📜

๕๖. ยสวคฺโค

๑. ยสตฺเถรอปทานวณฺณนา

ฉปฺปฺาสเม วคฺเค ปมาปทาเน มหาสมุทฺทํ โอคฺคยฺหาติอาทิกํ อายสฺมโต ยสตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปุฺานิ อุปจินนฺโต สุเมธสฺส ภควโต กาเล มหานุภาโว นาคราชา หุตฺวา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ อตฺตโน ภวนํ เนตฺวา มหาทานํ ปวตฺเตสิ, ภควนฺตํ มหคฺเฆน ติจีวเรน อจฺฉาเทสิ, เอเกกฺจ ภิกฺขุํ มหคฺเฆเนว ปจฺเจกทุสฺสยุเคน สพฺเพน จ สมณปริกฺขาเรน. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต สิทฺธตฺถสฺส ภควโต กาเล เสฏฺิปุตฺโต หุตฺวา มหาโพธิมณฺฑลํ สตฺตหิ รตเนหิ ปูเชสิ. กสฺสปสฺส ภควโต กาเล สาสเน ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ อกาสิ. เอวํ โส สุคตีสุเยว สํสรนฺโต อมฺหากํ ภควโต กาเล พาราณสิยํ มหาวิภวสฺส เสฏฺิโน ปุตฺโต หุตฺวา สุชาตาย ภควโต ขีรปายาสํ ทินฺนาย เสฏฺิธีตาย กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, ยโส นาม นาเมน ปรมสุขุมาโล. ตสฺส ตโย ปาสาทา โหนฺติ – เอโก เหมนฺติโก, เอโก คิมฺหิโก, เอโก วสฺสิโกติ. โส วสฺสิเก ปาสาเท วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส นิปฺปุริเสหิ ตูริเยหิ ปริจารยมาโน วสติ, เหฏฺาปาสาทํ น โอตรติ. เหมนฺติเก ปาสาเท จตฺตาโร มาเส สุผุสิตวาตปานกวาเฏ ตตฺเถว ปฏิวสติ. คิมฺหิเก ปาสาเท พหุกวาฏวาตปานชาลาหิ สมฺปนฺเน ตตฺเถว วสติ. หตฺถปาทานํ สุขุมาลตาย ภูมิยํ นิสชฺชาทิกิจฺจํ นตฺถิ. สิมฺพลิตุลาทิปุณฺณสภาเว อตฺถริตฺวา ตตฺถ อุปธานานิ กิจฺจานิ กโรติ. เอวํ เทวโลเก เทวกุมาโร วิย ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตสฺส สมงฺคีภูตสฺส ปริจารยมานสฺส ปฏิกจฺเจว นิทฺทา โอกฺกมิ, ปริชนสฺสาปิ นิทฺทา โอกฺกมิ, สพฺพรตฺติโย จ เตลปทีโป ฌายติ. อถ โข ยโส กุลปุตฺโต ปฏิกจฺเจว ปพุชฺฌิตฺวา อทฺทส สกํ ปริชนํ สุปนฺตํ อฺิสฺสา กจฺเฉ วีณํ, อฺิสฺสา กณฺเ มุทิงฺคํ, อฺิสฺสา กจฺเฉ อาฬมฺพรํ, อฺํ วิเกสิกํ, วิกฺเขฬิกํ, อฺา วิปฺปลปนฺติโย หตฺถปตฺตํ สุสานํ มฺเ, ทิสฺวานสฺส อาทีนโว ปาตุรโหสิ, นิพฺพิทาย จิตฺตํ สณฺาสิ. อถ โข ยโส กุลปุตฺโต อุทานํ อุทาเนสิ – ‘‘อุปทฺทุตํ วต โภ, อุปสฺสฏฺํ วต โภ’’ติ.

อถ โข ยโส กุลปุตฺโต สุวณฺณปาทุกาโย อาโรหิตฺวา เยน นิเวสนทฺวารํ เตนุปสงฺกมิ, อมนุสฺสา ทฺวารํ วิวรึสุ – ‘‘มา ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส โกจิ อนฺตรายมกาสิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติ. อถ โข ยโส กุลปุตฺโต เยน นครทฺวารํ เตนุปสงฺกมิ, อมนุสฺสา ทฺวารํ วิวรึสุ – ‘‘มา ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส โกจิ อนฺตรายมกาสิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติ. อถ โข ยโส กุลปุตฺโต เยน อิสิปตนํ มิคทาโย เตนุปสงฺกมิ.

เตน โข ปน สมเยน ภควา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย อชฺโฌกาเส จงฺกมติ, อทฺทสา โข ภควา ยสํ กุลปุตฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวาน จงฺกมา โอโรหิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข ยโส กุลปุตฺโต ภควโต อวิทูเร อุทานํ อุทาเนสิ – ‘‘อุปทฺทุตํ วต โภ, อุปสฺสฏฺํ วต โภ’’ติ. อถ โข ภควา ยสํ กุลปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ โข, ยส, อนุปทฺทุตํ, อิทํ อนุปสฺสฏฺํ, เอหิ, ยส, นิสีท, ธมฺมํ เต เทเสสฺสามี’’ติ. อถ โข ยโส กุลปุตฺโต, ‘‘อิทํ กิร อนุปทฺทุตํ, อิทํ อนุปสฺสฏฺ’’นฺติ หฏฺโ อุทคฺโค สุวณฺณปาทุกาหิ โอโรหิตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺนสฺส โข ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส ภควา อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ, ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา ภควา อฺาสิ ยสํ กุลปุตฺตํ กลฺลจิตฺตํ มุทุจิตฺตํ วินีวรณจิตฺตํ อุทคฺคจิตฺตํ ปสนฺนจิตฺตํ, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา, ตํ ปกาเสสิ ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺคํ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, เอวเมว ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ.

อถ โข ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส มาตา ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ยสํ กุลปุตฺตํ อปสฺสนฺตี เยน เสฏฺิ คหปติ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เสฏฺึ คหปตึ เอตทโวจ – ‘‘ปุตฺโต เต คหปติ ยโส น ทิสฺสตี’’ติ. อถ โข, เสฏฺิ คหปติ, จตุทฺทิสา อสฺสทูเต อุยฺโยเชตฺวา สามํเยว เยน อิสิปตนํ มิคทาโย เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข, เสฏฺิ คหปติ, สุวณฺณปาทุกานํ นิกฺเขปํ, ทิสฺวาน ตํเยว อนุคมาสิ. อทฺทสา โข ภควา เสฏฺึ คหปตึ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวาน ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขเรยฺยํ, ยถา เสฏฺิ คหปติ อิธ นิสินฺโน อิธ นิสินฺนํ ยสํ กุลปุตฺตํ น ปสฺเสยฺยา’’ติ. อถ โข ภควา ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขเรสิ. อถ โข เสฏฺิ คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อปิ, ภนฺเต, ภควา ยสํ กุลปุตฺตํ ปสฺเสยฺยา’’ติ. เตน หิ คหปติ นิสีท, อปฺเปว นาม อิธ นิสินฺโน อิธ นิสินฺนํ ยสํ กุลปุตฺตํ ปสฺเสยฺยาสีติ. อถ โข เสฏฺิ คหปติ ‘‘อิเธว กิราหํ นิสินฺโน อิธ นิสินฺนํ ยสํ กุลปุตฺตํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ หฏฺโ อุทคฺโค ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺนสฺส โข เสฏฺิสฺส คหปติสฺส ภควา อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ…เป… อปรปฺปจฺจโย อตฺถุ สาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ ภนฺเต, เสยฺยถาปิ , ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ, เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ, อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. โสว โลเก ปมํ อุปาสโก อโหสิ เตวาจิโก.

อถ โข ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส ปิตุโน ธมฺเม เทสิยมาเน ยถาทิฏฺํ ยถาวิทิตํ ภูมึ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อนุปาทาย อายเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจิ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ยสสฺส โข กุลปุตฺตสฺส ปิตุโน ธมฺเม เทสิยมาเน ยถาทิฏฺํ ยถาวิทิตํ ภูมึ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺตํ, อภพฺโพ โข ยโส กุลปุตฺโต หีนายาวตฺติตฺวา กาเม ปริภุฺชิตุํ, เสยฺยถาปิ ปุพฺเพ อคาริกภูโต, ยํนูนาหํ ตํ อิทฺธาภิสงฺขารํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา ตํ อิทฺธาภิสงฺขารํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภสิ. อทฺทสา โข เสฏฺิ คหปติ ยสํ กุลปุตฺตํ นิสินฺนํ, ทิสฺวาน ยสํ กุลปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มาตา เต ตาต, ยส, ปริเทวโสกสมาปนฺนา, เทหิ มาตุยา ชีวิต’’นฺติ. อถ โข ยโส กุลปุตฺโต ภควนฺตํ อุลฺโลเกสิ. อถ โข ภควา เสฏฺึ คหปตึ เอตทโวจ – ‘‘ตํ กึ มฺสิ, คหปติ, ยสฺส เสกฺเขน าเณน เสกฺเขน ทสฺสเนน ธมฺโม ทิฏฺโ วิทิโต เสยฺยถาปิ ตยา, ตสฺส ยถาทิฏฺํ ยถาวิทิตํ ภูมึ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺตํ, ภพฺโพ นุ โข โส, คหปติ, หีนายาวตฺติตฺวา กาเม ปริภุฺชิตุํ เสยฺยถาปิ ปุพฺเพ อคาริกภูโต’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยสสฺส โข, คหปติ, กุลปุตฺตสฺส เสกฺเขน าเณน เสกฺเขน ทสฺสเนน ธมฺโม ทิฏฺโ วิทิโต เสยฺยถาปิ ตยา, ตสฺส ยถาทิฏฺํ ยถาวิทิตํ ภูมึ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺตํ, อภพฺโพ โข, คหปติ, ยโส กุลปุตฺโต หีนายาวตฺติตฺวา กาเม ปริภุฺชิตุํ เสยฺยถาปิ ปุพฺเพ อคาริกภูโต’’ติ. ‘‘ลาภา, ภนฺเต, ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส, สุลทฺธํ, ภนฺเต, ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส , ยถา ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺตํ, อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต ภควา, อชฺชตนาย ภตฺตํ ยเสน กุลปุตฺเตน ปจฺฉาสมเณนา’’ติ . ‘‘อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน’’. อถ โข เสฏฺิ คหปติ , ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข ยโส กุลปุตฺโต อจิรปกฺกนฺเต เสฏฺิมฺหิ คหปติมฺหิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ลเภยฺยาหํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติ. ‘‘เอหิ ภิกฺขู’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จร พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ, สาว ตสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทา อโหสิ.

