📜
๔. กุณฺฑธานวคฺโค
๑. กุณฺฑธานตฺเถรอปทานวณฺณนา
สตฺตาหํ ¶ ปฏิสลฺลีนนฺติอาทิกํ อายสฺมโต กุณฺฑธานตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปฺุานิ อุปจินนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺโต วุตฺตนเยน ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ ปมํ สลากํ คณฺหนฺตานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา ตํ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา ตทนุรูปํ ปฺุํ กโรนฺโต วิจริ. โส เอกทิวสํ ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต นิโรธสมาปตฺติโต วุฏฺาย นิสินฺนสฺส มโนสิลาจุณฺณปิฺชรํ มหนฺตํ กทลิผลกณฺณิกํ อุปเนสิ, ตํ ภควา ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิ. โส เตน ปฺุกมฺเมน เอกาทสกฺขตฺตุํ เทเวสุ เทวรชฺชํ กาเรสิ. จตุวีสติวาเร จ ราชา อโหสิ จกฺกวตฺตี.
โส ¶ เอวํ อปราปรํ ปฺุานิ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต กสฺสปพุทฺธกาเล ภุมฺมเทวตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ทีฆายุกพุทฺธานฺจ นาม น อนฺวทฺธมาสิโก อุโปสโถ โหติ. ตถา หิ วิปสฺสิสฺส ภควโต ฉพฺพสฺสนฺตเร ฉพฺพสฺสนฺตเร อุโปสโถ อโหสิ, กสฺสปทสพโล ปน ฉฏฺเ ฉฏฺเ มาเส ปาติโมกฺขํ โอสาเรสิ, ตสฺส ปาติโมกฺขสฺส โอสารณกาเล ทิสาวาสิกา ทฺเว สหายกา ภิกฺขู ‘‘อุโปสถํ กริสฺสามา’’ติ คจฺฉนฺติ. อยํ ภุมฺมเทวตา จินฺเตสิ – ‘‘อิเมสํ ทฺวินฺนํ ¶ ภิกฺขูนํ เมตฺติ อติวิย ทฬฺหา, กึ นุ โข เภทเก สติ ภิชฺเชยฺย, น ภิชฺเชยฺยา’’ติ. เตสํ โอกาสํ โอโลกยมานา เตสํ อวิทูเร คจฺฉติ.
อเถโก เถโร เอกสฺส หตฺเถ ปตฺตจีวรํ ทตฺวา สรีรวฬฺชนตฺถํ อุทกผาสุกฏฺานํ คนฺตฺวา โธตหตฺถปาโท หุตฺวา คุมฺพสมีปโต นิกฺขมติ. ภุมฺมเทวตา ตสฺส เถรสฺส ปจฺฉโต ปจฺฉโต อุตฺตมรูปา อิตฺถี หุตฺวา เกเส วิธุนิตฺวา สํวิธาย พนฺธนฺตี วิย ปิฏฺิยํ ปํสุํ ปฺุฉมานา วิย สาฏกํ สํวิธาย นิวาสยมานา วิย จ หุตฺวา เถรสฺส ปทานุปทิกา หุตฺวา คุมฺพโต นิกฺขนฺตา ¶ . เอกมนฺเต ิโต สหายกตฺเถโร ตํ การณํ ทิสฺวาว โทมนสฺสชาโต ‘‘นฏฺโ ทานิ เม อิมินา ภิกฺขุนา สทฺธึ ทีฆรตฺตานุคโต สิเนโห, สจาหํ เอวํวิธภาวํ ชาเนยฺยํ, เอตฺตกํ กาลํ อิมินา สทฺธึ วิสฺสาสํ น กเรยฺย’’นฺติ จินฺเตตฺวา อาคจฺฉนฺตํเยว นํ ‘‘คณฺหาหาวุโส, ตุยฺหํ ปตฺตจีวรํ, ตาทิเสน ปาเปน สทฺธึ เอกมคฺเคน น คจฺฉามี’’ติ อาห. ตํ กถํ สุตฺวา ตสฺส ลชฺชิภิกฺขุโน หทยํ ติขิณสตฺตึ คเหตฺวา วิทฺธํ วิย อโหสิ. ตโต นํ อาห – ‘‘อาวุโส, กินฺนาเมตํ วทสิ, อหํ เอตฺตกํ กาลํ ทุกฺกฏมตฺตมฺปิ อาปตฺตึ น ชานามิ, ตฺวํ ปน มํ อชฺช ‘ปาโป’ติ วทสิ, กึ เต ทิฏฺนฺติ, กึ อฺเน ทิฏฺเน, กึ ตฺวํ เอวํวิเธน อลงฺกตปฏิยตฺเตน มาตุคาเมน สทฺธึ เอกฏฺาเน หุตฺวา นิกฺขนฺโต’’ติ? ‘‘นตฺเถตํ, อาวุโส, มยฺหํ, นาหํ เอวรูปํ มาตุคามํ ปสฺสามี’’ติ ตสฺส ยาวตติยํ กเถนฺตสฺสาปิ อิตโร เถโร กถํ อสทฺทหิตฺวา อตฺตนา ทิฏฺการณํเยว ภูตตฺตํ กตฺวา คณฺหนฺโต เตน สทฺธึ เอกมคฺเคน อคนฺตฺวา อฺเน มคฺเคน สตฺถุ สนฺติกํ คโต. อิตโรปิ ภิกฺขุ อฺเน มคฺเคน สตฺถุ สนฺติกํเยว คโต.
ตโต ¶ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อุโปสถาคารํ ปวิสนเวลาย โส ภิกฺขุ ตํ ภิกฺขุํ อุโปสถคฺเค ทิสฺวา สฺชานิตฺวา ‘‘อิมสฺมึ อุโปสถคฺเค เอวรูโป นาม ปาปภิกฺขุ อตฺถิ, นาหํ เตน สทฺธึ อุโปสถํ กริสฺสามี’’ติ นิกฺขมิตฺวา พหิ อฏฺาสิ. อถ ภุมฺมเทวตา ‘‘ภาริยํ มยา กมฺมํ กต’’นฺติ มหลฺลกอุปาสกวณฺเณน ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา – ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, อยฺโย อิมสฺมึ าเน ิโต’’ติ อาห. ‘‘อุปาสก, อิมํ อุโปสถคฺคํ เอโก ปาปภิกฺขุ ปวิฏฺโ, ‘อหํ เตน สทฺธึ อุโปสถํ น กโรมี’ติ พหิ ิโตมฺหี’’ติ. ‘‘ภนฺเต, มา เอวํ คณฺหถ, ปริสุทฺธสีโล เอส ภิกฺขุ, ตุมฺเหหิ ทิฏฺมาตุคาโม นาม อหํ. มยา ตุมฺหากํ วีมํสนตฺถาย ¶ ‘ทฬฺหา นุ โข อิเมสํ เถรานํ เมตฺติ, โน ทฬฺหา’ติ ภิชฺชนาภิชฺชนภาวํ โอโลเกนฺเตน ตํ กมฺมํ กต’’นฺติ. ‘‘โก ปน ตฺวํ, สปฺปุริสา’’ติ? ‘‘อหํ เอกา ภุมฺมเทวตา, ภนฺเต’’ติ. เทวปุตฺโต กเถนฺโตเยว ทิพฺพานุภาเวน ตฺวา เถรสฺส ปาทมูเล ปติตฺวา ‘‘มยฺหํ, ภนฺเต, ขมถ, เถรสฺส เอโส โทโส นตฺถิ, อุโปสถํ กโรถา’’ติ เถรํ ยาจิตฺวา อุโปสถคฺคํ ปเวเสสิ. โส เถโร อุโปสถํ ตาว เอกฏฺาเน อกาสิ. มิตฺตสนฺถววเสน ปน ปุน เตน สทฺธึ น เอกฏฺาเน วสิ. อิมสฺส เถรสฺส โทสํ น กเถสิ. อปรภาเค จุทิตกตฺเถโร ปน วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต อรหตฺตํ ปาปุณิ.
