📜
๑๓. วีสตินิปาโต
๑. อมฺพปาลีเถรีคาถา
‘‘กาฬกา ¶ ¶ ภมรวณฺณสาทิสา, เวลฺลิตคฺคา มม มุทฺธชา อหุํ;
เต ชราย สาณวากสาทิสา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘วาสิโตว สุรภี กรณฺฑโก, ปุปฺผปูร มม อุตฺตมงฺคโช [อุตฺตมงฺคภูโต (ก.)].
ตํ ชรายถ สโลมคนฺธิกํ, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘กานนํว ¶ สหิตํ สุโรปิตํ, โกจฺฉสูจิวิจิตคฺคโสภิตํ;
ตํ ชราย วิรลํ ตหึ ตหึ, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘กณฺหขนฺธกสุวณฺณมณฺฑิตํ, โสภเต สุเวณีหิลงฺกตํ;
ตํ ¶ ชราย ขลิตํ สิรํ กตํ, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘จิตฺตการสุกตาว เลขิกา, โสภเร สุ ภมุกา ปุเร มม;
ตา ¶ ชราย วลิภิปฺปลมฺพิตา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘ภสฺสรา สุรุจิรา ยถา มณี, เนตฺตเหสุมภินีลมายตา;
เต ชรายภิหตา น โสภเร, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘สณฺหตุงฺคสทิสี ¶ จ นาสิกา, โสภเต สุ อภิโยพฺพนํ ปติ;
สา ชราย อุปกูลิตา วิย, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘กงฺกณํ ว สุกตํ สุนิฏฺิตํ, โสภเร สุ มม กณฺณปาฬิโย;
ตา ชราย วลิภิปฺปลมฺพิตา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘ปตฺตลีมกุลวณฺณสาทิสา, โสภเร สุ ทนฺตา ปุเร มม;
เต ชราย ขณฺฑิตา จาสิตา [ปีตกา (สี.)], สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘กานนมฺหิ วนสณฺฑจารินี, โกกิลาว ¶ มธุรํ นิกูชิหํ;
ตํ ชราย ขลิตํ ตหึ ตหึ, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘สณฺหกมฺพุริว สุปฺปมชฺชิตา, โสภเต สุ คีวา ปุเร มม;
สา ชราย ภคฺคา [ภฺชิตา (?)] วินามิตา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘วฏฺฏปลิฆสทิโสปมา ¶ อุโภ, โสภเร สุ พาหา ปุเร มม;
ตา ชราย ยถ ปาฏลิพฺพลิตา [ยถา ปาฏลิปฺปลิตา (สี. สฺยา. ก.)], สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘สณฺหมุทฺทิกสุวณฺณมณฺฑิตา, โสภเร สุ หตฺถา ปุเร มม;
เต ชราย ยถา มูลมูลิกา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘ปีนวฏฺฏสหิตุคฺคตา ¶ อุโภ, โสภเร [โสภเต (อฏฺ.)] สุ ถนกา ปุเร มม;
เถวิกีว ลมฺพนฺติ โนทกา, สจฺจวาทิวจนํ ¶ อนฺถา.
‘‘กฺจนสฺสผลกํว สมฺมฏฺํ, โสภเต สุ กาโย ปุเร มม;
โส วลีหิ สุขุมาหิ โอตโต, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘นาคโภคสทิโสปมา อุโภ, โสภเร สุ อูรู ปุเร มม;
เต ชราย ยถา เวฬุนาฬิโย, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘สณฺหนูปุรสุวณฺณมณฺฑิตา ¶ , โสภเร สุ ชงฺฆา ปุเร มม;
ตา ชราย ติลทณฺฑการิว, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘ตูลปุณฺณสทิโสปมา อุโภ, โสภเร สุ ปาทา ปุเร มม;
เต ชราย ผุฏิตา วลีมตา, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา.
‘‘เอทิโส อหุ อยํ สมุสฺสโย, ชชฺชโร พหุทุกฺขานมาลโย;
โสปเลปปติโต ¶ ชราฆโร, สจฺจวาทิวจนํ อนฺถา’’.
