สิยา.

‘‘ตโต มยฺหํ อกามาย, ทสปุตฺตปุรกฺขโต;

ปพฺพชิตฺถ ส เม ภตฺตา, เทวเทวสฺส สาสเน.

‘‘ตเทกิกา วิจินฺเตสึ, ชีวิเตนาลมตฺถุ เม;

จตฺตาย ปติปุตฺเตหิ, วุฑฺฒาย จ วรากิยา.

‘‘อหมฺปิ ตตฺถ คจฺฉิสฺสํ, สมฺปตฺโต ยตฺถ เม ปติ;

เอวาหํ จินฺตยิตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ.

‘‘ตโต จ มํ ภิกฺขุนิโย, เอกํ ภิกฺขุนุปสฺสเย;

วิหาย คจฺฉุโมวาทํ, ตาเปหิ อุทกํ อิติ.

‘‘ตทา อุทกมาหิตฺวา, โอกิริตฺวาน กุมฺภิยา;

จุลฺเล เปตฺวา อาสีนา, ตโต จิตฺตํ สมาทหึ.

‘‘ขนฺเธ อนิจฺจโต ทิสฺวา, ทุกฺขโต จ อนตฺตโต;

เขเปตฺวา อาสเว สพฺเพ, อรหตฺตมปาปุณึ.

‘‘ตทาคนฺตฺวา ภิกฺขุนิโย, อุณฺโหทกมปุจฺฉิสุํ;

เตโชธาตุมธิฏฺาย, ขิปฺปํ สนฺตาปยึ ชลํ.

‘‘วิมฺหิตา ตา ชินวรํ, เอตมตฺถมสาวยุํ;

ตํ สุตฺวา มุทิโต นาโถ, อิมํ คาถํ อภาสถ.

‘‘โย จ วสฺสสตํ ชีเว, กุสีโต หีนวีริโย;

เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย, วีริยมารภโต ทฬฺหํ.

‘‘อาราธิโต มหาวีโร, มยา สุปฺปฏิปตฺติยา;

อารทฺธวีริยานคฺคํ, มมาห ส มหามุนิ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อถ นํ ภควา ภิกฺขุนิโย ปฏิปาฏิยา านนฺตเร เปนฺโต อารทฺธวีริยานํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. สา เอกทิวสํ อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –

๑๐๒.

‘‘ทส ปุตฺเต วิชายิตฺวา, อสฺมึ รูปสมุสฺสเย;

ตโตหํ ทุพฺพลา ชิณฺณา, ภิกฺขุนึ อุปสงฺกมึ.

๑๐๓.

‘‘สา เม ธมฺมมเทเสสิ, ขนฺธายตนธาตุโย;

ตสฺสา ธมฺมํ สุณิตฺวาน, เกเส เฉตฺวาน ปพฺพชึ.

๑๐๔.

‘‘ตสฺสา เม สิกฺขมานาย, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;

ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ยตฺถ เม วุสิตํ ปุเร.

๑๐๕.

‘‘อนิมิตฺตฺจ ภาเวมิ, เอกคฺคา สุสมาหิตา;

อนนฺตราวิโมกฺขาสึ, อนุปาทาย นิพฺพุตา.

๑๐๖.

‘‘ปฺจกฺขนฺธา ปริฺาตา, ติฏฺนฺติ ฉินฺนมูลกา;

ธิ ตวตฺถุ ชเร ชมฺเม, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ รูปสมุสฺสเยติ รูปสงฺขาเต สมุสฺสเย. อยฺหิ รูปสทฺโท ‘‘จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณ’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๖๐) รูปายตเน อาคโต. ‘‘ยํกิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๑๘๑) รูปกฺขนฺเธ. ‘‘ปิยรูเป สาตรูเป รชฺชตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๔๐๙) สภาเว. ‘‘พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๓๘; อ. นิ. ๑.๔๒๗-๔๓๔) กสิณายตเน. ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๓๙; อ. นิ. ๑.๔๓๕-๔๔๒) รูปฌาเน. ‘‘อฏฺิฺจ ปฏิจฺจ นฺหารุฺจ ปฏิจฺจ มํสฺจ ปฏิจฺจ จมฺมฺจ ปฏิจฺจ อากาโส ปริวาริโต รูปนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๐๖) รูปกาเย. อิธาปิ รูปกาเยว ทฏฺพฺโพ. สมุสฺสยสทฺโทปิ อฏฺีนํ สรีรสฺส ปริยาโย. ‘‘สตนฺติ สมุสฺสยา’’ติอาทีสุ อฏฺิสรีรปริยาเย. ‘‘อาตุรํ อสุจึ ปูตึ, ปสฺส นนฺเท สมุสฺสย’’นฺติอาทีสุ (เถรคา. ๑๙) สรีเร. อิธาปิ สรีเร เอว ทฏฺพฺโพ. เตน วุตฺตํ – ‘‘รูปสมุสฺสเย’’ติ, รูปสงฺขาเต สมุสฺสเย สรีเรติ อตฺโถ. ตฺวาติ วจนเสโส. อสฺมึ รูปสมุสฺสเยติ หิ อิมสฺมึ รูปสมุสฺสเย ตฺวา อิมํ รูปกายํ นิสฺสาย ทส ปุตฺเต วิชายิตฺวาติ โยชนา. ตโตติ ตสฺมา ทสปุตฺตวิชายนเหตุ. สา หิ ปมวยํ อติกฺกมิตฺวา ปุตฺตเก วิชายนฺตี อนุกฺกเมน ทุพฺพลสรีรา ชราชิณฺณา จ อโหสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตโตหํ ทุพฺพลา ชิณฺณา’’ติ.

ตสฺสาติ ตโต, ตสฺสาติ วา ตสฺสา สนฺติเก. ปุน ตสฺสาติ กรเณ สามิวจนํ, ตายาติ อตฺโถ. สิกฺขมานายาติ ติสฺโสปิ สิกฺขา สิกฺขมานา.

อนนฺตราวิโมกฺขาสินฺติ อคฺคมคฺคสฺส อนนฺตรา อุปฺปนฺนวิโมกฺขา อาสึ. รูปี รูปานิ ปสฺสตีติอาทโย หิ อฏฺปิ วิโมกฺขา อนนฺตรวิโมกฺขา นาม น โหนฺติ. มคฺคานนฺตรํ อนุปฺปตฺตา หิ ผลวิโมกฺขา ผลสมาปตฺติกาเล ปวตฺตมานาปิ ปมมคฺคานนฺตรเมว สมุปฺปตฺติโต ตํ อุปาทาย อนนฺตรวิโมกฺขา นาม, ยถา มคฺคสมาธิ อานนฺตริกสมาธีติ วุจฺจติ. อนุปาทาย นิพฺพุตาติ รูปาทีสุ กิฺจิปิ อคฺคเหตฺวา กิเลสปรินิพฺพาเนน นิพฺพุตา อาสึ.

เอวํ วิชฺชาตฺตยํ วิภาเวตฺวา อรหตฺตผเลน กูฏํ คณฺหนฺตี อุทาเนตฺวา, อิทานิ ชราย จิรกาลํ อุปทฺทุตสรีรํ วิครหนฺตี สห วตฺถุนา ตสฺส สมติกฺกนฺตภาวํ วิภาเวตุํ ‘‘ปฺจกฺขนฺธา ปริฺาตา’’ติ โอสานคาถมาห. ตตฺถ ธิ ตวตฺถุ ชเร ชมฺเมติ องฺคานํ สิถิลภาวกรณาทินา ชเร ชมฺเม ลามเก หีเน ตว ตุยฺหํ ธิ อตฺถุ ธิกาโร โหตุ. นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโวติ ตสฺมา ตฺวํ มยา อติกฺกนฺตา อภิภูตาสีติ อธิปฺปาโย.

โสณาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ภทฺทากุณฺฑลเกสาเถรีคาถาวณฺณนา

ลูนเกสีติอาทิกา ภทฺทาย กุณฺฑลเกสาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตี สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุนึ ขิปฺปาภิฺานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา, อธิการกมฺมํ กตฺวา ตํ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา ยาวชีวํ ปุฺานิ กตฺวา กปฺปสตสหสฺสํ เทวมนุสฺเสสุ สํสริตฺวา กสฺสปพุทฺธกาเล กิกิสฺส กาสิรฺโ เคเห สตฺตนฺนํ ภคินีนํ อพฺภนฺตรา หุตฺวา, วีสติ วสฺสสหสฺสานิ ทส สีลานิ สมาทาย โกมาริพฺรหฺมจริยํ จรนฺตี สงฺฆสฺส วสนปริเวณํ กาเรตฺวา, เอกํ พุทฺธนฺตรํ สุคตีสุเยว สํสริตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห เสฏฺิกุเล นิพฺพตฺติ. ภทฺทาติสฺสา นามํ อโหสิ. สา มหตา ปริวาเรน วฑฺฒมานา วยปฺปตฺตา, ตสฺมึเยว นคเร ปุโรหิตสฺส ปุตฺตํ สตฺตุกํ นาม โจรํ สโหฑฺฒํ คเหตฺวา ราชาณาย นครคุตฺติเกน มาเรตุํ อาฆาตนํ นิยฺยมานํ, สีหปฺชเรน โอโลเกนฺตี ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺตา หุตฺวา สเจ ตํ ลภามิ, ชีวิสฺสามิ; โน เจ, มริสฺสามีติ สยเน อโธมุขี นิปชฺชิ.

