📜
๑. รตนจงฺกมนกณฺฑวณฺณนา
อิทานิ ปน –
‘‘พฺรหฺมา ¶ จ โลกาธิปตี สหมฺปตี, กตฺชลี อนธิวรํ อยาจถ;
สนฺตีธ สตฺตาปฺปรชกฺขชาติกา, เทเสหิ ธมฺมํ อนุกมฺปิมํ ปช’’นฺติ. –
อาทินยปฺปวตฺตสฺส อพฺภนฺตรนิทานสฺส อตฺถวณฺณนา โหติ.
เอตฺถ ¶ ‘‘เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป’’ติอาทิสุตฺตนฺเตสุ วิย – ‘‘เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ นิคฺโรธาราเม. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ พุทฺธวํสํ อปุจฺฉี’’ติ เอวมาทินา นเยน นิทานํ อวตฺวา กสฺมา ‘‘พฺรหฺมา จ โลกาธิปตี สหมฺปตี, กตฺชลี อนธิวรํ อยาจถา’’ติอาทินา นเยน นิทานํ วุตฺตนฺติ? วุจฺจเต – ภควโต สพฺพธมฺมเทสนาการณภูตาย พฺรหฺมุโน ธมฺมเทสนายาจนาย สนฺทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ.
‘‘กทายํ ธมฺมเทสนตฺถํ, อชฺฌิฏฺโ พฺรหฺมุนา ชิโน;
กทา กตฺถ จ เกนายํ, คาถา หิ สมุทีริตา’’ติ.
วุจฺจเต ¶ – พุทฺธภูตสฺส ปน ภควโต อฏฺเม สตฺตาเห สตฺถา ธมฺมเทสนตฺถาย พฺรหฺมุนา อชฺฌิฏฺโ อายาจิโต. ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – มหาปุริโส กิร กตาภินีหาโร มหาภินิกฺขมนทิวเส วิวฏปากฏพีภจฺฉสยนาสนเจฏิกา นาฏกิตฺถิโย ทิสฺวา อตีว สํวิคฺคหทโย ปเฏกเทสาวจฺฉนฺนํ ฉนฺนํ อามนฺเตตฺวา – ‘‘อรินรวรมนฺถกํ กณฺฑกํ นาม ตุรงฺควรมาหรา’’ติ กณฺฑกํ อาหราเปตฺวา ฉนฺนสหาโย วรตุรงฺคมารุยฺห นครทฺวาเร อธิวตฺถาย เทวตาย นครทฺวาเร วิวเฏ นครโต นิกฺขมิตฺวา ตีณิ รชฺชานิ เตน รตฺตาวเสเสน อติกฺกมิตฺวา อโนมสตฺโต อโนมาย นาม นทิยา ตีเร ตฺวา ฉนฺนเมวมาห ¶ – ‘‘ฉนฺน, ตฺวํ มม อิมานิ อฺเหิ อสาธารณานิ อาภรณานิ กณฺฑกฺจ วรตุรงฺคมาทาย กปิลปุรํ คจฺฉาหี’’ติ ฉนฺนํ วิสฺสชฺเชตฺวา อสิโตรคนีลุปฺปลสทิเสนาสินา สเกสมกุฏํ ฉินฺทิตฺวา อากาเส อุกฺขิปิตฺวา เทวทตฺติยํ ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา สยเมว ปพฺพชิตฺวา อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน อนิลพลสมุทฺธุตตรงฺคภงฺคํ อสงฺคํ คงฺคํ นทึ อุตฺตริตฺวา มณิคณรํสิชาลวิชฺโชติตราชคหํ ราชคหํ นาม นครํ ปวิสิตฺวา ตตฺถ อิสฺสริยมทมตฺตํ ชนํ ปริหาเสนฺโต วิย จ อุทฺธตเวสสฺส ชนสฺส ลชฺชมุปฺปาทยมาโน วิย จ วยกนฺตีหิ นาครชนหทยานิ อตฺตนิ พนฺธนฺโต วิย จ ทฺวตึสวรมหาปุริสลกฺขณวิราชิตาย รูปสิริยา สพฺพชนนยนานิ วิลุมฺปมาโน วิย จ รูปีปาทสฺจโร ปฺุสฺจโย วิย จ ปพฺพโต วิย จ คมเนน นิสฺสงฺโค สนฺตินฺทฺริโย สนฺตมานโส ¶ ยุคมตฺตํ เปกฺขมาโน ราชคหํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ยาปนมตฺตํ ภตฺตํ คเหตฺวา นครโต นิกฺขมิตฺวา ปณฺฑวปพฺพตปสฺเส ฉายูทกสมฺปนฺเน สุจิภูมิภาเค ปรมรมณีเย ปวิวิตฺเต โอกาเส นิสีทิตฺวา ปฏิสงฺขานพเลน มิสฺสกภตฺตํ ปริภฺุชิตฺวา ปณฺฑวคิรานุสาเรน พิมฺพิสาเรน มคธมหาราเชน มหาปุริสสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา นามโคตฺตํ ปุจฺฉิตฺวา เตน ปมุทิตหทเยน ‘‘มม รชฺชภาคํ คณฺหาหี’’ติ รชฺเชน นิมนฺติยมาโน – ‘‘อลํ, มหาราช, น มยฺหํ รชฺเชนตฺโถ อหํ รชฺชํ ปหาย โลกหิตตฺถาย ปธานมนุยฺุชิตฺวา โลเก วิวฏจฺฉโท พุทฺโธ ภวิสฺสามีติ นิกฺขนฺโต’’ติ วตฺวา เตน จ ‘‘พุทฺโธ หุตฺวา สพฺพปมํ มม วิชิตํ โอสเรยฺยาถา’’ติ วุตฺโต ‘สาธู’ติ ตสฺส ปฏิฺํ ทตฺวา อาฬารฺจ อุทกฺจ อุปสงฺกมิตฺวา เตสํ ธมฺมเทสนาย สารํ อวินฺทนฺโต ตโต ปกฺกมิตฺวา อุรุเวลายํ ฉพฺพสฺสานิ ทุกฺกรการิกํ กโรนฺโตปิ อมตํ อธิคนฺตุํ อสกฺโกนฺโต โอฬาริกาหารปฏิเสวเนน สรีรํ สนฺตปฺเปสิ.
ตทา ¶ ปน อุรุเวลายํ เสนานิคเม เสนานิคมกุฏุมฺพิกสฺส ธีตา สุชาตา นาม ทาริกา วยปฺปตฺตา เอกสฺมึ นิคฺโรธรุกฺเข ปตฺถนมกาสิ – ‘‘สจาหํ สมชาติกํ กุลฆรํ คนฺตฺวา ปมคพฺเภ ปุตฺตํ ลภิสฺสามิ, พลิกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ. ตสฺสา สา ปตฺถนา สมิชฺฌิ. สา เวสาขปุณฺณมทิวเส ‘‘อชฺช พลิกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ ปาโตว ปายาสํ อนายาสํ ปรมมธุรํ สมฺปฏิปาเทสิ. โพธิสตฺโตปิ ตทเหว กตสรีรปฏิชคฺคโน ภิกฺขาจารกาลํ อาคมยมาโน ปาโตว คนฺตฺวา ตสฺมึ นิคฺโรธรุกฺขมูเล นิสีทิ. อถ โข ปุณฺณา นาม ทาสี ตสฺสา ธาตี รุกฺขมูลโสธนตฺถาย คตา โพธิสตฺตํ ปาจีนโลกธาตุํ โอโลกยมานํ นิสินฺนํ สฺฌาปฺปภานุรฺชิตวรกนกคิริสิขรสทิสสรีรโสภํ ติมิรนิกรนิธานกรํ กมลวนวิกสนกรํ ฆนวิวรมุปคตํ ทิวสกรมิว ตรุวรมุปคตํ มุนิทิวสกรมทฺทส. สรีรโต จสฺส นิกฺขนฺตาหิ ปภาหิ สกลฺจ ตํ รุกฺขํ สุวณฺณวณฺณํ ทิสฺวา ตสฺสา เอตทโหสิ – ‘‘อชฺช อมฺหากํ ¶ เทวตา รุกฺขโต โอรุยฺห สหตฺเถเนว พลึ ปฏิคฺคเหตุกามา หุตฺวา นิสินฺนา’’ติ. สา เวเคน คนฺตฺวา สุชาตาย เอตมตฺถํ อาโรเจสิ.
ตโต ¶ สุชาตา สฺชาตสทฺธา หุตฺวา สพฺพาลงฺกาเรน อลงฺกริตฺวา สตสหสฺสคฺฆนิกํ สุวณฺณปาตึ ปรมมธุรสฺส มธุปายาสสฺส ปูเรตฺวา อปราย สุวณฺณปาติยา ปิทหิตฺวา สีเสนาทาย นิคฺโรธรุกฺขาภิมุขี อคมาสิ. สา คจฺฉนฺตี ทูรโตว ตํ โพธิสตฺตํ รุกฺขเทวตมิว สกลํ ตํ รุกฺขํ สรีรปฺปภาย สุวณฺณวณฺณํ กตฺวา ปฺุสฺจยมิว รูปวนฺตํ นิสินฺนํ ทิสฺวา ปีติโสมนสฺสชาตา สุชาตา ‘‘รุกฺขเทวตา’’ติ สฺาย ทิฏฺฏฺานโต ปฏฺาย โอนโตนตา คนฺตฺวา สีสโต ตํ สุวณฺณปาตึ โอตาเรตฺวา มหาสตฺตสฺส หตฺเถ เปตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา – ‘‘ยถา มม มโนรโถ นิปฺผนฺโน, เอวํ ตุมฺหากมฺปิ นิปฺผชฺชตู’’ติ วตฺวา ปกฺกามิ.
อถ โข โพธิสตฺโตปิ สุวณฺณปาตึ คเหตฺวา เนรฺชราย นทิยา ตีรํ คนฺตฺวา สุปฺปติฏฺิตสฺส นาม ติตฺถสฺส ตีเร สุวณฺณปาตึ เปตฺวา นฺหตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา เอกูนปฺาสปิณฺเฑ กโรนฺโต ตํ ปายาสํ ปริภฺุชิตฺวา – ‘‘สจาหํ อชฺช พุทฺโธ ภวิสฺสามิ, อยํ สุวณฺณปาติ ปฏิโสตํ คจฺฉตู’’ติ ขิปิ. สา ปาติ ปฏิโสตํ คนฺตฺวา กาฬสฺส นาม นาคราชสฺส ภวนํ ปวิสิตฺวา ติณฺณํ พุทฺธานํ ถาลกานิ อุกฺขิปิตฺวา เตสํ เหฏฺา อฏฺาสิ.
มหาสตฺโต ตตฺเถว วนสณฺเฑ ทิวาวิหารํ วีตินาเมตฺวา สายนฺหสมเย โสตฺถิเยน นาม ติณหารเกน มหาปุริสสฺส อาการํ ตฺวา ทินฺนา อฏฺ ติณมุฏฺิโย คเหตฺวา โพธิมณฺฑมารุยฺห ทกฺขิณทิสาภาเค อฏฺาสิ. โส ปน ปเทโส ปทุมินิปตฺเต อุทกพินฺทุ วิย อกมฺปิตฺถ. มหาปุริโส – ‘‘อยํ ปเทโส มม คุณํ ธาเรตุํ อสมตฺโถ’’ติ ¶ ปจฺฉิมทิสาภาคมคมาสิ. โสปิ ตเถว กมฺปิตฺถ. ปุน อุตฺตรทิสาภาคมคมาสิ. โสปิ ตเถว กมฺปิตฺถ. ปุน ปุรตฺถิมทิสาภาคมคมาสิ. ตตฺถ ปลฺลงฺกปฺปมาณฏฺานํ นิจฺจลํ อโหสิ. มหาปุริโส – ‘‘อิทํ านํ กิเลสวิทฺธํสนฏฺาน’’นฺติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา ตานิ ติณานิ อคฺเค คเหตฺวา จาเลสิ. ตานิ ตูลิกคฺเคน ปริจฺฉินฺนานิ วิย อเหสุํ. โพธิสตฺโต – ‘‘โพธึ อปตฺวาว อิมํ ปลฺลงฺกํ น ภินฺทิสฺสามี’’ติ จตุรงฺควีริยํ อธิฏฺหิตฺวา ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา โพธิกฺขนฺธํ ปิฏฺิโต กตฺวา ปุรตฺถาภิมุโข นิสีทิ.
ตงฺขณฺเว ¶ สพฺพโลกาภิหาโร มาโร พาหุสหสฺสํ มาเปตฺวา ทิยฑฺฒโยชนสติกํ หิมคิริสิขรสทิสํ ¶ คิริเมขลํ นาม อริวรวารณํ วรวารณํ อภิรุยฺห นวโยชนิเกน ธนุอสิผรสุสรสตฺติสพเลนาติพหเลน มารพเลน สมฺปริวุโต สมนฺตา ปพฺพโต วิย อชฺโฌตฺถรนฺโต มหาสปตฺตํ วิย มหาสตฺตํ สมุปาคมิ. มหาปุริโส สูริเย ธรนฺเตเยว อติตุมูลํ มารพลํ วิธมิตฺวา วิกสิตชยสุมนกุสุมสทิสสฺส จีวรสฺส อุปริ ปตมาเนหิ รตฺตปวาลงฺกุรสทิสรุจิรทสฺสเนหิ โพธิรุกฺขงฺกุเรหิ ปีติยา วิย ปูชิยมาโน เอว ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ ลภิตฺวา มชฺฌิมยาเม ทิพฺพจกฺขุาณํ วิโสเธตฺวา ปจฺฉิมยาเม ปฏิจฺจสมุปฺปาเท าณํ โอตาเรตฺวา วฏฺฏวิวฏฺฏํ สมฺมสนฺโต อรุโณทเย พุทฺโธ หุตฺวา –
‘‘อเนกชาติสํสารํ, สนฺธาวิสฺสํ อนิพฺพิสํ;
คหการํ คเวสนฺโต, ทุกฺขา ชาติ ปุนปฺปุนํ.
‘‘คหการก ทิฏฺโสิ, ปุน เคหํ น กาหสิ;
สพฺพา เต ผาสุกา ภคฺคา, คหกูฏํ วิสงฺขตํ;
วิสงฺขารคตํ จิตฺตํ, ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา’’ติ. (ธ. ป. ๑๕๓-๑๕๔) –
อิมํ อุทานํ อุทาเนตฺวา สตฺตาหํ วิมุตฺติสุขปฏิเสวเนน วีตินาเมตฺวา อฏฺเม ทิวเส สมาปตฺติโต วุฏฺาย เทวตานํ กงฺขํ ตฺวา ตาสํ กงฺขาวิธมนตฺถํ อากาเส อุปฺปติตฺวา ยมกปาฏิหาริยํ ทสฺเสตฺวา ตาสํ กงฺขํ วิธมิตฺวา ปลฺลงฺกโต อีสกํ ปาจีนนิสฺสิเต อุตฺตรทิสาภาเค ตฺวา – ‘‘อิมสฺมึ วต เม ปลฺลงฺเก สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิทฺธ’’นฺติ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ กปฺปสตสหสฺสฺจ ปูริตานํ ปารมีนํ ผลาธิคมฏฺานํ ปลฺลงฺกฺเจว โพธิรุกฺขฺจ อนิมิเสหิ อกฺขีหิ โอโลกยมาโน สตฺตาหํ วีตินาเมสิ, ตํ านํ อนิมิสเจติยํ นาม ชาตํ.
อถ ปลฺลงฺกสฺส จ ิตฏฺานสฺส จ อนฺตเร ปุรตฺถิมปจฺฉิมโต อายเต รตนจงฺกเม จงฺกมนฺโต สตฺตาหํ วีตินาเมสิ, ตํ านํ รตนจงฺกมเจติยํ ¶ นาม ชาตํ. ตโต ปจฺฉิมทิสาภาเค เทวตา รตนฆรํ นาม มาเปสุํ, ตตฺถ ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา อภิธมฺมปิฏกํ วิเสสโต เจตฺถ อนนฺตนยสมนฺตปฏฺานํ วิจินนฺโต สตฺตาหํ วีตินาเมสิ. ตํ านํ รตนฆรเจติยํ นาม ¶ ชาตํ. เอวํ โพธิสมีเปเยว จตฺตาริ สตฺตาหานิ วีตินาเมตฺวา ปฺจเม สตฺตาเห โพธิรุกฺขมูลา เยน อชปาลนิคฺโรโธ เตนุปสงฺกมิ; ตตฺถาปิ ธมฺมํ วิจินนฺโตเยว วิมุตฺติสุขฺจ ปฏิสํเวเทนฺโต อชปาลนิคฺโรเธ สตฺตาหํ วีตินาเมสิ.
เอวํ ¶ อปรํ สตฺตาหํ มุจลินฺเท นิสีทิ. ตสฺส นิสินฺนมตฺตสฺเสว ภควโต สกลจกฺกวาฬคพฺภํ ปูเรนฺโต มหาอกาลเมโฆ อุทปาทิ. ตสฺมึ ปน อุปฺปนฺเน มุจลินฺโท นาคราชา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ มหาเมโฆ สตฺถริ มยฺหํ ภวนํ ปวิฏฺมตฺเต อุปฺปนฺโน วาสาคารมสฺส ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส สตฺตรตนมยํ เทววิมานสทิสํ ทิพฺพวิมานํ นิมฺมินิตุํ สมตฺโถปิ เอวํ กเต – ‘‘น มยฺหํ มหปฺผลํ ภวิสฺสติ, ทสพลสฺส กายเวยฺยาวจฺจํ กริสฺสามี’’ติ อติมหนฺตํ อตฺตภาวํ กตฺวา สตฺถารํ สตฺตกฺขตฺตุํ โภเคหิ ปริกฺขิปิตฺวา อุปริ มหนฺตํ ผณํ กตฺวา อฏฺาสิ. อถ ภควา ปริกฺเขปสฺส อนฺโตว มหติ โอกาเส สพฺพรตนมเย ปจฺจคฺฆปลฺลงฺเก อุปริ วินิคฺคลนฺตวิวิธสุรภิกุสุมทามวิตาเน วิวิธสุรภิคนฺธวาสิเต คนฺธกุฏิยํ วิหรนฺโต วิย วิหาสิ. เอวํ ภควา ตํ สตฺตาหํ ตตฺถ วีตินาเมตฺวา ตโต อปรํ สตฺตาหํ ราชายตเน นิสีทิ. ตตฺถาปิ วิมุตฺติสุขปฏิสํเวทิเยว. เอตฺตาวตา สตฺตสตฺตาหานิ ปริปุณฺณานิ อเหสุํ. เอตฺถนฺตเร ภควา ฌานสุเขน ผลสุเขน จ วีตินาเมสิ.
อถสฺส สตฺตสตฺตาหาติกฺกเม – ‘‘มุขํ โธวิสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปชฺชิ. สกฺโก เทวานมินฺโท อคทหรีตกํ อาหริตฺวา อทาสิ. อถสฺส สกฺโก นาคลตาทนฺตกฏฺฺจ มุขโธวนอุทกฺจ อทาสิ. ตโต ภควา ทนฺตกฏฺํ ขาทิตฺวา อโนตตฺตทโหทเกน มุขํ โธวิตฺวา ราชายตนมูเล นิสีทิ. ตสฺมึ สมเย จตูหิ โลกปาเลหิ อุปนีเต ปจฺจคฺเฆ เสลมเย ปตฺเต ตปุสฺสภลฺลิกานํ วาณิชานํ มนฺถฺจ มธุปิณฺฑิกฺจ ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิตฺวา ปจฺจาคนฺตฺวา อชปาลนิคฺโรธรุกฺขมูเล นิสีทิ. อถสฺส ตตฺถ นิสินฺนมตฺตสฺเสว อตฺตนา อธิคตสฺส ธมฺมสฺส คมฺภีรภาวํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส สพฺพพุทฺธานํ อาจิณฺโณ – ‘‘อธิคโต โข มฺยายํ ธมฺโม คมฺภีโร ทุทฺทโส ทุรนุโพโธ สนฺโต ปณีโต อตกฺกาวจโร นิปุโณ ปณฺฑิตเวทนีโย’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๘๑; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๗) ปเรสํ ธมฺมํ อเทเสตุกามตาการปฺปตฺโต ปริวิตกฺโก อุทปาทิ.
อถ ¶ ¶ พฺรหฺมา สหมฺปติ ทสพลสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย – ‘‘นสฺสติ วต, โภ, โลโก, วินสฺสติ วต, โภ, โลโก’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๗๒; ม. นิ. ๑.๒๘๒; มหาว. ๘) วาจํ นิจฺฉาเรนฺโต ทสสหสฺสจกฺกวาฬพฺรหฺมคณปริวุโต สกฺกสุยามสนฺตุสิตปรนิมฺมิตวสวตฺตีหิ อนุคโต อาคนฺตฺวา ภควโต ปุรโต ปาตุรโหสิ. โส อตฺตโน ปติฏฺานตฺถาย ปถวึ นิมฺมินิตฺวา ทกฺขิณํ ชาณุมณฺฑลํ ปถวิยํ นิหนฺตฺวา ชลชามลาวิกลกมลมกุลสทิสํ ทสนขสโมธานสมุชฺชลมฺชลึ สิรสฺมึ กตฺวา – ‘‘เทเสตุ, ภนฺเต ¶ , ภควา ธมฺมํ, เทเสตุ สุคโต ธมฺมํ, สนฺติ สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา, อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ, ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโร’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๘) –
‘‘ปาตุรโหสิ มคเธสุ ปุพฺเพ, ธมฺโม อสุทฺโธ สมเลหิ จินฺติโต;
อปาปุเรตํ อมตสฺส ทฺวารํ, สุณนฺตุ ธมฺมํ วิมเลนานุพุทฺธํ.
‘‘เสเล ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺิโต, ยถาปิ ปสฺเส ชนตํ สมนฺตโต;
ตถูปมํ ธมฺมมยํ สุเมธ, ปาสาทมารุยฺห สมนฺตจกฺขุ;
โสกาวติณฺณํ ชนตมเปตโสโก, อเวกฺขสฺสุ ชาติชราภิภูตํ.
‘‘อุฏฺเหิ วีร วิชิตสงฺคาม, สตฺถวาห อนณ วิจร โลเก;
เทสสฺสุ ภควา ธมฺมํ, อฺาตาโร ภวิสฺสนฺตี’’ติ. (ม. นิ. ๑.๒๘๒; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๘) –
‘‘นนุ ตุมฺเหหิ ‘พุทฺโธ โพเธยฺยํ ติณฺโณ ตาเรยฺยํ มุตฺโต โมเจยฺย’’’นฺติ –
‘‘กึ ¶ เม อฺาตเวเสน, ธมฺมํ สจฺฉิกเตนิธ;
สพฺพฺุตํ ปาปุณิตฺวา, ตารยิสฺสํ สเทวก’’นฺติ. (พุ. วํ. ๒.๕๕) –
ปตฺถนํ กตฺวา ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพฺุภาวํ ปตฺโตติ จ, ‘‘ตุมฺเหหิ ธมฺเม อเทสิยมาเน โก หิ นาม อฺโ ธมฺมํ เทเสสฺสติ, กิมฺํ โลกสฺส สรณํ ตาณํ เลณํ ปรายน’’นฺติ จ เอวมาทีหิ อเนเกหิ นเยหิ ภควนฺตํ ธมฺมเทสนตฺถํ อยาจิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘พุทฺธภูตสฺส ¶ ปน ภควโต อฏฺเม สตฺตาเห สตฺถา ธมฺมเทสนตฺถาย พฺรหฺมุนา อายาจิโต’’ติ.
อิทานิ ‘‘กทา กตฺถ จ เกนายํ, คาถา หิ สมุทีริตา’’ติ อิเมสํ ปฺหานํ วิสฺสชฺชนาย โอกาโส อนุปฺปตฺโต. ตตฺถ กทา วุตฺตาติ? ปมมหาสงฺคีติกาเล วุตฺตา. ปมมหาสงฺคีติ นาเมสา สงฺคีติกฺขนฺเธ (จูฬว. ๔๓๗) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. กตฺถ เกน วุตฺตาติ? ภควติ กิร ปรินิพฺพุเต ราชคหนคเร เวภารปพฺพตปสฺเส สตฺตปณฺณิคุหาทฺวาเร วิชิตสพฺพสตฺตุนา อชาตสตฺตุนา มคธมหาราเชน ธมฺมสงฺคายนตฺถํ การิเต ปริปุณฺณจนฺทมณฺฑลสงฺกาเส ¶ ทฏฺพฺพสารมณฺเฑ มณฺฑเป ธมฺมาสนคเตนายสฺมตา อานนฺทตฺเถเรน ‘‘พฺรหฺมา จ โลกาธิปตี’’ติ อยํ คาถา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อยเมตฺถ คาถาสมฺพนฺโธ.
เอตฺตาวตา –
‘‘กทายํ ธมฺมเทสนตฺถํ, อชฺฌิฏฺโ พฺรหฺมุนา ชิโน;
กทา กตฺถ จ เกนายํ, คาถา หิ สมุทีริตา’’ติ. –
อยมฺปิ คาถา วุตฺตตฺถา โหติ. เอวํ อิมินา สมฺพนฺเธน วุตฺตาย ปนสฺสา อนุตฺตานปทวณฺณนํ กริสฺสาม.
ตตฺถ พฺรหฺมาติ พฺรูหิโต เตหิ เตหิ คุณวิเสเสหีติ พฺรหฺมา. อยํ ปน พฺรหฺม-สทฺโท มหาพฺรหฺมพฺราหฺมณตถาคตมาตาปิตุเสฏฺาทีสุ ทิสฺสติ. ตถา หิ ‘‘ทฺวิสหสฺโส พฺรหฺมา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๖๖) มหาพฺรหฺมาติ อธิปฺเปโต.
‘‘ตโมนุโท ¶ พุทฺโธ สมนฺตจกฺขุ, โลกนฺตคู สพฺพภวาติวตฺโต;
อนาสโว สพฺพทุกฺขปฺปหีโน, สจฺจวฺหโย พฺรหฺเม อุปาสิโต เม’’ติ. (สุ. นิ. ๑๑๓๙) –
เอตฺถ พฺราหฺมโณ. ‘‘พฺรหฺมาติ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ เอตฺถ ตถาคโต. ‘‘พฺรหฺมาติ มาตาปิตโร ปุพฺพาจริยาติ วุจฺจเร’’ติ (อ. นิ. ๓.๓๑; ๔.๖๓; อิติวุ. ๑๐๖; ชา. ๒.๒๐.๑๘๑) เอตฺถ มาตาปิตโร. ‘‘พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๔๘; สํ. นิ. ๒.๒๑; อ. นิ. ๔.๘; ๕.๑๑; ปฏิ. ม. ๒.๔๔) เอตฺถ เสฏฺโ อธิปฺเปโต. อิธ ปน ปมชฺฌานํ ปณีตํ ภาเวตฺวา ปมชฺฌานภูมิยํ นิพฺพตฺโต กปฺปายุโก มหาพฺรหฺมา อธิปฺเปโต (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๓). จ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ, พฺรหฺมา จ อฺเ จ ทสสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ พฺรหฺมาโน จาติ อตฺโถ, ปทปูรณมตฺโต วา. โลกาธิปตีติ เอตฺถ โลโกติ สงฺขารโลโก สตฺตโลโก โอกาสโลโกติ ตโย ¶ โลกา. เตสุ อิธ สตฺตโลโก อธิปฺเปโต. ตสฺส อิสฺสโร อธิปตีติ โลกาธิปติ, โลเกกเทสสฺสาปิ อธิปติ โลกาธิปตีติ วุจฺจติ เทวาธิปติ นราธิปติ วิย.
สหมฺปตีติ โส กิร กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน สหโก นาม เถโร ปมชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ¶ อปริหีนชฺฌาโน ชีวิตปริโยสาเน ปมชฺฌานภูมิยํ กปฺปายุกมหาพฺรหฺมา หุตฺวา นิพฺพตฺโต, ตตฺร ปน นํ ‘‘สหมฺปติ พฺรหฺมา’’ติ สฺชานนฺติ. ‘‘สหกปตี’’ติ วตฺตพฺเพ อนุสฺสราคมํ กตฺวา รุฬฺหีวเสน ‘‘สหมฺปตี’’ติ วทนฺติ. กตฺชลีติ กตฺชลิโก, อฺชลิปุฏํ สิรสิ กตฺวาติ อตฺโถ. อนธิวรนฺติ อจฺจนฺตวโร อธิวโร นาสฺส อตฺถีติ อนธิวโร, น ตโต อธิโก วโร อตฺถีติ วา อนธิวโร, อนุตฺตโรติ อตฺโถ, ตํ อนธิวรํ. อยาจถาติ อยาจิตฺถ อชฺเฌสิ.
อิทานิ ยสฺสตฺถาย โส ภควนฺตํ อยาจิ, ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘สนฺตีธ สตฺตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สนฺตีติ สํวิชฺชนฺติ อุปลพฺภนฺติ, พุทฺธจกฺขุสฺส อาปาถํ อาคจฺฉนฺตา อตฺถีติ อตฺโถ. อิธาติ อยํ เทสาปเทเส นิปาโต ¶ . สฺวายํ กตฺถจิ สาสนํ อุปาทาย วุจฺจติ. ยถาห – ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ, อิธ ตติโย สมโณ, อิธ จตุตฺโถ สมโณ, สฺุา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อฺเหี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙; ที. นิ. ๒.๒๑๔; อ. นิ. ๔.๒๔๑). กตฺถจิ โอกาสํ, ยถาห –
‘‘อิเธว ติฏฺมานสฺส, เทวภูตสฺส เม สโต;
ปุนรายุ จ เม ลทฺโธ, เอวํ ชานาหิ มาริสา’’ติ. (ที. นิ. ๒.๓๖๙) –
กตฺถจิ ปทปูรณมตฺตเมว โหติ. ยถาห – ‘‘อิธาหํ, ภิกฺขเว, ภุตฺตาวี อสฺสํ ปวาริโต’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๐). กตฺถจิ โลกํ อุปาทาย, ยถาห – ‘‘อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขายา’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๗๐). อิธาปิ โลกเมว อุปาทาย วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. ตสฺมา อิมสฺมึ สตฺตโลเกติ อตฺโถ. สตฺตาติ รูปาทีสุ ขนฺเธสุ ฉนฺทราเคน สตฺตา วิสตฺตา อาสตฺตา ลคฺคา ลคิตาติ สตฺตา, สตฺตาติ ปาณิโน วุจฺจนฺติ. รุฬฺหีสทฺเทน ปน วีตราเคสุปิ อยํ โวหาโร วตฺตติเยว.
อปฺปรชกฺขชาติกาติ ปฺามเย อกฺขิมฺหิ อปฺปํ ปริตฺตํ ราคโทสโมหรชํ เอเตสํ เอวํสภาวา จ เตติ อปฺปรชกฺขชาติกา, อปฺปํ ราคาทิรชเมว วา เยสํ เต อปฺปรชกฺขา, เต อปฺปรชกฺขสภาวา อปฺปรชกฺขชาติกาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เตสํ อปฺปรชกฺขชาติกานํ. ‘‘สตฺตาน’’นฺติ ¶ วิภตฺติวิปริณามํ กตฺวา – ‘‘เทเสหิ ธมฺม’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺธํ กตฺวา อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เทเสหีติ อายาจนวจนเมตํ, เทเสหิ กเถหิ อุปทิสาติ ¶ อตฺโถ. ธมฺมนฺติ เอตฺถ อยํ ธมฺม-สทฺโท ปริยตฺติสมาธิปฺาปกติสภาวสฺุตาปฺุอาปตฺติเยฺยจตุสจฺจธมฺมาทีสุ ทิสฺสติ. ตถา หิ – ‘‘อิธ ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ…เป… เวทลฺล’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๓๙; อ. นิ. ๔.๑๐๒) ปริยตฺติยํ ทิสฺสติ. ‘‘เอวํธมฺมา เต ภควนฺโต อเหสุ’’นฺติอาทีสุ สมาธิมฺหิ.