ภุมฺมเทวตา ตสฺส กมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน เอกํ พุทฺธนฺตรํ อปายโต น มุจฺจิตฺถ. สเจ ปน กาเลน กาลํ มนุสฺสตฺตํ อาคจฺฉติ, อฺเน เยน เกนจิ กโต โทโส ตสฺเสว อุปริ ปตติ. โส อมฺหากํ ภควโต อุปฺปนฺนกาเล สาวตฺถิยํ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติ, ธานมาณโวติสฺส นามํ ¶ อกํสุ. โส วยปฺปตฺโต ตโย เวเท อุคฺคณฺหิตฺวา มหลฺลกกาเล สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ สาสเน ปพฺพชิ. ตสฺส อุปสมฺปนฺนทิวสโต ปฏฺาย เอกา อลงฺกตปฏิยตฺตา อิตฺถี ตสฺมึ คามํ ปวิสนฺเต สทฺธึเยว ปวิสติ, นิกฺขมนฺเต นิกฺขมติ, วิหารํ ปวิสนฺเตปิ สทฺธึ ปวิสติ, ติฏฺนฺเตปิ ติฏฺตีติ เอวํ นิจฺจานุพนฺธา ปฺายติ. เถโร ตํ น ปสฺสติ. ตสฺส ปน ปุริมกมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน สา อฺเสํ อุปฏฺาสิ.
คาเม ¶ ยาคุภิกฺขํ ททมานา อิตฺถิโย, ‘‘ภนฺเต, อยํ เอโก ยาคุอุฬุงฺโก ตุมฺหากํ, เอโก อิมิสฺสา อมฺหากํ สหายิกายา’’ติ ปริหาสํ กโรนฺติ. เถรสฺส มหตี วิเหสา โหติ. วิหารคตมฺปิ นํ สามเณรา เจว ทหรภิกฺขู จ ปริวาเรตฺวา ‘‘ธาโน โกณฺโฑ ชาโต’’ติ ปริหาสํ กโรนฺติ. อถสฺส เตเนว การเณน กุณฺฑธาโน เถโรติ นามํ ชาตํ. โส อุฏฺาย สมุฏฺาย เตหิ กริยมานํ เกฬึ สหิตุํ อสกฺโกนฺโต อุมฺมาทํ คเหตฺวา ‘‘ตุมฺเห โกณฺฑา, ตุมฺหากํ อุปชฺฌาโย โกณฺโฑ, อาจริโย โกณฺโฑ’’ติ วทติ. อถ นํ สตฺถุ อาโรเจสุํ – ‘‘กุณฺฑธาโน, ภนฺเต, ทหรสามเณเรหิ สทฺธึ เอวํ ผรุสวาจํ วทตี’’ติ. สตฺถา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ธาน, ทหรสามเณเรหิ สทฺธึ ผรุสวาจํ วทสี’’ติ ปุจฺฉิ. เตน ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติ วุตฺเต – ‘‘กสฺมา เอวํ วทสี’’ติ อาห. ‘‘ภนฺเต, นิพทฺธํ วิเหสํ สหิตุํ อสกฺโกนฺโต เอวํ กเถมี’’ติ ¶ . ‘‘ตฺวํ ปุพฺเพ กตกมฺมํ ยาวชฺชทิวสา ชีราเปตุํ น สกฺโกสิ, ปุน เอวํ ผรุสวาจํ มา วท ภิกฺขู’’ติ วตฺวา อาห –
‘‘มาโวจ ผรุสํ กฺจิ, วุตฺตา ปฏิวเทยฺยุ ตํ;
ทุกฺขา หิ สารมฺภกถา, ปฏิทณฺฑา ผุเสยฺยุ ตํ.
‘‘สเจ เนเรสิ อตฺตานํ, กํโส อุปหโต ยถา;
เอส ปตฺโตสิ นิพฺพานํ, สารมฺโภ เต น วิชฺชตี’’ติ. (ธ. ป. ๑๓๓-๑๓๔) –
อิมฺจ ปน ตสฺส เถรสฺส มาตุคาเมน สทฺธึ วิจรณภาวํ โกสลรฺโปิ กถยึสุ. ราชา ‘‘คจฺฉถ, ภเณ, นํ วีมํสถา’’ติ เปเสตฺวา สยมฺปิ มนฺเทเนว ปริวาเรน สทฺธึ เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา เอกมนฺเต โอโลเกนฺโต อฏฺาสิ. ตสฺมึ ขเณ เถโร สูจิกมฺมํ กโรนฺโต นิสินฺโน โหติ. สาปิ อิตฺถี อวิทูเร าเน ิตา วิย ปฺายติ.
ราชา ¶ ตํ ทิสฺวา ‘‘อตฺถิ ตํ การณ’’นฺติ ตสฺสา ิตฏฺานํ อคมาสิ. สา ตสฺมึ อาคจฺฉนฺเต เถรสฺส วสนปณฺณสาลํ ปวิฏฺา วิย อโหสิ. ราชาปิ ตาย สทฺธึ เอว ปณฺณสาลายํ ปวิสิตฺวา สพฺพตฺถ โอโลเกนฺโต อทิสฺวา ‘‘นายํ มาตุคาโม, เถรสฺส เอโก กมฺมวิปาโก’’ติ สฺํ กตฺวา ปมํ เถรสฺส สมีเปน คจฺฉนฺโตปิ เถรํ อวนฺทิตฺวา ตสฺส การณสฺส อภูตภาวํ ตฺวา ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺเต ¶ นิสินฺโน ‘‘กจฺจิ, ภนฺเต, ปิณฺฑเกน น กิลมถา’’ติ ปุจฺฉิ. เถโร ‘‘วฏฺฏติ, มหาราชา’’ติ อาห. ‘‘ชานามหํ, ภนฺเต, อยฺยสฺส กถํ, เอวรูเปนุปกฺกิเลเสน สทฺธึ จรนฺตานํ ตุมฺหากํ เก นาม ปสีทิสฺสนฺติ, อิโต ปฏฺาย โว กตฺถจิ คมนกิจฺจํ นตฺถิ. อหํ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺหิสฺสามิ, ตุมฺเห โยนิโสมนสิกาเร มา ปมชฺชิตฺถา’’ติ วตฺวา นิพทฺธภิกฺขํ ปฏฺเปสิ. เถโร ราชานํ อุปตฺถมฺภกํ ลภิตฺวา โภชนสปฺปาเยน เอกคฺคจิตฺโต หุตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. ตโต ปฏฺาย สา อิตฺถี อนฺตรธายิ.
