📜

๒. สีหาสนิยวคฺโค

๑. สีหาสนทายกตฺเถรอปทานวณฺณนา

นิพฺพุเตโลกนาถมฺหีติอาทิกํ อายสฺมโต สีหาสนทายกตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุฺานิ อุปจินนฺโต สิทฺธตฺถสฺส ภควโต กาเล วิภวสมฺปนฺเน สทฺธาสมฺปนฺเน เอกสฺมึ กุเล นิพฺพตฺโต, ธรมาเน ภควติ เทวโลเก วสิตฺวา นิพฺพุเต ภควติ อุปฺปนฺนตฺตา วิฺุตํ ปตฺโต ภควโต สารีริกเจติยํ ทิสฺวา ‘‘อโห เม อลาภา, ภควโต ธรมาเน กาเล อสมฺปตฺโต’’ติ จินฺเตตฺวา เจติเย จิตฺตํ ปสาเทตฺวา โสมนสฺสชาโต สพฺพรตนมยํ เทวตานิมฺมิตสทิสํ ธมฺมาสเน สีหาสนํ กาเรตฺวา ชีวมานกพุทฺธสฺส วิย ปูเชสิ. ตสฺสุปริ เคหมฺปิ ทิพฺพวิมานมิว กาเรสิ, ปาทฏฺปนปาทปีมฺปิ กาเรสิ. เอวํ ยาวชีวํ ทีปธูปปุปฺผคนฺธาทีหิ อเนกวิธํ ปูชํ กตฺวา ตโต จุโต เทวโลเก นิพฺพตฺโต ฉ กามสคฺเค อปราปรํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา มนุสฺเสสุ จกฺกวตฺติสมฺปตฺตึ อเนกกฺขตฺตุํ อนุภวิตฺวา สงฺขฺยาติกฺกนฺตํ ปเทสรชฺชสมฺปตฺติฺจ อนุภวิตฺวา กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ กตฺวา เอตฺถนฺตเร เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท เอกสฺมึ วิภวสมฺปนฺเน กุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา ลทฺธูปสมฺปโท กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ฆเฏนฺโต วายมนฺโต นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิ.

. เอวํ ปตฺตอรหตฺตผโล อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวา โสมนสฺสํ อุปฺปาเทตฺวา ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต นิพฺพุเต โลกนาถมฺหีติอาทิมาห. ตตฺถ โลกสฺส นาโถ ปธาโนติ โลกนาโถ, โลกตฺตยสามีติ อตฺโถ. โลกนาเถ สิทฺธตฺถมฺหิ นิพฺพุเตติ สมฺพนฺโธ. วิตฺถาริเต ปาวจเนติ ปาวจเน ปิฏกตฺตเย วิตฺถาริเต ปตฺถเฏ ปากเฏติ อตฺโถ. พาหุชฺมฺหิ สาสเนติ สิกฺขตฺตยสงฺคหิเต พุทฺธสาสเน อเนกสตสหสฺสโกฏิขีณาสวสงฺขาเตหิ พหุชเนหิ าเต อธิคเตติ อตฺโถ.

๒-๓. ปสนฺนจิตฺโต สุมโนติ ตทา อหํ พุทฺธสฺส ธรมานกาเล อสมฺปตฺโต นิพฺพุเต ตสฺมึ เทวโลกา จวิตฺวา มนุสฺสโลกํ อุปปนฺโน ตสฺส ภควโต สารีริกธาตุเจติยํ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต สทฺธาสมฺปยุตฺตมโน สุนฺทรมโน ‘‘อโห มมาคมนํ สฺวาคมน’’นฺติ สฺชาตปสาทพหุมาโน ‘‘มยา นิพฺพานาธิคมาย เอกํ ปุฺํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ภควโต เจติยสมีเป ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส หิรฺสุวณฺณรตนาทีหิ อลงฺกริตฺวาว สีหาสนํ อกาสิ. ตตฺร นิสินฺนสฺส ปาทฏฺปนตฺถาย ปาทปีฺจ กาเรสิ. สีหาสนสฺส อเตมนตฺถาย ตสฺสุปริ ฆรฺจ กาเรสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สีหาสนมกาสหํ…เป… ฆรํ ตตฺถ อกาสห’’นฺติ. เตน จิตฺตปฺปสาเทนาติ ธรมานสฺส วิย ภควโต สีหาสนํ มยา กตํ, เตน จิตฺตปฺปสาเทน. ตุสิตํ อุปปชฺชหนฺติ ตุสิตภวเน อุปปชฺชินฺติ อตฺโถ.

. อายาเมน จตุพฺพีสาติ ตตฺรุปปนฺนสฺส เทวภูตสฺส สโต มยฺหํ สุกตํ ปุฺเน นิพฺพตฺติตํ ปาตุภูตํ อายาเมน อุจฺจโต จตุพฺพีสโยชนํ วิตฺถาเรน ติริยโต จตุทฺทสโยชนํ ตาวเทว นิพฺพตฺติกฺขเณเยว อาสิ อโหสีติ อตฺโถ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

. จตุนฺนวุเตอิโต กปฺเปติ อิโต กปฺปโต จตุนวุเต กปฺเป ยํ กมฺมํ อกรึ อกาสึ, ตทา ตโต ปฏฺาย ปุฺพเลน กฺจิ ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, น อนุภูตปุพฺพา กาจิ ทุคฺคตีติ อตฺโถ.

๑๐. เตสตฺตติมฺหิโต กปฺเปติ อิโต กปฺปโต เตสตฺตติกปฺเป. อินฺทนามา ตโย ชนาติ อินฺทนามกา ตโย จกฺกวตฺติราชาโน เอกสฺมึ กปฺเป ตีสุ ชาตีสุ อินฺโท นาม จกฺกวตฺตี ราชา อโหสินฺติ อตฺโถ. ทฺเวสตฺตติมฺหิโตกปฺเปติ อิโต ทฺเวสตฺตติกปฺเป. สุมนนามกา ตโย ชนา ติกฺขตฺตุํ จกฺกวตฺติราชาโน อเหสุํ.

๑๑. สมสตฺตติโต กปฺเปติ อิโต กปฺปโต อนูนาธิเก สตฺตติเม กปฺเป วรุณนามกา วรุโณ จกฺกวตฺตีติ เอวํนามกา ตโย จกฺกวตฺติราชาโน จกฺกรตนสมฺปนฺนา จตุทีปมฺหิ อิสฺสรา อเหสุนฺติ อตฺโถ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.

สีหาสนทายกตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.

๒. เอกตฺถมฺภิกตฺเถรอปทานวณฺณนา

สิทฺธตฺถสฺส ภควโตติอาทิกํ อายสฺมโต เอกตฺถมฺภทายกเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปุฺานิ อุปจินนฺโต สิทฺธตฺถสฺส ภควโต กาเล วนกมฺมิโก หุตฺวา เอกสฺมึ วิภวสมฺปนฺเน กุเล นิพฺพตฺโต. ตสฺมึ สมเย สพฺเพ สทฺธา ปสนฺนา อุปาสกา เอกจฺฉนฺทา ‘‘ภควโต อุปฏฺานสาลํ กโรมา’’ติ ทพฺพสมฺภารตฺถาย วนํ ปวิสิตฺวา ตํ อุปาสกํ ทิสฺวา ‘‘อมฺหากํ เอกํ ถมฺภํ เทถา’’ติ ยาจึสุ. โส ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถา’’ติ เต สพฺเพ อุยฺโยเชตฺวา เอกํ สารมยํ ถมฺภํ คเหตฺวา สตฺถุ ทสฺเสตฺวา เตสํเยว อทาสิ. โส เตเนว โสมนสฺสชาโต ตเทว มูลํ กตฺวา อฺานิ ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา ตโต จุโต เทวโลเก นิพฺพตฺโต อปราปรํ ฉสุ กามาวจเรสุ ทิพฺพสมฺปตฺติโย อนุภวิตฺวา มนุสฺเสสุ จ อคฺคจกฺกวตฺติสมฺปตฺตึ อเนกวารํ อนุภวิตฺวา อสงฺขฺเยยฺยํ ปเทสรชฺชสมฺปตฺติฺจ อนุภวิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สทฺธาสมฺปนฺเน เอกสฺมึ กุเล นิพฺพตฺโต มาตาปิตูหิ สทฺธึ ภควโต สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา ลทฺธูปสมฺปโท กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา มนสิกโรนฺโต นจิรสฺเสว อรหา อโหสิ.

๑๓. โส เอวํ ปตฺตอรหตฺโต อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวา โสมนสฺสชาโต ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต สิทฺธตฺถสฺสาติอาทิมาห. ตตฺถ สิทฺธตฺถสฺส ภควโต ภคฺยสมฺปนฺนสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. มหาปูคคโณติ มหาอุปาสกสมูโห อหุ อโหสีติ อตฺโถ. สรณํ คตา จ เต พุทฺธนฺติ ‘‘พุทฺธํ สรณ’’นฺติ คตา ภชึสุ ชานึสุ วา เต อุปาสกา. ตถาคตํ สทฺทหนฺติ พุทฺธคุณํ อตฺตโน จิตฺตสนฺตาเน เปนฺตีติ อตฺโถ.

๑๔. สพฺเพ สงฺคมฺม มนฺเตตฺวาติ สพฺเพ สมาคมฺม สนฺนิปติตฺวา มนฺเตตฺวา อฺมฺํ สฺาเปตฺวา เอกจฺฉนฺทา หุตฺวา มาฬํ อุปฏฺานสาลํ สตฺถุโน อตฺถาย กุพฺพนฺติ กโรนฺตีติ อตฺโถ. ทพฺพสมฺภาเรสุ เอกตฺถมฺภํ อลภนฺตา พฺรหาวเน มหาวเน วิจินนฺตีติ สมฺพนฺโธ.

๑๕. เตหํอรฺเ ทิสฺวานาติ อหํ เต อุปาสเก อรฺเ ทิสฺวาน คณํ สมูหํ อุปคมฺม สมีปํ คนฺตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวาน ทสงฺคุลิสโมธานํ อฺชลึ สิรสิ กตฺวา อหํ คณํ อุปาสกสมูหํ ‘‘ตุมฺเห อิมํ วนํ กิมตฺถํ อาคตตฺถา’’ติ ตทา ตสฺมึ กาเล ปริปุจฺฉินฺติ สมฺพนฺโธ.

๑๖. เต สีลวนฺโต อุปาสกา เม มยา ปุฏฺา ‘‘มาฬํ มยํ กตฺตุกามา หุตฺวา เอกตฺถมฺโภ อมฺเหหิ น ลพฺภตี’’ติ วิยากํสุ วิเสเสน กถยึสูติ สมฺพนฺโธ.

๑๗. มมํ มยฺหํ เอกตฺถมฺภํ เทถ, อหํ ตํ ทสฺสามิ สตฺถุโน สนฺติกํ อหํ ถมฺภํ อาหริสฺสามิ, เต ภวนฺโต ถมฺภหรเณ อปฺโปสฺสุกฺกา อุสฺสาหรหิตา ภวนฺตูติ สมฺพนฺโธ.

๒๔. ยํ ยํ โยนุปปชฺชามีติ ยํ ยํ โยนึ เทวตฺตํ อถ มานุสํ อุปคจฺฉามีติ อตฺโถ. ภุมฺมตฺเถ วา อุปโยควจนํ, ยสฺมึ ยสฺมึ เทวโลเก วา มนุสฺสโลเก วาติ อตฺโถ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

เอกตฺถมฺภิกตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.

๓. นนฺทตฺเถรอปทานวณฺณนา

ปทุมุตฺตรสฺสภควโตติอาทิกํ อายสฺมโต นนฺทตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปุฺานิ อุปจินนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร เอกสฺมึ กุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต ภควโต สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา สยํ ตํ านนฺตรํ ปตฺเถนฺโต ภควโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ปูชาสกฺการพหุลํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, อนาคเต ตุมฺหาทิสสฺส พุทฺธสฺส เอวรูโป สาวโก ภเวยฺย’’นฺติ ปณิธานํ อกาสิ.