อถสฺสา ปิตา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา เอกธีตุตาย พลวสิเนโห สหสฺสลฺชํ ทตฺวา อุปาเยเนว โจรํ วิสฺสชฺชาเปตฺวา คนฺโธทเกน นฺหาเปตฺวา สพฺพาภรณปฏิมณฺฑิตํ กาเรตฺวา ปาสาทํ เปเสสิ. ภทฺทาปิ ปริปุณฺณมโนรถา อติเรกาลงฺกาเรน อลงฺกริตฺวา ตํ ปริจรติ. สตฺตุโก กติปาหํ วีตินาเมตฺวา ตสฺสา อาภรเณสุ อุปฺปนฺนโลโภ ภทฺเท, อหํ นครคุตฺติเกน คหิตมตฺโตว โจรปปาเต อธิวตฺถาย เทวตาย ‘‘สจาหํ ชีวิตํ ลภามิ, ตุยฺหํ พลิกมฺมํ อุปสํหริสฺสามี’’ติ ปตฺถนํ อายาจึ, ตสฺมา พลิกมฺมํ สชฺชาเปหีติ. สา ‘‘ตสฺส มนํ ปูเรสฺสามี’’ติ พลิกมฺมํ สชฺชาเปตฺวา สพฺพาภรณวิภูสิตา สามิเกน สทฺธึ เอกํ ยานํ อภิรุยฺห ‘‘เทวตาย พลิกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ โจรปปาตํ อภิรุหิตุํ อารทฺธา.

สตฺตุโก จินฺเตสิ – ‘‘สพฺเพสุ อภิรุหนฺเตสุ อิมิสฺสา อาภรณํ คเหตุํ น สกฺกา’’ติ ปริวารชนํ ตตฺเถว เปตฺวา ตเมว พลิภาชนํ คาหาเปตฺวา ปพฺพตํ อภิรุหนฺโต ตาย สทฺธึ ปิยกถํ น กเถสิ. สา อิงฺคิเตเนว ตสฺสาธิปฺปายํ อฺาสิ. สตฺตุโก, ‘‘ภทฺเท, ตว อุตฺตรสาฏกํ โอมุฺจิตฺวา กายารูฬฺหปสาธนํ ภณฺฑิกํ กโรหี’’ติ. สา, ‘‘สามิ, มยฺหํ โก อปราโธ’’ติ? ‘‘กึ นุ มํ, พาเล,‘พลิกมฺมตฺถํ อาคโต’ติ สฺํ กโรสิ? พลิกมฺมาปเทเสน ปน ตว อาภรณํ คเหตุํ อาคโต’’ติ. ‘‘กสฺส ปน, อยฺย, ปสาธนํ, กสฺส อห’’นฺติ? ‘‘นาหํ เอตํ วิภาคํ ชานามี’’ติ . ‘‘โหตุ, อยฺย, เอกํ ปน เม อธิปฺปายํ ปูเรหิ, อลงฺกตนิยาเมน จ อาลิงฺคิตุํ เทหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. สา เตน สมฺปฏิจฺฉิตภาวํ ตฺวา ปุรโต อาลิงฺคิตฺวา ปจฺฉโต อาลิงฺคนฺตี วิย ปพฺพตปปาเต ปาเตสิ. โส ปติตฺวา จุณฺณวิจุณฺณํ อโหสิ. ตาย กตํ อจฺฉริยํ ทิสฺวา ปพฺพเต อธิวตฺถา เทวตา โกสลฺลํ วิภาเวนฺตี อิมา คาถา อภาสิ –

‘‘น หิ สพฺเพสุ าเนสุ, ปุริโส โหติ ปณฺฑิโต;

อิตฺถีปิ ปณฺฑิตา โหติ, ตตฺถ ตตฺถ วิจกฺขณา.

‘‘น หิ สพฺเพสุ าเนสุ, ปุริโส โหติ ปณฺฑิโต;

อิตฺถีปิ ปณฺฑิตา โหติ, ลหุํ อตฺถวิจินฺติกา’’ติ. (อป. เถรี. ๒.๓.๓๑-๓๒);

ตโต ภทฺทา จินฺเตสิ – ‘‘น สกฺกา มยา อิมินา นิยาเมน เคหํ คนฺตุํ, อิโตว คนฺตฺวา เอกํ ปพฺพชฺชํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ นิคณฺารามํ คนฺตฺวา นิคณฺเ ปพฺพชฺชํ ยาจิ. อถ นํ เต อาหํสุ – ‘‘เกน นิยาเมน ปพฺพชฺชา โหตู’’ติ? ‘‘ยํ ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชาย อุตฺตมํ, ตเทว กโรถา’’ติ. เต ‘‘สาธู’’ติ ตสฺสา ตาลฏฺินา เกเส ลุฺจิตฺวา ปพฺพาเชสุํ. ปุน เกสา วฑฺฒนฺตา กุณฺฑลาวฏฺฏา หุตฺวา วฑฺเฒสุํ. ตโต ปฏฺาย สา กุณฺฑลเกสาติ นาม ชาตา. สา ตตฺถ อุคฺคเหตพฺพํ สมยํ วาทมคฺคฺจ อุคฺคเหตฺวา ‘‘เอตฺตกํ นาม อิเม ชานนฺติ, อิโต อุตฺตริ วิเสโส นตฺถี’’ติ ตฺวา ตโต อปกฺกมิตฺวา ยตฺถ ยตฺถ ปณฺฑิตา อตฺถิ, ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา เตสํ ชานนสิปฺปํ อุคฺคเหตฺวา อตฺตนา สทฺธึ กเถตุํ สมตฺถํ อทิสฺวา ยํ ยํ คามํ วา นิคมํ วา ปวิสติ, ตสฺส ทฺวาเร วาลุการาสึ กตฺวา ตตฺถ ชมฺพุสาขํ เปตฺวา ‘‘โย มม วาทํ อาโรเปตุํ สกฺโกติ, โส อิมํ สาขํ มทฺทตู’’ติ สมีเป ิตทารกานํ สฺํ ทตฺวา วสนฏฺานํ คจฺฉติ. สตฺตาหมฺปิ ชมฺพุสาขาย ตเถว ิตาย ตํ คเหตฺวา ปกฺกมติ.

เตน จ สมเยน อมฺหากํ ภควา โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก อนุปุพฺเพน สาวตฺถึ อุปนิสฺสาย เชตวเน วิหรติ. กุณฺฑลเกสาปิ วุตฺตนเยน คามนิคมราชธานีสุ วิจรนฺตี สาวตฺถึ ปตฺวา นครทฺวาเร วาลุการาสิมฺหิ ชมฺพุสาขํ เปตฺวา ทารกานํ สฺํ ทตฺวา สาวตฺถึ ปาวิสิ.

อถายสฺมา ธมฺมเสนาปติ เอกโกว นครํ ปวิสนฺโต ตํ สาขํ ทิสฺวา ตํ ทเมตุกาโม ทารเก ปุจฺฉิ – ‘‘กสฺมายํ สาขา เอวํ ปิตา’’ติ? ทารกา ตมตฺถํ อาโรเจสุํ. เถโร ‘‘ยทิ เอวํ อิมํ สาขํ มทฺทถา’’ติ อาห. ทารกา ตํ มทฺทึสุ. กุณฺฑลเกสา กตภตฺตกิจฺจา นครโต นิกฺขมนฺตี ตํ สาขํ มทฺทิตํ ทิสฺวา ‘‘เกนิทํ มทฺทิต’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา เถเรน มทฺทาปิตภาวํ ตฺวา ‘‘อปกฺขิโก วาโท น โสภตี’’ติ สาวตฺถึ ปวิสิตฺวา วีถิโต วีถึ วิจรนฺตี ‘‘ปสฺเสยฺยาถ สมเณหิ สกฺยปุตฺติเยหิ สทฺธึ มยฺหํ วาท’’นฺติ อุคฺโฆเสตฺวา มหาชนปริวุตา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสินฺนํ ธมฺมเสนาปตึ อุปสงฺกมิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอกมนฺตํ ิตา ‘‘กึ ตุมฺเหหิ มม ชมฺพุสาขา มทฺทาปิตา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อาม, มยา มทฺทาปิตา’’ติ. ‘‘เอวํ สนฺเต ตุมฺเหหิ สทฺธึ มยฺหํ วาโท โหตู’’ติ. ‘‘โหตุ, ภทฺเท’’ติ. ‘‘กสฺส ปุจฺฉา, กสฺส วิสฺสชฺชนา’’ติ? ‘‘ปุจฺฉา นาม อมฺหากํ ปตฺตา, ตฺวํ ยํ อตฺตโน ชานนกํ ปุจฺฉา’’ติ. สา สพฺพเมว อตฺตโน ชานนกํ วาทํ ปุจฺฉิ. เถโร ตํ สพฺพํ วิสฺสชฺเชสิ. สา อุปริ ปุจฺฉิตพฺพํ อชานนฺตี ตุณฺหี อโหสิ. อถ นํ เถโร อาห – ‘‘ตยา พหุํ ปุจฺฉิตํ, มยมฺปิ ตํ เอกํ ปฺหํ ปุจฺฉามา’’ติ. ‘‘ปุจฺฉถ, ภนฺเต’’ติ. เถโร ‘‘เอกํ นาม กิ’’นฺติ อิมํ ปฺหํ ปุจฺฉิ. กุณฺฑลเกสา เนว อนฺตํ น โกฏึ ปสฺสนฺตี อนฺธการํ ปวิฏฺา วิย หุตฺวา ‘‘น ชานามิ, ภนฺเต’’ติ อาห. ‘‘ตฺวํ เอตฺตกมฺปิ อชานนฺตี อฺํ กึ ชานิสฺสสี’’ติ วตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ. สา เถรสฺส ปาเทสุ ปติตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห สรณํ คจฺฉามี’’ติ อาห. ‘‘มา มํ ตฺวํ, ภทฺเท, สรณํ คจฺฉ, สเทวเก โลเก อคฺคปุคฺคลํ ภควนฺตเมว สรณํ คจฺฉา’’ติ. ‘‘เอวํ กริสฺสามิ, ภนฺเต’’ติ สา สายนฺหสมเย ธมฺมเทสนาเวลายํ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. สตฺถา ตสฺสา าณปริปากํ ตฺวา –

‘‘สหสฺสมปิ เจ คาถา, อนตฺถปทสํหิตา;

เอกํ คาถาปทํ เสยฺโย, ยํ สุตฺวา สุปสมฺมตี’’ติ. –

อิมํ คาถมาห. คาถาปริโยสาเน ยถาิตาว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๓.๑-๕๔) –

‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺมาน ปารคู;

อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโก.

