📜
๑๒. มหาปริวารวคฺโค
๑. มหาปริวารกตฺเถรอปทานํ
‘‘วิปสฺสี ¶ ¶ ¶ นาม ภควา, โลกเชฏฺโ นราสโภ;
อฏฺสฏฺิสหสฺเสหิ, ปาวิสิ พนฺธุมํ ตทา.
‘‘นครา อภินิกฺขมฺม, อคมํ ทีปเจติยํ;
อทฺทสํ วิรชํ พุทฺธํ, อาหุตีนํ ปฏิคฺคหํ.
‘‘จุลฺลาสีติสหสฺสานิ, ยกฺขา มยฺหํ อุปนฺติเก;
อุปฏฺหนฺติ สกฺกจฺจํ [มํ นิจฺจํ (ก.)], อินฺทํว ติทสา คณา.
‘‘ภวนา ¶ อภินิกฺขมฺม, ทุสฺสํ ปคฺคยฺหหํ ตทา;
สิรสา อภิวาเทสึ, ตฺจาทาสึ มเหสิโน.
‘‘อโห พุทฺโธ อโห ธมฺโม, อโห โน สตฺถุ สมฺปทา;
พุทฺธสฺส อานุภาเวน, วสุธายํ ปกมฺปถ.
‘‘ตฺจ อจฺฉริยํ ทิสฺวา, อพฺภุตํ โลมหํสนํ;
พุทฺเธ จิตฺตํ ปสาเทมิ, ทฺวิปทินฺทมฺหิ ตาทิเน.
‘‘โสหํ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, ทุสฺสํ ทตฺวาน สตฺถุโน;
สรณฺจ อุปาคจฺฉึ, สามจฺโจ สปริชฺชโน.
‘‘เอกนวุติโต กปฺเป, ยํ กมฺมมกรึ ตทา;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.
‘‘อิโต ปนฺนรเส กปฺเป, โสฬสาสุํ สุวาหนา [โสฬสาสึสุ วาหโน (สฺยา.)];
สตฺตรตนสมฺปนฺนา, จกฺกวตฺตี มหพฺพลา.
‘‘ปฏิสมฺภิทา ¶ จตสฺโส, วิโมกฺขาปิ จ อฏฺิเม;
ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา มหาปริวารโก เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
มหาปริวารกตฺเถรสฺสาปทานํ ปมํ.
๒. สุมงฺคลตฺเถรอปทานํ
‘‘อตฺถทสฺสี ¶ ¶ ชินวโร, โลกเชฏฺโ นราสโภ;
วิหารา อภินิกฺขมฺม, ตฬากํ อุปสงฺกมิ.
‘‘นฺหตฺวา ปิตฺวา จ สมฺพุทฺโธ, อุตฺตริตฺเวกจีวโร;
อฏฺาสิ ภควา ตตฺถ, วิโลเกนฺโต ทิโสทิสํ.
‘‘ภวเน อุปวิฏฺโหํ, อทฺทสํ โลกนายกํ;
หฏฺโ หฏฺเน จิตฺเตน, อปฺโผเฏสึ อหํ ตทา.
‘‘สตรํสึว โชตนฺตํ, ปภาสนฺตํว กฺจนํ [อิมินา ปาททฺวเยน ปุริมปาททฺวยสฺส ปุรโต ภวิตพฺพํ];
นจฺจคีเต ปยุตฺโตหํ, ปฺจงฺคตูริยมฺหิ จ.
‘‘ยํ ยํ โยนุปปชฺชามิ, เทวตฺตํ อถ มานุสํ;
สพฺเพ สตฺเต อภิโภมิ, วิปุโล โหติ เม ยโส [อยฺจ คาถา ปริคฺคเหติคาถาย อนนฺตรเมว าตุํ ยุตฺตา].
‘‘นโม ¶ เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;
อตฺตานํ โตสยิตฺวาน, ปเร โตเสสิ ตฺวํ มุนิ.
‘‘ปริคฺคเห ¶ [ปริคฺคยฺห (สี.), ปริคฺคหิตฺวา (สฺยา.), ปริคฺคเหน (ก.)] นิสีทิตฺวา, หาสํ กตฺวาน สุพฺพเต;
อุปฏฺหิตฺวา สมฺพุทฺธํ, ตุสิตํ อุปปชฺชหํ.