ตทา มหาสุภทฺทา อุคฺคนคเร มิจฺฉาทิฏฺิกุเล วสมานา ‘‘สตฺถา มํ อนุกมฺปตู’’ติ อุโปสถงฺคํ อธิฏฺาย นิรามคนฺธา หุตฺวา อุปริปาสาทตเล ิตา ‘‘อิมานิ ปุปฺผานิ อนฺตเร อฏฺตฺวา ทสพลสฺส มตฺถเก วิตานํ หุตฺวา ติฏฺนฺตุ, ทสพโล อิมาย สฺาย สฺเว ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ มยฺหํ ภิกฺขํ คณฺหตู’’ติ สจฺจกิริยํ กตฺวา อฏฺ สุมนปุปฺผมุฏฺิโย วิสฺสชฺเชสิ. ปุปฺผานิ คนฺตฺวา ธมฺมเทสนาเวลาย สตฺถุ มตฺถเก วิตานํ หุตฺวา อฏฺํสุ. สตฺถา ตํ สุมนปุปฺผวิตานํ ทิสฺวา จิตฺเตเนว สุภทฺทาย ภิกฺขํ อธิวาเสตฺวา ปุนทิวเส อรุเณ อุฏฺิเต ¶ อานนฺทตฺเถรํ อาห – ‘‘อานนฺท, มยํ อชฺช ทูรํ ภิกฺขาจารํ คมิสฺสาม, ปุถุชฺชนานํ อทตฺวา อริยานํเยว สลากํ เทหี’’ติ. เถโร ภิกฺขูนํ อาโรเจสิ – ‘‘อาวุโส, สตฺถา อชฺช ทูรํ ภิกฺขาจารํ คมิสฺสติ. ปุถุชฺชนา มา คณฺหนฺตุ, อริยาว สลากํ คณฺหนฺตู’’ติ. กุณฺฑธานตฺเถโร – ‘‘อาหราวุโส, สลาก’’นฺติ ปมํเยว หตฺถํ ปสาเรสิ. อานนฺโท ‘‘สตฺถา ตาทิสานํ ภิกฺขูนํ สลากํ น ทาเปติ, อริยานํเยว ทาเปตี’’ติ วิตกฺกํ อุปฺปาเทตฺวา คนฺตฺวา สตฺถุ อาโรเจสิ. สตฺถา ‘‘อาหราเปนฺตสฺส สลากํ เทหี’’ติ อาห. เถโร จินฺเตสิ – ‘‘สเจ กุณฺฑธานสฺส สลากา ทาตุํ น ยุตฺตา, อถ สตฺถา ปฏิพาเหยฺย, ภวิสฺสติ เอตฺถ การณ’’นฺติ ‘‘กุณฺฑธานสฺส สลากํ ทสฺสามี’’ติ คมนํ อภินีหริ. กุณฺฑธาโน ตสฺส ปุราคมนา เอว อภิฺาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา อิทฺธิยา อากาเส ตฺวา ‘‘อาหราวุโส อานนฺท, สตฺถา มํ ชานาติ, มาทิสํ ภิกฺขุํ ปมํ สลากํ คณฺหนฺตํ น สตฺถา วาเรตี’’ติ หตฺถํ ปสาเรตฺวา สลากํ คณฺหิ. สตฺถา ตํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา เถรํ อิมสฺมึ สาสเน ปมํ สลากํ คณฺหนฺตานํ อคฺคฏฺาเน เปสิ. ยสฺมา ¶ อยํ เถโร ราชานํ อุปตฺถมฺภํ ลภิตฺวา สปฺปายาหารปฏิลาเภน ¶ สมาหิตจิตฺโต วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต อุปนิสฺสยสมฺปนฺนตาย ฉฬภิฺโ อโหสิ. เอวํภูตสฺสาปิ อิมสฺส เถรสฺส คุเณ อชานนฺตา เย ปุถุชฺชนา ภิกฺขู ‘‘อยํ ปมํ สลากํ คณฺหติ, กึ นุ โข เอต’’นฺติ วิมตึ อุปฺปาเทนฺติ. เตสํ ตํ วิมติวิธมนตฺถํ เถโร อากาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทสฺเสตฺวา อฺาปเทเสน อฺํ พฺยากโรนฺโต ‘‘ปฺจ ฉินฺเท’’ติ คาถํ อภาสิ.
๑. เอวํ โส ปูริตปฺุสมฺภารานุรูเปน อรหา หุตฺวา ปตฺตเอตทคฺคฏฺาโน อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวา โสมนสฺสวเสน ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต สตฺตาหํ ปฏิสลฺลีนนฺติอาทิมาห. ตตฺถ สตฺถาหํ สตฺตทิวสํ นิโรธสมาปตฺติวิหาเรน ปฏิสลฺลีนํ วิเวกภูตนฺติ อตฺโถ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
กุณฺฑธานตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.
๒. สาคตตฺเถรอปทานวณฺณนา
โสภิโต นาม นาเมนาติอาทิกํ อายสฺมโต สาคตตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปฺุานิ อุปจินนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต ¶ กาเล เอกสฺมึ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺโต สพฺพสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ ปตฺโต นาเมน โสภิโต นาม หุตฺวา ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย. โส เอกทิวสํ ปทุมุตฺตรํ ภควนฺตํ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณสิริยา โสภมานํ อุยฺยานทฺวาเรน คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อตีว ปสนฺนมานโส อเนเกหิ อุปาเยหิ อเนเกหิ คุณวณฺเณหิ โถมนํ อกาสิ. ภควา ตสฺส โถมนํ สุตฺวา ‘‘อนาคเต โคตมสฺส ภควโต สาสเน สาคโต นาม สาวโก ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากรณํ อทาสิ. โส ตโต ปฏฺาย ปฺุานิ กโรนฺโต ยาวตายุกํ ตฺวา ตโต จุโต เทวโลเก นิพฺพตฺโต. กปฺปสตสหสฺสเทวมนุสฺเสสุ อุภยสมฺปตฺติโย อนุภวิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท เอกสฺมึ กุลเคเห นิพฺพตฺโต. ตสฺส มาตาปิตโร ¶ โสมนสฺสํ วฑฺเฒนฺโต สุชาโต อาคโตติ สาคโตติ นามํ กรึสุ. โส สาสเน ปสีทิตฺวา ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต.
๑๗. เอวํ โส ปฺุสมฺภารานุรูเปน ปตฺตอรหตฺตผโล อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวา โสมนสฺสชาโต ¶ ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต โสภิโต นาม นาเมนาติอาทิมาห. ตตฺถ ตทา ปฺุสมฺภารสฺส ปริปูรณสมเย นาเมน โสภิโต นาม พฺราหฺมโณ อโหสินฺติ สมฺพนฺโธ.
๒๑. วิปถา อุทฺธริตฺวานาติ วิรุทฺธปถา กุมคฺคา, อุปฺปถา วา อุทฺธริตฺวา อปเนตฺวา. ปถํ อาจิกฺขเสติ, ภนฺเต, สพฺพฺุ ตุวํ ปถํ สปฺปุริสมคฺคํ นิพฺพานาธิคมนุปายํ อาจิกฺขเส กเถสิ เทเสสิ วิภชิ อุตฺตานึ อกาสีติ อตฺโถ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สาคตตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.
๓. มหากจฺจานตฺเถรอปทานวณฺณนา
ปทุมุตฺตรนาถสฺสาติอาทิกํ อายสฺมโต กจฺจานตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปฺุานิ อุปจินนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล คหปติมหาสาลกุลเคเห นิพฺพตฺเตตฺวา วุทฺธิปฺปตฺโต เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชนฺตานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ¶ ทิสฺวา สยมฺปิ ตํ านนฺตรํ ปตฺเถนฺโต ทานาทีนิ ปฺุานิ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต สุเมธสฺส ภควโต กาเล วิชฺชาธโร หุตฺวา อากาเสน คจฺฉนฺโต สตฺถารํ เอกสฺมึ วนสณฺเฑ นิสินฺนํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส กณิการปุปฺเผหิ ปูชํ อกาสิ.
โส เตน ปฺุกมฺเมน อปราปรํ สุคตีสุเยว ปริวตฺเตตฺวา กสฺสปทสพลสฺส กาเล พาราณสิยํ กุลฆเร นิพฺพตฺติตฺวา ปรินิพฺพุเต ภควติ สุวณฺณเจติยกรณฏฺานํ ทสสหสฺสคฺฆนิกาย สุวณฺณิฏฺกาย ปูชํ กตฺวา ‘‘ภควา มยฺหํ นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน สรีรํ สุวณฺณวณฺณํ โหตู’’ติ ปตฺถรํ อกาสิ. ตโต ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทวมนุสฺเสสุ ¶ สํสริตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท อุชฺเชนิยํ รฺโ จณฺฑปชฺโชตสฺส ปุโรหิตสฺส เคเห นิพฺพตฺติ, ตสฺส นามคฺคหณทิวเส มาตาปิตโร ‘‘อมฺหากํ ปุตฺโต สุวณฺณวณฺโณ อตฺตโน นามํ คเหตฺวา อาคโต’’ติ กฺจนมาณโวตฺเวว นามํ กรึสุ. โส วุทฺธิมนฺวาย ตโย เวเท อุคฺคณฺหิตฺวา ปิตุ อจฺจเยน ปุโรหิตฏฺานํ ลภิ. โส โคตฺตวเสน กจฺจาโนติ ปฺายิตฺถ.