‘‘ยสฺเสเต จตุโร ธมฺมา, วานรินฺท ยถา ตว;
สจฺจํ ธมฺโม ธิติ จาโค, ทิฏฺํ โส อติวตฺตตี’’ติ. –
อาทีสุ ¶ (ชา. ๑.๒.๑๔๗) ปฺาย. ‘‘ชาติธมฺมา ชราธมฺมา, อโถ มรณธมฺมิโน’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๓๙) ปกติยํ. ‘‘กุสลา ธมฺมา, อกุสลา ธมฺมา, อพฺยากตา ธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ติกมาติกา) สภาเว. ‘‘ตสฺมึ โข ปน สมเย ธมฺมา โหนฺติ ขนฺธา โหนฺตี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๒๑) สฺุตายํ. ‘‘ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหาตี’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๑๘๔; เถรคา. ๓๐๓; ชา. ๑.๑๐.๑๐๒; ๑.๑๕.๓๘๕) ปฺุเ. ‘‘ทฺเว อนิยตา ธมฺมา’’ติอาทีสุ อาปตฺติยํ. ‘‘สพฺเพ ธมฺมา สพฺพากาเรน พุทฺธสฺส ภควโต าณมุเข อาปาถํ อาคจฺฉนฺตี’’ติอาทีสุ (มหานิ. ๑๕๖; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕) เยฺเย. ‘‘ทิฏฺธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๙๙; มหาว. ๒๗, ๕๗) จตุสจฺจธมฺเม. อิธาปิ จตุสจฺจธมฺเม ทฏฺพฺโพ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.สุตฺตนิกฺเขปวณฺณนา; ธ. ส. อฏฺ. จิตฺตุปฺปาทกณฺฑ ๑). อนุกมฺปาติ อนุกมฺปํ อนุทฺทยํ กโรหิ. อิมนฺติ ปชํ นิทฺทิสนฺโต อาห. ปชนฺติ ปชาตตฺตา ปชา, ตํ ปชํ, สตฺตนิกายํ สํสารทุกฺขโต โมเจหีติ อธิปฺปาโย. เกจิ ปน –
‘‘ภควาติ โลกาธิปตี นรุตฺตโม,
กตฺชลี พฺรหฺมคเณหิ ยาจิโต’’ติ. –
ปนฺติ. เอตฺตาวตา สพฺพโส อยํ คาถา วุตฺตตฺถา โหติ.
อถ ภควโต ตํ พฺรหฺมุโน สหมฺปติสฺส อายาจนวจนํ สุตฺวา อปริมิตสมยสมุทิตกรุณาพลสฺส ทสพลสฺส ปรหิตกรณนิปุณมติจารสฺส สพฺพสตฺเตสุ โอกาสกรณมตฺเตน มหากรุณา อุทปาทิ. ตํ ปน ภควโต กรุณุปฺปตฺตึ ทสฺเสนฺเตหิ สงฺคีติกาเล สงฺคีติการเกหิ –
‘‘สมฺปนฺนวิชฺชาจรณสฺส ¶ ¶ ตาทิโน, ชุตินฺธรสฺสนฺติมเทหธาริโน;
ตถาคตสฺสปฺปฏิปุคฺคลสฺส, อุปฺปชฺชิ การฺุตา สพฺพสตฺเต’’ติ. –
อยํ คาถา ปิตา.
ตตฺถ สมฺปนฺนวิชฺชาจรณสฺสาติ สมฺปนฺนํ นาม ติวิธํ ปริปุณฺณสมงฺคิมธุรวเสน. ตตฺถ –
‘‘สมฺปนฺนํ ¶ สาลิเกทารํ, สุวา ภฺุชนฺติ โกสิย;
ปฏิเวเทมิ เต พฺรหฺเม, น นํ วาเรตุมุสฺสเห’’ติ. (ชา. ๑.๑๔.๑) –
อิทํ ปริปุณฺณสมฺปนฺนํ นาม. ‘‘อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต โหติ สมุเปโต อุปคโต สมุปคโต สมฺปนฺโน สมนฺนาคโต’’ติ (วิภ. ๕๑๑) อิทํ สมงฺคิสมฺปนฺนํ นาม. ‘‘อิมิสฺสา, ภนฺเต, มหาปถวิยา เหฏฺิมตลํ สมฺปนฺนํ, เสยฺยถาปิ ขุทฺทมธุํ อนีลกํ, เอวมสฺสาท’’นฺติ (ปารา. ๑๘) อิทํ มธุรสมฺปนฺนํ นาม. อิธ ปริปุณฺณสมฺปนฺนมฺปิ สมงฺคิสมฺปนฺนมฺปิ ยุชฺชติ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๖๔). วิชฺชาติ ปฏิปกฺขธมฺเม วิชฺฌนฏฺเน วิทิตกรณฏฺเน วินฺทิตพฺพฏฺเน จ วิชฺชา. ตา ปน ติสฺโสปิ วิชฺชา อฏฺปิ วิชฺชา. ติสฺโส วิชฺชา ภยเภรวสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๕๐ อาทโย) อาคตนเยเนว เวทิตพฺพา, อฏฺ อมฺพฏฺสุตฺเต (ที. นิ. ๑.๒๗๘ อาทโย). ตตฺร หิ วิปสฺสนาาเณน มโนมยิทฺธิยา จ สห ฉ อภิฺา ปริคฺคเหตฺวา อฏฺ วิชฺชา วุตฺตา. จรณนฺติ สีลสํวโร อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา โภชเน มตฺตฺุตา ชาคริยานุโยโค สทฺธา หิรี โอตฺตปฺปํ พาหุสจฺจํ อารทฺธวีริยตา อุปฏฺิตสฺสติตา ปฺาสมฺปนฺนตา จตฺตาริ รูปาวจรชฺฌานานีติ อิเม ปนฺนรส ธมฺมา เวทิตพฺพา. อิเมเยว หิ ปนฺนรส ธมฺมา ยสฺมา เอเตหิ จรติ อริยสาวโก คจฺฉติ อมตํ ทิสํ, ตสฺมา ‘‘จรณ’’นฺติ วุตฺตา. ยถาห – ‘‘อิธ, มหานาม, อริยสาวโก สีลวา โหตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๔) สพฺพํ มชฺฌิมปณฺณาสเก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. วิชฺชา จ จรณฺจ วิชฺชาจรณานิ, สมฺปนฺนานิ ปริปุณฺณานิ วิชฺชาจรณานิ ยสฺส โสยํ สมฺปนฺนวิชฺชาจรโณ, วิชฺชาจรเณหิ สมฺปนฺโน สมงฺคีภูโต, สมนฺนาคโตติ วา สมฺปนฺนวิชฺชาจรโณ. อุภยถาปิ อตฺโถ ยุชฺชเตว, ตสฺส สมฺปนฺนวิชฺชาจรณสฺส (ปารา. อฏฺ. ๑.๑ เวรฺชกณฺฑวณฺณนา).
ตาทิโนติ ‘‘อิฏฺเปิ ตาที อนิฏฺเปิ ตาที’’ติอาทินา นเยน มหานิทฺเทเส (มหานิ. ๓๘, ๑๙๒) อาคตตาทิลกฺขเณน ตาทิโน, อิฏฺานิฏฺาทีสุ อวิการสฺส ตาทิสสฺสาติ อตฺโถ. ชุตินฺธรสฺสาติ ¶ ¶ ชุติมโต, ยุคนฺธเร สรทสมเย สมุทิตทิวสกราติเรกตรสสฺสิริกสรีรชุติวิสรธรสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘ปฺาปชฺโชตธรสฺสา’’ติ วา วตฺตุํ วฏฺฏติ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘จตฺตาโร ¶ โลเก ปชฺโชตา, ปฺจเมตฺถ น วิชฺชติ;
ทิวา ตปติ อาทิจฺโจ, รตฺติมาภาติ จนฺทิมา.
‘‘อถ อคฺคิ ทิวารตฺตึ, ตตฺถ ตตฺถ ปภาสติ;
สมฺพุทฺโธ ตปตํ เสฏฺโ, เอสา อาภา อนุตฺตรา’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๖, ๘๕);
ตสฺมา อุภยถาปิ สรีรปฺาชุติวิสรธรสฺสาติ อตฺโถ. อนฺติมเทหธาริโนติ สพฺพปจฺฉิมสรีรธาริโน, อปุนพฺภวสฺสาติ อตฺโถ.
ตถาคตสฺสาติ เอตฺถ อฏฺหิ การเณหิ ภควา ‘‘ตถาคโต’’ติ วุจฺจติ. กตเมหิ อฏฺหิ? ตถา อาคโตติ ตถาคโต, ตถา คโตติ ตถาคโต, ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต, ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต, ตถทสฺสิตาย ตถาคโต, ตถวาทิตาย ตถาคโต, ตถาการิตาย ตถาคโต, อภิภวนฏฺเน ตถาคโตติ.
กถํ ภควา ตถา อาคโตติ ตถาคโต? ยถา เยน อภินีหาเรน ทานปารมึ ปูเรตฺวา สีลเนกฺขมฺมปฺาวีริยขนฺติสจฺจอธิฏฺานเมตฺตุเปกฺขาปารมึ ปูเรตฺวา อิมา ทส ปารมิโย ทส อุปปารมิโย ทส ปรมตฺถปารมิโยติ สมตฺตึส ปารมิโย ปูเรตฺวา องฺคปริจฺจาคํ ชีวิตปริจฺจาคํ ธนรชฺชปุตฺตทารปริจฺจาคนฺติ อิเม ปฺจ มหาปริจฺจาเค ปริจฺจชิตฺวา ยถา วิปสฺสิอาทโย สมฺมาสมฺพุทฺธา อาคตา, ตถา อมฺหากมฺปิ ภควา อาคโตติ ตถาคโต. ยถาห –
‘‘ยเถว โลกมฺหิ วิปสฺสิอาทโย, สพฺพฺุภาวํ มุนโย อิธาคตา;
ตถา อยํ สกฺยมุนีปิ อาคโต, ตถาคโต วุจฺจติ เตน จกฺขุมา’’ติ.
กถํ ตถา คโตติ ตถาคโต? ยถา สมฺปติชาตา วิปสฺสิอาทโย สเมหิ ปาเทหิ ปถวิยํ ปติฏฺาย อุตฺตราภิมุขา สตฺตปทวีติหาเรน คตา, ตถา อมฺหากมฺปิ ภควา คโตติ ตถาคโต. ยถาห –
‘‘มุหุตฺตชาโตว ¶ ¶ ¶ ควมฺปตี ยถา, สเมหิ ปาเทหิ ผุสี วสุนฺธรํ;
โส วิกฺกมี สตฺตปทานิ โคตโม, เสตฺจ ฉตฺตํ อนุธารยุํ มรู.
‘‘คนฺตฺวาน โส สตฺตปทานิ โคตโม, ทิสา วิโลเกสิ สมา สมนฺตโต;
อฏฺงฺคุเปตํ คิรมพฺภุทีรยี, สีโห ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺิโต’’ติ.
กถํ ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต? สพฺเพสํ รูปารูปธมฺมานํ สลกฺขณํ สามฺลกฺขณฺจ ตถํ อวิตถํ าณคติยา อาคโต อวิรชฺฌิตฺวา ปตฺโต อนุพุทฺโธติ ตถาคโต.
‘‘สพฺเพสํ ปน ธมฺมานํ, สกสามฺลกฺขณํ;
ตถเมวาคโต ยสฺมา, ตสฺมา สตฺถา ตถาคโต’’ติ.
กถํ ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต? ตถธมฺมา นาม จตฺตาริ อริยสจฺจานิ. ยถาห – ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ตถานิ อวิตถานิ อนฺถานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ, ภิกฺขเว, ตถเมตํ อวิตถเมตํ อนฺถเมต’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๐) วิตฺถาโร. ตานิ จ ภควา อภิสมฺพุทฺโธ, ตสฺมา ตถานํ อภิสมฺพุทฺธตฺตา ‘‘ตถาคโต’’ติ วุจฺจติ. อภิสมฺพุทฺธตฺโถ หิ เอตฺถ คตสทฺโท.
‘‘ตถนามานิ สจฺจานิ, อภิสมฺพุชฺฌิ นายโก;
ตสฺมา ตถานํ สจฺจานํ, สมฺพุทฺธตฺตา ตถาคโต’’.
กถํ ตถทสฺสิตาย ตถาคโต? ภควา หิ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อปริมาณานํ สตฺตานํ จกฺขุโสตฆาณชิวฺหากายมโนทฺวาเรสุ อาปาถํ อาคจฺฉนฺตํ รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพธมฺมารมฺมณํ ตถาคโต สพฺพาการโต ชานาติ ปสฺสตีติ, เอวํ ตถทสฺสิตาย ตถาคโต. อถ วา ยํ โลเก ตถํ, ตํ โลกสฺส ตเถว ทสฺเสติ. ตโตปิ ภควา ตถาคโต. เอตฺถ ตถทสฺสิอตฺเถ ‘‘ตถาคโต’’ติ ปทสมฺภโว เวทิตพฺโพ.
‘‘ตถากาเรน ¶ โย ธมฺเม, ชานาติ อนุปสฺสติ;
ตถทสฺสีติ สมฺพุทฺโธ, ตสฺมา วุตฺโต ตถาคโต’’.
กถํ ¶ ¶ ตถวาทิตาย ตถาคโต? ยฺจ อภิสมฺโพธิยา ปรินิพฺพานสฺส จ อนฺตเร ปฺจจตฺตาลีสวสฺสปริมาณกาเล สุตฺตาทินวงฺคสงฺคหิตํ ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน, สพฺพํ ตํ เอกตุลาย ตุลิตํ วิย ตถเมว อวิตถเมว โหติ. เตเนวาห –
‘‘ยฺจ, จุนฺท, รตฺตึ ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌติ, ยฺจ รตฺตึ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ, ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร ภาสติ ลปติ นิทฺทิสติ, สพฺพํ ตํ ตเถว โหติ, โน อฺถา. ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ.
เอตฺถ ปน คทอตฺโถ หิ คตสทฺโท. เอวํ ตถวาทิตาย ตถาคโต. อาคทนํ อาคโท, วจนนฺติ อตฺโถ. ตโถ อวิปรีโต อาคโท อสฺสาติ ตถาคโต. ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา วุตฺโต.
‘‘ตถาวาที ชิโน ยสฺมา, ตถธมฺมปฺปกาสโก;
ตถามาคทนฺจสฺส, ตสฺมา พุทฺโธ ตถาคโต’’.
กถํ ตถาการิตาย ตถาคโต? ภควา หิ ยํ ยํ วาจํ อภาสิ, ตํ ตํ เอว กาเยน กโรติ, วาจาย กาโย อนุโลเมติ, กายสฺสปิ วาจา. เตเนวาห –
‘‘ยถา วาที, ภิกฺขเว, ตถาคโต ตถา การี, ยถา การี ตถา วาที…เป… ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓; จูฬนิ. โปสาลมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๓).
ยถา จ วาจา คตา, กาโยปิ ตถา คโต, ยถา กาโย คโต, วาจาปิ ตถา คตา. เอวํ ตถาการิตาย ตถาคโต.
‘‘ยถา วาจา คตา ตสฺส, ตถา กาโย คโต ยโต;
ตถาวาทิตาย สมฺพุทฺโธ, สตฺถา ตสฺมา ตถาคโต’’.
กถํ อภิภวนฏฺเน ตถาคโต? อุปริ ภวคฺคํ เหฏฺา อวีจึ ปริยนฺตํ กตฺวา ติริยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ สพฺพสตฺเต อภิภวติ สีเลนปิ สมาธินาปิ ปฺายปิ วิมุตฺติยาปิ ¶ วิมุตฺติาณทสฺสเนนปิ, น ¶ ตสฺส ตุลา วา ปมาณํ วา อตฺถิ, อถ โข อตุโล อปฺปเมยฺโย อนุตฺตโร. เตเนวาห –
‘‘สเทวเก, ภิกฺขเว, โลเก…เป… ตถาคโต อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุ ทโส วสวตฺตี, ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๓; โปสาลมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๓).
ตตฺเรวํ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา – อคโท วิย อคโท. โก ปเนส? เทสนาวิลาโส เจว ปฺุุสฺสโย จ. เตน เหส มหานุภาโว ภิสกฺโก ทิพฺพาคเทน สปฺเป วิย สพฺพปรปฺปวาทิโน สเทวกฺจ โลกํ อภิภวติ, อิติ สพฺพโลกาภิภวนโต อวิปรีโต เทสนาวิลาโส เจว ¶ ปฺุุสฺสโย จ อคโท อสฺสาติ ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา ‘‘ตถาคโต’’ติ เวทิตพฺโพ. เอวํ อภิภวนฏฺเน ตถาคโต.
‘‘ตโถ อวิปรีโต จ, อคโท ยสฺส สตฺถุโน;
วสวตฺตีติ โส เตน, โหติ สตฺถา ตถาคโต’’.
อปฺปฏิปุคฺคลสฺสาติ ปฏิปุคฺคลวิรหิตสฺส, อฺโ โกจิ ‘‘อหํ พุทฺโธ’’ติ เอวํ ปฏิฺํ ทาตุํ สมตฺโถ นามสฺส ปุคฺคโล, นตฺถีติ อปฺปฏิปุคฺคโล, ตสฺส อปฺปฏิปุคฺคลสฺส. อุปฺปชฺชีติ อุปฺปนฺโน อุทปาทิ. การฺุตาติ กรุณาย ภาโว การฺุตา. สพฺพสตฺเตติ นิรวเสสสตฺตปริยาทานวจนํ, สกเล สตฺตนิกาเยติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา อยมฺปิ คาถา วุตฺตตฺถา โหติ.
อถ ภควา พฺรหฺมุนา ธมฺมเทสนตฺถาย อายาจิโต สตฺเตสุ การฺุตํ อุปฺปาเทตฺวา ธมฺมํ เทเสตุกาโม มหาพฺรหฺมานํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘อปารุตา เตสํ อมตสฺส ทฺวารา, เย โสตวนฺโต ปมฺุจนฺตุ สทฺธํ;
วิหึสสฺี ปคุณํ น ภาสึ, ธมฺมํ ปณีตํ มนุเชสุ พฺรหฺเม’’ติ. (ม. นิ. ๑.๒๘๓; ที. นิ. ๒.๗๑; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๙);
อถ ¶ โข พฺรหฺมา สหมฺปติ ‘‘กตาวกาโส โขมฺหิ ภควตา ธมฺมเทสนายา’’ติ ตฺวา ทสนขสโมธานสมุชฺชลํ อฺชลึ สิรสิ กตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา พฺรหฺมคณปริวุโต ปกฺกามิ. อถ สตฺถา ตสฺส พฺรหฺมุโน ปฏิฺํ ทตฺวา – ‘‘กสฺส นุ โข อหํ ปมํ ¶ ธมฺมํ เทเสยฺย’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๘๓; มหาว. ๑๐) จินฺเตนฺโต – ‘‘อาฬาโร ปณฺฑิโต โส อิมํ ธมฺมํ ขิปฺปํ อาชานิสฺสตี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา ปุน โอโลเกนฺโต ตสฺส สตฺตาหํ กาลงฺกตภาวํ ตฺวา อุทกสฺส จ อภิโทสกาลงฺกตภาวํ ตฺวา ปุน – ‘‘กหํ นุ โข เอตรหิ ปฺจวคฺคิยา ภิกฺขู วิหรนฺตี’’ติ ปฺจวคฺคิเย อาวชฺเชนฺโต ‘‘พาราณสิยํ อิสิปตเน มิคทาเย’’ติ ตฺวา อาสาฬฺหิยํ ปภาตาย รตฺติยา กาลสฺเสว ปตฺตจีวรมาทาย อฏฺารสโยชนิกํ มคฺคํ ปฏิปนฺโน อนฺตรามคฺเค อุปกํ นาม อาชีวกํ ทิสฺวา ตสฺส อตฺตโน พุทฺธภาวมาวิกตฺวา ตํทิวสเมว สายนฺหสมเย อิสิปตนมคมาสิ. ตตฺถ ปฺจวคฺคิยานํ อตฺตโน พุทฺธภาวํ ปกาเสตฺวา ปฺตฺตวรพุทฺธาสนคโต ปฺจวคฺคิเย ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตนฺตํ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๓ อาทโย; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) เทเสสิ.
เตสุ ¶ อฺาสิโกณฺฑฺตฺเถโร เทสนานุสาเรน าณํ เปเสตฺวา สุตฺตปริโยสาเน อฏฺารสหิ พฺรหฺมโกฏีหิ สทฺธึ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาสิ. สตฺถา ตตฺเถว วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปุนทิวเส วปฺปตฺเถรํ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาเปสิ. เอเตเนว อุปาเยน สพฺเพ เต โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาเปตฺวา ปุน ปฺจมิยํ ปกฺขสฺส ปฺจปิ เต เถเร สนฺนิปาเตตฺวา อนตฺตลกฺขณสุตฺตนฺตํ (สํ. นิ. ๓.๕๙; มหาว. ๒๐ อาทโย) เทเสสิ, เทสนาปริโยสาเน ปฺจปิ เถรา อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ.
อถ สตฺถา ตตฺเถว ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส อุปนิสฺสยํ ทิสฺวา เคหํ ปหาย นิกฺขนฺตํ ทิสฺวา – ‘‘เอหิ ยสา’’ติ (มหาว. ๒๖) ปกฺโกสิตฺวา ตสฺมิฺเว รตฺติภาเค โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาเปตฺวา ปุนทิวเส อรหตฺเต จ ปติฏฺาเปตฺวา อปเรปิ ตสฺส สหายเก จตุปณฺณาสชเน เอหิภิกฺขุปพฺพชฺชาย ปพฺพาเชตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺาเปสิ. เอวํ โลเก เอกสฏฺิยา อรหนฺเตสุ ชาเตสุ สตฺถา วุฏฺวสฺโส ปวาเรตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา เอตทโวจ –
‘‘ปรตฺถํ ¶ จตฺตโน อตฺถํ, กโรนฺตา ปถวึ อิมํ;
พฺยาหรนฺตา มนุสฺสานํ, ธมฺมํ จรถ ภิกฺขโว.
‘‘วิหรถ วิวิตฺเตสุ, ปพฺพเตสุ วเนสุ จ;
ปกาสยนฺตา สทฺธมฺมํ, โลกสฺส สตตํ มม.
‘‘กโรนฺตา ¶ ธมฺมทูเตยฺยํ, วิขฺยาปยถ ภิกฺขโว;
สนฺติ อตฺถาย สตฺตานํ, สุพฺพตา วจนํ มม.
‘‘สพฺพํ ปิทหถ ทฺวารํ, อปายานมนาสวา;
สคฺคโมกฺขสฺส มคฺคสฺส, ทฺวารํ วิวรถาสมา.
‘‘เทสนาปฏิปตฺตีหิ, กรุณาทิคุณาลยา;
พุทฺธึ สทฺธฺจ โลกสฺส, อภิวฑฺเฒถ สพฺพโส.
‘‘คิหีนมุปกโรนฺตานํ, นิจฺจมามิสทานโต;
กโรถ ธมฺมทาเนน, เตสํ ปจฺจูปการกํ.
‘‘สมุสฺสยถ สทฺธมฺมํ, เทสยนฺตา อิสิทฺธชํ;
กตกตฺตพฺพกมฺมนฺตา, ปรตฺถํ ปฏิปชฺชถา’’ติ.
เอวฺจ ปน วตฺวา ภควา เต ภิกฺขู ทิสาสุ วิสฺสชฺเชตฺวา สยํ อุรุเวลํ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค กปฺปาสิกวนสณฺเฑ ตึส ภทฺทวคฺคิยกุมาเร วิเนสิ. เตสุ โย สพฺพปจฺฉิมโก, โส โสตาปนฺโน, สพฺพเสฏฺโ อนาคามี, เอโกปิ อรหา วา ปุถุชฺชโน วา นาโหสิ. เตปิ สพฺเพ เอหิภิกฺขุปพฺพชฺชาย ปพฺพาเชตฺวา ทิสาสุ เปเสตฺวา สยํ อุรุเวลํ คนฺตฺวา อฑฺฒุฑฺฒานิ ปาฏิหาริยสหสฺสานิ ทสฺเสตฺวา อุรุเวลกสฺสปาทโย สหสฺสชฏิลปริวาเร เตภาติกชฏิเล ทเมตฺวา เอหิภิกฺขุภาเวน ปพฺพาเชตฺวา ¶ คยาสีเส นิสีทาเปตฺวา อาทิตฺตปริยายเทสนาย (สํ. นิ. ๔.๒๘; มหาว. ๕๔) อรหตฺเต ปติฏฺาเปตฺวา เตน อรหนฺตสหสฺเสน ภควา ปริวุโต ‘‘พิมฺพิสารสฺส รฺโ ปฏิฺํ โมเจสฺสามี’’ติ ราชคหนครูปจาเร ลฏฺิวนุยฺยานํ นาม อคมาสิ. ตโต อุยฺยานปาลโก รฺโ อาโรเจสิ. ราชา – ‘‘สตฺถา อาคโต’’ติ สุตฺวา ทฺวาทสนหุเตหิ พฺราหฺมณคหปติเกหิ ปริวุโต ทสพลํ ฆนวิวรคตมิว ทิวสกรํ ¶ วนวิวรคตํ มุนิวรทิวสกรํ อุปสงฺกมิตฺวา จกฺกาลงฺกตตเลสุ ชลชามลาวิกลกมลโกมเลสุ ทสพลสฺส ปาเทสุ มกุฏมณิชุติวิสรวิชฺโชตินา สิรสา นิปติตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ สทฺธึ ปริสาย.
อถ โข เตสํ พฺราหฺมณคหปติกานํ เอตทโหสิ – ‘‘กึ นุ โข มหาสมโณ อุรุเวลกสฺสเป ¶ พฺรหฺมจริยํ จรติ, อุทาหุ อุรุเวลกสฺสโป มหาสมเณ’’ติ? อถ โข ภควา เตสํ เจโตปริวิตกฺกมฺาย เถรํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘กิเมว ทิสฺวา อุรุเวลวาสิ, ปหาสิ อคฺคึ กิสโกวทาโน;
ปุจฺฉามิ ตํ กสฺสป เอตมตฺถํ, กถํ ปหีนํ ตว อคฺคิหุตฺต’’นฺติ. (มหาว. ๕๕);
เถโร ภควโต อธิปฺปายํ วิทิตฺวา –
‘‘รูเป จ สทฺเท จ อโถ รเส จ, กามิตฺถิโย จาภิวทนฺติ ยฺา;
เอตํ มลนฺตี อุปธีสุ ตฺวา, ตสฺมา น ยิฏฺเ น หุเต อรฺชิ’’นฺติ. (มหาว. ๕๕) –
อิมํ คาถํ วตฺวา อตฺตโน สาวกภาวปฺปกาสนตฺถํ ตถาคตสฺส ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา – ‘‘สตฺถา เม, ภนฺเต, ภควา, สาวโกหมสฺมี’’ติ วตฺวา เอกตาลทฺวิตาล…เป… สตฺตตาลปฺปมาณํ เวหาสํ สตฺตกฺขตฺตุํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ปาฏิหาริยํ กตฺวา อากาสโต โอรุยฺห ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ.
อถ โข มหาชโน ตสฺส ตํ ปาฏิหาริยํ ทิสฺวา – ‘‘อโห มหานุภาวา พุทฺธา นาม, เอวํ ถามคตทิฏฺิโก อตฺตานํ ‘อรหา อห’นฺติ มฺมาโน อุรุเวลกสฺสโปปิ ทิฏฺิชาลํ ภินฺทิตฺวา ตถาคเตน ทมิโต’’ติ ทสพลสฺส คุณกถํ กเถสิ. ตํ สุตฺวา สตฺถา – ‘‘นาหมิทานิเยว อิมํ อุรุเวลกสฺสปํ ทเมมิ, อตีเตปิ เอส มยา ทมิโตเยวา’’ติ อาห. อถ โข โส มหาชโน อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา สิรสิ อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมาห – ‘‘ภนฺเต, อิทานิ อมฺเหหิ เอส ¶ ทมิโต ทิฏฺโ, กถํ ปเนส อตีเต ภควตา ทมิโต’’ติ. ตโต สตฺถา เตน มหาชเนน ยาจิโต ¶ ภวนฺตเรน ปฏิจฺฉนฺนํ มหานารทกสฺสปชาตกํ (ชา. ๒.๒๒.๑๑๕๓) กเถตฺวา จตฺตาริ อริยสจฺจานิ ปกาเสสิ. ตโต สตฺถุ ธมฺมกถํ สุตฺวา ราชา พิมฺพิสาโร เอกาทสนหุเตหิ สทฺธึ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาสิ, เอกนหุตํ อุปาสกตฺตํ ปฏิเวเทสิ. ราชา สรณํ คนฺตฺวา สฺวาตนาย ภควนฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน นิมนฺเตตฺวา ภควนฺตํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา วนฺทิตฺวา ปกฺกามิ.
ปุนทิวเส ¶ ภควา ภิกฺขุสหสฺสปริวุโต มรุคณปริวุโต วิย ทสสตนยโน เทวราชา, พฺรหฺมคณปริวุโต วิย มหาพฺรหฺมา ราชคหํ ปาวิสิ. ราชา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทานํ ทตฺวา โภชนปริโยสาเน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตีณิ รตนานิ วินา วสิตุํ น สกฺขิสฺสามิ, เวลาย วา อเวลาย วา ภควโต สนฺติกํ อาคมิสฺสามิ, ลฏฺิวนํ นาม อติทูเร, อิทํ ปน อมฺหากํ เวฬุวนํ นาม อุยฺยานํ ปวิเวกกามานํ นาติทูรํ นจฺจาสนฺนํ คมนาคมนสมฺปนฺนํ นิชฺชนสมฺพาธํ ปวิเวกสุขํ ฉายูทกสมฺปนฺนํ สีตลสิลาตลสมลงฺกตํ ปรมรมณียภูมิภาคํ สุรภิกุสุมตรุวรนิรนฺตรํ รมณียปาสาทหมฺมิยวิมานวิหารฑฺฒุโยคมณฺฑปาทิปฏิมณฺฑิตํ. อิทํ เม, ภนฺเต, ภควา ปฏิคฺคณฺหาตุ นวตปนงฺคารสงฺกาเสน สุวณฺณภิงฺคาเรน สุรภิกุสุมวาสิตํ มณิวณฺณอุทกํ คเหตฺวา เวฬุวนารามํ ปริจฺจชนฺโต ทสพลสฺส หตฺเถ อุทกํ ปาเตสิ. ตสฺมึ อารามปฏิคฺคหเณ ‘‘พุทฺธสาสนสฺส มูลานิ โอติณฺณานี’’ติ ปีติวสํ คตา นจฺจนฺตี วิย อยํ มหาปถวี กมฺปิ. ชมฺพุทีเป ปน เปตฺวา เวฬุวนมหาวิหารํ อฺํ ปถวึ กมฺเปตฺวา คหิตเสนาสนํ นาม นตฺถิ. อถ สตฺถา เวฬุวนารามํ ปฏิคฺคเหตฺวา รฺโ วิหารทานานุโมทนมกาสิ –
‘‘อาวาสทานสฺส ปนานิสํสํ, โก นาม วตฺตุํ, ปุริโส สมตฺโถ;
อฺตฺร พุทฺธา ปน โลกนาถา, ยุตฺโต มุขานํ นหุเตน จาปิ.
