📜
๑๐. ปทุมพุทฺธวํสวณฺณนา
อโนมทสฺสิสฺส ¶ ปน ภควโต อปรภาเค วสฺสสตสหสฺสายุกา มนุสฺสา อนุกฺกเมน ปริหายิตฺวา ทสวสฺสายุกา หุตฺวา ปุน อนุกฺกเมน วฑฺฒิตฺวา อสงฺขฺเยยฺยายุกา หุตฺวา ปุน ปริหายมานา วสฺสสตสหสฺสายุกา อเหสุํ. ตถา ปทุโม นาม สตฺถา โลเก อุปฺปชฺชิ. โสปิ ปารมิโย ปูเรตฺวา ตุสิตปุเร นิพฺพตฺติตฺวา ตโต จวิตฺวา จมฺปกนคเร อสมสฺส นาม รฺโ กุเล รูปาทีหิ อสมาย อสมาย นาม อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ อคฺคเหสิ. โส ทสนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน จมฺปกุยฺยาเน มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมิ. ชาเต ปน กุมาเร อากาสโต สกลชมฺพุทีเป สมุทฺทปริยนฺเต ปทุมวสฺสํ นิปติ. เตนสฺส นามคฺคหณทิวเส นามํ คณฺหนฺตา เนมิตฺตกา จ าตกา จ ‘‘มหาปทุมกุมาโร’’ตฺเวว นามมกํสุ. โส ทสวสฺสสหสฺสานิ อคารํ อชฺฌาวสิ. นนฺทุตฺตร-วสุตฺตร-ยสุตฺตรานามกา ตโย ปาสาทา อเหสุํ. อุตฺตราเทวิปฺปมุขานิ เตตฺตึส อิตฺถิสหสฺสานิ ปจฺจุปฏฺิตานิ อเหสุํ.
อถ ¶ มหาสตฺโต อุตฺตราย นาม มหาเทวิยา รมฺมกุมาเร นาม อุปฺปนฺเน จตฺตาริ นิมิตฺตานิ ทิสฺวา อาชฺรเถน มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิ. ตํ ปพฺพชนฺตํ เอกา ปุริสโกฏิ อนุปพฺพชิ. โส เตหิ ปริวุโต อฏฺ มาเส ปธานจริยํ จริตฺวา วิสาขปุณฺณมาย ธฺวตีนคเร สุธฺเสฏฺิสฺส ธีตาย ธฺวติยา นาม ทินฺนํ มธุปายาสํ ปริภฺุชิตฺวา มหาสาลวเน ทิวาวิหารํ วีตินาเมตฺวา สายนฺหสมเย ติตฺถกาชีวเกน ทินฺนา อฏฺ ติณมุฏฺิโย คเหตฺวา มหาโสณโพธึ อุปสงฺกมิตฺวา อฏฺตฺตึสหตฺถวิตฺถตํ ติณสนฺถรกํ ปฺเปตฺวา ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา จตุรงฺควีริยํ อธิฏฺาย มารพลํ ¶ วิธมิตฺวา ตีสุ ยาเมสุ ติสฺโส วิชฺชา สจฺฉิกตฺวา – ‘‘อเนกชาติสํสารํ…เป… ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา’’ติ (ธ. ป. ๑๕๓-๑๕๔) อุทานํ อุทาเนตฺวา สตฺตสตฺตาหํ โพธิสมีเปเยว วีตินาเมตฺวา พฺรหฺมุโน อายาจนํ อธิวาเสตฺวา ธมฺมเทสนาย ภาชนภูเต ปุคฺคเล อุปปริกฺขนฺโต อตฺตนา สห ปพฺพชิเต โกฏิสงฺเข ภิกฺขู ทิสฺวา ตงฺขเณเยว อนิลปเถน คนฺตฺวา ธฺวตีนครสมีเป ธนฺชยุยฺยาเน โอตริตฺวา เตหิ ปริวุโต เตสํ มชฺเฌ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตสิ. ตทา โกฏิสตานํ อภิสมโย อโหสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘อโนมทสฺสิสฺส ¶ อปเรน, สมฺพุทฺโธ ทฺวิปทุตฺตโม;
ปทุโม นาม นาเมน, อสโม อปฺปฏิปุคฺคโล.
‘‘ตสฺสาปิ อสมํ สีลํ, สมาธิปิ อนนฺตโก;
อสงฺขฺเยยฺยํ าณวรํ, วิมุตฺติปิ อนูปมา.
‘‘ตสฺสาปิ อตุลเตชสฺส, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเน;
อภิสมยา ตโย อาสุํ, มหาตมปวาหนา’’ติ.