. อรหา ปน หุตฺวา โสมนสฺสชาโต อตฺตโน ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต มหาสมุทฺทํ โอคฺคยฺหาติอาทิมาห. ตตฺถ สมุทฺทนฺติ องฺคุลิมุทฺทาย สํ สุฏฺุ ทสฺเสตพฺพโต สมุทฺโท, อถ วา สํ สุฏฺุ อุทิยติ โขภิยติ ปโสธิยติ โฆสนํ กโรนฺโต อาลุฬิยตีติ สมุทฺโท, มหนฺโต จ โส สมุทฺโท จาติ มหาสมุทฺโท, ตํ มหาสมุทฺทํ. โอคฺคยฺหาติ อชฺโฌคาเหตฺวา อพฺภนฺตรํ ปวิสิตฺวา ตสฺส มหาสมุทฺทสฺส อนฺโต ปวิสิตฺวา, สามฺยตฺเถ เจตํ อุปโยควจนนฺติ ทฏฺพฺพํ. ภวนํ เม สุมาปิตนฺติ เอตฺถ ภวนฺติ นิพฺพตฺตนฺติ นิวสนฺติ จตูหิ อิริยาปเถหิ วาสํ กปฺเปนฺติ เอตฺถาติ ภวนํ, มยฺหํ ตํ ภวนํ ตํ วิมานํ ตํ ปาสาทํ ปฺจปาการกูฏาคาเรหิ สํ สุฏฺุ มาปิตํ นครํ, อตฺตโน พเลน สุฏฺุ นิมฺมิตนฺติ อตฺโถ. สุนิมฺมิตา โปกฺขรณีติ สุมหนฺตา หุตฺวา ภูตา อิตา คตา ปวตฺตา ขณิตา กตาติ โปกฺขรณี, มจฺฉกจฺฉปปุปฺผปุลินติตฺถมธุโรทกาทีหิ สุฏฺุ นิพฺพตฺตา นิมฺมิตาติ อตฺโถ. จกฺกวากูปกูชิตาติ จกฺกวากกุกฺกุฏหํสาทีหิ กูชิตา โฆสิตา นาทิตา สา โปกฺขรณีติ สมฺพนฺโธ. อิโต ปรํ นทีวนทฺวิปทจตุปฺปทปาทปปกฺขีนํ วณฺณฺจ สุเมธสฺส ภควโต ทสฺสนฺจ นิมนฺเตตฺวา สุเมธสฺส ภควโต ทานกฺกมฺจ สุวิฺเยฺยเมว.

โลกาหุติปฏิคฺคหนฺติ เอตฺถ โลเก อาหุติ โลกาหุติ, กามรูปารูปสงฺขาตสฺส โลกสฺส อาหุตึ ปูชาสกฺการํ ปฏิคฺคณฺหาตีติ โลกาหุติปฏิคฺคหํ, สุเมธํ ภควนฺตนฺติ อตฺโถ. เสสํ พฺยากรณทานฺจ อรหตฺตปฺปตฺตผลฺจ สุวิฺเยฺยเมวาติ.

ยสตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.

๒. นทีกสฺสปตฺเถรอปทานวณฺณนา

ทุติยาปทาเน ปทุมุตฺตรสฺส ภควโตติอาทิกํ อายสฺมโต นทีกสฺสปตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปุฺานิ อุปจินนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต เอกทิวสํ สตฺถารํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส อตฺตนา โรปิตสฺส อมฺพรุกฺขสฺส ปมุปฺปนฺนํ มโนสิลาวณฺณํ เอกํ อมฺพผลํ อทาสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท มคธรฏฺเ พฺราหฺมณกุเล อุรุเวลกสฺสปสฺส ภาตา หุตฺวา นิพฺพตฺโต วยปฺปตฺโต นิสฺสรณชฺฌาสยตาย ฆราวาสํ อนิจฺฉนฺโต ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ตีหิ ตาปสสเตหิ สทฺธึ เนรฺชราย นทิยา ตีเร อสฺสมํ มาเปตฺวา วิหรติ. นทีตีเร วสนโต กสฺสปโคตฺตตาย จ นทีกสฺสโปติ สมฺา อโหสิ. ตสฺส ภควา สปริสสฺส เอหิภิกฺขุภาเวน อุปสมฺปทํ อทาสิ. โส ภควโต คยาสีเส อาทิตฺตปริยาย เทสนาย (มหาว. ๕๔; สํ. นิ. ๔.๒๘) อรหตฺเต ปติฏฺาสิ.

ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – สตฺถา ยสํ กุลปุตฺตํ ปพฺพาเชตฺวา อุรุเวลายํ ตโย ภาติกชฏิเล ทเมตุํ เยน อุรุเวลา ตทวสริ. เตน โข ปน สมเยน อุรุเวลายํ ตโย ชฏิลา ปฏิวสนฺติ อุรุเวลกสฺสโป นทีกสฺสโป คยากสฺสโปติ, เตสุ อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ปฺจนฺนํ ชฏิลสตานํ นายโก โหติ วินายโก อคฺโค ปมุโข ปาโมกฺโข, นทีกสฺสโป ชฏิโล ติณฺณํ ชฏิลสตานํ นายโก โหติ วินายโก อคฺโค ปมุโข ปาโมกฺโข, คยากสฺสโป ชฏิโล ทฺวินฺนํ ชฏิลสตานํ นายโก โหติ วินายโก อคฺโค ปมุโข ปาโมกฺโข. อถ โข ภควา เยน อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส อสฺสโม เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อุรุเวลกสฺสปํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘สเจ เต, กสฺสป, อครุ, วเสยฺยาม เอกรตฺตํ อคฺยาคาเร’’ติ. น โข เม, มหาสมณ, ครุ, จณฺเฑตฺถ นาคราชา อิทฺธิมา อาสิวิโส โฆรวิโส, โส ตํ มา วิเหเสีติ. ทุติยมฺปิ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปํ ชฏิลํ เอตทโวจ…เป… ตติยมฺปิ…เป… โส ตํ มา วิเหเสีติ. อปฺเปว มํ น วิเหเยฺย, อิงฺฆ ตฺวํ, กสฺสป, อนุชานาหิ อคฺยาคารนฺติ . วิหร, มหาสมณ, ยถาสุขนฺติ. อถ โข ภควา อคฺยาคารํ ปวิสิตฺวา ติณสนฺถารกํ ปฺเปตฺวา นิสีทิ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา.

อทฺทสา โข โส นาโค ภควนฺตํ ปวิฏฺํ, ทิสฺวา ทุมฺมโน ปธูปายิ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ อิมสฺส นาคสฺส อนุปหจฺจ ฉวิฺจ จมฺมฺจ มํสฺจ นฺหารุฺจ อฏฺิฺจ อฏฺิมิฺชฺจ เตชสา เตชํ ปริยาทิเยยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา ปธูปายิ. อถ โข โส นาโค มกฺขํ อสหมาโน ปชฺชลิ. ภควาปิ เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา ปชฺชลิ. อุภินฺนํ สโชติภูตานํ อคฺยาคารํ อาทิตฺตํ วิย โหติ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํ. อถ โข เต ชฏิลา อคฺยาคารํ ปริวาเรตฺวา เอวมาหํสุ – ‘‘อภิรูโป วต, โภ, มหาสมโณ นาเคน วิเหิยตี’’ติ. อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ตสฺส นาคสฺส อนุปหจฺจ ฉวิฺจ จมฺมฺจ มํสฺจ นฺหารุฺจ อฏฺิฺจ อฏฺิมิฺชฺจ เตชสา เตชํ ปริยาทิยิตฺวา ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส ทสฺเสสิ – ‘‘อยํ เต, กสฺสป, นาโค ปริยาทินฺโน อสฺส เตชสา เตโช’’ติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม จณฺฑสฺส นาคราชสฺส อิทฺธิมโต อาสิวิสสฺส โฆรวิสสฺส เตชสา เตชํ ปริยาทิยิสฺสติ, น ตฺเวว โข อรหา ยถา อห’’นฺติ.

‘‘เนรฺชรายํ ภควา, อุรุเวลกสฺสปํ ชฏิลํ อโวจ;

สเจ เต กสฺสป อครุ, วิหเรมุ อชฺชณฺโห อคฺคิสาลมฺหี’’ติ.

‘‘น โข เม มหาสมณ ครุ, ผาสุกาโมว ตํ นิวาเรมิ;

จณฺเฑตฺถ นาคราชา, อิทฺธิมา อาสิวิโส โฆรวิโส;

โส ตํ มา วิเหเสี’’ติ.

‘‘อปฺเปว มํ น วิเหเยฺย, อิงฺฆ ตฺวํ กสฺสป อนุชานาหิ อคฺยาคารนฺติ;

ทินฺนนฺติ นํ วิทิตฺวา, อภีโต ปาวิสิ ภยมตีโต.

‘‘ทิสฺวา อิสึ ปวิฏฺํ, อหินาโค ทุมฺมโน ปธูปายิ;

สุมนมนโส อธิมโน, มนุสฺสนาโคปิ ตตฺถ ปธูปายิ.

‘‘มกฺขฺจ อสหมาโน, อหินาโค ปาวโกว ปชฺชลิ;

เตโชธาตุสุกุสโล, มนุสฺสนาโคปิ ตตฺถ ปชฺชลิ.

‘‘อุภินฺนํ สโชติภูตานํ,

อคฺยาคารํ อาทิตฺตํ โหติ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํ;

อุทิจฺฉเร ชฏิลา, อภิรูโป วต โภ มหาสมโณ;

นาเคน วิเหิยตีติ ภณนฺติ.

‘‘อถ ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน, หตา นาคสฺส อจฺจิโย โหนฺติ;

อิทฺธิมโต ปน ิตา, อเนกวณฺณา อจฺจิโย โหนฺติ.

‘‘นีลา อถ โลหิติกา, มฺชิฏฺา ปีตกา ผลิกวณฺณาโย;

องฺคีรสสฺส กาเย, อเนกวณฺณา อจฺจิโย โหนฺติ.

‘‘ปตฺตมฺหิ โอทหิตฺวา, อหินาคํ พฺราหฺมณสฺส ทสฺเสสิ;

อยํ เต กสฺสป นาโค, ปริยาทินฺโน อสฺส เตชสา เตโช’’ติ.

อถ โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ภควโต อิมินา อิทฺธิปาฏิหาริเยน อภิปฺปสนฺโน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิเธว, มหาสมณ, วิหร, อหํ เต ธุวภตฺเตนา’’ติ.

ปมํ ปาฏิหาริยํ.

อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส อสฺสมสฺส อวิทูเร อฺตรสฺมึ วนสณฺเฑ วิหาสิ. อถ โข จตฺตาโร มหาราชาโน อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ วนสณฺฑํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา จตุทฺทิสา อฏฺํสุ เสยฺยถาปิ มหนฺตา อคฺคิกฺขนฺธา. อถ โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กาโล, มหาสมณ, นิฏฺิตํ ภตฺตํ, เต นุ โข เต, มหาสมณ, อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ วนสณฺฑํ โอภาเสตฺวา เยน ตฺวํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ อภิวาเทตฺวา จตุทฺทิสา อฏฺํสุ เสยฺยถาปิ มหนฺตา อคฺคิกฺขนฺธา’’ติ. เอเต โข, กสฺสป, จตฺตาโร มหาราชาโน เยนาหํ เตนุปสงฺกมึสุ ธมฺมสฺสวนายาติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม จตฺตาโรปิ มหาราชาโน อุปสงฺกมิสฺสนฺติ ธมฺมสฺสวนาย, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ . อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา ตสฺมึเยว วนสณฺเฑ วิหาสิ.

ทุติยํ ปาฏิหาริยํ.

อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ วนสณฺฑํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ เสยฺยถาปิ มหาอคฺคิกฺขนฺโธ ปุริมาหิ วณฺณนิภาหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. อถ โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กาโล, มหาสมณ, นิฏฺิตํ ภตฺตํ, โก นุ โข โส, มหาสมณ, อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ วนสณฺฑํ โอภาเสตฺวา เยน ตฺวํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ เสยฺยถาปิ มหาอคฺคิกฺขนฺโธ ปุริมาหิ วณฺณนิภาหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ. เอโส โข, กสฺสป, สกฺโก เทวานมินฺโท เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ ธมฺมสฺสวนายาติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม สกฺโกปิ เทวานมินฺโท อุปสงฺกมิสฺสติ ธมฺมสฺสวนาย, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ . อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา ตสฺมึเยว วนสณฺเฑ วิหาสิ.

ตติยํ ปาฏิหาริยํ.