‘‘ตทาหํ หํสวติยํ, ชาตา เสฏฺิกุเล อหุํ;

นานารตนปชฺโชเต, มหาสุขสมปฺปิตา.

‘‘อุเปตฺวา ตํ มหาวีรํ, อสฺโสสึ ธมฺมเทสนํ;

ตโต ชาตปฺปสาทาหํ, อุเปสึ สรณํ ชินํ.

‘‘ตทา มหาการุณิโก, ปทุมุตฺตรนามโก;

ขิปฺปาภิฺานมคฺคนฺติ, เปสิ ภิกฺขุนึ สุภํ.

‘‘ตํ สุตฺวา มุทิตา หุตฺวา, ทานํ ทตฺวา มเหสิโน;

นิปจฺจ สิรสา ปาเท, ตํ านมภิปตฺถยึ.

‘‘อนุโมทิ มหาวีโร, ภทฺเท ยํ เตภิปตฺถิตํ;

สมิชฺฌิสฺสติ ตํ สพฺพํ, สุขินี โหหิ นิพฺพุตา.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาทา, โอรสา ธมฺมนิมฺมิตา;

ภทฺทากุณฺฑลเกสาติ, เหสฺสติ สตฺถุ สาวิกา.

‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.

‘‘ตโต จุตา ยามมคํ, ตโตหํ ตุสิตํ คตา;

ตโต จ นิมฺมานรตึ, วสวตฺติปุรํ ตโต.

‘‘ยตฺถ ยตฺถูปปชฺชามิ, ตสฺส กมฺมสฺส วาหสา;

ตตฺถ ตตฺเถว ราชูนํ, มเหสิตฺตมการยึ.

‘‘ตโต จุตา มนุสฺเสสุ, ราชูนํ จกฺกวตฺตินํ;

มณฺฑลีนฺจ ราชูนํ, มเหสิตฺตมการยึ.

‘‘สมฺปตฺตึ อนุโภตฺวาน, เทเวสุ มานุเสสุ จ;

สพฺพตฺถ สุขิตา หุตฺวา, เนกกปฺเปสุ สํสรึ.

‘‘อิมมฺหิ ภทฺทเก กปฺเป, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;

กสฺสโป นาม โคตฺเตน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโร.

‘‘อุปฏฺาโก มเหสิสฺส, ตทา อาสิ นริสฺสโร;

กาสิราชา กิกี นาม, พาราณสิปุรุตฺตเม.

‘‘ตสฺส ธีตา จตุตฺถาสึ, ภิกฺขุทายีติ วิสฺสุตา;

ธมฺมํ สุตฺวา ชินคฺคสฺส, ปพฺพชฺชํ สมโรจยึ.

‘‘อนุชานิ น โน ตาโต, อคาเรว ตทา มยํ;

วีสวสฺสสหสฺสานิ, วิจริมฺห อตนฺทิตา.

‘‘โกมาริพฺรหฺมจริยํ, ราชกฺา สุเขธิตา;

พุทฺโธปฏฺานนิรตา, มุทิตา สตฺต ธีตโร.

‘‘สมณี สมณคุตฺตา จ, ภิกฺขุนี ภิกฺขุทายิกา;

ธมฺมา เจว สุธมฺมา จ, สตฺตมี สงฺฆทายิกา.

‘‘เขมา อุปฺปลวณฺณา จ, ปฏาจารา อหํ ตทา;

กิสาโคตมี ธมฺมทินฺนา, วิสาขา โหติ สตฺตมี.

‘‘เตหิ กมฺเมหิ สุกเตหิ, เจตนาปณิธีหิ จ;

ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.

‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, คิริพฺพชปุรุตฺตเม;

ชาตา เสฏฺิกุเล ผีเต, ยทาหํ โยพฺพเน ิตา.

‘‘โจรํ วธตฺถํ นียนฺตํ, ทิสฺวา รตฺตา ตหึ อหํ;

ปิตา เม ตํ สหสฺเสน, โมจยิตฺวา วธา ตโต.

‘‘อทาสิ ตสฺส มํ ตาโต, วิทิตฺวาน มนํ มม;

ตสฺสาหมาสึ วิสฏฺา, อตีว ทยิตา หิตา.

‘‘โส เม ภูสนโลเภน, พลิมชฺฌาสโย ทิโส;

โจรปฺปปาตํ เนตฺวาน, ปพฺพตํ เจตยี วธํ.

‘‘ตทาหํ ปณมิตฺวาน, สตฺตุกํ สุกตฺชลี;

รกฺขนฺตี อตฺตโน ปาณํ, อิทํ วจนมพฺรวึ.

‘‘อิทํ สุวณฺณเกยูรํ, มุตฺตา เวฬุริยา พหู;

สพฺพํ หรสฺสุ ภทฺทนฺเต, มฺจ ทาสีติ สาวย.

‘‘โอโรปยสฺสุ กลฺยาณี, มา พาฬฺหํ ปริเทวสิ;

น จาหํ อภิชานามิ, อหนฺตฺวา ธนมาภตํ.

‘‘ยโต สรามิ อตฺตานํ, ยโต ปตฺโตสฺมิ วิฺุตํ;

น จาหํ อภิชานามิ, อฺํ ปิยตรํ ตยา.

‘‘เอหิ ตํ อุปคูหิสฺสํ, กตฺวาน ตํ ปทกฺขิณํ;

น จ ทานิ ปุโน อตฺถิ, มม ตุยฺหฺจ สงฺคโม.

‘‘น หิ สพฺเพสุ าเนสุ, ปุริโส โหติ ปณฺฑิโต;

อิตฺถีปิ ปณฺฑิตา โหติ, ตตฺถ ตตฺถ วิจกฺขณา.

‘‘น หิ สพฺเพสุ าเนสุ, ปุริโส โหติ ปณฺฑิโต;

อิตฺถีปิ ปณฺฑิตา โหติ, ลหุํ อตฺถวิจินฺติกา.

‘‘ลหุฺจ วต ขิปฺปฺจ, นิกฏฺเ สมเจตยึ;

มิคํ อุณฺณา ยถา เอวํ, ตทาหํ สตฺตุกํ วธึ.

‘‘โย จ อุปฺปติตํ อตฺถํ, น ขิปฺปมนุพุชฺฌติ;

โส หฺเต มนฺทมติ, โจโรว คิริคพฺภเร.

‘‘โย จ อุปฺปติตํ อตฺถํ, ขิปฺปเมว นิโพธติ;

มุจฺจเต สตฺตุสมฺพาธา, ตทาหํ สตฺตุกา ยถา.

‘‘ตทาหํ ปาตยิตฺวาน, คิริทุคฺคมฺหิ สตฺตุกํ;

สนฺติกํ เสตวตฺถานํ, อุเปตฺวา ปพฺพชึ อหํ.

‘‘สณฺฑาเสน จ เกเส เม, ลุฺจิตฺวา สพฺพโส ตทา;

ปพฺพชิตฺวาน สมยํ, อาจิกฺขึสุ นิรนฺตรํ.

‘‘ตโต ตํ อุคฺคเหตฺวาหํ, นิสีทิตฺวาน เอกิกา;

สมยํ ตํ วิจินฺเตสึ, สุวาโน มานุสํ กรํ.

‘‘ฉินฺนํ คยฺห สมีเป เม, ปาตยิตฺวา อปกฺกมิ;

ทิสฺวา นิมิตฺตมลภึ, หตฺถํ ตํ ปุฬวากุลํ.

‘‘ตโต อุฏฺาย สํวิคฺคา, อปุจฺฉึ สหธมฺมิเก;

เต อโวจุํ วิชานนฺติ, ตํ อตฺถํ สกฺยภิกฺขโว.

‘‘สาหํ ตมตฺถํ ปุจฺฉิสฺสํ, อุเปตฺวา พุทฺธสาวเก;

เต มมาทาย คจฺฉึสุ, พุทฺธเสฏฺสฺส สนฺติกํ.

‘‘โส เม ธมฺมมเทเสสิ, ขนฺธายตนธาตุโย;

อสุภานิจฺจทุกฺขาติ, อนตฺตาติ จ นายโก.

‘‘ตสฺส ธมฺมํ สุณิตฺวาหํ, ธมฺมจกฺขุํ วิโสธยึ;

ตโต วิฺาตสทฺธมฺมา, ปพฺพชฺชํ อุปสมฺปทํ.

‘‘อายาจิโต ตทา อาห, เอหิ ภทฺเทติ นายโก;

ตทาหํ อุปสมฺปนฺนา, ปริตฺตํ โตยมทฺทสํ.

‘‘ปาทปกฺขาลเนนาหํ, ตฺวา สอุทยพฺพยํ;

ตถา สพฺเพปิ สงฺขาเร, อีทิสํ จินฺตยึ ตทา.

‘‘ตโต จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม, อนุปาทาย สพฺพโส;

ขิปฺปาภิฺานมคฺคํ เม, ตทา ปฺาปยี ชิโน.

