📜

๖. ฉกฺกนิปาโต

๑. ปฺจสตมตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา

ฉกฺกนิปาเต ยสฺส มคฺคํ น ชานาสีติอาทิกา ปฺจสตมตฺตานํ เถรีนํ คาถา. อิมาปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺติโย อนุกฺกเมน อุปจิตวิโมกฺขสมฺภารา หุตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ตตฺถ ตตฺถ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺตา มาตาปิตูหิ ปติกุลํ อานีตา ตตฺถ ตตฺถ ปุตฺเต ลภิตฺวา ฆราวาสํ วสนฺติโย สมานชาติกสฺส ตาทิสสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา สพฺพาว มตปุตฺตา หุตฺวา, ปุตฺตโสเกน อภิภูตา ปฏาจาราย เถริยา สนฺติกํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา นิสินฺนา อตฺตโน โสกการณํ อาโรเจสุํ. เถรี ตาสํ โสกํ วิโนเทนฺตี –

๑๒๗.

‘‘ยสฺส มคฺคํ น ชานาสิ, อาคตสฺส คตสฺส วา;

ตํ กุโต จาคตํ สตฺตํ, มม ปุตฺโตติ โรทสิ.

๑๒๘.

‘‘มคฺคฺจ โขสฺส ชานาสิ, อาคตสฺส คตสฺส วา;

น นํ สมนุโสเจสิ, เอวํธมฺมา หิ ปาณิโน.

๑๒๙.

‘‘อยาจิโต ตตาคจฺฉิ, นานุฺาโต อิโต คโต;

กุโตจิ นูน อาคนฺตฺวา, วสิตฺวา กติปาหกํ;

อิโตปิ อฺเน คโต, ตโตปฺเน คจฺฉติ.

๑๓๐.

‘‘เปโต มนุสฺสรูเปน, สํสรนฺโต คมิสฺสติ;

ยถาคโต ตถา คโต, กา ตตฺถ ปริเทวนา’’ติ. –

อิมาหิ จตูหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสสิ.

ตา ตสฺสา ธมฺมํ สุตฺวา สฺชาตสํเวคา เถริยา สนฺติเก ปพฺพชึสุ. ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺติโย วิมุตฺติปริปาจนียานํ ธมฺมานํ ปริปากํ คตตฺตา น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ. อถ ตา อธิคตารหตฺตา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน ‘‘ยสฺส มคฺคํ น ชานาสี’’ติอาทิกาหิ โอวาทคาถาหิ สทฺธึ –

๑๓๑.

‘‘อพฺพหี วต เม สลฺลํ, ทุทฺทสํ หทยสฺสิตํ;

ยา เม โสกปเรตาย, ปุตฺตโสกํ พฺยปานุทิ.

๑๓๒.

‘‘สาชฺช อพฺพูฬฺหสลฺลาหํ, นิจฺฉาตา ปรินิพฺพุตา;

พุทฺธํ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ, อุเปมิ สรณํ มุนิ’’นฺติ. –

อิมา คาถา วิสุํ วิสุํ อภาสึสุ.

ตตฺถ ยสฺส มคฺคํ น ชานาสิ, อาคตสฺส คตสฺส วาติ ยสฺส สตฺตสฺส อิธ อาคตสฺส อาคตมคฺคํ วา อิโต คตสฺส คตมคฺคํ วา ตฺวํ น ชานาสิ. อนนฺตรา อตีตานาคตภวูปปตฺติโย สนฺธาย วทติ. ตํ กุโต จาคตํ สตฺตนฺติ ตํ เอวํ อวิฺาตาคตคตมคฺคํ กุโตจิ คติโต อาคตมคฺคํ อาคจฺฉนฺเตน อนฺตรามคฺเค สพฺเพน สพฺพํ อกตปริจยสมาคตปุริสสทิสํ สตฺตํ เกวลํ มมตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา มม ปุตฺโตติ กุโต เกน การเณน โรทสิ. อปฺปฏิการโต มม ปุตฺตสฺส จ อกาตพฺพโต น เอตฺถ โรทนการณํ อตฺถีติ อธิปฺปาโย.

มคฺคฺจ โขสฺส ชานาสีติ อสฺส ตว ปุตฺตาภิมตสฺส สตฺตสฺส อาคตสฺส อาคตมคฺคฺจ คตสฺส คตมคฺคฺจ อถ ชาเนยฺยาสิ. น นํ สมนุโสเจสีติ เอวมฺปิ นํ น สมนุโสเจยฺยาสิ. กสฺมา? เอวํธมฺมา หิ ปาณิโน, ทิฏฺธมฺเมปิ หิ สตฺตานํ สพฺเพหิ ปิเยหิ มนาเปหิ นานาภาวา วินาภาวา ตตฺถ วสวตฺติตาย อภาวโต, ปเคว อภิสมฺปรายํ.

อยาจิโต ตตาคจฺฉีติ ตโต ปรโลกโต เกนจิ อยาจิโต อิธ อาคจฺฉิ. ‘‘อาคโต’’ติปิ ปาฬิ, โส เอวตฺโถ. นานุฺาโต อิโต คโตติ อิธโลกโต เกนจิ อนนุฺาโต ปรโลกํ คโต. กุโตจีติ นิรยาทิโต ยโต กุโตจิ คติโต. นูนาติ ปริสงฺกายํ . วสิตฺวา กติปาหกนฺติ กติปยทิวสมตฺตํ อิธ วสิตฺวา. อิโตปิ อฺเน คโตติ อิโตปิ ภวโต อฺเน คโต, อิโต อฺมฺปิ ภวํ ปฏิสนฺธิวเสน อุปคโต. ตโตปฺเน คจฺฉตีติ ตโตปิ ภวโต อฺเน คมิสฺสติ, อฺเมว ภวํ อุปคมิสฺสติ.

เปโตติ อเปโต ตํ ตํ ภวํ อุปปชฺชิตฺวา ตโต อปคโต. มนุสฺสรูเปนาติ นิทสฺสนมตฺตเมตํ, มนุสฺสภาเวน ติรจฺฉานาทิภาเวน จาติ อตฺโถ. สํสรนฺโตติ อปราปรํ อุปปตฺติวเสน สํสรนฺโต. ยถาคโต ตถา คโตติ ยถา อวิฺาตคติโต จ อนามนฺเตตฺวา อาคโต ตถา อวิฺาตคติโก อนนุฺาโตว คโต. กา ตตฺถ ปริเทวนาติ ตตฺถ ตาทิเส อวสวตฺตินิ ยถากามาวจเร กา นาม ปริเทวนา, กึ ปริเทวิเตน ปโยชนนฺติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

เอตฺถ จ อาทิโต จตสฺโส คาถา ปฏาจาราย เถริยา เตสํ ปฺจมตฺตานํ อิตฺถิสตานํ โสกวิโนทนวเสน วิสุํ วิสุํ ภาสิตา. ตสฺสา โอวาเท ตฺวา ปพฺพชิตฺวา อธิคตวิเสสาหิ ตาหิ ปฺจสตมตฺตาหิ ภิกฺขุนีหิ ฉปิ คาถา ปจฺเจกํ ภาสิตาติ ทฏฺพฺพา.

ปฺจสตา ปฏาจาราติ ปฏาจาราย เถริยา สนฺติเก ลทฺธโอวาทตาย ปฏาจาราย วุตฺตํ อเวทิสุนฺติ กตฺวา ‘‘ปฏาจารา’’ติ ลทฺธนามา ปฺจสตา ภิกฺขุนิโย.

ปฺจสตมตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. วาเสฏฺีเถรีคาถาวณฺณนา

ปุตฺตโสเกนหํ อฏฺฏาติอาทิกา วาเสฏฺิยา เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อนุกฺกเมน สมฺภตวิโมกฺขสมฺภารา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท เวสาลิยํ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺตา มาตาปิตูหิ สมานชาติกสฺส กุลปุตฺตสฺส ทินฺนา ปติกุลํ คนฺตฺวา เตน สทฺธึ สุขสํวาสํ วสนฺตี เอกํ ปุตฺตํ ลภิตฺวา ตสฺมึ อาธาวิตฺวา ปริธาวิตฺวา วิจรณกาเล กาลํ กเต ปุตฺตโสเกน อฏฺฏิตา อุมฺมตฺติกา อโหสิ. สา าตเกสุ สามิเก จ ติกิจฺฉํ กโรนฺเตสุ เตสํ อชานนฺตานํเยว ปลายิตฺวา ยโต ตโต ปริพฺภมนฺตี มิถิลานครํ สมฺปตฺตา ตตฺถทฺทส ภควนฺตํ อนฺตรวีถิยํ คจฺฉนฺตํ ทนฺตํ คุตฺตํ สํยตินฺทฺริยํ นาคํ. ทิสฺวาน สห ทสฺสเนน พุทฺธานุภาวโต อปคตุมฺมาทา ปกติจิตฺตํ ปฏิลภิ. อถสฺสา สตฺถา สํขิตฺเตน ธมฺมํ เทเสสิ. สา ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสํเวคา สตฺถารํ ปพฺพชฺชํ ยาจิตฺวา สตฺถุ อาณาย ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตฺวา กตปุพฺพกิจฺจา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ฆเฏนฺตี วายมนฺตี ปริปกฺกาณตาย น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –

๑๓๓.

‘‘ปุตฺตโสเกนหํ อฏฺฏา, ขิตฺตจิตฺตา วิสฺินี;

นคฺคา ปกิณฺณเกสี จ, เตน เตน วิจาริหํ.

๑๓๔.

‘‘วีถิสงฺการกูเฏสุ, สุสาเน รถิยาสุ จ;

อจรึ ตีณิ วสฺสานิ, ขุปฺปิปาสา สมปฺปิตา.

๑๓๕.

‘‘อถทฺทสาสึ สุคตํ, นครํ มิถิลํ ปติ;

อทนฺตานํ ทเมตารํ, สมฺพุทฺธมกุโตภยํ.

๑๓๖.

‘‘สจิตฺตํ ปฏิลทฺธาน, วนฺทิตฺวาน อุปาวิสึ;

โส เม ธมฺมมเทเสสิ, อนุกมฺปาย โคตโม.

๑๓๗.

‘‘ตสฺส ธมฺมํ สุณิตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ;

ยุฺชนฺตี สตฺถุวจเน, สจฺฉากาสึ ปทํ สิวํ.

๑๓๘.

‘‘สพฺเพ โสกา สมุจฺฉินฺนา, ปหีนา เอตทนฺติกา;

ปริฺาตา หิ เม วตฺถู, ยโต โสกาน สมฺภโว’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ อฏฺฏาติ อฏฺฏิตา. อยเมว วา ปาโ, อฏฺฏิตา ปีฬิตาติ อตฺโถ. ขิตฺตจิตฺตาติ โสกุมฺมาเทน ขิตฺตหทยา. ตโต เอว ปกติสฺาย วิคเมน วิสฺินี. หิโรตฺตปฺปาภาวโต อปคตวตฺถตาย นคฺคา. วิธุตเกสตาย ปกิณฺณเกสี. เตน เตนาติ คาเมน คามํ นคเรน นครํ วีถิยา วีถึ วิจรึ อหํ.

อถาติ ปจฺฉา อุมฺมาทสํวตฺตนิยสฺส กมฺมสฺส ปริกฺขเย. สุคตนฺติ โสภนคมนตฺตา สุนฺทรํ านํ คตตฺตา สมฺมา คทตฺตา สมฺมา จ คตตฺตา สุคตํ ภควนฺตํ. มิถิลํ ปตีติ มิถิลาภิมุขํ, มิถิลานคราภิมุขํ คจฺฉนฺตนฺติ อตฺโถ.

สจิตฺตํ ปฏิลทฺธานาติ พุทฺธานุภาเวน อุมฺมาทํ ปหาย อตฺตโน ปกติจิตฺตํ ปฏิลภิตฺวา.

ยุฺชนฺตี สตฺถุวจเนติ สตฺถุ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาสเน โยคํ กโรนฺตี ภาวนํ อนุยุฺชนฺตี. สจฺฉากาสึ ปทํ สิวนฺติ สิวํ เขมํ จตูหิ โยเคหิ อนุปทฺทุตํ นิพฺพานํ ปทํ สจฺฉิอกาสึ.

เอตทนฺติกาติ เอตํ อิทานิ มยา อธิคตํ อรหตฺตํ อนฺโต ปริโยสานํ เอเตสนฺติ เอตทนฺติกา, โสกา. น ทานิ เตสํ สมฺภโว อตฺถีติ อตฺโถ. ยโต โสกาน สมฺภโวติ ยโต อนฺโตนิชฺฌานลกฺขณานํ โสกานํ สมฺภโว, เตสํ โสกานํ ปฺจุปาทานกฺขนฺธสงฺขาตา วตฺถู อธิฏฺานานิ าตตีรณปหานปริฺาหิ ปริฺาตา. ตสฺมา โสกา เอตทนฺติกาติ โยชนา.

วาเสฏฺีเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. เขมาเถรีคาถาวณฺณนา

ทหรา ตฺวํ รูปวตีติอาทิกา เขมาย เถริยา คาถา. อยํ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร ปราธีนวุตฺติกา ปเรสํ ทาสี อโหสิ. สา ปเรสํ เวยฺยาวจฺจกรเณน ชีวิกํ กปฺเปนฺตี เอกทิวสํ ปทุมุตฺตรสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อคฺคสาวกํ สุชาตตฺเถรํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา ตโย โมทเก ทตฺวา ตํทิวสเมว อตฺตโน เกเส วิสฺสชฺเชตฺวา เถรสฺส ทานํ ทตฺวา ‘‘อนาคเต มหาปฺา พุทฺธสฺส สาวิกา ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ กตฺวา ยาวชีวํ กุสลกมฺเม อปฺปมตฺตา หุตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อนุกฺกเมน ฉกามสคฺเค, เตสํ เตสํ เทวราชูนํ มเหสิภาเวน อุปปนฺนา, มนุสฺสโลเกปิ อเนกวารํ จกฺกวตฺตีนํ มณฺฑลราชูนฺจ มเหสิภาวํ อุปคตา มหาสมฺปตฺติโย อนุภวิตฺวา วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล มนุสฺสโลเก อุปฺปชฺชิตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา, สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสํเวคา ปพฺพชิตฺวา ทสวสฺสสหสฺสานิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตี พหุสฺสุตา ธมฺมกถิกา หุตฺวา พหุชนสฺส ธมฺมกถนาทินา ปฺาสํวตฺตนิยกมฺมํ กตฺวา ตโต จวิตฺวา สุคตีสุเยว สํสรนฺตี อิมสฺมึ กปฺเป ภควโต จ กกุสนฺธสฺส ภควโต จ โกณาคมนสฺส กาเล วิภวสมฺปนฺเน กุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา มหนฺตํ สงฺฆารามํ กาเรตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิยฺยาเทสิ.

