📜
๓๕. เอกปทุมิยวคฺโค
๑. เอกปทุมิยตฺเถรอปทานํ
‘‘ปทุมุตฺตโร ¶ ¶ ¶ นาม ชิโน, สพฺพธมฺมาน ปารคู;
ภวาภเว วิภาเวนฺโต, ตาเรสิ ชนตํ พหุํ.
‘‘หํสราชา ตทา โหมิ, ทิชานํ ปวโร อหํ;
ชาตสฺสรํ สโมคยฺห, กีฬามิ หํสกีฬิตํ.
‘‘ปทุมุตฺตโร โลกวิทู, อาหุตีนํ ปฏิคฺคโห;
ชาตสฺสรสฺส อุปริ, อาคจฺฉิ ตาวเท ชิโน.
‘‘ทิสฺวานหํ เทวเทวํ, สยมฺภุํ โลกนายกํ;
วณฺเฏ เฉตฺวาน ปทุมํ, สตปตฺตํ มโนรมํ.
‘‘มุขตุณฺเฑน ปคฺคยฺห, ปสนฺโน โลกนายเก [วิปฺปสนฺเนน เจตสา (สฺยา.)];
อุกฺขิปิตฺวาน คคเณ [อุกฺขิปิตฺวา นลาเฏน (ก.)], พุทฺธเสฏฺํ อปูชยึ.
‘‘ปทุมุตฺตโร โลกวิทู, อาหุตีนํ ปฏิคฺคโห;
อนฺตลิกฺเข ิโต สตฺถา, อกา เม อนุโมทนํ.
‘‘‘อิมินา เอกปทุเมน, เจตนาปณิธีหิ จ;
กปฺปานํ สตสหสฺสํ, วินิปาตํ น คจฺฉสิ’.
‘‘อิทํ วตฺวาน สมฺพุทฺโธ, ชลชุตฺตมนามโก;
มม กมฺมํ ปกิตฺเตตฺวา, อคมา เยน ปตฺถิตํ.
‘‘สตสหสฺสิโต ¶ ¶ กปฺเป, ยํ กมฺมมกรึ ตทา;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส, วิโมกฺขาปิ จ อฏฺิเม;
ฉฬภิฺา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา เอกปทุมิโย เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
เอกปทุมิยตฺเถรสฺสาปทานํ ปมํ.
๒. ตีณุปฺปลมาลิยตฺเถรอปทานํ
‘‘จนฺทภาคานทีตีเร ¶ ¶ , อโหสึ วานโร ตทา;
อทฺทสํ วิรชํ พุทฺธํ, นิสินฺนํ ปพฺพตนฺตเร.
‘‘โอภาเสนฺตํ ทิสา สพฺพา, สาลราชํว ผุลฺลิตํ;
ลกฺขณพฺยฺชนูเปตํ, ทิสฺวา อตฺตมโน อหุํ.
‘‘อุทคฺคจิตฺโต สุมโน, ปีติยา หฏฺมานโส;
ตีณิ อุปฺปลปุปฺผานิ, มตฺถเก อภิโรปยึ.
‘‘ปุปฺผานิ อภิโรเปตฺวา, วิปสฺสิสฺส มเหสิโน;
สคารโว ภวิตฺวาน [คมิตฺวาน (สี.), นมิตฺวาน (ก.)], ปกฺกามึ อุตฺตรามุโข.
‘‘คจฺฉนฺโต ปฏิกุฏิโก, วิปฺปสนฺเนน เจตสา;
เสลนฺตเร ปติตฺวาน [ปปติตฺวา (สฺยา. ก.)], ปาปุณึ ชีวิตกฺขยํ.
‘‘เตน ¶ กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ [ปุริมํ ชาตึ (?) อุปริ ๓๘ วคฺเค ตติยาปทาเน เอวเมว ทิสฺสติ], ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘สตานํ ¶ ตีณิกฺขตฺตฺุจ, เทวรชฺชํ อการยึ;
สตานํ ปฺจกฺขตฺตฺุจ, จกฺกวตฺตี อโหสหํ.
‘‘เอกนวุติโต กปฺเป, ยํ ปุปฺผมภิปูชยึ;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา ตีณุปฺปลมาลิโย [ติอุปฺปลมาลิโย (สี.)] เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
ตีณุปฺปลมาลิยตฺเถรสฺสาปทานํ ทุติยํ.
๓. ธชทายกตฺเถรอปทานํ
‘‘ติสฺโส นาม อหุ สตฺถา, โลกเชฏฺโ นราสโภ;
ตโยปธิกฺขเย [ตสฺโสปธิกฺขเย (สี.)] ทิสฺวา, ธชํ อาโรปิตํ มยา.
‘‘เตน ¶ กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวตึสมคจฺฉหํ.
‘‘สตานํ ¶ ตีณิกฺขตฺตฺุจ, เทวรชฺชํ อการยึ;
สตานํ ปฺจกฺขตฺตฺุจ, จกฺกวตฺตี อโหสหํ.
