📜

๑๓. สุเมธพุทฺธวํสวณฺณนา

ปทุมุตฺตเร ปน สมฺมาสมฺพุทฺเธ ปรินิพฺพุเต สาสเนปิสฺส อนฺตรหิเต สตฺตติกปฺปสหสฺสานิ พุทฺธา นุปฺปชฺชึสุ, พุทฺธสุฺานิ อเหสุํ. อิโต ปฏฺาย ตึสกปฺปสหสฺสานํ มตฺถเก เอกสฺมึ กปฺเป สุเมโธ สุชาโต จาติ ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา นิพฺพตฺตึสุ. ตตฺถ อธิคตเมโธ สุเมโธ นาม โพธิสตฺโต ปารมิโย ปูเรตฺวา ตุสิตปุเร นิพฺพตฺติตฺวา ตโต จวิตฺวา สุทสฺสนนคเร สุทตฺตสฺส นาม รฺโ อคฺคมเหสิยา สุทตฺตาย นาม เทวิยา กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา ทสนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน สุทสฺสนุยฺยาเน ตรุณทิวสกโร วิย สลิลธรวิวรคโต มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมิ. โส นววสฺสสหสฺสานิ อคารํ อชฺฌาวสิ. ตสฺส กิร สุจนฺทน-กฺจน-สิริวฑฺฒนนามกา ตโย ปาสาทา อเหสุํ. สุมนมหาเทวิปฺปมุขานิ อฏฺจตฺตาลีสอิตฺถิสหสฺสานิ ปจฺจุปฏฺิตานิ อเหสุํ.

โส จตฺตาริ นิมิตฺตานิ ทิสฺวา สุมนเทวิยา ปุนพฺพสุมิตฺเต นาม ปุตฺเต ชาเต หตฺถิยาเนน มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิ. มนุสฺสานฺจ โกฏิสตมนุปพฺพชิ. โส เตหิ ปริวุโต อฑฺฒมาสํ ปธานจริยํ จริตฺวา วิสาขปุณฺณมาย นกุลนิคเม นกุลเสฏฺิธีตาย ทินฺนํ มธุปายาสํ ปริภุฺชิตฺวา สาลวเน ทิวาวิหารํ วีตินาเมตฺวา สิริวฑฺฒาชีวเกน ทินฺนา อฏฺ ติณมุฏฺิโย คเหตฺวา นีปโพธิมูเล วีสติหตฺถวิตฺถตํ ติณสนฺถรํ สนฺถริตฺวา สมารํ มารพลํ วิธมิตฺวา อภิสมฺโพธึ ปาปุณิตฺวา ‘‘อเนกชาติสํสารํ…เป… ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา’’ติ อุทานํ อุทาเนตฺวา สตฺตสตฺตาหํ โพธิสมีเปเยว วีตินาเมตฺวา อฏฺเม สตฺตาเห พฺรหฺมุโน ธมฺมเทสนายาจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ภพฺพปุคฺคเล โอโลเกนฺโต อตฺตโน กนิฏฺภาติกํ สรณกุมารฺจ สพฺพกามิกุมารฺจ อตฺตนา สทฺธึ ปพฺพชิตานํ ภิกฺขูนฺจ โกฏิสตํ จตุสจฺจธมฺมปฏิเวธสมตฺเถ ทิสฺวา อากาเสน คนฺตฺวา สุทสฺสนนครสมีเป สุทสฺสนุยฺยาเน โอตริตฺวา อุยฺยานปาเลน อตฺตโน ภาติเก ปกฺโกสาเปตฺวา เตสํ ปริวารานํ มชฺเฌ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตสิ. ตทา โกฏิสตสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ, อยํ ปโม อภิสมโย. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘ปทุมุตฺตรสฺส อปเรน, สุเมโธ นาม นายโก;

ทุราสโท อุคฺคเตโช, สพฺพโลกุตฺตโม มุนิ.

.

‘‘ปสนฺนเนตฺโต สุมุโข, พฺรหา อุชุ ปตาปวา;

หิเตสี สพฺพสตฺตานํ, พหู โมเจสิ พนฺธนา.

.

‘‘ยทา พุทฺโธ ปาปุณิตฺวา, เกวลํ โพธิมุตฺตมํ;

สุทสฺสนมฺหิ นคเร, ธมฺมจกฺกํ ปวตฺตยิ.

.

‘‘ตสฺสาภิสมยา ตีณิ, อเหสุํ ธมฺมเทสเน;

โกฏิสตสหสฺสานํ, ปมาภิสมโย อหู’’ติ.