ราชา จณฺฑปชฺโชโต พุทฺธุปฺปาทํ สุตฺวา, ‘‘อาจริย, ตฺวํ ตตฺถ คนฺตฺวา สตฺถารํ อิธาเนหี’’ติ ¶ เปเสสิ. โส อตฺตฏฺโม สตฺถุ สนฺติกํ อุปคโต. ตสฺส สตฺถา ธมฺมํ เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน โส สตฺตหิ ชเนหิ สทฺธึ สหปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺเต ปติฏฺาสิ. อถ สตฺถา ‘‘เอถ, ภิกฺขโว’’ติ หตฺถํ ปสาเรสิ. เต ตาวเทว ทฺวงฺคุลมตฺตเกสมสฺสุกา อิทฺธิมยปตฺตจีวรธรา วสฺสสฏฺิกตฺเถรา วิย อเหสุํ. เอวํ เถโร สทตฺถํ นิปฺผาเทตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ราชา ปชฺโชโต ตุมฺหากํ ปาเท วนฺทิตุํ ธมฺมฺจ โสตุํ อิจฺฉตี’’ติ สตฺถุ อาโรเจสิ. สตฺถา ‘‘ตฺวํเยว ภิกฺขุ ตตฺถ คจฺฉ, ตยิ คเตปิ ราชา ปสีทิสฺสตี’’ติ อาห. เถโร อตฺตฏฺโม ตตฺถ คนฺตฺวา ราชานํ ปสาเทตฺวา อวนฺตีสุ สาสนํ ปติฏฺาเปตฺวา ปุน สตฺถุ สนฺติกเมว คโต.
๓๑. เอวํ โส ปตฺตอรหตฺตผโล ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชนฺตานํ ยทิทํ มหากจฺจาโน’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๘, ๑๙๗) เอตทคฺคฏฺานํ ปตฺวา อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวา ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต ปทุมุตฺตรนาถสฺสาติอาทิมาห. ตตฺถ ปทุมํ นาม เจติยนฺติ ปทุเมหิ ฉาทิตตฺตา วา ปทุมากาเรหิ กตตฺตา วา ภควโต วสนคนฺธกุฏิวิหาโรว ปูชนียภาเวน เจติยํ, ยถา ‘‘โคตมกเจติยํ, อาฬวกเจติย’’นฺติ วุตฺเต เตสํ ยกฺขานํ นิวสนฏฺานํ ปูชนียฏฺานตฺตา ¶ เจติยนฺติ วุจฺจติ, เอวมิทํ ภควโต วสนฏฺานํ เจติยนฺติ วุจฺจติ, น ธาตุนิธายกเจติยนฺติ เวทิตพฺพํ. น หิ อปรินิพฺพุตสฺส ภควโต สรีรธาตูนํ อภาวา ธาตุเจติยํ อกริ. สิลาสนํ การยิตฺวาติ ตสฺสา ปทุมนามิกาย คนฺธกุฏิยา ปุปฺผาธารตฺถาย เหฏฺา ผลิกมยํ สิลาสนํ กาเรตฺวา. สุวณฺเณนาภิเลปยินฺติ ตํ สิลาสนํ ชมฺโพนทสุวณฺเณน อภิวิเสเสน เลปยึ ฉาเทสินฺติ อตฺโถ.
๓๒. รตนามยํ ¶ สตฺตหิ รตเนหิ กตํ ฉตฺตํ ปคฺคยฺห มุทฺธนิ ธาเรตฺวา วาฬพีชนิฺจ เสตปวรจามริฺจ ปคฺคยฺห พุทฺธสฺส อภิโรปยึ. โลกพนฺธุสฺส ตาทิโนติ สกลโลกพนฺธุสทิสสฺส ตาทิคุณสมงฺคิสฺส พุทฺธสฺส ธาเรสินฺติ อตฺโถ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
มหากจฺจานตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.
๔. กาฬุทายิตฺเถรอปทานวณฺณนา
ปทุมุตฺตรพุทฺธสฺสาติอาทิกํ อายสฺมโต กาฬุทายิตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ¶ ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปฺุานิ อุปจินนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺโต สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ กุลปฺปสาทกานํ ภิกฺขูนํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา ตชฺชํ อภินีหารํ กตฺวา ตํ านนฺตรํ ปตฺเถสิ.
โส ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อมฺหากํ โพธิสตฺตสฺส มาตุกุจฺฉิยํ ปฏิสนฺธิคฺคหณทิวเส กปิลวตฺถุสฺมึเยว อมจฺจเคเห ปฏิสนฺธึ คณฺหิ, โพธิสตฺเตน สทฺธึ เอกทิวสํเยว ชาโตติ ตํ ทิวสํเยว นํ ทุกูลจุมฺพฏเก นิปชฺชาเปตฺวา โพธิสตฺตสฺส อุปฏฺานตฺถาย นยึสุ. โพธิสตฺเตน หิ สทฺธึ โพธิรุกฺโข, ราหุลมาตา, จตฺตาโร นิธี, อาโรหนหตฺถี, อสฺสกณฺฑโก, อานนฺโท, ฉนฺโน, กาฬุทายีติ อิเม สตฺต เอกทิวเส ชาตตฺตา สหชาตา นาม อเหสุํ. อถสฺส นามคฺคหณทิวเส สกลนครสฺส อุทคฺคจิตฺตทิวเส ชาตตฺตา อุทายิตฺเวว นามํ อกํสุ. โถกํ กาฬธาตุกตฺตา ปน กาฬุทายีติ ปฺายิตฺถ. โส โพธิสตฺเตน สทฺธึ กุมารกีฬํ กีฬนฺโต วุทฺธึ อคมาสิ.
อปรภาเค โลกนาเถ มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา อนุกฺกเมน สพฺพฺุตํ ปตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺเก ราชคหํ อุปนิสฺสาย เวฬุวเน วิหรนฺเต สุทฺโธทนมหาราชา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ¶ ปุริสสหสฺสปริวารํ เอกํ ¶ อมจฺจํ ‘‘ปุตฺตํ เม อิธาเนหี’’ติ เปเสสิ. โส ธมฺมเทสนาเวลายํ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปริสปริยนฺเต ิโต ธมฺมํ สุตฺวา สปริวาโร อรหตฺตํ ปาปุณิ. อถ เน สตฺถา ‘‘เอถ, ภิกฺขโว’’ติ หตฺถํ ปสาเรสิ. สพฺเพ ตงฺขณฺเว อิทฺธิมยปตฺตจีวรธรา วสฺสสฏฺิกตฺเถรา วิย อเหสุํ. อรหตฺตปฺปตฺติโต ปฏฺาย ปน อริยา มชฺฌตฺตาว โหนฺติ. ตสฺมา รฺา ปหิตสาสนํ ทสพลสฺส น กเถสิ. ราชา ‘‘เนว คโต อาคจฺฉติ, น สาสนํ สุยฺยตี’’ติ อปรํ อมจฺจํ ปุริสสหสฺเสหิ เปเสสิ. ตสฺมิมฺปิ ตถา ปฏิปนฺเน อปรมฺปิ เปเสสีติ เอวํ นวหิ ปุริสสหสฺเสหิ สทฺธึ นว อมจฺเจ เปเสสิ. สพฺเพ อรหตฺตํ ปตฺวา ตุณฺหี อเหสุํ.