‘‘โสฬเสโต กปฺปสเต, ทฺวินวเอกจินฺติตา;
สตฺตรตนสมฺปนฺนา, จกฺกวตฺตี มหพฺพลา.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา สุมงฺคโล เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
สุมงฺคลตฺเถรสฺสาปทานํ ทุติยํ.
๓. สรณคมนิยตฺเถรอปทานํ
‘‘อุภินฺนํ เทวราชูนํ, สงฺคาโม สมุปฏฺิโต;
อโหสิ สมุปพฺยูฬฺโห [สมุปพฺพูฬฺโห (สี.)], มหาโฆโส อวตฺตถ [ปวตฺตถ (สี.)].
‘‘ปทุมุตฺตโร ¶ โลกวิทู, อาหุตีนํ ปฏิคฺคโห;
อนฺตลิกฺเข ิโต สตฺถา, สํเวเชสิ มหาชนํ.
‘‘สพฺเพ ¶ เทวา อตฺตมนา, นิกฺขิตฺตกวจาวุธา;
สมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา, เอกคฺคาสึสุ ตาวเท.
‘‘มยฺหํ [อมฺหํ (สี.)] สงฺกปฺปมฺาย, วาจาสภิมุทีรยิ;
อนุกมฺปโก โลกวิทู, นิพฺพาเปสิ มหาชนํ.
‘‘ปทุฏฺจิตฺโต ¶ มนุโช, เอกปาณํ วิเหยํ;
เตน จิตฺตปฺปโทเสน, อปายํ อุปปชฺชติ.
‘‘สงฺคามสีเส นาโคว, พหู ปาเณ วิเหยํ;
นิพฺพาเปถ สกํ จิตฺตํ, มา หฺิตฺโถ ปุนปฺปุนํ.
‘‘ทฺวินฺนมฺปิ ยกฺขราชูนํ, เสนา สา วิมฺหิตา อหุ [เสนาโย วิมฺหิตา อหู (สี.), เสนาปิ สมิตา อหุ (สฺยา.)];
สรณฺจ อุปาคจฺฉุํ, โลกเชฏฺํ สุตาทินํ.
‘‘สฺาเปตฺวาน ¶ ชนตํ, ปทมุทฺธริ [อุทฺธริ ปน (สี. สฺยา.)] จกฺขุมา;
เปกฺขมาโนว เทเวหิ, ปกฺกามิ อุตฺตรามุโข.
‘‘ปมํ สรณํ คจฺฉึ, ทฺวิปทินฺทสฺส ตาทิโน;
กปฺปานํ สตสหสฺสํ, ทุคฺคตึ นุปปชฺชหํ.
‘‘มหาทุนฺทุภินามา จ, โสฬสาสุํ รเถสภา;
ตึสกปฺปสหสฺสมฺหิ, ราชาโน จกฺกวตฺติโน.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา สรณคมนิโย เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
สรณคมนิยตฺเถรสฺสาปทานํ ตติยํ.
๔. เอกาสนิยตฺเถรอปทานํ
‘‘วรุโณ นาม นาเมน, เทวราชา อหํ ตทา;
อุปฏฺเหสึ สมฺพุทฺธํ, สโยคฺคพลวาหโน.
‘‘นิพฺพุเต ¶ ¶ โลกนาถมฺหิ, อตฺถทสฺสีนรุตฺตเม;
ตูริยํ สพฺพมาทาย, อคมํ โพธิมุตฺตมํ.
‘‘วาทิเตน จ นจฺเจน, สมฺมตาฬสมาหิโต;
สมฺมุขา วิย สมฺพุทฺธํ, อุปฏฺึ โพธิมุตฺตมํ.
‘‘อุปฏฺหิตฺวา ¶ ตํ โพธึ, ธรณีรุหปาทปํ;
ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวาน, ตตฺถ กาลงฺกโต อหํ.
‘‘สกกมฺมาภิรทฺโธหํ, ปสนฺโน โพธิมุตฺตเม;
เตน จิตฺตปฺปสาเทน, นิมฺมานํ อุปปชฺชหํ.