‘‘อายฺุจ ¶ วณฺณฺจ สุขํ พลฺจ, วรํ ปสตฺถํ ปฏิภานเมว;
ททาติ นามาติ ปวุจฺจเต โส, โย เทติ สงฺฆสฺส นโร วิหารํ.
‘‘ทาตา นิวาสสฺส นิวารณสฺส, สีตาทิโน ชีวิตุปทฺทวสฺส;
ปาเลติ อายุํ ปน ตสฺส ยสฺมา, อายุปฺปโท โหติ ตมาหุ สนฺโต.
‘‘อจฺจุณฺหสีเต ¶ วสโต นิวาเส, พลฺจ วณฺโณ ปฏิภา น โหติ;
ตสฺมา หิ โส เทติ วิหารทาตา, พลฺจ วณฺณํ ปฏิภานเมว.
‘‘ทุกฺขสฺส สีตุณฺหสรีสปา จ, วาตาตปาทิปฺปภวสฺส โลเก;
นิวารณา เนกวิธสฺส นิจฺจํ, สุขปฺปโท โหติ วิหารทาตา.
‘‘สีตุณฺหวาตาตปฑํสวุฏฺิ ¶ , สรีสปาวาฬมิคาทิทุกฺขํ;
ยสฺมา นิวาเรติ วิหารทาตา, ตสฺมา สุขํ วินฺทติ โส ปรตฺถ.
‘‘ปสนฺนจิตฺโต ภวโภคเหตุํ, มโนภิรามํ มุทิโต วิหารํ;
โย เทติ สีลาทิคุโณทิตานํ, สพฺพํ ทโท นาม ปวุจฺจเต โส.
‘‘ปหาย มจฺเฉรมลํ สโลภํ, คุณาลยานํ นิลยํ ททาติ;
ขิตฺโตว โส ตตฺถ ปเรหิ สคฺเค, ยถาภตํ ชายติ วีตโสโก.
‘‘วเร ¶ จารุรูเป วิหาเร อุฬาเร, นโร การเย วาสเย ตตฺถ ภิกฺขู;
ทเทยฺยนฺนปานฺจ วตฺถฺจ เนสํ, ปสนฺเนน จิตฺเตน สกฺกจฺจ นิจฺจํ.
‘‘ตสฺมา มหาราช ภเวสุ โภเค, มโนรเม ปจฺจนุภุยฺย ภิยฺโย;
วิหารทานสฺส ผเลน สนฺตํ, สุขํ อโสกํ อธิคจฺฉ ปจฺฉา’’ติ.
อิจฺเจวํ มุนิราชา นรราชสฺส พิมฺพิสารสฺส วิหารทานานุโมทนํ กตฺวา อุฏฺายาสนา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ปรมทสฺสนียาย อตฺตโน สรีรปฺปภาย สุวณฺณรสเสกปิฺฉรานิ วิย นครวนวิมานาทีนิ กุรุมาโน อโนปมาย พุทฺธลีฬาย อนนฺตาย พุทฺธสิริยา เวฬุวนมหาวิหารเมว ปาวิสีติ.
‘‘อกีฬเน เวฬุวเน วิหาเร, ตถาคโต ตตฺถ มโนภิราเม;
นานาวิหาเรน วิหาสิ ธีโร, เวเนยฺยกานํ สมุทิกฺขมาโน’’.
อเถวํ ¶ ภควติ ตสฺมึ วิหรนฺเต สุทฺโธทนมหาราชา ‘‘ปุตฺโต เม ฉพฺพสฺสานิ ทุกฺกรการิกํ กตฺวา ปรมาภิสมฺโพธึ ปตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก ราชคหํ ปตฺวา เวฬุวนมหาวิหาเร วิหรตี’’ติ สุตฺวา อฺตรํ มหามจฺจํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ, ภเณ, ปุริสสหสฺสปริวาโร ราชคหํ คนฺตฺวา มม วจเนน ‘ปิตา โว สุทฺโธทนมหาราชา ตํ ทฏฺุกาโม’ติ วตฺวา ปุตฺตํ เม คณฺหิตฺวา เอหี’’ติ. โส ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ รฺโ ปฏิสฺสุณิตฺวา ปุริสสหสฺสปริวาโร สฏฺิโยชนมคฺคํ คนฺตฺวา ธมฺมเทสนเวลาย วิหารํ ปาวิสิ. โส ‘‘ติฏฺตุ ตาว รฺา ปหิตสาสน’’นฺติ ปริสปริยนฺเต ิโต สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ยถาิโตว สทฺธึ ปุริสสหสฺเสน ¶ อรหตฺตํ ปตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิ. ภควา – ‘‘เอถ, ภิกฺขโว’’ติ หตฺถํ ปสาเรสิ. เต สพฺเพ ตงฺขณฺเว อิทฺธิมยปตฺตจีวรธรา วสฺสสฏฺิกตฺเถรา วิย อากปฺปสมฺปนฺนา หุตฺวา ภควนฺตํ ปริวาเรสุํ. ราชา ‘‘เนว ¶ คโต อาคจฺฉติ, น จ สาสนํ สุยฺยตี’’ติ จินฺเตตฺวา เตเนว นีหาเรน นวกฺขตฺตุํ อมจฺเจ เปเสสิ. เตสุ นวสุ ปุริสสหสฺเสสุ เอโกปิ รฺโ นาโรเจสิ, น สาสนํ วา ปหิณิ. สพฺเพ อรหตฺตํ ปตฺวาว ปพฺพชึสุ.
อถ ราชา จินฺเตสิ – ‘‘โก นุ โข มม วจนํ กริสฺสตี’’ติ สพฺพราชพลํ โอโลเกนฺโต อุทายึ อทฺทส. โส กิร รฺโ สพฺพตฺถสาธโก อมจฺโจ อพฺภนฺตริโก อติวิสฺสาสิโก โพธิสตฺเตน สทฺธึ เอกทิวเสเยว ชาโต สหปํสุกีฬิโต สหาโย. อถ นํ ราชา อามนฺเตสิ – ‘‘ตาต อุทายิ, อหํ มม ปุตฺตํ ทฏฺุกาโม นวปุริสสหสฺสานิ เปเสสึ, เอกปุริโสปิ อาคนฺตฺวา สาสนมตฺตมฺปิ อาโรเจตา นตฺถิ, ทุชฺชาโน โข ปน เม ชีวิตนฺตราโย, อหํ ชีวมาโนว ปุตฺตํ ทฏฺุมิจฺฉามิ. สกฺขิสฺสสิ เม ปุตฺตํ ทสฺเสตุ’’นฺติ? โส ‘‘สกฺขิสฺสามิ, เทว, สเจ ปพฺพชิตุํ ลภิสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘ตาต, ตฺวํ ปพฺพชิตฺวา วา อปพฺพชิตฺวา วา มยฺหํ ปุตฺตํ ทสฺเสหี’’ติ. โส ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ รฺโ สาสนํ อาทาย ราชคหํ คนฺตฺวา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา สทฺธึ ปุริสสหสฺเสน อรหตฺตํ ปตฺวา เอหิภิกฺขุภาเว ปติฏฺาย ผคฺคุนีปุณฺณมาสิยํ จินฺเตสิ – ‘‘อติกฺกนฺโต เหมนฺโต, วสนฺตสมโย อนุปฺปตฺโต, สุปุปฺผิตา วนสณฺฑา, ปฏิปชฺชนกฺขโม มคฺโค, กาโล ทสพลสฺส าติสงฺคหํ กาตุ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา สฏฺิมตฺตาหิ คาถาหิ ภควโต กุลนครํ คมนตฺถาย คมนวณฺณํ วณฺเณสิ –
‘‘องฺคาริโน ทานิ ทุมา ภทนฺเต, ผเลสิโน ฉทนํ วิปฺปหาย;
เต อจฺจิมนฺโตว ปภาสยนฺติ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘ทุมา ¶ วิจิตฺตา สุวิราชมานา, รตฺตงฺกุเรเหว จ ปลฺลเวหิ;
รตนุชฺชลมณฺฑปสนฺนิภาสา, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘สุปุปฺผิตคฺคา กุสุเมหิ ภูสิตา, มนฺุภูตา สุจิสาธุคนฺธา;
รุกฺขา วิโรจนฺติ อุโภสุ ปสฺเสสุ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘ผเลหิเนเกหิ สมิทฺธิภูตา, วิจิตฺตรุกฺขา อุภโตวกาเส;
ขุทฺทํ ปิปาสมฺปิ วิโนทยนฺติ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘วิจิตฺตมาลา ¶ สุจิปลฺลเวหิ, สุสชฺชิตา โมรกลาปสนฺนิภา;
รุกฺขา วิโรจนฺติ อุโภสุ ปสฺเสสุ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘วิโรจมานา ผลปลฺลเวหิ, สุสชฺชิตา วาสนิวาสภูตา;
โตเสนฺติ อทฺธานกิลนฺตสตฺเต, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘สุผุลฺลิตคฺคา วนคุมฺพนิสฺสิตา, ลตา อเนกา สุวิราชมานา;
โตเสนฺติ สตฺเต มณิมณฺฑปาว, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘ลตา อเนกา ทุมนิสฺสิตาว, ปิเยหิ สทฺธึ สหิตา วธูว;
ปโลภยนฺตี หิ สุคนฺธคนฺธา, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘วิจิตฺตนีลาทิมนฺุวณฺณา ¶ , ทิชา สมนฺตา อภิกูชมานา;
โตเสนฺติ มฺชุสฺสรตา รตีหิ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘มิคา จ นานา สุวิราชมานา, อุตฺตุงฺคกณฺณา จ มนฺุเนตฺตา;
ทิสา สมนฺตา มภิธาวยนฺติ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘มนฺุภูตา จ มหี สมนฺตา, วิราชมานา หริตาว สทฺทลา;
สุปุปฺผิรุกฺขา โมฬินิวลงฺกตา, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘สุสชฺชิตา มุตฺตมยาว วาลุกา, สุสณฺิตา จารุสุผสฺสทาตา;
วิโรจยนฺเตว ทิสา สมนฺตา, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘สมํ สุผสฺสํ สุจิภูมิภาคํ, มนฺุปุปฺโผทยคนฺธวาสิตํ;
วิราชมานํ สุจิมฺจ โสภํ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘สุสชฺชิตํ นนฺทนกานนํว, วิจิตฺตนานาทุมสณฺฑมณฺฑิตํ;
สุคนฺธภูตํ ปวนํ สุรมฺมํ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘สรา วิจิตฺตา วิวิธา มโนรมา, สุสชฺชิตา ปงฺกชปุณฺฑรีกา;
ปสนฺนสีโตทกจารุปุณฺณา, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘สุผุลฺลนานาวิธปงฺกเชหิ ¶ ¶ , วิราชมานา สุจิคนฺธคนฺธา;
ปโมทยนฺเตว นรามรานํ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘สุผุลฺลปงฺเกรุหสนฺนิสินฺนา, ทิชา สมนฺตา มภินาทยนฺตา;
โมทนฺติ ภริยาหิ สมงฺคิโน เต, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘สุผุลฺลปุปฺเผหิ รชํ คเหตฺวา, อลี วิธาวนฺติ วิกูชมานา;
มธุมฺหิ คนฺโธ วิทิสํ ปวายติ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘อภินฺนนาทา มทวารณา จ, คิรีหิ ธาวนฺติ จ วาริธารา;
สวนฺติ นชฺโช สุวิราชิตาว สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘คิรี สมนฺตาว ปทิสฺสมานา, มยูรคีวา อิว นีลวณฺณา;
ทิสา รชินฺทาว วิโรจยนฺติ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘มยูรสงฺฆา คิริมุทฺธนสฺมึ, นจฺจนฺติ นารีหิ สมงฺคิภูตา;
กูชนฺติ นานามธุรสฺสเรหิ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘สุวาทิกา เนกทิชา มนฺุา, วิจิตฺตปตฺเตหิ วิราชมานา;
คิริมฺหิ ตฺวา อภินาทยนฺติ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘สุผุลฺลปุปฺผากรมาภิกิณฺณา ¶ , สุคนฺธนานาทลลงฺกตา จ;
คิรี วิโรจนฺติ ทิสา สมนฺตา, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘ชลาสยา เนกสุคนฺธคนฺธา, สุรินฺทอุยฺยานชลาสยาว;
สวนฺติ นชฺโช สุวิราชมานา, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘วิจิตฺตติตฺเถหิ อลงฺกตา จ, มนฺุนานามิคปกฺขิปาสา;
นชฺโช วิโรจนฺติ สุสนฺทมานา, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘อุโภสุ ปสฺเสสุ ชลาสเยสุ, สุปุปฺผิตา จารุสุคนฺธรุกฺขา;
วิภูสิตคฺคา สุรสุนฺทรี จ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘สุคนฺธนานาทุมชาลกิณฺณํ ¶ , วนํ วิจิตฺตํ สุรนนฺทนํว;
มโนภิรามํ สตตํ คตีนํ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘สมฺปนฺนนานาสุจิอนฺนปานา, สพฺยฺชนา สาทุรเสน ยุตฺตา;
ปเถสุ คาเม สุลภา มนฺุา, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘วิราชิตา อาสิ มหี สมนฺตา, วิจิตฺตวณฺณา กุสุมาสนสฺส;
รตฺตินฺทโคเปหิ อลงฺกตาว สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘วิสุทฺธสทฺธาทิคุเณหิ ¶ ยุตฺตา, สมฺพุทฺธราชํ อภิปตฺถยนฺตา;
พหูหิ ตตฺเถว ชนา สมนฺตา, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘วิจิตฺรอารามสุโปกฺขรฺโ, วิจิตฺรนานาปทุเมหิ ฉนฺนา;
ภิเสหิ ขีรํว รสํ ปวายติ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘วิจิตฺรนีลจฺฉทเนนลงฺกตา, มนฺุรุกฺขา อุภโตวกาเส;
สมุคฺคตา สตฺตสมูหภูตา, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘วิจิตฺรนีลพฺภมิวายตํ วนํ, สุรินฺทโลเก อิว นนฺทนํ วนํ;
สพฺโพตุกํ สาธุสุคนฺธปุปฺผํ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘สุภฺชสํ โยชนโยชเนสุ, สุภิกฺขคามา สุลภา มนฺุา;
ชนาภิกิณฺณา สุลภนฺนปานา, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘ปหูตฉายูทกรมฺมภูตา, นิวาสินํ สพฺพสุขปฺปทาตา;
วิสาลสาลา จ สภา จ พหู, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘วิจิตฺตนานาทุมสณฺฑมณฺฑิตา, มนฺุอุยฺยานสุโปกฺขรฺโ;
สุมาปิตา สาธุสุคนฺธคนฺธา, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘วาโต ¶ มุทูสีตลสาธุรูโป, นภา จ อพฺภา วิคตา สมนฺตา;
ทิสา จ สพฺพาว วิโรจยนฺติ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘ปเถ ¶ รโชนุคฺคมนตฺถเมว, รตฺตึ ปวสฺสนฺติ จ มนฺทวุฏฺี;
นเภ จ สูโร มุทุโกว ตาโป, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘มทปฺปพาหา มทหตฺถิสงฺฆา, กเรณุสงฺเฆหิ สุกีฬยนฺติ;
ทิสา วิธาวนฺติ จ คชฺชยนฺตา, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘วนํ สุนีลํ อภิทสฺสนียํ, นีลพฺภกูฏํ อิว รมฺมภูตํ;
วิโลกิตานํ อติวิมฺหนียํ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘วิสุทฺธมพฺภํ คคนํ สุรมฺมํ, มณิมเยหิ สมลงฺกตาว;
ทิสา จ สพฺพา อติโรจยนฺติ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘คนฺธพฺพวิชฺชาธรกินฺนรา จ, สุคีติยนฺตา มธุรสฺสเรน;
จรนฺติ ตสฺมึ ปวเน สุรมฺเม, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘กิเลสสงฺฆสฺส ภิตาสเกหิ, ตปสฺสิสงฺเฆหิ นิเสวิตํ วนํ;
วิหารอารามสมิทฺธิภูตํ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘สมิทฺธินานาผลิโน ¶ วนนฺตา, อนากุลา นิจฺจมโนภิรมฺมา;
สมาธิปีตึ อภิวฑฺฒยนฺติ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘นิเสวิตํ เนกทิเชหิ นิจฺจํ, คาเมน คามํ สตตํ วสนฺตา;
ปุเร ปุเร คามวรา จ สนฺติ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘วตฺถนฺนปานํ สยนาสนฺจ, คนฺธฺจ มาลฺจ วิเลปนฺจ;
ตหึ สมิทฺธา ชนตา พหู จ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘ปฺุิทฺธิยา สพฺพยสคฺคปตฺตา, ชนา จ ตสฺมึ สุขิตา สมิทฺธา;
ปหูตโภคา วิวิธา วสนฺติ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘นเภ จ อพฺภา สุวิสุทฺธวณฺณา, ทิสา จ จนฺโท สุวิราชิโตว;
รตฺติฺจ วาโต มุทุสีตโล จ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘จนฺทุคฺคเม ¶ สพฺพชนา ปหฏฺา, สกงฺคเณ จิตฺรกถา วทนฺตา;
ปิเยหิ สทฺธึ อภิโมทยนฺติ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘จนฺทสฺส รํสีหิ นภํ วิโรจิ, มหี จ สํสุทฺธมนฺุวณฺณา;
ทิสา จ สพฺพา ปริสุทฺธรูปา, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘ทูเร ¶ จ ทิสฺวา วรจนฺทรํสึ, ปุปฺผึสุ ปุปฺผานิ มหีตลสฺมึ;
สมนฺตโต คนฺธคุณตฺถิกานํ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘จนฺทสฺส รํสีหิ วิลิมฺปิตาว, มหี สมนฺตา กุสุเมนลงฺกตา;
วิโรจิ สพฺพงฺคสุมาลินีว, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘กุจนฺติ หตฺถีปิ มเทน มตฺตา, วิจิตฺตปิฺฉา จ ทิชา สมนฺตา;
กโรนฺติ นาทํ ปวเน สุรมฺเม, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘ปถฺจ สพฺพํ ปฏิปชฺชนกฺขมํ, อิทฺธฺจ รฏฺํ สธนํ สโภคํ;
สพฺพตฺถุตํ สพฺพสุขปฺปทานํ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘วนฺจ สพฺพํ สุวิจิตฺตรูปํ, สุมาปิตํ นนฺทนกานนํว;
ยตีน ปีตึ สตตํ ชเนติ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘อลงฺกตํ เทวปุรํว รมฺมํ, กปีลวตฺถุํ อิติ นามเธยฺยํ;
กุลนครํ อิธ สสฺสิริกํ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘มนฺุอฏฺฏาลวิจิตฺตรูปํ, สุผุลฺลปงฺเกรุหสณฺฑมณฺฑิตํ;
วิจิตฺตปริขาหิ ปุรํ สุรมฺมํ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘วิจิตฺตปาการฺจ ¶ โตรณฺจ, สุภงฺคณํ เทวนิวาสภูตํ;
มนฺุวีถิ สุรโลกสนฺนิภํ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘อลงฺกตา สากิยราชปุตฺตา, วิราชมานา วรภูสเนหิ;
สุรินฺทโลเก อิว เทวปุตฺตา, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘สุทฺโธทโน ¶ มุนิวรํ อภิทสฺสนาย, อมจฺจปุตฺเต ทสธา อเปสยิ;
พเลน สทฺธึ มหตา มุนินฺท, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘เนวาคตํ ปสฺสติ เนว วาจํ, โสกาภิภูตํ นรวีรเสฏฺํ;
โตเสตุมิจฺฉามิ นราธิปตฺตํ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘ตํทสฺสเนนพฺภุตปีติราสิ, อุทิกฺขมานํ ทฺวิปทานมินฺทํ;
โตเสหิ ตํ มุนินฺท คุณเสฏฺํ, สมโย มหาวีร องฺคีรสานํ.
‘‘อาสาย กสฺสเต เขตฺตํ, พีชํ อาสาย วปฺปติ;
อาสาย วาณิชา ยนฺติ, สมุทฺทํ ธนหารกา;
ยาย อาสาย ติฏฺามิ, สา เม อาสา สมิชฺฌตุ.
‘‘นาติสีตํ ¶ นาติอุณฺหํ, นาติทุพฺภิกฺขฉาตกํ;
สทฺทลา หริตา ภูมิ, เอส กาโล มหามุนี’’ติ.
อถ นํ สตฺถา – ‘‘กึ นุ โข, อุทายิ, คมนวณฺณํ วณฺเณสี’’ติ อาห. ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปิตา สุทฺโธทนมหาราชา ทฏฺุกาโม, กโรถ าตกานํ สงฺคห’’นฺติ อาห. ‘‘สาธุ, อุทายิ, กริสฺสามิ าติสงฺคหํ, เตน หิ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อาโรเจหิ ¶ , คมิยวตฺตํ ปูเรสฺสนฺตี’’ติ อาห. ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ เถโร ภิกฺขุสงฺฆสฺส อาโรเจสิ.
สตฺถา องฺคมคธวาสีนํ กุลปุตฺตานํ ทสหิ สหสฺเสหิ, กปิลวตฺถุวาสีนํ ทสหิ สหสฺเสหีติ สพฺเพเหว วีสติยา ขีณาสวภิกฺขุสหสฺเสหิ ปริวุโต ราชคหา นิกฺขมิตฺวา ทิวเส ทิวเส โยชนํ โยชนํ คจฺฉนฺโต ทฺวีหิ มาเสหิ กปิลวตฺถุปุรํ สมฺปาปุณิ. สากิยาปิ อนุปฺปตฺเตเยว ภควติ – ‘‘อมฺหากํ าติเสฏฺํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ ภควโต วสนฏฺานํ วีมํสมานา ‘‘นิคฺโรธสกฺกสฺสาราโม รมณีโย’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา สพฺพํ ปฏิชคฺคนวิธึ กาเรตฺวา คนฺธปุปฺผหตฺถา ปจฺจุคฺคมนํ กโรนฺตา สพฺพาลงฺกาเรหิ สมลงฺกตคตฺตา คนฺธปุปฺผจุณฺณาทีหิ ปูชยมานา ภควนฺตํ ปุรกฺขตฺวา นิคฺโรธารามเมว อคมํสุ.
ตตฺร ภควา วีสติยา ขีณาสวสหสฺเสหิ ปริวุโต ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสีทิ. สากิยา ¶ ปน มานชาติกา มานตฺถทฺธา, ‘‘สิทฺธตฺถกุมาโร อมฺเหหิ ทหรตโร, อมฺหากํ กนิฏฺโ ภาตา, ปุตฺโต, ภาคิเนยฺโย, นตฺตา’’ติ จินฺเตตฺวา ทหรทหเร ราชกุมาเร อาหํสุ – ‘‘ตุมฺเห วนฺทถ, มยํ ตุมฺหากํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต นิสีทิสฺสามา’’ติ. เตสฺเววํ นิสินฺเนสุ ภควา เตสํ อชฺฌาสยํ โอโลเกตฺวา – ‘‘อิเม าตกา อตฺตโน โมฆชิณฺณภาเวน น มํ วนฺทนฺติ, น ปเนเต ชานนฺติ ‘พุทฺโธ นาม กีทิโส, พุทฺธพลํ นาม กีทิส’นฺติ วา, ‘พุทฺโธ นาม เอทิโส, พุทฺธพลํ นาม เอทิส’นฺติ วา, หนฺทาหํ อตฺตโน พุทฺธพลํ อิทฺธิพลฺจ ทสฺเสนฺโต ปาฏิหาริยฺจ กเรยฺยํ, อากาเส ทสสหสฺสจกฺกวาฬวิตฺถตํ สพฺพรตนมยํ จงฺกมํ มาเปตฺวา ตตฺถ จงฺกมนฺโต มหาชนสฺส อชฺฌาสยํ โอโลเกตฺวา ธมฺมฺจ เทเสยฺย’’นฺติ จินฺเตสิ. เตน วุตฺตํ สงฺคีติการเกหิ ภควโต ปริวิตกฺกทสฺสนตฺถํ –
‘‘น เหเต ชานนฺติ สเทวมานุสา, พุทฺโธ อยํ กีทิสโก นรุตฺตโม;
อิทฺธิพลํ ปฺาพลฺจ กีทิสํ, พุทฺธพลํ โลกหิตสฺส กีทิสํ.
‘‘น ¶ ¶ เหเต ชานนฺติ สเทวมานุสา, พุทฺโธ อยํ เอทิสโก นรุตฺตโม;
อิทฺธิพลํ ปฺาพลฺจ เอทิสํ, พุทฺธพลํ โลกหิตสฺส เอทิสํ.
‘‘หนฺทาหํ ทสฺสยิสฺสามิ, พุทฺธพลมนุตฺตรํ;
จงฺกมํ มาปยิสฺสามิ, นเภ รตนมณฺฑิต’’นฺติ.
ตตฺถ น เหเต ชานนฺตีติ น หิ เอเต ชานนฺติ. น-กาโร ปฏิเสธตฺโถ. หิ-กาโร การณตฺเถ นิปาโต. ยสฺมา ปเนเต มม าติอาทโย เทวมนุสฺสา มยา พุทฺธพเล จ อิทฺธิพเล จ อนาวิกเต น ชานนฺติ ‘‘เอทิโส พุทฺโธ, เอทิสํ อิทฺธิพล’’นฺติ, ตสฺมา อหํ มม พุทฺธพลฺจ อิทฺธิพลฺจ ทสฺเสยฺยนฺติ อตฺโถ. สเทวมานุสาติ เอตฺถ เทวาติ อุปปตฺติเทวา อธิปฺเปตา. สห เทเวหีติ สเทวา. เก เต? มานุสา, สเทวา เอว มานุสา สเทวมานุสา. อถ วา เทโวติ สมฺมุติเทโว, สุทฺโธทโน ราชา อธิปฺเปโต. สห เทเวน รฺา สุทฺโธทเนนาติ สเทวา. มานุสาติ าติมานุสา, สเทวา สสุทฺโธทนา มานุสา สเทวมานุสา สราชาโน วา เอเต มม าติมานุสา มม พลํ น วิชานนฺตีติ อตฺโถ. เสสเทวาปิ สงฺคหํ คจฺฉนฺติเยว. สพฺเพปิ เทวา เทวนฏฺเน ‘‘เทวา’’ติ วุจฺจนฺติ. เทวนํ นาม ธาตุอตฺโถ กีฬาทิ. อถ วา เทวา จ มานุสา จ เทวมานุสา, สห เทวมานุเสหิ สเทวมานุสา. เก เต? โลกาติ วจนเสโส ทฏฺพฺโพ. พุทฺโธติ จตุสจฺจธมฺเม พุทฺโธ อนุพุทฺโธติ พุทฺโธ. ยถาห –
‘‘อภิฺเยฺยํ ¶ อภิฺาตํ, ภาเวตพฺพฺจ ภาวิตํ;
ปหาตพฺพํ ปหีนํ เม, ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ พฺราหฺมณา’’ติ. (ม. นิ. ๒.๓๙๙; สุ. นิ. ๕๖๓);
อิธ ปน กตฺตุการเก พุทฺธสทฺทสิทฺธิ ทฏฺพฺพา. อธิคตวิเสเสหิ เทวมนุสฺเสหิ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต โส ภควา’’ติ เอวํ พุทฺธตฺตา าตตฺตา พุทฺโธ. อิธ กมฺมการเก พุทฺธสทฺทสิทฺธิ ทฏฺพฺพา. พุทฺธมสฺส อตฺถีติ วา พุทฺโธ, พุทฺธวนฺโตติ อตฺโถ. ตํ สพฺพํ สทฺทสตฺถานุสาเรน เวทิตพฺพํ. กีทิสโกติ กีทิโส กึสริกฺขโก กึสทิโส กึวณฺโณ กึสณฺาโน ทีโฆ วา รสฺโส วาติ อตฺโถ.
นรุตฺตโมติ ¶ นรานํ นเรสุ วา อุตฺตโม ปวโร เสฏฺโติ นรุตฺตโม. อิทฺธิพลนฺติ เอตฺถ อิชฺฌนํ อิทฺธิ นิปฺผตฺติอตฺเถน ปฏิลาภฏฺเน จ อิทฺธิ. อถ วา อิชฺฌนฺติ ตาย สตฺตา อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติ ¶ อิทฺธิ. สา ปน ทสวิธา โหติ. ยถาห –
‘‘อิทฺธิโยติ ทส อิทฺธิโย. กตมา ทส? อธิฏฺานา อิทฺธิ, วิกุพฺพนา อิทฺธิ, มโนมยา อิทฺธิ, าณวิปฺผารา อิทฺธิ, สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ, อริยา อิทฺธิ, กมฺมวิปากชา อิทฺธิ, ปฺุวโต อิทฺธิ, วิชฺชามยา อิทฺธิ, ตตฺถ ตตฺถ สมฺมาปโยคปจฺจยา อิชฺฌนฏฺเน อิทฺธี’’ติ (ปฏิ. ม. ๓.๑๐).
ตาสํ อิทํ นานตฺตํ – ปกติยา เอโก พหุกํ อาวชฺเชติ, สตํ วา สหสฺสํ วา อาวชฺชิตฺวา าเณน อธิฏฺาติ ‘‘พหุโก โหมี’’ติ (ปฏิ. ม. ๓.๑๐) เอวํ วิภชิตฺวา ทสฺสิตา อิทฺธิ อธิฏฺานวเสน นิปฺผนฺนตฺตา อธิฏฺานา อิทฺธิ นาม. ตสฺสายมตฺโถ – อภิฺาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺาย สเจ สตํ อิจฺฉติ ‘‘สตํ โหมิ, สตํ โหมี’’ติ กามาวจรปริกมฺมจิตฺเตหิ ปริกมฺมํ กตฺวา ปุน อภิฺาปาทกํ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺาย ปุน อาวชฺชิตฺวา อธิฏฺาติ, อธิฏฺานจิตฺเตน สเหว สตํ โหติ. สหสฺสาทีสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ ปาทกชฺฌานจิตฺตํ นิมิตฺตารมฺมณํ ปริกมฺมจิตฺตานิ สตารมฺมณานิ วา สหสฺสาทีสุ อฺตรารมฺมณานิ วา, ตานิ จ โข วณฺณวเสน, โน ปณฺณตฺติวเสน. อธิฏฺานจิตฺตมฺปิ สตารมฺมณเมว, ตํ ปน อปฺปนาจิตฺตํ วิย โคตฺรภุอนนฺตรเมว อุปฺปชฺชติ รูปาวจรจตุตฺถฌานิกํ ¶ . โส ปน ปกติวณฺณํ วิชหิตฺวา กุมารวณฺณํ วา ทสฺเสติ นาควณฺณํ วา ทสฺเสติ. สุปณฺณวณฺณํ วา…เป… วิวิธมฺปิ เสนาพฺยูหํ วา ทสฺเสตีติ (ปฏิ. ม. ๓.๑๓) เอวํ อาคตา อิทฺธิ ปกติวณฺณวิชหนวิการวเสน ปวตฺตตฺตา วิกุพฺพนิทฺธิ นาม.
‘‘อิธ ภิกฺขุ อิมมฺหา กายา อฺํ กายํ อภินิมฺมินาติ รูปึ มโนมยํ สพฺพงฺคปจฺจงฺคึ อหีนินฺทฺริย’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๓.๑๔) อิมินา นเยน อาคตา อิทฺธิ สรีรสฺเสว อพฺภนฺตเร อฺสฺส มโนมยสฺส สรีรสฺส นิปฺผตฺติวเสน ปวตฺตตฺตา มโนมยิทฺธิ นาม.