ตตฺถ อสมํ สีลนฺติ อฺเสํ สีเลน อสทิสํ, อุตฺตมํ เสฏฺนฺติ อตฺโถ. สมาธิปิ อนนฺตโกติ สมาธิปิ อปฺปเมยฺโย, ตสฺส อนนฺตภาโว โลกวิวรณยมกปาฏิหาริยาทีสุ ทฏฺพฺโพ. าณวรนฺติ สพฺพฺุตฺาณํ, อสาธารณาณานิ วา. วิมุตฺติปีติ อรหตฺตผลวิมุตฺติปิ ภควโต. อนูปมาติ อุปมาวิรหิตา. อตุลเตชสฺสาติ อตุลาณเตชสฺส. ‘‘อตุลาณเตชา’’ติปิ ปาโ. ตสฺส ‘‘ตโย อภิสมยา’’ติ อิมินา ¶ อุตฺตรปเทน สมฺพนฺโธ ทฏฺพฺโพ. มหาตมปวาหนาติ มหาโมหวินาสกา, โมหนฺธการวิทฺธํสกาติ อตฺโถ.
อถาปเรน สมเยน ปทุโม ภควา อตฺตโน กนิฏฺภาตรํ สาลกุมารฺจ อุปสาลกุมารฺจ าติสมาคเม สปริวาเร ปพฺพาเชตฺวา เตสํ ธมฺมํ เทเสนฺโต นวุติ โกฏิโย ธมฺมามตํ ปาเยสิ. ยทา ปน รมฺมตฺเถรสฺส ธมฺมํ เทเสสิ, ตทา อสีติโกฏีนํ ตติโย อภิสมโย อโหสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘ปมาภิสมเย พุทฺโธ, โกฏิสตมโพธยิ;
ทุติยาภิสมเย ธีโร, นวุติโกฏิมโพธยิ.
‘‘ยทา จ ปทุโม พุทฺโธ, โอวที สกมตฺรชํ;
ตทา อสีติโกฏีนํ, ตติยาภิสมโย อหู’’ติ.
ยทา ¶ ปน สุภาวิตตฺโต นาม ราชา ปทุมสฺส พุทฺธสฺส พุทฺธปทุมวทนสฺส สนฺติเก โกฏิสตสหสฺสปริวาโร เอหิภิกฺขุปพฺพชฺชาย ปพฺพชิโต, ตสฺมึ สนฺนิปาเต ภควา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ, โส ปน ปโม สนฺนิปาโต อโหสิ.
อถาปเรน ¶ สมเยน มหาปทุโม มุนิวสโภ อุสภสมคตี อุสภวตีนครํ อุปนิสฺสาย วสฺสํ อุปคฺฉิ. นครวาสิโน มนุสฺสา ภควนฺตํ ทสฺสนกามา อุปสงฺกมึสุ. เตสํ ภควา ธมฺมํ เทเสสิ. ตตฺถ จ พหโว มนุสฺสา ปสนฺนจิตฺตา ปพฺพชึสุ. ตโต ทสพโล เตหิ จ อฺเหิ จ ตีหิ ภิกฺขุสตสหสฺเสหิ สทฺธึ วิสุทฺธิปวารณํ ปวาเรสิ. โส ทุติโย สนฺนิปาโต อโหสิ. เย ปน ตตฺถ น ปพฺพชึสุ, เต กถินานิสํสํ สุตฺวา ปาฏิปเท ปฺจสุ มาเสสุ ปฺจานิสํสทายกํ กถินจีวรมทํสุ. ตโต ตํ ภิกฺขู ธมฺมเสนาปตึ อคฺคสาวกํ วิสาลมตึ สาลตฺเถรํ กถินตฺถารตฺถํ ยาจิตฺวา กถินจีวรํ ตสฺสาทํสุ. เถรสฺส กถินจีวเร กยิรมาเน ภิกฺขู สิพฺพเน สหายกา อเหสุํ. ปทุโม ปน สมฺมาสมฺพุทฺโธ สูจิจฺฉิทฺเท สุตฺตานิ อาวุนิตฺวา อทาสิ. นิฏฺิเต ปน จีวเร ภควา ตีหิ ภิกฺขุสตสหสฺเสหิ จาริกํ ปกฺกามิ.