… อมฺพปาลี เถรี….
๒. โรหินีเถรีคาถา
‘‘‘สมณา’ติ ¶ โภติ สุปิ [โภติ ตฺวํ สยสิ (สี.), โภติ มํ วิปสฺสิ (สฺยา.)], ‘สมณา’ติ ปพุชฺฌสิ [ปฏิพุชฺฌสิ (สี. สฺยา.)];
สมณาเนว [สมณานเมว (สี. สฺยา.)] กิตฺเตสิ, สมณี นูน [สมณี นุ (ก.)] ภวิสฺสสิ.
‘‘วิปุลํ ¶ อนฺนฺจ ปานฺจ, สมณานํ ปเวจฺจสิ [ปยจฺฉสิ (สี.)];
โรหินี ทานิ ปุจฺฉามิ, เกน เต สมณา ปิยา.
‘‘อกมฺมกามา อลสา, ปรทตฺตูปชีวิโน;
อาสํสุกา สาทุกามา, เกน เต สมณา ปิยา’’.
‘‘จิรสฺสํ วต มํ ตาต, สมณานํ ปริปุจฺฉสิ;
เตสํ เต กิตฺตยิสฺสามิ, ปฺาสีลปรกฺกมํ.
‘‘กมฺมกามา อนลสา, กมฺมเสฏฺสฺส การกา;
ราคํ โทสํ ปชหนฺติ, เตน เม สมณา ปิยา.
‘‘ตีณิ ปาปสฺส มูลานิ, ธุนนฺติ สุจิการิโน;
สพฺพํ ปาปํ ปหีเนสํ, เตน เม สมณา ปิยา.
‘‘กายกมฺมํ สุจิ เนสํ, วจีกมฺมฺจ ตาทิสํ;
มโนกมฺมํ สุจิ เนสํ, เตน เม สมณา ปิยา.
‘‘วิมลา สงฺขมุตฺตาว, สุทฺธา สนฺตรพาหิรา;
ปุณฺณา สุกฺกาน ธมฺมานํ [สุกฺเกหิ ธมฺเมหิ (สี. สฺยา. อฏฺ.)], เตน เม สมณา ปิยา.
‘‘พหุสฺสุตา ธมฺมธรา, อริยา ธมฺมชีวิโน;
อตฺถํ ธมฺมฺจ เทเสนฺติ, เตน เม สมณา ปิยา.
‘‘พหุสฺสุตา ¶ ธมฺมธรา, อริยา ธมฺมชีวิโน;
เอกคฺคจิตฺตา สติมนฺโต, เตน เม สมณา ปิยา.
‘‘ทูรงฺคมา ¶ สติมนฺโต, มนฺตภาณี อนุทฺธตา;
ทุกฺขสฺสนฺตํ ปชานนฺติ, เตน เม สมณา ปิยา.
‘‘ยสฺมา คามา ปกฺกมนฺติ, น วิโลเกนฺติ กิฺจนํ;
อนเปกฺขาว คจฺฉนฺติ, เตน เม สมณา ปิยา.
‘‘น ¶ เตสํ โกฏฺเ โอเปนฺติ, น กุมฺภึ น ขโฬปิยํ;
ปรินิฏฺิตเมสานา, เตน เม สมณา ปิยา.
‘‘น เต หิรฺํ คณฺหนฺติ, น สุวณฺณํ น รูปิยํ;
ปจฺจุปฺปนฺเนน ยาเปนฺติ, เตน เม สมณา ปิยา.
‘‘นานากุลา ¶ ปพฺพชิตา, นานาชนปเทหิ จ;
อฺมฺํ ปิยายนฺติ [ปิหยนฺติ (ก.)], เตน เม สมณา ปิยา’’.
‘‘อตฺถาย วต โน โภติ, กุเล ชาตาสิ โรหินี;
สทฺธา พุทฺเธ จ ธมฺเม จ, สงฺเฆ จ ติพฺพคารวา.
