📜

๑๐. เอกาทสกนิปาโต

๑. กิสาโคตมีเถรีคาถาวณฺณนา

เอกาทสกนิปาเต กลฺยาณมิตฺตตาติอาทิกา กิสาโคตมิยา เถริยา คาถา. อยํ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺวา เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตี สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุนึ ลูขจีวรธารีนํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา อธิการกมฺมํ กตฺวา ตํ านนฺตรํ ปตฺเถสิ. สา กปฺปสตสหสฺสํ เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺตี อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ ทุคฺคตกุเล นิพฺพตฺติ. โคตมีติสฺสา นามํ อโหสิ. กิสสรีรตาย ปน ‘‘กิสาโคตมี’’ติ โวหรียิตฺถ. ตํ ปติกุลํ คตํ ทุคฺคตกุลสฺส ธีตาติ ปริภวึสุ. สา เอกํ ปุตฺตํ วิชายิ. ปุตฺตลาเภน จสฺสา สมฺมานํ อกํสุ. โส ปนสฺสา ปุตฺโต อาธาวิตฺวา ปริธาวิตฺวา กีฬนกาเล กาลมกาสิ. เตนสฺสา โสกุมฺมาโท อุปฺปชฺชิ.

สา ‘‘อหํ ปุพฺเพ ปริภวปตฺตา หุตฺวา ปุตฺตสฺส ชาตกาลโต ปฏฺาย สกฺการํ ปาปุณึ , อิเม มยฺหํ ปุตฺตํ พหิ ฉฑฺเฑตุมฺปิ วายมนฺตี’’ติ โสกุมฺมาทวเสน มตกเฬวรํ องฺเกนาทาย ‘‘ปุตฺตสฺส เม เภสชฺชํ เทถา’’ติ เคหทฺวารปฏิปาฏิยา นคเร วิจรติ. มนุสฺสา ‘‘เภสชฺชํ กุโต’’ติ ปริภาสนฺติ. สา เตสํ กถํ น คณฺหาติ. อถ นํ เอโก ปณฺฑิตปุริโส ‘‘อยํ ปุตฺตโสเกน จิตฺตวิกฺเขปํ ปตฺตา, เอติสฺสา เภสชฺชํ ทสพโลเยว ชานิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา, ‘‘อมฺม, ตว ปุตฺตสฺส เภสชฺชํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉา’’ติ อาห. สา สตฺถุ ธมฺมเทสนาเวลายํ วิหารํ คนฺตฺวา ‘‘ปุตฺตสฺส เม เภสชฺชํ เทถ ภควา’’ติ อาห. สตฺถา ตสฺสา อุปนิสฺสยํ ทิสฺวา ‘‘คจฺฉ นครํ ปวิสิตฺวา ยสฺมึ เคเห โกจิ มตปุพฺโพ นตฺถิ, ตโต สิทฺธตฺถกํ อาหรา’’ติ อาห. สา ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ ตุฏฺมานสา นครํ ปวิสิตฺวา ปมเคเหเยว ‘‘สตฺถา มม ปุตฺตสฺส เภสชฺชตฺถาย สิทฺธตฺถกํ อาหราเปติ. สเจ เอตสฺมึ เคเห โกจิ มตปุพฺโพ นตฺถิ, สิทฺธตฺถกํ เม เทถา’’ติ อาห. โก อิธ มเต คเณตุํ สกฺโกตีติ. กึ เตน หิ อลํ สิทฺธตฺถเกหีติ ทุติยํ ตติยํ ฆรํ คนฺตฺวา พุทฺธานุภาเวน วิคตุมฺมาทา ปกติจิตฺเต ิตา จินฺเตสิ – ‘‘สกลนคเร อยเมว นิยโม ภวิสฺสติ, อิทํ หิตานุกมฺปินา ภควตา ทิฏฺํ ภวิสฺสตี’’ติ สํเวคํ ลภิตฺวา ตโตว พหิ นิกฺขมิตฺวา ปุตฺตํ อามกสุสาเน ฉฑฺเฑตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘น คามธมฺโม นิคมสฺส ธมฺโม, น จาปิยํ เอกกุลสฺส ธมฺโม;

สพฺพสฺส โลกสฺส สเทวกสฺส, เอเสว ธมฺโม ยทิทํ อนิจฺจตา’’ติ. (อป. เถรี ๒.๓.๘๒);