‘‘สฏฺิตูริยสหสฺสานิ, ปริวาเรนฺติ มํ สทา;
มนุสฺเสสุ จ เทเวสุ, วตฺตมานํ ภวาภเว.
‘‘ติวิธคฺคี นิพฺพุตา มยฺหํ, ภวา สพฺเพ สมูหตา;
ธาเรมิ อนฺติมํ เทหํ, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสเน [อยฺจ คาถา ปฏิสมฺภิทา จตสฺเสติคาถาย เอกสมฺพนฺธา ภวิตํ ยุตฺตา].
‘‘สุพาหู ¶ นาม นาเมน, จตุตฺตึสาสุ ขตฺติยา;
สตฺตรตนสมฺปนฺนา, ปฺจกปฺปสเต อิโต.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา เอกาสนิโย เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
เอกาสนิยตฺเถรสฺสาปทานํ จตุตฺถํ.
๕. สุวณฺณปุปฺผิยตฺเถรอปทานํ
‘‘วิปสฺสี ¶ นาม ภควา, โลกเชฏฺโ นราสโภ;
นิสินฺโน ชนกายสฺส, เทเสสิ อมตํ ปทํ.
‘‘ตสฺสาหํ ธมฺมํ สุตฺวาน, ทฺวิปทินฺทสฺส ตาทิโน;
โสณฺณปุปฺผานิ จตฺตาริ, พุทฺธสฺส อภิโรปยึ.
‘‘สุวณฺณจฺฉทนํ อาสิ, ยาวตา ปริสา ตทา;
พุทฺธาภา จ สุวณฺณาภา, อาโลโก วิปุโล อหุ.
‘‘อุทคฺคจิตฺโต ¶ สุมโน, เวทชาโต กตฺชลี;
วิตฺติสฺชนโน เตสํ, ทิฏฺธมฺมสุขาวโห.
‘‘อายาจิตฺวาน สมฺพุทฺธํ, วนฺทิตฺวาน จ สุพฺพตํ;
ปาโมชฺชํ ชนยิตฺวาน, สกํ ภวนุปาคมึ.
‘‘ภวเน อุปวิฏฺโหํ, พุทฺธเสฏฺํ อนุสฺสรึ;
เตน จิตฺตปฺปสาเทน, ตุสิตํ อุปปชฺชหํ.
‘‘เอกนวุติโต ¶ กปฺเป, ยํ ปุปฺผมภิโรปยึ;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.
‘‘โสฬสาสึสุ ราชาโน, เนมิสมฺมตนามกา;
เตตาลีเส อิโต กปฺเป, จกฺกวตฺตี มหพฺพลา.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ ¶ สุทํ อายสฺมา สุวณฺณปุปฺผิโย เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
สุวณฺณปุปฺผิยตฺเถรสฺสาปทานํ ปฺจมํ.
๖. จิตกปูชกตฺเถรอปทานํ
‘‘วสามิ ¶ ราชายตเน, สามจฺโจ สปริชฺชโน;
ปรินิพฺพุเต ภควติ, สิขิโน โลกพนฺธุโน.
‘‘ปสนฺนจิตฺโต สุมโน, จิตกํ อคมาสหํ;
ตูริยํ ตตฺถ วาเทตฺวา, คนฺธมาลํ สโมกิรึ.
‘‘จิตมฺหิ ปูชํ กตฺวาน, วนฺทิตฺวา จิตกํ อหํ;
ปสนฺนจิตฺโต สุมโน, สกํ ภวนุปาคมึ.
‘‘ภวเน อุปวิฏฺโหํ, จิตปูชํ อนุสฺสรึ;
เตน กมฺเมน ทฺวิปทินฺท, โลกเชฏฺ นราสภ.
‘‘อนุโภตฺวาน สมฺปตฺตึ, เทเวสุ มานุเสสุ จ;
ปตฺโตมฺหิ อจลํ านํ, หิตฺวา ชยปราชยํ.
‘‘เอกตฺตึเส ¶ อิโต กปฺเป, ยํ ปุปฺผมภิโรปยึ;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, จิตปูชายิทํ ผลํ.
‘‘เอกูนตึสกปฺปมฺหิ, อิโต โสฬส ราชาโน;
อุคฺคตา นาม นาเมน, จกฺกวตฺตี มหพฺพลา.