ตตฺถ อุคฺคเตโชติ อุคฺคตเตโช. ปสนฺนเนตฺโตติ สุฏฺุ ปสนฺนนยโน, โธวิตฺวา มชฺชิตฺวา ปิตมณิคุฬิกา วิย ปสนฺนานิ เนตฺตานิ โหนฺติ. ตสฺมา โส ‘‘ปสนฺนเนตฺโต’’ติ วุตฺโต. มุทุสินิทฺธนีลวิมลสุขุมปขุมาจิตสุปฺปสนฺนนยโนติ อตฺโถ. ‘‘สุปฺปสนฺนปฺจนยโน’’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. สุมุโขติ ปริปุณฺณสรทสมยจนฺทสทิสวทโน. พฺรหาติ อฏฺาสีติหตฺถปฺปมาณสรีรตฺตา พฺรหา มหนฺโต, อฺเหิ อสาธารณสรีรปฺปมาโณติ อตฺโถ. อุชูติ พฺรหฺมุชุคตฺโต อุชุเมว อุคฺคตสรีโร เทวนคเร สมุสฺสิตสุวณฺณโตรณสทิสวรสรีโรติ อตฺโถ. ปตาปวาติ วิชฺโชตมานสรีโร. หิเตสีติ หิตคเวสี. อภิสมยา ตีณีติ อภิสมยา ตโย, ลิงฺควิปลฺลาโส กโตติ.

ยทา ปน ภควา กุมฺภกณฺณสทิสานุภาวํ กุมฺภกณฺณํ นาม มนุสฺสภกฺขํ ยกฺขํ มหาอฏวิมุเข สนฺทิสฺสมานโฆรสรีรํ วตฺตนิอฏวิสฺจารํ ปจฺฉินฺทิตฺวา ปวตฺตมานํ ปจฺจูสสมเย มหากรุณาสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺาย โลกํ โอโลเกนฺโต ทิสฺวา เอกโกว อสหาโย ตสฺส ยกฺขสฺส ภวนํ คนฺตฺวา อนฺโต ปวิสิตฺวา ปฺตฺเต สิริสยเน นิสีทิ. อถ โข โส ยกฺโข มกฺขํ อสหมาโน ทณฺฑาหโต โฆรวิโส อาสิวิโส วิย สํกุทฺโธ ทสพลํ ภึสาเปตุกาโม อตฺตโน อตฺตภาวํ โฆรตรํ กตฺวา ปพฺพตสทิสํ สีสํ กตฺวา สูริยมณฺฑลสทิสานิ อกฺขีนิ นิมฺมินิตฺวา นงฺคลสีสสทิสาติทีฆวิปุลติขิณทาาโย กตฺวา โอลมฺพนีลวิปุลวิสโมทโร ตาลกฺขนฺธสทิสพาหุจิปิฏกวิรูปวงฺกนาโส ปพฺพตพิลสทิสวิปุลรตฺตมุโข ถูลปิงฺคลขรผรุสเกโส อติภยานกทสฺสโน หุตฺวา อาคนฺตฺวา สุเมธสฺส ภควโต ปุรโต ตฺวา ปธูปายนฺโต ปชฺชลนฺโต ปาสาณปพฺพตคฺคิชาล-สลิล-กทฺทม-ฉาริกายุธงฺคาร-วาลุกปฺปการา นววิธา วสฺสวุฏฺิโย วสฺเสตฺวาปิ ภควโต โลมคฺคมตฺตมฺปิ จาเลตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘ภควนฺตํ ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา มาเรสฺสามี’’ติ อาฬวโก วิย ปฺหํ ปุจฺฉิ. อยํ ภควา ปฺหาพฺยากรเณน ตํ ยกฺขํ วินยมุปเนสิ. ตโต ทุติยทิวเส กิรสฺส รฏฺวาสิโน มนุสฺสา สกฏภริเตน ภตฺเตน สห ราชกุมารํ อาหริตฺวา ยกฺขสฺส อทํสุ. อถ ยกฺโข ราชกุมารํ พุทฺธสฺส อทาสิ. อฏวิทฺวาเร ิตมนุสฺสา ภควนฺตํ อุปสงฺกมึสุ. ตทา ตสฺมึ สมาคเม ทสพโล ยกฺขสฺส มโนนุกูลํ ธมฺมํ เทเสนฺโต. นวุติโกฏิสหสฺสานํ ปาณีนํ ธมฺมจกฺขุํ อุปฺปาเทสิ, โส ทุติโย ธมฺมาภิสมโย อโหสิ. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘ปุนาปรํ กุมฺภกณฺณํ, ยกฺขํ โส ทมยี ชิโน;

นวุติโกฏิสหสฺสานํ, ทุติยาภิสมโย อหู’’ติ.