เอวฺจ ปน วตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ อคมาสิ. อถ นํ สตฺถา ‘‘ลทฺโธ เต, โคตมิ, สิทฺธตฺถโก’’ติ อาห. ‘‘นิฏฺิตํ, ภนฺเต, สิทฺธตฺถเกน กมฺมํ, ปติฏฺา ปน เม โหถา’’ติ อาห. อถสฺสา สตฺถา –

‘‘ตํ ปุตฺตปสุสมฺมตฺตํ, พฺยาสตฺตมนสํ นรํ;

สุตฺตํ คามํ มโหโฆว, มจฺจุ อาทาย คจฺฉตี’’ติ. (ธ. ป. ๒๘๗) –

คาถมาห .

คาถาปริโยสาเน ยถาิตาว โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาย สตฺถารํ ปพฺพชฺชํ ยาจิ. สตฺถา ปพฺพชฺชํ อนุชานิ. สา สตฺถารํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา วนฺทิตฺวา ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปทํ ลภิตฺวา นจิรสฺเสว โยนิโสมนสิกาเรน กมฺมํ กโรนฺตี วิปสฺสนํ วฑฺเฒสิ. อถสฺสา สตฺถา –

‘‘โย จ วสฺสสตํ ชีเว, อปสฺสํ อมตํ ปทํ;

เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย, ปสฺสโต อมตํ ปท’’นฺติ. (ธ. ป. ๑๑๔) –

อิมํ โอภาสคาถมาห.

สา คาถาปริโยสาเน อรหตฺตํ ปาปุณิตฺวา ปริกฺขารวลฺเช ปรมุกฺกฏฺา หุตฺวา ตีหิ ลูเขหิ สมนฺนาคตํ จีวรํ ปารุปิตฺวา วิจริ. อถ นํ สตฺถา เชตวเน นิสินฺโน ภิกฺขุนิโย ปฏิปาฏิยา านนฺตเร เปนฺโต ลูขจีวรธารีนํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. สา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ‘‘สตฺถารํ นิสฺสาย มยา อยํ วิเสโส ลทฺโธ’’ติ กลฺยาณมิตฺตตาย ปสํสามุเขน อิมา คาถา อภาสิ –

๒๑๓.

‘‘กลฺยาณมิตฺตตา มุนินา, โลกํ อาทิสฺส วณฺณิตา;

กลฺยาณมิตฺเต ภชมาโน, อปิ พาโล ปณฺฑิโต อสฺส.

๒๑๔.

‘‘ภชิตพฺพา สปฺปุริสา, ปฺา ตถา วฑฺฒติ ภชนฺตานํ;

ภชมาโน สปฺปุริเส, สพฺเพหิปิ ทุกฺเขหิ ปมุจฺเจยฺย.

๒๑๕.

‘‘ทุกฺขฺจ วิชาเนยฺย, ทุกฺขสฺส จ สมุทยํ นิโรธํ;

อฏฺงฺคิกฺจ มคฺคํ, จตฺตาริปิ อริยสจฺจานิ.

๒๑๖.

‘‘ทุกฺโข อิตฺถิภาโว, อกฺขาโต ปุริสทมฺมสารถินา;

สปตฺติกมฺปิ หิ ทุกฺขํ, อปฺเปกจฺจา สกึ วิชาตาโย.

๒๑๗.

‘‘คลเก อปิ กนฺตนฺติ, สุขุมาลินิโย วิสานิ ขาทนฺติ;

ชนมารกมชฺฌคตา, อุโภปิ พฺยสนานิ อนุโภนฺติ.

๒๑๘.

‘‘อุปวิชฺา คจฺฉนฺตี, อทฺทสาหํ ปตึ มตํ;

ปนฺถมฺหิ วิชายิตฺวาน, อปฺปตฺตาว สกํ ฆรํ.

๒๑๙.

‘‘ทฺเว ปุตฺตา กาลกตา, ปตี จ ปนฺเถ มโต กปณิกาย;

มาตา ปิตา จ ภาตา, ฑยฺหนฺติ จ เอกจิตกายํ.

๒๒๐.

‘‘ขีณกุลีเน กปเณ, อนุภูตํ เต ทุขํ อปริมาณํ;

อสฺสู จ เต ปวตฺตํ, พหูนิ จ ชาติสหสฺสานิ.

๒๒๑.