‘‘อิทฺธีสุ จ วสี โหมิ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;

ปรจิตฺตานิ ชานามิ, สตฺถุสาสนการิกา.

‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;

เขเปตฺวา อาสเว สพฺเพ, วิสุทฺธาสึ สุนิมฺมลา.

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;

โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติ สมูหตา.

‘‘ยสฺสตฺถาย ปพฺพชิตา, อคารสฺมานคาริยํ;

โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, สพฺพสํโยชนกฺขโย.

‘‘อตฺถธมฺมนิรุตฺตีสุ, ปฏิภาเน ตเถว จ;

าณํ เม วิมลํ สุทฺธํ, พุทฺธเสฏฺสฺส สาสเน.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา ตาวเทว ปพฺพชฺชํ ยาจิ. สตฺถา ตสฺสา ปพฺพชฺชํ อนุชานิ. สา ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวาน ปพฺพชิตฺวา ผลสุเขน นิพฺพานสุเขน จ วีตินาเมนฺตี อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –

๑๐๗.

‘‘ลูนเกสี ปงฺกธรี, เอกสาฏี ปุเร จรึ;

อวชฺเช วชฺชมตินี, วชฺเช จาวชฺชทสฺสินี.

๑๐๘.

‘‘ทิวาวิหารา นิกฺขมฺม, คิชฺฌกูฏมฺหิ ปพฺพเต;

อทฺทสํ วิรชํ พุทฺธํ, ภิกฺขุสงฺฆปุรกฺขตํ.

๑๐๙.

‘‘นิหจฺจ ชาณุํ วนฺทิตฺวา, สมฺมุขา อฺชลึ อกํ;

เอหิ ภทฺเทติ มํ อวจ, สา เม อาสูปสมฺปทา.

๑๑๐.

‘‘จิณฺณา องฺคา จ มคธา, วชฺชี กาสี จ โกสลา;

อนกา ปณฺณาส วสฺสานิ, รฏฺปิณฺฑํ อภุฺชหํ.

๑๑๑.

‘‘ปุฺํ วต ปสวิ พหุํ, สปฺปฺโ วตายํ อุปาสโก;

โย ภทฺทาย จีวรํ อทาสิ, วิปฺปมุตฺตาย สพฺพคนฺเถหี’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ ลูนเกสีติ ลูนา ลุฺจิตา เกสา มยฺหนฺติ ลูนเกสี, นิคณฺเสุ ปพฺพชฺชาย ตาลฏฺินา ลุฺจิตเกสา, ตํ สนฺธาย วทติ. ปงฺกธรีติ ทนฺตกฏฺสฺส อขาทเนน ทนฺเตสุ มลปงฺกธารณโต ปงฺกธรี. เอกสาฏีติ นิคณฺจาริตฺตวเสน เอกสาฏิกา. ปุเร จรินฺติ ปุพฺเพ นิคณฺี หุตฺวา เอวํ วิจรึ. อวชฺเช วชฺชมตินีติ นฺหานุจฺฉาทนทนฺตกฏฺขาทนาทิเก อนวชฺเช สาวชฺชสฺี. วชฺเช จาวชฺชทสฺสินีติ มานมกฺขปลาสวิปลฺลาสาทิเก สาวชฺเช อนวชฺชทิฏฺี.

ทิวาวิหารา นิกฺขมฺมาติ อตฺตโน ทิวาวิหารฏฺานโต นิกฺขมิตฺวา. อยมฺปิ ิตมชฺฌนฺหิกเวลายํ เถเรน สมาคตา ตสฺส ปฺหสฺส วิสฺสชฺชเนน ธมฺมเทสนาย จ นิหตมานทพฺพา ปสนฺนมานสา หุตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ อุปสงฺกมิตุกามาว อตฺตโน วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ทิวาฏฺาเน นิสีทิตฺวา สายนฺหสมเย สตฺถุ สนฺติกํ อุปสงฺกมิตฺวา.

นิหจฺจ ชาณุํ วนฺทิตฺวาติ ชาณุทฺวยํ ปถวิยํ นิหนฺตฺวา ปติฏฺเปตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา. สมฺมุขา อฺชลึ อกนฺติ สตฺถุ สมฺมุขา ทสนขสโมธานสมุชฺชลํ อฺชลึ อกาสึ. เอหิ, ภทฺเทติ มํ อวจ, สา เม อาสูปสมฺปทาติ ยํ มํ ภควา อรหตฺตํ ปตฺวา ปพฺพชฺชฺจ อุปสมฺปทฺจ ยาจิตฺวา ิตํ ‘‘เอหิ, ภทฺเท, ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ปพฺพช อุปสมฺปชฺชสฺสู’’ติ อวจ อาณาเปสิ. สา สตฺถุ อาณา มยฺหํ อุปสมฺปทาย การณตฺตา อุปสมฺปทา อาสิ อโหสิ.

จิณฺณาติอาทิกา ทฺเว คาถา อฺาพฺยากรณคาถา. ตตฺถ จิณฺณา องฺคา จ มคธาติ เย อิเม องฺคา จ มคธา จ วชฺชี จ กาสี จ โกสลา จ ชนปทา ปุพฺเพ สาณาย มยา รฏฺปิณฺฑํ ภุฺชนฺติยา จิณฺณา จริตา, เตสุเยว สตฺถารา สมาคมโต ปฏฺาย อนณา นิทฺโทสา อปคตกิเลสา หุตฺวา ปฺาส สํวจฺฉรานิ รฏฺปิณฺฑํ อภุฺชึ อหํ.

เยน อภิปฺปสนฺนมานเสน อุปาสเกน อตฺตโน จีวรํ ทินฺนํ, ตสฺส ปุฺวิเสสกิตฺตนมุเขน อฺํ พฺยากโรนฺตี ‘‘ปุฺํ วต ปสวี พหุ’’นฺติ โอสานคาถมาห. สา สุวิฺเยฺยาว.

ภทฺทากุณฺฑลเกสาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ปฏาจาราเถรีคาถาวณฺณนา

นงฺคเลหิ กสํ เขตฺตนฺติอาทิกา ปฏาจาราย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา, เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตี สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุนึ วินยธรานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา, อธิการกมฺมํ กตฺวา ตํ านนฺตรํ ปตฺเถสิ. สา ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี กสฺสปพุทฺธกาเล กิกิสฺส กาสิรฺโ เคเห ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา สตฺตนฺนํ ภคินีนํ อพฺภนฺตรา หุตฺวา วีสติ วสฺสสหสฺสานิ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปริเวณํ อกาสิ. สา ตโต จุตา เทวโลเก นิพฺพตฺตา, เอกํ พุทฺธนฺตรํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ เสฏฺิเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺตา อตฺตโน เคเห เอเกน กมฺมกาเรน สทฺธึ กิเลสสนฺถวํ อกาสิ. ตํ มาตาปิตโร สมชาติกสฺส กุมารสฺส ทาตุํ ทิวสํ สณฺเปสุํ. ตํ ตฺวา สา หตฺถสารํ คเหตฺวา เตน กตสนฺถเวน ปุริเสน สทฺธึ อคฺคทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา เอกสฺมึ คามเก วสนฺตี คพฺภินี อโหสิ. สา ปริปกฺเก คพฺเภ ‘‘กึ อิธ อนาถวาเสน, กุลเคหํ คจฺฉาม, สามี’’ติ วตฺวา ตสฺมึ ‘‘อชฺช คจฺฉาม, สฺเว คจฺฉามา’’ติ กาลกฺเขปํ กโรนฺเต ‘‘นายํ พาโล มํ เนสฺสตี’’ติ ตสฺมึ พหิ คเต เคเห ปฏิสาเมตพฺพํ ปฏิสาเมตฺวา ‘‘กุลฆรํ คตาติ มยฺหํ สามิกสฺส กเถถา’’ติ ปฏิวิสฺสกฆรวาสีนํ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘เอกิกาว กุลฆรํ คมิสฺสามี’’ติ มคฺคํ ปฏิปชฺชิ . โส อาคนฺตฺวา เคเห ตํ อปสฺสนฺโต ปฏิวิสฺสเก ปุจฺฉิตฺวา ‘‘กุลฆรํ คตา’’ติ สุตฺวา ‘‘มํ นิสฺสาย กุลธีตา อนาถา ชาตา’’ติ ปทานุปทํ คนฺตฺวา สมฺปาปุณิ. ตสฺสา อนฺตรามคฺเค เอว คพฺภวุฏฺานํ อโหสิ. สา ปสุตกาลโต ปฏฺาย ปฏิปฺปสฺสทฺธคมนุสฺสุกฺกา สามิกํ คเหตฺวา นิวตฺติ. ทุติยวารมฺปิ คพฺภินี อโหสีติอาทิ สพฺพํ ปุริมนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ.