อถ โข พฺรหฺมา สหมฺปติ อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ วนสณฺฑํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ เสยฺยถาปิ มหาอคฺคิกฺขนฺโธ ปุริมาหิ วณฺณนิภาหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. อถ โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กาโล, มหาสมณ, นิฏฺิตํ ภตฺตํ, โก นุ โข โส, มหาสมณ, อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ วนสณฺฑํ โอภาเสตฺวา เยน ตฺวํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ เสยฺยถาปิ มหาอคฺคิกฺขนฺโธ ปุริมาหิ วณฺณนิภาหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ. เอโส โข, กสฺสป, พฺรหฺมา สหมฺปติ เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ ธมฺมสฺสวนายาติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม พฺรหฺมาปิ สหมฺปติ อุปสงฺกมิสฺสติ ธมฺมสฺสวนาย, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ. อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา ตสฺมึเยว วนสณฺเฑ วิหาสิ.

จตุตฺถํ ปาฏิหาริยํ.

เตน โข ปน สมเยน อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส มหายฺโ ปจฺจุปฏฺิโต โหติ, เกวลกปฺปา จ องฺคมคธา ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ อาทาย อภิกฺกมิตุกามา โหนฺติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘เอตรหิ โข เม มหายฺโ ปจฺจุปฏฺิโต, เกวลกปฺปา จ องฺคมคธา ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ อาทาย อภิกฺกมิสฺสนฺติ, สเจ มหาสมโณ มหาชนกาเย อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสติ, มหาสมณสฺส ลาภสกฺกาโร อภิวฑฺฒิสฺสติ, มม ลาภสกฺกาโร ปริหายิสฺสติ, อโห นูน มหาสมโณ สฺวาตนาย นาคจฺเฉยฺยา’’ติ. อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย อุตฺตรกุรุํ คนฺตฺวา ตโต ปิณฺฑปาตํ อาหริตฺวา อโนตตฺตทเห ปริภุฺชิตฺวา ตตฺเถว ทิวาวิหารํ อกาสิ. อถ โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กาโล, มหาสมณ, นิฏฺิตํ ภตฺตํ, กึ นุ โข, มหาสมณ, หิยฺโย นาคมาสิ, อปิจ มยํ ตํ สราม, ‘กึ นุ โข มหาสมโณ นาคจฺฉตี’ติ, ขาทนียสฺส จ โภชนียสฺส จ เต ปฏิวีโส ปิโต’’ติ. นนุ เต, กสฺสป, เอตทโหสิ – ‘‘เอตรหิ โข เม มหายฺโ ปจฺจุปฏฺิโต เกวลกปฺปา จ องฺคมคธา ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ อาทาย อภิกฺกมิสฺสนฺติ, สเจ มหาสมโณ มหาชนกาเย อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสติ, มหาสมณสฺส ลาภสกฺกาโร อภิวฑฺฒิสฺสติ, มม ลาภสกฺกาโร ปริหายิสฺสติ, อโห นูน มหาสมโณ สฺวาตนาย นาคจฺเฉยฺยา’’ติ, โส โข อหํ, กสฺสป, ตว เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย อุตฺตรกุรุํ คนฺตฺวา ตโต ปิณฺฑปาตํ อาหริตฺวา อโนตตฺตทเห ปริภุฺชิตฺวา ตตฺเถว ทิวาวิหารํ อกาสินฺติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม เจตสาปิ จิตฺตํ ปชานิสฺสติ, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ. อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา ตสฺมึเยว วนสณฺเฑ วิหาสิ.

ปฺจมํ ปาฏิหาริยํ.

เตน โข ปน สมเยน ภควโต ปํสุกูลํ อุปฺปนฺนํ โหติ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘กตฺถ นุ โข อหํ ปํสุกูลํ โธเวยฺย’’นฺติ? อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย ปาณินา โปกฺขรณึ ขณิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ, ภนฺเต ภควา, ปํสุกูลํ โธวตู’’ติ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘กิมฺหิ นุ โข อหํ ปํสุกูลํ ปริมทฺเทยฺย’’นฺติ? อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย มหตึ สิลํ อุปนิกฺขิปิ – ‘‘อิธ, ภนฺเต ภควา, ปํสุกูลํ ปริมทฺทตู’’ติ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘กิมฺหิ นุ โข อหํ อาลมฺพิตฺวา อุตฺตเรยฺย’’นฺติ? อถ โข กกุเธ อธิวตฺถา เทวตา ภควโต เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย สาขํ โอนาเมสิ – ‘‘อิธ, ภนฺเต ภควา, อาลมฺพิตฺวา อุตฺตรตู’’ติ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘กิมฺหิ นุ โข อหํ ปํสุกูลํ วิสฺสชฺเชยฺย’’นฺติ? อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย มหตึ สิลํ อุปนิกฺขิปิ – ‘‘อิธ, ภนฺเต ภควา, ปํสุกูลํ วิสฺสชฺเชตู’’ติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กาโล, มหาสมณ, นิฏฺิตํ ภตฺตํ, กึ นุ โข, มหาสมณ, นายํ ปุพฺเพ อิธ โปกฺขรณี สายํ อิธ โปกฺขรณี, นยิมา สิลา ปุพฺเพ อุปนิกฺขิตฺตา, เกนิมา สิลา อุปนิกฺขิตฺตา, นยิมสฺส กกุธสฺส ปุพฺเพ สาขา โอนตา, สายํ สาขา โอนตา’’ติ? อิธ เม, กสฺสป, ปํสุกูลํ อุปฺปนฺนํ อโหสิ, ตสฺส มยฺหํ, กสฺสป, เอตทโหสิ – ‘‘กตฺถ นุ โข อหํ ปํสุกูลํ โธเวยฺย’’นฺติ? อถ โข, กสฺสป, สกฺโก เทวานมินฺโท มม เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย ปาณินา โปกฺขรณึ ขณิตฺวา มํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ, ภนฺเต ภควา, ปํสุกูลํ โธวตู’’ติ. สายํ, กสฺสป, อมนุสฺเสน ปาณินา ขณิตา โปกฺขรณี. ตสฺส มยฺหํ, กสฺสป, เอตทโหสิ – ‘‘กิมฺหิ นุ โข อหํ ปํสุกูลํ ปริมทฺเทยฺย’’นฺติ? อถ โข, กสฺสป, สกฺโก เทวานมินฺโท มม เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย มหตึ สิลํ อุปนิกฺขิปิ – ‘‘อิธ, ภนฺเต ภควา, ปํสุกูลํ ปริมทฺทตู’’ติ? สายํ, กสฺสป, อมนุสฺเสน อุปนิกฺขิตฺตา สิลา. ตสฺส มยฺหํ, กสฺสป, เอตทโหสิ – ‘‘กิมฺหิ นุ โข อหํ อาลมฺพิตฺวา อุตฺตเรยฺย’’นฺติ? อถ โข, กสฺสป, กกุเธ อธิวตฺถา เทวตา มม เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย สาขํ โอนาเมสิ – ‘‘อิธ, ภนฺเต ภควา, อาลมฺพิตฺวา อุตฺตรตู’’ติ? สฺวายํ อาหรหตฺโถ กกุโธ. ตสฺส มยฺหํ, กสฺสป, เอตทโหสิ – ‘‘กิมฺหิ นุ โข อหํ ปํสุกูลํ วิสฺสชฺเชยฺย’’นฺติ? อถ โข, กสฺสป, สกฺโก เทวานมินฺโท มม เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย มหตึ สิลํ อุปนิกฺขิปิ – ‘‘อิธ, ภนฺเต ภควา, ปํสุกูลํ วิสฺสชฺเชตู’’ติ? สายํ, กสฺสป, อมนุสฺเสน อุปนิกฺขิตฺตา สิลาติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก มหาสมโณ มหานุภาโว , ยตฺร หิ นาม สกฺโกปิ เทวานมินฺโท เวยฺยาวจฺจํ กริสฺสติ, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ. อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา ตสฺมึเยว วนสณฺเฑ วิหาสิ.

อถ โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต กาลํ อาโรเจสิ – ‘‘กาโล, มหาสมณ, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, กสฺสป, อายามห’’นฺติ อุรุเวลกสฺสปํ ชฏิลํ อุยฺโยเชตฺวา ยาย ชมฺพุยา ชมฺพุทีโป ปฺายติ, ตโต ผลํ คเหตฺวา ปมตรํ อาคนฺตฺวา อคฺยาคาเร นิสีทิ. อทฺทสา โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ภควนฺตํ อคฺยาคาเร นิสินฺนํ, ทิสฺวาน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กตเมน ตฺวํ, มหาสมณ, มคฺเคน อาคโต, อหํ ตยา ปมตรํ ปกฺกนฺโต, โส ตฺวํ ปมตรํ อาคนฺตฺวา อคฺยาคาเร นิสินฺโน’’ติ? ‘‘อิธาหํ, กสฺสป, ตํ อุยฺโยเชตฺวา ยาย ชมฺพุยา ชมฺพุทีโป ปฺายติ, ตโต ผลํ คเหตฺวา ปมตรํ อาคนฺตฺวา อคฺยาคาเร นิสินฺโน. อิทํ โข, กสฺสป, ชมฺพุผลํ วณฺณสมฺปนฺนํ คนฺธสมฺปนฺนํ รสสมฺปนฺนํ, สเจ อากงฺขสิ ปริภุฺชา’’ติ. ‘‘อลํ, มหาสมณ, ตฺวํเยว ตํ อรหสิ, ตฺวํเยว ตํ ปริภุฺชา’’ติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม มํ ปมตรํ อุยฺโยเชตฺวา ยาย ชมฺพุยา ชมฺพุทีโป ปฺายติ, ตโต ผลํ คเหตฺวา ปมตรํ อาคนฺตฺวา อคฺยาคาเร นิสีทิสฺสติ, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ. อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา ตสฺมึเยว วนสณฺเฑ วิหาสิ.

อถ โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต กาลํ อาโรเจสิ – ‘‘กาโล, มหาสมณ, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, กสฺสป, อายามห’’นฺติ อุรุเวลกสฺสปํ ชฏิลํ อุยฺโยเชตฺวา ยาย ชมฺพุยา ชมฺพุทีโป ปฺายติ, ตสฺสา อวิทูเร อมฺโพ…เป… ตสฺสา อวิทูเร อามลกี…เป… ตสฺสา อวิทูเร หรีตกี…เป… ตาวตึสํ คนฺตฺวา ปาริจฺฉตฺตกปุปฺผํ คเหตฺวา ปมตรํ อาคนฺตฺวา อคฺยาคาเร นิสีทิ. อทฺทสา โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ภควนฺตํ อคฺยาคาเร นิสินฺนํ, ทิสฺวาน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กตเมน ตฺวํ, มหาสมณ, มคฺเคน อาคโต, อหํ ตยา ปมตรํ ปกฺกนฺโต, โส ตฺวํ ปมตรํ อาคนฺตฺวา อคฺยาคาเร นิสินฺโน’’ติ? ‘‘อิธาหํ, กสฺสป, ตํ อุยฺโยเชตฺวา ตาวตึสํ คนฺตฺวา ปาริจฺฉตฺตกปุปฺผํ คเหตฺวา ปมตรํ อาคนฺตฺวา อคฺยาคาเร นิสินฺโน. อิทํ โข, กสฺสป, ปาริจฺฉตฺตกปุปฺผํ วณฺณสมฺปนฺนํ คนฺธสมฺปนฺนํ, สเจ อากงฺขสิ คณฺหา’’ติ . ‘‘อลํ, มหาสมณ, ตฺวํเยว ตํ อรหสิ, ตฺวํเยว ตํ คณฺหา’’ติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม มํ ปมตรํ อุยฺโยเชตฺวา ตาวตึสํ คนฺตฺวา ปาริจฺฉตฺตกปุปฺผํ คเหตฺวา ปมตรํ อาคนฺตฺวา อคฺยาคาเร นิสีทิสฺสติ, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ.

