📜
๑๕. จตฺตาลีสนิปาโต
๑. อิสิทาสีเถรีคาถา
นครมฺหิ ¶ ¶ กุสุมนาเม, ปาฏลิปุตฺตมฺหิ ปถวิยา มณฺเฑ;
สกฺยกุลกุลีนาโย, ทฺเว ภิกฺขุนิโย หิ คุณวติโย.
อิสิทาสี ¶ ตตฺถ เอกา, ทุติยา โพธีติ สีลสมฺปนฺนา จ;
ฌานชฺฌายนรตาโย, พหุสฺสุตาโย ธุตกิเลสาโย.
ตา ¶ ปิณฺฑาย จริตฺวา, ภตฺตตฺถํ [ภตฺตตฺตํ (สี.)] กริย โธตปตฺตาโย;
รหิตมฺหิ สุขนิสินฺนา, อิมา คิรา อพฺภุทีเรสุํ.
‘‘ปาสาทิกาสิ อยฺเย, อิสิทาสิ วโยปิ เต อปริหีโน;
กึ ทิสฺวาน พฺยาลิกํ, อถาสิ เนกฺขมฺมมนุยุตฺตา’’.
เอวมนุยฺุชิยมานา สา, รหิเต ธมฺมเทสนากุสลา;
อิสิทาสี วจนมพฺรวิ, ‘‘สุณ โพธิ ยถามฺหิ ปพฺพชิตา.
‘‘อุชฺเชนิยา ปุรวเร, มยฺหํ ปิตา สีลสํวุโต เสฏฺิ;
ตสฺสมฺหิ เอกธีตา, ปิยา มนาปา จ ทยิตา จ.
‘‘อถ เม สาเกตโต วรกา, อาคจฺฉุมุตฺตมกุลีนา;
เสฏฺี ปหูตรตโน, ตสฺส มมํ สุณฺหมทาสิ ตาโต.
‘‘สสฺสุยา สสฺสุรสฺส จ, สายํ ปาตํ ปณามมุปคมฺม;
สิรสา กโรมิ ปาเท, วนฺทามิ ยถามฺหิ อนุสิฏฺา.
‘‘ยา ¶ มยฺหํ สามิกสฺส, ภคินิโย ภาตุโน ปริชโน วา;
ตเมกวรกมฺปิ ทิสฺวา, อุพฺพิคฺคา อาสนํ เทมิ.
‘‘อนฺเนน จ ปาเนน จ, ขชฺเชน จ ยฺจ ตตฺถ สนฺนิหิตํ;
ฉาเทมิ อุปนยามิ จ, เทมิ จ ยํ ยสฺส ปติรูปํ.
‘‘กาเลน อุปฏฺหิตฺวา [อุฏฺหิตฺวา (สฺยา. ก.), อุปฏฺหิตุํ (?)], ฆรํ สมุปคมามิ อุมฺมาเร;
โธวนฺตี หตฺถปาเท, ปฺชลิกา สามิกมุเปมิ.
‘‘โกจฺฉํ ปสาทํ อฺชนิฺจ, อาทาสกฺจ คณฺหิตฺวา;
ปริกมฺมการิกา ¶ วิย, สยเมว ปตึ วิภูเสมิ.
‘‘สยเมว ¶ โอทนํ สาธยามิ, สยเมว ภาชนํ โธวนฺตี;
มาตาว เอกปุตฺตกํ, ตถา [ตทา (สี.)] ภตฺตารํ ปริจรามิ.
‘‘เอวํ มํ ภตฺติกตํ, อนุรตฺตํ การิกํ นิหตมานํ;
อุฏฺายิกํ [อุฏฺาหิกํ (ก.)] อนลสํ, สีลวตึ ทุสฺสเต ภตฺตา.
‘‘โส มาตรฺจ ปิตรฺจ, ภณติ ‘อาปุจฺฉหํ คมิสฺสามิ;
อิสิทาสิยา น สห วจฺฉํ, เอกาคาเรหํ [เอกฆเรป’หํ (?)] สห วตฺถุํ’.
‘‘‘มา เอวํ ปุตฺต อวจ, อิสิทาสี ปณฺฑิตา ปริพฺยตฺตา;
อุฏฺายิกา อนลสา, กึ ตุยฺหํ น โรจเต ปุตฺต’.