‘‘ตุวํ เหตํ ปชานาสิ, ปฺุกฺเขตฺตํ อนุตฺตรํ;
อมฺหมฺปิ เอเต สมณา, ปฏิคณฺหนฺติ ทกฺขิณํ’’.
‘‘ปติฏฺิโต เหตฺถ ยฺโ, วิปุโล โน ภวิสฺสติ;
สเจ ภายสิ ทุกฺขสฺส, สเจ เต ทุกฺขมปฺปิยํ.
‘‘อุเปหิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมํ สงฺฆฺจ ตาทินํ;
สมาทิยาหิ สีลานิ, ตํ เต อตฺถาย เหหิติ’’.
‘‘อุเปมิ ¶ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมํ สงฺฆฺจ ตาทินํ;
สมาทิยามิ สีลานิ, ตํ เม อตฺถาย เหหิติ.
‘‘พฺรหฺมพนฺธุ ปุเร อาสึ, โส อิทานิมฺหิ พฺราหฺมโณ;
เตวิชฺโช โสตฺติโย จมฺหิ, เวทคู จมฺหิ นฺหาตโก’’.
… โรหินี เถรี….
๓. จาปาเถรีคาถา
‘‘ลฏฺิหตฺโถ ปุเร อาสิ, โส ทานิ มิคลุทฺทโก;
อาสาย ปลิปา โฆรา, นาสกฺขิ ปารเมตเว.
‘‘สุมตฺตํ มํ มฺมานา, จาปา ปุตฺตมโตสยิ;
จาปาย พนฺธนํ เฉตฺวา, ปพฺพชิสฺสํ ปุโนปหํ.
‘‘มา ¶ เม กุชฺฌิ มหาวีร, มา เม กุชฺฌิ มหามุนิ;
น หิ โกธปเรตสฺส, สุทฺธิ อตฺถิ กุโต ตโป.
‘‘ปกฺกมิสฺสฺจ ¶ นาฬาโต, โกธ นาฬาย วจฺฉติ;
พนฺธนฺตี อิตฺถิรูเปน, สมเณ ธมฺมชีวิโน’’ [ธมฺมชีวิเน (ก.)].
‘‘เอหิ กาฬ นิวตฺตสฺสุ, ภฺุช กาเม ยถา ปุเร;
อหฺจ เต วสีกตา, เย จ เม สนฺติ าตกา’’.
‘‘เอตฺโต ¶ จาเป จตุพฺภาคํ, ยถา ภาสสิ ตฺวฺจ เม;
ตยิ รตฺตสฺส โปสสฺส, อุฬารํ วต ตํ สิยา’’.
‘‘กาฬงฺคินึว ตกฺการึ, ปุปฺผิตํ คิริมุทฺธนิ;
ผุลฺลํ ทาลิมลฏฺึว, อนฺโตทีเปว ปาฏลึ.
‘‘หริจนฺทนลิตฺตงฺคึ, กาสิกุตฺตมธารินึ;
ตํ ¶ มํ รูปวตึ สนฺตึ, กสฺส โอหาย คจฺฉสิ’’.
‘‘สากุนฺติโกว สกุณึ [สกุณํ (สฺยา.)], ยถา พนฺธิตุมิจฺฉติ;
อาหริเมน รูเปน, น มํ ตฺวํ พาธยิสฺสสิ’’.
‘‘อิมฺจ เม ปุตฺตผลํ, กาฬ อุปฺปาทิตํ ตยา;
ตํ มํ ปุตฺตวตึ สนฺตึ, กสฺส โอหาย คจฺฉสิ’’.
‘‘ชหนฺติ ปุตฺเต สปฺปฺา, ตโต าตี ตโต ธนํ;
ปพฺพชนฺติ มหาวีรา, นาโค เฉตฺวาว พนฺธนํ’’.