าณุปฺปตฺติโต ปุพฺเพ วา ปจฺฉา วา ตงฺขเณ วา เตน อตฺตภาเวน ปฏิลภิตพฺพอรหตฺตาณานุภาเวน นิพฺพตฺโต วิเสโส ¶ าณวิปฺผาโร อิทฺธิ นาม. อายสฺมโต พากุลสฺส จ อายสฺมโต สํกิจฺจสฺส จ าณวิปฺผารา อิทฺธิ, เตสํ วตฺถุ เจตฺถ กเถตพฺพํ (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๒๖).
สมาธิโต ปุพฺเพ วา ปจฺฉา วา ตงฺขเณ วา สมถานุภาเวน นิพฺพตฺโต วิเสโส สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ นาม. อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ (อุทา. ๓๔), อายสฺมโต สฺชีวสฺส สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ (ม. นิ. ๑.๕๐๗), อายสฺมโต ขาณุโกณฺฑฺสฺส สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ (ธ. ป. อฏฺ. ๑.ขาณุโกณฺฑฺตฺเถรวตฺถุ), อุตฺตราย อุปาสิกาย สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ (ธ. ป. อฏฺ. ๒.อุตฺตราอุปาสิกาวตฺถุ; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๖๒), สามาวติยา อุปาสิกาย สมาธิวิปฺผารา อิทฺธีติ (ธ. ป. อฏฺ. ๑.สามาวตีวตฺถุ; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๖๐-๒๖๑) เตสํ วตฺถูเนตฺถ กเถตพฺพานิ, คนฺถวิตฺถารโทสปริหารตฺถํ ปน มยา น วิตฺถาริตานิ.
กตมา อริยา อิทฺธิ? อิธ ภิกฺขุ สเจ อากงฺขติ ‘‘ปฏิกฺกูเล อปฺปฏิกฺกูลสฺี ¶ วิหเรยฺย’’นฺติ อปฺปฏิกฺกูลสฺี ตตฺถ วิหรติ, สเจ อากงฺขติ ‘‘อปฺปฏิกฺกูเล ปฏิกฺกูลสฺี วิหเรยฺย’’นฺติ ปฏิกฺกูลสฺี ตตฺถ วิหรติ…เป… อุเปกฺขโก ตตฺถ วิหรติ สโต สมฺปชาโนติ (ปฏิ. ม. ๓.๑๗). อยฺหิ เจโตวสิปฺปตฺตานํ อริยานํเยว สมฺภวโต อริยา อิทฺธิ นาม.
กตมา กมฺมวิปากชา อิทฺธิ? สพฺเพสํ ปกฺขีนํ สพฺเพสํ เทวานํ ปมกปฺปิกานํ มนุสฺสานํ เอกจฺจานฺจ ¶ วินิปาติกานํ เวหาสคมนาทิกา กมฺมวิปากชา อิทฺธิ นาม. กตมา ปฺุวโต อิทฺธิ? ราชา จกฺกวตฺตี เวหาสํ คจฺฉติ สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย. ชฏิลกสฺส คหปติสฺส อสีติหตฺโถ สุวณฺณปพฺพโต นิพฺพตฺติ. อยํ ปฺุวโต อิทฺธิ นาม. โฆสกสฺส คหปติโน (ธ. ป. อฏฺ. ๑.กุมฺภโฆสกเสฏฺิวตฺถุ) สตฺตสุ าเนสุ มารณตฺถาย อุปกฺกเม กเตปิ อโรคภาโว ปฺุวโต อิทฺธิ. เมณฺฑกเสฏฺิสฺส (ธ. ป. อฏฺ. ๒.เมณฺฑกเสฏฺิวตฺถุ) อฏฺกรีสมตฺเต ปเทเส สตฺตรตนมยานํ เมณฺฑกานํ ปาตุภาโว ปฺุวโต อิทฺธิ.
กตมา วิชฺชามยา อิทฺธิ? วิชฺชาธรา วิชฺชํ ปริชปฺปิตฺวา เวหาสํ คจฺฉนฺติ, อากาเส อนฺตลิกฺเข หตฺถิมฺปิ ทสฺเสนฺติ…เป… วิวิธมฺปิ เสนาพฺยูหํ ทสฺเสนฺตีติ (ปฏิ. ม. ๓.๑๘). อาทินยปฺปวตฺตา วิชฺชามยา อิทฺธิ นาม. ตํ ตํ กมฺมํ กตฺวา นิพฺพตฺโต ¶ วิเสโส ‘สมฺมาปโยคปจฺจยา อิชฺฌนฏฺเน อิทฺธี’ติ อยํ ตตฺถ ตตฺถ สมฺมาปโยคปจฺจยา อิชฺฌนฏฺเน อิทฺธิ นาม. อิมิสฺสา ทสวิธาย อิทฺธิยา พลํ อิทฺธิพลํ นาม, อิทํ มยฺหํ อิทฺธิพลํ น ชานนฺตีติ อตฺโถ (วิสุทฺธิ. ๒.๓๗๕ อาทโย).
ปฺาพลนฺติ สพฺพโลกิยโลกุตฺตรคุณวิเสสทายกํ อรหตฺตมคฺคปฺาพลํ อธิปฺเปตํ, ตมฺปิ เอเต น ชานนฺติ. เกจิ ‘‘ฉนฺนํ อสาธารณาณานเมตํ อธิวจนํ ปฺาพล’’นฺติ วทนฺติ. พุทฺธพลนฺติ เอตฺถ พุทฺธพลํ นาม พุทฺธานุภาโว, ทสพลาณานิ วา. ตตฺถ ทสพลาณานิ นาม านาฏฺานาณํ, อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนกมฺมวิปากชานนาณํ, สพฺพตฺถคามินิปฏิปทาาณํ, อเนกธาตุนานาธาตุโลกชานนาณํ, นานาธิมุตฺติกาณํ, อาสยานุสยาณํ, ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนํ สํกิเลสโวทานวุฏฺาเนสุ ยถาภูตาณํ, ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ, จุตูปปาตาณํ, อาสวกฺขยาณนฺติ อิมานิ ทส. อิเมสํ ทสนฺนํ าณานํ อธิวจนํ พุทฺธพลนฺติ. เอทิสนฺติ อีทิสํ, อยเมว วา ปาโ.
หนฺทาติ ววสฺสคฺคตฺเถ นิปาโต. อหนฺติ อตฺตานํ นิทฺทิสติ. กึ วุตฺตํ โหติ? ยสฺมา ปเนเต มม าตกา พุทฺธพลํ วา พุทฺธคุเณ วา น ชานนฺติ, เกวลํ อตฺตโน ¶ โมฆชิณฺณภาวํ นิสฺสาย มานวเสน สพฺพโลกเชฏฺเสฏฺํ มํ น วนฺทนฺติ. ตสฺมา เตสํ มานเกตุ อตฺถิ, ตํ ภฺชิตฺวา วนฺทนตฺถํ พุทฺธพลํ ทสฺเสยฺยนฺติ วุตฺตํ โหติ. ทสฺสยิสฺสามีติ ทสฺเสยฺยํ. ‘‘ทสฺเสสฺสามี’’ติ จ ปาโ, โสเยวตฺโถ. พุทฺธพลนฺติ พุทฺธานุภาวํ, พุทฺธาณวิเสสํ วา. อนุตฺตรนฺติ นิรุตฺตรํ. จงฺกมนฺติ จงฺกมิตพฺพฏฺานํ วุจฺจติ. มาปยิสฺสามีติ มาเปยฺยํ. ‘‘จงฺกมนํ มาเปสฺสามี’’ติ จ ปาโ, โสเยวตฺโถ. นเภติ อากาเส. สพฺพรตนมณฺฑิตนฺติ สพฺเพหิ รติชนนฏฺเน รตเนหิ มุตฺตา-มณิ-เวฬุริย-สงฺข-สิลา-ปวาฬ-รชต-สุวณฺณ-มสารคลฺล-โลหิตงฺเกหิ ¶ ทสหิ ทสหิ มณฺฑิโต อลงฺกโต สพฺพรตนมณฺฑิโต, ตํ สพฺพรตนมณฺฑิตํ. ‘‘นเภ รตนมณฺฑิต’’นฺติ ปนฺติ เกจิ.
อเถวํ ภควตา จินฺติตมตฺเต ทสสหสฺสจกฺกวาฬวาสิโน ภุมฺมาทโย เทวา ปมุทิตหทยา สาธุการมทํสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺเตหิ สงฺคีติการเกหิ –
‘‘ภุมฺมา ¶ มหาราชิกา ตาวตึสา, ยามา จ เทวา ตุสิตา จ นิมฺมิตา;
ปรนิมฺมิตา เยปิ จ พฺรหฺมกายิกา, อานนฺทิตา วิปุลมกํสุ โฆส’’นฺติ. –
อาทิคาถาโย ปิตาติ เวทิตพฺพา.
ตตฺถ ภุมฺมาติ ภุมฺมฏฺา, ปาสาณปพฺพตวนรุกฺขาทีสุ ิตา. มหาราชิกาติ มหาราชปกฺขิกา. ภุมฺมฏฺานํ เทวตานํ สทฺทํ สุตฺวา อากาสฏฺกเทวตา, ตโต อพฺภวลาหกา เทวตา, ตโต อุณฺหวลาหกา เทวตา, ตโต สีตวลาหกา เทวตา, ตโต วสฺสวลาหกา เทวตา, ตโต วาตวลาหกา เทวตา, ตโต จตฺตาโร มหาราชาโน, ตโต ตาวตึสา, ตโต ยามา, ตโต ตุสิตา, ตโต นิมฺมานรตี, ตโต ปรนิมฺมิตวสวตฺตี, ตโต พฺรหฺมกายิกา, ตโต พฺรหฺมปุโรหิตา, ตโต มหาพฺรหฺมาโน, ตโต ปริตฺตาภา, ตโต อปฺปมาณาภา, ตโต อาภสฺสรา, ตโต ปริตฺตสุภา, ตโต อปฺปมาณสุภา, ตโต สุภกิณฺหา, ตโต เวหปฺผลา, ตโต อวิหา, ตโต อตปฺปา, ตโต สุทสฺสา, ตโต สุทสฺสี, ตโต อกนิฏฺา เทวตา สทฺทํ สุตฺวา มหนฺตํ สทฺทํ อกํสุ. อสฺิโน จ อรูปาวจรสตฺเต จ เปตฺวา โสตายตนปวตฺติฏฺาเน สพฺเพ เทวมนุสฺสนาคาทโย ปีติวสํ คตหทยา อุกฺกุฏฺิสทฺทมกํสูติ อตฺโถ. อานนฺทิตาติ ปมุทิตหทยา, สฺชาตปีติโสมนสฺสา หุตฺวาติ อตฺโถ. วิปุลนฺติ ปุถุลํ.
อถ สตฺถา จินฺติตสมนนฺตรเมว โอทาตกสิณสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา – ‘‘ทสสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ อาโลโก โหตู’’ติ ¶ อธิฏฺาสิ. เตน อธิฏฺานจิตฺเตน สเหว อาโลโก อโหสิ ปถวิโต ปฏฺาย ยาว อกนิฏฺภวนา. เตน วุตฺตํ –
‘‘โอภาสิตา จ ปถวี สเทวกา, ปุถู จ โลกนฺตริกา อสํวุตา;
ตโม จ ติพฺโพ วิหโต ตทา อหุ, ทิสฺวาน อจฺเฉรกํ ปาฏิหีร’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ ¶ โอภาสิตาติ ปกาสิตา. ปถวีติ เอตฺถายํ ปถวี จตุพฺพิธา – กกฺขฬปถวี, สสมฺภารปถวี, นิมิตฺตปถวี, สมฺมุติปถวีติ. ตาสุ ‘‘กตมา จาวุโส, อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ? ยํ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ กกฺขฬํ ขริคต’’นฺติอาทีสุ (วิภ. ๑๗๓) วุตฺตา อยํ กกฺขฬปถวี นาม. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ปถวึ ขเณยฺย วา ขณาเปยฺย วา’’ติอาทีสุ (ปาจิ. ๘๕) วุตฺตา สสมฺภารปถวี, เย จ เกสาทโย วีสติ โกฏฺาสา, อโยโลหาทโย จ พาหิรา; สาปิ วณฺณาทีหิ สมฺภาเรหิ สทฺธึ ปถวีติ สสมฺภารปถวี นาม. ‘‘ปถวีกสิณเมโก สฺชานาตี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๖๐) นิมิตฺตปถวี ‘‘อารมฺมณปถวี’’ติปิ วุจฺจติ. ปถวีกสิณฌานลาภี เทวโลเก นิพฺพตฺโต อาคมนวเสน ‘‘ปถวีเทโว’’ติ นามํ ลภติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อาโป จ เทวา ปถวี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๔๐) อยํ สมฺมุติปถวี, ปฺตฺติปถวี นามาติ เวทิตพฺพา. อิธ ปน สสมฺภารปถวี อธิปฺเปตา (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒ ปถวีวารวณฺณนา).
สเทวกาติ สเทวโลกา. ‘‘สเทวตา’’ติปิ ปาโ อตฺถิ เจ สุนฺทรตรํ, สเทวโก มนุสฺสโลโก โอภาสิโตติ อตฺโถ. ปุถูติ พหู. โลกนฺตริกาติ อสุรกายนรกานเมตํ อธิวจนํ, ตา ปน ติณฺณํ จกฺกวาฬานํ อนฺตรา เอกา โลกนฺตริกา โหติ, ติณฺณํ สกฏจกฺกานํ อฺมฺํ อาหจฺจ ิตานํ มชฺเฌ โอกาโส วิย เอเกโก โลกนฺตริกนิรโย, ปริมาณโต อฏฺโยชนสหสฺโส โหติ. อสํวุตาติ เหฏฺา อปฺปติฏฺา. ตโม จาติ อนฺธกาโร. ติพฺโพติ พหโล ฆโน. จนฺทิมสูริยาโลกาภาวโต นิจฺจนฺธกาโรว โหติ. วิหโตติ วิทฺธสฺโต. ตทาติ ยทา ปน ภควา สตฺเตสุ การฺุตํ ปฏิจฺจ ปาฏิหาริยกรณตฺถํ อาโลกํ ผริ, ตทา โส ตโม ติพฺโพ โลกนฺตริกาสุ ิโต, วิหโต วิทฺธสฺโต อโหสีติ อตฺโถ.
อจฺเฉรกนฺติ อจฺฉราปหรณโยคฺคํ, วิมฺหยวเสน องฺคุลีหิ ปหรณโยคฺคนฺติ อตฺโถ. ปาฏิหีรนฺติ ปฏิปกฺขหรณโต ปาฏิหีรํ. ปฏิหรติ สตฺตานํ ทิฏฺิมาโนปคตานิ ¶ จิตฺตานีติ วา ปาฏิหีรํ, อปฺปสนฺนานํ สตฺตานํ ปสาทํ ปฏิอาหรตีติ วา ปาฏิหีรํ. ‘‘ปาฏิเหร’’นฺติปิ ปาโ, โสเยวตฺโถ. เอตฺถ อาโลกวิธานวิเสสสฺเสตํ อธิวจนํ. ทิสฺวาน อจฺเฉรกํ ¶ ปาฏิหีรนฺติ เอตฺถ เทวา จ มนุสฺสา จ โลกนฺตริกาสุ นิพฺพตฺตสตฺตาปิ จ ตํ ภควโต ปาฏิหาริยํ ทิสฺวา ปรมปฺปีติโสมนสฺสํ อคมํสูติ อิทํ วจนํ อาหริตฺวา อตฺโถ ทฏฺพฺโพ, อิตรถา น ปุพฺเพน วา ปรํ, น ปเรน วา ปุพฺพํ ยุชฺชติ.
อิทานิ ¶ น เกวลํ มนุสฺสโลเกสุเยว อาโลโก อตฺถิ, สพฺพตฺถ ติวิเธปิ สงฺขารสตฺโตกาสสงฺขาเต โลเก อาโลโกเยวาติ ทสฺสนตฺถํ –
‘‘สเทวคนฺธพฺพมนุสฺสรกฺขเส,
อาภา อุฬารา วิปุลา อชายถ;
อิมสฺมึ โลเก ปรสฺมิฺโจภยสฺมึ,
อโธ จ อุทฺธํ ติริยฺจ วิตฺถต’’นฺติ. – อยํ คาถา วุตฺตา;
ตตฺถ เทวาติ สมฺมุติเทวา อุปปตฺติเทวา วิสุทฺธิเทวาติ สพฺเพปิ เทวา อิธ สงฺคหิตา. เทวา จ คนฺธพฺพา จ มนุสฺสา จ รกฺขสา จ เทวคนฺธพฺพมนุสฺสรกฺขสา. สห เทวคนฺธพฺพมนุสฺสรกฺขเสหีติ สเทวคนฺธพฺพมนุสฺสรกฺขโส. โก ปน โส? โลโก, ตสฺมึ สเทวคนฺธพฺพมนุสฺสรกฺขเส โลเก. อาภาติ อาโลโก. อุฬาราติ เอตฺถายํ อุฬาร-สทฺโท มธุรเสฏฺวิปุลาทีสุ ทิสฺสติ. ตถา เหส ‘‘อุฬารานิ ขาทนียโภชนียานิ ขาทนฺติ ภฺุชนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๖๖) มธุเร ทิสฺสติ. ‘‘อุฬาราย โข ปน ภวํ วจฺฉายโน ปสํสาย สมณํ โคตมํ ปสํสตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๘๘) เสฏฺเ. ‘‘อติกฺกมฺม เทวานํ เทวานุภาวํ อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๒; ม. นิ. ๓.๒๐๑) วิปุเล. สฺวายํ อิธ เสฏฺเ ทฏฺพฺโพ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๑๔๒; วิ. ว. อฏฺ. ๑). วิปุลาติ อปฺปมาณา. อชายถาติ อุปฺปชฺชิ อุทปาทิ ปวตฺติตฺถ. อิมสฺมึ โลเก ปรสฺมิฺจาติ อิมสฺมึ มนุสฺสโลเก จ ปรสฺมึ เทวโลเก จาติ อตฺโถ. อุภยสฺมินฺติ ตทุภยสฺมึ, อชฺฌตฺตพหิทฺธาทีสุ วิย ทฏฺพฺพํ. อโธ จาติ อวีจิอาทีสุ นิรเยสุ. อุทฺธนฺติ ภวคฺคโตปิ อุทฺธํ อชฏากาเสปิ. ติริยฺจาติ ติริยโตปิ ทสสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ. วิตฺถตนฺติ วิสฏํ. อนฺธการํ วิธมิตฺวา วุตฺตปฺปการํ โลกฺจ ¶ ปเทสฺจ อชฺโฌตฺถริตฺวา อาภา ¶ ปวตฺติตฺถาติ อตฺโถ. อถ วา ติริยฺจ วิตฺถตนฺติ ติริยโต วิตฺถตํ มหนฺตํ, อปฺปมาณํ ปเทสํ อาภา ผริตฺวา อฏฺาสีติ อตฺโถ.
อถ ภควา ทสสหสฺสจกฺกวาเฬสุ อาโลกผรณํ กตฺวา อภิฺาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺาย อาวชฺชิตฺวา อธิฏฺานจิตฺเตน อากาสมพฺภุคฺคนฺตฺวา เตสํ าตีนํ สีเสสุ ปาทปํสุํ โอกิรมาโน วิย มหติยา เทวมนุสฺสปริสาย มชฺเฌ ยมกปาฏิหาริยํ ทสฺเสติ. ตํ ปน ปาฬิโต เอวํ เวทิตพฺพํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๖) –
‘‘กตมํ ¶ ตถาคตสฺส ยมกปาฏิหีเร าณํ? อิธ ตถาคโต ยมกปาฏิหีรํ กโรติ อสาธารณํ สาวเกหิ อุปริมกายโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, เหฏฺิมกายโต อุทกธารา ปวตฺตติ. เหฏฺิมกายโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, อุปริมกายโต อุทกธารา ปวตฺตติ…เป… ปุรตฺถิมกายโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, ปจฺฉิมกายโต อุทกธารา ปวตฺตติ. ปจฺฉิมกายโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, ปุรตฺถิมกายโต อุทกธารา ปวตฺตติ…เป… ทกฺขิณอกฺขิโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, วามอกฺขิโต อุทกธารา ปวตฺตติ. วามอกฺขิโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, ทกฺขิณอกฺขิโต อุทกธารา ปวตฺตติ…เป… ทกฺขิณกณฺณโสตโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, วามกณฺณโสตโต อุทกธารา ปวตฺตติ. วามกณฺณโสตโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, ทกฺขิณกณฺณโสตโต อุทกธารา ปวตฺตติ…เป… ทกฺขิณนาสิกาโสตโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, วามนาสิกาโสตโต อุทกธารา ปวตฺตติ. วามนาสิกาโสตโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, ทกฺขิณนาสิกาโสตโต อุทกธารา ปวตฺตติ…เป… ทกฺขิณอํสกูฏโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, วามอํสกูฏโต อุทกธารา ปวตฺตติ. วามอํสกูฏโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, ทกฺขิณอํสกูฏโต อุทกธารา ปวตฺตติ…เป… ทกฺขิณหตฺถโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, วามหตฺถโต อุทกธารา ปวตฺตติ. วามหตฺถโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, ทกฺขิณหตฺถโต อุทกธารา ปวตฺตติ…เป… ทกฺขิณปสฺสโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, วามปสฺสโต อุทกธารา ปวตฺตติ. วามปสฺสโต ¶ อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, ทกฺขิณปสฺสโต อุทกธารา ปวตฺตติ…เป… ทกฺขิณปาทโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, วามปาทโต อุทกธารา ปวตฺตติ. วามปาทโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, ทกฺขิณปาทโต อุทกธารา ปวตฺตติ…เป… องฺคุลงฺคุเลหิ อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, องฺคุลนฺตริกาหิ อุทกธารา ปวตฺตติ. องฺคุลนฺตริกาหิ อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, องฺคุลงฺคุเลหิ อุทกธารา ปวตฺตติ…เป… เอเกกโลมโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, เอเกกโลมโต อุทกธารา ปวตฺตติ. โลมกูปโต โลมกูปโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, โลมกูปโต โลมกูปโต อุทกธารา ปวตฺตติ – ฉนฺนํ วณฺณานํ นีลานํ ปีตกานํ โลหิตกานํ โอทาตานํ มฺชิฏฺานํ ปภสฺสรานํ.
‘‘ภควา จงฺกมติ, นิมฺมิโต ติฏฺติ วา นิสีทติ วา เสยฺยํ วา กปฺเปติ. ภควา ติฏฺติ, นิมฺมิโต จงฺกมติ วา นิสีทติ วา เสยฺยํ วา กปฺเปติ. ภควา นิสีทติ, นิมฺมิโต จงฺกมติ วา ติฏฺติ วา เสยฺยํ วา กปฺเปติ. ภควา เสยฺยํ กปฺเปติ, นิมฺมิโต จงฺกมติ วา ติฏฺติ วา นิสีทติ วา. นิมฺมิโต จงฺกมติ, ภควา ติฏฺติ วา นิสีทติ วา เสยฺยํ วา กปฺเปติ. นิมฺมิโต ติฏฺติ, ภควา จงฺกมติ วา นิสีทติ วา เสยฺยํ วา กปฺเปติ. นิมฺมิโต นิสีทติ, ภควา จงฺกมติ วา ¶ ติฏฺติ วา เสยฺยํ วา กปฺเปติ. นิมฺมิโต เสยฺยํ กปฺเปติ, ภควา จงฺกมติ วา ติฏฺติ วา นิสีทติ วา, อิทํ ตถาคตสฺส ยมกปาฏิหีเร าณนฺติ เวทิตพฺพํ’’.
ตสฺส ปน ภควโต เตโชกสิณสมาปตฺติวเสน อุปริมกายโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ. อาโปกสิณสมาปตฺติวเสน เหฏฺิมกายโต อุทกธารา ปวตฺตตีติ ปุน อุทกธาราย ปวตฺตฏฺานโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, อคฺคิกฺขนฺธสฺส ปวตฺตฏฺานโต อุทกธารา ปวตฺตตีติ ทสฺเสตุํ, ‘‘เหฏฺิมกายโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, อุปริมกายโต อุทกธารา ปวตฺตตี’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพา. เอเสว นโย เสสปเทสุปิ. อคฺคิกฺขนฺโธ ปเนตฺถ อุทกธาราย อสมฺมิสฺโสว อโหสิ. ตถา อุทกธารา อคฺคิกฺขนฺเธน. รสฺมีสุ ปน ทุติยา ทุติยา รสฺมิ ปุริมาย ปุริมาย ยมกา วิย เอกกฺขเณ ปวตฺตติ. ทฺวินฺนฺจ จิตฺตานํ เอกกฺขเณ ปวตฺติ นาม ¶ นตฺถิ, พุทฺธานํ ปน ภวงฺคปริวาสสฺส ลหุกตาย ปฺจหากาเรหิ จิณฺณวสิตาย เอตา รสฺมิโย เอกกฺขเณ วิย ปวตฺตนฺติ, ตสฺสา ปน รสฺมิยา อาวชฺชนปริกมฺมาธิฏฺานานิ วิสุํเยว. นีลรสฺมิอตฺถาย หิ ภควา ¶ นีลกสิณํ สมาปชฺชติ. ปีตรสฺมิอาทีนํ อตฺถาย ปีตกสิณาทีนิ สมาปชฺชติ.
เอวํ ภควโต ยมกปาฏิหีเร กยิรมาเน สกลสฺสาปิ ทสสหสฺสจกฺกวาฬสฺส อลงฺการกรณกาโล วิย อโหสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘สตฺตุตฺตโม อนธิวโร วินายโก, สตฺถา อหู เทวมนุสฺสปูชิโต;
มหานุภาโว สตปฺุลกฺขโณ, ทสฺเสสิ อจฺเฉรกํ ปาฏิหีร’’นฺติ.
ตตฺถ สตฺตุตฺตโมติ อตฺตโน สีลาทีหิ คุเณหิ สพฺเพสุ สตฺเตสุ อุตฺตโม ปวโร เสฏฺโติ สตฺตุตฺตโม, สตฺตานํ วา อุตฺตโม สตฺตุตฺตโม. สตฺตนฺติ หิ าณสฺส นามํ, เตน ทสพลจตุเวสารชฺชฉอสาธารณาณสงฺขาเตน สตฺเตน เสฏฺโ อุตฺตโมติ สตฺตุตฺตโม, สมานาธิกรณวเสน สตฺโต อุตฺตโมติ วา สตฺตุตฺตโม. ยทิ เอวํ ‘‘อุตฺตมสตฺโต’’ติ วตฺตพฺพํ อุตฺตม-สทฺทสฺส ปุพฺพนิปาตปาโต. น ปเนส เภโท อนิยมโต พหุลวจนโต จ นรุตฺตมปุริสุตฺตมนรวราทิ-สทฺทา วิย ทฏฺพฺโพ. อถ วา สตฺตํ อุตฺตมํ ยสฺส โส สตฺตุตฺตโม, อิธาปิ จ อุตฺตม-สทฺทสฺส ปุพฺพนิปาโต ภวติ. อุตฺตมสตฺโตติ วิเสสนสฺส ปุพฺพนิปาตปาโต ‘‘จิตฺตคู ปทฺธคู’’ติ เอตฺถ วิยาติ นายํ โทโส. อุภยวิเสสนโต วา อาหิตคฺคิอาทิปาโ วิย ทฏฺพฺโพ. วินายโกติ พหูหิ วินยนูปาเยหิ สตฺเต วิเนติ ทเมตีติ วินายโก. สตฺถาติ ¶ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกตฺเถหิ ยถารหํ สตฺเต อนุสาสตีติ สตฺถา. อหูติ อโหสิ. เทวมนุสฺสปูชิโตติ ทิพฺเพหิ ปฺจกามคุเณหิ ทิพฺพนฺติ กีฬนฺตีติ เทวา. มนสฺส อุสฺสนฺนตฺตา มนุสฺสา, เทวา จ มนุสฺสา จ เทวมนุสฺสา, เทวมนุสฺเสหิ ¶ ปูชิโต เทวมนุสฺสปูชิโต. ปุปฺผาทิปูชาย จ ปจฺจยปูชาย จ ปูชิโต, อปจิโตติ อตฺโถ. กสฺมา ปน เทวมนุสฺสานเมว คหณํ กตํ, นนุ ภควา ติรจฺฉานคเตหิปิ อารวาฬกาฬาปลาลธนปาลปาลิเลยฺยกนาคาทีหิ สาตาคิราฬวกเหมวตสูจิโลมขรโลมยกฺขาทีหิ วินิปาตคเตหิปิ ปูชิโตเยวาติ? สจฺจเมเวตํ, อุกฺกฏฺปริจฺเฉทวเสน สพฺพปุคฺคลปริจฺเฉทวเสน เจตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. มหานุภาโวติ มหตา พุทฺธานุภาเวน สมนฺนาคโต. สตปฺุลกฺขโณติ อนนฺเตสุ จกฺกวาเฬสุ สพฺเพ สตฺตา เอเกกํ ปฺุกมฺมํ สตกฺขตฺตุํ กเรยฺยุํ เอตฺตเกหิ ชเนหิ กตกมฺมํ โพธิสตฺโต สยเมว เอกโก สตคุณํ กตฺวา นิพฺพตฺโต. ตสฺมา ‘‘สตปฺุลกฺขโณ’’ติ วุจฺจติ. เกจิ ปน ‘‘สเตน สเตน ปฺุกมฺเมน นิพฺพตฺตเอเกกลกฺขโณ’’ติ วทนฺติ. ‘‘เอวํ สนฺเต โย โกจิ พุทฺโธ ภเวยฺยา’’ติ ตํ อฏฺกถาสุ ปฏิกฺขิตฺตํ. ทสฺเสสีติ ¶ สพฺเพสํ เทวมนุสฺสานํ อติวิมฺหยกรํ ยมกปาฏิหาริยํ ทสฺเสสิ.
อถ สตฺถา อากาเส ปาฏิหาริยํ กตฺวา มหาชนสฺส จิตฺตาจารํ โอโลเกตฺวา ตสฺส อชฺฌาสยานุกูลํ ธมฺมกถํ จงฺกมนฺโต กเถตุกาโม อากาเส ทสสหสฺสจกฺกวาฬวิตฺถตํ สพฺพรตนมยํ รตนจงฺกมํ มาเปสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘โส ยาจิโต เทววเรน จกฺขุมา, อตฺถํ สเมกฺขิตฺวา ตทา นรุตฺตโม;
จงฺกมํ มาปยิ โลกนายโก, สุนิฏฺิตํ สพฺพรตนนิมฺมิต’’นฺติ.