‘‘‘น ¶ จ เม หึสติ กิฺจิ, น จหํ อิสิทาสิยา สห วจฺฉํ;
เทสฺสาว เม อลํ เม, อปุจฺฉาหํ [อาปุจฺฉาหํ (สฺยา.), อาปุจฺฉหํ-นาปุจฺฉหํ (?)] คมิสฺสามิ’.
‘‘ตสฺส วจนํ สุณิตฺวา, สสฺสุ สสุโร จ มํ อปุจฺฉึสุ;
‘กิสฺส [กึส (?)] ตยา อปรทฺธํ, ภณ วิสฺสฏฺา ยถาภูตํ’.
‘‘‘นปิหํ ¶ อปรชฺฌํ กิฺจิ, นปิ หึเสมิ น ภณามิ ทุพฺพจนํ;
กึ สกฺกา กาตุยฺเย, ยํ มํ วิทฺเทสฺสเต ภตฺตา’.
‘‘เต มํ ปิตุฆรํ ปฏินยึสุ, วิมนา ทุเขน อธิภูตา;
‘ปุตฺตมนุรกฺขมานา, ชิตามฺหเส รูปินึ ลกฺขึ’.
‘‘อถ มํ อทาสิ ตาโต, อฑฺฒสฺส ฆรมฺหิ ทุติยกุลิกสฺส;
ตโต อุปฑฺฒสุงฺเกน, เยน มํ วินฺทถ เสฏฺิ.
‘‘ตสฺสปิ ฆรมฺหิ มาสํ, อวสึ อถ โสปิ มํ ปฏิจฺฉรยิ [ปฏิจฺฉสิ (สี. ก.), ปฏิจฺฉติ (สฺยา.), ปฏิจฺฉรติ (ก.)];
ทาสีว ¶ อุปฏฺหนฺตึ, อทูสิกํ สีลสมฺปนฺนํ.
‘‘ภิกฺขาย จ วิจรนฺตํ, ทมกํ ทนฺตํ เม ปิตา ภณติ;
‘โหหิสิ [โสหิสิ (สพฺพตฺถ)] เม ชามาตา, นิกฺขิป โปฏฺิฺจ [โปนฺตึ (สี. สฺยา.)] ฆฏิกฺจ’.
‘‘โสปิ วสิตฺวา ปกฺขํ [ปกฺกมถ (สี.)], อถ ตาตํ ภณติ ‘เทหิ เม โปฏฺึ;
ฆฏิกฺจ มลฺลกฺจ, ปุนปิ ภิกฺขํ จริสฺสามิ’.
‘‘อถ ¶ นํ ภณตี ตาโต, อมฺมา สพฺโพ จ เม าติคณวคฺโค;
‘กึ เต น กีรติ อิธ, ภณ ขิปฺปํ ตํ เต กริหิ’ติ.
‘‘เอวํ ภณิโต ภณติ, ‘ยทิ เม อตฺตา สกฺโกติ อลํ มยฺหํ;
อิสิทาสิยา น สห วจฺฉํ, เอกฆเรหํ สห วตฺถุํ’.
‘‘วิสฺสชฺชิโต คโต โส, อหมฺปิ เอกากินี วิจินฺเตมิ;
‘อาปุจฺฉิตูน คจฺฉํ, มริตุเย [มริตาเย (สี.), มริตุํ (สฺยา.)] วา ปพฺพชิสฺสํ วา’.
‘‘อถ อยฺยา ชินทตฺตา, อาคจฺฉี โคจราย จรมานา;
ตาตกุลํ ¶ วินยธรี, พหุสฺสุตา สีลสมฺปนฺนา.
‘‘ตํ ทิสฺวาน อมฺหากํ, อุฏฺายาสนํ ตสฺสา ปฺาปยึ;
นิสินฺนาย จ ปาเท, วนฺทิตฺวา โภชนมทาสึ.
‘‘อนฺเนน ¶ จ ปาเนน จ, ขชฺเชน จ ยฺจ ตตฺถ สนฺนิหิตํ;
สนฺตปฺปยิตฺวา อวจํ, ‘อยฺเย อิจฺฉามิ ปพฺพชิตุํ’.
‘‘อถ มํ ภณตี ตาโต, ‘อิเธว ปุตฺตก [ปุตฺติเก (สฺยา. ก.)] จราหิ ตฺวํ ธมฺมํ;
อนฺเนน จ ปาเนน จ, ตปฺปย สมเณ ทฺวิชาตี จ’.
‘‘อถหํ ภณามิ ตาตํ, โรทนฺตี อฺชลึ ปณาเมตฺวา;
‘ปาปฺหิ มยา ปกตํ, กมฺมํ ตํ นิชฺชเรสฺสามิ’.
