📜
๑๖. มหานิปาโต
๑. สุเมธาเถรีคาถา
มนฺตาวติยา ¶ นคเร, รฺโ โกฺจสฺส อคฺคมเหสิยา;
ธีตา อาสึ สุเมธา, ปสาทิตา สาสนกเรหิ.
สีลวตี จิตฺตกถา, พหุสฺสุตา พุทฺธสาสเน วินีตา;
มาตาปิตโร อุปคมฺม, ภณติ ‘‘อุภโย นิสาเมถ.
‘‘นิพฺพานาภิรตาหํ, อสสฺสตํ ภวคตํ ยทิปิ ทิพฺพํ;
กิมงฺคํ ปน [กิมงฺค ปน (สี. สฺยา.), กึ ปน (?)] ตุจฺฉา กามา, อปฺปสฺสาทา พหุวิฆาตา.
‘‘กามา กฏุกา อาสีวิสูปมา, เยสุ มุจฺฉิตา พาลา;
เต ทีฆรตฺตํ นิรเย, สมปฺปิตา หฺนฺเต ทุกฺขิตา [หฺเร ทุขิตา (?)].
‘‘โสจนฺติ ปาปกมฺมา, วินิปาเต ปาปวทฺธิโน สทา;
กาเยน จ วาจาย จ, มนสา จ อสํวุตา พาลา.
‘‘พาลา ¶ เต ทุปฺปฺา, อเจตนา ทุกฺขสมุทโยรุทฺธา;
เทสนฺเต ¶ อชานนฺตา, น พุชฺฌเร อริยสจฺจานิ.
‘‘สจฺจานิ ¶ อมฺม พุทฺธวรเทสิตานิ, เต พหุตรา อชานนฺตา เย;
อภินนฺทนฺติ ภวคตํ, ปิเหนฺติ เทเวสุ อุปปตฺตึ.
‘‘เทเวสุปิ อุปปตฺติ, อสสฺสตา ภวคเต อนิจฺจมฺหิ;
น จ สนฺตสนฺติ พาลา, ปุนปฺปุนํ ชายิตพฺพสฺส.
‘‘จตฺตาโร วินิปาตา, ทุเว [ทฺเว (สพฺพตฺถ)] จ คติโย กถฺจิ ลพฺภนฺติ;
น จ วินิปาตคตานํ, ปพฺพชฺชา อตฺถิ นิรเยสุ.
‘‘อนุชานาถ มํ อุภโย, ปพฺพชิตุํ ทสพลสฺส ปาวจเน;
อปฺโปสฺสุกฺกา ฆฏิสฺสํ, ชาติมรณปฺปหานาย.
‘‘กึ ภวคเต [ภวคเตน (สฺยา.)] อภินนฺทิเตน, กายกลินา อสาเรน;
ภวตณฺหาย นิโรธา, อนุชานาถ ปพฺพชิสฺสามิ.
‘‘พุทฺธานํ ¶ อุปฺปาโท วิวชฺชิโต, อกฺขโณ ขโณ ลทฺโธ;
สีลานิ พฺรหฺมจริยํ, ยาวชีวํ น ทูเสยฺยํ’’.
เอวํ ภณติ สุเมธา, มาตาปิตโร ‘‘น ตาว อาหารํ;
อาหริสฺสํ [อาหริยามิ (สี.), อาหาริสํ (?)] คหฏฺา, มรณวสํ คตาว เหสฺสามิ’’.
มาตา ทุกฺขิตา โรทติ ปิตา จ, อสฺสา สพฺพโส สมภิหโต;
ฆเฏนฺติ สฺาเปตุํ, ปาสาทตเล ฉมาปติตํ.
‘‘อุฏฺเหิ ปุตฺตก กึ โสจิเตน, ทินฺนาสิ วารณวติมฺหิ;
ราชา ¶ อนีกรตฺโต [อณีกทตฺโต (สี. สฺยา.)], อภิรูโป ตสฺส ตฺวํ ทินฺนา.