เตน โข ปน สมเยน เต ชฏิลา อคฺคึ ปริจริตุกามา น สกฺโกนฺติ กฏฺานิ ผาเลตุํ. อถ โข เตสํ ชฏิลานํ เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข มหาสมณสฺส อิทฺธานุภาโว ยถา มยํ น สกฺโกม กฏฺานิ ผาเลตุ’’นฺติ. อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘ผาลิยนฺตุ, กสฺสป, กฏฺานี’’ติ. ‘‘ผาลิยนฺตุ, มหาสมณา’’ติ. สกิเทว ปฺจ กฏฺสตานิ ผาลิยึสุ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม กฏฺานิปิ ผาลิยิสฺสนฺติ, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ.

เตน โข ปน สมเยน เต ชฏิลา อคฺคึ ปริจริตุกามา น สกฺโกนฺติ อคฺคึ อุชฺชเลตุํ. อถ โข เตสํ ชฏิลานํ เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข มหาสมณสฺส อิทฺธานุภาโว ยถา มยํ น สกฺโกม อคฺคึ อุชฺชเลตุ’’นฺติ. อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘อุชฺชลิยนฺตุ, กสฺสป, อคฺคี’’ติ. ‘‘อุชฺชลิยนฺตุ, มหาสมณา’’ติ. สกิเทว ปฺจ อคฺคิสตานิ อุชฺชลิยึสุ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม อคฺคีปิ อุชฺชลิยิสฺสนฺติ, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ.

เตน โข ปน สมเยน เต ชฏิลา อคฺคึ ปริจริตฺวา น สกฺโกนฺติ อคฺคึ วิชฺฌาเปตุํ. อถ โข เตสํ ชฏิลานํ เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข มหาสมณสฺส อิทฺธานุภาโว ยถา มยํ น สกฺโกม อคฺคึ วิชฺฌาเปตุ’’นฺติ. อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘วิชฺฌายนฺตุ, กสฺสป, อคฺคี’’ติ. ‘‘วิชฺฌายนฺตุ, มหาสมณา’’ติ. สกิเทว ปฺจ อคฺคิสตานิ วิชฺฌายึสุ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม อคฺคีปิ วิชฺฌายิสฺสนฺติ, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ.

เตน โข ปน สมเยน เต ชฏิลา สีตาสุ เหมนฺติกาสุ รตฺตีสุ อนฺตรฏฺกาสุ หิมปาตสมเย นชฺชา เนรฺชราย อุมฺมุชฺชนฺติปิ นิมุชฺชนฺติปิ อุมฺมุชฺชนนิมุชฺชนมฺปิ กโรนฺติ. อถ โข ภควา ปฺจมตฺตานิ มนฺทามุขิสตานิ อภินิมฺมินิ ยตฺถ เต ชฏิลา อุตฺตริตฺวา วิสิพฺเพสุํ. อถ โข เตสํ ชฏิลานํ เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข มหาสมณสฺส อิทฺธานุภาโว ยถยิมา มนฺทามุขิโย นิมฺมิตา’’ติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม ตาว พหู มนฺทามุขิโยปิ อภินิมฺมินิสฺสติ, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ.

เตน โข ปน สมเยน มหา อกาลเมโฆ ปาวสฺสิ, มหา อุทกวาหโก สฺชายิ, ยสฺมึ ปเทเส ภควา วิหรติ โส ปเทโส อุทเกน น โอตฺถโฏ โหติ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ สมนฺตา อุทกํ อุสฺสาเรตฺวา มชฺเฌ เรณุหตาย ภูมิยา จงฺกเมยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา สมนฺตา อุทกํ อุสฺสาเรตฺวา มชฺเฌ เรณุหตาย ภูมิยา จงฺกมิ. อถ โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ‘‘มาเหว โข มหาสมโณ อุทเกน วูฬฺโห อโหสี’’ติ นาวาย สมฺพหุเลหิ ชฏิเลหิ สทฺธึ ยสฺมึ ปเทเส ภควา วิหรติ, ตํ ปเทสํ อคมาสิ. อทฺทสา โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ภควนฺตํ สมนฺตา อุทกํ อุสฺสาเรตฺวา มชฺเฌ เรณุหตาย ภูมิยา จงฺกมนฺตํ, ทิสฺวาน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ นุ ตฺวํ, มหาสมณา’’ติ. ‘‘อยมหมสฺมิ, กสฺสปา’’ติ ภควา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา นาวาย ปจฺจุฏฺาสิ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว , ยตฺร หิ นาม อุทกมฺปิ น ปวาหิสฺสติ, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ.

อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘จิรมฺปิ โข อิมสฺส โมฆปุริสสฺส เอวํ ภวิสฺสติ ‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’นฺติ, ยํนูนาหํ อิมํ ชฏิลํ สํเวเชยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘เนว จ โข ตฺวํ, กสฺสป, อรหา, นาปิ อรหตฺตมคฺคสมาปนฺโน, สาปิ เต ปฏิปทา นตฺถิ, ยาย ตฺวํ อรหา วา อสฺสสิ อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺโน’’ติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ลเภยฺยาหํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติ. ‘‘ตฺวํ โขสิ, กสฺสป, ปฺจนฺนํ ชฏิลสตานํ นายโก วินายโก อคฺโค ปมุโข ปาโมกฺโข, เตปิ ตาว อปโลเกหิ, ยถา เต มฺิสฺสนฺติ, ตถา เต กริสฺสนฺตี’’ติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล เยน เต ชฏิลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ชฏิเล เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, โภ, มหาสมเณ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ, ยถา ภวนฺโต มฺนฺติ ตถา กโรนฺตู’’ติ. ‘‘จิรปฏิกา มยํ, โภ, มหาสมเณ อภิปฺปสนฺนา, สเจ ภวํ มหาสมเณ พฺรหฺมจริยํ จริสฺสติ, สพฺเพว มยํ มหาสมเณ พฺรหฺมจริยํ จริสฺสามา’’ติ. อถ โข เต ชฏิลา เกสมิสฺสํ ชฏามิสฺสํ ขาริกาชมิสฺสํ อคฺคิหุตมิสฺสํ อุทเก ปวาเหตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ลเภยฺยาม มยํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยาม อุปสมฺปท’’นฺติ. ‘‘เอถ, ภิกฺขโว’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จรถ พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ. สาว เตสํ อายสฺมนฺตานํ อุปสมฺปทา อโหสิ.

อทฺทสา โข นทีกสฺสโป ชฏิโล เกสมิสฺสํ ชฏามิสฺสํ ขาริกาชมิสฺสํ อคฺคิหุตมิสฺสํ อุทเก วุยฺหมาเน, ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มาเหว เม ภาตุโน อุปสคฺโค อโหสี’’ติ, ชฏิเล ปาเหสิ – ‘‘คจฺฉถ เม ภาตรํ ชานาถา’’ติ, สามฺจ ตีหิ ชฏิลสเตหิ สทฺธึ เยนายสฺมา อุรุเวลกสฺสโป เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อุรุเวลกสฺสปํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ นุ โข, กสฺสป, เสยฺโย’’ติ? ‘‘อามาวุโส, อิทํ เสยฺโย’’ติ. อถ โข เต ชฏิลา เกสมิสฺสํ ชฏามิสฺสํ ขาริกาชมิสฺสํ อคฺคิหุตมิสฺสํ อุทเก ปวาเหตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ลเภยฺยาม มยํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยาม อุปสมฺปท’’นฺติ. ‘‘เอถ, ภิกฺขโว’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จรถ พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ. สาว เตสํ อายสฺมนฺตานํ อุปสมฺปทา อโหสิ.

อทฺทสา โข คยากสฺสโป ชฏิโล เกสมิสฺสํ ชฏามิสฺสํ ขาริกาชมิสฺสํ อคฺคิหุตมิสฺสํ อุทเก วุยฺหมาเน, ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มาเหว เม ภาตูนํ อุปสคฺโค อโหสี’’ติ, ชฏิเล ปาเหสิ – ‘‘คจฺฉถ เม ภาตโร ชานาถา’’ติ, สามฺจ ทฺวีหิ ชฏิลสเตหิ สทฺธึ เยนายสฺมา อุรุเวลกสฺสโป เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อุรุเวลกสฺสปํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ นุ โข, กสฺสป, เสยฺโย’’ติ? ‘‘อามาวุโส, อิทํ เสยฺโย’’ติ. อถ โข เต ชฏิลา เกสมิสฺสํ ชฏามิสฺสํ ขาริกาชมิสฺสํ อคฺคิหุตมิสฺสํ อุทเก ปวาเหตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ลเภยฺยาม มยํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยาม อุปสมฺปท’’นฺติ. ‘‘เอถ, ภิกฺขโว’’ติ, ภควา อโวจ – ‘‘สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จรถ พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ. สาว เตสํ อายสฺมนฺตานํ อุปสมฺปทา อโหสิ.

‘‘ภควโต อธิฏฺาเนน ปฺจ กฏฺสตานิ น ผาลิยึสุ, ผาลิยึสุ, อคฺคี น อุชฺชลิยึสุ, อุชฺชลิยึสุ, น วิชฺฌายึสุ, วิชฺฌายึสุ, ปฺจ มนฺทามุขิสตานิ อภินิมฺมินิ, เอเตน นเยน อฑฺฒุฑฺฒปาฏิหาริยสหสฺสานิ โหนฺติ.

‘‘อถ โข ภควา อุรุเวลายํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน คยาสีสํ เตน จาริกํ ปกฺกามิ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ สหสฺเสน สพฺเพเหว ปุราณชฏิเลหิ. ตตฺร สุทํ ภควา คยายํ วิหรติ คยาสีเส สทฺธึ ภิกฺขุสหสฺเสน. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขุ อามนฺเตสิ (สํ. นิ. ๔.๒๘) – ‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อาทิตฺตํ, กิฺจ, ภิกฺขเว, สพฺพํ อาทิตฺตํ, จกฺขุ, ภิกฺขเว, อาทิตฺตํ, รูปา อาทิตฺตา, จกฺขุวิฺาณํ อาทิตฺตํ, จกฺขุสมฺผสฺโส อาทิตฺโต, ยมิทํ จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตมฺปิ อาทิตฺตํ. เกน อาทิตฺตํ, ราคคฺคินา โทสคฺคินา โมหคฺคินา อาทิตฺตํ, ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ อาทิตฺตนฺติ วทามิ? โสตํ อาทิตฺตํ, สทฺทา อาทิตฺตา…เป… ฆานํ อาทิตฺตํ, คนฺธา อาทิตฺตา…เป… ชิวฺหา อาทิตฺตา, รสา อาทิตฺตา…เป… กาโย อาทิตฺโต, โผฏฺพฺพา อาทิตฺตา…เป… มโน อาทิตฺโต, ธมฺมา อาทิตฺตา, มโนวิฺาณํ อาทิตฺตํ, มโนสมฺผสฺโส อาทิตฺโต, ยมิทํ มโนสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตมฺปิ อาทิตฺตํ. เกน อาทิตฺตํ, ราคคฺคินา โทสคฺคินา โมหคฺคินา อาทิตฺตํ, ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ อาทิตฺต’’’นฺติ วทามิ.

‘‘เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก จกฺขุสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ, รูเปสุปิ นิพฺพินฺทติ, จกฺขุวิฺาเณปิ นิพฺพินฺทติ, จกฺขุสมฺผสฺเสปิ นิพฺพินฺทติ, ยมิทํ จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ. โสตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ, สทฺเทสุปิ นิพฺพินฺทติ…เป… ฆานสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ, คนฺเธสุปิ นิพฺพินฺทติ…เป… ชิวฺหายปิ นิพฺพินฺทติ, รเสสุปิ นิพฺพินฺทติ…เป… กายสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ, โผฏฺพฺเพสุปิ นิพฺพินฺทติ…เป… มนสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ, ธมฺเมสุปิ นิพฺพินฺทติ, มโนวิฺาเณปิ นิพฺพินฺทติ, มโนสมฺผสฺเสปิ นิพฺพินฺทติ, ยมิทํ มโนสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ. นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ , วิราคา วิมุจฺจติ, วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ, ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาตี’’ติ.