‘‘วสิตา สุสานมชฺเฌ, อโถปิ ขาทิตานิ ปุตฺตมํสานิ;

หตกุลิกา สพฺพครหิตา, มตปติกา อมตมธิคจฺฉึ.

๒๒๒.

‘‘ภาวิโต เม มคฺโค, อริโย อฏฺงฺคิโก อมตคามี;

นิพฺพานํ สจฺฉิกตํ, ธมฺมาทาสํ อเวกฺขึหํ.

๒๒๓.

‘‘อหมมฺหิ กนฺตสลฺลา, โอหิตภารา กตฺหิ กรณียํ;

กิสาโคตมี เถรี, วิมุตฺตจิตฺตา อิมํ ภณี’’ติ.

ตตฺถ กลฺยาณมิตฺตตาติ กลฺยาโณ ภทฺโท สุนฺทโร มิตฺโต เอตสฺสาติ กลฺยาณมิตฺโต. โย ยสฺส สีลาทิคุณสมาทเปตา, อฆสฺส ฆาตา, หิตสฺส วิธาตา, เอวํ สพฺพากาเรน อุปกาโร มิตฺโต โหติ, โส ปุคฺคโล กลฺยาณมิตฺโต, ตสฺส ภาโว กลฺยาณมิตฺตตา, กลฺยาณมิตฺตวนฺตตา. มุนินาติ สตฺถารา. โลกํ อาทิสฺส วณฺณิตาติ กลฺยาณมิตฺเต อนุคนฺตพฺพนฺติ สตฺตโลกํ อุทฺทิสฺส –

‘‘สกลเมวิทํ, อานนฺท, พฺรหฺมจริยํ ยทิทํ กลฺยาณมิตฺตตา กลฺยาณสหายตา กลฺยาณสมฺปวงฺกตา’’ (สํ. นิ. ๕.๒). ‘‘กลฺยาณมิตฺตสฺเสตํ, เมฆิย, ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส ยํ สีลวา ภวิสฺสติ ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหริสฺสตี’’ติ (อุทา. ๓๑) จ เอวมาทินา ปสํสิตา.

กลฺยาณมิตฺเต ภชมาโนติอาทิ กลฺยาณมิตฺตตาย อานิสํสทสฺสนํ. ตตฺถ อปิ พาโล ปณฺฑิโต อสฺสาติ กลฺยาณมิตฺเต ภชมาโน ปุคฺคโล ปุพฺเพ สุตาทิวิรเหน พาโลปิ สมาโน อสฺสุตสวนาทินา ปณฺฑิโต ภเวยฺย.

ภชิตพฺพา สปฺปุริสาติ พาลสฺสาปิ ปณฺฑิตภาวเหตุโต พุทฺธาทโย สปฺปุริสา กาเลน กาลํ อุปสงฺกมนาทินา เสวิตพฺพา. ปฺา ตถา ปวฑฺฒติ ภชนฺตานนฺติ กลฺยาณมิตฺเต ภชนฺตานํ ตถา ปฺา วฑฺฒติ พฺรูหติ ปาริปูรึ คจฺฉติ. ยถา เตสุ โย โกจิ ขตฺติยาทิโก ภชมาโน สปฺปุริเส สพฺเพหิปิ ชาติอาทิทุกฺเขหิ ปมุจฺเจยฺยาติ โยชนา.

มุจฺจนวิธึ ปน กลฺยาณมิตฺตวิธินา ทสฺเสตุํ ‘‘ทุกฺขฺจ วิชาเนยฺยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ จตฺตาริ อริยสจฺจานีติ ทุกฺขฺจ ทุกฺขสมุทยฺจ นิโรธฺจ อฏฺงฺคิกํ มคฺคฺจาติ อิมานิ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ วิชาเนยฺย ปฏิวิชฺเฌยฺยาติ โยชนา.