อยํ ปน วิเสโส – ยทา ตสฺสา อนฺตรามคฺเค กมฺมชวาตา จลึสุ, ตทา มหาอกาลเมโฆ อุทปาทิ. สมนฺตโต วิชฺชุลตาหิ อาทิตฺตํ วิย เมฆถนิเตหิ ภิชฺชมานํ วิย จ อุทกธารานิปาตนิรนฺตรํ นภํ อโหสิ. สา ตํ ทิสฺวา, ‘‘สามิ, เม อโนวสฺสกํ านํ ชานาหี’’ติ อาห. โส อิโต จิโต จ โอโลเกนฺโต เอกํ ติณสฺฉนฺนํ คุมฺพํ ทิสฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา หตฺถคตาย วาสิยา ตสฺมึ คุมฺเพ ทณฺฑเก ฉินฺทิตุกาโม ติเณหิ สฺฉาทิตวมฺมิกสีสนฺเต อุฏฺิตรุกฺขทณฺฑกํ ฉินฺทิ. ตาวเทว จ นํ ตโต วมฺมิกโต นิกฺขมิตฺวา โฆรวิโส อาสีวิโส ฑํสิ. โส ตตฺเถว ปติตฺวา กาลมกาสิ. สา มหาทุกฺขํ อนุภวนฺตี ตสฺส อาคมนํ โอโลเกนฺตี ทฺเวปิ ทารเก วาตวุฏฺึ อสหมาเน วิรวนฺเต อุรนฺตเร กตฺวา, ทฺวีหิ ชาณุเกหิ ทฺวีหิ หตฺเถหิ จ ภูมึ อุปฺปีเฬตฺวา ยถาิตาว รตฺตึ วีตินาเมตฺวา วิภาตาย รตฺติยา มํสเปสิวณฺณํ เอกํ ปุตฺตํ ปิโลติกจุมฺพฏเก นิปชฺชาเปตฺวา หตฺเถหิ อุเรหิ จ ปริคฺคเหตฺวา, อิตรํ ‘‘เอหิ, ตาต, ปิตา เต อิโต คโต’’ติ วตฺวา สามิเกน คตมคฺเคน คจฺฉนฺตี ตํ วมฺมิกสมีเป กาลงฺกตํ นิสินฺนํ ทิสฺวา ‘‘มํ นิสฺสาย มม สามิโก มโต’’ติ โรทนฺตี ปริเทวนฺตี สกลรตฺตึ เทเวน วุฏฺตฺตา ชณฺณุกปฺปมาณํ ถนปฺปมาณํ อุทกํ สวนฺตึ อนฺตรามคฺเค นทึ ปตฺวา, อตฺตโน มนฺทพุทฺธิตาย ทุพฺพลตาย จ ทฺวีหิ ทารเกหิ สทฺธึ อุทกํ โอตริตุํ อวิสหนฺตี เชฏฺปุตฺตํ โอริมตีเร เปตฺวา อิตรํ อาทาย ปรตีรํ คนฺตฺวา สาขาภงฺคํ อตฺถริตฺวา ตตฺถ ปิโลติกจุมฺพฏเก นิปชฺชาเปตฺวา ‘‘อิตรสฺส สนฺติกํ คมิสฺสามี’’ติ พาลปุตฺตกํ ปหาตุํ อสกฺโกนฺตี ปุนปฺปุนํ นิวตฺติตฺวา โอโลกยมานา นทึ โอตรติ.

อถสฺสา นทีมชฺฌํ คตกาเล เอโก เสโน ตํ ทารกํ ทิสฺวา ‘‘มํสเปสี’’ติ สฺาย อากาสโต ภสฺสิ. สา ตํ ทิสฺวา อุโภ หตฺเถ อุกฺขิปิตฺวา ‘‘สูสู’’ติ ติกฺขตฺตุํ มหาสทฺทํ นิจฺฉาเรสิ. เสโน ทูรภาเวน ตํ อนาทิยนฺโต กุมารํ คเหตฺวา เวหาสํ อุปฺปติ. โอริมตีเร ิโต ปุตฺโต อุโภ หตฺเถ อุกฺขิปิตฺวา มหาสทฺทํ นิจฺฉารยมานํ ทิสฺวา ‘‘มํ สนฺธาย วทตี’’ติ สฺาย เวเคน อุทเก ปติ. อิติ พาลปุตฺตโก เสเนน, เชฏฺปุตฺตโก อุทเกน หโต. สา ‘‘เอโก เม ปุตฺโต เสเนน คหิโต, เอโก อุทเกน วูฬฺโห, ปนฺเถ เม ปติ มโต’’ติ โรทนฺตี ปริเทวนฺตี คจฺฉนฺตี สาวตฺถิโต อาคจฺฉนฺตํ เอกํ ปุริสํ ทิสฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘กตฺถ วาสิโกสิ, ตาตา’’ติ? ‘‘สาวตฺถิวาสิโกมฺหิ, อมฺมา’’ติ. ‘‘สาวตฺถิยํ อสุกวีถิยํ อสุกกุลํ นาม อตฺถิ, ตํ ชานาสิ, ตาตา’’ติ? ‘‘ชานามิ, อมฺม, ตํ ปน มา ปุจฺฉิ, อฺํ ปุจฺฉา’’ติ. ‘‘อฺเน เม ปโยชนํ นตฺถิ, ตเทว ปุจฺฉามิ, ตาตา’’ติ. ‘‘อมฺม, ตฺวํ อตฺตโน อนาจิกฺขิตุํ น เทสิ, อชฺช เต สพฺพรตฺตึ เทโว วสฺสนฺโต ทิฏฺโ’’ติ? ‘‘ทิฏฺโ เม, ตาต, มยฺหเมว โส สพฺพรตฺตึ วุฏฺโ, ตํ การณํ ปจฺฉา กเถสฺสามิ, เอตสฺมึ ตาว เม เสฏฺิเคเห ปวตฺตึ กเถหี’’ติ. ‘‘อมฺม, อชฺช รตฺติยํ เสฏฺิ จ ภริยา จ เสฏฺิปุตฺโต จาติ ตโยปิ ชเน อวตฺถรมานํ เคหํ ปติ, เต เอกจิตกายํ ฌายนฺติ, สฺวายํ ธูโม ปฺายติ, อมฺมา’’ติ. สา ตสฺมึ ขเณ นิวตฺถวตฺถมฺปิ ปตมานํ น สฺชานิ. โสกุมฺมตฺตตฺตํ ปตฺวา ชาตรูเปเนว –

‘‘อุโภ ปุตฺตา กาลงฺกตา, ปนฺเถ มยฺหํ ปตี มโต;

มาตา ปิตา จ ภาตา จ, เอกจิตมฺหิ ฑยฺหเร’’ติ. (อป. เถรี ๒.๒.๔๙๘) –

วิลปนฺตี ปริพฺภมติ.

ตโต ปฏฺาย ตสฺสา นิวาสนมตฺเตนปิ ปเฏน อจรณโต ปติตาจารตฺตา ปฏาจาราตฺเวว สมฺา อโหสิ. ตํ ทิสฺวา มนุสฺสา ‘‘คจฺฉ, อุมฺมตฺติเก’’ติ เกจิ กจวรํ มตฺถเก ขิปนฺติ, อฺเ ปํสุํ โอกิรนฺติ, อปเร เลฑฺฑุํ ขิปนฺติ. สตฺถา เชตวเน มหาปริสามชฺเฌ นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต ตํ ตถา ปริพฺภมนฺตึ ทิสฺวา าณปริปากฺจ โอโลเกตฺวา ยถา วิหาราภิมุขี อาคจฺฉติ, ตถา อกาสิ. ปริสา ตํ ทิสฺวา ‘‘อิมิสฺสา อุมฺมตฺติกาย อิโต อาคนฺตุํ มาทตฺถา’’ติ อาห. ‘‘ภควา มา นํ วารยิตฺถา’’ติ วตฺวา อวิทูรฏฺานํ อาคตกาเล ‘‘สตึ ปฏิลภ ภคินี’’ติ อาห. สา ตาวเทว พุทฺธานุภาเวน สตึ ปฏิลภิตฺวา นิวตฺถวตฺถสฺส ปติตภาวํ สลฺลกฺเขตฺวา หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา อุกฺกุฏิกํ อุปนิสชฺชาย นิสีทิ. เอโก ปุริโส อุตฺตรสาฏกํ ขิปิ. สา ตํ นิวาเสตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อวสฺสโย เม โหถ, เอกํ เม ปุตฺตํ เสโน คณฺหิ, เอโก อุทเกน วูฬฺโห, ปนฺเถ ปติ มโต, มาตาปิตโร ภาตา จ เคเหน อวตฺถฏา มตา เอกจิตกสฺมึ ฌายนฺตี’’ติ สา โสกการณํ อาจิกฺขิ. สตฺถา ‘‘ปฏาจาเร, มา จินฺตยิ, ตว อวสฺสโย ภวิตุํ สมตฺถสฺเสว สนฺติกํ อาคตาสิ. ยถา หิ ตฺวํ อิทานิ ปุตฺตาทีนํ มรณนิมิตฺตํ อสฺสูนิ ปวตฺเตสิ, เอวํ อนมตคฺเค สํสาเร ปุตฺตาทีนํ มรณเหตุ ปวตฺติตํ อสฺสุ จตุนฺนํ มหาสมุทฺทานํ อุทกโต พหุตร’’นฺติ ทสฺเสนฺโต –

‘‘จตูสุ สมุทฺเทสุ ชลํ ปริตฺตกํ, ตโต พหุํ อสฺสุชลํ อนปฺปกํ;

ทุกฺเขน ผุฏฺสฺส นรสฺส โสจนา, กึ การณา อมฺม ตุวํ ปมชฺชสี’’ติ. (ธ. ป. อฏฺ. ๑.๑๑๒ ปฏาจาราเถรีวตฺถุ) –

คาถํ อภาสิ.

เอวํ สตฺถริ อนมตคฺคปริยายกถํ (สํ. นิ. ๒.๑๒๕-๑๒๖) กเถนฺเต ตสฺสา โสโก ตนุตรภาวํ อคมาสิ. อถ นํ ตนุภูตโสกํ ตฺวา ‘‘ปฏาจาเร, ปุตฺตาทโย นาม ปรโลกํ คจฺฉนฺตสฺส ตาณํ วา เลณํ วา สรณํ วา ภวิตุํ น สกฺโกนฺตี’’ติ วิชฺชมานาปิ เต น สนฺติ เอว, ตสฺมา ปณฺฑิเตน อตฺตโน สีลํ วิโสเธตฺวา นิพฺพานคามิมคฺโคเยว สาเธตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต –

‘‘น สนฺติ ปุตฺตา ตาณาย, น ปิตา นาปิ พนฺธวา;

อนฺตเกนาธิปนฺนสฺส, นตฺถิ าตีสุ ตาณตา.