‘‘อิทานิ เต อิมํ ปุตฺตํ, ทณฺเฑน ฉุริกาย วา;
ภูมิยํ วา นิสุมฺภิสฺสํ [นิสุมฺเภยฺยํ (สี.)], ปุตฺตโสกา น คจฺฉสิ’’.
‘‘สเจ ปุตฺตํ สิงฺคาลานํ, กุกฺกุรานํ ปทาหิสิ;
น มํ ปุตฺตกตฺเต ชมฺมิ, ปุนราวตฺตยิสฺสสิ’’.
‘‘หนฺท โข ทานิ ภทฺทนฺเต, กุหึ กาฬ คมิสฺสสิ;
กตมํ ¶ คามนิคมํ, นครํ ราชธานิโย’’.
‘‘อหุมฺห ปุพฺเพ คณิโน, อสฺสมณา สมณมานิโน;
คาเมน คามํ วิจริมฺห, นคเร ราชธานิโย.
‘‘เอโส หิ ภควา พุทฺโธ, นทึ เนรฺชรํ ปติ;
สพฺพทุกฺขปฺปหานาย, ธมฺมํ เทเสติ ปาณินํ;
ตสฺสาหํ สนฺติกํ คจฺฉํ, โส เม สตฺถา ภวิสฺสติ’’.
‘‘วนฺทนํ ¶ ทานิ วชฺชาสิ, โลกนาถํ อนุตฺตรํ;
ปทกฺขิณฺจ กตฺวาน, อาทิเสยฺยาสิ ทกฺขิณํ’’.
‘‘เอตํ โข ลพฺภมมฺเหหิ, ยถา ภาสสิ ตฺวฺจ เม;
วนฺทนํ ทานิ เต วชฺชํ, โลกนาถํ อนุตฺตรํ;
ปทกฺขิณฺจ ¶ กตฺวาน, อาทิสิสฺสามิ ทกฺขิณํ’’.
ตโต ¶ จ กาโฬ ปกฺกามิ, นทึ เนรฺชรํ ปติ;
โส อทฺทสาสิ สมฺพุทฺธํ, เทเสนฺตํ อมตํ ปทํ.
ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;
อริยํ จฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํ.
ตสฺส ปาทานิ วนฺทิตฺวา, กตฺวาน นํ [กตฺวานหํ (สี.)] ปทกฺขิณํ;
จาปาย อาทิสิตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ;
ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.
… จาปา เถรี….
๔. สุนฺทรีเถรีคาถา
‘‘เปตานิ โภติ ปุตฺตานิ, ขาทมานา ตุวํ ปุเร;
ตุวํ ทิวา จ รตฺโต จ, อตีว ปริตปฺปสิ.
‘‘สาชฺช สพฺพานิ ขาทิตฺวา, สตปุตฺตานิ [สตฺต ปุตฺตานิ (สฺยา.)] พฺราหฺมณี;
วาเสฏฺิ เกน วณฺเณน, น พาฬฺหํ ปริตปฺปสิ’’.
‘‘พหูนิ ปุตฺตสตานิ, าติสงฺฆสตานิ จ;
ขาทิตานิ อตีตํเส, มม ตุยฺหฺจ พฺราหฺมณ.
‘‘สาหํ นิสฺสรณํ ตฺวา, ชาติยา มรณสฺส จ;
น ¶ โสจามิ น โรทามิ, น จาปิ ปริตปฺปยึ’’.
‘‘อพฺภุตํ ¶ วต วาเสฏฺิ, วาจํ ภาสสิ เอทิสึ;
กสฺส ตฺวํ ธมฺมมฺาย, คิรํ [ถิรํ (สี.)] ภาสสิ เอทิสึ’’.
‘‘เอส พฺราหฺมณ สมฺพุทฺโธ, นครํ มิถิลํ ปติ;
สพฺพทุกฺขปฺปหานาย, ธมฺมํ เทเสสิ ปาณินํ.
‘‘ตสฺส พฺรหฺเม [พฺราหฺมณ (สี. สฺยา.)] อรหโต, ธมฺมํ สุตฺวา นิรูปธึ;
ตตฺถ วิฺาตสทฺธมฺมา, ปุตฺตโสกํ พฺยปานุทึ’’.
