📜

๖. ฉกฺกนิปาโต

๑. ปฺจสตมตฺตาเถรีคาถา

๑๒๗.

‘‘ยสฺส มคฺคํ น ชานาสิ, อาคตสฺส คตสฺส วา;

ตํ กุโต จาคตํ สตฺตํ [สนฺตํ (สี.), ปุตฺตํ (สฺยา.)], ‘มม ปุตฺโต’ติ โรทสิ.

๑๒๘.

‘‘มคฺคฺจ โขสฺส [โข’ถ (สฺยา. ก.)] ชานาสิ, อาคตสฺส คตสฺส วา;

น นํ สมนุโสเจสิ, เอวํธมฺมา หิ ปาณิโน.

๑๒๙.

‘‘อยาจิโต ตตาคจฺฉิ, นานุฺาโต [อนนุฺาโต (สี. สฺยา.)] อิโต คโต;

กุโตจิ นูน อาคนฺตฺวา, วสิตฺวา กติปาหกํ;

อิโตปิ อฺเน คโต, ตโตปฺเน คจฺฉติ.

๑๓๐.

‘‘เปโต มนุสฺสรูเปน, สํสรนฺโต คมิสฺสติ;

ยถาคโต ตถา คโต, กา ตตฺถ ปริเทวนา’’.

๑๓๑.

‘‘อพฺพหี [อพฺพุยฺหํ (สฺยา.)] วต เม สลฺลํ, ทุทฺทสํ หทยสฺสิตํ;

ยา เม โสกปเรตาย, ปุตฺตโสกํ พฺยปานุทิ.

๑๓๒.

‘‘สาชฺช อพฺพูฬฺหสลฺลาหํ, นิจฺฉาตา ปรินิพฺพุตา;

พุทฺธํ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ, อุเปมิ สรณํ มุนึ’’.

อิตฺถํ สุทํ ปฺจสตมตฺตา เถรี ภิกฺขุนิโย…เป….

๒. วาเสฏฺีเถรีคาถา

๑๓๓.

‘‘ปุตฺตโสเกนหํ อฏฺฏา, ขิตฺตจิตฺตา วิสฺินี;

นคฺคา ปกิณฺณเกสี จ, เตน เตน วิจาริหํ.

๑๓๔.

‘‘วีถิ [วสึ (สี.)] สงฺการกูเฏสุ, สุสาเน รถิยาสุ จ;

อจรึ ตีณิ วสฺสานิ, ขุปฺปิปาสาสมปฺปิตา.

๑๓๕.

‘‘อถทฺทสาสึ สุคตํ, นครํ มิถิลํ ปติ [คตํ (ก.)];

อทนฺตานํ ทเมตารํ, สมฺพุทฺธมกุโตภยํ.

๑๓๖.

‘‘สจิตฺตํ ปฏิลทฺธาน, วนฺทิตฺวาน อุปาวิสึ;

โส เม ธมฺมมเทเสสิ, อนุกมฺปาย โคตโม.

๑๓๗.

‘‘ตสฺส ธมฺมํ สุณิตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ;

ยุฺชนฺตี สตฺถุวจเน, สจฺฉากาสึ ปทํ สิวํ.

๑๓๘.

‘‘สพฺเพ โสกา สมุจฺฉินฺนา, ปหีนา เอตทนฺติกา;

ปริฺาตา หิ เม วตฺถู, ยโต โสกาน สมฺภโว’’ติ.

… วาเสฏฺี เถรี….

๓. เขมาเถรีคาถา

๑๓๙.

‘‘ทหรา ตฺวํ รูปวตี, อหมฺปิ ทหโร ยุวา;

ปฺจงฺคิเกน ตุริเยน [ตูเรน (ก.)], เอหิ เขเม รมามเส’’.

๑๔๐.

‘‘อิมินา ปูติกาเยน, อาตุเรน ปภงฺคุนา;

อฏฺฏิยามิ หรายามิ, กามตณฺหา สมูหตา.

๑๔๑.

‘‘สตฺติสูลูปมา กามา, ขนฺธาสํ อธิกุฏฺฏนา;

ยํ ‘ตฺวํ กามรตึ’ พฺรูสิ, ‘อรตี’ ทานิ สา มม.

๑๔๒.