อถาปเรน ¶ สมเยน สีหวิกฺกนฺตคามี ปุริสสีโห วิย พุทฺธสีโห โคสิงฺคสาลวนสทิเส ปรมสุรภิกุสุมผลภารวินมิตสาขาวิฏเป วิมลกมลกุวลยสมลงฺกเต สิสิรมธุรวาริวาเหน ปริปูริเต รุรุ-จมร-สีห-พฺยคฺฆ-อช-หย-ควย-มหึสาทิ วิวิธมิคคณวิจริเต สุรภิกุสุมคนฺธาวพทฺธหทยาหิ ภมรมธุกรยุวตีหิ อนุภูตปฺปจาราหิ สมนฺตโต คุมฺพคุมฺพายมาเน ผลรสปมุทิตหทยาหิ กากลิสทิสมธุรวิรุตาหิ โกกิลวธูหิ อุปคียมาเน ปรมรมณีเย วิวิตฺเต วิชเน โยคานุกูเล ปวเน วสฺสาวาสมุปคฺฉิ. ตสฺมึ วิหรนฺตํ สปริวารกํ ทสพลํ ตถาคตํ ธมฺมราชํ พุทฺธสิริยา วิโรจมานํ ทิสฺวา มนุสฺสา ตสฺส ธมฺมํ สุตฺวา ปสีทิตฺวา เอหิภิกฺขุปพฺพชฺชาย ปพฺพชึสุ. ตทา ทฺวีหิ ภิกฺขุสตสหสฺเสหิ ปริวุโต ปวาเรสิ. โส ตติโย สนฺนิปาโต อโหสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘สนฺนิปาตา ตโย อาสุํ, ปทุมสฺส มเหสิโน;
โกฏิสตสหสฺสานํ, ปโม อาสิ สมาคโม.
‘‘กถินตฺถารสมเย, อุปฺปนฺเน กถินจีวเร;
ธมฺมเสนาปติตฺถาย, ภิกฺขู สิพฺพึสุ จีวรํ.
‘‘ตทา เต วิมลา ภิกฺขู, ฉฬภิฺา มหิทฺธิกา;
ตีณิ สตสหสฺสานิ, สมึสุ อปราชิตา.
‘‘ปุนาปรํ ¶ ¶ โส นราสโภ, ปวเน วาสํ อุปาคมิ;
ตทา สมาคโม อาสิ, ทฺวินฺนํ สตสหสฺสิน’’นฺติ.
ตตฺถ กถินตฺถารสมเยติ กถินจีวรตฺถรณสมเย. ธมฺมเสนาปติตฺถายาติ ธมฺมเสนาปติสาลตฺเถรตฺถํ. อปราชิตาติ น ปราชิตา, วิภตฺติโลโป ทฏฺพฺโพ. โสติ โส มหาปทุโม. ปวเนติ มหาวเน. วาสนฺติ วสฺสาวาสํ. อุปาคมีติ อุปาคโต. ทฺวินฺนํ สตสหสฺสินนฺติ ทฺวินฺนํ สตสหสฺสานํ. ‘‘ตทา อาสิ สมาคโม’’ติปิ ปาโ ยทิ อตฺถิ สุนฺทโร ภเวยฺย.
ตทา ตถาคเต ตสฺมึ วนสณฺเฑ วสนฺเต อมฺหากํ โพธิสตฺโต สีโห หุตฺวา สตฺตาหํ นิโรธสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา นิสินฺนํ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต ¶ หุตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา สฺชาตปีติโสมนสฺโส ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา สตฺตาหํ พุทฺธารมฺมณํ ปีตึ อวิชหิตฺวา ปีติสุเขเนว โคจราย อปกฺกมิตฺวา ชีวิตปริจฺจาคํ กตฺวา ปยิรุปาสมาโน อฏฺาสิ. อถ สตฺถา ตสฺส สตฺตาหสฺส อจฺจเยน นิโรธสมาปตฺติโต วุฏฺาย นรสีโห สีหํ โอโลเกตฺวา – ‘‘ภิกฺขุสงฺเฆปิสฺส จิตฺตปฺปสาโท โหตูติ สงฺโฆ อาคจฺฉตู’’ติ จินฺเตสิ. อเนกโกฏิภิกฺขู ตาวเทว อาคฺฉึสุ. สีโห สงฺเฆปิ จิตฺตํ ปสาเทสิ. อถ สตฺถา ตสฺส จิตฺตํ โอโลเกตฺวา – ‘‘อนาคเต โคตโม นาม พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากาสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘อหํ เตน สมเยน, สีโห อาสึ มิคาธิภู;
ปวิเวกมนุพฺรูหนฺตํ, ปวเน อทฺทสํ ชินํ.
‘‘วนฺทิตฺวา สิรสา ปาเท, กตฺวาน ตํ ปทกฺขิณํ;
ติกฺขตฺตุํ อภินาทิตฺวา, สตฺตาหํ ชินมุปฏฺหํ.
‘‘สตฺตาหํ วรสมาปตฺติยา, วุฏฺหิตฺวา ตถาคโต;
มนสา จินฺตยิตฺวาน, โกฏิภิกฺขู สมานยิ.
‘‘ตทาปิ โส มหาวีโร, เตสํ มชฺเฌ วิยากริ;
อปริเมยฺยิโต กปฺเป, อยํ พุทฺโธ ภวิสฺสติ.