อถ ราชา จินฺเตสิ – ‘‘เอตฺตกา ชนา มยิ สิเนหาภาเวน ทสพลสฺส อิธาคมนตฺถาย น กิฺจิ กถยึสุ, อยํ โข อุทายิ ทสพเลน สมวโย, สหปํสุกีฬิโก, มยิ จ สิเนโห อตฺถิ, อิมํ เปเสสฺสามี’’ติ ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘ตาต, ตฺวํ ปุริสสหสฺสปริวาโร ราชคหํ คนฺตฺวา ทสพลํ อิธาเนหี’’ติ วตฺวา เปเสสิ. โส ปน คจฺฉนฺโต ‘‘สจาหํ, เทว, ปพฺพชิตุํ ลภิสฺสามิ, เอวาหํ ภควนฺตํ อิธาเนสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘ยํ กิฺจิ กตฺวา มม ปุตฺตํ ทสฺเสหี’’ติ วุตฺโต ราชคหํ คนฺตฺวา สตฺถุ ธมฺมเทสนเวลายํ ปริสปริยนฺเต ิโต ธมฺมํ สุตฺวา สปริวาโร ¶ อรหตฺตํ ปตฺวา เอหิภิกฺขุภาเว ปติฏฺาสิ. อรหตฺตํ ปน ปตฺวา ‘‘น ตาวายํ ทสพลสฺส กุลนครํ คนฺตุํ กาโล, วสนฺเต ปน อุปคเต ปุปฺผิเต วนสณฺเฑ หริตติณสฺฉนฺนาย ภูมิยา คมนกาโล ภวิสฺสตี’’ติ กาลํ ปฏิมาเนนฺโต วสนฺเต สมฺปตฺเต สตฺถุ กุลนครํ คนฺตุํ คมนมคฺควณฺณํ สํวณฺเณนฺโต –
‘‘องฺคาริโน ทานิ ทุมา ภทนฺเต, ผเลสิโน ฉทนํ วิปฺปหาย;
เต อจฺจิมนฺโตว ปภาสยนฺติ, สมโย มหาวีร ภาคี รถานํ.
‘‘ทุมานิ ผุลฺลานิ มโนรมานิ, สมนฺตโต สพฺพทิสา ปวนฺติ;
ปตฺตํ ปหาย ผลมาสสานา, กาโล อิโต ปกฺกมนาย วีร.
‘‘เนวาติสีตํ ¶ ¶ น ปนาติอุณฺหํ, สุขา อุตุ อทฺธนิยา ภทนฺเต;
ปสฺสนฺตุ ตํ สากิยา โกฬิยา จ, ปจฺฉามุขํ โรหินิยํ ตรนฺตํ.
‘‘อาสาย กสเต เขตฺตํ, พีชํ อาสาย วปฺปติ;
อาสาย วาณิชา ยนฺติ, สมุทฺทํ ธนหารกา;
ยาย อาสาย ติฏฺามิ, สา เม อาสา สมิชฺฌตุ. (เถรคา. ๕๒๗-๕๓๐);
‘‘นาติสีตํ นาติอุณฺหํ, นาติทุพฺภิกฺขฉาตกํ;
สทฺทลา หริตา ภูมิ, เอส กาโล มหามุนิ. (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๒๕);
‘‘ปุนปฺปุนฺเจว วปนฺติ พีชํ, ปุนปฺปุนํ วสฺสติ เทวราชา;
ปุนปฺปุนํ เขตฺตํ กสนฺติ กสฺสกา, ปุนปฺปุนํ ธฺมุเปติ รฏฺํ.
‘‘ปุนปฺปุนํ ยาจนกา จรนฺติ, ปุนปฺปุนํ ทานปฺปตี ททนฺติ;
ปุนปฺปุนํ ทานปฺปตี ททิตฺวา, ปุนปฺปุนํ สคฺคมุเปนฺติ านํ.
‘‘วีโร ¶ หเว สตฺตยุคํ ปุเนติ, ยสฺมึ กุเล ชายติ ภูริปฺโ;
มฺามหํ สกฺกติ เทวเทโว, ตยา หิ ชาโต มุนิ สจฺจนาโม.
‘‘สุทฺโธทโน นาม ปิตา มเหสิโน, พุทฺธสฺส มาตา ปน มายนามา;
ยา โพธิสตฺตํ ปริหริย กุจฺฉินา, กายสฺส เภทา ติทิวมฺหิ โมทติ.
‘‘สา โคตมี กาลกตา อิโต จุตา, ทิพฺเพหิ กาเมหิ สมงฺคิภูตา;
สา โมทติ กามคุเณหิ ปฺจหิ, ปริวาริตา เทวคเณหิ เตหี’’ติ. (เถรคา. ๕๓๑-๕๓๕);
อิมา ¶ คาถา อภาสิ. ตตฺถ องฺคาริโนติ องฺคารานิ วิยาติ องฺคารานิ. องฺคารานิ รตฺตปวาฬวณฺณานิ รุกฺขานํ ปุปฺผผลานิ, ตานิ เอเตสํ สนฺตีติ ¶ องฺคาริโน, อภิโลหิตกุสุมกิสลเยหิ องฺคารวุฏฺิสมฺปริกิณฺณา วิยาติ อตฺโถ. ทานีติ อิมสฺมึ กาเล. ทุมาติ รุกฺขา. ภทนฺเตติ ภทฺทํ อนฺเต เอตสฺสาติ, ‘‘ภทนฺเต’’ติ เอกสฺส ท-การสฺส โลปํ กตฺวา วุจฺจติ. คุณวิเสสยุตฺโต, คุณวิเสสยุตฺตานฺจ อคฺคภูโต สตฺถา. ตสฺมา, ภทนฺเตติ สตฺถุ อาลปนเมว, ปจฺจตฺตวจนฺเจตํ เอการนฺตํ ‘‘สุคเต ปฏิกมฺเม สุเข ทุกฺเข ชีเว’’ติอาทีสุ วิย. อิธ ปน สมฺโพธนฏฺเ ทฏฺพฺพํ. เตน วุตฺตํ, ‘‘ภทนฺเตติ อาลปน’’นฺติ. ‘‘ภทฺทสทฺเทน สมานตฺถํ ปทนฺตรเมก’’นฺติ เกจิ. ผลานิ เอสนฺตีติ ผเลสิโน. อเจตเนปิ หิ สเจตนกิริยํ อาห. เอวํ เถเรน ยาจิโต ภควา ตตฺถ คมเน พหูนํ วิเสสาธิคมนํ ทิสฺวา วีสติสหสฺสขีณาสวปริวุโต ราชคหโต อตุริตจาริกาวเสน กปิลวตฺถุคามิมคฺคํ ปฏิปชฺชิ. เถโร อิทฺธิยา กปิลวตฺถุํ คนฺตฺวา รฺโ ปุรโต อากาเส ิโตว อทิฏฺปุพฺพเวสํ ทิสฺวา รฺา ‘‘โกสิ ตฺว’’นฺติ ปุจฺฉิโต ‘‘อมจฺจปุตฺตํ ตยา ภควโต สนฺติกํ เปสิตํ มํ น ชานาสิ, ตฺวํ เอวํ ปน ชานาหี’’ติ ทสฺเสนฺโต –
‘‘พุทฺธสฺส ปุตฺโตมฺหิ อสยฺหสาหิโน, องฺคีรสสฺสปฺปฏิมสฺส ตาทิโน;
ปิตุปิตา มยฺหํ ตุวํสิ สกฺก, ธมฺเมน เม โคตม อยฺยโกสี’’ติ. (เถรคา. ๕๓๖) –
คาถมาห.