‘‘โส ¶ อหมฺปิ คมิสฺสามิ, นครํ มิถิลํ ปติ;
อปฺเปว มํ โส ภควา, สพฺพทุกฺขา ปโมจเย’’.
อทฺทส ¶ พฺราหฺมโณ พุทฺธํ, วิปฺปมุตฺตํ นิรูปธึ;
สฺวสฺส ธมฺมมเทเสสิ, มุนิ ทุกฺขสฺส ปารคู.
ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;
อริยํ จฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํ.
ตตฺถ วิฺาตสทฺธมฺโม, ปพฺพชฺชํ สมโรจยิ;
สุชาโต ตีหิ รตฺตีหิ, ติสฺโส วิชฺชา อผสฺสยิ.
‘‘เอหิ สารถิ คจฺฉาหิ, รถํ นิยฺยาทยาหิมํ;
อาโรคฺยํ พฺราหฺมณึ วชฺช [วชฺชา (สี.)], ‘ปพฺพชิ [ปพฺพชิโต (สี.)] ทานิ พฺราหฺมโณ;
สุชาโต ตีหิ รตฺตีหิ, ติสฺโส วิชฺชา อผสฺสยิ’’’.
ตโต จ รถมาทาย, สหสฺสฺจาปิ สารถิ;
อาโรคฺยํ ¶ พฺราหฺมณิโวจ, ‘‘ปพฺพชิ ทานิ พฺราหฺมโณ;
สุชาโต ตีหิ รตฺตีหิ, ติสฺโส วิชฺชา อผสฺสยิ’’.
‘‘เอตฺจาหํ อสฺสรถํ, สหสฺสฺจาปิ สารถิ;
เตวิชฺชํ พฺราหฺมณํ สุตฺวา [ตฺวา (สี.)], ปุณฺณปตฺตํ ททามิ เต’’.
‘‘ตุยฺเหว โหตฺวสฺสรโถ, สหสฺสฺจาปิ พฺราหฺมณิ;
อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามิ, วรปฺสฺส สนฺติเก’’.
‘‘หตฺถี ¶ ควสฺสํ มณิกุณฺฑลฺจ, ผีตฺจิมํ คหวิภวํ ปหาย;
ปิตา ปพฺพชิโต ตุยฺหํ, ภฺุช โภคานิ สุนฺทริ; ตุวํ ทายาทิกา กุเล’’.
‘‘หตฺถี ควสฺสํ มณิกุณฺฑลฺจ, รมฺมํ จิมํ คหวิภวํ ปหาย;
ปิตา ปพฺพชิโต มยฺหํ, ปุตฺตโสเกน อฏฺฏิโต;
อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามิ, ภาตุโสเกน อฏฺฏิตา’’.
‘‘โส เต อิชฺฌตุ สงฺกปฺโป, ยํ ตฺวํ ปตฺเถสิ สุนฺทรี;
อุตฺติฏฺปิณฺโฑ อฺุโฉ จ, ปํสุกูลฺจ จีวรํ;
เอตานิ อภิสมฺโภนฺตี, ปรโลเก อนาสวา’’.
‘‘สิกฺขมานาย ¶ เม อยฺเย, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;
ปุพฺเพนิวาสํ ชานามิ, ยตฺถ เม วุสิตํ ปุเร.
‘‘ตุวํ ¶ ¶ นิสฺสาย กลฺยาณี, เถรี สงฺฆสฺส โสภเน;
ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ.
‘‘อนุชานาหิ เม อยฺเย, อิจฺเฉ สาวตฺถิ คนฺตเว;
สีหนาทํ นทิสฺสามิ, พุทฺธเสฏฺสฺส สนฺติเก’’.
‘‘ปสฺส สุนฺทริ สตฺถารํ, เหมวณฺณํ หริตฺตจํ;
อทนฺตานํ ทเมตารํ, สมฺพุทฺธมกุโตภยํ’’.
