📜
๑๑. ภิกฺขทายิวคฺโค
๑. ภิกฺขทายกตฺเถรอปทานํ
‘‘สุวณฺณวณฺณํ ¶ ¶ ¶ สมฺพุทฺธํ, อาหุตีนํ ปฏิคฺคหํ;
ปวรา [ปวนา (สฺยา.)] อภินิกฺขนฺตํ, วนา นิพฺพนมาคตํ [วานา นิพฺพานมาคตํ (สฺยา.)].
‘‘กฏจฺฉุภิกฺขํ ปาทาสึ, สิทฺธตฺถสฺส มเหสิโน;
ปฺาย อุปสนฺตสฺส, มหาวีรสฺส ตาทิโน.
‘‘ปเทนานุปทายนฺตํ [ปเทนานุปทายนฺโต (สี. สฺยา.)], นิพฺพาเปนฺเต มหาชนํ;
อุฬารา วิตฺติ เม ชาตา, พุทฺเธ อาทิจฺจพนฺธุเน [วิตฺติ เม ปาหุนา ตาว, พุทฺธสฺสาทิจฺจพนฺธุโน (สฺยา.)].
‘‘จตุนฺนวุติโต กปฺเป, ยํ ทานมททึ ตทา;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ภิกฺขาทานสฺสิทํ ผลํ.
‘‘สตฺตาสีติมฺหิโต กปฺเป, มหาเรณุ สนามกา;
สตฺตรตนสมฺปนฺนา, สตฺเตเต จกฺกวตฺติโน.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส, วิโมกฺขาปิ จ อฏฺิเม;
ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ ¶ สุทํ อายสฺมา ภิกฺขทายโก เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
ภิกฺขทายกตฺเถรสฺสาปทานํ ปมํ.
๒. าณสฺิกตฺเถรอปทานํ
‘‘สุวณฺณวณฺณํ สมฺพุทฺธํ, นิสภาชานิยํ ยถา;
ติธาปภินฺนํ มาตงฺคํ, กฺุชรํว มเหสินํ.
‘‘โอภาเสนฺตํ ทิสา สพฺพา, อุฬุราชํว ปูริตํ;
รถิยํ ปฏิปชฺชนฺตํ, โลกเชฏฺํ อปสฺสหํ.
‘‘าเณ ¶ ¶ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, ปคฺคเหตฺวาน อฺชลึ;
ปสนฺนจิตฺโต สุมโน, สิทฺธตฺถมภิวาทยึ.
‘‘จตุนฺนวุติโต กปฺเป, ยํ กมฺมมกรึ ตทา;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, าณสฺายิทํ ผลํ.
‘‘เตสตฺตติมฺหิโต กปฺเป, โสฬสาสุํ นรุตฺตมา;
สตฺตรตนสมฺปนฺนา, จกฺกวตฺตี มหพฺพลา.
‘‘ปฏิสมฺภิทา ¶ จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา าณสฺิโก เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
าณสฺิกตฺเถรสฺสาปทานํ ทุติยํ.
๓. อุปฺปลหตฺถิยตฺเถรอปทานํ
‘‘ติวรายํ ¶ นิวาสีหํ, อโหสึ มาลิโก ตทา;
อทฺทสํ วิรชํ พุทฺธํ, สิทฺธตฺถํ โลกปูชิตํ [โลกนายกํ (สี.)].
‘‘ปสนฺนจิตฺโต สุมโน, ปุปฺผหตฺถมทาสหํ;
ยตฺถ ยตฺถุปปชฺชามิ, ตสฺส กมฺมสฺส วาหสา.
‘‘อนุโภมิ ผลํ อิฏฺํ, ปุพฺเพ สุกตมตฺตโน;
ปริกฺขิตฺโต สุมลฺเลหิ, ปุปฺผทานสฺสิทํ ผลํ.
‘‘จตุนฺนวุติโต กปฺเป, ยํ ปุปฺผมภิโรปยึ;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ปุปฺผปูชายิทํ [พุทฺธปูชายิทํ (สี.)] ผลํ.
‘‘จตุนฺนวุตุปาทาย, เปตฺวา วตฺตมานกํ;
ปฺจราชสตา ตตฺถ, นชฺชสมสนามกา [นชฺชุปมสนามกา (สี. สฺยา.)].
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา อุปฺปลหตฺถิโย เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
อุปฺปลหตฺถิยตฺเถรสฺสาปทานํ ตติยํ.
๔. ปทปูชกตฺเถรอปทานํ
‘‘สิทฺธตฺถสฺส ¶ ¶ ภควโต, ชาติปุปฺผมทาสหํ;
ปาเทสุ สตฺต ปุปฺผานิ, หาเสโนกิริตานิ เม.
‘‘เตน ¶ กมฺเมนหํ อชฺช, อภิโภมิ นรามเร;
ธาเรมิ อนฺติมํ เทหํ, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสเน.
‘‘จตุนฺนวุติโต ¶ กปฺเป, ยํ ปุปฺผมภิโรปยึ;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ปุปฺผปูชายิทํ ผลํ.