ตตฺถ ¶ พุทฺธสฺส ปุตฺโตมฺหีติ สพฺพฺุพุทฺธสฺส โอรสฺส ปุตฺโต อมฺหิ. อสยฺหสาหิโนติ อภิสมฺโพธิโต ปุพฺเพ เปตฺวา มหาโพธิสตฺตํ อฺเหิ สหิตุํ วหิตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา อสยฺหสฺส สกลสฺส โพธิสมฺภารสฺส มหาการุณิกาธิการสฺส จ สหนโต วหนโต, ตโต ปรมฺปิ อฺเหิ สหิตุํ อภิภวิตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา อสยฺหานํ ปฺจนฺนํ มารานํ สหนโต อภิภวนโต, อาสยานุสยจริตาธิมุตฺติอาทิวิภาคาวโพธเนน ยถารหํ เวเนยฺยานํ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ อนุสาสนีสงฺขาตสฺส อฺเหิ อสยฺหสฺส พุทฺธกิจฺจสฺส ¶ สหนโต, ตตฺถ วา สาธุการิภาวโต อสยฺหสาหิโน. องฺคีรสสฺสาติ องฺคีกตสีลาทิสมฺปตฺติกสฺส. องฺคมงฺเคหิ นิจฺฉรณกโอภาสสฺสาติ อปเร. เกจิ ปน ‘‘องฺคีรโส, สิทฺธตฺโถติ ทฺเว นามานิ ปิตราเยว คหิตานี’’ติ วทนฺติ. อปฺปฏิมสฺสาติ อนูปมสฺส. อิฏฺานิฏฺเสุ ตาทิลกฺขณปฺปตฺติยา ¶ ตาทิโน. ปิตุปิตา มยฺหํ ตุวํสีติ อริยชาติวเสน มยฺหํ ปิตุ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส โลกโวหาเรน ตฺวํ ปิตา อสิ. สกฺกาติ ชาติวเสน ราชานํ อาลปติ. ธมฺเมนาติ สภาเวน อริยชาติ โลกิยชาตีติ ทฺวินฺนํ ชาตีนํ สภาวสโมธาเนน. โคตมาติ ราชานํ โคตฺเตน อาลปติ. อยฺยโกสีติ ปิตามโห อสิ. เอตฺถ จ ‘‘พุทฺธสฺส ปุตฺโตมฺหี’’ติอาทึ วทนฺโต เถโร อฺํ พฺยากาสิ.
เอวํ ปน อตฺตานํ ชานาเปตฺวา หฏฺตุฏฺเน รฺา มหารเห ปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา อตฺตโน ปฏิยาทิตสฺส นานคฺครสโภชนสฺส ปตฺตํ ปูเรตฺวา ทินฺเน คมนาการํ ทสฺเสสิ. ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, คนฺตุกามตฺถ, ภฺุชถา’’ติ จ วุตฺเต, ‘‘สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ภฺุชิสฺสามี’’ติ. ‘‘กหํ ปน สตฺถา’’ติ? ‘‘วีสติสหสฺสภิกฺขุปริวาโร ตุมฺหากํ ทสฺสนตฺถาย มคฺคํ ปฏิปนฺโน’’ติ. ‘‘ตุมฺเห อิมํ ปิณฺฑปาตํ ภฺุชถ, อฺํ ภควโต หริสฺสถ. ยาว จ มม ปุตฺโต อิมํ นครํ สมฺปาปุณาติ, ตาวสฺส อิโต ปิณฺฑปาตํ หรถา’’ติ วุตฺเต เถโร ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา รฺโ ปริสาย จ ธมฺมํ กเถตฺวา สตฺถุ อาคมนโต ปุเรตรเมว สกลราชนิเวสนํ รตนตฺตเย อภิปฺปสนฺนํ กโรนฺโต สพฺเพสํ ปสฺสนฺตานํเยว สตฺถุ อาหริตพฺพภตฺตปุณฺณํ ปตฺตํ อากาเส วิสฺสชฺเชตฺวา สยมฺปิ เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ปิณฺฑปาตํ อุปนาเมตฺวา สตฺถุ หตฺเถ เปสิ. สตฺถา ตํ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิ. เอวํ สฏฺิโยชนมคฺเค ทิวเส ทิวเส โยชนํ คจฺฉนฺตสฺส ภควโต ราชเคหโตเยว ปิณฺฑปาตํ อาหริตฺวา อทาสิ. อถ นํ ภควา ‘‘อยํ มยฺหํ ปิตุโน สกลนิเวสนํ ปสาเทตี’’ติ ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ กุลปฺปสาทกานํ ภิกฺขูนํ ยทิทํ กาฬุทายี’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๑๙, ๒๒๕) กุลปฺปสาทกานํ อคฺคฏฺาเน เปสิ.
๔๘-๙. เอวํ โส กตปฺุสมฺภารานุรูเปน อรหตฺตํ ปตฺวา ปตฺตเอตทคฺคฏฺาโน อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ ¶ สริตฺวา โสมนสฺสวเสน ปุพฺพจริตาปทานํ ¶ ปกาเสนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส พุทฺธสฺสาติอาทิมาห. อทฺธานํ ปฏิปนฺนสฺสาติ อปรรฏฺํ คมนตฺถาย ทูรมคฺคํ ปฏิปชฺชนฺตสฺส. จรโต จาริกํ ตทาติ อนฺโตมณฺฑลํ มชฺเฌมณฺฑลํ พหิมณฺฑลนฺติ ตีณิ มณฺฑลานิ ตทา จาริกํ จรโต จรนฺตสฺส ปทุมุตฺตรพุทฺธสฺส ภควโต สุผุลฺลํ สุฏฺุ ผุลฺลํ ปโพธิตํ คยฺห คเหตฺวา น เกวลเมว ปทุมํ, อุปฺปลฺจ มลฺลิกํ วิกสิตํ อหํ คยฺห อุโภหิ หตฺเถหิ คเหตฺวา ปูเรสินฺติ สมฺพนฺโธ. ปรมนฺนํ คเหตฺวานาติ ปรมํ อุตฺตมํ เสฏฺํ มธุรํ สพฺพสุปกฺกํ สาลิโอทนํ คเหตฺวา สตฺถุโน อทาสึ โภเชสินฺติ อตฺโถ.
๙๗. สกฺยานํ ¶ นนฺทิชนโนติ สกฺยราชกุลานํ ภควโต าตีนํ อาโรหปริณาหรูปโยพฺพนวจนาลปนสมฺปตฺติยา นนฺทํ ตุฏฺึ ชเนนฺโต อุปฺปาเทนฺโต. าติพนฺธุ ภวิสฺสตีติ าโต ปากโฏ พนฺธุ ภวิสฺสติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.
กาฬุทายิตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.