ภควโต ปน กสฺสปทสพลสฺส กาเล กิกิสฺส กาสิรฺโ สพฺพเชฏฺิกา สมณี นาม ธีตา หุตฺวา, สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสํเวคา อคาเรเยว ิตา, วีสติ วสฺสสหสฺสานิ โกมาริพฺรหฺมจริยํ จรนฺตี สมณคุตฺตาทีหิ อตฺตโน ภคินีหิ สทฺธึ รมณียํ ปริเวณํ กาเรตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิยฺยาเทสิ. เอวเมว ตตฺถ ตตฺถ ภเว อายตนคตํ อุฬารํ ปุฺกมฺมํ กตฺวา สุคตีสุเยว สํสริตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท มทฺทรฏฺเ สากลนคเร ราชกุเล นิพฺพตฺติ. เขมาติสฺสา นามํ อโหสิ, สุวณฺณวณฺณา กฺจนสนฺนิภตฺตจา. สา วยปฺปตฺตา พิมฺพิสารรฺโ เคหํ คตา. สตฺถริ เวฬุวเน วิหรนฺเต รูปมตฺตา หุตฺวา ‘‘รูเป โทสํ ทสฺเสตี’’ติ สตฺถุ ทสฺสนาย น คจฺฉติ.

ราชา มนุสฺเสหิ เวฬุวนสฺส วณฺเณ ปกาสาเปตฺวา เทวิยา วิหารทสฺสนาย จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ. อถ เทวี ‘‘วิหารํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ ราชานํ ปฏิปุจฺฉิ. ราชา ‘‘วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถารํ อทิสฺวา อาคนฺตุํ น ลภิสฺสสี’’ติ วตฺวา ปุริสานํ สฺํ อทาสิ – ‘‘พลกฺกาเรนปิ เทวึ ทสพลํ ทสฺเสถา’’ติ. เทวี วิหารํ คนฺตฺวา ทิวสภาคํ เขเปตฺวา นิวตฺเตนฺตี สตฺถารํ อทิสฺวาว คนฺตุํ อารทฺธา. อถ นํ ราชปุริสา อนิจฺฉนฺติมฺปิ สตฺถุ สนฺติกํ นยึสุ. สตฺถา ตํ อาคจฺฉนฺตึ ทิสฺวา อิทฺธิยา เทวจฺฉราสทิสํ อิตฺถึ นิมฺมินิตฺวา ตาลปณฺณํ คเหตฺวา พีชยมานํ อกาสิ. เขมา เทวี ตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘เอวรูปา นาม เทวจฺฉรปฏิภาคา อิตฺถิโย ภควโต อวิทูเร ติฏฺนฺติ, อหํ เอตาสํ ปริจาริกตายปิ นปฺปโหมิ, มนมฺปิ นิกฺการณา ปาปจิตฺตสฺส วเสน นฏฺา’’ติ นิมิตฺตํ คเหตฺวา ตเมว อิตฺถึ โอโลกยมานา อฏฺาสิ. อถสฺสา ปสฺสนฺติยาว สตฺถุ อธิฏฺานพเลน สา อิตฺถี ปมวยํ อติกฺกมฺม มชฺฌิมวยมฺปิ อติกฺกมฺม ปจฺฉิมวยํ ปตฺวา ขณฺฑทนฺตา ปลิตเกสา วลิตฺตจา หุตฺวา สทฺธึ ตาลปณฺเณน ปริวตฺติตฺวา ปติ . ตโต เขมา กตาธิการตฺตา เอวํ จินฺเตสิ – ‘‘เอวํวิธมฺปิ สรีรํ อีทิสํ วิปตฺตึ ปาปุณิ, มยฺหมฺปิ สรีรํ เอวํคติกเมว ภวิสฺสตี’’ติ. อถสฺสา จิตฺตาจารํ ตฺวา สตฺถา –

‘‘เย ราครตฺตานุปตนฺติ โสตํ, สยํ กตํ มกฺกฏโกว ชาลํ;

เอตมฺปิ เฉตฺวาน ปริพฺพชนฺติ, อนเปกฺขิโน กามสุขํ ปหายา’’ติ. –

คาถมาห . สา คาถาปริโยสาเน สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณีติ อฏฺกถาสุ อาคตํ. อปทาเน ปน ‘‘อิมํ คาถํ สุตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺิตา ราชานํ อนุชานาเปตฺวา ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณี’’ติ อาคตํ. ตตฺถายํ อปทานปาฬิ (อป. เถรี ๒.๒.๒๘๙-๓๘๓) –

‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺเมสุ จกฺขุมา;

อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโก.

‘‘ตทาหํ หํสวติยํ, ชาตา เสฏฺิกุเล อหุํ;

นานารตนปชฺโชเต, มหาสุขสมปฺปิตา.

‘‘อุเปตฺวา ตํ มหาวีรํ, อสฺโสสึ ธมฺมเทสนํ;

ตโต ชาตปฺปสาทาหํ, อุเปมิ สรณํ ชินํ.

‘‘มาตรํ ปิตรํ จาหํ, อายาจิตฺวา วินายกํ;

นิมนฺตยิตฺวา สตฺตาหํ, โภชยึ สหสาวกํ.

‘‘อติกฺกนฺเต จ สตฺตาเห, มหาปฺานมุตฺตมํ;

ภิกฺขุนึ เอตทคฺคมฺหิ, เปสิ นรสารถิ.

‘‘ตํ สุตฺวา มุทิตา หุตฺวา, ปุโน ตสฺส มเหสิโน;

การํ กตฺวาน ตํ านํ, ปณิปจฺจ ปณีทหึ.

‘‘ตโต มม ชิโน อาห, สิชฺฌตํ ปณิธี ตว;

สสงฺเฆ เม กตํ การํ, อปฺปเมยฺยผลํ ตยา.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาทา, โอรสา ธมฺมนิมฺมิตา;

เอตทคฺคมนุปฺปตฺตา, เขมา นาม ภวิสฺสติ.

‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสูปคา อหํ.

‘‘ตโต จุตา ยามมคํ, ตโตหํ ตุสิตํ คตา;

ตโต จ นิมฺมานรตึ, วสวตฺติปุรํ ตโต.

‘‘ยตฺถ ยตฺถูปปชฺชามิ, ตสฺส กมฺมสฺส วาหสา;

ตตฺถ ตตฺเถว ราชูนํ, มเหสิตฺตมการยึ.

‘‘ตโต จุตา มนุสฺสตฺเต, ราชูนํ จกฺกวตฺตินํ;

มณฺฑลีนฺจ ราชูนํ, มเหสิตฺตมการยึ.

‘‘สมฺปตฺตึ อนุโภตฺวาน, เทเวสุ มนุเชสุ จ;

สพฺพตฺถ สุขิตา หุตฺวา, เนกกปฺเปสุ สํสรึ.

‘‘เอกนวุติโต กปฺเป, วิปสฺสี โลกนายโก;

อุปฺปชฺชิ จารุทสฺสโน, สพฺพธมฺมวิปสฺสโก.

‘‘ตมหํ โลกนายกํ, อุเปตฺวา นรสารถึ;

ธมฺมํ ภณิตํ สุตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ.

‘‘ทสวสฺสสหสฺสานิ, ตสฺส วีรสฺส สาสเน;

พฺรหฺมจริยํ จริตฺวาน, ยุตฺตโยคา พหุสฺสุตา.

‘‘ปจฺจยาการกุสลา, จตุสจฺจวิสารทา;

นิปุณา จิตฺตกถิกา, สตฺถุสาสนการิกา.

‘‘ตโต จุตาหํ ตุสิตํ, อุปปนฺนา ยสสฺสินี;

อภิโภมิ ตหึ อฺเ, พฺรหฺมจารีผเลนหํ.

‘‘ยตฺถ ยตฺถูปปนฺนาหํ, มหาโภคา มหทฺธนา;

เมธาวินี สีลวตี, วินีตปริสาปิ จ.

‘‘ภวามิ เตน กมฺเมน, โยเคน ชินสาสเน;

สพฺพา สมฺปตฺติโย มยฺหํ, สุลภา มนโส ปิยา.

‘‘โยปิ เม ภวเต ภตฺตา, ยตฺถ ยตฺถ คตายปิ;

วิมาเนติ น มํ โกจิ, ปฏิปตฺติพเลน เม.

‘‘อิมมฺหิ ภทฺทเก กปฺเป, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;

นาเมน โกณาคมโน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโร.

‘‘ตทา หิ พาราณสิยํ, สุสมิทฺธกุลปฺปชา;

ธนฺชานี สุเมธา จ, อหมฺปิ จ ตโย ชนา.

‘‘สงฺฆารามมทาสิมฺห, ทานสหายิกา ปุเร;

สงฺฆสฺส จ วิหารมฺปิ, อุทฺทิสฺส การิกา มยํ.

‘‘ตโต จุตา มยํ สพฺพา, ตาวตึสูปคา อหุํ;

ยสสา อคฺคตํ ปตฺตา, มนุสฺเสสุ ตเถว จ.

‘‘อิมสฺมึเยว กปฺปมฺหิ, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;

กสฺสโป นาม โคตฺเตน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโร.

‘‘อุปฏฺาโก มเหสิสฺส, ตทา อาสิ นริสฺสโร;

กาสิราชา กิกี นาม, พาราณสิปุรุตฺตเม.

‘‘ตสฺสาสึ เชฏฺิกา ธีตา, สมณี อิติ วิสฺสุตา;

ธมฺมํ สุตฺวา ชินคฺคสฺส, ปพฺพชฺชํ สมโรจยึ.

‘‘อนุชานิ น โน ตาโต, อคาเรว ตทา มยํ;

วีสวสฺสสหสฺสานิ, วิจริมฺห อตนฺทิตา.

‘‘โกมาริพฺรหฺมจริยํ, ราชกฺา สุเขธิตา;

พุทฺโธปฏฺานนิรตา, มุทิตา สตฺต ธีตโร.

‘‘สมณี สมณคุตฺตา จ, ภิกฺขุนี ภิกฺขุทายิกา;

ธมฺมา เจว สุธมฺมา จ, สตฺตมี สงฺฆทายิกา.

‘‘อหํ อุปฺปลวณฺณา จ, ปฏาจารา จ กุณฺฑลา;

กิสาโคตมี ธมฺมทินฺนา, วิสาขา โหติ สตฺตมี.

‘‘กทาจิ โส นราทิจฺโจ, ธมฺมํ เทเสสิ อพฺภุตํ;

มหานิทานสุตฺตนฺตํ, สุตฺวา ตํ ปริยาปุณึ.

‘‘เตหิ กมฺเมหิ สุกเตหิ, เจตนาปณิธีหิ จ;

ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.

‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, สากลาย ปุรุตฺตเม;

รฺโ มทฺทสฺส ธีตามฺหิ, มนาปา ทยิตา ปิยา.

‘‘สห เม ชาตมตฺตมฺหิ, เขมํ ตมฺหิ ปุเร อหุ;

ตโต เขมาติ นามํ เม, คุณโต อุปปชฺชถ.

‘‘ยทาหํ โยพฺพนํ ปตฺตา, รูปลาวฺภูสิตา;

ตทา อทาสิ มํ ตาโต, พิมฺพิสารสฺส ราชิโน.

‘‘ตสฺสาหํ สุปฺปิยา อาสึ, รูปเกลายเน รตา;

รูปานํ โทสวาทีติ, น อุเปสึ มหาทยํ.

‘‘พิมฺพิสาโร ตทา ราชา, มมานุคฺคหพุทฺธิยา;

วณฺณยิตฺวา เวฬุวนํ, คายเก คาปยี มมํ.

‘‘รมฺมํ เวฬุวนํ เยน, น ทิฏฺํ สุคตาลยํ;

น เตน นนฺทนํ ทิฏฺํ, อิติ มฺามเส มยํ.

‘‘เยน เวฬุวนํ ทิฏฺํ, นรนนฺทนนนฺทนํ;

สุทิฏฺํ นนฺทนํ เตน, อมรินฺทสุนนฺทนํ.

‘‘วิหาย นนฺทนํ เทวา, โอตริตฺวา มหีตลํ;

รมฺมํ เวฬุวนํ ทิสฺวา, น ตปฺปนฺติ สุวิมฺหิตา.

‘‘ราชปุฺเน นิพฺพตฺตํ, พุทฺธปุฺเน ภูสิตํ;

โก วตฺตา ตสฺส นิสฺเสสํ, วนสฺส คุณสฺจยํ.

‘‘ตํ สุตฺวา วนสมิทฺธํ, มม โสตมโนหรํ;

ทฏฺุกามา ตมุยฺยานํ, รฺโ อาโรจยึ ตทา.

‘‘มหตา ปริวาเรน, ตทา จ โส มหีปติ;

มํ เปเสสิ ตมุยฺยานํ, ทสฺสนาย สมุสฺสุกํ.

‘‘คจฺฉ ปสฺส มหาโภเค, วนํ เนตฺตรสายนํ;

ยํ สทา ภาติ สิริยา, สุคตาภานุรฺชิตํ.