โส ตโต ปฏฺาย เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อตฺถทสฺสิสฺส ภควโต กาเล ธมฺมตาย นาม นทิยา มหนฺโต กจฺฉโป หุตฺวา นิพฺพตฺโต เอกทิวสํ สตฺถารํ นทึ ตริตุํ ตีเร ิตํ ทิสฺวา สยํ ภควนฺตํ ตาเรตุกาโม สตฺถุ ปาทมูเล นิปชฺชิ. สตฺถา ตสฺส อชฺฌาสยํ ตฺวา ปิฏฺึ อภิรุหิ. โส หฏฺตุฏฺโ เวเคน โสตํ ฉินฺทนฺโต สีฆตรํ ปรตีรํ ปาเปสิ. ภควา ตสฺส อนุโมทนํ วทนฺโต ภาวินึ สมฺปตฺตึ กเถตฺวา ปกฺกามิ.

โส เตน ปุฺกมฺเมน สุคตีสุเยว สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กปิลวตฺถุสฺมึ สุทฺโธทนมหาราชสฺส อคฺคมเหสิยา มหาปชาปติโคตมิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺโต, ตสฺส นามคฺคหณทิวเส าติสงฺฆํ นนฺทยนฺโต ชาโตติ ‘‘นนฺโท’’ตฺเวว นามํ อกํสุ. ตสฺส วยปฺปตฺตกาเล ภควา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก โลกานุคฺคหํ กโรนฺโต อนุกฺกเมน กปิลวตฺถุํ คนฺตฺวา าติสมาคเม โปกฺขรวสฺสํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา เวสฺสนฺตรชาตกํ (ชา. ๒.๒๒.๑๖๕๕ อาทโย) กเถตฺวา ทุติยทิวเส ปิณฺฑาย ปวิฏฺโ ‘‘อุตฺติฏฺเ นปฺปมชฺเชยฺยา’’ติ (ธ. ป. ๑๖๘) คาถาย ปิตรํ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาเปตฺวา นิเวสนํ คนฺตฺวา ‘‘ธมฺมฺจเร สุจริต’’นฺติ (ธ. ป. ๑๖๙) คาถาย มหาปชาปตึ โสตาปตฺติผเล ราชานํ สกทาคามิผเล ปติฏฺาเปตฺวา ตติยทิวเส นนฺทกุมารสฺส อภิเสกเคหปเวสนอาวาหมงฺคเลสุ วตฺตมาเนสุ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. สตฺถา นนฺทกุมารสฺส หตฺเถ ปตฺตํ ทตฺวา มงฺคลํ วตฺวา ตสฺส หตฺถโต ปตฺตํ อคฺคเหตฺวาว วิหารํ คโต , ตํ ปตฺตหตฺถํ วิหารํ อาคตํ อนิจฺฉมานํเยว ปพฺพาเชตฺวา ตถาปพฺพาชิตตฺตาเยว อนภิรติยา ปีฬิตํ ตฺวา อุปาเยน ตสฺส ตํ อนภิรตึ วิโนเทสิ. โส โยนิโส ปฏิสงฺขาย วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิ. เถโร ปุน ทิวเส ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาห – ‘‘ยํ เม, ภนฺเต, ภควา ปาฏิโภโค ปฺจนฺนํ อจฺฉราสตานํ ปฏิลาภาย กกุฏปาทานํ, มุฺจามหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ เอตสฺมา ปฏิสฺสวา’’ติ. ภควาปิ ‘‘ยเทว เต, นนฺท, อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺตํ, ตทาหํ มุตฺโต เอตสฺมา ปฏิสฺสวา’’ติ อาห. อถสฺส ภควา สวิเสสํ อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตํ ตฺวา ตํ คุณํ วิภาเวนฺโต ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารานํ ยทิทํ นนฺโท’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๑๙, ๒๓๐) อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารภาเวน นํ เอตทคฺเค เปสิ. เถโร หิ ‘‘อินฺทฺริยาสํวรํ นิสฺสาย อิมํ วิปฺปการํ ปตฺโต, ตมหํ สุฏฺุ นิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ อุสฺสาหชาโต พลวหิโรตฺตปฺโป ตตฺถ จ กตาธิการตฺตา อินฺทฺริยสํวเร อุกฺกํสปารมึ อคมาสิ.

๒๗. เอวํ โส เอตทคฺคฏฺานํ ปตฺวา อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวา โสมนสฺสปฺปตฺโต ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโตติอาทิมาห. วตฺถํ โขมํ มยา ทินฺนนฺติ โขมรฏฺเ ชาตํ วตฺถํ ภควติ จิตฺตปฺปสาเทน คารวพหุมาเนน มยา ปรมสุขุมํ โขมวตฺถํ ทินฺนนฺติ อตฺโถ. สยมฺภุสฺสาติ สยเมว ภูตสฺส ชาตสฺส อริยาย ชาติยา นิพฺพตฺตสฺส. มเหสิโนติ มหนฺเต สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธ เอสิ คเวสีติ มเหสิ, ตสฺส มเหสิโน สยมฺภุสฺส จีวรตฺถาย โขมวตฺถํ มยา ทินฺนนฺติ สมฺพนฺโธ.

๒๘. ตํ เม พุทฺโธ วิยากาสีติ เอตฺถ นฺติ สามฺยตฺเถ อุปโยควจนํ, ตสฺส วตฺถทายกสฺส เม ทานผลํ วิเสเสน อกาสิ กเถสิ พุทฺโธติ อตฺโถ. ชลชุตฺตมนามโกติ ปทุมุตฺตรนามโก. ‘‘ชลรุตฺตมนายโก’’ติปิ ปาโ, ตสฺส ชลมานานํ เทวพฺรหฺมานํ อุตฺตมนายโก ปธาโนติ อตฺโถ. อิมินา วตฺถทาเนนาติ อิมินา วตฺถทานสฺส นิสฺสนฺเทน ตฺวํ อนาคเต เหมวณฺโณ สุวณฺณวณฺโณ ภวิสฺสสิ.

๒๙. ทฺเวสมฺปตฺตึ อนุโภตฺวาติ ทิพฺพมนุสฺสสงฺขาตา ทฺเว สมฺปตฺติโย อนุภวิตฺวา. กุสลมูเลหิ โจทิโตติ กุสลาวยเวหิ กุสลโกฏฺาเสหิ โจทิโต เปสิโต, ‘‘ตฺวํ อิมินา ปุฺเน สตฺถุ กุลํ ปสวาหี’’ติ เปสิโต วิยาติ อตฺโถ. ‘‘โคตมสฺส ภควโต กนิฏฺโ ตฺวํ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสีติ สมฺพนฺโธ.

๓๐. ราครตฺโต สุขสีโลติ กิเลสกาเมหิ รตฺโต อลฺลีโน กายสุขจิตฺตสุขานุภวนสภาโว. กาเมสุ เคธมายุโตติ วตฺถุกาเมสุ เคธสงฺขาตาย ตณฺหาย อายุโต โยชิโตติ อตฺโถ. พุทฺเธน โจทิโต สนฺโต, ตทา ตฺวนฺติ ยสฺมา กาเมสุ เคธิโต, ตทา ตสฺมา ตฺวํ อตฺตโน ภาตุเกน โคตมพุทฺเธน โจทิโต ปพฺพชฺชาย อุยฺโยชิโต ตสฺส สนฺติเก ปพฺพชิสฺสสีติ สมฺพนฺโธ.

๓๑. ปพฺพชิตฺวาน ตฺวํ ตตฺถาติ ตสฺมึ โคตมสฺส ภควโต สาสเน ตฺวํ ปพฺพชิตฺวา กุสลมูเลน มูลภูเตน ปุฺสมฺภาเรน โจทิโต ภาวนายํ นิโยชิโต สพฺพาสเว สกลาสเว ปริฺาย ชานิตฺวา ปชหิตฺวา อนามโย นิทฺทุกฺโข นิพฺพายิสฺสสิ อทสฺสนํ ปาเปสฺสสิ, อปณฺณตฺติกภาวํ คมิสฺสสีติ อตฺโถ.

๓๒. สตกปฺปสหสฺสมฺหีติ อิโต กปฺปโต ปุพฺเพ สตกปฺปาธิเก สหสฺสเม กปฺปมฺหิ เจฬนามกา จตฺตาโร จกฺกวตฺติราชาโน อเหสุนฺติ อตฺโถ. สฏฺิ กปฺปสหสฺสานีติ กปฺปสหสฺสานิ สฏฺิ จ อติกฺกมิตฺวา เหฏฺา เอกสฺมึ กปฺเป จตฺตาโร ชนา อุปเจฬา นาม จกฺกวตฺติราชาโน จตูสุ ชาตีสุ อเหสุนฺติ อตฺโถ.

๓๓. ปฺจกปฺปสหสฺสมฺหีติ ปฺจกปฺปาธิเก สหสฺสเม กปฺปมฺหิ เจฬา นาม จตฺตาโร ชนา จกฺกวตฺติราชาโน สตฺตหิ รตเนหิ สมฺปนฺนา สมงฺคีภูตา ชมฺพุทีปอปรโคยานอุตฺตรกุรุปุพฺพวิเทหทีปสงฺขาเต จตุทีปมฺหิ อิสฺสรา ปธานา วิสุํ อเหสุนฺติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ.

นนฺทตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.

๔. จูฬปนฺถกตฺเถรอปทานวณฺณนา

ปทุมุตฺตโรนาม ชิโนติอาทิกํ อายสฺมโต จูฬปนฺถกตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปุฺานิ อุปจินนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล ยเทตฺถ อฏฺุปฺปตฺติวเสน วตฺตพฺพํ, ตํ อฏฺกนิปาเต มหาปนฺถกวตฺถุสฺมึ (เถรคา. ๕๑๐ อาทโย) วุตฺตเมว. อยํ ปน วิเสโส – มหาปนฺถกตฺเถโร อรหตฺตํ ปตฺวา ผลสมาปตฺติสุเขน วีตินาเมนฺโต จินฺเตสิ – ‘‘กถํ นุ โข สกฺกา จูฬปนฺถกมฺปิ อิมสฺมึ สุเข ปติฏฺาเปตุ’’นฺติ. โส อตฺตโน อยฺยกํ ธนเสฏฺึ อุปสงฺกมิตฺวา อาห – ‘‘สเจ, มหาเสฏฺิ , อนุชานาถ, อหํ จูฬปนฺถกํ ปพฺพาเชยฺย’’นฺติ. ‘‘ปพฺพาเชถ, ภนฺเต’’ติ. เถโร ตํ ปพฺพาเชสิ. โส ทสสุ สีเลสุ ปติฏฺิโต ภาตุ สนฺติเก –

‘‘ปทุมํ ยถา โกกนทํ สุคนฺธํ, ปาโต สิยา ผุลฺลมวีตคนฺธํ;

องฺคีรสํ ปสฺส วิโรจมานํ, ตปนฺตมาทิจฺจมิวนฺตลิกฺเข’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๒๓; อ. นิ. ๕.๑๙๕) –

คาถํ อุคฺคณฺหนฺโต จตูหิ มาเสหิ อุคฺคเหตุํ นาสกฺขิ, คหิตมฺปิ หทเย น ติฏฺติ. อถ นํ มหาปนฺถโก, ‘‘จูฬปนฺถก, ตฺวํ อิมสฺมึ สาสเน อภพฺโพ, จตูหิ มาเสหิ เอกํ คาถมฺปิ คเหตุํ น สกฺโกสิ, ปพฺพชิตกิจฺจํ ปน ตฺวํ กถํ มตฺถกํ ปาเปสฺสสิ, นิกฺขม อิโต’’ติ โส เถเรน ปณามิโก ทฺวารโกฏฺกสมีเป โรทมาโน อฏฺาสิ.