‘‘เอตมตฺถวสํ ตฺวา, ปณฺฑิโต สีลสํวุโต;

นิพฺพานคมนํ มคฺคํ, ขิปฺปเมว วิโสธเย’’ติ. (ธ. ป. ๒๘๘-๒๘๙) –

อิมาหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสสิ. เทสนาวสาเน ปฏาจารา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิตฺวา สตฺถารํ ปพฺพชฺชํ ยาจิ. สตฺถา ตํ ภิกฺขุนีนํ สนฺติกํ เนตฺวา ปพฺพาเชสิ. สา ลทฺธูปสมฺปทา อุปริมคฺคตฺถาย วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี เอกทิวสํ ฆเฏน อุทกํ อาทาย ปาเท โธวนฺตี อุทกํ อาสิฺจิ. ตํ โถกํ านํ คนฺตฺวา ปจฺฉิชฺชิ, ทุติยวารํ อาสิตฺตํ ตโต ทูรํ อคมาสิ, ตติยวารํ อาสิตฺตํ ตโตปิ ทูรตรํ อคมาสิ. สา ตเทว อารมฺมณํ คเหตฺวา ตโย วเย ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘มยา ปมํ อาสิตฺตอุทกํ วิย อิเม สตฺตา ปมวเยปิ มรนฺติ, ตโต ทูรํ คตํ ทุติยวารํ อาสิตฺตํ อุทกํ วิย มชฺฌิมวเยปิ, ตโต ทูรตรํ คตํ ตติยวารํ อาสิตฺตํ อุทกํ วิย ปจฺฉิมวเยปิ มรนฺติเยวา’’ติ จินฺเตสิ. สตฺถา คนฺธกุฏิยํ นิสินฺโนว โอภาสํ ผริตฺวา ตสฺสา สมฺมุเข ตฺวา กเถนฺโต วิย ‘‘เอวเมตํ, ปฏาจาเร, สพฺเพปิเม สตฺตา มรณธมฺมา, ตสฺมา ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ อปสฺสนฺตสฺส วสฺสสตํ ชีวโต ตํ ปสฺสนฺตสฺส เอกาหมฺปิ เอกกฺขณมฺปิ ชีวิตํ เสยฺโย’’ติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต –

‘‘โย จ วสฺสสตํ ชีเว, อปสฺสํ อุทยพฺพยํ;

เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย, ปสฺสโต อุทยพฺพย’’นฺติ. (ธ. ป. ๑๑๓) –

คาถมาห. คาถาปริโยสาเน ปฏาจารา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๒.๔๖๘-๕๑๑) –

‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺมาน ปารคู;

อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโก.

‘‘ตทาหํ หํสวติยํ, ชาตา เสฏฺิกุเล อหุํ;

นานารตนปชฺโชเต, มหาสุขสมปฺปิตา.

‘‘อุเปตฺวา ตํ มหาวีรํ, อสฺโสสึ ธมฺมเทสนํ;

ตโต ชาตปสาทาหํ, อุเปสึ สรณํ ชินํ.

‘‘ตโต วินยธารีนํ, อคฺคํ วณฺเณสิ นายโก;

ภิกฺขุนึ ลชฺชินึ ตาทึ, กปฺปากปฺปวิสารทํ.

‘‘ตทา มุทิตจิตฺตาหํ, ตํ านมภิกงฺขินี;

นิมนฺเตตฺวา ทสพลํ, สสงฺฆํ โลกนายกํ.

‘‘โภชยิตฺวาน สตฺตาหํ, ททิตฺวาว ติจีวรํ;

นิปจฺจ สิรสา ปาเท, อิทํ วจนมพฺรวึ.

‘‘ยา ตยา วณฺณิตา วีร, อิโต อฏฺมเก มุนิ;

ตาทิสาหํ ภวิสฺสามิ, ยทิ สิชฺฌติ นายก.

‘‘ตทา อโวจ มํ สตฺถา, ภทฺเท มา ภายิ อสฺสส;

อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, ลจฺฉเส ตํ มโนรถํ.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาทา, โอรสา ธมฺมนิมฺมิตา;

ปฏาจาราติ นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวิกา.

‘‘ตทาหํ มุทิตา หุตฺวา, ยาวชีวํ ตทา ชินํ;

เมตฺตจิตฺตา ปริจรึ, สสงฺฆํ โลกนายกํ.

‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.

‘‘อิมมฺหิ ภทฺทเก กปฺเป, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;

กสฺสโป นาม โคตฺเตน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโร.

‘‘อุปฏฺาโก มเหสิสฺส, ตทา อาสิ นริสฺสโร;

กาสิราชา กิกี นาม, พาราณสิปุรุตฺตเม.

‘‘ตสฺสาสึ ตติยา ธีตา, ภิกฺขุนี อิติ วิสฺสุตา;

ธมฺมํ สุตฺวา ชินคฺคสฺส, ปพฺพชฺชํ สมโรจยึ.

‘‘อนุชานิ น โน ตาโต, อคาเรว ตทา มยํ;

วีสวสฺสสหสฺสานิ, วิจริมฺห อตนฺทิตา.

‘‘โกมาริพฺรหฺมจริยํ, ราชกฺา สุเขธิตา;

พุทฺโธปฏฺานนิรตา, มุทิตา สตฺตธีตโร.

‘‘สมณี สมณคุตฺตา จ, ภิกฺขุนี ภิกฺขุทายิกา;

ธมฺมา เจว สุธมฺมา จ, สตฺตมี สงฺฆทายิกา.

‘‘อหํ อุปฺปลวณฺณา จ, เขมา ภทฺทา จ ภิกฺขุนี;

กิสาโคตมี ธมฺมทินฺนา, วิสาขา โหติ สตฺตมี.

‘‘เตหิ กมฺเมหิ สุกเตหิ, เจตนาปณิธีหิ จ;

ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.

‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, ชาตา เสฏฺิกุเล อหํ;

สาวตฺถิยํ ปุรวเร, อิทฺเธ ผีเต มหทฺธเน.

‘‘ยทา จ โยพฺพนูเปตา, วิตกฺกวสคา อหํ;

นรํ ชารปตึ ทิสฺวา, เตน สทฺธึ อคจฺฉหํ.

‘‘เอกปุตฺตปสูตาหํ, ทุติโย กุจฺฉิยา มม;

ตทาหํ มาตาปิตโร, โอกฺขามีติ สุนิจฺฉิตา.

‘‘นาโรเจสึ ปตึ มยฺหํ, ตทา ตมฺหิ ปวาสิเต;

เอกิกา นิคฺคตา เคหา, คนฺตุํ สาวตฺถิมุตฺตมํ.

‘‘ตโต เม สามิ อาคนฺตฺวา, สมฺภาเวสิ ปเถ มมํ;

ตทา เม กมฺมชา วาตา, อุปฺปนฺนา อติทารุณา.

‘‘อุฏฺิโต จ มหาเมโฆ, ปสูติสมเย มม;

ทพฺพตฺถาย ตทา คนฺตฺวา, สามิ สปฺเปน มาริโต.

‘‘ตทา วิชาตทุกฺเขน, อนาถา กปณา อหํ;

กุนฺนทึ ปูริตํ ทิสฺวา, คจฺฉนฺตี สกุลาลยํ.

‘‘พาลํ อาทาย อตรึ, ปารกูเล จ เอกกํ;

สาเยตฺวา พาลกํ ปุตฺตํ, อิตรํ ตรณายหํ.

‘‘นิวตฺตา อุกฺกุโส หาสิ, ตรุณํ วิลปนฺตกํ;

อิตรฺจ วหี โสโต, สาหํ โสกสมปฺปิตา.

‘‘สาวตฺถินครํ คนฺตฺวา, อสฺโสสึ สชเน มเต;

ตทา อโวจํ โสกฏฺฏา, มหาโสกสมปฺปิตา.

‘‘อุโภ ปุตฺตา กาลงฺกตา, ปนฺเถ มยฺหํ ปตี มโต;

มาตา ปิตา จ ภาตา จ, เอกจิตมฺหิ ฑยฺหเร.

‘‘ตทา กิสา จ ปณฺฑุ จ, อนาถา ทีนมานสา;

อิโต ตโต ภมนฺตีหํ, อทฺทสํ นรสารถึ.

‘‘ตโต อโวจ มํ สตฺถา, ปุตฺเต มา โสจิ อสฺสส;

อตฺตานํ เต คเวสสฺสุ, กึ นิรตฺถํ วิหฺสิ.

‘‘น สนฺติ ปุตฺตา ตาณาย, น าตี นาปิ พนฺธวา;

อนฺตเกนาธิปนฺนสฺส, นตฺถิ าตีสุ ตาณตา.

‘‘ตํ สุตฺวา มุนิโน วากฺยํ, ปมํ ผลมชฺฌคํ;

ปพฺพชิตฺวาน นจิรํ, อรหตฺตมปาปุณึ.

‘‘อิทฺธีสุ จ วสี โหมิ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;

ปรจิตฺตานิ ชานามิ, สตฺถุสาสนการิกา.

‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;

เขเปตฺวา อาสเว สพฺเพ, วิสุทฺธาสึ สุนิมฺมลา.

‘‘ตโตหํ วินยํ สพฺพํ, สนฺติเก สพฺพทสฺสิโน;

อุคฺคหึ สพฺพวิตฺถารํ, พฺยาหริฺจ ยถาตถํ.