‘‘ยทา จ ปิณฺฑาย มุนิ, คิริพฺพชปุรุตฺตมํ;

ปวิฏฺโหํ ตทาเยว, วนํ ทฏฺุมุปาคมึ.

‘‘ตทา ตํ ผุลฺลวิปินํ, นานาภมรกูชิตํ;

โกกิลาคีตสหิตํ, มยูรคณนจฺจิตํ.

‘‘อปฺปสทฺทมนากิณฺณํ, นานาจงฺกมภูสิตํ;

กุฏิมณฺฑปสํกิณฺณํ, โยคีวรวิราชิตํ.

‘‘วิจรนฺตี อมฺิสฺสํ, สผลํ นยนํ มม;

ตตฺถาปิ ตรุณํ ภิกฺขุํ, ยุตฺตํ ทิสฺวา วิจินฺตยึ.

‘‘อีทิเส วิปิเน รมฺเม, ิโตยํ นวโยพฺพเน;

วสนฺตมิว กนฺเตน, รูเปน จ สมนฺวิโต.

‘‘นิสินฺโน รุกฺขมูลมฺหิ, มุณฺโฑ สงฺฆาฏิปารุโต;

ฌายเต วตยํ ภิกฺขุ, หิตฺวา วิสยชํ รตึ.

‘‘นนุ นาม คหฏฺเน, กามํ ภุตฺวา ยถาสุขํ;

ปจฺฉา ชิณฺเณน ธมฺโมยํ, จริตพฺโพ สุภทฺทโก.

‘‘สุฺกนฺติ วิทิตฺวาน, คนฺธเคหํ ชินาลยํ;

อุเปตฺวา ชินมทฺทกฺขํ, อุทยนฺตํ ว ภากรํ.

‘‘เอกกํ สุขมาสีนํ, พีชมานํ วริตฺถิยา;

ทิสฺวาเนวํ วิจินฺเตสึ, นายํ ลูโข นราสโภ.

‘‘สา กฺา กนกาภาสา, ปทุมานนโลจนา;

พิมฺโพฏฺี กุนฺททสนา, มโนเนตฺตรสายนา.

‘‘เหมโทลาภสวนา, กลิกาการสุตฺถนี;

เวทิมชฺฌาว สุสฺโสณี, รมฺโภรุ จารุภูสนา.

‘‘รตฺตํสกุปสํพฺยานา , นีลมฏฺนิวาสนา;

อตปฺปเนยฺยรูเปน, หาสภาวสมนฺวิตา.

‘‘ทิสฺวา ตเมวํ จินฺเตสึ, อโหยมภิรูปินี;

น มยาเนน เนตฺเตน, ทิฏฺปุพฺพา กุทาจนํ.

‘‘ตโต ชราภิภูตา สา, วิวณฺณา วิกตานนา;

ภินฺนทนฺตา เสตสิรา, สลาลา วทนาสุจิ.

‘‘สํขิตฺตกณฺณา เสตกฺขี, ลมฺพาสุภปโยธรา;

วลิวิตตสพฺพงฺคี, สิราวิตตเทหินี.

‘‘นตงฺคา ทณฺฑทุติยา, อุปฺผาสุลิกตา กิสา;

ปเวธมานา ปติตา, นิสฺสสนฺตี มุหุํ มุหุํ.

‘‘ตโต เม อาสิ สํเวโค, อพฺภุโต โลมหํสโน;

ธิรตฺถุ รูปํ อสุจึ, รมนฺเต ยตฺถ พาลิสา.

‘‘ตทา มหาการุณิโก, ทิสฺวา สํวิคฺคมานสํ;

อุทคฺคจิตฺโต สุคโต, อิมา คาถา อภาสถ.

‘‘อาตุรํ อสุจึ ปูตึ, ปสฺส เขเม สมุสฺสยํ;

อุคฺฆรนฺตํ ปคฺฆรนฺตํ, พาลานํ อภินนฺทิตํ.

‘‘อสุภาย จิตฺตํ ภาเวหิ, เอกคฺคํ สุสมาหิตํ;

สติ กายคตา ตฺยตฺถุ, นิพฺพิทา พหุลา ภว.

‘‘ยถา อิทํ ตถา เอตํ, ยถา เอตํ ตถา อิทํ;

อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ, กาเย ฉนฺทํ วิราชย.

‘‘อนิมิตฺตฺจ ภาเวหิ, มานานุสยมุชฺชห;

ตโต มานาภิสมยา, อุปสนฺตา จริสฺสสิ.

‘‘เย ราครตฺตานุปตนฺติ โสตํ, สยํ กตํ มกฺกฏโกว ชาลํ;

เอตมฺปิ เฉตฺวาน ปริพฺพชนฺติ, อนเปกฺขิโน กามสุขํ ปหาย.

‘‘ตโต กลฺลิตจิตฺตํ มํ, ตฺวาน นรสารถิ;

มหานิทานํ เทเสสิ, สุตฺตนฺตํ วินยาย เม.

‘‘สุตฺวา สุตฺตนฺตเสฏฺํ ตํ, ปุพฺพสฺมนุสฺสรึ;

ตตฺถ ิตาวหํ สนฺตี, ธมฺมจกฺขุํ วิโสธยึ.

‘‘นิปติตฺวา มเหสิสฺส, ปาทมูลมฺหิ ตาวเท;

อจฺจยํ เทสนตฺถาย, อิทํ วจนมพฺรวึ.

‘‘นโม เต สพฺพทสฺสาวิ, นโม เต กรุณากร;

นโม เต ติณฺณสํสาร, นโม เต อมตํ ทท.

‘‘ทิฏฺิคหนปกฺขนฺทา, กามราควิโมหิตา;

ตยา สมฺมา อุปาเยน, วินีตา วินเย รตา.

‘‘อทสฺสเนน วิโภคา, ตาทิสานํ มเหสินํ;

อนุโภนฺติ มหาทุกฺขํ, สตฺตา สํสารสาคเร.

‘‘ยทาหํ โลกสรณํ, อรณํ อรณนฺตคุํ;

นาทฺทสามิ อทูรฏฺํ, เทสยามิ ตมจฺจยํ.

‘‘มหาหิตํ วรททํ, อหิโตติ วิสงฺกิตา;

โนเปสึ รูปนิรตา, เทสยามิ ตมจฺจยํ.

‘‘ตทา มธุรนิคฺโฆโส, มหาการุณิโก ชิโน;

อโวจ ติฏฺ เขเมติ, สิฺจนฺโต อมเตน มํ.

‘‘ตทา ปกมฺย สิรสา, กตฺวา จ นํ ปทกฺขิณํ;

คนฺตฺวา ทิสฺวา นรปตึ, อิทํ วจนมพฺรวึ.

‘‘อโห สมฺมา อุปาโย เต, จินฺติโตยมรินฺทม;

วนทสฺสนกามาย, ทิฏฺโ นิพฺพานโต มุนิ.

‘‘ยทิ เต รุจฺจเต ราช, สาสเน ตสฺส ตาทิโน;

ปพฺพชิสฺสามิ รูเปหํ, นิพฺพินฺนา มุนิวาณินา.

‘‘อฺชลึ ปคฺคเหตฺวาน, ตทาห ส มหีปติ;

อนุชานามิ เต ภทฺเท, ปพฺพชฺชา ตว สิชฺฌตุ.

‘‘ปพฺพชิตฺวา ตทา จาหํ, อทฺธมาเส อุปฏฺิเต;

ทีโปทยฺจ เภทฺจ, ทิสฺวา สํวิคฺคมานสา.

‘‘นิพฺพินฺนา สพฺพสงฺขาเร, ปจฺจยาการโกวิทา;

จตุโรเฆ อติกฺกมฺม, อรหตฺตมปาปุณึ.

‘‘อิทฺธีสุ จ วสี อาสึ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;

เจโตปริยาณสฺส, วสี จาปิ ภวามหํ.

‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;

สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.

‘‘อตฺถธมฺมนิรุตฺตีส, ปฏิภาเน ตเถว จ;

ปริสุทฺธํ มม าณํ, อุปฺปนฺนํ พุทฺธสาสเน.

‘‘กุสลาหํ วิสุทฺธีสุ, กถาวตฺถุวิสารทา;

อภิธมฺมนยฺู จ, วสิปฺปตฺตามฺหิ สาสเน.

‘‘ตโต โตรณวตฺถุสฺมึ, รฺา โกสลสามินา;

ปุจฺฉิตา นิปุเณ ปฺเห, พฺยากโรนฺตี ยถาตถํ.

‘‘ตทา ส ราชา สุคตํ, อุปสงฺกมฺม ปุจฺฉถ;

ตเถว พุทฺโธ พฺยากาสิ, ยถา เต พฺยากตา มยา.

‘‘ชิโน ตสฺมึ คุเณ ตุฏฺโ, เอตทคฺเค เปสิ มํ;

มหาปฺานมคฺคาติ, ภิกฺขุนีนํ นรุตฺตโม.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. (อป. เถรี ๒.๒.๒๘๙-๓๘๓);

อรหตฺตํ ปน ปตฺวา ผลสุเขน นิพฺพานสุเขน จ วิหรนฺติยา อิมิสฺสา เถริยา สติปิ อฺาสํ ขีณาสวตฺเถรีนํ ปฺาเวปุลฺลปฺปตฺติยํ ตตฺถ ปน กตาธิการตาย มหาปฺาภาโว ปากโฏ อโหสิ. ตถา หิ นํ ภควา เชตวนมหาวิหาเร อริยคณมชฺเฌ นิสินฺโน ปฏิปาฏิยา ภิกฺขุนิโย านนฺตเร เปนฺโต ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวิกานํ ภิกฺขุนีนํ มหาปฺานํ ยทิทํ เขมา’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๓๕-๒๓๖) มหาปฺตาย อคฺคฏฺาเน เปสิ. ตํ เอกทิวสํ อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสินฺนํ มาโร ปาปิมา ตรุณรูเปน อุปสงฺกมิตฺวา กาเมหิ ปโลเภนฺโต –

๑๓๙.

‘‘ทหรา ตฺวํ รูปวตี, อหมฺปิ ทหโร ยุวา;

ปฺจงฺคิเกน ตุริเยน, เอหิ เขเม รมามเส’’ติ. – คาถมาห ;

ตสฺสตฺโถ – เขเม, ตฺวํ ตรุณปฺปตฺตา, โยพฺพเน ิตา รูปสมฺปนฺนา, อหมฺปิ ตรุโณ ยุวา, ตสฺมา มยํ โยพฺพฺํ อเขเปตฺวา ปฺจงฺคิเกน ตุริเยน วชฺชมาเนน เอหิ กามขิฑฺฑารติยา รมาม กีฬามาติ.

ตํ สุตฺวา สา กาเมสุ สพฺพธมฺเมสุ จ อตฺตโน วิรตฺตภาวํ ตสฺส จ มารภาวํ อตฺตาภินิเวเสสุ สตฺเตสุ อตฺตโน ถามคตํ อปฺปสาทํ กตกิจฺจตฺจ ปกาเสนฺตี –

๑๔๐.

‘‘อิมินา ปูติกาเยน, อาตุเรน ปภงฺคุนา;

อฏฺฏิยามิ หรายามิ, กามตณฺหา สมูหตา.

๑๔๑.

‘‘สตฺติสูลูปมา กามา, ขนฺธาสํ อธิกุฏฺฏนา;

ยํ ตฺวํ กามรตึ พฺรูสิ, อรตี ทานิ สา มม.

๑๔๒.

‘‘สพฺพตฺถ วิหตา นนฺที, ตโมขนฺโธ ปทาลิโต;

เอวํ ชานาหิ ปาปิม, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตก.

๑๔๓.

‘‘นกฺขตฺตานิ นมสฺสนฺตา, อคฺคึ ปริจรํ วเน;

ยถาภุจฺจมชานนฺตา, พาลา สุทฺธิมมฺถ.

๑๔๔.

‘‘อหฺจ โข นมสฺสนฺตี, สมฺพุทฺธํ ปุริสุตฺตมํ;

ปมุตฺตา สพฺพทุกฺเขหิ, สตฺถุสาสนการิกา’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ อคฺคึ ปริจรํ วเนติ ตโปวเน อคฺคิหุตฺตํ ปริจรนฺโต. ยถาภุจฺจมชานนฺตาติ ปวตฺติโย ยถาภูตํ อปริชานนฺตา. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมว.

เขมาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สุชาตาเถรีคาถาวณฺณนา

อลงฺกตา สุวสนาติอาทิกา สุชาตาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อนุกฺกเมน สมฺภตวิโมกฺขสมฺภารา หุตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาเกตนคเร เสฏฺิกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺตา มาตาปิตูหิ สมานชาติกสฺส เสฏฺิปุตฺตสฺส ทินฺนา หุตฺวา ปติกุลํ คตา. ตตฺถ เตน สทฺธึ สุขสํวาสํ วสนฺตี เอกทิวสํ อุยฺยานํ คนฺตฺวา นกฺขตฺตกีฬํ กีฬิตฺวา ปริชเนน สทฺธึ นครํ อาคจฺฉนฺตี อฺชนวเน สตฺถารํ ทิสฺวา ปสนฺนมานสา อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. สตฺถา ตสฺสา อนุปุพฺพึ กถํ กเถตฺวา กลฺลจิตฺตตํ ตฺวา อุปริ สามุกฺกํสิกํ ธมฺมเทสนํ ปกาเสสิ. สา เทสนาวสาเน อตฺตโน กตาธิการตาย าณสฺส ปริปากํ คตตฺตา จ , สตฺถุ จ เทสนาวิลาเสน ยถานิสินฺนาว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เคหํ คนฺตฺวา สามิกฺจ มาตาปิตโร จ อนุชานาเปตฺวา สตฺถุอาณาย ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ปพฺพชิ. ปพฺพชิตฺวา จ อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –

๑๔๕.

‘‘อลงฺกตา สุวสนา, มาลินี จนฺทโนกฺขิตา;

สพฺพาภรณสฺฉนฺนา, ทาสีคณปุรกฺขตา.