‘‘ทุกฺโขอิตฺถิภาโว’’ติอาทิกา ทฺเว คาถา อฺตราย ยกฺขินิยา อิตฺถิภาวํ ครหนฺติยา ภาสิตา. ตตฺถ ทุกฺโข อิตฺถิภาโว อกฺขาโตติ จปลตา, คพฺภธารณํ, สพฺพกาลํ ปรปฏิพทฺธวุตฺติตาติ เอวมาทีหิ อาทีนเวหิ อิตฺถิภาโว ทุกฺโขติ, ปุริสทมฺมสารถินา ภควตา กถิโต. สปตฺติกมฺปิ ทุกฺขนฺติ สปตฺตวาโส สปตฺติยา สทฺธึ สํวาโสปิ ทุกฺโข, อยมฺปิ อิตฺถิภาเว อาทีนโวติ อธิปฺปาโย. อปฺเปกจฺจา สกึ วิชาตาโยติ เอกจฺจา อิตฺถิโย เอกวารเมว วิชาตา, ปมคพฺเภ วิชายนทุกฺขํ อสหนฺติโย. คลเก อปิ กนฺตนฺตีติ อตฺตโน คีวมฺปิ ฉินฺทนฺติ. สุขุมาลินิโย วิสานิ ขาทนฺตีติ สุขุมาลสรีรา อตฺตโน สุขุมาลภาเวน เขทํ อวิสหนฺติโย วิสานิปิ ขาทนฺติ. ชนมารกมชฺฌคตาติ ชนมารโก วุจฺจติ มูฬฺหคพฺโภ. มาตุคามชนสฺส มารโก, มชฺฌคตา ชนมารกา กุจฺฉิคตา, มูฬฺหคพฺภาติ อตฺโถ. อุโภปิ พฺยสนานิ อนุโภนฺตีติ คพฺโภ คพฺภินี จาติ ทฺเวปิ ชนา มรณฺจ มารณนฺติกพฺยสนานิ จ ปาปุณนฺติ. อปเร ปน ภณนฺติ ‘‘ชนมารกา นาม กิเลสา, เตสํ มชฺฌคตา กิเลสสนฺตานปติตา อุโภปิ ชายาปติกา อิธ กิเลสปริฬาหวเสน, อายตึ ทุคฺคติปริกฺกิเลสวเสน พฺยสนานิ ปาปุณนฺตี’’ติ. อิมา กิร ทฺเว คาถา สา ยกฺขินี ปุริมตฺตภาเว อตฺตโน อนุภูตทุกฺขํ อนุสฺสริตฺวา อาห. เถรี ปน อิตฺถิภาเว อาทีนววิภาวนาย ปจฺจนุภาสนฺตี อโวจ.

‘‘อุปวิชฺา คจฺฉนฺตี’’ติอาทิกา ทฺเว คาถา ปฏาจาราย เถริยา ปวตฺตึ อารพฺภ ภาสิตา. ตตฺถ อุปวิชฺา คจฺฉนฺตีติ อุปคตวิชายนกาลา มคฺคํ คจฺฉนฺตี, อปตฺตาว สกํ เคหํ ปนฺเถ วิชายิตฺวาน ปตึ มตํ อทฺทสํ อหนฺติ โยชนา.

กปณิกายาติ วรากาย. อิมา กิร ทฺเว คาถา ปฏาจาราย ตทา โสกุมฺมาทปตฺตาย วุตฺตาการสฺส อนุกรณวเสน อิตฺถิภาเว อาทีนววิภาวนตฺถเมว เถริยา วุตฺตา.

อุภยมฺเปตํ อุทาหรณภาเวน อาเนตฺวา อิทานิ อตฺตโน อนุภูตํ ทุกฺขํ วิภาเวนฺตี ‘‘ขีณกุลิเน’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ขีณกุลิเนติ โภคาทีหิ ปาริชุฺปตฺตกุลิเก. กปเณติ ปรมอวฺาตํ ปตฺเต. อุภยฺเจตํ อตฺตโน เอว อามนฺตนวจนํ. อนุภูตํ เต ทุขํ อปริมาณนฺติ อิมสฺมึ อตฺตภาเว, อิโต ปุริมตฺตภาเวสุ วา อนปฺปกํ ทุกฺขํ ตยา อนุภวิตํ. อิทานิ ตํ ทุกฺขํ เอกเทเสน วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อสฺสู จ เต ปวตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.ตสฺสตฺโถ – อิมสฺมึ อนมตคฺเค สํสาเร ปริพฺภมนฺติยา พหุกานิ ชาติสหสฺสานิ โสกาภิภูตาย อสฺสุ จ ปวตฺตํ, อวิเสสิตํ กตฺวา วุตฺตฺเจตํ, มหาสมุทฺทสฺส อุทกโตปิ พหุกเมว สิยา.