‘‘อคฺคมเหสี ภวิสฺสสิ, อนิกรตฺตสฺส ราชิโน ภริยา;
สีลานิ พฺรหฺมจริยํ, ปพฺพชฺชา ทุกฺกรา ปุตฺตก.
‘‘รชฺเช อาณาธนมิสฺสริยํ, โภคา สุขา ทหริกาสิ;
ภฺุชาหิ กามโภเค, วาเรยฺยํ โหตุ เต ปุตฺต’’.
อถ เน ภณติ สุเมธา, ‘‘มา เอทิสิกานิ ภวคตมสารํ;
ปพฺพชฺชา วา โหหิติ, มรณํ วา เม น เจว วาเรยฺยํ.
‘‘กิมิว ¶ ปูติกายมสุจึ, สวนคนฺธํ ภยานกํ กุณปํ;
อภิสํวิเสยฺยํ ภสฺตํ, อสกึ ปคฺฆริตํ อสุจิปุณฺณํ.
‘‘กิมิว ¶ ตาหํ ชานนฺตี, วิกุลกํ มํสโสณิตุปลิตฺตํ;
กิมิกุลาลยํ สกุณภตฺตํ, กเฬวรํ กิสฺส ทิยฺยติ.
‘‘นิพฺพุยฺหติ สุสานํ, อจิรํ กาโย อเปตวิฺาโณ;
ฉุทฺโธ [ฉฑฺฑิโต (สฺยา.), ฉุฏฺโ (ก.)] กฬิงฺครํ วิย, ชิคุจฺฉมาเนหิ าตีหิ.
‘‘ฉุทฺธูน [ฉฑฺฑูน (สฺยา.), ฉุฏฺูน (ก.)] นํ สุสาเน, ปรภตฺตํ นฺหายนฺติ [นฺหายเร (?)] ชิคุจฺฉนฺตา;
นิยกา มาตาปิตโร, กึ ปน สาธารณา ชนตา.
‘‘อชฺโฌสิตา อสาเร, กเฬวเร อฏฺินฺหารุสงฺฆาเต;
เขฬสฺสุจฺจารสฺสว, ปริปุณฺเณ [เขฬสฺสุจฺจารปสฺสวปริปุณฺเณ (สี.)] ปูติกายมฺหิ.
‘‘โย ¶ นํ วินิพฺภุชิตฺวา, อพฺภนฺตรมสฺส พาหิรํ กยิรา ¶ ;
คนฺธสฺส อสหมานา, สกาปิ มาตา ชิคุจฺเฉยฺย.
‘‘ขนฺธธาตุอายตนํ, สงฺขตํ ชาติมูลกํ ทุกฺขํ;
โยนิโส อนุวิจินนฺตี, วาเรยฺยํ กิสฺส อิจฺเฉยฺยํ.
‘‘ทิวเส ทิวเส ติสตฺติ, สตานิ นวนวา ปเตยฺยุํ กายมฺหิ;
วสฺสสตมฺปิ จ ฆาโต, เสยฺโย ทุกฺขสฺส เจวํ ขโย.
‘‘อชฺฌุปคจฺเฉ ฆาตํ, โย วิฺาเยวํ สตฺถุโน วจนํ;
‘ทีโฆ เตสํ [โว (ก.)] สํสาโร, ปุนปฺปุนํ หฺมานานํ’.
‘‘เทเวสุ มนุสฺเสสุ จ, ติรจฺฉานโยนิยา อสุรกาเย;
เปเตสุ ¶ จ นิรเยสุ จ, อปริมิตา ทิสฺสเร ฆาตา.
‘‘ฆาตา นิรเยสุ พหู, วินิปาตคตสฺส ปีฬิยมานสฺส [กิลิสฺสมานสฺส (สฺยา. ก.)];
เทเวสุปิ อตฺตาณํ, นิพฺพานสุขา ปรํ นตฺถิ.
‘‘ปตฺตา เต นิพฺพานํ, เย ยุตฺตา ทสพลสฺส ปาวจเน;
อปฺโปสฺสุกฺกา ฆเฏนฺติ, ชาติมรณปฺปหานาย.