‘‘ปฏิสมฺภิทา ¶ จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา จิตกปูชโก เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
จิตกปูชกตฺเถรสฺสาปทานํ ฉฏฺํ.
๗. พุทฺธสฺกตฺเถรอปทานํ
‘‘ยทา ¶ วิปสฺสี โลกคฺโค, อายุสงฺขารโมสฺสชิ;
ปถวี สมฺปกมฺปิตฺถ, เมทนี ชลเมขลา.
‘‘โอตตํ วิตฺถตํ [โอตตํ วิตตํ (สฺยา.)] มยฺหํ, สุวิจิตฺตวฏํสกํ [สุจิจิตฺตํ ปปฺจกํ (สฺยา.)];
ภวนมฺปิ ปกมฺปิตฺถ, พุทฺธสฺส อายุสงฺขเย.
‘‘ตาโส ¶ มยฺหํ สมุปฺปนฺโน, ภวเน สมฺปกมฺปิเต;
อุปฺปาโท [อุปฺปาโต (?)] นุ กิมตฺถาย, อาโลโก วิปุโล อหุ.
‘‘เวสฺสวโณ อิธาคมฺม, นิพฺพาเปสิ มหาชนํ;
ปาณภูเต [ปาณภุตํ (สฺยา.), ปาณภูนํ (สี. ก.)] ภยํ นตฺถิ, เอกคฺคา โหถ สํวุตา [สคารวา (สฺยา.)].
‘‘อโห พุทฺโธ อโห ธมฺโม, อโห โน สตฺถุ สมฺปทา;
ยสฺมึ อุปฺปชฺชมานมฺหิ, ปถวี [ปวี (สี. สฺยา.)] สมฺปกมฺปติ.
‘‘พุทฺธานุภาวํ กิตฺเตตฺวา, กปฺปํ สคฺคมฺหิ โมทหํ;
อวเสเสสุ กปฺเปสุ, กุสลํ จริตํ [กริตํ (สี. สฺยา.), การิตํ (ก.)] มยา.
‘‘เอกนวุติโต ¶ กปฺเป, ยํ สฺมลภึ ตทา;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, พุทฺธสฺายิทํ ผลํ.
‘‘อิโต ¶ จุทฺทสกปฺปมฺหิ, ราชา อาสึ ปตาปวา;
สมิโต นาม นาเมน, จกฺกวตฺตี มหพฺพโล.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา พุทฺธสฺโก เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
พุทฺธสฺกตฺเถรสฺสาปทานํ สตฺตมํ.
๘. มคฺคสฺกตฺเถรอปทานํ
‘‘ปทุมุตฺตรพุทฺธสฺส, สาวกา วนจาริโน;
วิปฺปนฏฺา พฺรหารฺเ, อนฺธาว อนุสุยฺยเร [อนุสุยเร (สี.)].
‘‘อนุสฺสริตฺวา ¶ สมฺพุทฺธํ, ปทุมุตฺตรนายกํ;
ตสฺส เต มุนิโน ปุตฺตา, วิปฺปนฏฺา มหาวเน.
‘‘ภวนา โอรุหิตฺวาน, อคมึ ภิกฺขุสนฺติกํ;
เตสํ มคฺคฺจ อาจิกฺขึ, โภชนฺจ อทาสหํ.
‘‘เตน กมฺเมน ทฺวิปทินฺท, โลกเชฏฺ นราสภ;
ชาติยา สตฺตวสฺโสหํ, อรหตฺตมปาปุณึ.
‘‘สจกฺขู ¶ นาม นาเมน, ทฺวาทส จกฺกวตฺติโน;
สตฺตรตนสมฺปนฺนา, ปฺจกปฺปสเต อิโต.
‘‘ปฏิสมฺภิทา ¶ จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา มคฺคสฺโก เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
มคฺคสฺกตฺเถรสฺสาปทานํ อฏฺมํ.
๙. ปจฺจุปฏฺานสฺกตฺเถรอปทานํ
‘‘อตฺถทสฺสิมฺหิ สุคเต, นิพฺพุเต สมนนฺตรา;
ยกฺขโยนึ อุปปชฺชึ, ยสํ ปตฺโต จหํ ตทา.