ยทา ปน อุปการินคเร สิรินนฺทนุยฺยาเน จตฺตาริ สจฺจานิ ปกาสยิ, ตทา อสีติโกฏิสตสหสฺสานํ ตติโย ธมฺมาภิสมโย อโหสิ. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘ปุนาปรํ อมิตยโส, จตุสจฺจํ ปกาสยิ;

อสีติโกฏิสหสฺสานํ, ตติยาภิสมโย อหู’’ติ.

สุเมธสฺสาปิ ภควโต ตโย สาวกสนฺนิปาตา อเหสุํ. ปมสนฺนิปาเต สุทสฺสนนคเร โกฏิสตขีณาสวา อเหสุํ. ปุน เทวกูเฏ ปพฺพเต กถินตฺถเต ทุติเย นวุติโกฏิโย. ปุน ตติเย ภควติ จาริกํ จรมาเน อสีติโกฏิโย อเหสุํ. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘สนฺนิปาตา ตโย อาสุํ, สุเมธสฺส มเหสิโน;

ขีณาสวานํ วิมลานํ, สนฺตจิตฺตาน ตาทินํ.

.

‘‘สุทสฺสนํ นาม นครํ, อุปคฺฉิ ชิโน ยทา;

ตทา ขีณาสวา ภิกฺขู, สมึสุ สตโกฏิโย.

.

‘‘ปุนาปรํ เทวกูเฏ, ภิกฺขูนํ กถินตฺถเต;

ตทา นวุติโกฏีนํ, ทุติโย อาสิ สมาคโม.

๑๐.

‘‘ปุนาปรํ ทสพโล, ยทา จรติ จาริกํ;

ตทา อสีติโกฏีนํ, ตติโย อาสิ สมาคโม’’ติ.

ตทา อมฺหากํ โพธิสตฺโต อุตฺตโร นาม สพฺพชนุตฺตโร มาณโว หุตฺวา นิทหิตฺวา ปิตํเยว อสีติโกฏิธนํ วิสฺสชฺเชตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา ตทา ทสพลสฺส ธมฺมํ สุตฺวา สรเณสุ ปติฏฺาย นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิ. โสปิ นํ สตฺถา โภชนานุโมทนํ กโรนฺโต – ‘‘อนาคเต โคตโม นาม พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากาสิ. เตน วุตฺตํ –

๑๑.

‘‘อหํ เตน สมเยน, อุตฺตโร นาม มาณโว;

อสีติโกฏิโย มยฺหํ, ฆเร สนฺนิจิตํ ธนํ.

๑๒.

‘‘เกวลํ สพฺพํ ทตฺวาน, สสงฺเฆ โลกนายเก;

สรณํ ตสฺสูปคฺฉึ, ปพฺพชฺชฺจาภิโรจยึ.

๑๓.

‘‘โสปิ มํ พุทฺโธ พฺยากาสิ, กโรนฺโต อนุโมทนํ;

ตึสกปฺปสหสฺสมฺหิ, อยํ พุทฺโธ ภวิสฺสติ.

๑๔.

‘‘ปธานํ ปทหิตฺวาน…เป… เหสฺสาม สมฺมุขา อิมํ’’.

พฺยากรณคาถา วิตฺถาเรตพฺพา.

๑๕.

‘‘ตสฺสาปิ วจนํ สุตฺวา, ภิยฺโย จิตฺตํ ปสาทยึ;

อุตฺตรึ วตมธิฏฺาสึ, ทสปารมิปูริยา.

๑๖.

‘‘สุตฺตนฺตํ วินยํ จาปิ, นวงฺคํ สตฺถุสาสนํ;

สพฺพํ ปริยาปุณิตฺวาน, โสภยึ ชินสาสนํ.

๑๗.

‘‘ตตฺถปฺปมตฺโต วิหรนฺโต, นิสชฺชฏฺานจงฺกเม;

อภิฺาปารมึ คนฺตฺวา, พฺรหฺมโลกมคฺฉห’’นฺติ.

ตตฺถ สนฺนิจิตนฺติ นิทหิตํ นิธานวเสน. เกวลนฺติ สกลนฺติ อตฺโถ. สพฺพนฺติ อเสสโต ทตฺวา. สสงฺเฆติ สสงฺฆสฺส. ตสฺสูปคฺฉินฺติ ตํ อุปคฺฉึ, อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. อภิโรจยินฺติ ปพฺพชึ. ตึสกปฺปสหสฺสมฺหีติ ตึสกปฺปสหสฺเสสุ อติกฺกนฺเตสูติ อตฺโถ.