‘‘ปสฺส สุนฺทริมายนฺตึ, วิปฺปมุตฺตํ นิรูปธึ;
วีตราคํ วิสํยุตฺตํ, กตกิจฺจมนาสวํ.
‘‘พาราณสีโต นิกฺขมฺม, ตว สนฺติกมาคตา;
สาวิกา เต มหาวีร, ปาเท วนฺทติ สุนฺทรี’’.
‘‘ตุวํ พุทฺโธ ตุวํ สตฺถา, ตุยฺหํ ธีตามฺหิ พฺราหฺมณ;
โอรสา มุขโต ชาตา, กตกิจฺจา อนาสวา’’.
‘‘ตสฺสา ¶ เต สฺวาคตํ ภทฺเท, ตโต [อโถ (ก.)] เต อทุราคตํ;
เอวฺหิ ทนฺตา อายนฺติ, สตฺถุ ปาทานิ วนฺทิกา;
วีตราคา วิสํยุตฺตา, กตกิจฺจา อนาสวา’’.
… สุนฺทรี เถรี….
๕. สุภากมฺมารธีตุเถรีคาถา
‘‘ทหราหํ สุทฺธวสนา, ยํ ปุเร ธมฺมมสฺสุณึ;
ตสฺสา เม อปฺปมตฺตาย, สจฺจาภิสมโย อหุ.
‘‘ตโตหํ สพฺพกาเมสุ, ภุสํ อรติมชฺฌคํ;
สกฺกายสฺมึ ภยํ ทิสฺวา, เนกฺขมฺมเมว [เนกฺขมฺมฺเว (สี.), เนกฺขมฺมสฺเสว (สฺยา.)] ปีหเย.
‘‘หิตฺวานหํ ¶ าติคณํ, ทาสกมฺมกรานิ จ;
คามเขตฺตานิ ผีตานิ, รมณีเย ปโมทิเต.
‘‘ปหายหํ ¶ ปพฺพชิตา, สาปเตยฺยมนปฺปกํ;
เอวํ สทฺธาย นิกฺขมฺม, สทฺธมฺเม สุปฺปเวทิเต.
‘‘เนตํ [น เมตํ (สี. สฺยา.)] อสฺส ปติรูปํ, อากิฺจฺฺหิ ปตฺถเย;
โย [ยา (สฺยา.)] ชาตรูปํ รชตํ, ฉฑฺเฑตฺวา [ถเปตฺวา (ก.)] ปุนราคเม [ปุนราคเห (ก.)].
‘‘รชตํ ¶ ชาตรูปํ วา, น โพธาย น สนฺติยา;
เนตํ สมณสารุปฺปํ, น เอตํ อริยทฺธนํ.
‘‘โลภนํ มทนฺเจตํ, โมหนํ รชวฑฺฒนํ;
สาสงฺกํ พหุอายาสํ, นตฺถิ เจตฺถ ธุวํ ิติ.
‘‘เอตฺถ รตฺตา ปมตฺตา จ, สงฺกิลิฏฺมนา นรา;
อฺมฺเน พฺยารุทฺธา, ปุถุ กุพฺพนฺติ เมธคํ.
‘‘วโธ พนฺโธ ปริกฺเลโส, ชานิ โสกปริทฺทโว;
กาเมสุ อธิปนฺนานํ, ทิสฺสเต พฺยสนํ พหุํ.
‘‘ตํ มํ าตี อมิตฺตาว, กึ โว กาเมสุ ยฺุชถ;
ชานาถ มํ ปพฺพชิตํ, กาเมสุ ภยทสฺสินึ.
‘‘น ¶ หิรฺสุวณฺเณน, ปริกฺขียนฺติ อาสวา;
อมิตฺตา วธกา กามา, สปตฺตา สลฺลพนฺธนา.