วสิตา สุสานมชฺเฌติ มนุสฺสมํสขาทิกา สุนขี สิงฺคาลี จ หุตฺวา สุสานมชฺเฌ วุสิตา. ขาทิตานิ ปุตฺตมํสานีติ พฺยคฺฆทีปิพิฬาราทิกาเล ปุตฺตมํสานิ ขาทิตานิ. หตกุลิกาติ วินฏฺกุลวํสา. สพฺพครหิตาติ สพฺเพหิ ฆรวาสีหิ ครหิตา ครหปฺปตฺตา. มตปติกาติ วิธวา. อิเม ปน ตโย ปกาเร ปุริมตฺตภาเว อตฺตโน อนุปฺปตฺเต คเหตฺวา วทติ. เอวํภูตาปิ หุตฺวา อธิจฺจ ลทฺธาย กลฺยาณมิตฺตเสวาย อมตมธิคจฺฉิ,นิพฺพานํ อนุปฺปตฺตา.

อิทานิ ตเมว อมตาธิคมํ ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ภาวิโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ภาวิโตติ วิภาวิโต อุปฺปาทิโต วฑฺฒิโต ภาวนาภิสมยวเสน ปฏิวิทฺโธ. ธมฺมาทาสํ อเวกฺขึหนฺติ ธมฺมมยํ อาทาสํ อทฺทกฺขึ อปสฺสึ อหํ.

อหมมฺหิ กนฺตสลฺลาติ อริยมคฺเคน สมุจฺฉินฺนคาราทิสลฺลา อหํ อมฺหิ. โอหิตภาราติ โอโรปิตกามขนฺธกิเลสาภิสงฺขารภารา. กตฺหิ กรณียนฺติ ปริฺาทิเภทํ โสฬสวิธมฺปิ กิจฺจํ กตํ ปริโยสิตํ. สุวิมุตฺตจิตฺตา อิมํ ภณีติ สพฺพโส วิมุตฺตจิตฺตา กิสาโคตมี เถรี อิมมตฺถํ ‘‘กลฺยาณมิตฺตตา’’ติอาทินา คาถาพนฺธวเสน อภณีติ อตฺตานํ ปรํ วิย เถรี วทติ. ตตฺริทํ อิมิสฺสา เถริยา อปทานํ (อป. เถรี ๒.๓.๕๕-๙๔) –

‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺมาน ปารคู;

อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโก.

‘‘ตทาหํ หํสวติยํ, ชาตา อฺตเร กุเล;

อุเปตฺวา ตํ นรวรํ, สรณํ สมุปาคมึ.

‘‘ธมฺมฺจ ตสฺส อสฺโสสึ, จตุสจฺจูปสฺหิตํ;

มธุรํ ปรมสฺสาทํ, วฏฺฏสนฺติสุขาวหํ.

‘‘ตทา จ ภิกฺขุนึ วีโร, ลูขจีวรธารินึ;

เปนฺโต เอตทคฺคมฺหิ, วณฺณยี ปุริสุตฺตโม.

‘‘ชเนตฺวานปฺปกํ ปีตึ, สุตฺวา ภิกฺขุนิยา คุเณ;

การํ กตฺวาน พุทฺธสฺส, ยถาสตฺติ ยถาพลํ.

‘‘นิปจฺจ มุนิวรํ ตํ, ตํ านมภิปตฺถยึ;

ตทานุโมทิ สมฺพุทฺโธ, านลาภาย นายโก.

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาทา, โอรสา ธมฺมนิมฺมิตา;

กิสาโคตมี นาเมน, เหสฺสสิ สตฺถุ สาวิกา.

‘‘ตํ สุตฺวา มุทิตา หุตฺวา, ยาวชีวํ ตทา ชินํ;

เมตฺตจิตฺตา ปริจรึ, ปจฺจเยหิ วินายกํ.

‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.

‘‘อิมมฺหิ ภทฺทเก กปฺเป, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;

กสฺสโป นาม โคตฺเตน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโร.

‘‘อุปฏฺาโก มเหสิสฺส, ตทา อาสิ นริสฺสโร;

กาสิราชา กิกี นาม, พาราณสิปุรุตฺตเม.

‘‘ปฺจมี ตสฺส ธีตาสึ, ธมฺมา นาเมน วิสฺสุตา;

ธมฺมํ สุตฺวา ชินคฺคสฺส, ปพฺพชฺชํ สมโรจยึ.

‘‘อนุชานิ น โน ตาโต, อคาเรว ตทา มยํ;

วีสวสฺสสหสฺสานิ, วิจริมฺห อตนฺทิตา.