อิมสฺมิฺจ ปน เวยฺยากรณสฺมึ ภฺมาเน ตสฺส ภิกฺขุสหสฺสสฺส อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสุ.

๒๙. เอวํ อาทิตฺตปริยายเทสนํ สุตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ สมฺปตฺโต นทีกสฺสโป เถโร โสมนสฺสชาโต อตฺตโน ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโตติอาทิมาห. ตตฺถ อคฺคผลนฺติ อุตฺตมผลํ, อตฺตนา โรปิตอมฺพรุกฺขสฺส อาทิมฺหิ คหิตผลํ วา. เสสํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.

นทีกสฺสปตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.

๓. คยากสฺสปตฺเถรอปทานวณฺณนา

ตติยาปทาเน อชินจมฺมวตฺโถหนฺติอาทิกํ อายสฺมโต คยากสฺสปตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺโต อิโต เอกตึสกปฺเป สิขิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺโต วิฺุตํ ปตฺโต นิสฺสรณชฺฌาสยตาย ฆราวาสํ ปหาย ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อรฺายตเน อสฺสมํ มาเปตฺวา วนมูลผลาหาโร วสติ. เตน จ สมเยน ภควา เอโก อทุติโย ตสฺส อสฺสมสมีเปนาคจฺฉิ, โส ภควนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิโต เวลํ โอโลเกนฺโต มโนหรานิ โกลผลานิ สตฺถุ อุปเนสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต นิสฺสรณชฺฌาสยตาย ฆราวาสํ ปหาย ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ทฺวีหิ ตาปสสเตหิ สทฺธึ คยาย วิหรติ. คยาย วสนโต หิสฺส กสฺสปโคตฺตตาย จ คยากสฺสโปติ สมฺา อโหสิ. โส ภควโต สทฺธึ ปริสาย เอหิภิกฺขูปสมฺปทํ ทตฺวา นทีกสฺสปสฺส วุตฺตนเยน อาทิตฺตปริยาย เทสนาย โอวทิยมาโน อรหตฺเต ปติฏฺาสิ.

๓๕. โส อรหตฺตํ ปตฺวา โสมนสฺสชาโต อตฺตโน ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต อชินจมฺมวตฺโถหนฺติอาทิมาห . ตตฺถ อชินจมฺมวตฺโถติ ตาปสปพฺพชิตตฺตา อชินจมฺมนิวาสนปาวุรโณติ อตฺโถ. ขาริภารธโรติ ตาปสกาเล ตาปสปริกฺขารปริปุณฺณกาชธโรติ อตฺโถ. ขาริกตาปสปริกฺขาเร ปูเรตฺวา. โกลํ อหาสิ อสฺสมนฺติ โกลผลํ อสฺสเม ปูเรตฺวา อสฺสเม นิสินฺโนติ อตฺโถ. อโคปยินฺติ ปาเ โกลผลํ ปริเยสิตฺวา อสฺสมํ โคเปสึ รกฺขินฺติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

คยากสฺสปตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.

๔. กิมิลตฺเถรอปทานวณฺณนา

จตุตฺถาปทาเน นิพฺพุเต กกุสนฺธมฺหีติอาทิกํ อายสฺมโต กิมิลตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปุฺานิ อุปจินนฺโต กกุสนฺธสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต ปรินิพฺพุเต สตฺถริ ตสฺส ธาตุโย อุทฺทิสฺส สลลมาลาหิ มณฺฑปํ กาเรตฺวา ปูชํ อกาสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน ตาวตึเสสุ อุปฺปชฺชิตฺวา อปราปรํ เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กปิลวตฺถุนคเร สกฺยราชกุเล นิพฺพตฺติตฺวา กิมิโลติ ตสฺส นามํ อกาสิ. โส วยปฺปตฺโต โภคสมฺปตฺติยา ปมตฺโต วิหรติ. ตสฺส าณปริปากํ ตฺวา สํเวคชนนตฺถํ อนุปิยายํ วิหรนฺโต สตฺถา ปมโยพฺพเน ิตํ รมณียํ อิตฺถิรูปํ อภินิมฺมินิตฺวา ปุรโต ทสฺเสตฺวา ปุน อนุกฺกเมน ยถา ชราโรควิปตฺตีหิ อภิภูตา ทิสฺสติ, ตถา อกาสิ. ตํ ทิสฺวา กิมิลกุมาโร อติวิย สํเวคชาโต อตฺตโน สํเวคํ ปกาเสนฺโต ภควโต ปากฏํ กตฺวา ลทฺธานุสาสโน อรหตฺตํ ปาปุณิ.

๔๒. โส อรหตฺตํ ปตฺวา โสมนสฺสชาโต อตฺตโน ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต นิพฺพุเต กกุสนฺธมฺหีติอาทิมาห. พฺราหฺมณมฺหิ วุสีมตีติ ปฺจหิ วสิตาหิ วสิปฺปตฺตมฺหิ ภควติ. พฺราหฺมณสฺส สพฺพคุณคเณหิ มณฺฑิตตฺตา อภิวูฬฺหีตตฺตา พฺราหฺมณมฺหิ กกุสนฺเธ ภควติ ปรินิพฺพุเตติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพํ อุตฺตานเมวาติ.

กิมิลตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.

๕. วชฺชิปุตฺตตฺเถรอปทานวณฺณนา

สหสฺสรํสีภควาติอาทิกํ อายสฺมโต วชฺชิปุตฺตตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ ปุฺํ อุปจินนฺโต อิโต จตุนวุติกปฺเป เอกํ ปจฺเจกพุทฺธํ ภิกฺขาย คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส กทลิผลานิ อทาสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท เวสาลิยํ ลิจฺฉวิราชกุมาโร หุตฺวา นิพฺพตฺติ, วชฺชิราชปุตฺตตฺตา วชฺชิปุตฺโตตฺเววสฺส สมฺา. โส ทหโร หุตฺวา หตฺถิสิปฺปาทิสิกฺขนกาเลปิ เหตุสมฺปนฺนตาย นิสฺสรณชฺฌาสโยว หุตฺวา วิจรนฺโต สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กตฺวา นจิรสฺเสว ฉฬภิฺโ อโหสิ. ฉฬภิฺโ ปน หุตฺวา อปรภาเค อจิรปรินิพฺพุเต สตฺถริ ธมฺมํ สงฺคายิตุํ สงฺเกตํ กตฺวา มหาเถเรสุ ตตฺถ ตตฺถ วิหรนฺเตสุ เอกทิวสํ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เสขํเยว สมานํ มหติยา ปริสาย ปริวุตํ ธมฺมํ เทเสนฺตํ ทิสฺวา ตสฺส อุปริมคฺคาธิคมาย อุสฺสาหํ ชเนนฺโต –

‘‘รุกฺขมูลคหนํ ปสกฺกิย, นิพฺพานํ หทยสฺมึ โอปิย;

ฌาย โคตม มา จ ปมาโท, กึ เต พิฬิพิฬิกา กริสฺสตี’’ติ. (เถรคา. ๑๑๙) – คาถํ อภาสิ;

ตตฺถ รุกฺขมูลคหนนฺติ รุกฺขมูลภูตํ คหนํ, คหนฺหิ อตฺถิ, น รุกฺขมูลํ, รุกฺขมูลฺจ อตฺถิ, น คหนํ, เตสุ รุกฺขมูลคฺคหเณน านสฺส ฉายาย สมฺปนฺนตาย วาตาตปปริสฺสยาภาวํ ทีเปติ, คหนคฺคหเณน นิวาตภาเวน วาตปริสฺสยาภาวํ ชนสมฺพาธาภาวฺจ ทสฺเสติ, ตทุภเยน จ ภาวนาโยคฺยตํ. ปสกฺกิยาติ อุปคนฺตฺวา. นิพฺพานํ หทยสฺมึ โอปิยาติ ‘‘เอวํ มยา ปฏิปชฺชิตฺวา นิพฺพานํ อธิคนฺตพฺพ’’นฺติ นิพฺพุตึ หทเย เปตฺวา จิตฺเต กตฺวา. ฌายาติ ติลกฺขณูปนิชฺฌาเนน ฌาย, วิปสฺสนาภาวนาสหิตํ มคฺคภาวนํ ภาเวหิ. โคตมาติ ธมฺมภณฺฑาคาริกํ โคตฺเตนาลปติ. มา จ ปมาโทติ อธิกุสเลสุ ธมฺเมสุ มา ปมาทํ อาปชฺชิ. อิทานิ ยาทิโส เถรสฺส ปมาโท, ตํ ปฏิกฺเขปวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘กึ เต พิฬิพิฬิกา กริสฺสตี’’ติ อาห. ตตฺถ พิฬิพิฬิกาติ พิฬิพิฬิกิริยา, พิฬิพิฬิติสทฺทปวตฺติ ยถา นิรตฺถกา, เอวํ พิฬิพิฬิกาสทิสา ชนปฺตฺติ. กึ เต กริสฺสตีติ กีทิสํ อตฺถํ ตุยฺหํ สาเธสฺสติ, ตสฺมา ชนปฺตฺตึ ปหาย สทตฺถปสุโต โหหีติ โอวาทํ อทาสิ.

ตํ สุตฺวา อฺเหิ วุตฺเตน วิสฺสคนฺธวายนวจเนน สํเวคชาโต พหุเทว รตฺตึ จงฺกเมน วีตินาเมนฺโต วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา เสนาสนํ ปวิสิตฺวา มฺจเก นิสินฺนมตฺโตว ‘‘กิฺจิ สยามี’’ติ สีสํ พิมฺโพหนมสมฺปตฺตํ ปาทํ ภูมิโต อุคฺคตํ สรีรสฺส อากาสคตกฺขเณเยว อรหตฺตํ ปาปุณิ.

๔๙. วชฺชิปุตฺตตฺเถโร อปรภาเค โสมนสฺสชาโต อตฺตโน ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต สหสฺสรํสี ภควาติอาทิมาห. ตตฺถ สหสฺสรํสีติ เอตฺถ ‘‘อเนกสตสหสฺสรํสี’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธสุขตฺถํ ‘‘สหสฺสรํสี’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.

วชฺชิปุตฺตตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.

๖. อุตฺตรตฺเถรอปทานวณฺณนา

ฉฏฺาปทาเน สุเมโธ นาม สมฺพุทฺโธติอาทิกํ อายสฺมโต อุตฺตรสามเณรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปุฺานิ อุปจินนฺโต สุเมธสฺส ภควโต กาเล วิชฺชาธโร หุตฺวา อากาเสน วิจรติ. เตน จ สมเยน สตฺถา ตสฺเสว อนุคฺคณฺหนตฺถํ วนนฺตเร อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ ฉพฺพณฺณพุทฺธรํสิโย วิสฺสชฺเชนฺโต. โส อนฺตลิกฺเขน คจฺฉนฺโต ภควนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส อากาสโต โอรุยฺห สุวิสุทฺเธหิ วิปุเลหิ กณิการปุปฺเผหิ ภควนฺตํ ปูเชสิ, ปุปฺผานิ พุทฺธานุภาเวน สตฺถุ อุปริ ฉตฺตากาเรน อฏฺํสุ, โส เตน ภิยฺโยโสมตฺตาย ปสนฺนจิตฺโต หุตฺวา อปรภาเค กาลํ กตฺวา ตาวตึเสสุ นิพฺพตฺติตฺวา ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต ยาวตายุกํ ตตฺถ ตฺวา ตโต จุโต เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห พฺราหฺมณมหาสาลสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, อุตฺตโรติสฺส นามํ อโหสิ. โส วิฺุตํ ปตฺโต พฺราหฺมณวิชฺชาสุ นิปฺผตฺตึ คนฺตฺวา ชาติยา รูเปน วิชฺชาย วเยน สีลาจาเรน จ โลกสฺส สมฺภาวนีโย ชาโต.