‘‘สพฺพตฺถ วิหตา นนฺที, ตโมขนฺโธ ปทาลิโต;

เอวํ ชานาหิ ปาปิม, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตก.

๑๔๓.

‘‘นกฺขตฺตานิ นมสฺสนฺตา, อคฺคึ ปริจรํ วเน;

ยถาภุจฺจมชานนฺตา, พาลา สุทฺธิมมฺถ.

๑๔๔.

‘‘อหฺจ โข นมสฺสนฺตี, สมฺพุทฺธํ ปุริสุตฺตมํ;

ปมุตฺตา [ปริมุตฺตา (สี. สฺยา.)] สพฺพทุกฺเขหิ, สตฺถุสาสนการิกา’’ติ.

… เขมา เถรี….

๔. สุชาตาเถรีคาถา

๑๔๕.

‘‘อลงฺกตา สุวสนา, มาลินี จนฺทโนกฺขิตา;

สพฺพาภรณสฺฉนฺนา, ทาสีคณปุรกฺขตา.

๑๔๖.

‘‘อนฺนํ ปานฺจ อาทาย, ขชฺชํ โภชฺชํ อนปฺปกํ;

เคหโต นิกฺขมิตฺวาน, อุยฺยานมภิหารยึ.

๑๔๗.

‘‘ตตฺถ รมิตฺวา กีฬิตฺวา, อาคจฺฉนฺตี สกํ ฆรํ;

วิหารํ ทฏฺุํ ปาวิสึ, สาเกเต อฺชนํ วนํ.

๑๔๘.

‘‘ทิสฺวาน โลกปชฺโชตํ, วนฺทิตฺวาน อุปาวิสึ;

โส เม ธมฺมมเทเสสิ, อนุกมฺปาย จกฺขุมา.

๑๔๙.

‘‘สุตฺวา จ โข มเหสิสฺส, สจฺจํ สมฺปฏิวิชฺฌหํ;

ตตฺเถว วิรชํ ธมฺมํ, ผุสยึ อมตํ ปทํ.

๑๕๐.

‘‘ตโต วิฺาตสทฺธมฺมา, ปพฺพชึ อนคาริยํ;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, อโมฆํ พุทฺธสาสน’’นฺติ.

… สุชาตา เถรี….

๕. อโนปมาเถรีคาถา

๑๕๑.

‘‘อุจฺเจ กุเล อหํ ชาตา, พหุวิตฺเต มหทฺธเน;

วณฺณรูเปน สมฺปนฺนา, ธีตา มชฺฌสฺส [เมฆสฺส (สี.), เมฆิสฺส (สฺยา.)] อตฺรชา.

๑๕๒.

‘‘ปตฺถิตา ราชปุตฺเตหิ, เสฏฺิปุตฺเตหิ คิชฺฌิตา [เสฏฺิปุตฺเตหิ ภิชฺฌิตา (สี.)];

ปิตุ เม เปสยี ทูตํ, เทถ มยฺหํ อโนปมํ.

๑๕๓.

‘‘ยตฺตกํ ตุลิตา เอสา, ตุยฺหํ ธีตา อโนปมา;

ตโต อฏฺคุณํ ทสฺสํ, หิรฺํ รตนานิ จ.

๑๕๔.

‘‘สาหํ ทิสฺวาน สมฺพุทฺธํ, โลกเชฏฺํ อนุตฺตรํ;

ตสฺส ปาทานิ วนฺทิตฺวา, เอกมนฺตํ อุปาวิสึ.

๑๕๕.

‘‘โส เม ธมฺมมเทเสสิ, อนุกมฺปาย โคตโม;

นิสินฺนา อาสเน ตสฺมึ, ผุสยึ ตติยํ ผลํ.

๑๕๖.

‘‘ตโต เกสานิ เฉตฺวาน, ปพฺพชึ อนคาริยํ;

อชฺช เม สตฺตมี รตฺติ, ยโต ตณฺหา วิโสสิตา’’ติ.

… อโนปมา เถรี….

๖. มหาปชาปติโคตมีเถรีคาถา

๑๕๗.

‘‘พุทฺธ วีร นโม ตฺยตฺถุ, สพฺพสตฺตานมุตฺตม;

โย มํ ทุกฺขา ปโมเจสิ, อฺฺจ พหุกํ ชนํ.

๑๕๘.