‘‘ทุลฺลทฺธํ ¶ วต เม อาสิ, ทุปฺปภาตํ ทุรุฏฺิตํ;
ยํ เม โภเค วิชฺชมาเน, ปรินิพฺพายิ จกฺขุมา.
‘‘มม สงฺกปฺปมฺาย, สาคโร นาม สาวโก;
มมุทฺธริตุกาโม โส, อาคจฺฉิ มม สนฺติกํ.
‘‘กึ นุ โสจสิ มา ภายิ, จร ธมฺมํ สุเมธส;
อนุปฺปทินฺนา พุทฺเธน, สพฺเพสํ พีชสมฺปทา.
‘‘โส เจ ปูเชยฺย สมฺพุทฺธํ, ติฏฺนฺตํ โลกนายกํ;
ธาตุํ สาสปมตฺตมฺปิ, นิพฺพุตสฺสาปิ ปูชเย.
‘‘สเม ¶ จิตฺตปฺปสาทมฺหิ, สมํ ปฺุํ มหคฺคตํ;
ตสฺมา ถูปํ กริตฺวาน, ปูเชหิ ชินธาตุโย.
‘‘สาครสฺส วโจ สุตฺวา, พุทฺธถูปํ อกาสหํ;
ปฺจวสฺเส ปริจรึ, มุนิโน ถูปมุตฺตมํ.
‘‘เตน ¶ กมฺเมน ทฺวิปทินฺท, โลกเชฏฺ นราสภ;
สมฺปตฺตึ อนุโภตฺวาน, อรหตฺตมปาปุณึ.
‘‘ภูริปฺา จ จตฺตาโร, สตฺตกปฺปสเต อิโต;
สตฺตรตนสมฺปนฺนา, จกฺกวตฺตี มหพฺพลา.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา ปจฺจุปฏฺานสฺโก เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
ปจฺจุปฏฺานสฺกตฺเถรสฺสาปทานํ นวมํ.
๑๐. ชาติปูชกตฺเถรอปทานํ
‘‘ชายนฺตสฺส ¶ วิปสฺสิสฺส, อาโลโก วิปุโล อหุ;
ปถวี จ ปกมฺปิตฺถ, สสาครา สปพฺพตา.
‘‘เนมิตฺตา จ วิยากํสุ, พุทฺโธ โลเก ภวิสฺสติ;
อคฺโค จ สพฺพสตฺตานํ, ชนตํ อุทฺธริสฺสติ.
‘‘เนมิตฺตานํ ¶ ¶ สุณิตฺวาน, ชาติปูชมกาสหํ;
เอทิสา ปูชนา นตฺถิ, ยาทิสา ชาติปูชนา.
‘‘สงฺขริตฺวาน [สํหริตฺวาน (สี. สฺยา.), สงฺกริตฺวาน (ก.)]
กุสลํ, สกํ จิตฺตํ ปสาทยึ.
ชาติปูชํ กริตฺวาน, ตตฺถ กาลงฺกโต อหํ.
‘‘ยํ ยํ โยนุปปชฺชามิ, เทวตฺตํ อถ มานุสํ;
สพฺเพ สตฺเต อภิโภมิ, ชาติปูชายิทํ ผลํ.
‘‘ธาติโย มํ อุปฏฺนฺติ, มม จิตฺตวสานุคา;
น ตา สกฺโกนฺติ โกเปตุํ, ชาติปูชายิทํ ผลํ.
‘‘เอกนวุติโต กปฺเป, ยํ ปูชมกรึ ตทา;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ชาติปูชายิทํ ผลํ.
‘‘สุปาริจริยา นาม, จตุตฺตึส ชนาธิปา;
อิโต ตติยกปฺปมฺหิ, จกฺกวตฺตี มหพฺพลา.
‘‘ปฏิสมฺภิทา ¶ จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา ชาติปูชโก เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
ชาติปูชกตฺเถรสฺสาปทานํ ทสมํ.
มหาปริวารวคฺโค ทฺวาทสโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
ปริวารสุมงฺคลา, สรณาสนปุปฺผิยา;
จิตปูชี พุทฺธสฺี, มคฺคุปฏฺานชาตินา;
คาถาโย ¶ นวุติ วุตฺตา, คณิตาโย วิภาวิหิ.