‘‘อชฺเชว ตาตภินิกฺขมิสฺสํ, โภเคหิ กึ อสาเรหิ;
นิพฺพินฺนา เม กามา, วนฺตสมา ตาลวตฺถุกตา’’.
สา เจวํ ภณติ ปิตรมนีกรตฺโต จ ยสฺส สา ทินฺนา;
อุปยาสิ วารณวเต, วาเรยฺยมุปฏฺิเต กาเล.
อถ อสิตนิจิตมุทุเก, เกเส ขคฺเคน ฉินฺทิย สุเมธา;
ปาสาทํ ปิทหิตฺวา [ปิเธตฺวา (สี. สฺยา.), ปิธิตฺวา (ก.)], ปมชฺฌานํ สมาปชฺชิ.
สา ¶ ¶ จ ตหึ สมาปนฺนา, อนีกรตฺโต จ อาคโต นครํ;
ปาสาเท จ [ปาสาเทว (สี. สฺยา.)] สุเมธา, อนิจฺจสฺํ [อนิจฺจสฺา (สพฺพตฺถ)] สุภาเวติ.
สา จ มนสิ กโรติ, อนีกรตฺโต จ อารุหี ตุริตํ;
มณิกนกภูสิตงฺโค, กตฺชลี ยาจติ สุเมธํ.
‘‘รชฺเช อาณาธนมิสฺสริยํ, โภคา สุขา ทหริกาสิ;
ภฺุชาหิ กามโภเค, กามสุขา ทุลฺลภา โลเก.
‘‘นิสฺสฏฺํ ¶ เต รชฺชํ, โภเค ภฺุชสฺสุ เทหิ ทานานิ;
มา ทุมฺมนา อโหสิ, มาตาปิตโร เต ทุกฺขิตา’’ [มาตาปิตโร จ เต ทุขิตา (?)].
ตํ ตํ ภณติ สุเมธา, กาเมหิ อนตฺถิกา วิคตโมหา;
‘‘มา กาเม อภินนฺทิ, กาเมสฺวาทีนวํ ปสฺส.
‘‘จาตุทฺทีโป ราชา มนฺธาตา, อาสิ กามโภคิน มคฺโค;
อติตฺโต ¶ กาลงฺกโต, น จสฺส ปริปูริตา อิจฺฉา.
‘‘สตฺต รตนานิ วสฺเสยฺย, วุฏฺิมา ทสทิสา สมนฺเตน;
น จตฺถิ ติตฺติ กามานํ, อติตฺตาว มรนฺติ นรา.
‘‘อสิสูนูปมา กามา, กามา สปฺปสิโรปมา;
อุกฺโกปมา อนุทหนฺติ, อฏฺิกงฺกล [กงฺขล (สี.)] สนฺนิภา.
‘‘อนิจฺจา อทฺธุวา กามา, พหุทุกฺขา มหาวิสา;
อโยคุโฬว สนฺตตฺโต, อฆมูลา ทุขปฺผลา.
‘‘รุกฺขปฺผลูปมา กามา, มํสเปสูปมา ทุขา;
สุปิโนปมา ¶ วฺจนิยา, กามา ยาจิตกูปมา.
‘‘สตฺติสูลูปมา กามา, โรโค คณฺโฑ อฆํ นิฆํ;
องฺคารกาสุสทิสา, อฆมูลํ ภยํ วโธ.
‘‘เอวํ พหุทุกฺขา กามา, อกฺขาตา อนฺตรายิกา;
คจฺฉถ น เม ภควเต, วิสฺสาโส อตฺถิ อตฺตโน.
‘‘กึ มม ปโร กริสฺสติ, อตฺตโน สีสมฺหิ ฑยฺหมานมฺหิ;
อนุพนฺเธ ชรามรเณ, ตสฺส ฆาตาย ฆฏิตพฺพํ’’.
ทฺวารํ ¶ อปาปุริตฺวานหํ [อวาปุริตฺวาหํ (สี.)], มาตาปิตโร อนีกรตฺตฺจ;
ทิสฺวาน ฉมํ นิสินฺเน, โรทนฺเต อิทมโวจํ.