ตตฺถ โสติ โส สตฺถา. ยาจิโตติ ปมเมว อฏฺเม สตฺตาเห ธมฺมเทสนาย ยาจิโตติ อตฺโถ. เทววเรนาติ สหมฺปติพฺรหฺมุนา. จกฺขุมาติ เอตฺถ จกฺขตีติ จกฺขุ, สมวิสมํ วิภาวยตีติ อตฺโถ. ตํ ปน จกฺขุ ทุวิธํ – าณจกฺขุ, มํสจกฺขูติ. ตตฺถ าณจกฺขุ ปฺจวิธํ – พุทฺธจกฺขุ, ธมฺมจกฺขุ, สมนฺตจกฺขุ, ทิพฺพจกฺขุ, ปฺาจกฺขูติ. เตสุ พุทฺธจกฺขุ นาม อาสยานุสยาณฺเจว อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณฺจ, ยํ ‘‘พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต’’ติ (ที. นิ. ๒.๖๙; ม. นิ. ๑.๒๘๓; ๒.๓๓๙; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๙) อาคตํ. ธมฺมจกฺขุ นาม เหฏฺิมา ¶ ตโย มคฺคา ตีณิ จ ผลานิ, ยํ ‘‘วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาที’’ติ (ที. นิ. ๑.๓๕๕; สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๖; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) อาคตํ. สมนฺตจกฺขุ นาม สพฺพฺุตฺาณํ ¶ , ยํ ‘‘ตถูปมํ ธมฺมมยํ, สุเมธ, ปาสาทมารุยฺห สมนฺตจกฺขู’’ติ (ที. นิ. ๒.๗๐; ม. นิ. ๑.๒๘๒; ๒.๓๓๘; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๘) อาคตํ. ทิพฺพจกฺขุ นาม อาโลกวฑฺฒเนน อุปฺปนฺนาภิฺาจิตฺเตน สมฺปยุตฺตาณํ, ยํ ‘‘ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธนา’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๔๘, ๒๘๔, ๓๘๕, ๔๓๒; ๒.๓๔๑; ๓.๘๒, ๒๖๑; มหาว. ๑๐) อาคตํ. ปฺาจกฺขุ นาม ‘‘จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาที’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๒; มหาว. ๑๕; กถา. ๔๐๕; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) เอตฺถ ปุพฺเพนิวาสาทิาณํ ปฺาจกฺขูติ อาคตํ.
มํสจกฺขุ นาม ‘‘จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๐๔, ๔๐๐; ๓.๔๒๑, ๔๒๕-๔๒๖; สํ. นิ. ๒.๔๓; ๔.๖๐; กถา. ๔๖๕, ๔๖๗) เอตฺถ ปสาทมํสจกฺขุ วุตฺตํ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๑๓). ตํ ปน ทุวิธํ – สสมฺภารจกฺขุ ปสาทจกฺขูติ. เตสุ ยฺวายํ อกฺขิกูปเก อกฺขิปตฺตเกหิ ปริวาริโต มํสปิณฺโฑ ยตฺถ จตสฺโส ธาตุโย วณฺณคนฺธรโสชา สมฺภโว ชีวิตํ ภาโว จกฺขุปสาโท กายปสาโทติ ¶ สงฺเขปโต เตรส สมฺภารา โหนฺติ. วิตฺถารโต ปน สมฺภวมานานิ จตุสมุฏฺานานิ ฉตฺตึส ชีวิตํ ภาโว จกฺขุปสาโท กายปสาโทติ อิเม กมฺมสมุฏฺานา จตฺตาโร จาติ สสมฺภารา โหนฺติ, อิทํ สสมฺภารจกฺขุ นาม. ยํ ปน เสตมณฺฑลปริจฺฉินฺเนน กณฺหมณฺฑเลน ปริวาริเต ทิฏฺมณฺฑเล สนฺนิวิฏฺํ รูปทสฺสนสมตฺถํ ปสาทมตฺตํ, อิทํ ปสาทจกฺขุ นาม. สพฺพานิ ปเนตานิ เอกวิธานิ อนิจฺจโต สงฺขตโต, ทุวิธานิ สาสวานาสวโต โลกิยโลกุตฺตรโต, ติวิธานิ ภูมิโต อุปาทิณฺณตฺติกโต, จตุพฺพิธานิ เอกนฺตปริตฺตอปฺปมาณานิยตารมฺมณโต, ปฺจวิธานิ รูปนิพฺพานารูปสพฺพารมฺมณานารมฺมณวเสน, ฉพฺพิธานิ โหนฺติ พุทฺธจกฺขาทิวเสน. อิจฺเจวเมตานิ วุตฺตปฺปการานิ จกฺขูนิ อสฺส ภควโต สนฺตีติ ภควา จกฺขุมาติ วุจฺจติ. อตฺถํ สเมกฺขิตฺวาติ จงฺกมํ มาเปตฺวา, ธมฺมเทสนานิมิตฺตํ เทวมนุสฺสานํ หิตตฺถํ อุปปริกฺขิตฺวา อุปธาเรตฺวาติ อธิปฺปาโย. มาปยีติ มาเปสิ. โลกนายโกติ สคฺคโมกฺขาภิมุขํ โลกํ นยตีติ โลกนายโก. สุนิฏฺิตนฺติ สุฏฺุ นิฏฺิตํ, ปริโยสิตนฺติ อตฺโถ. สพฺพรตนนิมฺมิตนฺติ ทสวิธรตนมยํ.
อิทานิ ¶ ภควโต ติวิธปาฏิหาริยสมฺปตฺติทสฺสนตฺถํ –
‘‘อิทฺธี จ อาเทสนานุสาสนี, ติปาฏิหีเร ภควา วสี อหุ;
จงฺกมํ มาปยิ โลกนายโก, สุนิฏฺิตํ สพฺพรตนนิมฺมิต’’นฺติ. – วุตฺตํ;
ตตฺถ ¶ อิทฺธีติ อิทฺธิวิธํ อิทฺธิปาฏิหาริยํ นาม. ตํ ปน เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหตีติอาทินยปฺปวตฺตํ (ที. นิ. ๑.๒๓๙; ม. นิ. ๑.๑๔๗; ปฏิ. ม. ๓.๑๐). อาเทสนาติ ปรสฺส จิตฺตาจารํ ตฺวา กถนํ อาเทสนาปาฏิหาริยํ, ตํ สาวกานฺจ พุทฺธานฺจ สตตธมฺมเทสนา. อนุสาสนีติ อนุสาสนิปาฏิหาริยํ, ตสฺส ตสฺส อชฺฌาสยานุกูลโมวาโทติ อตฺโถ. อิติ เอตานิ ตีณิ ปาฏิหาริยานิ. ตตฺถ อิทฺธิปาฏิหาริเยน อนุสาสนิปาฏิหาริยํ มหาโมคฺคลฺลานสฺส อาจิณฺณํ, อาเทสนาปาฏิหาริเยน อนุสาสนิปาฏิหาริยํ ธมฺมเสนาปติสฺส, อนุสาสนิปาฏิหาริยํ ปน พุทฺธานํ สตตธมฺมเทสนา. ติปาฏิหีเรติ ¶ เอเตสุ ตีสุ ปาฏิหาริเยสูติ อตฺโถ. ภควาติ อิทํ คุณวิสิฏฺสตฺตุตฺตมครุคารวาธิวจนํ. วุตฺตฺเหตํ โปราเณหิ –
‘‘ภควาติ วจนํ เสฏฺํ, ภควาติ วจนมุตฺตมํ;
ครุคารวยุตฺโต โส, ภควา เตน วุจฺจตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๔๒; ม. นิ. อฏฺ. ๑.มูลปริยายสุตฺตวณฺณนา; ปารา. อฏฺ. ๑.๑ เวรฺชกณฺฑวณฺณนา; อิติวุ. อฏฺ. นิทานวณฺณนา; มหานิ. อฏฺ. ๕๐);
วสีติ เอตสฺมึ ติวิเธปิ ปาฏิหาริเย วสิปฺปตฺโต, จิณฺณวสีติ อตฺโถ. วสิโย นาม ปฺจ วสิโย – อาวชฺชนสมาปชฺชนอธิฏฺานวุฏฺานปจฺจเวกฺขณสงฺขาตา. ตตฺร ยํ ยํ ฌานํ ยถิจฺฉกํ ยทิจฺฉกํ ยาวติจฺฉกํ อาวชฺชติ อาวชฺชนาย ทนฺธายิตตฺตํ นตฺถีติ สีฆํ อาวชฺเชตุํ สมตฺถตา อาวชฺชนวสี นาม. ตถา ยํ ยํ ฌานํ ยถิจฺฉกํ…เป… สมาปชฺชติ สมาปชฺชนาย ทนฺธายิตตฺตํ นตฺถีติ สีฆํ สมาปชฺชนสมตฺถตา สมาปชฺชนวสี นาม. ทีฆํ กาลํ เปตุํ สมตฺถตา อธิฏฺานวสี นาม. ตเถว ลหุํ วุฏฺาตุํ สมตฺถตา วุฏฺานวสี นาม. ปจฺจเวกฺขณวสี ¶ ปน ปจฺจเวกฺขณชวนาเนว โหนฺติ ตานิ อาวชฺชนานนฺตราเนว หุตฺวา อุปฺปชฺชนฺตีติ อาวชฺชนวสิยา เอว วุตฺตานิ. อิติ อิมาสุ ปฺจสุ วสีสุ จิณฺณวสิตา วสี นาม โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ติปาฏิหีเร ภควา วสี อหู’’ติ.
อิทานิ ตสฺส รตนจงฺกมสฺส นิมฺมิตวิธานสฺส ทสฺสนตฺถํ –
‘‘ทสสหสฺสีโลกธาตุยา, สิเนรุปพฺพตุตฺตเม;
ถมฺเภว ทสฺเสสิ ปฏิปาฏิยา, จงฺกเม รตนามเย’’ติ. – อาทิคาถาโย วุตฺตา;
ตตฺถ ¶ ทสสหสฺสีโลกธาตุยาติ ทสสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ. สิเนรุปพฺพตุตฺตเมติ มหาเมรุสงฺขาเต เสฏฺปพฺพเต. ถมฺเภวาติ ถมฺเภ วิย ทสจกฺกวาฬสหสฺเสสุ เย สิเนรุปพฺพตา, เต ปฏิปาฏิยา ิเต สุวณฺณถมฺเภ วิย กตฺวา เตสํ อุปริ จงฺกมํ มาเปตฺวา ทสฺเสสีติ อตฺโถ. รตนามเยติ รตนมเย.
๑๓. ทสสหสฺสี อติกฺกมฺมาติ รตนจงฺกมํ ปน ภควา มาเปนฺโต ตสฺส เอกํ โกฏึ สพฺพปริยนฺตํ ปาจีนจกฺกวาฬมุขวฏฺฏึ เอกํ โกฏึ ปจฺฉิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏึ อติกฺกมิตฺวา ิตํ กตฺวา มาเปสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘ทสสหสฺสี อติกฺกมฺม, จงฺกมํ มาปยี ชิโน;
สพฺพโสณฺณมยา ปสฺเส, จงฺกเม รตนามเย’’ติ.
ตตฺถ ชิโนติ กิเลสาริชยนโต ชิโน. สพฺพโสณฺณมยา ปสฺเสติ ตสฺส ปน เอวํ นิมฺมิตสฺส จงฺกมสฺส ¶ อุภยปสฺเสสุ สุวณฺณมยา ปรมรมณียา มริยาทภูมิ อโหสิ, มชฺเฌ มณิมยาติ อธิปฺปาโย.
๑๔. ตุลาสงฺฆาฏาติ ตุลายุคฬา, ตา นานารตนมยาติ เวทิตพฺพา. อนุวคฺคาติ อนุรูปา. โสวณฺณผลกตฺถตาติ โสวณฺณมเยหิ ผลเกหิ อตฺถตา, ตุลาสงฺฆาตานํ อุปริ สุวณฺณมโย ปทรจฺฉโทติ อตฺโถ. เวทิกา สพฺพโสวณฺณาติ เวทิกา ปน สพฺพาปิ สุวณฺณมยา, ยา ปเนสา จงฺกมนปริกฺเขปเวทิกา, สา เอกาว อฺเหิ รตเนหิ อสมฺมิสฺสาติ อตฺโถ. ทุภโต ปสฺเสสุ นิมฺมิตาติ อุโภสุ ปสฺเสสุ นิมฺมิตา. ท-กาโร ปทสนฺธิกโร.
๑๕. มณิมุตฺตาวาลุกากิณฺณาติ ¶ มณิมุตฺตามยวาลุกากิณฺณา. อถ วา มณโย จ มุตฺตา จ วาลุกา จ มณิมุตฺตาวาลุกา. ตาหิ มณิมุตฺตาวาลุกาหิ อากิณฺณา สนฺถตาติ มณิมุตฺตาวาลุกากิณฺณา. นิมฺมิโตติ อิมินากาเรน นิมฺมิโต กโต. รตนามโยติ สพฺพรตนมโย, จงฺกโมติ อตฺโถ. โอภาเสติ ทิสา สพฺพาติ สพฺพาปิ ทส ทิสา โอภาเสติ ปกาเสติ. สตรํสีวาติ สหสฺสรํสิอาทิจฺโจ วิย. อุคฺคโตติ อุทิโต. ยถา ปน อพฺภุคฺคโต สหสฺสรํสิ สพฺพาปิ ทส ทิสา โอภาเสติ, เอวเมว เอโสปิ สพฺพรตนมโย จงฺกโม โอภาเสตีติ อตฺโถ.
อิทานิ ¶ ปน นิฏฺิเต จงฺกเม ตตฺถ ภควโต ปวตฺติทสฺสนตฺถํ –
‘‘ตสฺมึ จงฺกมเน ธีโร, ทฺวตฺตึสวรลกฺขโณ;
วิโรจมาโน สมฺพุทฺโธ, จงฺกเม จงฺกมี ชิโน.
‘‘ทิพฺพํ มนฺทารวํ ปุปฺผํ, ปทุมํ ปาริฉตฺตกํ;
จงฺกมเน โอกิรนฺติ, สพฺเพ เทวา สมาคตา.
‘‘ปสฺสนฺติ ตํ เทวสงฺฆา, ทสสหสฺสี ปโมทิตา;
นมสฺสมานา นิปตนฺติ, ตุฏฺหฏฺา ปโมทิตา’’ติ. – คาถาโย วุตฺตา;
ตตฺถ ธีโรติ ธิติยุตฺโต. ทฺวตฺตึสวรลกฺขโณติ สุปฺปติฏฺิตปาทตลาทีหิ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. ทิพฺพนฺติ เทวโลเก ภวํ ชาตํ ทิพฺพํ. ปาริฉตฺตกนฺติ เทวานํ ตาวตึสานํ โกวิฬารรุกฺขสฺส นิสฺสนฺเทน สมนฺตา โยชนสตปริมาโณ ปรมทสฺสนีโย ปาริจฺฉตฺตกรุกฺโข นิพฺพตฺติ. ยสฺมึ ปุปฺผิเต สกลํ เทวนครํ เอกสุรภิคนฺธวาสิตํ โหติ, ตสฺส กุสุมเรณุโอกิณฺณานิ นวกนกวิมานานิ ปิฺชรานิ หุตฺวา ขายนฺติ. อิมสฺส ปน ปาริจฺฉตฺตกรุกฺขสฺส ปุปฺผฺจ ปาริจฺฉตฺตกนฺติ วุตฺตํ. จงฺกเม โอกิรนฺตีติ ตสฺมึ รตนจงฺกเม อวกิรนฺติ, เตน วุตฺตปฺปกาเรน ปุปฺเผน ตสฺมึ จงฺกเม จงฺกมมานํ ภควนฺตํ ปูเชนฺตีติ อตฺโถ. สพฺเพ เทวาติ กามาวจรเทวาทโย เทวา. เตนาห ‘‘ปสฺสนฺติ ¶ ตํ เทวสงฺฆา’’ติ. ตํ ภควนฺตํ รตนจงฺกมเน จงฺกมนฺตํ สเกสุ อาลเยสุปิ ปสฺสนฺตีติ อตฺโถ. ทสสหสฺสีติ ภุมฺมตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ, ทสสหสฺสิยํ เทวสงฺฆา ตํ ปสฺสนฺตีติ อตฺโถ. ปโมทิตาติ ปมุทิตา. นิปตนฺตีติ ¶ สนฺนิปตนฺติ. ตุฏฺหฏฺาติ ปีติวเสน ตุฏฺหฏฺา. ปโมทิตาติ อิทานิ วตฺตพฺเพหิ ตาวตึสาทิเทเวหิ สทฺธินฺติ สมฺพนฺโธ ทฏฺพฺโพ, อิตรถา ปุนรุตฺติโทสโต น มุจฺจติ. อถ วา ปโมทิตา ตํ ภควนฺตํ ปสฺสนฺติ, ตุฏฺหฏฺา ปโมทิตา ตหึ ตหึ สนฺนิปตนฺตีติ อตฺโถ.
อิทานิ เย ปสฺสึสุ เย สนฺนิปตึสุ, เต สรูปโต ทสฺเสตุํ –
‘‘ตาวตึสา จ ยามา จ, ตุสิตา จาปิ เทวตา;
นิมฺมานรติโน เทวา, เย เทวา วสวตฺติโน;
อุทคฺคจิตฺตา สุมนา, ปสฺสนฺติ โลกนายกํ.
‘‘สเทวคนฺธพฺพมนุสฺสรกฺขสา ¶ , นาคา สุปณฺณา อถ วาปิ กินฺนรา;
ปสฺสนฺติ ตํ โลกหิตานุกมฺปกํ, นเภว อจฺจุคฺคตจนฺทมณฺฑลํ.
‘‘อาภสฺสรา สุภกิณฺหา, เวหปฺผลา อกนิฏฺา จ เทวตา;
สุสุทฺธสุกฺกวตฺถวสนา, ติฏฺนฺติ ปฺชลีกตา.
‘‘มฺุจนฺติ ปุปฺผํ ปน ปฺจวณฺณิกํ, มนฺทารวํ จนฺทนจุณฺณมิสฺสิตํ;
ภเมนฺติ เจลานิ จ อมฺพเร ตทา, อโห ชิโน โลกหิตานุกมฺปโก’’ติ. –
อิมา คาถาโย วุตฺตา.
ตตฺถ อุทคฺคจิตฺตาติ ปีติโสมนสฺสวเสน อุทคฺคจิตฺตา. สุมนาติ อุทคฺคจิตฺตตฺตา เอว สุมนา. โลกหิตานุกมฺปกนฺติ โลกหิตฺจ โลกานุกมฺปกฺจ. โลกหิเตน วา อนุกมฺปกํ โลกหิตานุกมฺปกํ. นเภว อจฺจุคฺคตจนฺทมณฺฑลนฺติ เอตฺถ อากาเส อภินโวทิตํ ปริปุณฺณํ สพฺโพปทฺทววินิมุตฺตํ สรทสมเย จนฺทมณฺฑลํ วิย พุทฺธสิริยา วิโรจมานํ นยนานนฺทกรํ ปสฺสนฺตีติ อตฺโถ.
อาภสฺสราติ อุกฺกฏฺปริจฺเฉทวเสน วุตฺตํ. ปริตฺตาภอปฺปมาณาภอาภสฺสราปริตฺตมชฺฌิมปณีตเภเทน ทุติยชฺฌาเนนาภินิพฺพตฺตา สพฺเพว คหิตาติ ¶ เวทิตพฺพา. สุภกิณฺหาติ อิทํ อุกฺกฏฺปริจฺเฉทวเสเนว วุตฺตํ, ตสฺมา ปริตฺตสุภอปฺปมาณสุภสุภกิณฺหาปริตฺตาทิเภเทน ตติยชฺฌาเนน นิพฺพตฺตา สพฺเพว คหิตาติ เวทิตพฺพา. เวหปฺผลาติ วิปุลา ผลาติ เวหปฺผลา. เต จตุตฺถชฺฌานนิพฺพตฺตา อสฺสตฺเตหิ เอกตลวาสิโน. เหฏฺา ปน ปมชฺฌานนิพฺพตฺตา พฺรหฺมกายิกาทโย ทสฺสิตา. ตสฺมา อิธ น ทสฺสิตา. จกฺขุโสตานมภาวโต อสฺสตฺตา จ อรูปิโน จ อิธ น อุทฺทิฏฺา. อกนิฏฺา จ เทวตาติ อิธาปิ อุกฺกฏฺปริจฺเฉทวเสเนว วุตฺตํ. ตสฺมา อวิหาตปฺปสุทสฺสาสุทสฺสิอกนิฏฺสงฺขาตา ปฺจปิ สุทฺธาวาสา คหิตาติ เวทิตพฺพา. สุสุทฺธสุกฺกวตฺถวสนาติ สุฏฺุ สุทฺธานิ สุสุทฺธานิ สุกฺกานิ โอทาตานิ. สุสุทฺธานิ สุกฺกานิ วตฺถานิ นิวตฺถานิ เจว ปารุตานิ จ เยหิ ¶ เต สุสุทฺธสุกฺกวตฺถวสนา, ปริทหิตปริสุทฺธปณฺฑรวตฺถาติ อตฺโถ. ‘‘สุสุทฺธสุกฺกวสนา’’ติปิ ปาโ. ปฺชลีกตาติ กตปฺชลิกา กมลมกุลสทิสํ อฺชลึ สิรสิ กตฺวา ติฏฺนฺติ.
มฺุจนฺตีติ ¶ โอกิรนฺติ. ปุปฺผํ ปนาติ กุสุมํ ปน. ‘‘ปุปฺผานิ วา’’ติปิ ปาโ, วจนวิปริยาโส ทฏฺพฺโพ, อตฺโถ ปนสฺส โสเยว. ปฺจวณฺณิกนฺติ ปฺจวณฺณํ – นีลปีตโลหิโตทาตมฺชิฏฺกวณฺณวเสน ปฺจวณฺณํ. จนฺทนจุณฺณมิสฺสิตนฺติ จนฺทนจุณฺเณน มิสฺสิตํ. ภเมนฺติ เจลานีติ ภมยนฺติ วตฺถานิ. อโห ชิโน โลกหิตานุกมฺปโกติ ‘‘อโห ชิโน โลกหิโต อโห จ โลกหิตานุกมฺปโก อโห การุณิโก’’ติ เอวมาทีนิ ถุติวจนานิ อุคฺคิรนฺตา. มฺุจนฺติ ปุปฺผํ ภมยนฺติ เจลานีติ สมฺพนฺโธ.
อิทานิ เตหิ ปยุตฺตานิ ถุติวจนานิ ทสฺเสตุํ อิมา คาถาโย วุตฺตา –
‘‘ตุวํ สตฺถา จ เกตู จ, ธโช ยูโป จ ปาณินํ;
ปรายโน ปติฏฺา จ, ทีโป จ ทฺวิปทุตฺตโม.
‘‘ทสสหสฺสีโลกธาตุยา, เทวตาโย มหิทฺธิกา;
ปริวาเรตฺวา นมสฺสนฺติ, ตุฏฺหฏฺา ปโมทิตา.
‘‘เทวตา เทวกฺา จ, ปสนฺนา ตุฏฺมานสา;
ปฺจวณฺณิกปุปฺเผหิ, ปูชยนฺติ นราสภํ.
‘‘ปสฺสนฺติ ตํ เทวสงฺฆา, ปสนฺนา ตุฏฺมานสา;
ปฺจวณฺณิกปุปฺเผหิ, ปูชยนฺติ นราสภํ.
‘‘อโห ¶ อจฺฉริยํ โลเก, อพฺภุตํ โลมหํสนํ;
น เมทิสํ ภูตปุพฺพํ, อจฺเฉรํ โลมหํสนํ.
‘‘สกสกมฺหิ ภวเน, นิสีทิตฺวาน เทวตา;
หสนฺติ ตา มหาหสิตํ, ทิสฺวานจฺเฉรกํ นเภ.
‘‘อากาสฏฺา จ ภูมฏฺา, ติณปนฺถนิวาสิโน;
กตฺชลี นมสฺสนฺติ, ตุฏฺหฏฺา ปโมทิตา.
‘‘เยปิ ทีฆายุกา นาคา, ปฺุวนฺโต มหิทฺธิโก;
ปโมทิตา นมสฺสนฺติ, ปูชยนฺติ นรุตฺตมํ.
‘‘สงฺคีติโย ¶ ปวตฺเตนฺติ, อมฺพเร อนิลฺชเส;
จมฺมนทฺธานิ วาเทนฺติ, ทิสฺวานจฺเฉรกํ นเภ.
‘‘สงฺขา จ ปณวา เจว, อโถปิ ฑิณฺฑิมา พหู;
อนฺตลิกฺขสฺมึ วชฺชนฺติ, ทิสฺวานจฺเฉรกํ นเภ.
‘‘อพฺภุโต วต โน อชฺช, อุปฺปชฺชิ โลมหํสโน;
ธุวมตฺถสิทฺธึ ลภาม, ขโณ โน ปฏิปาทิโต.
‘‘พุทฺโธติ เตสํ สุตฺวาน, ปีติ อุปฺปชฺชิ ตาวเท;
พุทฺโธ พุทฺโธติ กถยนฺตา, ติฏฺนฺติ ปฺชลีกตา.
‘‘หิงฺการา สาธุการา จ, อุกฺกุฏฺิ สมฺปหํสนํ;
ปชา จ วิวิธา คคเน, วตฺตนฺติ ปฺชลีกตา.
‘‘คายนฺติ เสเฬนฺติ จ วาทยนฺติ จ, ภุชานิ โปเถนฺติ จ นจฺจยนฺติ จ;
มฺุจนฺติ ปุปฺผํ ปน ปฺจวณฺณิกํ, มนฺทารวํ จนฺทนจุณฺณมิสฺสิตํ.
‘‘ยถา ตุยฺหํ มหาวีร, ปาเทสุ จกฺกลกฺขณํ;
ธชวชิรปฏากา, วฑฺฒมานงฺกุสาจิต’’นฺติ.
ตตฺถ อิธโลกปรโลกหิตตฺถํ สาสตีติ สตฺถา. เกตูติ เกตุโน อปจิติกาตพฺพฏฺเน เกตุ วิยาติ เกตุ. ธโชติ อินฺทธโช สมุสฺสยฏฺเน ทสฺสนียฏฺเน จ ตุวํ ธโช วิยาติ ธโชติ. อถ ¶ วา ยถา หิ โลเก ยสฺส กสฺสจิ ธชํ ทิสฺวาว – ‘‘อยํ ธโช อิตฺถนฺนามสฺสา’’ติ ธชวา ธชีติ ปฺายติ, เอวเมว ภควา ปฺานิพฺพานาธิคมาย ภควนฺตํ ทิสฺวาว นิพฺพานาธิคโม ปฺายติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ธโช ยูโป จา’’ติ. กูฏทนฺตสุตฺเต วุตฺตานํ ทานาทิอาสวกฺขยาณปริโยสานานํ สพฺพยาคานํ ยชนตฺถาย สมุสฺสิโต ยูโป ตุวนฺติ อตฺโถ. ปรายโนติ ปฏิสรณํ. ปติฏฺาติ ยถา มหาปถวี สพฺพปาณีนํ อาธารภาเวน ปติฏฺา นิสฺสยภูตา, เอวํ ตุวมฺปิ ปติฏฺาภูตา. ทีโป จาติ ปทีโป. ยถา จตุรงฺเค ตมสิ วตฺตมานานํ สตฺตานํ อาโรปิโต ปทีโป รูปสนฺทสฺสโน โหติ. เอวํ อวิชฺชนฺธกาเร วตฺตมานานํ สตฺตานํ ปรมตฺถสนฺทสฺสโน ปทีโป ตุวนฺติ อตฺโถ. อถ วา มหาสมุทฺเท ภินฺนนาวานํ สตฺตานํ สมุทฺททีโป ¶ ยถา ปติฏฺา ¶ โหติ, เอวํ ตุวมฺปิ สํสารสาคเร อลพฺภเนยฺยปติฏฺเ โอสีทนฺตานํ ปาณีนํ ทีโป วิยาติ ทีโปติ อตฺโถ.
ทฺวิปทุตฺตโมติ ทฺวิปทานํ อุตฺตโม ทฺวิปทุตฺตโม, เอตฺถ ปน นิทฺธารณลกฺขณสฺส อภาวโต ฉฏฺีสมาสสฺส ปฏิเสโธ นตฺถิ, นิทฺธารณลกฺขณาย ฉฏฺิยา สมาโส ปฏิสิทฺโธ. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปน อปทานํ ทฺวิปทานํ จตุปฺปทานํ พหุปฺปทานํ รูปีนํ อรูปีนํ สฺีนํ อสฺีนํ เนวสฺีนาสฺีนํ อุตฺตโมว. กสฺมา ปนิธ ‘‘ทฺวิปทุตฺตโม’’ติ วุตฺโตติ เจ? เสฏฺตรวเสน. อิมสฺมิฺหิ โลเก เสฏฺโ นาม อุปฺปชฺชมาโน อปทจตุปฺปทพหุปฺปเทสุปิ นุปฺปชฺชติ. อยํ ทฺวิปเทสุเยว อุปฺปชฺชติ. กตรทฺวิปเทสูติ? มนุสฺเสสุ เจว เทเวสุ จ. มนุสฺเสสุ อุปฺปชฺชมาโน ติสหสฺสิมหาสหสฺสิโลกธาตุ วเส กตฺตุํ สมตฺโถ พุทฺโธ หุตฺวา นิพฺพตฺตติ. เทเวสุ อุปฺปชฺชมาโน ทสสหสฺสิโลกธาตุ วสวตฺตี มหาพฺรหฺมา หุตฺวา นิพฺพตฺตติ. โส ตสฺส กปฺปิยการโก วา อารามิโก วา สมฺปชฺชติ. อิติ ตโตปิ เสฏฺตรวเสน ‘‘ทฺวิปทุตฺตโม’’ติ วุตฺโต.
ทสสหสฺสิโลกธาตุยาติ ทสสหสฺสิสงฺขาตาย โลกธาตุยา. มหิทฺธิกาติ มหติยา อิทฺธิยา ยุตฺตา, มหานุภาวาติ อตฺโถ. ปริวาเรตฺวาติ ภควนฺตํ สมนฺตโต ปริกฺขิปิตฺวา. ปสนฺนาติ สฺชาตสทฺธา. นราสภนฺติ นรปุงฺควํ. อโห อจฺฉริยนฺติ เอตฺถ อนฺธสฺส ปพฺพตาโรหนํ วิย นิจฺจํ น โหตีติ อจฺฉริยํ, อจฺฉราโยคฺคนฺติ วา อจฺฉริยํ, ‘‘อโห, อิทํ วิมฺหย’’นฺติ อจฺฉรํ ปหริตุํ ยุตฺตนฺติ อตฺโถ. อพฺภุตนฺติ ¶ อภูตปุพฺพํ อภูตนฺติ อพฺภุตํ. อุภยมฺเปตํ วิมฺหยาวหสฺสาธิวจนํ. โลมหํสนนฺติ โลมานํ อุทฺธคฺคภาวกรณํ. น เมทิสํ ภูตปุพฺพนฺติ น มยา อีทิสํ ภูตปุพฺพํ, อพฺภุตํ ทิฏฺนฺติ อตฺโถ. ทิฏฺนฺติ วจนํ อาหริตฺวา คเหตพฺพํ. อจฺเฉรนฺติ อจฺฉริยํ.
สกสกมฺหิ ภวเนติ อตฺตโน อตฺตโน ภวเน. นิสีทิตฺวานาติ อุปวิสฺส. เทวตาติ อิทํ ปน วจนํ เทวานมฺปิ เทวธีตานมฺปิ สาธารณวจนนฺติ เวทิตพฺพํ. หสนฺติตาติ ตา เทวตา มหาหสิตํ หสนฺติ, ปีติวสํ คตหทยตาย มิหิตมตฺตํ อกตฺวา อฏฺฏหาสํ หสนฺตีติ อตฺโถ. นเภติ อากาเส.
อากาสฏฺาติ อากาเส วิมานาทีสุ ิตา, เอเสว นโย ภูมฏฺเสุปิ. ติณปนฺถนิวาสิโนติ ¶ ติณคฺเคสุ เจว ปนฺเถสุ จ นิวาสิโน. ปฺุวนฺโตติ มหาปฺุา. มหิทฺธิกาติ มหานุภาวา. สงฺคีติโย ปวตฺเตนฺตีติ เทวนาฏกสงฺคีติโย ปวตฺเตนฺติ, ตถาคตํ ปูชนตฺถาย ปยุชฺชนฺตีติ อตฺโถ. อมฺพเรติ อากาเส. อนิลฺชเสติ อนิลปเถ, อมฺพรสฺส อเนกตฺถตฺตา ¶ ‘‘อนิลฺชเส’’ติ วุตฺตํ, ปุริมสฺเสว เววจนํ. จมฺมนทฺธานีติ จมฺมวินทฺธานิ. อยเมว วา ปาโ, เทวทุนฺทุภิโยติ อตฺโถ. วาเทนฺตีติ วาทยนฺติ เทวตา.