‘‘โกมาริพฺรหฺมจริยํ, ราชกฺา สุเขธิตา;

พุทฺโธปฏฺานนิรตา, มุทิตา สตฺต ธีตโร.

‘‘สมณี สมณคุตฺตา จ, ภิกฺขุนี ภิกฺขุทายิกา;

ธมฺมา เจว สุธมฺมา จ, สตฺตมี สงฺฆทายิกา.

‘‘เขมา อุปฺปลวณฺณา จ, ปฏาจารา จ กุณฺฑลา;

อหฺจ ธมฺมทินฺนา จ, วิสาขา โหติ สตฺตมี.

‘‘เตหิ กมฺเมหิ สุกเตหิ, เจตนาปณิธีหิ จ;

ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.

‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, ชาตา เสฏฺิกุเล อหํ;

ทุคฺคเต อธเน นฏฺเ, คตา จ สธนํ กุลํ.

‘‘ปตึ เปตฺวา เสสา เม, เทสฺสนฺติ อธนา อิติ;

ยทา จ ปสฺสูตา อาสึ, สพฺเพสํ ทยิตา ตทา.

‘‘ยทา โส ตรุโณ ภทฺโท, โกมลโก สุเขธิโต;

สปาณมิว กนฺโต เม, ตทา ยมวสํ คโต.

‘‘โสกฏฺฏาทีนวทนา, อสฺสุเนตฺตา รุทมฺมุขา;

มตํ กุณปมาทาย, วิลปนฺตี คมามหํ.

‘‘ตทา เอเกน สนฺทิฏฺา, อุเปตฺวาภิสกฺกุตฺตมํ;

อโวจํ เทหิ เภสชฺชํ, ปุตฺตสฺชีวนนฺติ โภ.

‘‘น วิชฺชนฺเต มตา ยสฺมึ, เคเห สิทฺธตฺถกํ ตโต;

อาหราติ ชิโน อาห, วินโยปายโกวิโท.

‘‘ตทา คมิตฺวา สาวตฺถึ, น ลภึ ตาทิสํ ฆรํ;

กุโต สิทฺธตฺถกํ ตสฺมา, ตโต ลทฺธา สตึ อหํ.

‘‘กุณปํ ฉฑฺฑยิตฺวาน, อุเปสึ โลกนายกํ;

ทูรโตว มมํ ทิสฺวา, อโวจ มธุรสฺสโร.

‘‘โย จ วสฺสสตํ ชีเว, อปสฺสํ อุทยพฺพยํ;

เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย, ปสฺสโต อุทยพฺพยํ.

‘‘น คามธมฺโม นิคมสฺส ธมฺโม, น จาปิยํ เอกกุลสฺส ธมฺโม;

สพฺพสฺส โลกสฺส สเทวกสฺส, เอเสว ธมฺโม ยทิทํ อนิจฺจตา.

‘‘สาหํ สุตฺวานิมา คาถา, ธมฺมจกฺขุํ วิโสธยึ;

ตโต วิฺาตสทฺธมฺมา, ปพฺพชึ อนคาริยํ.

‘‘ตถา ปพฺพชิตา สนฺตี, ยุฺชนฺตี ชินสาสเน;

น จิเรเนว กาเลน, อรหตฺตมปาปุณึ.

‘‘อิทฺธีสุ จ วสี โหมิ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;

ปรจิตฺตานิ ชานามิ, สตฺถุสาสนการิกา.

‘‘ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;

เขเปตฺวา อาสเว สพฺเพ, วิสุทฺธาสึ สุนิมฺมลา.

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;

โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติ สมูหตา.

‘‘ยสฺสตฺถาย ปพฺพชิตา, อคารสฺมานคาริยํ;

โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, สพฺพสํโยชนกฺขโย.

‘‘อตฺถธมฺมนิรุตฺตีสุ, ปฏิภาเน ตเถว จ;

าณํ เม วิมลํ สุทฺธํ, พุทฺธเสฏฺสฺส วาหสา.

‘‘สงฺการกูฏา อาหิตฺวา, สุสานา รถิยาปิ จ;

ตโต สงฺฆาฏิกํ กตฺวา, ลูขํ ธาเรมิ จีวรํ.

‘‘ชิโน ตสฺมึ คุเณ ตุฏฺโ, ลูขจีวรธารเณ;

เปสิ เอตทคฺคมฺหิ, ปริสาสุ วินายโก.

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ.

กิสาโคตมีเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เอกาทสนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.