๑๔๖.

‘‘อนฺนํ ปานฺจ อาทาย, ขชฺชํ โภชฺชํ อนปฺปกํ;

เคหโต นิกฺขมิตฺวาน, อุยฺยานมภิหารยึ.

๑๔๗.

‘‘ตตฺถ รมิตฺวา กีฬิตฺวา, อาคจฺฉนฺตี สกํ ฆรํ;

วิหารํ ทฏฺุํ ปาวิสึ, สาเกเต อฺชนํ วนํ.

๑๔๘.

‘‘ทิสฺวาน โลกปชฺโชตํ, วนฺทิตฺวาน อุปาวิสึ;

โส เม ธมฺมมเทเสสิ, อนุกมฺปาย จกฺขุมา.

๑๔๙.

‘‘สุตฺวา จ โข มเหสิสฺส, สจฺจํ สมฺปฏิวิชฺฌหํ;

ตตฺเถว วิรชํ ธมฺมํ, ผุสยึ อมตํ ปทํ.

๑๕๐.

‘‘ตโต วิฺาตสทฺธมฺมา, ปพฺพชึ อนคาริยํ;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, อโมฆํ พุทฺธสาสน’’นฺติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ อลงฺกตาติ วิภูสิตา. ตํ ปน อลงฺกตาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุวสนา มาลินี จนฺทโนกฺขิตา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ มาลินีติ มาลาธารินี. จนฺทโนกฺขิตาติ จนฺทนานุลิตฺตา. สพฺพาภรณสฺฉนฺนาติ หตฺถูปคาทีหิ สพฺเพหิ อาภรเณหิ อลงฺการวเสน สฺฉาทิตสรีรา.

อนฺนํปานฺจ อาทาย, ขชฺชํ โภชฺชํ อนปฺปกนฺติ สาลิโอทนาทิอนฺนํ, อมฺพปานาทิปานํ, ปิฏฺขาทนียาทิขชฺชํ, อวสิฏฺํ อาหารสงฺขาตํ โภชฺชฺจ ปหูตํ คเหตฺวา. อุยฺยานมภิหารยินฺติ นกฺขตฺตกีฬาวเสน อุยฺยานํ อุปเนสึ. อนฺนปานาทึ ตตฺถ อาเนตฺวา สห ปริชเนน กีฬนฺตี รมนฺตี ปริจาเรสินฺติ อธิปฺปาโย.

สาเกเต อฺชนํ วนนฺติ สาเกตสมีเป อฺชนวเน วิหารํ ปาวิสึ.

โลกปชฺโชตนฺติ าณปชฺโชเตน โลกสฺส ปชฺโชตภูตํ.

ผุสยินฺติ ผุสึ, อธิคจฺฉินฺติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

สุชาตาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. อโนปมาเถรีคาถาวณฺณนา

อุจฺเจ กุเลติอาทิกา อโนปมาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อนุกฺกเมน วิมุตฺติปริปาจนีเย ธมฺเม ปริพฺรูหิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาเกตนคเร มชฺฌสฺส นาม เสฏฺิโน ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺสา รูปสมฺปตฺติยา อโนปมาติ นามํ อโหสิ. ตสฺสา วยปฺปตฺตกาเล พหู เสฏฺิปุตฺตา ราชมหามตฺตา ราชาโน จ ปิตุ ทูตํ ปาเหสุํ – ‘‘อตฺตโน ธีตรํ อโนปมํ เทหิ, อิทฺจิทฺจ เต ทสฺสามา’’ติ. สา ตํ สุตฺวา อุปนิสฺสยสมฺปนฺนตาย ‘‘ฆราวาเสน มยฺหํ อตฺโถ นตฺถี’’ติ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา าณสฺส ปริปากํ คตตฺตา เทสนานุสาเรน วิปสฺสนํ อารภิตฺวา ตํ อุสฺสุกฺกาเปนฺตี มคฺคปฏิปาฏิยา ตติยผเล ปติฏฺาสิ. สา สตฺถารํ ปพฺพชฺชํ ยาจิตฺวา สตฺถุอาณาย ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปคนฺตฺวา ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา สตฺตเม ทิวเส อรหตฺตํ สจฺฉิกตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –

๑๕๑.

‘‘อุจฺเจ กุเล อหํ ชาตา, พหุวิตฺเต มหทฺธเน;

วณฺณรูเปน สมฺปนฺนา, ธีตา มชฺฌสฺส อตฺรชา.

๑๕๒.

‘‘ปตฺถิตา ราชปุตฺเตหิ, เสฏฺิปุตฺเตหิ คิชฺฌิตา;

ปิตุ เม เปสยี ทูตํ, เทถ มยฺหํ อโนปมํ.

๑๕๓.

‘‘ยตฺตกํ ตุลิตา เอสา, ตุยฺหํ ธีตา อโนปมา;

ตโต อฏฺคุณํ ทสฺสํ, หิรฺํ รตนานิ จ.

๑๕๔.

‘‘สาหํ ทิสฺวาน สมฺพุทฺธํ, โลกเชฏฺํ อนุตฺตรํ;

ตสฺส ปาทานิ วนฺทิตฺวา, เอกมนฺตํ อุปาวิสึ.

๑๕๕.

‘‘โส เม ธมฺมมเทเสสิ, อนุกมฺปาย โคตโม;

นิสินฺนา อาสเน ตสฺมึ, ผุสยึ ตติยํ ผลํ.

๑๕๖.

‘‘ตโต เกสานิ เฉตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ;

อชฺช เม สตฺตมี รตฺติ, ยโต ตณฺหา วิเสสิตา’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ อุจฺเจ กุเลติ อุฬารตเม เวสฺสกุเล. พหุวิตฺเตติ อลงฺการาทิปหูตวิตฺตูปกรเณ. มหทฺธเนติ นิธานคตสฺเสว จตฺตารีสโกฏิปริมาณสฺส มหโต ธนสฺส อตฺถิภาเวน มหทฺธเน อหํ ชาตาติ โยชนา. วณฺณรูเปน สมฺปนฺนาติ วณฺณสมฺปนฺนา เจว รูปสมฺปนฺนา จ, สินิทฺธภาสุราย ฉวิสมฺปตฺติยา วตฺถาภรณาทิสรีราวยวสมฺปตฺติยา จ สมนฺนาคตาติ อตฺโถ. ธีตา มชฺฌสฺส อตฺรชาติ มชฺฌนามสฺส เสฏฺิโน โอรสา ธีตา.

ปตฺถิตา ราชปุตฺเตหีติ ‘‘กถํ นุ โข ตํ ลเภยฺยามา’’ติ ราชกุมาเรหิ อภิปตฺถิตา. เสฏฺิปุตฺเตหิ คิชฺฌิตาติ ตถา เสฏฺิกุมาเรหิปิ อภิคิชฺฌิตา ปจฺจาสีสิตา. เทถ มยฺหํ อโนปมนฺติ ราชปุตฺตาทโย ‘‘เทถ มยฺหํ อโนปมํ เทถ มยฺห’’นฺติ ปิตุ สนฺติเก ทูตํ เปสยึสุ.

ยตฺตกํ ตุลิตา เอสาติ ‘‘ตุยฺหํ ธีตา อโนปมา ยตฺตกํ ธนํ อคฺฆตี’’ติ ตุลิตา ลกฺขณฺูหิ ปริจฺฉินฺนา, ‘‘ตโต อฏฺคุณํ ทสฺสามี’’ติ ปิตุ เม เปสยิ ทูตนฺติ โยชนา. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.

อโนปมาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. มหาปชาปติโคตมีเถรีคาถาวณฺณนา

พุทฺธวีร นโม ตฺยตฺถูติอาทิกา มหาปชาปติโคตมิยา คาถา. อยมฺปิ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตี สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุนึ รตฺตฺูนํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา, อธิการกมฺมํ กตฺวา ตํ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา ยาวชีวํ ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา กปฺปสตสหสฺสํ เทวมนุสฺเสสุ สํสริตฺวา, กสฺสปสฺส จ ภควโต อนฺตเร อมฺหากฺจ ภควโต พุทฺธสุฺเ โลเก พาราณสิยํ ปฺจนฺนํ ทาสิสตานํ เชฏฺิกา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. อถ สา วสฺสูปนายิกสมเย ปฺจ ปจฺเจกพุทฺเธ นนฺทมูลกปพฺภารโต อิสิปตเน โอตริตฺวา, นคเร ปิณฺฑาย จริตฺวา อิสิปตนเมว คนฺตฺวา, วสฺสูปนายิกสมเย กุฏิยา อตฺถาย หตฺถกมฺมํ ปริเยสนฺเต ทิสฺวา, ตา ทาสิโย ตาสํ อตฺตโน จ สามิเก สมาทเปตฺวา จงฺกมาทิปริวารสมฺปนฺนา ปฺจ กุฏิโย กาเรตฺวา, มฺจปีปานียปริโภชนียภาชนาทีนิ อุปฏฺเปตฺวา ปจฺเจกพุทฺเธ เตมาสํ ตตฺเถว วสนตฺถาย ปฏิฺํ กาเรตฺวา วารภิกฺขํ ปฏฺเปสุํ. ยา อตฺตโน วารทิวเส ภิกฺขํ ทาตุํ น สกฺโกติ, ตสฺสา สยํ สกเคหโต นีหริตฺวา เทติ. เอวํ เตมาสํ ปฏิชคฺคิตฺวา ปวารณาย สมฺปตฺตาย เอเกกํ ทาสึ เอเกกํ สาฏกํ วิสฺสชฺชาเปสิ. ปฺจถูลสาฏกสตานิ อเหสุํ. ตานิ ปริวตฺตาเปตฺวา ปฺจนฺนํ ปจฺเจกพุทฺธานํ ติจีวรานิ กตฺวา อทาสิ. ปจฺเจกพุทฺธา ตาสํ ปสฺสนฺตีนํเยว อากาเสน คนฺธมาทนปพฺพตํ อคมํสุ.

ตาปิ สพฺพา ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺตึสุ. ตาสํ เชฏฺิกา ตโต จวิตฺวา พาราณสิยา อวิทูเร เปสการคาเม เปสการเชฏฺกสฺส เคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา, ปทุมวติยา ปุตฺเต ปฺจสเต ปจฺเจกพุทฺเธ ทิสฺวา สมฺปิยายมานา สพฺเพ วนฺทิตฺวา ภิกฺขํ อทาสิ. เต ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา คนฺธมาทนเมว อคมํสุ. สาปิ ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อมฺหากํ สตฺถุ นิพฺพตฺติโต ปุเรตรเมว เทวทหนคเร มหาสุปฺปพุทฺธสฺส เคเห ปฏิสนฺธึ คณฺหิ, โคตมีติสฺสา โคตฺตาคตเมว นามํ อโหสิ; มหามายาย กนิฏฺภคินี. ลกฺขณปากาปิ ‘‘อิมาสํ ทฺวินฺนมฺปิ กุจฺฉิยํ วสิตา ทารกา จกฺกวตฺติโน ภวิสฺสนฺตี’’ติ พฺยากรึสุ. สุทฺโธทนมหาราชา วยปฺปตฺตกาเล ทฺเวปิ มงฺคลํ กตฺวา อตฺตโน ฆรํ อภิเนสิ.

อปรภาเค อมฺหากํ สตฺถริ อุปฺปชฺชิตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺเก อนุปุพฺเพน ตตฺถ ตตฺถ เวเนยฺยานํ อนุคฺคหํ กโรนฺเต เวสาลึ อุปนิสฺสาย กูฏาคารสาลายํ วิหรนฺเต สุทฺโธทนมหาราชา เสตจฺฉตฺตสฺส เหฏฺา อรหตฺตํ สจฺฉิกตฺวา ปรินิพฺพายิ. อถ มหาปชาปติโคตมี ปพฺพชิตุกามา หุตฺวา สตฺถารํ เอกวารํ ปพฺพชฺชํ ยาจมานา อลภิตฺวา ทุติยวารํ เกเส ฉินฺทาเปตฺวา กาสายานิ อจฺฉาเทตฺวา กลหวิวาทสุตฺตนฺตเทสนาปริโยสาเน (สุ. นิ. ๘๖๘ อาทโย) นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตานํ ปฺจนฺนํ สกฺยกุมารสตานํ ปาทปริจาริกาหิ สทฺธึ เวสาลึ คนฺตฺวา อานนฺทตฺเถรํ สตฺถารํ ยาจาเปตฺวา อฏฺหิ ครุธมฺเมหิ (อ. นิ. ๘.๕๑; จูฬว. ๔๐๓) ปพฺพชฺชฺจ อุปสมฺปทฺจ ปฏิลภิ. อิตรา ปน สพฺพาปิ เอกโตอุปสมฺปนฺนา อเหสุํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปเนตํ วตฺถุ ปาฬิยํ อาคตเมว.

เอวํ อุปสมฺปนฺนา ปน มหาปชาปติโคตมี สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. อถสฺสา สตฺถา ธมฺมํ เทเสสิ. สา สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ภาวนมนุยุฺชนฺตี น จิรสฺเสว อภิฺาปฏิสมฺภิทาปริวารํ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เสสา ปน ปฺจสตา ภิกฺขุนิโย นนฺทโกวาทปริโยสาเน (ม. นิ. ๓.๓๙๘ อาทโย) ฉฬภิฺา อเหสุํ. อเถกทิวสํ สตฺถา เชตวนมหาวิหาเร อริยคณมชฺเฌ นิสินฺโน ภิกฺขุนิโย านนฺตเร เปนฺโต มหาปชาปติโคตมึ รตฺตฺูนํ ภิกฺขุนีนํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. สา ผลสุเขน นิพฺพานสุเขน จ วีตินาเมนฺตี กตฺุตาย ตฺวา เอกทิวสํ สตฺถุ คุณาภิตฺถวนปุพฺพกอุปการกวิภาวนามุเขน อฺํ พฺยากโรนฺตี –

๑๕๗.