เตน จ สมเยน สตฺถา ชีวกมฺพวเน วิหรติ. อถ ชีวโก ปุริสํ เปเสสิ – ‘‘คจฺฉ, ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ สตฺถารํ นิมนฺเตหี’’ติ. เตน จ สมเยน อายสฺมา มหาปนฺถโก ภตฺตุทฺเทสโก โหติ. โส ‘‘ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ ภิกฺขํ ปฏิจฺฉถา’’ติ วุตฺโต ‘‘จูฬปนฺถกํ เปตฺวา เสสานํ ปฏิจฺฉามี’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา จูฬปนฺถโก ภิยฺโยโสมตฺตาย โทมนสฺสปฺปตฺโต อโหสิ. สตฺถา ตสฺส จิตฺตกฺเขทํ ตฺวา ‘‘จูฬปนฺถโก มยา กเตน อุปาเยน พุชฺฌิสฺสตี’’ติ ตสฺส อวิทูรฏฺาเน อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา ‘‘กึ, ปนฺถก, โรทสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ภาตา มํ, ภนฺเต, ปณาเมตี’’ติ อาห. ‘‘ปนฺถก, มา จินฺตยิ, มม สาสเน ตุยฺหํ ปพฺพชฺชา, เอหิ อิมํ คเหตฺวา ‘รโชหรณํ, รโชหรณ’นฺติ มนสิ กโรหี’’ติ อิทฺธิยา สุทฺธํ โจฬกฺขณฺฑํ อภิสงฺขริตฺวา อทาสิ. โส สตฺถารา ทินฺนํ โจฬกฺขณฺฑํ ‘‘รโชหรณํ, รโชหรณ’’นฺติ หตฺเถน ปริมชฺชนฺโต นิสีทิ. ตสฺส ตํ ปริมชฺชนฺตสฺส กิลิฏฺธาตุกํ ชาตํ, ปุน ปริมชฺชนฺตสฺส อุกฺขลิปริปุฺฉนสทิสํ ชาตํ. โส าณปริปากตฺตา เอวํ จินฺเตสิ – ‘‘อิทํ โจฬกฺขณฺฑํ ปกติยา ปริสุทฺธํ, อิมํ อุปาทิณฺณกสรีรํ นิสฺสาย กิลิฏฺํ อฺถา ชาตํ, ตสฺมา อนิจฺจํ ยถาเปตํ, เอวํ จิตฺตมฺปี’’ติ ขยวยํ ปฏฺเปตฺวา ตสฺมึเยว นิมิตฺเต ฌานานิ นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. อรหตฺตปตฺตสฺเสวสฺส เตปิฏกํ ปฺจาภิฺา จ อาคมึสุ.

สตฺถา เอกูเนหิ ปฺจภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ คนฺตฺวา ชีวกสฺส นิเวสเน ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. จูฬปนฺถโก ปน อตฺตโน ภิกฺขาย อปฺปฏิจฺฉิตตฺตา เอว น คโต. ชีวโก ยาคุํ ทาตุํ อารภิ. สตฺถา หตฺเถน ปตฺตํ ปิทหิ. ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, น คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ‘‘วิหาเร เอโก ภิกฺขุ อตฺถิ, ชีวกา’’ติ. โส ปุริสํ เปเสสิ – ‘‘คจฺฉ, ภเณ, วิหาเร นิสินฺนํ อยฺยํ คเหตฺวา เอหี’’ติ. จูฬปนฺถกตฺเถโรปิ รูเปน กิริยาย จ เอกมฺปิ เอเกน อสทิสํ ภิกฺขุสหสฺสํ นิมฺมินิตฺวา นิสีทิ. โส ปุริโส วิหาเร ภิกฺขูนํ พหุภาวํ ทิสฺวา คนฺตฺวา ชีวกสฺส กเถสิ – ‘‘อิมสฺมา ภิกฺขุสงฺฆา วิหาเร ภิกฺขุสงฺโฆ พหุตโร, ปกฺโกสิตพฺพํ อยฺยํ น ชานามี’’ติ. ชีวโก สตฺถารํ ปุจฺฉิ – ‘‘โก นาโม, ภนฺเต, วิหาเร นิสินฺโน ภิกฺขู’’ติ? ‘‘จูฬปนฺถโก นาม, ชีวกา’’ติ. ‘‘คจฺฉ, ภเณ, ‘จูฬปนฺถโก นาม กตโร’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตํ อาเนหี’’ติ. โส วิหารํ คนฺตฺวา ‘‘จูฬปนฺถโก นาม กตโร, ภนฺเต’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อหํ จูฬปนฺถโก, อหํ จูฬปนฺถโก’’ติ เอกปฺปหาเรน ภิกฺขุสหสฺสมฺปิ กเถสิ. โส ปุนาคนฺตฺวา ตํ ปวตฺตึ ชีวกสฺส อาโรเจสิ ชีวโก ปฏิวิทฺธสจฺจตฺตา ‘‘อิทฺธิมา มฺเ, อยฺโย’’ติ นยโต ตฺวา ‘‘คจฺฉ, ภเณ, ปมํ กเถนฺตํ อยฺยเมว ‘ตุมฺเห สตฺถา ปกฺโกสตี’ติ วตฺวา จีวรกณฺเณ คณฺหาหี’’ติ อาห. โส วิหารํ คนฺตฺวา ตถา อกาสิ. ตาวเทว นิมฺมิตภิกฺขู อนฺตรธายึสุ. โส เถรํ คเหตฺวา อคมาสิ.

สตฺถา ตสฺมึ ขเณ ยาคุฺจ ขชฺชกาทิเภทฺจ ปฏิคฺคณฺหิ. กตภตฺตกิจฺโจ ภควา อายสฺมนฺตํ จูฬปนฺถกํ อาณาเปสิ ‘‘อนุโมทนํ กโรหี’’ติ. โส ปภินฺนปฏิสมฺภิโท สิเนรุํ คเหตฺวา มหาสมุทฺทํ มนฺเถนฺโต วิย เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ สงฺโขเภนฺโต สตฺถุ อชฺฌาสยํ คณฺหนฺโต อนุโมทนํ อกาสิ. ทสพเล ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา วิหารํ คเต ธมฺมสภายํ กถา อุทปาทิ ‘อโห พุทฺธานํ อานุภาโว, ยตฺร หิ นาม จตฺตาโร มาเส เอกคาถํ คเหตุํ อสกฺโกนฺตมฺปิ ลหุเกน ขเณเนว เอวํ มหิทฺธิกํ อกํสู’ติ, ตถา หิ ชีวกสฺส นิเวสเน นิสินฺโน ภควา ‘เอวํ จูฬปนฺถกสฺส จิตฺตํ สมาหิตํ, วีถิปฏิปนฺนา วิปสฺสนา’ติ ตฺวา ยถานิสินฺโนเยว อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา, ‘ปนฺถก, เนวายํ ปิโลติกา กิลิฏฺา รชานุกิณฺณา, อิโต ปน อฺโปิ อริยสฺส วินเย สํกิเลโส รโช’ติ ทสฺเสนฺโต –

‘‘ราโค รโช น จ ปน เรณุ วุจฺจติ, ราคสฺเสตํ อธิวจนํ รโชติ;

เอตํ รชํ วิปฺปชหิตฺวา ภิกฺขโว, วิหรนฺติ เต วิคตรชสฺส สาสเน.

‘‘โทโส รโช…เป… วิคตรชสฺส สาสเน.

‘‘โมโห รโช…เป… วิคตรชสฺส สาสเน’’ติ. (มหานิ. ๒๐๙; จูฬนิ. อุทยมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๗๔) –

อิมา ติสฺโส คาถาโย อภาสิ. คาถาปริโยสาเน จูฬปนฺถโก สหปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณีติ. สตฺถา เตสํ ภิกฺขูนํ กถาสลฺลาปํ สุตฺวา อาคนฺตฺวา พุทฺธาสเน นิสีทิตฺวา ‘‘กึ วเทถ, ภิกฺขเว’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมํ นาม, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขเว, จูฬปนฺถเกน อิทานิ มยฺหํ โอวาเท ตฺวา โลกุตฺถรทายชฺชํ ลทฺธํ, ปุพฺเพ ปน โลกิยทายชฺชํ ลทฺธ’’นฺติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต จูฬเสฏฺิชาตกํ (ชา. ๑.๑.๔) กเถสิ. อปรภาเค นํ สตฺถา อริยคณปริวุโต ธมฺมาสเน นิสินฺโน มโนมยํ กายํ อภินิมฺมินนฺตานํ ภิกฺขูนํ เจโตวิวฏฺฏกุสลานฺจ อคฺคฏฺาเน เปสิ.

๓๕. เอวํ โส ปตฺตเอตทคฺคฏฺาโน อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวา ปีติโสมนสฺสวเสน ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต ปทุมุตฺตโร นาม ชิโนติอาทิมาห. ตตฺถ ปุริมปททฺวยํ วุตฺตตฺถเมว. คณมฺหา วูปกฏฺโโสติ โส ปทุมุตฺตโร นาม สตฺถา คณมฺหา มหตา ภิกฺขุสมูหโต วูปกฏฺโ วิสุํ ภูโต วิเวกํ อุปคโต. ตทา มม ตาปสกาเล หิมวนฺเต หิมาลยปพฺพตสมีเป วสิ วาสํ กปฺเปสิ, จตูหิ อิริยาปเถหิ วิหาสีติ อตฺโถ.

๓๖. อหมฺปิ…เป… ตทาติ ยทา โส ภควา หิมวนฺตํ อุปคนฺตฺวา วสิ, ตทา อหมฺปิ หิมวนฺตสมีเป กตอสฺสเม อา สมนฺตโต กายจิตฺตปีฬาสงฺขาตา ปริสฺสยา สมนฺติ เอตฺถาติ อสฺสโมติ ลทฺธนาเม อรฺาวาเส วสามีติ สมฺพนฺโธ. อจิราคตํ มหาวีรนฺติ อจิรํ อาคตํ มหาวีริยวนฺตํ โลกนายกํ ปธานํ ตํ ภควนฺตํ อุเปสินฺติ สมฺพนฺโธ, อาคตกฺขเณเยว อุปาคมินฺติ อตฺโถ.

๓๗. ปุปฺผจฺฉตฺตํ คเหตฺวานาติ เอวํ อุปคจฺฉนฺโต จ ปทุมุปฺปลปุปฺผาทีหิ ฉาทิตํ ปุปฺผมยํ ฉตฺตํ คเหตฺวา นราสภํ นรานํ เสฏฺํ ภควนฺตํ ฉาเทนฺโต อุปคจฺฉึ สมีปํ คโตสฺมีติ อตฺโถ. สมาธึ สมาปชฺชนฺตนฺติ รูปาวจรสมาธิชฺฌานํ สมาปชฺชนฺตํ อปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส อนฺตรายํ อหํ อกาสินฺติ สมฺพนฺโธ.

๓๘. อุโภ หตฺเถหิ ปคฺคยฺหาติ ตํ สุสชฺชิตํ ปุปฺผจฺฉตฺตํ ทฺวีหิ หตฺเถหิ อุกฺขิปิตฺวา อหํ ภควโต อทาสินฺติ สมฺพนฺโธ. ปฏิคฺคเหสีติ ตํ มยา ทินฺนํ ปุปฺผจฺฉตฺตํ ปทุมุตฺตโร ภควา สมฺปฏิจฺฉิ, สาทรํ สาทิยีติ อตฺโถ.

๔๑. สตปตฺตฉตฺตํ ปคฺคยฺหาติ เอเกกสฺมึ ปทุมปุปฺเผ สตสตปตฺตานํ วเสน สตปตฺเตหิ ปทุมปุปฺเผหิ ฉาทิตํ ปุปฺผจฺฉตฺตํ ปกาเรน อาทเรน คเหตฺวา ตาปโส มม อทาสีติ อตฺโถ. ตมหํ กิตฺตยิสฺสามีติ ตํ ตาปสํ อหํ กิตฺตยิสฺสามิ ปากฏํ กริสฺสามีติ อตฺโถ. มม ภาสโต ภาสมานสฺส วจนํ สุโณถ มนสิ กโรถ.

๔๒. ปฺจวีสติกปฺปานีติ อิมินา ปุปฺผจฺฉตฺตทาเนน ปฺจวีสติวาเร ตาวตึสภวเน สกฺโก หุตฺวา เทวรชฺชํ กริสฺสตีติ สมฺพนฺโธ. จตุตฺตึสติกฺขตฺตุฺจาติ จตุตฺตึสติวาเร มนุสฺสโลเก จกฺกวตฺตี ราชา ภวิสฺสติ.