สงฺขาติ ธมนสงฺขา. ปณวาติ ตนุมชฺฌตุริยวิเสสา. ฑิณฺฑิมาติ ติณวาขุทฺทกเภริโย วุจฺจนฺติ. วชฺชนฺตีติ วาทยนฺติ. อพฺภุโต วต โนติ อจฺฉริโย วต นุ. อุปฺปชฺชีติ อุปฺปนฺโน. โลมหํสโนติ โลมหํสนกโร. ธุวนฺติ ยสฺมา ปน อพฺภุโต อยํ สตฺถา โลเก อุปฺปนฺโน, ตสฺมา ธุวํ อวสฺสํ อตฺถสิทฺธึ ลภามาติ อธิปฺปาโย. ลภามาติ ลภิสฺสาม. ขโณติ อฏฺกฺขณวิรหิโต นวโม ขโณติ อตฺโถ. โนติ อมฺหากํ. ปฏิปาทิโตติ ปฏิลทฺโธ.
พุทฺโธติ เตสํ สุตฺวานาติ พุทฺโธติ อิทํ วจนํ สุตฺวา เตสํ เทวานํ ปฺจวณฺณา ปีติ อุทปาทีติ อตฺโถ. ตาวเทติ ตสฺมึ กาเล. หิงฺการาติ หิงฺการสทฺทา, หึหินฺติ ยกฺขาทโย ปหฏฺกาเล กโรนฺติ. สาธุการาติ สาธุการสทฺทา จ ปวตฺตนฺติ. อุกฺกุฏฺีติ อุกฺกุฏฺิสทฺโท จ อุนฺนาทสทฺโท จาติ อตฺโถ. ปชาติ เทวาทโย อธิปฺเปตา. เกจิ ‘‘ปฏากา วิวิธา คคเน วตฺตนฺตี’’ติ ปนฺติ. คายนฺตีติ พุทฺธคุณปฏิสํยุตฺตํ คีตํ คายนฺติ.
เสเฬนฺตีติ ¶ มุเขน เสฬิตสทฺทํ กโรนฺติ. วาทยนฺตีติ ¶ มหตี วิปฺจิกามกรมุขาทโย วีณา จ ตุริยานิ จ ตถาคตสฺส ปูชนตฺถาย วาเทนฺติ ปโยเชนฺติ. ภุชานิ โปเถนฺตีติ ภุเช อปฺโผเฏนฺติ. ลิงฺควิปริยาโส ทฏฺพฺโพ. นจฺจนฺติ จาติ อฺเ จ นจฺจาเปนฺติ สยฺจ นจฺจนฺติ.
ยถา ตุยฺหํ มหาวีร, ปาเทสุ จกฺกลกฺขณนฺติ เอตฺถ เยน ปกาเรน ยถา. มหาวีริเยน โยคโต มหาวีโร. ปาเทสุ จกฺกลกฺขณนฺติ ตว อุโภสุ ปาทตเลสุ สหสฺสารํ สเนมิกํ สนาภิกํ สพฺพาการปริปูรํ จกฺกลกฺขณํ โสภตีติ อตฺโถ. จกฺก-สทฺโท ปนายํ สมฺปตฺติรถงฺคอิริยาปถทานรตนธมฺมขุรจกฺกลกฺขณาทีสุ ทิสฺสติ. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, จกฺกานิ เยหิ สมนฺนาคตานํ เทวมนุสฺสาน’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๓๑) สมฺปตฺติยํ ทิสฺสติ. ‘‘จกฺกํว วหโต ปท’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๑) รถงฺเค. ‘‘จตุจกฺกํ นวทฺวาร’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๒๙) อิริยาปเถ. ‘‘ททํ ภฺุช จ มา จ ปมาโท, จกฺกํ วตฺตย สพฺพปาณิน’’นฺติ (ชา. ๑.๗.๑๔๙) เอตฺถ ทาเน. ‘‘ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุภูต’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๒๔๓; ๓.๘๕; ม. นิ. ๓.๒๕๖) เอตฺถ รตนจกฺเก. ‘‘มยา ปวตฺติตํ จกฺก’’นฺติ (สุ. นิ. ๕๖๒; พุ. วํ. ๒๘.๑๗) เอตฺถ ปน ธมฺมจกฺเก. ‘‘อิจฺฉาหตสฺส ¶ โปสสฺส, จกฺกํ ภมติ มตฺถเก’’ติ (ชา. ๑.๑.๑๐๔; ๑.๕.๑๐๓) เอตฺถ ขุรจกฺเก, ปหรณจกฺเกติ อตฺโถ. ‘‘ปาทตเลสุ จกฺกานิ ชาตานี’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๕; ๓.๒๐๐, ๒๐๔; ม. นิ. ๒.๓๘๖) เอตฺถ ลกฺขเณ. อิธาปิ ลกฺขณจกฺเก ทฏฺพฺโพ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๔๘; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑๘๗; ๒.๔.๘; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๒.๔๔). ธชวชิรปฏากา, วฑฺฒมานงฺกุสาจิตนฺติ ธเชน จ วชิเรน จ ปฏากาย จ วฑฺฒมาเนน จ องฺกุเสน จ อาจิตํ อลงฺกตํ ปริวาริตํ ปาเทสุ จกฺกลกฺขณนฺติ อตฺโถ. จกฺกลกฺขเณ ปน คหิเต เสสลกฺขณานิ คหิตาเนว โหนฺติ. ตถา อสีติ อนุพฺยฺชนานิ พฺยามปฺปภา จ. ตสฺมา เตหิ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณาสีติอนุพฺยฺชนพฺยามปฺปภาหิ สมลงฺกโต ภควโต กาโย สพฺพผาลิผุลฺโล วิย ปาริจฺฉตฺตโก วิกสิตปทุมํ วิย กมลวนํ วิวิธรตนวิจิตฺตํ วิย นวกนกโตรณํ ตารามรีจิวิราชิตมิว คคนตลํ อิโต จิโต จ วิธาวมานา วิปฺผนฺทมานา ฉพฺพณฺณพุทฺธรสฺมิโย มฺุจมาโน อติวิย โสภติ.
อิทานิ ¶ ภควโต รูปกายธมฺมกายสมฺปตฺติทสฺสนตฺถํ –
‘‘รูเป สีเล สมาธิมฺหิ, ปฺาย จ อสาทิโส;
วิมุตฺติยา อสมสโม, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเน’’ติ. – อยํ คาถา วุตฺตา;
ตตฺถ รูเปติ อยํ รูป-สทฺโท ขนฺธภวนิมิตฺตปจฺจยสรีรวณฺณสณฺานาทีสุ ¶ ทิสฺสติ. ยถาห – ‘‘ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๓๖๑; ๓.๘๖, ๘๙; วิภ. ๒; มหาว. ๒๒) เอตฺถ รูปกฺขนฺเธ ทิสฺสติ. ‘‘รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวตี’’ติ (ธ. ส. ๑๖๐-๑๖๑; วิภ. ๖๒๔) เอตฺถ รูปภเว. ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๓๘; ม. นิ. ๒.๒๔๙; อ. นิ. ๑.๔๓๕-๔๔๒; ธ. ส. ๒๐๔-๒๐๕) เอตฺถ กสิณนิมิตฺเต. ‘‘สรูปา, ภิกฺขเว, อุปฺปชฺชนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา โน อรูปา’’ติ (อ. นิ. ๒.๘๓) เอตฺถ ปจฺจเย. ‘‘อากาโส ปริวาริโต รูปนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๐๖) เอตฺถ สรีเร. ‘‘จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณ’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๐๔, ๔๐๐; ๓.๔๒๑, ๔๒๕-๔๒๖; สํ. นิ. ๔.๖๐; กถา. ๔๖๕) เอตฺถ วณฺเณ. ‘‘รูปปฺปมาโณ รูปปฺปสนฺโน’’ติ (อ. นิ. ๔.๖๕) เอตฺถ สณฺาเน. อิธาปิ สณฺาเน ทฏฺพฺโพ (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑ รูปาทิวคฺควณฺณนา). สีเลติ จตุพฺพิเธ สีเล. สมาธิมฺหีติ ติวิเธปิ สมาธิมฺหิ. ปฺายาติ โลกิยโลกุตฺตราย ปฺาย. อสาทิโสติ อสทิโส อนุปโม. วิมุตฺติยาติ ผลวิมุตฺติยา ¶ . อสมสโมติ อสมา อตีตา พุทฺธา เตหิ อสเมหิ พุทฺเธหิ สีลาทีหิ สโมติ อสมสโม. เอตฺตาวตา ภควโต รูปกายสมฺปตฺติ ทสฺสิตา.
อิทานิ ภควโต กายพลาทึ ทสฺเสตุํ –
‘‘ทสนาคพลํ กาเย, ตุยฺหํ ปากติกํ พลํ;
อิทฺธิพเลน อสโม, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเน’’ติ. – วุตฺตํ;
ตตฺถ ทสนาคพลนฺติ ทสฉทฺทนฺตนาคพลํ. ทุวิธฺหิ ตถาคตสฺส พลํ – กายพลํ, าณพลฺจาติ. ตตฺถ กายพลํ หตฺถิกุลานุสาเรน เวทิตพฺพํ. กถํ?
‘‘กาฬาวกฺจ ¶ คงฺเคยฺยํ, ปณฺฑรํ ตมฺพปิงฺคลํ;
คนฺธมงฺคลเหมฺจ, อุโปสถฉทฺทนฺติเม ทสา’’ติ.(ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๔๘; สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๒๒; อ. นิ. อฏฺ. ๓.๑๐.๒๑; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๑๙๘; วิภ. อฏฺ. ๗๖๐; อุทา. อฏฺ. ๗๕; จูฬนิ. อฏฺ. ๘๑; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๒.๔๔) –
อิมานิ ทส หตฺถิกุลานิ เวทิตพฺพานิ. กาฬาวโกติ ปกติหตฺถิกุลํ. ยํ ทสนฺนํ ปุริสานํ กายพลํ, ตํ เอกสฺส กาฬาวกสฺส หตฺถิโน พลํ. ยํ ทสนฺนํ กาฬาวกานํ พลํ, ตํ เอกสฺส คงฺเคยฺยสฺสาติ เอเตเนว อุปาเยน ยาว ฉทฺทนฺตพลํ เนตพฺพนฺติ. ยํ ทสนฺนํ ฉทฺทนฺตานํ พลํ, ตํ เอกสฺส ตถาคตสฺส พลํ, นารายนพลํ วชิรพลนฺติ อิทเมว วุจฺจติ. ตเทตํ ปกติหตฺถิคณนาย หตฺถิโกฏิสหสฺสานํ พลํ, ปุริสคณนาย ทสนฺนํ ¶ ปุริสโกฏิสหสฺสานํ พลํ โหติ. อิทํ ตาว ตถาคตสฺส ปกติกายพลํ, าณพลํ ปน อปฺปเมยฺยํ ทสพลาณํ จตุเวสารชฺชาณํ อฏฺสุ ปริสาสุ อกมฺปนาณํ จตุโยนิปริจฺเฉทกาณํ ปฺจคติปริจฺเฉทกาณํ จุทฺทส พุทฺธาณานีติ เอวมาทิกํ าณพลํ. อิธ ปน กายพลํ อธิปฺเปตํ. กาเย, ตุยฺหํ ปากติกํ พลนฺติ ตฺจ ปน ตว กาเย ปากติกพลนฺติ อตฺโถ. ตสฺมา ‘‘ทสนาคพล’’นฺติ ทสฉทฺทนฺตนาคพลนฺติ อตฺโถ.
อิทานิ าณพลํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทฺธิพเลน อสโม, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเน’’ติ อาห. ตตฺถ อิทฺธิพเลน อสโมติ วิกุพฺพนาธิฏฺานาทินา อิทฺธิพเลน ¶ อสโม อสทิโส อนุปโม. ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเนติ เทสนาาเณปิ อสโมติ อตฺโถ.
อิทานิ ‘‘โย เอวมาทิคุณสมนฺนาคโต สตฺถา, โส สพฺพโลเกกนายโก, ตํ สตฺถารํ นมสฺสถา’’ติ ตถาคตสฺส ปณามเน นิโยคทสฺสนตฺถํ –
‘‘เอวํ สพฺพคุณูเปตํ, สพฺพงฺคสมุปาคตํ;
มหามุนึ การุณิกํ, โลกนาถํ นมสฺสถา’’ติ. – วุตฺตํ;
ตตฺถ เอวนฺติ วุตฺตปฺปการนิทสฺสเน นิปาโต. สพฺพคุณูเปตนฺติ เอตฺถ สพฺโพติ อยํ นิรวเสสวาจี. คุโณติ อยํ คุณ-สทฺโท อเนเกสุ อตฺเถสุ ¶ ทิสฺสติ. ตถา เหส – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อหตานํ วตฺถานํ ทิคุณํ สงฺฆาฏิ’’นฺติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๕๔๖; มหาว. ๓๔๘) เอตฺถ ปฏลตฺเถ ทิสฺสติ. ‘‘อจฺเจนฺติ กาลา ตรยนฺติ รตฺติโย, วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๔) เอตฺถ ราสตฺเถ. ‘‘สตคุณา ทกฺขิณา ปาฏิกงฺขิตพฺพา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๗๙) เอตฺถ อานิสํสตฺเถ. ‘‘อนฺตํ อนฺตคุณํ’’ (ที. นิ. ๒.๓๗๗; ม. นิ. ๑.๑๑๐, ๓๐๒; ๒.๑๑๔; ๓.๑๕๔, ๓๔๙; ขุ. ปา. ๓.ทฺวตฺตึสาการ) ‘‘กยิรา มาลาคุเณ พหู’’ติ (ธ. ป. ๕๓) เอตฺถ พนฺธนตฺเถ. ‘‘อฏฺคุณสมุเปตํ, อภิฺาพลมาหริ’’นฺติ (พุ. วํ. ๒.๒๙) เอตฺถ สมฺปตฺติอตฺเถ. อิธาปิ สมฺปตฺติอตฺเถ ทฏฺพฺโพ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๕๔๖; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๖๖; จูฬนิ. อฏฺ. ๑๓๖). ตสฺมา สพฺเพหิ โลกิยโลกุตฺตเรหิ คุเณหิ สพฺพสมฺปตฺตีหิ อุเปตํ สมนฺนาคตนฺติ อตฺโถ. สพฺพงฺคสมุปาคตนฺติ สพฺเพหิ พุทฺธคุเณหิ คุณงฺเคหิ วา สมุปาคตํ สมนฺนาคตํ. มหามุนินฺติ อฺเหิ ปจฺเจกพุทฺธาทีหิ มุนีหิ อธิกภาวโต มหนฺโต มุนีติ วุจฺจติ มหามุนิ. การุณิกนฺติ ¶ กรุณาคุณโยคโต การุณิกํ. โลกนาถนฺติ สพฺพโลเกกนาถํ, สพฺพโลเกหิ ‘‘อยํ โน ทุกฺโขปตาปสฺส อาหนฺตา สเมตา’’ติ เอวมาสีสียตีติ อตฺโถ.
อิทานิ ทสพลสฺส สพฺพนิปจฺจาการสฺส อรหภาวทสฺสนตฺถํ –
‘‘อภิวาทนํ โถมนฺจ, วนฺทนฺจ ปสํสนํ;
นมสฺสนฺจ ปูชฺจ, สพฺพํ อรหสี ตุวํ.
‘‘เย ¶ เกจิ โลเก วนฺทเนยฺยา, วนฺทนํ อรหนฺติ เย;
สพฺพเสฏฺโ มหาวีร, สทิโส เต น วิชฺชตี’’ติ. – วุตฺตํ;
ตตฺถ อภิวาทนนฺติ อฺเหิ อตฺตโน อภิวาทนการาปนํ. โถมนนฺติ ปรมฺมุขโต ถุติ. วนฺทนนฺติ ปณามนํ. ปสํสนนฺติ สมฺมุขโต ปสํสนํ. นมสฺสนนฺติ อฺชลิกรณํ, มนสา นมสฺสนํ วา. ปูชนนฺติ มาลาคนฺธวิเลปนาทีหิ ปูชนฺจ. สพฺพนฺติ สพฺพมฺปิ ตํ วุตฺตปฺปการํ สกฺการวิเสสํ ตุวํ อรหสิ ยุตฺโตติ อตฺโถ. เย เกจิ โลเก วนฺทเนยฺยาติ เย เกจิ โลเก วนฺทิตพฺพา วนฺทนียา วนฺทนํ อรหนฺติ. เยติ เย ปน โลเก ¶ วนฺทนํ อรหนฺติ. อิทํ ปน ปุริมปทสฺเสว เววจนํ. สพฺพเสฏฺโติ สพฺเพสํ เตสํ เสฏฺโ อุตฺตโม, ตฺวํ มหาวีร สทิโส เต โลเก โกจิ น วิชฺชตีติ อตฺโถ.
อถ ภควติ ยมกปาฏิหาริยํ ทสฺเสตฺวา รตนจงฺกมํ มาเปตฺวา ตตฺร จงฺกมมาเน อายสฺมา สาริปุตฺโต ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต ปฺจหิ ปริวารภิกฺขุสเตหิ. อถ เถโร ภควนฺตํ โอโลเกนฺโต อทฺทส กปิลปุเร อากาเส รตนจงฺกเม จงฺกมมานํ. เตน วุตฺตํ –
‘‘สาริปุตฺโต มหาปฺโ, สมาธิชฺฌานโกวิโท;
คิชฺฌกูเฏ ิโตเยว, ปสฺสติ โลกนายก’’นฺติ. – อาทิ;
ตตฺถ สาริปุตฺโตติ รูปสาริยา นาม พฺราหฺมณิยา ปุตฺโตติ สาริปุตฺโต. มหาปฺโติ มหติยา โสฬสวิธาย ปฺาย สมนฺนาคโตติ มหาปฺโ. สมาธิชฺฌานโกวิโทติ เอตฺถ สมาธีติ จิตฺตํ สมํ อาทหติ อารมฺมเณ เปตีติ สมาธิ. โส ติวิโธ โหติ สวิตกฺกสวิจาโร อวิตกฺกวิจารมตฺโต อวิตกฺกอวิจาโร สมาธีติ. ฌานนฺติ ปมชฺฌานํ ทุติยชฺฌานํ ตติยชฺฌานํ จตุตฺถชฺฌานนฺติ ¶ อิเมหิ ปมชฺฌานาทีหิ เมตฺตาฌานาทีนิปิ สงฺคหิตาเนว โหนฺติ, ฌานมฺปิ ทุวิธํ โหติ ลกฺขณูปนิชฺฌานํ อารมฺมณูปนิชฺฌานนฺติ. ตตฺถ อนิจฺจาทิลกฺขณํ อุปนิชฺฌายตีติ วิปสฺสนาาณํ ‘‘ลกฺขณูปนิชฺฌาน’’นฺติ วุจฺจติ. ปมชฺฌานาทิกํ ปน อารมฺมณูปนิชฺฌานโต ปจฺจนีกฌาปนโต วา ฌานนฺติ วุจฺจติ. สมาธีสุ จ ฌาเนสุ จ โกวิโทติ สมาธิชฺฌานโกวิโท, สมาธิชฺฌานกุสโลติ อตฺโถ. คิชฺฌกูเฏติ เอวํนามเก ปพฺพเต ิโตเยว ปสฺสตีติ ปสฺสิ.
๔๔. สุผุลฺลํ ¶ สาลราชํ วาติ สมวฏฺฏกฺขนฺธํ สมุคฺคตวิปุลโกมลผลปลฺลวงฺกุรสมลงฺกตสาขํ สพฺพผาลิผุลฺลํ สาลราชํ วิย สีลมูลํ สมาธิกฺขนฺธํ ปฺาสาขํ อภิฺาปุปฺผํ วิมุตฺติผลํ ทสพลสาลราชํ โอโลเกสีติ เอวํ โอโลกปเทน สมฺพนฺโธ. จนฺทํว คคเน ยถาติ อพฺภาหิมธูมรโชราหุปสคฺควินิมุตฺตํ ตารคณปริวุตํ สรทสมเย ปริปุณฺณํ วิย ¶ รชนิกรํ สพฺพกิเลสติมิรวิธมนกรํ เวเนยฺยชนกุมุทวนวิกสนกรํ มุนิวรรชนิกรํ โอโลเกตีติ อตฺโถ. ยถาติ นิปาตมตฺตํ. มชฺฌนฺหิเกว สูริยนฺติ มชฺฌนฺหิกสมเย สิริยา ปฏุตรกิรณมาลินํ อํสุมาลินมิว วิโรจมานํ. นราสภนฺติ นรวสภํ.
๔๕. ชลนฺตนฺติ ททฺทฬฺหมานํ, สรทสมยํ ปริปุณฺณจนฺทสสฺสิริกจารุวทนโสภํ ลกฺขณานุพฺยฺชนสมลงฺกตวรสรีรํ ปรมาย พุทฺธสิริยา วิโรจมานนฺติ อตฺโถ. ทีปรุกฺขํ วาติ อาโรปิตทีปํ ทีปรุกฺขมิว. ตรุณสูริยํว อุคฺคตนฺติ อภินโวทิตาทิจฺจมิว, โสมฺมภาเวน ชลนฺตนฺติ อตฺโถ. สูริยสฺส ตรุณภาโว ปน อุทยํ ปฏิจฺจ วุจฺจติ. น หิ จนฺทสฺส วิย หานิวุทฺธิโย อตฺถิ. พฺยามปฺปภานุรฺชิตนฺติ พฺยามปฺปภาย อนุรฺชิตํ. ธีรํ ปสฺสติ โลกนายกนฺติ สพฺพโลเกกธีรํ ปสฺสติ นายกนฺติ อตฺโถ.
อถายสฺมา ธมฺมเสนาปติ อติสีตลสลิลธรนิกรปริจุมฺพิตกูเฏ นานาวิธสุรภิตรุกุสุมวาสิตกูเฏ ปรมรุจิรจิตฺตกูเฏ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต ตฺวาว ทสหิ จกฺกวาฬสหสฺเสหิ อาคเตหิ เทวพฺรหฺมคเณหิ ปริวุตํ ภควนฺตํ อนุตฺตราย พุทฺธสิริยา อโนปมาย ¶ พุทฺธลีฬาย สพฺพรตนมเย จงฺกเม จงฺกมมานํ ทิสฺวา – ‘‘หนฺทาหํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา พุทฺธคุณปริทีปนํ พุทฺธวํสเทสนํ ยาเจยฺย’’นฺติ จินฺเตตฺวา อตฺตนา สทฺธึ วสมานานิ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ สนฺนิปาเตสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ, กตกิจฺจาน ตาทินํ;
ขีณาสวานํ วิมลานํ, ขเณน สนฺนิปาตยี’’ติ.
ตตฺถ ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานนฺติ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ, อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ ทฏฺพฺพํ. กตกิจฺจานนฺติ จตูสุ สจฺเจสุ จตูหิ มคฺเคหิ ปริฺาปหานสจฺฉิกิริยภาวนาวเสน ปรินิฏฺิตโสฬสกิจฺจานนฺติ อตฺโถ. ขีณาสวานนฺติ ปริกฺขีณจตุราสวานํ. วิมลานนฺติ วิคตมลานํ ¶ , ขีณาสวตฺตา วา วิมลานํ ปรมปริสุทฺธจิตฺตสนฺตานานนฺติ อตฺโถ. ขเณนาติ ขเณเยว. สนฺนิปาตยีติ สนฺนิปาเตสิ.
อิทานิ ¶ เตสํ ภิกฺขูนํ สนฺนิปาเต คมเน จ การณํ ทสฺสนตฺถํ –
‘‘โลกปฺปสาทนํ นาม, ปาฏิหีรํ นิทสฺสยิ;
อมฺเหปิ ตตฺถ คนฺตฺวาน, วนฺทิสฺสาม มยํ ชินํ.
‘‘เอถ สพฺเพ คมิสฺสาม, ตุจฺฉิสฺสาม มยํ ชินํ;
กงฺขํ วิโนทยิสฺสาม, ปสฺสิตฺวา โลกนายก’’นฺติ. – อิมา คาถาโย วุตฺตา;
ตตฺถ โลกปฺปสาทนํ นามาติ โลกสฺส ปสาทกรณโต โลกปฺปสาทนํ ปาฏิหีรํ วุจฺจติ. ‘‘อุลฺโลกปฺปสาทนํ นามาติปิ ปาโ, ตสฺส โลกวิวรณปาฏิหาริยนฺติ อตฺโถ. ตํ ปน อุทฺธํ อกนิฏฺภวนโต เหฏฺา ยาว อวีจิ เอตฺถนฺตเร เอกาโลกํ กตฺวา เอตฺถนฺตเร สพฺเพสมฺปิ สตฺตานํ อฺมฺํ ทสฺสนกรณาธิฏฺานนฺติ วุจฺจติ. นิทสฺสยีติ ทสฺเสสิ. อมฺเหปีติ มยมฺปิ. ตตฺถาติ ยตฺถ ภควา, ตตฺถ คนฺตฺวานาติ อตฺโถ. วนฺทิสฺสามาติ มยํ ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทิสฺสาม. เอตฺถ ปน อมฺเหปิ, มยนฺติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ สทฺทานํ ปุริมสฺส คมนกิริยาย สมฺพนฺโธ ทฏฺพฺโพ, ปจฺฉิมสฺส วนฺทนกิริยาย. อิตรถา หิ ปุนรุตฺติโทสโต น มุจฺจติ.
เอถาติ อาคจฺฉถ. กงฺขํ ¶ วิโนทยิสฺสามาติ เอตฺถาห – ขีณาสวานํ ปน กงฺขา นาม กาจิปิ นตฺถิ, กสฺมา เถโร เอวมาหาติ? สจฺจเมเวตํ, ปมมคฺเคเนว สมุจฺเฉทํ คตา. ยถาห –
‘‘กตเม ธมฺมา ทสฺสเนน ปหาตพฺพาติ? จตฺตาโร ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทา วิจิกิจฺฉาสหคโต จิตฺตุปฺปาโท อปายคมนีโย โลโภ โทโส โมโห มาโน ตเทกฏฺา จ กิเลสา’’ติ (ธ. ส. ๑๔๐๕ โถกํ วิสทิสํ).
น ปเนสา วิจิกิจฺฉาสงฺขาตา กงฺขาติ, กินฺตุ ปฺตฺติอชานนํ นาม. เถโร ปน ภควนฺตํ พุทฺธวํสํ ปุจฺฉิตุกาโม, โส ปน พุทฺธานํเยว วิสโย, น ปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกานํ, ตสฺมา เถโร อวิสยตฺตา เอวมาหาติ เวทิตพฺพํ. วิโนทยิสฺสามาติ วิโนเทสฺสาม.
อถ ¶ ¶ โข เต ภิกฺขู เถรสฺส วจนํ สุตฺวา อตฺตโน อตฺตโน ปตฺตจีวรมาทาย สุวมฺมิตา วิย มหานาคา ปภินฺนกิเลสา ฉินฺนพนฺธนา อปฺปิจฺฉา สนฺตุฏฺา ปวิวิตฺตา อสํสฏฺา สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺนา ตรมานา สนฺนิปตฺตึสุ. เตน วุตฺตํ –
‘‘สาธูติ เต ปฏิสฺสุตฺวา, นิปกา สํวุตินฺทฺริยา;
ปตฺตจีวรมาทาย, ตรมานา อุปาคมุ’’นฺติ.
ตตฺถ สาธูติ อยํ สาธุ-สทฺโท อายาจนสมฺปฏิจฺฉนสมฺปหํสนสุนฺทราทีสุ ทิสฺสติ. ตถา เหส – ‘‘สาธุ เม, ภนฺเต ภควา, สํขิตฺเตน ธมฺมํ เทเสตู’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๙๕; ๕.๓๘๒; อ. นิ. ๔.๒๕๗) อายาจเน ทิสฺสติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเตติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๘๖) สมฺปฏิจฺฉเน. ‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺตา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๔๙) สมฺปหํสเน.
‘‘สาธุ ธมฺมรุจิ ราชา, สาธุ ปฺาณวา นโร;
สาธุ มิตฺตานมทฺทุพฺโภ, ปาปสฺสากรณํ สุข’’นฺติ. –
อาทีสุ (ชา. ๒.๑๘.๑๐๑) สุนฺทเร. อิธ สมฺปฏิจฺฉเน. ตสฺมา สาธุ สุฏฺูติ เถรสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวาติ อตฺโถ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๘๙; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑ สุตฺตนิกฺเขปวณฺณนา; สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑๑๕ อคฺคิกภารทฺวาชสุตฺตวณฺณนา). นิปกาติ ปณฺฑิตา ปฺวนฺตา. สํวุตินฺทฺริยาติ อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารา, อินฺทฺริยสํวรสมนฺนาคตาติ อตฺโถ. ตรมานาติ ตุริตา. อุปาคมุนฺติ เถรํ อุปสงฺกมึสุ.
๕๐-๑. อิทานิ ¶ ธมฺมเสนาปติสฺส ปวตฺตึ ทสฺเสนฺเตหิ สงฺคีติการเกหิ ‘‘ขีณาสเวหิ วิมเลหี’’ติอาทิคาถาโย วุตฺตา ตตฺถ ทนฺเตหีติ กาเยน จ จิตฺเตน จ ทนฺเตหิ. อุตฺตเม ทเมติ อรหตฺเต, นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ ทฏฺพฺพํ. เตหิ ภิกฺขูหีติ ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ. มหาคณีติ สีลาทีหิ จ สงฺขฺยาวเสน จ มหนฺโต คโณ อสฺส อตฺถีติ มหาคณี, นานาปทวเสน วา สีลาทีหิ คุเณหิ มหนฺโต คโณติ มหาคโณ, มหาคโณ อสฺส อตฺถีติ มหาคณี. ลฬนฺโต เทโวว คคเนติ อิทฺธิวิลาเสน วิลาเสนฺโต เทโว วิย คคนตเล ภควนฺตํ อุปสงฺกมีติ อตฺโถ.
๕๒. อิทานิ ¶ ‘‘เต อิตฺถมฺภูตา อุปสงฺกมึสู’’ติ อุปสงฺกมวิธานทสฺสนตฺถํ ‘‘อุกฺกาสิตฺจ ขิปิต’’นฺติอาทิ ¶ อารทฺธํ. ตตฺถ อุกฺกาสิตฺจาติ อุกฺกาสิตสทฺทฺจ. ขิปิตนฺติ ขิปิตสทฺทฺจ. อชฺฌุเปกฺขิยาติ อุเปกฺขิตฺวา, ตํ อุภยํ อกตฺวาติ อธิปฺปาโย. สุพฺพตาติ สุวิมลธุตคุณา. สปฺปติสฺสาติ สหปติสฺสยา, นีจวุตฺติโนติ อตฺโถ.
๕๓. สยมฺภุนฺติ สยเมว อฺาปเทสํ วินา ปารมิโย ปูเรตฺวา อธิคตพุทฺธภาวนฺติ อตฺโถ. อจฺจุคฺคตนฺติ อภินโวทิตํ. จนฺทํ วาติ จนฺทํ วิย, นเภ ชลนฺตํ ภควนฺตํ คคเน จนฺทํ วิย ปสฺสนฺตีติ เอวํ ปทสมฺพนฺโธ ทฏฺพฺโพ. อิธาปิ ยถา-สทฺโท นิปาตมตฺโตว.