‘‘ทีโฆ พาลานํ สํสาโร, ปุนปฺปุนฺจ โรทตํ;
อนมตคฺเค ปิตุ มรเณ, ภาตุ วเธ อตฺตโน จ วเธ.
‘‘อสฺสุ ถฺํ รุธิรํ, สํสารํ อนมตคฺคโต สรถ;
สตฺตานํ สํสรตํ, สราหิ อฏฺีนฺจ สนฺนิจยํ.
‘‘สร ¶ จตุโรทธี [สรสฺสุ จตุโร อุทธี (?)], อุปนีเต อสฺสุถฺรุธิรมฺหิ;
สร เอกกปฺปมฏฺีนํ, สฺจยํ วิปุเลน สมํ.
‘‘อนมตคฺเค ¶ สํสรโต, มหึ [มหามหึ (?)] ชมฺพุทีปมุปนีตํ;
โกลฏฺิมตฺตคุฬิกา, มาตา มาตุสฺเวว นปฺปโหนฺติ.
‘‘ติณกฏฺสาขาปลาสํ [สร ติณกฏฺสาขาปลาสํ (สี.)], อุปนีตํ อนมตคฺคโต สร;
จตุรงฺคุลิกา ฆฏิกา, ปิตุปิตุสฺเวว นปฺปโหนฺติ.
‘‘สร กาณกจฺฉปํ ปุพฺพสมุทฺเท, อปรโต จ ยุคฉิทฺทํ;
สิรํ ¶ [สร (สี.)] ตสฺส จ ปฏิมุกฺกํ, มนุสฺสลาภมฺหิ โอปมฺมํ.
‘‘สร รูปํ เผณปิณฺโฑปมสฺส, กายกลิโน อสารสฺส;
ขนฺเธ ปสฺส อนิจฺเจ, สราหิ นิรเย พหุวิฆาเต.
‘‘สร กฏสึ วฑฺเฒนฺเต, ปุนปฺปุนํ ตาสุ ตาสุ ชาตีสุ;
สร กุมฺภีลภยานิ จ, สราหิ จตฺตาริ สจฺจานิ.
‘‘อมตมฺหิ วิชฺชมาเน, กึ ตว ปฺจกฏุเกน ปีเตน;
สพฺพา หิ กามรติโย, กฏุกตรา ปฺจกฏุเกน.
‘‘อมตมฺหิ วิชฺชมาเน, กึ ตว กาเมหิ เย ปริฬาหา [สปริฬาหา (สี. อฏฺ.)];
สพฺพา หิ กามรติโย, ชลิตา กุถิตา กมฺปิตา สนฺตาปิตา.
‘‘อสปตฺตมฺหิ สมาเน, กึ ตว กาเมหิ เย พหุสปตฺตา;
ราชคฺคิโจรอุทกปฺปิเยหิ, สาธารณา กามา พหุสปตฺตา.
‘‘โมกฺขมฺหิ วิชฺชมาเน, กึ ตว กาเมหิ เยสุ วธพนฺโธ;
กาเมสุ หิ อสกามา, วธพนฺธทุขานิ อนุโภนฺติ.
‘‘อาทีปิตา ¶ ¶ ติณุกฺกา, คณฺหนฺตํ ทหนฺติ เนว มฺุจนฺตํ;
อุกฺโกปมา หิ กามา, ทหนฺติ เย เต น มฺุจนฺติ.
‘‘มา อปฺปกสฺส เหตุ, กามสุขสฺส วิปุลํ ชหี สุขํ;
มา ปุถุโลโมว พฬิสํ, คิลิตฺวา ปจฺฉา วิหฺสิ.
‘‘กามํ ¶ กาเมสุ ทมสฺสุ, ตาว สุนโขว สงฺขลาพทฺโธ;
กาหินฺติ ขุ ตํ กามา, ฉาตา สุนขํว จณฺฑาลา.