๔๓. ยํยํ โยนินฺติ มนุสฺสโยนิอาทีสุ ยํ ยํ ชาตึ สํสรติ คจฺฉติ อุปปชฺชติ. ตตฺถ ตตฺถ โยนิยํ อพฺโภกาเส สุฺฏฺาเน ปติฏฺนฺตํ นิสินฺนํ ิตํ วา ปทุมํ ธารยิสฺสติ อุปริ ฉาทยิสฺสตีติ อตฺโถ.

๔๕. ปกาสิเต ปาวจเนติ เตน ภควโต สกลปิฏกตฺตเย ปกาสิเต ทีปิเต มนุสฺสตฺตํ มนุสฺสชาตึ ลภิสฺสติ อุปปชฺชิสฺสติ. มโนมยมฺหิ กายมฺหีติ มเนน ฌานจิตฺเตน นิพฺพตฺโตติ มโนมโย, ยถา จิตฺตํ ปวตฺตติ, ตถา กายํ ปวตฺเตติ จิตฺตคติกํ กโรตีติ อตฺโถ. ตมฺหิ มโนมเย กายมฺหิ โส ตาปโส จูฬปนฺถโก นาม หุตฺวา อุตฺตโม อคฺโค ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตตฺตา อุตฺตานตฺตา จ สุวิฺเยฺยเมว.

๕๒. สรึ โกกนทํ อหนฺติ อหํ ภควโต นิมฺมิตโจฬกํ ปริมชฺชนฺโต โกกนทํ ปทุมํ สรินฺติ อตฺโถ. ตตฺถ จิตฺตํ วิมุจฺจิ เมติ ตสฺมึ โกกนเท ปทุเม มยฺหํ จิตฺตํ อธิมุจฺจิ อลฺลีโน, ตโต อหํ อรหตฺตํ ปาปุณินฺติ สมฺพนฺโธ.

๕๓. อหํ มโนมเยสุ จิตฺตคติเกสุ กาเยสุ สพฺพตฺถ สพฺเพสุ ปารมึ ปริโยสานํ คโต ปตฺโตติ สมฺพนฺโธ. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ.

จูฬปนฺถกตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.

๕. ปิลินฺทวจฺฉตฺเถรอปทานวณฺณนา

นิพฺพุเตโลกนาถมฺหีติอาทิกํ อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปุฺานิ อุปจินนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร มหาโภคกุเล นิพฺพตฺโต เหฏฺา วุตฺตนเยน สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ เทวตานํ ปิยมนาปภาเวน อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา ตํ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา ตโต จุโต เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต สุเมธสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺโต. ปรินิพฺพุเต ภควติ ตสฺส ถูปํ ปูเชตฺวา สงฺฆสฺส มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา ตโต จวิตฺวา เทวมนุสฺเสสุ อุภยสมฺปตฺติโย อนุภวิตฺวา อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ จกฺกวตฺตี ราชา หุตฺวา มหาชนํ ปฺจสีเลสุ ปติฏฺาเปตฺวา สคฺคปรายนํ อกาสิ. โส อนุปฺปนฺเนเยว อมฺหากํ ภควติ สาวตฺถิยํ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติ, ปิลินฺโทติสฺส นามํ อกํสุ. วจฺโฉติ โคตฺตํ. โส อปรภาเค ปิลินฺทวจฺโฉติ ปฺายิตฺถ. สํสาเร ปน สํเวคพหุลตาย ปริพฺพาชกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา จูฬคนฺธารํ นาม วิชฺชํ สาเธตฺวา ตาย วิชฺชาย อากาสจารี ปรจิตฺตวิทู จ หุตฺวา ราชคเห ลาภคฺคยสคฺคปตฺโต ปฏิวสติ.

อถ อมฺหากํ ภควา อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา อนุกฺกเมน ราชคหํ อุปคโต. ตโต ปฏฺาย พุทฺธานุภาเวน ตสฺส สา วิชฺชา น สมฺปชฺชติ, อตฺตโน กิจฺจํ น สาเธติ. โส จินฺเตสิ – ‘‘สุตํ โข ปเนตํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ ‘ยตฺถ มหาคนฺธารวิชฺชา ธรติ , ตตฺถ จูฬคนฺธารวิชฺชา น สมฺปชฺชตี’ติ สมณสฺส ปน โคตมสฺส อาคตกาลโต ปฏฺาย นายํ มม วิชฺชา สมฺปชฺชติ, นิสฺสํสยํ สมโณ โคตโม มหาคนฺธารวิชฺชํ ชานาติ, ยํนูนาหํ ตํ ปยิรุปาสิตฺวา ตสฺส สนฺติเก ตํ วิชฺชํ ปริยาปุเณยฺย’’นฺติ. โส ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจ – ‘‘อหํ, มหาสมณ, ตว สนฺติเก เอกํ วิชฺชํ ปริยาปุณิตุกาโม, โอกาสํ เม กโรหี’’ติ. ‘‘เตน หิ มม สนฺติเก ปพฺพชาหี’’ติ อาห. โส ‘‘วิชฺชาย ปริกมฺมํ ปพฺพชฺชา’’ติ มฺมาโน ปพฺพชิ. ตสฺส ภควา ธมฺมํ กเถตฺวา จริตานุกูลํ กมฺมฏฺานํ อทาสิ. โส อุปนิสฺสยสมฺปนฺนตาย นจิรสฺเสว วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ.

๕๕. ยา ปน ปุริมชาติยํ ตสฺโสวาเท ตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตา เทวตา, ตา กตฺุตํ นิสฺสาย ตสฺมึ สฺชาตพหุมานา สายํ ปาตํ เถรํ ปยิรุปาสิตฺวา คจฺฉนฺติ. ตสฺมา นํ ภควา เทวตานํ อติวิย ปิยมนาปภาเวน อคฺคภาเว เปสิ ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ เทวตานํ ปิยมนาปานํ ยทิทํ ปิลินฺทวจฺโฉ’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๐๙, ๒๑๕). เอวํ โส ปตฺตอคฺคฏฺาโน อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ อนุสฺสริตฺวา ปีติโสมนสฺสวเสน ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต นิพฺพุเต โลกนาถมฺหีติอาทิมาห.

ตตฺถ กามรูปารูปโลกสฺส นาโถ ปธาโนติ โลกนาโถ. เมธา วุจฺจนฺติ สพฺพฺุตฺาณอนาวรณาณาทโย, สุนฺทรา, ปสฏฺา วา เมธา ยสฺส โส สุเมโธ, อคฺโค จ โส ปุคฺคโล จาติ อคฺคปุคฺคโล, ตสฺมึ สุเมเธ โลกนายเก อคฺคปุคฺคเล ขนฺธปรินิพฺพาเนน นิพฺพุเต สตีติ สมฺพนฺโธ. ปสนฺนจิตฺโต สุมโนติ สทฺธาย ปสาทิตจิตฺโต โสมนสฺเสน สุนฺทรมโน อหํ ตสฺส สุเมธสฺส ภควโต ถูปปูชํ เจติยปูชํ อกาสินฺติ อตฺโถ.

๕๖. เย จ ขีณาสวา ตตฺถาติ ตสฺมึ สมาคเม เย จ ขีณาสวา ปหีนกิเลสา ฉฬภิฺา ฉหิ อภิฺาหิ สมนฺนาคตา มหิทฺธิกา มหนฺเตหิ อิทฺธีหิ สมนฺนาคตา สนฺติ, เต สพฺเพ ขีณาสเว อหํ ตตฺถ สมาเนตฺวา สุฏฺุ อาทเรน อาเนตฺวา สงฺฆภตฺตํ สกลสงฺฆสฺส ทาตพฺพภตฺตํ อกาสึ เตสํ โภเชสินฺติ อตฺโถ.

๕๗. อุปฏฺาโก ตทา อหูติ ตทา มม สงฺฆภตฺตทานกาเล สุเมธสฺส ภควโต นาเมน สุเมโธ นาม อุปฏฺากสาวโก อหุ อโหสีติ อตฺโถ. โส สาวโก มยฺหํ ปูชาสกฺการํ อนุโมทิตฺถ อนุโมทิโต อานิสํสํ กเถสีติ อตฺโถ.

๕๘. เตน จิตฺตปฺปสาเทนาติ เตน ถูปปูชากรณวเสน อุปฺปนฺเนน จิตฺตปฺปสาเทน เทวโลเก ทิพฺพวิมานํ อุปปชฺชึ อุปคโต อสฺมีติ อตฺโถ, ตตฺถ นิพฺพตฺโตมฺหีติ วุตฺตํ โหติ. ฉฬาสีติสหสฺสานีติ ตสฺมึ วิมาเน ฉ อสีติสหสฺสานิ เทวจฺฉราโย เม มยฺหํ จิตฺตํ รมึสุ รมาเปสุนฺติ สมฺพนฺโธ.

๕๙. มเมว อนุวตฺตนฺตีติ ตา อจฺฉราโย สพฺพกาเมหิ ทิพฺเพหิ รูปาทิวตฺถุกาเมหิ อุปฏฺหนฺติโย มมํ เอว อนุวตฺตนฺติ มม วจนํ อนุกโรนฺติ สทา นิจฺจกาลนฺติ อตฺโถ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.

ปิลินฺทวจฺฉตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.

๖. ราหุลตฺเถรอปทานวณฺณนา

ปทุมุตฺตรสฺสภควโตติอาทิกํ อายสฺมโต ราหุลตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ อายสฺมา ปุริมชินวเรสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปุฺานิ อุปจินนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺโต วิฺุตํ ปตฺวา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ สิกฺขากามานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา สยมฺปิ ตํ านนฺตรํ ปตฺเถนฺโต เสนาสนวิโสธนวิชฺโชตนาทิกํ อุฬารํ ปุฺํ กตฺวา ปณิธานํ อกาสิ. โส ตโต จวิตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อุภยสมฺปตฺติโย อนุภวิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท อมฺหากํ โพธิสตฺตํ ปฏิจฺจ ยโสธราย เทวิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติตฺวา ราหุโลติ ลทฺธนาโม มหตา ขตฺติยปริวาเรน วฑฺฒิ. ตสฺส ปพฺพชฺชาวิธานํ ขนฺธเก (มหาว. ๑๐๕) อาคตเมว. โส ปพฺพชิตฺวา สตฺถุ สนฺติเก อเนเกหิ สุตฺตปเทหิ สุลทฺโธวาโท ปริปกฺกาโณ วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. อรหา ปน หุตฺวา อตฺตโน ปฏิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อฺํ พฺยากโรนฺโต –

‘‘อุภเยเนว สมฺปนฺโน, ราหุลภทฺโทติ มํ วิทู;

ยฺจมฺหิ ปุตฺโต พุทฺธสฺส, ยฺจ ธมฺเมสุ จกฺขุมา.

‘‘ยฺจ เม อาสวา ขีณา, ยฺจ นตฺถิ ปุนพฺภโว;

อรหา ทกฺขิเณยฺโยมฺหิ, เตวิชฺโช อมตทฺทโส.

‘‘กามนฺธา ชาลปจฺฉนฺนา, ตณฺหาฉทนฉาทิตา;

ปมตฺตพนฺธุนา พนฺธา, มจฺฉาว กุมินา มุเข.

‘‘ตํ กามํ อหมุชฺฌิตฺวา, เฉตฺวา มารสฺส พนฺธนํ;

สมูลํ ตณฺหมพฺพุยฺห, สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต’’ติ. (เถรคา. ๒๙๕-๒๙๘);

จตสฺโส คาถา อภาสิ. ตตฺถ อุภเยเนว สมฺปนฺโนติ ชาติสมฺปทา ปฏิปตฺติสมฺปทาติ อุภยสมฺปตฺติยาปิ สมฺปนฺโน สมนฺนาคโต. ราหุลภทฺโทติ มํ วิทูติ ‘‘ราหุลภทฺโท’’ติ มํ สพฺรหฺมจาริโน สฺชานนฺติ. ตสฺส หิ ชาตสาสนํ สุตฺวา โพธิสตฺเตน, ‘‘ราหุ, ชาโต, พนฺธนํ ชาต’’นฺติ วุตฺตวจนํ อุปาทาย สุทฺโธทนมหาราชา ‘‘ราหุโล’’ติ นามํ คณฺหิ. ตตฺถ อาทิโต ปิตรา วุตฺตปริยายเมว คเหตฺวา อาห – ‘‘ราหุลภทฺโทติ มํ วิทู’’ติ. ภทฺโทติ ปสํสาวจนเมว. อปรภาเค สตฺถา ตํ สิกฺขากามภาเวน อคฺคฏฺาเน เปสิ ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ สิกฺขากามานํ ยทิทํ ราหุโล’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๐๙).