‘‘พุทฺธวีร นโม ตฺยตฺถุ, สพฺพสตฺตานมุตฺตม;

โย มํ ทุกฺขา ปโมเจสิ, อฺฺจ พหุกํ ชนํ.

๑๕๘.

‘‘สพฺพทุกฺขํ ปริฺาตํ, เหตุตณฺหา วิโสสิตา;

ภาวิโต อฏฺงฺคิโก มคฺโค, นิโรโธ ผุสิโต มยา.

๑๕๙.

‘‘มาตา ปุตฺโต ปิตา ภาตา, อยฺยกา จ ปุเร อหุํ;

ยถาภุจฺจมชานนฺตี, สํสรึหํ อนิพฺพิสํ.

๑๖๐.

‘‘ทิฏฺโ หิ เม โส ภควา, อนฺติโมยํ สมุสฺสโย;

วิกฺขีโณ ชาติสํสาโร, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.

๑๖๑.

‘‘อารทฺธวีริเย ปหิตตฺเต, นิจฺจํ ทฬฺหปรกฺกเม;

สมคฺเค สาวเก ปสฺเส, เอสา พุทฺธาน วนฺทนา.

๑๖๒.

‘‘พหูนํ วต อตฺถาย, มายา ชนยิ โคตมํ;

พฺยาธิมรณตุนฺนานํ, ทุกฺขกฺขนฺธํ พฺยปานุที’’ติ. – อิมา คาถา อภาสิ;

ตตฺถ พุทฺธวีราติ จตุสจฺจพุทฺเธสุ วีร, สพฺพพุทฺธา หิ อุตฺตมวีริเยหิ จตุสจฺจพุทฺเธหิ วา จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานวีริยนิปฺผตฺติยา วิชิตวิชยตฺตา วีรา นาม. ภควา ปน วีริยปารมิปาริปูริยา จตุรงฺคสมนฺนาคตวีริยาธิฏฺาเนน สาติสยจตุพฺพิธสมฺมปฺปธานกิจฺจนิปฺผตฺติยา ตสฺสา จ เวเนยฺยสนฺตาเน สมฺมเทว ปติฏฺาปิตตฺตา วิเสสโต วีริยยุตฺตตาย วีโรติ วตฺตพฺพตํ อรหติ. นโม ตฺยตฺถูติ นโม นมกฺกาโร เต โหตุ. สพฺพสตฺตานมุตฺตมาติ อปทาทิเภเทสุ สตฺเตสุ สีลาทิคุเณหิ อุตฺตโม ภควา. ตเทกเทสํ สตฺถุปการคุณํ ทสฺเสตุํ, ‘‘โย มํ ทุกฺขา ปโมเจสิ, อฺฺจ พหุกํ ชน’’นฺติ วตฺวา อตฺตโน ทุกฺขา ปมุตฺตภาวํ วิภาเวนฺตี ‘‘สพฺพทุกฺข’’นฺติ คาถมาห.

ปุน ยโต ปโมเจสิ, ตํ วฏฺฏทุกฺขํ เอกเทเสน ทสฺเสนฺตี ‘‘มาตา ปุตฺโต’’ติ คาถมาห. ตตฺถ ยถาภุจฺจมชานนฺตีติ ปวตฺติเหตุอาทึ ยถาภูตํ อนวพุชฺฌนฺตี. สํสรึหํ อนิพฺพิสนฺติ สํสารสมุทฺเท ปติฏฺํ อวินฺทนฺตี อลภนฺตี ภวาทีสุ อปราปรุปฺปตฺติวเสน สํสรึ อหนฺติ กเถนฺตี อาห ‘‘มาตา ปุตฺโต’’ติอาทิ. ยสฺมึ ภเว เอตสฺส มาตา อโหสิ, ตโต อฺสฺมึ ภเว ตสฺเสว ปุตฺโต, ตโต อฺสฺมึ ภเว ปิตา ภาตา อหูติ อตฺโถ.

‘‘ทิฏฺโหิ เม’’ติ คาถายปิ อตฺตโน ทุกฺขโต ปมุตฺตภาวเมว วิภาเวติ. ตตฺถ ทิฏฺโ หิ เม โส ภควาติ โส ภควา สมฺมาสมฺพุทฺโธ อตฺตนา ทิฏฺโลกุตฺตรธมฺมทสฺสเนน าณจกฺขุนา มยา ปจฺจกฺขโต ทิฏฺโ. โย หิ ธมฺมํ ปสฺสติ, โส ภควนฺตํ ปสฺสติ นาม. ยถาห – ‘‘โย โข, วกฺกลิ, ธมฺมํ ปสฺสติ, โส มํ ปสฺสตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๓.๘๗).

อารทฺธวีริเยติ ปคฺคหิตวีริเย. ปหิตตฺเตติ นิพฺพานํ เปสิตจิตฺเต. นิจฺจํ ทฬฺหปรกฺกเมติ อปตฺตสฺส ปตฺติยา ปตฺตสฺส เวปุลฺลตฺถาย สพฺพกาลํ ถิรปรกฺกเม. สมคฺเคติ สีลทิฏฺิสามฺเน สํหตภาเวน สมคฺเค. สตฺถุเทสนาย สวนนฺเต ชาตตฺตา สาวเก, ‘‘อิเม มคฺคฏฺา อิเม ผลฏฺา’’ติ ยาถาวโต ปสฺสติ. เอสา พุทฺธาน วนฺทนาติ ยา สตฺถุ ธมฺมสรีรภูตสฺส อริยสาวกานํ อริยภาวภูตสฺส จ โลกุตฺตรธมฺมสฺส อตฺตปจฺจกฺขกิริยา, เอสา สมฺมาสมฺพุทฺธานํ สาวกพุทฺธานฺจ วนฺทนา ยาถาวโต คุณนินฺนตา.

‘‘พหูนํ วต อตฺถายา’’ติ โอสานคาถายปิ สตฺถุ โลกสฺส พหูปการตํเยว วิภาเวติ. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมว.

อเถกทา มหาปชาปติโคตมี สตฺถริ เวสาลิยํ วิหรนฺเต มหาวเน กูฏาคารสาลายํ สยํ เวสาลิยํ ภิกฺขุนุปสฺสเย วิหรนฺตี ปุพฺพณฺหสมยํ เวสาลิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา อตฺตโน ทิวาฏฺาเน ยถาปริจฺฉินฺนกาลํ ผลสมาปตฺติสุเขน วีตินาเมตฺวา ผลสมาปตฺติโต วุฏฺาย อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา โสมนสฺสชาตา อตฺตโน อายุสงฺขาเร อาวชฺเชนฺตี เตสํ ขีณภาวํ ตฺวา เอวํ จินฺเตสิ – ‘‘ยํนูนาหํ วิหารํ คนฺตฺวา ภควนฺตํ อนุชานาเปตฺวา มโนภาวนีเย จ เถเร สพฺเพว สพฺรหฺมจริเย อาปุจฺฉิตฺวา อิเธว อาคนฺตฺวา ปรินิพฺพาเยยฺย’’นฺติ. ยถา จ เถริยา, เอวํ ตสฺสา ปริวารภูตานํ ปฺจนฺนํ ภิกฺขุนิสตานํ ปริวิตกฺโก อโหสิ. เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๒.๙๗-๒๘๘) –

‘‘เอกทา โลกปชฺโชโต, เวสาลิยํ มหาวเน;

กูฏาคาเร กุสาลายํ, วสเต นรสารถิ.

‘‘ตทา ชินสฺส มาตุจฺฉา, มหาโคตมิ ภิกฺขุนี;

ตหึ กเต ปุเร รมฺเม, วสี ภิกฺขุนุปสฺสเย.

‘‘ภิกฺขุนีหิ วิมุตฺตาหิ, สเตหิ สห ปฺจหิ;

รโหคตาย ตสฺเสวํ, จิตสฺสาสิ วิตกฺกิตํ.

‘‘พุทฺธสฺส ปรินิพฺพานํ, สาวกคฺคยุคสฺส วา;

ราหุลานนฺทนนฺทานํ, นาหํ ลจฺฉามิ ปสฺสิตุํ.

‘‘พุทฺธสฺส ปรินิพฺพานา, สาวกคฺคยุคสฺส วา;

มหากสฺสปนนฺทานํ, อานนฺทราหุลาน จ.

‘‘ปฏิกจฺจายุสงฺขารํ, โอสชฺชิตฺวาน นิพฺพุตึ;

คจฺเฉยฺยํ โลกนาเถน, อนุฺาตา มเหสินา.

‘‘ตถา ปฺจสตานมฺปิ, ภิกฺขุนีนํ วิตกฺกิตํ;

อาสิ เขมาทิกานมฺปิ, เอตเทว วิตกฺกิตํ.

‘‘ภูมิจาโล ตทา อสิ, นาทิตา เทวทุนฺทุภี;

อุปสฺสยาธิวตฺถาโย, เทวตา โสกปีฬิตา.

‘‘วิลปนฺตา สุกรุณํ, ตตฺถสฺสูนิ ปวตฺตยุํ;

มิตฺตา ภิกฺขุนิโย ตาหิ, อุปคนฺตฺวาน โคตมึ.

‘‘นิปจฺจ สิรสา ปาเท, อิทํ วจนมพฺรวุํ;

ตตฺถ โตยลวาสิตฺตา, มยมยฺเย รโหคตา.

‘‘สา จลา จลิตา ภูมิ, นาทิตา เทวทุนฺทุภี;

ปริเทวา จ สุยฺยนฺเต, กิมตฺถํ นูน โคตมี.

‘‘ตทา อโวจ สา สพฺพํ, ยถาปริวิตกฺกิตํ;

ตาโยปิ สพฺพา อาหํสุ, ยถาปริวิตกฺกิตํ.

‘‘ยทิ เต รุจิตํ อยฺเย, นิพฺพานํ ปรมํ สิวํ;

นิพฺพายิสฺสาม สพฺพาปิ, พุทฺธานุฺาย สุพฺพเต.

‘‘มยํ สหาว นิกฺขนฺตา, ฆราปิ จ ภวาปิ จ;

สหาเยว คมิสฺสาม, นิพฺพานํ ปทมุตฺตมํ.

‘‘นิพฺพานาย วชนฺตีนํ, กึ วกฺขามีติ สา วทํ;

สห สพฺพาหิ นิคฺคฺฉิ, ภิกฺขุนีนิลยา ตทา.

‘‘อุปสฺสเย ยาธิวตฺถา, เทวตา ตา ขมนฺตุ เม;

ภิกฺขุนีนิลยสฺเสทํ, ปจฺฉิมํ ทสฺสนํ มม.

‘‘น ชรา มจฺจุ วา ยตฺถ, อปฺปิเยหิ สมาคโม;

ปิเยหิ น วิโยโคตฺถิ, ตํ วชิสฺสํ อสงฺขตํ.

‘‘อวีตราคา ตํ สุตฺวา, วจนํ สุคโตรสา;

โสกฏฺฏา ปริเทวึสุ, อโห โน อปฺปปุฺตา.

‘‘ภิกฺขุนีนิลโย สุฺโ, ภูโต ตาหิ วินา อยํ;

ปภาเต วิย ตาราโย, น ทิสฺสนฺติ ชิโนรสา.

‘‘นิพฺพานํ โคตมี ยาติ, สเตหิ สห ปฺจหิ;

นทีสเตหิว สห, คงฺคา ปฺจหิ สาครํ.

‘‘รถิยาย วชนฺติโย, ทิสฺวา สทฺธา อุปาสิกา;

ฆรา นิกฺขมฺม ปาเทสุ, นิปจฺจ อิทมพฺรวุํ.

‘‘ปสีทสฺสุ มหาโภเค, อนาถาโย วิหาย โน;

ตยา น ยุตฺตา นิพฺพาตุํ, อิจฺฉฏฺฏา วิลปึสุ ตา.

‘‘ตาสํ โสกปหานตฺถํ, อโวจ มธุรํ คิรํ;

รุทิเตน อลํ ปุตฺตา, หาสกาโลยมชฺช โว.

‘‘ปริฺาตํ มยา ทุกฺขํ, ทุกฺขเหตุ วิวชฺชิโต;

นิโรโธ เม สจฺฉิกโต, มคฺโค จาปิ สุภาวิโต.

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;

โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติ สมูหตา.

‘‘ยสฺสตฺถาย ปพฺพชิตา, อคารสฺมานคาริยํ;

โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, สพฺพสํโยชนกฺขโย.

‘‘พุทฺโธ ตสฺส จ สทฺธมฺโม, อนูโน ยาว ติฏฺติ;

นิพฺพาตุํ ตาว กาโล เม, มา มํ โสจถ ปุตฺติกา.

‘‘โกณฺฑฺานนฺทนนฺทาที , ติฏฺนฺติ ราหุโล ชิโน;

สุขิโต สหิโต สงฺโฆ, หตทพฺพา จ ติตฺถิยา.

‘‘โอกฺกากวํสสฺส ยโส, อุสฺสิโต มารมทฺทโน;

นนุ สมฺปติ กาโล เม, นิพฺพานตฺถาย ปุตฺติกา.

‘‘จิรปฺปภุติ ยํ มยฺหํ, ปตฺถิตํ อชฺช สิชฺฌเต;

อานนฺทเภริกาโลยํ, กึ โว อสฺสูหิ ปุตฺติกา.

‘‘สเจ มยิ ทยา อตฺถิ, ยทิ จตฺถิ กตฺุตา;

สทฺธมฺมฏฺิติยา สพฺพา, กโรถ วีริยํ ทฬฺหํ.

‘‘ถีนํ อทาสิ ปพฺพชฺชํ, สมฺพุทฺโธ ยาจิโต มยา;

ตสฺมา ยถาหํ นนฺทิสฺสํ, ตถา ตมนุติฏฺถ.

‘‘ตา เอวมนุสาสิตฺวา, ภิกฺขุนีหิ ปุรกฺขตา;

อุเปจฺจ พุทฺธํ วนฺทิตฺวา, อิทํ วจนมพฺรวิ.