‘‘ปเทสรชฺชํ ¶ วิปุลํ, คณนาโต อสงฺขิยํ;
อนุโภมิ สกํ กมฺมํ, ปุพฺเพ สุกตมตฺตโน.
‘‘ทฺเวนวุเต อิโต กปฺเป, ยํ กมฺมมกรึ ตทา;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ธชทานสฺสิทํ ผลํ.
‘‘อิจฺฉมาโน จหํ อชฺช, สกานนํ สปพฺพตํ;
โขมทุสฺเสน ฉาเทยฺยํ, ตทา มยฺหํ กเต ผลํ.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา ธชทายโก เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
ธชทายกตฺเถรสฺสาปทานํ ตติยํ.
๔. ติกิงฺกณิปูชกตฺเถรอปทานํ
‘‘หิมวนฺตสฺสาวิทูเร, ภูตคโณ นาม ปพฺพโต;
ตตฺถทฺทสํ ปํสุกูลํ, ทุมคฺคมฺหิ วิลคฺคิตํ.
‘‘ตีณิ กิงฺกณิปุปฺผานิ, โอจินิตฺวานหํ ตทา;
หฏฺโ หฏฺเน จิตฺเตน, ปํสุกูลํ อปูชยึ.
‘‘เอกตฺตึเส อิโต กปฺเป, ยํ กมฺมมกรึ ตทา;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ติณฺณํ ปุปฺผานิทํ ผลํ.
‘‘ปฏิสมฺภิทา ¶ จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา ติกิงฺกณิปูชโก เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
ติกิงฺกณิปูชกตฺเถรสฺสาปทานํ จตุตฺถํ.
๕. นฬาคาริกตฺเถรอปทานํ
‘‘หิมวนฺตสฺสาวิทูเร ¶ , หาริโต นาม ปพฺพโต;
สยมฺภู นารโท นาม, รุกฺขมูเล วสี ตทา.
‘‘นฬาคารํ กริตฺวาน, ติเณน ฉาทยึ อหํ;
จงฺกมํ โสธยิตฺวาน, สยมฺภุสฺส อทาสหํ.
‘‘จตุทฺทสสุ ¶ กปฺเปสุ, เทวโลเก รมึ อหํ;
จตุสตฺตติกฺขตฺตฺุจ, เทวรชฺชํ อการยึ.
‘‘จตุสตฺตติ [สตฺตสตฺตติ (สี.)] กฺขตฺตฺุจ ¶ , จกฺกวตฺตี อโหสหํ;
ปเทสรชฺชํ วิปุลํ, คณนาโต อสงฺขิยํ.
‘‘อุพฺพิทฺธํ ภวนํ มยฺหํ, อินฺทลฏฺีว อุคฺคตํ;
สหสฺสถมฺภํ อตุลํ, วิมานํ สปภสฺสรํ.
‘‘ทฺเว สมฺปตฺตี อนุโภตฺวา, สุกฺกมูเลน โจทิโต;
โคตมสฺส ภควโต, สาสเน ปพฺพชึ อหํ.
‘‘ปธานปหิตตฺโตมฺหิ ¶ , อุปสนฺโต นิรูปธิ;
นาโคว พนฺธนํ เฉตฺวา, วิหรามิ อนาสโว.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา นฬาคาริโก เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
นฬาคาริกตฺเถรสฺสาปทานํ ปฺจมํ.
๖. จมฺปกปุปฺผิยตฺเถรอปทานํ
‘‘หิมวนฺตสฺสาวิทูเร, ชาปโล [จาปโล (สี.), ฉาปโล (สฺยา.)] นาม ปพฺพโต;
พุทฺโธ สุทสฺสโน นาม, วิหาสิ ปพฺพตนฺตเร.
‘‘ปุปฺผํ เหมวนฺตํ [เหมวตํ (สี.), เหมวณฺณํ (สฺยา.)] คยฺห, คจฺฉํ เวหายเสนหํ;
อทฺทสํ วิรชํ พุทฺธํ, โอฆติณฺณมนาสวํ.
‘‘สตฺต ¶ จมฺปกปุปฺผานิ, สีเส กตฺวานหํ ตทา;
พุทฺธสฺส อภิโรเปสึ, สยมฺภุสฺส มเหสิโน.
‘‘เอกตฺตึเส อิโต กปฺเป, ยํ ปุปฺผมภิโรปยึ;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ ¶ สุทํ อายสฺมา จมฺปกปุปฺผิโย เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
จมฺปกปุปฺผิยตฺเถรสฺสาปทานํ ฉฏฺํ.
๗. ปทุมปูชกตฺเถรอปทานํ
‘‘หิมวนฺตสฺสาวิทูเร ¶ , โรมโส นาม ปพฺพโต;
พุทฺโธปิ สมฺภโว นาม, อพฺโภกาเส วสี ตทา.
‘‘ภวนา นิกฺขมิตฺวาน, ปทุมํ ธารยึ อหํ;
เอกาหํ ธารยิตฺวาน, ปุน ภวนุปาคมึ.