๖๘. เอวํ โส ปตฺตเอตทคฺคฏฺาโน อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวา โสมนสฺสชาโต ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโตติอาทิมาห. สตฺตภูมิมฺหิ ปาสาเทติ ปสาทํ โสมนสฺสํ ชเนตีติ ปาสาโท. อุปรูปริ ิตา สตฺต ภูมิโย ยสฺมึ ปาสาเท โสยํ สตฺตภูมิ, ตสฺมึ สตฺตภูมิมฺหิ ปาสาเท. อาทาสํ สนฺถรึ อหนฺติ อาทาสตลํ นิปฺผาเทตฺวา โลกเชฏฺสฺส ภควโต ตาทิโน อหํ สนฺถรํ อทาสึ, สนฺถริตฺวา ปูเชสินฺติ อตฺโถ.

๖๙. ขีณาสวสหสฺเสหีติ อรหนฺตสหสฺเสหิ ปริกิณฺโณ ปริวุโต. ทฺวิปทินฺโท ทฺวิปทานํ อินฺโท สามิ นราสโภ มหามุนิ คนฺธกุฏึ เตหิ สห อุปาคมิ ปาวิสีติ อตฺโถ.

๗๐. วิโรเจนฺโต คนฺธกุฏินฺติ ตํ คนฺธกุฏึ โสภยมาโน เทวานํ เทโว เทวเทโว นรานํ อาสโภ นราสโภ เชฏฺโ สตฺถา ภิกฺขุสงฺฆมชฺเฌ นิสีทิตฺวา อิมา พฺยากรณคาถาโย อภาสถ กเถสีติ สมฺพนฺโธ.

๗๑. เยนายํ โชติตา เสยฺยาติ เยน อุปาสเกน อยํ ปาสาทสงฺขาตา เสยฺยา โชติตา ปภาสิตา ปชฺชลิตา. อาทาโสว กํสโลหมยํ อาทาสตลํ อิว สุฏฺุ สมํ กตฺวา สนฺถตา. ตํ อุปาสกํ กิตฺตยิสฺสามิ ปากฏํ กริสฺสามีติ อตฺโถ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

๘๑. อฏฺานเมตํ ยํ ตาทีติ ยํ เยน การเณน ตาที อิฏฺานิฏฺเสุ อกมฺปิยสภาวตฺตา ตาที อคาเร ฆราวาเส รตึ อลฺลีนภาวํ อชฺฌคา ปาปุณิ, เอตํ การณํ อฏฺานํ อการณนฺติ อตฺโถ.

๘๒. นิกฺขมิตฺวาอคารสฺมาติ ฆราวาสโต นิกฺขมิตฺวา ตํ ติณทลมิว ปริจฺจชิตฺวา สุพฺพโต สุสิกฺขิโต ปพฺพชิสฺสติ. ราหุโล นามนาเมนาติ สุทฺโธทนมหาราเชน เปสิตํ กุมารสฺส ชาตสาสนํ สุตฺวา ปิตรา สิทฺธตฺเถน, ‘‘ราหุ ชาโต, พนฺธนํ ชาต’’นฺติ วุตฺตนามตฺตา ราหุโล นามาติ อตฺโถ. ‘‘ยถา จนฺทสูริยานํ วิมานปภาย กิลิฏฺกรเณน ราหุ อสุรินฺโท อุเปติ คจฺฉติ, เอวเมวายํ มม อภินิกฺขมนปพฺพชฺชาทีนํ อนฺตรายํ กโรนฺโตริว ชาโต’’ติ อธิปฺปาเยน, ‘‘ราหุ ชาโตติ อาหา’’ติ ทฏฺพฺพํ. อรหา โส ภวิสฺสตีติ โส ตาทิโส อุปนิสฺสยสมฺปนฺโน วิปสฺสนายํ ยุตฺตปฺปยุตฺโต อรหา ขีณาสโว ภวิสฺสตีติ อตฺโถ.

๘๓. กิกีว อณฺฑํ รกฺเขยฺยาติ อณฺฑํ พีชํ รกฺขมานา กิกี สกุณี อิว อปฺปมตฺโต สีลํ รกฺเขยฺย, จามรี วิย วาลธินฺติ วาลํ รกฺขมานา กณฺฑเกสุ วาเล ลคฺคนฺเต ภินฺทนภเยน อนากฑฺฒิตฺวา มรมานา จามรี วิย ชีวิตมฺปิ ปริจฺจชิตฺวา สีลํ อภินฺทิตฺวา รกฺเขยฺย. นิปโก สีลสมฺปนฺโนติ เนปกฺกํ วุจฺจติ ปฺา, เตน เนปกฺเกน สมนฺนาคโต นิปโก ขณฺฑฉิทฺทาทิภาวํ อปาเปตฺวา รกฺขณโต สีลสมฺปนฺโน ภวิสฺสตีติ เอวํ โส ภควา พฺยากรณมกาสิ. โส เอวํ ปตฺตอรหตฺตผโล เอกทิวสํ วิเวกฏฺาเน นิสินฺโน โสมนสฺสวเสน เอวํ รกฺขึ มหามุนีติอาทิมาห. ตํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.

ราหุลตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.

๗. อุปเสนวงฺคนฺตปุตฺตตฺเถรอปทานวณฺณนา

ปทุมุตฺตรํ ภควนฺตนฺติอาทิกํ อายสฺมโต อุปเสนวงฺคนฺตปุตฺตตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปุฺานิ อุปจินนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ สมนฺตปาสาทิกานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา สตฺถุ อธิการกมฺมํ กตฺวา ตํ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท นาลกคาเม รูปสารี พฺราหฺมณิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, อุปเสโนติสฺส นามํ อโหสิ. โส วยปฺปตฺโต ตโย เวเท อุคฺคณฺหิตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปทาย เอกวสฺสิโก ‘‘อริยคพฺภํ วฑฺเฒมี’’ติ เอกํ กุลปุตฺตํ อตฺตโน สนฺติเก อุปสมฺปาเทตฺวา เตน สทฺธึ สตฺถุ สนฺติกํ คโต. สตฺถารา จสฺส ตสฺส อวสฺสิกสฺส ภิกฺขุโน สทฺธิวิหาริกภาวํ สุตฺวา ‘‘อติลหุํ โข ตฺวํ, โมฆปุริส, พาหุลฺลาย อาวตฺโต’’ติ (มหาว. ๗๕) ครหิโต ‘‘อิทานาหํ ยทิ ปริสํ นิสฺสาย สตฺถารา ครหิโต, ปริสํเยว ปน นิสฺสาย สตฺถุ ปสาทํ กริสฺสามี’’ติ วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิ. อรหา ปน หุตฺวา สยมฺปิ สพฺเพ ธุตงฺคธมฺเม สมาทาย วตฺตติ, อฺเปิ ตทตฺถาย สมาทเปสิ, เตน นํ ภควา สมนฺตปาสาทิกานํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. โส อปเรน สมเยน โกสมฺพิยํ กลเห อุปฺปนฺเน ภิกฺขุสงฺเฆ จ ทฺวิธาภูเต เอเกน ภิกฺขุนา ตํ กลหํ ปริวชฺชิตุกาเมน ‘‘เอตรหิ โข กลโห อุปฺปนฺโน, ภิกฺขุสงฺโฆ จ ทฺวิธาภูโต, กถํ นุ โข มยา ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ ปุฏฺโ วิเวกวาสโต ปฏฺาย ตสฺส ปฏิปตฺตึ กเถสิ. เอวํ เถโร ตสฺส ภิกฺขุโน โอวาททานาปเทเสน อตฺตโน ตถา ปฏิปนฺนภาวํ ทีเปนฺโต อฺํ พฺยากาสิ.

๘๖. โส เอวํ ปตฺตเอตทคฺคฏฺาโน อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวา โสมนสฺสวเสน ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต ปทุมุตฺตรํ ภควนฺตนฺติอาทิมาห. ปพฺภารมฺหิ นิสีทนฺตนฺติ ปุรโต ภารํ นมิตํ โอนมิตนฺติ ปพฺภารํ วิเวกกามํ วนมชฺเฌ สยํชาตปพฺพตปพฺภาเร นิสินฺนํ นรุตฺตมํ ภควนฺตํ อหํ อุปคจฺฉึ สมีปํ คโตติ อตฺโถ.

๘๗. กณิการปุปฺผ ทิสฺวาติ ตถา อุปคจฺฉนฺโต ตสฺมึ ปเทเส สุปุปฺผิตํ กณิการํ ทิสฺวา. วณฺเฏ เฉตฺวานหํ ตทาติ ตสฺมึ ตถาคตสฺส ทิฏฺกาเล ตํ ปุปฺผํ วณฺเฏ วณฺฏสฺมึ เฉตฺวาน ฉินฺทิตฺวาน. อลงฺกริตฺวา ฉตฺตมฺหีติ เตน ปุปฺเผน ฉตฺตํ ฉาเทตฺวา. พุทฺธสฺส อภิโรปยินฺติ ปพฺภาเร นิสินฺนสฺส พุทฺธสฺส มุทฺธนิ อกาสินฺติ อตฺโถ.

๘๘. ปิณฺฑปาตฺจปาทาสินฺติ ตสฺมึเยว นิสินฺนสฺส ภควโต ปิณฺฑปาตํ ปกาเรน อทาสึ โภเชสินฺติ อตฺโถ. ปรมนฺนํ สุโภชนนฺติ สุนฺทรโภชนสงฺขาตํ ปรมนฺนํ อุตฺตมาหารํ. พุทฺเธน นวเม ตตฺถาติ ตสฺมึ วิเวกฏฺาเน พุทฺเธน สห นวเม อฏฺ สมเณ สมิตปาเป ขีณาสวภิกฺขู โภเชสินฺติ อตฺโถ.

ยํ วทนฺติ สุเมโธติ ยํ โคตมสมฺมาสมฺพุทฺธํ ภูริปฺํ ปถวิสมานํ ปฺํ สุเมธํ สุนฺทรํ สพฺพฺุตาทิปฺวนฺตํ. สุเมโธ อิติ สุนฺทรปฺโ อิติ วทนฺติ ปณฺฑิตา อิโต กปฺปโต สตสหสฺเส กปฺเป เอโส โคตโม สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภวิสฺสตีติ สมฺพนฺโธ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.

อุปเสนวงฺคนฺตปุตฺตตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.

๘. รฏฺปาลตฺเถรอปทานวณฺณนา

ปทุมุตฺตรสฺสภควโตติอาทิกํ อายสฺมโต รฏฺปาลตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปายสฺมา ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปุฺานิ อุปจินนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต อุปฺปตฺติโต ปุเรตรเมว หํสวตีนคเร คหปติมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต ปิตุ อจฺจเยน ฆราวาเส ปติฏฺิโต รตนโกฏฺาคารกมฺมิเกน ทสฺสิตํ อปริมาณํ วํสานุคตํ ธนํ ทิสฺวา ‘‘อิมํ เอตฺตกํ ธนราสึ มยฺหํ ปิตุอยฺยกปยฺยกาทโย อตฺตนา สทฺธึ คเหตฺวา คนฺตุํ นาสกฺขึสุ, มยา ปน คเหตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา กปณทฺธิกาทีนํ มหาทานํ อทาสิ. โส อภิฺาลาภึ เอกํ ตาปสํ อุปสงฺกมิตฺวา เตน เทวโลกาธิปจฺเจ นิโยชิโต ยาวชีวํ ปุฺานิ กตฺวา ตโต จุโต เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา ตโต จุโต มนุสฺสโลเก ภินฺนํ รฏฺํ สนฺธาเรตุํ สมตฺถสฺส กุลสฺส เอกปุตฺตโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ. เตน สมเยน ปทุมุตฺตโร ภควา โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก เวเนยฺยสตฺเต นิพฺพานมหานครสงฺขาตํ เขมนฺตภูมึ สมฺปาเปสิ. อถ โส กุลปุตฺโต อนุกฺกเมน วิฺุตํ ปตฺโต เอกทิวสํ อุปาสเกหิ สทฺธึ วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถารํ ธมฺมํ เทเสนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต ปริสปริยนฺเต นิสีทิ.