‘‘อหํ สุคต เต มาตา, ตฺวฺจ วีร ปิตา มม;

สทฺธมฺมสุขท นาถ, ตยิ ชาตามฺหิ โคตม.

‘‘สํวทฺธิโตยํ สุคต, รูปกาโย มยา ตว;

อนินฺทิโต ธมฺมกาโย, มม สํวทฺธิโต ตยา.

‘‘มุหุตฺตํ ตณฺหาสมณํ, ขีรํ ตฺวํ ปายิโต มยา;

ตยาหํ สนฺตมจฺจนฺตํ, ธมฺมขีรฺหิ ปายิตา.

‘‘พนฺธนารกฺขเณ มยฺหํ, อณโณ ตฺวํ มหามุเน;

ปุตฺตกามา ถิโย ยาจํ, ลภนฺติ ตาทิสํ สุตํ.

‘‘มนฺธาตาทินรินฺทานํ, ยา มาตา สา ภวณฺณเว;

นิมุคฺคาหํ ตยา ปุตฺต, ตาริตา ภวสาครา.

‘‘รฺโ มาตา มเหสีติ, สุลภํ นามมิตฺถินํ;

พุทฺธมาตาติ ยํ นามํ, เอตํ ปรมทุลฺลภํ.

‘‘ตฺจ ลทฺธํ มหาวีร, ปณิธานํ มมํ ตยา;

อณุกํ วา มหนฺตํ วา, ตํ สพฺพํ ปูริตํ มยา.

‘‘ปรินิพฺพาตุมิจฺฉามิ , วิหาเยมํ กเฬวรํ;

อนุชานาหิ เม วีร, ทุกฺขนฺตกร นายก.

‘‘จกฺกงฺกุสธชากิณฺเณ, ปาเท กมลโกมเล;

ปสาเรหิ ปณามํ เต, กริสฺสํ ปุตฺตอุตฺตเม.

‘‘สุวณฺณราสิสงฺกาสํ, สรีรํ กุรุ ปากฏํ;

กตฺวา เทหํ สุทิฏฺํ เต, สนฺตึ คจฺฉามิ นายก.

‘‘ทฺวตฺตึสลกฺขณูเปตํ, สุปฺปภาลงฺกตํ ตนุํ;

สฺฌาฆนาว พาลกฺกํ, มาตุจฺฉํ ทสฺสยี ชิโน.

‘‘ผุลฺลารวินฺทสํกาเส , ตรุณาทิจฺจสปฺปเภ;

จกฺกงฺกิเต ปาทตเล, ตโต สา สิรสา ปติ.

‘‘ปณมามิ นราทิจฺจ, อาทิจฺจกุลเกตุกํ;

ปจฺฉิเม มรเณ มยฺหํ, น ตํ อิกฺขามหํ ปุโน.

‘‘อิตฺถิโย นาม โลกคฺค, สพฺพโทสากรา มตา;

ยทิ โก จตฺถิ โทโส เม, ขมสฺสุ กรุณากร.

‘‘อิตฺถิกานฺจ ปพฺพชฺชํ, หํ ตํ ยาจึ ปุนปฺปุนํ;

ตตฺถ เจ อตฺถิ โทโส เม, ตํ ขมสฺสุ นราสภ.

‘‘มยา ภิกฺขุนิโย วีร, ตวานุฺาย สาสิตา;

ตตฺร เจ อตฺถิ ทุนฺนีตํ, ตํ ขมสฺสุ ขมาธิป.

‘‘อกฺขนฺเต นาม ขนฺตพฺพํ, กึ ภเว คุณภูสเน;

กิมุตฺตรํ เต วตฺถามิ, นิพฺพานาย วชนฺติยา.

‘‘สุทฺเธ อนูเน มม ภิกฺขุสงฺเฆ, โลกา อิโต นิสฺสริตุํ ขมนฺเต;

ปภาตกาเล พฺยสนงฺคตานํ, ทิสฺวาน นิยฺยาติว จนฺทเลขา.

‘‘ตเทตรา ภิกฺขุนิโย ชินคฺคํ, ตาราว จนฺทานุคตา สุเมรุํ;

ปทกฺขิณํ กจฺจ นิปจฺจ ปาเท, ิตา มุขนฺตํ สมุทิกฺขมานา.

‘‘น ติตฺติปุพฺพํ ตว ทสฺสเนน, จกฺขุํ น โสตํ ตว ภาสิเตน;

จิตฺตํ มมํ เกวลเมกเมว, ปปฺปุยฺย ตํ ธมฺมรเสน ติตฺติ.

‘‘นทโต ปริสายํ เต, วาทิตพฺพปหาริโน;

เย เต ทกฺขนฺติ วทนํ, ธฺา เต นรปุงฺคว.

‘‘ทีฆงฺคุลี ตมฺพนเข, สุเภ อายตปณฺหิเก;

เย ปาเท ปณมิสฺสนฺติ, เตปิ ธฺา คุณนฺธร.

‘‘มธุรานิ ปหฏฺานิ, โทสคฺฆานิ หิตานิ จ;

เย เต วากฺยานิ สุยฺยนฺติ, เตปิ ธฺา นรุตฺตม.

‘‘ธฺาหํ เต มหาวีร, ปาทปูชนตปฺปรา;

ติณฺณสํสารกนฺตารา, สุวากฺเยน สิรีมโต.

‘‘ตโต สา อนุสาเวตฺวา, ภิกฺขุสงฺฆมฺปิ สุพฺพตา;

ราหุลานนฺทนนฺเท จ, วนฺทิตฺวา อิทมพฺรวิ.

‘‘อาสีวิสาลยสเม, โรคาวาเส กเฬวเร;

นิพฺพินฺทา ทุกฺขสงฺฆาเฏ, ชรามรณโคจเร.

‘‘นานากลิมลากิณฺเณ, ปรายตฺเต นิรีหเก;

เตน นิพฺพาตุมิจฺฉามิ, อนุมฺถ ปุตฺตกา.

‘‘นนฺโท ราหุลภทฺโท จ, วีตโสกา นิราสวา;

ิตาจลฏฺิติ ถิรา, ธมฺมตมนุจินฺตยุํ.

‘‘ธิรตฺถุ สงฺขตํ โลลํ, อสารํ กทลูปมํ;

มายามรีจิสทิสํ, อิตฺตรํ อนวฏฺิตํ.

‘‘ยตฺถ นาม ชินสฺสายํ, มาตุจฺฉา พุทฺธโปสิกา;

โคตมี นิธนํ ยาติ, อนิจฺจํ สพฺพสงฺขตํ.

‘‘อานนฺโท จ ตทา เสโข, โสกฏฺโฏ ชินวจฺฉโล;

ตตฺถสฺสูนิ กโรนฺโต โส, กรุณํ ปริเทวติ.

‘‘หา สนฺตึ โคตมี ยาติ, นูน พุทฺโธปิ นิพฺพุตึ;

คจฺฉติ น จิเรเนว, อคฺคิริว นิรินฺธโน.

‘‘เอวํ วิลาปมานํ ตํ, อานนฺทํ อาห โคตมี;

สุตสาครคมฺภีร, พุทฺโธปฏฺาน ตปฺปร.

‘‘น ยุตฺตํ โสจิตุํ ปุตฺต, หาสกาเล อุปฏฺิเต;

ตยา เม สรณํ ปุตฺต, นิพฺพานํ ตมุปาคตํ.

‘‘ตยา ตาต สมชฺฌิฏฺโ, ปพฺพชฺชํ อนุชานิ โน;

มา ปุตฺต วิมโน โหหิ, สผโล เต ปริสฺสโม.

‘‘ยํ น ทิฏฺํ ปุราเณหิ, ติตฺถิกาจริเยหิปิ;

ตํ ปทํ สุกุมารีหิ, สตฺตวสฺสาหิ เวทิตํ.

‘‘พุทฺธสาสนปาเลต, ปจฺฉิมํ ทสฺสนํ ตว;

ตตฺถ คจฺฉามหํ ปุตฺต, คโต ยตฺถ น ทิสฺสเต.

‘‘กทาจิ ธมฺมํ เทเสนฺโต, ขิปี โลกคฺคนายโก;

ตทาหํ อาสีสวาจํ, อโวจํ อนุกมฺปิกา.

‘‘จิรํ ชีว มหาวีร, กปฺปํ ติฏฺ มหามุเน;

สพฺพโลกสฺส อตฺถาย, ภวสฺสุ อชรามโร.

‘‘ตํ ตถาวาทินึ พุทฺโธ, มมํ โส เอตทพฺรวิ;

น เหวํ วนฺทิยา พุทฺธา, ยถา วนฺทสิ โคตมี.

‘‘กถํ จรหิ สพฺพฺู, วนฺทิตพฺพา ตถาคตา;

กถํ อวนฺทิยา พุทฺธา, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต.

‘‘อารทฺธวีริเย ปหิตตฺเต, นิจฺจํ ทฬฺหปรกฺกเม;

สมคฺเค สาวเก ปสฺส, เอตํ พุทฺธานวนฺทนํ.

‘‘ตโต อุปสฺสยํ คนฺตฺวา, เอกิกาหํ วิจินฺตยึ;

สมคฺคปริสํ นาโถ, โรเธสิ ติภวนฺตโค.

‘‘หนฺทาหํ ปรินิพฺพิสฺสํ, มา วิปตฺติตมทฺทสํ;

เอวาหํ จินฺตยิตฺวาน, ทิสฺวาน อิสิสตฺตมํ.

‘‘ปรินิพฺพานกาลํ เม, อาโรเจสึ วินายกํ;

ตโต โส สมนุฺาสิ, กาลํ ชานาหิ โคตมี.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ, ภวา สพฺเพ สมูหตา;

นาโคว พนฺธนํ เฉตฺวา, วิหรามิ อนาสวา.

‘‘สฺวาคตํ วต เม อาสิ, มม พุทฺธสฺส สนฺติเก;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส, วิโมกฺขาปิ จ อฏฺิเม;

ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

‘‘ถีนํ ธมฺมาภิสมเย, เย พาลา วิมตึ คตา;

เตสํ ทิฏฺิปฺปหานตฺถํ, อิทฺธึ ทสฺเสหิ โคตมี.

‘‘ตทา นิปจฺจ สมฺพุทฺธํ, อุปฺปติตฺวาน อมฺพรํ;

อิทฺธี อเนกา ทสฺเสสิ, พุทฺธานุฺาย โคตมี.

‘‘เอกิกา พหุธา อาสิ, พหุธา เจกิกา ตถา;

อาวิภาวํ ติโรภาวํ, ติโรกุฏฺฏํ ติโรนคํ.

‘‘อสชฺชมานา อคมา, ภูมิยมฺปิ นิมุชฺชถ;

อภิชฺชมาเน อุทเก, อคฺฉิ มหิยา ยถา.

‘‘สกุณีว ตถากาเส, ปลฺลงฺเกน กมี ตทา;

วสํ วตฺเตสิ กาเยน, ยาว พฺรหฺมนิเวสนํ.

‘‘สิเนรุํ ทณฺฑํ กตฺวาน, ฉตฺตํ กตฺวา มหามหึ;

สมูลํ ปริวตฺเตตฺวา, ธารยํ จงฺกมี นเภ.

‘‘ฉสฺสูโรทยกาเลว, โลกฺจากาสิ ธูมิกํ;

ยุคนฺเต วิย โลกํ สา, ชาลามาลากุลํ อกา.

‘‘มุจลินฺทํ มหาเสลํ, เมรุมูลนทนฺตเร;

สาสปาริว สพฺพานิ, เอเกนคฺคหิ มุฏฺินา.

‘‘องฺคุลคฺเคน ฉาเทสิ, ภากรํ สนิสากรํ;

จนฺทสูรสหสฺสานิ, อาเวฬมิว ธารยิ.

‘‘จตุสาครโตยานิ, ธารยี เอกปาณินา;

ยุคนฺตชลทาการํ, มหาวสฺสํ ปวสฺสถ.

‘‘จกฺกวตฺตึ สปริสํ, มาปยี สา นภตฺตเล;

ครุฬํ ทฺวิรทํ สีหํ, วินทนฺตํ ปทสฺสยิ.

‘‘เอกิกา อภินิมฺมิตฺวา, อปฺปเมยฺยํ ภิกฺขุนีคณํ;

ปุน อนฺตรธาเปตฺวา, เอกิกา มุนิมพฺรวิ.

‘‘มาตุจฺฉา เต มหาวีร, ตว สาสนการิกา;

อนุปฺปตฺตา สกํ อตฺถํ, ปาเท วนฺทามิ จกฺขุม.

‘‘ทสฺเสตฺวา วิวิธา อิทฺธี, โอโรหิตฺวา นภตฺตลา;

วนฺทิตฺวา โลกปชฺโชตํ, เอกมนฺตํ นิสีทิ สา.

‘‘สา วีสวสฺสสติกา, ชาติยาหํ มหามุเน;

อลเมตฺตาวตา วีร, นิพฺพายิสฺสามิ นายก.

‘‘ตทาติวิมฺหิตา สพฺพา, ปริสา สา กตฺชลี;

อโวจยฺเย กถํ อาสิ, อตุลิทฺธิปรกฺกมา.

‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺเมสุ จกฺขุมา;

อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโก.

‘‘ตทาหํ หํสวติยํ, ชาตามจฺจกุเล อหุํ;

สพฺโพปการสมฺปนฺเน, อิทฺเธ ผีเต มหทฺธเน.

‘‘กทาจิ ปิตุนา สทฺธึ, ทาสีคณปุรกฺขตา;

มหตา ปริวาเรน, ตํ อุเปจฺจ นราสภํ.

‘‘วาสวํ วิย วสฺสนฺตํ, ธมฺมเมฆํ อนาสวํ;

สรทาทิจฺจสทิสํ, รํสิชาลสมุชฺชลํ.

‘‘ทิสฺวา จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, สุตฺวา จสฺส สุภาสิตํ;

มาตุจฺฉํ ภิกฺขุนึ อคฺเค, เปนฺตํ นรนายกํ.