‘‘สมนฺตคนฺธนามาสุํ, เตรส จกฺกวตฺติโน;
อิโต ปฺจมเก กปฺเป, จาตุรนฺตา ชนาธิปา.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา ปทปูชโก เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
ปทปูชกตฺเถรสฺสาปทานํ จตุตฺถํ.
๕. มุฏฺิปุปฺผิยตฺเถรอปทานํ
‘‘สุทสฺสโนติ นาเมน, มาลากาโร อหํ ตทา;
อทฺทสํ วิรชํ พุทฺธํ, โลกเชฏฺํ นราสภํ.
‘‘ชาติปุปฺผํ คเหตฺวาน, ปูชยึ ปทุมุตฺตรํ;
วิสุทฺธจกฺขุ สุมโน, ทิพฺพจกฺขุํ สมชฺฌคํ.
‘‘เอติสฺสา ปุปฺผปูชาย, จิตฺตสฺส ปณิธีหิ จ;
กปฺปานํ สตสหสฺสํ, ทุคฺคตึ นุปปชฺชหํ.
‘‘โสฬสาสึสุ ¶ ราชาโน, เทวุตฺตรสนามกา;
ฉตฺตึสมฺหิ อิโต กปฺเป, จกฺกวตฺตี มหพฺพลา.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา มุฏฺิปุปฺผิโย เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
มุฏฺิปุปฺผิยตฺเถรสฺสาปทานํ ปฺจมํ.
๖. อุทกปูชกตฺเถรอปทานํ
‘‘สุวณฺณวณฺณํ ¶ ¶ สมฺพุทฺธํ, คจฺฉนฺตํ อนิลฺชเส;
ฆตาสนํว ชลิตํ, อาทิตฺตํว หุตาสนํ.
‘‘ปาณินา อุทกํ คยฺห, อากาเส อุกฺขิปึ อหํ;
สมฺปฏิจฺฉิ มหาวีโร, พุทฺโธ การุณิโก อิสิ [มยิ (สฺยา.)].
‘‘อนฺตลิกฺเข ¶ ิโต สตฺถา, ปทุมุตฺตรนามโก;
มม สงฺกปฺปมฺาย, อิมํ คาถํ อภาสถ.
‘‘‘อิมินา ทกทาเนน, ปีติอุปฺปาทเนน จ;
กปฺปสตสหสฺสมฺปิ, ทุคฺคตึ นุปปชฺชติ’ [นุปปชฺชสิ (ก.)].
‘‘เตน กมฺเมน ทฺวิปทินฺท, โลกเชฏฺ นราสภ;
ปตฺโตมฺหิ อจลํ านํ, หิตฺวา ชยปราชยํ.
‘‘สหสฺสราชนาเมน ¶ , ตโย เต จกฺกวตฺติโน;
ปฺจสฏฺิกปฺปสเต, จาตุรนฺตา ชนาธิปา.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา อุทกปูชโก เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
อุทกปูชกตฺเถรสฺสาปทานํ ฉฏฺํ.
๗. นฬมาลิยตฺเถรอปทานํ
‘‘ปทุมุตฺตรพุทฺธสฺส, โลกเชฏฺสฺส ตาทิโน;
ติณตฺถเร นิสินฺนสฺส, อุปสนฺตสฺส ตาทิโน.
‘‘นฬมาลํ คเหตฺวาน, พนฺธิตฺวา [พีชิตฺวา (ก.)] พีชนึ อหํ;
พุทฺธสฺส อุปนาเมสึ, ทฺวิปทินฺทสฺส ตาทิโน.
‘‘ปฏิคฺคเหตฺวา สพฺพฺู, พีชนึ โลกนายโก;
มม สงฺกปฺปมฺาย, อิมํ คาถํ อภาสถ.
‘‘‘ยถา ¶ เม กาโย นิพฺพาติ, ปริฬาโห น วิชฺชติ;
ตเถว ติวิธคฺคีหิ, จิตฺตํ ตว วิมุจฺจตุ’.
‘‘สพฺเพ ¶ เทวา สมาคจฺฉุํ, เย เกจิ วนนิสฺสิตา;
โสสฺสาม พุทฺธวจนํ, หาสยนฺตฺจ ทายกํ.
‘‘นิสินฺโน ¶ ภควา ตตฺถ, เทวสงฺฆปุรกฺขโต;
ทายกํ สมฺปหํเสนฺโต, อิมา คาถา อภาสถ.
‘‘‘อิมินา พีชนิทาเนน, จิตฺตสฺส ปณิธีหิ จ;
สุพฺพโต นาม นาเมน, จกฺกวตฺตี ภวิสฺสติ.
‘‘‘เตน ¶ กมฺมาวเสเสน, สุกฺกมูเลน โจทิโต;
มาลุโต นาม นาเมน, จกฺกวตฺตี ภวิสฺสติ’.
‘‘‘อิมินา พีชนิทาเนน, สมฺมานวิปุเลน จ;
กปฺปสตสหสฺสมฺปิ, ทุคฺคตึ นุปปชฺชติ.