๕๔. วิชฺชุํ วาติ วิชฺชุฆนํ วิย. ยทิ จิรฏฺิติกา อจิรปฺปภา อสฺส ตาทิสนฺติ อตฺโถ. คคเน ยถาติ อากาเส ยถา, อิธาปิ ยถา-สทฺโท นิปาตมตฺโตว. อิโต ปรมฺปิ อีทิเสสุ าเนสุ ยถา-สทฺโท นิปาตมตฺโตติ ทฏฺพฺโพ.
๕๕. รหทมิว วิปฺปสนฺนนฺติ อติคมฺภีรวิตฺถตํ มหารหทํ วิย อนาวิลํ วิปฺปสนฺนํ สลิลํ. สุผุลฺลํ ปทุมํ ยถาติ สุวิกสิตปทุมวนํ รหทมิวาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ‘‘สุผุลฺลํ กมลํ ยถา’’ติปิ ปาโ, ตสฺส กมนียภาเวน สุผุลฺลํ กมลวนมิวาติ อตฺโถ.
๕๖. อถ เต ภิกฺขู ธมฺมเสนาปติปฺปมุขา อฺชลึ สิรสิ กตฺวา ทสพลสฺส จกฺกาลงฺกตตเลสุ ปาเทสุ นิปตึสูติ อตฺโถ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อฺชลึ ปคฺคเหตฺวาน, ตุฏฺหฏฺา ปโมทิตา’’ติอาทิ. ตตฺถ นิปตนฺตีติ นิปตึสุ, วนฺทึสูติ อตฺโถ. จกฺกลกฺขเณติ ¶ จกฺกํ ลกฺขณํ ยสฺมึ ปาเท โส ปาโท จกฺกลกฺขโณ, ตสฺมึ จกฺกลกฺขเณ. ชาติวเสน ‘‘ปาเท’’ติ วุตฺตํ, สตฺถุโน จกฺกาลงฺกตตเลสุ ปาเทสุ นิปตึสูติ อตฺโถ.
๕๗. อิทานิ เตสํ เกสฺจิ เถรานํ นามํ ทสฺเสนฺเตหิ ‘‘สาริปุตฺโต มหาปฺโ, โกรณฺฑสมสาทิโส’’ติอาทิ คาถาโย วุตฺตา. ตตฺถ โกรณฺฑสมสาทิโสติ โกรณฺฑกุสุมสทิสวณฺโณ, ยทิ เอวํ ‘‘โกรณฺฑสโม’’ติ วา, ‘‘โกรณฺฑสทิโส’’ติ วา วตฺตพฺพํ, กึ ทฺวิกฺขตฺตุํ ¶ ‘‘สมสาทิโส’’ติ วุตฺตนฺติ เจ? นายํ โทโส, ตาทิโส โกรณฺฑสมตฺตา โกรณฺฑสทิสภาเวเนว โกรณฺฑสมสาทิโส. น ปนาธิกวจนวเสนาติ อธิปฺปาโย. สมาธิชฺฌานกุสโลติ เอตฺถ อยํ กุสล-สทฺโท ตาว อโรคฺยานวชฺชเฉกสุขวิปากาทีสุ ทิสฺสติ. อยฺหิ ‘‘กจฺจิ นุ โภโต กุสลํ, กจฺจิ โภโต อนามย’’นฺติอาทีสุ (ชา. ๑.๑๕.๑๔๖; ๒.๒๐.๑๒๙) อาโรคฺเย ทิสฺสติ. ‘‘กตโม ปน, ภนฺเต, กายสมาจาโร กุสโล ¶ ? โย โข, มหาราช, กายสมาจาโร อนวชฺโช’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๖๑) เอวมาทีสุ อนวชฺเช. ‘‘กุสโล ตฺวํ รถสฺส องฺคปจฺจงฺคาน’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๘๗) เฉเก. ‘‘กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๔๓๑ อาทโย) สุขวิปาเก. อิธ ปน เฉเก ทฏฺพฺโพ. วนฺทเตติ วนฺทิตฺถ.
๕๘. คชฺชิตาติ คชฺชนฺตีติ คชฺชิตา. กาลเมโฆ วาติ นีลสลิลธโร วิย คชฺชิตา อิทฺธิวิสเยติ อธิปฺปาโย. นีลุปฺปลสมสาทิโสติ นีลกุวลยสทิสวณฺโณ. เหฏฺา วุตฺตนเยเนเวตฺถาปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. โมคฺคลฺลาโนติ เอวํ โคตฺตวเสน ลทฺธนาโม โกลิโต.
๕๙. มหากสฺสโปปิ จาติ อุรุเวลกสฺสปนทีกสฺสปคยากสฺสปกุมารกสฺสเป ขุทฺทานุขุทฺทเก เถเร อุปาทาย อยํ มหา, ตสฺมา ‘‘มหากสฺสโป’’ติ วุตฺโต. ปิ จาติ สมฺภาวนสมฺปิณฺฑนตฺโถ. อุตฺตตฺตกนกสนฺนิโภติ สนฺตตฺตสุวณฺณสทิสฉวิวณฺโณ. ธุตคุเณติ เอตฺถ กิเลสธุนนโต ธมฺโม ธุโต นาม, ธุตคุโณ นาม ธุตธมฺโม. กตโม ปน ธุตธมฺโม นาม? อปฺปิจฺฉตา, สนฺตุฏฺิตา, สลฺเลขตา, ปวิเวกตา, อิทมฏฺิกตาติ อิเม ธุตงฺคเจตนาย ปริวารภูตา ปฺจ ธมฺมา ‘‘อปฺปิจฺฉํเยว นิสฺสายา’’ติอาทิวจนโต ธุตธมฺมา นาม. อถ วา กิเลเส ธุนนโต าณํ ธุตํ นาม, ตสฺมึ ธุตคุเณ. อคฺคนิกฺขิตฺโตติ ¶ อคฺโค เสฏฺโ โกฏิภูโตติ ปิโต. ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ธุตวาทานํ ยทิทํ มหากสฺสโป’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๘, ๑๙๑) านนฺตเร ปิโตติ อตฺโถ. อยํ ปน อคฺค-สทฺโท อาทิโกฏิโกฏฺาสเสฏฺาทีสุ ทิสฺสติ. ตถา เหส – ‘‘อชฺชตคฺเค, สมฺม โทวาริก ¶ , อาวรามิ ทารํ นิคณฺานํ นิคณฺีน’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๗๐) อาทิมฺหิ ทิสฺสติ. ‘‘เตเนว องฺคุลคฺเคน ตํ องฺคุลคฺคํ ปรามเสยฺย’’ (กถา. ๔๔๑), ‘‘อุจฺฉคฺคํ เวฬคฺค’’นฺติอาทีสุ โกฏิยํ. ‘‘อมฺพิลคฺคํ วา มธุรคฺคํ วา’’ (สํ. นิ. ๕.๓๗๔) ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วิหารคฺเคน วา ปริเวณคฺเคน วา ภาเชตุ’’นฺติอาทีสุ (จูฬว. ๓๑๘) โกฏฺาเส. ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, สตฺตา อปทา วา ทฺวิปทา วา…เป… ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๓๔) เสฏฺเ. สฺวายมิธ เสฏฺเ ทฏฺพฺโพ. โกฏิยมฺปิ วตฺตติ. เถโร อตฺตโน าเน เสฏฺโ เจว โกฏิภูโต จ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อคฺคนิกฺขิตฺโต’’ติ, อคฺโค เสฏฺโ โกฏิภูโตติ อตฺโถ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๕๐ สรณคมนกถา; ปารา. อฏฺ. ๑.๑๕). โถมิโตติ ปสํสิโต เทวมนุสฺสาทีหิ. สตฺถุ วณฺณิโตติ สตฺถารา วณฺณิโต ถุโต, ‘‘กสฺสโป, ภิกฺขเว, จนฺทูปโม กุลานิ อุปสงฺกมติ อปกสฺเสว ¶ กายํ อปกสฺส จิตฺตํ นิจฺจนวโก กุเลสุ อปฺปคพฺโภ’’ติ เอวมาทีหิ อเนเกหิ สุตฺตนเยหิ (สํ. นิ. ๒.๑๔๖) วณฺณิโต ปสตฺโถ, โสปิ ภควนฺตํ วนฺทตีติ อตฺโถ.
๖๐. ทิพฺพจกฺขูนนฺติ ทิพฺพํ จกฺขุ เยสํ อตฺถิ เต ทิพฺพจกฺขู, เตสํ ทิพฺพจกฺขูนํ ภิกฺขูนํ อคฺโค เสฏฺโติ อตฺโถ. ยถาห – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ทิพฺพจกฺขุกานํ ยทิทํ อนุรุทฺโธ’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๘, ๑๙๒). อนุรุทฺธตฺเถโร ภควโต จูฬปิตุโน อมิโตทนสฺส นาม สกฺกสฺส ปุตฺโต มหานามสฺส กนิฏฺภาตา มหาปฺุโ ปรมสุขุมาโล, โส อตฺตสตฺตโม นิกฺขมิตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต, ตสฺส ปพฺพชฺชานุกฺกโม สงฺฆเภทกกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๓๐ อาทโย) อาคโตว. อวิทูเร วาติ ภควโต สนฺติเกเยว.
๖๑. อาปตฺติอนาปตฺติยาติ อาปตฺติยฺจ อนาปตฺติยฺจ โกวิโท. สเตกิจฺฉายาติ สปฺปฏิกมฺมายปิ อปฺปฏิกมฺมายปิ จาติ อตฺโถ. ตตฺถ สปฺปฏิกมฺมา สา ฉพฺพิธา โหติ, อปฺปฏิกมฺมา สา ปาราชิกาปตฺติ. ‘‘อาปตฺติอนาปตฺติยา, สเตกิจฺฉาย โกวิโท’’ติปิ ปาโ, โสเยว อตฺโถ. วินเยติ ¶ วินยปิฏเก. อคฺคนิกฺขิตฺโตติ ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว ¶ , มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ วินยธรานํ ยทิทํ, อุปาลี’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๑๙, ๒๒๘) เอตทคฺคฏฺาเน ปิโตติ อตฺโถ. อุปาลีติ อุปาลิตฺเถโร. สตฺถุ วณฺณิโตติ สตฺถารา วณฺณิโต ปสตฺโถ. เถโร กิร ตถาคตสฺเสว สนฺติเก วินยปิฏกํ อุคฺคณฺหิตฺวา ภารุกจฺฉกวตฺถุํ (ปารา. ๗๘), อชฺชุกวตฺถุํ (ปารา. ๑๕๘), กุมารกสฺสปวตฺถุนฺติ (ม. นิ. ๑.๒๔๙) อิมานิ ตีณิ วตฺถูนิ สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา กเถสิ. ตสฺมา เถโร วินยธรานํ อคฺโคติ เอวมาทินา นเยน สตฺถารา วณฺณิโตติ วุตฺโต.
๖๒. สุขุมนิปุณตฺถปฏิวิทฺโธติ ปฏิวิทฺธสุขุมนิปุณตฺโถ, ปฏิวิทฺธทุทฺทสนิปุณตฺโถติ อตฺโถ. กถิกานํ ปวโรติ ธมฺมกถิกานํ เสฏฺโ. ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ธมฺมกถิกานํ ยทิทํ ปุณฺโณ มนฺตาณิปุตฺโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๘, ๑๙๖) เอตทคฺคปาฬิยํ อาโรปิโต. เตน วุตฺตํ ‘‘กถิกานํ ปวโร’’ติ. คณีติ สสงฺโฆ. เถรสฺส กิร สนฺติเก ปพฺพชิตา กุลปุตฺตา ปฺจสตา อเหสุํ. สพฺเพปิ เต ทสพลสฺส ชาตภูมิกา ชาตรฏฺวาสิโน สพฺเพว ขีณาสวา สพฺเพว ทสกถาวตฺถุลาภิโน. เตน วุตฺตํ ‘‘คณี’’ติ. อิสีติ เอสติ คเวสติ กุสเล ธมฺเมติ อิสิ. มนฺตาณิยา ปุตฺโตติ มนฺตาณิยา นาม พฺราหฺมณิยา ปุตฺโต. ปุณฺโณติ ตสฺส นามํ. วิสฺสุโตติ อตฺตโน อปฺปิจฺฉตาทีหิ คุเณหิ วิสฺสุโต.
อฺาสิโกณฺฑฺตฺเถโร ¶ ปน สตฺถริ อภิสมฺโพธึ ปตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺเก อนุปุพฺเพน อาคนฺตฺวา ราชคหํ อุปนิสฺสาย วิหรนฺเต กปิลวตฺถุํ อาคนฺตฺวา อตฺตโน ภาคิเนยฺยํ ปุณฺณํ นาม มาณวํ ปพฺพาเชตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา อาปุจฺฉิตฺวา นิวาสตฺถาย สยํ ฉทฺทนฺตทหํ คโต. ปุณฺโณ ปน ภควนฺตํ ทสฺสนาย เถเรน สทฺธึ อาคนฺตฺวา – ‘‘มยฺหํ ปพฺพชิตกิจฺจํ มตฺถกํ ปาเปตฺวาว ทสพลสฺส สนฺติกํ คมิสฺสามี’’ติ กปิลปุเรเยว โอหีโน, โส โยนิโสมนสิการํ กโรนฺโต นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปตฺวา ภควนฺตํ อุปสงฺกมิ. เอตฺถ ปน อนุรุทฺธตฺเถโร จ อุปาลิตฺเถโร จ อิเม ทฺเว เถรา ภควโต กปิลวตฺถุปุรํ ปวิสิตฺวา าติสมาคมทิวเส ปพฺพชิตา วิย ทสฺสิตา, ตํ ปน ขนฺธกปาฬิยา อฏฺกถาย จ น สเมติ. วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.
อถ ¶ สตฺถา สาริปุตฺตตฺเถราทีนํ ¶ ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ จิตฺตาจารมฺาย อตฺตโน คุเณ กเถตุมารภิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘เอเตสํ จิตฺตมฺาย, โอปมฺมกุสโล มุนิ;
กงฺขจฺเฉโท มหาวีโร, กเถสิ อตฺตโน คุณ’’นฺติ.
ตตฺถ โอปมฺมกุสโลติ อุปมาย กุสโล. กงฺขจฺเฉโทติ สพฺพสตฺตานํ สํสยจฺเฉทโก.
อิทานิ เต อตฺตโน คุเณ กเถสิ, เต ทสฺเสตุํ –
‘‘จตฺตาโร เต อสงฺขฺเยยฺยา, โกฏิ เยสํ น นายติ;
สตฺตกาโย จ อากาโส, จกฺกวาฬา จนนฺตกา;
พุทฺธาณํ อปฺปเมยฺยํ, น สกฺกา เอเต วิชานิตุ’’นฺติ. – วุตฺตํ;
ตตฺถ จตฺตาโรติ คณนปริจฺเฉโท. เอเตติ อิทานิ วตฺตพฺเพ อตฺเถ นิทสฺเสติ. อสงฺขฺเยยฺยาติ สงฺขฺยาตุมสกฺกุเณยฺยตฺตา อสงฺขฺเยยฺยา, คณนปถํ วีติวตฺตาติ อตฺโถ. โกฏีติอาทิ วา อนฺโต วา มริยาทา. เยสนฺติ เยสํ จตุนฺนํ อสงฺขฺเยยฺยานํ. น นายตีติ น ปฺายติ. อิทานิ เต วุตฺตปฺปกาเร จตฺตาโร อสงฺขฺเยยฺเย ทสฺเสตุํ ‘‘สตฺตกาโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. สตฺตกาโยติ สตฺตสมูโห, สตฺตกาโย อนนฺโต อปริมาโณ อปฺปเมยฺโย. ตถา อากาโส อากาสสฺสาปิ อนฺโต นตฺถิ. ตถา จกฺกวาฬานิ อนนฺตานิ เอว. พุทฺธาณํ สพฺพฺุตฺาณํ อปฺปเมยฺยํ. น สกฺกา เอเต วิชานิตุนฺติ ยสฺมา ปเนเต อนนฺตา, ตสฺมา น สกฺกา วิชานิตุํ.
๖๕. อิทานิ ¶ สตฺถา อตฺตโน อิทฺธิวิกุพฺพเน สฺชาตจฺฉริยพฺภุตานํ เทวมนุสฺสาทีนํ กินฺนาเมตํ อจฺฉริยํ, อิโตปิ วิสิฏฺตรํ อจฺฉริยํ อพฺภุตํ อตฺถิ, มม ตํ สุณาถาติ ธมฺมเทสนํ วฑฺเฒนฺโต –
‘‘กิเมตํ อจฺฉริยํ โลเก, ยํ เม อิทฺธิวิกุพฺพนํ;
อฺเ พหู อจฺฉริยา, อพฺภุตา โลมหํสนา’’ติ. – อาทิมาห;
ตตฺถ ¶ กินฺติ ปฏิกฺเขปวจนํ.เอตนฺติ อิทํ อิทฺธิวิกุพฺพนํ สนฺธายาห. ยนฺติ อยํ ยํ-สทฺโท ‘‘ยํ ตํ อปุจฺฉิมฺห อกิตฺตยี โน, อฺํ ตํ ปุจฺฉาม ตทิงฺฆ พฺรูหี’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๑๐๕๘; มหานิ. ๑๑๐; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉา ๗๗) อุปโยควจเน ทิสฺสติ ¶ . ‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส; ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๗๗; วิภ. ๘๐๙; มิ. ป. ๕.๑.๑) เอตฺถ การณวจเน. ‘‘ยํ วิปสฺสี ภควา กปฺเป อุทปาที’’ติ (ที. นิ. ๒.๔) เอตฺถ ภุมฺเม. ‘‘ยํ โข เม, ภนฺเต, เทวานํ ตาวตึสานํ สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ, อาโรเจมิ ตํ ภควโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๒๙๓) ปจฺจตฺตวจเน. อิธาปิ ปจฺจตฺตวจเน ทฏฺพฺโพ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๔). อฺเ พหู มม อจฺฉริยา อพฺภุตวิเสสา สนฺตีติ ทีเปติ.
อิทานิ เต อจฺฉริเย ทสฺเสนฺโต –
‘‘ยทาหํ ตุสิเต กาเย, สนฺตุสิโต นามหํ ตทา;
ทสสหสฺสี สมาคมฺม, ยาจนฺติ ปฺชลี มม’’นฺติ. – อาทิมาห;
ตตฺถ ยทาติ ยสฺมึ กาเล. อหนฺติ อตฺตานํ นิทฺทิสติ. ตุสิเต กาเยติ ตุสิตสงฺขาเต เทวนิกาเย. ยทา ปนาหํ สมตฺตึสปารมิโย ปูเรตฺวา ปฺจมหาปริจฺจาเค ปริจฺจชิตฺวา าตตฺถจริยโลกตฺถจริยพุทฺธตฺถจริยานํ โกฏึ ปตฺวา สตฺตสตกมหาทานานิ ทตฺวา สตฺตกฺขตฺตุํ ปถวึ กมฺเปตฺวา เวสฺสนฺตรตฺตภาวโต จวิตฺวา ทุติเย จิตฺตวาเร ตุสิตภวเน นิพฺพตฺโต ตทาปิ สนฺตุสิโต นาม เทวราชา อโหสึ. ทสสหสฺสี สมาคมฺมาติ ทสสหสฺสจกฺกวาเฬสุ เทวตา สนฺนิปติตฺวาติ อตฺโถ. ยาจนฺติ ปฺชลี มมนฺติ มํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘มาริส, ตยา ทส ปารมิโย ปูเรนฺเตน น สกฺกสมฺปตฺตึ น มาร น พฺรหฺม น จกฺกวตฺติสมฺปตฺตึ ปตฺเถนฺเตน ปูริตา, โลกนิตฺถรณตฺถาย ปน พุทฺธตฺตํ ปตฺถยมาเนน ปูริตา, โส ตว กาโล, มาริส, พุทฺธตฺตาย สมโย ¶ , มาริส, พุทฺธตฺตายา’’ติ (ชา. อฏฺ. ๑.นิทานกถา, อวิทูเรนิทานกถา) ยาจนฺติ มมนฺติ. เตน วุตฺตํ –
‘‘กาโล โข เต มหาวีร, อุปฺปชฺช มาตุกุจฺฉิยํ;
สเทวกํ ตารยนฺโต, พุชฺฌสฺสุ อมตํ ปท’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ กาโล เตติ กาโล ตว, อยเมว วา ปาโ. อุปฺปชฺชาติ ปฏิสนฺธึ คณฺห, ‘‘โอกฺกมา’’ติปิ ปาโ. สเทวกนฺติ สเทวกํ โลกนฺติ อตฺโถ. ตารยนฺโตติ เอตฺถ ปารมิโย ปูเรนฺโตปิ ตารยติ นาม, ปารมิโย มตฺถกํ ปาเปนฺโตปิ ตารยติ นาม, เวสฺสนฺตรตฺตภาวโต จวิตฺวา ¶ ตุสิตปุเร ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา สฏฺิวสฺสสตสหสฺสาธิกานิ สตฺตปณฺณาสวสฺสโกฏิโย ตตฺถ ติฏฺนฺโตปิ ตารยติ นาม, เทวตาหิ ยาจิโต ปฺจวิธํ มหาวิโลกิตํ วิโลเกตฺวา มหามายาเทวิยา กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺโตปิ ทสมาเส คพฺภวาสํ วสนฺโตปิ ตารยติ นาม, เอกูนตึส วสฺสานิ อคารมชฺเฌ ติฏฺนฺโตปิ ตารยติ นาม. ราหุลภทฺทสฺส ชาตทิวเส ฉนฺนสหาโย กณฺฑกํ อารุยฺห นิกฺขมนฺโตปิ ตีณิ รชฺชานิ อติกฺกมิตฺวา อโนมาย นาม นทิยา ตีเร ปพฺพชนฺโตปิ ตารยติ นาม, ฉพฺพสฺสานิ ปธานํ กโรนฺโตปิ วิสาขปุณฺณมายํ มหาโพธิมณฺฑํ อารุยฺห มารพลํ วิธมิตฺวา ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริตฺวา มชฺฌิมยาเม ทิพฺพจกฺขุํ วิโสเธตฺวา ปจฺฉิมยาเม ทฺวาทสงฺคํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ อนุโลมปฏิโลมโต สมฺมสิตฺวา โสตาปตฺติมคฺคํ ปฏิวิชฺฌนฺโตปิ ตารยติ นาม, โสตาปตฺติผลกฺขเณปิ, สกทาคามิมคฺคกฺขเณปิ, สกทาคามิผลกฺขเณปิ, อนาคามิมคฺคกฺขเณปิ, อนาคามิผลกฺขเณปิ, อรหตฺตมคฺคกฺขเณปิ, อรหตฺตผลกฺขเณปิ ตารยติ นาม, ยทา อฏฺารสเทวตาโกฏิสหสฺเสหิ ปฺจวคฺคิยานํ อมตปานํ อทาสิ, ตโต ปฏฺาย ตารยิ นามาติ วุจฺจติ. เตน วุตฺตํ –
‘‘สเทวกํ ตารยนฺโต, พุชฺฌสฺสุ อมตํ ปท’’นฺติ.
อถ มหาสตฺโต เทวตาหิ ยาจิยมาโนปิ เทวตานํ ปฏิฺํ อทตฺวาว กาลทีปเทสกุลชเนตฺติอายุปริจฺเฉทวเสน ปฺจวิธํ มหาวิโลกนํ นาม วิโลเกสิ. ตตฺถ ‘‘กาโล นุ โข, น กาโล’’ติ ปมํ กาลํ วิโลเกสิ. ตตฺถ วสฺสสตสหสฺสโต อุทฺธํ อายุกาโล กาโล นาม น โหติ. กสฺมา? ชาติชรามรณาทีนํ อปากฏตฺตา, พุทฺธานฺจ ธมฺมเทสนา นาม ติลกฺขณมุตฺตา นาม นตฺถิ, เตสํ อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตาติ กเถนฺตานํ ‘‘กินฺนาเมเต กเถนฺตี’’ติ น สทฺทหนฺติ, ตโต อภิสมโย น โหติ, ตสฺมึ อสติ อนิยฺยานิกํ ¶ สาสนํ โหติ ¶ . ตสฺมา โส อกาโล. วสฺสสตโต อูโน อายุกาโลปิ กาโล น โหติ. กสฺมา? ตทา สตฺตา อุสฺสนฺนกิเลสา โหนฺติ, อุสฺสนฺนกิเลสานฺจ ทินฺโน โอวาโท โอวาทฏฺาเน น ติฏฺติ, ตสฺมา โสปิ อกาโล. วสฺสสตสหสฺสโต ปฏฺาย เหฏฺา วสฺสสตโต ปฏฺาย อุทฺธํ อายุกาโล กาโล นาม. อิทานิ วสฺสสตายุกา มนุสฺสาติ อถ โพธิสตฺโต ‘‘นิพฺพตฺติตพฺพกาโล’’ติ อทฺทส.
ตโต ทีปํ โอโลเกนฺโต ‘‘ชมฺพุทีเปเยว พุทฺธา นิพฺพตฺตนฺตี’’ติ ทีปํ ปสฺสิ. ตโต ชมฺพุทีโป นาม มหา ทสโยชนสหสฺสปริมาโณ, กตรสฺมึ นุ โข ปเทเส พุทฺธา นิพฺพตฺตนฺตี’’ติ เทสํ วิโลเกนฺโต มชฺฌิมเทสํ ปสฺสิ. ตโต กุลํ วิโลเกนฺโต ‘‘พุทฺธา นาม โลกสมฺมเต กุเล นิพฺพตฺตนฺติ, อิทานิ ขตฺติยกุลํ โลกสมฺมตํ, ตตฺถ นิพฺพตฺติสฺสามิ, สุทฺโธทโน นาม เม ราชา ปิตา ภวิสฺสตี’’ติ กุลํ อทฺทส. ตโต มาตรํ วิโลเกนฺโต ‘‘พุทฺธมาตา นาม โลลา สุราธุตฺตา น โหติ, อขณฺฑปฺจสีลาติ อยฺจ มหามายา นาม เทวี เอทิสา, อยํ เม มาตา ภวิสฺสตีติ กิตฺตกํ อสฺสา อายู’’ติ อาวชฺเชนฺโต ทสนฺนํ มาสานํ อุปริ สตฺตทิวสานิ ปสฺสิ. อิติ อิมํ ปฺจวิธวิโลกนํ วิโลเกตฺวา – ‘‘กาโล เม, มาริส, พุทฺธภาวายา’’ติ เทวตานํ ปฏิฺํ ทตฺวา ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา ตโต จวิตฺวา สกฺยราชกุเล ¶ มายาเทวิยา กุจฺฉิยํ ปฏิสนฺธึ อคฺคเหสิ (ชา. อฏฺ. ๑.นิทานกถา, อวิทูเรนิทานกถา; อป. อฏฺ. ๑.นิทานกถา, อวิทูเรนิทานกถา). เตน วุตฺตํ –
‘‘ตุสิตา กายา จวิตฺวาน, ยทา โอกฺกมิ กุจฺฉิยํ;
ทสสหสฺสีโลกธาตุ, กมฺปิตฺถ ธรณี ตทา’’ติ. – อาทิ;
ตตฺถ โอกฺกมีติ โอกฺกมึ ปาวิสึ. กุจฺฉิยนฺติ มาตุกุจฺฉิมฺหิ. ทสสหสฺสีโลกธาตุ, กมฺปิตฺถาติ สโต สมฺปชาโน ปน โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมนฺโต เอกูนวีสติยา ปฏิสนฺธิจิตฺเตสุ เมตฺตาปุพฺพภาคสฺส โสมนสฺสสหคตาณสมฺปยุตฺตอสงฺขาริกกุสลจิตฺตสฺส สทิส มหาวิปากจิตฺเตน อาสาฬฺหิปุณฺณมายํ อุตฺตราสาฬฺหนกฺขตฺเตเนว ปฏิสนฺธึ อคฺคเหสิ. ตทา ทสสหสฺสีโลกธาตุ สกลาปิ ¶ กมฺปิ สงฺกมฺปิ สมฺปกมฺปีติ อตฺโถ. ธรณีติ ธาเรติ สพฺเพ ถาวรชงฺคเมติ ธรณี, ปถวี.
๖๙. สมฺปชาโนว นิกฺขมินฺติ เอตฺถ ยทา ปนาหํ สโต สมฺปชาโนว มาตุกุจฺฉิโต ธมฺมาสนโต โอตรนฺโต ธมฺมกถิโก วิย นิสฺเสณิโต โอตรนฺโต ปุริโส วิย จ ทฺเว หตฺเถ จ ปาเท ¶ จ ปสาเรตฺวา ิตโกว มาตุกุจฺฉิสมฺภเวน เกนจิ อสุจินา อมกฺขิโตว นิกฺขมึ. สาธุการํ ปวตฺเตนฺตีติ สาธุการํ ปวตฺตยนฺติ, สาธุการํ เทนฺตีติ อตฺโถ. ปกมฺปิตฺถาติ กมฺปิตฺถ, โอกฺกมเนปิ มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมเนปิ ทสสหสฺสี ปกมฺปิตฺถาติ อตฺโถ.
๗๐. อถ ภควา คพฺโภกฺกนฺติอาทีสุ อตฺตนา สมสมํ อทิสฺวา คพฺโภกฺกนฺติอาทีสุ อตฺตโน อจฺฉริยทสฺสนตฺถํ ‘‘โอกฺกนฺติ เม สโม นตฺถี’’ติ อิมํ คาถมาห. ตตฺถ โอกฺกนฺตีติ คพฺโภกฺกนฺติยํ, ภุมฺมตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ, ปฏิสนฺธิคฺคหเณติ อตฺโถ. เมติ มยา. สโมติ สทิโส นตฺถิ. ชาติโตติ เอตฺถ ชายติ เอตาย มาตุยาติ มาตา ‘‘ชาตี’’ติ วุจฺจติ, ตโต ชาติโต มาตุยาติ อตฺโถ. อภินิกฺขเมติ มาตุกุจฺฉิโต อภินิกฺขมเน ปสเว สตีติ อตฺโถ. สมฺโพธิยนฺติ เอตฺถ ปสตฺถา สุนฺทรา โพธิ สมฺโพธิ. อยํ ปน โพธิ-สทฺโท รุกฺขมคฺคนิพฺพานสพฺพฺุตฺาณาทีสุ ทิสฺสติ – ‘‘โพธิรุกฺขมูเล ปมาภิสมฺพุทฺโธ’’ติ (มหาว. ๑; อุทา. ๑) จ, ‘‘อนฺตรา จ คยํ อนฺตรา จ โพธิ’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๘๕; ๒.๓๔๑; มหาว. ๑๑) จ อาคตฏฺาเน หิ รุกฺโข โพธีติ วุจฺจติ. ‘‘โพธิ ¶ วุจฺจติ จตูสุ มคฺเคสุ าณ’’นฺติ (จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๒๑) อาคตฏฺาเน มคฺโค. ‘‘ปตฺวาน โพธึ อมตํ อสงฺขต’’นฺติ อาคตฏฺาเน นิพฺพานํ. ‘‘ปปฺโปติ โพธึ วรภูริเมธโส’’ติ (ที. นิ. ๓.๒๑๗) อาคตฏฺาเน สพฺพฺุตฺาณํ. อิธ ปน ภควโต อรหตฺตมคฺคาณํ อธิปฺเปตํ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๓; ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑; อุทา. อฏฺ. ๒๐; จริยา. อฏฺ. นิทานกถา). อปเร ‘‘สพฺพฺุตฺาณ’’นฺติปิ วทนฺติ, ตสฺสํ สมฺโพธิยํ อหํ เสฏฺโติ อตฺโถ.