‘‘ชิโน ตสฺมึ คุเณ ตุฏฺโ, เอตทคฺเค เปสิ มํ;

อคฺคา วินยธารีนํ, ปฏาจาราว เอกิกา.

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;

โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติ สมูหตา.

‘‘ยสฺสตฺถาย ปพฺพชิตา, อคารสฺมานคาริยํ;

โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, สพฺพสํโยชนกฺขโย.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา เสกฺขกาเล อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุปริวิเสสสฺส นิพฺพตฺติตาการํ วิภาเวนฺตี อุทานวเสน –

๑๑๒.

‘‘นงฺคเลหิ กสํ เขตฺตํ, พีชานิ ปวปํ ฉมา;

ปุตฺตทารานิ โปเสนฺตา, ธนํ วินฺทนฺติ มาณวา.

๑๑๓.

‘‘กิมหํ สีลสมฺปนฺนา, สตฺถุสาสนการิกา;

นิพฺพานํ นาธิคจฺฉามิ, อกุสีตา อนุทฺธตา.

๑๑๔.

‘‘ปาเท ปกฺขาลยิตฺวาน, อุทเกสุ กโรมหํ;

ปาโททกฺจ ทิสฺวาน, ถลโต นินฺนมาคตํ.

๑๑๕.

‘‘ตโต จิตฺตํ สมาเธสึ, อสฺสํ ภทฺรํวชานิยํ;

ตโต ทีปํ คเหตฺวาน, วิหารํ ปาวิสึ อหํ;

เสยฺยํ โอโลกยิตฺวาน, มฺจกมฺหิ อุปาวิสึ.

๑๑๖.

‘‘ตโต สูจึ คเหตฺวาน, วฏฺฏึ โอกสฺสยามหํ;

ปทีปสฺเสว นิพฺพานํ, วิโมกฺโข อหุ เจตโส’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ กสนฺติ กสนฺตา กสิกมฺมํ กโรนฺตา. พหุตฺเถ หิ อิทํ เอกวจนํ. ปวปนฺติ พีชานิ วปนฺตา. ฉมาติ ฉมายํ. ภุมฺมตฺเถ หิ อิทํ ปจฺจตฺตวจนํ. อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – อิเม มาณวา สตฺตา นงฺคเลหิ ผาเลหิ เขตฺตํ กสนฺตา ยถาธิปฺปายํ เขตฺตภูมิยํ ปุพฺพณฺณาปรณฺณเภทานิ พีชานิ วปนฺตา ตํเหตุ ตํนิมิตฺตํ อตฺตานํ ปุตฺตทาราทีนิ โปเสนฺตา หุตฺวา ธนํ ปฏิลภนฺติ. เอวํ อิมสฺมึ โลเก โยนิโส ปยุตฺโต ปจฺจตฺตปุริสกาโร นาม สผโล สอุทโย.

ตตฺถ กิมหํ สีลสมฺปนฺนา, สตฺถุสาสนการิกา. นิพฺพานํ นาธิคจฺฉามิ, อกุสีตา อนุทฺธตาติ อหํ สุวิสุทฺธสีลา อารทฺธวีริยตาย อกุสีตา อชฺฌตฺตํ สุสมาหิตจิตฺตตาย อนุทฺธตา จ หุตฺวา จตุสจฺจกมฺมฏฺานภาวนาสงฺขาตํ สตฺถุ สาสนํ กโรนฺตี กสฺมา นิพฺพานํ นาธิคจฺฉามิ, อธิคมิสฺสามิ เอวาติ.

เอวํ ปน จินฺเตตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี เอกทิวสํ ปาทโธวนอุทเก นิมิตฺตํ คณฺหิ. เตนาห ‘‘ปาเท ปกฺขาลยิตฺวานา’’ติอาทิ . ตสฺสตฺโถ – อหํ ปาเท โธวนฺตี ปาทปกฺขาลนเหตุ ติกฺขตฺตุํ อาสิตฺเตสุ อุทเกสุ ถลโต นินฺนมาคตํ ปาโททกํ ทิสฺวา นิมิตฺตํ กโรมิ.

‘‘ยถา อิทํ อุทกํ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ, เอวํ สตฺตานํ อายุสงฺขารา’’ติ เอวํ อนิจฺจลกฺขณํ, ตทนุสาเรน ทุกฺขลกฺขณํ, อนตฺตลกฺขณฺจ อุปธาเรตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒนฺตี ตโต จิตฺตํ สมาเธสึ, อสฺสํ ภทฺรํวชานิยนฺติ ยถา อสฺสํ ภทฺรํ อาชานิยํ กุสโล สารถิ สุเขน สาเรติ, เอวํ มยฺหํ จิตฺตํ สุเขเนว สมาเธสึ, วิปสฺสนาสมาธินา สมาหิตํ อกาสึ. เอวํ ปน วิปสฺสนํ วฑฺเฒนฺตี อุตุสปฺปายนิชิคิสาย โอวรกํ ปวิสนฺตี อนฺธการวิธมนตฺถํ ทีปํ คเหตฺวา คพฺภํ ปวิสิตฺวา ทีปํ เปตฺวา มฺจเก นิสินฺนมตฺตาว ทีปํ วิชฺฌาเปตุํ อคฺคฬสูจิยา ทีปวฏฺฏึ อากฑฺฒึ, ตาวเทว อุตุสปฺปายลาเภน ตสฺสา จิตฺตํ สมาหิตํ อโหสิ, วิปสฺสนาวีถึ โอตริ, มคฺเคน ฆฏฺเฏสิ. ตโต มคฺคปฏิปาฏิยา สพฺพโส อาสวานํ ขโย อโหสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตโต ทีปํ คเหตฺวาน…เป… วิโมกฺโข อหุ เจตโส’’ติ. ตตฺถ เสยฺยํ โอโลกยิตฺวานาติ ทีปาโลเกน เสยฺยํ ปสฺสิตฺวา.

สูจินฺติ อคฺคฬสูจึ. วฏฺฏึ โอกสฺสยามีติ ทีปํ วิชฺฌาเปตุํ เตลาภิมุขํ ทีปวฏฺฏึ อากฑฺเฒมิ. วิโมกฺโขติ กิเลเสหิ วิโมกฺโข. โส ปน ยสฺมา ปรมตฺถโต จิตฺตสฺส สนฺตติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘เจตโส’’ติ. ยถา ปน วฏฺฏิเตลาทิเก ปจฺจเย สติ อุปฺปชฺชนารโห ปทีโป ตทภาเว อนุปฺปชฺชนโต นิพฺพุโตติ วุจฺจติ, เอวํ กิเลสาทิปจฺจเย สติ อุปฺปชฺชนารหํ จิตฺตํ ตทภาเว อนุปฺปชฺชนโต วิมุตฺตนฺติ วุจฺจตีติ อาห – ‘‘ปทีปสฺเสว นิพฺพานํ, วิโมกฺโข อหุ เจตโส’’ติ.

ปฏาจาราเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. ตึสมตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา

มุสลานิคเหตฺวานาติอาทิกา ตึสมตฺตานํ เถรีนํ คาถา. ตาปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺติโย อนุกฺกเมน อุปจิตวิโมกฺขสมฺภารา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สกกมฺมสฺโจทิตา ตตฺถ ตตฺถ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา ปฏาจาราย เถริยา สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺธา ปพฺพชิตฺวา ปริสุทฺธสีลา วตฺตปฏิวตฺตํ ปริปูเรนฺติโย วิหรนฺติ. อเถกทิวสํ ปฏาจาราเถรี ตาสํ โอวาทํ เทนฺตี –

๑๑๗.

‘‘มุสลานิ คเหตฺวาน, ธฺํ โกฏฺเฏนฺติ มาณวา;

ปุตฺตทารานิ โปเสนฺตา, ธนํ วินฺทนฺติ มาณวา.

๑๑๘.

‘‘กโรถ พุทฺธสาสนํ, ยํ กตฺวา นานุตปฺปติ;

ขิปฺปํ ปาทานิ โธวิตฺวา, เอกมนฺเต นิสีทถ;

เจโตสมถมนุยุตฺตา, กโรถ พุทฺธสาสน’’นฺติ. – อิมา ทฺเว คาถา อภาสิ;

ตตฺถายํ สงฺเขปตฺโถ – อิเม สตฺตา ชีวิตเหตุ มุสลานิ คเหตฺวา ปเรสํ ธฺํ โกฏฺเฏนฺติ, อุทุกฺขลกมฺมํ กโรนฺติ. อฺมฺปิ เอทิสํ นิหีนกมฺมํ กตฺวา ปุตฺตทารํ โปเสนฺตา ยถารหํ ธนมฺปิ สํหรนฺติ. ตํ ปน เนสํ กมฺมํ นิหีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ ทุกฺขํ อนตฺถสฺหิตฺจ. ตสฺมา เอทิสํ สํกิเลสิกปปฺจํ วชฺเชตฺวา กโรถ พุทฺธสาสนํ สิกฺขตฺตยสงฺขาตํ สมฺมาสมฺพุทฺธสาสนํ กโรถ สมฺปาเทถ อตฺตโน สนฺตาเน นิพฺพตฺเตถ. ตตฺถ การณมาห – ‘‘ยํ กตฺวา นานุตปฺปตี’’ติ, ยสฺส กรณเหตุ เอตรหิ อายติฺจ อนุตาปํ นาปชฺชติ. อิทานิ ตสฺส กรเณ ปุพฺพกิจฺจํ อนุโยควิธิฺจ ทสฺเสตุํ, ‘‘ขิปฺปํ ปาทานิ โธวิตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺมา อโธวิตปาทสฺส อวิกฺขาลิตมุขสฺส จ นิสชฺชสุขํ อุตุสปฺปายลาโภ จ น โหติ, ปาเท ปน โธวิตฺวา มุขฺจ วิกฺขาเลตฺวา เอกมนฺเต นิสินฺนสฺส ตทุภยํ ลภติ, ตสฺมา ขิปฺปํ อิมํ ยถาลทฺธํ ขณํ อวิราเธนฺติโย ปาทานิ อตฺตโน ปาเท โธวิตฺวา เอกมนฺเต วิวิตฺเต โอกาเส นิสีทถ นิสชฺชถ. อฏฺตึสาย อารมฺมเณสุ ยตฺถ กตฺถจิ จิตฺตรุจิเก อารมฺมเณ อตฺตโน จิตฺตํ อุปนิพนฺธิตฺวา เจโตสมถมนุยุตฺตา สมาหิเตน จิตฺเตน จตุสจฺจกมฺมฏฺานภาวนาวเสน พุทฺธสฺส ภควโต สาสนํ โอวาทํ อนุสิฏฺึ กโรถ สมฺปาเทถาติ.