‘‘ตึสกปฺปสหสฺสมฺหิ, สุพฺพตา อฏฺตึส เต;
เอกูนตึสสหสฺเส, อฏฺ มาลุตนามกา.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา นฬมาลิโย เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
นฬมาลิยตฺเถรสฺสาปทานํ สตฺตมํ.
สตฺตมภาณวารํ.
๘. อาสนุปฏฺาหกตฺเถรอปทานํ
‘‘กานนํ วนโมคยฺห, อปฺปสทฺทํ นิรากุลํ;
สีหาสนํ มยา ทินฺนํ, อตฺถทสฺสิสฺส ตาทิโน.
‘‘มาลาหตฺถํ ¶ คเหตฺวาน, กตฺวา จ นํ ปทกฺขิณํ;
สตฺถารํ ปยิรุปาสิตฺวา, ปกฺกามึ อุตฺตรามุโข.
‘‘เตน ¶ กมฺเมน ทฺวิปทินฺท, โลกเชฏฺ นราสภ;
สนฺนิพฺพาเปมิ [สนฺทิฏฺาเปมิ (ก.)] อตฺตานํ, ภวา สพฺเพ สมูหตา.
‘‘อฏฺารสกปฺปสเต, ยํ ทานมททึ ตทา;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, สีหาสนสฺสิทํ ผลํ.
‘‘อิโต ¶ สตฺตกปฺปสเต, สนฺนิพฺพาปก [สนฺนิฏฺโ นาม (ก.)] ขตฺติโย;
สตฺตรตนสมฺปนฺโน, จกฺกวตฺตี มหพฺพโล.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา อาสนุปฏฺาหโก เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
อาสนุปฏฺาหกตฺเถรสฺสาปทานํ อฏฺมํ.
๙. พิฬาลิทายกตฺเถรอปทานํ
‘‘หิมวนฺตสฺสาวิทูเร ¶ , วสามิ ปณฺณสนฺถเร;
ฆาเสสุ เคธมาปนฺโน, เสยฺยสีโล จหํ [เสยสีโลวหํ (สฺยา. ก.)] ตทา.
‘‘ขณนฺตาลุ [ขณมาลุ (สฺยา.)] กลมฺพานิ, พิฬาลิตกฺกลานิ จ;
โกลํ ภลฺลาตกํ พิลฺลํ, อาหตฺวา ปฏิยาทิตํ.
‘‘ปทุมุตฺตโร ¶ โลกวิทู, อาหุตีนํ ปฏิคฺคโห;
มม สงฺกปฺปมฺาย, อาคจฺฉิ มม สนฺติกํ.
‘‘อุปาคตํ มหานาคํ, เทวเทวํ นราสภํ;
พิฬาลึ ปคฺคเหตฺวาน, ปตฺตมฺหิ โอกิรึ อหํ.
‘‘ปริภฺุชิ มหาวีโร, โตสยนฺโต มมํ ตทา;
ปริภฺุชิตฺวาน สพฺพฺู, อิมํ คาถํ อภาสถ.
‘‘‘สกํ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, พิฬาลึ เม อทา ตุวํ;
กปฺปานํ สตสหสฺสํ, ทุคฺคตึ นุปปชฺชสิ’.
‘‘จริมํ ¶ วตฺตเต มยฺหํ, ภวา สพฺเพ สมูหตา;
ธาเรมิ อนฺติมํ เทหํ, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสเน.
‘‘จตุปฺาสิโต กปฺเป, สุเมขลิยสวฺหโย;
สตฺตรตนสมฺปนฺโน, จกฺกวตฺตี มหพฺพโล.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา พิฬาลิทายโก เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
พิฬาลิทายกตฺเถรสฺสาปทานํ นวมํ.
๑๐. เรณุปูชกตฺเถรอปทานํ
‘‘สุวณฺณวณฺณํ ¶ ¶ ¶ สมฺพุทฺธํ, สตรํสึว ภาณุมํ;
โอภาเสนฺตํ ทิสา สพฺพา, อุฬุราชํว ปูริตํ.
‘‘ปุรกฺขตํ สาวเกหิ, สาคเรเหว เมทนึ;
นาคํ ปคฺคยฺห เรณูหิ, วิปสฺสิสฺสาภิโรปยึ.
‘‘เอกนวุติโต กปฺเป, ยํ เรณุมภิโรปยึ;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.
‘‘ปณฺณตาลีสิโต กปฺเป, เรณุ นามาสิ ขตฺติโย;
สตฺตรตนสมฺปนฺโน, จกฺกวตฺตี มหพฺพโล.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา เรณุปูชโก เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
เรณุปูชกตฺเถรสฺสาปทานํ ทสมํ.
ภิกฺขทายิวคฺโค เอกาทสโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
ภิกฺขทายี าณสฺี, หตฺถิโย ปทปูชโก;
มุฏฺิปุปฺผี อุทกโท, นฬมาลิ อุปฏฺโก;
พิฬาลิทายี เรณุ จ, คาถาโย ฉ จ สฏฺิ จ.