‘‘ปธานํ ¶ ปทหิตฺวาน…เป… เหสฺสาม สมฺมุขา อิมํ.
‘‘ตสฺสาปิ วจนํ สุตฺวา, ภิยฺโย จิตฺตํ ปสาทยึ;
อุตฺตรึ วตมธิฏฺาสึ, ทสปารมิปูริยา’’ติ.
ตตฺถ ¶ ปวิเวกมนุพฺรูหนฺตนฺติ นิโรธสมาปตฺตึ สมาปนฺนนฺติ อตฺโถ. ปทกฺขิณนฺติ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา. อภินาทิตฺวาติ ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา. อุปฏฺหนฺติ อุปฏฺหึ. อยเมว วา ปาโ. วรสมาปตฺติยาติ นิโรธสมาปตฺติโต วุฏฺหิตฺวา. มนสา จินฺตยิตฺวานาติ ‘‘สพฺเพปิ ภิกฺขู อิธ อาคจฺฉนฺตู’’ติ มนสาว จินฺเตตฺวา. สมานยีติ สมาหริ.
ตสฺส ปน ปทุมสฺส ภควโต จมฺปกํ นาม นครํ อโหสิ. อสโม นาม ราชา ปิตา อโหสิ, มาตาปิ ตสฺส อสมา นาม, สาโล ¶ จ อุปสาโล จ ทฺเว อคฺคสาวกา, วรุโณ นามุปฏฺาโก, ราธา จ สุราธา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, มหาโสณรุกฺโข โพธิ, อฏฺปณฺณาสหตฺถุพฺเพธํ สรีรํ, อายุ วสฺสสตสหสฺสํ อโหสิ, รูปาทีหิ คุเณหิ อนุตฺตรา อุตฺตรา นามสฺส อคฺคมเหสี, รมฺมกุมาโร นามสฺส อติรมฺโม ตนโย อโหสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘จมฺปกํ นาม นครํ, อสโม นาม ขตฺติโย;
อสมา นาม ชนิกา, ปทุมสฺส มเหสิโน.
‘‘สาโล จ อุปสาโล จ, อเหสุํ อคฺคสาวกา;
วรุโณ นามุปฏฺาโก, ปทุมสฺส มเหสิโน.
‘‘ราธา เจว สุราธา จ, อเหสุํ อคฺคสาวิกา;
โพธิ ตสฺส ภควโต, มหาโสโณติ วุจฺจติ.
‘‘อฏฺปณฺณาสรตนํ, อจฺจุคฺคโต มหามุนิ;
ปภา นิทฺธาวตี ตสฺส, อสมา สพฺพโต ทิสา.
‘‘จนฺทปฺปภา สูริยปฺปภา, รตนคฺคิมณิปฺปภา;
สพฺพาปิ ตา หตา โหนฺติ, ปตฺวา ชินปภุตฺตมํ.
‘‘วสฺสสตสหสฺสานิ ¶ , อายุ วิชฺชติ ตาวเท;
ตาวตา ติฏฺมาโน โส, ตาเรสิ ชนตํ พหุํ.
‘‘ปริปกฺกมานเส สตฺเต, โพธยิตฺวา อเสสโต;
เสสเก อนุสาสิตฺวา, นิพฺพุโต โส สสาวโก.
‘‘อุรโคว ตจํ ชิณฺณํ, วทฺธปตฺตํว ปาทโป;
ชหิตฺวา สพฺพสงฺขาเร, นิพฺพุโต โส ยถา สิขี’’ติ.
ตตฺถ ¶ รตนคฺคิมณิปฺปภาติ รตนปฺปภา จ อคฺคิปฺปภา จ มณิปฺปภา จ. หตาติ อภิภูตา. ชินปภุตฺตมนฺติ ชินสฺส สรีรปฺปภํ อุตฺตมํ ปตฺวา หตาติ อตฺโถ. ปริปกฺกมานเสติ ปริปกฺกินฺทฺริเย เวเนยฺยสตฺเต. วทฺธปตฺตนฺติ ปุราณปตฺตํ. ปาทโป วาติ ปาทโป วิย. สพฺพสงฺขาเรติ สพฺเพปิ ¶ อชฺฌตฺติกพาหิเร สงฺขาเร. ‘‘หิตฺวา สพฺพสงฺขาร’’นฺติปิ ปาโ, โสเยวตฺโถ. ยถา สิขีติ อคฺคิ วิย นิรุปาทาโน นิพฺพุตึ สุคโต คโตติ. เสสเมตฺถ คาถาสุ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมวาติ.
ปทุมพุทฺธวํสวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต อฏฺโม พุทฺธวํโส.