ตสฺส ตํ สมฺปตฺตึ ทิสฺวา วสฺสกาโร มคธมหามตฺโต อตฺตโน ธีตรํ ทาตุกาโม หุตฺวา อตฺตโน อธิปฺปายํ ปเวเทสิ. โส นิสฺสรณชฺฌาสยตาย ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา กาเลน กาลํ ธมฺมเสนาปตึ ปยิรุปาสนฺโต ตสฺส สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา วตฺตสมฺปนฺโน หุตฺวา เถรํ อุปฏฺหติ.

เตน จ สมเยน เถรสฺส อฺตโร อาพาโธ อุปฺปนฺโน, ตสฺส เภสชฺชตฺถาย อุตฺตโร สามเณโร ปาโตว ปตฺตจีวรมาทาย วิหารโต นิกฺขนฺโต อนฺตรามคฺเค ตฬากสฺส สมีเป ปตฺตํ เปตฺวา อุทกสมีปํ คนฺตฺวา มุขํ โธวติ. อถ อฺตโร อุมงฺคโจโร กตกมฺโม อารกฺขปุริเสหิ อนุพทฺโธ อคฺคมคฺเคน นครโต นิกฺขมิตฺวา ปลายนฺโต อตฺตนา คหิตํ รตนภณฺฑิตํ สามเณรสฺส ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา ปลายิ. สามเณโรปิ ปตฺตสมีปํ อุปคโต. โจรํ อนุพนฺธนฺตา ราชปุริสา สามเณรสฺส ปตฺเต ภณฺฑิกํ ทิสฺวา ‘‘อยํ โจโร, อิมินา โจริยํ กต’’นฺติ สามเณรํ ปจฺฉาพาหํ พนฺธิตฺวา วสฺสการสฺส พฺราหฺมณสฺส ทสฺเสสุํ. วสฺสกาโร จ ตทา รฺโ วินิจฺฉเย นิยุตฺโต หุตฺวา เฉชฺชเภชฺชํ อนุสาสติ, โส ‘‘ปุพฺเพ มม วจนํ นาทิยิ, สุทฺธปาสณฺฑิเยสุ ปพฺพชี’’ติ (เถรคา. อฏฺ. ๑.อุตฺตรตฺเถรคาถาวณฺณนา) กมฺมํ อโสเธตฺวา ฆาตุกามตฺตาว ชีวนฺตเมว ตํ สูเล อุตฺตาเสสิ.

อถสฺส ภควา าณปริปากํ โอโลเกตฺวา ตํ านํ คนฺตฺวา วิปฺผุรนฺตหตฺถนขมณิมยูขสมฺภินฺนสิตาภตาย ปคฺฆรนฺตชาติหิงฺคุลกสุวณฺณรสธารํ วิย ชาลาคุณฺิตมุทุตลุนทีฆงฺคุลิหตฺถํ อุตฺตรสฺส สีเส เปตฺวา ‘‘อุตฺตร, อิทํ เต ปุริมกมฺมสฺส ผลํ อุปฺปนฺนํ, ตตฺถ ตยา ปจฺจเวกฺขณพเลน อธิวาสนา กาตพฺพา’’ติ วตฺวา อชฺฌาสยานุรูปํ ธมฺมํ เทเสสิ. อุตฺตโร อมตาภิเสกสทิเสน สตฺถุ หตฺถสมฺผสฺเสน สฺชาตปฺปสาทโสมนสฺสตาย อุฬารปีติปาโมชฺชํ ปฏิลภิตฺวา ยถาปริจิตํ วิปสฺสนามคฺคํ สมารูฬฺโห าณสฺส ปริปากํ คตตฺตา สตฺถุ จ เทสนาวิลาเสน ตาวเทว มคฺคปฏิปาฏิยา สพฺเพ กิเลเส เขเปตฺวา ฉฬภิฺโ อโหสิ. ฉฬภิฺโ ปน หุตฺวา สูลโต อุฏฺหิตฺวา ปรานุทฺทยาย อากาเส ตฺวา ปาฏิหาริยํ ทสฺเสสิ. มหาชโน อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาโต อโหสิ. ตาวเทวสฺส วโณ สํรูฬฺหิ, โส ภิกฺขูหิ, ‘‘อาวุโส, ตาทิสทุกฺขํ อนุภวนฺโต กถํ ตฺวํ วิปสฺสนํ อนุยุฺชิตุํ อสกฺขี’’ติ ปุฏฺโ, ‘‘ปเคว เม, อาวุโส, สํสาเร อาทีนโว, สงฺขารานฺจ สภาโว สุทิฏฺโ, เอวาหํ ตาทิสํ ทุกฺขํ อนุภวนฺโตปิ อสกฺขึ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา วิเสสํ อธิคนฺตุ’’นฺติ อาห. ‘‘ปุพฺพชาติยา ทหรกาเล มกฺขิกํ คเหตฺวา นิมฺพสูลกํ คเหตฺวา สูลาโรปนกีฬํ ปฏิจฺจ เอวํ อเนกชาติสเตสุ สูลาโรปนทุกฺขมนุภวิตฺวา อิมาย ปริโยสานชาติยา เอวรูปํ ทุกฺขมนุภูต’’นฺติ อาห.

๕๕. อถ อปรภาเค ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวา โสมนสฺสชาโต ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต สุเมโธ นาม สมฺพุทฺโธติอาทิมาห. ตตฺถ อนุตฺตานปทวณฺณนเมว กริสฺสาม.

๕๗. วิชฺชาธโร ตทา อาสินฺติ พาหิรกมนฺตาทิวิชฺชาสิทฺธิยา อากาสคามิสมตฺโถ หุตฺวา จรณวเสน ตํ วิชฺชํ รกฺขิตฺวา อวินาเสตฺวา ปริหรณวเสน วิชฺชาธรโยนิ อาสึ อโหสินฺติ อตฺโถ. อนฺตลิกฺขจโร อหนฺติ อนฺตํ ปริโยสานํ โกฏึ ลิขเต สํกริสฺสตีติ อนฺตลิกฺขํ. อถ วา อนฺตํ ปริโยสานํ ลิขฺยเต โอโลกิยเต เอเตนาติ อนฺตลิกฺขํ, ตสฺมึ อนฺตลิกฺเข, อากาเส จรณสีโล อหนฺติ อตฺโถ. ติสูลํ สุกตํ คยฺหาติ ติขิณํ สูลํ, อคฺคํ อาวุธํ. ติสูลํ สุนฺทรํ กตํ, โกฏฺฏนฆํสนมทฺทนปหรณวเสน สุฏฺุ กตํ สูลาวุธํ คยฺห คเหตฺวา อมฺพรโต คจฺฉามีติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตาว นยานุโยเคน สุวิฺเยฺยเมวาติ.

อุตฺตรตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.

๗. อปรอุตฺตรตฺเถรอปทานวณฺณนา

สตฺตมาปทาเน นิพฺพุเต โลกนาถมฺหีติอาทิกํ อายสฺมโต อปรสฺส อุตฺตรตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปุฺานิ อุปจินนฺโต อิโต จตุนฺนวุติกปฺเป สิทฺธตฺถสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต วิฺุตํ ปตฺวา สาสเน ลทฺธปฺปสาโท หุตฺวา อุปาสกตฺตํ นิเวเทสิ. โส สตฺถริ ปรินิพฺพุเต อตฺตโน าตเก สนฺนิปาเตตฺวา พหุปูชาสกฺการํ สํหริตฺวา ธาตุปูชํ อกาสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาเกเต พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา อุตฺตโรติ ลทฺธนาโม วยปฺปตฺโต เกนจิเทว กรณีเยน สาวตฺถึ คโต กณฺฑมฺพมูเล กตํ ยมกปาฏิหาริยํ ทิสฺวา ปสีทิตฺวา ปุน กาฬการามสุตฺตเทสนาย อภิวฑฺฒมานสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา สตฺถารา สทฺธึ ราชคหํ คนฺตฺวา อุปสมฺปทํ ลภิตฺวา ตเถว จรนฺโต วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา นจิรสฺเสว ฉฬภิฺโ อโหสิ. ฉฬภิฺโ ปน หุตฺวา สตฺถริ สาวตฺถิยํ วิหรนฺเต พุทฺธุปฏฺานตฺถํ ราชคหโต สาวตฺถึ อุปคโต ภิกฺขูหิ – ‘‘กึ, อาวุโส, ปพฺพชฺชากิจฺจํ ตยา มตฺถกํ ปาปิต’’นฺติ ปุฏฺโ อฺํ พฺยากาสิ.

๙๓. อรหตฺตํ ปน ปตฺวา โสมนสฺสชาโต อตฺตโน ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต นิพฺพุเต โลกนาถมฺหีติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมวาติ.

อปรอุตฺตรตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.

๘. ภทฺทชิตฺเถรอปทานวณฺณนา

อฏฺมาปทาเน โอคยฺหาหํ โปกฺขรณินฺติอาทิกํ อายสฺมโต ภทฺทชิตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปุฺานิ อุปจินนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต พฺราหฺมณานํ วิชฺชาสิปฺเปสุ ปารํ คนฺตฺวา กาเม ปหาย ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อรฺายตเน อสฺสมํ กาเรตฺวา วสนฺโต เอกทิวสํ สตฺถารํ อากาเสน คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส อฺชลึ ปคฺคยฺห อฏฺาสิ. สตฺถา ตสฺส อชฺฌาสยํ ทิสฺวา อากาสโต โอตริ. โอติณฺณสฺส ปน ภควโต มธุฺจ ภิสมุฬาลฺจ สปฺปิขีรฺจ อุปนาเมสิ, ตสฺส ตํ ภควา อนุกมฺมํ อุปาทาย ปฏิคฺคเหตฺวา อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน ตุสิเตสุ นิพฺพตฺโต ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา ตโต จุโต อปราปรํ สุคตีสุเยว สํสรนฺโต วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล มหทฺธโน เสฏฺิ หุตฺวา อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสํ โภเชตฺวา ติจีวเรน อจฺฉาเทสิ.

เอวํ พหุํ กุสลํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺติ. ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา ตโต จวิตฺวา มนุสฺสโลเกสุ อุปฺปนฺโน พุทฺธสุฺเ โลเก ปฺจ ปจฺเจกพุทฺธสตานิ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺหิตฺวา ตโต จุโต ราชกุเล นิพฺพตฺติตฺวา รชฺชํ อนุสาสนฺโต อตฺตโน ปุตฺตํ ปจฺเจกโพธึ อธิคนฺตฺวา ิตํ อุปฏฺหิตฺวา ตสฺส ปรินิพฺพุตสฺส ธาตุโย คเหตฺวา เจติยํ กตฺวา ปูเชสิ. เอวํ ตตฺถ ตตฺถ ตานิ ตานิ ปุฺานิ กตฺวา อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ภทฺทิยนคเร อสีติโกฏิวิภวสฺส ภทฺทิยเสฏฺิสฺส เอกปุตฺตโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ภทฺทชีติสฺส นามํ อโหสิ. ตสฺส กิร อิสฺสริยโภคปริวารสมฺปตฺติ จริมภเว โพธิสตฺตสฺส วิย อโหสิ.