เตน โข ปน สมเยน สตฺถา เอกํ ภิกฺขุํ สทฺธาปพฺพชิตานํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. โส ตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส สตสหสฺสภิกฺขุปริวุตสฺส ภควโต สตฺตาหํ มหาทานํ ทตฺวา ตํ านํ ปตฺเถสิ. สตฺถา อนนฺตราเยน สมิชฺฌนภาวํ ทิสฺวา ‘‘อยํ อนาคเต โคตมสฺส นาม สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาสเน สทฺธาปพฺพชิตานํ อคฺโค ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากาสิ. โส สตฺถารํ ภิกฺขุสงฺฆฺจ วนฺทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. โส ยาวตายุกํ ปุฺานิ กตฺวา ตโต จวิตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิโต ทฺเวนวุเต กปฺเป ผุสฺสสฺส ภควโต กาเล สตฺถุ เวมาติเกสุ ตีสุ ราชปุตฺเตสุ สตฺถารํ อุปฏฺหนฺเตสุ เตสํ ปุฺกิริยาสุ สหายกิจฺจํ อกาสิ. เอวํ ตตฺถ ตตฺถ ภเว พหุํ กุสลํ อุปจินิตฺวา สุคตีสุเยว สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กุรุรฏฺเ ถุลฺลโกฏฺิกนิคเม รฏฺปาลเสฏฺิโน เคเห นิพฺพตฺติ, ตสฺส ภินฺนํ รฏฺํ สนฺธาเรตุํ สมตฺถกุเล นิพฺพตฺตตฺตา รฏฺปาโลติ วํสานุคตเมว นามํ อโหสิ. โส มหตา ปริวาเรน วฑฺฒนฺโต อนุกฺกเมน โยพฺพนปฺปตฺโต มาตาปิตูหิ ปติรูเปน ทาเรน สํโยชิโต มหนฺเต จ ยเส ปติฏฺาปิโต ทิพฺพสมฺปตฺติสทิสสมฺปตฺตึ ปจฺจนุโภติ.

อถ ภควา กุรุรฏฺเ ชนปทจาริกํ จรนฺโต ถุลฺลโกฏฺิกํ อนุปาปุณิ. ตํ สุตฺวา รฏฺปาโล กุลปุตฺโต สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตุกาโม สตฺตาหํ ภตฺตจฺเฉทํ กตฺวา กิจฺเฉน กสิเรน มาตาปิตโร อนุชานาเปตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิตฺวา สตฺถุ อาณตฺติยา อฺตรสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา โยนิโสมนสิกาเรน กมฺมํ กโรนฺโต วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. อรหตฺตํ ปน ปตฺวา สตฺถารํ อนุชานาเปตฺวา มาตาปิตโร ปสฺสิตุํ ถุลฺลโกฏฺิกํ คนฺตฺวา ตตฺถ สปทานํ ปิณฺฑาย จรนฺโต ปิตุ นิเวสเน อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ ลภิตฺวา ตํ อมตํ วิย ปริภุฺชนฺโต ปิตรา นิมนฺติโต สฺวาตนาย อธิวาเสตฺวา ทุติยทิวเส ปิตุ นิเวสเน ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิตฺวา อลงฺกตปฏิยตฺเต อิตฺถาคารชเน อุปคนฺตฺวา ‘‘กีทิสา นาม ตา, อยฺยปุตฺต, อจฺฉราโย, ยาสํ ตฺวํ เหตุ พฺรหฺมจริยํ จรสี’’ติอาทีนิ (ม. นิ. ๒.๓๐๑) วตฺวา ปโลภนกมฺมํ กาตุํ อารทฺเธ ตสฺสาธิปฺปายํ วิปริวตฺเตตฺวา อนิจฺจตาทิปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมํ กเถนฺโต –

‘‘ปสฺส จิตฺตกตํ พิมฺพํ, อรุกายํ สมุสฺสิตํ;

อาตุรํ พหุสงฺกปฺปํ, ยสฺส นตฺถิ ธุวํ ิติ.

‘‘ปสฺส จิตฺตกตํ รูปํ, มณินา กุณฺฑเลน จ;

อฏฺึ ตเจน โอนทฺธํ, สห วตฺเถหิ โสภติ.

‘‘อลตฺตกกตา ปาทา, มุขํ จุณฺณกมกฺขิตํ;

อลํ พาลสฺส โมหาย, โน จ ปารคเวสิโน.

‘‘อฏฺาปทกตา เกสา, เนตฺตา อฺชนมกฺขิตา;

อลํ พาลสฺส โมหาย, โน จ ปารคเวสิโน.

‘‘อฺชนีว นวา จิตฺตา, ปูติกาโย อลงฺกโต;

อลํ พาลสฺส โมหาย, โน จ ปารคเวสิโน.

‘‘โอทหิ มิคโว ปาสํ, นาสทา วาคุรํ มิโค;

ภุตฺวา นิวาปํ คจฺฉาม, กนฺทนฺเต มิคพนฺธเก.

‘‘ฉินฺโน ปาโส มิควสฺส, นาสทา วาคุรํ มิโค;

ภุตฺวา นิวาปํ คจฺฉาม, โสจนฺเต มิคลุทฺทเก’’ติ. (ม. นิ. ๒.๓๐๒; เถรคา. ๗๖๙-๗๗๕);

อิมา คาถาโย อภาสิ. อิมา คาถา วตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา รฺโ โกรพฺยสฺส มิคาชินวนุยฺยาเน มงฺคลสิลาปฏฺเฏ นิสีทิ. เถรสฺส กิร ปิตา สตฺตสุ ทฺวารโกฏฺเกสุ อคฺคฬํ ทาเปตฺวา มลฺเล อาณาเปสิ ‘‘นิกฺขมิตุํ มา เทถ, กาสายานิ อปเนตฺวา เสตกานิ นิวาสาเปถา’’ติ. ตสฺมา เถโร อากาเสน อคมาสิ. อถ ราชา โกรพฺโย เถรสฺส ตตฺถ นิสินฺนภาวํ สุตฺวา ตํ อุปสงฺกมิตฺวา สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา ‘‘อิธ, โภ รฏฺปาล, ปพฺพชนฺโต พฺยาธิปาริชุฺํ วา ชราโภคาติปาริชุฺํ วา ปตฺโต ปพฺพชติ, ตฺวํ ปน กิฺจิปิ ปาริชุฺํ อนุปคโต เอว กสฺมา ปพฺพชสี’’ติ ปุจฺฉิ. อถสฺส เถโร ‘‘อุปนิยฺยติ โลโก อทฺธุโว, อตาโณ โลโก อนภิสฺสโร, อสรโณ โลโก สพฺพํ ปหาย คมนียํ, อูโน โลโก อติตฺโต ตณฺหาทาโส’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๐๕) อิเมสํ จตุนฺนํ ธมฺมุทฺเทสานํ อตฺตนา วิทิตภาวํ กเถตฺวา ตสฺสา เทสนาย อนุคีตึ กเถนฺโต –

‘‘ปสฺสามิ โลเก สธเน มนุสฺเส, ลทฺธาน วิตฺตํ น ททนฺติ โมหา;

ลุทฺธา ธนํ สนฺนิจยํ กโรนฺติ, ภิยฺโยว กาเม อภิปตฺถยนฺติ.

‘‘ราชา ปสยฺหปฺปถวึ วิเชตฺวา, สสาครนฺตํ มหิมาวสนฺโต;

โอรํ สมุทฺทสฺส อติตฺตรูโป, ปารํ สมุทฺทสฺสปิ ปตฺถเยถ.

‘‘ราชา จ อฺเ จ พหู มนุสฺสา, อวีตตณฺหา มรณํ อุเปนฺติ;

อูนาว หุตฺวาน ชหนฺติ เทหํ, กาเมหิ โลกมฺหิ น หตฺถิ ติตฺติ.

‘‘กนฺทนฺติ นํ าตี ปกิริย เกเส, ‘อโห วตา โน อมรา’ติ จาหุ;

วตฺเถน นํ ปารุตํ นีหริตฺวา, จิตํ สโมธาย ตโต ฑหนฺติ.

‘‘โส ฑยฺหติ สูเลหิ ตุชฺชมาโน, เอเกน วตฺเถน ปหาย โภเค;

น มียมานสฺส ภวนฺติ ตาณา, าตี จ มิตฺตา อถ วา สหายา.

‘‘ทายาทกา ตสฺส ธนํ หรนฺติ, สตฺโต ปน คจฺฉติ เยน กมฺมํ;

น มียมานํ ธนมนฺเวติ กิฺจิ, ปุตฺตา จ ทารา จ ธนฺจ รฏฺํ.

‘‘น ทีฆมายุํ ลภเต ธเนน, น จาปิ วิตฺเตน ชรํ วิหนฺติ;

อปฺปํ หิทํ ชีวิตมาหุ ธีรา, อสสฺสตํ วิปฺปริณามธมฺมํ.

‘‘อฑฺฒา ทลิทฺทา จ ผุสนฺติ ผสฺสํ, พาโล จ ธีโร จ ตเถว ผุฏฺโ;

พาโล หิ พาลฺยา วธิโตว เสติ, ธีโร จ โน เวธติ ผสฺสผุฏฺโ.

‘‘ตสฺมา หิ ปฺาว ธเนน เสยฺยา, ยาย โวสานมิธาธิคจฺฉติ;

อพฺโยสิตตฺตา หิ ภวาภเวสุ, ปาปานิ กมฺมานิ กโรติ โมหา.

‘‘อุเปติ คพฺภฺจ ปรฺจ โลกํ, สํสารมาปชฺชปรมฺปราย;

ตสฺสปฺปปฺโ อภิสทฺทหนฺโต, อุเปติ คพฺภฺจ ปรฺจ โลกํ.

‘‘โจโร ยถา สนฺธิมุเข คหีโต, สกมฺมุนา หฺติ ปาปธมฺโม;

เอวํ ปชา เปจฺจ ปรมฺหิ โลเก, สกมฺมุนา หฺติ ปาปธมฺโม.

‘‘กามา หิ จิตฺรา มธุรา มโนรมา, วิรูปรูเปน มเถนฺติ จิตฺตํ;

อาทีนวํ กามคุเณสุ ทิสฺวา, ตสฺมา อหํ ปพฺพชิโตมฺหิ ราช.

‘‘ทุมปฺผลานีว ปตนฺติ มาณวา, ทหรา จ วุฑฺฒา จ สรีรเภทา;

เอตมฺปิ ทิสฺวาน ปพฺพชิโตมฺหิ ราช, อปณฺณกํ สามฺเมว เสยฺโย.

‘‘สทฺธายาหํ ปพฺพชิโต, อุเปโต ชินสาสเน;

อวฺฌา มยฺหํ ปพฺพชฺชา, อนโณ ภุฺชามิ โภชนํ.

‘‘กาเม อาทิตฺตโต ทิสฺวา, ชาตรูปานิ สตฺถโต;

คพฺภาโวกฺกนฺติโต ทุกฺขํ, นิรเยสุ มหพฺภยํ.

‘‘เอตมาทีนวํ ตฺวา, สํเวคํ อลภึ ตทา;

โสหํ วิทฺโธ ตทา สนฺโต, สมฺปตฺโต อาสวกฺขยํ.

‘‘ปริจิณฺโณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;

โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติ สมูหตา.