‘‘สุตฺวา ทตฺวา มหาทานํ, สตฺตาหํ ตสฺส ตาทิโน;

สสงฺฆสฺส นรคฺคสฺส, ปจฺจยานิ พหูนิ จ.

‘‘นิปจฺจ ปาทมูลมฺหิ, ตํ านมภิปตฺถยึ;

ตโต มหาปริสตึ, อโวจ อิสิสตฺตโม.

‘‘ยา สสงฺฆํ อโภเชสิ, สตฺตาหํ โลกนายกํ;

ตมหํ กิตฺตยิสฺสามิ, สุณาถ มม ภาสโต.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาทา, โอรสา ธมฺมนิมฺมิตา;

โคตมี นาม นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวิกา.

‘‘ตสฺส พุทฺธสฺส มาตุจฺฉา, ชีวิตาปาทิกา อยํ;

รตฺตฺูนฺจ อคฺคตฺตํ, ภิกฺขุนีนํ ลภิสฺสติ.

‘‘ตํ สุตฺวาน ปโมทิตฺวา, ยาวชีวํ ตทา ชินํ;

ปจฺจเยหิ อุปฏฺิตฺวา, ตโต กาลงฺกตา อหํ.

‘‘ตาวตึเสสุ เทเวสุ, สพฺพกามสมิทฺธิสุ;

นิพฺพตฺตา ทสหงฺเคหิ, อฺเ อภิภวึ อหํ.

‘‘รูปสทฺเทหิ คนฺเธหิ, รเสหิ ผุสเนหิ จ;

อายุนาปิ จ วณฺเณน, สุเขน ยสสาปิ จ.

‘‘ตเถวาธิปเตยฺเยน, อธิคยฺห วิโรจหํ;

อโหสึ อมรินฺทสฺส, มเหสี ทยิตา ตหึ.

‘‘สํสาเร สํสรนฺตีหํ, กมฺมวายุสเมริตา;

กาสิสฺส รฺโ วิสเย, อชายึ ทาสคามเก.

‘‘ปฺจทาสสตานูนา, นิวสนฺติ ตหึ ตทา;

สพฺเพสํ ตตฺถ โย เชฏฺโ, ตสฺส ชายา อโหสหํ.

‘‘สยมฺภุโน ปฺจสตา, คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสุํ;

เต ทิสฺวาน อหํ ตุฏฺา, สห สพฺพาหิ อิตฺถิภิ.

‘‘ปูคา หุตฺวาว สพฺพาโย, จตุมาเส อุปฏฺหุํ;

ติจีวรานิ ทตฺวาน, สํสริมฺห สสามิกา.

‘‘ตโต จุตา สพฺพาปิ ตา, ตาวตึสคตา มยํ;

ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, ชาตา เทวทเห ปุเร.

‘‘ปิตา อฺชนสกฺโก เม, มาตา มม สุลกฺขณา;

ตโต กปิลวตฺถุสฺมึ, สุทฺโธทนฆรํ คตา.

‘‘เสสา สกฺยกุเล ชาตา, สกฺยานํ ฆรมาคมุํ;

อหํ วิสิฏฺา สพฺพาสํ, ชินสฺสาปาทิกา อหุํ.

‘‘มม ปุตฺโตภินิกฺขมฺม, พุทฺโธ อาสิ วินายโก;

ปจฺฉาหํ ปพฺพชิตฺวาน, สเตหิ สห ปฺจหิ.

‘‘สากิยานีหิ ธีราหิ, สห สนฺติสุขํ ผุสึ;

เย ตทา ปุพฺพชาติยํ, อมฺหากํ อาสุ สามิโน.

‘‘สหปุฺสฺส กตฺตาโร, มหาสมยการกา;

ผุสึสุ อรหตฺตํ เต, สุคเตนานุกมฺปิตา.

‘‘ตเทตรา ภิกฺขุนิโย, อารุหึสุ นภตฺตลํ;

สํคตา วิย ตาราโย, วิโรจึสุ มหิทฺธิกา.

‘‘อิทฺธี อเนกา ทสฺเสสุํ, ปิฬนฺธวิกตึ ยถา;

กมฺมาโร กนกสฺเสว, กมฺมฺสฺส สุสิกฺขิโต.

‘‘ทสฺเสตฺวา ปาฏิหีรานิ, วิจิตฺตานิ พหูนิ จ;

โตเสตฺวา วาทิปวรํ, มุนึ สปริสํ ตทา.

‘‘โอโรหิตฺวาน คคนา, วนฺทิตฺวา อิสิสตฺตมํ;

อนุฺาตา นรคฺเคน, ยถาาเน นิสีทิสุํ.

‘‘อโหนุกมฺปิกา อมฺหํ, สพฺพาสํ จิร โคตมี;

วาสิตา ตว ปุฺเหิ, ปตฺตา โน อาสวกฺขยํ.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา อมฺหํ, ภวา สพฺเพ สมูหตา;

นาคีว พนฺธนํ เฉตฺวา, วิหราม อนาสวา.

‘‘สฺวาคตํ วต โน อาสิ, พุทฺธเสฏฺสฺส สนฺติเก;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส, วิโมกฺขาปิ จ อฏฺิเม;

ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.

‘‘อิทฺธีสุ จ วสี โหม, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;

เจโตปริยาณสฺส, วสี โหม มหามุเน.

‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานาม, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;

สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภวา.

‘‘อตฺเถ ธมฺเม จ เนรุตฺเต, ปฏิภาเน จ วิชฺชติ;

าณํ อมฺหํ มหาวีร, อุปฺปนฺนํ ตว สนฺติเก.

‘‘อสฺมาภิ ปริจิณฺโณสิ, เมตฺตจิตฺตา หิ นายก;

อนุชานาหิ สพฺพาสํ, นิพฺพานาย มหามุเน.

‘‘นิพฺพายิสฺสาม อิจฺเจวํ, กึ วกฺขามิ วทนฺติโย;

ยสฺส ทานิ จ โว กาลํ, มฺถาติ ชิโนพฺรวิ.

‘‘โคตมีอาทิกา ตาโย, ตทา ภิกฺขุนิโย ชินํ;

วนฺทิตฺวา อาสนา ตมฺหา, วุฏฺาย อาคมึสุ ตา.

‘‘มหตา ชนกาเยน, สห โลกคฺคนายโก;

อนุสํยายี โส วีโร, มาตุจฺฉํ ยาวโกฏฺกํ.

‘‘ตทา นิปติ ปาเทสุ, โคตมี โลกพนฺธุโน;

สเหว ตาหิ สพฺพาหิ, ปจฺฉิมํ ปาทวนฺทนํ.

‘‘อิทํ ปจฺฉิมกํ มยฺหํ, โลกนาถสฺส ทสฺสนํ;

น ปุโน อมตาการํ, ปสฺสิสฺสามิ มุขํ ตว.

‘‘น จ เม วนฺทนํ วีร, ตว ปาเท สุโกมเล;

สมฺผุสิสฺสติ โลกคฺค, อชฺช คจฺฉามิ นิพฺพุตึ.

‘‘รูเปน กึ ตวาเนน, ทิฏฺเ ธมฺเม ยถาตเถ;

สพฺพํ สงฺขตเมเวตํ, อนสฺสาสิกมิตฺตรํ.

‘‘สา สห ตาหิ คนฺตฺวาน, ภิกฺขุนุปสฺสยํ สกํ;

อฑฺฒปลฺลงฺกมาภุชฺช, นิสีทิ ปรมาสเน.

‘‘ตทา อุปาสิกา ตตฺถ, พุทฺธสาสนวจฺฉลา;

ตสฺสา ปวตฺตึ สุตฺวาน, อุเปสุํ ปาทวนฺทิกา.

‘‘กเรหิ อุรํ ปหนฺตา, ฉินฺนมูลา ยถา ลตา;

โรทนฺตา กรุณํ รวํ, โสกฏฺฏา ภูมิปาติตา.

‘‘มา โน สรณเท นาเถ, วิหาย คมิ นิพฺพุตึ;

นิปติตฺวาน ยาจาม, สพฺพาโย สิรสา มยํ.

‘‘ยา ปธานตมา ตาสํ, สทฺธา ปฺา อุปาสิกา;

ตสฺสา สีสํ ปมชฺชนฺตี, อิทํ วจนมพฺรวิ.

‘‘อลํ ปุตฺตา วิสาเทน, มารปาสานุวตฺตินา;

อนิจฺจํ สงฺขตํ สพฺพํ, วิโยคนฺตํ จลาจลํ.

‘‘ตโต สา ตา วิสชฺชิตฺวา, ปมํ ฌานมุตฺตมํ;

ทุติยฺจ ตติยฺจ, สมาปชฺชิ จตุตฺถกํ.

‘‘อากาสายตนฺเจว, วิฺาณายตนํ ตถา;

อากิฺจํ เนวสฺฺจ, สมาปชฺชิ ยถากฺกมํ.

‘‘ปฏิโลเมน ฌานานิ, สมาปชฺชิตฺถ โคตมี;

ยาวตา ปมํ ฌานํ, ตโต ยาวจตุตฺถกํ.

‘‘ตโต วุฏฺาย นิพฺพายิ, ทีปจฺจีว นิราสวา;

ภูมิจาโล มหา อาสิ, นภสา วิชฺชุตา ปติ.

‘‘ปนาทิตา ทุนฺทุภิโย, ปริเทวึสุ เทวตา;

ปุปฺผวุฏฺี จ คคนา, อภิวสฺสถ เมทนึ.

‘‘กมฺปิโต เมรุราชาปิ, รงฺคมชฺเฌ ยถา นโฏ;

โสเกน จาติทีโนว, วิรโว อาสิ สาคโร.

‘‘เทวา นาคาสุรา พฺรหฺมา, สํวิคฺคาหึสุ ตงฺขเณ;

อนิจฺจา วต สงฺขารา, ยถายํ วิลยํ คตา.

‘‘ยา เจ มํ ปริวารึสุ, สตฺถุ สาสนการิกา;

ตโยปิ อนุปาทานา, ทีปจฺจิ วิย นิพฺพุตา.

‘‘หา โยคา วิปฺปโยคนฺตา, หานิจฺจํ สพฺพสงฺขตํ;

หา ชีวิตํ วินาสนฺตํ, อิจฺจาสิ ปริเทวนา.

‘‘ตโต เทวา จ พฺรหฺมา จ, โลกธมฺมานุวตฺตนํ;

กาลานุรูปํ กุพฺพนฺติ, อุเปตฺวา อิสิสตฺตมํ.

‘‘ตทา อามนฺตยี สตฺถา, อานนฺทํ สุตสาครํ;

คจฺฉานนฺท นิเวเทหิ, ภิกฺขูนํ มาตุ นิพฺพุตึ.

‘‘ตทานนฺโท นิรานนฺโท, อสฺสุนา ปุณฺณโลจโน;

คคฺคเรน สเรนาห, สมาคจฺฉนฺตุ ภิกฺขโว.

‘‘ปุพฺพทกฺขิณปจฺฉาสุ, อุตฺตราย จ สนฺติเก;

สุณนฺตุ ภาสิตํ มยฺหํ, ภิกฺขโว สุคโตรสา.

‘‘ยา วฑฺฒยิ ปยตฺเตน, สรีรํ ปจฺฉิมํ มุเน;

สา โคตมี คตา สนฺตึ, ตาราว สูริโยทเย.

‘‘พุทฺธมาตาปิ ปฺตฺตึ, ปยิตฺวา คตาสมํ;

น ยตฺถ ปฺจเนตฺโตปิ, คตึ ทกฺขติ นายโก.

‘‘ยสฺสตฺถิ สุคเต สทฺธา, โย จ ปิโย มหามุเน;

พุทฺธมาตุสฺส สกฺการํ, กโรตุ สุคโตรโส.

‘‘สุทูรฏฺาปิ ตํ สุตฺวา, สีฆมาคจฺฉุ ภิกฺขโว;

เกจิ พุทฺธานุภาเวน, เกจิ อิทฺธีสุ โกวิทา.

‘‘กูฏาคารวเร รมฺเม, สพฺพโสณฺณมเย สุเภ;

มฺจกํ สมาโรเปสุํ, ยตฺถ สุตฺตาสิ โคตมี.

‘‘จตฺตาโร โลกปาลา เต, อํเสหิ สมธารยุํ;

เสสา สกฺกาทิกา เทวา, กูฏาคาเร สมคฺคหุํ.

‘‘กูฏาคารานิ สพฺพานิ, อาสุํ ปฺจสตานิปิ;

สรทาทิจฺจวณฺณานิ, วิสฺสกมฺมกตานิ หิ.

‘‘สพฺพา ตาปิ ภิกฺขุนิโย, อาสุํ มฺเจสุ สายิตา;

เทวานํ ขนฺธมารุฬฺหา, นิยฺยนฺติ อนุปุพฺพโส.

‘‘สพฺพโส ฉาทิตํ อาสิ, วิตาเนน นภตฺตลํ;

สตารา จนฺทสูรา จ, ลฺฉิตา กนกามยา.

‘‘ปฏากา อุสฺสิตาเนกา, วิตตา ปุปฺผกฺจุกา;

โอคตากาสปทุมา, มหิยา ปุปฺผมุคฺคตํ.

‘‘ทิสฺสนฺติ จนฺทสูริยา, ปชฺชลนฺติ จ ตารกา;

มชฺฌํ คโตปิ จาทิจฺโจ, น ตาเปสิ สสี ยถา.

‘‘เทวา ทิพฺเพหิ คนฺเธหิ, มาเลหิ สุรภีหิ จ;

วาทิเตหิ จ นจฺเจหิ, สงฺคีตีหิ จ ปูชยุํ.

‘‘นาคาสุรา จ พฺรหฺมาโน, ยถาสตฺติ ยถาพลํ;

ปูชยึสุ จ นิยฺยนฺตึ, นิพฺพุตํ พุทฺธมาตรํ.