‘‘สพฺพทุกฺขํ ปริฺาตํ, เหตุตณฺหา วิโสสิตา;

ภาวิโต อฏฺงฺคิโก [อริยฏฺงฺคิโก (สี. ก.), ภาวิตฏฺงฺคิโก (สฺยา.)] มคฺโค, นิโรโธ ผุสิโต มยา.

๑๕๙.

‘‘มาตา ปุตฺโต ปิตา ภาตา, อยฺยกา จ ปุเร อหุํ;

ยถาภุจฺจมชานนฺตี, สํสรึหํ อนิพฺพิสํ.

๑๖๐.

‘‘ทิฏฺโ หิ เม โส ภควา, อนฺติโมยํ สมุสฺสโย;

วิกฺขีโณ ชาติสํสาโร, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว.

๑๖๑.

‘‘อารทฺธวีริเย ปหิตตฺเต, นิจฺจํ ทฬฺหปรกฺกเม;

สมคฺเค สาวเก ปสฺเส, เอสา พุทฺธาน วนฺทนา.

๑๖๒.

‘‘พหูนํ [พหุนฺนํ (สี. สฺยา.)] วต อตฺถาย, มายา ชนยิ โคตมํ;

พฺยาธิมรณตุนฺนานํ, ทุกฺขกฺขนฺธํ พฺยปานุที’’ติ.

… มหาปชาปติโคตมี เถรี….

๗. คุตฺตาเถรีคาถา

๑๖๓.

‘‘คุตฺเต ยทตฺถํ ปพฺพชฺชา, หิตฺวา ปุตฺตํ วสุํ ปิยํ;

ตเมว อนุพฺรูเหหิ, มา จิตฺตสฺส วสํ คมิ.

๑๖๔.

‘‘จิตฺเตน วฺจิตา สตฺตา, มารสฺส วิสเย รตา;

อเนกชาติสํสารํ, สนฺธาวนฺติ อวิทฺทสู.

๑๖๕.

‘‘กามจฺฉนฺทฺจ พฺยาปาทํ, สกฺกายทิฏฺิเมว จ;

สีลพฺพตปรามาสํ, วิจิกิจฺฉฺจ ปฺจมํ.

๑๖๖.

‘‘สํโยชนานิ เอตานิ, ปชหิตฺวาน ภิกฺขุนี;

โอรมฺภาคมนียานิ, นยิทํ ปุนเรหิสิ.

๑๖๗.

‘‘ราคํ มานํ อวิชฺชฺจ, อุทฺธจฺจฺจ วิวชฺชิย;

สํโยชนานิ เฉตฺวาน, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสสิ.

๑๖๘.

‘‘เขเปตฺวา ชาติสํสารํ, ปริฺาย ปุนพฺภวํ;

ทิฏฺเว ธมฺเม นิจฺฉาตา, อุปสนฺตา จริสฺสตี’’ติ.

… คุตฺตา เถรี….

๘. วิชยาเถรีคาถา

๑๖๙.

‘‘จตุกฺขตฺตุํ ปฺจกฺขตฺตุํ, วิหารา อุปนิกฺขมึ;

อลทฺธา เจตโส สนฺตึ, จิตฺเต อวสวตฺตินี.

๑๗๐.

‘‘ภิกฺขุนึ อุปสงฺกมฺม, สกฺกจฺจํ ปริปุจฺฉหํ;

สา เม ธมฺมมเทเสสิ, ธาตุอายตนานิ จ.

๑๗๑.

‘‘จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, อินฺทฺริยานิ พลานิ จ;

โพชฺฌงฺคฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, อุตฺตมตฺถสฺส ปตฺติยา.

๑๗๒.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, กโรนฺตี อนุสาสนึ;

รตฺติยา ปุริเม ยาเม, ปุพฺพชาติมนุสฺสรึ.

๑๗๓.

‘‘รตฺติยา มชฺฌิเม ยาเม, ทิพฺพจกฺขุํ วิโสธยึ;

รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม, ตโมขนฺธํ ปทาลยึ.

๑๗๔.

‘‘ปีติสุเขน จ กายํ, ผริตฺวา วิหรึ ตทา;

สตฺตมิยา ปาเท ปสาเรสึ, ตโมขนฺธํ ปทาลิยา’’ติ.

… วิชยา เถรี….

ฉกฺกนิปาโต นิฏฺิโต.