ตทา สตฺถา สาวตฺถิยํ วสิตฺวา ภทฺทชิกุมารํ สงฺคณฺหนตฺถาย มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ภทฺทิยนครํ คนฺตฺวา ชาติยาวเน วสิ ตสฺส าณปริปากํ อาคมยมาโน. โสปิ อุปริปาสาเท นิสินฺโน สีหปฺชรํ วิวริตฺวา โอโลเกนฺโต ภควโต สนฺติเก ธมฺมํ โสตุํ คจฺฉนฺตํ มหาชนํ ทิสฺวา, ‘‘กตฺถายํ มหาชโน คจฺฉตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตํ การณํ สุตฺวา สยมฺปิ มหตา ปริวาเรน สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุณนฺโต สพฺพาภรณปฏิมณฺฑิโตว สพฺพกิเลเส เขเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. อรหตฺเต ปน เตน อธิคเต สตฺถา ภทฺทิยเสฏฺึ อามนฺเตสิ – ‘‘ตว ปุตฺโต อลงฺกตปฏิยตฺโต ธมฺมํ สุณนฺโต อรหตฺเต ปติฏฺาสิ, เตนสฺส อิทาเนว ปพฺพชิตุํ ยุตฺตํ, โน เจ ปพฺพชิสฺสติ, ปรินิพฺพายิสฺสตี’’ติ. เสฏฺิ ‘‘น มยฺหํ ปุตฺตสฺส ทหรสฺเสว สโต ปรินิพฺพาเนน กิจฺจํ อตฺถิ, ปพฺพาเชถ น’’นฺติ อาห. ตํ สตฺถา ปพฺพาเชตฺวา อุปสมฺปาเทตฺวา ตตฺถ สตฺตาหํ วสิตฺวา โกฏิคามํ ปาปุณิ, โส จ คาโม คงฺคาตีเร อโหสิ . โกฏิคามวาสิโน จ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ปวตฺเตสุํ. ภทฺทชิตฺเถโร สตฺถารา อนุโมทนาย อารทฺธมตฺตาย พหิคามํ คนฺตฺวา ‘‘คงฺคาตีเร มคฺคสมีเป สตฺถุ อาคตกาเล วุฏฺหิสฺสามี’’ติ กาลปริจฺเฉทํ กตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา นิสีทิ. มหาเถเรสุ อาคจฺฉนฺเตสุปิ อวุฏฺหิตฺวา สตฺถุ อาคตกาเลเยว วุฏฺาสิ. ปุถุชฺชนา ภิกฺขู – ‘‘อยํ อธุนา ปพฺพชิโต, มหาเถเรสุ อาคจฺฉนฺเตสุ มานถทฺโธ หุตฺวา น วุฏฺาสี’’ติ อุชฺฌายึสุ.

โกฏิคามวาสิโน สตฺถุ ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ พหู นาวาสงฺฆาเฏ พนฺธึสุ. สตฺถา ‘‘ภทฺทชิสฺสานุภาวํ ปกาเสมี’’ติ นาวาย ตฺวา ‘‘กหํ ภทฺทชี’’ติ ปุจฺฉิ. ภทฺทชิตฺเถโร – ‘‘โสหํ, ภนฺเต’’ติ สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา อฺชลึ กตฺวา อฏฺาสิ. สตฺถา ‘‘เอหิ, ภทฺทชิ, อมฺเหหิ สทฺธึ เอกนาวํ อภิรุหา’’ติ. โส อุปฺปติตฺวา สตฺถุ ิตนาวายํ อฏฺาสิ. สตฺถา คงฺคาย มชฺเฌ คตกาเล, ‘‘ภทฺทชิ, ตยา มหาปนาทกาเล อชฺฌาวุฏฺรตนปาสาโท กห’’นฺติ อาห. ‘‘อิมสฺมึ าเน นิมุคฺโค, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภทฺทชิ, สพฺรหฺมจารีนํ กงฺขํ ฉินฺทา’’ติ. ตสฺมึ ขเณ เถโร สตฺถารํ วนฺทิตฺวา อิทฺธิพเลน คนฺตฺวา ปาสาทถูปิกํ ปาทงฺคุลนฺตเรน สนฺนิรุชฺฌิตฺวา ปฺจวีสติโยชนํ ปาสาทํ คเหตฺวา อากาเส อุปฺปติ, อุปฺปตนฺโต จ ปฺาสโยชนานิ อุกฺขิปิ. อถสฺส ปุริมภเว าตกา ปาสาทคเตน โลเภน มจฺฉกจฺฉปมณฺฑูกา หุตฺวา นิพฺพตฺตา ตสฺมึ ปาสาเท อุฏฺหนฺเต ปริวตฺติตฺวา ปตึสุ. สตฺถา เต สมฺปตนฺเต ทิสฺวา ‘‘าตกา เต, ภทฺทชิ, กิลมนฺตี’’ติ อาห. เถโร สตฺถุ วจเนน ปาสาทํ วิสฺสชฺเชสิ. ปาสาโท ยถาาเนเยว ปติฏฺหิ. สตฺถา ปารงฺคโต ภิกฺขูหิ – ‘‘กทา, ภนฺเต, ภทฺทชิตฺเถเรน อยํ ปาสาโท อชฺฌาวุฏฺโ’’ติ ปุฏฺโ มหาปนาทชาตกํ (ชา. ๑.๓.๔๐ อาทโย) กเถตฺวา พหุชนํ ธมฺมามตํ ปาเยสิ.

๙๘. เถโร ปน อรหตฺตํ ปตฺโต ปุพฺพสมฺภารํ สริตฺวา โสมนสฺสชาโต ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสตุํ โอคยฺหาหํ โปกฺขรณินฺติอาทิมาห. ตตฺถ โอคยฺหาหํ โปกฺขรณินฺติ ปุถุนานาอเนกมโหเฆหิ ขณิตตฺตา ‘‘โปกฺขรณี’’ติ ลทฺธนามํ ชลาสยํ โอคยฺห โอคเหตฺวา ปวิสิตฺวา อชฺโฌคาเหตฺวา ฆาสเหตุขาทนตฺถาย ตตฺถ โปกฺขรณิยํ ปวิสิตฺวา ภิสํ ปทุมปุณฺฑรีกมูลํ อุทฺธรามีติ อตฺโถ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานปทตฺถตฺตา จ นยานุสาเรน สุวิฺเยฺยเมวาติ.

ภทฺทชิตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.

๙. สิวกตฺเถรอปทานวณฺณนา

นวมาปทาเน เอสนาย จรนฺตสฺสาติอาทิกํ อายสฺมโต สิวกตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปุฺานิ อุปจินนฺโต วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต เอกทิวสํ ภควนฺตํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส ปตฺตํ อาทาย กุมฺมาสสฺส ปูเรตฺวา อทาสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห พฺราหฺมณกุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา สิวโกติสฺส นามํ อโหสิ. โส วยปฺปตฺโต วิชฺชาสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ คโต เนกฺขมฺมชฺฌาสยตาย กาเม ปหาย ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา วิจรนฺโต สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิ.

๑๑๗. อรหตฺตํ ปตฺวา โสมนสฺสชาโต อตฺตโน ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต เอสนาย จรนฺตสฺสาติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.

สิวกตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.

๑๐. อุปวานตฺเถรอปทานวณฺณนา

ทสมาปทาเน ปทุมุตฺตโร นาม ชิโนติอาทิกํ อายสฺมโต อุปวานตฺเถรสฺส อปทานํ. อยํ กิร ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปุฺานิ อุปจินนฺโต เกนจิ กมฺมจฺฉิทฺเทน ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล ทลฺลิทฺทกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต ภควติ ปรินิพฺพุเต ตสฺส ธาตุํ คเหตฺวา มนุสฺสเทวนาคครุฬยกฺขกุมฺภณฺฑคนฺธพฺเพหิ สตฺตรตนมเย สตฺตโยชนิเก ถูเป กเต ตตฺถ สุโธตํ อตฺตโน อุตฺตราสงฺคํ เวฬคฺเค อาพนฺธิตฺวา ธชํ กตฺวา ปูชํ อกาสิ. ตํ คเหตฺวา อภิสมฺมตโก นาม ยกฺขเสนาปติ เทเวหิ เจติยปูชารกฺขณตฺถํ ปิโต อทิสฺสมานกาโย อากาเส ธาเรนฺโต เจติยํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ อกาสิ. ตํ ทิสฺวา ภิยฺโยโสมตฺตาย ปสนฺนมานโส อโหสิ. โส เตน ปุฺกมฺเมน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา อุปวาโนติ ลทฺธนาโม วยปฺปตฺโต เชตวนปฏิคฺคหเณ พุทฺธานุภาวํ ทิสฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺโต ฉฬภิฺโ อโหสิ. อถายสฺมา อุปวาโน ภควโต อุปฏฺาโก อโหสิ . เตน จ สมเยน ภควโต วาตาพาโธ อุปฺปชฺชิ. เถรสฺส คิหิสหาโย เทวหิโต นาม พฺราหฺมโณ สาวตฺถิยํ ปฏิวสติ. โส เถรํ จตูหิ ปจฺจเยหิ ปวาเรสิ. อถายสฺมา อุปวาโน นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา ตสฺส พฺราหฺมณสฺส นิเวสนํ อุปคฺฉิ. พฺราหฺมโณ ‘‘เกนจิ มฺเ ปโยชเนน เถโร อาคโต ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา ‘‘วเทยฺยาถ, ภนฺเต, เกนตฺโถ’’ติ อาห. เถโร ตสฺส พฺราหฺมณสฺส ปโยชนํ อาจิกฺขนฺโต –

‘‘อรหํ สุคโต โลเก, วาเตหาพาธิโก มุนิ;

สเจ อุณฺโหทกํ อตฺถิ, มุนิโน เทหิ พฺราหฺมณ.

‘‘ปูชิโต ปูชเนยฺยานํ, สกฺกเรยฺยาน สกฺกโต;

อปจิโตปเจยฺยานํ, ตสฺส อิจฺฉามิ หาตเว’’ติ. (เถรคา. ๑๘๕-๑๘๖) –

คาถาทฺวยํ อภาสิ.

ตสฺสตฺโถ – โย อิมสฺมึ โลเก ปูชเนยฺยานํ ปูเชตพฺเพหิ สกฺกาทีหิ เทเวหิ มหาพฺรหฺมาทีหิ จ พฺรหฺเมหิ ปูชิโต, สกฺกเรยฺยานํ สกฺกาตพฺเพหิ พิมฺพิสารโกสลราชาทีหิ สกฺกโต, อปเจยฺยานํ อปจายิตพฺเพหิ มเหสีหิ ขีณาสเวหิ อปจิโต, กิเลเสหิ อารกตฺตาทินา อรหํ, โสภนคมนาทินา สุคโต สพฺพฺู มุนิ มยฺหํ สตฺถา เทวเทโว สกฺกานํ อติสกฺโก พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมา, โส ทานิ วาเตหิ วาตเหตุ วาตกฺโขภนิมิตฺตํ อาพาธิโก ชาโต. สเจ , พฺราหฺมณ, อุณฺโหทกํ อตฺถิ, ตสฺส วาตาพาธวูปสมนตฺถํ ตํ หาตเว อุปเนตุํ อิจฺฉามีติ.

ตํ สุตฺวา พฺราหฺมโณ อุณฺโหทกํ ตทนุรูปํ วาตหรฺจ เภสชฺชํ ภควโต อุปนาเมสิ. เตน จ สตฺถุ โรโค วูปสมิ. ตสฺส ภควา อนุโมทนํ อกาสิ.

๑๒๒. อถายสฺมา อุปวาโน อปรภาเค อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวา โสมนสฺสชาโต ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต ปทุมุตฺตโร นาม ชิโนติอาทิมาห. ตตฺถ ปทุมุตฺตโรติอาทีนิ ปุพฺเพ วุตฺตตฺถาเนว.

๑๒๓. มหาชนา สมาคมฺมาติ สกลชมฺพุทีปวาสิโน ราสิภูตาติ อตฺโถ. จิตกํ กตฺวาติ โยชนุพฺเพธํ จนฺทนราสิจิตกํ กตฺวา ภควโต สรีรํ ตตฺถ อภิโรปยึสูติ สมฺพนฺโธ.

๑๒๔. สรีรกิจฺจํกตฺวานาติ อาทหนาติ อคฺคินา ทหนกิจฺจํ กตฺวาติ อตฺโถ.