‘‘อปริมิตฺจ ¶ ทุกฺขํ, พหูนิ จ จิตฺตโทมนสฺสานิ;
อนุโภหิสิ กามยุตฺโต, ปฏินิสฺสช [ปฏินิสฺสร (สี.)] อทฺธุเว กาเม.
‘‘อชรมฺหิ วิชฺชมาเน, กึ ตว กาเมหิ [เยสุ ชราย จ; มรณพฺยาธิหิ คหิตา (?)] เยสุ ชรา;
มรณพฺยาธิคหิตา [เยสุ ชราย จ; มรณพฺยาธิหิ คหิตา (?)], สพฺพา สพฺพตฺถ ชาติโย.
‘‘อิทมชรมิทมมรํ [อิทํ อชรํ อิทํ อมรํ (?)], อิทมชรามรํ ปทมโสกํ;
อสปตฺตมสมฺพาธํ, อขลิตมภยํ นิรุปตาปํ.
‘‘อธิคตมิทํ พหูหิ, อมตํ อชฺชาปิ จ ลภนียมิทํ;
โย โยนิโส ปยฺุชติ, น จ สกฺกา อฆฏมาเนน’’.
เอวํ ภณติ สุเมธา, สงฺขารคเต รตึ อลภมานา;
อนุเนนฺตี อนิกรตฺตํ, เกเส จ ฉมํ ขิปิ สุเมธา.
อุฏฺาย อนิกรตฺโต, ปฺชลิโก ยาจิตสฺสา ปิตรํ โส;
‘‘วิสฺสชฺเชถ สุเมธํ, ปพฺพชิตุํ วิโมกฺขสจฺจทสฺสา’’.
วิสฺสชฺชิตา มาตาปิตูหิ, ปพฺพชิ โสกภยภีตา;
ฉ อภิฺา สจฺฉิกตา, อคฺคผลํ สิกฺขมานาย.
อจฺฉริยมพฺภุตํ ¶ ตํ, นิพฺพานํ อาสิ ราชกฺาย;
ปุพฺเพนิวาสจริตํ, ยถา พฺยากริ ปจฺฉิเม กาเล.
‘‘ภควติ โกณาคมเน, สงฺฆารามมฺหิ นวนิเวสมฺหิ;
สขิโย ติสฺโส ชนิโย, วิหารทานํ อทาสิมฺห.
‘‘ทสกฺขตฺตุํ สตกฺขตฺตุํ, ทสสตกฺขตฺตุํ สตานิ จ สตกฺขตฺตุํ;
เทเวสุ ¶ อุปฺปชฺชิมฺห, โก ปน วาโท มนุสฺเสสุ.
‘‘เทเวสุ มหิทฺธิกา อหุมฺห, มานุสกมฺหิ โก ปน วาโท;
สตฺตรตนสฺส มเหสี, อิตฺถิรตนํ อหํ อาสึ.
‘‘โส ¶ ¶ เหตุ โส ปภโว, ตํ มูลํ สาว สาสเน ขนฺตี;
ตํ ปมสโมธานํ, ตํ ธมฺมรตาย นิพฺพานํ’’.
เอวํ กโรนฺติ เย สทฺทหนฺติ, วจนํ อโนมปฺสฺส;
นิพฺพินฺทนฺติ ภวคเต, นิพฺพินฺทิตฺวา วิรชฺชนฺตีติ.
อิตฺถํ สุทํ สุเมธา เถรี คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
มหานิปาโต นิฏฺิโต.
สมตฺตา เถรีคาถาโย.
คาถาสตานิ จตฺตาริ, อสีติ ปุน จุทฺทส [คาถาสงฺขฺยา อิธ อนุกฺกมณิกคณนาวเสน ปากฏา];
เถริเยกุตฺตรสตา [เถรีเยกุตฺตรฉสตา (?) ตึสมตฺตาปิ ปฺจสตมตฺตาปิ เถริโย เอกโต อาคตา มนสิกาตพฺพา], สพฺพา ตา อาสวกฺขยาติ.
เถรีคาถาปาฬิ นิฏฺิตา.