๕. โมฆราชตฺเถรอปทานวณฺณนา
อตฺถทสฺสี ตุ ภควาติอาทิกํ อายสฺมโต โมฆราชตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปฺุานิ อุปจินนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ ลูขจีวรธรานํ อคฺคฏฺาเน เปนฺตํ ทิสฺวา ตํ านนฺตรํ อากงฺขนฺโต ปณิธานํ กตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปฺุานิ กโรนฺโต อตฺถทสฺสิสฺส ภควโต กาเล ปุน พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา พฺราหฺมณานํ วิชฺชาสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ คโต เอกทิวสํ อตฺถทสฺสึ ภควนฺตํ ภิกฺขุสงฺฆปริวุตํ รถิยํ คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา สิรสิ อฺชลึ กตฺวา ‘‘ยาวตา รูปิโน สตฺถา’’ติอาทีหิ ฉหิ คาถาหิ อภิตฺถวิตฺวา ภาชนํ ปูเรตฺวา มธุํ อุปเนสิ. สตฺถา ตํ ปฏิคฺคเหตฺวา อนุโมทนํ อกาสิ. โส เตน ปฺุกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต กสฺสปภควโต กาเล กฏฺวาหนสฺส นาม รฺโ อมจฺโจ หุตฺวา นิพฺพตฺโต เตน สตฺถุ อานยนตฺถาย ¶ เปสิโต สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา วีสติวสฺสสหสฺสานิ สมณธมฺมํ กตฺวา ตโต จุโต เอกํ พุทฺธนฺตรํ สุคตีสุเยว ปริวตฺเตนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา โมฆราชาติ ลทฺธนาโม พาวรียพฺราหฺมณสฺส ¶ สนฺติเก อุคฺคหิตสิปฺโป สํเวคชาโต ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ตาปสสหสฺสปริวาโร อชิตาทีหิ สทฺธึ สตฺถุ สนฺติกํ เปสิโต เตสํ ปนฺนรสโม หุตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนปริโยสาเน อรหตฺตํ ปาปุณิ. อรหตฺตํ ปน ปตฺวา สตฺถลูขํ สุตฺตลูขํ รชนลูขนฺติ วิเสเสน ติวิเธนปิ ลูเขน สมนฺนาคตํ ปํสุกูลํ ธาเรสิ. เตน นํ สตฺถา ลูขจีวรธรานํ อคฺคฏฺาเน เปสิ.
๖๔. เอวํ ¶ โส ปณิธานานุรูเปน อรหตฺตผลํ ปตฺวา อตฺตโน ปุพฺพสมฺภารํ ทิสฺวา ปุพฺพกมฺมาปทานํ ปกาเสนฺโต อตฺถทสฺสี ตุ ภควาติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมว.
๗๓. ปุฏกํ ปูรยิตฺวานาติ ปุฏกํ วุจฺจติ วารกํ, ฆฏํ วา. อเนฬกํ นิทฺโทสํ มกฺขิกณฺฑวิรหิตํ ขุทฺทมธุนา ฆฏํ ปูเรตฺวา ตํ อุโภหิ หตฺเถหิ ปคฺคยฺห ปกาเรน อาทเรน คเหตฺวา มเหสิโน ภควโต อุปเนสินฺติ สมฺพนฺโธ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.
โมฆราชตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.
๖. อธิมุตฺตตฺเถรอปทานวณฺณนา
นิพฺพุเต โลกนาถมฺหีติอาทิกํ อายสฺมโต อธิมุตฺตตฺเถรสฺส อปทานํ (เถรคา. อฏฺ. ๒.อธิมุตฺตตฺเถรคาถาวณฺณนา). อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปฺุานิ อุปจินนฺโต อตฺถทสฺสิมฺหิ โลกนาเถ ปรินิพฺพุเต เอกสฺมึ กุลเคเห นิพฺพตฺโต รตนตฺตเย ปสนฺโน ภิกฺขุสงฺฆํ นิมนฺเตตฺวา อุจฺฉูหิ มณฺฑปํ กาเรตฺวา มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา ปริโยสาเน สนฺติปทํ ปณิเธสิ. โส ตโต จุโต เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ อุภยสมฺปตฺติโย อนุภวิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท เอกสฺมึ กุลเคเห นิพฺพตฺโต สาสเน ปสีทิตฺวา สทฺธาย ปติฏฺิตตฺตา อธิมุตฺตตฺเถโรติ ปากโฏ.
๘๔. เอวํ ¶ กตสมฺภารวเสน อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวา โสมนสฺสชาโต ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต นิพฺพุเต โลกนาถมฺหีติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
อธิมุตฺตตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.
๗. ลสุณทายกตฺเถรอปทานวณฺณนา
หิมวนฺตสฺสาวิทูเรติอาทิกํ ¶ อายสฺมโต ลสุณทายกตฺเถรสฺส อปทานํ. เอโสปายสฺมา ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปฺุานิ อุปจินนฺโต วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล เอกสฺมึ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต ฆราวาเส อาทีนวํ ทิสฺวา เคหํ ปหาย ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา หิมวนฺตํ นิสฺสาย วเน วสนฺโต พหูนิ ลสุณานิ โรเปตฺวา ตเทว วนมูลผลฺจ ขาทนฺโต วิหาสิ. โส พหูนิ ลสุณานิ กาเชนาทาย มนุสฺสปถํ อาหริตฺวา ปสนฺโน ทานํ ทตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส เภสชฺชตฺถาย ทตฺวา คจฺฉติ. เอวํ โส ยาวชีวํ ปฺุานิ กตฺวา เตเนว ปฺุพเลน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อุภยสมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา กเมน อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท อุปฺปนฺโน ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ ¶ วฑฺเฒตฺวา นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปตฺโต ปุพฺพกมฺมวเสน ลสุณทายกตฺเถโรติ ปากโฏ.
๘๙. อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวา โสมนสฺสชาโต ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต หิมวนฺตสฺสาวิทูเรติอาทิมาห. ตตฺถ หิมาลยปพฺพตสฺส ปริโยสาเน มนุสฺสานํ สฺจรณฏฺาเน ยทา วิปสฺสี ภควา อุทปาทิ, ตทา อหํ ตาปโส อโหสินฺติ สมฺพนฺโธ. ลสุณํ อุปชีวามีติ รตฺตลสุณํ โรเปตฺวา ตเทว โคจรํ กตฺวา ชีวิกํ กปฺเปมีติ อตฺโถ. เตน วุตฺตํ ‘‘ลสุณํ มยฺหโภชน’’นฺติ.
๙๐. ขาริโย ปูรยิตฺวานาติ ตาปสภาชนานิ ลสุเณน ปูรยิตฺวา กาเชนาทาย สงฺฆารามํ สงฺฆสฺส วสนฏฺานํ เหมนฺตาทีสุ ตีสุ กาเลสุ สงฺฆสฺส จตูหิ อิริยาปเถหิ วสนวิหารํ อคจฺฉึ อคมาสินฺติ อตฺโถ. หฏฺโ หฏฺเน จิตฺเตนาติ อหํ สนฺตุฏฺโ โสมนสฺสยุตฺตจิตฺเตน สงฺฆสฺส ลสุณํ อทาสินฺติ อตฺโถ.
๙๑. วิปสฺสิสฺส…เป… ¶ นิรตสฺสหนฺติ นรานํ อคฺคสฺส เสฏฺสฺส อสฺส วิปสฺสิสฺส ภควโต สาสเน นิรโต นิสฺเสเสน รโต อหนฺติ สมฺพนฺโธ. สงฺฆสฺส…เป… โมทหนฺติ อหํ สงฺฆสฺส ลสุณทานํ ทตฺวา สคฺคมฺหิ สุฏฺุ อคฺคสฺมึ เทวโลเก อายุกปฺปํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวมาโน โมทึ, สนฺตุฏฺโ ภวามีติ อตฺโถ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.
ลสุณทายกตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.
๘. อายาคทายกตฺเถรอปทานวณฺณนา
นิพฺพุเต ¶ โลกนาถมฺหีติอาทิกํ อายสฺมโต อายาคทายกตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปฺุานิ อุปจินนฺโต สิขิสฺส ภควโต ปรินิพฺพุตกาเล เอกสฺมึ กุลเคเห นิพฺพตฺโต สาสเน ปสนฺโน วฑฺฒกีนํ มูลํ ทตฺวา อติมโนหรํ ทีฆํ โภชนสาลํ การาเปตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ นิมนฺเตตฺวา ปณีเตนาหาเรน โภเชตฺวา มหาทานํ ทตฺวา จิตฺตํ ปสาเทสิ. โส ยาวตายุกํ ปฺุานิ กตฺวา เทวมนุสฺเสสุเยว สํสรนฺโต อุภยสมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กุลเคเห นิพฺพตฺโต ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา ฆเฏนฺโต วายมนฺโต วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา น จิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิ. ปุพฺเพ กตปฺุวเสน อายาคตฺเถโรติ ปากโฏ.