‘‘ยสฺสตฺถาย ปพฺพชิโต, อคารสฺมานคาริยํ;

โส เม อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, สพฺพสํโยชนกฺขโย’’ติ. (เถรคา. ๗๗๖-๗๙๓) –

อิมา คาถา อโวจ. เอวํ เถโร รฺโ โกรพฺยสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา สตฺถุ สนฺติกเมว คโต. สตฺถา จ อปรภาเค อริยคณมชฺเฌ นิสินฺโน เถรํ สทฺธาปพฺพชิตานํ อคฺคฏฺาเน เปสิ.

๙๗-๘. เอวํ โส เถโร ปตฺตเอตทคฺคฏฺาโน ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวา โสมนสฺสชาโต ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโตติอาทิมาห. วรนาโค มยา ทินฺโนติ ตสฺส ภควโต รูปกาเย ปสีทิตฺวา วโร อุตฺตโม เสฏฺโ อีสาทนฺโต รถีสาสทิสทนฺโต อุรูฬฺหวา ภารวโห ราชารโห วา. เสตจฺฉตฺโตปโสภิโตติ หตฺถิกฺขนฺเธ อุสฺสาปิตเสตจฺฉตฺเตน อุปเสวิโต โสภมาโน. ปุนปิ กึ วิสิฏฺโ วรนาโค? สกปฺปโน หตฺถาลงฺการสหิโต. สงฺฆารามํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส วสนตฺถาย อารามํ วิหารํ อการยึ กาเรสึ.

๙๙. จตุปฺาสสหสฺสานีติ ตสฺมึ การาปิเต วิหารพฺภนฺตเร จตุปฺาสสหสฺสานิ ปาสาทานิ จ อหํ อการยึ กาเรสินฺติ อตฺโถ. มโหฆทานํ กริตฺวานาติ สพฺพปริกฺขารสหิตํ มโหฆสทิสํ มหาทานํ สชฺเชตฺวา มเหสิโน มุนิโน นิยฺยาเทสินฺติ อตฺโถ.

๑๐๐. อนุโมทิ มหาวีโรติ จตุราสงฺขฺเยยฺยสตสหสฺเสสุ กปฺเปสุ อพฺโพจฺฉินฺนอุสฺสาหสงฺขาเตน วีริเยน มหาวีโร สยมฺภู สยเมว ภูโต ชาโต ลทฺธสพฺพฺุตฺาโณ อคฺโค เสฏฺโ ปุคฺคโล อนุโมทิ วิหารานุโมทนํ อกาสิ. สพฺเพ ชเน หาสยนฺโตติ สกลานนฺตาปริมาเณ เทวมนุสฺเส หาสยนฺโต สนฺตุฏฺเ กุรุมาโน อมตนิพฺพานปฏิสํยุตฺตํ จตุสจฺจธมฺมเทสนํ เทเสสิ ปกาเสสิ วิวริ วิภชิ อุตฺตานี อกาสีติ อตฺโถ.

๑๐๑. ตํเม วิยากาสีติ ตํ มยฺหํ กตปุฺํ พลํ วิเสเสน ปากฏํ อกาสิ. ชลชุตฺตมนามโกติ ชเล ชาตํ ชลชํ ปทุมํ, ปทุมุตฺตรนามโกติ อตฺโถ. ‘‘ชลนุตฺตมนายโก’’ติปิ ปาโ. ตตฺถ อตฺตโน ปภาย ชลนฺตีติ ชลนา, จนฺทิมสูริยเทวพฺรหฺมาโน, เตสํ ชลนานํ อุตฺตโมติ ชลนุตฺตโม. สพฺพสตฺตานํ นายโก อุตฺตโมติ นายโก, สมฺภารวนฺเต สตฺเต นิพฺพานํ เนติ ปาเปตีติ วา นายโก, ชลนุตฺตโม จ โส นายโก จาติ ชลนุตฺตมนายโก. ภิกฺขุสงฺเฆ นิสีทิตฺวาติ ภิกฺขุสงฺฆสฺส มชฺเฌ นิสินฺโน อิมา คาถา อภาสถ ปากฏํ กตฺวา กเถสีติ อตฺโถ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

รฏฺปาลตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.

๙. โสปากตฺเถรอปทานวณฺณนา

ปพฺภารํ โสธยนฺตสฺสาติอาทิกํ อายสฺมโต โสปากตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปุฺานิ อุปจินนฺโต สิทฺธตฺถสฺส ภควโต กาเล อฺตรสฺส กุฏุมฺพิกสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. เอกทิวสํ สตฺถารํ ทิสฺวา พีชปูรผลานิ สตฺถุ อุปเนสิ, ปริภุฺชิ ภควา ตสฺสานุกมฺปํ อุปาทาย. โส ภิกฺขุ สตฺถริ สงฺเฆ จ อภิปฺปสนฺโน สลากภตฺตํ ปฏฺเปตฺวา สงฺฆุทฺเทสวเสน ติณฺณํ ภิกฺขูนํ ยาวตายุกํ ขีรภตฺตํ อทาสิ. โส เตหิ ปุฺเหิ อปราปรํ เทวมนุสฺเสสุ สมฺปตฺติโย อนุภวนฺโต เอกทา มนุสฺสโยนิยํ นิพฺพตฺโต เอกสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส ขีรภตฺตํ อทาสิ.

เอวํ ตตฺถ ตตฺถ ปุฺานิ กตฺวา สุคตีสุเยว ปริพฺภมนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ปุริมกมฺมนิสฺสนฺเทน สาวตฺถิยํ อฺตราย ทุคฺคติตฺถิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. สา ตํ ทสมาเส กุจฺฉินา ปริหริตฺวา ปริปกฺเก คพฺเภ วิชายนกาเล วิชายิตุํ อสกฺโกนฺตี มุจฺฉํ อาปชฺชิตฺวา พหุเวลํ มตา วิย นิปชฺชิ. าตกา ‘‘มตา’’ติ สฺาย สุสานํ เนตฺวา จิตกํ อาโรเปตฺวา เทวตานุภาเวน วาตวุฏฺิยา อุฏฺิตาย อคฺคึ อทตฺวา ปกฺกมึสุ. ทารโก ปจฺฉิมภวิกตฺตา เทวตานุภาเวเนว อโรโค หุตฺวา มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมิ. มาตา ปน กาลมกาสิ. เทวตา มนุสฺสรูเปนุปคมฺม ตํ คเหตฺวา สุสานโคปกสฺส เคเห เปตฺวา กติปาหํ กาลํ ปติรูเปน อาหาเรน โปเสสิ. ตโต ปรํ สุสานโคปโก อตฺตโน ปุตฺตํ กตฺวา วฑฺเฒสิ. โส ตถา วฑฺเฒนฺโต ตสฺส ปุตฺเตน สุปฺปิเยน นาม ทารเกน สทฺธึ กีฬนฺโต วิจริ. ตสฺส สุสาเน ชาตสํวฑฺฒภาวโต โสปาโกติ สมฺา อโหสิ.

อเถกทิวสํ สตฺตวสฺสิกํ ตํ ภควา ปจฺจูสเวลายํ าณชาลํ ปตฺถริตฺวา เวเนยฺยพนฺธเว โอโลเกนฺโต าณชาลสฺส อนฺโตคตํ ทิสฺวา สุสานฏฺานํ อคมาสิ. ทารโก ปุพฺพเหตุนา โจทิยมาโน ปสนฺนมานโส สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. สตฺถา ตสฺส ธมฺมํ กเถสิ. โส ธมฺมํ สุตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิตฺวา ปิตรา ‘‘อนุฺาโตสี’’ติ วุตฺโต ปิตรํ สตฺถุ สนฺติกํ อาเนสิ. ตสฺส ปิตา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ‘‘อิมํ ทารกํ ปพฺพาเชถ, ภนฺเต’’ติ อนุชานิ, ตํ ปพฺพาเชตฺวา ภควา เมตฺตาภาวนาย นิโยเชสิ. โส เมตฺตากมฺมฏฺานํ คเหตฺวา สุสาเน วิหรนฺโต นจิรสฺเสว เมตฺตาฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ. อรหา หุตฺวาปิ อฺเสํ โสสานิกภิกฺขูนํ เมตฺตาภาวนาวิธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถาปิ เอกปุตฺตสฺมิ’’นฺติ (เถรคา. ๓๓) คาถํ อภาสิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา เอกปุตฺตเก ปิเย มนาเป มาตา ปิตา จ กุสลี เอกนฺตหิเตสี ภเวยฺย, เอวํ ปุรตฺถิมาทิเภทาสุ สพฺพาสุ ทิสาสุ กามภวาทิเภเทสุ วา สพฺเพสุ ภเวสุ ทหราทิเภทาสุ สพฺพาสุ อวตฺถาสุปิ ิเตสุ สพฺเพสุ สตฺเตสุ เอกนฺตหิเตสิตาย กุสลี ภเวยฺย ‘‘มิตฺโต, อุทาสิโน, ปจฺจตฺถิโก’’ติ สีมํ อกตฺวา สีมาย สมฺเภทวเสน สพฺพตฺถ เอกรสํ เมตฺตํ ภาเวยฺยาติ อิมํ ปน คาถํ วตฺวา ‘‘สเจ ตุมฺเห อายสฺมนฺโต เอวํ เมตฺตํ ภาเวยฺยาถ, เย เต ภควตา ‘สุขํ สุปตี’ติอาทินา (อ. นิ. ๑๑.๑๕; ปริ. ๓๓๑; มิ. ป. ๔.๔.๖) เอกาทส เมตฺตานิสํสา จ วุตฺตา, เอกํเสน เตสํ ภาคิโน ภวถา’’ติ โอวาทํ อทาสิ.

๑๑๒. เอวํ โส ปตฺตผลาธิคโม อตฺตโน กตปุฺํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา สฺชาตโสมนสฺโส ปุพฺพจริตาปทานํ ทสฺเสนฺโต ปพฺภารํ โสธยนฺตสฺสาติอาทิมาห. ตตฺถ ปพฺภารนฺติ สิลาปพฺพตสฺส วิเวกฏฺานํ, ตํ ปพฺพชิตานุรูปตฺตา อิฏฺกปาการํ กตฺวา ทฺวารกวาฏํ โยเชตฺวา ภิกฺขูนํ วสนตฺถาย อทาสิ, ปกาเรน ภโร ปตฺเถตพฺโพติ ปพฺภาโร, ตํ โสธยนฺตสฺส มม สนฺติกํ สิทฺธตฺโถ นาม ภควา อาคจฺฉิ ปาปุณิ.

๑๑๓. พุทฺธํ อุปคตํ ทิสฺวาติ เอวํ มม สนฺติกํ อาคตํ ทิสฺวา ตาทิโน อิฏฺานิฏฺเสุ อกมฺปิยสภาวตฺตา ตาทิคุณยุตฺตสฺส โลกเชฏฺสฺส พุทฺธสฺส สนฺถรํ ติณปณฺณาทิสนฺถรํ กฏฺตฺถรํ ปฺาเปตฺวา นิฏฺาเปตฺวา ปุปฺผาสนํ ปุปฺผมยํ อาสนํ อหํ อทาสึ.

๑๑๔. ปุปฺผาสเนนิสีทิตฺวาติ ตสฺมึ ปฺตฺเต ปุปฺผาสเน นิสีทิตฺวา โลกนายโก สิทฺธตฺโถ ภควา. มมฺจ คติมฺายาติ มยฺหํ คตึ อายตึ อุปฺปตฺติฏฺานํ อฺาย ชานิตฺวา อนิจฺจตํ อนิจฺจภาวํ อุทาหริ กเถสิ.

๑๑๕. อนิจฺจา วต สงฺขาราติ วต เอกนฺเตน สงฺขารา ปจฺจเยหิ สเมจฺจ สมาคนฺตฺวา กรียมานา สพฺเพ สปฺปจฺจยธมฺมา หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจา. อุปฺปาทวยธมฺมิโนติ อุปฺปชฺชิตฺวา วินสฺสนสภาวา อุปฺปชฺชิตฺวา ปาตุภวิตฺวา เอเต สงฺขารา นิรุชฺฌนฺติ วินสฺสนฺตีติ อตฺโถ. เตสํ วูปสโม สุโขติ เตสํ สงฺขารานํ วิเสเสน อุปสโม สุโข, เตสํ วูปสมกรํ นิพฺพานเมว เอกนฺตสุขนฺติ อตฺโถ.