ตสฺส ปน สุเมธสฺส ภควโต สุทสฺสนํ นาม นครํ อโหสิ, สุทตฺโต นาม ราชา ปิตา, มาตา สุทตฺตา นาม, สรโณ จ สพฺพกาโม จ ทฺเว อคฺคสาวกา, สาคโร นามุปฏฺาโก, รามา จ สุรามา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, มหานีปรุกฺโข โพธิ, สรีรํ อฏฺาสีติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, อายุ นวุติวสฺสสหสฺสานิ, นววสฺสสหสฺสานิ อคารํ อชฺฌาวสิ, สุมนา นามสฺส อคฺคมเหสี, ปุนพฺพสุมิตฺโต นาม ปุตฺโต, หตฺถิยาเนน นิกฺขมิ. เสสํ คาถาสุ ทิสฺสติ. เตน วุตฺตํ –

๑๘.

‘‘สุทสฺสนํ นาม นครํ, สุทตฺโต นาม ขตฺติโย;

สุทตฺตา นาม ชนิกา, สุเมธสฺส มเหสิโน.

๒๓.

‘‘สรโณ สพฺพกาโม จ, อเหสุํ อคฺคสาวกา;

สาคโร นามุปฏฺาโก, สุเมธสฺส มเหสิโน.

๒๔.

‘‘รามา เจว สุรามา จ, อเหสุํ อคฺคสาวิกา;

โพธิ ตสฺส ภควโต, มหานีโปติ วุจฺจติ.

๒๖.

‘‘อฏฺาสีติรตนานิ, อจฺจุคฺคโต มหามุนิ;

โอภาเสติ ทิสา สพฺพา, จนฺโท ตารคเณ ยถา.

๒๗.

‘‘จกฺกวตฺติมณี นาม, ยถา ตปติ โยชนํ;

ตเถว ตสฺส รตนํ, สมนฺตา ผรติ โยชนํ.

๒๘.

‘‘นวุติวสฺสสหสฺสานิ, อายุ วิชฺชติ ตาวเท;

ตาวตา ติฏฺมาโน โส, ตาเรสิ ชนตํ พหุํ.

๒๙.

‘‘เตวิชฺชฉฬภิฺเหิ , พลปฺปตฺเตหิ ตาทิหิ;

สมากุลมิทํ อาสิ, อรหนฺเตหิ สาธุหิ.

๓๐.

‘‘เตปิ สพฺเพ อมิตยสา, วิปฺปมุตฺตา นิรูปธี;

าณาโลกํ ทสฺสยิตฺวา, นิพฺพุตา เต มหายสา’’ติ.

ตตฺถ จนฺโท ตารคเณ ยถาติ ยถา นาม คคเน ปริปุณฺณจนฺโท ตาราคเณ โอภาเสติ ปกาเสติ, เอวเมว สพฺพาปิ ทิสา โอภาเสตีติ อตฺโถ. เกจิ ‘‘จนฺโท ปนฺนรโส ยถา’’ติ ปนฺติ, โส อุตฺตานตฺโถว.

จกฺกวตฺติมณี นามาติ ยถา นาม จกฺกวตฺติรฺโ มณิรตนํ จตุหตฺถายามํ สกฏนาภิสมปริณาหํ จตุราสีติมณิสหสฺสปริวารํ ตาราคณปริวุตสฺส สรทสมยปริปุณฺณรชนิกรสฺส สิริสมุทยโสภํ อวฺหยนฺตมิว เวปุลฺลปพฺพตโต ปรมรมณียทสฺสนํ มณิรตนมาคจฺฉติ, ตสฺเสวํ อาคจฺฉนฺตสฺส สมนฺตโต โยชนปฺปมาณํ โอกาสํ อาภา ผรติ, เอวเมว ตสฺส สุเมธสฺสาปิ ภควโต สรีรโต อาภารตนํ สมนฺตโต โยชนํ ผรตีติ อตฺโถ.

เตวิชฺชฉฬภิฺเหีติ เตวิชฺเชหิ ฉฬภิฺเหิ จาติ อตฺโถ. พลปฺปตฺเตหีติ อิทฺธิพลปฺปตฺเตหิ. ตาทิหีติ ตาทิภาวปฺปตฺเตหิ. สมากุลนฺติ สงฺกิณฺณํ เอกกาสาวปชฺโชตํ. อิทนฺติ สาสนํ สนฺธายาห, มหีตลํ วา. อมิตยสาติ อมิตปริวารา, อตุลกิตฺติโฆโส วา. นิรูปธีติ จตุรูปธิวิรหิตา. เสสเมตฺถ คาถาสุ สพฺพตฺถ ปากฏเมวาติ.

สุเมธพุทฺธวํสวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิโต เอกาทสโม พุทฺธวํโส.