‘‘อถ ¶ มํ ภณตี ตาโต, ‘ปาปุณ โพธิฺจ อคฺคธมฺมฺจ;
นิพฺพานฺจ ลภสฺสุ, ยํ สจฺฉิกรี ทฺวิปทเสฏฺโ’.
‘‘มาตาปิตู อภิวาทยิตฺวา, สพฺพฺจ าติคณวคฺคํ;
สตฺตาหํ ปพฺพชิตา, ติสฺโส วิชฺชา อผสฺสยึ.
‘‘ชานามิ อตฺตโน สตฺต, ชาติโย ยสฺสยํ ผลวิปาโก;
ตํ ตว อาจิกฺขิสฺสํ, ตํ เอกมนา นิสาเมหิ.
‘‘นครมฺหิ เอรกจฺเฉ [เอรกกจฺเฉ (สฺยา. ก.)], สุวณฺณกาโร อหํ ปหูตธโน;
โยพฺพนมเทน มตฺโต โส, ปรทารํ อเสวิหํ.
‘‘โสหํ ตโต จวิตฺวา, นิรยมฺหิ อปจฺจิสํ จิรํ;
ปกฺโก ตโต จ อุฏฺหิตฺวา, มกฺกฏิยา กุจฺฉิโมกฺกมึ.
‘‘สตฺตาหชาตกํ ¶ ¶ มํ, มหากปิ ยูถโป นิลฺลจฺเฉสิ;
ตสฺเสตํ กมฺมผลํ, ยถาปิ คนฺตฺวาน ปรทารํ.
‘‘โสหํ ตโต จวิตฺวา, กาลํ กริตฺวา สินฺธวารฺเ;
กาณาย จ ขฺชาย จ, เอฬกิยา กุจฺฉิโมกฺกมึ.
‘‘ทฺวาทส วสฺสานิ อหํ, นิลฺลจฺฉิโต ทารเก ปริวหิตฺวา;
กิมินาวฏฺโฏ อกลฺโล, ยถาปิ คนฺตฺวาน ปรทารํ.
‘‘โสหํ ตโต จวิตฺวา, โควาณิชกสฺส คาวิยา ชาโต;
วจฺโฉ ลาขาตมฺโพ, นิลฺลจฺฉิโต ทฺวาทเส มาเส.
‘‘โวฒูน [เต ปุน (สฺยา. ก.), โวธุน (ก. อฏฺ.)] นงฺคลมหํ, สกฏฺจ ธารยามิ;
อนฺโธวฏฺโฏ อกลฺโล, ยถาปิ คนฺตฺวาน ปรทารํ.
‘‘โสหํ ตโต จวิตฺวา, วีถิยา ทาสิยา ฆเร ชาโต;
เนว มหิลา น ปุริโส, ยถาปิ คนฺตฺวาน ปรทารํ.
‘‘ตึสติวสฺสมฺหิ ¶ ¶ มโต, สากฏิกกุลมฺหิ ทาริกา ชาตา;
กปณมฺหิ อปฺปโภเค, ธนิก [อณิก (อฏฺ.), ตํสํวณฺณนายมฺปิ อตฺถยุตฺติ คเวสิตพฺพา] ปุริสปาตพหุลมฺหิ.
‘‘ตํ มํ ตโต สตฺถวาโห, อุสฺสนฺนาย วิปุลาย วฑฺฒิยา;
โอกฑฺฒติ วิลปนฺตึ, อจฺฉินฺทิตฺวา กุลฆรสฺมา.
‘‘อถ โสฬสเม วสฺเส, ทิสฺวา มํ ปตฺตโยพฺพนํ กฺํ;
โอรุนฺธตสฺส ปุตฺโต, คิริทาโส นาม นาเมน.
‘‘ตสฺสปิ อฺา ภริยา, สีลวตี คุณวตี ยสวตี จ;
อนุรตฺตา ¶ [อนุวตฺตา (ก.)] ภตฺตารํ, ตสฺสาหํ [ตสฺส ตํ (?)] วิทฺเทสนมกาสึ.
‘‘ตสฺเสตํ กมฺมผลํ, ยํ มํ อปกีริตูน คจฺฉนฺติ;
ทาสีว อุปฏฺหนฺตึ, ตสฺสปิ อนฺโต กโต มยา’’ติ.
… อิสิทาสี เถรี….
จตฺตาลีสนิปาโต นิฏฺิโต.