‘‘สพฺพาโย ปุรโต นีตา, นิพฺพุตา สุคโตรสา;

โคตมี นิยฺยเต ปจฺฉา, สกฺกตา พุทฺธโปสิกา.

‘‘ปุรโต เทวมนุชา, สนาคาสุรพฺรหฺมกา;

ปจฺฉา สสาวโก พุทฺโธ, ปูชตฺถํ ยาติ มาตุยา.

‘‘พุทฺธสฺส ปรินิพฺพานํ, เนทิสํ อาสิ ยาทิสํ;

โคตมีปรินิพฺพานํ, อเตวจฺฉริยํ อหุ.

‘‘พุทฺโธ พุทฺธสฺส นิพฺพาเน, โนปฏิยาทิ ภิกฺขโว;

พุทฺโธ โคตมินิพฺพาเน, สาริปุตฺตาทิกา ตถา.

‘‘จิตกานิ กริตฺวาน, สพฺพคนฺธมยานิ เต;

คนฺธจุณฺณปกิณฺณานิ, ฌาปยึสุ จ ตา ตหึ.

‘‘เสสภาคานิ ฑยฺหึสุ, อฏฺี เสสานิ สพฺพโส;

อานนฺโท จ ตทาโวจ, สํเวคชนกํ วโจ.

‘‘โคตมี นิธนํ ยาตา, ฑยฺหฺจสฺส สรีรกํ;

สงฺเกตํ พุทฺธนิพฺพานํ, น จิเรน ภวิสฺสติ.

‘‘ตโต โคตมิธาตูนิ, ตสฺสา ปตฺตคตานิ โส;

อุปนาเมสิ นาถสฺส, อานนฺโท พุทฺธโจทิโต.

‘‘ปาณินา ตานิ ปคฺคยฺห, อโวจ อิสิสตฺตโม;

มหโต สารวนฺตสฺส, ยถา รุกฺขสฺส ติฏฺโต.

‘‘โย โส มหตฺตโร ขนฺโธ, ปลุชฺเชยฺย อนิจฺจตา;

ตถา ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส, โคตมี ปรินิพฺพุตา.

‘‘อโห อจฺฉริยํ มยฺหํ, นิพฺพุตายปิ มาตุยา;

สารีรมตฺตเสสาย, นตฺถิ โสกปริทฺทโว.

‘‘น โสจิยา ปเรสํ สา, ติณฺณสํสารสาครา;

ปริวชฺชิตสนฺตาปา, สีติภูตา สุนิพฺพุตา.

‘‘ปณฺฑิตาสิ มหาปฺา, ปุถุปฺา ตเถว จ;

รตฺตฺู ภิกฺขุนีนํ สา, เอวํ ธาเรถ ภิกฺขโว.

‘‘อิทฺธีสุ จ วสี อาสิ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;

เจโตปริยาณสฺส, วสี อาสิ จ โคตมี.

‘‘ปุพฺเพนิวาสมฺาสิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;

สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ตสฺสา ปุนพฺภโว.

‘‘อตฺถธมฺมนิรุตฺตีสุ , ปฏิภาเน ตเถว จ;

ปริสุทฺธํ อหุ าณํ, ตสฺมา โสจนิยา น สา.

‘‘อโยฆนหตสฺเสว , ชลโต ชาตเวทสฺส;

อนุปุพฺพูปสนฺตสฺส, ยถา น ายเต คติ.

‘‘เอวํ สมฺมา วิมุตฺตานํ, กามพนฺโธฆตารินํ;

ปฺาเปตุํ คติ นตฺถิ, ปตฺตานํ อจลํ สุขํ.

‘‘อตฺตทีปา ตโต โหถ, สติปฏฺานโคจรา;

ภาเวตฺวา สตฺตโพชฺฌงฺเค, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสถา’’ติ. (อป. เถรี ๒.๒.๙๗-๒๘๘);

มหาปชาปติโคตมีเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. คุตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา

คุตฺเต ยทตฺถํ ปพฺพชฺชาติอาทิกา คุตฺตาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อนุกฺกเมน สมฺภตวิโมกฺขสมฺภารา หุตฺวา, ปริปกฺกกุสลมูลา สุคตีสุเยว สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺตา, คุตฺตาติสฺสา นามํ อโหสิ. สา วิฺุตํ ปตฺวา อุปนิสฺสยสมฺปตฺติยา โจทิยมานา ฆราวาสํ ชิคุจฺฉนฺตี มาตาปิตโร อนุชานาเปตฺวา มหาปชาปติโคตมิยา สนฺติเก ปพฺพชิ. ปพฺพชิตฺวา จ วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ภาวนํ อนุยุฺชนฺติยา ตสฺสา จิตฺตํ จิรกาลปริจเยน พหิทฺธารมฺมเณ วิธาวติ, เอกคฺคํ นาโหสิ. สตฺถา ทิสฺวา ตํ อนุคฺคณฺหนฺโต, คนฺธกุฏิยํ ยถานิสินฺโนว โอภาสํ ผริตฺวา ตสฺสา อาสนฺเน อากาเส นิสินฺนํ วิย อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา โอวทนฺโต –

๑๖๓.

‘‘คุตฺเต ยทตฺถํ ปพฺพชฺชา, หิตฺวา ปุตฺตํ วสุํ ปิยํ;

ตเมว อนุพฺรูเหหิ, มา จิตฺตสฺส วสํ คมิ.

๑๖๔.

‘‘จิตฺเตน วฺจิตา สตฺตา, มารสฺส วิสเย รตา;

อเนกชาติสํสารํ, สนฺธาวนฺติ อวิทฺทสู.

๑๖๕.

‘‘กามาจฺฉนฺทฺจ พฺยาปาทํ, สกฺกายทิฏฺิเมว จ;

สีลพฺพตปรามาสํ, วิจิกิจฺฉํ จ ปฺจมํ.

๑๖๖.

‘‘สํโยชนานิ เอตานิ, ปชหิตฺวาน ภิกฺขุนี;

โอรมฺภาคมนียานิ, นยิทํ ปุนเรหิสิ.

๑๖๗.

‘‘ราคํ มานํ อวิชฺชฺจ, อุทฺธจฺจฺจ วิวชฺชิย;

สํโยชนานิ เฉตฺวาน, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสสิ.

๑๖๘.

‘‘เขเปตฺวา ชาติสํสารํ, ปริฺาย ปุนพฺภวํ;

ทิฏฺเว ธมฺเม นิจฺฉาตา, อุปสนฺตา จริสฺสสี’’ติ. – อิมา คาถา อาภาสิ;

ตตฺถ ตเมว อนุพฺรูเหหีติ ยทตฺถํ ยสฺส กิเลสปรินิพฺพานสฺส ขนฺธปรินิพฺพานสฺส จ อตฺถาย. หิตฺวา ปุตฺตํ วสุํ ปิยนฺติ ปิยายิตพฺพํ าติปริวฏฺฏํ โภคกฺขนฺธฺจ หิตฺวา มม สาสเน ปพฺพชฺชา พฺรหฺมจริยวาโส อิจฺฉิโต, ตเมว วฑฺเฒยฺยาสิ สมฺปาเทยฺยาสิ. มา จิตฺตสฺส วสํ คมีติ ทีฆรตฺตํ รูปาทิอารมฺมณวเสน วฑฺฒิตสฺส กูฏจิตฺตสฺส วสํ มา คจฺฉิ.

ยสฺมา จิตฺตํ นาเมตํ มายูปมํ, เยน วฺจิตา อนฺธปุถุชฺชนา มารวสานุคา สํสารํ นาติวตฺตนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘จิตฺเตน วฺจิตา’’ติอาทิ.

สํโยชนานิเอตานีติ เอตานิ ‘‘กามจฺฉนฺทฺจ พฺยาปาท’’นฺติอาทินา ยถาวุตฺตานิ ปฺจ พนฺธนฏฺเน สํโยชนานิ. ปชหิตฺวานาติ อนาคามิมคฺเคน สมุจฺฉินฺทิตฺวา. ภิกฺขุนีติ ตสฺสา อาลปนํ. โอรมฺภาคมนียานีติ รูปารูปธาตุโต เหฏฺาภาเค กามธาตุยํ มนุสฺสชีวสฺส หิตานิ อุปการานิ ตตฺถ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยภาวโต. ม-กาโร ปทสนฺธิกโร. ‘‘โอรมาคมนียานี’’ติ ปาฬิ, โส เอวตฺโถ. นยิทํ ปุนเรหิสีติ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปหาเนน อิทํ กามฏฺานํ กามภวํ ปฏิสนฺธิวเสน ปุน นาคมิสฺสสิ. ร-กาโร ปทสนฺธิกโร. ‘‘อิตฺถ’’นฺติ วา ปาฬิ, อิตฺถตฺตํ กามภวมิจฺเจว อตฺโถ.

ราคนฺติ รูปราคฺจ อรูปราคฺจ. มานนฺติ อคฺคมคฺควชฺฌํ มานํ. อวิชฺชฺจ อุทฺธจฺจฺจาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. วิวชฺชิยาติ วิปสฺสนาย วิกฺขมฺเภตฺวา. สํโยชนานิ เฉตฺวานาติ เอตานิ รูปราคาทีนิ ปฺจุทฺธมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ อรหตฺตมคฺเคน สมุจฺฉินฺทิตฺวา. ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสสีติ สพฺพสฺสาปิ วฏฺฏทุกฺขสฺส ปริยนฺตํ ปริโยสานํ ปาปุณิสฺสสิ.

เขเปตฺวา ชาติสํสารนฺติ ชาติ สมูลิกสํสารปวตฺตึ ปริโยสาเปตฺวา. นิจฺฉาตาติ นิตฺตณฺหา. อุปสนฺตาติ สพฺพโส กิเลสานํ วูปสเมน อุปสนฺตา. เสสํ วุตฺตนยเมว.

เอวํ สตฺถารา อิมาสุ คาถาสุ ภาสิตาสุ คาถาปริโยสาเน เถรี สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา อุทานวเสน ภควตา ภาสิตนิยาเมเนว อิมา คาถา อภาสิ. เตเนว ตา เถริยา คาถา นาม ชาตา.

คุตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. วิชยาเถรีคาถาวณฺณนา

จตุกฺขตฺตุนฺติอาทิกา วิชยาย เถริยา คาถา. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี, อนุกฺกเมน ปริพฺรูหิตกุสลมูลา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี, อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห อฺตรสฺมึ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา เขมาย เถริยา คิหิกาเล สหายิกา อโหสิ. สา ตสฺสา ปพฺพชิตภาวํ สุตฺวา ‘‘สาปิ นาม ราชมเหสี ปพฺพชิสฺสติ กิมงฺคํ ปนาห’’นฺติ ปพฺพชิตุกามาเยว หุตฺวา เขมาเถริยา สนฺติกํ อุปสงฺกมิ. เถรี ตสฺสา อชฺฌาสยํ ตฺวา ตถา ธมฺมํ เทเสสิ, ยถา สํสาเร สํวิคฺคมานสา สาสเน สา อภิปฺปสนฺนา ภวิสฺสติ. สา ตํ ธมฺมํ สุตฺวา สํเวคชาตา ปฏิลทฺธสทฺธา จ หุตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิ. เถรี ตํ ปพฺพาเชสิ. สา ปพฺพชิตฺวา กตปุพฺพกิจฺจา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา เหตุสมฺปนฺนตาย, น จิรสฺเสว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –

๑๖๙.

‘‘จตุกฺขตฺตุํ ปฺจกฺขตฺตุํ, วิหารา อุปนิกฺขมึ;

อลทฺธา เจตโส สนฺตึ, จิตฺเต อวสวตฺตินี.

๑๗๐.

‘‘ภิกฺขุนึ อุปสงฺกมฺม, สกฺกจฺจํ ปริปุจฺฉหํ;

สา เม ธมฺมมเทเสสิ, ธาตุอายตนานิ จ.

๑๗๑.

‘‘จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, อินฺทฺริยานิ พลานิ จ;

โพชฺฌงฺคฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, อุตฺตมตฺถสฺส ปตฺติยา.

๑๗๒.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, กโรนฺตี อนุสาสนึ;

รตฺติยา ปุริเม ยาเม, ปุพฺพชาติมนุสฺสรึ.

๑๗๓.

‘‘รตฺติยา มชฺฌิเม ยาเม, ทิพฺพจกฺขุํ วิโสธยึ;

รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม, ตโมขนฺธํ ปทาลยึ.

๑๗๔.

‘‘ปีติสุเขน จ กายํ, ผริตฺวา วิหรึ ตทา;

สตฺตมิยา ปาเท ปสาเรสึ, ตโมขนฺธํ ปทาลิยา’’ติ. –

อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ ภิกฺขุนินฺติ เขมาเถรึ สนฺธาย วทติ.

โพชฺฌงฺคฏฺงฺคิกํ มคฺคนฺติ สตฺตโพชฺฌงฺคฺจ อฏฺงฺคิกฺจ อริยมคฺคํ. อุตฺตมตฺถสฺส ปตฺติยาติ อรหตฺตสฺส นิพฺพานสฺเสว วา ปตฺติยา อธิคมาย.

ปีติสุเขนาติ ผลสมาปตฺติปริยาปนฺนาย ปีติยา สุเขน จ. กายนฺติ ตํสมฺปยุตฺตํ นามกายํ ตทนุสาเรน รูปกายฺจ. ผริตฺวาติ ผุสิตฺวา พฺยาเปตฺวา วา. สตฺตมิยา ปาเท ปสาเรสินฺติ วิปสฺสนาย อารทฺธทิวสโต สตฺตมิยํ ปลฺลงฺกํ ภินฺทิตฺวา ปาเท ปสาเรสึ. กถํ? ตโมขนฺธํ ปทาลิย, อปฺปทาลิตปุพฺพํ โมหกฺขนฺธํ อคฺคมคฺคาณาสินา ปทาเลตฺวา. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.

วิชยาเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ฉกฺกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.