๑๒๗-๒๘. ชงฺฆา มณิมยา อาสีติ มนุสฺเสหิ กตถูเป ชงฺฆา ปุปฺผวาหตฺถํ จริตฏฺานํ มณิมยา อินฺทนีลมณินา กตาติ อตฺโถ. มยมฺปีติ สพฺเพ เทวา ถูปํ กริสฺสามาติ อตฺโถ.

๑๒๙. ธาตุ อาเวณิกา นตฺถีติ เทวมนุสฺเสหิ วิสุํ วิสุํ เจติยํ กาตุํ อาเวณิกา วิสุํ ธาตุ นตฺถิ, ตํ ทสฺเสนฺโต สรีรํ เอกปิณฺฑิตนฺติ อาห. อธิฏฺานพเลน สกลสรีรธาตุ เอกฆนสิลามยปฏิมา วิย เอกเมว อโหสีติ อตฺโถ. อิมมฺหิ พุทฺธถูปมฺหีติ สกลชมฺพุทีปวาสีหิ กตมฺหิ อิมมฺหิ สุวณฺณถูปมฺหิ มยํ สพฺเพ สมาคนฺตฺวา กฺจุกถูปํ กริสฺสามาติ อตฺโถ.

๑๓๓. อินฺทนีลํ มหานีลนฺติ อินฺทีวรปุปฺผวณฺณาภํ มณิ อินฺทนีลมณิ. ตโต อธิกวณฺณตา มหามณิ อินฺทนีลมณโย จ มหานีลมณโย จ โชติรสมณิชาติรงฺคมณโย จ เอกโต สนฺนิปาเตตฺวา ราสี กตฺวา สุวณฺณถูเป กฺจุกถูปํ กตฺวา อฉาทยุนฺติ สมฺพนฺโธ.

๑๔๔. ปจฺเจกํพุทฺธเสฏฺสฺสาติ พุทฺธุตฺตมสฺส ปติ เอกํ วิสุํ อุปริฉทเนน ถูปํ อกํสูติ อตฺโถ.

๑๔๗. กุมฺภณฺฑา คุยฺหกาตถาติ กุมฺภมตฺตานิ อณฺฑานิ เยสํ เทวานํ เต กุมฺภณฺฑา, ปฏิจฺฉาเทตฺวา นิคุหิตฺวา ปฏิจฺฉาทนโต ครุฬา คุยฺหกา นาม ชาตา, เต กุมฺภณฺฑา คุยฺหกาปิ ถูปํ อกํสูติ อตฺโถ.

๑๕๑. อติโภนฺติ น ตสฺสาภาติ ตสฺส เจติยสฺส ปภํ จนฺทสูริยตารกานํ ปภา น อติโภนฺติ, น อชฺโฌตฺถรนฺตีติ อตฺโถ.

๑๕๘. อหมฺปิ การํ กสฺสามีติ ตาทิโน โลกนาถสฺส ถูปสฺมึ อหมฺปิ การํ ปุฺกิริยํ กุสลกมฺมํ ธชปฏากปูชํ กริสฺสามีติ อตฺโถ.

อุปวานตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.

๑๑. รฏฺปาลตฺเถรอปทานวณฺณนา

เอกาทสมาปทาเน ปทุมุตฺตรสฺส ภควโตติอาทิกํ อายสฺมโต รฏฺปาลตฺเถรสฺส อปทานํ. อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยานิ ปุฺานิ อุปจินนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล ตสฺส อุปฺปตฺติโต ปุเรตรเมว หํสวตีนคเร คหปติมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต ปิตุ อจฺจเยน ฆราวาเส ปติฏฺิโต รตนโกฏฺาคารกมฺมิเกน ทสฺสิตํ อปริมาณํ กุลวํสานุคตํ ธนํ ทิสฺวา ‘‘อิมํ เอตฺตกํ ธนราสึ มยฺหํ อยฺยกปยฺยกาทโย อตฺตนา สทฺธึ คเหตฺวา คนฺตุํ นาสกฺขึสุ, มยา ปน คเหตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา กปณทฺธิกาทีนํ มหาทานํ เทติ. โส อภิฺาลาภึ เอกํ ตาปสํ อุปฏฺหนฺโต เตน เทวโลกาธิปจฺเจ อุยฺโยชิโต ยาวชีวํ ปุฺานิ กตฺวา ตโต จุโต เทโว หุตฺวา นิพฺพตฺติ. โส ตตฺถ เทวโลเก เทวรชฺชํ กโรนฺโต ยาวตายุกํ ตฺวา ตโต จุโต มนุสฺสโลเก ภินฺนํ รฏฺํ สนฺธาเรตุํ สมตฺถสฺส กุลสฺส เอกปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. เตน จ สมเยน ปทุมุตฺตโร นาม ภควา โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก เวเนยฺยสตฺตํ นิพฺพานมหานครสงฺขาตเขมนฺตภูมึ สมฺปาเปสิ. อถ โส กุลปุตฺโต อนุกฺกเมน วิฺุตํ ปตฺโต เอกทิวสํ อุปาสเกหิ สทฺธึ วิหารํ คโต สตฺถารํ ธมฺมํ เทเสนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต ปริสปริยนฺเต นิสีทิ.

เตน จ สมเยน สตฺถา เอกํ ภิกฺขุํ สทฺธาปพฺพชิตานํ อคฺคฏฺาเน เปสิ, ตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส ตทตฺถาย จิตฺตํ เปตฺวา สตสหสฺสภิกฺขุปริวารสฺส ภควโต มหตา สกฺกาเรน สตฺตาหํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา ปณิธานํ อกาสิ. สตฺถา ตสฺส อนนฺตราเยน อิชฺฌนภาวํ ทิสฺวา ‘‘อนาคเต โคตมสฺส นาม สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาสเน สทฺธาปพฺพชิตานํ อคฺโค ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากาสิ. โส สตฺถารํ ภิกฺขุสงฺฆฺจ วนฺทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. โส ตตฺถ ยาวตายุกํ ปุฺานิ กตฺวา ตโต จวิตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิโต ทฺวานวุติกปฺเป ผุสฺสสฺส ภควโต กาเล สตฺถุ เวมาติกภาติเกสุ ตีสุ ราชปุตฺเตสุ สตฺถารํ อุปฏฺหนฺเตสุ เตสํ ปุฺกิริยาย สหายกิจฺจํ อกาสิ. เอวํ ตตฺถ ตตฺถ ภเว ตํ ตํ พหุํ กุสลํ อุปจินิตฺวา สุคตีสุเยว สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท กุรุรฏฺเ ถุลฺลโกฏฺิกนิคเม รฏฺปาลเสฏฺิเคเห นิพฺพตฺติ, ตสฺส ภินฺนํ รฏฺํ สนฺธาเรตุํ สมตฺเถ กุเล นิพฺพตฺตตฺตา รฏฺปาโลติ วํสานุคตเมว นามํ อโหสิ. โส มหตา ปริวาเรน วฑฺฒนฺโต อนุกฺกเมน โยพฺพนํ ปตฺโต มาตาปิตูหิ ปติรูเปน ทาเรน สํโยเชตฺวา มหนฺเต จ ยเส ปติฏฺาปิโต ทิพฺพสมฺปตฺติสทิสํ สมฺปตฺตึ ปจฺจนุโภติ. อถ ภควา กุรุรฏฺเ ชนปทจาริกํ จรนฺโต ถุลฺลโกฏฺิกํ อนุปาปุณิ. ตํ สุตฺวา รฏฺปาโล กุลปุตฺโต สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ สตฺตวาเร ภตฺตจฺเฉเท กตฺวา กิจฺเฉน กสิเรน มาตาปิตโร อนุชานาเปตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิตฺวา สตฺถุ อาณตฺติยา อฺตรสฺส เถรสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา โยนิโสมนสิกาเรน กมฺมํ กโรนฺโต วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ.

๑๗๙-๑๘๐. อถายสฺมา อปรภาเค อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวา โสมนสฺสชาโต ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสนฺโต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโตติอาทิมาห. สุนาโค โส มยา ทินฺโนติ ตทา มหาธนเสฏฺิ หุตฺวา สพฺพํ สาปเตยฺยํ ทานมุเข วิสฺสชฺชนสมเย สตฺตปฺปติฏฺโ สุนฺทโร นาโค หตฺถิราชา มยา ทินฺโน อโหสิ. ตํ ทสฺเสนฺโต อีสาทนฺโตติอาทิมาห. อีสาทนฺโต รถอีสปฺปมาณทนฺโต, โส มยา ทินฺโน หตฺถินาโค. อุรูฬฺหวาติ ราชาวหนโยคฺคสมตฺโถ, ราชารโห วา. เสตจฺฉตฺโตติ อลงฺการตฺถาย อุปฏฺหนเสตจฺฉตฺตสหิโตติ อตฺโถ. ปโสภิโตติ อาโรหปริณาหวา รูปโสภาหิ สมฺปนฺโนติ อตฺโถ. สกปฺปโน สหตฺถิโปติ หตฺถิอลงฺการสหิโต หตฺถิโคปกสหิโตติ อตฺโถ. อิตฺถมฺภูโต หตฺถินาโค ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต มยา ทินฺโนติ อตฺโถ.

๑๘๑. มยา ภตฺตํ กาเรตฺวานาติ มยา การาปิตวิหาเร วสนฺตานํ โกฏิสงฺขานํ ภิกฺขูนํ นิจฺจภตฺตํ ปฏฺเปตฺวา มเหสิโน นิยฺยาเทสินฺติ สมฺพนฺโธ.

๑๘๓. ชลชุตฺตมนามโกติ ชลโต ชาโต ชลโช, กึ ตํ? ปทุมํ, ปทุเมน สมานนามตฺตา อุตฺตมตฺตา จ ปทุมุตฺตโร นาม ภควาติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

รฏฺปาลตฺเถรอปทานวณฺณนา สมตฺตา.

ฉปฺปฺาสมมหาวคฺควณฺณนา สมตฺตา.

อิติ วิสุทฺธชนวิลาสินิยา อปทาน-อฏฺกถาย

เอตฺตาวตา พุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวกตฺเถราปทาน-อฏฺกถา สมตฺตา.

นิคมนกถา

สีหฬทีปเก อปฺปิจฺฉตาทิคุณวนฺตานํ เถรวํสปฺปทีปานํ อานนฺทตฺเถราทีนํ สพฺพสตฺตานํ ตณฺหามานทิฏฺาทโย เฉทนนิคฺคหวิเวจนาทฺยตฺถํ สตฺตหิ มาเสหิ อติวิย อาราธเนน ลทฺธโกสลฺเลน โพธิสมฺภารํ คเวสนฺเตน สติธิติคติวีริยปรกฺกมนฺเตน มหาสมนฺตคุณโสภเนน ติปิฏกธเรน ปณฺฑิเตน อาภตํ อิมํ อปทาน-อฏฺกถํ สพฺโพ สเทวโลโก ชานาตูติ.

อเนน โลภาทิมลา ปชานํ, จกฺขาทิโรคา วิวิธา จ ทุกฺขา;

กลหาทิภยา ทุกฺขิตา ชาตา, โจราทโยนตฺถกรา จ โลเก.

นสฺสนฺตุ เม ปฺจ เวรา จ ปาปา, นสฺสนฺตุ คิมฺเห ยถา วุฏฺิวาตา;

อฏฺงฺคิกมคฺควเรน ปตฺวา, นิพฺพานปุรํ ปฏิปาทยามิ.

สพฺพทิฏฺิฺจ มทฺทนฺโต, ราคโทสาทิปาปเก;

สํสารวฏฺฏํ ฉินฺทิตฺวา, อุเปมิ สคฺคโมกฺขเก.

อาณาเขตฺตมฺหิ สพฺพตฺถ, อวีจิมฺหิ ภวคฺคโต;

สพฺเพ ธมฺมานุยายนฺตุ, ตโย โลกา อุตุปิ จาติ.

อปทาน-อฏฺกถา สมตฺตา.