อถ ตา ภิกฺขุนิโย ตสฺสา เถริยา โอวาเท ตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ภาวนาย กมฺมํ กโรนฺติโย าณสฺส ปริปากํ คตตฺตา เหตุสมฺปนฺนตาย จ สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา โอวาทคาถาหิ สทฺธึ –

๑๑๙.

‘‘ตสฺสา ตา วจนํ สุตฺวา, ปฏาจาราย สาสนํ;

ปาเท ปกฺขาลยิตฺวาน, เอกมนฺตํ อุปาวิสุํ;

เจโตสมถมนุยุตฺตา, อกํสุ พุทฺธสาสนํ.

๑๒๐.

‘‘รตฺติยา ปุริเม ยาเม, ปุพฺพชาติมนุสฺสรุํ;

รตฺติยา มชฺฌิเม ยาเม, ทิพฺพจกฺขุํ วิโสธยุํ;

รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม, ตโมขนฺธํ ปทาลยุํ.

๑๒๑.

‘‘อุฏฺาย ปาเท วนฺทึสุ, กตา เต อนุสาสนี;

อินฺทํว เทวา ติทสา, สงฺคาเม อปราชิตํ;

ปุรกฺขตฺวา วิหสฺสาม, เตวิชฺชามฺห อนาสวา’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสึสุ.

ตตฺถ ตสฺสา ตา วจนํ สุตฺวา, ปฏาจาราย สาสนนฺติ ตสฺสา ปฏาจาราย เถริยา กิเลสปฏิสตฺตุสาสนฏฺเน สาสนภูตํ โอวาทวจนํ, ตา ตึสมตฺตา ภิกฺขุนิโย สุตฺวา ปฏิสฺสุตฺวา สิรสา สมฺปฏิจฺฉิตฺวา.

อุฏฺายปาเท วนฺทึสุ, กตา เต อนุสาสนีติ ยถาสมฺปฏิจฺฉิตํ ตสฺสา สาสนํ อฏฺึ กตฺวา มนสิ กตฺวา ยถาผาสุกฏฺาเน นิสีทิตฺวา ภาเวนฺติโย ภาวนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา อตฺตนา อธิคตวิเสสํ อาโรเจตุํ นิสินฺนาสนโต อุฏฺาย ตสฺสา สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘มหาเถริ ตวานุสาสนี ยถานุสิฏฺํ อมฺเหหิ กตา’’ติ วตฺวา ตสฺสา ปาเท ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทึสุ. อินฺทํว เทวา ติทสา, สงฺคาเม อปราชิตนฺติ เทวาสุรสงฺคาเม อปราชิตํ วิชิตาวึ อินฺทํ ตาวตึสา เทวา วิย มหาเถริ, มยํ ตํ ปุรกฺขตฺวา วิหริสฺสาม อฺสฺส กตฺตพฺพสฺส อภาวโต. ตสฺมา ‘‘เตวิชฺชามฺห อนาสวา’’ติ อตฺตโน กตฺุภาวํ ปเวเทนฺตี อิทเมว ตาสํ อฺาพฺยากรณํ อโหสิ. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต อวิภตฺตํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.

ตึสมตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. จนฺทาเถรีคาถาวณฺณนา

ทุคฺคตาหํ ปุเร อาสินฺติอาทิกา จนฺทาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อนุกฺกเมน สมฺภตวิโมกฺขสมฺภารา ปริปกฺกาณา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท อฺตรสฺมึ พฺราหฺมณคาเม อปฺาตสฺส พฺราหฺมณสฺส เคเห ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. ตสฺสา นิพฺพตฺติโต ปฏฺายํ ตํ กุลํ โภเคหิ ปริกฺขยํ คตํ. สา อนุกฺกเมน วิฺุตํ ปตฺวา ทุกฺเขน ชีวติ. อถ ตสฺมึ เคเห อหิวาตโรโค อุปฺปชฺชิ. เตนสฺสา สพฺเพปิ าตกา มรณพฺยสนํ ปาปุณึสุ. สา าติกฺขเย ชาเต อฺตฺถ ชีวิตุํ อสกฺโกนฺตี กปาลหตฺถา กุเล กุเล วิจริตฺวา ลทฺธลทฺเธน ภิกฺขาหาเรน ยาเปนฺตี เอกทิวสํ ปฏาจาราย เถริยา ภตฺตวิสฺสคฺคฏฺานํ อคมาสิ. ภิกฺขุนิโย ตํ ทุกฺขิตํ ขุทฺทาภิภูตํ ทิสฺวาน สฺชาตการุฺา ปิยสมุทาจาเรน สงฺคเหตฺวา ตตฺถ วิชฺชมาเนน อุปจารมโนหเรน อาหาเรน สนฺตปฺเปสุํ. สา ตาสํ อาจารสีเล ปสีทิตฺวา เถริยา สนฺติกํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. ตสฺสา เถรี ธมฺมํ กเถสิ. สา ตํ ธมฺมํ สุตฺวา สาสเน อภิปฺปสนฺนา สํสาเร จ สฺชาตสํเวคา ปพฺพชิ . ปพฺพชิตฺวา จ เถริยา โอวาเท ตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ภาวนํ อนุยุฺชนฺตี กตาธิการตาย าณสฺส จ ปริปากํ คตตฺตา น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา –

๑๒๒.

‘‘ทุคฺคตาหํ ปุเร อาสึ, วิธวา จ อปุตฺติกา;

วินา มิตฺเตหิ าตีหิ, ภตฺตโจฬสฺส นาธิคํ.

๑๒๓.

‘‘ปตฺตํ ทณฺฑฺจ คณฺหิตฺวา, ภิกฺขมานา กุลา กุลํ;

สีตุณฺเหน จ ฑยฺหนฺตี, สตฺต วสฺสานิ จาริหํ.

๑๒๔.

‘‘ภิกฺขุนึ ปุน ทิสฺวาน, อนฺนปานสฺส ลาภินึ;

อุปสงฺกมฺมํ อโวจํ, ปพฺพชฺชํ อนคาริยํ.

๑๒๕.

‘‘สา จ มํ อนุกมฺปาย, ปพฺพาเชสิ ปฏาจารา;

ตโต มํ โอวทิตฺวาน, ปรมตฺเถ นิโยชยิ.

๑๒๖.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, อกาสึ อนุสาสนึ;

อโมโฆ อยฺยาโยวาโท, เตวิชฺชามฺหิ อนาสวา’’ติ. –

อุทานวเสน อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ ทุคฺคตาติ ทลิทฺทา. ปุเรติ ปพฺพชิตโต ปุพฺเพ. ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย หิ อิธ ปุคฺคโล โภเคหิ อฑฺโฒ วา ทลิทฺโท วาติ น วตฺตพฺโพ. คุเณหิ ปน อยํ เถรี อฑฺฒาเยว. เตนาห ‘‘ทุคฺคตาหํ ปุเร อาสิ’’นฺติ. วิธวาติ ธโว วุจฺจติ สามิโก, ตทภาวา วิธวา, มตปติกาติ อตฺโถ. อปุตฺติกาติ ปุตฺตรหิตา. วินา มิตฺเตหีติ มิตฺเตหิ พนฺธเวหิ จ ปริหีนา รหิตา. ภตฺตโจฬสฺส นาธิคนฺติ ภตฺตสฺส โจฬสฺส จ ปาริปูรึ นาธิคจฺฉึ, เกวลํ ปน ภิกฺขาปิณฺฑสฺส ปิโลติกาขณฺฑสฺส จ วเสน ฆาสจฺฉาทนมตฺตเมว อลตฺถนฺติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ปตฺตํ ทณฺฑฺจ คณฺหิตฺวา’’ติอาทิ.

ตตฺถ ปตฺตนฺติ มตฺติกาภาชนํ. ทณฺฑนฺติ โคณสุนขาทิปริหรณทณฺฑกํ. กุลา กุลนฺติ กุลโต กุลํ. สีตุณฺเหน จ ฑยฺหนฺตีติ วสนเคหาภาวโต สีเตน จ อุณฺเหน จ ปีฬิยมานา.

ภิกฺขุนินฺติ ปฏาจาราเถรึ สนฺธาย วทติ. ปุนาติ ปจฺฉา, สตฺตสํวจฺฉรโต อปรภาเค.

ปรมตฺเถติ ปรเม อุตฺตเม อตฺเถ, นิพฺพานคามินิยา ปฏิปทาย นิพฺพาเน จ. นิโยชยีติ กมฺมฏฺานํ อาจิกฺขนฺตี นิโยเชสิ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

จนฺทาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺจกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.