กสฺมา ปน ภควา สมฺโพธึ ปฏิจฺจ อตฺตานํ ปสํสตีติ? สพฺพคุณทายกตฺตา. ภควโต หิ สมฺโพธิ สพฺพคุณทายิกา สพฺเพปิ นิรวเสเส พุทฺธคุเณ ¶ ททาติ, น ปน อฺเสํ. อฺเสํ ปน กสฺสจิ อรหตฺตมคฺโค อรหตฺตผลเมว เทติ, กสฺสจิ ติสฺโส วิชฺชา, กสฺสจิ ฉ อภิฺา, กสฺสจิ จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา, กสฺสจิ สาวกปารมิาณํ, ปจฺเจกพุทฺธานํ ปจฺเจกโพธิาณเมว เทติ. พุทฺธานํ ปน สพฺพคุณสมฺปตฺตึ เทติ. ตสฺมา ภควา สพฺพคุณทายกตฺตา ‘‘สมฺโพธิยํ อหํ เสฏฺโ’’ติ อตฺตานํ ปสํสติ. อปิ จ ภูมึ จาเลตฺวา สมฺโพธึ ปาปุณิ, ตสฺมา ‘‘สมฺโพธิยํ อหํ เสฏฺโ’’ติ วทติ. ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเนติ เอตฺถ ธมฺมจกฺกํ ปน ทุวิธํ โหติ – ปฏิเวธาณฺจ เทสนาาณฺจาติ. ตตฺถ ปฺาปภาวิตํ อตฺตโน อริยผลาวหํ ปฏิเวธาณํ, กรุณาปภาวิตํ สาวกานํ อริยผลาวหํ เทสนาาณํ. ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตรํ กุสลํ อุเปกฺขาสหคตํ อวิตกฺกอวิจารํ, เทสนาาณํ โลกิยํ อพฺยากตํ ¶ , อุภยมฺปิ ปเนตํ อฺเหิ อสาธารณํ. อิธ ปน เทสนาาณํ อธิปฺเปตํ (ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๒.๔๔).
๗๑. อิทานิ ภควโต คพฺโภกฺกมเนว ปถวิกมฺปนาทิกํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘อโห อจฺฉริยํ โลเก’’ติ เทวตาหิ อยํ คาถา วุตฺตา. ตตฺถ พุทฺธานํ คุณมหนฺตตาติ อโห พุทฺธานํ คุณมหนฺตภาโว, อโห พุทฺธานํ มหานุภาโวติ อตฺโถ ทสสหสฺสีโลกธาตุ, ฉปฺปการํ ปกมฺปถาติ ทสสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ มหาปถวี ฉปฺปการํ ปกมฺปิตฺถ จลิตฺถ. กถํ? ปุรตฺถิมโต อุนฺนมติ ปจฺฉิมโต โอนมติ, ปจฺฉิมโต อุนฺนมติ ปุรตฺถิมโต โอนมติ, อุตฺตรโต อุนฺนมติ ทกฺขิณโต โอนมติ, ทกฺขิณโต อุนฺนมติ อุตฺตรโต โอนมติ, มชฺฌิมโต อุนฺนมติ ปริยนฺตโต โอนมติ, ปริยนฺตโต อุนฺนมติ มชฺฌิมโต โอนมตีติ เอวํ ฉปฺปการํ อนิลพลจลิตชลตรงฺคภงฺคสงฺฆฏฺฏิตา วิย นาวา จตุนหุตาธิกทฺวิโยชนสตสหสฺสพหลา ปถวิสนฺธารกชลปริยนฺตา อเจตนาปิ สมานา สเจตนา วิย อยํ มหาปถวี ปีติยา นจฺจนฺตี วิย อกมฺปิตฺถาติ อตฺโถ. โอภาโส ¶ จ มหา อาสีติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ อุฬาโร โอภาโส อโหสีติ อตฺโถ. อจฺเฉรํ โลมหํสนนฺติ อจฺเฉรฺจ โลมหํสนฺจ อโหสีติ อตฺโถ.
๗๒. อิทานิ ปถวิกมฺปนาโลกปาตุภาวาทีสุ อจฺฉริเยสุ วตฺตมาเนสุ ภควโต ปวตฺติทสฺสนตฺถํ ‘‘ภควา ตมฺหิ สมเย’’ติอาทิคาถาโย วุตฺตา. ตตฺถ โลกเชฏฺโติ โลกเสฏฺโ. สเทวกนฺติ ¶ สเทวกสฺส โลกสฺส, สามิอตฺเถ อุปโยควจนํ ทฏฺพฺพํ. ทสฺสยนฺโตติ ปาฏิหาริยํ ทสฺเสนฺโต.
๗๓. จงฺกมนฺโตวาติ ทสโลกธาตุสหสฺสานิ อชฺโฌตฺถริตฺวา ิเต ตสฺมึ รตนมเย จงฺกเม จงฺกมมาโนว กเถสิ. โลกนายโกติ อถ สตฺถา มโนสิลาตเล สีหนาทํ นทนฺโต สีโห วิย คชฺชนฺโต ปาวุสฺสกเมโฆ วิย จ อากาสคงฺคํ โอตาเรนฺโต วิย จ อฏฺงฺคสมนฺนาคเตน (ที. นิ. ๒.๒๘๕, ๓๐๑) สวนีเยน กมนีเยน พฺรหฺมสฺสเรน นานานยวิจิตฺตํ จตุสจฺจปฏิสํยุตฺตํ ติลกฺขณาหตํ มธุรธมฺมกถํ กเถสีติ อตฺโถ.
อนฺตรา น นิวตฺเตติ, จตุหตฺเถ จงฺกเม ยถาติ เอตฺถ สตฺถารา ปน นิมฺมิตสฺส ตสฺส จงฺกมสฺส เอกา โกฏิ ปาจีนจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ เอกา ปจฺฉิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ เอวํ ิเต ตสฺมึ รตนจงฺกเม จงฺกมมาโน สตฺถา อุโภ โกฏิโย ปตฺวาว นิวตฺตติ, อนฺตรา อุโภ โกฏิโย อปตฺวา น นิวตฺตติ. ยถา จตุหตฺถปฺปมาเณ จงฺกเม จงฺกมมาโน อุโภ โกฏิโย สีฆเมว ปตฺวา นิวตฺตติ, เอวํ อนฺตรา น นิวตฺตตีติ อตฺโถ. กึ ปน ภควา ทสสหสฺสโยชนปฺปมาณายามํ จงฺกมํ รสฺสมกาสิ ¶ , ตาวมหนฺตํ วา อตฺตภาวํ นิมฺมินีติ? น ปเนวมกาสิ. อจินฺเตยฺโย พุทฺธานํ พุทฺธานุภาโว. อกนิฏฺภวนโต ปฏฺาย ยาว อวีจิ, ตาว เอกงฺคณา อโหสิ. ติริยโต จ ทสจกฺกวาฬสหสฺสานิ เอกงฺคณานิ อเหสุํ. เทวา มนุสฺเส ปสฺสนฺติ, มนุสฺสาปิ เทเว ปสฺสนฺติ. ยถา สพฺเพ เทวมนุสฺสา ปกติยา จงฺกมมานํ ปสฺสนฺติ, เอวํ ภควนฺตํ จงฺกมมานํ ปสฺสึสูติ. ภควา ปน จงฺกมนฺโตว ธมฺมํ เทเสติ อนฺตราสมาปตฺติฺจ สมาปชฺชติ.
อถ อายสฺมา สาริปุตฺโต อปริมิตสมยสมุปจิตกุสลพลชนิตทฺวตฺตึสวรลกฺขโณปโสภิตํ อสีตานุพฺยฺชนวิราชิตํ วรสรีรํ สรทสมเย ปริปุณฺณํ วิย รชนิกรํ สพฺพผาลิผุลฺลํ วิย จ โยชนสตุพฺเพธํ ปาริจฺฉตฺตกํ อฏฺารสรตนุพฺเพธํ พฺยามปฺปภาปริกฺเขปสสฺสิริกํ วรกนกคิริมิว ชงฺคมํ อโนปมาย พุทฺธลีฬาย อโนปเมน พุทฺธสิริวิลาเสน จงฺกมนฺตํ ทสสหสฺสิเทวคณปริวุตํ ภควนฺตํ อทฺทส. ทิสฺวาน อยํ ¶ ปน สกลาปิ ทสสหสฺสี โลกธาตุ สนฺนิปติตา, มหติยา ปเนตฺถ ธมฺมเทสนาย ภวิตพฺพํ, พุทฺธวํสเทสนา ปน พหูปการา ภควติ ปสาทาวหา, ยํนูนาหํ ทสพลสฺส อภินีหารโต ¶ ปฏฺาย พุทฺธวํสํ ปริปุจฺเฉยฺย’’นฺติ จินฺเตตฺวา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ทสนขสมุชฺชลํ ชลชามลาวิกล-กมล-มกุลสทิสํ อฺชลึ สิรสิ กตฺวา ภควนฺตํ ‘‘กีทิโส เต มหาวีรา’’ติอาทิกํ ปริปุจฺฉิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘สาริปุตฺโต มหาปฺโ, สมาธิชฺฌานโกวิโท;
ปฺาย ปารมิปฺปตฺโต, ปุจฺฉติ โลกนายกํ.
‘‘กีทิโส เต มหาวีร, อภินีหาโร นรุตฺตม;
กมฺหิ กาเล ตยา ธีร, ปตฺถิตา โพธิมุตฺตมา’’ติ. –
อาทิ. กา นามายํ อนุสนฺธีติ? ปุจฺฉานุสนฺธิ นาม. ติสฺโส หิ อนุสนฺธิโย – ปุจฺฉานุสนฺธิ อชฺฌาสยานุสนฺธิ ยถานุสนฺธีติ. ตตฺถ ‘‘เอวํ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ โข, ภนฺเต, โอริมํ ตีรํ กึ ปาริมํ ตีร’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๒๔๑) เอวํ ปุจฺฉนฺตานํ ภควตา วิสฺสชฺชิตสุตฺตวเสน ปุจฺฉานุสนฺธิ เวทิตพฺพา.
‘‘อถ โข อฺตรสฺส ภิกฺขุโน เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ ‘อิติ กิร, โภ, รูปํ อนตฺตา, เวทนา อนตฺตา, สฺา อนตฺตา, สงฺขารา อนตฺตา, วิฺาณํ อนตฺตา, อนตฺตกตานิ ¶ กมฺมานิ กมตฺตานํ ผุสิสฺสนฺตี’ติ. อถ โข ภควา ตสฺส ภิกฺขุโน เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย ภิกฺขู อามนฺเตสิ – านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ, ยํ อิเธกจฺโจ โมฆปุริโส อวิทฺวา อวิชฺชาคโต ตณฺหาธิปเตยฺเยน เจตสา สตฺถุสาสนํ อติธาวิตพฺพํ มฺเยฺย ‘อิติ กิร, โภ, รูปํ อนตฺตา, เวทนา อนตฺตา, สฺา อนตฺตา, สงฺขารา อนตฺตา, วิฺาณํ อนตฺตา, อนตฺตกตานิ กมฺมานิ กมตฺตานํ ผุสิสฺสนฺตี’ติ…เป… ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ (ม. นิ. ๓.๙๐) เอวํ ปเรสํ อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา ภควตา วุตฺตวเสน อชฺฌาสยานุสนฺธิ เวทิตพฺพา.
เยน ¶ ปน ธมฺเมน อาทิมฺหิ เทสนา อุฏฺิตา, ตสฺส ธมฺมสฺส อนุรูปธมฺมวเสน วา ปฏิกฺเขปวเสน วา เยสุ สุตฺเตสุ อุปริเทสนา อาคจฺฉติ, เตสํ วเสน ยถานุสนฺธิ เวทิตพฺพา. เตน วุตฺตํ ‘‘ปุจฺฉานุสนฺธี’’ติ.
ตตฺถ ปฺาย ปารมิปฺปตฺโตติ สาวกปารมิาณสฺส มตฺถกํ ปตฺโต. ปุจฺฉตีติ อปุจฺฉิ. ตตฺถ ปุจฺฉา นาม อทิฏฺโชตนาปุจฺฉา, ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา, วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉา, อนุมติปุจฺฉา, กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาติ ปฺจวิธา โหติ. ตตฺถายํ เถรสฺส กตมา ปุจฺฉาติ เจ? ยสฺมา ปนายํ พุทฺธวํโส กปฺปสตสหสฺสาธิกอสงฺขฺเยยฺโยปจิตปฺุสมฺภารานํ ปจฺเจกพุทฺธานํ ¶ กปฺปสตสหสฺสาธิกอสงฺขฺเยยฺโยปจิตปฺุสมฺภารานํ ทฺวินฺนํ อคฺคสาวกานฺจ กปฺปสตสหสฺโสปจิตปฺุสมฺภารานํ เสสมหาสาวกานํ วา อวิสโย, สพฺพฺุพุทฺธานํเยว วิสโย, ตสฺมา เถรสฺส อทิฏฺโชตนา ปุจฺฉาติ เวทิตพฺพา.
กีทิโสติ ปุจฺฉนากาโร, กึปกาโรติ อตฺโถ. เตติ ตว. อภินีหาโรติ อภินีหาโร นาม พุทฺธภาวตฺถํ มานสํ พนฺธิตฺวา ‘‘พุทฺธพฺยากรณํ อลทฺธา น อุฏฺหิสฺสามี’’ติ วีริยมธิฏฺาย นิปชฺชนํ. เตน วุตฺตํ –
‘‘กีทิโส เต มหาวีร, อภินีหาโร นรุตฺตมา’’ติ.
กมฺหิ กาเลติ ตสฺมึ กาเล. ปตฺถิตาติ อิจฺฉิตา อภิกงฺขิตา, ‘‘พุทฺโธ โพเธยฺยํ มุตฺโต โมเจยฺย’’นฺติอาทินา นเยน พุทฺธภาวาย ปณิธานํ กทา กตนฺติ อปุจฺฉิ. โพธีติ สมฺมาสมฺโพธิ, อรหตฺตมคฺคาณสฺส จ สพฺพฺุตฺาณสฺส เจตํ อธิวจนํ. อุตฺตมาติ สาวกโพธิปจฺเจกโพธีหิ เสฏฺตฺตา อุตฺตมาติ วุตฺตา. อุภินฺนมนฺตรา ม-กาโร ปทสนฺธิกโร.
อิทานิ ¶ พุทฺธภาวการเก ธมฺเม ปุจฺฉนฺโต –
‘‘ทานํ สีลฺจ เนกฺขมฺมํ, ปฺาวีริยฺจ กีทิสํ;
ขนฺติสจฺจมธิฏฺานํ, เมตฺตุเปกฺขา จ กีทิสา.
‘‘ทส ปารมี ตยา ธีร, กีทิสี โลกนายก;
กถํ อุปปารมี ปุณฺณา, ปรมตฺถปารมี กถ’’นฺติ. – อาห;
ตตฺถ ¶ ทานปารมิยํ ตาว พาหิรภณฺฑปริจฺจาโค ปารมี นาม, องฺคปริจฺจาโค อุปปารมี นาม, ชีวิตปริจฺจาโค ปรมตฺถปารมี นามาติ. เอส นโย เสสปารมีสุปิ. เอวํ ทส ปารมิโย ทส อุปปารมิโย ทส ปรมตฺถปารมิโยติ สมตฺตึส ปารมิโย โหนฺติ. ตตฺถ โพธิสตฺตสฺส ทานปารมิตาย ปูริตตฺตภาวานํ ปริมาณํ นาม นตฺถิ. เอกนฺเตน ปนสฺส สสปณฺฑิตชาตเก –
‘‘ภิกฺขาย อุปคตํ ทิสฺวา, สกตฺตานํ ปริจฺจชึ;
ทาเนน เม สโม นตฺถิ, เอสา เม ทานปารมี’’ติ. (จริยา. ๑.๑๔๓ ตสฺสุทฺทานํ) –
เอวํ ปรํ ชีวิตปริจฺจาคํ กโรนฺตสฺส ทานปารมี ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.
ตถา สีลปารมิตาย ปูริตตฺตภาวานํ ปริมาณํ นาม นตฺถิ. เอกนฺเตเนว ปนสฺส สงฺขปาลชาตเก –
‘‘สูเลหิ ¶ วินิวิชฺฌนฺเต, โกฏฺฏยนฺเตปิ สตฺติภิ;
โภชปุตฺเต น กุปฺปามิ, เอสา เม สีลปารมี’’ติ. (จริยา. ๒.๙๑) –
เอวํ อตฺตปริจฺจาคํ กโรนฺตสฺส สีลปารมี ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.
ตถา มหารชฺชํ ปหาย เนกฺขมฺมปารมิยา ปูริตตฺตภาวานํ ปริมาณํ นาม นตฺถิ. เอกนฺเตน ปนสฺส จูฬสุตโสมชาตเก –
‘‘มหารชฺชํ ¶ หตฺถคตํ, เขฬปิณฺฑํว ฉฑฺฑยึ;
จชโต น โหติ ลคฺคนํ, เอสา เม เนกฺขมฺมปารมี’’ติ. (ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา; ชา. อฏฺ. ๑.ทูเรนิทานกถา; อป. อฏฺ. ๑.ทูเรนิทานกถา) –
เอวํ นิสฺสงฺคตาย รชฺชํ ฉฑฺเฑตฺวา นิกฺขมนฺตสฺส เนกฺขมฺมปารมี ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.
ตถา มโหสธปณฺฑิตกาลาทีสุ ปฺาปารมิยา ปูริตตฺตภาวานํ ปริมาณํ นาม นตฺถิ. เอกนฺเตน ปนสฺส สตฺตุภตฺตกปณฺฑิตกาเล –
‘‘ปฺาย วิจินนฺโตหํ, พฺราหฺมณํ โมจยึ ทุขา;
ปฺาย เม สโม นตฺถิ, เอสา เม ปฺาปารมี’’ติ. (ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา; ชา. อฏฺ. ๑.ทูเรนิทานกถา; อป. อฏฺ. ๑.ทูเรนิทานกถา) –
อนฺโตภสฺตคตํ ¶ สปฺปํ ทสฺเสนฺตสฺส ปฺาปารมี ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.
ตถา วีริยปารมิตาย ปูริตตฺตภาวานํ ปริมาณํ นาม นตฺถิ. เอกนฺเตน ปนสฺส มหาชนกชาตเก –
‘‘อตีรทสฺสี ชลมชฺเฌ, หตา สพฺเพว มานุสา;
จิตฺตสฺส อฺถา นตฺถิ, เอสา เม วีริยปารมี’’ติ. (ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา; ชา. อฏฺ. ๑.ทูเรนิทานกถา; อป. อฏฺ. ๑.ทูเรนิทานกถา) –
เอวํ มหาสมุทฺทํ ตรนฺตสฺส วีริยปารมี ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.
ตถา ขนฺติวาทิชาตเก –
‘‘อเจตนํว โกฏฺเฏนฺเต, ติณฺเหน ผรสุนา มมํ;
กาสิราเช น กุปฺปามิ, เอสา เม ขนฺติปารมี’’ติ. (ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา; ชา. อฏฺ. ๑.ทูเรนิทานกถา; อป. อฏฺ. ๑.ทูเรนิทานกถา) –
เอวํ ¶ อเจตนภาเวน วิย มหาทุกฺขํ อธิวาเสนฺตสฺส ขนฺติปารมี ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.
ตถา มหาสุตโสมชาตเก –
‘‘สจฺจวาจํนุรกฺขนฺโต, จชิตฺวา มม ชีวิตํ;
โมเจสึ เอกสตํ ขตฺติเย, เอสา เม สจฺจปารมี’’ติ. (ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา; ชา. อฏฺ. ๑.ทูเรนิทานกถา; อป. อฏฺ. ๑.ทูเรนิทานกถา) –
เอวํ ชีวิตํ จชิตฺวา สจฺจํ อนุรกฺขนฺตสฺส สจฺจปารมี ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.
ตถา มูคปกฺขชาตเก –
‘‘มาตา ¶ ปิตา น เม เทสฺสา, อตฺตา เม น จ เทสฺสิโย;
สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา วตํ อธิฏฺหิ’’นฺติ. (ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา; ชา. อฏฺ. ๑.ทูเรนิทานกถา; อป. อฏฺ. ๑.ทูเรนิทานกถา; จริยา ๓.๖๕) –
เอวํ ชีวิตมฺปิ ปริจฺจชิตฺวา วตํ อธิฏฺหนฺตสฺส อธิฏฺานปารมี ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.
ตถา สุวณฺณสามชาตเก –
‘‘น มํ โกจิ อุตฺตสติ, นปิ ภายามิ กสฺสจิ;
เมตฺตาพเลนุปตฺถทฺโธ, รมามิ ปวเน ตทา’’ติ. (ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา; ชา. อฏฺ. ๑.ทูเรนิทานกถา; อป. อฏฺ. ๑.ทูเรนิทานกถา; จริยา. ๓.๑๑๓) –
เอวํ ¶ ชีวิตมฺปิ อโนโลเกตฺวา เมตฺตายนฺตสฺส เมตฺตาปารมี ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.
ตโต ¶ โลมหํสชาตเก –
‘‘สุสาเน เสยฺยํ กปฺเปมิ, ฉวฏฺิกํ อุปนิธายหํ;
คามณฺฑลา อุปคนฺตฺวา, รูปํ ทสฺเสนฺตินปฺปก’’นฺติ. (ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา; ชา. อฏฺ. ๑.ทูเรนิทานกถา; อป. อฏฺ. ๑.ทูเรนิทานกถา; จริยา. ๓.๑๑๙) –
เอวํ คามทารเกสุ นิฏฺุภนาทีหิ เจว มาลาคนฺธูปหาราทีหิ จ สุขทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺเตสุปิ อุเปกฺขํ อนติวตฺตนฺตสฺส อุเปกฺขาปารมี ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน จริยาปิฏกโต คเหตพฺโพ.
อิทานิ เถเรน ปุฏฺสฺส ภควโต พฺยากรณํ ทสฺเสนฺเตหิ สงฺคีติการเกหิ –
‘‘ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสิ, กรวีกมธุรคิโร;
นิพฺพาปยนฺโต หทยํ, หาสยนฺโต สเทวกํ.
‘‘อตีตพุทฺธานํ ชินานํ เทสิตํ, นิกีลิตํ พุทฺธปรมฺปราคตํ;
ปุพฺเพนิวาสานุคตาย พุทฺธิยา, ปกาสยี โลกหิตํ สเทวเก’’ติ. – วุตฺตํ;
ตตฺถ ตสฺส ปุฏฺโ วิยากาสีติ เตน ธมฺมเสนาปตินา ปุฏฺโ หุตฺวา ตสฺส พฺยากาสิ, อตฺตโน อภินีหารโต ปฏฺาย อภิสมฺโพธิปริโยสานํ สพฺพํ พุทฺธวํสํ กเถสีติ อตฺโถ. กรวีกมธุรคิโรติ กรวีกสกุณสฺส วิย มธุรา คิรา ยสฺส โส กรวีกมธุรคิโร, กรวีกมธุรมฺชุสฺสโรติ อตฺโถ. ตตฺริทํ กรวีกานํ มธุรสฺสรตา – กรวีกสกุณา กิร มธุรรสํ ¶ อมฺพปกฺกํ มุขตุณฺฑเกน ปหริตฺวา ปคฺฆริตํ ผลรสํ ปิวิตฺวา ปกฺเขน ตาฬํ ทตฺวา วิกูชมาเน จตุปฺปทา มทมตฺตา วิย ลฬิตุํ อารภนฺติ, โคจรปสุตาปิ จตุปฺปทคณา มุขคตานิปิ ติณานิ ฉฑฺเฑตฺวา ตํ นาทํ สุณนฺติ, วาฬมิคา ขุทฺทกมิเค อนุพนฺธมานา อุกฺขิตฺตํ ปาทํ อนิกฺขิปิตฺวา ¶ จิตฺตกตา วิย ติฏฺนฺติ, อนุพนฺธมิคาปิ มรณภยํ หิตฺวา ติฏฺนฺติ, อากาเส ปกฺขนฺทนฺตา ปกฺขิโนปิ ปกฺเข ปสาเรตฺวา ติฏฺนฺติ, อุทเก มจฺฉาปิ กณฺณปฏลํ อจาเลนฺตา ตํ สทฺทํ สุณมานา ติฏฺนฺติ. เอวํ มธุรสฺสรา กรวีกา (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๘; ม. นิ. อฏฺ. ๒.๓๘๖). นิพฺพาปยนฺโต หทยนฺติ กิเลสคฺคิสนฺตตฺตสพฺพชนมานสํ ¶ ธมฺมกถามตธาราย สีติภาวํ ชนยนฺโตติ อตฺโถ. หาสยนฺโตติ โตสยนฺโต. สเทวกนฺติ สเทวกํ โลกํ.
อตีตพุทฺธานนฺติ อตีตานํ พุทฺธานํ. อมฺหากํ ภควโต อภินีหารสฺส ปุรโต ปน ตณฺหงฺกโร เมธงฺกโร สรณงฺกโร ทีปงฺกโรติ จตฺตาโร พุทฺธา เอกสฺมึ กปฺเป นิพฺพตฺตึสุ. เตสํ อปรภาเค โกณฺฑฺาทโย เตวีสติ พุทฺธาติ สพฺเพ ทีปงฺกราทโย จตุวีสติ พุทฺธา อิธ ‘‘อตีตพุทฺธา’’ติ อธิปฺเปตา, เตสํ อตีตพุทฺธานํ. ชินานนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. เทสิตนฺติ กถิตํ. จตุวีสติยา พุทฺธานํ จตุสจฺจปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมกถํ. นิกีลิตนฺติ เตสํ จริตํ กปฺปชาติโคตฺตายุโพธิสาวกสนฺนิปาตอุปฏฺากมาตาปิตุปุตฺตภริยาปริจฺเฉทาทิกํ นิกีลิตํ นาม. พุทฺธปรมฺปราคตนฺติ ทีปงฺกรทสพลโต ปฏฺาย ยาว กสฺสปปรมฺปรโต อาคตํ เทสิตํ นิกีลิตํ วาติ อตฺโถ. ปุพฺเพนิวาสานุคตาย พุทฺธิยาติ เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโยติ (ม. นิ. ๑.๑๔๘, ๓๘๔, ๔๒๑; ๒.๒๓๓; ๓.๘๒; ปารา. ๑๒) เอวํ วิภตฺตํ ปุพฺเพ นิวุฏฺกฺขนฺธสนฺตานสงฺขาตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุคตา อุปคตา ตาย ปุพฺเพนิวาสานุคตาย พุทฺธิยา, ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณนาติ อตฺโถ. ปกาสยีติ พฺยากาสิ. โลกหิตนฺติ สพฺพโลกหิตํ พุทฺธวํสํ. สเทวเกติ สเทวเก โลเกติ อตฺโถ.
๘๐. อถ ภควา กรุณาสีตเลน หทเยน สเทวกํ โลกํ สวเน นิโยเชนฺโต ‘‘ปีติปาโมชฺชชนน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปีติปาโมชฺชชนนนฺติ ปีติปาโมชฺชกรํ ปีติยา ปุพฺพภาคํ ปาโมชฺชํ, ปฺจวณฺณาย ปีติยา ชนนนฺติ อตฺโถ. โสกสลฺลวิโนทนนฺติ โสกสงฺขาตานํ สลฺลานํ วิโนทนํ วิทฺธํสนํ. สพฺพสมฺปตฺติปฏิลาภนฺติ ¶ สพฺพาปิ เทวมนุสฺสสมฺปตฺติอาทโย สมฺปตฺติโย ปฏิลภนฺติ เอเตนาติ สพฺพสมฺปตฺติปฏิลาโภ, ตํ สพฺพสมฺปตฺติปฏิลาภํ พุทฺธวํสเทสนนฺติ อตฺโถ. จิตฺตีกตฺวาติ ¶ จิตฺเต กตฺวา, พุทฺธานุสฺสตึ ปุรกฺขตฺวาติ อตฺโถ. สุณาถาติ นิสาเมถ นิโพธถ. เมติ มม.
๘๑. มทนิมฺมทนนฺติ ชาติมทาทีนํ สพฺพมทานํ นิมฺมทนกรํ. โสกนุทนฺติ โสโก นาม าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺสฺส จิตฺตสนฺตาโป. กิฺจาปิ อตฺถโต โทมนสฺสเมว โหติ, เอวํ สนฺเตปิ อนฺโตนิชฺฌานลกฺขโณ, เจตโส ปรินิชฺฌายนรโส, อนุโสจนปจฺจุปฏฺาโน, ตํ โสกํ นุทตีติ โสกนุโท, ตํ โสกนุทํ. สํสารปริโมจนนฺติ สํสารพนฺธนโต ปริโมจนกรํ. ‘‘สํสารสมติกฺกม’’นฺติปิ ปาโ, ตสฺส สํสารสมติกฺกมกรนฺติ อตฺโถ.
สพฺพทุกฺขกฺขยนฺติ ¶ เอตฺถ ทุกฺข-สทฺโท ทุกฺขเวทนา-ทุกฺขวตฺถุ-ทุกฺขารมฺมณ-ทุกฺขปจฺจย-ทุกฺขฏฺานาทีสุ ทิสฺสติ. อยฺหิ ‘‘ทุกฺขสฺส จ ปหานา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๓๒; ม. นิ. ๑.๓๘๓, ๔๓๐; ปารา. ๑๑) ทุกฺขเวทนายํ ทิสฺสติ. ‘‘ชาติปิ ทุกฺขา ชราปิ ทุกฺขา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๘๗; สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑) ทุกฺขวตฺถุสฺมึ. ‘‘ยสฺมา จ โข, มหาลิ, รูปํ ทุกฺขํ ทุกฺขานุปติตํ ทุกฺขาวกฺกนฺต’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๖๐) ทุกฺขารมฺมเณ. ‘‘ทุกฺโข ปาปสฺส อุจฺจโย’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๑๗) ทุกฺขปจฺจเย. ‘‘ยาวฺจิทํ, ภิกฺขเว, น สุกรา อกฺขาเนน ปาปุณิตํ ยาว ทุกฺขา นิรยา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๕๐) ทุกฺขฏฺาเน. อิธ ปนายํ ทุกฺขวตฺถุสฺมึ ทุกฺขปจฺจเยปิ จ ทฏฺพฺโพ. ตสฺมา ชาติอาทิสพฺพทุกฺขกฺขยกรนฺติ อตฺโถ (ธ. ส. อฏฺ. ๒ อาทโย). มคฺคนฺติ เอตฺถ กุสลตฺถิเกหิ มคฺคียติ, กิเลเส วา มาเรนฺโต คจฺฉตีติ มคฺโคติ พุทฺธวํสเทสนา วุจฺจติ, ตํ นิพฺพานสฺส มคฺคภูตํ พุทฺธวํสเทสนํ. สกฺกจฺจนฺติ สกฺกจฺจํ จิตฺตีกตฺวา, โอหิตโสตา หุตฺวาติ อตฺโถ. ปฏิปชฺชถาติ อธิติฏฺถ, สุณาถาติ อตฺโถ. อถ วา ปีติปาโมชฺชชนนํ โสกสลฺลวิโนทนํ สพฺพสมฺปตฺติปฏิลาภเหตุภูตํ อิมํ พุทฺธวํสเทสนํ สุตฺวา อิทานิ มทนิมฺมทนาทิคุณวิเสสาวหํ สพฺพทุกฺขกฺขยํ พุทฺธภาวมคฺคํ ปฏิปชฺชถาติ ¶ สพฺเพสํ เทวมนุสฺสานํ พุทฺธตฺตํ ปณิธาย อุสฺสาหํ ชเนติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
อิติ มธุรตฺถวิลาสินิยา พุทฺธวํส-อฏฺกถาย
รตนจงฺกมนกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิตา จ สพฺพากาเรน อพฺภนฺตรนิทานสฺสตฺถวณฺณนา.