‘‘เอกนวุติโต ¶ กปฺเป, ยํ ปุปฺผมภิโรปยึ;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํ.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา ปทุมปูชโก เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
ปทุมปูชกตฺเถรสฺสาปทานํ สตฺตมํ.
เตรสมํ ภาณวารํ.
๘. ติณมุฏฺิทายกตฺเถรอปทานํ
‘‘หิมวนฺตสฺสาวิทูเร, ลมฺพโก นาม ปพฺพโต;
อุปติสฺโส นาม สมฺพุทฺโธ, อพฺโภกาสมฺหิ จงฺกมิ.
‘‘มิคลุทฺโท ¶ ¶ ตทา อาสึ, อรฺเ กานเน อหํ;
ทิสฺวาน ตํ เทวเทวํ, สยมฺภุํ อปราชิตํ.
‘‘วิปฺปสนฺเนน จิตฺเตน, ตทา ตสฺส มเหสิโน;
นิสีทนตฺถํ พุทฺธสฺส, ติณมุฏฺิมทาสหํ.
‘‘ทตฺวาน เทวเทวสฺส, ภิยฺโย จิตฺตํ ปสาทยึ;
สมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา, ปกฺกามึ อุตฺตรามุโข.
‘‘อจิรํ คตมตฺตํ มํ, มิคราชา อโปถยิ [อเหยิ (สี. สฺยา.)];
สีเหน โปถิโต [ปาติโต (สี. สฺยา.)] สนฺโต, ตตฺถ กาลงฺกโต อหํ.
‘‘อาสนฺเน เม กตํ กมฺมํ, พุทฺธเสฏฺเ อนาสเว;
สุมุตฺโต สรเวโคว, เทวโลกํ อคฺฉหํ.
‘‘ยูโป ¶ ตตฺถ สุโภ อาสิ, ปฺุกมฺมาภินิมฺมิโต;
สหสฺสกณฺโฑ สตเภณฺฑุ, ธชาลุ หริตามโย.
‘‘ปภา นิทฺธาวเต ตสฺส, สตรํสีว อุคฺคโต;
อากิณฺโณ เทวกฺาหิ, อาโมทึ กามกามหํ.
‘‘เทวโลกา จวิตฺวาน, สุกฺกมูเลน โจทิโต;
อาคนฺตฺวาน มนุสฺสตฺตํ, ปตฺโตมฺหิ อาสวกฺขยํ.
‘‘จตุนฺนวุติโต กปฺเป, นิสีทนมทาสหํ;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ติณมุฏฺิยิทํ ผลํ.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ ¶ สุทํ อายสฺมา ติณมุฏฺิทายโก เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
ติณมุฏฺิทายกตฺเถรสฺสาปทานํ อฏฺมํ.
๙. ตินฺทุกผลทายกตฺเถรอปทานํ
‘‘กณิการํว ¶ โชตนฺตํ, นิสินฺนํ ปพฺพตนฺตเร;
อทฺทสํ วิรชํ พุทฺธํ, โอฆติณฺณมนาสวํ.
‘‘ตินฺทุกํ ¶ สผลํ ทิสฺวา, ภินฺทิตฺวาน สโกสกํ [สโกฏกํ (สี.), สโกฏิกํ (สฺยา.)];
ปสนฺนจิตฺโต สุมโน, สยมฺภุสฺส มทาสหํ [เวสฺสภุสฺส อทาสหํ (สี.)].
‘‘เอกนวุติโต กปฺเป, ยํ ผลมททึ ตทา;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ผลทานสฺสิทํ ผลํ.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา ตินฺทุกผลทายโก เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
ตินฺทุกผลทายกตฺเถรสฺสาปทานํ นวมํ.
๑๐. เอกฺชลิยตฺเถรอปทานํ
‘‘โรมโส [เรวโต (สี.)] นาม สมฺพุทฺโธ, นทีกูเล วสี ตทา;
อทฺทสํ วิรชํ พุทฺธํ, ปีตรํสึว ภาณุมํ.
‘‘อุกฺกามุขปหฏฺํว ¶ ¶ , ขทิรงฺคารสนฺนิภํ;
โอสธึว วิโรจนฺตํ, เอกฺชลิมกาสหํ.
‘‘จตุนฺนวุติโต กปฺเป, ยํ อฺชลิมกาสหํ;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, อฺชลิยา อิทํ ผลํ.
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา เอกฺชลิโย เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
เอกฺชลิยตฺเถรสฺสาปทานํ ทสมํ.
เอกปทุมิยวคฺโค ปฺจตึสติโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
ปทุมี อุปฺปลมาลี, ธโช กิงฺกณิกํ นฬํ [กิงฺกณิโก นโฬ (สี.)];
จมฺปโก ปทุโม มุฏฺิ, ตินฺทุเกกฺชลี ตถา;
ฉ จ สฏฺิ จ คาถาโย, คณิตาโย วิภาวิภิ.