‘‘ตํ ¶ มํ าตี อมิตฺตาว, กึ โว กาเมสุ ยฺุชถ;
ชานาถ มํ ปพฺพชิตํ, มุณฺฑํ สงฺฆาฏิปารุตํ.
‘‘อุตฺติฏฺปิณฺโฑ อฺุโฉ จ, ปํสุกูลฺจ จีวรํ;
เอตํ โข มม สารุปฺปํ, อนคารูปนิสฺสโย.
‘‘วนฺตา มเหสีหิ กามา, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา;
เขมฏฺาเน วิมุตฺตา เต, ปตฺตา เต อจลํ สุขํ.
‘‘มาหํ กาเมหิ สงฺคจฺฉึ, เยสุ ตาณํ น วิชฺชติ;
อมิตฺตา วธกา กามา, อคฺคิกฺขนฺธูปมา ทุขา.
‘‘ปริปนฺโถ ¶ เอส ภโย, สวิฆาโต สกณฺฏโก;
เคโธ สุวิสโม เจโส [เลโป (สี.)], มหนฺโต โมหนามุโข.
‘‘อุปสคฺโค ภีมรูโป, กามา สปฺปสิรูปมา;
เย พาลา อภินนฺทนฺติ, อนฺธภูตา ปุถุชฺชนา.
‘‘กามปงฺเกน สตฺตา หิ, พหู โลเก อวิทฺทสู;
ปริยนฺตํ น ชานนฺติ, ชาติยา มรณสฺส จ.
‘‘ทุคฺคติคมนํ มคฺคํ, มนุสฺสา กามเหตุกํ;
พหุํ เว ปฏิปชฺชนฺติ, อตฺตโน โรคมาวหํ.
‘‘เอวํ ¶ อมิตฺตชนนา, ตาปนา สํกิเลสิกา;
โลกามิสา พนฺธนียา, กามา มรณพนฺธนา [จรณพนฺธนา (สี.)].
‘‘อุมฺมาทนา ¶ อุลฺลปนา, กามา จิตฺตปฺปมทฺทิโน;
สตฺตานํ สงฺกิเลสาย, ขิปฺปํ [ขิปํ (สี.)] มาเรน โอฑฺฑิตํ.
‘‘อนนฺตาทีนวา กามา, พหุทุกฺขา มหาวิสา;
อปฺปสฺสาทา ¶ รณกรา, สุกฺกปกฺขวิโสสนา [วิโสสกา (สี.)].
‘‘สาหํ เอตาทิสํ กตฺวา, พฺยสนํ กามเหตุกํ;
น ตํ ปจฺจาคมิสฺสามิ, นิพฺพานาภิรตา สทา.
‘‘รณํ กริตฺวา [ตริตฺวา (สี.)] กามานํ, สีติภาวาภิกงฺขินี;
อปฺปมตฺตา วิหสฺสามิ, สพฺพสํโยชนกฺขเย.
‘‘อโสกํ วิรชํ เขมํ, อริยฏฺงฺคิกํ อุชุํ;
ตํ มคฺคํ อนุคจฺฉามิ, เยน ติณฺณา มเหสิโน’’.
อิมํ ปสฺสถ ธมฺมฏฺํ, สุภํ กมฺมารธีตรํ;
อเนชํ อุปสมฺปชฺช, รุกฺขมูลมฺหิ ฌายติ.
อชฺชฏฺมี ปพฺพชิตา, สทฺธา สทฺธมฺมโสภนา;
วินีตุปฺปลวณฺณาย, เตวิชฺชา มจฺจุหายินี.
สายํ ¶ ภุชิสฺสา อนณา, ภิกฺขุนี ภาวิตินฺทฺริยา;
สพฺพโยควิสํยุตฺตา, กตกิจฺจา อนาสวา.
ตํ สกฺโก เทวสงฺเฆน, อุปสงฺกมฺม อิทฺธิยา;
นมสฺสติ ภูตปติ, สุภํ กมฺมารธีตรนฺติ.
… สุภา กมฺมารธีตา เถรี….
วีสตินิปาโต นิฏฺิโต.