๙๔. เอวํ โส กตปฺุสมฺภารวเสน อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตนา ปุพฺเพ กตกุสลกมฺมํ สริตฺวา โสมนสฺสชาโต ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต นิพฺพุเต โลกนาถมฺหีติอาทิมาห. ตตฺถ นิพฺพุเตติ วทตํ ‘‘มยํ พุทฺธา’’ติ วทนฺตานํ อนฺตเร วเร ¶ อุตฺตเม สิขิมฺหิ ภควติ ปรินิพฺพุเตติ อตฺโถ. หฏฺโ หฏฺเน จิตฺเตนาติ สทฺธตาย หฏฺปหฏฺโ โสมนสฺสยุตฺตจิตฺตตาย ปหฏฺเน จิตฺเตน อุตฺตมํ ถูปํ เสฏฺํ เจติยํ อวนฺทึ ปณามยินฺติ อตฺโถ.
๙๕. วฑฺฒกีหิ กถาเปตฺวาติ ‘‘โภชนสาลาย ปมาณํ กิตฺตก’’นฺติ ปมาณํ กถาเปตฺวาติ อตฺโถ. มูลํ ทตฺวานหํ ตทาติ ตทา ตสฺมึ กาเล อหํ กมฺมกรณตฺถาย เตสํ วฑฺฒกีนํ มูลํ ทตฺวา อายาคํ ¶ อายตํ ทีฆํ โภชนสาลํ อหํ สนฺตุฏฺโ โสมนสฺสจิตฺเตน การเปสหํ การาเปสึ อหนฺติ อตฺโถ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.
๙๗. อายาคสฺส อิทํ ผลนฺติ โภชนสาลทานสฺส อิทํ วิปากนฺติ อตฺโถ.
อายาคทายกตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.
๙. ธมฺมจกฺกิกตฺเถรอปทานวณฺณนา
สิทฺธตฺถสฺส ภควโตติอาทิกํ อายสฺมโต ธมฺมจกฺกิกตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ ¶ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปฺุานิ อุปจินนฺโต สิทฺธตฺถสฺส ภควโต กาเล เอกสฺมึ กุลเคเห นิพฺพตฺโต วุทฺธิปฺปตฺโต ปุตฺตทาเรหิ วฑฺฒิโต วิภวสมฺปนฺโน มหาโภโค, โส รตนตฺตเย ปสนฺโน สทฺธาชาโต ธมฺมสภายํ ธมฺมาสนสฺส ปิฏฺิโต รตนมยํ ธมฺมจกฺกํ กาเรตฺวา ปูเชสิ. โส เตน ปฺุกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ นิพฺพตฺตฏฺาเนสุ สกฺกสมฺปตฺตึ จกฺกวตฺติสมฺปตฺติฺจ อนุภวิตฺวา กเมน อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท เอกสฺมึ กุลเคเห อุปฺปนฺโน วิภวสมฺปนฺโน สฺชาตสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปตฺวา ปุพฺเพ กตกุสลนามสทิสนาเมน ธมฺมจกฺกิกตฺเถโรติ ปากโฏ ชาโต อโหสิ.
๑๐๒. โส ปฺุสมฺภารานุรูเปน ปตฺตอรหตฺตผโล อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวา ชาตโสมนสฺโส ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต สิทฺธตฺถสฺส ภควโตติอาทิมาห. สีหาสนสฺส สมฺมุขาติ สีหสฺส ภควโต นิสินฺนสฺส สมฺมุขา พุทฺธาสนสฺส อภิมุขฏฺาเนติ อตฺโถ, ธมฺมจกฺกํ เม ปิตนฺติ มยา ธมฺมจกฺกากาเรน อุภโต สีหรูปํ ทสฺเสตฺวา มชฺเฌ อาทาสสทิสํ กาเรตฺวา กตํ ธมฺมจกฺกํ ปิตํ ปูชิตํ. กึ ภูตํ? วิฺูหิ เมธาวีหิ ‘‘อตีว สุนฺทร’’นฺติ วณฺณิตํ โถมิตํ สุกตํ ธมฺมจกฺกนฺติ สมฺพนฺโธ.
๑๐๓. จารุวณฺโณว ¶ โสภามีติ สุวณฺณวณฺโณ อิว โสภามิ วิโรจามีติ ¶ อตฺโถ. ‘‘จตุวณฺเณหิ โสภามี’’ติปิ ปาโ, ตสฺส ขตฺติยพฺราหฺมณเวสฺสสุทฺทชาติสงฺขาเตหิ จตูหิ วณฺเณหิ โสภามิ วิโรจามีติ อตฺโถ. สโยคฺคพลวาหโนติ สุวณฺณสิวิกาทีหิ โยคฺเคหิ จ เสนาปติมหามตฺตาทีหิ เสวเกหิ พเลหิ จ หตฺถิอสฺสรถสงฺขาเตหิ วาหเนหิ จ สหิโตติ อตฺโถ. พหุชฺชนา พหโว มนุสฺสา อนุยนฺตา มมานุวตฺตนฺตา นิจฺจํ นิจฺจกาลํ ปริวาเรนฺตีติ สมฺพนฺโธ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.
ธมฺมจกฺกิกตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.
๑๐. กปฺปรุกฺขิยตฺเถรอปทานวณฺณนา
สิทฺธตฺถสฺส ภควโตติอาทิกํ อายสฺมโต กปฺปรุกฺขิยตฺเถรสฺส อปทานํ (เถรคา. อฏฺ. ๒.๕๗๖). อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร เตสุ เตสุ ภเวสุ นิพฺพานาธิคมูปายภูตานิ ปฺุานิ อุปจินนฺโต สิทฺธตฺถสฺส ภควโต กาเล วิภวสมฺปนฺเน เอกสฺมึ กุเล นิพฺพตฺโต มหทฺธโน มหาโภโค ¶ สตฺถริ ปสนฺโน สตฺตหิ รตเนหิ วิจิตฺตํ สุวณฺณมยํ กปฺปรุกฺขํ กาเรตฺวา สิทฺธตฺถสฺส ภควโต เจติยสฺส สมฺมุเข เปตฺวา ปูเชสิ. โส เอวรูปํ ปฺุํ กตฺวา ยาวตายุกํ ตฺวา ตโต จุโต สุคตีสุเยว สํสรนฺโต กเมน อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท เอกสฺมึ กุลเคเห นิพฺพตฺโต วิฺุตํ ปตฺโต ฆราวาสํ สณฺเปตฺวา รตนตฺตเย ปสนฺโน ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ สตฺถุ อาราเธตฺวา ปพฺพชิโต นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปตฺวา ปุพฺเพ กตกุสลนาเมน กปฺปรุกฺขิยตฺเถโรติ ปากโฏ อโหสิ.
๑๐๘. โส เอวํ ปตฺตอรหตฺตผโล อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวา โสมนสฺสวเสน ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต สิทฺธตฺถสฺส ภควโตติอาทิมาห. ถูปเสฏฺสฺส สมฺมุขาติ เสฏฺสฺส อุตฺตมสฺส ธาตุนิหิตถูปสฺส เจติยสฺส สมฺมุขฏฺาเน วิจิตฺตทุสฺเส อเนกวณฺเณหิ วิสเมน วิสทิเสน จิตฺเตน มโนหเร จินปฏฺฏโสมารปฏฺฏาทิเก ทุสฺเส ¶ . ลเคตฺวา โอลคฺเคตฺวา กปฺปรุกฺขํ เปสึ อหํ ปติฏฺเปสินฺติ อตฺโถ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
กปฺปรุกฺขิยตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.
จตุตฺถวคฺควณฺณนา สมตฺตา.