๑๑๖. อิทํ วตฺวาน สพฺพฺูติ สพฺพธมฺมชานนโก ภควา โลกานํ เชฏฺโ วุฑฺโฒ นรานํ อาสโภ ปธาโน วีโร อิทํ อนิจฺจปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมเทสนํ วตฺวาน กเถตฺวา อมฺพเร อากาเส หํสราชา อิว นภํ อากาสํ อพฺภุคฺคมีติ สมฺพนฺโธ.

๑๑๗. สกํ ทิฏฺึ อตฺตโน ลทฺธึ ขนฺตึ รุจึ อชฺฌาสยํ ชหิตฺวาน ปหาย. ภาวยานิจฺจสฺหนฺติ อนิจฺเจ อนิจฺจนฺติ ปวตฺตสฺํ อหํ ภาวยึ วฑฺเฒสึ มนสิ อกาสึ. ตตฺถ กาลํ กโต อหนฺติ ตตฺถ ติสฺสํ ชาติยํ ตโต ชาติโต อหํ กาลํ กโต มโต.

๑๑๘. ทฺเวสมฺปตฺตี อนุโภตฺวาติ มนุสฺสสมฺปตฺติทิพฺพสมฺปตฺติสงฺขาตา ทฺเว สมฺปตฺติโย อนุภวิตฺวา. สุกฺกมูเลน โจทิโตติ ปุราณกุสลมูเลน, มูลภูเตน กุสเลน วา โจทิโต สฺโจทิโต. ปจฺฉิเม ภเว สมฺปตฺเตติ ปริโยสาเน ภเว สมฺปตฺเต ปาปุณิเต. สปากโยนุปาคมินฺติ สกํ ปจิตภตฺตํ สปากํ โยนึ อุปาคมึ. ยสฺส กุลสฺส อตฺตโน ปจิตภตฺตํ อฺเหิ อภุฺชนียํ, ตสฺมึ จณฺฑาลกุเล นิพฺพตฺโตสฺมีติ อตฺโถ. อถ วา สา วุจฺจติ สุนโข, สุนโขจฺฉิฏฺภตฺตภุฺชนกจณฺฑาลกุเล ชาโตติ อตฺโถ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

โสปากตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.

๑๐. สุมงฺคลตฺเถรอปทานวณฺณนา

อาหุตึยิฏฺุกาโมติอาทิกํ อายสฺมโต สุมงฺคลตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปายสฺมา ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปุฺานิ อุปจินนฺโต ปิยทสฺสิสฺส ภควโต กาเล รุกฺขเทวตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. โส เอกทิวสํ สตฺถารํ นฺหตฺวา เอกจีวรํ ิตํ ทิสฺวา โสมนสฺสปฺปตฺโต อปฺโผเฏสิ. โส เตน ปุฺเน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยา อวิทูเร อฺตรสฺมึ คามเก ตาทิเสน กมฺมนิสฺสนฺเทน ทลิทฺทกุเล นิพฺพตฺติ, ตสฺส สุมงฺคโลติ นามํ อโหสิ. โส วยปฺปตฺโต ขุชฺชกาสิตนงฺคลกุทฺทาลปริกฺขาโร หุตฺวา กสิยา ชีวิกํ กปฺเปสิ. โส เอกทิวสํ รฺา ปเสนทินา โกสเลน ภควโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ มหาทาเน ปวตฺติยมาเน ทานูปกรณานิ คเหตฺวา อาคจฺฉนฺเตหิ มนุสฺเสหิ สทฺธึ ทธิฆฏํ คเหตฺวา อาคโต ภิกฺขูนํ สกฺการสมฺมานํ ทิสฺวา ‘‘อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา สุขุมวตฺถนิวตฺถา สุโภชนานิ ภุฺชิตฺวา นิวาเตสุ เสนาสเนสุ วิหรนฺติ, ยํนูนาหมฺปิ ปพฺพเชยฺย’’นฺติ จินฺเตตฺวา อฺตรํ มหาเถรํ อุปสงฺกมิตฺวา อตฺตโน ปพฺพชาธิปฺปายํ นิเวเทสิ. โส ตํ กรุณายนฺโต ปพฺพาเชตฺวา กมฺมฏฺานํ อาจิกฺขิ. โส อรฺเ วิหรนฺโต เอกกวิหาเร นิพฺพินฺโน อุกฺกณฺิโต หุตฺวา วิพฺภมิตุกาโม าติคามํ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค กจฺฉํ พนฺธิตฺวา เขตฺตํ กสนฺเต กิลิฏฺวตฺถนิวตฺเถ สมนฺตโต รโชกิณฺณสรีเร วาตาตเปน สุสฺสนฺเต เขตฺตํ กสฺสเก มนุสฺเส ทิสฺวา ‘‘มหนฺตํ วติเม สตฺตา ชีวิกนิมิตฺตํ ทุกฺขํ ปจฺจนุภวนฺตี’’ติ สํเวคํ ปฏิลภิ. าณสฺส ปริปากคตตฺตา จสฺส ยถาคหิตํ กมฺมฏฺานํ อุปฏฺาสิ. โส อฺตรํ รุกฺขมูลํ อุปคนฺตฺวา วิเวกํ ลภิตฺวา โยนิโสมนสิกโรนฺโต วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา มคฺคปฏิปาฏิยา อรหตฺตํ ปาปุณิ.

๑๒๔. เอวํ โส ปตฺตอรหตฺตผโล อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวา โสมนสฺสวเสน ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต อาหุตึ ยิฏฺุกาโมหนฺติอาทิมาห. ตตฺถ อาหุตินฺติ อนฺนปานาทิอเนกวิธํ ปูชาสกฺการูปกรณํ. ยิฏฺุกาโมติ ยชิตุกาโม, ทานํ ทาตุกาโม อหํ. ปฏิยาเทตฺวาน โภชนนฺติ อาหารํ ปฏิยาเทตฺวา นิปฺผาเทตฺวา. พฺราหฺมเณ ปฏิมาเนนฺโตติ ปฏิคฺคาหเก สุทฺธปพฺพชิเต ปริเยสนฺโต. วิสาเล มาฬเก ิโตติ ปริสุทฺธปณฺฑรปุลินตลาภิราเม วิปุเล มาฬเก ิโต.

๑๒๕-๗. อถทฺทสาสึ สมฺพุทฺธนฺติอาทีสุ มหายสํ มหาปริวารํ สพฺพโลกํ สกลสตฺตโลกํ วิเนตานํ วิเสเสน เนตารํ นิพฺพานสมฺปาปกํ สยมฺภุํ สยเมว ภูตํ อนาจริยกํ อคฺคปุคฺคลํ เสฏฺปุคฺคลํ ภควนฺตํ ภคฺยวนฺตาทิคุณยุตฺตํ ชุติมนฺตํ นีลปีตาทิปภาสมฺปนฺนํ สาวเกหิ ปุรกฺขตํ ปริวาริตํ อาทิจฺจมิว สูริยมิว โรจนฺตํ โสภมานํ รถิยํ วีถิยํ ปฏิปนฺนกํ คจฺฉนฺตํ ปิยทสฺสึ นาม สมฺพุทฺธํ อทฺทสินฺติ สมฺพนฺโธ. อฺชลึ ปคฺคเหตฺวานาติ พนฺธฺชลิปุฏํ สิรสิ กตฺวา สกํ จิตฺตํ อตฺตโน จิตฺตํ ปสาทยึ อิตฺถมฺภูตสฺส ภควโต คุเณ ปสาเทสึ ปสนฺนมกาสินฺติ อตฺโถ. มนสาว นิมนฺเตสินฺติ จิตฺเตน ปวาเรสึ. อาคจฺฉตุ มหามุนีติ มหิโต ปูชารโห มุนิ ภควา มม นิเวสนํ อาคจฺฉตุ.

๑๒๘. มม สงฺกปฺปมฺายาติ มยฺหํ จิตฺตสงฺกปฺปํ ตฺวา โลเก สตฺตโลเก อนุตฺตโร อุตฺตรวิรหิโต สตฺถา ขีณาสวสหสฺเสหิ อรหนฺตสหสฺเสหิ ปริวุโต มม ทฺวารํ มยฺหํ เคหทฺวารํ อุปาคมิ สมฺปาปุณิ.

๑๒๙. ตสฺส สมฺปตฺตสฺส สตฺถุโน เอวํ นมกฺการมกาสึ. ปุริสาชฺ ปุริสานํ อาชฺ, เสฏฺ, มม นมกฺกาโร เต ตุยฺหํ อตฺถุ ภวตุ. ปุริสุตฺตม ปุริสานํ อุตฺตม อธิกคุณวิสิฏฺ เต ตุยฺหํ มม นมกฺกาโร อตฺถุ. ปาสาทํ ปสาทชนกํ มม นิเวสนํ อภิรุหิตฺวา สีหาสเน อุตฺตมาสเน นิสีทตนฺติ อายาจินฺติ อตฺโถ.

๑๓๐. ทนฺโต ทนฺตปริวาโรติ สยํ ทฺวารตฺตเยน ทนฺโต ตถา ทนฺตาหิ ภิกฺขุภิกฺขุนีอุปาสกอุปาสิกาสงฺขาตาหิ จตูหิ ปริสาหิ ปริวาริโต. ติณฺโณ ตารยตํ วโรติ สยํ ติณฺโณ สํสารโต อุตฺติณฺโณ นิกฺขนฺโต ตารยตํ ตารยนฺตานํ วิสิฏฺปุคฺคลานํ วโร อุตฺตโม ภควา มมาราธเนน ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ปวราสเน อุตฺตมาสเน นิสีทิ นิสชฺชํ กปฺเปสิ.

๑๓๑. ยํ เม อตฺถิ สเก เคเหติ อตฺตโน เคเห ยํ อามิสํ ปจฺจุปฏฺิตํ สมฺปาทิตํ ราสิกตํ อตฺถิ. ตาหํ พุทฺธสฺส ปาทาสินฺติ พุทฺธสฺส พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ตํ อามิสํ ปาทาสึ ป-กาเรน อาทเรน วา อทาสินฺติ อตฺโถ. ปสนฺโน เสหิ ปาณิภีติ อตฺตโน ทฺวีหิ หตฺเถหิ ปสฺสนฺนจิตฺโต คเหตฺวา ปาทาสินฺติ อตฺโถ.

๑๓๒. ปสนฺนจิตฺโต ปสาทิตมนสงฺกปฺโป สุมโน สุนฺทรมโน. เวทชาโต ชาตเวโท อุปฺปนฺนโสมนสฺโส กตฺชลี สิรสิ ปิตอฺชลิปุโฏ พุทฺธเสฏฺํ นมสฺสามิ เสฏฺสฺส พุทฺธสฺส ปณามํ กโรมีติ อตฺโถ. อโห พุทฺธสฺสุฬารตาติ ปฏิวิทฺธจตุสจฺจสฺส สตฺถุโน อุฬารตา มหนฺตภาโว อโห อจฺฉริยนฺติ อตฺโถ.

๑๓๓. อฏฺนฺนํปยิรูปาสตนฺติ ปยิรุปาสนฺตานํ ภุฺชํ ภุฺชนฺตานํ อฏฺนฺนํ อริยปุคฺคลานํ อนฺตเร ขีณาสวา อรหนฺโตว พหูติ อตฺโถ. ตุยฺเหเวโส อานุภาโวติ เอโส อากาสจรณอุมฺมุชฺชนนิมุชฺชนาทิอานุภาโว ตุยฺเหว ตุยฺหํ เอว อานุภาโว, นาฺเสํ. สรณํ ตํ อุเปมหนฺติ ตํ อิตฺถมฺภูตํ ตุวํ สรณํ ตาณํ เลณํ ปรายนนฺติ อุเปมิ คจฺฉามิ ชานามิ วาติ อตฺโถ.

๑๓๔. โลกเชฏฺโ นราสโภ ปิยทสฺสี ภควา ภิกฺขุสงฺฆมชฺเฌ นิสีทิตฺวา อิมา พฺยากรณคาถา อภาสถ กเถสีติ อตฺโถ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.

สุมงฺคลตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.

ทุติยสฺส สีหาสนวคฺคสฺส วณฺณนา สมตฺตา.